แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 4. มีจิตวิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 8. ชน้ิ งานหรือภาระงาน สารวจพชื ดอก 9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1) ครูทบทวนความร้เู ดมิ เก่ยี วกับพืชไมม่ ดี อกโดยการถามคาถามกระตนุ้ เช่น – ลักษณะสาคญั ของพชื ไมม่ ีดอกคอื อะไร (แนวคาตอบ ไม่มีการสร้างดอกตลอดการดารงชีวติ ) – พชื ไมม่ ีดอกสบื พันธุ์โดยใช้อะไร (แนวคาตอบ สปอร)์ 2) นกั เรียนชว่ ยกันตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ เพ่อื เชอื่ มโยงไปสู่การเรยี นรูเ้ ร่ือง พชื ดอก ขน้ั จัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซ่งึ มีข้ันตอนดงั น้ี 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูเขียนคาว่า “พืชดอก” บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันอธิบายถึงลักษณะของพืชดอกตาม ความรูท้ ีม่ ี (แนวคาตอบ มีดอก ใบ และราก) (2) ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกชื่อพืชดอกท่ีนักเรียนรู้จัก และร่วมกันอภิปรายว่าพืชดอกแต่ละชนิดมี ลกั ษณะใดเหมือนหรือแตกต่างกนั บ้าง (แนวคาตอบ พชื ดอกทีร่ ู้จกั เช่น ดอกกุหลาบและดอกชบา โดยพืชดอก แตล่ ะชนดิ มดี อกเหมอื นกัน แต่มลี ักษณะของดอกแตกต่างกนั ) (3) นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายเกย่ี วกบั คาตอบจากคาถามของครูตามประสบการณข์ องนกั เรยี น 2) ข้นั สารวจและค้นหา (Exploration) (1) ให้นักเรียนศึกษาเรื่องพืชดอกจากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียน เข้าใจวา่ พชื ดอก คอื พชื ทโ่ี ตเต็มท่แี ลว้ จะผลิตดอกออกมาเพื่อทาหน้าท่ีในการสืบพันธ์ุ ดอกของพชื แตล่ ะชนิดมี รปู รา่ ง สี และลกั ษณะแตกต่างกันไปตามชนิดของพนั ธ์พุ ชื (2) แบ่งกลุ่มนกั เรียน กลมุ่ ละ 5 – 6 คน สารวจพืชดอก ตามขนั้ ตอนดังน้ี – สารวจบริเวณโรงเรียนว่ามีพืชดอกชนิดใดบ้าง และใช้แว่นขยายส่องดูลักษณะต่างๆ ของพืช ดอก – บันทกึ ลกั ษณะของพชื ดอกท่ีสังเกต พร้อมท้ังวาดรูปประกอบ
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – บันทกึ จานวนชนิดของพชื ดอกทพี่ บ และสร้างแผนภูมแิ ท่งเพอ่ื เปรียบเทยี บจานวนของพชื ดอก แต่ละชนดิ (3) ครูคอยแนะนาช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ บริเวณท่ีสารวจและเปิด โอกาสให้นกั เรียนทกุ คนซักถามเม่อื มีปัญหา 3) ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (1) นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าห้องเรยี น (2) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมโดยใช้แนวคาถาม เชน่ – บรเิ วณโรงเรียนมีพืชดอกชนิดใดบา้ ง (แนวคาตอบ กหุ ลาบ ชบา พรกิ และกลว้ ย) – แผนภมู ิแท่งที่ใช้ในการนาเสนอผลการสารวจมีลักษณะใด (แนวคาตอบ แผนภูมิแท่งมีแกน นอนเป็นชนิดของพืชดอกและแกนตัง้ เปน็ จานวนพชื ดอก) – พืชดอกที่สารวจพบมีลักษณะใดท่ีแตกต่างกัน (แนวคาตอบ บางชนิดมีเส้นใบแตกต่างกัน และบางชนดิ มจี านวนกลีบดอกแตกต่างกัน) (3) ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม โดยครูเนน้ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่า พืชดอกเปน็ พืชท่ี สร้างดอกเพื่อใช้ในการสืบพนั ธุ์ 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) ครูให้นักเรียนนาดอกของพชื ท่ีสารวจมาเปรียบเทยี บกัน จากน้ันครูอธิบายให้นักเรยี นเข้าใจวา่ พชื แต่ ละชนิดมีลักษณะของดอกแตกต่างกนั แต่ดอกทาหนา้ ทเ่ี ดยี วกัน คือ สืบพันธ์ุ 5) ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏบิ ัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างทย่ี ังไม่ เข้าใจหรือยังมีข้อสงสยั ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพมิ่ เตมิ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ (2) นักเรียนรว่ มกนั ประเมินการปฏบิ ัติกิจกรรมกลมุ่ วา่ มปี ัญหาหรืออปุ สรรคใดและได้แกไ้ ขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จากการปฏิบัติกจิ กรรมและการ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยถามคาถามนกั เรียน เชน่ – พชื ดอกท่ีนกั เรียนรจู้ ักมอี ะไรบา้ ง – พชื ดอกมสี ว่ นประกอบอะไรบ้าง ข้นั สรปุ ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกบั พชื ดอก โดยร่วมกนั เขียนเป็นแผนทคี่ วามคิดหรอื ผงั มโนทศั น์
แผนการจัดการเรียนรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 10. สื่อการเรยี นรู้ 1. แว่นขยาย 2. ค่มู อื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 3. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 4. แบบฝกึ ทักษะรายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 5. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรู้เรอื่ งพืชดอก 2. ตรวจช้ินงานหรือภาระงานของ 1. ประเมินเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมนิ ทกั ษะการคิดโดย กจิ กรรมฝึกทักษะระหวา่ งเรียน เป็นรายบุคคลโดยการสังเกต การสังเกตการทางานกล่มุ และใชแ้ บบวัดเจตคติทาง 2. ประเมินพฤตกิ รรมในการ วทิ ยาศาสตร์ ปฏิบตั กิ ิจกรรมเปน็ 5. ประเมินเจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ รายบคุ คลหรือรายกลุ่มโดย เปน็ รายบุคคลโดยการสังเกต การสังเกตการทางานกลุ่ม และใช้แบบวัดเจตคติตอ่ วิทยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. นกั เรียนนไ่ี มผ่ ่าน มดี ังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ไี มผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรียนมีความรู้เกดิ ทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี 1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ได้จริง ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง พชื ดอก (2) เวลา 1 ช่วั โมง วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู สู้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปล่ยี นแปลงทางพันธุกรรมท่มี ผี ลต่อสิ่งมชี วี ติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ และววิ ฒั นาการของ สง่ิ มชี วี ติ รวมทง้ั นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 2. ตัวช้วี ัดชั้นปี จาแนกพชื ออกเปน็ พืชดอกและพืชไมม่ ีดอกโดยใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ โดยใชข้ ้อมูลท่รี วบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกตและอธบิ ายลักษณะของพชื ดอกได้ (K) 2. มีความสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรู้อยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรู้ท่ีเกยี่ วกบั วทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่นอย่างสรา้ งสรรค์ (A) 5. ส่ือสารและนาความร้เู รือ่ งพชื ดอกไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ (P) 4. สาระสาคัญ พืชดอกเมอื่ เจริญเตบิ โตเต็มที่จะมีดอกสาหรบั สบื พนั ธุ์ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพชื – พืชดอก 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน
แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ช้ินงานหรอื ภาระงาน สรา้ งผลงานศิลปะจากดอกของพชื 9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1) ครูทบทวนความร้เู ดิมโดยถามนักเรียนวา่ พืชดอกแตกต่างจากพชื ไม่มีดอกลักษณะใด (แนวคาตอบ พืชดอกมีดอกทใ่ี ชใ้ นการสืบพันธุ์ ส่วนพชื ไม่มดี อกใช้สปอรใ์ นการสืบพันธ)์ุ 2) นักเรยี นช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับคาตอบของคาถาม เพือ่ เชื่อมโยงไปส่กู าร เรยี นรูเ้ รื่อง พืชดอก ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซงึ่ มขี นั้ ตอนดงั นี้ 1) ข้นั สร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครใู ห้นกั เรยี นบอกชื่อดอกของพชื ท่ชี อบพรอ้ มเหตุผล (แนวคาตอบ ดอกชบา เพราะมีสีสนั สวยงาม) (2) นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั คาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรยี น 2) ขัน้ สารวจและคน้ หา (Exploration) (1) ครูให้นักเรียนสร้างผลงานศิลปะจากดอกของพืช โดยให้นักเรียนสารวจบริเวณโรงเรียนและ รวบรวมดอกของพืชที่สารวจได้ จากนนั้ ออกแบบผลงานศิลปะจากดอกของพืชที่รวบรวมได้และลงมือทา แล้ว นาผลงานของแต่ละคนมาจัดแสดง (2) ครูคอยแนะนาชว่ ยเหลอื นักเรยี นขณะปฏิบัติกจิ กรรม โดยครูเดินดูรอบๆ หอ้ งเรียนและเปิดโอกาส ให้นกั เรยี นทุกคนซักถามเม่อื มีปัญหา 3) ข้ันอธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นักเรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมหนา้ หอ้ งเรยี น (2) นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายและหาขอ้ สรุปจากการปฏิบตั กิ จิ กรรม โดยใชแ้ นวคาถาม ตอ่ ไปน้ี – นักเรยี นสร้างผลงานศิลปะทีม่ ชี ื่อว่าอะไร (แนวคาตอบ โลกใตน้ า้ )
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 – ดอกของพืชที่ใช้มีอะไรบ้าง (แนวคาตอบ ดอกอัญชัน ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า และดอก ชวนชม) (3) ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ดอกของพืชแต่ ละชนดิ มีรปู ร่างและสสี นั แตกต่างกัน 4) ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูนารูปพชื ดอกชนดิ ต่างๆ มาใหน้ ักเรียนดูและอธบิ ายเพิ่มเตมิ กบั นกั เรียนวา่ ดอกของพชื บางชนิด พบเห็นยาก เช่น ออ้ ย ตะไคร้ และไผ่ ดอกของพืชบางชนิดพบได้ 1 คร้ังต่อปี เช่น ทุเรียน พลับพลึงธาร และ พญาเสือโครง่ และดอกของพชื บางชนิดพบได้ตลอดทัง้ ปี เช่น เขม็ ชบา และชวนชม (2) นกั เรียนคน้ คว้าคาศัพท์ภาษาตา่ งประเทศเก่ยี วกบั พืชดอก จากหนงั สอื เรียนภาษาต่างประเทศหรือ อนิ เทอร์เน็ต และนาเสนอให้เพอ่ื นในห้องฟัง แล้วคัดคาศพั ทพ์ ร้อมท้งั คาแปลลงสมุดสง่ ครู 5) ขน้ั ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพจิ ารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจดุ ใดบ้างที่ยังไม่ เข้าใจหรอื ยงั มขี อ้ สงสยั ถ้ามี ครชู ว่ ยอธบิ ายเพิม่ เตมิ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจ (2) นักเรยี นรว่ มกนั ประเมนิ การปฏิบัตกิ ิจกรรมกลุ่มว่ามีปญั หาหรืออปุ สรรคใดและได้แกไ้ ขอย่างไรบา้ ง (3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏิบตั ิกิจกรรมและการ นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยถามคาถามนกั เรยี น เช่น – พชื ดอกมลี กั ษณะสาคัญอะไร – ยกตัวอยา่ งพชื ดอกท่นี ักเรียนพบปีละ 1 ครงั้ ข้นั สรุป ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเกยี่ วกบั พืชดอก โดยร่วมกนั เขียนเป็นแผนทค่ี วามคิดหรอื ผงั มโนทศั น์ 10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. กาว 2. ปากกาสีเมจกิ 3. รูปพชื ดอกชนิดตา่ ง ๆ 4. หนังสือเรยี นภาษาตา่ งประเทศหรืออินเทอรเ์ น็ต 5. คูม่ ือการสอน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 6. สอ่ื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 7. แบบฝกึ ทักษะรายวชิ าพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 8. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรเู้ รอื่ งพืชดอก 1. ประเมินทกั ษะการคดิ โดย 2. ตรวจชนิ้ งานหรือภาระงานของ 1. ประเมินเจตคตทิ าง การสังเกตการทางานกลุม่ วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะระหวา่ งเรียน โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวดั 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ ปฏิบัติกิจกรรมเป็น รายบคุ คลหรือรายกลมุ่ โดย 2. ประเมินเจตคตติ อ่ การสงั เกตการทางานกลมุ่ วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ รายบุคคล โดยการสังเกตและใชแ้ บบวดั เจตคติต่อวทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนร.ู้ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ มผ่ า่ น มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นทไี่ ม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ คา่ นยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหน่ง.....................................
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมคี วามเหน็ ดังน้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม ยงั ไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี นาไปใช้ไดจ้ ริง ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2561 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่ือง พืชใบเล้ยี งเดีย่ วและพชื ใบเล้ียงคู่ (1) เวลา 1 ชว่ั โมง วนั ท.ี่ ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครูผสู้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธุกรรม การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธุกรรมทมี่ ผี ลต่อสิ่งมชี ีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ และววิ ฒั นาการของ สงิ่ มีชวี ิต รวมทัง้ นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ตวั ชีว้ ัดช้นั ปี จาแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สังเกตและจาแนกพืชดอกเปน็ พชื ใบเลีย้ งเดี่ยวและพืชใบเลีย้ งคูไ่ ด้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ หู้ รอื อยากรอู้ ยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรียนรู้ทเี่ ก่ียวกับวิทยาศาสตร์ (A) 4. ทางานร่วมกับผูอ้ ืน่ อย่างสร้างสรรค์ (A) 5. ส่ือสารและนาความร้เู รื่องพืชใบเลยี้ งเดี่ยวและพืชใบเลย้ี งคไู่ ปใช้ในชวี ิตประจาวันได้ (P) 4. สาระสาคญั พืชดอกมีลักษณะภายนอกบางประการท่ีแตกต่างกัน เมื่อใช้ลักษณะภายนอกที่สาคัญเป็นเกณฑ์ สามารถจาแนกพืชดอกเปน็ 2 กล่มุ คือ พชื ใบเลีย้ งเด่ียวและพชื ใบเลยี้ งคู่ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพืช – พืชดอก 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้
แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน 4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ/กระบวนการและทักษะในการดาเนนิ ชวี ิต 8. ชนิ้ งานหรือภาระงาน เปรยี บเทียบจานวนใบเลย้ี งของพชื ใบเลยี้ งเดีย่ วและพืชใบเลีย้ งคู่ 9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคาถามกับนักเรียนว่า ถ้านักเรียนต้องการแบ่งกลุ่มพืช ดอก นักเรยี นสามารถใช้เกณฑ์ใดไดบ้ ้าง (แนวคาตอบ ลกั ษณะเสน้ ใบ ลักษณะราก และลักษณะลาตน้ ) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็น เพ่ือเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เร่ือง พืชใบเล้ียง เดีย่ วและพืชใบเลีย้ งคู่ ขน้ั จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึ่งมีข้นั ตอนดงั น้ี 1) ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูนารูปหรือต้นถ่ัวเขียวและต้นข้าวโพดมาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกลักษณะที่ แตกต่างกันของพืช 2 ชนดิ นี้ (2) นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายเกีย่ วกบั คาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณ์ของนักเรยี น 2) ขั้นสารวจและค้นหา (Exploration) (1) ให้นักเรียนศึกษาเรื่องพืชใบเล้ียงเด่ียวและพืชใบเลี้ยงคู่จากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครู ชว่ ยอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ เม่ือใช้ลกั ษณะภายนอกของพชื ดอกเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งกลุม่ พชื ดอกเปน็ พืช ใบเลีย้ งเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่ได้ โดยลักษณะที่ใช้เป็นเกณฑ์สังเกตได้จากใบเลี้ยง เส้นใบ การแตกก่ิง และราก (2) แบ่งกลุ่มนักเรียน ปฏิบัติกจิ กรรมเสริมการเรียนรู้ท่ี 2 เปรียบเทียบจานวนใบเลี้ยงของพืชใบเลี้ยง เด่ียวและพชื ใบเล้ยี งคู่ แต่ละกลมุ่ ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามขัน้ ตอนทีไ่ ด้วางแผนไว้ ดงั น้ี – แบง่ กลุ่มนกั เรียน กล่มุ ละ 5 – 6 คน – แตล่ ะกลมุ่ สงั เกตลักษณะของเมล็ดถ่วั เขียวและเมล็ดขา้ วโพด
แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – นาเมล็ดถ่วั เขยี วและเมลด็ ขา้ วโพดแช่น้าไว้ 1 คนื – นาเมล็ดถ่ัวเขียวและเมล็ดข้าวโพดปลกู ลงในกระถางใบท่ี 1 และใบที่ 2 ตามลาดับ รดน้าทง้ั 2 กระถางทกุ วัน – สังเกตจานวนใบเลยี้ งและรากทง่ี อกจากเมลด็ ของพชื ทง้ั 2 ชนดิ บันทึกผล (3) ครูคอยแนะนาชว่ ยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครเู ดนิ ดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ให้นักเรียนทุกคนซักถามเม่ือมีปญั หา 3) ข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (1) นักเรียนแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหน้าหอ้ งเรียน (2) ครูและนักเรียนร่วมกนั อภิปรายผลการปฏิบตั ิกิจกรรมโดยใช้แนวคาถาม เชน่ – เมล็ดถั่วเขียวและเมลด็ ข้าวโพดแตกต่างกนั ลักษณะใด (แนวคาตอบ เมล็ดถั่วเขียวแบง่ ได้เป็น 2 ซกี ส่วนเมลด็ ขา้ วโพดเปน็ เมลด็ เดีย่ ว) – ใบเลย้ี งท่ีงอกจากเมลด็ ถั่วเขียวและเมลด็ ข้าวโพดมีลักษณะใด (แนวคาตอบ ใบเลย้ี งของเมล็ด ถว่ั เขียวมี 2 ใบ ส่วนใบเล้ยี งของเมลด็ ข้าวโพดมี 1 ใบ) – รากท่ีงอกจากเมล็ดถ่ัวเขียวและเมล็ดข้าวโพดมีลักษณะใด (แนวคาตอบ รากของเมล็ดถั่ว เขียวมขี นาดใหญ่และมรี ากขนาดเล็กแตกออกจากรากขนาดใหญ่ ส่วนรากของเมล็ดขา้ วโพดมีขนาดเลก็ จานวน มากงอกจากเมล็ด) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเขา้ ใจวา่ พชื ใบเล้ยี งค่มู ใี บ เลย้ี ง 2 ใบ และมรี ากแก้วงอกจากเมล็ด ส่วนพชื ใบเลยี้ งเด่ยี วมีใบเลีย้ ง 1 ใบ และมรี ากฝอยงอกจากเมล็ด 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) ครใู ห้นักเรียนสร้างผลงานศิลปะจากการพิมพ์ลายเส้นใบของพืชใบเลยี้ งเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงค่จู ากนั้นนา ผลงานมานาเสนอหนา้ หอ้ งเรยี น 5) ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรือยังมขี ้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธบิ ายเพมิ่ เติมใหน้ ักเรียนเขา้ ใจ (2) นกั เรยี นร่วมกนั ประเมินการปฏบิ ัติกจิ กรรมกลุ่มวา่ มปี ัญหาหรอื อุปสรรคใดและได้แก้ไขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมและการ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยถามคาถามนักเรียน เชน่ – พืชใบเล้ยี งเด่ยี วมีลักษณะสาคัญอะไร – พืชใบเลยี้ งคมู่ ีลักษณะสาคญั อะไร
แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 ข้นั สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ เกีย่ วกบั พืชใบเลี้ยงเดีย่ วและพชื ใบเลี้ยงคู่ โดยรว่ มกันเขียนเป็นแผนท่ี ความคดิ หรือผังมโนทัศน์ 10. สอ่ื การเรียนรู้ 1. รปู หรอื ตน้ ถวั่ เขียวและต้นข้าวโพด 2. ใบกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรทู้ ่ี 2 เปรยี บเทยี บจานวนใบเล้ียงของพืชใบเลี้ยงเด่ียวและพืชใบเลีย้ งคู่ 3. สีน้า จานสี และพู่กัน 4. คู่มอื การสอน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 5. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6. แบบฝึกทักษะรายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 7. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วิทยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรเู้ รอื่ งพืชใบเล้ยี งคู่ 1. ประเมินทกั ษะกระบวนการ และพืชใบเล้ียงเด่ียว 1. ประเมนิ เจตคตทิ าง ทางวทิ ยาศาสตรโ์ ดยใชแ้ บบ วิทยาศาสตร์เป็นรายบุคคล วัดทกั ษะกระบวนการทาง 2. ตรวจชน้ิ งานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด วทิ ยาศาสตร์ กิจกรรมฝึกทักษะระหว่างเรยี น เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ 2. ประเมินทกั ษะการคิดโดย 2. ประเมินเจตคตติ อ่ การสงั เกตการทางานกลมุ่ วิทยาศาสตร์เปน็ รายบุคคล โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด 3. ประเมินทกั ษะการ เจตคติตอ่ วิทยาศาสตร์ แกป้ ัญหาโดยการสังเกตการ ทางานกลุ่ม 4. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ ปฏิบัติกิจกรรมเป็น รายบุคคลหรือรายกลุ่มโดย การสังเกตการทางานกลุม่
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. นกั เรียนนไ่ี มผ่ า่ น มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนกั เรยี นท่ีไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมคี วามร้คู วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมีความรเู้ กดิ ทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ................................................................แลว้ มีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ยงั ไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป 3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ไดจ้ ริง ควรปรบั ปรุงกอ่ นนาไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................
แผนการจัดการเรียนร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่อื ง พืชใบเลีย้ งเดี่ยวและพชื ใบเลีย้ งคู่ (2) เวลา 1 ชัว่ โมง วนั ที่............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครผู สู้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธกุ รรม การเปล่ยี นแปลงทางพันธุกรรมทีม่ ีผลต่อสิง่ มีชีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ และวิวฒั นาการของ ส่ิงมชี ีวิต รวมท้ังนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ 2. ตัวชวี้ ัดชัน้ ปี จาแนกพชื ออกเป็นพชื ดอกและพชื ไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สังเกตและจาแนกพชื ดอกเป็นพืชใบเลย้ี งเดย่ี วและพืชใบเล้ยี งคู่ได้ (K) 2. มีความสนใจใฝร่ หู้ รืออยากรู้อยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรทู้ ่เี กี่ยวกบั วทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทางานรว่ มกบั ผูอ้ ืน่ อย่างสร้างสรรค์ (A) 5. สอื่ สารและนาความรู้เรอ่ื งพืชใบเล้ียงเดีย่ วและพืชใบเลย้ี งค่ไู ปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคญั พืชดอกมีลักษณะภายนอกบางประการที่แตกต่างกัน เมื่อใช้ลักษณะภายนอกท่ีสาคัญเป็นเกณฑ์ สามารถจาแนกพืชดอกเปน็ 2 กลมุ่ คอื พชื ใบเลยี้ งเดี่ยวและพชื ใบเลย้ี งคู่ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพชื – พชื ดอก
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน 4. มีจติ วทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดาเนนิ ชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สารวจพืชใกล้ตัว 9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1) ครทู บทวนความรเู้ ดิมเกย่ี วกับพืชใบเล้ียงค่แู ละพืชใบเล้ียงเดี่ยว โดยการให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งพชื ใบ เลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเล้ียงคู่ท่ีรู้จัก พร้อมกับให้เหตุผลประกอบว่า พืชชนิดน้ันเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวหรือพืชใบ เลยี้ งคู่ เพราะอะไร (แนวคาตอบ มะมว่ งเปน็ พชื ใบเลีย้ งค่เู พราะเส้นใบเปน็ แบบรา่ งแห และพุทธรักษาเป็นพืชใบ เลีย้ งเด่ียวเพราะเส้นใบเป็นแบบขนาน) 2) นักเรยี นชว่ ยกันตอบคาถามและแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั คาตอบของคาถาม เพอ่ื เชอ่ื มโยงไปส่กู าร เรียนร้เู รือ่ ง พืชใบเลยี้ งเด่ยี วและพชื ใบเลย้ี งคู่ ขั้นจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ จดั กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซ่ึงมขี ้นั ตอนดังนี้ 1) ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครกู ระตุ้นนักเรียนโดยการถามคาถามว่า ถ้านักเรียนจะจาแนกพชื เป็นพืชใบเลี้ยงเด่ียวหรือพืชใบ เล้ียงคู่จะสังเกตจากส่วนใด เพราะอะไร (แนวคาตอบ สังเกตจากใบ เพราะมองเห็นได้ชัดเจนและง่ายต่อการ สังเกต) (2) นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายเกย่ี วกบั คาตอบจากคาถามของครูตามประสบการณข์ องนักเรยี น
แผนการจัดการเรียนรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 2) ขน้ั สารวจและค้นหา (Exploration) (1) แบ่งกล่มุ นกั เรียน ปฏบิ ัติกจิ กรรมที่ 3 สารวจพืชใกลต้ ัว แต่ละกลมุ่ ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามข้ันตอนท่ีได้ วางแผนไว้ ดงั นี้ – แบ่งกล่มุ นกั เรยี นกลุ่มละ 5 – 6 คน – ออกสารวจใบของพชื บริเวณโรงเรียน – บันทึกผลการสารวจและวาดรูปใบของพืชท่ีสารวจได้ ระบุชื่อต้นไม้ จาแนกเป็นพืชใบเล้ียง เดี่ยวหรือพชื ใบเลย้ี งคู่ (2) ครูคอยแนะนาช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ บรเิ วณที่สารวจและเปิด โอกาสใหน้ ักเรียนทกุ คนซักถามเม่อื มีปัญหา 3) ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (1) นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหนา้ หอ้ งเรียน (2) นักเรยี นและครรู ่วมกนั อภปิ รายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยใช้แนวคาถาม ต่อไปน้ี – นักเรยี นใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการจาแนกพืชเป็นพชื ใบเลี้ยงเดย่ี วและพืชใบเล้ียงคู่ (แนวคาตอบ การเรยี งตัวของเสน้ ใบ) – พืชใบเล้ียงเดย่ี วและพืชใบเล้ียงคูม่ ีลกั ษณะใบแตกต่างกันอย่างไร (แนวคาตอบ พืชใบเลย้ี งเดี่ยว มเี สน้ ใบขนาน ส่วนพชื ใบเล้ียงคมู่ เี ส้นใบแบบรา่ งแห) – ยกตัวอย่างพชื ใบเลี้ยงเด่ียวและพืชใบเลยี้ งคู่มาอย่างละ 3 ชนดิ (แนวคาตอบ พืชใบเล้ียงเด่ียว เช่น พทุ ธรักษา ไผ่ และกลว้ ย พชื ใบเลีย้ งคู่ เชน่ ตาลึง โพ และมะนาว) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยครูเน้นให้นักเรยี นเข้าใจวา่ พืชใบเลีย้ งเดยี่ ว และพืชใบเลี้ยงคู่มลี ักษณะการเรียงของเส้นใบแตกต่างกัน โดยพืชใบเลี้ยงเด่ียวมีเส้นใบเรียงขนานกนั ส่วนพืช ใบเล้ยี งคู่มเี ส้นใบเรยี งเป็นรา่ งแห 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูเชอ่ื มโยงความรู้อาเซียน โดยครยู กตวั อยา่ งพืชท่ีเปน็ พืชใบเล้ียงคู่และพืชใบเล้ียงเด่ียว และถาม นกั เรยี นว่าทราบหรอื ไม่ว่าพชื ชนดิ นีเ้ ป็นพืชทส่ี ร้างรายไดใ้ หก้ บั ประเทศใดบา้ ง เชน่
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ข้าวเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งข้าวเป็นสินค้าส่งออกสาคัญของไทย มาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา อนิ โดนีเซยี และฟลิ ปิ ปินส์ ยางพาราเป็นผลติ ภัณฑจ์ ากต้นยางพารา ซึง่ เป็นพืชใบเล้ียงคู่ และเปน็ สินค้าสง่ ออกสาคัญของไทย อินโดนเี ซยี มาเลเซีย สงิ คโปร์ และเวียดนาม พริกไทยเป็นพชื ใบเลี้ยงคซู่ ง่ึ เป็นสนิ คา้ ส่งออกทส่ี าคัญของมาเลเซยี เวียดนาม และกมั พชู า (4) นักเรียนค้นคว้าคาศัพท์ภาษาต่างประเทศเก่ียวกับพืชใบเลี้ยงเด่ียวและพืชใบเลี้ยงคู่ จากหนังสือ เรียนภาษาตา่ งประเทศหรืออินเทอรเ์ น็ต และนาเสนอใหเ้ พอ่ื นฟงั คดั คาศัพทพ์ รอ้ มคาแปลลงในสมดุ ส่งครู 5) ขั้นประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาวา่ จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างทยี่ ังไม่ เขา้ ใจหรอื ยังมขี อ้ สงสัย ถา้ มี ครูชว่ ยอธิบายเพ่มิ เตมิ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ (2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลุ่มวา่ มปี ัญหาหรืออปุ สรรคใดและได้แก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครูและนักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากการปฏิบัตกิ จิ กรรมและการ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยถามคาถามนกั เรยี น เชน่ – พชื ใบเล้ยี งเดย่ี วกบั พชื ใบเล้ียงคู่มีส่งิ ใดทแ่ี ตกตา่ งกัน
แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – เสน้ ใบเรยี งขนานกนั รากเป็นระบบรากฝอย เปน็ ลกั ษณะของพืชชนดิ ใด – แผ่นใบกว้าง เส้นใบประสานกันเป็นร่างแห ลาต้นไม่มีข้อปล้อง มีรากเป็นระบบรากแก้ว เป็น ลักษณะของพืชชนดิ ใด ข้ันสรปุ 1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเก่ียวกับพืชใบเล้ียงเด่ียวและพืชใบเลี้ยงคู่ โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนท่ี ความคิดหรอื ผังมโนทศั น์ 2) ครูมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาคน้ คว้าเน้ือหาของบทเรียนชัว่ โมงหน้าเพ่ือจัดการเรียนร้คู รั้งต่อไป โดยให้นกั เรยี นศกึ ษาค้นควา้ ล่วงหน้าในหัวข้อหน้าทีข่ องส่วนต่างๆ ของพืช โดยใช้ใบงาน สังเกตก่อนเรยี น 3 ที่ ครจู ดั เตรียมไว้ใหป้ ระกอบการศกึ ษาค้นควา้ 3) ครูอธบิ ายขัน้ ตอนการปฏิบัตกิ ิจกรรมและมอบหมายใหน้ ักเรียนไปปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทีบ่ า้ น พร้อมทัง้ ให้ นักเรยี นเตรยี มประเด็นคาถามท่ีสงสัยมาอย่างนอ้ ยคนละ 1 คาถาม เพ่ือนามาอภิปรายร่วมกนั ในหอ้ งเรียนคร้ัง ตอ่ ไป 10. สือ่ การเรียนรู้ 1. ใบกจิ กรรมท่ี 3 สารวจพชื ใกล้ตัว 2. ใบงานสงั เกตก่อนเรยี น 3 3. หนังสอื เรียนภาษาตา่ งประเทศหรืออนิ เทอร์เน็ต 4. คู่มือการสอน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 5. สอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 6. แบบฝึกทกั ษะรายวชิ าพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 7. หนงั สือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรเู้ รื่องพืชใบเลย้ี ง 1. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ เดีย่ วและพืชใบเลย้ี งคู่ 1. ประเมนิ เจตคติทาง ทางวทิ ยาศาสตร์โดยใช้แบบ วิทยาศาสตร์เป็นรายบุคคล วดั ทักษะกระบวนการทาง 2. ตรวจชิน้ งานหรือภาระงานของ โดยการสังเกตและใช้แบบวัด วทิ ยาศาสตร์ กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรยี น เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมินทักษะการคดิ โดย 2. ประเมินเจตคตติ ่อ การสังเกตการทางานกล่มุ วทิ ยาศาสตร์เป็นรายบุคคล โดยการสังเกตและใชแ้ บบวดั 3. ประเมินทักษะการ เจตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์ แกป้ ัญหาโดยการสงั เกตการ ทางานกล่มุ 4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ ปฏิบตั กิ จิ กรรมเป็น รายบุคคลหรอื รายกลุม่ โดย การสังเกตการทางานกลุ่ม
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้......................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ มผ่ ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนกั เรียนทไี่ ม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมีความรู้เกิดทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง................................................................แล้วมคี วามเหน็ ดังน้ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ นาไปใชไ้ ด้จริง ควรปรบั ปรงุ ก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................
แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 13 สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง หน้าที่ของสว่ นตา่ งๆ ของพืช (1) เวลา 1 ชวั่ โมง วนั ที่............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผสู้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบตั ขิ องสิง่ มชี วี ิต หนว่ ยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเขา้ และออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะต่างๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธ์กัน รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตวั ชว้ี ัดชนั้ ปี บรรยายหน้าทีข่ องราก ลาตน้ ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใช้ขอ้ มลู ทรี่ วบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหน้าทข่ี องส่วนตา่ ง ๆ ของพชื ได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรืออยากร้อู ยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรียนร้ทู เ่ี กีย่ วกบั วทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทางานร่วมกับผอู้ นื่ อย่างสร้างสรรค์ (A) 5. สื่อสารและนาความรเู้ รือ่ งหนา้ ที่ของสว่ นต่างๆ ของพืชไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ (P) 4. สาระสาคัญ พชื เป็นสงิ่ มีชีวิตที่มีสว่ นประกอบภายนอก ไดแ้ ก่ ราก ลาต้น ใบ ดอก และผล 5. สาระการเรยี นรู้ หนา้ ท่ขี องส่วนตา่ งๆ ของพืช 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน 4. มจี ติ วิทยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 7. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน 1. สงั เกตกอ่ นเรยี น 3 2. สบื คน้ ข้อมูลเก่ียวกบั หนา้ ที่ของส่วนต่าง ๆ ของพชื 9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น 1) ครูถามคาถามนกั เรียนเพื่อกระตนุ้ ความสนใจ เช่น – นกั เรียนชอบพืชหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคาตอบ ชอบ เพราะใชเ้ ป็นอาหารได้และทาให้รู้สึก สดช่นื ) – นักเรียนปลูกพืชชนิดใดไว้ท่ีบา้ น แต่ละชนิดมีลักษณะใด (แนวคาตอบ ชบาและเข็ม มีลักษณะ คล้ายกัน คือ มีใบสีเขยี ว ลาตน้ ตั้งตรง มีดอก และมรี ากแก้ว) 2) นักเรียนช่วยกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาตอบจากคาถาม เพื่อเช่ือมโยงไปสู่การ เรียนร้เู ร่ือง หน้าที่ของส่วนต่างๆ ของพชื ขั้นจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) มขี ้ันตอนดงั น้ี 1) ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูให้นกั เรียนนาใบงาน สังเกตก่อนเรียน 3 ที่ครูมอบหมายให้ไปเรียนรู้ล่วงหนา้ ทบ่ี ้านมาอภิปราย ร่วมกนั ในชัน้ เรียน (2) ครูตรวจสอบว่านักเรียนทากิจกรรมท่ีได้รับมอบหมายไปหรือไม่ โดยตรวจสอบจากการจดบันทึก ของนกั เรยี น และถามคาถามเก่ยี วกบั กิจกรรม ดงั นี้ – นกั เรียนรู้จักพชื ชนดิ ใดบา้ ง (แนวคาตอบ ชบา มะลิ ตาลงึ และมะพรา้ ว) – พชื มสี ่วนประกอบท่ีสาคญั อะไรบา้ ง (แนวคาตอบ ราก ลาตน้ ใบ ดอก และผล) (3) ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนต้ังประเดน็ คาถามที่นกั เรียนสงสัยจากการทากิจกรรมอย่างนอ้ ยคนละ 1 คาถาม ซ่งึ ครใู ห้นักเรียนเตรียมมาล่วงหน้า และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบและแสดงความคิดเห็น (4) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเก่ียวกับกิจกรรม สังเกตก่อนเรียน 3 โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียน เขา้ ใจวา่ พืชมสี ่วนประกอบทีส่ าคญั ไดแ้ ก่ ราก ลาตน้ ใบ ดอก และผล
แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 2) ข้นั สารวจและค้นหา (Exploration) (1) ครใู ห้นักเรียนศกึ ษาเรือ่ งหน้าท่ขี องส่วนต่างๆ ของพชื จากใบความรหู้ รือในหนังสอื เรียน โดยครูชว่ ย อธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อนักเรียนเพาะเมล็ด รากจะเร่ิมงอกมาเป็นลาดับแรก จากน้ันจึงมีใบและลาต้น งอกออกมาเป็นต้นกล้าเล็กๆ และเจริญเติบโตเป็นพืชท่ีมีขนาดใหญ่ขึ้น จนมีดอกและผล ซ่ึงแต่ละส่วนของพืช ทาหนา้ ทแี่ ตกต่างกัน (2) แบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่ของสว่ นต่างๆ ของพชื โดยดาเนินการ ตามขน้ั ตอนดังนี้ – แต่ละกลมุ่ วางแผนการสบื คน้ ขอ้ มลู โดยแบง่ หวั ขอ้ หน้าทขี่ องสว่ นต่างๆ ของพชื เป็นหัวข้อย่อย เช่น หน้าทขี่ องราก ลาต้น ใบ และดอก ให้สมาชกิ แต่ละกล่มุ ช่วยกนั สบื คน้ ตามหัวข้อที่กาหนด – สมาชิกแต่ละกล่มุ ช่วยกนั สืบค้นข้อมูลตามหัวข้อทีก่ ลุ่มของตนเองรับผิดชอบโดยการสืบคน้ จาก หนังสือ วารสาร สารานกุ รมวิทยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน และอนิ เทอร์เน็ต – สมาชิกกลุ่มนาข้อมลู ท่สี ืบค้นได้มารายงานใหเ้ พ่อื นๆ สมาชิกในกล่มุ ฟงั รวมท้ังรว่ มกันอภิปราย ซักถามจนคาดว่าสมาชกิ ทกุ คนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจทีต่ รงกนั – สมาชกิ กลุ่มชว่ ยกันสรุปความรู้ท่ไี ด้ทั้งหมดเป็นผลงานของกลุ่ม (3) ครคู อยแนะนาช่วยเหลือนกั เรยี นขณะปฏิบัติกจิ กรรม โดยครูเดินดูรอบ ๆ หอ้ งเรียนและเปดิ โอกาส ใหน้ กั เรียนทกุ คนซกั ถามเม่อื มีปญั หา 3) ขน้ั อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (1) นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนกล่มุ นาเสนอผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมหน้าหอ้ งเรยี น (2) นักเรยี นและครูร่วมกันอภิปรายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยใชแ้ นวคาถาม ตอ่ ไปนี้ – รากของพชื ทาหนา้ ทีอ่ ะไร (แนวคาตอบ ดูดซับนา้ และแร่ธาตขุ ึน้ ไปยงั ลาตน้ ) – ลาต้นของพืชทาหนา้ ทอ่ี ะไร (แนวคาตอบ ลาเลียงน้าและอาหารไปยงั สว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ) – ใบของพชื ทาหนา้ ที่อะไร (แนวคาตอบ สร้างอาหาร) – ดอกของพืชทาหนา้ ท่อี ะไร (แนวคาตอบ สืบพนั ธแ์ุ ละสร้างผลและเมล็ด) – ผลของพชื ทาหน้าท่อี ะไร (แนวคาตอบ ผลมีเมลด็ ทาหนา้ ท่ขี ยายพันธ์ุ) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า พืชมี ส่วนประกอบท่ีสาคัญ คือ ราก ลาต้น ใบ ดอก และผล โดยแต่ละส่วนทาหน้าที่แตกต่างกันเพื่อช่วยให้พืช เจรญิ เตบิ โตและขยายพนั ธ์ไุ ด้ 4) ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) แบ่งกลุม่ นักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน สังเกตและบรรยายพชื ที่ขึ้นอยบู่ ริเวณโรงเรียนว่ามีสว่ นประกอบ อะไรบ้าง และแต่ละส่วนทาหน้าที่อะไร แล้วนามาเล่าใหเ้ พื่อนฟัง ซึง่ ครูอธิบายเพิ่มเติม โดยครเู น้นให้นักเรียน เข้าใจว่า พชื แตล่ ะชนิดมสี ว่ นประกอบทส่ี าคญั คือ ราก ลาตน้ ใบ ดอก และผล โดยพืชแตล่ ะชนดิ อาจมีลกั ษณะ ของส่วนประกอบแตกต่างกนั แตส่ ว่ นประกอบน้นั ทาหน้าท่เี หมือนกัน
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 5) ขั้นประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพจิ ารณาวา่ จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างทย่ี ังไม่ เข้าใจหรอื ยงั มขี ้อสงสัย ถ้ามี ครชู ่วยอธิบายเพิม่ เติมใหน้ ักเรียนเข้าใจ (2) นักเรียนร่วมกนั ประเมินการปฏิบัตกิ จิ กรรมกลุ่มวา่ มีปัญหาหรืออปุ สรรคใดและได้แกไ้ ขอย่างไรบา้ ง (3) ครแู ละนักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับประโยชนท์ ไี่ ด้รับจากการปฏิบัตกิ จิ กรรมและการ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยถามคาถามนักเรยี น เช่น – พชื มีส่วนประกอบสาคญั อะไรบา้ ง – ถ้าพชื ไมม่ ใี บจะส่งผลต่อพชื ลักษณะใด – ถา้ พืชไมม่ ีรากจะสง่ ผลตอ่ พืชลักษณะใด ขั้นสรปุ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปเกี่ยวกับหน้าที่ของสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช โดยร่วมกนั เขียนเปน็ แผนที่ความคิด หรอื ผงั มโนทศั น์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. ใบงานสงั เกตกอ่ นเรียน 3 2. หนงั สือ วารสาร สารานกุ รมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน และอินเทอร์เนต็ 3. คมู่ ือการสอน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 4. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 5. แบบฝึกทักษะรายวิชาพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 6. หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความร้เู รื่องหนา้ ที่ของ 1. ประเมินทักษะการคิดโดย ส่วนตา่ งๆ ของพืช 1. ประเมินเจตคติทาง การสังเกตการทางานกลุ่ม วทิ ยาศาสตร์เปน็ รายบุคคล 2. ตรวจชิน้ งานหรอื ภาระงานของ โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหวา่ งเรียน เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ ปฏิบัติกจิ กรรมเป็น รายบคุ คลหรอื รายกลุ่มโดย 2. ประเมินเจตคตติ ่อ การสงั เกตการทางานกลุ่ม วิทยาศาสตรเ์ ปน็ รายบุคคล โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวดั เจตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้......................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไ่ี ม่ผ่าน มดี ังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทีไ่ มผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมีความรู้เกดิ ทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................
แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว14101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง หน้าที่ของส่วนต่างๆ ของพชื (2) เวลา 1 ชัว่ โมง วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู ู้สอน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสง่ิ มีชีวติ หนว่ ยพน้ื ฐานของส่ิงมีชวี ิต การลาเลียงสารเขา้ และออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตัวชีว้ ัดชัน้ ปี บรรยายหนา้ ท่ขี องราก ลาตน้ ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใช้ขอ้ มลู ทรี่ วบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายหน้าท่ีของสว่ นต่าง ๆ ของพืชได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝ่รู้หรอื อยากร้อู ยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรู้ท่ีเกยี่ วกบั วทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทางานร่วมกบั ผ้อู ืน่ อย่างสรา้ งสรรค์ (A) 5. ส่ือสารและนาความรเู้ ร่อื งหนา้ ท่ขี องส่วนต่าง ๆ ของพชื ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคัญ พชื เป็นสิ่งมีชวี ติ ท่ีมีสว่ นประกอบภายนอก ไดแ้ ก่ ราก ลาตน้ ใบ ดอก และผล 5. สาระการเรียนรู้ หน้าทข่ี องสว่ นต่าง ๆ ของพืช 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 7. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดาเนินชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน สรา้ งผลงานศลิ ปะจากสว่ นต่างๆ ของพืช 9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับหน้าที่ของสว่ นต่างๆ ของพืช โดยครูให้นักเรียนบอกหนา้ ท่ีของส่วน ตา่ งๆ ของพืชมาคนละ 1 ส่วน (แนวคาตอบ รากทาหนา้ ทดี่ ดู ซบั น้าและแรธ่ าตขุ ้นึ ไปยังลาต้น) 2) นกั เรยี นชว่ ยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับคาตอบของคาถาม เพอื่ เชอ่ื มโยงไปสู่การ เรยี นรเู้ ร่อื ง หน้าทข่ี องสว่ นตา่ งๆ ของพืช ขน้ั จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึง่ มขี ัน้ ตอนดังนี้ 1) ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุ้นนักเรียนโดยการถามคาถามว่า ส่วนต่าง ๆ ของพืชแต่ละชนิดเหมือนหรอื แตกตา่ งกนั ใน เร่ืองใด (แนวคาตอบ เหมอื นกันในเรือ่ งหน้าท่ี แต่อาจมลี กั ษณะภายนอกแตกตา่ งกนั ) (2) นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกีย่ วกบั คาตอบจากคาถามของครูตามประสบการณ์ของนกั เรียน 2) ข้นั สารวจและค้นหา (Exploration) (1) ครูให้นกั เรียนสร้างผลงานศลิ ปะจากส่วนต่างๆ ของพืช โดยใหน้ ักเรยี นสารวจบริเวณโรงเรยี นและ รวบรวมส่วนต่างๆ ของพชื ทสี่ ารวจได้ จากนัน้ ออกแบบผลงานศิลปะจากส่วนต่างๆ ของพืชท่ีรวบรวมได้และลง มือทา แลว้ ให้นาผลงานของแต่ละคนมาจัดแสดง (2) ครูคอยแนะนาชว่ ยเหลือนกั เรยี นขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยครูเดนิ ดรู อบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ให้นักเรยี นทกุ คนซกั ถามเมอ่ื มีปัญหา 3) ขัน้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (1) นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมหนา้ หอ้ งเรียน (2) นกั เรยี นและครรู ่วมกันอภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยใชแ้ นวคาถาม ตอ่ ไปนี้
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – นักเรียนสรา้ งผลงานศลิ ปะท่ีมชี ือ่ วา่ อะไร (แนวคาตอบ ป่าแสนสวย) – สว่ นต่างๆ ของพืชที่ใช้มีอะไรบา้ ง (แนวคาตอบ ใบ ก่ิง เมลด็ และดอก) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า พืชมี ส่วนประกอบหลกั เหมอื นกนั แต่มีลกั ษณะแตกตา่ งกนั ตามชนดิ ของพชื 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) นักเรียนค้นคว้าคาศัพท์ภาษาต่างประเทศเก่ียวกับหน้าท่ีของส่วนต่างๆ ของพืช จากหนังสือเรียน ภาษาต่างประเทศหรอื อินเทอร์เนต็ และนาเสนอให้เพ่ือนในห้องฟัง แล้วคัดคาศัพท์พร้อมท้ังคาแปลลงสมดุ ส่ง ครู 5) ขน้ั ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาวา่ จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏบิ ัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างทยี่ ังไม่ เข้าใจหรือยังมีขอ้ สงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธบิ ายเพิม่ เติมให้นกั เรียนเข้าใจ (2) นักเรียนรว่ มกันประเมนิ การปฏิบตั ิกจิ กรรมกลมุ่ ว่ามปี ัญหาหรืออุปสรรคใดและไดแ้ กไ้ ขอยา่ งไรบ้าง (3) ครูและนักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับประโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมและการ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยถามคาถามนกั เรียน เช่น – พชื แตล่ ะชนดิ มลี ักษณะของใบเหมือนหรือแตกตา่ งกนั – พชื แตล่ ะชนิดมลี ักษณะของดอกเหมอื นกนั หรอื ไม่ ขนั้ สรุป ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปเกี่ยวกับหน้าทข่ี องส่วนต่าง ๆ ของพืช โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนท่ีความคิด หรือผังมโนทัศน์ 10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. กาว 2. สไี มห้ รือปากกาสีเมจกิ 3. หนงั สือเรยี นภาษาตา่ งประเทศหรอื อนิ เทอรเ์ น็ต 4. คมู่ อื การสอน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 5. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 6. แบบฝกึ ทักษะรายวิชาพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 7. หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรูเ้ รื่องหน้าท่ีของ 1. ประเมินทักษะกระบวนการ สว่ นตา่ งๆ ของพชื 1. ประเมนิ เจตคตทิ าง ทางวิทยาศาสตร์โดยใชแ้ บบ วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ รายบุคคล วัดทักษะกระบวนการทาง 2. ตรวจชิ้นงานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใช้แบบวดั วทิ ยาศาสตร์ กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรียน เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ 2. ประเมนิ ทกั ษะการคดิ โดย 2. ประเมนิ เจตคติตอ่ การสังเกตการทางานกลมุ่ วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล โดยการสังเกตและใชแ้ บบวดั 3. ประเมินพฤติกรรมในการ เจตคติต่อวิทยาศาสตร์ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเปน็ รายบุคคลหรอื รายกลุ่มโดย การสังเกตการทางานกลุ่ม
แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 12. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรยี นจานวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเป็นร้อยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู.้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ มผ่ ่าน มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนที่ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรียนมีความรเู้ กิดทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอื่ .................................................. (.................................................) ตาแหน่ง.....................................
แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แล้วมีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.................................................) ตาแหนง่ ............................................
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15 สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่อื ง การลาเลียงนา้ และแร่ธาตุ (1) เวลา 1 ชัว่ โมง วันท.ี่ ...........เดอื น..........................................พ.ศ.......................ครผู สู้ อน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัตขิ องสงิ่ มชี วี ิต หน่วยพื้นฐานของส่งิ มีชีวิต การลาเลยี งสารเข้าและออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี บรรยายหน้าทีข่ องราก ลาตน้ ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใชข้ ้อมูลที่รวบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายหน้าทีข่ องทอ่ ลาเลียงน้าได้ (K) 2. สังเกตการลาเลียงนา้ และแรธ่ าตุของพชื ได้ (K) 3. มีความสนใจใฝ่รู้หรืออยากรอู้ ยากเหน็ (A) 4. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรทู้ ่ีเกีย่ วกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 5. ทางานรว่ มกบั ผู้อื่นอยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 6. ส่อื สารและนาความรูเ้ รอ่ื งการลาเลียงนา้ และแร่ธาตไุ ปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ (P) 4. สาระสาคัญ พชื มีท่อลาเลียงน้าทาหน้าท่ีลาเลียงน้าและแร่ธาตุทีร่ ากดดู ซับจากดนิ ไวแ้ ลว้ ลาเลียงต่อไปยงั สว่ นต่างๆ ของพชื 5. สาระการเรียนรู้ หนา้ ทขี่ องส่วนต่าง ๆ ของพืช – การลาเลียงนา้ และแร่ธาตุ
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน 4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดาเนินชวี ิต 8. ชน้ิ งานหรือภาระงาน ทดลองการลาเลียงนา้ และแรธ่ าตขุ องพืช 9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน 1) ครูทบทวนความร้ขู องนักเรียนโดยการถามคาถามว่า – รากของพืชทาหน้าท่ีอะไร (แนวคาตอบ ดดู ซับน้าและแร่ธาตุข้นึ ไปยังลาตน้ ) – ลาตน้ ของพืชทาหนา้ ทอ่ี ะไร (แนวคาตอบ ลาเลยี งน้าและแร่ธาตุไปยงั สว่ นต่างๆ ของพืช) 2) ครูถามคาถามเพิ่มเติมกับนักเรียนว่า น้าและแร่ธาตุที่รากของพืชดูดซับจากดินถูกลาเลียงไปยังลา ต้นได้อย่างไร (แนวคาตอบ โดยทอ่ ลาเลียงน้าภายในรากและลาต้น) 3) นกั เรยี นช่วยกันตอบคาถามและแสดงความคดิ เห็น เพ่ือเชอื่ มโยงไปสู่การเรยี นร้เู รอ่ื ง การลาเลยี งน้า และแร่ธาตุ ขนั้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซง่ึ มีข้ันตอนดังนี้ 1) ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูนาแก้วใส่นา้ หวานสีแดงและแก้วเปล่ามาต้ังทีค่ วามสูงคนละระดบั โดยวางแก้วใส่นา้ หวานสแี ดง ไว้ที่ระดับต่ากว่า แล้วถามนักเรียนว่า ถ้านักเรียนต้องการนาน้าหวานสีแดงไปใส่แก้วเปล่าโดยห้ามยกแก้ว นักเรยี นจะทาวธิ ใี ด (แนวคาตอบ ใช้หลอดดูดหรือใชท้ ี่ปั๊มน้าท่มี ลี ักษณะเปน็ ท่อ) (2) นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเกย่ี วกับคาตอบจากคาถามของครูตามประสบการณ์ของนกั เรยี น
แผนการจัดการเรียนรูว้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 2) ขน้ั สารวจและคน้ หา (Exploration) (1) ครูให้นักเรียนศึกษาเร่ืองการลาเลียงน้าและแร่ธาตุจากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วย อธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า น้าและแร่ธาตุท่ีรากของพืชดูดซับจากดินถูกลาเลียงไปยังลาต้นได้โดยผ่านท่อ ลาเลียงน้า ซงึ่ มีลักษณะคลา้ ยการดูดนา้ ผ่านหลอดเพื่อลาเลียงน้าจากที่ต่าข้ึนสู่ทสี่ งู (2) แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกจิ กรรมท่ี 4 ทดลองการลาเลยี งน้าและแร่ธาตุของพืช แต่ละกลุ่มปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขน้ั ตอนทไ่ี ดว้ างแผนไว้ ดงั น้ี ขั้นที่ 1 กาหนดปัญหา – พืชมเี นอ้ื เย่อื ทใ่ี ช้ในการลาเลียงน้าและแรธ่ าตหุ รือไม่ ขั้นท่ี 2 ตั้งสมมตุ ิฐาน – เม่ือแช่ตน้ เทยี นในนา้ สีแดงนา่ จะเหน็ สีแดงปรากฏในตน้ เทียน ขน้ั ที่ 3 ทดลอง – ใสน่ า้ สแี ดง (สผี สมอาหาร) ลงในแก้วที่เตรยี มไวป้ ระมาณ 3 ของแกว้ 4 – ใส่ต้นเทียนท่ีมีรากติดอยู่ (ซึ่งได้ล้างน้าให้สะอาดแล้ว) ลงไปในแก้วท่ีมีน้าสีแดง จากน้ันต้ังท้ิงไว้ ประมาณ 30 นาที – สงั เกตและบนั ทกึ การเปล่ียนแปลงทเ่ี กดิ ขึ้นกบั ต้นเทียน – ใช้มดี ตัดลาต้นของตน้ เทียนตามแนวขวาง (ก) หลังจากนั้นเฉือนเป็นแผ่นบางๆ วางบนกระจกสไลด์ แลว้ ใชแ้ ว่นขยายส่องดู สังเกตลักษณะของลาต้นและวาดรปู – ใช้มีดตัดลาต้นของต้นเทียนตามแนวยาว (ข) แล้วใช้แว่นขยายส่องดู สังเกตลักษณะของลาต้นและ วาดรูป ขั้นท่ี 4 วิเคราะห์ผลการทดลอง – แปลความหมายข้อมลู ทไี่ ด้จากตารางบนั ทึกผลการทดลอง – นาขอ้ มูลท่ีได้มาพจิ ารณาเพอื่ อธิบายวา่ เปน็ ไปตามทีน่ กั เรยี นต้ังสมมตุ ิฐานไวห้ รือไม่ ข้นั ท่ี 5 สรุปผลการทดลอง – นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ผลการทดลองแลว้ เขยี นเปน็ รายงานสรปุ ผลการทดลองส่งครู (3) ครูคอยแนะนาชว่ ยเหลือนักเรียนขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรม โดยครเู ดินดรู อบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ใหน้ กั เรยี นทกุ คนซักถามเม่อื มปี ัญหา
แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 3) ข้ันอธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (1) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมหน้าห้องเรียน (2) ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมโดยใชแ้ นวคาถาม เช่น – ต้นเทียนเกดิ การเปล่ียนแปลงลักษณะใด (แนวคาตอบ รากของตน้ เทยี นมีสแี ดงก่อน จากนั้นลา ต้น ก่งิ ก้าน และเส้นใบจงึ มสี แี ดงตามลาดบั ) – นักเรยี นสังเกตเห็นอะไรบา้ ง เมอ่ื ใชแ้ ว่นขยายส่องดูลาต้นทต่ี ัดตามแนวขวางและแนวยาว (แนว คาตอบ เมื่อใช้แว่นขยายสอ่ งดูลาตน้ ท่ีตดั ตามแนวขวางจะสังเกตเห็นกลุ่มสีแดงอยู่รอบลาตน้ เม่อื ใชแ้ ว่นขยาย สอ่ งดูลาตน้ ทีต่ ดั ตามแนวยาวจะสังเกตเหน็ ทอ่ ยาวสีแดงอยู่ทางด้านขา้ งของลาตน้ ) – นกั เรียนสามารถสรุปทิศทางการลาเลียงน้าและแร่ธาตุของพืชได้หรือไม่ และสังเกตจากอะไร (แนวคาตอบ ได้ โดยการลาเลียงน้าและแร่ธาตุของพชื มีทิศทางจากรากไปยังลาต้นและสว่ นต่างๆ ของพืช โดย สังเกตจากการเคลือ่ นทขี่ องน้าสีแดงทเ่ี คลอ่ื นท่ีจากรากไปยังลาตน้ กิง่ ก้าน และใบ ตามลาดบั ) (3) ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นกั เรียนเข้าใจว่า พืชลาเลียงน้า และแร่ธาตุจากรากไปยังสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ผ่านทางทอ่ ลาเลียงน้า 4) ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครนู ารปู ภาพตัดขวางบริเวณลาต้นและรากของพชื ท่ีจุ่มในน้าสแี ดงพร้อมกับภาพขยายท่อลาเลียง น้ามาให้นักเรียนดู แล้วอธิบายเพิ่มเติมกับนักเรียนว่า ภายในลาต้นและรากมีท่อลาเลียงน้าอยู่เป็นกลุ่ม ทา หนา้ ทีล่ าเลยี งน้าและแร่ธาตจุ ากรากไปยังสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช โดยการจัดเรียงตวั ของทอ่ ลาเลยี งน้าในลาตน้ และ รากจะแตกต่างกัน ดังน้ี ทอ่ ลาเลยี งน้าบรเิ วณลาตน้ จะแยกเปน็ กลุ่มๆ และจัดเรยี งอยทู่ ่ีบริเวณขอบของลาตน้
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ทอ่ ลาเลยี งน้าบริเวณรากจะรวมเป็นกล่มุ เดยี วกันและมีลักษณะเปน็ แฉกอยูต่ รงกลางของราก (2) นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความสาคญั ของทอ่ ลาเลยี งน้าวา่ ทอ่ ลาเลียงนา้ ทาหน้าที่ลาเลียงนา้ และ แรธ่ าตุเพื่อให้พืชนาไปใชใ้ นกจิ กรรมตา่ งๆ ของพืช เช่น การสร้างอาหารท่ีใบหรือการสร้างเนื้อเย่อื ต่างๆ 5) ขน้ั ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพจิ ารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจดุ ใดบา้ งท่ยี ังไม่ เข้าใจหรอื ยังมีขอ้ สงสัย ถ้ามี ครชู ่วยอธิบายเพิ่มเตมิ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ (2) นักเรียนรว่ มกนั ประเมนิ การปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุ่มวา่ มปี ญั หาหรืออปุ สรรคใดและได้แกไ้ ขอยา่ งไรบา้ ง (3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากการปฏิบตั ิกิจกรรมและการ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยถามคาถามนักเรยี น เช่น – พืชลาเลียงน้าและแรธ่ าตจุ ากดนิ ข้นึ ส่ลู าต้นทางใด – เนอ้ื เยอื่ ที่ใชล้ าเลียงน้าและแร่ธาตใุ นพืชมลี กั ษณะอยา่ งไร ขั้นสรุป ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปเกยี่ วกบั การลาเลยี งน้าและแรธ่ าตุ โดยร่วมกันเขยี นเปน็ แผนท่คี วามคิดหรือ ผงั มโนทัศน์
แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 10. ส่อื การเรยี นรู้ 1. ใบกิจกรรมที่ 4 ทดลองการลาเลยี งน้าและแรธ่ าตขุ องพืช 2. แกว้ ใสน่ ้าหวานสแี ดงและแกว้ เปลา่ 3. หลอดดดู และปั๊มน้าขนาดเลก็ 4. รูปภาพตัดขวางบรเิ วณลาต้นและรากของพชื ท่จี ่มุ ในนา้ สแี ดง 5. รปู ขยายทอ่ ลาเลียงนา้ 6. คมู่ อื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 7. สอื่ การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 8. แบบฝกึ ทกั ษะรายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 9. หนังสือเรียนรายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรเู้ ร่อื งการลาเลยี ง 1. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ น้าและแรธ่ าตุ 1. ประเมนิ เจตคติทาง ทางวทิ ยาศาสตร์โดยใชแ้ บบ วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล วดั ทกั ษะกระบวนการทาง 2. ตรวจชนิ้ งานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด วิทยาศาสตร์ กิจกรรมฝึกทักษะระหว่างเรียน เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 2. ประเมินทกั ษะการคิดโดย 2. ประเมินเจตคตติ ่อ การสังเกตการทางานกลุม่ วิทยาศาสตร์เป็นรายบุคคล โดยการสังเกตและใชแ้ บบวดั 3. ประเมนิ ทักษะการ เจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์ แกป้ ญั หาโดยการสังเกตการ ทางานกลุ่ม 4. ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเป็น รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ โดย การสงั เกตการทางานกลมุ่
แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 12. บันทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจานวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้......................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนร.ู้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. นกั เรียนนไี่ มผ่ ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนกั เรียนทไี่ ม่ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ (K) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมีความรู้เกิดทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (.................................................) ตาแหนง่ .....................................
แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง................................................................แลว้ มีความเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ นาไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (.................................................) ตาแหน่ง............................................
แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ ป. 4 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16 สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2561 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง การลาเลยี งน้าและแร่ธาตุ (2) เวลา 1 ชว่ั โมง วนั ท่ี............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผู้สอน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัตขิ องส่งิ มชี ีวติ หนว่ ยพืน้ ฐานของส่ิงมชี ีวิต การลาเลยี งสารเขา้ และออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธ์กัน รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตัวชี้วัดชน้ั ปี บรรยายหน้าที่ของราก ลาต้น ใบ และดอกของพืชดอกโดยใช้ข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายหนา้ ท่ีของท่อลาเลยี งนา้ ได้ (K) 2. สังเกตการลาเลยี งนา้ และแรธ่ าตขุ องพืชได้ (K) 3. มีความสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรู้อยากเห็น (A) 4. พอใจในประสบการณ์การเรียนรทู้ ่ีเกี่ยวกบั วิทยาศาสตร์ (A) 5. ทางานร่วมกับผอู้ ื่นอยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 6. สือ่ สารและนาความรเู้ รือ่ งการลาเลยี งนา้ และแรธ่ าตุไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ (P) 4. สาระสาคญั พชื มีท่อลาเลยี งน้าทาหน้าท่ีลาเลียงน้าและแรธ่ าตุทรี่ ากดดู ซับจากดนิ ไวแ้ ล้วลาเลยี งต่อไปยงั ส่วนต่างๆ ของพชื 5. สาระการเรยี นรู้ หนา้ ท่ีของส่วนตา่ ง ๆ ของพชื – การลาเลียงนา้ และแรธ่ าตุ
แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน 4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทักษะในการดาเนนิ ชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน สังเกตดอกไมเ้ ปล่ยี นสี 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกับการลาเลียงน้าและแร่ธาตุ โดยการให้นักเรียนอธิบายว่า น้าและแร่ ธาตทุ ่ีรากของพชื ดดู ซับจากดินถูกลาเลยี งไปยังลาตน้ ได้อย่างไร (แนวคาตอบ ภายในรากและลาต้นของพืชมีท่อ ลาเลยี งน้า รากจงึ ดูดซบั น้าและแรธ่ าตจุ ากดนิ และลาเลยี งไปยงั ลาตน้ ผ่านทอ่ ลาเลยี งนา้ ได)้ 2) นักเรยี นชว่ ยกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับคาตอบของคาถาม เพือ่ เชอ่ื มโยงไปส่กู าร เรียนรูเ้ รอื่ ง การลาเลียงนา้ และแรธ่ าตุ ขนั้ จดั กิจกรรมการเรียนรู้ จัดกจิ กรรมการเรียนร้โู ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึง่ มีขนั้ ตอนดังน้ี 1) ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุ้นนักเรยี นโดยถามคาถามว่า เราสามารถนาความรู้เรือ่ ง การลาเลียงน้าและแรธ่ าตุของพืช มาใชป้ ระโยชน์อะไรได้บา้ ง (แนวคาตอบ การรดนา้ ต้นไม้ไม่จาเปน็ ต้องรดท่ีใบเน่ืองจากใบไม่ได้ทาหนา้ ทดี่ ูดซับ นา้ ขน้ึ สลู่ าตน้ ) (2) นกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายเกยี่ วกับคาตอบจากคาถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรียน
แผนการจัดการเรียนรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์ ป. 4 2) ขน้ั สารวจและคน้ หา (Exploration) (1) แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ท่ี 3 ดอกไม้เปลี่ยนสี แต่ละ กลุม่ ปฏบิ ัติกิจกรรมตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ ดังน้ี – เติมน้าลงในขวด 3 ใบที่เตรียมไวจ้ นเกอื บเต็ม แลว้ หยดสผี สมอาหารสีแดง สีม่วง และสีฟา้ ขวด ละ 1 สี ประมาณขวดละ 3 – 4 หยด – ใชก้ รรไกรตัดปลายกา้ นดอกไม้สีขาว 3 ดอก แลว้ นาไปแชใ่ นขวดนา้ ผสมสีขวดละ 1 ดอก – ตง้ั ดอกไม้ไว้ 1 คืน สงั เกตการเปลยี่ นแปลงของสีดอกไมแ้ ละบันทึกผล (2) ครคู อยแนะนาช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏบิ ัตกิ จิ กรรม โดยครเู ดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาสให้ นักเรยี นทุกคนซกั ถามเมอื่ มปี ญั หา 3) ข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (1) นักเรยี นแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมหนา้ ห้องเรยี น (2) นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยใชแ้ นวคาถาม ตอ่ ไปนี้ – ถ้าไมม่ ดี อกไม้สีขาว นกั เรยี นจะใช้ดอกไม้สใี ดแทน เพราะอะไร (แนวคาตอบ ดอกไม้ที่มีสีอ่อน เพราะจะได้เห็นการเปลยี่ นแปลงที่ชัดเจน) – ดอกไมข้ องนักเรียนมีการเปล่ียนแปลงสีหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคาตอบ เปลย่ี นแปลง เพราะ ทอ่ ลาเลยี งน้าในก้านดอกลาเลยี งน้าสขี ึน้ สู่สว่ นของดอกทอ่ี ย่ดู า้ นบน) – นักเรยี นได้ประโยชน์อะไรจากการทากิจกรรมนี้ (แนวคาตอบ นาความรูเ้ รอื่ งการลาเลียงนา้ และ แร่ธาตุมาใชย้ ้อมสีดอกไมต้ ามทตี่ อ้ งการ) (3) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า สีจะถกู ลาเลียง ไปตามทอ่ ลาเลียงน้าไปยังกลบี ดอก กลีบดอกจงึ ถกู ยอ้ มดว้ ยสที ่ตี ้องการ 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูเชื่อมโยงความรู้เข้ากับหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้นักเรียนสืบค้นวิธีรดน้าต้นไม้ท่ีถูกต้อง เพอื่ ให้นกั เรียนได้รจู้ ักพง่ึ พาตนเองดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม คอื การรจู้ ักใช้น้าในการรดนา้ ต้นไม้ อย่างชาญฉลาดและรอบคอบเพอื่ ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ และย่ังยนื โดยคานงึ ถึงหลักการทางวทิ ยาศาสตรว์ ่า พืช ลาเลยี งนา้ ผา่ นทางท่อลาเลยี งนา้ เพ่อื นาไปใชใ้ นกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง ดงั นี้ – ควรรดน้าต้นไม้จากต้นที่อยู่ไกลที่สุดก่อนเพื่อดึงสายยางให้มีความยาวพอสาหรับรดน้าทุก บริเวณ ถ้าดึงสายยางยาวไม่พอทาให้ต้องท้ิงสายยางท่ีมนี ้าไหลไว้แล้วกลับไปดงึ สายยางให้ยาวมากขน้ึ การทา เชน่ นท้ี าให้สูญเสยี น้าโดยเปล่าประโยชน์ – รดน้าต้นไม้ในระยะต่า เพราะส่วนท่ีพืชใช้ในการดูดซับน้าไปเลี้ยงลาต้น คือ ราก การรดน้า ตน้ ไมใ้ หใ้ บช่มุ น้ามากเกินไปไมช่ ว่ ยใหพ้ ชื ดูดซับน้าเข้าสลู่ าต้นได้
แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 – สังเกตดินบรเิ วณท่ีจะรดน้าต้นไม้ ถา้ ดินชน้ื อยู่แล้วไมค่ วรรดเพ่ิมอกี ในปรมิ าณมาก เพราะถา้ พืช ที่ได้รับน้ามากเกินไปจะทาให้รากเน่าและตาย ซง่ึ นอกจากจะทาให้สูญเสียนา้ แล้ว ยังต้องสูญเสียเงินในการซ้ือ พืชต้นใหม่อกี – ควรรดน้าต้นไมใ้ นเวลาก่อน 9 โมงเช้า เนื่องจากเวลาเที่ยงและบ่ายแดดจะแรง น้าระเหยออก จากดินเร็ว พืชดูดซับน้าไม่ทันจึงเหี่ยวเร็ว ทาใหต้ ้องรดน้าต้นไม้ซ้า และถ้ารดน้าต้นไม้กลางคืนก็จะไม่มีแดดที่ พชื ใชใ้ นการสงั เคราะห์ด้วยแสง ดงั นน้ั เวลาก่อน 9 โมงเชา้ จึงเปน็ เวลาทเ่ี หมาะสมที่สุด (2) นักเรียนค้นคว้าคาศัพท์ภาษาต่างประเทศเก่ียวกับการลาเลียงน้าและแร่ธาตุจากหนังสือเรียน ภาษาต่างประเทศหรอื อินเทอร์เนต็ และนาเสนอให้เพอ่ื นในหอ้ งฟงั แล้วคัดคาศัพทพ์ ร้อมท้ังคาแปลลงสมุดส่ง ครู 5) ขัน้ ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาวา่ จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏบิ ัติกิจกรรมมีจุดใดบา้ งทีย่ ังไม่ เขา้ ใจหรือยังมีขอ้ สงสัย ถา้ มี ครชู ่วยอธิบายเพมิ่ เตมิ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจ (2) นกั เรยี นร่วมกนั ประเมนิ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลมุ่ วา่ มีปญั หาหรอื อปุ สรรคใดและไดแ้ ก้ไขอยา่ งไรบ้าง (3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการปฏิบตั กิ ิจกรรมและการ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยถามคาถามนักเรยี น เช่น – ท่อลาเลยี งน้ามีทิศทางการลาเลยี งลกั ษณะใด – การจดั เรียงตวั ของทอ่ ลาเลียงนา้ มลี ักษณะใด – ทอ่ ลาเลยี งน้ามีความสาคญั ต่อการเจรญิ เติบโตของพืชเพราะอะไร ขัน้ สรปุ ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปเกยี่ วกับการลาเลียงนา้ และแร่ธาตุ โดยรว่ มกันเขยี นเป็นแผนทคี่ วามคิดหรือ ผงั มโนทัศน์ 10. สือ่ การเรยี นรู้ 1. ใบกิจกรรมเสริมการเรยี นรทู้ ่ี 3 ดอกไมเ้ ปล่ยี นสี 2. หนังสอื เรียนภาษาต่างประเทศหรืออนิ เทอร์เน็ต 3. คูม่ ือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 5. แบบฝึกทักษะรายวชิ าพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 6. หนังสือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดการเรียนรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ ป. 4 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความร้เู ร่ืองการลาเลียง นา้ และแรธ่ าตุ 1. ประเมนิ เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ 2. ตรวจชนิ้ งานหรือภาระงานของ เป็นรายบุคคลโดยการสังเกต ทางวทิ ยาศาสตรโ์ ดยใชแ้ บบ กจิ กรรมฝึกทักษะระหวา่ งเรียน และใช้แบบวัดเจตคติทาง วัดทกั ษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมินเจตคตติ อ่ วิทยาศาสตร์ 2. ประเมินทกั ษะการคิดโดย เป็นรายบคุ คลโดยการสังเกต การสังเกตการทางานกล่มุ และใช้แบบวดั เจตคติต่อ 3. ประเมินทกั ษะการ วิทยาศาสตร์ แก้ปัญหาโดยการสงั เกตการ ทางานกลุม่ 4. ประเมินพฤติกรรมในการ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเปน็ รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ โดย การสังเกตการทางานกลุ่ม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 529
Pages: