Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน คำควบกล้ำ 18 หน่วย

แผนการสอน คำควบกล้ำ 18 หน่วย

Published by rusleeha, 2022-09-10 11:56:17

Description: แผนการสอน คำควบกล้ำ 18 หน่วย

Search

Read the Text Version

แบบสังเกตสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๓/๓ รำยกำรสังเกต ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ส ุรปผล กำรประเมิน เลขท่ี ช่ือ – สกลุ ในกำรสอื่ สำร ในกำรคิด เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์กำรตดั สิน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอียดเกณฑก์ ำรสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ความสามารถ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร ถา่ ยทอดความรู้ ๒ ความคดิ และความเข้าใจ ความคิดและความ ของตนเองโดยใชภ้ าษา ความสามารถ เข้าใจของตนเองโดย ถ่ายทอดความรู้ ได้อย่างเหมาะสมเปน็ ในการคิด ใชภ้ าษาได้อยา่ ง ความคดิ และความ บางครัง เหมาะสมเปน็ ประจา เข้าใจของตนเองโดย สม่าเสมอ ใช้ภาษาไดอ้ ย่าง มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน เหมาะสมเปน็ การคดิ อย่างมี การคิดอย่างมี ส่วนใหญ่ วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง วจิ ารณญาณ คิดอย่าง มคี วามสามารถใน สร้างสรรค์ และ สร้างสรรค์ และ การคดิ อยา่ งมี ตดั สินใจแกป้ ญั หา ตดั สินใจแกป้ ญั หา วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเปน็ สรา้ งสรรค์ และ เปน็ บางครงั ประจาสมา่ เสมอ ตัดสินใจแกป้ ัญหา ได้อยา่ งเหมาะสม เป็นสว่ นใหญ่

ภำคผนวก

บตั รคำ เควง้ คว้ำง ครำบไคล คลำ้ ยคลึง ครนุ่ คดิ ควำญช้ำง โครมครำม เคร่งครดั เคล็ดลับ คล่องแคลว่ คลคี่ ลำย

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๓ ภำคเรยี นที่ ๑ / ๒๕๖๕ หนว่ ยท่ี ๖ กำรเขียนคำควบกลำ้ เวลำเรียน ๑๘ ช่ัวโมง แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี ๙ กำรเขียนคำควบกลำ้ ปร ปล เวลำเรยี น ๑ ชว่ั โมง สอนวันท่ี ๓๑ พฤษภำคม ๒๕๖๕ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตวั ชีว้ ัด สำระที่ ๒ กำรเขยี น มำตรฐำน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรอื่ งราวใน รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตวั ช้วี ดั ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขยี นเรื่องตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มมี ารยาทในการเขยี น สำระท่ี ๔ หลักกำรใชภ้ ำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ตัวช้ีวดั ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๒๗. เขียนคาควบกลา ปร ปล ไดถ้ กู ต้อง ๒๘. บอกความหมายคาควบกลา ปร ปล ไดถ้ กู ตอ้ ง ๒๙. นกั เรียนมีมารยาทในการเขียนคาควบกลา ปร ปล คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๙. นกั เรียนมีความซอื่ สตั ย์ สจุ ริต สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น ๑๖. ความสามารถในการสอ่ื สาร ๑๗.ความสามารถในการคิด

สำระสำคญั คาควบกลา ปร ปล คือ คาทม่ี พี ยญั ชนะ ๒ ตัวเรียงกัน พยญั ชนะตัวหน้าเป็น ป พยญั ชนะตัวหลงั เป็น ร ล อ่านออกเสียงควบกลา โดยออกเสยี งวรรณยุกต์ตามพยญั ชนะตัวหนา้ เช่น ปรงุ แปรง เปล่ยี น ปล้น ปล่อย เป็น ต้น สำระกำรเรียนรู้ ๘. การเขียนคาควบกลา ปร ปล ๙. การบอกความหมายคาควบกลา ปร ปล กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ขัน้ นำเขำ้ สู่บทเรยี น ๖. แบง่ นักเรยี นออกเป็น ๗ กลมุ่ ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ มีนกั เรียนทเี่ ก่ง กลาง ออ่ น คละกนั ตามความเหมาะสม จากนนั ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั เขยี นคาท่ีมีพยัญชนะตน้ เปน็ ปร และ ปล ตามความคดิ และ ประสบการณ์เดิมของนักเรียน กาหนดเวลา ๒ นาที เมือ่ หมดเวลาใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นากระดาษออกมาตดิ บน กระดาน ๗. นักเรียนและครูร่วมกนั ทบทวนความหมายของคาควบกลาว่า คาควบกลา หมายถึง พยัญชนะที่ควบกบั ร ล ว ประสมกับสระเดียวกันออกเสียงควบกลาเปน็ พยางค์เดยี ว โดยออกเสียงวรรณยกุ ตต์ าม พยญั ชนะตัวหนา้ จากนันร่วมกนั เลอื กคาทีเ่ ปน็ คาควบกลาจากกระดาษของทงั ๒ กลมุ่ ท่ตี ดิ บนกระดาน แล้ว รว่ มกนั อา่ นใหพ้ ร้อมเพรียงกนั ขนั้ สอน ๑๖. ครนู าแถบประโยคติดบนกระดานดงั นี บุญปลูกปลาบปลืมลมื ปลอบลกู ป้าเปล่ยี นหนา้ ตาเปล่งปลงั่ คณุ ปราชญท์ ่าทางปราดเปรยี ว นาประปาไหลกะปริบกะปรอย ๑๗.นักเรยี นชว่ ยกันหาคาควบกลา ปร ปล ในแถบประโยค ได้แกค่ าว่า ปลกู ปลาบปลมื ปลอบ เปลี่ยน เปล่งปล่งั ปราชญ์ ปราดเปรียว ประปา กะปรบิ กะปรอย โดยนกั เรียนช่วยกันเขียน บนกระดานและฝกึ อา่ นออกเสียง ๑๘.นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งบตั รคาควบกลา ปร ปล ตามครูทลี ะคา ไดแ้ กค่ าว่า ปรับปรงุ ปลอดโปรง่ ปล่อย เปลี่ยนแปลง ปลอบ ปลอดภัย ปรวนแปร ปราบปราม โปรดปราน ไปรษณยี ์ ๑๙. นักเรียนร่วมกันตอบคาถามจากการสังเกตบตั รคา ดังนี - คาเหลา่ นีมีพยัญชนะต้นก่ตี ัว ( ๒ ตัว )

- พยัญชนะตน้ ตวั แรกเปน็ ตวั อะไร ( ป ) - พยัญชนะตน้ ตัวท่ี ๒ มีพยัญชนะตวั ใดบา้ ง ( ร ล ) - พยัญชนะต้นทงั ๒ ตวั ออกเสียงพรอ้ มกันหรอื ไม่ ( พร้อมกนั ) ๒๐. นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้ เรือ่ ง “คาควบกลา ปร ปล” ในแบบฝกึ ทกั ษะ พัฒนาการเขียนคาควบกลา ๒๑. นักเรยี นและครรู ว่ มกันอธิบายความหมายของคาควบกลา ปร ปล วา่ คอื คาทมี่ ีพยัญชนะ ต้น ๒ ตวั เรียงกนั พยญั ชนะตน้ ตวั แรกเปน็ ป พยัญชนะต้นตัวที่ ๒ เป็น ร ล ประสมสระเดียวกัน อา่ นออกเสียง พยัญชนะต้นควบกลาพรอ้ มกนั โดยออกเสยี งวรรณยุกต์ตามพยญั ชนะตัว เช่น เปรียง โปรด ปลั๊กไฟ แปลบปลาบ เปน็ ต้น ๒๒. นักเรยี นแขง่ ขันกนั ตอบคาถามเก่ยี วกับความหมายของคาจากใบความรู้ โดยครตู ดิ บตั รคาบนกระดาน ไดแ้ ก่ ปรับปรงุ ปลอ่ ย ปลอดภัย โปรดปราน ปราบปราม จากนนั ครูอ่านคาถามดังนี - คาใดหมายถึงพ้นภยั (ปลอดภยั ) - คาใดหมายถงึ ทาใหอ้ อกจากสงิ่ ทต่ี ิดอยู่ ผูกอยหู่ รือข้องอยู่ (ปลอ่ ย) - คาใดหมายถงึ เอ็นดู รกั ใคร่ (โปรดปราน) - คาใดหมายถึงแก้ไขใหเ้ รยี บร้อยยง่ิ ขึน (ปรบั ปรุง) - คาใดหมายถงึ ทาให้สงบราบคาบ (ปราบปราม) ๑๒. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะท่ี ๑๙ โดยเลือกคาควบกลา ปร ปล จากคาท่ีกาหนดให้ เติมลงในชอ่ งว่างใหเ้ ปน็ คาที่มคี วามหมาย จานวน ๑๐ ขอ้ ๑๓. นักเรียนทาแบบฝึกทกั ษะท่ี ๒๐ โดยเขียนคาควบกลา ปร ปล ท่มี ีความหมายลงใน ชอ่ งว่าง จานวน ๑๐ คา ๑๔. นักเรยี นทาแบบฝึกทักษะท่ี ๒๑ โดยเขยี นคาควบกลา ปร ปล ให้ตรงกับความหมาย จานวน ๑๐ ข้อ ขั้นสรุป ๑. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรุปคาควบกลา ปร ปล ว่าคอื คาทีม่ ีพยญั ชนะตน้ 2 ตวั เรยี งกัน พยญั ชนะต้นตวั แรกเปน็ ป พยัญชนะต้นตวั ท่ี ๒ เป็น ร ล ประสมสระเดยี วกัน อ่านออกเสียงพยัญชนะต้นควบกลาพร้อมกนั โดย ออกเสยี งวรรณยุกตต์ ามพยัญชนะตัว เชน่ เปรียง โปรด ปลก๊ั ไฟ ปรบั ปรุง เป็นต้น ภำระงำน/ชิน้ งำน - สือ่ และแหลง่ กำรเรยี นรู้ ๒๐. แถบประโยค

๒๑. บตั รคาควบกลา ปร ปล ๒๒. แบบฝึกทกั ษะพฒั นาการเขยี นคาควบกลา

กำรวัดผลและประเมนิ ผล จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ วิธีกำรวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล ตรวจแบบฝึกทักษะ ๑. เขยี นคาควบกลา ปร แบบบนั ทึกคะแนน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ปล ได้ถูกตอ้ ง การตรวจแบบฝึก ขนึ ไป ๒.บอกความหมาย คาควบกลา ปร ปล ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดับ ไดถ้ ูกตอ้ ง คณุ ภาพ ๒ (ด)ี ขนึ ไป ๓.นักเรียนมมี ารยาทใน การเขียนคาควบกลา สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดับ ปร ปล ด้านความซอ่ื สตั ย์ ด้านความซือ่ สตั ย์ สจุ รติ คุณภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป ๔.คุณลกั ษณะ สุจริต อนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ ไดร้ ะดบั - มคี วามซื่อสตั ย์ สจุ รติ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ คณุ ภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป ๕.สมรรถนะสาคัญของ สาคญั ของผู้เรียน สาคญั ของผู้เรยี น ผูเ้ รียน -ความสามารถใน ด้านความสามารถ ดา้ นความสามารถ การสื่อสาร -ความสามารถในการคดิ ในการสอื่ สาร และ ในการสือ่ สาร และ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการคดิ

ควำมคดิ เหน็ ของผู้บรหิ ำร ได้ตรวจแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๙ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เร่อื ง การเขียน คาควบกลา ปร ปล มีความเห็นดังนี ๑. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ครบถ้วน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๒. สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี ดั ( ) สอดคล้องครอบคลุ ม ( ) ไมส่ อดคล้องไม่ครอบคลมุ ๓. การจัดกิจกรรมการเรียนรไู้ ด้เหมาะสม เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๔. การใชส้ ่ือและนวตั กรรมทีห่ ลากหลายและเหมาะสม ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๕. การวัดผลประเมินผลเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................ (..............................) ผู้อานวยการโรงเรียน....................................

บันทกึ ผลหลังกำรเรียนรู้ นกั เรยี นทังหมด...........คน จดุ ประสงคข์ ้อ ๑ เขียนคาควบกลา ปร ปล ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ ไมผ่ า่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ จุดประสงค์ข้อ ๒ บอกความหมายคาควบกลา ปร ปล ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ จุดประสงค์ขอ้ ๓ นักเรยี นมมี ารยาทในการเขียนคาควบกลา ปร ปล ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรยี นมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ด้านความซือ่ สตั ย์ สจุ ริต ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ ปัญหำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงช่ือ ............................................. (……………………….. )

แบบบนั ทึกคะแนนแบบฝึกทกั ษะของนกั เรียน กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๓/๓ รำยกำรประเมนิ เลขท่ี ชอื่ – สกุล แบบฝึกทักษะที่ รวม ผลกำรตัดสนิ ผำ่ น/ไม่ผำ่ น ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓๐ เกณฑก์ ำรตัดสิน นักเรียนตอ้ งผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึนไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรใหค้ ะแนนกำรตรวจแบบฝึก ประเดน็ กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน แบบฝกึ ท่ี ๑๙ เขียนคาควบกลา ปร ปล ในช่องว่างให้เป็นคาท่มี ีความหมาย แบบฝกึ ที่ ๒๐ จานวน ๑๐ ข้อ แบบฝกึ ที่ ๒๑ -เขยี นคาได้ถกู ตอ้ ง ให้คะแนนข้อละ ๑ คะแนน -เขียนคาไมถ่ กู ตอ้ ง ใหค้ ะแนนข้อละ ๐ คะแนน เขยี นคาควบกลา ปร ปล ที่มีความหมาย จานวน ๑๐ คา -เขียนคาไดถ้ ูกตอ้ ง ให้คะแนนคาละ ๑ คะแนน -เขียนคาไมถ่ กู ต้อง ใหค้ ะแนนคาละ ๐ คะแนน เตมิ คาควบกลา ปร ปล ให้ตรงกับความหมาย จานวน ๑๐ ข้อ -เขยี นคาตรงกับความหมายไดถ้ ูกตอ้ ง ให้คะแนนคาละ ๑ คะแนน -เขียนคาตรงกับความหมายไมถ่ ูกต้อง ใหค้ ะแนนคาละ ๐ คะแนน

แบบสงั เกตมำรยำทในกำรเขียน กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๓/๓ เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ มำรยำทในกำรเขยี น ผลกำรตดั สิน ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ำ่ น เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเย่ียม ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน เขียนโดยใช้ภาษาท่ี ๓๒ สภุ าพถกู ต้องตามหลกั เขียนโดยใชภ้ าษาท่ี เขียนโดยใช้ภาษาท่ี ภาษาไทย เขียนด้วย สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย สะอาดเป็นระเบียบ ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย เรยี บร้อยเปน็ บางครัง สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ ้ำนควำมซ่ือสัตย์ สุจริต กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี ๓/๓ เลขที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรสังเกต ผลกำรตัดสิน ควำมซ่อื สตั ย์ สจุ ริต ผำ่ น/ไม่ผำ่ น ๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดเี ย่ยี ม เกณฑก์ ำรตดั สนิ ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื วา่ ผ่าน

รำยละเอียดเกณฑก์ ำรสงั เกตคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องนกั เรยี นด้ำนมีควำมซอื่ สัตย์ สจุ ริต ประเดน็ กำรประเมนิ ๓ ระดบั คุณภำพ ความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบตั ิตนตอ่ ตนเอง และผอู้ ่ืน ทงั ทางกาย ๒๑ วาจา ใจ ดว้ ยความ ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ตนเอง ปฏบิ ัตติ นต่อตนเอง ซื่อตรงอย่เู สมอ และผูอ้ ่ืน ทังทางกาย และผู้อนื่ ทงั ทางกาย วาจา ใจ ดว้ ยความ วาจา ใจ ดว้ ยความ ซอื่ ตรง เปน็ ส่วนใหญ่ ซื่อตรงเป็นบางครัง

แบบสังเกตสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๓/๓ รำยกำรสังเกต ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ส ุรปผล กำรประเมิน เลขท่ี ช่ือ – สกลุ ในกำรสอื่ สำร ในกำรคิด เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์กำรตดั สิน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอียดเกณฑก์ ำรสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ความสามารถ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร ถา่ ยทอดความรู้ ๒ ความคดิ และความเข้าใจ ความคิดและความ ถ่ายทอดความรู้ ของตนเองโดยใชภ้ าษา ความสามารถ เข้าใจของตนเองโดย ความคดิ และความ ได้อย่างเหมาะสมเปน็ ในการคิด ใชภ้ าษาได้อยา่ ง เข้าใจของตนเองโดย บางครัง เหมาะสมเปน็ ประจา ใช้ภาษาไดอ้ ย่าง สม่าเสมอ เหมาะสมเปน็ มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน ส่วนใหญ่ การคดิ อย่างมี การคิดอย่างมี มคี วามสามารถใน วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง วจิ ารณญาณ คิดอย่าง การคดิ อยา่ งมี สร้างสรรค์ และ สร้างสรรค์ และ วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง ตดั สินใจแกป้ ญั หา ตดั สินใจแกป้ ญั หา สรา้ งสรรค์ และ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเปน็ ตัดสินใจแกป้ ัญหา เปน็ บางครงั ประจาสมา่ เสมอ ได้อยา่ งเหมาะสม เป็นสว่ นใหญ่

ภำคผนวก

แถบประโยค บุญปลูกปลำบปลม้ื ลมื ปลอบลูก ป้ำเปลย่ี นหนำ้ ตำเปล่งปล่ัง คุณปรำชญ์ท่ำทำงปรำดเปรยี ว น้ำประปำไหลกะปริบกะปรอย

บตั รคำ ปรบั ปรุง ปลอดโปร่ง ปล่อย เปล่ียนแปลง ปลอบ ปลอดภยั ปรวนแปร ปรำบปรำม โปรดปรำน ไปรษณีย์

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี ๓ ภำคเรยี นที่ ๑ / ๒๕๖๕ หน่วยที่ ๖ กำรเขยี นคำควบกลำ้ เวลำเรยี น ๑๘ ชวั่ โมง แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี ๑๐ กำรเขียนคำควบกลำ้ ปร ปล เวลำเรยี น ๑ ช่ัวโมง สอนวนั ท่ี ๑ มถิ ุนำยน ๒๕๖๕ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัด สำระที่ ๒ กำรเขียน มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวใน รปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชวี้ ัด ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขียน สำระท่ี ๔ หลักกำรใชภ้ ำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ตัวชีว้ ดั ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๓๐.เรียบเรียงคาเปน็ ประโยคได้ถูกต้อง ๓๑.แตง่ ประโยคจากคาควบกลา ปร ปล ได้ถูกต้อง ๓๒. เขียนเรือ่ งราวตามจินตนาการจากคาควบกลา ปร ปล ได้ ๓๓. นกั เรยี นมีมารยาทในการเขียนคาควบกลา ปร ปล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑๐. นักเรียนใฝ่เรียนรู้

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น ๑๘.ความสามารถในการสอื่ สาร ๑๙. ความสามารถในการคิด สำระสำคญั คาควบกลา ปร ปล คอื คาทมี่ พี ยญั ชนะ ๒ ตัวเรียงกนั พยัญชนะตัวหนา้ เปน็ ป พยัญชนะตัวหลังเปน็ ร ล อ่านออกเสียงควบกลา โดยออกเสยี งวรรณยุกต์ตามพยัญชนะตัวหนา้ เช่น ปรุง แปรง เปล่ยี น ปล้น ปลอ่ ย เป็น ตน้ ประโยค คือ คาหรอื กล่มุ คาที่เรยี งตอ่ กันแล้วไดใ้ จความสมบูรณว์ ่า ใคร ทาอะไร ประกอบดว้ ยภาค ประธานและภาคแสดง การเรยี นร้แู ละสามารถแตง่ ประโยคใหไ้ ดเ้ นอื หาใจความสมบูรณส์ อดคลอ้ งสัมพันธก์ นั จะ ทาให้นกั เรียนมีทกั ษะในการเรียนภาษาไทยดขี นึ สำระกำรเรียนรู้ ๓. การเรยี บเรยี งคาเป็นประโยค ๔. การแตง่ ประโยคจากคาควบกลา ปร ปล ๓. การเขียนเรือ่ งราวตามจนิ ตนาการจากคาควบกลา ปร ปล กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ขนั้ นำเขำ้ สู่บทเรยี น ๒๓. ทบทวนคาควบกลา ปร ปล โดยเขยี นตามคาบอกในสมุดจานวน ๑๐ คา ได้แก่คาว่า เปลี่ยน ปรบั ปรุง ปราบ ปลอ่ ย โปร่ง ปล่าว เปล่ยี ว ปลิง ปลา ประปา ๒๔. นักเรียนและครรู ่วมกนั เฉลยคาตอบโดยอาสาสมคั รออกมาเขียนบนกระดาน แล้ว แลกเปลี่ยนกันตรวจคาตอบ ร่วมกนั ปรบมอื ให้นักเรยี นทเ่ี ขียนไดถ้ ูกตอ้ งมากทสี่ ดุ ขน้ั สอน ๑. นกั เรยี นรว่ มกันยกตัวอยา่ งคาควบกลา ปร ปล ท่มี คี วามหมายในชีวิตประจาวนั โดยเขียน ในกระดาษบัตรคาทคี่ รูแจกให้คนละ ๑ คา จากนันนาบตั รคาออกมาอ่านใหค้ รแู ละเพอ่ื นฟงั หน้า ชนั เรยี นทีละคน ๒. ครูอธิบายหลักการแตง่ ประโยควา่ เปน็ การนาคาหรือกลุม่ คามาเรียงตอ่ กนั ให้ ได้ใจความสมบรู ณ์ว่า ใคร ทาอะไร ประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง ได้แก่ ประธาน + กรยิ า + กรรม เช่น ปรีชาปลูกกะหลา่ ปลใี นสวน เปน็ ต้น ๓. นกั เรียนและครูร่วมกันยกตวั อยา่ งประโยคจากคาควบกลา ปร ปล เช่น ปล้น ---- โจรปลน้ ธนาคารในตลาด

แปรง ---- สมบตั ิใชแ้ ปรงขัดรองเท้า ปรบ ---- นกั เรยี นปรบมือเสียงดงั เป็นตน้ ๔. แบง่ นกั เรียนออกเปน็ ๗ กลุ่ม ใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันศกึ ษาใบความรทู้ ่ี ๓ “เรียนร้เู รอ่ื งประโยค” จากนันให้ช่วยกนั ยกตวั อย่างคาควบกลา ปร ปล พรอ้ มกบั แตง่ ประโยค กลมุ่ ละ ๕ ประโยค โดยเขียนในกระดาษทคี่ รแู จกใหแ้ ล้วระบายสีตกแต่งผลงานให้สวยงาม ๕. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั เรียน โดยนาผลงานออกมาติดบน กระดานแล้วอา่ นพร้อมๆกัน นักเรียนและครรู ว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๖. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มอ่านเรอ่ื งสันหรรษา “ลงุ ปรชี ากบั ปลาตวั เลก็ ” จากนันร่วมกันบอก ความรแู้ ละขอ้ คิดทีไ่ ด้จากการอา่ น พรอ้ มกับยกตัวอย่างคาควบกลา ปร ปล ที่มีในเนอื เรื่อง ๗. นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๒๒ โดยเรียบเรียงคาใหเ้ ป็นประโยคประโยค จานวน ๑๐ ขอ้ ๘. นักเรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะที่ ๒๓ โดยแตง่ ประโยคจากคาควบกลา ปร ปล จานวน ๑๐ ข้อ ๙. นกั เรียนทาแบบฝกึ ทักษะท่ี ๒๔ โดยหาคาควบกลา ปร ปล จากเร่ืองสนั หรรษา “ลงุ ปรีชากับปลาตัวเล็ก” จานวน ๕ คา แลว้ นามาแต่งเปน็ เรอื่ งราวสันๆตามจินตนาการ ข้นั สรุป ๓. นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรู้เก่ยี วกับคาควบกลา ปร ปล และการแต่งประโยคที่ ถกู ตอ้ งตามหลักภาษา ๒. มอบหมายภาระงานโดยให้นักเรยี นคน้ คว้าหาคาควบกลา ปร ปล ทีม่ คี วามหมายใน ชีวติ ประจาวันแล้วจดั ทาเปน็ กรอบรปู คาควบกลา ปร ปล พรอ้ มทงั ตกแต่งใหส้ วยงาม ภำระงำน/ชิ้นงำน กรอบรปู คาควบกลา ปร ปล สอื่ และแหล่งกำรเรยี นรู้ ๒๓. บัตรคาควบกลา ปร ปล ๒๔. แบบฝึกทักษะพฒั นาการเขยี นคาควบกลา

กำรวดั ผลและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ วธิ ีกำรวดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์กำรประเมนิ ผล ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑. เรยี บเรยี งคาให้เปน็ ๑.ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ ๑.แบบบันทกึ คะแนน ขนึ ไป ประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง การตรวจแบบฝึก สงั เกตมารยาทใน ผา่ นเกณฑ์ ไดร้ ะดับ ๒.แตง่ ประโยคจาก การเขียน แบบสังเกตมารยาทใน คณุ ภาพ ๒ (ด)ี ขนึ ไป คาควบกลา ปร ปล สังเกตพฤติกรรม การเขียน ผา่ นเกณฑ์ ไดร้ ะดบั ไดถ้ กู ตอ้ ง ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ แบบสังเกตพฤตกิ รรม คณุ ภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป ๓. เขยี นเรือ่ งราวตาม ดา้ นความใฝ่เรยี นรู้ จนิ ตนาการจากคาควบกลา ปร ปล ได้ ๔.นักเรยี นมีมารยาทใน การเขยี นคาควบกลา ปร ปล ๕.คุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ ๖.สมรรถนะสาคัญของ ประเมินสมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดบั ผเู้ รียน คณุ ภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป -ความสามารถใน สาคญั ของผเู้ รียน สาคญั ของผเู้ รียน การสอื่ สาร -ความสามารถในการคดิ ด้านความสามารถ ด้านความสามารถ ในการสือ่ สาร และ ในการสอื่ สาร และ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการคดิ

ควำมคดิ เห็นของผบู้ รหิ ำร ได้ตรวจแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๐ กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย เรอ่ื ง คาควบกลา ปร ปล มคี วามเหน็ ดงั นี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ครบถ้วน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๒. สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชวี ดั ( ) สอดคล้องครอบคลุ ม ( ) ไมส่ อดคล้องไม่ครอบคลมุ ๓. การจดั กจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้เหมาะสม เนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๔. การใชส้ อ่ื และนวัตกรรมท่ีหลากหลายและเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๕. การวัดผลประเมินผลเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................ (.................................) ผู้อานวยการโรงเรียน...................................

บนั ทกึ ผลหลังกำรเรยี นรู้ นักเรียนทงั หมด...........คน จุดประสงค์ข้อ ๑ เรยี บเรียงคาใหเ้ ป็นประโยคไดถ้ ูกต้อง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............ จุดประสงค์ขอ้ ๒ แตง่ ประโยคจากคาควบกลา ปร ปล ไดถ้ กู ตอ้ ง ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ จุดประสงค์ขอ้ ๓ เขียนเรอ่ื งราวตามจนิ ตนาการจากคาควบกลา ปร ปล ได้ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ จุดประสงค์ข้อ ๔ นักเรียนมมี ารยาทในการอา่ นและการเขยี นคาควบกลา ปร ปล ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นักเรยี นมคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ ปญั หำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ............................................. (.................................... )

แบบบนั ทึกคะแนนแบบฝึกทกั ษะของนกั เรียน กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๓/๓ รำยกำรประเมนิ เลขท่ี ชอื่ – สกุล แบบฝึกทักษะที่ รวม ผลกำรตัดสนิ ผำ่ น/ไม่ผำ่ น ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓๐ เกณฑก์ ำรตัดสิน นักเรียนตอ้ งผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึนไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)

รำยละเอยี ดเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนกำรตรวจแบบฝกึ ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน แบบฝึกท่ี ๒๒ แบบฝกึ ท่ี ๒๓ เรยี บเรียงคาให้เป็นประโยค จานวน ๑๐ ข้อ -เรยี บเรยี งคาเปน็ ประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง ให้คะแนนข้อละ ๑ คะแนน แบบฝึกที่ ๒๔ -เรียบเรยี งคาเป็นประโยคไม่ถูกต้อง ใหค้ ะแนนข้อละ ๐ คะแนน แตง่ ประโยคจากคาควบกลา ปร ปล จานวน ๑๐ ข้อ -แตง่ ประโยคได้ถูกต้องตามโครงสร้าง เนือหาได้ใจความสมบรู ณ์ ให้คะแนนข้อละ ๑ คะแนน -แตง่ ประโยคไม่ถกู ตอ้ งตามโครงสรา้ ง เนือหาไม่ได้ใจความ ให้คะแนนข้อละ ๐ คะแนน เขียนเรื่องสนั จากคาควบกลา ปร ปล ๑๐ คะแนน ๑. การตังชอื่ เรือ่ ง (๒ คะแนน) -ตงั ชอ่ื เรอ่ื งได้ตรงกับเร่อื งราว ใหค้ ะแนน ๒ คะแนน -ตงั ชอื่ เรือ่ งไมต่ รงกบั เร่ืองราว ใหค้ ะแนน ๑ คะแนน -ไมต่ งั ชอ่ื เร่อื ง ให้คะแนน ๐ คะแนน ๒.การใช้คาครบ ๕ คา (๒ คะแนน) -ใช้คาไดถ้ ูกต้องครบทัง ๕ คา ให้คะแนน ๒ คะแนน -ใช้คาได้ถูกต้อง ๑ – ๔ คา ใหค้ ะแนน ๑ คะแนน -ไม่ใชค้ าที่กาหนดแตง่ เรื่องราว ให้คะแนน ๐ คะแนน ๓.การลาดบั เรอ่ื งราว (๒ คะแนน) -ลาดบั เร่ืองราวไดใ้ จความสมบรู ณ์ ไมว่ กวน ให้คะแนน ๒ คะแนน -ลาดับเร่อื งราวสับสน วกวน ให้คะแนน ๑ คะแนน -เขยี นเรือ่ งราวไม่ได้ ให้คะแนน ๐ คะแนน ๔.การใช้ภาษา (๒ คะแนน) -เขียนสะกดคาไดถ้ ูกต้องทกุ คน ใหค้ ะแนน ๒ คะแนน -เขยี นสะกดคาผิด ๑ - ๕ คา ใหค้ ะแนน ๑ คะแนน -เขยี นสะกดคาผิดมากกวา่ ๕ คาขนึ ไป ให้คะแนน ๐ คะแนน

ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ๕.ความสะอาด (๒ คะแนน) -ทางานไดส้ ะอาดเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยดมี าก ให้คะแนน ๒ คะแนน -ทางานได้สะอาดเปน็ ระเบยี บเรียบร้อยพอใช้ ใหค้ ะแนน ๑ คะแนน -ทางานสกปรกไม่เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย ให้คะแนน ๐ คะแนน

แบบสงั เกตมำรยำทในกำรเขียน กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๓/๓ เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ มำรยำทในกำรเขยี น ผลกำรตดั สิน ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ำ่ น เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเย่ียม ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน ๓๒ เขียนโดยใช้ภาษาท่ี เขียนโดยใชภ้ าษาท่ี เขียนโดยใช้ภาษาท่ี สภุ าพถกู ต้องตามหลกั สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรยี บร้อยเปน็ บางครัง เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสงั เกตคุณลักษณะอนั พึงประสงคด์ ำ้ นใฝเ่ รยี นรู้ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๓/๓ เลขที่ ช่ือ – สกุล รำยกำรสังเกต ผลกำรตัดสนิ ใฝเ่ รยี นรู้ ผ่ำน/ไม่ผำ่ น ๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ คุณภำพ ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเยีย่ ม เกณฑ์กำรตัดสิน ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ ได้ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผ่าน

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสงั เกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคข์ องนักเรยี นด้ำนใฝเ่ รียนรู้ ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตรงต่อเวลา ๒ นักเรยี นตรงตอ่ เวลา ตงั ใจเรยี น นกั เรยี นตรงตอ่ เวลา ตงั ใจเรยี น มคี วามพยายาม ตงั ใจเรียน มีความพยายาม ในการเรยี นรู้ ซักถาม มีความพยายาม ในการเรยี นรู้ ซกั ถาม ขอ้ สงสยั ในการเรียน ในการเรยี นรู้ ซักถาม ขอ้ สงสยั ในการเรียน และมีส่วนรว่ ม ขอ้ สงสยั ในการเรียน และมีส่วนรว่ ม ในการเรยี น และมสี ่วนร่วม ในการเรียน สง่ งานครบตาม ในการเรยี น สง่ งานครบตาม กาหนด เข้ารว่ มและ ส่งงานครบตาม กาหนด เขา้ ร่วมและ ปฏิบัตกิ จิ กรรมใน กาหนด เข้าร่วมและ ปฏิบัตกิ ิจกรรมใน การทากจิ กรรมต่างๆ ปฏิบัติกจิ กรรมใน การทากิจกรรมตา่ งๆ สม่าเสมอ การทากิจกรรมต่างๆ เป็นบางครัง เปน็ สว่ นใหญ่

แบบสังเกตสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๓/๓ รำยกำรสังเกต ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ส ุรปผล กำรประเมิน เลขท่ี ช่ือ – สกลุ ในกำรสอื่ สำร ในกำรคิด เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์กำรตดั สิน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอียดเกณฑก์ ำรสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ความสามารถ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร ถา่ ยทอดความรู้ ๒ ความคดิ และความเข้าใจ ความคิดและความ ถ่ายทอดความรู้ ของตนเองโดยใชภ้ าษา ความสามารถ เข้าใจของตนเองโดย ความคดิ และความ ได้อย่างเหมาะสมเปน็ ในการคิด ใชภ้ าษาได้อยา่ ง เข้าใจของตนเองโดย บางครัง เหมาะสมเปน็ ประจา ใช้ภาษาไดอ้ ย่าง สม่าเสมอ เหมาะสมเปน็ มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน ส่วนใหญ่ การคดิ อย่างมี การคิดอย่างมี มคี วามสามารถใน วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง วจิ ารณญาณ คิดอย่าง การคดิ อยา่ งมี สร้างสรรค์ และ สร้างสรรค์ และ วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง ตดั สินใจแกป้ ญั หา ตดั สินใจแกป้ ญั หา สรา้ งสรรค์ และ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเปน็ ตัดสินใจแกป้ ัญหา เปน็ บางครงั ประจาสมา่ เสมอ ได้อยา่ งเหมาะสม เปน็ สว่ นใหญ่

ภำคผนวก

บตั รคำ ปรบั ปรงุ เปลี่ยน ปล่อย ปรำบ โปร่ง ปลำ่ ว เปลี่ยว ปลิง ปล้ำ ประปำ

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๓ ภำคเรียนท่ี ๑ / ๒๕๖๕ หนว่ ยท่ี ๖ กำรเขียนคำควบกลำ้ เวลำเรียน ๑๘ ชว่ั โมง แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๑ กำรเขียนคำควบกล้ำ พร พล เวลำเรยี น ๑ ชว่ั โมง สอนวนั ที่ ๖ มถิ นุ ำยน ๒๕๖๕ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตวั ช้ีวัด สำระท่ี ๒ กำรเขียน มำตรฐำน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่อื สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตัวชีว้ ัด ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มมี ารยาทในการเขยี น สำระที่ ๔ หลกั กำรใช้ภำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ ตัวชวี้ ัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๓๔. เขยี นคาควบกลา พร พล ไดถ้ ูกตอ้ ง ๓๕. เลือกคาควบกลา พร พล ได้ถกู ต้อง ๓๖.นกั เรยี นมมี ารยาทในการเขียนคาควบกลา พร พล คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑๑. นักเรยี นมีความม่งุ มนั่ ในการทางาน สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ๒๐. ความสามารถในการสื่อสาร ๒๑. ความสามารถในการคดิ

สำระสำคญั คาควบกลา พร พล คือ คาท่มี พี ยญั ชนะ ๒ ตวั เรียงกัน พยญั ชนะตวั หน้าเปน็ พ พยัญชนะตัวหลงั เป็น ร ล อ่านออกเสยี งควบกลา โดยออกเสียงวรรณยกุ ตต์ ามพยัญชนะตวั หนา้ เช่น พระ พรม เพลง พลอย เปน็ ตน้ สำระกำรเรยี นรู้ ๑๐. การเขียนคาควบกลา พร พล ๑๑. การเลอื กคาควบกลา พร พล กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ขน้ั นำเข้ำสู่บทเรยี น ๘. นักเรียนสง่ ตัวแทน ๑ คน ออกมาอ่านปริศนาคาทายที่ครเู ตรียมมา โดยให้เพอ่ื นในชัน เรียนหาคาตอบดงั นี “อะไรเอ่ย เมอื่ เลก็ นุ่งขาว เมอื่ สาวนุ่งเขียว แกแ่ ลว้ นุ่งแดง” ๙. นกั เรยี นแขง่ ขันกนั หาคาตอบและครเู ฉลยคาตอบวา่ พริก ข้นั สอน ๒๕. นกั เรยี นและครูสนทนาเกี่ยวกับคาวา่ พรกิ จากคาตอบปรศิ นาคาทาย โดยครใู ช้คาถาม ดังนี - คานีมพี ยัญชนะตน้ ก่ตี วั ( ๒ ตวั ) - พยญั ชนะต้นตัวแรกเป็นตวั อะไร ( พ ) - พยญั ชนะต้นตัวท่ี ๒ คือพยัญชนะตวั ใด ( ร ) - พยัญชนะตน้ ทงั ๒ ตวั ออกเสยี งพรอ้ มกันหรือไม่ ( พรอ้ มกัน ) ๒๖. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง “คาควบกลา พร พล” ในแบบฝกึ ทกั ษะ พฒั นาการเขียนคาควบกลา ๒๗. นกั เรียนร่วมกนั อา่ นบตั รคาควบกลา พร พล โดยอา่ นแบบสะกดคาพรอ้ มกับปรบมอื ประกอบจังหวะการอ่านทีละคา ดังนี พริก อ่านว่า พร - อิ - กอ - พรกิ (ปรบมอื สองครัง ปรบตักสองครงั ) พระ อา่ นวา่ พร - อะ - พระ (ปรบมือสองครงั ปรบตักสองครงั ) พรม อ่านวา่ พร - โอะ - มอ - พรม (ปรบมอื สองครงั ปรบตักสองครงั ) เพลง อ่านว่า พล - เอ - งอ - เพลง (ปรบมอื สองครัง ปรบตกั สองครงั ) พลอย อ่านวา่ พล - ออ - ยอ - พลอย (ปรบมือสองครงั ปรบตกั สองครัง) ๒๘. แบง่ นกั เรยี นออกเปน็ ๗ กลมุ่ ร่วมกนั ยกตวั อย่างคาควบกลา พร พล กลมุ่ ละ ๑๐ คา

จากการศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง “คาควบกลา พร พล” โดยเขยี นในกระดาษท่ีครูแจกให้ ๒๙. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานโดยนากระดาษทเ่ี ขยี นคาควบกลา พร พล ออกมาติดบนกระดาน แล้วอา่ นให้ครูและเพ่ือนๆฟงั ๓๐.นกั เรียนทาแบบฝกึ ทักษะที่ ๒๕ โดยเขียนคาควบกลา พร พล จากคาอ่านทกี่ าหนดให้ จานวน ๑๐ ข้อ ๓๑.นกั เรียนทาแบบฝกึ ทักษะที่ ๒๖ โดยเลอื กคาควบกลา พร พล ทกี่ าหนดให้เตมิ ลงใน ช่องวา่ งให้เปน็ คาทมี่ คี วามหมาย จานวน ๑๐ ข้อ ๓๒. นกั เรียนทาแบบฝกึ ทักษะที่ ๒๗ โดยระบายสีคาควบกลา พร พล ในตารางแล้วนาไป เขียนลงในชอ่ งวา่ ง จานวน ๑๐ คา ขัน้ สรปุ ๑. นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปคาควบกลา พร พล วา่ คือคาทมี่ พี ยญั ชนะต้น ๒ ตัวเรยี งกนั พยญั ชนะตน้ ตวั แรกเป็น พ พยัญชนะตน้ ตัวที่ ๒ เปน็ ร ล ประสมสระเดยี วกนั อา่ นออกเสยี งพยัญชนะตน้ ควบกลาพรอ้ มกนั โดย ออกเสยี งวรรณยกุ ตต์ ามพยัญชนะตวั เชน่ พระ พรวน พลอง พลิกแพลง เปน็ ตน้ ภำระงำน/ชน้ิ งำน - สอื่ และแหล่งกำรเรยี นรู้ ๒๕. บตั รปริศนาคาทาย ๒๖. บัตรคาควบกลา พร พล ๒๗. แบบฝกึ ทกั ษะพฒั นาการเขยี นคาควบกลา

กำรวดั ผลและประเมนิ ผล จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ วธิ ีกำรวดั เครื่องมือวัด เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล ตรวจแบบฝึกทักษะ ๑. เขยี นคาควบกลา พร แบบบันทึกคะแนน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ พล ไดถ้ ูกต้อง สังเกตมารยาทใน การตรวจแบบฝึก ขึนไป ๒.เลือกคาควบกลา พร การเขยี น พล ไดถ้ กู ตอ้ ง แบบสงั เกตมารยาทใน ผา่ นเกณฑ์ ไดร้ ะดบั สงั เกตพฤตกิ รรม ๓.นกั เรียนมมี ารยาทใน ดา้ นความมุ่งมนั่ ใน การเขยี น คณุ ภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป การเขยี นคาควบกลา การทางาน พร พล แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ ได้ระดับ ๔.คณุ ลักษณะ ดา้ นความมุ่งมน่ั ใน คณุ ภาพ ๒ (ดี) ขนึ ไป อนั พงึ ประสงค์ การทางาน - มีความมุ่งมนั่ ใน การทางาน

ควำมคดิ เหน็ ของผู้บริหำร ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เร่ือง การเขยี น คาควบกลา พร พล มีความเห็นดงั นี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ครบถ้วน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๒. สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีวัด ( ) สอดคลอ้ งครอบคลุ ม ( ) ไมส่ อดคลอ้ งไมค่ รอบคลุม ๓. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ไดเ้ หมาะสม เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๔. การใชส้ อื่ และนวัตกรรมทีห่ ลากหลายและเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๕. การวัดผลประเมนิ ผลเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงช่อื ............................................ (...................................) ผู้อานวยการโรงเรียน...................................

บนั ทึกผลหลังกำรเรียนรู้ นักเรยี นทงั หมด...........คน จุดประสงค์ข้อ ๑ เขยี นคาควบกลา พร พล ได้ถกู ต้อง ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ จุดประสงค์ข้อ ๒ เลือกคาควบกลา พร พล ไดถ้ ูกต้อง ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ............ จดุ ประสงค์ขอ้ ๓ นักเรยี นมมี ารยาทในการเขียนคาควบกลา พร พล ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นกั เรยี นมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความมุ่งมั่นในการทางาน ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ ปญั หำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแก้ไข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงช่ือ ............................................. (................................... )

แบบบนั ทกึ คะแนนแบบฝกึ ทกั ษะของนักเรยี น กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๓/๓ รำยกำรประเมนิ เลขที่ ชอื่ – สกลุ แบบฝึกทักษะที่ รวม ผลกำรตดั สนิ ๑ ๒๓ ผำ่ น/ไมผ่ ่ำน ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓๐ เกณฑก์ ำรตัดสนิ นกั เรียนตอ้ งผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึนไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)

รำยละเอียดเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนกำรตรวจแบบฝึก ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑ์กำรให้คะแนน แบบฝึกที่ ๒๕ เขยี นคาควบกลา พร พล จากคาอา่ น จานวน ๑๐ ขอ้ แบบฝกึ ที่ ๒๖ -เขยี นคาไดถ้ ูกตอ้ ง ใหค้ ะแนนข้อละ ๑ คะแนน แบบฝกึ ที่ ๒๗ -เขียนคาไมถ่ กู ต้อง ให้คะแนนข้อละ ๐ คะแนน เติมคาควบกลา พร พล ทมี่ คี วามหมายลงในชอ่ งวา่ ง จานวน ๑๐ ขอ้ -เตมิ คาไดถ้ ูกต้อง ใหค้ ะแนนขอ้ ละ ๑ คะแนน -เติมคาไม่ถกู ตอ้ ง ให้คะแนนข้อละ ๐ คะแนน ระบายสีคาคาควบกลา พร พล ในตาราง จานวน ๑๐ คา -เขยี นคาตรงกบั ความหมายไดถ้ กู ตอ้ ง ให้คะแนนคาละ ๑ คะแนน -เขยี นคาตรงกบั ความหมายไมถ่ ูกต้อง ให้คะแนนคาละ ๐ คะแนน

แบบสงั เกตมำรยำทในกำรเขียน กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๓/๓ เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ มำรยำทในกำรเขยี น ผลกำรตดั สิน ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ำ่ น เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเย่ียม ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน เขียนโดยใช้ภาษาท่ี ๓๒ สภุ าพถกู ต้องตามหลกั เขียนโดยใชภ้ าษาท่ี เขียนโดยใช้ภาษาท่ี ภาษาไทย เขียนด้วย สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย สะอาดเป็นระเบียบ ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย เรยี บร้อยเปน็ บางครัง สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ดำ้ นมีควำมมุ่งม่ันในกำรทำงำน กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๓/๓ เลขท่ี ชื่อ – สกลุ รำยกำรสังเกต ผลกำรตดั สิน ควำมมุ่งมน่ั ในกำรทำงำน ผำ่ น/ไมผ่ ่ำน ๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดีเยี่ยม เกณฑ์กำรตดั สิน ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง พอใช้ ไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขึนไปถอื วา่ ผา่ น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook