Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 229 นางสาวอัจฉรา มณีเนตร

229 นางสาวอัจฉรา มณีเนตร

Published by peeyanoot.seksun, 2023-04-21 02:49:56

Description: 229 นางสาวอัจฉรา มณีเนตร

Search

Read the Text Version

89 ขอมูลนักเรยี นรายบุคคล หอ งเรยี นอําเภอเมอื ง ๓ ปการศกึ ษา ๒๕๖๕ ๑. ขอมูลดา นนักเรยี น ๑.๑ ขอ มลู สว นตวั นักเรยี น ช่อื -นามสกุล (ด.ช/ด.ญ/นาย/น.ส) นางสาวอัจฉรา มณีเนตร ช่อื เลน นอ งดาย ประเภทความพิการ บกพรองทางสตปิ ญญา เกิดวนั ท่ี ๘ กันยายน ๒๕๔๖ อายุ ๑๙ ป เช้อื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ เลขบตั รประจาํ ตัวประชาชน ๑ ๕๒๙๙ ๐๒๑๗๙ ๙๕ ๒ หมโู ลหติ - การจดทะเบียนคนพกิ าร  ไมตอ งการจดทะเบยี น  ยังไมจ ดทะเบยี น  จดทะเบยี นแลว ทอ่ี ยปู จจุบัน บานเลขท่ี ๑๑๗ ตรอก/ซอย – หมูท ี่ ๙ ช่อื หมูบ าน บานทงุ ฝาย ตําบล/แขวง ทงุ ฝาย อําเภอ/เขต เมอื ง จงั หวัด ลําปาง รหัสไปรษณีย ๕๒๐๐๐ ๑.๒ ดา นสุขภาพ ๑) สุขภาพกาย  มีสขุ ภาพรางกายสมบรู ณแขง็ แรง  เจ็บปว ยบอ ย (ระบุ)............................................................................  มีโรคประจาํ ตวั (ระบุ) ชัก เกร็ง  ปวยเปน โรครายแรง/เรอ้ื รัง (วณั โรค โรคอว น โรคทางเดินหายใจเรอ้ื รัง (หอบหดื ) โรคหวั ใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลอื ดสมอง โรคไตวายเร้อื รงั โรคมะเร็ง ภาวะภูมคิ มุ กันตา่ํ โรคเบาหวาน ภาวะบกพรองทางระบบประสาทอยางรุนแรง ลมชกั ฯลฯ ระบโุ รค)............................................................... น้าํ หนัก ๔๐ กโิ ลกรมั สว นสงู ๑๔๗ เซนตเิ มตร  นา้ํ หนักผดิ ปกตไิ มส ัมพันธกับสวนสูงหรอื อายุ  นอนตดิ เตยี ง ๒) สุขภาพจิต/อารมณ/พฤติกรรม  อารมณดี ยม้ิ งาย  มปี ฏสิ มั พนั ธท เ่ี หมาะสมกับผูอ น่ื  อารมณห งุดหงิดงาย/โมโหงา ย  ไมมปี ฏิสัมพนั ธก ับผอู ืน่ เชน เฉยเมย ไมส บตา  ไมมีการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ  ซึมเศรา  แยกตวั ออกจากกลมุ  หวาดระแวง  ไมพ บพฤติกรรมที่ไมพงึ ประสงค  พบพฤติกรรมที่ไมพงึ ประสงคท สี่ ง ผลกระทบไมร ุนแรงตอตนเอง/ผอู ื่น/ส่งิ ของ  พบพฤติกรรมที่ไมพงึ ประสงคทีส่ ง ผลกระทบรนุ แรงตอตนเอง/ผูอน่ื /สง่ิ ของ

90 ๑.๓ ดานการเรยี นรู ๑) พัฒนาการ/ความสามารถ  พัฒนาการ/ความสามารถเทียบเทา กับอายุจรงิ  พฒั นาการ/ความสามารถลา ชากวาอายุจริง ๑ – ๓ ป  พัฒนาการ/ความสามารถลาชา กวา อายุจริง ๓ ป ขน้ึ ไป ๒) การชวยเหลือตนเอง  สามารถชวยเหลอื ตนเองได  สามารถชวยเหลือตนเองไดบา ง  ไมสามารถชวยเหลือตนเองได ๑.๔ ดานสทิ ธคิ นพกิ าร/สนบั สนนุ ชวยเหลือจากองคกรภาครัฐหรอื เอกชน ๑) เบี้ยยังชพี คนพิการ  ไดร บั จํานวน ๑,๐๐๐ บาท/เดอื น  ไมไ ดร บั เนื่องจาก................................................................................................................ ๒) บริการฟน ฟูทางการแพทย  ไดรบั (ระบโุ รงพยาบาล) โรงพยาบาลลําปาง  ไมไ ดรบั เน่ืองจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี สื่อ ส่ิงอาํ นวยความสะดวก  ไดรบั (ระบสุ ่ิงท่ีไดรบั ) ส่ือการสอนและแบบฝกหดั การเขยี นชื่อ – นามสกลุ (ระบหุ นว ยงานทไ่ี ดร ับ) ศูนยก ารศกึ ษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง  ไมไ ดรับ เน่ืองจาก............................................................................................................... ๔) ทุนการศึกษา/เงนิ ชวยเหลอื อืน่ ๆ  ไดร บั (ระบชุ ่อื ทนุ การศกึ ษา/เงินชว ยเหลืออน่ื ๆ)  ไมไ ดรบั เน่ืองจาก ผปู กครองไมป ระสงคข อรบั ทนุ ๕) รบั บริการสวัสดกิ ารทางสังคม  ไดร ับ (สิง่ ท่ไี ดร ับ เชน บริการเคสเมเนเจอร บรกิ ารรับสงไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบุ).......... (หนว ยงานท่ไี ดรบั เชน พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ )..................................................................  ไมไดร บั เนื่องจาก ผูปกครองยงั สามารถทจ่ี ะดแู ลได

91 ๒. ขอมูลดานครอบครวั ๒.๑ ขอ มลู บิดา  มีชวี ิตอยู  ถึงแกก รรม  ไมมขี อมลู ช่อื -นามสกลุ บดิ า นายบญุ เท่ียง มณเี นตร อายุ ๔๔ ป เชือ้ ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ  ไมม งี านทํา  มงี านทาํ อาชีพ รบั จางทั่วไป รายได ๙,๐๐๐ บาท/เดือน ระดับการศึกษา  ไมไดรับการศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศกึ ษา/ปวช.  ปวส./อนุปริญญา  ปริญญา ทีอ่ ยปู จ จบุ นั  ทีอ่ ยเู ดียวกับนักเรียน  ท่ีอยตู า งจากนักเรยี น (โปรดกรอกขอมลู ) บา นเลขที.่ ....................ตรอก/ซอย...............หมทู .่ี ..........ช่ือหมูบาน/ถนน................................................... ตาํ บล/แขวง....................................อาํ เภอ/เขต................................... จังหวดั ............................................ รหัสไปรษณีย..............................................เบอรโ ทรศัพท............................................................................ ๒.๒ ขอ มลู มารดา  มีชีวติ อยู  ถงึ แกกรรม  ไมมีขอมูล ช่อื -นามสกุล มารดา นางเถาวลั ย มณีเนตร อายุ ๓๕ ป เชื้อชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ  ไมม งี านทาํ  มงี านทาํ อาชีพ …………………………. รายได ………………….. บาท/เดอื น ระดับการศึกษา  ไมไดรับการศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศึกษา/ปวช  ปวส/อนุปริญญา  ปริญญา ท่อี ยูป จ จุบัน  ทอ่ี ยูเ ดียวกบั นักเรยี น  ที่อยตู างจากนกั เรียน (โปรดกรอกขอมลู ) บานเลขที่ …………. ตรอก/ซอย ....... หมูท่ี ........ ช่อื หมูบา น/ถนน ............. ตําบล/แขวง ................ อาํ เภอ/เขต .................... จังหวัด .................. รหัสไปรษณีย .................... เบอรโทรศพั ท .............................. ๒.๓ ขอ มูลผูป กครอง  บดิ า  มารดา  ผูปกครองไมใชบดิ า/มารดา (โปรดกรอกขอมลู ) ชอ่ื -นามสกุลผูปกครอง.......................................................................อาย.ุ ...........ป เช้อื ชาติ........................ สญั ชาต.ิ ............................ ศาสนา......................... อาชพี ........................................................................... รายได.......................................บาท/เดอื น ระดับการศึกษา  ไมไ ดร ับการศึกษา  ประถมศึกษา  มธั ยมศกึ ษา/ปวช  ปวส./อนุปริญญา  ปรญิ ญา ที่อยปู จ จบุ นั  ท่อี ยเู ดียวกับนกั เรียน  ท่ีอยตู า งจากนกั เรียน (โปรดกรอกขอมูล) บา นเลขท.่ี ....................ตรอก/ซอย...............หมทู ่ี...........ชื่อหมบู า น/ถนน................................................... ตําบล/แขวง....................................อาํ เภอ/เขต................................... จังหวัด............................................ รหัสไปรษณีย..............................................เบอรโ ทรศพั ท............................................................................ รายไดค รอบครัว  ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ป ขึ้นไป  ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ป  ไมเกนิ ๔๐,๐๐๐ บาท/ป สภาพความเปนอยูในครอบครัว  อยรู วมกบั บิดามารดา  อยูกบั บดิ า  อยกู ับมารดา  อยกู บั ผอู ื่น (ระบุ).......................................................................

92 สถานภาพของบิดามารดา  อยูดว ยกนั  หยาราง  แยกกันอยู  บิดาถงึ แกกรรม  มารดาถึงแกกรรม  บดิ า มารดาถึง แกกรรม ครอบครวั ของนักเรียนมสี มาชิกท้ังหมด ๕ คน ประกอบดวย บิดา มารดา ยา ปา นักเรียน บุคคลในครอบครวั มีการใชสารเสพติด  มี  ไมม ี เก่ียวขอ งเปน ...............................กับนักเรยี น ประเภทสารเสพตดิ ท่ใี ชค ือ  บุหร่ี  สรุ า  ยาบา  อน่ื ๆ ระบ.ุ ............................ ความถใี่ นการใชส ารเสพติดของบุคคลในครอบครัว  เปนประจํา  บางคร้งั บคุ คลในครอบครวั เกีย่ วของกับการเลนการพนนั  มี  ไมม ี ความถ่ใี นการเลนการพนนั ของบคุ คลในครอบครัว  เปน ประจาํ  บางครั้ง ภายในครอบครัวมีความขัดแยง และมีการใชค วามรนุ แรง  มี  ไมมี บคุ คลในครอบครวั เจบ็ ปว ยดวยโรครนุ แรง/เร้อื รงั  มี  ไมม ี อาชีพบดิ า/มารดา/ผูปกครองเสี่ยงตอกฎหมาย  มี  ไมมี ๒.๔ ดา นเศรษฐกจิ ครอบครวั  มีรายไดเพียงพอสาํ หรบั เลยี้ งดคู รอบครัวไดอยางดี  มีรายไดเพยี งพอสาํ หรบั เล้ียงดคู รอบครัวเฉพาะทจี่ ําเปน  มีหนี้สิน  มรี ายไดเพยี งเล็กนอย ไมเพยี งพอสําหรบั ครอบครัว  ไมม รี ายไดเลย ตองพึ่งพาผูอนื่ ทั้งหมด และมหี น้สี ิน ๒.๕ ดา นการคุมครองนักเรียน ๑) การดูแลเอาใจใสนักเรยี น  สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวชว ยกนั ดูแลเอาใจใสนักเรียนเปน ประจําสมา่ํ เสมอ  ขาดการดูแลเอาใจใส/ ปลอยปละละเลยนักเรียนเปนบางคร้งั  ขาดการดแู ลเอาใจใส/ ปลอยปละละเลยนักเรยี น/ไมมผี ูดูแล  นักเรียนถกู ลว งละเมิดทางเพศ  นักเรียนถูกทํารายทารณุ ๒) การชว ยเหลือในการพัฒนานักเรยี น  สมาชกิ ทกุ คนในครอบครัวเขา ใจ/รวมมือในการชว ยเหลอื ในการพัฒนานกั เรียนเปนอยา งดี  สมาชกิ ในครอบครวั บางคนไมมีความเขาใจ/รวมมือในการชว ยเหลอื ในการพัฒนานักเรยี น  สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวขาดความเขา ใจ/รว มมือในการชว ยเหลอื ในการพัฒนานักเรยี น

93 ๒.๖ ดานเจตคติตอนักเรยี น ครอบครัวมีความคาดหวังในการพัฒนานักเรยี น  นักเรียนสามารถพฒั นาไดแ ละมีการแสวงหาความรูในการพัฒนานักเรยี นอยูเสมอ  มคี วามคาดหวงั ในการพัฒนานกั เรยี นแตไมม ีการแสวงหาความรูเพื่อนํามาพฒั นานักเรียน  ไมมคี วามคาดหวังในการพฒั นานกั เรียนและนักเรียนเปน ภาระของครอบครวั ๒.๗ ดา นความรู ความเขา ใจ ทกั ษะของผูปกครองในการพฒั นานักเรยี น ๑) ความรู ความเขาใจ ทักษะของผูปกครองในการจัดกิจกรรมเพ่อื พัฒนานักเรยี น  มกี ารจัดกจิ กรรมเพ่ือพฒั นานักเรยี นเปนประจําทุกวนั  มีการจดั กจิ กรรมเพื่อพฒั นานกั เรียนเปนบางครั้ง  ไมเ คยมีการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนานกั เรียน ๒) ความรู ความเขา ใจ ทักษะของผูปกครองในการฝก ดวยเทคนคิ /กิจกรรม  มีการฝกดว ยเทคนิค/กจิ กรรมท่ีหลากหลายเปนประจาํ ทกุ วนั  มกี ารฝกดวยเทคนิค/กิจกรรมเปน บางคร้งั  ไมเคยฝกดว ยเทคนคิ /กจิ กรรม ๓. ขอมูลดานสภาพแวดลอม ๓.๑ สภาพแวดลอมภายในศูนยก ารศึกษาพเิ ศษประจําจงั หวดั ลําปาง/หนว ยบรกิ าร ๑) บริเวณภายในหอ งเรยี นอาคารเรยี น  สภาพแวดลอ มในหอ งเรยี น/อาคารเรียนมคี วามเหมาะสมกับความตองการจําเปนพิเศษของ นักเรยี นและปลอดภัยตอ การดํารงชวี ิต  สภาพแวดลอ มในหองเรยี น/อาคารเรยี นบางอยางขาดความเหมาะสมกับความตองการจําเปน พิเศษของนกั เรียนแตย งั สามารถใชไดอยา งปลอดภัยตอ การดาํ รงชวี ิต  สภาพแวดลอ มในหองเรยี น/อาคารเรียนบางอยา งขาดความเหมาะสมกบั ความตองการจาํ เปน พิเศษของนกั เรียนและไมป ลอดภัยตอการดํารงชวี ติ  สภาพแวดลอมในหองเรยี น/อาคารเรยี นทกุ อยางไมม ีความเหมาะสมกบั ความตองการจาํ เปน พิเศษของนกั เรยี นและไมป ลอดภยั ตอการดาํ รงชีวติ ระบรุ ายละเอยี ดเพิม่ เตมิ ........................................................................................................................................... ๒) บริเวณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดลอมนอกอาคารเรยี นมคี วามเหมาะสมกบั ความตอ งการจาํ เปน พิเศษของนักเรยี น และปลอดภัยตอการดํารงชวี ิต  สภาพแวดลอมนอกอาคารเรียนบางอยางขาดความเหมาะสมกบั ความตองการจาํ เปนพิเศษ ของนักเรยี นแตย ังสามารถใชไดอยางปลอดภยั ตอ การดาํ รงชีวติ  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรียนบางอยางขาดความเหมาะสมกบั ความตองการจําเปนพิเศษ ของนักเรียนและไมปลอดภยั ตอการดํารงชวี ติ

94  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรียนทุกอยา งไมมีความเหมาะสมกบั ความตองการจําเปน พิเศษของ นกั เรยี นและไมป ลอดภัยตอ การดํารงชวี ิต ระบุรายละเอียดเพ่มิ เติม........................................................................................................................................... ๓) ผเู ก่ยี วของ  ครู/พ่เี ล้ียงเดก็ พิการ/ผปู ฏิบตั งิ านใหร าชการ ทุกคนพรอมใหการชวยเหลือนกั เรยี น  คร/ู พ่เี ล้ียงเด็กพกิ าร/ผปู ฏบิ ัตงิ านใหราชการ บางคนละเวน ไมใ หการชว ยเหลือนักเรียน  คร/ู พี่เลยี้ งเดก็ พกิ าร/ผูปฏิบัตงิ านใหร าชการ บางคนรังเกยี จนกั เรียน  เพอื่ นทุกคนยอมรบั /ใหเขากลมุ ทํากจิ กรรม  เพือ่ นบางคนไมย อมรับ/ไมใหเ ขา กลมุ ทาํ กจิ กรรม  เพอื่ นทุกคนไมย อมรับ/ไมใหเขากลมุ ทาํ กจิ กรรม ๓.๒ สภาพแวดลอมภายในบาน ๑) บริเวณภายในบาน  สะอาดปลอดภัยเอื้อตอ การพฒั นาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภัยแตไ มเอ้ือตอการพฒั นาศกั ยภาพนักเรียน  ไมส ะอาดและไมป ลอดภัย ๒) บรเิ วณภายนอกบาน  สะอาดปลอดภยั เอื้อตอการพฒั นาศักยภาพนักเรยี น  สะอาดปลอดภยั แตไมเอ้ือตอ การพฒั นาศักยภาพนกั เรียน  ไมส ะอาดและไมปลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอมภายในชุมชน ๑) เจตคติของชุมชนท่มี ตี อนักเรียนและครอบครวั  เปนภาระของสงั คม  พรอมใหความชว ยเหลอื  ความเชื่อเร่อื งเวรกรรม  มีสิทธิเทา เทียมกับคนทัว่ ไป  นารังเกียจ  คนพิการสามารถพฒั นาได  ไมสนใจ ๒) ความสัมพันธของนกั เรียนกบั ชมุ ชน  เปนทร่ี ูจกั ในชมุ ชน  มีสว นรว มในชมุ ชน  เปน ท่ีรกั ของคนในชุมชน  ชมุ ชนใหความชว ยเหลอื  ไมม ีคนในชุมชนรจู กั  ไมสนใจ  สรางความเดือดรอนใหค นในชุมชน

95 แบบรวบรวมขอ มูลผูเรยี น ตามกรอบคิดแนวเชงิ นิเวศ (Ecological System) ช่ือ-นามสกุลนักเรียน นางสาวอัจฉรา มณีเนตร ชือ่ เลน นองดาย ระดับช้ัน เตรียมความพรอม ปการศึกษา ๒๕๖๕ ประเภทการรบั บริการ ท่ีบาน ช่อื สถานศกึ ษา ศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษประจาํ จงั หวดั ลําปาง อําเภอ เมืองลําปาง จังหวัด ลําปาง ขอมูล ณ วนั ที่ ๑ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลมุ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนยการศกึ ษาพิเศษประจําจงั หวดั ลาํ ปาง

96 รวบรวมขอ มูลผเู รยี น ขอ มลู ของผเู รียน ๑. ขอ มูลของผเู รยี น ชือ่ -นามสกุลนกั เรยี น นางสาวอัจฉรา มณเี นตร ชอ่ื เลน ดา ย อายุ ๑๙ ป เพศ หญงิ เช้อื ชาติ ไทย ประเภทความพิการ บคุ คลทม่ี คี วามบกพรองทางสติปญ ญา โรคประจําตวั ไมม ี  ลกั ษณะความพิการ นักเรียนสามารถดูแลตัวเองในชีวิตประจําวันไดนอยในการรับประทานอาหาร การอาบน้ํา แปรงฟน การแตง กาย ตองกระตุน ในการปฏบิ ตั ิกจิ วัตรประจําวันอยูเสมอ ชวยเหลือตนเองในชีวิตประจําวัน ไดตํ่ากวาวัย เลนเลียนแบบผูอ่ืนอยางไมเหมาะสมกับวัย มีปญหาดานพฤติกรรมในการใชสิ่งของสาธารณะ ประโยชน เชน ชอบทําลายหรือใชอยางไมระมัดระวัง ไมรูจักวิธีการใช การจัดเก็บ และการดูแลรักษาของ สวนรวม ไมสามารถควบคุมตนเองทําสิ่งท่ีตองการทํา ลืมงาย จําในส่ิงที่เรียนมาแลวไมได ไมสามารถนํา ทักษะที่เรียนรูไปแกไขปญหาเฉพาะหนาได ชวงความสนใจส้ัน ไมสามารถรับผิดชอบงานที่ตองทํา ทําตาม คําสั่งตอเนื่อง ๒ คําส่ังข้ึนไปไดยาก สับสนงาย สนใจสิ่งรอบตัวนอย ใชเวลาวางแสดงพฤติกรรมท่ีไม เหมาะสม ดแู ลสุขภาพตนเองไดนอย เชน ลางมือไมเปน หรือไมร ูจักรบั ประทานอาหารทเ่ี ปนประโยชน และ มีความระมดั ระวงั เรอื่ งความปลอดภัยตนเองนอย  พฤติกรรมของผเู รยี น พฤติกรรมสวนบุคคล นักเรียนชอบรองเพลงและเตนมาก ชอบดูยูป เม่ือครูหรือผูปกครองใหทํากิจกรรม นักเรียนจะให ความรวมมือเปนอยางดี แตค รูตองคอยใหคําชม (เย่ียม) เปนรางวัลท่ีนักเรียนชอบ ถาไมท ํานกั เรยี นจะหลบหลีกโดย การหนีเขาไปในหองและปดประตูจะไมยอมออกมา จนกวายาซ่ึงเปนผูปกครองจะพูดตะลอมกลอมเกลาและมีของ รางวลั ให พฤติกรรมการเรียนรู นักเรียนสามารถแสดงความตองการของตนเองโดยการพดู และแสดงการปฏิเสธโดยการแสดงออก ทางทาทางและสีหนาไมพึ่งพอใจ นักเรียนสามารถสื่อสารดวยภาษาท่ีมีความหมาย สามารถฟงและทําตามคําส่ัง งายๆ เชน หยิบ ใส ขอ และสามารถทําตามตัวแบบได นักเรียนทํากิจกรรมตางๆท่ีใชมือไดโดยดวยตนเอง หรือมี ผูดูแลคอยชวยเหลือบางขั้นตอนในการทํากิจวัตรประจําวัน เชน การลางมือ แปรงฟน อาบนํ้า แตงตัวและการ ขับถาย แตส ามารถหยิบอาหารเขา ปากและเจาะกลองนมเพ่ือดื่มเองได ในระหวางการฝกการเรียนรูนักเรียนสามารถเรียนรูไดโดยผานการมอง การฟง การทําตามแบบ โดยเปนคําสั่งงายๆ เปนลําดับข้ันตอนการทํางานจากขั้นตอนงายๆไปหาข้ันตอนที่ยากข้ึนดวยการกระตุนเตือนทาง กายและวาจา โดยการใชสื่ออุปกรณที่เปนของจริงที่เหมาะสมกับผูเรียนในชีวิตประจาํ วนั และใชการประสมประสาน ทุกวิธีในการทํากิจกรรมทุกขั้นตอน และวิธีท่ีการสอนท่ีผูเรียนใหความรวมมือมากที่สุด คือ การประเมินรางวัลและ การใหร างวัล กลุมบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจาํ จงั หวัดลําปาง

97 ภาพนักเรยี น  ความสามารถพน้ื ฐานของผูเ รียน จุดออ น ๑.๑ ความสามารถพื้นฐานทางดานรางกาย นักเรียนมีความเขินอายในการแสดงออก จะกลา แสดงออกเฉพาะคนทคี่ ุน เคยเทา นน้ั จุดเดน เมอื่ ใหน ักเรียนเตน ประกอบเพลง โดยใชแ ขน ขา สะโพก โยกไปมาน นักเรียนสามารถทําได และ สามารถเลยี นแบบทาเตน ไดเ ปนอยางดี ๑.๒ ความสามารถพนื้ ฐานทางดา นอารมณ จิตใจ จุดเดน จดุ ออ น ๑. นักเรียนเขาใจอารมณของตนเองและสามารถ ๑. นักเรียนไมเขาใจอารมณของผูอื่น เมื่อผูอ่ืนโกรธ แสดงออกทางทาทางหรือการสงเสียงได โดยการยิ้ม โมโห หรือดดุ า ผูเ รยี นไมเขาใจ นงิ่ เฉย ไมตอบสนอง และหัวเราะเมื่อไดรบั ส่ิงที่ตองการ เชน ไดรับขนมหรือ ของเลน โดยมีเฉพาะผูปกครองที่เขาใจการแสดง อารมณของผูเรียน และแสดงการปฏิเสธเม่ือไดของที่ ไมตองการปรือทํากิจกรรมที่ไมชอบดวยการแสดง ทา ทาง(ผลกั มือคนอืน่ หรอื ผลักสงิ่ ของออก) ๒. นักเรียนสามารถขอความชวยเหลือได เชน เมื่อ ๒. นักเรียนไมสามารถขอความชวยเหลือ เมื่อตองการ ตองการสิ่งของบางอยางนักเรียนจะแสดงความ ความชวยเหลือหรือตองการส่ิงของบางโดยการออก ตองการโดยการรองไห ช้ีหรือมองไปทางส่ิงท่ีตองการ เสียงเปน คาํ ได ได กลมุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง

98 รวบรวมขอมูลผเู รยี น ขอมูลความสามารถผเู รยี น ๑.๒ ความสามารถพ้ืนฐานทางดา นอารมณ จิตใจ (ตอ ) จดุ เดน จดุ ออน ผเู รียนยอมทํากจิ กรรมจนสําเร็จตามท่กี าํ หนดใหไดโ ดย ผูเรียนยอมทํากิจกรรมจนสําเร็จตามท่ีกําหนดใหได ไดรับการกระตุนเตือนและการเพิ่มเวลาในการทํา แตตองใชเ วลานานในการทํา เนอ่ื งจากนักเรียนมีความ กิจกรรมสามารถแสดงออกถงึ ความภาคภูมิใจในตนเอง สนใจในกิจกรรมเพยี ง ๑-๒ นาที เม่อื ทาํ กิจกรรมไดส ําเร็จ ๑.๓ ความสามารถพน้ื ฐานทางดานสังคม จดุ ออ น ๑. นกั เรยี นไมสามารถรับประทานอาหาร โดยการใช จดุ เดน สอ มจิม้ หรือเข่ียอาหารใสช อนได ๑. นักเรยี นสามารถรับประทานอาหาร โดยการหยิบ ๒. นกั เรียนไมส ามารถถอดและสวมใสเครือ่ งแตง กาย อาหารทีเ่ ปน คําๆแลวเขาปากไดเอง ใชชอ นตกั อาหาร ทีเ่ ปนกระดุมหรอื ซีปไดดวยตนเอง ใชหลอดเจาะกลองนมได ด่ืมน้าํ ได ๓. นักเรยี นไมส ามารถลา งทําความสะอาดมือไดดว ย ๒. เมอื่ ใหนักเรยี นถอด และสวมใสเครื่องแตงกาย ตนเองตามข้นั ตอน นกั เรยี นสามารถถอดและสวมใสเครอื่ งแตง กายได ๓. นกั เรยี นสามารถลา งทําความสะอาดมือได ๑.๔ ความสามารถพนื้ ฐานทางดา นสตปิ ญ ญา จดุ เดน จดุ ออน ๑. เมื่อครูหรือผูปกครองใหทาํ กิจกรรมและปฏิบัติตาม ๑. นักเรยี นไมสามารถปฏิบตั ิตามคําสง่ั ทยี่ ากๆ ได คําส่ังงายๆ (หยิบ ใส) เชน หยิบ จับส่ิงของใสตะกรา โดยการเอื้อมมือไปหยบิ ของแตไ มสามารถนําของ ผูเรียนสามารถปฏิบัติตามคําสั่งไดโดยการเอื้อมมือไป ไปใสตามเปาหมายท่ีกาํ หนดไดดวยตนเอง ห ยิ บ ข อ ง แ ต ไ ม ส า ม า ร ถ เอ า ไป ใส ต า ม เป า ห ม า ย ที่ กําหนดได ซึ่งครูหรือผูปกครองตองกระตุนเตือนทาง วาจาและใชเวลานานในการตอบสนองตอคําสั่งตางๆ ๑.๕ ความสามารถพื้นฐานทางดา นทกั ษะจําเปน เฉพาะความพิการ จุดเดน จดุ ออน นักเรียนสามารถส่ือสารกับคนรอบขางไดอยาง นักเรียนไมสามารถส่ือสารกับคนรอบขางไดอยาง เหมาะสมกบั สถานการณ เหมาะสมกบั สถานการณ กลมุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจําจังหวัดลําปาง

99 รวบรวมขอ มูลผเู รียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๑ ดานสภาพแวดลอมของผเู รยี น (Microsystem)  บุคคลภายในครอบครวั ที่ผเู รยี นไวว างใจ นักเรียนอาศัยอยูบานกับปาและยาย ซึ่งปาจะเปนผูดูแลนักเรียนตั้งแตนักเรียนเกิดจนถึงปจจุบัน ทําใหน ักเรียนมีความไววางใจปามากท่ีสุด รองลงมาจะเปน ยาย ซ่ึงยายจะไดด ูแลนักเรียนหลังจากท่ีปา ไปทาํ ธรุ ะ หรือไปนอกบาน นอกจากน้ียังมีบานพี่ชายซึ่งอยูบริเวณขางบานนักเรียน ทุกวันพ่ีชายจะมาเย่ียมเยือน เลน พดู คุย หรอื ชวยดูแลในระหวางทแี่ มต ิดธรุ ะในระยะเวลาสัน้ ๆ  ลักษณะท่ีอยอู าศยั (หอ งอะไรบาง / ความสะอาด) เปนบานไมช้ันบน ปูนชั้นลาง มีโรงจอดรถรถหนาบาน ดานในบานช้ันลางหองน้ํา ๑ หอง มีลานหนาบาน สามารถจอดรถยนตได มีรั้ว รอบๆบานมกี ลวยขางบา น หนามกุ บา นมีบันไดข้ึน ๙ ข้ัน ประตูทําจากไมสามารถเปดได ๒ บาน ขวา ซาย บนบานมีหองนอนจํานวน ๒ หองนอน ในบา นชั้นลา งพน้ื ปูนขัดเงา และมีหองครวั ๑ หองสามารถ เดินทะลุจากประตูหนาบานไปถึงหองครัวไดหองครัวซ่ึงแยกออกจากตัวบานอยางชัดเจน มีการจัดเก็บอุปกรณใน หองครัวอยา งเหมาะสม บริเวณบานของผเู รียนทั้งดานในและดานนอกมีความสะอาดเรยี บรอย อากาศถายเทสะดวก มแี สงสวา งเขา ถึง • ลักษณะหอ งนาํ้ (ระบุรายละเอยี ด) หองนํ้ามี ๑ หอง คือ หองท่ีอยูบริเวณในตัวบาน มีประตูทางเขา ความกวา ง ๑ เมตร สุขภัณฑเปน ชักโครก มีฝกบัว มีถังนํ้าและขัน พื้นหองนํ้าเปนพ้ืนกระเบ้ือง มีชักโครกไวสําหรับขับถาย มีเคร่ืองทํานํ้าอุน มีฝกบัว มีชองระบายอากาศ • ลกั ษณะหอ งนอน (ระบรุ ายละเอยี ด) หองนอนมีความสะอาด ประตูหนาตา งมีมุงลวด ท่ีนอนมีความกวางและยาวมีเตียงไม ขนาด ๖ ฟุต สามารถนอนได ๓-๔ คน กวางขวางและเพียงพอตอผูเรียนและมีหนาตางระบาย เพื่อใหอากาศถายเทไดสะดวก มี การจดั วางของท่เี ปนระเบียบเปนสัดสวน • พ้ืนท่ใี นการฝก /ทํากจิ กรรมกบั ผูเรียน (ระบุรายละเอยี ด) บริเวณบานของนักเรียนพ้ืนที่ในการฝกในดานของวิชาการสามารถใชพื้นที่หองโถง ในการฝก กิจกรรมตางๆ เชน การหยิบ จับ หรือเคล่ือนยายสิ่งของได และสามารถใชลานมุกหนาบานในการฝกการเกาะยืน ทรงตวั การเคลื่อนยา ยตนเองไปยังทตี่ างๆ ได กลุมบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยการศึกษาพเิ ศษประจําจังหวัดลาํ ปาง

100 รวบรวมขอมูลผูเรยี น กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๒ ดานความสมั พันธแ ละปฏสิ ัมพนั ธระหวา งบุคคลทเ่ี ก่ียวขอ งของผเู รียน (Mesosystem)  ลกั ษณะของครอบครวั และความสมั พนั ธของบุคคลในครอบครวั นักเรียนอยูรวมกับปาและยาย มีปฏิสัมพันธที่ดี มีความรักและความเขาใจมีปฏิสัมพันธท่ีดีกับ ผเู รียน  ความสมั พันธก บั บคุ คลในหองเรยี น/โรงเรียน นักเรียนชอบน่ังตัวติดกับผูปกครองของตนเอง เขารวมกิจกรรมไดต้ังใจทํางานจะติดเลนมากกวา มีปฏิสัมพันธรวมกับผูอ่ืนดี แตเมื่อผูเรียนมีความตองการตางๆ เชน หิว หรือหลีกเลี่ยงการทํากิจกรรม จะบอกและ รองเรยี กผปู กครองทนั ที • ความสมั พันธก ับบุคคลอนื่ ๆ เชน ญาตพิ ่นี อ ง เพื่อน เพื่อนบาน คนในชุมชน เปน ตน ญาติพี่นอง บานใกลเคียง คือ พี่ชายจะมาหาที่บานและมาเลนกับนักเรียน โดยการเร่ิมตนบท สนทนาจะมาจากผูอ่ืนเสมอ และนักเรียนจะแสดงอาการทาทาง ย้ิม หัวเราะ เมื่อรูสึกพึงพอใจในการปฏิสัมพันธ รว มกับผูอ่นื และจะมพี ฤตกิ รรมหลบหนา ซบผูป กครอง หันหลัง รองไห เมื่อนักเรยี นถูกขัดใจ ๒.๓ ดา นส่ิงแวดลอมและสภาพสงั คมทีม่ ผี ลตอครอบครวั (Exosystem)  สถานการณปจจุบนั ที่สง ผลกระทบกับผเู รยี น เน่ืองจากสถานการณการแพรระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (Covid 2019) ในปจจุบันสงผลให นกั เรียนไมไดมาฝกตามท่ีแพทยก ําหนดไว และระยะทางในการไปบานคอนขางไกลทําใหนักเรียนจําเปน ท่ีจะตอ งเขา รับบริการที่บานตามโครงการปรับบานเปนหองเรียนเปลี่ยนพอแมเปนครู ซึ่งครูประจําชั้นจะมีการออกใหบริการ ๑ ครั้งตอเดือนทําใหมีการนิเทศติดตามไดไมตอเน่ือง รวมถึงผูปกครองยังขาดความรูความเขาใจในการฝกนักเรียนทํา ใหพ ฒั นาการดา นตางๆ ของนักเรยี นพฒั นาไดช า  สถานที่ทํางานของพอแม/ผปู กครอง บดิ าอาชีพรับจา งทั่วไป ทาํ ใหไ มมีเวลาดแู ลนักเรยี นอยา งใกลชิด เนอ่ื งจากบิดา ไมไดอยูกบั นกั เรยี น จึงทําใหน กั เรยี นไมค อยใกลช ิดและสนทิ กับบิดา เทากับปา ยาย และ แม  สภาพแวดลอ มทางกายภาพ หรือ การจดั สิ่งอาํ นวยความสะดวกของชุมชน ทผ่ี ูเรียนอาศยั อยู บิดามีอาชีพรับจางทั่วไปตองออกไปทํางานนอกบาน สวนแมมีโรคประจําตัวไมสามารถทํางานได นักเรียนจึงมีปาเปนผูดูแลนักเรียนตลอดเวลา เนื่องจากสถานการณการแพรระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (Covid 2019) ในปจจบุ นั ทําใหบ ิดาตอ งออกไปทํางานนอกบา นเพิ่มเติมไมส ามารถทีจ่ ะดูแลนักเรียนได ๒.๔ ดา นวฒั นธรรม ประเพณี คานยิ มของสงั คม (Macrosystem) บานของผูเรียนยังไมมีสื่อท่ีเหมาะสมกับความพิการของบุคคลที่มีความบกพรองทางสติปญญา โดยหองน้ําภายในบานไมเหมาะสมกับการที่ผูเรียนจะไดเรียนรูตามศักยภาพในการทําความสะอาดรางกายอยาง เหมาะสม และผูปกครองไมยอมปลอยใหผูเรียนใชความสามารถของตนเองไดเต็มตามศักยภาพทําใหนักเรียน สามารถชว ยเหลือตนเองได กลมุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษประจาํ จังหวัดลาํ ปาง

101 รวบรวมขอ มูลผูเรียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๕ ดา นส่ิงตา งๆทอี่ าจกระทบตอ ผูเรยี น เชน กฎหมาย การไดร บั สิทธดิ า นตา งๆ เทคโนโลยี หรือแอพพลิเคชั่น ทีเ่ กย่ี วขอ งกับผเู รยี นในชวี ติ ประจาํ วัน (Chronosystem) นักเรียนไดรับเบี้ยพิการ เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท จากเบ้ียยังชีพคนพิการ และ ไดรับบริการทางการแพทย ตามโครงการ ๓๐ บาทรกั ษาทุกโรค ตามสวสั ดิการของรัฐ นักเรียนไดรับการใหบริการทางการศึกษาจากศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง โครงการปรับบาน เปนหองเรียนเปล่ียนพอแมเปนครู หองเรียนอําเภอเมือง โดยไมเสียคาใชจาย อีกท้ังนักเรียนสามารถเขาถึงสื่อ เทคโนโลยผี านทางโทรศพั ท และโทรทัศนโดยมีผูปกครองกํากับดูแล ๓. ความคาดหวังของผูปกครองทม่ี ตี อตวั ผูเรียน ผูปกครองมีความคาดหวังใหนักเรียนตอบสนองตอการรักษาทางการแพทย สามารถดูแลตนเองไดและ มีชีวิตอยูตอไปใหนานที่สุดเทาท่ีจะทําได และนอกจากน้ีหากเปนไปไดตองการใหนักเรียนสามารถสื่อสารความ ตองการ การบอกความรูสึกของตนเองแกผ ูดูแลได ผูปกครองมีความคาดหวังใหนักเรียนสามารถเรียนรูดานวิชาการหรือการดํารงชีวิตประจําวันของตนเองได ไดแก นักเรียนสามารถบอกหรือชี้ส่ิงที่ตองการในการส่ือสารเพ่ิมมากข้ึนกวาเดิม นักเรียนสามารถทํางานบานและ ทาํ อาหารรบั ประทานอาหารไดดว ยตนเอง ๔. เปา หมายหลกั ที่ผูเรียนควรไดรบั การพฒั นา/สงเสรมิ ๑) นักเรียนสามารถทาํ งานบา นงา ยๆได ๒) นักเรยี นสามารถดูแลส่ิงของ ตนเองได ๓) นกั เรยี นสามารถรับประทานอาหารโดยการใชชอ นตกั อาหารใสป าก ไดด วยตนเอง ๕. เปาหมายหลักท่ผี ูเรียนควรไดรบั การปองกัน/แกไ ขปญ หา ๑) ควรไดรับส่อื อํานวยความสะดวกท่เี หมาะสมกับความพิการของผเู รยี น ๒) การปรับสภาพพืน้ ทบี่ ริเวณในการฝกผเู รยี น เรื่อง การชวยเหลอื ตนเองในชวี ิตประจําวัน . ผบู นั ทึกขอมลู …………………………………………… (นางสาวปยะนชุ ตบ๊ิ วงศ) ตาํ แหนง พนักงานราชการ วันที่ ๑ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลุมบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยการศึกษาพเิ ศษประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง

102 ๖ ประเมินครัง้ ที่ ๑ แบบคดั กรองบคุ คลที่มีความบกพรอ่ งทางสติปญั ญา ชอ่ื -นามสกุล (ด.ช. / ด.ญ. / นาย / นางสาว) อจั ฉรา มณเี นตร วัน เดือน ปี เกิด ๘ กันยายน ๒๕๔๖ อายุ ๑๘ ปี ๙ เดอื น ระดับชัน้ การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน วนั เดอื น ปี ท่ปี ระเมนิ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คำช้แี จง ๑ แบบคัดกรองฉบบั น้เี ปน็ แบบคัดกรองเพื่อประโยชน์ในทางการจัดการศึกษาเทา่ นน้ั ๒ วิเคราะห์ลักษณะ/พฤติกรรม ของเด็กซึ่งเป็นลักษณะหรือพฤติกรรม ที่เด็กแสดงออกบ่อยๆ โดยให้ทำ เคร่ืองหมาย /ลงในช่อง “ ใช่ ” หรือ “ไม่ใช่ ” ที่ตรงกับลกั ษณะหรือพฤติกรรมนั้นๆ ของเด็ก ๓ ผทู้ ำการคัดกรองเบื้องตน้ ต้องผา่ นการอบรมวิธีการใช้ และการประเมนิ ตามแบบคดั กรองน้ี และควรสอบถาม ขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ จากผู้ที่อย่ใู กลช้ ิดเดก็ มากท่สี ุด เชน่ ผปู้ กครองหรอื ครู เพื่อให้เกดิ ความชดั เจน ถูกตอ้ ง ๔ ผู้คดั กรองควรจะมีอย่างน้อย ๒ คนข้นึ ไป ที่ ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ทกั ษะการสื่อสาร ๑ ใชภ้ าษาไมส่ มวยั ✓ ๒ ไม่เขา้ ใจคำสัง่ ไมส่ ามารถทำตามคำสั่งได้ ✓ ทักษะการดแู ลตนเอง ✓ ๓ ไมส่ ามารถ หรือสามารถดแู ลตัวเองในชีวติ ประจำวันได้น้อย ในการรบั ประทานอาหาร / การอาบนำ้ / แปรงฟนั / การแตง่ กาย ๔ ไม่สามารถทำความสะอาดหลังการขบั ถา่ ย ✓ ทักษะการดำรงชวี ิตภายในบ้าน ✓ ๕ ต้องกระตนุ้ ในการปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจำวันอยเู่ สมอ ✓ ๖ ชว่ ยเหลือตนเองในชีวติ ประจำวันไดต้ ำ่ กว่าวยั ✓ ทักษะทางสังคม/การปฏสิ ัมพนั ธก์ ับผ้อู ืน่ ✓ ๗ ชอบเล่นกบั เดก็ ท่ีมอี ายุนอ้ ยกว่า หรือไมส่ ามารถเลน่ กบั เพื่อนตามวัย ๘ เล่นเลียนแบบผู้อื่นอยา่ งไม่เหมาะสมกบั วยั ทักษะการร้จู กั ใช้ทรัพยากรในชมุ ชน ๙ มปี ญั หาด้านพฤติกรรมในการใชส้ งิ่ ของสาธารณะประโยชน์ เช่น ชอบ ✓ ทำลายหรือใช้อยา่ งไม่ระมดั ระวัง ๑๐ ไม่รูจ้ ักวธิ ีการใช้ การจัดเกบ็ และการดูแลรกั ษาของสว่ นรวม ✓ ทักษะการรจู้ กั ดูแลควบคุมตนเอง

103 ที่ ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวเิ คราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ๑๑ เอาแต่ใจตนเอง มอี ารมณ์โกรธ ฉนุ เฉยี วบ่อย ๆ ✓ ๑๒ ไม่สามารถควบคุมตนเองทำตามสงิ่ ท่ตี ้องทำ ✓ ทักษะการนำความรู้มาใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ✓ ๑๓ ลมื งา่ ย / จำในสง่ิ ทเ่ี รยี นมาแลว้ ไม่ได้ ✓ ๑๔ ไมส่ ามารถนำทักษะที่เรียนรไู้ ปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ✓ ทักษะการทำงาน ✓ ๑๕ ชว่ งความสนใจส้นั ไมส่ ามารถรับผิดชอบงานทต่ี อ้ งทำ ๑๖ ทำตามคำสงั่ ตอ่ เน่อื ง ๒ คำสงั่ ขน้ึ ไปไดย้ าก สับสนงา่ ย ✓ ✓ ทักษะการใชเ้ วลาว่าง ๑๗ สนใจส่ิงรอบตัวนอ้ ย ✓ ๑๘ ใช้เวลาว่างแสดงพฤตกิ รรมทีไ่ ม่เหมาะสม ✓ ทักษะการรักษาสุขภาพอนามัยและความปลอดภยั ๑๙ ดูแลสุขภาพตนเองได้น้อย เช่น ล้างมือไม่เป็น หรือไม่รู้จักรับประทาน อาหารท่ีเปน็ ประโยชน์ ๒๐ มคี วามระมัดระวงั เรอื่ งความปลอดภยั ตนเองนอ้ ย หมายเหตุ ทั้งน้ีพฤติกรรมดังกล่าวต้องเทียบเคียงกับพัฒนาการของเด็กท่ัวไป เกณฑก์ ารพิจารณา แต่ละทักษะจะต้องมีผลการวิเคราะห์พฤติกรรมทักษะว่าใช่ทั้ง ๒ข้อ แสดงว่าไม่ผ่านทักษะนั้น และ หากว่าพบทักษะการปรับตัวไม่ผ่านตั้งแต่ ๒ ทักษะขึ้นไป แสดงว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นบุคคล ที่มีความบกพร่อง ทางสตปิ ัญญา ใหจ้ ดั บรกิ ารชว่ ยเหลือทางการศึกษาพิเศษ และส่งต่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัย ต่อไป ผลการคดั กรอง  ไมพ่ บความบกพรอ่ ง  พบความบกพรอ่ ง ความคิดเห็นเพิ่มเติม .........ม..ีแ...น..ว..โ..น..ม้...ท...่ีจ..ะ..เ.ป...็น...บ..ุค...ค..ล..ท...ี่ม...คี ..ว..า..ม...บ..ก...พ..ร..่อ...ง..ท..า..ง..ส...ต..ปิ...ัญ...ญ...า....ใ.ห...้จ..ดั...บ..ร..ิก...า..ร..ช..ว่..ย..เ.ห...ล..อื..ท...า..ง..ก..า..ร..ศ...ึก..ษ...า..พ...ิเ.ศ..ษ.......... .........แ..ล...ะ..ส..่ง..ต..่อ...ใ.ห...แ้ ..พ...ท...ย..ต์ ..ร..ว..จ...ว..ิน..ิจ...ฉ..ยั ..ต..อ่...ไ.ป.............................................................................................................

104 ลงชื่อ .................................................. ใบวฒุ ิบตั ร เลขท่ี ศกศ.ลป.๐๐๓๗/๒๕๖๔ (ผู้คัดกรอง) (นางสาวสริ นิ ยา นนั ทชยั ) ลงชอื่ .................................................. ใบวุฒิบตั ร เลขที่ ศกศ.ลป ๒๐/๒๕๖๐ (ผู้คดั กรอง) (นางสาวปยิ ะนุช ติ๊บวงศ์) ลงชือ่ .................................................. ใบวฒุ บิ ตั ร เลขท่ี ศกศ.ลป.๐๐๒๖/๒๕๖๓ (ผคู้ ัดกรอง) (นายมานะ บญุ ทะวี) ๑๐ คำยนิ ยอมของผู้ปกครอง ขา้ พเจา้ (นาย / นาง / นางสาว) เถาวลั ย์ มณเี นตร เป็นผ้ปู กครองของ (ด.ช. / ด.ญ./ นาย / นางสาว) อจั ฉรา มณีเนตร  ยินยอม  ไมย่ นิ ยอม ให้ดำเนินการคดั กรอง ของ (ด.ช. / ด.ญ./ นาย / นางสาว) อัจฉรา มณีเนตร ตามแบบคดั กรองน้ี เมือ่ พบวา่ มีแนวโนม้ เป็นผ้ทู ม่ี ีความบกพรอ่ งตามแบบคัดกรองข้างตน้  ยินดี  ไม่ยนิ ดี ใหจ้ ดั บรกิ ารช่วยเหลือทางการศกึ ษาพเิ ศษต่อไป ลงช่ือ.................................................ผูป้ กครอง (นางเถาวัลย์ มณีเนตร)

105 แบบประเมิน หลักสตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน สาํ หรับผูเรียนพิการ ศูนยการศกึ ษาพิเศษประจําจงั หวดั ลําปาง ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ระดบั การศึกษาภาคบังคับ : ระดับชั้นประถมศึกษา (ปท ่ี ๒) ช่ือ-สกลุ ………นา…ง…สา…ว…อจั…ฉ…ร…า …ม…ณ…ีเน…ต…ร…………………………………. อายุ……๑…๙…….ป………- …..…เดือน วนั ท่ีประเมนิ …………๒…๗……พ…ฤษ…ภ…า…ค…ม…๒…๕…๖…๕………………………. คําชแี้ จง ๑. แบบประเมินตามหลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานสําหรบั ผเู รียนพกิ าร ศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจงั หวัดลาํ ปาง ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ใชป ระเมนิ สาํ หรับเดก็ ทอ่ี ยูในระดบั การศกึ ษาภาคบังคับ ๒. แบบประเมนิ ฉบับนสี้ ามารถใชไ ดก ับผูรับการประเมินทุกประเภทความพิการ เกณฑก ารประเมนิ ผล ๑. ผลการประเมินกอนการพัฒนา ระดับ ๔ หมายถงึ ไมต องชวยเหลือ/ทําไดด ว ยตนเอง ระดบั ๓ หมายถงึ กระตนุ เตอื นดวยวาจา ระดบั ๒ หมายถงึ กระตุน เตอื นดวยทา ทาง และวาจา ระดับ ๑ หมายถึง กระตุนเตือนทางกาย ทา ทาง และวาจา ระดับ ๐ หมายถงึ ตอบสนองผดิ หรือไมมีการตอบสนอง ๒. สรุป ๒.๑ หนว ย ฯ หมายถึง จัดการเรียนการสอนตามหนว ยการจดั การเรียนรู ๒.๒ IEP / IFSP หมายถึง จัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล หรือแผนการใหบริการชวยเหลอื เฉพาะครอบครัว

106 ๑. สาระการดาํ รงชีวติ ประจาํ วันและการจดั การตนเอง คําช้แี จง ใหท ําเครอื่ งหมาย ลงในชอ งผลการประเมนิ ทีต่ รงตามสภาพความเปนจรงิ ผลการประเมนิ สรุป ท่ี ตัวชี้วัด กอ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนวยฯ IIP/FCSP ๑ ดป ๑.๑/๓  ดแู ลความสะอาดสุขอนามยั ของตนเอง  ๒ ดป ๑.๑/๔ ดูแลสขุ อนามัยไดอยา งเหมาะสมตามเพศของ ตนเอง ๓ ดป ๑.๑/๕  ปฏบิ ตั ิตนตามมาตรการการปองกันโรค  ๔ ดป ๑.๒/๔ เลือกเครื่องแตง กายหรือเคร่ืองประดับตาม ความชอบสวนตวั ๕ ดป ๑.๒/๕  เลือกเครื่องแตงกายไดเหมาะสมกับกาลเทศะ และโอกาส ๖ ดป ๑.๓/๒  บอกเลือกใชอุปกรณแ ละหองน้ําภายในบา น หอ งน้าํ สาธารณะไดอยางถูกตอง ตรงตามเพศ ของตนเอง ๗ ดป ๑.๓/๓  ทําความสะอาดตนเองและหองน้าํ หลงั ใชหองนํ้า และแตง กายใหแลว เสร็จกอนออกจากหองนํา้ ๘ ดป ๑.๖/๔  ขา มถนนอยางปลอดภยั  ๙ ดป ๒.๑/๓ ออกกําลงั กาย เลน กีฬา หรือนันทนาการตาม ความถนัด และความสนใจ ๑๐ ดป ๓.๑/๒  บอกอารมณพืน้ ฐานของตนเอง

107 ผลการประเมิน สรุป ท่ี ตัวชว้ี ัด กอ นการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว ยฯ IIP/FCSP ๑๑ ดป ๓.๑/๕   แสดงสหี นา อารมณและสนทนาตอบโต เมื่อไดร บั คาํ ชมเชย คําติชม หรือคําเตือน จากผูอ ืน่ ๑๒ ดป ๓.๑/๖   มีความยืดหยุนเมื่อมีการเปลยี่ นแปลงเวลา หรอื จากสถานทีห่ นง่ึ ไปอีกสถานท่ีหน่ึง ๑๓ ดป ๓.๑/๗   ตีความหมายสหี นา ทาทาง ภาษากาย และ นา้ํ เสยี งของผูอ่นื และตอบสนองอารมณของผูอื่น ๒. สาระการเรยี นรูและความรพู ้นื ฐาน คาํ ชีแ้ จง ใหทําเครื่องหมาย ลงในชอ งผลการประเมนิ ท่ตี รงตามสภาพความเปนจรงิ ผลการประเมิน ท่ี ตวั ชว้ี ัด กอนการพฒั นา สรปุ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว ยฯ IIP/FCSP ๑ รพ ๑.๑/๓   ใชการฟง การดู การสมั ผสั เพ่ือแสดงความสนใจ ตอส่ือ บคุ คลและมสี วนรวมในสถานการณต าง ๆ ในชวี ติ ประจําวัน ๒ รพ ๑.๑/๔   เลยี นแบบการแสดงออกในการส่อื สารกับบุคคลอน่ื ท่ีคุนเคยหรือไมค ุน เคยในสถานการณต า ง ๆ ได ๓ รพ ๑.๑/๗   ใชก ระบวนการสื่อสารในการแสวงหาขอ มลู ขาวสารในการติดตามความเคล่ือนไหวตาง ๆ ในสงั คม สําหรบั การดํารงชีวิตและการประกอบ อาชพี

108 ท่ี ตวั ชีว้ ดั ผลการประเมิน สรุป กอ นการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนวยฯ IIP/FCSP ๔ รพ ๑.๒/๑   ใชก ระบวนการอานในการเลอื กภาพ คํา ท่ีออกเสยี งเหมือนเสยี งพยัญชนะตนทีเ่ ปนชอื่ ของตนเอง สงิ่ ของ บุคคลอืน่ ได ๕ รพ ๑.๒/๒   ระบชุ ื่อส่ิงของ บคุ คลท่รี จู กั ในหนงั สอื ภาพ หรอื สอ่ื รูปแบบอ่ืน ๆ ๖ รพ ๑.๓/๓   เขียนพยัญชนะไทย สระ วรรณยุกต ไดตาม ศกั ยภาพเขยี นตัวอักษรภาษาองั กฤษดวยวธิ ีการ ตา ง ๆ ไดต ามศักยภาพ ๗ รพ ๓.๑/๑   บอกประวัติความเปนมาของตนเอง และครอบครัวโดยใชร ปู แบบท่หี ลากหลาย ๘ รพ ๖.๑/๒   บอกประโยชนสิ่งของเคร่อื งใชท เ่ี ปนเทคโนโลยี ในชวี ติ ประจาํ วัน โดยการบอก ชี้ หยิบหรือ รปู แบบการส่อื สารอ่ืน ๆ ๓. สาระสังคมและการเปนพลเมืองทีเ่ ขม แข็ง คําช้แี จง ใหทําเคร่ืองหมาย ลงในชองผลการประเมนิ ท่ีตรงตามสภาพความเปน จรงิ ผลการประเมิน ท่ี ตวั ชีว้ ัด กอนการพัฒนา สรุป ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว ยฯ IIP/FCSP ๑ สพ ๑.๑/๒   ปฏิบตั ิหนา ทีข่ องตนเองในการเปน สมาชกิ ทีด่ ี ของครอบครัว ๒ สพ ๑.๑/๔   ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนาทีข่ องตนเอง ในการเปน สมาชิกท่ดี ขี องโรงเรียน

109 ที่ ตัวชี้วดั ผลการประเมิน สรปุ ๓ สพ ๑.๑/๖ กอ นการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว ยฯ IIP/FCSP ปฏบิ ัตติ นตามบทบาทหนาที่ของตนเอง   ในการเปน สมาชกิ ท่ีดขี องชมุ ชนและสงั คม ๔ สพ ๓.๑/๒   ปฏิบตั ิตาม ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญกู ตเวที   ๕ สพ ๓.๒/๑ เขา ใจ ตระหนักถึงความสาํ คัญตอศาสนพิธี พิธีกรรมและวนั สาํ คญั ทางศาสนาที่ตนเอง นับถือ ๔. สาระการงานพน้ื ฐานอาชพี คําชี้แจง ใหทาํ เครื่องหมาย ลงในชองผลการประเมนิ ทตี่ รงตามสภาพความเปน จริง ผลการประเมนิ ท่ี ตัวชีว้ ัด กอนการพัฒนา สรุป ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนวยฯ IIP/FCSP ๑ กอ ๑.๑/๓   เก็บของเลน – ของใชส วนตัวหรอื ของสมาชกิ ในครอบครัวจนเปน นสิ ัย ลงชอื่ ..............................ผูประเมิน ลงชอ่ื ..............................ผปู ระเมิน (นางสาวปย ะนุช ติบ๊ วงศ) (นายมานะ บุญทว)ี ตาํ แหนง พนักงานราชการ ตาํ แหนง พนักงานราชการ ลงช่อื ..............................ผูประเมิน (นางสาวสิรนิ ยา นันทชยั ) ตาํ แหนง ครผู ชู วย

110 แบบประเมินความสามารถพืน้ ฐาน หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน สําหรับผูเรยี นพิการ ศูนยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจําจงั หวัดลําปาง ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ทกั ษะจาํ เปน เฉพาะความบกพรองทางสตปิ ญ ญา ชอ่ื -สกุล………น…า…งส…า…วอ…ัจ…ฉ…รา……ม…ณ…ีเน…ต…ร ……………………………………………. วนั ท่ปี ระเมิน ………๓…๑……พ…ฤษ…ภ…า…คม……๒…๕…๖…๕………………………………………. คําชีแ้ จง ๑. แบบประเมินตามหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานสําหรับผูเรียน พิการ ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ใชประเมิน สําหรบั เด็กท่ีอยใู นระดับการศึกษาภาคบงั คับ ๒. แบบประเมินฉบับนสี้ ามารถใชไดก ับผรู บั การประเมินทุกประเภทความพกิ าร เกณฑก ารประเมนิ ผลกอนพัฒนา ระดับ ๔ หมายถึง ไมตองชวยเหลอื /ทาํ ไดดวยตนเอง ระดบั ๓ หมายถงึ กระตนุ เตือนดวยวาจา ระดบั ๒ หมายถงึ กระตนุ เตอื นดวยทา ทาง และวาจา ระดบั ๑ หมายถึง กระตนุ เตอื นทางกาย ทาทาง และวาจา ระดับ ๐ หมายถงึ ตอบสนองผดิ หรือไมมกี ารตอบสนอง

111 หมายเหตุ กระตุนเตอื นทางกาย หมายถงึ ผสู อนจบั มอื ทาํ เมอ่ื เด็กทําไดลดการชวยเหลือลงโดยให แตะขอศอกของเดก็ และกระตุนโดยพูดซ้ําใหเ ดก็ ทาํ กระตนุ เตือนดวยทาทาง หมายถงึ ผูสอนช้ีใหเด็กทํา/ผงกศีรษะเม่ือเด็กทําถกู ตอง/สายหนา เมอื่ เด็กทําไมถูกตอ ง กระตุนดวยวาจา หมายถึง ผูสอนพดู ใหเด็กทราบในสิ่งทผี่ ูส อนตองการใหเด็กทาํ

112 สาระทักษะจาํ เปนเฉพาะความพิการ มาตรฐานที่ ๕.๓ ทกั ษะจําเปน เฉพาะความบกพรอ งทางสติปญ ญา ตวั ชวี้ ดั ๕.๓.๑ สามารถส่อื สารไดเ หมาะสมกับสถานการณ ขอท่ี ตัวช้วี ดั ระดับความสามารถ สรุป ๑ สป ๑.๑/๑ กอนการพฒั นา สื่อสารไดเหมาะสมกับสถานการณ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว ยฯ IIP/FCSP  ตัวช้ีวัด ๕.๓.๒ สามารถดูแลตนเองและความปลอดภัยในชีวติ ประจาํ วนั ขอที่ ตัวชวี้ ัด ระดบั ความสามารถ สรปุ ๑ สป ๑.๒/๑ กอ นการพัฒนา ดแู ลตนเองและความปลอดภัยใน ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนวยฯ IIP/FCSP ตัวชีว้ ดั ๕.๓.๓ การควบควบคุมตนเองในสถานการณต างๆ การนบั ถือตนเอง และสาํ นึกรูผ ดิ ชอบช่วั ดี ขอ ท่ี ผลการเรยี นรทู ่คี าดหวงั ระดบั ความสามารถ สรุป กอนการพัฒนา การควบคุมตนเองขณะอยูท่ีบา น ๑ สป ๑.๓.๑/๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนวยฯ IIP/FCSP สามารถพูด/สื่อสารใหเหมาะสมกบั สถานการณ** การควบคุมตนเองในหองเรียน ๑ สป ๑.๓.๒/๑ สามารถปฏิบตั ิตนตามกติกาของ หอ งเรียนได* *

113 ระดับความสามารถ สรุป กอ นการพัฒนา ขอ ท่ี ผลการเรยี นรูทีค่ าดหวงั ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนวยฯ IIP/FCSP การควบคุมตนเองในชุมชน/ท่ีสาธารณะ ๑ สป ๑.๓.๓/๑ สามารถควบคุมตนเองในการทํา ๒ สป ๑.๓.๓/๒ สามารถควบคุมอารมณต นเองในการ ๓ สป ๑.๓.๓/๓ กิจกรรมรว มกับผอู น่ื เมื่อสถานการณ เปล่ียนแปลงได* * การสํานึกรผู ิดชอบช่ัวดีตอ การกระทําความดที ตี่ นเองกระทํา ๑ สป ๑.๓.๔/๑ สามารถแสดงความซื่อสัตยท่ีตนเอง กระทําได** ๒ สป ๑.๓.๔/๒ สามารถแบง ปนสิ่งของได* ตัวช้วี ัด ๕.๓.๔ มีปฏิสมั พันธทางสังคมกับผูอ่นื อยา งเหมาะสม ขอ ท่ี ผลการเรยี นรทู ี่คาดหวัง ระดับความสามารถ สรุป ๑ สป ๑.๔/๑ กอ นการพัฒนา มีปฏิสัมพันธทางสังคมกบั ผูอ่ืน ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว ยฯ IIP/FCSP อยางเหมาะสม

114 ตัวชว้ี ดั ๕.๓.๕ ปฏิบัติตนตามตารางกจิ วตั รประจําวนั และแกปญหาใน ชีวติ ประจําวัน ระดบั ความสามารถ สรปุ กอนการพัฒนา ขอ ท่ี ผลการเรยี นรทู ค่ี าดหวัง วันทาํ การ (วันจันทร-ศุกร) ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว ยฯ IIP/FCSP กิจวัตรประจาํ วนั กอนไปโรงเรียน  ๑ สป ๑.๕.๑/๑  สามารถปฏบิ ตั ติ นตามตารางกิจวตั ร กจิ กรรมในโรงเรยี น ๒ สป ๑.๕.๑/๒ สามารถปฏบิ ัตติ นตามตารางกจิ กรรมใน กจิ วตั รประจําวนั หลังเลิกเรียน ๓ สป ๑.๕.๑/๓ สามารถปฏิบัติตนตามตารางกิจวัตร วนั หยุด (วนั เสาร – วันอาทิตย) กจิ กรรมชว งเชา ๑ สป ๑.๕.๒/๑ สามารถปฏิบตั ิตนตามตารางกจิ วัตร กจิ กรรมระหวางวนั ๒ สป ๑.๕.๒/๒ สามารถปฏิบตั ติ นตามตารางกจิ วตั ร กิจกรรมประจาํ วันชว งเยน็ ๓ สป ๑.๕.๒/๓ สามารถปฏิบัติตนตามตารางกจิ วัตร การตดั สนิ ใจ ๑ สป ๑.๕.๓/๑ สามารถตัดสินใจเลือกสิง่ ของ ในชวี ิตประจําวนั ของตนเองได* *

115 ตัวช้ีวัด ๕.๓.๖ รูจกั ใชทรพั ยากรในชมุ ชน ขอ ท่ี ผลการเรยี นรทู ค่ี าดหวงั ระดับความสามารถ สรุป ๑ สป ๑.๖/๑ กอ นการพัฒนา ใชส ่งิ ของสาธารณะอยางเหมาะสม ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนวยฯ IIP/FCSP ตัวช้ีวดั ๕.๓.๗ การปฏบิ ัตติ นตามกฎระเบียบ ปฏิบตั ิตามกฎหมาย และการรูจกั การไมล ะเมิดสิทธขิ องผูอ ่ืน ระดับความสามารถ สรปุ กอ นการพัฒนา ขอ ท่ี ผลการเรียนรูทคี่ าดหวงั ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว ยฯ IIP/FCSP การปฏิบตั ิตนตามกฎระเบียบของสงั คมในชวี ติ ประจาํ วนั ๑ สป ๑.๗.๑/๑ สามารถปฏบิ ตั ิตนตามกฎระเบยี บของ สงั คมได การปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เก่ยี วของกบั ตนเองในการเปน พลเมืองดี ๒ สป ๑.๗.๒/๑ สามารถปฏิบัตติ นตามกฎหมายท่ี เกีย่ วขอ งกับตนเองในการเปน พลเมืองด*ี * การไมล ะเมิดสิทธิของผูอ่ืน ๓ สป ๑.๗.๓/๑ ไมละเมิดสทิ ธิทางรางกายของผอู นื่ ** สป ๑.๗.๓/๒ ไมละเมดิ สทิ ธทิ างทรพั ยสินของ ผูอืน่ **

116 ตัวชว้ี ดั ๕.๓.๘ สามารถใชเ ทคโนโลยีสิง่ อาํ นวยความสะดวกเครอื่ งชวยในการ เรียนรู ขอ ท่ี สภาพท่พี งึ ประสงค / ระดบั ความสามารถ สรปุ ผลการเรียนรทู ี่คาดหวัง กอนการพัฒนา ๑ สป ๑.๕/๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว ยฯ IIP/FCSP ใชอ ปุ กรณช ว ยในการสือ่ สารทางเลือก ๒ สป ๑.๕/๒ ใชอปุ กรณช ว ยในการเขาถงึ คอมพวิ เตอรเ พื่อการเรียนรู ๓ สป ๑.๕/๓ ใชโ ปรแกรมเสริมผานคอมพวิ เตอรเ พื่อ ชวยในการเรียนรู ตัวชว้ี ดั ๕.๓.๙ การใชเวลาวางใหเ ปนประโยชน ขอ ที่ สภาพที่พงึ ประสงค / ระดับความสามารถ สรุป ผลการเรยี นรูท ี่คาดหวัง กอนการพัฒนา ดานดนตรี ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว ยฯ IIP/FCSP การเลนเครอ่ื งดนตรี ๑ สป ๑.๙.๑/๑ สามารถฟงเพลงหรือดนตรตี ามความ สนใจของตนเองได* * ๒ สป ๑.๙.๑/๒ สามารถเลนเครื่องดนตรตี ามความสนใจ ของตนเองได**

117 ขอ ท่ี สภาพที่พึงประสงค / ระดับความสามารถ สรุป ผลการเรียนรูท่ีคาดหวัง กอ นการพัฒนา การรองเพลง / การแสดงออกทางการเคล่ือนไหว ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนวยฯ IIP/FCSP ๓ สป ๑.๙.๑/๓ สามารถรอ งเพลงและแสดงออก ทางการเคลอื่ นไหวตามจงั หวะเพลง ท่เี หมาะสม** ดานศิลปะ ๑ สป ๑.๙.๒/๑ การสรา งสรรคผลงานตามความถนัด และความสนใจ ๒ สป ๑.๙.๒/๒ สามารถสรางสรรคผ ลงานในเชงิ ศลิ ปะ ไดตามความถนัดและความสนใจ** ดา นกฬี าและนันทนาการ กจิ กรรมกีฬาอนุชน YA (Young Athletes) ๑ สป ๑.๙.๓/๑ สามารถเลนกีฬาอนุชน YA (Young Athletes) ตามความสนใจและความ เหมาะสม** กจิ กรรมกีฬา Special Olympics ๒ สป ๑.๙.๓/๑ สามารถเลนกีฬา Special Olympics ตามความสนใจและความเหมาะสม**

118 ตวั ชว้ี ัด ๕.๓.๑๐ ทักษะดา นการทอ งเท่ียว การใชยานพาหนะ และการดูแลความ ปลอดภัยของตนเองจากบุคคลหรือสงิ่ แวดลอ มที่ไมป ลอดภัย ขอที่ สภาพท่ีพึงประสงค / ระดบั ความสามารถ สรปุ ผลการเรยี นรูทค่ี าดหวัง กอนการพัฒนา หนว ยฯ IIP/FCSP ๔๓๒๑๐ การทอ งเที่ยว ๑ สป ๑.๑๐.๑/๑ สามารถเลือกสถานท่ีทอ งเทีย่ วไดต าม ความสนใจ ๒ สป ๑.๑๐.๑/๑ สามารถเลือกปฏิบัตติ นใหเหมาะสมกับ สถานทท่ี องเท่ียว** การใชย านพาหนะสวนบุคคล ๑ สป ๑.๑๐.๒/๑ สามารถใชย านพาหนะไดอ ยาง ปลอดภัย** การปฏบิ ตั จิ ากบคุ คลทไี่ มป ลอดภัย ๑ สป ๑.๑๐.๓/๑ สามารถแกปญหา / หลีกเลยี่ งอนั ตราย จากบุคคลได** การปฏิบัตติ นจากส่งิ แวดลอ มท่ีไมปลอดภัย ๑ สป ๑.๑๐.๓/๑ สามารถแกปญ หา / หลีกเลีย่ งอนั ตราย จากบุคคลได* *

119 ตวั ช้วี ดั ๕.๓.๑๑ ทักษะการใชท รัพยากรในชุมชนไดอยา งเหมาะสม ขอ ที่ สภาพทีพ่ งึ ประสงค / ระดับความสามารถ สรปุ ผลการเรียนรทู ่คี าดหวัง กอนการพัฒนา การรูจกั วธิ ีรักษาหอ งน้ําสาธารณะ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว ยฯ IIP/FCSP ๑ สป ๑.๑๑.๑/๑ สามารถบํารงุ รักษาหองนาํ้ สาธารณะ ได** การรจู กั วิธีใชสวนสาธารณะ สป ๑.๑๑.๒/๑ สามารถบํารุงรกั ษาตนไม อุปกรณ เครอ่ื งเลนในสวนสาธารณะได** การรูจกั ใชสงิ่ แวดลอม สป ๑.๑๑.๓/๑ สามารถบํารุงรักษาแหลง ทอ งเท่ียว** ท่มี า * สํานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ. (๒๕๖๒). หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยสําหรับเดก็ ** ทมี่ ีความตองการจาํ เปน พิเศษ พุทธศกั ราช ๒๕๖๒. อัดสําเนา. สาํ นกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ. (๒๕๕๘). (ราง) แนวทางการจัดกิจกรรมตาม หลักสูตรสําหรบั เดก็ ท่ีมีความตองการจาํ เปนพเิ ศษระยะแรกเร่มิ ของศูนยก ารศกึ ษาพเิ ศษ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๕๘. อัดสําเนา ลงช่ือ..............................ผูประเมิน ลงชอื่ ..............................ผปู ระเมนิ (นางสาวปย ะนุช ตบ๊ิ วงศ) (นายมานะ บญุ ทว)ี ตาํ แหนง พนักงานราชการ ตําแหนง พนักงานราชการ ลงชื่อ..............................ผปู ระเมิน (นางสาวสิรินยา นันทชยั ) ตําแหนง ครผู ชู ว ย

120 ชอื่ -สกลุ นางสาวอจั ฉรา มณีเนตร วันที่ประเมิน ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ แบบประเมินทางกจิ กรรมบาบัด นักกิจกรรมบาบัด นางสาวบุษกร สันเทพ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง 1. ลักษณะโดยท่วั ไป (General appearance) เด็กหญิงวยั รุน่ ผมยาว รปู ร่างท้วม ไหลต่ ก ตาเล็กเรียวชี้ 2. การประเมินความสามารถด้านการเคลื่อนไหว (Motor Function) 2.1 ทักษะกล้ามเนื้อมดั ใหญ่ (Gross Motor) ระดบั ความสามารถ (ระบอุ ายทุ ท่ี าได)้ ระดบั ความสามารถ (ระบอุ ายุทท่ี าได้) รายการ ทาได้ดว้ ย ทาไดแ้ ตต่ อ้ ง ทาไมไ่ ด้ รายการประเมิน ทาไดด้ ว้ ย ทาได้แตต่ อ้ ง ทาไมไ่ ด้ ประเมิน ตนเอง ชว่ ยเหลือ ตนเอง ชว่ ยเหลอื ชนั คอ  ว่งิ    พลิกตะแคงตัว  เดินขนึ้ -ลงบนั ได (เกาะราว)    พลกิ คว่าหงาย  กระโดด 2 ขา    นัง่ ได้เอง  เดินขึ้น-ลงบนั ได (สลบั เทา้ )    คลาน   ปั่นจกั รยาน 3 ลอ้   เกาะยืน    ยนื ขาเดียว   ยนื    กระโดดขาเดียว   เดนิ    2.2 การขา้ มแนวกลางลาตัว (Crossing the Midline)  สามารถมองตามข้ามแนวกลางลาตวั  มี □ ไมม่ ี  สามารถนามือทั้งสองข้างมาใช้ในแนวกลางลาตวั  มี □ ไมม่ ี 2.3 ขา้ งที่ถนัด (Laterality) □ ซา้ ย  ขวา 2.4 การทางานร่วมกนั ของรา่ งกายสองซกี (Bilateral integration)  มี □ ไม่มี 2.5 การควบคุมการเคลื่อนไหว (Motor control)  สามารถเปล่ยี นรูปแบบการเคลอื่ นไหว  มี □ ไมม่ ี  ความสามารถในการเคลือ่ นไหว (Mobility)  มี □ ไมม่ ี  รปู แบบการเคลื่อนไหวทีผ่ ิดปกติ □ มี □ อาการสน่ั (Tremor) □ การบดิ หมนุ ของปลายมอื ปลายเทา้ คลา้ ยการฟ้อนรา (Chorea) □ การเคล่ือนไหวของแขนขาสะเปะสะปะ (Athetosis) □ ความตงึ ตวั ของกลา้ มเนือ้ ไมแ่ น่นอน (Fluctuate)  ไมม่ ี  มกี ารเดินสะเปะสะปะ เหมือนการทรงตัวไม่ดี (Ataxic Gait) □ มี  ไม่มี  เดนิ ตอ่ ส้นเท้า  ทาได้ □ทาไม่ได้(ไมเ่ ข้าใจ)  ทดสอบ Finger to Nose Test□ มกี ารกะระยะไมถ่ ูก(Dysmetria)  ทาได้ □ทาไมไ่ ด้(ไมเ่ ข้าใจ)  ทดสอบการเคลอ่ื นไหวสลบั แบบเร็ว (Diadochokinesia)  ทาได้ □ทาไม่ได้(ไมเ่ ขา้ ใจ) 2.6 การวางแผนการเคล่ือนไหว (Praxis) *มแี บบทดสอบมาตรฐาน* - การเลียนแบบท่าทาง  ทาได้ □ทาไมไ่ ด้(ไมเ่ ข้าใจ) - การเลียนแบบเคลื่อนไหว  ทาได้ □ทาไม่ได้(ไม่เข้าใจ) 2.7 การประสานงานของกลา้ มเน้ือมัดเลก็ (Fine coordination) .ใช้มือทากิจกรรมได้ตามปกติ

121 แบบประเมินทักษะการเคลื่อนไหวของกลา้ มเน้ือมัดเล็ก ระดบั ความสามารถ รายการประเมนิ ทาได้ดว้ ยตนเอง ทาได้แต่ต้องให้การช่วยเหลอื ทาไม่ได้ การสบตา (eye contact)  การมองตาม (eye following)  การใชแ้ ขนและมอื   การเออื้ ม (Reach Out)  การกา (Grasp)  1. การกา (Power grasp)    การกาแบบตะขอ (Hook)   การกาทรงกลม (Spherical grasp)   การกาทรงกระบอก (Cylindrical grasp) 2. การหยบิ จับ (Precise grasp)   การนา (Carry /hold )   การปลอ่ ย (Release)  การใช้สองมอื การใช้กรรไกร  การใชอ้ ปุ กรณเ์ คร่อื งใช้ในการรบั ประทานอาหาร  การใชม้ ือในการเขยี น ความคลอ่ งแคล่วของการใช้มอื   การประสานสมั พันธร์ ะหว่างมอื กบั ตา  (eye-hand coordination) การควบคมุ การเคลื่อนไหวริมฝปี าก   การปดิ ปาก (Lip Closure)   การเคล่อื นไหวล้นิ (Tongue)   การควบคมุ ขากรรไกร (Jaw control)   การดดู (Sucking) / การเป่า   การกลนื (Swallowing)  การเค้ยี ว (Chewing)  ความผดิ ปกตอิ วยั วะในช่องปากที่พบ 1. ภาวะลน้ิ จกุ ปาก (Tongue thrust) □ พบ  ไม่พบ 2. ภาวะกดั ฟัน (Tooth Grinding) □ พบ  ไม่พบ 3. ภาวะนา้ ลายไหลยืด (Drooling) □ พบ  ไมพ่ บ 4. ภาวะลิ้นไกส่ ้นั □ พบ  ไม่พบ 5. ภาวะเคลื่อนไหวล้นิ ได้น้อย □ พบ  ไมพ่ บ 6. ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ □ พบ  ไม่พบ หมายเหตุ (ข้อมูลเพ่มิ เติม)

122 การประเมินการรบั ความรู้สึก 1. ตระหนกั ร้ถู ึงสิง่ เรา้  มี □ ไม่มี 2. การรบั ความรู้สึก (Sensation) ใส่ N=Normal (ปกติ) I=Impaired (บกพร่อง) L=Loss (สญู เสีย) การรับความร้สู กึ ทางผวิ หนงั (Tactile) - การรับรถู้ งึ สัมผสั แผ่วเบา (Light touch) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสยี - แรงกด (Pressure) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสยี - อณุ หภมู ิ (Temperature) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสีย - ความเจ็บ (Pain) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสีย - แรงสนั่ สะเทือน (Vibration) : □ ปกติ  บกพรอ่ ง □ สูญเสยี การรับความรู้สึกจากกล้ามเน้ือ เอน็ และข้อ (Proprioceptive):  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี การรบั ความรสู้ ึกจากระบบการทรงตวั (Vestibular) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสยี การรบั ข้อมลู จากการมองเห็น (Visual) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสยี การรบั ข้อมูลจากการไดย้ นิ (Auditory) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสีย การรับข้อมลู จากตมุ่ รับรส (Gustatory) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสีย 3. กระบวนการรบั รู้ □ มี  ไม่มี การรบั รู้โดยการคลา (Stereognosis)  มี □ ไมม่ ี การรบั รู้การเคลอ่ื นไหว (Kinesthesis)  มี □ ไมม่ ี การตอบสนองต่อความเจ็บปวด (Pain Respone)  มี □ ไมม่ ี การรบั รสู้ ว่ นต่างๆของรา่ งกาย (Body Scheme)  มี □ ไมม่ ี การรบั ร้ซู ้าย-ขวา (Right-Left Discrimination)  มี □ ไม่มี การรบั รู้รปู ทรง (Form constancy)  มี □ ไม่มี การรบั รู้ตาแหนง่ (Position in space)  มี □ ไม่มี การรบั รภู้ าพรวม (Visual-Closure)  มี □ ไม่มี การรบั รูก้ ารแยกภาพ (Figure Ground)  มี □ ไม่มี การรับรู้ความลึก (Depth Perception)  มี □ ไม่มี การรบั รู้มิติสมั พันธ์ (Spatial Relation)

123 แบบแจกแจงปญั หาและการตง้ั เป้าประสงค์  สรุปปญั หาของนกั เรยี น - นกั เรียนไมส่ ามารถทากิจกรรมที่ซบั ซ้อนเกิน ๒ ขั้นตอนได้ - นักเรียนไม่สามารถรบั รู้รปู ทรงผา่ นการคลาได้ - นักเรยี นไม่สามารถรบั รแู้ รงสน่ั สะเทอื นได้  เป้าประสงค์ - ภายในปีการศึกษา ๒๕๖๕ นกั เรียนสามารถทากิจกรรมที่มคี าสง่ั ๒ ข้นั ตอนได้ ๘/๑๐ คร้ัง - ภายในปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ นกั เรยี นสามารถรับรู้รปู ทรงผ่านการคลาได้ถูกต้อง ๘/๑๐ คร้งั - ภายในปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ นักเรยี นสามารถรับรแู้ รงสั่นสะเทือนได้ผ่านกจิ กรรมนั่งโต๊ะ ๘/๑๐ ครั้ง (ลงช่ือ) ( นางสาวบษุ กร สันเทพ ) นกั กิจกรรมบาบดั ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕

12 แบบสรุปการรับบรกิ ารกิจกร ช่ือ-สกลุ นางสาวอจั ฉรา มณเี นตร ห้องเรยี น อาเภอเมือง ๒ อายุ ๑๙ ปี วันเดอื นปี ท่ีประเมนิ ก่อนการรบั บริการกจิ กรรมบาบัด ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ วนั เดอื นปี ที่ประเมนิ หลังการรับบริการกิจกรรมบาบัด ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๖ สรุปปญั หาของ ผลการประเมนิ ก่อน เปา้ ประสงค์ นักเรยี น การรบั บรกิ าร การทากจิ กรรมตาม - นกั เรียนไมส่ ามารถทา - ภายในปีการศึกษา ๒๕๖๕ นักเรีย คาสงั่ กจิ กรรมท่ีซับซ้อนเกิน สามารถทากจิ กรรมทีม่ ีคาสัง่ ๒ ขั้นต ๒ ข้ันตอนได้ ได้ ๘/๑๐ ครง้ั การรับรู้รปู ทรงผา่ น - นกั เรยี นไม่สามารถ - ภายในปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ นักเรยี สามารถรับร้รู ูปทรงผ่านการคลาได้ การคลา รบั รู้รปู ทรงผา่ นการ ถกู ต้อง ๘/๑๐ คร้งั คลาได้ การรบั รู้ - นกั เรียนไมส่ ามารถ - ภายในปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ นักเรยี แรงสน่ั สะเทือน รับร้แู รงสน่ั สะเทือนได้ สามารถรบั รูแ้ รงสัน่ สะเทอื นได้ผ่าน กจิ กรรมนัง่ โต๊ะ ๘/๑๐ ครง้ั สรปุ ผลการให้บรกิ ารกจิ กรรมบาบัด ๑. เป้าประสงค์ทั้งหมด ๓ ขอ้ ๒. ผลการพฒั นา บรรลุเปา้ ประสงค์ ๓ ข้อ ไม่บรรลุเปา้ ประสงค์ - ข้อ ขอ้ เสนอแนะในปตี ่อไป นักเรยี นควรไดร้ บั การพัฒนาจากผู้ดูแล โดยมคี รเู ปน็ ผูใ้ หค้ าแนะนา เพื่อพัฒน

24 รรมบาบดั ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ผลการประเมินหลัง ผลการพฒั นาตามเปา้ ประสงค์ การรบั บริการ บรรลุ/ผ่าน ไมบ่ รรลุ/ไมผ่ ่าน ยน นกั เรยี นสามารถทากิจกรรมที่มีคาสั่ง ๒  ตอน ขน้ั ตอนได้ ๘/๑๐ ครงั้ โดยการกระตุ้น  ทางวาจา ยน นกั เรยี นสามารถรับรู้รปู ทรงผา่ นการ คลาไดถ้ ูกต้อง ๘/๑๐ ครง้ั ยน นกั เรียนสามารถรบั รู้แรงสัน่ สะเทือนได้  ผ่านกจิ กรรมนง่ั โต๊ะ ๘/๑๐ คร้งั โดย การกระตนุ้ ดว้ ยวาจา นาการท่ดี ขี ้นึ (ลงช่อื ) ( นางสาวบุษกร สันเทพ ) นกั กจิ กรรมบาบดั วนั ท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖

125 ๑ แบบประเมินทางกายภาพบาบัด ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง วันทีร่ ับการประเมิน ...๑..0.....ม.ิ...ย......ร่.๕.......... ผูป้ ระเมิน ..น..า..ย..อ..น.ุ.ช..า..โ..ส...ส...ม..ก..ั.บ................ ๑. ขอ้ มลู ทั่วไป ชือ่ ……น…าง…ก…ว…อั…จฉ…ร…า……ม…น…ำ…ท…า…ง….....………… ช่อื เล่น....ด.้..า..น....................... เพศ  ชาย ifหญงิ วนั เดือน ปเี กิด...๙.....n....c..i....๔..๖................ อายุ .๑..๘....ปี..........เดอื น โรคประจาตัว ..._.............................. การวินจิ ฉยั ทางการแพทย์……-………...................................................................................................... อาการสาคญั (Chief complaint) …บ…กพ…ร่…อง.…ทา…ง…ส…ติป…ัญ…ญ…า…ส…าม…าร.ถ..ช…่วย…เพ…ือ…ต…น…เอ…งไ…ด้…เ…พื่อ…น…7…หา…ได…้ป..…กต…ิ … ขอ้ ควรระวัง....._...................................................................................................................................... หอ้ งเรยี น ..ป..ร.ิย.ั..ง..น....า.....เ.ม.ื.อ..ง..................................ครูประจาช้นั ..น....ร.....ป.ิ..ย...น.ุ..ช....ท.ิ.๊ข..อ.ง.ศ..์........................... ๒. การสงั เกตเบ้ืองตน้ ปกติ ผิดปกติ การสงั เกต ปกติ ผิดปกติ ๙. เทา้ ปกุ การสังเกต ✓ ๑๐. เทา้ แบน r ๑. ลักษณะสีผิว ๑๑. แผลกดทบั ๒. หลงั โกง่ . ๑๒. การหายใจ . ๓. หลงั คด . ๑๓. การพูด . ๔. หลังแอ่น ๑๔. การมองเห็น . ๕. เขา่ ชดิ . ๑๕. การเคี้ยว . ๖. เข่าโก่ง ๑๖. การกลนื ๗. ระดับข้อสะโพก . . ๘. ความยาวขา ๒ ข้าง . . . . . เพมิ่ เติม .......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ ครัง้ ท่ี ๓ วนั ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

126 ๒ ๓. พฒั นาการตามวัย ความสามารถ ทาได้ ทาไม่ได้ ความสามารถ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ๑. ชันคอ ๖. นั่งทรงตัว r ๒. พลกิ ควา่ พลกิ หงาย ๗. ลกุ ขึ้นยนื ๓. คบื ๘. ยืนทรงตัว ๙. เดนิ Eรู้๔. คลาน ๑๐. พูด .๕. ลกุ ขนึ้ นัง่ เพ่มิ เติม ................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................... ................................. ๔. การประเมินทางกายภาพบาบดั มาตรฐานที่ ๑ การเพมิ่ หรอื คงสภาพองศาการเคล่อื นไหวของข้อต่อ ตัวบง่ ชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต ๑.๑ เพ่มิ หรอื คง ๑. ยกแขนขึ้นได้ / เตม็ ช่วงการเคล่อื นไหว สภาพองศาการ  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว เคลอ่ื นไหวของ  จากดั การเคล่อื นไหว รา่ งกายสว่ นบน เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ ๒. เหยียดแขนออกไป / เต็มช่วงการเคลอ่ื นไหว ดา้ นหลังได้  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคล่ือนไหว  จากดั การเคล่ือนไหว เพิม่ เตมิ ................................. ................................................ ๓. กางแขนออกได้ / เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  จากดั การเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ ๔. หบุ แขนเข้าได้ - เต็มช่วงการเคลอื่ นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคลอ่ื นไหว เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรงุ ครง้ั ท่ี ๓ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

127 ๓ ตวั บ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ขอ้ สงั เกต ๕. งอขอ้ ศอกเขา้ ได้  เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว ๖. เหยียดขอ้ ศอกออกได้  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  จากัดการเคลอ่ื นไหว เพ่มิ เตมิ .................................  เต็มชว่ งการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว :/ จากัดการเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ ๗. กระดกข้อมือลงได้  เต็มชว่ งการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคลื่อนไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ๘. กระดกข้อมือขึ้นได้ ................................................ rเต็มช่วงการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคลือ่ นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ๙. กามอื ได้ ................................................ / เต็มช่วงการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จากัดการเคลือ่ นไหว เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................ ๑๐. แบมือได้ / เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากดั การเคลื่อนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ๑.๒ เพิ่มหรือคง ๑. งอขอ้ สะโพกเข้าได้ ................................................ r เต็มช่วงการเคล่ือนไหว สภาพองศาการ  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว เคลอ่ื นไหวของ  จากดั การเคลื่อนไหว ร่างกายสว่ นลา่ ง เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงคร้ังที่ ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

128 ๔ ตัวบ่งช้ี สภาพที่พึงประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสังเกต ๒. เหยยี ดขอ้ สะโพก กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ r เต็มชว่ งการเคลอ่ื นไหว ออกได้ ๓. กางข้อสะโพกออกได้  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว ๔. หบุ ข้อสะโพกเข้าได้  จากดั การเคลอื่ นไหว ๕. งอเขา่ เขา้ ได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ๖. เหยียดเขา่ ออกได้ ................................................ / เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว ๗. กระดกข้อเทา้ ลงได้  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอื่ นไหว ๘. กระดกข้อเทา้ ขน้ึ ได้  จากดั การเคลอ่ื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................ :/ เต็มช่วงการเคลอื่ นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว  จากัดการเคลอ่ื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................  เต็มช่วงการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอื่ นไหว  จากัดการเคลือ่ นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว  จากัดการเคลื่อนไหว เพิม่ เตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว ะ ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากดั การเคลือ่ นไหว เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................  เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคลื่อนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ ครงั้ ท่ี ๓ วนั ที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

129 ๕ ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต ๙. หมนุ ข้อเทา้ ได้ -เต็มช่วงการเคล่อื นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จากัดการเคล่ือนไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................ ๑๐. งอนว้ิ เทา้ ได้  เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว มาตรฐานท่ี ๒ การปรบั สมดุลความตึงตัวของกลา้ มเนื้อ ะ ไม่เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากดั การเคล่ือนไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................ ตัวบง่ ช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสังเกต ๒.๑ ปรับสมดลุ ๑. ปรับสมดุลความ  ระดบั ๐  ระดบั ๑  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ ความตงึ ตวั ตึงตวั กล้ามเนื้อ  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ของกลา้ มเนื้อ ยกแขนข้นึ ได้ ................................................. r ระดับ ๐  ระดับ ๑ รา่ งกายสว่ นบน  ระดบั ๑+  ระดบั ๒  ระดับ ๓  ระดับ ๔ ๒. ปรบั สมดุลความ เพม่ิ เตมิ ................................. ตงึ ตัวกล้ามเนื้อ ................................................. เหยียดแขนออกไป ด้านหลังได้ ๓. ปรบั สมดลุ ความ ะ ระดบั ๐  ระดับ ๑ ตึงตวั กลา้ มเนื้อ กางแขนออกได้  ระดับ ๑+  ระดับ ๒  ระดบั ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๔. ปรบั สมดุลความ  ระดบั ๐  ระดบั ๑ ตึงตัวกลา้ มเนื้อ  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ หบุ แขนเขา้ ได้  ระดบั ๓  ระดับ ๔ เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรงุ คร้ังท่ี ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

130 ๖ ตัวบง่ ช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสงั เกต ๕. ปรับสมดุลความ - ระดับ ๐  ระดบั ๑ ตงึ ตวั กล้ามเน้ือ  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ งอข้อศอกเข้าได้  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๖. ปรบั สมดุลความ / ระดับ ๐  ระดบั ๑ ตงึ ตวั กล้ามเนื้อ  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ เหยยี ดข้อศอกออกได้  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. ๗. ปรบั สมดลุ ความ r ระดบั ๐  ระดับ ๑ ตึงตวั กล้ามเนื้อ  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ กระดกข้อมือลงได้  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ๘. ปรับสมดลุ ความ ................................................. / ระดับ ๐  ระดบั ๑ ตงึ ตวั กลา้ มเนื้อ  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ กระดกข้อมือข้นึ ได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๙. ปรับสมดลุ ความ :/ระดบั ๐ ระดบั ๑ ตึงตัวกลา้ มเน้ือ กามือได้  ระดบั ๑+  ระดับ ๒  ระดบั ๓  ระดบั ๔ ๑๐. ปรับสมดุลความ เพิ่มเตมิ ................................. ตึงตวั กล้ามเน้ือ ................................................. แบมือมอื ได้  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดับ ๒  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๒.๒ ปรับสมดลุ ๑. ปรบั สมดุลความตึงตัว  ระดับ ๐  ระดับ ๑ ความตึงตวั กลา้ มเน้ืองอสะโพก  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ ของกลา้ มเน้ือ เข้าได้  ระดบั ๓  ระดับ ๔ รา่ งกายสว่ นลา่ ง เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครัง้ ที่ ๓ วนั ที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

131 ๗ ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ๒. ปรบั สมดุลความตึงตวั / ระดบั ๐  ระดบั ๑ กลา้ มเน้อื เหยยี ด  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ สะโพกออกได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................. ๓. ปรับสมดลุ ความตึงตวั - ระดบั ๐  ระดับ ๑ กลา้ มเน้อื กางสะโพก  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ ออกได้  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๔. ปรับสมดุลความตงึ ตัว r ระดับ ๐  ระดับ ๑ กล้ามเนอ้ื หุบสะโพก  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ เข้าได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๕. ปรับสมดลุ ความตึงตัว r ระดับ ๐  ระดบั ๑ กล้ามเนอ้ื งอเขา่ เข้าได้  ระดบั ๑+  ระดบั ๒  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ๖. ปรับสมดุลความตึงตวั ................................................. r ระดับ ๐  ระดบั ๑ กล้ามเนอ้ื เหยยี ดเขา่  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ ออกได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. ๗. ปรบั สมดุลความตงึ ตัว  ระดบั ๐  ระดบั ๑ กล้ามเนือ้ กระดก ข้อเท้าลงได้ ะ ระดบั ๑+  ระดบั ๒  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๘. ปรับสมดุลความตึงตวั  ระดบั ๐  ระดับ ๑ กลา้ มเนื้อกระดก  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ ข้อเท้าขึน้ ได้  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพิม่ เตมิ ................................. ................................................. แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครงั้ ท่ี ๓ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

132 ๘ หมายเหตุ ๐ หมายถึง ความตึงตัวของกล้ามเนื้อไมม่ ีการเพมิ่ ขึน้ ๑ หมายถึง ความตึงตวั ของกล้ามเนื้อสูงข้นึ เล็กนอ้ ย (เฉพาะชว่ งการเคล่ือนไหวแรกหรอื สดุ ท้าย) ๑+ หมายถึง ความตึงตวั ของกล้ามเน้ือสูงขึ้นเล็กนอ้ ย (ช่วงการเคลื่อนไหวแรกและยังมอี ยู่แต่ไมถ่ ึงคร่ึงของช่วงการเคลื่อนไหว ๒ หมายถึง ความตงึ ตวั ของกล้ามเน้ือเพมิ่ ตลอดช่วงการเคลื่อนไหว แต่สามารถเคลอ่ื นไดจ้ นสดุ ชว่ ง ๓ หมายถงึ ความตงึ ตัวของกล้ามเนื้อมากขนึ้ และทาการเคลอ่ื นไหวไดย้ ากแตย่ ังสามารถเคลอื่ นไดจ้ นสุด ๔ หมายถงึ แขง็ เกรง็ ในทา่ งอหรอื เหยยี ด มาตรฐานท่ี ๓ การจดั ทา่ ใหเ้ หมาะสมและการควบคมุ การเคลอ่ื นไหวในขณะทากจิ กรรม ตวั บ่งช้ี สภาพที่พึงประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสังเกต ๓.๑ จัดทา่ ให้ ๑. จดั ท่านอนหงาย r ทาไดด้ ้วยตนเอง เหมาะสม ได้อยา่ งเหมาะสม  มีผชู้ ว่ ยเหลอื เลก็ น้อย  มผี ู้ช่วยเหลอื ปานกลาง  มผี ้ชู ว่ ยเหลือมาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ๒. จัดท่านอนคว่า ....................................................... / ทาได้ด้วยตนเอง ได้อย่างเหมาะสม  มีผู้ช่วยเหลอื เลก็ น้อย  มีผชู้ ่วยเหลอื ปานกลาง  มีผ้ชู ว่ ยเหลือมาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ๓. จัดทา่ นอนตะแคง ....................................................... / ทาได้ด้วยตนเอง ไดอ้ ย่างเหมาะสม  มีผู้ช่วยเหลอื เลก็ น้อย  มีผชู้ ว่ ยเหลอื ปานกลาง  มีผชู้ ว่ ยเหลือมาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ....................................................... ๔. จดั ทา่ นง่ั ขาเปน็ วง r ทาได้ด้วยตนเอง ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  มผี ู้ชว่ ยเหลือเล็กนอ้ ย  มผี ชู้ ่วยเหลอื ปานกลาง  มีผ้ชู ่วยเหลือมาก เพ่ิมเตมิ ......................................... ....................................................... กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครั้งที่ ๓ วนั ที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

133 ๙ ตัวบง่ ช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสังเกต ๓.๒ ควบคุมการ ๕. จัดทา่ น่ังขดั สมาธิ  ทาไดด้ ว้ ยตนเอง เคล่อื นไหว ในขณะ ได้อย่างเหมาะสม  มีผชู้ ่วยเหลือเล็กน้อย ทากิจกรรม  มีผู้ชว่ ยเหลือปานกลาง ๖. จัดทา่ น่งั เก้าอี้  มผี ชู้ ่วยเหลือมาก ได้อย่างเหมาะสม เพม่ิ เตมิ ......................................... .......................................................  ทาไดด้ ว้ ยตนเอง  มผี ชู้ ่วยเหลือเลก็ น้อย :/ มผี ู้ชว่ ยเหลอื ปานกลาง  มีผู้ชว่ ยเหลือมาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ....................................................... ๗. จดั ทา่ ยืนเข่า  ทาไดด้ ้วยตนเอง ได้อย่างเหมาะสม  มผี ชู้ ่วยเหลือเลก็ น้อย  มผี ชู้ ่วยเหลือปานกลาง  มีผชู้ ว่ ยเหลือมาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ....................................................... ๘. จัดท่ายนื ไดเ้ หมาะสม r ทาได้ด้วยตนเอง  มีผู้ช่วยเหลือเล็กนอ้ ย  มีผชู้ ่วยเหลือปานกลาง  มีผู้ช่วยเหลือมาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ....................................................... ๙. จดั ท่าเดินไดเ้ หมาะสม - ทาได้ดว้ ยตนเอง  มผี ู้ชว่ ยเหลือเล็กนอ้ ย  มผี ชู้ ว่ ยเหลือปานกลาง  มีผชู้ ว่ ยเหลือมาก เพิ่มเตมิ ......................................... ....................................................... ๑. ควบคุมการเคลื่อนไหว  Loss  Poor ขณะนอนหงายได้  Fair  Good r Normal เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครง้ั ที่ ๓ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

134 ๑๐ ตัวบง่ ช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ๒. ควบคุมการเคลื่อนไหว  Loss  Poor ขณะนอนควา่ ได้  Fair  Good r Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๓. ควบคุมการเคลื่อนไหว  Loss  Poor ขณะลุกขน้ึ น่ังจาก  Fair  Good ทา่ นอนหงายได้ :/Normal ๔. ควบคมุ การเคลื่อนไหว ขณะลุกข้นึ นัง่ จากทา่ เพมิ่ เตมิ ................................. นอนหงายได้ .................................................  Loss  Poor  Fair  Good  Normal เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๕. ควบคมุ การเคล่ือนไหว  Loss  Poor ขณะนั่งบนพ้นื ได้  Fair  Good  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๖. ควบคมุ การเคลื่อนไหว  Loss  Poor ขณะนั่งเกา้ อีไ้ ด้  Fair  Good ๗. ควบคมุ การเคล่ือนไหว :/Normal ขณะคบื ได้ เพมิ่ เตมิ ................................. .................................................  Loss  Poor  Fair  Good  Normal เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๘. ควบคุมการเคล่ือนไหว  Loss  Poor ขณะคลานได้  Fair  Good  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครัง้ ที่ ๓ วันที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

135 ๑๑ ตัวบง่ ชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต ๙. ควบคมุ การเคลื่อนไหว  Loss  Poor ขณะยนื เขา่ ได้  Fair  Good / Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๑๐. ควบคมุ การ  Loss  Poor เคลื่อนไหว  Fair  Good ขณะลุกข้ึนยนื ได้ r Normal เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. ๑๑. ควบคมุ การ  Loss  Poor เคล่ือนไหว  Fair  Good ขณะยนื ได้  Normal ๑๒. ควบคุมการ ะเพ่ิมเตมิ ................................. เคลื่อนไหว ขณะเดินได้ .................................................  Loss  Poor  Fair  Good  Normal เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. หมายเหตุ หมายถึง ไมสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวไดเลย Loss หมายถงึ ควบคุมการเคลื่อนไหวไดเพียงบางส่วน Poor หมายถึง สามารถควบคมุ การเคลอ่ื นไหวไดดีพอควร Fair หมายถึง สามารถควบคุมการเคลอื่ นไหวได้ใกล้เคยี งกับปกติ Good หมายถึง สามารถควบคมุ การเคลอื่ นไหวได้ปกติ Normal กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครงั้ ที่ ๓ วนั ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

136 ๑๒ มาตรฐานที่ ๔ การเพ่มิ ความสามารถการทรงท่าในการทากจิ กรรม ตวั บ่งชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสังเกต ๔.๑ ควบคุมการ ๑. นั่งทรงทา่ ได้มน่ั คง  Zero  Poor ทรงทา่ ทาง  Fair  Good ของรา่ งกาย - Normal ขณะอยู่น่ิง เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. ๒. ตัง้ คลานไดม้ ัน่ คง  Zero  Poor ๓. ยนื เขา่ ได้มัน่ คง  Fair  Good :/Normal เพิ่มเตมิ ................................. .................................................  Zero  Poor  Fair  Good  Normal เพิม่ เตมิ ................................. ................................................. ๔. ยนื ทรงทา่ ได้ม่ันคง  Zero  Poor  Fair  Good  Normal เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. ๕. เดินทรงท่าไดม้ น่ั คง  Zero  Poor  Fair  Good ๔.๒ ควบคมุ การ ๑. นง่ั ทรงทา่ ขณะ  Normal ทรงท่าทาง ทากิจกรรมได้มั่นคง ะเพิม่ เตมิ ................................. ของร่างกาย .................................................  Zero  Poor ขณะเคลอื่ นไหว  Fair  Good  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครัง้ ท่ี ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

137 ๑๓ ตวั บ่งช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต ๒. ต้งั คลานขณะ  Zero  Poor ทากจิ กรรมได้มนั่ คง  Fair  Good ๓. ยนื เข่าขณะ ทากิจกรรมได้มน่ั คง ร Normal ๔. ยนื ทรงท่าขณะ เพ่มิ เตมิ ......................................... ทากิจกรรมได้มน่ั คง ....................................................... ๕. เดินทรงทา่ ขณะ ทากจิ กรรมได้ม่นั คง  Zero  Poor  Fair  Good :/Normal เพิม่ เตมิ ................................. .................................................  Zero  Poor  Fair  Good  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. .................................................  Zero  Poor  Fair  Good  Normal เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. หมายเหตุ Zero หมายถึง ไมส่ ามารถทรงตวั ไดเ้ อง ต้องอาศัยการชว่ ยเหลือท้งั หมด Poor หมายถงึ สามารถทรงตัวไดโ้ ดยอาศัยการพยงุ Fair หมายถึง สามารถทรงตวั ไดโ้ ดยไมอ่ าศัยการพยงุ แต่ไม่สามารถทรงตัวไดเ้ มือ่ ถูกรบกวน และไมส่ ามารถถ่ายน้าหนกั ได้ Good หมายถึง สามารถทรงตัวได้ดโี ดยมตี ้องอาศัยการพยุง และสามารถรกั ษาสมดลุ ไดด้ พี อควร เมอ่ื มกี ารถ่ายนา้ หนกั Normal หมายถงึ สามารถทรงตัวได้ดแี ละมน่ั คงโดยไมต่ อ้ งอาศยั การพยุง และสามารถรกั ษาสมดลุ ไดด้ ี เมื่อมีการถ่ายนา้ หนัก กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครัง้ ที่ ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook