Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore RMUTCON 2022_ABSTRACT NATIONAL CONFERENCE

RMUTCON 2022_ABSTRACT NATIONAL CONFERENCE

Published by IRD RMUTT, 2022-05-30 09:27:26

Description: RMUTCON 2022_ABSTRACT NATIONAL CONFERENCE

Search

Read the Text Version

การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครั้งท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขยี วเพอื่ การพฒั นาทีย่ ง่ั ยืน” การศึกษาพฒั นาผลติ ภณั ฑ์กระเป๋ าสานจากเส้นพลาสตกิ ตาบลหนองบอน อาเภอเมืองสระแก้ว จงั หวดั สระแก้ว A Study on the Development of Woven Bags from Plastic Threads, Nong Bon Subdistrict Mueang Sakaeo District Sa Kaeo Province สโรชา โอภาษี1 และ รัฐ ชมภูพาน1,2* Sarocha O-Pasri1and Rath Chombhuphan1,2* 1สาขาวชิ าศิลปประดิษฐใ์ นงานคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทมุ ธานี 2สาขาวชิ าศิลปประดิษฐใ์ นงานคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1Department of Creative Craft inHome Economic Program, Faculty of Home Economic Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Rajamangala UniversityofTechnologyThanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2,1Department of CreativeCraft in HomeEconomic Program, Faculty of HomeEconomicTechnology, RajamangalaUniversity of Technology Thanyaburi, Rajamangala UniversityofTechnologyThanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *CorrespondingAuthor E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การศึกษาวิจยั เร่ือง การพฒั นาผลิตภณั ฑ์กระเป๋ าสานจากเส้นพลาสติก ตาบลหนองบอน อาเภอเมืองสระแก้ว จงั หวดั สระแกว้ มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาและพฒั นากระเป๋ าสานจากเสน้ พลาสติก ของกล่มุ ชุมชนเครื่องสานเสน้ พลาสติก ตาบลหนองบอน อาเภอเมืองสระแกว้ จงั หวดั สระแกว้ และเพ่ือประเมินความพึงพอใจดา้ นการออกแบบผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ า สานจากเสน้ พลาสติก ประชากรและกลุ่มตวั อย่างท่ีใชใ้ นวิจยั คร้ังน้ี คือ ผูบ้ ริโภค จานวน 100 คน โดยการสุ่มตวั อยา่ งแบบ ง่าย (Simple Random Sampling) ข้นั ตอนที่ 1 การวิจยั เชิงคุณภาพ การเก็บข้อมูลเชิงลึกด้วยการสัมภาษณ์โดยใช้แบบ สมั ภาษณ์ก่ึงมีโครงสร้างจากกลุ่มชุมชนและผปู้ ระกอบการเครื่องสานเส้นพลาสติก ตาบลหนองบอน อาเภอเมืองสระแกว้ จงั หวดั สระแกว้ จานวน 10 คน การวิเคราะห์ขอ้ มูลเชิงเน้ือหา (Content Analysis) พบว่า พฒั นารูปแบบเป็ นผลิตภณั ฑ์ กระเป๋ าสานจากเส้นพลาสติก เพ่ือพฒั นาในรูปแบบของผลิตภณั ฑเ์ ดิมให้มีความหลากหลายและสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างตรา สินคา้ ให้กบั กลุ่มชุมชนดงั กล่าว โดยที่อาศยั หลกั การออกแบบและการผลิตอย่างง่ายซ่ึงกลุ่มชุมชนสามารถทาได้เพื่อมี โอกาสขยายตลาดและกลุ่มผซู้ ้ือต่อไปในอนาคต ข้นั ตอนท่ี 2. การวิจยั เชิงปริมาณศึกษาจากผบู้ ริโภค จานวน 100 คน ดว้ ย การใช้ แบบสอบถามการวิเคราะห์ขอ้ มูลดว้ ยค่าเฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน การวิจยั เชิงปริมาณพบว่าจากการสารวจ ความพึงพอใจจากกลุ่มผูบ้ ริโภค ผลการวิจยั พบว่า ขอ้ มูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบมีความพึงพอใจต่อผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ า สานจากเส้นพลาสติก โดยรวมเท่ากบั 4.20 ± 0.05 การพฒั นาใหม้ ีรูปแบบที่ทนั สมยั มากข้ึน มีสีสันท่ีสวยงาม ซ่ึงคนใน ชุมชนสามารถนามาพฒั นาเป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างงาน สร้างรายไดเ้ ป็นอาชีพใหแ้ ก่ครัวเรือนไดอ้ ยา่ งมนั่ คง คาสาคัญ: พฒั นา ผลิตภณั ฑก์ ระเป๋ าสาน เสน้ พลาสติก 219

การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครัง้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขยี วเพ่ือการพฒั นาทยี่ ัง่ ยนื ” การพฒั นารูปแบบผลติ ภณั ฑ์จากกกฤาษขี องชุมชนในจงั หวดั ปทุมธานี Development of cattail products of communities in Pathum Thani Province เสริมศรี สงเนียม1 และ รัฐ ชมภูพาน1,2* Sermsri Songnium1 and Rath Chombhuphan1,2* 1สาขาวชิ าศิลปประดิษฐใ์ นงานคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2สาขาวชิ าศิลปประดิษฐใ์ นงานคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1Department of Creative Craft in Home Economic Program, Faculty of Home Economic Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2,1Department of Creative Craft in Home Economic Program, Faculty of Home Economic Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การพฒั นารูปแบบผลิตภณั ฑจ์ ากกกฤาษีของชุมชนในจงั หวดั ปทุมธานี มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อ 1) เพื่อพฒั นา รูปแบบผลิตภณั ฑ์จากกกฤาษีเพ่ือเสริมสร้างอาชีพของชุมชนในจงั หวดั ปทุมธานี 2) เพื่อสารวจความพึงพอใจ ของผูบ้ ริโภคที่มีต่อรูปแบบผลิตภณั ฑ์จากกกฤาษี ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ งที่ใชใ้ นวิจยั คร้ังน้ี จานวน 120 คน โดยการสุ่มตวั อยา่ งแบบเฉพาะเจาะจง ผลการวจิ ยั พบวา่ ดา้ นความเขา้ ใจเกี่ยวกบั วสั ดุเหลือใชด้ า้ นวสั ดุของเหลือ ใช้ ดา้ นผลิตภณั ฑ์ ดา้ นการมีส่วนร่วมในการเขา้ ร่วมโครงการสร้างมูลเพิ่มผลิตภณั ฑ์ และดา้ นความตอ้ งการหรือ สนใจผลิตภณั ฑจ์ ากกกฤาษี ส่วนใหญ่ใหค้ วามสนใจผลิตภณั ฑเ์ ส่ือทอมือ ร้อยละ 37.5 รองลงมาเป็นกระเป๋ าสาน ร้อยละ 36.7 และกล่องแฮนเมด ร้อยละ 25.8 ระยะท่ี 2 ผลการวิจยั การศึกษาความพึงพอใจพบวา่ ความพงึ พอใจ ต่อดา้ นรูปแบบผลิตภณั ฑ์จากกกฤาษีผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลพบวา่ คะแนนเฉลี่ยอยใู่ นระดบั มากท่ีระดบั คะแนน 4.41 ดา้ นความสวยงามของผลิตภณั ฑ์ไวนิลผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลพบวา่ คะแนนเฉล่ียอยใู่ นระดบั มากที่ระดบั คะแนน 4.51 ดา้ นความสะดวกสบายต่อการใช้งานและความพึงพอใจโดยรวมของผลิตภณั ฑ์จากกก ผลการ วิเคราะห์ขอ้ มูลพบวา่ คะแนนเฉล่ียอยู่ในระดบั มากท่ีระดบั คะแนน 4.43 ขอ้ เสนอแนะ เป็ นแนวความคิดท่ีดีใน การสร้างผลิตภณั ฑ์จากวสั ดุเหลือทิ้งและไดช้ ่วยลดจานวนขยะไดด้ ี และเป็ นแนวทางในการเสริมสร้างอาชีพ ใหก้ บั ผสู้ นใจทว่ั ไปได้ คาสาคัญ: การพฒั นา ผลิตภณั ฑก์ กฤาษี 220

การประชมุ วชิ าการระดับชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี ีเขยี วเพ่ือการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ” เทคโนโลยที เ่ี หมาะสมในการก่อสร้างท่ีอย่อู าศัย แบบชุมชนเป็ นแกนในโครงการบ้านมัน่ คง Appropriate Technology for Community-Based Housing Construction In Baan Mankong project กรณ์พงศ์ ทองศรี* Kornpong Thongsri* สาขาวชิ าสถาปัตยกรรมพ้ืนถ่ิน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร ถนนหนา้ พระลาน เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร Major of Vernacular Architecture, Faculty of Architecture , Silpakorn University, Road King Milan road, Grand Palace Khet Phra Nakorn, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานวิจยั เร่ืองเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมในการก่อสร้างที่อยู่อาศยั แบบชุมชนเป็ นแกนในโครงการบา้ นมนั่ คง เป็ น งานวจิ ยั ท่ีศึกษาถึงกระบวนการบริหารจดั การก่อสร้างภายในชุมชน มีวตั ถุประสงคด์ งั น้ี 1.) ศึกษาถึงแนวคิดเทคโนโลยี ท่ีเหมาะสมในการก่อสร้างที่อยอู่ าศยั และแนวคิดบา้ นมนั่ คง 2.) วิเคราะห์ถึงปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจดั การ งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและงานก่อสร้างภายในโครงการบา้ นมน่ั คง 3.) ศึกษาปัจจยั ในการเลือกรูปแบบการ บริหารจดั การงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและงานก่อสร้างที่อยู่อาศยั โดยศึกษาลกั ษณะทางกายภาพและการอยู่ อาศยั ก่อนและหลงั การปรับปรุงของชุมชน 4.เสนอแนะถึงแนวทางการเลือกใชเ้ ทคโนโลยีที่เหมาะสมในการก่อสร้างที่ อยู่อาศยั แบบชุมชนเป็ นแกนในโครงการบา้ นมนั่ คง โดยขอบเขตของการศึกษาดา้ นเน้ือหา เกี่ยวกบั ขอ้ มูลเบ้ืองตน้ เกี่ยวกับชุมชน ลักษณะทางกายภาพ ลักษณะทางเศรษฐกิจ และสังคม รูปแบบการจัดการงานก่อสร้างระบบ สาธารณูปโภค และงานก่อสร้างบา้ น โดยใช้ 6 ชุมชนในโครงการบา้ นมน่ั คงในเขตภาคตะวนั ออกจงั หวดั เป็ นพ้ืนท่ี ศึกษา ผลจากการศึกษาพบว่าเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมในการก่อสร้างที่อยู่อาศยั แบบชุมชนเป็ นแกนในโครงการบา้ น มน่ั คง ในส่วนประเด็นการก่อสร้างที่อยู่อาศยั เป็ นข้นั ตอนที่สาคญั ในการทาใหค้ นในชุมชนไดเ้ ขา้ มีส่วนร่วมในการ จดั การกบั ปัญหาของชุมชนร่วมกนั เป็นพ้ืนฐานในการพฒั นาชุมชนใหม้ ีความเขม้ แขง็ ในชุมชน ซ่ึงเกิดจากการที่สมาชิก ในชุมชน มีความสนใจท่ีจะรับรู้และตระหนกั ถึงปัญหาของชุมชนร่วมกนั รูปแบบการบริหารจดั การงานก่อสร้างแบบ ร่วมกนั สร้าง จะทาให้เกิดความสามคั คีในชุมชนก่อให้เกิดการช่วยเหลือซ่ึงกันและกันของคนในชุมชนได้อย่าง กวา้ งขวาง เกิดการร่วมมือกนั ในการพฒั นาชุมชนมากท่ีสุด ฉะน้นั ชุมชนมีความพร้อมในการดาเนินการก่อสร้างดว้ ยคน ในชุมชนเอง มีช่างชุมชน มีศกั ยภาพในการออม มีคณะกรรมการที่มีความสามารถในการจดั การ กส็ ามารถดาเนินการได้ ดว้ ยตวั เอง คาสาคัญ: เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม การก่อสร้างที่อยอู่ าศยั ชุมชนเป็นแกน 221

การประชุมวชิ าการระดับชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสีเขียวเพอื่ การพัฒนาท่ยี ่ังยืน” การออกแบบเสื้อผ้าจากผ้าย้อมสีเปลือกมะพร้าวและการพมิ พ์ลาย Clothing Design from Coconut Shell Dyed Fabric and Prints. วราภรณ์ บนั เลง็ ลอย บวรลกั ษณ์ จน่ั ถลา จิระพงศ์ ศรีษะโคตร และ ณฐั พงษ์ ปัญญาธิคุณ* Waraporn Banlengloi , Bowonlak Chanthala, Jirapjongse Srisakotr and Natthapong Panyathikun1* 1สาขาวชิ าส่ิงทอและเคร่ืองนุ่งห่ม คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี ตาบลคลองหก อาเภอธญั บุรี จงั หวดั ปทุมธานี 11120 1Department of Textile and Clothing, Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Klong 6,Thanyaburi, 11120, Thailand. *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การศึกษาคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์ เพ่ือการออกแบบและตดั เยบ็ ชุดบุรุษ สตรีจากผา้ ลินินยอ้ มสีจากเปลือก มะพร้าว และการพิมพล์ าย สารวจความพึงพอใจต่อการออกแบบเส้ือผา้ บุรุษสตรีจากการยอ้ มสีเปลือกมะพร้าว และการพิมพ์ลาย กลุ่มตวั อย่างเลือกเฉพาะกลุ่มผูส้ นใจผลิตภณั ฑ์เส้ือผา้ ยอ้ มสีธรรมชาติจานวน 100 คน เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวิจยั คือแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจต่อออกแบบเส้ือผา้ บุรุษ สตรี ผลการศึกษา ดา้ นกระบวนการยอ้ มสีจากเปลือกมะพร้าวและการพิมพล์ ายธรรมชาติ ได้ 3 ข้นั ตอนหลกั ดงั น้ี การสกดั สี การ ยอ้ มผา้ และการพมิ พล์ ายธรรมชาติ ผลการประเมินความพงึ พอใจของผบู้ ริโภคท่ีมีต่อชุดบุรุษและชุดสตรีจากผา้ ลินินโดยภาพรวม พบวา่ ท้งั 6 ชุดมีค่าเฉล่ียอยทู่ ี่ 4.43 อยใู่ นระดบั ความพึงพอใจมากท่ีสุด และความพึงพอใจต่อ รายละเอียดการออกแบบท้งั 6 รายการอยใู่ นระดบั ความพึงพอใจมากท่ีสุด คือดา้ นความสวยงาม มีค่าเฉลี่ย 4.60 อยใู่ นระดบั พึงพอใจมากที่สุด ดา้ นความทนั สมยั และมีความเป็นแฟชนั่ มีค่าเฉล่ีย 4.86 อยูใ่ นระดบั พงึ พอใจมาก ท่ีสุด ดา้ นความคิดสร้างสรรค์ของชุด มีค่าเฉลี่ย 4.81อยูใ่ นระดบั พึงพอใจมากที่สุด ดา้ นความน่าสนใจของ มี ค่าเฉล่ีย 4.80 อยูใ่ นระดบั พึงพอใจมากท่ีสุด ดา้ นความสวยงามของลวดลาย มีค่าเฉลี่ย 4.72 อยูใ่ นระดบั พึงพอใจ มากที่สุด ดา้ นความประณีตในการตดั เยบ็ ชุด มีค่าเฉล่ีย 4.70 อยใู่ นระดบั พึงพอใจมากที่สุด และดา้ นความโอกาส ในการสวมใส่ของชุด มีคา่ เฉลี่ย 4.64 อยใู่ นระดบั พึงพอใจมากท่ีสุด คาสาคญั : การยอ้ มสีจากเปลือกมะพร้าว การพิมพล์ ายธรรมชาติ ออกแบบเส้ือผา้ บุรุษ สตรี 222

การประชุมวิชาการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขยี วเพอื่ การพฒั นาท่ยี ่งั ยืน” การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ดนิ ป้ันจากก้านดอกไม้เหลือทงิ้ Development of clay products from waste flower stalks ธีรศกั ด์ิ ตะ๊ สุ ภาวรินทร์ กองกลู และ จุฬาภรณ์ ศรีเมืองไหม* Teerasak Tasu, Phawarin Kongkun and Juraporn Srimuangmai* สาขาวชิ าศิลปประดิษฐใ์ นงานคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Creative Craft in Home Economics Program, Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานวิจัยน้ีได้ศึกษาการพฒั นาผลิตภณั ฑ์ดินป้ันจากกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้ง มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือ 1) เพื่อศึกษา ปริมาณกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้งในการนามาทาดินป้ัน 2) เพื่อศึกษาคุณภาพของดินป้ันจากกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้ง 3) เพื่อ ศึกษาความพึงพอใจของผบู้ ริโภคที่มีต่อดินป้ันจากกา้ นดอกไม้ 4) เพ่ือพฒั นาผลิตภณั ฑด์ ินป้ันจากกา้ นดอกไมเ้ หลือ ทิ้ง วิธีการวิจยั โดยศึกษาปริมาณกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้งในการนามาทาดินป้ันเพื่อให้ไดส้ ูตรที่เหมาะสม ทาการ ประเมินและให้คะแนนความเหมาะสมของสูตรดินป้ันจากกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้ง โดยแปรเป็ น 3 ระดับ คือ กา้ น ดอกไมเ้ หลือทิ้งร้อยละ 40, 50 และ 60 ทาการวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (CRD) จะไดท้ ้งั หมด 3 สิ่ง ทดลอง จากน้นั นามาวิเคราะห์คุณภาพไดแ้ ก่ ลกั ษณะปรากฏ และนามาทดสอบสมบตั ิทางเคมี ทางกายภาพ และทา การวิเคราะห์ความเหมาะสมของลกั ษณะดินป้ันจากกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้ง โดยผูเ้ ชี่ยวชาญดา้ นงานศิลปประดิษฐ์ 5 ท่าน เม่ือได้สูตรดินป้ันจากกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้งท่ีดีที่สุดแลว้ นามาป้ันเป็ นผลิตภณั ฑ์งานประดิษฐ์ และทาการ ประเมินความพึงพอใจของผูบ้ ริโภคที่เป็ นเจา้ ของร้านดอกไม้ ช่างดอกไม้ พนักงานในร้านดอกไม้ และลูกคา้ ของ ร้านดอกไม้ ที่ตลาดไท จานวน 150 คน โดยการสุ่มแบบบงั เอิญ (Accidental Sampling) ผลการวิจยั พบว่า ดินป้ันจากกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้งสูตรที่เหมาะสมที่สุดคือ สูตรที่ 1 กา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้งร้อย ละ 40 ต่อแป้งขา้ วโพดร้อยละ 60 กาวลาเท็กซ์ ร้อยละ 50 ผลการทดสอบทางเคมี ค่าความช้ืนร้อยละ 42.12 ผลการ ทดสอบทางกายภาพ มีคา่ ความยดื หยนุ่ เท่ากบั 7.59 มิลลิเมตร มีค่าความสว่าง (L*) เท่ากบั 56.23 ค่า (a*) และ (b*) มี ค่าไปในทิศทางสีเขียวและสีน้าเงิน เม่ือนามาวิเคราะห์ความเหมาะสมโดยผูเ้ ชี่ยวชาญ พบว่า มีความพึงพอใจใน ระดบั มาก มีคา่ เฉล่ีย 4.41 ในส่วนของการประเมินความพงึ พอใจของผบู้ ริโภคท่ีมีต่อดินป้ันจากกา้ นดอกไมเ้ หลือทิ้ง พบวา่ ผบู้ ริโภคมีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั มากท่ีสุดในดา้ นผลิตภณั ฑม์ ีความเหมาะสมสาหรับงานประดิษฐ์ ในดา้ น ประโยชน์ใชส้ อยผลิตภณั ฑ์ ใชเ้ ป็ นของประดบั ตกแต่ง ใชเ้ ป็ นของที่ระลึก และผลิตภณั ฑม์ ีความสวยงาม มีค่าเฉล่ีย 4.87, 4.76, 4.73 และ 4.70 ตามลาดบั ผบู้ ริโภคมีความพงึ พอใจโดยรวมอยใู่ นระดบั มาก มีคา่ เฉลี่ย 4.50 คาสาคญั : กา้ นดอกไม้ ดินป้ัน งานประดิษฐ์ การพฒั นา 223

การประชมุ วชิ าการระดับชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลอ่ื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขียวเพ่ือการพฒั นาทย่ี ั่งยืน” การศึกษาประสิทธิภาพการเผาไหม้ของวสั ดุในการผลติ ดอกไม้จนั ทน์ The Study of The Combustion Efficiency of Materials in The Production of Sandalwood Flowers นนั ทิกานต์ แสงทอง และ โสภิดา วศิ าลศกั ด์ิกุล* Nuntikan Sangthong and Sopida Wisansakkul* สาขาวชิ าคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Home Economics, Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การศึกษาวิจัยน้ี เป็ นการศึกษาประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของวสั ดุทดแทนการใช้กระดาษทา ดอกไมจ้ นั ทน์เดิม ซ่ึงทาการศึกษาชนิดของวสั ดุจานวน 3 ชนิด ประกอบดว้ ย กระดาษสี กระดาษรีไซเคิล และ เปลือกขา้ วโพด โดยทาการศึกษาลกั ษณะกล่ินควนั สีของควนั ไฟ ระยะเวลาในการเผาไหม้ และลกั ษณะที่ปรากฏ ของข้ีเถา้ หลงั กระบวนการเผาไหม้ ผลการศึกษาวิจยั พบวา่ กระดาษสี มีความเหมาะสมในการนามาใชเ้ ป็ นวสั ดุ ทดแทนในการทาดอกไมจ้ นั ทน์ เน่ืองจากเมื่อทาการทดสอบการเผาไหมก้ ระดาษสีจะมีกลิ่นไหม้ ไม่มีกล่ินฉุน ของสารเคมี ลกั ษณะท่ีปรากฎของสีควนั ไฟ เป็ นสีเทาอ่อน มีควนั ไฟเกิดข้ึนหลงั การเผาไหมจ้ านวนน้อย ใช้ ระยะเวลาในการเผาไหมเ้ พียง 10.39 วนิ าที มีการเผาไหมท้ ี่เร็ว มีเปลวไฟต่า ไฟมีการลุกลามไปทวั่ วสั ดุค่อนขา้ ง เร็ว และเม่ือทาการศึกษาลกั ษณะของข้ีเถา้ ท่ีปรากฏพบว่า ข้ีเถา้ มีลกั ษณะเบา ลอยตวั ไดง้ ่าย ผงข้ีเถา้ เป็ นชิ้นเล็ก และไม่คงรูปทรงเดิมของวสั ดุ เมื่อนามาผลิตเป็นดอกไมจ้ นั ทน์มีตน้ ทุนในการผลิตโดยประมาณ 3 บาท/ชิ้น คาสาคัญ: ดอกไมจ้ นั ทน์ ประสิทธิภาพ การเผาไหม้ 224

การประชมุ วิชาการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครัง้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลื่อนนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสีเขียวเพอ่ื การพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื ” การสร้างสรรค์จติ รกรรม เร่ือง จติ รกรรมภาพเหมือนบุคคลสภาวะการแสดงออก ทางความรู้สึกของวยั รุ่นในสังคมไทย Portrait painting emotional state of teenager in Thai society เจษฎาร์ เรือนเงิน และ สมพร ธุรี* Chetsada Reuanngern and Somporn Turee * คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Faculty of Fine and Applied Arts, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected], [email protected] บทคัดย่อ การวจิ ยั น้ีเพื่อวเิ คราะห์การแสดงออกทางความรู้สึกของวยั รุ่นในสงั คมไทย รวมท้งั ศึกษาองคค์ วามรู้ใหม่ ในการสร้างสรรคผ์ ลงานจิตรกรรมภาพเหมือนบุคคลเกี่ยวกบั การแสดงออกทางความรู้สึกของวยั รุ่นดา้ นเทคนิค วธิ ีการวาดภาพ และสร้างสรรคผ์ ลงานจิตรกรรมภาพเหมือนบุคคลสภาวะการแสดงออกทางความรู้สึกของวยั รุ่น กระบวนการสร้างสรรค์ เป็ นผลงานจิตรกรรม 2 มิติ โดยใชเ้ ทคนิคสีน้ามนั บนผา้ ใบ เป็ นการสร้างงาน จิตรกรรมภาพเหมือนบุคคลโดยไดร้ ับแรงดลใจจากพฤติกรรมของวยั รุ่นในสังคมไทย สะทอ้ นถึงวิถีชีวิตของ วยั รุ่นหญิงในสังคมไทยปัจจุบนั พฒั นาการทางดา้ นจิตใจท่ีหลากหลาย วยั รุ่นมีความเป็ นตวั ของตวั เอง รักอิสระ ไม่ค่อยชอบอยูใ่ นกฎเกณฑก์ ติกาใด ๆ เชื่อมน่ั ในความคิดตนเองสูง ไม่พอใจกบั ความไม่ถูกตอ้ ง ความไม่เสมอ ภาคกนั ในสังคม บางคร้ังจะแสดงออกโดยการวพิ ากษว์ ิจารณ์และต่อตา้ น ในช่วงวยั รุ่นน้ีการควบคุมตนเองอาจ ยงั ไมด่ ีนกั แต่เมื่อพน้ ช่วงวยั รุ่นน้ีไป การควบคุมตนเองจะดีข้ึน ผลการสร้างสรรค์จิตรกรรมภาพเหมือนบุคคลสภาวะการแสดงออกทางความรู้สึกของวยั รุ่นใน สังคมไทย เพื่อศึกษาวเิ คราะห์การแสดงออกทางความรู้สึกของวยั รุ่นในสังคมไทย เป็ นการสร้างสรรคผ์ ลงาน เพ่ือสื่อถึงพฤติกรรมวยั รุ่นท่ีแสดงออกผ่านทางความรู้สึกที่เกิดข้ึนจากความสุขและความทุกข์ โดยนาองค์ ความรู้ใหมม่ าสร้างสรรคผ์ ลงานจิตรกรรมเทคนิควธิ ีการวาดภาพ เป็นแบบเหมือนจริง จานวน 9 ภาพ เพือ่ ให้ ผูค้ นไดม้ ีส่วนร่วมในผลงานจิตรกรรมท่ีแสดงเรื่องราวของวยั รุ่น ความรู้สึกของวยั รุ่น และถ่ายทอดเรื่องราว วยั รุ่นไทยอยา่ งตรงไปตรงมา ทาใหผ้ เู้ สพผลงานศิลปะเขา้ ถึงสิ่งท่ีตอ้ งการจะส่ือไดอ้ ยา่ งชดั เจน คาสาคัญ: ภาพเหมือนบุคคล วยั รุ่น 225

การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยสี ีเขยี วเพื่อการพัฒนาทยี่ ง่ั ยนื ” การสร้างสรรค์สื่อสมัยใหม่ทางพุทธศาสนาในรูปแบบปริศนาธรรม Creation of modern Buddhist media with the form of Dharma Puzzles. วารินทร์ เงินลาด และไชยพจน์ หวลมานพ* Warin Ngernlad and Chaipoth Hualmanop* ภาควชิ าทศั นศิลป์ และการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Visual Art and Design, Faculty of Fine and Applied Arts, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวิจยั เรื่องการสร้างสรรค์ส่ือสมยั ใหม่ทางพุทธศาสนาในรูปแบบปริศนาธรรม มีวตั ถุประสงค์ เพ่ือ วิเคราะห์ ตีความ สร้างองค์ความรู้ และสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบภาพประกอบชุดส่ือสมยั ใหม่ทางพุทธ ศาสนาในรู ปแบบปริ ศนาธรรม โดยใช้หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ ทฤษฎีการรับรู้ทางทัศนศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และสุนทรียะ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักวิชาการการสร้างสรรค์ภาพประกอบ และบุคคลท่ัวไปในเขต กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เขา้ มาเยี่ยมชมวดั ปัญญานนั ทรารามโดยการสุ่มกลุ่มตวั อยา่ งจานวน 180 คน พบวา่ ส่วนใหญ่มีช่วงอายุ 20-50 ปี เป็นผหู้ ญิงมากกวา่ ผชู้ าย ผลการวิจัยพบว่า 1) เป็ นการนาเสนอรูปแบบให้ประจักษ์ทางสายตาแก่ชาวพุทธ โดยใช้ความคิด สร้างสรรคท์ างศิลปะมาวเิ คราะห์และสงั เคราะห์ไดถ้ ่องแทเ้ กิดองคค์ วามรู้ท่ีสามารถอธิบายไดอ้ ยา่ งมีเหตุมีผล ซ่ึง เป็ นประโยชน์ต่อการทดลองผสมผสานจินตภาพสมมติจากปริศนาธรรม 2) การออกแบบภาพประกอบทาให้ผู้ พบเห็นเขา้ ใจเน้ือหา สาระ คาสัง่ สอนของพระพุทธองคไ์ ดล้ ึกซ้ึงดียงิ่ ข้ึน 3) การประเมินความการรับรู้และเขา้ ใจ ของผคู้ นในภาพประกอบชุดส่ือสมยั ใหม่ทางพุทธศาสนาในรูปแบบปริศนาธรรมทาให้เกิดการรับรู้และเขา้ ใจ ของผคู้ นในรูปแบบแสดงผลงานศิลปะ ส่งเสริมสร้างจินตนาการ ประสบการณ์ ในหลกั คาสอนของพระพุทธเจา้ ไดก้ วา้ งขวางยิ่งข้ึน มีการแนะนาและบอกต่อผอู้ ื่นใหม้ าชมผลงานภายในวดั ปัญญานนั ทาราม จงั หวดั ปทุมธานี มากยง่ิ ข้ึน เป็นอีกหนทางหน่ึงช่วยใหส้ งั คมไทยเกิด ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหนทางไปสู่ผลบุญและความสุขอยา่ ง มีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .005 คาสาคัญ: การสร้างสรรค์ ส่ือสมยั ใหม่ ปริศนาธรรม 226

การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครัง้ ท่ี 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอ่ื นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขียวเพอ่ื การพัฒนาท่ยี งั่ ยืน” การพฒั นาและออกแบบบรรจุภณั ฑ์ร่วมสมยั สาหรับผลติ ภณั ฑ์ ชุมชน : กรณศี ึกษากล่มุ ผลติ ปลาดุกร้า จงั หวดั พทั ลงุ Development and packaging design contemporary for community product: Case Study production catfish basket, Phatthalung เมทิกา พว่ งแสง1* และ หญิง มทั นงั 2 Maythika Puangsang1* and Ying Mutthanung2 1หมวดวชิ าศึกษาทว่ั ไป คณะศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร เขตดุสิต จ.กรุงเทพฯ Department of General Education,Faculty of Liberal Arts, Rajamangala University of Technology Phanakhon, Dusit, Bangkok, THAILAND 2สถาบนั วจิ ยั และพฒั นา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร เขตดุสิต จ.กรุงเทพฯ 2Institute of Research and Development, Rajamangala University of Technology Phanakhon, Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวิจยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์เพื่อ 1.) พฒั นาและออกแบบบรรจุภัณฑ์ร่วมสมัยสาหรับการพัฒนา ภาพลกั ษณ์และเพิ่มมูลค่าสินคา้ แก่ชุมชน กลุ่มผลิตปลาดุกร้า จงั หวดั พทั ลุง 2.) ศึกษาระดบั ความพึงพอใจของ ผูบ้ ริโภคท่ีมี ต่อบรรจุภณั ฑ์ปลาดุกร้า จงั หวดั พทั ลุง โดยศึกษากบั กลุ่มผูผ้ ลิตปลาดุกร้าในพ้ืนที่จงั หวดั พทั ลุง จานวน 25 ราย ใช้การเลือกแบบการเจาะจง และ ผูบ้ ริโภคทว่ั ไป จานวน 400 คน ใช้การเลือกตวั อย่างแบบ บงั เอิญ เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ขอ้ มูลเป็ นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ไดแ้ ก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน โดยผูว้ ิจยั ไดท้ าการออกแบบและพฒั นาบรรจุภณั ฑ์สาหรับปลาดุกร้า จานวน 3 รูปแบบ ผลการวจิ ยั พบวา่ กลุ่มผผู้ ลิตปลาดุกร้า มีความตอ้ งการบรรจุภณั ฑ์ในรูปแบบท่ี 3 สูงสุด โดยมีลกั ษณ์เป็น กล่องกระดาษแขง็ แรง มีหูหิ้ว เหมาะสาหรับเป็ นของฝากและง่ายต่อการขนส่ง และเม่ือประเมินความพึงพอใจ ของผูบ้ ริโภคต่อบรรจุภณั ฑ์พบว่า มีความพึงพอใจอยูใ่ นระดบั มาก มีค่าเฉลี่ย เท่ากบั 4.30 เม่ือพิจารณารายขอ้ พบวา่ ขอ้ ท่ีมีคา่ เฉลี่ยสูงสุด คือ บรรจุภณั ฑส์ ามารถปกป้องรักษาสินคา้ ภายในได้ มีคา่ เฉลี่ยเท่ากบั 4.65 รองลงมา คือ ตวั บรรจุภณั ฑม์ ีความแขง็ แรงเหมาะสมกบั สินคา้ ดา้ นใชง้ าน มีคา่ เฉล่ียเท่ากบั 4.54 และ บรรจุภณั ฑส์ ามารถ เพมิ่ มูลคา่ ใหก้ บั สินคา้ /การส่ือความหมายโดยรวมตรงตามวตั ถุประสงค์ มีคา่ เฉลี่ยเทา่ กบั 4.46 คาสาคัญ: การพฒั นาและออกแบบบรรจุภณั ฑ์ บรรจุภณั ฑร์ ่วมสมยั การเพิม่ ยอดจาหน่าย 227

การประชมุ วิชาการระดับชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอื่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี เี ขียวเพื่อการพฒั นาท่ียั่งยนื ” การออกแบบเคร่ืองแต่งกายสาหรับสุภาพสตรีรูปแบบปาร์ตีแ้ วร์ทส่ี ะท้อนเอกลกั ษณ์ของชนเผ่าอาข่า อาเภอแม่ฟ้าหลวงจงั หวดั เชียงราย COSTUME DESIGN FOR LADIES IN A PARTYWEAR STYLE THAT REFLECTS THE IDENTITY OF THE AKHA TRIBE, MAE FHA LUANG DISTRICT, CHEANG RAI PROVINCE มธุรส เวียงสีมา1ฐิติมา พทุ ธบูชา1บุญยวรี ์ วงษอ์ นุ2 และวรวทิ ย์ โวหาร2 Maturod Viengsima1, Thitima Puttabucha1, Bunyawee Wonganu2 and WorawitWohan2 1สาขาวชิ าออกแบบแฟชน่ั และส่ิงทอคณะอตุ สาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชน่ั มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร 2นกั ศึกษาสาขาวชิ าออกแบบแฟชน่ั และส่ิงทอ คณะอตุ สาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชนั่ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร 1DepartmentofFashionDesignandTextile,FacultyofIndustryTextile andFashionDesign,RajamangalaUniversity of Technology Phra Nakhon, THAILAND 2StudentofFashionDesignandTextile,FacultyofIndustryTextile andFashionDesign,RajamangalaUniversity of Technology Phra Nakhon, THAILAND บทคัดย่อ วฒั นธรรมดา้ นสิ่งทอเป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของกลุ่มชนชาติพนั ธุ์ต่างๆที่อาศยั อยู่ในประเทศไทย ส่ิงทอของกลุ่มชาติพนั ธุ์ สามารถสะทอ้ นถึงคติความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี วถิ ีชีวติ ความเป็นอยู่ ของชุมชนน้นั ไดเ้ป็นอยา่ งดี กลมุ่ ชาติพนั ธุ์จึงมีความ เป็นอตั ลกั ษณ์เฉพาะตนที่สามารถแสดงออกมาไดอ้ ย่างเป็นรูปธรรมผา่ นวฒั นธรรมดา้ นสิ่งทอ การศึกษางานวิจยั ในคร้ังน้ีไดน้ าเอา แนวความคิดและการออกแบบลวดลายผา้ ของชนเผา่ อาข่า อาเภอแม่ฟ้าหลวง จงั หวดั เชียงราย มาทาการประยกุ ตอ์ อกแบบร่วมสมยั ดว้ ยการเลือกใชล้ วดลายผา้ ปักและสีท่ีชนเผา่ อาข่าใช้ ซ่ึงผวู้ ิจยั ไดท้ าการศึกษาถึงคติความเช่ือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผา่ อาข่า ผ่านผลงานศิลปะการปักผา้ ท่ีเป็ นภูมิปัญญาที่สืบทอดกนั มาชา้ นาน ในการวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคค์ ือ 1) เพื่อศึกษาลวดลายผา้ ปัก ประจาชนเผา่ อาข่า2)เพ่ือออกแบบลวดลายผา้ พิมพ์ และ3)เพ่ือออกแบบเคร่ืองแต่งกายสุภาพสตรีในรูปแบบปาร์ต้ีแวร์ ดาเนินการ วจิ ยั โดยใชเ้ครื่องมือในการวิจยั คือ กลอ้ งถ่ายภาพ แบบสมั ภาษณ์ และตารางวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบของลายผา้ ปักเทคนิค และสี เพ่ือ นามาใชใ้ นการออกแบบลวดลายผา้ พิมพแ์ ละนาไปออกแบบเป็ นเคร่ืองแต่งกายสุภาพสตรีรูปแบบปาร์ต้ีแวร์ในช่วงอายุ 18-25 ปี มี วิธีดาเนินการวิจยั คือ ศึกษาภาคเอกสาร ลงพ้ืนที่ภาคสนามที่อาเภอแม่ฟ้าหลวง จงั หวดั เชียงราย วิเคราะห์ขอ้ มูล สรุปผลและทาการ ออกแบบลวดลายผา้ พิมพแ์ ละออกแบบชุดสุภาพสตรีรูปแบบปาร์ต้ีแวร์จากผา้ พิมพท์ ี่ไดอ้ อกแบบลวดลายไว้ ผลการศึกษาลวดลายผา้ ของชนเผา่ อาข่าจากกลุ่มตวั อยา่ ง 10ลวดลายคือ ลายอาก่อ ลายถ่อง ลายลาเถ่ ลายอาลูละโอ ลายลาพาเนบะ ลายพะดื่อลายชิมิจาคุ ลาย พายลายโจวพะ และลายอาอู่โลหมะ พบว่าลวดลายจะเป็ นรูปทรงเรขาคณิตที่เลียนแบบจากธรรมชาติสามารถพบเห็นไดท้ วั่ ไปและ ส่ิงของท่ีใชใ้ นชีวิตประจาวนั โดยสอดแทรกคติความเชื่อที่มีความหมายที่ดีไวใ้ นลวดลาย เทคนิคที่ใชใ้ นการทาคือการปักและการตดั ต่อผา้ สีที่นิยมใชค้ ือสีแดง สีน้าเงิน สีเหลือง สีขาว และสีดา การออกแบบเคร่ืองแต่งกายสุภาพสตรีรูปแบบปาร์ต้ีแวร์ในคร้ังน้ี สามารถแบ่งออกไดเ้ป็น 2ส่วนคือการออกแบบเครื่องแต่งกายโดยการใชล้ วดลายผา้ พิมพท์ ่ีทาการคดั เลือกลายลาเถ่กบั ลายชิมิจาคุมา ผสมผสานเพ่ือสร้างเป็นลวดลายใหม่ และโดยการใชเ้ทคนิคการปักลงบนเครื่องแต่งกาย อยา่ งละ5ชุดรวมเป็น10ชุด คาสาคญั : ชนเผา่ อาข่า เอกลกั ษณ์ชนเผา่ อาข่า รูปแบบปาร์ต้ีแวร์ 228

การประชมุ วิชาการระดับชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสีเขียวเพ่อื การพัฒนาท่ียง่ั ยืน” การศึกษาจติ รกรรมฝาผนังสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เพื่อสร้างสรรค์ งานจติ รกรรมไทยธรรมชาติ A Study of Frescoes in the Early Rattanakosin Period: Centering Nature in Thai Painting เบญจวรรณ วรรณสวสั ด์ิ* และ ไชยพจน์ หวลมานพ Benjawan wansawat* and Chaipoth Humlmanp ภาควชิ าทศั นศิลป์ และการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Faculty of Fine and Applied Arts, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การสร้างสรรคน์ ้ีเพอ่ื วเิ คราะห์ รูปแบบ เน้ือหาสาระ หลกั ธรรมคาสอนของพทุ ธศาสนา องคป์ ระกอบศิลป์ สัญลักษณ์ในการแสดงออกภาพจิตรกรรมฝาผนังสมยั รัตนโกสินทร์ตอนต้น เพื่อสร้างองค์ความรู้ในกา สร้างสรรค์แนวเรื่องจิตรกรรมไทยธรรมชาติ จากการศึกษาจิตรกรรมฝาผนงั สมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ และ เพอื่ ใหเ้ กิดการรับรู้ถึงภาพจิตรกรรมไทยธรรมชาติ นาไปสู่หลกั ธรรมคาสอนของพทุ ธศาสนา และธรรมชาติของ โลก จากการวเิ คราะห์ตีความรูปแบบภาพจิตรกรรมฝาผนงั สมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ ที่โดดเด่นแนวธรรมชาติ อาทิเช่น ภาพตน้ ไมด้ อกไม้ รากไม้ โขดหินพืชพรรณ ของจิตรกรรมฝาผนงั วดั สุวรรณารามราชวรวิหาร วดั บวร นิเวศวหิ าร การวเิ คราะห์ตีความสู่การสร้างสรรคจ์ ิตรกรรมไทยธรรมชาติ ในรูปแบบจิตรกรรมฝาผนงั ร่วมสมยั ที่ แสดงออกเรื่องราวของธรรมชาติเป็ นหลกั สื่อถึงหลกั ธรรมคาสอนทางพุทธศาสนา ผลการศึกษาจิตรกรรมฝา ผนงั สมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ สู่การสร้างสรรคง์ านจิตรกรรมไทยธรรมชาติ เป็ นการพฒั นางานจิตรกรรมไทย ธรรมชาติ 2 มิติ เพื่อใหผ้ คู้ นไดเ้ ห็นไดร้ ับรู้ และเขา้ ใจธรรมชาติ ที่แสดงถึงหลกั ธรรมคาสอน กฎไตรลักษณ์สิ่ง สาคญั แห่งธรรมชาติ อนิจจงั (ความไม่เที่ยง) ทุกขงั (ความทนอยูไ่ ม่ได)้ อนตั ตา (ความไม่ใช่ตวั ตน) เสมือนการ เกิด แก่ เจบ็ ตาย ท่ีไมม่ ีอะไรคงที่คงทนจะเปลี่ยนแปลงเคล่ือนไหวตามกาลเวลาผา่ นความงามทางศิลปะ คาสาคญั : จิตรกรรมฝาผนงั สมยั รัตนโกสินทร์ สร้างสรรค์ จิตรกรรมไทยธรรมชาติ 229

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครั้งที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคล่ือนนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสเี ขยี วเพอื่ การพัฒนาที่ย่งั ยนื ” การส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ผ่านเทคโนโลยแี ละสื่อสมยั ใหม่ Promoting the Creation of Visual Arts through Technology and Modern Media ภทั รธิดา หา้ วหาญ ชิษณุพงศ์ พยฆั ศาสตร์ อฐั ภิญญา สิงห์ทองวรรณ์ ธนิดา พรกิตต์ิ พทั ธมนกานต์ โครตศรี สุภธั กานต์ โชติวาทิน สมชาย พินิจทรัพย์ ตอ้ งลกั ษณ์ บุญธรรม และ นิติ วทิ ยาวโิ รจน์* Pattaratida Horhaw, Chitsanupong Payakasart, Atthapinya Singthongwan, Thanida Ponkit , Pattamonkarn Khotsri, Supattakan Chotivatin1, Somchai Phinitsap, Tongluck Boontham1 and Niti Witthayawiroj* โรงเรียนสาธิตนวตั กรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Innovation Demonstration School of Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวจิ ยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อส่งเสริมการสร้างผลงานทศั นศิลป์ ผา่ นเทคโนโลยแี ละสื่อสมยั ใหม่ ตาม แนวคิดพฤติกรรมและวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ กลุ่มตวั อย่างในการวิจยั คือ นกั เรียนโรงเรียนสาธิตนวตั กรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการวจิ ยั ไดแ้ ก่ แบบสอบถามความคิดเห็นของนกั เรียน ที่มีต่อการสร้างผลงานทศั นศิลป์ ผ่านเทคโนโลยีและส่ือสมยั ใหม่ การวิเคราะห์ขอ้ มูลใชค้ ่าเฉลี่ย (��������������������� ) และค่า ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D) ผลการวิจยั พบว่า การสร้างผลงานทศั นศิลป์ การจดั แสดงผลงานของนกั เรียน ผา่ น เฟสบุค๊ (Facebook) และติ๊กตอก (Tiktok) มีระดบั ความคิดเห็นของนกั เรียนอยใู่ นระดบั มาก คาสาคัญ: การสร้างผลงานทศั นศิลป์ เทคโนโลยี สื่อสมยั ใหม่ วถิ ีชีวติ แบบปกติใหม่ 230

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลอื่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขียวเพื่อการพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื ” สาขาบรหิ ารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ 237

การกปารปะชระมุ ชกมุ าวรชิจาดั กงารนรปะดระับชชมุ าวตชิมาหกาาวรทิ รยะาดลบั ัยชเทาคตโมิ นหโลายวรีทิ ายชามลงยั คเลทคคโรนัง้ โทล่ี ย12รี าชมงคล ครง้ั ที่ 12 The 12thTRhaeja1m2athnRgaaljaamUnanivgearlsaityUonfivTeercsihtynoolfogTyecNhantioolnoaglyCNonatfeiornenalceConference” “๙ ราช“ม๙งครลาขชบัมเงคคลลอ่ื ขนบั นเวคตัลกอ่ื รนรนมวนตั ำ�กเรศรรมษฐนกาิจเศปรลษูกฐแกนจิ วคปิดลเูกทแคนโนวโคลดิ ยเสีทเี คขโยี นวโเลพยอ่ื ีสกีเาขรยีพวัฒเพนือ่าทกี่ยารั่งยพืนัฒ”นาที่ย่ังยนื ” การพฒั นาระบบโลจสิ ตกิ ส์ของประเทศไทยเพ่ือการพฒั นาทีย่ ง่ั ยืน Developing Thailand's Logistics System for Sustainable Development ทวศี กั ด์ิ เทพพทิ กั ษ*์ Taweesak Theppitak* คณะโลจิสติกส์และการจดั การ มหาลยั บูรพา ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี Logistics and Supply Chain Management, Burapha University, Saen Suk, Chon Buri District, Chon Buri, THAILAND. *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ ตามท่ี สานกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ไดร้ ่วมกบั หน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งจดั ทา แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย ฉบบั ที่ 3(พ.ศ.2560-2564) เพื่อใชเ้ ป็ นกรอบแนวทางใน การพฒั นาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ซ่ึงคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวนั ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560และ มอบหมายให้หน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งใชแ้ ผนยุทธศาสตร์ฯ เป็ นกลไกการดาเนินงานใหส้ าเร็จและใช้ประโยชน์ไดต้ าม ระยะเวลาท่ีกาหนด โดยแผนยทุ ธศาสตร์ฯ มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อเสริมสร้างความเขม้ แข็งใหก้ บั ผปู้ ระกอบการในการเก็บ เกี่ยวมูลคา่ เพิ่มจากโซ่อุปทาน(SupplyChainEnhancement)โดยส่งเสริมการใชเ้ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมในการบริหาร จดั การระบบโลจิสติกส์ อีกท้งั มีการยกระดบั ประสิทธิภาพระบบอานวยความสะดวกทางการคา้ ใหไ้ ดม้ าตรฐานสากล (Trade Facilitation Enhancement) และพฒั นาปัจจัยสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ (Capacity Building and Policy Driving Factors) ภายใตแ้ ผนยุทธศาสตร์ฯดงั กล่าวประกอบดว้ ยยทุ ธศาสตร์การพฒั นา 3ยุทธศาสตร์ ไดแ้ ก่ (1)การพฒั นาเพื่อ เพ่ิมมูลค่าในห่วงโซ่อุปทาน (2)การพฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐานและสิ่งอานวยความสะดวก และ(3) การพฒั นาปัจจยั สนบั สนุนด้านโลจิสติกส์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบนั ได้มีการดาเนินการเพื่อขบั เคล่ือนแผนยุทธศาสตร์การพฒั นา ระบบโลจิสติกส์ฉบบั ท่ี 3มาครบ5ปี แลว้ ดงั น้นั การบรรยายคร้ังน้ีจะไดต้ รวจสอบและประเมินผลการดาเนินงานตาม แผนยุทธศาสตร์ฯ ฉบบั ที่ 3โดยเปรียบเทียบกบั ตวั ช้ีวดั เป้าหมายท่ีกาหนดไว้ โดยใช้เคร่ืองมือการวิเคราะห์ความ แตกต่างระหว่างส่ิงที่คาดหวงั กับส่ิงที่เกิดข้ึนจริงและการประเมินดชั นีช้ีวดั ความสาเร็จตามแผนยุทธศาสตร์ฯ เปรียบเทียบกบั ตวั ช้ีวดั เป้าหมายที่กาหนดไว้ ซ่ึงจะทาการวเิ คราะห์ถึงสาเหตุท่ีทาใหไ้ ม่บรรลุเป้าหมายหรือทาไมจึง เบ่ียงเบนจากเป้าหมายตวั ช้ีวดั ท่ีกาหนดไว้และจะไดส้ รุปผลการดาเนินงานปัญหาอุปสรรคและขอ้ จากดั ตามแผน ยทุ ธศาสตร์ฯของประเทศต่อไป นอกจากน้ี ยงั ไดว้ เิ คราะห์ปัจจยั และบริบทการเปลี่ยนแปลง (Disruption)ต่างๆซ่ึงมี กรอบซ่ึงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ ซ่ึงจะส่งผลกระทบต่อทิศทางการพฒั นายทุ ธศาสตร์โลจิ สติกส์ของประเทศต่อไปในอนาคต ซ่ึงผลการประเมินผลกระทบของบริบทการเปล่ียนแปลงต่อการพฒั นาระบบ เศรษฐกิจของประเทศและการขบั เคล่ือนการพฒั นาระบบโลจิสติกส์ของไทยพบว่าแนวทางการกาหนดนโยบายหรือ ทิศทางของการพฒั นาระบบโลจิสติกส์ของประเทศควรจะมุ่งเน้นการปรับตวั และการตอบสนองให้สอดคล้องกับ บริบทการเปล่ียนแปลงดงั กล่าวซ่ึงจะไดบ้ รรยายรายละเอียดในลาดบั ต่อไป คาสาคัญ: การพฒั นาระบบโลจิสติกส์ ระบบโลจิสติกส์ การพฒั นาที่ยง่ั ยนื 232

Tกhารeปก1าร2ระtTปชhhรมุRะeกaชาj1aมุ รm2วจtิชดัhaางnRกาgaานajรaปlรamระดะUaชับnnมุชigvวาaeตชิlraมิาsiกหtUyาาnรวoiริทvfะยeดTาrบัesลicชัยthyาเทnตoคoมิ fโlหนoTาโgeลวycยทิ hNีรยาnaาชtoลiมolยั oงnเคgทayลคl โCNคนoรaโัง้ntลทifoยeี่ 1nรี rา2eaชnlมcCงeoคnลfeคrรeั้งnทc่ี e12” “๙ รา“ช๙มงรคาลชขมบั งเคคลลข่ือบั นเนควลตั ่ือกนรนรมวตั นกำ�รเรศมรษนฐากเิจศรปษลฐกู กแิจนวปคลดิ กู เแทนควโนคโิดลเยทีสคีเขโนยี โวลเพยสีอื่ ีเกขายี รวพเัฒพนอ่ื ากทารี่ยพ่ังยัฒนื น”าทยี่ ั่งยืน” การแปรรูปผลติ ภณั ฑ์ “นา้ พริกกระวาน” เพื่อสร้างรายได้ ของวสิ าหกจิ ชุมชน ท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวฒั นธรรมบ้านวงั หว้า จงั หวดั ระยอง Product Processing “Cardamom Chili Paste” For Income Generating of Ban Wang Wa Agro-tourism and culture community enterprise group of Rayong Province องั คณา ลีรัตนานุกลู ศิริ* Angkana Leerattananugulsiri* คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตะวนั ออก Faculty of Business Administration and Information Technology, Rajamangala University of Technology Tawan-ok. THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวิจยั คร้ังน้ีเป็ นการวิจยั เชิงคุณภาพ ที่ยึดกระบวนการถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่ือ ส่งเสริมการแปรรูปผลิตภณั ฑ์จากตน้ กระวานพืชสมุนไพร ทรัพยากรในทอ้ งถ่ินให้เป็ นอาหารท่ีมีคุณภาพ มี ประโยชน์และเป็ นอตั ลกั ษณ์ของทอ้ งถิ่นจากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายเป็ นสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวฒั นธรรมบา้ นวงั หวา้ หมูท่ ี่ 2 ตาบลวงั หวา้ อาเภอแกลง จงั หวดั ระยอง จานวน 20 คน และผูร้ ับจา้ งภายใตโ้ ครงการหน่ึงตาบลหน่ึงผลิตภณั ฑ์ (U2T) จานวน 20คน ประเภทการวิจยั และพฒั นา เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวิจยั แบ่งออกเป็ นเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการดาเนินการวิจยั ไดแ้ ก่ 1. แผนการจดั การเรียนรู้เรื่อง สรรพคุณและคุณค่า2. กระบวนการแปรรูปผลิตภณั ฑ์จากตน้ กระวานต้งั แต่ข้นั ตอนการจดั เตรียมวตั ถุดิบจนถึง การปรุง 3.การจดั ทาตน้ ทุนการผลิต และเคร่ืองมือท่ีใชเ้ ก็บขอ้ มูล เพ่ือนามาสรุปผล ไดแ้ ก่ (1) แบบเก็บขอ้ มูล อตั ราส่วนผสมวตั ถุดิบ (2) ผลผลิตของน้าพริกท่ีได้ ผลการวจิ ยั พบวา่ การใชว้ ตั ถุดิบดว้ ยปริมาณตามสัดส่วนท่ี เหมาะสมไดเ้ ป็ นสูตรการผลิตน้าพริกกระวานท่ีมีรสชาติตามท่ีตอ้ งการรวมท้งั การใชบ้ รรจุภณั ฑท์ ี่เหมาะสมกบั ผลิตภณั ฑ์ใช้เคร่ืองมือบรรจุระบบสุญญากาศเพื่อถนอมอาหาร การพฒั นาผลิตภณั ฑ์น้าพริกกระวานที่ หลากหลายจากน้าพริกกระวานตน้ แบบ และเพิ่มอรรถรสของสินคา้ พ้ืนเมืองเป็ นน้าพริกกระวานทุเรียนทอด น้าพริกกระวานกุง้ แห้ง น้าพริกกระวานเห็ดนางฟ้า ฯ ตามความตอ้ งการ ออกแบบตราสินคา้ และออกแบบบรรจุ ภณั ฑ์ เพิ่มช่องทางการจดั จาหน่ายทางออนไลน์ เน้นการใช้เทคนิคการลดตน้ ทุน (Cost Reduction) โดยลด ค่าใช้จ่ายในการจดั หาวตั ถุดิบในชุมชน เพื่อลดตน้ ทุนการผลิตท่ีเขา้ มาช่วยเพ่ิมกาไร ส่งผลให้กลุ่มสามารถ ดาเนินการผลิตและจดั จาหน่ายได้ ทาใหส้ ร้างรายไดเ้ พิม่ ข้ึน ซ่ึงเป็นกลไกท่ีสาคญั ในการพฒั นาอาชีพเพื่อกระตุน้ เศรษฐกิจจากนวตั กรรมกระบวนการและผลผลิตท่ีได้ คาสาคัญ: การแปรรูปผลิตภณั ฑ์ กระวาน เศรษฐกิจชุมชน น้าพริกกระวาน การสร้างรายได้ 233

“๙ ราTชhกมeางกรค1ปาล2รรขtปhะบัTรชRเะhมุคaชejกลaุมา่อื m1วรน2ชิ จaนtาดัnhวกงgRัตาาaaรกนlรjรaaปะรmดUมรับะnaนชชinvำ�ุมาgeเตวศarิมชิsรlaiษหาtyกาฐUวากonรทิจิ fiรยvะปTาeดeลลrับcsกูยั hiชแเtทnyนาคoตวoโlมคิ นofดิหโgTลเาyทeยวคNcีรทิ โhาaยนชtnาโiมooลลงnยlัยคoีสaเลgทlีเขyคCคียโNoรวน้ังnaเโทพftลe่ีiื่อo1ยrก2enีราาnaรชclพมeCัฒงoคนnลาfทeคี่ยrรeงั่ ้งั ยnทนื c่ี ”e1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวตั กรรม นาเศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขียวเพอ่ื การพัฒนาทย่ี ่งั ยนื ” การนากลยุทธ์การส่งเสริมการขายภายใต้กลยทุ ธ์ความขาดแคลน มาประยุกต์ใช้ในตลาดดจิ ทิ ลั The implementation of scarcity principle on sales promotion strategies in digital marketing อรอนงค์ วชิ ินโรจน์จรัล* Onanong Wichinrotjaral* สาขาการตลาดดิจิทลั คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี Digital Marketing, School of Business Administration, Bangkok University, Khlong Luang District, Pathum Thani, THAILAND. *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การศึกษาการนากลยทุ ธ์การส่งเสริมการขายภายใตก้ ลยทุ ธ์ความขาดแคลนมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นตลาดดิจิทลั มีวตั ถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพของกลยุทธ์การส่งเสริมการขายภายใตก้ ลยุทธ์ความขาดแคลนใน บริบทที่สามารถสร้างเร่งกระบวนการตดั สินใจของผบู้ ริโภคในการทาธุรกรรมซ้ือขายสินคา้ ออนไลน์ และยนื ยนั ผลของการนาทฤษฎีมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นเชิงปฏิบตั ิที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการส่งเสริมการขายไดจ้ ริง 2) ศึกษา ความแตกต่างของกลยุทธ์การส่งเสริมการขายภายใตก้ ลยทุ ธ์ความขาดแคลนระหวา่ งการตลาดแบบด้งั เดิมและ การตลาดแบบดิจิทลั เน้ือหาหลกั ในบทความเรื่องน้ี คือการนาองคค์ วามรู้จากทฤษฎีการศึกษาของดร.โรเบิร์ต ชาลดินิ นกั จิตวิทยาชื่อดงั ผูเ้ ชี่ยวชาญศาสตร์ดา้ นการโนม้ นา้ วและการเจรจาต่อรองซ่ึงเป็ นที่ยอมรับในระดบั นานาชาติ โดยเฉพาะกลยทุ ธ์ความขาดแคลนที่สามารถเพ่ิมประสิทธิภาพการกระตุน้ กระบวนการตดั สินใจซ้ือ สินคา้ หรือบริการออนไลน์ของผูบ้ ริโภค ผา่ นการใชข้ อ้ ความ อาทิเช่น สินคา้ มีจานวนจากดั ,สินคา้ รุ่นพิเศษมี จานวนจากดั ,หรือ สินคา้ มีแค่ในระยะเวลาที่กาหนด รวมไปถึงการเปรียบเทียบขอ้ ดีและขอ้ เสียของการนากล ยทุ ธ์ความขาดแคลนมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการสร้างการส่งเสริมการขายการในการตลาดแบบด้งั เดิมและการตลาดแบบ ดิจิทลั เพ่ือสร้างการรับรู้ของผบู้ ริโภควา่ สินคา้ มีจานวนจากดั หายาก จะสามารถโนม้ นา้ วจิตใจของผูบ้ ริโภคให้ มาสนใจในตวั สินคา้ และตดั สินใจซ้ือในที่สุด ท่ามกลางการแข่งขนั ท่ีพฒั นาไปอยา่ งรวดเร็วในการตลาดยุค ดิจิทลั ดงั น้นั ประโยชน์ของผลงานวิชาการการวิจยั เชิงคุณภาพเร่ืองน้ีจะสามารถส่งเสริมให้นกั การตลาดและ ผปู้ ระกอบการในตลาดธุรกรรมทางธุรกิจออนไลน์ สามารถนาองคค์ วามรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทากลยุทธ์การ ส่งเสริมการขายไดอ้ ยา่ งแม่นยาและมีประสิทธิภาพมากข้ึน โดยมุ่งเนน้ ท่ีจะโนม้ นา้ วผบู้ ริโภคให้เร่งกระบวนการ ตดั สินใจซ้ือสินคา้ ในตลาดออนไลน์ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างความไดเ้ ปรียบให้กบั ธุรกิจและ องคก์ รไดด้ ียงิ่ ข้ึน คาสาคัญ: กลยทุ ธ์ความขาดแคลน กลยทุ ธ์การส่งเสริมการขาย การตลาดดิจิทลั 234

“๙ ราTกชhามeรงกปค1าลร2ระขtปhTชับรhRมุเะคaeกชjลาaุม1ือ่ รmว2นจชิ taนดัhาnวงกRgาตัาaaนรกjlaรรaปะmรรดUมะaับnชนnชiมุvำ�gาeเวaตศrชิlิมsรaาiษหtกyUาฐาวกnoรทิจิ fiรvยะปTeาดeลลrบัscูกยั ihชแtเทynานคตoวoโมlิคนfoหิดโgTลเาyทeยวคNcีรทิ โhาaยนชntาโiมooลลงnยlัยคoสีaเลgทlเี ขyคCคียโoรNวนั้งnเaทโพftลe่ีiอ่ื 1oยrก2enรี าnาaรชclพeมCฒั งoนคnาลfทeคี่ยrร่งั eง้ัยnทืนc่ี”e12” “๙ ราชมงคลขบั เคลือ่ นนวัตกรรม นาเศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขยี วเพ่ือการพัฒนาทยี่ งั่ ยืน” การเปิ ดเผยข้อมูลตามเหตุการณ์ ของบริษทั จดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรัพย์แห่งประเทศไทย Event-based disclosure of Thai Listed Companies สุมินทร เบา้ ธรรม* ดวงฤดี อู๋ พรทิพย์ ไชยรบ จุฑาทิพย์ แสนกุง และ สุพตั รา ดาทุมทา Sumintorn Baotham*, Duangruedee Wu, Pornthip Chairob, Juthatip Saenkung and Suphattra Dathumtha สาขาบริหารธุรกิจ คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล วทิ ยาเขตสกลนคร Department of Business Administration, Faculty of Industry and Technology, Rajamangala University of Technology Isan, Sakon-Nakhon Campus, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงค์เพื่อสารวจการเปิ ดเผยขอ้ มูลตามเหตุการณ์ของบริษทั จดทะเบียนใน ตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย ปี 2559 – 2561 รวม 623 บริษทั โดยใชแ้ บบสารวจรายการดว้ ยตนเอง จากการศึกษาพบวา่ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม มีการเปิ ดเผยการจดั ประชุมสามญั ผถู้ ือหุน้ คิดเป็ นร้อยละ 100 รองลงมาคือการเปิ ดเผยการจ่ายเงินปันผล ส่วนการลดทุนมีการเปิ ดเผยนอ้ ยท่ีสุด นอกจากน้ียงั พบวา่ กลุ่ม สินคา้ อุตสาหกรรมและกลุ่มสินคา้ อุปโภคบริโภค มีการเปิ ดเผยขอ้ มูลตามเหตุการณ์ท้งั 3 ปี ใน 3 อนั ดบั แรกโดยเรียงจากมากไปหาน้อย ไดแ้ ก่ การจดั ประชุมสามญั ผูถ้ ือหุ้น การจ่ายเงินปันผล และ การงด จ่ายเงินปันผล สารสนเทศท่ีได้จากงานวิจยั น้ี ช้ีให้เห็นถึงการปฏิบตั ิตามแนวทางท่ีตลาดหลกั ทรัพย์ กาหนด ซ่ึงถือเป็ นขอ้ มูลสิทธิประโยชน์พ้ืนฐานที่ผถู้ ือหุ้นควรไดร้ ับ และเป็ นขอ้ มูลเบ้ืองตน้ ที่ใชใ้ นการ ตดั สินใจสาหรับนกั ลงทุน คาสาคัญ: การเปิ ดเผยขอ้ มูลตามเหตุการณ์ บริษทั จดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย 235

Tกhาeรก1ปา2รรtปะhTรชRะhมุaชeกjaมุ าm1วร2ิชจatาดัnhกงgRาาaaรนlรjaaปะmดUรบัะnaชชinvามุ egตวarมิsชิliaหtาyากUวาonิทรfiยรvTะาeeดลrcยัับshเiชtทnyาคoตโolนมิofโgหลTyายeวNรี cทิาahชยtniมาooลงnคlยั aoลเlgทCyคคoรโNั้งnนทafโe่ีtล1iroย2enีรnาacชleมCงoคnลfeคrรeง้ั nทc่ี e12” “๙ ราชมงคลขบั เคลือ่ นนวตั กรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขยี วเพื่อการพัฒนาท่ยี ั่งยืน” “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวัตกรรม นาเศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขียวเพือ่ การพัฒนาทยี่ ัง่ ยืน” การวเิ คราะห์ค่าใช้จ่ายงบดาเนินงาน คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มทร.อสี าน วทิ ยาเขตสกลนคร ประจาปี งบประมาณ 2560-2561 เปรียบเทียบงบประมาณทไี่ ด้รับการจดั สรร กบั งบประมาณทีเ่ บิกจ่ายจริง The Analysis of Operating Budget Expenses of Faculty of Industry and Technology, RMUTI-SKC Campus in fiscal year 2017-2018: Comparison between Allocated Budget and Actual Budget สุมินทร เบา้ ธรรม* และ ดวงใจ จนั ทร์มาลา Sumintorn Baotham* and Duangjai Juanmala คณะอตุ สาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล วทิ ยาเขตสกลนคร Department of Business Administration, Faculty of Industry and Technology, Rajamangala University of Technology Isan, Sakon-Nakhon Campus, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวจิ ยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคว์ ิเคราะห์และเปรียบเทียบค่าใชจ้ ่ายงบดาเนินงาน หมวดค่าตอบแทน หมวดค่าใชส้ อย และค่าวสั ดุ งบประมาณเงินรายได้ และงบประมาณเงินรายจ่าย ปี งบประมาณ 2560- 2561 ของคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร โดยใชค้ า่ ความถี่และร้อยละ ผลการศึกษาพบวา่ (1) การวเิ คราะห์คา่ ใชจ้ ่ายงบดาเนินงาน ท้งั 3 หมวด ของ งบประมาณเงินรายจ่าย ปี งบประมาณ 2560-2651 มีการเบิก-จ่ายงบประมาณจริง เกือบร้อยละ 100 ส่วน ค่าใชจ้ ่ายงบดาเนินงาน ท้งั 3 หมวด ของงบประมาณเงินรายได้ ปี งบประมาณ 2560-2561 ยงั มีงบประมาณ คงเหลือภาพรวมท้งั 3 หมวด เกินร้อยละ 35 (2) เปรียบเทียบงบดาเนินงานที่ได้รับการจดั สรรจาก งบประมาณเงินรายได้ ของคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ในปี งบประมาณ 2561 ลดลงร้อยละ 28.46 เม่ือเทียบกบั ปี งบประมาณ 2560 และเปรียบเทียบงบดาเนินงานที่ไดร้ ับการจดั สรรจากงบประมาณเงิน รายจ่าย ของคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ในปี งบประมาณ 2561 ลดลงร้อยละ 23.50 เมื่อเทียบกบั ปี งบประมาณ 2560 โดยมีงบดาเนินงานเงินรายไดล้ ดลงมากกวา่ งบดาเนินงานเงินรายจ่าย คิดเป็ นร้อยละ 4.96 ขอ้ สนเทศที่ไดจ้ ากงานวิจยั น้ี เป็ นประโยชน์และเป็ นแนวทางในการบริหารงบประมาณท่ีเหมาะสม ต่อไป คาสาคัญ: การวเิ คราะห์ค่าใชจ้ า่ ยงบดาเนินงาน มทร.อีสาน วทิ ยาเขตสกลนคร 236

“๙ รากTชาhมรeงปกค1ราล2ะรขTtปชhบัhรมุ Rเะeกคaชาjล1aมุ รือ่ m2วจนtิชดัhaนาnงRวกาgaตัานajรกalปรรamะรรดUมะaบัชnnนชุมigvำ�าวaeเตศชิlrมิasราiษหtกUyาฐาวnกรoทิจิiรfvยะeปTดาreลลบัscกูยัiชthแเyทาnนตคooวมิโlคfนoหดิ TโgาลเyeทวยcคNทิีรhโาaยนnชtาโiมooลลงlnยัยoคสีaเgลทlเี yขคCคียโNoรวนัง้naเโทพftลe่ีi่อื o1ยrก2enรี าาnaรชclพeมCัฒงoคนnลาfทeค่ียrรัง่eั้งยnทนื cี่”e1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคลอ่ื นนวตั กรรม นาเศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขียวเพื่อการพฒั นาที่ยงั่ ยืน” ทฤษฎกี ารยอมรับเทคโนโลยสี ่งผลต่อการตดั สินใจซื้อผลติ ภณั ฑ์ด้วย E-Coupon ของผ้บู ริโภค The Technology Acceptance Model affects Consumer Purchasing Decisions with E-Coupon แคร์ ตรีสุข1 แวอุสมาน เจะกา1* ชุติภา หนูชู1 สุภาพร เฟ่ื องบุญ1 และ วลั ลภา พฒั นา2 Care Treesuk1, Wae-usman Jehka1*, Chutipa Nuchoo1, Supaporn Fuangboon1 and Wanlapa Phattana2 1นกั ศึกษาสาขาวชิ าการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั อ.เมือง จ.สงขลา 2อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั อ.เมือง จ.สงขลา 1 Department of Marketing, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Mueang District, Songkhla Province, THAILAND 2Lecturer of Marketing, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Mueang District, Songkhla Province, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวิจยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษา (1) ระดบั ความสาคญั ของการตดั สินใจซ้ือผลิตภณั ฑด์ ว้ ย E-Coupon (2) ปัจจยั การยอมรับเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการตดั สินใจซ้ือผลิตภณั ฑ์ดว้ ย E-Coupon โดยเก็บ ข้อมูลแบบเจาะจง และใช้แบบสอบถามออนไลน์จากผูท้ ี่เคยใช้ E-Coupon จานวน 385 ตวั อย่าง วิเคราะห์ขอ้ มูลด้วยการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression) พบว่า การรับรู้ถึง ประโยชน์ท่ีเกิดจากการใช้งานส่งผลต่อการตดั สินใจซ้ือผลิตภณั ฑ์ด้วย E-Coupon ของผูบ้ ริโภค (R = .695) ค่าความแปรปรวนของการตดั ใจซ้ือไดร้ ้อยละ 48.2 ความง่ายในการใชง้ าน E-coupon ส่งผลต่อ การตดั สินใจซ้ือผลิตภณั ฑ์ดว้ ย E-Coupon ของผบู้ ริโภค (R = .676) ค่าความแปรปรวนของการตดั ใจซ้ือ ไดร้ ้อยละ 45.7 และทศั นคติตอ่ การใช้ E-Coupon ส่งผลตอ่ การตดั สินใจซ้ือผลิตภณั ฑด์ ว้ ย E-Coupon ของ ผบู้ ริโภค (R = .733) ค่าความแปรปรวนของการตดั ใจซ้ือไดร้ ้อยละ 53.7 ดงั น้นั โดยภาพรวมและรายขอ้ ไม่แตกต่างกนั อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05 นอกจากน้ีทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยีโดยรวมมี ความสัมพนั ธ์เชิงบวกกบั การตดั สินใจซ้ือผลิตภณั ฑ์ดว้ ย E-Coupon ของผูบ้ ริโภคอยา่ งมีนยั สาคญั ทาง สถิติท่ีระดบั .05 คาสาคญั : E-coupon การรับรู้ถึงประโยชน์ ทศั นคติ การตดั สินใจซ้ือ ความง่ายในการใชง้ าน 237

Tกhาeรกป1า2รระtปhTชรRhมุะaeชกjaุมา1mวร2จชิ atดัhาnกงRgาาaaรนljรaaปะmรดUะบัanชnชivมุ าgeวตarชิิมlsaiาหtกyาUาวonริทfiรvยะTeาดeลrับcsยั ihชเtทnyาคoตoโlมิ นofหโgTลาyeยวNcีรทิ hาaยชtnาiมooลงnlัยคoaเลgทlyคCคโoรNนั้งnaทโftลeี่i1oยr2enรี nาaชcleมCงoคnลfeคrรe้ังnทc่ี e12” “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขยี วเพ่อื การพฒั นาทยี่ งั่ ยนื ” “๙ ราชมงคลขบั เคลอ่ื นนวัตกรรม นาเศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี ีเขยี วเพอ่ื การพัฒนาทีย่ ง่ั ยนื ” พฤตกิ รรมการทางานเชิงนวตั กรรมและความตื่นตวั ในการปฏบิ ตั งิ านท่มี ผี ลต่อประสิทธผิ ลใน การทางานเชิงรุกของพนกั งานบริษทั พานาโซนิค แมนูแฟคเจอริ่ง(ประเทศไทย)จากดั Innovativeworkbehaviorsandalertnessinworkthataffecttheproactiveworkefficiencyof employeesofPanasonicManufacturing (Thailand)Co.,Ltd. จนั ทิมา พรหมเกษ* จกั เรศ เมตตะธารงค์ ปาณิสรา ประจุดทะศรี สิรินดา บุตรวงค์ และ ขจรทิพย์ โสสีดา Chanthima Phromket*, Jakret Mettathamrong, Parnisara Prajudtasri, Sirinda Butwong and Khajornthap Soseeda มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตสกลนคร อ.พงั โคน จ.สกลนคร Rajamangala University of Technology Isan Sakonnakhon Campus, Phang Khon, Sakon Nakhon, Thailand *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวจิ ยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาพฤติกรรมการทางานเชิงนวตั กรรม ความต่ืนตวั ในการปฏิบตั ิงานที่มี ผลต่อประสิทธิผลในการทางานเชิงรุกของพนกั งานบริษทั พานาโซนิค แมนูแฟคเจอร่ิง(ประเทศไทย)จากดั โดยใช้ แบบสอบถามเป็ นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล การสุ่มตวั อยา่ งแบบอยา่ งง่าย จานวน110คนสถิติที่ใชใ้ นการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์สหสัมพนั ธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ผลการวิจยั พบว่า 1) พฤติกรรมการทางานเชิงนวตั กรรมในดา้ นการส่งเสริมการเรียนรู้และเพ่ิมพูนทกั ษะ การนาเทคโนโลยีมาใช้และ พฒั นา การเผยแพร่ทกั ษะความรู้เพ่ือการเปล่ียนแปลง และการส่งเสริมการให้รางวลั ท่ีเป็ นธรรมมีผลต่อความต่ืนตวั ในการปฏิบตั ิงานของพนกั งาน 2) พฤติกรรมการทางานเชิงนวตั กรรม ในดา้ นการส่งเสริมการเรียนรู้และเพิ่มพูน ทกั ษะ การนาเทคโนโลยีมาใช้และพฒั นา การเผยแพร่ทกั ษะความรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง และการส่งเสริมการให้ รางวลั ที่เป็ นธรรมมีผลต่อประสิทธิผลในการทางานเชิงรุกของพนกั งาน 3) ความต่ืนตวั ในการปฏิบตั ิงานมีผลต่อ ประสิทธิผลในการทางานเชิงรุก สรุปพฤติกรรมการทางานเชิงนวตั กรรม ความตื่นตวั ในการปฏิบตั ิงานมีผลต่อ ประสิทธิผลในการทางานเชิงรุกของพนักงานบริษทั พานาโซนิค แมนูแฟลเจอริ่ง (ประเทศไทย) จากดั อย่างมี นยั สาคญั ที่สถิติระดบั .05 โดยสรุปผบู้ ริหารจึงควรให้ความสาคญั เพื่อเป็ นแนวทางในการพฒั นาองค์ความรู้ใหม่ ๆ และสามารถใชใ้ นการปฏิบตั ิงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และเพม่ิ ขีดความสามารถทางการแข่งขนั ท่ีมีการ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในอนาคตต่อไป คาสาคญั : พฤติกรรมการทางานเชิงนวตั กรรม ความตื่นตวั ในการปฏิบตั ิงาน ประสิทธิผลการ ทางาน เชิงรุก 238

“๙ ราTกชhามeรงกปค1ารล2ระขtปhTชบั รhRมุ เะคaeกชjลาaุม1่อืรmว2นจชิ taนดัhาnวงกRgาตัาaaนรกjlaรรaปะmรรดUมะaบัnชนnชiุมvำ�gาeเวaตศrชิlมิsรaาiษหtกyUาฐาวกnoรทิิจfiรvยะปTeาดeลลrับscกูัยihชแเtทynานคตoวoโlมิคนfoิดหโgTลเาyทeยวคNcีรทิ โhาaยนชtnาโiมoลoลงnยlัยคoสีaเลgทlีเขyCคคียoโรNวน้งัnเaทพโftลe่ี ือ่i1oยrก2enีราnาaรcชพleมฒัCงoนคnาลทfeคยี่ rงั่รeยง้ั nทนื c”่ี e1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวัตกรรม นาเศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขียวเพอื่ การพัฒนาทย่ี ง่ั ยืน” พฤตกิ รรมผู้บริโภคของผ้สู ูงอายุต่อบริการสาหรับธุรกจิ การบริบาลผู้สูงอายุใน เขตภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศไทย The Elderly Consumer Behavior for the Elderly care business in Northeast Thailand กนกกาญจน์ วชิ าศิลป์ 1* จนั ทิมา พรหมเกษ1 วรรณิดา สารีคา1 และ ชลนั ธร วชิ าศิลป์ 2 Kanokkan Vichasilp1*, Chanthimar Phromket1 Wannida Sareekham1 and Chaluntorn Vichasilp2 1สาขาบริหารธุรกิจ คณะอตุ สาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน อ.พงั โคน จ.สกลนคร 2 สาขาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารอาหาร คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน อ.พงั โคน จ.สกลนคร 1Department of Business Administration, Faculty of Industry and Technology, Rajamangala University of Technology Isan, Pangkhon, Sakon Nakhon, THAILAND 2Department of Food Science and Technology, Faculty of Natural Resources, Rajamangala University of Technology Isan, Pangkhon, Sakon Nakhon, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจัยน้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพ่ือศึกษาปั จจัยส่ วนบุคคลของผู้สู งอายุในภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศไทย (2) เพ่ือศึกษาพฤติกรรมของผู้บริ โภคผู้สูงอายุในภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศไทย (3) เพ่ือศึกษาความสัมพนั ธ์ปัจจยั ส่วนบุคคลของผบู้ ริโภคที่มีต่อ พฤติกรรมการตดั สินใจการใชบ้ ริการสถานบริบาลผสู้ ูงอายุ โดยเป็ นการวิจยั เชิงปริมาณ มีเคร่ืองมือใน การศึกษาคือแบบสอบถาม (Questionnaire) โดยมีกลุ่มตวั อยา่ ง เป็ นผบู้ ริโภคผูส้ ูงอายุท่ีมีอายตุ ้งั แต่ 50 ปี ข้ึนไป จานวน 400 ตวั อย่าง ด้วยวิธีสุ่มตวั อย่าง เป็ นการสุ่มตวั อย่างแบบหลายข้นั ตอน (Multi-Stage Sampling) ส่วนสถิติท่ีใชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูล การแจกแจงความถ่ี (Frequencies) ร้อยละ (Percentage) และ Chi - square ผลการศึกษาพบวา่ พฤติกรรมผูบ้ ริโภคพบว่า การวางแผนช่วงบ้นั ปลายชีวิตหลงั จาก เกษียณข้ึนอยกู่ บั ระดบั การศึกษา และระดบั รายได้ โดยส่วนใหญ่ผบู้ ริโภคจะวางแผนร่วมกบั ครอบครัว และระดบั รายไดต้ ่า และปานกลาง เห็นว่าสถานบริบาลผูส้ ูงอายุควรจดั ให้มีการพบปะพูดคุยและทา กิจกรรมร่วมกนั ส่วนผทู้ ่ีมีรายไดร้ ะดบั ท่ีสูงเห็นวา่ ควรมีกิจกรรมการท่องเที่ยว และจดั งานอดิเรก คาสาคัญ : พฤติกรรมผบู้ ริโภค ผสู้ ูงอายุ การบริบาลผสู้ ูงอายุ 239

“๙ ราTชกhมาeรงกคป1าล2รรขtะปhTับชรRhเมะุ คaชeกjลaุมาอื่1mวรน2ชิจaนtาดัhnวกงRgัตาาaaรกนljรรaaปะรmดUรมะับnaนชชnivำ�ุมาgeเตวศarมิชิsรlaiษหาtyกาฐUวากonทิริจfiรยvปTะาeดeลลrcบักูัยshiแเชtทnนyาคoวตoโlคมินofดิ หโgTลเyาทยeวคNีรcทิโาahนยชtnโiามoลoลงnยlคัยีสoaลเlเีgทขyCคคียoรวโNัง้นnเทaพfโteี่ลือ่ 1iroยก2enีราnารacพชleมัฒCงนoคาnลทfeี่ยค่ังrรeยัง้ นืnท”cี่ e12” “๙ ราชมงคลขบั เคลือ่ นนวัตกรรม นาเศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขยี วเพ่ือการพฒั นาทย่ี ่งั ยนื ” การพฒั นาศักยภาพทักษะด้านดจิ ทิ ลั ของทรัพยากรมนุษย์สาหรับองค์การภาครัฐ และธุรกจิ ภาคเอกชนในจงั หวดั ฉะเชิงเทรา Development the Digital Skills of Human Resources for Government Organizations and Private Organizations in Chachoengsao Province ปรีดาพร อารักษส์ มบูรณ์ และ ณฐั พล บวั เปล่ียนสี* Preedaporn Arruksomboon and Nuttapol Buapliansee* สาขาวชิ าการจดั การทรัพยากรมนุษย์ คณะวทิ ยาการจดั การ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ราชนครินทร์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา Human Resource Management, Faculty of Management Science, Rajabhat Rajanagarindra University, Chachoengsao, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวจิ ยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์พือ่ ศึกษาแนวทางการพฒั นาศกั ยภาพทกั ษะดา้ นดิจิทลั ของทรัพยากรมนุษยส์ าหรับ องคก์ ารภาครัฐและธุรกิจภาคเอกชนในจงั หวดั ฉะเชิงเทราเป็นการวจิ ยั เชิงคุณภาพโดยใชว้ ธิ ีการสมั ภาษณ์เชิงลึกใชแ้ บบ สัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างกบั ผูใ้ ห้ขอ้ มูลหลกั จากผูท้ ่ีมีความรู้ ความเชี่ยวชาญและเป็ นผูท้ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การพฒั นา ทรัพยากรมนุษย์ ไดแ้ ก่ ผแู้ ทนฝ่ ายบริหารผปู้ ฏิบตั ิงานดา้ นเทคโนโลยีดิจิทลั ขององคก์ ารภาครัฐในจงั หวดั ฉะเชิงเทรา และผูบ้ ริหารระดับสูงและระดับกลางผูป้ ฏิบัติงานด้านทรัพยากรมนุษย์ของธุรกิจภาคเอกชนในพ้ืนท่ีเขตนิคม อุตสาหกรรมจงั หวดั ฉะเชิงเทราและอาจารยร์ ะดบั อุดมศึกษาในสาขาวชิ าการจดั การทรัพยากรมนุษย์รวมท้งั สิ้นจานวน24 คนและนาขอ้ มูลมาวิเคราะห์ผลในลกั ษณะพรรณนาผลการวจิ ยั พบวา่ แนวทางการพฒั นาศกั ยภาพทกั ษะดา้ นดิจิทลั ของ ทรัพยากรมนุษยส์ าหรับองคก์ ารภาครัฐและธุรกิจภาคเอกชนประกอบดว้ ย(1)การกาหนดนโยบายและวิสัยทศั น์ของ องคก์ ารโดยการปรับตวั เพื่อขบั เคล่ือนองคก์ ารใหส้ อดคลอ้ งกบั ยุคดิจิทลั (2)การฝึ กอบรมและพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ โดยการส่งเสริมให้ไดร้ ับการพฒั นาทกั ษะดา้ นดิจิทลั ในรูปแบบออนไลน์ (3)การจดั การความรู้ โดยการสร้างช่องทาง ภายในองคก์ ารใหเ้ป็นแหล่งถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ดา้ นดิจิทลั (4)ระบบเทคโนโลยขี ององคก์ ารโดยการพฒั นาระบบ ให้มีประสิทธิภาพรองรับการใชง้ านดา้ นดิจิทลั (5)ทกั ษะความเขา้ ใจและการใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั โดยการส่งเสริมให้ ทรัพยากรมนุษยน์ าประสบการณ์ดา้ นดิจิทลั มาปรับใชใ้ นการพฒั นางาน และ(6)การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกบั ภายนอกองคก์ ารโดยการสร้างความร่วมมือทางวชิ าการกบั หน่วยงานภายนอกเพื่อพฒั นาทกั ษะดา้ นดิจิทลั ท้งั น้ีองคก์ าร ภาครัฐและธุรกิจภาคเอกชนควรมีการเสริมสร้างศกั ยภาพทกั ษะดา้ นดิจิทลั ของทรัพยากรมนุษยใ์ หม้ ีความรู้ มีทกั ษะดา้ น เทคโนโลยีดิจิทลั ที่มีคุณภาพสอดคลอ้ งตามความตอ้ งการในทุกมิติขององค์การสามารถปรับตวั ให้เท่าทนั กบั การ เปลี่ยนแปลง และเพิ่มขีดความสามารถท่ีเหมาะสมกบั ยุคดิจิทลั เพื่อนาไปสู่การเป็ นองค์การแห่งดิจิทลั ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ คาสาคัญ: ศกั ยภาพ ทกั ษะดา้ นดิจิทลั ทรัพยากรมนุษย์ 240

“๙ ราTกชhามeรงกปค1ารล2ระขtปThชับรhRมุ เะคaeกชjลาaมุ 1ื่อรmว2นจชิ taดนัhาnงวกRgาัตาaaนรกjlaรปรaะmรรดUมะaับnชนnชiมุvำ�gาeวเaตศrชิlมิsรaาiษหtกUyาฐาวกnoริทิจiรfvยะปTeาดerลลบัscูกยั iชhtแเyทาnนตคoวoโมิlคfนoหิดโTgาลเyeทวยcคNทิรี hโาaยนnชtาโiมooลลงlnยัยoคีสaเgลทlเี yขคCคียโNoรวน้งัnaเโทพtfลieี่ ่ือoย1rกnรี2eาาnaรชlcพมeCฒั งoคนnลาfทeคย่ี rรeัง่ งั้ ยnทืนc่ี ”e1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวตั กรรม นาเศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยีสเี ขียวเพื่อการพฒั นาทีย่ ง่ั ยนื ” ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อการตดั สินใจสั่งอาหารออนไลน์ ผ่านโมบายแอปพลเิ คชัน ของผ้บู ริโภคกล่มุ เจเนอเรช่ันวาย ในเขตกรุงเทพมหานคร Factors that affect the decision to order food online through Mobile applications of Generation Y consumers in Bangkok เกศสุดา อุปนนั ท์1* และ อนงค์ ไตว่ ลั ย์ 2 Katsuda Uppanan1* and Anong Taiwan2 1นกั ศึกษาปริญญาโทหลกั สูตรบริหารธุรกิจมหาบณั ฑิต คณะบริหารธุรกิจ 2อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการจดั การ คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร แขวงสวนจิตรดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 1 Master of Business Administration, Faculty of Business Administration 2Lecturer in Management, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Khwang Suan Chitrada, Khet Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวจิ ยั ในคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจยั การยอมรับเทคโนโลยี ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาด และปัจจยั คุณภาพของการให้บริการที่ส่งผลต่อการตดั สินใจสั่งอาหารออนไลน์ ผ่านโมบายแอปพลิเคชนั ของ ผบู้ ริโภคกลุ่มเจเนอเรชน่ั วาย (Gen Y) ในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตวั อยา่ งคือ ผบู้ ริโภครุ่นใหม่วยั ทางานท้งั ชาย และหญิง อายุระหว่าง 21-38 ปี (Gen Y) ในเขตกรุงเทพมหานคร จานวน 400 ตวั อย่าง ใช้แบบสอบถามเป็ น เครื่องมือในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล โดยสถิติท่ีใช้ คือ คา่ ความถี่ คา่ ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน และการ วเิ คราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ ผลการวิจยั พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็ นเพศหญิง อายรุ ะหวา่ ง 26- 30 ปี ระดบั การศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็ นพนกั งานบริษทั เอกชนและมี รายไดเ้ ฉล่ียต่อเดือนระหวา่ ง 15,000-25,000บาท การวิเคราะห์ปัจจยั ที่ส่งผลต่อการตดั สินใจสั่งอาหารออนไลน์ พบวา่ ปัจจยั การยอมรับเทคโนโลยี มีค่าเฉล่ียเท่ากบั 4.24 อยูใ่ นระดบั การยอมรับที่ระดบั มากท่ีสุด ปัจจยั ส่วน ประสมทางการตลาด(7Ps) มีค่าเฉล่ียเท่ากบั 4.02 อยูใ่ นระดบั การยอมรับท่ีระดบั มากและปัจจยั คุณภาพของการ ให้บริการ มีค่าเฉล่ียเท่ากบั 4.02อยใู่ นระดบั การยอมรับที่ระดบั มาก ผลการทดสอบสมมติฐาน พบวา่ ปัจจยั การ ยอมรับเทคโนโลยี ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดและปัจจยั คุณภาพของการใหบ้ ริการส่งผลต่อการตดั สินใจใช้ บริการสั่งอาหารออนไลน์ ผา่ นโมบายแอปพลิเคชนั ของผบู้ ริโภคกลุ่มเจนเนอเรชน่ั วาย ในเขตกรุงเทพมหานคร อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั 0.05 คาสาคัญ: บริการสั่งอาหารออนไลน์ โมบายแอปพลิเคชัน การยอมรับเทคโนโลยี ส่วนประสมทาง การตลาด คุณภาพของการใหบ้ ริการ 241

“๙ รากTชาhมรeงปกค1ารล2ระขtTปชhบั hรมุRเะeกคaชjลาaุม1รื่อmว2จนชิtดaัhนาnงRวกาgตัaาaนรกjlaปรรamะรรดUมะaบัnชnนชiุมvำ�gาวeเaตศrชิlมิsรaาiษหtกUyาฐาวกnoริทจิ iรfvยะปTeาดeลลrับscูกัยihชแtเทynานคตoวoโlมิคนfoหดิ โgTลเาyทeยวคNcรีทิ โhาaนยชtnาโiมoลoลงnยlัยคoสีaเลglทีเขyCคคยี oรโNวน้ังnเaทพโftลe่ี อ่ืi1orยก2enรีาnารacชพleมัฒCงนoคาnลทfeี่ยคrง่ั รeยง้ั นืnท”cี่ e12” “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวตั กรรม นาเศรษฐกิจ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขยี วเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยนื ” ศึกษาอทิ ธิพลของคุณลกั ษณะงานและการรับรู้การสนับสนุนจากองค์กร ทีส่ ่งผลต่อการปรับตวั และผลการดาเนินงานของพนักงาน : กรณศี ึกษา ธนาคารไทยพาณชิ ย์ในเขตจงั หวดั นนทบุรี Study Influence of Job Characteristics and Perceived Organization Support affect to Adjustment and Performance of Employee: A Case Study of Siam Commercial Bank in Nonthaburi Province อนงค์ ไต่วลั ย์* และ นวรัตน์ ชวนะโชติ Anong Taiwan* and Nawarat Chowanachote อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการจดั การ คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร Lecturer in Management, Faculty of Business Administration, Rajamangala, University of Technology Phra Nakhorn, Khwang Suan Chitrada, Khet Dusit, Bangkok, Thailand *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวจิ ยั ในคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์ เพื่อศึกษาอิทธิพลของคุณลกั ษณะงานที่ส่งผลต่อการปรับตวั ของพนกั งาน ศึกษาอิทธิพลของการรับรู้การสนบั สนุนจากองคก์ รท่ีส่งผลต่อการปรับตวั ของพนกั งาน และศึกษาอิทธิพลการปรับตวั ของพนกั งานท่ีส่งผลต่อผลการดาเนินงานของพนกั งาน โดยใช้เคร่ืองมือ แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจานวน 255 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเป็ นการหา ความสัมพนั ธ์ของตวั แปรโดยใช้ CFA และทดสอบขอ้ สมมุติฐานจากสมการโครงสร้าง ( Structural Equation Modeling : SEM ) ผลการวิจยั พบวา่ คุณลกั ษณะงาน การรับรู้การสนับสนุนจากองค์กร และ การปรับตวั ของพนกั งาน มีค่า p-value นอ้ ยกวา่ .05 จึงสรุปวา่ คุณลกั ษณะงาน และการรับรู้การสนบั สนุน จากองค์กรมีอิทธิพลเชิงบวกต่อการปรับตวั ของพนกั งาน และการปรับตวั ของพนกั งานก็มีอิทธิพลเชิง บวกต่อผลการดาเนินงานของพนกั งาน จากผลวิจยั ดงั กล่าว ผูน้ าในองค์กรควรเล็งเห็นความสาคญั ใน ลกั ษณะของการมอบหมายงาน และระบบการสนบั สนุนการจูงใจใหเ้ กิดแรงบนั ดาลใจในการทางาน โดย การสร้างแรงจูงใจภายใน การสร้างเจตคติและการคิดในแง่บวก และกระตุน้ จิตวิญญาณของทีม เพื่อให้ เกิดส่ิงใหม่และสร้างสรรค์ และมีการพฒั นาหรือสนับสนุนในการทางานเพ่ือให้บุคคลสามารถบรรลุ เป้าหมายของส่วนตนและส่วนรวม คาสาคญั : คุณลกั ษณะงาน การรับรู้การสนบั สนุนจากองคก์ ร การปรับตวั ของพนกั งาน ผลการดาเนินงาน ของพนกั งาน 242

การปกราะรชปมุระกชามุรวจชิดั างกาานรปรระะดชบั มุชวาตชิ มิาหการวริทะยดาับลยัชเาทตคมิ โหนโาลวยทิ ีรยาาชลมยังคเทลคคโนรัง้โทลี่ย1รี 2าชมงคล คร้ังที่ 12 The 12TthhReaj1a2mthaRnagajalamUannigvaelrasitUynoivfeTrescithynoofloTgeycNhantoiolonagyl CNoantfioerneanlcCeonference” “๙ ร“าช๙มรงาคชลมขบังคเคลลข่ือบั นเนควลตัอ่ื กนรนรวมัตนกำ�รเรศมรษนฐากเิจศรปษลฐกู กแจินวปคลดิ กู เทแคนโวนคโิดลยเทีสคเี ขโียนวโลเพย่ือีสกเี ขารยี พวัฒเพน่ือากทา่ยี รัง่ พยืนัฒ”นาทีย่ ่งั ยืน” การสร้างนวตั กรรมพฒั นาผลติ ภณั ฑ์และบรรจุภณั ฑ์สาหรับผลติ ภณั ฑ์ สับปะรดแปรรูปทมี่ ผี ลต่อความต้งั ใจซื้อของผ้บู ริโภค จงั หวดั ประจวบครี ีขนั ธ์ An Innovation of Processed Pineapple Products and their Packaging Development and its Effects towards Consumers' Purchasing Intentions, Prachuap Khiri Khan Province อริญชย์ ณ ระนอง1 และ วภิ าวรรณ จนั ทร์ประชุม2* Arin Na Ranong 1 and Wipawan Janprachom 2* 1สาขาวชิ าการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสินทร์ 2สาขาวชิ าการจดั การอตุ สาหกรรม คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสินทร์ 1Department of Marketing, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Rattanakosin,, THAILAND 2 Department of Management, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Rattanakosin,, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวิจยั มีวตั ถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างนวตั กรรมพฒั นาผลิตภณั ฑ์ สาหรับผลิตภณั ฑ์สับปะรดแปร รูปท่ีมีผลต่อความต้งั ใจซ้ือของผูบ้ ริโภค จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ และ2) เพ่ือพฒั นาบรรจุภณั ฑ์สาหรับ ผลิตภณั ฑ์สับปะรดแปรรูปที่มีผลต่อความต้งั ใจซ้ือของผูบ้ ริโภค จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ การวิจัย ดาเนินการโดยใช้การวิจยั ท้งั เชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์ตัวแทนผูป้ ระกอบการ OTOP ประเภท ผลิตภณั ฑ์สับปะรดแปรรูป เป็ นขอ้ มูลท่ีเกิดจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพ่ือนามาวางแผนพฒั นา รูปแบบของบรรจุภณั ฑ์ของผลิตภณั ฑ์ OTOP ของกลุ่มแม่บา้ นเกษตรกรร่องแกว้ ตาบลเกาะหลกั อาเภอ เมือง จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ และกลุ่มแม่บา้ นเกษตรกรบา้ นทุ่งเคล็ด ตาบลศาลาลยั อาเภอสามร้อยยอด จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ และการวจิ ยั เชิงปริมาณ โดยการแจกแบบสอบถามแก่ผูบ้ ริโภคสินคา้ ผลิตภณั ฑ์ สับปะรดแปรรูป จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ จานวน 400 คน ผลการวจิ ยั พบวา่ ปัจจยั การรับรู้ตราสินคา้ ปัจจยั ดา้ นบรรจุภณั ฑ์ และปัจจยั พฤติกรรมการต้งั ใจซ้ือ มีความสาคญั ในภาพรวม อยใู่ นระดบั มาก นอกจากน้ีผล การวิเคราะห์ตวั แบบสมการโครงสร้างท่ีมีตวั แปรการรับรู้ตราสินคา้ และบรรจุภณั ฑ์สู่พฤติกรรมการต้งั ใจ ซ้ือ พบวา่ การรับรู้ตราสินคา้ และบรรจุภณั ฑม์ ีอิทธิพลต่อผลพฤติกรรมการต้งั ใจซ้ือ คาสาคญั : การรับรู้ตราสินคา้ บรรจุภณั ฑ์ ความต้งั ใจซ้ือ 243

“๙ ราTชกhมาeรงกปค1าลร2ระขtปhTชบั รRhมุเะคaeกชjลาaมุ 1ื่อรmว2นจิชtaดนัhาnงวRกgาตัาaaนรกjlaรปรamะรรดUมะaับnชnนชiมุ vgำ�าวeaเตศชิlrิมasราiษหกtUyาฐาnวกรoทิiริจvfะยeปTดาreลับลscูกiยัชthแเyาทnนตoคoวมิ fโlคหนoTิดโาgeลเyวทcยทิ คNhีรยโาanนาชtoลโiมoลlัยoงnยเคgทีสaลylีเคขCโคNยีนoรaวโ้ังntเลทพifoยeี่ ่ือ1nีรrก2าeaาชnlรมcCพeงoฒัคnลนfาeคทrรeยี่ ัง้ n่ังทยcี่ ืนe1””2 “๙ ราชมงคลขบั เคลือ่ นนวตั กรรม นาเศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขยี วเพอ่ื การพฒั นาที่ยั่งยืน” ปัจจยั ด้านการยอมรับเทคโนโลยใี นการตดั สินใจใช้แอพพลเิ คช่ัน ช็อปปิ้ งออนไลน์ของผ้บู ริโภค The Technology Acceptance Model to Consumers’ decision using online shopping application นุชนาถ วรรณะ1* รติชาติ สังฆะโน1 รณกร ทะสะระ1 ศศิกานต์ ชะนะพาล1 วลั ลภา พฒั นา2 และ จตุพร จิรันดร3* Nutchanat Wanna1*, Ratichart Sangkhanc1, Ronnakorn Thasara1, Sasikan Chanapan1, Wanlapa Phattana2 and Jatuporn Jirundorn3* 1นกั ศึกษาสาขาวชิ าการตลาด คณะบริหารธุรกิจ 2อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการตลาด คณะบริหารธุรกิจ 3อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าระบบสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ 1 student of Marketing, 2Lecturer of Marketing, 3Lecturer of Business Information System Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Songkhla *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การศึกษาคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือ 1)เพื่อศึกษาระดบั ความสาคญั ของการตดั สินใจเลือกใช้แอปพลิเคชนั ชอปปิ งออนไลน์ของผูบ้ ริโภค 2) เพื่อศึกษาปัจจยั การยอมรับเทคโนโลยีท่ีส่งผลต่อการตดั สินใจใช้แอปพลิเคชัน ชอปปิ งออนไลน์ของผูบ้ ริโภค โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลการสุ่มตวั อย่างแบบสะดวก (ConvenienceSampling) จาก ผบู้ ริโภคที่ใช้ หรือท่ีเคยใชบ้ ริการแอปพลิเคชนั ชอปปิ งออนไลน์ จานวน385ตวั อยา่ งเกบ็ ขอ้ มูลโดยใชแ้ บบสอบถาม วเิ คราะห์ขอ้ มูลดว้ ยสถิติเชิงพรรณนา และการวเิ คราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ(MultipleRegressionAnalysis) พบวา่ การ รับรู้ถึงประโยชน์ ส่งผลต่อการตดั สินใจใชบ้ ริการแอปพลิเคชนั ชอปปิ งออนไลน์ของผบู้ ริโภค(R=0.668)โดยมีความ แปรปรวนของการตดั สินใจไดร้ ้อยละ44.6การรับรู้ถึงความง่ายส่งผลต่อการตดั สินใจใชบ้ ริการแอปพลิเคชนั ชอปปิ ง ออนไลน์ของผบู้ ริโภค (R=0.618)โดยมีความแปรปรวนของการตดั สินใจไดร้ ้อยละ 38.2การรับรู้ถึงความเส่ียงส่งผล ต่อการตดั สินใจใช้บริการแอปพลิเคชันชอปปิ งออนไลน์ของผูบ้ ริโภค (R=0.713) โดยมีความแปรปรวนของการ ตดั สินใจได้ร้อยละ 50.9 และ ทศั นคติท่ีมีต่อการใช้งาน ส่งผลต่อการตดั สินใจใช้บริการแอปพลิเคชันชอปปิ ง ออนไลน์ของผบู้ ริโภค (R=0.663)โดยมีความแปรปรวนของการตดั สินใจไดร้ ้อยละ 44.0ดงั น้นั การตดั สินใจเลือกใช้ บริการแอปพลิเคชนั ชอปปิ งออนไลน์ของผบู้ ริโภค มีระดบั ความสาคญั มาก นอกจากน้ีปัจจยั การยอมรับเทคโนโลยี ดา้ นการรับรู้ถึงประโยชน์ การรับรู้ถึงความง่ายการรับรู้ถึงความเสี่ยง และทศั นคติที่มีต่อการใชง้ าน ส่งผลตอ่ การการ ตดั สินใจใชบ้ ริการแอปพลิเคชนั ชอปปิ งออนไลน์ของผบู้ ริโภค คาสาคญั : การรับรู้ถึงประโยชน์ การรับรู้ถึงความง่าย การรับรู้ถึงความเส่ียง ทศั นคติที่มีตอ่ การใชง้ าน 244

“๙ รากTชาhมรeงปกค1ราล2ะรขTtปชhับhรมุ Rเะeกคaชาjล1aุมรื่อ2mวจนtชิดัhaนางnRวกาgaัตานajรกaปlรรamระระดUมaชบัnnนมุชigvำ�วาaeเตชิศlraิมาsรiกษหtUyาาฐnรวกoiริทิจvfะยeดปTาrับeลsลicชกูัยthyแเาทnนตoคoมวิ fโlคหนoTดิ าโgeลเวyทcยทิ คNhรี ยโาanนาชtoลโiมoลlัยoงnยเคgทีสaลylีเคขCโคNียนoรaวโ้งัnเtลทพifoยe่ี ่อื 1nรีrก2eาaาชnlรมcพCeงoัฒคnนลfาeคทrรย่ีe้งั ัง่nทยcี่นื e1”2” “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวัตกรรม นาเศรษฐกจิ ปลกู แนวคดิ เทคโนโลยีสเี ขียวเพื่อการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ” ระบบแจ้งซ่อมบารุงคอมพวิ เตอร์ผ่านไลน์ กรณศี ึกษาโรงเรียนเทศบาล 5 (วดั หัวป้อมนอก) จงั หวดั สงขลา Computer Maintenance System on LINE : A Case Study of Tessaban 5 (Wathuapomnork) School อาแมรูดิน ยามาดง* ดนยรัตน์ คคั โนภาส และ ทีปกร นฤมาณนลินี Amaerudin Yamadong*, Donyarut Kakanopas and Theepakorn Naruemannalinee สาขาระบบสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั อ.เมอื ง จ.สงขลา Major Field Business Information System, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Songkhla, Songkhla, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ เมื่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขดั ขอ้ งหรือชารุด สิ่งแรกที่ผูใ้ ช้ทว่ั ไปนึกถึงคือ การแจง้ ซ่อมเพ่ือให้ หน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งรับทราบขอ้ มูลและดาเนินการแกไ้ ข จากการวิเคราะห์ปัญหาของการแจง้ ซ่อมบารุง คอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเทศบาล 5 (วดั หัวป้อมนอก) แบบเดิมพบวา่ ใชว้ ิธีการโทรแจง้ และจดบนั ทึก ขอ้ มูลลงในกระดาษ ทาใหย้ ากตอ่ การคน้ หา ตรวจสอบ และติดตามขอ้ มูล งานวจิ ยั น้ีจึงนาเสนอระบบแจง้ ซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ผา่ นไลน์ กรณีศึกษาโรงเรียน เทศบาล 5 (วดั หวั ป้อมนอก) จงั หวดั สงขลา โดยมี วตั ถุประสงค์ เพ่ือศึกษาข้ันตอนการแจ้งซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ เพื่อพัฒนาระบบแจ้งซ่อมบารุ ง คอมพิวเตอร์ผา่ นไลน์ และเพื่อประเมินความพึงพอใจของผูใ้ ช้ที่มีต่อระบบแจง้ ซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ ผ่านไลน์ กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาล 5 (วดั หัวป้อมนอก) สาหรับเครื่องมือท่ีใช้ในการดาเนินงาน ประกอบด้วย LINE Official Account , Google Apps Script , Canva , Snapseed , Google Form และ แบบสอบถามความพึงพอใจของผูใ้ ช้ท่ีมีต่อการใช้งาน งานวิจยั น้ีพฒั นาแอปพลิเคชนั ภายใต้วิธีการ ดาเนินงานแบบการสร้างตน้ แบบ (Prototype) ประกอบดว้ ย 4 ข้นั ตอนหลกั ไดแ้ ก่ 1) ระบุความตอ้ งการ 2) พฒั นาตน้ แบบแรก 3) ติดต้งั และใชง้ าน และ 4) ปรับแตง่ ตน้ แบบ ผลการดาเนินงานปรากฏวา่ สามารถ แจง้ ซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ผา่ นไลน์ สามารถตรวจสอบสถานะการแจง้ ซ่อม สามารถดูขอ้ มูลอุปกรณ์ได้ และผลการประเมินความพึงพอใจของผูใ้ ชท้ ่ีมีต่อการใชง้ านระบบแจง้ ซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ผา่ นไลนท์ ี่ พฒั นาข้ึนโดยเฉลี่ยอยใู่ นระดบั มากท่ีสุด (������������̅ = 4.62, S.D. = 0.56) คาสาคัญ : ระบบแจ้งซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ผ่านไลน์ ระบบซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ LINE Official Account 245

“๙ ราTชกhมาeงรกค1ปาล2รรขtปะhบัTรชRเะhมุคaชeกjลaมุ า่ือm1วรน2ิชจaนtาดัnhวกงgRตัาาaaรกนlรjรaaปะรmดUมรบัะnaนชชinvำ�มุาgeเตศวarิมsรชิliaษหtาyาฐกUวกาonิทิจรfiรยvปTะาeeดลลrcกูัยับshแเiชtทnนyาคoวตโolคนมิofิดโหgลเTyทายeวคNรีcทิโาahนยชtnโiามoลoลงnยlคัยีสoaลเlเีgทขyCคคยี oรโวNัง้นnเทaพfโteี่ลอื่ 1iroยก2enรีาnารacชพleมัฒCงนoคาnลทfeยี่คr่งัรeยงั้ nืนทc”่ี e1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวัตกรรม นาเศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี เี ขียวเพือ่ การพัฒนาทย่ี ง่ั ยนื ” การพฒั นาระบบประชาสัมพนั ธ์และช่องทางการจดั จาหน่ายอุปกรณ์การเรียน ผ่านบญั ชีไลน์สาหรับธุรกจิ ของโรงเรียนท่าชนะ Development of public relations system and distribution channel of school supplies through LINE Official Account for Thachana School ธามอิสระ ธาวฒุ ิสกลุ * ดนยรัตน์ คคั โนภาส และ ทีปกร นฤมาณนลินี Thamitsara Thawutsakun*, Donyarut Kakanopas and Theepakorn Naruemannalinee สาขาระบบสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั อ.เมือง จ.สงขลา Major Field Business Information System, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Songkhla, Songkhla, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจยั น้ีไดพ้ ฒั นาระบบประชาสัมพนั ธ์และช่องทางการจดั จาหน่ายอุปกรณ์การเรียนผา่ นบญั ชี ไลน์สาหรับธุรกิจ (LINE Official Account) ของโรงเรียนท่าชนะ โดยมีวตั ถุประสงค์หลกั 3 ขอ้ ดงั น้ี 1) เพื่อศึกษาข้นั ตอนการประชาสัมพนั ธ์และช่องทางการจดั จาหน่ายอุปกรณ์การเรียนของโรงเรียนท่าชนะ 2) เพื่อพฒั นาระบบประชาสัมพนั ธ์และช่องทางการจดั จาหน่ายอุปกรณ์การเรียนผ่านบญั ชีไลน์สาหรับ ธุรกิจ (LINE Official Account) ของโรงเรียนท่าชนะ และ 3) เพ่ือประเมินความพึงพอใจของผูใ้ ช้ต่อระบบที่ พฒั นาข้ึนเครื่องมือท่ีใชใ้ นการดาเนินงานประกอบดว้ ย LINE , LINE Official Account , LINE My Shop และแบบสอบถามความพงึ พอใจของผใู้ ช้ งานวจิ ยั น้ีใหค้ วามสาคญั กบั การพฒั นาระบบท่ีตอบสนองความ ตอ้ งการของผูใ้ ช้ จึงเลือกใชว้ ิธีการพฒั นาแอปพลิเคชนั อย่างรวดเร็ว (Rapid Application Development: RAD) ซ่ึงประกอบดว้ ย 4 ข้นั ตอนไดแ้ ก่ การกาหนดความตอ้ งการ การออกแบบโดยผใู้ ช้ การสร้างระบบ โดยการใชต้ วั ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตอ์ ยา่ งเร็ว และการเปล่ียนระบบ ผลการดาเนินงานปรากฎวา่ สามารถส่ง ขอ้ มูลข่าวสารประชาสัมพนั ธ์ผา่ นระบบส่งขอ้ ความ แสดงรายละเอียดอุปกรณ์การเรียนและจดั การคาส่งั ซ้ือ มีระบบการชาระเงิน และแสดงรายงานสรุปการขาย ผลการประเมินความพงึ พอใจของผใู้ ชโ้ ดยเฉล่ีย เท่ากบั 4.42 อยู่ในระดับมากที่สุด (������������̅=4.42, S.D.=0.81) ดงั น้ัน สามารถสรุปได้ว่า การพฒั นาระบบ ประชาสัมพนั ธ์และช่องทางการจดั จาหน่ายอุปกรณ์การเรียนผา่ นบญั ชีไลน์สาหรับธุรกิจ (LINE Official Account) ของโรงเรียนท่าชนะช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพดา้ นการประชาสัมพนั ธ์และการกระจายข่าวสารไป ยงั กลุ่มเป้าหมายและเขา้ ถึงผูใ้ ชง้ านไดง้ ่ายและสะดวกข้ึน และยงั ช่วยเพ่ิมช่องทางจาหน่ายอุปกรณ์การ เรียนผา่ นระบบออนไลนภ์ ายใตส้ ถานการณ์ชีวติ วถิ ีใหม่ (New Normal) คาสาคัญ: การประชาสมั พนั ธ์ จดั จาหน่ายสินคา้ บญั ชีไลน์สาหรับธุรกิจ อุปกรณ์การเรียน 246

“๙ ราTกชhามรeงปกค1ารล2ระขtปTชhบั รhมุRเะeคaกชjลาaมุ1รือ่ mว2จนชิtดัahนาnงRวกาgัตaานaรjกalปรรamะรรดUมะaับชnnนชุมivgำ�าวaeเตศชิlrิมasราiษหtกUyาฐาnวกรoิทiริจfvะยeปTดาreลลับscูกยัiชthแเyาทnนตคooวมิโlfคนoหดิTโgาลเyeทวยcทิคNีรhโยาaนnชาtโoiลมoลlัยงnยoคเีสagทลlีเyขคCคยีโNoรนวaัง้nโเทtพลfie่ีoยือ่ 1rnรีก2eาาanชรlcพมCeัฒงoคนnลาfทeคrยี่ รeั่ง้ังnยทืนc่ี e”1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวัตกรรม นาเศรษฐกจิ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยสี เี ขียวเพื่อการพัฒนาทยี่ ัง่ ยนื ” ระบบการจองห้องประชุมผ่าน LINE Official Account สาหรับโรงเรียนเทศบาล 5 (วดั หัวป้อมนอก) Meeting room reservation system via LINE Official Account for Tessaban 5 (Wathuapomnok) School ศิรภสั สร คงดา* ดนยรัตน์ คคั โนภาส และ ทีปกร นฤมาณนลินี Siraphatsorn Kongdam*, Donyarut Kakanopas and Theepakorn Naruemannalinee สาขาระบบสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั อ.เมือง จ.สงขลา Major Field Business Information System, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Songkhla, Songkhla, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ ปัจจุบนั LINE เป็ นหน่ึงในแอปพลิเคชนั ยอดนิยม มีการนาไปใช้งานกนั อย่างแพร่หลาย และมี การนา LINE ไปใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคลากรในองค์กร จากการศึกษาข้นั ตอนการจองห้อง ประชุมของโรงเรียนเทศบาล 5 (วดั หัวป้อมนอก) แบบเดิมพบวา่ มีจุดดอ้ ยบางประการ ไดแ้ ก่ เกิดกรณี การจองหอ้ งซ้าซอ้ นกนั ขอ้ มูลการจองไมส่ มบูรณ์ ยากต่อการตรวจสอบและคน้ หาขอ้ มูล ยงั ไม่มีระบบท่ี ช่วยทารายงานสรุปผลการจองห้องประชุม งานวจิ ยั น้ี จึงนาเสนอระบบการจองห้องประชุมผา่ น LINE Official Account สาหรับโรงเรียนเทศบาล 5 (วดั หวั ป้อมนอก) โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อ 1) ศึกษาข้นั ตอน การจองห้องประชุมผา่ น LINE OFFICIAL ACCOUNT 2) พฒั นาระบบการจองห้องประชุมผ่าน LINE OFFICIAL ACCOUNT และ 3) ประเมินความพึงพอใจของผใู้ ชต้ อ่ ระบบการจองหอ้ งประชุมท่ีพฒั นาข้ึน สาหรับเคร่ืองมือท่ีใช้ในการดาเนินงานประกอบด้วย LINE Official Account , Google Apps Script , Photo Scape , Snapseed , Canva, Google Form และแบบสอบถามความพึงพอใจของผูใ้ ช้ที่มีต่อการใช้ งานระบบการจองห้องประชุม โดยใช้กลุ่มตวั อย่าง จานวน 35 คน และไดพ้ ฒั นาแอปพลิเคชนั ภายใต้ วิธีการดาเนินงานแบบการสร้างตน้ แบบ (Prototype) ซ่ึงประกอบดว้ ย 4 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่ 1) ระบุความ ตอ้ งการ 2) พฒั นาตน้ แบบแรก 3) ติดต้งั และใช้งาน และ 4) ปรับแต่งตน้ แบบ ผลการดาเนินงานพบวา่ ผูใ้ ชส้ ามารถจองห้องประชุมที่ตอ้ งการผา่ นแอปพลิเคชนั LINE และตรวจสอบสถานะการจองได้ ผดู้ ูแล ระบบสามารถจดั การขอ้ มูลการจองและพิมพร์ ายงานสรุปขอ้ มูลการจองได้ ผลการประเมินความพึง พอใจของผูใ้ ชท้ ี่มีต่อการใชง้ านระบบจองหอ้ งประชุมผา่ น LINE Official Account ของโรงเรียนเทศบาล 5 (วดั หวั ป้อมนอก) โดยเฉลี่ยอยใู่ นระดบั มากที่สุด (������������̅ = 4.54, S.D. = 0.64) คาสาคัญ: ระบบการจองห้องประชุมผา่ นไลน์ ระบบจองห้องประชุม LINE Official Account 247

กการาปรประรชะุมชวมุ ิชกาากราจรดัระงดานับปชารตะิมชหุมาววชิ ิทายกาาลรยัรเะทดคับโนชโาลตยมิ รี หาชาวมทิงคยลาลคยั รเง้ั ททคี่ 1โน2โลยรี าชมงคล คร้ังท่ี 12 The 12th RajaTmhean1g2atlhaRUanjaivmearsnitgyaolaf UTencivhenrosliotygyoNf aTteiocnhanloCloongyfeNreantcioenal Conference” “๙ ราชมงค“ล๙ขับรเาคชลม่อื งนคนลวขตั บั กเรครลมอื่ นนำ�นเศวรัตษกฐรกรจิม ปนลำกูเศแรนษวฐคกดิ ิจเทปคโลนูกโแลนยสีวเีคขิดยี เวทเพคโื่อนกโาลรยพีสัฒีเขนยีาทวเย่ี พ่งั ยอ่ื ืนก”ารพฒั นาทีย่ ่งั ยนื ” ปัจจัยเชิงสาเหตุทีม� ผี ลต่อความเสี�ยงของสถาบันการเงินชุมชนในยคุ ไทยแลนด์ �.� Causal factors affectingthe risk ofcommunity financial Institutionin Thailand 4.0 องั คณา ลีรัตนานุกูลศิริ1* ฤกษช์ ยั ฟปู ระทีปศิริ2 สรวงภรณ์ สจั ภาพพิชิต3 ขจรจิตร์ ธนะสาร3 ธีรดา บญุ พามี1 และ กลุ ฑีรา จนั ทนา1 Angkana Leerattananugulsiri1*, Rerkchai Fooprateepsiri1 Sruangporn Satchaphaphichit1 Khajorrnjit Thanasan1 Theerada Bunphamee1 and Khuntheera Chanthana1,2* 1สาขาการบญั ชี คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ 2สาํ นกั งานอธิการบดี 3สาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ 1Department of Accounting, Faculty of Business Administration and Information Technology 2Office of the President 3Department of Marketing, Faculty of Business Administration and Information Technology Rajamangala University of Technology Tawan-ok, Sriracha District, Chonburi Province, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การวจิ ยั เรื�องปัจจยั เชิงสาเหตุท�ีมีผลต่อความเสี�ยงของสถาบนั การเงินชุมชนในยคุ ไทยแลนด์ �.� วตั ถุประสงค์ เพ�ือศึกษาความสัมพนั ธ์ของปัจจยั เชิงสาเหตุท�ีส่งผลต่อความเส�ียงขององคก์ รการเงินชุมชน กลุ่มตวั อยา่ งจาํ นวน��คน เป็นการวิจยั เชิงสาํ รวจ ใชแ้ บบสอบถามเป็นเครื�องมือในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู วิเคราะห์ขอ้ มูลดว้ ยโปรแกรมสาํ เร็จรูป ทางสถิติ ได้แก่ การแจกแจงความถี� (Frequency)ร้อยละ (Percent)ค่าเฉล�ีย(Mean)ค่าส่วนเบี�ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation)และวิเคราะห์ขอ้ มูลดว้ ยการวิธีการทดสอบไคสแควร์ (Chi-SquareTest) ผลการวิจยั พบว่าความตอ้ งการของ ปัจจยั ความจาํ เป็ นพ�ืนฐานอย่ใู นระดบั ความตอ้ งการมากที�สุดในด้านความตอ้ งการทางกายภาพ ลาํ ดบั ถดั มาเป็นดา้ น ความตอ้ งการความมนั� คงปลอดภยั ความรักและความเป็นเจา้ ของความเคารพนบั ถือเกียรติยศชื�อเสียงความสมบูรณ์ของ ชีวิตตลอดจนความตอ้ งการอื�น ผลการทดสอบสมมติฐานความตอ้ งการข�นั พ�ืนฐานส่งผลต่อความเสี�ยงของสถาบนั การเงินชุมชนทกุ ดา้ นณระดบั นยั สาํ คญั ที�.��จึงปฏิเสธH�และยอมรับH�สอดคลอ้ งกบั ทฤษฎคี วามตอ้ งการพ�นื ฐานของ มาสโลว์(Maslow)ท�ีเป็นปัจจยั ที�สาํ คญั มากของความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลเป็นสัญชาตญาณที�ติดตวั มนุษยม์ าแตก่ าํ เนิด ในส่วนของการทดสอบดา้ นความตอ้ งการอ�ืนส่งผลตอ่ ความเส�ียงของสถาบนั การเงินชุมชนไม่ทกุ ดา้ นประกอบดว้ ยความ ตอ้ งการอื�นส่งผลต่อความเสี�ยงของสถาบนั การเงินชุมชนดา้ นปฏิบตั ิการและดา้ นการบริหารจดั การทางการเงิน ณระดบั นยั สาํ คญั ที� .��จึงปฏิเสธH�และยอมรับH� ความตอ้ งการอ�ืนไม่ส่งผลต่อความเสี�ยงของสถาบนั การเงินชุมชนดา้ นกล ยทุ ธแ์ ละดา้ นกฎระเบยี บขอ้ บงั คบั ณระดบั นยั สาํ คญั ท�ี .��จึงปฏิเสธH�และยอมรับH�สอดคลอ้ งกบั ทฤษฏีแรงจูงใจ-สุข ภาวะของเฮอร์ซเบิร์ก ที�มีความสัมพนั ธ์ในแง่ของความพึงพอใจและไม่พึงพอใจในการปฏิบัติงาน ซ�ึงเป็ นเพียง องคป์ ระกอบจูงใจ(MotivationFactors)หรือองคป์ ระกอบค�าํ จุนเป็นอีกหน�ึงความตอ้ งการของคนเราในข�นั ต่อมา คําสําคัญ: ปัจจยั ความเส�ียง สถาบนั การเงินชุมชน 248

กากราปรปะชระมุ ชวมุิชากกาารรจรดั ะงดาบั นชปารตะมิ ชหุมาวชิทายกาาลรยั รเทะดคับโนชโาลตยมิีราหชามวงทิ คยลาลคัยรั้งเท่ีค1โ2นโลยรี าชมงคล ครงั้ ท่ี 12 The 12th RajaTmhaeng1a2ltah RUanjiavmerasintygaolfaTUencihvneorsloitgyyoNfaTtieocnhanl oCloongfyerNeantcioenal Conference” “๙ ราชมงคล“ข๙ับรเคาชลอ่ืมนงคนลวตัขกบั รเรคมลอ่ื นนำ�นเศวรัตษกฐรกรจิ มปนลำกู เแศนรวษคฐดิ กเิจทคปโลนกูโลแยนีสวเี ขคียิดวเทเพคอื่ โนกาโลรพยสีฒั ีเนขายี ทวย่ีเพั่งย่อื ืนก”ารพฒั นาทยี่ งั่ ยืน” ระบบสารสนเทศเพื�อการบริหารจดั การธรุ กจิ สําหรับนักดนตรีในจังหวัดเชียงใหม่ Information system of managing business for musician in Chiang-Mai ธีรภพ แสงศรี* Theeraphop Saengsr* หลกั สูตรระบบสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ถ.ห้วยแกว้ ต.ชา้ งเผอื ก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ Bachelor of Business Administration Program in Business Information System, Faculty of Business Administration and Liberal Arts, Rajamangala University of Technology Lanna, Huay Kaew Road Amphoe Muang Chiang-Mai, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานวิจยั เรื�องระบบสารสนเทศเพื�อการบริหารจดั การธุรกิจสําหรับนกั ดนตรีในจงั หวดั เชียงใหม่ มี วตั ถุประสงคเ์ พื�อพฒั นาระบบสารสนเทศเพ�ือการบริหารจดั การการประชาสัมพนั ธ์ธุรกิจสําหรับนัก ดนตรีจงั หวดั เชียงใหม่ และประเมินคณุ ภาพของระบบ ระบบสารสนเทศที�พฒั นาเป็นเวบ็ แอปพลิเคชนั มี การใชร้ ูปแบบในการพฒั นาระบบเป็ นรูปแบบจาํ ลองแบบน�ําตก (Waterfall Model) ใชโ้ ปรแกรมสาํ เร็จ XAMPP ในการจาํ ลองเวบ็ เซิร์ฟเวอร์ พฒั นาระบบและจดั การฐานขอ้ มูล โดยประกอบไปดว้ ยโปรแกรม Apache, ภาษาพีเอชพี (PHP) และ ฐานขอ้ มูลมายเอสคิวแอล (MySQL) ผูว้ ิจยั ได้ทาํ การประเมินความ สอดคลอ้ งระหว่างขอ้ คาํ ถามกบั วตั ถุประสงค์ (IOC) โดยผูเ้ ชี�ยวชาญจาํ นวน � คน ผลการประเมินมีค่า เท่ากบั �.�� และไดท้ าํ การประเมินคุณภาพของระบบจากกลุม่ ตวั อย่างที�ใชง้ านระบบจาํ นวน �� คน ผล การประเมินมีความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั มากที�สุด (������������̅ = 4.74, S.D. = 0.44) คําสําคัญ: ระบบสารสนเทศเพือ� การบริหารจดั การ การประเมินคุณภาพของระบบ ธุรกิจนกั ดนตรี 249

กกาารรปปรระะชชมุ มุวิชกากรจารดั รงะาดนบั ปชราะตชมิ มุ หวาชิ วาทิ กยาารลรยั ะเดทบัคชโนาโตลมิ ยหีราชวมทิ งยคาลลยัคเรทั้งคทโ่ี น12โลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 12 The 12th RajTahmean12gathlaRaUjnamivearnsigtaylaofUTneicvhenrsoitloygoyfNTaeticohnnaol lCoognyfNeraetniocneal Conference” “๙ ราชมงค“ล๙ขรบั าเชคลมอื่งนคลนขวตับั กเครรลมื่อนนนำ�เวศตั รกษรฐรกมิจนปำลเูกศแรนษวฐคกิดิจเทปคลโกูนแโลนยวีสคเี ิดขเยี ทวคเพโนอื่ โกลายรสีพเีัฒขนียาวทเพ่ยี ่อืัง่ ยกนืา”รพฒั นาที่ยง่ั ยนื ” แนวทางการจัดการธุรกจิ ร้านอาหารในสถานการณ์โควดิ -�� พื�นท�ตี ําบลคลองหก จงั หวดั ปทุมธานี Guideline for Restaurant Business Management during the COVID-19 Pandemic in Khlong Hok, Pathum Thani Province พรนภา ธนโพธิวริ ตั น์1 ภูมิพฒั น์ ฉายา1* พนสั สืบยบุ ล1 จุฑารตั น์ นามเสาร์� อรทยั ปักเคทงั � และธนสิทธ�ิ ออ่ นธนู� Pornnapa Thanapotivirat1, Phumipat Chaya1*, Phanat Subyubon1, Jutarat Namsao2, Orathai Pakkatang2 and Thanasit Oanthanu2 1สาขาวิชาการทอ่ งเท�ียวและการโรงแรม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2สาขาการจดั การการโรงแรม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี อ.ธญั บรุ ี จ.ปทุมธานี 1Department of Hotel and Tourism, Faculty of Liberal Arts 2Department of Hotel Management, Faculty of Liberal Arts Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-��ท�ีเกิดข�ึนทวั� โลกในปัจจุบนั ไดส้ ่งผลกระทบต่อชีวิต ความเป็นอยขู่ องประชาชน และส่งผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจอยา่ งกวา้ งขวาง โดยเฉพาะธุรกิจที�เกี�ยวขอ้ งกบั อุตสาหกรรมการบริการ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม เป็นตน้ ซ�ึงธุรกิจร้านอาหารเป็นหน�ึงในธุรกิจที�ไดร้ ับ ผลกระทบโดยตรง จากการท�ีภาครัฐมีนโยบายไม่ให้รับประทานอาหารภายในร้าน หรือจาํ กดั จาํ นวน ลกู คา้ ผูป้ ระกอบการธุรกิจร้านอาหารจึงมีความจาํ เป็นตอ้ งปรับตวั ให้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ที�เกิดข�ึน เพ�ือตอบสนองผูบ้ ริ โภคและเพ�ือให้ธุรกิจร้านอาหารสามารถดําเนินธุรกิจต่อไปได้ อีกท�ังเป็ นการ เตรียมพร้อมการเข้าสู่ยุควิถีชีวิตใหม่ (New Normal) งานวิจยั คร�ังน�ีมีวตั ถุประสงค์เพื�อ �) เพ�ือศึกษา ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-�� ต่อการจดั การของธุรกิจร้านอาหาร พ�ืนที� ตาํ บลคลองหก จงั หวดั ปทมุ ธานี �) เพื�อศึกษาการปรับเปลี�ยนกลยุทธ์การจดั การธุรกิจร้านอาหาร พ�ืนที� ตาํ บลคลองหก จงั หวดั ปทุมธานี โดยใชว้ ิธีการศึกษาวิจยั เชิงคุณภาพผา่ นวธิ ีการสัมภาษณ์เชิงลึก และได้ เก็บขอ้ มูลจากผปู้ ระกอบการร้านอาหารจาํ นวน �� ร้าน ในพ�ืนที�ตาํ บลคลองหก จงั หวดั ปทมุ ธานี พบวา่ ผปู้ ระกอบการร้านอาหารไดร้ ับผลกระทบจากนโยบายภาครัฐ และไดป้ รับรูปแบบการให้บริการเนน้ การ ส่งอาหาร การเขา้ ร่วมโครงการคนละคร�ึงของภาครัฐ รวมถึงการประชาสัมพนั ธ์ผ่านสื�อสังคมออนไลน์ มากข�นึ คาํ สําคญั : ธุรกิจร้านอาหาร การจดั การ ผลกระทบจากโควดิ -�� 250

กากราปรรปะรชะุมชวมุ ชิ กาากราจรดรั ะงดาับนชปารตะมิชหมุ าววชิ ิทายกาาลรยัรเะทดคบั โนชโาลตยมิ รี หาชาวมทิงคยลาลคัยรเ้งั ททคี่ 1โน2โลยีราชมงคล ครง้ั ท่ี 12 The 12th RajaTmhean1g2atlhaRUanjaivmerasnitgyaolaf TUencivhenrosliotygyoNf aTteiocnhanloCloognyfeNreantcioenal Conference” “๙ ราชมงค“ล๙ขับรเาคชลมื่องนคนลวขตั บักเรครลม่อื นนำ�นเศวรตั ษกฐรกริจม ปนลำูกเศแรนษวฐคกิดิจเทปคโลนกู โแลนยีสวเีคขิดยี เวทเพคโอ่ื นกโาลรยพีสฒั ีเขนยีาวทเย่ี พงั่ ่อืยกนื า”รพฒั นาที่ย่งั ยืน” ความพึงพอใจของผู้สําเร็จการศึกษาทีม� ตี ่อหลกั สูตรบริหารธุรกจิ บณั ฑิต กรณศี ึกษา : แขนงวชิ าการจัดการทั�วไป สาขาวิชาการจดั การ คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร The Satisfaction of Graduates towards Business Administration Program : Case Study in General Management Field of Study Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon. ปาริชาติ ชว้ นรกั ธรรม1 พีรญา เชตพุ งษ1์ วรัญญา สมศิริ1 และ กาํ พร ศุภเศรษฐ์เทศา1,2* Parichat Chuanrakthum 1, Phiraya Chetupong 1, Warunya Somsiri1 and Gumporn Supasettaysa 1,2* 1สาขาวิชาการจดั การ คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จ.กรุงเทพมหานคร 2สาขาวชิ าธุรกิจระหวา่ งประเทศ คณะบริหารธรุ กิจ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร จ.กรุงเทพมหานคร 1 bachelor of business administration majoring in management, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok, THAILAND 2 bachelor of business administration majoring in International Business, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] (เวน้ 1 บรรทดั ) บทคดั ย่อ การวิจัยคร�ังน�ีเป็ นการวิจยั เชิงสํารวจ มีวตั ถุประสงค์เพื�อศึกษาความพึงพอใจของผูส้ ําเร็จ การศึกษาที�มีต่อหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต กรณีศึกษา : แขนงวิชาการจัดการท�ัวไป สาขาวิชา การจดั การ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ประชากรที�ใชใ้ นการศกึ ษาคร�ัง น�ี คือ ผสู้ ําเร็จการศึกษาแขนงวชิ าการจดั การทวั� ไป สาขาวิชาการจดั การ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ประจาํ ปี การศึกษา 2562 จาํ นวนท�งั สิ�น �� คน การเก็บรวบรวมขอ้ มูลใช้ แบบสอบถาม สถิติท�ีใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี�ย และส่วนเบ�ียงเบนมาตรฐาน ผลการวิจยั พบว่า �) ผูส้ ําเร็จการศึกษาส่วนใหญเ่ ป็ นเพศหญิง และเป้าหมายเมื�อสาํ เร็จการศึกษาตอ้ งการ ทาํ งานท�ีมน�ั คง �) ความพึงพอใจของผสู้ าํ เร็จการศึกษาที�มตี ่อหลกั สูตรบริหารธุรกิจบณั ฑิต โดยรวมอยใู่ น ระดบั มาก ค่าเฉลี�ย �.�� คือ ด้านวดั และประเมินผลการเรียนการสอน รองลงมา คือ ดา้ นอาจารยผ์ ูส้ อน ดา้ นการพฒั นาคุณลกั ษณะบณั ฑิตท�ีพึงประสงค์ ดา้ นรายวิชาในหลกั สูตร และดา้ นปัจจยั สนับสนุนการ เรียนการสอน ตามลาํ ดบั คําสําคญั : ความพงึ พอใจ, ปรับปรุงหลกั สูตร, การจดั การทวั� ไป 251

กกาารรปปรระะชชมุ มุวิชกากราจรดั รงะาดนบั ปชราะตชมิ มุ หวาชิวทิากยารลรยั ะเทดคับโชนาโตลยมิ รีหาาชวมทิ งยคาลลคัยรเั้งททคี่ โ1น2โลยีราชมงคล ครงั้ ท่ี 12 The 12th RajTahmean1g2athlaRaUjnaimvearnsigtyaloafUTneicvhenrosiltoygyofNTateiochnnaloCloognyfeNreanticoenal Conference” “๙ ราชมงค“ล๙ขรับาเชคลม่อืงนคนลวขัตบั กเครรลมอ่ื นนนำ�เวศตั รกษรฐรกมจิ นปำลเูกศแรนษวฐคกิดิจเทปคลโนูกโแลนยวีสคีเขดิ ียเวทเคพโื่อนกโาลรยพีสฒั ีเขนยี าวทเ่ียพ่งั อ่ื ยกนื า”รพฒั นาที่ยั่งยนื ” การส�ือสารการตลาดออนไลน์สินค้ากลุ่มนาฬิกาอจั ฉริยะ ของผู้บริโภคใน จงั หวดั สมุทรสาคร โชติพงศ์ โสมดาํ 1 ธนากร รัชตกุลพฒั น์1* และ ธนภณ รัชตกุลพฒั น์ 1 Chotipong Somdum1, Thanakon Ratchatakulpat1* and Thanaphon Ratchatakulpat1 สาขาวชิ าการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เขต ดุสิต กรุงเทพ 1Department of Marketing, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ ปัจจุบนั เทคโนโลยเี ขา้ มามีบทบาทในการดาํ เนินชีวิต เทคโนโลยีใหม่เกิดข�ึนมาเพ�ือตอบสนอง ความต้องการ นาฬิกาอัจฉริยะ หรือ Smart Watch เป็ นอุปกรณ์เสริมกับโทรศัพท์ที�ได้รับความนิยม นาฬิกาอจั ฉริยะยงั จัดเป็ นกลุ่มเครื�องประดับที�ใช้ควบคู่กับสมาร์ตโฟนโดยส่งคําส�ัง สามารถใช้วดั ชีพจร บนั ทึกการออกกาํ ลงั กายตา่ งๆและยงั สามารถใชใ้ นการแจง้ เตือนโดยส่งขอ้ ความโดยตรงออกจาก นาฬิกาท�ีเชื�อมต่อกบั มาร์ตโฟนทาํ ให้ผูใ้ ช้มีความสะดวกสบายมากข�ึน การแข่งขนั ในตลาดนาฬิกา อัจฉริยะมีการแข่งขันกันหลายรูปแบบท�ังด้านคุณภาพและราคา เม�ือทําการศึกษาการส�ังซ�ือสินคา้ ออนไลน์ โดยการศึกษาการซ�ือขายโดยขอ้ มูล ETDA ที�ทาํ การศึกษาสินคา้ ออนไลน์พบว่าการสั�งซ�ือ ปริมาณสินคา้ ออนไลนม์ ียอดการสั�งซ�ือที�เพ�ิมข�ึนอยา่ งกา้ วกระโดด การวจิ ยั คร�ังน�ีมวี ตั ถปุ ระสงค์ (1) เพ�ือ ศึกษาปัจจยั ส่วนบุคคล เพศ อายุ อาชีพ ระดับการศึกษา รายได้ ที�ส่งผลต่อการตดั สินใจเลือกซ�ือสินคา้ กลุ่มนาฬิกาอจั ฉริยะของผูบ้ ริโภคในจงั หวดั สมุทรสาคร (2) คุณค่าตราสินคา้ ไดแ้ ก่ ความภกั ดี การรู้จกั การรับรู้คุณภาพ ความคุม้ ค่า ที�ส่งผลต่อการตดั สินใจเลือกซ�ือสินคา้ กลุ่มนาฬิกาอจั ฉริยะของผบู้ ริโภคใน จงั หวดั สมุทรสาคร (3) เพ�ือศึกษาการสื�อสารการตลาดออนไลน์ ไดแ้ ก่ การตลาดผา่ นเครื�องมือคน้ หาบน อินเทอร์เน็ต การตลาดเพ�ือการย�าํ ความสนใจ การโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต การตลาดบนสื�อสังคม ออนไลน์ การตลาดผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ท�ีส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซ�ือสินคา้ กลุ่มนาฬิกา อจั ฉริยะของผูบ้ ริโภคในจงั หวดั สมุทรสาคร กลุ่มตวั อยา่ งที�ใช้ จาํ นวน 400 ตวั อยา่ งจาก 3 อาํ เภอ 9 ตาํ บล โดยใช้วิธีการแบบการสุ่มตัวอย่างตามสะดวก ช่วงความเช�ือมัน� 95 เปอร์เซ็นต์โดยมีนัยสําคญั 0.05 ผลการวจิ ยั พบวา่ ปัจจยั ส่วนบุคคล ดา้ นอาชีพ ระดบั การศึกษา ส่งผลต่อการตดั สินใจซ�ือนาฬิกาอจั ฉริยะ เพียงดา้ นการรับรู้ปัญหา ส่วนรายได้ คุณคา่ ตราสินคา้ และการสื�อสารการตลาด ส่งผลตอ่ การตดั สินใจซ�ือ นาฬิกาอจั ฉริยะ ท�งั การรับรู้ปัญหา การหาขอ้ มูล การประเมินทางเลือก การตดั สินใจซ�ือของผูบ้ ริโภคใน จงั หวดั สมทุ รสาคร คาํ สําคัญ: การสื�อสารการตลาดออนไลน์ นาฬิกาอจั ฉริยะ การตดั สินใจ 252

กากราปรรปะชระมุ ชวมุิชกาการารจรดั ะงดาับนชปารตะมิ ชหุมาววชิ ทิ ายกาาลรัยรเะทดคบัโนชโาลตยมิ รี หาชามวงทิ คยลาลคยัร้ังเททคี่ 1โ2นโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 12 “๙ ราTชhมeงค1ล2ขthับRเคajลaTอื่ mนhaนenว1gัตa2กltรahรRUมanนjaivำ�meเศrasรniษtgyฐaกolจิaf ปTUeลncกู ihvแneนorวslคiotดิ gyเyทoคNfโaนTtโeioลcnยhสีanlีเขoCียlooวngเพfye่ือNrกeaาnรtciพoeัฒnaนlาทC่ียo่งั nยfนื e”rence” “๙ ราชมงคลขบั เคล่ือนนวัตกรรม นำเศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสเี ขียวเพอ่ื การพฒั นาทย่ี ั่งยนื ” ปัจจัยสําคญั ในการตดั สินใจซื�อปลาสลดิ บางบ่อในมุมมองของผ้บู ริโภคใน จังหวัดสมุทรปราการ พทั ชา ทองเจือ1 ธนากร รัชตกุลพฒั น์1* และ ธนภณ รัชตกุลพฒั น์ 1 Phatcha Thongchua1, Thanakon Ratchatakulpat1* and Thanaphon Ratchatakulpat1 สาขาวชิ าการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร เขต ดุสิต กรุงเทพ 1Department of Marketing, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon, Dusit, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ ความมุ่งหวงั ในคร�ังน�ีเพ�ือศึกษา ปัจจยั สําคญั ในการตดั สินใจซ�ือปลาสลิดบางบ่อในมุมมองของผูบ้ ริโภคในจังหวดั สมุทรปราการจากผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตวั อย่างส่วนใหญ่เป็ นเพศหญิงคิดเป็ นร้อยละ��.��มีอายุ ��-��ปี คิดเป็ นร้อยละ��.�� สถานะภาพสมรสคิดเป็นร้อยละ��.��ระดบั การศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ��.��อาชีพพนกั งานบริษทั เอกชนคดิ เป็นร้อยละ��.�� รายไดม้ ากกว่า��,���บาทคดิ เป็นร้อยละ��.�� ผลการศึกษาปัจจยั ดา้ นส่วนประสมทางการตลาดในการตดั สินใจซ�ือปลาสลดิ บางบอ่ ใน มุมมองของผูบ้ ริโภคในจังหวดั สมุทรปราการ จากผลการวิจยั พบว่าปัจจยั ด้านส่วนประสมทางการตลาดท�ีส่งผลต่อกระบวนการ ตดั สินใจซ�ือปลาสลิดบางบ่อในมุมมองของผบู้ ริโภคในจงั หวดั สมทุ รปราการในภาพรวมส่งผลต่อกระบวนการตดั สินใจอยใู่ นระดบั ปานกลางเม�ือพิจารณาเป็ นรายดา้ นเรียงลาํ ดบั จากค่าเฉล�ียมากไปน้อยไดแ้ ก่ ดา้ นช่องทางการจดั จาํ หน่ายดา้ นกระบวนการด้านการ ส่งเสริมการขายดา้ นองคป์ ระกอบทางกายภาพดา้ นราคาดา้ นบุคลากรและดา้ นผลิตภณั ฑ์เมื�อวิเคราะห์ปัจจยั ในแต่ละดา้ นที�ส่งผลตอ่ กระบวนการตดั สินใจซ�ือโดยการทดสอบค่าสถิติ Chi-Squareที�ระดบั ความเชื�อมนั� ท�ี ��%ไดค้ ่าSigที�ระดบั �.��พบค่าความสมั พนั ธ์ ดงั น�ี ดา้ นผลิตภณั ฑ์พบวา่ รสชาติและกล�ินมีค่าเฉล�ีย(Sig�.��)กบั สินคา้ มีช�ือเสียงเป็ นท�ีรู้จกั มีค่าเฉลี�ย(Sig0.01,0.05,�.��ตามลาํ ดบั ) ส่งผลตอ่ กระบวนการตดั สินใจซ�ือและสินคา้ มใี หเ้ลือกหลายขนาด(ขนาดปลาสลิด)ไม่ส่งผลตอ่ กระบวนการตดั สินใจซ�ืออยา่ งมีนยั ยะ ทางสถิติท�ี �.��ดา้ นราคาพบว่าราคาสูงเม�ือเทียบกบั การแปรรูปปลาแบบเดียวกนั มคี ่าเฉลี�ย(Sig0.05,0.03,0.00,�.��ตามลาํ ดบั )กบั ราคา เหมาะสมกบั คุณภาพมีคา่ เฉลี�ย(Sig0.01,�.��ตามลาํ ดบั )ส่งผลต่อกระบวนการตดั สินใจซ�ืออย่างมนี ยั ยะทางสถิตทิ ี��.��ดา้ นช่องทางการ จดั จาํ หน่ายพบว่าสถานที�ขายใกลก้ บั แหล่งท่องเท�ียวสําคญั มีค่าเฉลี�ย(Sig�.��)ส่งผลต่อกระบวนการตดั สินใจซ�ือและหนา้ ร้านจดั จาํ หน่ายน่าเช�ือถือไม่ส่งผลต่อกระบวนการตดั สินใจซ�ืออย่างมีนยั ยะทางสถิติท�ี�.��ด้านการส่งเสริมการขายพบว่าการจาํ หน่ายปลา สลิดท�ีเล�ียงจากแหลง่ อื�นในราคาถูกมีค่าเฉล�ีย(Sig�.��)ส่งผลตอ่ การตดั สินใจซ�ือและไดร้ ับคาํ แนะนาํ จากผูจ้ าํ หน่ายกบั มีส่วนลดและ ของแถมจากผูจ้ าํ หน่ายไม่ส่งผลต่อการตดั สินใจซ�ืออย่างมีนัยยะทางสถิติที��.��ดา้ นบุคลากรพบวา่ ผจู้ าํ หน่ายมคี วามเชี�ยวชาญในตวั ผลิตภณั ฑม์ ีค่าเฉลี�ย(Sig�.��)ส่งผลตอ่ การตดั สินใจซ�ือและผูจ้ าํ หน่ายอธั ยาศยั ดีไม่ส่งผลตอ่ การตดั สินใจซ�ืออยา่ งมีนยั ยะทางสถิติที� 0.05ดา้ นกระบวนการพบว่าผูจ้ าํ หน่ายมีการห่อและบรรจุปลาสลิดให้อย่างดีเพ�ือป้องกนั กลิ�นออกสู้ภายนอกและผูจ้ าํ หน่ายมีการนาํ ผลิตภณั ฑ์ใหผ้ ซู้ �ือทดลองชิมไม่ส่งผลต่อกระบวนการตดั สินใจซ�ืออยา่ งมีนยั ยะทางสถิติท�ี�.��ดา้ นองคป์ ระกอบทางกายภาพพบวา่ ร้านจาํ หน่ายปลาสลิดมีความสะอาดถูกสุขอนามยั มีค่าเฉลี�ย(Sig0.05,�.��ตามลาํ ดบั )ส่งผลตอ่ กระบวนการตดั สินใจซ�ือและมีการแปร รูปผลิตภณั ฑใ์ ห้ลูกคา้ ดู เช่นการตากปลาสลิดบนแผงตากปลาไม่ส่งผลต่อกระบวนการตดั สินใจซ�ืออยา่ งมีนยั ยะทางสถิติที� �.�� คาํ สาํ คญั : ปลาสลิด, พฤติกรรมการซ�ือ, ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาด 253

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 12 The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ ราชมงคลขับเคลือ่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลกู แนวคิดเทคโนโลยสี เี ขยี วเพื่อการพฒั นาท่ยี ั่งยนื ” สาขาวทิ ยาศาสตร์ส่งิ แวดล้อม และวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ 263

“๙ ราTกชhามeรงกปค1าลร2ระขtปhTชับรRhมุเะคaeชกjลaมุา1อ่ื mรว2นจชิ taนดัhาnวกงRgตัาาaaนรกjlรaรaปะรmรดUมะับanชนnชivุมำ�gาeเวตaศrชิlิมsรaาiษหtกyUาฐาวกnoรทิจิ fiรvยะปTeาดeลลrับcsูกัยihชแเtทnyนาคoตวoโlมิคนofดิหโgTลเาyทeยวคNcรีทิ โhาaนยชtnาโiมoลoลงnยlยัคoสีaเลgทlเี ขyCคคยี oรโNวนั้งnเaทพโftลe่ี ื่อi1oยrก2enีราnาaรcชพleมฒัCงoนคnาลทfeคยี่ rัง่รeย้งั nทืนc”ี่ e12” “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวัตกรรม นาเศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสีเขียวเพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืน” Chemical Composition of Seized Cannabis and Its Extraction for Medical Purposes Veerawan Kadambari1, Koonchira Buaban2, Thongchai Taechowisan3, Waya S. Phutdhawong2 and Weerachai Phutdhawong1, 4* 1Forensic Science Program, Department of Science, Faculty of Liberal Arts and Science, Kasetsart University, Kampang Saen Campus, Nakhon Pathom, 73140, Thailand 2Department of Chemistry, Faculty of Science, Silpakorn University, Nakhon Pathom, 73000, Thailand 3Department of Microbiology, Faculty of Science, Silpakorn University, Nakhon Pathom, 73000, Thailand 4Department of Science, Faculty of Liberal Arts and Science, Kasetsart University, Kamphang Saen Campus, Nakhon Pathom, 73140, Thailand *Corresponding Author E-mail: [email protected] Abstract Cannabis indica obtained from the Office of the Narcotics Control Board (ONCB) of Thailand was examined for medical purposes. The ONCB cannabis was seized and distributed to our research group for investigation of chemical compositions and purification of major cannabinoids. Its essential oil was analysed and aromadendrene was identified as the major terpene. Small amounts of cannabinoids were also observed. The components of the seized cannabis were extracted using ethanolic extraction and supercritical CO2 extraction. All crude extracts were analysed using high-performance liquid chromatography coupled with a cannabinoid analyser. All extracts contained cannabidiol (CBD), cannabinol (CBN), and deta 9-tetrahydrocannabinol (deta 9-THC) as the major constituents. A preliminary study showed notable anticancer activities of CBD, CBN and deta 9-THC against cervix carcinoma cell and epithelial human breast cancer cell. Keyword: cannabidiol, cannabinol, deta 9-tetrahydrocannabinol, seized cannabis, cannabinoids, cannabis extraction, anticancer activity 255

การประชมุ การจดั งานประชุมวชิ าการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครัง้ ท่ี 12 การปTรhะeชุม1ว2ชิ thากRาaรjaระmดaับnชgาaตlมิ aหUาวnิทivยeาลrsัยitเทyคoโนf โTลeยcีรhาชnมoงlคoลgyคNรัง้ aทt่ีi1o2nal Conference” The 12th Rajamangala University of Technology National Conference “๙ รา“ช๙มงรคาลชขมับงเคคลล่อืขนบั นเควลตั ่อืกนรรนมวตันกำ�เรศรรมษฐนกาิจเศปรลษูกฐแกนจิ วคปิดลเูกทแคนโนวโคลิดยเีสทีเขคียโนวโเพลยอ่ื กีสาเี ขรพยี วัฒเนพา่ือทกย่ี าง่ั รยพนื ฒั ”นาท่ยี งั่ ยืน” การศึกษาค่าพารามิเตอร์ขององั สตรอมท่ีจงั หวดั นครปฐมในช่วงปี 2019-2020 A study of the Ångström parameter in Nakhon Pathom Province during 2019-2020 ลดั ดาวรรณ บวั ขาว* Laddawan Buakhao* สานกั วชิ าศึกษาทว่ั ไป มหาวทิ ยาลยั ธนบุรี กรุงเทพมหานคร General Education Affair, Thonburi University, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ ในงานน้ีผูว้ ิจยั ไดท้ าการศึกษาค่าพารามิเตอร์ขององั สตรอมที่จงั หวดั นครปฐม ในช่วงปี 2019 ถึง 2020 ซ่ึงช่วงตน้ ปี ดงั กล่าวที่จงั หวดั นครปฐมประสบปัญหามลพิษฝ่ นุ ละอองในบรรยากาศส่งผลกระทบ ตอ่ การใชช้ ีวติ ประจาวนั ของประชาชนในพ้ืนที่ โดยทาการวเิ คราะห์การแปรค่า รายวนั ค่ารายวนั เฉลี่ยต่อ เดือน และค่ารายวนั เฉล่ียต่อปี ผูว้ ิจยั ได้นาข้อมูลต้งั แต่ มกราคม 2019 ถึง ธันวาคม 2020 จากเครื่อง ซันโฟโตมิเตอร์ท่ีสถานีนครปฐมขององคก์ ารนาซา ซ่ึงวดั ค่าสเปกตรัมรังสีตรงของดวงอาทิตยใ์ นช่วง ทอ้ งฟ้าปราศจากเมฆ มาทาการวเิ คราะห์หาค่าพารามิเตอร์ขององั สตรอม ไดแ้ ก่ ค่าสัมประสิทธ์ิความขนุ่ มวั ขององั สตรอม และค่าตวั เลขยกกาลงั ขององั สตรอม ผลท่ีไดพ้ บว่า ค่าสัมประสิทธ์ิความขุ่นมวั ของ องั สตรอม ท่ีความยาวคล่ืน 500 นาโนเมตร ปี 2019 มีค่าเฉลี่ยสูงในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม แปรค่า อยู่ระหว่าง 0.14-0.17 และปี 2020 ค่าเฉล่ียสูงในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม แปรค่าอยู่ระหว่าง 0.15-0.18 หมายถึงบรรยากาศมีความข่นุ มวั มาก และในช่วงกลางปี ถึงทา้ ยปี มีค่าลดลง ค่าตวั เลขยกกาลงั ขององั สตรอมของท้งั สองปี มีคา่ ใกลเ้ คียงกนั และมีค่าสูงตลอดท้งั ปี แสดงวา่ มีฝ่ นุ ละอองขนาดเล็กมากกวา่ ฝ่ ุนละอองขนาดใหญ่ โดยค่ารายวนั เฉลี่ยต่อปี ในปี 2019 และปี 2020 มีค่าเท่ากับ 1.29±0.20 และ 1.25±0.23 ตามลาดบั คาสาคัญ: พารามิเตอร์องั สตรอม ฝ่ นุ ละออง นครปฐม 256

Tกhารeปก1าร2ระtปThชรhมุRะeaกชjาaมุ1รmว2จิชtaดัhาnงRกgาaาaนรjlaปรamะรดUะaับnชnชiมุ vgาวeaตชิrlิมsaาiหtกUyาาวnรoทิ iรfvยะeTาดerลับscัยiชhtเyทาnตคooมโิlfนoหโTgาลyeวยcNทิรี hาaยnชtาiมooลงlnยั oคaเgลทlyคCคโNoรนัง้naโทtfลeี่ioย1r2nีรeาnaชclมeCงoคnลfeคrรe้ังnทc่ี e1”2 “๙ รา“ช๙มงรคาลชขมบั งเคคลขือ่ บันนเควลัต่ือกนรรนมวัตนกำ�รเศรรมษนฐกาิจเศปรษลูกฐแกนิจวปคิดลเูกทแคนโนวโคลดิ ยเสีทีเคขโยี นวโเลพยอ่ื ีสกเีาขรียพวฒั เพนา่ือทกี่ยางั่รยพนื ัฒ”นาที่ย่ังยนื ” การผลติ ธูปกนั ยุงผสมสมุนไพรจากโกงกางใบเลก็ (Rhizophora apiculata) และแสมทะเล (Avicennia marina) Production of Herbal Mosquito Repellent Incense Stick from Rhizophora apiculata and Avicennia marina ขวญั ตา ตนั ติกาธน1* กนกรัตน์ รัตนพนั ธุ์1 จนั ทรา อยุ้ เอง้ 2 และ ประสิทธ์ิ ศรีนคร3 Khwanta Tantikamton1* Konokrat Rattanapan1 Jantra Uieng2 and Prasit Srinakorn3 1 สาขาวทิ ยาศาสตร์ทางทะเลและส่ิงแวดลอ้ ม คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารประมง มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั 2 สาขาศึกษาทว่ั ไป คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารประมง มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั 3 สาขาเทคโนโลยวี ิศวกรรม คณะวศิ วกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั 1Department of Marine Science and Environment, Faculty of Science and Fisheries Technology, Rajamangala University of Technology Srivijaya 2 Department of General Education, Faculty of Science and Fisheries Technology, Rajamangala University of Technology Srivijaya. 3Department of Engineering Technology, Faculty of Engineer and Technology, Rajamangala University of Technology Srivijaya. *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาความเป็ นไปไดใ้ นการใชพ้ ืชโกงกางใบเลก็ (Rhizophora apiculata) และแสมทะเล (Avicennia marina) ในการผลิตธูปกนั ยุงผสมสมุนไพร ศึกษาประสิทธิภาพของธูปกนั ยุงผสม สมุนไพร และรูปทรงที่เหมาะสมในการผลิต ทดสอบโดยการผลิตธูปกนั ยุงผสมสมุนไพร จากส่วนใบ เปลือก เน้ือไมโ้ กงกางใบเลก็ และแสมทะเล จากน้นั ศึกษาประสิทธิภาพการไล่ยุงของธูปกนั ยงุ ผสมสมุนไพรกบั ยงุ เตม็ วยั คร้ังละ 10 ตวั ในกลอ่ งทดสอบ ผลการศึกษาพบวา่ โกงกางใบเลก็ และแสมทะเลมีความเป็นไปไดใ้ นการผลิต ธูปกนั ยงุ ผสมสมนุ ไพร ยาจุดกนั ยงุ ที่ผลิตข้ึนมีประสิทธิภาพแตกต่างกนั (p≤0.05) ซ่ึงเปลือกโกงกางใบเลก็ และ เน้ือไมแ้ สมทะเลใหป้ ระสิทธิภาพสูงสุด เม่ือนาส่วนผสมของเปลือกและเน้ือไมข้ องโกงกางใบเลก็ และส่วนผสม ของเปลือกและเน้ือไมแ้ สมทะเลมาผลิตเป็นยาจุดกนั ยุงสมุนไพรเพ่ือทดสอบการใชง้ านจริง พบวา่ ประสิทธิภาพ ยาจุดกนั ยุงสมุนไพรจากเปลือกและเน้ือไมข้ องโกงกางใบเล็ก และแสมทะเล มีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกนั (p>0.05) นอกจากน้ีการทดสอบระดบั ความเป็ นพิษแบบเฉียบพลนั (LC50) กบั ลูกน้ายุง โดยใชส้ ่วนผสมของ เปลือกและเน้ือไมข้ องโกงกางใบเล็ก และส่วนผสมของเปลือกและเน้ือไมแ้ สมทะเล พบว่าความเป็ นพิษของ โกงกางใบเลก็ มีค่ามากกว่าแสมทะเล โดยค่าความเป็ นพิษเฉียบพลนั ของแสมทะเล เท่ากบั 3.69 กรัมต่อ 200 มิลลิลิตร ในขณะท่ีโกงกางใบเล็กเท่ากบั 1.24 กรัมต่อ 200 มิลลิลิตร ส่วนการศึกษารูปทรงของยาจุดกนั ยุง สมุนไพรแบบข้ึนรูปโดยใชพ้ ิมพซ์ ิลิโคนรูปใบไม้ และแบบป้ันเป็ นแท่ง พบว่ามีขอ้ ดีและขอ้ จากดั แตกต่างกนั โดยแบบพิมพใ์ บไมม้ ีความแขง็ แรงกวา่ แต่จุดติดไฟนอ้ ยกวา่ ส่วนแบบแท่งเปราะง่ายแต่จุดติดไฟไดด้ ีกวา่ คาสาคัญ: ธูปกนั ยงุ ผสมสมนุ ไพร โกงกางใบเลก็ แสมทะเล 257

การประชมุ การจดั งานประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล คร้ังที่ 12 การปTรhะชeมุ 1ว2ิชtาhกRาaรjรaะmดับaชnาgตaิมlaหาUวnิทiยvาeลrัยsiเtทyคoโนfโลTยeีรcาhชnมoงlคoลgyครNง้ั ทa่ีt1io2nal Conference” “๙ ราT“ชh๙มeงรค1าล2ชขthมบั Rงเคaคjลลa่อื mขนบั aนเnวคgตัลaก่ือlรaนรนUมวnนัตivำ�กeเศรrรsรiมษtyฐนกoาจิ fเศปTรeลษcกู hฐแกnนจิoวlคoปิดgลเyทูกคNแโนaนtวโioลคnยดิ สีaเทlีเขคCียโoวนnเโพfลe่ือยrกeีสาnเีรขcพeยี ัฒวนเพา่ือทกยี่ ั่งายรนืพ”ัฒนาที่ยัง่ ยนื ” การศึกษาประสิทธิภาพการใช้พลงั งานของศูนย์ข้อมูลระบบคลาวด์ Energy Efficiency of Cloud Data Center Guidelines บุณฑริกา จงเลิศมนตรี เพยี งใจ พรี ะเกียรติขจร กนั ต์ ปานประยรู และ มณฑิรา ยตุ ิธรรม* Boontarika Jonglersmontri, Piangjai Peerakiatkhajohn, Gunn Panprayun and Monthira Yuttitham* คณะส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล อ.พทุ ธมณฑล จ.นครปฐม 73170 Faculty of Environment and Resource Studied, Mahidol University, Phutthamonthon, Nakhon Pathom 73170, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ ภาคเทคโนโลยสี ารสนเทศ (ICT) จดั เป็นหน่ึงภาคส่วนสาคญั ที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งผลต่อปัญหาการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบนั ที่จาเป็นตอ้ งพ่งึ พา เทคโนโลยีระบบสารสนเทศโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่มีบทบาท สาคญั อย่างมากในภาคธุรกิจ ท้งั น้ีระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งเป็ นระบบบริการออนไลน์ท่ีประกอบดว้ ย อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่จดั ต้งั อยูใ่ นศูนยข์ อ้ มูล (Data Center) มีการใช้พลงั งานเป็ นจานวนมาก ดังน้ัน งานวิจยั น้ีจึงมีวตั ถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการใช้พลงั งานภายในศูนยข์ อ้ มูล (Power Usage Effectiveness, PUE) โดยเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ขอ้ มูลการใชพ้ ลงั งานจากอุปกรณ์สนบั สนุน และอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศภายในศูนยข์ อ้ มูลแห่งหน่ึงในประเทศไทย ในระยะเวลา 10 เดือน (มกราคม - ตุลาคม 2564) และคานวณค่าสัดส่วนระหวา่ งพลงั งานที่ศูนยข์ อ้ มูลใชท้ ้งั หมดกบั พลงั งานที่ใช้ ไปกบั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศผา่ นเมตริก จากการศึกษาพบวา่ ศูนยข์ อ้ มูลแสดงค่าเฉลี่ย PUE เท่ากบั 4.00 โดยมีค่าต่าสุดในเดือนมกราคม เท่ากบั 3.64 และค่าสูงสุดในเดือนกุมภาพนั ธ์ เท่ากบั 4.37 และเมื่อ เปรียบเทียบค่า PUE กบั ค่ามาตรฐานของสมาคมวิศวกรทาความร้อน ความเยน็ และการปรับอากาศแห่ง สหรัฐอเมริกา กาหนดให้ ค่า PUE เขา้ ใกลห้ รือเท่ากบั 1 เป็ นค่าแสดงการใชพ้ ลงั งานที่มีประสิทธิภาพ ดงั น้นั สามารถสรุปไดว้ า่ ศูนยข์ อ้ มูลระบบคลาวด์ คอมพวิ ติ้ง แห่งน้ีมีประสิทธิภาพการใชพ้ ลงั งานสาหรับ อุปกรณ์สนบั สนุนและอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศต่า ท้งั น้ีเนื่องจากศูนยข์ อ้ มูลแห่งน้ีมีการใชพ้ ลงั งาน ปริมาณมากสาหรับอุปกรณ์สนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีจานวนมาก และการวางระบบจ่าย พลงั งานท่ีไม่เหมาะสม ซ่ึงจาเป็ นตอ้ งมีแนวทางในการจดั การพลงั งาน โดยเฉพาะระบบการใชพ้ ลงั งาน สาหรับอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศใหม้ ีประสิทธิภาพมากข้ึน คาสาคญั : ประสิทธิภาพการใชพ้ ลงั งาน คลาวด์ คอมพิวติ้ง ศูนยข์ อ้ มูล 258

“๙ รากTชาhมรeงปกค1ราล2ะรTขtชปhบัhมุรRเะeกคaชาjล1aุมรื่อ2mวจนtิชดัhaนางRnวกาagตัานajรกaปlรรamระระดUมaชบัnnนุมชigvำ�วาaeเตชิlศraิมาsรiกษหtUyาาฐnรวกoiรทิจิvfะยeดปTาrบัeลsลicกูชยัthyแเาทnนตoคoวมิ fโlคหนoTิดาโgeลเวyทcยทิ คNhรี ยโาanนาชtoลโiมoลlัยoงnยเคgทีสaลylีเคขCคโNียนoรวaโ้งัnเtลทพifoยeี่ ื่อ1nีรrก2eาaาnชlรcมพCeงัฒoคnนลfาeคทrรี่ยeั้งง่ั nทยcืนี่ e1”2” “๙ ราชมงคลขบั เคลื่อนนวัตกรรม นาเศรษฐกจิ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยีสีเขยี วเพื่อการพัฒนาท่ยี ั่งยืน” การพฒั นาแอปพลเิ คชันแนวทางการปฏบิ ตั ติ วั เพ่ือสุขภาพ กรณศี ึกษา ศูนย์อนามยั ท่ี 2 พษิ ณุโลก The Development of Health for Android Applications: A Case Study of Regional Health Promotion Center 2 อมิตตา คลา้ ยทอง* และ พรี พฒั น์ เดชเทศ Amitta Klaitong* and Pheeraphat Detthet หลกั สูตรเทคโนโลยสี ารสนเทศ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา พษิ ณุโลก ต.บา้ นกร่าง อ.เมือง จ.พษิ ณุโลก Department of Information Technology, Faculty of Science and Agricultural Technology, Rajamangala University of Technology Lanna Phitsanulok Campus, Bankrang Sub-district, Muang District, Phitsanulok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวจิ ยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือการพฒั นาแอปพลิเคชนั แนวทางการปฏิบตั ิตวั เพ่ือสุขภาพ กรณีศึกษา ศูนยอ์ นามยั ที่ 2 พิษณุโลก คณะผวู้ จิ ยั ออกแบบและพฒั นาแอปพลิเคชนั โดยใชภ้ าษา Java และ มี MySQL เป็ นระบบการจดั การฐานขอ้ มูล โดยแอปพลิเคชนั ที่พฒั นาข้ึนสามารถเพิ่ม ลบ คน้ หา แกไ้ ขและจดั เก็บ ขอ้ มูลผูด้ ูแลระบบ ขอ้ มูลผูใ้ ช้งาน ขอ้ มูลสื่อความรู้ ขอ้ มูลประเภทอาหาร ขอ้ มูลอาหาร ขอ้ มูลประเภท กิจกรรมการเผาผลาญ ขอ้ มูลกิจกรรมการเผาผลาญ ขอ้ มูลบนั ทึกการเปลี่ยนแปลงของผูใ้ ช้งาน ขอ้ มูล เกณฑก์ ารวดั ดชั นีมวลกาย ซ่ึงช่วยใหก้ ารจดั เกบ็ ขอ้ มูลเป็ นระเบียบและลดการสูญหายของขอ้ มูล สามารถ แสดงข้อมูลต่างๆได้ถูกตอ้ ง และสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ผลการประเมินความพึงพอใจของ ผใู้ ชง้ านแอปพลิเคชนั พบวา่ ผูใ้ ชง้ านมีความพึงพอใจในแอปพลิเคชนั แนวทางการปฏิบตั ิตวั เพ่ือสุขภาพ กรณีศึกษา ศูนยอ์ นามยั ท่ี 2 พิษณุโลก อยูใ่ นระดบั มาก เน่ืองจากระบบสามารถแสดงผลขอ้ มูลต่างๆได้ ถูกตอ้ งและปลอดภยั สามารถใชง้ านไดง้ ่าย ตรงตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ คาสาคัญ: การพฒั นา แอนดรอยดแ์ อปพลิเคชนั แนวทางการปฏิบตั ิตวั สุขภาพ 259

Tกhาeรกป1าร2ระtปhTชรRhมุะaeชกjaมุา1mรว2จชิ atดัhาnกงRgาาaaรนjlรaaปะmรดUะับanชnชivมุ gาeวตarชิlมิsaiาหtกyาUาวnoริทfiรvยะTeาดeลrับscยั ihชเtทynาคoตoโlมิ นfoหโgTลาyeยวNcีรทิ hาaยชtnาiมooลงnlัยคoaเลgทlyคCคโoรNน้ังnaทโftลe่ีi1oยr2enรี nาaชcleมCงoคnลfeคrรeงั้ nทc่ี e1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคลือ่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกจิ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขยี วเพือ่ การพัฒนาทย่ี ั่งยืน” “๙ ราชมงคลขบั เคล่อื นนวตั กรรม นาเศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสีเขยี วเพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ” ผลของอณุ หภูมใิ นการทาแห้งหวั เชื้อแบบสุญญากาศสาหรับการผลติ ก๊าซชีวภาพ Effect of Vacuum Drying Temperature on Starter Seed Sludge for Biogas Production นุชนาฏ ช่วยศรีนวล1,3 มณีรัตน์ เขม็ ขาว2 และ วชิ ยั ดารงโภคภณั ฑ์1,3* Nudchanad Choysrenuan1,3, Maneerat Khemkhao2 and Vichai Domrongpokkaphan1,3* 1ภาควชิ าเทคโนโลยอี ุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และส่ิงแวดลอ้ ม คณะวทิ ยาศาสตร์ประยกุ ต์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนือ จ.กรุงเทพมหานคร 2วทิ ยาลยั พลงั งานและส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งยง่ั ยนื รัตนโกสิน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสินทร์ จ.นครปฐม 3ศูนยว์ จิ ยั สารสนเทศจุลินทรียแ์ ละผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมของจุลินทรีย์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนือ จ.กรุงเทพมหานคร 1Department of Agro-Industrial, Food and Environmental Technology, King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, Bangkok, THAILAND 2Rattanakosin College for Sustainable Energy and Environment, Rajamangala University of Technology Rattanakosin, Nakhon Pathom, THAILAND 3Microbial Informatics and Industrial Product of Microbe Research Center, King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาผลของอุณหภูมิในการทาแห้งหวั เช้ือแบบสุญญากาศต่อการผลิต ก๊าซชีวภาพจากน้าทิ้งโรงงานสกดั น้ามนั ปาล์มดิบ หวั เช้ือเหลวถูกนาไปทาแห้งในตูอ้ บแบบสุญญากาศ ที่ อุณหภูมิ 60 และ 80 องศาเซลเซียส เป็ นเวลา 48 และ 96 ชวั่ โมง ภายใตค้ วามดนั 300 mbar จากน้นั บดหัวเช้ือ แห้งให้เป็ นผงก่อนใช้ในการทดลองผลของอุณหภูมิในการทาแห้งหัวเช้ือแบบสุญญากาศต่อการผลิตก๊าซ ชีวภาพ ทาการทดลองในขวดซีรั่มปริมาตร 120 มิลลิลิตร แต่ละขวดมีปริมาตรเท่ากับ 45 มิลลิลิตร ประกอบดว้ ยน้าทิ้งโรงงานสกดั น้ามนั ปาล์มดิบและหวั เช้ือแหง้ ในอตั ราส่วน 0.25 ของกรัมซีโอดี (COD) และ กรัมของแข็งแขวนลอยระเหย (VSS) ค่าpHเริ่มตน้ เท่ากบั 6.4 และใชห้ วั เช้ือเหลวเป็ นกลุ่มควบคุม บ่มแบบ เขยา่ ขวดซีรัมท่ีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ดว้ ยความเร็ว 120 รอบต่อนาที เมื่อเวลาในการหมกั แบบไร้อากาศ ผา่ นไป 20 วนั ผลการทดลองพบวา่ การใชก้ ารทาแหง้ แบบสุญญากาศ ท่ีอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส ใหม้ ีเทน สะสมสูงกว่าการทาแห้งที่ 60 องศาเซลเซียส (p < 0.05) การทาแห้งแบบสุญญากาศ ที่อุณหภูมิ 80 องศา เซลเซียส ปริมาตรมีเทนสะสมไม่แตกต่างกนั เมื่อใช้เวลาในการทาแห้ง 48 (38.85±3.28 มิลลิลิตร) และ 96 (41.61±2.49 มิลลิลิตร) ชว่ั โมง (p < 0.05) ผลการทดลองช้ีใหเ้ ห็นวา่ การทาแหง้ แบบสุญญากาศที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 48 ชว่ั โมง เป็นสภาวะท่ีเหมาะสมต่อการทาแหง้ หวั เช้ือ คาสาคญั : กา๊ ซชีวภาพ กากตะกอนหวั เช้ือเริ่มตน้ อุณหภูมิ การทาแหง้ แบบสุญญากาศ 260

“๙ รากTชาhมรeงปกค1ราล2ะรขTtปชhบัhรมุ Rเะeกคaชาjล1aุมรอื่ m2วจนtิชดัhaนางnRวกาgaตัานajรกalปรรamะรรดUะมaับชnnนชุมigvำ�าวaeเตศชิlrิมasราiษหกtUyาฐาnวกรoทิiรจิ vfะยeปTดาreลลับscูกัยiชthแเyาทnนตคooวมิโlfคนoหิดTโgาลเyeทวยcทิคNรี hโยาaนnชาtโioมลoลlงยัnยoคเีสagทลlีเyขคCคยีโNoรนวั้งanเโทพtลfieี่oื่อย1rกnีร2eาาanรชlcพมeCฒังoคนnลาfทeคีย่rรe่งั ง้ั ยnทนื c่ี ”e1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคลอ่ื นนวัตกรรม นาเศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสีเขียวเพอ่ื การพัฒนาทยี่ งั่ ยืน” การลดจานวนรอบในการพมิ พ์งานประเภทซิลโิ คนความหนาแน่นสูง The Method to Decrease Screen Print Pressing for High Density Silicon ณฐั วฒั น์ จตุพฒั นว์ โรดม1 กรณทั สุขสวสั ด์ิ1 ศตั วรี แซ่กือ1 จิตรลดา คาลีมา1 และ อคั รวฒั น์ จตุพฒั นว์ โรดม2* Natawat Jatuphatwarodom1, Kornnut Suksawat1, Sattawaree Saekue1, Jitlada Khamleema1 and Akarawat Jatuphatwarodom2* 1สาขาวชิ าส่ิงทอและเครื่องนุ่งห่ม คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 2สาขาวชิ าการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 1Department of Textile and Clothing, Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND 2Department of Marketing, Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ศึกษาปัจจยั ที่มีผลต่อการพิมพง์ านประเภทซิลิโคนความหนาแน่นสูง ในโรงงานผูผ้ ลิตเส้ือผา้ สาเร็จรูปที่มีข้นั ตอนการพิมพล์ าย เพ่ือวิเคราะห์แนวทางในการลดจานวนรอบ พิมพง์ านประเภทซิลิโคนความหนาแน่นสูงใหน้ อ้ ยลง โดยมีลาดบั ข้นั ตอนดงั น้ี 1. วิเคราะห์หาปัจจยั ท่ีมี ผลต่องานพิมพ์ 2. ทดสอบการลดจานวนรอบพมิ พ์ และ 3. เปรียบเทียบผลการทดสอบกบั ฐานขอ้ มูลงาน พมิ พเ์ ดิมและสรุปผล ผลการวจิ ยั พบวา่ การลดจานวนรอบในการพิมพง์ านประเภทซิลิโคนความหนาแน่น สูงที่ใชเ้ บอร์ผา้ สกรีนเบอร์ 100 และใช้ เคมี Silicone B ผสมเช้ือนูน 5% เนื่องจากเช้ือนูนจะมีคุณสมบตั ิ ทาให้สีพิมพน์ ูนข้ึน ทาให้สามารถลดจานวนรอบพิมพล์ งได้ 30% จากเดิมใช้จานวนการพิมพ์ 12 รอบ ลดลงเหลือ 8 รอบ แต่ยงั คงความหนาของงานพิมพอ์ ยใู่ นมาตรฐานของลูกคา้ NIKE คือ 450-600 ไมครอน เวลาในการผลิตลดลง 21% ทาใหย้ อดผลผลิตเพิ่มข้ึน 29% จากเดิมพิมพไ์ ด้ 136 ตวั ตอ่ วนั แต่เมื่อผสมเช้ือ นูน 5% ทาใหย้ อดผลผลิตเพิ่มข้ึน เป็น 176 ตวั ต่อวนั คาสาคัญ: การพมิ พส์ กรีน ซิลิโคนความหนาแน่นสูง ผา้ สกรีน 261

“๙ รากTชาhมรeปงกค1ราล2ะรTขชtปhhับมุรReเะกคaชาjล1aมุรือ่2mวจนtิชดัhaนางRnวกาagตัานajรกaปlรรamระระดUมaชบัnnนุมชigvำ�วาaeเตชิศlraิมsราiษหกtUyาาฐnวรกoiิทริจvfะยeปTดาreลับลscกูiัยชthแเyาทnนตคooวมิ โflคนoหดิTโgาลเeyวทยcทิคNีรhโยาaนnชาtโoiลมoลlยังnยoคเีสagทลlเีyขคCคยีโNoรนวaง้ัnเโทพtลfieี่oอื่ย1rกnีร2eาาanชรlcพมeCฒังoคนnลาfทeค่ยีrรe่งั ง้ั ยnทนื cี่ ”e1”2 “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวตั กรรม นาเศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยสี ีเขยี วเพื่อการพัฒนาที่ยงั่ ยืน” แนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกจากการเกษตรของประเทศไทย ด้วยวธิ ีการกาหนดเป้าหมายบนพืน้ ฐานทางวทิ ยาศาสตร์ (Science-based Target) Guidelines for Mitigation of Thai Agricultural GHG Emission Using Science-Based Target Method ณฐั พล ยง่ิ ศกั ดา*และ สุชีลา พลเรือง Nattapon Yingsakda* and Sucheela Polruang ภาควชิ าวศิ วกรรมส่ิงแวดลอ้ ม คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ กรุงเทพมหานคร Department of Environmental Engineering, Faculty of Engineering, Kasetsart University, Bangkok, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ จากการท่ีประเทศไทยได้เขา้ ร่วมลงนามข้อตกลงปารีส (Paris agreement) ในการลดก๊าซเรือน กระจก (Greenhouse gas หรือ GHG) เพื่อรักษาอุณหภูมิโลกไม่ใหเ้ พ่ิมข้ึนเกิน 2°C และ 1.5°C ตามลาดบั ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพ่ือให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ในงานวิจยั น้ีได้ ทาการศึกษาแนวทางการลด GHG จากภาคการเกษตรของประเทศไทย โดยเลือกพิจารณาพืชเศรษฐกิจที่ สาคญั ของประเทศไทย 3 ชนิด ได้แก่ มนั สาปะหลงั ปาล์มน้ามนั และยางพารา ด้วยวิธีการกาหนด เป้าหมายบนพ้ืนฐานทางวทิ ยาศาสตร์ (Science-based Target) โดยทาการคาดการณ์ผลผลิตในอนาคตเพ่ือ นามาทาการประเมิน GHG และกาหนดเป้าหมายการลด GHG บนพ้ืนฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ หลกั การ Absolute-based approach จากผลการประเมินพบวา่ การใชป้ ๋ ุยอินทรียส์ ามารถลด GHG ในส่วน ของการใชป้ ๋ ุยได้ 94% และการใชน้ ้ามนั ไบโอดีเซลสามารถลด GHG ในส่วนของการใชน้ ้ามนั เช้ือเพลิง ได้ 9% นอกจากน้ีหากลดการไถพรวนสามารถลด GHG โดยรวมไดส้ ูงสุด 20% ซ่ึงรวมท้งั 3 มาตรการ สามารถบรรลุเป้าหมายการรักษาอุณหภูมิของโลกไม่ใหเ้ พ่มิ ข้ึนเกิน 2°C ในปี พ.ศ. 2573 ไดส้ าเร็จ คาสาคัญ: ก๊าซเรือนกระจก พชื เศรษฐกิจไทย การกาหนดเป้าหมายบนพ้นื ฐานทางวทิ ยาศาสตร์ 262

กากราปรรปะรชะมุชกมุ าวรชิ จาดักางรารนะปดรับะชชามุตวิมชิหาากวิทารยราะลดัยับเทชคาโตนมิโลหยารี วาทิชยมางคลลัยเคทรคง้ั โทน่ี 1โล2ยีราชมงคล ครงั้ ที่ 12 The 12th TRhajeam12anthgRaalajaUmnaivnegrasiltay UofnTiveecrhsnitoyloogfyTNeacthionnoalloCgyonNfearteionnceal Conference” “๙ ราช“ม๙งครลาขชบั มเคงคลลื่อนขนบั วเคตั ลกื่อรรนมนนวำ�ัตเกศรรรษมฐกนิจาปเศลรูกษแฐนกวจิคิดปเทลคูกโแนนโลวยคีสดิ เี เขทยี ควโเนพโอื่ ลกยาสีรพีเขัฒยี นวาเพทย่ี่ือัง่กยาืนร”พัฒนาทีย่ ั่งยืน” การพฒั นาสตกิ เกอร์ไลน์แจ้งเบอร์ฉุกเฉิน Developing LINE stickers to inform emergency numbers สุวนนั ท์ โพธิคลงั โชติกา เเกว้ รุ้งเรือง ศิวพร สุนทโรทก จิตสุภา มาเสมอ* อมรพรรณ ฤทธ์ิตะเกตุ นาอีละ ยอี าลี มณั ฑนา วงษช์ ารี วพิ าภคั ณนั ขอ้ งนอก ณฐั ยา ศรีทะแกว้ และ นิยม มาชมพู Suwanan phothiklang, Chotika kaewrungruang, Sivaporn suntarothok, Jitsupha masamer*, Amornphan rittaket, Manthana wongcharee, NaIla yeeali, Wiphaphakan kongnok, Nuttaya sritakaew and Niyom machompoo คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี Faculty of Nursing Rajamangala University of Technology Thanyaburi *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ สถานการณ์การณ์ฉุกเฉินต่างๆท่ีไม่คาดคิดเกิดข้ึนไดใ้ นชีวิตประจาวนั การขอความช่วยเหลือและการติดต่อส่ือสาร ท่ีผิดพลาดล่าชา้ อาจทาใหเ้ กิดผลกระทบท้งั ต่อชีวิตและทรัพยส์ ิน การวิจยั คร้ังน้ีเป็นการวิจยั เชิงพฒั นา มีวตั ถุประสงค์เพื่อ พฒั นาสติกเกอร์ไลน์แจง้ เบอร์ฉุกเฉิน และศึกษาความพึงพอใจของผูใ้ ชท้ ี่มีต่อสติกเกอร์ไลน์แจง้ เบอร์ฉุกเฉิน ประชากรที่ ศึกษาไดแ้ ก่ นกั ศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ ช้นั ปี ที่ 2มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จานวน 62 คนทาศึกษาวิจยั ระหว่างเดือน พฤศจิกายน2564ถึงธันวาคม 2564ทาการสุ่มกลุ่มตวั อย่างแบบเฉพาะเจาะจง โดยคดั เลือกจากนกั ษาพยาบาล ศาสตร์ ช้นั ปี ที่ 2ที่กาลงั ศึกษาอยภู่ าคการศึกษาท่ี 2ปี การศึกษา2564ซ่ึงท้งั หมดยินยอมในการเขา้ ร่วมโครงการวิจยั เครื่องมือที่ ใชใ้ นการวิจยั ประกอบดว้ ย 1)ชุดสติกเกอร์ไลน์แจง้ เบอร์ฉุกเฉินท่ีนกั วิจยั พฒั นาข้ึน และ2)แบบสอบถามความพึงพอใจที่มี ต่อการพฒั นาสติกเกอร์ไลนเ์ เจง้ เบอร์ฉุกเฉินตรวจสอบความเท่ียงตรงของแบบสอบถามโดยผเู้ชี่ยวชาญ3ท่านค่าความเที่ยงตรง ของแบบสอบถาม(Indexofitemobjectivecongruence:IOC)เท่ากบั 0.8และนาไปtryoutกบั นกั ศึกษาพยาบาลศาสตร์ ช้นั ปี ที่ 1 จานวน30คนไดค้ ่าความเช่ือมน่ั โดยใชส้ มั ประสิทธ์ิของแอลฟาของครอนบาค (alpha-coefficient) เท่ากบั 0.97ผลการวจิ ยั พบวา่ รูปแบบสติกเกอร์ไลนแ์ จง้ เบอร์ฉุกเฉินท่ีพฒั นาข้ึนมีจานวนท้งั สิ้น24รูปแบบหลงั ทดลองใชพ้ บนกั ศึกษาพยาบาลศาสตร์ ช้นั ปี ท่ี 2มีความพึงพอใจต่อสติกเกอร์ไลนแ์ จง้ เบอร์ฉุกเฉินอยูใ่ นระดบั ดีมากที่สุดทุกดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นรูปลกั ษณ์ของสติกเกอร์ ไลน์ (x=̄ 4.64, SD=0.63)ความมีเอกลกั ษณ์ของสติกเกอร์ไลน์ (x=̄ 4.68, SD=0.55) ความง่ายต่อการสื่อดา้ นอารมณ์ความรู้สึก (x̄=4.69, SD=0.56)และการเพ่ิมประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร(x̄=4.68, SD=0.58)เช่นเดียวกบั ความพึงพอใจต่อสติกเกอร์ ไลนแ์ จง้ เบอร์ฉุกเฉินในภาพรวมมีคะแนนเฉล่ียอยู่ในระดบั ดีมากท่ีสุด(x̄=4.67, SD=0.58) สติกเกอร์ไลนแ์ จง้ เบอร์ฉุกเฉินของ นกั ศึกษาพยาบาลศาสตร์ที่พฒั นาข้ึนสามารถแสดงความรู้สึก อารมณ์ และสื่อสารไดเ้ขา้ ใจตรงกบั ความตอ้ งการ ดงั น้นั ควรมี การนาสติกเกอร์ไลน์แจง้ เบอร์ฉุกเฉินท่ีพฒั นาข้ึนไปใชจ้ ริง เพ่ือใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดต่อผูใ้ ชแ้ ละลดผลกระทบที่จะเกิดข้ึน เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ คาสาคัญ:สติกเกอร์ไลน์ เบอร์ฉุกเฉิน นกั ศึกษาพยาบาล 263

กTารhปeกร1ะาT2ชรtปhมุheรกRะาa1ชรj2aุมจtmวดัhิชงRaาาnaกนjgาaปaรmlรรaะะaชดUnุมับngวชaivชิlาeaตาrกิมsUiาหtnรyาiรวvoะทิeดfrยบัsTาiชetลycาัยhตเoทnมิ fคoหTโlานoeวโgcทิลyhยยnNรีาoาaลชltยั oiมoเgทงnyคคaลโNlนCaคโtoรลiัง้noยทfnรี e่ี าa1rชl2eมCnงcoคenลfeคrรeงั้ nทc่ี e1”2 “๙ ราชมงคลขับเคลอื่ นนวัตกรรม นำ�เศรษฐกิจ ปลูกแนวคดิ เทคโนโลยีสีเขยี วเพื่อการพฒั นาท่ยี ่ังยนื ” “๙ ราชมงคลขบั เคลอื่ นนวัตกรรม นาเศรษฐกิจ ปลูกแนวคิดเทคโนโลยสี เี ขยี วเพอ่ื การพฒั นาท่ียั่งยืน” การวจิ ัยและพฒั นาการใช้ประโยชน์จากของเหลือทิง้ ทางการเกษตร ; แกลบ และฟางข้าว Research And Development Of Value Added Products From Agricultural Waste; Husk And Straw From Rice สงั เวย เสวกวหิ ารี* และ ธนาพร บุญชู1 Sangwoei Sawekwiharee* and Thanaporn Boonchoo1 หมวดวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร Division of Science Faculty of Science and Technology Rajamangala University of Technology Phra Nakhon. *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การนาของเหลือทิ้งทางการเกษตรไดแ้ ก่ แกลบ และฟางขา้ วมาใชป้ ระโยชน์ โดยนาแกลบผลิตเป็น เช้ือเพลิงอดั แท่ง เพ่ือใชเ้ ป็ นพลงั งานเช้ือเพลิง แทนการใชเ้ ช้ือเพลิงจากฟื นและถ่านไมจ้ ากป่ าธรรมชาติ โดย มีกาวแป้งเปี ยกเป็ นตวั ประสาน ผา่ นกระบวนการอดั แท่งดว้ ยเครื่องอดั มือ ไดผ้ ลิตภณั ฑเ์ ป็ นแท่งเช้ือเพลิงสี ดา คงรูป ไม่แตกหกั ทดสอบประสิทธิภาพการเผาไหมข้ องเช้ือเพลิงอดั แท่งจากแกลบ มีอตั ราการเผาไหม้ เฉลี่ย 10.32 กรัมตอ่ นาที สามารถใชง้ านหุงตม้ ไดด้ ี ไมแ่ ตกปะทุ ติดไฟไดด้ ี มีควนั เลก็ นอ้ ย ไมม่ ีเขมา่ และไม่ มีกล่ินรบกวนขณะใช้งาน สาหรับการใช้ประโยชน์จากฟางขา้ ว สามารถนามาทาผลิตภัณฑ์กระถางปลูก ตน้ ไมแ้ บบตา่ งๆไดด้ ี โดยผสมกบั ปูนซีเมนตใ์ นอตั ราส่วน 1 : 2 โดยปริมาตรไดผ้ ลิตภณั ฑก์ ระถางปลูกตน้ ไม้ ขนาดเส้นผ่านศูนยก์ ลาง 12 นิ้ว 10.5 นิ้ว 8 นิ้ว 4.5 นิ้ว และ 2.5 นิ้ว ปลูกตน้ ไมช้ นิดต่างๆ ท้งั แบบไมใ้ นร่ม และไมก้ ลางแจง้ ผลิตภณั ฑ์กระถางปลูกตน้ ไมท้ ุกขนาด มีความคงทน ไม่แตกหัก ไม่มีน้ารั่วซึม ตน้ ไม้ เจริญเติบโตดี ผลิตภณั ฑก์ ระถางปลูกตน้ ไมจ้ ากฟางขา้ ว จึงเป็นผลิตภณั ฑท์ ่ีนาของเหลือทิ้งทางการเกษตรมา ใชป้ ระโยชน์ และเพ่ิมมูลค่า ช่วยลดปัญหาหมอกควนั จากการเผาฟางขา้ ว และช่วยลดปัญหามลพิษฝ่ ุน PM 2.5 ดว้ ยการปลูกตน้ ไม้ เพ่ิมพ้ืนท่ีสีเขียวให้ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม และยงั ช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้ อีกทางหน่ึงดว้ ย คาสาคัญ: เช้ือเพลิงอดั แทง่ กระถางปลูกตน้ ไม้ ของเหลือทิง้ แกลบและฟางขา้ ว 264

การปกราะรชปมุ รกะชารมุ จวดัชิ งาากนารปรระะดชับมุ ชวาชิ ตามิ กหาารวริทะดยาบั ลชัยาเตทมิคหโนาโวลทิ ยยีราลชัยมเงทคคลโนครโลง้ั ทยีร่ 1า2ชมงคล ครัง้ ท่ี 12 The 12TthhRea1ja2mthaRnagjaalma aUnngivaelarsUityniovferTseitcyhnoof lToegcyhNnaotlioongyalNCaotniofneraelnCcoenference” “๙ ร“าช๙มรงาคชลมขงบั คเคลลข่ือบั นเคนลวือ่ตั นกรนรวมตั กนรำ�รเศมรษนฐากเศจิ รษปลฐกูกแิจนปวลคูกิดแเทนควโคนดิ โลเทยคสี โเี ขนียโลวยเพีสื่อีเขกียารวพเพฒั ื่อนกาาทร่ยีพง่ั ฒั ยืนน”าทยี่ งั่ ยืน” การหาปริมาณทีเ่ หมาะสมของไข่น้าเพื่อใช้เป็ นส่วนผสมในการทาเส้นบะหมโี่ ฮมเมด Optimization of Watermeal juice concentration for use as an ingredients to make homemade egg noodles จุฑาทิพย์ มวยดี ณฐพร จาปาแพง นิสา ร่วมส้มซ่า ชมภูนุช ฆอ้ งลา และ ธิดารัตน์ บารุงภกั ดี* Chutatip Muaidee, Nataphon Jampapang, Nisa Romsomsa, Chompoonuch Khongla and Thidarat Bumrungpakdee* สาขาชีววทิ ยาประยกุ ต์ คณะวทิ ยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน ตาบลในเมือง อาเภอเมือง จงั หวดั นครราชสีมา 30000 Department of Applied Biology, Faculty of Sciences and Liberal Arts, Rajamangala University of Technology Isan, Nai-muang, muang, Nakhon Ratchasima Province 30000, Thailand *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาปริมาณท่ีเหมาะสมของไข่น้า ในการทาเส้นบะหมี่โฮมเมดเสริม โปรตีนจากไข่น้า ซ่ึงแบ่งออกเป็ น 5 สูตร ท่ีมีการแปรผนั ไข่น้าในปริมาณท่ีแตกต่างกนั ไดแ้ ก่ 5, 10, 15, 20 และ 34 กรัม ต่อส่วนผสมท้งั หมด 177 กรัม (คิดเป็ นร้อยละ 3, 6, 8, 11 19 ตามลาดบั ) เปรียบเทียบกบั สูตร ควบคุม ซ่ึ งไม่มีไข่น้ าเป็ นส่ วนผสมในเส้นบะหม่ี ในการทดสอบทางประสาทสัมผัส ด้วยวิธี 9-point Hedonic Scale พบวา่ บะหม่ีเสริมไข่น้าสูตรท่ี 4 (เติมไข่น้าร้อยละ 11) ไดร้ ับการยอมรับสูงสุดจากผู้ ทดสอบจานวน 30 คน (คะแนนความชอบโดยรวมสูงสุด 7.17±1.02)โดยผลิตภณั ฑ์เส้นบะหมี่เสริมไข่น้า สูตรท่ี 4 มีปริมาณโปรตีนร้อยละ 10.92±0.19 สารประกอบฟี นอลิกรวมเท่ากบั 1.50±0.03 mg Gallic acid Eq./g sample และความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ความสามารถในการจับโลหะ เท่ากับ 0.38±0.04 mg EDTA Eq./g sample ค่าการรีดิวซ์เหล็กเฟอริก และความสามารถในการตา้ นอนุมูลอิสระ ABTS เท่ากบั 0.68±0.03 และ 1.57±0.07 mg Trolox Eq./g sample ตามลาดบั ซ่ึงสูงกวา่ บะหม่ีสูตรควบคุมที่ ไม่มีการเติมไข่น้า (p<0.05) จากผลการทดลองดงั กล่าวแสดงให้เห็นว่าการเสริมไข่น้าในผลิตภณั ฑ์เส้น บะหมี่ สามารถช่วยเพ่ิมคุณค่าทางโภชนาการของอาหารให้สูงข้ึนได้ และจากการศึกษาในคร้ังน้ี ยงั เป็ น แนวทางในการพฒั นาและประยกุ ตใ์ ชไ้ ขน่ ้าทอ้ งถ่ินเพ่อื นาไปเป็นส่วนผสมในอาหารสุขภาพอื่นๆ ต่อไป คาสาคญั : เส้นบะหมี่โฮมเมด ไขน่ ้า ปริมาณโปรตีน การตา้ นอนุมูลอิสระ 265

การปกระารชปมุ รกะาชรุมจวดั ิชงากนาปรระชดุมบั วชชิาตากมิ าหรารวะทิ ดยับาชลาัยตเทมิ คหโานวโทิลยีราาลชัยมเทงคคลโนคโรลั้งยทรี ่ี า1ช2มงคล ครง้ั ที่ 12 The 12Tthh eRa1j2amth RanagjaamlaaUnngaivlearsUitnyivoefrsTietychonfoTloegcyhnNoaltoiognyaNl CatoionfnearleCncoenference” “๙ ร“า๙ชมรงาคชลมขงบัคเลคขลบั ื่อเนคนลวื่อตั นกนรวรัตมกนรำ�รเมศรนษาฐเศกิจรษปฐลกกู จิ แนปวลคูกิดแเนทวคคโนดิ โเลทยคีสโนเี ขโยีลวยเสีพีเ่อืขกียาวรเพพัฒ่ือกนาารทพย่ี ฒัง่ั ยนืนา”ทีย่ ัง่ ยนื ” การผลติ แก๊สชีวภาพจากฟางข้าวที่ปรับสภาพด้วยสารเร่ง พด.1 Biogas production from LDD1 pretreated rice straw เกศรินทร์ เดวเิ ลาะ ณฐั ริกา ตานี ปรีดีชนนี เปรมปรี และ นรพร กลน่ั ประชา* Katarina Dewiloh, Nattharika Tani, Predeechonanee Prempreeand Naraporn Glanpracha* ภาควชิ าเคมี คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี 12110 Department of Chemistry, Faculty of Science and Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani 12110, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การผลิตแก๊สชีวภาพจากฟางขา้ วเป็ นการเพ่ิมมูลค่าวสั ดุเหลือทิ้ง ลดปัญหาฝ่ นุ ละอองขนาดเล็กและ การปล่อยแก๊สเรือนกระจกสู่บรรยากาศจากการเผาฟางขา้ วในแปลงนา อย่างไรก็ตาม เซลลูโลส เฮมิ เซลลูโลสในฟางขา้ วเป็ นขอ้ จากดั ในการผลิตแก๊สชีวภาพ จึงตอ้ งมีการปรับสภาพเพ่ือทาลายโครงสร้างท่ี แข็งแรงของเซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส การประยุกตใ์ ชส้ ารเร่ง พด.1 ซ่ึงเป็ นกลุ่มจุลินทรียท์ ่ีมีประสิทธิภาพสูง ในการยอ่ ยสลายวสั ดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเป็ นการปรับสภาพทางชีวภาพที่มีตน้ ทุนต่า และข้นั ตอนไม่ ซบั ซ้อน ดงั น้นั งานวิจยั น้ีจึงมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาประสิทธิภาพการผลิตแก๊สชีวภาพจากฟางขา้ วท่ีปรับ สภาพดว้ ยสารเร่ง พด.1 ดว้ ยการหมกั แบบกะ 45 วนั ผลการศึกษาพบวา่ การปรับสภาพดว้ ยอตั ราส่วนฟาง ขา้ วต่อสารเร่งพด.1 ท่ี 1%(w/w) เวลา 24 วนั เกิดการยอ่ ยสลายฟางขา้ วไดด้ ีให้ปริมาณน้าตาลรีดิวซ์และค่าซี โอดีท่ีละลายน้า(SCOD)สูงสุดและมีค่าเพ่ิมข้ึน 3 เท่า เม่ือเปรียบเทียบกบั ฟางขา้ วที่ไม่ปรับสภาพ ผลผลิต ร้อยละของแก๊สชีวภาพจากฟางขา้ วที่ปรับสภาพ มีค่าเฉล่ียเท่ากบั 254.3 cm3/gVSaddedซ่ึงมีค่าเพ่ิมข้ึน 27 % เมื่อเปรียบเทียบกบั ฟางขา้ วท่ีไม่ปรับสภาพ นอกจากน้ีพบว่า จุลินทรียใ์ นระบบสามารถใชส้ ารอินทรียท์ ี่ ละลายน้าในฟางขา้ วที่ปรับสภาพไดท้ นั ทีและมีแก๊สชีวภาพเกิดข้ึนในวนั แรกของการหมกั ขณะท่ีฟางขา้ วที่ ไม่ปรับสภาพระบบเริ่มผลิตแก๊สชีวภาพไดใ้ นวนั ที่ 4 ของการหมกั จากผลการทดลองแสดงให้เห็นวา่ การ ปรับสภาพฟางขา้ วดว้ ยสารเร่ง พด. 1 สามารถเพ่ิมประสิทธิภาพการย่อยสลายและเพ่ิมร้อยละผลผลิตของ แกส๊ ชีวภาพจากฟางขา้ วได้ คาสาคญั : การผลิตแก๊สชีวภาพ ฟางขา้ ว การปรับสภาพ สารเร่ง พด.1 266

การปกราะรชปมุ รกะชารมุ จวดัชิ งาากนาปรรระะดชับมุ ชวาชิ ตาิมกหาารวรทิะดยาบั ลชัยาเตทมิคหโนาโวลทิ ยยีราลชยัมเงทคคลโคนรโล้งั ทย่ีร1า2ชมงคล คร้งั ที่ 12 The 12TthhRea1ja2mthaRnagjaalma aUnngivaelarsUityniovferTseitcyhnoof lToegychNnaotiloongyalNCaotniofenraelnCcoenference” “๙ ร“า๙ชมรงาคชลมขงบั คเคลลขอ่ืบั นเคนลวือ่ัตนกรนรวมตั กนรำ�รเศมรษนฐากเศิจรษปลฐกูกแจิ นปวลคกูดิ แเทนควโคนิดโลเทยคสี โีเขนยี โลวเยพีสอื่ ีเขกาียรวพเพัฒ่อื นกาาทร่ียพั่งัฒยนื น”าที่ยั่งยืน” การพฒั นากรวดตกแต่งสวนจากขยะในกระบวนการงานดูแลรักษาภูมิทัศน์ The Development of Gravel Garden from Waste Processing in Landscape Maintenance (เวน้ 1 บรรทดั ) บุญญาพร บุญศรี* อรัญญา ภู่รอด พงศกร สุขแสงแกว้ และ จิตรวดี สอนธรรม Bunyaporn Bunsri, Aranya Purod, Pongsakorn Suksangkaew and Jitwadee Sontham สาขาเทคโนโลยภี ูมิทศั น์ คณะเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี Department of Landscape Technology, Faculty of Agricultural Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] (เวน้ 1 บรรทดั ) บทคดั ย่อ การพฒั นากรวดตกแต่งสวนจากขยะในกระบวนการงานดูแลรักษาภูมิทศั น์มีวตั ถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาหาวธิ ีการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะที่เกิดจากกระบวนการงานดูแลภูมิทศั น์ 2) เพ่ือศึกษาพฤติกรรม ของผูบ้ ริโภคท่ีมีต่อกรวดตกแต่งสวน 3) เพื่อพฒั นากรวดตกแต่งสวนที่จากขยะ จากกระบวนการงานดูแล รักษาภูมิทศั น์ โดยดาเนินการทดลอง ทาการสารวจขยะเกิดจากกระบวนการงานดูแลภูมิทศั น์ ซ่ึงสามารถ แยกขยะออกเป็น 3 ประเภท คือเศษพลาสติกจากกระถางและถุงปลูก เศษก่ิงไม้ และเศษใบไม้ โดยขยะแตล่ ะ ประเภทมาทาการข้ึนรูปดงั น้ี เศษพลาสติกจากกระถางและถุงปลูกทาการบดยอ่ ย หลอมละลาย เศษก่ิงไม้ บดยอ่ ยผสมตวั ประสานซีเมนต์ เศษใบไมบ้ ดยอ่ ยอดั แน่นผสมตวั ประสานซีเมนต์ เม่ือข้ึนรูปทาการวเิ คราะห์ ลกั ษณะทางกายภาพหลงั การข้ึนรูป ความหนาแน่น การทดสอบการดูดซึมของน้า และประเมินความพึง พอใจของกลุ่มผใู้ ช้ คือกลุ่มผรู้ ับเหมา และผใู้ ชก้ รวดตกแต่งสวน โดยมีค่าเฉล่ียและคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานใน การวดั พบวา่ กรวดตกแต่งสวนจากขยะสูตร(L) เศษใบไมม้ ีระดบั ความพึงพอใจมากท่ีสุด (X̅ =4.65, S.D. =0.48) สูตร (P) พลาสติกมีระดบั ความพึงพอใจมากที่สุด (X̅ = 4.53 , S.D. =0.47 ) และ สูตร(W) เศษกิ่งไม้ มีระดบั ความพึงพอใจปานกลาง (X̅ =3.25, S.D. =0.44 ) ตามลาดบั ซ่ึงพบวา่ มีพึงพอใจของดา้ นประโยชน์ใช้ สอย ความสะดวกในการเคล่ือนยา้ ยและนาไปทาการจดั สร้าง ดว้ ยน้าหนกั ท่ีเบา และดา้ นความสวยงามเป็น เอกลกั ษณ์ โดยกรวดตกแต่งสวน สูตร( P)พลาสติก มีของความแข็งแรง การดูดซึมน้านอ้ ย แต่ผวิ รูพรุนไม่ เรียบเนียน กรวดตกแต่งสวนสูตร(W) เศษไม้ มีผิวขรุขระ เน้ือหยาบ มีการดูดซึมน้าค่อนขา้ งมาก กรวด ตกแต่งสวนสูตร (L) เศษใบไม้ ใกลเ้ คียงกบั กรวดตกแต่งสวนจากธรรมชาติ น้าหนกั เบา มีการดูดซึมน้านอ้ ย ผวิ มีหลุดล่อนบางจุด คาสาคญั : งานดูแลรักษาภูมิทศั น์ กรวดตกแต่งสวน ขยะ 267

การปรกะาชรปมุ รกะาชรุมจวดั ชิ งาากนาปรรระะชดุมับวชชิาตากิมาหรารวะิทดยบั าชลาัยตเทมิ คหโานวโทลิ ยยีราาลชัยมเทงคคลโนคโรลง้ั ยทรี ่ี า1ช2มงคล ครงั้ ที่ 12 The 1T2thheRa1j2atmh RanajgaamlaaUnngaivlearsUitnyivoefrsTietychonfoTloegcyhNnoatloiognyalNCaotinofnearlenCcoenference” “๙ ร“า๙ชมรงาคชลมขงับคเลคขลบั ือ่ เนคนลวื่อตั นกนรวรตัมกนรำ�รเมศรนษาฐเกศิจรษปฐลกกู จิ แนปวลคูกิดแเนทวคคโนดิ โเลทยคสี โเีนขโียลวยเีสพเีอ่ื ขกยี าวรเพพฒั อ่ื นกาารทพีย่ ัง่ัฒยนนื า”ทีย่ ัง่ ยนื ” แผ่นฟิ ล์มต้านเชื้อแบคทีเรียจากลกิ นินผสมพอลเิ มอร์ชีวภาพ Antibacterial Film From Lignin-Biopolymer Blend กมลกรณ์ ศรีภกั ด์ิ และ นพวรรณ ปาระดี* Kamonkorn Sripak and Nophawan Paradee* ภาควชิ าเคมี คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบุรี จ.กรุงเทพมหานคร Department of Science, Faculty of Chemistry, King Mongkut’s University of Technology Thonburi, Bangkok, 10140, THAILAND *Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ ในปัจจุบนั พลาสติกฟิ ลม์ สาหรับบรรจุภณั ฑ์อาหารไดร้ ับความนิยม อย่างไรก็ตามพลาสติกดงั กล่าว ยอ่ ยสลายยากและทาให้เกิดปัญหาดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ดงั น้นั งานวิจยั น้ีจึงมีวตั ถุประสงค์เพ่ือพฒั นาแผน่ ฟิ ลม์ ยอ่ ยสลายง่ายจากพอลิเมอร์ชีวภาพชนิดคาราจีแนนผสมลิกนินสาหรับใชเ้ ป็ นฟิ ลม์ ในบรรจุภณั ฑ์อาหารท่ีมี ฤทธ์ิในการยบั ย้งั เช้ือแบคทีเรีย โดยแผน่ ฟิ ลม์ คาราจีแนนผสมลิกนินมีลกั ษณะเป็ นสีน้าตาล มีความยดื และมี ฤทธ์ิยบั ย้งั การเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิด Bacillus cerous ได้ ท้งั น้ีข้ึนอยู่กบั อตั ราส่วนระหว่างคารา จีแนนและลิกนิน คาสาคัญ: พอลิเมอร์ชีวภาพ ลิกนิน ฟิ ลม์ มีฤทธ์ิแอนต้ีแบคทีเรีย 268


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook