G gabion gabion กล่องลวดถักบรรจุหิน : กล่องทำด้วยลวดถัก บรรจุด้วยหินและกรวด ขนาดใหญ่ ใช้ได้หลายรูปแบบ เช่น วางบนพื้นหรือตลิ่งเพ่ือป้องกันการกัดเซาะ วางในลำน้ำหรือริมทะเลเพ่ือป้องกันคลื่น วางซ้อนกันหลายๆ ช้ันทำเป็นฝาย หรือกำแพงกันดินบริเวณลาดไหล่เขา เป็นต้น เรียกอีกอย่างว่า stone mesh หรอื ถ้ากล่องหนานอ้ ยกวา่ 30 เซนติเมตรจะเรียกว่า mattress gate บานบงั คบั นำ้ : อปุ กรณเ์ พอื่ ปิดหรือเปิดช่องทางน้ำ gate chamber ห้องบาน : ช่องว่างที่อยู่ติดกับบานประตูเพื่อให้บานประตูหมุนเปิด - ปิดอยู่ ภายในช่องว่างน้ี gate seal ผนกึ ขอบบาน : วัสดทุ ใี่ ช้ป้องกนั การร่วั ซมึ ของน้ำบรเิ วณขอบบานบงั คับน้ำ เช่น ยาง ทองเหลือง เป็นต้น gate valve ประตูน้ำแบบบาน : อุปกรณ์เปิด - ปิดน้ำท่ีใช้กับท่อ มีบานรูปล่ิมเคล่ือนท ่ี ขึ้นลงตง้ั ฉากกบั แนวแกนทอ่ gated spillway อาคารทางระบายน้ำล้นแบบมีบาน : อาคารทางระบายน้ำล้นซึ่งสามารถ ควบคุมการระบายน้ำของอา่ งเก็บนำ้ โดยมปี ระตูเปดิ - ปดิ เพ่ือควบคมุ ระดับนำ้ ในอา่ งฯ เรยี กอีกอย่างว่า controlled spillway gauge datum ระดับอ้างอิงของเสาวัดระดับ : ระดับท่ีกำหนดเป็นระดับศูนย์ของเสาวัด ระดับซงึ่ อาจเป็นระดับท่ีเทียบกับระดบั ทะเลปานกลาง (ร.ท.ก.) หรอื ระดับสมมตุ ิ (ร.ส.ม.) 96
G geographic position gauging station สถานีวัดน้ำ : ตำแหน่งในลำน้ำซ่ึงติดตั้งอุปกรณ์สำหรับบันทึกปริมาณ และอัตราการไหลของน้ำอย่างต่อเนื่อง (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับ ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) geodimeter มาตรวัดระยะ : เครื่องมือวัดระยะทางแบบอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้คล่ืน แสงในการวัด คำนี้ย่อมาจาก geodetic distance meter (พจนานุกรมศัพท์ ภูมิศาสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) geographic name ช่ือภูมิศาสตร์ : ชื่อลักษณะภูมิประเทศและสถานท่ีทางภูมิศาสตร์ต่างๆ ได้แก่ แมน่ ้ำ ภเู ขา อำเภอ ตำบล เป็นตน้ ตัวอยา่ งเชน่ แมน่ ้ำเจา้ พระยา ดอยอนิ ทนนท์ อำเภอพนสั นคิ ม ตง้ั ขนึ้ เพอ่ื ใหง้ า่ ยตอ่ การบง่ ชี้ (มคี วามหมายเหมอื นกบั toponmy) (พจนานกุ รมศพั ท์ภมู ิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) geographic information system (GIS) ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (จีไอเอส) : ระบบข้อมูลข่าวสารท่ีเชื่อมโยงกับ ค่าพิกัดภูมิศาสตร์และรายละเอียดของวัตถุบนพ้ืนโลก โดยใช้คอมพิวเตอร์ท่ี ประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ เพื่อการนำเข้า จัดเก็บ ปรับแก้ แปลง วเิ คราะหข์ อ้ มลู และแสดงผลลัพธใ์ นรปู แบบตา่ งๆ เช่น แผนท่ี ภาพ 3 มติ ิ สถิติ ตารางข้อมูล เพ่ือช่วยในการวางแผนและตัดสินใจของผู้ใช้ให้มีความถูกต้อง แม่นยำ (พจนานกุ รมศพั ทภ์ มู ศิ าสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) geographic position ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ : ตำแหน่งของจุดใดจุดหนึ่งท่ีอยู่บนพ้ืนผิวโลก โดยกำหนดค่าเป็นละติจูดและลองจิจูด (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับ ราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) 97
G geohydrology geohydrology ธรณอี ทุ กวทิ ยา : อทุ กวทิ ยาแขนงหนง่ึ ซง่ึ เกยี่ วกบั นำ้ ทอ่ี ยใู่ ตพ้ น้ื ดนิ (พจนานกุ รม ศพั ทภ์ มู ศิ าสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) เรยี กอกี อยา่ งวา่ groundwater hydrology geology ธรณวี ิทยา : วิทยาศาสตร์แขนงหน่ึงซง่ึ เก่ยี วขอ้ งกับประวตั ิของโลก สสารทเ่ี ปน็ องค์ประกอบของโลกและส่ิงมีชีวิตบนพ้ืนโลก โดยเฉพาะอย่างย่ิงที่ปรากฏ ร่องรอยอยู่ในหินต่างๆ ธรณีวิทยามี 3 สาขาหลักที่เด่นชัด คือ 1) ธรณีวิทยา โครงสร้างหรือธรณีแปรสัณฐาน ซ่ึงศึกษาถึงรูปร่าง การจัดตัวและโครงสร้างทาง ธรณีวิทยาของหินต่างๆ ภายในโลก 2) ธรณีวิทยาพลวัต ศึกษาเกี่ยวกับสาเหตุ และกระบวนการต่างๆ ท่ีทำให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางธรณีวิทยา 3) ธรณี ประวัติ ศึกษาเกี่ยวกับการลำดับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาตามประวัติเหตุการณ์ ของโลก (พจนานุกรมศพั ทภ์ มู ิศาสตร์ ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) geophysics ธรณีฟิสิกส์ : การศึกษาโลกโดยใช้วิธีการทางฟิสิกส์ โดยท่ัวไปพื้นฐานการ ศึกษาธรณีฟิสิกส์รวมถึงการศึกษาสมบัติและกระบวนการทางธรรมชาติที่ เกี่ยวข้องกับภาคพ้ืนดิน อุทกภาค บรรยากาศ ความสัมพันธ์ระหว่างโลกกับ ดวงอาทิตย์ ธรณีฟิสิกส์น้ียังมีวิชาเฉพาะอีกหลายแขนง เช่น วิทยาแผ่นดินไหว (scismology) ธรณีฟิสิกส์แปรสัณฐาน (tectonophysics) ธรณีฟิสิกส์ เชิงวิศวกรรม (engineering geophysics) คำนี้บางทีใช้หมายรวมถึงการใช้ เครื่องมอื ตา่ งๆ ศกึ ษาดวงจนั ทร์ และดาวเคราะห์ด้วย Geosynthetic Clay Liner (GCL) แผ่นดินเหนียวสังเคราะห์ : แผ่นขี้เถ้าภูเขาไฟผสมสารเบนทอไนต์ แล้ว ห่อหุ้มด้วยแผ่นใยสังเคราะห์ เป็นแผ่นเรียบแบน ทำหน้าท่ีป้องกันการไหลซึม ผา่ นของนำ้ 98
G gradually varied flow geotextile แผ่นใยสังเคราะห์ : วัสดุที่ทำจากใยสังเคราะห์ ใช้ประโยชน์ในการกรองน้ำ กรองดิน แบ่งชน้ั ของวสั ดุ และป้องกันเม็ดดินไหลออก Global Positioning System (GPS) ระบบกำหนดตำแหน่งบนพ้ืนโลก (จีพีเอส) : ระบบกำหนดตำแหน่ง บนพ้ืนโลกโดยอาศยั ดาวเทยี ม สถานภี าคพ้ืนดนิ และเครือ่ งรบั จีพีเอส Government Fiscal Management Information System (GFMIS) ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ : การ บริหารงานการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดให้นำ ระบบเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ด้านการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐทุกแห่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น ด้านงบประมาณ การพัสดุ การเงินและบัญชี เพื่อให้มีการบริหารจัดการงาน แบบบูรณาการอย่างเป็นระบบ ครบวงจร เพื่อรองรับการปฏิบัติงานด้วย อิเลก็ ทรอนิกส ์ gradation ส่วนคละ : ปรมิ าณของวสั ดุตา่ งๆ ที่รวมกนั เป็นมวลรวม แสดงเป็นร้อยละหรอื นำ้ หนกั grading การปรับระดับดิน : การเคลื่อนย้ายดินให้ได้ระดับตามที่ต้องการ เรียกอีก อย่างวา่ land leveling gradually varied flow การไหลแบบเปลี่ยนแปลงทีละน้อย : การไหลแบบคงที่ซ่ึงความลึกของการ ไหลคอ่ ยๆ เปลยี่ นแปลงไปตามความยาวของทางนำ้ 99
G granite granite หินแกรนิต : หินอัคนีแทรกซอนชนิดหนึ่งซึ่งมีเนื้อแข็งและหยาบ มีส่วน ประกอบของแร่ควอตซ์ (quartz) และเฟลด์สปาร์ (feldspar) เป็นส่วนใหญ ่ gravel กรวด : ก้อนหินเล็กๆ เข่ืองกว่าเม็ดทราย มีเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 4.76 - 76 มลิ ลเิ มตร gravitational water น้ำอิสระ : น้ำในดินส่วนท่ีสามารถระบายออกไปจากช่องว่างระหว่างเม็ดดินได้ ด้วยแรงดงึ ดดู ของโลก เรียกอกี อย่างว่า free water gravity arch dam เขื่อนแรงโน้มถ่วงโค้ง : เขื่อนกั้นน้ำท่ีก่อสร้างข้ึนให้มีน้ำหนักมาก เพื่อต้าน แรงดันของนำ้ โดยมสี ันเขื่อนโคง้ ออกไปทางด้านเหนอื น้ำ gravity weir ฝายแรงโน้มถ่วง : ฝายท่ีทำจากหินก่อหรือคอนกรีตให้มีน้ำหนักมากเพ่ือต้าน กระแสน้ำดว้ ยตวั มันเอง บางครัง้ เรียกวา่ masonry weir grid กริด : ตารางในระบบพกิ ัดฉากเพ่อื ใชอ้ า้ งอิง ระบุตำแหน่ง groin รอ : สิ่งกอ่ สรา้ งทสี่ รา้ งยนื่ ออกจากตลิง่ หรอื ชายฝงั่ ทะเล ในลักษณะทำมุมเฉียง กับทิศทางของกระแสน้ำ มีลักษณะโปร่งหรือทึบก็ได้ เพ่ือชะลอกระแสน้ำหรือ ชะลอการเคลอื่ นตวั ของตะกอน เรยี กอกี อยา่ งวา่ groyne, spur dike, transverse dike หรือ jetty groove ร่องบาน : ร่องสำหรับบังคับบานให้เล่ือนขึ้น - ลง หรือร่องสำหรับใส่ท่อนไม้ แผงก้ันนำ้ หรอื บานเหล็กกน้ั น้ำ 100
G groundwater hydrology gross capacity reservoir ความจุอ่างเก็บน้ำ : ความจุรวมของอ่างเก็บน้ำคิดต้ังแต่ท้องลำน้ำจนถึงระดับ กักเก็บ เรียกอีกอย่างว่า gross storage, reservoir capacity หรือ storage capacity gross storage ความจุอ่างเก็บน้ำ : ความจุรวมของอ่างเก็บน้ำคิดต้ังแต่ท้องลำน้ำจนถึงระดับ กักเก็บ เรียกอีกอย่างว่า gross capacity reservoir, storage capacity หรือ reservoir capacity groundwater นำ้ บาดาล : นำ้ ใตผ้ ิวดินทีอ่ ยู่ในเขตอ่ิมน้ำ รวมถงึ ธารนำ้ ใต้ดิน groundwater hydrology ธรณีอุทกวิทยา : อุทกวิทยาแขนงหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับน้ำที่อยู่ใต้พ้ืนดิน เรียกอีก อย่างว่า geohydrology (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) 101
G groundwater recharge groundwater recharge การเตมิ นำ้ ใต้ดิน : การเติมน้ำลงสชู่ น้ั นำ้ ใต้ดนิ ดว้ ยกระบวนการตามธรรมชาติ หรือโดยมนษุ ย์ groundwater reservoir อา่ งเกบ็ นำ้ ใต้ดิน : บริเวณทร่ี วบรวมนำ้ ใต้ดิน โดยการปดิ ก้นั นำ้ ใตด้ นิ ดงั กลา่ ว ดว้ ยกำแพงก้ันน้ำที่ก่อสรา้ งไว้ใต้ดนิ grout วัสดุอัดฉีด : ของเหลวหรือวัสดุผสมเหลวใช้เทหรือฉีดลงในรอยแตก รอยต่อ หรือชอ่ งว่าง grouted riprap หินเรียงยาแนว : ส่ิงก่อสร้างที่ทำขึ้นจากก้อนหินคละขนาด จัดวางบนชั้นวัสดุ รองพ้ืน โดยวางเรียงกันในลักษณะท่ีจะให้ก้อนเล็กก้อนใหญ่คละกัน เพ่ือให้หิน เรียงชิดกันมากที่สุด พร้อมทั้งแต่งผิวหน้าของหินใหญ่แต่ละก้อนให้เป็นระนาบ เสมอกันกับหินก้อนข้างเคียงและยาแนวตามช่องว่างระหว่างหินก้อนใหญ่ด้วย ปูนสอ (mortar) กระทุ้งให้แน่น และตกแต่งให้เรียบ เรียกอีกอย่างว่า stone pitching grouting การอัดฉดี : การเทหรอื ฉีดของเหลวหรอื วัสดุผสมเหลว (grout) ลงในรอยแตก รอยต่อ ช่องว่าง ของดินหรือหินเพ่ือเพ่ิมความแข็งแรง หรือลดการรั่วซึมของน้ำ ผ่านฐานราก grouting galleries อุโมงค์เพื่อการอัดฉีด : อุโมงค์ในตัวเข่ือนเพื่อการอัดฉีดขณะก่อสร้างหรือ บำรงุ รักษา groutstop วสั ดกุ ้ันอัดฉดี : วสั ดทุ บึ นำ้ ทีใ่ ช้ในการจำกดั ขอบเขตการอดั ฉีด 102
G guard post groundwater flow การไหลของน้ำใตด้ นิ : 1. การไหลของนำ้ ภายในชัน้ หนิ อมุ้ นำ้ หรือในธารน้ำใต้ดนิ 2. น้ำในลำน้ำธรรมชาติส่วนหนึ่งซ่ึงได้มาจากน้ำใต้ดิน อาจเป็นในลักษณะของ น้ำพุธรรมชาติ หรือการไหลซึมผา่ นช้นั ดนิ groundwater runoff น้ำท่าใต้ดิน : ส่วนของน้ำท่าท่ีไหลซึมลงไปในดินกลายเป็นน้ำใต้ดิน แล้วไหล ออกส่ทู างนำ้ ธรรมชาติในลกั ษณะนำ้ พุ หรอื นำ้ ซบั groyne รอ : สงิ่ กอ่ สรา้ งทสี่ รา้ งยื่นออกจากตลิง่ หรอื ชายฝั่งทะเล ในลักษณะทำมมุ เฉียง กับทิศทางของกระแสน้ำ มีลักษณะโปร่งหรือทึบก็ได้ เพื่อชะลอกระแสน้ำ หรือ ชะลอการเคลอื่ นตัวของตะกอน เรยี กอีกอยา่ งวา่ groine, spur dike, transverse dike หรอื jetty guard gate บานปิดซ่อม : บานท่ีใช้ปิดกั้นด้านเหนือน้ำเพ่ือการตรวจสอบหรือซ่อมแซม บานควบคุมของอาคารชลประทานชนิดต่างๆ เช่น ประตูน้ำ อาคารท่อส่งน้ำ เปน็ ตน้ guard rail ราวกันตก : ส่วนประกอบของอาคารมีลักษณะเป็นราวหรือเสา เพ่ือป้องกัน คน หรอื สัตว์ ตกจากอาคาร เรียกอีกอยา่ งวา่ hand rail guard post เสากันตก : ส่วนประกอบของอาคารมีลักษณะเป็นเสา ใช้เพื่อป้องกัน รถ คน หรอื สตั ว์ ตกจากอาคาร 103
G guide bund guide bund กำแพงนำนำ้ : กำแพงซงึ่ ทำหนา้ ทนี่ ำน้ำเข้าหรือออกจากเขอ่ื นทดน้ำ ฝาย หรอื ประตูน้ำ เพ่ือลดการปั่นป่วนของน้ำ อาจสร้างด้วยดิน หินก่อ หรือคอนกรีต ก็ได้ เรียกอกี อยา่ งวา่ guide wall guide wall กำแพงนำน้ำ : กำแพงซง่ึ ทำหน้าทน่ี ำนำ้ เข้าหรือออกจากเข่ือนทดน้ำ ฝาย หรอื ประตูน้ำ เพื่อลดการปั่นป่วนของน้ำ อาจสร้างด้วยดิน หินก่อ หรือคอนกรีต กไ็ ด้ เรยี กอกี อยา่ งวา่ guide bund gulley ร่องน้ำเซาะ : ช่องลึกบนพ้ืนดินที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำฝน (พจนานุกรม ศพั ท์ภูมิศาสตร์ ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) เรยี กอีกอย่างว่า gully gully erosion การกร่อนแบบร่องธาร : การกัดเซาะผิวดินโดยกระแสน้ำท่ีมีความรุนแรง เกิดเปน็ รอ่ งท่ีมีความลกึ ต้งั แต่ 30 เซนตเิ มตร ถงึ 10 เมตร หรือมากกวา่ gunite ปนู พ่น : ปูนทรายท่ีเปน็ ส่วนผสมของปนู ซีเมนต์ ทราย และน้ำ ท่ใี ชฉ้ ดี พน่ ทบั ผิวหน้าดินหรือหินด้วยเครื่องอัดอากาศ เรียกอีกอย่างว่า air-blown mortar หรอื shotcrete 104
H halophyte halophyte พืชทนดินเค็ม : พืชที่สามารถเจริญเติบโตและดำรงชีพอยู่จนขยายพันธุ์ ต่อไปได้ ในสภาพแวดล้อมที่มีปริมาณเกลือสูงโดยเฉพาะในทะเล มหาสมุทร ชะวากทะเล และทลี่ มุ่ นำ้ เค็ม เชน่ ชะคราม หญา้ แพรกทะเล โกงกาง แสม ลำพู hanลdำแlพeนve(พl จนานกุ รมศัพท์ภมู ศิ าสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) กล้องระดับมือถือ : เครื่องมือขนาดเล็กถือได้ด้วยมือ ประกอบด้วยกล้องส่อง hanแdล-ะหpลlอaดcรeะดdับrใiชp้เพrอ่ื aเลpง็ ในแนวราบ หินเรียง : ส่ิงก่อสร้างที่ทำขึ้นจากก้อนหินหลายขนาด จัดวางบนช้ันวัสดุกรอง ที่ใช้เป็นวัสดุรองพื้น โดยวางเรียงกันในลักษณะท่ีให้ก้อนเล็กสุดอยู่ด้านในติดกับ วัสดรุ องพน้ื ก้อนใหญส่ ุดอยูท่ ีด่ ้านนอก วางซอ้ นกนั คล้ายเกลด็ ปลา โดยเริม่ เรียง hanจdากrดa้านilล ่างขึ้นไปดา้ นบน ราวกันตก : ส่วนประกอบของอาคารมีลักษณะเปน็ ราวหรือเสา เพอ่ื ป้องกันคน harหdรpือaสตัnว ์ ตกจากอาคาร เรียกอีกอยา่ งวา่ guard rail ชั้นดานแขง็ : 1. การก่อตัวของช้ันดินที่เกิดจากการตกตะกอนของแร่ธาตุซ่ึงละลายมากับน้ำ เช่น แคลเซียมคาร์บอร์เนต หรือ ซิลิกา ที่ระดับความลึกหน่ึงใต้ผิวดินเป็น เวลานานแรมปีจนกลายเป็นชั้นดินแข็ง สามารถกั้นการไหลของน้ำลงสู่ใต้ดิน ได้ เพราะจะไมอ่ ่อนตวั หรอื ย่ยุ เมื่อเปียกนำ้ 2. ชั้นดินแข็งทึบน้ำในแปลงเพาะปลูก มักเกิดจากการไถดินที่ระดับความลึก คงเดิม เป็นระยะเวลานานหลายปี จนดินในบริเวณน้ันเกิดเป็นช้ันดานแข็ง รากพืชและน้ำไม่สามารถผ่านได้ เป็นอุปสรรคในการเพาะปลูกพืช การแก้ สามารถทำไดโ้ ดยการใชค้ ราด หรอื ใช้ ripper เปิดชัน้ ดินน้นั 106
H herringbone drainage system hard water น้ำกระด้าง : น้ำซ่ึงมีเกลือคาร์บอเนตของแคลเซียมและแมกนีเซียมละลายอยู่ ทำให้ไม่ค่อยเกิดฟองเม่ือใช้กับสบู่หรือผงซักฟอก เมื่อน้ำกระด้างเดือด เกลือคาร์บอเนตจะตกตะกอนเป็นคราบหินปูน (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ heaฉdบ ับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) heaเdฮดlo:sพsล ังงานทแี่ สดงในรปู ของความสูง มักแสดงในรปู ความสูงของของเหลว การเสียเฮด : พลังงานที่สูญเสียไป เน่ืองจากอุปสรรคของการไหล เช่น แรงเสียดทาน การกระแทก การไหลวนของน้ำ หรือความโค้งของทางน้ำ heaเdป็นrตeน้ g ulator อาคารบังคับน้ำปากคลอง : อาคารชลประทานท่ีสร้างขึ้นท่ีปากคลองเพ่ือ heaคdวwบคaมุ tปeรrิมา ณนำ้ ท่จี ะไหลเข้าสคู่ ลองสง่ น้ำ ต้นน้ำ : 1. ลำน้ำที่อยู่ตอนบน รวมท้ังต้นน้ำสาขาของลำน้ำน้ัน (พจนานุกรมศัพท์ ภมู ิศาสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) hea2d. wระoดrบั kนs้ำท ่ีต้นนำ้ หัวงาน : คำเรียกรวมของอาคารหลัก อุปกรณ์ และอาคารประกอบต่างๆ ท่ีอยู่ในบริเวณ herrเดiยีnวgกbันขoอnงโeครdงกrาaรi nage system ระบบระบายน้ำแบบก้างปลา : ระบบระบาย น้ำท่ีมีทางระบายน้ำย่อยวางขนานกัน และต่อ เข้ากับทางระบายน้ำหลักทั้งสองด้าน ลักษณะ herringbone drainage system คล้ายก้างปลา 107
H high pressure gate high pressure gate บานบงั คบั นำ้ รบั แรงดนั สงู : บานบงั คบั นำ้ ทตี่ อ้ งรบั แรงดนั ของนำ้ สงู สว่ นใหญ่ highใชก้ tับidอาeคา รทอ่ ส่งน้ำ และทอ่ สง่ น้ำลงลำน้ำเดิมของเข่อื นกกั เก็บนำ้ น้ำขนึ้ เต็มท่ี : น้ำขนึ้ ถงึ ระดับสงู ท่สี ุดของแตล่ ะครงั้ เรียกอีกอย่างวา่ high water high(พจwนaานteกุ รrมศ ัพทภ์ มู ิศาสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) นำ้ ขนึ้ เต็มท่ี : น้ำขึ้นถึงระดบั สูงที่สดุ ของแต่ละครั้ง เรยี กอกี อย่างว่า high tide high(พจwนaานteกุ รrมmศัพaทrภ์kูม ศิ าสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) คราบน้ำสูงสุด : รอยหรือคราบท่ีเกิดขึ้นตามโครงสร้างหรือส่ิงต่างๆ เมื่อน้ำ hingทe่วมdหรgือaรtะดeับ นำ้ ขึน้ สงู สุด เรียกอีกอย่างว่า flood mark บานหมุน : บานบังคับน้ำชนิดเปิด-ปิดบานโดยให้บานหมุนรอบจุดหมุน มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบจุดหมุนยึดแน่น และแบบจุดหมุนเคล่ือนที่ได้ เรียกอีก histอoยgา่ rงวaา่ pshw ing gate เส้นช้ันเวลา : แผนท่ีเส้นชั้นเวลาเท่ากัน ใช้แสดงตำแหน่งท่ีน้ำใช้เวลาไหล hollไoปwยังจjดุ eอtอกvเทaา่lvกันe เรยี กอีกอยา่ งวา่ isochrone ประตูนำ้ วงแหวน : ประตนู ำ้ ชนดิ หน่ึงใช้ติดตัง้ ท่ีปลายท่อสง่ น้ำ มีลักษณะช่อง เปิดเป็นรูปวงแหวนมีแกนกลางเป็นรูปกรวย เปิด-ปิดโดยการเคล่ือนที่ของกรวย homเขoา้ อgอeกnใeชoร้ ับuแsรงfดlันoขwอง นำ้ สูง การไหลแบบเนื้อเดียว : การไหลของของไหลท่ีเป็นเนื้อเดียว คือมีคุณสมบัติ เหมือนกนั ตลอดท้งั หน้าตัด 108
H hydraulic force horizontal drainage blanket ผนื กรองน้ำทางราบ : ผืนวสั ดุกรองทตี่ ิดตัง้ อยู่ทร่ี ะดับฐานรากในแนวราบ เพอ่ื ระบายน้ำจากตัวเข่ือนและฐานรากไปสู่ท้ายน้ำของเขื่อนดิน ให้น้ำไหลผ่านไปได้ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายเน่ืองจากเม็ดดินไหลออกจากฐานราก เรียกอีก hydอrยaา่ uงวlา่ icpse rvious blanket หรือ drainage filter hydชrลaศuาlสicตรc์ :oวnชิ dากuาcรทti่ีศvึกiษtาyพ ฤติกรรมของของไหล ขณะทีอ่ ยนู่ ่งิ และเคล่อื นที ่ การนำชลศาสตร์ : อัตราการไหลซึมของของเหลวผ่านหนึ่งหน่วยพน้ื ทหี่ นา้ ตดั ของมวลสารท่ีมีรูพรุน ภายใต้ลาดชลศาสตร์ (hydraulic gradient) หน่ึงหน่วย ท่ีอุณหภูมิท่ีกำหนด เรียกอีกอย่างว่า unit of permeability, transmission hydcroansutalinct, cdoeepffitchien t of permeability หรอื coefficient of transmission ความลึกชลศาสตร์ : อัตราส่วนระหว่างพื้นท่ีหน้าตัดของลำน้ำกับความกว้าง hydขrอaงผuวิ lหicนา้ mของoลdำนe้ำl แบบจำลองชลศาสตร์ : แบบจำลองทางกายภาพท่ีสร้างเลียนแบบอาคาร ชลศาสตร์ เช่น อาคารระบายน้ำล้น แอ่งน้ำนิ่ง เพื่อศึกษาพฤติกรรมการไหล hydขrอaงนuำ้l ic fill dam เขื่อนสูบถม : เข่ือนดินท่ีมีวิธีการก่อสร้างด้วยการนำดินและน้ำมาผสมกันแล้ว สูบข้ึนมาถมตัวเขื่อนผ่านท่อโดยกำหนดให้ปลายท่อพ่นส่วนผสม จากขอบนอก hydไrปaหuาแliกcนเfขoื่อนr ce แรงชลศาสตร์ : แรงที่เกิดจากการเคลื่อนท่ีของน้ำ ทำให้มีการกัดเซาะหิน หรือดนิ 109
H hydraulic friction hydraulic friction ความเสียดทานชลศาสตร์ : ความต้านทานต่อการไหลซ่ึงเกิดจากการสัมผัส ระหว่างของไหลกับผิวสัมผัสของท่อหรือคลอง รวมถึงความต้านทานท่ีเกิดจาก ความขรุขระของผิวสัมผัส ความโค้งระดับปานกลางของร่องน้ำ และความ ไม่สม่ำเสมอของหน้าตัดคลองตามปกติ ไม่รวมถึงผลท่ีเกิดจากความโค้งมาก hydขrอaงลuำlนicำ้ สgงิ่ eกoีดขmวาeงtแrลyะ การเปลี่ยนแปลงของหนา้ ตดั คลอง เรขาคณิตชลศาสตร์ : คำท่ี แอล. บี. เลโอโพลด์ (L. B. Leopold) และ ที. แมดด็อก (T. Maddock) คิดข้ึนเพ่ือใช้ในการแสดงลักษณะทางชลศาสตร ์ ของลำน้ำ โดยอธิบายว่าอัตราการไหลของน้ำ ณ ตำแหน่งรูปตัดขวางตอนใด ตอนหนึ่งของลำน้ำจะมีความสัมพันธ์กับความเร็วเฉลี่ย ความลึกเฉล่ีย และ ความกว้างของลำน้ำ (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน hydปrีa25u4l9i)c grade line เส้นลาดชลศาสตร์ : เส้นสมมุติที่ลากเช่ือมต่อระหว่างจุดท่ีเป็นผลรวมของเฮด ความสงู และเฮดความดันทต่ี ำแหนง่ ตา่ งๆ ตามทางน้ำ สำหรบั ทางนำ้ เปิดคือเสน้ hydผrวิ aนuำ้ lic gradient ลาดชลศาสตร์ : 1. (การไหลของน้ำใต้ดิน) อัตราการลดลงของเฮดต่อหน่ึงหน่วยระยะทางท ่ี นำ้ ไหลไปในดนิ 2. (การไหลของน้ำภายในท่อ) ความลาดเทของเสน้ ลาดชลศาสตร์ 3. (การไหลของน้ำในทางนำ้ เปิด) ความลาดเทของผิวนำ้ 110
H hydraulic ram hydraulic jump น้ำโจน : การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำในทันทีทันใด เน่ืองมาจากการที่น้ำที่ไหลมา ด้วยความเร็วสูงกว่าความเร็ววิกฤตแล้วความเร็วลดต่ำลงกว่าความเร็ววิกฤตอย่าง กะทนั หัน ทำให้เกดิ ความปั่นป่วน พลงั งานของนำ้ จะสญู เสียไปเนอื่ งจากการน ้ี hydraulic jump basin แอ่งน้ำโจน : แอ่งน้ำน่ิงชนิดหนึ่ง สลายพลังงานโดยใช้วิธีทำให้เกิดน้ำโจน hydเrรียaกuอlกี iอcยา่jงuวmา่ hpydrdaiusliscijpumaptodris sipator แอ่งน้ำโจน : แอ่งน้ำนิ่งชนิดหนึ่ง สลายพลังงานโดยใช้วิธีทำให้เกิดน้ำโจน hydเrรียaกuอlกี iอcยา่rงaว่าdihuydsr aulic jump basin รัศมีชลศาสตร์ : อัตราส่วนระหว่างพ้ืนที่หน้าตัดของลำน้ำกับเส้นขอบเปียก hydขrอaงลuำlนicำ้ ram ตะบันน้ำ : เครื่องมือท่ีใช้สำหรับยกน้ำข้ึนสู่ที่สูงได้โดยอาศัยพลังงานจากการ ไหลของนำ้ มาปดิ - เปดิ ลิน้ 111
H hydraulic sluicing hydraulic sluicing hydกrาaรuไลliต่ cะกtอuนrดb้วiยnนe้ำ : กระบวนการกำจดั ตะกอนโดยใชแ้ รงน้ำ เครื่องกังหันน้ำ : เครอื่ งจักรใหก้ ำเนดิ พลังงานจากพลังนำ้ ประกอบด้วยสว่ นที่ hydสrำaคuญั lคiอืcใwบพeดั igแhละinเพgลาl ysimeter ถังวัดการใช้น้ำแบบไฮดรอลิค : ถังวัดการใช้น้ำของพืชโดยอาศัยหลักการ hydเrปoลย่ีdนyแnปaลงmควiาcมsด ันของน้ำ อทุ กพลศาสตร์ : วชิ าการแขนงหนึง่ ของวิชาชลศาสตร์ ศึกษาเกี่ยวกับแรงดันที่ เกิดจากการไหลปั่นปว่ นของน้ำหรือของเหลวผา่ นไปตามร่องน้ำ รางนำ้ ท่อ หรือ hydผr่าoน-ขา้eมlสeันcฝtาrยic(พpจนoาwนeกุ รrม ศัพทภ์ มู ิศาสตร์ ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) ไฟฟ้าพลังน้ำ : กระแสไฟฟ้าท่ีได้จากการใช้พลังงานน้ำตกธรรมชาติหรือ น้ำตกจากเข่ือนกั้นน้ำที่สร้างขึ้นไปหมุนกังหันเพื่อใช้หมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า hyd(rพoจนgาeนnุก-รมioศnัพทc์ภoูมศิnาcสeตnร์tฉrบaับtรiาoชnบ ณั ฑิตยสถาน ปี 2549) อัตราความเป็นกรด : หน่วยวัดความเป็นกรดของสารละลาย ซ่ึงความเป็น กรดจะมีมากหรือน้อยข้ึนอยู่กับปริมาณของไอออนไฮโดรเจนท่ีแสดงด้วยดรรชนี ทางลบของลอการิทึมของความเข้มข้น ในทางปฐพีวิทยาจะให้เป็นค่าพีเอช hyd(rpoHgVeaoluleo)g(พyจน านุกรมศพั ทภ์ ูมศิ าสตร์ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) อทุ กธรณวี ทิ ยา : วชิ าทวี่ า่ ดว้ ยความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกระบวนการทางธรณวี ทิ ยา hydกrบั oนg้ำe omorphology อุทกธรณีสัณฐานวิทยา : การศึกษาลักษณะภูมิประเทศที่เป็นผลจากการ กระทำของน้ำโดยเฉพาะอย่างย่ิงกระบวนการธารน้ำไหล (fluvial processes) (พจนานกุ รมศพั ท์ภมู ศิ าสตร์ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) 112
H hydrological year hydrograph กราฟอุทก : กราฟแสดงลักษณะสำคัญต่างๆ ของน้ำ เช่น ระดับ ปริมาณ อัตราเร็ว ตะกอน ในที่แห่งใดแห่งหน่ึง ซึ่งสัมพันธ์กับระยะเวลา ตัวอย่างเช่น กราฟแสดงระดับน้ำ (stage hydrograph) กราฟแสดงปริมาณน้ำ (discharge hydrograph) กราฟแสดงตะกอนในน้ำ (sediment hydrograph) (พจนานุกรม hydศrพั oทg์ภrูมaิศpาสhตiรc์ ฉbบaบั รsาiชnบ ณั ฑิตยสถาน ปี 2549) บริเวณลมุ่ น้ำ : 1. บริเวณพื้นที่ท่ีล้อมรอบด้วยสันปันน้ำ เป็นพื้นท่ีรองรับน้ำหรือหยาดน้ำฟ้าท่ ี ตกลงมาและไหลลงสู่ระบบการระบายน้ำหรือแหล่งกักเก็บน้ำ (พจนานุกรม ศพั ท์ธรณีวทิ ยา ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2544) 2. พื้นท่ีท่ีเป็นทะเลสาบ รวมท้ังบริเวณที่ให้น้ำแก่ทะเลสาบนั้น (พจนานุกรม hyd roศgพั rทaภ์ pมู hิศาiสcตรd์ aฉบtuบั รmาช บณั ฑิตยสถาน ปี 2549) เส้นเกณฑ์ทางอุทกศาสตร์ : ระดับใดๆ ที่ได้กำหนดค่าไว้อย่างถาวรเพ่ือใช้ สำหรับการอ้างอิงความลึกของน้ำหรือใช้อ้างอิงความสูงของน้ำขึ้นน้ำลงท ี่ ทำนายไว้ ตามปกติมักใช้ระดับน้ำลงต่ำเป็นเกณฑ์ (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ hydฉrบoับlรoาgชiบcณั aฑlติ mยสoถาdนelป ี 2549) แบบจำลองอุทกวิทยา : แบบจำลองท่ีเป็นตัวแทนทางกายภาพ และ hydกrรoะบloวนgกicารaตlา่ งsๆysใtนeรmะบ บอุทกวิทยา ระบบอุทกวิทยา : ชุดกระบวนการทางอุทกวิทยา เพ่ือการวิเคราะห์ตัวแปรนำ hydเrข้าoใlหoเ้ ปgน็icผaลลlัพyธe ์ ar ปีน้ำ : ระยะเวลาต่อเน่ือง 12 เดือน ของข้อมูลอุทกวิทยา สำหรับประเทศไทย ใช้ต้ังแต่ 1 เมษายน ปีปัจจุบัน ถึง 31 มีนาคมของปีถัดไป เรียกอีกอย่างว่า water year 113
H hydrological yearbook hydrological yearbook รายงานอุทกวิทยาประจำปี : รายงานประจำปีท่ีแสดงข้อมูลทางอุทกวิทยา hydไrดo้แlกo่ รgะiดcบั aนl้ำ-ปbรaมิ lาaณnนc้ำeปรbมิ uาณdตgะeกtอน ของสถานีสำรวจ ดลุ ยภาพน้ำ : ความสมั พันธ์ระหวา่ งการระเหย (E) น้ำจากอากาศ (P) ปรมิ าณ นำ้ ท่า (R) และปรมิ าณนำ้ ท่ีเกบ็ กกั บนผวิ ดนิ และในดิน (S) ณ สถานหี นึง่ ในชว่ ง เวลาหน่ึง โดยมีสมการดังนี้ P = E + R + S (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ hydฉrบoับlรoาgชiบcัณฑcติyยcสlถeา น ปี 2549) วฏั จักรทางอุทกวทิ ยา : การหมนุ เวียนเปล่ียนแปลงสภาวะของน้ำในธรรมชาติ จากทะเลสู่บรรยากาศ จากบรรยากาศสู่พื้นดิน แล้วไหลไปสู่ทะเลอีกคร้ัง การหมุนเวียนนี้น้ำต้องผ่านข้ันตอน และกระบวนการทางธรรมชาติต่างๆ มากมาย เช่น การระเหย การกล่นั ตัว การไหลซมึ ลงในดนิ หรือถกู พืชและสตั ว์ นำไปใช้ เป็นต้น บางครั้งการหมุนเวียนจะมีการลัดขั้นตอน เช่น จากผิวดิน ไปสู่บรรยากาศโดยไม่ไหลลงสู่ทะเล (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับ ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) 114
H hyetograph hydrology อุทกวิทยา : วิชาท่ีว่าด้วยการกำเนิด การแพร่กระจาย การหมุนเวียน รวมทั้ง คณุ สมบัติทางเคมแี ละกายภาพของน้ำ บนผวิ ดนิ ใต้ผิวดิน หรือในช้ันบรรยากาศ ต่างๆ เหนือผิวโลกด้วย hydrometeorology อุตุนิยมวิทยาอุทก : อุตุนิยมวิทยาสาขาหนึ่งที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ลมฟ้าอากาศกับปัญหาท่ีเก่ียวกับน้ำ หรือความสัมพันธ์ระหว่างน้ำฝนกับน้ำท่า อันจะเป็นทางนำไปสู่การพิจารณาในการป้องกันน้ำท่วม ระบบการสร้างเขื่อน และการระบายน้ำ การใช้พลังน้ำเพ่ือผลิตไฟฟ้า การอนุรักษ์ดินและน้ำ (พจนานกุ รมศัพทภ์ มู ศิ าสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) hydrometer ไฮโดรมิเตอร์ : เคร่ืองมือสำหรับใช้วัดความถ่วงจำเพาะของของเหลว (พจนานุกรมศัพท์ภูมศิ าสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) hydrophone ไฮโดรโฟน : เครื่องมือชนิดหน่ึง ใช้จับคล่ืนเสียงในการสำรวจความไหว สะเทือนในน้ำ (marine seismic survey) (พจนานุกรมศัพท์ธรณีวิทยา ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน ปี 2544) hydrostatic pressure ความดันน้ำนิ่ง : ความดันที่จุดใดจุดหนึ่งในน้ำน่ิง คำนวณจากหน่วยน้ำหนัก ของของน้ำ คูณกบั ความลึกจากผิวน้ำ เรยี กอกี อย่างวา่ static pressure hyetograph กราฟฝนสะสม : กราฟแสดงความสัมพันธร์ ะหว่างปริมาณฝนสะสมกับเวลา 115
H hygroscopic moisture hygroscopic moisture นำ้ เคลือบเม็ดดิน : น้ำหรือความชน้ื ในดินซงึ่ จับยึดติดแนน่ เปน็ เย่อื บางๆ รอบ เม็ดดิน แรงจับยึดนี้มีมากจนพืชไม่สามารถดูดน้ำไปใช้ได้ และน้ำไม่สามารถ เคล่ือนที่ได้ด้วยแรงดึงดูดของโลกและแรงดูดซึม เรียกอีกอย่างว่า hygroscopic water hygroscopic water น้ำเคลอื บเมด็ ดิน : น้ำหรือความช้นื ในดินซง่ึ จบั ยึดตดิ แน่นเปน็ เย่ือบางๆ รอบ เม็ดดิน แรงจับยึดนี้มีมากจนพืชไม่สามารถดูดน้ำไปใช้ได้ และน้ำไม่สามารถ เคลื่อนที่ได้ด้วยแรงดึงดูดของโลกและแรงดูดซึม เรียกอีกอย่างว่า hygroscopic moisture 116
I igneous rock igneous rock หินอัคนี : หินที่เกิดจากการแข็งตัวของหินหนืด ใต้เปลือกโลก อาจแข็งตัวอยู่ impภaาcยtในbเปaลsอื iกnโ ลก หรอื พุพน้ เปลือกโลกออกมาแข็งตัวอย่บู นผิวโลก แอ่งน้ำกระแทก : แอ่งน้ำน่ิงท่ีสลายพลังงานโดยใช้วิธีให้น้ำพุ่งกระแทก impสaง่ิ cกดีtขsวtาiงlทlส่ีinร้าgงขbึ้นaเรsยี iกnอ กี อยา่ งว่า impact stilling basin แอ่งน้ำกระแทก : แอ่งน้ำน่ิงที่สลายพลังงานโดยใช้วิธีให้น้ำพุ่งกระแทก impสeงิ่ rกvดี ขioวาuงทsส่ี bรา้ lงaขnน้ึ kเรeยี tก อีกอย่างว่า impact basin ผืนทบึ น้ำ : ชนั้ วัสดุทบึ นำ้ ที่ปกคลุมผวิ หน้าเพ่ือลดการซึมของนำ้ impervious core แกนทึบน้ำ : แกนกลางของเขื่อน หรือคันก้ันน้ำ ซึ่งทำด้วยวัสดุทึบน้ำ เพ่ือ ป้องกันการซึมผา่ นของน้ำ implementation plan แผนดำเนินการ : กิจกรรมและระยะเวลาที่ถูกกำหนดขึ้นสำหรับดำเนินโครง การใดๆ ให้สำเรจ็ ตามวัตถปุ ระสงค ์ impounding dam เข่ือนกักเก็บน้ำ : อาคารที่สร้างข้ึนเพ่ือกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ประโยชน์ด้านการ ชลประทาน การป้องกนั และบรรเทาอุทกภัย สาธารณปู โภค หรอื อนื่ ๆ impulse pump เครื่องสูบน้ำแรงกระแทก : เครื่องสูบน้ำท่ีทำงานเป็นจังหวะๆ ไม่ต่อเนื่อง เชน่ ตะบันน้ำ impulse turbine เคร่ืองกงั หันแรงกระแทก : เครื่องกังหนั น้ำท่ีอาศัยแรงกระแทกของกระแสน้ำ ที่พุ่งมาจากหัวฉดี ไปหมุนกงั หนั นำ้ 118
I infiltration rate inactive storage ความจไุ มใ่ ชก้ าร : ความจขุ องอา่ งเก็บน้ำสว่ นทีต่ ำ่ กวา่ ระดบั น้ำตำ่ สดุ ทก่ี ำหนด ซ่ึงไม่สามารถนำมาใช้การได้เนื่องจากระดับต่ำกว่าธรณีอาคารท่อส่งน้ำ เรียกอีก อย่างหนง่ึ ว่า dead storage inclined drop อาคารน้ำตกเอียง : อาคารน้ำตกที่นำน้ำจากระดับสูงไหลตามลาดเทลงสู่ ระดบั ต่ำกวา่ inflatable weir ฝายพอง : ฝายชนิดพองตัวด้วยการเติมของไหล ยุบตัว โดยการปล่อยของ ไหลออก โดยมากตวั ฝายทำดว้ ยยางซง่ึ เรียกว่า rubber weir infiltration การซึม : 1. การไหลซมึ ของนำ้ จากผวิ ดนิ เขา้ ไปในดนิ 2. การดูดซมึ น้ำฝน นำ้ ชลประทาน หรอื น้ำทา่ ลงสดู่ ิน 3. การไหลของนำ้ จากวสั ดพุ รนุ ส่ทู างนำ้ ท่อ ทางระบายน้ำ หรอื อ่างเกบ็ น้ำ infiltration capacity ปริมาณการซึมลงดิน : ความสามารถหรือปริมาณการไหลซึมของน้ำจาก ผวิ ดินเข้าไปในดิน infiltration rate อัตราซึมของน้ำผ่านผิวดิน : ปริมาณของน้ำท่ีไหลผ่านผิวดินลงไปในดินต่อ หน่วยพื้นท่ีหน้าตัด ต่อหน่วยเวลา อัตราการแทรกซึมน้ำจะเร็วในระยะเริ่มแรก และจะคอ่ ยลดลงเมือ่ เวลาผา่ นไป มหี น่วยเป็นระยะทางตอ่ เวลา (เชน่ เซนติเมตร ต่อวินาที เมตรต่อวินาที) อุปกรณ์ที่ใช้วัดเรียกว่า มาตรอัตราการแทรกซึม (infiltrometer) อัตราการแทรกซึมนี้นำไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพ การให้น้ำและการป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน มีความหมายเหมือนกับ infiltration capacity 119
I Infiltrometer Infiltrometer อนิ ฟลิ โตรมเิ ตอร์ : เครื่องมือหรอื วิธีการในการวดั การซึมของนำ้ ผา่ นผวิ ดิน infrastructure โครงสร้างพื้นฐาน : สาธารณูปโภคข้ันพ้ืนฐานท่ีจำเป็นต่อการเอื้ออำนวย กิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกชนิด เช่น ถนน รถไฟ สนามบิน ระบบการสื่อสาร ingrโรoงwไฟnฟา้ mปรeะaปnา dแลeะrร ะบบการกำจดั น้ำเสยี และการบรกิ ารสาธารณะอ่นื ๆ ทางน้ำโค้งตวัดต่างลาด : ทางน้ำโค้งตวัดเซาะลึกชนิดหนึ่งท่ีฝ่ังสองข้างของ ลำน้ำมีความลาดชันไม่เท่ากัน โดยฝั่งด้านที่กระแสน้ำไหลมาปะทะตลิ่ง จะมี ความชันมาก ส่วนฝ่ังด้านตรงกันข้าม จะมีลักษณะลาดน้อยๆ ที่เป็นเช่นน้ี เนื่องจากในขณะที่เกิดเป็นทางน้ำโค้งตวัดเซาะลึกนั้น การยกตัวสูงขึ้นของบริเวณ พื้นที่เป็นไปอย่างช้าๆ จนทำให้เกิดการกัดเซาะในแนวราบได้บ้างเล็กน้อย ลักษณะของฝ่ังน้ำจึงมีความลาดชันไม่เท่ากัน ผิดกับทางน้ำโค้งตวัดเซาะลึก แบบธรรมดาโดยท่ัวไป (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน initiปaี 2l5r49a)i nfall ฝนแรก : ปริมาณฝนที่ตกในช่วงเริ่มต้นของพาย ุ inland basin แอ่งภายในแผ่นดิน : แอ่งท่ีล้อมรอบด้วยที่สูง อาจมีทางน้ำไหลออกสู่ทะเล หรือไม่มกี ็ได้ (พจนานุกรมศัพทภ์ มู ิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) inland sea ทะเลใน : ทะเลประเภทที่อย่เู ขา้ มาภายในพื้นแผน่ ดิน และเกือบไมม่ ีทางตดิ ต่อ กับทะเลหรือมหาสมุทรภายนอก ตัวอย่างเช่น ทะเลสาบแคสเปียน ทะเล inleเtม ดิเตอรเ์ รเนยี น เรยี กอีกอย่างว่า continental sea ทางน้ำเข้า : ชอ่ งทางน้ำเข้าสสู่ ่วนประกอบหลกั ของอาคารชลประทาน 120
I integrated water resources management inlet structure อาคารทางเขา้ : อาคารที่สรา้ งข้นึ เพอื่ รับน้ำเขา้ สอู่ าคารชลประทานหรือคลอง inlet transition ส่วนเชือ่ มทางเขา้ : สว่ นเชื่อมต่อท่ีมกี ารเปลยี่ นขนาดหรอื รูปรา่ ง ด้านเหนอื น้ำ ปากทางเข้าอาคารชลประทาน intake อาคารรับน้ำ : อาคารรับน้ำเข้าสู่ท่อส่งน้ำ (outlet work) ด้านเหนือน้ำของ เข่ือนกักเก็บน้ำ มีส่วนประกอบท่ีทำหน้าท่ีควบคุมปริมาณน้ำท่ีไหลผ่านท่อ โดยท่วั ไปจะมตี ะแกรงกนั สวะอยูด่ ้วย intake channel ร่องชักน้ำ : ร่องรับน้ำเข้าสู่คลอง หรืออาคารส่งน้ำหรือทิ้งน้ำ เรียกอีกอย่างว่า approach channel intake opportunity time ระยะเวลาดดู ซมึ น้ำ : ระยะเวลาท่ีนำ้ ถกู ดินดูดซับไวใ้ นชว่ งที่มกี ารให้นำ้ intake rate อตั ราการซมึ ของน้ำผ่านผิวดิน : อัตราการซมึ ของนำ้ ผา่ นผวิ ดนิ ตอ่ หนงึ่ หนว่ ย เวลาในช่วงท่ีมกี ารให้น้ำ intake tower ทางน้ำเข้าชนิดหอคอย : อาคารรับน้ำรูปทรงหอคอย เพื่อการรับน้ำเข้าสู่ท่อ ส่งนำ้ ท่ีอยรู่ ะดบั ลกึ กว่าระดับน้ำต่ำสุดของเขอ่ื นกักเก็บน้ำ integrated water resources management การจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ : การจัดการน้ำที่คำนึงถึงความ ย่ังยืน ประสิทธภิ าพ และการเกดิ ประโยชน์อยา่ งสูงสดุ 121
I intensive agriculture intensive agriculture การเกษตรมุ่งเน้น : การเกษตรท่ีทำในพ้ืนที่ขนาดเล็ก ใช้แรงงานคนมาก มกี ารใช้ปุ๋ยในปริมาณมาก ตลอดจนมีการชลประทานและการจัดการทเ่ี หมาะสม เพ่อื ใช้ประโยชน์จากที่ดนิ อยา่ งเต็มทแี่ ละได้ผลผลติ ตอ่ หนว่ ยพนื้ ท่ีสงู ตวั อยา่ งเช่น การทำสวนผักและสวนผลไม้ในเขตใกลเ้ คียงเมืองใหญ่ intensive land consolidation การจดั รปู ทีด่ นิ เพื่อการเกษตรสมบรู ณแ์ บบ : การพฒั นาพน้ื ท่ีเกษตรกรรม ให้มีระบบคสู ง่ นำ้ คูระบายนำ้ และทางลำเลียงผลผลติ โดยจัดรปู แปลงเพาะปลูก ใหมแ่ ละปรบั ระดบั ดนิ intensive farming การทำไร่นาแบบมุ่งเน้น : การทำไร่นาท่ีใช้เทคโนโลยีในการผลิตค่อนข้างสูง เช่น มกี ารใช้ปยุ๋ เพือ่ เพิม่ ผลผลิต และใชเ้ นอ้ื ที่เพาะปลกู นอ้ ย intensity of rainfall ความเข้มฝน : อัตราท่ีฝนตกลงมาถึงพื้นโลกโดยพิจารณาจากปริมาณของฝน ต่อหน่ึงหน่วยเวลา เช่น มิลลิเมตรต่อชั่วโมงหรือมิลลิเมตรต่อ 24 ชั่วโมง เรยี กอกี อยา่ งวา่ rainfall intensity intercepted moisture ความช้ืนเก็บกัก : ส่วนของหยาดน้ำฟ้าท่ีค้างอยู่ตามต้นไม้ใบหญ้าไม่ตกลงสู่ พ้ืนดิน ส่วนใหญ่จะระเหยขึ้นสู่บรรยากาศ ถ้าหยาดน้ำฟ้ามีปริมาณมากเกินกว่า ต้นไม้ใบหญ้าจะรับไว้ได้ ก็จะหยดลงสู่พ้ืนดิน (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) intercepting drain ทางระบายนำ้ แบบสกัดกั้น : ทางระบายน้ำ (ใต้ดนิ หรือบนผวิ ดิน) ซง่ึ สร้างไว้ ท่ขี อบของพ้นื ที่ทม่ี กี ารปอ้ งกันนำ้ ทว่ ม ทำหนา้ ทด่ี กั นำ้ ที่ไหลมาจากพ้นื ที่ทส่ี งู กว่า ท้ังทางผวิ ดนิ และใต้ดิน เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้น้ำไหลเขา้ ไปสู่พ้ืนที่ปอ้ งกนั นำ้ ทว่ มนน้ั 122
I internal rate of return (IRR) interflow นำ้ ซึมแผ่ : การเคล่อื นทีข่ องนำ้ ออกทางดา้ นขา้ ง ใต้ผวิ ดินเกิดข้นึ เม่อื อัตราการ ซับน้ำของดนิ มคี ่าสงู กวา่ อตั ราการซึมลง interfluve สนั ระหว่างแมน่ ำ้ : สันซง่ึ อยรู่ ะหวา่ งแมน่ ำ้ สองสาย intermittent stream ธารน้ำไหลเป็นพักๆ : ธารน้ำหรือสาขาของธารน้ำที่มีน้ำไหลเฉพาะบางช่วง ของปี เช่น ในฤดฝู นหรือช่วงทีไ่ ด้นำ้ จากแหลง่ อ่ืนๆ บนผวิ ดิน (พจนานุกรมศพั ท์ ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) intermontane basin แอ่งระหว่างภเู ขา : แอง่ แผน่ ดินท่อี ยใู่ นระหว่างภูเขา หรอื มภี ูเขาลอ้ มรอบ เช่น แอ่งเชียงใหม่ แอ่งลำปาง (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) internal friction ความฝืดภายใน : ความต้านทานต่อการเคล่อื นทขี่ องอนภุ าคภายในของวตั ถ ุ interrupted stream ธารน้ำขาดตอน : ธารน้ำท่ีไหลเป็นบางตอนแล้วขาดหายไป อาจเกิดจากการ เปลย่ี นแปลงความสงู ของระดบั นำ้ ใตด้ นิ ณ จดุ ตา่ งๆ ตามแนวหบุ เขา (พจนานกุ รม ศพั ทภ์ ูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) internal rate of return (IRR) อัตราผลตอบแทน : อัตราท่ีจะทำให้ผลตอบแทนและค่าใช้จ่ายที่ได้คิดลดเป็น มูลค่าในปัจจุบันแล้วเท่ากัน หรือทำให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิของโครงการมีค่า เท่ากับศูนย์ โดยมีเกณฑ์ที่ยอมรับได้คือ IRR มีค่าเท่ากับหรือมากกว่าค่าเสีย โอกาสของต้นทุน 123
I inundated land inundated land พ้ืนท่ีนำ้ ทว่ ม : พน้ื ท่ลี ุ่มตำ่ ท่ีนำ้ ทว่ มในฤดูน้ำหลาก หรือน้ำข้ึน inundation canal คลองรับน้ำนอง : คลองซ่ึงทำหน้าท่ีรับน้ำจากแม่น้ำเมื่อระดับน้ำในแม่น้ำ ข้ึนสูงถึงระดับที่ยอมให้น้ำเข้าคลองได้ อาจจะมีหรือไม่มีอาคารบังคับน้ำ ปากคลองก็ได ้ inundation irrigation system ระบบชลประทานรับน้ำนอง : ระบบชลประทานท่ีประกอบด้วยคลอง รับน้ำนอง ทำหน้าที่รับน้ำจากแม่น้ำเข้าสู่ระบบเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะเม่ือเวลา น้ำข้ึน พ้ืนที่รับน้ำชลประทานจะมีคันกั้นน้ำล้อมรอบเนื่องจากอยู่ในที่ลุ่มต่ำ ระบบการกระจายน้ำในแปลงเพาะปลูกโดยท่ัวไปจะเหมือนกับในระบบ ชลประทานท่ีส่งน้ำโดยตรง แต่มีข้อจำกัดในเรื่องรอบเวรของการส่งน้ำ เพราะจะ สามารถสง่ นำ้ ไดเ้ ฉพาะเมื่อน้ำในแม่นำ้ ข้นึ สงู เทา่ นน้ั invar อินวาร์ : โลหะผสมระหวา่ งเหล็ก 63 ส่วน นกิ เกลิ 36 สว่ น แมงกานีส ซิลิกอน และคาร์บอนรวมกันอีก 1 ส่วน โลหะผสมที่ได้มีสัมประสิทธ์ิการขยายตัว นอ้ ยมาก เกือบไมม่ ีการขยายตวั เลย เดมิ เรยี กว่า invariable ตอ่ มาเรยี กส้นั ๆ ว่า อินวาร์ เหมาะสำหรับใช้ทำส่วนสำคัญของเคร่ืองมือสำรวจ เช่น จานองศาของ กลอ้ งวดั มุม ลวดวดั ระยะทต่ี อ้ งการความละเอียดสงู (พจนานกุ รมศัพทภ์ มู ิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) inverted filter ช้ันกรองกลับทาง : ชั้นของวัสดุท่ีน้ำซึมผ่านได้ จัดวางเป็นชั้น คละขนาด เพ่ือป้องกันเมด็ ดินไหลออกมากับนำ้ เรียกอกี อยา่ งว่า protective filter 124
I irrigation demand inverted siphon ท่อเชื่อมกาลักน้ำ : อาคารที่ลำเลียงน้ำที่เป็นท่อโค้งลอดใต้สิ่งกีดขวาง โดยท่ี นำ้ ไหลเตม็ ทอ่ ภายใต้ความดนั เชน่ ถนน ทางรถไฟ ทางน้ำต่างๆ เป็นตน้ นิยม เรยี กสัน้ ๆ ว่า siphon inverted well บ่อเติมน้ำ : บอ่ ท่ีขดุ ขึ้นเพื่อให้นำ้ ผวิ ดนิ ไหลเขา้ ไปสู่ช้นั หินอุ้มน้ำ (aquifer) โดย มีจดุ ประสงคเ์ พือ่ เพม่ิ ปรมิ าณน้ำในช้นั หนิ อุ้มน้ำ เรยี กอีกอยา่ งวา่ diffusion well หรือ recharge well irrigable area พื้นทชี่ ลประทาน : พนื้ ที่เพาะปลูกที่สามารถส่งน้ำไปถงึ ได้ irrigation การชลประทาน : กิจการและวิธีการทุกประเภทท่ีบุคคลได้จัดทำขึ้นเพื่อส่งน้ำ ไปใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูก และกจิ กรรมอ่นื ๆ irrigation canal คลองชลประทาน : คลองซึ่งทำหน้าที่นำน้ำจากแหล่งน้ำไปส่งให้กับพื้นที่เพ่ือ การชลประทาน ประกอบไปดว้ ย คลองสายใหญ่ คลองซอย คลองแยกซอย และ คนู ้ำ irrigation demand ความต้องการน้ำชลประทาน : (ด้านการเกษตร) ปริมาณน้ำชลประทานที่ ต้องการเพ่ือการเพาะปลูก ซึ่งนอกเหนือไปจากปริมาณน้ำที่พืชได้รับจาก ธรรมชาติ เชน่ ฝน น้ำคา้ ง ฯลฯ ปริมาณนำ้ นจ้ี ะตอ้ งคดิ เผอ่ื ไวส้ ำหรับการระเหย และการสูญเสียน้ำทางอ่ืนท่ีไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มักแสดงอยู่ในรูปแบบของ ความลึกของน้ำต่อหน่ึงหน่วยพื้นที่ โดยอาจระบุช่วงเวลาท่ีต้องการด้วยก็ได้ เช่น ต่อเดือน ต่อปีหรือต่อฤดูเพาะปลูกหนึ่ง เป็นต้น หรือหากแสดงอยู่ในรูปแบบ เดียวกับหน่วยของชลภาระ (water duty) ก็คือค่าของชลภาระน่ันเอง เรียกอีก อย่างวา่ irrigation requirement 125
I irrigation development project irrigation development project โครงการพัฒนาด้านชลประทาน : กลุ่มอาคารชลประทานและโครงสร้าง พ้นื ฐานอนื่ ๆ เพ่ือการส่งนำ้ ระบายนำ้ และบำรงุ รักษา โครงการนปี้ ระกอบด้วย อาคารหัวงาน อาคารสง่ นำ้ และอาคารกอ่ สรา้ งอ่นื ๆ ท่ีใชเ้ ก็บเครื่องมอื อปุ กรณ ์ irrigation efficiency ประสิทธิภาพชลประทาน : อัตราส่วนหรือร้อยละของปริมาณน้ำที่พืชใช ้ ไปจรงิ ต่อปริมาณน้ำชลประทานที่สง่ ให้ในพน้ื ทช่ี ลประทานท่ีกำหนด irrigation frequency ความถ่ชี ลประทาน : จำนวนครงั้ ของการให้น้ำชลประทานตอ่ หน่วยเวลา irrigation interval รอบเวรชลประทาน : จำนวนวันท่ีนับจากวันที่เริ่มต้นส่งน้ำไปจนถึงวันท ่ี เร่ิมต้นส่งน้ำคร้ังต่อไปในแปลงเพาะปลูกเดียวกัน เช่น ให้น้ำทุกรอบ 7 วัน เปน็ ตน้ irrigation period ช่วงเวลาชลประทาน : ระยะเวลาการให้น้ำแก่พ้ืนท่ีเพาะปลูกในแต่ละรอบ หรอื แตล่ ะครงั้ ของการให้นำ้ เชน่ ใหน้ ำ้ ครง้ั ละ 1 วนั เปน็ ตน้ irrigation project โครงการชลประทาน : โครงการที่มีวัตถุประสงค์เดียวหรือหลายวัตถุประสงค์ แต่มีวัตถุประสงค์หลักเพ่ือการชลประทาน ซึ่งรวมถึงการพัฒนาและการปรับปรุง ทดี่ ิน 126
I isallobar irrigation requirement ความต้องการน้ำชลประทาน : (ด้านการเกษตร) ปริมาณน้ำชลประทาน ท่ีต้องการเพ่ือการเพาะปลูก ซ่ึงนอกเหนือไปจากปริมาณน้ำท่ีพืชได้รับจาก ธรรมชาติ เช่น ฝน นำ้ ค้าง ฯลฯ ปรมิ าณน้ำนจี้ ะต้องคดิ เผอื่ ไว้สำหรับการระเหย และการสูญเสียน้ำทางอ่ืนท่ีไม่สามารถหลีกเล่ียงได้ มักแสดงอยู่ในรูปแบบของ ความลึกของน้ำต่อหน่ึงหน่วยพื้นที่ โดยอาจระบุช่วงเวลาที่ต้องการด้วยก็ได้ เช่น ต่อเดือน ต่อปีหรือต่อฤดูเพาะปลูกหนึ่ง เป็นต้น หรือหากแสดงอยู่ในรูปแบบ เดียวกับหน่วยของชลภาระ (water duty) ก็คือค่าของชลภาระนั่นเอง เรียกอีก อย่างว่า irrigation demand irrigation return flow น้ำชลประทานเหลือใช้ : น้ำท่ีถูกผันออกจากแหล่งน้ำเข้าสู่พ้ืนท่ีชลประทาน แล้วไหลลงสูล่ ำน้ำเดิม irrigation rotation ชลประทานหมุนเวียน : การให้น้ำแก่พ้ืนที่เพาะปลูกแบบรอบเวร มักนิยมใช้ ในกรณีที่ปริมาณน้ำต้นทุนมีน้อยกว่าความต้องการท่ีต้องการส่งให้ในคราวเดียว หรือเป็นการทยอยส่งน้ำให้จนกว่าจะเพียงพอแก่ความต้องการแล้วจึงหมุนเวียน ไปสง่ ให้แก่พื้นที่อ่นื จนครบรอบท่ีกำหนดไว ้ irrigation structure อาคารชลประทาน : สิ่งก่อสร้างและอุปกรณ์ประกอบในงานชลประทาน ใช้ เพอ่ื การจัดการน้ำชลประทานในดา้ นต่างๆ เชน่ การควบคมุ การวดั การส่งและ การระบายนำ้ เปน็ ต้น isallobar เส้นเปล่ียนความกดเท่า; เส้นไอซัลโลบาร์ : เส้นท่ีเชื่อมจุดต่างๆ ที่มีค่า ความกดอากาศเปลี่ยนแปลงเท่ากันภายในระยะเวลาที่กำหนด (พจนานุกรม ศัพทภ์ มู ศิ าสตร์ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) 127
I isallotherm isallotherm เส้นเปลี่ยนอุณหภูมิเท่า เส้นไอซัลโลเทิร์ม : เส้นท่ีเชื่อมจุดต่างๆ ที่มี อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเท่ากันภายในช่วงเวลาที่กำหนด (พจนานุกรมศัพท์ ภมู ิศาสตร์ ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) isobar เส้นความกดเท่า : เส้นที่เช่ือมจุดต่างๆ ที่มีความกดอากาศท่ีระดับผิวพื้น เท่ากนั (พจนานุกรมศพั ท์ภมู ิศาสตร์ ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) isobath เส้นความลึกเท่า : เส้นท่ีเช่ือมจุดต่างๆ ในแผนท่ีทะเลท่ีมีระดับความลึก เท่ากัน เรียกอีกอย่างว่า depth contour (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับ ราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) isohyet เส้นน้ำฝนเท่า : เส้นที่เชื่อมจุดต่างๆ ในแผนท่ีท่ีมีปริมาณน้ำฝนเท่ากันในช่วง เวลาท่ีกำหนด (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) เรยี กอกี อยา่ งวา่ isohyetal line isohyetal line เส้นน้ำฝนเท่า : เส้นที่เช่ือมจุดต่างๆ ในแผนที่ที่มีปริมาณน้ำฝนเท่ากันในช่วง เวลาท่ีกำหนด เรยี กอีกอย่างวา่ isohyet isolating valve ประตูตัดน้ำ, ล้ินตัดน้ำ : ลิ้นหรือประตูเปิด - ปิดน้ำ ทำหน้าท่ีเพียงแค่เปิด หรือปิดการไหลของนำ้ เรียกอีกอยา่ งวา่ shut-off valve 128
J jet jet เจ๊ต : กระแสน้ำทไ่ี หลพุง่ ออกมาจากช่องเปดิ หรือหัวฉีด ดว้ ยความเร็วสูง jet grouting การอัดฉีดโดยการพ่น : การอัดฉีดวัสดุผสมเหลว (ปูนเหลวหรือสารผสม) โดยใช้แรงดันสูงพ่นลงในช่องว่างของดินเพ่ืออุดช่องว่างและเพิ่มความแข็งแรง ในการรบั น้ำหนัก และป้องกนั การรั่วซมึ ของน้ำ jetty รอ : สิ่งก่อสร้างที่สร้างย่ืนออกจากตลิ่ง ในลำน้ำ หรือชายฝั่งทะเล ในลักษณะ ทำมมุ เฉียงกับทศิ ทางของกระแสนำ้ มลี ักษณะโปรง่ หรือทบึ กไ็ ด้ เรยี กอกี อยา่ งวา่ groin, groyne, spur dike หรอื transverse dike jump height curve โค้งความสูงน้ำโจน : เส้นโค้งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณน้ำต่อ หนึ่งหน่วยความกว้างกับความลึกร่วมใต้วิกฤต (subcritical conjugate depth) ใชเ้ พอ่ื การหารปู แบบน้ำโจน (hydraulic jump) 130
K key wall key wall กำแพงใต้ร่องแกน : กำแพงล่างท่ีสร้างต่อจากร่องแกนลงไปจนถึงช้ันหิน ฐานรากหรอื ชั้นทบึ นำ้ kinematic similarity ความคล้ายคลึงกันทางจลน์ : แบบจำลองจะมีความคล้ายคลึงเชิงจลน์กับ ตน้ แบบได้ จะตอ้ งมคี วามคล้ายคลงึ เชิงเรขาคณติ อยแู่ ล้ว จะเกิดขึ้นไดเ้ มื่อสดั ส่วน ของความเร็วที่จุดเดียวกันในแบบจำลอง และต้นแบบจะต้องมีค่าเท่ากันตลอด ในสนามการไหล kinematic viscosity ความหนืดจลน์ : คุณสมบัติในการต้านแรงเฉือนของของไหล มีค่าเท่ากับ ความหนืดสมบูรณ์ หารด้วยความหนาแน่น มีหน่วยเป็น m2/s และมีหน่วย ท่นี ิยมใช้กนั คือ stoke (1 stoke = 1 m2/s) knot นอต : หน่วยวัดความเร็วเป็นไมล์ทะเลต่อชั่วโมง เท่ากับ 6,080 ฟุตต่อช่ัวโมง หรอื 1,852 เมตรต่อช่ัวโมง 132
L labyrinth weir labyrinth weir ฝายหยัก : ฝายที่มีสันฝายหักเป็นมุมพับไปมาเป็นรูปสามเหล่ียม หรือ ส่เี หล่ียมคางหมู เพอื่ ให้สันฝายมีความยาวเพิม่ ขนึ้ lag time ระยะแหง้ : (การชลประทาน) ช่วงระยะเวลาต้ังแต่หยดุ การให้นำ้ จนกระท่งั นำ้ ที่ หวั แปลงแห้ง laminar flow การไหลแบบราบเรียบ : การไหลท่ีอนุภาพของน้ำเคลื่อนท่ีไปในทิศทาง เดียวกัน มเี ส้นกระแสนำ้ ขนานราบเรียบสมำ่ เสมอตลอด land classification 1. การจำแนกท่ดี ิน : การจดั กลุ่มหรอื หน่วยทดี่ ินตามระบบขน้ั ตอนการจำแนก โดยพิจารณาจากสมบัติของที่ดินหรือความเหมาะสมของที่ดิน เพื่อ วัตถุประสงค์บางอย่างโดยเฉพาะ เช่น การจำแนกที่ดินเพ่ือการเกษตร การป่าไม้ การพักผ่อนหย่อนใจ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติ การชลประทาน (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) 2. การจำแนกประเภทท่ีดิน : การสำรวจและแบ่งพ้ืนที่ป่าไม้โดยกำหนดให ้ รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวร เพ่ือดำเนินการสงวนให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติหรือ อุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า และจำแนกพ้ืนที่ป่าไม้ท่ี เสื่อมสภาพเพื่อจดั สรรใหเ้ ปน็ ที่ทำกนิ ของราษฎร หรอื เปน็ ป่าชุมชนใหร้ าษฎร ใชป้ ระโยชน์รว่ มกนั โดยมตคิ ณะรฐั มนตรีเมอ่ื วนั ท่ี 19 เมษายน พ.ศ. 2503 ให้กระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งคณะกรรมการจำแนกประเภทท่ีดินขึ้น ดำเนินการดังกล่าว (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) 134
L land reclamation land consolidation การจัดรูปท่ีดิน : การจัดรูปท่ีดินเพื่อการเกษตรกรรม เป็นการพัฒนาพื้นที่ เกษตรกรรมใหม้ รี ะบบคลู ำนำ้ ครู ะบายนำ้ และทางลำเลียงผลผลติ landform ธรณีสัณฐาน; ภูมิลักษณ์ : แบบรูปหรือลักษณะของเปลือกโลกท่ีมีรูปพรรณ สัณฐานตา่ งๆ กัน เชน่ เป็นภูเขา ท่ีราบสงู ท่รี าบ และอื่นๆ การศึกษาเกีย่ วกับ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ เรยี กวา่ ธรณสี ณั ฐานวทิ ยา (geomorphology) (พจนานกุ รม ศัพท์ภมู ศิ าสตร์ ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) land information system (LIS) ระบบสารสนเทศที่ดิน (แอลไอเอส) : เทคโนโลยีระบบเดียวกับระบบ สารสนเทศภูมิศาสตร์ แต่ข้อมูลหลักท่ีใช้คือ ข้อมูลเก่ียวกับแปลงที่ดิน ซ่ึงนำมา ใช้ในงานเกี่ยวกับการออกโฉนดท่ีดินและงานสาธารณูปโภค (พจนานุกรมศัพท์ ภมู ศิ าสตร์ ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) landmark เคร่ืองหมายเด่นในภูมิประเทศ : วัตถุธรรมชาติหรือส่ิงที่มนุษย์สร้างขึ้นซ่ึง แลเห็นได้เด่นชัดในสภาพแวดล้อมของวัตถุนั้นๆ เช่น ภูเขา แม่น้ำ ประภาคาร ใชป้ ระโยชนใ์ นการเปน็ เครอ่ื งหมายบอกท่ตี งั้ อาณาเขต หรอื ทศิ ทางของสิ่งต่างๆ (พจนานุกรมศัพทภ์ ูมิศาสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) land reclamation การฟื้นสภาพที่ดิน; การแปรสภาพที่ดิน : การปรับปรุงที่ดินซึ่งเส่ือมโทรม รวมทั้งการแปรสภาพพ้ืนที่ท่ีใช้ประโยชน์ไม่ได้ให้สามารถทำการเกษตรกรรม หรือเพือ่ เพ่มิ คุณค่าการใชป้ ระโยชน์ทด่ี นิ ใหม้ ากข้นึ เชน่ การแก้ไขพน้ื ท่ดี นิ เปรย้ี ว ด้วยการส่งน้ำเข้าไปล้างดิน หรือการใช้ปูนใส่ลงไปในดิน การระบายน้ำท่ีขัง ด้วยการจัดระบบการระบายน้ำ การทำพ้ืนดินท่ีอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล หรือ ระดับน้ำในแม่น้ำท่ีใกล้เคียง ให้ใช้เป็นท่ีเพาะปลูกหรือใช้ประโยชน์อย่างอ่ืนได้ (พจนานุกรมศัพทภ์ ูมิศาสตร์ ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) 135
L land reform land reform การปฏิรูปที่ดิน : การเปล่ียนแปลงรูปแบบการถือครองที่ดินท่ีมีอยู่ในพ้ืนที่ใด พ้ืนท่ีหนึ่ง เช่น การนำพ้ืนท่ีดินผืนใหญ่มาจัดแบ่งขายให้แก่เกษตรกรผู้เช่าท่ีดิน หรือยกเลิกประเพณีการให้มรดกท่ีดินแก่ทายาทโดยแบ่งส่วนเท่าๆ กันดังที่เคย ปฏิบัติกันมานานหลายศตวรรษ ทำให้พื้นท่ีดินถูกแบ่งซอยเป็นแปลงเล็กๆ (พจนานุกรมศัพท์ภูมศิ าสตร์ ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) land rotation การหมุนเวียนที่ดิน : ระบบของการจัดการท่ีดินซ่ึงมีการใช้ประโยชน์ท่ีดิน ประมาณ 1 - 3 ปี แลว้ ปลอ่ ยให้ท่ีดนิ พักสกั ระยะหนง่ึ ในชว่ งท่ีดินพกั น้ีจะมีไม้พุม่ หรือปา่ ละเมาะขึ้นปกคลุมพืน้ ทดี่ นิ นั้น เมอื่ หมดระยะเวลาพกั ที่ดินผืนน้นั ก็จะถกู หักร้างถางพง เพ่ือใช้ทำการเกษตรกรรมอีก เป็นวัฏจักรเช่นน้ีเร่ือยไป การ หมุนเวียนที่ดินน้ีเป็นวิธีการทำไร่เลื่อนลอยแบบหน่ึงในเขตร้อน ซึ่งแตกต่างจาก การปลูกพืชหมุนเวียน (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) landscape ภูมิทัศน์; ภูมิภาพ : ลักษณะภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของบริเวณใดบริเวณ หนึ่ง รวมทั้งภูมิประเทศท่ีเกิดขึ้นตามธรรมชาติและที่เกิดขึ้นโดยการกระทำของ มนษุ ย์ (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) landschaft ภูมิทัศน์; ภูมิภาพ : ลักษณะภาพภูมิประเทศโดยท่ัวไปของบริเวณใด บริเวณหน่ึง รวมท้ังภูมิประเทศท่ีเกิดข้ึนตามธรรมชาติและที่เกิดขึ้นโดย การกระทำของมนุษย์ (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) 136
L land use landslide แผ่นดินถล่ม : การเคลื่อนท่ีของแผ่นดินและกระบวนการซึ่งเก่ียวข้องกับ การเคล่ือนท่ีของดินหรือหิน ตามบริเวณพ้ืนท่ีลาดชันท่ีเป็นภูเขาหรือเนินเขา เน่ืองจากแรงดึงดูดของโลก อาจเลื่อนหลุดออกมาเป็นกะบิหรือพังทลายลงมา ก็ได้ ส่ิงท่ีเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินถล่ม มีท้ังท่ีเป็นธรรมชาติและท่ีมนุษย์ กระทำขน้ึ เช่น นำ้ ทสี่ ะสมอยู่ในดิน เนื่องจากฝนตกหนัก น้ำพุ และหมิ ะที่ละลาย การเกิดแผ่นดินไหว การตัดไม้ทำลายป่า การขุดตัดพ้ืนท่ี (พจนานุกรมศัพท์ ภมู ิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2549) landslip แผ่นดินถล่ม : การเคล่ือนที่ของแผ่นดินและกระบวนการซึ่งเกี่ยวข้องกับการ เคล่ือนที่ของดินหรือหิน ตามบริเวณพื้นท่ีลาดชันท่ีเป็นภูเขาหรือเนินเขา เน่ืองจากแรงดึงดูดของโลก อาจเลื่อนหลุดออกมาเป็นกะบิหรือพังทลายลงมา ก็ได้ ส่ิงที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินถล่ม มีทั้งท่ีเป็นธรรมชาติและที่มนุษย์ กระทำขึน้ เช่น น้ำท่ีสะสมอยู่ในดิน เนื่องจากฝนตกหนัก น้ำพุ และหมิ ะทลี่ ะลาย การเกิดแผ่นดินไหว การตัดไม้ทำลายป่า การขุดตัดพื้นที่ (พจนานุกรมศัพท์ ภูมศิ าสตร์ ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน ปี 2549) land use การใช้ท่ีดิน : การใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์ทางด้านการเกษตรและอื่นๆ อาจมี การสำรวจและทำเป็นแผนที่แสดงการใช้ท่ีดินประเภทต่างๆ เช่น ท่ีที่เป็นป่าไม้ เป็นทุ่งหญ้า เป็นท่ีเพาะปลูกพืชต่างๆ เป็นท่ีทำเหมืองแร่ และท่ีที่ใช้เป็น บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ในประเทศไทยหน่วยงานที่ดำเนินงานในเร่ืองนี้โดยตรง คือ กรมพฒั นาท่ีดิน 137
L land use classification land use classification การจำแนกการใช้ทีด่ ิน : การจำแนกประเภทท่ดี นิ อย่างหน่งึ โดยจดั แบง่ ทด่ี นิ ออกแบบกลมุ่ หรือประเภท ตามการใช้ประโยชนใ์ นสภาพปัจจบุ ัน เชน่ ท่ที ำนา ทำไร่ ทำสวนครัว สวนผลไม้ แหล่งอุตสาหกรรม ทอี่ ยอู่ าศัย (พจนานุกรมศพั ท์ ภูมศิ าสตร์ ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2549) land use planning การวางแผนการใช้ท่ีดิน : การวางแผนการใช้ที่ดินในระยะยาวให้เหมาะสม กับการใช้ประโยชน์ทดี่ ินนนั้ ๆ land leveling การปรบั ระดับ : การเคลือ่ นย้ายดนิ ใหไ้ ด้ระดับตามทีต่ อ้ งการ เรยี กอีกอยา่ งว่า grading lateral คลองซอย : คลองที่แยกออกจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ หรือคลองแยก เพื่อรับ น้ำไปส่งให้แก่พ้ืนที่เพาะปลูกโดยตรงหรือส่งให้คลองแยกซอย เรียกอีกอย่างว่า branch canal หรอื lateral canal lateral canal คลองซอย : คลองท่ีแยกออกจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ หรือคลองแยก เพื่อรับ น้ำไปส่งให้แก่พ้ืนที่เพาะปลูกโดยตรง หรือส่งให้คลองแยกซอย หรือเรียกว่า branch canal หรอื lateral lateral flow spillway ทางระบายน้ำล้นด้านข้าง : อาคารทางระบายน้ำล้นที่มีสันฝาย ขนานกับ ทิศทางการไหลของน้ำและให้น้ำไหลลน้ ขา้ มสนั ฝาย ไหลลงสลู่ ำนำ้ ธรรมชาติทาง ดา้ นข้าง เรียกอีกอยา่ งว่า side channel spillway 138
L length of dam laterite ศิลาแลง, แม่รัง : ดินท่ีมีลักษณะเป็นรูพรุนมีสีสนิมเหล็กหรือสีอิฐ ส่วนประกอบทางเคมีคือ ออกไซด์ของเหล็กและหรืออลูมิเนียม มักพบเป็น พืดใหญ่อยู่ใต้หน้าดิน เมื่อถูกชะล้างเอาหน้าดินออกไปจนโผล่ขึ้นมาบนผิวดิน และเกดิ เปือ่ ยย่ยุ กระจายตวั ออกไปกลายเป็น “ดินลกู รงั ” (lateritic soil) ท่นี ยิ ม ใช้ทำถนน latitude เส้นรุ้ง, ละติจูด : ระยะทางเชิงมุมในแนวตั้งที่ทำกับเส้นศูนย์สูตร โดยนับมุม 0 องศาจากเส้นศูนย์สตู รไปทางเหนอื หรอื ทางใตจ้ นถงึ 90 องศาท่ีข้วั โลกทง้ั สอง leaching การชะล้าง : การนำเอาเกลือหรือแร่ธาตุอื่นออกจากดินโดยให้น้ำไหลผ่าน แล้วพาเกลอื หรอื แรธ่ าตอุ อกไปในรูปของสารละลาย leaching requirement ความต้องการน้ำชะล้าง : ปริมาณน้ำท่ีต้องการในการเจือจางความเค็ม ของดินให้อยูใ่ นระดับท่เี หมาะสม leakage การร่ัวไหล : การสูญเสียน้ำจากอาคารชลศาสตร์ท่ีนอกเหนือการควบคุม เช่น มรี อยแตก มรี รู ่วั left main canal คลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย : คลองส่งน้ำชลประทานสายหลักที่แยกออกไป ทางด้านซ้ายของแหล่งนำ้ เม่ือหันหนา้ ไปตามทศิ ทางการไหลของนำ้ length of dam ความยาวเข่ือน : ระยะทางที่วัดตามแนวศูนย์กลางของสันเข่ือน จากฐานยัน ด้านหนึง่ ไปยงั ฐานยนั อีกด้านหนึง่ 139
L length of run length of run ระยะทางน้ำไหล : ระยะทางทนี่ ้ำไหลในแปลงเพาะปลกู ระหวา่ งจุดเร่ิมตน้ กบั leveจeดุ สดุ ทา้ ยท่ีพจิ ารณา 1. คันกั้นน้ำ : คันดินท่ีสร้างยาวไปตามแนวตล่ิงของแม่น้ำเพ่ือป้องกันไม่ให้น้ำ จากแมน่ ้ำไหลบา่ ท่วมพ้นื ทใ่ี กลเ้ คียง 2. สนั ดนิ ริมน้ำ : คนั ดินธรรมชาติท่เี กดิ ขึ้นเพราะแม่น้ำ หรอื ลำธาร พาตะกอน มาตกทับถมริมฝ่ังใน ฤดูน้ำหลาก เมื่อน้ำลด ตะกอนที่ตกทับถมนั้นก็เป็น leve l bคนัoดrนิ dยeาrวขนirาrนiไgปaตาtมioรมิnฝ ง่ั ลำนำ้ ชลประทานแบบปรับระดับดินและน้ำท่วมขัง : การให้น้ำชลประทาน โดยการปรับระดับพ้ืนที่รับน้ำจนเรียบมีคันกั้นโดยรอบ ให้น้ำโดยการปล่อยน้ำ leveเขlา้ oไปfขังsใaนtพuน้ื rทaีแ่ tลi้วoใnห้น ำ้ ค่อยๆ ซึมลงในดิน เรียกอกี อย่างว่า basin irrigation ระดับอิ่มตวั : 1. ระดบั ใดระดบั หนงึ่ ในชั้นบรรยากาศทไ่ี อนำ้ อม่ิ ตัว 2. ระดับน้ำใต้ดิน พ้ืนผิวหรือแนวระดับน้ำใต้ดินท่ีอยู่ระหว่างเขตอิ่มน้ำกับ เขตอ่ิมอากาศ ณ ระดับน้ำใต้ดินน้ีแรงดันน้ำเท่ากับแรงดันของบรรยากาศ lift irr(พiจgนaาtนioุกรnมศaพั rทeภ์ aูม ิศาสตร์ ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน ปี 2549) พ้นื ทช่ี ลประทานสบู น้ำ : พื้นท่ีเพาะปลกู ท่ีมรี ะดบั สงู กว่าระดบั แหลง่ นำ้ ต้นทุน ทำให้ไม่สามารถส่งน้ำโดยใช้แรงโน้มถ่วงตามปกติได้ จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำหรือ อุปกรณ์อืน่ ๆ ยกระดบั นำ้ ขนึ้ ตามความตอ้ งการเพ่อื สง่ ไปให้กับพืน้ ทน่ี น้ั เรียกอีก lineอdยา่ cงaวา่ npaulm p irrigation area คลองดาด : คลองส่งน้ำท่ีดาดผิวด้วยวัสดุใดๆ เพื่อป้องกันการรั่วซึม หรือ กัดเซาะ 140
L longitude lining การดาด : การปูลาดผิวทางน้ำ หรือแหล่งเก็บน้ำด้วยวัสดุท่ีทนต่อการกัดเซาะ และรับแรงดันไดด้ ี เชน่ คอนกรตี แอสฟัลต์ หรือโพลเี อสเตอร์ เพือ่ ป้องกันการ ร่ัวซึม หรือการกดั เซาะ หรอื เพือ่ ลดแรงเสียดทานในทางนำ้ liquid limit ขีดจำกดั เหลว : ปริมาณนำ้ ในดินท่จี ุดซง่ึ ดินเรมิ่ เปลี่ยนสภาพจากของเหลวเป็น สภาพเหนียว (พลาสติก) ปั้นเปน็ รูปต่างๆ ได้ โดยคดิ เป็นปริมาณร้อยละของน้ำ ในดิน เปน็ ข้อกำหนดหนึ่งใน Atterberg’s limits loam ดนิ รว่ น : ดนิ ทปี่ ระกอบด้วยเนอ้ื ดินเหนียว 8-27% ทราย 23-52% นอกนน้ั เปน็ เนือ้ ดนิ ตะกอน loamy sand ดินปนทราย : ดินที่ประกอบด้วยทราย 70-85% เน้ือดินเหนียว 0-15% นอกนัน้ เปน็ เน้ือดนิ ตะกอน logging การหย่ังธรณี : (1) กระบวนการบนั ทึกขอ้ มูลที่ได้จากหลมุ เจาะ (2) วิธีหรือเทคนิคการบันทึกหรือแบ่งแยกหิน ชั้นหินหรือชุดหินที่อยู่ใต้ดิน ไปตามความลึก โดยอาศัยการวัดหรือการสังเกตหินในหลุมเจาะนั้น มีความหมายเหมือนกับ well logging (พจนานุกรมศัพท์ธรณีวิทยา ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ปี 2544) longitude เส้นแวง, ลองจิจูด : ระยะทางเชิงมุมในแนวราบท่ีทำกับเส้นเมริเดียนกรีนิช (เสน้ เมรเิ ดยี นทผ่ี า่ นตำบลกรนี ชิ ในประเทศองั กฤษ) โดยนบั 0 องศาจากเมรเิ ดยี น กรีนิชจนถงึ 180 องศาไปทางตะวนั ออกหรือตะวนั ตกของเมริเดียนกรีนิช 141
L long throated flume long throated flume รางน้ำคอยาว : อาคารหรือเครื่องมือวัดปริมาณน้ำชนิดหนึ่ง ได้รับการพัฒนา มาจากฝายสันกว้าง lower rule curve กราฟจัดการน้ำเส้นล่าง : เส้นแสดงเกณฑ์ต่ำสุดของกราฟจัดการน้ำ ใช้บรหิ ารจดั การนำ้ เพือ่ หลีกเลี่ยงสภาพน้ำแหง้ อ่าง lugeon ลยู อง : หนว่ ยวดั อตั ราการรว่ั ซมึ ผา่ นหนิ 1 ลยู องเทา่ กบั 1.3 × 10-5 เซนตเิ มตร ต่อวนิ าที แตส่ ่วนใหญ่ใช้ 1 ลูยองเท่ากบั 1 × 10-5 เซนติเมตรตอ่ วนิ าที lysimeter ถังวัดการใช้น้ำของพืช : ถังวัดการใช้น้ำของพืช ใช้สำหรับปลูกพืชท่ีต้องการ วัดค่าการใช้น้ำ โดยการติดต้ังอยู่ในแปลงเพาะปลูกท่ามกลางพื้นท่ีที่ปลูกพืช ชนิดเดียวกันโดยให้มีสภาพภายในและภายนอกถังคล้ายคลึงกับสภาพเพาะปลูก จรงิ ตามธรรมชาติ ถังดงั กลา่ วจะมีอปุ กรณ์ตรวจวดั ปริมาณน้ำที่เกินความตอ้ งการ ใช้ของพืชและระบายออกจากถังสำหรับนำไปคำนวณหาการใช้น้ำในช่วงเวลา ต่างๆ 142
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310