๒๙๐ ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ - à¨μ¹Ò คํา͸ºÔ Ò ñ. àËç¹¼ŒÙÍ×è¹μ¡Í‹Ùã¹ÀÂѹμÃÒÂáË‹§ªÕÇÔμ «èÖ§μ¹ÍÒ¨ª‹ÇÂä´Œâ´ÂäÁ‹¤ÇáÅÑÇÍѹμÃÒ ᡋμ¹àͧËÃ×ͼŒÙ͹×è เห็นผูอื่นตกอยูในอันตรายแหงชีวิต ผูกระทําตอง “เห็น” วาผูอ่ืนกําลังไดรับภัย หรืออันตรายแหงชีวิตนอกจากเห็นแลวตองเขาใจขอเท็จจริงดวยวาบุคคลท่ีตนเห็นนั้นกําลังอยู ในภยันตรายถึงชีวิต คือความตายยังไมเกิดข้ึนแตใกลจะเกิดเทาน้ัน และตองเกิดแนถาไมไดรับ การชวยเหลอื เชน เหน็ คนวา ยน้าํ ไมเ ปนกาํ ลังจะจมน้าํ ตาย เปนตน ซงึ่ ตนเองชว ยไดโ ดยไมค วรกลวั อนั ตรายแกต นหรอื ผอู นื่ หมายความวา ตอ งอยใู นฐานะที่ อาจชวยได ดงั นั้น ถา เหน็ คนกาํ ลังจะจมน้ําตายแตผูท ีเ่ หน็ วา ยนาํ้ ไมเปนเชนกนั หรือกระแสนํ้าพดั แรง จนกระทั่งคนทวี่ า ยนาํ้ เปนกช็ วยตนเองลําบากเชน กัน การทไ่ี มเขาไปชวยกไ็ มเ ปน ความผดิ ò. μÒÁ¤ÇÒÁจาํ ໚¹ หมายถึง ความชวยเหลอื ที่ใหก เ็ พยี งเฉพาะเทาทจ่ี าํ เปนเทา นัน้ คือ กระทําเทาที่จะทาํ ใหผูที่ไดรับภัย รอดพนจากความตายเทาท่ีจะชวยไดโดยไมถึงกับทําใหผูชวยไดรับ อนั ตราย เมื่อไดช ว ยเหลอื เทา ท่จี าํ เปนแลว ผูท่ีไดรบั ภัยจะรอดชวี ติ หรือไม ไมสําคัญ การทเ่ี หน็ แลว ไมช ว ยตามความจําเปน น้ี แสดงวา ผทู ลี่ ะเวน ไมช ว ยนน้ั มเี จตนาทจี่ ะไมช ว ย เจตนาจึงเปน องคป ระกอบของความผิด เจตนา ผูกระทาํ ตอ งมเี จตนาตามมาตรา ๕๙ คอื ไมต อ งการจะชว ย (¤) ¡ÃÐทํา¡ÒÃÍ¹Ñ ¤ÇâÒÂ˹Ҍ μ‹Í˹Ҍ ¸ÒÃกํา¹ÅÑ ÁÒμÃÒ óøø ผูใดกระทําการอันควรขายหนาตอหนาธารกาํ นัล โดยเปลือย หรอื เปด เผยรา งกาย หรอื กระทาํ การลามกอยา งอืน่ ตอ งระวางโทษปรับไมเ กินหา พันบาท องคป ระกอบของความผดิ มดี งั นี้ ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ ๑. กระทาํ การอันควรขายหนาโดยเปลือยรางกายหรือเปดเผยรางกายหรือกระทาํ การ ลามกอยา งอ่นื ๒. ตอหนา ธารกํานลั ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ - เจตนา คาํ ͸ԺÒ ñ. ¡ÃÐทาํ ¡ÒÃÍѹ¤ÇâÒÂ˹ŒÒâ´Âà»Å×ÍÂËҧ¡ÒÂËÃ×Íà»´à¼ÂËҧ¡ÒÂËÃ×Í¡ÃÐทํา¡Òà ÅÒÁ¡ÍÂÒ‹ §Í×¹è การกระทาํ อันควรขายหนา หมายถึง การกระทาํ ท่ีมีลักษณะเปนการกระทําที่กระทาํ ไปแลวผูกระทาํ ควรอับอาย คือบุคคลทั่วไปเห็นวาการกระทาํ น้ันเปนการกระทําที่นาอับอายขายหนา แตการกระทําท่ีควรอับอายนี้ ถาหากกระทาํ อยูตามลําพังไมมีผูใดพบเห็น เชน ในท่ีเปล่ียว ที่มืด
๒๙๑ ในหองท่มี ดิ ชิดก็ไมถือวาเปน การรบกวนความสงบหรอื ศีลธรรมอนั ดีของประชาชน กฎหมายถงึ ไมถ อื เปนความผดิ แตการกระทําอนั ควรขายหนา ตอหนา ธารกํานัลนน้ั ก็ถือเปน ความผดิ ตามมาตราน้ี เชน ใสกางเกงชน้ั ในตวั เดยี ว เดินไปมาตามถนนทง้ั ทีเ่ ปนหญงิ สาว โดยเปลอื ยรา งกายหรอื เปด เผยรา งกาย เชน แกผ า เดนิ ไปมาในตลาด เปด ของลบั ใหด หู นา โรงภาพยนตร เปนตน การกระทําลามกอยางอ่ืน การกระทําลามกอยางอ่ืนนอกจากเปลือยกายหรือเปดเผย รางกาย เชน แสดงกิริยาทาทางลามก อาทิ แสดงทารวมประเวณีใหคนดูกลางตลาด ถอดกางเกง ยนื ปส สาวะตรงส่ีแยกไฟแดง ทั้งน้รี วมถึงการกลาววาจาลามกดว ย การกระทําอันควรขายหนาน้ี ตองกระทําโดยการ “เปลือย” หรือ “เปดเผยรางกาย” หรือ “กระทําการลามกอยางอื่น” การเปลือยหรือการเปดเผยรางกายน้ีตองถึงขั้นที่บุคคลท่ัวไปถือวา ขายหนา ถึงแมวาผูกระทําถือเปนเรื่องท่ีไมตองอับอายก็เปนความผิด การเปลือยหรือการเปดเผย รา งกายน้ี ไมจําเปน ตอ งเปนรา งกายของตนเองก็เปน ความผดิ ได ÍØ·ÒËó ®Õ¡Ò·Õè ññ÷ó/òõðø เหตุเกิดในหองนอนมืด เพราะจําเลยตามไปพบจึงฉุดพามา หอ งจาํ เลย ระหวา งทางจาํ เลยใชก าํ ลงั แกผ า ภรรยาใหค นทง้ั หลายดู เพอ่ื จะใหภ รรยาไดร บั ความอบั อาย จาํ เลยมีความผดิ ฐานกระทาํ การอันควรขายหนา ตอหนา ธารกาํ นลั การกระทําการลามกอยางอ่ืน ไมไดหมายความเฉพาะแตเรื่องเกี่ยวกับรางกายเทานั้น แตหมายถึงวาจาดว ย Í·Ø ÒËó ®¡Õ Ò·èÕ ñðöù/òõðö จาํ เลยกลา วคาํ วา “เยด็ โคตรแมม งึ ” ตอ หนา หญงิ ชายราว ๕๐ คน จาํ เลยมคี วามผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๘๘ การกลาววาจาที่เปนเพียงคําหยาบหรือคําดากัน แตยังไมถึงข้ันลามกอนาจารไมเปน ความผิด ตามมาตรานี้ ÍØ·ÒËó ®Õ¡Ò·Õè ø÷ò/òôöô จําเลยเรียกขุนโพชนวา “อายถมอายขุนโพชน” เปนเพียง คาํ ดามใิ ชเปนลามกอนาจาร ®¡Õ Ò·èÕ õ/òô÷ô คําวา “อายชาติหมา” และ “ดอกทอง” นั้นเปนแตคําดากัน ไมใชเปนถอยคาํ ลามกอนาจาร ò. μ‹Í˹ŒÒ¸ÒÃกาํ ¹ÅÑ ธารกาํ นัล มีปรากฏอยูท่ีมาตรา ๒๘๑ อีกแหงหนึ่ง ซึ่งมีคาํ พิพากษาฎีกาอธิบาย ความหมายไวและนาํ มาใชกับมาตราน้ีได
๒๙๒ การกระทําตอหนาธารกํานัล คือ การกระทําในลักษณะท่ีเปดเผยใหบุคคลอื่นสามารถ เหน็ การกระทําน้นั ได หรือแสดงใหปรากฏแกป ระชาชนทั่วไป ไมจาํ เปน ตอ งเปนสาธารณสถานเทา นัน้ อาจกระทําอยูในบานแตผ คู นมองเขา ไปเห็นไดโ ดยงา ยกไ็ ด Í·Ø ÒËó ®¡Õ Ò·èÕ ñóø/òô÷ò สถานทที่ จี่ าํ เลยกระทําผดิ เปน ใตถ นุ เรอื น แตไ มม สี งิ่ กาํ บงั อยหู า ง ทางหลวงประมาณ ๑๓ วา มีเรือนราษฎรอยูใกลๆ หลายหลัง มองเห็นกันไดทั้งในขณะท่ีทําผิด ไดมีพยานอยูในที่ใกลๆ ถึง ๔ คน และมคี นอยบู นเรือนซึ่งอาจมองเห็นไดอกี นับเปนสถานทตี่ อหนา ธารกํานัล ®¡Õ Ò·Õè ñ÷ùô/òôùô ท่ีเกิดเหตุเปนถนนริมฝงคลองและเปนเวลากลางคืน มีเด็กชายคนหน่ึงเดินขางหนา เม่ือเห็นเขาเด็กชายน้ันวิ่งหนีไปและยังมีชายอีก ๒ คน ซ่ึงเดินอยู บนถนนชายคลอง อกี ฟากหนงึ่ พบเห็นเขาถอื วา เปนความผิดทีไ่ ดก ระทาํ ตอหนาธารกํานลั ถาการกระทาํ นั้นไมม ีผูใดเหน็ กไ็ มถือวาเปน การกระทําตอหนา ธารกํานัล Í·Ø ÒËó ®¡Õ Ò·Õè ôð/òôöø ตรงท่ีเกดิ เหตุเปน ปาหา งทางเดิน ๑ เสน แตไมไดความวามคี นเห็น ในเวลาจําเลยกระทําความผิด แมหากวามีคนเดินตามทางจะเห็นไดก็ดี แตเมื่อไมมีคนเดินก็ถือไมได วาจาํ เลยกระทาํ ผิดตอ หนาธารกํานลั การกระทําตอหนาบุคคลอ่ืน ถาบุคคลนั้นไมเห็นการกระทําก็ไมเปนการกระทําตอหนา ธารกํานลั ÍØ·ÒËó ®¡Õ Ò·èÕ ññ÷ó/òõðø เหตเุ กดิ ในหองนอนมดื เพราะดับตะเกยี งแลวมเี ด็กหญงิ คนหน่ึง นอนหลบั อยขู างๆ และตืน่ ขน้ึ ภายหลังเมอ่ื จําเลยกระทาํ เสรจ็ แลวไมเ ปนความผดิ ตอหนาธารกาํ นลั ถา การกระทาํ นนั้ มลี กั ษณะทบี่ คุ คลอน่ื ไมค วรเหน็ การกระทาํ นนั้ ได ถงึ แมว า จะมผี พู บเหน็ เขากย็ งั ไมเ ปนการกระทําตอ หนา ธารกาํ นลั ÍØ·ÒËó ®¡Õ Ò·èÕ ôõ/òô÷÷ ผูเสียหายนอนอยูในหองที่ไมมีประตู จําเลยเขาไปปลุกปล้ําทํา อนาจาร ผเู สียหายจงึ รองเอะอะขึน้ จนบดิ าจดุ ไฟเขา ไปพบ ยงั เรยี กไมไ ดว ากระทําตอหนา ธารกํานลั ®¡Õ Ò·Õè ù÷ð/òô÷÷ จาํ เลยกระทาํ อนาจารหญิงซึ่งนอนอยูบนเตียงภายในบาน ของหญิงเวลากลางคืน หญิงรองข้ึนจําเลยก็ยังกอดหญิงไวเพื่อปองกันการถูกทํารายจนกระทั่งมีคน ไปพบเชนนี้ ยังถอื ไมไดวา เหตเุ กดิ ตอ หนาธารกาํ นัล ®¡Õ Ò·Õè ññóø/òô÷ù จําเลยข้ึนไปทาํ อนาจารหญิงบนเรือนของหญิงเวลาพลบคํ่า มเี ด็กหญิงคนหนง่ึ อยใู นหองเห็นการกระทาํ ของจําเลย ยังไมถอื วาเหตเุ กิดตอ หนาธารกาํ นลั à¨μ¹Ò ผูก ระทาํ ความผิดตามมาตรานตี้ องมีเจตนาตามมาตรา ๕๙
๒๙๓ (§) ´ÙËÁ¹èÔ ¼ŒÍÙ ¹×è «§èÖ Ë¹ŒÒËÃ×Í´ÇŒ ¡ÒÃâ¦É³Ò ÁÒμÃÒ óùó ผูใดดูหม่ินผูอ่ืนซึ่งหนาหรือดวยการโฆษณา ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน หนง่ึ เดือน หรือปรับไมเ กินหน่งึ หมน่ื บาทหรอื ทง้ั จําทั้งปรับ องคป ระกอบของความผดิ มดี งั น้ี ͧ¤» ÃСͺÀÒ¹͡ ๑. ดูหมนิ่ ผอู น่ื ๒. ซ่ึงหนา หรอื ดวยการโฆษณา ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ - เจตนา คํา͸ԺÒ ñ. ´ËÙ Áè¹Ô ¼ÙŒÍ¹è× ดูหมิ่น หมายถึง การสบประมาทดูถูกเหยียดหยาม หรือดาทอใหไดรับความอับอาย เสียหาย ดังนั้นการกระทาํ ใดๆ ก็ตามท่ีเปนการสบประมาทดูถูกเหยียดหยามจนเปนเหตุใหผูอื่น ไดรับความอับอายประการหน่ึง หรือไดรับความเสียหายอีกประการหนึ่ง จึงเปนการดูหม่ิน การดูถูก เหยียดหยามผูอื่นในลักษณะที่หยาบชาลามก จึงมักเขากรณีของการทาํ ใหไดรับความอับอาย หากไมเ ขาลกั ษณะหยาบชา ลามก แตเปนการทาํ ใหผ อู ่นื ไดรับความเสียหายก็เปนการดูหมิ่นไดเ ชน กัน ÍØ·ÒËó ®Õ¡Ò·èÕ ñò÷ó/òô÷ó จําเลยดาโจทกวา “อายหนาดานเอาของเขาไปจริงแลว ยังไมรับ อายชาติหมาจะพลิกแผนดิน มึงไมรับ กูจะเอาเขาตะราง” แตโจทกก็ไมไดกลาวคาํ วา อายชาติหมาในฟอง จึงเหลือเปนปญหาคําวาอายหนาดาน เปนคําหมิ่นประมาทซ่ึงหนาหรือไม ตัดสินวาจําเลยดาโจทกวาอายหนาดานเชนนี้โดยประสงคตั้งใจจะดูถูกโจทกวาเปนคนเสียหาย ยอมเปน ความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาทซ่งึ หนา ®Õ¡Ò·èÕ ùñò/òô÷ö จําเลยหมิ่นประมาทใสความนายอยู ครูโรงเรียนวา “หมาสี่แม” (หมาเยด็ แม) ตอหนา คนหลายคน จาํ เลยจึงมคี วามผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามกฎหมาย ลักษณะอาญา มาตรา ๓๓๙(๓) ®¡Õ Ò·èÕ ñññô/òô÷ù การกลาวคาํ ดาดวยถอยคําวา “อีดอกทอง” เปนหมิ่นประมาท ซ่งึ หนา ®Õ¡Ò·Õè ôñó/òôøð จําเลยดาธรรมการอาํ เภอวา “อายธรรมการอาํ เภอหมาๆ แปลภาษาอังกฤษก็ไมได” และวา “หมาเย็ดแม” หลายครงั้ จําเลยมีความผดิ ฐานหมนิ่ ประมาทซึง่ หนา ®Õ¡Ò·èÕ óññ/òôùñ กลาววาจาวาผูที่เปนนายกเทศมนตรีตอหนาประชาชนวา “เปนสุนัขเปนลิงเอาสุนัขข้ึนน่ังแทนหางงอกแลว” ดังนี้ เปนความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๓๓๙(๓)
๒๙๔ ®Õ¡Ò·èÕ ò÷ò-ò÷ó/òõðõ จาํ เลยเปนชายพูดตอหนาผูเสียหายซ่ึงเปนภริยา ผูใหญบ านวา “เมียผใู หญบานนี้แตงตัวสวย นา อยากลํ่าเสียท”ี ซึง่ หมายความวา ผเู สยี หายแตงตัวสวย อยากรวมประเวณดี ว ย คาํ ท่จี ําเลยกลา วและวธิ ีทจ่ี ําเลยกลา วฟง ไดว า เปนการดหู มนิ่ ผเู สยี หายซงึ่ หนา ®¡Õ Ò·Õè òðøù/òõññ ถอยคําท่ีจาํ เลยดาวา “อีหมาไปควักเอากระดูกพอกระดูกแม มงึ เจด็ ชวั่ โคตรมาสูกบั กูอหี นา หมู อีหนาหมา” เปน ถอ ยคําดูหมนิ่ ซึ่งหนา ®Õ¡Ò·Õè ôóù/òõñõ จาํ เลยรองดาผูเสียหายซ่ึงเปนหญิงสาวตอหนาคนเดินผาน ไปมาวา “ออกมาซิกูจะจับหีมึงใหมึงดู” และวา “มึงไปเลาใหมซิวากูจับหีมึง” ดังน้ีเปนการดูหมิ่น ผูเ สียหาย ซง่ึ หนา ตาม ป.อ.มาตรา ๓๙๓ ®¡Õ Ò·èÕ ôôõ/òõòò คาํ วา “ไอเหยี้ ไอส ัตว” เปน การดูหมน่ิ คํากลาวที่มีลักษณะหยาบคายซ่ึงบุคคลทั่วไปไมพึงกลัว หรือเปนเพียงคําสาปแชง คาํ พดู ประชดแดกดนั หรือขมขยู งั ไมเ ปน การดหู มนิ่ ÍØ·ÒËó ®Õ¡Ò·Õè óøø/òõðõ ถอยคาํ ท่ีจําเลยตะโกนกลาวตอผูเสียหายซึ่งหนา และตอหนา ธารกํานลั ในเวลากลางคนื วา “อา ยช้ัน มึงมที นายมาหากูทางอาญาหรอื ลกู กระโปกกกู ไ็ มหด อายแจะ ลกู นางจกั รหรือจะหาอายแจะเปนอันธพาลก็เอาซโี วย อา ยแจะไมใชหญาปากคอกของคนจะเอายังไร ก็เอาซีโวย” เปนขอความท่ีหยาบคายไมสุภาพ แตก็ไมมีขอความอันเปนการดูหม่ินนายช้ันผูเสียหาย จึงไมเปนความผิดฐานดูหม่ินซึ่งหนาตามมาตรา ๓๙๓ แตถอยคําที่จําเลยกลาวประกอบกับวิธีกลาว และเวลาท่ีจาํ เลยกลาวทาํ ใหนายชั้นผูเสียหายไดรับความเดือดรอนรําคาญ จึงเปนความผิดตาม มาตรา ๓๙๗ ®Õ¡Ò·èÕ ñ÷ö/òôöô จําเลยกลาววาโจทกวา “อีหนาเลือดไมปรานีแกคนจน” เปน เพยี งถอยคําทห่ี ยาบแตยังไมเ ปนเหตุใหถ ึงแกจะตอ งรับโทษฐานหมน่ิ ประมาทซ่ึงหนา ®¡Õ Ò·Õè ñòñ/òô÷ö จาํ เลยกับผูเสียหายอยูบานเดียวกัน จาํ เลยปดประตูตึงตัง ผูเสียหายจึงวาจาํ เลยไมมีมารยาท จําเลยจึงพูดตอบผูเสียหายซ่ึงเปนหญิงวา “กูไมไดข้ึนครอมมึงน่ี” ถอ ยคาํ เชน นเี้ ปน คาํ ทจ่ี าํ เลยกลา วดว ยความแดกดนั และใชเ วลาทไ่ี มส ภุ าพ ยงั ไมค วรถอื วา เปน คําหยาบชา อันเปนความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๓๓๙(๒) ®Õ¡Ò·èÕ ñôò/òô÷÷ ถอยคาํ ที่วา “บักสี กูจะเตะปากมึงเดี๋ยวน้ี” หาใชเปนการ ใสความหรือดถู กู ดา ทอซง่ึ เปนการหม่นิ ประมาทซง่ึ หนา ไม ถอยคาํ ที่ตามปกติถือไดวาเปนเพียงไมสุภาพหรือหยาบคาย หากกลาวกับบุคคลท่ัวไป แลว ไมถึงขนาดเปนการดูหม่ินน้ัน ถานาํ ไปกลาวกับผูท่ีอยูในฐานะที่ควรไดรับการเคารพนับถือแลว กเ็ ปน การดูหม่นิ ได ®Õ¡Ò·Õè ÷õ÷ò/òõôò การที่จําเลยกลาวถอยคําตอโจทกรวมวา “มึงเขาไปในที่ของกู ไดอยางไร กูจะแจงขอหาบุกรุกมึง มึงเปนผูใหญบานไดอยางไร ไมรูกฎหมายไมรูหนาท่ี ไอหนาโง
๒๙๕ มึงตองเจอกับกูแนที่ศาล” น้ันเห็นไดวาสรรพนามท่ีจําเลยใชแทนตัวจําเลยและโจทกรวมวา¡Ùและ ÁÖ§น้ันเปนเพียง¶ŒÍÂคําäÁ‹ÊØÀÒ¾ สวนถอยคําในทํานองวาโจทกรวมเปนผูใหญบานไมมีอํานาจหนาท่ี ไมรูกฎหมายและจะฟองรองดําเนินคดีกับโจทกรวมนั้น เปนเพียงเจตนาที่จะดําเนินคดีกับโจทกรวม เทาน้ัน ไมใชถอยคําที่ดูถูกเหยียดหยามโจทกรวม แตที่จําเลยวาโจทกรวมวาä͌˹ŒÒâ§‹น้ัน ถอยคํา ดังกลาวแสดงอยูในตัวถึงการดูหม่ินเหยียดหยามโจทกรวม แมจะเปนการกลาวถอยคําดูหม่ิน โจทกร ว มในขณะทจ่ี าํ เลยและโจทกร ว มทะเลาะกนั กต็ อ งถอื วา จาํ เลยกลา วโดยมเี จตนาดหู มนิ่ โจทกร ว ม หาใชว า การกลา วในขณะทะเลาะกนั จะถอื วา จาํ เลยมไิ ดม เี จตนาดหู มนิ่ อนั จกั เปน การขาดองคป ระกอบ ความผิดไม ®¡Õ Ò·Õè òøö÷/òõô÷ คําวา “ดหู มิน่ ” ตาม ป.อ.มาตรา ๓๙๓ ไมไดน ิยามศพั ทไ วว า มีความหมายวาอยางไร แตตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานอธิบายวา หมายถึง ดูถูก เหยียดหยาม ทําใหอับอายเปนที่เกลียดชังของประชาชน โดยถอยคําท่ีกลาวจะตองเปนการ เหยียดหยามผูอ ืน่ หาใชต ัวผกู ลา วเองไม คําวา “ประธานใชค รอู ยางขี้ขา ” นนั้ จําเลยมิไดเ หยียดหยาม ตวั ผเู สยี หายวา มสี ถานภาพอยา งขข้ี า หรอื ผรู บั ใช แตเ ปน การพดู ถงึ สถานภาพของครใู นโรงเรยี นรวมทงั้ จาํ เลยวา เปน ผรู บั ใชข องผเู สยี หาย เมอ่ื คาํ วา “ขข้ี า ” ในทนี่ จ้ี าํ เลยหมายถงึ ตวั จาํ เลยเองและครใู นโรงเรยี น ที่ถูกผูเสียหายใชงาน มิใชหมายถึงตัวผูเสียหายซึ่งเปนผูใชงาน ถอยคําที่จําเลยกลาวจึงมิใชเปน การดหู ม่นิ ผเู สยี หายซ่ึงหนา ตามความหมายใน ป.อ.มาตรา ๓๙๓ ®Õ¡Ò·Õè õôñ/òõðô ถอ ยคาํ ทจ่ี าํ เลยกลา วตอ สามเณรสองรปู ซงึ่ หนา เพราะเหตทุ ใี่ ชไ ปขอ เทยี นจากภกิ ษรุ ปู หนงึ่ ไมไ ดว า “ถา ไมไ ปเดยี๋ วกเู ตะลงกฏุ ใิ หห มด” เปน ถอ ยคําทจี่ ําเลยกลา วแก สามเณร ซง่ึ เปน บคุ คลทป่ี ระชาชนทวั่ ไปถอื วา ควรเคารพกวา บคุ คลธรรมดา ฉะนน้ั จงึ ไมแ ตเ พยี งจะเปน ถอ ยคาํ ทีไ่ มส ภุ าพและขมขูเ ทา น้นั หากเปน การดหู ม่ินตามความหมายใน ป.อ.มาตรา ๓๙๓ ดว ย ®¡Õ Ò·èÕ ñ÷öõ/òõðö การที่จาํ เลยกลาวแกพระภิกษุวา “ถาไมเห็นแกผาเหลือง หรือไมใชพระจะเตะใหต กกฏุ ิหมดเลย” เปน ความผดิ ฐานดูหมนิ่ ซง่ึ หนา การดูหม่ินนี้มิใชจาํ กัดเฉพาะการกระทาํ ดวยวาจาเทาน้ัน แตอาจกระทําดวยการแสดง กริ ยิ าอาการกไ็ ด ò. «è֧˹Ҍ ËÃ×Í´ŒÇ¡ÒÃâ¦É³Ò ซง่ึ หนา หมายความวา ไมจ าํ เปน วา ผดู หู มนิ่ จะตอ งอยตู อ หนา ผถู กู ดหู มน่ิ ถา ไดค วามเพยี ง วา กลา วคําดหู มนิ่ ใหผูถ กู กลา วไดย นิ เทานั้นกถ็ ือวา เปน การกระทาํ ซึ่งหนาแลว การดหู มน่ิ ซงึ่ หนา นหี้ มายความวา ผถู กู ดหู มน่ิ ตอ งอยใู นทเี่ กดิ เหตุ และไดย นิ วาจาหรอื ได เหน็ กริ ยิ าดหู มน่ิ แตถ า การดหู มนิ่ นน้ั ไมส ามารถไปถงึ ผถู กู ดหู มน่ิ ไดโ ดยตรงทนั ที เพราะผถู กู ดหู มนิ่ ไมไ ด อยูในทเ่ี กิดเหตแุ ลวก็ยงั ไมถ ือวา เปนการดูหมิน่ ซึง่ หนา
๒๙๖ ®Õ¡Ò·èÕ ñù/òô÷ö จําเลยกลา วคาํ หยาบดา ผเู สยี หายทน่ี อกถนนทางหลวง แตผ เู สยี หาย อยูในหองไมเ ห็นตัวไดย ินแตเ สยี ง แตจาํ เลยรูแลว วา ผูเสียหายอยใู นนน้ั ถอื ไดวาเทากับดา ตอหนา ®Õ¡Ò·Õè øõö-øõ÷/òõðò เดินพนไปได ๓ วา แลวจึงดาก็เปนความผิดฐาน หมนิ่ ประมาทซงึ่ หนา เพราะความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาทซง่ึ หนา นน้ั เพยี งแตก ลา วคาํ ดา ใหผ ถู กู ดา ไดย นิ เทานัน้ กเ็ ปน ผดิ แลว ไมจําตอ งดาโดยหันหนา หากัน จะดาอยูขางหลงั หรือขางไหนก็ไมส าํ คญั ®¡Õ Ò·Õè ñ÷öõ/òõðö จาํ เลยลงบันไดกุฏิเดินไปราว ๙-๑๐ วา แลวพูดดูหม่ิน พระภิกษุ แมจะไมไดกลาวตอหนา แตพระภิกษุซ่ึงถูกกลาวน้ันไดยินถอยคําซ่ึงจาํ เลยกลาว ยอมเปน ความผิดฐานดหู มิ่นซึง่ หนา ตาม ป.อ.มาตรา ๓๙๓ ®Õ¡Ò·èÕ òõö/òõðù ความผิดฐานดูหม่ินนั้น ถาเปนการกลาวดวยวาจาตองเปนการ กลาวซง่ึ หนา คดีนโ้ี จทกม ิไดอยูในท่ีเกดิ เหตุ มใิ ชก ลาวซง่ึ หนา จึงไมเ ปน ความผดิ ฐานดหู มนิ่ ®¡Õ Ò·Õè ññð/òõñö จําเลยมีจดหมายถึงโจทก แมขอความในจดหมายเปนการ ดูหมิ่น แตการท่ีจําเลยสงจดหมายไปถึงโจทกก็ตางวันเวลากัน จึงไมมีลักษณะเปนการดูหม่ินซึ่งหนา หรือดหู ม่นิ ดวยการโฆษณา ®¡Õ Ò·èÕ òñøð/òõóñ การทจี่ ะเปน ความผดิ ฐานหมนิ่ ประมาทนนั้ จะตอ งเปน การใสค วาม ผูอ่ืนโดยยืนยันขอเท็จจริงที่ใสความนั้นตอบุคคลที่สาม และการใสความน้ันนาจะทาํ ใหผูอ่ืน ท่ีถูกใสความเสียช่ือเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ดังนั้น การท่ีจําเลยถาม ป. วามีความสัมพันธ ทางชูสาวกับโจทกห รือไม จึงเปนเพียงการคาดคะเนของจําเลยเทานั้น มิใชเปนการยืนยันขอเท็จจริง อันนาจะทําใหโจทกเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังแตประการใด จาํ เลยจึงไมมีความผิดฐาน หมน่ิ ประมาทและขอ เทจ็ จรงิ ไมป รากฏวา จําเลยกลา ววาจาตอ หนา โจทกจ งึ ไมใ ชเ ปน ดหู มน่ิ โจทกซ ง่ึ หนา จําเลยไมม คี วามผดิ ฐานดหู มนิ่ ซ่ึงหนา การที่กฎหมายหามมิใหมีการดูหม่ินซ่ึงหนา นาจะเปนเพราะประสงคจะปองกันมิใหเกิด การทะเลาะวิวาทกัน การดูหมิ่นซึ่งหนาจึงนาจะตองเปนการดูหมิ่นในทันทีทันใด และในระยะท่ีอาจ เกิดการทะเลาะวิวาททํารายกันข้ึนได ฉะนั้น การเขียนจดหมายดาผูอ่ืนจึงไมเปนการดูหม่ินซึ่งหนา เวน แตจ ะยนื่ ใหอ า นตอ หนา เหตทุ ไี่ มเ ปน นนั้ นา จะอยทู ว่ี า เพราะจําเลยมไิ ดอ ยตู อ หนา หรอื ใกลผ เู สยี หาย ในขณะเกดิ เหตมุ ากกวา เพราะเวลาทเี่ ขยี นจดหมายกบั เวลาทโี่ จทกร บั จดหมายตา งกนั สมมตุ วิ า แทนท่ี จาํ เลยจะสงจดหมายไปดาโจทก จําเลยโทรศัพทไปดาเชนน้ีเวลาท่ีจาํ เลยดากับท่ีโจทกรับโทรศัพท คงไมต า งกนั แตถ า โจทกจ าํ เลยอยหู า งไกลกนั จนตอ งใชโ ทรศพั ทก น็ า จะไมเ ปน การดหู มน่ิ ซงึ่ หนา เชน กนั ความผิดฐานดูหมิ่นซ่ึงหนานี้ ผูที่กระทําตองมีเจตนา ดังนั้น ถึงแมวาจะมีการดูหมิ่น แตถาผูดหู มนิ่ ไมรวู าผถู ูกดหู มิน่ อยู “ซ่งึ หนา” แลว ก็ยังไมม คี วามผิด ®¡Õ Ò·èÕ òõù/òõñô จาํ เลยกลา วดหู มน่ิ ซงึ่ หนา ผเู สยี หายขณะทผ่ี เู สยี หายอยหู า ง ๑๐ วา และจาํ เลยไมร วู า ผเู สยี หายแอบอยทู นี่ น่ั จาํ เลยยงั ไมม คี วามผดิ ฐานดหู มนิ่ ซง่ึ หนา ตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา ๓๙๓
๒๙๗ โฆษณา สําหรบั การดหู มนิ่ ผอู นื่ ดว ยการโฆษณา ศาลฎกี าไดอ รรถาธบิ ายไวใ นคําพพิ ากษา ฎกี าที่ ๑๐๕๓/๒๕๐๗ วาคาํ วา “โฆษณา” ตามพจนานกุ รมหมายความวาการปาวรอง จึงแสดงใหเห็น วา การดหู มิ่นดว ยการโฆษณาตาม ป.อ.มาตรา ๓๙๓ น้ี มีความหมายถงึ การดูหม่นิ ในลักษณะการใหรู กันหลายๆ คนไมใ ชพ ูดกนั ตวั ตอตัว ®¡Õ Ò·èÕ óöô/òôøõ การสงคาํ ดูหม่ินทางจดหมายโดยสงถึงบุคคลเฉพาะตัว ไมป ระสงคจะใหเปดเผย หาเปนดหู มน่ิ ดว ยการโฆษณาไม ®¡Õ Ò·èÕ ñðõó/òõð÷ จําเลยกลาวตอเด็กรับใชในบานผูเสียหายวา “ใหไปบอก อายเห้ีย อีเหี้ยนายของมึงสองคน อยามาวาอะไรกูมากนักประเดี๋ยวกูทนไมไดจะเอาเรื่องอีก” ดังน้ี เปนการส่ังฝากไปบอกผูเสียหายในลักษณะพูดกันตัวตอตัว โดยไมปรากฏวาจําเลยไดกลาวตอ บคุ คลอื่นอีก จงึ ไมเ ปนการดูหมิน่ ดว ยการโฆษณา ®Õ¡Ò·èÕ ññðõ/òõñù บรรณาธิการหนังสือพิมพลงขอความวา ต.ตะโกนกลางตลาด วาจะถอดรองเทาตบหนา ส. เปนขอความทท่ี าํ ให ส. บงั เกดิ ความอับอายและเมอ่ื ขอความดงั กลา วน้ี จาํ เลยเปนผูทาํ ใหเ กดิ ขน้ึ ปรากฏแกค นท้ังหลายในหนังสอื พมิ พ จงึ เปน การดูหมน่ิ ส. ดวยการโฆษณา การดหู มิน่ ดว ยการโฆษณาตอ งมีลักษณะของการปา วรองใหค นหลายๆ คนรูในบางกรณี การกลา วคําดหู มน่ิ ตอหนาคนเพยี ง ๒ คน กเ็ พียงพอทจ่ี ะถือวาเปน การโฆษณาแลว ¤ÇÒÁáμ¡μ‹Ò§ÃÐËÇÒ‹ §¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹´ËÙ ÁèÔ¹«è֧˹ŒÒ¡Ñº¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹ËÁèÔ¹»ÃÐÁÒ· ñ. ¡ÒôÙËÁèԹ໚¹àÃè×ͧ¢Í§¡ÒÃʺ»ÃÐÁÒ· ดูถูกเหยียดหยามหรือดาทอใหไดรับ ความอบั อายเสยี หาย ซงึ่ หมายความวา ผดู ูหมนิ่ ไดกระทําตอผูถกู ดหู มิน่ โดยตรงโดยดูถูกเหยียดหยาม หรือดาทอผูถูกดูหม่ินใหอับอายหรือเสียหาย แตการหมิ่นประมาทเปนเร่ืองที่ผูกระทําไปใสความ ตอ บคุ คลทส่ี าม โดยประการทนี่ า จะทาํ ใหผ ถู กู ใสค วามเสยี ชอื่ เสยี งหรอื ถกู บคุ คลทส่ี ามดหู มน่ิ เกลยี ดชงั การหมิ่นประมาทจึงตองมีบุคคลที่สามเขามาเกี่ยวของดวย โดยเปนผูรับฟงหรือรับรูการใสความ ในขณะทก่ี ารดูหมนิ่ ซ่ึงหนาเปน เรือ่ งเฉพาะระหวา งผดู ูหมิน่ กับผถู กู ดหู มนิ่ ท่ีอยตู อ หนากัน ò. ¡ÒôÙËÁèԹ໚¹¡Òôٶ١àËÂÕ´ËÂÒÁËÃ×Í´‹Ò·Íà¾è×ÍãËŒÍÕ¡½†ÒÂ˹Öè§ÍѺÍÒ ËÃÍ× àÊÂÕ ËÒ ขอ ความทใี่ ชด หู มน่ิ จงึ อาจเปน ไดท ง้ั การยนื ยนั ขอ เทจ็ จรงิ ทแี่ นน อนหรอื ขอ ความหยาบชา ทใ่ี ชด า ทอกนั และไมม ที างเปน ความจรงิ ไปได สว นการหมน่ิ ประมาทนน้ั ตอ งเปน การยนื ยนั ขอ เทจ็ จรงิ ท่แี นนอนเทา นนั้ เชน ดาํ ดา แดงวา “ไอเ ห้ีย ไอส ตั ว” เปน การใชคาํ ทใี่ ชในการดา ทอกนั ไมม ที างทจ่ี ะ เปนไปไดว า แดงจะเปน เห้ีย เปนสัตวดงั ที่ดําวาหรือ ดาํ ดาแดงวา ไปชําเรากบั บคุ คลท่วั ไปไมเลือกหนา เปนการยืนยันขอเท็จจริงท่ีแนนอนทําใหแดงอับอายเสียหาย ท้ังสองกรณีนี้เปนการดูหมิ่นซ่ึงหนา แตถา ดําดา แดงดังกลาวขางตนตอหนาขาว ในกรณีแรกดาํ ไมม ีผดิ ฐานหมนิ่ ประมาท แตในกรณีทส่ี อง ดํามีความผิดฐานหม่ินประมาทดวยเพราะไปยืนยันขอเท็จจริงกับขาววา แดงเปนคนไมดีทําใหแดง เสยี ชอ่ื เสยี งและนา จะทาํ ใหข าวดหู มน่ิ แดง ดงั นนั้ จงึ สรปุ ไดว า การดหู มนิ่ ซง่ึ หนา ทก่ี ระทาํ ตอ หนา บคุ คล ที่สามนั้น อาจเปนการหมิ่นประมาทดวยหรือไมก็ได แตการใสความกันตอหนาผูถูกหม่ินประมาท
๒๙๘ มักจะตองเปนการดูหม่ินซึ่งหนาดวยเสมอ เปนการกระทาํ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ตาม ป.อ.มาตรา ๙๐ ®¡Õ Ò·èÕ ôôõ/òõòò จําเลยดาผูเสียหายตอหนาบุคคลอื่นๆ วา “ไอเห้ีย ไอสัตว ไอท องสุขโกงบานโกงเมือง” คาํ วา ไอเ ห้ีย ไอสัตวเปนเพยี งการดหู มิ่นเหยียดหยาม แตค ําวาไอทองสขุ โกงบา นโกงเมอื ง มคี วามหมายวา ผเู สยี หายซง่ึ เปน ขา ราชการปฏบิ ตั หิ นา ทโี่ ดยมชิ อบ เบยี ดบงั ทรพั ยส นิ หรอื ยกประโยชนของทางราชการมาเปน ของตนหรอื ของผอู ่ืนโดยทจุ รติ จึงเปนการหมิ่นประมาท ó. ¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹ËÁÔè¹»ÃÐÁҷ໚¹¤ÇÒÁ¼Ô´ÍѹÂÍÁ¤ÇÒÁä´Œ á실ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹´ÙËÁèÔ¹ «è§Ö ˹ŒÒ໹š ¤ÇÒÁ¼´Ô ·ÕÂè ÍÁ¤ÇÒÁ¡¹Ñ äÁä‹ ´Œ à¨μ¹Ò ผกู ระทาํ ความผิดตองมีเจตนาในการกระทําตามมาตรา ๕๙ ô. คํา¶ÒÁ·ŒÒº·àÃÕ¹ ๑. นายเขยี ว เอาอจุ จาระ เท รด จากทสี่ ูงโดยมีเจตนาใหถ กู นายแดง เปรอะเปอน ดงั น้ี นายเขยี วจะมคี วามผิด หรือไม
๒๙๙ àÍ¡ÊÒÃÍÒŒ §ÍÔ§ เกยี รตขิ จร วจั นสวสั ด.์ิ (๒๕๕๑).คาํ อธบิ ายกฎหมายอาญา ภาค ๑ กรงุ เทพฯ:พลสยามพรน้ิ ตงิ้ . เกียรติขจร วัจนสวัสดิ์.(๒๕๕๐).คําอธิบายกฎหมายอาญา ภาคความผิด เลม ๑. กรงุ เทพฯ:หา งหนุ สวนจํากัด จิรัชการการพิมพ. คณิต ณ นคร.(๒๕๔๗). กฎหมายอาญา ภาคท่วั ไป. กรงุ เทพฯ:วญิ ชู น. ทวเี กยี รติ มนี ะกนษิ ฐ.(๒๕๕๓).คาํ อธบิ ายกฎหมายอาญา ภาคทวั่ ไป. กรงุ เทพฯ:วญิ ชู น. บญุ เพราะ แสงเทยี น.(๒๕๕๒).กฎหมายอาญา ๑ ภาคท่ัวไป.กรุงเทพฯ:บริษทั วทิ ยพัฒน จํากดั ประภาศน อวยชยั .(๒๕๒๖).ประมวลกฎหมายอาญา ภาค ๑. กรงุ เทพฯ:สาํ นกั อบรมศกึ ษา กฎหมายแหง เนติบณั ฑิตยสภา. วินยั เลศิ ประเสรฐิ .(๒๕๔๗).วธิ ีไลสายกฎหมายอาญา เลม ๑.กรุงเทพฯ:อินเตอรบคุ ส. สหรัฐ กิติศุภการ.(๒๕๕๗.)หลักและคําอธิบายกฎหมายอาญา.กรุงเทพฯ:บริษัทอมรินทร พร้ินต้ิงแอนดพับลชิ ชิ่ง. สุพจน นาถะพินธุ.(๒๕๓๓).ประมวลกฎหมายอาญา.กรุงเทพฯ:สํานักพิมพรุงเรืองธรรม. สุวัฒน ศรีพงษสุวรรณ.(๒๕๔๙).คําอธิบายประมวลกฎหมายอาญา.กรุงเทพฯ: นติ บิ รรณาการ.
๓๐๐ จัดพมิ พโ ดย โรงพิมพตํารวจ ถ.เศรษฐศิริ ดุสติ กรงุ เทพฯ ๑๐๓๐๐ โทรศัพท ๐-๒๖๖๘-๒๘๑๑-๓ โทรสาร ๐-๒๒๔๑-๔๖๕๘
“เปนองคกรบังคับใชกฎหมายที่นําสมัย ในระดับมาตรฐานสากล เพ�อใหประชาชนเช�อมั่นศรัทธา” พลตํารวจเอก สุวัฒน แจงยอดสุข ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312