Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน ป.4

แผนการสอน ป.4

Published by yai moomai, 2021-09-13 09:02:32

Description: แผนการสอน ป.4

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นจานวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ มผ่ ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทีไ่ มผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................

แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................

แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 69 สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง สมบตั ิของแกส๊ (2) เวลา 1 ชั่วโมง วนั ท.่ี ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู ้สู อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบัตขิ องสสาร กบั โครงสร้างและแรงยึดเหน่ยี วระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาตขิ องการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 2. ตัวชี้วัดช้ันปี เปรียบเทียบสมบตั ขิ องสสารท้งั 3 สถานะ จากขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการสังเกต มวล การต้องการทอ่ี ยู่ รูปร่าง และปรมิ าตรของสสาร (ว 2.1 ป. 4/3) 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายสมบตั ิของแก๊สได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ ูห้ รอื อยากรู้อยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรยี นรทู้ ีเ่ กยี่ วกับวิทยาศาสตร์ (A) 4. ทางานรว่ มกบั ผูอ้ ่นื อยา่ งสร้างสรรค์ (A) 5. ส่ือสารและนาความรู้เร่ืองสมบตั ขิ องแก๊สไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคัญ แกส๊ เปน็ สสารทมี่ อี นุภาคภายในอยูห่ า่ งกนั มาก อนุภาคจะเคล่ือนท่ีอยู่ตลอดเวลา จึงทาใหม้ ีปริมาตร และรูปร่างไมค่ งที่ สามารถฟุ้งกระจายได้ 5. สาระการเรียนรู้ สถานะของสสาร - สมบตั ิของแก๊ส

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน 4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทักษะในการดาเนนิ ชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน สังเกตสมบัติของแก๊ส 9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1) ครูถามคาถามเพื่อทบทวนความรเู้ ดมิ ของนักเรยี น เชน่ – นกั เรียนคิดวา่ บอลลนู สามารถลอยขนึ้ บนทอ้ งฟา้ ไดห้ รอื ไม่ (แนวคาตอบ ได้) – สงิ่ ทอ่ี ยูใ่ นบอลลนู เรียกวา่ อะไร (แนวคาตอบ แกส๊ ) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาตอบของคาถาม เพอ่ื เชอื่ มโยงไปสกู่ าร เรียนร้เู รอื่ ง สมบตั ขิ องแก๊ส ขัน้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกิจกรรมการเรียนร้โู ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ซง่ึ มขี ั้นตอนดังน้ี (1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (1) ครถู ามคาถามนกั เรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น – สมบัติเฉพาะตัวของแก๊สมีลักษณะอย่างไร (แนวคาตอบ มีรูปร่างและปริมาตรไม่คงท่ีอนุภาค ของแก๊สอยู่ห่างกันมากกว่าในของเหลวและของแข็ง ทาให้อนุภาคของแก๊สสามารถเคล่ือนท่ีได้ทุกทิศทาง เปล่ียนไปตามรูปรา่ งและขนาดของภาชนะท่ีบรรจ)ุ (2) นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกยี่ วกับคาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรยี น

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 (2) ขน้ั สารวจและคน้ หา (1) แบ่งกลุ่มนกั เรยี น ปฏิบตั ิกิจกรรมท่ี 23 สังเกตสมบตั ิของแกส๊ ตามข้นั ตอนทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ ทักษะ/กระบวนการสังเกตดังน้ี – จุดไม้ขีดไฟ 1 ก้าน ใส่ลงในขวด ใช้น้ิวมือปิดปากขวด แล้วสังเกตควันท่ีเกิดจากไม้ขีดไฟที่ดับ บันทึกผล – นาขวดท่ีมีขนาดเท่ากันมาคว่าประกบกับขวดใบแรก ให้ปากขวดสนิทกันพอดี สังเกตควันใน ขวด บนั ทกึ ผล แล้วสรุปผลการสงั เกต สงั เกตการเคลื่อนท่ีของควันท่ีอย่ใู นขวด หมายเหตุ ควรระมัดระวงั ไม่ใหเ้ ปลวไฟถูกมอื เพราะจะทาให้ผิวหนังไหม้ได้ (3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (1) นกั เรียนแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอขอ้ มลู การปฏิบัตกิ ิจกรรมหนา้ ห้องเรยี น (2) นักเรียนและครูร่วมกันอภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยใชแ้ นวคาถามตอ่ ไปน้ี – ควันมีการเปล่ียนแปลงอยา่ งไร (แนวคาตอบ มีการแพร่กระจายจากขวดใบล่างขึ้นไปยงั ขวดใบ บน) – แกส๊ มสี มบัตแิ ตกต่างจากของเหลวและของแขง็ อย่างไร (แนวคาตอบ แก๊สมีรปู ร่างและปริมาตร ไม่คงท่ี จะฟงุ้ กระจายไปในภาชนะทบ่ี รรจ)ุ – ยกตวั อย่างการฟุ้งกระจายของแก๊สท่ีนกั เรียนพบเห็นได้ในชีวติ ประจาวัน (แนวคาตอบ การฟุ้ง กระจายของน้าหอมทฉี่ ีด การฟงุ้ กระจายของสเปรยฉ์ ีดกนั ยุง) (3) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปผลการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครเู น้นให้นักเรยี นเข้าใจวา่ แก๊สมรี ูปร่างและ ปริมาตรไม่คงที่ จะเปล่ยี นไปตามภาชนะทีบ่ รรจุ (4) ขั้นขยายความรู้ (1) นักเรียนสืบค้นข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับสมบัติของแก๊สเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้ต่างๆ เช่นหนังสือ วารสารวิทยาศาสตร์ และอนิ เทอรเ์ นต็ แล้วนาข้อมูลที่ไดม้ าจดั ทาเป็นรายงานสง่ ครู (2) นักเรียนค้นคว้าคาศัพท์ภาษาต่างประเทศท่ีเก่ียวกับสมบัติของแก๊ส จากหนังสือเรียน ภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เนต็ และนาเสนอให้เพื่อนในหอ้ งฟัง แล้วคัดคาศัพทพ์ ร้อมทั้งคาแปลลงสมดุ ส่ง ครู

แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 (5) ข้นั ประเมนิ (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหวั ข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างทย่ี ังไม่ เข้าใจหรอื ยงั มีข้อสงสัย ถา้ มี ครชู ว่ ยอธบิ ายเพิ่มเตมิ ให้นกั เรียนเข้าใจ (2) นักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ การปฏิบตั กิ ิจกรรมกลมุ่ ว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใดและไดแ้ ก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครูและนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากการปฏิบัติกจิ กรรมและการ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยถามคาถามนักเรียน เชน่ – การทดสอบสมบัติของแกส๊ ทาได้โดยวิธกี ารใด – เพราะเหตุใดแกส๊ จึงมปี ริมาตรไม่คงที่ ขั้นสรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับสมบัติของแก๊ส โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนที่ความคิดหรือผังมโน ทัศน์ 10. สอ่ื การเรียนรู้ 1. ใบกจิ กรรมท่ี 23 สังเกตสมบัตขิ องแก๊ส 2. หนังสอื หนังสือเรียนภาษาต่างประเทศ วารสารวิทยาศาสตร์ และอนิ เทอร์เน็ต 3. คู่มอื การสอน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 4. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5. แบบฝกึ ทักษะรายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 6. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

แผนการจัดการเรียนรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. ซกั ถามความรู้เรือ่ งสมบัติของ จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ แกส๊ ทางวทิ ยาศาสตรโ์ ดยใชแ้ บบ 1. ประเมนิ เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ วัดทกั ษะกระบวนการทาง 2. ตรวจช้นิ งานหรอื ภาระงานของ เป็นรายบคุ คลโดยการสงั เกต วทิ ยาศาสตร์ กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรียน และใช้แบบวัดเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ 2. ประเมินทกั ษะการคิดโดย การสังเกตการทางานกล่มุ 2. ประเมนิ เจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์ เป็นรายบุคคลโดยการสังเกต 3. ประเมินทกั ษะการ และใชแ้ บบวดั เจตคติต่อ แก้ปัญหาโดยการสงั เกตการ วิทยาศาสตร์ ทางานกลุม่ 4. ประเมินพฤติกรรมในการ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเปน็ รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ โดย การสังเกตการทางานกลุ่ม

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นจานวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ มผ่ ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทีไ่ มผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................

แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. การจัดกิจกรรมไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้  เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี  นาไปใช้ได้จรงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................

แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 70 สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2561 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่อื ง การวดั มวลและปรมิ าตรของสสาร เวลา 1 ชั่วโมง วันท่.ี ...........เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผสู้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสาร กับโครงสรา้ งและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าค หลกั และธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี 2. ตวั ช้ีวัดช้ันปี ใชเ้ คร่อื งมอื เพ่ือวดั มวลและปรมิ าตรของสสารทงั้ 3 สถานะ (ว 2.1 ป. 4/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของคาว่ามวลและปริมาตรได้ (K) 2. อธบิ ายการใช้เครอื่ งมือเพอื่ วัดมวลและปริมาตรของสสารท้ัง 3 สถานะได้ (K) 3. มีความสนใจใฝร่ ู้หรืออยากรูอ้ ยากเหน็ (A) 4. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรู้ที่เกี่ยวกบั วทิ ยาศาสตร์ (A) 5. ทางานร่วมกบั ผู้อนื่ อย่างสรา้ งสรรค์ (A) 6. สือ่ สารและนาความรู้เร่ืองการวัดมวลและปรมิ าตรของสสารไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคญั วัสดุทุกชนิดเป็นสสาร คอื มีมวล ตอ้ งการที่อยู่ และสัมผัสได้ ซงึ่ สสารแตล่ ะสถานะมีมวลและปรมิ าตร แตกตา่ งกนั จงึ ใชเ้ ครอ่ื งมอื วดั มวลและปรมิ าตรตา่ งกนั ด้วย 5. สาระการเรยี นรู้ การวดั มวลและปรมิ าตรของสสาร – เครอ่ื งมือที่ใชว้ ัดมวลและปริมาตรของสสารทั้ง 3 สถานะ

แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 4. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิน้ งานหรือภาระงาน สืบค้นขอ้ มูลเก่ียวกบั การวดั มวลและปริมาตรของสสาร 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน 1) ครนู าฟองน้าและดนิ นา้ มนั มาให้นกั เรยี นดู แล้วถามคาถามกบั นกั เรยี น ดงั น้ี – วัสดุทั้ง 2 ชนิดนี้มมี วลเท่ากันหรอื ไม่ อยา่ งไร (แนวคาตอบ ไมเ่ ทา่ กนั ฟองนา้ เน้ือมีรูพรุน จึงมี มวลนอ้ ยกว่าดนิ น้ามนั ทีม่ เี น้อื แนน่ ) – สสารแต่ละสถานะมมี วลและปรมิ าตรเทา่ กันหรอื ไม่ (แนวคาตอบ ไม่เท่ากนั ) 2) นักเรยี นชว่ ยกันตอบคาถามและแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั คาตอบของคาถาม เพื่อเชอื่ มโยงไปสกู่ าร เรยี นรู้เร่อื ง การวัดมวลและปริมาตรของสสาร ขัน้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ ซ่งึ มขี ั้นตอนดังนี้ (1) ข้นั สร้างความสนใจ (1) ครูถามคาถามนักเรยี นเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจ เชน่ – สสารท่ีมีสถานะเป็นของเหลวต้องอาศัยเครื่องมอื ใดในการหาปริมาตร (แนวคาตอบ บีกเกอร์ กระบอกตวง และหลอดฉีดยา) – การหามวลของของแขง็ สามารถทาไดโ้ ดยใช้เครื่องมือชนดิ ใด (แนวคาตอบ เคร่ืองชง่ั ) (2) นกั เรียนร่วมกันอภิปรายเก่ยี วกับคาตอบจากคาถามของครูตามประสบการณข์ องนกั เรยี น

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 (2) ข้นั สารวจและค้นหา (1) ครูให้นักเรียนศึกษาเก่ียวกับการวัดมวลและปริมาตรของสสารจากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธบิ ายให้นักเรยี นเขา้ ใจวา่ วสั ดุทุกชนิดเปน็ สสาร คือ มีมวล ตอ้ งการท่ีอยู่ และสัมผสั ได้ การวัดมวล และปริมาตรของสสารในแต่ละสถานะต้องอาศัยเคร่ืองมือในการวัดเพื่อหามวลและปริมาตร ซึ่งสสารแต่ละ สถานะใชเ้ คร่ืองมอื ทแ่ี ตกตา่ งกันข้นึ อยกู่ บั มวลและปริมาตร (2) แบ่งกลุ่มนักเรยี น กลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นขอ้ มูลเกี่ยวกับการวดั มวลและปริมาตรของสสาร โดย ดาเนนิ การตามขนั้ ตอนดังนี้ – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบคน้ ขอ้ มลู โดยแบ่งหัวขอ้ การวัดมวลและปรมิ าตรของสสารเป็นหัวข้อย่อย เช่น เคร่ืองมือที่ใช้วัดมวลและปริมาตรของสสารท่ีเป็นของแข็ง เคร่ืองมือท่ีใช้วัดมวลและปริมาตรของสสารที่ เป็นของเหลว และเครื่องมือท่ีใช้วัดมวลและปริมาตรของสสารที่เป็นแก๊ส ให้สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันสืบค้น ตามหวั ข้อทีก่ าหนด – สมาชิกกลุ่มแต่ละคนหรือกลุ่มย่อยช่วยกันสืบค้นข้อมูลตามหัวข้อย่อยท่ีตนเองรับผิดชอบ โดยการ สืบค้นจากใบความรู้ที่ครูเตรียมมาให้ หรือหนังสือ วารสารวิทยาศาสตร์ สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรม ไทยสาหรบั เยาวชน และอินเทอร์เน็ต – สมาชิกกลุ่มนาข้อมูลที่สืบค้นได้มารายงานให้เพื่อนๆ สมาชิกในกลุ่มฟัง รวมท้ังร่วมกันอภิปราย ซกั ถามจนคาดวา่ สมาชกิ ทกุ คนมคี วามรูค้ วามเข้าใจท่ตี รงกัน – สมาชกิ กลมุ่ ช่วยกนั สรปุ ความรู้ทไี่ ดท้ ัง้ หมดเป็นผลงานของกล่มุ (3) ครคู อยแนะนาชว่ ยเหลือนักเรียนขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ หอ้ งเรียนและเปดิ โอกาส ใหน้ กั เรยี นทุกคนซักถามเม่ือมีปญั หา (3) ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรปุ (1) นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนกลุ่มนาเสนอข้อมูลการปฏบิ ัติกิจกรรมหน้าห้องเรียน (2) นักเรยี นและครรู ่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยใช้แนวคาถามตอ่ ไปน้ี – เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในการวัดปริมาตรของแก๊สคอื อะไร (แนวคาตอบ บารอมิเตอร)์ – ถ้าต้องการวัดปริมาตรของของเหลวสามารถใช้เคร่ืองมือใดได้บ้าง (แนวคาตอบ บีกเกอร์ กระบอกตวง และหลอดฉดี ยา) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า สสารในแต่ละ สถานะมมี วลและปรมิ าตรไมเ่ ทา่ กนั จึงใช้เคร่อื งมอื ในการวัดมวลและปริมาตรแตกต่างกนั (4) ขน้ั ขยายความรู้ (1) นักเรียนสืบค้นข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับเครื่องมือที่ใช้วัดมวลและปริมาตรของสสารท้ัง 3 สถานะ เพิ่มเตมิ จากแหล่งความรู้ต่างๆ เชน่ หนังสือ วารสารวิทยาศาสตร์ และอินเทอร์เน็ต แล้วนาข้อมูลที่ได้มาจัดทา เป็นรายงานส่งครู

แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 (2) นกั เรียนค้นคว้าคาศพั ท์ภาษาตา่ งประเทศท่ีเก่ียวกับเครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการวัดมวลและปรมิ าตร จาก หนังสือเรียนภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนาเสนอให้เพ่ือนในห้องฟัง แล้วคัดคาศัพท์พร้อมทั้งคา แปลลงสมุดสง่ ครู (5) ขั้นประเมนิ (1) ครูให้นักเรยี นแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรมมีจดุ ใดบ้างท่ยี ังไม่ เข้าใจหรอื ยงั มีขอ้ สงสัย ถ้ามี ครชู ว่ ยอธบิ ายเพ่มิ เตมิ ให้นักเรยี นเข้าใจ (2) นกั เรยี นร่วมกันประเมนิ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลุ่มวา่ มปี ญั หาหรืออุปสรรคใดและไดแ้ ก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครูและนกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากการปฏิบตั กิ จิ กรรมและการ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยถามคาถามนกั เรียน เชน่ – ถ้าตอ้ งการทราบวา่ สสารแตล่ ะสถานะมีมวลและปรมิ าตรเท่ากันหรอื ไมจ่ ะต้องอาศัยวธิ กี ารใด – เครอื่ งมอื ทใี่ ชว้ ดั มวลและปริมาตรของของแขง็ ของเหลว และแกส๊ คืออะไร – การวัดปรมิ าตรของแกส๊ สามารถใช้เครอื่ งมือใดในการวัด ขั้นสรุป 1) ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปเกี่ยวกบั การวัดมวลและปริมาตรของสสาร โดยรว่ มกนั เขียนเป็นแผนที่ ความคิดหรอื ผังมโนทัศน์ 2) ครูดาเนินการทดสอบหลังเรียนโดยให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความก้าวหน้า/ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 ของนักเรยี น 3) ครูเช่ือมโยงเนอื้ หาจากบทเรียนน้ีกับหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เพอ่ื ให้นักเรียนเตรียมความพร้อมในการ เรยี นช่วั โมงตอ่ ไป โดยการใช้คาถามกระตนุ้ ดงั น้ี – วัตถแุ ต่ละชนดิ ทาจากวสั ดุทแ่ี ตกตา่ งกัน แต่เมื่อวตั ถทุ กุ ชิน้ ตกจากโตะ๊ จะตกลงสู่พื้นเสมอ เพราะ เหตุใดจึงเปน็ เชน่ น้ัน 4) ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นไปศึกษาคน้ คว้าเนอ้ื หาของบทเรียนช่วั โมงหนา้ เพอ่ื จัดการเรยี นรู้ครั้งต่อไป โดยใหน้ กั เรียนศึกษาค้นควา้ ล่วงหนา้ ในหัวข้อแรงโนม้ ถว่ ง 5) ครใู ห้นักเรียนเตรียมประเด็นคาถามท่ีสงสัยมาอยา่ งน้อยคนละ 1 คาถาม เพือ่ นามาอภิปรายร่วมกัน ในชั้นเรียนครง้ั ต่อไป 10. สอ่ื การเรียนรู้ 1. ฟองน้าและดินน้ามัน 2. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 3. สอื่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 4. แบบฝึกทักษะรายวิชาพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4

แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. ซักถามความร้เู รื่องการวัดมวล จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ประเมินทกั ษะการคดิ โดย และปริมาตรของสสาร การสังเกตการทางานกลมุ่ 1. ประเมนิ เจตคติทาง 2. ตรวจชน้ิ งานหรือภาระงานของ วิทยาศาสตรเ์ ปน็ รายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ กจิ กรรมฝึกทักษะระหว่างเรียน โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด ปฏิบัติกิจกรรมเป็น เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ รายบคุ คลหรือรายกลมุ่ โดย 3. ทดสอบหลงั เรียนโดยใช้ การสงั เกตการทางานกลมุ่ แบบทดสอบหลงั เรียน 2. ประเมนิ เจตคติตอ่ 3. วทิ ยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล โดยการสังเกตและใชแ้ บบวัด เจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์

แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. นักเรียนจานวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู.้ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นักเรยี นนไี่ ม่ผ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนกั เรยี นท่ีไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นักเรียนมีความรเู้ กดิ ทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหน่ง.....................................

แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 71 สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2561 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง การขึ้นและตกของดวงจันทร์ รปู ร่างของดวงจนั ทร์ (1) เวลา 1 ช่วั โมง วันท่ี............เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู ้สู อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ 2. ตัวชีว้ ัดชน้ั ปี 1. อธบิ ายแบบรปู เส้นทางการขึ้นและตกของดวงจันทร์ โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์ (ว 3.1 ป. 4/1) 2. สร้างแบบจาลองทีอ่ ธิบายแบบรปู การเปล่ียนแปลงรปู ร่างปรากฏของดวงจันทร์และพยากรณ์รูปรา่ ง ปรากฏของดวงจนั ทร์ (ว 3.1 ป. 4/2) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการขึน้ และตกของดวงจนั ทร์และการเปลีย่ นแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ได้ (K) 2. สร้างแบบจาลองการเปลยี่ นแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจนั ทร์ได้ (K) 3. มคี วามสนใจใฝ่รหู้ รอื อยากรู้อยากเห็น (A) 4. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรู้เกยี่ วกับวิทยาศาสตร์ (A) 5. ทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื อย่างสร้างสรรค์ (A) 6. ส่ือสารและนาความรูเ้ รอ่ื งการข้นึ และตกของดวงจันทร์ รปู ร่างของดวงจนั ทรไ์ ปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคญั ดวงจันทร์ข้ึนและตกทิศทางเดียวกับดวงอาทิตย์ โดยในแต่ละคืนเราจะเห็นดวงจันทร์มีลักษณะ แตกต่างกัน ช่วงท่ีเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเรียกว่า ข้างขึ้น ช่วงที่ไม่เห็นดวงจันทร์เลยเรียกว่า ข้างแรม เรา สามารถใช้ลักษณะของดวงจันทร์บอกทิศแก่เราได้ โดยในวันข้ึน 8 ค่า จะเห็นด้านท่ีมืดอยู่ทางทิศตะวันออก สว่ นวันแรม 8 ค่า จะเห็นด้านท่ีมดื อยู่ทางทศิ ตะวนั ตก

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 5. สาระการเรยี นรู้ ดวงจนั ทร์ – การข้ึนและตกของดวงจนั ทร์ – รูปร่างของดวงจนั ทร์ 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทางาน 4. มจี ิตวิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชนิ้ งานหรือภาระงาน สบื คน้ ข้อมูลเก่ียวกับปฏิทนิ ดวงจันทร์ 9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ครดู าเนนิ การทดสอบกอ่ นเรียนโดยใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพ่อื ตรวจสอบความพรอ้ ม และพนื้ ฐานของนักเรียน ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1) ครสู นทนากบั นักเรยี น โดยสุ่มถามนักเรียนในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ – เวลากลางคนื เรามองเห็นอะไรบนท้องฟ้า (แนวคาตอบ ดวงจันทร์ ดาว) – ในคนื ท่ีท้องฟ้าสวา่ งเรามองเห็นอะไรบนท้องฟา้ ชดั เจนทสี่ ุด (แนวคาตอบ ดวงจนั ทร)์ 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาตอบของคาถาม เพื่อเช่ือมโยงไปสู่ การเรยี นร้เู รอ่ื ง การข้ึนและตกของดวงจันทร์ รูปรา่ งของดวงจนั ทร์ ข้นั จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ ร่วมกับแบบกลบั ด้านช้ันเรียน ซ่งึ มขี น้ั ตอน ดังน้ี

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 (1) ขนั้ สรา้ งความสนใจ (1) ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนแล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนในกลุ่มนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับดวงจันทร์ ที่ครู มอบหมายให้ไปเรียนรู้ล่วงหน้าให้เพ่ือนๆ ในกลุ่มฟัง จากน้ันให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมานาเสนอข้อมูลหน้า ห้องเรียน (2) ครูตรวจสอบว่านักเรียนทาภาระงานท่ีได้รับมอบหมายไปหรือไม่ โดยตรวจสอบจากการจดบันทึก ของนักเรียน และถามคาถามเกี่ยวกบั ภาระงาน ดงั น้ี – เราเห็นดวงจนั ทร์ในเวลาใด (แนวคาตอบ เวลากลางคืน) – ดวงจันทร์ข้ึนและตกทางทิศใด และสามารถสังเกตไดจ้ ากสิ่งใด (แนวคาตอบ ดวงจนั ทร์ข้นึ ทาง ทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวนั ตก สามารถสังเกตไดจ้ ากวันข้างขึ้นและข้างแรม) (3) ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนตัง้ ประเดน็ คาถามท่ีนักเรียนสงสัยจากการทาภาระงานอย่างนอ้ ยคนละ 1 คาถาม ซงึ่ ครใู หน้ ักเรยี นเตรียมมาลว่ งหนา้ และให้นักเรียนช่วยกนั ตอบและแสดงความคิดเหน็ (4) ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ เก่ยี วกับภาระงาน โดยครูช่วยอธิบายให้นกั เรียนเข้าใจว่า การหมุนรอบ ตวั เองของโลกทาให้ดวงจนั ทรข์ ้นึ –ตกทศิ เดียวกบั ดวงอาทติ ย์ (2) ขน้ั สารวจและค้นหา (1) ครใู หน้ ักเรียนศึกษาเรอ่ื ง การข้ึนและตกของดวงจันทร์ รปู ร่างของดวงจันทรใ์ นหนงั สอื เรียน โดยครู ช่วยอธิบายใหน้ ักเรยี นเข้าใจวา่ การที่ดวงจนั ทรโ์ คจรรอบโลก ทาใหค้ นบนโลกเหน็ สว่ นสว่างทดี่ วงจันทร์สะท้อน แสงจากดวงอาทิตย์ได้ต่างกนั ไป ซงึ่ ในแตล่ ะคนื เราจะเห็นดวงจันทร์มรี ูปร่างปรากฏแตกต่างกนั ทาใหเ้ กิด ขา้ งข้ึน ขา้ งแรม (2) แบ่งกลุ่มนกั เรียน กลุม่ ละ 5 – 6 คน สืบคน้ ข้อมูลเก่ียวกับปฏิทินดวงจันทร์ โดยดาเนนิ การตาม ขน้ั ตอนดังนี้ – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นข้อมูล โดยแบ่งหัวข้อปฏิทนิ ดวงจนั ทร์เป็นหัวข้อย่อย เช่น เดือน ขาด เดอื นเต็ม วันเพ็ญ วันดับ วันพระ และวนั โกน ใหส้ มาชิกแตล่ ะกลุ่มช่วยกันสืบค้นตามหวั ข้อท่ีกาหนด – สมาชิกแต่ละกลุม่ ชว่ ยกันสบื ค้นข้อมูลตามหวั ข้อทกี่ ลุ่มของตนเองรับผิดชอบโดยการสืบค้นจาก หนงั สือ วารสาร สารานกุ รมวทิ ยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน และอนิ เทอรเ์ นต็ – สมาชิกกลุ่มนาข้อมูลท่ีสืบค้นได้มารายงานให้เพ่ือนๆ สมาชิกกลุ่มฟัง รวมทั้งร่วมกันอภิปราย ซักถามจนคาดว่าสมาชิกทกุ คนมีความรคู้ วามเขา้ ใจทตี่ รงกนั – สมาชิกกลุ่มช่วยกันสรุปความรทู้ ไี่ ดท้ งั้ หมดเปน็ ผลงานของกลมุ่ (3) ครูคอยแนะนาช่วยเหลือนกั เรียนขณะปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครเู ดนิ ดรู อบ ๆ หอ้ งเรยี นและเปดิ โอกาส ใหน้ ักเรียนทกุ คนซักถามเม่ือมปี ญั หา (3) ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ (1) นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนกล่มุ นาเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหน้าหอ้ งเรียน (2) นักเรียนและครูร่วมกนั อภิปรายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม โดยใช้แนวคาถามต่อไปนี้

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – เมอ่ื เปรยี บเทยี บปฏิทนิ ดวงจันทร์ท่ีได้จากการสังเกตและปฏิทนิ ทใี่ ช้กาหนดวนั ข้างข้นึ ข้างแรม แตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อย่างไร (แนวคาตอบ ไม่แตกต่างกนั เนอ่ื งจากในชว่ งเวลาขา้ งข้ึนส่วนสว่างของดวงจันทร์จะ เพ่ิมข้ึนและจะสว่างเต็มดวงในวนั ข้ึน 15 คา่ ส่วนในช่วงเวลาข้างแรม บริเวณส่วนสว่างของดวงจนั ทร์จะลดลง จนมืดเตม็ ดวงในวันแรม 15 คา่ ) – นอกจากการสังเกตดวงจันทร์มีวิธีการศึกษาวันข้างข้ึน ข้างแรมได้โดยวิธีการใด (แนวคาตอบ ศึกษาจากปฏทิ ินที่ใชใ้ นการกาหนดวนั ข้างขน้ึ ข้างแรม) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ในแต่ละคนื เรา จะเห็นดวงจันทร์มรี ูปรา่ งปรากฏแตกต่างกัน ทาให้เกดิ ข้างข้ึน ข้างแรม (4) ขน้ั ขยายความรู้ ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมเก่ียวกบั การขึ้นและตกของดวงจันทร์วา่ ดวงจันทรจ์ ะขึน้ และตกชา้ ลงอย่างสม่าเสมอ ประมาณวันละ 50 นาที ซ่ึงวันข้างขึ้น ดวงจันทร์จะขึ้นในเวลากลางวันก่อนดวงอาทิตย์ตก และตกในเวลา กลางคืน วันขา้ งแรม ดวงจนั ทรจ์ ะข้ึนหลังดวงอาทติ ย์ตกหรือขึ้นในเวลากลางคืน และตกในเวลากลางวนั ส่วน วันขึ้น 8 ค่า ดวงจันทร์จะข้ึนเวลาประมาณเท่ียงวันและตกในเวลาประมาณเท่ียงคืน และวันแรม 7 ค่า ดวง จนั ทรข์ ้ึนในเวลาประมาณเทีย่ งคนื และตกในเวลาประมาณเที่ยงวนั (5) ขน้ั ประเมนิ (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่าจากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างท่ียังไม่ เข้าใจหรือยังมขี ้อสงสัย ถา้ มี ครูชว่ ยอธิบายเพิ่มเตมิ ให้นักเรียนเข้าใจ (2) นกั เรยี นรว่ มกนั ประเมนิ การปฏิบัติกิจกรรมกลมุ่ ว่ามปี ัญหาหรอื อปุ สรรคใดและไดแ้ ก้ไขอยา่ งไรบ้าง (3) ครูและนักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการปฏิบตั กิ จิ กรรมและการ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยถามคาถามนกั เรยี น เช่น – ดวงจนั ทรใ์ นวันขนึ้ 15 คา่ และแรม 15 คา่ มลี ักษณะอย่างไร – การข้นึ และตกของดวงจันทรม์ ีทิศเหมือนกบั ดวงอาทิตยห์ รอื ไม่ อย่างไร ข้นั สรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการขึ้นและตกของดวงจันทร์ รูปร่างของดวงจันทร์ โดยร่วมกัน เขียนเปน็ แผนทีค่ วามคิดหรอื ผังมโนทศั น์

แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 10. สื่อการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. หนงั สือ วารสาร สารานกุ รมวิทยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน และอินเทอรเ์ นต็ 3. คู่มอื การสอน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 4. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 5. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 6. หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) 1. ซกั ถามความร้เู รือ่ ง การขึ้นและ จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ประเมินทกั ษะการคิดโดย ตกของดวงจนั ทร์ รูปรา่ งของดวง การสังเกตการทางานกลุม่ จันทร์ 1. ประเมนิ เจตคติทาง วทิ ยาศาสตร์เป็นรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ 2. ตรวจชนิ้ งานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใช้แบบวดั ปฏิบตั ิกจิ กรรมเป็น กิจกรรมฝึกทักษะระหว่างเรยี น เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ รายบุคคลหรอื รายกลุ่ม โดยการสงั เกตการทางาน 3. ทดสอบก่อนเรียนโดยใช้ 2. ประเมินเจตคตติ ่อ กลมุ่ แบบทดสอบก่อนเรยี น วทิ ยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. นกั เรียนนไ่ี มผ่ ่าน มดี ังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ไี มผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรียนมีความรู้เกดิ ทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ.................................................. (.................................................) ตาแหน่ง.....................................

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 72 สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เรื่อง การขึ้นและตกของดวงจนั ทร์ รปู ร่างของดวงจนั ทร์ (2) เวลา 1 ช่วั โมง วันที.่ ...........เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผู้สอน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ 2. ตวั ชีว้ ัดชนั้ ปี 1. อธบิ ายแบบรปู เส้นทางการข้ึนและตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ (ว 3.1 ป. 4/1) 2. สร้างแบบจาลองทีอ่ ธิบายแบบรูปการเปล่ียนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทรแ์ ละพยากรณ์รูปร่าง ปรากฏของดวงจันทร์ (ว 3.1 ป. 4/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายการขึน้ และตกของดวงจันทรแ์ ละการเปลี่ยนแปลงรูปรา่ งปรากฏของดวงจันทรไ์ ด้ (K) 2. สรา้ งแบบจาลองการเปลยี่ นแปลงรูปรา่ งปรากฏของดวงจนั ทร์ได้ (K) 3. มีความสนใจใฝ่รหู้ รอื อยากร้อู ยากเหน็ (A) 4. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนร้เู กยี่ วกบั วิทยาศาสตร์ (A) 5. ทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื อย่างสร้างสรรค์ (A) 6. สอื่ สารและนาความรูเ้ รอ่ื งการข้นึ และตกของดวงจนั ทร์ รูปร่างของดวงจนั ทรไ์ ปใชใ้ นชีวิตประจาวัน ได้ (P) 4. สาระสาคัญ ดวงจันทร์ข้ึนและตกทิศทางเดียวกับดวงอาทิตย์ โดยในแต่ละคืนเราจะเห็นดวงจันทร์มีลักษณะ แตกต่างกัน ช่วงท่ีเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเรียกว่า ข้างข้ึน ช่วงท่ีไม่เห็นดวงจันทร์เลยเรียกว่า ข้างแรม เรา สามารถใช้ลักษณะของดวงจันทร์บอกทิศแก่เราได้ โดยในวันขึ้น 8 ค่า จะเห็นด้านที่มืดอยู่ทางทิศตะวันออก สว่ นวนั แรม 8 คา่ จะเห็นด้านท่ีมดื อยู่ทางทศิ ตะวนั ตก

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 5. สาระการเรียนรู้ ดวงจนั ทร์ – การข้ึนและตกของดวงจนั ทร์ – รูปร่างของดวงจนั ทร์ 6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน 4. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดาเนนิ ชวี ิต 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สงั เกตดวงจนั ทร์ 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน 1) ครทู บทวนความรู้เกย่ี วกบั รปู รา่ งของดวงจันทร์ โดยการถามคาถามนักเรยี นวา่ – สว่ นสว่างของดวงจันทร์ขา้ งขนึ้ อยทู่ างทิศใด แตกตา่ งจากดวงจันทร์ขา้ งแรมหรอื ไม่ อยา่ งไร (แนวคาตอบ ส่วนสว่างของดวงจันทร์ข้างข้ึนอยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งแตกต่างจากส่วนสว่างของดวงจันทร์ ข้างแรมซึง่ อยู่ทางทิศตะวนั ออก) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคาตอบของคาถาม เพ่ือเช่ือมโยงไปสู่ การเรียนรูเ้ รื่อง การขน้ึ และตกของดวงจันทร์ รปู รา่ งของดวงจนั ทร์ ขนั้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ รว่ มกบั แบบกลับดา้ นชนั้ เรียน ซ่งึ มีข้นั ตอน ดงั น้ี

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 (1) ขั้นสร้างความสนใจ (1) ครูนารูปการเปล่ียนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ข้างข้ึน ข้างแรม มาให้นักเรียนดู แล้วถาม คาถามนกั เรยี น ดังนี้ – ดวงจันทร์ขา้ งขน้ึ มสี ว่ นทีม่ ืดทางทศิ ใด (แนวคาตอบ ทศิ ตะวันออก) – ดวงจันทร์ข้างแรมมสี ่วนท่มี ืดทางทศิ ใด (แนวคาตอบ ทศิ ตะวนั ตก) (2) นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายเกีย่ วกับคาตอบจากคาถามของครูตามประสบการณข์ องนกั เรยี น (2) ขั้นสารวจและคน้ หา (1) แบ่งกลุ่มนักเรียน ปฏิบัติกิจกรรมท่ี 24 สังเกตดวงจันทร์ ตามข้ันตอนทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ ทักษะ/กระบวนการสังเกตดังน้ี – แบ่งกลุม่ นกั เรียน กลุม่ ละ 5 – 6 คน – นักเรียนเรียนรู้จากปฏทิ ินหรือหนังสือพมิ พ์เพอื่ หาว่าวันท่ีเท่าไรเป็นวันขน้ึ 8 ค่า และวันแรม 8 ค่า – สงั เกตว่าดวงอาทติ ยข์ ึน้ ทางทศิ ใดของบ้านเพ่อื หาทศิ ตะวันออกและทศิ ตะวนั ตก – วาดวงกลมลงบนกระดาษขาว 2 แผ่น แผ่นละ 1 วง และทีใ่ ตว้ งกลมเขียนว่า ขนึ้ 8 ค่า และแรม 8 ค่า – เม่ือถึงวันขึ้น 8 ค่า และวันแรม 8 ค่า ให้นักเรียนสังเกตดวงจันทร์แล้วใช้ดินสอสีหรือสีเทียน ระบายลงในวงกลม โดยส่วนทีส่ วา่ งใช้สเี หลอื ง ส่วนที่มืดใชส้ ีดา – เขียนทศิ ตะวันออกและทศิ ตะวันตกทีข่ า้ งวงกลมท้งั 2 รูป – รว่ มกันวิเคราะห์ อภิปราย และสรุปผลการสงั เกตดวงจันทร์ (2) ครูคอยแนะนาช่วยเหลอื นกั เรยี นขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยครเู ดินดูรอบๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ใหน้ กั เรยี นทกุ คนซกั ถามเม่ือมีปญั หา (3) ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรปุ (1) นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกล่มุ นาเสนอผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมหนา้ ห้องเรียน (2) นกั เรยี นและครูรว่ มกันอภปิ รายและหาขอ้ สรุปจากการปฏิบัติกจิ กรรม โดยใช้แนวคาถามตอ่ ไปน้ี – ดวงจันทร์สามารถใชบ้ อกทศิ ได้หรือไม่ อย่างไร (แนวคาตอบ ได้ เนอ่ื งจากในวนั ขึ้น 8 ค่า ด้าน มืดของดวงจันทร์จะอยู่ทางทิศตะวันออก และในวันแรม 8 ค่า ด้านมืดของดวงจันทร์จะอยู่ทางทิศตะวันตก เสมอ) – ถ้าไม่ใชก้ ารวาดรูป เราสามารถใชอ้ ุปกรณใ์ ดศึกษาเรื่องน้ีได้ (แนวคาตอบ ปฏิทิน) (3) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรยี นเข้าใจวา่ วนั ขึน้ 8 ค่า ดวง จันทร์ด้านมืดจะอย่ทู างทศิ ตะวนั ออก สว่ นวันแรม 8 คา่ ดวงจันทร์ด้านมืดจะอยทู่ างทิศตะวนั ตก

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 (4) ขน้ั ขยายความรู้ (1) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า เดอื นขาด เป็นเดือนที่มี 29 วัน วันสิ้นเดือนตรงกับวันแรม 14 ค่า ซึ่งได้แก่ เดือน 1 เดือน 3 เดอื น 5 เดือน 7 เดอื น 9 และเดือน 11  เดือนเต็ม เป็นเดอื นที่มี 30 วัน วนั ส้ินเดือนตรงกับวันแรม 15 คา่ ซึ่งได้แก่ เดือน 2 เดอื น 4 เดือน 6 เดือน 8 เดือน 10 และเดอื น 12  วนั เพญ็ เปน็ วันท่ีดวงจันทร์สวา่ งเต็มดวง ซ่ึงตรงกับวันขึ้น 15 ค่า  วันดับ เปน็ วนั ทด่ี วงจนั ทร์มดื ทง้ั ดวง ซึง่ ตรงกับวนั แรม 14 ค่า หรอื แรม 15 คา่  วนั โกน เป็นวันกอ่ นหนา้ วันพระ 1 วนั  วันพระ เป็นวันข้างขึ้น 8 ค่า และข้างแรม 8 ค่า วันข้างข้ึน 15 คา่ และข้างแรม 15 ค่า หรือแรม 14 คา่ (2) ครูเชอ่ื มโยงความรูส้ ู่อาเซยี น โดยให้นักเรียนสบื ค้นข้อมูลเกี่ยวกบั ประเพณีหรือเทศกาลที่จัดข้นึ ใน คืนวันเพญ็ ของประเทศในกลมุ่ สมาชกิ อาเซยี น ตวั อย่างเช่น ประเพณีลอยกระทงของไทย ตรงกับวันข้ึน 15 ค่า เดือน 12 หรือราวๆ เดือนพฤศจิกายนของทุกปี มีข้ึนเพอ่ื เป็นการขอบคุณพระแมค่ งคา และเปน็ การ ขอขมาท่ไี ด้ปล่อยสิ่งปฏิกลู ลงสู่แหลง่ นา้ โดยมีการจัดทากระทงสวยงามไปลอยใน แหล่งน้า ดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ประเพณีไหลเรอื ไฟของลาว ตรงกบั วนั ขึ้น 15 เดือน 11 หรือวันออกพรรษา ทเ่ี มอื งหลวงพระบางจะมี ประเพณีไหลเรือไฟและลอยกระทงทแ่ี มน่ า้ คาน โดยมีความเชื่อว่าเป็นการต้อนรับพระพุทธเจ้าท่เี สดจ็ ลงมาจาก สวรรคช์ ้ันดาวดึงส์ และเป็นการบูชาพญานาคที่เชอื่ กันว่าจะปรากฏกายในรูปของลูกไฟ (ทางภาคอีสาน เรียกว่า บ้ังไฟพญานาค) เทศกาลฤดูใบไม้ร่วง หรือเต็ดจุงทู (Ted Trung Thu) ของเวียดนาม คล้ายกบั เทศกาลไหว้พระจันทร์ ของจีน ตรงกบั วันขึ้น 15 ค่า เดือน 8 มีการจัดประกวดขนมบ๋ันจุงทูหรอื ขนมเปีย๊ ะไหว้พระจันทรร์ ปู ร่างกลม มี ไสถ้ ่วั และไสผ้ ลไม้ แตล่ ะบ้านจะประดบั โคมไฟเพอื่ เฉลิมฉลอง พรอ้ มท้ังจัดขบวนแห่เชดิ สงิ โตและมงั กร (5) ขัน้ ประเมิน (1) ครูให้นักเรยี นแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เข้าใจหรือยังมีข้อสงสยั ถ้ามี ครชู ่วยอธบิ ายเพ่ิมเติมใหน้ กั เรียนเข้าใจ (2) นกั เรยี นร่วมกันประเมนิ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกล่มุ วา่ มีปญั หาหรืออุปสรรคใดและได้แก้ไขอยา่ งไรบ้าง (3) ครูและนกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับประโยชน์ท่ไี ด้รบั จากการปฏิบัติกจิ กรรมและการ นาความร้ไู ปใช้ประโยชน์

แผนการจัดการเรียนร้วู ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยถามคาถามนกั เรยี น เชน่ – ข้างขึน้ ขา้ งแรมเกิดขนึ้ ได้อยา่ งไร – การเปล่ียนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทรใ์ นแต่ละคนื ต่างกันหรือไม่ อยา่ งไร ขน้ั สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการข้ึนและตกของดวงจันทร์ รูปร่างของดวงจันทร์ โดยร่วมกัน เขียนเปน็ แผนทค่ี วามคิดหรือผังมโนทศั น์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. รปู การเปล่ียนแปลงรปู รา่ งปรากฏของดวงจันทรข์ ้างข้นึ ขา้ งแรม 2. ใบกิจกรรมที่ 24 สังเกตดวงจนั ทร์ 3. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 4. สื่อการเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 5. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 6. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ประเมินทักษะกระบวนการ 1. ซกั ถามความรู้เรอื่ ง การข้ึนและ 1. ประเมินเจตคติทาง ทางวิทยาศาสตรโ์ ดยใชแ้ บบ วดั ทักษะกระบวนการทาง ตกของดวงจนั ทร์ รูปร่างของดวง วทิ ยาศาสตร์เป็นรายบุคคล วทิ ยาศาสตร์ จันทร์ โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด 2. ประเมินทกั ษะการคดิ โดย การสังเกตการทางานกล่มุ 2. ตรวจชน้ิ งานหรือภาระงานของ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 3. ประเมินทกั ษะการ กจิ กรรมฝึกทักษะระหว่างเรียน 2. ประเมนิ เจตคติต่อ แกป้ ัญหาโดยการสงั เกตการ ทางานกลมุ่ วิทยาศาสตร์เป็นรายบุคคล 4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ โดยการสังเกตและใช้แบบวดั ปฏิบัตกิ จิ กรรมเป็น รายบุคคลหรือรายกลุม่ โดย เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตการทางานกลมุ่

แผนการจัดการเรียนร้วู ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 12.1 สรุปผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. นักเรยี นนไ่ี มผ่ า่ น มดี งั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนท่ีไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กดิ ทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง.....................................

แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 73 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว14101 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรอื่ ง แบบจาลองระบบสรุ ิยะ เวลา 1 ช่วั โมง วนั ท.่ี ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู ู้สอน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ 2. ตวั ช้ีวัดชนั้ ปี สร้างแบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาว เคราะหต์ ่างๆ จากแบบจาลอง (ว 3.1 ป. 4/3) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายและเปรยี บเทยี บการโคจรของดาวเคราะหต์ ่าง ๆ จากแบบจาลองระบบสรุ ยิ ะได้ (K) 2. สรา้ งแบบจาลองเพอ่ื แสดงองค์ประกอบของระบบสรุ ยิ ะได้ (K) 3. มคี วามสนใจใฝ่รูห้ รอื อยากรอู้ ยากเห็น (A) 4. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรู้ทเี่ ก่ยี วกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 5. ทางานร่วมกับผอู้ น่ื อยา่ งสร้างสรรค์ (A) 6. สื่อสารและนาความรู้เร่อื งแบบจาลองระบบสรุ ิยะไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคญั แบบจาลองระบบสุริยะเป็นแผนภาพแสดงแนวคิดของนกั ดาราศาสตร์ทีส่ ร้างขึ้นเพ่อื แสดงตาแหน่งของ ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ และวัตถุท้องฟา้ อนื่ ๆ ทโ่ี คจรรอบโลก 5. สาระการเรียนรู้ ระบบสุรยิ ะ – แบบจาลองระบบสุรยิ ะ

แผนการจัดการเรียนรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทางาน 4. มจี ติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน สืบคน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั แบบจาลองระบบสุริยะ 9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1) ครถู ามคาถามนักเรยี นเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจ เชน่ – นักวิทยาศาสตร์ใช้ประโยชน์จากแบบจาลองระบบสรุ ิยะในเร่ืองใด (แนวคาตอบ ใช้ศึกษาการ เคลอ่ื นท่ีของดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ ดวงจนั ทร์ และวัตถทุ ้องฟา้ อื่น ๆ) 2) นักเรยี นชว่ ยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับคาตอบของคาถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสกู่ าร เรียนรู้เรอื่ ง แบบจาลองระบบสุริยะ ขน้ั จัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกจิ กรรมการเรยี นร้โู ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ รว่ มกบั แบบกลบั ดา้ นช้นั เรียน ซง่ึ มีขนั้ ตอน ดังนี้ (1) ข้นั สร้างความสนใจ (1) ครูสนทนากับนักเรียนแล้วนารูปแบบจาลองระบบสุริยะของพโตเลมี โคเพอร์นิคัส และเคปเลอร์ มาให้นักเรียนดู แล้วถามคาถามดงั น้ี – นกั วิทยาศาสตร์สรา้ งแบบจาลองระบบสุริยะขึ้นเพื่อเหตุผลใด (แนวคาตอบ เพอื่ แสดงตาแหน่ง ของดวงอาทติ ย์ ดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ และวตั ถุทอ้ งฟา้ อืน่ ๆ) – แบบจาลองระบบสรุ ิยะของโคเพอรน์ ิคสั มลี ักษณะอย่างไร (แนวคาตอบ เป็นแบบจาลองระบบ สรุ ิยะทมี่ ดี วงอาทติ ย์เป็นศูนยก์ ลางของระบบสุริยะ และมีดาวเคราะห์ตา่ งๆ รวมทงั้ โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย)์ (2) นกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายเกีย่ วกบั คาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณข์ องนกั เรียน

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 (2) ขั้นสารวจและคน้ หา (1) ให้นกั เรยี นศกึ ษาเรอื่ งแบบจาลองระบบสุริยะจากใบความรู้หรอื ในหนังสือเรยี น โดยครชู ่วยอธิบาย ให้นักเรียนเข้าใจว่า นักดาราศาสตร์สร้างแบบจาลองระบบสุริยะจากการสังเกตการเคล่ือนที่ของดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ ดวงจนั ทร์ และวตั ถทุ ้องฟา้ อื่นๆ เพอ่ื แทนสิ่งที่สังเกตเห็น (2) แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นขอ้ มลู เกี่ยวกับแบบจาลองระบบสุริยะโดยดาเนินการ ตามข้ันตอนดังน้ี – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นขอ้ มูล โดยแบง่ หวั ข้อแบบจาลองระบบสรุ ิยะ เป็นหัวข้อย่อย เช่น แบบจาลองระบบสุริยะของพโตเลมี แบบจาลองระบบสุรยิ ะของโคเพอร์นิคัส และแบบจาลองระบบสุริยะของ เคปเลอร์ ให้สมาชกิ แต่ละกลุม่ ชว่ ยกันสืบคน้ ตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด – สมาชิกแต่ละกลมุ่ ช่วยกันสบื ค้นข้อมลู ตามหัวข้อทกี่ ลุ่มของตนเองรับผิดชอบโดยการสืบคน้ จาก หนงั สอื วารสาร สารานุกรมวทิ ยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน และอินเทอร์เนต็ – สมาชิกกลุ่มนาข้อมูลท่ีสืบค้นได้มารายงานให้เพ่ือนๆ สมาชิกกลุ่มฟัง รวมทั้งร่วมกันอภิปราย ซกั ถามจนคาดว่าสมาชิกทุกคนมีความร้คู วามเข้าใจทต่ี รงกนั – สมาชกิ กลมุ่ ชว่ ยกนั สรปุ ความรู้ท่ีไดท้ ้ังหมดเปน็ ผลงานของกลมุ่ (3) ครูคอยแนะนาชว่ ยเหลอื นกั เรยี นขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยครเู ดนิ ดรู อบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ใหน้ ักเรยี นทกุ คนซักถามเมือ่ มีปัญหา (3) ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรปุ (1) นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมหน้าห้องเรยี น (2) นักเรยี นและครูรว่ มกันอภปิ รายและหาขอ้ สรุปจากการปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยใช้แนวคาถามตอ่ ไปนี้ – การศึกษาการเคล่ือนที่ของดวงดาวต่างๆ ในระบบสุริยะสามารถทาได้ด้วยวิธีการใด(แนว คาตอบ ศกึ ษาได้จากแบบจาลองระบบสุรยิ ะ) – ถ้าต้องการศึกษาดาวเคราะห์สามารถศึกษาได้จากแบบจาลองของนักดาราศาสตร์ท่านใดบ้าง (แนวคาตอบ พโตเลมี โคเพอรน์ ิคัส และเคปเลอร์) (3) ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า นักดาราศาสตร์ สรา้ งแบบจาลองระบบสรุ ิยะเพอื่ ศกึ ษาดาวเคราะห์ รวมถึงวัตถทุ ้องฟ้าอื่นๆ (4) ขั้นขยายความรู้ (1) นักเรียนฝึกสืบค้นขอ้ มูลเกี่ยวกบั การสรา้ งแบบจาลองระบบสุรยิ ะของนักดาราศาสตร์ จากหนงั สือ และวารสารเก่ยี วกับดาราศาสตร์ สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน และอนิ เทอร์เนต็ (2) นักเรียนค้นคว้าคาศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับแบบจาลองระบบสุริยะ จากหนังสือเรียน ภาษาตา่ งประเทศหรอื อนิ เทอร์เน็ต และนาเสนอใหเ้ พ่ือนในหอ้ งฟงั คัดคาศัพท์พรอ้ มท้ังคาแปลลงสมุดสง่ ครู

แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 (5) ขั้นประเมนิ (1) ครูใหน้ ักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรมมีจดุ ใดบ้างทยี่ ังไม่ เข้าใจหรอื มีข้อสงสัย ถ้ามี ครชู ่วยอธบิ ายเพิ่มเติมให้นักเรยี นเข้าใจ (2) นักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลุม่ วา่ มีปัญหาหรืออปุ สรรคใดและไดแ้ กไ้ ขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการปฏิบตั กิ ิจกรรมและการ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยถามคาถามนกั เรยี น เช่น – นักดาราศาสตร์สนใจศกึ ษาแบบจาลองระบบสรุ ิยะเพราะเหตใุ ด – แบบจาลองระบบสุรยิ ะของพโตเลมี โคเพอรน์ คิ สั และเคปเลอร์ มีลกั ษณะใด ขนั้ สรุป ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปเกย่ี วกับแบบจาลองระบบสุริยะ โดยรว่ มกนั เขยี นเป็นแผนที่ความคิดหรือผัง มโนทัศน์ 10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. รปู แบบจาลองระบบสุริยะของพโตเลมี โคเพอร์นคิ สั และเคปเลอร์ 2. หนังสือและวารสารเก่ียวกับดาราศาสตร์ สารานกุ รมวทิ ยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน 3. หนังสอื เรยี นภาษาต่างประเทศ 4. คู่มือการสอน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 5. สอื่ การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 6. แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 7. หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวิทยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความร้เู รอ่ื ง แบบจาลอง 1. ประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตร์ 1. ประเมินทักษะการคิดโดย ของระบบสุรยิ ะ เป็นรายบุคคลโดยการสังเกต การสังเกตการทางานกลมุ่ 2. ตรวจชน้ิ งานหรือภาระงานของ และใช้แบบวดั เจตคติทาง 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ กจิ กรรมฝึกทักษะระหว่างเรยี น วิทยาศาสตร์ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเปน็ 2. ประเมนิ เจตคตติ ่อวิทยาศาสตร์ รายบคุ คลหรอื รายกล่มุ โดย เป็นรายบุคคลโดยการสังเกต การสังเกตการทางานกลมุ่ และใชแ้ บบวดั เจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์

แผนการจัดการเรียนรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรียนจานวน..................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ ม่ผ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กดิ ทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................

แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................

แผนการจัดการเรียนร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 74 สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง สว่ นประกอบของระบบสรุ ิยะ (1) เวลา 1 ชัว่ โมง วนั ที.่ ...........เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผูส้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ 2. ตัวช้วี ัดชน้ั ปี สร้างแบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาว เคราะหต์ า่ งๆ จากแบบจาลอง (ว 3.1 ป. 4/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายสว่ นประกอบของระบบสุรยิ ะได้ (K) 2. มีความสนใจใฝร่ ู้หรืออยากรอู้ ยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรยี นรทู้ ่ีเกี่ยวกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทางานรว่ มกบั ผอู้ นื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนาความรเู้ รื่องสว่ นประกอบของระบบสรุ ยิ ะไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคัญ ระบบสุริยะเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง มีบริวารที่เป็นดาวเคราะห์ 8 ดวง ประกอบด้วย ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั และดาวเนปจนู 5. สาระการเรยี นรู้ ระบบสรุ ิยะ – สว่ นประกอบของระบบสุรยิ ะ

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 4. มีจิตวิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สืบค้นข้อมูลเก่ียวกับสว่ นประกอบของระบบสรุ ยิ ะ 9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1) ครูถามคาถามนกั เรยี นเพ่อื กระต้นุ ความสนใจ เช่น – ระบบสุริยะเป็นระบบของดวงดาวท่ีประกอบด้วยอะไรบ้าง (แนวคาตอบ ดาวเคราะห์ 8 ดวง ดวงจนั ทร์ ดวงอาทิตย์ และวตั ถทุ ้องฟา้ อื่นๆ) – ศนู ย์กลางของระบบสุรยิ ะคอื อะไร (แนวคาตอบ ดวงอาทิตย์) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคาตอบของคาถาม เพ่ือเชื่อมโยงไปสู่ การเรียนรู้เรอื่ ง สว่ นประกอบของระบบสรุ ิยะ ขนั้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ร่วมกับแบบกลับด้านชน้ั เรียน ซ่งึ มขี ั้นตอน ดงั น้ี (1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (1) ครูสนทนากับนักเรยี นแล้วนารปู ระบบสรุ ิยะมาให้นกั เรียนดู แลว้ ถามคาถามนักเรยี นดงั น้ี – ในระบบสรุ ิยะมีดาวเคราะห์ทง้ั หมดกี่ดวง อะไรบา้ ง (แนวคาตอบ 8 ดวง คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั และดาวเนปจูน) – ดาวเคราะหท์ ่อี ย่ใู กล้ดวงอาทติ ย์มากทสี่ ดุ คือดาวเคราะห์ดวงใด (แนวคาตอบ ดาวพุธ) (2) นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั คาตอบจากคาถามของครูตามประสบการณ์ของนักเรียน

แผนการจัดการเรียนรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 (2) ขนั้ สารวจและคน้ หา (1) ให้นกั เรยี นศึกษาเรื่องส่วนประกอบของระบบสรุ ิยะจากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วย อธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า ระบบสุริยะประกอบด้วยดาวเคราะห์ 8 ดวง โคจรอยู่รอบๆ ดวงอาทิตย์ และยังมี บริวารอ่ืนๆ ได้แก่ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์น้อย ดาวเคราะห์แคระ ดาวหาง ดาวตกหรือผีพุ่งไต้ และอุกกาบาต เคล่ือนท่อี ยใู่ นวงโคจร (2) แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับส่วนประกอบของระบบสุริยะ โดย ดาเนนิ การตามขั้นตอนดงั น้ี – แต่ละกลุม่ วางแผนการสืบค้นขอ้ มูล โดยแบ่งหวั ขอ้ สว่ นประกอบของระบบสุรยิ ะเปน็ หวั ข้อย่อย เช่น ลักษณะเฉพาะของดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ใหเ้ พือ่ นสมาชกิ ชว่ ยกนั สืบค้นตามทีส่ มาชกิ กลมุ่ ช่วยกนั กาหนด – สมาชิกกลุ่มแต่ละคนหรือกลุ่มยอ่ ยช่วยกันสืบคน้ ข้อมลู ตามหัวข้อยอ่ ยท่ีตนเองรับผิดชอบ โดย การสืบคน้ จากใบความรู้ท่ีครูเตรียมมาให้ หรอื หนังสอื วารสาร สารานุกรมวทิ ยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรับ เยาวชน และอินเทอรเ์ นต็ – สมาชิกกลุม่ นาขอ้ มูลที่สบื คน้ ได้มารายงานใหเ้ พ่อื นๆ สมาชิกในกลมุ่ ฟัง รวมทั้งร่วมกันอภิปราย ซักถามจนคาดว่าสมาชกิ ทุกคนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจท่ตี รงกัน – สมาชกิ กลุม่ ชว่ ยกนั สรปุ ความร้ทู ่ีได้ทัง้ หมดเปน็ ผลงานของกลุ่ม (3) ครูคอยแนะนาช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบ ๆ ห้องเรียนและเปิด โอกาสใหน้ ักเรยี นทกุ คนซักถามเม่อื มปี ัญหา (3) ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (1) นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ส่งตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมหน้าหอ้ งเรียน (2) นกั เรยี นและครรู ่วมกันอภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยใช้แนวคาถามตอ่ ไปนี้ – ดาวเคราะห์ที่มีดวงจันทร์เป็นบริวารมากที่สุดคือดาวเคราะห์ดวงใด (แนวคาตอบ ดาว พฤหสั บด)ี – ดาวเคราะห์ที่มีทิศทางการหมุนรอบตัวเองต่างจากดาวเคราะห์ดวงอ่ืนคือดาวเคราะห์ดวงใด (แนวคาตอบ ดาวศุกร์) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ระบบสุริยะ ประกอบด้วยดาวเคราะห์ 8 ดวง ซ่งึ ดาวเคราะห์แตล่ ะดวงมลี กั ษณะเฉพาะแตกต่างกัน (4) ข้นั ขยายความรู้ ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมว่า เม่ือวันท่ี 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 องคก์ ารนาซาของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ส่ง ยานอวกาศจโู น (Juno) ซึง่ เป็นยานอวกาศพลังงานแสงอาทติ ย์ เขา้ สู่วงโคจรของดาวพฤหัสบดีได้สาเรจ็ เพ่ือใช้ ถา่ ยภาพดาวเคราะหท์ ่ีมีขนาดใหญ่ทีส่ ุดในระบบสรุ ยิ ะและไขปรศิ นาการกอ่ กาเนดิ ของดวงดาว

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 (5) ขัน้ ประเมนิ (1) ครูใหน้ ักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหวั ข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรมมีจุดใดบ้างทีย่ ังไม่ เขา้ ใจหรอื มขี ้อสงสัย ถา้ มี ครชู ว่ ยอธิบายเพมิ่ เตมิ ใหน้ กั เรียนเข้าใจ (2) นักเรยี นร่วมกันประเมินการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุม่ ว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใดและไดแ้ กไ้ ขอยา่ งไรบ้าง (3) ครแู ละนักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชน์ทีไ่ ด้รับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมและการ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยถามคาถามนกั เรยี น เชน่ – ดาวเคราะห์ท่ีพบวา่ เคยมนี ้าหรือของเหลวคอื ดาวเคราะหด์ วงใด – ดาวอังคาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั และดาวเนปจูนมีลักษณะเด่นอะไรบา้ ง ขั้นสรปุ ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปเกยี่ วกับส่วนประกอบของระบบสุรยิ ะ โดยรว่ มกนั เขียนเป็นแผนที่ความคิด หรอื ผงั มโนทศั น์ 10. ส่อื การเรียนรู้ 1. รูประบบสรุ ยิ ะ 2. หนังสอื วารสาร สารานกุ รมวทิ ยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน และอินเทอรเ์ น็ต 3. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 4. ส่อื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวชิ าพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 5. แบบฝกึ ทักษะรายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 6. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรู้เร่ืองสว่ นประกอบ 1. ประเมินเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ 1. ประเมินทกั ษะการคิดโดย ของระบบสรุ ิยะ เปน็ รายบคุ คลโดยการสงั เกต การสงั เกตการทางานกลุ่ม 2. ตรวจช้นิ งานหรอื ภาระงานของ และใช้แบบวัดเจตคติทาง 2. ประเมินพฤตกิ รรมในการ กิจกรรมฝึกทักษะระหวา่ งเรียน วิทยาศาสตร์ ปฏิบตั ิกิจกรรมเป็น 2. ประเมนิ เจตคติต่อวทิ ยาศาสตร์ รายบคุ คลหรอื รายกลุ่มโดย เปน็ รายบคุ คลโดยการสังเกต การสังเกตการทางานกลมุ่ และใช้แบบวดั เจตคติต่อ วทิ ยาศาสตร์

แผนการจัดการเรียนรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรียนจานวน..................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ ม่ผ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กดิ ทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................

แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................

แผนการจัดการเรียนร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 75 สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง สว่ นประกอบของระบบสรุ ิยะ (2) เวลา 1 ชัว่ โมง วนั ที.่ ...........เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผูส้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ 2. ตัวช้วี ัดชน้ั ปี สร้างแบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาว เคราะหต์ า่ งๆ จากแบบจาลอง (ว 3.1 ป. 4/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายสว่ นประกอบของระบบสุรยิ ะได้ (K) 2. มีความสนใจใฝร่ ู้หรืออยากรอู้ ยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรยี นรทู้ ่ีเกี่ยวกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทางานรว่ มกบั ผอู้ นื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนาความรเู้ รื่องสว่ นประกอบของระบบสรุ ยิ ะไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคัญ ระบบสุริยะเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง มีบริวารที่เป็นดาวเคราะห์ 8 ดวง ประกอบด้วย ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั และดาวเนปจนู 5. สาระการเรยี นรู้ ระบบสรุ ิยะ – สว่ นประกอบของระบบสุรยิ ะ

แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน 4. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 8. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน ดาวเคราะห์ท่ีฉันชอบ 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1) ครูทบทวนความร้เู กย่ี วกับสว่ นประกอบของระบบสุริยะ โดยถามคาถามนกั เรียนวา่ – ดาวฤกษ์ทม่ี ีขนาดใหญแ่ ละสวา่ งมากคือดาวฤกษ์ดวงใด (แนวคาตอบ ดวงอาทติ ย)์ – ดาวเคราะหท์ ม่ี ีน้าหรอื ของเหลว และอาจมีสง่ิ มชี วี ติ อาศยั อยไู่ ด้คอื ดาวเคราะห์ดวงใด (แนวคาตอบ ดาวอังคาร) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคาตอบของคาถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่ การเรียนรูเ้ รอื่ ง สว่ นประกอบของระบบสุรยิ ะ ข้นั จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ รว่ มกบั แบบกลับดา้ นช้ันเรียน ซ่งึ มขี ้ันตอน ดังนี้ (1) ข้นั สรา้ งความสนใจ (1) ครูนารปู ระบบสุรยิ ะมาให้นกั เรยี นดู แล้วอธบิ ายเกี่ยวกบั ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ จากนน้ั ครูถาม คาถามกบั นกั เรียนดังน้ี – ดาวเคราะหท์ ี่มีวงแหวนลอ้ มรอบคือดาวเคราะหด์ วงใด (แนวคาตอบ ดาวเสาร์) – ดาวเคราะหท์ อี่ ยถู่ ัดจากดาวศกุ รค์ อื ดาวเคราะห์ดวงใด (แนวคาตอบ โลก) (2) นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกับคาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณ์ของนักเรยี น (2) ข้นั สารวจและคน้ หา (1) นักเรียนแต่ละคน ปฏิบตั ิกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ท่ี 6 ดาวเคราะหท์ ีฉ่ ันชอบ ตามข้นั ตอน ดงั นี้ – เขียนรายละเอียดเกย่ี วกับดาวเคราะห์ท่ีนกั เรียนชอบ วาดรปู และระบายสีใหส้ วยงาม

แผนการจัดการเรียนร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 – นาเสนอผลงานและอธบิ ายรว่ มกนั ในชน้ั เรยี น (2) ครูคอยแนะนาชว่ ยเหลือนกั เรียนขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยครูเดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ให้นกั เรยี นทกุ คนซักถามเม่ือมีปญั หา (3) ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (1) นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหน้าห้องเรยี น (2) นกั เรียนและครูรว่ มกันอภิปรายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยใชแ้ นวคาถามต่อไปน้ี – ดาวยูเรนัสมีสีฟ้าอมเขียว เน่ืองจากสาเหตุใด (แนวคาตอบ เนื่องจากบรรยากาศชั้นบนมีแก๊ส ฮเี ลยี มจานวนมาก) – วงแหวนของดาวเสาร์มลี ักษณะเปน็ อยา่ งไร (แนวคาตอบ มีลักษณะเปน็ วงแหวนเลก็ ๆ ซ้อนกัน อยูจ่ านวนมาก ซึ่งภายในวงแหวนประกอบด้วยก้อนนา้ แขง็ ก้อนหนิ ทป่ี กคลุมดว้ ยน้าแขง็ และฝ่นุ ละออง) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ดาวเคราะห์ใน ระบบสรุ ิยะประกอบดว้ ย ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ซึง่ ลกั ษณะของดาวเคราะห์แตล่ ะดวงแตกต่างกัน (4) ขนั้ ขยายความรู้ ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ว่า นักดาราศาสตรไ์ ด้ค้นพบระบบดาวเคราะห์ TRAPPIST–1 โดยกล้องโทรทรรศน์ TRAPPIST ของชิลี และกล้องโทรทรรศน์สปิตเซอร์ของสหรัฐอเมริกา ซ่งึ ดาวเคราะห์ทั้ง 7 ดวงมีพื้นผิวเปน็ หิน เหมือนกับโลก ดาวเคราะห์ 7 ดวงในระบบ TRAPPIST–1 (5) ขน้ั ประเมิน (1) ครูให้นักเรยี นแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรมมีจดุ ใดบ้างท่ยี ังไม่ เขา้ ใจหรอื มีข้อสงสยั ถา้ มี ครูช่วยอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจ (2) นักเรยี นร่วมกนั ประเมินการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกลมุ่ วา่ มีปญั หาหรืออุปสรรคใดและได้แก้ไขอยา่ งไรบา้ ง (3) ครูและนักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกจิ กรรมและการ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยถามคาถามนกั เรียน เช่น

แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – ดาวเคราะห์ทีถ่ ูกเรียกวา่ “เตาไฟแชแ่ ข็ง” คือดาวเคราะห์ดวงใด – ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั และดาวเนปจูนมลี กั ษณะเดน่ อะไรบ้าง – จากลักษณะของดาวเคราะห์แต่ละดวง นักเรียนคิดว่ามีดาวเคราะห์ดวงใดที่เหมือนหรือคล้าย กบั โลกของเรามากทีส่ ดุ อธบิ าย ขน้ั สรุป ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ เก่ียวกับส่วนประกอบของระบบสุริยะ โดยรว่ มกนั เขียนเปน็ แผนท่ีความคิด หรอื ผงั มโนทัศน์ 10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. รูประบบสรุ ยิ ะ 2. ใบกิจกรรมเสรมิ การเรยี นรทู้ ี่ 6 ดาวเคราะหท์ ฉี่ ันชอบ 3. คมู่ อื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 4. สอ่ื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 5. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 6. หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วิทยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรเู้ รื่องส่วนประกอบ 1. ประเมินเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมินทกั ษะการคิดโดย ของระบบสุรยิ ะ เป็นรายบุคคลโดยการสังเกต การสังเกตการทางานกลุ่ม 2. ตรวจช้ินงานหรือภาระงานของ และใช้แบบวดั เจตคติทาง 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ กิจกรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรียน วทิ ยาศาสตร์ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเปน็ 2. ประเมินเจตคติต่อวทิ ยาศาสตร์ รายบคุ คลหรอื รายกลุ่มโดย เป็นรายบคุ คลโดยการสงั เกต การสังเกตการทางานกลุม่ และใช้แบบวดั เจตคติต่อ วิทยาศาสตร์

แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู.้ .................คน คิดเป็นร้อยละ.................. นกั เรียนนไี่ ม่ผ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรียนมีความรู้เกิดทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหน่ง.....................................

แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แลว้ มีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................

แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 76 สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรื่อง เกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะหใ์ นระบบสุรยิ ะ (1) เวลา 1 ชั่วโมง วนั ท.ี่ ...........เดือน..........................................พ.ศ.......................ครผู ู้สอน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ 2. ตัวช้วี ัดช้นั ปี สร้างแบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาว เคราะหต์ า่ งๆ จากแบบจาลอง (ว 3.1 ป. 4/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายส่วนประกอบของระบบสุริยะได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรอื อยากรูอ้ ยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรทู้ ีเ่ กีย่ วกบั วิทยาศาสตร์ (A) 4. ทางานร่วมกับผ้อู ่นื อยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนาความรู้เรอื่ งส่วนประกอบของระบบสุรยิ ะไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ (P) 4. สาระสาคัญ นักดาราศาสตร์ได้แบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะโดยใช้ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์ เป็นเกณฑ์ ซึ่งแบ่งออกเป็น ดาวเคราะห์วงนอกและดาวเคราะห์วงใน ส่วนการแบง่ ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ โดยใช้ลักษณะพื้นผิวเป็นเกณฑ์ แบ่งออกเป็น ดาวเคราะห์ยกั ษ์แก๊ส ดาวเคราะห์ยกั ษ์น้าแข็ง และดาวเคราะห์ หนิ 5. สาระการเรยี นรู้ ระบบสรุ ิยะ – สว่ นประกอบของระบบสรุ ยิ ะ – เกณฑก์ ารแบง่ ประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสรุ ยิ ะ

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 4. มจี ติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิน้ งานหรือภาระงาน สบื ค้นขอ้ มลู เกยี่ วกบั เกณฑก์ ารแบ่งประเภทของดาวเคราะหใ์ นระบบสุรยิ ะ 9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1) ครูทบทวนความรเู้ กย่ี วกับสว่ นประกอบของระบบสุรยิ ะ โดยการถามคาถามนักเรียนวา่ – ดาวเคราะห์ในระบบสุรยิ ะมที ้ังหมดกี่ดวง (แนวคาตอบ 8 ดวง) – เราสามารถแบง่ ประเภทของดาวเคราะห์แตล่ ะดวงไดห้ รือไม่ (แนวคาตอบ ได)้ 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาตอบของคาถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่ การเรียนรเู้ รอ่ื ง เกณฑก์ ารแบง่ ประเภทของดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ิยะ ขนั้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ รว่ มกบั แบบกลับดา้ นชัน้ เรียน ซงึ่ มขี ั้นตอน ดังน้ี (1) ขัน้ สรา้ งความสนใจ (1) ครนู ารูประบบสุรยิ ะมาให้นกั เรียนดู แลว้ ถามคาถามนักเรยี นดังนี้ – เราสามารถใช้เกณฑ์ใดในการแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ (แนวคาตอบ ใช้ ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทติ ยแ์ ละใช้ลกั ษณะพื้นผิวเป็นเกณฑ)์ – การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะโดยใช้ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์เป็น เกณฑส์ ามารถแบง่ เป็นกีก่ ลุ่ม (แนวคาตอบ แบ่งเปน็ 2 กลุ่ม) (2) นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายเกยี่ วกับคาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณข์ องนักเรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook