Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชาฟิสิกส์-ม.4-ภาคเรียนที่-1

แผนการสอนวิชาฟิสิกส์-ม.4-ภาคเรียนที่-1

Published by อัมรา ใจตื๊บ, 2022-09-07 09:17:24

Description: แผนการสอนวิชาฟิสิกส์-ม.4-ภาคเรียนที่-1

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 151 ชัว่ โมงที่ 2 ข้นั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ แตล่ ะร่วมกันสืบค้นข้อมูลเก่ยี วกบั สมการท่ีใชใ้ นการคำนวณการเคลอ่ื นท่ีใน แนวตรงด้วยความเรง่ คงตัว จากหนงั สอื เรยี น โดยถามนกั เรียนวา่ จากกราฟ เราสามารถหาสมการของ ระยะทางของการเคลือ่ นท่ดี ว้ ยความเร่งคงตวั ได้อยา่ งไร 2. สมาชิกทกุ คนในกลุม่ ช่วยกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นคำตอบทไ่ี ด้ 3. ครอู ธบิ ายใหค้ วามรเู้ กยี่ วกับสมการทใ่ี ชใ้ นการคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ของการเคล่ือนทีใ่ นแนวตรงของ วัตถุท่มี คี วามเร่งคงตวั ดงั นี้ เม่ือวัตถุมกี ารเคล่ือนท่ีในแนวตรงโดยใหม้ คี วามเร่ง a คงตวั ท่ีเวลาเร่มิ ตน้ t = 0 มีความเรว็ ตน้ u และ เมอื่ เวลาผา่ นไป t ใหว้ ตั ถนุ ั้นมีความเร็วปลายเป็น v ถ้าเขียนกราฟระหวา่ งความเรว็ และทใ่ี ช้ จะไดก้ ราฟ จากความเรง่ a = ∆v = v−u (A) ∆t t ดงั นนั้ v = u + at ครอู ธบิ ายต่อวา่ จากสมการ (A) นกั เรียนจะเห็นได้วา่ เราสามารถหาค่าความเรว็ ของวตั ถุท่เี วลาใด ๆ กไ็ ด้ ถ้าหากวา่ รคู้ า่ ความเรว็ เรมิ่ ต้นและร้คู วามเรง่ การเปล่ียนแปลงความเร็วจะเพ่ิมขนึ้ อยา่ งเชิงเส้นตามเวลา เพราะ ความเร่งของการเคลือ่ นที่มคี ่าคงตวั ดังกราฟ ทำให้ได้วา่ ความเร็วเฉลย่ี ในช่วงเวลาใด ๆ จะเท่ากับค่าเฉลี่ยของ ความเรว็ ของสองจดุ นนั้ ๆ ให้ ������ เปน็ การกระจัดของวัตถุ จากนิยามของความเรว็ เฉลยี่ และใชค้ วามสมั พนั ธใ์ นสมการ (A) ทำให้ได้สมการของการกระจัดในอีก รปู แบบหนึ่ง ดังน้ี s = (u+v) t (B) 2 4. ครูใหน้ กั เรียนลองแทนคา่ t จากสมการ (A) ในสมการ (B) จะไดอ้ ีกรูปแบบหนงึ่ ของความสมั พันธ์ ระหว่างการกระจัด ความเร็ว และความเร่ง ดังน้ี s = ut + 1 at2 (c) 2 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 152 และยงั สามารถแสดงความสัมพันธ์ระหวา่ งความเรว็ ปลายกับความเร่ง และการกระจดั โดยที่ไม่มตี วั แปรของเวลาเข้ามาปรากฎในสมการ ดงั นี้ v2 = u2 + 2as (D) 5. ครูและนกั เรยี นแตล่ ะรว่ มกันอภิปรายสรุปได้วา่ สมการการเคล่ือนท่ดี ว้ ยความเร่งคงตัวทไ่ี ดจ้ ะใช้ใน การวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาสำหรับการเคลอ่ื นทีข่ องวัตถุใด ๆ ได้ ดงั ตาราง สมการของการเคลื่อนที่ของวัตถใุ นแนว ตรงภายใต้ความเรง่ คงตัว สมการ ข้อมลู ทไ่ี ด้จากสมการ v = u + at ความเรว็ ทเ่ี ปน็ ฟงั ก์ชันของเวลา u+v การกระจดั ทีเ่ ปน็ ฟงั กช์ นั ของความเร็ว s = ( 2 )t 1 การกระจดั ทีเ่ ปน็ ฟังกช์ ันของเวลา ∆x = ut + 2 at2 ความเร็วท่ีเปน็ ฟังก์ชนั ของการกระจดั v2 = u2 + 2as ช่ัวโมงที่ 3 ข้นั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาโจทย์ตัวอย่างของวิธีการคำนวณจากสมการการเคล่ือนที่กรณีความเร่งคง ตวั จากตวั อยา่ ง ในหนงั สือเรยี น โดยครอู ธิบายเสริมเพอื่ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจมากขึน้ 2. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาตวั อยา่ งในหนังสอื เรียน ตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา ดงั นี้ • ข้นั ที่ 1 ครใู ห้นักเรียนทุกคนทำความเขา้ ใจโจทย์ตัวอยา่ ง • ข้นั ท่ี 2 ครูถามนักเรียนวา่ สงิ่ ทโ่ี จทย์ตอ้ งการถามหาคืออะไร สิ่งทโ่ี จทย์กำหนดให้คืออะไร และ จะหาสิง่ ท่โี จทย์ต้องการ ตอ้ งใชส้ มการใด • ขั้นที่ 3 ครใู ห้นักเรยี นดูวิธที ำในการคำนวณหาคำตอบ • ข้นั ท่ี 4 ตรวจสอบคำตอบของโจทย์ตัวอยา่ งว่าถกู ตอ้ ง หรือไม่ 3. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการคำนวณจากสมการการเคลื่อนที่กรณีความเร่งคงตัว เพอื่ ให้นักเรยี นสรุปสาระสำคัญลงในสมุดจดบันทกึ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปีที่ 4 153 ข้นั สรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเนื้อหาเรื่อง การเคลอ่ื นที่ของวตั ถกุ รณีความเร่งคงตัว วา่ มีสว่ นไหนท่ี ยังไมเ่ ข้าใจและให้ความรู้เพ่ิมเตมิ ในส่วนนน้ั 2. ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกันทำแบบฝกึ หดั ที่ 1 เรือ่ ง การเคลื่อนทีด่ ้วยความเร่งคงตวั 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนทำแผนผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) และทำแบบฝึกหัดใน หนงั สอื เรียน เร่อื ง การเคลอื่ นที่ของวตั ถุกรณีความเร่งคงตัว เปน็ การบ้าน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การรว่ มกันทำผลงาน และจากการนำเสนอผลงาน 2. ครูตรวจสอบผลจากแบบฝกึ หดั ที่ 1 เรอื่ ง การเคลื่อนที่ด้วยความเรง่ คงตัว 3. ครตู รวจการทำแบบฝึกหัดในหนังสอื เรยี น เรอ่ื ง การเคล่ือนทีข่ องวตั ถุกรณีความเร่งคงตัว 4. ครูประเมนิ ผลงานจากแผนผังมโนทศั น์ (Concept Mapping) ที่นกั เรียนไดส้ รา้ งขึ้นจากขัน้ ขยาย ความเขา้ ใจของนักเรียนเป็นรายบุคคล กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจต๊ิบ

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 154 8. การวดั และประเมนิ ผล รายการวดั วธิ ีวัด เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน ด้านความรู้ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระหว่างการกระจดั เวลา -แบบฝึกหดั -แบบฝกึ หดั ระดบั คุณภาพ 2 ความเร็ว ความเร่งของ ผ่านเกณฑ์ การเคลอ่ื นที่เส้นตรงได้ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 1.มที ักษะการคำนวณหา - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ปรมิ าณท่เี กยี่ วข้องกับ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การเคล่ือนทใ่ี นแนวตรง และกลุ่ม และกลุม่ ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ -สงั เกต และประเมนิ จาก -แบบประเมนิ ด้าน 1.มวี นิ ยั การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม คุณลกั ษณะอนั พงึ 2.ใฝ่เรยี นรู้ ระหวา่ งเรยี น ประสงค์ 3.มุง่ มน่ั ในการทำงาน 4.มคี วามซื่อสตั ย์ ดา้ นสมรรถนะสำคัญ ของผ้เู รียน -สังเกต และประเมนิ จาก -แบบประเมนิ ด้าน 1.ความสามารถในการ การปฏิบตั ิกิจกรรม สมรรถนะสำคัญของ ส่ือสาร ระหว่างเรยี น ผู้เรยี น 2.ความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ิต กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปีที่ 4 155 9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 การเคล่ือนทใ่ี นแนวตรง 2) แบบฝกึ หดั ท่ี 1 เรอ่ื ง การเคลือ่ นทีด่ ว้ ยความเรง่ คงตัว 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องเรียน 2) หอ้ งสมุด 3) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 10. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 156 แบบฝึกหัดที่ 1 เรอื่ ง การเคลอ่ื นทดี่ ว้ ยความเร่งคงตวั คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นแสดงวิธที ำและหาคำตอบจากคำถามต่อไปนี้ 1. นักกรีฑาวิ่งออกจากจุดสตาร์ทด้วยความเร็ว 6 เมตรต่อวินาที และสามารถเร่งความเร็วได้ 4 เมตรต่อวินาที2 จงหาวา่ เมอ่ื เวลาผ่านไป 5 วนิ าที จะวิ่งไดร้ ะยะทางเทา่ ใด 2. ถ้าเคร่ืองบินต้องใชเ้ วลาในการเร่งเคร่ือง 20 วินาที จากหยดุ นง่ิ และใชร้ ะยะทาง 400 เมตร ก่อนท่ีจะขึ้นจาก รันเวย์ได้จงหาอตั ราเรว็ ของเครอื่ งบินขณะที่ขึน้ จากรันเวย์เทา่ กบั ก่เี มตรตอ่ วนิ าที 3. รถยนต์แล่นบนถนนตรงโดยมีความเร็วต้น 15.0 เมตรต่อวินาที ถ้ารถยนต์มีความเร่งคงตัว 3 เมตรต่อวินาที2 ในชว่ งเวลานานเทา่ ไร จงึ มีความเรว็ เป็น 2 เทา่ ของความเรว็ ต้น 4. รถของต้นติดไฟแดง พอได้รับสัญญาณไฟเขียว ต้นก็เร่งเครื่องออกไปด้วยความเร่งคงตัวพอไปได้ไกล 100 เมตร วัดความเรว็ ได้ 72 กโิ ลเมตรต่อช่ัวโมง อยากทราบวา่ ความเร่งของรถเปน็ เท่าใด กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ี่ 4 157 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี 1 เร่อื ง การเคลือ่ นทด่ี ว้ ยความเร่งคงตัว คำชแ้ี จง : ให้นักเรยี นแสดงวิธีทำและหาคำตอบจากคำถามตอ่ ไปน้ี 1. นกั กรีฑาว่งิ ออกจากจุดสตาร์ทด้วยความเร็ว 6 เมตรต่อวนิ าที และสามารถเรง่ ความเรว็ ได้ 4 เมตรตอ่ วินาที2 จงหา วา่ เม่อื เวลาผ่านไป 5 วินาที จะวิ่งได้ระยะทางเทา่ ใด วธิ ีทำ จากสมการ s = ut + 1 at2 2 = (6 m/s)(5 s) + (1)(4 m/s2)(5 s)2 2 s = 80 m ดงั นนั้ นกั กรีฑาจะว่งิ ไดร้ ะยะทางเทา่ กับ 80 เมตร 2. ถ้าเครอ่ื งบินตอ้ งใช้เวลาในการเร่งเครื่อง 20 วนิ าที จากหยุดนงิ่ และใชร้ ะยะทาง 400 เมตร กอ่ นทจ่ี ะขน้ึ จากรนั เวย์ ได้จงหาอตั ราเร็วของเคร่ืองบนิ ขณะท่ีขึ้นจากรันเวยเ์ ทา่ กับกี่เมตรตอ่ วินาที วิธีทำ จากสมการ s = (u + v) t 2 400 m = (0 + v) 20 2 v = 40 m/s ดงั นั้น อตั ราเรว็ ของเครื่องบินขณะที่ขนึ้ จากรนั เวยเ์ ท่ากับ 40 เมตรตอ่ วินาที 3. รถยนตแ์ ลน่ บนถนนตรงโดยมีความเร็วตน้ 15.0 เมตรตอ่ วินาที ถ้ารถยนต์มีความเร่งคงตัว 3 เมตรต่อวนิ าที2 ในชว่ งเวลานานเท่าไร จงึ มคี วามเรว็ เป็น 2 เท่าของความเร็วต้น วธิ ีทำ จากสมการ v = u + at 30 m/s = (15 m/s) + (3 m/s2) t t =5s ดงั นน้ั รถยนตแ์ ลน่ บนถนนตรงในชว่ งเวลานาน 5 วนิ าที จงึ มคี วามเร็วเป็น 2 เทา่ ของความเรว็ ตน้ ใน ทิศทางเดียวกันกับความเร็วต้น 4. รถของต้นตดิ ไฟแดง พอได้รับสัญญาณไฟเขยี ว ต้นก็เรง่ เครอื่ งออกไปด้วยความเร่งคงตวั พอไปไดไ้ กล 100 เมตร วัด ความเรว็ ได้ 72 กโิ ลเมตรต่อชัว่ โมง อยากทราบวา่ ความเร่งของรถเป็นเทา่ ใด วิธีทำ จากสมการ v2 = u2 + 2aΔx (20 m/s)2 = (0 m/s)2 + 2a(100 m) 400 = 200a a = 2 m/s2 ดังนัน้ ความเร่งของรถเท่ากบั 2 เมตรตอ่ วนิ าที2 ในทิศทางเดิมจากเรม่ิ ต้นออกตวั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจต๊ิบ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ี่ 4 158 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝกึ หัด เกณฑ์การพจิ ารณา คะแนน ข้ันตอนการแกโ้ จทยป์ ัญหา เปล่ียนปริมาณเป็นสัญลักษณ์ได้ถูกต้อง 2 ชดั เจนทุกข้อ ขั้นท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา เปลย่ี นปรมิ าณเปน็ สัญลักษณ์ไดถ้ ูกต้องไม่ 1 ครบถว้ น ขัน้ ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา ไมต่ อบหรอื เปลี่ยนปริมาณเป็นสญั ลกั ษณ์ 0 ขั้นท่ี 3 ดำเนนิ การแกป้ ัญหา ไม่ถูกตอ้ งเลย กำหนดสตู รทเ่ี ลอื กใชไ้ ด้ถกู ต้อง 1 ข้นั ที่ 4 ตรวจสอบคำตอบ กำหนดสูตรทีเ่ ลือกใช้ไมถ่ ูกต้อง 0 แทนคา่ ในสตู รและคิดคำนวณเปน็ ไป 2 ตามลำดบั ขัน้ ไดถ้ ูกต้อง แทนค่าในสูตรได้ถูกต้องแต่คิดคำนวณไม่ 1 เปน็ ไปตามลำดับขั้นท่ีถกู ต้อง ไม่ตอบ หรือแทนค่าในสูตรผิดและคดิ 0 คำนวณไม่เป็นไปตามลำดบั ข้ันทถี่ ูกต้องเลย คำตอบและหนว่ ยถูกต้องชดั เจน 2 คำตอบถกู ต้องแตห่ น่วยไมถ่ ูกตอ้ ง 1 ไม่ตอบ หรอื คำตอบและหนว่ ยไมถ่ ูกต้อง 0 เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดบั คณุ ภาพของแบบฝกึ หัด ชว่ งคะแนน ร้อยละ ระดบั คุณภาพ ดีมาก 8 – 10 ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ดี พอใช้ 6 – 7 รอ้ ยละ 60 – 79 ต้องปรับปรงุ 4 – 5 ร้อยละ 40 – 59 0 - 3 นอ้ ยกว่าร้อยละ 40 เกณฑ์การผ่านของผู้เรียน ระดบั ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คะแนน 6 - 10 คะแนน ระดับไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดบั คะแนน 0 – 5 คะแนน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรียนร้รู ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 159 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเห็น   2 การยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ่นื   3 การทำงานตามหน้าที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย   4 ความมนี ำ้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 160 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ท่ี ชือ่ –สกลุ การแสดง การ การ ความมี การมี รวม ของนกั เรยี น ความ ยอมรับฟัง ทำงาน นำ้ ใจ ส่วนรว่ ม 15 คดิ เห็น ตามที่ ในการ คะแนน คนอ่ืน ได้รับ ปรบั ปรุง มอบหมาย ผลงาน กลมุ่ 321321321321321 เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ่ี 4 161 แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น 321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ กษัตริย์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ ร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี น 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนับถือ ปฏบิ ัตติ ามหลกั ศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทีเ่ กี่ยวกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทีโ่ รงเรยี น จัดขึ้น 2. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมลู ที่ถกู ตอ้ งและเป็นจรงิ 2.2 ปฏิบัติในสิง่ ท่ีถูกตอ้ ง 3. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว มี ความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวัน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ตั ิได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชื่อฟงั คำส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ นิ และส่งิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอย่างประหยดั และรู้คณุ ค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่ือให้งานสำเรจ็ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสำนกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ช่วยพ่อแม่ ผูป้ กครอง และครทู ำงาน 8.2 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรัพย์สมบัตแิ ละสิ่งแวดล้อมของหอ้ งเรยี นและ โรงเรียน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน 51-60 ดีมาก 41-50 ดี พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน 30-40 ตำ่ กวา่ 30 พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน ปรบั ปรงุ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจต๊ิบ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปีที่ 4 162 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรื่องการเคลอ่ื นท่แี นวตรง แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 9 เรอ่ื งวัตถุตกแบบอสิ ระด้วยความเรง่ คงตัว กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รายวชิ าฟิสิกส์ 1 รหสั วชิ า ว31201 ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 4 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต **************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ผลการเรยี นรู้ สาระฟสิ ิกส์ 1.เขา้ ใจธรรมชาตทิ างฟสิ ิกส์ ปรมิ าณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎการเคล่ือนที่ ของนวิ ตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล โมเมนตัม และกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตัม การเคลื่อนทีแ่ นวโค้ง รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของการ เคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงที่มีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่าความเร่งโน้มถ่วงของ โลก และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ยี วขอ้ งได้ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกความหมายและอธิบายลักษณะการเคลื่อนท่ขี องวตั ถุตกแบบอิสระได้ (K) 2. ปฏิบัติการทดลองการเคลอ่ื นท่ขี องวตั ถทุ ต่ี กอย่างอิสระเพื่อหาคา่ ความเร่งโน้มถ่วงได้ได้ (P) 3. คำนวณหาปรมิ าณท่เี กี่ยวข้องกบั การเคลอื่ นที่ในแนวด่งิ ได้ (P) 4. ทำงานร่วมกับผู้อืน่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ยอมรับความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ ได้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ - การตกแบบเสรเี ปน็ ตวั อย่างหนง่ึ ของการเคล่ือนท่ีในหนึ่งมิติท่ีมีความเร่งเทา่ กับความเรง่ โนม้ ถ่วงของโลก 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การเคลื่อนที่ของวัตถุจากที่สูงหรือเคลื่อนที่ในแนวดิ่งภายใต้สนามโน้มถ่วงของโลก เมื่อไม่คิดความ ตา้ นทานของอากาศ จะปรากฏว่า วตั ถุทกุ ชนดิ ที่มมี วลมากน้อยตา่ งกัน ย่อมตกลงสูพ่ น้ื ดว้ ยความเร่งเท่ากันเสมอ เรียกการเคลื่อนที่แบบนี้ว่า การตกแบบอิสระ (free fall) หรือการตกแบบเสรี ซึ่งการตกแบบอิสระนี้ ใช้ได้ท้ัง กรณที ่วี ตั ถุตกลงในแนวดิง่ หรอื วา่ ถกู โยนข้ึน กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจติบ๊

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 163 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 4. มีความซ่ือสัตย์ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ 5E (5E Instructional Model) ร่วมกับ เทคนคิ การแก้โจทย์ปญั หาของโพลยา ชว่ั โมงท่ี 1 ข้นั นำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุกรณีความเร่งมีค่าคงตัว เพื่อ เปน็ ความรพู้ ้นื ฐานนำไปสู่การศกึ ษา เร่ือง วัตถตุ กอยา่ งอสิ ระด้วยความเร่งคงตัว 2. ครูสาธิตปล่อยลูกบอลให้ตกลงพื้น โดยนักเรียนสังเกตแนวการเคลื่อนที่ของ แล้วถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนว่า ถ้านักเรียนปล่อยลูกฟุตบอลตกลงจากตึก ลูกฟุตบอลจะมีลักษณะ การเคลื่อนทีอ่ ย่างไร (แนวตอบ ลกู บอลมีการเคล่ือนท่ีเปน็ เส้นตรงในแนวด่งิ ซง่ึ เรยี กว่า การตกแบบอสิ ระ (free fall)) 3. ครูให้นักเรียนอภปิ รายแนวการเคลื่อนที่และสรุปได้ว่า การเคลื่อนที่ของลูกบอลเป็นการเคลื่อนที่แนว ตรงในแนวดง่ิ 4. ครูถามนักเรียนว่า การเคลื่อนที่ในแนวดิ่งของลูกบอลมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วหรือไม่ หรือมี ความเร่งหรือไม่ (แนวตอบ ลูกบอลมีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนตกถึงพื้น นั่นคือ วัตถุตกแบบอิสระจะมี ความเรง่ ในขณะตกลงสู่พ้นื ) 5. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างวัตถุที่ตกลงมาในแนวดิ่งที่นักเรียนสามารถพบในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ นกั เรียนสามารถเชื่อมโยงเน้อื หากบั ชีวติ ประจำวันได้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 164 (แนวตอบ มะม่วงตกลงบนหลังคาบ้าน ก้อนหินตกลงมาจากหน้าผา การโดดร่มแบบดิ่งพสุธา วัสดุก่อสรา้ งตกจากตกึ ท่ีกำลังก่อสร้าง) 6. จากนั้นครชู ้ใี ห้นกั เรียนเห็นว่า การเคล่ือนทใ่ี นแนวด่ิงของวตั ถุทตี่ กแบบอิสระ สามารถแบ่งพิจารณาได้ 3 แบบ ตามรายละเอยี ดในหนงั สอื เรยี น ดงั นี้ • การปล่อยวตั ถุใหต้ กในแนวด่ิง • การขวา้ งวตั ถุลงมาในแนวดง่ิ • การโยนวตั ถขุ ้นึ ในแนวด่งิ ช่วั โมงท่ี 2 ขนั้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนศึกษาความรูเ้ รื่องการคำนวณหาปรมิ าณต่าง ๆ ในกรณีท่วี ตั ถุตกแบบอสิ ระในหนงั สือ เรียน โดยครแู ละนกั เรียนอภิปรายและสรุปร่วมกนั 2. ครใู ห้ความรู้เก่ยี วกับสมการการเคล่ือนที่ท่ีอาศยั ความรเู้ กยี่ วกบั กราฟเสน้ ตรงแสดงความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งความเรว็ กบั เวลา 4 สมการที่ใช้ในการคำนวณกรณีท่ีวตั ถตุ กแบบอสิ ระ คอื v = u + gt u+v s = ( 2 )t 1 s = ut + 2 gt2 v2 = u2 + 2gs 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เครื่องหมายของ u v g และ ������ เพราะปริมาณเหล่านี้เป็นปริมาณ เวกเตอร์ แต่เนื่องจากการเคลื่อนที่แนวตรงจึงมีเพียง 2 ทิศเท่านั้น นักเรียนอาจใช้เครื่องหมายบวก และลบกำกบั เพื่อเปน็ การบอกทิศทาง 4. ครนู ำเสนอตัวอย่างการคำนวณหาปริมาณต่างๆ จากสมการการเคลื่อนที่ 5. นกั เรียนฝกึ คำนวณหาปรมิ าณต่างๆ จากสมการการเคล่อื นที่ 6. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับเครื่องเคาะสัญญาณเวลาที่จะใช้ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตอ่ ไป โดยอธิบายว่า เครอ่ื งเคาะสัญญาณเวลาจะเคาะด้วยความถ่ี 50 ครง้ั ต่อวินาที หมายความว่า ใน 1 วินาที เคร่ืองเคาะ จะเคาะ 50 ครั้ง น่ันคือ เวลาทใี่ น 1 ชว่ งจดุ จะใชเ้ วลา 1/50 วนิ าที กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 165 สำรวจค้นหา (Explore) 7. ครูทบทวนบทเรียนที่เรียนมาแล้ว ด้วยการซักถามและอธิบาย ตอบข้อสงสัยของนักเรียน แล้วให้ นักเรียนแบง่ กล่มุ ซ่งึ ครอู าจใช้เทคนคิ การแบง่ กลุ่มผลสัมฤทธ์ิ (STAD) คอื การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี มีสมาชิกกลุ่ม 4–5 คน มีระดับสติปัญญาแตกต่างกัน คือ เก่ง 1 คน: ปานกลาง 2–3 คน: อ่อน 1 คน พร้อมทั้งเลือกประธานกลุ่ม รองประธานกลุ่ม เลขานุการกลุ่ม และสมาชิกกลุ่ม โดยสับเปลี่ยนหน้าที่ ในการทำกจิ กรรมกลมุ่ (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม) 8. ครชู แ้ี จงจุดประสงค์การทำกจิ จกรมให้นักเรียนทราบ ดังน้ี - หาขนาดของความเรว็ ขณะวัตถุท่ีตกแบบเสรีได้ จากจุดบนแถบกระดาษ - เขียนกราฟระหวา่ งขนาดของความเรว็ ขณะหนึง่ กับเวลาได้ - หาขนาดความเร่งเฉล่ยี จากกราฟได้ 9. ครูแจ้งนักเรียนว่าจะมีการทำกิจกรรมการทดลอง เรื่อง การเคลื่อนที่ของวัตถุที่ตกอย่างอิสระ จาก หนังสอื เรียน 10.ครูให้ความรู้ที่จำเป็นต่อการทำกิจกรรม ให้ขั้นตอนและรายละเอียดในการทำกิจจกรรมแก่นักเรียน โดยใชว้ ธิ กี ารต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 11. ครูอาจถามคำถามกระตุ้นให้นักเรียนได้คิดระหว่างที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรม ด้วยตัวอย่างคำถาม ตอ่ ไปน้ี • การเคลอื่ นท่ีในแนวด่ิงของถุงทรายมกี ารเปลย่ี นความเรว็ หรอื ไม่ • มีความเรง่ หรอื ไม่ 12. นักเรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์สรุปผลการทำกิจกรรม วิธีการหาค่าความเร่งของการตกอย่างอิสระของ ถุงทราย จากการทำกิจกรรมโดยใช้เครื่องเคาะสัญญาณเวลาและนำแสนอหน้าชั้นเรียน ครูและ นักเรียนร่วมอภิปรายการทดลองตามแนวคำถามท้ายกิจกรรม สรุปการเรียนรู้ร่วมกัน 13. ครูเชื่อมโยงความรู้จากกิจกรรมให้นักเรียนได้ร่วมกันวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ของปริมาณต่าง ๆ ท่ี เก่ยี วขอ้ งกับการเคล่ือนทีภ่ ายใต้แรงโน้มถว่ งของโลกได้ 14. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายเกี่ยวกับการเคล่ือนท่ใี นแนวตรงและการเคล่ือนท่ีในแนวด่ิงท่ีพบได้ใน ชีวิตประจำวนั กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจติบ๊

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปีที่ 4 166 ชั่วโมงท่ี 3 ขน้ั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูทบทวนเกี่ยวกับการหาความเร่งโดยใช้เครื่องเคาะสัญญาณเวลา และให้นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับ ความเร่งของถุงทรายท่ีตกอย่างอสิ ระที่ไดท้ ำในชั่วโมงทีผ่ ่านมา 2. ครใู ห้นกั เรียนนำข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากการทำกจิ กรรมมาวิเคราะห์ในรูปของตาราง ดงั น้ี ระยะทาง 1.20 2.80 4.60 5.95 7.50 9.15 10.85 12.70 2 ช่วงจดุ (cm) เวลา (s) 1/50 3/50 5/50 7/50 9/50 11/50 13/50 15/50 อัตราเร็ว (m/s) 0.3 0.7 1.15 1.49 1.88 2.29 3.71 3.18 3. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมเกย่ี วกบั การเคล่ือนท่ีของวัตถุท่ีตกอย่างอิสระให้ได้ ว่า วัตถุใด ๆ ที่ตกสู่พื้นหรือเคลือ่ นที่ลงในแนวดิ่งภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกโดยไม่คดิ แรงต้านอากาศ วัตถุจะเคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงตัว ซึ่งเรียกว่าความเร่งโน้มถ่วง ความเร่งโน้มถ่วงมีค่าประมาณ 9.8 เมตรต่อวนิ าที2 และมีทิศพุง่ เขา้ สู่ศนู ยก์ ลางโลก 4. จากนั้นครูให้นักเรียนกลับสู่กลุ่มเดิมที่แบ่งไว้ในชั่วโมงที่ผ่านมาแล้วให้ร่วมกันศึกษาตัวอย่างการ คำนวณจากโจทย์ปญั หา ในหนังสือเรยี น ตามขัน้ ตอนการแกโ้ จทย์ปัญหา ดังน้ี • ข้ันที่ 1 ครใู หน้ ักเรยี นทกุ คนทำความเขา้ ใจโจทย์ตัวอย่าง • ขนั้ ที่ 2 ครถู ามนักเรียนว่า สง่ิ ทโ่ี จทย์ตอ้ งการถามหาคืออะไร และจะหาสิ่งท่โี จทยต์ ้องการ ต้อง ทำอย่างไร • ขั้นท่ี 3 ครูใหน้ กั เรียนดูวธิ ีทำในการคำนวณหาคำตอบ • ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบคำตอบของโจทย์ตัวอย่างวา่ ถูกตอ้ ง หรอื ไม่ 5. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ที่ 1 เรอ่ื ง วตั ถุตกแบบอสิ ระดว้ ยความเรง่ คงตวั เป็นรายบคุ คล ขน้ั สรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครนู ำนกั เรียนอภปิ รายและสรุปเกยี่ วกบั วัตถุตกแบบอิสระด้วยความเรง่ คงตัว ดังนี้ • ลักษณะการเคลื่อนที่แบบตกแบบอิสระเป็นอย่างไร เกีย่ วอะไรกับแรงโน้มถ่วง • ความเรง่ ของวตั ถุเกยี่ วอะไรกับแรงโนม้ ถ่วง • ปรมิ าณใดบ้างที่เกีย่ วข้องกับการเคลือ่ นทีใ่ นแนวดง่ิ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ี่ 4 167 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเรื่อง วัตถุตกแบบอิสระ ว่ามีส่วนไหนที่ยังไม่เข้าใจและให้ ความรู้เพม่ิ เตมิ ในส่วนน้นั โดยครูอาจใช้ PowerPoint เร่ือง วัตถตุ กแบบอสิ ระดว้ ยความเรง่ คงตัว 3. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นตอบคำถามจากหนงั สือเรยี น เร่อื ง วตั ถตุ กแบบอสิ ระด้วยความเรง่ คงตัว 4. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนทำแผนผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) แล้วส่งเป็นการบ้านใน คาบเรียนตอ่ ไป ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำผลงาน และจากการนำเสนอผลงาน 2. ครสู ังเกตความสนใจ ความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ของนักเรียน 3. ครูตรวจสอบผลการใบกิจกรรม เรื่อง การเคลื่อนที่ของวตั ถุท่ีตกอยา่ งอิสระ 4. ครตู รวจแบบฝกึ หดั ท่ี 1 เร่ือง วตั ถตุ กอย่างอิสระด้วยความเร่งคงตวั 5. ครตู รวจการทำแบบฝึกหดั จากหนังสือเรยี น 6. ครปู ระเมนิ ผลงานจากแผนผงั มโนทศั น์ (Concept Mapping) ท่นี ักเรยี นไดส้ ร้างขึน้ จากขน้ั ขยาย ความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบุคคล กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊ิบ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 168 8. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน ด้านความรู้ 1.บอกความหมายและอธบิ าย -สังเกตพฤตกิ รรมการ -แบบฝกึ หัด ลกั ษณะการเคล่อื นท่ีของวตั ถุตก ทำงานรายบคุ คล รอ้ ยละ 60 ผ่าน แบบอสิ ระได้ เกณฑ์ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ 1.ปฏบิ ตั ิการทดลองการ -สังเกต และประเมนิ -แบบประเมินด้านทักษะ ระดับคุณภาพ 2 เคล่อื นที่ของวัตถทุ ่ีตกอย่าง จากการปฏบิ ัติกจิ กรรม กระบวนการแบบ ผ่านเกณฑ์ อิสระเพอ่ื หาคา่ ความเร่งโน้ม ระหว่างเรียนแบบ รายบุคคลและกล่มุ ถ่วงไดไ้ ด้ รายบุคคล และกลมุ่ -แบบฝกึ หัด 2.คำนวณหาปรมิ าณที่เก่ยี วข้อง กับการเคล่ือนที่ในแนวดง่ิ ได้ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินด้าน ระดบั คุณภาพ 2 1.มีวนิ ัย การทำงานรายบุคคล คุณลักษณะอนั พึง ผ่านเกณฑ์ 2.ใฝ่เรยี นรู้ ประสงคข์ องผเู้ รียน 3.มงุ่ มั่นในการทำงาน 4.มีความซื่อสัตย์ ด้านสมรรถนะสำคญั ของ ผเู้ รียน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ดา้ น ระดบั คุณภาพ 2 1.ความสามารถในการสอื่ สาร การทำงานรายบุคคล สมรรถนะสำคัญของ ผา่ นเกณฑ์ 2.ความสามารถในการคดิ ผูเ้ รยี น 3.ความสามารถในการ แก้ปัญหา กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 169 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น รายวิชาเพมิ่ เตมิ ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 การเคล่ือนทใี่ นแนวตรง 2) แบบฝกึ หัดท่ี 1 เรื่อง วตั ถุตกแบบอสิ ระด้วยความเร่งคงตวั 4) ชุดการทดลองการเคลือ่ นทีข่ องวตั ถุที่ตกอย่างอิสระ 5) แบบฝึกหัดที่ 1 เร่ือง วตั ถตุ กแบบอสิ ระด้วยความเรง่ คงตัว 3) PowerPoint เร่ือง วัตถุตกแบบอสิ ระดว้ ยความเรง่ คงตัว 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) ห้องสมุด 3) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ เช่น • การเคล่ือนท่ีหนึ่งมิติ http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/73/one-dimension-motion.htm • กิจกรรม การเคล่ือนท่แี บบตกอย่างเสรี https://www.youtube.com/watch?v=g5tkscGyIkI 10. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรียนรูร้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปีท่ี 4 170 แบบฝึกหดั ท่ี 1 เร่ือง วตั ถตุ กแบบอิสระดว้ ยความเรง่ คงตัว คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ บอลลูนลูกหนึ่งลอยขนึ้ ตรง ๆ ดว้ ยความเร็ว 5.0 เมตรตอ่ วินาที ขณะทล่ี ูกบอลลูนสูงจากพื้นดิน 30 เมตร ผู้ท่ี อยู่ในบอลลูนกป็ ล่อยถุงทรายลงมา ก. จงหาตำแหนง่ ของถุงทรายหลงั จากทป่ี ลอ่ ยไปแลว้ 1.0 และ 2.0 วินาที ข. ถุงทรายจะตกถึงพนื้ ดนิ ในเวลาเท่าใด กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 171 ค. ขณะทีถ่ ึงพื้นดนิ ถงุ ทรายมีความเรว็ เทา่ ใด ง. จดุ สงู สุดของถงุ ทรายสงู จากพน้ื ดนิ เท่าใด กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 172 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี 1 เรื่อง วตั ถตุ กแบบอิสระดว้ ยความเรง่ คงตัว คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ ขณะที่บอลลูนลูกหนึ่งลอยขึ้นตรง ๆ ด้วยความเร็ว 5.0 เมตรต่อวินาที ขณะที่ลูกบอลลูนสูงจากพื้นดิน 30 เมตร ผทู้ ่ีอยูใ่ นบอลลนู กป็ ล่อยถงุ ทรายลงมา ก. จงหาตำแหน่งของถุงทรายหลังจากทป่ี ล่อยไปแล้ว 1.0 และ 2.0 วินาที วธิ ีทำ เมือ่ ปล่อยถุงทราย ถุงทรายจะมีอัตราเรว็ ตน้ เทา่ กับบอลลนู จากสมการ s = ut + 1 gt2 s 2 = (5.0)(1) + (1)(-10)(1)2 2 =0m ดังนนั้ หลังจากปล่อยถุงทรายไปแล้ว 1 วินาที การกระจัดของถุงทรายเป็นศูนย์ นั้นคือ ถุงทรายจะตก กลบั มา ณ ตำแหน่งท่ปี ล่อยถุงทราย ถุงทรายจะอยู่สูงจากพน้ื 30 เมตร จากสมการ s = ut + 1 gt2 s 2 = (5.0)(2) + (1)(-10)(2)2 2 = -10 m ดังนัน้ หลังจากปล่อยถุงทรายไปแล้ว 2 วินาที การกระจัดของถุงทรายเป็น –10 เมตร นน้ั คือ ถุงทรายจะ อยตู่ ำ่ กวา่ ตำแหน่งที่ปล่อยเป็นระยะ 10 เมตร หรืออยสู่ ูงจากพ้ืนเปน็ ระยะ 20 เมตร ข. ถงุ ทรายจะตกถึงพน้ื ดินในเวลาเท่าใด วิธที ำ เม่ือถุงทรายตกถงึ พ้ืน s ของถุงทรายเปน็ –30 เมตร จากสมการ s = ut + 1 gt2 2 -30 = (5.0)t + (1)(-10)t2 2 -30 = 5t – 5t2 t2 – t – 6 = 0 (t – 3)(t + 2) = 0 t = 3, -2 s แต่เวลาเปน็ ลบไมม่ คี วามหมาย ดงั นัน้ ถุงทรายตกถงึ พื้นใน 3 วนิ าที กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจติบ๊

แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ่ี 4 173 ขณะที่บอลลูนลูกหนึ่งลอยขึ้นตรง ๆ ด้วยความเร็ว 5.0 เมตรต่อวินาที ขณะที่ลูกบอลลูนสูงจากพื้นดิน 30 เมตร ผูท้ อี่ ยใู่ นบอลลูนกป็ ล่อยถงุ ทรายลงมา ค. ขณะทถี่ งึ พนื้ ดนิ ถงุ ทรายมีความเรว็ เทา่ ใด วิธที ำ จากสมการ v = u + at = (5.0) + (-10)(3) v = -25 m/s ดงั น้นั ขณะกระทบพ้นื ถุงทรายมีความเร็ว 25 เมตรตอ่ วินาที มที ิศลงในแนวด่งิ ง. จดุ สงู สดุ ของถงุ ทรายสูงจากพนื้ ดินเท่าใด วธิ ที ำ จากสมการ v2 = u2 + 2as (จดุ สงู สดุ v = 0 m/s) 0 = (5.0)2 + 2(-10) s s = 25 20 = 1.25 m ดังนน้ั จุดสงู สุดของถุงทรายอยสู่ ูงจากจดุ ปลอ่ ย 1.25 เมตร หรอื อยสู่ ูงจากพืน้ 31.25 เมตร กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ี่ 4 174 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝกึ หัด เกณฑ์การพจิ ารณา คะแนน ข้ันตอนการแกโ้ จทยป์ ัญหา เปล่ียนปริมาณเป็นสัญลักษณ์ได้ถูกต้อง 2 ชดั เจนทุกข้อ ขั้นท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา เปลย่ี นปรมิ าณเปน็ สัญลักษณ์ไดถ้ ูกต้องไม่ 1 ครบถว้ น ขัน้ ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา ไมต่ อบหรือเปลี่ยนปริมาณเป็นสญั ลกั ษณ์ 0 ขั้นท่ี 3 ดำเนนิ การแกป้ ัญหา ไม่ถูกตอ้ งเลย กำหนดสูตรทเ่ี ลอื กใชไ้ ด้ถูกต้อง 1 ข้นั ที่ 4 ตรวจสอบคำตอบ กำหนดสตู รทีเ่ ลือกใช้ไมถ่ ูกต้อง 0 แทนคา่ ในสตู รและคิดคำนวณเปน็ ไป 2 ตามลำดบั ขัน้ ไดถ้ ูกต้อง แทนค่าในสูตรได้ถูกต้องแต่คิดคำนวณไม่ 1 เปน็ ไปตามลำดับขั้นท่ีถกู ต้อง ไม่ตอบ หรือแทนค่าในสตู รผิดและคดิ 0 คำนวณไม่เป็นไปตามลำดบั ข้ันทถี่ ูกต้องเลย คำตอบและหนว่ ยถูกต้องชดั เจน 2 คำตอบถูกต้องแตห่ น่วยไม่ถูกตอ้ ง 1 ไม่ตอบ หรอื คำตอบและหนว่ ยไมถ่ ูกต้อง 0 เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดบั คณุ ภาพของแบบฝกึ หดั ชว่ งคะแนน ร้อยละ ระดบั คุณภาพ ดีมาก 8 – 10 ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ดี พอใช้ 6 – 7 รอ้ ยละ 60 – 79 ต้องปรับปรงุ 4 – 5 ร้อยละ 40 – 59 0 - 3 นอ้ ยกว่าร้อยละ 40 เกณฑ์การผ่านของผู้เรียน ระดบั ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คะแนน 6 - 10 คะแนน ระดับไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดบั คะแนน 0 – 5 คะแนน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรียนร้รู ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 175 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเห็น   2 การยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ่นื   3 การทำงานตามหน้าที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย   4 ความมนี ำ้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 176 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ท่ี ชือ่ –สกลุ การแสดง การ การ ความมี การมี รวม ของนกั เรยี น ความ ยอมรับฟัง ทำงาน นำ้ ใจ ส่วนรว่ ม 15 คดิ เห็น ตามที่ ในการ คะแนน คนอ่ืน ได้รับ ปรบั ปรุง มอบหมาย ผลงาน กลมุ่ 321321321321321 เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 177 แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น 321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามัคคปี รองดอง และเปน็ ประโยชน์ ตอ่ โรงเรยี น 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมที่เก่ยี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามที่โรงเรยี น จัดข้นึ 2. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ งและเปน็ จรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถี่ กู ตอ้ ง 3. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครัว มี ความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวนั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ตั ิได้ 4.2 รูจ้ กั จัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชื่อฟงั คำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ต้ังใจเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รัพยส์ นิ และส่ิงของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 รจู้ กั การดแู ลรักษาทรพั ยส์ มบัติและสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี นและ โรงเรียน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน 51-60 ดมี าก พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน 41-50 ดี 30-40 พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน ต่ำกวา่ 30 ปรับปรงุ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจต๊ิบ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 178 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องการเคลอื่ นทแี่ นวตรง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 10 เรื่องความเร็วสมั พัทธ์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 รหัสวชิ า ว31201 ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต *********************************************************************************** ***************** 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ผลการเรยี นรู้ สาระฟสิ ิกส์ 1.เขา้ ใจธรรมชาตทิ างฟิสกิ ส์ ปริมาณและกระบวนการวดั การเคลือ่ นท่แี นวตรง แรงและกฎการเคลื่อนท่ี ของนิวตัน กฎความโนม้ ถว่ งสากล แรงเสียดทานสมดลุ กลของวตั ถุ งานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัม และกฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตมั การเคลื่อนท่ีแนวโคง้ รวมท้ังนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของการ เคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงที่มีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่าความเร่งโน้มถ่วงของ โลก และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องได้ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เข้าใจความหมายของกรอบอ้างอิงเฉื่อย ปริมาณที่มกี ารสัมพัทธก์ ัน ในกรณีเป็นความเรว็ สมั พทั ธ์ (K) 2. แสดงคำนวณหาความเรว็ การเคลือ่ นที่ของวตั ถุด้วยวิธคี วามเร็วสัมพัทธ์ได้ (P) 3. สังเกตจากปรากฏการณ์ทเ่ี ก่ียวข้องกบั ความเรว็ สมั พันธท์ ี่พบในในชีวติ ประจำวนั ได้ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ - ปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่ง โดยความเร็วและ ความเร่งมีทัง้ ค่าเฉลี่ยและค่าขณะหน่ึงซึ่งคิดในช่วงเวลาส้ัน ๆ สำหรับปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกับการเคลือ่ นท่ี แนวตรงด้วยความเร่งคงตวั มีความสมั พันธ์ตามสมการ v = u + at u+v s = ( 2 )t 1 s = ut + 2 at2 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรียนรูร้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปีที่ 4 179 v2 = u2 + 2as 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การบอกตำแหน่งของวตั ถุจะมีการกำหนดจุดอา้ งอิงหรือตำแหน่งอ้างอิง ดังน้นั การเขียนบอกความเร็วก็ จะต้องกำหนดจุดอ้างอิงด้วยเช่นกัน ซึ่งความเร็วและตำแหน่งของวัตถุทุกประเภทจะต้องสัมพัทธ์กับจุดหรือ ตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดเสมอ โดยจะเรียกความเร็วที่บอกเทียบกับจุดอ้างอิงว่า ความเร็วสัมพัทธ์ (relative velocity) 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 4. มคี วามซ่อื สตั ย์ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ 5E (5E Instructional Model) ร่วมกับ เทคนคิ การแก้โจทย์ปญั หาของโพลยา ช่วั โมงที่ 1 ขั้นนำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกับ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งปริมาณตา่ งๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเคลอื่ นท่ีในแนวตรงดว้ ยความเร็วคงตัว การเคล่อื นท่ใี นสองมติ ิ เวกเตอร์ตำแหน่ง ความเร็วในสอง มิติ และความเร่งในสองมติ ิ เพือ่ นำไปสู่เนื้อหาเรื่อง ความเร็วสัมพทั ธแ์ ละกรอบอา้ งอิงเฉอ่ื ย 2. ครูสนทนากบั นักเรียน โดยยกตวั อยา่ งเร่ืองการโดยสารเครอ่ื งบิน และถามนกั เรยี นในประเด็นต่อไปน้ี • ทำไมเวลาอยู่บนเครื่องบิน ขณะที่บินอยู่ รู้สึกว่าความเร็วที่เคลื่อนที่ช้ากว่าตอนเคลื่อนที่บน พื้นดิน และยงั เวลาในการเดินทางไม่นานก็ถงึ จดุ หมาย 3. ครทู ้งิ ชว่ งให้นักเรียนคดิ จากนั้นครอู ธิบายเพ่อื ให้นักเรียนเข้าใจว่า ทำไมเวลานงั่ อยบู่ นเคร่ืองบินเราจะ รู้สึกเหมือนว่าเครื่องบินเคลื่อนที่ช้า แต่ไม่นานก็ถึงจุดหมาย เพราะความเร็วสัมพัทธ์ เช่น เวลาเราขี่ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 180 รถจกั รยาน เราเรว็ กว่าคนท่ีเดิน ช้ากว่าคนท่ีขบั มอเตอรไ์ ซค์ เครอื่ งบินกร็ ู้สึกว่าเรว็ ได้ ตอนท่ีเครื่องบิน ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า (take-off) หรือช่วงเครื่องบินกำลังลงจอด (landing) เพราะเราเข้าใกล้พื้นโลก พอที่จะหาอะไรมาเทียบความเร็วได้ ขณะเดียวกันเมื่อมองดูดวงดาว ดวงจันทร์ หรือดวงอาทิตย์ เรา กลับรู้สกึ เหมือนกบั อยนู่ ิง่ ๆ ท้งั ท่ีโลกเคลือ่ นทด่ี ้วยความเรว็ มหาศาล (หมนุ 1 รอบ ภายใน 1 วนั โคจร รอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใน 1 ป)ี ซง่ึ คือตวั อย่างท่แี สดงถงึ ความเร็วสมั พทั ธ์ 4. นกั เรยี นชว่ ยกนั อภิปรายและแสดงความคิดเหน็ คำตอบจากคำถาม 5. ครูอาจจะยกตัวอย่างการเคลื่อนที่ที่เกี่ยวข้องกับความเร็วสัมพัทธ์เพิ่มเติม เช่น การนั่งอยู่ในรถยนต์ แล้วมีรถเมล์ขนาดใหญ่เคลื่อนตัวไปด้านหนา้ อยู่ข้าง ๆ รถที่นักเรียนกำลังนั่งอยู่ นักเรียนจะรู้สึกว่าอยู่ ถอยหลัง เป็นตน้ ข้ันสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูใหค้ วามรูเ้ กย่ี วกับความหมายของความเร็วสมั พทั ธ์เพ่ือใหน้ ักเรยี นเข้าใจมากขึ้นวา่ ความเรว็ สัมพัทธ์ (relative velocity) คอื ความเร็วท่ีเทียบกนั ระหวา่ งความเร็วของวัตถุ 2 ส่งิ ซึง่ การบอกตำแหน่งของ วัตถุ ต้องมีจุดอ้างอิงและแกนอ้างอิง นั่นคือ มีระบบโคออร์ดิเนตอ้างอิง ในกรณีมีผู้สังเกตสองคนต่าง คนต่างก็สงั เกตโดยอ้างองิ ตัวเองเปน็ หลัก แตท่ ัง้ สองคนเคลื่อนท่ีไป จะทำให้เกดิ การสัมพัทธ์กันในเร่ือง ความเร็วของผู้สังเกตทั้งสอง และกรอบอ้างอิง (frame of reference) หมายถึง ระบบพิกัด โคออร์ดิเนตท่ีผูส้ งั เกตหนึง่ ๆ ใช้ในการสังเกตวัตถุอืน่ ๆ รอบตัวในการเคล่ือนทีไ่ ป ดังนั้นกรอบอ้างองิ ใด ๆ อาจจะเคลื่อนที่ไปโดยผู้สังเกตที่อยู่ในกรอบอ้างอิงนั้นไม่ทราบหรือไม่รู้ตัวว่าร่วมอยู่ในการ เคลอ่ื นท่ีของกรอบอ้างองิ น้ันด้วย 2. ครใู ห้นกั เรยี นพิจารณาตัวอย่างการใชก้ รอบอา้ งอิงท่เี คลื่อนท่สี ัมพันธ์กัน โดยศกึ ษาจากตำแหนง่ ของ รถยนต์ A เทยี บกับรถยนต์ B และให้ผสู้ งั เกตอยทู่ ่จี ุด E จากหนงั สอื เรียน 3. ครใู ห้เน้อื หาความรู้และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั กรอบอ้างองิ และสภาพสมั พัทธ์ โดยเปิดสอื่ ใหน้ กั เรยี น จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศ เช่น https://www.youtube.com/watch?v=zrrkvblNN0M 4. ครูใหน้ ักเรียนบอกความหมายของกรอบอ้างอิงเฉื่อย วา่ คอื อะไร และยกตัวอยา่ ง จากการได้รับชม วีดีโอ 5. ครูให้นกั เรยี นยกตัวอย่างความเรว็ สัมพทั ธท์ เ่ี ก่ียวข้องกับในชีวิตประจำวนั ของนักเรยี น และส่มุ นักเรียนมา 1-2 คน ออกมานำเสนอหนา้ ช้ันเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ่ี 4 181 ช่วั โมงที่ 2 ขน้ั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาโจทย์ตัวอย่างของวิธีการคำนวณความเร็ว โดยครูอธิบายเสริมเพื่อให้ นักเรียนเข้าใจมากข้นึ 2. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะคนศกึ ษาตวั อย่าง ตามข้ันตอนการแกโ้ จทยป์ ัญหา ดังน้ี • ข้ันที่ 1 ครูให้นกั เรยี นทุกคนทำความเขา้ ใจโจทยต์ วั อยา่ ง • ขั้นที่ 2 ครถู ามนักเรยี นว่า สิ่งทโ่ี จทยต์ อ้ งการถามหาคืออะไร และจะหาสงิ่ ท่ีโจทย์ต้องการ ต้อง ทำอย่างไร • ขนั้ ที่ 3 ครใู ห้นกั เรยี นดวู ิธีทำในการคำนวณหาคำตอบ • ขั้นที่ 4 ตรวจสอบคำตอบของโจทย์ตัวอยา่ งว่าถูกต้อง หรือไม่ 3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายเกย่ี วกับวิธีการคำนวณความเรว็ เพอ่ื ให้นกั เรียนสรุปสาระสำคัญลงใน สมดุ จดบนั ทึก ขนั้ สรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูนำนักเรียนอภิปรายและสรุปเก่ียวกบั ความเรว็ สัมพทั ธ์ ดังน้ี • ความเรว็ สมั พทั ธ์และกรอบอา้ งอิงเฉือ่ ย คอื อะไร • ในชวี ิตประจำวันของนกั เรยี นได้เกีย่ วขอ้ งกบั ความเร็วสัมพัทธ์ อยา่ งไรบา้ ง ยกตวั อยา่ ง • นักเรียนยืนอยู่บนโลก ขณะที่โลกหมุนรอบตัวเอง และหมุนรอบดวงอาทติ ย์ เหตุใดนักเรยี นจงึ ไมร่ ู้สกึ ว่าเราเคลอื่ นท่ี • หากนักเรียนยืนอยู่บนรถเมล์ที่เคลื่อนที่อยู่ แล้วทิ้งสิ่งของลงบนพื้นรถ คนที่อยู่บนรถจะเห็น ตา่ งจากคนท่ียนื อยูข่ ้างถนน หรือคนทอ่ี ยใู่ นรถเมลอ์ ีกคนั อย่างไร 2. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรยี นคิดและตอบคำถามอย่างอสิ ระ และสอบถามเนื้อหาเร่ือง ความเรว็ สมั พทั ธ์ ว่า มีส่วนไหนท่ียังไม่เข้าใจและให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนนั้น โดยที่ครูอาจจะใช้ PowerPoint เรื่อง ความเรว็ สมั พทั ธ์ ชว่ ยในการอธบิ าย 3. ครูให้นกั เรียนร่วมกันทำแบบฝึกหดั ที่ 1 เรือ่ ง ความเร็วสัมพัทธ์ 4. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่อื ง การเคลื่อนทีแ่ นวตรง กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 182 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลงั เรียน 2. ครตู รวจและประเมินการนำเสนอข้อมลู เก่ียวกับการยกตัวอย่างทีเ่ ก่ียวข้องกบั ความเร็วสัมพัทธ์ 3. ครสู ังเกตการตอบคำถามของนักเรยี น 4. ครูตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 1 เรอื่ ง ความเร็วสมั พทั ธ์ 8. การวัดและประเมินผล วธิ วี ดั เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ รายการวดั -สงั เกตพฤติกรรม -แบบฝึกหัด ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ ดา้ นความรู้ ระหวา่ งกจิ กรรมการ 1.เขา้ ใจความหมายของกรอบ เรียนรายบคุ คล -แบบทดสอบหลังเรยี น อา้ งองิ เฉ่ือย ปริมาณท่มี ีการ สัมพัทธ์กัน ในกรณีเปน็ ความเรว็ -สงั เกต ประเมินจาก ระดับคณุ ภาพ 2 สมั พัทธ์ กิจกรรมระหวา่ งเรียน -แบบประเมนิ ด้านทกั ษะ/ ผ่านเกณฑ์ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ รายบุคคลและกลมุ่ กระบวนการ 1.แสดงคำนวณหาความเร็วการ -แบบฝึกหัด เคลอ่ื นทขี่ องวตั ถุดว้ ยวธิ ี - สังเกตพฤตกิ รรม ความเร็วสัมพทั ธไ์ ด้ การทำงานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 1.มวี ินยั - สงั เกตพฤติกรรม 2.ใฝเ่ รยี นรู้ การทำงานรายบคุ คล - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ 2 3.ม่งุ ม่ันในการทำงาน การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 4.มีความซอ่ื สัตย์ ด้านสมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการ แก้ปญั หา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ี่ 4 183 9. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น รายวชิ าเพ่ิมเติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การเคลื่อนที่ในแนวตรง 2) แบบฝกึ หัดท่ี 1 เรื่อง ความเรว็ สมั พทั ธ์ 3) PowerPoint เร่อื ง ความเรว็ สัมพทั ธ์ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งเรียน 2) ห้องสมดุ 3) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ เช่น กรอบอา้ งอิง และสภาพสมั พัทธ์ 10. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊ิบ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 184 แบบฝกึ หัดท่ี 1 เร่อื ง ความเร็วสมั พทั ธ์ คำชแี้ จง : ให้นักเรียนแสดงวิธีทำและหาคำตอบจากคำถามต่อไปนี้ 1. เรอื ลำหน่ึงหันหวั เรือไปทางทิศเหนือเพื่อขา้ มแม่น้ำไปยังฝ่งั ตรงข้ามดว้ ยความเรว็ 10 กโิ ลเมตรตอ่ ช่ัวโมง เทียบกับ นำ้ กระแสนำ้ ไหลไปทางทศิ ตะวันออกดว้ ยความเรว็ 5 กโิ ลเมตรต่อช่ัวโมง เทียบกับพน้ื ดิน จงหาความเร็วของเรือเม่ือ เทยี บกับผู้สังเกตทอี่ ยูท่ ฝ่ี ่งั ด้านตรงข้าม และทิศทางเม่อื เทยี บกับพ้ืนดิน กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 185 2. วัตถุ A มีความเร็ว 4 เมตรต่อวินาที วัตถุ B มีความเร็ว 3 เมตรต่อวินาที เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง จงหาความเร็ว สมั พทั ธข์ องวัตถุ A เทยี บกับ B เม่ือ วตั ถุ A เคลือ่ นไปทางทิศตะวันออก สว่ น B เคลอื่ นไปทางทิศตะวนั ตก และ วัตถุ A เคลอ่ื นไปทางทิศตะวนั ออก สว่ น B เคลือ่ นไปทางทิศเหนือ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรียนร้รู ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ี่ 4 186 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี 1 เรอื่ ง ความเร็วสัมพัทธ์ คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นแสดงวิธที ำและหาคำตอบจากคำถามตอ่ ไปน้ี 1. เรอื ลำหนึง่ หนั หวั เรือไปทางทิศเหนือเพื่อขา้ มแม่นำ้ ไปยังฝ่ังตรงข้ามด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรตอ่ ช่ัวโมง เทียบกับ นำ้ กระแสนำ้ ไหลไปทางทิศตะวันออกดว้ ยความเร็ว 5 กโิ ลเมตรตอ่ ชวั่ โมง เทียบกับพื้นดิน จงหาความเร็วของเรือเมื่อ เทียบกบั ผู้สงั เกตทีอ่ ยู่ท่ฝี ั่งด้านตรงขา้ ม และทศิ ทางเมอื่ เทยี บกบั พืน้ ดนิ วิธที ำ กำหนดให้ v⃑ br คือ ความเร็วของเรอื เทียบกับนำ้ v⃑ bE คอื ความเร็วของเรือเทยี บกบั พื้นดิน และ v⃑ rE คือ ความเร็วของกระแสนำ้ เทยี บกบั พ้ืนดนิ จะได้ v⃑ br = ⃑vbE − ⃑vrE ความเร็วของเรือเทยี บกับผสู้ ังเกตที่อยู่บนฝ่ังตรงขา้ ม จะได้ v⃑ bE = ⃑vbr + v⃑ rE ขนาดของความเรว็ คือ vbE = √(vb2r) + (vr2E) = √(52) + (102) = 11.2 km/h ทศิ ทางหาได้จาก θ = tan−1 (vbr) = tan−1 ( 5 ) = 26.6° vrE 10 ดงั นั้น เรอื จะเคลอ่ื นท่ดี ้วยความเร็วขนาด 11.2 กโิ ลเมตรต่อช่วั โมง ในทิศทำมมุ 26.6 องศา ตะวันออกเฉยี งเหนือ เม่ือเทยี บกับพนื้ ดนิ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปีที่ 4 187 2. วัตถุ A มีความเร็ว 4 เมตรต่อวินาที วัตถุ B มีความเร็ว 3 เมตรต่อวินาที เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง จงหาความเร็ว สัมพัทธ์ของวัตถุ A เทยี บกับ B เมอ่ื วัตถุ A เคลือ่ นไปทางทิศตะวันออก ส่วน B เคล่อื นไปทางทิศตะวันตก และ วัตถุ A เคลอ่ื นไปทางทศิ ตะวันออก ส่วน B เคลอื่ นไปทางทศิ เหนอื วธิ ีทำ วตั ถุ A เคล่อื นไปทางทศิ ตะวนั ออก สว่ น B เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก (วัตถเุ คลื่อนทสี่ วนทางกัน) จากสมการ ⃑vAB = ⃑vA + ⃑vB =4+3 v⃑ AB = 7 m/s ดังนนั้ ความเร็วสัมพัทธ์ของวตั ถุ Aเทยี บกบั Bเทา่ กับ 7เมตรตอ่ วนิ าที เมือ่ วตั ถุ Aเคลื่อนไปทางทิศตะวนั ออก B เคลื่อน ไปทางทศิ ตะวนั ตก วัตถุ A เคล่ือนไปทางทศิ ตะวนั ออก ส่วน B เคลอ่ื นไปทางทิศเหนือ (วตั ถุทำมุมตอ่ กนั ) จากสมการ ⃑vAB = √v⃑ A2 + ⃑vB2 − 2v⃑ A⃑vBcosθ = √42 + 32 − 2(4)(3) cos 90° = √16 + 9 − 2(4)(3)(0) v⃑ AB = √25 = 5 ดังนนั้ ความเร็วสัมพัทธ์ของวัตถุ A เทียบกับ B เท่ากับ 5 เมตรต่อวินาที เมื่อ วัตถุ A เคลื่อนไปทางทิศ ตะวันออก B เคลือ่ นไปทางทศิ เหนือ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปีท่ี 4 188 แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ต้นเดินรอบสนามซึ่งมรี ัศมี 7 เมตร โดยเขาเดนิ ได้ครบ 6. การคำนวณหาความเรว็ เฉลย่ี ของวัตถุ จะตอ้ งไดข้ อ้ มูลอะไรบา้ ง 3 รอบ พอดี การกระจดั ทต่ี น้ เคล่ือนทไ่ี ด้เปน็ เทา่ ใด 1. ระยะทางท้งั หมดและเวลาทั้งหมด 1. 0 เมตร 2. 7 เมตร 3. 10 เมตร 4. 21 เมตร 2. การกระจดั ทั้งหมดและเวลาทงั้ หมด 5. 303 เมตร 3. ระยะทางและความเรง่ 2. วัตถุเคลื่อนที่ด้วย “ความเร่งคงตัว” หมายความว่า 4. การกระจัดและความเรง่ อย่างไร 5. ความเรง่ และความเรว็ 1. ความเรว็ ตน้ และความเรว็ ปลายของวัตถเุ ป็นศนู ย์ 7. โยนลูกบอลขึน้ ไปในแนวดิ่ง ความเรว็ ของกอ้ นหนิ เป็นไปตามขอ้ 2. ความเร็วต้นและความเร็วปลายมีขนาดเทา่ กนั ใด ถา้ g = 10 m/s2 3. ความเรว็ ของวตั ถเุ ปลยี่ นแปลงตลอดเวลา 1. เพมิ่ ขึน้ วนิ าทีละ 10 m/s 2. ลดลงวนิ าทลี ะ 10 m/s 4. ความเร็วของวตั ถทุ เ่ี ปล่ยี นไปมคี า่ เท่ากันทกุ ๆ วนิ าที 3. เปน็ ศูนยเ์ มอ่ื ถึงจดุ สงู สดุ 4. ข้อ 2 และ 3 ถูก 5. ขอ้ 2. และ 4. ถกู 5. ขอ้ 1 2 และ 3 ถูก 3. วัตถใุ ดต่อไปนี้กำลังเคลอ่ื นที่โดยไมม่ ีความเรง่ 8. จิ๊บขับรถออกจากไฟแดงด้วยความเร่ง 4 m/s2 อยากทราบ 1. บอลลูนลอยขน้ึ ในแนวดงิ่ ดว้ ยความเร็วคงตวั ว่าในเวลา 5 s ต่อมารถจะมีขนาดของความเร็วเท่าใด 2. รถยนตก์ ำลังแล่นด้วยอัตราเรว็ สมำ่ เสมอในทางโคง้ 1. 5 m/s 2. 10 m/s 3. รถยนต์กำลงั ถอยหลังเขา้ จอดในโรงรถ 3. 15 m/s 4. 20 m/s 4. ยิงปนื จากหน้าผาข้นึ ไปในแนวด่งิ 5. 25 m/s 5. ขนนกกาลังปลิวลงในแนวด่งิ 9. ระยะทางและการกระจดั แตกต่างกนั อย่างไร 4. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีไม่จัดเป็นปริมาณเวกเตอร์ 1. มีหน่วยการวดั แตกตา่ งกัน 1. ความเรว็ 2. ความเรง่ 2. ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์ การกระจัดเป็นปริมาณ 3. การกระจัด 4. อตั ราเร็ว เวกเตอร์ 5. แรง 3. การกระจัดเป็นปริมาณสเกลาร์ ระยะทางเป็นปริมาณ 5. โยนส้มผลหนึ่งขึ้นไปในแนวดิ่ง ความเร็วและความเร่ง เวกเตอร์ ของสม้ เปน็ อย่างไร ขณะถงึ จุดสงู สุด 4. ระยะทางมคี ่ามากกว่าการกระจัดเสมอ 1. ทั้งความเรว็ และความเร่งเป็นศนู ย์ 5. ข้อ 2. และ 4. ถกู 2. ทัง้ ความเร็วและความเรง่ ไม่เปน็ ศูนย์ 10. ปล่อยก้อนหนิ ให้ตกลงมาจากตกึ ความเร็วของกอ้ นหนิ เปน็ ไป 3. ความเรว็ เป็นศนู ย์ แต่ความเรง่ ไมเ่ ป็นศนู ย์ ตามข้อใด ถา้ g = 10 m/s2 4. ความเรง่ เป็นศูนย์ แตค่ วามเร็วไมเ่ ป็นศูนย์ 1. เพมิ่ ขน้ึ วินาทีละ 10 m/s 2. เป็นศนู ย์ ณ จดุ ปลอ่ ย 5. ความเร่งและความเร็วมคี า่ เทา่ กนั 3. มากที่สดุ ขณะกระทบพน้ื 4. ข้อ 1 และ 3 ถกู เฉลย 5. ถกู ทัง้ ข้อ 1 2 และ 3 1. 1 2. 4 3. 1 4. 4 5. 3 6. 2 7. 4 8. 4 9. 2 10. 5 กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ี่ 4 189 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝกึ หัด เกณฑ์การพจิ ารณา คะแนน ข้ันตอนการแกโ้ จทยป์ ัญหา เปล่ียนปริมาณเป็นสัญลักษณ์ได้ถูกต้อง 2 ชดั เจนทุกข้อ ขั้นท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา เปลย่ี นปรมิ าณเปน็ สัญลักษณ์ไดถ้ ูกต้องไม่ 1 ครบถว้ น ขัน้ ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา ไมต่ อบหรือเปลี่ยนปริมาณเป็นสญั ลกั ษณ์ 0 ขั้นท่ี 3 ดำเนนิ การแกป้ ัญหา ไม่ถูกตอ้ งเลย กำหนดสูตรทเ่ี ลอื กใชไ้ ด้ถูกต้อง 1 ข้นั ที่ 4 ตรวจสอบคำตอบ กำหนดสตู รทีเ่ ลือกใช้ไมถ่ ูกต้อง 0 แทนคา่ ในสตู รและคิดคำนวณเปน็ ไป 2 ตามลำดบั ขัน้ ไดถ้ ูกต้อง แทนค่าในสูตรได้ถูกต้องแต่คิดคำนวณไม่ 1 เปน็ ไปตามลำดับขั้นท่ีถกู ต้อง ไม่ตอบ หรือแทนค่าในสตู รผิดและคดิ 0 คำนวณไม่เป็นไปตามลำดบั ข้ันทถี่ ูกต้องเลย คำตอบและหนว่ ยถูกต้องชดั เจน 2 คำตอบถูกต้องแตห่ น่วยไม่ถูกตอ้ ง 1 ไม่ตอบ หรอื คำตอบและหนว่ ยไมถ่ ูกต้อง 0 เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดบั คณุ ภาพของแบบฝกึ หดั ชว่ งคะแนน ร้อยละ ระดบั คุณภาพ ดีมาก 8 – 10 ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ดี พอใช้ 6 – 7 รอ้ ยละ 60 – 79 ต้องปรับปรงุ 4 – 5 ร้อยละ 40 – 59 0 - 3 นอ้ ยกว่าร้อยละ 40 เกณฑ์การผ่านของผู้เรียน ระดบั ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คะแนน 6 - 10 คะแนน ระดับไมผ่ ่านเกณฑ์ ระดบั คะแนน 0 – 5 คะแนน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรียนร้รู ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 190 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเห็น   2 การยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ่นื   3 การทำงานตามหน้าที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย   4 ความมนี ำ้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 191 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ท่ี ชือ่ –สกลุ การแสดง การ การ ความมี การมี รวม ของนกั เรยี น ความ ยอมรับฟัง ทำงาน นำ้ ใจ ส่วนรว่ ม 15 คดิ เห็น ตามที่ ในการ คะแนน คนอ่ืน ได้รับ ปรบั ปรุง มอบหมาย ผลงาน กลมุ่ 321321321321321 เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 192 แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ี ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น 321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามัคคปี รองดอง และเปน็ ประโยชน์ ตอ่ โรงเรยี น 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมที่เก่ยี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรยี น จัดข้นึ 2. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ งและเปน็ จรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถี่ กู ตอ้ ง 3. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว มี ความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้ 4.2 รูจ้ กั จัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชื่อฟงั คำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้ 4.4 ต้ังใจเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รัพยส์ นิ และส่ิงของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 รจู้ กั การดแู ลรักษาทรพั ยส์ มบัติและสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรียนและ โรงเรียน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน 51-60 ดมี าก พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน 41-50 ดี 30-40 พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน ต่ำกวา่ 30 ปรบั ปรุง กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊ิบ

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 193 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่องแรงและกฎการเคล่อื นท่ี แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 11 เรื่องแรงและแรงลพั ธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 รหัสวชิ า ว31201 ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ **************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ผลการเรียนรู้ สาระฟสิ กิ ส์ 1.เข้าใจธรรมชาตทิ างฟสิ กิ ส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคล่ือนทีแ่ นวตรง แรงและกฎการเคลื่อนท่ี ของนิวตัน กฎความโน้มถว่ งสากล แรงเสียดทานสมดลุ กลของวตั ถุ งานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัม และกฎการอนุรกั ษ์โมเมนตมั การเคลอ่ื นท่ีแนวโคง้ รวมทง้ั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. ทดลองและอธบิ ายการหาแรงลัพธข์ องแรงสองแรงทท่ี ำมุมต่อกันได้ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายของแรงและแรงลัพธ์ได้ (K) 2. สามารถเขยี นเวกเตอร์แทนแรงและหาแรงลัพธโ์ ดยการสรา้ งรปู ได้ (P) 3. สืบค้นขอ้ มูลและแรงลพั ธ์ของแรงสองแรงโดยการสร้างรูปและการคำนวณได้ (P) 4. ใฝ่เรยี นรู้ ขยนั หม่ันเพยี ร และความตงั้ ใจเรียนในรายวชิ าฟสิ ิกส์ (A) 3. สาระการเรียนรู้ - แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์จึงมีทั้งขนาดและทิศทาง กรณีที่มีแรงหลาย ๆ แรงกระทำต่อวัตถุ สามารถหาแรง ลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ โดยใช้วิธีเขียนเวกเตอร์ของแรงแบบหางต่อหวั วิธีสร้างรูปสีเ่ หลี่ยมด้านขนานของแรงและ วธิ คี ำนวณ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ่ี 4 194 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด แรง (force) หมายถึง สิ่งที่สามารถทำให้วัตถุที่อยู่นิ่งเคล่ือนที่หรือทำใหว้ ตั ถุที่กำลังเคลื่อนที่มีความเรว็ เพ่ิมขึน้ หรือช้าลง หรอื เปลยี่ นทศิ ทางการเคล่อื นทีข่ องวัตถุได้ แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ที่ต้องบอกทั้งขนาดและทิศทาง ดังนั้นการหาผลของแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ จากการรวมกันระหวา่ งแรงยอ่ ย 2 แรงขึ้นไป เราสามารถคำนวณแบบเวกเตอร์ได้ โดยต้องรวมเวกเตอร์ของแรง ย่อยที่มีอยู่ใหเ้ ป็นปริมาณเดียวกัน เนื่องจากปริมาณเวกเตอร์มีท้ังขนาดและทิศทาง ในการรวมเวกเตอรข์ องแรง ยอ่ ยแต่ละแรงจงึ ต้องวิเคราะห์ทง้ั ขนาดและทศิ ทางขณะทนี่ ำมารวมกนั เพ่ือหาคา่ ของแรงลัพธ์ 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 4. มคี วามซอ่ื สตั ย์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ 5E (5E Instructional Model) ร่วมกับ เทคนิคการแกโ้ จทย์ปญั หาของโพลยา ชั่วโมงท่ี 1 ขั้นนำ กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 จำนวน 10 ข้อ โดยใช้เวลา 30 นาที เพื่อ นำไปสกู่ ารศกึ ษาในเรอ่ื ง แรงและกฎการเคลื่อนที่ 2. ครูขออาสาสมัคร 1 คนออกมายืนหน้าห้องเรียน และให้ออกแรงผลักโต๊ะ และประตู แล้วให้นักเรียน สงั เกต พรอ้ มถามคำถามกระต้นุ ความสนใจ - นักเรียนสังเกตเหน็ อะไร (โต๊ะเคล่ือนที่ ประตเู ปดิ ออก) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจติ๊บ

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปีท่ี 4 195 - นักเรียนคิดว่าการที่เพื่อนผลักโต๊ะและประตู ทำให้โต๊ะและประตูเคลื่อนที่ได้เพราะเหตุใด (เพราะ เพื่อนออกแรงในการผลกั ) - นักเรียนคิดว่าความหมายของ แรง คืออะไร (แรง คือ สิ่งที่สามารถทำให้วัตถุทีอ่ ยู่นิ่งเคลื่อนที่หรือ ทำใหว้ ตั ถทุ ่ีกำลังเคล่ือนท่มี ีความเรว็ เพมิ่ ข้ึนหรอื ช้าลง หรอื เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนทีข่ องวตั ถุได)้ 3. ครูให้นักเรียนดูภาพหน้าหน่วย จากนั้นร่วมกันสนทนากับนักเรียนถึงเรื่อง การเคลื่อนที่ของวัตถุ เกีย่ วขอ้ งกับสิง่ ใด โดยใช้คำถามเพื่อเชื่อมโยงใหน้ กั เรยี นเกดิ การเรียนรู้ในประเด็นต่อไปน้ี • การท่วี ตั ถุจะเคลอื่ นท่หี รือไมเ่ คลือ่ นที่ แรงต้องมีส่วนเก่ียวขอ้ งทกุ คร้งั หรอื ไม่ อย่างไร • ครูถามคำถาม Big Question ว่า “ถ้านักเรียนออกแรงกระทำต่อวตั ถุ เพื่อให้วัตถุเคลื่อนที่ แต่ วัตถุนั้นกลบั ไมเ่ คลอ่ื นที่ เพราะเหตุใดจงึ เป็นเชน่ นน้ั ” (แนวตอบ : การออกแรงกระทำต่อวัตถุอาจทำให้วัตถุเคลื่อนที่ได้ หรือวัตถุอาจไม่เคลื่อนท่ี เนื่องจากมีแรงย่อยอ่ืนมาร่วมกระทำ ทำให้เกิดการหกั ล้างของแรงในปริมาณเวกเตอร์ ดังนั้นวัตถุที่จะ เคล่ือนที่ไดห้ รือไมไ่ ด้ ขนึ้ อยูก่ ับแรงลัพธ์ที่มากระทำตอ่ วัตถ)ุ 4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายคำตอบของนกั เรียนเพ่ือเชื่อมโยงไปสู่การจัดการเรียนรู้ เรื่อง แรง และ แรงลพั ธ์ 5. ครูถามคำถาม Prior knowledge จากหนังสือเรียนว่า เมื่อนักเรียนเข็นรถแล้วรถนั้นเคลื่อนที่ ทราบ หรือไม่ว่า สิง่ ใดที่ทำให้รถเคลอ่ื นท่ี (แนวตอบ : สิง่ ใดทที่ ำใหร้ ถเคล่อื นท่ี คือ แรง) 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนา เกี่ยวกับ เรื่อง การที่วัตถุจะเคลื่อนที่หรือไม่เคลื่อนที่ แรงต้องมีส่วน เกยี่ วข้องทุกครงั้ หรอื ไม่ อยา่ งไร 7. ครูถามนักเรียนเพื่อสร้างความสนใจว่า การท่ีวตั ถจุ ะเคล่ือนทีห่ รือไม่เคล่ือนท่ี แรงต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง ทกุ ครั้งหรือไม่ และการหาแรงลัพธ์หาได้กว่ี ธิ ี อะไรบา้ ง อยา่ งไร” (ทิง้ ช่วงให้นักเรียนคิด) 8. นักเรียนร่วมกันอภิปรายในแต่ละกลุ่ม ครูอาจเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น โดยยังไม่ เน้นถกู ผดิ 9. ตัวแทนนกั เรยี นแต่ละกลุม่ นำเสนอความเหน็ ของกลมุ่ 10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ การที่วัตถุจะเคลื่อนที่หรือไม่เคลื่อนที่ แรงต้องมีส่วน เกย่ี วขอ้ งทกุ ครั้งหรือไม่ และการหาแรงลัพธ์หาได้กี่วธิ ี อะไรบ้าง อย่างไร จากแนวคำตอบของนักเรียน โดยครูยังไม่เน้นคำตอบท่ถี ูกต้อง 11. ครแู จ้งจดุ ประสงค์ในการเรยี นหัวข้อนี้ใหน้ ักเรียนทราบ โดยบอกนกั เรยี นวา่ วนั น้นี ักเรยี นต้องสรุปให้ ไดว้ า่ แรงคอื อะไร แรงลัพธ์คอื อะไร และเราสามารถการหาแรงลัพธไ์ ดอ้ ยา่ งไร กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 196 ข้ันสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูใหน้ ักเรียนค้นควา้ หาความรเู้ ก่ยี วกบั แรงและแรงลัพธ์ จากหนังสือเรียน เพื่อเป็นการทำความเข้าใจ เนอื้ หาดว้ ยตนเองในเบ้อื งต้น 2. ครเู น้นใหน้ กั เรยี นทราบว่า ถา้ มีแรงหลายๆ แรง มากระทำต่อวตั ถุเดยี วกนั ในเวลาเดยี วกนั เสมือนกับ ว่า มีแรงเพียงแรงเดียวมากระทำต่อวัตถุนั้น เรียกแรงเสมือนแรงเดียวนี้ว่า แรงลัพธ์ และอธิบาย เพม่ิ เติมว่าแรงลพั ธ์ คอื ผลรวมของแรงหลาย ๆ แรงทีก่ ระทำตอ่ วตั ถนุ น้ั 3. ครถู ามนกั เรยี นวา่ นกั เรียนสามารถหาแรงลัพธ์ได้อยา่ งไร โดยถามวิธกี ารหาแรงลัพธ์ 4. ครนู ำอภิปรายเรอ่ื งวิธกี ารหาแรงลพั ธ์ โดยอธิบายว่าวิธกี ารหาแรงลัพธน์ น้ั มี 2 วิธี คอื วิธกี ารสรา้ งรูป และวธิ กี ารคำนวณ 5. ครสู าธิตวธิ ีการหาแรงลพั ธ์จากวิธแี รก คอื วิธีการสรา้ งรปู จากตวั อยา่ ง และวิธีที่ 2 วิธีการคำนวณ จากตัวอย่างในหนงั สอื เรยี น 6. จากน้นั ครถู ามคำถามว่า การหาแรงลัพธ์ โดยการคำนวณจะต้องนำหลักการใดทางคณติ ศาสตรม์ าใช้ (แนวตอบ : ทฤษฎีของพีธากอรัส ทฤษฎีสี่เหล่ียมด้านขนาน กฎของไซน์ และกฎของโคไซน)์ 7. ครูอธบิ ายการหาแรงลัพธใ์ นกรณีมี 2 แรงทำมมุ ใด ๆ ต่อกัน โดยจะใชค้ วามสมั พันธท์ างคณิตศาสตร์ ในหนงั สือเรียน และสาธติ วิธกี ารหาแรงลัพธ์จากตัวอยา่ ง 8. ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ว่า ถา้ มีแรงหลาย ๆ แรงมากระทำกบั วตั ถุ การหาแรงลัพธ์ สามารถหาได้โดยวธิ กี าร แตกแรงหรือแยกแรง ซ่งึ การแตกแรงหรือแยกแรง คือ การแยกแรง 1 แรง ออกเปน็ แรงองคป์ ระกอบ 2 แรง ซึ่งตงั้ ฉากอยตู่ ามแนวแกน x และแกน y ดงั ภาพประกอบในหนังสือเรียน จากนน้ั ครูและ นักเรียนศึกษาการหาแรงลพั ธ์ โดยวธิ กี ารแตกแรงหรือแยกแรงร่วมกัน จากตัวอยา่ งในหนงั สอื เรยี น สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครทู บทวนบทเรยี นทเี่ รียนมาแลว้ ด้วยการซักถามและอธบิ าย ตอบข้อสงสยั ของนกั เรียน แลว้ ให้ นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม ซง่ึ ครูอาจใช้เทคนคิ การแบง่ กลุ่มผลสัมฤทธ์ิ (STAD) คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี มสี มาชกิ กล่มุ 4–5 คน มีระดับสตปิ ัญญาแตกตา่ งกัน คือ เก่ง 1 คน: ปานกลาง 2–3 คน: ออ่ น 1 คน พร้อมทัง้ เลอื กประธานกลมุ่ รองประธานกลุ่ม เลขานุการกลุ่ม และสมาชกิ กลุม่ โดยสบั เปลย่ี นหน้าที่ ในการทำกิจกรรมกลุ่ม (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตการณท์ ำงานกลุ่ม) 2. ครชู ้ีแจงจุดประสงค์การทดลองใหน้ กั เรยี นทราบ ดงั นี้ - หาขนาดและทิศทางของแรงลัพธข์ องแรงสองแรงท่ีทำมุมต่อกัน - หาแรงลัพธ์ของแรงทง้ั สามด้วยวธิ ีการเขียนเวกเตอร์แบบหางต่อหัว กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจต๊ิบ

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 197 3. นักเรยี นทำกิจกรรมการทดลอง เรอื่ ง การหาขนาดและทศิ ทางของแรงลพั ธ์ 4. ครูให้ความรู้ที่จำเป็นต่อการทดลอง ให้ขั้นตอนและรายละเอียดในการทดลองแก่นักเรียน โดยใช้ วธิ กี ารตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม 5. นกั เรียนลงมอื ทดลองตามขัน้ ตอนการทดลองที่กำหนดในหนังสอื เรยี น และบนั ทึกผลการทดลอง ชัว่ โมงท่ี 2 ขั้นสอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอ และสรปุ ผลการทำกจิ กรรม การหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์หน้าช้ัน เรียน 2. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยใชค้ ำถามตอ่ ไปน้ี • เวกเตอรข์ องแรงลัพธ์จะมขี นาดเท่ากับเวกเตอรข์ องแรงทีส่ ามหรือไม่ และทศิ ทางเป็นอย่างไร 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยให้ได้ข้อสรุปว่า ขณะกระดาษอยู่นิ่ง แรง ลัพธท์ ่กี ระทำต่อกระดาษเปน็ ศูนย์ ซงึ่ แสดงให้เห็นได้ดว้ ยการใชว้ ธิ หี างเวกเตอรต์ ่อหวั เวกเตอร์ (โดยให้ นกั เรียนวาดรูปแรงท้งั สามแรง) ขนั้ สรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูอภิปรายองค์ความรู้จากการทำกิจกรรมว่า การหาขนาดและแรงลัพธ์สองแรงสามารถหาได้กี่กรณี อะไรบ้าง 2. ครูชว่ ยอธบิ ายสรปุ เพอ่ื ให้นกั เรียนเข้าใจดงั นี้ • แรง (Force) คือ สิ่งที่กระทำต่อวัตถุในรูปของการพยายามดึง หรือดัน ที่จะทำให้วัตถุนั้น เคลื่อนที่ และเมื่อแรงมากระทำต่อวัตถุ วัตถุอาจจะเคลื่อนที่หรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ เพราะอาจมีแรง อื่นกระทำต่อวัตถุด้วย เช่น ถ้าวัตถุวางอยู่บนพื้น แรงเสียดทานระหว่างพื้นกับวัตถุก็จะกระทำ ต่อวตั ถดุ ว้ ย หากแรงท่กี ระทำต่อวัตถุไม่มากพอที่จะเอาชนะแรงเสยี ดทาน วัตถุก็จะไม่เคลื่อนที่ (ซ่งึ แรงเสยี ดทานเราจะเรยี นใหห้ วั ขอ้ ตอ่ ไป) • แรงลัพธ์ คือ ผลรวมของแรงหลาย ๆ แรงที่กระทำต่อวัตถุนั้น และการรวมแรงเป็นการหา คา่ แรงลพั ธ์ ทำได้โดยวิธีการวาดรูป และวิธกี ารคำนวณ ใช้หาแรงลัพธ์ของแรงย่อยท่มี ี 2 แรง 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเรื่อง แรงและแรงลัพธ์ ว่ามีส่วนไหนที่ยังไม่เข้าใจและให้ ความรู้เพ่ิมเติมในส่วนนน้ั 3. ครูให้นกั เรียนรว่ มกนั ทำแบบฝกึ หดั ท่ี 1 เรอ่ื ง แรงและแรงลัพธ์ 4. ครูมอบหมายให้นักเรียนแตล่ ะคนทำแบบฝึกหดั ในหนังสือเรียนเปน็ การบา้ น กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊บิ

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 198 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครสู ังเกตการตอบคำถามของนักเรยี น 3. ครตู รวจสอบผลจากแบบฝกึ หัดท่ี 1 เรอ่ื ง แรงและแรงลพั ธ์ 4. ครูตรวจการทำแบบฝึกหัดจากหนังสือเรยี น 5. ครตู รวจแบบฝึกหัดท่ี 1 เรือ่ ง แรงและแรงลัพธ์ 6. ครตู รวจสอบผลการใบกิจกรรม เร่ือง การหาขนาดและทศิ ทางของแรงลัพธ์ 8. การวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ -แบบทดสอบก่อนเรยี น ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์ รายการวดั -ทดสอบกอ่ นเรยี น -แบบฝึกหัด ด้านความรู้ -สงั เกตพฤติกรรมระหว่าง ระดับคณุ ภาพ 2 1.อธบิ ายความหมายของแรงและ กจิ กรรมการเรยี น -แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะ/ ผ่านเกณฑ์ แรงลพั ธ์ได้ รายบุคคล กระบวนการ -แบบฝึกหัด ระดับคณุ ภาพ 2 ด้านทักษะ/กระบวนการ -สังเกต ประเมนิ จาก ผ่านเกณฑ์ 1.สามารถเขียนเวกเตอรแ์ ทนแรง กิจกรรมระหวา่ งเรยี น - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม และหาแรงลัพธ์โดยการสรา้ งรปู ได้ รายบคุ คลและกลุม่ การทำงานรายบุคคล ระดับคณุ ภาพ 2 2.สบื คน้ ขอ้ มูลและแรงลพั ธ์ของ ผ่านเกณฑ์ แรงสองแรงโดยการสร้างรปู และ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม การคำนวณได้ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.มีวนิ ัย - สังเกตพฤตกิ รรม 2.ใฝ่เรยี นรู้ การทำงานรายบุคคล 3.มุง่ ม่นั ในการทำงาน 4.มีความซอื่ สตั ย์ ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบ๊ิ

แผนการจดั การเรียนร้รู ายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มัธยมศึกษาปที ี่ 4 199 9. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น รายวชิ าเพิม่ เติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 แรงและกฎการเคลือ่ นที่ 2) แบบฝกึ หดั ที่ 1 เรอ่ื ง แรงและแรงลัพธ์ 3) ชุดการทดลอง เรอ่ื ง การหาขนาดและทศิ ทางของแรงลัพธ์ 4) PowerPoint เรือ่ ง แรงและกฎการเคล่อื นที่ 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องเรียน 2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ 10. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อมั รา ใจตบิ๊

แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 200 แบบฝกึ หัดท่ี 1 เรอ่ื ง แรงและแรงลพั ธ์ คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้แี ละแสดงวิธีทำใหถ้ ูกตอ้ ง 1. แรงมคี วามหมายวา่ อย่างไร 2. จงหาขนาดและทศิ ทางของแรงลพั ธ์ (⃑R) ของแรงย่อยท่มี ีขนาดและทิศทางตามรูป โดยการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อัมรา ใจต๊บิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook