344 คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector)
ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ 345 (Principles of Food Sanitation Inspector)
346 คมู่ ือวชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารสำ�หรับเจ้าหนา้ ท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector) มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อุตสาหกรรม THAI INDUSTRIAL STANDARD มอก. 2440-2552 เคร่ืองใชเ้ หล็กกลา้ ไร้สนมิ : ภาชนะหงุ ต้มท่ีมรี อยประสาน STAINLESS STEEL : SEAMED STOCKPOTS ส�ำ นกั งานมาตรฐานผลติ ภัณฑอ์ ุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ICS 67.250 ; 97.040.60 ISBN 978-974-292-772-1
คู่มอื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ที่ 347 (Principles of Food Sanitation Inspector) มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อุตสาหกรรม เครอื่ งใชเ้ หล็กกล้าไร้สนิม : ภาชนะหุงต้มทม่ี รี อยประสาน มอก. 2440-2552 ส�ำ นกั งานมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามท่ี 6 กรงุ เทพมหานครฯ 10400 โทรศัพท์ 0 2202 3330 ประกาศในราชกิจกานเุ บกษา ฉบับประกาศและงานทว่ั ไป เลม่ 126 ตอนพิเศษ 153 ง วันท่ี 15 ตลุ าคม พุทธศักราช 2552
348 ค่มู ือวชิ าการสุขาภิบาลอาหารสำ�หรบั เจ้าหน้าท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector) คณะกรรมการวชิ าการคณะท่ี 238 มาตรฐานผลติ ภัณฑ์อุตสาหกรรมเครอ่ื งใช้สเตนเลสสตลี ประธานกรรมการ รองศาสตราจารยศ์ ิริลักษณ์ นวิ ฐิ จรรยงค์ ผทู้ รงคุณวุฒิจากศูนยเ์ ทคโนโลยีโลหะและวัสดุแหง่ ชาติ กรรมการ นายถนดั มานะพนั ธุ์นยิ ม ผทู้ รงคณุ วฒุ จิ ากส�ำ นกั งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บรโิ ภค นางสาวทิพวรรณ นง่ิ น้อย ผู้ทรงคณุ วฒุ จิ ากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นางวรรณภา ตันยืนยงค์ ผู้ทรงคุณวุฒจิ าก กรมวิทยาศาสตร์บริการ นางสาวดวงกมล เชาวน์ศรีหมุด ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ เวณกิ า เบ็ญจพงษ ์ ผทู้ รงคุณวฒุ ิจากสถาบนั วจิ ัยโภชนาการ มหาวิทยาลยั มหิดล นายคะเนย์ วรรณโท ผู้ทรงคุณวุฒจิ ากกรมสง่ เสริมอตุ สาหกรรม นายสมภทั ร จนั ทรวรรณ์ ผทู้ รงคุณวุฒิจากสมาคมโรงแรมไทย นายอานนท์ เรอื งจรุงพงศ์ ผ้ทู รงคณุ วุฒิจากบรษิ ทั ไทยสเตนเลสสตีล จ�ำ กัด นายเอกชยั ยงั วาณิช ผทู้ รงคุณวุฒิจากบรษิ ัท เสถยี รสเตนเลสสตลี จำ�กัด(มหาชน) นางสาวขวัญหทยั ศรรี ชั ดากร ผู้ทรงคุณวุฒิจากบรษิ ทั ชายส่ี บะหม่ีเก๋ยี ว จ�ำ กัด นายภณพัฒน์ วัชระประไพพันธ ์ ผู้ทรงคณุ วุฒจิ ากห้างหนุ้ สว่ นจำ�กดั เจริญรุ่งเรืองโลหะภณั ฑ์ นายนพพร วชั ระประไพพันธ์ นายปพนพัชร์ จิรฎั ฐธ์ นโชติ ผู้ทรงคุณวุฒิจากรา้ นซินฮวด นางสราญรตั น์ จริ ัฎฐธ์ นโชติ กรรมการและเลขานุการ นางสาวสภุ าพร เรอื งมณไี พฑูรย ์ ผทู้ รงคณุ วุฒิจากส�ำ นกั งานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรม
คูม่ อื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจ้าหน้าที่ 349 (Principles of Food Sanitation Inspector) ปัจจุบันมีการตรวจพบสารตะก่ัวปนเป้ือนในอาหารท่ีปรุงจากภาชนะที่ทำ�ด้วยเหล็กกล้าไร้สนิม เช่น หม้อหุงต้ม หม้ออุ่นน้ำ�นมถั่วเหลือง ในเกณฑ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจเป็นอันตราย ถึงชีวิตได้ สารตะกั่วท่ีปนเปื้อนมาในอาหารอาจเกิดจากใช้ตะก่ัวเป็นตัวประสานรอยเช่ือมต่อในข้ันตอนการข้ึนรูป ภาชนะหรือใช้ในการซอ่ มแซมภาชนะ เมื่อใช้ความร้อนในการหงุ ตม้ และปรุงอาหาร ท�ำ ใหเ้ กดิ การละลายออกมา ดัง นัน้ เพอื่ เปน็ การคุ้มครองผู้บรโิ ภค ความปลอดภัยต่อสุขภาพ และสง่ เสรมิ ให้มีการทำ�ภาชนะหุงต้มให้ได้มาตรฐาน จึง ก�ำ หนดมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม เครือ่ งใชเ้ หลก็ กล้าไรส้ นมิ : ภาชนะหุงต้มทมี่ ีรอยประสานข้นึ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เคร่ืองใช้เหล็กกล้าไร้สนิม : ภาชนะหุงต้มท่ีมีรอยประสาน นี้เป็นเล่มหนึ่งในชุด มาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรม เครื่องใชเ้ หลก็ กลา้ ไรส้ นิม ทไี่ ดป้ ระกาศไปแลว้ ได้แก มอก.410-2525 เครื่องใชเ้ หล็กกล้าไรส้ นมิ : ช้อน สอม และมดี มอก.451-2526 เครอื่ งใชเ้ หลก็ กลา้ ไร้สนิม : จาน ถ้วย ชาม และถาด มอก.808-2531 เครื่องใช้ เหล็กกล้าไร้สนิม : หม้อ กระทะ ชามอ่าง ตะหลิว ทัพพี และกระบวย มาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมนก้ี �ำ หนดข้ึนโดยอาศัยขอ้ มลู จากนักวชิ าการ ผู้ทำ� ผ้ใู ช้การทดสอบตัวอย่าง ในประเทศจากกรมวิทยาศาสตร์บริการ กรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ และ ศนู ยเ์ ทคโนโลยีโลหะและวัสดแุ ห่งชาติ และ เอกสารตอ่ ไปนีเ้ ป็นแนวทาง ASTM E 1086-94 Standard Test Method for Optical Emission Vacuum Spectrometric (Reapproved 2005) Analysis of Stainless Steel by Point-to-Plane Excitation Technique ASTM G 5-94 (2005) Standard Reference Test Method for Making Potentiostatic and (Reapproved 2005) Potentiodynamic Anodic Polarization Measurement มอก.474-2542 ผลติ ภณั ฑ์ทำ�ความสะอาดประเภทเหลวสำ�หรบั ถ้วยชาม คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้พิจารณามาตรฐานแล้วเห็นสมควรเสนอรัฐมนตรีประกาศตาม มาตรา 15 แหง่ พระราชบัญญัตมิ าตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511
350 คู่มอื วชิ าการสขุ าภิบาลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หน้าท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector) ประกาศกระทรวงอตุ สาหกรรม ฉบับท่ี 4043 (พ.ศ. 2552) ออกตามความในพระราชบัญญัตมิ าตรฐานผลิตภณั ฑ์อตุ สาหกรรม พ.ศ. 2511 เรอ่ื ง ก�ำ หนดมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อตุ สาหกรรม เครื่องใช้เหลก็ กล้าไรส้ นิม : ภาชนะหงุ ต้มทม่ี รี อยประสาน อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงอตุ สาหกรรมออกประกาศก�ำ หนดมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม เครอ่ื งใชเ้ หลก็ กลา้ ไรส้ นมิ : ภาชนะหงุ ต้มท่ีมีรอยประสาน มาตรฐานเลขท่ี มอก. 2440-2552 ไว้ ดังมรี ายการละเอียดต่อทา้ ยประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2552 ชาญชัย ชัยรงุ่ เรือง รฐั มนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
คู่มอื วิชาการสขุ าภิบาลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี 351 (Principles of Food Sanitation Inspector) มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อุตสาหกรรม เครือ่ งใชเ้ หลก็ กล้าไร้สนมิ : ภาชนะหุงตม้ ทมี่ รี อยประสาน 1. ขอบข่าย 1.1 มาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรมนค้ี รอบคลมุ เฉพาะภาชนะหงุ ตม้ อาหารทที่ �ำ ดว้ ยเหลก็ กลา้ ไรส้ นมิ ที่มีรอยประสานทั้งท่ีข้ึนรูปด้วยแม่พิมพ์ (mould) หรือมีการประสานรอยต่อเพ่ือให้ได้รูปตาม ต้องการภายในอาจมีรอยประสานและ/หรือมีช่องแบ่งที่ต้องประสานรอยต่อ ซึ่งต่อไปใน มาตรฐานน้ีจะเรยี กวา่ “ภาชนะหงุ ตม้ ” 2. บทนิยาม ความหมายของค�ำ ทใี่ ชใ้ นมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ุตสาหกรรมนีม้ ีดงั ต่อไปนี้ 2.1 การเช่ือม (welding) หมายถึง กระบวนการประสานเหล็กกล้าไร้สนิมโดยหลอมเหลวเนื้อโลหะ ช้ินงานทร่ี อยตอ่ ใหต้ ิดกัน 2.2 การบัดกรี (soldering) หมายถงึ กระบวนการทำ�ให้รอยต่อโลหะประสานติดกนั โดยใชค้ วามรอ้ น หลอมเหลววสั ดุทใี่ ชบ้ ดั กรีทมี่ ีจุดหลอมเหลวตำ�่ กวา่ 2.3 วัสดุบัดกรี (solder) หมายถึง โลหะหรือโลหะผสมท่ีมีจุดหลอมเหลวต�ำ่ ใช้ประสานรอยต่อเนื้อ โลหะท่ีมจี ุดหลอมเหลวสงู กวา่ ได้ 2.4 การขนึ้ รปู ดว้ ยแมพ่ มิ พ์ หมายถงึ วธิ กี ารใชแ้ รงกล หรอื แรงกลรว่ มกบั ความรอ้ นท�ำ ใหแ้ ผน่ เหลก็ กลา้ ไรส้ นมิ เปลีย่ นรปู ทรงไปตามลกั ษณะท่ตี อ้ งการ 3. ชนดิ 3.1 ภาชนะหุงตม้ แบง่ ตามวิธกี ารประสานรอยเป็น 2 ชนิด คอื 3.1.1 ชนิดเชอื่ ม 3.1.2 ชนดิ บดั กรี
352 ค่มู อื วิชาการสขุ าภบิ าลอาหารสำ�หรับเจา้ หน้าที่ (Principles of Food Sanitation Inspector) 4. วัสดุ 4.1 วัสดุทใี่ ชท้ ำ�ภาชนะและฝา (ถ้าม)ี ต้องเป็นเหล็กกล้าไร้สนิมท่ีมีปริมาณโครเมียมไม่น้อยกว่าร้อยละ 18 โดยมวล หรือมีค่าดัชนี ความต้านทานการกัดกร่อนแบบรูเข็ม(PRE number) (โดยการคำ�นวณตาม ข้อ 9.6) ต้อง ไมน่ อ้ ยกว่า 18 การทดสอบให้ปฏบิ ัตติ ามขอ้ 9.2 4.2 วัสดปุ ระสาน หา้ มใชว้ สั ดปุ ระสานทมี่ ตี ะกว่ั หรอื ยอมใหม้ ไี ดไ้ มเ่ กนิ รอ้ ยละ 0.05 โดยมวล ผทู้ �ำ ตอ้ งพสิ จู นห์ รอื แสดง เอกสารผลการวเิ คราะหจ์ ากหนว่ ยงานหรอื สถาบนั ทสี่ �ำ นกั งานมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรมยอมรบั 5.คุณลักษณะท่ตี อ้ งการ 5.1 ลกั ษณะท่ัวไป ผวิ ด้านนอก ด้านใน และขอบตอ้ งเรยี บ ไม่มีส่วนแหลมคมและปราศจากตำ�หนิ เช่น ผวิ ไม่ขรขุ ระ บุบร้าว แตก ปริ และต้องทำ�ความสะอาดได้อย่างทั่วถึงรอยประสานต้องเรียบเป็นแนว อยา่ งสม่ำ�เสมอ การทดสอบให้ทำ�โดยการตรวจพินจิ 5.2 ความหนา ตอ้ งไม่นอ้ ยกว่า 0.40 มิลลิเมตร โดยยอมให้มีเกณฑค์ วามคลาดเคลอ่ื นได้ไม่เกิน- ร้อยละ 10 การวดั ให้ปฏบิ ัติตามขอ้ 9.3 5.3 ขนาดเสน้ ผ่านศนู ย์กลางภายใน ตอ้ งเป็นไปตามท่ีระบุไว้ทฉ่ี ลาก โดยยอมใหม้ ีเกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนไดไ้ ม่เกนิ 0.5 เซนติเมตร การวัดใหว้ ดั ทป่ี ากภาชนะหุงตม้ ดว้ ยเครอื่ งวัดละเอียด 0.1 เซนติเมตร 5.4 คุณลักษณะด้านความปลอดภยั 5.4.1 ปริมาณโลหะหนกั ทีล่ ะลายออกมาจากแต่ละช่อง ต้องไมเ่ กนิ เกณฑท์ ่ีก�ำ หนดในตารางท่ี 1 การทดสอบให้ปฏบิ ัตติ ามขอ้ 9.4 ตารางที่ 1 ปริมาณโลหะหนักท่ีละลายออกมา (ขอ้ 5.4.1) รายการท่ี โลหะหนัก เกณฑก์ ำ�หนด สูงสุด mg/dm3 1 ตะกั่ว 1 2 ดบี ุก 200 3 ทองแดง 20 4 สงั กะสี 100 5 แคดเมยี ม 0.05
คู่มอื วิชาการสุขาภิบาลอาหารส�ำ หรับเจ้าหน้าที่ 353 (Principles of Food Sanitation Inspector) 5.5 การรวั่ ซึม 5.5.1 ภาชนะหุงต้มต้องไม่ร่ัวซึมการทดสอบให้ทำ�โดยการตรวจพินิจ ภาชนะหุงต้มขณะเตรียม สารละลายตวั อย่างตามข้อ 9.4.5 5.5.2 ช่องแบง่ เมือ่ ทดสอบตามขอ้ 9.5 แลว้ ระดับนำ้�ต้องไม่เปล่ยี นแปลง 5.6 คา่ ดัชนคี วามตา้ นทานการกดั กรอ่ นแบบรูเขม็ (PRE number) (โดยวธิ คี �ำ นวณ) ต้องไม่นอ้ ยกว่า 18 หรือตอ้ งมคี า่ ความต่างศกั ย์กัดกรอ่ นแบบรเู ข็ม (Pitting Potential) ไม่นอ้ ย กวา่ 100มิลลโิ วลต์เม่ือเทยี บกบั อเิ ล็กโทรดอ้างองิ มาตรฐานชนดิ Saturated Calomel Electro decsce, SCE(100 mV vs. SCE)การทดสอบใหป้ ฏบิ ัตติ ามข้อ 9.6 5.7 อตั ราการกดั กรอ่ นของรอยประสานบนแผน่ เหลก็ กลา้ ไรส้ นมิ ตอ้ งไมเ่ กนิ 1 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปกี ารทดสอบ ใหป้ ฏิบตั ติ ามขอ้ 9.7 6. การบรรจุ 6.1 ใหห้ ุ้มหอ่ ภาชนะหุงตม้ ดว้ ยวัสดทุ ่ีเหมาะสม เพื่อป้องกนั ฝุ่นละออง สิง่ สกปรก และความเสยี หายที่ อาจเกดิ ขึ้นระหวา่ งการขนส่งและเกบ็ รกั ษา 7. เครอื่ งหมายและฉลาก 7.1 ทวี่ สั ดหุ มุ้ หอ่ หรอื ทภ่ี าชนะหงุ ตม้ ทกุ ใบ อยา่ งนอ้ ยตอ้ งมเี ลข อกั ษร หรอื เครอื่ งหมายแจง้ รายละเอยี ด ต่อไปน้ีให้เหน็ ได้งา่ ยชัดเจน (1) ชื่อผลิตภณั ฑ์ตามมาตรฐานนีห้ รือชอื่ อืน่ ท่สี อื่ ความหมายวา่ เปน็ ผลติ ภัณฑ์ตามมาตรฐานน้ี (2) ความหนา เปน็ มลิ ลเิ มตร (3) ขนาดเส้นผ่านศูนยก์ ลางภายใน เปน็ เซนตเิ มตร (4) วสั ดุทีใ่ ชท้ ำ�รวมถึงชน้ั คณุ ภาพ หรือองคป์ ระกอบหลกั (5) ชนิดระบุ “ชนดิ เชอ่ื ม” หรือ“ชนิดบัดกร”ี แลว้ แต่กรณี (6) ขอ้ แนะน�ำ เกยี่ วกบั วธิ ใี ช้ เชน่ เรมิ่ ใชค้ รงั้ แรกควรลา้ งใหส้ ะอาดอยา่ งนอ้ ย 2 ครง้ั ลา้ งใหส้ ะอาด และคว�ำ่ ใหแ้ หง้ ทกุ ครงั้ หลงั ใช้ กน้ ภาชนะหงุ ตม้ อยหู่ า่ งจากหวั เตาไฟไมน่ อ้ ยกวา่ 5 เซนตเิ มตร (7) ข้อความ “ห้ามใช้วัสดุบัดกรีท่ีมีตะกั่วซ่อม” โดยแสดงด้วยอักษรขนาดใหญ่และสีเข้มกว่า อกั ษรอน่ื (8) ชอ่ื ผทู้ �ำ หรอื โรงงานทท่ี �ำ หรอื เครอ่ื งหมายการคา้ ทจี่ ดทะเบยี นในกรณที ใี่ ชภ้ าษาตา่ งประเทศ ตอ้ งมีความหมายตรงกับภาษาไทยที่ก�ำ หนดไวข้ ้างต้น 8. การชกั ตัวอย่างและเกณฑต์ ัดสิน 8.1 การชกั ตัวอย่างและเกณฑต์ ัดสินให้เปน็ ไปตามภาคผนวก ก.
354 คูม่ ือวิชาการสขุ าภิบาลอาหารส�ำ หรบั เจ้าหนา้ ที่ (Principles of Food Sanitation Inspector) 9. การทดสอบ 9.1 ขอ้ กำ�หนดทวั่ ไป 9.1.1 ใหใ้ ชว้ ธิ ที ดสอบทก่ี �ำ หนดในมาตรฐานนหี้ รอื วธิ อี น่ื ใดทใ่ี หผ้ ลเทยี บเทา่ ในกรณที ม่ี ขี อ้ โตแ้ ยง้ ให้ใช้วธิ ที ีก่ ำ�หนดในมาตรฐานน้ี 9.1.2 หากมไิ ดก้ ำ�หนดเปน็ อยา่ งอนื่ น�ำ้ กลนั่ และสารเคมที ใี่ ชต้ อ้ งมคี วามบรสิ ทุ ธเิ์ หมาะสำ�หรบั ใช้ ในการวิเคราะห์ 9.2 การวิเคราะหป์ รมิ าณโครเมยี ม 9.2.1 เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ 9.2.1.1 เครื่องสปาร์คอิมิสชันสเปกโทรมิเตอร์ (spark emission spectrometer) พรอ้ มอุปกรณ์ 9.2.1.2 เครอื่ งขัดพรอ้ มอปุ กรณ์ 9.2.1.3 กระดาษทรายเบอร์ 60 ถึง180 9.2.1.4 วสั ดุอา้ งอิงรบั รองของเหล็กกล้าไร้สนิม (certified reference material) 9.2.1.5 วสั ดอุ ้างองิ ของเหลก็ กลา้ ไร้สนิม (reference material) 9.2.2 สารเคมี ก๊าซอาร์กอน ความบรสิ ุทธไิ์ มน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 99.998 9.2.3 การเตรยี มวัสดอุ า้ งองิ รับรองและวสั ดุอา้ งองิ ใหใ้ ช้กระดาษทรายขัดผิวหนา้ วสั ดอุ ้างอิงรบั รองหรอื วสั ดอุ า้ งองิ ดว้ ยเคร่อื งขัด 9.2.4 การเตรยี มชนิ้ ทดสอบ ตดั ภาชนะหงุ ต้มตัวอย่าง ประมาณขนาด 3 เซนตเิ มตรX 3 เซนตเิ มตร เปน็ ช้นิ ทดสอบ จ�ำ นวน 3 ชน้ิ ใชก้ ระดาษดาษทรายตามขอ้ 9.2.1.3 ขดั ผวิ หน้าชิน้ ทดสอบด้วยเคร่ืองขัด 9.2.5 การสรา้ งกราฟมาตรฐาน ให้ใช้วัสดุอ้างอิงรับรองและวัสดุอ้างอิงของเหล็กกล้าไร้สนิมตามข้อกำ�หนดของเคร่ือง ทดสอบธาตุละอย่างน้อย 3 ก้อน สร้างกราฟมาตรฐานระหว่างความเข้มแสงกับ ความเข้มข้นของธาตทุ ่อี ยู่ในกอ้ นวสั ดุอา้ งอิงรบั รองหรอื วสั ดุอา้ งองิ ของเหล็กกลา้ ไร้สนิม 9.2.6 สอบเทียบมาตรฐานโดยใช้วัสดุอ้างอิงรับรองหรือวัสดุอ้างอิงของเหล็กกล้าไร้สนิมตาม ข้อกำ�หนดของเคร่อื งทดสอบ 9.2.7 ทวนสอบโดยใชว้ สั ดอุ า้ งองิ ของเหลก็ กลา้ ไรส้ นมิ รบั รองหรอื วสั ดอุ า้ งองิ ตามขอ้ กำ�หนดของ เครอ่ื งทดสอบ 9.2.8 วิธที ดสอบ นำ�ช้ินทดสอบที่เตรียมตามข้อ 9.2.4 มาวัดปริมาณโครเมียมด้วยสปาร์คอิมิสชันสเปก โทรมิเตอร์ เป็นร้อยละ ได้จากการเปรียบเทียบค่าความเข้มแสงกับกราฟมาตรฐานที่ได้ สรา้ งขึ้นไว้แล้วในเคร่ืองทดสอบ
คมู่ อื วชิ าการสุขาภบิ าลอาหารส�ำ หรับเจ้าหน้าที่ 355 (Principles of Food Sanitation Inspector) 9.3 การวัดความหนา ตดั ภาชนะหงุ ตม้ ตวั อยา่ งตามความสงู ออกเปน็ 2 สว่ นเทา่ ๆ กนั ใชเ้ ครอื่ งวดั ละเอยี ด 0.001 มลิ ลเิ มตร สุ่มวดั ความหนาตามแนวทตี่ ัด 3 ตำ�แหนง่ คอื บน กลาง และลา่ ง ทุกตำ�แหน่งตอ้ งมีความหนา ไมน่ ้อยกว่าเกณฑค์ วามคลาดเคลอื่ นทย่ี อมให้ 9.4 การวิเคราะหป์ ริมาณโลหะหนักท่ลี ะลายออกมาจากแตล่ ะช่อง 9.4.1 เครอื่ งมอื 9.4.1.1 อินดกั ทฟิ ลี คปั เปิลพลาสมา สเปกโทรมิเตอร์ (inductively coupled plasma spectrometer) หรอื อะตอมกิ แอบซอรป ชนั สเปกโทรมเิ ตอร์ (atomic absorp tion spectrometer) พรอ ม ฮอลโลวแ คโทดแลมป (hollow cathode lamp) ส�ำ หรับโลหะหนกั แตล่ ะชนดิ 9.4.1.2 แทน่ ให้ความรอ้ นหรอื เตาแก๊ส 9.4.2 สารเคมแี ละสารละลาย 9.4.2.1 สารละลายมาตรฐานของโลหะหนกั แต่ละชนดิ (แล้วแต่กรณี) เป็นมิลลิกรัมตอ่ ลูกบาศก์เดซเิ มตร 9.4.2.2 กรดเกลเชียลแอซตี ิก (glacial acetic acid) ชนั้ คุณภาพรีเอเจนต์ (reagent grade) 9.4.2.3 สารละลายกรดเกลเชียลแอซีติก เข้มข้นร้อยละ 4 โดยปริมาตรเจือจาง กรดเกลเชียลแอซตี ิก 40 ลูกบาศก เซนติเมตร ดว้ ยน้ำ�ปราศจากไอออนจนได้ ปริมาตร 1 ลิตร 9.4.3 การเตรียมกราฟสอบเทียบ ให้สร้างกราฟมาตรฐานระหว่างค่าความเข้มแสงหรือค่าการดูดกลืนแสงกับความเข้มข้น ของตะกั่ว ดบี กุ ทองแดง สังกะสี และแคดเมียม (แล้วแต่กรณี) 9.4.4 การทำ�ความสะอาดตวั อยา่ ง ล้างภาชนะหุงต้มตัวอย่างและฝาปิด(ถ้ามี)ให้ปราศจากไขมันและสิ่งสกปรกอื่น ด้วย ผลิตภัณฑ์ทำ�ความสะอาดประเภทของเหลวสำ�หรับถ้วยชาม มอก. 474 ท่ีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส ล้างด้วยนำ้�ประปา และตามด้วยน้ำ�ปราศจากไอออน ปล่อยให้แห้ง หลีกเลย่ี งการสมั ผสั ผวิ ด้านในของตวั อยา่ ง 9.4.5 การเตรียมสารละลายตัวอย่าง (ให้ตรวจพินิจการรั่วซึมของภาชนะหุงต้มขณะเตรียม สารละลายตัวอยา่ งไปพร้อมกัน) 9.4.5.1 ใสนำ้�ปราศจากไอออนประมาณ 2 ส่วนใน 3 ส่วนของความจุจริงของภาชนะ หงุ ตม้ ตวั อยา่ ง ปดิ ฝาน�ำ ไปตม้ บนแทน่ ใหค้ วามรอ้ นหรอื เตาแกส๊ ใหเ้ ดอื ดอยา่ งชา้ ๆ 9.4.5.2 เมอ่ื น�้ำ เดอื ด เตมิ กรดเกลเชยี ลแอซตี กิ ใหส้ ารละลายมคี วามเขม้ ขน้ รอ้ ยละ 4 โดย ปรมิ าตร (อตั ราสว่ นกรดเกลเชยี ลแอซตี กิ 40 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตรตอ่ น�้ำ ปราศจาก ไอออน 960 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร) แล้วต้มต่อไปอกี เป็นเวลา 2 ช่ัวโมง โดยรกั ษา ระดบั ปริมาตรนำ�้ ในภาชนะหงุ ตม้ ตัวอย่างใหค้ งท่ตี ลอดระยะเวลาทต่ี ้ม
356 ค่มู ือวิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจ้าหน้าที่ (Principles of Food Sanitation Inspector) 9.4.5.3 หลังจากน้ันปล่อยสารละลายในภาชนะหุงต้มตัวอย่างให้เย็นลงที่อุณหภูมิห้อง แล้วนำ�ไปวิเคราะห์ 9.4.6 วิธวี เิ คราะห์ น�ำ สารละลายตวั อยา่ งทเ่ี ตรยี มตามขอ้ 9.4.5 ไปวดั คา่ ความเขม้ แสงดว้ ยอนิ ดกั ทฟิ ลี คปั เปลิ พลาสมาสเปกโทรมิเตอร์ ที่ความยาวคล่ืนเดียวกับโลหะหนกั ทีต่ อ้ งการ 9.4.7 วิธีค�ำ นวณ ค�ำ นวณหาปรมิ าณโลหะหนักแต่ละชนดิ (แล้วแตก่ รณ)ี จากสตู ร ปริมาณโลหะหนกั มิลลิกรัมต่อลกู บาศกเ์ ดซเิ มตร = a - b เม่ือ a คือ ความเขม้ ขน้ ของโลหะหนักทว่ี ัดได้จากสารละลายตวั อย่าง เป็นมลิ ลิกรมั ต่อ ลูกบาศก์เดซเิ มตร b คือ ความเข้มข้นของโลหะหนักที่วัดได้จากสารละลายกรดเกลเซียลแอซีติกเข้มข้น รอ้ ยละ 4 โดยปริมาตรเป็นมลิ ลกิ รัมตอ่ ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร 9.5 การทดสอบการร่ัวซมึ ของชอ่ งแบ่ง ให้นำ�ภาชนะหุงตม้ ตวั อย่างท่ผี า่ นการทดสอบจากข้อ 9.4 แลว้ เตมิ นำ�้ 2 ใน 3 ส่วนของความจจุ รงิ ของภาชนะหงุ ตม้ ตวั อยา่ ง โดยแตล่ ะชอ่ งใหม้ รี ะดบั น�ำ้ ตา่ งกนั ประมาณ 5 เซนตเิ มตร ท�ำ เครอื่ งหมาย ท่รี ะดบั น�ำ้ ปิดฝา ปล่อยไว้เป็นเวลา 8 ชวั่ โมงแลว้ ตรวจพินิจท่ีเคร่ืองหมายอีกครั้ง 9.6 การทดสอบค่าดชั นีความต้านทานการกดั กร่อนแบบรูเขม็ (โดยวิธคี ำ�นวณ) คำ�นวณหาค่าดชั นคี วามต้านทานการกดั กรอ่ นแบบรูเขม็ จากสูตร ดชั นีความตา้ นทานการกัดกร่อนแบบรเู ขม็ = 1X (% Cr) + 3.3 X (% Mo) เมือ่ (% Cr) คือ ปริมาณโครเมยี มในเหล็กกล้าไร้สนมิ เปน็ ร้อยละ (% Mo) คอื ปรมิ าณโมลิบดีนัมในเหล็กกลา้ ไรส้ นิมเป็นร้อยละ ในกรณีทีมีขอ้ โตแ้ ย้งให้ใช้การทดสอบความต่างศกั ย์ของการกัดกรอ่ นแบบรูเขม็ โดยวิธโี พเทนชอิ อ ไดนามกิ โพลาไรเซชนั (potentiodynamic polarization) 9.6.1 การทดสอบความตา่ งศักยก์ ดั กร่อนแบบรูเข็ม 9.6.1.1 เครอื่ งมอื เครือ่ งโพเทนชิออสแตท (potentiostat) ทมี่ ภี าวะดงั นี้ (1) อิเล็กโทรดอ้างอิงมาตรฐาน (standard reference electrode) เป็น คาโลเมลอเิ ลก็ โทรดชนิดอมิ่ ตัว(saturated calomel electrode, SCE) และผ่านสะพานเกลอื (salt bridge) (2) อิเลก็ โทรดช่วย (auxiliary electrode) เปน็ แท่งกราไฟต์ (graphite) (3) อเิ ล็กโทรดตัวอย่าง (working electrode) เปน็ ชิ้นทดสอบ 9.6.1.2 แทน่ ใหค้ วามรอ้ นด้วยไฟฟ้าหรืออุปกรณใ์ ห้ความรอ้ นที่เหมาะสม 9.6.2 สารละลายและวิธเี ตรียม 9.6.2.1 สารละลายโซเดยี มคลอไรด์ 35 กรัมตอ่ ลิตร ชั่งโซเดียมคลอไรด์ 35 กรัมละลาย ด้วยน้�ำ ปราศจากไอออนจนปริมาตรเป็น1 ลติ ร
คมู่ อื วิชาการสขุ าภิบาลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หน้าที่ 357 (Principles of Food Sanitation Inspector) 9.6.3 การเตรยี มชน้ิ ทดสอบ 9.6.3.1 เตรียมอเิ ล็กโทรดตัวอย่าง โดยตดั ภาชนะหุงตม้ ตัวอย่างจากส่วนของผนงั กัน้ และ ก้นภาชนะเปน็ ชนิ้ ทดสอบขนาดประมาณ 2 เซนตเิ มตร X 2 เซนตเิ มตร จำ�นวน 3 ชิน้ 9.6.3.2 ติดตัวนำ�ไฟฟ้ากับช้ินงานด้วยกาวน�ำ ไฟฟ้าหรือการเช่ือมจุดหรือใช้วิธีที่เหมาะสม นำ�แตล่ ะชนิ้ ไปข้ึน เรือนเย็นดว้ ยเรซนิ (cold mounting) (ดังแสดงในรปู ท่ี 1) เป็นชน้ิ ทดสอบ 9.6.3.3 ขัดผวิ ชน้ิ ทดสอบดว้ ยกระดาษทรายเบอร์ 80 120 240 320 400 600 800 และ 1000 ตามล�ำ ดบั 9.6.3.4 วัดขนาดพื้นท่ีผิวของแผ่นโลหะท่ีสัมผัสกับสารละลายด้วยเครื่องวัดละเอียด 0.01 เซนติเมตร 9.6.3.5 ท�ำ ความสะอาดชน้ิ ทดสอบด้วยการจุ่มแชน่ ำ�้ และสั่นดว้ ยเครือ่ งอลั ตราโซนกิ แลว้ ล้างดว้ ยเอทานอลตามด้วยการเป่าลมรอ้ น 9.6.3.6 ปลอ่ ยชนิ้ ทดสอบไวใ้ นบรรยากาศสะอาดเปน็ เวลา 24 ชวั่ โมง เพอ่ื สรา้ งฟลิ ม์ ออกไซด์ เสถียรบนผวิ ตัวนำ�ไฟฟา้ เรชนิ ช้นิ ทดลอง เรชิน รูปท่ี 1 แสดงการติดตัวน�ำ ไฟฟา้ และข้นึ เรือนเยน็ ช้นิ ทดสอบ (ข้อ 9.6.3.2)
358 ค่มู ือวชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารสำ�หรับเจ้าหน้าท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector) 9.6.4 วธิ ีทดสอบ 9.6.4.1 เตรียมเซลล์ทดสอบดงั รปู ที่ 2-1 หรือเทยี บเท่า โดยเซลล์ทดสอบควรเป็น 2 ช้นั สำ�หรับควบคุมอุณหภูมิโดยการไหลเวียนของนำ้�ร้อนภายในภาชนะช้ันนอกหรือการต้มผ่านน้ำ�ร้อนในภาชนะช้ันนอก บนแท่นใหค้ วามร้อน 9.6.4.2 จัดวางอิเล็กโทรดในตำ�แหน่งที่เหมาะสม เติมสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (ขอ้ 9.6.2.1) ลงในภาชนะชนั้ ใน และปดิ ปากขวดดา้ นทไ่ี มใ่ ชง้ านใหส้ นทิ ดว้ ยจกุ ยาง 9.6.4.3 พน่ กา๊ ซไนโตรเจนในสารละลาย (เพอื่ ไลอ่ อกซเิ จน) ดว้ ยอตั รา 1 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ตอ่ นาทสี �ำ หรบั สารละลาย 6 มลิ ลลิ ติ ร เปน็ เวลา 45 นาที กอ่ นเรมิ่ ตน้ สงั่ การเครอื่ ง โพเทนชอิ อสแตท และพน่ อยา่ งตอ่ เน่อื งตลอดการทดสอบ 9.6.4.4 เม่ือเวลาผ่านไป 30 นาที (ในช่วงการพ่นก๊าซไนโตรเจน) เร่ิมปรับเพิ่มอุณหภูมิ ผ่านเครื่องต้มน้ำ�ร้อนหรือแท่นให้ความร้อนจนสารละลายมีอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส และคงอณุ หภมู นิ ้ไี ว้ตลอดการทดสอบ 9.6.4.5 เมื่อครบกำ�หนด 45 นาที (เริ่มนับเมื่อพ่นก๊าซไนโตรเจน) เร่ิมสั่งการเคร่ือง โพเทนชอิ อสแตทตามทตี่ ัง้ โปรแกรมไว้ ดังรูปท่ี 2-2 ดังนี้ (1) วดั คา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ วงจรเปดิ (open circuit potential, OCP) เปน็ เวลา 45 นาที (2) เร่ิมป้อนศักย์ไฟฟ้า (potential scan) ท่ีอัตราการป้อนศักย์ไฟฟ้า (scan rate) เทา่ กับ 0.5 มลิ ลิโวลตต์ อ่ วินาที ค่าศักย์ไฟฟ้าตั้งต้น (begin potential) เท่ากับ -250 มิลลิโวลต์ จากคา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ วงจรเปดิ ค่าศักย์ไฟฟ้าสุดท้าย (end potential) เม่ือความหนาแน่นกระแสไฟฟ้า (current density) เท่ากบั 10-2 แอมแปร์ตอ่ ตารางเซนติเมตร (3) ไดก้ ราฟโพลาไรเซชนั (ดังรูปท่ี 3) 9.6.4.6 อ่านค่าศักย์ไฟฟ้าของการกัดกร่อนแบบรูเข็ม (pitting potential, Epitting) จากกราฟ (ดงั รูปท่ี 3)
คมู่ ือวิชาการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรับเจ้าหนา้ ท่ี 359 (Principles of Food Sanitation Inspector) รูปท่ี 2-1 แสดงการเตรียมเซลลท์ ดสอบ (ข้อ 9.6.4.1) รูปที่ 2-2 แสดงการเตรยี มเคร่อื งโพเทนชิออสแตท และติดต้ังเซลล์ทดสอบ (ข้อ 9.6.4.5)
360 ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารส�ำ หรับเจ้าหนา้ ท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector) รปู ที่ 3 กราฟแสดงเส้นโค้งโพลาไรเซชัน (polarization curve) แสดงค่า icorr, Ecorr, Epitting (ขอ้ 9.6.4.5 (3) ข้อ 9.6.4.6 และข้อ 9.7.4.5(3)) 9.7 การทดสอบอัตราการกดั กรอ่ นของรอยประสานบนแผน่ เหลก็ กล้าไรส้ นมิ 9.7.1 เครื่องมือ เคร่ืองโพเทนชอิ อสแตท เช่นเดียวกบั ข้อ 9.6.1.1 9.7.2 สารละลายและวธิ ีเตรียม 9.7.2.1 สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 5 กรมั ต่อลิตร ชง่ั โซเดยี มคลอไรด์ 5 กรมั ละลายดว้ ยน�ำ้ ปราศจากไอออนจนมปี รมิ าตรเปน็ 1 ลติ ร 9.7.3 การเตรยี มชิ้นทดสอบ 9.7.3.1 ตัดภาชนะหุงตม้ ตัวอยา่ งบรเิ วณแนวรอยประสานเปน็ ช้ินทดสอบขนาดประมาณ 3 เซนติเมตร X 6 เซนตเิ มตร จำ�นวน 3 ชิ้นชน้ิ ทดสอบตอ้ งมที ้ังผวิ แนวบดั กรีและ ผิวเหลก็ กล้าไรส้ นมิ 9.7.3.2 ติดตัวนำ�ไฟฟ้ากับชิ้นงานบนวัสดุบัดกรีด้วยกาวนำ�ไฟฟ้าหรือการเชื่อมจุดหรือ ใชว้ ิธที เี่ หมาะสม 9.7.3.3 ขดั ชนิ้ ทดสอบดว้ ยกระดาษทรายเบอร์ 320 400 600 1000 ตามลำ�ดับ 9.7.3.4 น�ำ ชิน้ ทดสอบไปท�ำ ความสะอาดดว้ ยนำ�้ ปราศจากไอออน ตามด้วยเอทานอล 9.7.3.5 เปา่ ชิ้นทดสอบด้วยลมร้อน 9.7.3.6 ปล่อยช้ินทดสอบในบรรยากาศสะอาด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างฟิล์ม ออกไซดเ์ สถยี รบนผิว 9.7.3.7 เคลอื บผวิ ชน้ิ ทดสอบดว้ ยแลก็ เกอรต์ าม มอก. 562 ใหเ้ หลอื พนื้ ทข่ี องรอยประสาน บดั กรี 1 ส่วนต่อเหลก็ กล้าไร้สนิม5 สว่ น (ดรู ปู ที่ 4)
คู่มอื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารส�ำ หรับเจ้าหน้าที่ 361 (Principles of Food Sanitation Inspector) 9.7.3.8 วัดขนาดพ้ืนที่ผิวส่วนที่ไม่ถูกเคลือบแล็กเกอร์ด้วยเคร่ืองวัดละเอียด 0.01 เซนตเิ มตร รปู ที่ 4 ชิ้นทดสอบสำ�หรบั ทดสอบอตั ราการกดั กร่อนของรอยประสาน (ขอ้ 9.7.3.7) 9.7.4 วิธีทดสอบ 9.7.4.1 เตรียมเซลล์ทดสอบลกั ษณะดงั ขอ้ 9.6.4.1 (รูปท่ี 2-1) หรือเทียบเท่า 9.7.4.2 จัดวางอิเล็กโทรดในตำ�แหน่งที่เหมาะสมโดยอิเล็กโทรดตัวอย่าง (working electrode) เป็นช้ินทดสอบ (ข้อ 9.7.3) เติมสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (ขอ้ 9.7.2.1) ลงในภาชนะชนั้ ในและปดิ ปากขวดดา้ นทไี่ มใ่ ชง้ านใหส้ นทิ ดว้ ยจกุ ยาง 9.7.4.3 พน่ กา๊ ซไนโตรเจนในสารละลายทดสอบ (เพอ่ื ไลอ่ อกซเิ จน) ดว้ ยอตั รา 1 ลกู บาศก์ เซนติเมตรตอ่ นาทีส�ำ หรับสารละลาย 6 มลิ ลิลิตร เปน็ เวลา 45 นาที กอ่ นเริม่ ต้น สัง่ การเครื่องโพเทนชิออสแตท และพ่นอยา่ งตอ่ เนือ่ งตลอดการทดสอบ 9.7.4.4 เมอื่ เวลาผา่ นไป 30 นาที (ในชว่ งการพน่ กา๊ ซไนโตรเจน) เรม่ิ ปรบั เพมิ่ อณุ หภมู ผิ า่ น เครื่องต้มน้ำ�ร้อนหรือแท่นให้ความร้อนจนสารละลายทดสอบมีอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส และคงอณุ หภมู นิ ี้ไว้ตลอดการทดสอบ 9.7.4.5 เมื่อครบกำ�หนด 45 นาที (นับจากเริ่มพ่นก๊าซไนโตรเจน) เริ่มสั่งการ เครอ่ื งโพเทนชิออสแตท ตามทตี่ ง้ั โปรแกรมไว้ ดังนี้ (1) วดั ค่าศักยไ์ ฟฟ้าวงจรเปิดเป็นเวลา 45 นาที (2) เร่มิ ป้อนศักยไ์ ฟฟา้ ท่ี อัตราการป้อนศักย์ไฟฟา้ เท่ากบั 0.5 มลิ ลิโวลต์ ตอ่ วินาที คา่ ศกั ยไ์ ฟฟ้าตงั้ ตน้ เทา่ กับ-250 มลิ ลโิ วลต์ จากคา่ ศักย์ไฟฟ้าวงจรเปดิ คา่ ศักยไ์ ฟฟา้ สดุ ทา้ ย เท่ากับ+ 250 มิลลโิ วลต์ จากคา่ ศักย์ไฟฟ้าวงจรเปดิ (3) ไดก้ ราฟโพลาไรเซชัน ดังรปู ท่ี 3
362 คู่มอื วชิ าการสขุ าภิบาลอาหารสำ�หรับเจา้ หน้าที่ (Principles of Food Sanitation Inspector) ภาคผนวก ก. การชักตวั อย่างและเกณฑ์ตดั สิน (ขอ้ 8.1) ก.1 รนุ่ ในท่ีนี้ หมายถงึ ภาชนะหุงต้มชนดิ เดยี วกัน ทำ�จากวสั ดุอยา่ งเดียวกันดว้ ยกรรมวธิ เี ดยี วกันท่ีท�ำ หรอื ส่งมอบ หรอื ซอ้ื ขายในระยะเวลาเดียวกัน ก.2 การชักตัวอย่างและการยอมรับ ให้เป็นไปตามแผนการชักตัวอย่างท่ีกำ�หนดต่อไปน้ี หรืออาจใช้แผนการชัก ตัวอย่างอ่ืน ที่เทียบเท่ากนั ทางวชิ าการกบั แผนท่ีกำ�หนดไว้ ก.2.1 การชักตัวอย่างและการยอมรับสำ�หรับการทดสอบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน การบรรจุและ เครือ่ งหมายและฉลาก ก.2.1.1 ให้ชักตัวอย่างโดยวิธีสุ่มจากรุ่นเดียวกันจำ�นวน 5 ใบ เพื่อทดสอบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ภายในการบรรจุ เครือ่ งหมายและฉลาก ตามล�ำ ดับ ก.2.1.2 ตัวอยา่ งทุกใบต้องเปน็ ไปตามขอ้ 5.3 ขอ้ 6. และข้อ 7. จึงจะถือว่าภาชนะหุงตม้ ร่นุ นน้ั เป็นไป ตามเกณฑท์ ก่ี �ำ หนด ก.2.2 การชักตวั อย่างและการยอมรับ สำ�หรบั การทดสอบวัสดุ และความหนา ก.2.2.1 ให้ใช้ตวั อย่างทีผ่ ่านการตรวจสอบจากข้อ ก.2.1 แล้วจำ�นวน 1 ใบ ก.2.2.2 ตวั อยา่ งตอ้ งเปน็ ไปตามขอ้ 4. และขอ้ 5.2 จงึ จะถอื วา่ ภาชนะหงุ ตม้ รนุ่ นนั้ เปน็ ไปตามเกณฑท์ กี่ ำ�หนด ก.2.3 การชกั ตัวอย่างและการยอมรับ สำ�หรบั การทดสอบคุณลักษณะดา้ นความปลอดภยั และการรั่วซึม ก.2.3.1 ใหใ้ ช้ตวั อยา่ งที่ผ่านการตรวจสอบจากขอ้ ก.2.1 แลว้ จำ�นวน 3 ใบ ก.2.3.2 ตัวอย่างทกุ ใบต้องเป็นไปตามข้อ 5.4 และข้อ 5.5 จงึ จะถือว่าภาชนะหุงตม้ รนุ่ นัน้ เป็นไป ตามเกณฑ์ทกี่ �ำ หนด ก.2.4 การชักตัวอย่างและการยอมรับสำ�หรับการทดสอบความต่างศักย์กัดกร่อนแบบรูเข็ม และอัตรา การกัดกร่อนของรอยประสานบนแผน่ เหล็กกลา้ ไรส้ นิม ก.2.4.1 ใหใ้ ช้ตัวอยา่ งทผ่ี า่ นการตรวจสอบแล้ว (ยกเวน จากข้อ ก.2.3) โดยทำ�เป็นตัวอยา่ งรวม ก.2.4.2 ตวั อยา่ งตอ้ งเปน็ ไปตามขอ้ 5.6 และขอ้ 5.7 จงึ จะถอื วา่ ภาชนะหงุ ตม้ รนุ่ นนั้ เปน็ ไปตามเกณฑท์ ก่ี �ำ หนด ก.3 เกณฑต์ ดั สิน ตัวอยา่ งภาชนะหุงตม้ ต้องเป็นไปตามขอ้ ก.2.1.2 ขอ้ ก.2.2.2 ข้อ ก.2.3.2 และขอ้ ก.2.4.2 ทุกขอ้ จึงจะถือวา่ ภาชนะหุงต้มรุ่นน้ันเป็นไปตามมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมน้ี
ศพั ท์เฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามยั ล�ำ ดบั ที่ คำ�ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ค�ำ แปล ค�ำ ยอ่ ความหมาย 1 บคุ ลากร 1.1 Local Government Officer เจา้ พนกั งานท้องถ่นิ หมายถึง ผู้ที่ได้รับการแต่งต้ังตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ได้แก่ นายกเทศมนตรีสำ�หรับเขตเทศบาล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสำ�หรับเขต องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำ บลส�ำ หรบั เขตองคก์ ารบรหิ าร ส่วนตำ�บล นายกเมืองพัทยาสำ�หรับเมืองพัทยา ผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร สำ�หรับ เขตกรุงเทพมหานคร 1.2 Local Governmen ราชการส่วนท้องถน่ิ หมายถึง หนว่ ยการปกครองตนเองที่กฎหมายใหอ้ ำ�นาจในการจัดต้ังขนึ้ ได้ เพ่ือรองรับ Organization ระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบกระจายอ�ำ นาจ ไดแ้ ก่ เทศบาล องคก์ าร บริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำ�บล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา หรือ องค์การปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นอ่ืนทกี่ ฎหมายก�ำ หนดใหเ้ ปน็ ราชการสว่ นท้องถนิ่ ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ (Principles of Food Sanitation Inspector) 1.3 Local Ordinance/Provision ข้อก�ำ หนดท้องถิ่น หมายถงึ ขอ้ บงั คบั หรอื กฎหมายทอี่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ หรอื ราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ เปน็ ผอู้ อกโดยอาศยั อำ�นาจแหง่ กฎหมายทม่ี ลี ำ�ดบั ชน้ั ทสี่ งู กวา่ เชน่ พระราชบญั ญตั ิ กฎ กระทรวง ประกาศ กระทรวง เปน็ ตน้ 1.4 Ministerial Notification ประกาศกระทรวง หมายถึง กฎหมายซ่ึงรัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติหรือพระราชกำ�หนดได้ ออก เพื่อด�ำ เนนิ การใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญัติหรือพระราชกำ�หนดนนั้ ๆ โดยมีขนั้ ตอนการพจิ ารณาแตกต่างจากกฎกระทรวง 1.5 Ministerial Regulation กฎกระทรวง หมายถึง กฎหมายซึ่งรัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติหรือพระราชกำ�หนดได้ ออกเพ่อื ดำ�เนินการใหเ้ ปน็ ไปตามพระราชบัญญัตหิ รอื พระราชกำ�หนดนัน้ ๆ ภ า ค ผ น ว ก 15 363
ศพั ท์เฉพาะด้านอาหารของกรมอนามัย (ตอ่ ) 364 ลำ�ดบั ท่ี ค�ำ ศัพทภ์ าษาองั กฤษ ค�ำ แปล คำ�ย่อ ความหมาย 1.6 Public Health Committee คณะกรรมการ หมายถงึ คณะกรรมการทมี่ อี �ำ นาจหนา้ ทใี่ นการควบคมุ ก�ำ กบั ดแู ลและใหก้ ารสนบั สนนุ คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี สาธารณสุข การปฏิบัตกิ ารของราชการสว่ นท้องถ่ิน โดยการเสนอแผนงานนโยบาย และมาตรการ (Principles of Food Sanitation Inspector) ดา้ นสาธารณสขุ รวมทง้ั การออกกฎกระทรวง และประกาศกระทรวง แกร่ ฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงสาธารณสขุ 1.7 Public Health Officer เจ้าพนกั งานสาธารณสขุ หมายถงึ ขา้ ราชการสงั กดั กระทรวงสาธารณสุข และพนกั งานเทศบาลผ้ซู งึ่ ปฏบิ ัตงิ าน เกี่ยวกับการอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย ท่ีได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสขุ พ.ศ. 2535 1.8 The Public Health Act B.E. พระราชบัญญัติการ หมายถึง พระราชบัญญัติท่ีคุ้มครองประชาชนด้านสุขลักษณะและการอนามัยสิ่ง 2535 สาธารณสุข พ.ศ.2535 แวดลอ้ ม หรอื การสขุ าภบิ าลส่งิ แวดล้อม ซงึ่ ครอบคลุมท้ังกิจกรรมการกระท�ำ ทุกอย่าง และกิจการประเภทต่างๆ ท่ีมีผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน ตง้ั แต่ระดับชาวบ้าน ครัวเรอื น ชุมชน ตลอดจนกิจการขนาดเล็กขนาดใหญ่ อันไดแ้ ก่ หาบเร่ แผงลอย สถานที่จำ�หน่ายอาหาร สถานท่ีสะสมอาหาร ตลาด กิจการท่ีเป็น อนั ตรายต่อสขุ ภาพประเภทต่างๆ รวมทงั้ การควบคมุ การเลย้ี งสัตว์หรือปล่อยสตั ว์ 1.9 Food Sanitation การสุขาภิบาลอาหาร หมายถงึ ศาสตรเ์ กยี่ วกบั สขุ ภาพอนามยั ทวี่ า่ ดว้ ยการผลติ อาหารทส่ี ะอาด ปลอดภยั และ มีคุณภาพสำ�หรับผู้บริโภค ซึ่งจะมีความหมายครอบคลุมตั้งแต่การเล้ียงสัตว์ การให้ อาหาร การตลาด (การน�ำ ไปขาย) และการฆา่ สตั วแ์ ละยงั รวมไปถงึ วธิ กี ารทางสขุ าภบิ าล ในการท่จี ะปอ้ งกันเช้อื แบคทีเรยี ทีท่ ำ�ให้เกิดโรคในคนปนเปื้อนลงอาหาร
ล�ำ ดบั ท่ี ค�ำ ศัพทภ์ าษาองั กฤษ ศัพทเ์ ฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามยั (ตอ่ ) ความหมาย 1.10 Food Hygiene ค�ำ แปล ค�ำ ยอ่ 1.11 Nutrition สุขลกั ษณะอาหาร หมายถงึ ศาสตรเ์ กย่ี วกบั สขุ ลกั ษณะในการผลติ อาหารทส่ี ะอาด ปลอดภยั และมคี ณุ ภาพ 1.12 Food Safety สำ�หรับผู้บริโภค ซึ่งจะมีความหมายครอบคลุมตั้งแต่การเลี้ยงสัตว์ การให้อาหาร การตลาด และการฆ่าสัตว์ โดยรวมถึงวิธีการทางสุขาภิบาลในการที่จะป้องกันเช้ือ 1.13 Consumer จุลนิ ทรยี ท์ ี่ท�ำ ใหเ้ กดิ โรคในคน หรอื สารพิษท่ปี นเปื้อนลงในอาหาร 1.14 Food Handler โภชนาการ หมายถึง วิทยาศาสตร์ประยุกต์แขนงหนึ่งว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับ ความปลอดภัยอาหาร กระบวนการท่เี กีย่ วข้องกับสขุ ภาพและการเจรญิ เติบโตของสิ่งมีชีวติ หมายถึง ระบบการดแู ล ควบคมุ และตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัย อาหารท่ผี ลติ ทกุ ขั้นตอนตลอดหว่ งโซ่อาหาร ตงั้ แตว่ ตั ถุดิบ (การเพาะปลูก การเพาะเลี้ยง) การผลิต ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ การแปรรปู การจดั จ�ำ หนา่ ยจนถงึ ผบู้ รโิ ภค ทงั้ นมี้ าตรฐานทใี่ ชใ้ นการควบคมุ ตอ้ งมคี วาม (Principles of Food Sanitation Inspector) เทา่ เทยี มกบั มาตรฐานสากล เช่น การใช้มาตรฐานการสุขอนามยั และสุขอนามยั พชื ซ่งึ อยบู่ นพนื้ ฐานทางวทิ ยาศาสตร์ ผู้บรโิ ภค หมายถึง ผู้ซือ้ หรือไดร้ ับบริการจากผูป้ ระกอบการธรุ กิจ และหมายความรวมถงึ ผ้ซู ่ึงได้ ผู้สมั ผสั อาหาร รับการเสนอหรือการชกั ชวนจากผูป้ ระกอบธรุ กิจเพอื่ ให้ซื้อสนิ คา้ หรือรับบรกิ ารดว้ ย หมายถึง บุคคลที่ทำ�หน้าที่เก่ียวข้องกับอาหารทั้งหมด เช่น ผู้ปรุงผู้เสิร์ฟ ผู้ทำ�ความ สะอาดอุปกรณ์ ผู้เตรียมอาหาร ผู้ลำ�เลียงอาหาร รวมหมายถึงบุคคลผู้มีโอกาสสัมผัส หรอื เก่ียวข้องกบั การบรกิ ารอาหารทุกกรณี 365
ศัพทเ์ ฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามยั (ตอ่ ) 366 ล�ำ ดบั ท่ี ค�ำ ศัพทภ์ าษาอังกฤษ ค�ำ แปล คำ�ยอ่ ความหมาย 1.15 Food Inspector ผูต้ รวจสอบอาหาร/ หมายถงึ ผ้รู วบรวม จัดการ และสง่ เสริมให้เกดิ การตรวจสอบสินคา้ อาหารอยา่ งเปน็ คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี 1.16 Proprietor of Food สารวตั รอาหาร ระบบ ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎ/ระเบยี บ/ข้อกำ�หนดตามกฎหมาย เพ่ือลดความเสยี่ ง ท่จี ะก่อ (Principles of Food Sanitation Inspector) Services Establishment ให้เกดิ อันตรายตอ่ สขุ ภาพของผู้บริโภค (ความหมายของ Codex) ในความหมายของ กรมอนามัย หมายถึง เจ้าหน้าท่ีท้องถ่ิน/เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซ่ึงรับผิดชอบงาน สขุ าภบิ าลอาหาร ในองคก์ รภาครฐั ระดบั ตา่ งๆ ทว่ั ประเทศ มหี นา้ ทด่ี �ำ เนนิ การดา้ นความ ปลอดภยั ของอาหาร เพอ่ื ลดความเส่ียงและอันตรายท่ีอาจจะเกดิ กับผบู้ รโิ ภค ผปู้ ระกอบการด้าน หมายถึง ผูข้ าย ผผู้ ลติ เพือ่ ขาย ผสู้ ่งั หรอื นำ�เข้ามาในราชอาณาจกั รเพื่อขาย หรอื ผซู้ อื้ อาหาร เพ่ือขายต่อซ่ึงสินค้าอาหารหรือ ผู้ให้บริการผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการให้ บรกิ ารอาหารต้งั แต่การสัง่ ซอื้ เลือกซ้อื จนถงึ การจ�ำ หน่ายอาหาร 1.17 Personel Hygiene สุขวทิ ยาส่วนบุคคล หมายถงึ หลกั วชิ าการทวี่ า่ ดว้ ยการดแู ล บ�ำ รงุ รกั ษา ปรบั ปรงุ สง่ เสรมิ สขุ ภาพใหส้ มบรู ณ์ แขง็ แรง ไมเ่ ปน็ โรคและมกี ารปฏบิ ตั ติ นใหอ้ ยใู่ นสภาวะทป่ี ลอดภยั ซง่ึ รวมทง้ั การปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายของเชอื้ โรคทง้ั จากตนเองไปสผู่ อู้ น่ื และการรบั เอาเชอื้ โรค สง่ิ ปนเปอื้ น จากภายนอกมาสู่ตวั เราทัง้ ทางตรงและทางอ้อม
ศพั ทเ์ ฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามัย (ตอ่ ) ล�ำ ดบั ที่ คำ�ศัพท์ภาษาองั กฤษ คำ�แปล ค�ำ ย่อ ความหมาย 2 สถานท่ี 2.1 Marketplace ตลาด หมายถึง สถานท่ีซ่ึงปกติจัดไว้ให้ผู้ค้าใช้เป็นท่ีชุมนุมเพื่อจำ�หน่ายสินค้าประเภทสัตว์ เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารอันมีสภาพเป็นของสด ประกอบหรือปรุงแล้ว หรือ ของเสียง่าย ทั้งน้ี ไม่ว่าจะมีการจำ�หน่ายสินค้าประเภทอ่ืนด้วยหรือไม่ก็ตาม และ หมายความรวมถึงบริเวณซึ่งจัดไว้สำ�หรับผู้ค้าใช้เป็นที่ชุมนุม เพ่ือจำ�หน่ายอาหาร ประเภทดังกลา่ วเป็นประจ�ำ หรอื เปน็ ครัง้ คราวหรือตามวันที่กำ�หนด 2.2 Marketplace type 1 ตลาดประเภทท่ี 1 หมายถงึ ตลาดทมี่ โี ครงสรา้ งอาคารและด�ำ เนนิ กจิ การเปน็ ประจ�ำ หรอื อยา่ งนอ้ ยสปั ดาห์ ละ 1 ครั้ง โดยมีส่วนประกอบของสถานท่ีและสิ่งปลูกสร้างสำ�หรับผู้ขายของที่ขน ถา่ ยสนิ คา้ ส้วมและที่ถา่ ยปสั สาวะ ท่รี วบรวมมลู ฝอยและทีจ่ อดรถ 2.3 Marketplace type 2 ตลาดประเภทท่ี 2 หมายถึง ตลาดที่ไม่มีโครงสร้างอาคารและดำ�เนินกิจการเป็นประจำ� หรืออย่างน้อย ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ สัปดาหล์ ะ 1 คร้ัง และให้มบี ริเวณท่ีจัดไว้สำ�หรบั ผู้ขายของ ส้วม และท่ถี า่ ยปัสสาวะ ท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector) รวบรวมมลู ฝอย 2.4 Food Services Establish- สถานทีจ่ �ำ หน่ายอาหาร หมายถงึ อาคาร สถานที่ หรอื บรเิ วณใดๆ ทมี่ ใิ ชท่ หี่ รอื ทางสาธารณะ ทจ่ี ดั ไวเ้ พอ่ื ประกอบ ment อาหารหรอื ปรงุ อาหารจนสำ�เรจ็ โดยจดั ใหม้ ีบริเวณไวส้ �ำ หรบั การบริโภค ณ ที่นัน้ หรอื น�ำ ไปบรโิ ภคท่อี น่ื ก็ตาม 2.5 Small Food Services Es- ร้านอาหารขนาดเล็ก หมายถงึ อาคาร สถานทที่ ี่มีพ้นื ทน่ี อ้ ยกวา่ สองรอ้ ยตารางเมตรหรอื มขี นาดไม่เกนิ สอง tablishment/Food Shop/ คหู าหรอื หนง่ึ คหู าสองชน้ั ทงั้ นม้ี ไี วเ้ พอื่ จดั ส�ำ หรบั ประกอบอาหาร ปรงุ อาหาร จนส�ำ เรจ็ Food Premises และจำ�หน่ายให้ผูซ้ อื้ สามารถบรโิ ภคได้ทันที โดยจะตอ้ งมโี ครงสร้างหลกั ครบถ้วน ทั้งน้ี ไม่ว่าจะเป็นการจำ�หน่ายโดยจัดให้มีบริเวณไว้สำ�หรับการบริโภค ณ ท่ีนั้น หรือนำ�ไป บริโภคทอี่ ื่นกต็ าม 367
ศัพทเ์ ฉพาะด้านอาหารของกรมอนามัย (ตอ่ ) 368 ล�ำ ดบั ที่ ค�ำ ศัพทภ์ าษาอังกฤษ ค�ำ แปล ค�ำ ยอ่ ความหมาย 2.6 Large Food Establishment ร้านอาหารขนาดใหญ่ หมายถงึ อาคารสถานทที่ ม่ี พี นื้ ทเ่ี กนิ สองรอ้ ยตารางเมตรหรอื มขี นาดสามคหู าหรอื หนงึ่ คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี / Restaurant ภตั ตาคาร สวนอาหาร คูหาสามชั้นขึ้นไป ท้ังน้ีมีไว้เพื่อจัดสำ�หรับประกอบอาหาร ปรุงอาหาร จนสำ�เร็จและ (Principles of Food Sanitation Inspector) จ�ำ หนา่ ยใหผ้ ซู้ อ้ื สามารถบรโิ ภคไดท้ นั ที โดยจะตอ้ งมโี ครงสรา้ งหลกั ครบถว้ น ทง้ั นไี้ มว่ า่ จะเป็นการจำ�หน่ายโดยจดั ให้มบี ริเวณไว้ส�ำ หรับการบรโิ ภค ณ ที่นัน้ หรือนำ�ไปบริโภค ทอ่ี ่นื กต็ าม 2.7 Food Center / Food Court ศนู ย์อาหาร หมายถงึ อาคาร สถานท่ีเปน็ ของภาครัฐและ/หรือภาครฐั ซึง่ จดั ให้มีการชมุ นุมรวมตัว เพอ่ื จดั บรกิ ารอาหารใหก้ บั ผซู้ อื้ ซง่ึ สามารถบรโิ ภคไดท้ นั ที และจดั ใหม้ บี รเิ วณไวส้ ำ�หรบั การบริโภค ณ ที่นัน้ ดว้ ย หรือสามารถนำ�ไปบริโภคท่ีอ่ืนกไ็ ด้ ลักษณะอาหารทจ่ี ำ�หน่าย เปน็ นำ�้ เคร่อื งดม่ื อาหารปรงุ สำ�เร็จที่มีหลากหลายประเภท โดยมุ่งเน้นสำ�หรบั บริการ ผู้บรโิ ภคท่ีมาใช้บรกิ ารจากสถานทีภ่ าคเอกชนและหรือภาครัฐ เปน็ ส�ำ คัญ 2.8 Food Stall แผงลอยจำ�หนา่ ย หมายถึง แคร่ แทน่ โต๊ะ แผง รถเข็น หรอื พาหนะอืน่ ใด ท่ขี ายอาหารปรุงส�ำ เร็จเคร่ือง 2.9 Food Conner อาหารในท่ีเอกชนหรอื ดม่ื น�้ำ แขง็ ซง่ึ ผซู้ อ้ื สามารถบรโิ ภคไดท้ นั ทโี ดยตงั้ ประจำ�ทใ่ี นทหี่ รอื บรเิ วณใดๆ ของภาค มิใชท่ ่ีหรือทาง เอกชนและ/หรือภาครัฐหรือมิใช่ท่ีหรือทางสาธารณะโดยอาหารท่ีจำ�หน่ายจะเป็น สาธารณะ ประเภทอาหารจานเดยี ว เช่น ขา้ วแกง ก๋วยเต๋ยี ว สม้ ตำ� เปน็ ต้น ทั้งน้ีไมว่ ่าจะเปน็ การ มุมอาหาร จำ�หนา่ ยโดยจดั ให้มบี รเิ วณไว้สำ�หรบั การบรโิ ภค ณ ท่ีนั้น หรอื นำ�ไปบรโิ ภคท่ีอนื่ ก็ตาม หมายถึง ท่ีหรือบริเวณมุม ที่ขายอาหารปรุงส�ำ เร็จเคร่ืองด่ืม น้ำ�แข็ง ซ่ึงผู้ซ้ือสามารถ บริโภคไดท้ ันที โดยต้ังประจ�ำ ที่ในที่หรือบริเวณใดๆ ของภาคเอกชนและ/หรือภาครัฐ หรือมิใช่ที่หรือทางสาธารณะโดยอาหารท่ีจำ�หน่ายจะเป็นอาหารหรือเครื่องด่ืมเฉพาะ อยา่ งท่ปี รงุ ประกอบได้ง่ายๆ เชน่ กาแฟ แซนวชิ ไอศกรีม เป็นตน้ ทง้ั นีไ้ มว่ ่าจะเปน็ การ จำ�หน่ายโดยจัดใหม้ ีบริเวณไวส้ ำ�หรบั การบรโิ ภค ณ ท่นี ้ัน หรอื นำ�ไปบรโิ ภคทีอ่ ่ืนก็ตาม
ศัพท์เฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามยั (ตอ่ ) ลำ�ดบั ที่ ค�ำ ศัพทภ์ าษาอังกฤษ คำ�แปล ค�ำ ย่อ ความหมาย 2.10 Canteen โรงงอาหารในสถาบนั หมายถงึ สถานทข่ี องภาคเอกชน และหรอื ภาครฐั ซง่ึ จดั ไวเ้ พอื่ ประกอบอาหารหรอื ปรงุ ของภาคเอกชน และ อาหารจนสำ�เร็จและจำ�หน่ายให้ผู้ซื้อสามารถบริโภคได้ทันทีและได้มีจัดให้มีบริเวณไว้ หรอื ภาครฐั สำ�หรับการบริโภค ณ ที่น้ันด้วย โดยมุ่งเน้นสำ�หรับให้มีบริการอาหารแก่นักเรียน นกั ศกึ ษา และบคุ ลากรในโรงเรียน เป็นส�ำ คญั 2.11 School Canteen โรงอาหารในโรงเรียน หมายถงึ สถานที่ของสถาบันการศกึ ษาภาคเอกชน และหรอื สถาบนั การศกึ ษาภาครฐั ซึ่งจัดไว้เพ่ือประกอบอาหารหรือปรุงอาหารจนสำ�เร็จและจำ�หน่ายให้ผู้ซ้ือสามารถ บรโิ ภคไดท้ ันทีและไดม้ ีจดั ใหม้ บี ริเวณไว้ ส�ำ หรบั การบรโิ ภค ณ ทีน่ ้นั ด้วย โดยมงุ่ เนน้ สำ�หรับให้มบี รกิ ารอาหารแกน่ กั เรยี น นกั ศกึ ษา และบคุ ลากรในโรงเรียน เป็นสำ�คญั 2.12 Hospital Canteen โรงอาหารโรงพยาบาล หมายถงึ สถานทข่ี องโรงพยาบาลภาคเอกชน และหรอื โรงพยาบาลภาครฐั ซงึ่ จดั ไวเ้ พอื่ ประกอบอาหารหรือปรุงอาหารจนสำ�เร็จและจำ�หน่ายให้ผู้ซ้ือสามารถบริโภคได้ทันที และไดม้ จี ดั ใหม้ บี รเิ วณไวส้ ำ�หรบั การบรโิ ภค ณ ทน่ี น้ั ดว้ ย โดยมงุ่ เนน้ ส�ำ หรบั ใหม้ บี รกิ าร ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ อาหารแกบ่ คุ ลากรในโรงพยาบาล ผู้ป่วยนอก และญาตผิ ูป้ ว่ ย (Principles of Food Sanitation Inspector) 2.13 Hospital Catering โรงครวั โรงพยาบาล หมายถงึ สถานที่ หรอื บรเิ วณใดๆ ของโรงพยาบาลภาคเอกชน และหรือโรงพยาบาล ภาครฐั ทจี่ ดั ไวเ้ พอื่ ประกอบอาหารหรอื ปรงุ อาหารจนส�ำ เรจ็ และสามารถบรโิ ภคไดท้ นั ที โดยจะใหบ้ รกิ ารเฉพาะผปู้ ว่ ยภายในและบคุ ลากรในโรงพยาบาลทตี่ อ้ งปฏบิ ตั งิ านกลาง คืนในแตล่ ะหอพักผู้ปว่ ยภายในของโรงพยาบาล 2.14 Place Where Foodstuff is สถานท่สี ะสมอาหาร หมายถงึ อาคารสถานที่ หรอื บรเิ วณใดๆ ทีม่ ิใชท่ ีห่ รอื ทางสาธารณะ ทจ่ี ัดไว้สำ�หรับเกบ็ Stored อาหารอนั มีสภาพเปน็ ของสด หรือของแห้ง หรอื อาหารในรูป ลักษณะอ่นื ใด ซึง่ ผูซ้ อ้ื ตอ้ งนำ�ไปทำ� ประกอบหรือปรงุ เพอื่ บริโภคภายหลัง 369
ลำ�ดบั ท่ี ค�ำ ศัพทภ์ าษาองั กฤษ ค�ำ แปล ศพั ท์เฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามัย (ต่อ) 370 2.15 Supermarket ซปุ เปอร์มารเ์ ก็ต คำ�ยอ่ ความหมาย หมายถึง สถานทเ่ี กบ็ เตรียมและจ�ำ หน่ายสินค้าต่างๆ รวมทั้งอาหารแบบบรกิ ารตนเอง คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี 2.16 Minimart มินิมารท์ โดยท่ีอาหารและสินค้า จะถูกจัดวางแยกตามประเภทและวัตถุประสงค์ของการใช้ (Principles of Food Sanitation Inspector) ผูบ้ รโิ ภคสามารถเลอื กซือ้ สนิ คา้ ไดต้ ามชนดิ และปริมาณที่ตอ้ งการ ทงั้ นี้ขึ้นอยู่กบั ขนาด ของสถานที่จำ�หน่ายสินค้าบางแห่งอาจจำ�หน่ายสินค้าในปริมาณมากไม่แบ่งขายปลีก หรือบางแห่งท่ีมีขนาดเล็กก็อาจมีข้อจำ�กัดในเรื่องประเภทและปริมาณของสินค้าท่ี จดั วางจ�ำ หนา่ ยกไ็ ด้ หมายถงึ สถานทส่ี ะสมอาหารทมี่ กี ารจำ�หนา่ ยสนิ คา้ อปุ โภค บรโิ ภค และจ�ำ หนา่ ยอาหาร พร้อมบรโิ ภค โดยการอ่นุ ใหร้ อ้ น แตไ่ มม่ กี ารปรงุ ประกอบ 2.17 Department Store ศนู ยก์ ารคา้ หมายถึง ศูนย์กลางจำ�หน่ายสินค้านานาชนิด มีส่ิงอำ�นวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ ผมู้ าซือ้ สนิ คา้ เชน่ โรงภาพยนต์ ศูนยอ์ าหาร ร้านอาหาร ร้านแตง่ ผมเสริมสวย เปน็ ตน้ 2.18 Distribution of Merchadise การจำ�หน่ายสินค้าในท่ี หมายถึง สถานที่หรือทางซ่ึงมิใช่เป็นของเอกชน และประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ in Public Place or Ways หรือทางสาธารณะ หรือสัญจรได้ จงึ ครอบคลมุ พืน้ ท่ที ่เี ป็นสวนสาธารณะ ถนนหนทาง ทางเทา้ และทางนำ้� ที่ประชาชนสัญจรไปมาตามปกติ สินค้า หมายถึง ข้าวของวัสดุทุกชนิดที่นำ�มาขาย 2.19 Street Food Vender แผงลอยจ�ำ หน่าย จำ�หน่ายได้ ซึง่ รวมท้ังอาหาร และน้�ำ ด่ืม น้�ำ แขง็ ด้วย กลา่ วคอื การจำ�หน่ายสนิ ค้าในที่ อาหารในทห่ี รือ หรอื ทางสาธารณะอยา่ งเปน็ รปู ธรรม หมายถงึ หาบเร่ แผงลอย ทจี่ �ำ หนา่ ยในทหี่ รอื ทาง ทางสาธารณะ สาธารณะ โดยมกี ารจ�ำ หนา่ ยในลกั ษณะวธิ กี ารจดั วางสนิ คา้ ในทห่ี นงึ่ ทใี่ ดเปน็ ปกติ หรอื เรข่ ายกไ็ ด้ หมายถึง แคร่ แท่น โตะ๊ แผง รถเข็น หรอื พาหนะอืน่ ใด ทจี่ �ำ หนา่ ยอาหาร/เคร่อื งด่มื หรือน้ำ�แข็ง โดยตง้ั ประจ�ำ ที่ในทห่ี รือทางสาธารณะ ทัง้ นีไ้ มว่ ่าจะเปน็ การจ�ำ หนา่ ยโดย จดั ใหม้ บี ริเวณไว้ส�ำ หรบั การบรโิ ภค ณ ท่นี ัน้ หรือนำ�ไปบริโภคทีอ่ น่ื ก็ตาม
ศัพทเ์ ฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามัย (ต่อ) ลำ�ดับที่ คำ�ศพั ทภ์ าษาอังกฤษ คำ�แปล ค�ำ ยอ่ ความหมาย 2.20 Food Factory/Food Manu- โรงงานผลติ อาหาร หมายถงึ โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานทีต่ ัง้ ข้นึ เพอื่ ผลติ อาหาร facture หมายถงึ สถานทท่ี กี่ �ำ หนดใหท้ �ำ การฆา่ สตั วต์ ามพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ การฆา่ สตั วแ์ ละ จ�ำ หน่ายเนือ้ สัตว์ ทัง้ น้ี สตั ว์ หมายถึง โค กระบอื แพะ แกะ สุกร สตั ว์ปีก และสตั ว์อ่ืนๆ 2.21 Slaughter house/Abattoir โรงฆ่าสตั ว์ ท่ีก�ำ หนดไวใ้ นกฎกระทรวง ทัง้ น้ไี ม่รวมถงึ สัตวป์ ่า 2.22 Grease Trap บ่อดักไขมัน หมายถึง ระบบแยกไขมันและน้ำ�มันออกจากนำ้�ท้ิงท่ีระบายมาจากอ่างล้างจานในครัว ภัตตาคาร รา้ นอาหาร บา้ นพกั อาศัยและอ่ืนๆ โดยอาศัยหลักการวา่ น้ำ�มนั และไขมันจะ มีคณุ สมบัติเบากวา่ น้ำ� จะลอยตัวขึ้นสู่ผวิ นำ้� ดงั นัน้ นำ�้ เสียทผ่ี ่านมาทบี่ ่อดักไขมนั แลว้ จะมไี ขมนั ปะปนอย่นู ้อยมาก 3 โรค โรคท่ีเกิดจากอาหาร หมายถึง โรคที่เกิดจากอาหารและนำ้�เป็นส่ือ ซึ่งจะรวมทั้ง Food infection, Food ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ 3.1 Food-borne diseascs และน้ำ�เปน็ สอื่ intoxication และ Food poisoning (Principles of Food Sanitation Inspector) 3.2 Food Infection โรคที่เกิดจากอาหารท่ี หมายถึง การเจ็บป่วยซ่ึงเกิดจาการรับประทานอาหารที่มีตัวเช้ือโรคจำ�นวนมากเข้าสู่ ปนเปื้อนเช้อื โรค ระบบทางเดินอาหาร จากน้ันตัวเชื้อโรคจงึ แบ่งตวั เพิ่มข้ึนท�ำ ให้เกดิ อาการแสดงหรอื ตวั แบคทเี รยี มคี ณุ สมบัตใิ นการบุกรกุ เขา้ สภู่ ายในเซลลห์ รอื เขา้ ส่กู ระแสโลหิต การเกดิ โรค ในลักษณะนีร้ ะยะฟักตัวของโรคจะมรี ะยะเวลานาน 3.3 Food Intoxications โรคท่เี กดิ จากอาหารท่ี หมายถงึ การเจบ็ ปว่ ยซ่ึงเกิดจากการรบั ประทานอาหารที่มเี ช้อื โรคและเชอื้ โรคได้สรา้ ง ปนเปือ้ นสารพษิ จาก สารพษิ ไวแ้ ลว้ เมอื่ สารพิษเข้าสู่ร่างกายจะท�ำ ให้เกิดอาการแสดงของโรคซงึ่ ระยะฟักตัว เชอื้ โรค ของโรคทเี่ กิดจะค่อนข้างสน้ั กวา่ การเกดิ โรคในลักษณะ Food Infection คอื ประมาณ 371 2-4 ชว่ั โมง
ลำ�ดับท่ี คำ�ศัพทภ์ าษาอังกฤษ ค�ำ แปล ศัพท์เฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามยั (ต่อ) 372 3.4 Cholera อหวิ ตกโรค ค�ำ ยอ่ ความหมาย คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector) 3.5 Vibrio Parahaemolyticus อหวิ าตกโรคเทียม หมายถึง โรคระบบทางเดินอาหารชนิดเฉียบพลัน ที่เกิดจากเชื้อ Vibrio cholera สามารถตรวจพบเช้ือได้ในอาเจียน และอุจจาระของผู้ป่วย ผู้ป่วยมีอาการแสดง คือ 3.6 Acute Diarrhoea โรคอุจจาระรว่ ง มีอุจจาระร่วงอย่างรุนแรง อุจจาระเป็นสีขาวขุ่นคล้ายน้ำ�ซาวข้าว มีกลิ่นเหม็นคาวจัด 3.7 Food Poisoning เฉียบพลัน อาจมมี กู ปนเลอื ด มไี ข้ อาเจยี น ถา้ ผปู้ ว่ ยสญู เสยี น�ำ้ ปรมิ าณมากๆ อาจชอ็ คหมดสติ และ 3.8 Dysentery โรคอาหารเป็นพษิ ถงึ ตายได้ หมายถึง โรคอาหารเป็นพิษที่เกิดจากการรับประทานอาหารท่ีปนเปื้อนเชื้อ Vibrio โรคบดิ Parahaemolyticus มักจะเกิดจากการรับประทานอาหารทะเลดิบๆ หรือปรุงไม่สุก ผู้ป่วยมีอาการแสดง คือ คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดท้องอย่างรุนแรง 3.9 Enteric Fever โรคไขเ้ อนเทอรคิ ถ่ายอุจจาระเหลว หมายถงึ โรคตดิ ตอ่ ทผ่ี ปู้ ว่ ยมอี าการแสดง คอื ถา่ ยอจุ จาระเหลวหรอื เปน็ น�้ำ จ�ำ นวนอยา่ ง นอ้ ย 3 คร้ัง ภายใน 24 ชั่วโมง อาจมอี าการคลนื่ ไส้ อาเจียน เปน็ ไข้ หรอื มมี กู เลอื ด ปนอยู่ในอุจจาระร่วมดว้ ย หมายถึง โรคติดต่อที่เกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำ�ท่ีมีเช้ือโรคที่สร้างสารพิษ ออกมา ผ้ปู ่วยจะมีอาการปวดท้อง ท้องอดื อาเจยี น เป็นตะครวิ โดยมีอาการระบบทาง เดินอาหารร่วมกับระบบประสาท โดยมีคลน่ื ไส้ อาเจียน ปวดทอ้ งรนุ แรง หมายถึง โรคติดต่อท่ีเกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำ�ท่ีปนเปื้อนสัตว์เซลเดียว Entamoeba histolytica หรอื เชื้อ Shigella ผู้ป่วยมีอาการแสดง คอื อจุ จาระร่วง ถ่ายเปน็ มกู อุจจาระมกี ลิน่ เหมน็ มีไข้หรอื อาจไม่มีไข้ คลนื่ ไส้ ปวดเกรง็ ทท่ี อ้ ง มอี าการ ปวดเบ่ง อาการจะรนุ แรงแตกต่างกนั ไป หมายถึง โรคติดต่อท่ีเกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำ�ท่ีปนเป้ือนเช้ือ Salmo- nella spp. ผูป้ ่วยมีอาการแสดง คอื มีอาการไข้สงู ลอย ปวดศรี ษะ ครั่นเนื้อครนั่ ตัว เบ่อื อาหาร หัวใจเตน้ ช้ากว่าปกติ ทอ้ งผูกหรืออุจจาระรว่ งและไอมีเสมหะ
ศัพท์เฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามัย (ตอ่ ) ล�ำ ดับที่ คำ�ศัพท์ภาษาองั กฤษ คำ�แปล คำ�ยอ่ ความหมาย 4 ภาชนะ 4.1 Food Container ภาชนะบรรจอุ าหาร หมายถึง วัตถุท่ีใช้บรรจุอาหารไม่ว่าด้วยการใส่หรือห่อหรือด้วยวิธีใดๆ และ ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ 4.2 Cooking Utensil ภาชนะหุงตม้ ใหห้ มายความรวมถึงฝาหรอื จุกดว้ ย (Principles of Food Sanitation Inspector) 4.3 Ceramic Vessels ภาชนะเซรามกิ หมายถงึ ภาชนะทีผ่ ลติ ขนึ้ ใหท้ นต่อความร้อนที่ใชใ้ นการประกอบอาหาร 4.4 Enamelware ภาชนะโลหะเคลือบ หมายถึง ผลิตภัณฑ์อโลหะอนินทรีย์ท่ีคงตัว หลังจากเผาผนึกหรือหลอมตัวที่อุณหภูมิ 4.5 Plastic Container ภาชนะพลาสติก สงู ทใ่ี ชเ้ ป็นภาชนะบรรจุอาหาร หมายถึง ผลิตภัณฑ์ท่ีใช้สารเคมีเคลือบบนพ้ืนผิวโลหะที่ขึ้นรูปแล้วเพื่อป้องกันการ 4.6 Melamine Ware ภาชนะเมลามนี สึกกรอ่ น ที่ใชเ้ ปน็ ภาชนะบรรจุอาหาร หมายถึง ภาชนะบรรจุอาหารท่ีทำ�จากพลาสติกที่ต้องมีคุณภาพหรือมาตรฐาน คือ 4.7 Teflon Container ภาชนะโลหะเคลือบ ต้องสะอาดไม่มีสารอ่ืนออกมาปนเป้ือนกับอาหารในปริมาณที่อาจเป็นอันตรายต่อ เทฟลอน สขุ ภาพ ไม่มีจลุ ินทรยี ์ทีท่ ำ�ให้เกดิ โรค ไมม่ สี ีออกมาปนเป้อื นกบั อาหาร หมายถงึ ภาชนะบรรจอุ าหารทท่ี �ำ จากพลาสตกิ ชนดิ เทอรโ์ มเซต็ ตงิ ทมี่ คี วามทนทานเปน็ 373 พเิ ศษ มักทำ�เป็นภาชนะประเภทจาน ชาม แกว้ น้�ำ ถว้ ย เปน็ ต้น ข้อดี คอื มีน้ำ�หนกั เบา ทนทานไม่แตกหักง่าย สะดวกในการเก็บและการเคลื่อนย้าย ข้อจำ�กัด คือ ไม่ควรใช้ บรรจอุ าหารท่ีรอ้ นจัดและมนี ำ้�มนั มาก เพราะจะทำ�ใหส้ ารเคลือบหลดุ ท�ำ ใหส้ อี อกมา ปนเป้ือนอาหารหรือมีการฝังตัวของคราบอาหารในเนื้อพลาสติกจนไม่สามารถจะ ลา้ งทำ�ความสะอาดได้ หมายถงึ ภาชนะหงุ ตม้ ทท่ี �ำ จากภาชนะโลหะทเ่ี คลอื บดว้ ยพลาสตกิ ชนดิ ฟลโู อโรคารบ์ อน ทำ�ใหม้ ีสีน้ำ�ตาลหรอื สีเทา ผิวเรยี บเป็นมัน มคี วามคงทนต่ออุณหภูมิได้สงู ถึง 300 องศา เซลเซียส มีสัมประสิทธิการเสียดทานต่ำ� ทำ�ให้อาหารไม่ติดผิวภาชนะหุงต้ม และ ลา้ งทำ�ความสะอาดได้ง่าย
ศัพทเ์ ฉพาะด้านอาหารของกรมอนามัย (ตอ่ ) 374 ล�ำ ดบั ที่ คำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษ คำ�แปล ค�ำ ย่อ ความหมาย 4.8 Serving Spoon 4.9 Rinse Test ชอ้ นกลาง หมายถงึ ชอ้ นหรอื อุปกรณ์ท่เี หมาะสมที่มีการจดั วางไว้ในจาน ชาม หรือถว้ ยอาหาร ใช้ คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี ส�ำ หรับแบง่ กบั ข้าวจากส�ำ รบั มาใสใ่ นจานของตนเอง (Principles of Food Sanitation Inspector) 4.10 Phenophthalein Test วธิ ที ดสอบความสะอาด หมายถงึ วธิ ที ดสอบความสะอาดของภาชนะอปุ กรณด์ ว้ ยน�้ำ โดยการใชน้ �ำ้ สะอาดเทลง 4.11 Alcohol Test ของภาชนะอปุ กรณด์ ว้ ย บนภาชนะท่ีจะทดสอบด้านที่จะสัมผัสกับอาหารทั่วไปหรือนำ�ภาชนะมาจุ่มลงในนำ้� 4.12 Salt Test น้ำ� สะอาด เมื่อเทน้ำ�ทิ้งหรือยกจานท่ีจุ่มข้ึนให้สังเกตที่ผิวภาชนะถ้ามีแผ่นฟิล์มของน้ำ�จับ อยโู่ ดยตลอด แสดงวา่ แกว้ น�ำ้ หรอื ภาชนะนนั้ สะอาด แตถ่ า้ แผน่ ฟลิ ม์ ของน�ำ้ ไมต่ ดิ ตอ่ กนั ขาดส่วนใดสว่ นหนึ่ง แสดงวา่ บรเิ วณน้ันมีความสกปรก คือ มคี ราบไขมันติดอยู่ วธิ ีทดสอบภาชนะ หมายถึง วิธีการทดสอบภาชนะอุปกรณ์โดยใช้ฟีนอฟทาลนี (Phenophthalein) หยด อปุ กรณโ์ ดยใชฟ้ นี อฟทา ลงบนภาชนะอปุ กรณท์ ี่ยังเปยี กอยู่ 2-3 หยด ถ้านำ�้ เป็นสแี ดงแสดงวา่ ภาชนะอปุ กรณ์ ลนี หยดลงบนภาชนะ นน้ั มดี า่ งอยู่ ซง่ึ อาจเกดิ จากการสรา้ งสบหู่ รอื น�ำ้ ยาลา้ งจาน ซง่ึ มฤี ทธเิ์ ปน็ ดา่ งออกไมห่ มด อปุ กรณท์ ่ยี งั เปียก ถา้ pH ของน�้ำ ท่ีใชล้ ้างจานมากกวา่ 8.3 วธิ นี จี้ ะใช้ทดสอบไม่ได้ เพราะมนั เปน็ ดา่ งอยู่ แลว้ วธิ ที ดสอบความสะอาด ของภาชนะอปุ กรณด์ ว้ ย หมายถงึ วธิ ที ดสอบความสะอาดของภาชนะบรรจอุ ุปกรณท์ แ่ี ห้งแลว้ โดยหยดเอทธลิ เอทธิลแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ลงบนผิวภาชนะท่ีจะทดสอบ 2-3 หยด ให้สังเกตที่ผิวของภาชนะเม่ือ วธิ ที ดสอบความสะอาด แอลกอฮอลร์ ะเหย ถา้ ภาชนะนั้นไม่สะอาดจะมคี ราบสกปรกปรากฏอยู่ ของภาชนะอปุ กรณโ์ ดย หมายถงึ วธิ ีทดสอบความสะอาดของภาชนะอุปกรณโ์ ดยใชเ้ กลอื ใช้ทดสอบกับภาชนะ ใช้เกลือ อุปกรณ์ท่ีเพ่ิงล้างเสร็จใหม่ๆ ยังเปียกนำ้�อยู่ ถ้าภาชนะอุปกรณ์น้ันแห้งและต้องการ ทดสอบด้วยวิธีนี้ ต้องจุ่มลงในนำ้�ให้เปียกเสียก่อนแล้วทดสอบโดยเอาเกลือป่นโรยบน ผิวภาชนะให้ท่ัว ถ้าภาชนะน้ันใหญ่มากอาจโรยเกลือเพียงคร่ึงหน่ึงหรือหนึ่งในส่ีของ พ้นื ผวิ ถ้าเกลือไม่เกาะตดิ ท่ีใดแสดงว่าบริเวณนั้นไม่สะอาด
ศัพท์เฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามยั (ตอ่ ) ลำ�ดับท่ี ค�ำ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ค�ำ แปล คำ�ยอ่ ความหมาย 4.13 Soda Water Test วธิ ที ดสอบความสะอาด หมายถงึ วธิ ีทดสอบความสะอาดของภาชนะอปุ กรณ์ วิธนี ้นี ิยมใช้ทดสอบภาชนะท่ที ำ� 4.14 Sanitation Index-2 ของภาชนะอปุ กรณโ์ ดย ดว้ ยวสั ดโุ ปรง่ ใส เชน่ แกว้ น�้ำ หรอื ถว้ ยทที่ �ำ ดว้ ยแกว้ โดยรนิ น�้ำ โซดาทเี่ ปดิ จากขวดใหมๆ่ ทดสอบภาชนะที่ทำ� ซึ่งยงั มีก๊าซคารบ์ อนได้ออกไซด์ตดิ อย่ขู า้ งแก้วหรอื ถ้วยนน้ั แสดงวา่ ไมส่ ะอาด 5 อาหาร ด้วยวัสดโุ ปรง่ ใส 5.1 Food Chain 5.2 Food Webs ชุดทดสอบโคลิฟอร์ม SI-2 หมายถึง วิธที ดสอบความสะอาดของอาหาร ภาชนะอปุ กรณ์ มอื ผู้สัมผัสอาหารอย่าง 5.3 Food แบคทเี รียข้นั ตน้ ง่าย โดยอาศยั ชุดตรวจเช้ือโคลฟิ อร์มแบคทเี รยี ข้นั ตน้ ท้ังนี้อาศัยหลักการวา่ โคลฟิ อร์ม แบคทเี รยี เมอ่ื ยอ่ ยสลายน�ำ้ ตาลแลคโตสจะทำ�ใหเ้ กดิ กรดและกา๊ ซ กรดทเ่ี กดิ ขน้ึ จะทำ�ให้ พีเอชของอาหารเลี้ยงเชื้อลดลง จึงทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนสีของตัวช้ีวัดจากสีม่วงเป็นสี เหลืองซงึ่ ปฏกิ ิรยิ าดังกล่าวถือวา่ เป็นบวก ห่วงโซอ่ าหาร หมายถึงความสัมพันธ์ของกระบวนการผลิต ปรุง ประกอบ จำ�หน่ายและการบริโภค ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ สายใยอาหาร อาหารของมนษุ ย์ (Principles of Food Sanitation Inspector) อาหาร หมายถึงความสัมพันธ์ของกระบวนการถ่ายทอดพลังงานผ่านทางอาหาร ตามลำ�ดับ ความส�ำ คญั หมายถึง วตั ถทุ ุกชนดิ ท่ีคนกิน ดมื่ อม หรอื น�ำ เขา้ ส่รู า่ งกายไมว่ า่ ด้วยวิธีใดๆ หรือในรูป ลักษณะใดๆ แต่ไม่รวมถึงยา วัตถุออกฤทธ์ิต่อจิตประสาทหรือยาเสพติดให้โทษตาม กฎหมาย แตร่ วมถงึ วตั ถทุ ม่ี งุ่ หมายสำ�หรบั ใชห้ รอื ใชเ้ ปน็ สว่ นผสมในการผลติ อาหาร รวม ถึงวัตถเุ จือปนอาหาร สแี ละเคร่ืองปรุงแตง่ กลิ่นรส 375
ศพั ท์เฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามยั (ต่อ) 376 ล�ำ ดับท่ี ค�ำ ศัพทภ์ าษาอังกฤษ คำ�แปล คำ�ยอ่ ความหมาย 5.4 Controlled Foods อาหารควบคุมเฉพาะ หมายถึง อาหารท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศในราชกิจจานุเบกษา คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี ให้เป็น อาหารท่ีอยู่ในความควบคุมคุณภาพหรือมาตรฐาน ผู้ที่ได้รับอนุญาตผลิตหรือ (Principles of Food Sanitation Inspector) น�ำ เขา้ เพอ่ื จ�ำ หนา่ ยจะตอ้ งน�ำ อาหาร มาขอขน้ึ ทะเบยี นต�ำ รบั อาหารเสยี กอ่ น จงึ สามารถ จะผลติ หรือนำ�เขา้ ได้ 5.5 Prescribed Foods to Have อาหารทกี่ ำ�หนด หมายถึง อาหารท่ีมิใช่อาหารควบคุมเฉพาะ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Qualities or Standards คุณภาพหรือมาตรฐาน ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา ให้เป็นอาหารทีก่ ำ�หนดคุณภาพหรือมาตรฐาน โดยอาจ จะกำ�หนดหลักเกณฑ์เง่ือนไข และวิธีการผลิตหรือนำ�เข้าเพ่ือจำ�หน่ายหรือที่จำ�หน่าย 5.6 Prescribed Prohibited อาหารทห่ี า้ มผลติ น�ำ เขา้ ด้วยกไ็ ด้ Foods to Be produced, หรอื จำ�หนา่ ย หมายถึง อาหารทร่ี ฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา Imported or Sold ให้เป็นอาหารทีห่ ้ามผลติ น�ำ เขา้ หรอื จ�ำ หนา่ ย แบง่ ออกเป็นวัตถุห้ามใชใ้ นอาหาร และ อาหารทีห่ ้ามผลิต นำ�เข้า หรอื จำ�หน่าย 5.7 Impure Foods อาหารไมบ่ ริสทุ ธิ์ หมายถงึ อาหารทม่ี ลี กั ษณะดงั ตอ่ ไปน้ี คอื อาหารทม่ี สี ง่ิ ทนี่ า่ จะเปน็ อนั ตรายแกส่ ขุ ภาพ เจือปนอยู่ด้วย หรืออาหารท่ีมีสารหรือวัตถุเคมีเจือปนอยู่ในอัตราท่ีอาจเป็นเหตุให้ คุณภาพของอาหารนั้นลดลง เว้นแต่การเจือปนเป็นความจำ�เป็นต่อกรรมวิธีการผลิต และไดร้ บั อนญุ าตจากพนกั งานเจา้ หนา้ ทแี่ ลว้ หรอื อาหารทไี่ ดผ้ ลติ บรรจหุ รอื เกบ็ รกั ษา ไวโ้ ดยไมถ่ กู สขุ ลกั ษณะ หรอื อาหารทผี่ ลติ จากสตั วท์ เี่ ปน็ โรคอนั อาจตดิ ตอ่ ถงึ คนได้ หรอื อาหารทีม่ ีภาชนะบรรจปุ ระกอบดว้ ยวตั ถุท่นี า่ จะเป็นอนั ตรายแก่สขุ ภาพ
ศัพท์เฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามัย (ต่อ) ลำ�ดับที่ ค�ำ ศพั ท์ภาษาองั กฤษ คำ�แปล คำ�ยอ่ ความหมาย 5.8 Adulterated Foods อาหารปลอมปน หมายถึง อาหารท่ีมีลักษณะดังต่อไปนี้ คือ อาหารท่ีได้สับเปลี่ยนใช้วัตถุอ่ืนแทนส่วน หรือคัดแยกวัตถุที่มีคุณค่าออกเสียงท้ังหมดหรือบางส่วนและจำ�หน่ายเป็นอาหารแท้ อยา่ งนนั้ หรอื ใชช้ อ่ื อาหารแทน้ น้ั หรอื วตั ถหุ รอื อาหารทผ่ี ลติ เทยี มอาหารอยา่ งหนง่ึ อยา่ ง ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ ใดและจำ�หน่ายเป็นอาหารแท้อย่างนั้นหรืออาหารท่ีผสมหรือปรุงแต่งด้วยวิธีใดๆ (Principles of Food Sanitation Inspector) โดยประสงค์จะปกปิดซ่อนเร้นคำ�ชำ�รุดบกพร่องหรือความด้อยคุณภาพของอาหารน้ัน หรืออาหารท่ีมีฉลากเพ่ือลวงหรือพยายามลวงผู้ซ้ือให้เข้าใจผิดในเร่ืองคุณภาพปริมาณ ประโยชน์ หรือลักษณะพิเศษอย่างอื่นหรือในสถานท่ีและประเทศที่ผลิตเพ่ืออาหารท่ี ผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามคุณภาพหรือมาตรฐานที่รัฐมนตรีประกาศกำ�หนดตามมาตรา 6 (2) หรอื (3) ถึงขนาดจากผลวิเคราะห์ปรากฏวา่ ส่วนประกอบทเ่ี ปน็ คณุ คา่ ทางอาหาร ขาดหรือเกินร้อยละสามสิบจากเกณฑ์ต่ำ�สุดหรือสูงสุดหรือแตกต่างจากคุณภาพหรือ มาตรฐานทีร่ ะบุไว้จนทำ�ให้เกดิ โทษหรอื อันตราย 5.9 Substandard Foods อาหารผิดมาตรฐาน หมายถงึ อาหารทีไ่ ม่ถกู ตอ้ งตามคณุ ภาพหรือมาตรฐานท่ีรฐั มนตรปี ระกาศกำ�หนดตาม มาตรา 6 (2) หรือ (3) แต่ไม่ถงึ ขนาดดังท่ีก�ำ หนดไว้ในอาหารปลอม 5.10 Other Foods Which Spec- อาหารอื่นท่ีรัฐมนตรี หมายถงึ อาหารทม่ี ลี กั ษณะดงั ตอ่ ไปนี้ คอื อาหารไมป่ ลอดภยั ในการบรโิ ภคหรอื อาหาร ified by the Minister กำ�หนด ทม่ี ีสรรพคุณไมเ่ ปน็ ทีเ่ ชอื่ ถอื หรืออาหารมีคุณค่าหรอื คุณประโยชน์ต่อรา่ งกายในระดบั ทไ่ี ม่เหมาะสม 377
ศัพทเ์ ฉพาะดา้ นอาหารของกรมอนามัย (ต่อ) 378 ล�ำ ดบั ท่ี คำ�ศพั ท์ภาษาองั กฤษ คำ�แปล คำ�ยอ่ ความหมาย 5.11 Special Purposed Foods อาหารมวี ตั ถปุ ระสงค์ หมายถงึ อาหารท่ผี ลิตขึ้นโดยกรรมวิธี สตู ร หรือส่วนประกอบเฉพาะ เพ่อื ใช้ตามความ คู่มอื วชิ าการสขุ าภบิ าลอาหารส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี 5.12 Fresh Food พิเศษ ต้องการพเิ ศษอันเน่ืองมาจากสภาวะทางฟิสิกส์ หรือสรรี วิทยาหรอื ความเจบ็ ป่วย หรอื (Principles of Food Sanitation Inspector) ความผดิ ปกตขิ องรา่ งกาย โดยมลี กั ษณะรปู รา่ งหรอื ชนดิ และปรมิ าณของสว่ นประกอบ แตกตา่ งไปจากอาหารชนดิ เดยี วกันทีใ่ ช้โดยปกตอิ ยา่ งเห็นไดช้ ัด อาหารมวี ัตถปุ ระสงค์ พิเศษ แบ่งออกเป็นอาหารที่ใช้สำ�หรับผู้ป่วยเฉพาะโรคหรือผู้ที่มีสภาพผิดปกติ ทางร่างกาย และอาหารที่ใช้สำ�หรับบุคคลท่ีผู้มีวัตถุประสงค์ในการบริโภคอาหารเป็น พเิ ศษ เชน่ อาหาร ส�ำ หรบั ผทู้ ต่ี อ้ งการควบคมุ น�ำ้ หนกั ตวั อาหารส�ำ หรบั ผสู้ งู อายุ อาหาร ส�ำ หรับสตรีมคี รรภ์ เปน็ ตน้ อาหารสด หมายถึง อาหารประเภทสตั ว์ เนื้อสตั ว์ ผกั ผลไม้ และของอืน่ ๆ ท่ีมสี ภาพเป็นของสด 5.13 Fast Food อาหารจานดว่ น หมายถึง อาหารที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว สามารถทดแทนอาหารหลักได้หนึ่งมื้อ เปน็ อาหารสำ�เร็จทใ่ี ช้รับประทานไดท้ นั ที ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจานเดยี วหรอื อาหาร 5.14 Processing Food อาหารแปรรูป ชุดทีม่ ีการปรงุ ประกอบไม่ยงุ่ ยาก มีรปู แบบเฉพาะ สามารถบรกิ ารคนได้คราวละมากๆ หมายถึง อาหารสดทผ่ี ่านการแปรรปู ท�ำ ให้แหง้ หรอื หมักดอง หรอื ในรปู อนื่ ๆ รวมทั้ง ทใี่ ชส้ ารปรงุ แตง่ อาหาร 5.15 Cooked Food อาหารปรุงส�ำ เรจ็ หมายถึง อาหารที่ได้ผ่านการทำ� ประกอบ ปรุง จนสำ�เร็จพร้อมที่จะรับประทานได้ รวมทั้งของหวานและเครอ่ื งดมื่ ชนดิ ตา่ งๆ ทม่ี ิไดบ้ รรจุในภาชนะทปี่ ดิ สนทิ
ศพั ท์เฉพาะด้านอาหารของกรมอนามยั (ต่อ) ล�ำ ดับท่ี ค�ำ ศัพทภ์ าษาอังกฤษ ค�ำ แปล ค�ำ ยอ่ ความหมาย 5.25 Irradiated อาหารที่ผา่ นการฉาย หมายถึง อาหารที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหารโดยการใช้รังสี ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อ 5.26 Food Preservation รงั สี ก�ำ หนดนานาชาตวิ า่ ดว้ ยกระบวนการฉายรงั สอี าหารหนา้ ที่ 1-7 (CAC/RCP 1979, Rev, 1) ในเอกสาร Codex Alimentarius Commission Volume XV (CAC/Vol.XV-Ed 5.27 Slow Freezing 1) ของคณะกรรมการสุขลักษณะอาหารระดับนานาชาติ (Codex Alimentarius 5.28 Quick Freezing Commission) สถานที่และเคร่ืองมือที่ใช้ท่ีต้องได้รับอนุญาต รวมท้ังชนิดของอาหาร 5.29 Good Manufacturing วัตถุประสงคข์ องการฉายรงั สี ปรมิ าณรังสที ี่ไดร้ บั อนุญาตให้ใช้ได้ Practice การถนอมอาหาร หมายถงึ กระบวนการหรอื วธิ กี ารใดๆ กต็ ามทจ่ี ะเกบ็ รกั ษาอาหารไวใ้ หย้ าวนานกวา่ ปกติ โดยทอี่ าหารนน้ั ยงั คงสภาพดี หรอื สญู เสยี ปรมิ าณและคณุ ภาพนอ้ ยทส่ี ดุ ซงึ่ กระบวนการ ท่ีนยิ มกัน เช่น การตากแห้ง การหมกั และดอง แช่อ่ิมหรือเชอ่ื ม การรมควัน การแชแ่ ขง็ ค่มู อื วิชาการสุขาภบิ าลอาหารสำ�หรบั เจา้ หน้าที่ และการอาบรงั สี เปน็ ต้น (Principles of Food Sanitation Inspector) การแชแ่ ขง็ แบบช้า หมายถงึ การแช่แข็งแบบชา้ ใชเ้ วลานาน 3-72 ชวั่ โมง อุณหภูมิทใ่ี ช้ทั่วไปเท่ากบั -23.3 องศาเซลเซยี ส หรอื ต�่ำ กว่า แตบ่ างครั้งอาจอยู่ระหว่าง -15 ถึง -29 องศาเซลเซียส การแช่แข็งแบบเรว็ หมายถงึ การแชแ่ ขง็ แบบเรว็ ใช้เวลาสั้นประมาณ 30 นาที หรอื น้อยกว่าโดยทั่วไปใชก้ บั หลกั เกณฑว์ ธิ กี ารทดี่ ใี น GMP อาหารที่บรรจุในภาชนะขนาดเล็ก โดยการจุ่มอาหารโดยตรงในนำ้�ยา หรือสารให้ การผลิตอาหาร ความเย็น หรือการใชล้ มเย็นเปา่ ลงอาหาร หมายถงึ หลกั เกณฑว์ ธิ กี ารทด่ี ใี นการผลติ อาหาร เปน็ ระบบประกนั คณุ ภาพพนื้ ฐานเพอ่ื เป็นการประกันว่าสินค้ามีคุณภาพและความปลอดภัยสม่ำ�เสมอก่อนที่จะไปสู่ระบบ ประกนั คณุ ภาพตา่ งๆ ตอ่ ไป 379
บรรณานุกรม 1. สำ�นักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ� กรมอนามัย คู่มือ FOOD INSPECTOR โรงพิมพ์องค์กรการสงเคราะห์ ทหารผ่านศึก 2549, พิมพ์คร้งั ที่ 1 จ�ำ นวน 1,500 เลม่ 2. นันทกา หนูเทพ คู่มือผู้สัมผัสอาหาร โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำ�กัด 2553 พมิ พ์คร้งั ท่ี 2 จ�ำ นวน 11,100 เลม่ 3. สำ�นักอนามัยสิ่งแวดล้อม คู่มือวิชาการ อนามัยสิ่งแวดล้อมพื้นฐาน สำ�หรับเจ้าพนักงานสาธารณสุข ตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ 2535 โรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก 2551, พิมพ์ครั้งที่ 1 จ�ำ นวน 1,000 เลม่ 4. นิธิยา รัตนาปนนท์ และ พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์. “การแปรรูปอาหาร” [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก : http:foodnrtworksolution.com/wiki. สบื คน้ 20 เมษายน 2556 5. นลนิ สิทธิธรณ์ เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า สขุ ลกั ษณะอาหารและการสขุ าภิบาลโรงงานอุตสาหกรรม มหาลัยเทคโนโลยสี ุรนารี 2548, 6. สำ�นักสุขาภิบาลอาหารและนำ้� กรมอนามัย 2556 คู่มือแนวทางการดำ�เนินงานเฝ้าระวังสุขาภิบาลอาหาร ส�ำ หรับเจา้ หนา้ ท่.ี โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำ�กดั , กรงุ เทพ 7. ส�ำ นักโรคติดต่อท่วั ไป กรมควบคุมโรค. 2551 คู่มือโรคติดตอ่ ทวั่ ไป เล่น 1 โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย จ�ำ กดั กรุงเทพมหานคร 8. สำ�นักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค 2554 สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคประจำ�ปี 2554 โรงพิมพ์องค์การ สงเคราะหท์ หารผ่านศึก กรุงเทพมหานคร 9. กองสุขาภบิ าลอาหาร กรมอนามยั 2540 คมู่ ือการใชช้ ดุ ทดลอง SI-2 เพือ่ การเฝา้ ระวังทางสุขาภิบาลอาหาร 10. นัยนา ใช้เทียมวงศ์ และคณะ 2548 การศึกษาสถานการณ์ด้านจำ�หน่ายอาหารในซปุ เปอรม์ าร์เกต 11. สำ�นกั งานสขุ าภิบาลอาหารและนำ�้ กรมอนามยั 2555 คู่มอื การสุขาภิบาลอาหารประกอบหลกั สตู รผ้ตู รวจสอบ สขุ าภบิ าลอาหาร (Food Sanitation Inspector: FSI) โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จ�ำ กดั . พมิ พค์ รง้ั ที่ 1 จ�ำ นวน 1,350 12. ชชั วาล กรตี วิ รสกลุ . 2553 การควบคมุ สตั วพ์ าหะน�ำ โรคและสตั วแ์ ทะ. คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ 13. กองสขุ าภบิ าลอาหาร, กรมอนามยั . คูม่ อื ข้อก�ำ หนดสุขลกั ษณะสำ�หรับมนิ มิ าร์ท, 5,000 เล่ม พมิ พค์ รัง้ ท่ี 1 โรงพมิ พอ์ งคก์ ารรบั สง่ สนิ คา้ และพสั ดภุ ัณฑ์ (ร.ส.พ.), 2549 14. กองสุขาภิบาลอาหาร, กรมอนามัย. มาตรฐานการสาธารณสุขาภิบาลอาหารในโรงแรม, 2,000 เล่ม โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำ กัด, 2552 15. กรมอนามัย. ศูนยบ์ ริหารกฎหมายสาธารณสุข. (2556). คมู่ อื พระราชบญั ญตั กิ ารสาธารณสุข พ.ศ. 2535. พิมพ์ครัง้ ท่ี 6. กรุงเทพฯ : โรงพิมพส์ �ำ นักงานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ 16. สำ�นักงานคณะกรมการอาหารและยา. (2556). พระราชบญั ญัตอิ าหาร พ.ศ. 2522 พรอ้ มกฎกระทรวงและ ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ (ฉบับปรับปรุงปี 2556). สำ�นักอาหาร. 17. กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยสุขลกั ษณะของตลาด พ.ศ. 2551. (2551, 17 มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ 125 ตอนที่ 13 ก. หนา้ 5-17.
18. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรือ่ ง ชอ่ื โรคติดตอ่ อันตราย. (2525, 4 มนี าคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม 99 ตอนท่ี 32 ฉบบั พเิ ศษ. หน้า 15. 19. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เร่อื ง เพ่ิมเติมชอ่ื โรคตดิ ตอ่ อันตราย. (2546, 8 เมษยน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม 120 ตอนพเิ ศษ 42 ง. หน้า 32 20. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง ช่อื โรคติดต่อตอ้ งแจง้ ความ. (2549, 9 พฤศจิกายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม 121 ตอนพิเศษ 126 ง. หนา้ 22-23. 21. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง เพ่ิมเติมชื่อโรคตดิต่อต้องแจ้งความ. (2552, 22 มิถุนายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ 126 ตอนพเิ ศษ 87 ง. หน้า 3. 22. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง เพิ่มเติมช่ือโรคติดต่อต้องแจ้งความ. (2552, 22 มิถุนายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ 126 ตอนพิเศษ 106 ง. หนา้ 3.
382 คู่มอื วิชาการสขุ าภบิ าลอาหารสำ�หรับเจ้าหน้าท่ี (Principles of Food Sanitation Inspector) ที่ปรกึ ษา รักษาการนักวชิ าการสาธารณสขุ ทรงคุณวุฒิ (ดา้ นสขุ าภิบาล) รักษาการแทนผู้อำ�นวยการสำ�นกั สขุ าภบิ าลอาหารและน้ำ� นางสุรีย์ วงศ์ปยิ ชน นางนันทกา หนเู ทพ นักวิชาการสาธารณสุขช�ำ นาญการพเิ ศษ นกั วิชาการสาธารณสขุ ชำ�นาญการพเิ ศษ คณะผู้จดั ท�ำ นกั วิชาการสาธารณสขุ ชำ�นาญการพิเศษ นักวชิ าการสาธารณสขุ ช�ำ นาญการพิเศษ นางนภพรรณ นนั ทพงษ ์ นกั วิชาการสาธารณสขุ ชำ�นาญการพเิ ศษ นายธนชีพ พีระธรณศิ ร ์ นกั วชิ าการสาธารณสุขช�ำ นาญการ น.ส.นัยนา หาญวโรดม นักวิชาการสาธารณสุขช�ำ นาญการ นายชยั เลิศ กงิ่ แก้วเจรญิ ชยั นักวชิ าการสาธารณสขุ ช�ำ นาญการ นายสุชาติ สขุ เจริญ นักวิชาการสาธารณสขุ ช�ำ นาญการ นางจิรพรรณ พรหมลิขิตชัย นักวิชาการสาธารณสขุ ชำ�นาญการ น.ส.นยั นา ใช้เทยี มวงศ ์ นักวเิ คราะห์นโยบายและแผนชำ�นาญการ น.ส.ชณัญณศิ า เลศิ สโุ ภชวณชิ ย์ นายชา่ งศลิ ปช์ �ำ นาญงาน น.ส.อังคณา คงกนั นกั วชิ าการสาธารณสขุ ปฏิบัติการ นายรชั ชผดุง ด�ำ รงพิงคสกุล นกั วชิ าการสาธารณสขุ นางลลนา ทองแท้ นักวิชาการสาธารณสขุ นายกติ ติพงศ์ ภอู ดุ ม นักวชิ าการสาธารณสขุ นายเอกชยั ชัยเดช นักวิชาการสาธารณสุข น.ส.อรพรรณ สุภาพ น.ส.ปาริชาติ สร้อยสงู เนนิ น.ส.ปยิ ภรณ์ เวียงแก้ว น.ส.เพ็ญศิริ นาถวลิ
กระทรวงสาธารณสขุ LOGO
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390