แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 (2) ขั้นสารวจและค้นหา (1) ใหน้ ักเรียนศึกษาเรื่องเกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจากใบความรู้หรือใน หนงั สือเรียน โดยครูชว่ ยอธิบายให้นักเรียนเข้าใจวา่ การแบ่งประเภทของดาวเคราะหใ์ นระบบสุริยะสามารถใช้ ระยะทางจากโลกถงึ ดวงอาทิตยเ์ ป็นเกณฑ์ในการแบ่งได้ โดยแบ่งออกเป็นดาวเคราะหท์ ่อี ยู่ห่างจากดวงอาทติ ย์ มากกว่าโลก คือ ดาวเคราะห์วงนอก ส่วนดาวเคราะหท์ ีอ่ ยูห่ ่างจากดวงอาทิตย์นอ้ ยกวา่ โลก คือ ดาวเคราะหว์ ง ใน (2) แบง่ กลุ่มนักเรียน กลุม่ ละ 5 – 6 คน สืบค้นข้อมูลเกย่ี วกบั เกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ ในระบบสุรยิ ะโดยดาเนนิ การตามข้ันตอนดังนี้ – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นขอ้ มูล โดยแบ่งหัวข้อเกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ใน ระบบสุริยะเป็นหัวข้อย่อย เช่น ดาวเคราะห์วงนอก ดาวเคราะห์วงใน ให้เพ่ือนสมาชิกช่วยกันสืบค้นตามที่ สมาชิกกล่มุ ชว่ ยกันกาหนด – สมาชิกกลุ่มแต่ละคนหรือกลุ่มย่อยช่วยกันสืบค้นข้อมูลตามหัวข้อย่อยที่ตนเองรับผิดชอบโดย การสืบคน้ จากใบความรู้ทคี่ รูเตรียมมาให้หรือหนังสอื วารสาร สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรับ เยาวชน และอินเทอรเ์ นต็ – สมาชกิ กลุ่มนาข้อมูลทส่ี บื ค้นได้มารายงานใหเ้ พื่อนๆ สมาชิกในกลุ่มฟัง รวมทั้งรว่ มกนั อภิปราย ซกั ถามจนคาดวา่ สมาชกิ ทุกคนมคี วามรคู้ วามเข้าใจท่ีตรงกัน – สมาชิกกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ท่ไี ดท้ ั้งหมดเปน็ ผลงานของกลุม่ (3) ครูคอยแนะนาช่วยเหลือนกั เรยี นขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดรู อบๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ให้นักเรยี นทกุ คนซักถามเมอ่ื มปี ญั หา (3) ข้นั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (1) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมหน้าห้องเรียน (2) นักเรยี นและครูร่วมกนั อภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยใช้แนวคาถามตอ่ ไปนี้ – ดาวเคราะห์วงนอกได้แก่ดาวเคราะห์ดวงใด (แนวคาตอบ ดาวเคราะห์วงนอก ได้แก่ ดาว องั คาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน) – ดาวเคราะห์วงในได้แก่ดาวเคราะห์ดวงใด (แนวคาตอบ ดาวเคราะห์วงใน ได้แก่ ดาวพุธและ ดาวศุกร)์ (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ดาวเคราะห์ใน ระบบสุริยะสามารถแบ่งได้โดยใช้ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์เป็นเกณฑ์ ซึ่งแบ่งออกเป็น ดาวเคราะห์วง นอก ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน สว่ นดาวเคราะห์วงใน ได้แก่ ดาว พธุ และดาวศุกร์
แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 (4) ข้ันขยายความรู้ (1) ครูอภิปรายเพิ่มเติมว่า เราจะมองเห็นดาวเคราะห์วงในอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เหนือขอบฟ้าด้านทิศ ตะวันตกในเวลาพลบค่า หรือเหนือขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกเวลารุ่งเช้าเท่านั้น โดยดาวพุธจะห่างจากดวง อาทติ ยไ์ มเ่ กนิ 28 องศา และดาวศุกรอ์ ยูห่ ่างจากดวงอาทิตย์ไม่เกนิ 44 องศา เม่ือใช้กล้องโทรทรรศนส์ ่องดดู าว เคราะห์ทั้งสองจะปรากฏให้เห็นเป็นเสี้ยวสว่าง ซ่ึงมีขนาดเปล่ียนแปลงไปในแต่ละคนื ขึ้นอยู่กับระยะห่างจาก โลกและแสงเงาจากดวงอาทติ ย์ (2) นักเรียนค้นคว้าคาศัพท์ภาษาต่างประเทศเก่ียวกับดาวเคราะห์วงใน ดาวเคราะห์วงนอก จาก หนังสือเรียนภาษาต่างประเทศหรอื อนิ เทอร์เน็ต และนาเสนอใหเ้ พอ่ื นในห้องฟัง คัดคาศพั ท์พรอ้ มท้ังคาแปลลง สมดุ ส่งครู (5) ขนั้ ประเมนิ (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรมมีจดุ ใดบ้างท่ยี ังไม่ เขา้ ใจหรือมีข้อสงสยั ถา้ มี ครูชว่ ยอธบิ ายเพมิ่ เติมใหน้ กั เรยี นเข้าใจ (2) นักเรียนร่วมกนั ประเมนิ การปฏิบัติกจิ กรรมกลมุ่ วา่ มปี ญั หาหรืออุปสรรคใดและได้แก้ไขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจากการปฏิบัตกิ ิจกรรมและการ นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยถามคาถามนกั เรยี น เชน่ – การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสรุ ยิ ะใชเ้ กณฑใ์ ดบ้าง – ดาวเคราะหท์ ี่ใชร้ ะยะทางจากโลกถงึ ดวงอาทิตยเ์ ป็นเกณฑ์แบง่ เปน็ ก่ีกล่มุ อะไรบ้าง ขนั้ สรปุ ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปเกยี่ วกับเกณฑ์การแบง่ ประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสรุ ิยะ โดยร่วมกัน เขียนเปน็ แผนที่ความคิดหรอื ผังมโนทัศน์ 10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. รูประบบสุรยิ ะ 2. หนังสอื วารสาร สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน และอนิ เทอร์เนต็ 3. หนังสอื เรยี นภาษาตา่ งประเทศ 4. คู่มอื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5. สอื่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 6. แบบฝกึ ทกั ษะรายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 7. หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดการเรียนร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. ซกั ถามความรู้เร่ืองเกณฑก์ าร จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ประเมนิ ทักษะการคิดโดย แบง่ ประเภทของดาวเคราะหใ์ น การสังเกตการทางานกล่มุ ระบบสรุ ยิ ะ 1. ประเมินเจตคติทาง วทิ ยาศาสตร์เป็นรายบุคคล 2. ประเมินพฤตกิ รรมในการ 2. ตรวจช้นิ งานหรอื ภาระงานของ โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด ปฏิบตั ิกจิ กรรมเปร็ ายบุคคล กจิ กรรมฝึกทักษะระหว่างเรียน เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ หรือรายกล่มุ โดยการสงั เกต การทางานกลุ่ม 2. ประเมนิ เจตคตติ ่อ วิทยาศาสตร์เป็นรายบุคคล โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด เจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรียนจานวน..................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ ม่ผ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กดิ ทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................
แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 77 สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2561 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง เกณฑ์การแบง่ ประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุรยิ ะ (2) เวลา 1 ชั่วโมง วันท.ี่ ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครูผู้สอน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ 2. ตวั ชว้ี ัดชนั้ ปี สร้างแบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาว เคราะหต์ ่างๆ จากแบบจาลอง (ว 3.1 ป. 4/3) 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายเกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสรุ ิยะได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ ้หู รอื อยากรอู้ ยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นร้ทู ่ีเก่ยี วกบั วิทยาศาสตร์ (A) 4. ทางานรว่ มกับผอู้ นื่ อย่างสร้างสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนาความรเู้ รอ่ื งเกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะไปใช้ใน ชีวิตประจาวันได้ (P) 4. สาระสาคญั นกั ดาราศาสตร์ได้แบง่ ประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะโดยใช้ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์ เป็นเกณฑ์ ซึ่งแบ่งออกเป็นดาวเคราะห์วงนอกและดาวเคราะห์วงใน ส่วนการแบ่งดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ โดยใช้ลักษณะพ้ืนผวิ เป็นเกณฑ์ แบ่งออกเป็นดาวเคราะห์ยักษ์แก๊ส ดาวเคราะห์ยักษ์น้าแข็ง และดาวเคราะห์ หนิ 5. สาระการเรียนรู้ ระบบสรุ ยิ ะ – สว่ นประกอบของระบบสุริยะ – เกณฑ์การแบง่ ประเภทของดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะ
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 4. มีจติ วทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน สืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกับเกณฑก์ ารแบง่ ประเภทของดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะ 9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับเกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ โดยการถาม คาถามนกั เรียนว่า – ดาวเคราะห์ทง้ั 8 ดวง สามารถแบง่ ประเภทได้หรอื ไม่ (แนวคาตอบ ได้) – ดาวเคราะห์แต่ละดวงใช้เกณฑ์ในการแบ่งประเภทเหมือนกันหรือไม่ (แนวคาตอบ ไม่ เหมอื นกัน) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาตอบของคาถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่ การเรียนร้เู ร่อื ง เกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะ ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ร่วมกบั แบบกลบั ด้านชั้นเรียน ซ่งึ มีข้นั ตอน ดงั น้ี (1) ข้ันสร้างความสนใจ (1) ครถู ามคาถามนักเรียนเพ่อื กระตุ้นความสนใจ เช่น – เกณฑ์การแบง่ ประเภทของดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะมกี ี่กลุม่ (แนวคาตอบ 2 กล่มุ ) – การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะใช้เกณฑ์ใดบ้าง (แนวคาตอบ ใช้ระยะทางจาก โลกถงึ ดวงอาทติ ย์และใช้ลักษณะพน้ื ผวิ เป็นเกณฑ)์ (2) นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายเกี่ยวกับคาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรยี น
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 (2) ขั้นสารวจและค้นหา (1) ใหน้ ักเรียนศึกษาเร่ืองเกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจากใบความรู้หรือใน หนงั สือเรยี น โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรยี นเขา้ ใจว่า การแบง่ ประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะสามารถใช้ ลกั ษณะพน้ื ผิวเป็นเกณฑ์ในการแบง่ ได้ โดยแบ่งออกเปน็ ดาวเคราะห์ทีม่ อี งค์ประกอบส่วนใหญ่เปน็ แกส๊ คอื ดาว เคราะห์ยักษ์แก๊ส ดาวเคราะห์ท่ีมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นน้าแข็ง คือ ดาวเคราะห์ยักษ์น้าแข็ง และดาว เคราะห์ท่มี ีองค์ประกอบสว่ นใหญเ่ ป็นหนิ คอื ดาวเคราะห์หนิ (2) แบ่งกลุ่มนักเรยี น กลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นข้อมูลเกยี่ วกบั เกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ ในระบบสุริยะ โดยดาเนินการตามขน้ั ตอนดงั น้ี – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นข้อมูล โดยแบ่งหัวข้อเกณฑ์การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ใน ระบบสุริยะเป็นหัวข้อย่อย เช่น ดาวเคราะห์ยักษ์แกส๊ ดาวเคราะห์ยักษ์น้าแขง็ และดาวเคราะห์หิน ให้สมาชิก แต่ละกลมุ่ ช่วยกนั สืบคน้ ตามหัวขอ้ ท่กี าหนด – สมาชิกแต่ละกล่มุ ชว่ ยกนั สืบค้นขอ้ มูลตามหัวข้อทกี่ ลุ่มของตนเองรับผิดชอบโดยการสืบคน้ จาก หนังสอื วารสาร สารานุกรมวทิ ยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน และอินเทอร์เน็ต – สมาชิกกลุ่มนาขอ้ มูลทสี่ บื ค้นได้มารายงานให้เพอ่ื นๆ สมาชิกในกลุ่มฟงั รวมทั้งร่วมกนั อภิปราย ซักถามจนคาดว่าสมาชิกทกุ คนมคี วามรูค้ วามเข้าใจทต่ี รงกัน – สมาชกิ กลุม่ ชว่ ยกนั สรปุ ความรทู้ ี่ได้ทงั้ หมดเปน็ ผลงานของกลมุ่ (3) ครูคอยแนะนาช่วยเหลือนกั เรยี นขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม โดยครูเดนิ ดูรอบๆ ห้องเรยี นและเปิดโอกาส ใหน้ ักเรยี นทุกคนซักถามเมอ่ื มปี ญั หา (3) ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ (1) นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนกล่มุ นาเสนอผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมหนา้ หอ้ งเรียน (2) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคาถาม ต่อไปน้ี – ดาวเคราะหย์ กั ษน์ ้าแขง็ ไดแ้ ก่ดาวเคราะหด์ วงใด (แนวคาตอบ ดาวยูเรนสั และดาวเนปจนู ) – ดาวเคราะห์ที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นแก๊สได้แก่ดาวเคราะห์ดวงใด (แนวคาตอบ ดาว พฤหัสบดีและดาวเสาร)์ – ดาวเคราะห์ที่มีองคป์ ระกอบส่วนใหญเ่ ปน็ หินได้แก่ดาวเคราะหด์ วงใด (แนวคาตอบ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวองั คาร) (3) ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยครูเนน้ ให้นกั เรียนเข้าใจว่า การแบ่งดาวเคราะห์โดยใช้ลักษณะพื้นผิวเป็นเกณฑ์ แบ่งออกเป็นดาวเคราะห์ยักษ์แก๊ส ได้แก่ ดาว พฤหัสบดี และดาวเสาร์ ดาวเคราะหย์ ักษ์นา้ แขง็ ได้แก่ ดาวยูเรนัสและดาวเนปจูน และดาวเคราะห์หิน ได้แก่ ดาวพธุ ดาวศุกร์ โลก และดาวองั คาร
แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 (4) ขนั้ ขยายความรู้ (1) ครูอภปิ รายเพิ่มเติมว่า ดาวยเู รนัสและดาวเนปจนู ถูกเรียกว่า ดาวเคราะห์ยักษ์น้าแข็ง เนื่องจากมี มวลประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ของน้าแข็งและอื่นๆ รวมถึงองค์ประกอบทางเคมีของมีเทนและแอมโมเนียที่มี อุณหภูมิต่า เน่ืองจากเป็นสารเคมีที่อยู่ในสถานะแช่แข็ง จึงทาให้เกิดชั้นหนาระหว่างช้ันบรรยากาศและแกน ของดาวเคราะห์ (2) นักเรียนค้นคว้าคาศัพท์ภาษาต่างประเทศเก่ียวกับดาวเคราะห์ยักษ์แก๊ส ดาวเคราะห์ยักษ์น้าแข็ง และดาวเคราะห์หิน จากหนังสอื เรียนภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนาเสนอให้เพื่อนในห้องฟัง คัด คาศัพท์พรอ้ มทง้ั คาแปลลงสมุดส่งครู (5) ข้นั ประเมนิ (1) ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคนพิจารณาว่า จากหวั ข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรมมีจุดใดบ้างทยี่ ังไม่ เขา้ ใจหรือมีขอ้ สงสยั ถา้ มี ครชู ่วยอธบิ ายเพิ่มเติมให้นกั เรยี นเข้าใจ (2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้แก้ไขอย่างไร บา้ ง (3) ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากการปฏิบตั ิกจิ กรรมและการ นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยถามคาถามนกั เรียน เช่น – การแบ่งประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะโดยใช้ลักษณะพ้ืนผิวเป็นเกณฑ์แบ่งเป็นก่ีกลุ่ม อะไรบ้าง – ดาวยเู รนสั และดาวเนปจูนจดั เป็นดาวเคราะห์ยักษ์น้าแข็งเพราะเหตุใด – ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะแบง่ เป็นก่กี ลุ่ม และนักดาราศาสตรใ์ ชอ้ ะไรเปน็ เกณฑใ์ นการแบง่ ดาว เคราะห์ ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปเก่ียวกับเกณฑ์การแบง่ ประเภทของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ โดยรว่ มกัน เขยี นเปน็ แผนที่ความคดิ หรอื ผังมโนทศั น์ 10. สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สือ วารสาร สารานกุ รมวทิ ยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน และอนิ เทอร์เนต็ 2. หนงั สอื เรยี นภาษาตา่ งประเทศ 3. คู่มือการสอน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 4. สื่อการเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 5. แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 6. หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรู้เรื่องเกณฑก์ าร แบ่งประเภทของดาวเคราะหใ์ น 1. ประเมินเจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมนิ ทกั ษะการคดิ โดย ระบบสุรยิ ะ เป็นรายบคุ คลโดยการสงั เกต การสังเกตการทางานกลมุ่ 2. ตรวจชนิ้ งานหรอื ภาระงานของ กจิ กรรมฝึกทกั ษะระหวา่ งเรียน และใชแ้ บบวดั เจตคติทาง 2. ประเมินพฤตกิ รรมในการ วทิ ยาศาสตร์ ปฏิบตั ิกิจกรรมเปน็ 2. ประเมินเจตคติต่อวทิ ยาศาสตร์ 3. รายบคุ คลหรือรายกลุ่มโดย เปน็ รายบุคคลโดยการสงั เกต การสงั เกตการทางานกลุ่ม และใช้แบบวดั เจตคติต่อ วิทยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรียนจานวน..................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ ม่ผ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กดิ ทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................
แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................
แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 78 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2561 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง การสรา้ งแบบจาลองระบบสุรยิ ะ เวลา 1 ชว่ั โมง วันท.่ี ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครูผ้สู อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ 2. ตัวชว้ี ัดชัน้ ปี สร้างแบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาว เคราะหต์ า่ งๆ จากแบบจาลอง (ว 3.1 ป. 4/3) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายและเปรียบเทยี บการโคจรของดาวเคราะหต์ า่ ง ๆ จากแบบจาลองระบบสุริยะได้ (K) 2. สรา้ งแบบจาลองเพือ่ แสดงองคป์ ระกอบของระบบสุรยิ ะได้ (K) 3. มคี วามสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรู้อยากเห็น (A) 4. พอใจในประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีเกี่ยวกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 5. ทางานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 6. ส่ือสารและนาความรเู้ รือ่ งแบบจาลองระบบสุริยะไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคัญ แบบจาลองระบบสุรยิ ะเป็นแผนภาพแสดงแนวคดิ ของนกั ดาราศาสตร์ท่ีสร้างขึน้ เพ่อื แสดงตาแหน่งของ ดวงอาทติ ย์ ดาวเคราะห์ และวตั ถุทอ้ งฟา้ อื่นๆ ท่โี คจรรอบโลก 5. สาระการเรยี นรู้ ระบบสรุ ยิ ะ – แบบจาลองระบบสุรยิ ะ
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 4. มีจติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดาเนินชีวิต 8. ช้ินงานหรือภาระงาน สรา้ งแบบจาลองระบบสุรยิ ะ 9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับแบบจาลองระบบสุริยะ โดยให้นักเรียนอธิบายว่า นักดาราศาสตร์สร้าง แบบจาลองระบบสุริยะจากการศึกษาการเคล่ือนท่ีของดวงอาทติ ย์ ดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ และวัตถุท้องฟ้าอ่ืนๆ ในระบบสุรยิ ะ 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั คาตอบของคาถาม เพอ่ื เชอ่ื มโยงไปสู่การ เรยี นร้เู รือ่ ง แบบจาลองระบบสุริยะ ขัน้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ ร่วมกบั แบบกลับด้านชนั้ เรียน ซ่ึงมขี นั้ ตอน ดังน้ี (1) ขนั้ สร้างความสนใจ (1) ครถู ามคาถามนักเรยี นเพื่อกระต้นุ ความสนใจ เชน่ – ขนาดของดาวเคราะหแ์ ต่ละดวงเท่ากันหรอื ไม่ (แนวคาตอบ ไม่เท่ากัน) – ถ้าต้องการศึกษาเก่ียวกับขนาดของดาวเคราะห์สามารถศึกษาได้โดยวิธีการใด (แนวคาตอบ ศกึ ษาได้โดยการสร้างแบบจาลองระบบสุรยิ ะ) (2) นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายเกีย่ วกับคาตอบจากคาถามของครูตามประสบการณข์ องนกั เรียน
แผนการจัดการเรียนร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 (2) ขน้ั สารวจและคน้ หา (1) แบ่งกลุ่มนักเรยี น ปฏิบัติกจิ กรรมที่ 25 สรา้ งแบบจาลองของระบบสรุ ิยะ แตล่ ะกลมุ่ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ตามขั้นตอนทไ่ี ดว้ างแผนไว้ ดงั นี้ – ใช้ข้อมูลในตารางแสดงเส้นผ่านศูนย์กลางของดาวเคราะห์และเส้นผ่านศูนย์กลางของ แบบจาลองสร้างแบบจาลองของดาวเคราะห์ โดยใช้ข้อมูลเส้นผ่านศูนย์กลางของดาวเคราะห์หาขนาด เพื่อ สรา้ งแบบจาลองของดาวเคราะห์แตล่ ะดวง ตารางแสดงเส้นผ่านศนู ย์กลางของดาวเคราะห์และเสน้ ผ่านศนู ย์กลางของแบบจาลอง ชือ่ ดาวเคราะห์ เสน้ ผ่านศนู ย์กลางของ เส้นผ่านศนู ย์กลางของ ดาวเคราะห์ (กโิ ลเมตร) แบบจาลอง (มิลลเิ มตร) ดาวพธุ 4,900 5 ดาวศกุ ร์ 12,100 12 โลก 12,800 13 ดาวองั คาร 6,800 7 ดาวพฤหสั บดี 143,000 143 ดาวเสาร์ 120,500 121 ดาวยเู รนสั 51,100 51 ดาวเนปจูน 49,500 50 หมายเหตุ กาหนดให้ 1 มิลลิเมตร มีคา่ ประมาณ 1,000 กโิ ลเมตร – สร้างแบบจาลองของดาวเคราะห์แตล่ ะดวงลงบนกระดาษ วัดขนาดดาวเคราะห์แต่ละดวงด้วย ไม้บรรทัด เพอ่ื ให้แน่ใจว่ามีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางถูกตอ้ ง ตัดดาวเคราะห์แต่ละดวงออกมาและระบายสี บนั ทกึ ลาดับขนาดของดาวเคราะห์ในตาราง – นาดาวเคราะห์ทีต่ ัดแล้วมาจัดเรียงเปน็ แบบจาลองตามลาดับท่แี สดงในตาราง โดยให้ดาวพธุ อยู่ ใกล้ดวงอาทิตย์มากท่ีสุด พึงระลึกไว้เสมอว่าแบบจาลองน้ีช่วยให้นักเรียนเปรียบเทียบขนาดไม่ใช่ระยะทาง บันทึกลาดับขนาดของดาวเคราะหใ์ นตาราง (2) ครูคอยแนะนาช่วยเหลอื นักเรียนขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ หอ้ งเรียนและเปดิ โอกาส ใหน้ ักเรียนทกุ คนซกั ถามเมือ่ มปี ญั หา (3) ข้ันอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (1) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนกล่มุ นาเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าห้องเรียน (2) นักเรียนและครรู ว่ มกันอภิปรายและหาขอ้ สรุปจากการปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยใชแ้ นวคาถามตอ่ ไปน้ี
แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – นักดาราศาสตร์ใช้แบบจาลองเพื่ออธิบายระบบสุริยะเพราะเหตุใด (แนวคาตอบ เพราะ แบบจาลองแสดงให้เห็นวา่ ดาวเคราะหแ์ ละเทหวตั ถุตา่ ง ๆ เดนิ ทางในเส้นทางทเี่ ป็นวงรี) – จากการสร้างแบบจาลองระบบสุริยะ โลกของเราเป็นดาวเคราะห์ท่ีมีขนาดใหญ่เป็นลาดับที่ เท่าใด (แนวคาตอบ โลกมีขนาดใหญเ่ ปน็ ลาดบั ที่ 5) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า แบบจาลอง ระบบสุริยะทาให้เราสามารถเปรียบเทียบขนาดของดาวเคราะหจ์ รงิ ในระบบสุริยะได้มากขน้ึ (4) ขั้นขยายความรู้ นักเรียนลองประดิษฐ์แบบจาลองระบบสุริยะเป็นแบบ 3 มิติ โดยใช้วัสดุท่ีมีทรงกลมขนาดต่างๆ เช่น ลูกบอล ลูกปิงปอง หรือลูกเทนนิสเก่า โดยเลือกให้มีขนาดตามสัดส่วนของดาวเคราะห์ เช่น ดาวพฤหัสบดีมี ขนาดใหญ่ที่สุดให้ใช้ลูกบอลท่ีมีขนาดใหญ่ท่ีสุด และทาสแี ดงตามสีของช้ันบรรยากาศ ส่วนดาวพุธมีขนาดเล็ก ที่สุดให้ใช้ลูกปิงปอง แล้วระบายสีดาวต่างๆ ตามข้อมลู ท่ีได้ศกึ ษาค้นคว้ามา นกั เรียนอาจใช้แท่งไม้เปน็ แกนทา เป็นลกั ษณะโมไบล์ และใช้เชอื กผกู ตามจุดตา่ งๆ เพื่อแสดงระยะทางท่ีต่างกันจากดวงอาทิตย์ (5) ขนั้ ประเมิน (1) ครูให้นักเรยี นแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรมมีจดุ ใดบ้างท่ยี ังไม่ เขา้ ใจหรอื มีขอ้ สงสัย ถา้ มี ครูช่วยอธิบายเพิม่ เตมิ ให้นกั เรียนเขา้ ใจ (2) นกั เรียนรว่ มกนั ประเมนิ การปฏิบตั กิ ิจกรรมกล่มุ วา่ มปี ญั หาหรืออุปสรรคใดและไดแ้ ก้ไขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัตกิ จิ กรรมและการ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยถามคาถามนกั เรยี น เช่น – ถ้านักเรียนมีความคิดในเรื่องระบบสุริยะไม่เหมือนกับเพ่ือนๆ นักเรียนจะอธิบายให้เพื่อนๆ เขา้ ใจได้อย่างไร – นักวทิ ยาศาสตร์ทาความร้จู ักสิ่งต่างๆ ในระบบสรุ ิยะด้วยวิธกี ารใด – ดาวเคราะห์ดวงใดโคจรรอบดวงอาทิตยด์ ว้ ยความเร็วมากท่สี ุดและน้อยทสี่ ุด ขัน้ สรุป ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกับแบบจาลองระบบสรุ ิยะ โดยร่วมกันเขยี นเป็นแผนท่คี วามคดิ หรอื ผัง มโนทศั น์
แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 10. ส่ือการเรียนรู้ 1. ใบกจิ กรรมท่ี 25 สร้างแบบจาลองของระบบสรุ ิยะ 2. ลูกบอล ลูกปงิ ปอง หรอื ลกู เทนนสิ เก่า 3. คมู่ ือการสอน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 4. สือ่ การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 5. แบบฝึกทักษะรายวิชาพืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6. หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. ซกั ถามความรูเ้ รือ่ ง แบบจาลอง จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ ระบบสรุ ิยะ ทางวทิ ยาศาสตร์โดยใชแ้ บบ 1. ประเมนิ เจตคติทาง วดั ทกั ษะกระบวนการทาง 2. ตรวจช้ินงานหรือภาระงานของ วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล วิทยาศาสตร์ กิจกรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรียน โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 2. ประเมินทกั ษะการคิดโดย การสังเกตการทางานกลุม่ 2. ประเมินเจตคตติ ่อ วิทยาศาสตร์เป็นรายบุคคล 3. ประเมนิ ทักษะการ โดยการสังเกตและใชแ้ บบวัด แกป้ ญั หาโดยการสังเกตการ เจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์ ทางานกลุ่ม 4. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเป็น รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ โดย การสงั เกตการทางานกลมุ่
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นจานวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. นกั เรยี นนไ่ี ม่ผ่าน มดี งั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นักเรยี นมีความรเู้ กิดทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง.....................................
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. การจัดกิจกรรมไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้ เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี นาไปใช้ได้จรงิ ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................
แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 79 สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2561 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรือ่ ง ความเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทติ ย์ เวลา 1 ช่ัวโมง วนั ท.่ี ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู สู้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ 2. ตวั ช้ีวัดช้นั ปี สร้างแบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาว เคราะห์ตา่ งๆ จากแบบจาลอง (ว 3.1 ป. 4/3) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกตและเปรียบเทียบความเรว็ ในการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทติ ย์ได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝ่ร้แู ละอยากร้อู ยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรยี นร้ทู ่ีเกี่ยวกบั วิทยาศาสตร์ (A) 4. ทางานรว่ มกบั ผูอ้ ่นื อย่างสรา้ งสรรค์ (A) 5. สื่อสารและนาความรู้เรอื่ งความเร็วในการโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทติ ยไ์ ปใช้ใน ชีวิตประจาวันได้ (P) 4. สาระสาคัญ ดาวเคราะหท์ อ่ี ยู่ใกลด้ วงอาทติ ย์มีรศั มใี นการโคจรรอบดวงอาทิตยน์ ้อยกวา่ ดาวเคราะหท์ ่ี อย่ไู กลจากดวงอาทิตย์ จึงทาใหด้ วงอาทิตย์ออกแรงดงึ ดูดมาก ดาวเคราะหท์ ี่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์จงึ ตอ้ ง เคลือ่ นทีด่ ว้ ยความเร็วสงู เพื่อใหส้ ามารถโคจรรอบดวงอาทิตยไ์ ด้โดยทไ่ี ม่ถูกดวงอาทติ ยด์ งึ ดดู เข้าไป 5. สาระการเรยี นรู้ ระบบสุริยะ – ส่วนประกอบของระบบสุริยะ ความเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน 4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทักษะในการดาเนนิ ชีวิต 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน ทดลองความเร็วในการโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทติ ย์ 9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1) ครูถามคาถามนกั เรยี นเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจ เชน่ – นักเรยี นคิดวา่ ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีการโคจรเป็นลักษณะใด (แนวคาตอบ ดาวเคราะห์แต่ละ ดวงโคจรรอบดวงอาทติ ยเ์ ปน็ วงรี) – ดาวเคราะห์โคจรอยู่ในระบบสุรยิ ะได้โดยไมห่ ลุดออกจากวงโคจรเพราะเหตใุ ด (แนวคาตอบ มี แรงดงึ ดูดซ่งึ กันและกัน) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั คาตอบของคาถาม เพ่อื เช่ือมโยงไปสู่การ เรียนรเู้ ร่ือง ความเร็วในการโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทิตย์ ขนั้ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ ร่วมกบั แบบกลบั ดา้ นช้นั เรยี น ซ่ึงมีข้นั ตอน ดังนี้ (1) ข้ันสรา้ งความสนใจ (1) ครูให้นักเรียนนาแบบจาลองระบบสุริยะที่ได้สร้างในคาบที่ 74 เพ่อื นามาศึกษาเกย่ี วกับระยะห่าง ระหวา่ งดาวเคราะห์แตล่ ะดวงกับดวงอาทิตย์ แล้วถามคาถามนกั เรยี นดังน้ี – ดาวเคราะห์โคจรอยู่ในระบบสุริยะได้โดยไม่หลุดออกจากวงโคจรเพราะเหตุใด (แนวคาตอบ เพราะดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์มีแรงดงึ ดดู ซงึ่ กันและกนั )
แผนการจัดการเรียนร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทติ ย์มกี ารเคลื่อนท่ีอย่างไร (แนวคาตอบ เคล่ือนท่ีดว้ ยความเร็วสูง เพ่ือใหส้ ามารถโคจรรอบดวงอาทิตย์ได้โดยท่ไี มถ่ กู ดวงอาทติ ย์ดงึ ดดู เขา้ ไป) (2) นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายเกี่ยวกับคาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณข์ องนักเรยี น (2) ขั้นสารวจและคน้ หา (1) แบ่งกลุ่มนักเรียน ปฏิบัติกิจกรรมที่ 26 ทดลองความเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวง อาทติ ย์ โดยปฏบิ ัติตามขั้นตอนของวิธกี ารทางวิทยาศาสตรด์ งั นี้ ขัน้ ที่ 1 กาหนดปญั หา – ดาวเคราะห์ทโ่ี คจรอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์กับดาวเคราะห์ทโี่ คจรอยู่ไกลดวงอาทิตย์ดาวเคราะห์ดวง ใดมีความเร็วในการโคจรมากกว่ากนั ขั้นท่ี 2 ต้ังสมมตุ ฐิ าน – ดาวเคราะห์ท่ีโคจรอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์นา่ จะมีความเรว็ ในการโคจรมากกว่าดาวเคราะหท์ ี่โคจร อยไู่ กลดวงอาทติ ย์ ข้ันที่ 3 ทดลอง – นาเชือกยาว 1 เมตรมาผูกปลายเชือกด้านหนึ่งกับลูกปิงปอง จับปลายเชือกด้านตรงข้ามลูก ปงิ ปองให้แนน่ แล้วแกวง่ ลูกปงิ ปองใหเ้ คล่อื นที่รอบศีรษะเป็นวงกลมในแนวระนาบ โดยให้เชอื กยังคงตงึ อยู่ นับ จานวนรอบของการแกวง่ ในเวลา 1 นาที บนั ทึกผล – ดาเนินการทดลองตามขั้นตอนที่ 1 แต่ลดความยาวของเชือกลง โดยการจับเชือกใหห้ ่างจากลูก ปิงปอง 20 เซนตเิ มตร แล้วนับจานวนรอบของการแกวง่ ในเวลา 1 นาที บนั ทกึ ผล – เปรียบเทียบการเคล่ือนที่ของลูกปิงปองรอบศีรษะกับการเคล่ือนที่ของดาวเคราะห์รอบดวง อาทติ ย์ การแกวง่ ลูกปงิ ปองใหเ้ คล่ือนทีร่ อบศีรษะเป็นวงกลม ขั้นท่ี 4 วิเคราะห์ผลการทดลอง – แปลความหมายข้อมลู ทีไ่ ดจ้ ากตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง – นาขอ้ มูลท่ไี ด้มาพิจารณาเพือ่ อธบิ ายวา่ เป็นไปตามที่นักเรียนตัง้ สมมตุ ฐิ านไวห้ รือไม่ ขนั้ ที่ 5 สรุปผลการทดลอง – นกั เรียนร่วมกนั สรุปผลการทดลองแลว้ เขียนเป็นรายงานสรปุ ผลการทดลองส่งครู
แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 (2) ครคู อยแนะนาชว่ ยเหลือนกั เรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรม โดยครูเดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปดิ โอกาส ใหน้ ักเรียนทกุ คนซกั ถามเม่ือมีปัญหา (3) ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (1) นักเรยี นแต่ละกลุม่ สง่ ตวั แทนกลุม่ นาเสนอผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมหน้าห้องเรยี น (2) นักเรียนและครูร่วมกันอภปิ รายและหาข้อสรุปจากการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม โดยใชแ้ นวคาถามตอ่ ไปนี้ – ดาวพุธมีความเร็วในการโคจรมากกว่าดาวเนปจูนหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคาตอบ มากกว่า เพราะดาวพธุ อยูใ่ กลด้ วงอาทิตยม์ ากกวา่ ดาวเนปจูน) – ความเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์ขึ้นอยูก่ ับส่ิงใด (แนวคาตอบ ขึน้ อยู่กับระยะห่างระหว่าง ดวงอาทิตย์กับดาวเคราะห์) – ผลการทดลองเป็นไปตามสมมุติฐานที่นักเรียนกาหนดไว้หรือไม่ (แนวคาตอบ เป็นไปตาม สมมตุ ฐิ านทกี่ าหนดไว้) (3) ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยครูเนน้ ให้นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อเราจบั เชือก ให้ยาว 1 เมตร รัศมีในการเคลื่อนที่เป็นวงกลมรอบศีรษะจะมาก จึงทาให้จานวนรอบในการเคลื่อนท่ีเป็น วงกลมรอบศรี ษะในเวลา 1 นาที นอ้ ยกว่าเม่อื เราจบั เชอื กให้สนั้ เพียง 20 เซนติเมตร ทง้ั นเี้ พราะเม่อื เราจับเชือก ใหส้ ั้นลงแล้วแกวง่ จะทาใหร้ ัศมใี นการเคลื่อนทเ่ี ป็นวงกลมรอบศรี ษะลดลง ลกู ปิงปองจงึ เคลอื่ นที่ได้จานวนรอบ มากข้ึนหรือเคล่ือนที่ด้วยความเร็วมากขึ้นเพ่ือให้เชอื กตึงและลูกปิงปองไม่ตกลงมา เช่นเดียวกับการโคจรของ ดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ ดาวเคราะหท์ อ่ี ยใู่ กลด้ วงอาทติ ย์จะมีรัศมีในการโคจรรอบดวงอาทติ ย์น้อยกวา่ ดาว เคราะห์ท่ีอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์ ทาให้ดวงอาทิตย์ออกแรงดึงดูดมากจึงต้องเคลื่อนท่ีด้วยความเร็วสูง เพ่ือให้ สามารถโคจรรอบดวงอาทติ ย์ไดโ้ ดยท่ีไม่ถกู ดวงอาทติ ย์ดงึ ดดู เข้าไป (4) ขน้ั ขยายความรู้ (1) ครอู ธบิ ายเพ่มิ เติมเก่ียวกับดาวเคราะหน์ อ้ ย ดาวเคราะห์แคระ ดาวหาง และอกุ กาบาต (2) ครูเชอื่ มโยงความรู้อาเซยี น โดยครูให้ความรู้เสริมกับนักเรียนวา่ นอกจากดวงจันทรท์ ี่โคจรรอบโลก แล้ว ยังมดี าวเทียมซ่ึงเป็นเครื่องมือรับสง่ สัญญาณตา่ ง ๆ จากบนโลกอีกด้วย ซ่ึงในประเทศสมาชิกอาเซียนนน้ั มี เพียงบางประเทศทมี่ ีดาวเทียมเป็นของตัวเอง จากนนั้ ครเู พิ่มเติมความรู้เกย่ี วกับดาวเทยี มดวงแรกทีถ่ ูกส่งข้ึนสู่ อวกาศ ดงั นี้ – ไทย ดาวเทียมดวงแรกช่อื ไทยคม 1 ซง่ึ สง่ ขนึ้ สอู่ วกาศเมื่อ พ.ศ. 2536 – ฟลิ ปิ ปินส์ ดาวเทยี มดวงแรกชื่อ Mabuhay 1 ซ่งึ ส่งขึ้นสู่อวกาศเมื่อ พ.ศ. 2540 – สิงคโปร์ ดาวเทยี มดวงแรกชื่อ ST-1 ซึ่งสง่ ข้ึนสอู่ วกาศเมอ่ื พ.ศ. 2541 – เวยี ดนาม ดาวเทียมดวงแรกชอื่ Vinasat 1 ซึ่งสง่ ข้นึ สู่อวกาศเม่อื พ.ศ. 2551
แผนการจัดการเรียนรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 (5) ขั้นประเมิน (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างท่ีไม่ เขา้ ใจหรอื ยังมีข้อสงสยั ถ้ามี ครูชว่ ยอธบิ ายเพม่ิ เติมให้นักเรียนเขา้ ใจ (2) นักเรยี นรว่ มกนั ประเมินการปฏิบัติกจิ กรรมกลุม่ วา่ มปี ัญหาหรืออปุ สรรคใดและไดแ้ กไ้ ขอย่างไรบ้าง (3) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับประโยชน์ทีไ่ ด้รบั จากการปฏิบัตกิ จิ กรรมและการ นาความรทู้ ี่ได้ไปใชป้ ระโยชน์ (4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยถามคาถามนกั เรยี น เชน่ – ดาวเคราะหด์ วงใดโคจรรอบดวงอาทติ ยด์ ว้ ยความเร็วมากทส่ี ดุ และน้อยท่สี ดุ เน่อื งจากอะไร – นักเรียนคดิ ว่าความรเู้ รื่องความเรว็ ในการโคจรของดาวเคราะห์สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในเรอื่ ง ใด ยกตัวอย่าง – นักดาราศาสตร์เรียกกลมุ่ ดาวท่โี คจรอยู่ระหวา่ งดาวอังคารกบั ดาวพฤหสั บดวี ่าดาวเคราะห์นอ้ ย เพราะอะไร อธบิ าย – ดาวหางกบั อกุ กาบาตเหมอื นกันหรอื ไม่ เพราะอะไร ข้นั สรุป 1) ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปเก่ียวกบั ความเรว็ ในการโคจรของดาวเคราะห์ โดยร่วมกันเขียนเป็นแผน ทีค่ วามคดิ หรอื ผงั มโนทศั น์ 2) ครูดาเนินการทดสอบหลังเรียน โดยให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนเพื่อวัดความก้าวหน้า/ ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ของนักเรยี น 10. สือ่ การเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบหลังเรียน 2. แบบจาลองระบบสุรยิ ะ 3. ใบกจิ กรรมที่ 26 ทดลองความเรว็ ในการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ 4. คู่มอื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 6. แบบฝกึ ทักษะรายวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 7. หนงั สือเรียนรายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
แผนการจัดการเรียนรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรู้เรื่อง ความเร็วใน การโคจรของดาวเคราะหร์ อบ 1. ประเมนิ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมินทกั ษะกระบวนการ ดวงอาทิตย์ เปน็ รายบคุ คลโดยการสงั เกต ทางวทิ ยาศาสตรโ์ ดยใชแ้ บบ 2. ตรวจช้นิ งานหรือภาระงานของ กิจกรรมฝึกทักษะระหว่างเรียน และใชแ้ บบวดั เจตคติทาง วัดทกั ษะกระบวนการทาง 3. ทดสอบหลังเรยี นโดยใช้ วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ แบบทดสอบหลงั เรียน 2. ประเมนิ เจตคตติ อ่ วิทยาศาสตร์ 2. ประเมนิ ทกั ษะการคิดโดย เปน็ รายบุคคลโดยการสังเกต การสังเกตการทางานกล่มุ และใชแ้ บบวัดเจตคติตอ่ 3. ประเมินทกั ษะการ วทิ ยาศาสตร์ แก้ปัญหาโดยการสงั เกตการ ทางานกลุม่ 4. ประเมินพฤติกรรมในการ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเปน็ รายบุคคลหรือรายกลมุ่ โดย การสังเกตการทางานกลุ่ม
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ ม่ผา่ น มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรยี นทไี่ มผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นักเรยี นมีความรู้เกิดทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหน่ง.....................................
แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แลว้ มีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................
แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 80 สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2561 เรื่อง การทดสอบปลายภาคเรียน เวลา 1 ชวั่ โมง วันที.่ ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู ู้สอน............................................................ ********************************************************************************** นกั เรียนทาแบบทดสอบปลายภาคเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 529
Pages: