Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โลกกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โลกกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Published by supada khunnarong, 2021-07-21 07:59:49

Description: ตำราประกอบการเรียนวิชาพื้นฐาน หมวดการศีกษาทั่วไป มรภ.เพชรบุรี

Search

Read the Text Version

185 2561) นอกจำกอุตสำหกรรมอำหำรแล้ว ประเทศไทยยังมีอุตสำหกรรมที่เกยี่ วเน่ืองกับกำรเกษตรอีก หลำยประเภทที่มีควำมพร้อมจะพัฒนำเพ่ือสร้ำงกำรเติบโต รำยได้ และศักยภำพในกำรแข่งขัน สูง เช่น อุตสำหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสำหกรรมไม้และเคร่ืองเรือน อุตสำหกรรมยำ อุตสำหกรรมเคร่ืองหนังและผลิตภัณฑ์ยำง เป็นต้น ท้ังน้ีต้องเพ่ิมประสิทธิภำพกำรใช้ปัจจัยกำรผลิต โดยกำรวิจัยและพัฒนำ มีกำรใช้เทคโนโลยีข้ันสูงในกระบวนกำรผลิตอำหำรและเทคโนโลยีด้ ำน อำหำร เช่น กำรเพ่ิมมำตรฐำนกำรตรวจสอบย้อนกลับด้ำนควำมปลอดภัยอำหำร ผลิตภัณฑ์อำหำร แปรรูปที่ใช้โปรตีนทำงเลือก เช่น โปรตีนเกษตรเพ่ือสร้ำงมูลค่ำเพิ่มให้กับสินค้ำเกษตร แต่อย่ำงไรก็ ตำมด้วยปัจจัยหลำยอย่ำงในปัจจุบันทำให้อุตสำหกรรมเกษตรต้องมีกำรเปล่ียนแปลงไปตำมปั จจัย แวดลอ้ มซึ่งปัจจัยดังกลำ่ วน้นั ไดแ้ ก่ (1) กระแสโลกำภวิ ัตน์ ยุคโลกำภิวตั น์ทำให้ทุกพื้นท่ีบนโลกคือ แหล่งวัตถดุ บิ แหล่งผลิต มีคู่แข่งเกิดข้ึนทำให้ตลำดขยำยใหญ่ขึ้น กำรหำแหล่งวัตถุดิบและกำรเป็นแหล่งผลิต สำมำรถเกิดข้ึนได้ท่ัวโลก ทำให้มีโอกำสทำงธุรกิจอุตสำหกรรมเกษตรเกิดข้ึนได้อย่ำงอิสระ รวมทั้ง ผู้บริโภคเองก็สำมำรถเข้ำถึงสินค้ำอุตสำหกรรมได้อย่ำงง่ำยดำยเช่นกันโดยผ่ำนระบบกำรส่ังซ้ือ ออนไลน์มำกขึน้ ดังนัน้ ขอ้ มูลสนิ คำ้ ออนไลน์จงึ มคี วำมสำคัญต่อกำรซื้อขำยและอนำคตตลำดออนไลน์ ของอตุ สำหกรรมเกษตรโดยเฉพำะอำหำรจะเปน็ ตลำดขนำดใหญ่ที่สดุ ในโลก (2) อุปสงค์อำหำรของโลก ควำมต้องกำรอำหำรของโลกจะเพ่ิมขึ้นอัน เนอ่ื งมำจำกประชำชนมีรำยไดเ้ พ่มิ สงู ข้นึ มกี ำลังซอ้ื สงู ขนึ้ และต้องกำรอำหำรที่มีคุณภำพ อีกส่วนหนึ่ง มำจำกกำรท่ีประชำกรมีจำนวนสูงข้ึนอันเนื่องจำกอัตรำกำรเสียชีวิตเม่ือแรกเกิดลดลง โดยภำพรวม แล้วอตุ สำหกรรมอำหำรมคี วำมต้องกำรบริโภคสงู กวำ่ อุตสำหกรรมอ่ืน ๆ และจำกกำรวิเครำะห์มูลค่ำ ผลผลิตรวมของอุตสำหกรรมเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องพบว่ำ อุตสำหกรรมอำหำรยังทำให้เกิดกำรผลิตรวม ในทกุ สำขำท่ีเกย่ี วข้องสูงทีส่ ุดโดยเปน็ กำรกระตุน้ จำกอุปสงคภ์ ำยในประเทศและกำรส่งออกเนื่องจำก ควำมเชอ่ื มโยงสูงกับสำขำกำรเกษตร (สุเนตรำ เลก็ อทุ ัย, 2010) สินคำ้ ทำงกำรเกษตรของประเทศไทย ยงั คงเปน็ สินคำ้ ออกที่มีควำมสำคญั และเติบโตมำอยำ่ งต่อเน่ือง โดยเฉพำะพนั ธุ์พชื ท่ีมีชอ่ื เสยี งและเป็น ท่ีต้องกำร เช่น ข้ำวหอมมะลิท่ีเป็นท่ีต้องกำรและกำรยอมรับระดับโลก นอกจำกน้ียังมีสินค้ำเกษตร ของไทยอีกหลำยรำยกำรที่มีคุณภำพ ได้แก่ ยำงพำรำ เน้ือสัตว์แปรรูป ผลไม้ต่ำง ๆ เป็นต้น รวมทั้ง ยังมีสินค้ำแปรรูปท่ีได้มีกำรส่งออก ได้แก่ สมุนไพรแปรรูปชนิดต่ำง ๆ เช่น ยำหอม ฟ้ำทะลำยโจร ขม้ินชันผง กระชำยผง ที่ส่งออกไปทั่วโลกทั้งอังกฤษ เยอรมัน ยูเครน โรมำเนีย ฝร่ังเศส มำเลเซีย อินโดนีเซีย และบรำซิล เป็นต้น (พีระ เจริญพร, 2009) นอกจำกนี้กำรเพิ่มขึ้นของประชำกรโลกและ กำรเข้ำสู่ควำมเป็นเมือง เม่ือปี ค.ศ. 2017 ประชำกรโลกมีประมำณ 7.6 พันล้ำนคน องค์กำร สหประชำชำติคำดกำรณ์ว่ำจะเพ่ิมข้ึนเป็น 9-10 พันล้ำนคนในปี ค.ศ. 2050 และ 11.2 พันล้ำนคนใน ปี ค.ศ. 2100 กำรเพ่ิมข้ึนของประชำกรหมำยถึง กำรเพ่ิมขึ้นของอุปสงค์ควำมต้องกำรของอำหำร ซึ่ง องค์กำรอำหำรและเกษตรหรือ Food and Agriculture Organization (FAO) คำดกำรณ์ว่ำมีควำม ต้องกำรผลิตอำหำรเพ่ิมขึ้นจำกปัจจุบนั ถึง 70% เพ่ือรองรับกำรเพ่ิมขึ้นของประชำกรจำนวนมหำศำล (ธรำธร รตั นนฤมติ ศรและประกำย ธรี ะวัฒนำกลุ , 2562) 4) กำรเกษตรและเทคโนโลยชี ีวภำพ (Agriculture and Biotechnology) 5) อตุ สำหกรรมกำรแปรรปู อำหำร (Food for the Future)

186 (3) พฤติกรรมผู้บริโภค พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปล่ียนไปตำมยุคสมัย ผู้ผลิตทั้งในฐำนะเกษตรกรผู้ผลิตวัตถุดิบ หรือเป็นผู้ผลิตผลผลิตทำงกำรเกษตรจำเป็นจะต้องทรำบ ขอ้ มลู ควำมต้องกำรของผูบ้ ริโภคดว้ ย อีกทงั้ ยงั ตอ้ งสำมำรถคำดกำรณก์ ำลังซื้อของผู้บรโิ ภคได้ด้วยว่ำมี กำลงั ซือ้ มำกเพยี งใด ถำ้ ผลิตแลว้ ผู้บรโิ ภคไม่มีกำลงั ซ้ือสนิ ค้ำก็ขำยไมไ่ ด้ ในอนำคตผบู้ รโิ ภคจะมคี วำม ตอ้ งกำรผลิตภัณฑ์ทมี่ ีคณุ ภำพและมีควำมปลอดภัยสูง เช่น ในสหรัฐอเมริกำ ชำวอเมริกนั มคี วำมสนใจ ด้ำนสุขภำพมำกขึ้น เม่ือปี พ.ศ. 2560 สถำบันทรัพย์สินทำงปัญญำแห่งจฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลัย ได้ รำยงำนว่ำผู้บริโภคจะให้ควำมนิยมอำหำรเพื่อสุขภำพในรูปแบบเฉพำะเจำะจงมำกขึ้น เช่น ผ่ำน กระบวนกำรแปรรูปน้อย ลดโปรตีนจำกเนื้อสัตว์บริโภคโปรตีนจำกพืชมำกขึ้น ลดไขมันในอำหำร รวมท้ังมีควำมรู้มำกข้ึน มีอำหำรเฉพำะกลุ่มเป้ำหมำยอย่ำงชัดเจนมำกข้ึนทั้งนักกีฬำ ผู้ต้องกำรลด น้ำหนัก ผู้สูงอำยุ ผู้ป่วย นอกจำกนี้แล้วทุกกลุ่มอำยุยังให้ควำมสำคัญกับอำหำรเพ่ือสุขภำพเพ่ือลด ค่ำใช้จ่ำยด้ำนสำธำรณสุขในอนำคต โดยยูโรมอนิเตอร์ (อ้ำงถึงในสถำบันทรัพย์สินทำงปัญญำแห่ง จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย, 2560) สำรวจพบว่ำ มูลค่ำตลำดอำหำรและเครื่องด่ืมเพื่อสุขภำพของโลก มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 7 ต่อปี มูลค่ำตลำดจะสูงถึง 1 ล้ำนล้ำนเหรียญสหรฐั ฯ โดยมูลค่ำตลำด อำหำรสุขภำพของไทยอยู่อันดับ 19 ของโลก ตลำดอำหำรเพ่ือสุขภำพ5 (Functional Food) มี สว่ นแบ่งทำงกำรตลำดมำกทส่ี ดุ ถึงร้อยละ 60 (4) กำรเปล่ียนแปลงสภำพภูมิอำกำศ (Climate Change) จำกสำเหตุของ กำรเปล่ียนแปสงสภำพภูมิอำกำศทำให้ภำคเกษตรกรรมได้รับผลกระทบจำกเหตุกำรณ์ดังกล่ำวอย่ำง หลีกเลี่ยงไม่ได้รวมถึงกระทบไปยังภำคเศรษฐกิจอ่ืน ๆ อีกด้วย ตัวอย่ำงผลกระทบจำกกำร เปล่ียนแปลงสภำพภูมิอำกำศต่อกำรผลิตภำคกำรเกษตรท้ังพืชและสัตว์ ได้แก่ ข้ำวนำปีเส่ียงต่อฝน ต้นฤดู ข้ำวนำปรังเส่ียงต่อฝนปลำยฤดู หัวมันสำปะหลังเน่ำเพรำะได้รับปริมำณน้ำฝนมำกเกินไป อ้อยสำหรับส่งโรงงำนเพ่ือผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปเสี่ยงต่อกำรขำดแคลนน้ำ หรือแม้กระทั่งโรคแมลง เพ่ิมขึ้นจำกกำรที่อุณหภูมิสูงขึ้น ในกรณีของปศุสัตว์ เช่น กำรเล้ียงสุกรในภำวะที่อุณหภูมิสูงจะส่งผล ต่อควำมเครียด จำนวนลกู และกำรหย่ำนม ระบบกำรสืบพนั ธ์แุ ละลดอตั รำกำรรอดชีวิตของตัวอ่อนโค ส่วนไก่จะมีกำรติดเช้ือง่ำยขึ้นในที่ท่ีมีอุณหภูมิสูง เป็นต้น (รำตรี เม่นประเสริฐ, มปป.) เม่ือเป็นดังนี้ ย่อมมีผลกระทบต่อไปยังอุตสำหกรรมเกษตร ถึงแม้ว่ำรำคำผลผลิตทำงกำรเกษตรจะเพ่ิมสูงขึ้นใน ตลำดโลกแต่เกษตรกรจำเป็นต้องปรับตัวและหำวธิ ีกำรในกำรลดปญั หำดังกล่ำวและอีกประเดน็ หน่ึงที่ น่ำสนใจคือ กำรค้ำระหว่ำงประเทศของผลิตภัณฑ์ทำงกำรเกษตรท่ีเก่ียวข้องกับประเด็นภำวะโลก ร้อนคือ ควำมต้องกำรของผู้บริโภคที่จะช่วยลดโลกร้อนด้วยกำรหันมำบริโภคสินค้ำท่ีมีฉลำกคำร์บอน หรือผลิตภัณฑ์ทำงกำรเกษตรท่ีมีกระบวนกำรผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในอีกด้ำนหน่ึง ภำค เกษตรกรรมเองก็เป็นภำคท่ีมีส่วนสำคัญต่อกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจกด้วยเช่นกัน โดยเฉพำะกำร ปลดปล่อยก๊ำซมีเทนและไนตรสั ออกไซดซ์ ึ่งจะมีผลต่อกำรเปลีย่ นแปลงสภำพภมู ิอำกำศ ในช่วง 50 ปี ท่ีผ่ำนมำภำคเกษตรได้ปล่อยก๊ำซเรือนกระจกเพ่ิมขึ้นถึง 2 เท่ำ จำกสภำวะก๊ำซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ภำคเกษตรกรรมได้รับผลกระทบจำกกำรเปลี่ยนแปลงสภำพภูมิอำกำศอย่ำงมีนัยสำคัญท้ัง 5 อำหำรเพ่ือสุขภำพ (Functional Food) คือ อำหำรท่ีมีสำรอ่ืนที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภำพ นอกเหนือจำกมีสำรอำหำรท่ีมีคุณค่ำทำง โภชนำกำร ช่วยปอ้ งกนั โรคและรักษำโรคได้ เชน่ สำรในกระเทยี มช่วยลดปรมิ ำณคลอเรสเตอรอลในเลอื ดและเพมิ่ ระบบภูมคิ ้มุ กนั สำร บำงชนิดชว่ ยป้องกนั กำรเกดิ โรคมะเรง็ โรคอว้ น โรคเบำหวำน เป็นตน้

187 จำกคุณภำพน้ำใต้ดินและคุณภำพดินท่ีเส่ือมสภำพลง นอกจำกนี้ยังต้องประสบกับภัยธรรมชำติ เช่น ภัยแล้งและน้ำท่วมที่มีควำมรุนแรงและควำมถี่เพ่ิมขึ้นท่ีส่งผลต่อกำรลดลงของปริมำณและคุณภำพ ของผลผลิตทำงกำรเกษตรอีกด้วย (ธรำธร รัตนนฤมติ ศรและประกำย ธีระวฒั นำกลุ , 2562) (5) มำตรกำรด้ำนส่ิงแวดล้อม กำรทำกำรค้ำระหว่ำงประเทศมีกำรกำหนด มำตรกำรท่ีเกี่ยวกับส่ิงแวดล้อม โดยเฉพำะในสหภำพยุโรป สหรัฐอเมริกำ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซ่ึง เป็นประเทศผู้นำเข้ำบงั คับใช้ฝำ่ ยเดยี ว ตัวอยำ่ งของมำตรกำร เช่น มำตรกำรควบคมุ คุณภำพกำรผลิต ในโรงงำน กำหนดให้มีมำตรฐำนกระบวนกำรควบคุมตรวจสอบ กำรกำหนดให้ติดฉลำกที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม เช่น HACCP GMP GAP6 ซึ่งกรณีมำตรฐำน HACCP เป็นมำตรฐำนที่สหภำพยุโรป ให้ไทยรับรองเพื่อยกระดับควำมปลอดภัยของอำหำร ท้ังนี้กรมวิชำกำรเกษตรได้ช้ีแจงว่ำ สหภำพ ยุโรปขอควำมร่วมมือมำยังประเทศไทยให้จัดทำระบบประกันคุณภำพควำมปลอดภัยของอำหำร HACCP เพื่อควบคุมกำรผลิตและบรรจุภัณฑ์สินค้ำประเภทผักสด และผลไม้สดที่ส่งออกเพ่ือช่วย แก้ปัญหำกำรปนเป้ือนของเชื้อจุลินทรีย์ สำรตกค้ำงและแมลงศัตรูพืช รวมทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภำพ กำรส่งออกสินค้ำของไทยให้เปน็ ไปตำมควำมต้องกำรของประเทศคู่ค้ำซ่ึงมำตรฐำนน้ีไม่ได้มีกำรบังคบั ใช้ในประเทศไทย ดังน้ันผู้ประกอบกำรไทยจะต้องเป็นผู้รับภำระค่ำใช้จ่ำยในกำรดำเนินกำรตำม มำตรฐำน โดยมำตรกำรสิ่งแวดล้อมที่เก่ียวข้องกับผลิตภัณฑ์อำหำรกับคู่ค้ำ 4 ประเทศข้ำงต้นแบ่ง ออกเป็น 3 กลุม่ ดงั น้ี (นริ มล สธุ รรมกิจ, 2008) (ก) มำตรกำรด้ำนสงิ่ แวดลอ้ มที่มีวตั ถุประสงค์เพ่ือปกปอ้ งคุ้มครอง ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมของประเทศผู้นำเข้ำ ตัวอย่ำงจำกสหภำพยุโรปท่ีมีมำตรกำร ควบคุมสุขอนำมัยพืชด้วยกำรกำหนดให้กำรนำเข้ำพืชและผลิตภัณฑ์ต้องมีใบรับรองปลอดศัตรูพืช เช่น กำรนำเข้ำดอกกล้วยไม้จำกประเทศไทยต้องปรำศจำกเพลี้ยไฟและมีใบรับรองปลอดศัตรูพืชเพื่อ ป้องกนั กำรแพร่กระจำยเพลย้ี ไฟ (ข) มำตรกำรด้ำนสุขภำพอนำมัยท่ีมีวัตถุประสงค์ปกป้องคุ้มครอง สุขภำพอนำมัยของผู้บริโภคในประเทศผู้นำเข้ำและอำจรวมถึงสขุ ภำพอนำมัยของผู้ใชแ้ รงงำนของพืช และสัตว์ที่เล้ียงเพ่ือเป็นอำหำรของมนุษย์ ตัวอย่ำงจำกสหรัฐอเมริกำที่กำหนดใหก้ ำรส่งผักผลไม้บรรจุ กระปอ๋ งต้องเป็นไปตำมระบบ HACCP มีหนังสือรบั รองคุณภำพและมำตรฐำนจำกประเทศผผู้ ลิตและ อนุญำตให้มีสำร Dimethy Polysilixane ได้ไม่เกิน 10 ppm สำหรับกุ้งสดแช่เย็น กุ้งแช่แข็ง และ กุ้งกระป๋อง กำหนดให้มีกระบวนกำรผลิตตำมระบบ HACCP ห้ำมใช้สำร Chloramphenicol ผสม อำหำรสัตว์ อนุญำตให้เจือปนไดไ้ มเ่ กิน 0.3 ppb เชน่ เดยี วกบั ปลำทนู ่ำกระปอ๋ งและมีสำรไนโตรฟูแรน 6 HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) คือ มำตรฐำนกำรผลิตที่มีมำตรกำรป้องกันอันตรำยท่ีผู้บริโภคอำจ ได้รบั จำกกำรบรโิ ภคอำหำรโดยเปน็ กำรวิเครำะห์อันตรำย จดุ ควบคุมวิกฤต เป็นแนวคดิ เกยี่ วกบั มำตรกำรปอ้ งกันอนั ตรำยท่ีอำจเกิดข้ึน ในแต่ละข้ันตอนของกำรดำเนินกิจกรรมใด ๆ โดยมีกระบวนกำรดำเนินงำนเชิงวิทยำศำสตร์ซ่ึงมีกำรศึกษำถึงอันตรำยและหำวิธีกำร ปอ้ งกนั ไวล้ ว่ งหน้ำรวมทั้งมีกำรควบคมุ และเฝ้ำระวังเพื่อใหแ้ นใ่ จวำ่ มำตรกำรปอ้ งกันท่กี ำหนดขึ้นน้นั มีประสทิ ธภิ ำพตลอดเวลำ GMP (Good Manufacturing Practice) หมำยถึง หลกั เกณฑ์และวิธกี ำรทด่ี ีในกำรผลิตอำหำรจัดทำข้นึ โดยหน่วยงำนมำตรฐำนอำหำร ระหว่ำงประเทศหรอื โคเดก็ ซ์ (CODEX) ให้สมำชิกท่วั โลกใช้เปน็ แนวทำงในกำรปฏบิ ตั เิ พ่อื ควำมปลอดภัยของผบู้ ริโภค GAP (Good Agricultural Practice) คอื ระบบกำรผลติ ทีถ่ ูกตอ้ งในฟำร์มโดยพจิ ำรณำตั้งแต่พน้ื ท่กี ำรปลกู กำรดูแลรักษำ กำรเก็บเกย่ี ว และกำรจดั กำรหลังเก็บเก่ยี วเพ่อื ใหไ้ ด้ผลผลิตท่มี คี ุณภำพ มีลกั ษณะตรงตำมควำมตอ้ งกำรและมีควำมปลอดภัยต่อกำรบริโภค

188 ได้ไม่เกิน 1 ppb และต้องไม่พบเช้ือซำลโมเนลลำ (Salmonella) ซ่ึงเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำใหอ้ ำหำร เป็นพิษ (ค) มำตรกำรด้ำนสิ่งแวดล้อมและสุขอนำมัยที่มีแนวโน้มว่ำจะ ปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตภำยในประเทศ กล่ำวคือ กำรกำหนดกระบวนกำรผลิตที่ต้องมีกำรรับรองหรือ กำรสุ่มตรวจที่เข้มข้น เป็นกำรคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้เผชิญกับปัญหำกำรติดต่อของเชื้อโรคที่อำจ ปะปนมำกับอำหำรที่ปนเป้ือนมำจำกผลิตภัณฑ์สัตว์และผลไม้ กำรกำหนดกระบวนกำรผลิตท่ี เฉพำะเจำะจงในบำงกรณีก็เป็นกำรควบคุมท่ีเข้มงวดเกินไป ตลอดจนกำรสุ่มตรวจสินค้ำท่ีด่ำนขนสง่ สินค้ำยังเป็นกำรเพิ่มต้นทุนให้แก่ผู้ส่งออก แต่กำรสุ่มตรวจนี้เป็นกำรเลือกปฏิบัติกับผู้นำเข้ำหรือผู้ ส่งออกแต่ผู้ประกอบกำรภำยในประเทศอำจจะไม่ได้รับกำรตรวจสอบอย่ำงเข้มข้นแบบนั้นและกำร พิจำรณำว่ำมำตรกำรใดเป็นมำตรกำรที่มีแนวโน้มจะคุ้มครองผู้ผลิตภำยในประเทศขึ้นอยู่กับกำร พิจำรณำของประเทศผู้ส่งออกเอง ตัวอย่ำงเช่น กรณีกุ้งและผลิตภัณฑ์กุ้งท่ีส่งออกไปยังประเทศ ออสเตรเลียต้องมีใบรับรองสุขอนำมัย (Health certificate) จำกกรมประมง ต้องปลอดโรคสัตว์น้ำ7 และตรวจสอบขนำดกุ้งต้องมจี ำนวนไม่เกิน 66 ตัวตอ่ กิโลกรมั หรือ 29 ตวั ตอ่ ปอนด์ หำกพบเชอื้ ไวรัส จะถูกส่งกลับหรือทำลำยสินค้ำ และผลิตภัณฑ์ต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ท่ีสะดวกต่อกำรตรวจด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นจะถูกส่งกลับหรือทำลำยสินค้ำ สินค้ำท่ีเป็นกุ้งไม่ปรุงสุกต้องเด็ดหัวและแกะเปลือกพร้อมมี ใบรับรองจำกกรมประมง โดยระบุว่ำ สินค้ำมำจำกประเทศหรือพ้ืนที่เพำะเลี้ยงที่ปลอดโรคจำกเชื้อ ไวรสั และผ่ำนกำรสมุ่ ตรวจท่ีมีคำ่ ควำมเชื่อม่นั ร้อยละ 95 นอกจำกนีบ้ รรจุภัณฑ์ยงั ต้องระบุว่ำเพื่อกำร บริโภคเท่ำนั้น ห้ำมใช้เป็นเหย่ือหรืออำหำรสำหรับสัตว์น้ำ (for human consumption only - not to be used as bait or feed for aquatic animals) สว่ นกงุ้ ปรงุ สุกตอ้ งมีใบรบั รองจำกกรมประมง ว่ำผ่ำนกำรปรุงสุกในโรงงำนท่ีได้รับกำรรับรองและควบคุมจำกกรมประมงที่อุณหภูมิกึ่งกลำงอย่ำง น้อย 70 องศำเซลเซียสเป็นเวลำอย่ำงน้อย 11 นำที โดยกุ้งต้องผ่ำนควำมร้อนจนเน้ือสุกท่ัวและไม่มี ลักษณะเนื้อดิบปนอยู่และเหมำะแก่กำรบริโภคเท่ำน้ันซึ่งมำตรกำรที่เข้มงวดนี้ได้ก่อให้เกิดควำม ขัดแย้งระหว่ำงเกษตรกรและผู้นำเข้ำภำยในประเทศผนู้ ำเข้ำเอง ในปัจจุบัน มำตรกำร (ก) และ (ข) ได้ถูกกำหนดหรือบังคับใช้เข้ำด้วยกันซึ่งเป็น กฎระเบียบของผู้นำเข้ำ ยกตัวอย่ำงกรณีของมำตรฐำน EUREP GAP ท่ีกำหนดให้ผลผลิตทำงด้ำน เกษตรทุกชนิดต้องสำมำรถตรวจสอบย้อนกลับได้8 (Traceability) ผักและผลไม้สดต้องมีใบรับรอง ปลอดศัตรูพืชและต้องไม่มีสำรตกค้ำงของสำรเคมีบำงประเภทเกินกว่ำท่ีกำหนด วัสดุที่สัมผัสอำหำร ต้องมีควำมปลอดภัยต่อผู้บริโภคและต้องสำมำรถตรวจสอบย้อนกลับได้เช่นเดียวกัน ส่วนมำตรกำร 7 โรคสตั ว์นำ้ ทีถ่ ูกระบไุ วม้ ีดงั นี้ ตวั แดงดวงขำว (White spot disease virus : WSSV) ไวรสั หัวเหลอื ง (Yellow-head virus : YHV) ทอรำ่ ซนิ โดรม (Taura syndrome virus : TSV) 8 ระบบตรวจสอบยอ้ นกลบั (Traceability system) หมำยถงึ ระบบตดิ ตำมกำรเดินทำงของอำหำรตลอดท้ังวงจรนับตั้งแต่วัตถุดบิ กำร ผลติ กำรแปรรูป กำรขนสง่ กำรกระจำยสินค้ำไปจนกระท่ังอำหำรถึงมือผู้บริโภค โดยแต่ละขัน้ ตอนตอ้ งเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู กำรผลิตของ ตัวสินคำ้ ไวเ้ พอ่ื อำนวยควำมสะดวกในกำรเรียกตรวจสอบขอ้ มูลยอ้ นกลับและเพื่อให้กำรติดตำมแหลง่ ทมี่ ำของสนิ ค้ำทำไดเ้ ร็วขนึ้

189 เกย่ี วกบั บรรจุภัณฑ์ท่ีเกี่ยวกบั บรรจุภัณฑ์ทุกชนิดต้องมีกำรจัดกำรขยะบรรจุภัณฑ์ กำรปอ้ งกนั กำรนำ กลับมำใช้ใหม่ กำรได้คืนใหม่ กำรหมุนเวียนใช้ใหม่ กำรได้พลังงำนคืนมำ กำรรีไซเคิลทำงอินทรีย์ กำรทิ้ง รวมทงั้ กำรกำหนดปริมำณโลหะหนกั ในบรรจภุ ัณฑแ์ ละสว่ นประกอบของบรรจภุ ณั ฑ์ นอกจำกน้ศี นู ย์วิจัยกสิกรไทย (2562) ไดก้ ลำ่ วว่ำ จำกแนวโน้มของผบู้ ริโภคในปัจจุบัน ที่หันมำให้ควำมสำคัญกับกำรรักษำสุขภำพ ควำมปลอดภัยของอำหำร รวมถึงกำรคำนึงถึงผลกระทบ ของกำรบรโิ ภคต่อสังคมและสิ่งแวดลอ้ มซึง่ แสดงถงึ กำรปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมของผู้บริโภคในกำรเลือก ซื้อสินค้ำท่ีให้ควำมสำคัญกับข้อมูลของสินค้ำมำกขึ้น ทำให้ผู้ผลิตและผู้เล่นในห่วงโซ่แต่ละช่วงต้อง ปรับตัวเพ่ือแสดงข้อมูลกำรผลิตตำมหลักกำรห่วงโซ่ควำมรับผิดชอบ (Responsible supply chain) ระบบกำรตรวจสอบย้อนกลับและติดตำมพืชผล (Traceability) เป็นระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลกำรผลิต ในแต่ละช่วงของห่วงโซ่ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลำยน้ำ เพ่ือให้สำมำรถตรวจสอบข้อมูลสินค้ำได้ตลอด กระบวนกำร ศูนย์วิจัยกสกิ รไทยไดค้ ำดกำรณว์ ่ำในระยะ 10 ปีข้ำงหนำ้ ระบบตรวจสอบยอ้ นกลับจะ มีบทบำทในกำรสร้ำงควำมน่ำเชื่อถือและช่วยขยำยโอกำสทำงกำรตลำดสินค้ำออร์แกนิกของไทย ท้ัง ในประเทศและต่ำงประเทศซ่ึงคำดว่ำมูลค่ำกำรผลิตสินค้ำออร์แกนิกของไทยในช่วงปี พ.ศ. 2563- 2567 จะเตบิ โตเฉล่ีย 6.5 % (CAGR) และจะเรง่ ขนึ้ ในชว่ งปี พ.ศ. 2568-2572 ใหเ้ ติบโตเฉลย่ี ที่ 8.7% (CAGR) จำกกำรผลิตเชิงพำณิชย์ในวงกว้ำง โอกำสในกำรขยำยตลำดส่งออกจะเน้นสินค้ำผักและ ผลไม้เขตร้อนที่เป็น Super foods และสินค้ำเกษตรแปรรูปขั้นกลำงถึงข้ันสูงในรูปแบบ Free form ที่ปรำศจำกสำรปรุงแต่งซ่ึงกลุ่มธุรกิจกำรเกษตรรำยใหญ่โดยเฉพำะธุรกิจเกษตรพันธสัญญำ และ เกษตรกรรนุ่ ใหม่เป็นผูเ้ ลน่ หลักในกำรขยำยตลำดสง่ ออก ในขณะทโี่ อกำสกำรขยำยตลำดในประเทศ จะมุ่งเน้นท่ีกลุ่มผักสดออร์แกนิก ซ่ึงสอดคล้องกับกำรขยำยตัวของธุรกิจร้ำนอำหำรสุขภำพ ธุรกิจ บริกำรร้ำนอำหำร และธุรกิจค้ำปลีกที่เน้นกำรคัดสรรวัตถุดิบที่จะเป็นผู้เล่นสำคัญในกำรขับเคล่ือน ตลำดในประเทศ (6) ควำมก้ำวหน้ำของวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ซ่ึงมีควำมสำคัญอย่ำงยิ่ง ในกำรสนับสนุนกำรประกอบกำรด้ำนกำรเกษตร ท้ังในส่วนที่เกี่ยวกับกำรเกษตรโดยตรง เช่น เทคโนโลยีชีวภำพ นำโนเทคโนโลยี วิศวกรรมเกษตรสมัยใหม่ หรือกำรใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมัยใน ชีวิตประจำวัน เช่น เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สำรสนเทศ อินเทอร์เน็ต ออนไลน์ เทคโนโลยีอวกำศ และภูมิสำรสนเทศ (วิวัฒน์ ไม้แกน่ สำร, 2557) ปัจจบุ นั มเี ทคโนโลยแี ละนวัตกรรมด้ำนอำหำรเกิดข้ึน และกำลังพัฒนำอยู่มำกมำย ไม่ว่ำจะเป็นกำรปลูกเนื้อสัตว์เป็นอำหำร (Cultured meat) กำรทำ ฟำรม์ ทท่ี ะเลทรำย (Desert farming) กำรทำฟำรม์ ท่ที ะเล (Seawater farming) กำรทำฟำร์มเกษตร แนวต้ัง (Vertical farming) กำรใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติผลิตอำหำร กำรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โดรน อินเทอร์เน็ตในทุกส่ิง (Internet of things ; IoT) กำรวิเครำะห์ข้อมูลขนำดใหญ่ เกษตร แม่นยำ นำโนเทคโนโลยี ปัญญำประดิษฐ์ บล็อกเชนและเศรษฐกิจแบ่งปัน เพ่ือบริหำรจัดกำร กำรเกษตร เทคโนโลยเี หล่ำน้นี บั เป็นโอกำสท่ีสำคญั ตอ่ กำรผลติ อำหำร แตก่ ็มีควำมเปน็ ไปได้ทจ่ี ะส่งผล ต่อเกษตรกรและผู้ประกอบกำรเกษตรที่อำจถูก Disrupt ได้จำกเทคโนโลยีเหล่ำน้ีเช่นกันหำกปรับตวั ไม่เร็วพอ (ธรำธร รัตนนฤมิตศรและประกำย ธีระวัฒนำกุล, 2562) เทคโนโลยีท่ีเกิดข้ึนอย่ำงรวดเรว็ เหล่ำน้ีจะทำให้เกิดกำรพัฒนำและเปล่ียนแปลงในอุตสำหกรรมอำหำร กำรทำธุรกิจอำหำรของ ประเทศทกี่ ำลังพัฒนำมโี อกำสขยำยไปท่ัวโลกภำยใต้เงื่อนไขสำคัญของกำรแข่งขันคือ กำรผลิตอำหำร

190 ท่ีดีต่อสุขภำพและรำคำถูก ขนำดของกำรผลิตและข้อกำหนดเกี่ยวกับมำตรฐำนของกำรผลิตจะเป็น แรงผลักดันให้เกิดควำมพยำยำมในกำรลดต้นทุนและสร้ำงควำมสม่ำเสมอของปริมำณและคุณภำพ ผลผลิตเพื่อตอบสนองต่อควำมต้องกำรของผู้บริโภคที่ต้องกำรอำหำรปลอดภัยและมีควำม เฉพำะเจำะจงมำกขึน้ (7) กำรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและข้อจำกัดจำกทรัพยำกรธรรมชำติ (Natural Resource) ประชำกรที่เพ่ิมข้ึนส่งผลต่อควำมต้องกำรอำหำรที่เพ่ิมขึ้นอย่ำงมำก แต่ในขณะเดียวกัน ทรัพยำกรธรรมชำติเพ่ือนำมำทำกำรเกษตรและผลิตอำหำรกลับเส่ือมโทรมลงทั้งในด้ำนปริมำณและ คุณภำพmท้ังดินและน้ำ กำรบริหำรจัดกำรพ้ืนท่ีเพำะปลกู และฟำร์มเกษตรที่ไม่เหมำะสมที่สำคัญคือ ปัญหำควำมยำกจนและกำรขำดควำมรู้ท่ีเหมำะสมทั้งกำรใช้สำรเคมี กำรบุกรุกพื้นที่ป่ำไม้เพ่ือเพ่ิม พ้ืนท่ีทำงกำรเกษตรซึ่งนับเป็นข้อจำกัดท่ีสำคัญต่อกำรผลิตอำหำรให้เพียงพอรองรับประชำกรที่ เพ่ิมขึ้นจึงจำเป็นต้องมีกำรบริหำรจัดกำรท้ังในด้ำนควำมรู้ ควำมเข้ำใจและกำรใช้เทคโนโลยีเพ่ือเพ่ิม ประสิทธิภำพกำรผลิตโดยใช้ฐำนทรัพยำกรธรรมชำติลดลงแต่มีประสิทธิภำพสูงสุด กำรดูแลรักษำ สิ่งแวดล้อมและทรัพยำกรธรรมชำติเพ่ือภำคกำรเกษตรเป็นเรื่องท่ีภำคเกษตรไม่สำมำรถจะปฏิเสธ ควำมรับผิดชอบนี้ไปได้ ดังนั้นภำคกำรเกษตรจึงตอ้ งให้ควำมสำคญั ต่อกำรดูแลรักษำสิ่งแวดล้อมมำก ขึ้น รูปแบบกำรทำกำรเกษตรจึงต้องเปลี่ยนแปลงไปเพ่ือให้สำมำรถผลิตวัตถุดิบท่ีปลอดภัยสำหรับ อุตสำหกรรมเกษตรในขั้นต่อไปและเพ่ือให้สอดคล้องกับมำตรกำรท่ีไม่ใช่มำตรกำรด้ำนภำษีแต่เป็น เงื่อนไขและขอ้ ตกลงทำงกำรค้ำท่เี ก่ียวขอ้ งกบั มำตรฐำนส่งิ แวดล้อมของผลิตภณั ฑอ์ ำหำร (8) นโยบำยภำครฐั มำตรกำรและกำรส่งเสรมิ จำกภำครฐั ท่ีพยำยำมผลักดัน ประเทศไทยให้เป็นหุบเขำแห่งอำหำรของโลก (World Food Valley) ซ่ึงเห็นได้จำกกำรเปิดเสรีกำร ลงทุนโดยตรงจำกต่ำงประเทศ ( Foreign Direct Investment ; FDI) ของประเทศไทยใน ภำคอุตสำหกรรมอำหำรและเครื่องดื่มทำให้มีผู้ประกอบกำรต่ำงชำติท่ีต้องกำรเข้ำมำลงทุนทำธุรกิจ ด้ำนอำหำรและเครื่องด่ืมภำยในประเทศโดยได้รับสิทธิประโยชน์ทำงภำษีอำกร กำรส่งเสริมด้ำนกำร วิจัยและพัฒนำ กำรส่งเสริมด้ำนทรัพยำกรบุคคล และสิทธิประโยชน์ที่มิใช่ภำษีอำกำร (สำนักงำน คณะกรรมกำรส่งเสริมกำรลงทุน อ้ำงถึงในสำนักงำนส่งเสริมกำรจัดประชุมและนิทรรศกำร (องค์กำร มหำชน), มปป.) กระทรวงอตุ สำหกรรม ดำเนินกำรจดั ทำแผนปฏิบตั ิกำรด้ำนกำรพัฒนำอุตสำหกรรม แปรรูปอำหำร ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562-2570) เพ่ือเพ่ิมมูลค่ำเศรษฐกิจฐำนรำก (Local economy) เพ่ือยกระดับผลิตภัณฑ์อำหำรสู่อำหำรอนำคต ผลักดันประเทศไทยไปสู่กำรเป็นศูนย์กลำงกำรผลิต อำหำรอนำคตแห่งอำเซียนและเป็น 1 ใน 10 ของประเทศผู้ส่งออกอำหำรของโลกภำยในปี พ.ศ. 2570 ตำมแผนนีค้ ำดว่ำจะเพิ่มผลผลิตภัณฑ์มวลรวมอตุ สำหกรรมอำหำรของไทยเป็น 1.42 ล้ำนล้ำน บำท ก่อให้เกดิ รำยได้ในธุรกิจเก่ียวเนื่องเพ่ิมขึ้น 4.5 ล้ำนล้ำนบำท มีผูป้ ระกอบกำรในธรุ กิจเกี่ยวเนื่อง กว่ำ 7.6 ลำ้ นรำยและเกิดกำรลงทุนใหม่ในอุตสำหกรรมอำหำรภำยในประเทศกวำ่ 4.8 แสนล้ำนบำท โดยสำระสำคัญของแผนปฏิบัติกำรด้ำนกำรพัฒนำอุตสำหกรรมแปรรูปอำหำรประกอบด้วย 4 มำตรกำรคือ (1) มำตรกำรสร้ำงนักรบอุตสำหกรรมอำหำรพันธุ์ใหม่ (Food warrior) เป็นมำตรกำร สร้ำงผู้ประกอบกำรอำหำรรุ่นใหม่ตลอดห่วงโซ่อุปทำน9 (Supply chain) โดยให้ควำมสำคัญกับกำร 9 ห่วงโซ่อุปทำน (Supply chain) คือ กระบวนกำรต่ำง ๆ ที่ทำงำนประสำนกันโดยเร่ิมต้นแต่กระบวนกำรจดั ซ้ือ จัดหำ กำรผลิต กำร เคลอื่ นยำ้ ย กำรขนสง่ กำรจดั เกบ็ กำรจัดจำหนำ่ ย กำรขำย รวมถงึ กำรนำเทคโนโลยสี ำรสนเทศมำใช้ในกำรสนบั สนุนกระบวนกำร

191 ผลิตอำหำรอนำคต เช่น อำหำรสุขภำพ ผลิตภัณฑ์อำหำรจำกเทคโนโลยีชีวภำพ (Food biotechnology product) และอำหำรใหม่ (Novel food) (2) มำตรกำรสร้ำงนวัตกรรมอำหำร อนำคต (Future food innovation) เป็นมำตรกำรยกระดับนวตั กรรมมอำหำรอนำคตสู่กำรผลติ เชงิ พำณิชย์ โดยกำรสร้ำงโครงสร้ำงพ้ืนฐำนสำคัญในกำรพัฒนำอุตสำหกรรมอำหำรของไทย เช่น กำร พัฒนำศูนย์ปฏิรูปอุตสำหกรรมอำหำร (Food Industrial Transformation Center, FITC) เพื่อ พัฒนำสินค้ำนวัตกรรมอำหำร กำรพัฒนำและสนับสนุนกำรใช้บรรจุภัณฑ์ฉลำด (Intelligence packaging) ที่สำมำรถแสดงข้อมูลของสนิ คำ้ เช่น คณุ ภำพและควำมปลอดภยั ทำงอำหำรเพื่อใช้บรรจุ อำหำรสด (3) มำตรกำรสร้ำงโอกำสทำงธุรกิจ (New marketing platform) เป็นมำตรกำรสร้ำง โอกำสทำงธุรกิจทั้งในและต่ำงประเทศผ่ำนแพลตฟอรม์ (Platform) ท่ีเหมำะสมกับผู้ผลิตทุกระดบั ให้ อุตสำหกรรมอำหำรไทยมีบทบำทในตลำดโลกโดยกำรเชือ่ มโยงกำรค้ำสำกล กำรสร้ำงเศรษฐกิจด้วย วฒั นธรรมและควำมคิดสรำ้ งสรรค์และเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์อำหำรกับกำรท่องเทีย่ ว และ (4) มำตรกำร สร้ำงปัจจัยพื้นฐำนเพ่ือเร่งกำรพัฒนำอุตสำหกรรม (Enabling) เป็นมำตรกำรสร้ำงปัจจัยท่ีเอื้อต่อกำร พัฒนำอุตสำหกรรมอำหำรของไทย ลดอุปสรรคในกำรประกอบธุรกิจ (ธนำคำรกรุงเทพ, 2020) นอกจำกแผนปฏิบัติกำรดังกล่ำวแล้วน้ันยังมีโครงกำรปฏิรูปโครงสร้ำงทำงเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยรัฐบำลได้วำงเป้ำหมำยกำรผลิตสินค้ำนวัตกรรม เน้นอุตสำหกรรมท่ีใช้เทคโนโลยี ควำมคิด สร้ำงสรรค์และนวัตกรรม โดยกลุ่มอำหำร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภำพ เป็นหน่ึงในกลุ่มหลักท่ีรัฐ วำงเป้ำหมำยเพ่ือกำรพัฒนำภำคธุรกิจซ่ึงในกลุ่มน้ีประเทศไทยถือว่ำมีศักยภำพและมีควำมได้เปรียบ โดยกระทรวงอุตสำหกรรมมีนโยบำยอุตสำหกรรมแปรรูปกำรเกษตรไปสู่กำรปฏิบัติโดยกำหนด แนวทำงส่งเสริมให้เกิดกำรลงทุนในอุตสำหกรรมเกษตรท่ีอยู่บนพื้นฐำนควำมสมดุลของพ้ืนท่ีในกำร ผลิตสินค้ำเกษตรที่เป็นอำหำร พลังงำนและเสริมสร้ำงควำมยั่งยืนของอุตสำหกรรมด้วยกำรวิจัยและ พัฒนำผลิตภัณฑ์เพ่ือยกระดับมำตรฐำนสำกลและสร้ำงภำพลักษณ์สินค้ำไทย ทั้งน้ีอุตสำหกรรม จังหวัดยังได้สำรวจศักยภำพวัตถุดิบในท้องถิ่นเพ่ือส่งเสริมและพัฒนำอุตสำหกรรมเกษตรแปรรูปโดย ใช้ควำมรู้ ควำมคิดสร้ำงสรรค์ ตลอดจนภูมิปัญญำท้องถ่ินและให้คัดสรรสินค้ำเพ่ือพัฒนำเป็น Product champion ของแต่ละจังหวัดซ่ึงจะเป็นอุตสำหกรรมแปรรูปกำรเกษตรของไทยที่สำมำรถ แขง่ ขันได้ในประชำคมเศรษฐกจิ อำเซยี น 5.2 การพัฒนาเกษตรกรรมไทย ในระยะทผี่ ำ่ นมำภำคเกษตรกรรมของไทยประสบปัญหำต่ำง ๆ หลำยด้ำน ทำใหป้ ระชำกรใน ภำคเกษตรกรรมไม่สำมำรถพัฒนำคุณภำพชีวิตให้ดีขึ้น ถ้ำหำกพิจำรณำถึงปัญหำของภำค เกษตรกรรมจะพบปัญหำท้ังในส่วนของตัวเกษตรกรเอง ควำมพร้อมของข้อมูลท่ีเกษตรกรจะเข้ำถึง และนำมำใช้ประโยชน์รวมทงั้ นโยบำยของภำครฐั ซ่ึงจะได้กล่ำวถงึ เป็นรำยประเดน็ ดงั ต่อไปนี้ 5.2.1 เกษตรกร ข้อเท็จจริงที่ว่ำประชำกรในภำคเกษตรกรรมขำดควำมรู้และทักษะควำมสำมำรถใน กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและเทคนิคที่ทันสมัยจึงทำให้ขำดควำมยืดหยุ่นในกำรปรับตัวต่อกำร ตำ่ ง ๆ ใหส้ ำมำรถดำเนินกำรประสำนกันได้อยำ่ งคลอ่ งตวั

192 เปล่ียนแปลงของสภำพแวดล้อมทำงด้ำนเศรษฐกิจและส่งผลต่อกำรเพ่ิมประสิทธิภำพในกำรผลิต แนวโน้มในอนำคตของแรงงำนภำคเกษตรกรรมจะยิ่งประสบปัญหำดังกล่ำวมำกย่ิงขึ้น ถ้ำหำก เกษตรกรไม่ปรบั ตวั เพรำะควำมก้ำวหน้ำทำงวิทยำกำรทำงด้ำนกำรเกษตรและเทคโนโลยีกำรเกษตร ที่พัฒนำไปข้ำงหน้ำไม่ว่ำจะเป็นเกษตรอัจฉริยะหรือเกษตรแม่นยำสูงล้วนแล้วแต่ต้องใช้ควำมรู้และ ทักษะทำงดำ้ นเทคโนโลยีทัง้ สนิ้ ประกอบกับสภำวะกำรเปล่ียนแปลงทำงด้ำนโครงสร้ำงประชำกรของ ประเทศไทย ทำใหภ้ ำคเกษตรกรรมยังคงตอ้ งประสบปัญหำแรงงำนท่ีมีแนวโนม้ ลดลง อกี ทั้งแรงงำน ภำคกำรเกษตรได้มีกำรเคลื่อนย้ำยเข้ำสู่ภำคอุตสำหกรรม กำรเข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุของภำค เกษตรกรรมจะส่งผลต่อประสิทธิภำพแรงงำนและอัตรำกำรเติบโตทำงเศรษฐกิจโดยเฉพำะกำรปลูก ข้ำวที่มีแนวโน้มจะได้รับได้ผลกระทบมำกกว่ำพืชเศรษฐกิจชนดิ อ่ืน ๆ นอกจำกน้ีโครงสร้ำงประชำกร ภำคเกษตรกรรมยังมีผลต่อภำพรวมกำรผลิตอำหำรในระดับท่ีรุนแรงกว่ำปัจจัยอื่น ๆ เน่ืองด้วยภำค เกษตรกรรมมีควำมเช่ือมโยงกับเศรษฐกิจและสังคมกับภำคกำรผลิตอื่นในระดับสูงและจะส่งผลต่อ ศกั ยภำพในกำรแขง่ ขน้ ของไทยในตลำดสนิ ค้ำเกษตรและอำหำรโลก 5.2.2 ขอ้ มลู การเกษตร ข้อมูลสภำพดิน น้ำ อำกำศ หรือข้อมูลอ่ืน ๆ ท่ีเป็นปัจจัยสำคัญต่อกำรพัฒนำกำร เพำะปลูกพืชของเกษตรกร และย่ิงข้อมูลมีควำมละเอียดในระดับแปลงก็ย่ิงจะช่วยให้เกษตรกร สำมำรถตัดสินใจและจัดกำรแปลงเกษตรของตนเองได้อย่ำงมีประสิทธิภำพเพิ่มขึ้น ช่วยลดควำม เสียหำยท่ีอำจเกิดข้ึนจำกปัจจัยที่ควบคุมได้ยำก เช่น สภำพภูมิอำกำศ ซึ่งท่ีผ่ำนมำเกษตรกรไทยยงั ไม่ มีโอกำสเข้ำถึงและประยุกต์ใช้ข้อมูลเหล่ำนี้อย่ำงเต็มที่ด้วยสำเหตุหลำยประกำร เช่น ข้อมูลท่ีมีไม่ ตอบสนองต่อควำมต้องกำร เกษตรกรไม่สำมำรถเข้ำถึงข้อมูลได้ด้วยเหตุผลนำนัปกำร หรือไม่มี ควำมสำมำรถในกำรแปลผลข้อมูลให้เป็นประโยชน์ ถ้ำหำกเกษตรกรสำมำรถเข้ำใจและเข้ำถึงระบบ ข้อมูลเหล่ำนี้ได้จะช่วยเกษตรกรได้มำก เช่น ระบบสนับสนุนกำรตัดสินใจ (Decision Supporting System ; DSS) ด้ำนกำรเกษตร คือ ซอฟท์แวร์ท่ีรวบรวมข้อมูลท่ีมคี วำมเกี่ยวข้องกับกำรเพำะปลกู มำ ประมวลผลให้เป็นประโยชน์กับกำรวำงแผนกำรเพำะปลูกของเกษตรกร เช่น กำรนำข้อมูลพยำกรณ์ อำกำศมำพัฒนำควบคู่กับปฏิทินเพำะปลูกเพื่อคำดกำรณ์ระยะหว่ำน ระยะให้ปุ๋ย คำดกำรณ์ปริมำณ ผลผลิต หรือกำรคำดกำรณ์เกี่ยวกับกำรระบำดของแมลงศัตรูพืช เป็นต้น ได้มีกำรพัฒนำระบบ สนับสนุนให้สำมำรถใช้งำนได้บนเว็บไซต์หรือโทรศัพท์เคลื่อนท่ี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีท่ีสำมำรถเข้ำถึงได้ งำ่ ยและสะดวกมำกขน้ึ แตท่ ้งั น้ีกำรใชง้ ำนระบบกต็ อ้ งคำนงึ ควำมตอ้ งกำรของผใู้ ช้คอื เกษตรกรด้วยว่ำมี ควำมพร้อมหรือต้องกำรควำมช่วยเหลืออย่ำงไรในกำรใชง้ ำนได้อย่ำงมีประสทิ ธิภำพ นอกจำกนี้แล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้มีนโยบำยในกำรพัฒนำ Big data ด้ำนกำรเกษตรของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ใหเ้ ปน็ เอกภำพและเชือ่ มโยงกบั ระบบของรฐั บำลให้ก้ำวทันยุคดิจิทัล โดยปัจจุบัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้ฐำนข้อมูลเกษตรกรกลำง (Farmer ONE) ในกำรบริหำรจัดกำรเชิง นโยบำยด้วยกำรจัดทำ Big data ซ่ึงแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ (1) ด้ำนข้อมูลเกษตรกร และสถำบันเกษตรกร ได้แก่ ข้อมูลกำรขึ้นทะเบียนเกษตรกร ข้อมูลสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร มีกรม ส่งเสริมกำรเกษตรเป็นหน่วยงำนรับผิดชอบหลัก (2) ด้ำนข้อมูลสินค้ำเกษตร ได้แก่ ข้อมูลด้ำนกำร ผลิตสินค้ำเกษตร โดยมีสำนักงำนเศรษฐกิจกำรเกษตรเป็นหน่วยงำนรับผิดชอบหลัก (3) ด้ำนข้อมูล และพื้นที่เกษตรกรรม ได้แก่ ข้อมูลควำมเหมำะสมกำรใช้ท่ีดิน ข้อมูลกำรใช้ท่ีดิน มีกรมพัฒนำที่ดิน

193 เป็นหน่วยงำนรับผิดชอบหลัก และ (4) ด้ำนข้อมูลน้ำและกำรชลประทำน ได้แก่ ข้อมูลแหล่งน้ำ ปริมำณน้ำ ซ่ึงมีกรมชลประทำนเป็นหน่วยงำนรับผิดชอบหลกั ขณะนี้ Big data ได้มีกำรเชื่อมโยงกับ กรมกำรปกครอง กระทรวงมหำดไทยและอยู่ระหว่ำงกำรทดสอบกำรเชื่อมโยงกับกระทรวงพำณิชย์ รวมทั้งได้มีกำรเชื่อมโยงข้อมูลกับธนำคำรเพ่ือกำรเกษตรและสหกรณ์กำรเกษตรซ่ึงกำรเชื่อมโยงกับ ภำคกำรตลำดจะชว่ ยให้สำมำรถทรำบปรมิ ำณผลผลติ ชว่ งเวลำ แหล่งผลิตท่ีสำคญั ตำมนโยบำยตลำด นำกำรผลติ เพื่อใช้บรหิ ำรจัดกำรกำรจำหน่ำย กำรกระจำยสนิ ค้ำ กำหนดรำคำได้อย่ำงเหมำะสมต่อไป (สำนักขำ่ วกรมประชำสมั พนั ธ์, 2561) 5.2.3 นโยบายด้านการเกษตร เม่ือมีนโยบำยกำหนดออกมำอย่ำงชัดเจนจึงต้องสร้ำงควำมเข้มแข็งให้กับเกษตรกร และทุกภำคส่วนต้องมีควำมเข้มแข็งซ่ึงสถำบันคลังสมองแห่งชำติ โดยยุคล ล้ิมแหลมทอง (2563) ได้ สรุปไวใ้ นเกษตรไทย 2573 ดังนี้ 5.2.3.1 นโยบำยดำ้ นกำรลงทุนดว้ ยอัตรำดอกเบี้ยเงนิ กู้ผ่อนปรนให้ธนำคำรสำมำรถอยู่ ได้และเกษตรกรต้องสำมำรถใช้หนี้ได้ โดยปลดหนี้แล้วมีกำไร หำกดอกเบ้ียสูงเกินไปแม้จะมีเงิน หมุนเวียนก็ไม่สำมำรถใช้หน้ีได้และหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินก็จะหลุดมือไป ทำให้ เกษตรกรไม่มีควำมมั่นคงในทรพั ย์สนิ ของตนเอง อำจตัดสินใจขำยท่ีดินทำกินและเปลี่ยนอำชีพ อัตรำ ดอกเบ้ียเงินกู้และกำรค้ำประกันด้วยหลักทรัพย์จึงสำคัญ ธนำคำรจึงต้องวิเครำะห์รำยรับของ เกษตรกรว่ำมคี วำมสำมำรถปลดหน้แี ละมีกำไรพอต่อกำรดำรงชีวติ และเล้ยี งครอบครัว 5.2.3.2 นโยบำยกำรจัดกำรพ้ืนท่ีเกษตรกรรมตำมศักยภำพของท่ีดิน เป็นกำรจัดกำร ใช้ทด่ี นิ ให้เหมำะสมกบั ชนิดของพชื สตั ว์ ประมง หรือกำรจดั ทำ Zoning โดยต้องมีกำรให้ข้อมูลทำง วิชำกำรแกเ่ กษตรกรโดยใหน้ กั วชิ ำกำรในพ้ืนที่ชว่ ยแนะนำเพื่อปรับเปล่ียนกำรใชพ้ ้ืนทใ่ี หเ้ หมำะสม มี กำรจัดกำรรวมกลุ่มเป็นพื้นท่ีสินค้ำเกษตรโดยมีผู้ประกอบกำร ผู้รวบรวมสินค้ำและโรงงำนแปรรูปอยู่ ในพ้ืนท่ี และเม่ือมีสินค้ำแปรรูปแล้วต้องจัดให้มีกำรจัดกำรระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภำพซึ่งต้อง อำศัยทุกภำคส่วนร่วมกันท้ังสถำบันกำรศึกษำ เกษตรกร นักวิชำกำร ท่ีมีควำมเชี่ยวชำญเฉพำะเข้ำมำ ช่วยพฒั นำ 5.2.3.3 นโยบำยด้ำนกำรวิจัยและพัฒนำแบบบูรณำกำรศำสตร์ สินค้ำเกษตรจะถูก แปรรูปไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ำทำงกำรตลำดสูงขึ้นด้วยควำมรู้แบบผสมผสำนในหลำย ๆ ศำสตร์ ท้ัง ด้ำนวสั ดุศำสตร์ วศิ วกรรมศำสตร์ พนั ธุวศิ วกรรม ที่จะสร้ำงผลิตใหม่ท่ีเกษตรกรจะไม่ได้ขำยสินค้ำใน รำคำเริ่มต้นเพื่อเป็นอำหำร แต่เป็นรำคำของผลิตภัณฑ์เพ่ือควำมงำม เครื่องสำอำง หรือผลิตภัณฑ์ อำหำรเสริม อำหำรรูปแบบใหม่ เปน็ ต้น ดงั นน้ั กระบวนกำรวจิ ัยและกำรทำงำนร่วมกบั ศำสตร์อื่นเพื่อ พฒั นำสินคำ้ เกษตรจึงเปน็ สิ่งสำคัญในปัจจบุ นั 5.2.3.4 นโยบำยกำรสร้ำงกลุ่มเกษตรกร กำรสร้ำงกลุ่มเกษตรกรหรือผู้ประกอบกำร ด้ำนกำรเกษตรเพื่อสนับสนุนให้เกิดธุรกิจกำรเกษตรจำกกำรรวมกลุ่ม โดยกำรดูแลจำกแหล่งเงินทุน ธนำคำร สถำบันกำรศึกษำ ภำคเอกชน อุตสำหกรรม 5.2.3.5 นโยบำยประกันภัยพืชผล เพ่ือเป็นกำรลดควำมเสี่ยงจำกโรคระบำดหรือ ควำมเส่ียงอ่ืน ๆ จำกกำรปลูกพืชเชิงเด่ียว แต่ต้องมีกระบวนกำรให้ควำมรู้แก่เกษตรกรให้ทำ

194 กำรเกษตรอยำ่ งถูกหลักวิชำกำรเพ่ือลดควำมเสีย่ งของตนเองและเป็นกำรส่งเสริมและพัฒนำเกษตรกร อกี รปู แบบหนง่ึ ด้วย 5.2.3.6 นโยบำยปรับบทบำทของส่วนรำชกำร โดยส่วนรำชกำรต้องปรับเปล่ียนจำก กำรเป็นผู้ควบคุม ผู้ปฏิบัติมำเป็นผู้กำกับดูแลและสนับสนุนโดยกำรใช้กฎหมำยให้เกิดประโยชน์กับ เกษตรกรและผู้ประกอบกำร โดยเฉพำะมำตรฐำนต่ำง ๆ ควรมีหน่วยงำนมำตรฐำนสนิ ค้ำกลำงกำกับ ดูแลและหนว่ ยรำชกำรตำ่ ง ๆ เป็นผ้สู นับสนนุ ใหเ้ กษตรกรและผปู้ ระกอบกำรให้ไดร้ ับกำรรับรอง 5.2.3.7 นโยบำยกำรพัฒนำเกษตรด้วยเครื่องจักรกลและเทคโนโลยี กำรใช้ เคร่ืองจักรกล สมองกล หุ่นยนต์ และอุปกรณ์ต่ำง ๆ เพื่อทดแทนแรงงำนคน โดยต้องอำศัยควำม รว่ มมือของนกั วชิ ำกำรหลำยสำขำเพื่อพัฒนำไปสรู่ ะบบเกษตรอัจฉริยะ เกษตรแมน่ ยำในอนำคต 5.2.3.8 นโยบำยกำรพัฒนำสินค้ำเกษตร โดยพัฒนำสินค้ำเกษตรแยกตำมชนิดและ แยกกำรบริหำรจัดกำรของเกษตรกรรำยย่อย รำยใหญ่ และสหกรณ์ หรือกลุ่มเกษตรกรให้มีควำม ชัดเจน กระจำยกำรบริหำรจัดกำรและปรับกระบวนกำรทำงำนให้สอดคล้องตำมสภำพเศรษฐกิจ สงั คมและวฒั นธรรมของแตล่ ะทอ้ งถนิ่ 5.3 ผลกระทบจากโลกาภวิ ตั น์ตอ่ การเกษตร 5.3.1 ดา้ นประสิทธิภาพการผลิต ผลผลิตทำงด้ำนกำรเกษตรของไทยท่ีผ่ำนมำโดยเฉพำะผลผลิตข้ำวยังมีอุปสรรคท่ี สำคัญหลำยอย่ำง ทั้งเรื่องเทคโนโลยีกำรเกษตร สภำพดินฟ้ำอำกำศ ทรัพยำกรดินเส่ือมโทรม ปัญหำ โรคและแมลง ซึ่งส่งผลต่อปริมำณผลผลิตข้ำว กำรเพ่ิมผลผลิตที่ผ่ำนมำจึงเป็นกำรขยำยพ้ืนท่ี เพำะปลูกเป็นสำคัญในขณะท่ีผลผลิตเฉล่ียต่อไร่ไม่ได้เพ่ิมข้ึน ปัญหำประสิทธิภำพทำงกำรผลิตต่ำ สำเหตสุ ำคญั เกิดจำกควำมเสือ่ มโทรมของทรัพยำกรและกำรใชท้ รัพยำกรทีไ่ ม่สอดคล้องกบั ศักยภำพที่ ควรจะเป็น เนอ่ื งจำกกำรใชป้ ัจจัยกำรผลติ ที่มสี ว่ นชว่ ยในกำรเพิ่มผลผลิต เช่น ปุย๋ เคมี เมลด็ พันธ์ุดียัง ใช้ในวงจำกัดจึงทำให้กำรผลิตข้ำวของไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง เช่น ประเทศ เวียดนำม ผลผลิตข้ำวเฉลี่ยต่อไร่ของโลกมีค่ำประมำณ 712 กิโลกรัมต่อไร่ ในขณะท่ีประเทศไทยมี ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ในปีเพำะปลกู 2561/62 เพียง 420 กิโลกรัมต่อไร่ (สำนักงำนเศรษฐกิจกำรเกษตร, 2561) ทำให้ต้นทุนกำรผลติ ของไทยสูงกว่ำคู่แข่ง ทั้งนี้ประเทศไทยยังเป็นประเทศผ้ผู ลติ และสง่ ออก ข้ำวสำคัญของโลกอยู่ โดยในปี 2562/2563 ไทยมีผลผลิตข้ำวมำกเป็นอันดับ 6 ของโลกโดยปริมำณ ผลผลิตข้ำวสำรของไทยคิดเป็น 4.2% ของปริมำณผลผลิตข้ำวทั่วโลก รองจำกจีน อินเดีย อินโดนีเซยี บังคลำเทศ และเวียดนำม ซึ่งมีสัดส่วนปริมำณผลผลิต 29.3%, 23.1%, 7.5%, 7.1% และ 5.6% ตำมลำดับ และไทยเป็นผู้ส่งออกข้ำวอันดับ 2 ของโลก มีส่วนแบ่งตลำดคิดเป็น 21.0% รองจำก อินเดียซ่ึงมีส่วนแบ่งตลำด 25.2% และยังมีคู่แข่งอ่ืน ๆ อำทิ เวียดนำม ปำกีสถำน สหรัฐฯ เมียนมำ เป็นต้น (ชัยวัช โซวเจริญสุข, 2562) นอกจำกน้ีต้นทุนกำรผลิตข้ำวของไทยเม่ือเทียบกับคู่แข่ง เช่น พม่ำ อินเดีย และเวียดนำม ยังถือว่ำประเทศไทยมีต้นทุนกำรผลิตข้ำวสูงกว่ำ โดยมีต้นทุน 7,452 บำทตอ่ ตัน ขณะท่พี มำ่ เวียดนำม และอนิ เดยี มตี ้นทนุ กำรผลติ ข้ำว 4,345 5,615 และ 5,718 บำท ต่อตัน ตำมลำดับ อีกทั้งยังต้องเผชิญกับกำรเปล่ียนแปลงสภำพภูมิอำกำศของโลกทำให้เส่ียงต่อฝน แลง้ และนำ้ ทว่ ม และถึงแม้วำ่ จะมีระบบชลประทำนแต่ก็มีพน้ื ทีช่ ลประทำนเพียงร้อยละ 22 ของพ้ืนที่

195 กำรเกษตรและพื้นที่ปลกู ข้ำวประมำณร้อยละ 35 ที่อยู่ในพ้ืนท่ีชลประทำน ส่วนกำรพัฒนำแหล่งนำ้ ขนำดเล็กยังมีขอบเขตจำกัดและมีน้อยประกอบกับแรงงำนภำคเกษตรลดลงและกำรพัฒนำเคร่ืองจักร และนวัตกรรมยังมีน้อยและรำคำแพง (สมพร อิศวิลำนนท์, 2562) ด้วยสำเหตุเหล่ำน้ีจึงทำใหผ้ ลผลติ ข้ำวของไทยมีต้นทุนสูง เพ่ือเป็นกำรพัฒนำกำรเพิ่มผลผลิตของข้ำวไทยให้สำมำรถแข่งขันได้จึงได้มี กำรปรับปรุงพันธ์ุข้ำวโดยสำนักงำนพัฒนำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีแห่งชำติ (สวทช.) ซึ่งมีกำร ปรบั ปรงุ พันธขุ์ ำ้ วดงั น้ี ข้ำวเจำ้ พันธุใ์ หม่ทนน้ำทว่ มฉับพลัน “กข 51” พฒั นำมำจำกพันธุ์ข้ำวขำวดอก มะลิ 105 ให้มีลักษณะทนน้ำท่วมฉับพลัน ในระยะเจริญเตบิ โตทำงลำต้นได้ 12 วัน ผลผลิตในสภำวะ น้ำท่วมฉับพลับสูงกว่ำพันธุ์ข้ำวขำวดอกมะลิ 105 โดยให้ผลผลิตเฉล่ียสูงสุด 736 กก./ไร่ เป็นข้ำวไว ต่อช่วงแสง เหมำะสำหรับปลูกในภำคเหนือและภำคอีสำน เป็นข้ำวพันธ์ุแรกท่ีได้จำกกำรปรับปรุง พันธโ์ุ ดยใช้เครือ่ งหมำยโมเลกลุ ชว่ ยในกำรคดั เลือกท่ีไดร้ ับกำรรับรองพันธุ์ ขำ้ วเหนยี ว กข.6 ตำ้ นทำน โรคไหม้ เป็นกำรผสมพันธ์ุข้ำวเหนียว กข 6 กับข้ำวหอมนิล มีคุณสมบัติต้ำนทำนโรคไหม้ ไวต่อช่วง แสง แตกกอดี ทนทำนต่อกำรหักล้ม คุณภำพกำรขัดสีดีกว่ำพันธ์ุ กข.6 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 500-600 กก./ไร่ โดยได้รับพระรำชทำนช่ือพันธุ์ข้ำวจำกสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรีว่ำ “ธัญสิริน” เม่ือวนั ท่ี 1 ธนั วำคม 2553 และได้เผยแพร่ในพืน้ ท่ีจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรำย ลำปำง น่ำน ชัยภูมิ สกลนคร นครพนม หนองคำย บึงกำฬ ข้ำวหอมชลสิทธ์ิทนน้ำท่วมฉับพลัน ทนอยู่ใต้น้ำได้ อย่ำงน้อย 2-3 สัปดำห์ ไม่ไวต่อช่วงแสง ปลูกได้มำกกว่ำ 1 ครั้งต่อปี ผลผลิตข้ำวเปลือก 900-1,000 กก./ไร่ โดยไดเ้ ผยแพรใ่ นพ้นื ท่จี งั หวดั ชยั นำท อยุธยำ อำ่ งทอง พจิ ิตร อุตรดิตถ์ อยุธยำ ลำปำง สระบรุ ี (สำนักงำนพัฒนำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีแห่งชำติ, มปป.) 5.3.2 ดา้ นการตลาด 5.3.2.1 ภำวะผลผลิตลน้ ตลำด สินคำ้ เกษตรล้นตลำดเป็นปญั หำสำคัญของภำคกำร เกษตรเพรำะกำรผลิตสินค้ำต้องพง่ึ พำธรรมชำติ ถำ้ สภำพอำกำศผดิ ปกตผิ ลผลิตออกส่ตู ลำดน้อยย่อม ทำให้สินค้ำมีรำคำแพงและไม่พอต่อควำมต้องกำร ในทำงกลับกันถ้ำสภำพแวดล้อมเอ้ืออำนวยมี ปริมำณผลผลิตออกมำมำกทำให้มีปริมำณสินค้ำในตลำดมำกแต่ควำมต้องกำรในกำรบริโภคยังคงมี เทำ่ เดมิ ก็ทำให้สินคำ้ นั้นขำยไม่ได้หรือขำยไดใ้ นรำคำถกู ซ่ึงเป็นปัญหำที่มีมำอย่ำงยำวนำน ถำ้ หำกมำ พิจำรณำถึงสำเหตุสำคัญท่ีทำให้รำคำสินค้ำเกษตรตกต่ำนั้นเปน็ เพรำะปริมำณผลผลิตมีมำกกว่ำควำม ต้องกำรบริโภคหรือมีอุปทำนมำกกว่ำอุปสงค์ซึ่งวธิ กี ำรท่ีจะสำมำรถแก้ปัญหำรำคำสนิ ค้ำเกษตรตกตำ่ ได้คือ ต้องควบคุมปริมำณกำรผลิตไม่ให้มีมำกเกินกว่ำควำมต้องกำรบริโภค (ควบคุมด้ำนอุปทำนของ สินค้ำ) และ/หรือเพิ่มควำมต้องกำรบริโภคให้สอดคล้องกับปริมำณกำรผลิตท่ีมีมำกเกิน (เพิ่มอุปสงค์ ของสินค้ำ) ทั้งนี้กำรเพิ่มควำมต้องกำรบริโภคสินค้ำสำมำรถทำได้โดยกำรเพิ่มหรอื ขยำยตลำดแต่หำก ไม่มีกำรควบคุมปริมำณกำรผลิตใหเ้ หมำะสม ในทสี่ ดุ ควำมต้องกำรบริโภคถงึ จดุ อ่ิมตัวกจ็ ะเกดิ ปัญหำ รำคำตกต่ำเชน่ เดมิ กำรควบคมุ ปริมำณกำรผลิตให้สอดคล้องกับควำมต้องกำรบรโิ ภคจึงเปน็ แนวทำง ท่ีจะสำมำรถแก้ปัญหำรำคำผลผลิตตกต่ำได้อย่ำงยั่งยืน (สำยพิณ ชินตระกูลชัย, 2552) มีควำม พยำยำมในกำรแก้ปัญหำโดยกำรลดควำมเสี่ยงทำงกำรตลำดด้วยวิธีกำรต่ำง ๆ ได้แก่ กำรสร้ำง เครือข่ำยกำรผลิตและกำรตลำดสินค้ำเกษตรซ่ึงมีอยู่ด้วยกัน 3 ลักษณะคือ เครือข่ำยท่ีนำโดยธุรกิจ ขนำดใหญ่ เครือข่ำวที่นำโดยเกษตรกรเอง และเครือข่ำยท่ีเป็นกำรสนับสนุนโดยกรมส่งเสริม กำรเกษตร กำรพัฒนำกำรตลำดท่ีสำคัญคือกำรพัฒนำคุณภำพท่ีได้มำตรฐำน เช่น สวนผลไม้ ควร

196 คำนึงถึงกำรผลิตภำยใต้หลกั กำรกำรปฏิบัติเกษตรดีท่ีเหมำะสม (Good Agriculture Practice, GAP) เป็นตน้ เพรำะมำตรฐำนจะเปน็ เคร่ืองมือทส่ี ำคัญในกำรส่งเสรมิ กำรขำย สร้ำงควำมนยิ มในสินคำ้ ไม่ว่ำ จะเป็นตลำดภำยในประเทศหรือต่ำงประเทศและยังเป็นกำรสร้ำงควำมเชื่อม่ัน ควำมไว้วำงใจใน สนิ ค้ำใหแ้ กผ่ ้บู ริโภคดว้ ย 5.3.2.2 กำรกีดกันทำงกำรคำ้ ทีไ่ ม่ใชม่ ำตรกำรภำษี มำตรกำรท่ีมใิ ชภ่ ำษี (Non-Tariff Measures: NTMs) เป็นกฎระเบียบข้อบังคับของภำครัฐท่ีเกี่ยวกับกำรค้ำระหว่ำงประเทศ โดย องค์กำรกำรค้ำโลก (World Trade Organization ; WTO) อนุญำตให้ใช้ได้ในกรณีส่งเสริมกำรค้ำที่ เป็นธรรม และเพื่อคุ้มครองชีวิตและสุขภำพของมนุษย์ พืชและสัตว์ ทั้งน้ีจะต้องไม่เป็นกำรเลือก ปฏิบัติอย่ำงไม่มีเหตุผลหรือไม่มีผลต่อกำรกีดกันทำงกำรค้ำอย่ำงแอบแฝง และต้องเป็นไปตำม หลักเกณฑ์ภำยใต้ควำมตกลงท่ีกำกับดูแล มีมำตรกำรต่ำง ๆ เช่น มำตรกำรสุขอนำมัยและสุขอนำมัย พืช (Sanitary and Phytosanitary Measures ; SPS) มำตรกำรอุปสรรคทำงกำรค้ำด้ำนเทคนิค (Technical Barriers to Trade ; TBT) มำตรกำรตอบโต้กำรทุ่มตลำด (Anti-Dumping ; AD) มำตรกำรตอบโต้กำรอุดหนุน (Countervailing Duty ; CVD) เป็นต้น (กรมเจรจำกำรค้ำระหว่ำง ประเทศ กระทรวงพำณิชย์, 2556) กำรกีดกนั ทำงกำรคำ้ สำหรบั สินค้ำเกษตรที่ไมใ่ ชม่ ำตรกำรทำงภำษี จะมีมำกข้ึนเรื่อย ๆ และถึงแม้จะมีข้อตกลงกำรค้ำในเวทีต่ำง ๆ ในกำรลดอุปสรรคทำงกำรค้ำใน ระดับหน่ึงเพื่อเป็นหลักประกันกำรเปิดตลำดสินค้ำเกษตร แต่ประเทศต่ำง ๆ ต่ำงก็มีมำตรกำรท่ี เกย่ี วกับมำตรฐำนสนิ ค้ำท่ีเขม้ งวดกบั สินคำ้ เกษตรกรรมมำกขน้ึ โดยเฉพำะประเทศพัฒนำแล้ว 5.3.2.3 กำรแข่งขันกำรค้ำสินค้ำเกษตร ในปัจจุบันกำรแข่งขันกำรค้ำสินค้ำเกษตรจะ รุนแรงมำกข้ึนถึงแม้ว่ำจะมีกำรทำข้อตกลงกำรค้ำระหว่ำงประเทศที่มีผลต่อโอกำสทำงกำรค้ำสินค้ำ เกษตรเพิ่มข้ึนกับประเทศพัฒนำ แต่ในภำวะท่ีประเทศไทยจะต้องเผชิญกับกลุ่มประเทศที่มีต้นทุน กำรผลิตต่ำกว่ำโดยเฉพำะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้ำนภูมิภำคอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศท่ีมีควำม อุดม สมบูรณ์ของทรัพยำกรทำงกำรเกษตรสูง และรำคำปัจจัยกำรผลิตยังอยู่ในระดับต่ำกว่ำจึงทำให้เป็น อุปสรรคสำหรับกำรสง่ ออกสินค้ำเกษตรของไทยและถ้ำสนิ ค้ำไม่มีมำตรฐำนยิง่ จะมโี อกำสเสีย่ งกับกำร ไมม่ ตี ลำดรองรบั ในอนำคต 5.4 สถานการณก์ ารผลติ และการส่งออกสนิ คา้ เกษตรของประเทศไทย จำกกำรคำดกำรณ์สถำนกำรณ์ภัยแล้งในปี ค.ศ. 2020 ซ่ึงมีแนวโน้มจะมีควำมรุนแรงกว่ำปี ค.ศ. 2015 ซึ่งจะมีผลต่อปริมำณน้ำในเข่ือนที่จะใช้ได้ ปัญหำภัยแล้งปี ค.ศ. 2020 จะส่งผลกระทบ ต่อผลผลิตข้ำวและพืชอื่น ๆ ซ่ึงได้มีกำรคำดกำรณ์จำก Krungthai COMPASS เป็น 3 กรณีคือ กรณี แรก Base Case มีควำมเปน็ ไปได้สงู จำกภำวะ El Nino10 กำลงั ออ่ นจะเกิดไปถึงช่วงกลำงปี ค.ศ. 10 El Nino (เอลนโี ญ) หมำยถึง กำรอ่นุ ขึ้นอย่ำงผิดปกตขิ องนำ้ ทะเลบริเวณตอนกลำงและตะวันออกของมหำสมทุ รแปซิฟิกเขตร้อน ซึ่ง เกิดจำกกำรออ่ นกำลังลงของลมค้ำกระแสน้ำอนุ่ ทไ่ี หลเลียบชำยฝ่ังเปรูลงไปทำงใตท้ ุก ๆ 2-3 ปี และได้ต้ังช่ือกระแสน้ำอุ่นนี้วำ่ เอลนีโญ โดยเริ่มรู้จักและสังเกตเห็นคร้ังแรกประมำณปี ค.ศ. 1892 จะมีน้ำอุ่นปรำกฏอยู่ตำมชำยฝั่งเปรูเป็นฤดู ๆ โดยเร่ิมประมำณช่วง คริสต์มำส (ชว่ งฤดูร้อนของซกี โลกใต้ ซ่งึ ตรงกับชว่ งฤดหู นำวของซกี โลกเหนือ) นำ้ อุน่ นีจ้ ะไหลเขำ้ แทนท่ีนำ้ เย็นท่ีอยู่ตำมชำยฝ่ังเปรูนำน ประมำณ 2-3 เดือน ซง่ึ ปกติชำยฝง่ั เปรูจะมนี ้ำเยน็ ปรำกฏอยู่ เป็นผลมำจำกขบวนกำรไหลขึ้นของนำ้ เยน็ จำกใตม้ หำสมทุ รขึ้นมำยังผวิ นำ้ ซ่งึ ทำใหน้ ำ้ เย็นอันอุดมไปด้วยธำตุอำหำรไหลขนึ้ มำยังผิวน้ำ บำงครงั้ นำ้ อุ่นท่ีปรำกฏเป็นระยะ ๆ ตำมชำยฝง่ั ประเทศเปรูและเอกวำดอร์

197 2020 และอ่อนกำลังลงไปเร่ือย ๆ จนถึงคร่ึงหลังของปี ค.ศ. 2020 ทำให้ผลผลิตข้ำวโดยรวมลดลง ประมำณ 3.9 ลำ้ นตัน หรอื ลดลง 1.7 % ส่วนพืชอ่นื ๆ เชน่ อ้อย และมนั สำปะหลงั ได้รบั ผลกระทบ เพียงฤดูกำลผลิตปี 2019/2020 หรือกระทบ 0.36 % ของจีดีพี กรณีท่ี 2 Best Case มีฝนตกลง มำบ้ำงกอ่ นเดอื น มิ.ย. แตม่ คี วำมเป็นไปไดน้ ้อยเน่ืองจำกในช่วงดงั กล่ำวยงั อยู่ในภำวะ El Nino กำลัง อ่อน ทำให้ผลผลิตข้ำวโดยรวมลดลง 2.3 ล้ำนตัน หรือลดลง 7.0% ส่วนพืชอ่ืน ๆ เช่น อ้อย และมัน สำปะหลัง ได้รับผลกระทบบ้ำง แต่ไม่มำกนัก หรือกระทบ 0.14% ของ จีดีพี และกรณีท่ี 3 Worst Case ปัญหำภยั แล้งยดื เย้ือไปจนถึงคร่ึงปหี ลังของปี ค.ศ. 2020 จนกระทบผลผลติ ขำ้ วนำปีซึง่ มีผลทำ ให้ผลผลิตข้ำวโดยรวมลดลง 5.2 ล้ำนตัน หรือลดลง 15.5% ส่วนพืชอ่ืน ๆ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ได้รับผลกระทบต้ังแต่ฤดูกำลผลิตปี 2019/2020 ไปจนถึงฤดูกำลผลิตปี 2020/2021 หรือกระทบ 0.51% ของจดี พี ี จำกสถำนกำรณ์ภัยแล้งในปี ค.ศ. 2020 จะทำให้รำคำข้ำวปรับขึ้นได้บ้ำงจำกผลผลิตข้ำวที่ ลดลง แต่ธุรกิจข้ำวยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงจำกตลำดส่งออกทั้งแรงกดดันจำกสต็อกข้ำวโลกที่อยู่ใน ระดับสูงและผลผลิตข้ำวสำรของประเทศผู้ส่งออกข้ำวรำยใหญ่อย่ำงเวียดนำมและอินเดียยังอยู่ใน ระดับสูง อกี ท้ังจีนยังชะลอกำรนำเข้ำและหนั มำสง่ ออกมำกข้ึนในตลำดแอฟริกำซึ่งเป็นตลำดหลักของ ไทย ขณะที่ฟิลิปปินส์ลดกำรนำเข้ำข้ำว หลังปัญหำภัยธรรมชำติคลี่คลำยลง อีกท้ังรำคำส่งออกข้ำว ของไทยสูงกว่ำเวียดนำม รวมทั้งควำมเส่ียงจำกผลผลิตข้ำวท่ีลดลง จำกปัญหำภัยแล้งในปี ค.ศ. 2020 ปัจจัยเหล่ำน้ีทำให้ไทยส่งออกข้ำวในปริมำณลดลงเหลือเพียง 7.4 ล้ำนตัน ซึ่งถือเป็นระดับทต่ี ำ่ เม่ือเทยี บกบั คำ่ เฉล่ียประมำณ 10 ลำ้ นตนั ต่อปใี นช่วงกอ่ น (Krungthai COMPASS, 2020) นอกจำกข้ำวท่ีเป็นสินค้ำส่งออกท่ีสำคัญของไทยแล้วยังมีสินค้ำอ่ืน ๆ ที่เป็นสินค้ำส่งออก สำคัญ ดังตำรำงท่ี 5.1 สินค้ำส่งออกสำคัญของไทยตั้งปี พ.ศ. 2559-2563 ซึ่งจะทำให้พอมองเห็น ภำพรวมและกำรส่งออกที่จะเกิดข้ึนในอนำคต 5.5 บทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรม การเกษตร 5.5.1 เทคโนโลยกี ารจัดการ 5.5.5.1 เทคโนโลยีกำรจัดกำรอุตสำหกรรมกำรเกษตร กำรเปลี่ยนแปลงทำง เทคโนโลยีสำหรับภำคกำรเกษตรในยุคเกษตร 4.0 ทำให้เกษตรกรต้องปรับตัวเพ่ือให้สำมำรถใช้ เทคโนโลยีซ่ึงควำมเข้ำใจต่อกำรนำเทคโนโลยีมำใช้เพื่อจุดประสงค์ใดจึงเป็นเรื่องสำคัญของเกษตรกร ทั้งน้โี ฆษิต ปน้ั เปี่ยมรัษฎ์ อ้ำงถึงในธนำคำรกรุงเทพ, 2020 ได้อธิบำยไว้ในเกษตรก้ำวหน้ำ พ.ศ. 2558 ว่ำวิถีเกษตรก้ำวหน้ำคือ กำรจัดกำรวิธีคิดท่ีว่ำรำยได้ของเกษตรกรมำจำกควำมพอใจของผู้ซ้ือ รำยได้ ของเกษตรกรจงึ ไม่ได้ข้ึนอยู่กบั ว่ำผลผลิตได้มำกน้อยเพียงใด แต่ขนึ้ อยกู่ บั ว่ำผลผลิตของเกษตรกรขำย ให้กับใคร ปริมำณเท่ำใด เวลำใด และคุณภำพใด ทั้งเกษตรกรต้องเข้ำใจถึงกำรจัดกำรหลังกำรเก็บ เกี่ยวต้องพิจำรณำสินค้ำในมิติของผู้บริโภค ไม่ใช่ยุติเพียงสภำพสินค้ำหน้ำฟำร์มของตน ดังน้ันวิถี อำจจะคงอยู่นำนเกินกว่ำ 2-3 เดือน หรืออำจจะยำวนำนข้ำมไปปีถัดไป ส่งผลกระทบต่ อระบบนิเวศวิทยำชำยฝ่ังและกิจกรรมที่ เก่ยี วกบั กำรประมงและเกษตรกรรม (กรมอุตนุ ยิ มวทิ ยำ)

198 เกษตรก้ำวหน้ำคือ ควำมเข้ำใจกำรจัดกำรของเกษตรกรและเกษตรกรก้ำวหน้ำท่ีมีควำมเข้ำใจใน เทคโนโลยีและจุดประสงค์ในกำรนำมำใช้เพื่อช่วยจัดกำรในด้ำนต่ำง ๆ ซ่ึงเกษตรกรก้ำวหน้ำจะใช้ เทคโนโลยีในกำรจัดกำรเพ่ือเพ่ิมรำยได้ จำกเทคโนโลยีกำรจัดกำรผลิตและกำรตลำด เกษตรกร ก้ำวหน้ำอำจต้องเรียนรู้ ปรับตัว ซ่ึงในช่วงท่ีวงกำรเกษตรกำลังต่ืนตัวกับกำรแปรรูปผลผลิตทำง กำรเกษตรเพื่อสร้ำงมูลค่ำเพ่ิม เกษตรกรหลำยรำยอำจผันตัวเองมำเป็นผู้ประกอบกำรเกษตรแปรรูป มำกขึ้น โดยกำรแปรรูปน้ันอำจมีระดับควำมซับซ้อนข้ึนอยู่กับกำรลงทุน ควำมรู้หรือเทคโนโลยีและ ถือเปน็ กำรพัฒนำทำงด้ำนกำรเกษตรก่อใหเ้ กิดผลดีท้งั ต่อเกษตรกรและประเทศโดยรวม แตเ่ กษตรกร จะต้องสำมำรถบูรณำกำรหรือต้องมีควำมรู้ 3 ด้ำน คือ เกษตรกรรม กำรแปรรูปและกำรตลำดไป พร้อม ๆ กัน และไม่มีด้ำนใดสำคัญไปกว่ำด้ำนใด เพียงแต่ผู้ประกอบกำรน้ันมีทุนเดิมอะไรอยู่ เช่น เกษตรกรบำงรำยมีผลผลิตทำงกำรเกษตรอยู่แล้วแต่ต้องกำรเพิ่มมูลค่ำให้แก่ผลผลิต จึงต้องไปหำ ควำมรู้ด้ำนกำรแปรรูป แต่จะแปรรูปได้ต้องเข้ำใจกำรตลำดด้วยว่ำทำอย่ำงไรจึงจะขำยผลิตภัณฑ์ได้ แล้วจงึ คิดกำรแปรรูป หรือกรณีผูป้ ระกอบกำรบำงรำยอำจจะมีตลำดก่อนอำจเป็นเพรำะทำวจิ ยั ตลำด หรือมีตลำดเดิมอยู่แล้ว ก็ต้องย้อนกลับมำพิจำรณำจำกควำมต้องกำรของลูกค้ำแล้วจึงไปสู่กำรหำ วัตถุดิบเกษตรที่จะนำมำแปรรูปว่ำจะได้มำอย่ำงไรหรือมำจำกท่ีไหน ควำมสำเร็จของกิจกำรเกษตร แปรรูปอำจเริ่มต้นต่ำงกัน แต่ส่ิงที่เหมือนกันคือ ควำมเข้ำใจและมีครบทั้ง 3 ด้ำนเพียงแต่วิธีกำรหรือ กลยุทธ์อำจแตกต่ำงกัน ยกตัวอย่ำงควำมสำเร็จของกิจกำรเกษตรแปรรูปของเมืองฟุกุโอกะ ที่มี ผลติ ภัณฑโ์ ยเกริ ์ตยี่ห้ออโิ ตโมกำตำริ ชอื่ ดงั ของเมืองนีซ้ ึ่งเร่ิมต้นและพัฒนำมำจำกเกษตรกรเลยี้ งวัวนม กำรขำยนมวัวสดที่มีคุณภำพ และต่อมำมีกำรคิดรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลย้ี งวัวเป็นสหกรณ์และรวบรวม ทำโยเกิรต์ จำกน้ำนมสด กำรตลำดของเขำคือ เนน้ วัตถดุ ิบทดี่ ขี องเมืองทคี่ นรู้จักและเม่ือพัฒนำมำเป็น โยเกิร์ตก็เป็นท่ีต้องกำรของตลำดในเมืองนี้ นอกจำกน้ีห้องพักในโรงแรมยังนำโยเกิร์ตนี้ไปให้บริกำร แขกและเชิญชวนให้ลองชิมว่ำเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนในเมืองนี้ภำคภูมิใจ (สำนักงำนส่งเสริมวิสำหกิจ ขนำดกลำงและขนำดยอ่ ม, 2561)

199 ตำรำงท่ี 5.1 กำรสง่ ออกสินค้ำสำคญั ของไทยเรยี งตำมมลู ค่ำปี 2559-2563 (มกรำคม-มีนำคม) มลู ค่ำ : ลำ้ นบำท 2561 2562 2562 2563 รายการ (ม.ค.-มี.ค.) (ม.ค.-มี.ค.) อนั ดับ มลู ค่า อนั ดบั มลู ค่า อันดับ มูลค่า อันดบั มูลคา่ ที่ ที่ ที่ ท่ี รวมทงั้ สนิ้ 584,834.42 579,089.37 138,641.05 137,756.16 อำหำรทะเล 1 124,927.81 1 116,856.61 1 29,392.98 1 26,590.95 นำ้ ตำลทรำย 2 97,692.29 2 94,014.65 2 17,825.51 2 18,804.84 ผลิตภัณฑ์ข้ำวส ำลีแล ะ 3 65,199.50 3 69,729.13 3 17,647.33 3 16,808.36 อำหำรสำเร็จรูปอ่นื ๆ เครอ่ื งดม่ื 4 60,841.72 4 63,671.44 4 15,665.57 4 15,313.82 5 13,357.18 5 14,166.82 อำหำรสัตว์เล้ยี ง 6 52,096.67 5 52,428.48 6 12,380.49 6 12,970.96 7 5,850.74 7 6,303.15 ผลไมก้ ระปอ๋ งและแปรรูป 5 54,941.75 6 50,606.27 9 3,637.80 8 3,911.61 11 2,493.12 9 2,570.18 สปี รงุ รสอำหำร 7 23,722.58 7 24,439.66 ผักกระป๋องและผักแปรรปู 9 13,670.34 9 14,523.96 ผลิตภัณฑข์ ำ้ ว 10 10,700.84 10 10,446.82 เน้ือสัตว์และของปรุงแต่งที่ 11 10,040.93 11 10,001.19 10 2,569.17 10 2,417.03 ทำจำกเน้ือสตั ว์ ไ ข มั น แ ล ะ น้ ำ มั น จ ำ ก พื ช 8 18,253.17 8 14,583.05 8 4,213.84 11 2,315.37 และสัตว์ 12 1,949.10 12 1,972.82 นมและผลิตภัณฑ์นม 12 7,741.55 12 8,288.85 13 1,412.70 13 1,159.96 หมำกฝร่ังและขนมที่ไม่มี 13 6,024.63 13 5,957.98 โกโก้ผสม 14 690.00 14 649.65 16 509.61 15 601.38 ไอศกรีม 14 2,751.45 14 2,726.69 17 507.92 16 557.57 15 540.41 17 326.74 กำกนำ้ ตำล 17 878.02 16 2,007.57 ซปุ และอำหำรปรุงแตง่ 16 2,060.35 17 1,957.60 โกโกแ้ ละซอสปรงุ รส 15 2,241.48 15 2,293.79 ทีม่ ำ : (ศนู ย์เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำร สำนักงำนปลัดกระทรวงพำณชิ ย์) 5.5.5.2 เทคโนโลยกี ำรจัดกำรเกษตร กำรจัดกำรทด่ี จี ะเปน็ หวั ใจสำคัญในกำรควบคุม ต้นทุน ปัจจัยกำรผลิต และคุณภำพของผลผลิตเพ่ือให้สำมำรถสนองควำมต้องกำรของตลำดท่ีให้ ควำมสำคัญกับควำมปลอดภัยต่อสุขภำพของผู้บริโภคและส่ิงแวดล้อมมำกขึ้น ในประเด็นควำม ปลอดภัยได้ให้คำจำกัดควำมของคุณภำพสินค้ำเกษตรที่มำกกว่ำขนำด รส และรูปลักษณ์ของสินค้ำ รวมถึงทำงด้ำนส่ิงแวดล้อมท่ีทำให้ต้องมีกระบวนกำรจัดกำรเกษตรที่ไม่ทำลำยสิ่งแวดล้อมและ ทรพั ยำกรธรรมชำตซิ ง่ึ ประเด็นเหลำ่ น้ตี อ้ งอำศยั วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยีเข้ำมำพฒั นำ เช่น เทคโนโลยี กำรจัดกำรระบบน้ำ กำรจัดกำรให้ปุ๋ยไปพร้อมกับน้ำ กำรจัดกำรเกี่ยวกับกำยภำพของต้นไม้เพ่ือ สะดวกต่อกำรควบคุมต้นทุนและคุณภำพของผลผลิต กำรควบคุมกำรใช้วัสดุกำรเกษตร กำรจัดกำร เก็บเกยี่ วและหลงั กำรเกบ็ เกยี่ ว กรณีศกึ ษำ เทคโนโลยีกำรจัดกำร : บริษทั ไทยฮง ผูส้ ่งออกผลไม้ เกียรติศกั ด์ิ ตั้งเจรญิ สทุ ธชิ ัย ผูค้ ำ้ ผลไม้จังหวดั ระยองเปน็ ผู้ส่งออกรำยใหญข่ องประเทศ ผลไม้ส่งออกได้แก่ ทุเรียน กล้วยไข่ มะละกอ ชมพู่ทับทิมจัน มังคุด และลำไย ปัญหำทำงเกษตรที่ เกียรติศักด์ิ ต้ังเจริญสุทธิชัย คำดกำรณ์ในอนำคต คือ ถ้ำชำวสวนผลไม้ไม่ให้ควำมสำคัญกับกำร ผลิตผลไม้ท่ีมีคุณภำพตำมท่ีลูกค้ำต้องกำรย่อมส่งผลกระทบต่อกำรส่งออกได้ และได้แสดงให้เห็นว่ำ

200 กำรทำสวนผลไม้ท่ีมีคุณภำพสม่ำเสมอและต้นทุนต่ำสำมำรถเปน็ ไปได้ จึงได้ทดลองทำสวนผลไม้ด้วย ตนเอง โดยนำเทคโนโลยีกำรทำสวนผลไม้แบบใหม่ที่เรียกว่ำ ต้นเตี้ย มำใช้เพื่อทำเป็นตัวอย่ำงให้ ชำวสวนท่ีเปน็ คู่ค้ำมำศึกษำดูงำนและนำไปปรับใชใ้ นพื้นท่ีตนเองเพ่ือให้ผลไม้มีคุณภำพดีและเปน็ กำร ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทำงกำรตลำดผลไม้ไทยในตลำดโลก วิธีกำรทำสวนผลไม้ต้นเตี้ยตำมที่ได้ไปศึกษำดู งำนที่เกษตรกรไต้หวัน ญี่ปุ่น และจีน คือ ที่เสฉวนมีกำรปลูกสำล่ีซึ่งมีลำต้นสูง 10 เมตร แต่สำมำรถ ยอ่ ใหเ้ หลือ 3 เมตร จึงคดิ วำ่ นำ่ จะมคี วำมเป็นไปได้ที่จะนำมำใช้กบั ทุเรยี นและสวนผลไม้อนื่ โดยวิธีกำร เริ่มแรกนำทุเรียนหมอนทองเก่ำ 2,000 ต้น ท่ีมีอำยุ 8 ปี มีควำมสูง 10 เมตร มำปรับแต่งทรงพุ่มให้ เหลือเพียง 3-3.5 เมตร โดยวธิ ดี งึ พมุ่ สว่ นทุเรียนทป่ี ลูกใหม่ให้มรี ะยะปลูกระหว่ำงต้น 3.5×3.5 เมตร และจะเรม่ิ ตัดยอดต้งั แต่ตน้ เล็ก ๆ ซ่งึ เมือ่ อำยุทุเรียนได้ 3 ปสี ำมำรถให้ผลได้ ผลกำรทดลองใช้สำรเคมี ฆ่ำแมลง ปุ๋ย และค่ำจัดกำรต่ำง ๆ คิดเป็นต้นทุนลดลงเหลอื ประมำณ 1 ใน 4 ของต้นทุน ลดค่ำจ้ำง เก็บเก่ียว ในด้ำนผลผลิตไม่แตกต่ำงคือให้ปริมำณลูกเท่ำกัน นอกจำกนี้ยังสำมำรถควบคุมขนำดลูก และควบคุมควำมอ่อนแกของผลได้ ควบคุมสีผิวให้สะอำดโดยใช้ถุงรีเมย์ห่อผล ทำใหท้ ุเรยี นมีคุณภำพ ส่งออกได้มำกกวำ่ เดิม 5.5.2 เทคโนโลยีควบคุมส่งิ แวดล้อม กำรควบคุมสิ่งแวดล้อมมีผลต่อต้นทุนและคุณภำพของผลผลิต ตัวอย่ำงของกำร ควบคุมอุณหภูมิท่ีเหมำะสมในกำรเล้ียงสัตว์ เช่น ไก่ หมู เป็ด ผักและไม้ดอกไม้ประดับในโรงเรือน ปิดพร้อมระบบระเหยไอน้ำเย็นจะมีส่วนช่วยในกำรควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช ทำให้ผลผลิตมี คุณภำพ ตน้ ทนุ ตำ่ ลง กำรควบคมุ อณุ หภมู ิยงั ชว่ ยในกำรรกั ษำคุณภำพหลงั กำรเกบ็ เกยี่ วหรอื ชว่ ยอำยุ กำรเก็บรักษำเพ่ือประโยชน์ทำงกำรตลำด เช่น กำรขนส่ง หรือกำรควบคุมแสงสว่ำงจะมีผลต่อกำร ออกดอกของพืช เช่น เบญจมำศเป็นพืชวันสั้นจะออกดอกเม่ือกลำงวันสั้นกว่ำ 14 ช่ัวโมง จึงต้องทำ แปลงให้มืดเพื่อลดช่ัวโมงแสงสว่ำง แก้วมังกรเป็นพืชวันยำวจะออกดอกต้องมีแสงสว่ำงยำวกว่ำวัน ปกติจึงต้องเปิดไฟตอนกลำงคืนให้แสงสว่ำง ส่วนไก่ไข่พบว่ำถ้ำเปิดไฟให้มีแสงสว่ำงยำวนำนกว่ำปกติ โดยธรรมชำติจะให้ผลผลิตสูงข้ึน กำรควบคุมเสียงเพ่ือให้สัตว์เลี้ยงคลำยเครียดและให้ผลผลิตสูงข้ึน กำรใช้กล่ินเพ่ือล่อแมลงศัตรูพืช กำรเปลี่ยนจำกเกษตรกลำงแจ้งเป็นเกษตรในร่ม โดยทำกำร เพำะปลูกและเล้ียงสัตว์ในส่ิงปลูกสร้ำงที่มีกำรควบคุมสภำพแวดล้อม เช่น กำรทำไร่ในอำคำรสูง (Vertical Farming) กำรทำฟำร์มในเมืองเพื่อเป็นแหล่งผลิตอำหำรได้เองทั้งปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ กำรใชเ้ ทคโนโลยีท่ีสำมำรถกำหนดเวลำกำรออกผลผลิต เปน็ ต้น 5.5.3 เทคโนโลยชี ีวภาพดา้ นการเกษตรและอตุ สาหกรรมอาหาร เทคโนโลยีชีวภำพ (Biotechnology) เกิดจำกกำรนำคำท่ีมีควำมหมำย 3 คำ คือ Bio หรือ Bios หมำยถึง สิ่งมีชีวิต Techno หรือ Technikos หมำยถึง เคร่ืองมือ ส่วนคำสุดท้ำยคือ Logy หรอื Logos หมำยถงึ กำรศกึ ษำ เม่อื รวมทง้ั สำมคำจงึ เกิดเปน็ ควำมหมำยของเทคโนโลยีชีวภำพ (วรพนั ธ์ บุญชยั , 2558) เทคโนโลยีชีวภำพ คือ กำรใช้เทคนิคหรือกระบวนกำรต่ำง ๆ ในกำรนำสิ่งมีชีวิต ชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตหรือผลิตภัณฑ์ของส่ิงมีชีวิตมำประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับมนุษย์ในด้ำน ต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นด้ำนกำรเกษตร ด้ำนสิ่งแวดล้อม ด้ำนอุตสำหกรรมอำหำร ด้ำนกำรแพทย์ โดย

201 เทคโนโลยีชีวภำพมีควำมเก่ียวข้องกับกำรประยุกต์ใช้ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์ในสำขำต่ำง ๆ เช่น ชีววิทยำ จุลชวี วทิ ยำ พนั ธศุ ำสตร์ เกษตรศำสตร์ แพทยศำสตร์ วศิ วกรรมศำสตร์ คอมพิวเตอร์ เปน็ ตน้ เทคโนโลยีชีวภำพท่ีมีกำรใช้ในทำงกำรเกษตร ได้แก่ กำรพัฒนำพันธุ์พืชให้มี ควำมสำมำรถในกำรต้ำนทำนต่อแมลงศัตรูพืช เพิ่มควำมทนทำนของพืชในสภำพแวดล้อมท่ีไม่ เหมำะสม เช่น ควำมแห้งแล้ง น้ำท่วม กำรใช้เทคโนโลยีชีวภำพเพ่ือทำให้ผลไม้สุกงอมช้ำลงและลด ควำมเสียหำยระหว่ำงกำรขนส่ง กำรเพ่ิมผลผลิตโดยไม่ต้องขยำยพ้ืนท่ีเพำะปลูก กำรเพำะเล้ียง เนื้อเยื่อเพื่อใช้ในกำรขยำยพันธ์ุพืชให้ได้จำนวนมำกในเวลำอันรวดเร็ว กำรผลิตท่อนพันธ์ุพืชท่ี ปรำศจำกเช้ือโรคเพ่ือลดกำรระบำดของโรค กำรปรับปรุงพันธุ์พืชและสัตว์ให้มีลักษณะท่ีดี กำรนำ จุลนิ ทรยี ์มำใช้ทำงกำรเกษตร กำรใช้เทคโนโลยใี นกำรตรวจสอบพันธ์ุพืชและสัตวเ์ ศรษฐกิจ เปน็ ตน้ เทคโนโลยีชีวภำพที่ประยุกต์ใช้ในอุตสำหกรรมอำหำร ได้แก่ กำรหมักอำหำร เช่น ไส้กรอก เบคอน ปลำร้ำ กำรผลิตเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ สุรำ ผลิตภัณฑ์อำหำรจำกถ่ัวเหลอื ง เช่น เตำ้ เจย้ี ว ซอี วิ๊ เตำ้ หู้ ผลติ ภณั ฑจ์ ำกนม เชน่ โยเกิร์ต ชสี เนย เป็นต้น 5.5.3.1 สำรชีวภณั ฑ์กำจัดศัตรูพืช สำรชีวภัณฑ์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่ิงมีชวี ติ ที่ใชใ้ น กำรควบคุมศัตรูพืช ได้แก่ ตัวห้ำ ตัวเบียน และเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อจุลินทรีย์ที่สำมำรถนำมำกำจัดเชื้อ รำที่เป็นสำเหตุโรคพืช ได้แก่ เช้ือรำไตรโคเดอร์มำ เช้ือรำบิวเวอเรีย และเช้ือรำเมตตำไรเซียม ซ่ึง ปัจจุบันได้แพร่หลำยและมีแนวโน้มกำรใช้เพิ่มมำกข้ึนเรื่อย ๆ นอกจำกน้ียังมีเช้ือแบคทีเรียบีที (Bacillus thuringiensis) และเชื้อไวรัสเอ็น วี พี (Nuclear Polyhedrosis Virus, NPV) ที่นำมำใช้ กำจดั ศัตรูพืชแทนกำรใชส้ ำรเคมี (1) เชื้อรำบิวเวอเรีย (Beauveria bassiana) อยู่ในวงศ์ Moniliales อันดับ Deutesomycetes ชั้น Fungi Imperfecti เป็นจุลินทรีย์ที่จัดเป็นพวกเชื้อรำทำลำยแมลง สำมำรถทำลำยแมลงได้หลำยชนดิ โดยกำรผลติ เอนไซม์ท่ีเป็นพิษต่อศตั รูพืช เปน็ เชอ้ื รำท่อี ำศัยและกิน เศษซำกท่ีผุพัง (Saprophyte) วิธีในกำรเข้ำทำลำยแมลงของเชอื้ รำบิวเวอเรียคือ สปอร์ของเชื้อรำตก ติดอยู่กับผนังลำตัวแมลงโดยกำรเข้ำสู่ตัวแมลงทำงผนังลำตัว รูหำยใจ บำดแผลบนผนังลำตัว เม่ือ ควำมช้ืนเหมำะสมกับกำรงอก สปอร์จะแทงทะลุผิวหนังลำตัว เช้ือรำจะงอกสู่ช่องว่ำงลำตัวและ เจริญเติบโตสร้ำงเส้นใยมำกมำยทำลำยแมลง และเมื่อแมลงตำยเส้นใยจะแทงทะลุผ่ำนผนังลำตัว แมลงออกสภู่ ำยนอกตวั แมลง สปอร์สำมำรถแพร่กระจำยไปตำมลม ฝน หรือตดิ กับตวั แมลง เช้ือรำจึง สำมำรถขยำยพนั ธ์ุต่อได้ เมือ่ มสี ภำพแวดล้อมที่เหมำะสมก็จะทำลำยแมลงต่อไป ลักษณะอำกำรของ แมลงเมื่อถูกเชื้อรำบิวเวอเรียเข้ำทำลำย คือ จะมีอำกำรเบื่ออำหำร กินน้อยลง อ่อนเพลียและไม่ เคล่ือนไหว สีผนังลำตัวแมลงมักจะเปลีย่ นไป ปรำกฏจุดสดี ำบนบริเวณที่ถูกเชือ้ รำเข้ำทำลำย และพบ เส้นใยและผงสีขำวของสปอร์ปกคลุมตัวแมลงที่ถูกเชือ้ รำเข้ำทำลำย เช้ือรำบิวเวอเรยี สำมำรถทำลำย แมลงศัตรูพืชที่สำคัญ ได้แก่ แมลงหว่ีขำว หนอนเจำะสมอฝ้ำย ไรแดง เพลี้ยไฟ เพล้ียอ่อน เพล้ียไก่ แจส้ ม้ เพล้ียจกั จั่น เพลี้ยกระโดดสีนำ้ ตำล ศูนยส์ ่งเสริมเทคโนโลยีกำรเกษตรด้ำนอำรักขำพืช จงั หวัด เชยี งใหม่ (มปป.)พบว่ำ เพลย้ี กระโดดสนี ้ำตำลเปน็ แมลงศตั รูขำ้ วอนั ดับหน่ึงของประเทศไทย ซงึ่ หำกมี กำรระบำดอย่ำงหนัก จะทำควำมเสียหำยอย่ำงมำกให้กับนำข้ำว สำเหตุที่มีกำรระบำดรุนแรง เนื่องจำกเพลี้ยชนิดน้ีดื้อสำรเคมีที่มีกำรใช้อยู่อย่ำงมำกจนไม่สำมำรถควบคุมได้ กำรใช้สำรเคมีอย่ำง

202 หนักทำใหแ้ มลงทีเ่ ป็นประโยชน์ถูกทำลำยไปด้วย เสยี สมดุลธรรมชำติและไมม่ ีแมลงศัตรูธรรมชำติของ เพลยี้ หลงเหลอื อยู่อีกตอ่ ไป (2) เชื้อรำไตรโคเดอร์มำ (Trichoderma spp.) เป็นเชื้อรำช้ันสูงที่ดำรงชีวิต อยู่ในดิน อำศัยเศษซำกพืช ซำกสัตว์และอินทรียวัตถุเป็นแหล่งอำหำร เจริญเติบโตได้รวดเร็วบน อำหำรเล้ียงเชอ้ื รำหลำยชนิด สร้ำงเส้นใยสขี ำวและผลิตส่วนขยำยพันธุ์ท่ีเรียกว่ำ โคนิเดีย หรือ สปอร์ จำนวนมำกรวมเป็นกลุ่มหนำแน่นจนเห็นเป็นสีเขียว เชื้อรำไตรโคเดอร์มำเป็นศัตรูต่อเชื้อรำที่เป็น สำเหตุโรคพืชหลำยชนิดโดยวิธีกำรเบียดเบียนหรือเป็นปรสิตและแข่งขันหรือแย่งใช้อำหำรท่ีเช้ือโรค ต้องกำร นอกจำกนเี้ ชื้อรำไตรโคเดอรม์ ำยงั สำมำรถผลติ ปฏชิ ีวนสำรและสำรพษิ ตลอดจนน้ำย่อยหรือ เอนไซม์สำหรับช่วยละลำยผนังเส้นใยของเชื้อโรคพืช คุณสมบัติพิเศษของเช้ือรำไตรโคเดอร์มำ คือ สำมำรถช่วยละลำยแร่ธำตุให้อยู่ในรูปท่ีเป็นประโยชน์ต่อพืชจึงช่วยส่งเสริมกำรเจริญเติบโตของพืช และชักนำให้ต้นพืชมีควำมต้ำนทำนต่อเช้ือโรคพืชทั้งเช้ือรำและแบคทีเรียที่เป็นสำเหตุของโรค (จิระ เดช แจ่มสว่ำง และวรรณวไิ ล อินทนู, มปป.) (3) รำเขียวเมตำไรเซียม (Metarhizium anisopliae) เป็นจุลินทรีย์ที่พบใน ดินสังเกตได้ยำกด้วยตำเปล่ำ สำมำรถทำให้เกิดโรคในแมลงได้หลำยชนิด เช่น ต๊ักแตน หนอนด้วง หนอนผีเสื้อ มวน และเพลี้ยต่ำง ๆ ส่วนใหญ่ใช้กำจัดแมลงในดินโดยเฉพำะในกลุ่มหนอนด้วง แรด (Rhinoceros beetle) ในระยะตัวหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย กำรใช้รำเขียวเมตำไรเซียม ควบคุมด้วงแรดมะพร้ำวเป็นวิธีกำรป้องกันและกำจัดทำงชีววิธีที่ได้ผลในระยะยำวเพรำะไม่มีสำรพิษ ตกค้ำง ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม รำเขียวเมตำไรเซียมสำมำรถอยู่ในดินได้ข้ำมปี มีควำมเจำะจงต่อ กลุ่มแมลงอำศัย กำรใช้รำเขียวเมตำไรเซียมควบคุมด้วงแรดมะพร้ำว ทำได้โดยใช้วิธีกำรคลุกผสม เช้ือลงในกองล่อแล้วใส่เช้ือรำลงไป รดน้ำและหำวัสดุคลุมกองล่อไว้เพื่อเพิ่มควำมช้ืนในกองล่อ ทำให้ เช้ือรำสำมำรถเจริญเติบโตได้ หนอนที่ฟกั ออกจำกไข่จะถูกเช้ือรำเข้ำทำลำย เมือ่ ไดร้ บั ควำมช้นื และมี อณุ หภมู ิท่ีเหมำะสม สปอรข์ องเช้ือรำเขียวเมตำไรเซียมจะงอกและแทงทะลุผ่ำนผนังลำตวั ของหนอน ด้วงแรดมะพร้ำว เส้นใยเชื้อรำเขียวเมตำไรเซียมจะเจริญเติบโตโดยกำรดูดซึมและแย่งอำหำรภำยใน ลำตัวหนอน ขณะเดียวกันเส้นใยบำงส่วนอำจทำลำยเน้ือเย่ือหรืออวัยวะภำยในของหนอนให้ได้รับ ควำมเสียหำย จำกน้ันเส้นใยจะเจริญเติบโตและแพร่กระจำยจนเต็มตัวเหย่ืออำศัย หนอนท่ีตำยด้วย เช้ือรำเขียวเมตำไรเซียมมักมีลักษณะลำตัวแห้งและแข็ง เนื่องจำกมีเส้นใยเช้ือรำเมตำไรเซียมเจริญ อดั แนน่ อยู่ภำยในลำตัว หลงั จำกหนอนตำยเช้ือรำจะแทงทะลุผำ่ นผนังลำตัวออกมำแพร่กระจำยพันธุ์ ภำยนอก ในช่วงแรกจะพบเส้นใยสีขำวข้ึนปกคลุมลำตัว และจะสร้ำงสปอร์สีเขียวในเวลำต่อมำ (กลุ่มงำนวจิ ัยกำรปรำบศัตรูพืชทำงชวี ภำพ สำนกั วจิ ัยพฒั นำกำรอำรกั ขำพืช, มปป.) (4) เชอ้ื ไวรัส เอน็ พี วี (Nuclear Polyhedrosis Virus, NPV) เอ็น พี วี เปน็ กล่มุ ไวรัสทีม่ ีอยู่ตำมธรรมชำติ มกี ำรใช้เชือ้ ไวรสั เอน็ พี วี เพอื่ ควบคุมหนอนกระทู้หอมเน่ืองจำกกำร ปลูกหอมจะมีปัญหำท่ีสำคัญคือ มีกำรใช้สำรเคมีแต่กลับพบว่ำหนอนกระทู้หอมย่ิงมีกำรดื้อสำรเคมี มำกย่ิงขึ้น จึงต้องใช้สำรเคมีที่มีควำมแรงมำกข้ึนซึ่งทำให้ต้นทุนของกำรปลูกหอมเพิ่มขึ้นและส่งผล กระทบต่อสุขภำพของเกษตรกรและส่ิงแวดล้อม หน่วยบริกำรเทคโนโลยีเพ่ือกำรพัฒนำชนบท ศูนย์ พนั ธุวศิ วกรรมและเทคโนโลยีแหง่ ชำติ (ไบโอเทค) ได้รว่ มกับกรมวชิ ำกำรเกษตรแนะนำเกษตรกรให้ใช้ เชอ้ื เอน็ พี วี เพอ่ื ควบคมุ หนอนกระท้หู อม ไวรัส เอ็น พี วี เปน็ ไวรสั ในธรรมชำติทที่ ำให้หนอนเป็นโรค

203 และตำยเม่อื หนอนกนิ ไวรสั ที่พน่ ลงไปบนใบหอม เชอ้ื จะเข้ำสู่กระเพำะอำหำรของหนอน อนุภำคไวรัส จะเริ่มทำลำยเซลลผ์ นังกระเพำะอำหำรก่อนแล้วจึงขยำยจำนวนเพิ่มขึ้นและแพร่กระจำยเข้ำสู่ภำยใน ลำตัวของหนอน ทำลำยอวัยวะภำยในส่วนต่ำง ๆ เช่น เม็ดเลือด ไขมัน กล้ำมเนื้อ และผนังลำตัว จนกระท่ังหนอนตำยในที่สุด ไวรัสน้ีได้รับกำรทดสอบแล้วว่ำมีควำมปลอดภัยต่อสงิ่ มีชวี ิตทุกชนดิ เชื้อ ไวรสั เอ็น พี วี มคี วำมเจำะจงกบั เป้ำหมำยมำกโดยจะเลือกทำลำยเฉพำะหนอนกระท้หู อมโดยไม่มีผล ต่อแมลงศตั รูพชื ชนดิ อ่ืน (5) เชื้อแบคทีเรีย บีที (Bacillus thuringiensis) เป็นเช้ือแบคทีเรียที่เกิดขนึ้ ตำมธรรมชำติพบได้ทุกหนทุกแห่งในโลก ทั้งในอำกำศ ดิน น้ำ แม้แต่บนต้นไม้และใบไม้ ลักษณะเฉพำะของบีที คือ สำมำรถสร้ำงสำรพิษซึ่งเม่ือแมลงกินเข้ำไปจะทำให้แมลงตำย จึงได้มีกำร นำไปใช้ควบคุมแมลงท่ีกินพืชผลทำงกำรเกษตร บีที เป็นจุลินทรีย์ท่ีมีศักยภำพสูงสำมำรถใช้ในกำร ควบคุมแมลงศัตรูพืชท่ีสำคัญทำงเศรษฐกิจได้หลำยชนิด เช่น หนอนกระทู้หอม หนอนใยผัก หนอน เจำะสมอฝำ้ ย หนอนกนิ ใบปำล์ม ฯลฯ ไมเ่ ป็นอนั ตรำยต่อมนษุ ย์ นก ผึ้ง ตอ่ แตน และสตั วอ์ นื่ ๆ แต่ เป็นศัตรูกับแมลงศัตรูพืชในอันดับ Lepidoptera. Coleoptera และ Diptera ในต่ำงประเทศมีกำร ทดลองเกี่ยวกับควำมปลอดภัยจำกกำรใช้เชื้อแบคทีเรียบีที โดยทดลองกับสัตว์เลือดอุ่น สัตว์น้ำ จำพวกปลำ แมลงที่เป็นประโยชน์ เช่น ผงึ้ แมลงห้ำ แมลงเบียน กำรฆำ่ แมลงของแบคทเี รียบีทีจะทำ โดยกินแมลงเข้ำไปและมีควำมเฉพำะกับตัวอ่อนหรือวัยหนอนของแมลง ยกเว้นบำงสำยพันธ์ุของบีที ท่ีทำลำยได้ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของด้วงปีกแข็งบำงชนิด สำรพิษที่แมลงกินเข้ำไปอยู่ในรูปของ Protoxin (ยังไม่เป็นพิษ) เมื่อเข้ำไปอยู่ท่ีกระเพำะซ่ึงมีน้ำย่อยท่ีมีควำมเป็นด่ำงค่อนข้ำงสูงทำให้เกิด ขบวนกำรย่อย Protoxin โดยน้ำย่อย Proteolytic ออกมำเป็น Active toxin สำรพิษน้ีจะไปอยู่ท่ี ผนังเซลล์ของกระเพำะและทำลำยผนังเซลให้เปน็ แผล น้ำย่อยท่ีมีฤทธิ์เป็นดำ่ งจะเขำ้ ไปตำมรอยแผล ในชอ่ งวำ่ งภำยในลำตัว (Hemocoel) ของแมลง ทำให้แมลงเกิดอำกำรชะงัก หยุดกินอำหำร สปอร์ท่ี แมลงกินเข้ำไปจะไปขยำยพันธุ์อยู่ที่ลำไส้และบำงส่วนก็จะเข้ำไปตำมรอยแผล ไปแบ่งตัวอยู่ตำม เนื้อเย่ือต่ำง ๆ ในตัวแมลง ซ่ึงเป็นสำเหตุของ Septicemia (กำรติดเชื้อในกระแสเลือด) ในที่สุด แมลงจะตำย (อจั ฉรำ ตนั ตโิ ชดก, มปป.) 5.5.3.2 เทคโนโลยีกำรปรับปรุงพันธ์ุสัตว์ โดยเฉพำะกุ้งเพรำะกุ้งของประเทศไทย เป็นสินค้ำส่งออกท่ีสำคัญเน่ืองจำกคุณภำพเป็นที่ยอมรับ มีกำรพัฒนำกำรเลี้ยงกุ้งกุลำดำโดยกำร นำเอำเทคโนโลยีชีวภำพมำช่วยในอุตสำหกรรมกำรเพำะเลี้ยง เร่ิมจำกกำรพัฒนำพ่อแม่พันธ์ุกุ้งที่มี ลักษณะคล้ำยกุ้งธรรมชำติและสำมำรถพัฒนำต่อจนเล้ียงเชิงพำณิชย์ได้ ต่อมำมีกำรพัฒนำกำร ตรวจสอบกำรติดเชื้อไวรัสในกุ้งกุลำดำอย่ำงมีประสิทธิภำพทำให้สำมำรถป้องกันกำร ระบำดของเชื้อ ไวรัสได้ นอกจำกน้ียังมีกำรวิจัยเก่ียวกับยีนในระบบภูมิคุ้มกันป้องกันปัญหำโรคระบำดอย่ำงย่ังยืน เพอื่ กำรแกป้ ัญหำโรคระบำดกุ้งอย่ำงเปน็ รปู ธรรมและนำไปสวู่ ิธีกำรควบคุมและป้องกันโรคในกุ้งอย่ำง มปี ระสทิ ธภิ ำพ 5.5.3.3 เทคโนโลยีกำรเพำะเลีย้ งเน้อื เยื่อพืช กำรเพำะเลี้ยงเนอื้ เยอ่ื พชื คอื กำรนำเอำ สว่ นใดสว่ นหนง่ึ ของพืชไม่ว่ำจะเป็นส่วนอวัยวะหรือสว่ นเน้ือเยื่อมำเลี้ยงในอำหำรวิทยำศำสตร์ ภำยใต้ สภำพปลอดเช้ือจุลินทรีย์และอยู่ในสภำวะควบคุมอุณหภูมิ แสง ควำมช้ืน โดยส่วนของพืชท่ีนำมำ เล้ียงน้จี ะสำมำรถเจริญเติบโตพัฒนำได้หลำยรปู แบบไมว่ ่ำจะพัฒนำเป็นสว่ นอวยั วะ เกิดเป็นกลมุ่ เซลล์

204 ท่ีเรียกว่ำ แคลลัส หรือ คัพภะ (ต้นอ่อนขนำดเลก็ ) ที่เรียกว่ำ เอ็มบริโอ ซึ่งในที่สุดก็จะสำมำรถบงั คบั ให้ส่วนต่ำง ๆ เหล่ำนี้เกิดเป็นต้นใหม่ที่มีรำกท่ีสมบูรณ์พร้อมนำไปปลูกในดินต่อไป พืชที่เกิดจำกกำร เพำะเล้ียงเนื้อเย่ือจะมีลักษณะเหมือนกับพืชต้นพันธุ์ท่ีนำมำใช้เพำะเล้ียงทุกประกำรจึงเหมำะสำหรับ นำมำขยำยพนั ธเ์ุ พอื่ กำรอนรุ ักษพ์ ันธพุ์ ชื ต่ำง ๆ โดยอำศัยกำรเก็บกลุ่มเซลล์ที่เรยี กวำ่ แคลลสั ของพืชไว้ ท่ีอุณหภูมิเย็นจัดถึง -196 องศำเซลเซียส ภำยใต้ไนโตรเจนเหลวซ่ึงวิธีนี้จะสำมำรถเก็บพืชได้เป็น เวลำนำนโดยไมม่ ีกำรกลำยพันธห์ุ รืออำจใช้ในกำรเก็บรวบรวมพันธ์ุพชื โดยบังคับให้พชื โตชำ้ ๆ ในขวด แก้วเล็ก ๆ กำรอนุรักษ์พันธุ์พืชด้วยวิธีกำรนี้จะใช้พ้ืนท่ีน้อยกว่ำกำรเก็บพันธุ์พืชที่ผลิตเป็นต้นพืช โดยตรง นอกจำกน้กี ำรเพำะเล้ียงเน้ือเย่ือพืชยงั มปี ระโยชน์ต่อกำรแลกเปลี่ยนพนั ธุพ์ ชื กบั ต่ำงประเทศ ท่ีสะดวกขึ้น พืชที่อยู่ในขวดสะอำด ปรำศจำกเชื้อจุลินทรีย์และรำท่ีจะทำอันตรำยต่อพืชโดยเฉพำะ กำรเพำะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชสมุนไพรในรูปแบบเซลล์แขวนลอย ช่วยในกำรผลิตสำรต่ำง ๆ ที่ใช้เป็นยำ รักษำโรคหรือสำรที่ใช้เป็นยำฆ่ำแมลงได้ อีกทั้งยังเป็นประโยชน์อย่ำงมำกในกำรปรับปรุงพันธ์ุพืชให้ ต้ำนทำนโรคและแมลงได้ดีขึ้นหรือให้ผลผลิตมำกขึ้น โดยอำศัยเทคนิคในกำรเลี้ยงต้นอ่อนขนำดเล็ก เทคนิคในกำรเพำะเล้ียงอับละอองเกสรและละอองเกสรพืชหรือเทคนิคในกำรชักนำ ให้พืชกลำยพันธ์ุ เป็นพันธ์ุใหม่ๆ โดยอำศัยสำรเคมีหรือกำรฉำยรังสี เป็นต้น (สำนักงำนพัฒนำวิทยำศำสตร์และ เทคโนโลยีแหง่ ชำติ, 2542) เทคโนโลยีน้ี ไดน้ ำมำชว่ ยเกษตรกรผู้ปลูกขิงเพื่อใหไ้ ด้ท่อนพนั ธุ์ขงิ ท่ีปลอด โรคและใช้เวลำปลกู เพยี ง 3 เดือนกส็ ำมำรถเกบ็ ผลผลติ ได้ จำกที่เคยตอ้ งใชเ้ วลำถึง 8 เดือนกวำ่ จะเก็บ เก่ียวผลผลิตได้ นอกจำกน้ียังมีกำรนำเทคโนโลยีน้ีมำใช้กับกล้วยไม้เพรำะสำมำรถผลิตต้นพันธุ์ได้ ปริมำณมำกในเวลำรวดเร็ว ต้นพันธุ์ปลอดเชื้อ มีลักษณะตรงตำมพันธ์ุ จึงเหมำะท่ีจะนำมำใช้ในกำร ขยำยพนั ธุก์ ลว้ ยไมส้ ำหรบั เกษตรกรที่ปลูกกล้วยไมส้ ่งออก 5.5.3.4 เทคโนโลยกี ำรแปรรปู สินค้ำเกษตรกรรม ผลผลิตทำงกำรเกษตรเป็นวัตถุดิบที่มีอำยุกำรเก็บรักษำส้ันจึงต้องมีกำรแปร รปู และในปจั จบุ นั กำรแปรรปู เป็นกำรสรำ้ งมูลคำ่ เพิ่มให้แกส่ ินค้ำเกษตรน้นั ด้วย สำเหตทุ ท่ี ำให้วตั ถุดิบ เสียเกิดจำกกำรเปลี่ยนแปลงทำงเคมีและกำรเปล่ียนแปลงท่ีเกิดจำกจุลินทรีย์ท่ีทำให้อำหำรเกิดกำร เปล่ียนแปลง จุลินทรีย์ เป็นสิ่งมีชีวิตท่ีเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ เช่น รำ แบคทีเรีย ยีสต์ ทำให้ อำหำรเสียหรืออำหำรเป็นพิษ เอนไซม์เป็นโปรตีนในเซลล์ที่หน้ำที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยำต่ำง ๆ กำร เปลี่ยนแปลงของอำหำรเกิดจำกเอนไซม์ในอำหำรและเอนไซม์จำกจุลินทรีย์ท่ีปนเป้ือนอยู่ในอำหำร อำจทำให้สีและกลิ่นของอำหำรเปลีย่ นไป แมลงและสตั ว์ก็สำมำรถทำให้อำหำรเกดิ กำรเสียไดโ้ ดยกำร ลดปรมิ ำณของสำรอำหำรหรือทำให้อำหำรไมน่ ่ำรับประทำนและยงั มีโอกำสไดร้ ับเชื้อโรคจำกสตั ว์หรือ แมลงนนั้ เป็นพำหะได้ นอกจำกนย้ี ังมีปจั จัยภำยนอกอกี ที่ทำใหเ้ กิดกำรเปลีย่ นแปลงของอำหำร เช่น แรงกระแทกจำกภำยนอกทำให้อำหำรเกิดกำรบอบชำ้ แตกหกั อำหำรสดหำกได้รับแรงกระแทกอำจ เป็นสำเหตุทำใหเ้ อนไซม์เร่งปฏกิ ริ ิยำต่ำง ๆ ใหเ้ รว็ ข้ึน ปรมิ ำณออกซิเจน โลหะหนกั แสง และอุณหภูมิ ล้วนมผี ลต่อกำรเสอ่ื มเสียของอำหำรได้ทัง้ ส้ิน ดงั น้ันกำรยดึ อำยุกำรเก็บและกำรแปรรปู อำหำรจึงต้อง ยับย้ังหรือชะลอกำรเสื่อมเสียท่ีเกิดจำกกำรเปล่ียนแปลงน้ันโดยปรับเปลี่ยนอุณหภูมิ ปริมำณน้ำใน อำหำร ควำมเป็นกรด-ด่ำง ปริมำณออกซิเจนซึ่งเป็นปัจจัยท่ีต้องควบคุมในกระบวนกำรแปรรูปและ เก็บรักษำอำหำร หลักกำรยึดอำยุกำรเก็บรักษำอำหำรทำได้หลำยวิธี ได้แก่ กำรป้องกันหรือทำให้ กำรเสื่อมเสียจำกจุลินทรีย์ชำ้ ลง กำรป้องกันหรือทำให้ปฏิกิริยำเคมีในอำหำรช้ำลง กำรป้องกันควำม

205 เสียหำยที่เกิดจำกปัจจัยภำยนอก เช่น แสง ออกซิเจน แมลง หรือควำมเสียหำยที่เกิดจำกกำรขนส่ง กำรเก็บรักษำ กรรมวิธีกำรแปรรูปอำหำรมีให้เลือกใช้หลำยวิธขี ้ึนอยู่กับชนิดและประเภทของอำหำร โดยเฉพำะปริมำณน้ำและควำมเป็นกรดด่ำงของอำหำร วิธีกำรแปรรูป ได้แก่ กำรใช้ควำมร้อน กำร ลดปริมำณน้ำในอำหำร กำรหมัก กำรใช้สำรเคมี ตัวอย่ำงกำรแปรรูปพืชและสัตว์เศรษฐกิจท่ีสำคัญ ของประเทศไทย ไดแ้ ก่ (1) กำรแปรรูปข้ำว ข้ำวเป็นพืชเศรษฐกิจท่ีสำคัญของประเทศและเพื่อเป็น กำรพัฒนำศักยภำพของข้ำวไทยจึงได้มีกำรพัฒนำข้ำวเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่ำง ๆ ทั้งเคร่ืองสำอำง อำหำรว่ำง และเครื่องด่ืม ดังเช่นท่ีมูลนิธิข้ำวไทยในพระบรมรำชูปถัมภ์ร่วมกับสำนักงำนนวัตกรรม แห่งชำติ (องค์กรมหำชน) (National Innovation Agency, NIA) จัดกำรประกวดรำงวัลนวัตกรรม ข้ำวไทย โดยมีผลงำนที่ผ่ำนกำรคัดเลือกมำกถึง 45 ผลงำน ดังเช่นตัวอย่ำงผลงำนต่อไปน้ี (ผู้จัดกำร ออนไลน์, 2561) (1.1) แป้งสำเร็จรูปสำหรับทำเอแคลร์จำกข้ำวไรซ์เบอร์ร่ี เป็น นวัตกรรมระดับประเทศด้ำนผลิตภัณฑ์แป้งสำเร็จรูปสำหรับทำเอแคลร์รี่ท่ีนำแป้งข้ำวไรซ์เบอร์รี่มำ ทดแทนกำรใช้แป้งสำลี 100 % ซึ่งให้คุณสมบัติทำงโภชนำกำรสูงร่วมกับกำรใช้แป้งข้ำวโพดในกำร ปรับเน้ือสัมผัสไม่ให้แข็งกระด้ำงและแป้งดัดแปรช่วยให้ควำมคงตัวของเปลือกไรซ์เบอร์รี่เอแคลร์ไม่ ยบุ ตวั หลังจำกทผี่ ่ำนกำรอบท่ีอุณหภมู ิสงู และยังช่วยเพ่ิมคุณสมบัติในกำรอ้มุ นำ้ ทำให้เนื้อสัมผสั มีควำม ยืดหยุน่ (1.2) มำบุญครองพลสั เปน็ ผลติ ภัณฑข์ ำ้ วกล้องงอกหอมมะลิกำบำ ไรซ์ โดยบริษัทปทุมไรซ์มิลแอนด์แกรนำรี จำกัด เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และกระบวนกำรผลิต ระดับประเทศในกำรผลิตข้ำวกล้องหอมมะลิท่ีมีสำร GABA สูง ซ่ึงเกิดจำกกำรนำข้ำวกล้องมำผ่ำน กระบวนกำรงอก (Germinate) ทำให้เกิดกระบวนกำร Decarboxylation ของกรดกลูตำมิก GABA เปน็ สำรช่วยในกำรเปน็ สำรสอ่ื ประสำท (Neurotransmitter) ในระบบประสำทและยังทำให้ข้ำวกล้อง งอกมเี นอ้ื สัมผัสทอี่ ่อนนมุ่ ขึ้น (1.3) Reis Care เป็นผลิตภัณฑ์แป้งเด็กจำกแป้งข้ำวเจ้ำ โดย บริษัท เนอเชอร์แคร์ จำกัด เป็นนวัตกรรมระดับโลกด้ำนผลิตภัณฑ์และกระบวนกำรผลิตแป้งเด็กจำก แป้งข้ำวเจ้ำ โดยกำรนำแป้งข้ำวบริสุทธ์ิมำดัดแปรโครงสร้ำงโมเลกุลร่วมกับกำรใช้เทคโนโลยีกำรฆ่ำ เช้ือด้วยวิธี Sterilization ในสภำวะที่ไม่มีควำมช้ืนและกระบวนกำรบดละเอียดเพื่อใหแ้ ป้งข้ำวเจำ้ ดัด แปรมีควำมละเอียดสูงให้ควำมรู้สึกล่ืน เรียบเนียน ป้องกันควำมช้ืน ดูดซับควำมมันได้ดี และมี ปรมิ ำณเชอ้ื จุลนิ ทรียอ์ ย่ใู นเกณฑท์ ีก่ ำหนด

206 รูปที่ 5.1 แปง้ เดก็ จำกแปง้ ขำ้ วเจำ้ และขำ้ วกล้องงอกหอมมะลกิ ำบำไรซ์ ที่มำ : (https://mgronline.com/smes/detail/9610000073481.) (1.4) RICE WAX ผลิตภัณฑ์ครีมเคลือบเงำอเนกประสงค์ จำก นำ้ มนั รำข้ำวอินทรีย์ ของบริษทั อู่ข้ำว อูน่ ำ้ จำกัด เปน็ นวตั กรรมระดับโลกดำ้ นผลติ ภัณฑ์ครมี เคลือบ เงำอเนกประสงค์สำหรับอุปกรณ์ภำยในรถยนต์ ท่ีผลิตจำกน้ำมันรำข้ำวอินทรีย์และสำรเติมแต่งใน ประเภท Organic Cosmetic Grade ทดแทนกำรใชไ้ ขสังเครำะหท์ ี่เปน็ ผลพลอยไดจ้ ำกอุตสำหกรรมปิ โตรเคมี หรือไขจำกธรรมชำติที่ต้องนำเข้ำจำกต่ำงประเทศ รวมท้ังมุ่งเน้นกำรใช้สำร Gamma - Oryzanol ซ่ึงเป็นสำรสำคัญในน้ำมันรำข้ำวที่มีคุณสมบัติในกำรป้องกันรังสี UV ช่วยป้องกันกำร เส่ือมสภำพของอุปกรณ์ภำยในรถยนต์โดยเฉพำะอุปกรณ์ประเภทเบำะหนังและช้ินส่วนบริเวณ หนำ้ ปดั รถยนต์ (1.5) WABELLAS ผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวจำกสำรสกัดข้ำว โดย วสิ ำหกิจชุมชนพัฒนำผลติ ภณั ฑน์ วัตกรรมจำกทรัพยำกรชวี ภำพในชมุ ชน เปน็ นวตั กรรมระดบั ประเทศ ดำ้ นผลิตภัณฑเ์ ซรม่ั บำรงุ ผิว ดว้ ยกำรนำข้ำวไรซ์เบอรร์ ม่ี ำผำ่ นกระบวนกำรหมักดว้ ยเช้ือรำในกลุ่มของ Aspergillus เป็นจุลินทรีย์ที่มีควำมสำมำรถสูงในกำรสร้ำงเอนไซม์ออกมำย่อยผนังเซลล์และโปรตีน ของพืชโดยไม่สรำ้ งสำรพษิ ทำให้ไดส้ ำรออกฤทธทิ์ ำงชีวภำพในกลุ่มของสำรประกอบฟีนอลจำกข้ำวใน ปรมิ ำณเพ่มิ ขึ้นจำกกำรสกดั สำรแบบทว่ั ไป แลว้ นำสำรสกัดทีไ่ ด้มำพฒั นำสตู รพื้นฐำนตำรบั เซรัม่ (1.6) Enere ผลิตภัณฑ์เคร่ืองด่ืมให้พลังงำนสกัดจำกข้ำว เป็น นวัตกรรมระดับประเทศด้ำนผลิตภัณฑ์เคร่ืองดื่มให้พลังงำนจำกข้ำวโดยกำรนำข้ำวเปลือกที่ผ่ำนกำร งอกมำกะเทำะเปลือกออกแล้วนำมำผ่ำนกระบวนกำรเปล่ียนแปลงเป็นน้ำตำลกลูโคสด้วยกำรใช้ เอนไซม์ หลงั จำกนั้นนำมำพัฒนำสูตรท่ีเหมำะสมของผลติ ภัณฑ์เครื่องด่ืมให้พลังงำนและมีกำรผสมกัว ร่ำนำ ซง่ึ เป็นพืชทีม่ ีคณุ สมบตั ชิ ว่ ยกระต้นุ กำรทำงำนของระบบประสำท

207 (1.7) King : Rice Bran Non-Dairy Creamer เป็นนวัตกรรม ระดับโลกดำ้ นผลติ ภัณฑ์ครีมเทยี มจำกนำ้ มันรำข้ำวที่ผลิตจำกกำรนำนำ้ มนั รำข้ำวมำผ่ำนกระบวนกำร ทำงกำยภำพโดยกำรแช่เย็นแล้วตกผลึกหลำยข้ันตอน ภำยใต้สภำวะควบคุมแล้วนำไขอ่อนน้ำมันรำ ข้ำวไปเป็นส่วนผสมในกำรผลิตครีมเทียมทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ครีมเทียมไม่มีกรดไขมันอิ่มตัว ปรำศจำก ไขมันทรำนสแ์ ละมสี ำร Gamma-Oryzanol (แกมมำโอรีซำนอล) สูง รูปท่ี 5.2 ครมี เทยี มจำกนำ้ มนั รำข้ำวและเคร่ืองดื่มใหพ้ ลงั งำนสกัดจำกข้ำว ทม่ี ำ : (https://mgronline.com/smes/detail/9610000073481.) (1.8) Food Fitt ผลิตภัณฑ์ธัญพืชโฮเกรนผสมข้ำวกล้องงอกและ ผลไม้ เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้ำนกระบวนกำรผลิตและผลิตภัณฑ์ธัญพืชกรอบชนิดแท่งอินทรยี ์ เปน็ ผลิตภณั ฑ์อำหำรว่ำงชนดิ แรกของประเทศไทยท่จี ะขอกำรรบั รองมำตรฐำนเกษตรอินทรีย์ด้วยกำร นำเกล็ดธัญพืชอินทรีย์เป็นวัตถุดิบใช้ไซรัปลดลงคร่ึงหนึ่งจำกผลิตภัณฑ์ธัญพืชชนิดแบบปกติแต่ยังคง สำมำรถขึ้นรปู ไดโ้ ดยกำรควบคุมอณุ หภูมแิ ละเวลำทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มคี วำมกรอบเหมำะสมและเก็บ รกั ษำไดน้ ำน (1. 9) iRice ผลิตภัณฑ์ข้ำว กล้องกรอบ เป็น นวัตกรรม ระดบั ประเทศดำ้ นผลติ ภัณฑ์ข้ำวกล้องลืมผวั อบกรอบพร้อมทำนโดยกำรนำขำ้ วกล้องลมื ผวั ซึ่งเป็นข้ำว พื้นเมืองที่มีคุณค่ำทำงโภชนำกำรสูงมำให้ควำมร้อนด้วยกรรมวิธีกำรน่ึงและทอดด้วยน้ำมันจนเมล็ด ขำ้ วสุกพองจำกนั้นปรุงรสด้วยเคร่ืองปรุงรสแล้วนำไปผ่ำนกระบวนกำรอบด้วยไมโครเวฟเพื่อไม่ให้ข้ำว อมน้ำมันจนได้เป็นผลิตภัณฑ์ข้ำวอบกรอบพร้อมทำนที่เหมำะสำหรับเป็นอำหำรว่ำงเพื่อสุขภำพและ สะดวกในกำรรับประทำน (2) กำรแปรรูปสับปะรด สับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดหน่ึงของ ประเทศไทย โดยมีกำรส่งออกสับปะรดในรูปสับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรด นำรำยได้เข้ำสู่ ประเทศปีละกว่ำหมื่นล้ำนบำท ได้มีกำรวิจัยและพัฒนำผลิตภัณฑ์แปรรูปจำกสับปะรดเพ่ือเป็นกำร สรำ้ งมลู คำ่ เพิม่ ทำงกำรตลำดหลำกหลำยผลติ ภณั ฑ์ดงั ตวั อยำ่ งตอ่ ไปนี้

208 รปู ที่ 5.3 ขำ้ วกล้องกรอบและธญั พชื โฮเกรนผสมขำ้ วกล้องงอกและผลไม้ ทีม่ ำ : (https://mgronline.com/smes/detail/9610000073481.) (2.1) สับปะรดแช่อ่ิมอบแห้งด้วยพลังงำนแสงอำทิตย์ โดย ประยุกต์ใชพ้ ลังงำนจำกรังสีแสงอำทิตย์มำลดควำมชื้นเพื่อประหยัดพลงั งำน ไดผ้ ลิตภัณฑส์ บั ปะรดแช่ อิ่มอบแห้งท่ีมีคุณภำพดีกว่ำท้ังในด้ำนคุณภำพทำงเคมีและกำยภำพ เช่น ปริมำณควำมชื้น สี เพรำะ ตู้อบพลังงำนแสงอำทิตยมีกำรถ่ำยเทควำมร้อนได้สม่ำเสมอกว่ำตู้อบลมร้อน นอกจำกนี้ยังพบว่ำมี ปริมำณยีสต์และรำน้อยกว่ำกำรทำแห้งด้วยตู้อบลมร้อน และยังทำให้ต้นทุนกำรแปรรูปต่ำกว่ำกำร อบแห้งด้วยตูอ้ บลมร้อน (วนั ไชย คำเสน และคณะ, 2017) (2.2) น้ำสับปะรดเข้มข้น กำรผลิตน้ำสับปะรดเข้มข้นด้วยวิธีกำร แช่เยอื กแขง็ แบบก้ำวหน้ำเป็นงำนวิจัยของประภำศรี เทพรกั ษำ และชดิ พงศ์ ประดษิ ฐสุวรรณ (2554) เพ่ือให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำสับปะรดที่มีคุณค่ำทำงกำรบริโภค มีกล่ิน รสที่ดี โดยกำรใช้วิธี Progressive Freeze - Concentration ทดลองกับสับปะรดพันธ์ุศรีรำชำ จำกผลกำรทดลองด้วยวิธีกำรดังกล่ำว ทำให้ได้น้ำสับปะรดเข้มข้นท่ีมีปริมำณร้อยละของของแข็งที่ละลำยน้ำเพ่ิมขึ้นหลังกำรทำให้เข็มข้นสูง ท่ีสดุ และลดอตั รำกำรเกิดสนี ้ำตำลในนำ้ สับปะรดหลังกำรทำให้เข็มขน้ (ประภำศรี เทพรักษำ และชิด พงศ์ ประดิษฐสวุ รรณ, 2554) (2.3) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำกสำรสกัดสับปะรด นักวิจัยจำก มหำวทิ ยำลยั แม่ฟำ้ หลวง ปัญญำวัฒน์ ปนิ ตำทองและคณะ ไดน้ ำเปลอื กสับปะรดพันธุ์นำงแลมำศึกษำ พบว่ำ ในเปลือกสับปะรดมีเอนไซม์ทีช่ ื่อวำ่ บรอมิเลนซึ่งเปน็ สำรท่มี ีฤทธ์ิในกำรชว่ ยลอกเซลล์ผวิ เกำ่ จึง ได้นำมำเป็นส่วนผสมในกำรผลิตมำสก์ท่ีมีสรรพคุณในกำรขจัดเซลล์ผิวเก่ำช่วยทำให้หน้ำกระจ่ำงใส โดยทำในรูปแบบเจลเพ่ือใช้สำหรับทำบำง ๆ ท้ิงไว้ให้แห้งแล้วจึงลอกแผ่นฟิล์มออก นอกจำกนี้ คณะผู้วิจัยยังได้สกัดสำรโพลีฟีนอลจำกเปลือกสับปะรดนำงแลและภูแลซ่ึงเป็นสำรต้ำนอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย ยับย้ังเอนไซม์ในกำรสร้ำงฝ้ำ จึงได้นำมำผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับผู้ชำย (ผู้จัดกำรออนไลน์, 2561)

209 5.5.4 การผลติ และระดับการแปรรูปอาหาร กำรแปรรูปอำหำรเป็นกระบวนกำรเพ่ือเก็บถนอมรักษำอำหำรให้สำมำรถอยู่ได้นำน ทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่ำทำงกำรตลำด ในกลุ่มอุตสำหกรรมอำหำรมีกลุ่มโรงงำนแปรรูปอำหำร (Process Food) ที่เป็นกลุ่มธุรกิจหลัก โดยแบ่งกลุ่มอุตสำหกรรมอำหำรตำมอุตสำหกรรมกำรผลิตและระดับ กำรแปรรปู เป็น 3 ระดับดังน้ี (สถำบนั ทรพั ย์สนิ ทำงปญั ญำแหง่ จฬุ ำลงกรณม์ หำวทิ ยำลยั , 2560) 5.5.4.1 กำรผลิตและกระบวนกำรแปรรูปข้ันต้น หมำยถึง อำหำรที่ผ่ำนกำรแปรรูป เบ้อื งต้น เชน่ กำรล้ำง กำรลดขนำด กำรห่นั กำรซอย กำรเอำไส้ออก กำรเอำเมล็ดออก เพื่อสะดวกใน กำรบริโภค เพื่อเป็นกำรป้องกันกำรปนเป้ือน ได้แก่ กำรเก็บรักษำโดยควบคุมบรรยำกำศ กำรวิธี ปฏิบัตหิ ลงั กำรเกบ็ เก่ยี ว กำรใช้เทคโนโลยหี ้องสะอำด กำรใช้จุลนิ ทรยี ์ กำรเคลอื บสำรทร่ี บั ประทำนได้ กำรใชก้ ระบวนกำรท่ไี ม่ใชค้ วำมร้อน 5.5.4.2 กำรผลิตและกำรแปรรูปอำหำรขั้นกลำง เป็นกระบวนกำรแปรรูปอำหำรท่ีมี วิธีกำรถนอมอำหำรด้วยควำมร้อน ได้แก่ กำรผลิตอำหำรกระป๋อง ที่บรรจุในภำชนะปิดผนึกสนิท ไม่ ว่ำจะเป็น กระป๋อง ขวดแก้ว หรือถุงทนควำมร้อน โดยใช้อุณหภูมิและเวลำตำมที่กำหนด อำหำรจะ ปรำศจำกเช้ือจลุ ินทรีย์ก่อโรคและจลุ นิ ทรยี ์ท่ีทำให้อำหำรเน่ำเสีย ผลติ ภัณฑอ์ ำหำรสำมำรถเกบ็ รักษำ ได้ในอณุ หภูมิห้องโดยไมเ่ สียเป็นเวลำ 6-12 เดือน อกี วธิ ีเปน็ กำรแช่เยือกแข็ง เป็นกรรมวธิ กี ำรแปรรูป อำหำรเพื่อถนอมอำหำรด้วยกำรลดอุณหภูมิของอำหำรให้ต่ำกว่ำ -18 องศำเซลเซียส เพ่ือให้น้ำใน อำหำรเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง เป็นกำรถนอมอำหำรท่ีคงควำมสดและรักษำคุณภำพของอำหำรได้ดีกว่ำ วิธีกำรถนอมอำหำรวิธีอ่ืน สำมำรถนำไปใช้กับอำหำรเกือบทุกชนิด เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และยัง สำมำรถนำวิธีกำรแช่เยือกแข็งไปใช้ร่วมกับกำรแปรรูปอำหำรวิธีอื่นได้ เช่น กำรพำสเจอไรซ์ กำรทำ ใหเ้ ขม้ ขน้ กำรฉำยรงั สี เพอื่ ยึดอำยุอำหำรใหย้ ำวนำนข้ึน 5.5.4.3 กำรผลิตและแปรรูปอำหำรขั้นสูง กำรใช้ควำมร้อนแบบโอห์มิก (Ohmic Heating) เป็นกำรให้ควำมร้อนโดยกำรผ่ำนกระแสไฟฟ้ำสลับท่ีควำมถี่ 50-60 เฮิร์ต กับอำหำรท่ีนำ ไฟฟ้ำได้ เป็นกำรพัฒนำกำรให้ควำมร้อนเพื่อกำรแปรรูปอำหำรที่มีประสิทธิภำพ เกิดควำมร้อนสูง มำกกวำ่ กำรให้ควำมร้อนแบบอ่นื ๆ มีอตั รำกำรเกิดควำมร้อนประมำณ 0.005 -1.2 องศำเซลเซียสต่อ วินำทีและมีประสิทธิภำพในกำรเปลี่ยนแปลงพลังงำนไฟฟ้ำเป็นพลังงำนควำมร้อนได้มำกกว่ำร้อยละ 95 (Meredith, R. (1998) อ้ำงถึงในฤทธิชัย อัศวรำชันย์, 2555) กระแสไฟฟ้ำทำให้เซลล์ของอำหำร สั่นสะเทือนและเสียดสีกันทำให้เกิดควำมร้อนอย่ำงรวดเร็วและสม่ำเสมอภำยในชน้ิ ของอำหำร ควำม ร้อนแบบโอห์มิกมีกลไกกำรเกิดควำมร้อนจำกภำยในตัวอำหำรจึงไม่มีผลกระทบในด้ำนกำรถ่ำยเท ควำมร้อนจำกแหล่งพลังงำน (Assawarachan, R. (2005) อำ้ งถงึ ในฤทธชิ ยั อศั วรำชนั ย์, 2555) กำร เกิดควำมร้อนแบบโอห์มิกถกู นำมำใชใ้ นกำรแปรรูปอำหำรปลอดเชื้อ (Aseptic processing) สำหรับ อำหำรเนื้อเหลว ตลอดจนกำรนำไปใช้เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภำพกำรแปรรูปโดยมีกำรประยุกต์ใช้ควำม ร้อนแบบโอห์มิกเพื่อวัตถุประสงค์ต่ำง ๆ เช่น กำรพำสเจอไรซ์ กำรละลำยอำหำรทะเลแช่เยือกแข็ง นอกจำกนี้ยังมีกำรแปรรูปโดยกำรใช้ควำมดันสูง เป็นเทคนิคกำรถนอมอำหำรโดยไม่ใช้ควำมร้อน สำมำรถฆำ่ เชื้อได้ไมท่ ำลำยสำรอำหำร ในสหรฐั อเมริกำใชเ้ ทคนิคพลั ส์สนำมไฟฟ้ำแรงสูงในกำรผลิตอำ โวคำโดดพิ พรอ้ มทำน ประเทศสเปนใช้อปุ กรณ์ ALSTOM’s Hyperbar เพ่อื ผลิตแฮมแผ่นซงึ่ สำมำรถ ยืดอำยุแฮมจำก 3 สัปดำห์ เป็น 8 สัปดำห์ กำรใช้คลื่นเหนือเสียงซึ่งเป็นคลื่นเสียงที่มีควำมถ่ีสูงกว่ำ

210 20 กิโลเฮิร์ตข้ึนไป มำใช้ในอุตสำหกรรมอำหำรเพ่ือตรวจวัดคุณภำพและกำรแปรรูปอำหำร เช่น กำร สกัด กำรทำให้เกิดอิมัลชนั กำรทำลำยเซลลข์ องจุลินทรีย์ เช่น รำ ยีสต์ แบคทีเรียเพื่อยืดอำยุกำรเก็บ รักษำ กำรอบด้วยไอน้ำร้อนยวดยิ่ง (Superheated steam drying) ซึ่งเหมำะกับอำหำรอบแห้งที่ ตอ้ งกำรรักษำคณุ ค่ำทำงโภชนำกำร สีสวย เน้อื สัมผสั ดี โดยเฉพำะกับผกั ผลไม้ และสมุนไพร (สถำบัน ทรัพยส์ นิ ทำงปัญญำแห่งจฬุ ำลงกรณม์ หำวิทยำลยั , 2560) 5.5.5 เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรแหง่ อนาคต 5.5.5.1 เกษตรแม่นยำสงู (Precision agriculture) ยุคเศรษฐกิจใหมไ่ ดน้ ำควำมวิตก กังวลเกย่ี วกับกำรเขำ้ ถึงข้อมูลข่ำวสำรที่อยูใ่ นรูปแบบดิจิทัล โดยเฉพำะควำมแตกต่ำงระหวำ่ งกลุ่มคน จึงกอ่ ใหเ้ กิดควำมได้เปรียบ เสยี เปรียบและเกิดควำมแตกแยกทำงสงั คม เร่ิมจำกกระทรวงพำณชิ ย์ของ สหรัฐอเมริกำได้มีกำรเขียนบทควำมลงในเว็บไซต์หนึ่งชื่อบทควำมว่ำ Precision Agriculture เขียน โดย Marc Vanacht เป็นท่ียอมรับว่ำสหรัฐอเมริกำเป็นประเทศที่มีควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยีสูง ในกำรเกตรกรรมก็เช่นเดียวกันได้มีกำรนำเทคโนโลยีข้ันสูงมำประยุตก์ใช้ด้วยสำเหตุเพรำะค่ำจ้ำง แรงงำนสูง พื้นที่และสภำพภูมิอำกำศท่ีจำกัดเมื่อเทียบกับปริมำณควำมต้องกำรผลผลิตทำงกำร เกษตร รวมทั้งแรงกดดันทำงด้ำนต้นทุนกำรผลิต กำรดูแลรักษำ และกำรควบคุมสภำพแวดล้อมที่ เข้มงวดจึงทำให้ระบบเกษตรกรรมของสหรัฐต้องมีประสิทธิภำพสูงและส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม น้อย สำหรับประเทศไทยก็ประสบปัญหำเช่นเดียวกับอเมริกำและจะเป็นปัญหำที่สำคัญของไทยใน อนำคตอย่ำงแน่นอน ดังนั้นจำเป็นต้องพ่ึงพำเทคโนโลยีในกำรผลิตทำงกำรเกษตร สำหรับ ควำมหมำยของเกษตรกรรมล้ำยุค (Precision Agriculture) หมำยถึง ระบบเกษตรกรรมที่มี กระบวนกำรผลิต กำรใช้ปัจจัยกำรผลิตอย่ำงแม่นยำและใช้น้อยท่ีสุดเท่ำที่พืชต้องกำรเท่ำนั้นและใน เวลำท่ีเหมำะสม ส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมน้อยที่สุด ท้ังน้ีต้องมีต้นทุนต่ำท่ีสุดแต่มีประสิทธิภำพ กำรผลิตดีท่ีสุดโดยอำศัยอุปกรณ์ และระบบโครงข่ำยโทรคมนำคมเพื่อเชื่อมโยงระบบข้อมูลข่ำวสำร กับเครื่องมือต่ำง ๆ เข้ำด้วยกัน ในขณะที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชำติ (National Electronics and Computer Technology Center ; NECTEC) ได้มีมุมมองเก่ียวกับ สมำร์ฟำร์มหรือเกษตรกรรมล้ำยุคว่ำ เป็นกำรใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์รวมท้ัง เทคโนโลยีสำรสนเทศในกำรพัฒนำทั้งห่วงโซ่อุปทำนสินค้ำเกษตรเพ่ือยกระดับผลิตภำพ มำตรฐำน สินค้ำและลดต้นทุน โดยกำรพัฒนำเกษตรกรรมใน 4 ด้ำน คือ (1) ลดต้นทุน (2) เพ่ิมคุณภำพกำร ผลิตและมำตรฐำนสินค้ำ (3) ลดควำมเส่ียวจำกศัตรูพืชและภัยธรรมชำติ และ (4) กำรจัดกำรและ ส่งผ่ำนควำมรู้ (สำนักงำนส่งเสริมวสิ ำหกิจขนำดกลำงและขนำดยอ่ ม, 2561) ประเด็นท่ีสำคัญในกำร พัฒนำระบบเกษตรกรรมล้ำยุคคือ กำรใช้ปัจจัยกำรผลิต เช่น ปุ๋ย น้ำ และสำรเคมีตำมจำนวนและ เวลำที่เหมำะสมกบั พชื และเกษตรกรสำมำรถควบคุมดูแลพ้ืนท่เี พำะปลูกในระดับของตำรำงฟุตได้โดย ทำงำนร่วมกับระบบ GPS สำมำรถควบคุม ปรับปริมำณปุ๋ย น้ำและสำรเคมีตำมที่ได้วิเครำะห์และ วำงแผนไว้อย่ำงแม่นยำ นอกจำกนี้ยังมีเครื่องมือและอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เครื่องมือในกำรคัดเลือก พืชผลตำมปริมำณและคุณภำพที่ต้องกำรซ่ึงเป็นผลมำจำกกำรวิเครำะห์ทำงกำรตลำด กำรวิเครำะห์ ประเภทลูกค้ำ กำรเลือกตัดอ้อยตำมควำมหวำน เลือกเก็บเมล็ดถ่ัวเหลืองตำมปริมำณน้ำมันในเมล็ด หรือกำรเลือกเก็บหัวมันสดตำมที่ตลำดต้องกำรได้อย่ำงแม่นยำและมีควำมหวังว่ำระบบจะสำมำรถ ดแู ลพชื เปน็ รำยชนิด รำยพันธุ์ ตำมสภำพแวดลอ้ มทีแ่ ตกต่ำงกนั

211 5.5.5.2 กำรทำเกษตรบนตึกสูง (Vertical farming) กำรทำเกษตรบนตึกสูงหรือ เกษตรกรรมแนวต้ังหรือเกษตรในที่ร่ม เป็นแนวคิดในกำรทำเกษตรเพ่ือแก้ปัญหำสภำพแวดล้อมท่ี เปลี่ยนแปลงไป เช่น ข้อจำกัดด้ำนสภำพภูมิศำสตร์ สภำพภูมิอำกำศ โรคและแมลงศัตรูพืช เป็นต้น หลำยประเทศไดม้ ีกำรทำเกษตรบนตึก กำรทำเกษตรในท่ีรม่ ซึ่งกำรทำเกษตรบนตกึ สูงไดร้ เิ ร่มิ มำแล้ว ในอดตี เมอ่ื 600 ปกี ่อนครศิ ตกำล โดยกำรทำสวนลอยที่บำบโิ ลน และกำรสรำ้ งเรือนกระจกบนดำดฟ้ำ อำคำรสูงในนิวยอร์กเพื่อปลูกมะเขือเทศ แต่สำหรับต้นแบบกำรทำเกษตรกรรมแนวต้ังได้คิดค้นโดย ศำสตรำจำรยด์ ิกสนั เดสพอมเมียร์ (Dickson Despommier) ท่ีต้องกำรผลติ อำหำรเลี้ยงประชำกรที่ มีจำนวนเพิ่มมำกขึ้นในอนำคตและยังสำมำรถแก้ปัญหำวิกฤติกำรณ์ด้ำนน้ำและพลังงำนของประเทศ สหรัฐอเมริกำ เกษตรกรรมแนวตั้งที่ได้รบั กำรออกแบบร่วมกันระหว่ำงดิกสัน เดสพอมเมียร์และ Eric Ellison ซ่ึงเป็นนักออกแบบอำคำร โดยอำคำรท่ีใช้เป็นสถำนที่เพำะพันธุ์พืชต่ำง ๆ สำมำรถควบคุม แสง อุณหภูมิ และควำมชื้น ใช้วิธีกำรปลูกแบบปลอดสำรเคมี มีกำรนำระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศ และคอมพิวเตอร์เข้ำมำจัดกำรโรงเรือนอย่ำงเต็มรูปแบบ ได้แก่ กำรติดตำมและควบคุมกำร เจริญเตบิ โตของพืช กำรวิเครำะหแ์ สงและควบคุมปริมำณแสง กำรควบคุมควำมชน้ื กำรควบคุมระบบ กำรให้น้ำแบบเรียลไทม์ นอกจำกน้ีเกษตรกรรมแนวต้ังนี้ยังสำมำรถเพำะปลูกพืชได้ตลอดท้ังปี ได้ ผลผลิตที่มีคุณภำพและปริมำณสูงกว่ำกำรทำเกษตรกรรมแบบทั่วไป (เสำวนีย์ วิจิตรโกสุม, 2561) ในสหรัฐอเมริกำและยุโรปมีกำรเพำะปลูกพชื ในโรงเรอื นและกำรปลูกแนวต้งั สนิ ค้ำจำกระบบเกษตร ในร่มมีตลำดรองรับอย่ำงดีซ่ึงส่วนใหญ่เป็นร้ำนอำหำรและครัวเรือนที่ต้องกำรวัตถุดิบที่ปลอดสำรพษิ จึงนิยมเลือกซ้ือวัตถุดิบในท้องถ่ินที่เพำะปลูกใกล้กับร้ำนอำหำรหรือบ้ำนเรือนตนเองเนื่องจำกใช้เวลำ ขนส่งไม่นำนและอำหำรสดใหม่ สำหรับในแถบเอเชีย ประเทศญ่ีปุ่นได้มีกำรปลูกพืชแนวตั้งอย่ำง แพร่หลำยและมกี ำรนำหุ่นยนต์มำใช้พร้อมระบบอัตโนมัติตำ่ ง ๆ ตัง้ แต่กระบวนกำรเพำะปลกู ไปจนถึง กำรเก็บเก่ียว ส่วนในจีนถือว่ำเปน็ ประเทศท่ีมีกำรพัฒนำเกษตรในร่มอย่ำงรุดหน้ำ โดยมีโรงงำนปลกู พืชขนำดใหญ่ ใช้ระบบแสงจำกไฟ LED และพลังงำนแสงอำทิตย์ในหลำยพ้ืนท่ี เช่น ปักก่ิง เทียนจิน เหลียวหนิง ชำนตง เจียงซู เป็นต้น (กัญญำรัตน์ กำญจนวิสุทธิ์, 2019) สำหรับในสิงคโปร์ มี Singapore Sky Green Farm ซ่งึ เปน็ สวนผักแนวตง้ั เชิงพำณิชย์แห่งแรกของโลก เปน็ แนวคดิ กำรทำ เกษตรกรรมบนอำคำรที่ได้รับควำมสนใจเป็นอย่ำงมำกเพรำะสิงคโปร์เป็นประเทศท่ีมีพ้ืนที่ไม่มำก มี พ้ืนท่ีเพียง 701 ตำรำงกิโลเมตรและมีพ้ืนที่เกษตรกรรมเพียง 3 % ของพื้นท่ีท้ังหมด สิงคโปร์จึงต้อง นำเข้ำอำหำรจำกต่ำงประเทศสงู ถึงประมำณ 93 % ของปริมำณกำรบรโิ ภครวมของประเทศ แนวคิด เกษตรกรรมแนวตัง้ จึงมงุ่ เน้นกำรผลิตผกั ออกำนิกเพื่อตอบสนองควำมต้องกำรบรโิ ภคของชำวสิงคโปร์ ทสี่ นใจสุขภำพมำกข้ึน กำรออกแบบเกษตรกรรมแนวตั้งของสกำย กรีน ฟำรม์ ซง่ึ ไดจ้ ดสทิ ธบิ ัตรแล้ว เปน็ ฟำร์มท่ใี ช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีข้นั สูงเพื่อเพำะปลูกพืชในอำคำรอย่ำงเต็มรูปแบบดว้ ยระบบไฮ ดรอลิก โดยมรี ะบบกำรให้น้ำและกำรควบคุมพลังงำนทด่ี ึงน้ำฝนจำกอ่ำงเก็บนำ้ ใต้ดินมำเป็นพลังงำน ในกำรหมุนรำงปลูกผักใหไ้ ดร้ ับแสงแดดอยำ่ งสม่ำเสมอ (เสำวนีย์ วิจิตรโกสมุ , 2561)

212 รูปที่ 5.4 เกษตรบนทส่ี งู ของสิงคโปร์ สกำยกรนี ฟำร์ม ที่มำ : (http://www.skygreens.com/) 5.5.5.2 หุ่นยนต์เพ่ือกำรเกษตร ขณะน้ีมีกำรพัฒนำหุ่นยนต์เพื่อกำรเกษตรมำช่วย ทดแทนแรงงำนและคำดกำรณ์ว่ำอนำคตอันใกล้จะมีกำรเติบโตของธุรกิจผลิตหุ่นยนต์ในภำค เกษตรกรรมมำกข้ึนซ่ึงสอดคล้องกับท่ีบริษัทวิจัยตลำด Tractica ประเมินว่ำในปี พ.ศ. 2567 ตลำด หนุ่ ยนต์เกษตรจะเพ่ิมขึ้นเปน็ 594,000 ตัวตอ่ ปี โดยขณะนม้ี ผี ผู้ ลิตห่นุ ยนต์เพ่ือใช้ในภำคเกษตรกรรม อยู่ในหลำยประเทศ เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกำ ออสเตรเลีย อิสรำเอล และญ่ีปุ่น (ธนำคำร เพื่อกำรส่งออกและนำเข้ำ, 2560) ซ่ึงกิจกรรมทำงกำรเกษตรที่หุ่นยนต์สำมำรถทำงำนแทนมนุษย์ ได้แก่ (1) หยอดเมล็ดพันธ์ุ ท่ีสำมำรถทำให้เมล็ดพันธุ์ข้ำวท่ีปลูกเรียงกันเป็นแถว อย่ำงเป็นระเบยี บ สำมำรถกำหนดจำนวนเมล็ดที่หยอดในแตล่ ะหลมุ ได้ (2) กำรกำจัดแมลงศัตรพู ืช โดยหนุ่ ยนตจ์ ะทำหน้ำที่แสกนหำแมลงศัตรูพืชใน แปลงและจะฉดี สำรฆำ่ แมลงไปที่ตัวแมลงนัน้ ได้อยำ่ งแมน่ ยำ (3) กำรกำจัดวัชพืช หุ่นยนต์จะทำหน้ำที่ถอนวัชพืชข้ึนจำกดิน หรือเป็นโดรน ที่บินวนหำวัชพืชหำกพบวัชพืชขึ้นอยู่หนำแน่นอยู่บริเวณใดก็จะส่งสัญญำณให้โดรนตัวอื่นเข้ำไปพ่น สำรกำจัดวัชพชื (4) กำรเก็บเก่ียวผลผลิต หุ่นยนต์ซ่ึงติดแขนกลท่ีรถบรรทุกเล็กเพ่ือใช้ในกำร เก็บผลผลิตโดยทำงำนร่วมกับคอมพิวเตอร์และกล้องถ่ำยภำพสีเพื่อจำแนกตำแหน่งและผลผลิตที่ เหมำะสมในกำรเกบ็

213 (5) กำรตรวจสภำพพื้นท่ีทำงกำรเกษตร หุ่นยนต์จะทำหน้ำที่เก็บข้อมูลในไร่ เช่น ควำมชื้นในอำกำศ ควำมช้ืนในดิน ควำมสมบูรณ์ของดิน รวมทั้งโดรนติดเซนเซอร์ท่ีจะบินไปเก็บ ข้อมลู และภำพมมุ สงู ของไร่ กำรใชห้ นุ่ ยนต์ในภำคกำรเกษตร นอกจำกเปน็ กำรชว่ ยลดกำรใชแ้ รงงำน ลดระยะเวลำ แลว้ หุ่นยนตท์ ำงกำรเกษตรยังสำมำรถใช้พลงั งำนจำกแสงอำทติ ย์ซ่ึงจะชว่ ยลดภำวะโลกร้อนได้อีกด้วย และยังช่วยให้เกิดกำรใช้ทรัพยำกรอย่ำงมีประสิทธิภำพและไม่ทำลำยส่ิงแวดล้อมเพรำะกำรใช้ ทรัพยำกรต่ำง ๆ ทำงกำรเกษตรได้ถูกคำนวณไว้อย่ำงเหมำะสมแล้ว นอกจำกนี้ มหิศร ว่องผำติ (2561) ยังกล่ำวว่ำทิศทำงอนำคตของหุ่นยนต์เพื่อกำรเกษตรจะมีบทบำทต่อภำคกำรเกษตรมำกขึ้น นอกเหนือจำกกำรพัฒนำโดรนแล้ว ในโลกแห่งกำรพัฒนำนั้นยังมีหุ่นยนต์เพื่อกำรเกษตรอีก หลำกหลำยประเภท ทั้งหุ่นยนต์เพ่ือกำรเก็บเก่ียว หุ่นยนต์ตัดหญ้ำ หุ่นยนต์ตัดแต่งทรงพุ่ม แม้กระท่ัง หุ่นยนต์ช่วยผสมเกสร แต่ประเด็นหลักท่ีควรคำนึงถึงก่อนนำหุ่นยนต์มำใช้คือ ควำมเหมำะสมต่อ เกษตรของท้องถ่ิน เพรำะกระบวนกำรที่จะทำให้เกิดเกษตรกรรมแม่นยำสูงต้องใช้องค์ประกอบอีก มำกมำยรวมถึงข้อมูลทั้งหมดในระบบจะต้องถูกนำกลับมำประมวลผลซ้ำเพ่ือให้เกิดกำรวัดผลและ พัฒนำต่อยอดอย่ำงครบวงจร รวมทงั้ จดุ ประสงค์กำรใช้งำนและควำมค้มุ ทุน หุ่นยนต์เป็นสิ่งทมี่ ีควำม ละเอียดสูงและมีรำคำสูงมำก ผู้ลงทุนจึงต้องคำนึงถึงจุดประสงค์ของกำรใช้งำน ควำมจำเป็นและ ควำมคมุ้ ทุนดว้ ย ในรปู ท่ี 5.5 รูบีออน หุ่นยนตเ์ ก็บผลไม้ ทพ่ี ัฒนำและผลิตโดย ออคทเิ นยี ม ประเทศ เบลเยยี ม เปน็ หนุ่ ยนตเ์ ก็บผลไม้อัจฉรยิ ะ ใช้เกบ็ ผลผลิตสตรอว์เบอร่ี ของประเทศอังกฤษ หุ่นยนต์รูบี ออนใช้ระบบเซ็นเซอร์โฟโตนิกเทคโนโลยีกำรสร้ำงและควบคุมแสงในช่วงสเปกตรัมที่มองเห็นและ อนิ ฟรำเรดเพ่ือวเิ ครำะห์คำ่ ควำมสกุ ของผลไม้ตำมทตี่ ั้งโปรแกรมไวจ้ ำกกำรประเมนิ ควำมยำวคลื่นแสง รูปที่ 5.5 รบู ีออน ห่นุ ยนตเ์ ก็บสตรอว์เบอรี่ ทมี่ ำ : (https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/sci-tech/news_2694429)

214 ทำให้สำมำรถแยกได้ว่ำสตรอว์เบอรี่ผลไหนสุกหรือดิบ จำกน้ันจึงใช้แขนกลเก็บเฉพำะค่ำท่ีมีผลตรง ตำมค่ำทตี่ งั้ ไวท้ ำให้เกบ็ สตรอวเ์ บอรี่ได้มำตรฐำนใกล้เคียงกนั นอกจำกน้ียังคดั แยกและบรรจใุ ส่ถำดทุก ๆ 5 วินำที สำมำรถทำงำนโดยไม่ต้องหยุดพัก แม้ในสภำพอำกำศแปรปรวน ฝนตก และสำมำรถเก็บ สตรอวเ์ บอรไ่ี ด้สงู สุด 360 กโิ ลกรมั ตอ่ วนั และเกบ็ ไดม้ ำกถึง 34,000 กิโลกรัมภำยใน 2 สปั ดำห์ 5.5.5.3 เทคโนโลยีกำรปลูกเน้ือสัตว์ กำรปศุสัตว์มีนวัตกรรมที่น่ำสนใจเพรำะจะมี เน้ือสัตว์โดยที่ไม่ต้องเลี้ยงสัตว์ โดยเป็นกำรนำเสต็มเซลล์ท่ีอยู่ภำยในเน้ือสัตว์มำเพำะเล้ียงให้เพิ่ม จำนวนจนกลำยเป็นเนื้อสัตว์ (In Vitro Meat) หรือเรยี กว่ำกำรปลกู เน้อื สตั ว์ (Cultured meat) ศนู ย์ ธุรกิจสัมพันธ์ กระทรวงกำรต่ำงประเทศ (2019) ได้นำรำยงำนของหน่วยงำน Start-Up National Central อิสรำเอลในเดือนกันยำยน 2562 มำเผยแพร่ซ่ึงมีกำรระบุว่ำอิสรำเอลมีบริษัทเทคโนโลยีข้ัน สูงในสำขำเกษตรและอำหำรมำกกว่ำ 350 บริษัท หน่ึงในสำมของบริษัทเหล่ำนั้นเพ่ิงก่อต้ังข้ึน ในช่วง 5 ปี ท่ีผ่ำนมำ ซ่ึงรวมถึง Startup ท่ีพัฒนำเทคโนโลยีเน้ือสัตว์เทียมเพื่อแก้ปัญหำจำนวน ประชำกรโลกที่เพิ่มขึ้นและควำมมั่นคงด้ำนอำหำร โดยใช้วิธีกำรเพำะเล้ียงเซลล์เน้ือเย่ือใน ห้องทดลองเหมือนกับกำรปลูกสเต็มเซลล์ (Stem Cells) วิธีกำรน้ีจะช่วยลดกำรใช้ทรัพยำกรต่ำง ๆ ในกำรทำฟำร์มปศุสัตว์ เช่น น้ำ ที่ดิน และพลังงำน ลง 10 เท่ำ ไม่นับอำหำรท่ีใช้ในกำรเล้ียงสัตว์ นอกจำกน้ีเทคโนโลยีดังกล่ำวยังเป็นประโยชน์ต่อส่ิงแวดล้อม เน่ืองจำกมีกำรประเมินว่ำกำรทำ กำรเกษตรก่อให้เกิดก๊ำซเรือนกระจก (Greenhouse gas emissions) ทั่วโลกประมำณร้อยละ 13 โดยบริษัทในอิสรำเอลเป็นผู้นำกำรพัฒนำเทคโนโลยีเนื้อสัตว์เทียมแข่งขันกับบริษัทใน Silicon Valley โดยหน่วยงำน Israel Innovation Authority ของรัฐบำลอิสรำเอลสนับสนุนเงินลงทุน แก่ Startup ดังกล่ำว ซึ่ง Startup ช้ันนำของอิสรำเอลที่พัฒนำเนื้อสัตว์เทียมมีหลำยบริษัท ได้แก่ (1) Future Meat Technologies ก่อต้งั ในปี พ.ศ. 2561 ได้คิดค้นกำรปลูกเลี้ยงเนื้อเยื่อจำกเซลล์ให้ เติบโตเป็นทวคี ูณได้ภำยใน 24 ชั่วโมง สำมำรถเพำะเนื้อไก่ แกะ และวัว ได้ภำยใน 2 สัปดำห์ ทำให้ ลดกำรใช้ท่ีดินเพ่ือกำรปศุสัตว์ลงร้อยละ 99 และลดกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจกถึงร้อยละ 80 โดย บริษัทฯ มีแผนที่จะวำงจำหน่ำยผลิตภัณฑ์ท่ีผสมผสำนระหว่ำงเน้ือสัตว์เทียมกับโปรตีนจำกพืชเพื่อ สร้ำงกล่ินและรสชำติเสมือนเนื้อสัตว์จริงในปี พ.ศ. 2564 และจะวำงจำหน่ำยเน้ือสัตว์เทียมล้วนด้วย ต้นทุนต่ำกว่ำ 10 ดอลลำร์สหรัฐต่อปอนด์ ภำยในปี พ.ศ. 2565 (2) Aleph Farms ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2560 คิดค้นเน้ือสเต็กท่ีเพำะเล้ียงจำกเซลล์ของวัวในห้องทดลองท่ีมีลักษณะและรสชำติท่ีคล้ำยคลึง กับเนื้อวัวจริงด้วยต้นทุนชิ้นละ 50 ดอลลำร์สหรัฐ และ (3) Super Meat ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2558 คิดค้นกำรเพำะเลี้ยงสเต็มเซลล์สัตว์ปีกปัจจุบัน บริษัทในอิสรำเอลเหล่ำน้ีอยู่ระหว่ำงระดมทุนเพ่ือ ค้นคว้ำวิจัยต่อยอดไปสู่กำรวำงจำหน่ำยเนื้อสัตว์เทียมในตลำดควบคู่ไปกับกำรแก้ปัญหำด้ำน กฎระเบียบ ลดต้นทนุ และกำรไดร้ ับกำรยอมรับจำกสำธำรณชน โดยนักบวชยวิ (Rabbi) ในอิสรำเอล เองบำงสว่ นเหน็ วำ่ เนอ้ื สตั ว์เทียมดังกลำ่ วนำ่ จะผ่ำนข้อกำหนดอำหำรโคเชอร์ 11 ตำมหลักศำสนำยูดำย 11 อำหำรโคเชอร์ หมำยถงึ อำหำรทไี่ ด้มำตรฐำนตำมกฎของยิว (Jewish Law) ท่ีจะบรโิ ภคไดซ้ ึ่งมหี ลักคัชรทู (Kashrut) เปน็ ขอ้ กำหนด เรือ่ งอำหำรท่กี ำหนดไวใ้ นคัมภรี ์โตรำห์ (Torah) วำ่ สง่ิ ใดรับประทำนได้ สิ่งใดรับประทำนไมไ่ ด้ กำรเตรียมอำหำรและรับประทำนตอ้ งทำ อย่ำงไร ดงั น้นั เพอ่ื ใหผ้ บู้ รโิ ภคอำหำรโคเชอร์ ม่ันใจว่ำอำหำรน้ันเปน็ โคเชอรบ์ รโิ ภคได้ จงึ ต้องมใี บรบั รองอำหำรโคเชอร์ ซึง่ จะต้องมีแร็บ ไบ (Rabbis) ตรวจสอบวำ่ อำหำรนน้ั ไดม้ ำตรฐำนโคเชอรห์ รือไม่

215 เนือ่ งจำกไม่ได้มำจำกสัตว์ท่ีถูกฆ่ำ ในขณะทบ่ี ำงส่วนเหน็ ว่ำเน้ือดงั กล่ำวไม่ใช่ทั้งเน้ือและนม (Pareve) ซ่ึงจะทำให้มีแฮมเบอร์เกอร์ที่เป็นโคเชอร์ได้เน่ืองจำกตำมหลักโคเชอร์ห้ำมบริโภคเน้ือคู่กับนม (ศูนย์ ธุรกิจสัมพันธ์ กระทรวงกำรต่ำงประเทศ, 2019) นอกจำกน้ียังมีนวัตกรรมอำหำรโปรตีนจำกแหลง่ อ่นื ท่ีเหมำะสำหรับกลุ่มคนผู้รักสุขภำพและผู้สูงอำยุ เช่น กำรพัฒนำเน้ือสัตว์ที่ทำจำกโปรตีนพืช (Plant based meat) ซง่ึ นวตั กรรมนี้ทำใหร้ ปู ลกั ษณ์ เน้ือสมั ผัส รสชำตเิ หมอื นกับเน้ือสัตว์จริง ๆ รปู ที่ 5.6 นวัตกรรมเนื้อสตั ว์เทยี มของ Startup อิสรำเอล ท่ีมำ : (https://globthailand.com/israel-28102019/) 5.5.5.4 เน้ือเทียมจำกพืช ในปัจจุบันแนวโน้มอำหำรที่มำจำกพืชเริ่มเป็นท่ีต้องกำร ของผบู้ รโิ ภคมำกขนึ้ โดยเฉพำะผทู้ ีร่ กั สุขภำพจะบรโิ ภคโปรตนี จำกพชื ทดแทนโปรตีนจำกเนื้อสตั ว์ ทั้งน้ี มีผู้คิดค้นนวัตกรรมเนื้อเทียมข้ึนมำซ่ึงมีลักษณะทำงประสำทสัมผัสคล้ำยเนื้อสัตว์ ผลิตมำจำกพืช จำพวกถั่วเหลือง เมล็ดข้ำวสำลี เพรำะมีโปรตีนค่อนข้ำงสูง หรือผลิตจำกเห็ดเพรำะมีเนื้อสัมผัสคลำ้ ย เน้ือสัตว์มำก กำรทำเนื้อเทียมในปัจจุบันทำได้หลำยวิธี เช่น กำรแยกด้วยน้ำโดยนำแป้งสำลีมำผสม กับน้ำทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงแล้วนำมำล้ำงอออกเพ่ือล้ำงเอำส่วนแป้งออกไปเหลือแต่เฉพำะส่วนกลูเตนที่ ประกอบด้วยโปรตีนไกลอะดิน และกลูเตนินที่มีลักษณะหยุ่นแต่ถ้ำรับประทำนมำกไปอำจเกิดอำกำร ทอ้ งอืดได้ นำมำผลิตหมยู อเจ กำรทำเน้ือเป็ดเจจำกกำรนำฟองเตำ้ หู้ท่ีได้มำจำกกำรนำเมล็ดถั่วเหลอื งมำป่ันกบั นำ้ กรอง แล้วนำไปต้มไฟอ่อนๆ ผิวหน้ำของน้ำนมถ่ัวเหลืองจะเป็นแผ่น ช้อนข้ึนผ่ึงแล้วน้ำไปทำเน้ือเป็ด เจ นอกจำกนี้ยังมกี ำรทำเนอ้ื แดดเดียวจำกกำ้ นเห็ดหอมโดยนำไปแช่น้ำแลว้ นำไปทอด

216 กระบวนกำรอดั พองด้วยเครื่องเอ็กซ์ทรูเดอร์ ทม่ี ีวตั ถดุ ิบเปน็ แป้งถั่วเหลืองโปรตีนสูง ถกู นวด ผสมในสภำวะที่มีควำมดันและอุณหภมู สิ ูงจนเกิดกำรเปล่ียนแปลงโครงสร้ำงซง่ึ กระบวนกำรน้ี มีมำต้ังแต่ พ.ศ. 2340 โดยโจเซฟ บรำมำ (Joseph Bramah) ซ่ึงเคร่ืองเอ็กซ์ทรูเดอร์นี้มีหลำยชนิด สถำบันค้นคว้ำและพัฒนำผลิตภัณฑ์อำหำร ผลิตโปรตีนเกษตรด้วยเครื่องเอ็กซ์ทรูเดอร์สกรูเด่ียว ใช้ แป้งถ่ัวเหลืองไขมันต่ำ ในโปรตีนเกษตรชนิดแห้ง 100 กรัม มีโปรตีน 49.76 กรัม ประกอบด้วย กรดอะมิโนลูซีน 3.98 กรัม ไลซีน 3.11 กรัม ฟีนิลอะลำนีน 2.85 กรัม วำลีน 2.25 กรัม ทรีโอนีน 2.18 กรัม ไอโซลูซีน 2.13 กรัม ไทโรซีน 1.88 กรัม ทริปโตเฟน 0.91 กรัม ซีสตีน 0.8 กรัม แล้วยังมี คำรโ์ บไฮเดรด ใยอำหำร เถ้ำ ไขมนั วติ ำมนิ และเกลือแรส่ ำมำรถนไปปรงุ อำหำรไดห้ ลำยชนิด กระบวนกำรหมักโดยเชื้อรำ (Mycoprotein) เช่น เทมเป้ (Tempeh) มีกำเนิดมำ จำกประเทศอินโดนีเซียมีกำรรับประทำนมำนำนเป็นร้อยปี โดยกำรนำเมล็ดถ่ัวต้มสุกซึ่งจะเป็นถั่ว เหลืองหมักด้วยเชื้อรำไรโซปัส โอลิโกสปอรัส (Rhizopus oligosporus) เทมเป้มีกล่ินและรสชำติดี ยอ่ ยและดดู ซมึ ได้งำ่ ย ไม่ทำใหท้ อ้ งอืดเหมำะกบั นำไปทอด (ช่อลดั ดำ เทย่ี งพกุ , 2563) รปู ท่ี 5.7 เนื้อเทียมจำกพืช ทม่ี ำ : (https://www.prachachat.net/hilight-prachachat/news-487640, 2563) 5.5.5.5 กำรผลิตโปรตีนจำกแมลงและสำหรำ่ ย (1) อำหำรจำกแมลง (Insect Food) กำรบริโภคแมลงของคนไทยและชำว ต่ำงประเทศมีมำนำนแล้วและปัจจุบันมีธุรกิจของคนไทยเพำะพันธ์ุแมลงและผลิตแมลงกระป๋อง ส่งออกต่ำงประเทศ แมลงเป็นแหล่งอำหำรโปรตีนใหม่ซ่ึงองค์กำรสหประชำชำติ (UN) ประกำศให้ แมลงเป็น Super food ที่มีประโยชน์และสำรอำหำรสูง ในหลำยประเทศเร่มิ ยอมรบั กำรใช้แมลงเป็น อำหำรโปรตีนสำรองเพรำะคำดกำรณ์ว่ำอีก 50 ปีข้ำงหน้ำ โลกจะประสบปัญหำขำดแคลนอำหำร

217 จำกจำนวนประชำกรโลกที่เพิ่มข้ึนซ่ึงจะทำให้วัตถุดิบอำหำรท่ีมีอยู่ทุกวันน้ี อำจจะไม่เพียงพอสำหรับ ประชำกรโลก ปัจจุบันมีแมลงมำกกว่ำ 1,900 ชนิดท่ีสำมำรถรับประทำนได้และมีประชำกรโลกรำว 2,000 ล้ำนคนที่รับประทำนแมลงเป็นอำหำร ในขณะที่ตลำดแมลงกินได้ท่ัวโลก ปี พ.ศ. 2558 มี มูลค่ำไม่ต่ำกว่ำ 33 ล้ำนเหรียญสหรัฐฯ และคำดว่ำน่ำจะเติบโตรำวร้อยละ 40 ภำยในปี พ.ศ. 2566 ดังน้นั แมลงจึงเป็นอีกหนึง่ กล่มุ สนิ ค้ำอำหำรที่มีศักยภำพและเปน็ ทสี่ นใจของตลำด (ศนู ย์วิจัยกสิกรไทย , 2562) นอกจำกน้ียังมีงำนวิจัยเกี่ยวกับสำรอำหำรในแมลงซ่ึงนันทยำ จงใจเทศ พิมพร วัชรำงค์กุล ปิยนนั ท์ เผำ่ ม่วง และเพญ็ พโยม ประภำศริ ิ (มปป.) ไดศ้ ึกษำคุณภำพโปรตีนและไขมนั ในแมลงท่ีกินได้ พบว่ำ แมลงท่ีนิยมบริโภค 8 ชนิด เมื่อวิเครำะห์หำคุณค่ำทำงโภชนำกำรที่เป็นสำรอำหำรหลักและ คุณภำพโปรตีน โดยกำรหำค่ำ Amino Acid Score เปรียบเทยี บกับโปรตนี อำ้ งอิงของ FAO/WHO (1973) รวมทั้งศึกษำปริมำณกรดไขมันและคอเลสเตอรอล ผลกำรศึกษำพบว่ำ ในน้ำหนักสดของ แมลง 100 กรัม มีพลังงำน 98 - 231 กิโลแคลอรี โปรตีน 9.2-27.6 กรัม ไขมัน 1.8-20.4 กรัม คำร์โบไฮเดรต 1.0-4.8 กรัม แมลงที่มีพลังงำนและไขมันสูงสุดคือหนอนไม้ไผ่ แมลงท่ีมีโปรตีนสงู สดุ คือต๊กั แตนปำทังก้ำ รองลงมำคอื แมลงปอ่ ง คุณภำพโปรตีนในแมลงที่ศกึ ษำครงั้ น้ีพบวำ่ มีค่ำ Amino Acid Score 34.2-100 ดักแด้ไหมเป็นแมลงท่ีมีคุณภำพดีที่สดุ เทียบเท่ำโปรตีนอ้ำงอิง รองลงมำคือ หนอนไม้ไผม่ ีค่ำ Amino Acid Score 77.5 ตั๊กแตนปำทงั ก้ำมโี ปรตีนสูงสดุ มีค่ำ Amino Acid Score 55.8 จิ้งหรีด ตัวอ่อนของต่อ แมลงป่อง และแมลงกินูน มีค่ำ Amino Acid Score 68.7 59.4 48.4 และ 34.2 ตำมลำดับ Limiting Amino Acid ในแมลงแต่ละชนิดแตกต่ำงกันไป ผลกำรศึกษำ ปริมำณกรดไขมันพบว่ำ ดกั แดไ้ หมมีกรดไขมันอิ่มตัวสูงทส่ี ุดถึงร้อยละ 70.36 หนอนไม้ไผ่และตัวอ่อน ของต่อมีกรดไขมันอิ่มตัวร้อยละ 48.71 และ 45.98 ตำมลำดับ กรดไขมันไม่อ่ิมตัวตำแหน่งเดียวรอ้ ย ละ 46.86 และ 40.39 ซึ่งนับว่ำสูงกว่ำกรดไขมันไม่อ่ิมตัวหลำยตำแหน่งมำก แมลงป่องเป็นแมลง ชนิดเดียวท่ีมีปริมำณไขมันไม่อ่ิมตัวตำแหน่งเดียวมำกกว่ำกรดไขมันอ่ืน จ้ิงโกร่ง จ้ิงหรีด ต๊ักแตนปำ ทังก้ำและแมลงกินูน มีอัตรำส่วนของกรดไขมันอิ่มตัว : กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว : กรดไขมัน ไม่อ่ิมตัวหลำยตำแหนง่ ประมำณ 1:1:1 จ้ิงหรีดมีปริมำณคอเลสเตอรอลมำกท่ีสดุ คือ 105 มิลลิกรัม / 100 กรัม รองลงมำคือแมลงป่อง 97 มิลลิกรัม /100 กรัม แม้ว่ำแมลงมีโปรตีนสูงและมีคุณภำพ โปรตีนในส่วนของกรดอะมิโนจำเป็นดีพอสมควร แต่ปริมำณกรดไขมันส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันไม่ จำเป็นและในกำรรับประทำนแมลงโดยทั่วไปจะเป็นกำรทอดจึงเป็นกำรเพิ่มไขมันมำกขึ้น ดังน้ันกำร บริโภคแมลงควรคำนึงกรรมวิธีกำรปรุงนอกเหนือจำกสำรพิษตกค้ำงที่อำจติดมำกับแมลงเหล่ำนี้ สำหรบั คนไทยกินแมลงอบกรอบเป็น อำหำรว่ำง ส่วนต่ำงประเทศ นอกจำกกินเล่นก็ใส่ในสลัด สปำเกตตี เพื่อเพิ่มโปรตีนในเมนูอำหำรและยังมีอีกหลำยผลิตภัณฑ์ที่นำแมลงเป็นแหล่งโปรตีน ในประเทศไทยอำจเคยเห็นควำมหลำกหลำยของเมนูแมลงทอดกรอบปรุงรสด้วยซอส พริกไทย ซึ่งมีขำยตำมรถเข็น แต่ในปัจจุบันพบได้ในร้ำนสะดวกซื้อ ห้ำงสรรพสินค้ำ หรือสั่งจำกเว็บไซต์ ขำยผลิตภัณฑ์จำกแมลง ตัวอย่ำงของผลิตภัณฑ์แมลง (สุริวัสสำ กล่อมเดช, 2018) ได้แก่ (1.1) ผงแมลง (Insect Powders) คือ กำรแปรรูปแมลงด้วยกำร อบแล้วป่นเปน็ ผงละเอียด เชน่ ผงจง้ิ หรดี ผงแมงปอ่ ง ผงหนอนไหม ผงตก๊ั แตน ซึ่งลักษณะเหมอื นแป้ง อเนกประสงคแ์ ตกตำ่ งที่เปน็ ผงแป้งอุดมดว้ ยคุณคำ่ ทำงโภชนำกำร ทง้ั โปรตีน แคลเซยี ม วิตำมนิ นำไป ประกอบอำหำรสะดวก ใช้โรยหนำ้ หรือเปน็ สว่ นผสมของอำหำร ขนมปัง คุกก้ี energy bar เปน็ ต้น

218 รปู ท่ี 5.8 ผลิตภณั ฑ์แปรรูปจำกแมลง ที่มำ : (https://krua.co/food-story/food-feeds/62/bug-products-nbsp-...) (1.2) ลูกอมแมลง Hotlix Candy อมยิ้มแมลงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ ได้รับควำมนิยมจำกออสเตรเลีย เป็นลูกอมหลำกสี หลำกรส เน้ือใสเห็นแมลงอยู่ข้ำงใน เม่ืออมไป เรื่อย ๆ จนเนื้อลูกอมละลำยจะได้สัมผัสกับตัวแมลง นอกจำกน้ียังมีแมลงเคลือบช็อกโกแลตเป็น ผลติ ภณั ฑเ์ นน้ ควำมแปลก ท่จี ดุ เด่นคอื ควำมหวำนของชอ็ กโกแลตกับเนอื้ สัมผสั ของแมลง (1.3) แมลงย่ำงรมควัน แมงมุม Zebra tarantula ย่ำงบรรจุ กระป๋อง แมงป่องรมควนั รสบำรบ์ คี ิวบรรจุกระปอ๋ ง (1.4) ซอส Mealworm Bolognese ซอสหนอนโบลองเนสกับ Cricket Bolognese ซอสจิ้งหรีดโบลองเนส เป็นซอสปรุงสปำเกตตีหรือพำสต้ำสำเร็จรูปแบรนด์ One Hop Kitchen จำกแคนำดำ (1.5) Mealworm Spread สเปรดหนอนนกรสช็อกโกแลตและ สเปรด หนอนนกแครอทกบั มะเขอื เทศ

219 รูปที่ 5.9 ผลิตภณั ฑ์แปรรปู จำกแมลง-ซอสและสเปรด ทม่ี ำ : (https://krua.co/food-story/food-feeds/62/bug-products-nbsp-...) (1.6) พำสต้ำน พำสต้ำจ้ิงหรีดทำจำกข้ำวหอมมะลิผสมมัน สำปะหลังและผงจ้ิงหรีด พำสต้ำหนอนไหม มีส่วนผสมของข้ำวโพด มันสำปะหลัง และหนอนไหม บรรจุซองพร้อมระบุข้ันตอนต้มอย่ำงละเอียดบนซองซ่ึงลักษณะภำยนอกและวธิ ีต้มเสน้ เหมือนพำสตำ้ ทวั่ ไป (1.7) กลิ่นแมลง ในต่ำงประเทศมีกำรสกัดกลิ่นจิ้งหรีดเพ่ือใส่ใน เครือ่ งดมื่ ค็อกเทล สรำ้ งกล่นิ สมั ผสั ใหม่ให้กับเคร่ืองดื่ม สว่ นในไทยใชป้ ระโยชน์จำกกลน่ิ แมลงมำนำน แลว้ เช่น นำ้ พรกิ แมลงดำมีกลน่ิ หอมเฉพำะทีไ่ ด้จำกแมลงดำตัวผู้ รปู ที่ 5.10 ผลติ ภัณฑ์แปรรูปจำกแมลง-พำสต้ำและกลน่ิ แมลง ท่ีมำ : (https://krua.co/food-story/food-feeds/62/bug-products-nbsp-...) (1.8) แมลงในน้ำเกลือ ดักแด้หนอนไหมในนำ้ เกลือบรรจุกระปอ๋ ง เป็นที่นิยมมำกในประเทศเกำหลี เรียกว่ำ \"BEONDEGI\" สะดวกในกำรพกพำ สำมำรถเก็บไว้ได้นำน สว่ นในประเทศไทยก็มไี ขม่ ดแดงในนำ้ เกลือบรรจขุ วดแก้วและประปอ๋ ง นอกจำกน้ีแล้วกำรเพำะเล้ียงแมลงยังปล่อยก๊ำซเรือนกระจกน้อยกว่ำกำรเลี้ยงสัตว์ ชนิดอื่น ๆ อีกทั้งแมลงยังสำมำรถเพำะเล้ียงให้เป็นอำหำรที่ไร้กลูเตนเหมำะสำหรับคนแพ้กลูเตนที่มี อย่มู ำกมำยในปัจจบุ ัน คำดกำรณ์วำ่ ธรุ กิจแมลงทรี่ ับประทำนได้ทัว่ โลกมมี ูลค่ำสูงถงึ 400 ลำ้ นเหรยี ญ สหรัฐ (12,000 ล้ำนบำท) โดยเอเชียเปน็ ตลำดหลกั ในกำรบริโภคและส่งออก มีสดั สว่ นประมำณ 40% ของโลก ซง่ึ 5 ปที ผี่ ่ำนมำอุตสำหกรรมแมลงเติบโตปีละประมำณ 20% และประเทศไทยเปน็ ตลำดท่ีมี

220 กำรส่งออกแมลงไปขำยทั่วโลก มีนักลงทุนต่ำงชำติเข้ำมำทำฟำร์มเพำะเลี้ยงซ่ึงมีศักยภำพที่จะเติบโต ตอ่ ไป (ผูจ้ ดั กำรออนไลน์, 2562) รูปที่ 5.11 แมลงในน้ำเกลือ ท่ีมำ : (https://krua.co/food-story/food-feeds/62/bug-products-nbsp-) (2) โปรตีนจำกสำหร่ำย โปรตีนจำกสำหรำ่ ยนับเป็นอกี ทำงเลือกหน่งึ ของผู้รัก สุขภำพและมีปริมำณโปรตีนค่อนข้ำงสูง ตัวอย่ำงเช่น โปรตีนจำกสำหรำ่ ยน้ำจืดท่ีเรียกว่ำเตำ เตำเป็น สำหร่ำยน้ำจืดสีเขียวชนิดหน่ึง มีช่ือทำงวิทยำศำสตร์ว่ำ Spirogyra spp. อยู่ใน Division Chlorophyta มีช่ือเรียกตำมท้องถิ่นของแต่ละภำคต่ำงกันออกไป ภำคเหนือและภำคภำค ตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่ำ เตำหรือเทำ ส่วนภำคกลำงเรียกว่ำ เทำน้ำ มีลักษณะเป็นเส้นยำว ไม่ แตกก่ิงก้ำน เมื่อสัมผัสจะเป็นเมือกลื่น พบตำมแหล่งน้ำจืดตำมธรรมชำติทั้งในภำคเหนือ ภำค ตะวันออกเฉียงเหนือและภำคตะวันตกของประเทศไทย ที่เป็นแหล่งน้ำน่ิง ใส สะอำด สำหร่ำยนี้ยัง ช่วยเพ่ิมปริมำณออกซิเจนให้แก่แหล่งน้ำ เตำมีคุณค่ำทำงโภชนำกำรโดยถ้ำคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ น้ำหนักแห้งประกอบด้วยโปรตีน 18.63 - 23.76% ไขมัน 2.86 - 5.21% คำร์โบไฮเดรต 53.98- 56.31% เส้นใย 6.24 - 7.66% และเถ้ำ 11.78% ให้ธำตุเหล็กสูงถึง 33.85% เทียบเท่ำกับผักกูดท่ี ให้ธำตุเหล็ก 36.30% ซ่ึงสูงเป็นอันดับหนึ่งของผัก ทั้งยังมีสำรต้ำนอนุมูลอิสระสูงเมื่อเทียบกับ สำหร่ำยน้ำจืดชนิดอ่ืน โดยคิดจำกค่ำ IC 5012 ซ่ึงเป็นค่ำท่ีใช้เปรียบเทียบควำมสำมำรถในกำรเป็น สำรต้ำนอนุมูลอิสระ ดังนั้น หำกค่ำ IC 50 ต่ำแสดงว่ำ มีสำรต้ำนอนุมูลอิสระสูง นอกจำกนี้ยังช่วย รกั ษำโรคมะเร็งในผู้ป่วยมะเร็งไขป่ ลำโดยให้นำเตำสบั ไปพอกแผลทำให้แผลน้ันหำยดีขึน้ ไมป่ วดแสบ ปวดรอ้ นและยงั มสี รรพคณุ ในกำรลดน้ำตำลในเลือดด้วย (พรรณพมิ ล สรุ ยิ พรหมชัย, มปป.) ตำรำงที่ 5.2 คณุ คำ่ ทำงโภชนำกำรของสำหรำ่ ยเตำ 12 ค่ำ IC 50 (Median Inhibitory Concentration หรือ Inhibitory Concentration ท่ี 50%) หมำยถึง ควำมเข้มข้นของสำรที่ สำมำรถยับยั้งอนมุ ลู อิสระได้ 50%

221 สารอาหารพ้นื ฐาน เกลอื แร่ (กรัม/ 100 กรมั น้าหนกั แห้ง) (มิลลกิ รมั /100กรัม นา้ หนกั แหง้ ควำมช้นื (%) 8.05 แคลเซียม 26.88 ไขมัน 5.21 โซเดียม 1.56 โปรตนี 18.65 โปแทสเซยี ม 1.19 กำก (ใยอำหำร) 7.66 แมกนีเซยี ม 241.10 เถ้ำ 11.78 แมงกำนสี 35.80 คำร์โบไฮเดรต 56.31 เหล็ก 33.85 พลงั งำน (กิโลแคลอร/ี่ กรมั ) 3.12 ฟอสฟอรัส 125.76 วิตำมิน (มิลลิกรัม/100 กรัมน้ำหนัก ทองแดง(มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนัก 0.40 แหง้ ) สด) วติ ำมินเอ 0.25 สังกะสี 1.73 วิตำมินซี ไมพ่ บ วิตำมนิ บี 1 0.04 วิตำมินบี 2 0.55 วติ ำมินบี 6 0.84 ไนอะซนิ 3.65 ที่มำ : (พรรณพมิ ล สรุ ยิ พรหมชัย, มปป.) นอกจำกคุณค่ำทำงโภชนำกำรตำมตำรำงข้ำงต้นแล้ว มีรำยงำนฤทธ์ิทำงชีวภำพหลำย ประกำรของสำหรำ่ ยเตำ โดยพบว่ำสำหรำ่ ยเตำมคี ณุ สมบัติเป็นสำรตำ้ นอนมุ ูลอสิ ระ ยับยงั้ กำรติดเช้ือ ไวรัสก่อโรคเริม และจำกกำรศึกษำในสัตว์ทดลองพบว่ำ สำรสกัดสำหร่ำยเตำมีฤทธ์ิในกำรลดแผลใน กระเพำะอำหำร ต้ำนกำรอักเสบ นอกจำกนี้ยงั พบว่ำมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตำลและไขมันในเลือดในภำวะ เบำหวำนชนิดที่ 2 อีกดว้ ย (อัจฉรำภรณ์ อ่อนตะวงศ์, มปป.) 5.5.5.6 นวัตกรรมเก่ียวกับอำหำรรปู แบบใหม่ กำรพัฒนำนวัตกรรมผลติ ภัณฑ์ใหม่ใน อุตสำหกรรมอำหำรและเครอ่ื งด่มื ของโลกตอ่ ไปนจ้ี ะเป็นไปเพื่อสุขภำพและจะเป็นกระแสหลักของโลก ที่ผู้บริโภคท่ัวโลกมีควำมสนใจและสนองตอบต่อผลิตภัณฑ์เหล่ำน้ีอย่ำงต่อเนื่อง และจะเป็นกลยุทธ์ สำคัญของผู้ประกอบกำรในกำรนำผลิตภัณฑ์ใหม่ท่ีผู้บริโภคอำจจะยังไม่คุ้นเคยเข้ำสู่ตลำดได้ง่ำยขึ้น โดยมีตวั อย่ำงพืน้ ฐำนสำคัญของกำรพฒั นำนวัตกรรม เช่น สวยจำกภำยใน สุขภำพกระดูกและข้อเข่ำ สุขภำพสมองและควำมจำ สุขภำพหลอดเลือดและหัวใจ ฯลฯ เป็นต้น (จำรุวรรณ เจตเกษกิจ, 2555) นอกจำกน้ีศูนย์วิจัยกสิกรไทย (2562) คำดกำรณ์ว่ำเทรนด์อำหำรในอนำคตจะเป็นโอกำสของ ผู้ประกอบกำร SME ไทย ได้แก่ อำหำรพืชแบบธรรมชำติ (Plant-based food) อำหำรจำกแมลง (Insect food) และอำหำรจำกท้องถ่ิน (Localisation) ดังแสดงในรูปที่ 5.10 ซ่ึงสำมำรถตอบสนอง ควำมต้องกำรของลูกค้ำทั้งในประเทศและต่ำงประเทศโดยเฉพำะกลุ่มคนรุ่นใหม่ท่ีหันมำใส่ใจสุขภำพ กลมุ่ ผ้สู งู อำยุ กล่มุ ผู้ปว่ ยและกลมุ่ นกั ท่องเทีย่ ว แตส่ ง่ิ สำคัญผู้ประกอบกำรควรหนั มำใหค้ วำมสำคัญกับ

222 กำรนำนวัตกรรมอำหำรมำปรับใช้ในกำรกระบวนกำรผลิตให้มำกขึ้นและผลิตภัณฑ์ควรแสดงออกซึ่ง ควำมรับผิดชอบต่อสิ่งสังคม (Corporate social responsibility) ผู้บริโภคสำมำรถตรวจสอบ ย้อนหลังได้ เพื่อสร้ำงควำมน่ำเชื่อถือให้กับผู้บริโภค แนวโน้มกำรบริโภคของผู้คนในอนำคตจะให้ ควำมสำคัญกับกำรเลือกบริโภคอำหำรมำกข้ึนจำกปัจจัยแวดล้อมด้ำนต่ำง ๆ ท้ังทำงด้ำนเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม โดยหลัก ๆ จะครอบคลุม 5 ประเด็นสำคัญคือ (1) ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ท่ีดีต่อ สุขภำพ (2) ผลิตจำกธรรมชำติ ปลอดสำรเคมี ปรำศจำกกำรตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMO ต้องไม่มี สำรปรงุ แตง่ (Free form) (4) เปดิ กวำ้ งรบั กลุ่มอำหำรทผ่ี ลิตขนึ้ ใหมท่ ำงนวตั กรรม และ (5) ผลติ ภณั ฑ์ อำหำรต้องสำมำรถตรวจสอบย้อนกลับได้เพื่อควำมปลอดภยั ในกำรบริโภค นอกจำกนี้แล้วแนวโน้มข้ำงต้นยังสอดคล้องกับรำยงำนกำรวิเครำะห์แนวโน้ม เทคโนโลยีและอุตสำหกรรม อุตสำหกรรมกำรแปรรูป โดยสถำบันทรัพย์สินทำงปัญญำแห่ง จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย (2560) ที่ได้กล่ำวถึงกำรสร้ำงมูลค่ำทำงเศรษฐกิจให้แก่อำหำรด้วยกำรเพม่ิ ประสิทธิภำพกำรใช้ปัจจัยกำรผลิตให้มีควำมได้เปรียบจำกควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพของวัตถุดิบ และควำมหลำกหลำยของวฒั นธรรมท่ีมงุ่ เนน้ กำรผลติ อำหำรท่ีมีมูลค่ำสงู ได้แก่ (1) อำหำรเพ่ือสขุ ภำพ (Functional foods) คือ อำหำรทม่ี ีสำรอื่นที่เปน็ ประโยชนต์ อ่ สขุ ภำพนอกเหนือจำกอำหำรท่ีมีคุณค่ำ ทำงโภชนำกำรซ่ึงทำหน้ำท่ีช่วยในกำรป้องกันโรค รักษำโรคหรือเพ่ิมระบบภูมิคุ้มกัน เช่น สำร ทดแทนควำมหวำนสำหรับคนป่วยโรคเบำหวำนหรือโรคอ้วน (2) อำหำรทำงกำรแพทย์ (Medical food) เป็นผลิตภัณฑ์อำหำรท่ีไม่ใช่ยำหรือผลิตภณั ฑ์เสริมอำหำร แต่เป็นอำหำรสำหรับบำบัดผู้ป่วย เฉพำะโรคท่ีไม่สำมำรถรับประทำนอำหำรปกติได้อย่ำงเพียงพอ (3) ผลิตภัณฑ์เสริมอำหำร (Food supplement, Dietary supplement, Natural health products) จัดเป็นอำหำรประเภทหน่ึง ตำมพระรำชบัญญัติอำหำร พ.ศ. 2522 ซึ่งหมำยถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทำนโดยตรงนอกเหนือจำก รับประทำนอำหำรหลักตำมปกติแต่รับประทำนเพื่อเสริมสำรบำงอย่ำงสำหรับคนทั่วไปที่สุขภำพปกติ ไม่ใช่ผู้ป่วย ไม่ควรให้เด็กและสตรีมีครรภ์รบั ประทำน เช่น น้ำมันปลำ สำหร่ำยสไปรูลนิ ่ำ กระดูกอ่อน ปลำฉลำม น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กลูโคแมนแนน ไคโตซำน เส้นใยอำหำรคอลลำเจนอัดเม็ด เป็นต้น และ (4) อำหำรใหม่ (Novel Food) ซ่ึงตำมประกำศกระทรวงสำธำรณสุข (ฉบับที่ 376) พ.ศ. 2559 เรื่องอำหำรใหม่ หมำยควำมว่ำ (1) วัตถุที่ใช้เป็นอำหำรหรือเป็นส่วนประกอบของอำหำรท่ีปรำกฏ หลักฐำนทำงวิชำกำรว่ำมีประวัติกำรบริโภคเปน็ อำหำรน้อยกวำ่ สิบห้ำปีหรือ (2) วัตถุท่ีใช้เป็นอำหำร หรือเป็นส่วนประกอบของอำหำรที่ได้จำกกระบวนกำรผลิตท่ีมิใช่กระบวนกำรผลิตโดยทั่วไปของ อำหำรนัน้ ๆ ที่ทำให้สว่ นประกอบ โครงสรำ้ งของอำหำร รปู แบบของอำหำรน้ันเปลี่ยนแปลงไปอย่ำง มีนัยสำคัญ ส่งผลต่อคุณค่ำทำงโภชนำกำร กระบวนกำรทำงเคมีภำยในร่ำงกำยของสิ่งมีชีวิต (Metabolism) หรือระดับของสำรท่ีไม่พึงประสงค์ (Level of undesirable substances) (3) ผลิตภัณฑ์อำหำรท่ีมีวัตถุ (1) หรือ (2) เป็นส่วนประกอบ ทั้งน้ีไม่รวมถึงวัตถุเจือปนอำหำรและอำหำร ทีไ่ ดจ้ ำกเทคนคิ กำรดัดแปรพนั ธุกรรม (จำรุณี อินทรสุขและจิรำรตั น์ เพมิ่ ภศู รี, 2559) 5.5.5.7 กำรใช้เทคโนโลยี 3D Printing กับวงกำรอำหำร สำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน ระบบดจิ ิทัลจะเข้ำมำช่วยงำนครวั มำกข้นึ โดยนวัตกรรมท่เี กย่ี วข้องกบั กำรปรุงอำหำรภำยในบ้ำนโดย มีกำรผลติ เครอ่ื งพิมพ์อำหำร ซึง่ ในอนำคตเทคโนโลยี 3D Food Printing จะกลำยเป็นเครอ่ื งใช้ไฟฟ้ำ ในบ้ำนอีกชนิดหน่ึงท่ีช่วยอำนวยควำมสะดวกในกำรทำอำหำร ควำมหมำยของ 3D Printing คือ

223 กำรใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในกำรสร้ำงโมเดลเสมือนจริงหรือกำรข้ึนรูปช้ินงำนก่อนจะต่อเข้ำกับ เคร่ืองพิมพ์ในระบบ 3 มิติ เพ่ือพิมพ์วัสดุออกมำทีละช้ันก่อนผลิตออกมำเป็นช้ินงำน ในวงกำรอำหำร 3D Printing ได้ถูกนำมำใช้พิมพ์อำหำรออกมำให้มีหน้ำตำ สีสันและรสชำติเหมือนกับอำหำรที่ปรุง ตำมวิธีกำรปกติ ท้ังนี้หลักกำรทำงำนของเครื่องพิมพ์อำหำร 3 มิติคือ กำรใส่ส่วนผสม ซ่ึงก็คือวัตถุดิบ และเคร่ืองปรุงตำ่ ง ๆ ตำมสูตรทอี่ ยู่ในสภำพของเหลวหรือก่งึ เหลวและใส่ รปู ที่ 5.12 แนวโนม้ อำหำรในอนำคตสำหรบั ผปู้ ระกอบกำร SME ไทย ท่ีมำ : (ศูนยว์ จิ ัยกสิกรไทย, 2562) ลงไปในแคปซูลหรือกระบอกหมึกพิมพ์แล้วจึงนำแคปซูลนี้ใส่ลงไปในเครื่องพิมพ์ โหลดโปรแกรม เมนูอำหำรท่ีต้องกำรและกดปุ่มให้เครื่องทำงำน โดยกระบอกฉีดจะค่อย ๆ พ่นส่วนผสมของอำหำร ข้ึนมำทีละชั้นทีละแถวจนได้เป็นรูปทรงต่ำง ๆตำมข้ันตอนของกำรทำงำน ช่วยให้ประหยัดเวลำใน กำรประกอบอำหำร นวัตกรรมนี้ได้นำไปใช้กับกำรทดลองผลิตอำหำรต่ำง ๆ แล้ว เช่น พิซซ่ำ แฮมเบอร์เกอร์ สปำเก็ตต้ี พำสต้ำ ซูชิ คุกกี้ บิสกิต เค้ก ช็อกโกแลต โดยเครื่องพิมพ์อำหำรนี้ได้ผลิต ออกมำเป็นเคร่ืองแรกของโลกโดยบริษัท Natural Machines ของสเปน วำงจำหน่ำยเมื่อปี ค.ศ. 2015 กำรใช้เคร่อื งพมิ พ์อำหำร 3 มิตินเี้ ป็นกำรเพ่มิ ควำมสะดวกสบำยในชีวติ ประจำวนั มำกข้นึ และยัง สำมำรถเลือกวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภำพได้ด้วยพร้อมคุณค่ำและปริมำณสำรอำหำรท่ีถูกกำหนดตำมหลัก

224 โภชนำกำร โดยเครอื่ งพมิ พ์จะสำมำรถบันทึกข้อมูลสำรอำหำรและประเมินภำวะสุขภำพของผู้บริโภค และปรุงอำหำรให้เหมำะกับควำมต้องกำรของผู้บริโภคแต่ละคนได้ นอกจำกนี้แล้วอำจผสมยำ ประจำตัวลงไปในอำหำรเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและควบคุมปริมำณอำหำรแต่ละมื้ออย่ำงมี ประสิทธิภำพ แต่อย่ำงไรก็ตำมเคร่ืองพิมพ์อำหำร 3 มิตินี้ยังคงต้องพัฒนำต่อไปเพ่ือให้สำมำรถปรุง ประเภทอำหำรไดห้ ลำกหลำยมำกย่งิ ขน้ึ (โชตกิ ำ ชมุ่ มี, 2558) บทสรุป เกษตรกรรม หมำยถึง กระบวนกำรผลิตอำหำร เส้นใย เช้ือเพลิงและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพ่ือให้ ได้ผลผลิตทำงกำรเกษตรสำหรับกำรยังชีพ ส่วนอุตสำหกรรมเกษตร หมำยถึง อุตสำหกรรมท่ีใช้ ผลผลิตเบื้องต้นที่เกิดจำกกำรผลิตทำงกำรเกษตรเป็นวัตถุดิบในกำรผลิตโดยกำรใช้เทคโนโลยีเพ่ือ สร้ำงมูลค่ำเพิ่ม ท้ังเกษตรกรรมและอุตสำหกรรมเกษตรมีควำมสำคัญกับกำรพัฒนำเศรษฐกิจของ ประเทศไทยทำให้เกิดเสถียรภำพทำงเศรษฐกิจของประเทศ ในยุคโลกำภิวัตน์ทำให้ทุกพ้ืนที่บนโลก เป็นแหล่งวัตถุดิบ แหล่งผลิตสินค้ำอุตสำหกรรมเกษตรและมีกำรตลำดท่ีใหญ่ขึ้นและยังเป็นกำรสร้ำง โอกำสทำงธุรกิจอุตสำหกรรมเกษตรเน่ืองด้วยอุปสงค์อำหำรของโลกท่ีเพิ่มขึ้นทำให้ประเทศไทยมี โอกำสในกำรสร้ำงควำมเข้มแข็งและเป็นประเทศผู้นำด้ำนกำรผลิตอำหำรแต่ถึงอ ย่ำงไรก็ดีมีปัจจัยท่ี ต้องพิจำรณำประกอบ เช่น พฤติกรรมของผู้บริโภคท่ีมีกำรเปลี่ยนแปลงไปตำมยุคสมยั ต้องสำมำรถ คำดกำรณ์กำลังซ้ือของผู้บริโภคด้วยว่ำมีกำลังซ้ือเป็นอย่ำงไรและแนวโน้มตลำดอำหำรจะมีทิศทำง เป็นไปในทิศทำงใดรวมทั้งผู้ผลิตภำคกำรเกษตรต้องพิจำรณำถึงกำรเปลี่ยนแปลงสภำพภูมิอำกำศที่ อำจส่งผลต่อกำรทำกำรเกษตรและมำตรกำรด้ำนสิ่งแวดล้อมท่ีเป็นข้อกำหนดทำงกำรค้ำระหว่ำง ประเทศที่ประเทศไทยในฐำนะผู้ส่งออกไปยังประเทศที่มีข้อกำหนดน้ีชัดเจน เช่น สหภำพยุโรป สหรัฐอเมริกำ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ที่จะต้องพยำยำมดำเนินกำรตำมมำตรฐำนนั้น ควำมก้ำวหน้ำ ทำงดำ้ นวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยจี งึ มสี ่วนสำคัญอยำ่ งยิง่ ในกำรสนบั สนุนงำนทำงด้ำนกำรเกษตรท้ัง ในส่วนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับกำรเกษตรโดยตรง เชน่ เทคโนโลยีชวี ภำพ นำโนเทคโนโลยี เป็นต้น นอกจำกน้ี ยังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้ำนอำหำรเกิดข้ึนแล ะที่กำลังพัฒนำอี กมำกไม่ว่ำจะเป็นกำรปลู ก เนื้อสตั วเ์ ปน็ อำหำร กำรทำฟำร์มทท่ี ะเลทรำย กำรใชเ้ ครอื่ งพมิ พ์ 3 มติ ผิ ลติ อำหำร กำรใช้เทคโนโลยี สมัย เชน่ โดรน อนิ เทอร์เน็ตในทุกส่งิ เพื่อบริหำรจัดกำรทำงดำ้ นเกษตร ซึ่งควำมทนั สมยั เหลำ่ นจ้ี ะเป็น โ อ ก ำ ส ส ำ คั ญ ใ น ก ำ ร ผ ลิ ต อ ำ ห ำ ร แ ต่ ก็ ยั ง มี ค ว ำ ม เ ส่ี ย ง ที่ จ ะ ท ำ ใ ห้ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ เ ก ษ ต ร ก ร แ ล ะ ผู้ประกอบกำรท่ีอำจจะถูก disrupt ได้หำกไม่สำมำรถปรับตัวได้ทัน กำรเผชิญกับสภำพแวดล้อมที่ เปลี่ยนไป เช่น สิ่งแวดล้อมและทรัพยำกรธรรมชำติท่ีกำลังถูกคุกคำมเป็นควำมท้ำทำยทำงด้ำน เกษตรกรรมที่จะต้องแสวงหำแนวทำงที่สมดุล มีกำรบริหำรจัดกำรท่ีเหมำะสมพร้อมกับภำครัฐมี นโยบำยที่จะส่งเสริมและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นหุบเขำแห่งอำหำรของโลก (World Food Valley) ได้ กำรพัฒนำกำรเกษตรของประเทศไทยจะต้องพัฒนำหลำย ๆ ด้ำนไปพร้อมกัน ท้ัง เกษตรกรที่ต้องปรับตัวและแสวงหำควำมรู้เพื่อเพ่ิมควำมสำมำรถในกำรผลิต กำรมีข้อมูลที่ถูกต้อง และสำมำรถเข้ำถึงได้เพ่ือช่วยให้เกษตรกรสำมำรถใช้ในกำรตัดสินใจ มีนโยบำยกำรเกษตรที่ชัดเจน และสำมำรถนำไปสร้ำงควำมเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรในกำรรับมือกับยุคสมัยของโลกำภิวัตน์ที่จะต้อง ประสบปัญหำด้ำนประสิทธิภำพกำรผลิตและกำรตลำด วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีจะเข้ำมำมีส่วน

225 สำคัญอย่ำงย่ิงในกำรพัฒนำกำรเกษตรและอุตสำหกรรมเกษตรให้ทันต่อยุคสมัยของกำรเปลี่ยนแปลง โดยกำรใชเ้ ทคโนโลยีกำรจัดกำร เทคโนโลยคี วบคุมสิง่ แวดล้อม เทคโนโลยชี ีวภำพดำ้ นกำรเกษตรและ อุตสำหกรรมอำหำร เทคโนโลยีกำรปรบั ปรงุ พันธุส์ ตั ว์ เทคโนโลยีกำรเพำะเลี้ยงเน้อื เย่อื เทคโนโลยีกำร แปรรูปสินค้ำเกษตรกรรมต่ำง ๆ และท่ีสำคัญคือกำรแสวงหำเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งอนำคต เช่น เกษตรแม่นยำสูง เกษตรแนวต้ังหรือเกษตรบนตึกสูง กำรใช้หุ่นยนต์เพ่ือกำรเกษตร กำรผลิต โปรตีนจำกแมลงและสำหร่ำย และนวัตกรรมเก่ียวกับอำหำรรูปแบบใหม่ที่จะช่วยพัฒนำห่วงโซ่ กำรเกษตร กำรสรำ้ งมูลค่ำเพ่มิ และสรำ้ งควำมม่นั คงทำงดำ้ นอำหำรให้แกป่ ระเทศและโลกต่อไป คาถามทบทวนท้ายบทเรยี น 1. จงอธบิ ำยควำมหมำยของเกษตรกรรมและอุตสำหกรรมเกษตร

226 2. เกษตรและอตุ สำหกรรมกำรเกษตรมคี วำมสำคญั อย่ำงไรกับประเทศไทย 3. กำรแปรรูปอำหำรสำมำรถทำไดโ้ ดยวิธีกำรอยำ่ งไรบ้ำง 4. จงวเิ ครำะหว์ ำ่ แนวโน้มของอุตสำหกรรมเกษตรในยุคโลกำภวิ ตั นจ์ ะเป็นอยำ่ งไร 5. กำรเปลี่ยนแปลงสภำพภูมกิ ำศจะมีผลกระทบต่อเกษตรกรรมอย่ำงไร 6. ขอ้ กำหนดทำงกำรค้ำระหว่ำงประเทศมผี ลกระทบต่อกำรเกษตรของประเทศไทยอยำ่ งไร 7. จงอธิบำยและยกตัวอย่ำงว่ำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในกำรพัฒนำกำรเกษตรและ อตุ สำหกรรมกำรเกษตรของประเทศไทย 8. มีปัญหำใดบำ้ งทีจ่ ะเป็นอปุ สรรคในกำรพฒั นำเกษตรกรรมของประเทศไทย 9. โลกำภวิ ัตน์มผี ลกระทบต่อกำรเกษตรและอตุ สำหกรรมเกษตรของประเทศไทยอย่ำงไร 10. สถำนกำรณ์ภัยทำงธรรมชำติจะมผี ลตอ่ เกษตรกรรมไทยหรอื ไม่อย่ำงไร 11.จงอธิบำยว่ำวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยจี ะช่วยในกำรพัฒนำเกษตรกรรมและอุตสำหกรรมเกษตร ได้อยำ่ งไร 12. จงยกตวั อยำ่ งและอธบิ ำยเทคโนโลยีทใี่ ชใ้ นกำรควบคมุ ส่ิงแวดล้อมเพือ่ พฒั นำกำรเกษตร 13. จงอธิบำยและยกตัวอย่ำงเทคโนโลยีชีวภำพที่ใช้เพื่อพัฒนำกำรเกษตรและอุตสำหกรรมเกษตร อยำ่ งละ 1 ตัวอย่ำง 14. สำรชวี ภัณฑค์ ืออะไรและนำไปใชป้ ระโยชนอ์ ยำ่ งไร 15. จงยกตัวอย่ำงพร้อมท้ังอธิบำยกำรใชป้ ระโยชน์สำรชวี ภัณฑ์สัก 2 ตวั อยำ่ ง 16. จงบอกประโยชนข์ องเทคโนโลยปี รบั ปรุงพนั ธุส์ ตั ว์ 17. จงยกตวั อยำ่ งกำรแปรรูปสนิ ค้ำเกษตรกรรมเพอ่ื เพม่ิ มลู คำ่ ทำงกำรตลำดสัก 3 ตัวอย่ำง 18. เกษตรแมน่ ยำสงู มีลกั ษณะเป็นอย่ำงไรและมีควำมสำคัญอย่ำงไร 19. เทคโนโลยกี ำรปลกู เน้อื สัตวค์ ืออะไรและชว่ ยแกป้ ญั หำเรื่องใดไดบ้ ้ำง 20. สำหร่ำยนำ้ จืดหรอื เตำมปี ระโยชน์ทำงโภชนำกำรอย่ำงไร 21. จงวเิ ครำะหว์ ำ่ แนวโนม้ กำรรับประทำนโปรตีนจำกแมลงจะมที ิศทำงเป็นอยำ่ งไร 22. เพรำะเหตใุ ดธุรกิจกำรเพำะพนั ธ์จุ งึ เตบิ โตในปจั จุบนั 23. กำรบรโิ ภคโปรตนี ทไ่ี ด้จำกแมลงมีข้อดีอยำ่ งไร 24. นวัตกรรมอำหำรรปู แบบใหม่ของโลกอนำคตจะมีลกั ษณะแนวโน้มเปน็ อย่ำงไร 25. เทคโนโลยเี คร่ืองพมิ พ์อำหำร 3 มิติ (3D Printing) คอื อะไร

227 เอกสารอา้ งอิง กรมส่งเสริมอุตสำหกรรม. (มปป.). แนวทางการแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร. คน้ เม่ือ พฤษภำคม 7, 2563, จำก https://bsc.dip.go.th/th/category/production2/qs- agriculturegoods. ----------. (มปป.). การใช้ความรอ้ นฆ่าเชื้อในอาหาร. คน้ เม่ือ พฤษภำคม 7, 2563, จำก https://bsc.dip.go.th/th/category/production2/qs-heatinfoods ----------. (มปป). แนวคดิ เกยี่ วกบั องคร์ วม (Holistic). ขา่ วเศรษฐกิจ. ศุกรท์ ี่ 13 ตุลาคม 2549 กระทรวงอตุ สำหกรรม. (2563). พลกิ วิกฤติโควดิ เป็นโอกาสดนั ไทยสูศ่ ูนย์กลางอาหารโลกเดินหน้า ผลักดนั . ค้นเมอ่ื พฤษภำคม 14, 2563, จำก http://www.industry.go.th/chaiyaphum/index.php/ component/k2/item/10591?rss_id=13602 กองตรวจสอบรบั รองมำตรฐำนคุณภำพสตั วน์ ำ้ และผลติ ภณั ฑส์ ัตวน์ ำ้ . (2554). ข้อปฏบิ ตั ิในการ สง่ ออกสนิ ค้าสตั วน์ า้ ไปประเทศต่าง ๆ. กรมประมง. กัญญำรัตน์ กำญจนวิสุทธ์ิ. (2019). Indoor Farming ปลูกพืชยุคใหม่ ไทยพร้อมหรือยัง. SCB Economic Intelligence Center. จำรุณี อินทรสุข และจิรำรัตน์ เพิ่มภูศรี. (2559). รู้จักกฎหมำยอำหำรใหม่ (Novel Food). วารสาร อาหารและยา, 7-10. จำรุวรรณ เจตเกษกิจ. (2555). นวัตกรรมอำหำรและเคร่ืองดื่มโลก. วารสารอุตสาหกรรมสาร, 54 : 36-38. จริ ะเดช แจม่ สว่ำง และวรรณวิไล อินทนู. (มปป.). ไตรโคเดอร์มา : เช้ือรามหศั จรรย์สาหรับใช้ ควบคุมโรคพืช. ค้นเมือ่ พฤษภำคม 19, 2563, จำก www3.rdi.ku.ac.th/exhibition/50/plant/68_ plant/68_plant.html. จีรศักด์ิ พุ่มเจริญ กมลวรรณ แตงสุข และนันท์ พลอยวัฒนำวงศ์. (2562). ระบบสนับสนุนกำร ตัดสินใจด้ำนกำรวำงแผนกำรเกษตร. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ฉบับ บณั ฑติ ศกึ ษา), 19(1) : 112-123. ช่อลัดดำ เที่ยงพุก. (2563). เน้ือเทียม เทรนด์อาหารจากพืชที่ได้คุณค่าเหมือนเน้ือสัตว์. ค้นเม่ือ กุมภำพันธ์ 7, 2563, จำก https://www.prachachat.net/hilight-prachachat/news- 487640. โชตกิ ำ ชุ่มม.ี (2558). เครอ่ื งพมิ พ์อาหาร 3 มิติ นวตั กรรมเหนือจนิ ตนาการ. ค้นเม่อื พฤษภำคม 19, 2563, จำก https://www.scbeic.com/th/detail/product/1148. ----------. (2561). อตุ สาหกรรมอาหารแห่งอนาคต จดุ เปล่ียนและโอกาสของไทยทีไ่ ม่ไกลเกินเอ้อื ม. ค้นเมอื่ พฤษภำคม, 8, 2563, จำก https://www.scbeic.com/th/detail/product/5057. ธนำคำรกรงุ เทพ. (2020). ยทุ ธศาสตรส์ คู่ วามม่นั คงดา้ นอาหาร. ค้นเมือ่ พฤษภำคม 13, 2563, จำก http://www.bangkokbanksme.com/en/strategy-for-food-security.

228 ธนำคำรเพ่ือกำรส่งออกและนำเข้ำ.(2560). ส่อง Trend โลก : ทิศทางเกษตรกรรมโลกสกู่ ารใช้ Farming Robot. คน้ เมอื่ พฤษภำคม 15, 2563, จำก http://www.ryt9.com/s/exim/2672529. ธรำธร รัตนนฤมิตศร และประกำย ธีระวัฒนำกุล. (2562). คิดอนาคตภาคเกษตรกรรมและอาหาร โอกาสและความทา้ ทาย สถาบันอนาคตไทย. คน้ เมือ่ พฤษภำคม 9, 2563, จำก https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/648563. นฤดม บุญ-หลง. (2529). หลักการอตุ สาหกรรมเกษตร. กรงุ เทพฯ : มหำวิทยำลยั เกษตรศำสตร์. นันทยำ จงใจเทศ พมิ พร วัชรำงคก์ ุล ปิยนันท์ เผ่ำมว่ ง เพญ็ พโยม ประภำศิร.ิ (มปป.). คณุ ภาพ โปรตีนและไขมันในแมลงที่กินได้. ค้นเม่อื พฤษภำคม 16, 2563, จำก http://nutrition.anamai.moph.go.th/images/file.pdf. นิรมล สุธรรมกิจ. (2008). มาตรการท่ีมิใช่อากรศุลกากร (NTMs) ด้านส่ิงแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ อาหาร.ศูนยบ์ ริกำรวิชำกำรเศรษฐศำสตร์ คณะเศรษฐศำสตร์ มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์. ----------. (2009). ข้อตกลงใหม่ด้านโลกร้อน (ภายหลัง ค.ศ.2012) โอกาสหรืออุปสรรคทการค้า?. ศนู ย์บรกิ ำรวชิ ำกำรเศรษฐศำสตร์ คณะเศรษฐศำสตร์ มหำวิทยำลยั ธรรมศำสตร์. ----------.(2009). มาตรการลดโลกรอ้ น การค้ากระเทอื นคาถามทีย่ ังหาคาตอบ. ศนู ยบ์ รกิ ำรวชิ ำกำร เศรษฐศำสตร์ คณะเศรษฐศำสตร์ มหำวทิ ยำลัยธรรมศำสตร์. บัญญตั ิ จลุ นำพันธ์. (2542). การตลาดสินคา้ เกษตรกรรม (Marketing of Agricultural Products). กรุงเทพฯ : มหำวทิ ยำลยั รำมคำแหง. ประภำศรี เทพรกั ษำและชดิ พงศ์ ประดิษฐสวุ รรณ. (2554). กำรผลติ น้ำสับปะรดเข้มข้นด้วยวิธีกำรแช่ เยือกแข็งแบบกำ้ วหนำ้ . วารสารวทิ ยาศาสตรแ์ ลเทคโนโลยี, 19(1) : 38-47. ผู้จัดกำรออนไลน์. (2561). ผลงานแปรรูปขา้ ว รบั รางวัลประกวดนวตั กรรมขา้ วไทย. ค้นเมอ่ื พฤษภำคม 18, 2563, จำก https://mgronline.com/smes/detail/9610000073481. ----------. (2562). ส่องเทรนด์อาหาร-เคร่ืองดื่ม 2020 โปรตีนแทนเนื้อสัตว์มาแรง. ค้นเม่ือ พฤษภำคม 16, 2563, จำก http://mgronline.com/smes/detail/9620000081721. พรรณพิมล สรุ ิยะพรหมชยั . (มปป). เตา สาหรา่ ยน้าจืดสารพดั ประโยชน์. ใน น.ส.พ. กสิกร หนา้ 62-69. ค้นเมื่อ พฤษภำคม 17, 2563, จำก http://www.doa.go.th/kasikorn/year- 56/nov_dec_56/part-3.pdf. พีระ เจริญพร. (2009). เศรษฐกิจเชิงสร้ำงสรรค์กับกำรกีดกันทำงกำรค้ำสินค้ำเกษตรของไทย ศูนย์บรกิ ำรวิชำกำรเศรษฐศำสตร์ คณะเศรษฐศำสตร์ มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์. ยคุ ล ลมิ้ แหลมทอง. (2563). เกษตรไทย 2573. สถำบนั คลังสมองแห่งชำต.ิ ฤทธิชัย อศั วรำชนั ย์. (2555). กำรใหค้ วำมร้อนแบบโอห์มิกในกำรแปรรูปอำหำร. วารสารเทคโนโลยี การอาหาร มหาวทิ ยาลยั สยาม, 7(1) : 11-22. วันไชย คำเสน และคณะ. (2017). กำรแปรรูปสับปะรดแช่อ่ิมอบแห้งด้วยรังสีแสงอำทิตย์. วารสาร มหาวิทยาลยั นเรศวร วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, 25(2) : 122-130. ววิ ฒั น์ ไม้แก่นสำร และมลฤดี หมุนขำ. (2557). กำรเปลีย่ นแปลงของภำคธุรกจิ เกษตรภำยใตบ้ รบิ ท ของโลกในอนำคต. วารสารปัญญาภิวฒั น์, 5(ฉบบั พเิ ศษ) : 244-255.

229 ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กระทรวงกำรต่ำงประเทศ. (2019). นวัตกรรมเน้ือสัตว์เทียมของ Startup อิสราเอล.ค้นเม่ือ พฤษภำคม 16, 2563, จำก https://globthailand.com/israel- 28102019/. ศนู ยส์ ง่ เสรมิ เทคโนโลยีกำรเกษตรดำ้ นอำรักขำพชื จังหวัดเชยี งใหม่. (มปป.). เชอ้ื ราบวิ เวอเรีย. คน้ เม่ือ กรกฎำคม, 25 2563, จำก http://www.pmc08.doae.go.th/beauveria.htm. ศูนยว์ จิ ัยกสกิ รไทย. (2562). SME จบั เทรนดอ์ ำหำรอนำคตสรำ้ งรำยได้. K SME Analysis หนำ้ 1-6 ธนำคำรกสกิ รไทย. ----------. (2562). ระบบตรวจสอบย้อนกลบั และตดิ ตามพืชผล (Traceability) ขยายโอกาสตลาด สินคา้ ออรก์ านิกของไทย. ค้นเมอ่ื พฤษภำคม, 12, 2563 จำก https://kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/business/Pages/z3045.aspx. โศภษิ ฐำ ธัญประทปี และปยิ วรรณ กลนิ่ ศรสี ขุ . (2561). Farming Drone กา้ วแรกสหู่ นุ่ ยนต์ การเกษตรไทย โดย ดร.มหิศร ว่องผาติ. เทศกำลงำนออกแบบกรุงเทพฯ 2561. คน้ เมื่อ พฤษภำคม 16, 2563, จำก https://web.tcdc.or.th/th/Articles/Detail/Farming- Drone- -กำ้ วแรกสูห่ นุ่ ยนต์กำรเกษตร. สถำบันทรพั ยส์ นิ ทำงปญั ญำแห่งจฬุ ำลงกรณม์ หำวทิ ยำลยั . (2560). รายงานการวเิ คราะหแ์ นวโนม้ เทคโนโลยแี ละอุตสาหกรรม อตุ สาหกรรมการแปรรปู อาหาร โครงการพัฒนา ผู้ประกอบการดา้ นทรพั ย์สนิ ทางปัญญาและนวตั กรรม. กรุงเทพฯ : จุฬำลงกรณ์ มหำวทิ ยำลัย. สถำบนั เพ่ิมผลผลิตแห่งชำติ. (2019). นวัตกรรมอาหารในอนาคต. ค้นเมอ่ื พฤษภำคม 16, 2563, จำก https://www.ftpi.or.th/2019/32975. สมคดิ ทกั ษณำวสิ ทุ ธิ์. (2554). ธรุ กจิ เกษตรเบอื้ งต้น. กรงุ เทพฯ : คณะเศรษฐศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั ธรรมศำสตร์. สมพร อิศวิลำนนท์. (2562). มองอนาคตข้าวไทยผ่านตลาดการค้าข้าวโลก. งำนสมั มนำสรุปผลกำร ดำเนนิ งำนและแนวทำงกำรพัฒนำระบบสง่ เสรมิ กำรผลติ ข้ำวในนำแปลงใหญ่ จดั โดยกรมกำร ขำ้ ว โรงแรมคุ้มภูคำ อ.เมือง จ. เชียงใหม่. คน้ เมือ่ พฤษภำคม 23, 2562, จำก http://www.ricethailand.go.th/web/images/brps_rd/seminar/11-09- 62/1.market_world.pdf. สำยทอง แกว้ ฉำย. (2555). กำรใชไ้ ตรโคเดอร์มำในกำรควบคุมโรคพชื . วารสารมหาวิทยาลยั นราธวิ าสราชนครนิ ทร์, 4(3) :108-123. สำยพณิ ชินตระกูลชยั . (2552). มวี ธิ แี กป้ ัญหาราคาสนิ คา้ เกษตรตกตา่ อยา่ งย่ังยืนหรือไม่. คน้ เมื่อ พฤษภำคม 23, 2563, จำก http://www.econ.tu.ac.th/oldweb/doc/news/409/econtu_11_saipin.pdf. สำยพิณ ชินตระกูลชยั และศุภนิตย์ ตั้งสง่ำศักด์ิศรี. (2559). ควำมสัมพนั ธร์ ะหว่ำงอุตสำหกรรมอำหำร และสำขำกำรผลติ อนื่ ในระบบเศรษฐกิจ. Discussion Paper Series. คณะเศรษฐศำสตร์ มหำวิทยำลยั ธรรมศำสตร์.

230 สำนกั ข่ำวกรมประชำสมั พันธ.์ (2561). เกษตรฯ เรง่ เครอ่ื ง Big Data ขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ ข้อมูลร่วมกนั ในยคุ ดิจิทัล. ค้นเมื่อ พฤษภำคม, 24, 2563, จำก http://thainews.prd.go.th/th/news/print_news/WNEVN6110110010001. สำนกั งำนทป่ี รึกษำกำรเกษตรต่ำงประเทศประจำสหภำพยโุ รป. (มปป.). ความสาคัญของระบบ ตรวจสอบย้อนกลบั ของสหภาพยุโรป. ค้นเม่ือ พฤษภำคม 12, 2563, จำก https://appdb.tisi.go.th/tis_devs/regulate/eu/pdf/Traceability%20System%20E U.pdf. สำนักงำนพัฒนำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีแห่งชำติ. (มปป.). การปรับปรุงพันธุ์ข้าว. ค้นเม่ือ พฤษภำคม 23, 2562, จำก https://www.nstda.or.th/th/r-and-d-impact/817-modify- rice. สำนกั งำนส่งเสริมวิสำหกิจขนำดกลำงและขนำดย่อม. (2561). กิจกรรมการจัดทาองค์ความรทู้ ่ี เกย่ี วข้องกับการประกอบธรุ กจิ อตุ สาหกรรมและเกษตรแปรรูป เชื่อมโยงกันอย่างไรให้ เศรษฐกจิ ยั่งยืน. งำนพฒั นำองคค์ วำมรสู้ ำหรบั SME. สเุ นตรำ เลก็ อทุ ัย. (2010). ความสาคญั ของอตุ สาหกรรมอาหารตอ่ ระบบเศรษฐกิจไทย. โครงกำร กจิ กรรมกำรเช่อื มโยงงำนวิจัยกับภำคนโยบำย. สำนักงำนกองทุนสนบั สนุนกำรวิจยั (สกว.) สุริวัสสำ กล่อมเดช. (2018). Bug Products โอชะจากแมลง. ค้นเมื่อ พฤษภำคม 16, 2563, จำก https://krua.co/food-story/food-feeds/62/bug-products-nbsp. เสำวนยี ์ วจิ ติ รโกสมุ . (2561). กำรทำเกษตรกรรมแนวตง้ั (Vertical Farming). วารสารสง่ิ แวดลอ้ ม, 22(2) : 56-63. อจั ฉรำ ตนั ติโชดก. (มปป.). การควบคมุ แมลงศัตรพู ชื โดยใชเ้ ชื้อแบคทีเรีย. ค้นเมื่อ พฤษภำคม 18 , 2563, จำก http://www.eto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/r_plant/ma_1.pdf. อัจฉรำภรณ์ อ่อนตะวงศ์. (มปป.). ผลของสารสกดั สาหรา่ ยเตา (Spirogyra Neglecta ) ในการ ปกป้องไตในภาวะเบาหวานชนดิ ที่ 2. ค้นเมื่อ พฤษภำคม 17, 2563, จำก http://www.medsci.up.ac.th/v2/medsci_document/Research/article/atc05.pdf. King, R. P., Boehlje, M., Cook, M. L., and Sonka, S. T. (2010). Agribusiness Economics and Management. American Journal of Agricultural Economics, 92(2) : 554- 570. Krungthai compass. (2020). Economic Outlook 2020. ค้นเมื่อ พฤษภำคม 23, 2563, จำก https://krungthai.com/Download/economyresources/EconomyResourcesDown load_6Economic_Outlook_09_03_63.pdf.

บทท่ี 6 สารเคมใี นชวี ิตประจาวันกบั ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม สำรเคมีท่ีใช้ในชีวิตประจำวันมีหลำกหลำยประเภท กำรใช้สำรเคมีถึงแม้จะมีประโยชน์แต่ ควรใช้ดว้ ยควำมระมัดระวังเพ่ือไม่ให้เกิดอนั ตรำย สำรเคมีทค่ี ้นุ เคยและใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ยำ รักษำโรค เครือ่ งสำอำง สำรเคมที ่ใี ช้ในกำรกำจดั แมลงและทำควำมสะอำดในบำ้ นเรือน กำรใชส้ ำรเคมี เหล่ำน้ีผู้ใช้ควรต้องศึกษำวิธีกำรใช้ คำแนะนำ ข้อควรระวังในกำรใช้งำนและข้ันตอนในกำรบรรเทำ อำกำรเบ้ืองต้นจำกฉลำกกำรใช้งำนอย่ำงละเอียดเพ่ือให้กำรใช้สำรเคมีเหล่ำน้ันเกิดประโยชน์สูงสุด และไมเ่ กิดอันตรำยกบั ผ้ใู ช้และสิ่งแวดล้อม 6.1 การใช้สารเคมีในชีวิตประจาวัน ทุกบ้ำนมีควำมจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ต่ำง ๆ ที่มีสำรเคมีเป็นส่วนประกอบไม่ว่ำจะเป็น สำรเคมีท่ีใช้ในกำรทำควำมสะอำดห้องน้ำ ห้องครัว สำรซักล้ำง ได้แก่ ผงซักฟอก น้ำยำล้ำงจำน น้ำยำถูพื้น สำรเคมีกำจัดมด ปลวก แมลงสำบ ยุง สำรเคมีท่ีใช้ในกำรแปรรูปและประกอบอำหำร เช่น เกลอื นำ้ ตำล นำ้ ส้มสำยชู สำรกันบดู ตลอดจนผลิตภณั ฑ์ทำควำมสะอำดร่ำงกำยหรือผลิตภัณฑ์ เพ่ือบำรุงผิวพรรณ ได้แก่ แชมพูสระผม สบู่ ยำสีฟัน โลชั่นทำผิว ครีมกันแดด เป็นต้น สำรเคมี หรือผลิตภัณฑ์ต่ำง ๆ ที่ใช้ภำยในบ้ำนเหล่ำน้ีประกอบด้วยสำรเคมีบำงชนิดท่ีเป็นอันตรำยทั้งต่อคน และสัตว์หำกนำไปใช้ จัดเก็บหรือทำลำยอย่ำงไม่ถูกวิธีซึ่งอำจสง่ ผลกระทบตอ่ สุขภำพและสิ่งแวดลอ้ ม แต่ถ้ำหำกรู้จักใช้ เก็บ และท้ิงผลิตภัณฑ์เหล่ำน้ีอย่ำงถูกวิธีก็จะสำมำรถป้องกันอันตรำยท่ีอำจเกิดข้ึน ได้และใช้ผลิตภัณฑ์เหล่ำนี้ได้อย่ำงปลอดภัย สำรเคมีท่ีใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันมีหลำกหลำย ประเภทเรียกได้ว่ำสำรเคมีมีควำมเกี่ยวข้องกับชีวิตของเรำต้ังแต่ตื่นนอนจนถึงเข้ำนอน หรือแม้แต่ เสื้อผ้ำของเรำก็มีส่วนประกอบที่มำจำกเส้นใยสังเครำะห์และกำรใช้สีสังเครำะห์ สำรเคมีมีท้ัง ประโยชน์และโทษ กำรใช้สำรเคมีแต่ละชนิดจึงควรใช้เท่ำที่จำเป็นและปริมำณท่ีพอเหมำะ และใช้ ด้วยควำมระมัดระวังเพ่ือป้องกันอันตรำยทจี่ ะเกิดขึ้นต่อชวี ิตและสง่ิ แวดลอ้ ม 6.1.1 ขอ้ ควรปฏิบตั เิ ม่อื มกี ารใช้สารเคมี 6.1.1.1 กำรจัดเก็บผลิตภัณฑ์ต่ำง ๆ ควรจัดเก็บผลิตภัณฑ์โดยกำรแยกประเภท เช่น ผลิตภณั ฑท์ ีม่ ฤี ทธก์ิ ัดกร่อน ติดไฟได้ ทำปฏกิ ิริยำทีร่ ุนแรงได้หรือเป็นพิษให้เกบ็ ไวแ้ ยกชั้นต่ำงหำก อยำ่ งเปน็ ระเบียบ เกบ็ ผลติ ภัณฑ์ไว้ในที่แห้งและเย็น หำ่ งจำกควำมร้อน ห่ำงจำกมอื เดก็ เล็กและควร จดจำให้ได้ว่ำผลติ ภัณฑ์แต่ละชนิดเก็บไว้ท่ีใดและมีวัตถุประสงค์ในกำรใชอ้ ย่ำงไร เมื่อใช้เสร็จแล้วควร ปิดฝำให้แน่นหนำมิดชิดและนำไปเก็บไว้ท่ีเดิมทันที ผลิตภัณฑ์เหล่ำน้ี ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำควำม สะอำดบ้ำน ผลติ ภณั ฑ์ซกั ผ้ำ ผลิตภณั ฑเ์ พื่อสุขภำพและควำมงำม ผลิตภณั ฑท์ ่ีใชใ้ นสวน ผลติ ภัณฑ์ เพ่อื กำรบำรงุ รักษำบ้ำน ผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์ เปน็ ต้น 6.1.1.2 อ่ำนฉลำกทำควำมเข้ำใจผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์สำรเคมีทุกชนิดมีฉลำกกำกับ กำรใช้ ผู้ใช้ควรศึกษำทำควำมเข้ำใจก่อนใช้งำนทุกคร้ัง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรำยด้วยควำม

232 ระมัดระวัง อ่ำนฉลำกและทำตำมคำแนะนำวธิ ีใช้อย่ำงเคร่งครัด โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงถ้ำผลติ ภัณฑน์ ั้น ได้ระบวุ ำ่ เปน็ สำรอนั ตรำย สำรพิษและมคี ำเตือนหรอื ขอ้ ควรระวัง (1) อันตรำย เป็นกำรแสดงว่ำควรใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยควำมระมัดระวังเพิ่ม มำกข้นึ เป็นพิเศษ เม่ือสัมผัสถกู ตำหรือผวิ หนงั โดยไม่ไดต้ ั้งใจอำจทำใหเ้ นื้อเยื่อบริเวณน้นั ถูกกัดทำลำย หรอื สำรบำงอยำ่ งอำจติดไฟได้ถ้ำสัมผสั กับเปลวไฟ (2) สำรพิษ หมำยถึง สำรที่ทำให้เป็นอันตรำยหรือทำให้เสียชวี ิตถ้ำถูกดูดซมึ เข้ำส่รู ่ำงกำยทำงผิวหนงั รบั ประทำน กำรฉีด หรอื สดู ดม สำรพิษอำจมีสภำพเป็นของแขง็ ของเหลว หรือก๊ำซ เม่ือเข้ำสู่ร่ำงกำยจะทำให้เกิดอันตรำยต่อโครงสร้ำงและหน้ำท่ีของร่ำงกำยด้วยปฏกิ ิริยำทำง เคมี อันตรำยจะมำกหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ ปริมำณ และช่องทำงท่ีได้รับสำรพิษนั้น สำรพิษที่ ทำให้เกิดอันตรำยต่อมนุษย์อำจมำจำกสัตว์ เช่น งูพิษ ผึ้ง แมลงป่อง สำรพิษจำกพืช เช่น เห็ดพิษ ต้นลำโพง สำรพิษจำกแร่ธำตุต่ำง ๆ เช่น ตะก่ัว ฟอสฟอรัส สำรหนู เป็นต้น สำรพิษจำกสำร สังเครำะห์ต่ำง ๆ เช่น สำรฆ่ำแมลง สำรเคมีปรำบวัชพืช ยำอันตรำย รวมทั้งสำรสังเครำะห์ที่ใช้ใน ครัวเรอื น เช่น นำ้ ยำฟอกขำว น้ำยำขดั ห้องน้ำ เปน็ ตน้ สำรพษิ สำมำรถจำแนกตำมลกั ษณะกำรออก ฤทธ์ิได้ 4 ชนิด คือ (1) ชนิดกัดเน้ือเย่ือ (Corrosive) สำรพิษชนิดนี้จะทำให้เนือ้ เยื่อของร่ำงกำยไหม้ พอง ได้แก่ สำรละลำยกรดและด่ำงเข้ม ข้น น้ำยำฟอกขำว (2) ช นิดทำให้ระค ำ ย เคือง (Irritants) สำรพิษชนิดน้ีจะทำใหเ้ กิดอำกำรปวดแสบปวดรอ้ นและอำกำรอักเสบในระยะต่อมำ ได้แก่ ฟอสฟอรัส สำรหนู ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (3) ชนิดท่ีกดระบบประสำท (Narcotics ) สำรพิษ ชนิดนี้จะทำให้หมดสติ หลับลึก ปลุกไม่ต่ืน ม่ำนตำหดเล็ก ได้แก่ ฝ่ิน มอร์ฟีน พิษจำกงูบำงชนิด (4) ชนิดที่กระตุ้นระบบประสำท (Dililants) สำรพิษชนิดน้ีจะทำให้เกิดอำกำรเพ้อคลั่ง ใบหน้ำและ ผิวหนังแดง ต่นื เต้นชีพจรเตน้ เรว็ ชอ่ งมำ่ นตำขยำย ไดแ้ ก่ ยำอะโทรปีน ลำโพง 6.1.1.3 ซ้ือผลิตภัณฑ์เท่ำท่ีต้องกำรใช้เท่ำนั้น ซื้อตำมปริมำณที่ใช้และพยำยำมใช้ ผลติ ภณั ฑ์ทมี่ อี ยู่เดิมให้หมดก่อนซื้อมำเพ่ิม ถ้ำใชแ้ ล้วเหลอื อยคู่ วรเกบ็ และทำฉลำกใหช้ ดั เจน ควรทิ้ง ผลติ ภณั ฑ์ทเี่ ก่ำมำก ๆ ไม่ควรนำมำใช้อีก 6.1.1.4 เก็บให้ไกลจำกเด็ก สำรทำควำมสะอำดหรือสำรเคมีท่ีใช้ภำยในบ้ำนควร เก็บในตู้ท่ีเด็กเอ้ือมไม่ถึง และสอนเด็กให้ทรำบถึงอันตรำยจำกสำรเคมี นอกจำกน้ีควรจดเบอร์ โทรศัพท์ฉุกเฉินไว้ใกล้กับโทรศัพท์ เบอร์รถพยำบำลหรือโรงพยำบำลที่ใกล้บ้ำน สถำนีดับเพลิง สถำนีตำรวจ หน่วยงำนที่ทำหน้ำที่เก่ียวกับกำรควบคุมสำรพิษและแพทย์ประจำตัวเพ่ือควำมสะดวก ในกำรตดิ ต่อของรับควำมช่วยเหลอื หำกเกดิ อบุ ตั ิเหตุ 6.1.1.5 ไม่เก็บสำรเคมีปะปนกับอำหำร เพรำะสำรเคมีอำจหกหรือมีไอระเหยทำให้ ปนเปื้อนกับอำหำรได้ และลำ้ งมอื ให้สะอำดทกุ คร้ังหลังจำกใช้งำนผลติ ภณั ฑ์สำรเคมนี น้ั ๆ 6.1.1.6 ไม่ควรเก็บของเหลวหรือก๊ำซท่ีติดไฟได้ไว้ในบ้ำน ต้องไม่เก็บของเหลวหรือ ก๊ำซที่ติดไฟได้ไว้ใกล้กับแหล่งควำมร้อนหรือเปลวไฟและเก็บไว้ในภำชนะบรรจุดั้งเดิมหรือภำชนะท่ี ได้รับกำรรับรองแล้วเท่ำน้ัน ไม่ควรเปลี่ยนถ่ำยสำรเคมีลงในภำชนะที่ใช้สำหรับบรรจุอำหำรเพื่อ ป้องกนั กำรหยบิ ไปรบั ประทำนโดยไม่ไดต้ ้งั ใจ

233 6.1.1.7 ผลิตภัณฑ์หลำยชนิดสำมำรถนำไปแปรรูปเพ่ือนำกลับมำใช้ใหม่ได้ เพื่อลด ปริมำณสำรเคมีที่เป็นพิษในส่ิงแวดล้อม หรือใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีอันตรำยน้อยกว่ำทดแทน เช่น ใช้ผงฟู และน้ำส้มสำยชลู ำ้ งทำควำมสะอำดทอ่ ระบำยนำ้ ในกำรป้องกนั กำรอดุ ตัน 6.1.1.8 ทิ้งผลิตภัณฑ์และภำชนะบรรจใุ ห้ถูกต้องเหมำะสม ไม่เทผลิตภัณฑ์สำรเคมีลง ดิน แหล่งน้ำหรือในท่อระบำยน้ำทิ้ง ผลิตภัณฑ์หลำยชนิดไม่ควรท้ิงลงในถังขยะหรือเทลงในโถส้วม ควรอำ่ นฉลำกวธิ กี ำรทง้ิ ท่ีเหมำะสมและปฏบิ ัติตำมคำแนะนำของผู้ผลิต 6.1.2 ขอ้ กาหนดทั่วไปในการจดั เก็บสารเคมี ข้อกำหนดท่ัวไปในกำรจัดเก็บสำรเคมี คือ ข้อกำหนดเพื่อควำมปลอดภัยเบ้ืองต้น สำหรบั กำรจดั เกบ็ สำรเคมที กุ กลมุ่ มีกำรปฏิบตั ดิ งั นี้ 6.1.2.1 กำรจัดเก็บตำมสมบัติควำมเข้ำกันไม่ได้ของสำรเคมี (Chemical incompatibility) หมำยถึง กำรจัดเก็บสำรเคมีในห้องปฏิบัติกำรควรมีกำรแยกตำมกลุ่มสำรเคมีโดย คำนึงถึงสมบัติของสำรเคมีท่ีเข้ำกันได้และไม่ได้ เช่น สำรกัดกร่อนประเภทกรดและด่ำงไม่ควรจัดเก็บ ไว้ด้วยกัน หำกจำเป็นต้องจัดเก็บไว้ในตู้เดียวกันต้องมีภำชนะรองรับ (Secondary container) แยก จำกกัน ไม่ควรเก็บกรดอินทรีย์ (Organic acid) ร่วมกับกรดอนินทรีย์ที่มีฤทธิ์ออกซิไดซ์ (Oxidizing inorganic acids) เชน่ กรดไนตริก กรดซัลฟวิ รกิ เป็นต้น 6.1.2.2 ควรจัดแบ่งพ้ืนที่หรือบริเวณในกำรจัดเก็บสำรเคมีแยกตำมสถำนะของสำร (ของแขง็ ของเหลว แกส๊ ) อยำ่ งเป็นสัดสว่ น 6.1.2.3 ตู้เก็บสำรเคมีในพื้นที่ส่วนกลำงควรมีกำรระบุรำยชื่อสำรเคมีและสัญลักษณ์ ควำมเป็นอนั ตรำย 6.1.2.4 ไม่วำงสำรเคมีบริเวณทำงเดิน และสำรเคมีทุกชนิดต้องจัดเก็บอย่ำงปลอดภัย ตำมตำแหน่งที่แน่นอน เช่น ช้ันวำงมีควำมแข็งแรง มีท่ีกั้น มีภำชนะรองรับเพื่อป้องกันสำรเคมีร่วั ไหล เป็นต้น 6.1.2.5 บริเวณท่ีเก็บสำรเคมีที่เป็นอันตรำยต้องมีป้ำยแสดงควำมเป็นอันตรำยของ สำรเคมอี ยำ่ งชดั เจน 6.1.2.6 สำรเคมีท่ีต้องควบคุมเป็นพิเศษ เช่น ไซยำไนด์ ปรอท ควรเก็บอยู่ในตู้ที่มี กญุ แจลอ็ ค 6.1.3 ขอ้ กาหนดสาหรับการจัดเก็บสารไวไฟ อันตรำยของสำรไวไฟอย่ำงหนึ่งคือ โอกำสในกำรเกิดกำรลุกไหม้ วิธีกำรในกำร ปอ้ งกนั เพลงิ ไหม้จำกสำรอนั ตรำยคอื กำรดูแลจัดเกบ็ เปน็ พเิ ศษซง่ึ รำยละเอียดในกำรจัดเกบ็ มีดังนี้ 6.1.3.1 สำรไวไฟต้องเก็บให้ห่ำงจำกแหล่งควำมร้อน แหล่งกำเนิดไฟ เปลวไฟ ประกำยไฟ และแสงอำทิตย์ 6.1.3.2 กำรเก็บสำรไวไฟในห้องปฏิบัติกำรต้องกำหนดบริเวณกำรจัดเก็บที่แน่นอน และไม่นำสำรอน่ื มำเก็บไวใ้ นบริเวณน้ัน 6.1.3.3 เก็บสำรไวไฟในห้องปฏิบัติกำร ควรเก็บในภำชนะที่มีควำมจุไม่เกิน 20 ลติ ร

234 6.1.3.4 ไม่เก็บสำรไวไฟหรือสำรท่ีไหม้ไฟได้ไว้ในห้องปฏิบัติกำรมำกกว่ำ 50 ลิตร ใน กรณีที่จำเป็นต้องเก็บสำรไวไฟหรือสำรที่ไหม้ไฟได้ไว้ภำยในห้องปฏิบัติกำรมำกกว่ำ 50 ลิตร ตอ้ งเก็บ ไว้ในตูเ้ ฉพำะทีใ่ ช้สำหรับเก็บสำรไวไฟ 6.1.3.5 ไม่เก็บสำรไวไฟในตู้เย็นแบบธรรมดำที่ใช้ในบ้ำน เนอื่ งจำกภำยในตู้เยน็ ที่ใช้ใน บ้ำนไม่มีระบบป้องกันกำรติดไฟและยังมีวัสดุหลำยอย่ำงที่เป็นสำเหตุให้เกิดกำรติดไฟได้ เช่น หลอดไฟภำยในตู้เย็น เป็นต้น ในห้องปฏิบัติกำรและคลัง/พ้ืนที่เก็บสำรเคมี ควรมีตู้เย็นที่ปลอดภัย เช่น Explosion–proof refrigerator สำหรับใช้เก็บสำรไวไฟที่ต้องเก็บไว้ในท่ีเย็น ซ่งึ เป็นตู้เย็นท่ี ออกแบบให้มีระบบป้องกันกำรเกิดประกำยไฟหรือปัจจัยอ่ืน ๆ ทอี่ ำจทำให้เกิดกำรติดไฟหรือระเบิด ได้ 6.1.4 ขอ้ กาหนดสาหรับการจัดเกบ็ สารกดั กร่อน สำรกัดกร่อนมีควำมเป็นพิษต่อสุขภำพ สำมำรถรับเข้ำสู่ร่ำงกำยโดยกำรหำยใจ กำร กิน กำรสัมผัสทำงผิวหนัง เพื่อป้องกันอันตรำยที่จะเกิดข้ึนจึงมีข้อกำหนดในกำรจัดเก็บสำรกัดกร่อน ดงั นี้ 6.1.4.1 เก็บขวดสำรกัดกร่อนทุกชนิดไว้ต่ำกว่ำระดับสำยตำ และเก็บขวดขนำดใหญ่ (ปริมำณมำกกวำ่ 1 ลติ ร หรอื 1.5 กิโลกรัม) ไวใ้ นระดบั ท่ีสงู จำกพน้ื ไมเ่ กนิ 60 เซนตเิ มตร 6.1.4.2 ขวดกรดต้องเก็บไว้ในตู้ไม้ หรือตู้สำหรับเก็บกรดโดยเฉพำะที่ทำจำกวัสดุ ป้องกันกำรกัดกร่อน เช่น พลำสติก หรือวัสดุอ่ืน ๆ ท่ีเคลือบด้วยอีพ๊อกซ่ี (Epoxy enamel) และมี ภำชนะรองรับ เช่น ถำดพลำสติก หรือมีวัสดุห่อหุ้มป้องกันกำรร่ัวไหล สำหรับกำรเก็บขวดกรดขนำด เล็ก (ปริมำณน้อยกว่ำ 1 ลิตร หรือ 1.5 กิโลกรัม) บนช้ันวำงต้องมีภำชนะรองรับ เช่น ถำดพลำสติก หรอื มีวสั ดหุ อ่ หมุ้ ปอ้ งกันกำรรวั่ ไหล 6.1.5 ขอ้ กาหนดสาหรับการจดั เกบ็ สารออกซไิ ดซ์ สำรออกซิไดซ์ (Oxidizing substances) หมำยถึง สำรท่ีตัวของสำรเองอำจไม่ติดไฟ โดยท่ัวไปจะปล่อยออกซิเจน หรือเป็นเหตุหรือช่วยให้วัตถุอ่ืนเกิดกำรลุกไหม้ สำรออกซิไดซ์สำมำรถ ทำให้เกิดเพลิงไหม้และกำรระเบิดได้เมื่อสัมผัสกับสำรไวไฟและสำรท่ีไหม้ไฟได้ เมื่อสำรที่ไหม้ไฟได้ สัมผัสกับสำรออกซิไดซ์จะทำให้อัตรำในกำรลุกไหม้เพ่ิมขึ้น ทำให้สำรไหม้ไฟได้เกิดกำรลุกติดไฟข้ึน ทันทีหรือทำให้เกิดกำรระเบิดเมื่อได้รับควำมร้อน กำรส่ันสะเทือนหรือแรงเสียดทำน กำรจัดเก็บสำร ออกซไิ ดซม์ ขี อ้ กำหนดดงั น้ี 6.1.5.1 เกบ็ สำรออกซไิ ดซ์หำ่ งจำกสำรไวไฟ สำรอินทรีย์ และสำรทไ่ี หม้ไฟได้ 6.1.5.2 เกบ็ สำรท่ีมสี มบัตอิ อกซไิ ดซ์สูงไว้ในภำชนะแก้วหรอื ภำชนะท่ีมีสมบัติเฉอื่ ย 6.1.5.3 ไม่ใช้จุกคอร์กหรือจุกยำง สำหรับขวดที่ใช้เก็บสำรออกซิไดซ์ เพื่อหลีกเลี่ยง กำรสัมผสั อำกำศ 6.1.6 ข้อกาหนดสาหรบั การจัดเก็บสารท่ไี วตอ่ ปฏกิ ิรยิ า กำรจดั เก็บสำรทไี่ วต่อปฏกิ ริ ิยำมขี ้อกำหนดดังนี้ 6.1.6.1 ตู้เก็บสำรที่ไวต่อปฏิกิริยำ มีป้ำยคำเตือนท่ีชัดเจน มีกำรกำหนดพื้นที่ใน ห้องปฏิบัติกำรไว้เป็นสัดสว่ นต่ำงหำกเพื่อแยกเก็บสำรท่ีไวต่อปฏิกิริยำต่ำง ๆ (พอลิเมอไรเซชัน สำรท่ี ไวตอ่ ปฏกิ ริ ยิ ำเม่ือสัมผัสน้ำ สำร Pyrophoric สำรท่กี ่อให้เกิดเปอร์ออกไซด์และสำรท่ีไวต่อปฏิกิริยำ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook