Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน คำควบกล้ำ 18 หน่วย

แผนการสอน คำควบกล้ำ 18 หน่วย

Published by rusleeha, 2022-09-10 11:56:17

Description: แผนการสอน คำควบกล้ำ 18 หน่วย

Search

Read the Text Version

ภำคผนวก

บตั รคำ ขวำน ขรึม ขลำด ขวัญ ไขว้ ขรขุ ระ ขวกั ไขว่ ขวนขวำย ขลำด ขลุ่ย ขัดขวำง ไขว้เขว โขลง ของขวัญ

แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ชนั้ ประถมศึกษำปีที่ ๓ ภำคเรยี นท่ี ๑ / ๒๕๖๕ หน่วยท่ี ๖ กำรเขยี นคำควบกลำ้ เวลำเรยี น ๑๘ ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๖ กำรเขยี นคำควบกลำ้ ขร ขล ขว เวลำเรียน ๑ ชว่ั โมง สอนวนั ที่ ๒๕ พฤษภำคม ๒๕๖๕ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตัวชี้วดั สำระที่ ๒ กำรเขียน มำตรฐำน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรอื่ งราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วัด ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น สำระที่ ๔ หลกั กำรใช้ภำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตวั ช้ีวัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๑๖. แต่งประโยคจากคาควบกลา ขร ขล ขว ได้ถูกต้อง ๑๗.เลอื กคาควบกลา ขร ขล ขว ไดถ้ ูกตอ้ ง ๑๘.เขยี นเรือ่ งราวตามจินตนาการจากคาควบกลา ขร ขล ขว ได้ ๑๙. นกั เรยี นมมี ารยาทในการเขียนคาควบกลา ขร ขล ขว คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๖. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๑๐. ความสามารถในการสือ่ สาร

๑๑. ความสามารถในการคิด สำระสำคญั คาควบกลา ขร ขล ขว คือ คาทมี่ ีพยญั ชนะ ๒ ตัวเรียงกนั พยญั ชนะตวั หน้าเป็น ข พยญั ชนะตัวหลังเปน็ ร ล ว อ่านออกเสยี งควบกลา โดยออกเสียงวรรณยกุ ตต์ ามพยญั ชนะตวั หน้า เชน่ ขรุขระ ขลยุ่ โขลก ขวา ขวิด เปน็ ตน้ ประโยค คอื คาหรอื กลุม่ คาทเ่ี รยี งต่อกนั แลว้ ไดใ้ จความสมบูรณว์ ่า ใคร ทาอะไร ประกอบด้วยภาค ประธานและภาคแสดง การเรียนรูแ้ ละสามารถแต่งประโยคใหไ้ ด้เนอื หาใจความสมบรู ณส์ อดคล้องสัมพันธก์ นั จะ ทาให้นักเรยี นมีทักษะในการเรียนภาษาไทยดีขึน สำระกำรเรียนรู้ ๑. การแตง่ ประโยคจากคาควบกลา ขร ขล ขว ๒. การเขียนเร่ืองราวตามจนิ ตนาการจากคาควบกลา ขร ขล ขว กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ข้นั นำเขำ้ สู่บทเรยี น ๑๓.นักเรียนร่วมกันทบทวนคาควบกลา ขร ขล ขว โดยอ่านบัตรคาแบบสะกดคาพรอ้ ม ๆ กัน เชน่ - ขวาน อา่ นว่า ขอ - วอ - อา - นอ - ขวาน - ขวดิ อ่านว่า ขอ - วอ - อิ - ดอ - ขวดิ - โขลง อา่ นว่า ขอ - ลอ - โอ - งอ - โขลง - ขลัง อา่ นว่า ขอ - ลอ - อะ - งอ - ขลงั - ขรมึ อา่ นว่า ขอ - รอ - อึ - มอ - ขรมึ ๑๔. นักเรียนแขง่ ขนั กันเขียนตามคาบอก โดยเขียนในกระดาษทคี่ รูแจกใหจ้ านวน ๑๐ คา ไดแ้ กค่ าวา่ ขวาน ของขวัญ ขรุขระ โขลง ขลัง ขวิด ขีขลาด ขวาง ขลุ่ย ไขวเ้ ขว จากนนั รว่ มกันเฉลยโดย ครูเขียนคาตอบบนกระดานใหน้ ักเรียนแลกเปลี่ยนกันตรวจ ร่วมกันกลา่ วคาชมเชยนกั เรยี นทีเ่ ขยี นได้ถูกตอ้ งมาก ท่ีสุด ข้ันสอน ๓. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั ยกตัวอย่างประโยคจากบัตรคาควบกลา ขร ขล ขว โดย อาสาสมัครออกมาเขียนประโยคบนกระดาน ๕ คน ครใู หค้ าแนะนาอย่างใกล้ชิด ๔. ครูใหค้ าอธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั การแตง่ ประโยคให้ถูกตอ้ งตามหลกั ภาษาวา่

ประโยค หมายถงึ คาหลายๆคา หรือวลีที่นามาเรยี งต่อกันอย่างเปน็ ระเบยี บให้แตล่ ะคามคี วามสมั พนั ธ์กนั มี ใจความสมบรู ณ์ แสดงใหร้ ู้ว่า ใคร ทาอะไร ที่ไหน อยา่ งไร ๕. แบ่งนักเรยี นออกเป็น ๗ กลุม่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มช่วยกันแต่งประโยคจากคาควบกลา ขร ขล ขว กลุ่มละ ๕ ประโยค โดยเขยี นในกระดาษท่คี รแู จกให้ ๖. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นาผลงานออกมานาเสนอหนา้ ชันเรยี น โดยนาผลงานออกมาติดบน กระดานแลว้ อา่ นออกเสยี งให้เพื่อนในชันฟัง ครูตรวจสอบและใหค้ าแนะนาอย่างใกลช้ ดิ ๗. นักเรยี นทาแบบฝึกทกั ษะที่ ๑๑ –๑๒โดยแต่งประโยคจากคาควบกลา ขร ขล ขว จานวน ๑๐ ข้อ ขน้ั สรปุ ๓. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปเก่ยี วกับความหมาย และการแตง่ ประโยคคาควบกลา ขร ขล ขว จากนนั ร่วมกนั ยกตวั อย่างประโยคในชีวิตประจาวนั ประกอบ ๒ – ๓ ตวั อยา่ ง ๒. มอบหมายภาระงานให้นกั เรยี นคน้ คว้าหาคาควบกลา ขร ขล ขว จากนิทาน แลว้ จดั ทา เปน็ สมดุ สะสมคาศพั ท์ ภำระงำน/ชิน้ งำน สมดุ สะสมคาศัพท์ คาควบกลา ขร ขล ขว สื่อและแหลง่ กำรเรยี นรู้ ๑๒. บตั รคาควบกลา ขร ขล ขว ๑๓.แบบฝึกทกั ษะพฒั นาการเขยี นคาควบกลา กำรวดั ผลและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ วธิ กี ำรวดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล ตรวจแบบฝึกทกั ษะ ๑. แต่งประโยคจากคา แบบบันทกึ คะแนน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ควบกลา ขร ขล ขว การตรวจแบบฝึก ขนึ ไป ได้ถูกตอ้ ง ๒.เลอื กคาควบกลา ขร ขล ขว ได้ถกู ต้อง

๓. เขยี นเรือ่ งราวตาม สังเกตมารยาทใน แบบสังเกตมารยาทใน ผา่ นเกณฑ์ ไดร้ ะดับ จินตนาการจากคาควบกลา การเขยี น การเขียน คณุ ภาพ ๒ (ดี) ขนึ ไป ขร ขล ขว ได้ ๔.นักเรียนมมี ารยาทใน สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดบั การเขียนคาควบกลา ด้านมีความม่งุ มน่ั ใน ดา้ นมคี วามมงุ่ ม่นั ใน คุณภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป ขร ขล ขว การทางาน การทางาน ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดบั ๕.คุณลักษณะ ประเมินสมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ คุณภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป อันพงึ ประสงค์ สาคญั ของผู้เรียน สาคัญของผ้เู รยี น - มคี วามมุง่ มน่ั ใน ด้านความสามารถ ดา้ นความสามารถ การทางาน ในการสือ่ สาร และ ในการสือ่ สาร และ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคดิ ๖.สมรรถนะสาคญั ของ ผ้เู รียน -ความสามารถใน การสื่อสาร -ความสามารถในการคดิ

ควำมคิดเห็นของผบู้ ริหำร ได้ตรวจแผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๖ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เรือ่ ง คาควบกลา ขร ขล ขว มีความเหน็ ดงั นี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรคู้ รบถ้วน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๒. สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีวัด ( ) สอดคลอ้ งครอบคลุ ม ( ) ไมส่ อดคล้องไม่ครอบคลมุ ๓. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไดเ้ หมาะสม เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๔. การใชส้ ื่อและนวตั กรรมทห่ี ลากหลายและเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๕. การวดั ผลประเมนิ ผลเหมาะสม ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................ (......................................) ผู้อานวยการโรงเรียน...............................

บันทกึ ผลหลงั กำรเรียนรู้ นกั เรยี นทงั หมด...........คน จุดประสงค์ข้อ ๑ แต่งประโยคจากคาควบกลา ขร ขล ขว ได้ถกู ต้อง ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ จุดประสงคข์ ้อ ๒ เลือกคาควบกลา ขร ขล ขว ได้ถกู ตอ้ ง ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ จุดประสงคข์ อ้ ๓ เขยี นเร่อื งราวตามจนิ ตนาการจากคาควบกลา ขร ขล ขว ได้ ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ จดุ ประสงค์ขอ้ ๔ นักเรยี นมีมารยาทในการอ่านและการเขยี นคาควบกลา ขร ขล ขว ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นกั เรยี นมีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ดา้ นมีความมงุ่ มนั่ ในการทางาน ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ ปญั หำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ............................................. (................................... )

แบบบันทกึ คะแนนแบบฝึกทักษะของนักเรยี น กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๓/๓ รำยกำรประเมนิ เลขที่ ชอ่ื – สกลุ แบบฝึกทกั ษะท่ี รวม ผลกำรตัดสนิ ๔๕ ๖ ผำ่ น/ไมผ่ ำ่ น ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓๐ เกณฑ์กำรตัดสิน นกั เรยี นต้องผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ขึนไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรใหค้ ะแนนกำรตรวจแบบฝึก ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน แบบฝึกท่ี ๑๑ แต่งประโยคจากคาควบกลา ขร ขล ขว จานวน ๑๐ ข้อ แบบฝึกที่ ๑๒ -แตง่ ประโยคไดถ้ ูกต้องตามโครงสรา้ ง เนอื หาได้ใจความสมบูรณ์ ให้คะแนนข้อละ ๑ คะแนน -แตง่ ประโยคไม่ถกู ต้องตามโครงสรา้ ง เนือหาไมไ่ ด้ใจความ ให้คะแนนข้อละ ๐ คะแนน เขยี นคาควบกลา ขร ขล ขว จากเรอ่ื ง “แลกของขวัญ” -เขียนคาได้ถูกตอ้ ง ใหค้ ะแนนคาละ ๑ คะแนน -เขยี นคาไมถ่ ูกตอ้ ง ให้คะแนนคาละ ๐ คะแนน

แบบสงั เกตมำรยำทในกำรเขียน กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๓/๓ เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ มำรยำทในกำรเขยี น ผลกำรตดั สิน ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ำ่ น เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเย่ียม ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน ๓๒ เขียนโดยใช้ภาษาท่ี เขียนโดยใชภ้ าษาท่ี เขียนโดยใช้ภาษาท่ี สภุ าพถกู ต้องตามหลกั สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรยี บร้อยเปน็ บางครัง เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคด์ ้ำนควำมมุ่งม่นั ในกำรทำงำน กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓/๓ เลขท่ี ชอื่ – สกลุ รำยกำรสงั เกต ผลกำรตดั สนิ ควำมมุง่ ม่นั ในกำรทำงำน ผ่ำน/ไมผ่ ำ่ น ๓๒๑ เกณฑก์ ำรประเมนิ คุณภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเยยี่ ม เกณฑ์กำรตดั สิน ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื วา่ ผา่ น

รำยละเอียดเกณฑ์กำรสังเกตคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องนกั เรยี นด้ำนควำมมุ่งม่นั ในกำรทำงำน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ความมุ่งมั่นใน มคี วามรบั ผิดชอบต่อ ๒๑ การทางาน งานที่ได้รับมอบหมาย มคี วามรับผิดชอบดี ไมค่ อ่ ยมคี วาม ดมี าก ทาผลงาน คัดลอกผลงานของ รบั ผิดชอบ ไดด้ ้วยตนเอง สง่ งาน ผ้อู ื่น เปน็ บางครงั คัดลอกผลงานของ ได้ตรงตามเวลา ส่งงานได้ตรงตามเวลา ผู้อ่ืน สง่ งานลา่ ชา้ ทีก่ าหนด ทกี่ าหนด

แบบสังเกตสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๓/๓ รำยกำรสังเกต ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ส ุรปผล กำรประเมิน เลขท่ี ช่ือ – สกลุ ในกำรสอื่ สำร ในกำรคิด เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์กำรตดั สิน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอียดเกณฑก์ ำรสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ความสามารถ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร ถา่ ยทอดความรู้ ๒ ความคดิ และความเข้าใจ ความคิดและความ ถ่ายทอดความรู้ ของตนเองโดยใชภ้ าษา ความสามารถ เข้าใจของตนเองโดย ความคดิ และความ ได้อย่างเหมาะสมเปน็ ในการคิด ใชภ้ าษาได้อยา่ ง เข้าใจของตนเองโดย บางครัง เหมาะสมเปน็ ประจา ใช้ภาษาไดอ้ ย่าง สม่าเสมอ เหมาะสมเปน็ มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน ส่วนใหญ่ การคดิ อย่างมี การคิดอย่างมี มคี วามสามารถใน วิจารณญาณ คดิ อย่าง วจิ ารณญาณ คิดอย่าง การคดิ อยา่ งมี สร้างสรรค์ และ สร้างสรรค์ และ วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง ตดั สินใจแกป้ ญั หา ตดั สินใจแกป้ ญั หา สรา้ งสรรค์ และ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเปน็ ตัดสินใจแกป้ ัญหา เปน็ บางครงั ประจาสมา่ เสมอ ได้อยา่ งเหมาะสม เป็นสว่ นใหญ่

ภำคผนวก

บตั รคำ ขวำน ขรึม ขลำด ขวัญ ไขว้ ขรขุ ระ ขวกั ไขว่ ขวนขวำย ขลำด ขลุ่ย ขัดขวำง ไขวเ้ ขว โขลง ของขวัญ

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๓ ภำคเรยี นที่ ๑ / ๒๕๖๕ หน่วยที่ ๖ กำรเขยี นคำควบกลำ้ เวลำเรียน ๑๘ ชัว่ โมง แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๗ กำรเขยี นคำควบกล้ำ คร คล คว เวลำเรียน ๑ ช่ัวโมง สอนวันท่ี ๒๗ พฤษภำคม ๒๕๖๕ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ัด สำระท่ี ๒ กำรเขยี น มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชว้ี ดั ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มมี ารยาทในการเขียน สำระท่ี ๔ หลักกำรใช้ภำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชว้ี ัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๒๐. เลอื กคาควบกลา คร คล คว ได้ถูกตอ้ ง ๒๑. เขียนคาควบกลา คร คล คว ได้ถูกต้อง ๒๒.นกั เรยี นมีมารยาทในการเขยี นคาควบกลา คร คล คว คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๗. นกั เรียนมีวินยั สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๑๒. ความสามารถในการส่อื สาร ๑๓.ความสามารถในการคดิ

สำระสำคญั คาควบกลา คร คล คว คือ คาทีม่ พี ยญั ชนะ ๒ ตัวเรียงกัน พยญั ชนะตัวหน้าเปน็ ค พยญั ชนะตวั หลงั เปน็ ร ล ว อ่านออกเสียงควบกลา โดยออกเสยี งวรรณยุกต์ตามพยญั ชนะตัวหน้า เช่น ครก ไคล ควนั เป็นต้น สำระกำรเรียนรู้ ๖. การเลอื กคาควบกลา คร คล คว ๗. การเขยี นคาควบกลา คร คล คว กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ขน้ั นำเข้ำสบู่ ทเรยี น ๔. ครนู าบทสนทนาทเี่ ขียนบนกระดาษแผน่ ใหญต่ ิดบนกระดานดังนี แดง : แคลว้ ฟังซเิ สยี งใครอึกทกึ ครึกโครม คลา้ ยกับคนทะเลาะกนั แคล้ว : ไม่ทราบซิ แตฉ่ นั ได้ยินเสยี ง แดง : ไปดูกันไหมเราจะได้ห้ามเพ่อื ใหเ้ หตกุ ารณค์ ล่ีคลายไปในทางทีด่ ี แคล้ว : ไปกไ็ ป ๕. นักเรยี นช่วยกันหาคาควบกลาในบทสนทนาแล้วเขียนบนกระดานไดแ้ กค่ าวา่ แคล้ว คล้าย ครกึ โครม คล่ีคลาย จทนนั อ่านออกเสยี งตามครู ขน้ั สอน ๑๕.ครนู าบตั รคาควบกลา คร คล คว เสียบไว้ท่กี ระเปา๋ ผนัง ไดแ้ กค่ าวา่ ครอบครวั เควง้ ควา้ ง ครอบคลมุ คลาดแคล้ว คร่าครวญ คว่า คล่องแคล่ว ครึกครืน เคร่อื งครวั ควาย จากนนั นักเรียนอา่ น ออกเสียงตามครูทลี ะคา ๒. นักเรยี นแตล่ ะคนศกึ ษาใบความรู้ เร่ือง “คาควบกลา คร คล คว” ในแบบฝึกทักษะ พฒั นาการเขียนคาควบกลา ๓. นักเรียนและครูรว่ มกันอธิบายความหมายของคาควบกลา คร คล คว ว่าคอื คาทม่ี ี พยัญชนะต้น ๒ ตวั เรียงกัน พยญั ชนะตน้ ตวั แรกเปน็ ค พยญั ชนะตน้ ตัวท่ี ๒ เป็น ร ล ว ประสมสระเดยี วกนั อา่ นออก เสียงพยญั ชนะตน้ ควบกลาพร้อมกนั โดยออกเสียงวรรณยกุ ตต์ ามพยญั ชนะตัว เชน่ ครก คราบไคล ควัน่ ควานหา เปน็ ต้น ๔. นกั เรียนรว่ มกันเลน่ เกม “หนูกบั แมวควบกลา” โดยแบง่ นกั เรียนออกเปน็ ๒ กลุ่ม กลุม่ หน่ึงเปน็ หนู อีกกลุ่มหน่งึ เปน็ แมว โดยใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวเรยี งหนึ่ง ๕. ครนู าบตั รคาใส่ลงในกล่องวางไวบ้ นโต๊ะหนา้ ชันเรยี น ไดแ้ กค่ าว่า ครอบครวั ควาย เควง้ คว้าง ครอบคลมุ คลาดแคล้ว คร่าครวญ ควา่ คลอ่ งแคลว่ ครกึ ครืน เครื่องครัว

๖. ตวั แทนกลุ่มทีเ่ ปน็ หนแู ละกล่มุ ท่ีเปน็ แมวตกลงกนั วา่ ใครจะเป็นฝ่ายหยบิ บตั รคาให้ฝ่าย หนึง่ อา่ นกอ่ น โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องอา่ นออกเสียงคาใหถ้ ูกต้อง เม่ือกลมุ่ ใดหยบิ บัตรคา ๑ แผน่ ให้สมาชกิ กลุม่ ตรงข้าม อา่ น ถา้ อา่ นไมไ่ ดต้ ้องไปเป็นสมาชกิ ของอกี ฝา่ ยหนึ่ง ผลดั เปล่ียนกนั จนบัตรคาหมด กลุ่มไหนมสี มาชกิ มากกว่าเปน็ ฝ่ายชนะ ๗. แบง่ นักเรียนออกเปน็ ๗ กลมุ่ ให้แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันกนั ยกตัวอยา่ งคาควบกลา คร คล คว ที่นักเรยี น รจู้ ักในชวี ิตประจาวัน เชน่ คลอง โครมคราม ค้นคว้า โดยเขียนในกระดาษบตั รคาทค่ี รแู จกให้กลุ่มละ ๕ คา ระบายสีตกแตง่ ผลงานให้สวยงาม ๘. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหน้าชนั โดยแสดงบตั รคาแล้วอ่านออกเสยี งให้ เพอ่ื นในชันฟงั พร้อมๆกนั ครตู รวจสอบความถกู ต้องและให้คาแนะนาอย่างใกลช้ ิด ๙. นักเรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๑๓ โดยเลือกคาควบกลา คร คล คว จากคาทกี่ าหนดให้ จานวน ๑๐ คา ๑๐.นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทักษะที่ ๑๔ โดยเขยี นคาควบกลา คร คล คว ใหถ้ กู ต้อง จานวน ๑๐ ขอ้ ๑๑.นกั เรยี นทาแบบฝึกทักษะที่ ๑๕ โดยเขียนคาควบกลา คร คล คว ท่มี ีความหมายลงใน ชอ่ งว่าง จานวน ๑๐ คา ขน้ั สรปุ ๑. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ คาควบกลา คร คล คว ว่ าคอื คาท่มี พี ยญั ชนะต้น ๒ ตวั เรียงกนั พยญั ชนะ ตน้ ตัวแรกเปน็ ค พยัญชนะตน้ ตวั ที่ ๒ เปน็ ร ล ว ประสมสระเดียวกัน อา่ นออกเสียงพยัญชนะต้นควบกลาพร้อมกนั โดยออกเสยี งวรรณยุกต์ตามพยญั ชนะตวั เชน่ ครก คราบไคล ควั่น ควานหา เปน็ ตน้ ภำระงำน/ชิน้ งำน - สื่อและแหลง่ กำรเรยี นรู้ ๑๔.กระดาษบทสนทนา ๑๕.บตั รคาควบกลา คร คล คว ๑๖. เกม “แมวกบั หนคู วบกลา” ๑๗.แบบฝึกทกั ษะพัฒนาการเขยี นคาควบกลา

กำรวดั ผลและประเมนิ ผล จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ วธิ ีกำรวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล ๑. เลือกคาควบกลา คร คล ตรวจแบบฝกึ ทักษะ แบบบันทกึ คะแนน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ คว ได้ถกู ตอ้ ง การตรวจแบบฝกึ ขึนไป ๒.เขียนคาควบกลา คร คล คว ได้ถกู ตอ้ ง ๓.นกั เรยี นมมี ารยาทใน สังเกตมารยาทใน แบบสงั เกตมารยาทใน ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดับ การเขียนคาควบกลา การเขยี น คร คล คว การเขียน คณุ ภาพ ๒ (ดี) ขนึ ไป สงั เกตพฤตกิ รรม ๔.คณุ ลกั ษณะ ด้านมวี ินยั แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดับ อนั พึงประสงค์ ด้านความมีวินยั คุณภาพ ๒ (ด)ี ขนึ ไป - มวี ินยั ๖.สมรรถนะสาคญั ของ ประเมินสมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดับ ผเู้ รียน คณุ ภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป -ความสามารถใน สาคัญของผเู้ รยี น สาคัญของผู้เรยี น การส่ือสาร -ความสามารถในการคิด ดา้ นความสามารถ ดา้ นความสามารถ ในการสื่อสาร และ ในการสอ่ื สาร และ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคดิ

ควำมคดิ เห็นของผูบ้ ริหำร ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๗ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย เร่ือง การเขยี น คาควบกลา คร คล คว มีความเหน็ ดงั นี ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ครบถ้วน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๒. สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีวัด ( ) สอดคล้องครอบคลุ ม ( ) ไม่สอดคล้องไมค่ รอบคลมุ ๓. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ไดเ้ หมาะสม เนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๔. การใช้ส่ือและนวตั กรรมท่ีหลากหลายและเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๕. การวัดผลประเมนิ ผลเหมาะสม ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงชอื่ ............................................ (.....................................) ผู้อานวยการโรงเรียน..........................................

บนั ทึกผลหลงั กำรเรียนรู้ นักเรียนทังหมด...........คน จดุ ประสงคข์ ้อ ๑ เลือกคาควบกลา คร คล คว ได้ถูกตอ้ ง ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ จุดประสงคข์ อ้ ๒ เขียนคาควบกลา คร คล คว ได้ถกู ต้อง ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............ จดุ ประสงคข์ ้อ ๓ นกั เรียนมีมารยาทในการเขยี นคาควบกลา คร คล คว ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ............ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นกั เรียนมคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคด์ า้ นมีวินยั ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ ปัญหำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะและแนวทำงแก้ไข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงชื่อ ............................................. (....................................... )

แบบบนั ทกึ คะแนนแบบฝกึ ทกั ษะของนักเรยี น กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๓/๓ รำยกำรประเมนิ เลขที่ ชอื่ – สกลุ แบบฝึกทักษะที่ รวม ผลกำรตดั สนิ ๑ ๒๓ ผำ่ น/ไมผ่ ่ำน ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓๐ เกณฑก์ ำรตัดสนิ นกั เรียนตอ้ งผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึนไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)

รำยละเอยี ดเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนกำรตรวจแบบฝกึ ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน แบบฝกึ ท่ี ๑๓ เลอื กระบายสีคาควบกลา คร คล คว จานวน ๑๐ คา แบบฝึกที่ ๑๔ -เลอื กระบายสคี าได้ถกู ตอ้ ง ให้คะแนนข้อละ ๑ คะแนน แบบฝกึ ท่ี ๑๕ -เลอื กระบายสคี าไมถ่ กู ต้อง ให้คะแนนข้อละ ๐ คะแนน เขียนคาควบกลา คร คล คว ใหมใ่ ห้เปน็ คาท่ีถูกตอ้ ง จานวน ๑๐ ขอ้ -เขียนคาไดถ้ กู ตอ้ ง ใหค้ ะแนนคาละ ๑ คะแนน -เขยี นคาไมถ่ ูกตอ้ ง ใหค้ ะแนนคาละ ๐ คะแนน เขียนคาควบกลา คร คล คว ท่มี คี วามหมาย จานวน ๑๐ คา -เขยี นคาไดถ้ ูกตอ้ ง ใหค้ ะแนนคาละ ๑ คะแนน -เขยี นคาไมถ่ ูกต้อง ให้คะแนนคาละ ๐ คะแนน

แบบสงั เกตมำรยำทในกำรเขียน กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๓/๓ เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ มำรยำทในกำรเขยี น ผลกำรตดั สิน ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ำ่ น เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเย่ียม ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน ๓๒ เขียนโดยใช้ภาษาท่ี เขียนโดยใชภ้ าษาท่ี เขียนโดยใช้ภาษาท่ี สภุ าพถกู ต้องตามหลกั สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรยี บร้อยเปน็ บางครัง เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสังเกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงคด์ ้ำนมีวนิ ยั กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๓/๓ เลขที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรสังเกต ผลกำรตดั สนิ ควำมมวี นิ ยั ผ่ำน/ไมผ่ ำ่ น ๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ คุณภำพ ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดเี ย่ยี ม เกณฑก์ ำรตัดสนิ ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง พอใช้ ได้ระดบั คุณภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอยี ดเกณฑก์ ำรสงั เกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ของนักเรยี นด้ำนมีควำมมีวนิ ยั ประเดน็ กำรประเมนิ ๓ ระดับคุณภำพ ๑ มีวินัย นกั เรียนปฏิบัติตาม ๒ นักเรยี นปฏิบัตติ าม ข้อตกลงของห้องเรยี น นักเรยี นปฏิบตั ิตาม ข้อตกลงของหอ้ งเรยี น มคี วามรับผดิ ชอบใน ขอ้ ตกลงของหอ้ งเรียน มีความรบั ผดิ ชอบใน การทางาน แต่งกาย มคี วามรบั ผดิ ชอบใน การทางาน แต่งกาย ถกู ตอ้ งตามระเบยี บ การทางาน แตง่ กาย ถกู ตอ้ งตามระเบียบ ของโรงเรียนและส่ง ถูกต้องตามระเบียบ ของโรงเรียนและส่ง งานตรงเวลา อย่าง ของโรงเรียนและส่ง งานตรงเวลา สม่าเสมอ งานตรงเวลา เปน็ บางครัง เปน็ ส่วนใหญ่

แบบสังเกตสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๓/๓ รำยกำรสังเกต ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ส ุรปผล กำรประเมิน เลขท่ี ช่ือ – สกลุ ในกำรสอื่ สำร ในกำรคิด เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์กำรตดั สิน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอียดเกณฑก์ ำรสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ความสามารถ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร ถา่ ยทอดความรู้ ๒ ความคดิ และความเข้าใจ ความคิดและความ ถ่ายทอดความรู้ ของตนเองโดยใชภ้ าษา ความสามารถ เข้าใจของตนเองโดย ความคดิ และความ ได้อย่างเหมาะสมเปน็ ในการคิด ใชภ้ าษาได้อยา่ ง เข้าใจของตนเองโดย บางครัง เหมาะสมเปน็ ประจา ใช้ภาษาไดอ้ ย่าง สม่าเสมอ เหมาะสมเปน็ มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน ส่วนใหญ่ การคดิ อย่างมี การคิดอย่างมี มคี วามสามารถใน วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง วจิ ารณญาณ คิดอย่าง การคดิ อยา่ งมี สร้างสรรค์ และ สร้างสรรค์ และ วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง ตดั สินใจแกป้ ญั หา ตดั สินใจแกป้ ญั หา สรา้ งสรรค์ และ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเปน็ ตัดสินใจแกป้ ัญหา เปน็ บางครงั ประจาสมา่ เสมอ ได้อยา่ งเหมาะสม เป็นสว่ นใหญ่

ภำคผนวก

บทสนทนำ แดง : แคลว้ ฟงั ซิเสียงใครอกึ ทกึ ครึกโครม คล้ายกบั คนทะเลาะกัน แคล้ว : ไมท่ ราบซิ แต่ฉนั ได้ยนิ เสียง แดง : ไปดูกันไหมเราจะไดห้ า้ มเพอ่ื ใหเ้ หตกุ ารณ์คลคี่ ลายไปในทางทีด่ ี แคล้ว : ไปก็ไป

เกม “หนูกับแมวควบกล้ำ” จำนวนผู้เล่นจำนวนผู้เล่น ไม่จากดั จานวน (เลน่ เปน็ กลุม่ / เปน็ รายบุคคล) เวลำในกำรเล่น ๕ นาที อุปกรณ์กำรเล่น ๑. บัตรคาควบกลา คร คล คว ๒. กลอ่ งกระดาษ กติกำ / วธิ เี ลน่ ๑. แบง่ นกั เรยี นออกเปน็ ๒ กลมุ่ กลมุ่ หน่งึ เปน็ หนู อีกลมุ่ หน่งึ เปน็ แมว โดยใหน้ กั เรียนเข้า แถวเรยี งหนงึ่ ๒. ครูนาบตั รคาใส่ลงในกลอ่ งวางไวบ้ นโต๊ะหนา้ ชนั เรียน ไดแ้ ก่คาวา่ ครอบครวั ควาย เควง้ คว้าง ครอบคลุม คลาดแคล้ว ครา่ ครวญ ควา่ คลอ่ งแคล่ว ครกึ ครนื เครอ่ื งครวั ๓. ตวั แทนกล่มุ ทีเ่ ปน็ หนแู ละกลุ่มทเี่ ป็นแมวตกลงกนั ว่า ใครจะเป็นฝา่ ยหยิบบตั รคาให้ ฝ่ายหนึง่ อา่ นกอ่ น โดยมขี อ้ แมว้ ่าจะตอ้ งอา่ นออกเสียงคาให้ถูกต้อง เมอื่ กลมุ่ ใดหยิบบัตรคา ๑ แผ่น ใหส้ มาชกิ กลุม่ ตรงขา้ มอา่ น ถา้ อ่านไม่ได้ตอ้ งไปเปน็ สมาชกิ ของอกี ฝ่ายหนึง่ ผลดั เปลีย่ นกันจน บตั รคาหมด กล่มุ ไหนมีสมาชกิ มากกวา่ เปน็ ฝา่ ยชนะ

บัตรคำ ครอบครวั เควง้ คว้ำง ครอบคลุม คลำดแคลว้ คร่ำครวญ ควำ่ คลอ่ งแคลว่ ครึกครนื้ เครื่องครัว ควำย

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี ๓ ภำคเรียนที่ ๑ / ๒๕๖๕ หนว่ ยที่ ๖ กำรเขียนคำควบกล้ำ เวลำเรียน ๑๘ ชว่ั โมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๘ กำรเขยี นคำควบกลำ้ คร คล คว เวลำเรียน ๑ ช่ัวโมง สอนวนั ที่ ๓๐ พฤษภำคม ๒๕๖๕ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตวั ช้วี ัด สำระท่ี ๒ กำรเขยี น มำตรฐำน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่อื สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรือ่ งราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตัวชวี้ ัด ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขียนเร่ืองตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น สำระท่ี ๔ หลักกำรใช้ภำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ ตัวชวี้ ัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๒๓. เรยี บเรยี งคาให้เปน็ ประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ๒๔. เตมิ คาควบกลา คร คล คว ในประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ๒๕.เขยี นเรอื่ งราวตามจนิ ตนาการจากคาควบกลา คร คล คว ได้ ๒๖. นกั เรยี นมมี ารยาทในการเขียนคาควบกลา คร คล คว คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๘. นักเรยี นมคี วามมุ่งม่นั ในการทางาน สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ๑๔.ความสามารถในการสอ่ื สาร

๑๕.ความสามารถในการคดิ สำระสำคญั คาควบกลา คร คล คว คอื คาทีม่ ีพยัญชนะ ๒ ตัวเรียงกนั พยญั ชนะตวั หนา้ เป็น ค พยัญชนะตวั หลงั เป็น ร ล ว อ่านออกเสียงควบกลา โดยออกเสยี งวรรณยกุ ตต์ ามพยัญชนะตัวหนา้ เชน่ ครก ไคล ควนั เปน็ ตน้ ประโยค คือ คาหรอื กลมุ่ คาท่ีเรยี งต่อกนั แล้วไดใ้ จความสมบูรณ์ว่า ใคร ทาอะไร ประกอบดว้ ยภาค ประธานและภาคแสดง การเรยี นรูแ้ ละสามารถแตง่ ประโยคให้ได้เนือหาใจความสมบูรณส์ อดคลอ้ งสัมพนั ธ์กัน จะ ทาใหน้ ักเรียนมที กั ษะในการเรียนภาษาไทยดีขนึ สำระกำรเรยี นรู้ ๑. การเรยี บเรยี งคาเป็นประโยค ๒. การเติมคาควบกลา คร คล คว ในประโยค ๓. การเขียนเรือ่ งราวตามจินตนาการจากคาควบกลา คร คล คว กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ข้นั นำเขำ้ สูบ่ ทเรยี น ๑๗.แบง่ นักเรียนออกเป็น ๒ กลมุ่ กลุม่ นักเรยี นชายและกลมุ่ นกั เรยี นหญิง ครูชูบัตรคา ควบกลา คร คล คว ขึนทีละบตั ร จากนันแข่งขันกนั อา่ นบตั รคากลมุ่ ที่อา่ นบัตรคาไดถ้ ูกต้องและรวดเรว็ ท่ีสดุ จะได้ คะแนนสะสมบตั รคาละ ๑ คะแนน กลมุ่ ทไี่ ดค้ ะแนนสะสมมากท่ีสดุ เปน็ ฝา่ ยชนะ ไดแ้ ก่คาวา่ เควง้ คว้าง คราบ ไคล คล้ายคลึง ครุ่นคดิ ควาญชา้ ง โครมคราม เคร่งครัด เคล็ดลับ คล่องแคล่ว คล่ีคลาย ขั้นสอน ๑. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกบั ความหมายของคาควบกลา คร คล คว จาก ใบความรู้ที่ ๒ “เรยี นรู้ความหมาย” ดงั นี

คำ ควำมหมำย ครอบครัว สถาบนั พนื ฐานของสงั คมท่ปี ระกอบด้วยสามภี รรยาและหมายความ รวมถงึ ลูกดว้ ย เคว้งควา้ ง อาการทห่ี มนุ หรอื ลอยไปตามกระแสลมและนาเปน็ ต้นอย่างไมม่ ี จุดหมายหรอื ไม่มีท่ียึดเหน่ยี ว ครอบคลุม รวมไปถงึ คลาดแคล้ว รอดไป พน้ ไป คร่าครวญ รอ้ งรา่ ราพนั ควา่ พลิกเอาดา้ นบนลงล่าง คลอ่ งแคลว่ ว่องไว สามารถทาไดร้ วดเรว็ ครกึ ครนื สนุกสนาน ร่าเริง เคร่ืองครวั เครือ่ งใช้ในการหงุ หาอาหาร ควาย ชอ่ื สัตวส์ เ่ี ทา้ ชนิดหนึง่ เป็นพาหนะใช้ทานาและเทียมเกวียน ๒. ครูให้คาอธบิ ายเพม่ิ เติมเกีย่ วกับการแต่งประโยคใหถ้ ูกต้องตามหลกั ภาษาวา่ ประโยคหนงึ่ ๆ จะตอ้ งมภี าคประธานและภาคแสดงเป็นหลัก และอาจมคี าขยายส่วนต่าง ๆ ได้ ๑. ภำคประธำน คือ คาหรือกลุ่มคาท่ีทาหนา้ ที่เปน็ ผู้กระทา ผแู้ สดงซึง่ เปน็ ส่วนสาคญั ของประโยค ภาคประธาน อาจมบี ทขยายซึง่ เปน็ คาหรือกลมุ่ คามาประกอบ เพ่ือให้มใี จความชดั เจน ย่งิ ขึน ๒. ภำคแสดง คือ คาหรอื กลุ่มคาทป่ี ระกอบไปด้วยสว่ นท่ีบอกอาการ หรือบอกสภาพของประธาน อาจมสี ่วนขยายหรือไม่มีกไ็ ด้ ๓. นกั เรียนร่วมกันแต่งประโยคปากเปล่าตามบัตรคาทงั ๑๐ คา ทีค่ รชู ขู นึ ครใู หค้ าแนะนา อย่างใกลช้ ิด ๔. แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ ๗ กลุ่ม รว่ มกันแตง่ ประโยคจากคาควบกลา คร คล คว กลมุ่ ละ ๕ ประโยค โดยเขียนในกระดาษทคี่ รูแจกให้ จากนนั ส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงาน หนา้ ชันเรียน ครูใหค้ าแนะนาและตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๕. นกั เรียนทาแบบฝกึ ทักษะที่ ๑๖ โดยเรียบเรยี งคาทก่ี าหนดให้เปน็ ประโยค จานวน ๑๐ ข้อ ๖. นกั เรียนทาแบบฝึกทักษะที่ ๑๗ โดยเตมิ คาควบกลา คร คล คว ในประโยค จานวน ๑๐ ข้อ

๗. นักเรยี นทาแบบฝึกทักษะที่ ๑๘ โดยหาคาควบกลา คร คล คว จากเรื่องสันหรรษา “นกเอียงกบั ควายเฒา่ ” จานวน ๕ คา แลว้ นามาแตง่ เป็นเรอ่ื งราวสนั ๆตามจนิ ตนาการ ขัน้ สรปุ ๑. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความร้เู กี่ยวกับคาควบกลา คร คล คว และการแตง่ ประโยคที่ ถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา ๒. มอบหมายภาระงานใหน้ กั เรียนคน้ คว้าหาคาควบกลา คร คล คว จากหนงั สือพิมพ์ แลว้ จัดทาเปน็ แผนภาพความคิดระบายสตี กแตง่ ให้สวยงาม ภำระงำน/ชิน้ งำน แผนภาพความคิด คาควบกลา คร คล คว ส่อื และแหลง่ กำรเรยี นรู้ ๑๘.บตั รคาควบกลา คร คล คว ๑๙. แบบฝึกทกั ษะพฒั นาการเขยี นคาควบกลา

กำรวัดผลและประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ วธิ กี ำรวดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล ๑. เรยี บเรียงคาให้เป็น ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ แบบบนั ทึกคะแนน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ประโยคได้ถูกต้อง การตรวจแบบฝกึ ขึนไป สงั เกตมารยาทใน ๒.เติมคาควบกลา คร คล การเขียน แบบสังเกตมารยาทใน ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดบั คว ในประโยคได้ถูกตอ้ ง การเขียน คุณภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป สังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดับ ๓. เขยี นเรื่องราวตาม ดา้ นมคี วามม่งุ มั่น แบบสงั เกตพฤตกิ รรม คุณภาพ ๒ (ดี) ขึนไป จินตนาการจากคาควบกลา ในการทางาน ด้านมคี วามมงุ่ มัน่ ใน คร คล คว ได้ การทางาน ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดบั ๔.นักเรยี นมมี ารยาทใน ประเมนิ สมรรถนะ คุณภาพ ๒ (ดี) ขึนไป การเขยี นคาควบกลา สาคัญของผูเ้ รียน แบบประเมินสมรรถนะ คร คล คว ดา้ นความสามารถ สาคญั ของผเู้ รียน ในการสอ่ื สาร และ ด้านความสามารถ ๕.คณุ ลกั ษณะ ความสามารถในการคดิ ในการสอ่ื สาร และ อันพึงประสงค์ ความสามารถในการคิด - มคี วามมงุ่ มนั่ ใน การทางาน ๖.สมรรถนะสาคญั ของ ผูเ้ รียน -ความสามารถใน การสือ่ สาร -ความสามารถในการคดิ

ควำมคิดเห็นของผู้บริหำร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เรื่อง คาควบกลา คร คล คว มีความเหน็ ดงั นี ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรคู้ รบถ้วน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๒. สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีวดั ( ) สอดคล้องครอบคลุ ม ( ) ไมส่ อดคล้องไม่ครอบคลมุ ๓. การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ดเ้ หมาะสม เนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๔. การใช้สื่อและนวัตกรรมทห่ี ลากหลายและเหมาะสม ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๕. การวดั ผลประเมินผลเหมาะสม ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ข้อเสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................ (........................................) ผู้อานวยการโรงเรียน....................................

บันทกึ ผลหลังกำรเรยี นรู้ นกั เรยี นทังหมด...........คน จดุ ประสงคข์ อ้ ๑ เรียบเรียงคาใหเ้ ปน็ ประโยคได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ จดุ ประสงค์ข้อ ๒ เตมิ คาควบกลา คร คล คว ในประโยคได้ถกู ต้อง ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ จุดประสงค์ข้อ ๓ เขียนเร่อื งราวตามจินตนาการจากคาควบกลา คร คล คว ได้ ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ............ จุดประสงคข์ อ้ ๔ นักเรียนมีมารยาทในการอ่านและการเขียนคาควบกลา คร คล คว ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ............ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนมคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านมคี วามมงุ่ มั่นในการทางาน ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ ปญั หำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงชอื่ ............................................. (...................................... )

แบบบนั ทึกคะแนนแบบฝกึ ทักษะของนักเรียน กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๓/๓ รำยกำรประเมิน เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ แบบฝึกทกั ษะท่ี รวม ผลกำรตัดสนิ ผ่ำน/ไมผ่ ่ำน ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓๐ เกณฑก์ ำรตดั สิน นักเรยี นต้องผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ ไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรให้คะแนนกำรตรวจแบบฝึก ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน แบบฝึกท่ี ๑๖ เรยี บเรยี งคาให้เป็นประโยค จานวน ๑๐ ขอ้ แบบฝึกที่ ๑๗ -เรียบเรยี งคาเป็นประโยคไดถ้ ูกต้อง ใหค้ ะแนนข้อละ ๑ คะแนน -เรยี บเรียนงคาเป็นประโยคไม่ถกู ตอ้ ง ใหค้ ะแนนข้อละ ๐ คะแนน แบบฝึกที่ ๑๘ เตมิ คา คร คล คว ลงในประโยค จานวน ๑๐ ข้อ -เติมคาในประโยคไดถ้ ูกต้อง ใหค้ ะแนนขอ้ ละ ๑ คะแนน -เตมิ คาในประโยคไมถ่ ูกตอ้ ง ให้คะแนนขอ้ ละ ๐ คะแนน เขยี นเรอื่ งสนั จากคาควบกลา คร คล คว ๑๐ คะแนน ๑. การตงั ชอ่ื เร่อื ง (๒ คะแนน) -ตังชอ่ื เรอ่ื งได้ตรงกบั เรือ่ งราว ให้คะแนน ๒ คะแนน -ตังช่อื เรอ่ื งไมต่ รงกับเรอ่ื งราว ให้คะแนน ๑ คะแนน -ไม่ตงั ชื่อเรอ่ื ง ให้คะแนน ๐ คะแนน ๒.การใชค้ าครบ ๕ คา (๒ คะแนน) -ใช้คาได้ถูกต้องครบทงั ๕ คา ใหค้ ะแนน ๒ คะแนน -ใช้คาไดถ้ ูกตอ้ ง ๑ – ๔ คา ใหค้ ะแนน ๑ คะแนน -ไม่ใชค้ าท่ีกาหนดแตง่ เรื่องราว ให้คะแนน ๐ คะแนน ๓.การลาดบั เรอื่ งราว (๒ คะแนน) -ลาดับเรื่องราวไดใ้ จความสมบรู ณ์ ไมว่ กวน ให้คะแนน ๒ คะแนน -ลาดับเรอื่ งราวสับสน วกวน ใหค้ ะแนน ๑ คะแนน -เขียนเร่ืองราวไม่ได้ ใหค้ ะแนน ๐ คะแนน ๔.การใช้ภาษา (๒ คะแนน) -เขียนสะกดคาได้ถูกตอ้ งทกุ คน ใหค้ ะแนน ๒ คะแนน -เขียนสะกดคาผดิ ๑ - ๕ คา ใหค้ ะแนน ๑ คะแนน -เขยี นสะกดคาผิดมากกวา่ ๕ คาขนึ ไป ให้คะแนน ๐ คะแนน

ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ๕.ความสะอาด (๒ คะแนน) -ทางานไดส้ ะอาดเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยดมี าก ให้คะแนน ๒ คะแนน -ทางานไดส้ ะอาดเปน็ ระเบียบเรยี บร้อยพอใช้ ใหค้ ะแนน ๑ คะแนน -ทางานสกปรกไม่เปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย ให้คะแนน ๐ คะแนน

แบบสงั เกตมำรยำทในกำรเขียน กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๓/๓ เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ มำรยำทในกำรเขยี น ผลกำรตดั สิน ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ำ่ น เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเยี่ยม ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน เขียนโดยใช้ภาษาท่ี ๓๒ สภุ าพถกู ต้องตามหลกั เขียนโดยใชภ้ าษาที่ เขียนโดยใช้ภาษาท่ี ภาษาไทย เขียนด้วย สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย สะอาดเป็นระเบียบ ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย เรยี บร้อยเปน็ บางครัง สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคด์ ้ำนควำมมุ่งม่นั ในกำรทำงำน กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓/๓ เลขท่ี ชอื่ – สกลุ รำยกำรสงั เกต ผลกำรตดั สนิ ควำมมุง่ ม่นั ในกำรทำงำน ผ่ำน/ไมผ่ ำ่ น ๓๒๑ เกณฑก์ ำรประเมนิ คุณภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเยยี่ ม เกณฑ์กำรตดั สิน ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื วา่ ผา่ น

รำยละเอียดเกณฑ์กำรสังเกตคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องนกั เรยี นด้ำนควำมมุ่งม่นั ในกำรทำงำน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ มคี วามรบั ผิดชอบต่อ ความมุ่งมั่นใน งานที่ได้รับมอบหมาย ๒๑ การทางาน ดมี าก ทาผลงาน มคี วามรับผิดชอบดี ไมค่ อ่ ยมคี วาม ไดด้ ้วยตนเอง สง่ งาน คัดลอกผลงานของ รบั ผิดชอบ ได้ตรงตามเวลา ผ้อู ื่น เปน็ บางครงั คัดลอกผลงานของ ทีก่ าหนด ส่งงานได้ตรงตามเวลา ผู้อ่ืน สง่ งานลา่ ชา้ ทกี่ าหนด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook