Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาภาษาไทย ป.3

วิชาภาษาไทย ป.3

Published by juthamanee.suksawai, 2023-02-18 15:17:46

Description: วิชาภาษาไทย ป.3

Search

Read the Text Version

229 ๙. นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดังน้ี การเขยี นบนั ทกึ ประจำวันเป็นการเขียนเรอ่ื งราว หรือเหตุการณต์ ่างๆ ท่ีเกดิ ข้ึนกับตนเองในแต่ละวัน ซึ่งอาจจะเปน็ เรื่องใดเรอ่ื งหนึ่งท่ปี ระทบั ใจ แล้ว นำมาเขยี นบันทกึ เพอื่ เตอื นความจำหรอื เกบ็ ไวเ้ ป็นความทรงจำ สอ่ื การเรยี นรู้ กระดาษสำหรบั เขียนบันทึกประจำวนั การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑.วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๒.เครอ่ื งมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ๓.เกณฑก์ ารประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แผนการจดั การเรียนรู้ 230 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 20 เรอื่ งการเขยี น ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 แผนการเรยี นรู้ที่ 9 เรอื่ งการเขยี นบนั ทึกกจิ กรรมประจำวัน สอนวันที่ 6 เดอื นกุมพาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียน เร่ืองราวในรปู แบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน การศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ท ๒.๑ ป. ๓/๓ เขยี นบนั ทกึ ประจำวนั ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการเขียน จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายหลักการเขยี นบันทกึ ประจำวัน (K) ๒. เขียนบันทกึ กิจกรรมท่ที ำประจำวันตามลำดับเวลา (P) ๓. มีความตงั้ ใจในการเขยี นบันทึกประจำวัน (A) สาระสำคญั หลักการเขียนบันทึกประจำวนั ต้องมกี ารระบุ วนั เดือน ปี ทบี่ นั ทึกโดยเขียนบันทกึ เหตุการณ์ ท่ีประทับใจ นา่ สนใจ หรอื เกีย่ วข้องกบั ตนเองให้เป็นประโยคท่อี า่ นง่าย หรอื เป็นคำพูดของตนเอง และใช้ถ้อยคำสุภาพ กะทัดรัด ไมก่ ่อให้เกิดความเสียหายแก่ผ้ทู ี่กล่าวถงึ ซง่ึ ผเู้ ขียนสามารถบรรยาย ความรู้สึกของตนเองและแสดงความคิดเห็นตอ่ เหตุการณ์น้ันๆ ได้ สาระการเรยี นรู้ หลกั การเขยี นบนั ทกึ ประจำวนั สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ๑๗๔. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู

231 ๑๗๕. ความสามารถในการคดิ - การจัดระบบความคดิ เปน็ แผนภาพ - การสังเคราะห์ - การปฏบิ ัติ - การสรปุ ความรู้ ๑๗๖. ความสามารถในการแกป้ ัญหา คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ช้ีวัดท่ี ๔.๑ ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ รกั ความเป็นไทย ตวั ชี้วัดท่ี ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ชิ้นงาน/ภาระงาน ๑. การเขยี นบนั ทึกกิจกรรมท่ีทำประจำวนั ตามลำดับเวลา ๒. แผนภาพความคิด คำถามทา้ ทาย กจิ กรรมใดบ้างที่นักเรยี นปฏบิ ัตเิ ปน็ ประจำทุกวนั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี ๏ กิจกรรมใดบ้างท่ีนักเรยี นปฏบิ ัตเิ ป็นประจำทุกวัน ๒. ใหน้ กั เรียนทบทวนหลักการเขยี นบนั ทกึ ประจำวันแลว้ ร่วมกนั สรุปเป็นแผนภาพความคิด บนกระดาน

ตัวอย่างแผนภาพความคิด 232 ๑. เขียนวนั เดือน ปีท่บี นั ทึก ๒. เขียนเหตกุ ารณท์ ่ี ประทบั ใจน่าสนใจ หรอื ๕. ผเ้ ขียนสามารถบรรยาย เกี่ยวขอ้ งกบั ตนเอง ความรส้ กึ ของตนเอง และแสดง ความคดิ เห็นต่อเหตกุ ารณน์ น้ั ๆ หลักการเขียนบนั ทกึ ได้ ประจาวัน ๔. ใชถ้ อ้ ยคาสภุ าพ ๓. เขยี นใหเ้ ป็นประโยคท่ี กะทดั รดั และกอ่ ใหเ้ กดิ อ่านงา่ ยหรอื เป็นคาพดของ ตนเอง ความเสียหายแกผ่ ท้ ่ี กลา่ วถงึ ๓. ใหน้ กั เรยี นเขยี นบนั ทึกเหตุการณ์หรือกิจกรรมท่ที ำประจำวนั ตามลำดบั เวลา ๔. เมื่อเสร็จแล้วนำสง่ ครทู ลี ะคนเพ่ือตรวจหาทแี่ กไ้ ขปรบั ปรุง ๕. ครูเลอื กนักเรยี นท่เี ขียนได้ดใี ห้นำผลงานไปอ่านหนา้ หอ้ งเรยี นให้เพื่อนและครฟู งั ๖. ใหน้ กั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี หลักการเขียนบันทึกประจำวันตอ้ งมกี ารระบุ วัน เดอื น ปี ทีบ่ นั ทึกโดยเขยี นบันทกึ เหตุการณท์ ่ปี ระทับใจ นา่ สนใจ หรอื เกยี่ วข้องกบั ตนเองให้เปน็ ประโยคท่อี า่ นงา่ ย หรือเป็นคำพูดของตนเองและใช้ถ้อยคำสุภาพ กะทัดรัด ไม่กอ่ ให้เกดิ ควาเสียหาย แก่ผทู้ กี่ ลา่ วถึง ซึ่งผูเ้ ขยี นสามารถบรรยายความรสู้ กึ ของตนเองและแสดงความคิดเหน็ ตอ่ เหตุการณ์ นั้นๆ ได้ สือ่ การเรียนรู้ แบบบันทกึ ประจำวันของคนเก่ง การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑.วธิ ีการวดั และประเมินผล สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๒.เครอื่ งมอื แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม

233 ๓.เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ ่าน

แผนการจดั การเรียนรู้ 234 กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หน่วยการเรยี นรู้ที่ 20 เรื่องการเขียน ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 แผนการเรียนรทู้ ี่ 10 เรื่องวันหน่ึงทีจ่ ดจำ สอนวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสื่อสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี น เร่อื งราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ป. ๓/๓ เขยี นบนั ทึกประจำวัน ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. เข้าใจหลักการเขียนบนั ทึกประจำวนั และสามารถอธบิ ายได้ (K) ๒. เขยี นบนั ทกึ ประจำวนั (P) ๓. เหน็ คุณคา่ ของการเขยี นบันทึกประจำวัน (A) สาระสำคัญ การเขยี นบันทึกประจำวันเป็นการเขยี นเรอ่ื งราวหรือเหตุการณ์ตา่ งๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนกับตนเองใน แต่ละวัน เพอ่ื เก็บไว้เป็นความประทบั ใจ สาระการเรยี นรู้ การเขียนบันทกึ ประจำวนั สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๑๗๗. ความสามารถในการสือ่ สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟงั การดู และการพดู ๑๗๘. ความสามารถในการคิด - การสังเคราะห์

235 - การปฏิบัติ - การสรุปความรู้ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตัวชว้ี ดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการ เลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ ม่งุ มั่นในการทำงาน ตัวชว้ี ัดท่ี ๖.๑ ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ทีก่ ารงาน รกั ความเป็นไทย ตัวชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ชน้ิ งาน/ภาระงาน ชิน้ งาน เรอ่ื ง การเขยี นบันทกึ ประจำวัน คำถามทา้ ทาย นกั เรียนรู้สกึ อย่างไรเม่อื นกึ ถึงเหตุการณ์ท่ปี ระทบั ใจ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดังน้ี ๏ นักเรยี นรู้สกึ อยา่ งไรเมื่อนกึ ถึงเหตุการณ์ที่ประทับใจ ๒. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสนทนาสรุปเกย่ี วกบั หลักการเขยี นบนั ทึกประจำวันโดยครพู ยายาม ให้นกั เรียนไดร้ ่วมทบทวนความรูท้ กุ คน ๓. ขออาสาสมคั รนักเรียน ๒ คนออกมาเล่าเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ท่ีเกดิ ข้นึ เมื่อวานนี้ของตนเองให้ เพือ่ นๆ ฟัง แล้วใหช้ ่วยกันสนทนาว่าเพอื่ น ๒ คนได้เล่าเหตกุ ารณ์ตามลำดับเวลาหรือไม่ ๔. ให้นักเรยี นทำชิน้ งานท่ี ๙ เรือ่ ง การเขยี นบันทึกประจำวัน ๕. ครูเลอื กนกั เรียนทท่ี ำผลงานไดด้ ี ๒ - ๓ คน ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี นโดยมีครู และเพ่อื นๆ คอยแนะนำเพิ่มเตมิ ๖. ใหน้ กั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ดังนี้ การเขยี นบนั ทกึ ประจำวนั เปน็ การเขยี น เรอื่ งราวหรอื เหตุการณ์ต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนกับตนเองในแต่ละวัน เพอื่ เก็บไวเ้ ปน็ ความประทบั ใจ

236 สื่อการเรยี นรู้ ช้นิ งาน การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑.วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจชิ้นงานท่ี ๙ ๒.เครอื่ งมอื แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๓.เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผา่ นต้ังแต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น

แผนการจดั การเรยี นรู้ 237 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 20 เร่ืองการเขียน ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 แผนการเรียนรู้ท่ี 11 เรอื่ งรูปแบบจดหมายลาครู สอนวนั ที่ 8 เดือนกุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นส่อื สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียน เร่อื งราวในรปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ช้ีวัด ท ๒.๑ ป. ๓/๔ เขยี นจดหมายลาครู ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายรูปแบบของจดหมายลาครู (K) ๒. เขียนรูปแบบของจดหมายลาครู (P) ๓. เห็นความสำคญั ของการเขียนจดหมายลาครูตามรูปแบบทถ่ี ูกตอ้ ง (A) สาระสำคัญ จดหมายลาครมู รี ูปแบบการเขยี นที่ชดั เจน ซึ่งต้องเขียนให้ถกู ต้อง สาระการเรียนรู้ สว่ นประกอบของจดหมายลาครู และการเขยี นหนา้ ซอง สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๑๗๙. ความสามารถในการสอื่ สาร - ทักษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๑๘๐. ความสามารถในการคดิ - การจัดระบบความคิดเป็นแผนภาพ - การปฏิบัติ

238 - การสรปุ ความรู้ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ชี้วัดท่ี ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ รกั ความเป็นไทย ตัวช้ีวดั ที่ ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ชิน้ งาน/ภาระงาน รปู แบบการเขยี นจดหมายลาครู คำถามท้าทาย การตดิ ต่อสอื่ สารกันดว้ ยวธิ ีการเขยี นจดหมายมีขอ้ ดีและข้อเสยี อย่างไร การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดงั นี้ ๏ การติดตอ่ สือ่ สารกันดว้ ยวธิ กี ารเขยี นจดหมายมขี อ้ ดีและขอ้ เสยี อยา่ งไร ๒. ครูตดิ แถบคำ “จดหมาย” บนกระดานดำ ให้นักเรียนอ่านพรอ้ มกัน ครแู ละนักเรียน รว่ มกนั สนทนาหาข้อสรุปความหมายของคำว่าจดหมาย ๓. ครูตง้ั คำถามให้นักเรียนร่วมกนั สนทนาคำตอบดงั น้ี ๏ นกั เรยี นเคยอ่านจดหมายบา้ งหรอื ไม่ และเคยสงั เกตไหมว่าส่วนประกอบของจดหมาย มีอะไรบ้าง ๔.ครสู มุ่ ถามให้นักเรียนตอบทีละคน ครจู ะได้คำตอบหลากหลายและสรุปเปน็ แผนภาพบน กระดาน ๕.ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม ๓ กลุ่ม จบั ฉลากศึกษาความร้ตู ามหวั ข้อ ดงั นี้ กลุ่มท่ี ๑ เรอื่ ง ส่วนประกอบของจดหมายลาครู กลุ่มท่ี ๒ เร่อื ง การเขียนหน้าซองจดหมาย และข้อควรคำนึงในการเขียนจดหมาย กล่มุ ที่ ๓ เรื่อง การเขียนจดหมายลาครู ๖. ใหน้ กั เรียนทุกกลุ่มออกมานำเสนอเรื่องท่ีได้ศึกษา โดยครูคอยเพ่ิมเติมใหส้ มบรู ณ์ ๗.ครอู ธิบายเพ่มิ เติมเร่ือง ส่วนประกอบของจดหมาย การเขียนหน้าซองจดหมาย การเขียน จดหมายลาครู เพือ่ ให้นักเรียนเขา้ ใจมากย่งิ ข้ึน พรอ้ มนำตวั อย่างซองจดหมายมาให้นกั เรียนดู ๘.ให้นักเรียนแต่ละกล่มุ เขียนรปู แบบการเขยี นจดหมายลาครูกลุ่มละ ๑ ฉบบั สง่ ให้ครูตรวจ เพอื่ แก้ไขปรบั ปรงุ ให้ถูกตอ้ ง แลว้ นำผลงานติดผนงั ห้องเรยี นเป็นตวั อย่าง

239 ๙. ใหน้ กั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี จดหมายลาครมู รี ูปแบบการเขยี นท่ชี ดั เจนซง่ึ ตอ้ งเขยี นให้ถูกต้อง สอื่ การเรียนรู้ ซองจดหมาย การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑.วธิ ีการวัดและประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ๒.เครอ่ื งมอื ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ๓.เกณฑ์การประเมนิ ๑) การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผา่ นตัง้ แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผ่าน ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรียนรู้ 240 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 20 เรื่องการเขยี น ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 แผนการเรียนร้ทู ี่ 12 เรอ่ื งการเขียนจดหมายลาครู สอนวันท่ี 9 เดอื นกุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรียนรู้ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ เร่ืองราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงาน การศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชว้ี ัด ท ๒.๑ ป. ๓/๔ เขยี นจดหมายลาครู ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. เข้าใจรปู แบบการเขยี นจดหมายลาครู และสามารถอธบิ ายได้ (K) ๒. เขียนจดหมายลาครไู ดอ้ ย่างถูกต้อง (P) ๓. เหน็ ความสำคัญของการเขยี นจดหมายลาครูตามรูปแบบทถี่ กู ต้อง (A) สาระสำคัญ การเขียนจดหมายลาครูต้องเขียนให้ถูกตอ้ งตามรูปแบบการเขยี นจดหมาย มีสว่ นประกอบที่ ครบถว้ น มีใจความสำคัญท่ีชัดเจน และมีความสวยงาม เป็นระเบยี บเพ่อื แสดงถงึ ความเคารพตอ่ ครู สาระการเรียนรู้ การเขยี นจดหมายลาครู สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑๘๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทักษะการฟัง การดู และการพดู ๑๘๒. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล

241 - การสงั เคราะห์ - การปฏบิ ตั ิ - การสรปุ ความรู้ ๑๘๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๑๘๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ ตัวช้ีวดั ท่ี ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ รกั ความเปน็ ไทย ตวั ชวี้ ัดที่ ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ชน้ิ งาน/ภาระงาน ช้ินงาน เรอ่ื ง การเขียนจดหมายลาครู คำถามท้าทาย เพราะเหตุใดในสมยั ก่อนการเขียนจดหมายจึงเป็นช่องทางทใ่ี ชใ้ นการตดิ ต่อส่ือสาร การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดังนี้ ๏ เพราะเหตุใดในสมัยก่อนการเขยี นจดหมายจงึ เป็นชอ่ งทางท่ใี ช้ในการติดต่อส่ือสาร ๒. ครูและนักเรียนรว่ มกันทบทวนความรู้เก่ียวกับรูปแบบจดหมายลาครใู หเ้ ข้าใจมากยิง่ ข้นึ ๓. ครูอธิบายเกยี่ วกับรูปแบบการเขยี นจดหมายลาครูในหวั ข้อ ดงั นี้ - การเวน้ หนา้ กระดาษ - การเขียนท่ีอยู่ วัน เดอื น ปี - คำขึ้นต้น - เน้ือความจดหมาย - คำลงทา้ ย - ช่อื ผเู้ ขยี น - คำรบั รองของผปู้ กครอง - การเขียนหนา้ ซอง - มารยาทในการเขยี นและการใช้ภาษา ๔. ให้นักเรยี นศกึ ษาตวั อยา่ งจดหมายลาครจู ากแผนภูมบิ นกระดานชว่ ยกันสงั เกตและซักถามข้อสงสัย

242 ๕. ใหน้ กั เรยี นทำชน้ิ งานที่ ๑๐ เรอ่ื ง การเขียนจดหมายลาครู ๖. ให้นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ดังนี้ การเขียนจดหมายลาครูถูกต้อง และเขียนให้ สวยงาม เป็นระเบียบ เพื่อแสดงถึงความเคารพต่อครูให้ถูกต้องตามหลักการเขียนจดหมาย มี ส่วนประกอบที่ครบถ้วน มีใจความสำคัญที่ชัดเจน และมีความสวยงาม เป็นระเบียบเพื่อแสดงถึง ความเคารพตอ่ ครู ส่อื การเรียนรู้ ๑. แผนภมู จิ ดหมายลาครู ๒. ช้ินงาน การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๑.วิธกี ารวดั และประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจชน้ิ งานท่ี ๑๐ ๒.เคร่อื งมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ๓.เกณฑ์การประเมิน การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผา่ นตัง้ แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น

แผนการจัดการเรียนรู้ 243 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 20 เรอื่ งการเขียน ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 แผนการเรียนรทู้ ี่ 13 เรอื่ งจินตนาการของเรา สอนวันท่ี 10 เดือนกมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ เรื่องราวในรปู แบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตวั ชว้ี ดั ท ๒.๑ ป. ๓/๕ เขยี นเรือ่ งตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการเขียน จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายความหมายของคำว่าจินตนาการ (K) ๒.จินตนาการเร่อื งราวได้อยา่ งเหมาะสม (P) ๓. กระตอื รือรน้ ในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม (A) สาระสำคญั ทุกคนมจี ินตนาการ แต่ต้องรู้จักจินตนาการอย่างเหมาะสม สาระการเรียนรู้ การจินตนาการอย่างเหมาะสม สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ๑๘๕. ความสามารถในการสอื่ สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทักษะการเขยี น - ทกั ษะการฟงั การดู และการพูด ๑๘๖. ความสามารถในการคดิ - การสงั เคราะห์ - การประเมนิ ค่า

244 - การสรุปความรู้ ๑๘๗. ความสามารถในการแกป้ ญั หา คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนร้ตู า่ ง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการ เลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บันทึกความร้วู เิ คราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ รกั ความเป็นไทย ตัวชว้ี ัดท่ี ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ชนิ้ งาน/ภาระงาน การเลา่ เร่อื งตามจินตนาการ คำถามทา้ ทาย การจนิ ตนาการมีประโยชน์อย่างไร การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑.ครูติดบัตรคำ “จินตนาการ” บนกระดานดำให้นักเรียนอ่านพร้อมกนั ให้ถกู ต้องแลว้ ร่วมกัน สนทนาความหมายของคำว่า “จินตนาการ” ๒. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนชว่ ยกนั หาคำตอบ ดงั นี้ ๏ นักเรียนเคยคดิ อยากไปเทยี่ วทไ่ี หนบ้าง เพราะอะไร ๓. ครสู ่มุ เลือกนกั เรียนออกไปแสดงความคิดเห็นหน้าห้องเรยี นทีละคนให้เพอ่ื นและครูฟงั ๔. ครูให้โอกาสนกั เรียนแสดงความคิดเห็นใหค้ รบทุกคน ๕. ครูสรุปความหมายของคำ “จนิ ตนาการ” ให้นกั เรียนเขา้ ใจอยา่ งถูกตอ้ ง ดงั น้ี จนิ ตนาการคอื การสร้างภาพขึ้นมาในจติ ใจ เกิดจากความคิด ความใฝ่ฝัน การคาดคะเน อารมณ์ต่างๆ ซ่ึงไมใ่ ชเ่ รื่องราวทีเ่ กิดข้นึ จรงิ ๖. ให้นักเรยี นคิดจนิ ตนาการเรือ่ งใดกไ็ ดค้ นละ ๑ เร่อื ง แลว้ ออกมาเล่าหน้าช้นั เรียนทลี ะคน คนละประมาณ ๑ - ๒ นาที ๗. ใหน้ กั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความร้ดู ังน้ี ทกุ คนมีจนิ ตนาการ แตต่ ้องรู้จักจินตนาการ อยา่ งเหมาะสม ๘. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดังนี้ ๏ การจนิ ตนาการมีประโยชน์อย่างไร

245 สื่อการเรยี นรู้ บัตรคำ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ๒. เคร่อื งมอื แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ๓. เกณฑก์ ารประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไม่ผา่ น

แผนการจัดการเรยี นรู้ 246 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 20 เรือ่ งการเขียน ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 แผนการเรยี นรู้ที่ 14 เรอื่ งวธิ ีการเขียนเรอ่ื งตามจินตนาการ สอนวันที่ 13 เดือนกุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรื่องราวในรปู แบบต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ป. ๓/๕ เขียนเรือ่ งตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการเขียน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายวิธีการเขยี นเร่อื งตามจินตนาการ (K) ๒. เขียนเร่อื งตามจินตนาการ (P) ๓. มีความสนใจในการเขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ(A) สาระสำคญั การเขยี นเร่ืองจากจนิ ตนาการ ถา้ จะเขยี นให้ได้ดีนั้น ต้องรู้จกั ฝกึ ฝนตนเองให้เปน็ คนชา่ ง สงั เกตในสิ่งต่างๆ ช่างคิด มีความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์และควรใฝ่หาความรู้เรื่องที่อยากเขยี นหรอื สนใจ เพอื่ ใหม้ ีขอ้ มูลอันจะเป็นพ้ืนฐานทดี่ ีและทำใหเ้ กิดจินตนาการอันกวา้ งไกล สาระการเรียนรู้ วธิ กี ารเขยี นเร่อื งตามจินตนาการ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ๑๘๘. ความสามารถในการส่อื สาร - ทักษะการอา่ น - ทักษะการเขยี น - ทักษะการฟัง การดู และการพดู ๑๘๙. ความสามารถในการคิด

247 - การสงั เคราะห์ - การปฏบิ ัติ - การสรุปความรู้ ๑๙๐. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตัวชวี้ ดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการ เลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ รกั ความเป็นไทย ตวั ช้วี ัดท่ี ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการสือ่ สารไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม ชิ้นงาน/ภาระงาน ๑. การเขยี นเร่ืองตามจินตนาการ ๒. ผลการศึกษาการเขียนเรอื่ งตามจินตนาการ คำถามทา้ ทาย นักเรยี นจะมีวธิ ีการเขียนเรื่องตามจินตนาการใหน้ ่าสนใจได้อยา่ งไร การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครสู นทนาร่วมกบั นักเรียนวา่ เมื่อช่ัวโมงทแ่ี ลว้ นักเรยี นได้เรยี นเกย่ี วกบั ความหมายของ จนิ ตนาการและสรุปรว่ มกันอีกครั้ง ๒. แบง่ นกั เรียนเปน็ ๓ กลมุ่ ตามความเหมาะสม จบั ฉลากให้แต่ละกลมุ่ ศึกษาในหวั ขอ้ ดงั นี้ กลุม่ ที่ ๑ ความหมายของจินตนาการ กลมุ่ ที่ ๒ การเขยี นเร่อื งตามจินตนาการ กล่มุ ท่ี ๓ วิธกี ารเขียนเร่อื งตามจินตนาการ ๓. ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาทีละกลุ่มโดยครูชว่ ยสรุปเพ่ิมเตมิ ให้ สมบรู ณ์ ๔. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ประชมุ หารือกันเลือกคำท่ีสนใจมา ๑ คำ เปน็ คำหลกั หาคำท่ี สัมพันธก์ บั คำหลักอยา่ งน้อย ๔ - ๕ คำ แล้วให้ช่วยกันนำคำไปแตง่ ประโยค นำประโยคไปเรยี งลำดบั ให้เป็นเร่อื งราว ๕. ครกู ำชบั ให้นักเรียนระมัดระวงั ในการเลอื กคำ การใช้ภาษา การเขยี นสะกดคำ และการ

248 เว้นวรรคให้ถูกต้อง ๖. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มเลอื กผ้แู ทนนักเรียน ๑ คน นำผลงานไปอ่านหนา้ หอ้ งเรียนใหเ้ พ่อื น และครูฟังเพื่อแกไ้ ขปรบั ปรุง แล้วนำผลงานไปตดิ ผนงั หอ้ งเปน็ ตวั อยา่ ง ๗. นักเรยี นและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี การเขียนเรอื่ งจากจินตนาการ ถ้าจะเขียนใหไ้ ด้ดี นนั้ ต้องรจู้ กั ฝึกฝนตนเองให้เป็นคนชา่ งสังเกตในสงิ่ ตา่ งๆ ช่างคดิ มคี วามคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรคแ์ ละควร ใฝห่ าความรเู้ รอื่ งทอ่ี ยากเขียนหรอื สนใจ เพือ่ ใหม้ ีขอ้ มูลอันจะเป็นพ้นื ฐานที่ดแี ละทำให้เกิด จินตนาการอนั กว้างไกล ๘. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ นักเรียนจะมวี ิธกี ารเขยี นเรือ่ งตามจินตนาการให้น่าสนใจไดอ้ ยา่ งไร ส่ือการเรยี นรู้ ฉลาก การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑.วิธีการวัดและประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒) สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๒.เครื่องมือ ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม ๓.เกณฑก์ ารประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น ๒) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดับ ควรปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรียนรู้ 249 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 20 เรื่องการเขียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 แผนการเรยี นรทู้ ่ี 15 เรอ่ื งจินตนาการจากภาพ สอนวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ เรือ่ งราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวช้วี ดั ท ๒.๑ ป. ๓/๕ เขียนเรอื่ งตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการเขยี น จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธบิ ายหลกั การเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการจากภาพได้ (K) ๒. เขียนเรื่องตามจินตนาการจากภาพไดอ้ ย่างเหมาะสม (P) ๓. กระตอื รือร้นในการทำกิจกรรม (A) สาระสำคัญ การเขียนเรอื่ งตามจนิ ตนาการจากภาพเป็นการเขยี นบรรยายความรู้สกึ นึกคิด และอารมณใ์ น เชงิ สร้างสรรคโ์ ดยนำสง่ิ ทีเ่ ห็นในภาพมาเชื่อมโยงกบั จินตนาการของเรา สาระการเรยี นรู้ การเขยี นเรือ่ งตามจนิ ตนาการจากภาพ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๑๙๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขียน - ทักษะการฟงั การดู และการพดู ๑๙๒. ความสามารถในการคดิ - การสังเคราะห์

250 - การปฏิบัติ - การสรปุ ความรู้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มุ่งมัน่ ในการทำงาน ตวั ชว้ี ดั ที่ ๖.๑ ตั้งใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั หิ น้าทีก่ ารงาน ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสำเร็จตามเปา้ หมาย รกั ความเปน็ ไทย ตวั ชี้วัดท่ี ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ช้นิ งาน/ภาระงาน การเขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการจากภาพ คำถามท้าทาย เม่อื นกั เรยี นดูภาพแต่ละภาพ ทำให้นกั เรียนเกดิ ความคิดต่างกนั หรือไม่ อย่างไร การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ ำถามทา้ ทาย ดังน้ี ๏ เมอื่ นกั เรียนดภู าพแตล่ ะภาพ ทำให้นกั เรยี นเกดิ ความคดิ ต่างกันหรอื ไม่ อย่างไร ๒. ให้นักเรยี นร่วมกันทบทวนเกย่ี วกบั วธิ ีการเขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ ๓. ครนู ำภาพเด็กกำลงั เลน่ ว่าวกันอย่างสนุกสนานมาให้นักเรยี นดู และกำหนดคำให้นกั เรยี น ดงั น้ี วา่ ว หม่บา้ น กลาง แข่งขนั สายลม เวหา จากนน้ั ให้นกั เรยี นเขียนเรอื่ งตามจินตนาการจากภาพ โดยใชค้ ำท่กี ำหนดให้ ๔. ครูคัดเลอื กนักเรยี นท่ีทำผลงานได้ดี ออกมานำเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น ๕. ใหน้ กั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังนี้ การเขยี นเรื่องตามจนิ ตนาการจากภาพเป็นการ เขียนบรรยายความร้สู กึ นกึ คิด และอารมณ์ โดยนำสิ่งทเี่ หน็ ในภาพมาเช่อื มโยงกบั จนิ ตนาการของเรา ส่อื การเรยี นรู้ ภาพเดก็ กำลังเล่นว่าวกันอยา่ งสนกุ สนาน

251 การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ๑. วิธีการวัดและประเมินผล สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒. เครอ่ื งมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๓. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผา่ นต้ังแต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน

แผนการจัดการเรยี นรู้ 252 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 20 เรือ่ งการเขยี น ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 แผนการเรียนร้ทู ่ี 16 เร่อื งจินตนาการกับความสุข สอนวันที่ 15 เดือนกุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียน เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตัวช้วี ัด ท ๒.๑ ป. ๓/๕ เขยี นเรื่องตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการเขียน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. สรปุ หลักการเขยี นเรือ่ งตามจนิ ตนาการ (K) ๒. เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการในหัวข้อท่ีกำหนด (P) ๓. เหน็ ความสำคัญในการฝกึ ทกั ษะการเขยี น (A) สาระสำคญั การเขยี นเร่อื งตามจินตนาการชว่ ยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทักษะการเขยี น และกอ่ ใหเ้ กดิ ความสุขได้ สาระการเรยี นรู้ การเขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการในหัวข้อที่กำหนด สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑๙๓. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๑๙๔. ความสามารถในการคิด - การจัดระบบความคดิ เปน็ แผนภาพ

253 - การสงั เคราะห์ - การปฏบิ ตั ิ - การสรปุ ความรู้ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ตัวชว้ี ัดที่ ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีการงาน ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพือ่ ให้งานสำเร็จตามเปา้ หมาย รักความเปน็ ไทย ตัวช้วี ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ชิ้นงาน/ภาระงาน ช้ินงาน เรอ่ื ง การเขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ คำถามท้าทาย นกั เรยี นเคยคิดอยากเป็นนักเขยี นหรอื ไม่ เพราะเหตุใด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ให้นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดังน้ี ๏ นักเรยี นเคยคิดอยากเปน็ นกั เขยี นหรือไม่ เพราะเหตุใด ๒. ใหน้ ักเรียนรว่ มกันทบทวนและสรปุ ความรู้เกยี่ วกบั วธิ ีการเขียนเรื่องตามจินตนาการเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังน้ี

254 ๘. ตงั้ ช่ือเร่ือง ๗. เขียนใหมด่ ว้ ยลายมือนา่ อา่ น ๖. อา่ นทบทวนแกไ้ ขใหถ้ กตอ้ งทง้ั ดา้ น การใชภ้ าษา การเขียนสะกดคา ๕. เขียนเรแ่ือลงะรกาาวรโเดวยน้ เวตรมิ รขคอ้ ความหรือคาเช่ือม เพ่อื ใหน้ า่ อา่ น ๔. นาประโยคมาเรียงลาดบั ใหเ้ ป็นเร่อื งราว ๓. นาคามาแตง่ ประโยค ๒. คิดหาคาท่สี มั พนั ธก์ บั คาหลกั อยา่ งนอ้ ย ๕ คา ๑. เลอื กคาท่สี นใจมา ๑ คา เป็นคาหลกั ๓. ให้นักเรยี นทำชนิ้ งานท่ี ๑๑ เร่ือง การเขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ ๔. ครูคัดเลอื กผลงานท่นี ่าสนใจ ใหน้ กั เรยี นออกมานำเสนอหนา้ ชั้นเรียนแล้วร่วมกันแสดงความ คดิ เห็น ๕. ให้นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรุปความรู้ดังนี้ การเขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการชว่ ยพฒั นาความคดิ สรา้ งสรรค์และทักษะการเขยี น และก่อให้เกิดความสุขได้ สื่อการเรยี นรู้ ชิ้นงาน การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ๑.วิธกี ารวดั และประเมินผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม

255 ๒) ตรวจชิน้ งานที่ ๑๑ ๒.เครอื่ งมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓.เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านต้ังแต่ ๒ รายการ ถือว่า ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น

แผนการจัดการเรียนรู้ 256 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 20 เร่ืองการเขียน ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 แผนการเรียนรทู้ ี่ 17 เรอื่ งเขียนดตี ้องมีมารยาท สอนวนั ที่ 16 เดือนกุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ เรอ่ื งราวในรูปแบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ชีว้ ดั ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการเขียน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. บอกมารยาทในการเขียน (K) ๒. นำมารยาทในการเขยี นไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน (P) ๓. ตระหนักในความสำคัญของการมมี ารยาทในการเขียนและมนี ิสยั รักการเขียน (A) สาระสำคัญ มารยาทในการเขยี นเป็นข้อกำหนดที่ควรปฏิบตั ิให้ถูกต้องเพอื่ สรา้ งนิสัยรักการเขียนคอื เขยี น ด้วยลายมอื ตวั บรรจงเปน็ ระเบียบ เขยี นสะกดคำ วางรปู สระ วรรณยุกตแ์ ละไม้ทัณฑฆาตให้ถกู ที่ รักษาความสะอาด ใช้ถ้อยคำที่สภุ าพ ไมเ่ ขียนลอ้ เลียนผอู้ ื่น รบั ผดิ ชอบในสง่ิ ทเ่ี ขียน สาระการเรยี นรู้ มารยาทในการเขยี น สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ๑๙๕. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการอ่าน - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟงั การดู และการพูด ๑๙๖. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตผุ ล

257 - การสังเคราะห์ - การปฏบิ ตั ิ - การประยุกต์ / การปรบั ปรงุ - การสรุปความรู้ ๑๙๗. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน ตัวชีว้ ัดที่ ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบัติหนา้ ท่กี ารงาน ตวั ชว้ี ดั ที่ ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพือ่ ให้งานสำเร็จตามเปา้ หมาย รกั ความเปน็ ไทย ตัวชี้วัดที่ ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการส่อื สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ช้นิ งาน/ภาระงาน ๑. ใบงาน เรื่อง มารยาทในการเขยี น ๒. ผลงานแผนภาพความคิด ๓. ผลงานการสรปุ เรอ่ื งมารยาทในการเขยี น คำถามทา้ ทาย การเขียนล้อเลียนหรอื ตำหนผิ ู้อื่นเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑.ครตู ิดบัตรคำ คำวา่ “มารยาท” ให้นกั เรยี นอา่ นพร้อมกัน และให้นักเรียนรว่ มกัน ยกตัวอย่าง มารยาทในการเขยี นตามที่นกั เรียนมคี วามรู้ มีความเขา้ ใจ หาข้อสรุปมารยาทในการเขียน รว่ มกัน ๒.แบ่งนักเรียนเป็น ๒ กลุม่ จับฉลากเพอ่ื ร่วมกันศึกษาในหวั ข้อ ดงั นี้ กลุ่มท่ี ๑ มารยาทในการเขียน กลุ่มท่ี ๒ การสรา้ งนิสัยรักการเขียน จากนั้นใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาทลี ะกลมุ่ ๓. ครแู ละนกั เรียนช่วยกันสรปุ เกี่ยวกบั มารยาทในการเขยี น และการสร้างนสิ ัยรักการเขยี น เปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ๔. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันสนทนาแสดงความคดิ เห็น โดยครูเสนอหัวข้อ ดงั น้ี ๏ มารยาทในการเขยี นมีความสำคญั อย่างไร

258 ๏ การมนี ิสัยรักการเขียนมปี ระโยชน์อย่างไร ๕. ใหน้ กั เรียนทำใบงานท่ี ๓๙ เร่ือง มารยาทในการเขียน แลว้ แลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ซ่ึงกันและกัน ๖. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ดังน้ี มารยาทในการเขียนเป็นขอ้ กำหนดท่ีควร ปฏบิ ตั ิใหถ้ ูกตอ้ งเพือ่ สร้างนิสัยรักการเขียนคือเขยี นดว้ ยลายมือบรรจงเป็นระเบียบ เขียนสะกดคำ วางรูปสระ วรรณยุกตแ์ ละไม้ทัณฑฆาตใหถ้ ูกท่ี รกั ษาความสะอาด ใช้ถอ้ ยคำทสี่ ุภาพ ไมเ่ ขยี น ล้อเลยี นผ้อู ่นื รับผดิ ชอบในสิง่ ทเ่ี ขยี น ๗. ใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดงั น้ี ๏ การเขยี นล้อเลียนหรือตำหนิผู้อ่ืนเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตใุ ด สือ่ การเรียนรู้ ๑. ใบงาน ๒.บัตรคำ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีการวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๓) ตรวจใบงานที่ ๓๙ ๒. เครือ่ งมือ ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ ๓. เกณฑ์การประเมิน ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไม่ผ่าน ๒) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง

259 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒๑ ๑๘๕ฃ๑๒๑ การฟัง การดู และการพูด เวลา ๒๓ ช่ัวโมง แผนผงั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม • ข่าวและเหตกุ ารณป์ ระจาวนั • มารยาทในการอย่รว่ มกนั ในสงั คม • สถานท่สี าคญั ในโรงเรียนและ ชมุ ชน การงานอาชพี และ การฟัง การดู วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพูด • การอนรุ กั ษพ์ นั ธสุ์ ตั ว์ • การใชเ้ ทคโนโลยีใน การแสวงหาความร้ ตัวชีว้ ดั ศลิ ปะ • การรอ้ งเพลง • การราวง • การวาดภาพ ๑. เล่ารายละเอยี ดเก่ยี วกบั เร่ืองท่ีฟังและดทู ั้งทีเ่ ป็นความรู้และความบนั เทิง (ท ๓.๑ ป. ๓/๑) ๒. บอกสาระสำคัญจากการฟังและดู (ท ๓.๑ ป. ๓/๒) ๓. ต้งั คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังและดู (ท ๓.๑ ป. ๓/๓) ๔. พดู แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรื่องท่ีฟังและดู (ท ๓.๑ ป. ๓/๔)

แผนการจดั การเรียนรู้ 260 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 21 เรื่องการฟัง การดู และการพูด ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 แผนการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื งหลักการฟงั และดูเพ่อื จับใจความ สอนวนั ที่ 17 เดือนกมุ พาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วดั ท ๓.๑ ป. ๓/๓ ตง้ั คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกับเรอื่ งท่ีฟงั และดู ท ๓.๑ ป. ๓/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธบิ ายหลักการฟงั และดเู พ่ือจบั ใจความ (K) ๒. จับใจความจากการฟังและดไู ด้ (P) ๓. กระตือรอื ร้นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม (A) สาระสำคญั การจับใจความสำคัญจากการฟังและการดูต้องฟังหรือดูอย่างตั้งใจให้จบเรื่องก่อนแล้วจึงจับ สาระสำคัญของเรอ่ื งดว้ ยการสรุปเป็นคำพดู ของตนเองซ่ึงมหี ลกั ในการต้งั คำถาม เพ่ือหาคำตอบมาชว่ ยสรุป คือ ใคร ทำอะไร กับใคร ทีไ่ หน อย่างไรหรอื แผนภาพความคิด สาระการเรยี นรู้ หลกั การฟังและดเู พ่ือจบั ใจความ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑๙๘. ความสามารถในการสือ่ สาร - ทักษะการอา่ น - ทักษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพูด ๑๙๙. ความสามารถในการคิด - การจัดระบบความคิดเป็นแผนภาพ

261 - การสรุปความรู้ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ รักความเป็นไทย ตวั ชว้ี ัดที่ ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการสอื่ สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ชน้ิ งาน/ภาระงาน กิจกรรมการจับใจความจากการฟังและดู คำถามทา้ ทาย เม่อื นกั เรยี นมีโอกาสฟงั ครูประชมุ นกั เรยี นหนา้ เสาธง นักเรียนจะทำอยา่ งไรใหจ้ ดจำสาระสำคญั ในการ ประชมุ ได้ครบถว้ น กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ๑. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สนทนาถงึ เรื่องตา่ งๆ ทใี่ กล้ตวั นักเรยี น โดยครตู งั้ คำถาม ดงั น้ี ๐ การบา้ นทคี่ รูสัง่ เม่ือวานมวี ชิ าอะไรบ้าง ๐ เม่ือเช้าหลังเคารพธงชาติไทย แล้วผูอ้ ำนวยการพดู หน้าเสาธงเรอื่ งอะไรบ้าง ๒. ครใู ห้กลมุ่ นกั เรยี นหญงิ สนทนากนั หาคำตอบ คำถามที่ ๑ และใหเ้ ลอื กผู้แทน ๑ คน ออกไปพูด เสนอหน้าห้องเรยี น ให้กลมุ่ นักเรยี นชายสนทนากนั หาคำตอบ คำถามท่ี ๒ และให้เลอื กผ้แู ทน ๑ คนออกไปพูด เสนอหนา้ ห้องเรยี น ๓. ให้นกั เรยี นรว่ มกันบอกกจิ กรรมในชีวิตประจำวันท่ีต้องใชท้ ักษะการดู ทกั ษะการฟัง และ การดูและฟังพร้อมๆ กัน จากนั้นให้บันทึกลงในแผนภาพ กจิ กรรม กจิ กรรม กิจกรรม ทใ่ี ชท้ กั ษะการดู ทใี่ ชท้ กั ษะการฟัง ทใี่ ชท้ ักษะการดู และการฟัง ๔. ให้นกั เรยี นร่วมกนั ศกึ ษาหลักการฟังและดเู พื่อจบั ใจความ

262 ๕. ให้นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้ การจับใจความสำคัญจากการฟังและการดู ตอ้ งฟัง หรอื ดอู ยา่ งตัง้ ใจให้จบเรื่องก่อนแล้วจงึ จบั สาระสำคัญของเร่ืองดว้ ยการสรุปเป็นคำพดู ของตนเองซึ่งมีหลกั ใน การตัง้ คำถาม เพอ่ื หาคำตอบมาชว่ ยสรุป คือ ใคร ทำอะไร กบั ใคร ท่ีไหน อยา่ งไร หรือแผนภาพความคิด ๖. ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ เมือ่ นักเรยี นมีโอกาสฟงั ครปู ระชมุ นกั เรยี นหน้าเสาธง นกั เรียนจะทำอยา่ งไรใหจ้ ดจำสาระสำคญั ในการประชุมได้ครบถ้วน สือ่ การเรยี นรู้ แผนภาพความคิด การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ๑.วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม ๒.เครือ่ งมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ ๓.เกณฑ์การประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านต้ังแต่ ๒ รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น ๒) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรยี นรู้ 263 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 21 เรอ่ื งการฟัง การดู และการพูด ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 แผนการเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ งการฟงั เพลงและดภู าพประกอบ สอนวนั ที่ 20 เดือนกมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรู้สกึ ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ช้ีวดั ท ๓.๑ ป. ๓/๓ ต้งั คำถามและตอบคำถามเก่ียวกบั เร่อื งท่ีฟงั และดู ท ๓.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. บอกเนอ้ื หาเพลงที่ฟังและภาพทดี่ ู (K) ๒. พูดเกย่ี วกบั สาระสำคัญของเพลงและความหมายของภาพ (P) ๓. มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด (A) สาระสำคญั หลักการฟังและดเู พื่อจับใจความ ตอ้ งตั้งใจฟัง และดูอย่างมีสมาธิ ใจจดจ่ออยู่กบั เร่อื งที่กำลังฟัง และ ดู จบั ประเดน็ สำคัญของเรื่องแยกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ ออกจากกนั แล้วสรุปเป็นข้อมลู ส่วนตวั หรอื ส่อื สาร กบั ผอู้ ืน่ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง สาระการเรยี นรู้ การฟงั เพลงและดูภาพประกอบ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๒๐๐. ความสามารถในการสอื่ สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทักษะการเขยี น - ทักษะการฟงั การดู และการพดู ๒๐๑. ความสามารถในการคดิ - การใหเ้ หตุผล

264 - การสังเคราะห์ - การปฏบิ ัติ - การสรปุ ความรู้ ๒๐๒. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๒๐๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตัวชวี้ ัดที่ ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย ตวั ช้ีวัดท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ช้นิ งาน/ภาระงาน ใบงาน เรอ่ื ง การจับใจความจากการฟงั เพลงและดูภาพประกอบ คำถามทา้ ทาย นักเรียนคิดว่าเพลงและภาพส่ือความรู้สึกไดจ้ ริงหรือไม่ อยา่ งไร กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ๑. ครูนำแถบประโยค “วันเพ็ญเดือนสิบสอง” ตดิ บนกระดาน ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงครตู ้ังคำถามให้ นกั เรยี นร่วมกันสนทนาหาขอ้ สรุป ดังน้ี ๐ นักเรยี นวันนี้มคี วามสำคัญต่อคนไทยอย่างไร ๐ ชือ่ เพลงอะไร นักเรยี นร้องไดห้ รือไม่ ๒. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันรอ้ งเพลงลอยกระทง และรว่ มกันสนทนาโดยครใู ชค้ ำถาม ดังนี้ ๐ เทศกาลลอยกระทงมีความสำคัญอย่างไร ๐ การลอยกระทงควรลอยในเวลากลางวนั หรือกลางคืน ๐ เนอ้ื เพลงลอยกระทงกลา่ วถงึ อะไร ๓. ใหน้ ักเรียนแบง่ กล่มุ เลือกเพลงทีช่ อบ ๑ เพลง จากนน้ั รว่ มกันวาดภาพประกอบเพลง แลว้ นำมาเสนอหน้าชั้นเรยี น ๔. ให้นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรูด้ ังนี้ หลักการฟงั และดูเพื่อจับใจความ ตอ้ งตง้ั ใจฟังและดู อย่างมีสมาธิ ใจจดจ่ออยู่กับเรื่องท่ีกำลังฟังและดู แยกข้อเท็จจรงิ กบั ข้อคิดเห็นออกจากกัน ฟงั ใหเ้ ขา้ ใจ ฟังจับ ประเดน็ สำคญั ของเรือ่ ง โดยจดบนั ทกึ เป็นขอ้ ๆ ตามลำดับ แลว้ นำสาระสำคญั ของเร่ืองไปบอกเลา่ ต่อ หรือสรุป เป็นขอ้ มลู ความรสู้ ่วนตวั

265 ๕. ใหน้ กั เรียนทำใบงานท่ี ๔๐ เรอื่ ง การจับใจความจากการฟงั เพลงและดภู าพประกอบ ๖. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นโดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดังนี้ ๏ นกั เรยี นคดิ ว่าเพลงและภาพสื่อความรู้สึกได้จรงิ หรือไม่ อยา่ งไร สอื่ การเรยี นรู้ ๑. แถบประโยค ๒. เพลง ๓. ใบงาน การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑.วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๒) ตรวจใบงานท่ี ๔๐ ๒.เครือ่ งมอื แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ๓.เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน

แผนการจดั การเรยี นรู้ 266 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 21 เรื่องการฟงั การดู และการพูด ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 แผนการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรื่องการฟังและดขู า่ วประจำวัน สอนวันท่ี 21 เดือนกมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ ความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวชี้วดั ท ๓.๑ ป. ๓/๓ ต้ังคำถามและตอบคำถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีฟงั และดู ท ๓.๑ ป. ๓/๖ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพดู จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกเนอ้ื หาทีส่ ำคญั ของข่าวและเหตกุ ารณ์ทชี่ มจากโทรทศั น์หรอื วทิ ยุ (K) ๒. ตัง้ คำถามและตอบคำถามเก่ียวกบั ขา่ วและเหตุการณ์นัน้ (P) ๓. จบั ใจความสำคัญของข่าวและเหตกุ ารณ์ (P) ๔. เห็นความสำคญั ของการชมหรอื ฟังข่าว และเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน (A) สาระสำคญั การจับใจความจากการฟงั และดูขา่ วในแต่ละวนั ทำให้ไดร้ บั ความรูท้ เ่ี ป็นปจั จบุ ันทันต่อเหตุการณ์ท่ี กำลังเกิดขนึ้ และเป็นประโยชนต์ ่อการดำเนนิ ชีวติ สาระการเรยี นรู้ การต้งั คำถามและตอบคำถามจากการฟังและดขู ่าว สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๒๐๔. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการอา่ น - ทักษะการเขยี น - ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๒๐๕. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตผุ ล

267 - การสังเคราะห์ - การปฏิบัติ - การสรุปความรู้ ๒๐๖. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๒๐๗. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ชี้วัดท่ี ๖.๑ ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ น้าทกี่ ารงาน ตวั ชีว้ ัดที่ ๖.๒ ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย รกั ความเป็นไทย ตัวชว้ี ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการส่อื สารได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ช้นิ งาน/ภาระงาน ใบงาน เรือ่ ง การตงั้ คำถามและตอบคำถามจากการฟงั และดขู ่าว คำถามท้าทาย ข่าวประเภทใดทเ่ี หมาะสมกับนกั เรียน เพราะเหตใุ ด กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ๑. ครูตง้ั คำถามใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสนทนา ดงั นี้ ๐ นกั เรียนเคยดหู รอื ฟงั ข่าวอะไรบ้าง ๐ ดูหรือฟังแล้วนักเรียนจำไดห้ รือไม่ ๐ ทำไมต้องดหู รือฟังข่าว ๒. แบ่งนักเรยี นเป็น ๔ กลมุ่ ตามความเหมาะสมให้แตล่ ะกลุ่มเลอื กฟังกลุม่ ละ ๑ ขา่ ว ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เลือกผแู้ ทน ๑ คน ออกไปสรุปข่าวหนา้ หอ้ งเรียนใหเ้ พ่ือนและครฟู ัง ครเู ปรียบเทียบระหวา่ งกลุ่มวา่ กลุ่มใดจำ ขอ้ มลู ได้ครบถว้ นแลว้ แจง้ ให้นกั เรยี นทราบ ๓. ใหน้ ักเรยี นฝกึ ต้ังคำถามจากข่าวที่ไดช้ มหรอื ฟัง โดยครเู ขียนฉลากหัวข้อ ดังนี้ ใคร ทาอะไร ทไี่ หน เมือ่ ใด เกดิ ผลอยา่ งไร แล้วสมุ่ นกั เรียนมาคิดคำถามตามหัวขอ้ ทีไ่ ด้

268 ๔. ใหน้ กั เรยี นและครูร่วมกันสรุปความรดู้ ังนี้ การจบั ใจความจากการฟงั และดูข่าวในแต่ละวนั ทำ ให้ได้รบั ความรู้ทีเ่ ป็นปจั จุบันทันตอ่ เหตุการณ์ทีก่ ำลังเกิดข้ึนและเปน็ ประโยชน์ตอ่ การดำเนนิ ชวี ิต ๕. ใหน้ ักเรยี นทำใบงานท่ี ๔๑ เรื่อง การตงั้ คำถามและตอบคำถามจากการฟังและดูขา่ ว แล้วร่วมกัน สนทนาแลกเปล่ยี นความรู้ความคิดเห็น ๖. ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี ๏ ข่าวประเภทใดท่เี หมาะสมกับนกั เรยี น เพราะเหตุใด สือ่ การเรยี นรู้ ๑. ข่าว ๒. ฉลากหวั ขอ้ ๓. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑.วิธีการวัดและประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ๓) ตรวจใบงานท่ี ๔๑ ๒.เครื่องมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๓.เกณฑ์การประเมนิ ๑) การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น ๒) การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่ คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง

แผนการจัดการเรยี นรู้ 269 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 21 เรือ่ งการฟงั การดู และการพดู ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่องหลักการพดู ท่ดี ี สอนวันที่ 22 เดือนกมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ ความรูส้ ึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวช้ีวดั ท ๓.๑ ป. ๓/๕ พูดสอ่ื สารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ ท ๓.๑ ป. ๓/๖ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพดู จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายหลักการพูดทดี่ ี (K) ๒. เขียนแผนภาพความคดิ สรุปหลกั การพูดทด่ี ี (P) ๓. กระตอื รือร้นในการเรียนรู้(A) สาระสำคัญ การพูดส่ือความหมายชดั เจน ถกู ต้อง คล่องแคลว่ และมวี ิจารณญาณ ใช้น้ำเสียง คำพดู ถูกตอ้ ง เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล พูดแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมเี หตุผล ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทที่เหมาะสมใน โอกาสตา่ งๆ สาระการเรียนรู้ หลักการพูดท่ีดี สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน ๒๐๘. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทักษะการอ่าน - ทักษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพูด ๒๐๙. ความสามารถในการคิด - การจดั ระบบความคดิ แบบแผนภาพ

270 - การสรปุ ความรู้ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตัวชว้ี ดั ที่ ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ รกั ความเป็นไทย ตัวช้วี ัดที่ ๗.๒ เหน็ คุณค่าและใช้ภาษาไทยในการส่อื สารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ชน้ิ งาน/ภาระงาน แผนภาพความคิดสรุปหลักการพูดทด่ี ี คำถามทา้ ทาย มสี ำนวนสุภาษติ ใดบา้ งทเ่ี กีย่ วกับการพูด กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ ักเรยี นทกุ คนพดู ทักทายเพื่อน จากนนั้ ให้ร่วมกันเลือกว่าชอบการพดู ทักทายของใครมากท่สี ุด เพราะอะไร ๒. ครูนำบทกลอน “คิดก่อนพูด” แล้วใหน้ ักเรยี นอ่านตาม ...คิดกอ่ นพดู ... พดกบั ใครจาไวใ้ หไ้ พเราะ ฟังเสนาะสาเนียงเสยี งกลา่ วขาน คนไดฟ้ ังเขาชมนิยมนาน สขุ สราญดว้ ยเพราะพดถกทานอง ใชภ้ าษาใหแ้ คลว่ คล่องลองฝึกพด ตามหลกั สตรกล่าวไวใ้ หถ้ กตอ้ ง ก่อนจะพดตอ้ งพนิ จิ คดิ ไตรต่ รอง ไรม้ วั หมองคิดกอ่ นพดจดุ สาคญั ๓. ให้นักเรียนรว่ มกันสนทนาเกย่ี วกับหลักการพดู ท่ดี จี ากบทกลอน แลว้ สรปุ เปน็ แผนภาพลงบน กระดาน ดังน้ี

271 หลักการพดู ที่ ดี ๔. ให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั ผลการพูดโดยครใู ชค้ ำถาม ดงั น้ี ๐ ถา้ พูดตามหลกั การพูดที่ดีจะเกดิ ผลอย่างไร ๐ ถา้ พูดไมด่ จี ะเกดิ ผลอยา่ งไร ๕. ให้นักเรียนร่วมกันสรปุ ความรูด้ ังน้ี การพดู สอื่ ความหมายชัดเจน ถูกต้อง คล่องแคล่วและมี วิจารณญาณ ใชน้ ำ้ เสยี ง คำพูดถกู ต้อง เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล พูดแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตุผล ปฏบิ ัตติ นตามมารยาทท่เี หมาะสมในโอกาสตา่ งๆ ๖. ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดังน้ี ๏ มสี ำนวนสภุ าษิตใดบ้างท่ีเก่ียวกับการพดู ส่อื การเรยี นรู้ บทกลอน “คดิ กอ่ นพดู ” การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑.วธิ กี ารวัดและประเมินผล สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม ๒.เครื่องมือ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ๓.เกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นตัง้ แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ ่าน

แผนการจัดการเรยี นรู้ 272 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 21 เรอ่ื งการฟงั การดู และการพดู ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 แผนการเรียนรทู้ ี่ 5 เรอ่ื งการพดู แนะนำตนเอง สอนวันที่ 23 เดือนกุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชว้ี ัด ท ๓.๑ ป. ๓/๕ พูดสือ่ สารไดช้ ัดเจนตรงตามวัตถปุ ระสงค์ ท ๓.๑ ป. ๓/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายหลักการพดู ท่ีดี (K) ๒. อธิบายความร้คู วามเข้าใจวิธีการพูดแนะนำตนเอง (K) ๓. พดู แนะนำตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสมในโอกาสตา่ ง ๆ (P) ๔. มมี ารยาทในการพดู แนะนำตนเอง (A) สาระสำคญั หลกั การพดู ทดี่ ี ต้องพดู ตรงประเดน็ หรอื หวั ข้อด้วยนำ้ เสียงท่ีเปน็ ธรรมชาติ ไมด่ งั หรือค่อยเกนิ ไป มี จงั หวะการเว้นวรรค การทอดเสยี งและทา่ ทางทเ่ี หมาะสมใช้ภาษาพูดได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบคุ คล ลำดบั เหตกุ ารณ์และแสดงความคิดเห็นได้ถูกตอ้ ง การพูดแนะนำตนเองเป็นการสร้างสัมพันธภาพซงึ่ กันและกัน เป็นครัง้ แรกจงึ ควรใชค้ ำพูดท่ีสภุ าพใชป้ ระโยคสื่อสารที่กระชบั ชดั เจนเหมาะสมกบั ผู้ฟัง สาระการเรียนรู้ - หลกั การพูดที่ดี - การพูดแนะนำตนเอง สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๒๑๐. ความสามารถในการส่อื สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขยี น

273 - ทกั ษะการฟงั การดู และการพดู ๒๑๑. ความสามารถในการคิด - การประเมนิ ค่า - การปฏบิ ตั ิ - การสรุปความรู้ ๒๑๒. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตัวชว้ี ดั ที่ ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ รกั ความเปน็ ไทย ตัวชว้ี ัดที่ ๗.๒ เหน็ คุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ชนิ้ งาน/ภาระงาน บทพูดแนะนำตนเอง คำถามท้าทาย ๑. นักเรียนคิดอยา่ งไรกบั ข้อความ “ คำพูดสามารถทำให้คนรักกันหรอื เกลยี ดกนั ได้” ๒. นกั เรยี นมวี ธิ กี ารพดู แนะนำตนเองให้ผอู้ ่นื ที่ประทบั ใจไดอ้ ย่างไร กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ๑. ให้นักเรียนทุกคนพูดทักทายเพอ่ื น จากนน้ั ใหร้ ว่ มมือกนั เลือกว่าชอบการพูดของใครมากท่ีสุดเพราะ อะไร ๒. ครูนำบทกลอน “ คิดกอ่ นพูด” แล้วให้นกั เรยี นอา่ นตาม แล้วรว่ มกันสรุปหลักการพดู “คิดก่อนพูด” พูดกับใครจำไวใ้ ห้ไพเราะ ฟงั เสนาะสำเนียงเสียงกลา่ วขาน คนได้ฟงั เขาชมนิยมนาน สขุ สำราญด้วยเพราะพูดถูกทำนอง ใชภ้ าษาให้คล่องแคลว่ ลองฝึกพดู ตามหลักสตู รกลา่ วไว้ใช้ให้ถูกตอ้ ง กอ่ นจะพดู ต้องพนิ ิจคดิ ไตร่ตรอง ไร้มัวหมองคดิ กอ่ นพดู จดุ สำคัญ

274 ๓. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดังน้ี ๏ นักเรยี นคิดอย่างไรกับข้อความ“คำพดู ทำให้คนรกั กันหรือเกลยี ดกนั ได้” ๔. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรียนฟงั วา่ การพดู ที่จะทำใหผ้ ู้ฟังประทบั ใจ นอกจากจะขนึ้ อยู่กับถ้อยคำที่ใช้แลว้ ผู้ พดู ต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์และบคุ คลด้วยแต่ทีส่ ำคญั ต้องพูดให้ไพเราะอยเู่ สมอ ๕. ให้นักเรียนเตรยี มการพูดแนะนำตนเอง โดยเขยี นบทพูดแนะนำตนเอง แล้วฝกึ พูด ๖. ใหน้ กั เรียนออกมาพูดแนะนำตนเองหนา้ ชน้ั เรียนทลี ะคน ทุกคนชว่ ยแนะนำและประเมินการพูด (ใหค้ รูประเมินผลตัวช้วี ดั โดยใชเ้ กณฑ์การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) เรอื่ ง การพูดแนะนำตนเอง) ๗. ให้นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี หลักการพูดที่ดี ต้องพูดตรงประเด็นหรือหัวข้อ ด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ ไม่ดังหรือค่อยเกินไป มีจังหวะการเว้นวรรค การทอดเสียงและท่าทางที่ เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล ลำดับเหตุการณ์และแสดงความคิดเห็นได้ถูกต้อง การพูดแนะนำ ตนเองเป็นการสรา้ งสมั พนั ธภาพซ่ึงกันและกันเปน็ คร้ังแรกจึงควรใช้คำพูดที่สภุ าพ ใชป้ ระโยคสื่อสารท่ี กระชบั ชดั เจน เหมาะสมกบั ผู้ฟัง ส่ือการเรยี นรู้ บทกลอน คดิ กอ่ นพูด การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ๑. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒. เครอ่ื งมอื แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๓. เกณฑ์การประเมิน การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผา่ นตั้งแต่ ๒ รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น

แผนการจัดการเรยี นรู้ 275 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 21 เร่ืองการฟงั การดู และการพดู ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 แผนการเรยี นรู้ท่ี 6 เรื่องการพดู แนะนำสถานท่ีในโรงเรียนและชมุ ชน สอนวันท่ี 24 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 2 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ ความรสู้ กึ ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวช้วี ัด ท ๓.๑ ป. ๓/๕ พูดส่อื สารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ ท ๓.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายถึงความสำคัญของสถานที่ตา่ งๆ ในโรงเรียนและชุมชน (K) ๒. พดู แนะนำสถานทตี่ า่ งๆ ในโรงเรยี นและชมุ ชน (P) ๓. มีมารยาทในการพดู แนะนำสถานที่ต่างๆ (A) สาระสำคัญ การพดู แนะนำสถานท่ีในโรงเรยี นและชมุ ชน ตอ้ งมีข้อมูลเก่ียวกบั สถานทเ่ี หล่านั้นจงึ จะพูดให้ผ้อู ่ืนรจู้ กั และสนใจได้ สาระการเรียนรู้ การพูดแนะนำสถานท่ใี นโรงเรียนและชมุ ชน สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ๒๑๓. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟัง การดู และการพดู ๒๑๔. ความสามารถในการคดิ - การให้เหตุผล - การสังเคราะห์

276 - การปฏิบตั ิ - การสรุปความรู้ ๒๑๕. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตัวชว้ี ัดท่ี ๔.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรูต้ า่ ง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการ เลอื กใช้สอ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรูว้ ิเคราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ได้ รักความเป็นไทย ตัวชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ชิน้ งาน/ภาระงาน การแตง่ ประโยคสำหรบั พูดแนะนำสถานท่ีในโรงเรียน คำถามท้าทาย ถ้ามผี ูม้ าเยย่ี มชมโรงเรยี น นกั เรียนจะเลอื กแนะนำสถานทใี่ ด เพราะเหตุใด กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ๑. ให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังน้ี ๏ ถา้ มผี ้มู าเยย่ี มชมโรงเรียน นักเรยี นจะเลอื กแนะนำสถานทใ่ี ด เพราะเหตใุ ด ๒. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกับจดุ เด่นของโรงเรยี นวา่ มอี ะไรบา้ ง ๓. ให้นกั เรยี นร่วมกนั ใช้ชอล์กวาดเปน็ แผนผงั โรงเรยี น ระบุสถานที่ตา่ งๆ ในโรงเรียน ๔. ครใู ห้นักเรยี นสนทนากันหาสถานทที่ ี่ควรแนะนำให้คนอื่น (ผู้มาเย่ยี ม) รจู้ กั โรงเรียนและชุมชน ๕. ใหน้ ักเรียนเลือกผแู้ ทน ๑ คน ออกไปนำเสนอหน้าช้นั เรียนทลี ะกลมุ่ ๖. ครูสังเกตและเสนอแนะวา่ กลุ่มใดรวบรวมข้อมลู ได้มากท่ีสดุ ชัดเจนท่สี ดุ บอกสถานท่ีสังเกตไดง้ า่ ย อย่างถูกต้อง ๗. ให้นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้ ดังนี้ การพูดในชีวติ ประจำวนั มีความสำคัญ เพือ่ ใชใ้ น การติดต่อสอื่ สารระหว่างผู้พดู และผูฟ้ ัง เพอื่ ใหเ้ กดิ ความเข้าใจอันดีต่อกัน ๘. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดังน้ี ๏ ถ้ามีผมู้ าเยี่ยมชมโรงเรียน นกั เรียนจะเลอื กแนะนำสถานท่ใี ด เพราะเหตใุ ด

277 สอื่ การเรียนรู้ - การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ๑.วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒.เครอื่ งมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ๓.เกณฑ์การประเมิน การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แผนการจัดการเรียนรู้ 278 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 21 เรือ่ งการฟัง การดู และการพดู ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 แผนการเรียนรทู้ ี่ 7 เร่ืองการเล่าประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน สอนวันที่ 27 เดือนกมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2565 เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ ความร้สู ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ช้ีวัด ท ๓.๑ ป. ๓/๕ พูดสอ่ื สารไดช้ ัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ ท ๓.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายข้อมลู ที่มีในการเล่าประสบการณ์ในชวี ิตประจำวัน (K) ๒. เล่าประสบการณ์ในชวี ิตประจำวนั ให้คนอ่ืนฟงั ได้อย่างเหมาะสม (P) ๓. ใช้ภาษาในการเลา่ ประสบการณใ์ นชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งถูกต้อง (A) สาระสำคญั การเล่าเกย่ี วกับประสบการณ์ในชีวิตประจำวันทำให้ผ้ฟู งั ได้ข้อคิด สาระการเรยี นรู้ การเล่าประสบการณใ์ นชีวติ ประจำวนั สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ๒๑๖. ความสามารถในการสอื่ สาร - ทักษะการอา่ น - ทกั ษะการเขียน - ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๒๑๗. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตผุ ล - การปฏบิ ัติ - การสรุปความรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook