แผนการสอน คำควบกล้ำ 18 หน่วย

แบบสังเกตมำรยำทในกำรเขยี น ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ ๓ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย เลขท่ี ชอื่ – สกุล มำรยำทในกำรเขียน ผลกำรตดั สนิ ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ่ำน เกณฑก์ ำรประเมนิ คุณภำพ ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดเี ยีย่ ม ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง ดี ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื วา่ ผ่าน

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน ๓๒ เขียนโดยใช้ภาษาท่ี เขียนโดยใชภ้ าษาท่ี เขียนโดยใช้ภาษาท่ี สภุ าพถกู ต้องตามหลกั สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรยี บร้อยเปน็ บางครัง เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสงั เกตคุณลักษณะอนั พึงประสงคด์ ำ้ นใฝเ่ รยี นรู้ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๓/๓ เลขที่ ช่ือ – สกุล รำยกำรสังเกต ผลกำรตัดสนิ ใฝเ่ รยี นรู้ ผ่ำน/ไม่ผำ่ น ๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ คุณภำพ ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดีเยีย่ ม เกณฑ์กำรตัดสิน ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ ได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึนไปถอื ว่าผ่าน

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสงั เกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคข์ องนักเรยี นด้ำนใฝเ่ รียนรู้ ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตรงต่อเวลา ๒ นักเรยี นตรงตอ่ เวลา ตงั ใจเรยี น นกั เรยี นตรงตอ่ เวลา ตงั ใจเรยี น มคี วามพยายาม ตงั ใจเรียน มีความพยายาม ในการเรยี นรู้ ซักถาม มีความพยายาม ในการเรยี นรู้ ซกั ถาม ขอ้ สงสยั ในการเรียน ในการเรยี นรู้ ซักถาม ขอ้ สงสยั ในการเรียน และมีส่วนรว่ ม ขอ้ สงสยั ในการเรียน และมสี ่วนรว่ ม ในการเรยี น และมสี ่วนร่วม ในการเรียน สง่ งานครบตาม ในการเรยี น สง่ งานครบตาม กาหนด เข้ารว่ มและ ส่งงานครบตาม กาหนด เขา้ ร่วมและ ปฏิบัตกิ จิ กรรมใน กาหนด เข้าร่วมและ ปฏิบัตกิ ิจกรรมใน การทากจิ กรรมต่างๆ ปฏิบัติกจิ กรรมใน การทากิจกรรมตา่ งๆ สม่าเสมอ การทากิจกรรมต่างๆ เป็นบางครัง เปน็ สว่ นใหญ่

แบบสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปีที่ ๓ รำยกำรสังเกต ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ส ุรปผล กำรประเมิน เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ ในกำรสอ่ื สำร ในกำรคดิ เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑ์กำรประเมนิ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์กำรตดั สิน ไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขนึ ไปถอื ว่าผา่ น

รำยละเอียดเกณฑก์ ำรสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ความสามารถ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร ถา่ ยทอดความรู้ ๒ ความคดิ และความเข้าใจ ความคิดและความ ถ่ายทอดความรู้ ของตนเองโดยใชภ้ าษา ความสามารถ เข้าใจของตนเองโดย ความคดิ และความ ได้อย่างเหมาะสมเปน็ ในการคิด ใชภ้ าษาได้อยา่ ง เข้าใจของตนเองโดย บางครัง เหมาะสมเปน็ ประจา ใช้ภาษาไดอ้ ย่าง สม่าเสมอ เหมาะสมเปน็ มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน ส่วนใหญ่ การคดิ อย่างมี การคิดอย่างมี มคี วามสามารถใน วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง วจิ ารณญาณ คิดอย่าง การคดิ อยา่ งมี สร้างสรรค์ และ สร้างสรรค์ และ วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง ตดั สินใจแก้ปญั หา ตดั สินใจแกป้ ญั หา สรา้ งสรรค์ และ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเปน็ ตัดสินใจแกป้ ัญหา เปน็ บางครงั ประจาสมา่ เสมอ ได้อยา่ งเหมาะสม เป็นสว่ นใหญ่

ภำคผนวก

เพลง “คำควบกล้ำ ตร ผล” คาควบกลานันหรือ (ซา) (ทานองเพลง นวิ โปง้ อยู่ไหน) ผละ ผลีผลาม ผลุบโผล่ (ซา) มีมากมายๆ (ซา) จง ตรึกตรอง (ซา)

บตั รคำ ตรวจตรา ผลกั ตระกลู ผลผี ลาม เตรียม ไตรต่ รอง แผล ตรากตรา เผลอ โผล่

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๓ ภำคเรยี นที่ ๑ / ..................... หน่วยที่ ๖ กำรเขียนคำควบกล้ำ เวลำเรยี น ๑๘ ช่ัวโมง แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๑๕ กำรเขยี นคำควบไม่แท้ เวลำเรียน ๑ ชว่ั โมง สอนวนั ท่ี .................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตวั ชวี้ ัด สำระที่ ๒ กำรเขยี น มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสอ่ื สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรือ่ งราวใน รปู แบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขียนเรื่องตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มมี ารยาทในการเขยี น สำระท่ี ๔ หลักกำรใช้ภำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ ตวั ชี้วัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๔๘. เขยี นคาอ่านคาควบไมแ่ ท้ไดถ้ ูกต้อง ๔๙.เขียนคาควบไม่แท้ได้ถกู ตอ้ ง ๕๐.นกั เรียนมีมารยาทในการเขียนคาควบไมแ่ ท้ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑๕.นักเรียนมคี วามซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๒๘. ความสามารถในการส่อื สาร

๒๙. ความสามารถในการคดิ สำระสำคญั คาควบไมแ่ ท้ คอื คาทมี่ ีพยัญชนะตน้ ๒ ตวั เรยี งกนั พยัญชนะตัวหลังเป็น ร ประสมสระเดยี วกัน แต่ อ่านออกเสยี งพยญั ชนะตวั หน้าเพียงตัวเดียวหรอื บางตัวออกเสยี งเป็นอย่างอนื่ เชน่ จรงิ ไซร้ ทรพั ย์ พุทรา โศกเศรา้ นนทรี เปน็ ตน้ สำระกำรเรยี นรู้ ๑๔.การเขียนคาอา่ นคาควบไมแ่ ท้ ๑๕.การเขยี นคาควบไม่แท้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ข้ันนำเข้ำสูบ่ ทเรยี น ๑๒. นกั เรียนรว่ มกันร้องเพลง “คาควบไมแ่ ท้” โดยร้องตามครทู ีละวรรคพร้อมกบั ปรบมอื ประกอบจังหวะ ๑ - ๒ รอบ ขน้ั สอน ๓๓. นักเรียนร่วมกันตอบคาถามจากการร้องเพลง “คาควบไมแ่ ท้” ดังนี คาถามที่ ๑ เพลงนีชื่อว่าเพลงอะไร (เพลงคาควบไม่แท้) คาถามท่ี ๒ คาควบไมแ่ ท้ในเนือเพลงเป็นอย่างไร (คา ทร ควบกลา ออกเสยี งเปน็ ซ (บางคาเป็นคาท่ีมี ร ควบกลา แต่ไมอ่ อกเสียง ร) คาถามท่ี ๓ ในเนือเพลงมคี าควบไมแ่ ทก้ คี่ า อะไรบา้ ง ( ๙ คา ได้แกค่ าวา่ ทราม ทราย ทรวดทรง ทราบ ทราม อนิ ทรี เสรมิ สร้าง เศร้า ไซร)้ ๓๔. ครนู าบตั รคาควบไม่แท้ตดิ แสดงบนกระดาน จากนนั ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตามครู ทีละคาไดแ้ กค่ าวา่ จรงิ โศกเศรา้ อาศรม สายสร้อย เสรจ็ พทุ รา ทรดุ โทรม ทรพั ย์สมบัติ ทรวดทรง ทราย ๓๕. แบง่ นกั เรียนออกเปน็ ๗ กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั ศกึ ษาใบความรู้๑ “คาควบไมแ่ ท้” ในแบบฝกึ ทักษะพัฒนาการเขยี นคาควบกลา ๓๖.นกั เรยี นและครูร่วมกนั อธิบายความหมายของคาควบไมแ่ ท้วา่ คือ คาทีอ่ อกเสียงพยญั ชนะ ตวั หน้าเพียงตัวเดียวหรือออกเสียงเปน็ อย่างอืน่ ดงั นี - พยัญชนะตัวหนา้ จ ซ ศ ส ควบกบั ร ออกเสียงพยัญชนะตวั หนา้ โดย ไม่ออกเสยี ง ร กลา

เชน่ ศรทั รา อา่ นวา่ สัด – ทา เสริม อา่ นว่า เสมิ - พยญั ชนะตวั หนา้ ท ควบ ร ออกเสียงเปน็ ซ เช่น ทรดุ อ่านวา่ ซุด ทรง อ่านว่า ซง มทั รี อ่านวา่ มดั – ซี ๓๗. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั ยกตวั อย่างคาควบไมแ่ ท้ทมี่ คี วามหมายในชีวติ ประจาวันกลมุ่ ละ ๑๐ คา โดยเขียนลงในกระดาษทีค่ รแู จกใหแ้ ลว้ ระบายสตี กแต่งให้สวยงาม ๓๘. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั เรียน โดยนาผลงานออกมา แสดงแลว้ อา่ นออกเสยี งพร้อมกัน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและใหค้ าแนะนาอยา่ งใกลช้ ิด ๑๘.นักเรียนทาแบบฝึกทกั ษะที่ ๓๕ โดยเขยี นคาอา่ นคาไมแ่ ท้ จานวน ๑๐ ขอ้ ๑๙. นกั เรยี นทาแบบฝึกทักษะท่ี ๓๖ โดยเตมิ พยญั ชนะลงในช่องวา่ งใหเ้ ป็นคาควบไมแ่ ท้ ที่มีความหมาย จานวน ๑๐ ขอ้ ๒๐. นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๓๗ เขยี นคาควบไม่แทจ้ ากคาอา่ นทกี่ าหนดให้ จานวน ๑๐ ขอ้ ขน้ั สรุป ๑. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้เร่ืองคาควบไม่แทว้ ่า คอื คาที่มพี ยัญชนะต้น ๒ ตัว เรยี งกัน พยญั ชนะตวั หลงั เป็น ร ประสมสระเดียวกนั แต่อา่ นออกเสยี งพยัญชนะตวั หนา้ เพยี งตวั เดียวหรอื บางตัว ออกเสียงเปน็ อย่างอื่น เชน่ จริง ไซร้ ทรพั ย์ พทุ รา โศกเศรา้ นนทรี เป็นตน้ ภำระงำน/ชิ้นงำน - ส่อื และแหล่งกำรเรยี นรู้ ๓๘. เพลงคาควบไม่แท้ ๓๙.บัตรคาควบไม่แท้ ๔๐.แบบฝึกทักษะพฒั นาการเขียนคาควบกลา

กำรวัดผลและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ วธิ กี ำรวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ ๑. เขียนคาอา่ นคาควบ แบบบนั ทกึ คะแนน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ไมแ่ ท้ไดถ้ กู ต้อง สังเกตมารยาทใน การตรวจแบบฝึก ขนึ ไป ๒. เขียนคาควบไมแ่ ท้ การเขยี น ได้ถูกตอ้ ง แบบสงั เกตมารยาทใน ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดับ ๓.นกั เรียนมีมารยาทใน การเขยี นคาควบไมแ่ ท้ การเขียน คุณภาพ ๒ (ด)ี ขนึ ไป ๔.คณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดับ อนั พงึ ประสงค์ - มีความซ่อื สัตย์ สจุ ริต ดา้ นความซือ่ สัตย์ สจุ รติ ด้านความซื่อสตั ย์ สุจรติ คุณภาพ ๒ (ด)ี ขนึ ไป ๕.สมรรถนะสาคัญของ ประเมินสมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดบั ผเู้ รียน คุณภาพ ๒ (ด)ี ขนึ ไป -ความสามารถใน สาคัญของผ้เู รยี น สาคญั ของผเู้ รยี น การสอื่ สาร -ความสามารถในการคิด ด้านความสามารถ ดา้ นความสามารถ ในการส่อื สาร และ ในการสอื่ สาร และ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคิด

ควำมคดิ เห็นของผบู้ รหิ ำร ได้ตรวจแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๕ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เรอ่ื ง การเขยี น คาควบไมแ่ ท้ มีความเห็นดังนี ๑. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นร้คู รบถ้วน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๒. สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชีวดั ( ) สอดคลอ้ งครอบคลุ ม ( ) ไม่สอดคลอ้ งไมค่ รอบคลมุ ๓. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ไดเ้ หมาะสม เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ๔. การใชส้ อื่ และนวัตกรรมทห่ี ลากหลายและเหมาะสม ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๕. การวัดผลประเมนิ ผลเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงชอ่ื ............................................ (....................................) ผู้อานวยการโรงเรียน.................................

บันทึกผลหลงั กำรเรียนรู้ นักเรยี นทังหมด...........คน จดุ ประสงคข์ อ้ ๑ เขียนคาอา่ นคาควบไมแ่ ทไ้ ด้ถกู ต้อง ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ จุดประสงคข์ อ้ ๒ เขียนคาควบไม่แท้ไดถ้ กู ตอ้ ง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ จดุ ประสงคข์ ้อ ๓ นกั เรียนมีมารยาทในการเขียนคาควบไม่แท้ ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรยี นมคี ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ด้านมคี วามซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ............ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ ปญั หำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแก้ไข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงชือ่ ............................................. (..................................... )

แบบบันทึกคะแนนแบบฝกึ ทักษะของนักเรยี น กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ ๓ รำยกำรประเมนิ เลขท่ี ชอ่ื – สกุล แบบฝึกทกั ษะท่ี รวม ผลกำรตัดสนิ ผ่ำน/ไมผ่ ำ่ น ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓๐ เกณฑก์ ำรตัดสิน นกั เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขึนไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรให้คะแนนกำรตรวจแบบฝึก ประเด็นกำรประเมนิ เกณฑก์ ำรให้คะแนน แบบฝึกที่ ๓๕ เขียนคาอา่ นคาควบไมแ่ ท้ จานวน ๑๐ ข้อ แบบฝกึ ที่ ๓๖ -เขียนคาอ่านไดถ้ ูกตอ้ ง ให้คะแนนข้อละ ๑ คะแนน แบบฝกึ ท่ี ๓๗ -เขียนคาอา่ นไม่ถกู ต้อง ใหค้ ะแนนขอ้ ละ ๐ คะแนน เตมิ พยัญชนะให้เป็นคาควบไม่แทท้ มี่ ีความหมาย จานวน ๑๐ ข้อ -เตมิ พยญั ชนะได้ถูกตอ้ ง ใหค้ ะแนนข้อละ ๑ คะแนน -เตมิ พยญั ชนะไม่ถกู ตอ้ ง ให้คะแนนขอ้ ละ ๐ คะแนน เขียนคาควบไมแ่ ท้จากคาอา่ น จานวน ๑๐ ข้อ -เขยี นคาได้ถูกตอ้ ง ใหค้ ะแนนข้อละ ๑ คะแนน -เขยี นคาไมถ่ กู ตอ้ ง ให้คะแนนขอ้ ละ ๐ คะแนน

แบบสังเกตมำรยำทในกำรเขยี น ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ ๓ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย เลขท่ี ชอื่ – สกุล มำรยำทในกำรเขียน ผลกำรตดั สนิ ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ่ำน เกณฑก์ ำรประเมนิ คุณภำพ ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดเี ยีย่ ม ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง ดี ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื วา่ ผ่าน

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน ๓๒ เขียนโดยใช้ภาษาท่ี เขียนโดยใชภ้ าษาท่ี เขียนโดยใช้ภาษาท่ี สภุ าพถกู ต้องตามหลกั สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรยี บร้อยเปน็ บางครัง เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคด์ ำ้ นควำมซ่อื สตั ย์ สุจริต กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๓ เลขที่ ช่อื – สกุล รำยกำรสังเกต ผลกำรตัดสนิ ควำมซือ่ สตั ย์ สุจรติ ผำ่ น/ไม่ผำ่ น ๓๒๑ เกณฑก์ ำรประเมนิ คณุ ภำพ ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดีเยย่ี ม เกณฑ์กำรตดั สนิ ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ ไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขึนไปถอื วา่ ผา่ น

รำยละเอยี ดเกณฑก์ ำรสงั เกตคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องนกั เรยี นดำ้ นมวี นิ ัย ประเดน็ กำรประเมนิ ๓ ระดบั คณุ ภำพ ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ ปฏิบัตติ นตอ่ ตนเอง และผู้อน่ื ทงั ทางกาย ๒๑ วาจา ใจ ด้วยความ ปฏิบตั ิตนตอ่ ตนเอง ปฏบิ ตั ิตนต่อตนเอง ซ่ือตรงอย่เู สมอ และผู้อนื่ ทังทางกาย และผู้อ่นื ทังทางกาย วาจา ใจ ด้วยความ วาจา ใจ ดว้ ยความ ซอ่ื ตรง เป็นส่วนใหญ่ ซอื่ ตรงเป็นบางครงั

แบบสังเกตสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๓ รำยกำรสังเกต ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ส ุรปผล กำรประเมิน เลขที่ ชอื่ – สกลุ ในกำรสอื่ สำร ในกำรคดิ เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์กำรตัดสนิ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขนึ ไปถอื วา่ ผ่าน

รำยละเอยี ดเกณฑก์ ำรสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ความสามารถ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร ถ่ายทอดความรู้ ๒ ความคดิ และความเข้าใจ ความคิดและความ ถ่ายทอดความรู้ ของตนเองโดยใชภ้ าษา ความสามารถ เขา้ ใจของตนเองโดย ความคดิ และความ ได้อย่างเหมาะสมเปน็ ในการคิด ใช้ภาษาได้อยา่ ง เข้าใจของตนเองโดย บางครัง เหมาะสมเปน็ ประจา ใช้ภาษาไดอ้ ย่าง สมา่ เสมอ เหมาะสมเปน็ มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน ส่วนใหญ่ การคดิ อย่างมี การคิดอยา่ งมี มคี วามสามารถใน วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง วิจารณญาณ คิดอย่าง การคดิ อยา่ งมี สร้างสรรค์ และ สรา้ งสรรค์ และ วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง ตดั สินใจแกป้ ญั หา ตัดสินใจแกป้ ญั หา สรา้ งสรรค์ และ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเปน็ ตัดสินใจแกป้ ัญหา เปน็ บางครงั ประจาสมา่ เสมอ ได้อยา่ งเหมาะสม เป็นสว่ นใหญ่

ภำคผนวก

เพลง “คำควบไมแ่ ท้” คารอ้ ง : รศ.ปิตนิ นั ธ์ สทุ ธสาร ทานอง : แรง้ กระพือปกี พวกเรารู้ไหม คาใดควบไมแ่ ทเ้ อย โอแ้ มท่ รามเชย ทราย ทรวดทรง ทราบ ทราม อนิ ทรี คาเหล่านี ออกเสยี งเหมอื น ซ แต่ ท ร ควบกันทันใด แลว้ ทาไมใชเ้ สยี งตวั ซ นอดทงิ นองนอย ชะ นอดทิงนองนอย แตน่ ่าแปลกใจ เสรมิ สรา้ ง เศร้า ไซร้ ไม่ออกเสยี ง ร นี่แหละหนอคาควบของไทย เรว็ เรว็ ไว ไว คิดดดู ีดี นอดทงิ นองนอย ชะ นอดทิงนองนอย

บัตรคำ จริง อำศรม เสร็จ พทุ รำ โศกเศรำ้ สำยสรอ้ ย ทรุดโทรม ทรัพย์ ทรวดทรง ทรำย

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๓ ภำคเรยี นที่ ๑ / ...................... หน่วยท่ี ๖ กำรเขียนคำควบกลำ้ เวลำเรยี น ๑๘ ชั่วโมง แผนกำรจดั กำรเรียนร้ทู ่ี ๑๖ กำรเขียนคำควบไม่แท้ เวลำเรยี น ๑ ชว่ั โมง สอนวนั ท่ี ................................. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตัวช้วี ัด สำระที่ ๒ กำรเขยี น มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสอื่ สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่อื งราวใน รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตัวชว้ี ดั ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขยี นเร่ืองตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขียน สำระที่ ๔ หลักกำรใช้ภำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ตัวชว้ี ัด ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๕๑.เขียนคาควบไมแ่ ทไ้ ดถ้ กู ต้อง ๕๒. บอกความหมายคาควบไม่แท้ได้ถูกตอ้ ง ๕๓. เตมิ คาในประโยคไดถ้ ูกต้อง ๕๔. นกั เรยี นมีมารยาทในการเขียนคาควบไม่แท้ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑๖. นักเรยี นมคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๓๐.ความสามารถในการสื่อสาร ๓๑.ความสามารถในการคิด สำระสำคญั คาควบไมแ่ ท้ คอื คาทม่ี พี ยัญชนะต้น ๒ ตัวเรียงกัน พยญั ชนะตวั หลงั เปน็ ร ประสมสระเดียวกัน แต่ อา่ นออกเสียงพยัญชนะตัวหน้าเพียงตัวเดียวหรือบางตวั ออกเสยี งเป็นอยา่ งอนื่ เช่น จรงิ ไซร้ ทรพั ย์ พทุ รา โศกเศรา้ นนทรี เป็นตน้ สำระกำรเรยี นรู้ ๑๖. การเขยี นคาควบไมแ่ ท้ ๑๗.ความหมายของคาควบไม่แท้ ๑๘.การเตมิ คาในประโยค กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ข้นั นำเข้ำสู่บทเรยี น ๓๙.นักเรียนรว่ มกนั ตอบคาถามดงั ต่อไปนี คาถามที่ ๑ คาทตี่ รงข้ามกบั คาวา่ เท็จ คือคาใด (จรงิ ) คาถามที่ ๒ คนท่ีมีความทกุ ข์ จะทาหนา้ อย่างไร (เศรา้ ) คาถามที่ ๓ เคร่ืองประดับบรเิ วณคอ เรยี กวา่ อะไร (สร้อย) คาถามที่ ๔ คาสภุ าพของคาวา่ รู้ คืออะไร (ทราบ) คาถามท่ี ๕ จะเปน็ ช่อื นกกใ็ ช่ จะเปน็ ชือ่ ปลากใ็ ช่ คานันคืออะไร (อนิ ทรี) ข้นั สอน ๑. นักเรยี นร่วมกันทบทวนความรู้เรื่องคาควบไม่แท้ว่าคือ คาท่ีมีพยัญชนะต้น ๒ ตัวเรียงกัน พยญั ชนะตัวหลงั เปน็ ร ประสมสระเดยี วกัน แตอ่ า่ นออกเสยี งพยญั ชนะตวั หนา้ เพียงตวั เดยี วหรือบางตัวออกเสียง เปน็ อยา่ งอื่น เชน่ จริง ไซร้ ทรัพย์ พุทรา โศกเศรา้ นนทรี เปน็ ต้น ๒. นกั เรียนจบั คกู่ ันยกตวั อยา่ งคาควบไมแ่ ท้ คู่ละ ๑ คา โดยเขียนในกระดาษท่คี รู แจกให้ ระบายสตี กแต่งผลงานให้สวยงาม จากนนั ให้นักเรียนแต่ละคูน่ าบตั รคาออกมาตดิ บนกระดานแลว้ อ่านออก เสยี งให้เพ่ือนฟัง ครตู รวจสอบความถูกต้องและให้คาแนะนาอย่างใกล้ชดิ ๓. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาถงึ ความหมายของคาควบไมแ่ ทจ้ ากบัตรคา ได้แก่คาว่า ทราย เสรจ็ จรงิ โศกเศรา้ อาศรม ดังนี

ทราย วัตถุที่เปน็ เศษหนิ ขนาดเลก็ มีลักษณะซุยรว่ นไมเ่ กาะกัน เสรจ็ จบ สนิ จริง แน่ แท้ ไมป่ ลอม โศกเศรา้ มีความทุกขโ์ ศกเสียใจอาลยั อาวรณ์มาก อาศรม ท่ีอยู่ของนักพรต ๔. นกั เรยี นทาแบบฝึกทกั ษะที่ ๓๘ โดยนาคาควบไม่แทท้ ีก่ าหนดให้เตมิ ลงในช่องวา่ งใหต้ รง กับความหมาย จานวน ๑๐ ข้อ ๕. นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๓๙ โดยวงกลมลอ้ มรอบคาควบไม่แทใ้ นตาราง แลว้ นาไป เขียน ลงในชอ่ งว่าง จานวน ๑๐ คา ๖. นักเรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๔๐ เลือกคาควบไมแ่ ท้ท่ีกาหนดให้เตมิ ลงในชอ่ งวา่ งใน ประโยค จานวน ๒ ตอน ตอนละ ๕ ข้อ ๕ คะแนน รวมคะแนน ๑๐ คะแนน ขัน้ สรปุ ๒. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปความรู้เรื่องคาควบไมแ่ ทว้ ่า และความหมายของคาควบไมแ่ ท้ ในชีวติ ประจาวัน ภำระงำน/ชน้ิ งำน - สอ่ื และแหลง่ กำรเรยี นรู้ ๔๑.บัตรคาควบไมแ่ ท้ ๔๒. แบบฝึกทักษะพัฒนาการเขียนคาควบกลา

กำรวดั ผลและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ วธิ ีกำรวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์กำรประเมนิ ผล ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑. เขียนคาควบไม่แท้ ๑.ตรวจแบบฝึกทักษะ ๑.แบบบันทึกคะแนน ขึนไป ไดถ้ ูกตอ้ ง การตรวจแบบฝกึ ๒. บอกความหมายคา ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดับ ควบไมแ่ ทไ้ ดถ้ กู ต้อง สงั เกตมารยาทใน แบบสงั เกตมารยาทใน คณุ ภาพ ๒ (ดี) ขนึ ไป ๓.เติมคาในประโยค การเขียน การเขยี น ผ่านเกณฑ์ ได้ระดับ ได้ถกู ตอ้ ง คณุ ภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ๔.นกั เรยี นมีมารยาทใน ด้านความมุ่งมน่ั ใน ด้านความมงุ่ มนั่ ใน ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดบั การเขยี นคาควบไม่แท้ การทางาน การทางาน คุณภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป ๕.คุณลกั ษณะ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ อันพึงประสงค์ - มีความมงุ่ มนั่ ใน สาคัญของผเู้ รยี น สาคัญของผูเ้ รยี น การทางาน ๖.สมรรถนะสาคญั ของ ด้านความสามารถ ดา้ นความสามารถ ผู้เรียน -ความสามารถใน ในการส่ือสาร และ ในการส่ือสาร และ การสื่อสาร -ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการคดิ

ควำมคดิ เห็นของผ้บู ริหำร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เร่ือง การเขียน คาควบไมแ่ ท้ มคี วามเห็นดังนี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรูค้ รบถ้วน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๒. สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี ดั ( ) สอดคล้องครอบคลุ ม ( ) ไม่สอดคล้องไม่ครอบคลมุ ๓. การจัดกจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้เหมาะสม เนน้ ผ้เู รียนเป็นสาคญั ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๔. การใชส้ ื่อและนวัตกรรมทห่ี ลากหลายและเหมาะสม ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๕. การวดั ผลประเมินผลเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................ (.....................................) ผู้อานวยการโรงเรียน..........................

บนั ทกึ ผลหลังกำรเรียนรู้ นักเรยี นทังหมด...........คน จดุ ประสงค์ข้อ ๑ เขยี นคาอา่ นคาควบไม่แทไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ จดุ ประสงคข์ อ้ ๒ บอกความหมายคาควบไม่แทไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ จดุ ประสงค์ข้อ ๓ เตมิ คาในประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเป็นร้อยละ ............ จุดประสงคข์ อ้ ๓ นักเรียนมมี ารยาทในการเขียนคาควบไมแ่ ท้ ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรยี นมีคุณลักษณะอนั พึงประสงคด์ า้ นมคี วามมงุ่ ม่ันในการทางาน ผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ ปญั หำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงช่ือ ............................................. (....................................... )

แบบบันทึกคะแนนแบบฝกึ ทักษะของนักเรยี น กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ ๓ รำยกำรประเมนิ เลขท่ี ชอ่ื – สกุล แบบฝึกทกั ษะท่ี รวม ผลกำรตัดสนิ ผ่ำน/ไมผ่ ำ่ น ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๓๐ เกณฑก์ ำรตัดสิน นกั เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขึนไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)

รำยละเอียดเกณฑ์กำรให้คะแนนกำรตรวจแบบฝึก ประเดน็ กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน แบบฝกึ ท่ี ๓๘ เขียนคาควบไมแ่ ท้ให้ตรงกับความหมาย จานวน ๑๐ ข้อ แบบฝกึ ท่ี ๓๙ -เขียนคาได้ถกู ตอ้ ง ใหค้ ะแนนข้อละ ๑ คะแนน แบบฝกึ ท่ี ๔๐ -เขยี นคาไมถ่ ูกต้อง ใหค้ ะแนนขอ้ ละ ๐ คะแนน วงกลมล้อมคาควบไมแ่ ท้แลว้ นาไปเขยี นในชอ่ งวา่ ง จานวน ๑๐ ข้อ -วงกลมคาและนาไปเขียนไดถ้ กู ตอ้ ง ให้คะแนนข้อละ ๑ คะแนน -วงกลมคาและนาไปเขยี นไมถ่ กู ตอ้ ง ใหค้ ะแนนข้อละ ๐ คะแนน เติมคาควบไมแ่ ทใ้ นประโยค จานวน ๑๐ ขอ้ -เติมคาไดถ้ กู ต้อง ให้คะแนนขอ้ ละ ๑ คะแนน -เติมคาไม่ถูกตอ้ ง ให้คะแนนข้อละ ๐ คะแนน

แบบสังเกตมำรยำทในกำรเขยี น ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ ๓ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย เลขท่ี ชอื่ – สกุล มำรยำทในกำรเขียน ผลกำรตดั สนิ ๓ ๒ ๑ ผำ่ น/ไมผ่ ่ำน เกณฑก์ ำรประเมนิ คุณภำพ ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดเี ยีย่ ม ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง ดี ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง พอใช้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึนไปถอื วา่ ผ่าน

รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรสังเกตมำรยำทในกำรเขยี นของนักเรยี น ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ ๑ มารยาทในการเขียน ๓๒ เขียนโดยใช้ภาษาท่ี เขียนโดยใชภ้ าษาท่ี เขียนโดยใช้ภาษาท่ี สภุ าพถกู ต้องตามหลกั สภุ าพถูกตอ้ งตามหลกั สุภาพถกู ต้องตามหลกั ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ภาษาไทย เขียนด้วย ลายมอื ทอ่ี า่ นงา่ ย ลายมอื ทอ่ี า่ นง่าย ลายมือทอ่ี ่านง่าย สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ สะอาดเป็นระเบียบ เรยี บร้อยเปน็ บางครัง เรียบรอ้ ยเปน็ ประจา เรยี บรอ้ ยเปน็ ส่วนใหญ่ สม่าเสมอ

แบบสังเกตคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ดำ้ นควำมม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ ๓ เลขท่ี ชอื่ – สกลุ รำยกำรสังเกต ผลกำรตัดสนิ ควำมมงุ่ มน่ั ในกำรทำงำน ผ่ำน/ไมผ่ ำ่ น ๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ คุณภำพ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดีเยยี่ ม ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ ดี ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ พอใช้ เกณฑก์ ำรตัดสิน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขนึ ไปถอื วา่ ผา่ น

รำยละเอียดเกณฑ์กำรสังเกตคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องนกั เรยี นด้ำนควำมมุ่งม่นั ในกำรทำงำน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ความมุ่งมั่นใน มคี วามรบั ผิดชอบต่อ ๒๑ การทางาน งานที่ได้รับมอบหมาย มคี วามรับผิดชอบดี ไมค่ อ่ ยมคี วาม ดมี าก ทาผลงาน คัดลอกผลงานของ รบั ผิดชอบ ไดด้ ้วยตนเอง สง่ งาน ผ้อู ื่น เปน็ บางครงั คัดลอกผลงานของ ได้ตรงตามเวลา ส่งงานได้ตรงตามเวลา ผู้อ่ืน สง่ งานลา่ ชา้ ทีก่ าหนด ทกี่ าหนด

แบบสังเกตสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๓ รำยกำรสังเกต ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ส ุรปผล กำรประเมิน เลขที่ ชอื่ – สกลุ ในกำรสอื่ สำร ในกำรคดิ เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑก์ ำรตัดสนิ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขนึ ไปถอื วา่ ผ่าน

รำยละเอยี ดเกณฑก์ ำรสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ประเด็นกำรประเมนิ ๓ ระดับคณุ ภำพ ๑ ความสามารถ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร ถา่ ยทอดความรู้ ๒ ความคดิ และความเข้าใจ ความคิดและความ ถ่ายทอดความรู้ ของตนเองโดยใชภ้ าษา ความสามารถ เข้าใจของตนเองโดย ความคดิ และความ ได้อย่างเหมาะสมเปน็ ในการคิด ใช้ภาษาได้อยา่ ง เข้าใจของตนเองโดย บางครัง เหมาะสมเปน็ ประจา ใช้ภาษาไดอ้ ย่าง สม่าเสมอ เหมาะสมเปน็ มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน ส่วนใหญ่ การคดิ อย่างมี การคิดอยา่ งมี มคี วามสามารถใน วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง วจิ ารณญาณ คิดอย่าง การคดิ อยา่ งมี สร้างสรรค์ และ สรา้ งสรรค์ และ วจิ ารณญาณ คดิ อย่าง ตดั สินใจแกป้ ญั หา ตดั สินใจแกป้ ญั หา สรา้ งสรรค์ และ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเปน็ ตัดสินใจแกป้ ัญหา เปน็ บางครงั ประจาสม่าเสมอ ได้อยา่ งเหมาะสม เป็นสว่ นใหญ่

ภำคผนวก

บัตรคำ ทรำย เสร็จ จริง โศกเศรำ้ อำศรม

แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๓ ภำคเรยี นที่ ๑ / ......................... หนว่ ยที่ ๖ กำรเขยี นคำควบกลำ้ เวลำเรยี น ๑๘ ชวั่ โมง แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ี่ ๑๗ กำรเขียนคำควบไม่แท้ เวลำเรยี น ๑ ชั่วโมง สอนวนั ที่ .............................................. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สำระท่ี ๒ กำรเขยี น มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรือ่ งราวใน รปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ตวั ชีว้ ดั ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขยี นเร่อื งตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขียน สำระที่ ๔ หลักกำรใชภ้ ำษำไทย มำตรฐำน ท๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ตวั ชว้ี ดั ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๕๕. แต่งประโยคจากคาควบไมแ่ ทไ้ ด้ถกู ตอ้ ง ๕๖.เขียนเร่ืองราวตามจนิ ตนาการจากคาควบไม่แท้ ได้ ๕๗. นักเรียนมีมารยาทในการเขยี นคาควบไม่แท้ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑๗.นกั เรยี นใฝ่เรียนรู้

สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ๓๒. ความสามารถในการส่อื สาร ๓๓. ความสามารถในการคดิ สำระสำคญั คาควบไม่แท้ คอื คาทม่ี พี ยญั ชนะต้น ๒ ตวั เรียงกนั พยญั ชนะตวั หลังเป็น ร ประสมสระเดียวกัน แต่ อ่านออกเสียงพยัญชนะตวั หน้าเพียงตวั เดียวหรอื บางตวั ออกเสียงเปน็ อยา่ งอืน่ เชน่ จรงิ ไซร้ ทรัพย์ พุทรา โศกเศรา้ นนทรี เปน็ ต้น ประโยค คอื คาหรอื กล่มุ คาทเี่ รียงตอ่ กันแลว้ ไดใ้ จความสมบรู ณ์วา่ ใคร ทาอะไร ประกอบด้วยภาค ประธานและภาคแสดง การเรยี นร้แู ละสามารถแตง่ ประโยคใหไ้ ด้เนือหาใจความสมบูรณส์ อดคล้องสมั พนั ธ์กนั จะ ทาให้นกั เรียนมีทักษะในการเรียนภาษาไทยดีขึน สำระกำรเรยี นรู้ ๙. การแต่งประโยคจากคาไม่แท้ ๒. การเขียนเร่ืองราวตามจนิ ตนาการจากคาควบไม่แท้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ขน้ั นำเข้ำส่บู ทเรียน ๒. นกั เรียนเล่นเกมปรศิ นาคาทาย โดยตอบคาถามของครตู ่อไปนี ฉนั เป็นต้นไมส้ งู ใหญ่ กงิ่ ก้านใบแนน่ หนา มีรากไหลย้อยหอ้ ยมา เหลา่ นกกาชอบอาศยั ฉนั คือ..................................(ต้นไทร) ฉันเปน็ อวยั วะ มีสระอะลงทา้ ย อยูส่ ูงสดุ ของรา่ งกาย ลองทายดูสองพยางค์ ฉนั คือ..................................(ศรี ษะ) ฉันเป็นนกผู้ยิ่งใหญ่ โฉบบินได้งามสง่า คนว่าฉันคอื พญา เป็นเจ้าเวหาอยู่เดียว ฉันคอื ..................................(อนิ ทร)ี ฉันเป็นเครื่องประดบั ใครได้รบั ถูกใจย่ิง สวมไดเ้ หมาะทังชายหญงิ ดูงามจรงิ อย่ตู รงคอ ฉนั คอื ..................................(สรอ้ ย

ข้ันสอน ๘. นกั เรียนครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความหมายของคาควบไมแ่ ท้จากบตั รคา ดังนี จริง หมายถึง แน่ แท้ ไม่ปลอม โศกเศร้า หมายถึง มีความทุกขโ์ ศกเสียใจอาลยั อาวรณม์ าก อาศรม หมายถงึ ทีอ่ ยู่ของนกั พรต สายสรอ้ ย หมายถงึ เคร่ืองประดบั ท่ที าเป็นเสน้ เสร็จ หมายถึง จบ สิน พุทรา หมายถึง ชือ่ ไม้ตน้ ชนดิ หนึ่ง ก่งิ มหี นาม ผลมีทงั กลมและรี ทรดุ โทรม หมายถึง เสื่อมไปเพราะรว่ งโรย คร่าครา่ หรือตรากตรา เกินไป ทรัพยส์ มบตั ิ หมายถึง ทรัพย์สินทอ่ี ยใู่ นครอบครองอันอาจใชส้ อย แจกจา่ ยได้ ทรวดทรง หมายถึง รปู ร่าง สัณฐาน ทราย หมายถึง วัตถุท่เี ป็นเศษหนิ ขนาดเลก็ มลี กั ษณะซุยรว่ นไม่ เกาะกัน ๙. นกั เรยี นและครูร่วมกันทบทวนความรูเ้ กยี่ วกับการแต่งประโยคใหถ้ กู ตอ้ งตามหลักภาษาว่า ประโยค หมายถงึ คาหลายๆคา หรือวลีทนี่ ามาเรยี งต่อกันอย่างเป็นระเบยี บให้แต่ละคามีความสมั พนั ธ์กัน มี ใจความสมบูรณ์ แสดงให้รู้ว่า ใคร ทาอะไร ที่ไหน อยา่ งไร ๑๐. แบง่ นักเรียนออกเป็น ๗ กลมุ่ ชว่ ยกันแตง่ ประโยคจากคาควบไม่แท้ กลมุ่ ละ ๕ ประโยค โดยเขยี นในกระดาษท่ีครูแจกให้ ระบายสตี กแต่งผลงานใหส้ วยงาม ๑๑. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นาผลงานออกมานาเสนอหนา้ ชนั เรยี น ครูตรวจสอบและใหค้ าแนะนา อย่างใกล้ชิด ๑๒. นักเรียนอา่ นเรือ่ งสันหรรษา “ทะเลแสนงาม” จากนันร่วมกันบอกตอบคาถาม ดังนี - เรื่องนีช่อื เรือ่ งอะไร (ทะเลแสนงาม) - เรื่องนมี ใี ครบา้ ง (พอ่ แม่ สมศรี สีดา สร้อยฟ้า ) - เหตกุ ารณ์ในเร่อื งนีเกิดขึนท่ไี หน (ชายทะเล) - ในเร่ืองนมี คี าควบไม่แท้หรอื ไม่ จงยกตวั อย่าง (มี เชน่ ฉะเชิงเทรา สมศรี สร้อยฟา้ พุทรา ทรัพย์สิน ทราย) ๑๓.นกั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะท่ี ๔๑ โดยแต่งประโยคจากคาควบไม่แท้ จานวน ๑๐ ขอ้ ๑๔.นกั เรียนทาแบบฝกึ ทักษะที่ ๔๒ โดยเขียนคาควบไม่แทท้ ชี่ น่ื ชอบ จานวน ๕ คา

แล้วนามาแตง่ เปน็ เรอ่ื งราวสนั ๆตามจินตนาการ ขัน้ สรปุ ๖. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้เกยี่ วกบั คาควบไม่แท้ และการแตง่ ประโยคที่ ถูกต้องตามหลกั ภาษา พร้อมกบั ยกตัวอยา่ งประโยคท่มี ีคาควบไม่แท้ในชวี ิตประจาวัน ๕. มอบหมายภาระงานโดยใหน้ กั เรยี นคน้ คว้าหาคาควบไมแ่ ท้ ทีม่ ีความหมายใน ชวี ิตประจาวนั แลว้ จัดทาเปน็ โมบายคาควบไมแ่ ท้ พร้อมทังตกแตง่ ใหส้ วยงาม ภำระงำน/ช้ินงำน โมบายคาควบไม่แท้ สื่อและแหลง่ กำรเรยี นรู้ ๔๓. บัตรคาควบไมแ่ ท้ ๔๔. แบบฝึกทักษะพัฒนาการเขียนคาควบกลา

กำรวัดผลและประเมินผล จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ วิธีกำรวดั เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล ๑.ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ ๑.แบบบันทกึ คะแนน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑.แตง่ ประโยคจาก การตรวจแบบฝกึ ขึนไป คาควบไม่แทไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง สังเกตมารยาทใน ๒. เขียนเรือ่ งราวตาม การเขยี น แบบสังเกตมารยาทใน ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดับ จนิ ตนาการจากคา การเขยี น คุณภาพ ๒ (ด)ี ขึนไป ควบไมแ่ ทไ้ ด้ ๓.นกั เรยี นมมี ารยาทใน การเขยี นคาควบไม่แท้ ๔.คุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดบั อนั พงึ ประสงค์ ด้านใฝเ่ รียนรู้ ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ คุณภาพ ๒ (ดี) ขนึ ไป - ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.สมรรถนะสาคญั ของ ประเมินสมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นเกณฑ์ ได้ระดบั ผ้เู รียน คณุ ภาพ ๒ (ดี) ขนึ ไป -ความสามารถใน สาคัญของผเู้ รียน สาคญั ของผเู้ รียน การสอื่ สาร -ความสามารถในการคดิ ด้านความสามารถ ดา้ นความสามารถ ในการสอื่ สาร และ ในการสือ่ สาร และ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคดิ

ควำมคิดเห็นของผบู้ ริหำร ไดต้ รวจแผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑๗ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เรื่อง คาควบไม่แท้ มคี วามเห็นดงั นี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ครบถ้วน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๒. สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีวดั ( ) สอดคล้องครอบคลุ ม ( ) ไม่สอดคล้องไม่ครอบคลุม ๓. การจดั กิจกรรมการเรียนรูไ้ ดเ้ หมาะสม เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๔. การใชส้ ื่อและนวตั กรรมทห่ี ลากหลายและเหมาะสม ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง ๕. การวัดผลประเมนิ ผลเหมาะสม ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................ (........................) ผู้อานวยการโรงเรียน.............................

บนั ทกึ ผลหลงั กำรเรยี นรู้ นกั เรียนทังหมด...........คน จดุ ประสงคข์ ้อ ๑ แต่งประโยคจากคาควบไมแ่ ท้ได้ถูกตอ้ ง ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ ไมผ่ า่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เป็นร้อยละ ............ จุดประสงค์ขอ้ ๓ เขียนเร่อื งราวตามจินตนาการจากคาควบไมแ่ ทไ้ ด้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ............ ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ จานวน.............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ............ จดุ ประสงค์ขอ้ ๔ นกั เรียนมมี ารยาทในการอ่านและการเขยี นคาควบไม่แท้ ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ นกั เรยี นมคี ณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคด์ ้านใฝ่เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ๒ ขนึ ไป จานวน.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............ ไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึนไป จานวน.............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............ ปัญหำและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแก้ไข .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงชอื่ ............................................. (.................................. )

แบบบันทึกคะแนนแบบฝึกทักษะของนกั เรยี น กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี ๓ เลขท่ี ชอื่ – สกลุ รำยกำรประเมนิ แบบฝกึ ทักษะที่ รวม ผลกำรตดั สิน ผำ่ น/ไมผ่ ่ำน ๑๐ ๑๐ ๒๐ เกณฑ์กำรตัดสนิ นักเรยี นต้องผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขนึ ไป (คะแนน ๒๔ คะแนนขนึ ไป)