Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชาวเล

Description: ชาวเล

Search

Read the Text Version

251

252

253

254

255

256

257

258

259

260

261

262

263

264

265

266

267

268

269

270

271

272

273

274

275

276

277

278

279

280

281

282

283

284

285

286 7.4 ข้อมลู ท่อี ยูใ่ นการดาเนินการระดบั นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงที่เกย่ี วขอ้ ง 7.4.1 ข้อมูลพน้ื ท่ีนารอ่ งเขตค้มุ ครองทางวัฒนธรรมของกลมุ่ ชาตพิ นั ธชุ์ าวเล 14 ชุมชน ผนวกการ วถิ ีการตั้งเพิงพักและทากินทะเลหมุนเวยี น พ้ืนที่ทางจิตวิญญาณ สุสาน ท่ีชาวเลมีส่วนรว่ มทุกมิติ ภายใต้ การดาเนินงานของ คณะทางานขับเคล่ือนพ้ืนนที่นาร่องคุ้มครองทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล มอแกนเกาะสุรินทร์และอีก13พื้นท่ี อนุกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ที่ทากิน และพ้ืนท่ี ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล และ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็น ธรรม (ขปส.) อาศัยตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 2 มิ.ย. 2553 เร่ืองการฟ้ืนฟูวิชีวิตชาวเล เครือข่ายชาวเลฯ จึง ประกาศพื้นที่นาร่องคุ้มครองทางวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล และแต่งตั้งคณะทางานระดับนโยบาย ดาเนินการแลว้ มดี ังนี้ 1) พื้นทีช่ มุ ชนมอแกนหมกู่ าะสุรนิ ทร์ และสุสานมอแกน ต..เกาะพระทอง อ.ครุ ะบุรี จ.พังงา 2) พนื้ ทช่ี ุมชนมอแกลนเกาะพระทอง-เกาะระ ต.เกาะพระทอง อ.ครุ ะบรุ ี จ.พงั งา 3) พ้นื ทช่ี มุ ชนมอแกลนบา้ นบางสัก (บ้านทบั ตะวัน) ศาลพ่อตาสามพัน สสุ านมอแกลนคลองหัก และชายหาด/ทจี่ อดเรอื ขุมเขยี ว หมู่ 7 ตบางมว่ ง อ.ตะกว่ั ปา่ จ.พงั งา 4) พนื้ ทช่ี ุมชนมอแกลนบา้ นหนิ ลาด หมู่ 6 ต.ทา้ ยเหมือง อ.ทา้ ยเหมอื ง จ.พงั งา 5) พ้นื ท่ีชุมชนมอแกลนบ้านหินลูกเดียว พ้ืนที่ประเพณีนอนหาดรวมญาติชนเผ่ามอแกลน ศาลโต๊ะหินลูกเดียว หาดทรายแก้ว และสสุ านมอแกลนท่าฉัตรไชย หมู่ 5 ตไมข้ าว อ.ถลาง จ.ภเู กต็ 6) พนื้ ที่ชมุ ชนอรู กั ลาโวยบ้านสะบา และหลาโต๊ะ หมู่ 3 ต.เกาะแกว้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 7 พื้นท่ชี ุมชนอรู ักลโวย้ หาดราไวย์ และบาไล หมู่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมอื ง จ.ภูเก็ต 8) พื้นท่ชี ุมชนอูรักลาโวย้ บา้ นแหลมตง เกาะพพี ี และสุสานชาวเล หมู่ 7 ต.อา่ วนาง อ.เมือง จ.กระบี่ 9) พ้ืนทช่ี มุ ชนอรู กั ลาโวยบา้ นโตะ๊ บาหลวิ หลาโต๊ะบาหลวิ และสุสานบ่อแหน หมู่ 1 ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลนั ตา 10) พน้ื ทช่ี ุมชนอุรักลาโว้ยสงั กาอู้ ม.7 ต.เกาะลนั ตาใหญ่ อ.เกาะลนั ตา 11) พื้นที่ชมุ ชนอรุ กั ลาโว้ยเกาะจา ต.ศรบี อ่ ยา อ.เหนือคลอง จ.กระบ่ี 12) พ้ืนทีช่ ุมชนอูรักลาโว้ยเกาะหลีป๊ะ บาไล และสสุ านขาวเล หมู่ 7 ต.เกาะสาหรา่ ย อ.เมือง 13) พ้นื ทช่ี มุ ชนอุรักลาโวย้ เกาะอาดัง และสสุ าน ต.เกาะสาหรา่ ย อ.เมือง จ.สตูล 14) พนื้ ทชี่ ุมชนมอแกนเกาะเหลา ม.6 ต.ปากน้า อ.เมือง จ.ระนอง

287 วัตถปุ ระสงค์หลกั เพอ่ื ให้สอดคล้องกับเป้าหมายแนวทางการพฒั นาที่ยงั่ ยืน (SDGร) ปฏิญญาสากลว่า ด้วยสิทธชิ นเผ่าพ้ืนเมืองและรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 70 ที่บญั ญัตไิ วว้ า่ \"รัฐพึงส่งเสริมและให้ความคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธ์ุต่างๆ ให้มีสิทธิดารงชีวิตในสังคมตามวัฒนธรรม ประเพณี และวิถชี ีวิตตั้งเดมิ ตามความสมัครใจไดอ้ ยา่ งสงบสุข ไม่ถกู รบกวน\" จังหวดั ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 1 ระนอง เกาะเหลา ม. 4 ต. ชุมชนชาวเลมอแกนเกาะเหลา ปัญหาที่ดิน,ทรัพยากรและ ปากนา้ อ.เมือง จ. 2 พงั งา ระนอง ต้ังอยู่ในพ้ืนท่ีป่าชายเลนมาอย่าง สงิ่ แวดล้อม เกาะพระทอง ต. ยาวนานจานวน 50 ครัวเรือน ๑.ที่อย่อู าศยั เกาะพระทอง อ.คุ ระบุรี จ.พงั งา ปัจจุบันได้มีการกันแนวเขตชุมชน ๑.๑ พืน้ ท่ีอาศยั ท่อี ยู่ในที่ดิน แล้ว ประชากรส่วนใหญ่ประกอบ ให้มีการแต่งต้ังคณะอนุกรรมส่งเสริม อาชพี ประมง และคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเล ๑.๒ ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและ ความม่ันคงของมนุษย์สนับสนุนผ่าน พอช.ในการสนับสนุนทาโครงการ บา้ นม่นั คงแบบชว่ ยอุปถมั ภก์ ล่มุ บรรพบุรุษชาวมอแกลนได้บุกเบิก พลเมืองชาติพันธ์ุและชนเผ่าที่ขาด \"เกาะพระทอง\" มานับร้อยปีหรือ โอกาสทางสังคมมานาน นับได้หลายชัว่ อายุคน ๑.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่ง เล่ากันว่าการถูกกดข่ีปองร้ายเมื่อ ดาเนนิ การออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ๆ หลายร้อยปีมาแล้ว ทาให้ชาวมอ ออกเอกสารสิทธิ์ได้ตามกฎหมาย แกลนอพยพโยกย้าย ทันที กระจัดกระจายไปต้ังถิ่นฐานหลาย แห่ง รวมท้ังบริเวณเกาะระ-เกาะ ๒. ปัญหาที่ทากิน พระทองดว้ ย ๒.๑ ที่อยู่ในท่ีดินรัฐ หาก นอกจากนั้น อดีตของการทาข้าวไร่ ผ่ า น ก า ร พิ สู จ น์ สิ ท ธิ์ จ า ก ในพ้ืนท่ีน้ีก็นจะเป็นเคร่ืองหมาย คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุก ของ ท่ี ดิ น ข อ ง รั ฐ แ ล้ ว ไ ม่ ส า ม า ร ถ การถือครองสิทธิ์ในทดี่ ินและการต้ัง เปล่ียนแปลงเป็นเอกสารสิทธ์ิใดๆ หลักปักฐานด้วย ชาวเลอีกกลมุ่ หน่ึง ขอดาเนินการออกเป็นโฉนดชุมชน ซ่งึ เคยอยู่อาศัยและ ทันทีโดยกิจกรรมในพื้นที่น้ีรัฐต้องมี ใช้พ้ืนที่บริเวณน้ีคือชาวเลมอแกน สนับสนนุ สง่ เสริมเชน่ กนั แ ต่ ช า ว ม อ แ ก น มี วิ ถี เ ดิ น ท า ง ๒.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่ง บ่อยคร้ัง จึงไม่ได้ตั้งหลักปักฐาน ดาเนนิ การออกเอกสารสิทธิ์ในพ้ืนท่ีๆ และทาข้าวไร่ในบริเวณน้ี ออกเอกสารสิทธิ์ได้ตามกฎหมาย ทนั ที

288 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ ปัจจุบันบนเกาะพระทองมีชุมชน ๓. ปัญหาแหล่งหากินและการ ชาวมอแกลนอยู่ 3 แหง่ ดงั น้ี ใช้ทรพั ยากรเพื่อดารงวิถีดง้ั เดิม,พื้นท่ี 1.ชุ ม ช น ม อ แ ก ล น บ้ า น กุ ด า มี พธิ ีกรรม จานวน 17 ครัวเรอื น 78 คน อาศัย ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ อยู่ทห่ี มู่ 1 ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุ แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม มี ค า สั่ ง ใ ห้ รี จ.พงั งา คณะกรรมการชาติพันธุ์และชนเผ่าที่ 2.ชุมชนมอแกลนบ้านแป๊ะโย้ย มี แต่งต้ังร่วมกับรัฐทุกระดับร่วมศึกษา จานวน 152 คน 45 ครัวเรือน ข้อมูลเพ่ือดาเนินการประชาสัมพันธ์ อาศัยอยู่ที่หมู่ 2 ต.เกาะพระทอง อ. วิถีวัฒนธรรมชนเผ่าในเขตพ้ืนที่ ครุ ะบรุ ี จ.พงั งา พิธีกรรมชนเผ่าพร้อมสนับสนุนการ 3.ชุมชนมอแกลนบ้านไลออนส์ ปรับปรุงภูมิทัศน์ท่ีคงเอกลักษณ์ (กอ่ นสีนามิคอื ชมุ ชนบ้านปากจก) มี ด้ังเดิมของชนเผ่าพื้นฐานในพื้นท่ีชน จานวน 2 ครั้วเรอื น 7 คน อาศัยอยู่ เผา่ และชาติพันธ์ุพนื้ เมอื ง ทห่ี มู่ 4 ต.เกาะพระทอง อ.ครุ ะบุรี จ.พังงา นอกจากนี้ยังมีชาวมอแคลนบาง ครัวเรือนอาศัยอยู่บริเวณน้าจืดที่ เกาะระ ซ่ึงปัญหาหลักร่วมกันคือ ๕. ปัญหาวัฒนธรรม,อคติชาติ ความไม่ม่ันคงดา้ นท่ีอยอู่ าศยั และ พันธ์ุ,หลักสูตรภูมิปัญญาดั้งเดิม, ทีท่ ากิน เนื่องจากการประกาศพ้นื ที่ ภาษา,การละเลน่ ,ศนู ย์วฒั นธรรม อนุรักษ์โดยรัฐ นอกจากนี้ยังมีพ้ืนที่ ใ ห้ ก ร ะ ท ร ว ง วั ฒ น ธ ร ร ม แ ล ะ จิตวิญญาณคอื สุสานตลิ่งชนั ซึ่งเป็น กระทรวงศึกษาธิการร่วมสนับสนุน ประเดน็ เร่อื งท่ีดินทาง วัฒนธรรมของชนเผ่าพ้ืนเมืองให้มี จติ วิญญาณ ความภาคภูมิใจในอัตตาลักษณ์ของ ตนตามแผนงานของชนเผ่านั้นๆ ๖. ปัญหานโยบายและมติ ครม. ๒ ม.ิ ย.๕๓ ๖.๑ ผลกระทบ ใ ห้ ห ยุ ด ก า ร ส นั บ ส นุ น / รั บ ร อ ง ท้ั ง โ ค ร ง ก า ร รั ฐ แ ล ะ เ อ ก ช น ท่ี คณะกรรมการกลุ่มชาติพันธุ์ มีมติว่า มีผลกระทบต่อวิถี,วัฒนธรรมและ ความเชื่อของชนเผ่าและชาติพันธุ์ พื้นเมอื ง ๖. ๒ เข ต วั ฒน ธ ร ร ม พิเศษ ,โฉนดชมุ ชน

289 จังหวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 3 ให้กระทรวงวัฒนธรรม,มหาดไทย และทุกกระทรวงท่ีเก่ียวข้อง มีคาส่ัง ให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดาเนินการ ส่งเสริมพ้ืนที่นาร่องเร่ืองเขตส่งเสริม และคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธ์ุ ชาวเลและโฉนดชุมชนตามมติ ครม. ๒ มิ.ย.๕๓ให้เกิดรูปธรรมท่ีเน้น สอดคล้องกับความเป็นอัตตาลักษณ์ ของชนเผา่ ชุมชนมอแกลนทับ บางสักเป็นพื้นที่ต้ังถิ่นฐานของชว ตะวนั ม.7 ต.บาง ม อ แ ก ล น ม า ย า ว น า น ก่ อ น ที่ ม่วง อ.ตะกว่ั ปา่ จ. อตุ สาหกรรมเหมืองแรจ่ ะ พังงา ขยายตัวเข้ามา บรรพบุรุษของชาว มอแกลนบางสักเล่าสืบต่อกันมาถึง ตานานพ่อตาสามพนั และเล่ากันวา่ ชาวมอแกลนร่นุ แรกๆ นาจะอพยพมาจากบ้านในหยง อาเภอตะกัว่ ทุ่ง จงั หวัด พังง แล้วมาอาศัยต้ังถ่ินฐานอยู่ที่ \"นากก\" ปัจจุบันคือบริเวณคลอง และหาดสนรมิ ทะเล บางสักใกล้ท่ีตั้งของศาลพ่อตาสาม พนั ชุมชนมีการโยกย้ยหลายครั้ง จก เดิมท่ีอยู่บริเวณนากกไมไกลจาก ศาลพอ่ ตาสามพัน ในปัจจุบัน ย้ายไปรวมกับชวมอ แกลนท่ีท่องทุและนายาว ชาวบ้าน เลว่ชว่ งท่ียา้ ยคอื ช่วง สครามโลกคร้ังท่ี 2 พราะมีทหาร ญ่ีปุ่นข้ามาในพื้นที่ มีการท้ิงระเบิด มีการสรู้ บกันกบั ทหารฝรั่ง หลังจากน้ันก็เกิดข้าว ยากหมากแพงและโจรผู้ร้ายชุกชุม ชาวมอแกลนต้องเข้าปา่

290 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ ขุดหัวมันกิน มีชาวมอแคลนบาง ครอบครัวขายที่ดินไปในรดาถูก เพ่อื แลกเปลย่ี นกับเสอื้ ผ้า และของจาเปน็ อ่ืนๆ ตอ่ มาเมื่อมกี ารทาเหมืองแร่ ชาวมอ แกลนก็อพยพแยกย้ายกันไปอยู่ท่ี ท้องขท้ี รายและ ท่องเด็ดคือบริเวณสวนปาลัมใกกับ ทางเข้าชุมชนที่เชื่อมมาจากถนน เพชรเกษม พนื้ ท่ที ่องเค็ด เดิมน้ันเป็นปพรุตามรรมชาติ เป็น ทางควายเดิน มีนข้าว มีบา ต่อมา เมื่อมกี ารทาสมั ปทาน เหมืองแร่ ชาวมอแกลนจึงย้าย กลับไปอยู่ท่ี \"ท่องหุ\" หรือบริเวณ เคยอาศยั อยเู่ ดิม และบางส่วน ก็ย้ายข้ึนไปอยู่บนเนินในปห่างจาก ทะเล นอกจากนน้ั ยังมีศาลเคารพเก่าแก่ที่ เรียกว่ าศาล \"พ่อตา สามพัน \" บรเิ วณรอบศาล เป็นพนื้ ท า พิ ธี ก ร ร ม ข อ ง ช า ว ม อ แ ก ล น โดยเฉพาะพิธีประจาในเดือนสี่ทาง จันทรคติ (ประมาณเดอื น มีนาคม) ซึ่งจะมีการต้ังสไม้ไผ่สูงที่มี ยอดเป็น รูปนกและประดับธงผ้าสี ขาวยาวอยดู่ า้ นหน้า ศาล ซึ่งปัจจุบันถูกคั่นด้วยถนน คน ไทยในท้องถ่ินและคนจากถิ่นไกลๆ ก็ใหค้ วามเคารพศาลน้ี เช่นกัน พ้ืนที่ทางจิตวิญญาณที่ สาคัญสาหรับชาวมอแกลนบางสัก คือสสุ านรมิ หาดทราย ที่มีอายุกาแก่หลายร้อยปี ซึ่งแสดง ให้เห็นชาวมอแกลนเกิด เติบโต ตั้ง ถ่นิ ฐาน ทามาหากนิ

จังหวัด ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ 291 ข้อเสนอ 4 ชุมชนมอแกลนหิน เดินทางไปมาในบริวณน้ีมา เน่ิน ลาด ม.6 ต.ท้าย นาน รวมท้ังฝังศพบรรพบุรุษกันมา เหมือง อ.ท้าย รนุ่ ตอ่ รุ่น เหมือง พัฒนาการของชุมชน ชุมชนมอแกลนบ้านหินลาด อาศัย อยู่บริเวณน้ีเกือบร้อยปีแล้ว โดย ย้ า ย ม า จ า ก หิ น ล า ด น อ ก ห รื อ ที่ เรียกวา่ หมา่ นาว พื้นที่สาคัญคือ ปากบาง ปัจจุบัน เป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาลาปี หาดทา้ ยเหมอื ง ซ่ึงเป็นท่ีทานาของคนมอแกลน พนื้ ทหี่ ินลาดนอกและพื้นท่ีใกล้เคยี ง และมีสมนุ ไพรใหเ้ ก็บหาทายา อยูห่ ลายชนดิ ต่อมามีการให้สัมปทานเหมืองแร่ ชาวมอแกลนจึงหันมา วิดแร่ ตาม ชายหาดและทา้ ยรางของ บริษัทเหมือง นอกเหนือจากการ ปลูกข้าวและออกทะเล ต่อมา บางส่วนของพื้นท่ีได้กลายเป็น อุทยานแห่ชาติหาดท้ายเหมืองและ บางส่วนเป็นเขตทหาร บางส่วนก็มี คนจากภายนอกค่อยๆ ทยอยเข้ามาอยู่ จนปัจจุบันไม่มี ที่ดินให้ชาวมอแกลนปลูกข้าว ปลูก มะพร้าวและพชื อื่นๆ ชาวมอแกลน บางครอบครัวย้ายออกไปเพราะ ตอ้ งการอยู่อย่างสงบ ลู ก ห ล า น ม อ แ ก ล น บ า ง ร า ย ต้ อ ง อาศัยท่ีดินญาติอยู่ เพราะได้ขาย ที่ดินให้คนภายนอกแล้วเจ้าของ ที่ดินใหม่บางรายทาธุรกิจขุดทราย ขาย ท า ใ ห้ ห บ้ า น หิ น ล า ด มี บ ริ ษั ท ขุ ด ทรายหลายบริษัทข้ามาขุดตักทราย

292 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ ขนใสร่ ถบรรทุกใหญ่ออกไป ซงึ่ มีผล ต่อทง้ั ทรัพยากรและถนนหนทาง ในการสญั จรของชาวบ้านในชุมชน ปัจจุบันบ้านหินลาดมีประชากร 207 คน 50 ครอบครัว การทามา ห า กิ น ห ลั ก คื อ รั บ จ้ า ง ทั่ ว ไ ป นอกจากนั้นยังประกอบอาชีพเสริม ได้แก่ ป ร ะ ม ง พื้ น บ้ า น เ ล้ี ย ง ไ ก่ ท า เครื่องแกง ปลูกผักกามุ้ง ทาสวน ฯลๆ ชาวบ้านมีรายรับไม่พอกับ รายจา่ ย ทาใหเ้ กิดหน้ีสิน พอกพูน นอกจกน้ันยังมีปัญหา เรื่องบาสวนป่าคลองทุ่งมะพร้าวท่ี ยังไม่ได้กันพื้นที่ชุมชนและแหล่งทา มาหากินออก ส่วนแหล่งทามาหากินทางทะเล มี ป่าชายเลนและปากคลองหินลาด คลองบีกา คลองทุ่งมะพร้าว คลอง ลาปี ซ่งึ เป็นทะเลด้านในจึงสามารถ ทามาหากินได้ตลอดท้ัง แต่บริเวณ ทะลแถบเขาหน้ายักษ์และแหลม ปะการัง เป็นทะเลแนวนอก ซงึ่ ต้อง ข้นึ อยกู่ ับสภาพอากาศ พืน้ ท่จี ิตวิญญาณ ศาลพ่อตาหลวงจักร เป็นศาลที่ชาว มอแกลนจาก 4 น คือ ชุมชนมอ แกลนบ้านหินลาด บ้านลาปี บ้าน ทับปลา และบา้ นขนมิ ท า พิ ธี ก ร ม ร่ ว ม กั น ม า ต้ั ง แ ต่ ส มั ย บรรพบุรุษ ชาวมอแกลนที่ยกจนได้ ขายท่ดี ินบริเวณศาลใหค้ นภายนอก ในราคาถูก ปัจจุบันศาลจึงต้ังอยู่ใน พ้นื ท่ี ของเอกชน พิธีสาคัญคือช่วงเดือน ห้า ชาวมอแกลนท้ัง 4 ชุมชนจะมา รวมกันประกอบพิธีเช่นไหว้พ่อตา

จังหวดั ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ 293 ขอ้ เสนอ 5 ชุมชนชาวเลมอ หลวงจักร เป็นพิธีท่ีมอแกลนไห้ แกนเกาะสุรนิ ทร์ ความ อา่ วบอน ม.3 ต. สาคัญมาก ก็ไม่แน่ใจว่าในอนาคต เกาะพระทอง อ.คุ เ จ้ า ข อ ง ท่ี ดิ น จ ะ ย อ ม ใ ห้ เ ข้ า ไ ป ระบุรี จ.พงั งา ประกอบพิธกี รรมไดอ้ ีกหรือไม่ น อ ก จ า ก น้ั น ยั ง มี พ้ื น ที่ ท า ง จิ ต วิญญาณคือ สสานมานาว จานวน 38 ไร่ ซ่ึงปัจจุบันยังไม่ได้กันพื้นที่ ออกจากเขตป่าสงวนป่าคลองทุ่ง มะพรา้ ว ปญั หาชมุ ชน ปัญหาท่ีสาคัญคือความไม่ม่ันคง ด้านท่ีอยู่อาศัยและท่ีทากิน การ ขาดแคลนห้องน้าห้องส้วม ขาด ง บ ป ร ะ ม า ณ ซ่ อ ม แ ช ม ศ า ล า เอนกประสงค์ท่ี เป็นที่ทากิจกรรมชุมชน รวมทั้ง ศาลาพักศพที่ใช้ร่วมกันใน 4 ชมุ ชน ปัญหาลาดับถัดมาคือการขุดทราย และขนส่งโดยรถบรรทุกที่เป็นรถ ขนาดใหญ่ บ้างก็เป็นรถลากพ่วง 18 ล้อ มี น้าหนักมากทาให้เกิดฝุ่นละออง ชาวบ้านเผชิญปัญหาโรคทางเดิน หายใจ ถนนเป็นห ลุมเป็นบ่อ รถจักรยานยนต์และ รถเล็กสัญจรลาบาก ส่วนในทะเลก็ มีเรือลากหอยหวาน เรืออวนรุนตา ถ่ี สาหรับเร่ืองภาษาและวัฒนธรรม ก็มีปัญหาการสูญหายและไม่มีผู้สืบ ทอด ชุมชนมอแกน หมู่เกาะสุรินทร์เป็นบ้านของชาวเล มอแกน ผู้ซ่ึงได้เข้ามาทามาหากิน และอยู่อาศยั ก่อนทีจ่ ะถูก ประกาศเปน็ อุทยานแหช่ าติ ในอดีต ชาวมอแกนใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บน

จงั หวดั ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ 294 ข้อเสนอ 6 ภเู ก็ต ชุมชนมอแกลนหิน เรือกาบางเดินทางไปทามาหากิน ลูกเดียว ต.ไม้ขาว ตามชายฝั่งทะเลและเกาะต่างๆ อ.ถลาง จ.ภเู กต็ ในช่วงฤดูมรสุมที่ทะเลมีคล่ืนลมจัด จะสร้างกระท่อม หรือ เพิงพัก ชั่วคราวบรเิ วณริมชายหาด ชาวมอแกนหมู่เกาะสุรินทร์ถือเป็น ก ลุ่ ม ช น พื้ น มื อ ง ที่ ยั ง ค ง รั ก ษ า ขนบธรรมเนยี มประเพณไี วไ้ ดม้ าก ปัจจุบันชาวมอแกนท่ีเกาะสุรินทร์ ยังอาศัยรวมกันเป็นหมู่บ้านใหญ่ บริเวณอ่าวบอนใหญ่บนเกาะ สุรินทร์ใต้ รวมประชากรกว่า 300 คน ใน 78 ครวั เรอื น ชาวมอแกนมีพิธีกรรมประจาปีท่ี สาคัญ คอื \"เหน่เอน็ หล่อโบง\" หรือ พธิ ีฉลองเสาวิญญาณ บรรพบุรุษ จัดข้ึนในระหว่างวันขึ้น 13-15 ค่าเดือนห้าทางจันทรคติ ชาวมอแกนจะแกะสลกั เสาหล่อโบง ขน้ึ ทาหน้าที่เป็นตัวแทนบรรพบรุ ุษ ผู้ชายเรียกว่า \"แอบาบ\" ส่วนผู้หญิง เรยี กวา่ \"เอบม\" และบางครง้ั มพี ธิ ลี อยเรือสะเดาะเคราะห์ ชาวมอแคลนบ้านหินลูกเดียวหรือ บา้ นเหนือ ชุมชนมอแกลนบ้านหินลูกเดียว หรือบ้านเหนือได้อพยพโยกย้าย จากพ้ืนท่รี ิมหาดมาอยูท่ ี่บริเวณ ปชายเลนแห่งน้เี มื่อ 7-8 ช่ัวอายุคน แ ล้ ว พื้ น ที่ แ ถ บ นี้ มี ค ว า ม อุ ด ม สมบรู ณ์ทงั้ ปลา ปู กงุ้ หอย ชาวมอแกลนใช้เรือขนาดเล็กลอ่ งไป ตามคลองปา่ โกงกาง และทาประมง ขนาดเล็ก เชน่ ทาหยองปู หรือท่ีเรียกว่า \"คันหญ่อง\" ในภาษา มอแกลน ในปัจจุบันชุมชนมอ แกลนบ้านหนิ ลูกเดยี วมปี ระชากร

จังหวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ 295 ข้อเสนอ 7 179 คน ใน 57 ครัวเรือน ความโดดเด่นของชุมชนน้ีคือมีพ้ืนที่ จิตวิญญาณอยู่มากมาย ชื่อของ หมบู่ ้านคือบา้ นหินลกู เดยี วก็ หมายถึงพ่อตาหินลูกเดียว ที่เรียก ในภาษามอแกลนว่า \"บ่าเต็ยเฒ่า ทวด\" หรือ \"บา่ เตยอะบลู ัด\" ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหาดไม้ ขาวท่ีปรากฎให้เห็นเป็นหินก้อน ใหญก่ อ้ นเดยี วไม่หา่ งจากฝั่งมากนัก ก่อนเหตุการณ์สีนามิ บ้านนี้ช่ือว่า บ้านเหนือ แต่ได้มีการเปล่ียนช่ือไป นอกจากพอ่ ตาหนิ ลกู เดียว แล้ว สิ่งศักด์ิสิทธิ์ที่เป็นท่ีรู้จักกัน อย่างแพร่หลายคือโต๊ะปากพระ ซ่ึง ชุมชนบริเวณนเ้ี คารพนบั ถือ อย่างมาก มีการบนบานและแก้บน ดว้ ยการปกั ธง ชุมชนหินลูกเดียวมีปราชญ์ชุมชนท่ี สืบทอดการละเล่น พธิ ีกรรมทางจิต วญิ ญาณ รวมถึงเป็น ชุมชนหลักที่ต้องจัดงานประเพณี นอนหาด ในเดือน 3 ทางจันทรคติ ของทกุ ปี หลังจากการท่องเที่ยวเร่ิมเข้าถึง ชุมชน ก็มีการนาเสนอภูมิปัญญา วัฒนธรรม เพอ่ื ดารงไวซ้ ึง่ การท่องเท่ียวที่สอดคล้องกับวิถี ชีวติ และธรรมชาติ เช่น การออกทา ประมงพ้นื บา้ นแบบมอแกลน การชมสถานทีส่ าคัญทางวัฒนธรรม ก า ร ไ ห ว้ สั ก ก า ร ะ สิ่ ง ศั ก ด์ิ สิ ท ธ์ิ ที่ ชมุ ชนเคารพนับถือ ชมุ ชนชาวเลอูรกั ลา ชมุ ชนชาวอูรักลาโวย้ สะปา โว้ยสะปา ม. ต. มี บ้ า น เ รื อ น 5 3 ห ลั ง แ ล ะ มี เกาะแก้ว อ.เมือง จ. ประชากร 215 คน หมู่บ้านชาวเล ภเู ก็ต สะปานเ้ี รียกกัน

296 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ ในภาษาอูรักลาโว้ย \"ตือโปะ ซืป๊ับ\" คาว่า ตือโปะแปลว่าหมู่บ้าน เมื่อ ประมาณ 50 ปื ท่ีแล้ว ชาวเลจากแหลมกร้าง เกาะ สิเหร่ หรือที่ชาวเลเรียกว่า \"ยูบัน\" ไดย้ ้ายมาตั้งถน่ิ ฐาน อยู่อาศัยทามาหากินทีสะปา ริม ทะเลและริมคลอง ในสมยั กอ่ น หากคนในชุมชนเจ็บป่วยไม่สบาย หรือเสียชีวิตจากโรคระบาด เช่น อหวิ าตกโรค กจ็ ะย้าย หมู่บ้านไปอยทู่ ใ่ี หม่ ในช่วงแรกๆ บ้านเรือนเพยี งไม่กี่สิบ หลัง เปน็ บ้านไม้ไผ่ หลังคามุงจาก ด้านบนหรือด้านใน แผ่นดินมีศาลเจ้าจีนหรืออัมสะปา ทเ่ี รียกกันวา่ \"ศาลเจ้า กวนตกุน\" ตั้งอยู่ ถัดจากน้ันเป็น ท่ีตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยของคนไทย และคนจนี และสมัยน้นั ยังมีโรงฝ่ินอยู่ด้วย ส่วนในป่าชาย เลนน้ันมีตันไม้หลายชนิด บางส่วน เป็นพชื สมุนไพร เชน่ ต้นเหงือกปลาหมอ ช่วงน้ันสภาพร รมชาติยังดีอยู่ มีตัวแม่หอบอยู่มาก ในบรเิ วณนี้ ชาว อูรักลาโว้ยจะเกล่ียกองดินของรัง แม่หอบให้แบนราบและเร่ิมปักเสา กอ่ สร้างบ้าน ชุมชนอูรักลาโวยบ้านสะปาเป็น ชุมชนอุรักลาโว้ยท่ีสร้างบ้านริมน้า มลี กั ษณะบ้านเรือน ท่ีเป็นเอกลักษณ์ ริมชายฝั่งของ ชุมชนเป็นอ่าวที่อุดมสมบูรณ์ เม่ือ เวลาช่วงน้า 5-10 คา

จังหวัด ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ 297 ขอ้ เสนอ 8 ชาวเลที่นี่จะออกหาหอยราก หอ ยติบ หอยแครง หอยผง ซึ่งมีอยู่ท่ัว บริเวณชุมชนมกี ารรวมตวั กันพัฒนาชีวิตตนเอง จัดต้ังกลุ่ม ออมทรัพย์ร่วมฟื้นฟูท่ีอยู่อาศัย อัต ลกั ษณ์ของชมุ ชนคือสะพาน ท่ี เ ป็ น ค อ น ก รี ต ท อ ด ไ ป ต า ม บ้านเรอื นทง้ั หมด เหมาะสาหรับผู้ที่ ตอ้ งการสมั ผัสและทอ่ งเทีย่ ว วถิ ีชาวเล ชุมชนชาวเล ราไวย์ จากคาบอกเล่าของผู้อาวุโสใน ม.2 ต.ราไวย์ อ. ชุมชนราไวย์ แต่เดิมหาดราไวย์เป็น เมอื ง จ.ภูเก็ต ชุมชนทค่ี อ่ นข้างสงบ ลกั ษณะ ภูมิประเทศเป็นอ่าว มีแหลมด้าน ตะวันออกคือแหลมกาและด้าน ตะวันตกคือ แหลมไมไ้ ผโ่ อบล้อมไว้ และยงั มีเกาะด้านนอกรายล้อมช่วย กาบงั คลื่นลมได้เป็นอยา่ งดี ด้ า น ต ะ วั น อ อ ก ข อ ง ชุ ม ช น เ ค ย มี ต้นไม้ใหญ่ๆ ก่อนที่จะถึงบริเวณ หวั แหลมมคี ลองเลก็ ๆ เรียก \"คลองหลาโอน\" ชาวเลมักจะ เกรงใจไม่กล้าปลูกสร้างบ้านเรือน และไม่อยากใหเ้ ดก็ ไปว่งิ เล่น โดยเฉพาะในช่วงค่า เพราะจะเป็น การบกวนเจ้าท่แี ละวญิ ญาณท่ีอยูใ่ น บรเิ วณนัน้ แต่ก็มเี ด็กผูช้ าย ที่ซุกชนแอบเข้าไปว่ิงเล่น และยังมี การเล่าว่าเวลาเล่นซ่อนหาแล้วเคย มีกรณี \"ผชี อ่ น\" คือจะหาเด็ก คนนั้นไม่เจอ ท้ังๆท่ีเด็กก็ยืนแอบ อยบู่ ริเวณนั้นเอง บาไลหรือศาลเคารพท่ีราไวย์น้ีจะมี การจัดทาและมีของเช่นไหว้ต้ัง ในชว่ งงานลอยเรือ ในเดือน 6

298 จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ และ 11 ทางจันทรคติ ชาวเลจะยก เป็นแคร่เต้ียๆ วางไม้แผ่นเพื่อตั้ง ของเชน่ ไหว้ เม่ือเสร็จงานแลว้ กจ็ ะไม่ร้ือศาลและแคร่ แต่จะปล่อย ให้ผุพังไปเองตามธรรมชาติ เมื่อถึง เวลาประกอบพิธีกรรมกจ็ ะทา ศาลและแครข่ นึ้ มาใหม่ แม้จะมีการต้ังถิ่นฐานท่ีถาวรขึ้น แต่ เมื่อถึงฤดูทามาหากินชาวเลอูรักลา โวย้ ก็ยงั มกี ารเดนิ ทาง เคลอ่ื นยา้ ยไปตั้งเพิงพักช่ัวคราวเพื่อ อยู่อาศัยและทามาหากินตามหาด และอา่ วต่างๆ ทม่ี ที รัพยากร ทางทะเลอุดมสมบูรณ์ ต่อมาได้เกิด โคอหิวต์ระบาด ชาวอรู ักลาโว้ยส่วน หน่งึ เลือกทจี่ ะอพยพไป ตั้งถิ่นฐานท่ีเกาะบอน และเกาะเฮ บ้างก็ปลูกข้าวไร่ และต่อมาก็ย้าย กลบั มา เพราะหาดราไวยมี ทาเลท่ีมีความเหมาะสมต่อการอยู่ อาศยั และทามาหากินทางทะเลและ สะดวกในการเดินทางติดต่อ แลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าจากทะเล กับคนในชุมชนท้องถ่ินบนฝั่งและ ตลาดในเมือง ในปี พ.ศ. 2456 มีการตัง้ โรงเรียนที่ วัดสว่างอารมณ์ซ่ึงอยู่ไม่ใกลจาก ชุมชนชาวเลมากนกั โดยมี ชื่อเดิมว่า \"โรงเรียนประชาบาลตา บาลราไวย์ ใน พ.ศ. 2482 มี หลกั ฐานท่ีแสดงวา่ มีเดก็ นกั เรยี น ชาวอูรักลาโวยมีโอกาสเข้าโรงเรียน ประชาบาลตาบลราไวย คือสมุด ทะเบยี นนกั เรยี นเล่มแรกของ โรงเรียน ชาวเลใช้พื้นท่ีบริเวณหาด ราไวย์มาอย่างต่อเน่ือง เพราะ ภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่

จังหวดั ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ 299 ขอ้ เสนอ 9 กระบ่ี ในช่วงปี พ.ศ. 2493 แสดงว่ามีการ ท า น า ค า แ ล ะ มี ม ะ พ ร้ า ว ยื น ตั น จานวนมากขึน้ อยู่บริเวณหมบู่ า้ น ต่อมา มีการประกาศให้ไปแจ้งการ ครอบครองที่ดิน แต่ชาวเลไม่มีลาย ลกั ษณอ์ กั ษร และไมไ่ ด้มรี ะบบ คิดเรื่องกรรมสิทธิ์ครอบครอง ก็ ไมไ่ ด้อ้างสิทธิดังกล่าว จึงเกิดปัญหา เรอื่ งความม่ันคงด้านทอ่ี ยู่อาศัย มาจนกระทั่งถงึ ปจั จบุ นั ชุมชนชาวเลอรู ักลา ชุมชนอูรักลาโว้ยโต๊ะบาหลิวมี โวย้ โตะ๊ บาหลวิ ต. ประชากร 120 คน ใน 52 ครัวเรอื น ศาลาด่าน บา้ นส่วนใหญส่ รา้ งดว้ ย วัสดุรรมชาติและสังกะสี หันหน้า ออกทะเล ซึ่งเป็นลักษณะแบบต้ัง เดมิ ของชุมชนชาวเล ชายหาด หน้าหมู่บ้านเป็นดินเลนปนทราย และถัดออกไปเปน็ บรเิ วณจอดเรอื ชุมชนอูรักลาโว้ยโต๊ะบาหลิวเป็นท่ี พ้ืนท่ีจอดเรือที่ถูกใช้มาก่อน ผศ. 2360 หลงั จากทย่ี า้ ยจาก บ้านในไร่/ศาลาด่านไปอยู่บริเวณ เตาเผาถ่านที่บ่อแหนเพ่ือทาอาชีพ รับจ้างตดั ไมแ้ ละเผาถา่ น เมือ่ หมด ยุ ด ผ่ า น จ ะ ก ลั บ ไ ป อ ยู่ บ้ า น ใ น ไ ร่ พบว่าที่ดินกลับถูกจับจองไปแล้ว จึงย้ายมาอยู่บริเวณหาดตรงนี้ ศนู ยร์ วมจิตใจทส่ี าคัญในชุมชนน้ีคือ ศาลเจ้าโต๊ะบาหลิว ซ่ึงในอดีตตั้งอยู่ บรเิ วณบอ่ แหน ศาลนี้ เป็นท่ีสิงสถิตของวิญญาณบรรพ บุรุษท่ีเป็นท่ีเคารพของชาวอุรักลา โว้ย เม่อื พืน้ ทบี่ อ่ แหนถกู จบั จอง ไปอีก ศาลก็ยังตั้งอยู่ท่ีเดิมและชาว อุ รั ก ล า โ ว้ ย ยั ง เ ดิ น ท า ง ก ลั บ ไ ป ประกอบพธิ ีลอยเรือหรือพธิ กี รรม

จังหวัด ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ 300 ข้อเสนอ 10 ความเช่ือท่ีศาลโต๊ะบาหลิวบนบ่อ แหน แต่ต่อมาก็มีการอัญเชิญ วิญญาณและศาลมาต้ังในบริเวณนี้ เม่ือรัฐประกาศเขตอนุรักษ์บริเวณ ป่าชายเลน ทาให้ชุมชนตกอยู่ใน ทดี่ นิ รัฐไม่สามารถเข้าถงึ ระบบ สาธารณูปโภคพ้ืนฐาน แต่ปัจจุบัน ได้มีการปรึกษาหรือและตกลงกัน เพื่อนาไฟฟา้ เขา้ ชมุ ชนแล้ว ชุมชนโต๊ะบาหลิ่วเป็นชุมชนที่มี นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากมาย เพราะหลังจากที่มีมติ ครม. 2553 ก็มีการหนุนเสริมจกหน่วยงานและ องค์กรต่างๆ ให้พัฒนาพ้ืนท่ีเพื่อ เปน็ จุดรองรบั นกั ท่องเท่ียว สภาพบ้านเรือนท่ีอยู่ในน้า ศาล บรรพบุรุษอยู่กลางหมู่บ้าน มีชาวอุ รักลาโว้ยออกจบั ปลาและซอ่ ม เครื่องมือประมง เป็นบรรยากาศท่ี ชวนให้มาทอ่ งเที่ยวเรียนรู้วถิ ชี าวเล งานประเพณีสาคัญและต่ืนตาต่ืนใจ ในชุมชนน้ีคือพิธีลอยเรือ จัดขึ้นปี ละ 2 ครัง้ ในเดือน 6 และ เดอื น 11 ทางจันทรคตเิ มอ่ื โต๊ะหมอ ประกอบพิธีกรรมแล้วก็จะลอยเรือ น้อี อกไปในช่วงเชา้ มดื ของ วันข้ึน 15 ค่าให้เรือนี้นาเคราะห์ ร้ายโรคภัยไข้เจ็บออกไปจากชุมชน ต่อมาก็นาเสาไม้ 7 ต้นมาปกั หน้าหมู่บ้านเพ่ือกันไม่ให้เคราะห์ ร้ายกลับเข้ามาในชุมชน และโต๊ะ หมอเสกนา้ มนตเ์ พอื่ อาบสะเดาะ เคราะหแ์ ละให้เป็นสริ ิมงคล ชุมชนชาวเลสังกาอู้ ชาวเลเกาะลันตาอย่อาศัยมาก่อนที่ ม.3 ต.เกาะลันตา บริเวณน้ีจะกลายเป็นเส้นทาง การค้าทางทะเล โดยเฉพาะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook