เอกสารประกอบการสอน

236 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 237 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

238 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 239 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

240 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 241 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

242 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 243 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

244 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 245 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

246 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 247 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

248 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 249 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

250 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 251 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

252 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทที่ 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมนิ ผลโครงการ | 253 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

254 | บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวดั และประเมินผลโครงการ

บทท่ี 7 สถติ สิ ำหรบั การวัดและประเมินผลโครงการ | 255 บทสรุป การวัดผลส่วนใหญ่ผลที่ได้จะออกมาในรูปแบบของคะแนนหรือตัวเลข โดยตัวเลขท่ีไดจ้ าก การวัดนั้น แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ มาตรานามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) มาตราจัดอันดับ (Ordinal Scale) มาตรอันตรภาค (Interval Scale) มาตราอัตราสว่ น (Ratio Scale) และตัวเลขทไี่ ด้มานน้ั จะ มีความหมายกต็ อ่ เม่ือมีการจัดกระทำกบั ขอ้ มูล เพือ่ บรรยายลักษณะตา่ ง ๆ ของขอ้ มูลเรียกว่า สถิติ ซ่งึ ในบทท่ีเนน้ สถติ พิ รรณนา แบง่ เป็น 3 หัวข้อใหญ่ ๆ คอื 1) การแจกแจงความถ่ี ประกอบดว้ ย แบบ ไม่จัดหมวดหมูข่ ้อมลู แบบจัดกลุ่มข้อมูล 2) การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง ประกอบดว้ ย ค่าเฉล่ีย ค่ามัธยฐาน ค่าฐานนิยม และ3) การวัดการกระจาย ประกอบด้วย พิสัย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน สัมประสิทธิ์การกระจาย เน่อื งจากตวั เลขทไ่ี ด้จากการวัดน้ันจะมีความหมายเมื่อมกี ารเทียบกบั เกณฑ์ ดงั น้ันการเทยี บ คะแนนจากแหลง่ ท่ไี ด้มาตา่ งกัน จะตอ้ งแปลงใหอ้ ยู่บนฐานเดยี วกัน คอื การแปลงคะแนนใหอ้ ยใู่ นรูป ของคะแนนมาตรฐาน ประกอบด้วย คะแนนมาตรฐานซี (Z-score) คะแนนมาตรฐานที (T-score) และตำแหนง่ เปอร์เซ็นไทล์ (Percentile Ranks) คำถามทบทวน/กจิ กรรมปฏบิ ตั ปิ ระจำบท 1. จงยกตัวอย่างตวั เลขทเี่ กยี่ วข้องกบั ระดับการวัดละ 2 ตวั ออยา่ ง 1.1 มาตรานามบัญญตั ิ 1.2 มาตราจดั อนั ดับ 1.3 มาตรอนั ตรภาค 1.4 มาตราอตั ราสว่ น 2. จงหาค่าเฉลีย่ คา่ มัธยฐาน ค่าฐานนยิ ม จากขอ้ มูลตอ่ ไปน้ี 13 11 15 14 18 12 13 15 16 17 18 11 14 12 16 3. ใชข้ ้อมูลตอ่ ไปน้ีสำหรับตอบคำถาม 13 11 15 14 18 12 13 15 16 17 18 11 14 12 16 3.1 จงสรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี 3.2 จากตารางขอ้ 3.2 จงหาค่าเฉล่ยี ค่ามัธยฐาน คา่ ฐานนยิ ม 3.3 จากตารางข้อ 3.2 จงหาค่าความแปรปรวน และคา่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3.4 จากตารางข้อ 3.2 จงแปลงคะแนนเป็นคะแนน Z-score, T-score, Percentile เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

256 | บทที่ 7 สถติ สิ ำหรับการวดั และประเมินผลโครงการ เอกสารอา้ งอิงประจำบท จุฬาลกั ษณ์ บารม.ี (2555). สถติ เิ พอื่ การวจิ ยั ทางสุขภาพและการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ย โปรแกรม SPSS. ชลบรุ ี: บางแสนการพมิ พ์. เปรมใจ เอื้อองั กรู . (2543). การประเมินผลและการสรา้ งแบบทดสอบผลสัมฤทธ์ิ (เอกสารประกอบการสอน). สงขลา: สถาบนั ราชภฏั สงขลา. พิชติ ฤทธิจ์ รูญ. (2551). หลักการวัดและประเมนิ ผลการศกึ ษา (พมิ พ์ครง้ั ที่ 4).กรงุ เทพฯ: เฮ้าส์ ออฟ เคอรม์ สี ท.์ สุรีพร อนศุ าสนนนั ท.์ (2554). การวัดและประเมนิ ในชั้นเรยี น. ชลบุร:ี โรงพมิ พ์ เกท็ ก๊ดู ครเี อชั่น. อนวุ ตั ิ คณู แกว้ . (2559). การวดั และประเมนิ ผลการศกึ ษาแนวใหม่ (พิมพ์ครัง้ ที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและ การนำไปใช้ประโยชน์

258 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตัดสินผลการเรียนและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 259 แผนบรหิ ารการสอนประจำบทที่ 8 ชอ่ื บท การตดั สินผลการเรียนและการนำไปใชป้ ระโยชน์ จำนวนชว่ั โมงท่สี อน 12 ชว่ั โมง สัปดาหท์ ี่ 14-16 หัวขอ้ เนือ้ หา 1. หลักการตดั สนิ ผลการเรียน 2. วธิ กี ารตัดสนิ ผลการเรยี น 3. การนำผลการเรยี นไปใช้ประโยชน์ คำสำคัญ การตัดสินผลการเรยี นแบบองิ กลมุ่ , การตดั สินผลการเรียนแบบองิ เกณฑ,์ การตัดสนิ ผลการเรียนองิ พฒั นาการ วัตถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เมอ่ื ผู้เรียนศกึ ษาบทเรยี นนีแ้ ล้วสามารถ 1. อธบิ ายหลักการการตัดสนิ ผลการเรยี นได้ 2. ตัดสนิ ผลการเรียนในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ 3. ยกตวั อยา่ งการนำผลการประเมินไปใช้ในการพฒั นาการเรียนการสอนได้ การวัดผลและการประเมินผล 1. ตรวจสอบจากการตอบคำถามท้ายบท 2. สงั เกตพฤติกรรมถาม-ตอบในชน้ั เรยี น 3. ตรวจสอบจากการทำใบงาน 4. สงั เกตการณ์ทำงานกลมุ่ และความรบั ผดิ ชอบ 5. ตรวจสอบจากการสรปุ องคค์ วามรู้และสะทอ้ นความร้แู ละความคิด เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

260 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 261 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

262 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 263 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

264 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 265 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

266 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 267 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

268 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 269 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

270 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 271 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

272 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 273 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

274 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทท่ี 8 การตดั สินผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 275 เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

276 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์

บทที่ 8 การตัดสินผลการเรียนและการนำไปใชป้ ระโยชน์ | 277 บทสรปุ การตัดสินผลการเรียน หรือโดยท่ัวไปเรียกว่าการตัดเกรด เป็นการประเมินผลสัมฤทธิ์ของ ผู้เรยี นหลงั จากเสรจ็ สนิ้ การเรียนการสอน เพอื่ ประเมนิ ว่าผู้เรียนมคี วามรรู้ ะดับใด โดยมีหลกั การดังนี้ 1) การตัดเกรดต้องอยู่บนฐานของความยุติธรรม 2) การตัดเกรดต้องยึดเกณฑ์เป็นหลัก เช่น วัตถุประสงค์ของการเรียน 3) การตัดเกรดต้องอาศัยข้อมูลที่เชื่อถือได้ คือมีความตรงและความ เช่อื มน่ั และ4) การตัดเกรดควรองิ 3 ปัจจัย คือ ความรอบรู้ในเน้ือหาวชิ า ความสามารถเมื่อเทียบกบั กลุ่มปกติ และความเจริญก้าวหน้าเมอ่ื เทียบกบั ตนเอง โดยมรี ูปแบบการตัดเกรด 3 รูปแบบ คือ การ ตดั เกรดแบบอิงเกณฑเ์ ปน็ การตดั เกรดโดยยดึ เกณฑ์ทีก่ ำหนดไวต้ ้งั แตต่ ้นเป็นสำคัญ การตดั เกรดแบบ อิงกลุ่มเป็นการตัดเกรดโดยยึดค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้เข้าสอนเป็นสำคัญ และการตัดเกรดแบบอิง พัฒนาการเป็นการตัดเกรดโดยยึดตนเองเป็นสำคัญ นอกจากนี้ผลที่ได้จากการประเมินส่วนใหญ่ นำไปใช้ในการพัฒนาหรอื ปรับปรงุ การจดั การเรยี นการสอนให้ดีข้นึ หรือมคี ุณภาพตามที่สถานศึกษา กำหนด คำถามทบทวน/กิจกรรมปฏิบตั ิประจำบท 1. จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการตัดสินผลการเรียนแบบอิงกลุ่ม อิงเกณฑ์ และอิง พฒั นาการ 2. จงใชข้ ้อมูลต่อไปนสี้ ำหรบั ตอบคำถาม 13 11 15 14 18 12 13 15 16 17 18 11 14 12 16 2.1 จงตดั เกรดแบบองิ กลุ่มโดยใชพ้ ิสัย 2.2 จงตัดเกรดแบบองิ กลมุ่ โดยใช้ค่าเฉล่ียและสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3. จงหาคะแนนพฒั นาการของกาญจนา เมอ่ื คะแนนสอบก่อนเรียนวชิ าภาษาไทยเท่ากับ 12 คะแนน และคะแนนหลงั เรยี นเท่ากับ 16 คะแนน จากคะแนนเตม็ 20 คะแนน 4. จงยกตัวอยา่ งบทบาทของครใู นการนำผลการประเมินผลการเรียนร้ไู ปใช้ประโยชน์ เอกสารประกอบการสอนการวดั และประเมินผลการเรียนรู้

278 | บทท่ี 8 การตดั สนิ ผลการเรยี นและการนำไปใชป้ ระโยชน์ เอกสารอา้ งอิงประจำบท พชิ ิต ฤทธิ์จรูญ. (2551). หลักการวดั และประเมนิ ผลการศกึ ษา (พิมพ์ครัง้ ที่ 4).กรงุ เทพฯ: เฮา้ ส์ ออฟ เคอร์มสี ท.์ ศิริชยั กาญจนวาสี. (2552). ทฤษฎีการทดสอบแบบดง้ั เดมิ (พมิ พค์ ร้งั ท่ี 6). กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั . สมนึก ภทั ทิยธน.ี (2560). การวัดผลการศกึ ษา (พมิ พ์ครง้ั ที่ 11). กาฬสนิ ธุ์: โรงพมิ พ์ประสานการพิมพ.์ สมบรู ณ์ ชติ พงศ์ และเตือนใจ เกตษุ า. (2558). การสรา้ งและตรวจสอบคุณภาพเครอ่ื งมอื วัด ด้านพุทธิพิสัย. ใน สถติ ิ วิจยั และการประเมนิ ผลการศึกษา. นนทบุรี: โรงพมิ พ์ มหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช. สุรีพร อนุศาสนนันท.์ (2554). การวดั และประเมินในชั้นเรยี น. ชลบุร:ี โรงพมิ พ์ เก็ทกดู๊ ครเี อช่นั .

บรรณานกุ รม | 279 บรรณานกุ รม

280 | บรรณานกุ รม

บรรณานกุ รม | 281 บรรณานุกรม กมลวรรณ ตังธนกานนท.์ (2559). การวัดและประเมนิ ทกั ษะการปฏิบตั ิ (พมิ พ์ครงั้ ที่ 2). กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พแ์ หง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . โกวทิ ประวาลพฤกษ์ และนลณิ ี ณ นคร. (2558). การสร้างและตรวจสอบคณุ ภาพเคร่ืองมอื วดั ด้านทกั ษะพสิ ยั . ใน สถติ ิ วิจัย และการประเมินผลการศกึ ษา. นนทบรุ :ี โรงพมิ พ์ มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. โกวิท ประวาลพฤกษ์ และสมถวลิ วจิ ติ รวรรณา. (2558). การสร้างและตรวจสอบคุณภาพเคร่ืองมือ วดั ดา้ นเจตพสิ ยั . ใน สถติ ิ วจิ ัย และการประเมนิ ผลการศกึ ษา. นนทบุร:ี โรงพมิ พ์ มหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช. ขจรศกั ด์ิ บัวระพนั ธ์. (2550). การประเมนิ ระหวา่ งเรียน: แนวคิดและวธิ กี าร. วารสารศึกษาศาสตร์ ปรทิ ศั น์, 22(2), 29-39. จุฬาลกั ษณ์ บารม.ี (2555). สถติ เิ พือ่ การวิจยั ทางสขุ ภาพและการวิเคราะหข์ ้อมูลด้วย โปรแกรม SPSS. ชลบรุ ี: บางแสนการพมิ พ์. ชวาล แพรรัตกลุ . (2552). เทคนคิ การวดั ผล (พิมพ์ครง้ั ท่ี 7). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. โชติกา หนูพรกิ . (2558). การประเมนิ เพอื่ การเรียนรู้: การตง้ั คำถามและการใหข้ ้อมลู ยอ้ นกลบั เพอื่ ส่งเสริมการเรียนรู.้ วารสารศกึ ษาศาสตรม์ หาวิทยาลยั ศลิ ปากร, 13(2), 18-30. เปรมใจ เอ้ือองั กูร. (2536). การประเมนิ ผลและการสรา้ งแบบทดสอบผลสมั ฤทธ.์ิ สงขลา: วิทยาลยั ครสู งขลา. เปรมใจ เอ้อื อังกรู . (2543). การประเมินผลและการสรา้ งแบบทดสอบผลสัมฤทธ์ิ (เอกสารประกอบการสอน). สงขลา: สถาบันราชภฏั สงขลา. พิชิต ฤทธจ์ิ รูญ. (2551). หลกั การวัดและประเมนิ ผลการศกึ ษา (พมิ พ์ครงั้ ที่ 4).กรงุ เทพฯ: เฮา้ ส์ ออฟ เคอร์มสี ท.์ ภาวิณี ศรสี ขุ วัฒนานันท.์ (2549). การตรวจสอบคณุ ภาพเครื่องมอื วัดและประเมนิ ผลการศึกษา ใน หลกั การวดั และประเมนิ ผลการศกึ ษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เยาวดี รางชยั กลุ วบิ ูรย์ศร.ี (2556). การวัดผลการการสรา้ งแบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิ. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. ล้วน สายยศ และองั คณา สายยศ. (2543). การวัดดา้ นจติ พสิ ัย. กรงุ เทพฯ: สุวรี ยิ าสาสน์ . วรนุช แหยมแสง. (2562). การวัดและประเมินผลคณิตศาสตร์ (พิมพ์ครง้ั ที่ 2). กรงุ เทพฯ: สำนกั พมิ พ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

282 | บรรณานุกรม วาโร เพง็ สวัสด์.ิ (2551). วิธีวทิ ยาการวิจยั . กรงุ เทพฯ: สุวรี ยิ าสาส์น. วิจารณ์ พานิช. (2557). การประเมนิ เพอื่ มอบอำนาจการเรียนรู้. กรงุ เทพฯ: หา้ งหุ้นส่วนจำกัด ภาพพมิ พ์ ศริ ชิ ัย กาญจนวาสี. (2552). ทฤษฎกี ารทดสอบแบบดัง้ เดิม (พมิ พค์ ร้ังท่ี 6). กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ศิริชัย กาญจนวาสี. (2558). มาตรฐานของการวัดและประเมนิ ทางการศกึ ษาและจิตวิทยา. ใน วารสารการวจิ ัยสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พแ์ หง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . สมจิตรา เรืองศร.ี (2554). การสรา้ งแบบวัดจติ พสิ ัย. กรงุ เทพฯ: สำนกั พมิ พ์มหาวทิ ยาลัย รามคำแหง. สมนกึ ภัททิยธนี. (2560). การวัดผลการศึกษา (พมิ พค์ รงั้ ที่ 11). กาฬสินธ์ุ: โรงพิมพ์ ประสานการพิมพ.์ สมบรู ณ์ ชติ พงศ์ และเตือนใจ เกตษุ า. (2558). การสรา้ งและตรวจสอบคุณภาพเครอ่ื งมอื วัด ด้านพุทธพิ ิสัย. ใน สถติ ิ วจิ ัย และการประเมนิ ผลการศึกษา. นนทบรุ ี: โรงพมิ พ์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. สมาพร มณอี ่อน. (2559). การประเมินเพือ่ การเรียนร.ู้ วารสารศกึ ษาศาสตรม์ หาวทิ ยาลัยศลิ ปากร, 14(1), 15-25. สรญั ญา จันทรช์ ูสกลุ . (2561). แนวคดิ หลกั การและยุทธวธิ ีการประเมนิ เพอื่ การเรียนรู้. วารสาร การวดั ผลการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม, 24(1), 14-28. สุรพี ร อนุศาสนนนั ท.์ (2554). การวัดและประเมนิ ในช้ันเรยี น. ชลบรุ :ี โรงพมิ พ์ เกท็ กู๊ดครเี อชั่น. อนุวตั ิ คณู แกว้ . (2559). การวดั และประเมนิ ผลการศกึ ษาแนวใหม่ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. อสิ ระ กุลวฒุ ิ, สรุ ีพร อนศุ าสนนนั ท์ และสมพงษ์ ปน้ั หนุ่ . (2561). รปู แบบการประเมินระหวา่ งเรยี น. วารสารวชิ าการ มหาวิทยาลยั ราชภัฏบรุ รี มั ย์, 10(2), 21-33. Bloom, Benjamin.S.(1956). Taxonomy of educational objective handbook I: cognitive domain. New York: Longmans. Brennan, R.L. (1972). A generalized upper-lower item discrimination index. Educational and psychologocal measurement. 32, 289-303. Gronlund, N.E. (1976). Measurement and evaluation in teaching (3thed). New York: Macmillan Publishing. Gronlund, N.E., & Linn, R.L. (1990). Measurement and evaluation in teaching. New York : Macmillan Publishing Company.

บรรณานุกรม | 283 Keely, P., & Tobey, C. (2011). Mathematics formative assessment, volume 1: 75 practical strategies linking assessment, instruction, and learning. Thousand Oaks, CA : Corwin. ______. (2017). Mathematics formative assessment, volume 2: 50 more practical strategies for linking assessment, instruction, and learning. Thousand Oaks, CA : Corwin.

284 | บรรณานกุ รม

ภาคผนวก | 285 ภาคผนวก