Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือ ๑๐๐ปีชาตกาล พระศรีสุทธิวงศ์ (วัดบวรมงคล)

หนังสือ ๑๐๐ปีชาตกาล พระศรีสุทธิวงศ์ (วัดบวรมงคล)

Description: หนังสือ ๑๐๐ ปีชาตกาล พระศรีสุทธิวงศ์ (วัดบวรมงคล)

Search

Read the Text Version

249 พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๕๐๐ ถงึ ฤกษ์งาม ยามดี ข้นึ ปใี หม่ น่งั ทางใน นอ้ มจิต อธษิ ฐาน ขอเดชะ พระไตรรตั น ์ ชัชวาล อภิบาล ชูชว่ ย อำ� นวยพร ใหเ้ อบิ อิ่ม ย้มิ แยม้ ใจแชม่ ชน่ื อายุยนื ภิญโญ สโมสร พ้นวิบตั ิ วฒั นา สถาพร เกียรติ์ขจร สุขสบาย ทั้งกายใจ ลาภอดุ ม ทรัพย์สมบัต ิ ไมข่ ดั สน มารผจญ แพ้หมด สขุ สดใส สิน้ เคราะห์โศก โชคดี ไมม่ ภี ยั ประสงคใ์ ด ไดน้ นั้ ในทันที แมบ้ ุตรหลาน วา่ นเครอื ที่เหลืออ่ืน อายุยนื สมบูรณ์ จำ� รูญศรี ทง้ั ญาตมิ ติ ร สนิทกนั บรรดามี สวสั ดี เปน็ สขุ ทุกคนเทอญ. พระศรีวสิ ทุ ธิวงศ์ วดั บวรมงคล ธนบุรี ๑ มกราคม ๒๕๐๐

250 พรปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๙ สวดปรติ ร ตั้งจติ มนั่ ประพันธ์กลอน อำ� นวยพร ตามบาลี คมั ภรี ์ไข เปน็ ของขวัญ วนั ดี ขน้ึ ปีใหม่ ส่งโชคชยั สขุ สวสั ด์ิ พพิ ฒั นม์ า ขอให้ พระไตรรตั น์ เปน็ ฉตั รทอง แผป่ กป้อง คุ้มกนั ซึง่ ชนั ษา ให้อยู่เย็น เป็นสขุ ทุกเวลา วัฒนา สดชน่ื ยัง่ ยืนนาน มีอายุ ยนื มัน่ ผวิ พรรณผอ่ ง พละคลอ่ ง ว่องไว เกยี รตไิ พศาล พ้นพิบัติ ศตั รู และหม่มู าร ปฏภิ าณ อุดม ลาภสมบูรณ์ ใหโ้ ชคดี มีทรพั ย์ ไม่อับเฉา เรอ่ื งโศกเศรา้ เคราะห์บาป กส็ าบสญู ปลอดเวรภยั ไร้โรคา ไม่อาดูร สริ พิ นู อริพา่ ย กระจายไป

251 ขอความหวัง ต้งั ไว้ อยูใ่ นจิต จงสมั ฤทธ์ิ สมปอง จิตผ่องใส แมม้ เี รื่อง เคอื งขัด อดึ อัดใจ พลนั สิ้นไป โปรง่ ปลอด ตลอดปี สว่ นบตุ รหลาน วา่ นเครือ ทเ่ี หลอื อนื่ จงยัง่ ยนื สมบรู ณ์ จ�ำรูญศรี ท้ังญาติมิตร สนิทกัน บรรดามี สวัสดี เปน็ สุข ทุกคนเทอญ. ขออำ� นวยพร พระศรวี ิสุทธวิ งศ์ วัดบวรมงคล ธนบรุ ี ๑ มกราคม ๒๔๙๙

252 พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๔๙๘ ลมุ งคล ดิถี ขึ้นปีใหม่ ส�ำรวมใจ แนว่ สนิท อธิษฐาน ขอให้ พระไตรรัตน์ ชัชวาล อภิบาล ด้วยฤทธิ์ ประสิทธ์พิ ร ใหอ้ ย่เู ยน็ เปน็ สขุ ปราศทกุ ขโ์ ศก ประสพโชค ลาโภ สโมสร พน้ พิบัติ วฒั นา สถาพร เกียรติ์ขจร สุขสบาย ทัง้ กายใจ ยศอุดม ทรัพย์สมบตั ิ ไม่ขดั สน มารผจญ แพห้ มด สุขสดใส อายยุ นื รน่ื เรงิ บนั เทิงใจ ประสงค์ใด ไม่ผิด สัมฤทธ์พิ ลนั แมบ้ ุตรหลาน ว่านเครอื ทเ่ี หลืออนื่ ใหอ้ ยู่ยนื เจรญิ ย่งิ เปน็ ม่ิงขวญั ปราศทกุ ข์โศก โรคร้าย ก็หายพลัน ประสพสนั - ตสิ ขุ ทุกคนเทอญ. ขออำ� นวยพร พระศรวี ิสทุ ธวิ งศ์ วดั บวรมงคล ธนบุรี ๑ มกราคม ๒๔๙๘

253 พรปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๗ ลุฤกษ์งาม ยามดี ขน้ึ ปหี ม่ จึงตงั้ ใจ สวดปรติ ร อธษิ ฐาน ขอให้ พระไตรรัตน์ ชัชวาล ดลบันดาล โชคชว่ ย อ�ำนวยพร ให้เอิบอ่มิ ยมิ้ แย้ม และแช่มชน่ื อายุยนื ลาโภ สโมสร พน้ พิบัติ วัฒนา สถาพร เกียรตขิ์ จร เฟอ้ื งฟุ้ง ทั่วกรงุ ไกร ใหโ้ ชคดี มีทรพั ย์ ไมอ่ บั เฉา เคราะห์โศกเศร้า ส้นิ หมด จิตสดใส ผ่านพ้นทุกข์ สุขสบาย ท้ังกายใจ ประสงคใ์ ด ไดน้ น้ั ในทนั ที ใหแ้ คล่วคล่อง ผ่องแผว้ ภัยแคล้วคลาด โรคบำ� ราศ อริรา้ ย กพ็ ่ายหนี โชคทรพั ยส์ นิ ภิญโญ ในโลกยี ์ จงเกดิ มี ดงั ฝน หลง่ั ล้นมา แม้บตุ รหลาน เหลนใด ทใี่ กล้ชิด และญาตมิ ติ ร ใกล้ไกล ในเคหา ให้อยเู่ ย็น เป็นสขุ ทกุ เวลา ไรโ้ รคา ผาสกุ ทุกคนเทอญ. ขออ�ำนวยพร พระศรีวสิ ทุ ธิวงศ์ วัดบวรมงคล ธนบรุ ี ๑ มกราคม ๒๔๙๗

254 พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๔๙๖ ลฤุ กษ์งาม ยามดี ขน้ึ ปใี หม่ จงึ ตง้ั ใจ สวดปริตร อธิษฐาน ขอใหพ้ ระ- ไตรรัตน์ ชชั วาล ดลบนั ดาล โชคชว่ ย อ�ำนวยพร ให้เอิบอ่ิม ยม้ิ แยม้ และแช่มชื่น อายยุ นื ลาโภ สโมสร พ้นพิบตั ิ วัฒนา สถาพร เกยี รต์ิขจร เฟอื่ งฟุ้ง ทัว่ กรุงไกร ใหโ้ ชคดี มที รัพย ์ ไมอ่ บั เฉา เคราะหโ์ ศกเศร้า ส้นิ หมด จติ สดใส ผ่านพ้นทกุ ข์ สขุ สบาย ทงั้ กายใจ ประสงค์ใด ได้นน่ั ในทันที แมห้ ลานเหลน ว่านเครือ ทเ่ี หลืออืน่ จงอยูย่ นื สมบรู ณ ์ จำ� รูญศรี ญาตวิ งศ์พงษ-์ วิสทุ ธิ์ และบตุ รี สวัสด ี เปน็ สุข ทุกคนเทอญ. พระศรีวิสุทธวิ งศ์ วัดบวรมงคล ธนบรุ ี ๑ มกราคม ๒๔๙๖

