Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore RMUTCON 2022_ABSTRACT NATIONAL CONFERENCE

RMUTCON 2022_ABSTRACT NATIONAL CONFERENCE

Published by IRD RMUTT, 2022-05-30 09:27:26

Description: RMUTCON 2022_ABSTRACT NATIONAL CONFERENCE

Search

Read the Text Version

Thกeาก1รา2ปรtปรhะรRTะชaชhมุ jaุมeกmวา1ิชรa2าจntกดัhgางaRราlaรaนะjaปดUmับรnะชiavชาneตุมgrิมวsaiหชิtlayาาวกoUทิาfnยรTiราveะลecดัยrhเบัsทniชtคoyาโlตนooมิโgfลyหยTาNรีeวาacทิชthiยมonางnoคลalลัยloเCคgทyoรคัง้nโNทนfe่ีaโ1rtล2eioยnnรี cาaeชlมCงoคnลfeคrรeง้ั nทc่ี e1”2 “๙ ราชม“ง๙คลรขาชับมเคงลคอ่ื ลนขนบั วเตัคกลรอื่ รนมนนวำ�ัตเศกรรษรมฐกนิจาปเศลรกู ษแฐนกวจิคดิ ปเทลคกู โแนนโลวยคีสดิ เีเขทยี ควโเนพโื่อลกยาสี รีเพขัฒยี วนเาพทือ่ยี กั่งยานืรพ”ัฒนาทยี่ ั่งยืน” การพฒั นาระบบเกบ็ ข้อมูลนักเรียนสาหรับถงั ขยะอจั ฉริยะ The Development of Student Database System for IDS Smart Bin ชวนิ บุตร หุ่นเก่า ชินพีรพฒั น์ จีระธรรมสุนทร พศุตม์ คาแดง ฐิติวรรณ ศิริวฒั นกุล ชิดชนก ภูเ่ พช็ ร์* ตอ้ งลกั ษณ์ บุญธรรม และ นิติ วทิ ยาวิโรจน์* Chawinbut Hunkao, Chinpeerapat Jeeratamsunthron, Phasut Dumdea, Thitiwan Sirivadhanakul Chidchanok Phoopech*, Tongluck Boontham and Niti Witthayawiroj* โรงเรียนสาธิตนวตั กรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Innovation Demonstration School of Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงค์เพื่อพฒั นาระบบเก็บข้อมูลนักเรียนสาหรับถงั ขยะอจั ฉริยะ เพื่อเป็ น แนวทางหน่ึงในการส่งเสริมกิจกรรมธนาคารขยะของโรงเรียน ตามแนวคิดการพฒั นานวตั กรรม สิ่งประดิษฐ์จากพลงั งานสะอาดและเป็ นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพฒั นาถงั ขยะอจั ฉริยะเพื่อเก็บข้อมูล นกั เรียน โดยใหม้ ีการกรอกขอ้ มูลรหสั นกั เรียน นบั จานวนขยะ และส่งขอ้ มูลไปยงั ฐานขอ้ มูล ผลการวิจยั พบว่า การควบคุมระบบท้ังหมดโดยการเขียนโปรแกรมควบคุมด้วยบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) เก็บขอ้ มูลรหสั นกั เรียนผา่ นแป้นพิมพต์ วั เลข 12 ป่ ุม (Keypad) นบั จานวนขยะที่ทิ้งลง ถงั ดว้ ยเซ็นเซอร์ตรวจจบั วตั ถุ(Infrared Sensor) โดยแสดงผลขอ้ มูลผา่ นจอแสดงผล (LCD) และส่งขอ้ มูล รหัสนักเรียนและจานวนขยะไปยงั ระบบฐานข้อมูลประมวลผลกลุ่มก้อนเมฆ (Cloud Computing) โดยขอ้ มูลท้งั หมดจะถูกบนั ทึกลงในโปรแกรมตารางคานวณ (Google Sheet) ท่ีสามารถบนั ทึกขอ้ มูลได้ อตั โนมตั ิและไม่สูญหาย คาสาคัญ: ถังขยะอจั ฉริยะ ระบบขอ้ มูลนักเรียน ไมโครคอนโทรลเลอร์ อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง การประมวลผลกลุ่มกอ้ นเมฆ 169

Thกeากร1าป2รรtปhะรTRชะahมุชjeaกมุ mาว1รชิ 2aจาntดักhgางRaราalรนajะaปดUmรบัnะaชiชvnาeุมตgrวมิasชิilหtaาyากวUoาิทfnรยiรTาvะeลeดcยัrhับsเทinชtคoyาโlตนooมิ โgfลหyTยาNeีรวาacทิ ชthยiมonางnoลคalยัลolเgทCคyoรคงั้nโNทนfaeี่โ1tลri2eoยnnีรcาaeชlมCงoคnลfeคrรe้ังnทcี่ e1”2 “๙ ราช“ม๙งครลาขชบั มเคงคลอ่ืลนขนบั วเคัตลกรือ่ รนมนนวำ�ตั เกศรรษมฐกนิจาเปศลรูกษแฐนกวิจคิดปเลทกูคแโนนโวลคยดิสี เี ขทยีควโเนพโ่อืลกยาีสรีเพขฒัียวนเาพทอ่ื ี่ยก่งั ายรนื พ”ัฒนาท่ียงั่ ยืน” กล่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวี ทม่ี กี ารแจ้งเตือนอตั โนมตั แิ ละต้นทุนตา่ UV Sterilizer Box with Automatic Warning and Low-Cost พฒั นน์ รี สิทธ์ิปี วราเดช พรี ะ ชุณหชาติ สุนิธิ ครุฑภาพนั ธ์ วลั นพ หลกั แวงมล* ตอ้ งลกั ษณ์ บุญธรรม และ นิติ วทิ ยาวโิ รจน์* Patnaree Sithipeewaradech, Peera Chunhachart, Sunithi kurtpapan Wannop Lakvaengmon* Tongluck Boontham and Niti Witthayawiroj* โรงเรียนสาธิตนวตั กรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Innovation Demonstration School of Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ ในปัจจุบันได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 ท้ังในประเทศไทย และต่างประเทศทว่ั โลก ทาให้ทุกคนมีความเสี่ยงต่อการติดเช้ือเนื่องจากเช้ือไวรัสสามารถอยู่ติดกับ ส่ิงของที่อยู่รอบตวั เราได้ เช่น หน้ากากอนามยั ธนบตั ร โทรศพั ท์มือถือ สมุด ปากกา เป็ นตน้ อีกท้งั ผลิตภณั ฑฆ์ ่าเช้ือโรคที่มีขายตามทอ้ งตลาดทว่ั ไปมีราคาสูง ทาให้ประชาชนท่ีมีรายไดน้ อ้ ยไม่สามารถซ้ือ มาใช้ได้ งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงค์เพ่ือศึกษาแนวทางการพฒั นานวตั กรรมกล่องฆ่าเช้ือโรคดว้ ยแสงยูวี ท่ีมีการแจง้ เตือนอตั โนมตั ิดว้ ยตน้ ทุนต่า ผลการวิจยั พบวา่ วสั ดุท่ีนามาใชใ้ นการทากล่องฆ่าเช้ือโรคด้วย แสงยูวีสามารถฆ่าเช้ือโรคได้ ประกอบดว้ ย หลอด T5 6W 12V MOLITA UV-C Sterilizer Lamp กล่อง พลาสติก และตะแกรงเหล็ก โดยเขียนโปรแกรมควบคุมกล่องฆ่าเช้ือดว้ ยแสงยูวี เพ่ือใหม้ ีการแจง้ เตือน อตั โนมตั ิเม่ือครบเวลาฆ่าเช้ือท่ีกาหนดในโปรแกรม โดยใชบ้ อร์ด Arduino UNO R3, LCD, Buzzer และ Relay กล่องฆ่าเช้ือโรคดว้ ยแสงยวู ีตน้ แบบสามารถใชง้ านไดจ้ ริงตามที่ไดอ้ อกแบบไว้ และราคาต่ากวา่ ผลิตภณั ฑท์ ่ีขายตามทอ้ งตลาด คาสาคญั : กล่องฆ่าเช้ือดว้ ยแสงยวู ี ตน้ ทุนต่า แจง้ เตือนอตั โนมตั ิ 170

Thกeาก1รา2ปรtปรhะรRTชะaชhมุ jaุมeกmวา1ิชรa2าจntกดัhgางaRราlaรaนะjaปดUmบัรnะชiavชาneตมุ grิมวsaiหชิltayาาวกoUิทาfnยรTiราveะลecดัยrhบัเsทniชtคoyาโlตนooมิโgfลyหยTาNรีeวาacทิชthiยมonางnoคลalลัยloเCคgทyoรคัง้nโNทนfaeี่ โ1rtล2eioยnnีรcาaeชlมCงoคnลfeคrรeงั้ nทc่ี e12” “๙ ราชม“ง๙คลรขาชบั มเคงลคอ่ื ลนขนบั วเัตคกลร่ือรนมนนวำ�ตั เศกรรษรมฐกนจิ าปเศลรกู ษแฐนกวจิคดิ ปเทลคูกโแนนโลวยคีสิดีเเขทียควโเนพโ่ือลกยาสี รเีพขฒั ยี วนเาพทอื่ี่ยกงั่ ยาืนรพ”ัฒนาท่ียง่ั ยืน” เครื่องผลติ พลงั งานไฟฟ้าจากพลงั งานสะอาดแบบพกพา Portable Clean Energy Generator ภูรวชิ ทองสุขศรี สรวชิ ญ์ อรชุน ปิ ยนนั ท์ พรประสิทธ์ิ ธญั ญารัตน์ สายใหม*่ ตอ้ งลกั ษณ์ บุญธรรม และ นิติ วทิ ยาวโิ รจน์* Phurawich Thongsooksri, Sorawit Orachun, Piyanan Pornprasit, Thanyarat Saimai * Tongluck Boontham and Niti Witthayawiroj* โรงเรียนสาธิตนวตั กรรมมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Innovation Demonstration School Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani , THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงค์เพื่อออกแบบเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลงั งานสะอาดแบบพกพา โดยใช้หลกั การทดเฟื องเพ่ือเปลี่ยนพลงั กลผ่านไดนาโมเป็ นพลงั งานไฟฟ้า และอานวยความสะดวก ให้แก่ผูท้ ี่ตอ้ งการใช้พลงั งานไฟฟ้าแบบพกพา โดยจะศึกษาผลที่ไดจ้ ากอตั ราการทดเฟื องจากอตั ราทด เฟื อง 1 ต่อ 12 ส่งผลต่อปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไดจ้ ากการขบั เคล่ือนด้วยพลงั งานกล นาหลกั การ ดงั กล่าวมาออกแบบเป็ นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าแบบพกพา ผลการวิจยั พบว่า เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า พลงั งานสะอาดแบบพกพาสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าไดเ้ พิม่ ข้ึนจากการทดเฟื อง และนาพลงั งานท่ีไดจ้ าก เคร่ืองผลิตกระแสไฟฟ้าแบบพกพามาใชไ้ ดอ้ ยา่ งสะดวก โดยพบวา่ ปริมาณของกระแสไฟฟ้า แรงดนั และ กาลังไฟฟ้า แปรผันตรงกับอัตราการทดเฟื องและความเร็วรอบของการหมุน เม่ือทดสอบกับ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าท่ีมีขนาด 12 โวลล์ 6 วตั ต์ ดว้ ยอตั ราความเร็วรอบจากการหมุน 200 รอบต่อนาที จะได้ ความเร็วรอบของไดนาโมเท่ากบั 2,400 รอบต่อนาที ไดแ้ รงดนั เท่ากบั 15 โวลล์ กระแสไฟฟ้า เท่ากบั 390 มิลลิแอมแปร์ และกาลงั ไฟ เท่ากบั 5.85 วตั ต์ คาสาคญั : พลงั งานสะอาด พลงั งานกล การทดเฟื อง 171

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสีเขยี วเพื่อการพฒั นาท่ีย่งั ยนื ” สาขาสถาปตั ยกรรมศาสตร์ ศลิ ปกรรม และงานสรา้ งสรรค์ 177

การประชมุ วิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลื่อนนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขยี วเพ่อื การพฒั นาทีย่ ่ังยืน” บูรณาการศาสตร์สร้างสรรค์ศิลปนวตั กรรม Intregrated &Creative Innovation Art สุชาติ เถาทอง* Suchat Thaothong* คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพธนบุรี กรุงเทพฯ Faculty of Fine and Applied Arts , Bangkokthonburi University, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ ศิลปะและวิทยาการ เป็นความรู้วิชาการดา้ นต่างๆทางศาสตร์ของรายวิชาความรู้ ในสาขาต่างๆและศิลป์ ของความมีฝี มือกบั การทาให้วิจิตรพิสดาร ท่ีมีความลงตวั ความเป็ นศิลปวิทยาตามความหมายมีลกั ษณะเป็ น องคร์ วมท่ีก่อข้ึน จากการบูรณาการระหวา่ งศาสตร์จนเกิดส่ือสิ่งต่างๆข้ึนมีการอาศยั การคิด : คิดสร้างสรรค์ และ การทา : นวตั กรรมผ่านศิลปะออกแบบและสหวิทยาการอย่างเก่ียวเนื่อง มีบูรณาการระหว่างกนั ที่ลงตวั และ กลมกลืน จะนาไปสู่ศิลปนวตั กรรมแบบใหม่ที่กา้ วหนา้ บริบทของภูมิทศั น์ใหม่ สิ่งแวดล้อมทางสังคม และ technology disruption ถือได้ว่าเป็ นปัจจัยของ ช่วงเวลาแห่งการเปล่ียนผา่ นความเป็ นไปแห่งวิถีผคู้ นที่กา้ วไปสู่โลกใบใหม่ ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มีผลให้ การดาเนินชีวิต การเรียนรู้ และการประกอบกิจการในทุกสาขาวิชาชีพ ไดร้ ับผลกระทบเป็ นอย่างมาก และ กระตุน้ ให้ทุกคนตอ้ งขบคิดถึงแนวทางวิธีการและเทคโนโลยีอย่างใหม่ท่ีมีความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่าง ย่ิง ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 คือทกั ษะทางปัญญาในการคิดวิเคราะห์การสื่อสาร การทางานเป็ นทีมและการ สร้างสรรค์ คาสาคญั : บูรณาการศาสตร์ ศิลปนวตั กรรม ออกแบบ ศิลปะ 173

การประชมุ วชิ าการระดับชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่ือนนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยสี เี ขียวเพื่อการพัฒนาท่ยี ่ังยนื ” พฒั นาผลติ ภณั ฑ์จากไผ่เพ่ือการแปรรูปผลติ ภณั ฑ์ OTOP จงั หวดั ปราจีนบุรี Development of Bamboo Made Products as Transformed OTOP of Prachinburi Province กรณทั สุขสวสั ด์ิ1 มาริน สาลี1 วราภรณ์ ตรีมงคล1 ประทุมทอง ไตรรัตน์2 และ อุไรวรรณ คาสิงหา1* Kornnut Suksawat1, Marin Salee1, Varaporn Treemongkol1, Pratoomtong Trirat2 and Uraiwan Khumsingha1* 1สาขาวชิ าส่ิงทอและเครื่องนุ่งห่ม คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1 Department of Textile and Clothing, Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2คณะเทคโนโลยสี ื่อสารมวลชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2Faculty of Mass Communication Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ วตั ถุประสงคใ์ นการวิจยั มีดงั น้ี 1) พฒั นาผลิตภณั ฑจ์ ากไผด่ ว้ ยการยอ้ มสีจากธรรมชาติสาหรับผลิตภณั ฑ์ ท่ีระลึกผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวดั ปราจีนบุรี 2) ศึกษาความพึงพอใจของผูบ้ ริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์พฒั นา ผลิตภณั ฑ์จากไผ่ กระเป๋ า โคมไฟ ทาการยอ้ มสีตอกไผ่ดว้ ยเปลือกประดู่ และผลิตกระดาษจากใบไผ่ และ ออกแบบผลิตภณั ฑ์จากตอกไผ่และกระดาษจากใบไผ่ ไดแ้ ก่กระเป๋ า และโครมไฟและทาการศึกษาความพึง พอใจเกี่ยวกบั ผลิตภณั ฑด์ า้ น ดา้ นประโยชน์ใชส้ อย ดา้ นความสวยงามและดา้ นภาพรวม โดยผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นการ ออกแบบผลิตภณั ฑ์ จานวน 10 คนสถิติท่ีใช้ ค่าร้อยละ ผลการศึกษาสรุปข้นั ตอนการยอ้ มสีไผ่ นาเสน้ ตอกไปแช่น้าทิ้งไว้ 1 ชว่ั โมง และเตรียมจากสีเปลือกประดู่ โดยนาไปตม้ ที่น้าเดือด 1 ชวั่ โมงใส่หัวน้าส้มสายชู (สารช่วยติดท่ีทาให้สีติดสม่าเสมอ) และนาเส้นตอกไผ่ ที่ เตรียมไวไ้ ปทิ้งไว้ 1 ชวั่ โมงและนาเส้นตอกไปตากกลางแดด ในส่วนของการผลิตกระดาษจากใบไผล่ า้ งใบไผ่ ให้สะอาดนาไปตม้ ใส่โซดาไฟ ตม้ น้าใหเ้ ดือดและรักษาอุณหภูมิ 2-3 ชวั่ โมง ตม้ จนเปื่ อยยยุ่ หรือฉีกตวั ออกจาก กนั นามาป่ันดว้ ยเคร่ืองป่ันแลว้ ใส่ไปลงอ่างทาการชอ้ นเน้ือเยื่อดว้ ยเฟรมนาออกตากแดดประมาณ 1 วนั จนให้ กระดาษแห้ง ในส่วนผลการประเมินความพึงพอใจต่อผลิตภณั ฑ์พบว่าผูเ้ ช่ียวชาญมีความพึงพอใจทุกดา้ น คิดร้อยละ 100 มีความพึงพอใจมากท่ีสุด คาสาคญั : ผลิตภณั ฑ์ ไผ่ การแปรรูป 174

การประชมุ วชิ าการระดับชาตมิ หาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล คร้ังท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference การออกแบบล“๙วดราชลมางยคลผขบั้าเบคลาื่อตนนกิ วโตั กดรยรมไนดำ�้เรศับรษแฐกรจิ งปบลกู ันแนดวาคดิลเทใคจโนมโลายจีสาเี ขกียวอเพา่ือรกยารธพฒัรนรามที่ยจัง่ ยีนนื ” การออกแบบลวดลายผ้าบาตกิ โดยได้รับแรงบนั ดาลใจ มาจากอารยธรรมจนี Batik Design Inspired by Chinese Civilization Manuscript Preparation Guidelines ติณณา อุดม1* จรัสพมิ พ์ วงั เยน็ 2, ก่ิงกาญจน์ พิจกั ขณา3 และ อภิสิทธ์ิ หลงั โส๊ะ1 Tinna Udom1*, Jaratpim Wangyen2, KingKarn Pijukkana3 and Apisit Langsoh1 1สาขาคหกรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวิชยั สงขลา 90000 2สาขาวชิ าออกแบบแฟชน่ั และสิ่งทอ คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชนั่ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 3สาขาวิชาออกแบบผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 1Department of Home Economics Faculty of Faculty of Liberal Arts Rajamangala University of Technology Srivijaya, Songkhla 9000, Thailand 2Department of Fashion and Textile Design Faculity of Industrialtextiles and Fashion Design Rajamangala U* niversity of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok 10300, Thailand 3Industrial Product Design Faculty of Architecture and Design Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok 10300, Thailand Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การออกแบบลวดลายผา้ บาติกโดยไดร้ ับแรงบนั ดาลใจมาจากอารยธรรมจีน มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อออกแบบ ลวดลายผา้ บาติกโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากอารยธรรมจีน และเพ่ือศึกษาความพึงพอใจของผูต้ อบ แบบสอบถาม โดยมีวิธีการดาเนินงาน คือ 1 ออกแบบลวดลายผา้ บาติกไดร้ ับแรงบนั ดาลใจจากอารยธรรมจีน 2 สอบถามความพึงพอใจของผเู้ ชี่ยวชาญ 3 ดาเนินการสร้างสรรคล์ วดลายผา้ บาติก 4 สอบถามความพงึ พอใจของ ผูต้ อบแบบสอบถาม กลุ่มตวั อย่างในการศึกษาคร้ังน้ีคือ กลุ่มนักศึกษาสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์สร้างสรรค์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวิชยั จานวน 30 คน เครื่องมือท่ีใชใ้ นการศึกษา แบบสอบถามความพึงพอใจ ของผเู้ ช่ียวชาญและผตู้ อบแบบสอบถาม วิเคราะห์ขอ้ มูลโดยใชค้ ่าร้อยละและค่าเฉลี่ย ผลการศึกษา พบว่า ผล การคดั เลือกแบบร่างลวดลายผา้ บาติก ที่ไดร้ ับการคดั เลือกจากผูเ้ ช่ียวชาญคือ รูปแบบที่ 5 ผลการศึกษา พบว่า มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั มาก มีค่าเฉลี่ยรวม 4.56 โดยแบ่งระดบั ความพึงพอใจออกเป็น 2 ดา้ น เมื่อพิจารณา ค่าเฉล่ียแต่ละดา้ นพบวา่ ดา้ นรูปแบบลวดลายผา้ บาติก มีคา่ เฉลี่ย 4.60 และดา้ นประโยชนใ์ ชส้ อยมีคา่ เฉลี่ย 4.51 คาสาคญั : การออกแบบ ลวดลายผา้ บาติก อารยธรรมจีน 175

การประชุมวชิ าการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้ังท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขยี วเพ่อื การพฒั นาทีย่ ัง่ ยนื ” ลงสรงสุหร่าย : ศิลปะการราเดย่ี วทคี่ วรค่าแก่การอนุรักษ์ Longsongsurai: Worthy of Conservation Performing Arts on Solo dance พมิ สิริ วงศช์ ูชยั สถิต1 , รจนา สุนทรานนท2์ * และ สุทธิพร บุญส่ง3 Phimsiri Wongchuchaisatid 1, Rojana Suntharanont 2* and Sutthiporn Boonsong3 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควชิ านาฏศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควชิ าการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1Master of Education Program in Performing Arts Education student, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3 Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การศึกษาบทบาทการแสดงศิลปะการราเดี่ยว ชุด ลงสรงสุหร่าย พบว่าการแสดงมีลกั ษณะที่โดดเด่นคือ รูปแบบการแสดงแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ทาใหผ้ ชู้ มทราบถึงเรื่องราวต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน การคดั เลือกผแู้ สดงน้นั จะตอ้ งเป็นตวั พระท่ีมีลกั ษณะสง่างาม บทประพนั ธ์นามาจากบทพระราชนิพนธ์การแสดงละครใน เร่ือง อุณรุท ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ท่ีพรรณนาใหเ้ ห็นท้งั การลงสรง การทรงพระสุคนธ์ และ การทรงเครื่อง เคร่ืองแต่งกายจะแต่งกายยนื เครื่องพระแขนยาวสีเหลือง ตามบทพระราชนิพนธ์ที่กล่าวถึงผวิ กาย ของพระอุณรุทว่า มีผิวพรรณผุดผ่องเป็ นสีเหลือง วงดนตรีท่ีใช้ประกอบการแสดงจะใช้วงปี่ พาทยไ์ มน้ วม เนื่องจากจะมีลักษณะเสียงท่ีทุ้มและนุ่มนวล สอดคล้องกับการร้องเพลงการแสดงละครใน เพลงที่ใช้ ประกอบดว้ ยเพลงหนา้ พาทยต์ น้ เข่าม่าน เพลงลงสรงสุหร่าย และเพลงหนา้ พาทยเ์ สมอ โดยกระบวนท่าราจะมี ความแตกต่างจากการราลงสรงชุดอ่ืน ๆ อย่างชดั เจน คือ จะเห็นครบท้งั กระบวนการราลงสรง การทรงพระ สุคนธ์ และการทรงเครื่อง และในช่วงสุดทา้ ยจะมีการราเพลงหนา้ พาทยป์ ระกอบบทร้อง ซ่ึงไม่ปรากฏในการ แสดงลงสรงชุดใด ในส่วนของฉากและอุปกรณ์ประกอบการแสดงน้นั จะประกอบดว้ ย ตง่ั เตียง ขนั สาคร ขนั น้า คนั ฉ่อง เครื่องพระสาอาง และพระขรรค์ การแสดงราเด่ียว ชุด ลงสรงสุหร่าย เป็ นการแสดงท่ีสืบทอดกนั มา ต้งั แต่สมยั โบราณจนถึงปัจจุบนั จึงเป็นการแสดงท่ีควรค่าแก่การอนุรักษแ์ ละสืบสานใหค้ งอยสู่ ืบต่อไป คาสาคญั : ลงสรงสุหร่าย ศิลปะการราเดี่ยว ละครใน อุณรุท 176

การประชมุ วชิ าการระดับชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้ังที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสเี ขยี วเพ่ือการพัฒนาทย่ี ่ังยนื ” กาลเวลา...พสั ตราภรณ์ (โขน - ละครไทย) Time on the evolution of Pat-tra-porn (Khon performance, Thai drama) พงษเ์ ทพ นอ้ มปัญญากลุ 1, คารณ สุนทรานนท์2*, รจนา สุนทรานนท์2* และ สุทธิพร บุญส่ง3* Phongthep Normpanyakul1, Kamron Suntharanont2*, Rojana Suntharanont2* and Sutthiporn Boonsong3* 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศีกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควชิ านาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควิชาการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1 Master of Education Program in Performing Arts Education student, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] , rojana¬¬[email protected] , sutthiporn¬[email protected] บทคดั ย่อ “โขน และ ละครไทย” ถือเป็ นการแสดงนาฏกรรมทางนาฏศิลป์ และเป็นมรดกของชาติท่ีมีประวตั ิความเป็ นมา อยา่ งยาวนาน จากตน้ รัตนโกสินทร์จวบจนถึงปัจจุบนั องคป์ ระกอบของความเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะของโขนและละคร ไทยไม่ไดม้ ีเพียงท่วงท่าการเคลื่อนไหวท่าราท่ีอ่อนชอ้ ยงดงามเท่าน้นั หากแต่องคป์ ระกอบคือ “เครื่องแต่งกาย” หรือ ศพั ทท์ างนาฏศิลป์ ที่เรียกวา่ “พสั ตราภรณ์” กม็ ีส่วนทาใหก้ ารแสดงโขนและละครไทยมีคุณค่าทางวฒั นธรรมมากยงิ่ ข้ึน ซ่ึงถือวา่ เป็นเสน่ห์และความงดงามท่ีมีร่องรอยทางวฒั นธรรมดา้ นความคิด ความเชื่อมีการประยกุ ตแ์ ละบูรณาการดา้ น ศิลปะหลากหลายแขนง ที่ทรงคุณค่าดา้ นหตั ถกรรม และวจิ ิตรศิลป์ มีความเป็นเอกลกั ษณ์โดดเด่นหาประเทศใดในโลก เปรียบเทียบไม่ได้ ถึงแมว้ ่าโลกจะหมุนไปตามกาลเวลาเหล่าน้ีก็ยงั คงอยคู่ ู่กบั การแสดงโขนและละครไทยดง่ั เช่นเดิม เพียงแต่มีวิวฒั นาการและการพฒั นาต่อยอดเพ่ือใหพ้ สั ตราภรณ์น้นั มีความสวยงาม ประณีต และสะทอ้ นความเป็นไทย ในช่วงยคุ สมยั ต่างๆจนนาไปสู่คุณค่าทางวฒั นธรรมที่โลกและนานาประเทศ ต่างใหก้ ารยอมรับและยกยอ่ งศิลปะแขนง น้ี ดงั น้นั ศิลปะการแต่งกายโขน และ ละครไทยท่ีเล่าขานร่องรอยประวตั ิศาสตร์ที่มีคุณค่าผา่ นพสั ตราภรณ์ ความคิดและ ความต้งั ใจในการบรรจงปักลวดลายที่วิจิตร ซ่ึงบรรพบุรุษไดส้ ร้างสรรคข์ ้ึนมา ถึงแมว้ า่ จะมีการบูรณาการผสมผสาน กบั เทคโนโลยใี นยคุ ปัจจุบนั ในการสร้างพสั ตราภรณ์ แต่ยงั คงความเป็นอตั ลกั ษณ์ของนาฏศิลป์ ไทยด้งั เดิมไว้ ดงั น้นั จึง เป็ นสิ่งท่ีลูกหลานควรอนุรักษก์ ารสร้างพสั ตราภรณ์ ซ่ึงมีคุณค่าควรแก่การอนุรักษส์ ืบทอดให้แก่ชนรุ่นหลงั เพ่ือคง ความเป็นเอกลกั ษณ์ของความเป็นไทยในสงั คมโลก คาสาคญั : พสั ตราภรณ์ โขน ละครไทย ววิ ฒั นาการ 177

การประชุมวชิ าการระดับชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครง้ั ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอื่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขียวเพอ่ื การพัฒนาท่ียั่งยืน” เทริดศรัทธา กญั ญาภทั ร เกษมสุข1, รจนา สุนทรานนท์2* คารณ สุนทรานนท์2 และ สุทธิพร บุญส่ง3 Kanyaphat Kasemsuk 1, Rojana Suntharanont 2*, Khomron Suntharanont2 and Sutthiporn Boonsong3 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควิชานาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควิชาการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1Master of Education Program in Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3 Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ นาฏศิลปิ นโนรามีความเชื่อสืบทอดกันมาว่า เทริด ที่ผ่านการทาพิธีบูชาครูโนรามาแลว้ ถือเป็ นของ ศกั ด์ิสิทธ์ิ ผทู้ ่ีสืบเช้ือสายการราโนราจากบรรพบุรุษ มกั นาเทริดมาบูชาในพิธีโนราโรงครูทุกคร้ัง และจดั วางไว้ บนปะราพิธี พิธีกรรมดงั กล่าวมีการครอบเทริดใหแ้ ก่โนราใหม่เพื่อรับเป็นศิษย์ นอกจากน้ียงั มีความเช่ือวา่ เทริด เป็ นเครื่องรางของขลงั สามารถขจดั ปัดเป่ าสิ่งไม่ดีและป้องกนั คุณไสยได้ ทาใหน้ าฏศิลปิ นโนรามีขวญั กาลงั ใจ เกิดความมน่ั ใจในการแสดงและช่วยปกปักรักษา ทาให้ผชู้ มเกิดความหลงใหลนิยมชมชอบในการแสดง ดงั น้นั เทริดจึงมิใช่เป็ นเพียงศิราภรณ์ หากแต่เป็ นสัญลกั ษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็ นนาฏศิลปิ นเช้ือสายโนราที่มีครู นอกจากน้ี เทริด ยงั ใชเ้ ป็ นตวั แทนของละครด้งั เดิมประเภทแรกของไทย โดยปรากฎใชใ้ นพิธีไหวค้ รู ครอบครู โขน ละคร ซ่ึงผูป้ ระกอบพิธีไหวค้ รูจะครอบเทริด ครอบศีรษะพระภรตมุนี และศีรษะพระพิราพ ให้แก่นาฏ ศิลปิ น เพ่ือแสดงว่าผนู้ ้นั กา้ วเขา้ สู่การเป็ นนาฏศิลปิ นอยา่ งเตม็ ตวั การอนุรักษจ์ ารีตการครอบเทริดในพิธีกรรม ไหวค้ รู เป็ นความเชื่อความศรัทธาของนาฏศิลปิ น ท่ีควรจะสืบสานต่อไป มิใช่เพียงแค่เฉพาะผสู้ ืบเช้ือสายโนรา เท่าน้นั หากแต่มีความเชื่อของนาฏศิลปิ น ที่เช่ือว่าเทริดเป็ นครูละครคนแรก และยงั เป็ นสัญลกั ษณ์ท่ีบ่งบอกถึง ความกตญั ญูกตเวทิตาต่อบรรพบุรุษ และครูผูถ้ ่ายทอดซ่ึงเป็ นการแสดงถึงอตั ลกั ษณ์ของการแสดงโนราหรือ พธิ ีกรรมอนั ดีงามใหค้ งอยตู่ ลอดไป คาสาคญั : โนรา ความเช่ือ ความศรัทธา พิธีกรรม 178

การประชมุ วิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครัง้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลือ่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสเี ขยี วเพื่อการพัฒนาที่ยง่ั ยืน” การเปรียบเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในรายวชิ านาฎศิลป์ ไทย โขนพระราหน้าหน้าพาทย์ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1ระหว่างกลุ่มทเี่ รียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอน ทกั ษะปฏบิ ตั ขิ องแฮร์โรว์กบั กล่มุ ทเ่ี รียนโดยใช้วธิ ีสอนแบบปกติ The Comparative of the Learning Achievement of Secondary 1 (Grade 7) Student in Thai Dramatic Arts CourseofTheMaleCharacters(KhonPhra) (Nah-PahtDance)BetweentheStudentGroup WhoStudiedbyUsingHarrow’spractical skillteachingmodelandStudentGroupWhostudiedby Traditional Instruction. ดนยั จนั ทร์ศรี 1, รจนา สุนทรานนท์2*, คารณ สุนทรานนท์2 และ สุทธิพร บุญส่ง3 Danai jansri1, Ronjana suntharanont2*, khomron suntharanont2 and Sutthiporn Boonsong3 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควิชานาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควชิ าการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1 Master of Education Program in Performing Arts Education student, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3 Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวิจยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้รายวิชานาฏศิลป์ ไทยโขนพระราหนา้ พาทย์ ของ นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนทกั ษะปฏิบตั ิ ของแฮร์โรว์ ระหว่างก่อนเรียนกบั หลงั เรียน เพื่อ เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชานาฏศิลป์ ไทย โขนพระราหนา้ พาทย์ ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 ระหว่างกลุ่ม ทดลองเรียนโดยใชร้ ูปแบบการสอนทกั ษะปฏิบตั ิของแฮร์โรว์ และกลุ่มควบคุมท่ีเรียนโดยใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ เปรียบเทียบ ผลสมั ฤทธ์ิดา้ นทกั ษะปฏิบตั ิรายวชิ านาฏศิลป์ ไทยโขนพระราหนา้ พาทยข์ องนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1ระหว่างกลุ่มทดลองที่ เรียนโดยใชร้ ูปแบบการสอนทกั ษะปฏิบตั ิของแฮร์โรวก์ บั กลุ่มควบคุมที่ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ โดยศึกษาจากกลุ่มตวั อยา่ ง คือ นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1วิทยาลยั นาฏศิลปสุพรรณบุรี จานวน2 หอ้ งจากหอ้ งเรียนท่ีจดั แบบคละความสามารถโดยทาการสุ่ม แบบแบ่งกลุ่มเป็ นกลุ่มทดลองจานวน 12 คน และกลุ่มควบคุมจานวน 12 คน เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการวิจยั ไดแ้ ก่ 1) แผนการจดั การ เรียนรู้ โดยใชร้ ูปแบบการสอนทกั ษะปฏิบตั ิของแฮร์โรว์จานวน8แผน 2)แบบทดสอบผลสัมฤทธ์ิราหนา้ พาทย์3)แบบประเมิน ทกั ษะการปฏิบตั ิ สถิติที่ใชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูลไดแ้ ก่ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที แบบกลุ่มตวั อยา่ ง อิสระและแบบกลุ่มตวั อยา่ งไม่อิสระ ผลการวจิ ยั พบวา่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนรู้ในรายวชิ านาฏศิลป์ ไทยโขนพระราหนา้ พาทยน์ กั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1ใน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1และ6ของกลุ่มทดลองหลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียนอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001และผลสมั ฤทธ์ิ ทางดา้ นทกั ษะปฏิบตั ิในรายวิชานาฏศิลป์ ไทยโขนพระราหนา้ พาทย์ของกลุ่มทดลองท่ีเรียนโดยใชร้ ูปแบบการสอนของแฮร์โรว์ สูงกวา่ กลุ่มควบคุมที่เรียนโดยใชร้ ูปแบบการสอนแบบปกติ อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 คาสาคญั :นาฏศิลป์ ไทยโขนพระเพลงหนา้ พาทย์การสอนทกั ษะปฏิบตั ิของแฮร์โรว์ 179

การประชุมวชิ าการระดับชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขยี วเพือ่ การพฒั นาทีย่ ่ังยืน” สิละ คณะน้องใหม่บางปู Sila: Folk Martial Arts สิริญาดา สองภกั ดี 1, รจนา สุนทรานนท์2*, คารณ สุนทรานนท์2 และ สุทธิพร บุญส่ง 3 Siriyada Songpakdee1, Ronjana suntharanont2*, khomron suntharanont 2 and Sutthiporn Boonsong3 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศีกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควิชานาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควิชาการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1 Master of Education Program in Performing Arts Education student, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3 Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ สิละเป็ นศิลปะการต่อสู้ของคนไทยเช้ือสายมลายู ท่ีต่อสู้ด้วยมือเปล่า เทา้ เปล่า เน้นให้เห็นลีลาการ เคล่ือนไหวศิลปะการต่อสู้ที่สวยงาม สิละแพร่หลายในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ และมีอิทธิพลมา สู่จงั หวดั ชายแดนใต้ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล และสงขลา ซ่ึงผเู้ รียนวิชาน้ีตอ้ งนาสิละไปใชใ้ นการป้องกนั ตวั เท่าน้นั สิละแบ่งออกเป็ น 3 รูปแบบ 1. สิละยาโต๊ะ เป็ นสิละท่ีใชใ้ นการแข่งขนั ต่อสู้ที่มีกฎกติกาการตดั สิน อยา่ งชดั เจน 2. สิละตารี เป็นสิละที่แสดงในจงั หวะลีลาการร่ายราท่ีสวยงาม 3. สิละกริช เป็นการแสดงศิลปะการ ต่อสู้ดว้ ยอาวุธกริช โดยกระบวนท่าราจะเคล่ือนไหวไปตามจงั หวะและทานองเพลง ซ่ึงจะปรับเปลี่ยนไปตาม ลีลาของผแู้ สดง การแสดงสิละมีกระบวนท่ารา ท้งั หมด 12 ท่า แบ่งไดเ้ ป็ น 3 ช่วง ไดแ้ ก่ ราไหวค้ รู ราสี่ทิศ และ จบดว้ ยการต่อสู้ ดงั น้นั จงั หวะก็จะเริ่มตน้ ที่จงั หวะชา้ ปานกลาง และเร็ว ตามลาดบั เครื่องดนตรีประกอบดว้ ย กลองมลายู 1 คู่ ฆอ้ ง 1 ใบ และป่ี ชวา 1 เลา ส่วนการแต่งกายของการแสดงสิละนิยมแต่งกายรัดกุม สวมผา้ โพก ศีรษะ นุ่งกางเกงขายาว ใส่เส้ือยืดคอกลม มีผา้ คาดเอวลวดลายสวยงาม นิยมแสดงในงานเทศกาลสาคญั งานแก้ บน งานเขา้ สุหนตั หรืองานเฉลิมฉลองในโอกาสต่าง ๆ กล่าวไดว้ ่า สิละเป็ นศิลปะการแสดงที่ประมวลศิลปะ การต่อสู้ วถิ ีชีวติ และค่านิยมของชาวไทยภาคใต้ ซ่ึงควรค่าแก่การอนุรักษ์ และส่งเสริมใหค้ งความเป็นเอกลกั ษณ์ ของความเป็นไทยใหค้ งอยตู่ ่อไป คาสาคญั : สิละ ศิลปะการต่อสู้ อตั ลกั ษณ์ภูมิปัญญา 180

การประชมุ วิชาการระดับชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้ังที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่อื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยสี ีเขียวเพอ่ื การพัฒนาท่ยี ง่ั ยืน” ประสิทธิภาพของฐานรองรับข้อต่อตงไผ่-คานทรงกระบอก Performance of bamboo joist and cylindrical beam support โสพิศ ชยั ชนะ สรณียา หมน่ั ดี และ ชิษณุชา ขมั ภรัตน์* Sopit Chaichana, Soraneya Mhundee and Chidsanucha Khamparat* ภาควชิ าเทคโนโลยสี ถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Architectural Technology, Faculty of Architecture, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อเปรียบเทียบและประเมินประสิทธิภาพการรับแรงดดั ของตงไผ่ที่ไม่เสริม แท่นรองรับ เปรียบเทียบกบั ตงที่เสริมแท่นรองรับ ทดสอบโดยใช้ท่อนไผ่ขนาดเส้นผ่านศูนยก์ ลาง 30-32 มิลลิเมตร ความยาว 1.20 เมตร ทาหนา้ ท่ีเป็นตง วางพาดบนท่ออลูมิเนียม ขนาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 40 มิลลิเมตร ความหนา 5 มิลลิเมตร ทาหนา้ ท่ีเป็นคาน โดยมีช่วงพาด 100 มิลลิเมตร การยดึ ต่อทาโดยการเจาะรูทะลุคานและ ตง โดยแบ่งชุดทดสอบออกเป็น 2 แบบ คือ ชุดตงแบบที่ไม่มีแท่นรองรับ และชุดตงแบบที่มีแท่นรองรับ โดยใช้ ไผท่ ่อนเดียวกนั จานวน 10 ท่อน สาหรับแท่นรองรับใชก้ ารข้ึนรูปดว้ ยเคร่ืองพิมพส์ ามมิติเวา้ คร่ึงวงกลมท้งั สอง ดา้ นต้งั ฉากกนั ทดสอบประสิทธิภาพการรับแรงโดยการโหลดน้าหนกั ท่ีก่ึงกลางดว้ ยแม่แรงไฟฟ้าผา่ นตราชงั่ ดึง เมื่อทาการดึงคานลงจนถึงระยะท่ีกาหนดแลว้ อ่านคา่ น้าหนกั จากน้นั จึงนาค่าน้าหนกั ที่ไดข้ องชุดทดสอบท้งั สอง ชุดมาเฉลี่ยเพ่ือเปรียบเทียบประสิทธิภาพการรับน้าหนกั จากการวิจยั พบว่า ชุดตงแบบที่ไม่มีแท่นรองรับ มีค่า การรับน้าหนกั เฉล่ียที่ 17.69 กิโลกรัม ชุดตงแบบท่ีมีแท่นรองรับ มีค่าการรับน้าหนกั เฉล่ียท่ี 22.05 กิโลกรัม ซ่ึง การใชแ้ ท่นรองรับที่ตง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้าหนัก ไดร้ ้อยละ 24.6 ส่งผลให้สามารถใชต้ งไผ่ ขนาดเดิมไดโ้ ดยมีช่วงพาดมากข้ึน หรือสามารถเพิ่มระยะห่างระหวา่ งตงมากข้ึน เป็นการลดปริมาณวสั ดุในการ ก่อสร้างจากพ้นื ถ่ินลง คาสาคญั : ไผ่ ตง ฐานรองรับ 181

การประชุมวชิ าการระดับชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้ังท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขียวเพอ่ื การพัฒนาท่ียงั่ ยนื ” รูปแบบบ้านพกั อาศัยของคู่สมรสข้ามวฒั นธรรมในจังหวดั อุดรธานี The patterns of residential building of cross cultural marriage in Udon Thani Province ณฐั วฒุ ิ เท่ียงตรง* Nattawut Thiangtong* Faculty of Architecture, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Pathum Thani, 12110, Thailand. *Corresponding author. E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การแต่งงานขา้ มวฒั นธรรมเป็ นปรากฏการณ์อยา่ งหน่ึงท่ีเกิดข้ึนในพ้ืนที่ชุมชนชาวอีสานอนั เน่ืองจากผล พวงของสงครามเวียดนามและบริบทของเศรษฐกิจสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ดงั จะเห็นไดใ้ นหลายจงั หวดั ของ ภูมิภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือเช่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา เป็ นต้น งานวิจัยน้ีมี วตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาถึงรูปแบบบา้ นพกั อาศยั ที่ไดร้ ับผลกระทบจากการแต่งงานขา้ มวฒั นธรรม และเสนอแนะ แนวทางการออกแบบบา้ นพกั อาศยั ที่สอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะชุมชนในเขตภูมิภาคอีสานซ่ึงแวดลอ้ มดว้ ยบริบท ของการแต่งงานขา้ มวฒั นธรรม กระบวนการวจิ ยั ประกอบดว้ ยการศึกษาและคน้ ควา้ ขอ้ มูล 2 ส่วนคือ ขอ้ มูลปฐม ภูมิ (แบบสอบถามความพึงพอใจในการใชช้ ีวิตคู่ การสัมภาษณ์และกรณีศึกษา) และขอ้ มูลทุติยภูมิ (เอกสาร บทความ และงานวิจยั ) โดยส่วนของขอ้ มูลปฐมภูมิน้นั มาจากตวั อยา่ งจานวนท้งั สิ้น 13 ตวั อยา่ งกระจายอยใู่ น 3 อาเภอของจงั หวดั อุดรธานีคือ อาเภอบา้ นดุง อาเภอหนองววั ซอ และอาเภอเพญ็ ผลการวิจยั ประกอบดว้ ย 2 ส่วน พบว่า ส่วนท่ี1 รูปแบบบา้ นพกั อาศยั ท่ีทาการศึกษามีลกั ษณะที่สอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะทางสถาปัตยกรรมอีสาน แบบที่ไดร้ ับอิทธิพลชาวเมือง (หลงั รัชสมยั รัชกาลที่ 6) (Sutthitham, T., 2001:228) แต่ไดม้ ีการปรับเปลี่ยน ลกั ษณะของบา้ นพกั อาศยั ตามการใชง้ านและรสนิยมของคู่สมรส ซ่ึงส่วนใหญ่จะออกแบบบา้ นพกั อาศยั ให้มี ลกั ษณะคลา้ ยคลึงกบั รูปแบบบา้ นพกั อาศยั ในภูมิลาเนาของฝ่ ายสามีในต่างประเทศ ในส่วนของกระบวนการการ ออกแบบจะเกิดจากท้งั สามีหรือภรรยาหรือท้งั สามีและภรรยาเป็ นผูอ้ อกแบบร่วมกนั และบางส่วนใชบ้ ริษทั สถาปนิกเป็ นผูอ้ อกแบบ ดงั น้ันผลการศึกษาในส่วนที่ 2 ผูว้ ิจยั จึงไดน้ าเสนอรูปแบบบา้ นพกั อาศยั เพื่อใชเ้ ป็ น แนวทางในการตัดสินใจสาหรับคู่สมรสขา้ มวฒั นธรรมให้มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตในชุมชนและเอ้ือ ประโยชน์ต่อการใชง้ านของพ้ืนท่ีดว้ ยกนั ท้งั หมด 3 รูปแบบ คือ 1) บา้ นเด่ียว 1 ช้นั ใชง้ บประมาณเฉลี่ย 9,250 บาทต่อตารางเมตร 2) บา้ นเด่ียว 2 ช้นั ใชง้ บประมาณเฉล่ีย 14,000 บาทต่อตารางเมตรและ 3) บา้ นเด่ียวใตถ้ ุนสูง ใชง้ บประมาณเฉล่ีย 13,000 บาทต่อตารางเมตร คาสาคญั : รูปแบบอาคาร บา้ นพกั อาศยั การสมรสขา้ มวฒั นธรรม อีสาน 182

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครั้งท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลื่อนนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขียวเพอื่ การพัฒนาท่ียง่ั ยืน” การพฒั นาหลกั สูตรสาระเพม่ิ เตมิ นาฏศิลป์ เรื่องระบานาฏยมาลา สาหรับนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 Development of additional curriculum of dramatic arts on the Natayamala dance for Primary 6 (Grade 6) students องั คณา โตกระโทก 1 รจนา สุนทรานนท์2* คารณ สุนทรานนท์2 และ สุทธิพร บุญส่ง 3 Angkana Tokratoke 1, Ronjana suntharanont 2*, khomron suntharanont2 and Sutthiporn Boonsong3 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศีกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควิชานาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควชิ าการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1Master of Education Program in Performing Arts Education student, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3 Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื 1. พฒั นาหลกั สูตรสาระเพม่ิ เติมนาฏศิลป์ เรื่องระบานาฏยมาลา สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 2. ศึกษาผลการใชห้ ลกั สูตร กลุ่มตวั อยา่ งที่ใชใ้ นงานวิจยั คร้ังน้ีแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 พฒั นา หลกั สูตรเพิ่มเติมรายวิชานาฏศิลป์ ชุดระบานาฏยมาลา ไดแ้ ก่ นกั เรียน ชุมชน ผูบ้ ริหารและครู จานวนท้งั หมด 55 คน และผบู้ ริหารและคณาจารย์ จานวน 9 คน ระยะ ที่ 2 ผลการใชห้ ลกั สูตร ไดแ้ ก่ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียน เป่ี ยมสุวรรณวิทยา สังกดั สานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 1 ห้อง จานวน 25 คน เลือกกลุ่มตวั อยา่ งแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) โดยนาหลกั สูตรไปจดั การเรียนรู้ใหก้ บั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 สถิติท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูลไดแ้ ก่ คา่ เฉล่ีย (Mean) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การทดสอบ t-test (dependent) เปรียบเทียบผลการเรียนก่อนและหลงั เรียน และค่าร้อยละ ผลการศึกษาพบว่า 1) การพฒั นาหลกั สูตรสาระเพ่ิมเติมนาฏศิลป์ เร่ืองระบานาฏยมาลา พบว่าผูบ้ ริหารและ คณาจารยม์ ีความเห็นต่อประสิทธิภาพของหลกั สูตรโดยรวมในระดบั มากที่สุด ผลการใชห้ ลกั สูตรสาระเพ่ิมเติม พบว่า นกั เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05 เม่ือพิจารณาเป็ นราย ดา้ น พบวา่ นกั เรียนมีผลสมั ฤทธ์ิดา้ นความรู้ อยใู่ นระดบั ดีมาก และมีผลสัมฤทธ์ิทางดา้ นทกั ษะปฏิบตั ิ อยใู่ นระดบั ดีมาก สรุปไดว้ า่ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนโดยรวม เรื่องระบานาฏยมาลา อยใู่ นระดบั ดีมาก คาสาคญั : การพฒั นาหลกั สูตรสาระเพ่มิ เติม นาฏศิลป์ ระบานาฏยมาลา 183

การประชุมวชิ าการระดับชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครงั้ ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสีเขยี วเพ่ือการพัฒนาท่ีย่งั ยืน” อตั ลกั ษณ์สายพนั ธ์ุเเมลงเพื่อการสร้างสรรค์งานศิลปกรรม The application of Insect Identification to generate insect artworks วชั ระ สุขธรรม* และ สมพร ธุรี Watchara Sukthum and Somporn Turee คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Faculty of Fine and Applied Arts, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ มนุษยม์ กั จะมองขา้ มและไม่เห็นคุณค่าของแมลงหรือมีทศั นคติในดา้ นลบการวิจยั มีวตั ถุประสงค์ เพ่ือ ศึกษาวิเคราะห์อตั ลกั ษณ์สายพนั ธุ์เเมลง เพ่ือนามาประกอบสร้างให้เกิดรูปทรงใหม่ข้ึนเป็ นผลงาน ศิลปกรรม รูปแบบสื่อผสมโดยการนาระบบเเสงสวา่ งเขา้ มามีส่วนร่วมกบั งานจิตรกรรมรูปเเบบลายเสน้ ตามทฤษฎีเเสงใน ท่ีมืดเพ่ือใหเ้ ห็นถึงรูปแบบอตั ลกั ษณ์เเมลงชนิดต่าง ๆ และเป็นเครื่องมือสะทอ้ นใหเ้ ห็น ถึงการดารงชีวิตของเเม ลงเป็ นงานศิลปกรรมสื่อผสมรู ปแบบก่ึงนามธรรม แมลงถูกมองเป็ นสิ่งมีชีวิตที่ดูแล้วก่อให้เกิดอันตราย ที่จริงเเล้วมีแมลงเพียงไม่กี่ชนิดที่มีอันตราย ต่อมนุษยโ์ ดยตรงในทางกลบั กนั แมลงกบั สร้างประโยชน์ใหก้ บั ธรรมชาติและมนุษย์ จากเหตุผลดงั กล่าว ผวู้ ิจยั ไดส้ ร้างสรรคผ์ ลงานศิลปกรรมจากการสืบคน้ อตั ลกั ษณ์เฉพาะตวั ที่แตกต่างกนั ของเเมลงเเต่ละสายพนั ธุ์ เกบ็ เป็น ขอ้ มูลท้งั รูปร่าง รูปทรง สีสันต่างๆ บางสายพนั ธุ์กาลงั อยู่บนเส้นทางของการสูญพนั ธุ์ เม่ือนาหลกั การทาง ทศั นศิลป์ มาปรับใช้ นารูปร่างและรูปทรงมา จดั องคป์ ระกอบศิลป์ เพ่ือ สะทอ้ นให้เห็นความงามจากรูปทรง เฉพาะสายพนั ธุเ์ เมลงผา่ นกระบวนการ เพิ่ม ลด ตดั ทอน รูปทรงใหม้ ีรูปลกั ษณ์ท่ีมีเอกลกั ษณ์และเกิดคุณค่าความ งามทางสุนทรียภาพเพื่อให้เป็ นผลงานศิลปกรรมรูปเเบบ ก่ึงนามธรรม เทคนิคสื่อผสม ร่วมกบั การวาดดว้ ยสี โทนเดียว และรูปแบบเทเนบริสมท์ ี่ใชค้ วามแตกต่างอยา่ งมากของแสงและความมืดในผลงานเพ่ือแสดงคุณค่า และมุ่งเนน้ ใหเ้ ห็นความสาคญั ของรูปร่าง รูปทรง และเร่ืองราว ผลงานสร้างสรรคท์ ี่ผสมผสานกบั การติดต้งั ไฟ แอลอีดีมาเป็นเครื่องมือสาคญั ใน ผลงานที่นาการขดู ขีดแผน่ อะคริลิคให้เกิดร่องรอยการหักเหของแสงเกิดเป็ น ผลงานศิลปกรรมที่มีท่ีมาจากอตั ลกั ษณ์เฉพาะตวั ของ รูปร่าง รูปทรงแมลงท่ีประกอบใหม่เป็ นผลงานสื่อผสมท่ี แสดงออกดว้ ยแสงและยงั แฝงความหมายไวผ้ ่านเเสงสะทอ้ นเพ่ือให้เห็นของคุณค่าทางความงามความสาคญั ของวฏั จกั รใน ธรรมชาติของสิ่งมีชีวติ ขนาดเลก็ ท่ีเรียกวา่ เเมลง คาสาคญั : การสร้างสรรค์ อตั ลกั ษณ์ เเมลง เเสดงออกดว้ ยเเสง 184

การประชมุ วิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสเี ขียวเพอ่ื การพฒั นาทย่ี งั่ ยืน” ฟ้อนภูไทบ้านวงั ข่อย Phu Thai Dance Performance at Ban Wang Koi อนุพงษ์ สีดา1, รจนา สุนทรานนท์2*, คารณ สุนทรานนท์2* และ สุทธิพร บุญส่ง 3* Anuphong Seedum1, Ronjana Suntharanont 2*, kamron Suntharanont 2*and Sutthiporn Boonsong 3* 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศีกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควชิ านาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควิชาการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1 Master of Education Program in Performing Arts Education student, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3 Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] ,[email protected] ,[email protected] บทคดั ย่อ การแสดงฟ้อนภูไทบา้ นวงั ข่อย เป็ นการแสดงของกลุ่มภูไท ในตาบลวงั ข่อย อาเภอไพศาลี จังหวดั นครสวรรค์ ชนเผา่ ภูไท หรือ ผไู้ ท มีถ่ินฐานด้งั เดิมอยใู่ นแควน้ สิบสองจุไทยและแควน้ สิบสองปันนา แลว้ อพยพ มาที่ อาเภอกดุ หวา้ จงั หวดั กาฬสินธุ์ แลว้ ยา้ ยมาต้งั ถิ่นฐานที่บา้ นวงั ข่อย ซ่ึงเรียกกลุ่มน้ีวา่ ‘‘กลุ่มกาฬสินธุ์’’ ไดม้ ี การอนุรักษศ์ ิลปะการแสดงฟ้อนภูไทแบบด้งั เดิมไว้ โดยเฉพาะการการสืบทอด การบรรเลงดนตรีพ้ืนบา้ น ซ่ึง ประกอบดว้ ย กลอง แคนและพิณ เป็นหลกั ทานองเพลงหรือลายเพลงที่ใชบ้ รรเลงมีดงั น้ี คือ ลายภูไทด้งั เดิม ลาย พ้ืนบา้ นอีสาน ลายเพลงประกอบการขบั ร้องเพลงลูกทุ่งหมอลาตามสมยั นิยม กระบวนท่าฟ้อนมีอยู่ 5 ท่า คือ ท่า เดินภูไท ท่าฟ้อนขา้ ง ท่ายิง ท่ามว้ นหาง และท่าวงเดือน แต่งกายดว้ ยชุดพ้ืนเมืองภูไท ประกอบดว้ ยเส้ือแขน กระบอกสีดาหรือสีน้าเงินเขม้ คอกลมหรือคอต้งั ตกแต่งคอเส้ือ ปลายแขน และสาบเส้ือ โดยใชไ้ หมหรือฝ้าย ลายขิดมาขลิบริม ส่วนผา้ ซ่ินเป็ นผา้ มดั หมี่สีดาหรือสีน้าเงิน เรียกว่า หมี่ต่อตีน ห่มผา้ สไบลายขิดสีแดงทอ ลวดลายสลบั กบั ลายแพรวา ซ่ึงเป็ นลายที่บ่งบอกถึงเอกลกั ษณ์ของชาวภูไท ทรงผมจะเกลา้ มวยไวด้ า้ นหลงั ทา้ ย ทอย เคร่ืองประดบั ส่วนใหญ่เป็ นเครื่องเงินการแสดงฟ้อนภูไทบา้ นวงั ข่อย จะแสดงในงานประจาปี ของทอ้ งถ่ิน ดงั น้นั จึงควรอนุรักษฟ์ ้อนภูไทบา้ นวงั ข่อยใหค้ งอยู่ เพ่ือสืบทอดภูมิปัญญาพ้ืนบา้ นที่มีคุณค่าทางศาสตร์และศิลป์ ใหค้ งความเป็นอตั ลกั ษณ์ของชาวภูไทต่อไป คาสาคญั : ฟ้อนภูไทบา้ นวงั ข่อย กลุ่มกาฬสินธุ์ ตาบลวงั ข่อย 185

การประชุมวชิ าการระดับชาตมิ หาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขยี วเพ่อื การพัฒนาท่ียงั่ ยนื ” สัดส่วนด้ามจับและใบมีดของมดี ตรี ้อน Handgrip and blade proportion of forging knives ณพงศป์ กรณ์ ผลินยศ* และ ณัฏฐกฤษฏ์ ศภุ กรพินธคุปต์ Napongpakorn Phalinyot* and Nattakrist Supakornpinthakoopt สาขาวิชาเทคโนโลยสี ถาปัตยกรรม คณะวสิ ถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Architectural Technology, Faculty of Architecture, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ มีดตีร้อนเป็ นเครื่องมือที่ถูกประดิษฐ์ข้ึนเฉพาะโดยช่างในแต่ละทอ้ งถ่ิน มีดจึงเป็ นส่ิงที่สามารถสะทอ้ น บริบทในแต่ละพ้ืนท่ีได้ จุดศูนยถ์ ่วงของมีดในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือมกั อยเู่ ลยจุดก่ึงกลางของมีดไปทางปลาย ใบมีดสอดคลอ้ งกบั การใชง้ านที่ตอ้ งการการหวดฟันที่หนกั หน่วงต่อไมเ้ ตง็ รังที่มีอยูม่ ากในพ้ืนที่ งานวิจยั น้ีได้ พิจารณาจากองคป์ ระกอบหลกั ของมีดใบตายตามประโยชน์ใชส้ อยท่ีสาคญั ซ่ึงประกอบไปดว้ ยดา้ มสาหรับจบั และใบมีดสาหรับตดั เฉือนตามวตั ถุประสงคข์ องการใชง้ าน ซ่ึงพบว่าสัดส่วนระหว่างความยาวของดา้ มจบั ต่อ ความยาวท้งั หมดของมีดตีร้อนโดยเฉล่ียอยทู่ ี่ร้อยละ 40.73 โดยในมีดจากภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือมีค่าเฉล่ียร้อย ละ 41.26 ในขณะท่ีมีดในภาคกลางและภาคเหนือร้อยละ 40.27 และเมื่อพิจารณาจากช่วงแคบท่ีสุดโดยเฉลี่ย ท้งั หมดมีสัดส่วนร้อยละ 49.5 ของช่วงที่กวา้ งที่สุดของใบมีด โดยในมีดจากภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือมีค่าเฉล่ีย ร้อยละ 46.63 จึงแสดงให้เห็นว่ามีดจากพ้ืนท่ีดงั กล่าวมีสัดส่วนดา้ มยาวกว่าค่าเฉลี่ย และมีส่วนแคบของมีด แตกต่างจากส่วนกวา้ งท่ีสุดของใบมีดมากกวา่ คา่ เฉล่ีย ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นถึงการเพิม่ โมเมนตใ์ นการเหวย่ี งฟัน คาสาคญั : มีด สดั ส่วน ช่างตีมีด 186

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสีเขยี วเพอื่ การพัฒนาที่ยง่ั ยืน” หนุบุตรทวลิ กั ษณ์ HanubutreThaviluck (Sons of Hunuman in Two Characters) ภูษณ ฟ้อนราดี 1, คารณ สุนทรานนท์2*, รจนา สุนทรานนท์2 และ สุทธิพร บุญส่ง3 Pusana fonramdee1, khomron suntharanont 2*, Ronjana suntharanont2 and Sutthiporn Boonsong 3 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศีกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควิชานาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควิชาการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1 Master of Education Program in Performing Arts Education student, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3 Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ หนุบุตร คือบุตรของหนุมานลิงตวั เอกของโขนซ่ึงเป็ นนาฏกรรมช้นั สูงท่ีไดก้ ารยอมรับจากองคก์ ารยเู นส โก้ ใหเ้ ป็นมรดกทางวฒั นธรรมที่จบั ตอ้ งไม่ได้ โขน นิยมแสดง เรื่อง รามเกียรต์ิ ซ่ึงมีตวั โขนสามฝ่ าย มนุษย์ ยกั ษ์ และลิง โดยเฉพาะตวั โขนฝ่ ายลิง หนุมานมีบทบาทสาคญั เป็นอยา่ งมาก หนุมานมีบุตรท่ีมีอิทธิฤทธ์ิเก่งกลา้ และมี ลกั ษณะพิเศษที่เป็ นเอกลกั ษณ์ของตวั เอง 2 ตวั โขน ไดแ้ ก่ มจั ฉานุ มีลกั ษณะกายสีขาวมีหางเป็ นปลา เน่ืองจาก เป็ นบุตรของหนุมานกบั นางสุพรรณมจั ฉา แสดงให้เห็นถึงการขา้ มสายพนั ธุ์ระหว่างลิงกบั ปลาที่มีลกั ษณะของ ร่างกายที่แตกต่างกนั ของสตั วส์ องชนิดแต่สามารถนารูปแบบเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั มาประกอบเป็นร่างกายและท่า ราลิงปนปลาของตวั มจั ฉานุ ส่วนอสุรผดั มีกายสีขาว หนา้ เป็ นลิงแต่มีตวั และศีรษะเป็ นยกั ษซ์ ่ึงเกิดจากหนุมาน กบั นางเบญกาย เน่ืองจากบุคลิกท่าทางส่วนใหญ่จะเป็ นยกั ษใ์ นกระบวนท่าราจะบ่งบอกลกั ษณะของลิงดว้ ย อากปั กริยาการเกาท่ีเป็ นเอกลกั ษณของลิง ดงั น้นั ตวั โขนท้งั สองตวั ดงั กล่าวจึงมีลกั ษณะแตกต่างจากลิงทวั่ ไปมี ลีลาท่าราบุคลิกที่น่าสนใจและมีอตั ลกั ษณ์เฉพาะตวั ซ่ึงสามารถสังเกตไดว้ ่าเป็ นการสร้างตวั โขนที่มีความ น่าสนใจของบทบาทตวั โขนลิงเด็กตวั เอกที่นามาใชป้ ระกอบการแสดงโขน เร่ืองรามเกียรต์ิ ตวั โขนดงั กล่าวบ่ง บอกถึงอจั ฉริยภาพของนาฏลกั ษณ์ศิลปิ นช้นั ครูที่มีคุณค่า ดงั น้นั ควรมีการอนุรักษก์ ระบวนท่ารา เตน้ ใหช้ นรุ่น หลงั ไดส้ ืบทอดเพอ่ื คงไวซ้ ่ึงเอกลกั ษณ์ของความเป็นไทยใหค้ งอยตู่ ่อไป คาสาคญั : หนุมาน บุตร ทวลิ กั ษณ์ ทวลิ ีลา 187

การประชมุ วิชาการระดับชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้ังท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลือ่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขยี วเพ่ือการพฒั นาท่ียง่ั ยนื ” เพลงระบา ก.ไก่ ไตรตรึงษ์สัมพนั ธ์ The Association of Kor Kai Dance Song and Trai Trueng ณฐั พร แกว้ จนั ทร์ 1 , คารณ สุนทรานนท์2*, รจนา สุนทรานนท์2 และ สุทธิพร บุญส่ง 3 Natthaporn Kaewchan1, khomron suntharanont 2*, Ronjana suntharanont and Sutthiporn Boonsong3 1นกั ศึกษาหลกั สูตรศีกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขานาฏศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2ภาควชิ านาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 3ภาควชิ าการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1 Master of Education Program in Performing Arts Education student, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 3 Department of Education, Faculty of Technical Education Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ เพลงระบา ก.ไก่เป็ นการแสดงพ้ืนบา้ นของจงั หวดั กาแพงเพชร มีมานานร้อยปี การแสดงเป็นการโตต้ อบ เชิงเก้ียวพาราสี แต่ซบเซาในช่วงสมยั สงครามโลกคร้ังที่ 2 คุณแม่เสนอ สิทธิและอาจารยส์ ุขศรี สิทธิ ไดฟ้ ้ื นฟบู ท ร้องให้มีการเล่นคาและสัมผสั อยา่ งมีช้นั เชิงมากข้ึน เม่ือราวปี พ.ศ. 2520 มีการจดั การเรียนการสอนในโรงเรียน จึงนาอกั ษร ก-ฮ มาใชใ้ นบทร้อง จุดบงั คบั ของการสัมผสั อกั ษรในแต่ละบทน้นั จะข้ึนอยกู่ บั คาสุดทา้ ยของทุก วรรคและลงทา้ ยดว้ ยสระ ไอ สระ อา การแสดงเพลงระบาก.ไก่น้ัน เป็ นการแสดงเช่ือมสัมพนั ธ์ของคนใน หมู่บา้ นตาบลไตรตึงษ์ ที่สามารถมาร่วมร้องรากนั อย่างสนุกสนานโดยสอดแทรกวฒั นธรรมตามแบบวิถีชีวิต แบ่งบทร้องออกเป็น 47 บท 4 ช่วงคือ 1. บทไหวค้ รู 2.บทเกร่ิน 3.บทระบาก.ไก่แม่ก-ฮ 4.บทส่งทา้ ย รูปแบบของ คาประพนั ธเ์ ป็นกาพยย์ านี 11 จุดเด่นท่ีสุดของเพลงระบาก.ไก่ คือการเล่นเสียงพยญั ชนะในบทเดียวกนั ใหไ้ ดม้ าก ท่ีสุด ซ่ึงบ่งบอกวฒั นธรรมของชาวไตรตรึงษ์ดังน้ี 1. การประกอบอาชีพการเกษตร 2. สภาพแวดลอ้ มทาง กายภาพ 3. สภาพอาหารการกินและความเป็นอยู่ ท่าราใชก้ ารตีบทตามคาร้อง รูปแบบการแสดง แบ่งฝ่ังชายและ หญิงเป็ นคร่ึงวงกลม ผลดั กนั ร้องราแกบ้ ท การแต่งกายแบบชาวบา้ น นิยมแสดงงานตรุษสงกรานต์ คุณค่าของ เพลงระบาก.ไก่ มีท้งั ดา้ นวรรณศิลป์ ดา้ นภูมิปัญญาของผรู้ ้องและสอดแทรกวฒั นธรรม ความเช่ือที่เกี่ยวกบั ความ รัก การหาคู่ครองผา่ นการแสดงพ้นื บา้ นที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกไดอ้ ยา่ งเปิ ดเผย คาสาคญั : เพลงระบาก.ไก่ การแสดงพ้นื บา้ น ไตรตรึงษ์ กาพยย์ านี 11 188

การประชมุ วชิ าการระดับชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล คร้ังที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่ือนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี เี ขียวเพ่อื การพัฒนาท่ยี งั่ ยนื ” การออกแบบและพฒั นารูปแบบผลติ ภณั ฑ์และออกแบบบรรจุภณั ฑ์เพื่อเพมิ่ มูลค่า ของอาหารพืน้ ถนิ่ อาเภอโพธาราม จงั หวดั ราชบุรี Product design and development and packaging design to add value to local food, Photharam District, Ratchaburi Province สมาธิ เทพมะที1* และ สุภคั เผยี งสูงเนิน2 Samathi Thepmatee1* and Supak Phiangsungnoen2 1ภาควชิ าออกแบบ สาขาออกแบบผลิตภณั ฑ์ วทิ ยาลยั เพาะช่าง มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสินทร์ แขวงวงั บูรพาภิรมย์ เขตพระนคร จงั หวดั กรุงเทพมหานคร 10200 2มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสินทร์ บพติ รพมิ ุข จกั รวรรดิ แขวงจกั รวรรด์ิ เขตสัมพนั ธวงศ์ จงั หวดั กรุงเทพมหานคร 10100 1Department of Design, Program in Product Design, Poh-Chang Academy of Arts, Rajamangala University of technology Rattanakosin, Wang Burapha Phirom Subdistrict, Phra Nakhon District, Bangkok 10200, THAILAND 2Rajamangala University of technology Rattanakosin, Bophit Phimuk Chakkrawat Subdistrict, Samphanthawong District, Bangkok 10100, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ ปัจจุบนั ประเทศไทยไดร้ ับผลกระทบจากโรคโควิด-19 จึงทาให้ธุรกิจการท่องเท่ียวเชิงวฒั นธรรมเกิดผลกระทบ ดา้ นเศรษฐกิจ ดงั น้นั งานวิจยั น้ีจึงมุ่งเนน้ การฟ้ื นฟูธุรกิจและแหล่งท่องเท่ียวเชิงวฒั นธรรม โดยการวิจยั มีวตั ถุประสงค์ 1) เพื่อพฒั นารูปแบบผลิตภณั ฑแ์ ละออกแบบบรรจุภณั ฑ์สู่การเพ่ิมมูลค่าของอาหารพ้ืนถิ่นกรณีศึกษา อาเภอโพธาราม จงั หวดั ราชบุรี ภายใตก้ รอบแนวคิดการเช่ือมโยงแหล่งท่องเท่ียวเชิงวฒั นาธรรมสู่การบูรณาการดว้ ยโมบายแอพพลิเคชนั่ โดยมีการเก็บขอ้ มูลเชิงคุณภาพจากตวั แทนของกลุ่มตวั อยา่ ง ไดแ้ ก่ นกั วิชาการ, ผูเ้ ชี่ยวชาญ, ชุมชน และกลุ่มผูบ้ ริโภค โดยการสุ่มขนาดกลุ่มตวั อยา่ ง (Yamane, 1970) รวมท้งั สิ้น 103 คน ทาการสังเคราะห์ขอ้ มูลจากแบบสอบถาม ซ่ึงสถิติใน การวิเคราะห์ขอ้ มูลไดแ้ ก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการวิจยั พบว่าในการออกแบบผลิตภณั ฑ์และ บรรจุภณั ฑ์อาหารพ้ืนถ่ินกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีภาพรวมดา้ นมาตรฐานอตั ลกั ษณ์ และคุณภาพการออกแบบรูปลกั ษณ์ ผลิตภณั ฑแ์ ละบรรจุภณั ฑ์ ผ่านการถอดอตั ลกั ษณ์ อาเภอโพธาราม จงั หวดั ราชบุรี จานวน 4 แห่ง ไดแ้ ก่ พิพิธภณั ฑห์ นงั ใหญ่วดั ขนอน, วดั คงคาราม, ตลาดเจ็ดเสมียน และสหกรณ์หนองโพ มาเป็ นส่วนประกอบของลวดลาย, รูปทรง, และสี โดยผลการประเมินแบบร่างผลิตภณั ฑจ์ ากผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นการออกแบบท่ีมีต่อชุดกระเป๋ าใส่บรรจุภณั ฑอ์ าหาร อาเภอโพ ธาราม จงั หวดั ราชบุรี ผลการวิจยั พบวา่ ผลิตภณั ฑร์ ูปแบบท่ี 1 มีความเหมาะสมอยใู่ นระดบั มาก มีค่าเฉล่ียรวม ( ��������������������� = 4.14) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.= 0.32) จากน้นั ผวู้ ิจยั ไดส้ ร้างตน้ แบบและประเมินความพึงพอใจผูบ้ ริโภคในพ้ืนท่ี อาเภอโพ ธาราม พบวา่ มีความพงึ พอใจในภาพรวมอยใู่ นระดบั มากที่สุดคา่ เฉลี่ยรวม ( ��������������������� = 4.06) ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.= 0.75) คาสาคญั : ออกแบบบผลิตภณั ฑ์ การท่องเที่ยวเชิงวฒั นธรรม อาเภอโพธาราม 189

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครัง้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขียวเพอ่ื การพฒั นาทย่ี ง่ั ยืน” หลกั สูตรบลั เล่ต์ รอยลั อคาเดม่ี ออฟ แดนซ์ (อาร์.เอ.ด.ี ) ความสมบูรณ์ของบลั เล่ต์ศึกษา Ballet Course Royal Academy of Dance (R.A.D.) The Complete of Ballet Studying โกสินทร์ ภีระภาค1* กญั ชพร ตนั ทอง2 รจนา สุนทรานนท์3 และ สุทธิพร บุญส่ง4 Kosin Peerapak1* , Kanchaporn Tunthong2 , Rojana Suntharanont3 and Sutthiporn Boonsong4 1ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ านาฏศิลป์ ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1Master of Education Program in Performing Arts Education, Faculty of Fine and Applied Arts, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected], [email protected], [email protected] , [email protected] บทคัดย่อ บลั เล่ตใ์ นประเทศไทย เร่ิมมีการจดั การเรียนการสอนในโรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์ในปี พ.ศ.2477 ซ่ึง ตรงกบั สมยั รัชกาลท่ี 7 เริ่มมีการพฒั นาโดยมีครูบลั เล่ตส์ าเร็จการศึกษาจากหลกั สูตร RAD (Royal Academy of Dance) ช้นั สูงจากประเทศองั กฤษและมาเป็นวางรากฐาน จดั ทาหลกั สูตรบลั เล่ตใ์ นวิทยาลยั นาฏศิลป พ.ศ. 2478 หลกั สูตรการเรียนการสอนบลั เลตข์ อง RAD ซ่ึงเป็นหลกั สูตรของสถาบนั การเรียนการสอนบลั เล่ตท์ ี่เก่าแก่และมี ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมีเครือข่ายครอบคลุมทว่ั ทุกทวีป ซ่ึงเป็ นสถาบนั อบรมและฝึ กสอนการเตน้ จากประเทศ องั กฤษท่ีมีอิทธิพลมากที่สุดแห่งหน่ึงของโลก มีประวตั ิการก่อต้งั มาต้งั แต่ ปี พ.ศ.2463 ผอู้ ุปถมั ภส์ ถาบนั แห่งน้ี คือ ควีนอลิซาเบธท่ี 2 ปัจจุบนั RAD มีสาขาอยู่ถึง 79 ประเทศ มีสมาชิกมากกว่า 13,000 คน และไดร้ ับการ ยอมรับในระดบั สากล นบั แต่น้นั มาการเตน้ บลั เล่ตไ์ ดพ้ ฒั นาเขา้ มาเป็นส่วนหน่ึงของหลกั สูตรการศึกษาของไทย ในระดบั อนุบาลจนถึงระดบั อุดมศึกษาและไดม้ ีการแพร่ขยายไปในจงั หวดั ต่างๆ ทวั่ ประเทศ ลกั ษณะรูปแบบ การเรียนการสอนตามหลกั สูตรของ RAD เป็ นหลกั สูตรที่มีมาตรฐานเดียวกนั ทว่ั โลกและให้ความสาคญั กบั ผเู้ รียนและผสู้ อน ด้งั น้นั นกั เรียนท่ีไดเ้ รียนตามหลกั สูตรของ RAD จะไดเ้ รียนบลั เลตอ์ ยา่ งเป็นระบบตามข้นั ตอน ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวยั โดยไม่ก่อให้เกิดอนั ตรายแก่ผูเ้ รียน ผูส้ าเร็จการศึกษาทางดา้ นบลั เล่ต์หลกั สูตร ดงั กล่าว ลว้ นเป็ นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็ นที่ยอมรับ ดงั น้นั จึงควรจะอนุรักษแ์ ละส่งเสริมให้มีการจดั การเรียนการ สอนอยา่ งเป็นระบบเพ่อื เป็นส่วนหน่ึงในการพฒั นาความเป็นไทยสู่สากล คาสาคญั : หลกั สูตร Royal Academy of Dance บลั เล่ต์ บลั เล่ตศ์ ึกษา 190

การประชมุ วิชาการระดับชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่ือนนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสีเขียวเพื่อการพัฒนาที่ย่งั ยืน” การผลติ กระดาษดอกธูปฤาษเี พื่อพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ชุมชน Production of cattail paper to develop community products นิอร ดาวเจริญพร* และ รุ่งฤทยั ราพึงจิต Nion Dowcharoenporn*and Rungrutai Rumpungjit คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชพระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon Dusit , Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวจิ ยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษากระบวนการผลิตกระดาษจากดอกธูปฤาษี ทดสอบประสิทธิภาพของ กระดาษจากดอกธูปฤาษี พฒั นาผลิตภณั ฑ์จากกระดาษดอกธูปฤาษี และเผยแพร่องคค์ วามรู้เรื่องผลิตภณั ฑจ์ าก กระดาษดอกธูปฤาษีเพื่อเศรษฐกิจชุมชนแก่กลุ่มสตรีพฒั นาจกั สานตน้ ธูปฤาษี ต.แหลมผกั เบ้ีย อ.บา้ นแหลม จ. เพชรบุรี ผลการศึกษาพบวา่ การผลิตกระดาษจากดอกธูปฤาษีระยะดอกแก่ ดว้ ยกระบวนการผลิตเยอื่ แบบโซดา และฟอกเย่อื ดว้ ยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยการนาดอกธูปฤาษีสด 90% แกนดอกธูปฤาษี 10% ของน้าหนกั สดท้งั หมด เส้นใยสดมีความช้ืนเฉล่ีย 51.04% ตม้ เส้นใยระบบเปิ ด อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส 3 ชวั่ โมง ดว้ ย สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ท่ีความเขม้ ขน้ 6% ของน้าหนกั สด ฟอกดว้ ยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ท่ี ความเขม้ ขน้ 30% ของน้าหนกั เยื่ออบแหง้ ร่วมกบั สารโซเดียมซิลิเกต 2% สารแมกนีเซียมซลั เฟต 0.05% และ สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ 1.5 % อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส 2 ชวั่ โมง อตั ราส่วนเยอ่ื ต่อน้า 1:15 กระจายเยอื่ ดว้ ย เคร่ืองมาแลว้ ทาแผ่นกระดาษ ขนาด 72 x 84 เซนติเมตร การทดสอบประสิทธิภาพของแผน่ กระดาษจากดอก ธูปฤาษี ความตา้ นทานแรงดึง 26.40 N.m/g ความตา้ นทานแรงฉีกขาด 3.14 mN.m2/g ความตา้ นทานแรงดนั ทะลุ 1.37 kPa.m2/g ความตา้ นทานแรงหักพบั 605 ความขาวสวา่ ง 39.05% เมื่อนากระดาษมาพฒั นาเป็ นผลิตภณั ฑ์ จากกระดาษดอกธูปฤาษี จานวน 3 รูปแบบ ไดแ้ ก่ กระดาษลวดลายต่างๆ , กล่องอเนกประสงค์ และดอกไม้ ประดิษฐ์ ผเู้ ช่ียวชาญประเมินการออกแบบและปรับแกต้ ามขอ้ เสนอแนะ การเผยแพร่องคค์ วามรู้เรื่องผลิตภณั ฑ์ จากกระดาษดอกธูปฤาษีให้กบั กลุ่มสตรีพฒั นาจกั สานตน้ ธูปฤาษี จานวน 30 คน พบวา่ กลุ่มเป้าหมายที่เขา้ ร่วม ฝึกอบรมมีความพงึ พอใจต่อการฝึกอบรม โดยรวมอยใู่ นระดบั มากที่สุดมีค่าเฉล่ีย 4.82 คาสาคัญ: กระดาษ ดอกธูปฤาษี ผลิตภณั ฑจ์ ากกระดาษ 191

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี ีเขียวเพอ่ื การพฒั นาท่ยี ่งั ยนื ” การออกแบบและพฒั นาเส้นด้ายแฟนซีย้อมสีธรรมชาตดิ ้วยระบบการกระจายหน้าทเี่ ชิงคุณภาพ(QFD) DesignandDevelopment of NaturalDyedFancy YarnwithQualityFunction Deployment (QFD) System ชยั ภทั ร์ บณั ฑิตวฒั นาวงศ*์ และพธิ าลยั ผพู้ ฒั น์ Chaipat Banditwattanawong * and Pithalai Phoophat ภาควชิ าวทิ ยาการสิ่งทอคณะอตุ สาหกรรมการเกษตรมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 50ถนนงามวงศว์ านแขวงลาดยาวเขตจตจุ กั รจงั หวดั กรุงเทพฯ Department of Textile Science, Faculty of Agro-Industry, Kasetsart University 50 Ngamwongwan Rd., Lat Yao, Chatuchak, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงค์ 2 ขอ้ คือ 1) เพ่ือศึกษาหาความตอ้ งการของผูบ้ ริโภค มาพฒั นามาตรฐานของเสน้ ดา้ ยพิเศษยอ้ มสี ธรรมชาติ โดยใชเ้ ทคนิคการกระจายหนา้ ท่ีเชิงคุณภาพ(QFD) 2)ประยกุ ตก์ ารใชเ้ ทคนิคการกระจายหนา้ ท่ีเชิงคุณภาพ(QFD)โดย วิเคราะห์ดว้ ยเคร่ืองมือบา้ นคุณภาพ (HOQ)เพื่อการออกแบบพฒั นาเส้นดา้ ยแฟนซียอ้ มสีธรรมชาติตน้ แบบ งานวิจยั น้ีนาการ กระจายหนา้ ที่เชิงคุณภาพ(QualityFunctionDeployment:QFD)มาใชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูลความตอ้ งการของลูกคา้ เพื่อสร้างความ เช่ือมโยงทางคุณภาพระหว่างลูกคา้ ผูผ้ ลิตของผผู้ ลิตอยา่ งเป็นระบบส่งผลใหข้ ้นั ตอนการออกแบบและพฒั นาผลิตภณั ฑ์สามารถ ดาเนินการไดร้ วดเร็วและตอบโจทยก์ ลุ่มลูกคา้ เป้าหมาย การเก็บขอ้ มูลแบ่งเป็ น 3 ดา้ น ตามการพฒั นาผลิตภณั ฑด์ งั น้ี 1) ดา้ น รูปแบบเสน้ ดา้ ย 2) ดา้ นคุณสมบตั ิเสน้ ดา้ ย และ 3) ดา้ นการสร้างมูลค่าเพิ่มใหก้ บั ผลิตภณั ฑ์ ผวู้ จิ ยั ไดน้ าขอ้ มูลท่ีเกบ็ รวบรวมไดม้ า ทาการกระจายหนา้ ท่ีเชิงคุณภาพ จากน้นั จึงประมวลผลใหอ้ ยู่ในรูปแบบเมตริกซก์ ารวางแผนผลิตภณั ฑห์ รือบา้ นคุณภาพ (Houseof Quality:HOQ)ท่ีแสดงลกั ษณะของผลิตภณั ฑ์ที่ลูกคา้ ตอ้ งการ ผลการวิจยั พบว่า1) ทราบคุณลกั ษณะท่ีลูกคา้ ตอ้ งการให้มีใน ผลิตภณั ฑเ์ ส้นดา้ ยแฟนซียอ้ มสีธรรมชาติ 2) และเม่ือนาผลวิเคราะห์บา้ นคุณภาพมาออกแบบผลิตเส้นดา้ ยแฟนซียอ้ มสีธรรมชาติ สามารถกาหนดรูปแบบการข้ึนเส้นดา้ ยแฟนซียอ้ มสีธรรมชาติจากความตอ้ งการของลูกคา้ ไดร้ ูปแบบเส้นดา้ ยแฟนซียอ้ มสี ธรรมชาติ ออกมาท้งั หมด4 รูปแบบไดแ้ ก่ 1) Pigtailsมีเทคเจอร์เป็นดา้ ยมว้ นเกลียวลกั ษณะคลา้ ยหางหมูเลก็ ๆ2) Sliverplyใชส้ ไล เวอร์ใรการแทรกลงไประหว่างการเกลียวเส้นดา้ ย 3) Spiralการเกลียวเสน้ ดา้ ยท่ีมีลกั ษณะเป็นเกลียวเลก็ ใหญ่ไม่สม่าเสมอ 4) Gimp เป็นการเกลียวเส้นดา้ ยที่มีขนาดใหญ่พิเศษ และนาเสน้ ดา้ ยท้งั 4รุปแบบมาผา่ นการยอ้ มอีก 2รูปแบบ ไดแ้ ก่ การยอ้ มเสน้ ดา้ ยเดี่ยว โดยมีสีเดียวท้งั เสน้ และการจุ่มยอ้ มที่มี2สีในหน่ึงเส้น เมื่อรวมกบั ตวั อยา่ งสีดา้ ยดิบ ทาใหไ้ ดต้ วั ย่างเสน้ ดา้ ยท้งั หมด 12 รูปแบบ ไดแ้ ก่ 1) Pigtailท่ีเกลียวดว้ ยเส้นดา้ ยยอ้ มสีเด่ียว 2) Pigtailที่เกลียวดว้ ยเสน้ ดา้ ยยอ้ มสีจุ่มยอ้ ม 3) Pigtailที่เกลียวดว้ ยเสน้ ดา้ ยดิบ 4) Sliverplyที่เกลียวดว้ ยเส้นดา้ ยยอ้ มสีเดี่ยว 5) Sliverplyที่เกลียวดว้ ยเสน้ ดา้ ยยอ้ มสีจุ่มยอ้ ม 6) Sliverplyที่เกลียวดว้ ยเส้นดา้ ยดิบ 7) Spiralท่ีเกลียวดว้ ยเสน้ ดา้ ยยอ้ มสีเด่ียว8) Spiralท่ีเกลียวดว้ ยเส้นดา้ ยยอ้ มสีจุ่มยอ้ ม9) Spiralท่ีเกลียวดว้ ยเส้นดา้ ยดิบ10) Gimpท่ี เกลียวดว้ ยเสน้ ดา้ ยยอ้ มสีเดี่ยว11) Gimpที่เกลียวดว้ ยเสน้ ดา้ ยยอ้ มสีจุ่มยอ้ ม 12)GimpSpiralท่ีเกลียวดว้ ยเสน้ ดา้ ยดิบ คาสาคัญ: เสน้ ดา้ ยแฟนซี การกระจายหนา้ ที่เชิงคุณภาพ บา้ นคุณภาพ สียอ้ มธรรมชาติ 192

การประชุมวชิ าการระดับชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสเี ขยี วเพ่ือการพฒั นาทีย่ ัง่ ยืน” การประดษิ ฐ์เคร่ืองประดบั สตรีปรับเปลยี่ นรูปแบบจากตอกไม้ไผ่ด้วยเทคนิคการจกั สาน The invention of Women's accessories from bamboo with the wicker technique ขจร อิศราสุชีพ* จุฬาลกั ษณ์ ดบั โรค และ จีระ สาริวงค์ Khajon Aitsarasuchip*, Julalak Dubroke and Warunee Jira sariwong สาขาวชิ าการบริหารธุรกิจคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร จงั หวดั กรุงเทพ Home Economics Business Administration, Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ วิจยั น้ีมีวตั ถุประสงค์เพ่ือศึกษาการประดิษฐ์เคร่ืองประดบั สตรีปรับเปลี่ยนรูปแบบจากตอกไมไ้ ผ่ดว้ ย เทคนิคการจกั สาน และเพ่ือศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อการประดิษฐ์เครื่องประดับสตรี ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากตอกไมไ้ ผด่ ว้ ยเทคนิคการจกั สาน โดยรวบรวมและสอบถามผูเ้ ช่ียวชาญ จานวน 5 ท่าน สารวจความพงึ พอใจของกลุ่มตวั อยา่ งในคร้ังน้ีจานวน 50 คน ผลการศึกษาพบวา่ การประดิษฐเ์ ครื่องประดบั สตรี ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากตอกไมไ้ ผ่ดว้ ยเทคนิคการจกั สานลวดลายดอกพิกุลลายไทย แนวคิดในการออกแบบ เคร่ืองประดบั จากรูปทรงเรขาคณิตซ่ึงมีลกั ษณะเป็ นรูปวงกลม รูปสามเหล่ียม และสี่เหล่ียม โดยนางานจกั สาน ไมไ้ ผข่ องอาเภอพนสั นิคม จงั หวดั ชลบุรี ที่มีลวดลายพิกลุ ลายไทย ท่ีเป็นลายที่เป็นเอกลกั ษณ์และเป็นจุดเด่นของ เครื่องจกั สานพนสั นิคม การปรับเปลี่ยนรูปแบบเคร่ืองประดบั จึงเป็ นการผสมผสานระหวา่ งแบบติดตวั เรือนและ ตะขอเกี่ยวกบั ตวั เรือนสร้อย ส่วนความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย ผลการศึกษาพบว่า ดา้ นรูปแบบของชุด เคร่ืองประดบั มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (4.72) ดา้ นวสั ดุ มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั มาก ที่สุด มีค่าเฉล่ีย (4.64) ดา้ นประโยชน์ใชส้ อย มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั มากท่ีสุด มีค่าเฉล่ีย (4.37) ดา้ นราคา มี ความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ปานกลาง มีคา่ เฉลี่ย (3.70) ดา้ นช่องทางและสถานที่จดั จาหน่าย มีความพึงพอใจอยูใ่ น ระดบั มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (4.64) การประดิษฐ์เครื่องประดบั สตรีปรับเปลี่ยนรูปแบบจากตอกไมไ้ ผด่ ว้ ยเทคนิค การจกั สาน จึงเป็นผลิตภณั ฑเ์ คร่ืองประดบั ท่ีเพิ่มจุดเด่นของเคร่ืองประดบั ดว้ ยการปรับเปล่ียนรูปแบบใหม้ ีความ หลากหลายและแตกต่างจากเคร่ืองประดบั ทว่ั ไป อีกท้งั เป็ นการอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาการจกั สานสืบ ต่อไป คาสาคญั : เทคนิคการจกั สาน ตอกไมไ้ ผ่ เคร่ืองประดบั สตรี การปรับเปล่ียน 193

การประชุมวิชาการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสีเขียวเพ่อื การพัฒนาท่ีย่งั ยืน” การทดสอบการรับนา้ หนักของกล่องบรรจุภณั ฑ์รูปแบบฝาเสียบก้นขดั The load test of packaging slotted type boxes วสนั ต์ สอนเขียว และ กานตพ์ ิชชา สุวรรณวฒั นเมธี* Wasan Sornkhieo and Kanpicha Suwannawatanamatee* สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารพิมพด์ ิจิทลั และบรรจุภณั ฑ์ คณะเทคโนโลยสี ื่อสารมวลชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Digital Printing & Packaging Technology, Faculty of Mass Communication Technology, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ วตั ถุประสงคข์ องการศึกษาวิจยั น้ีเพ่ือศึกษาการรับน้าหนกั ของกล่องบรรจุภณั ฑ์รูปแบบฝาเสียบก้นขดั (Slotted Type Boxes) โดยกาหนดขนาดกล่องท่ีมีความกวา้ งและความยาว 226 x 105 มิลลิเมตร ในการทดลอง ผวู้ จิ ยั เลือกวสั ดุเป็นกระดาษอาร์ตมนั และใชร้ ูปแบบการล็อคที่แตกต่างกนั โดยไม่คานึงถึงฝาเพื่อทดสอบคา่ ความ แข็งแรงของกน้ กล่อง ดงั น้ี รูปแบบ 0215, 0216M, 0217M และ T124 แบ่งการทดลองเป็ น 3 ขนาด ได้แก่ 1. ขนาดปกติ 2. เพ่ิมขนาดฐานกล่อง 5 มิลลิเมตร 3. ลดขนาดฐานกล่อง 5 มิลลิเมตร ทาการทดสอบกล่องท่ีข้ึน รูปสาเร็จจนกว่าก้นกล่องจะทะลุเสียหาย ผลการศึกษาวิจยั น้ีพบว่ากล่องบรรจุภณั ฑ์ท่ีเพิ่มขนาดฐานกล่อง 5 มิลลิเมตรสามารถรับน้าหนกั ไดด้ ีกวา่ ขนาดปกติและขนาดลดฐานกล่อง 5 มิลลิเมตร เนื่องจากระยะการขดั กล่องเป็นแบบขดั ทบั กนั ส่งผลใหเ้ พม่ิ การรับน้าหนกั ไดด้ ียงิ่ ข้ึน คาสาคัญ: บรรจุภณั ฑ์ กล่องฝาเสียบกน้ ขดั บรรจุภณั ฑก์ ล่องกระดาษแขง็ กล่องแบบพบั ได้ 194

การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครัง้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี ีเขยี วเพ่ือการพฒั นาท่ีย่ังยืน” การสร้างสรรค์ส่ือประชาสัมพนั ธ์ส่งเสริมการท่องเทย่ี วเชิงวฒั นธรรม ประเพณี “กาฟ้า” สืบสานวฒั นธรรมไทยพวน จังหวดั ลพบุรี Creation of Public Relations Media to Promote Cultural Tourism. The \"Kumfah\" Tradition Continues Inheriting Thai Phuan Culture. Lopburi มทั ธนี ปราโมทยเ์ มือง ชานนท์ ตนั ประวตั ิ และ กรณ์พงศ์ ทองศรี* Mattanee Parmotmuang, Chanon Tunprawat and Kornpong Thongsri* สาขาวชิ าการออกแบบบรรจุภณั ฑแ์ ละการพมิ พ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Department of Packaging Design and Printing, Faculty of Architecture and Design, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวิจยั เรื่อง การสร้างสรรค์สื่อประชาสัมพนั ธ์ส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิงวฒั นธรรม ประเพณี“กาฟ้า” สืบสานวฒั นธรรมไทยพวน จงั หวดั ลพบุรี มีวตั ถุประสงค์เพื่อการศึกษาและสร้างสรรค์การออกแบบ, ผลิต ตน้ แบบส่ือประชาสัมพนั ธ์และประเมินความพงึ พอใจรูปแบบใหม่ของสื่อประชาสัมพนั ธ์ส่งเสริมการท่องเท่ียว เชิงวฒั นธรรมประเพณี“กาฟ้า”สืบสานวฒั นธรรมไทยพวน จงั หวดั ลพบุรี วธิ ีดาเนินการวจิ ยั ใชว้ ิธีศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากเอกสาร ตารา ร่วมกบั การเก็บขอ้ มูลเชิงพ้ืนที่ สอบถาม สัมภาษณ์ วิเคราะห์ขอ้ มูล เพ่ือนาไปสู่การ ออกแบบ สร้างตน้ แบบ และประเมินผลความพึงพอใจรูปแบบใหม่ของส่ือประชาสัมพนั ธ์จากกลุ่มตวั อยา่ ง แลว้ นาเสนอผลด้วยวิธีการเขียนเชิงพรรณนา ผลการวิจยั พบว่า ส่ือประชาสัมพนั ธ์ประเภทส่ือสิ่งพิมพ์และสื่อ โฆษณากลางแจง้ กลุ่มเป้าหมาย มีความพึงพอใจต่อส่ือประชาสัมพนั ธ์ในภาพรวม อยูร่ ะดบั มากท่ีสุด มีค่าเฉล่ีย 4.36 โดยชอบท่ีมีรูปแบบหลากหลาย ร่วมสมยั การใชส้ ีแบบเอิร์ธโทน เนน้ ความเป็ นธรรมชาติ ดูเรียบง่ายของ วิถีชีวิตชุมชนชาวไทยพวน จงั หวดั ลพบุรี อยูร่ ะดบั มากที่สุด มีค่าเฉล่ีย 4.65 ส่วนรูปแบบใหม่บรรจุภณั ฑอ์ าหาร พ้ืนถ่ิน กลุ่มเป้าหมายมีความพึงพอใจในภาพรวม ระดบั มากที่สุด มีค่าเฉล่ีย 4.56 แบ่งเป็ น 2 ดา้ น คือ ดา้ นการ ออกแบบโครงสร้างบรรจุภณั ฑ์ มีความพึงพอใจระดบั มากท่ีสุด มีค่าเฉลี่ย 4.64 โดยโครงสร้างบรรจุภณั ฑ์ใน ภาพรวม เหมาะสมกบั ตวั ผลิตภณั ฑ์ ช่วยลดตน้ ทุนการขาย เป็ นบรรจุภณั ฑส์ าเร็จรูป หาซ้ือไดต้ ามตลาดทว่ั ไป เมื่อสิ้นสุดการจดั งานสืบสานวฒั นธรรมไทยพวนสามารถนามาปรับใชง้ านกบั การบรรจุอาหารประเภทอื่น ๆได้ อีก และการออกแบบกราฟิ กบรรจุภณั ฑ์ มีความพึงพอใจระดบั มากท่ีสุด มีค่าเฉล่ีย 4.80 ที่มีรูปแบบสวยงาม ดูสบายตา แสดงถึงอตั ลกั ษณ์ทอ้ งถิ่นของชาติพนั ธุ์ไทยพวน จงั หวดั ลพบุรีอยา่ งวถิ ีชีวติ วฒั นธรรมประเพณีและ อาหารการกินใหเ้ กิดความรู้สึกหวนคิดถึง นึกถึงเร่ืองราวในอดีตท่ีผา่ นมาไดด้ ี คาสาคญั : ส่ือประชาสมั พนั ธ์ การท่องเท่ียว ประเพณีกาฟ้า ไทยพวน 195

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขียวเพือ่ การพฒั นาท่ียั่งยนื ” การสร้างสรรค์โคมไฟจกั สานรูปแบบธรรมชาติ Creating a Natural Wicker Lamp สิทธิ ศาสนพิทกั ษ์ และ ปานฉตั ท์ อินทร์คง* Sitti santsanapitak and Panchat Inkong* ภาควชิ าทศั น์ศิลป์ และการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Master of Fine Arts Program in Visual Arts and Design, M.F.AVisual Arts and Design, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND Corresponding Author E-mail: [email protected] Professor Panchat Inkong, Ph.D. Faculty of Fine and applied Art Rajamangala University of Technology Thanyaburi. *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวิจยั เรื่อง การสร้างสรรค์โคมไฟจกั สานรูปแบบธรรมชาติ มีวตั ถุประสงค์ 1) ศึกษาโคมไฟรูปแบบ ธรรมชาติเพื่อนามาใชใ้ นการออกแบบสร้างสรรคผ์ ลงานโคมไฟจกั สาน 2) ศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั ลายจกั สานเพอื่ นามาใชพ้ ฒั นาผลงานโคมไฟจกั สานใหม้ ีรูปแบบร่วมสมยั 3) เพื่อสร้างสรรคโ์ คมไฟจากเทคนิคจกั สานรูปแบบ จินตนาการจากธรรมชาติในรูปแบบโคมไฟติดผนงั กลุ่มตวั อยา่ งและผูเ้ ช่ียวชาญที่ใชใ้ นการวิจยั คร้ังน้ีประกอบดว้ ย ผูเ้ ช่ียวชาญทางดา้ นทศั นศิลป์ จานวน 1 คน ผเู้ ชี่ยวชาญทางดา้ นการออกแบบจานวน 1 คน ผเู้ ช่ียวชาญทางดา้ นเคร่ืองจกั สานจานวน 1 คน และผทู้ ่ีมีความ สนใจในผลิตภณั ฑ์โคมไฟจกั สานรวม 100 คน โดยเคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจยั ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ และ แบบสอบถามความพงึ พอใจในการสร้างสรรคโ์ คมไฟจกั สานรูปแบบธรรมชาติ ผลวจิ ยั พบวา่ โคมไฟรูปแบบธรรมชาติท่ีนามาใชใ้ นการออกแบบสร้างสรรคผ์ ลงานโคมไฟจกั สาน ตอ้ ง สามารถใช้งานไดจ้ ริงมีความสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน มีการจดั วางลวดลายจกั สานในชิ้นงานได้อย่าง ประณีตสวยงาม ส่วนเทคนิคการจกั สาน มีการจดั วางลวดลาย การใช้สีได้อย่างมีอตั ลกั ษณ์และคุณค่า โดย ลวดลายพ้ืนฐานเป็ นลายแม่บทท่ีนามาใชเ้ ป็ นลวดลายตน้ แบบในการจดั วางลวดลายดว้ ยรูปแบบการสานขดั ท้งั แนวต้งั และแนวนอนสลบั กนั ไดอ้ ยา่ งสวยงาม และการสร้างสรรคโ์ คมไฟเทคนิคจกั สานรูปแบบจินตนาการจาก ธรรมชาติ เพ่ือให้ง่ายต่อการใช้งานมีความสะดวกสบาย ดว้ ยการออกแบบให้มีเส้นโคง้ ในจุดเชื่อมต่อวสั ดุเขา้ ดว้ ยกนั และออกแบบแสงสวา่ งเป็ นจงั หวะตามโครงสร้างของรูปทรงโคมไฟให้มีความงามดว้ ยจงั หวะลีลาของ เส้นสายของรูปทรงโคมไฟไดอ้ ยา่ งสวยงาม คาสาคญั : โคมไฟ จกั สาน รูปแบบธรรมชาติ การสร้างสรรค์ 196

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลือ่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยสี ีเขยี วเพือ่ การพฒั นาท่ียง่ั ยนื ” โครงการออกแบบและพฒั นาบรรจุภัณฑ์แบบพง่ึ พาตนเอง สาหรับผลติ ภัณฑ์ชุมชนบ้านนา้ เช่ียว จังหวดั ตราด เพ่ือส่งเสริมการท่องเทยี่ วชุมชนเชิงวฒั นธรรม Design and Development for Self-Reliant Packaging of Ban Nam Chieow Community Products in Trad Province to Support Community Tourism and Cultural Lifestyle คณิต อยสู่ มบูรณ์1* มทั ธนี ปราโมทยเ์ มือง1 ธานี สุคนธะชาติ1 และ เมทิกา พ่วงแสง2 Kanit Yoosomboon, Mattanee Parmotmuang, Thanee Sukontachart and Maythika Puangsang 1สาขาวชิ าการออกแบบบรรจุภณั ฑแ์ ละการพิมพ์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร กรุงเทพมหานคร 2สาขาวชิ าศึกษาทวั่ ไป มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร กรุงเทพมหานคร 1Institute of Packaging Design and Printing, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok 2Institute of General Education, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานวิจยั น้ีเป็ นการวิจยั เชิงคุณภาพ (Qualitative Research) การออกแบบและพฒั นาบรรจุภณั ฑแ์ บบพ่ึงพาตนเอง สาหรับผลิตภณั ฑช์ ุมชนบา้ นน้าเชี่ยว จงั หวดั ตราด เพ่ือส่งเสริมการท่องเท่ียวชุมชนเชิงวฒั นธรรม ผวู้ จิ ยั ใชร้ ูปแบบการวิจยั แบบผสมผสาน (Mixed Methodology Research) ซ่ึงมีวตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาทรัพยากรภายใน ชุมชนบา้ นน้าเชี่ยว สาหรับการผลิตบรรจุภณั ฑแ์ บบพ่ึงพาตนเอง 2) เพื่อพฒั นารูปแบบและแนวทางบรรจุภณั ฑแ์ บบพ่ึงพา ตนเอง สินคา้ ชุมชนบา้ นน้าเชี่ยว จงั หวดั ตราด 3) เพื่อประเมินความพ่ึงพอใจในบรรจุภณั ฑแ์ บบพ่ึงพาตนเอง สินคา้ ชุมชน บา้ นน้าเชี่ยว จงั หวดั ตราด มีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยใชก้ ารสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) กบั ผใู้ หข้ อ้ มูลสาคญั (Key Informants) และการวจิ ยั เชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยใชว้ ธิ ีการวิจยั เชิงสารวจ (Survey Research) ไดข้ อ้ มูล ประเด็นปัจจยั ที่สาคญั ต่อการพฒั นาบรรจุภณั ฑแ์ บบพ่ึงพาตนเอง ไดแ้ ก่ 1) ลดการพ่ึงพาเทคโนโลยีการพิมพใ์ นระบบ อุตสาหกรรม ใชร้ ะบบการพิมพแ์ บบง่ายและจากดั ปริมาณใหเ้ หมาะสม 2) ใชโ้ ครงสร้างบรรจุภณั ฑแ์ บบก่ึงสาเร็จรูป ที่ใช้ เครื่องจกั รประยุกต์อย่างง่าย 3) สร้างอตั ลกั ษณ์ท่ีโดดเด่นเฉพาะถิ่น 4) บรรจุภณั ฑ์ที่สร้างปฏิสัมพนั ธ์กบั นักท่องเท่ียว หลงั จากน้นั ผวู้ ิจยั ไดส้ ร้างกิจกรรมเพ่ือประเมินผลความพึงพอใจที่เกิดจากกระบวนการทางานกระบวนการออกแบบและ พฒั นาบรรจุภณั ฑแ์ บบพ่ึงพาตนเอง สาหรับผลิตภณั ฑช์ ุมชนบา้ นน้าชี่ยว จงั หวดั ตราด เพื่อส่งเสริมการท่องเท่ียวชุมชนเชิง วฒั นธรรม จากกลุ่มตวั อย่างเป็นนกั ท่องเท่ียวท้งั หมด 50 คน สามารถสรุปผลการประเมินไดด้ งั น้ี 1) รูปแบบสินคา้ มีความ หลากหลายข้ึนเม่ือเทียบกบั รูปแบบเดิม ค่าเฉลี่ยที่ 4.10 อยใู่ นระดบั มาก 2) สินคา้ แสดงถึงความเป็นหน่ึงเดียวกนั ไดช้ ดั เจน ค่าเฉลี่ยที่ 4.10 อยใู่ นระดบั มาก 3) รายละเอียดของสินคา้ และบรรจุภณั ฑม์ ีความชดั เจนเขา้ ใจง่าย ค่าเฉล่ียท่ี 4.10 อยใู่ นระดบั มาก 4)รูปแบบของบรรจุภณั ฑส์ ามารถสร้างกิจกรรมร่วมกนั ระหว่างชุมชนและนกั ท่องเที่ยว ค่าเฉลี่ยท่ี 4.16 อยูใ่ นระดบั มาก และ 5)บรรจุภณั ฑแ์ บบพ่ึงพาตนเองสามารถสร้างความประทบั ใจแก่นกั ท่องเท่ียว ค่าเฉลี่ยท่ี 4.30 อยใู่ นระดบั มากท่ีสุด สรุปพึงพอใจรวมท่ีค่าเฉลี่ย 4.15 อยใู่ นระดบั มาก คาสาคญั : บรรจุภณั ฑ์ การพ่ึงพาตนเอง ผลิตภณั ฑช์ ุมชน ชุมชนบา้ นน้าเช่ียว จงั หวดั ตราด 197

การประชมุ วชิ าการระดับชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่ือนนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขียวเพอื่ การพฒั นาทีย่ ั่งยืน” โครงการพฒั นาโปรแกรมออกแบบบรรจุภณั ฑ์สาเร็จรูป เพ่ือส่งเสริมอาชีพนักออกแบบ ผู้พกิ ารทางร่างกายและการเคล่ือนไหว Development Package Design Program to Support the Physiologically Disabled Designer สุรภา วงศส์ ุวรรณ1 คณิต อยสู่ มบูรณ์1 ธานี สุคนธะชาติ1 และ เมทิกา พว่ งแสง2 1สาขาวชิ าการออกแบบบรรจุภณั ฑแ์ ละการพิมพ์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร กรุงเทพมหานคร 2สาขาวชิ าศึกษาทว่ั ไป มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร กรุงเทพมหานคร 1Institute of Packaging Design and Printing, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok 2Institute of General Education, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานวจิ ยั น้ีเป็นการวิจยั เชิงประยกุ ต์ (Applied Research) เก่ียวกบั การพฒั นาโปรแกรมออกแบบบรรจุภณั ฑ์ สาเร็จรูป เพื่อส่งเสริมอาชีพนกั ออกแบบผูพ้ ิการทางร่างกายและการเคล่ือนไหว โดยนาหลกั การของการเขียน โปรแกรมดว้ ยภาษา C# กบั การออกแบบโครงสร้างบรรจุภณั ฑ์แบบสาเร็จรูป เพ่ือส่งเสริมอาชีพนกั ออกแบบผู้ พิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหว โดยพฒั นาจากรูปแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์ที่มีความต้องการจาก ผูป้ ระกอบการในกลุ่มสินคา้ ชุมชน และกลุ่มผูป้ ระกอบการขนาดเล็ก และนาไปสู่ทดลองใช้กบั ผูพ้ ิการทาง ร่างกายและการเคลื่อนไหวเป็ นกลุ่มตวั อย่าง เพื่อศึกษาถึงประสิทธิภาพว่าโปรแกรมออกแบบบรรจุภณั ฑ์ สาเร็จรูปท่ีพฒั นาข้ึนสามารถตอบสนอง และอานวยความสะดวกในการใชง้ านแก่ผพู้ ิการทางร่างกายและการ เคล่ือนไหวหรือไม่ งานวิจยั น้ีแบ่งข้นั ตอนการวจิ ยั ตามวตั ถุประสงค์คือการทดสอบประสิทธิผลของโปรแกรม ออกแบบบรรจุภณั ฑส์ าเร็จรูปเพ่ือทราบประสิทธิผลของโปรแกรมออกแบบบรรจุภณั ฑส์ าเร็จรูป ในลกั ษณะท่ี ผูใ้ ชง้ านสามารถเลือกรูปแบบของสร้างโครงสร้างบรรจุภณั ฑ์มาตรฐานให้เหมาะสมกบั ผลิตภณั ฑ์ท่ีตอ้ งการ บรรจุ จากน้นั ตอ้ งมีการระบุขนาดหรือมิติของบรรจุภณั ฑ์ เลือกลกั ษณะของกระดาษใหส้ ัมพนั ธ์กบั การออกแบบ โดยผใู้ ชง้ าน จากน้นั โปรแกรมทาการคานวณและสร้างรูปแบบคล่ี (Pattern) ของบรรจุภณั ฑใ์ หโ้ ดยอตั โนมตั ิ ผล ประเมินความพึงพอใจท่ีเกิดจากกระบวนการทางานในโปรแกรมออกแบบบรรจุภณั ฑ์สาเร็จรูป เพ่ือส่งเสริม อาชีพนกั ออกแบบผูพ้ ิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหว โดยผูใ้ ชง้ านเป็ นผูก้ าหนดขนาดหรือมิติของบรรจุ ภณั ฑ์เอง ผ่านหนา้ จอ สู่การสร้างสรรคโ์ ครงสร้างบรรจุภณั ฑ์ท่ีตรงตามความตอ้ งการของลูกคา้ ลดภาระการ เคลื่อนไหวของร่างกาย (ส่วนของมือละนิ้วมือ) ลดเวลาในกระบวนสร้างโครงสร้างบรรจุภณั ฑ์ท่ีตอ้ งการความ แมน่ ยาและมีโครงสร้างที่ซบั ซอ้ น คาสาคัญ: โปรแกรมสาเร็จรูป ออกแบบบรรจุภณั ฑ์ ส่งเสริมอาชีพ พกิ ารทางร่างกาย พิการการเคลื่อนไหว 198

การประชมุ วิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้ังที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขยี วเพื่อการพัฒนาที่ยง่ั ยืน” การนาเสนอสารัตถะแห่งการเยยี วยาจติ ใจมนุษย์ ผ่านผลงานสร้างสรรค์ในรูปแบบ ของศิลปกรรมร่วมสมยั ชุด : รักษาไว้เพื่อใจของใคร Presentation of the essence of healing the human mind Through creative works in the form of contemporary art series: Keeping it for Whose Heart หยกตะวนั อินปุย* และ วริ ัญญา ดวงรัตน์ Yoktawan Inpui* and Wiranya Duangrat 1ภาควชิ าศิลปไทย คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร อ.เมือง จ.นครปฐม 10170 1Department of Thai Art, Faculty of Painting Sculpture and Graphics Arts, Mueang, Nakronpatom, THAILAND 10170 *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ ทุกสิ่งอยา่ งลว้ นเป็ นธรรมชาติท่ีจะตอ้ งอยูภ่ ายใตเ้ วลา โดยมีการเกิดข้ึนและดบั ลงโดยมีสาเหตุหลากหลาย ประการ ซ่ึงการรักษา การประนีประนอม หรือพยงุ ไวใ้ หค้ งอยูน่ ้นั สามารถทาไดใ้ นระยะหน่ึงเท่าน้นั อาจจะนา กลบั มาสู่ความเป็ นรูป หรือความเป็ นนาม ไดเ้ พียงชว่ั ครู่ แต่เพ่ืออะไรน้นั อยูท่ ่ีจุดประสงคข์ องแต่ละการกระทา ของสิ่งน้นั ๆ เนื่องจากไดเ้ กิดการต้งั คาถามให้กบั คาวา่ “รักษาไวเ้ พื่อใจของใคร” ซ่ึงสืบเน่ืองมาจากก่อนเกิด เหตุการณ์สูญเสียคนภายในครอบครัวจากอุบตั ิเหตุ โดยจะมีชีวิตต่อน้ันมีอตั ราที่นับว่าน้อยอย่างมาก ถึงแม้ ร่างกายจะรอด แต่จิตใจก็กลบั เป็ นทุกข์ย่ิงกว่าเดิมเป็ นอย่างมาก ท้งั อาการพิการหรือเจา้ ชายนิทรา แลว้ การ พยายามรักษาให้คงอยู่น้ันจะเป็ นการเพ่ิมความสุข หรือบดบงั ความทุกข์กนั น้ัน ส่ิงเหล่าน้ีจึงทาให้เกิดการ ตระหนกั รู้ต่อตนเองและไดก้ ลบั ไปศึกษาเร่ืองของธรรมชาติ เวลา และการรักษาต่าง ๆ ในผลงานชุด “รักษาไว้ เพื่อใครของใคร” จานวน 2 ผลงาน ไดแ้ ก่ 1. รักษา? 2. หลงเหลือไวจ้ ากการรักษา โดยนาเสนอผ่านผลงาน สร้างสรรคใ์ นรูปแบบศิลปกรรมร่วมสมยั ดว้ ยเทคนิคสื่อผสม สะทอ้ นถึงปรากฏการณ์การรักษาซ่ึงเป็ นผลงานที่ ตอ้ งการแสดงถึงท้งั หมดน้ีจึงเป็ นเคร่ืองมือย้าจิตใจของตนเองไดว้ ่าเม่ือเวลาผา่ นไปน้นั ไม่วา่ จะเป็ นการเยยี วยา ดว้ ยวธิ ีใดกต็ ามแต่น้นั ทุกส่ิงทุกอยา่ งเป็นเพยี งการรักษาไวเ้ พยี งช่วงระยะหน่ึงเท่าน้นั คาสาคัญ: เวลา รักษา การรับรู้ 199

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครง้ั ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี ีเขียวเพ่ือการพฒั นาทย่ี ่ังยนื ” การสร้างสรรค์นวตั ศิลป์ แนวเร่ือง พุทธประวตั ิ Create Innovation Art of Buddhist history สมพร ธุรี* Somporn Turee* คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Faculty of Fine and Applied Arts, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การสร้างสรรค์น้ีเพื่อวิเคราะห์ รูปแบบ เน้ือหาสาระ คติความเชื่อ องค์ประกอบศิลป์ สัญลกั ษณ์ในการ แสดงออก ภาพพุทธประวตั ิในจิตรกรรมฝาผนงั สมยั รัตนโกสินทร์ (รัชกาลท่ี 1-9) เพื่อสร้างองคค์ วามรู้ในการ สร้างสรรคน์ วตั ศิลป์ แนวเร่ือง พุทธประวตั ิ และการสร้างปฏิสัมพนั ธ์กบั คนใหม้ ีส่วนร่วมในผลงานดว้ ยระบบ AR ผสมผสานภาพจิตรกรรม และเพื่อใหเ้ กิดการรับรู้ ภาพพุทธประวตั ิ นาไปสู่ความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเป็นการสืบสานทานุบารุงศิลปวฒั นธรรม จากการวเิ คราะห์ตีความภาพพุทธประวตั ิในจิตรกรรมฝาผนงั สมยั รัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 1-9) เลือกวดั ท่ี มีความโดดเด่นดา้ นพุทธประวตั ิ ไดแ้ ก่ ภาพประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน จากจิตรกรรมฝาผนงั ไดแ้ ก่ พระที่นง่ั พุทไธศวรรย์ วดั สุวรรณารามราชวรวิหาร วดั สุทศั นเทพวราราม วดั บวรนิเวศวิหาร วดั ราชาธิวาสรา ชวรวิหาร สรุปการวิเคราะห์ตีความสู่การสร้างสรรค์นวตั ศิลป์ ประกอบดว้ ย ศิลปะ (จิตรกรรมพุทธประวตั ิ 3 มิติ) วิทยาศาสตร์(การวิเคราะห์แกป้ ัญหาการรับรู้) คณิตศาสตร์(การเปรียบเทียบ การตีความ) และเทคโนโลยี (ระบบ AR และ QR Code) เกิดองคป์ ระกอบใหมท่ ี่มีปฏิสัมพนั ธ์กบั คนดู ผลการสร้างสรรค์นวตั ศิลป์ แนวเร่ือง พุทธประวตั ิ เป็ นการพัฒนาผลงานจิตรกรรมฝาผนงั ภาพพุทธ ประวตั ิ (ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน) 2 มิติ สู่ 3 มิติ เสมือนจริง เพ่ือให้ผูค้ นมีส่วนร่วมในผลงาน จิตรกรรมภาพพุทธประวตั ิ จานวน 4 ภาพ ส่งผลต่อการรับรู้ภาพพุทธประวตั ิ นาไปสู่ความเช่ือ ความศรัทธาใน พระพุทธศาสนาที่ดีข้ึน เกิดความงาม ความดี ความจริง ของความเช่ือ ความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิงศิลปวฒั นธรรม วดั ปัญญานนั ทาราม จงั หวดั ปทุมธานี คาสาคญั : การสร้างสรรค์ นวตั ศิลป์ ศรัทธา 200

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขยี วเพือ่ การพัฒนาทีย่ ั่งยืน” การออกแบบชุดสูทบุรุษ โดยได้รับแรงบนั ดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องโจ๊กเกอร์ The Design of Men’s Suit Inspires by the Joker เกชา ลาวงษา1* จรัสพิมพ์ วงั เยน็ 2 ก่ิงกาญจน์ พิจกั ขณา3 กฤตนยั อินเถิง1 และ ลลิตา กริบกระโทก1 Kecha Lawongsa 1*, Jaratpim Wangyen2 KingKarn Pijukkana3 Kittanai Inthurng1 and Lalita Kribkrathoke1 1สาขาวิชาออกแบบแฟชนั่ ผา้ และเคร่ืองแตง่ กาย คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 2สาขาวชิ าออกแบบแฟชนั่ และส่ิงทอ คณะอุตสาหกรรมส่ิงทอและออกแบบแฟชนั่ มทร.พระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 3สาขาวิชาออกแบบผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มทร.พระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 1Department of Fashion Clothing and Textile Design Faculty of Home Economics Technology Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok 10300, Thailand 2Department of Fashion and Textile Design Faculity of Industrialtextiles and Fashion Design Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok 10300, Thailand 3Industrial Product Design Faculty of Architecture and Design Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok 10300, Thailand *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การออกแบบชุดสูทบุรุษโดยไดร้ ับแรงบนั ดาลใจจากภาพยนตร์เร่ืองโจ๊กเกอร์ มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือออกแบบ ชุดสูทบุรุษ และศึกษาความพึงพอใจของผตู้ อบแบบสอบถามท่ีมีต่อชุดสูทบุรุษ โดยมีวิธีการดาเนินงาน 4 ระยะ คือ ระยะท่ี 1 การออกแบบชุดสูทบุรุษ ระยะที่ 2 สอบถามความพงึ พอใจของผเู้ ชี่ยวชาญ ระยะที่ 3 ดาเนินการตดั เยบ็ ชุด สูทบุรุษ ระยะที่ 4 สอบถามความพึงพอใจของผตู้ อบแบบสอบถาม รวมท้งั สิ้น 120 คน เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการศึกษา คือ แบบสอบถามความพึงพอใจของผเู้ ชี่ยวชาญ จานวน 5 รูปแบบ รูปแบบละ 3 ชุด รวมท้งั สิ้นจานวน 15 ชุด และ ให้ผเู้ ชี่ยวชาญเลือกรูปแบบละ 1 ชุด รวมท้งั สิ้น 5 ชุด เพ่ือใชใ้ นการตดั เยบ็ ชุดผลิตภณั ฑต์ น้ แบบ และแบบสอบถาม ออนไลน์ และวิเคราะห์ขอ้ มูลโดยใช้ ค่าร้อยละ และค่าเฉล่ีย ผลการศึกษาพบว่า ผลการคดั เลือกแบบร่างชุดท่ี ออกแบบชุดสูทบุรุษโดยไดร้ ับแรงบนั ดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องโจ๊กเกอร์ ท่ีไดร้ ับการคดั เลือกจากผูเ้ ช่ียวชาญคือ รูปแบบท่ี 1 แบบร่างท่ี 2, รูปแบบที่ 2 แบบร่างที่ 2, รูปแบบท่ี 3 แบบร่างที่ 1, รูปแบบท่ี 4 แบบร่างที่ 2, รูปแบบที่ 5 แบบร่างท่ี 1 ผลการศึกษาความพึงพอใจผูต้ อบแบบสอบถามท่ีมีต่อการออกแบบชุดสูทบุรุษ ท้งั 5 รูปแบบ พบว่า มี ความพึงพอใจอย่ใู นระดบั มาก มีค่าเฉล่ียรวม 4.45 เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยแต่ละรูปแบบพบว่ามีความพึงพอใจอยใู่ น ระดบั มากที่สุด 1 ชุด คือ รูปแบบที่ 5 มีคา่ เฉลี่ยท่ี 4.55 และมีความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั มาก 4 ชุด คอื รูปแบบท่ี 1, 2, 3, และ 4 มีคา่ เฉล่ียที่ 4.34, 4.40, 4.46 และ 4.49 ตามลาดบั คาสาคญั : การออกแบบ ชุดสูทบุรุษ ภาพยนตร์เร่ืองโจ๊กเกอร์ 201

การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้ังท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่อื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขยี วเพ่อื การพัฒนาท่ีย่งั ยนื ” สัญญะกบั การสร้างสรรค์เครื่องแขวนดอกไม้ในจติ รกรรมฝาผนัง วดั โสมนัสราชวรวหิ าร The signs and the creation of flower hangings art in mural paintings of Wat Somanas Rajavaravihara. สุชีรา ผอ่ งใส* ปิ ยะธิดา สีหะวฒั นะกลุ อนุสรณ์ ใจทน และ กิตติ ยอดออ่ น Sucheera Phongsai*, Piyatida Seehawatanakul, Anusorn jaiton and Kitti Yordon คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร 168 ถนนศรีอยธุ ยา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Faculty of Home Economics at Rajamangala University of Technology Phra Nakhon 168 Si Ayutthaya Rd., Wachira Phayaban, Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ จิตรกรรมฝาผนังวดั โสมนัสราชวรวิหารปรากฏภาพเครื่องแขวนดอกไม้ที่มีความหมายสัญญะเป็ น องคป์ ระกอบสาคญั บทความน้ีจึงมีวตั ถุประสงค์ เพื่อศึกษามิติการสื่อความหมายสัญญะ และการสร้างสรรค์ เคร่ืองแขวนดอกไมใ้ นจิตรกรรมฝาผนงั วดั โสมนสั ราชวรวิหาร โดยรวบรวมขอ้ มูลจากการศึกษาเอกสาร ใช้ วิธีการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) และการตีความหมาย ร่วมกับวิธีการสารวจภาคสนาม (Survey Research) ดว้ ยวิธีการสังเกต และการสัมภาษณ์ เพ่ืออธิบายสัญญะกบั การสร้างสรรค์เคร่ืองแขวนดอกไมใ้ น จิตรกรรมฝาผนงั วดั โสมนสั ราชวรวิหาร ผลการศึกษา พบวา่ การส่ือความหมายสัญญะเคร่ืองแขวนดอกไมใ้ น จิตรกรรมฝาผนังวดั โสมนัสราชวรวิหาร ได้ 3 มิติ คือ มิติแรก การจาลองเ คร่ืองแขวนดอกไม้ท่ีมาจาก ประวตั ิศาสตร์และวรรณกรรม มิติที่สอง การปรับเปล่ียนเคร่ืองแขวนดอกไมท้ ี่มาจากหลกั ปฏิบตั ิและความเชื่อ และมิติท่ีสาม การผสมผสานเครื่องแขวนดอกไมก้ บั คติจกั รวาลวิทยาในพระพุทธศาสนา ส่วนการสร้างสรรค์ เคร่ืองแขวนดอกไมใ้ นจิตรกรรมฝาผนงั วดั โสมนสั ราชวรวิหาร เป็ นรูปแบบการประยกุ ตท์ ่ีอิงกบั รูปสัญญะเดิม โดยรักษาลกั ษณะสาคญั ของตน้ แบบเอาไว้ สัญญะกบั การสร้างสรรคเ์ ครื่องแขวนดอกไมใ้ นจิตรกรรมฝาผนงั วดั โสมนสั ราชวรวิหาร จึงเป็ นการสื่อความหมายเชิงสัญลกั ษณ์ท่ีเชื่อมโยงกบั จิตรกรรมฝาผนงั ผลสัมฤทธ์ิของการ สร้างสรรค์ยงั ทาหน้าที่เป็ นสื่อสะทอ้ นความหมายท่ีมีคุณค่าในกาอนุรักษ์และสืบสานวิธีคิด นาไปสู่การสร้าง ความเขา้ ใจและรักษาภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม คาสาคัญ: การสร้างสรรค์ เครื่องแขวนดอกไม้ จิตรกรรมฝาผนงั สญั ญะ วดั โสมนสั ราชวรวหิ าร 202

การประชมุ วิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขียวเพื่อการพฒั นาท่ยี ัง่ ยืน” การออกแบบภายในที่พกั อาศัยสาหรับนักศึกษาในอาคารคอนโดมิเนียม Interior design for students in condominium buildings นพศกั ด์ิ ฤทธ์ิดี* Noppasak Rithdee* ภาควชิ าสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Architecture, Faculty of Architecture, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ บทโครงการงานสร้างสรรค์น้ีมีวตั ถุประสงค์เสนอแนะแนวทางการออกแบบภายในห้องพกั สาหรับ นกั ศึกษาในอาคารประเภทอาคารอยูอ่ าศยั รวมแบบคอนโดมิเนียม งานสร้างสรรคน์ ้ีศึกษารูปแบบท่ีพกั อาศยั ท่ี รองรับกบั พฤติกรรมการอยู่อาศยั ของนกั ศึกษา ดว้ ยวิธีการออกแบบตามแนวคิดของสถาปัตยกรรมภายในยุค หลงั สมยั ใหม่ เพื่อหางานออกแบบภายในท่ีมีความสอดคล้องกบั การอยู่อาศยั ของนักศึกษาหลายคนในที่ว่าง เดียวกนั การพฒั นางานออกแบบห้องพกั น้ีใช้วธิ ีอา้ งอิงกบั แนวความคิดสถาปัตยกรรมภายในยุคหลงั สมยั ใหม่ จากกระบวนการพฒั นาแบบร่างดว้ ยการสเก็ตซ์แปลนห้องพกั หลายแบบในมาตราส่วน 1:100 และพฒั นาตอ่ ดว้ ย การสเก็ตซ์แปลนห้องพกั ในมาตราส่วน 1:50 ที่มีขนาดใหญ่ข้ึน เพื่อหาแบบห้องพกั ท่ีสมบูรณ์มีรายละเอียด ภายในหอ้ งมากข้ึน ในกระบวนการน้ีมีการศึกษาถึง ขนาดห้องพกั ขนาดพ้ืนที่วา่ งภายในต่างๆ ขนาดและกลุ่ม ของเฟอร์นิเจอร์ รวมท้งั วสั ดุและสีภายในท่ีจะเลือกใช้ ในข้นั ตอนของการพฒั นาแบบข้นั สุดทา้ ยนกั สร้างสรรค์ ไดใ้ ชก้ ารออกแบบ บนภาพทศั นียภาพภายในมาพฒั นาแนวคิด และมุมมองต่อท่ีวา่ งภายในท่ีใกลเ้ คียงความจริง มาช่วยในการออกแบบ ทาให้สรุปเป็ นแนวทางเสนอแนะการออกแบบท่ีพกั อาศยั สาหรับนกั ศึกษาในอาคาร คอนโดมิเนียม ที่มีการวางแปลนหอ้ งพกั สาหรับนกั ศึกษาจานวน 2คน และจานวน 4 คน มาอยา่ งละ 1แบบ โดย ในท้งั 2แบบถูกพฒั นาในขนาดพ้ืนที่ห้องที่ใกลเ้ คียงกบั การพฒั นาคอนโดมิเนียมของผปู้ ระกอบการในปัจจุบนั การตกแต่งภายในถูกออกแบบใหต้ อบสนองต่อพฤติกรรมและจานวนผใู้ ชภ้ ายในห้อง มีการใชอ้ งคป์ ระกอบใน การตกแตง่ ภายในท้งั ในเรื่ององคป์ ระกอบศิลป์ การเลือกใชเ้ ฟอร์นิเจอร์ลอยตวั เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์ อิน และการใช้ สีกบั วสั ดุตา่ งๆและการใชส้ ีโทนอบอุ่น ประกอบกบั วสั ดุตกแตง่ ลวดลายธรรมชาติ เช่นไม้ และหิน เป็นตน้ คาสาคัญ: แนวความคิดสถาปัตยกรรมภายในยคุ หลงั สมยั ใหม่ มุมมองต่อท่ีวา่ งภายใน 203

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขยี วเพอื่ การพัฒนาที่ยั่งยนื ” แนวทางการออกแบบสภาพแวดล้อมภายในโรงอาหารมหาวทิ ยาลยั ที่เหมาะสมกบั ผ้ใู ช้เก้าอี้ รถเขน็ สาหรับผ้พู กิ าร : กรณีศึกษาโรงอาหารพวงชมพู มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี The interior environmental design in canteen of University, for the disable people on wheelchairs : a case study : Puang Chom-Pu canteen Rajamangala University of Technology Thanyaburi นิธิศ เกียรติสุข* Nithit Keadtisuke* สาขาสถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 12110 Department of Interior Architecture, Faculty of Architecture, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani 12110, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การศึกษาแนวทางการออกแบบสภาพแวดลอ้ มภายในโรงอาหารมหาวิทยาลยั ที่เหมาะสมกบั ผใู้ ชเ้ กา้ อ้ีรถเขน็ สาหรับผพู้ ิการ : กรณีศึกษาโรงอาหารพวงชมพูมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี เป็ นการวจิ ยั เพื่อเสนอแนว ทางการออกแบบปรับปรุงโรงอาหารพวงชมพู เนื่องจากภายในมหาวิทยาลยั มีกลุ่มคนท่ีศึกษาอยู่หลากหลาย ตลอดจนผพู้ ิการท่ีใชเ้ กา้ อ้ีรถเขน็ สาหรับผูพ้ ิการ ที่มาใชง้ านภายในโรงอาหารเป็ นประจา เพื่อนาไปสู่การยกระดบั คุณภาพชีวิตท่ีดีของนกั ศึกษา และบุคลากรภายในต่อไป จากการศึกษา พบว่าบริเวณโดยรอบโรงอาหารพวงชมพูมี คณะที่ทาการเปิ ดสอนจานวนท้งั หมด 9 คณะ ท่ีอยู่ใกลบ้ ริเวณโรงอาหาร ซ่ึงจากจานวนคณะที่เปิ ดสอนท่ีอยู่ โดยรอบโรงอาหารมีจานวนค่อนขา้ งมากจึงส่งผลต่อการจดั ท่ีนัง่ ภายในโรงอาหารที่ตอ้ งมีการจดั จานวนท่ีนั่งให้ เพยี งพอต่อการใชง้ าน จากการสารวจของผวู้ จิ ยั ปัจจุบนั ที่นงั่ รับประทานอาหารภายในบริเวณโรงอาหารพวงชมพูมี จานวนถึง 288 ที่นงั่ ซ่ึงมีจานวนมากเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกบั ขนาดของพ้ืนที่ภายในโรงอาหาร ทาใหเ้ กิดปัญหา ตามมา ในดา้ นอุบตั ิเหตุจากทางสัญจรภายในท่ีคบั แคบ และขาดการคานึงในดา้ นการออกแบบเพ่อื คนท้งั มวล ดังน้ันในการวิจัยเสนอแนวทางการออกแบบปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในคร้ังน้ี เป็ นเพียงแนวทาง ออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผูใ้ ช้เก้าอ้ีรถเข็นสาหรับผูพ้ ิการ และคนท้ังมวลเท่าน้ัน แต่ยงั ไม่สามารถ ตอบสนองในเรื่องการรองรับผเู้ ขา้ มาใชง้ านภายในโรงอาหารในปริมาณมากได้ เพอ่ื เป็นการแกไ้ ขปัญหาอยา่ งยง่ั ยนื ทางมหาวทิ ยาลยั จึงควรสร้างโรงอาหารใหม่เพม่ิ และนาขอ้ มูลในการวจิ ยั คร้ังน้ีไปปรับใชต้ ่อไป คาสาคญั : สภาพแวดลอ้ มภายในโรงอาหารมหาวิทยาลยั ผใู้ ชเ้ กา้ อ้ีรถเขน็ สาหรับผพู้ กิ าร การออกแบบสาหรับคนทุกเพศทุกวยั 204

การประชมุ วชิ าการระดับชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอื่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสีเขยี วเพ่อื การพัฒนาที่ยัง่ ยืน” การศึกษาและพฒั นาแผ่นอดั วเี นียร์จากวสั ดุขเี้ ลื่อยไม้เพื่อการตกแต่ง เครื่องเรือนในที่พกั อาศัย A Study and Develop Veneer Sheets Made from Sawdust for Decorating Residential Furniture Products สาธิต เหล่าวฒั นพงษ1์ * พิมพจ์ ุฑา พกิ ลุ ทอง1 และ นพพร สกลุ ยนื ยงสุข2 Sathit Laowattanaphong1*, Pimchutha Pigunthong1 and Nopporn Sakulyunyongsuk2 1สาขาวชิ าการออกแบบผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร จ.กรุงเทพมหานคร 2สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารอาหาร คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร จ.กรุงเทพมหานคร1 1Program in Industrial Product Design, Faculty of Architecture and Design, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok, THAILAND 2Program in Food Science and Technology, Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจยั น้ีเป็ นการศึกษาและพฒั นาแผ่นอดั วเี นียร์จากวสั ดุข้ีเล่ือยไมเ้ พ่ือการตกแต่งเครื่องเรือน ในท่ีพกั อาศยั มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาและพฒั นาหาผลประสิทธิภาพแผ่นอดั วีเนียร์จากวสั ดุข้ีเล่ือยไมเ้ พ่ือการตกแต่ง เครื่องเรือนในที่พกั อาศยั โดยมีการศึกษาจากการทดสอบกลุ่มตวั อยา่ งแบบอยา่ งง่ายจากข้ีเล่ือยไมจ้ ากโรงงานไม้ แปรรูปจากเขตบางซ่ือ จงั หวดั กรุงเทพมหานคร ท่ีมีคุณสมบตั ิเหมาะสมเพ่ือเขา้ กระบวนการแปรสภาพแผ่นอดั วีเนียร์และทาการออกแบบเคร่ืองเรือนโดยมีผลการวิจยั พบว่า ผูว้ ิจยั ไดท้ าการออกแบบเครื่องเรือนแผ่นอดั วี เนียร์วสั ดุข้ีเลื่อยไมจ้ ากโรงงานไมแ้ ปรรูปจากเขตบางซื่อ จงั หวดั กรุงเทพมหานครที่พฒั นาข้ึนใหม่โดยเกณฑ์ การวิเคราะห์ประกอบด้วยดา้ นการผลิต ดา้ นความสวยงามจากผเู้ ช่ียวชาญและดา้ นความพึงพอใจของผใู้ ชง้ าน อนั ดบั แรกมากท่ีสุดคือดา้ นความพึงพอใจผใู้ ชผ้ ลิตภณั ฑ์เคร่ืองเรือนในที่พกั อาศยั จากแผน่ อดั วีเนียร์วสั ดุข้ีเลื่อย ไมท้ ี่พฒั นาใหม่ ค่าเฉลี่ย 4.36 อยูใ่ นระดบั ดี รองลงมาดา้ นการผลิต ค่าเฉลี่ย 3.86 อยใู่ นระดบั ดีและนอ้ ยท่ีสุด ดา้ นความสวยงาม คา่ เฉลี่ย 3.59 อยใู่ นระดบั ดี ภาพรวมท้งั 3 ดา้ น ค่าเฉล่ีย 3.93 อยใู่ นระดบั ดี คาสาคญั : แผน่ วเี นียร์ ข้ีเลื่อยไม้ การตกแต่งเครื่องเรือน 205

การประชุมวิชาการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครง้ั ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี ีเขยี วเพื่อการพัฒนาทย่ี ่ังยืน” การออกแบบผลติ ภณั ฑ์โคมไฟตกแต่งทีพ่ กั อาศัยจากอตั ลกั ษณ์เคร่ืองแต่งกายมโนราห์ Product Design of Residential Decorative Lamps Based on the Identity of Manohra Costumes อรวรรณ วธั นอินทร์ และ รุ่งนภา สุวรรณศรี* Orawan Wattanain and Rungnapa Suwannasri* ภาควชิ าทศั นศิลป์ และการออกแบบคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Faculty of Fine and Applied Arts, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] , [email protected] บทคัดย่อ การวจิ ยั คร้ังน้ีมีจุดประสงค์ 1) เพือ่ การศึกษาขอ้ มูลของเคร่ืองแต่งกายมโนราห์และโคมไฟสาหรับตกแต่ง ที่พกั อาศยั 2) ออกแบบผลิตภณั ฑ์โคมไฟตกแต่งท่ีพกั อาศยั อตั ลกั ษณ์เคร่ืองแต่งกายมโนราห์ 3) เพ่ือประเมิน ความพึงพอใจในการออกแบบผลิตภณั ฑโ์ คมไฟตกแตง่ ท่ีพกั อาศยั จากอตั ลกั ษณ์เคร่ืองแตง่ กายมโนราห์ กลุ่มตวั อย่างและผูเ้ ช่ียวชาญท่ีใช้ในการวิจยั ซ่ึงประกอบดว้ ย ผูเ้ ชี่ยวชาญดา้ นทศั นศิลป์ จานวน 1 คน ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการออกแบบจานวน 1 คน ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นเคร่ืองแต่งกายมโนราห์จานวน 1 คน และกลุ่มตวั อยา่ ง ท่ีมีความสนใจผลิตภณั ฑ์โคมไฟตกแต่งท่ีพกั อาศยั จากอตั ลกั ษณ์เคร่ืองแต่งกายมโนราห์ รวม 100 คน โดย เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการวิจยั ไดแ้ ก่ แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถามความพึงพอใจในการออกแบบผลิตภณั ฑ์โคม ไฟสาหรับตกแตง่ ที่พกั อาศยั ผลการวิจยั พบว่า การออกแบบโคมไฟอตั ลกั ษณ์เครื่องแต่งกายมโนราห์ที่แสดงถึงอตั ลกั ษณ์ ไดน้ า รูปทรงของเทริดมาตดั ทอนรายละเอียดให้เรียบง่าย พฒั นาสีและลวดลายจากลายพ้ืนฐานท่ีเลียนแบบจาก ลวดลายของดอกไม้ เพ่ิมรายละเอียดของลวดลายใหม้ ีความน่าสนใจมากข้ึน นามาออกแบบโคมไฟตกแตง่ ที่พกั อาศยั รูปแบบที่นิยมใชต้ กแต่งในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ โคมไฟติดเพดาน โคมไฟติดผนงั โคมไฟต้งั โตะ๊ ความพึงพอใจ ท่ีมีต่อการออกแบบการออกแบบโคมไฟอตั ลกั ษณ์เครื่องแต่งกายมโนราห์พบว่า ดา้ นรูปแบบอตั ลกั ษณ์อยู่ใน ระดบั มาก ( x ̅=3.8) ดา้ นความงามอยใู่ นระดบั มาก ( x =̅ 4.27) ดา้ นการใชง้ านอยใู่ นระดบั มาก ( x ̅=3.6) และดา้ น ประโยชน์ใช้สอยอยู่ในระดับมาก( x =̅ 4.16) ความพึงพอใจท่ีมีต่อผลิตภณั ฑ์โคมไฟตกแต่งที่พกั อาศยั จาก อตั ลักษณ์เครื่องแต่งกายมโนราห์ในด้านต่างๆ อยู่ในระดับมากท้งั รูปแบบอตั ลกั ษณ์ สี ลวดลาย สามารถ แสดงออกตอ่ ความรู้สึกสะทอ้ นถึงวฒั นธรรมของภาคใตไ้ ดอ้ ยา่ งชดั เจน คาสาคัญ: การออกแบบ โคมไฟตกแตง่ มโนราห์ 206

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลือ่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสีเขยี วเพื่อการพฒั นาที่ยง่ั ยืน” การออกแบบบ้านพกั อาศัยขนาดเลก็ ในเขตชุมชนเมืองทมี่ รี ูปแบบร่วมสมยั เพื่อการพกั ผ่อน กรณศี ึกษาบ้านคุณวุฒากร ศิริวฒั น์ ทเี่ ขตวงั ทองหลาง กรุงเทพมหานคร The Design of contemporary small house in urban area for relaxation: Cause Study of Mr. Wutthakorn Siriwat’ s House at Wangthonglang district, Bangkok นายศกั ด์ิสิทธ์ิ โสมนสั * Saksit Somanat* สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Architecture Technology, Faculty of Architecture, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานสร้างสรรคน์ ้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ออกแบบอาคารพกั อาศยั ของคุณคุณวุฒากร ศิริวฒั น์ ที่ซอยลาดพร้าว 71 แขวงสะพานสอง เขตวงั ทองหลาง กรุงเทพมหานคร โดยของเจา้ อาคารมีตอ้ งการบา้ นเด่ียวที่มีการใช้สอยท่ี สะดวกสะบาย มีภาพลกั ษณ์อาคารท่ีทนั สมยั มีบรรยากาศท่ีส่งเสริมการพกั ผ่อน และมีขนาดเล็ก โดยมีการ กาหนดกิจกรรมและการใชส้ อยในบา้ นเด่ียวพกั อาศยั มีการศึกษาตวั อยา่ งจากการนิยามคาศพั ท์ ความหมายต่างฯ ท่ีเก่ียวขอ้ ง มีการศึกษาขอ้ มูลจากหลกั การ ทฤษฎีการออกแบบทางสถาปัตยกรรมบา้ นพกั อาศยั สองช้นั แลว้ มี การกาหนดกิจกรรมการอยอู่ าศยั ครุภณั ฑ์สาหรับใชส้ อย ชื่อห้องและขนาดหอ้ ง แลว้ มีการจดั กลุ่มพ้ืนที่ใชส้ อย (Zoning) การจดั ระบบสัญจร (Circulation) ศึกษาข้อมูลจากเอกสารโฉนดที่ดิน แผนท่ี จากการสารวจรังวดั ถ่ายภาพสถานท่ีก่อสร้างและสภาพแวดล้อม เพื่อวิเคราะห์ที่ต้งั อาคาร [Site Analysis] ทางดา้ นสภาพกายภาพ แวดลอ้ มที่ต้งั ทางดา้ นสภาพภูมิอากาศ ทางดา้ นทศั นียภาพ ความเป็นส่วนตวั และมลภาวะ แลว้ สงั เคราะห์ผลตาม กระบวนการออกแบบโดยเร่ิมจากการวางผงั การจดั วางกลุ่มใชส้ อยลงในท่ีต้งั [Zoning Diagram] แลว้ พฒั นาเป็ น การวางผงั พ้ืนข้นั ตน้ (Schematic Plan) การกาหนดรูปทรงอาคารข้นั ตน้ (Schematic Mass) โดยจดั ทาเป็ นสอง แนวทาง แลว้ เลือกแบบท่ีเหมาะสมกวา่ ไปพฒั นาต่อเป็ นการออกแบบข้นั สมบูรณ์ ท่ีประกอบดว้ ย การวางผงั บริเวณ (Site Plan) ผงั พ้ืนช้นั ท่ีหน่ึง ผงั พ้ืนช้นั ท่ีสอง ผงั หลงั คา โดยอาคารมีพ้ืนท่ีใชส้ อยประมาณ 230 ตาราง เมตร มีผงั พ้ืนเป็นรูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ มีดา้ นยาววางตามแนวทิศตะวนั ออก-ตก มีพ้ืนที่โล่งตรงกลาง มีการออกแบบ รูปทรงรูปแบบอาคารให้เกิดจากการประกอบกนั ดว้ ยกล่องสี่เหล่ียมสองกล่องโดยเช่ือมกนั ดว้ ยโครงระแนงตรง กลาง มีการออกแบบพ้ืนผวิ ของกล่องสี่เหล่ียมให้ประกอบไปดว้ ยผนงั สี่เหลี่ยมผืนผา้ ขนาดเล็กจานวนมากและ จดั วางเหลื่อมกนั และมีการสลบั แนวต้งั แนวนอน โดยแสดงเป็ นรูปดา้ นและทศั นียภาพอาคาร และสรุปผลการ ออกแบบการออกแบบเป็นไปตามวตั ถุประสงคข์ องงานสร้างสรรค์ คาสาคญั : บา้ นพกั อาศยั ขนาดเลก็ รูปแบบร่วมสมยั บา้ นเพอื่ การพกั ผอ่ น 207

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่อื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยสี ีเขยี วเพอื่ การพฒั นาที่ยง่ั ยนื ” งานออกแบบศาลาบังแดดรอรถโดยสาร แนวคดิ จากต้นทานตะวนั The design of sunflower-inspired bus stop shelter โสพศิ ชยั ชนะ* Sopit Chaichana* ภาควชิ าเทคโนโลยสี ถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Architectural Technology, Faculty of Architecture, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานสร้างสรรค์น้ีมีวตั ถุประสงค์เพ่ือออกแบบศาลารอรถประจาทางโดยการนาเอกลักษณ์ของต้น ทานตะวนั มาสร้างสรรค์ผลงาน รวมท้งั วิเคราะห์ประสิทธิภาพการบงั แดดของหลงั คาศาลารอรถท่ีสามารถบงั แดดใหพ้ ้นื ที่ใชง้ าน ในเวลา 8.00 น. ถึง 16.00 น. และใหร้ ่มเงาอยา่ งนอ้ ยไม่ต่ากวา่ คร่ึงหน่ึงของพ้ืนท่ีใชง้ านและ ท่ีนง่ั เม่ือศาลาบงั แดดที่ต้งั อยูใ่ นตาแหน่งทิศที่ต่างกนั ในกรุงเทพมหานคร ข้นั ตอนการออกแบบประกอบด้วย การถอดความหมายและลกั ษณะของตน้ ทานตะวนั คือ การหนั ช่อดอกไปทางตาแหน่งของดวงอาทิตย์ จนเกิดร่ม เงาที่ดา้ นหลงั หรือดา้ นล่างของดอก มาเป็ นลกั ษณะของหลงั คาศาลาบงั แดด โดยกาหนดใหศ้ าลามีขนาดพ้ืนท่ีใช้ งาน 6.00x2.10 เมตร สูง 2.60 เมตร โครงสร้างหลกั ประกอบดว้ ยเสาและคานเหล็กกรุสแตนเลส พ้นื ที่ใชง้ านของ ศาลา ประกอบไปดว้ ยมา้ นง่ั และที่นง่ั ยนื พร้อมท้งั ป้ายเส้นทางเดินรถแนวต้งั ดา้ นซา้ ยของศาลาเพือ่ ใชป้ ระโยชน์ ท้งั ในแง่ของการใช้งานและการบงั แดด สาหรับดา้ นขวามือของศาลา ซ่ึงเป็ นมุมมองที่ใช้สาหรับการมองดูรถ ประจาทาง จะเวน้ ว่างไวไ้ ม่ให้มีสิ่งกีดขวางและบดบงั มุมมอง สาหรับหลงั คา ใช้การลดทอนรูปร่างของดอก ทานตะวนั โดยพฒั นาจากรูปทรงส่ีเหล่ียมด้านเท่า เพื่อให้สามารถนาไปปรับให้ยืดหยุ่นสาหรับการเปล่ียน ตาแหน่งของหลงั คาที่ต้งั หนั หนา้ ไปในแต่ละทิศได้ โครงสร้างคือเหล็กกรุดว้ ยแผน่ อลูมิเนียมคอมโพสิท แขวน และยดึ กบั เหล็กท่อกลมดดั โคง้ ซ่ึงยดึ อยกู่ บั โครงสร้างหลกั ของศาลา คาสาคัญ: ลารอรถโดยสาร ดอกทานตะวนั บงั แดด 208

การประชุมวิชาการระดับชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครัง้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอื่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสีเขียวเพ่ือการพัฒนาท่ยี ่งั ยืน” หนังสือป๊ อปอพั ศาสนาในประเทศไทยด้วยเทคโนโลยคี วามจริงเสริม Augmented Reality Technology Pop-up Book about Religions in Thailand ฉนั ทนา ปาปัดถา* ชญาลกั ษณ์ เสวตวนั สโรชา กนั ติยางกูร และ รสสุคนธ์ นุตวงษ์ Chantana Papattha*, Chayalak Sawettawan, Sarocha Kantiyangkool and Rossukon Nuttawong สาขาวชิ าเทคโนโลยมี ลั ติมีเดีย, คณะเทคโนโลยสี ื่อสารมวลชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Department of Multimedia Technology, Faculty of Mass Communication Technology, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การศึกษาคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือ 1) ผลิตหนงั สือป๊ อปอพั ศาสนาในประเทศไทยดว้ ยเทคโนโลยีความ จริงเสริม 2) ประเมินความเหมาะสมของหนงั สือป๊ อปอพั ศาสนาในประเทศไทยดว้ ยเทคโนโลยคี วามจริงเสริม และ 3) ประเมินความพึงพอใจต่อหนงั สือป๊ อปอพั ศาสนาในประเทศไทยดว้ ยเทคโนโลยคี วามจริงเสริม โดยใช้ กลุ่มตวั อย่าง 2 กลุ่ม คือ ผูเ้ ชี่ยวชาญจากกระทรวงวฒั นธรรมแห่งประเทศไทย จานวน 3 คน และนักเรียน โรงเรียนวดั ไทร (ถาวรพรหมานุกลู ) จานวน 30 คน ไดม้ าดว้ ยวธิ ีการแบบไม่เจาะจง โดยใชแ้ บบสอบถามในการ เก็บรวบรวมขอ้ มูล สถิติท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ไดแ้ ก่ ความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉล่ีย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบวา่ ความเหมาะสมของหนงั สือ อยใู่ นระดบั มากท่ีสุด มีค่าเฉลี่ย 4.66 เมื่อพิจารณาเป็ นรายดา้ น พบวา่ ดา้ นเน้ือหา มีความเหมาะสมอยูใ่ นระดบั มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.68 ดา้ นกราฟิ กและการออกแบบ มีความ เหมาะสมอยูใ่ นระดบั มากท่ีสุด มีค่าเฉล่ีย 4.78 ดา้ นเทคนิค มีความเหมาะสมอยู่ในระดบั มาก มีค่าเฉลี่ย 4.49 และผลการประเมินความพึงพอใจต่อหนงั สือป๊ อปอพั ศาสนาในประเทศไทยดว้ ยเทคโนโลยีความจริงเสริม อยู่ ในระดบั มาก มีค่าเฉล่ีย 4.22 คาสาคญั : หนงั สือป๊ อปอพั ศาสนาในประเทศไทย เทคโนโลยคี วามจริงเสริม 209

การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล คร้ังท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่อื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสีเขียวเพือ่ การพฒั นาที่ยงั่ ยืน” สื่อประชาสัมพนั ธ์ด้วยเทคโนโลยคี วามจริงเสริมเพื่อสร้างอตั ลกั ษณ์ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอนิ ทรีย์และฟาร์มชุมชมชน ทุ่งธรรมนา Public Relations Media with Augmented Reality Technology to Create Identity of Organic Farming Learning Center and Thung Thamna Community Farm ฉนั ทนา ปาปัดถา* ชวาลา นาถโคษา ชยั ยทุ ธ ตุม้ แสงทอง เริงฤทธ์ิ สุนมา และ ศุภชยั หุ่นพวง Chantana Papattha*, Chawala Nakkosa, Chaiyut Toomsaengthong, Ruengrit Soonma and Supachai Hoonpoung สาขาวชิ าเทคโนโลยมี ลั ติมีเดีย, คณะเทคโนโลยสี ื่อสารมวลชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Department of Multimedia Technology, Faculty of Mass Communication Technology, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การศึกษาคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อผลิตสื่อประชาสัมพนั ธ์ ประเมินความเหมาะสม และศึกษาความพึง พอใจต่อสื่อประชาสัมพนั ธ์ดว้ ยเทคโนโลยคี วามจริงเสริมเพ่ือสร้างอตั ลกั ษณ์ศูนยก์ ารเรียนรู้เกษตรอินทรียแ์ ละ ฟาร์มชุมชน ทุ่งธรรมนา โดยใชก้ ลุ่มตวั อยา่ งเพื่อประเมินความเหมาะสมของส่ือประชาสัมพนั ธ์ เป็ นผเู้ ช่ียวชาญ 5 ท่าน และประเมินความพึงพอใจโดยใชน้ กั ท่องเท่ียวท่ีมาใชบ้ ริการท่ี ศูนยก์ ารเรียนรู้เกษตรอินทรียแ์ ละฟาร์ม ชุมชน ทุ่งธรรมนา จานวน 100 คน โดยการสุ่มแบบบงั เอิญ โดยใชแ้ บบสอบถามในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล สถิติ ท่ีใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1) การ ออกแบบมาสคอตของศูนยก์ ารเรียนรู้เกษตรอินทรียแ์ ละฟาร์มชุมชน ทุ่งธรรมนา อยใู่ นระดบั มากท่ีสุด 2) ความ เหมาะสม สื่อประชาสมั พนั ธ์ดว้ ยเทคโนโลยคี วามจริงเสริมเพื่อสร้างอตั ลกั ษณ์ศูนยก์ ารเรียนรู้เกษตรอินทรียแ์ ละ ฟาร์มชุมชน ทุ่งธรรมนา อยใู่ นระดบั มากท่ีสุด 3) ความพึงพอใจต่อสื่อประชาสัมพนั ธ์ดว้ ยเทคโนโลยีความจริง เสริมเพอื่ สร้างอตั ลกั ษณ์ศูนยก์ ารเรียนรู้เกษตรอินทรียแ์ ละฟาร์มชุมชน ทุ่งธรรมนา อยใู่ นระดบั มากที่สุด คาสาคัญ: การประชาสมั พนั ธ์ เทคโนโลยคี วามจริงเสริม การออกแบบ ทุ่งธรรมนา 210

การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลื่อนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขยี วเพ่อื การพฒั นาท่ยี ่ังยืน” การผลติ สื่อโมชันกราฟิ ก โรคร้ายจากพเี อม็ 2.5 Motion Graphic Production: Disease from PM 2.5 ฉนั ทนา ปาปัดถา* มณฑล ทิพโรจน์ และ ศรีปุก โศจิอรุณ Chantana Papattha*, Montol Tiproch and Seepok sojialu สาขาวชิ าเทคโนโลยมี ลั ติมีเดีย, คณะเทคโนโลยสี ื่อสารมวลชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Department of Multimedia Technology, Faculty of Mass Communication Technology, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การศึกษาคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือ 1) ผลิตส่ือโมชนั กราฟิ กโรคร้ายจากพีเอ็ม 2.5 2) ศึกษาคุณภาพของส่ือ โมชนั กราฟิ กโรคร้ายจากพีเอ็ม 2.5 และ 3) ประเมินความพึงพอใจของผูท้ ี่ไดร้ ับชมสื่อโมชนั กราฟิ กเก่ียวกบั โรค ร้ายพีเอ็ม 2.5 โดยใชก้ ลุ่มตวั อยา่ ง กลุ่มบุคคลทวั่ ไปในสังคมที่ไดร้ ับผลกระทบพีเอ็ม 2.5 ในเขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล โดยกาหนดขนาดกลุ่มตวั อยา่ ง จานวน 400 คนท่ีไดร้ ับชมส่ือโมชนั กราฟิ ก ไดม้ าดว้ ยวธิ ีการเลือกแบบ ไม่เจาะจง โดยใชแ้ บบสอบถามในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล สถิติที่ใชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูล ไดแ้ ก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบวา่ ดา้ นเน้ือหาผลการประเมินภาพรวมอยูใ่ นระดบั มีความ เหมาะสมมาก ดา้ นเทคนิคผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดบั มีความเหมาะสมมาก และผลการประเมินภาพ รวมอยใู่ นระดบั มีความพึงพอใจมาก คาสาคญั : โมชนั กราฟิ ก โรคร้าย พเี อม็ 2.5 211

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสีเขียวเพ่อื การพฒั นาทย่ี ัง่ ยนื ” แนวทางในการออกแบบพืน้ ท่ีสาธารณะและพื้นที่สาหรับการสัญจร ทางบกภายในชุมชนไร้ แผ่นดนิ ตาบลบางชัน อาเภอขลงุ จงั หวดั จนั ทบุรี Framework for the design of public space and land circulation space of the landless villages Bangchan Sub-district, Khlung District, Chanthaburi Province. แทนศรัทธา อติอนุวรรตน์* และ ปริณนั บานช่ืน Tansattha Atianuwat and Parinan Banchuen คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 Faculty of Architecture and Design, Rajamangala University of Technology Phranakhon, Vachira Phayaban, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวจิ ยั น้ีเป็นการวจิ ยั เพื่อเสนอแนวทางในการออกแบบและก่อสร้างพ้ืนที่สาธารณะสาหรับทากิจกรรมต่างๆและ พ้ืนท่ีสาหรับใช้ในการสัญจรทางบกภายในชุมชุนไร้แผ่นดิน เพ่ือสร้างให้เกิดอัตลักษณ์ของชุมชนท้ังในเชิง สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและเชิงวิถีชีวิตความเป็ นอยู่ของผูค้ นในชุมชน ซ่ึงจะสามารถเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวท่ี ยง่ั ยืนและยงั เป็ นการพฒั นาคุณภาพชีวิตของผูค้ นในชุมชนให้มีพ้ืนที่สาหรับพกั ผ่อนหย่อนใจและทากิจกรรมร่วมกนั ภายในชุมชน วิธีการดาเนินการวิจยั เริ่มจากการเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากเอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวขอ้ งและการเก็บขอ้ มูล ภาคสนาม จากน้ันจึงทาการวิเคราะห์ขอ้ มูล, กาหนดเง่ือนไขและปัจจยั ต่างๆท่ีส่งผลต่อการออกแบบ แลว้ จึงทาการ กาหนดแนวทางในการออกแบบเป็นข้นั ตอนสุดทา้ ย จากการดาเนินการวิจยั สามารถสรุปผลเป็ นประเด็นท่ีควรคานึงถึง 2 ประเด็น โดย ประเด็นแรกคือพ้ืนท่ี สาธารณะภายในชุมชนที่ควรจะอยู่ในตาแหน่งท่ีใกลเ้ คียงและสามารถเช่ือมต่อกบั พ้ืนที่ศาลเจา้ เดิมเป็นหลกั เพราะจะทา ให้เกิดการเก้ือหนุนกนั ของกิจกรรมทางสังคมภายในชุมชนไดด้ ีกว่าการกระจายพ้ืนท่ีออกไปยงั ส่วนอื่นๆในชุมชน ประกอบกบั บริเวณดงั กล่าวน้นั จะมีสะพานไมข้ า้ มคลองน้าเค็มที่ใชเ้ ป็นทางเดินสญั จรไปมาหาสู่กนั ระหวา่ งบา้ นเรือนท้งั สองฝั่งคลอง ซ่ึงจะทาใหเ้ กิดเป็นการส่งเสริมความเป็นจุดหมายตาของชุมชนใหม้ ีความชดั เจนมากยิ่งข้ึน ก่อใหเ้ กิดเป็นอตั ลกั ษณ์ทางกายภาพของชุมชนต่อไปได้ในอนาคต สาหรับประเด็นท่ีสองที่ควรคานึงถึง คือทางสัญจรทางบกที่เป็ น เสน้ ทางเดินเทา้ หลกั สาหรับเช่ือมต่อพ้ืนท่ีหนา้ บา้ น ควรสร้างดว้ ยวสั ดุที่สามารถจดั หาไดส้ ะดวกในทอ้ งถิ่น และไม่ส่งผล กระทบต่อสภาพแวดลอ้ มภายในพ้ืนที่ โดยควรมีรูปแบบที่ไม่ทาใหเ้ กิดการบดบงั ทศั นียภาพโดยรวมของชุมชน, มีขนาด ความกวา้ งของทางเดินใกลเ้ คียงกบั ท่ีเป็นอยใู่ นปัจจุบนั คาสาคญั : ชุมชนไร้แผน่ ดิน การใชป้ ระโยชนท์ ่ีดิน การอยรู่ ่วมกบั สภาพแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งยงั่ ยืน รูปแบบการขยายตวั ของชุมชน 212

การประชุมวชิ าการระดับชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครัง้ ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี ีเขียวเพอื่ การพฒั นาท่ีย่ังยืน” การพฒั นารูปแบบผลติ ภณั ฑ์กระเป๋ าสานจากเส้นกระดาษรีไซเคลิ The Development of Weave Bag Product from Recycled Paper Fiber วจิ ิตร สนหอม* วนิ ยั ตาระเวช และ ภสั รันทร์ เกล้ียงสอาด Vijit Sonhom*, Vinai Taravake and Phatsaran Kliangsaart สาขาวชิ าคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Home Economics , Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ จากการวจิ ยั เร่ือง การพฒั นารูปแบบผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ าสานจากเส้นกระดาษรีไซเคลิ ภายใตโ้ ครงการยกระดบั เศรษฐกิจและสังคมรายตาบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลยั สู่ตาบล สร้างรากแกว้ ให้ประเทศ) บูรณาการกบั รายวชิ า สหกิจศึกษา ของคณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มทร.ธญั บุรี มีวตั ถุประสงค์ เพ่ือศึกษาความเป็ นมาของผลิตภณั ฑ์ กระเป๋ าสานในชุมชนตาบลบ่อทอง เพื่อออกแบบและพฒั นาผลิตภณั ฑ์กระเป๋ าสานจากเส้นกระดาษรีไซเคิล เพ่ือ ศึกษาความพงึ พอใจของผบู้ ริโภคท่ีมีผลต่อการพฒั นารูปแบบผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ าสานจากเสน้ กระดาษรีไซเคิล ผลการวิจยั พบว่า การศึกษาความเป็ นมาของผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ าสานในชุมชนตาบลบ่อทอง ทางชุมชนไดม้ ี การนาเส้นกระดาษที่ไม่ไดใ้ ชแ้ ลว้ จากโรงงานไทยเคนเปเปอร์ ตาบลบ่อทอง อาเภอกบินท์บุรี จงั หวดั ปราจีนบุรี นามาทาเป็ นกระเป๋ าสาน และตะกร้าเป็ นส่วนใหญ่ ผูว้ ิจัยจึงได้นาผลิตภณั ฑ์จากท่ีไดศ้ ึกษามาสู่กระบวนการ ออกแบบและพฒั นาผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ าสานจากเส้นกระดาษรีไซเคิล จานวน 5 รูปแบบ และใหผ้ ทู้ รงคุณวุฒิคดั เลือก จานวน 2 รูปแบบ และนามาพฒั นาใหม้ ีรูปแบบที่สวยงามทนั สมยั มากข้ึน เพ่ิมตวั เลือกใหม่ให้ตอบสนองต่อความ ตอ้ งการของผูบ้ ริโภค ความพึงพอใจของผูบ้ ริโภคท่ีมีผลต่อการพฒั นารูปแบบผลิตภณั ฑ์กระเป๋ าสานจากเส้น กระดาษรีไซเคิล ส่วนใหญ่เพศหญิง จานวน 28 คน คิดเป็ นร้อยละ 70.00 มีอายรุ ะหว่าง 21-30 ปี จานวน 30 คน คิดเป็ นร้อยละ 75.00 มีการศึกษาระดบั ปริญญาตรี จานวน 34 คน คิดเป็ นร้อยละ 85.00 มีอาชีพนักเรียน/นักศึกษา จานวน 30 คน คิดเป็ นร้อยละ 75.00 และมีรายไดโ้ ดยเฉล่ียต่อเดือน 10,000-15,000 บาท จานวน 20 คน คิดเป็นร้อย ละ 42.50 ดา้ นความพงึ พอใจของผบู้ ริโภคท่ีมีผลต่อผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ าสานจากเสน้ กระดาษรีไซเคลิ มีความพงึ พอใจ ต่อผลิตภณั ฑร์ ูปแบบท่ี 2 อยใู่ นระดบั มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากบั ( ¯x = 4.65+ 0.48 ) ดา้ นความพึงพอใจของผตู้ อบ แบบสอบถามที่มีต่อการพฒั นารูปแบบผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ าสานจากเส้นกระดาษรีไซเคิลในดา้ นการออกแบบ มีความ พึงพอใจต่อวสั ดุท่ีนามาใชม้ ีความเหมาะสมอยู่ในระดบั มาก มีค่าเฉล่ียเท่ากบั ( ¯x = 4.55 + 0.50 ) ดา้ นความพึง พอใจของผตู้ อบแบบสอบถามท่ีมีต่อการพฒั นารูปแบบผลิตภณั ฑ์กระเป๋ าสานจากเส้นกระดาษรีไซเคิลในดา้ นการ นาไปใชป้ ระโยชน์ มีความพงึ พอใจต่อผลิตภณั ฑส์ ามารถใชป้ ระโยชน์ใหก้ บั ทุกเพศทุกวยั อยใู่ นระดบั มาก มีค่าเฉล่ีย เท่ากบั ( ¯x = 4.58 + 0.55 ) คาสาคญั : เสน้ กระดาษรีไซเคิล ผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ าสาน การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ 213

การประชมุ วิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครง้ั ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยสี ีเขียวเพอ่ื การพัฒนาที่ยัง่ ยืน” แนวทางในการใช้ประโยชน์ทดี่ นิ และการกาหนดรูปแบบของการขยายตวั ของชุมชน ไร้แผ่นดนิ ตาบลบางชัน อาเภอขลุง จงั หวดั จนั ทบุรี Land use framework and Defining model of village expansion of the landless villages in Bangchan Sub-district, Khlung District, Chanthaburi Province. ปริณนั บานชื่น* และ แทนศรัทธา อติอนุวรรตน์ Parinan Banchuen* and Tansattha Atianuwat คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 Faculty of Architecture and Design, Rajamangala University of Technology Phranakhon, Vachira Phayaban, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวิจยั น้ี เป็นการวิจยั เพื่อสารวจและศึกษาลกั ษณะทางกายภาพของสภาพแวดลอ้ มของชุมชนไร้แผน่ ดิน ตาบล บางชนั อาเภอขลุง จงั หวดั จนั ทบุรี และเสนอแนวทางในการใชป้ ระโยชนท์ ่ีดินและกาหนดรูปแบบของการขยายตวั ของ ชุมชนท่ีมีความสอดคล้องกับการเจริญเติบโตของชุมชนในอนาคตท่ีจะทาให้ชุมชนแห่งน้ีสามารถอยู่ร่ วมกับ สภาพแวดลอ้ มและทรัพยากรทางธรรมชาติในพ้ืนที่ ตลอดจนคงไวซ้ ่ึงอตั ลกั ษณ์ของชุมชนประมงพ้ืนบา้ นไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื วิธีการดาเนินการวิจยั น้นั เร่ิมจากการเก็บรวบรวมขอ้ มูลซ่ึงแบ่งออกเป็ น 2 ข้นั ตอน คือ การรวบรวมเอกสาร และงานวิจัยที่เก่ียวข้องและการเก็บข้อมูลภาคสนาม จากน้ันจึงทาการวิเคราะห์ข้อมูลโดยยึดหลักเกณฑ์ตาม วตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั เป็นหลกั แลว้ จึงทาการกาหนดเง่ือนไขและสร้างแนวทางในการใชป้ ระโยชนท์ ี่ดินและกาหนด รูปแบบของการขยายตวั ของชุมชนในอนาคตเป็นข้นั ตอนสุดทา้ ย จากการดาเนินการวิจยั พบว่า แนวทางในการใชป้ ระโยชน์ที่ดินที่มีความเหมาะสมกบั ลกั ษณะของชุมชนไร้ แผ่นดินท่ีไดท้ าการศึกษาวิจยั ควรจะคานึงถึงความสัมพนั ธ์ในมิติต่างๆ ระหว่างผูค้ นในชุมชนและสภาพแวดลอ้ มที่ ชุมชนต้งั อยู่ ซ่ึงประกอบดว้ ย การใชป้ ระโยชน์ในดา้ นการอยอู่ าศยั , การใชป้ ระโยชนด์ า้ นการเกษตร, การใชป้ ระโยชน์ ดา้ นป่ าไม้ และการใชป้ ระโยชนด์ า้ นพ้ืนที่น้า สาหรับประเดน็ ทางดา้ นรูปแบบการขยายตวั ของชุมชนท่ีมีความเหมาะสม กบั ลกั ษณะของชุมชนไร้แผ่นดินที่ไดท้ าการศึกษาวิจยั คือ การขยายตวั ในลกั ษณะท่ีเป็นการเพิ่มความหนาแน่นภายใน ชุมชนเอง โดยท่ีไม่ควรใหเ้ กิดการขยายชุมชนออกไปทางบริเวณปากคลอง เนื่องจากบริเวณดงั กล่าวเป็ นพ้ืนที่สาหรับ การใชป้ ระโยชนร์ ่วมกนั ของชุมชน ท้งั ในการเล้ียงสตั วน์ ้า วางลอบ วางอวน และยงั เป็นพ้ืนท่ีท่ีไดร้ ับผลกระทบจากการ กดั เซาะของน้ามากกวา่ บริเวณในลาคลอง และในขณะเดียวกนั ก็ยงั ตอ้ งระวงั ไม่ใหเ้ กิดการขยายชุมชนออกไปในคลอง น้าเคม็ มากเกินไปจนเกิดการรุกล้าบริเวณพ้ืนท่ีป่ าชายเลน ซ่ึงจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของพ้ืนที่โดยรวมได้ คาสาคญั : ชุมชนไร้แผน่ ดิน การใชป้ ระโยชนท์ ี่ดิน การอยรู่ ่วมกบั สภาพแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งยงั่ ยนื รูปแบบการขยายตวั ของชุมชน 214

การประชมุ วิชาการระดับชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครั้งที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสีเขียวเพ่อื การพฒั นาทยี่ ง่ั ยืน” แนวทางในการสร้าง ต่อเตมิ หรือปรับปรุงอาคารสาหรับรองรับนักท่องเที่ยว อย่างยงั่ ยืนของชุมชนไร้แผ่นดนิ ตาบลบางชัน อาเภอขลุงจงั หวดั จนั ทบุรี Framework for construction, building extension or building renovation of the landless villages in Bangchan Subdistrict, Khlung District, Chanthaburi Province ปริณนั บานช่ืน* และ แทนศรัทธา อติอนุวรรตน์ Parinan Banchuen* and Tansattha Atianuwat คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 Faculty of Architecture and Design, Rajamangala University of Technology Phranakhon, Vachira Phayaban, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวิจยั น้ีเป็นการวิจยั เพื่อสารวจและศึกษารูปแบบทางสถาปัตยกรรมและสภาพแวดลอ้ มของชุมชนไร้แผ่นดิน ตาบลบางชนั อาเภอขลุง จงั หวดั จนั ทบุรี และเสนอแนวทางแนวทางในการสร้าง ต่อเติม หรือปรับปรุงอาคารสาหรับ รองรับนกั ท่องเท่ียวที่มีความเหมาะสมกบั วิถีชีวติ ความเป็นอยสู่ ภาพแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติภายในชุมชน วิธีการดาเนินการวิจยั น้นั เริ่มจากการเก็บรวบรวมขอ้ มูลซ่ึงแบ่งออกเป็ น 2 ข้นั ตอน คือ การรวบรวมเอกสาร และงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องและการเก็บข้อมูลภาคสนาม จากน้ันจึงทาการวิเคราะห์ข้อมูลโดยยึดหลักเกณฑ์ตาม วตั ถุประสงคข์ องการวิจยั เป็นหลกั แลว้ จึงทาการกาหนดเงื่อนไขและแนวทางในการสร้าง ต่อเติม หรือปรับปรุงอาคาร ในข้นั ตอนสุดทา้ ย จากการดาเนินการวิจยั พบวา่ จะตอ้ งคานึงถึงประเด็นทางดา้ นรูปแบบของงานสถาปัตยกรรม ดงั น้ี 1) อาคาร บา้ นเรือนควรจะมีขนาดและรูปทรงของอาคารท่ีมีความใกลเ้ คียงกบั อาคารที่มีอยเู่ ดิมในชุมชน โดยการสร้างบา้ นเรือนที่ มีหลงั คาทรงจว่ั หนั ดา้ นหนา้ จวั่ ออกสู่ปากคลองและหนั ปลายชายคาเขา้ หาทางเดินสาธารณะ 2) การสร้าง ต่อเติม หรือ ปรับปรุงอาคารบา้ นเรือนใหย้ งั คงไวซ้ ่ึงระบบพ้ืนท่ีของบา้ นเรือนแบบด้งั เดิมของชุมชน โดยตวั บา้ นจะประกอบไปดว้ ย พ้ืนท่ีชานบา้ นที่เช่ือมต่อกบั ทางเดินสาธารณะ, พ้ืนที่ตวั บา้ นส่วนท่ีมีลกั ษณะก่ึงปิ ดลอ้ มท่ีเช่ือมต่อกบั พ้ืนท่ีชานบา้ น และ พ้ืนที่ปิ ดลอ้ มซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีที่มีความเป็นส่วนตวั ท่ีสุดท่ีอยู่ถดั เขา้ ไปจากพ้ืนท่ีก่ึงปิ ดลอ้ ม ในดา้ นการเลือกใชว้ สั ดุ ควรลือก ใชว้ สั ดุท่ีสามารถขนส่งทางเรือไดส้ ะดวกหรือจดั หาไดง้ ่ายในทอ้ งถ่ิน ตลอดจนตอ้ งเป็นวสั ดุที่ไม่ทิ้งสารปนเป้ื อนลงสู่ แม่น้าและดินเลน และในดา้ นวิธีการก่อสร้าง ควรเลือกใชว้ ิธีการก่อสร้างท่ีไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ ม ท้งั ทางดา้ น การเปล่ียนแปลงสภาพทางกายภาพของพ้ืนท่ีและทางดา้ นของเสียงท่ีจะเกิดข้ึนในระหวา่ งการก่อสร้าง คาสาคญั : ชุมชนไร้แผน่ ดิน รูปแบบทางสถาปัตยกรรม อตั ลกั ษณ์และวถิ ีชีวติ ชุมชนชาประมงพ้ืนบา้ น ระบบนิเวศและ ทรัพยากรทางธรรมชาติ 215

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่อื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขยี วเพ่อื การพัฒนาที่ยง่ั ยืน” การออกแบบศูนย์จาหน่ายผลติ ภณั ฑ์และฝึ กอาชีพสาหรับผู้สูงอายุและผู้พกิ าร Project Design Product Distribution Center and Vocational Training for the Elderly and Disabled กรณ์พงศ์ ทองศรี* และ รุจิวรรณ อนั สงคราม สาขาวชิ าสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Major of Architecture, Faculty of Architecture and Design, Rajamangala University of Technology Phanakorn, Wachira Phayaban , Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจยั น้ีเป็ นผลจากการศึกษาเรื่องการออกแบบศูนยจ์ าหน่ายผลิตภณั ฑ์และฝึ กอาชีพสาหรับผูส้ ูงอายุ และผูพ้ ิการ อนั ประกอบดว้ ยกลุ่มบุคคลที่มีวยั แตกต่างกนั อยู่ร่วมกนั การออกแบบท่ีอยู่อาศยั น้นั หลกั ใหญ่ คือ การออกแบบเพื่อตอบสนองประโยชนใ์ ชส้ อยของผใู้ ชป้ ระโยชน์อาคาร โดยคานึงถึงพฤติกรรมและลกั ษณะทาง กายภาพของผใู้ ชง้ านอาคาร หรือมิติสัมพนั ธ์ดา้ นต่างๆ สาหรับสังคมไทยซ่ึงนิยมอยกู่ นั แบบครอบครัวหรือนิยม ดูแลผูส้ ูงอายุภายในบา้ น ทาให้เกิดการรวมกนั ของบุคคลในวยั ที่แตกต่างกนั จากรายงานคาดวา่ ในปี พ.ศ. 2573 ประเทศไทยจะกา้ วเขา้ สู่ “สังคมผสู้ ูงอายโุ ดยสมบูรณ์” ดงั น้นั งานวจิ ยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือพฒั นาการออกแบบ ศูนยจ์ าหน่ายผลิตภณั ฑ์และฝึ กอาชีพสาหรับผูส้ ูงอายุและผูพ้ ิการแลว้ ยงั ศึกษาการเลือกใช้วสั ดุและอุปกรณ์ท่ี เหมาะสมอีกดว้ ย ซ่ึงไม่เพียงแต่เป็ นการทาเพ่ือผูส้ ูงอายุในสังคมแลว้ ยงั เป็ นการเตรียมพร้อมสาหรับตวั เราใน อนาคต วธิ ีการศึกษาและข้นั ตอนการดาเนินการวิจยั ไดจ้ ากการศึกษาและสังเกตพฤติกรรมของผูใ้ ชง้ านผา่ นการ สัมภาษณ์พูดคุยแลกเปล่ียนทศั นะความคิด ทาการสารวจสภาพทางภูมิศาสตร์และกายภาพของที่ต้งั ออกแบบ และเขียนแบบก่อสร้างดาเนินการก่อสร้าง และเก็บขอ้ มูลหลงั การใชง้ าน ผลการวิจยั พบวา่ หลกั ในการพิจารณา เบ้ืองตน้ คือการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผูส้ ูงอายุต้งั แต่ข้นั ตอนการพฒั นาแบบ ซ่ึงจะช่วยส่งเสริมสภาวะทาง จิตใจของผูส้ ูงอายใุ หเ้ กิดความรู้สึกเป็นเจา้ ของ และมีการจดั สรรพ้ืนที่ทากิจกรรมร่วมกนั สาหรับคนทุกวยั ทาให้ เกิดการเก้ือหนุนกนั ดงั น้ันหากปรับปรุงกระบวนการเก็บขอ้ มูลในเบ้ืองตน้ ให้ครอบคลุมมากข้ึนจะสามารถ พฒั นาผลการศึกษาไปใชใ้ นการออกแบบศูนยจ์ าหน่ายผลิตภณั ฑ์และฝึ กอาชีพสาหรับผสู้ ูงอายุและผพู้ ิการเพื่อ การพฒั นาอสงั หาริมทรัพยไ์ ดอ้ ีกดว้ ย คาสาคัญ: การออกแบบ ศูนยจ์ าหน่ายผลิตภณั ฑแ์ ละฝึกอาชีพ ผสู้ ูงอายแุ ละผพู้ กิ าร 216

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล คร้ังท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่ือนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขยี วเพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยนื ” การออกแบบอาคารฟื้ นฟูสุขภาพและพกั อาศัยสาหรับผ้สู ูงอายุและผู้พกิ าร Project Design of Rehabilitation buildings for the elderly and the disabled กรณ์พงศ์ ทองศรี* และ รุจิวรรณ อนั สงคราม สาขาวชิ าสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Major of Architecture, Faculty of Architecture and Design, Rajamangala University of Technology Phanakorn, Wachira Phayaban , Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานวจิ ยั น้ีเป็ นผลจากการศึกษาเรื่องการออกแบบอาคารฟ้ื นฟูสุขภาพและพกั อาศยั สาหรับผสู้ ูงอายุและผู้ พิการดว้ ยหลกั การออกแบบบา้ นสาหรับคนทุกวยั จากผลงานสร้างสรรค์บา้ นพกั อาศยั 2 ช้นั อนั ประกอบดว้ ย กลุ่มบุคคลที่มีวยั แตกต่างกนั อยรู่ ่วมกนั การออกแบบท่ีอยู่อาศยั น้นั หลกั ใหญ่ คือ การออกแบบเพ่ือตอบสนอง ประโยชน์ใชส้ อยของผูอ้ ยูอ่ าศยั นน่ั เอง ตา่ งก็ลว้ นตอ้ งคานึงถึงพฤติกรรมและลกั ษณะทางกายภาพของผอู้ ยูอ่ าศยั หรือมิติสัมพนั ธ์ดา้ นต่างๆ สาหรับสังคมไทยซ่ึงนิยมอยู่กนั แบบครอบครัวขยายหรือนิยมดูแลผูส้ ูงอายุภายใน บา้ น ทาใหเ้ กิดการรวมกนั ของบุคคลในวยั ท่ีแตกต่างกนั จากรายงานคาดวา่ ในปี พ.ศ. 2573 ประเทศไทยจะกา้ ว เขา้ สู่ “สงั คมผสู้ ูงอายโุ ดยสมบูรณ์” ดงั น้นั งานวจิ ยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ พฒั นาการออกแบบท่ีพกั อาศยั ที่เหมาะสม กบั ผสู้ ูงอายุและคนทุกวยั แลว้ ยงั ศึกษาการเลือกใชว้ สั ดุและอุปกรณ์ที่เหมาะสมอีกดว้ ย ซ่ึงไม่เพียงแต่เป็ นการทา เพ่ือผสู้ ูงอายใุ นสงั คมแลว้ ยงั เป็นการเตรียมพร้อมสาหรับตวั เราในอนาคตดว้ ยเช่นกนั วิธีการศึกษาและข้นั ตอนการดาเนินการวิจยั ไดจ้ ากการศึกษาและสังเกตพฤติกรรมของผูใ้ ชง้ านผา่ นการ สัมภาษณ์พูดคุยแลกเปล่ียนทศั นะความคิด ทาการสารวจสภาพทางภูมิศาสตร์และกายภาพของท่ีต้งั ออกแบบ และเขียนแบบก่อสร้างดาเนินการก่อสร้าง และเก็บขอ้ มูลหลงั การใชง้ าน ผลการวิจยั พบวา่ หลกั ในการพิจารณา เบ้ืองตน้ คือการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผสู้ ูงอายุต้งั แต่ข้นั ตอนการพฒั นาแบบ ซ่ึงจะช่วยส่งเสริมสภาวะทาง จิตใจของผสู้ ูงอายุให้เกิดความรู้สึกเป็นเจา้ ของ และมีการจดั สรรพ้ืนท่ีทากิจกรรมร่วมกนั สาหรับคนทุกวยั ทาให้ เกิดการเก้ือหนุนกนั ดงั น้นั หากปรับปรุงกระบวนการเก็บขอ้ มูลในเบ้ืองตน้ ให้ครอบคลุมมากข้ึนจะสามารถ พฒั นาผลการศึกษาไปใช้ในการออกแบบโครงการบา้ นจดั สรร หรือบา้ นสาหรับคนวยั เกษียณในการพฒั นา อสังหาริมทรัพยไ์ ดอ้ ีกดว้ ย คาสาคญั : การออกแบบ อาคารฟ้ื นฟูสุขภาพและพกั อาศยั ผสู้ ูงอายแุ ละผพู้ ิการ 217

การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลือ่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขียวเพอื่ การพฒั นาท่ยี งั่ ยืน” เคร่ืองประดบั สตรีจากผ้าปาเต๊ะด้วยเทคนิคการปัก Women's Accessories made from Batik cloth with embroidery techniques นิอร ดาวเจริญพร* จตุภทั ร์ โกกิฬา และ เววกิ า ไชยปรปักษ์ Nion Dowcharoenporn *, Jatuphat Gogila and Wawika Chaiparapak สาขาวชิ าการบริหารธุรกิจคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชพระนคร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Home Economics Business Aministration Program, Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวิจยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์ 1) เพ่ือออกแบบและประดิษฐ์เคร่ืองประดบั สตรีจากผา้ ปาเต๊ะดว้ ยเทคนิค การปัก และ 2) เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายท่ีมีต่อเคร่ืองประดบั สตรีจากผา้ ปาเต๊ะดว้ ยเทคนิคการ ปัก โดยนาผา้ ปาเต๊ะที่มีลวดลายเป็ นเอกลกั ษณ์มาออกแบบและพฒั นาผลิตภณั ฑช์ ุดเครื่องประดบั เพิ่มมูลค่าให้มี ความทนั สมยั ประกอบดว้ ย สร้อยคอ , ต่างหู และเขม็ กลดั ใชแ้ นวคิดจากรูปทรงธรรมชาติ และลวดลายของผา้ ปาเตะ๊ เป็ นแรงบนั ดาลใจในการออกแบบภาพร่างความคิดจานวน 3 รูปแบบ เพ่ือใหผ้ เู้ ช่ียวชาญ 5 ท่าน พิจารณา เลือกรูปแบบท่ีเหมาะสม และจดั ทาตน้ แบบผลิตภณั ฑ์ จากน้นั ประเมินตน้ แบบผลิตภณั ฑ์โดยใช้แบบสอบถาม ความพึงพอใจ เก็บขอ้ มูลกบั กลุ่มเป้าหมายท่ีเป็ นสตรี พบวา่ 1) แนวคิดเพ่ือการออกแบบเคร่ืองประดบั สตรีจาก ผา้ ปาเต๊ะดว้ ยเทคนิคการปัก ไดแ้ ก่ รูปทรงธรรมชาติท่ีมีลกั ษณะพริ้วไหว โดยใชล้ วดลายดอกกุหลาบและผเี ส้ือ จากผา้ ปาเตะ๊ ปักตกแต่งดว้ ยดิ้น เล่ือม ลูกปัดเพ่ิมมิติ สีสันและทาให้เครื่องประดบั มีความร่วมสมยั 2) ความพึง พอใจต่อเครื่องประดบั สตรีจากผา้ ปาเต๊ะดว้ ยเทคนิคการปัก ดา้ นลวดลาย ค่าเฉลี่ย 4.68 พึงพอใจระดบั มากที่สุด ดา้ นวสั ดุ คา่ เฉล่ีย 4.72 พึงพอใจระดบั มากท่ีสุด และดา้ นประโยชนใ์ ชส้ อย คา่ เฉลี่ย 4.68 พึงพอใจระดบั มากท่ีสุด คาสาคญั : เครื่องประดบั สตรี ผา้ ปาเตะ๊ เทคนิคการปัก 218


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook