129 ๕. ครตู ิดบตั รคำทใี่ ช้สระเสียงเดียวกันบนกระดาน ใหน้ ักเรียนจบั คคู่ ำคล้องจองพร้อมโยงเส้นสมั ผสั ดงั น้ี ตัวอยา่ ง หมาไทย ใจดี งามตา ใบยอ โลเล พายุ เป่าปี่ กอไผ่ เทวา ที่นา ให้นกั เรียนอ่านคำท้ัง ๘ คำ คนไหนคิดว่าคำใดเป็นคำคลอ้ งจองให้ยกมอื ออกมาเขยี นบนกระดาน พร้อมโยงเส้นสัมผัส ครูนักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้องของคำ และการโยงเสน้ สัมผสั ดังน้ี งามตา พายุ ใบยอ กอไผ่ โลเล เทวา เป่าปี่ ทนี่ า ๖. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรปุ ไดว้ า่ คำคล้องจองทม่ี สี ระเหมอื นกนั จะเปน็ สระเสยี งสนั้ หรอื เสียงยาว ก็ได้ ๗. ให้นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ ๔ คน แตง่ คำคลอ้ งจองสองพยางค์ท่ีมเี สียงสระเหมอื นกันกลุ่มละ ๘ คำ (๔ ค)ู่ โดยทเี่ สียงสระแต่ละกลุ่มต้องไมซ่ ้ำกัน ครแู จกกระดาษ A4 ให้แต่ละกล่มุ เขียนบนกระดาษ เม่ือแตง่ เสรจ็ นำเสนอทลี ะกลมุ่ และติดบนกระดาน ครูและเพือ่ น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคำและสมั ผัส อ่านคำคล้องจองพรอ้ มกนั โดยใหผ้ ูแ้ ทนแตล่ ะกลุม่ อา่ นนำ เพื่อนอ่านตามจนครบทุกกลุ่ม ๘. ใหน้ กั เรยี นเตมิ คำให้คลอ้ งจองกัน ๑) มะระ ๒) งามตา ๓) เตาไฟ ๔) หัวเราะ ๕) สสี ัน ๖) ตาดี ๗) พอ่ แม่ ๘) ดใี จ ๙) ปรดี า ๑๐) สีสวย สอ่ื การเรียนรู้ ๑. บัตรคำ ๒. กระดาษ A๔
130 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ ๓) ตรวจผลงานของนักเรียน ๒. เครือ่ งมอื ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์การประเมนิ ๑) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คะแนน ๙ – ๑๐ ระดบั ดมี าก คะแนน ๗ – ๘ ระดบั ดี คะแนน ๕ – ๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐ – ๔ ระดับ ควรปรับปรุง
131 แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 17 เรอ่ื งคำคลอ้ งจองและคำขวัญ แผนการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรือ่ งคำคลอ้ งจองท่ีมีตัวสะกดในมาตราเดยี วกันและเสียงสระเหมอื นกัน เวลา 1 ช่ัวโมง สอนวันท่ี 23 เดือนธนั วาคม พ.ศ.2565 ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ อง ชาติ ตวั ช้ีวดั ท ๔.๑ ป. ๓/๕ แต่งคำคลอ้ งจองและคำขวัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกความหมายและลักษณะของคำคล้องจองที่มตี วั สะกดอยูใ่ นมาตราเดียวกนั และใช้เสียง สระเหมอื นกัน (K) ๒. แตง่ คำคล้องจองท่มี ตี วั สะกดในมาตราเดยี วกันและใช้เสยี งสระเหมอื นกนั (P) ๓. เหน็ ความสำคัญของคำคล้องจอง (A) สาระสำคัญ คำคล้องจอง เปน็ คำทม่ี ีตัวสะกดอยใู่ นมาตราเดยี วกนั และใชเ้ สียงสระเหมือนกัน สาระการเรียนรู้ ลักษณะของคำคล้องจองท่มี ตี ัวสะกดอยู่ในมาตราเดยี วกันและใช้เสยี งสระเหมือนกนั สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ๘๘.ความสามารถในการสือ่ สาร - ทักษะการอา่ น - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟงั การดู และการพดู ๘๙.ความสามารถในการคดิ - การใหเ้ หตผุ ล
132 - การจำแนก - การสรุปความรู้ ๙๐.ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๙๑.ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตัวชี้วัดท่ี ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๑. กิจกรรมจับคู่คำคล้องจองทม่ี ีตัวสะกดอยู่ในมาตราเดียวกนั และใช้เสียงสระเหมือนกนั ๒. ผลงานการเตมิ คำคลอ้ งจอง คำถามทา้ ทาย คำคล้องจอง มีความสำคญั อย่างไร การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑.ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดงั นี้ ๏ คำคล้องจอง มีความสำคญั อยา่ งไร ๒. ครใู หน้ ักเรยี นเลน่ เกมภาษาสนุก โดยครูบอกวธิ เี ล่นเกมวา่ เราบูรณาการกบั วิชา ภาษาอังกฤษ ใช้คำศัพทภ์ าษาองั กฤษที่นกั เรยี นรใู้ นชวี ติ ประจำวันและรอบตัวนกั เรียนโดยพดู ให้ คลอ้ งจองกบั ภาษาไทย ครูเขยี นบนกระดาน ดังนี้ go ไป ไก่ hen เหน็ see he เขาผชู้ าย eye ตา ขา leg egg ไข่ ใส่ put foot เทา้ เก้า nine ครใู ห้นักเรียนออกเสยี งพร้อมกัน พรอ้ มปรบมือเป็นจังหวะ ส่มุ นักเรียน ๑๐ คน ออกมายืนเปน็ วงกลม หนา้ ชน้ั เรยี น พูดคำศัพทแ์ ละคำแปลคนละ ๑ คำครูสุ่มนักเรยี นออกมาจนครบนักเรยี นทุกคน ถา้ มนี ักเรียน น้อยอาจจะส่มุ ครั้งละ ๕ คนก็ได้ ขณะนักเรยี นพดู ครูคอยสังเกตการออกเสยี งให้ออกเสยี งภาษาองั กฤษให้ ถูกต้อง เล่นกจิ กรรมจนนกั เรียนคลอ่ ง ๓. ให้นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่ือง คำคลอ้ งจอง โดยอา่ นในใจ ๑ เท่ยี ว และอ่านออกเสียงพร้อมกัน ๔.ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่มเป็น ๔ กลมุ่ ครูแจกกระดาษ กลุ่มละ ๑ แผ่น ให้กล่มุ เติมคำคล้องจองท่มี ี ตวั สะกดอยู่ในมาตราเดียวกัน และใช้เสียงสระเหมือนกนั จากคำที่ครกู ำหนดให้บนกระดาน ดังนี้ จัดสรร ขานก แม่นยำ วนั พุธ กางแขน ตวั อยา่ งคำตอบ (หรรษา) (พกแว่น) (ขำขัน) (สดุ ทาง) ( แสนดี)
133 แต่ละกลมุ่ นำเสนอโดยติดคำคลอ้ งจองบนกระดานอ่านให้เพื่อนฟงั เพ่ือน ๆ อ่านพร้อมกัน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของคำคล้องจองที่กล่มุ คิด ชวนสนทนาถงึ คำทน่ี กั เรยี นเติม ดังนี้ ๐ คำทกี่ ลุ่มเตมิ เปน็ คำคล้องจองอยา่ งไร (ตัวสะกดอยใู่ นมาตราเดียวกนั และใช้เสียงสระ เหมอื นกนั ) ๐ เป็นคำคล้องจองก่ีพยางค์ (๒ พยางค์) ๕. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปได้ว่า คำคล้องจองทีม่ ตี วั สะกดอยูใ่ นมาตราเดียวกนั และใช้เสียงสระ เหมอื นกัน จะแตง่ เปน็ ก่ีพยางค์ก็ได้ ๖. ใหน้ ักเรยี นจบั คคู่ ำคล้องจองที่มีตัวสะกดอย่ใู นมาตราเดียวกันและใชเ้ สยี งสระเหมอื นกนั มกี รด เชงิ ผา ดนิ สอ สงั หรณ์ เร่งเรยี น หนา้ ไม้ พระเพลงิ ขาแขง้ สซี อ หน้าตา หมืน่ ปี แรงฤทธ์ิ วนั คนื หมดสน้ิ ดนิ้ รน คนเกง่ กอ้ นหิน เขียนอ่าน ๗. ใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมเสรมิ ทักษะการเรียนรู้ โดยโยงเส้นคำท่คี ล้องจองกนั แลว้ รว่ มกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง สอ่ื การเรียนรู้ ๑. เกมภาษาสนกุ ๒. กระดาษ ๓. บตั รคำ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ ๒. เคร่อื งมือ ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์การประเมนิ ๑) การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
134 ผ่านตั้งแต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น ๒) การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ คะแนน ๙ - ๑๐ ระดบั ดมี าก คะแนน ๗ - ๘ ระดบั ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรยี นรู้ 135 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรู้ที่ 17 เรอื่ งคำคล้องจองและคำขวัญ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 แผนการเรียนรู้ที่ 3 เร่ืองคำคล้องจองเขียนเปน็ สุภาษติ สอนวนั ที่ 26 เดือนธนั วาคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา มาตรฐาน ท ๔.๑ และพลังของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของ ชาติ ตัวช้ีวดั ท ๔.๑ ป. ๓/๕ แตง่ คำคล้องจองและคำขวญั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายลกั ษณะของคำคล้องจองท่ีเปน็ สุภาษติ (K) ๒. รวบรวมคำคล้องจองทีเ่ ปน็ สุภาษิต (P) ๓. เห็นคณุ ค่าของการนำสุภาษิตท่ีเป็นคำคล้องจองมาเป็นคตสิ อนใจ (A) สาระสำคัญ คำคล้องจองสามารถเขียนเป็นสุภาษิต ทำให้จดจำได้ง่ายและใช้เป็นคตสิ อนใจ สาระการเรียนรู้ ลกั ษณะของสภุ าษิตทเ่ี ขยี นเป็นคำคล้องจอง สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๙๒.ความสามารถในการส่อื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟงั การดู และการพูด ๙๓.ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การจัดระบบความคดิ เปน็ แผนภาพ
136 - การจำแนก - การสรุปความรู้ ๙๔.ความสามารถในการแก้ปญั หา ๙๕.ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ช้วี ดั ที่ ๔.๑ ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ รกั ความเป็นไทย ตวั ชี้วดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๑. ผลงานการรวบรวมสถุ าษิตท่ีเปน็ คำคลอ้ งจอง พรอ้ มท้งั เขียนความหมาย ๒. ผลงานการเรยี งคำคลอ้ งจอง คำถามท้าทาย คำคลอ้ งจองมีประโยชน์อย่างไรบา้ ง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑.ครูตดิ แผนภมู บิ นกระดาน ดังน้ี แพะตาดี แพะตาดี มาลงเรือ มวี ิชา โมโหหวิ มาลงเรอื ทวิ เขาสงู เสือตวั โต หาเจา้ แกะ โมโหหิว จูงลิงมา ทิวเขาสูง มีวชิ า จูงลิงมา เสอื ตวั โต หาเจ้าแกะ ใหน้ กั เรียนอาสาสมัครนำคำในช่องซา้ ยมือมาเรียงใหม่ในช่องขวามือให้คลอ้ งจองกนั นักเรียนอา่ นพรอ้ มกนั ครูตรวจสอบความถูกต้องของคำคล้องจอง ชวนสนทนาถงึ คำทีน่ ักเรยี นเตมิ ดงั นี้
137 ๐ ทำไมจึงเรยี กคำทนี่ ักเรียนนำมาเรียงใหมว่ า่ คำคล้องจอง (เป็นคำทมี่ ีเสยี งสระเหมือนกนั และมี ตวั สะกดในมาตราเดียวกนั ) ๐ เป็นคำคล้องจองก่ีพยางค์ ( ๓ พยางค์) ๒. ครูนำบตั รคำ ๖ ใบมาติดหรอื เขียนบนกระดาน ดังนี้ ส้ เอา หนกั ไม่ เบา ไม่ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั นำมาเรียงใหม่ให้ถูกต้อง จะได้ “ หนักไม่เอาเบาไมส่ ู้” จากน้ันให้นกั เรียนลอง อธิบายตามความเขา้ ใจของนักเรียน โดยครูช่วยเพิ่มเตมิ หนกั ไม่เอาเบาไมส่ ู้ หมายถึง คนไม่มีความอดทนทจ่ี ะ ทำงาน ๓. ครอู ธบิ ายว่า หนักไมเ่ อาเบาไม่สู้ เปน็ สภุ าษติ ที่เขยี นเปน็ คำคล้องจองเพื่อใชส้ อนใจ ทำใหจ้ ดจำ สภุ าษติ ได้งา่ ย นอกจากนัน้ ยังแสดงให้เหน็ ความสามารถในการใช้ภาษาของคนไทยสมัยก่อน สภุ าษติ หมายถึง ข้อความสั้น ๆ แต่กนิ ความลกึ ซึ้ง มีความหมายเปน็ คตสิ อนใจ ๔. ครตู ิดแถบประโยคหรือเขียนบนกระดาน ดังน้ี ๐ ความร้ทู ว่ มหวั (เอาตวั ไมร่ อด) ๐ นำ้ พึ่งเรอื (เสอื พึง่ ป่า) ๐ ตกน้ำไม่ไหล (ตกไฟไม่ไหม้) ๐ กนิ บนเรอื น (ขบี้ นหลังคา) ๐ ขา้ งนอกสกุ ใส (ขา้ งในเป็นโพรง) นักเรยี นช่วยกันบอกคำสภุ าษิตและขออาสาสมคั รออกมาเขียน ครอู ธิบายความหมายของสภุ าษิต ให้ นกั เรยี นอา่ นพร้อมกนั ๕. ให้นกั เรยี นรวบรวมสภุ าษติ ที่เป็นคำคล้องจอง พร้อมทง้ั เขยี นความหมาย โดยค้นคว้าจากห้องสมุด ๖. ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ คำคลอ้ งจองมปี ระโยชน์อยา่ งไรบา้ ง ๗. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปอีกครั้งว่า คำคล้องจองสามารถเขียนเปน็ สภุ าษติ ทำใหจ้ ดจำได้ง่ายและ ใชเ้ ปน็ คตสิ อนใจ สอ่ื การเรียนรู้ ๑. แผนภูมิ ๒. บตั รคำ ๓. แถบประโยค
138 การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๑. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒) ตรวจผลงานของนักเรียน ๒. เครอื่ งมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ 139 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 17 เรอ่ื งคำคล้องจองและคำขวัญ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 แผนการเรยี นรูท้ ี่ 4 เร่อื งมาสนกุ กับคำขวญั สอนวนั ที่ 27 เดือนธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ อง ชาติ ตวั ชี้วดั ท ๔.๑ ป. ๓/๕ แต่งคำคล้องจองและคำขวญั จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. ยกตวั อยา่ งคำขวญั ที่ใชใ้ นเหตุการณ์ปัจจบุ นั (K) ๒. รวบรวมคำขวัญท่ีใช้ในเหตกุ ารณ์ปจั จุบนั (P) ๓. เหน็ ความสำคัญในการนำคำขวัญมาใช้ในเหตุการณ์ปัจจุบนั (A) สาระสำคญั คำขวญั ต้องมคี ำคล้องจองเพื่อใหเ้ กิดความไพเราะและง่ายต่อการจดจำ สาระการเรยี นรู้ การเขียนคำขวญั สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ๙๖.ความสามารถในการสือ่ สาร - ทักษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทักษะการฟัง การดู และการพดู ๙๗.ความสามารถในการคดิ - การใหเ้ หตุผล - การคดิ สงั เคราะห์
140 - การปฏบิ ตั ิ - การสรปุ ความรู้ ๙๘.ความสามารถในการแก้ปญั หา ๙๙.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ม่งุ มน่ั ในการทำงาน ตวั ชวี้ ัดท่ี ๖.๑ ต้งั ใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าทีก่ ารงาน ตัวชวี้ ดั ที่ ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพอื่ ให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย รกั ความเปน็ ไทย ตัวชี้วดั ท่ี ๗.๒ เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๑. ผลงานการรวบรวมคำขวญั ๒. ผลงานการเรยี งข้อความเปน็ คำขวญั คำถามทา้ ทาย คำขวัญมีความสำคญั ต่อชีวติ ประจำวันของเราอย่างไร การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑.ครตู ิดแถบประโยคบนกระดาน แล้วใหน้ กั เรยี นอา่ นพรอ้ มกัน ดงั นี้ ยาเสพติด เป็ นภัยตอ่ ชีวิต เป็ นพษิ ต่อสงั คม ครูชวนสนทนาโดยใชค้ ำถาม ดังนี้ ๐ ขอ้ ความท่นี ักเรยี นอ่าน เรียกว่าอะไร (คำขวญั ) ๐ คำขวัญเกี่ยวกับอะไร ( เพื่อรณรงค์เรอ่ื งยาเสพตดิ ) ๐ เปน็ คำคล้องจองหรอื ไม่ คำไหนบ้างท่คี ล้องจองกนั (เป็นคำคลอ้ งจอง, ติด กับ วติ ,วติ กับ พิษ) ๐ นักเรียนรู้จกั คำขวญั ในเรื่องอะไรบ้าง (วันเดก็ , วันแม่, คำขวญั ประจำจังหวดั ฯลฯ) ๐ ใหน้ กั เรยี นบอกคำขวัญประจำจงั หวัดของนักเรยี น ๐ ใหน้ กั เรยี นบอกคำขวัญวันเด็ก ปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ (ฉลาดคิด จติ บริสุทธ์ิ จดุ ประกายฝัน ผูกพนั รักสามคั ค)ี
141 ๐ เปน็ คำคลอ้ งจองหรอื ไม่ คำไหนบ้างท่คี ล้องจองกนั (เป็นคำคลอ้ งจอง, คดิ กับ จติ , สุทธ์ิ กับ จดุ , ฝนั กบั พัน) ๒. ให้นกั เรียนศกึ ษาความรเู้ ร่ือง คำขวญั นักเรยี นอา่ นในใจ ๑ เทย่ี วและอา่ นออกเสียงพร้อมกัน ๓. ครูติดบตั รคำซงึ่ เป็นคำขวัญประจำจังหวัดตา่ ง ๆ บนกระดาน และใหน้ ักเรยี นเรียงข้อความใหมใ่ ห้ ถูกต้องตามคำคล้องจอง ดงั น้ี นครปฐม ลูกสาวงาม สม้ โอหวาน ข้าวหลามอร่อย ขา้ วสารขาว บวั ตองผคู้ นดี สรุ าษฎรธ์ านี เมอื งร้อยเกาะ ไข่แดง เงาะอร่อย แหล่งธรรมะ หอยใหญ่ สมทุ รสาคร เมืองประมง ลานเกษตร ดงโรงงาน เขตประวัตศิ าสตร์ แมฮ่ ่องสอน กองมูเสียดฟา้ ประเพณีงาม หมอกสามฤดู ปา่ เขียวขจี ลือนามถ่ิน ๔. นักเรยี นเรียงคำขวญั ประจำจังหวัดตา่ ง ๆ ได้ถูกต้อง ครูให้ขอ้ สังเกตในเร่ืองของคำคล้องจองในแต่ ละวรรค แต่ใหน้ ักเรียนคิดวิเคราะหก์ ่อนทคี่ รจู ะบอกวา่ เป็นคำขวญั จงั หวัดใด โดยครูสนทนากบั นกั เรยี น ดังนี้ ๐ ครถู ามคำถามทีละคำขวญั วา่ น่าจะอยภู่ าคไหน จงั หวดั อะไร ๐ นกั เรียนสังเกตอยา่ งไรจากคำถามแรก (จดุ เดน่ ของจงั หวัด) ๐ นกั เรยี นคดิ วา่ คำขวญั ประจำจงั หวัดมีความไพเราะหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (ไพเราะเพราะเปน็ คำ คล้องจอง ทำให้จำงา่ ย) ๐ จากคำขวญั ท่นี ักเรยี นเรียงไดถ้ ูกต้อง ขออาสาสมัครมาขีดเสน้ สัมผัสคำขวัญแต่ละจังหวดั สม้ โอหวาน ข้าวสารขาว ลกู สาวงาม ข้าวหลามอร่อย เมอื งร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหลง่ ธรรมะ เมอื งประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัตศิ าสตร์ หมอกสามฤดู กองมเู สยี ดฟ้า ปา่ เขยี วขจี ผู้คนดี ประเพณงี าม ลือนามถน่ิ บัวตอง ๕. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปได้วา่ คำขวญั เป็นถ้อยคำท่ีแตง่ ขึน้ เพ่ือเตือนใจและใช้เป็นสริ มิ งคลเม่อื แต่งเป็นบทร้อยกรองจะจำได้งา่ ย ๖. ครแู บ่งกล่มุ นกั เรยี นเปน็ ๕ กลุ่ม ใหน้ กั เรยี นรวบรวมคำขวญั ประจำจงั หวัดที่อยู่ในภมู ิภาคของ นักเรียนนำมาวิเคราะห์ถงึ ส่ิงที่กลา่ วถึงจากคำขวัญน้นั เชน่ สถานทส่ี ำคัญ อาหาร สินคา้ ขึ้นช่ือ ฯลฯ ทำเปน็ โครงงาน ใหน้ กั เรียนทำนอกเวลาครใู ห้เวลา ๑ สัปดาห์ ๗. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ เปน็ ๔ กล่มุ ใหช้ ่วยกันโยงเส้นสมั ผสั จากคำขวัญที่ครใู ห้ และนำเสนอทป่ี ระชมุ เขยี นลงในกระดาษ A4 ที่ครูแจก ดงั น้ี กลมุ่ ที่ ๑ คำขวัญวนั เด็ก
142 พ.ศ. ๒๕๓๕ สามคั คี มีวินยั ใฝศ่ ึกษา จรรยางาม พ.ศ. ๒๕๓๖ ยึดมัน่ ประชาธปิ ไตย รว่ มใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๘ สบื สานวฒั นธรรมไทย รว่ มใจพฒั นา รกั ษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๙ มุ่งหาความรู้ เชดิ ชคู วามเปน็ ไทย หลกี ไกลยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๔๐ รคู้ ุณคา่ วฒั นธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศกึ ษา ไม่พึง่ พายาเสพตดิ กลุ่มท่ี ๒ คำขวัญวนั เด็ก พ.ศ. ๒๕๔๒ ขยัน - ประหยดั ซอ่ื สัตย์ มีวินัย พ.ศ. ๒๕๔๓ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ คคู่ ณุ ธรรม นำประชาธิปไตย พ.ศ. ๒๕๔๖ เรยี นรตู้ ลอดชวี ิต คดิ อยา่ งสร้างสรรค์ ก้าวทนั เทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๕๐ มีคุณธรรมนำใจ ใชช้ วี ติ พอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข พ.ศ. ๒๕๕๑ สามคั คี มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคณุ ธรรม กลมุ่ ที่ ๓ คำขวญั วันงดสบู บุหรโี่ ลก พ.ศ. ๒๕๔๗ ครอบครวั ปลอดบุหรี่ จะมัง่ มแี ละแขง็ แรง พ.ศ.๒๕๔๘ ทมี สขุ ภาพร่วมใจ ขจดั ภยั บุหรี่ พ.ศ.๒๕๔๙ บหุ รี่ทุกชนดิ นำชีวติ สคู่ วามตาย พ.ศ. ๒๕๕๐ ไรค้ วนั บหุ ร่ี สง่ิ แวดล้อมดี ชวี สี ดใส พ.ศ. ๒๕๕๑ เยาวชนรุน่ ใหม่ รว่ มใจ ต้านภยั บุหร่ี กลุ่มท่ี ๔ คำขวญั วนั งดสูบบุหร่ีโลก พ.ศ. ๒๕๔๒ อนาคตมคี ุณค่า เม่ือบอกลา...เลกิ บุหรี่ พ.ศ. ๒๕๔๓ บหุ ร่ีครา่ ชวี ติ อยา่ หลงผิดตกเป็นเหยอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๔ เหน็ ใจคนรอบขา้ ง รว่ มสรา้ งอากาศสดใส ปลอดจากภัยควันบุหรี่ พ.ศ. ๒๕๔๕ กีฬาปลอดบหุ ร่ี สง่ ผลดีต่อสขุ ภาพ พ.ศ. ๒๕๔๖ ภาพยนตรป์ ลอดบหุ ร่ี ส่งผลดีตอ่ เยาวชน ๘. ให้นกั เรยี นรวบรวมคำขวัญทีเ่ ป็นคำคลอ้ งจอง โดยค้นควา้ จากหอ้ งสมุด ๙. ให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ คำขวญั มคี วามสำคญั ต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างไร สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. แถบประโยค ๒. คำขวญั ๓. กระดาษ ๔. บัตรคำ
143 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๑. วธิ กี ารวัดและประเมินผล ๑) สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ๒) สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๓) ตรวจผลงานของนักเรียน ๒. เครือ่ งมอื ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์การประเมิน ๑) การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ ่าน ๒) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙ - ๑๐ ระดบั ดมี าก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรยี นรู้ 144 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 17 เร่ืองคำคลอ้ งจองและคำขวัญ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 แผนการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ งคำคลอ้ งจองแตง่ คำขวญั จำใหแ้ ม่น สอนวนั ที่ 28 เดือนธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรียนรู้ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา มาตรฐาน ท ๔.๑ และพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของ ชาติ ตัวช้ีวดั ท ๔.๑ ป. ๓/๕ แต่งคำคล้องจองและคำขวญั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธิบายลักษณะของคำขวัญ (K) ๒. แต่งคำขวญั เป็นคำคล้องจองได้ (P) ๓. เหน็ ความสำคัญในการแต่งคำขวัญ (A) สาระสำคญั คำขวญั เปน็ ข้อความจงู ใจ ให้ข้อคิดคติสอนใจ ใช้คำกะทัดรัด มักเปน็ คำคล้องจอง สาระการเรียนรู้ ลกั ษณะของคำขวัญ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑๐๐. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอา่ น - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๑๐๑. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การคิดสังเคราะห์ - การจำแนก
145 - การสรุปความรู้ ๑๐๒. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๑๐๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มงุ่ มั่นในการทำงาน ตัวชวี้ ดั ที่ ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ัดที่ ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพือ่ ใหง้ านสำเร็จตามเปา้ หมาย รกั ความเปน็ ไทย ตัวช้วี ัดที่ ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการส่อื สารได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ช้ินงาน/ภาระงาน ผลงานการแต่งคำขวญั ดว้ ยคำคล้องจอง คำถามทา้ ทาย รอบๆ ตวั นักเรยี นมีการใชค้ ำขวญั บา้ งหรอื ไม่ อย่างไร การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ครตู ดิ แถบประโยคคำขวญั และให้นกั เรยี นอ่านพร้อมกัน จากน้นั ครูสนทนากับนกั เรียนโดยใช้ คำถาม ดังน้ี รกั เมอื งไทย รว่ มใจพฒั นา รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม ๐ นกั เรยี นคิดวา่ เป็นคำขวัญเกย่ี วกบั อะไร (สิง่ แวดลอ้ ม) ๐ คำขวัญตอ้ งการให้นักเรียนปฏิบัติอย่างไร (อนุรักษ์และรักษาสง่ิ แวดลอ้ ม) ๐ มีคำใดบา้ งทม่ี ีเสียงสมั ผสั กนั รกั เมอื งไทย รว่ มใจพัฒนา รกั ษาส่ิงแวดลอ้ ม ๒. แบง่ กลมุ่ นักเรยี นออกเป็น ๔ กลมุ่ ให้แต่ละกลุ่มแตง่ คำขวญั กลุ่มละ ๑ คำขวญั เขยี นใส่กระดาษ A๔ ที่ครูแจกให้ พร้อมทั้งโยงเสน้ สัมผสั ให้เวลาในการคดิ คำขวัญและเขียน ๑๕ นาที ตดิ คำขวญั บนกระดาน ให้แตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนมาจบั ฉลากกล่มุ ดงั น้ี กลมุ่ ที่ ๑ แต่งคำขวัญเกยี่ วกับการอนรุ ักษ์สง่ิ แวดลอ้ ม กลุม่ ที่ ๒ แต่งคำขวัญเก่ียวกบั ภาวะโลกร้อน
146 กลุ่มที่ ๓ แตง่ คำขวญั เกยี่ วกับการประหยดั พลังงาน กลมุ่ ท่ี ๔ แต่งคำขวัญเกยี่ วกบั รณรงคร์ ักการอา่ น ให้แตล่ ะกลุ่มออกมาเขยี นประโยคบนกระดาน ครูและเพื่อนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง และอ่าน ออกเสียงพร้อม ๆ กนั ๓.นำเสนอคำขวัญทีละกลมุ่ ครูและเพื่อน ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง และอา่ นออกเสียง พร้อมๆ กนั ๔. ใหน้ กั เรียนแต่งคำขวัญเป็นคำคลอ้ งจองเกยี่ วกบั เร่ืองต่อไปน้ีขอ้ ละ ๑ คำขวญั ลงในสมดุ แบบฝึกหัด ของนักเรียน ๑) การรกั ษาความสะอาด ๒) เศรษฐกจิ พอเพียง ๓) วันภาษาไทยแหง่ ชาติ ๕. ใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรมเสรมิ ทักษะการเรียนรู้ โดยเลอื กคำทก่ี ำหนดมาเตมิ ให้เปน็ คำคล้องจอง และ เลือกข้อความทก่ี ำหนด มาเติมให้เป็นคำขวญั แลว้ รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๖. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นโดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดงั น้ี ๏ รอบ ๆ ตัวนกั เรียนมีการใชค้ ำขวัญบ้างหรือไม่ อยา่ งไร ๗. นักเรียนและครูร่วมกนั สรุปว่า คำขวัญเปน็ ข้อความจูงใจ ใหข้ ้อคดิ คตสิ อนใจ ใช้คำกะทัดรดั และมกั เปน็ คำคลอ้ งจอง ส่ือการเรียนรู้ ๑. แถบประโยค ๒. ฉลาก ๓. กระดาษ A๔ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วธิ กี ารวัดและประเมินผล ๑) สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ๒. เครื่องมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้ังแต่ ๒ รายการ ถือว่า ผ่าน
147 ผ่าน ๑ รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ คะแนน ๙ - ๑๐ ระดับ ดมี าก คะแนน ๗ - ๘ ระดบั ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดบั ควรปรับปรุง
แผนการจดั การเรียนรู้ 148 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 17 เร่ืองคำคล้องจองและคำขวัญ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 แผนการเรยี นรู้ที่ 6 เร่อื งใฝ่ใจฝกึ ฝน...คำคล้องจองและคำขวัญ สอนวนั ที่ 29 เดือนธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา มาตรฐาน ท ๔.๑ และพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ อง ชาติ ตวั ชี้วดั ท ๔.๑ ป. ๓/๕ แต่งคำคลอ้ งจองและคำขวัญ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกประโยชน์ของคำคล้องจองและคำขวัญ (K) ๒. แตง่ คำขวญั (P) ๓. มคี วามตั้งใจและกระตอื รือร้นในการแตง่ คำขวัญ (A) สาระสำคญั คำคลอ้ งจองและคำขวญั ทำให้สอ่ื ความหมายไดช้ ดั เจนสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม สาระการเรยี นรู้ การส่อื ความหมายด้วยคำคลอ้ งจองและคำขวญั สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑๐๔. ความสามารถในการสื่อสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพูด ๑๐๕. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การจัดระบบความคดิ เป็นแผนภาพ
149 - การคดิ สังเคราะห์ - การจำแนก - การปฏบิ ตั ิ - การสรุปความรู้ ๑๐๖. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๑๐๗. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มุ่งม่ันในการทำงาน ตัวชี้วัดที่ ๖.๑ ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบัติหน้าทก่ี ารงาน ตวั ช้วี ัดท่ี ๖.๒ ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพ่ือใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมาย รกั ความเป็นไทย ตวั ช้วี ัดท่ี ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ชิน้ งาน/ภาระงาน ช้นิ งาน เรือ่ ง การแต่งคำขวัญ คำถามทา้ ทาย นกั เรียนจะใชค้ ำคลอ้ งจองและคำขวญั โตต้ อบกนั ได้อยา่ งไร การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครใู หน้ กั เรยี นคิดคำคล้องจอง ๓ พยางคเ์ กีย่ วกบั โรงเรยี น โดยครูเขียนบนกระดาน และใหน้ กั เรยี นตอ่ ทีละคนจนครบทุกคน ดังน้ี รกั โรงเรียน ๒. ให้นักเรยี นแบ่งเป็น ๔ กลุม่ คิดคำคลอ้ งจองและเขียนลงในกระดาษ ท่ีครูแจกให้ ใชเ้ วลา ๒๐ นาที ส่งตวั แทนจบั ฉลากกลุ่ม ดังนี้ กล่มุ ท่ี ๑ ดอกไม้ กลุ่มท่ี ๒ พืช ผกั กลมุ่ ท่ี ๓ สตั ว์ กลมุ่ ที่ ๔ ผลไม้ แต่ละกล่มุ ติดคำคล้องจองบนกระดาน และออกมานำเสนอทีละกลมุ่ ครแู ละเพือ่ น ๆ ชว่ ยกัน ตรวจสอบความถูกต้อง เมอ่ื นำเสนอเสร็จอา่ นพร้อมกนั ทีละกล่มุ พร้อมเคาะจงั หวะ ๓. ให้นกั เรียนทำช้ินงานท่ี ๗ เร่ือง การแตง่ คำขวญั แล้วนำผลงานมาร่วมกนั แสดงความคิดเห็น
150 ๔. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั นี้ ๏ นกั เรยี นจะใชค้ ำคล้องจองและคำขวญั โตต้ อบกันได้อย่างไร ส่ือการเรยี นรู้ ๑. กระดาษ ๒. ฉลาก ๓. ชน้ิ งาน การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ๑. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๓) ตรวจชนิ้ งานที่ ๗ ๒. เครอื่ งมอื ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน ๒) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน ๙ - ๑๐ ระดับ ดีมาก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ 151 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 17 เรอ่ื งคำคล้องจองและคำขวัญ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 แผนการเรยี นร้ทู ่ี 7 เรื่องสรปุ ผลเรยี นร้.ู ..คำคลอ้ งจองและคำขวัญ สอนวนั ท่ี 3 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา มาตรฐาน ท ๔.๑ และพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ อง ชาติ ตัวช้ีวดั ท ๔.๑ ป. ๓/๕ แต่งคำคลอ้ งจองและคำขวญั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. สรปุ ความรู้เร่ืองคำคล้องจองและคำขวัญ (K) ๒. นำคำคลอ้ งจองและคำขวัญไปใชใ้ นการส่อื สารไดถ้ ูกตอ้ ง (P) ๓. เหน็ ความสำคัญของคำคลอ้ งจองและคำขวญั ทนี่ ำมาใช้ในการสอ่ื สาร (A) สาระสำคญั คำคล้องจองและคำขวญั สามารถนำไปใชใ้ นการส่อื สารอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพได้ สาระการเรยี นรู้ การสื่อสารทีม่ ีประสิทธิภาพด้วยคำคล้องจองและคำขวญั สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๑๐๘. ความสามารถในการสอื่ สาร - ทักษะการอา่ น - ทกั ษะการเขยี น - ทักษะการฟงั การดู และการพูด ๑๐๙. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตผุ ล - การคิดสงั เคราะห์
152 - การปฏิบัติ - การสรปุ ความรู้ ๑๑๐. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๑๑๑. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มงุ่ มั่นในการทำงาน ตวั ชี้วดั ที่ ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบัติหนา้ ทกี่ ารงาน ตวั ช้วี ัดที่ ๖.๒ ทำงานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย รกั ความเป็นไทย ตวั ชว้ี ดั ที่ ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ช้นิ งาน/ภาระงาน ๑. ผลงานการสรปุ ความรเู้ ร่อื ง ประโยชนข์ องคำคลอ้ งจอง ๒. ผลงานการเขียนสุภาษิต คำพังเพย สำนวน คำคม คำขวัญท่ีเป็นคำคล้องจอง คำถามท้าทาย ถ้าไม่มคี ำคล้องจองและคำขวญั นกั เรียนคิดวา่ ภาษาไทยของเราจะเปลีย่ นแปลงอย่างไรบา้ ง การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี ๏ ถา้ ไมม่ ีคำคล้องจองและคำขวญั นักเรียนคดิ วา่ ภาษาไทยของเราจะเปลีย่ นแปลงอย่างไรบา้ ง ๒. ครูแบ่งกระดานเปน็ ๒ สว่ น แบ่งนกั เรียนออกเป็น ๒ กลุ่ม ดงั นี้ กลมุ่ ท่ี ๑ น้ำ กลุม่ ท่ี ๒ สัตว์ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั คดิ สภุ าษิต คำพังเพย สำนวน คำคม คำขวัญ ทีเ่ ป็นคำคล้องจอง และเขียนบน กระดาน ครูใหเ้ วลาในการทำกิจกรรม ๒๐ นาที เม่ือหมดเวลา ครแู ละเพื่อน ๆ ชว่ ยกนั ตรวจ และแยกว่า ขอ้ ความไหนเปน็ สภุ าษิต คำพังเพย สำนวน คำคม คำขวญั กลุม่ ไหนเขียนได้มากกวา่ และถูกต้องเปน็ ฝา่ ยชนะ ๓. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเรือ่ งของคำคล้องจองและคำขวญั อีกครัง้ หนึง่ ๔. ใหน้ ักเรยี นสรปุ ความร้เู ก่ียวกับคำคล้องจองและคำขวัญ สอื่ การเรยี นรู้ -
153 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๑. วธิ ีการวัดและประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๒) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๒. เครอ่ื งมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ๓. เกณฑ์การประเมิน ๑) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผา่ นตั้งแต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน ๒) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙ - ๑๐ ระดบั ดมี าก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรบั ปรงุ
154 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๘ ๑๘๕ฃ๑๒๑ ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ิน เวลา ๗ ช่วั โมง แผนผงั การเรยี นร้แู บบบูรณาการ วิทยาศาสตร์ • สง่ิ มีชวี ติ และสงิ่ ไม่มชี วี ติ คณติ ศาสตร์ ภาษาไทยมาตรฐาน สุขศกึ ษา และ • การแบง่ กลมุ่ และพลศกึ ษา การจาแนก จานวนนบั ภาษาถ่ิน • ระเบยี บแถว • เกม สงั คมศกึ ษา ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม • วาดภาพระบายสี • ภมศิ าสตร์ • การเคาะจงั หวะ • สถานท่สี าคญั • การรอ้ งเพลง * การรอ้ งเพลง ตัวชวี้ ัด • เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ (ท ๔.๑ ป. ๓/๖)
แผนการจัดการเรยี นรู้ 155 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 18 เรือ่ งภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 แผนการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ งลักษณะของภาษาถนิ่ สอนวันที่ 4 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ อง ชาติ ตวั ช้ีวัด ท ๔.๑ ป. ๓/๖ เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. รู้จักและบอกความหมายของภาษาถน่ิ (K) ๒. จำแนกภาษาถิน่ ตา่ งๆ ได้ (P) ๓. กระตอื รือรน้ ในการร่วมกิจกรรม (A) สาระสำคัญ ภาษาถน่ิ เปน็ ภาษาเฉพาะของทอ้ งถ่นิ ใดท้องถนิ่ หน่ึงท่ีมลี ักษณะเฉพาะตวั ทงั้ ถอ้ ยคำและสำเนยี ง สาระการเรยี นรู้ ลกั ษณะของภาษาถิ่น สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑๑๒. ความสามารถในการสื่อสาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขยี น - ทักษะการฟงั การดู และการพดู ๑๑๓. ความสามารถในการคดิ - การใหเ้ หตุผล - การคิดสังเคราะห์
156 - การจำแนก - การสรุปความรู้ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ชวี้ ัดท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ รกั ความเปน็ ไทย ตวั ชวี้ ัดท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการสือ่ สารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ช้นิ งาน/ภาระงาน กจิ กรรมการใชภ้ าษาถนิ่ คำถามทา้ ทาย ภาษาถนิ่ เกิดข้ึนได้อย่างไร การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ให้นักเรยี นรว่ มแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดงั นี้ ๏ ภาษาถ่ิน เกิดข้ึนได้อยา่ งไร ๒. ครูติดบัตรคำบนกระดานใหน้ กั เรียนอา่ นพรอ้ มกัน และสนทนากับนักเรยี นโดยใชค้ ำถาม ดังน้ี พด แหลง เว่า อ้ ๐ คำไหนเปน็ คำในภาษาถิ่นของนักเรยี น ๐ คำในภาษาถ่ินของนักเรียนหมายความวา่ อย่างไร (พูด) ๐ นักเรยี นทราบไหมวา่ คำทั้ง ๔ คำมคี วามหมายอย่างไร (พดู ) ๐ เหตุใดความหมายเหมือนกันแต่ใช้คำไมเ่ หมอื นกัน (เพราะเป็นคำพดู ทีใ่ ช้ส่ือสารกันภายใน ท้องถนิ่ ใดท้องถน่ิ หน่งึ เราเรียกวา่ ภาษาถ่นิ ) ๐ นักเรียนทราบไหมวา่ คำทัง้ ๔ คำมภี าษาถิ่นใดบา้ ง (พูด เปน็ ภาษาไทยกลาง, แหลง เป็นภาษา ถนิ่ ใต้, เว่า เป็นภาษาถนิ่ อสี านและ อู้ เปน็ ภาษาถ่ินเหนอื ) ๓. ครูนำแผนทีป่ ระเทศไทยใหน้ ักเรียนดู ชวนสนทนาโดยใชค้ ำถาม ดังนี้ ๐ ขออาสาสมัครออกมาชีแ้ ผนที่ ที่เป็นท่ีต้งั จงั หวัดทน่ี ักเรยี นอาศัยอยูแ่ ละถามว่าอยู่ภาคไหน ๐ อา่ นชื่อจังหวดั ในแผนที่ ที่อยู่ภาคเดียวกบั นกั เรียน ๐ ชแ้ี ผนทที่ ีเ่ ปน็ ภาคกลาง, ภาคเหนือ, ภาคอสี าน(ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ) และภาคใต้
157 ๔.ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมเสรมิ ทักษะการเรียนรู้ โดยโยงเส้นจับคู่คำภาษาถนิ่ กับภาษาไทยมาตรฐานท่ีมี ความหมายเหมือนกนั เม่อื นักเรียนทำเสรจ็ แล้วช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง และขออาสาสมคั รอ่านนำ ให้ เพ่อื นๆ อ่านตามพร้อมกนั ๕. ให้นกั เรียนอ่านบทประพนั ธภ์ าษาไทย...ภาษาถ่ิน โดยอ่านเป็นรอ้ ยแกว้ พร้อม ๆ กัน ๑ เที่ยว และ อ่านเป็นทำนองเสนาะ ครูชวนสนทนาถึงความหมายของคำประพนั ธ์ และชว่ ยกนั สรุปได้ ดงั นี้ ภาษาถ่ิน เป็นภาษาเฉพาะของทอ้ งถน่ิ ใดท้องถิ่นหนงึ่ ท่ีมีรปู ลกั ษณะเฉพาะตวั ทงั้ ถอ้ ยคำและสำเนยี งเป็น ตน้ ๖. ให้นักเรยี นเลอื กใช้ภาษาถ่ินทีก่ ำหนดใหต้ รงกับคำท่เี ป็นภาษาไทยมาตรฐาน หรอย (ใต)้ บกั นดั (อสี าน) หมะหนนุ (เหนือ) ปอ้ (เหนือ) บกั ห่งุ (อีสาน) ดปี ลี (ใต)้ ผกั แคบ (เหนือ) นา้ ชบุ (ใต)้ ซาว (เหนือ) มว่ น (อีสาน) ๑) น้ำพรกิ ๒) คณุ พ่อ ๓) อรอ่ ย ๔) ผักตำลงึ ๕) พริก ๖) มะละกอ ๗) ขนุน ๘) สบั ปะรด ๙) ยีส่ ิบ ๑๐) สนกุ สือ่ การเรยี นรู้ ๑. บัตรคำ ๒. แผนท่ีประเทศไทย ๓. แผนภูมบิ ทร้อยกรอง “ภาษาถน่ิ ” การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๑. วิธกี ารวดั และประเมินผล
158 ๑.๑ สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๑.๒ ตรวจผลงานของนักเรียน ๒. เคร่อื งมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๓. เกณฑ์การประเมิน การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรยี นรู้ 159 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 18 เรือ่ งภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 แผนการเรยี นรูท้ ่ี 2 เร่อื งความหมายของคำภาษาถิน่ สอนวนั ที่ 5 เดอื นมกราคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ อง ชาติ ตวั ชีว้ ัด ท ๔.๑ ป. ๓/๖ เลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธิบายลกั ษณะของภาษาถ่นิ (K) ๒. อา่ นและเขยี นภาษาถน่ิ ง่าย ๆ ได้ (P) ๓. เห็นความสำคญั ของภาษาถน่ิ (A) สาระสำคัญ คำในภาษาถิ่นคือ คำ เฉพาะของท้องถน่ิ ใดท้องถิน่ หนึ่ง มลี ักษณะเฉพาะตวั ทงั้ ถอ้ ยคำ และสำเนยี ง ซึง่ เปน็ เอกลักษณ์ของภาษาถิ่นนั้น แบง่ ได้ตามภูมภิ าค ๓ ภาษา คอื ภาษาถ่ินเหนือ ภาษาถ่ินอสี าน และภาษาถิ่น ใต้ สาระการเรยี นรู้ ความหมายของคำในภาษาถ่ิน สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ๑๑๔. ความสามารถในการสือ่ สาร - ทักษะการอา่ น - ทักษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพูด ๑๑๕. ความสามารถในการคิด - การให้เหตผุ ล
160 - การคิดสังเคราะห์ - การจำแนก - การสรุปความรู้ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชว้ี ัดท่ี ๔.๑ ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย ตัวชวี้ ดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คุณค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ชน้ิ งาน/ภาระงาน ผลงานการแตง่ ประโยคจากคำภาษาถิน่ คำถามทา้ ทาย ภาษาถ่นิ มคี วามสำคญั อยา่ งไร การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดังน้ี ๏ ภาษาถ่นิ มคี วามสำคญั อย่างไร ๒. ครถู ามนักเรียนใครสามารถพูดภาษาถน่ิ อ่ืนท่ไี มใ่ ช่ภาษาถ่นิ ของตนเองใหย้ กมือและออกมาพดู ถาม ว่าทำไมพดู ได้ (จากโทรทศั น์, คนขา้ งบ้าน เปน็ ต้น ) ๓. ครูตดิ บตั รคำภาษาถน่ิ ต่าง ๆ หรอื เขียนบนกระดานใหน้ ักเรยี นฝึกอา่ นตามครู ดงั น้ี ปอ้ แม่ พ่อเฒ่า แมอ่ ๊ยุ แมใ่ หญ่ โป ปอ้ อ๊ยุ ลาด อีผ่อ ตลาด แมเ่ ฒ่า ย่า พ่อใหญ่ กาด ลา แซบ ท่อได๋ หรอย ไมพ่ รือ เทา่ ได เตา้ ได บ่เป็นหยงั
161 ๔. ครเู ขียนตาราง ๔ ภาค โดยครเู ขยี นคำในภาคกลาง แล้วให้นกั เรียนหยบิ บตั รคำทีค่ ดิ ว่านกั เรยี นรไู้ ป ตดิ ลงในช่องตรงกบั ความเขา้ ใจของนักเรียนหรือเขยี น ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งถ้าไม่ถูกตดิ บตั รคำไว้ที่เดิม นกั เรียนติดทลี ะคำจนกวา่ จะหมด อ่านตามครทู ลี ะคำ และอา่ นพร้อมกันอีกคร้ังหน่ึง ตามตาราง ดงั นี้ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนอื ภาคอสี าน คุณพ่อ คณุ พ่อ ป้อ อผี ่อ คุณแม่ คุณแม่ แม่ อแี ม่ คณุ ปู่ โป ป้ออยุ๊ พ่อใหญ่,พอ่ ปู่ คุณย่า ยา่ แม่อุย๊ แม่ใหญ่, แมย่ า่ คุณตา พอ่ เฒ่า ปอ้ อยุ๊ พอ่ ใหญ่ คุณยาย แม่เฒา่ แมอ่ ยุ๊ แม่ใหญ่ ตลาด ลาด กาด ตลาด เท่าไร เท่าได เต้าได ท่อได๋ ไม่เปน็ ไร ไม่พรือ บ่เปน็ หยงั บ่เป็นหยงั บ่เป็นหยงั ดอก อรอ่ ย หรอย ลำ แซบ ๕. อาสาสมัครออกมาเลา่ ๓ – ๕ คน ว่าชอบภาษาถิ่นของภาคใด เพราะอะไร ๖. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสรปุ ไดว้ ่า คำในภาษาถิ่น คอื คำเฉพาะของท้องถ่นิ ใดท้องถ่ินหน่ึงมีลักษณะ เฉพาะตัวทั้งถ้อยคำและสำเนียง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภาษาถิ่นนั้น แบ่งได้ตามภูมิภาค ๓ ภาษาคือ ภาษาถ่ิน เหนือ ภาษาถ่ินอสี าน และภาษาถ่ินใต้ ๗. ใหน้ ักเรยี นแต่งประโยคคนละ ๕ ประโยคแต่ละประโยคให้มภี าษาถน่ิ อยา่ งน้อยประโยคละ ๑ คำ และขดี เส้นใต้คำภาษาถ่นิ ส่อื การเรยี นรู้ บตั รคำ การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ๑. วิธกี ารวัดและประเมินผล ๑.๑ สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๑.๒ ตรวจผลงานนักเรยี น ๒. เครือ่ งมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
162 ๓. เกณฑ์การประเมิน การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านต้ังแต่ ๒ รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน
แผนการจดั การเรียนรู้ 163 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 18 เร่อื งภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่นิ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 แผนการเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื งสัมพนั ธ์ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ สอนวันท่ี 6 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ อง ชาติ ตัวชว้ี ัด ท ๔.๑ ป. ๓/๖ เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธิบายวิธีจำแนกคำภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถ่ิน (K) ๒. จำแนกภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถ่นิ (P) ๓. เห็นความสำคัญของการนำภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่นไปใช้อยา่ งเหมาะสม (A) สาระสำคัญ ภาษาไทยมาตรฐานเปน็ ภาษาท่ใี ชใ้ นทางราชการ สว่ นภาษาถนิ่ นน้ั จะมลี ักษณะแตกต่างกันตาม ภมู ภิ าค โดยมีภาษาไทยมาตรฐานเป็นภาษาหลกั ในการตดิ ต่อสอื่ สาร สาระการเรยี นรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ๑๑๖. ความสามารถในการส่อื สาร - ทักษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๑๑๗. ความสามารถในการคดิ - การให้เหตผุ ล - การคิดสงั เคราะห์
164 - การจำแนก - การสรปุ ความรู้ ๑๑๘. ความสามารถในการแก้ปญั หา ๑๑๙. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ช้ีวัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ น้าที่การงาน รกั ความเป็นไทย ตัวชว้ี ดั ที่ ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ช้นิ งาน/ภาระงาน กิจกรรมการจบั คภู่ าษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถิน่ คำถามท้าทาย ภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถ่ิน ใช้ทำอะไรได้บา้ ง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑. แบ่งกลมุ่ นักเรยี นออกเป็น ๔ กลุ่ม ใหน้ ักเรียนเล่นทายคำปริศนาภาษาถ่นิ โดยครเู ขียนบน กระดานและอา่ นปรศิ นาคำทายท้องถิ่นใหฟ้ ัง ถ้ากลมุ่ ไหนจะทายให้ยกมือก่อนตอบ ให้ตอบวา่ เปน็ ภาษาถ่นิ ภาคไหนปริศนาคำทายคืออะไร ให้ออกมาเขยี นคำนั้นบนกระดานทีละข้อจนครบ ดังน้ี ๑) แม่นหยัง แต่น้อยใส่เสอ่ื คับ ใหญ่มาใสเ่ สอ่ื หลวม (ภาคอสี าน : มะขาม) ๒) ไอ้ไหรหา สิบขาตาติดตวั ไมม่ หี ัวไม่มีหาง (ภาคใต้ : ป)ู ๓) อะหยังเก๊าะ หนา้ งอ คออ่อน กิ๋นก่อนตงิ วัน (ภาคเหนือ : ทัพพี) ๔) อะไรเอย่ ลูกกนิ ได้ ใบขายดี คนโศกี เมื่อจรไกล (ภาคกลาง : ลูกจาก) ๕) อะไรเอ่ยขา้ งนอกประตไู ม้ ข้างในประตเู หล็ก ผา้ ผนื เลก็ ตากไมแ่ หง้ (ภาคกลาง : ปาก,ฟนั ,ลน้ิ ) ๖) อะหยังเก๊าะ ฮักก่อจบู บ่ฮักก่อจบู (ภาคเหนือ : หอย) ๗) แมน่ หยัง นัง่ แลว้ สูงกว่ายืน (ภาคอสี าน : หมา) ๘) ไอไ้ หรหา ไอ้นลิ กินหญ้า ปากถ้ำ (ภาคใต้ : มีดโกนหนวด) ครูชวนสนทนาถงึ ปรศิ นาคำทายแตล่ ะภาค ภาคเหนือเรียก อะหยังเก๊าะ ภาคอีสานเรียกควมทวย หรอื แมน่ หยงั และภาคใตเ้ รียกไอ้ไหรหา หรือ ไอ้ไหรเอ่ย ให้นักเรยี นอา่ นคำท่ีเป็นภาษาถ่ิน
165 แตล่ ะคำในปรศิ นาคำทาย และอธบิ ายความหมายของแต่ละคำ ๒. ครชู วนนักเรยี นเขียนปริศนาคำทายเป็นภาษาไทยมาตรฐาน ทงั้ ๘ ข้อ ดงั นี้ ๑) อะไรเอย่ เมื่อเล็กใส่เสื้อคับ พอเติบใหญ่ใส่เสื้อหลวม ๒) อะไรเอ่ย สบิ ขาตาตดิ ตวั ไมม่ ีหวั ไม่มีหาง ๓) อะไรเอย่ หน้างอ คออ่อน กินกอ่ นทกุ วนั ๔) อะไรเอ่ย ลกู กนิ ได้ ใบขายดี คนโศกี เมื่อจรไกล ๕) อะไรเอย่ ขา้ งนอกประตูไม้ ข้างในประตเู หล็ก ผ้าผืนเล็กตากไม่แห้ง ๖) อะไรเอ่ย รักกจ็ บู ไม่รักก็จูบ ๗) อะไรเอย่ นั่งแลว้ สงู กวา่ ยืน ๘) อะไรเอย่ ไอ้นลิ กนิ หญา้ ปากถ้ำ ๓. เขียนคำภาษาถน่ิ และความหมายเป็นภาษาไทยมาตรฐาน ๔. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาความรเู้ รื่อง ภาษาถนิ่ อา่ นในใจ ๑ เที่ยว และอ่านออกเสียงพร้อมกัน ๕. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรุปได้วา่ ภาษาไทยมาตรฐานเปน็ ภาษาที่ใชใ้ นทางราชการ สว่ นภาษา ถน่ิ น้ันจะมีลักษณะแตกตา่ งกันตามภูมิภาค โดยมภี าษาไทยมาตรฐานเปน็ ภาษาหลกั ในการตดิ ตอ่ สื่อสาร ๖. ให้นกั เรียนนำคำท่กี ำหนดให้เตมิ ลงในช่องวา่ งให้ตรงกับความหมาย อีเกิง้ ไผ ตุ๊ แอ่ว โคม เบิ่ง แว่น ขา้ วยา มกั ตาสม้ ๑) พระ ๒) เทยี่ ว ๓) ใคร ๔) อาหารของชาวใต้ ๕) ชอบ ๖) จอ้ งดู ๗) กะละมงั ๘) ส้มตำ ๙) ดวงจันทร์ ๑๐) กระจก ๗. ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นโดยครใู ชค้ ำถามท้าทายดงั นี้ ๏ ภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถิน่ ใช้ทำอะไรได้บ้าง
166 ส่ือการเรยี นรู้ ๑. ปริศนาคำทาย ๔ ภาค ๒. พจนานกุ รม การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒) สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ๒. เครอ่ื งมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์การประเมิน ๑) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน ๒) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน ๙ - ๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรับปรุง
แผนการจดั การเรยี นรู้ 167 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 18 เร่ืองภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แผนการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรอ่ื งมาสนกุ กนั หนาภาษาถนิ่ สอนวนั ท่ี 9 เดอื นมกราคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่ืองราว ในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ตัวชว้ี ดั ท ๒.๑ ป. ๓/๕ เขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ อง ชาติ ตวั ช้วี ัด ท ๔.๑ ป. ๓/๖ เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ินได้เหมาะสมกับกาลเทศะ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายความหมายของคำในภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น (K) ๒. แต่งเร่อื งโดยใช้ภาษาถนิ่ (P) ๓. เห็นความสำคัญในการนำภาษาถน่ิ มาใช้ในการแต่งเรือ่ งได้สนุกสนาน (A) สาระสำคญั คำในภาษาถิ่นใช้แต่งเร่ืองได้สนุกสนาน สาระการเรียนรู้ การใช้ภาษาถน่ิ ในการแตง่ เรื่อง สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๑๒๐. ความสามารถในการสื่อสาร - ทกั ษะการอ่าน
168 - ทักษะการเขยี น - ทักษะการฟงั การดู และการพดู ๑๒๑. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การคดิ สังเคราะห์ - การปฏบิ ัติ - การสรปุ ความรู้ ๑๒๒. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๑๒๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ช้วี ัดที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการ เลอื กใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทกึ ความร้วู ิเคราะห์ สรุปเปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ รกั ความเปน็ ไทย ตัวช้วี ัดท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ช้ินงาน/ภาระงาน ผลงานการแต่งเร่ืองเปน็ ภาษาถน่ิ คำถามทา้ ทาย รอบ ๆ ตัวนักเรยี นมีการใช้ภาษาถนิ่ บ้างหรือไม่ อยา่ งไร การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครูติดแผนภมู ิเรื่องบนกระดาน ให้นักเรยี นอ่านพร้อมกนั ดังนี้ ฉนั นอนหลับแลว้ ฝนั ว่า ฉนั เป็นผเี สื้อกำลังบนิ อยา่ งมีความสุขในสวนผกั และดอกไม้ บา้ นคุณยายมดี อก ดาวเรอื ง บานไม่ร้โู รย มีมะเขือเทศ ถว่ั ลสิ ง แตงกวา ขนุน น้อยหน่า ฉนั เหน็ คณุ ยายกบั คุณตากำลังยนื คอ พระสงฆม์ าบณิ ฑบาต ฉันกนิ น้ำหวานจากดอกไมจ้ นอ่มิ โอยปวดท้องจงั เลย แมจ่ ๋าช่วยด้วย ฉนั ตกใจตนื่ ๒. แบ่งกลุม่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ ๔-๕ คน ให้นักเรยี นอ่านเรื่องและเขียนใหมจ่ ากเร่ืองเดิมโดยใช้ ภาษาถน่ิ ของนกั เรียน เขยี นลงในกระดาษ A๔ ท่ีครแู จกให้ นำเสนอทลี ะกลุม่ โดยอ่านให้เพอื่ นฟงั ครแู ละเพือ่ น ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
169 ๓. ครูชวนสนทนาถงึ นทิ านพ้ืนบ้านในทอ้ งถน่ิ ของเรา ใครรู้จักนทิ านหรือเคยไดฟ้ งั ผ้ใู หญเ่ ล่าใหฟ้ งั บ้าง ไหม ชว่ ยกนั แตง่ นทิ านเป็นภาษาไทยมาตรฐาน โดยครูขออาสาสมัครออกมาชว่ ยเขียน ใหน้ กั เรยี นช่วยกันแต่ง ทลี ะประโยค อาจจะเปน็ เค้าโครงจากนิทานพนื้ บ้านหรือเป็นเร่ืองที่อยากแต่ง เม่ือเขียนจบช่วยกันตั้งชอื่ เรื่อง และร่วมกันสรุปไดว้ ่า คำในภาษาถ่นิ นำมาใชใ้ นการแตง่ เร่ืองไดส้ นุกสนาน ๔. ให้นกั เรยี นนำเน้อื เร่ืองทชี่ ่วยกนั เขียนมาแต่งใหม่เปน็ ภาษาถิน่ ๕. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั น้ี ๏ รอบ ๆ ตวั นักเรยี นมีการใชภ้ าษาถ่นิ บ้างหรือไม่ อยา่ งไร สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. แผนภูมนิ ิทาน ๒. กระดาษ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑. วิธีการวัดและประเมินผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม ๓) ตรวจผลงานของนักเรียน ๒. เคร่ืองมอื ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่ ๓. เกณฑ์การประเมิน ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น ๒) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน ๙ - ๑๐ ระดับ ดมี าก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรบั ปรงุ
แผนการจัดการเรียนรู้ 170 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 18 เรอ่ื งภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 แผนการเรียนรูท้ ี่ 5 เร่อื งภาษาถน่ิ รอบตัวเรา สอนวนั ที่ 10 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของ ชาติ ตวั ชว้ี ัด ท ๔.๑ ป. ๓/๖ เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ จุดประสงค์การเรยี นรู้ (K) ๑. บอกประโยชน์ของการใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นในชีวิตประจำวนั ๒. จดั หมวดหมูค่ ำภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ ตามหวั ขอ้ ท่ีกำหนด (P) ๓. เห็นคุณคา่ ของการใช้ภาษาถ่ินในชวี ิตประจำวัน (A) สาระสำคญั ภาษาถิ่นท่ีอยรู่ อบตัวเราท่ใี ชใ้ นชีวิตประจำวัน ทำใหเ้ ข้าใจและสื่อสารกับคนในภมู ิภาคอื่นๆ ได้ สาระการเรยี นรู้ คำในภาษาถิน่ ที่ใช้ในชวี ิตประจำวนั สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑๒๔. ความสามารถในการสอื่ สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขยี น - ทักษะการฟัง การดู และการพดู ๑๒๕. ความสามารถในการคิด - การให้เหตุผล - การคิดสงั เคราะห์
171 - การจำแนก - การสรุปความรู้ ๑๒๖. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๑๒๗. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มงุ่ มั่นในการทำงาน ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๖.๑ ต้ังใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าท่กี ารงาน ตวั ชว้ี ัดท่ี ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย รักความเป็นไทย ตัวชว้ี ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคุณค่าและใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ชิน้ งาน/ภาระงาน ผลงานการรวบรวมและจัดหมวดหมคู่ ำภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นตามหวั ข้อท่กี ำหนด คำถามท้าทาย ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ิน มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวนั ของเราอย่างไรบ้าง การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครตู ดิ แผนภูมบิ ทรอ้ ยกรองบนกระดาน และอ่านใหน้ ักเรียนฟัง และให้นกั เรียนอา่ นตามดังน้ี มะละกอกรอบ ชอบทำส้มตำ อร่อยทุกคำ นำดว้ ยผกั สด ผกั ท่วั ทกุ ถ่นิ มีกินไม่หมด มะเขอื เทศสด ตำลงึ ฟกั ทอง ขมนิ้ เปน็ ยา ทาแผลพุพอง หน่ึงไมม่ สี อง สมนุ ไพรไทย จุรีพร มุนีโมไนย ครูชวนสนทนาโดยใช้คำถาม ดังนี้ ๐ ขอ้ ความจากบทรอ้ ยกรองเป็นภาษาอะไร (ภาษาไทยมาตรฐาน) ๐ คำท่ีเน้นตวั เข้มมีคำไหนบา้ งทีน่ กั เรียนไมเ่ ขา้ ใจความหมาย ( ไมม่ ี ) ๐ คำทเ่ี นน้ ตวั เข้มภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถน่ิ ของนักเรยี นเรียกชอื่ เหมือนกันหรือไม่ (ไมเ่ หมือนกัน) ๐ คำวา่ “ มะละกอ ” ภาษาถิน่ ของนักเรียนเรยี กวา่ อะไร
172 ๐ คำว่า “ ส้มตำ ” ภาษาถิน่ ของนักเรียนเรียกวา่ อะไร ๐ คำวา่ “ อรอ่ ย ” ภาษาถ่ินของนักเรียนเรยี กวา่ อะไร ๐ คำวา่ “ มะเขือเทศ ” ภาษาถ่นิ ของนักเรียนเรยี กวา่ อะไร ๐ คำว่า “ ตำลึง ” ภาษาถิน่ ของนักเรยี นเรียกว่าอะไร ๐ คำวา่ “ ฟกั ทอง ” ภาษาถ่ินของนักเรยี นเรียกว่าอะไร ๐ คำวา่ “ ขม้ิน ” ภาษาถิ่นของนักเรียนเรียกวา่ อะไร ๐ คำวา่ “ สอง ” ภาษาถนิ่ ของนักเรยี นเรยี กว่าอะไร ๒. แบง่ กลมุ่ นกั เรียนออกเป็น ๔ กลมุ่ ให้แตล่ ะกลุ่มเขียนภาษาถิน่ ของนักเรยี นและความหมายทีเ่ รยี น เป็นภาษาไทยมาตรฐานใส่กระดาษ A๔ ที่ครูแจกให้ ให้เวลาในการคดิ และเขียน ๒๐ นาที ตดิ บนกระดาน ให้ แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาจับฉลากกลุม่ ดงั นี้ กลมุ่ ท่ี ๑ เขียนภาษาถน่ิ เกี่ยวกับสตั ว์ กล่มุ ท่ี ๒ เขยี นภาษาถน่ิ เกย่ี วกบั พืช กลุม่ ท่ี ๓ เขียนภาษาถิ่นเกี่ยวกบั เครื่องใช้ตา่ งๆ กลุม่ ท่ี ๔ เขยี นภาษาถน่ิ เกยี่ วกบั อาหารคาวหวาน ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอทลี ะกลมุ่ ครแู ละเพ่ือนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง และอา่ นออกเสียง พรอ้ ม ๆ กัน ๓. ครูและนักเรยี นช่วยกนั สรุปได้ว่า ภาษาถิ่นที่อยู่รอบตัวเราทใ่ี ช้ในชวี ติ ประจำวัน ทำใหเ้ ข้าใจและ สือ่ สารกับคนในภูมิภาคอื่น ๆ ได้ ๔. ใหน้ กั เรยี นรวบรวมคำและจัดหมวดหมู่คำภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ ตามหัวข้อท่ีกำหนดให้ อยา่ งละ ๒ คำ ช่ือ ภาคกลาง ภาคเหนอื ภาคอสี าน ภาคใต้ สตั ว์ พืช ผลไม้ เครอื่ งใช้ อาหาร ๕. ให้นกั เรียนทำกิจกรรมเสริมทกั ษะการเรยี นรู้ โดยจำแนกคำทเ่ี ปน็ ภาษาถิน่ ต่างๆ และจับคคู่ ำภาษา ถ่นิ ให้ตรงกบั ความหมาย แล้วร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ๖. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังน้ี ๏ ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น มีความสำคัญตอ่ ชีวิตประจำวันของเราอย่างไรบา้ ง
173 สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. แผนภูมิบทรอ้ ยกรอง ๒. ฉลาก การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑. วธิ กี ารวดั และประเมินผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒) สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ๓) ตรวจผลงานของนักเรียน ๒. เครอ่ื งมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑) การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถอื วา่ ไม่ผา่ น ๒) การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คะแนน ๙ - ๑๐ ระดับ ดมี าก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง
แผนการจดั การเรยี นรู้ 174 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย หน่วยการเรยี นรู้ที่ 18 เรื่องภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ิน ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 แผนการเรยี นรู้ที่ 6 เร่อื งใฝ่ใจฝึกฝน...ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ สอนวันท่ี 11 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ อง ชาติ ตัวชว้ี ดั ท ๔.๑ ป. ๓/๖ เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ยกตวั อยา่ งภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ ได้ (K) ๒. รวบรวมภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ ทีอ่ ยู่รอบตวั (P) ๓. เห็นความสำคัญของภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นทน่ี ำมาใช้ในการส่ือสาร (A) สาระสำคัญ ภาษาถน่ิ เปน็ วัฒนธรรมพื้นฐานทีใ่ ช้ในการส่อื สารกันภายในท้องถ่ิน มภี าษาไทยมาตรฐานเป็น ส่อื กลางในการส่ือสาร สาระการเรียนรู้ ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ เปน็ เครอื่ งมือท่ใี ชใ้ นการส่อื สาร สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการอา่ น - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟัง การดู และการพดู ๑๒๘. ความสามารถในการคิด - การให้เหตผุ ล - การคดิ วเิ คราะห์
175 - การจำแนก - การปฏิบัติ - การสรปุ ความรู้ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ชี้วัดท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนรตู้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการ เลอื กใชส้ อื่ อย่างเหมาะสม บนั ทึกความร้วู เิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ รักความเปน็ ไทย ตัวชี้วัดที่ ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ชิ้นงาน/ภาระงาน ใบงาน เร่อื ง การเลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น คำถามท้าทาย ถา้ ไม่มีภาษาไทยมาตรฐานนกั เรียนคดิ ว่าจะสามารถสือ่ สารกนั ไดห้ รือไม่ อย่างไร การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครถู ามนักเรียนวา่ ใครสามารถร้องเพลงที่เปน็ ภาษาถิ่นไดบ้ ้างให้อาสาสมัครออกมาร้อง เช่น เพลง นกั เรียนภาคเหนอื ,นกั เรยี นภาคอีสาน,นกั เรียนภาคใต้ ขณะท่ีอาสาสมัครร้องใหน้ ักเรียนช่วยจดและจำไว้ และ ครชู วนสนทนา ดังนี้ ๐ เพลงทรี่ ้องมคี ำภาษาถิ่นภาคใด ๐ เนือ้ เพลงมีความหมายอย่างไร ๐ คำทเ่ี ป็นภาษาถนิ่ มีคำอะไรบา้ ง มคี วามหมายตรงกบั ภาษาไทยมาตรฐานว่าอย่างไร ๐ นกั เรยี นรู้สึกอยา่ งไรเมื่อได้ยินเพลงท่ีเปน็ ภาษาถิ่น ๒. ครูให้นกั เรียนเขียนคำภาษาถน่ิ และภาษาไทยมาตรฐานลงในตาราง ดงั น้ี ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถ่นิ ............ ตัวอยา่ ง โกหก ขีฮ้ ็อก ๓. ให้นกั เรียนทำใบงานท่ี ๓๒ เรอ่ื ง การเลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ แลว้ ร่วมกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
176 ๔. ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นโดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ ถา้ ไมม่ ภี าษาไทยมาตรฐานนกั เรยี นคดิ วา่ จะสามารถสื่อสารกนั ไดห้ รือไม่ อยา่ งไร ส่ือการเรียนรู้ ๑. เนอ้ื เพลงภาษาถ่นิ ๒. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑. วิธีการวดั และประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจใบงานที่ ๓๒ ๒. เครือ่ งมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๓. เกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน
177 แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 18 เรือ่ งภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น แผนการเรยี นรู้ที่ 7 เรอื่ งสรุปผลการเรียนรู้ ...ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ เวลา 1 ช่ัวโมง สอนวนั ท่ี 12 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ อง ชาติ ตัวชีว้ ัด ท ๔.๑ ป. ๓/๖ เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. สรปุ ความรู้เรอ่ื งการเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่นิ (K) ๒. เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่นิ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ (P) ๓. มนั่ ใจในการนำภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ินมาใชไ้ ด้เหมาะสมกบั กาลเทศะ (A) สาระสำคัญ ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ เมอ่ื นำไปใชใ้ นการส่อื สารตอ้ งใช้ให้เหมาะสมกับกาลเทศะจึงจะช่วย ใหเ้ กิดความเขา้ ใจอนั ดีระหว่างคนในชาติ สาระการเรยี นรู้ ใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่นิ ในการสื่อสาร สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น ๑๒๙. ความสามารถในการส่อื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพูด ๑๓๐. ความสามารถในการคดิ - การจัดระบบความคดิ เปน็ แผนภาพ - การคิดสังเคราะห์
178 - การปฏบิ ตั ิ - การสรุปความรู้ ๑๓๑. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มุ่งมั่นในการทำงาน ตัวชว้ี ดั ที่ ๖.๑ ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบัติหน้าทก่ี ารงาน ตวั ชีว้ ัดที่ ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพือ่ ให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย รักความเปน็ ไทย ตวั ชี้วดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สารได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ชิน้ งาน/ภาระงาน ผลงานการสรุปความรเู้ ร่ือง การใชภ้ าษาถิน่ ให้เหมาะสม คำถามท้าทาย ถ้าไม่มภี าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น นักเรยี นคดิ ว่าภาษาไทยของเราจะเปล่ียนแปลงอย่างไรบา้ ง การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ ถา้ ไมม่ ีภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ิน นักเรยี นคิดวา่ ภาษาไทยของเราจะเปลย่ี นแปลง อยา่ งไรบ้าง ๒. ให้นักเรยี นเลน่ เกมสนุกกับคำ โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น ๒ กลมุ่ ดังน้ี กลุ่มที่ ๑ ภาษาไทยมาตรฐาน กลุ่มท่ี ๒ ภาษาถน่ิ ใหน้ ักเรยี นตกลงกนั วา่ กลุ่มไหนจะเรมิ่ เลน่ ก่อน ถา้ กลมุ่ ท่ี ๑ เลน่ กอ่ น กล่มุ ที่ ๑ ก็จะชว่ ยกันคิด คำภาษาไทยมาตรฐาน ๑ คำ เช่น ทำงาน กลมุ่ ภาษาถนิ่ กจ็ ะบอกคำท่ตี รงกับทำงาน เปน็ ภาคใดก็ได้ ตอ่ ไป กลมุ่ ที่ ๒ เริม่ ก่อน สลบั กนั ไปเร่อื ย ๆ ครใู ห้คะแนนคำละ ๑ คะแนน ใครตอบถูกมากกวา่ ชนะ เชน่ กลุ่มที่ ๑ เร่มิ ก่อน ทำงาน กลมุ่ ท่ี ๒ เฮด็ งาน กลุ่มท่ี ๒ แหลง กลุ่มที่ ๑ พูด ฯลฯ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318