255 สักรวา พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๔๙๕ สกั รวา วันนี้ ข้ึนปีใหม่ จงึ ตงั้ ใจ แตง่ กลอน อักษรสาร ขอเดชะ พระไตรรตั น์ ชชั วาล ดลบันดาล โชคช่วย อำ� นวยพร ใหเ้ อิบอิ่ม ยิ้มแยม้ ใจแช่มช่นื อายุยืน ภิญโญ สโมสร พน้ พบิ ัติ วัฒนา สถาพร เกยี รตขิ จร สุขสบาย ทัง้ กายใจ ลาภอุดม ทรัพยส์ มบตั ิ ไมข่ ดั สน มารผจญ แพห้ มด สขุ สดใส ใจสวา่ ง สร่างทุกขโ์ ศก สิ้นโรคภยั ประสงค์ใด ไดน้ น้ั ในทันที แม้บตุ ร หลานวา่ นเครอื ทเ่ี หลืออน่ื ให้ยังยืน เจรญิ สุข ทุกวถิ ี ท้ังญาตมิ ติ ร สนิทกนั บรรดามี ตลอดปี เปน็ สขุ ทกุ คนเอย ขออำ� นวยพร พระศรีวิสุทธิวงศ์ วัดบรมงคล ธนบรุ ี ๑ มกราคม ๒๔๙๕

256 พรปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๔ ขอใหพ้ ระไตรรตั น์ สุจรสั คโุ ณฬาร ป้องกันและบันดาล ศุภโชคตลอดปี ปราศโสกวโิ ยคทุกข์ ประลุสขุ เจริญศรี สดชน่ื ระรน่ื มี- คุณะธรรมบ่ลำ� เค็ญ สพโชคโฉลกชยั มะนะใสสะอาดเยน็ เกยี รต์ิเฟ่ืองกระเด่ืองเด่น สริ ิวัฒนาการ ผอ่ งแผว้ และแคล่วคลอ่ ง ภะยะผองมพิ อ้ งพาน โปร่งปลอดตลอดกาล กิติลาภก็เพิม่ พูน สมบรู ณพ์ ลงั ดี ธะนะมีทวีคณู เคราะหบ์ าปก็สาบสูญ อริพ่ายกระจายไป เห็นธรรมพระสัมพุทธ์ สวุ ิสุทธแ์ิ สดงไข แจ่มนกั ประจักษใ์ จ และละเหตุเกลศขันธ์

257 เพียรชอบประกอบ วรสุนทรานันต์ รุง่ โรจนเ์ จรญิ บรร- ลุ ณ สนั ตนิ ิพพาน แมม้ ุง่ ประสงค์ใด ก็ลไุ ดม้ เิ นิ่นนาน ญาติมติ รและบุตรหลาน ปิยชนประดามี แคล้วคลาดอบุ าทว์ทุกข์ ประลุสขุ เกษมศรี มีโชคโฉลกด ี ดุจะอาตมป์ ระสาธนพ์ ร สทิ ฺธมตฺถุ สทิ ธฺ มตถฺ ุ สทิ ธฺ มตถฺ ุ อิทํ ผลํ เอตสมฺ ึ รตนตฺตยสฺมึ สมฺปสาทนเจตโส ขออ�ำนวยพร พระศรวี ิสทุ ธิวงศ์ วดั บวรมงคล ธนบรุ ี ๑ มกราคม ๒๔๙๕

258 พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๔๙๓ สวดปรติ ร จติ ผ่องแผ้ว แล้วแต่งกลอน อำ� นวยพร ตามบาล ี คัมภีรไ์ ข เป็นของขวัญ วันดขี นึ้ ปีใหม่ ส่งโชคชัย สุขสวสั ดิ์ พพิ ัฒน์มา ขอใหพ้ ระ- ไตรรัตน์ เป็นฉัตรทอง แผ่ปกปอ้ ง คมุ้ กัน ซึง่ ชณั ษา ให้อย่เู ย็น เป็นสุข ทุกทิวา วัฒนา โปร่งปลอด ตลอดกาล มีอายุ ยืนมัน่ ผิวพรรณผ่อง พละคลอ่ ง สามารถ และอาจหาญ พ้นพบิ ัติ ศัตร ู และหมู่มาร สขุ สำ� ราญ รน่ื รมย์ ลาภสมบรู ณ์ ให้โชคดี มที รัพย ์ ไมอ่ ับเฉา เรื่องโศกเศรา้ เคราะห์บาป กส็ าบสญู ปลอดเวรภัย ไร้คา่ ไม่อาดูร เกียรติเ์ พ่ิมพนู อริรา้ ย กพ็ า่ ยไป แมญ้ าตพิ รรค รกั สุด มิตรบุตรหลาน บรวิ าร ใกลช้ ิด พิสมยั อยู่ในแควน้ แดนดนิ ถ่นิ ใดใด ให้เย็นใจ สงบสุข ทกุ คนเทอญ พระศรีวสิ ทุ ธวิ งศ์ วดั บวรมงคล ธนบุรี ๑ มกราคม ๒๔๙๓

259 พรปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๒ ลุดิถี ฤกษ์ดี ขึน้ ปใี หม่ จึงตงั้ ใจ สวดปรติ ร อธิษฐาน ขอใหพ้ ระ- ไตรรตั น์ ชชั วาล อภิบาล รักษารอด ตลอดปี ใหส้ วัสด ี มีสมบตั ิ ไมข่ ัดข้อง ใจผุดผอ่ ง โสภา เป็นราศี และทรพั ยส์ นิ ภญิ โญ ในโลกีย์ ให้เกิดมี พรอ้ มสรรพ ทุกวนั วาร ให้อยู่เย็น เป็นสุข ส้ินทกุ ข์โศก ประสพโชค อ่ิมเอม เกษมสานต์ มีเกียรตยิ ศ สดใส ปลอดภัยพาล เร่ืองรำ� คาญ กวนใจ อย่าไดม้ ี แม้บุตรหลาน ว่านเครอื ทเ่ี หลืออน่ื ให้อยยู่ นื สมบรู ณ ์ จำ� รญู ศรี และญาติมิตร สนิทกนั บรรดามี ใหอ้ ยดู่ ี เป็นสุข ทุกคนเทอญ พระมหาสาย ปลหี ะจนิ ดา วดั บวรมงคล ธนบรุ ี ๑ มกราคม ๒๔๙๒

260 พรปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๑ วันนเี้ ปน็ วนั ดี ขึ้นปีใหม่ จงึ ต้งั ใจ รวมจติ อธิษฐาน ขอคุณพระ- ไตรรัตน์ ชชั วาล มาบันดาล ดว้ ยฤทธ์ิ ประสิทธิพ์ ร ใหอ้ ยูเ่ ย็น เปน็ สขุ สน้ิ ทกุ ข์หมด เกียรตยิ ศ ชยั ชนะ สโมสร พน้ พิบัติ วัฒนา สถาพร จะน่งั นอน สขุ สบาย ทั้งกายใจ ให้อดุ มดว้ ย สมบตั ิ ไม่ขัดขอ้ ง ผวิ พรรณผ่อง ผุดผาด สะอาดใส ใหอ้ ายุยืน ม่ันทุก วนั ไป นึกอะไร โปรง่ ปลอด ตลอดปี ประสพโชค โฉลกเลศิ บังเกิดผล ศภุ มงคล สรรเสรญิ เจริญศรี และทรพั ย์สนิ ภิญโญ ในโลกีย์ ให้เกิดม ี ดังฝน หล่ังลน้ มา แม้บตุ รหลาน เหลนใด ทใี่ กลช้ ิด และญาติมติ ร ไกลใกล ้ ในเคหา ให้ปลอดทกุ ข ์ สโุ ข ไร้โรคา วัฒนา ผาสกุ ทุกคนเทอญ อภิวาทนสลี ิสฺส นจิ จฺ ํ วุฑฒฺ าปจายิโน จตฺตาโร ธมมฺ า วฑฺฒนฺติ อายุ วณโฺ ณ สุขํ พลํ พระมหาสาย ปลหี ะจินดา วดั บวรมงคล ธนบรุ ี ๑ มกราคม ๒๔๙๑

261 พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๔๙๐ วันนเี้ ปน็ วันดี ขึน้ ปใี หม่ จึงตั้งใจ รวมจิต อธษิ ฐาน ขอคุณพระ- ไตรรตั น ์ ชัชวาล มาบนั ดาล ด้วยฤทธ์ ิ ประสิทธพ์ิ ร ใหอ้ ยู่เย็น เป็นสุข สิน้ ทกุ ขห์ มด เกียรติยศ ชัยชนะ สโมสร พ้นพิบตั ิ วัฒนา สถาพร จะนง่ั นอน สุขสบาย ทง้ั กายใจ ให้อุดมดว้ ย สมบตั ิ ไมข่ ัดขอ้ ง ผิวพรรณผอ่ ง ผดุ ผาด สะอาดใส ใหอ้ ายุ ยืนม่ัน ทุกวนั ไป ท�ำอะไร โปรง่ ปลอด ตลอดปี ประสพโชค โฉลกเลิศ บังเกดิ ผล ศุภมงคล สรรเสรญิ เจรญิ ศรี และทรพั ยส์ ิน ภิญโญ ในโลกยี ์ ให้เกิดม ี ดังฝน หลัง่ ล้นมา แมบ้ ตุ รหลาน เหลนใด ท่ใี กลช้ ิด และญาตมิ ติ ร ใกล้ไกล ในเคหา ใหป้ ลอดทกุ ข ์ สุโข ไรโ้ รคา วัฒนา ผาสุก ทกุ คนเทอญ พระมหาสาย ปลีหะจินดา วดั บวรมงคล ธนบุรี ๑ มกราคม ๒๔๙๐

262 พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๔๘๙ ปรี ะกา เวียนผา่ นไป ปจี อใหม่ เข้ามาแทน ปีเกา่ เราสุขแสน หรอื คับแคน้ ยง่ิ เพียงไหน ต่างรู้ อยู่ทกุ คน เพราะเห็นผล ประจกั ษใ์ จ นำ� ตน ให้พน้ ภยั มโี ชคชยั นา่ เปรมปรดี ิ์ เพราะตงั้ ระวังตวั ไม่ท�ำชั่ว ประพฤติดี ส่งผล ใหต้ นม ี เกษมศรี เสมอไป ปใี หม่ จะไดส้ ุข หรอื จะทุกข์ คบั แคน้ ใจ ยากที่ จักชี้ไข ไมม่ ีใคร จะรกู้ นั ผใู้ ด มใี จตรง มุ่งประสงค์ เกษมสันต์ หวงั สขุ ทกุ คืนวัน จงเพยี รหมั่น ประพฤตดิ ี อย่าทำ� ซึง่ กรรมช่ัว จะหมองมวั เปน็ ราคี จงท�ำ แตก่ รรมด ี เป็นราศี เชิดชูตน ท�ำดี พระช้วี ่า เป็นทางมา แห่งมงคล เลิศลำ�้ จำ� เริญผล ปล้ืมกมล เสมอไป แตว่ ่า ประชาชน ทกุ ทกุ คน ที่เปน็ ไทย วันดี ขึ้นปใี หม ่ กต็ ัง้ ใจ ใหพ้ รกนั เพ่ือชว่ ย อำ� นวยผล และมงคล ทกุ สิง่ สรรพ์ แบบมี ฉะนีฉ้ ัน จงึ ประพนั ธ์ ประสาธน์พร ขอให้ พระไตรรัตน์ มาเป็นฉัตร แผ่กางกน้ั คมุ้ ครอง และป้องกัน ญาตโิ ยมน้นั ตลอดปี

263 ทกุ ขโ์ สก และโรคร้าย จงสูญหาย สบายดี อยเู่ ยน็ เปน็ สุข ี เจริญศรี เสมอไป โจรรา้ ย ภยั อบุ าทว ์ จงแคลว้ คลาด บ�ำราศไกล เกยี รติก์ อ้ ง จิตผอ่ งใส สรรพภัย อยา่ ไดม้ ี ชยั โชค โฉลกเลิศ อนั พริง้ เพรดิ ประเสริฐศรี ลาภผล มงคลด ี จงเกิดมี ทกุ วนั วาร หวังใด ขอใหไ้ ด้ สมดงั ใจ ไม่เน่ินนาน ปลอดหมู่ ศตั รมู าร เกษมศานต์ สราญใจ พวกพอ้ ง และนอ้ งพี ่ บรรดาที่ อยใู่ กลไ้ กล บุตรหลาน คนบา้ นใกล ้ จงผ่องใส ทั่วทกุ คน จงถงึ ซงึ่ พพิ ัฒน์ และสวสั -ดมิ งคล สมบรู ณ์ ลาภพนู ผล ทุกทุกคน จงเจริญ สพฺพพุทฺธานุภาเวน สทา โสตถฺ ี ภวนฺตุ เต อภวิ าทนสลี สิ สฺ นิจจฺ ํ วฑุ ฒฺ าปจายโิ น จตตฺ าโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สขุ ํ พลํ พระมหาสาย ปลหี ะจินดา วดั พระศรีมหาธาตุ พระนคร ๑ มกราคม ๒๔๘๙

264 พรปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๘๘ ปีวอก ออกไคลคลา ระกามา ประจำ� แทน วอกมี วิถแี ปลน ให้คบั แคน้ หรอื สกุ ใส ต่างรู้ อยู่ทกุ คน เพราะเห็นผล ประจักษใ์ จ นำ� ตน ให้พน้ ภัย มโี ชคชัย น่าเปรมปรดี ิ์ เพราะตงั้ ระวงั ตน มิท�ำช่วั ประพฤตดิ ี ส่งผล ใหต้ นด ี เกษมศรี ตลอดไป ปีใหม่ จะได้สขุ หรอื จะทกุ ข์ คบั แค้นใจ ยากที่ จักชไ้ี ข ไมม่ ีใคร จะร้กู นั ผู้ใด มีใจตรง ม่งุ ประสงค์ เกษมสันต์ิ หวังสขุ ทุกคนื วนั จงเพยี รหมัน่ ประพฤตดิ ี อย่าทำ� ซึ่งกรรมชวั่ จะหมองมวั เปน็ ราคี จงท�ำ แตก่ รรมดี เป็นราศี เชดิ ชตู น ท�ำดี พระชวี้ า่ เปน็ ทางมา แหง่ มงคล เลศิ ลำ�้ จ�ำเรญิ ผล ปล้มื กมล เสมอไป แต่วา่ ประชาชน ทุกทุกคน ท่ีเป็นไทย วันดี ข้ึนปีใหม ่ เคยตัง้ ใจ ใหพ้ รกนั เพอ่ื ชว่ ย อ�ำนวยผล และมงคล ทุกส่งิ สรรพ์ แบบมี ฉะน้ฉี นั จึงประพนั ธ์ ประสาธน์พร

265 ขอให้ พระไตรรตั น์ มาเป็นฉัตร แผ่ไพศาล ป้องกนั และบันดาล ใหส้ ำ� ราญ ตลอดปี ทกุ ขโ์ ศก และโรครา้ ย จงสญู หาย สบายดี อยูเ่ ยน็ เป็นสุขี สวสั ดี เสมอไป โจรภัย ภัยอากาศ จงแคล้วคลาด บำ� ราศไกล เกียรติ์ก้อง จติ ผ่องใส สรรพภยั อยา่ ไดม้ ี ชัยโชค โฉลกเลิศ อันพรงิ้ เพรดิ ประเสริฐศรี ลาภผล มงคลดี จงเกิดมี ทุกวันวาร หวังใด ขอใหไ้ ด้ สมดังใจ ไมเ่ นินนาน ปลอดหมู่ ศัตรูมาร เกษมศานต์ ช่นื บานใจ พวกพอ้ ง และน้องพี่ บรรดามี ทุกแห่งไป บุตรหลาน คนบ้านใกล้ จงปลอดภัย ทุกทุกคน จงถึง ซ่ึงพพิ ัฒน ์ และสวัส-ดิมงคล เป็นสขุ ท่ัวทกุ คน ลลุ าภผล ปลอดภัยเทอญ สพพฺ พุทฺธานุภาเวน สทา โสตฺถี ภวนตฺ ุ เต สพพฺ ธมฺมานุภาเวน วคิ จฺฉนฺตุ อุปทฺทวา สพฺพสงฺฆานภุ าเวน สุขิโต โหหิ นพิ ฺพโย อภิวาทนสลี ิสฺส นิจจิ ํ วุฑฒฺ าปจายิโน จตฺตาโร ธมมฺ า วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ พระมหาสาย ปลีหะจินดา วดั พระศรมี หาธาตุ พระนคร ๑ มกราคม ๒๔๘๘

266 พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๔๘๗ อาตมา มหาสาย บรรยายกลอน ประสทิ ธ์พิ ร เพราะเพราะ เหมาะสมยั เปน็ ของขวญั วันดี ขึ้นปีใหม่ อำ� นวยชยั สุขสวัสดิ์ พพิ ฒั นม์ า ขอเดชะ พระพทุ ธองค์ ผทู้ รงฤทธ์ิ ป้องปดั ปิด ปกปกั ช่วยรักษา ให้อย่เู ย็น เป็นสุข ทุกเวลา วฒั นา มั่งคงั่ ยัง่ ยืนนาน ทงั้ เคราะห์โศก โรคร้าย ใหห้ ายสูญ จงสมบูรณ์ อมิ่ เอม เกษมศานต์ ให้คล่องแคลว่ แคล้วคลาด ปราศภยั พาล แสนส�ำราญ สดใส ไม่อาดูร ไพรรี ้าย พา่ ยแพ้ หนา้ แหยหมด ใครคิดคด วายวอด ม้วยมอดสูญ เจรญิ มั่น สันติภาพ ลาภไพบลู ย์ เกียรต์ิจ�ำรญู รุ่งโรจน์ โชตนา แมพ้ วกพอ้ ง พงศเ์ ผา่ เหล่าญาติมิตร รกั สนิท ใกล้ไกล ในเคหา จงโปร่งปลอด รอดภยั ไร้โรคา และวัฒนา ผาสกุ ทัว่ ทุกคน มะอะอุ อานุภาเวนะ นะโม พทุ ธายะ เตชะสา ฐานะโส สุขโิ ต นจิ จัง วฑั ฒะตัง วัฑฒะตัง สะทา อภิวาทะนะสลี สิ สะ นิจจงั วฑุ ฒาปะจายิโน จตั ฺตาโร ธัมมา วฑั ฒันติ อายุ วณั โณ สุขัง พะลงั พระมหาสาย ปลหี ะจินดา วัดพระศรมี หาธาตุ พระนคร ๑ มกราคม ๒๔๘๗

267 พรปใี หม่ พ.ศ. ๒๔๘๖ ขอคณุ พระ รตั นตรัย เปน็ ชยั ฉตั ร ป้องปิดปัด ปกปัก ช่วยรกั ษา ใหอ้ ย่เู ย็น เป็นสขุ ทกุ เวลา ภัยนานา คลาดแคลว้ ไม่แผว้ พาน ท้ังทกุ ขโ์ ศก โรคไข้ ให้ห่างเหนิ จงเจริญ กา้ วหนา้ มหาศาล ประสพโชค โฉลกดี อยา่ มีมาร สุขส�ำราญ เกษมสันต์ ทุกวันไป ศตั รพู ่าย วายวอด ม้วยมอดสูญ ลาภเพ่มิ พนู เคราะหห์ มด สุขสดใส พ้นพบิ ตั ิ สวัสดี มีโชคชยั พระรตั นตรยั คมุ้ กนั ภยนั ตราย การท�ำมา คา้ ขาย ทงั้ หลายแหล่ ใหมแี ต่ กำ� ไร ดงั ใจหมาย เจรญิ ดี มชี อื่ ลือขจาย รวยมากมาย ตลอดชาติ ไมข่ าดทนุ พระมหาสาย ปลีหะจินดา วดั พระศรมี หาธาตุ พระนคร ๑ มกราคม ๒๔๘๖

268 คติธรรม ๑. ฝึกตน ฝกึ ตน ฝกึ จนงาม ตามธรรมแลว้ จะผอ่ งแผว้ เดน่ เหมือน ดงั เดอื นฉาย งามพรอ้ มหมด สดใส ทง้ั ใจกาย สุขสบาย สมนกึ เพราะฝกึ ตน ๒. สนใจในวชิ า สนใจ ในวิชา ปัญญาย่งิ อยา่ ทอดทงิ้ เรยี นเถดิ จักเกิดผล วิชาดี เหมอื นมที รัพย์ ไมอ่ ับจน ประชาชน ชน่ื ชม นยิ มกนั ๓. รักษาเกียรตศิ ักดิ์ เกียรติศกั ดิ์ รกั ษา อย่าให้สูญ จงเทิดทูน บูชา จนอาสญั พึงพรกั พร้อม ยอมพลี ดวงชีวัน เพ่ือปอ้ งกนั เกยี รติศกั ดิ์ ด้วยภกั ดี ๔. สามคั คี สามัคคี มคี ณุ ค�้ำจนุ ชาติ เอกราช สดุ รัก ทรงศกั ดิศ์ รี พ้นพบิ ตั ิ วัฒนา ค่ธู าตรี สามัคคี อุปถัมภ์ เป็นกำ� ลัง ๕. มศี ีลธรรม อนั ศีลธรรม กำ� จัด วบิ ตั ิทกุ ข์ บันดาลสุข ศกั ด์สิ ทิ ธ์ิ ไมผ่ ดิ หวงั โลกสงบ เย็นสงดั ดจุ ฉตั รบงั พงึ พรอ้ มพรั่ง จนุ ค้�ำ ศีลธรรมเทอญ พระศรวี สิ ุทธิวงศ์ ๔ กรกฎาคม ๒๕๐๐

269 ไหวพ้ ระ ๕ คร้ัง นกั เรียน จงเพยี รพรอ้ ม จงอ่อนนอ้ ม จงเชอ่ื ฟงั อตุ สา่ ห์ ไหว้หา้ ครัง้ ทุกคำ�่ เชา้ จนชำ่� ชอง ครงั้ หนึ่ง ไหว้พระพทุ ธ ผู้บริสุทธิ์ ไม่มวั หมอง หมั่นนึก หม่ันตรึกตรอง ครง้ั ทีส่ อง ไหวพ้ ระธรรม ครั้งสาม ไหวพ้ ระสงฆ์ ปฏิบตั ิตรง เปน็ ประจ�ำ เคร่งครดั ปฏบิ ตั ิธรรม เป็นนาบญุ คุณอนนั ต์ ครง้ั สี่ ไหวพ้ อ่ แม่ ตุณมากแท้ สุดร�ำพัน ฝงั ปลกู เพือ่ ลกู น้นั ใหพ้ ิพฒั น์ สวสั ดี ครง้ั หา้ ครอู าจารย ์ พระภูบาล จอมธานี กราบไหว้ ดว้ ยใจมี ความเออื้ เฟ้ือ และเช่อื ฟัง ผใู้ ด ต้ังใจจด ถงึ กำ� หนด ไมถ่ อยหลงั ตนื่ มา ไหวห้ า้ ครั้ง กอ่ นนอนไหว้ เป็นมงคล ผนู้ ั้น คนสรรเสรญิ ย่อมเจรญิ ทกุ แห่งหน ปราชญซ์ ้อง ยกย่องตน วา่ เป็นคน กตัญญู พวกเรา เหลา่ นักเรียน จงพากเพียร ทดลองดู ตื่นนอน ตอนเช้าตร ู่ ยามไสยา ณ ราตรี ตัง้ ใจ ไหวห้ ้าครั้ง ไมห่ ยุดยัง้ ดังพาที จกั เสริม เพ่ิมความด ี เป็นมงคล เลิศลน้ เอย พระศรวี สิ ุทธิวงศ์ วดั บวรมงคล ธนบุรี ๔ กรกฎาคม ๒๔๙๙

270 หน้าที่ พลเมือง ๑. เกิดเป็นไทย ให้ค�ำนงึ ถงึ หน้าที่ พลเมอื งดี รกั ชาติ ศาสนา รกั กษัตริย์ ภักดี ยง่ิ ชวี า มุ่งรักษา เกยี รตศิ ักด์ ิ สามคั คี ๒. หมัน่ ศึกษา วิชา จนสามารถ และฉลาด รอบรู้ เชดิ ชศู รี เพยี รฝกึ ฝน สร้างตน เป็นคนดี พรอ้ มท้ังมี ศลี ธรรม ประจ�ำใจ ๓. การอาชพี รบี ท�ำ เปน็ ล่�ำสนั แม้หนาวสนั่ สะทา้ น สักปานไหน ร้อนเหลอื ทน ฝนพร�ำ หมั่นท�ำไป กจ็ ะได้ สินทรัพย ์ ไมอ่ ับจน ๔. เกิดเป็นคน จนทรพั ย ์ อาภัพมาก จะลำ� บาก วิบัติ เพราะขัดสน ถ้ามีทรพั ย์ เปน็ สุข ทวั่ ทกุ คน พึงอดทน หาทรพั ย์ โดยฉับพลัน ๕. มที รัพย์แล้ว ควรถนอม ฝากออมสิน เก็บไวก้ ิน เม่ือชรา ใกล้อาสญั ยามเจ็บไข้ ใช้ทรัพย์ ระงับพลัน การพนัน อบายมขุ อย่าคลุกคลี

271 ๖. ฝิน่ กัญชา ยาเหลา้ อย่าเขา้ ใกล้ จะพาให้ จมปลกั เสื่อมศกั ดศิ์ รี คบคนชั่ว หัวไม้ ล้วนไมด่ ี พระท่านชี้ เสื่อมตลอด ทรัพย์วอดวาย ๗. พงึ สัตย์ซื่อ ถือม่ัน กตัญญู ตอ่ ท่านผู้ เก้ือหนนุ มีคณุ หลาย พอ่ แมค่ รู ปู่ย่า และตายาย ต้องนอ้ มกาย เคารพ ให้ครบครัน ๘. มีคคู่ รอง ตอ้ งรักจรงิ อยา่ ทิง้ ขวา้ ง ท�ำจืดจาง รวนเร ใจเหหนั พึงพรอ้ มเพรยี ง เลี้ยงดู เชดิ ชูกัน จนถงึ วัน สน้ิ ใจ ไม่โรยรา ๙. มีบุตรนอ้ ย อย่าปล่อยโง่ จนโตใหญ่ ตอ้ งใฝใ่ จ ฝนฝึก ให้ศกึ ษา ในโรงเรียน เขียนอา่ น การวชิ า เพ่ือกา้ วหน้า สรา้ งตัว รู้ชวั่ ดี ๑๐. พ่อแมค่ รู ผกู้ ารณุ พระคุณล้น ทกุ คนทราบ ประจักษ์ เป็นสักขี ท่านพรำ่� สอน วอนสั่ง ด้วยหวังดี ควรเปรมปรยี ์ ปฏบิ ตั ิ อย่าขัดใจ ๑๑. เมือ่ พ่อแม่ แกช่ รา หรอื อาพาธ อยา่ ประมาท เชือนแช รีบแกไ้ ข ให้หายฟ้นื ยืนอยู่ เลีย้ งดูไป อยา่ ปลอ่ ยให้ ทา่ นลำ� บาก และยากเย็น

272 ๑๒. ญาติพีน่ ้อง ต้องรัก สมัครสมาน อยา่ ร้าวราน กอ่ เรอ่ื ง ทีเ่ คืองเข็ญ คอยระงบั ดับรอ้ น ผอ่ นล�ำเค็ญ ใหอ้ ยเู่ ยน็ เอื้อเฟอ้ื ช่วยเหลอื กัน ๑๓. เพ่ือนบ้าน ใกลเ้ รือนเคียง อยูเ่ รียงขา้ ง ต้องใจกว้าง ช่วยกจิ ไม่บดิ ผนั พึงเมตตา สามัคคี ไมตรกี นั คอยผ่อนสน้ั ผอ่ นยาว ไม่ร้าวราญ ๑๔. เอกราช ชาตทิ รี่ กั พทิ ักษ์ไว้ มยิ อมให้ สญู สิ้น เสยี ถ่ินฐาน พงึ รกั ชาติ เชิดชู ใหอ้ ยนู่ าน ชาติต้องการ แมช้ ีวติ อทุ ศิ พลนั ๑๕. ศาสนา คอื พระธรรม ค�ำสงั่ สอน ดับทุกขร์ ้อน เย็นย่งิ เป็นม่งิ ขวัญ แตง่ ใจ ใหง้ ามสงบ ดีครบครัน ควรปอ้ งกัน ศาสนา ให้ถาวร ๑๖. พระมหา กษัตริย์ เป็นฉัตรเชิด พระคุณเลิศ ล้�ำยงิ่ กว่าสิงขร แผ่ปกคลุม ชมุ่ กมล ชนนิกร ระงบั ร้อน รม่ เกล้า ของชาวไทย ๑๗. ควรเชิดชู บูชา สักการะ ซงึ่ องคพ์ ระ ประมขุ ทกุ สมยั ไวเ้ หนือยอด ยวดยิ่ง กวา่ สงิ่ ใด เปน็ หลักชยั โพธิ์ทอง ของชาติเอย พระศรีวิสุทธวิ งศ์ วัดบวรมงคล

273

274

275



วัดบวรมงคลราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงช้ันตรี ชนดิ ราชวรวิหาร ตง้ั อย่รู มิ ฝ่งั แม่น�ำ้ เจ้าพระยา ดา้ นฝั่งตะวนั ตก ช่วงระหว่างสะพานพระราม ๘ (โรงงานสุราบางย่ีขันเดิม) กับสะพานกรุงธนบุรี ใกล้กับวัดคฤหบดี ตรงข้ามปากคลอง ผดุงกรุงเกษมเทเวศร์ ในท้องท่ีแขวงบางย่ีขัน เขตบางพลัด กรงุ เทพมหานคร วัดน้เี ดิมช่ือ วัดลิงขบ กลา่ วกนั ว่ามีท่มี าจากสองสาเหตุ คือ เป็นชื่อบ้านนามเมืองในสมัยก่อนในท้องท่ีสร้างวัดนี้ตั้งแต่ แรกเร่ิม อีกสาเหตุหน่ึง สันนิษฐานว่ามีท่ีมาจากต�ำนาน ค�ำบอกเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ลุงขบ ซ่ึงเป็นอุบาสก ผู้มีถ่ินฐาน มั่นคงอยู่ในบริเวณแถบนี้ และมีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา อย่างแรงกล้า ได้สร้างวัดนี้ถวายเป็นสังฆาราม ชาวบ้านจึง เรยี กวดั นว้ี า่ “วดั ลงุ ขบ” แตต่ ่อมาไดก้ รอ่ นเสยี งเป็น วดั ลิงขบ

278 วัดบวรมงคล เป็นวัดเก่าแก่ สร้างข้ึนเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๐๐ ก่อน กรุงศรีอยุธยาแตก ๑๐ ปี โดยชาวรามัญ หรือชาวมอญ ท่ีอพยพมาจากเมือง หงสาวดี ภายหลังจากทก่ี องทัพพม่าเขา้ โจมตี จนกระทง่ั เมอื งแตก ชาวรามญั จึง อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเร่ือยมา จนถงึ กรุงสยาม จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหต้ ัง้ บา้ นเรือนอยูเ่ ปน็ หลกั แหล่ง อยหู่ ลายแห่ง รวมทัง้ ในทอ้ งที่ต�ำบลวัดลงิ ขบในอดตี ซงึ่ เป็นทตี่ ั้งของวดั บวรมงคล และพ้ืนที่ชุมชนบริเวณรอบ ๆ วัดในปัจจุบัน ด้วยเหตุดังกล่าวน้ี จึงท�ำให้ วัดบวรมงคล มีพระภิกษุสามเณรชาวรามัญ หรือชาวมอญอยู่ประจ�ำวัดเป็น จ�ำนวนมาก โดยมีพระเถระที่พระภิกษุสามเณรและชาวรามัญให้ความเคารพ นับถือ เป็นประธานสงฆ์ คือ พระไตรสรณธัช และได้ยึดแนวข้อวัตรปฏิบัติ แบบรามัญนกิ าย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรสถานมงคลมหา เสนานุรักษ์ สมเด็จพระอนุราชาธิราชเป็นผู้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่ เพ่ือ อนเุ คราะหแ์ กช่ าวรามญั และพระสงฆร์ ามญั ทอ่ี พยพเขา้ มาพง่ึ พระบรมโพธสิ มภาร ได้มีสถานท่ีประกอบกิจกุศลตามประเพณีของตน เม่ือแล้วเสร็จได้พระราชทาน



280 นามใหม่ว่า วัดบวรมงคลราชวรวิหาร และได้รับการสถาปนาข้ึนเป็น พระอารามหลวง ในปี พ.ศ. ๒๓๕๒ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงด�ำรง พระอสิ รยิ ยศเป็นเจา้ ฟ้ามงกฎุ สมมตเิ ทววงศ์ พงศาอิสสรกษัตรยิ ์ ขตั ติยราชกมุ าร ได้เสด็จออกผนวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทรงตั้งม่ันพระทัยที่จะ ศึกษาพระธรรมวินัยตลอดจนพระไตรปิฎกให้แตกฉาน ทรงเห็นว่าพระสุเมธมุนี พระเถระชาวรามัญแห่งวัดบวรมงคลราชวรวิหาร มีข้อวัตรปฏิบัติที่น่าเล่ือมใส เป็นผู้ทรงภูมิรู้และภูมิธรรม ต้ังอยู่ในครุฐานียบุคคลเป็นอย่างดี จึงทรงยก ให้เป็นอาจารย์องค์ส�ำคัญท่ีคอยให้การถวายหลักแนวคิดแนวปฏิบัติตามหลัก พระธรรมวินัย บางคราวถึงกับเสด็จมาประทับอยู่วัดบวรมงคลเป็นเวลานาน ๆ เพื่อทรงเสวนาและศึกษาพระธรรมวินัยกับพระสุเมธมุนี จึงทรงโปรดให้สร้าง ต�ำหนักไว้หลังหน่ึงส�ำหรับประทับแรมช่ัวคราว ซ่ึงชาวบ้านจะเรียกว่า กุฏิ พระจอม ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงมีพระราชศรัทธาในข้อวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ รามัญนิกายดงั กลา่ วน้ี จงึ เปน็ ปจั จยั ส�ำคญั ทท่ี �ำใหพ้ ระองค์ทรงโปรดสถาปนาให้มี พระสงฆฝ์ ่ายธรรมยตุ กิ าหรือพระธรรมยตุ ิ ในกาลตอ่ มาจนถึงปจั จบุ ัน ในปี พ.ศ. ๒๔๑๐ ได้มีการ บู ร ณ ป ฏิ สั ง ข ร ณ ์ เ ส น า ส น ะ ภ า ย ใ น วัดบวรมงคลราชวรวิหารครั้งใหญ่ และ ได้มีการสร้างพระเจดีย์หงษาข้ึน เป็น พระเจดีย์ท่ีมีลักษณะศิลปกรรมแบบ มอญ สร้างเป็นพระเจดีย์หมู่ รวม ๙ องค์ ประกอบด้วยพระเจดีย์ใหญ่ ๑ องค์ และพระเจดีย์บริวาร ๘ องค์ พร้อมกับบรรจุพระพุทธรูป พระเครื่อง และส่ิงของมีค่าต่าง ๆ เอาไว้ในองค์พระเจดีย์นี้ด้วย ส่วนพระเครื่องที่บรรจุไว้ ภายในองค์พระเจดีย์นั้นเป็นพระพิมพ์กลีบบัว เนื้อดินเผา ซึ่งสันนิษฐานว่า มีจ�ำนวนมากถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ ตามจ�ำนวนพระธรรมขันธ์ในพระไตรปิฎก

281 พระพิมพน์ ้ีมรี ปู ทรงสัณฐานคล้ายกบั กลีบบวั มขี นาดกว้าง ๑.๙ ซม. สงู ๒.๙ ซม. หนา ๐.๕ ซม. มีพุทธลักษณะเป็นรูปองค์พระปฏิมากรประทับนั่งขัดสมาธิเพชร พระพักตร์รปู ไข่ พระโมลี ๒ ชนั้ ดา้ นหลังขององค์พระจะเว้าลงไปเล็กนอ้ ยและ มีลายมือของผู้กดพิมพ์ ด้านล่างของพระจะมีรู ซ่ึงสันนิษฐานว่าเกิดจากการ ใช้ไม้แหลมเสียบเข้าเนื้อพระเพื่อแกะเอาองค์พระออกมาจากแม่พิมพ์ มี สีเหลืองนวล สีแดงอิฐ สีส้มอ่อน ๆ บางองค์จะมีสีเทาด�ำปะปนบ้าง ชาวบ้าน เรยี กกันว่า ”พระกรวุ ดั ลงิ ขบ„ กล่าวกันวา่ พระพทุ ธคณุ ดีเด่นทางเมตตามหานยิ ม ป้องกันคุณไสย และคมเขี้ยวสัตว์ร้าย กล่าวกันว่าก่อนท่ีจะน�ำพระเครื่องเหล่าน้ี ลงบรรจุในพระเจดีย์น้ัน ได้มีพิธีพุทธาภิเษกโดยอาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จ พระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆษิตารามและพระเถราจารย์ ผเู้ รอื งเวทวิทยาคมในสมยั นัน้ หลายทา่ นร่วมในพิธคี ร้ังน้ีดว้ ย ในปี พ.ศ. ๒๔๖๒ รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยูห่ ัว วัดบวรมงคลราชวรวหิ าร ได้รับพระราชทานให้โอนสงั กัดเปน็ วดั ธรรมยุติกนกิ าย โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้า องค์ประธานมหาเถรสมาคมขณะน้ัน ได้ทรงออกระเบียบว่าด้วยการสมาคมกับ พระสงฆ์ต่างนิกาย ส�ำหรับวัดบวรมงคลราชวรวิหารเพื่อให้เป็นข้อวัตรปฏิบัติที่ เหมาะควร เน่ืองจากในสมัยน้ันทั้งพระสงฆ์รามัญนิกาย พระสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย และพระสงฆ์มหานิกาย ก็มีแนวปฏิบัติธรรมวินัยท่ีไม่สมำ่� เสมอกัน จนกลายเป็น นานาสังวาสะของกันและกันไป แต่ก็ยังคงมีการสมาคมด้วยกันตามคราว เช่น การเขา้ แถวสวดมนต์ ฉันในกจิ นมิ นต์ หรอื การประชุมรว่ มกันในกิจธุระ เปน็ ตน้ ซ่ึงระเบียบนี้พระสงฆ์วัดบวรมงคลราชวรวิหาร ยังคงยึดถือปฏิบัติจนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช เสด็จ พระราชด�ำเนินทางชลมารคมาถวายผ้าพระกฐิน ณ พระอุโบสถวัดบวรมงคล ราชวรวหิ าร ยังความปลาบปล้มื ให้เหล่าพสกนิกรทอ่ี าศยั อยใู่ นเขตบางพลดั และ ชมุ ชนรอบ ๆ วัด ที่ได้มีโอกาสรบั เสด็จในการเสด็จพระราชด�ำเนินในครง้ั น้ัน

282 โบราณวัตถุ และสถานที่ส�ำคญั ภายในวดั ๑. พระอุโบสถ เป็นอาคารสถาปัตยกรรมไทย ๗ ห้อง มีขนาดกว้าง ๑๒.๓๐ เมตร ยาว ๓๕.๒๐ เมตร ยกพนื้ สงู ระดับบนั ได ๕ ชนั้ หลังคาซอ้ นช้นั แบบลดมุข ๓ ช้ัน ประดับช่อฟ้าใบระกาหางหงส์นาคสะดุ้งปิดทองประดับ กระจก มีคันทวยรับชายคาโดยรอบ ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน มีเสาอิงย่อมุม โดยรอบอาคาร หัวเสาเป็นบัวจงกลปิดทองประดับกระจกสี หน้าต่างระหว่างเสา เป็นซุ้มทรงบันแถลงนาคสามเศียร ๒ ช้ัน กรอบกระจกหน้าต่างทาสีแดง ด้านนอก บานหน้าต่างเขียนลายรดน�้ำลงรักปิดทองรูปกินรีและลายกระหนก หน้าบันพระอุโบสถจ�ำหลักเป็นรูปตาลปัตรพัดยศ ล้อมรอบด้วยลายเครือเถา ด้านหน้าและด้านหลังของพระอุโบสถมีมุขบนชานชาลา มีเสาสี่เหล่ียม ย่อมมุ สิบสองรบั ชายคามขุ มชี อ่ งทางเข้าด้านหนา้ พระอโุ บสถ ประตู ๓ ชอ่ งประตู ด้านหลังพระอุโบสถ ๒ ช่องประตู บานประตูเขียนลายรดน้�ำลงรักปิดทอง ลายเทพพนมและลายกระหนก เพดานเขยี นเปน็ ลวดลายจนี แตป่ ัจจุบนั ลบเลือน หมดแลว้

283 ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธานของวัด เป็นพระพุทธรูป ปูนปั้นปรากฏพระนามว่าพระพุทธมงคลวรนิมิตร สร้างข้ึนพร้อมกับการสถาปนา วัด ขนาดหน้าตักกว้าง ๓ เมตร ๔๐ เซนติเมตร สูงจากฐานถงึ พระรัศมี ๗ เมตร ๔๕ เซนติเมตร พุทธลักษณะเป็นปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี เบื้องหน้าขององค์พระประธาน ท้ังด้านซ้ายและด้านขวาเป็นท่ีประดิษฐาน พระอัครสาวกสององค์พนมมือหันหน้าเข้าหาพระประธาน บริเวณโดยรอบ พระอุโอสถมีลานส�ำหรับเดินประทักษิณได้โดยรอบ มีซุ้มใบเสมาต้ังอยู่รอบ พระอุโบสถทั้ง ๘ ทิศ มีก�ำแพงล้อมรอบทั้งสี่ด้านแต่ละด้านมีซุ้มประตูทางเข้า อยู่ทุกด้าน แนวก�ำแพงด้านในทุกด้านปลูกสร้างเป็นวิหารคต ส�ำหรับเป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธรปู ปนู ปน้ั ปางมารวิชัย ๑๐๘ องค์ รอบพระอุโบสถ

284 ๒. วิหารคต เป็นสถานท่ีประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นโบราณ โดย ปลูกสร้างมุงหลังคาย่ืนออกมาจากผนังแนวก�ำแพงด้านในของพระอุโบสถตลอด ทั้งสี่ด้านมีความกว้าง ๕.๓๐ เมตร มีความสูงจากพ้ืนถึงหลังคา ๓.๒๕ เมตร ผังแนวก�ำแพงเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า ด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกมี ความยาวด้านละ ๔๖.๔๐ เมตร ด้านทิศเหนือและด้านทิศใต้ ยาวด้านละ ๗๐.๓๐ เมตร บริเวณกึ่งกลางแนวก�ำแพงทุกด้านมีซุ้มประตูทางเข้าไปสู่ ลานประทักษิณ ภายในวิหารคตมีพระพุทธรูปปูนปั้นโบราณ ๑๐๘ องค์ เป็น พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก ๙๕ เซนติเมตร สูงจากฐานถึงพระรัศมี ๑.๓๙ เมตร พระพุทธรูปแต่ละองค์ประดิษฐานบนฐานชุกชี เรียงรายรอบ พระอุโบสถท้งั ส่ดี า้ น

285 ๓. พระเจดีย์หงษา เป็นพระเจดีย์ที่มีศิลปกรรมแบบมอญ ประดษิ ฐาน อยู่บนบริเวณลานวัดด้านหน้าพระอุโบสถริมฝั่งแม่น�้ำเจ้าพระยา มีลักษณะเป็น เจดีย์หมู่ ๙ องค์ ประกอบดว้ ยเจดยี ป์ ระธาน ๑ องค์ และเจดยี ์บรวิ าร ๘ องค์ เจดีย์ประธานมีลักษณะเป็นย่อมุมสีขาวท้ังองค์ เป็นการย่อมุมไม้ย่ีสิบ คือมีการ แตกมุมใหญ่ออกเป็นมุมย่อยด้านละ ๕ มุม แต่ละมุมขององค์เจดีย์มีด้าน ประกอบมมุ เท่ากนั คอื มมี ุมกลางขนาบขา้ งด้วยมุมย่อข้างละ ๒ มมุ องค์เจดยี ์ ไม่มีเรือนธาตุ แต่ท�ำเป็นฐานลดระดับข้ึนไปรับองค์ระฆัง ปล้องไฉน ปลี และ ลูกแก้ว ต้ังซ้อนเป็นล�ำดับข้ึนไป ประดิษฐานบนเขียงรูปส่ีเหล่ียม โดยมีเจดีย์ บริวาร ๘ องค์ ประดิษฐานอยู่ประจ�ำทิศทัง้ ๘ รอบเจดยี อ์ งคป์ ระธาน

286 ๔. อาคารอนุสรณ์สถาน รัชกาลท่ี ๔ เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพ่ือเป็น อนุสรณ์เพ่ือน้อมร�ำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ เคยเสด็จมาประทับแรม เพ่ือศึกษาพระธรรมวินัยกับพระสุเมธมุนี พระเถระ ชาวรามัญ ท่ีทรงยกย่องให้เป็นพระอาจารย์ เดิมอาคารหลังน้ีสร้างเป็นต�ำหนัก เรือนไม้ช้ันเดียว ชาวบ้านเรียกว่า กุฏิเจ้าจอม ต่อมาได้เกิดช�ำรุดทรุดโทรม ลงตามกาลเวลา ทางวัดจึงได้ร้ือออกแล้วสร้างใหม่ เป็นอาคารคอนกรีตสองชั้น เพ่อื ใชเ้ ปน็ อาคารอนสุ รณส์ ถาน และอาคารพพิ ธิ ภัณฑข์ องวัด



288

289 ๕. หอระฆัง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองช้ัน มีลักษณะเป็นอาคาร สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างไทยกับตะวันตก คือ มีลักษณะเป็นรูปทรง สี่เหล่ียมก่อเป็น ๒ ชั้น ช้ันล่างท�ำเป็นระเบียงล้อมรอบบันไดทางข้ึนไปยัง ช้ันท่ี ๒ ซ่ึงเป็นที่ต้ังของตัวหอที่แขวนระฆัง ที่ระเบียงช้ันล่าง กรุด้วยกระเบื้อง ปรุลวดลายทั้งหมด ตามคตินิยมของสถาปัตยกรรมไทยแบบพระราชนิยม สมัยรชั กาลที่ ๓ ๖. ศาลาบูรพาจารย์ เป็นศาลาทรงไทย ได้บูรณะซ่อมแซมในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ซ่ึงช้ันบนเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อสามสีซ่ึงเป็นพระพุทธรูป ศักดิ์สิทธ์ิประจ�ำวัดบวรมงคลราชวรวิหาร และโดยรอบองค์หลวงพ่อสามสีก็ยัง ได้ประดิษฐานรูปเคารพของพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานท่ีมีช่ือเสียง ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทั้งหมด ๔๓ องค์ ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อสามสี มีเล่าบันทึกไว้ว่า ขณะท่ีพระราชเมธาจารย์ (ผิว ฐิตเปโม ป.ธ. ๗) ไปปฏิบัติศาสนกิจท่ี เชียงใหม่น้ัน (ท่านยังอยู่ที่วัดบรมนิวาส ก่อนย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรมงคลราช- วรวิหาร) มีโยมเอาพระพุทธรูปจ�ำนวนหนึ่ง ฝากไว้ (เพ่ือจัดงานวัด) ต่อมาเมื่อท่านลงมา กรุงเทพฯ เพ่ือร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) พระอุปัชฌาย์ท่ีวัดบรมนิวาส เจ้าของเดิมได้ขอพระพุทธรูปคืน ท่านจึงมี จดหมายไปถึงลกู ศิษยท์ ่ีเกบ็ รกั ษาให้มอบคืนแก่เจ้าของเดิม แตไ่ ดข้ อ ”หลวงพ่อ สามสี„ ไว้องค์หน่ึง ซึ่งเจ้าของเดิมก็ไม่ขัดข้องและได้น�ำหลวงพ่อสามสีมาไว้ท่ี วัดบรมนิวาส ต่อมาพระราชเมธาจารย์ได้อัญเชิญหลวงพ่อสามสีมาไว้ท่ีวัด บวรมงคลราชวรวิหาร เหตุท่ีชื่อว่า ”หลวงพ่อสามสี„ น้ันท่านบอกว่า เพราะที่ องค์พระนั้นมสี ีแปลก ๆ อยู่สองสามสตี ดิ อยูท่ อ่ี งคพ์ ระพุทธรปู





ล�ำดบั เจา้ อาวาสวัดบวรมงคลราชวรวิหาร จำ� เดิมแต่ไดร้ ับสถาปนาเปน็ พระอารามหลวง พ.ศ. ๒๓๕๒-๒๕๖๓ รปู ท่ี ๑ พระไตรสรณธชั เปน็ เจ้าอาวาส ราว พ.ศ. ๒๓๕๒-๒๓๖๕ รปู ที่ ๒ พระสุเมธมนุ ี (ซาย) เปน็ เจา้ อาวาส ราว พ.ศ. ๒๓๖๕-๒๓๘๐ รปู ที่ ๓ พระรามัญมุนี (ยม้ิ ) เป็นเจา้ อาวาส ราว พ.ศ. ๒๓๘๐-๒๔๑๐ รปู ท่ี ๔ พระธรรมวิสารทะ (เมน่ ) เป็นเจา้ อาวาส พ.ศ. ๒๔๑๑-๒๔๒๖ รูปที่ ๕ พระอริยธชั (สนั ) เปน็ เจา้ อาวาส พ.ศ. ๒๔๒๖-๒๔๓๓ รปู ท่ี ๖ พระธรรมวสิ ารทะ (จ)ู เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๔๓๓-๒๔๕๐ รูปที่ ๗ พระไตรสรณธชั (เยน็ ) เป็นเจา้ อาวาส พ.ศ. ๒๔๕๐-๒๔๖๐ รปู ที่ ๘ พระครสู ีลสังวร (พรหมา) เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๔๖๒-๒๔๖๘ รปู ท่ี ๙ พระครสู ีลสงั วร (อ่อน) เปน็ เจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๔๖๘-๒๔๗๕ รูปท่ี ๑๐ พระราชเมธาจารย ์ เปน็ เจา้ อาวาส พ.ศ. ๒๔๗๗-๒๕๓๘ (ผวิ ติ เปโม) รปู ที่ ๑๑ พระเทพญาณวศิ ษิ ฏ์ เปน็ เจา้ อาวาส พ.ศ. ๒๕๓๘-๒๕๔๐ (เปลย่ี น าณโิ ต) รูปท่ี ๑๒ พระเทพมงคลญาณ เปน็ เจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๕๔๑-๒๕๕๘ (พิเชนทร์ ชนิ วโํ ส) รูปที่ ๑๓ พระราชวราจารย์ เปน็ เจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๕๕๘-ปัจจุบนั (วิวฒั น์ จณิ ณฺ ธมฺโม)





ประวัติสงั เขป เจ้าอาวาสวัดบวรมงคลราชวรวหิ าร (รูปปัจจุบนั ) พระราชวราจารย์ (วิวัฒน์ จิณฺณธมโฺ ม) บรรพชา วันท่ี ๑๘ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๑๐ พระอปุ ชั ฌาย ์ พระรัตนากรวิสุทธิ์ (พระราชวุฒาจารย)์ อุปสมบท วันท่ี ๒๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๑๗ พระอปุ ัชฌาย์ พระสุมงคลมุนี (พระราชเมธาจารย)์ วทิ ยฐานะ สอบไลไ่ ด้ น.ธ.เอก ส�ำนักเรยี นวัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ. ๒๕๑๕ สอบไลไ่ ด้ ป.ธ.๕ สำ� นักเรยี นวัดบวรนิเวศวหิ าร พ.ศ. ๒๕๒๓ สำ� เร็จชัน้ ปรญิ ญาตรี (ศน.บ) พ.ศ. ๒๕๒๙ มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั การศกึ ษาพเิ ศษ ปกศ. พม. งานการศึกษา พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นครูสอนพระปรยิ ตั ิธรรม สำ� นักศาสนศกึ ษาวัดบวรมงคล พ.ศ. ๒๕๓๓ เปน็ กรรมการตรวจธรรมสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นผู้อำ� นวยการส�ำนกั ศาสนศกึ ษาวดั บวรมงคล พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๓ เป็นผอู้ �ำนวยการมหาปชาบดเี ถรีวิทยาลยั

งานเผยแผ่ พ.ศ. ๒๕๒๐-ปัจจุบนั เป็นพระธรรมกถกึ ประจ�ำวัดบวรมงคลราชวรวหิ าร กรงุ เทพฯ พ.ศ. ๒๕๓๕-ปจั จุบัน เปน็ กรรมการสนามสอบธรรมศึกษาโรงเรียนวดั บวรมงคล และสนามสอบธรรมศึกษาโรงเรียนศริ มิ งคลศกึ ษา งานบำ� เพ็ญสาธารณประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๓๗-ปัจจบุ ัน ใหท้ ุนการศึกษาแก่เดก็ นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นระไซรส์ องชัน้ ตำ� บลนาดี อำ� เภอเมือง จงั หวัดสุรินทร์ พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นกรรมการสร้างสวนสาธารณะเฉลิมพระเกยี รติ ร.๙ งานปกครอง เปน็ พระอุปชั ฌาย์ วิสามญั พ.ศ. ๒๕๖๐ ปัจจุบนั ดำ� รงต�ำแหน่ง - เจา้ อาวาสวดั บวรมงคลราชวรวหิ าร - เจ้าคณะเขตบางพลดั -บางกอกใหญ่-บางกอกน้อย (ธรรมยุต) - ประธานมูลนิธิพระเทพญาณวิศษิ ฏ์ (เปลีย่ น ญาณโิ ต) - เจ้าส�ำนักศาสนศกึ ษาวดั บวรมงคลราชวรวิหาร