Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ข้อมูลตัวชี้วัดที่3

ข้อมูลตัวชี้วัดที่3

Published by อุษา สิ้วนัด, 2022-05-24 03:47:21

Description: ข้อมูลตัวชี้วัดที่3

Search

Read the Text Version

แบบทดสอบหลังเรยี น เตมิ คาในช่องวา่ ง ใหถ้ กู ตอ้ ง เชน่ นงึ่ ทอด ตม้ ของหวาน ของคาว อาหารวา่ ง ไก่ หมู กุ้ง ยา ประเภท........................................... วตั ถุดิบ.............................................. เคร่ืองปรุง......................................... ประเภทการปรุง............................... ประเภท........................................... วตั ถุดิบ.............................................. เคร่ืองปรุง......................................... ประเภทการปรุง............................... ประเภท........................................... วตั ถุดิบ.............................................. เคร่ืองปรุง......................................... ประเภทการปรุง............................... ประเภท........................................... วตั ถุดิบ.............................................. เคร่ืองปรุง......................................... ประเภทการปรุง...............................

แผนการการจดั การเรยี นรหู้ ลกั สตู ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน สภาพที่ 2 ชวี ติ ของเรา ครงั้ ท่ี หวั เรอ่ื ง ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวงั เนื้อหาการเรยี นรู้ ก 7 การออก 1.เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีทักษะ 1.การฝึกอา่ น เขียน ขั้นนา กาลงั กายและ ในการฟ๎ง พูด อ่าน เรยี นรเู้ กี่ยวกบั รา่ งกาย 1.ทกั ทายผเู้ ร การนันทนาการ และ เขยี น ของคนเรา ครอบครัว เกยี่ วกับประ 2.เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมี เครือญาติ การออก 2. พดู ถึงจุดม ความรู้ ความเขา้ ใจ กาลังกาย และ ในบทเรียนน เกี่ยวกบั การออกกาลงั นันทนาการ สขุ อนามยั 3. เปดิ เพลงก กายและนันทนาการ โรคภัยไขเ้ จบ็ เร่ืองใกล้ ตามผสู้ อนแล 3. ผเู้ รยี นได้อ่าน เขียน ตวั และคาหลัก คา ขัน้ ดาเนนิ กจิ มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ใช้ เสริมทเ่ี กี่ยวข้อง 1. ผู้สอนใหผ้ คาหลกั คาเสริมที่ 2.การฝกึ อา่ น ฝกึ เขยี น กีฬาและนันท เก่ียวกบั การออกกาลัง คาหลกั คาเสรมิ ที่ 2. ผู้สอนใหค้ กายและนันทนาการได้ เกี่ยวกบั ร่างกายของ เกีย่ วกับกีฬา ถูกต้อง คนเรา เครือญาติ การ พร้อมท้งั ให้ผ ออกกาลังกาย และ ช้าๆ นันทนาการ สขุ อนามัย 3. ผสู้ อนนาภ โรคภยั ไข้เจบ็ นันทนาการต

ตรการรหู้ นงั สือไทย พทุ ธศกั ราช 2557 ปีการศกึ ษา 2564 น 3 ชวั่ โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือ อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชวั่ โมง คลิปเพลงกราวกฬี า 1. การสังเกต รูปภาพ การออก 2. ทดสอบอ่าน 2 กาลังกาย กีฬา 3. เขยี น รียน ทบทวนความรู้เดิม ประเภทตา่ งๆ เช่น ะเภทกีฬา และนนั ทนาการ ปงิ ปอง วงิ่ แข่ง มุ่งหมายในการเรียนการสอน โยคะ เทนนสิ เกม นี้ รอ้ งเพลง นิยาย กราวกีฬาให้ผเู้ รยี นฟ๎งและร้อง นิทาน บัตรคา ละร้องพรอ้ มกัน แบบเรียน จกรรมการเรยี นรู้ แบบฝึกหัด ผเู้ รียนบอกความหมายของ ทนาการ ความรเู้ พิ่มเตมิ โดยนาบัตรคา าและนนั ทนาการมอี ะไรบา้ ง ผเู้ รยี นอา่ นและเขียนตามอยา่ ง ภาพทเ่ี กีย่ วกับกีฬาและ ติดไวบ้ นกระดานและให้ผูเ้ รียน

ครง้ั ที่ หวั เรื่อง ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั เนอื้ หาการเรยี นรู้ ก เรอ่ื งใกล้ตัว รว่ มกันตอบ 3.การฝึกคานวณ 4. นัดหมายก ทางด้านคณติ ศาสตร์ ขน้ั สรปุ ผู้เรียนร่วมก นนั ทนาการ

กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน การเรียนครั้งต่อไป ชวั่ โมง กันสรุปประโยชน์ของกีฬาและ

ใบงาน ๑.ให้ผู้เรยี นฝกึ อา่ นและเขยี นคาต่อไปนี้ กฬี า ……………………… ……………………………………..………………………………….. ตะกร้อ ……………………… ……………………………………..………………………………….. ฟตุ บอล ……………………… ……………………………………..………………………………….. โยคะ ……………………… ……………………………………..………………………………….. วง่ิ ผลดั ……………………… ……………………………………..………………………………….. เปตอง……………………… ……………………………………..………………………………….. มวย……………………… ……………………………………..………………………………….. กอลฟ์ ……………………… ……………………………………..………………………………….. ๑.ใหผ้ ู้เรยี นจับคู่ตัวเลขท่ีมีค่าเท่ากบั จานวนภาพ ๒ ๓ ๑ ๖

แผนการการจดั การเรยี นรหู้ ลกั สตู ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน สภาพที่ 2 ชวี ติ ของเรา ครงั้ ท่ี หวั เร่อื ง ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั เนือ้ หาการเรยี นรู้ ก 8 สุขอนามยั 1. ผเู้ รียนอ่าน เขียน มี 1.การฝึกอา่ น เขยี น ขน้ั นา ความรูเ้ ขา้ ใจ ใช้คาหลัก เรียนรเู้ กีย่ วกับร่างกาย 1. ทกั ทายผเู้ คาเสริมทเ่ี กยี่ วกับ ของคนเรา ครอบครวั เก่ียวกับสุขอ สุขอนามยั ได้อยา่ ง เครือญาติ การออก บ้านเรอื น ถูกต้อง กาลังกาย และ 2. พดู ถึงจดุ ม 2. ผ้เู รยี นมีทกั ษะการ นนั ทนาการ สุขอนามัย ในบทเรียนน อ่าน เขียนคาท่เี ปน็ โรคภยั ไข้เจบ็ เรอ่ื งใกล้ ข้ันดาเนนิ กจิ คาหลัก คาเสริมที่ ตวั และคาหลัก คา 1. ผู้สอนอธบิ เก่ยี วข้องกบั สุขอนามยั เสรมิ ทีเ่ ก่ียวข้อง 2. ผสู้ อนบอก และสามารถนาไปใช้ได้ 2.การฝึกอา่ น ฝกึ เขียน และการตกแ ถกู ต้อง คาหลัก คาเสรมิ ท่ี 3. ผสู้ อนนาบ 3. ผ้เู รยี นมีทกั ษะใน เกย่ี วกับร่างกายของ อะไรบา้ งพรอ้ การคดิ คานวณทางดา้ น คนเรา เครอื ญาติ การ ตามอยา่ งชา้ คณติ ศาสตร์ได้ ออกกาลังกาย และ 4. ผู้สอนใหผ้ นนั ทนาการ สุขอนามยั ร่วมกันสรปุ ก โรคภัยไข้เจบ็ ลักษณะอย่า

ตรการรหู้ นงั สือไทย พทุ ธศกั ราช 2557 ปีการศกึ ษา 2564 น 3 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื อุปกรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชว่ั โมง เรยี น ทบทวนความรู้เดิม 1. หนงั สอื เรียนการรู้ 1. สงั เกตพฤติกรรม อนามัยสว่ นบุคคลและ หนังสือไทย การเรยี นรูข้ องผ้เู รียน 2 2. บัตรคา/รูปภาพ 2. การซักถาม-ตอบ มุ่งหมายในการเรียนการสอน 3. แบบฝกึ หดั ใบงาน การเรยี นร้ขู องผู้เรยี น นี้ 2 ชิน้ 3. ประเมินจาก จกรรมการเรยี นรู้ แบบฝกึ หดั และ บายความหมายของสุขอนามยั แบบทดสอบ กวิธีการดแู ลสุขภาพตนเอง 4. การปฏิบตั ิจริง แตง่ บา้ นใหน้ ่าอยู่นา่ พักผ่อน บตั รคาเกี่ยวกับสุขอนามยั มี อมทง้ั ให้ผเู้ รียนอ่านและเขียน าๆ ผเู้ รียนแบง่ กลมุ่ ๆละ 5 คน การมีสขุ ภาพอนามัยทดี่ ี ควรมี างไร พรอ้ มทงั้ นาเสนอเป็นกลมุ่

ครงั้ ท่ี หวั เรื่อง ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั เน้ือหาการเรยี นรู้ ก เรอ่ื งใกล้ตัว 5. ผสู้ อนอธบิ 3.การฝกึ คานวณ บวก การลบ ทางด้านคณติ ศาสตร์ 6. ผู้สอนใหผ้ คานวณ การ คณติ ศาสตร์ใ ขั้นสรปุ 1. ผเู้ รียนรว่ ม ดูแลสุขอนาม 2. นัดหมายก

กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชวั่ โมง บายการฝึกคิดคานวณ การ บเลข ทางด้านคณิตศาสตร์ ผู้เรียนทาแบบฝกึ หัดการคิด รบวก การลบเลข ทางดา้ น ในใบงาน มกันสรุปประโยชน์ของการ มัยสว่ นบคุ คลและบา้ นเรอื น การเรยี นครง้ั ต่อไป

ใบงาน สภาพที่ ๒ ชีวิตของเราเรื่อง สขุ อนามัย จงอธบิ ายคาใตร้ ปู ภาพตอ่ ไปน้ี ให้ถกู ตอ้ ง ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..…………………… ……………………..……………………

ใบงาน สภาพที่ ๒ ชีวิตของเรา เรอื่ ง สุขอนามยั จงจับคตู่ อ่ ไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ ง ถงั ขยะ ๑.  ๒. ถบู า้ น ๓.  ลา้ งจาน ๔.  กวาดพืน้

จงเตมิ คาตอบลงใน ใบงาน ๑. ๒ + ๓ = สภาพที่ ๒ ชวี ติ ของเราเรือ่ ง สขุ อนามยั ๒. ๕ + ๓ = ๓. ๖ + ๒ = ตอ่ ไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง ๔. ๔ + ๓ = ๕. ๘ + ๑ = ๖. ๓-๒ = ๗. ๗-๔ = ๘. ๙-๕ = ๙. ๕ -๕ = ๑๐.๕ + ๓ =

บบทดสอบ/แบบประเมนิ สภาพท่ี ๒ ชวี ติ ของเรา เรอื่ ง สขุ อนามยั คาชแี้ จง ใหผ้ ูเ้ รยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว ๑. รปู ภาพนี้ เขยี นอยา่ งไร ๖. ในการอาบนา้ เราใชส้ งิ่ ใดฟอกตวั ก.ถังขยะ ก.สบู่ ข. ยาสฟี น๎ ข. ตดั เล็บ ๒. รปู ภาพน้ี เขยี นอยา่ งไร ๗. ๕+๕ = ก.๘ ก.กระดาษชาระ ข. ๑๐ ข. สบู่ ๘. ๔ + ๓ = ๓.รปู ภาพนี้ เขยี นอยา่ งไร ก.๗ ข. ๒ ก.ตดั ผม ข. ล้างมอื ๙. ๓ - ๓ = ก.๓ ๔. รปู ภาพนี้ เขยี นอยา่ งไร ข. ๐ ก.ยาสฟี ๎น ๑๐. ๙ - ๕ = ข. กระดาษชาระ ก.๕ ๕.รปู ภาพนี้ เขยี นอยา่ งไร ข. ๔ ก. สระผม ข. แปรงฟน๎

แผนการการจัดการเรยี นรหู้ ลกั สตู ภาคเรยี นที่ 2 จานวน สภาพท่ี 2 ชวี ติ ของเรา ครงั้ ท่ี หวั เรอื่ ง ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั เนอ้ื หาการเรยี นรู้ ก 9 โรคภัยไขเ้ จ็บ 1. ผเู้ รยี นมผี ูเ้ รียนอา่ น 1.การฝึกอา่ น เขียน ข้นั นา เขียน มคี วามเข้าใจ ใช้ เรยี นรเู้ กี่ยวกับรา่ งกาย 1. ทกั ทายผูเ้ คาหลัก คาเสรมิ ของคนเรา ครอบครัว คาหลักคาว่า เกีย่ วกบั โรคภัยไขเ้ จบ็ เครอื ญาติ การออก หัก เจบ็ เปน็ ได้ถูกตอ้ ง กาลังกาย และ เหน่ือย ปุวย 2. ผู้เรียนมที กั ษะการ นันทนาการ สุขอนามยั 2. พูดถึงจุดม อ่าน เขียนคาทเ่ี ป็น โรคภัยไข้เจ็บ เร่อื งใกล้ ในบทเรยี นน คาหลกั คาเสริมท่ี ตัว และคาหลัก คา ขัน้ ดาเนนิ กจิ เก่ยี วขอ้ งกบั โรคภยั ไข้ เสรมิ ท่เี กยี่ วข้อง 1. ผ้สู อนอ่าน เจ็บ และสามารถ 2.การฝกึ อ่าน ฝึกเขยี น 2.ใหผ้ ้เู รียนอ นาไปใชไ้ ด้ถูกต้อง คาหลกั คาเสริมท่ี 3. ให้ผ้เู รียนอ 3. ผเู้ รยี นมีทกั ษะใน เกย่ี วกบั รา่ งกายของ คน การคดิ คานวณทาง คนเรา เครือญาติ การ 4. ใหผ้ เู้ รียนเ คณติ ศาสตร์ได้ ออกกาลังกาย และ 5. ผสู้ อนอ่าน นันทนาการ สขุ อนามัย 6. ผู้สอนและ โรคภัยไข้เจบ็ ไข้เจบ็ ทม่ี ีใน

ตรการรหู้ นงั สอื ไทย พทุ ธศกั ราช 2557 ปีการศกึ ษา 2564 น 3 ชวั่ โมง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือ อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชว่ั โมง เรียน ทบทวนความรเู้ ดมิ 1.หนงั สอื เรยี นการรู้ 1.สังเกต าชา ไอ จาม ปวด บวม แผล หนังสอื ไทย 2.ทดสอบอ่าน 2 นลม ไข้ อาเจียน ท้องเสีย 2.แบบฝกึ หดั 3.เขียน ย และสรุปบทเรยี นท่ีผ่านมา 3. ใบงาน 4.แบบฝกึ หดั /ใบงาน มุ่งหมายในการเรียนการสอน น้ี จกรรมการเรยี นรู้ นใหผ้ ู้เรียนฟ๎ง ๓ เท่ยี ว อา่ นตามคาหลัก ๓ เทีย่ ว อา่ นพร้อมๆ กันและอา่ นทลี ะ เขยี นคาในบทเรียน นเน้อื หาและอธบิ ายอย่างชา้ ๆ ะผู้เรยี นสนทนาเกี่ยวกับโรคภัย นชีวิตประจาวัน

ครง้ั ท่ี หวั เร่อื ง ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวงั เนอ้ื หาการเรยี นรู้ ก เรื่องใกลต้ วั 7. ผ้สู อนใหผ้ 3.การฝกึ คานวณ งาน ทางดา้ นคณติ ศาสตร์ ขนั้ สรปุ 1. ผสู้ อนและ โรคภยั ไขเ้ จบ็ 2. นดั หมาย

กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื อุปกรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ผู้เรียนทาแบบฝกึ หดั และใบ ชว่ั โมง ะผเู้ รยี นช่วยกันสรปุ เรอื่ ง บทมี่ ีอยู่ในสงั คมป๎จจบุ ัน ยการเรยี นคร้งั ต่อไป

ใบงาน สภาพที่ ๒ ชีวิตของเรา เรื่อง โรคภัยไขเ้ จ็บ ชือ่ -นามสกลุ …………………………………………………………………………………………. จงเติมคาลงในช่องวา่ งต่อไปนี้ ให้สมบูรณ์และถูกต้อง ๑. ไข้……….…..ออก ๒. …………….ผูก ๓. ลมบ้า…………… ๔. …………เวยี น ๕. มา.............เรีย ๖. โรคหวั ……….. ๗. ความ……………สูง ๘. เบา.................... ๙. ...............แดง ๑๐. ................หวั

แบบทดสอบ/แบบประเมนิ จงโยงเสน้ ใหจ้ ับคโู่ รคกบั ยารกั ษาโรคให้ถูกตอ้ ง(๑๐ คะแนน) ๑. ปวดท้อง ยาแดง ๒.ปวดหัว ยาแกไ้ อ ๓.ไอ ยาพาราเซตามอล ๔.เป็นไข้ ยาหมอ่ ง ๕.เปน็ ลม ยาระบาย ๖.ท้องผูก ยาบารงุ ๗.เจ็บคอ ยาดม ๘.เปน็ แผล ยาอม ๙.ผอมแหง้ ยาธาตุ ๑๐.ปวดขา ยาลดไข้

แผนการการจดั การเรยี นรหู้ ลกั สตู ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน สภาพท่ี 2 ชวี ติ ของเรา ครง้ั ท่ี หวั เรื่อง ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั เนอื้ หาการเรยี นรู้ ก 10 เร่อื งใกลต้ ัว 1.ผเู้ รียนสามารถอ่าน 1.การฝึกอา่ น เขียน ขน้ั นา เขียน มคี วามเข้าใจ ใช้ เรียนรเู้ กี่ยวกบั ร่างกาย - ผู้สอนทกั ท คาหลกั คาเสริม ของคนเรา ครอบครวั ต่างๆ ในปจ๎ จ เกยี่ วกับ เรอื่ งใกลต้ วั เครอื ญาติ การออก - ผู้สอนรว่ มก ได้ถูกต้อง กาลังกาย และ ทต่ี ง้ั ขีน้ 2.ผเู้ รียนมที กั ษะการ นันทนาการ สขุ อนามยั ขนั้ ดาเนนิ กจิ อา่ น เขียนคาท่เี ปน็ โรคภัยไขเ้ จ็บ เร่อื งใกล้ -การแนะนาต คาหลัก คาเสรมิ ที่ ตวั และคาหลกั คา ใกลต้ วั เกีย่ วขอ้ งกบั เร่ืองใกล้ เสรมิ ท่เี กีย่ วข้อง - ผู้สอนนาบ ตวั และสามารถนาไปใช้ 2.การฝึกอา่ น ฝึกเขียน ให้ดแู ละอภิป ไดถ้ ูกตอ้ ง คาหลกั คาเสรมิ ที่ - การฝกึ ออก 3.ผู้เรียนมีทกั ษะในการ เก่ียวกบั รา่ งกายของ - การอ่านออ คดิ คานวณทาง คนเรา เครือญาติ การ - ใหผ้ เู้ รยี นฝ คณติ ศาสตร์ได้ ออกกาลงั กาย และ ตัวเอง นันทนาการ สขุ อนามัย - ฝกึ เขียนพย โรคภัยไขเ้ จบ็ คาเสรมิ

ตรการรหู้ นงั สือไทย พทุ ธศกั ราช 2557 ปกี ารศกึ ษา 2564 น 3 ชวั่ โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชว่ั โมง - หนงั สือเรียนการรู้ -สงั เกต ทายพดู คุยกบั ผ้เู รยี นเรอ่ื งใกล้ตวั หนังสอื ไทย - -ทดสอบอา่ น 2 จบุ ัน แบบฝกึ หัด - เขียน กบั ผเู้ รยี นพูดคุยตามประเด็น - ใบงาน -แบบฝกึ หัด/ใบงาน บตั รคา จกรรมการเรยี นรู้ ตนเองเลา่ ประสบการณ์เรื่อง บตั รภาพการวางแผนครอบครัว ปรายรว่ มกนั กเสยี งจากบตั รคา อกเสยี งเป็นคาจากบัตรคา ฝึกเขยี นหน้าซองจดหมายถงึ ยัญชนะไทยและเขยี นคาหลัก

ครง้ั ท่ี หวั เร่อื ง ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวงั เน้อื หาการเรยี นรู้ ก เร่อื งใกล้ตัว - ทบทวนฝกึ 3.การฝึกคานวณ ข้ันสรปุ ทางด้านคณติ ศาสตร์ -ทบทวนบทเ -ให้ใบงาน แ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน กอ่าน ในบทเรียนเรื่องใกลต้ วั ชว่ั โมง เรยี น แบบฝึกเขยี น

ใบงาน สภาพที่ ๒ ชวี ติ ของเราเรอื่ งใกลต้ ัว ชอ่ื -นามสกลุ …………………………………………………………………………………………. จงเตมิ พยัญชนะและสระลงในช่องวา่ งต่อไปน้ี ให้สมบูรณ์และถกู ต้อง ๑. ช......บ ๒. เกลยี ....... ๓. .....กรธ ๔. เ......งา ๕. ท.ุ ........ข์ ๖. คร.....บคร.ั ....... ๗. ปร.....จาเด.ื ......น ๘. อาเ........อ ๙. บุร.ุ .....ไป.......ษณยี ์ ๑๐. สเี ข.ี ......ว........ม้า

ใบงานท่ี ๒ เติมคาในชอ่ งสเ่ี หลย่ี มให้ตรงกับภาพท่กี าหนดให้

แบบทดสอบ/แบบประเมนิ สภาพท่ี ๒ ชวี ติ ของเรา เร่ืองใกล้ตวั คาชแี้ จง ใหผ้ ู้เรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว ๑. มสี หี นา้ ยมิ้ แยม้ ยิม้ หวั เราะ คอื ความรสู้ กึ ใด ๖. สปี ระจาวนั องั คารคอื สีใด ก.กลัว ก.สชี มพู ข. ดใี จ ข. สีฟูา ๒.รปู ภาพนแี้ สดงความรสู้ กึ อะไร ๗. ตัวเลขอารบคิ คือตวั ใด ก.หนาว ก.๑๐ ข. เสียใจ ข. ๘ ๓. รปู ภาพนแี้ สดงความรสู้ กึ อะไร ๘. ๑๒ เขยี นวา่ อยา่ งไร ก.โกรธ ก.สิบสอง ข. กลัว ข. สบิ ๔. รปู ภาพน้ี เขยี นอยา่ งไร ๙. สบิ สี่ เขยี นเปน็ ตวั เลขไทยอยา่ งไร ก.๑๔ ก.ต้งั ครรภ์ ข. ๖ ข. คมุ กาเนดิ ๕. ข้อใดคือบา้ นเลขที่ ๑๐.วนั สงกรานต์ ตรงกบั เดอื นใด ก. ๑๒๓/๒ ก.มกราคม ข. ถนนพหลโยธนิ ข. เมษายน

ใบงานท่ี1 หัวเรอื่ งท่ี 2 ศาสนา ใหผ้ เู้ รียนฝกึ อ่านคาศพั ท์และฝึกเขยี นคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ี ศาสนาพทุ ธ อา่ นว่า.................................................................................................................................................... ศาสนาครสิ ต์ อา่ นว่า.................................................................................................................................................... วดั อ่านวา่ ..................................................................................................................................................... ศาลาวดั อ่านวา่ .................................................................................................................................................... โบสถ์ อ่านว่า..................................................................................................................................................... วิหาร อ่านว่า.....................................................................................................................................................

ใบงานท่ี2 หัวเรอื่ งท่ี 2 ศาสนา ให้ผู้เรียนเขยี นคาที่ขีดเสน้ ใต้ในเนอ้ื หาในเรือ่ งตอ่ ไปนี้ ประเทศไทย มีศาสนาประจาชาติ คือ ศาสนาพุทธ คนในประเทศไทยนับถือหลายศาสนา เช่น ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และศาสนาอื่นๆ ผู้นาสูงสุดของศาสนาพุทธคือ พระสงั ฆราช มีเจ้าอาวาสประจาวัด ศาสนสถานหรอื สถานทีป่ ระกอบศาสนกิจ หรือกิจกรรมอ่ืนๆ ของ ศาสนาพุทธ ได้แก่ วัด ศาลาวัด วิหาร ศาสนาคริสต์ มีโบสถ์เป็นท่ีประกอบศาสนกิจ ส่วนศาสนา อสิ ลามมมี สั ยดิ เป็นศาสนสถาน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

แบบทดสอบ/แบบประเมนิ ใหผ้ เู้ รียนดูรปู ภาพและฝกึ เขยี นคาศพั ท์ต่อไปนี้ ศาสนาพทุ ธ อ่านว่า.................................................................................................................................................... ศานาครสิ ต์ อ่านวา่ ..................................................................................................................................................... ศาสนาอสิ ลาม อา่ นวา่ .....................................................................................................................................................

แผนการการจดั การเรยี นรหู้ ลกั สตู ร ภาคเรยี นที่ 2 ป จานวน สภาพท่ี 3 ภยั ใกลต้ วั ครง้ั ที่ หวั เรื่อง ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั เนอ้ื หาการเรยี นรู้ 11 การพนนั 1.ผ้เู รยี นมคี ามรู้ ความ 1. การเรียนรู้เก่ยี วกบั ขน้ั นา อ้นตราย เขา้ ใจ สามารถใช้ คาหลัก คาเสรมิ ท่ี การพนันท่ีเป็นอันตราย ผู้สอนชวน เก่ยี วข้องกบั การพนัน ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และภัยจากส่งิ เสพตดิ นกั ศกึ ษาเพ 2.ผเู้ รียนมที กั ษะการ อ่าน และเขียนคาหลัก รวมถงึ คาหลกั คาเสริม การเรยี นรเู้ คาเสริมเก่ยี วกบั กร พนนั ได้อย่างถกู ต้อง ทีเ่ ก่ียวข้อง ข้นั ดาเนนิ ก 3.ผ้เู รยี นมที ักษะคดิ คานวณทางด้าน 2. การฝึกอา่ น และการ 1. ผู้สอนแล คณิตศาสตร์ ฝกึ เขยี นคาหลกั คา ของเรามกี า เสรมิ 2. ผสู้ อนแล 3. การฝกึ ทักษะการคดิ สาเหตขุ อง คานวณทางด้าน เหตุใด คณิตศาสตร์ 3. ผู้สอนแล คดิ เห็นว่า มาก ๆ จะเ 4. ผสู้ อนแล วิธีการปูอง ชมุ ชนตดิ ก

รการรหู้ นงั สอื ไทย พุทธศกั ราช 2557 ปกี ารศกึ ษา 2564 3 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือ อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชวั่ โมง นคดิ ชวนคุยในบรบิ ทพ้นื ทข่ี อง 1.หนังสอื เรียนการรู้ 1.สังเกตพฤตกิ รรม พอ่ื เปน็ แนวทางแก่นกั ศึกษาใน หนงั สือไทย การเรยี นรขู้ องผู้เรียน 5 เกย่ี วกับการพนนั 2.ใบความร้เู ร่อื ง 2.การซักถาม-ตอบ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ภัยของการพนนั การเรียนรูข้ องผเู้ รียน ละผูเ้ รียนรว่ มกนั คิดวา่ ในชุมชน 3.บตั รคา 3.ประเมินจาก ารพนันประเภทใดบา้ ง แบบฝกึ หดั ละผูเ้ รียนรว่ มกันวิเคราะห์ 4.การปฏิบัตจิ รงิ งประชาชนตดิ การพนัน เพราะ ละผูเ้ รยี นร่วมกันแสดงความ หากคนในชุมชนติดการพนัน เกดิ ผลกระทบอย่างไรบา้ ง ละผู้เรยี นรว่ มกันเสนอแนะ งกนั หรือแนวทางแก้ไขคนใน การพนนั

ครง้ั ท่ี หวั เร่อื ง ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั เน้อื หาการเรยี นรู้ 5. ผู้สอนให ภาษาไทย การพนนั แล ขั้นสรปุ ใหผ้ ู้สอนแล เกย่ี วกับรณ คาหลักคาเ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือ อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชวั่ โมง หผ้ เู้ รยี นทาแบบฝกึ หดั อา่ น เขยี น คาหลัก คาเสรมิ ท่เี ก่ยี วข้องกับ ละคณิตศาสตรต์ ามสอ่ื ละผู้เรยี นรว่ มกันคิดคตสิ อนใจ ณรงค์เลิกตดิ การพนัน โดยใช้ เสรมิ ทเ่ี รียนมา

ใบความรู้ หวั เรอ่ื งที่ ๑ การพนนั อนั ตราย คาหลกั ไพ่ หวย พนัน ชนไก่ ไฮโล ติดคุก หนีส้ นิ โต๊ะพนนั สว่ ย กินรวบ คาเสรมิ วิวาท ทะเลาะ ทา้ ทาย เสยี่ งโชค การพนนั การพนัน หมายถึง การเล่นชนิดหนง่ึ ด้วยการใช้เงนิ หรือสง่ิ อ่ืนๆ ทาใหเ้ กดิ ความท้าทายกับผเู้ ล่น ๑.การพนนั โดยการแขง่ ขนั เช่น ไพ่ ไฮโล ๒.กรพนันโดยการทานายผล เช่น ชนไก่ โตะ๊ พนนั บอล ๓.การพนนั ทีไ่ มแ่ ขง่ ขัน เชน่ หวย กินรวบ สว่ ย ซ่ึงอาจจะทาใหเ้ กิดการ ทะเลาะ ววิ าท หนสี้ ิน และติดคกุ

ใบงาน ผสู้ อนและผูเ้ รียนรว่ มกนั คิดคตสิ อนใจเกย่ี วกบั รณรงคเ์ ลิกติดการพนัน ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................

ให้ผู้เรียนอา่ นคาต่อไปนี้ แบบฝกึ หดั การพนนั อ่านว่า ครอบครัว อ่านวา่ กาน – พะ – นนั คกุ อ่านวา่ ครอบ – ครวั ไฮโล อา่ น ว่า คกุ ไฮ – โล ใหผ้ ู้เรยี นเขยี นคาต่อไปนี้ ............................................... การพนนั ................................................ ครอบครัว ................................................ คกุ ................................................ ไฮโล คณติ ศาสตร์ ๑. ในหมบู่ า้ น ก ติดพนนั ฟุตบอล จานวน 8 คน หมูบ่ า้ น ข ติดการพนนั ฟตุ บอล จานวน 7 คน อยากทราบวา่ ทงั้ 2 หมู่ บ้าน ติดการพนนั กค่ี น ตอบ ..........................คน ๒.มีคนดูชนไก่ จานวน 12 คน แตเ่ ดินทางกลับก่อน 3 คน จะเหลอื คนดูกค่ี น ตอบ...........................คน

แผนการการจัดการเรยี นรหู้ ลกั สตู ภาคเรยี นที่ 2 จานวน สภาพท่ี 3 ภยั ใกล้ตวั ครง้ั ท่ี หวั เร่ือง ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั เนื้อหาการเรยี นรู้ ก 12 ภัยจากสง่ิ เสพตดิ 1.ผเู้ รยี นมคี ามรู้ ความ 1. การเรียนร้เู ก่ียวกับ ขน้ั นา เข้าใจ สามารถใช้ การพนันที่เป็นอันตราย ผสู้ อนชวนคดิ คาหลกั คาเสรมิ ที่ และภยั จากสง่ิ เสพตดิ จากสงิ่ เสพต เก่ยี วขอ้ งกบั ภยั จากส่ิง รวมถงึ คาหลกั คาเสริม ขนั้ ดาเนนิ กจิ เสพตดิ ได้อยา่ งถูกต้อง ทเ่ี ก่ียวข้อง 1. ผู้สอนและ 2.ผเู้ รยี นมที กั ษะการ 2. การฝกึ อ่าน และการ ของเรามีภยั จ อา่ น และเขียนคาหลัก ฝึกเขียนคาหลกั คา 2. ผสู้ อนและ คาเสรมิ เกี่ยวกับภัยจาก เสรมิ สาเหตุของป สิง่ เสพติดได้อย่าง 3. การฝึกทกั ษะการคิด เหตใุ ด ถูกต้อง คานวณทางด้าน 3. ผู้สอนและ 3.ผู้เรียนมที ักษะคิด คณิตศาสตร์ คดิ เห็นว่า หา คานวณทางด้าน มาก ๆ จะเก คณติ ศาสตร์ 4. ผสู้ อนและ วิธีการปูองก ชุมชนตดิ ส่ิงเ 5. ผสู้ อนใหผ้

ตรการรหู้ นงั สอื ไทย พุทธศกั ราช 2557 ปีการศกึ ษา 2564 น 3 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ อุปกรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชวั่ โมง ดชวนคยุ กับผ้เู รียนเกีย่ วกบั ภยั 1. หนังสอื เรียนการรู้ 1. สงั เกตพฤติกรรม ติด หนังสอื ไทย การเรียนรูข้ องผเู้ รยี น 5 จกรรมการเรยี นรู้ 2. ใบความรู้เรอื่ งภัย 2. การซกั ถาม-ตอบ ะผู้เรียนร่วมกันคิดวา่ ในชุมชน ของการพนนั การเรยี นรู้ของผู้เรยี น จากส่งิ เสพตดิ ประเภทใดบ้าง 3. บตั รคา 3. ประเมินจาก ะผเู้ รยี นรวมกันวเิ คราะห์ แบบฝึกหัด ประชาชนติดสงิ่ เสพติดเพราะ 4. การปฏิบตั ิจรงิ ะผู้เรียนร่วมกันแสดงความ ากคนในชมุ ชนตดิ สิง่ เสพติด กิดผลกระทบอยา่ งไรบา้ ง ะผเู้ รียนร่วมกันเสนอแนะ กนั หรอื แนวทางแกไ้ ขคนใน เสพตดิ ผู้เรยี นทาแบบฝกึ หดั อ่าน เขยี น

ครง้ั ที่ หวั เรื่อง ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวงั เน้อื หาการเรยี นรู้ ก ภาษาไทย ค ภยั จากส่งิ เสพ ขั้นสรปุ ใหผ้ สู้ อนและ ความใจจากเ

กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือ อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชว่ั โมง คาหลัก คาเสรมิ ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับ พติดและคณิตศาสตร์ตามสือ่ ะผู้เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้ เนื้อหา

ใบความรู้ หวั เรอื่ งที่ ๒ คาหลกั ภยั สงิ่ เสพติด ร้ายแรง โทษ เหลา้ เบียร์ บุหรี่ สรุ า ยาบา้ เฮโรอีน กาว กัญชา ฝิน่ คาเสรมิ ตดิ ยา ดมกาว ตบั แขง็ เน้อื หา สิง่ เสพติดมีหลายชนิด เชน่ เหล้า เบยี ร์ บุหร่ี สรุ า ยาอี ยาบ้า เฮโรอนี กาว กัญชา ฝน่ิ ซึง่ แต่ละชนิดมี ความรนุ แรงที่กอ่ ให้เกิดโทษและพิษร้ายแรงจากสิง่ เสพติด

ใบงาน ๑.ให้ผเู้ รยี นฝึกอา่ นคาต่อไปนี้ ฝ่นิ ยาบ้า ยาอี เฮโรอนี เหลา้ บหุ รี่ ๒.ให้ผเู้ รียนฝกึ เขยี นคาต่อไปนี้ ....................................... ...................................... ฝ่ิน .................................. ....................................... ...................................... ยาบา้ .................................. ....................................... ...................................... ยาอี .................................. ....................................... ...................................... เฮโรอนี .................................. ....................................... ...................................... เหล้า .................................. ....................................... ...................................... บหุ ร่ี ..................................

แบบฝกึ หัด ๑.ให้ผู้เรียนโยงภาพและคาต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง เหลา้ ยาบา้ บหุ รี่ คณติ ศาสตร์ 9+10= 8+12= ๒.ใหผ้ ูเ้ รียนเตมิ คาตอบในชอ่ งว่าง 5+5= 7+14= 8+7= 8+13= 4+12= 8+10= 5+15= 6+8= ๓. ให้ผู้เรียนคดิ และตอบคาถามในช่อวา่ ง 1. 18+10-11 = 2. 54+15-52 =

แผนการการจัดการเรยี นรหู้ ลกั สตู ร ภาคเรยี นท่ี 2 ป จานวน สภาพที่ 4 การทามาหากนิ ครง้ั ที่ หวั เร่อื ง ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั เนอ้ื หาการเรยี นรู้ 13 อาชพี 1.ผูเ้ รียนมคี วามร้คู วาม 1. การเรียนร้เู กี่ยวกับ ข้นั นา เข้าใจในการใช้คาหลัก อาชพี ผลิตภัณฑช์ มุ ชน สอบถามผู้เ คาเสริมท่เี กี่ยวขอ้ งกบั เงินตรา เศรษฐกจิ และ ในชีวติ ประ อาชีพ การตลาดในชมุ ชน ข้ันดาเนนิ ก 2.ผูเ้ รียนมีทักษะการ รวมถึงคาหลัก คาเสริม 1.ให้ผ้เู รยี น อ่าน การเขียน การใช้ ท่เี กี่ยวข้อง อาชีพ คาหลกั คาเสริม ท่ี 2. การฝึกทักษะการ 2.ผเู้ รียนแล เกีย่ วกบั อาชีพ อ่าน เขยี น เก่ียวกับ 3.ผู้สอนแจ 3.ผเู้ รียนมที ักษะ อาชพี ผลติ ภณั ฑ์ชุมชน ให้ตรงกนั ทางด้านการคดิ คานวณ เงนิ ตรา เศรษฐกิจ และ 4.ให้ผเู้ รยี น ได้ถูกตอ้ ง การตลาดในชุมชน อาชพี และก รวมถึงคาหลกั คาเสรมิ ขัน้ สรปุ ที่เกีย่ วข้อง 1.ผู้สอนสร 3. การคดิ คานวณโจทย์ คาเสรมิ ทใ่ี ช ป๎ญหาทางดา้ น 2.ผเู้ รียนสา คณติ ศาสตร์ บทบาทสม

รการรหู้ นงั สอื ไทย พุทธศกั ราช 2557 ปกี ารศกึ ษา 2564 3 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื อปุ กรณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล จานวน ชว่ั โมง เรียนเก่ยี วกบั อาชพี ผเู้ รยี นร้จู กั 1.แบบเรียนการรู้ 1.การสังเกต ะจาวัน หนงั สือไทย 2.สอบถาม 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ 2.บตั รคาอาชีพ 3.ประเมินจากใบงาน นฝึกอา่ นและเขียนคาเก่ียวกับ 3.ใบงาน ลกเปลย่ี นความคิดเก่ียวกับอาชีพ จกบัตรคาการจับคู่คากับรปู ภาพ นสร้างบทบาทสมมุติเกย่ี วกับ การคิดเลขในอาชพี น้ันๆ รุปถงึ ความหมายของคาหลักและ ช้เรียกในการประกอบอาชีพ ามารถเขา้ ใจและปฏิบตั ิตาม มมุติได้อยา่ งถกู ต้อง

ใบงานเรอื่ ง อาชพี ๑.ใหผ้ เู้ รียนฝกึ อา่ นคาต่อไปน้ี อ่านวา่ ตา –หรวด ตารวจ อ่านวา่ ทะ – หาน ทหาร อา่ นวา่ ชาว – นา ชาวนา พยาบาล อา่ นว่า พะ – ยา – บาน เกษตรกร อ่านว่า กะ – เสด – ตะ –กอน รับจา้ ง อ่านวา่ รับ – จ้าง ๒.ใหผ้ เู้ รยี นฝกึ เขยี นคาต่อไปนี้ --------- --------- --------- ผู้สอน ประมง --------- --------- --------- ค้าขาย นกั ร้อง --------- --------- --------- พยาบาล เกษตรกร --------- --------- --------- นักรอ้ ง --------- --------- --------- --------- --------- --------- --------- --------- ---------

๓.ใหผ้ เู้ รยี นจบั คภู่ าพกบั บตั รคาให้ตรงกนั ชาวนา พยาบาล ตารวจ นกั ร้อง แพทย์ ผู้สอน ทหาร

แบบทดสอบ/แบบประเมนิ ๑.ใหผ้ เู้ รียนเขยี นคาใหต้ รงกบั ภาพตอ่ ไปน้ี ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ...............................................................................

แผนการการจัดการเรยี นรหู้ ลกั สตู ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน สภาพที่ 4 การทามาหากนิ ครงั้ ที่ หวั เรื่อง ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั เนื้อหาการเรยี นรู้ ก 14 ผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน 1.ผู้เรยี นมีความรู้ความ 1. การเรียนรู้เกี่ยวกบั ขั้นนา เขา้ ใจในการใชค้ าหลัก อาชีพ ผลิตภณั ฑช์ ุมชน ผู้สอนและผู้เ คาเสริมท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั เงนิ ตรา เศรษฐกิจ และ แนวคิดเกยี่ ว ผลติ ภณั ฑช์ ุมชน การตลาดในชุมชน ขน้ั ดาเนนิ กจิ 2.ผเู้ รยี นมีทักษะการ รวมถงึ คาหลกั คาเสรมิ 1.ผ้สู อนให้ผู้เ อ่าน การเขียน การใช้ ที่เกย่ี วข้อง 2.ผ้สู อนฝึกให คาหลกั คาเสริม ที่ 2. การฝกึ ทกั ษะการ ประโยคโดยใ เกี่ยวกับผลติ ภณั ฑ์ อา่ น เขียน เก่ยี วกับ 3.ผู้สอนให้ผู้เ ชมุ ชน อาชีพ ผลติ ภัณฑช์ ุมชน ลงในช่องว่าง 3.ผู้เรียนมที กั ษะ เงนิ ตรา เศรษฐกจิ และ ขนั้ สรปุ ทางด้านการคิดคานวณ การตลาดในชุมชน ผเู้ รยี นสามาร ไดถ้ ูกตอ้ ง รวมถึงคาหลกั คาเสริม และเข้าใจเก ที่เกีย่ วข้อง 3. การคดิ คานวณโจทย์ ปญ๎ หาทางดา้ น คณติ ศาสตร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook