แผนการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ ม.1

บนั ทกึ หลงั การสอนผลการจัดการเรียนการสอน____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ปัญหา / อปุ สรรค____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________แนวทางแก้ไข____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงชื่อ__________________ (ผบู้ นั ทึก) (__________________) _____/_____/_____

ใบงำนที่ 3 ประเทศในสมยั อำณำนิคม ได้คะแนนวนั ท่ี เดือน พ.ศ.ช่ือ ช้ัน เลขที่ คะแนนเตม็ 15 คะแนนให้นักเรียนนำช่ือประเทศทก่ี ำหนด เติมลงหน้ำข้อควำมทมี่ ีควำมสัมพนั ธ์กนั (ข้อละ 1 คะแนน)พม่ำ อนิ โดนีเซีย เวยี ดนำม สเปน ลำวโปรตุเกส องั กฤษ กมั พูชำ ฟิ ลปิ ปิ นส์ สิงคโปร์เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกำ ฝร่ังเศส มำเลเซีย ตมิ อร์ตะวนั ออก..........................................1. มีศูนยก์ ลางการคา้ ที่มาเกา๊..........................................2. ฟ้ื นฟูความสัมพนั ธ์กบั ไทยและมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกนั..........................................3. แนวร่วมปลดปล่อยมุสลิมโมโรและกลุ่มอาบูไซยฟั..........................................4. จดั สรรที่ดินใหผ้ ปู้ กครองผวิ ขาวเก็บภาษี..........................................5. อาณานิคมแห่งแรกที่ไดร้ ับเอกราชจากองั กฤษ..........................................6. ประชาชนประมาณ 1.7 ลา้ นคน ถูกสังหารในฐานะศตั รูของการปฏิวตั ิ..........................................7. นโยบายกีดกนั ชาวจีนและชาวอินเดีย..........................................8. ไทยไดท้ าสญั ญายกสิทธิเหนือรัฐมลายตู อนบนให้..........................................9. รายไดห้ ลกั มาจากการใหอ้ อสเตรเลียขดุ เจาะน้ามนั..........................................10. การเขา้ ยดึ ครองเป็นผลมาจากการทาสงครามกบั สเปน..........................................11. ธุรกิจส่วนใหญ่ผกู ขาดโดยนกั ธุรกิจชาวจีน..........................................12. เมืองท่านานาชาติที่สาคญั ในเอเชีย-แปซิฟิ ก..........................................13. บงั คบั ใหช้ าวพ้นื เมืองปลูกพืชเศรษฐกิจ..........................................14. ขยายอิทธิพลในอินโดจีนโดยไดร้ ับการสนบั สนุนจากโซเวยี ต..........................................15. แบง่ การปกครองอินโดจีนเป็ น 2 แบบ คือ โคชินจีนและรัฐอารักขา

ใบงำนท่ี 4 พฒั นำกำรของรัฐในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ได้คะแนนวนั ท่ี เดือน พ.ศ. คะแนนเต็ม 10 คะแนนช่ือ ช้ัน เลขท่ีให้นักเรียนเตมิ คำหรือข้อควำมลงในช่องว่ำงให้ได้ใจควำมสมบูรณ์1. ทรัพยากรที่สาคญั ในภูมิภาคเอเชียมีอะไรบา้ ง แต่ละชนิดมีผลต่อภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ อยา่ งไร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................2. อาณาจกั รไทย (สยาม) มีพฒั นาการมาจากอาณาจกั รใดและอาณาจกั รดงั กล่าวมีลกั ษณะภูมิประเทศ อยา่ งไร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................3. เหตุใดศาสนาพทุ ธนิกายเถรวาทจึงเขา้ มามีบทบาทในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตอ้ ีกคร้ังในพุทธศตวรรษ ท่ี 18 ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................4. แนวความคิดแบบชาตินิยมท่ีเร่ิมข้ึนต้งั แต่พุทธศตวรรษที่ 25 มีลกั ษณะอยา่ งไร ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................5. แหล่งอารยธรรมในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีความสาคญั อยา่ งไร ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ตามแนวทางของ Backward Designหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง ความเป็ นมาและการต้ังหลกั แหล่งในดนิ แดนประเทศไทยรหสั -ช่ือรายวชิ า ส 211 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม: ประวตั ศิ าสตร์ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1 ภาคเรียนที่ - เวลา 7 ช่ัวโมงผ้สู อน .................................................................... โรงเรียน .....................................................................มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธารงความเป็ นไทย ตัวชี้วดั มฐ.ส 4.3 ม. 1/1 อธิบายเรื่องราวทางประวตั ิศาสตร์สมยั ก่อนสุโขทยั ในดินแดนไทย โดยสงั เขปสาระสาคญั จากสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ท่ีเหมาะสมต่อการต้งั หลกั แหล่งและค้าขายอีกท้งั ยงัอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติของดินแดนประเทศไทย ส่งเสริมให้มนุษยห์ ลายเผ่าพนั ธุ์เข้ามาต้งั หลักแหล่ง เกิดการผสมผสานด้านเช้ือชาติ วฒั นธรรม สืบเน่ืองต่อมาถึงรัฐไทย โดยแบ่งออกเป็ นสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์และสมยั ประวตั ิศาสตร์ อารยธรรมโบราณในดินแดนประเทศไทยก่อนการต้งั รัฐไทย มีอิทธิพลต่อความเจริญและพฒั นาการของอารยธรรมไทยสาระการเรียนรู้1. ความรู้ 1.1 การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ 1.2 การต้งั ถิ่นฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์ 1.3 อิทธิพลของอารยธรรมโบราณในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ่ีมีผลตอ่ พฒั นาการ ของไทย

2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ การจาแนก การสังเคราะห์ การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสรุปความรู้ 3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รักความเป็นไทย มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) 1. ใบงานที่ 5 การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย 2. ใบงานที่ 6 ความเป็นมาและการต้งั หลกั แหล่งในดินแดนประเทศไทย

การประเมนิ ผลใบงานท่ี 5 การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย เกณฑ์ 4 ระดบั คะแนน 1 การประเมิน (10 คะแนน) (5-6 คะแนน) 32เขียนอธิบาย (9 คะแนน) (7-8 คะแนน)หรือสรุปเกี่ยวกบั แหล่ง เขียนอธิบาย เขียนอธิบาย เขียนอธิบาย เขียนอธิบายโบราณคดีที่สมั พนั ธ์กบั หรือสรุป หรือสรุป หรือสรุป หรือสรุปลาน้าและลุ่มน้า เกี่ยวกบั แหล่ง เก่ียวกบั แหล่งในแผนที่ โบราณคดีท่ี โบราณคดีที่ เก่ียวกบั แหล่ง เก่ียวกบั แหล่งประเทศไทย สัมพนั ธ์กบั สมั พนั ธ์กบัท่ีกาหนดให้ ลาน้าและลุ่มน้า ลาน้าและลุ่มน้า โบราณคดีที่ โบราณคดีที่ ในแผนที่ ในแผนที่ ประเทศไทย สมั พนั ธ์กบั สมั พนั ธ์กบั ท่ีกาหนดให้ ประเทศไทย ไดส้ ัมพนั ธ์กนั ที่กาหนดให้ ลาน้าและลุ่มน้า ลาน้าและลุ่มน้า มีการเชื่อมโยง ไดม้ ีการจาแนก แหล่งโบราณคดี ขอ้ มูล ใหเ้ ห็นถึง ในแผนท่ี ในแผนท่ี ความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งแหล่ง ประเทศไทย ประเทศไทย ที่กาหนดให้ ที่กาหนดให้ ไดส้ อดคลอ้ งกบั ได้ แต่ยงั ไม่ ขอ้ มูล มีการ สอดคลอ้ งกบั เขียนขยายความ ขอ้ มูลและไมม่ ี และยกตวั อยา่ ง การยกตวั อยา่ ง กบั หลกั ฐานท่ี โบราณคดีกบั เพิ่มเติมใหเ้ ขา้ ใจ เพิ่มเติม คน้ พบใหเ้ ห็น หลกั ฐานทาง ง่าย เป็ นภาพรวม ประวตั ิศาสตร์ แสดงถึง อยา่ งสมเหตุ ความสัมพนั ธ์ สมผล หลกั ฐานทาง ประวตั ิศาสตร์ได้ ถูกตอ้ งครบถว้ น สมบูรณ์

ใบงานที่ 6 ความเป็นมาและการต้งั หลกั แหล่งในดินแดนประเทศไทย เกณฑ์ ระดบั คะแนนการประเมิน 4 32 1 (10 คะแนน) (5-6 คะแนน) (9 คะแนน) (7-8 คะแนน)เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือสรุปการต้งั แหล่ง สรุปการต้งั แหล่ง สรุปการต้งั แหล่ง สรุปการต้งั แหล่ง สรุปการต้งั แหล่งชุมชนในประเทศ ชุมชนในประเทศ ชุมชนในประเทศ ชุมชนในประเทศ ชุมชนในประเทศไทยต้งั แต่ 5,000 ปี ไทยต้งั แต่ 5,000 ปี ไทยต้งั แต่ 5,000 ปี ไทยต้งั แต่ 5,000 ปี ไทยต้งั แต่ 5,000 ปีลกั ษณะของชาวไต ลกั ษณะของชาวไต ลกั ษณะของชาวไต ลกั ษณะของชาวไต ลกั ษณะของชาวไตและชาวไท ความ และชาวไท ความ และชาวไท ความ และชาวไท ความ และชาวไท ความเจริญรุ่งเรืองของ เจริญรุ่งเรืองของ เจริญรุ่งเรืองของ เจริญรุ่งเรืองของ เจริญรุ่งเรืองของอโยธยา และการ อโยธยา และการ อโยธยา และการ อโยธยา และการ อโยธยา และการสร้าง สถูปสมยั สร้าง สถูปสมยั สร้าง สถูปสมยั สร้าง สถูปสมยั สร้าง สถูปสมยัอู่ทองและอยธุ ยา อู่ทองและอยธุ ยา อู่ทองและอยธุ ยา อูท่ องและอยธุ ยา อูท่ องและอยธุ ยาตอนตน้ ตอนตน้ ไดส้ มั พนั ธ์ ตอนตน้ ได้ มีการ ตอนตน้ ไดส้ อด- ตอนตน้ ได้ แต่ยงั เชื่อมโยงกบั ขอ้ มูล จาแนกขอ้ มูล และมี คลอ้ งกบั ขอ้ มูล ไม่สอดคลอ้ งกบั ทางประวตั ิศาสตร์ การเชื่อมโยงขอ้ มูล โดยมีการยกตวั อยา่ ง ขอ้ มูลและยงั ไม่ โดยมีการอา้ งอิง ทางประวตั ิศาสตร์ ขอ้ มูลประกอบการ สมเหตุสมผลกบั หลกั ฐาน ประกอบ อยา่ งเป็นเหตุ อธิบายทาใหอ้ า่ น ขอ้ มูลที่เป็นจริง การอธิบาย เป็ นผล เขา้ ใจง่าย

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาและแสดงความคิดเห็นการต้ังหลักแหล่งสมัยก่อนประวตั ิศาสตร์ โดยแบ่งนกั เรียนศึกษาและนาเสนออภิปรายตามขอ้ มูล ดงั น้ี การต้งั ถิ่นฐานในสมยั ยคุ หิน การต้งั หลกั แหล่งในยคุ โลหะ ใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 5 การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย 2. ให้นกั เรียนร่วมกนั ศึกษา โดยแบ่งกลุ่มคน้ ควา้ ขอ้ มูล การต้งั ถิ่นฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์แลว้ นาเสนอขอ้ มูล ดงั น้ี รัฐโบราณก่อนรัฐไทย รัฐของคนไทย 3. วิเคราะห์การต้งั ถ่ินฐานของคนไท และรัฐไทยในดินแดนไทยและรัฐร่วมสมัยกับสุโขทยั โดยครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม เพ่อื ศึกษาวเิ คราะห์และนาเสนอขอ้ มูล ดงั น้ี รัฐไทยในดินแดนภาคเหนือของไทย รัฐไทยในดินแดนภาคอีสานของไทย รัฐไทยในดินแดนภาคกลางของไทย รัฐไทยในดินแดนภาคใตข้ องไทย 4. ให้นักเรียนศึกษาวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นอิทธิพลของอารยธรรมโบราณในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ี่มีผลต่อพฒั นาการของไทย ทางดา้ นต่างๆ โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็ นกลุ่มนาเสนออภิปรายหนา้ ช้นั เรียน 4.1 การปกครอง 4.2 เศรษฐกิจ 4.3 ศิลปวฒั นธรรม 5. ใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 6 ความเป็นมาและการต้งั หลกั แหล่งในดินแดนประเทศไทย 6. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียนหรือตามท่ีครูกาหนดสื่อการเรียนรู้ 1. ภาพแหล่งโบราณคดีท่ีสาคญั ของไทย 2. ภาพประติมากรรมศิลปะในสมยั ประวตั ิศาสตร์ของไทย

แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre – Test)ช่ือ นามสกุล เลขที่ ช้ัน ไดค้ ะแนนให้นักเรียนเขียนเคร่ืองหมาย × ทบั ตวั อกั ษรหน้าคาตอบทถ่ี ูกต้อง 6 _________ คะแนนเตม็ 10 คะแนน1. พระธาตุพนม เป็นพทุ ธสถานที่สร้างข้ึนสมยั รัฐใดและมีลกั ษณะอยา่ งไร ก. ลา้ นชา้ ง / รูปทรงบวั เหล่ียม ข. ศรีจนาศะ / รูปทรงบวั บาน ค. ศรีโคตรบูร / รูปทรงบวั เหลี่ยม ง. โยนกเชียงแสน / รูปทรงบวั บาน2. “ป่ ูเจา้ ลาวจก” เป็นบรรพบุรุษตามตานานของรัฐใด ก. โยนกเชียงแสน ข. ลา้ นนา ค. ลา้ นชา้ ง ง. ศรีโคตรบูร3. “วฒั นธรรมบา้ นเก่า” อยใู่ นบริเวณใด ก. แหล่งโบราณคดีถ้าผแี มน ข. แหล่งโบราณคดีบริเวณลุ่มน้าป่ าสัก – ลพบุรี ค. แหล่งโบราณคดีบริเวณลุ่มน้าแควนอ้ ย – แควใหญ่ ง. แหล่งโบราณคดีในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ4. ทุง่ สาริดและทุ่งกลุ าร้องไห้ อยใู่ นบริเวณใด และมีลกั ษณะพ้นื ที่เป็นอยา่ งไร ก. เขตลาน้ามูล – ชี แหง้ แลง้ ข. เขตลาน้ามูล – ชี ชุ่มช้ืน ค. เขตลาน้าสงคราม แหง้ แลง้ ง. เขตลาน้าสงคราม ชุ่มช้ืน5. นโยบายใดท่ีส่งผลใหร้ ัฐโบราณก่อนรัฐไทยมง่ั คงั่ รุ่งเรือง ก. นโยบายการสร้างกองทพั ที่เขม้ แขง็ ข. นโยบายสนบั สนุนการเผยแผศ่ าสนา ค. นโยบายการสร้างสมโบราณสถานอนั ยง่ิ ใหญ่ ง. นโยบายสนบั สนุนการคา้ กบั ต่างแดน

6. หากนกั เรียนตอ้ งการแสดงนาฏกรรมซ่ึงมีท่ีมาจากศาสนาพราหมณ์ นกั เรียนจะแสดงตาม ขอ้ ใด ก. หนงั ใหญ่ ข. โขน ค. แทงวไิ สย ง. ราโคม7. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีไม่ใช่ลทั ธิศาสนาท่ีไทยรับไปจากเขมร ก. การบูชาศิวลึงค์ ข. การบูชาพญานาค ค. การบูชาพระหริหระ ง. การบูชาพญาแถน8. ขอ้ ใดเป็นเหตุผลที่กษตั ริยล์ ะโวย้ า้ ยศูนยก์ ลางการปกครองมาอยทู่ ี่อโยธยา ก. ต้งั อยใู่ นเขตหมูเ่ กาะ เหมาะแก่การทาการคา้ ข. ต้งั อยใู่ กลร้ ัฐในอารักขา สะดวกในการควบคุม ค. ต้งั อยใู่ นที่ราบหุบเขา มีกาแพงธรรมชาติโอบลอ้ มกนั ขา้ ศึก ง. ต้งั อยใู่ กลท้ ะเล เป็นชุมทางลาน้าหลายสาย ทาการคา้ สะดวก9. เมืองนคร มีความสาคญั ทางดา้ นใดนอกเหนือจากดา้ นการคา้ ก. ดา้ นการปกครอง ข. ดา้ นการทหาร ค. ดา้ นศาสนา ง. ดา้ นศิลปวฒั นธรรม10. รูปแบบการปกครองแบบนครรัฐของทวารวดีคือขอ้ ใด ก. ผกู พนั กนั ดว้ ยระบบอาวโุ ส ไม่มีเมืองราชธานี ข. มีผปู้ กครองแต่งต้งั ไปจากเมืองราชธานี ค. มีระบบบรรณาการเป็นตวั เชื่อมความสัมพนั ธ์ ง. ผปู้ กครองเปรียบเสมือนหวั หนา้ ครอบครัว

แบบทดสอบหลงั เรียน (Post – Test)ชื่อ นามสกุล เลขท่ี ช้ัน ไดค้ ะแนนให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย × ทบั ตวั อกั ษรหน้าคาตอบทถ่ี ูกต้อง 6 _________ คะแนนเตม็ 10 คะแนน1. “วฒั นธรรมบา้ นเก่า” อยใู่ นบริเวณใด ก. แหล่งโบราณคดีในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ข. แหล่งโบราณคดีบริเวณลุ่มน้าแควนอ้ ย – แควใหญ่ ค. แหล่งโบราณคดีบริเวณลุ่มน้าป่ าสกั – ลพบุรี ง. แหล่งโบราณคดีถ้าผแี มน2. ทุ่งสาริดและทุง่ กุลาร้องไห้ อยใู่ นบริเวณใด และมีลกั ษณะพ้นื ที่เป็นอยา่ งไร ก. เขตลาน้ามูล – ชี แหง้ แลง้ ข. เขตลาน้ามูล – ชี ชุ่มช้ืน ค. เขตลาน้าสงคราม แหง้ แลง้ ง. เขตลาน้าสงคราม ชุ่มช้ืน3. นโยบายใดท่ีส่งผลใหร้ ัฐโบราณก่อนรัฐไทยมงั่ คงั่ รุ่งเรือง ก. นโยบายการสร้างกองทพั ท่ีเขม้ แขง็ ข. นโยบายสนบั สนุนการเผยแผศ่ าสนา ค. นโยบายการสร้างสมโบราณสถานอนั ยงิ่ ใหญ่ ง. นโยบายสนบั สนุนการคา้ กบั ต่างแดน4. “ป่ ูเจา้ ลาวจก” เป็นบรรพบุรุษตามตานานของรัฐใด ก. โยนกเชียงแสน ข. ลา้ นนา ค. ลา้ นชา้ ง ง. ศรีโคตรบูร5. พระธาตุพนม เป็นพุทธสถานที่สร้างข้ึนสมยั รัฐใดและมีลกั ษณะอยา่ งไร ก. ลา้ นชา้ ง / รูปทรงบวั เหล่ียม ข. ศรีจนาศะ / รูปทรงบวั บาน ค. ศรีโคตรบูร / รูปทรงบวั เหล่ียม ง. โยนกเชียงแสน / รูปทรงบวั บาน

6. ขอ้ ใดเป็นเหตุผลท่ีกษตั ริยล์ ะโวย้ า้ ยศูนยก์ ลางการปกครองมาอยทู่ ี่อโยธยา ก. ต้งั อยใู่ นเขตหมูเ่ กาะ เหมาะแก่การทาการคา้ ข. ต้งั อยใู่ กลร้ ัฐในอารักขา สะดวกในการควบคุม ค. ต้งั อยใู่ นที่ราบหุบเขา มีกาแพงธรรมชาติโอบลอ้ มกนั ขา้ ศึก ง. ต้งั อยใู่ กลท้ ะเล เป็นชุมทางลาน้าหลายสาย ทาการคา้ สะดวก7. เมืองนคร มีความสาคญั ทางดา้ นใดนอกเหนือจากดา้ นการคา้ ก. ดา้ นการปกครอง ข. ดา้ นการทหาร ค. ดา้ นศาสนา ง. ดา้ นศิลปวฒั นธรรม8. รูปแบบการปกครองแบบนครรัฐของทวารวดีคือขอ้ ใด ก. ผกู พนั กนั ดว้ ยระบบอาวโุ ส ไม่มีเมืองราชธานี ข. มีผปู้ กครองแตง่ ต้งั ไปจากเมืองราชธานี ค. มีระบบบรรณาการเป็นตวั เชื่อมความสมั พนั ธ์ ง. ผปู้ กครองเปรียบเสมือนหวั หนา้ ครอบครัว9. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใช่ลทั ธิศาสนาท่ีไทยรับไปจากเขมร ก. การบูชาศิวลึงค์ ข. การบูชาพญานาค ค. การบูชาพระหริหระ ง. การบูชาพญาแถน10. หากนกั เรียนตอ้ งการแสดงนาฏกรรมซ่ึงมีที่มาจากศาสนาพราหมณ์ นกั เรียนจะแสดงตาม ขอ้ ใด ก. หนงั ใหญ่ ข. โขน ค. แทงวไิ สย ง. ราโคม

เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) 5. ง 10. ก 1 . ค 2. ข 3. ค 4. ก 6. ข 7. ง 8. ง 9. คเฉลย แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) 5. ค 10. ข 1 . ข 2. ก 3. ง 4. ข 6. ง 7. ค 8. ก 9. ง

แบบบนั ทึกสรุปผลการเรียนรู้สาหรับผู้เรียนชื่อ-นามสกลุ _____________________________________________ เลขท่ี ___________ ช้นั ___________วนั ที่________เดือน_________________________พ.ศ.___________คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนบนั ทึกสรุปผลการเรียนรู้จากหน่วยการเรียนรู้น้ีนักเรียนยงั ไม่เข้าใจเรื่องใดอีกบ้างท่ี นกั เรียนมีความรู้สึกอยา่ งไร หลงั จาก นกั เรียนไดร้ ับความรู้เรื่องใดบา้ งจากเก่ียวกบั หน่วยการเรียนรู้น้ี ที่เรียนหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ หน่วยการเรียนรู้น้ีซ่ึงตอ้ งการใหค้ รูอธิบายเพ่มิ เติม ______________________ ____________________________________________ ______________________ ____________________________________________ ______________________ ____________________________________________ ______________________ ____________________________________________ ______________________ ____________________________________________ ____________________________________ หน่วยการเรียนรู้ท่ี____ _________________นักเรียนจะสามารถนาความรู้ ความ ผลงานที่นกั เรียนชอบ และตอ้ งการ นักเรียนได้ทากิจกรรมอะไรบา้ งในเข้าใจจากหน่ วยการเรี ยนรู้น้ี ไปใช้ คดั เลือกเป็ นงานดีเด่นจากหน่วย หน่วยการเรียนรู้น้ีประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร การเรียนรู้น้ีคือ ผลงานใดบา้ งบา้ ง เพราะอะไร ______________________ ____________________________________________ ______________________ ____________________________________________ ______________________ ____________________________________________ ______________________ ____________________________________________ ______________________ ____________________________________________หมายเหตุ ใหค้ รูสาเนาแบบบนั ทึกน้ีเพื่อใหน้ กั เรียนบนั ทึกทุกหน่วยการเรียนรู้1. ครูสามารถนาแบบบนั ทึกน้ีไปใชเ้ ป็นหลกั ฐานและขอ้ มลู เพอื่ ปรับปรุงและพฒั นากระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รียน2. ครูสามารถนาแบบบนั ทึกน้ีไปใชป้ ระกอบการทาวจิ ยั ในช้นั เรียนเพ่อื เป็นผลงานประกอบการเลอื่ นวทิ ยฐานะได้

3 ความเป็ นมาและการต้งั หลกั แหล่ง ในดินแดนประเทศไทย เวลาเรียน 7 ชั่วโมงแผนผงั การเรียนรู้แบบบูรณาการ การงานอาชีพและเทคโนโลยี  การทากิจกรรมกลุ่ม รายงาน นาเสนอ อภิปราย ความเป็ นมา และการต้งั หลกั แหล่ง ในดินแดนประเทศไทย สาระ: ภูมิศาสตร์ ศิลปะ: ทศั นศิลป์ การศึกษาภาพแผนท่ีประเทศไทย  การสรุปโครงสร้างความรู้ ท่ีเป็ นแหล่งโบราณคดี เขียนเป็ นโครงสร้างแผนภาพตวั ชี้วดัวเิ คราะห์ความสาคญั ของกาลเวลาในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ (มฐ.ส 4.3 ม.1/1)

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นมาและการต้งั หลกั แหล่งแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 24 ในดนิ แดนประเทศไทย การต้งั หลกั แหล่งสมัยก่อนประวตั ิศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมงมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจ และธารงความเป็ นไทย ตวั ชี้วดั มฐ.ส 4.3 ม.1/1 อธิบายเรื่องราวทางประวตั ิศาสตร์สมยั ก่อนสุโขทยั ในดินแดนไทยโดยสงั เขปจุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั1. อธิบายความหมายและวเิ คราะห์ความสาคญั ของการต้งั หลกั แหล่ง สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ (K)2. จาแนกสาระสาคญั ของการต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ (P)3. สนใจศึกษาเรียนรู้การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ของชนชาติไทย (A)สาระสาคญั การต้งั หลกั แหล่ง หมายถึง การที่กลุ่มชนเขา้ มาอยอู่ าศยั และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สังคมร่วมกนั ในบริเวณหน่ึงจนเกิดเป็ นชุมชนข้ึน จากหลกั ฐานทางโบราณคดีสันนิษฐานไดว้ า่ มนุษยใ์ นยคุ หินมกั อยอู่ าศยั ตามถ้าหรือเพิงผาบนท่ีสูง ยงั ไม่รู้จกั สร้างบา้ น แต่อาจอยรู่ วมเป็ นกลุ่ม หลงั ยคุ หินใหม่เป็ นต้นมามนุษย์รู้จักเพาะปลูกและเล้ียงสัตว์จึงเคลื่อนยา้ ยมาอยู่ในที่เหมาะสมแก่การทาการเกษตร

สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ 1.1 การต้งั ถิ่นฐานในสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์  การต้งั ถ่ินฐานในยคุ หิน  การต้งั หลกั แหล่งในยคุ โลหะ 2. ทกั ษะ / กระบวนการ / กระบวนการคดิ การจาแนก การใหเ้ หตุผล การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสรุปความรู้ 3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ รักความเป็นไทยความเข้าใจทคี่ งทน (Enduring Understanding) นักเรี ยนสามารถสรุ ปได้ว่า การต้ังหลักแหล่งในดินแดนประเทศไทย สมัยก่อนประวตั ิศาสตร์มีมาต้งั แต่สมยั ยุคหินประมาณ 10,000-3,000 ปี มาแลว้ โดยมีหลกั แหล่งโบราณคดีปรากฏเป็ นร่องรอย และเร่ิมเกิดเป็ นชุมชนในยุคโลหะประมาณ 1,500-4,000 ปี โดยปรากฏหลกั ฐานตามแหล่งโบราณคดีตา่ งๆ ตามภูมิภาคของไทยเป็นเครื่องยนื ยนัชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)  แผนภาพการต้งั หลกั แหล่งสมยั ประวตั ิศาสตร์คาถามท้าทาย  นกั เรียนคิดวา่ ในอดีตไมม่ ีการสร้างบา้ นแลว้ มีการอยอู่ าศยั กนั อยา่ งไร

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพแหล่งโบราณคดีท่ีสาคญั ของไทยมาให้นักเรียนได้ร่วมกนั ศึกษาและให้นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ โดยครูใชค้ าถามกระตุน้นกั เรียนก่อนนาเขา้ สู่บทเรียน ดงั น้ี  นกั เรียนรู้จกั แหล่งอารยธรรมท่ีไหนบา้ ง  นกั เรียนทราบหรือไม่วา่ แหล่งอารยธรรมน้นั มีความสาคญั อยา่ งไร 2. ครูสร้างฐานความรู้เกี่ยวกบั การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์โดยครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา ดงั น้ี  คาวา่ แหล่งอารยธรรมน้นั มีความหมายวา่ อยา่ งไร  ในประเทศไทยมีแหล่งอารยธรรมใดที่มีความเก่าแก่และมีความสาคญั อยา่ งไรบา้ ง  นกั เรียนคิดวา่ การท่ีคนเราจะมาอยรู่ วมกนั ไดน้ ้นั ควรมีองคป์ ระกอบดา้ นใดบา้ ง องค์ประกอบการต้งั หลกั แหล่งมีถ้าเพงิ ผา มีสภาพ มีน้าอุดม- มีอาหาร มีกอ้ นหินและเป็ นที่อยู่ ภูมิประเทศ สมบูรณ์ ท้งั พชื และ แร่ธาตุที่นามาทา เหมาะสม สตั ว์ เคร่ืองมือและอาศยั อาวธุ 3. ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาหาความหมายและความสาคัญของการต้ังหลักแหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ โดยครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี  ในประเทศไทยสามารถแบ่งการต้งั หลักแหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ได้ก่ียุคยคุ ใดบา้ ง ครูสรุปคาตอบนกั เรียนออกมาเป็นแผนภาพ ดงั น้ี

การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์การต้งั ถิ่นฐานในยคุ หิน (ประมาณ การต้งั หลกั แหล่งในยคุ โลหะ10,000 – 3,000 ปี มาแลว้ ) (ประมาณ 1,500 – 4,000 ปี มาแลว้ ) 4. ให้นักเรียนวิเคราะห์ถึงการต้งั หลกั แหล่งของสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ในประเทศว่าส่วนใหญจ่ ะต้งั อยใู่ นแหล่งใด ครูสรุปออกมาเป็นแผนภาพ ดงั น้ี อายุ 3 หม่ืนปี ขนึ้ ไป ภาคเหนือพบท่ีแหล่งโบราณคดี แม่ทะ จงั หวดั ลาปาง การต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ ภาคใตพ้ บท่ีแหล่งโบราณคดีถ้า หลงั โรงเรียน จงั หวดั กระบ่ีอายุ 5 พนั ปี ขนึ้ ไป พบหลักฐานในบริ เวณถ้ าเพิงผา ทุ กภ าค โดยเฉ พ าะทิ วเขาด้าน ตะวนั ตกจากภาคเหนือทอดยาว ต่อเน่ืองลงสู่คาบสมุทรทางภาคใต้

5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การต้งั หลกั แหล่งในดินแดนประเทศไทย สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์มีมาต้งั แต่สมยั ยคุ หินประมาณ 10,000-3,000 ปี มาแลว้ โดยมีหลกั ฐานแหล่งโบราณคดีปรากฏเป็ นร่องรอย และเร่ิมเกิดเป็นชุมชนในยคุ โลหะประมาณ 1,500-4,000 ปี โดยปรากฏหลกั ฐานตามแหล่งโบราณคดีต่างๆ ตามภูมิภาคของไทย เป็นเครื่องยนื ยนั 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนคิดวา่ ในอดีตไม่มีการสร้างบา้ นแลว้ มีการอยอู่ าศยั กนั อยา่ งไร การจัดบรรยากาศเชิงบวก  การบนั ทึกหรือนาเสนอความรู้เกี่ยวกบั เรื่องการต้งั หลกั แหล่งสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์สรุ ปความรู้เป็ นโครงสร้างแผนภาพ สื่อการเรียนรู้  ภาพแหล่งโบราณคดีที่สาคญั ของไทย การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล  สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เคร่ืองมือ  แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ  การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่านผา่ น 1 รายการถือวา่ ไม่ผ่าน กจิ กรรมเสนอแนะ ใหน้ กั เรียนทารายงานเรื่องแหล่งอารยธรรมในประเทศไทยมาคนละ 1 เรื่อง

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เครื่องมือ  แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน  การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่านผา่ น 1 รายการถือวา่ ไม่ผ่าน กจิ กรรมเสนอแนะ ใหน้ กั เรียนทารายงานเร่ืองแหล่งอารยธรรมในประเทศไทยมาคนละ 1 เรื่อง

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงช่ือ__________________ (ผบู้ ริหารสถานศึกษา) (__________________) _____/_____/_____

บันทกึ หลงั การสอนผลการจัดการเรียนการสอน____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ปัญหา / อุปสรรค____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________แนวทางแก้ไข____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงชื่อ__________________ (ผบู้ นั ทึก) (__________________) _____/_____/_____

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นมาและการต้งั หลกั แหล่งแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 25 ในดนิ แดนประเทศไทย การต้งั ถน่ิ ฐานในยุคหิน-ยุคโลหะ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมงมาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจ และธารงความเป็ นไทย ตัวชี้วดั มฐ.ส 4.3 ม.1/1 อธิบายเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์สมยั ก่อนสุโขทยั ในดินแดนไทยโดยสังเขปจุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั1. อธิบายและสรุปความรู้ การต้งั ถิ่นฐานในยคุ หิน - ยคุ โลหะในดินแดนประเทศไทย (K)2. จาแนกและสรุปความรู้ การต้งั ถิ่นฐานในยคุ หิน - ยคุ โลหะในดินแดนประเทศไทย (P)3. สนใจศึกษาเรียนรู้ประวตั ิศาสตร์ความเป็ นมาของการต้งั หลกั แหล่งในดินแดนประเทศไทย (A)สาระสาคญั จากการสารวจดา้ นโบราณคดีพบว่าดินแดนในประเทศไทยมีมนุษยอ์ าศยั อยูต่ ้งั แต่ยุคหินและยคุ โลหะ ซ่ึงมีอายปุ ระมาณ 10,000 – 4,000 ปี

สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ การต้งั ถ่ินฐานในยคุ หิน - ยคุ โลหะในดินแดนประเทศไทย 2. ทกั ษะ / กระบวนการ / กระบวนการคิด การจาแนก การใหเ้ หตุผล การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสรุปความรู้ 3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ รักความเป็นไทยความเข้าใจทคี่ งทน (Enduring Understanding) นกั เรียนสามารถสรุปได้ว่า การต้งั ถิ่นฐานในดินแดนประเทศไทยพบร่องรอยหลกั ฐานในบริเวณถ้าเพิงผาของแนวเขาทวั่ ทุกภาคซ่ึงเป็ นยุคหิน และพบการต้งั ถิ่นฐานตามบริเวณท่ีราบลุ่มแมน่ ้าในยคุ โลหะชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)  แผนภาพ การต้งั ถ่ินฐานในดินแดนประเทศไทยในยคุ หิน  แผนภาพ การต้งั ถิ่นฐานในดินแดนประเทศไทยในยคุ โลหะคาถามท้าทาย  มนุษยส์ มยั ยคุ หินและยคุ โลหะมีการดาเนินชีวติ ท่ีเหมือนหรือต่างกนั อยา่ งไร

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนทบทวนความรู้ การต้งั ถิ่นฐานของมนุษยใ์ นยคุ หินในดินแดนประเทศไทยโดยช่วยกนั สรุปเป็นโครงสร้างแผนภาพ ดงั ตวั อยา่ ง แผนภาพ การต้ังถน่ิ ฐานในดนิ แดนประเทศไทยในยคุ หิน แหล่งโบราณคดถี า้ ผเี มน ลาน้าปาย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน อายุ 5,000 ปี ลงมา หลกั ฐาน : พบเมล็ดขา้ วและพืชบางชนิด โลงศพไมเ้ ป็นรูปเรือขุด แหล่งโบราณคดีออมหลวง ลาน้าปิ ง จงั หวดั เชียงใหม่ หลกั ฐาน : ภาพเขียนสีรูปคนกบั รูปชา้ ง การต้ังถิ่นฐาน ในดนิ แดนประเทศไทย ในยคุ หิน แหล่งโบราณคดีบริเวณล่มุ นา้ แควน้อย – แควใหญ่ กาญจนบุรี อายุ 5,000 – 3,000 ปี หลกั ฐาน : วฒั นธรรมบา้ นเก่า เปลือกหอยทะเล แหล่งโบราณคดีลุ่มแม่นา้ บางปะกงและทรี่ าบชายฝ่ังตะวนั ออก จ.ชลบุรี, จนั ทบุรี เป็นยคุ หินเก่า - หินใหม่ หลกั ฐาน : เครื่องมือหินเก่าในถ้า และร่องรอยยคุ หินใหม่เขตท่ีราบชายฝั่งทะเลเก่าแหล่งโบราณคดีล่มุ แม่นา้ ป่ าสัก จ.ลพบุรี อายุ 4,000 ปี ลงมาหลกั ฐาน : แหล่งถลุงโลหะและสินคา้ ของป่ า  ใหค้ รูนาภาพหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ท้งั ยคุ หิน – ยคุ โลหะประกอบการสอน 2. ให้นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาการต้งั หลกั แหล่งในยุคโลหะในดินแดนประเทศไทย โดยครูต้งั คาถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั คิดวเิ คราะห์ ดงั น้ี  การต้งั ถิ่นฐานระหวา่ งมนุษยย์ คุ หินกบั ยคุ โลหะมีความแตกต่างกนั อยา่ งไร  การต้งั หลกั แหล่งในยคุ โลหะในดินแดนประเทศไทยพบหลกั ฐานท่ีสาคญัในบริเวณใดบา้ ง

3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปคาตอบจากขอ้ ที่ 2 แผนภาพบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง ตวั อย่างแผนภาพ การต้งั ถ่ินฐานในดนิ ประเทศไทยในยุคโลหะลกั ษณะของสังคมยุคโลหะ มีการพฒั นาแบบสังคมเมือง มีระเบียบ จดั รูปแบบการปกครองมีการติดต่อกบั สงั คมภายนอกเพือ่ ทาการคา้ ในการแลกเปลี่ยนสินคา้แหล่งโบราณคดใี นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ เขตลุ่มน้าสงครามตอนบนและลุ่มน้ามูล – ชีตอนล่าง เป็ นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่แหล่งโบราณคดีในล่มุ แม่นา้ แม่กลอง โคกพลบั จ.ราชบุรี เป็นชุมชนสมยั สาริด บา้ นดอนตาเพชรจ. กาญจนบุรี เป็นยคุ ชุมชนสมยั ยกคุ าโรลตห้งั ะหลกั แหล่ง สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ การต้งั ถิน่ ฐาน การต้งั หลกั แหล่งในยคุ โลหะ (ประมาณ 1,500 – 4,000 ปี มาแลว้ )การต้งั ถ่ินฐานในยคุ หิน (ปในรดะมนิ าแณดนประเทศไทย10,000 – 3,000 ปี มาแลว้ ) ในยุคโลหะแหล่งโบราณคดีในแอ่งสกลนคร (วฒั นธรรมบา้ นเชียง)หลกั ฐาน : เคร่ืองสาริด อาวธุ เคร่ืองประดบั เคร่ืองป้ันดินเผา ลวดลายกน้ หอยบนพ้นื ผวิ ภาชนะสีนวล แหล่งโบราณคดใี นแอ่งโคราช บริเวณทุง่ สาริด ทุง่ กุลาร้องไห้ หลกั ฐาน : โครงกระดูกมนุษย์ เครื่องป้ันดินเผา โลหะ ท่ีบา้ นปราสาท จ. นครราชสีมา แหล่งโบราณคดบี นชายฝั่งตะวนั ออกของคาบสมุทร บริเวณอา่ วบา้ นดอนไชยา จ. สุราษฎธ์ านี, ท่ีราบเมืองนคร, ทะเลสาบสงขลา, ท่ีราบปากน้าตาปี เป็ นเมืองท่า และอ่าวจอดเรือ 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การต้งั ถิ่นฐานในดินแดนประเทศไทยพบร่องรอยหลกั ฐานฝนบริเวณถ้า เพิงผาของแนวเขาทวั่ ทุกภาคซ่ึงเป็นยคุ หิน และพบการต้งั ถ่ินฐานตามบริเวณที่ราบลุ่มแมน่ ้าในยคุ โลหะ

5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  มนุษยส์ มยั ยคุ หินและยคุ โลหะมีการดาเนินชีวติ ที่เหมือนหรือต่างกนั อยา่ งไร การจัดบรรยากาศเชิงบวก  การต้งั คาถามใหน้ กั เรียนคิดวเิ คราะห์ และสรุปความรู้เป็นแผนภาพ ส่ือการเรียนรู้  ภาพหลกั ฐานโบราณคดียคุ หิน - ยคุ โลหะ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล  สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เคร่ืองมือ  แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน  การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการถือวา่ ผ่านผา่ น 1 รายการถือวา่ ไม่ผ่าน

ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงชื่อ__________________ (ผบู้ ริหารสถานศึกษา) (__________________) _____/_____/_____

บนั ทกึ หลงั การสอนผลการจัดการเรียนการสอน____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ปัญหา / อปุ สรรค____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________แนวทางแก้ไข____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงชื่อ__________________ (ผบู้ นั ทึก) (__________________) _____/_____/_____

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นมาและการต้งั หลกั แหล่งแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 26 ในดนิ แดนประเทศไทย การต้งั ถน่ิ ฐานสมยั ประวตั ศิ าสตร์ (1) ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมงมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจ และธารงความเป็ นไทย ตวั ชี้วดั มฐ.ส 4.3 ม.1/1 อธิบายเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์สมยั ก่อนสุโขทยั ในดินแดนไทยโดยสังเขปจุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายความหมายและวเิ คราะห์ความสาคญั ของการต้งั ถิ่นฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย (K) 2. มีความรู้ความเขา้ ใจการต้งั ถ่ินฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย (P) 3. สนใจศึกษาเรียนรู้เหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์การต้งั ถิ่นฐานสมัยประวตั ิศาสตร์ในประเทศไทย (A)

สาระสาคญั การต้งั ถิ่นฐานประวตั ิศาสตร์ของไทยน้นั มีหลกั ฐานทางโบราณคดีที่พบอยไู่ ดท้ ว่ั ทุกภาคของประเทศ ท้งั หลกั ฐานที่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ไดแ้ ก่ จารึกภาษาโบราณต่างๆ และหลกั ฐานท่ีไม่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ไดแ้ ก่ โบราณวตั ถุ เช่น พระพทุ ธรูป เทวรูป และโบราณสถานสาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ รัฐโบราณก่อนรัฐไทย 2. ทกั ษะ / กระบวนการ / กระบวนการคดิ การจาแนก การใหเ้ หตุผล การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสรุปความรู้ 3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ความเข้าใจทคี่ งทน (Enduring Understanding) นักเรียนสามารถสรุปไดว้ า่ ก่อนเกิดเป็ นอาณาจกั รไทยมีอาณาจกั รท่ีเกิดก่อนเรียกว่ารัฐโบราณก่อนรัฐไทย ได้แก่ ทวารวดี กมั พูชา ตามพรลิงค์ และหริภุญชยั หลงั จากรัฐโบราณเส่ือมอานาจลงได้ เกิดรัฐในดินแดนไทย และรัฐที่เกิดร่วมสมยั กบั สุโขทยั ไดแ้ ก่ โยนกเชียงแสน ลา้ นนาศรีโคตรบูร ศรีจนาศะ ลา้ นชา้ ง ละโว้ อโยธยา สุพรรณภูมิ และรัฐศรีธรรมโศกราช และไดพ้ ฒั นามาเป็ นประเทศไทยในปัจจุบนั

ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) 1. แผนภาพ รัฐโบราณก่อนรัฐไทย 2. แผนภาพ รัฐในดินแดนไทยและรัฐร่วมสมยัคาถามท้าทาย  สมยั ประวตั ิศาสตร์ก่อนเกิดรัฐโบราณน้นั ไดม้ ีรัฐใดเกิดข้ึนมาก่อนหรือไม่การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาหนังสือสารานุกรมประวตั ิศาสตร์เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ มาให้นักเรียนได้ร่วมกนั ศึกษาและใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การต้งั หลกั แหล่งสมยั ประวตั ิศาสตร์ โดยครูใช้คาถามกระตุน้ นกั เรียนก่อนนาเขา้ สู่บทเรียน ดงั น้ี  นกั เรียนคิดวา่ ในอดีตก่อนเกิดรัฐไทยน้นั ดินแดนน้ีเคยเป็ นรัฐใดมาก่อน  อารยธรรมอินเดียมีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั แหล่งอารยธรรมในดินแดนน้ีอยา่ งไร 2. ครูสร้างฐานความรู้เกี่ยวกบั การต้งั ถ่ินฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์โดยครูใชค้ าถามให้นกั เรียนร่วมกนั สนทนา ดงั น้ี  รัฐโบราณก่อนต้งั รัฐไทยน้นั เป็นท่ีต้งั ของรัฐใดมาก่อน ครูสรุปคาตอบนกั เรียนออกมาเป็นแผนภาพ ดงั น้ี รัฐโบราณก่อนรัฐไทยรัฐทวารวดี กมั พูชา การขยาย หริภุญชัย อยใู่ นเขต ตามพรลงิ ค์สนั นิษฐาน อิทธิพลวฒั นธรรม ลุ่มน้าปิ ง ศูนยก์ ลาง ศูนยก์ ลางอยบู่ ริเวณประชาชนส่วนใหญ่ เขมรมีศูนยก์ ลาง อยหู่ ริภุญชยั นครศรีธรรมราชรัฐเป็ นชาวมอญ อานาจที่ปราสาทภู น้ีเจริญเตบิ โตมา (เมืองจาปาศกั ด์ิ) (ลาพนู ) จากชุมชนเกษตร

3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็ น 4 กลุ่ม ให้ร่วมกนั ศึกษาและสรุปเป็ นรายงานออกนาเสนอความรู้หนา้ ช้นั เรียน ดงั น้ี กลุ่มท่ี 1รัฐโบราณ : ทวารวดี กลุ่มท่ี 2รัฐโบราณ : กมั พูชา กลุ่มที่ 3รัฐโบราณ : หริภุญชยั กลุ่มท่ี 4รัฐโบราณ : ตามพรลิงค์ โดยใหแ้ ตล่ ะกลุ่มและอธิบายตามหวั ขอ้ ท่ีครูกาหนดให้ ดงั น้ี 1. ท่ีต้งั และบริเวณ 2. ลกั ษณะทางสังคมและวฒั นธรรม 3. หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ เม่ือจบการนาเสนอของทุกกลุ่มใหค้ รูอธิบายสรุปเป็นความรู้เพ่มิ เติม 4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ก่อนเกิดเป็ นอาณาจกั รไทย มีอาณาจกั รท่ีเกิดก่อนเรียกวา่ รัฐโบราณก่อนรัฐไทย ไดแ้ ก่ทวารวดี กมั พูชา ตามพรลิงค์ และหริภุญชยั หลงั จากรัฐโบราณเสื่อมอานาจลง ไดเ้ กิดรัฐในดินแดนไทย และรัฐที่เกิดร่วมสมยั กบั สุโขทยั ไดแ้ ก่ โยนกเชียงแสน ลา้ นนา คีรีโคตรบูร ศรีจนาศะ ลา้ นชา้ งละโว้ อโยธยา สุพรรณภูมิและศรีธรรมโศกราช และไดพ้ ฒั นามาเป็นประเทศไทยในปัจจุบนั 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  สมยั ประวตั ิศาสตร์ก่อนเกิดรัฐโบราณน้นั ไดม้ ีรัฐใดเกิดข้ึนมาก่อนหรือไม่ การจัดบรรยากาศเชิงบวก  การบนั ทึกหรือนาเสนอความรู้เก่ียวกบั เร่ืองการต้งั ถ่ินฐานสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ สื่อการเรียนรู้  ภาพประติมากรรมศิลปะในสมยั ประวตั ิศาสตร์

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้1. วธิ ีการวดั และประเมินผล1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม2. เคร่ืองมือ2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม3. เกณฑ์การประเมนิ3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่านผา่ น 1 รายการถือวา่ ไม่ผ่าน3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่มคะแนน 9-10 ระดบั ดีมากคะแนน 7-8 ระดบั ดีคะแนน 5-6 ระดบั พอใช้คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง กจิ กรรมเสนอแนะ ใหน้ กั เรียนทารายงานเรื่องรัฐโบราณในรัฐไทยในปัจจุบนั ประกอบดว้ ยรัฐใดบา้ ง และรัฐมีความเกี่ยวพนั ธ์กบั รัฐไทยในปัจจุบนั มากที่สุด ในดา้ น สงั คม ประเพณี วฒั นธรรม ศาสนา การเมือง

ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงชื่อ__________________ (ผบู้ ริหารสถานศึกษา) (__________________) _____/_____/_____

บันทกึ หลงั การสอนผลการจัดการเรียนการสอน____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ปัญหา / อปุ สรรค____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________แนวทางแก้ไข____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงชื่อ__________________ (ผบู้ นั ทึก) (__________________) _____/_____/_____

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นมาและการต้งั หลกั แหล่งแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 27 ในดนิ แดนประเทศไทย การต้งั ถน่ิ ฐานสมยั ประวตั ศิ าสตร์ (2) ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมงมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจ และธารงความเป็ นไทย ตวั ชี้วดั มฐ.ส 4.3 ม.1/1 อธิบายเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์สมยั ก่อนสุโขทยั ในดินแดนไทยโดยสังเขปจุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายความหมายและวเิ คราะห์ความสาคญั ของการต้งั ถิ่นฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย (K) 2. มีความรู้ความเขา้ ใจการต้งั ถ่ินฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย (P) 3. สนใจศึกษาเรียนรู้เหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์การต้งั ถิ่นฐานสมัยประวตั ิศาสตร์ในประเทศไทย (A)

สาระสาคญั การต้งั ถ่ินฐานประวตั ิศาสตร์ของไทยน้นั มีหลกั ฐานทางโบราณคดีที่พบอยไู่ ดท้ วั่ ทุกภาคของประเทศ ท้งั หลกั ฐานท่ีเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ไดแ้ ก่ จารึกภาษาโบราณต่างๆ และหลกั ฐานท่ีไม่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ไดแ้ ก่ โบราณวตั ถุ เช่น พระพุทธรูป เทวรูป และโบราณสถานสาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ รัฐในดินแดนไทยและรัฐร่วมสมยั กบั สุโขทยั 2. ทกั ษะ / กระบวนการ / กระบวนการคิด การจาแนก การใหเ้ หตุผล การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสรุปความรู้ 3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ความเข้าใจทค่ี งทน (Enduring Understanding) นกั เรียนสามารถสรุปไดว้ า่ ก่อนเกิดเป็ นอาณาจกั รไทยมีอาณาจกั รท่ีเกิดก่อนเรียกว่ารัฐโบราณก่อนรัฐไทย ได้แก่ ทวารวดี กมั พูชา ตามพรลิงค์ และหริภุญชยั หลงั จากรัฐโบราณเสื่อมอานาจลงได้ เกิดรัฐในดินแดนไทย และรัฐท่ีเกิดร่วมสมยั กบั สุโขทยั ไดแ้ ก่ โยนกเชียงแสน ลา้ นนาศรีโคตรบูร ศรีจนาศะ ลา้ นชา้ ง ละโว้ อโยธยา สุพรรณภูมิ และรัฐศรีธรรมโศกราช และไดพ้ ฒั นามาเป็ นประเทศไทยในปัจจุบนัชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)  แผนภาพ รัฐในดินแดนไทยและรัฐร่วมสมยั

คาถามท้าทาย  สมยั ประวตั ิศาสตร์ก่อนเกิดรัฐไทยน้นั ไดม้ ีรัฐใดเกิดข้ึนมาก่อนและมีความสาคญั กบั รัฐไทยในปัจจุบนั อยา่ งไรการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาว่ารัฐไทยน้ันมีการต้ังข้ึนมาได้อย่างไร โดยให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็ น 4 กลุ่มยอ่ ยตามภูมิภาคของไทย เพื่อใหศ้ ึกษาร่วมกนั โดยครูให้หวั ขอ้ นกั เรียนวา่“รัฐไทยน้นั มีที่มาอยา่ งไร”  ครูใหน้ กั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ าแนะนา 2. ให้นกั เรียนร่วมกนั วเิ คราะห์วา่ รัฐไทยในดินแดนไทยและรัฐร่วมสมยั สุโขทยั น้นั มีการต้งัหลกั แหล่งในท่ีใดบา้ ง ครูสรุปคาตอบนกั เรียนออกมาเป็นแผนภาพ ดงั น้ี รัฐไทยในดินแดนไทยและ รัฐร่วมสมัยสุโขทัยภาคเหนือ ภาคอสี าน ภาคกลาง ภาคใต้ โยนกเชียงแสน ศรีโคตรบูร อยู่ รัฐละโว้ อยลู่ ุ่มน้า รัฐศรีธรรมโศกราช ต้งั อยใู่ นเขตท่ีราบ ตอนบนของภาคอีสาน เจา้ พระยาตอนลา่ ง พฒั นาการข้ึนหลงั จาก เชียงราย – พะเยา ท้งั 2 ฟากฝ่ังลาน้าโขง ครอบคลุมลุ่มน้าลพบุรี ตามพรลิงคแ์ ละศรีวชิ ยั ป่ าสกั และบางปะกง เสื่อมอานาจ ล้านนา อยบู่ ริเวณ ศรีจนาศะ อยู่ ลุม่ น้ากก บริเวณลุ่มแมน่ ้า รัฐอโยธยา กษตั ริย์ มูลในอีสานใต้ ละโวส้ ร้างไวเ้ พ่ือ เป็ นศูนยก์ ารคา้ กบั ล้านช้าง มีศูนย์ รัฐภายนอก การปกครองฝ่ัง ซา้ ยแมน่ ้าโขงท้งั รัฐสุพรรณภูมิ หลวงพระบาง ครอบคลมุ พ้ืนที่ลมุ่ น้า และเวยี งจนั ทน์ เจา้ พระยาฟาก ตะวนั ตก ตามแนว ลาน้าท่าจีน

3. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ก่อนเกิดเป็ นอาณาจกั รไทย มีอาณาจกั รที่เกิดก่อนเรียกวา่ รัฐโบราณก่อนรัฐไทย ไดแ้ ก่ทวารวดี กมั พูชา ตามพรลิงค์ และหริภุญชยั หลงั จากรัฐโบราณเสื่อมอานาจลง ไดเ้ กิดรัฐในดินแดนไทย และรัฐที่เกิดร่วมสมยั กบั สุโขทยั ไดแ้ ก่ โยนกเชียงแสน ลา้ นนา คีรีโคตรบูร ศรีจนาศะ ลา้ นชา้ งละโว้ อโยธยา สุพรรณภูมิและศรีธรรมโศกราช และไดพ้ ฒั นามาเป็นประเทศไทยในปัจจุบนั 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี สมยั ประวตั ิศาสตร์ก่อนเกิดรัฐไทยน้นั ไดม้ ีรัฐใดเกิดข้ึนมาก่อนและมีความสาคญั กบัรัฐไทยในปัจจุบนั อยา่ งไร การจดั บรรยากาศเชิงบวก  การบนั ทึกหรือนาเสนอความรู้เกี่ยวกบั เร่ืองการต้งั ถ่ินฐานสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ ส่ือการเรียนรู้  ภาพประติมากรรมศิลปะในสมยั ประวตั ิศาสตร์ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

3. เกณฑ์การประเมิน3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่านผา่ น 1 รายการถือวา่ ไม่ผ่าน3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่มคะแนน 9-10 ระดบั ดีมากคะแนน 7-8 ระดบั ดีคะแนน 5-6 ระดบั พอใช้คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง กจิ กรรมเสนอแนะ ใหน้ กั เรียนทารายงานเร่ืองรัฐโบราณในรัฐไทยในปัจจุบนั ประกอบดว้ ยรัฐใดบา้ ง และรัฐมีความเก่ียวพนั ธ์กบั รัฐไทยในปัจจุบนั มากที่สุด ในดา้ น สังคม ประเพณี วฒั นธรรม ศาสนา การเมือง

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงช่ือ__________________ (ผบู้ ริหารสถานศึกษา) (__________________) _____/_____/_____

บันทกึ หลงั การสอนผลการจัดการเรียนการสอน____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ปัญหา / อปุ สรรค____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________แนวทางแก้ไข____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงช่ือ__________________ (ผบู้ นั ทึก) (__________________) _____/_____/_____

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นมาและการต้งั หลกั แหล่งแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 28 ในดนิ แดนประเทศไทย อทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณในเอเชีย ตะวนั ออกเฉียงใต้ที่มีผลต่อพฒั นาการของไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมงมาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจ และธารงความเป็นไทย ตัวชี้วดั มฐ.ส 4.3 ม.1/1 อธิบายเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์สมยั ก่อนสุโขทยั ในดินแดนไทยโดยสังเขปจุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายความหมายและวิเคราะห์ความสาคญั ของอิทธิพลของอารยธรรมโบราณในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ี่มีผลตอ่ พฒั นาการของไทย (K) 2. จาแนกสาระสาคญั ของอิทธิพลของอารยธรรมโบราณในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ี่มีผลตอ่ พฒั นาการของไทย (P) 3. สนใจศึกษาเรียนรู้ความสาคญั ของอิทธิพลของอารยธรรมโบราณในเอเชียตะวนั ออก-เฉียงใตท้ ่ีมีผลตอ่ พฒั นาการของไทย (A)

สาระสาคญั การศึกษาเรื่องรัฐไทยหรือเผา่ ไทน้นั มีความรุ่งเรืองในแต่อดีตไม่วา่ จะเป็ นทางดา้ นภาษาพูดท่ีเป็นของตวั เอง และส่ิงท่ีทาใหร้ ัฐไทยมีความเจริญกา้ วหนา้ ไดก้ เ็ พราะมีศิลปะ วฒั นธรรม และคติความเช่ือจารีตประเพณีที่งดงาม จนทาใหเ้ กิดเป็นอารยธรรมสาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ 1.1 การปกครอง 1.2 เศรษฐกิจ 1.3 ศิลปวฒั นธรรม 2. ทกั ษะ / กระบวนการ / กระบวนการคิด การจาแนก การใหเ้ หตุผล การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสรุปความรู้ 3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รักความเป็นไทยความเข้าใจทค่ี งทน (Enduring Understanding) นกั เรียนสามารถสรุปไดว้ า่ อิทธิพลของเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีผลต่อการพฒั นาการของไทยน้นั มีส่วนประกอบดว้ ยหลายอยา่ งเช่น ระบบการปกครอง เศรษฐกิจ และศิลปวฒั นธรรม

ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)  แผนภาพ อิทธิพลของอารยธรรมในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ่ีมีผลต่อพฒั นาการของไทยคาถามท้าทาย  นกั เรียนคิดวา่ อารยธรรมใดบา้ งท่ีไดร้ ับการสืบทอดมาแต่โบราณการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาหนังสือสารานุกรมประวตั ิศาสตร์เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ าให้นักเรียนได้ร่วมกนั ศึกษาและให้นักเรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั อิทธิพลของอารยธรรมในเอเชียตะวนั ออก-เฉียงใตท้ ่ีมีผลตอ่ พฒั นาการของไทย โดยครูใชค้ าถามกระตุน้ นกั เรียนก่อนนาเขา้ สู่บทเรียน ดงั น้ี  นกั เรียนเขา้ ใจความหมายของคาวา่ อิทธิพลหรือไม่  นกั เรียนคิดวา่ อิทธิพลของอารยธรรมโบราณใดท่ียงั มีอิทธิพลอยจู่ นถึงปัจจุบนั 2. ครูสร้างฐานความรู้เกี่ยวกับอิทธิพลของอารยธรรมในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ที่มีผลตอ่ พฒั นาการของไทย โดยครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา ดงั น้ี  นกั เรียนคิดวา่ จารีตประเพณีใดบา้ ง ท่ีทาใหเ้ กิดเป็นอารยธรรม จากน้นั ครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา  ในโรงเรียนของเราน้นั มีประเพณีใดบา้ งที่ควรปฏิบตั ิร่วมกนั  จารีตประเพณีน้นั มีไวเ้ พอ่ื อะไร  จารีตประเพณีมีความเกี่ยวขอ้ งอยา่ งไรกบั อารยธรรม 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาหาความหมายและความสาคญั ของอิทธิพลของอารยธรรมในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ่ีมีผลตอ่ พฒั นาการของไทย โดยครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นดงั น้ี  อารยธรรมคืออะไร  อิทธิพลของวฒั นธรรมที่มีผลตอ่ พฒั นาการมีความหมายวา่ อยา่ งไร  อิทธิพลดา้ นใดบา้ งท่ีส่งผลต่อความเจริญ

จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน แบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อทารายงานเร่ือง “ อิทธิพลของอารยธรรมที่ส่งผลต่อพฒั นาการของไทย” มีดา้ นการปกครอง เศรษฐกิจ และศิลปวฒั นธรรม ครูใหน้ กั เรียนออกมาสรุปความรู้หนา้ ช้นั เรียน 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั วเิ คราะห์วา่ อารยธรรมดา้ นใดบา้ งที่ส่งผลตอ่ พฒั นาการของไทย ครูสรุปคาตอบนกั เรียนออกมาเป็นแผนภาพ ดงั น้ี อทิ ธิพลของอารยธรรมในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ทมี่ ผี ลต่อพฒั นาการของไทยการปกครอง เศรษฐกจิ ศิลปวฒั นธรรม ปิ ตาธิปไตยธรรมราชา ดา้ นเกษตรกรรม ดา้ นศาสนาเทวราชา ดา้ นการคา้ ดา้ นภาษา ดา้ นวรรณกรรม ดา้ นนาฏกรรม และดนตรี ดา้ นศิลปกรรม 5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี อิทธิพลของเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้มีผลต่อการพัฒนาการของไทยน้ัน มีส่วนประกอบดว้ ยหลายอยา่ งเช่น ระบบการปกครอง เศรษฐกิจ และศิลปวฒั นธรรม 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  นกั เรียนคิดวา่ อารยธรรมใดบา้ งที่ไดร้ ับการสืบทอดมาแต่โบราณ

การจัดบรรยากาศเชิงบวก การบนั ทึกหรือนาเสนอความรู้เกี่ยวกบั เร่ืองอิทธิพลของอารยธรรมโบราณในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ่ีมีผลต่อพฒั นาการของไทยสื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือสารานุกรมประวตั ิศาสตร์เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้1. วธิ ีการวดั และประเมินผล1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม2. เคร่ืองมือ2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม3. เกณฑ์การประเมิน3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่านผา่ น 1 รายการถือวา่ ไม่ผ่าน3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่มคะแนน 9-10 ระดบั ดีมากคะแนน 7-8 ระดบั ดีคะแนน 5-6 ระดบั พอใช้คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง

ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงช่ือ__________________ (ผบู้ ริหารสถานศึกษา) (__________________) _____/_____/_____