การออกแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 2

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 14102 ปีการศึกษา 2563 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 19 ชว่ั โมง เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 เรอื่ ง รูปสเี่ หล่ียมมุมฉาก แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 9 เรื่อง พืน้ ท่ขี องรปู สเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก ผสู้ อน นางสาววิไลวรรณ รยิ ะนา วันที่ …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณิต สมบตั ิของรปู เรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง รูป เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้ 2. ตัวชีว้ ดั ค 2.1 ป.4/3 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรูปและพน้ื ท่ีของรปู สี่เหลีย่ ม มมุ ฉาก 3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด พน้ื ที่ เปน็ บรเิ วณภายในทถ่ี ูกปดิ ล้อมด้วยขอบของรปู หรือบรเิ วณภายในของรูปปดิ การหาพ้ืนท่ีของรูปเรขาคณติ สองมติ ิ อาจหาได้จากการนบั จานวนรปู ส่เี หลยี่ มจัตุรัสท่ีเรียงติดกันและไม่ซ้อนทับ กนั จนเต็มพืน้ ท่ีของรปู เรขาคณิตสองมิติน้ัน 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1)เข้าใจหลักการหาพนื้ ที่ของรูปสเี่ หล่ยี มมุมฉาก (K) 2)บอกวิธกี ารหาพนื้ ท่ีของรปู สีเ่ หลีย่ มมมุ ฉากทก่ี าหนดให้ได้ (P) 3)รบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ การหาพืน้ ที่ของรปู สีเ่ หล่ียมมุมฉาก 6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 14102 ปกี ารศึกษา 2563 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 19 ช่วั โมง เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 9 เร่อื ง รูปสีเ่ หลย่ี มมมุ ฉาก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรือ่ ง หน่วยของพ้ืนทข่ี องรปู สีเ่ หลย่ี มมุมฉาก ผ้สู อน นางสาววิไลวรรณ ริยะนา วันท่ี …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค. 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์รปู เรขาคณติ สมบตั ขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพันธร์ ะหว่าง รูป เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้ 2. ตัวชว้ี ัด ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปและพนื้ ที่ของรปู สเี่ หลีย่ ม มุมฉาก 3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด พ้ืนท่ี เปน็ บรเิ วณภายในทถ่ี ูกปิดลอ้ มดว้ ยขอบของรูป หรือบรเิ วณภายในของรูปปิด การหาพน้ื ทีข่ องรปู เรขาคณิตสองมติ ิ อาจหาไดจ้ ากการนับจานวนรูปสีเ่ หลย่ี มจตั ุรัสท่ีเรียงติดกันและไม่ซ้อนทับ กันจนเต็มพ้ืนทข่ี องรูปเรขาคณิตสองมิตนิ ั้น รปู สี่เหลย่ี มจัตรุ สั ทมี่ คี วามยาวดา้ นละ 1 หน่วย มพี ้ืนท่ี 1 ตารางหนว่ ย รูปสเี่ หลย่ี มจัตุรัสที่มีความยาวด้านละ 1 เซนติเมตร มีพนื้ ที่ 1 ตารางเซนตเิ มตร ใช้อกั ษรย่อ ตร.ซม. รูปสี่เหลี่ยมจัตุรสั ท่ีมีความยาวด้านละ 1 เมตร มพี ้ืนท่ี 1 ตารางเมตร ใชอ้ ักษรย่อ ตร.ม. รูปส่เี หลีย่ มจัตรุ สั ทม่ี ีความยาวด้านละ 1 กโิ ลเมตร มพี ืน้ ท่ี 1 ตารางกโิ ลเมตร ใช้อกั ษรย่อ ตร.กม. รูปสเ่ี หลย่ี มจตั รุ ัสท่มี ีความยาวด้านละ 1 วา มพี ้ืนที่ 1 ตารางวา ใชอ้ ักษรย่อ ตร.ว. การหาพนื้ ทีโ่ ดยประมาณ ให้นบั พ้ืนทส่ี ว่ นที่เตม็ ตารางหนว่ ย รวมกบั พื้นทส่ี ่วนทีไ่ ม่เต็มตารางหน่วย โดยพืน้ ท่ี ส่วนทไ่ี มเ่ ต็มตารางหน่วยให้นามารวมกัน ให้ได้ 1 ตารางหน่วยหรือใกลเ้ คียง 1 ตารางหนว่ ยกอ่ น สาหรับพ้ืนทีส่ ว่ นที่ เหลือ ถา้ เหลือตง้ั แต่ครงึ่ ตารางหนว่ ยข้นึ ไปให้นบั เปน็ 1 ตารางหนว่ ย ถา้ เหลอื ไม่ถงึ ครง่ึ ตารางหน่วยใหต้ ัดทิ้ง ไม่ตอ้ ง นามารวม

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 14102 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 เรื่อง รูปสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก เวลา 19 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เร่อื ง การหาพ้ืนที่ของรูปสีเ่ หลย่ี มมมุ ฉากโดยใช้การนับตาราง เวลา 1 ชัว่ โมง ผสู้ อน นางสาววไิ ลวรรณ รยิ ะนา วันที่ …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค. 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณติ สมบตั ขิ องรปู เรขาคณิต ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง รปู เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนาไปใช้ 2. ตวั ชวี้ ดั ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรูปและพื้นท่ีของรูปสี่เหลย่ี ม มมุ ฉาก 3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด พน้ื ที่ เปน็ บรเิ วณภายในที่ถูกปิดลอ้ มดว้ ยขอบของรปู หรือบริเวณภายในของรูปปดิ การหาพ้ืนที่ของรปู เรขาคณิตสองมติ ิ อาจหาไดจ้ ากการนับจานวนรูปสีเ่ หล่ียมจตั ุรัสที่เรียงติดกันและไม่ซ้อนทับ กันจนเต็มพื้นที่ของรปู เรขาคณิตสองมิตินน้ั รปู สี่เหลย่ี มจตั ุรสั ทีม่ คี วามยาวดา้ นละ 1 หน่วย มพี ืน้ ที่ 1 ตารางหนว่ ย รปู สีเ่ หลี่ยมจตั ุรสั ที่มีความยาวด้านละ 1 เซนติเมตร มพี ื้นท่ี 1 ตารางเซนติเมตร ใชอ้ กั ษรย่อ ตร.ซม. รปู สีเ่ หลีย่ มจตั รุ ัสทมี่ ีความยาวด้านละ 1 เมตร มพี น้ื ที่ 1 ตารางเมตร ใช้อกั ษรยอ่ ตร.ม. รปู ส่เี หล่ยี มจตั รุ ัสทมี่ คี วามยาวดา้ นละ 1 กิโลเมตร มพี ืน้ ท่ี 1 ตารางกิโลเมตร ใช้อักษรย่อ ตร.กม. รูปสี่เหล่ยี มจตั รุ ัสทม่ี คี วามยาวดา้ นละ 1 วา มีพ้ืนท่ี 1 ตารางวา ใชอ้ กั ษรย่อ ตร.ว. การหาพนื้ ท่โี ดยประมาณ ใหน้ ับพ้นื ที่สว่ นท่ีเต็มตาราง- หน่วย รวมกบั พื้นที่ส่วนท่ีไม่เต็มตารางหน่วย โดยพ้ืนท่ี ส่วนทไ่ี ม่เต็มตารางหน่วยให้นามารวมกัน ให้ได้ 1 ตาราง- หนว่ ยหรือใกล้เคียง 1 ตารางหน่วยกอ่ น สาหรับพื้นที่ ส่วนท่ี เหลอื ถ้าเหลอื ต้ังแตค่ รึง่ ตารางหน่วยข้ึนไปให้นบั เปน็ 1 ตารางหน่วย ถ้าเหลือไม่ถึงคร่ึงตารางหน่วยให้ตัดทิ้ง ไม่ต้อง นามารวม

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 14102 ปีการศกึ ษา 2563 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 19 ชั่วโมง เวลา 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 9 เรือ่ ง รูปสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 12 เรอื่ ง การหาพืน้ ทีข่ องรปู สเี่ หล่ียมมุมฉาก ผู้สอนนางสาววไิ ลวรรณ รยิ ะนา วนั ท่ี …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณติ สมบัตขิ องรปู เรขาคณติ ความสมั พันธ์ระหว่าง รปู เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้ 2. ตัวช้วี ดั ค 2.1 ป.4/3 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรปู และพืน้ ท่ขี องรูปส่เี หลีย่ ม มุมฉาก 3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การหาพื้นท่ขี องรปู ส่เี หลี่ยมมุมฉากอาจหาไดจ้ าก พ้นื ท่ขี องรปู สเ่ี หล่ียมผนื ผ้า = ความกวา้ ง × ความยาว พืน้ ที่ของรปู สเ่ี หลี่ยมจัตรุ สั = ความยาวด้าน × ความยาวด้าน 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1)เข้าใจหลกั การหาพืน้ ท่ีของรปู สเ่ี หล่ียมมมุ ฉาก (K) 2)หาพน้ื ทขี่ องรูปสีเ่ หลย่ี มมุมฉากทีก่ าหนดให้ได้ (P) 3)รบั ผิดชอบต่อหนา้ ทที่ ่ีได้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การหาพื้นที่ของรูปสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก 6. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 14102 ปกี ารศกึ ษา 2563 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 19 ชั่วโมง เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 9 เร่ือง รูปสีเ่ หล่ียมมุมฉาก แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 13 เรื่อง การหาพนื้ ที่ของรปู ส่เี หลยี่ มมมุ ฉากประยกุ ต์ ผสู้ อน นางสาววิไลวรรณ ริยะนา วนั ท่ี …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบตั ขิ องรปู เรขาคณิต ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง รูป เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้ 2. ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปและพ้นื ท่ขี องรูปส่เี หลีย่ ม มมุ ฉาก 3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การหาพื้นทีข่ องรปู ส่ีเหลี่ยมมุมฉากอาจหาไดจ้ าก พ้นื ที่ของรปู สี่เหลย่ี มผืนผา้ = ความกว้าง × ความยาว พืน้ ทขี่ องรูปสีเ่ หล่ียมจตั ุรสั = ความยาวด้าน × ความยาวด้าน 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1)เขา้ ใจหลกั การหาพื้นทข่ี องรปู ส่ีเหลีย่ มมมุ ฉาก (K) 2)หาพ้นื ทีข่ องรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากทก่ี าหนดให้ได้ (P) 3)รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทที่ ีไ่ ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การหาพ้นื ท่ีของรปู สเี่ หลย่ี มมุมฉาก 6. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 14102 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 เรอื่ ง รปู สเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก เวลา 19 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 เรือ่ ง โจทย์ปญั หาการหาความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาววิไลวรรณ ริยะนา วนั ที่ …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณติ สมบตั ขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหวา่ ง รูป เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้ 2. ตวั ชี้วดั ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรปู และพ้นื ที่ของรปู สเ่ี หลยี่ ม มุมฉาก 3. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรปู และพนื้ ท่ี ของรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก อาจใช้กระบวนการแก้ปัญหา ตามขั้นตอน ดงั น้ี ข้ันท่ี 1 ทาความเข้าใจปญั หา ข้นั ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา ขั้นที่ 3 ดาเนนิ การตามแผน ขั้นที่ 4 ตรวจสอบหรอื มองย้อนกลับ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เข้าใจขน้ั ตอนการแกโ้ จทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพน้ื ทข่ี องรปู สี่เหล่ยี มมุมฉาก (K) 2) แกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกับความยาวรอบรปู และพืน้ ท่ขี องรปู สีเ่ หลย่ี มมุมฉากได้ (P) 3) รับผดิ ชอบต่อหน้าที่ทีไ่ ด้รับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู และพ้นื ท่ีของรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 14102 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 9 เรือ่ ง รปู สี่เหล่ียมมมุ ฉาก เวลา 19 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 15 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หาการหาความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาววิไลวรรณ รยิ ะนา วนั ที่ …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รปู เรขาคณติ สมบตั ขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหวา่ ง รูป เรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนาไปใช้ 2. ตวั ชวี้ ัด ค 2.1 ป.4/3 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรปู และพ้นื ที่ของรปู สเ่ี หลยี่ ม มุมฉาก 3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การแก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับความยาวรอบรปู และพนื้ ท่ี ของรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก อาจใช้กระบวนการแก้ปัญหา ตามขน้ั ตอน ดงั น้ี ขั้นที่ 1 ทาความเขา้ ใจปัญหา ขนั้ ที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา ขั้นท่ี 3 ดาเนินการตามแผน ขนั้ ท่ี 4 ตรวจสอบหรือมองยอ้ นกลับ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เขา้ ใจขัน้ ตอนการแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพน้ื ทข่ี องรปู สี่เหล่ยี มมุมฉาก (K) 2) แกโ้ จทยป์ ญั หาเกย่ี วกับความยาวรอบรปู และพืน้ ท่ขี องรปู สีเ่ หลย่ี มมุมฉากได้ (P) 3) รบั ผดิ ชอบต่อหน้าที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ การแก้โจทย์ปัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรปู และพ้นื ท่ีของรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก

แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 14102 ปกี ารศึกษา 2563 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 12 ชว่ั โมง เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 10 เร่ือง การนาเสนอขอ้ มลู แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง เตรยี มความพร้อม การนาเสนอขอ้ มูล ผสู้ อน นางสาววิไลวรรณ รยิ ะนา วนั ที่ …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค. 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการแก้ปัญหา 2. ตวั ชี้วดั ค 3.1 ป.4/1 ใชข้ อ้ มูลจากแผนภูมิแท่ง ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 3. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด แผนภูมแิ ทง่ เป็นการใช้แทง่ ส่ีเหลีย่ มมุมฉากแสดงจานวนของสิ่งของตา่ งๆ โดยให้ความสูงหรือความยาวของ แตล่ ะแท่งแสดงจานวนแตล่ ะรายการ แท่งสี่เหลย่ี มมมุ ฉากแต่ละแท่งมีความกว้างเท่ากันและเริ่มต้นเขียนจากระดับ เดียวกัน 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรยี นสามารถนาเสนอข้อมูลโดยการเขยี นแผนภมู ิแท่งเปรยี บเทยี บได้ (K) 2) สามารถอธบิ ายและตอบคาถามจากแผนภมู แิ ทง่ และแผนภมู แิ ท่งเปรียบเทียบได้ (K) 3) ใช้เคร่ืองมอื แผนภมู แิ ท่งและแผนภูมิแทง่ เปรียบเทยี บ ในการหาคาตอบของโจทยท์ ก่ี าหนดให้ได้ (P) 4) รบั ผิดชอบต่อหน้าที่ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และการจาแนกข้อมลู 6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 14102 ปกี ารศกึ ษา 2563 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 12 ช่วั โมง เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 เร่ือง การนาเสนอข้อมูล แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง การเกบ็ รวบรวมข้อมลู และการจาแนกข้อมลู ผู้สอน นางสาววไิ ลวรรณ ริยะนา วันท่ี …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 สถติ แิ ละความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค. 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถิตใิ นการแก้ปญั หา 2. ตวั ชวี้ ัด ค 3.1 ป.4/1 ใช้ขอ้ มูลจากแผนภมู ิแทง่ ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 3. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การจาแนกขอ้ มลู และการนาเสนอขอ้ มูลในรูปแบบตาราง ช่วยให้เหน็ ภาพรวมของข้อมูล และสามารถบอก รายละเอยี ด และเปรยี บเทยี บข้อมูลแต่ละรายการได้ชดั เจนย่ิงขึ้น 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) นกั เรยี นสามารถอธิบายการจาแนกขอ้ มลู และนาเสนอขอ้ มูลในรปู แบบตารางได้ (K) 3) จาแนกขอ้ มลู และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบตารางได้ (P) 4) รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีที่ได้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และการจาแนกขอ้ มลู 6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 14102 ปีการศึกษา 2563 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 7 ชว่ั โมง เวลา 1 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 10 เรอ่ื ง การนาเสนอข้อมูล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง การนาเสนอขอ้ มลู ตารางสองทาง ผู้สอน นางสาววิไลวรรณ รยิ ะนา วนั ที่ …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 สถติ ิและความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค. 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรู้ทางสถิตใิ นการแกป้ ัญหา 2. ตวั ชวี้ ัด ค 3.1 ป.4/1 ใชข้ ้อมลู จากแผนภมู แิ ทง่ ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ตารางสองทาง (two-way table) เปน็ ตารางที่จาแนกข้อมลู เปน็ 2 ลักษณะ โดยการอ่านตารางสองทางให้ อา่ นขอ้ มูลในแนวตงั้ และแนวนอนทีส่ ัมพันธ์กนั 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายขอ้ มูลจากตารางสองทางได้ (K) 2) ตรวจสอบขอ้ มูลจากตารางสองทางได้ (K) 3) ใชข้ ้อมูลจากตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาได้ (P) 4) รับผิดชอบต่อหนา้ ที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ การอ่านตารางสองทาง 6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 14102 ปกี ารศึกษา 2563 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 12 ชว่ั โมง เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 10 เรื่อง การนาเสนอข้อมลู แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 4 เรื่อง การนาเสนอขอ้ มูลตารางสองทาง ผ้สู อน นางสาววไิ ลวรรณ รยิ ะนา วนั ที่ …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค. 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถติ ใิ นการแกป้ ัญหา 2. ตัวชว้ี ดั ค 3.1 ป.4/1 ใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู แิ ทง่ ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ตารางสองทาง (two-way table) เปน็ ตารางท่ีจาแนกข้อมูลเป็น 2 ลักษณะ โดยการอ่านตารางสองทางให้ อา่ นขอ้ มูลในแนวต้ังและแนวนอนทสี่ ัมพนั ธ์กนั 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธบิ ายข้อมูลจากตารางสองทางได้ (K) 2) ตรวจสอบข้อมลู จากตารางสองทางได้ (K) 3) ใช้ขอ้ มูลจากตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หาได้ (P) 4) รบั ผิดชอบต่อหน้าท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การอา่ นตารางสองทาง 6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 14102 ปีการศกึ ษา 2563 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 12 ช่วั โมง เวลา 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 10 เรื่อง การนาเสนอขอ้ มูล แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง การนาเสนอข้อมลู โดยแผนภูมิแท่ง ผู้สอน นางสาววิไลวรรณ รยิ ะนา วันที่ …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 สถติ ิและความน่าจะเปน็ มาตรฐาน ค. 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรูท้ างสถิติในการแกป้ ัญหา 2. ตวั ชว้ี ดั ค 3.1 ป.4/1 ใชข้ อ้ มูลจากแผนภูมแิ ท่ง ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด แผนภูมแิ ทง่ เป็นรูปแบบหน่งึ ของการนาเสนอข้อมลู ทีใ่ ชร้ ูปสเี่ หลี่ยมมุมฉากแสดงจานวนของแต่ละรายการ โดยการอา่ นแผนภูมแิ ท่งทาไดโ้ ดยเทียบสว่ นปลายสุดของรูปสเี่ หล่ียมมุมฉากแต่ละรูปกบั จานวนบนเสน้ แสดงจานวน 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายข้อมูลจากแผนภูมแิ ทง่ ได้ (K) 2) ตรวจสอบขอ้ มลู จากแผนภมู ิแท่งได้ (K) 3) ใช้ข้อมูลจากแผนภมู แิ ทง่ ในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาได้ (P) 4) รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทีท่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การอา่ นแผนภูมิแทง่ 6. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 1410 ปีการศกึ ษา 2563 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 12 ชว่ั โมง เวลา 1 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 10 เร่ือง การนาเสนอขอ้ มลู แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 6 เรอื่ ง การเขยี นแผนภมู แิ ทง่ ผูส้ อน นางสาววิไลวรรณ รยิ ะนา วันท่ี …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 สถิตแิ ละความน่าจะเปน็ มาตรฐาน ค. 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรู้ทางสถิตใิ นการแก้ปัญหา 2. ตัวชวี้ ัด ค 3.1 ป.4/1 ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู แิ ทง่ ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด - ส่วนประกอบของแผนภมู ิแท่ง ได้แก่ ชอ่ื แผนภมู แิ ละ ตัวแผนภมู ิ - ชือ่ แผนภมู ิ เปน็ สว่ นที่แสดงให้ทราบว่า เป็นข้อมูล เกี่ยวกบั เรือ่ งใด เวลาใด - ตวั แผนภมู ิ ประกอบดว้ ย เส้นแสดงจานวน เสน้ แสดงรายการ และรูปสีเ่ หล่ียมมุมฉากที่แสดงจานวน ของ แตล่ ะรายการ ซงึ่ รูปสี่เหลีย่ มมุมฉากแตล่ ะรปู ตอ้ งมีความกวา้ งเทา่ กนั เรม่ิ ต้นจากระดับเดียวกันท่ี 0 และ ระยะห่าง ระหว่างรูปสีเ่ หลีย่ มมมุ ฉากควรเท่ากัน 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายวิธีการและขั้นตอนการเขยี นแผนภมู ิแท่งได้ (K) 2) สามารถเขียนแผนภูมิแทง่ ได้ (P) 3) รบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ การเขยี นแผนภมู แิ ท่ง 6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 14102 ปกี ารศึกษา 2563 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 12 ช่ัวโมง เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง การนาเสนอขอ้ มลู แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ร่วมคดิ รว่ มทา ผู้สอน นางสาววไิ ลวรรณ ริยะนา วนั ท่ี …………………………………………… 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 สถติ ิและความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค. 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปญั หา 2. ตวั ชี้วัด ค 3.1 ป.4/1 ใช้ข้อมลู จากแผนภูมิแท่ง ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา 3. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด - ส่วนประกอบของแผนภมู ิแทง่ ไดแ้ ก่ ชอ่ื แผนภมู ิและ ตวั แผนภูมิ - ช่อื แผนภูมิ เป็นส่วนทแ่ี สดงให้ทราบวา่ เป็นขอ้ มลู เก่ียวกับเรื่องใด เวลาใด - ตัวแผนภมู ิ ประกอบดว้ ย เส้นแสดงจานวน เสน้ แสดงรายการ และรปู ส่ีเหลี่ยมมุมฉากท่ีแสดงจานวน ของ แตล่ ะรายการ ซ่งึ รปู สี่เหลี่ยมมุมฉากแตล่ ะรูปตอ้ งมคี วามกวา้ งเทา่ กนั เริ่มต้นจากระดับเดียวกันที่ 0 และ ระยะห่าง ระหว่างรูปสเี่ หลีย่ มมุมฉากควรเท่ากัน 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธบิ ายวิธกี ารและข้นั ตอนการเขยี นแผนภมู ิแทง่ ได้ (K) 2) สามารถเขียนแผนภมู แิ ทง่ ได้ (P) 3) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีทีไ่ ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ การเขียนแผนภมู ิแท่ง 6. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. การจดั กจิ กรรม ครคู วรแบง่ นักเรียน กลุ่มละ 3–4 คน 2. ให้แต่ละกลมุ่ สารวจข้อมลู ท่แี ตกต่างกนั โดยสารวจขอ้ มลู ทีก่ ลมุ่ ตนเองสนใจ เชน่ จานวนนักเรียนในแต่ ละหอ้ งเรยี น วิธกี ารเดนิ ทางมาโรงเรียน อาชพี ผูป้ กครอง จานวนผู้ใช้บริการหอ้ งสมดุ จานวนผู้ใช้บรกิ ารหอ้ ง พยาบาล แล้วนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยแผนภูมิแท่ง 3. จากนั้นนาผลงานเสนอหนา้ ช้นั พรอ้ มต้ังคาถามให้เพือ่ นในชั้นช่วยกนั ตอบ 4. ครูต้งั คาถามเพ่มิ เตมิ เพ่ือให้ครอบคลุมประเด็นสาคัญ 9. สือ่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 3. ตารางเขยี นแผนภูมิแท่ง 10. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2. เคร่ืองมอื 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น

รายการวดั วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 10.1 การประเมินก่อน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมนิ ตามสภาพจรงิ เรยี น ก่อนเรยี น - แบบทดสอบกอ่ น เรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ 10.2 ประเมนิ ระหวา่ ง - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทักษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1) รว่ มคิดร่วมทา - ตรวจแบบฝกึ หดั ระดับคุณภาพ 2 2) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ 3) พฤตกิ รรมการ การทางานกลมุ่ การทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ทางานกล่มุ - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ คุณลกั ษณะ 4) คณุ ลกั ษณะ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ ขอ้ เสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรับปรุง ลงชือ่ ( นางสาวปวริศา ก๋าวงคว์ นิ ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1. นกั เรียนจานวน........................คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นร้อยละ................................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์............................คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษได้แก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นักเรยี นมีความร้คู วามเข้าใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กิดทกั ษะ (P) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ........................................... ................................................... ....................................................................................... .............................. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ....................................................... (นางสาววิไลวรรณ ริยะนา.) ตาแหนง่ พนักงานราชการ

7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา 1. ครคู วรทบทวนสว่ นประกอบของ แผนภูมิแทง่ ก่อน โดยติดแผนภมู แิ ทง่ บนกระดานและค่อยๆ ติด ส่วนประกอบของแผนภูมแิ ทง่ คร้ังละ 1 อยา่ ง โดยให้มีองค์ประกอบดังนี้ - ชอื่ แผนภูมิ - คาอธิบายแผนภมู ิ - พืน้ ท่ีแผนภูมิ - ชุดขอ้ มูล - ป้ายชือ่ ขอ้ มลู - แกนแนวนอน - แกนแนวตง้ั - พ้ืนท่ีการลงจดุ ขน้ั สอน 2. ครูเชื่อมโยงการนาเสนอขอ้ มูลในรูปตารางทางเดียวไปสู่การเขียนแผนภูมิแทง่ ในหนังสอื เรียน คณติ ศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หน้า 224 พร้อมทัง้ อ่านแผนภมู ิแท่งที่ได้ 3. ครูจดั กจิ กรรมเสรมิ เช่น ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันสารวจสีทช่ี อบมากที่สุด แลว้ นาเสนอด้วยแผนภมู แิ ท่ง แผนภูมแิ ท่งทไี่ ดอ้ าจแตกต่างกันขนึ้ อยู่กบั การแบง่ เสน้ แสดงจานวน ทั้งน้ตี อ้ งสามารถสือ่ ความหมายไดต้ รงกนั ขั้นสรปุ 4. ครูและนักเรยี นร่วมกันทากจิ กรรมในหนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หน้า 225–226 5. ครคู วรเนน้ ย้ากบั นกั เรียนในการเขยี นแผนภูมิแทง่ จะต้องเขยี น สว่ นประกอบของแผนภมู แิ ท่งให้ครบ แลว้ ให้ทาแบบฝึกหัด 10.7 เปน็ รายบคุ คล

9. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 3. ส่วนประกอบของแผนภูมแิ ทง่ 10. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ผา่ นตัง้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

รายการวัด วิธีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ 10.1 การประเมนิ ก่อน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ประเมนิ ตามสภาพจริง เรียน กอ่ นเรยี น - แบบทดสอบก่อน เรียนหนว่ ยการเรียนรู้ 10.2 ประเมินระหว่าง - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1) การเขยี นแผนภมู ิ แทง่ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ 2) พฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2 3) พฤตกิ รรมการ ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ ม่นั คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ ทางานกลุม่ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ 4) คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ ขอ้ เสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรบั ปรุง ลงชอ่ื ( นางสาวปวรศิ า ก๋าวงค์วนิ ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1. นกั เรียนจานวน........................คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นร้อยละ................................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์............................คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษได้แก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นักเรยี นมีความร้คู วามเข้าใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กิดทกั ษะ (P) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ........................................... ................................................... ....................................................................................... .............................. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ....................................................... (นางสาววิไลวรรณ ริยะนา.) ตาแหนง่ พนักงานราชการ

7. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา 1. แผนภมู ิแท่งเปน็ การนาเสนอขอ้ มูลอกี รูปแบบหน่งึ ครูควรทบทวนความรู้เก่ยี วกบั แผนภูมิรูปภาพใน หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หน้า 215 โดยใชก้ ระดาษรูปสี่เหลย่ี มมมุ ฉากขนาดเท่ากัน แทนรปู ภาพ 1 รูป ประกอบการอธิบายเพ่อื เช่ือมโยงไปสแู่ ผนภมู ิแท่ง ในหนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หนา้ 215– 216 ขั้นสอน 2. ครูให้นักเรยี นฝึกอา่ นแผนภูมแิ ทง่ ในหนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หนา้ 216 โดยให้ พจิ ารณาจากส่วนปลายสดุ ของรูปสี่เหลี่ยมมมุ ฉากของแต่ละรายการเทยี บกับเสน้ แสดงจานวน ครอู าจตงั้ คาถาม เพ่ิมเตมิ เชน่  เรียงลาดับจานวนไอศกรมี ท่ขี ายได้จากมากไปน้อยอยา่ งไร  วนั ใดขายไอศกรมี ไดเ้ งินมากทส่ี ดุ  วันใดขายไอศกรมี ไดเ้ งินนอ้ ยทีส่ ดุ  วนั ใดบ้างขายไอศกรมี ได้มากกวา่ กัน10 แท่ง  วันท่ขี ายได้มากทีส่ ุดขายได้เป็นกเี่ ท่าของวนั ทีข่ ายไดน้ อ้ ยท่ีสุด 3. จากนัน้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันนาเสนอข้อมูลจานวนไอศกรีมทส่ี หกรณโ์ รงเรียนขายได้ ตง้ั แตว่ นั ที่ 10 ถงึ 14 กรกฎาคม 2560 ดว้ ยแผนภูมแิ ท่งแนวนอน 4. ครูและนักเรียนรว่ มกันทากิจกรรมในหนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หนา้ 218–219 ซงึ่ ครู อาจตง้ั คาถามเพิ่มเตมิ ได้ และอาจนาแผนภูมิแทง่ เกยี่ วกบั เรื่องอน่ื ๆ ใหน้ ักเรียนฝกึ ทักษะการอา่ นเพิม่ เติม แล้วให้ทา แบบฝึกหดั 10.5 เปน็ รายบคุ คล 5. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั พิจารณาการแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยใช้ข้อมลู จากแผนภมู ิแท่งในหนงั สอื เรยี น คณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หนา้ 221 เพอื่ ฝกึ การแก้โจทยป์ ัญหา นอกจากนค้ี รอู าจต้งั คาถามเพ่ิมเติม เชน่  ถ้าสบู่นา้ นมขา้ วกอ้ นละ 35 บาท รา้ นค้าขายสบู่น้านมขา้ วได้เงินเท่าใด  ถ้าสบู่กุหลาบ ราคาก้อนละ 40 บาท และสบู่ลาเวนเดอร์ ราคาก้อนละ 95 บาท สบูช่ นดิ ใดขายได้ เงนิ มากกว่าและมากกวา่ เทา่ ใด 6. ครูและนักเรยี นร่วมกนั ทากจิ กรรมในหนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หน้า 222 ซ่ึงครอู าจ ตง้ั คาถามเพ่มิ เติม และอาจนาแผนภูมิแท่งเกย่ี วกบั เรอ่ื งอื่น ๆ ใหน้ กั เรยี นฝกึ ทักษะการแก้โจทยป์ ญั หาเพิ่มเติม จากนนั้ ทาแบบฝกึ หัด 10.6 เป็นรายบคุ คล ข้นั สรุป

7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั พิจารณาและอภปิ รายเพอื่ นาไปส่ขู อ้ สรุปท่ีว่า แผนภูมทิ ใี่ ช้รูปส่ีเหลีย่ มมุมฉาก แสดงขอ้ มูลเรยี กว่าแผนภูมแิ ทง่ สามารถนาเสนอไดท้ ัง้ แนวตั้งและแนวนอน  แผนภมู แิ ท่งประกอบดว้ ย ช่อื แผนภมู ิ และตวั แผนภมู ิ  ชื่อแผนภมู ิ เปน็ สว่ นท่ีแสดงใหท้ ราบว่าเปน็ ข้อมูลเกีย่ วกับเรอ่ื งใด เวลาใด  ตวั แผนภูมิ ประกอบด้วยเส้นแสดงจานวนเสน้ แสดงรายการและรปู สีเ่ หลยี่ มมมุ ฉากทแ่ี สดงจานวนของ แต่ ละรายการ ซ่งึ รูปส่เี หลย่ี มมมุ ฉากแตล่ ะรปู ต้องมีความกวา้ งเทา่ กัน เรมิ่ ต้นจากระดับเดียวกันท่ี 0 และ ระยะห่าง ระหว่างรปู ส่ีเหล่ยี มมมุ ฉากแตล่ ะรูป ควรเทา่ กัน 8. เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความร้ทู ไ่ี ด้ให้นักเรียนทากิจกรรมในหนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หน้า 223 เป็นรายบคุ คล 9. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 3. กระดาษรูปสเี่ หล่ยี มมมุ ฉากขนาดเท่ากัน 10. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ผา่ นตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผา่ น

รายการวดั วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ 10.1 การประเมินกอ่ น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ประเมินตามสภาพจรงิ เรียน ก่อนเรียน - แบบทดสอบกอ่ น เรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ 10.2 ประเมินระหว่าง - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กจิ กรรมฝกึ ทักษะ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 1) การนาเสนอข้อมลู โดยแผนภมู ิแท่ง - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ 2 การทางานรายบุคคล การทางานกลมุ่ การทางานกล่มุ ผ่านเกณฑ์ - สงั เกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ทางานกลมุ่ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ 4) คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ลงช่อื ( นางสาวปวริศา ก๋าวงคว์ ิน ) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1. นกั เรียนจานวน........................คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นร้อยละ................................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์............................คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษได้แก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นักเรยี นมีความร้คู วามเข้าใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กิดทกั ษะ (P) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ........................................... ................................................... ....................................................................................... .............................. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ....................................................... (นางสาววิไลวรรณ ริยะนา.) ตาแหนง่ พนักงานราชการ



7. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา 1. ครนู าสนทนาเกย่ี วกบั รถไฟฟ้าใต้ดนิ หรือใหด้ วู ดี ิทัศนแ์ นะนารถไฟฟา้ ใต้ดิน อาจนาแผนทเี่ สน้ ทางรถไฟฟ้า ใตด้ ินจากเวบ็ ไซต์ มาฝกึ การนบั จานวนสถานี แลว้ รว่ มกนั ทากจิ กรรมในหนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หน้า 213 ขน้ั สอน 2. ครูจัดกจิ กรรมเสริมเพือ่ ฝกึ ทกั ษะการแกโ้ จทย์ปัญหา โดยใชข้ อ้ มูลจากตารางสองทาง โดยแบง่ นักเรียน กลุม่ ละ 2–3 คน แลว้ ตอบคาถามต่อไปนีโ้ ดยใช้ ข้อมูลจากตารางสองทาง 1. ใบหม่อนตอ้ งการเดนิ ทางไปเท่ยี วปนี งั ประเทศมาเลเซีย โดยเดนิ ทางจากกรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่ โดยเครอ่ื งบิน และ ค่าพาหนะในการเดินทางจากหาดใหญ่ไปปนี ังมดี ังนี้ 1) ค่ารถไฟจากหาดใหญ่ – ปาตงั เที่ยวละ 70 บาท 2) คา่ รถไฟจากปาตัง – บตั เตอรเ์ วิร์ท เท่ียวละ 90 บาท 3) ค่าขา้ มแพจากบตั เตอร์เวิร์ทไปปนี งั เที่ยวละ 5 บาท ใบหม่อนตอ้ งใชข้ ้อมูลดังกล่าววางแผนการเดนิ ทางอยา่ งไร จึงจะจ่ายเงินค่าพาหนะนอ้ ยทส่ี ุด 2. ปริ๊นซ์ทางานอยู่ที่จังหวดั เชยี งราย และตอ้ งการเดินทางกลับ บา้ นท่ีกรงุ เทพฯ ปริ๊นซ์จะเลือกเดนิ ทาง ไป – กลับอยา่ งไร จึงจะจ่ายเงินค่าพาหนะน้อยทีส่ ุด 3. แมแ่ ละวายุกาหนดการเดินทางไปเท่ียวต่างจังหวดั ดังน้ี วนั ที่ 29 ธ.ค. 61 เดนิ ทางจากกรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วันที่ 31 ธ.ค. 61 เดินทางจากหาดใหญ่ไปวนอุทยาน ภูชฟ้ี ้า จังหวดั เชยี งราย วันที่ 2 ม.ค. 62 เดินทางจากจังหวัดเชยี งราย กลับ กรุงเทพฯ แม่และวายุจะวางแผนการเดนิ ทางอย่างไรจงึ จะจา่ ยเงินค่า พาหนะน้อยท่สี ดุ ขั้นสรปุ 3. จากนั้นใหท้ าแบบฝกึ หดั 10.4 เปน็ รายบุคคล 4. เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจและสรปุ ความร้ทู ่ีได้ ให้นกั เรียน ทากิจกรรมในหนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หน้า 214 เป็นรายบุคคล

9. สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 3. วดี ิทศั นแ์ นะนารถไฟฟ้าใตด้ ิน 4. แผนทเี่ สน้ ทางรถไฟฟ้าใตด้ ิน 10. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 2. เครื่องมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน

รายการวดั วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 10.1 การประเมนิ กอ่ น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง เรยี น ก่อนเรยี น - แบบทดสอบกอ่ น เรยี นหน่วยการเรียนรู้ 10.2 ประเมนิ ระหว่าง - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝึกทกั ษะ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หัด รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 1) การนาเสนอขอ้ มลู ตารางสองทาง - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ 2) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบคุ คล การทางานกล่มุ การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มน่ั คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ทางานกลมุ่ ในการทางาน อนั พึงประสงค์ 4) คณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ข้อเสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรับปรุง ลงชื่อ ( นางสาวปวริศา ก๋าวงคว์ นิ ) หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1. นกั เรียนจานวน........................คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นร้อยละ................................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์............................คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษได้แก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นักเรยี นมีความร้คู วามเข้าใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กิดทกั ษะ (P) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ........................................... ................................................... ....................................................................................... .............................. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ....................................................... (นางสาววิไลวรรณ ริยะนา.) ตาแหนง่ พนักงานราชการ



7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนา 1. ครูนาสนทนาเกีย่ วกบั การนาเสนอขอ้ มูลมีหลายรปู แบบ เช่น ตารางทางเดียว ตารางสองทาง แผนภมู ิ รปู ภาพ แผนภูมิแทง่ ในการนาเสนอข้อมูลดว้ ยตารางสองทาง นักเรยี นจะต้องเข้าใจวธิ กี ารนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยตาราง ทางเดยี วกอ่ น 2. ครูทบทวนโดยใช้ขอ้ มูลในหนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หนา้ 207 เกีย่ วกับจานวน พนกั งานชายของโรงงานบางปู และจานวนพนกั งานหญิงของโรงงานบางปู แลว้ รว่ มกนั สรุปให้ไดว้ า่ ตารางทางเดยี ว มีการจาแนกข้อมูล 1 ลกั ษณะ 3. ครูแนะนาวา่ เมอ่ื นาขอ้ มลู จากตารางทางเดยี วทั้งสองตารางนี้ มาเขยี นรวมเป็นตารางเดียวกนั ตารางทีไ่ ด้ ใหม่เรยี กวา่ ตารางสองทาง ครใู หน้ ักเรยี นฝึกอ่านตารางสองทาง ในหนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หน้า 207 โดยตอบคาถาม เชน่  ตารางน้ีแสดงอะไร  โรงงานบางปู มกี แ่ี ผนก อะไรบ้าง  พนกั งานแต่ละแผนกมกี ีค่ น เปน็ ชายกี่คน เปน็ หญงิ ก่คี น  แผนกใดมี พนกั งานมากท่ีสุดและน้อยทีส่ ุด  แผนกใดบา้ งมี พนกั งานชายมากกว่าพนักงานหญงิ  โรงงานน้ีมีพนกั งานทง้ั หมดกี่คน เป็นชายกค่ี น เปน็ หญิงกี่คน ข้นั สอน 4. ให้นกั เรียนสังเกตวิธีอ่านข้อมูลจากตารางสองทางวา่ สามารถอ่านจานวนพนักงานชาย พนักงานหญิง และพนักงานทั้งหมดไดจ้ ากตารางเดยี วกนั นอกจากน้ียังสามารถเปรียบเทยี บข้อมลู แตล่ ะรายการไดง้ ่าย 5. ให้นกั เรียนรว่ มกนั ทากิจกรรมในหนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หนา้ 208–209 ทั้งนคี้ รู อาจ ให้นักเรียนฝกึ ทกั ษะการอา่ นตารางสองทางเพม่ิ เติม โดยให้ นักเรยี นตอบคาถามจากตารางสองทาง 6. จากนั้นให้ทาแบบฝึกหดั 10.3 เปน็ รายบุคคล ข้ันสรปุ 7. เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจและสรปุ ความร้ทู ไ่ี ด้ ใหน้ กั เรียน ทากจิ กรรมในหนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หนา้ 210 เป็นรายบุคคล

8. ส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้ นกั เรยี นแตล่ ะคนอาจใชส้ านวน ในการตอบต่างกนั ครูควรพิจารณาวา่ สามารถสื่อ ความหมายไดถ้ ูกต้อง ครบถ้วนหรอื ไม่ ถา้ พบข้อผดิ พลาด ครูควรอธบิ ายเพม่ิ เติมจนนกั เรียนสามารถสรุปความรู้ได้ ถูกต้องครบถว้ น 9. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันพิจารณาการแกโ้ จทย์ปญั หาโดย ใช้ขอ้ มลู จากตารางสองทางในหนังสอื เรยี น คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หนา้ 211–212 เพ่ือฝึกการแก้โจทย์ปัญหา แลว้ ช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของ คาตอบ 9. สือ่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 3. วีดิทัศน์แนะนารถไฟฟ้าใตด้ ิน 4. แผนท่เี สน้ ทางรถไฟฟา้ ใต้ดนิ 10. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ ่าน

รายการวดั วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 10.1 การประเมนิ กอ่ น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง เรยี น ก่อนเรยี น - แบบทดสอบกอ่ น เรยี นหน่วยการเรียนรู้ 10.2 ประเมนิ ระหว่าง - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝึกทกั ษะ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หัด รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 1) การนาเสนอขอ้ มลู ตารางสองทาง - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ 2) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบคุ คล การทางานกล่มุ การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มน่ั คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ทางานกลมุ่ ในการทางาน อนั พึงประสงค์ 4) คณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ข้อเสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรับปรุง ลงชื่อ ( นางสาวปวริศา ก๋าวงคว์ นิ ) หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1. นกั เรียนจานวน........................คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นร้อยละ................................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์............................คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษได้แก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นักเรยี นมีความร้คู วามเข้าใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กิดทกั ษะ (P) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ........................................... ................................................... ....................................................................................... .............................. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ....................................................... (นางสาววิไลวรรณ ริยะนา.) ตาแหนง่ พนักงานราชการ

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนา 1. ครูสอนเก่ียวกับการนาเสนอข้อมลู ควรเร่มิ จากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการจาแนกขอ้ มูล ซ่งึ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล มหี ลายวิธี 2. ครูจัดกิจกรรมเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากการ สารวจสัตว์เลย้ี งทีน่ กั เรียนชอบ โดยใหน้ ักเรยี นเลือกบตั รภาพ สตั วเ์ ลีย้ งคนละ 1 ใบ นาไปตดิ บนกระดาน แลว้ ชว่ ยกันตอบคาถามจากผลการสารวจ เชน่  สัตวเ์ ล้ยี งทีน่ ักเรียนชอบมกี ี่ชนดิ อะไรบ้าง  สตั ว์เลย้ี งแตล่ ะชนิดมีนกั เรยี นชอบก่คี น  นกั เรียนชอบสัตว์ เลีย้ งชนดิ ใดมากที่สุด  นักเรียนชอบสตั ว์ เล้ียงชนดิ ใดน้อยทส่ี ุด  เรยี งลาดบั ชือ่ สตั ว์ เลย้ี งทีน่ ักเรยี นชอบจากมากไปน้อย อยา่ งไร ข้นั สอน 3. จากนน้ั ใหช้ ่วยกนั จาแนกและนับจานวนสัตว์เลีย้ งแตล่ ะชนดิ พร้อมบันทึกผลในตาราง 4. ครูใหน้ กั เรียนตอบคาถามชุดเดิม แล้วเปรยี บเทยี บว่าระหว่างการตอบคาถามก่อนจาแนกขอ้ มลู กับหลัง จาแนกข้อมูล อย่างไหนทีน่ ักเรียนสามารถตอบคาถาม ได้รวดเร็วกวา่ 5. ครูจัดกิจกรรมเก็บรวบรวมขอ้ มลู จากการทดลอง ซง่ึ ก่อนทากจิ กรรมควรให้นกั เรียนคาดเดาหรือทานาย ผลการหยบิ ลูกปัดทจ่ี ะเกดิ ข้นึ เชน่  นกั เรยี นคิดว่าจะหยบิ ได้ ลกู ปัดสี ใดมากท่สี ุด เพราะเหตใุ ด  นกั เรยี นคดิ ว่าจะหยบิ ได้ ลกู ปดั สี ใดนอ้ ยทีส่ ุด เพราะเหตุใด  นักเรียนคิดว่าจะหยิบได้ ลกู ปัดสี เขียวหรือไม่ เพราะเหตุใด 6. แบง่ นักเรียน กลุ่มละ 3-4 คน ให้กล่มุ แรกสุ่มหยบิ ลูกปดั ใน ขวดโหลทึบ 1 กามอื แล้วบันทกึ ผลในตาราง จากนั้นให้ใส่ลกู ปดั ทงั้ หมดคืนในขวดโหล แล้วให้กลมุ่ ตอ่ ไปปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ทานองเดยี วกนั 7. ให้แตล่ ะกลุม่ ตอบคาถามต่อไปนี้  นักเรยี นหยิบได้ ลกู ปัดสี ใดมากท่สี ุด  นักเรียนหยบิ ได้ ลกู ปัดสี ใดน้อยทสี่ ดุ  นักเรยี นหยบิ ได้ ลูกปดั สี ใดจานวนเท่ากนั  เรียงลาดับสี ลกู ปัดจากนอ้ ยไปมากอยา่ งไร 8. ให้ทุกกลมุ่ นาคาตอบมารว่ มกันพจิ ารณาและอภิปรายวา่ ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกบั ผลท่ีคาดเดาไว้ สอดคลอ้ งกนั หรือไม่ เพราะเหตใุ ด ซ่งึ คาตอบทไ่ี ดอ้ าจสอดคลอ้ งหรือไมส่ อดคลอ้ งกบั ผลท่คี าดเดาก็ได้ ขน้ึ อยู่กบั ผล การปฏบิ ัตกิ จิ กรรม

9. ครแู นะนาวา่ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยการทดลองควรทาซา้ หลาย ๆ ครัง้ เพอื่ ให้ผลการทดลองมคี วาม นา่ เชอ่ื ถอื ข้ันสรุป 10. จากนน้ั ใหร้ ่วมกนั อภิปรายถงึ ประโยชนข์ องการจาแนกขอ้ มูล และการนาเสนอขอ้ มูลในรูปตารางเพ่ือ นาไปสขู่ ้อสรปุ ทวี่ ่า การจาแนกขอ้ มลู และการนาเสนอข้อมลู ในรูปแบบตาราง ชว่ ยให้เหน็ ภาพรวมของข้อมูล และ สามารถบอกรายละเอียด และเปรยี บเทียบข้อมูลแต่ละรายการไดช้ ดั เจนยิ่งขน้ึ 11. เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความรทู้ ไี่ ด้ ใหน้ กั เรียน ทากิจกรรมในหนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หนา้ 206 เปน็ รายบคุ คล 9. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 3. บัตรภาพสตั วเ์ ลยี้ ง 4. ขวดโหลทบึ หรือกล่องทบึ สาหรับใสล่ กู ปดั 5. ลูกปัดขนาดเท่ากนั สีแดง 40 เมด็ สนี ้าเงิน 30 เม็ด และสดี า10 เม็ด 10. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น

รายการวัด วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ 10.1 การประเมินก่อน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ประเมินตามสภาพจริง เรียน กอ่ นเรยี น - แบบทดสอบก่อน เรยี นหน่วยการเรยี นรู้ 10.2 ประเมนิ ระหวา่ ง - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝึกทกั ษะ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หัด รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1) การเกบ็ รวบรวม ข้อมูลและการจาแนก - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ข้อมลู การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 2) พฤตกิ รรม การทางานกลมุ่ การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ การทางานรายบุคคล - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มัน่ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ ทางานกลมุ่ 4) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ข้อเสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรบั ปรุง ลงชื่อ ( นางสาวปวริศา ก๋าวงค์วนิ ) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรุปผลการเรยี นการสอน 1. นักเรยี นจานวน........................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู ..............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................................. ไม่ผา่ นจุดประสงค์............................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรยี นท่มี คี วามสามารถพิเศษได้แก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กิดทักษะ (P) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นกั เรียนมีเจตคติ ค่านยิ ม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อปุ สรรค /แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ........................................... .......................................................................................................................................... .............................. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื ....................................................... (นางสาววิไลวรรณ ริยะนา.) ตาแหน่ง พนกั งานราชการ

7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนา 1. ทบทวนความรู้เก่ยี วกบั ตารางทางเดยี วโดยใช้ข้อมูลจากหนา้ เปิดบทเพอื่ กระตุ้นความสนใจเกยี่ วกบั การ นาเสนอข้อมลู โดยใช้คาถาม เชน่  การนาเสนอขอ้ มูลน้ีเกยี่ วกบั เรอ่ื งใด  การนาเสนอข้อมูลท้งั สองแบบ แบบใดนา่ สนใจมากกวา่ กัน เพราะเหตุใด  การนาเสนอข้อมลู แบบใดทแ่ี สดงการเปรียบเทียบจานวนนกั เรยี นในแตล่ ะช้นั ได้งา่ ยกว่ากนั  การนาเสนอข้อมูลท้ังสองแบบมีจุดเด่นแตกต่างกันอย่างไร ขนั้ สอน 2. เตรียมความพร้อมเปน็ การตรวจสอบความรู้พื้นฐานทจ่ี าเปน็ สาหรบั การเรียนบทน้ี ถ้าพบว่านักเรยี นยงั มี ความรพู้ ้ืนฐานไม่เพยี งพอควรทบทวนก่อน ขน้ั สรปุ 3. ทาแบบฝกึ หดั 10.1 เปน็ รายบุคคล 9. สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 10. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2. เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น

รายการวดั วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 10.1 การประเมนิ กอ่ น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมนิ ตามสภาพจรงิ เรียน ก่อนเรยี น - แบบทดสอบกอ่ น เรียนหน่วยการเรียนรู้ 10.2 ประเมินระหว่าง - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1) เตรียมความพรอ้ ม - ตรวจแบบฝึกหดั ระดับคุณภาพ 2 2) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ 3) พฤตกิ รรมการ การทางานกลุ่ม การทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ทางานกล่มุ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่นั คุณลกั ษณะ 4) คุณลกั ษณะ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ ขอ้ เสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรบั ปรุง ลงชอ่ื ( นางสาวปวริศา ก๋าวงคว์ นิ ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน 1. นักเรียนจานวน........................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ..............คน คดิ เป็นร้อยละ................................. ไม่ผ่านจุดประสงค.์ ...........................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................................. ไดแ้ ก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรียนท่ีมคี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นกั เรยี นมีความร้คู วามเขา้ ใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นักเรยี นมีความรเู้ กิดทักษะ (P) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นักเรยี นมเี จตคติ คา่ นยิ ม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................... ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ลงช่ือ....................................................... (นางสาววไิ ลวรรณ รยิ ะนา.) ตาแหนง่ พนักงานราชการ

6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 7. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา 1. ครูต้ังคาถามกระตนุ้ ความคิด ดังน้ี - ส่งิ สาคญั ในการแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ยี วกับความยาวรอบรูปของรูปสเี่ หล่ียมมมุ ฉากคืออะไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพินิจของครูผ้สู อน) ขนั้ สอน 2. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน ทากิจกรรม “ดาราพาว่งิ ” โดยครูตดิ ภาพสนามกฬี ารปู แบบต่างๆ ท่มี ขี นาดความกวา้ งและความยาวด้านแตกต่างกนั 3. ให้ตวั แทนออกมาจับรูปดารา โดยดา้ นหลังรูปดาราจะมคี าสัง่ ตดิ อยู่ เช่น ณเดชว่ิงรอบสนามฟุตบอล 3 รอบ เปน็ ระยะทางเท่าใด (ดคู วามกวา้ งและความยาวทกี่ าหนด) ให้นกั เรยี นอ่านโจทย์ให้เพื่อนฟังแล้วนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม ช่วยกันคิดกลมุ่ ทต่ี อบถูกไดค้ ะแนนสะสม 4. ทากจิ กรรม 3-4 รอบ 5. ครูยกตัวอยา่ งการแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปของรปู สีเ่ หลีย่ มมุมฉากเพิ่มเตมิ โดยครูเน้นให้ นักเรยี นวเิ คราะหโ์ จทย์ แล้วหาความยาวของดา้ นทุกด้าน เมือ่ ไดค้ รบแล้วจงึ นามาบวกกัน 6.ครูขอตัวแทนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอคาตอบของกิจกรรม กลุ่มละ 1 ข้อ หน้าชนั้ เรยี น โดยครูตรวจสอบความ ถูกตอ้ งและชมเชยกลมุ่ ท่ีนาเสนอได้ถกู ตอ้ งและแนะนากลุ่มท่ยี ังมขี ้อบกพร่องอยู่ ข้ันสรปุ 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกบั ขน้ั ตอนการแกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรปู ของรูปส่ีเหลยี่ ม มุมฉาก 8. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายประโยชน์ของการเรยี นเรือ่ ง โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรูป จนไดว้ ่าสามารถนาความรูไ้ ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ เช่น การหาระยะทางเมื่อว่ิงรอบสนาม เป็นต้น

9. สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 3. รปู ดารา 4. ภาพสนามกีฬารูปแบบต่างๆ 10. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2. เครือ่ งมอื 2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ผา่ นตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผา่ น

รายการวดั วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ประเมนิ ตามสภาพจรงิ 10.1 การประเมินก่อน กอ่ นเรยี น เรยี น - ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบก่อน - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัด ที่ 1 เรอ่ื ง มมุ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 - สงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ 10.2 ประเมินระหว่าง การทางานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ 2 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - สังเกตพฤตกิ รรม การทางานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ การทางานกล่มุ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 1) โจทย์ปญั หาการหา - สังเกตความมีวินยั คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ความยาวรอบรูปของรูป ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น อันพงึ ประสงค์ สเ่ี หลยี่ มมุมฉาก ในการทางาน 2) พฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล 3) พฤตกิ รรมการ ทางานกลุ่ม 4) คณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ลงชอ่ื ( นางสาวปวรศิ า กา๋ วงค์วิน ) หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน 1. นกั เรยี นจานวน........................คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ..............คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค.์ ...........................คน คิดเป็นร้อยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรียนทีม่ คี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นักเรียนมคี วามรเู้ กิดทักษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นักเรยี นมีเจตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อปุ สรรค /แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................................... ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................. ลงช่อื ....................................................... (นางสาววิไลวรรณ ริยะนา.) ตาแหนง่ พนักงานราชการ

6. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนา 1. ครูติดบัตรภาพรูปสเ่ี หลยี่ มทีร่ ะบุความกวา้ งและความยาวบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนทุกคนหาความยาว รอบรปู ของรูปสเ่ี หลยี่ มลงในสมุด 2. ครูให้นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี นคิดวา่ รูปสี่เหลย่ี มผืนผ้ากบั รูปส่เี หลี่ยมจัตรุ ัส จะมคี วาม ยาวรอบรปู เทา่ กันได้หรอื ไม่ จงยกตวั อย่าง (แนวตอบ ได้ เช่น ความยาวรอบรปู 16 หนว่ ย รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสยาวด้าน ละ 4 หน่วย และรูปส่เี หลีย่ มผนื ผา้ ยาว 5 หนว่ ย กว้าง 3 หน่วย เป็นต้น) ขน้ั สอน 3. ครูสอนการแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู ของรูปส่เี หลีย่ มมุมฉากในหนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หนา้ 189 4. ใชก้ ารถาม-ตอบ ประกอบการอธิบายตามกระบวนการแก้ปญั หา และควรแนะนาใหน้ กั เรียนวาดรปู ประกอบเพอื่ ชว่ ยในการวางแผนแก้ปัญหา แล้วร่วมกนั พิจารณาตัวอย่างในหนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หน้า 190 5. ครูเนน้ ยา้ ให้นักเรียนตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาตอบกับโจทย์ทุกคร้ัง ถ้าคาตอบนั้นมีความสอดคล้องกบั เง่อื นไขของโจทยแ์ สดงวา่ คาตอบนั้นถกู ตอ้ ง 6. จากนน้ั รว่ มกนั ทากจิ กรรมในหนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. หน้า 191 และทาแบบฝึกหดั 9.13 เป็นรายบุคคล ข้นั สรปุ 7. เพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนใหท้ ากิจกรรมในหนงั สอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เลม่ 2 สสวท. หนา้ 192 เปน็ รายบุคคล

9. สือ่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 2 สสวท. 10. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม 2. เครือ่ งมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผา่ นตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ ่าน

รายการวดั วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ประเมนิ ตามสภาพจรงิ 10.1 การประเมินก่อน กอ่ นเรยี น เรยี น - ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบก่อน - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัด ที่ 1 เรอ่ื ง มมุ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 - สงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ 10.2 ประเมินระหว่าง การทางานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ 2 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - สังเกตพฤตกิ รรม การทางานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ การทางานกล่มุ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 1) โจทย์ปญั หาการหา - สังเกตความมีวินยั คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ความยาวรอบรูปของรูป ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น อันพงึ ประสงค์ สเ่ี หลยี่ มมุมฉาก ในการทางาน 2) พฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล 3) พฤตกิ รรมการ ทางานกลุ่ม 4) คณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ลงชอ่ื ( นางสาวปวรศิ า กา๋ วงค์วิน ) หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

บนั ทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน 1. นกั เรยี นจานวน........................คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ..............คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค.์ ...........................คน คิดเป็นร้อยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรียนทีม่ คี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ ( K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นักเรียนมคี วามรเู้ กิดทักษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นักเรยี นมีเจตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อปุ สรรค /แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................................... ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................. ลงช่อื ....................................................... (นางสาววิไลวรรณ ริยะนา.) ตาแหนง่ พนักงานราชการ