Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรนาฏดุยางค์ศิลป์ ม.ต้น.2562+ปก_compressed

หลักสูตรนาฏดุยางค์ศิลป์ ม.ต้น.2562+ปก_compressed

Published by prapaporn munkong, 2022-05-30 05:58:12

Description: หลักสูตรนาฏดุยางค์ศิลป์ ม.ต้น.2562+ปก_compressed

Search

Read the Text Version

195 ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ชนั้ รหัสตัวชวี้ ัด ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.๓ ง ๑.๑ ม.๓/๑ ๑. อภิปรายขน้ั ตอน • ขน้ั ตอนการทำ�งานทมี่ ปี ระสิทธภิ าพ โดยใชท้ กั ษะ ง ๑.๑ ม.๓/๒ การท�ำ งานท่มี ีประสิทธิภาพ การท�ำ งานร่วมกันอย่างมีคณุ ธรรมและใช้ทกั ษะ ง ๑.๑ ม.๓/๓ ๒. ใช้ทักษะในการท�ำ งาน การจดั การท่คี �ำ นงึ ถงึ การประหยัดพลงั งาน รว่ มกันอยา่ งมคี ุณธรรม ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม โดยฝึกปฏิบตั ิผ่านงาน เชน่ ๓. อภปิ รายการทำ�งานโดยใช้ - งานช่าง (งานไม้ งานช่างยนต์ งานไฟฟา้ และงานอน่ื ๆ) ทักษะการจดั การเพ่ือการ - งานบ้าน (อาหาร เส้อื ผา้ การดแู ลบ้าน) ประหยัดพลังงานทรัพยากร - งานประดิษฐ์ และสิง่ แวดล้อม - งานเกษตร - งานธรุ กจิ (การโฆษณาประชาสัมพันธ์การจัดจำ�หน่าย) ง ๒.๑ ม.๓/๑ ๑. อภปิ รายการหางานด้วย • การหางานหรือต�ำ แหนง่ ท่วี า่ ง ง ๒.๑ ม.๓/๒ วธิ ที ี่หลากหลาย - ส่ือ สิ่งพิมพ์ ง ๒.๑ ม.๓/๓ ๒.วเิ คราะหแ์ นวทางเขา้ สอู่ าชพี - สื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ ๓. ประเมินทางเลอื กในการ ประกอบอาชีพทส่ี อดคลอ้ ง • แนวทางเข้าสูอ่ าชีพ กบั ความรคู้ วามถนดั - คุณสมบตั ิทจ่ี ำ�เปน็ และความสนใจของตนเอง - ความม่ันคง - การประเมินทางเลือก • การประเมนิ ทางเลือกอาชีพ - แนวทางการประเมิน - รูปแบบการประเมิน - เกณฑก์ ารประเมนิ

196 รหัสวชิ า ง ๒๓๑๐๑ คำ�อธิบายรายวิชา ชอ่ื รายวิชาการงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำ�นวน ๐.๕ หน่วยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขัน้ ตอนการท�ำงานท่ีมปี ระสิทธิภาพ ทกั ษะในการท�ำงานรว่ มกันอยา่ งมคี ณุ ธรรม ท�ำงานโดยใช้ทักษะการจดั การ เพ่อื การประหยัดพลังงานทรพั ยากร และสิง่ แวดล้อม ทกั ษะในการท�ำงาน การจดั การทคี่ �ำนงึ ถงึ การประหยดั พลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม โดยฝกึ ปฏบิ ตั ผิ า่ นงาน เช่น งานบา้ น งานชา่ ง งานธุรกจิ วธิ ีการหางานทห่ี ลากหลาย วิเคราะห์แนวทางเข้าสูอ่ าชพี ประเมนิ ทางเลอื กในการประกอบอาชีพทีส่ อดคล้องกับ ความรคู้ วามถนัดและความสนใจของตนเอง ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการท�ำงาน รกั ความเปน็ ไทยและมจี ติ สาธารณะ ตลอดจนพฒั นาผู้เรียน ใหเ้ ปน็ ผู้มีความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ง ๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ง ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ รวม ๒ มาตรฐาน ๖ ตวั ช้วี ัด

197 รหสั วิชา ง ๒๓๑๐๒ คำ�อธิบายรายวิชา ชอื่ รายวิชาการงานอาชีพ กล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จำ�นวน ๐.๕ หนว่ ยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขนั้ ตอนการท�ำงานทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ ทกั ษะในการท�ำงานรว่ มกนั อยา่ งมคี ณุ ธรรม การท�ำงานโดยใชท้ กั ษะการจดั การ เพ่ือการประหยัดพลังงานทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม การหางานด้วยวิธีท่ีหลากหลาย วิเคราะห์แนวทางเข้าสู่อาชีพ ประเมินทางเลอื กในการประกอบอาชีพ ท่ีสอดคล้องกบั ความรคู้ วามถนดั และความสนใจของตนเอง ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการท�ำงาน รักความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะตลอดจนพัฒนาผู้เรยี น ใหเ้ ป็นผ้มู ีความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ง ๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ง ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ รวม ๒ มาตรฐาน ๖ ตัวช้ีวดั

198 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ สาระท่ี ๑ ภาษาเพือ่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจ และตคี วามเร่อื งท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล มาตรฐาน ต ๑.๒ มที กั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ ความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต ๑.๓ น�ำ เสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และน�ำ ไปใช้ได้อยา่ ง เหมาะสมกบั กาลเทศะ มาตรฐาน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษา และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ภาษา และวัฒนธรรมไทย และน�ำ มาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม สาระที่ ๓ ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ ับกลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ื่น มาตรฐาน ต ๓.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความร้กู ับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ และเป็นพื้นฐาน ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสมั พันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชนและสังคม มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเปน็ เคร่ืองมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อการประกอบอาชพี และการแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ บั สังคมโลก

199 ตวั ชี้วัดสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ชั้น รหสั ตัวช้วี ัด ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.๑ ต ๑.๑ ม.๑/๑ ๑. ปฏิบัติตามคำ�ส่ัง คำ�ขอร้อง • คำ�สง่ั ค�ำ ขอรอ้ ง ค�ำ แนะน�ำ และคำ�ช้แี จง คำ�แนะน�ำ และคำ�ชแ้ี จงงา่ ยๆ ท่ี ในการท�ำ อาหาร และเครือ่ งดืม่ การประดษิ ฐ์ ฟงั และอ่าน การใช้ยา/สลากยา การบอกทิศทาง ป้ายประกาศต่างๆ หรือการใช้อุปกรณ์ • คำ�สง่ั เช่น Look at the…/here/over there./ Say it again./Read and draw./ Put a/an…in/ on/under a/an…/Go to the window and open it./Take out the book, open on page ๑๗ and read it./Don’t go over there./ Don’t be late. etc. • คำ�ขอรอ้ ง เชน่ Please look up the meaning in a dictionary/Look up the meaning in a dictionary, please/ Can/ Could you help me, please?/ Excuse me, could you …? etc. • ค�ำ แนะนำ� เช่น You should read every day./Think before you peak./ • คำ�ศัพท์ที่ใช้ในการเล่นเกม Start/ My turn/ Your turn/Roll the dice/Count the number/ Finish etc. • คำ�สันธาน (conjunction) เช่น and/but/or • ตวั เชอ่ื ม (connective words) เชน่ First,… Second,… Third,… Next,… Then,… Finally,… etc.

200 ชนั้ รหัสตัวชว้ี ดั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ม.๑ ต ๑.๑ ม.๑/๒ ๒. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ นทิ าน • ขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง และบทรอ้ ยกรอง (poem) ส้นั ๆ • การใช้พจนานกุ รม ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น • หลกั การอา่ นออกเสยี ง เช่น - การออกเสียงพยัญชนะตน้ ค�ำและพยญั ชนะท้ายค�ำ - การออกเสียงเนน้ หนัก-เบา ในค�ำและกลุ่มค�ำ - การออกเสยี งตามระดับเสยี งสูง-ต่ำ� ในประโยค - การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน - การอา่ นบทร้อยกรองตามจังหวะ ต ๑.๑ ม.๑/๓ ๓. เลือก/ระบุประโยคและ • ประโยค หรือข้อความ และความหมายเกีย่ วกบั ตนเอง ข้อความ ใหส้ มั พนั ธ์กับส่ือ ครอบครัว โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม อาหาร เครือ่ งด่ืม ท่ีไมใ่ ช่ความเรียง เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร (non-text information) ทอี่ า่ น การซ้อื ขาย ลมฟ้า อากาศ การศึกษาและอาชพี การเดินทางทอ่ งเทีย่ ว การบริการสถานท่ี ภาษา และวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เปน็ วงค�ำ ศัพท์ สะสมประมาณ ๑,๔๐๐-๑,๕๕๐ คำ� (คำ�ศัพท์ท่ีเปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) • การตีความ/ถา่ ยโอนขอ้ มลู ให้สัมพนั ธก์ ับสือ่ ทีไ่ มใ่ ช่ ความเรียง เช่น สญั ลักษณ์ เครื่องหมาย กราฟ แผนภูมิ ตาราง ภาพสัตว์ ส่งิ ของ บคุ คล สถานทต่ี ่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : but, although/ Quantity words เชน่ many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any/ a few/ few/ a little/ little etc.

201 ชนั้ รหัสตัวชว้ี ัด ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.๑ ต ๑.๑ ม.๑/๔ ๔. ระบหุ วั ขอ้ เรอื่ ง (topic) • บทสนทนา นทิ าน เรอื่ งสนั้ และเรอื่ งจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ เชน่ ต ๑.๒ ม.๑/๑ ใจความส�ำ คญั (main idea) หนังสือพมิ พ์ วารสาร วิทยุ โทรทัศน์ เวบ็ ไซด์ ต ๑.๒ ม.๑/๒ และตอบคำ�ถามจากการ • การจบั ใจความส�ำ คัญ เช่น หัวขอ้ เรอ่ื ง ใจความสำ�คัญ ต ๑.๒ ม.๑/๓ ฟังและอ่านบทสนทนา รายละเอยี ดสนบั สนุนค�ำ ถามเกีย่ วกบั ใจความส�ำ คญั ของเรอ่ื ง นทิ าน และเรือ่ งสน้ั เช่น ใคร ทำ�อะไร ที่ไหน เม่อื ไร อยา่ งไร ท�ำ ไม ใช่หรือไม่ - Yes/No Question /Wh-Question / Or-Question etc. - Tenses : present simple/ present continuous/ past simple/ future simple etc. - Simple sentence/ Compound sentence ๑. สนทนาแลกเปลี่ยน • ภาษาทีใ่ ช้ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล เชน่ การทักทาย ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอยา่ งสภุ าพ กิจกรรม และสถานการณ์ การชักชวน ประโยค/ขอ้ ความทีใ่ ชแ้ นะน�ำ ตนเอง เพอ่ื น ตา่ งๆ ในชวี ิตประจ�ำ วัน และบคุ คลใกลต้ วั และส�ำ นวนการตอบรบั การแลกเปลยี่ นขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง กิจกรรม สถานการณต์ ่างๆ ในชีวิตประจ�ำ วัน ๒. ใชค้ �ำ ขอรอ้ ง ใหค้ �ำ แนะน�ำ • คำ�ขอร้อง ค�ำ แนะนำ� และคำ�ชแี้ จง และคำ�ชีแ้ จง ตามสถานการณ์ ๓. พูดและเขียน • ภาษาทีใ่ ช้ในการแสดงความตอ้ งการ ขอความชว่ ยเหลือ แสดงความต้องการ ตอบรับและปฏิเสธ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื เช่น ขอความช่วยเหลือ Please…/…, please./I’d like…/I need…/May/Can/ ตอบรับ และปฏิเสธ Could…?/Yes,.. /Please do./ Certainly./Yes, of course./ การให้ความช่วยเหลอื Sure./ Go right ahead./ Need some help?/ What can I ในสถานการณต์ า่ งๆ do to help? /Would you like any help?/ I’m afraid…/ อยา่ งเหมาะสม I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc.

202 ชนั้ รหัสตัวชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต ๑.๒ ม.๑/๔ ๔. พูดและเขยี นเพอื่ ขอ • ค�ำ ศพั ท์ ส�ำ นวนภาษา ประโยค และขอ้ ความทใ่ี ช้ และให้ขอ้ มลู และแสดง ในการขอและใหข้ ้อมูลและแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับ ความคดิ เห็นเก่ยี วกับเรอื่ ง เรือ่ งที่ฟังหรืออา่ น ทฟ่ี งั หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม ต ๑.๒ ม.๑/๕ ๕. พดู และเขยี นแสดง • ภาษาท่ใี ช้ในการแสดงความรู้สกึ ความคดิ เหน็ ความรสู้ กึ และความคดิ เห็น และใหเ้ หตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดใี จ เสียใจ ของตนเองเกย่ี วกับเร่อื งตา่ งๆ มีความสขุ เศร้า หิว รสชาติ สวย น่าเกลียด เสยี งดงั ใกลต้ ัว กจิ กรรมตา่ งๆ ดี ไมด่ ี จากขา่ ว เหตุการณ์ สถานการณใ์ นชวี ติ ประจ�ำ วัน พร้อมทงั้ ใหเ้ หตุผลสั้นๆ เชน่ Nice / Very nice. / Well done! /Congratulations. ประกอบอย่างเหมาะสม / I like… because… /I love…because…/ I feel… because…/I think…/ I believe…/ I agree/disagree… / I don’t believe…/ I have no idea…/Oh no! etc. ต ๑.๓ ม.๑/๑ ๑. พูดและเขียนบรรยาย • ประโยคและข้อความท่ีใช้ในการบรรยายเกี่ยวกับตนเอง เกย่ี วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจ�ำ วนั กจิ วตั รประจำ�วัน ประสบการณ์ สิ่งแวดลอ้ มใกล้ตัว เช่น ประสบการณ์ และสงิ่ แวดลอ้ ม การเดินทาง การรบั ประทานอาหาร การเรยี น การเล่นกฬี า ใกล้ตวั ฟงั เพลง การอา่ นหนงั สอื การทอ่ งเทีย่ ว

203 ชนั้ รหสั ตวั ชวี้ ดั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ม.๑ ต ๑.๓ ม.๑/๒ ๒. พดู /เขยี นสรุปใจความส�ำ คัญ/ • การจบั ใจความส�ำ คัญ/แกน่ สาระ ต ๑.๓ ม.๑/๓ แกน่ สาระ (theme) ท่ีไดจ้ าก การวเิ คราะห์ความ/เรื่อง/เหตุการณ์ ต ๒.๑ ม.๑/๑ การวิเคราะห์เรอื่ ง/เหตุการณ์ ที่อยใู่ นความสนใจ เชน่ ประสบการณ์ ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม ภาพยนตร์ กฬี า เพลง ต ๒.๑ ม.๑/๒ ต ๒.๑ ม.๑/๓ ๓. พูด/เขียนแสดงความคดิ เหน็ • การแสดงความคิดเห็นและการใหเ้ หตผุ ล ต ๒.๒ ม.๑/๑ เกยี่ วกบั กิจกรรมหรอื เร่ืองตา่ งๆ ประกอบเก่ียวกบั กจิ กรรมหรือเรอ่ื งตา่ งๆ ใกล้ตวั ใกล้ตวั พร้อมทง้ั ใหเ้ หตผุ ลส้ันๆ ประกอบ ต ๒.๒ ม.๑/๒ ๑. ใช้ภาษา นำ้� เสียงและกิรยิ าทา่ ทาง • การใช้ภาษา น้ำ� เสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางในการ สุภาพเหมาะสมตามมารยาทสงั คม สนทนาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เจ้าของภาษา เชน่ การขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ หี นา้ ทา่ ทางประกอบการพูด ๒. บรรยายเกย่ี วกับเทศกาลวนั สำ�คัญ ขณะแนะน�ำตนเอง การสัมผัสมอื การโบกมือ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณขี อง การแสดงความรู้สกึ ชอบ/ไมช่ อบ การกลา่ ว เจา้ ของภาษา อวยพร การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๓. เข้ารว่ ม/จดั กิจกรรมทางภาษาและ • ความเป็นมาและความส�ำ คญั ของเทศกาล วัฒนธรรมตามความสนใจ วนั ส�ำ คญั ชวี ิตความเปน็ อยู่ และประเพณี ของเจ้าของภาษา • กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม การรอ้ งเพลง การเลา่ นทิ าน บทบาทสมมตุ ิ วันขอบคุณพระเจ้า วันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ๑. บอกความเหมือนและความแตกต่าง • ความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการ ระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ ออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ ของเจ้าของภาษา การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอนและ กับของไทย การลำ�ดับคำ� ตามโครงสรา้ งประโยค • การใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอนและการลำ�ดบั ค�ำ ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ๒. เปรียบเทียบความเหมือนและ • การเปรียบเทียบความเหมือนและความแตก ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง ต่างระหว่างเทศกาล งานฉลองวันสำ�คัญ และ วนั สำ�คญั และชีวติ ความเป็นอยู่ ชีวิตความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

204 ช้นั รหสั ตัวชวี้ ดั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.๑ ต ๓.๑ ม.๑/๑ ๑. คน้ คว้า รวบรวมและสรปุ ข้อมูล/ • การค้นคว้า การรวบรวม การสรปุ ต ๔.๑ ม.๑/๑ ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่เี กี่ยวขอ้ งกับกลมุ่ สาระ และการนำ�เสนอขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง การเรยี นรูอ้ นื่ จากแหลง่ การเรียนร้แู ละ กับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื ต ๔.๒ ม.๑/๑ น�ำ เสนอด้วยการพดู /การเขียน ๑. ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/ • การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ / สถานการณ์จำ�ลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานการณจ์ �ำ ลองทีเ่ กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น และสถานศกึ ษา และสถานศึกษา ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ • การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ ค้นคว้าความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากส่ือและ การค้นควา้ ความร้/ู ขอ้ มูลต่างๆ จากสื่อ แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อ และแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี และประกอบอาชีพ

205 รหสั วชิ า อ ๒๑๑๐๑ ค�ำ อธบิ ายรายวชิ า ชอ่ื รายวิชาภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จ�ำ นวน ๑.๕ หน่วยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ฟังและอ่านค�ำสั่ง ค�ำขอร้อง ค�ำแนะน�ำและค�ำชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษ อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) สั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุประโยคและข้อความ ให้สัมพันธ์กับสื่อ ท่ีไม่ใช่ ความเรียง (non-text information) ที่อ่าน ระบุหัวข้อเรื่อง (topic) ใจความส�ำคัญ (main idea) และตอบค�ำถามจาก การฟัง และอ่านบทสนทนา นทิ าน และเรือ่ งสนั้ สนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจ�ำวัน ใช้ค�ำขอร้อง ให้ค�ำแนะน�ำ และค�ำช้ีแจงตามสถานการณ์ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล และแสดง ความคิดเหน็ เกย่ี วกับเร่อื งทฟ่ี ังหรอื อา่ นอยา่ งเหมาะสม พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเองกิจวตั รประจ�ำวัน ประสบการณ์ และสง่ิ แวดลอ้ มใกลต้ วั ใชภ้ าษา นำ�้ เสยี งและกริ ยิ าทา่ ทาง สภุ าพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เขา้ รว่ มหรอื จัดกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียง ประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใชเ้ ครอื่ งหมายวรรคตอน และการล�ำดบั ค�ำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วันส�ำคัญ และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา กับของไทย ค้นคว้า รวบรวมและสรุปข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งการเรียนรู้และ น�ำเสนอด้วยการพูด การเขียน ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง สถานการณจ์ �ำลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ ในการสบื คน้ ค้นควา้ ความรู้ ข้อมูลต่างๆ จากส่ือและแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชพี ส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นใช้ทกั ษะกระบวนการฟงั พดู อา่ น เขียน การส่อื สารและการส่ือความหมายทางภาษาองั กฤษ ในสถานการณ์จริง ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการท�ำงาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ ตลอดจนพัฒนาผู้เรียนให้เป็น ผู้มีความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี รวมท้ังสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุมชนร่วมพัฒนา และสามารถน�ำแนวคิด ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจ�ำวันได้อย่างเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ต ๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ต ๑.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๔ ต ๑.๓ ม.๑/๑ ต ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๓ ต ๒.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ต ๓.๑ ม.๑/๑ ต ๔.๑ ม.๑/๑ ต ๔.๒ ม.๑/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๑๕ ตัวชีว้ ัด

206 รหัสวิชา อ ๒๑๑๐๒ คำ�อธิบายรายวิชา ชอื่ รายวชิ าภาษาองั กฤษ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำ�นวน ๑.๕ หน่วยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ นทิ าน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ันๆ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน เลอื ก ระบปุ ระโยคและ ข้อความ ให้สัมพันธ์กับส่ือที่ไม่ใช่ความเรียง (non-text information) ท่ีอ่าน ระบุหัวข้อเรื่อง (topic) ใจความส�ำคัญ (main idea) และตอบค�ำถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา นทิ าน และเรื่องส้นั สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจ�ำวัน พูดและเขียนแสดงความต้องการขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในสถานการณต์ า่ งๆ อยา่ งเหมาะสม พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื งทฟี่ งั หรอื อา่ นอยา่ งเหมาะสม พดู และเขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกบั เรอื่ งตา่ งๆ ใกลต้ วั กจิ กรรม ตา่ งๆ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลสน้ั ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม พดู และเขยี นบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจ�ำวนั ประสบการณ์ และสง่ิ แวดลอ้ มใกลต้ วั พดู เขยี น สรปุ ใจความส�ำคญั แกน่ สาระ (theme) ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รอื่ ง เหตกุ ารณท์ อี่ ยใู่ นความ สนใจของสังคม พูด เขยี น แสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั กจิ กรรมหรือเรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลสนั้ ๆ ประกอบใช้ ภาษาน้�ำเสียงและกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาท สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บรรยายเก่ียวกับ เทศกาลวันส�ำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษาเข้าร่วมจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความ สนใจ ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล ข้อเทจ็ จรงิ ทีเ่ กีย่ วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ นื่ จากแหลง่ เรียนรู้ และน�ำเสนอดว้ ย การพูด การเขียน ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ สถานการณ์จ�ำลองท่เี กดิ ขึน้ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา ใชภ้ าษาต่าง ประเทศในการสืบค้น ค้นคว้าความรู้ ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขียน การส่ือสารและการส่ือความหมายทางภาษาอังกฤษ ในสถานการณ์จริง ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการท�ำงาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ ตลอดจนพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้มี ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี รวมทั้งสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน ชุมชนร่วมพัฒนาและสามารถน�ำแนวคิดตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาปรับใชใ้ นชีวิตประจ�ำวัน ได้อย่างเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด ต ๑.๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ต ๑.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ต ๑.๓ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ต ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ต ๓.๑ ม.๑/๑ ต ๔.๑ ม.๑/๑ ต ๔.๒ ม.๑/๑ รวม ๗ มาตรฐาน ๑๖ ตัวชีว้ ดั

207 ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ชน้ั รหสั ตัวช้ีวดั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ม.๒ ต ๑.๑ ม.๒/๑ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามค�ำ ขอรอ้ ง ค�ำ แนะน�ำ • ค�ำ ขอร้อง ค�ำ แนะน�ำ ค�ำ ชีแ้ จงและคำ�อธิบาย เช่น ค�ำ ชแ้ี จงและค�ำ อธบิ ายงา่ ยๆ ทฟี่ งั การท�ำ อาหารและเครือ่ งดืม่ การประดษิ ฐ์ และอา่ น การใช้ยา สลากยา การบอกทศิ ทาง การใช้อปุ กรณ์ - Passive Voice ทใี่ ชใ้ นโครงสรา้ งประโยคง่ายๆ เช่น is/are + Past Participle - ค�ำ สนั ธาน (conjunction) เชน่ and/but/ or/ before/ after etc. - ตัวเช่อื ม (connective words) เช่น First,… Second,… Third,… Fourth,… Finally,… etc. ต ๑.๑ ม.๒/๒ ๒. อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว • ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศและบทร้อยกรอง ประกาศ และบทร้อยกรองส้ันๆ • การใชพ้ จนานกุ รม ถกู ต้องตามหลักการอา่ น • หลกั การอ่านออกเสียง เช่น - การออกเสียงพยญั ชนะต้นค�ำและพยญั ชนะทา้ ยค�ำ - การออกเสยี งเน้นหนกั -เบาในค�ำและกลุ่มค�ำ - การออกเสียงตามระดบั เสียงสงู -ตำ่� ในประโยค - การออกเสยี งเช่อื มโยงในขอ้ ความ - การแบง่ วรรคตอนในการอา่ น - การอา่ นบทร้อยกรองตามจงั หวะ ต ๑.๑ ม.๒/๓ ๓. ระบุ เขยี นประโยคและ • ประโยคหรือข้อความและความหมายเก่ียวกับตนเอง ขอ้ ความ ใหส้ มั พันธ์กบั สอื่ ครอบครัว โรงเรียน สงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร เครอ่ื งดมื่ ทไ่ี ม่ใชค่ วามเรยี งรปู แบบตา่ งๆ เวลาว่างและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร ท่ีอา่ น การซอ้ื -ขาย ลมฟา้ อากาศ การศกึ ษาและอาชีพ การเดนิ ทางท่องเที่ยว การบรกิ ารสถานท่ี ภาษาและ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นวงคำ�ศัพท์สะสม ประมาณ ๑,๗๕๐ - ๑,๙๐๐ คำ� (คำ�ศัพทท์ เ่ี ปน็ รูปธรรม และนามธรรม) • การตคี วาม ถา่ ยโอนขอ้ มูลใหส้ มั พันธก์ ับส่อื ที่ไม่ใช่ความเรียง เช่น สัญลักษณ์ เคร่ืองหมาย กราฟ แผนภูมิ แผนผงั ตาราง ภาพสตั ว์ ส่งิ ของ บุคคล สถานท่ตี ่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/adverbs/ Contrast : but, although/ Quantity words เชน่ many/much/a lot of/lots of/ some/ any/a few/few/a little/little etc.

208 ชั้น รหัสตวั ช้วี ัด ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.๒ ต ๑.๑ ม.๒/๔ ๔. เลอื กหวั ขอ้ เรอื่ ง ใจความส�ำคญั • บทสนทนา เรอ่ื งสน้ั และเรอ่ื งจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ เชน่ บอกรายละเอยี ดสนับสนนุ หนงั สือพิมพ์ วารสาร วทิ ยุ โทรทัศน์ เว็บไซต์ (supporting detail) • การจับใจความส�ำคัญ เชน่ หัวขอ้ เร่อื ง ใจความส�ำคญั และแสดงความคดิ เห็น รายละเอียดสนับสนนุ ค�ำถามเกยี่ วกบั ใจความส�ำคัญ เก่ยี วกับเรอื่ งทฟ่ี งั และอา่ น ของเร่ือง เช่น ใคร ท�ำอะไร ทไ่ี หน เม่ือไร อย่างไร ท�ำไม พรอ้ มทงั้ ให้เหตผุ ลและ ใช่หรอื ไม่ ยกตวั อยา่ งง่ายๆ ประกอบ - Yes/No Question - Wh-Question - Or-Question etc. • ประโยคที่ใช้ในการแสดงความคิดเหน็ การให้เหตุผล และการยกตัวอยา่ ง เช่น I think…/I feel…/I believe… - ค�ำสนั ธาน (conjunctions) and/but/or/ because / so/ before/after - ตัวเช่ือม (connective words) First,… Next,… After,… Then,… Finally,… etc. - Tenses : present simple/present continuous/ present perfect/ past simple /future tense etc. - Simple sentence/ Compound sentence ต ๑.๒ ม.๒/๑ ๑. สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูล • ภาษาท่ใี ช้ในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล เช่น การทักทาย เก่ยี วกบั ตนเอง เรื่องต่างๆ กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรก ใกล้ตวั และสถานการณ์ตา่ งๆ อยา่ งสภุ าพ การชักชวน ประโยค ขอ้ ความ ทใ่ี ช้แนะน�ำ ในชวี ิตประจ�ำ วันอย่างเหมาะสม ตนเอง เพ่อื น และบุคคลใกลต้ ัว และส�ำ นวนการตอบรับ การแลกเปล่ียนขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง เรอ่ื งใกลต้ ัว สถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจ�ำ วัน

209 ชั้น รหสั ตวั ช้วี ัด ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.๒ ต ๑.๒ ม.๒/๒ ๒. ใช้ค�ำขอรอ้ ง ให้ค�ำแนะน�ำ • ค�ำขอร้อง ค�ำแนะน�ำ ค�ำชแี้ จง และค�ำอธิบาย ค�ำชีแ้ จง และค�ำอธิบาย ตามสถานการณ์ ต ๑.๒ ม.๒/๓ ๓. พดู และเขียนแสดง • ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความตอ้ งการ เสนอ ความต้องการ เสนอและ และใหค้ วามช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธ ให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและ การใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ งๆ เช่น ปฏิเสธการใหค้ วามชว่ ยเหลือ Please…/…, please./I’d like…/I need… / May/ ในสถานการณต์ า่ งๆ Can/Could…?/ Yes,../Please do./ Certainly./Yes, อย่างเหมาะสม of course. /Sure. / Go right ahead./ Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ต ๑.๒ ม.๒/๔ ๔. พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและ • ค�ำศัพท์ ส�ำนวนภาษา ประโยค และข้อความทีใ่ ช้ ให้ขอ้ มลู บรรยายและ ในการขอและใหข้ ้อมูลบรรยาย และแสดงความคดิ เหน็ แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เกี่ยวกบั เรอ่ื งท่ฟี ัง หรอื อ่าน เรอ่ื งทฟี่ งั หรอื อา่ นอยา่ งเหมาะสม ต ๑.๒ ม.๒/๕ ๕. พดู และเขยี นแสดงความร้สู กึ • ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความรู้สึก ความคิดเห็นและให้ และความคดิ เห็นของตนเอง เหตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสยี ใจ มคี วามสุข เกย่ี วกับเร่ืองต่างๆ กจิ กรรม และ เศร้า หิว รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด เสียงดงั ดี ไม่ดี จากข่าว ประสบการณ์ พรอ้ มทง้ั ให้เหตุผล เหตุการณ์ สถานการณใ์ นชีวิตประจ�ำวนั เชน่ ประกอบอย่างเหมาะสม Nice./Very nice./Well done!/ Congratulations on… /I like…because…/ I love… because…/ I feel… because…/I think…/I believe…/I agree/ dis- agree…/ I’m afraid I don’t like…/I don’t believe…/ I have no idea…/Oh no! etc.

210 ชั้น รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.๒ ต ๑.๓ ม.๒/๑ ๑. พูดและเขยี นบรรยาย • การบรรยายข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวัตรประจำ�วนั เกี่ยวกับตนเอง กจิ วัตรประจำ�วนั ประสบการณ์ ขา่ วเหตกุ ารณ์ ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม ประสบการณ์ และขา่ ว เหตกุ ารณ์ เชน่ การเดนิ ทาง การรบั ประทานอาหาร การเลน่ กีฬา ทอี่ ยู่ในความสนใจของสังคม ดนตรี การฟงั เพลง การอ่านหนังสือ การทอ่ งเท่ยี ว การศึกษา สภาพสังคม เศรษฐกจิ ต ๑.๓ ม.๒/๒ ๒. พดู และเขยี นสรปุ ใจความส�ำ คญั • การจับใจความสำ�คัญ แก่นสาระ หัวข้อเรอ่ื ง แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรือ่ ง (topic) การวเิ คราะหเ์ รอื่ ง ขา่ ว เหตกุ ารณ์ ทอี่ ยใู่ นความสนใจ เชน่ ท่ีได้จากการวิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/ ประสบการณ์ ภาพยนตร์ กีฬา ดนตรี เพลง เหตกุ ารณท์ ่อี ย่ใู นความสนใจ ของสงั คม ต ๑.๓ ม.๒/๓ ๓. พูดและเขยี นแสดง • การแสดงความคิดเห็นและการให้เหตุผลประกอบ ความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั กิจกรรม เกี่ยวกับกิจกรรม เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว และประสบการณ์ เร่ืองต่างๆ ใกล้ตวั และประสบการณ์พรอ้ มทัง้ ให้ เหตผุ ลสั้นๆ ประกอบ ต ๒.๑ ม.๒/๑ ๑. ใช้ภาษา น้ำ� เสยี ง และกริ ยิ า • การใช้ภาษา นำ�้ เสยี ง และกิรยิ าทา่ ทาง ในการสนทนา ทา่ ทาง เหมาะกบั บคุ คลและ ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ โอกาส ตามมารยาทสงั คมและ การขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใช้สีหน้าท่าทาง วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ประกอบการพดู ขณะแนะน�ำตนเอง การสัมผัสมอื การโบกมือ การแสดงความรู้สึก ชอบ ไม่ชอบ การกลา่ วอวยพร การแสดงอาการ ตอบรับหรอื ปฏเิ สธ ต ๒.๑ ม.๒/๒ ๒. อธิบายเก่ยี วกับเทศกาล • ความเป็นมาและความส�ำ คญั ของเทศกาล วันสำ�คัญ ต ๒.๑ ม.๒/๓ วันส�ำ คัญ ชีวิตความเปน็ อยู่ ชวี ติ ความเป็นอยู่ และประเพณขี องเจ้าของภาษา และประเพณขี องเจ้าของภาษา • กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม ๓. เขา้ ร่วมหรือจัดกิจกรรม การร้องเพลง การเลา่ นทิ าน บทบาทสมมุติ วันขอบคณุ ทางภาษาและวัฒนธรรม พระเจา้ วันคริสต์มาส วนั ขน้ึ ปใี หม่ วันวาเลนไทน์ ตามความสนใจ

211 ชั้น รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.๒ ต ๒.๒ ม.๒/๑ ๑. เปรยี บเทยี บและอธบิ าย • การเปรียบเทียบและการอธิบายความเหมือนและ ต ๒.๒ ม.๒/๒ ความเหมือนและความแตกตา่ ง ความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยค ระหวา่ ง การออกเสียงประโยค ชนดิ ต่างๆ ของเจา้ ของภาษากับของไทย ต ๓.๑ ม.๒/๑ ชนดิ ต่างๆ และการลำ�ดับคำ� • การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอนและการลำ�ดับคำ� ต ๔.๑ ม.๒/๑ ตามโครงสร้างประโยคของภาษา ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ ต ๔.๒ ม.๒/๑ ต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาไทย ต ๔.๒ ม.๒/๒ ๒. เปรียบเทียบและอธิบาย • การเปรียบเทียบและการอธิบายความเหมือน ความเหมือนและความแตกตา่ ง และความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และ ระหวา่ งชวี ิตความเป็นอยู่และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา กบั ของไทย ๑. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล • การคน้ คว้า การรวบรวม การสรุป และการน�ำ เสนอ ข้อเท็จจริงที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระ ขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื การเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งการเรียนรู้ และนำ�เสนอดว้ ยการพูด การเขยี น ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารใน สถานการณจ์ รงิ • การใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณจ์ รงิ สถานการณ์ สถานการณจ์ �ำ ลองทเี่ กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น จำ�ลองทเี่ กดิ ขนึ้ ในห้องเรียน สถานศกึ ษาและชมุ ชน สถานศึกษาและชุมชน ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น • การใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น การค้นควา้ คน้ ควา้ รวบรวมและสรปุ ความรู้ ความรู้ ขอ้ มลู ตา่ งๆ จากสอื่ และแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ ข้อมูลตา่ งๆ จากสอื่ และ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ แหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ ๒. เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล • การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ ขา่ วสารของโรงเรียนเป็นภาษา ข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน เช่น การทำ�หนังสือเล่ม ต่างประเทศ เล็ก แนะนำ�โรงเรียน การทำ�แผ่นปลิว ป้ายคำ�ขวัญ คำ�เชิญชวนแนะนำ�โรงเรียน การนำ�เสนอข้อมูล ขา่ วสารในโรงเรยี นเป็นภาษาองั กฤษ

212 รหสั วชิ า อ ๒๒๑๐๑ ค�ำ อธิบายรายวิชา ชอื่ รายวิชาภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จ�ำ นวน ๑.๕ หนว่ ยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใช้ภาษาในการขอรอ้ ง ค�ำแนะน�ำ ค�ำช้ีแจง ค�ำอธิบายงา่ ยๆ ขอ้ ความ รูปแบบของค�ำวลีประโยค ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทเ่ี ป็นความเรียงและไมใ่ ชค่ วามเรยี ง บทรอ้ ยกรอง บทสนทนาในสถานการณต์ า่ งๆ เร่ืองท่เี ป็นสารคดี และบันเทงิ คดรี ่วมทัง้ วิถชี วี ิต ประเพณี ความเช่ือและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา คิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และเขยี นส่ือความ คน้ คว้า น�ำเสนอ ขอ้ มูลเร่ืองราวทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั เหตุการณ์ แสดงความคิดเหน็ ตอ่ วัฒนธรรม ความเชือ่ ประเพณขี องเจ้าของภาษา และวิเคราะห์ ความเหมือนและความแตกต่าง รวมท้ังวิเคราะห์ สังเคราะห์เนื้อหาภาษาอังกฤษที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารในชีวิตประจ�ำวัน เข้าใจและตีความจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล น�ำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอดและความเห็นในเร่ืองต่างๆ ได้เหมาะสม เชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระ การเรียนรอู้ นื่ และเปน็ พนื้ ฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรแู้ ละเปดิ โลกทัศนข์ องตนเอง สง่ เสรมิ ใหน้ ักเรยี นใชท้ ักษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น การสอ่ื สารและการส่ือความหมายทางภาษาองั กฤษ ในสถานการณจ์ รงิ ปลูกฝังให้ผู้เรยี นมีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ได้แก่ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสตั ยส์ จุ รติ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ ม่ันในการท�ำงาน รักความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ ตลอดจนพฒั นาผู้เรยี นใหเ้ ป็นผู้มีความสามารถ ในการส่อื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ และความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยี รวมท้ังสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุมชนร่วมพัฒนาและสามารถน�ำแนวคิดตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง มาปรับใช้ในชีวิตประจ�ำวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ต ๑.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ต ๑.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ต ๑.๓ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ต ๒.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ต ๒.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ต ๓.๑ ม.๒/๑ ต ๔.๑ ม.๒/๑ ต ๔.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๑ ตวั ชีว้ ดั

213 รหสั วิชา อ ๒๒๑๐๒ ค�ำ อธิบายรายวชิ า ชอ่ื รายวชิ าภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำ�นวน ๑.๕ หนว่ ยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ฟัง พูด สนทนาโตต้ อบขอ้ มูล เรอ่ื งราวตา่ งๆ ใกลต้ ัว เทศกาล ขนบธรรมเนยี มประเพณี การขอขอ้ มลู บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบความแตกตา่ งระหว่างชีวติ ความเปน็ อยูแ่ ละวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาและของไทย การเลอื กอ่านส่ือ ข้อมลู ข่าวสารทงั้ เปน็ ความเรยี งและไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบต่างๆ เขยี นสรุปความรู้ ขอ้ มลู ต่างจากส่ือและแหล่งการเรียนรู้ ต่างๆ ใช้ภาษาในการส่ือสารอย่างเหมาะสมกับระดับของบุคคล เวลา โอกาส ใช้กระบวนการเรียนภาษา การแสดงความ คดิ เหน็ น�ำเสนอขอ้ มลู เรอื่ งราวทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เหตกุ ารณ์ ทง้ั เรอื่ งราวทไี่ ดจ้ ากการอา่ นแสดงความคดิ เหน็ ตอ่ ความเชอ่ื ประเพณี ของเจ้าของภาษาและวิเคราะห์ความเหมือนความแตกต่าง รวมท้ังวิเคราะห์ สังเคราะห์เนื้อหาภาษาอังกฤษที่เก่ียวข้องกับ กลุม่ สาระการเรยี นร้อู น่ื ใช้ภาษาองั กฤษในการสอ่ื สารในชีวติ ประจ�ำวัน การศึกษาในระดับสูงขน้ึ สง่ เสริมใหน้ กั เรียนใช้ทกั ษะกระบวนการฟัง พดู อา่ น เขยี น การสอื่ สารและการสอ่ื ความหมายทางภาษาองั กฤษ ในสถานการณ์จริง ปลกู ฝงั ใหผ้ ้เู รียนมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ไดแ้ ก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอื่ สตั ย์สจุ ริต มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มน่ั ในการท�ำงาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ ตลอดจนพฒั นาผเู้ รียนให้เปน็ ผูม้ ีความสามารถ ในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ และความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยี รวมท้ังสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน ชุมชนร่วมพัฒนา และสามารถน�ำแนวคิดตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง มาปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจ�ำวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด ต ๑.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ต ๑.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ต ๑.๓ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ต ๒.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ต ๒.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ต ๓.๑ ม.๒/๑ ต ๔.๑ ม.๒/๑ ต ๔.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๑ ตัวชี้วัด

214 ตัวช้ีวัดสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ชนั้ รหัสตัวชวี้ ดั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ม.๓ ต ๑.๑ ม.๓/๑ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามค�ำ ขอรอ้ ง ค�ำ แนะน�ำ • ค�ำ ขอร้อง ค�ำ แนะน�ำ ค�ำ ชีแ้ จงและคำ�อธบิ าย คำ�ชี้แจงและคำ�อธิบายที่ฟังและ ในการประดิษฐ์ การบอกทศิ ทาง ป้ายประกาศตา่ งๆ อา่ น การใช้อุปกรณ์ - Passive Voice ทใี่ ชใ้ นโครงสรา้ งประโยคงา่ ยๆ เช่น is/ are + past participle - ค�ำ สนั ธาน (conjunction) เช่น and/but/or/ before/after/because etc. - ตวั เชอ่ื ม (connective words) เชน่ First,… Second,… Third,… Fourth,… Next,… Then,… Finally,… etc. ต ๑.๑ ม.๓/๒ ๒. อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว • ขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรอง โฆษณาและบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ • การใชพ้ จนานกุ รม ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น • หลกั การอ่านออกเสยี ง เชน่ - การออกเสียงพยญั ชนะต้นค�ำและพยญั ชนะทา้ ยค�ำ สระเสียงสั้น สระเสียงยาว สระประสม - การออกเสียงเนน้ หนกั -เบาในค�ำและกลุม่ ค�ำ - การออกเสียงตามระดบั เสยี งสงู -ตำ่� ในประโยค - การออกเสยี งเชื่อมโยงในขอ้ ความ - การแบง่ วรรคตอนในการอา่ น - การอา่ นบทรอ้ ยกรองตามจงั หวะ ต ๑.๑ ม.๓/๓ ๓. ระบุและเขียนสื่อท่ีไม่ใช่ • ประโยค ข้อความและความหมายเก่ียวกับตนเอง ความเรยี ง รปู แบบตา่ งๆ ครอบครัว โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม อาหาร เครื่องด่มื ให้สมั พันธ์กบั ประโยคและ เวลาวา่ งและนันทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร ขอ้ ความที่ฟัง หรืออา่ น การซ้ือ-ขาย ลมฟา้ อากาศ การศกึ ษาและอาชีพ การเดนิ ทางท่องเทีย่ ว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษาและ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เปน็ วงค�ำ ศพั ทส์ ะสมประมาณ ๑,๔๐๐ – ๑,๕๕๐ คำ� (คำ�ศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและ นามธรรม)

215 ชั้น รหัสตวั ชวี้ ัด ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.๓ • การตีความ ถ่ายโอนข้อมูลให้สัมพันธ์กับส่ือ ที่ไม่ใช่ ต ๑.๑ ม.๓/๔ ความเรียง เช่น สัญลกั ษณ์ เคร่อื งหมาย กราฟ แผนภูมิ ตาราง ภาพสัตว์ สิ่งของ บุคคล สถานท่ีต่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/Contrast : but, although/Quantity words เชน่ many/ much/ a lot of/lots of/ some/any/ a few/few/ a little/ little etc. ๔. เลอื ก ระบุหวั ขอ้ เรอ่ื ง • การจับใจความสำ�คัญ เชน่ หวั ข้อเรอื่ งใจความสำ�คัญ ใจความส�ำ คัญ รายละเอียด รายละเอียดสนบั สนุนจาก ส่อื สงิ่ พิมพแ์ ละส่ือ สนบั สนนุ และแสดงความคิดเหน็ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เช่น หนังสอื พิมพ์ วารสาร วิทยุ โทรทศั น์ เกยี่ วกบั เรอ่ื งทฟ่ี งั และอา่ นจากสอื่ เว็บไซตบ์ นอนิ เทอรเ์ นต็ ประเภทตา่ งๆ พร้อมทง้ั ใหเ้ หตผุ ล • ค�ำ ถามเกี่ยวกบั ใจความส�ำ คัญของเรื่อง เชน่ และยกตวั อย่างประกอบ ใคร ทำ�อะไร ทไี่ หน เม่ือไร อยา่ งไร ทำ�ไม ใช่หรือไม่ - Yes/No Question - Wh-Question

216 ชนั้ รหสั ตวั ชวี้ ัด ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.๓ - Or-Question etc. ต ๑.๒ ม.๓/๑ - ประโยคท่ีใช้ในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล และการยกตัวอย่าง เช่น I think…/ I feel…/ I believe…/ I agree/disagree…/I don’t believe…/ I have no idea… - if clauses - so…that/such…that - คำ�สนั ธาน (conjunctions) and/but/or/ because/so/ before/after etc. - Infinitive pronouns: some, any, someone, anyone, everyone, one, ones etc. - Tenses: present simple/ present continuous/ present perfect/ past simple/ future tense etc. - Simple sentence/ Compound sentence/ Complex sentence ๑. สนทนาและเขยี นโต้ตอบ • ภาษาทใี่ ชใ้ นการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล เชน่ การทกั ทาย ข้อมูลเก่ียวกับตนเองเร่ืองต่างๆ กลา่ วลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรก ใกลต้ วั สถานการณข์ า่ ว อย่างสภุ าพ การชักชวน การแลกเปลย่ี นข้อมลู เกีย่ วกบั เรอื่ งทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม ตนเอง เรื่องใกล้ตัว สถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจำ�วัน และสอ่ื สารอยา่ งตอ่ เน่อื ง การสนทนา เขยี นขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองและบคุ คลใกลต้ วั และเหมาะสม สถานการณ์ ขา่ ว เรอื่ งทอี่ ยใู่ นความสนใจในชวี ติ ประจ�ำ วนั

217 ชั้น รหัสตัวช้วี ดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.๓ ต ๑.๒ ม.๓/๒ ๒. ใชค้ �ำ ขอร้อง ให้ค�ำ แนะนำ� • ค�ำ ขอร้อง คำ�แนะน�ำ ค�ำ ชีแ้ จง คำ�อธิบายที่มี คำ�ช้แี จง และคำ�อธิบาย ข้ันตอนซบั ซอ้ น ต ๑.๒ ม.๓/๓ อยา่ งเหมาะสม • ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความต้องการเสนอ ต ๑.๒ ม.๓/๔ ๓. พดู และเขยี นแสดง และให้ความชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ ต ๑.๒ ม.๓/๕ ความต้องการเสนอและ การใหค้ วามชว่ ยเหลือในสถานการณ์ตา่ งๆ เชน่ ให้ความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และ Please…/…, please./I’d like…/I need…/ May/ ต ๑.๓ ม.๓/๑ ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลอื Can/ Could…?/Yes,../ Please do./Certainly./Yes, ในสถานการณ์ต่างๆ of course./ Sure./Go right ahead./Need some อย่างเหมาะสม help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ๔. พดู และเขยี นเพื่อขอและ • คำ�ศพั ท์ ส�ำ นวนภาษา ประโยคและขอ้ ความ ให้ขอ้ มลู อธบิ าย เปรยี บเทยี บ ทใี่ ช้ในการขอและใหข้ ้อมลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั เรอื่ งทีฟ่ งั หรอื อ่าน เร่ืองทฟี่ ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม ๕. พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก • ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความรู้สกึ ความคดิ เห็นและ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกบั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ ไมช่ อบ ดใี จ เสยี ใจ เร่ืองตา่ งๆ กิจกรรม ประสบการณ์ มีความสขุ เศร้า หวิ รสชาติ สวย นา่ เกลียด เสยี งดงั ดี และขา่ ว/เหตุการณ์ พร้อมท้ัง ไมด่ ี จากขา่ ว เหตกุ ารณ์ สถานการณ์ในชวี ิตประจ�ำ วนั ให้เหตผุ ลประกอบอย่างเหมาะสม เชน่ Nice./Very nice./ Well done!/ Congratulations on... /I like…because…/ I love… because… / I feel… because…I think…/ I believe…/I agree/ disagree…/I’m afraid …/I don’t like…/ I don’t believe…/I have no idea…/Oh no! etc. ๑. พดู และเขียนบรรยาย • การบรรยายเก่ียวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว เก่ียวกับตนเอง ประสบการณข์ ่าว เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ทีอ่ ย่ใู นความสนใจของสังคม เช่น เหตุการณ์ เรื่องประเด็นต่างๆ การเดนิ ทาง การรบั ประทานอาหาร การเลน่ กฬี า ดนตรี ทอ่ี ย่ใู นความสนใจของสังคม การฟังเพลง การอา่ นหนงั สือ การทอ่ งเทย่ี ว การศกึ ษา สภาพสงั คม เศรษฐกจิ

218 ชั้น รหัสตวั ชีว้ ดั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.๓ ต ๑.๓ ม.๓/๒ ๒. พดู และเขยี นสรปุ ใจความส�ำ คญั • การจบั ใจความสำ�คัญ แกน่ สาระ หวั ข้อเรือ่ ง ต ๑.๓ ม.๓/๓ แกน่ สาระ หัวข้อเรอื่ งทไี่ ด้จาก การวเิ คราะหเ์ ร่อื ง ข่าวเหตุการณ์ สถานการณ์ ต ๒.๑ ม.๓/๑ การวิเคราะห์เรื่อง ข่าวเหตกุ ารณ์ ท่ีอยู่ในความสนใจ เช่น ประสบการณ์ เหตุการณ์ สถานการณ์ท่ีอยู่ในความสนใจ สถานการณต์ ่างๆ ภาพยนตร์ กฬี า ดนตรี เพลง ต ๒.๑ ม.๓/๒ ของสังคม ต ๒.๑ ม.๓/๓ ๓. พดู และเขยี นแสดงความคดิ เหน็ • การแสดงความคิดเห็นและการให้เหตุผลประกอบ เกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ เก่ยี วกับกจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ และเหตุการณ์ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตผุ ล ประกอบ ๑. เลือกใช้ภาษา น�้ำเสียง และ • การเลือกใช้ภาษา น้�ำเสียง และกิรยิ าทา่ ทาง กิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและ ในการสนทนาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม โอกาส ตามมารยาทสังคมและ ของเจา้ ของภาษา เชน่ การขอบคณุ ขอโทษ การชมเชย วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา การใชส้ หี นา้ ทา่ ทางประกอบ การพดู ขณะแนะน�ำตนเอง การสัมผสั มือ การโบกมอื การแสดงความรู้สึกชอบ ไมช่ อบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับ หรอื ปฏิเสธ ๒. อธบิ ายเกย่ี วกบั ชวี ติ ความเปน็ อยู่ • ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณี ขนบธรรมเนียม และประเพณี ของเจ้าของภาษา ของเจา้ ของภาษา ๓. เขา้ ร่วมหรอื จัดกิจกรรม • กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น ทางภาษาและวัฒนธรรม การเล่นเกม การรอ้ งเพลง การเล่านทิ าน ตามความสนใจ บทบาทสมมุติ วนั ขอบคุณ พระเจา้ วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน์

219 ช้นั รหสั ตวั ชีว้ ัด ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.๓ ต ๒.๒ ม.๓/๑ ๑. เปรียบเทยี บและอธบิ าย • การเปรียบเทียบและการอธิบายความเหมือนและ ความเหมอื นและความแตกต่าง ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ ระหวา่ งการออกเสยี งประโยค ของเจ้าของภาษากบั ของไทย ชนดิ ตา่ งๆ และการล�ำ ดับคำ� • การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอนและการล�ำ ดับค�ำ ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษา ตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ ต่างประเทศและภาษาไทย และภาษาไทย ต ๒.๒ ม.๓/๒ ๒. เปรยี บเทียบและอธิบาย • การเปรียบเทียบและการอธิบายความเหมือนและ ความเหมอื นและความแตกต่าง ความแตกตา่ งระหวา่ งชีวติ ความเป็นอย่แู ละวฒั นธรรม ต ๓.๑ ม.๓/๑ ระหว่างชีวิตความเปน็ อยู่และ ของเจ้าของภาษากับของไทย การนำ�วัฒนธรรมของ ต ๔.๑ ม.๓/๑ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับ เจา้ ของภาษาไปใช้ ต ๔.๒ ม.๓/๑ ของไทย และนำ�ไปใช้อย่าง ต ๔.๒ ม.๓/๒ เหมาะสม ๑. คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู • การคน้ ควา้ การรวบรวม การสรปุ และการน�ำ เสนอ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระ ขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื การเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ และนำ�เสนอดว้ ยการพดู และ การเขียน ๑. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง • การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง สถานการณ์ สถานการณจ์ ำ�ลองท่ีเกิดขนึ้ จำ�ลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน สงั คม และสังคม ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการ • การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น การค้นคว้า สบื ค้น ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ความรู้ ขอ้ มลู ต่างๆ จากสื่อ และแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ ความรู้ ข้อมูลต่างๆ จากส่ือและ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อ และประกอบอาชพี ๒. เผยแพร่ ประชาสมั พนั ธ์ • การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเผยแพร่ ประชาสมั พนั ธ์ ขอ้ มูล ข่าวสารของโรงเรียน ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรยี น ชมุ ชน และทอ้ งถน่ิ เช่น ชมุ ชน และท้องถิน่ เป็น การทำ�หนงั สือเลม่ เลก็ แนะน�ำ โรงเรยี น ชุมชน ภาษาต่างประเทศ และท้องถนิ่ การทำ�แผ่นปลวิ ปา้ ยค�ำ ขวัญ ค�ำ เชิญชวน แนะน�ำ โรงเรยี นและสถานทส่ี �ำ คญั ในชมุ ชนและทอ้ งถน่ิ การนำ�เสนอข้อมูลข่าวสารในโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่นเปน็ ภาษาอังกฤษ

220 รหัสวชิ า อ ๒๓๑๐๑ คำ�อธิบายรายวิชา ชือ่ รายวิชาภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จ�ำ นวน ๑.๕ หน่วยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การใชภ้ าษาเกย่ี วกบั การด�ำเนนิ ชวี ติ ครอบครวั อาชพี การดแู ล การให้ ขอหรอื น�ำเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั การเดนิ ทาง และสถานทที่ อ่ งเที่ยว การเขยี นจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ขอ้ ความจากส่ือประเภทหนังสือพิมพ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ อนิ เตอรเ์ นต็ สารคดี ละคร เพลง กฬี า ภาพยนตร์ เทศกาลทนี่ า่ สนใจ รวมถงึ กจิ กรรมบนั เทงิ ตา่ งๆ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภยั ธรรมชาติ ประสบการณ์ และเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในอดีต ส่ิงของในเรื่องของรูปร่างหน้าตา ลักษณะที่ปรากฏ ปัญหาส่ิงแวดล้อม ส่งิ มหัศจรรยข์ องโลก การคุ้มครองสตั วป์ ่า การบริจาคเงิน การเลอื กซ้ือสนิ ค้าอยา่ งฉลาด ประเภทของอาหาร การเชิญชวน การตอบรบั และการตอบปฏิเสธ การวางแผน ในการจดั งาน การใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ สถานการณ์จ�ำลองทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม การแสดงความขอบคณุ และยกยอ่ งชมเชยและการแสดงความคดิ เห็น การให้ ค�ำแนะน�ำ ค�ำส่ัง การแสดงเงือ่ นไขตา่ งๆ ที่อยู่ในความสนใจของนักเรยี นท่ีถูกต้องเหมาะสมกับวฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ส่งเสรมิ ให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการฟัง พูด อา่ น เขียน การส่อื สารและการสอ่ื ความหมายทางภาษาองั กฤษ ในสถานการณจ์ รงิ ปลกู ฝงั ใหผ้ ้เู รยี นมคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ไดแ้ ก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สัตยส์ ุจรติ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งม่ันในการท�ำงาน รกั ความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ ตลอดจนพัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ ปน็ ผู้มคี วามสามารถ ในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยี รวมท้ังสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน ชุมชนร่วมพัฒนา และสามารถน�ำแนวคิดตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงมาปรับใชใ้ นชีวติ ประจ�ำวนั ได้อย่างเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด ต ๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ต ๑.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ต ๑.๓ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ต ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ต ๒.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ต ๓.๑ ม.๓/๑ ต ๔.๑ ม.๓/๑ ต ๔.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๑ ตวั ชว้ี ดั

221 รหัสวิชา อ ๒๓๑๐๒ คำ�อธบิ ายรายวชิ า ช่ือรายวิชาภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จ�ำ นวน ๑.๕ หน่วยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การใช้ภาษาเกี่ยวกบั การด�ำเนนิ ชวี ติ ครอบครวั อาชพี การดูแล การให้ ขอหรอื น�ำเสนอข้อมลู เก่ียวกับการเดินทาง และสถานที่ท่องเท่ยี ว การเขยี นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ข้อความจากสอ่ื ประเภทหนังสอื พมิ พ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ อนิ เตอร์เนต็ สารคดี ละคร เพลง กฬี า ภาพยนตร์ เทศกาลทนี่ า่ สนใจ รวมถงึ กจิ กรรมบนั เทงิ ตา่ งๆ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภยั ธรรมชาติ ประสบการณ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ส่ิงของในเรื่องของรูปร่างหน้าตา ลักษณะที่ปรากฏ ปัญหาสิ่งแวดล้อม สง่ิ มหัศจรรยข์ องโลก การคุ้มครองสตั วป์ ่า การบรจิ าคเงิน การเลือกซือ้ สนิ ค้าอยา่ งฉลาด ประเภทของอาหาร การเชิญชวน การตอบรับและการตอบปฏิเสธ การวางแผนในการจัดงาน การใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง สถานการณ์จ�ำลอง ทเี่ กิดขึน้ ในห้องเรยี นสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม การแสดงความขอบคุณและยกยอ่ งชมเชย และการแสดงความคิดเห็น การใหค้ �ำแนะน�ำ ค�ำสง่ั การแสดงเงอื่ นไขตา่ งๆ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของนกั เรยี นทถ่ี กู ตอ้ งเหมาะสมกบั วฒั นธรรมไทย วฒั นธรรม ท้องถ่ิน และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ส่งเสริมให้นกั เรียนใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขียน การส่อื สารและการส่ือความหมายทางภาษาองั กฤษ ในสถานการณจ์ รงิ ปลกู ฝังให้ผเู้ รยี นมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งม่ันในการท�ำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ ตลอดจนพฒั นาผ้เู รียนใหเ้ ปน็ ผมู้ ีความสามารถ ในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถ ในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ และความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยี รวมทั้งสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุมชนร่วมพัฒนา และสามารถน�ำแนวคิดตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง มาปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจ�ำวนั ได้อยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ต ๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ต ๑.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ต ๑.๓ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ต ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ต ๒.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ต ๓.๑ ม.๓/๑ ต ๔.๑ ม.๓/๑ ต ๔.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๑ ตัวชว้ี ัด

222 กล่มุ สาระการเรียนรูน้ าฏศิลป์ไทย โขน สาระท่ี ๑ การฝึกหดั เบื้องต้น และนาฏยศพั ท์ขน้ั พ้นื ฐาน มาตรฐาน ศ ๑.๑ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับท่ีมา ความหมาย หลกั การปฏิบัติ รวมทัง้ เหน็ คุณค่า ของการฝกึ หัดเบ้ืองตน้ และนาฏยศพั ท์ข้ันพื้นฐาน มาตรฐาน ศ ๑.๒ มีทักษะปฏบิ ัตกิ ารฝึกหัดเบ้ืองต้น และนาฏยศัพท์ขน้ั พ้นื ฐานได้อย่างถกู ต้องตามแบบแผน สาระท่ี ๒ รำ�พืน้ ฐาน แม่ทา่ มาตรฐาน ศ ๒.๑ มคี วามรูค้ วามเข้าใจ สามารถอธบิ ายประวัตคิ วามเป็นมาองคป์ ระกอบและประโยชน์ ของการฝึกปฏบิ ตั ิร�ำ พื้นฐาน/แม่ทา่ มาตรฐาน ศ ๒.๒ มที กั ษะในการปฏบิ ตั ริ ำ�พนื้ ฐาน/แม่ทา่ ได้อยา่ งถกู ต้อง ตามแบบแผน สาระที่ ๓ รำ�หน้าพาทย์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ มีความรคู้ วามเขา้ ใจ สามารถอธิบายประวตั ิความเป็นมาองค์ประกอบของรำ�หนา้ พาทย์ มาตรฐาน ศ ๓.๒ มีทักษะในการปฏิบตั ิทา่ ร�ำ เพลงหน้าพาทย์ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตามแบบแผน สาระที่ ๔ รำ�ตรวจพลและพากย์รถ มาตรฐาน ศ ๔.๑ มีความรคู้ วามเข้าใจ สามารถอธบิ ายประวตั คิ วามเป็นมาองค์ประกอบและประโยชน์ ของการรำ�ตรวจพลและพากยร์ ถ มาตรฐาน ศ ๔.๒ มีทกั ษะปฏิบตั ิท่ารำ�ตรวจพล และพากยร์ ถ ไดอ้ ย่างถกู ต้องตามแบบแผน สาระที่ ๕ กระบวนท่ารบและการตีบท มาตรฐาน ศ ๕.๑ มีความรู้ความเข้าใจ สามารถอธิบายประวัติความเปน็ มาองคป์ ระกอบของกระบวนท่ารบ และการตบี ท มาตรฐาน ศ ๕.๒ มีทักษะปฏบิ ัติทา่ รำ�กระบวนทา่ รบ และการตบี ทได้อยา่ งถกู ตอ้ งตามแบบแผน สาระท่ี ๖ ระบำ�เบ็ดเตลด็ เพลงปลกุ ใจหรอื การแสดงพน้ื เมอื ง มาตรฐาน ศ ๖.๑ มคี วามร้คู วามเข้าใจ สามารถอธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มาองคป์ ระกอบของ ระบำ�เบ็ดเตลด็ เพลงปลุกใจหรอื การแสดงพืน้ เมือง มาตรฐาน ศ ๖.๒ มที ักษะปฏบิ ัตทิ ่าร�ำ ระบ�ำ เบด็ เตลด็ เพลงปลกุ ใจ หรอื การแสดงพืน้ เมอื ง ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องตามแบบแผน

223 สาระท่ี ๗ อนุรักษ์เผยแพร่และสืบทอดศลิ ปวัฒนธรรมไทย มาตรฐาน ศ ๗.๑ เข้าใจ และเห็นคณุ ค่านาฏศิลปไ์ ทย วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ นาฏศลิ ปไ์ ทยอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถา่ ยทอดความคิดเห็น ความรูส้ กึ ความคิดริเร่ิมอย่างอิสระสามารถน�ำ ไปประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจ�ำ วัน มาตรฐาน ศ ๗.๒ เข้าใจบทบาทความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ไทยกับประวัติศาสตร์สังคม และวัฒนธรรม อนุรกั ษ์ สืบทอด เผยแพรเ่ ห็นคณุ ค่าของนาฏศลิ ปไ์ ทย อันเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ และภูมิปญั ญาไทย รวมทัง้ สามารถน�ำ ความรมู้ าบรู ณาการได้

224 ผลการเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรนู้ าฏศลิ ป์ไทย โขนพระ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ชัน้ รหัสผลการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.๑ ศ ๑.๑ ม.๑/๑ ๑. อธบิ ายทมี่ า ความหมาย ประโยชน์ • หลักการฝึกหดั เบ้ืองต้น ศ ๑.๑ ม.๑/๒ ของการฝกึ หดั เบือ้ งตน้ และ - การน่ัง นาฏยศัพทเ์ บื้องต้นได้ - การทรงตวั ๒. ศกึ ษาหลักการปฏิบัติ - การตบเข่า การฝึกหดั เบ้ืองตน้ และ - การถองสะเอว นาฏยศัพท์เบื้องตน้ ได้ - การเต้นเสา - การถีบเหลย่ี ม - การดดั มอื ดดั แขน ฯลฯ ทม่ี าความหมาย หลกั การวิธีฝกึ ปฏบิ ัติ ท่านาฏยศพั ทพ์ ้นื ฐาน - ต้ังวง - จีบ - ประเท้า - กระดกเท้า - ถดั เทา้ - ขย่นั - เกบ็ - ยืดกระทบ - ยกเทา้ - กระทงุ้ เท้า ฯลฯ ศ ๑.๒ ม.๑/๑ ๑. ปฏบิ ัตทิ า่ ฝึกหัดเบอื้ งต้น • หลกั การฝึกหัดเบื้องต้น ศ ๑.๒ ม.๑/๒ ไดถ้ ูกตอ้ งตามแบบแผน - การน่ัง ๒. ปฏบิ ตั นิ าฏยศพั ทเ์ บอื้ งตน้ - การทรงตวั ได้ถูกต้องตามแบบแผน - การตบเขา่ - การถองสะเอว - การเต้นเสา - การถีบเหลีย่ ม - การดัดมือ ดดั แขน ฯลฯ ที่มาความหมาย หลกั การวธิ ฝี กึ ปฏบิ ตั ิ ท่านาฏยศัพท์พื้นฐาน

225 ชั้น รหสั ผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ - ต้ังวง - จบี - ประเทา้ - กระดกเท้า - ถดั เท้า - ขย่นั - เกบ็ - ยืดกระทบ - ยกเทา้ - กระทุ้งเทา้ ฯลฯ ศ ๒.๑ ม.๑/๑ ๑. อธิบายประวัติความเป็นมาของ • ประวตั คิ วามเปน็ มาของการร�ำ เพลงชา้ การร�ำ เพลงชา้ • องคป์ ระกอบของการรำ�เพลงช้า ศ ๒.๑ ม.๑/๒ ๒. ระบอุ งคป์ ระกอบของการร�ำ เพลงชา้ • ประโยชน์ของการฝึกปฏิบตั กิ ารร�ำ เพลงชา้ ศ ๒.๑ ม.๑/๓ ๓. อธิบายประโยชน์ของการ • ประวตั ิความเปน็ มาของการรำ�เพลงเรว็ ฝกึ ปฏิบตั กิ ารรำ�เพลงช้า • องคป์ ระกอบของการร�ำ เพลงเร็ว ศ ๒.๑ ม.๑/๔ ๔. อธบิ ายประวตั ิความเป็นมา • ประโยชน์ของการฝกึ ปฏิบัติการรำ�เพลงเร็ว ของการรำ�เพลงเร็ว ศ ๒.๑ ม.๑/๕ ๕. ระบอุ งค์ประกอบของการ รำ�เพลงเร็ว ศ ๒.๑ ม.๑/๖ ๖. อธบิ ายประโยชน์ของการ ฝกึ ปฏบิ ัติการรำ�เพลงเรว็ ศ ๒.๒ ม.๑/๑ ๑. ออกเสยี งตามจงั หวะหนา้ ทบั ปรบไก่ • จังหวะหน้าทับปรบไก่ ศ ๒.๒ ม.๑/๒ ๒. ร้องท�ำ นองเพลงสรอ้ ยสน • ทำ�นองเพลงสรอ้ ยสน ศ ๒.๒ ม.๑/๓ ไดถ้ ูกต้อง • ทา่ รำ�เพลงชา้ ศ ๒.๒ ม.๑/๔ ๓. ปฏบิ ตั ิท่าร�ำ เพลงช้าไดถ้ กู ตอ้ ง • จงั หวะหนา้ ทับสองไม้ ศ ๒.๒ ม.๑/๕ ตามแบบแผน • ทำ�นองเพลงแม่วอนลกู ๔. ออกเสยี งตามจังหวะหน้าทับ • ทา่ ร�ำ เพลงเร็ว สองไม้ ๕. รอ้ งทำ�นองเพลงแม่วอนลูก ได้ถกู ตอ้ ง

226 ชั้น รหสั ผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง • ประวตั ิและนาฏยศพั ทข์ อง ม.๑ ศ ๒.๒ ม.๑/๖ ๖. ปฏิบตั ิท่ารำ�เพลงเร็วไดถ้ ูกต้อง เพลงหนา้ พาทย์เชิด - เสมอ องคป์ ระกอบ ตามแบบแผน - เครอื่ งแตง่ กาย - เครือ่ งดนตรี ศ ๔.๑ ม.๑/๑ ๑. อธบิ ายประวัติความเปน็ มา - ทำ�นองเพลง นาฏยศัพท์และองคป์ ระกอบ - โอกาสทใ่ี ช้ ของเพลงหนา้ พาทย์ เชดิ -เสมอ ศ ๔.๒ ม.๑/๑ ๑. ปฏิบตั ทิ า่ รำ�เพลงหนา้ พาทย์ • ท่าร�ำ เพลงหนา้ พาทย์ เชดิ - เสมอ ศ ๖.๑ ม.๑/๑ เชิด-เสมอ ได้ถูกต้องตามแบบแผน ศ ๖.๑ ม.๑/๒ ๑. อธบิ ายประวัติความเป็นมา • ประวัติความเป็นมาและองค์ประกอบของ ศ ๖.๑ ม.๑/๓ และองค์ประกอบของระบำ�เบ็ดเตล็ด ระบ�ำ เบ็ดเตล็ด ชดุ ร�ำ วงมาตรฐาน ศ ๖.๒ ม.๑/๑ ชดุ ร�ำ วงมาตรฐาน • ประวัติความเปน็ มาและองค์ประกอบ ศ ๖.๒ ม.๑/๒ ๒. อธิบายประวัติความเป็นมาและ ของเพลงปลุกใจเราสู้ ศ ๖.๒ ม.๑/๓ องค์ประกอบของเพลงปลกุ ใจเราสู้ • ประวตั คิ วามเปน็ มาและองค์ประกอบ ศ ๖.๒ ม.๑/๔ ๓. อธิบายประวัติความเป็นมาและ ของเพลงกราวเงาะ ศ ๖.๒ ม.๑/๕ องค์ประกอบของเพลงกราวเงาะ ศ ๖.๒ ม.๑/๖ ๑. ร้องเพลงร�ำ วงมาตรฐาน • เพลงร�ำ วงมาตรฐาน ได้ถกู ตอ้ ง • ท่าร�ำ เพลงร�ำ วงมาตรฐาน ๒. ปฏิบัติท่ารำ�เพลงรำ�วงมาตรฐาน • เพลงปลกุ ใจเราสู้ ได้อย่างถูกต้องตามแบบแผน • ท่าร�ำ เพลงปลุกใจ ๓. รอ้ งเพลงปลุกใจเราส้ไู ดถ้ กู ต้อง • เพลงกราวเงาะ ๔. ปฏิบัติท่ารำ�เพลงปลุกใจเราสู้ได้ • ทา่ ร�ำ เพลงกราวเงาะ อย่างถูกต้องตามแบบแผน ๕. รอ้ งเพลงกราวเงาะได้ถกู ต้อง ๖. ปฏบิ ตั ทิ ่าร�ำ เพลงกราวเงาะ ไดอ้ ย่างถูกต้องตามแบบแผน

227 รหสั วชิ า ศ ๒๑๒๐๑ ค�ำ อธิบายรายวชิ า ชอ่ื รายวิชานาฏศลิ ป์ไทย โขนพระ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนร้นู าฏศลิ ปไ์ ทย โขน ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๒๔๐ ช่วั โมง จ�ำ นวน ๖ หน่วยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประวัติ ความเป็นมา ความหมาย ประโยชน์และหลักการปฏิบัติการฝึกหัดเบ้ืองต้นและนาฏยศัพท์เบื้องต้น บอกประวัตคิ วามเป็นมา ระบอุ งค์ประกอบและประโยชน์ของการร�ำเพลงชา้ และเพลงหนา้ พาทย์ เชดิ -เสมอ ปฏิบัติท่าฝึกหัดเบื้องต้น นาฏยศัพท์เบ้ืองต้น ออกเสียงตามจังหวะหน้าทับ ปรบไก่ ร้องท�ำนองเพลงสร้อยสน มีทกั ษะในปฏิบตั ิทา่ ร�ำเพลงชา้ และเพลงหน้าพาทยเ์ ชดิ -เสมอ เห็นคุณค่าและตระหนักในศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ปลูกฝังให้ผู้เรียน มีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์คือ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอื่ สัตย์สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ย่างพอเพียง มุง่ มนั่ ในการท�ำงาน รกั ความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะ มีสมรรถนะส�ำคัญ คือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถในการคิด ผลการเรยี นรู้ ศ ๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ศ ๑.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ศ ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ศ ๒.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ศ ๓.๑ ม.๑/๑ ศ ๓.๒ ม.๑/๑ รวมผลการเรยี นรู้ ๑๒ ข้อ

228 รหสั วิชา ศ ๒๑๒๐๒ ค�ำ อธบิ ายรายวิชา ชอื่ รายวิชานาฏศลิ ปไ์ ทย โขนพระ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้นาฏศิลปไ์ ทย โขน ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๔๐ ชว่ั โมง จำ�นวน ๖ หนว่ ยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประวัติความเป็นมา ระบุองค์ประกอบ ประโยชน์ของการฝึกปฏิบัติการร�ำเพลงเร็ว มีความรู้ความเข้าใจประวัติ ความเปน็ มานาฏยศัพท์และองค์ประกอบของเพลงร�ำวงมาตรฐาน เพลงปลกุ ใจเราสู้ และเพลงกราวเงาะ ออกเสยี งตามจงั หวะหนา้ ทบั สองไม้ รอ้ งท�ำนองเพลงแมว่ อนลกู และรอ้ งเพลงปลกุ ใจเราสู้ มที กั ษะในการฝกึ ปฏบิ ตั ิ ท่าร�ำเพลงเรว็ เพลงร�ำวงมาตรฐาน เพลงปลกุ ใจเราสู้ และเพลงกราวเงาะ เห็นคุณค่าและตระหนักในศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติปลูกฝังให้ผู้เรียน มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คอื รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่นั ในการท�ำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ มีสมรรถนะส�ำคญั คือ ความสามารถในการสอ่ื สารและความสามารถในการคดิ ผลการเรยี นรู้ ศ ๒.๑ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ศ ๒.๒ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ศ ๖.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ศ ๖.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ รวมผลการเรียนรู้ ๑๕ ข้อ

229 ผลการเรียนรู้กล่มุ สาระการเรียนรนู้ าฏศิลปไ์ ทย โขนพระ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ช้ัน รหสั ผลการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.๒ ศ ๒.๑ ม.๒/๑ ๑. อธิบายประวัติความเปน็ มานาฏยศัพท์ • ประวตั ิและนาฏยศพั ท์ องคป์ ระกอบ และองคป์ ระกอบของร�ำ แม่บทใหญ่ เคร่ืองแต่งกายเคร่อื งดนตรี บทร้อง ศ ๒.๑ ม.๒/๒ ๒. อธิบายประวัติความเป็นมานาฏยศัพท์ และท�ำ นองเพลง โอกาสท่ใี ชข้ องรำ�แมบ่ ทใหญ่ และองค์ประกอบของรำ�แมบ่ ทเล็ก และแมบ่ ทเล็ก ศ ๒.๒ ม.๒/๑ ๑. รอ้ งเพลงชมตลาด (แมบ่ ทใหญ)่ • เพลงชมตลาด (แมบ่ ทใหญ)่ ศ ๒.๒ ม.๒/๒ ได้ถูกต้องตามบทร้อง ท�ำ นอง และจงั หวะ • กระบวนท่าร�ำ แม่บทใหญ่ ศ ๒.๒ ม.๒/๓ ๒. ปฏบิ ตั กิ ระบวนท่ารำ�แม่บทใหญ่ • เพลงชมตลาด (แมบ่ ทเล็ก) ศ ๒.๒ ม.๒/๔ อยา่ งถูกตอ้ งตามแบบแผน • กระบวนท่าร�ำ แม่บทเล็ก ๓. รอ้ งเพลงชมตลาด (แม่บทเลก็ ) ไดถ้ กู ต้องตามบทรอ้ ง ท�ำ นองและจงั หวะ ๔. ปฏบิ ัตกิ ระบวนท่ารำ�แมบ่ ทเล็ก อย่างถูกตอ้ งตามแบบแผน ศ ๓.๑ ม.๒/๑ ๑. บอกความส�ำ คญั และโอกาสทใี่ ช้ การรา่ ย • ความส�ำ คญั โอกาสท่ใี ช้การรำ�รา่ ย ประกอบเพลงหนา้ พาทย์ • ประวตั คิ วามเปน็ มา องคป์ ระกอบ ศ ๓.๑ ม.๒/๒ ๒. อธิบายประวตั คิ วามเปน็ มา ของรำ�หน้าพาทยเ์ พลงเหาะ เพลงโคมเวียน ความส�ำ คญั องคป์ ระกอบของร�ำ หนา้ พาทย์ เพลงเหาะ เพลงโคมเวียน ศ ๓.๒ ม.๒/๑ ๑. ปฏบิ ตั ิทา่ ร�ำ รา่ ยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง • กระบวนท่ารำ�รา่ ย ตามแบบแผน • กระบวนท่าร�ำ เพลงเหาะ ศ ๓.๒ ม.๒/๒ ๒. ปฏบิ ตั ิกระบวนท่ารำ�หนา้ พาทย์ • กระบวนทา่ ร�ำ โคมเวียน เพลงเหาะ เพลงโคมเวยี น ศ ๖.๑ ม.๒/๑ ๑. อธิบายประวัติความเป็นมานาฏยศัพท์ • ประวตั ิความเปน็ มานาฏยศัพท์ และองค์ประกอบของฟอ้ นเงย้ี ว และองค์ประกอบของฟอ้ นเง้ยี ว • ประวัตคิ วามเปน็ มานาฏยศัพท์ และองค์ประกอบของระบ�ำ เบด็ เตล็ด

230 ชั้น รหัสผลการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.๒ ศ ๖.๑ ม.๒/๒ ๒. อธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มานาฏยศพั ท์ • รำ�วงมาตรฐานเพลงคืนเดือนหงาย และองค์ประกอบของระบำ�เบด็ เตล็ด เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญและเพลงดอกไม้ ร�ำ วงมาตรฐาน เพลงคนื เดือนหงาย ของชาติ เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ และเพลงดอกไม้ • ประวตั คิ วามเปน็ มาและองคป์ ระกอบของ ของชาติ เพลงปลุกใจศรีอยธุ ยา ศ ๖.๑ ม.๒/๓ ๓. อธบิ ายประวัตคิ วามเป็นมาและ องคป์ ระกอบของเพลงปลกุ ใจศรีอยธุ ยา ศ ๖.๒ ม.๒/๑ ๑. ร้องเพลงระบ�ำ เบ็ดเตลด็ เพลงฟ้อนเงีย้ ว • เพลงฟอ้ นเงี้ยว ศ ๖.๒ ม.๒/๒ ไดถ้ กู ต้อง • กระบวนท่ารำ�เพลงฟ้อนเงี้ยว ศ ๖.๒ ม.๒/๓ ๒. ปฏิบัติกระบวนทา่ ร�ำ เบ็ดเตล็ด • ร�ำ วงมาตรฐานเพลงคนื เดือนหงาย ศ ๖.๒ ม.๒/๔ เพลงฟอ้ นเงีย้ วไดถ้ ูกตอ้ งตามแบบแผน เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญและเพลงดอกไม้ ศ ๖.๒ ม.๒/๕ ๓. รอ้ งเพลงรำ�วงมาตรฐานได้ถกู ตอ้ ง ของชาติ ศ ๖.๒ ม.๒/๖ ๔. ปฏิบตั ทิ ่าร�ำ วงมาตรฐานไดถ้ ูกต้องตาม • ทา่ ร�ำ วงมาตรฐานเพลงคืนเดอื นหงาย แบบแผน เพลงดวงจนั ทร์วนั เพญ็ และเพลงดอกไม้ ๕. ร้องเพลงปลกุ ใจศรอี ยธุ ยาไดถ้ ูกต้อง ของชาติ ๖. ปฏบิ ตั ทิ ่าร�ำ เพลงปลกุ ใจศรีอยธุ ยา • เพลงปลกุ ใจศรอี ยธุ ยา ไดอ้ ย่างถกู ต้องตามแบบแผน • ทา่ รำ�เพลงปลกุ ใจศรีอยธุ ยา

231 รหัสวชิ า ศ ๒๒๒๐๑ คำ�อธบิ ายรายวชิ า ชื่อรายวิชานาฏศิลป์ไทย โขนพระ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรนู้ าฏศิลป์ไทย โขน ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๒๔๐ ชัว่ โมง จ�ำ นวน ๖ หนว่ ยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประวัตคิ วามเป็นมานาฏยศัพท์ ความส�ำคัญ โอกาสที่ใชแ้ ละองคป์ ระกอบของร�ำแมบ่ ทใหญ่ การร�ำรา่ ยประกอบ เพลงหนา้ พาทย์ และร�ำหน้าพาทย์เพลงเหาะ เพลงโคมเวียน รอ้ งเพลงชมตลาด (แมบ่ ทใหญ)่ ไดถ้ กู ตอ้ งตามบทรอ้ ง ท�ำนอง และจงั หวะปฏบิ ตั กิ ระบวนทา่ ร�ำแมบ่ ทใหญ่ ทา่ ร�ำรา่ ย และร�ำหน้าพาทย์เพลงเหาะ เพลงโคมเวยี น เห็นคุณค่าและตระหนักในศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ปลูกฝัง ให้ผู้เรียน มคี ณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คอื รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสตั ย์สจุ รติ มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มั่นในการท�ำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ มสี มรรถนะส�ำคญั คอื ความสามารถในการแกป้ ญั หาและความสามารถในการใชท้ กั ษะ ชวี ิต ผลการเรยี นรู้ ศ ๒.๑ ม.๒/๑ ศ ๒.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ศ ๓.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ศ ๓.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ รวมผลการเรียนรู้ ๗ ข้อ

232 รหสั วชิ า ศ ๒๒๒๐๒ คำ�อธบิ ายรายวิชา ชือ่ รายวิชานาฏศลิ ป์ไทย โขนพระ ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรนู้ าฏศลิ ปไ์ ทย โขน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา ๒๔๐ ช่วั โมง จำ�นวน ๖ หนว่ ยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประวัติความเป็นมา นาฏยศัพท์ ความส�ำคัญและองค์ประกอบของร�ำแม่บทเล็ก ระบ�ำเบ็ดเตล็ดเพลงฟ้อนเงี้ยว ร�ำวงมาตรฐาน และเพลงปลกุ ใจศรีอยุธยา รอ้ งเพลงชมตลาด (แมบ่ ทเล็ก) เพลงร�ำวงมาตรฐาน เพลงระบ�ำเบ็ดเตลด็ ชุดฟ้อนเงีย้ ว และเพลงปลุกใจศรอี ยุธยา ได้ถกู ต้องตามบทร้อง ท�ำนอง และจังหวะปฏบิ ัตกิ ระบวนทา่ ร�ำแมบ่ ทเลก็ ระบ�ำเบ็ดเตล็ดชดุ ฟอ้ นเง้ยี ว ร�ำวงมาตรฐาน และ เพลงปลุกใจศรีอยธุ ยา เห็นคุณค่าและตระหนักในศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ปลูกฝังให้ผู้เรียน มีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คือ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซื่อสตั ยส์ จุ ริต มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมน่ั ในการท�ำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ มสี มรรถนะส�ำคญั คอื ความสามารถในการแกป้ ญั หาและความสามารถในการใชท้ กั ษะ ชวี ิต ผลการเรียนรู้ ศ ๒.๑ ม.๒/๒ ศ ๒.๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ศ ๖.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ศ ๖.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖ รวมผลการเรยี นรู้ ๑๒ ขอ้

233 ผลการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรยี นรนู้ าฏศิลปไ์ ทย โขนพระ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ชน้ั รหสั ผลการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.๓ ศ ๒.๑ ม.๓/๑ ๑. อธิบายประวัติความเป็นมา • ประวตั ิความเปน็ มานาฏยศัพท์และ นาฏยศัพท์และองค์ประกอบของ องค์ประกอบของระบำ�พรหมาสตร์ ระบำ�พรหมาสตร์ ศ ๒.๒ ม.๓/๑ ๑. ร้องเพลงระบำ�พรหมาสตร์ • เพลงระบำ�พรหมาสตร์ ได้ถกู ตอ้ งตามบทร้อง ท�ำ นอง • กระบวนทา่ รำ�ระบำ�พรหมาสตร์ และจงั หวะ ศ ๒.๒ ม.๓/๒ ๒. ปฏบิ ตั กิ ระบวนทา่ รำ� ระบำ� พรหมาสตร์ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งตาม แบบแผน ศ ๓.๑ ม.๓/๑ ๑. อธิบายประวัติความเป็นมา • ประวัติความเป็นมา ความสำ�คัญ องค์ประกอบ ความส�ำ คญั องค์ประกอบ ของรำ�หนา้ พาทยเ์ พลงเชิดฉ่ิง ของร�ำ หน้าพาทย์เพลงเชิดฉ่ิง • ประวตั คิ วามเปน็ มา ความส�ำ คญั องคป์ ระกอบของ ศ ๓.๑ ม.๓/๒ ๒. อธิบายประวัติความเป็นมา รำ�หน้าพาทยเ์ พลงพญาเดนิ ความสำ�คัญ องค์ประกอบ ของร�ำ หน้าพาทยเ์ พลงพญาเดนิ ศ ๓.๒ ม.๓/๑ ๑. ปฏิบัตกิ ระบวนทา่ รำ� • ท่ารำ�หน้าพาทยเ์ พลงเชิดฉง่ิ ศ ๓.๒ ม.๓/๒ หน้าพาทย์ เพลงเชดิ ฉง่ิ ไดถ้ ูกตอ้ ง • ท่าร�ำ หน้าพาทยเ์ พลงพญาเดนิ ตามแบบแผน ๒. ปฏบิ ตั กิ ระบวนทา่ ร�ำ หนา้ พาทย์ เพลงพญาเดนิ ได้ ถูกตอ้ งตามแบบแผน ศ ๔.๑ ม.๓/๑ ๑. อธิบายประวัติความเป็นมา • ประวัตคิ วามเป็นมา ความสำ�คญั ศ ๔.๑ ม.๓/๒ ความส�ำ คญั องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของรำ�ตรวจพล รำ�ตรวจพล • องคป์ ระกอบของพากยร์ ถ ๒. อธบิ ายองคป์ ระกอบของพากย์ รถไดถ้ ูกต้อง

234 ชั้น รหัสผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๓ ศ ๔.๒ ม.๓/๑ ๑. ปฏิบตั ิกระบวนทา่ รำ�ตรวจพล • กระบวนทา่ รำ�ตรวจพลฉาก ๑ และ ๒ ฉาก ๑ และ ๒ ได้ถูกต้อง • กระบวนท่าร�ำ ประกอบบทพากย์รถ ตามแบบแผน ศ ๔.๒ ม.๓/๒ ๒. ปฏิบตั กิ ระบวนท่ารำ�ประกอบ บทพากยร์ ถได้ถูกตอ้ งตาม แบบแผน ศ ๕.๑ ม.๓/๑ ๑ .อธิบายประวัติความเป็นมา • ประวัติความเป็นมา ความสำ�คัญ องค์ประกอบ ความสำ�คัญ องคป์ ระกอบของ ของการรบและการขึ้นลอย การรบและการข้นึ ลอย • หลกั การตีบทเบือ้ งตน้ ศ ๕.๑ ม.๓/๒ ๒. อธบิ ายหลักการตีบทเบ้ืองตน้ ศ ๕.๒ ม.๓/๑ ๑. ปฏิบัติกระบวนท่ารบระหว่าง • กระบวนท่ารบระหว่างพระกบั ยกั ษ์ ศ ๕.๒ ม.๓/๒ พระกบั ยักษแ์ ละข้ึนลอย ๑-๓ และขนึ้ ลอย ๑-๓ ไดถ้ กู ต้องตามแบบแผน • การตีบทเบ้อื งต้น ๒. ปฏิบัตกิ ารตบี ทเบื้องต้น ศ ๖.๑ ม.๓/๑ ๑. อธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มา • ประวตั คิ วามเปน็ มา นาฏยศพั ท์ และองคป์ ระกอบ นาฏยศพั ท์ และองคป์ ระกอบของ ของรำ�วงมาตรฐาน เพลงหญงิ ไทยใจงาม ระบำ�เบ็ดเตล็ด รำ�วงมาตรฐาน เพลงดวงจนั ทรข์ วญั ฟา้ เพลงยอดชายใจหาญ และ เพลงหญิงไทยใจงาม เพลงบชู านักรบ เพลงดวงจันทรข์ วญั ฟา้ • ประวัติความเป็นมาและองค์ประกอบของเพลง เพลงยอดชายใจหาญ ปลุกใจบางระจนั และเพลงบชู านักรบ ศ ๖.๑ ม.๓/๒ ๒. อธิบายประวตั คิ วามเปน็ มา และองคป์ ระกอบของเพลง ปลกุ ใจบางระจัน ศ ๖.๒ ม.๓/๑ ๑. ร้องเพลงร�ำ วงมาตรฐาน • รำ�วงมาตรฐาน เพลงหญิงไทยใจงาม ศ ๖.๒ ม.๓/๒ ได้ถูกตอ้ ง เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า เพลงยอดชายใจหาญ ศ ๖.๒ ม.๓/๓ ๒. ปฏบิ ตั ิทา่ ร�ำ วงมาตรฐาน และเพลงบูชานักรบ ได้ถูกตอ้ งตามแบบแผน • ท่ารำ�วงมาตรฐาน เพลงหญงิ ไทยใจงาม ๓. ร้องเพลงปลุกใจบางระจนั เพลงดวงจนั ทร์ขวญั ฟ้า เพลงยอดชายใจหาญ ได้ถกู ตอ้ ง และเพลงบชู านกั รบ

235 ชนั้ รหัสผลการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.๓ ศ ๖.๒ ม.๓/๔ ๔. ปฏบิ ตั ิทา่ รำ�เพลงปลกุ ใจ • เพลงปลุกใจบางระจนั บางระจันไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง • ท่าร�ำ เพลงปลุกใจ ตามแบบแผน ศ ๗.๑ ม.๓/๑ ๑. วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ และวิจารณ์ • การแสดงโขนอยา่ งสร้างสรรค์ ศ ๗.๑ ม.๓/๒ การแสดงโขน อยา่ งสรา้ งสรรค์ • ทศั นคตทิ ่ีมตี ่อการแสดงโขนอยา่ งสรา้ งสรรค์ ศ ๗.๑ ม.๓/๓ ๒. บอกทศั นคตทิ มี่ ตี อ่ การแสดงโขน • แนวทางการน�ำ การแสดงโขนไปประยุกตใ์ ช้ อยา่ งสร้างสรรค์ ในชวี ิตประจ�ำ วัน ๓. บอกแนวทางการนำ�การแสดง โขนไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจ�ำ วนั ศ ๗.๒ ม.๓/๑ ๑. อธบิ ายบทบาท ความสัมพันธ์ • บทบาทความสัมพันธ์ ระหว่างนาฏศิลป์ไทยกับ ระหวา่ งนาฏศลิ ปไ์ ทยกบั ประวตั ศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ สงั คม และวัฒนธรรม ศ ๗.๒ ม.๓/๒ สงั คมและวฒั นธรรม • แนวทางอนุรักษ์ สบื ทอด เผยแพร่นาฏศิลปไ์ ทย ศ ๗.๒ ม.๓/๓ ๒.บอกแนวทางอนรุ กั ษ์ สบื ทอด • แนวทางการนำ�การแสดงโขนไปบูรณาการใช้กับ เผยแพร่นาฏศิลปไ์ ทย ศาสตร์อนื่ ๆ ได้ ๓. บอกแนวทางการน�ำ การแสดง โขนไปบรู ณาการกับ ใชศ้ าสตรอ์ ่ืนๆ ได้

236 รหสั วชิ า ศ ๒๓๒๐๑ คำ�อธบิ ายรายวิชา ชอื่ รายวชิ านาฏศิลปไ์ ทย โขนพระ ๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้นาฏศลิ ป์ไทย โขน ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๔๐ ช่วั โมง จำ�นวน ๖ หน่วยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประวัติความเป็นมาของนาฏยศัพท์ และองค์ประกอบของร�ำหน้าพาทย์เพลงเชิดฉ่ิง ร�ำหน้าพาทย์เพลงพญาเดิน การตบี ท การรบ และการขน้ึ ลอย ปฏบิ ตั กิ ระบวนท่าร�ำหนา้ พาทยเ์ พลงเชดิ ฉงิ่ ร�ำหนา้ พาทย์เพลงพญาเดิน กระบวนทา่ รบระหวา่ งพระกับยกั ษแ์ ละ ขน้ึ ลอย ๑-๓ การตีบทเบอ้ื งต้น เห็นคุณค่าและตระหนักในศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติปลูกฝังให้ผู้เรียน มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คือ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมนั่ ในการท�ำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ มสี มรรถนะส�ำคญั คอื ความสามารถในการแกป้ ญั หาความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ผลการเรยี นรู้ ศ ๓.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ศ ๓.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ศ ๕.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ศ ๕.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ รวมผลการเรยี นรู้ ๘ ข้อ

237 รหัสวชิ า ศ ๒๓๒๐๒ คำ�อธิบายรายวิชา ช่ือรายวชิ านาฏศลิ ป์ไทย โขนพระ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้นาฏศลิ ปไ์ ทย โขน ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ เวลา ๒๔๐ ชวั่ โมง จำ�นวน ๖ หน่วยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประวัติความเป็นมาของนาฏยศัพท์ และองคป์ ระกอบของระบ�ำพรหมาสตร์ ร�ำตรวจพล พากยร์ ถ ร�ำวงมาตรฐาน และเพลงปลกุ ใจบางระจนั อธบิ ายบทบาทความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศลิ ปไ์ ทยกบั ประวตั ศิ าสตร์ สงั คม และวฒั นธรรม วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์และบอกทัศนคติ แนวทางการน�ำการแสดงโขนไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจ�ำวัน การอนรุ ักษ์ สบื ทอด เผยแพร่ และการน�ำการแสดงโขนไปบรู ณาการกับศาสตรอ์ ่นื ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ รอ้ งเพลงระบ�ำพรหมาสตร์ เพลงร�ำวงมาตรฐาน และเพลงปลกุ บางระจนั ไดถ้ กู ตอ้ งตามบทรอ้ ง ท�ำนอง และจงั หวะ ปฏบิ ตั ิกระบวนท่าร�ำระบ�ำพรหมาสตร์ ทา่ ร�ำตรวจพลฉาก ๑ และ ๒ ทา่ ร�ำประกอบบทพากย์รถ ท่าร�ำเพลงร�ำวงมาตรฐาน ทา่ ร�ำเพลงปลกุ ใจบางระจนั เห็นคุณค่าและตระหนักในศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ปลูกฝัง ให้ผู้เรียน มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คอื รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซือ่ สัตย์สจุ รติ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียง มุ่งม่นั ในการท�ำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมีจิตสาธารณะ มสี มรรถนะส�ำคัญ คอื ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ชวี ติ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ผลการเรยี นรู้ ศ ๒.๑ ม.๓/๑ ศ ๒.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ศ ๔.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ศ ๔.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ศ ๖.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ศ ๖.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ศ ๗.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ศ ๗.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ รวมผลการเรยี นรู้ ๑๙ ขอ้

238 ผลการเรยี นรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรนู้ าฏศลิ ป์ไทย โขนยักษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ชน้ั รหสั ผลการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.๑ ศ ๑.๑ ม.๑/๑ ๑. อธบิ ายทมี่ า ความหมาย ความส�ำ คญั การฝึกหัดเบือ้ งต้น ประโยชนข์ องการฝกึ หดั เบอื้ งตน้ และ - การตบเขา่ นาฏยศพั ท์ขัน้ พื้นฐาน - การถองสะเอว ศ ๑.๑ ม.๑/๒ ๒. ระบุประเภทของการฝกึ หัด - การเต้นเสา เบื้องตน้ และนาฏยศพั ทข์ ั้นพ้ืนฐาน - การถีบเหลยี่ ม ศ ๑.๑ ม.๑/๓ ๓. อธิบายความสำ�คญั ของการฝึกหัด - การดดั มือดดั แขน นาฏยศัพทข์ ั้นพื้นฐาน นาฏยศัพทข์ น้ั พื้นฐาน - เกบ็ - ทอนเท้า - ตะลกึ ตึก - ยืดกระทบ - ยืดยุบ - เตม็ เหลี่ยม ศ ๑.๒ ม.๑/๑ ๑. ปฏบิ ัตกิ ารฝึกหัดเบ้อื งตน้ การฝกึ หัดเบ้ืองต้น - การตบเขา่ - การถองสะเอว - การเตน้ เสา - การถบี เหลยี่ ม - การดัดมือดัดแขน ศ ๑.๒ ม.๑/๒ ๒. ปฏบิ ัตนิ าฏยศัพท์ขั้นพน้ื ฐาน นาฏยศัพท์ข้นั พ้นื ฐาน - เกบ็ - ทอนเท้า - ตะลกึ ตกึ - ยดื กระทบ - ยืดยบุ - เต็มเหล่ยี ม

239 ชนั้ รหัสผลการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.๑ ศ ๒.๑ ม.๑/๑ ๑. อธิบายความส�ำ คญั และประโยชน์ • การฝกึ หัดแมท่ ่าตั้งแต่ท่าน่ังไหว้จนจบทา่ บาก ศ ๒.๑ ม.๑/๒ ของการฝึกหดั แมท่ า่ ศ ๒.๑ ม.๑/๓ ๒. วิเคราะหโ์ ครงสรา้ งของแม่ทา่ ศ ๒.๑ ม.๑/๔ ๓. เข้าใจความสำ�คัญของการฝึกหัด แม่ทา่ ตั้งแตท่ ่าน่ังไหว้จนจบทา่ บาก ศ ๒.๑ ม.๑/๕ ๔. อธิบายวิธีปฏิบัติและประโยชน์ ของการฝึกหดั แม่ท่า ต้งั แตท่ า่ นัง่ ไหว้ ศ ๒.๑ ม.๑/๖ จนจบท่าบาก ศ ๒.๑ ม.๑/๗ ๕. วิเคราะห์เปรียบเทียบโครงสร้าง ความสมั พันธ์และความแตกต่าง ศ ๒.๑ ม.๑/๘ ของแม่ทา่ ๖. เข้าใจความสำ�คัญของการฝึกหัด แมท่ ่าตัง้ แต่ท่า ๑ จนจบ ทา่ ๕ ๗. อธบิ ายวธิ ีปฏิบตั แิ ละประโยชน์ ของการฝึกหดั แมท่ า่ ต้งั แตท่ า่ ๑ จนจบทา่ ๕ ๘. วิเคราะห์เปรียบเทียบโครงสร้าง ความสัมพันธ์ และความแตกต่าง ของแมท่ า่ ศ ๒.๒ ม.๑/๑ ๑. ปฏิบัตทิ ่าแมท่ ่า ศ ๒.๒ ม.๑/๒ ๒. ปฏิบตั แิ มท่ ่าท่ี ๑ – แมท่ ่าที่ ๕ ศ ๓.๑ ม.๑/๑ ๑. บอกความหมายความสำ�คัญและ การฝกึ หัดรำ�หน้าพาทย์ เชิด ประโยชนก์ ารฝกึ หดั ร�ำ หนา้ พาทย์ เชดิ ศ ๓.๑ ม.๑/๒ ๒. อธบิ ายวธิ ปี ฏบิ ตั แิ ละประโยชนข์ อง การฝกึ หัดรำ�หน้าพาทย์ เชิด

240 ชั้น รหสั ผลการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.๑ ศ ๓.๒ ม.๑/๑ ๑. ปฏิบตั ิเพลงหน้าพาทย์ เชิด การฝกึ หัดร�ำ หน้าพาทย์ เชิด ศ ๖.๑ ม.๑/๑ ๑. บอกความหมายความสำ�คัญ และ การฝกึ หัดท่ารำ�ประกอบเพลงรอ้ งระบำ� ประโยชนข์ องระบ�ำ เบ็ดเตล็ด เบ็ดเตลด็ ศ ๖.๑ ม.๑/๒ ๒. อธิบายวธิ ปี ฏิบตั ริ ะบ�ำ เบด็ เตล็ด • ร�ำ วงมาตรฐาน - งามแสงเดือน - ชาวไทย - ร�ำ ซมิ ารำ� • กราวเงาะ • เพลงปลุกใจ - ศรีอยธุ ยา ศ ๖.๒ ม.๑/๑ ๑. ปฏิบตั ริ ะบำ�เบ็ดเตล็ด ฝึกหัดทา่ รำ�ประกอบเพลงร้องระบำ�เบ็ดเตลด็ • รำ�วงมาตรฐาน - งามแสงเดือน - ชาวไทย - ร�ำ ซิมาร�ำ • กราวเงาะ • เพลงปลกุ ใจ - ศรอี ยธุ ยา

241 รหัสวชิ า ศ ๒๑๒๐๓ ค�ำ อธิบายรายวชิ า ชือ่ รายวชิ านาฏศิลป์ไทย โขนยกั ษ์ ๑ กลุ่มสาระการเรียนร้นู าฏศิลปไ์ ทย โขน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๒๔๐ ช่วั โมง จ�ำ นวน ๖ หนว่ ยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประวตั คิ วามเปน็ มา ความหมาย ความส�ำคญั ประโยชนข์ องการฝกึ หดั เบอื้ งตน้ นาฏยศพั ทข์ นั้ พน้ื ฐานและการฝกึ หดั แมท่ า่ ระบปุ ระเภทของการฝกึ หัดเบื้องต้น นาฏยศัพทข์ น้ั พน้ื ฐาน อธบิ ายความส�ำคญั วิธีปฏบิ ตั แิ ละประโยชน์ของการฝกึ หัด แมท่ ่าเบือ้ งต้น แม่ท่าท่ี ๑ วิเคราะหเ์ ปรยี บเทยี บโครงสร้างความสัมพันธ์ และความแตกต่างของแมท่ ่าเบื้องตน้ แม่ทา่ ท่ี ๑ ปฏิบัติการฝึกหัดเบ้ืองต้น การตบเข่า การถองสะเอว การเต้นเสา การถีบเหลี่ยม การดัดมือดัดแขน ปฏิบัตินาฏยศัพทข์ ัน้ พน้ื ฐาน เกบ็ ทอนเทา้ ตะลกึ ตึก ยดื กระทบ ยดื ยบุ เต็มเหลีย่ ม ปฏบิ ตั ิแมท่ ่าเบื้องต้น ตง้ั แต่ทา่ นง่ั ไหว้ จนจบท่าบาก และแม่ทา่ ที่ ๑ เห็นคุณค่าและตระหนักในศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ปลูกฝังให้ผู้เรียน มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คอื รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอ่ื สัตย์สจุ รติ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุง่ ม่ันในการท�ำงาน รักความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะ มีสมรรถนะส�ำคัญ คือ ความสามารถในการส่อื สารและความสามารถในการคดิ ผลการเรยี นรู้ ศ ๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ศ ๑.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ศ ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ศ ๒.๒ ม.๑/๑ รวมผลการเรยี นรู้ ๑๑ ขอ้

242 รหสั วชิ า ศ ๒๑๒๐๔ ค�ำ อธบิ ายรายวิชา ชื่อรายวชิ านาฏศิลปไ์ ทย โขนยกั ษ์ ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรูน้ าฏศลิ ป์ไทย โขน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๒๔๐ ช่ัวโมง จ�ำ นวน ๖ หนว่ ยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประวตั คิ วามเปน็ มา ความหมาย ความส�ำคญั ประโยชนข์ องการฝกึ หดั แมท่ า่ วธิ ปี ฏบิ ตั แิ ละประโยชน์ ของการฝกึ หดั แม่ท่าท่ี ๒ – แม่ท่าท่ี ๕ ร�ำหน้าพาทย์ เพลงเชิดระบ�ำเบ็ดเตล็ด วิเคราะห์เปรียบเทียบโครงสร้างความสัมพันธ์และ ความแตกตา่ งของแมท่ า่ ท่ี ๒ - แมท่ ่าที่ ๕ ปฏบิ ตั แิ มท่ า่ ที่ ๒ – แมท่ า่ ที่ ๕ ร�ำหนา้ พาทย์ เพลงเชดิ ฝกึ หดั ทา่ ร�ำประกอบเพลงรอ้ งระบ�ำเบด็ เตลด็ ร�ำวงมาตรฐาน งามแสงเดือน ชาวไทย ร�ำซมิ าร�ำ กราวเงาะ เพลงปลกุ ใจ เราสู้ เห็นคุณค่าและตระหนักในศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ปลูกฝังให้ผู้เรียน มีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คือ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอื่ สัตยส์ จุ รติ มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ มน่ั ในการท�ำงาน รกั ความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ มสี มรรถนะส�ำคญั คอื ความสามารถในการสือ่ สารและความสามารถในการคดิ ผลการเรียนรู้ ศ ๒.๑ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ศ ๒.๒ ม.๑/๒ ศ ๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ศ ๓.๒ ม.๑/๑ ศ ๖.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ศ ๖.๒ ม.๑/๑ รวมผลการเรยี นรู้ ๑๐ ขอ้

243 ผลการเรยี นรูก้ ลุ่มสาระการเรยี นรู้นาฏศิลปไ์ ทย โขนยักษ์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ชัน้ รหัสผลการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ม.๒ ศ ๓.๑ ม.๒/๑ ๑. บอกความหมายความส�ำ คญั และ • การฝึกหดั ร�ำ หน้าพาทย์ เสมอ ประโยชน์การฝกึ หดั รำ�หน้าพาทย์ เสมอ ศ ๓.๑ ม.๒/๒ ๒. อธิบายวิธีปฏิบัติและประโยชน์ ของการฝกึ หัดร�ำ หน้าพาทย์ เสมอ ศ ๓.๒ ม.๒/๑ ๑. ปฏิบัตเิ พลงหน้าพาทย์ เสมอ • การฝึกหัดรำ�หน้าพาทย์ เสมอ ศ ๔.๑ ม.๒/๑ ๑. บอกความหมายความส�ำ คญั และ • การฝกึ หดั ร�ำ ตรวจพล เพลงกราวในและพากยร์ ถ ประโยชน์ของการ - ธงยักษ์ รำ�ตรวจพลและพากย์รถ - เขนยักษ์ ศ ๔.๑ ม.๒/๒ ๒. อธิบายวิธีปฏบิ ัติ - เสนายกั ษ์ ร�ำ ตรวจพลและพากย์รถ ศ ๔.๒ ม.๒/๑ ๑. ปฏิบัติทา่ ร�ำ ตรวจพล • ฝึกหัดร�ำ ตรวจพล เพลงกราวในและพากยร์ ถ เพลงกราวในและพากยร์ ถ - ธงยกั ษ์ - เขนยักษ์ - เสนายักษ์ ศ ๕.๑ ม.๒/๑ ๑. บอกความหมายความส�ำ คญั และ • การฝึกหัดกระบวนทา่ รบและการตีบท ศ ๕.๑ ม.๒/๒ ประโยชน์ของกระบวน - ตบี ท ทา้ รบ ท่ารบและการตีบท - ทา่ รบระหวา่ ง ๒. อธิบายวธิ ีปฏบิ ตั ิกระบวน เสนายักษ์กับสิบแปดมงกฎุ ท่า ๑ - ๔ ท่ารบและการตีบท ด้วยอาวธุ กระบอง ศ ๕.๒ ม.๒/๑ ๑. ปฏิบัตกิ ระบวนท่ารบ • ฝกึ หัดกระบวนทา่ รบและตบี ท และตบี ท - ตีบท ทา้ รบ - ทา่ รบระหว่าง เสนายักษก์ บั สบิ แปดมงกุฎท่า ๑ - ๔ ด้วยอาวุธกระบอง

244 ช้ัน รหัสผลการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๒ ศ ๖.๑ ม.๒/๑ ๑. บอกความหมายความสำ�คัญ การฝกึ หดั ทา่ ร�ำ ประกอบเพลงรอ้ งระบ�ำ เบด็ เตลด็ และประโยชนข์ องระบำ�เบด็ เตล็ด • รำ�วงมาตรฐาน ศ ๖.๑ ม.๒/๒ ๒. อธิบายวธิ ปี ฏบิ ตั ิระบ�ำ เบ็ดเตล็ด - เพลงคืนเดอื นหงาย - เพลงดวงจนั ทร์วันเพญ็ - เพลงขวญั ใจดอกไมข้ องชาติ • เพลงปลุกใจ - เพลงเราสู้ ศ ๖.๒ ม.๒/๑ ๑. ปฏิบัติระบ�ำ เบด็ เตล็ด ฝึกหัดท่ารำ�ประกอบเพลงรอ้ งระบำ�เบ็ดเตลด็ • ร�ำ วงมาตรฐาน - เพลงคืนเดือนหงาย - พลงดวงจนั ทรว์ ันเพ็ญ - เพลงขวัญใจดอกไม้ของชาติ • เพลงปลกุ ใจ - เพลงเราสู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook