Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชาวเล

Description: ชาวเล

Search

Read the Text Version

จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ 301 ขอ้ เสนอ ใหญ่ อ.เกาะลันตา อย่างย่ิงบริเวณด้านตะวันออกเฉียง จ.กระบ่ี ใต้ ถือว่าเป็น \"เมืองหลวง\" ของชาว อูรักลาโวย้ เพราะเป็น ถิ่นแรกๆ ที่มีการต้ังถ่ินฐานอย่าง ถาวร และเป็นชุมชนท่ีมีญาติพ่ีน้อง ทยอยกันเขา้ มาอยู่เปน็ ชุมชนใหญ่ จากคาบอกเล่าจากผู้อาวุโส และ จากช่ือภูมินามบริเวณรอบหมู่เกาะ ลันตาทเี่ ปน็ ภาษาอูรักลาโวย้ ลัวนบ่งบอกว่าชาวเลเป็นกลุ่มชาติ พันธ์ุแรกๆ ที่เข้ามาต้ังถิ่นฐาน แต่ ด้วยวิถีเร่ร่อนหากนิ ทางทะเล ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยไม่ มีการจับจองพื้นที่เพ่ือตั้งถ่ินฐาน ถาวร อาศัยพกั พงิ ชัว่ คราวตาม ชายฝั่งทะเลเฉพาะช่วงฤดูมรสุม เมื่อกลับมาแหล่งเดิมจึงมักถูกคน กลุ่มอื่นเข้ามายืดครอง ชาวอูรักลา โวย้ จึงต้องหาแหล่งพักพิงใหม่ไปเรื่อยๆ ชาวอุรักลาโว้ยเรียกเกาะลันตาว่า \"ชาตกั๊ \" สว่ นชอื่ ของชุมชน \"สังกา\" ก็มาจากคาภาษาอรู ักลาโว้ย สองคาคือ \"อีชัก\" แปลว่าเหงือก และ \"กาอ\"ู้ ทแี่ ปลว่าปลา กระเนราหู ท่ีเรียกชื่อเช่นนั้นพระ บริเวณอ่าวมีหินท่ีมีรูปร่างคล้าย เหงอื กปลากระเบนอย่ชู มุ ชนน้ี เคยเป็นแหล่ง\"บามัด\" ตั้งเต็มหรือ จุดที่ตั้งที่พักหาปลาตามฤดูกาล แต่ ต่อมาชาวอรู กั ลาโว้ยทยอยย้าย จากหัวแหลมมาที่น่ี ตั้งแต่ประมาณ พศ. 2360 หรือนับได้ประมาณ 8 ชั่วอายุคนมาแล้ว เน่อื งจาก เป็นถ่ินอาศัยมานาน ชาวเลจึง กระจายตัวไปอยู่อาศยั และทามาหา กนิ รอบเกาะ และมีพิธีสาคัญคือ

จงั หวดั ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ 302 ขอ้ เสนอ 11 ชมุ ชนชาวเลแหลม งานลอยเรือท่ีชุมชนต่างๆ จะ ตง ม.2 ต.อา่ วนาง รวมตัวกันมาฉลองร่วมกัน เล่ากัน อ.เมือง จ.กระบ่ี ว่าโต๊ะคีรี ผู้นาท่ีเดินทางไปตั้งถ่ิน ฐาน อยู่ท่ีเกาะหลีเป๊ะ ก็ชักชวนชาวเล หลายครอบครัวไปต้ังถิ่นฐานจน กลายเป็นชุมชนใหญ่ ปจั จุบันพื้นที่ธรรมชาติบริเวณน้ีของ เกาะลันตาคอ่ ยๆ ถกู จบั จอง สร้างเป็นสถานท่ีรับนักท่องเท่ียวท่ี หล่งั ไหลเข้ามามากขนึ้ ๆ ทุกปี ชาว อู รั ก ล า โ ว้ ย ที่ น่ี ป ร ะ ก า ศ เ ข ต วัฒนธรรมพิเศษตามมติครม.เพื่อ ฟืน้ ฟวู ิถชี ีวิต ชาวเล 2 มิ.ย. 2553 โดยมีบ้านร็อง เงง็ และพิพธิ ภัณฑ์บอกเลา่ เร่ืองราว ของชุมชน ส่วนด้านการรองรับการ ท่องเทย่ี ว นักทอ่ งเทยี่ วสามารถ ติดต่อให้เรือชาวอูรักลาโว้ยพาไป เท่ียวทะเลและดาน้าตามจุดต่างๆ หรือ ตามไปดูวิถีประมงพื้นบ้านตาม คว ามช านาญ ท่ีสืบทอ ดกันม า ยาวนาน ชุ ม ช น อู รั ก ล า โ ว้ ย บ้ า น แ ห ล ม ต ง เกาะพพี่ ี กล่าวกันว่าช่ือเกาะ \"พีพี\" จากคา ภาษาอูรกั ลาโวย้ ว่า \"บีบ้ี\" หรือ \"บีบ ร้ี\" ซงึ่ แปลวา่ การให้ หมายถึงว่ามีคนแวะเวียนมาจอด พกั และมกี ารให้ผลติ ผลจากสวนไม่ ว่าจะเป็นกล้วย มะม่วงหรือไม่ก็ให้ ปลาและสัตว์ทะเลต่างๆ เพราะ ความอุดมสมบูรณ์ของเกาะเมื่อกว่า 40 ปีทแ่ี ล้ว

303 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ เกาะพีพีเป็นสวรรค์สาหรับชาวเล เพราะแมจ้ ะอยหู่ ่างไกลจากฝั่ง แต่ก็ อุดมสมบูรณไ์ ปดว้ ยทรพั ยากร ในป่า ชายฝัง่ และในทะเล ชาวเลแหลมตงปลูกข้าวไร่ด้วย ซ่ึง พื้นทปี่ ลูกข้าวกระจายกันอยบู่ นเนิน และไหล่เขา ในสมยั กอ่ น จึงมีอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ ท้ัง ชุมชนมีไม้ยืนตันหลายชนิด ไม่ว่า จะเป็นตันมะพร้าวท่ีสูงลิ่ว ต้นเหรี ยง ต้นมะขาม ตน้ มะมว่ ง ต้นมะมว่ ง หิมพานต์ ฯลฯ และยังมีไม้ล้มลุก เช่น กลว้ ย และพชื สวนครัวต่างๆ ชาวอูรักลาโว้ยเกาะ พีพีในสมัยก่อนเดินทางไป \"บาฆั๊จ\" เช่นเดียวกับชาวอูรักลาโว้ยเกาะ อ่นื ๆ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2516 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ พลอดลุ ยเดช สมเด็จพระนางเจา้ สิริกิติ์ พระบรมรชินีนาถ สมเด็จ พระเจา้ ลกู เธอเจ้าฟา้ สริ ินธรฯ (พระ นามในขณะน้นั ) และสมเด็จ พระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัย ลักษณ์ฯ เสด็จโดยเรือรบหลวง มายงั เกาะพีพี ชาวเลอาวุโส ยังจาการเสด็จคร้ังนั้นได้ดี ต่อมาใน วันที่ 11 มนี าคม พ ศ. 2518 สมเดจ็ พระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรที่โรงเรียนบ้าน เกาะ พีพี ชาวเลหลายคนยังจาได้ ว่าชาวบ้านที่ไปรบั เสดจ็ ไดร้ บั แจกผ้าห่ม ผ้าถุง ผ้าขาวม้า ส่วน เด็กๆ กไ็ ด้ของเล่น พื้นท่ีส่วนหน่ึงของเกาะได้รับการ ประกาศ เป็นอุทยานแห่งชาติในปี พศ. 2526 ต่อมาเรม่ิ มี

จงั หวัด ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ 304 ข้อเสนอ 12 ผู้เข้ามาท่องเที่ยว และกลายป็น แหล่งท่องเที่ยวสาคัญแห่งหน่ึง ไน ชว่ งน้นั พอ่ ค้าคนกลางและเถา้ แก่ ทใี่ ห้ชาวเลชอื้ สินค้าชอ่ื ก็เริมยดื ท่ดี ิน จากชาวเล มีการทาสัญญาเช่าที่ดิน ชาวเลบางรายก็ขายทด่ี นิ ไป บา้ งก็รเู้ ท่าไม่ถึงการณ์ การเข้ามาของนักท่องเท่ียวทาให้ ธุรกิจท่องเท่ียวและโรงแรมเติบโต ข้ึนมาก ท่ีดินมีราคาสูงขึน้ แ ล ะ พ้ื น ที่ ช า ย ห า ด เ ป็ น เ ป้ า ห ม า ย ข อ ง ก า ร จั บ จ อ ง ค รั้ ง น้ี ก า ร พัฒนาการทอ่ งเทย่ี วอยา่ งไร้ทิศทาง ขา ด ก าร ว า ง แผ น เ พ่ื อป ก ป้ อ ง คุ้มครองชุมชนพ้ืนเมืองจึงเป็นตัน ตอของการสูญเสียที่ดนิ ของชาวเล สว่ นสุสานตง้ั เดมิ ของชาวเลบนเกาะ พีพี ซ่ึงเดิมมีอยู่หลายแห่ง โดยมี พ้ืนทห่ี ลักอยูบ่ รเิ วณปาตยั ซูโซย่ น้ัน ปัจจุบันกลายสภาพเป็นส่วน หนึง่ ของโรงแรมไปแลว้ ชมุ ชนชาวเลอูรักลา เมื่อก่อนสงครามโลกคร้ังที่2 ชาวอุ โว้ยเกาะจา ต.ศรี รักลาโว้ยได้เข้ามาตั้งถ่ินฐานโดย บ่อยา อ.เหนอื สร้างกระท่อมบริเวณเกาะจานุ้ย คลอง หรือที่มีชื่อเรียกภาษาชาวเลว่า ปู เลา กือจับ เดอมิ บริเวณคลองคอ คอดซ่ึงสามารถจะออกทะเลได้ท้ัง สองดา้ นช่วงนั้นมีกระทอ่ มประมาณ 20 หลังแม้จะตั้งหลักปักฐานก็ยัง เดินทางไปหาปลาและสัตว์ทะเล อ่ืนๆรอบบริเวณเกาะจาและเกาะ ต่างๆมีการต้ังเพิงพักชั่วคราวตาม หาดและอ่าวหลังจากนั้นก็จะย้าย ไปบริเวณอื่นคร้ังละหลายวัน ช่วง สงครามโลกครั้งท่ี2ทหารญ่ีปุ่นเร่ิม เข้ามาตามเกาะและฝั่งทะเลอันดา มันรวมถึงหมู่บ้านเกาะจาเพ่ือจับ

จงั หวดั ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ 305 ข้อเสนอ 13 สตลู ชมุ ชนชาวเลเกาะ ผู้ชายเป็นเฉลยโชดดีท่ีไม่มีใครเคย 14 หลีเปะ๊ ต.เกาะ ถูกจับตัว นอกจากนั้นยังเกิดการ สาหรา่ ย ระบาดของโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ อ.เมอื ง ส่งผลให้เสียชีวิตจานวนมากทาให้อุ ชุมชนชาวเลเกาะ รักลาโว้ยพากันอพยพหาที่อยู่อาศัย อาดัง ต.เกาะ ใหม่แต่เมือเวลาผ่านไปสักระยะ สาหรา่ ย อ.เมือง หนึ่งก็กลับไปอยู่ที่เดิม ช่วงต่อมามี กลุ่มมุสลิมเข้ามาอาศัยบริเวณบ้าน ติงไหรและบ้านเกาะปูโดยประกอบ อาชีพประมงพ้ืนบ้านเล็กๆท้ังอุรัก ลาโว้ยและมุสลิ่มได้นาสัตว์ทะเล แลกเปล่ียนคราว ต่อมามีชาวจีนมา รับซ้ือปลาและเปิดขายของชาและ จะนาสัตว์น้าไปขายที่ตลาดคลอง ท่อม เน่ืองจากชาวอุรักลาโว้ยไม่ได้ ยึดติดการเป็นเจ้าของที่ดินและไม่รู้ กฎหมายจึงไม่ได้ไปแจ้งครอบครอง ทาให้เกิดปัญหาความไม่มั่นคงในท่ี อ ยู่ อ า ศั ย แ ล ะ ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ สาธารณปู โภคตา่ งๆ ประวัติศาสตร์บอกเล่าจากชุมชน ระบุว่าชาวเลอุรักลาโว้ยอยู่อาศัย และทามาหากนิ บริเวณเกาะ และชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง มานาน ต่อมาจึงมีเหตุการณ์สาคัญ คอื โต๊ะคีรนี ักเดนิ ทางเช้อื สาย มาลายหู รืออินโดนเี ชียและผู้นาชาว อูรักลาโว้ยหลายคน ได้ชักชวน ชาวบา้ นจากเกาะลนั ตาและ เกาะสิเหร่มาอยู่ท่ีเกาะหลีเป๊ะ เกาะ อาดัง ในช่วงการปักปันเขตแดน ระหวา่ งสยามและ องั กฤษ ในประมาณปี พ.ศ. 2452 การส่งเสริมให้มีการตั้งถิ่นฐานอย่าง เ ป็ น ท า ง ก า ร ห รื อ ถ า ว ร นี้ สันนิษฐานวเ่ พื่อจะเป็นข้อตอ่ รอง

306 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ ในเรื่องเขตแดน โดยได้มีการบันทึก ไว้อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2455 ดงั ที่มเี อกสารระบุว่าได้ รวบรวม \"ชาวน้า\" จากหลายแห่งมา อยู่ท่ีเกาะอาดัง เกาะโลน และเกาะ โกย โดยไดท้ ามาหากิน ด้วยการเพาะปลูกมะพร้าวเป็นส่วน ใหญ่ และทาการประมง ต่อมาในปี พ.ศ. 2481 หมเู่ กาะบริเวณน้ี กลายเปน็ ส่วนหน่งึ ของจงั หวัดสตลู ต่อมาในปี พศ. 2482 มีการต้ัง ทัณฑสถานท่ีเกาะตะรุเตา และ ในช่วงปี พ.ศ. 2484-2488 เกดิ ความขาดแคลนจากสงครามโลก ครั้งที่สอ นอกจากน้ันยังมีชาวอุรัก ลาโวย้ จากที่อนื่ ๆ ยา้ ยหนีภยั สงครามมาอยู่ท่ีหลีเป๊ะด้วย ในปี พ, ศ. 2517 มีการประกาศพื้นท่ีเป็น อุทยานแหง่ ชาตติ ะรเุ ตา ทาให้ ชาวอูรักลาโว้ยท่ีพักอาศัยบริวณ หมู่บ้านชั่วคราวและแหล่งบามัด ตามเกาะตง่ ๆ ถูกโยกยา้ ยมารวมกัน ที่เกาะหลีเป๊ะ ในช่วงน้ัน (2517) มี ประชากรชาวอูรักลาโว้ย 387 คน ในปัจจบุ ันชุมชนมปี ระชากร 933 คน ใน 185 ครัวเรอื น ต่อมาเม่ือการเดินทาไปมาเกาะ หลีป๊ะสะดวกข้ึน คือเร่ิมมีเรือ โดยสารประจาในปี พ.ศ. 2523 ก็ ท า ใ ห้ มี ค น ภ า ย น อ ก แ ล ะ นักท่องเที่ยวเร่ิมเข้ามาที่เกาะมาก และต่อจากนั้น การท่องเท่ียวก็เร่ิม ขยายตวั ทาให้ภูมิทัศน์วัฒนธรรมของชาวเล ค่อยๆ หายไป จากการที่เคยมี ก ร ะ ท่ อ ม แ ล ะ บ้ า น เ รื อ น อ ยู่ ริ ม ชายหาด

307 จังหวดั ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ ตามวิถีชาวเล กลับต้องถอยร่นเข้า ไปอยูด่ ้านในและเปิดทางให้โรงแรม รีสอรท์ ใชพ้ นื้ ท่ีชายหาดและ ริมทะเลสาหรับนักท่องเท่ียว และมี ปัญหาเร่ืองกรรมสิทธ์ิท่ีดินท่ียัง ต่อเนอื่ งมาถงึ ปัจจุบัน

308 7.4.2 ข้อมูลพ้ืนท่ีสุสาน พนื้ ทีท่ างจติ วิญญาณของชาวเล ในอันดามัน 24 แห่ง ในจังหวดั ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบ่ี สตูล ในความรับผดิ ชอบของคณะกรรมการแกไ้ ขปญั หาความมน่ั คงในท่ีอาศยั ทที่ ากนิ และ พ้นื ทีท่ างจติ วิญญาณของชุมชนชาวเล โดย มี นาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเป็นประธาน จังหวัด ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 1 ภูเก็ต สุสานแหลมตุ๊กแก 1. กรณีการแก้ไขปัญหาสุสาน (2) ให้จังหวัดภูเก็ต โดยสานักงานท่ีดิน เก าะ สิเ ห ร่ ตา บ ล ชาวเล จังหวัดภูเก็ตเร่งดาเนินการรังวัดเพื่อกัน รษั ฎา แหลมตุ๊กแก (เน้อื ที่ ๙ ไร่) พื้นที่ออกประมาณระยะ ๓๐๐ เมตร เพื่อ อาเภอเมืองภูเก็ต (1) ออก นสล. เลขที่ ภก ใชเ้ ป็นทางสาธารณประโยชน์ จังหวดั ภเู ก็ต 0 0 1 6 ป ร ะ เ ภ ท พ ล เ มื อ ง ใ ช้ ประโยชน์ร่วมกัน (ท่ีฝังศพบ้าน เกาะสิเหร่-สาธารณประโยชน์) เนื้อที่ 9-3-45 ไร่ แล้วเมื่อวันท่ี 29 มิถุนายน 2537 แต่ต่อมา ภ า ย ห ลั ง แ น ว เ ข ต ไ ม่ ชั ด เ จ น / กลายเปน็ คนละแปลง (2) เกี่ยวเนื่อง (1) ข้อพิพาท เร่ื อง สิท ธิใ นที่ ดิ น กับ เอ กช น เ น่ื อ ง จ า ก เ อ ก ช น ท า ป ร ะ ตู ปิ ด ทางเข้าออกสุสาน (สอบถาม ขปส. เพ่ิมเติมว่าขอให้เอกชน อุทิศที่ดินเป็นทางเข้าออก หรือ ขอใช้ทางเข้าออกแต่สิทธิในท่ีดิน ยังเป็นของเอกชน) 2 สสุ านสสุ านเด็ก และ เป็นพื้นที่ทาพิธีกรรมฝังศพของ 1. ขอให้กรมที่ดินตรวจสอบเอกสารสิทธ์ิ ศาลบรรพบรุ ุษชาวเล เด็ ก ที่เ สี ย ชีวิ ต มา ตั้ ง แต่ อ ดี ต ของผูถ้ ือกรรมสิทธิ์ทีด่ ิน (ราไวย)์ ม.2 ต.รา จานวน 1 ไร่เศษ แตป่ ัจจุบนั ไม่ฝัง 2. กันพืน้ ที่เป็นเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม ไวย์ อ.เมือง จ.ภเู กต็ แ ล้ ว เ อ ก ช น ถื อ ก ร ร ม สิ ท ธ์ิ ประเภท สุสานชาวเล ครอบครอง 5 กระบี่ สุสานบ่อแหน เกาะ (เนือ้ ที่ประมาณ ๑๐ ไร่) 1. ให้กระทรวงทรัพฯ ตรวจสอบพื้นที่และ ลั น ต า ( ป่ า ส ง ว น 1. จั ง ห วั ด ก ร ะ บ่ี ม อ บ ห ม า ย กนั แนวเขต แห่งชาติ ป่าคลอง ตรวจสอบขอ้ เท็จจริง ดังน้ี 2. ออก นส,.ป่าชา้ ชาวเล โ ห น ด ,ป่ า ลั ด บ่ อ

309 จังหวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ แหน)ตาบลศาลาด่าน (๑ ) ป ร ะ วั ติ ข อ ง ที่ 3 . ป ร ะ ก า ศ เ ป็ น เ ข ต คุ้ ม ค ร อ ง ท า ง อาเภอเกาะลันตา สาธารณประโยชน์สุสานชาวเล วัฒนธรรมชาวเล ประเภท สุสานชาวเล จงั หวัดกระบ่ี บ่อแหน ตาม มติ ครม. 2 ม.ิ ย.53 (ท่ีอ้างว่าเป็นสุสานฝังศพด้ังเดิม) วา่ มคี วามเปน็ มาและสภาพการ ใช้ประโยชน์เพ่ือฝังผู้เสียชีวิตของ ชาวเลทุกหมู่บ้านในเกาะลันตาที่ มีเชื้อสายของชาวเลโต๊ะบาหลิว จากการบันทึกประวัติศาสตร์ว่า” เกาะลันตา”เป็นเมืองหลวงของ ชาวเล และตามข้อมูลการสืบช่วง อายุคน สุสานน้ีชาวเลเร่ิมฝัง ตัง้ แต่กอ่ น พ.ศ.2200 (๒) มีการฟ้องร้องกันระหว่าง ผู้สัมปทานพื้นที่บริเวณสุสานทา เตาถา่ นเมือ่ 40 ปีท่ีแล้วกบั ผทู้ เี่ ข้า อยู่อาศัยภายหลังสัมปทาน ผล ปรากฏว่า ผู้ที่เข้าอาศัยหลัง สัมปทานชนะคดี แต่ยังไม่มีการ ดาเนินการกันสุสานออก ทาให้ ชาวเลตีผลกระทบจากการห้าม เข้าไปฝัง 6 สุสานคลองสองปาก จากการประชุมหารือร่วมกับ ส า นั ก ง า น ท่ี ดิ น จั ง ห วั ด ก ร ะ บ่ี เ ร่ ง เกาะลนั ตา จัง ห วัด ก ระ บี่ เ มื่ อวั น ที่ ๑ ๖ ดาเนินการออก นสล. ประเภทป่าชาวเล หมู่ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เพ่ือติดตาม ในพ้ืนที่สุสานชาวเลคลองสองปากให้แล้ว ตาบลศาลาดา่ น การแก้ไขปัญหาของ ขปส. การ เสร็จ แล้วรายงานให้คณะอนุฯชาวเล- อาเภอเกาะลนั ตา แก้ไขปัญหากรณีสุสานชาวเล กะเหรยี่ งทราบโดยทันที จังหวัดกระบี่ คลองสองปาก ซึ่งท่ีประชุมได้มี แนวทางในการแก้ไขปญั หาดงั น้ี ๑) เทศบาลตาบลศาลาด่าน รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ เกี่ยวข้องส่งให้สานักงานที่ดิน จังหวัดกระบี่ สาขาคลองท่อม ส่ ว น แ ย ก เ ก า ะ ลั น ต า เ พ่ื อ ดาเนินการยื่นขอรังวัดพ้ืนที่และ ออกหนังสอื สาคญั สาหรับทหี่ ลวง

310 จังหวดั ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 7 ๒) สานักงานที่ดินจังหวัดกระบ่ี 8 สาขาคลองท่อมส่วนแยกเกาะลัน ตาส่งสาเนา น.ส. ๓ ก แปลงทดี่ ิน ที่มีผู้อุทิศ เนื้อท่ี ๑ – ๑ – ๓๐ ไร่ ให้เทศบาลตาบลศาลาด่าน เพ่ือ ดาเนนิ การยื่นเรื่องขอออกหนังสือ สาคญั สาหรับทห่ี ลวง ท้ังนี้ เจ้าพนักงานท่ีดิน จังหวัดกระบ่ีได้ช้ีแจงขั้นตอนการ ขอออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ี หลวง ว่า ในกรณีท่ีไม่มีผู้ใด คัดค้านพื้นที่ดังกล่าวจะสามารถ ดาเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายใน ๙๐ วัน โดยเมื่อดาเนินการแล้ว เสร็จให้รายงานให้สานักงานปลัด สานักนายกรฐั มนตรีทราบด้วย สสุ านโหนทราย หมู่ท่ี พ้ืนที่กาลังมีการท่องเที่ยวเพ่ิม ให้กรมที่ดิน ดาเนินการเร่งตรวจสอบ ๗ เกาะลันตา มากขึ้น มีนายทุนบุกรกและนารั้ว พื้นท่ีและประกาศออก นสล. ประเภทป่า ตาบลเกาะลันตาใหญ่ มาปัก ชาวเลได้ไปถอนออกจนได้ ชา้ ชาวเล อาเภอเกาะลนั ตา กลายเป็นความขัดแย้ง เป็นที่ดิน จังหวัดกระบ่ี (เน้ือท่ี สาธารณะ (ที่ดินวา่ งเปล่า) ชาวเล ประมาณ ๒ ไร่) ได้ขอให้ อบต.เกาะลันตาใหญ่ จัดสรรงบประมาณและบุคลากร ลงรังวัดและดาเนินการกันแนว เขต ทาง อบต.บอกว่าได้ทาแล้ว แ ต่ ยั ง ไ ม่ เ ห็ น เ อ ก ส า ร แ ล ะ เจ้าหนา้ ทก่ี ย็ งั ไมล่ งรังวัด สุสานแหลมทงุ่ ยงู หมู่ ติดดตามการแก้ไขปัญหาของ เร่งกันพ้ืนท่ีและประกาศในหนังสือสาคัญ ที่ ๗ ขปส. การแก้ไขปัญหากรณีสุสาน ที่หลวง เป็นนสล. เป็นการใช้ประโยชน์ ตาบลเกาะลนั ตาใหญ่ ชาวเลบ้านแหลมทุ่งยูง ซึ่งท่ี ประเภทช้าชาวเล อาเภอเกาะลนั ตา ป ร ะ ชุ ม ไ ด้ มี แ น ว ท า ง ใ น ก า ร จังหวดั กระบี่ (เน้ือท่ี แก้ปญั หา ดงั นี้ ประมาณ ๒ ไร่) ๑) กรณีการขอออกหนังสือ ส า คั ญ ส า ห รั บ ที่ ห ล ว ง เ จ้ า พนักงานท่ีดินจังหวัดกระบี่ช้ีแจง ว่า พื้นท่ีสุสานดังกล่าวมีการออก หนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงแล้ว

จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ 311 ข้อเสนอ เลขท่ี กบ ๐๔๐๔ เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๔๓ อย่างไรก็ดี ขอให้เทศบาลตาบลศาลาด่านยื่น ขอรังวัดใหม่เพื่อความชัดเจน เนื่องจากพ้ืนท่ีดังกล่าวได้ออก ห นั ง สื อ ส า คั ญ ส า ห รั บ ที่ ห ล ว ง ต้งั แตป่ ี ๒๕๔๓ ๒) กรณีการออกโฉนดที่ดิน เลขที่ ๓๙๔ และ ๓๙๕ ทับพื้นท่ี สุสานชาวเลบ้านแหลมทุ่งยูง เจ้า พนักงานท่ีดินจังหวัดกระบ่ีชี้แจง ว่า การออกโฉนดท่ีดินดังกล่าว ไม่ได้ทับซ้อนกับพน้ื ท่ีสุสานชาวเล แต่อย่างใด ท้ังนี้ สานักงานที่ดิน จังหวัดกระบี่ได้สาเนาหนังสือ ส า คั ญ ส า ห รั บ ที่ ห ล ว ง ใ ห้ ภ า ค ประชาชนทราบแล้ว ๓) กรณีการดาเนินการแก้ไข ปัญหาเร่ืองร้องเรียนของราษฎร ในพ้ืนท่ีขอให้อาเภอ/ท้องถิ่น/ ผู้นาชุมชน ชี้แจงทาความเข้าใจ แ ล ะ แ จ้ ง ค ว า ม คื บ ห น้ า ใ ห้ กั บ ราษฎรในพ้ืนที่ได้รับทราบการ ดาเนินการแก้ไขปัญหาของส่วน ราชการทเี่ กีย่ วขอ้ งดว้ ย ๔) มอบหมายผู้แทนกระทรวง ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ส่ิงแวดล้อมสรุปข้อเท็จจริงใน พื้ น ท่ี ก ร ณี ดั ง ก ล่ า ว เ ส น อ ต่ อ ท่ี ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไข ปัญหาความม่ันคงในท่ีอยู่อาศัยฯ เพ่ือพิจารณาในคราวประชุมครั้ง ตอ่ ไป ๕) ชาวเลเกาะลันตาทใ่ี ชส้ ุสาน แหลมทุ่งยูง มีความกังวลว่าจะ เกิดเหตุการณ์การบุกรุกพ้ืนที่ สสุ านเพ่ือใช้ทาประโยชน์อย่างอ่ืน

312 จงั หวดั ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 9 เพราะกฎหมายเอ้ือให้มีการทา 10 ประช าคมเพ่ือเปลี่ยนแปลง ประโยชน์การใช้พ้ืนที่ร่วมกันได้ อย่างเช่นท่ีเกิดข้ึนกับ สุสานปา กวีป สุสานทุ่งหว้า อ.ตะก่ัวป่า จังหวดั พังงา สสุ านคลองดาว ท่ี ๗ เป็น นสล.แล้ว แต่ยังไม่เป็น ปะ - เร่งกันพื้นท่ีและประกาศในหนังสือ ตาบลเกาะลนั ตาใหญ่ เภทป่าช้า สาคัญที่หลวง เป็นนสล. เป็นการใช้ อาเภอเกาะลันตา ประโยชนป์ ระเภทชา้ ชาวเล จังหวัดกระบี่ - ชาวเลเกาะลันตาที่ใช้สุสานคลองดาวมี ความเห็นเช่นเดียวกับแหลมทุ่งยูง และมี ความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์การบุกรุก พ้ืนท่ีสุสานเพื่อใช้ทาประโยชน์อย่างอื่น เพราะกฎหมายเอ้ือให้มีการทาประชาคม เพื่อเปล่ียนแปลงประโยชน์การใช้พื้นที่ ร่วมกันได้ อย่างเช่นท่ีเกิดข้ึนกับ สุสานปา กวีป สุสานทุ่งหว้า อ.ตะก่ัวป่า จังหวัด พงั งา สสุ านยรี ัยแหลมตง สุสานที่ 1 ด้ังเดิม ๒๐๐ ปี ๔ ไร่ 1. ให้กรมอุทยานฯเร่งดาเนินการกันพื้นที่ และพ้ืนท่ีประกอบ ปัจจุบันถูกทับด้วยโรงแรม พีพี ประกาศเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรมฯ พิธกี รรม เกาะพีพี ม. ออร์คิด อินน์ ไปแล้วห้ามชาวเล ชาวเล ประเภท สสุ าน ๘ ต. อา่ วนาง อ.เมอื ง เข้าไปฝังโดยกันพ้นื ท่ลี อ้ มรอบ 2. ให้กรมท่ดี ินข้ึนทะเบยี นเปน็ ทีส่ าธารณะ สสุ านท่ี 2 การใช้งานฝังมา ๓๐ ปี พลเมอื งใช้ร่วมกัน ประเภทป่าชา้ ชาวเล มีเนื้อที่ ๔.๕ไร่ ตอน พ.ศ. 2556 3. ให้กระทรวงทรัพฯร่วมกันชาวเลจัดทา มีการปักลวดหนามแสดงความ แนวทางและประกาสส่งเสริมและคุ้มครอง เปน็ เจ้าของในพื้นทที่ าให้ชาวเลไม่ วถิ ีชีวติ กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล เพอ่ื ได้ใช้พ้ืนที่ กล้าเข้าไปทาพิธีในสุสาน มีการ ทางจิตวิญญาณและประเพณี รวมถึงการ ตรวจสอบจากคณะอนุกรรมการ ขอปลูกไม้ระกาและไม่อื่นๆในเขตป่า แก้ไขปัญหาความม่ันคงในท่ีอยู่ อุทยานเพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมงาน อาศัย ที่ทากิน พ้ืนท่ีทางจิต ลอยเรือของอูรักลาโว้ยแหลมตงเกาะพีพี วิญญาณ พบว่าผู้นาท้องท่ีเป็น ซึง่ จะจัดข้นึ ปลี ะครง้ั ทุกเดือน 11 ของทกุ ปี ผู้นาลวดหนามมากันไว้ อ้าง เ ห ตุ ผ ล ว่ า เ พื่ อ ไ ม่ ใ ห้ ผู้ ใ ด บุ ร รุ ก ล่าสุดมีการประชุมเมื่อวันที่ เพ่ือ แก้ไขปัญหา โดยมี ผ.ศ.ดร.ธนพร ที่ปรึกษาสานักบริหารนโยบาย ของนายกรัฐมนตรี /ผอ.สานักฯ

313 จงั หวัด ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ 11 เขตอนุรักษ์ที่ 5 / หัวหน้าอุทยาน ฯเกาะพีพี มีความเห็นตามมาตรา 64 พรบ.อุทยานฯ 2562 ให้ เจ้าหนา้ ท่ีอุทยานฯหมู่เกาะพีพีกับ ชาวเล มีการร่วมสารวจจัดทา แนวเขต/พ้ืนท่ีทางจิตวิญญาณ สุสานที่มีคนมารังวัดโดยอุทยานฯ ไมร่ ู้ ให้อุทยานฯกับชาวเลไปรงั วัด จัดทาแนวเขตร่วมกันด้วย มี ตัวแทนชาวเล, อนุกรรมการฯ ชาวเล ชุด รมต.วราวุธ เป็น ป ร ะ ธ า น แ ล ะ ห น่ ว ย ง า น ผู้รับผิดชอบคือ ผช. หัวหน้า อุทยานฯหมูเกาะพีพี เมื่อทาเสร็จ แล้วให้สรุปและเร่งรายงานความ คบื หน้า เพ่ือทา่ นธนพรได้รายงาน ตอ่ นายกรฐั มนตรที ราบตอ่ 3. พ้ืนท่ีประกอบพิธีกรรมท้ังท่ี ชายหาด และพื้นที่ตัดไม้ทา พิธีกรรมบนเขา ถูกห้ามไม่ให้ใช้ ข่ ม ขู่ ห รื อ ตั ด ท า ล า ย ต้ น ไ ม้ ศักดิ์สิทธ์ิตามความเชื่อเพ่ือให้ ชาวเลหวาดกลวั สุสานเกาะจา ตาบล 1. สุสานชาวเลเกาะจาเป็นสุสาน 1. ให้กรมท่ีดินเป็นคนกลางในการเจรจา ศรีบอยา อ. เหนือ ที่ชาวเลใช้ฝังมาก่อน พ.ศ. 2412 เพ่ือกันพื้นที่สุสานชาวเล และดาเนินการ คลอง จ.กระบี่ ในยุคหลังมีชาวเลไปแต่งงานมี เร่งออก นสล.ปา่ ชา้ ชาวเล ครอบครัวกับชาวมุสลิม แต่ยังคง 2. ให้มีการตรวจสอบพื้นที่ศาลเจ้าโต๊ะ กลับมาฝังสุสานนี้ แต่พื้นท่ีสุสาน บุหรง และประกาศเป็นพ้ืนที่คุ้มครองทาง มี ผู้ ถื อ ค ร อ ง ก ร ร ม สิ ท ธิ์ เ จ้ า วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธ์ุชาวเล (ประเภท ของเดิมเคยรับปากว่าจะกันพื้นท่ี ศาลบรรพบรุ ุษ) ให้ แต่ปัจจุบันมีการเปล่ียนผู้ถือ กรรมสิทธ์ิ ทาให้ชาวเลเกิดความ ไม่มน่ั คงในพนื้ ทีท่ างจิตวญิ ญาณ 2. ศาลเจ้าโต๊ะบุหรง บ้านเกาะจา เป็นศาลบรรพชนของชาวเลอูรัก ลาโว้ยเกาะจา มีสัญลักษณ์เป็น นกเหย่ียวทะเล มีการทาพิธีทุก 8

314 จังหวดั ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ ค่า และ 15 ค่า ชาวเลจะมีการทา ขนมเซ่นและราถวาย เป็นท่ีสนใจ และดึงดูดนักท่องเท่ียวเป็นอย่าง ดี 12 สตลู สุสานบโู ล ม.7 เกาะ 1. พ้ืนท่ีสุสานและพื้นท่ีพิธีกรรม ให้กรมที่ดินพิสูจน์สิทธ์ิการใช้ประโยชน์ หลีเปะ๊ ตาบลเกาะ สาหร่าย อ.เมอื ง จ. ดั้งเดิมก่อน พ.ศ. 2300 มี 1 ไร่ พื้นท่ีฝังของชาวเล รวมถึงเร่งตรวจสอบ สตูล เอกชนมีการออกเอกสารสิทธิ์ทับ พื้นท่ีบ่อน้าหิน และพื้นท่ีตามพิธีกรรม และให้ผู้อื่นเช่า มีการพัฒนา อื่นๆท่ีถูกเอกชนออกเอกสารสิทธิ์ทับและ ก่อสร้างรีสอร์ทรุกพื้นท่ีสุสาน ขัดขวางไม่ให้เข้าใช้พ้ืนท่ี และดาเนินการ และหา้ มชาวเลเข้าฝัง ออกหนังสอื นสล.ให้แก่ชาวเล 2. บ่อน้าหิน และสานักสงฆ์ ด้ังเดิมรวมทั้งพ้ืนที่จิตวิญญาณ และประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิม ของชาวเล ถูกเอกชนออกเอกสาร สิทธ์ิทับและกีดก้ันไม่ให้เข้าใช้ พื้นท่ี ทั้งที่เป้นพื้นท่ีพิพาทกับ อุทยานฯ และคดีสิ้นสุดแล้ว อุทยานฯชนะคดแี ละปรบั พ้ืนที่ 13 สสุ านอเู ส็น เกาะหลี พนื้ ที่สุสานจานวน 0.5 ไร่ เอกชน ใหก้ รมท่ีดนิ เร่งพสิ ูจน์สิทธกิ์ ารใช้ประโยชน์ เป๊ะ ม.7 เกาะหลเี ปะ๊ ออกเอกสารสิทธิ์ทับและห้ามเข้า สสุ าน ตาบลเกาะสาหร่าย ฝัง ไม่มกี ารดาเนนิ การใดๆ อ.เมือง จ.สตลู 14 สสุ านตอื โละ๊ ปยู ะ พ้ืนที่สุสาน จุด 0.5 ไร่ อยู่ในเขต เกาะอาดงั สสุ านบูโล อุทยานฯ ม.7 ตาบลเกาะ สาหรา่ ย อ.เมอื ง จ. สตลู 15 สสุ านตือโล๊ะอาเยดืม พื้นท่ีสุสาน จุด 0.5 ไร่ อยู่ในเขต มิ เกาะอาดงั สุสานบู อทุ ยานฯ โล ม.7 ตาบลเกาะ สาหร่าย อ.เมอื ง จ. สตลู 16 ระนอง สสุ านเกาะหม้อเล็กม. เป็นพื้นที่สสุ านที่ด่งั เดิม๑๕๐ ปี ๕ ให้อุทยานแห่งช าติหมู่เกาะระนอง ๖ ต.ปากน้า อ.เมือง ไร่ ,กองทัพเรือ และชาวเลร่วมกันตรวจสอบ จ.ระนอง ชุมชนมอแกนทใ่ี ชป้ ระโยชน์ และกันแนวเขตเป็นพื้นท่ีคุ้มครองทาง

315 จังหวดั ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ 17 พงั งา -เกาะเหลา วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธ์ุชาวเล(ประเภท -เกาะชา้ ง สุสาน) พร้อมท้ังจัดทาประกาศสาธารณะ -เกาะพยาม และปา้ ยแจง้ ใหเ้ ปน็ ที่รบั รไู้ ม่ให้รบกวน ถู ก ข่ ม ขู่ คุ ก ค า ม จ า ก บุคคลภายนอกทาให้ชาวมอแกน ขาดความมั่นใจในการใชพ้ ืน้ ที่ สสุ านบ่าดาด กรณีการแก้ไขปัญหาสุสาน “บ่า 1. ให้กรมที่ดินเร่งออกหนังสือสาคัญที่ดิน “เกาะเปลว” หมทู่ ่ี ๖ ดาด”ของชาวเลมอแกลนบ้านท่า หลวง พ้ืนที่พลเมืองใช้ร่วมกันเพื่อป่าช้า บ้านเกาะแรด ใหญ่ ชาวเล และให้กระทรวงทรัพฯร่วมกับ ตาบลหลอ่ ยูง อาเภอ 1. สานักงานที่ดินจังหวัดพังงา กระทรวงวัฒนธรรมประกาศเป็นพื้นที่ ตะกว่ั ทุง่ จงั หวัด สาขาตะกั่วทุ่ง ดาเนินการรังวัด ส่งเสริมและคุ้มครองทางวัฒนธรรม พังงา แนวเขตท่ีสาธารณประโยชน์ (สุสาน)ชาวเล เกาะเปลว ให้แล้วเสร็จ จานวน 2 ไร่ สุสานชาวเลป่าดาด “หาดเกาะ ภายในเดือนตลุ าคมนี้ เปลว” แล้ว แต่การออก นสล. ยัง 2. ให้ท้องถิ่นท่ีเกี่ยวข้องร่วมกับชาวเลปัก ไม่แล้วเสร็จ เน่ืองจากท่ีดินอยู่ใน เสาทาร้ัวและทาแนวต้นไม้ธรรมชาติ เขตป่าไม้ จึงส่งเรื่องเพ่ือเข้าท่ี โดยรอบเนอ้ื ท่สี ุสาน 2 ไร่ ประชุมคณะอนุกรรมการจาแนก ประเภทท่ีดินประจาจังหวัด หรือ คณะอนุกรรมการจาแนกท่ีดิน และพัฒนาท่ีดินชายทะเลประจา จังหวดั แลว้ แต่กรณี 2. มีการแต่งต้ังคณะกรรมการ ระดับอาเภอ เพ่ือจัดทาบันทึก การตรวจสอบเสนอความเห็นให้ คณะอนุกรรมการฯ พิจารณา ตอ่ ไปปจั จุบันจังหวัดพังงา แจ้งว่า ได้ส่งเร่ืองให้จังหวัดพังงาเสนอ ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามใน หนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงแล้ว แต่จงั หวัดเห็นว่า ข้อเท็จจริงยังไม่ ชัดเจนขอให้ดาเนินการสอบสวน เพิ่มเติม (อยู่ระหว่างประสานกับ ผู้ปกครองท้องท่ีและผู้ท่ีเกี่ยวข้อง เ พ่ื อ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ส อ บ ส ว น เพิม่ เตมิ ดังกล่าว

316 จังหวัด ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ ส ถ า น ก า ร ณ์ ก ร ะ บ ว น ก า ร อ อ ก นสล.ป่าชาวเล ถูกกดเอาไว้ไม่ให้ มีการดาเนินการ เน่ืองจากเอกชน มีการออกเอกสารสิทธิ์บนพ้ืนที่ เกาะเปลว มผี ้รู อ้ งให้ตรวจสอบ หลายคร้ังที่มีการสอบสวนแล้ว เงียบไป แต่ผลกระทบเกิดข้ึนกับ พ้ืนที่ สุสา นช าว เ ล ต้อง คอ ย กระบวนการตรวจสอบเอกชนบุก รกุ ท่ีดนิ ของรฐั ซง่ึ ไม่เก่ียวกนั 18 สุสานหนิ ลาด หม่ทู ่ี - จังหวัดพังงา มีหนังสือ ที่ พง 1. องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นย่ืนขอ ๖ ตาบลท้ายเหมือง ๐๐๑๔.๓/7735 ลงวันท่ี 20 รังวัด เพื่อดาเนินการออก นสล. ป่าช้า อาเภอท้ายเหมอื ง สิงหาคม 2563 แจ้งว่า สุสาน ชาวเล (มีการรังวัดแล้วเป็นที่ประกาศป่า จังหวดั พังงา ชาวเลหินลาด หมู่ท่ี ๖ ต.ท้าย สงวนปา่ คลองทงุ่ มะพรา้ ว เหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้ 2. ให้กรมท่ีดิน.ให้อาเภอท้ายเหมืองเร่ง ส่งเร่ืองการรังวัด เพื่อพิจารณาลง ออกหนังสือสาคัญที่ดินหลวง พ้ืนท่ี นามในหนังสือสาคัญสาหรับท่ี พลเมืองใช้ร่วมกันเพ่ือป่าช้าชาวเล และให้ ห ล ว ง แ ล้ ว เ มื่ อ วั น ท่ี ๒ ๓ ก ร ะ ท ร ว ง ท รั พ ฯ ร่ ว ม กั บ ก ร ะ ท ร ว ง กรกฎาคม ๒๕๖๓ แต่ยังไม่มีการ วัฒนธรรมประกาศเป็นพื้นที่ส่งเสริมและ ดาเนนิ การ คุ้มครองทางวัฒนธรรม(สุสาน)ชาวเลหิน ลาด ใหแ้ ลว้ เสร็จ ภายในเดือนตลุ าคมน้ี - เมื่อวันท่ี 23 กันยายน 2563 3. ให้เทศบาลตาบลท้ายเหมืองและ ทางแกนนาชาวเลหินลาดได้เชิญ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณ นางทัศนา นาเวศน์ อนุฯขปส.ที่ แล้วร่วมกับชาวเลปักเสาทาร้ัวรอบสุสาน สาธารณะ ก.มหาดไทย ไปร่วม ชาวเลหินลาด ติดตามความคืบหน้าท่ีสานักงาน ท่ีดินจังหวัดพังงา สาขาท้าย เหมือง เน่ืองจากทางผู้ใหญ่บ้าน ม.6 หนิ ลาดไดแ้ จ้งว่าทางเจ้าที่ดิน อ า เ ภ อ ท้ า ย เ ห มื อ ง เ ชิ ญ ใ ห้ ผู้ใหญ่บ้านไปให้ข้อมูล ปรากฏว่า ผ้ใู หญ่บ้านบอกว่าไม่รับรู้เร่ืองการ ดาเนินการ ทั้งๆท่ผี ้ใู หญ่บา้ นไดม้ า ร่วมกระบวนการตรวจสอบ ทาง เจ้าที่ดินอาเภอจึงได้คุยกับนาง ทัศนา ว่าจะเร่งดาเนินการตามท่ี

317 จงั หวดั ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 19 ผู้แทนนายอาเภอ ล่าสุด..ท้องท่ี 20 ได้นาช่างรังวัดปักหลักเขตท่ีดิน สาธารณะแลว้ น้ัน ได้เนอื้ ที่ 47-0- 65.2 ไร่ ผลการรังวัดครั้งน้ัน เป็นไปตามขอบเขตท่ีสาธารณะ ป ร ะ โ ย ช น์ แ ป ล ง สุ ส า น หิ น ล า ด (สุสานชาวเล)ให้ถือเอาอาณาเขต และเนื้อที่ท่ีได้จากการรังวัดใหม่ เปน็ หลกั ฐานท่ีถกู ตอ้ งต่อไป สุสานเกาะเตาะ จังหวัดพังงา มีหนังสือ ท่ี พง 1. ดาเนินการย่ืนขอรังวัดเพื่อขอออก หมทู่ ่ี ๔ ตาบลลาแกน่ ๐๐๑๔.๓/7735 ลงวันท่ี 20 นสล. และให้กรมป่าไม้มอบสานักจัดการ อาเภอท้ายเหมอื ง สิงหาคม 2563 แจ้งว่า สุสาน ทรัพยากรป่าไม้ที่รับผิดชอบพ้ืนที่ร่วม จังหวัดพงั งา เกาะเตาะ หมู่ท่ี ๔ ต.ลาแก่น อ. พิจารณาตรวจสอบอกี ทางหนงึ่ ท้ายเหมือง จ.พังงา อยู่ระหว่าง 2. ให้ทางเทศบาลตาบลลาแก่น อาเภอ ด า เ นิ น ก า ร ข อ ง ฝ่ า ย รั ง วั ด ท้ายเหมือง จัดสรรงบประมาณในปี 2564 (ข้ันตอนการเรียกผู้ขอ (เทศบาล ดาเนินการรังวัดแนวเขต สุสานเกาะเตาะ ตาบลลาแก่น) มานัดรังวดั ใหม่ ใหม่ 3. ให้กรมท่ีดิน มีคาส่ังให้อาเภอท้าย เ ห มื อ ง เ ร่ ง อ อ ก ห นั ง สื อ ส า คั ญ ที่ ดิ น ท่ี สาธารณะประโยชน์แปลงสุสานเกาะเตาะ (สุสานชาวเล) และให้กระทรวงทรัพฯ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมประกาศเป็น พ้ืนท่ีส่งเสริมและคุ้มครองทางวัฒนธรรม (สุสาน)ชาวเลเกาะเตาะ ให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนตลุ าคมน้ี 4. ใหก้ ระทรวงทรพั ฯสารวจตรวจสอบการ ถือครองและใช้ประโยชน์รอบแนวเขต สุสานเกาะเตาะ เพอ่ื ไม่ใหเ้ กิดความขัดแย้ง และอคตขิ องประชาชนในพ้นื ทตี่ อ่ ชาวเล สุสานทงุ่ หวา้ เม่ือวันท่ี 15 กรกฎาคม 2563 ณ 1. ให้กรมท่ีดิน กระทรวงมหาดไทยและ หว้า (ท่ี ห้องประชุมเทศบาลตาบลคึกคัก สานักฯนายกรัฐมนตรี กันพื้นที่สุสาน สาธารณประโยชน์ น . ส . ป ภั ศ ม น อุ ส ร า ลิ ขิ ต จานวน 15 ไร่ 1 งาน 27 เศษ 6 ส่วน 10 ปา่ ช้าท่งุ กระทิง) หมู่ ผู้ตรวจการสานักนายกฯเป็น ตารางวา และที่อยู่อาศัยจานวน 15 ไร่ 3 ท่ี ๓, ๕ และ ๗ ป ร ะ ธ า น ใ น ที่ ป ร ะ ชุ ม / งาน ของชาวเลทุ่งหว้าเป็นพื้นที่โฉนด ตาบลคกึ คัก อาเภอ ผู้อานวยการศูนย์รับเรอื่ งร้องทกุ ข์ ชุมชน และพื้นท่ีคุ้มครองทางวัฒนธรรม ตะกั่วปา่ จังหวัด ทาเนียบรัฐบาลเป็นเลขาฯในท่ี กลุ่มชาติพันธ์ุชาวเล ภายใต้ คทช. และให้ พงั งา ประชุม มีคณะกรรมการแก้ไข ยึดหลักการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 2

318 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ ปัญหา ช าว เ ล กะ เหร่ีย ง ใ น มิถุนายน 2553 ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาท่ี ขบวนการประชาชนเพ่ือสังคมท่ี อยู่อาศัย ที่ทากิน และพ้ืนท่ีทางจิต เ ป็ น ธ ร ร ม ( ข ป ส . ) ร ว ม ถึ ง วิญญาณ ผู้ตรว จการฯ กรมที่ดิน แล ะ ขา้ ราชการท่เี กยี่ วขอ้ ง 2. ให้เทศบาลคึกคัก ชาวเลมอแกลนและ แม้ว่าจะมีข้อกังวล ขัดข้องของ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง กันแนวเขตร้ัวและ ท้ อ ง ที่ แ ล ะ ท้ อ ง ถิ่ น บ้ า ง แ ต่ ทากาแพงธรรมชาติรอบพื้นท่ีสุสาน พร้อม ข้อเสนอของตัวแทนชาวเลแต่ละ ทง้ั ปลกู ต้นไมใ้ หส้ วยงาม ขอ้ ก็เปน็ ที่เขา้ ใจและเห็นควรของ ทา่ นผตู้ รวจฯและคณะฯ ดงั นี้ 3. ต้ังคณะกรรมการคุ้มครองพ้ืนท่ีทาง (๑) จังหวัดพังงา โดยอาเภอ วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลมอแกลน ตะก่ัวป่า แต่งตั้งคณะทางานเพื่อ (ประเภทสุสาน) ตาม มติ ครม. 2 มิ.ย.53 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทในที่ดินสา โดยให้ชาวเลมอแกลนทุกหมู่บ้านท่ีฝังที่นี่ ธารประโยชน์ สุสานชาวเลทุ่งหว้า เช่น ชาวเลมอแกลนทุ่งหว้า,บางขยะ,ปา (ป่าช้าทุ่งวัวกระทิง) หมู่ที่ ๕ กวีป ทับตะวัน อาเภอตะกวั่ ป่า ชาวเลมอ ตาบลคึกคัก อาเภอตะก่ัวป่า แกลนลาแก่น และคลองญวน อาเภอท้าย จังหวัดพังงา โดยมีนายอาเภอ เหมือง พร้อมด้วยเครือข่ายชาวเล องค์กร ต ะ ก่ั ว ป่ า เ ป็ น ป ร ะ ธ า น เอกชน นักวิชาการ หน่วยงานรัฐที่ คณะทางาน ส่ว นราช การ ท่ี เกี่ยวข้องกับมติ ครม.ชาวเลร่วมกัน เ ก่ี ย ว ข้ อ ง แ ล ะ ผู้ แ ท น ภ า ค 4. ประกาศให้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันถึง ประชาชน ร่วมเป็นคณะทางาน สถานะของที่สาธารณประโยชน์ป่าช้าท่งุ พร้อมท้ังแจ้งการดาเนินงานและ กระทิง รายงานผลความคืบหน้า/ข้อสรุป 5. ขอใหม้ ีการใช้ประโยชนใ์ หเ้ ปน็ ไปตาม ของที่ประชุมคณะทางานฯ ให้ วตั ถุประสงค์ของการออก นสล. (ป่าชา้ ทงุ่ ส า นั ก ง า น ป ลั ด ส า นั ก กระทิง) ขอให้จงั หวดั กาชบั อาเภอ ร่วมกับ นายกรัฐมนตรีทราบเป็นกรณี อปท. ดแู ลรักษา คุม้ ครองป้องกนั ตาม เร่งดว่ น กฎหมาย และห้ามมใิ หผ้ ู้ใดเข้าไปบกุ รุก (๒) นายอาเภอตะก่ัวป่ากาชับการ ทาลาย ไถ ถมดิน หรือกระทาการอ่ืนใด ท่ี ปฏิบัติให้กานันผู้ใหญ่บา้ นในพื้นท่ี ไม่เปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ของการออก ประชาสัมพันธ์การจัดงานที่ นสล. จะต้องใช้พื้นที่สุสานชาวเลให้กับ 6. ให้หน่วยงานที่มีหน้าท่ีดูแลรักษาจัดทา กลุ่มชาวเลในพืน้ ที่ทราบดว้ ย ขอบเขตและปา้ ยประกาศสุสานใหช้ ดั เจน (๓) กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมสรุปขอ้ เท็จจริงใน พ้ื น ที่ ก ร ณี ดั ง ก ล่ า ว เ ส น อ ต่ อ ที่ ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไข ปัญหาความม่ันคงในที่อยู่อาศัยฯ

จังหวดั ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ 319 ขอ้ เสนอ เพ่ือพิจารณาในคราวประชุมครั้ง ตอ่ ไป 21 สสุ านปากวปี ม.1 ต. ประวัติและลาดับเหตุการณ์การ ให้มีวาระการแก้ไขปัญหาสุสานปากวีปใน ปากวีป ต.คึกคัก อ. แก้ปญั หาสุสานชาวเลมอแกลน ที่ ทปี่ ระชมุ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาชาวเล ตะก่วั ป่า จ.พงั งา หาดปากวีป ฯ ที่มีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงาน นิยามสุสาน : “อ่ากมุหนุดม่ะไต” รับผิดชอบ และให้มีมติออกการสั่งให้กัน เปลว หรอื หมายถงึ เร๋ว , ป่าช้า , พื้นที่ล้อมร้ัวป้องกันการบุกรุก ทั้งให้ใช้ สุสาน เพื่อประโยชน์เป็นป่าช้าฝังศพ เพ่ือให้ ประวัติ เปลว “อ่ะบ้น” ของ ปัญหาลลุ ่วงเสร็จส้นิ ชาวเลมอแกลน(ป่าช้าคลองหัก) ท่ีหาดปากวีป เป็นสุสานฝังศพ บรรพชนและประชากรของชาวเล ชนเผ่ามอแกลนบ้านปากวีป บน ไร่ ทับตะวัน บางขยะ รวมถึง บร รพ ช น มอ แก ลน อีก หล า ย หมู่บ้าน สุสานต้ังอยู่ที่หมู่ที่ 1 ตาบล คึกคัก อาเภอ ตะกั่วป่า จังหวัด พังงา เน้ือที่ 8 ไร่ 1 งาน 41 เศษ 3 ส่วน 10 ตารางวา (ท่ดี ินสาธารณะประโยชน์พลเมอื ง ใช้ร่วมกัน ประเภทป่าช้า คลอง หัก) “เปลวอ่ะบ้น” (อ่ะบ้น คือชาว มอแกลนที่ฝังคนแรก ถือเป็นเจ้า ป่าช้า) เป็นป่าช้าท่ีใช้ฝังชาวมอ แกลนมาหลายชั่วคน (จากการ บันทึกข้อมูลของกลุ่มเยาวชนมอ แกลนและนักวิชาการ พ.ศ. 2556) โดยคาบอกเล่าของ เฒ่า ปาน หาญทะเล ว่าท่ีตนเกิดช่วง พ.ศ.2467 ที่ท่องเค็ด (ทางไปหาด บางสัก) ปัจจุบัน อายุ 96 ปี เปลวอ่ะบ้น มีมาก่อนเฒ่าปาน หลายช่ัวคน และจากการนับสาย ตร ะ กู ล ต ร ะ กู ลข อ ง น า ง ส า ว

จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ 320 ขอ้ เสนอ อรวรรณ หาญทะเล อายุ 33 ปี มี ทว ด ช่ือทว ดต้ม หาญทะเล เสียชีวิตเม่ือ พ.ศ.2555 อายุตอน นั้น 115 ปี ก็ได้เล่าไว้ว่า อดีต ต้ังแต่ก่อน พ.ศ.2463 ท่ีบริเวณ สุสานมีชุมชนมอแกลนช่ือบ้านโค บา คน ที่ทว ด ต้มจาไ ด้ว่าอ ยู่ ด้วยกันที่ โคบา รุ่นพ่อของทวด สน ช่ือทาดสร้อยรวมท้ังทวดบ้ึง ทาดลอบ ทวดฉัง ทวดวอน ทวด ออน ทวดผอน อาศัยและใช้พื้นที่ ทานาข้าวและอาชพี ประมง ตั้งมา จนถึงประมาณ พ.ศ. 2509 ชุมชน ก็ ย้ า ย ไ ป ต้ั ง ใ ห ม่ ที่ เ นิ น เ ข า ใ ก ล้ น้าตกสายรุ้ง เพราะพ้ืนที่ได้ถูก สัมปทานเหมืองแร่ ปัจจุบันเป็น บริเวณท่ีโรงแรมเมอริเดียนตั้งอยู่ ท า ง ทิ ศ ใ ต้ ข อ ง เ ป ล ว อ่ ะ บ้ น ใ น ปจั จุบนั ยุคก่อนพ้ืนที่แถบน้ีเป็นป่าทึบทั้ง ชายหาดชาวมอแกลนมีพ้ืนที่ฝัง ตั้งแต่คลองอ่าวขามถึงคลองหัก เม่ือรัฐบาลให้สัมปทานป่าไม้ ไม้ ตน้ ใหญก่ ็หมดไป ยุคต่อมามีการมีการสัมปทานทา เหมืองแร่2เหมือง ช่ือเหมือง “มง” และอีกเหมือง ชาวมอ แกลนจาช่ือไม่ได้ 2 เหมืองน้ีไม่ได้ ขุดเจาะในพ้ืนที่สุสาน เพราะ เหมืองต้งั เพ่อื บงั หน้าการเอาแรใ่ น ทะเลมาใช้ มากกว่าการขุดเจาะ หาแร่บนบกตามใบสัมปทานที่ ได้มา ส่วนรางแร่ก็ทาข้ามพาด ผา่ นสสุ านปลายรางออกทะเล

จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ 321 ข้อเสนอ ยุคท่ีทาให้พ้ืนที่สุสานเหลือน้อย คือ 2 ยุคหลัง ยุคทาบ่อกุ้ง ของเจ้าของ เป็นนักการเมือง(ในยุคนั้น) 2 กลุ่ม หลุมบรรพบุรุษถูกขุดข้ึนมา เปลี่ยนสภาพเป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง จาก คาบอกเล่าของชาวมอแกลนที่ เป็นลูกน้องบ่อกุ้ง บอกว่า. . บ า ง ค ร้ั ง เ ว ล า จั บ กุ้ ง ยั ง เ จ อ หั ว กะโหลก ย่ิงเวลาขุดกับรถแบ็กโฮ จะมีติดข้นึ มาทั้งโครงกระดูกเลยก็ มี ความเปล่ียนแปลงของพื้นท่ียัง มีต่อ เนื่อ ง ห ลังจ ากท่ี ดินถู ก เปลีย่ นมือ คนเฒ่าคนแก่ยังได้เล่าอีกวา่ เวลา มีใครตายแล้วจะมาฝังท่ีนี่ก็ใช้วิธี เดินหามกันมา ถ้ามาแล้วน้าที่ คลองอ่าวขามยังข้ึนเต็มอยู่ก็หยุด น่ังรอ บ้างกว่าจะมาถึงก็เกือบค่า ต้องรีบฝังที่ชายหาด เพราะ นอกจากเสียงลูกกระพวนของ เฒ่าบน เจ้าป่าช้าที่จะส่งเสียงให้ น่ากลัวแล้ว แต่ท่ีน่ากลัวคือ เสือ ขากลับบางทีก็จุดตะเกียงหาเก็บ ไข่เต่าทะเล ซ่ึงมาวางไข่เป็น จานวนมาก ความเจริญเข้ามา อย่างรวดเร็ว ถนนเพชรเกษมตัด ผ่านปากทางเข้า เปลวอ่ะบ้น ใน บริเวณทิศใต้ไปทางคลองหกั เริ่มมี คนจีนมาฝังที่นี่ คนไทยพุทธก็มี การทาเชิงตะกอนไว้เผาเช่นกัน และต่อมา คนไทยและลูกหลาน คนจีนก็ไปเผาที่วัด เหลือแต่มอ แลนใชพ้ ้นื ท่ีตลอดมา นสล.ปา่ ช้าคลองหกั เกิดเมื่อ.. มายุคหนึ่ง ด้วยเหตุการกัดเซาะ เนื่องจากระบบนิเวศชายหาด

จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ 322 ขอ้ เสนอ เปล่ียนแปลง และด้วยเป็นพื้นท่ี รกร้างว่างเปลา่ จงึ มีคนท่ีมีโอกาส นาไปออกเอกสารสิทธิ์ไปนับร้อย ไร่ เปน็ เหตุให้ ผู้เฒ่า นิล นะทะเล (บรรพชนมอแกลนทับตะวัน)ไป ย่ื น ข อ อ อ ก น ส ล . ป่ า ช้ า เ อ า ไ ว้ หลังจากนั้นมีหนังสอื ประกาศเป็น เขตปา่ ชา้ คลองหัก ออกโดยอธบิ ดี กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 มีเน้ือท่ี 8 ไร่ 1 งาน 41.33 ตารางวา ยุคการทอ่ งเทย่ี ว ห ลั ง สึ น า มิ ปี 2 5 4 7 มี ป้ า ย ประกาศพ้ืนที่สาธารณะบริเวณ ชายหาดปากวีป จานวน19ไร่ ส่วนดา้ นในเปน็ เน้ือทเี่ ปลว(สุสาน) ฝังศพชาวมอแกลน 8ไร่ 1งาน ก ลั บ ถู ก น า ย ทุ น แ ล ะ ก ลุ่ ม ผู้ประกอบการร้านค้าชายหาด บางส่วนรุกเข้าใช้พื้นที่ อ้างว่า พื้นท่ีสาธารณะผู้ใดจะใช้ทาสิ่งใด ทีไ่ มถ่ ือเป็นการครอบครองถาวรผู้ นั้นย่อมทาได้ ชาวเลจึงเร่ิมเฝ้า ระวัง ถางแนวพื้นท่ี มีการข่มขู่ แกนนา สร้างสถานการณ์ความ ขัดแย้ง โดยส่วนใหญ่อ้างถึง เจา้ หน้าทท่ี ้องท่ี ทอ้ งถ่นิ เดือน ธันวาคม พ.ศ.2552 ทาง ชาวบ้าน/แกนนาชุมชนมอแกลน และผู้นาท้องถิ่นและส่วนราชการ ท่ีเกี่ยวข้องได้ดาเนินการช้ีแจงกับ ผู้ประกอบการ(โรงแรม มายเขา หลักและรา้ นคา้ ชายหาด)ใหท้ ราบ ถึงความสาคัญในการใช้ที่เปลว เป็นพ้ืนที่ทางจิตวิญญาณของชาว มอแกลน ขณะน้ันได้ร่วมกันถาง และวัดพื้นพ้ืนที่เปลว(สุสาน)ฝัง

จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ 323 ขอ้ เสนอ ศพเอาไว้ปรากฏ ว่าพ้ืนที่ลด น้อยลงเหลือไม่ถึง 8 ไร่ 1 งาน ดงั เดิม พ.ศ.2556 ก็ยังไม่มีฝ่ายใดสนใจท่ี จะหยุดพฤติกรรมการล่วงล้าเข้า ใช้ประโยชนพ์ ื้นท่ีเปลวเพ่ือรองรับ นักทอ่ งเทย่ี ว มหิ นาซา้ ผู้ใหญบ่ ้าน (ตอนน้ัน)มาวัดพ้ืนที่ปัจจุบัน และ บอกว่ามีจานวน 2ไร่ จึงเป็นเหตุ ใหช้ าวมอแกลนได้ร่วมลงรายชือ่ ผู้ ประสงค์ร่วมฝังร่างไว้ท่ีเปลวปาก วีปหลังเสียชีวิต มี 4 หมู่บ้าน จานวนกว่า 700 คน และท้ังหมด มีค ว า ม ป ร ะ ส งค์ ด า เ นิ น ก า ร ร่วมกันเพ่ือให้เกิดการกันแนว พืน้ ท่เี ปลว ท่ีชัดเจนและถาวรเป็น หลักประกันม่ันคงหลังความตาย และไม่ขอปล่อยให้เป็นภาระต่อ ลูกหลาน ตลอดระยะเวลา..มี ก า ร ก า ร ย้ื อ ยุ ด ช า ย ห า ด ท่ี มี ผื น ท ร า ย สี ข า ว ร า ค า ง า ม ต ร ง นี้ เพราะอยู่ในพื้นท่ีหาดเศรษฐกิจ จากทิศเหนือ(บ้านน้าเค็ม) จนถึง ทิศใต้(บ้านบางหลาโอน เขาหลัก) ตลอดทางผ่านมีโรงแรม/รีสอร์ท และร้านค้าหน้าหาดเรียงราย ตลอดแนว ส่ิงเหล่านี้เร่ิมเกิดขึ้น เมื่อมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมา เที่ยวมากขึ้น ธุรกิจด้านการ ท่ อ ง เ ที่ ย ว จึ ง ต้ อ ง เ ร่ ง ข ย า ย ตั ว รองรับ ทาให้มูลค่าที่ดินบริเวณน้ี แพงข้ึน ชาวมอแกลนจึงคิดว่า ตอนนั้นมีภาวะเสยี่ งกับการถูกบุก รุก “เปลวฝังศพ” อีกครั้ง เพราะ จากการเปรี ยบเทียบแผน ท่ี ด้านหลังเอกสารประกาศเขตป่า ช้าคลองหักเมื่อปี พ.ศ.2522 กับ

จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ 324 ข้อเสนอ รู ป ท่ี ดิ น ที่ วั ด วั น น้ี ก ลั บ ไ ม่ เหมือนกัน รูปที่ดินมันกลับหดเข้า มา เกิดกรณีการบุกรุก“เปลวฝัง ศพ”ของชาวมอแกลนเพ่ือทาเป็น สถานท่ีรองรับนักท่องเที่ยวน้ันมี เกิดข้ึนเกือบทุกพื้นที่ ด้วยความ ทีช่ าวมอแกลนนั้นรักสงบ ไม่ชอบ มีปัญหากับใคร แต่เม่ือนโยบาย การท่องเที่ยว ทาให้แผ่นดินผืน สุดท้ายที่จะฝังร่างในวันส้ินลม หายใจ ต้องถูกผู้ที่เห็นประโยชน์ พ า ณิ ช ย์ จ า ก น โ ย บ า ย ก า ร ทอ่ งเที่ยวเข้ามารกุ ราน และช่วงพ.ศ. 2556 น้ีเอง มีการ ปักป้ายประกาศขายที่ดินสุสาน เป็นเหตุให้มีการร้องเรียน และมี วาระท่ีคณะกรรมการฯ ชาวเล ตามมติครม. 2 มิ.ย. 53 ได้มีมติ ใ ห้ กั น สุ ส า น เ ป็ น ผ ล ใ ห้ ผู้ ว่ า ราชการจังหวัดพังงา มีคาสั่งให้ ฝ่ายปกครองและหน่วยงานท่ี เก่ียวข้องลงดาเนินการตรวจสอบ และกันแนวเขตสุสานชาวเลทั้ง จังหวัดพังงา ในส่วนของสุสานปา กวีปเจ้าหน้าท่ีรังวัดที่ดินอาเภอ ตะก่ัวป่า,ฝ่ายปกครองและชาวเล มอแกลนส่ีหมู่บ้าน ลงพื้นท่ี ตรวจสอบและรังวดั แนวเขตปา่ ช้า คลองหัก ปรากฏว่าพื้นที่ฝังจริงที่ ฝังมาต้ังแต่อดีต ด้านหลังหายไป พ้ืนที่จริงกับแผนผังนสล.ใหม่ ไม่ เหมือนกัน และไม่เหมือนเดิม กล าย เ ป็น ยุ บพ้ื น ที่สุ ส าน กั บ ผปู้ ระกอบการหน้าหาดมารวมกัน ซึ่งต่อมาก็เกิดปัญหาขัดแย้งจาก การรุกเข้าใช้ต้ังเคร่ืองปั่นไฟ ทา

จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ 325 ขอ้ เสนอ ถนน จอดรถ หรือแม้แต่ท้ิงขยะ เปน็ กองพะเนิน ต้นปี พ.ศ. 2557 รัฐบาลคสช.มี น โ ย บ า ย จั ด ร ะ เ บี ย บ ช า ย ห า ด ร้านค้าชายหาดถูกร้ือถอน นายก เทศบาลและชาวมอแกลนร่วมกัน ซื้อเสามาปักทาขอบเขต แต่ไม่ถึง 10 วันเสาแนวเขตก็ถูกหักทาลาย ตั ว แ ท น ช า ว ม อ แ ก ล น เ ข้ า แ จ้ ง คว าม ร้อยเ ว รก็ ให้แค่ บันทึ ก ประจาวัน เม่ือไปยื่นศูนย์ดารง ธรรมจังหวัดพังงาจึงทาได้แค่รับ เร่ืองไว้ ให้ตัวแทนกลับมาเอาใบ แจ้งความ ผ่านไปไม่นานถึง 2 เดือน ผู้ประกอบการได้ส่งหนังสือ ถึงคสช. เพ่ือขอกลับเข้าใช้พื้นท่ี จึงมีการหารือนาโดยตัวแทนคสช. และนาย มานิต เพียรทอง แต่ยัง ไม่เป็นที่ตกลงอย่างเป็นทางการ ผู้ประกอบการก็กลับเข้าใช้พื้นที่ สุสานทาร้านค้าชายหาดอีก โดย ก่อสร้างเป็นหลังๆเรียงรายกัน เต็มพ้ืนท่ี มีห้องส้วมไว้บริการ นักท่องเท่ียวด้วย โดยทางอาเภอ ไม่มีการดาเนินการห้ามปรามใดๆ แม้แต่ความคืบหน้าที่ปลัดอาเภอ ท่ีรับปากไว้ต่อหน้าสื่อรายการ สามมิติวา่ จะเรง่ ตรวจสอบและกัน พื้นที่ด้านหลังให้ก็ไม่มีผลการ ปฏิบัติใดๆ ป ล า ย ปี พ . ศ . 2 5 5 7 ค ณ ะ กรรมการฯชาวเล สานักนายกฯ ดีเอสไอ ลงพื้นท่ี มีการประชุม แก้ปัญหาสุสาน ชาวเลมีข้อเสนอ ให้กันพ้ืนท่ี ขณะนั้นนายอาเภอ มานิต เพียรทอง ดารงตาแหน่ง

จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ 326 ขอ้ เสนอ ลงพื้นที่รังวัดแนวเขตสุสานอีก ค ร้ั ง แ ต่ ก็ ไ ม่ ไ ด้ วั ด เ อ า พื้ น ท่ี ด้ า น ห ลั ง ซ่ึ ง เ ป็ น ที่ สุ ส า น ท่ี ไ ม่ ครอบคลุมเข้ามาด้วย รวมถึง พื้ น ที่ ค รึ่ ง ห นึ่ ง ก็ เ ป็ น ร้ า น ค้ า ชายหาดอยู่ เกิดการรุกเข้าใช้ พ้ืนที่ต่อเนื่อง แต่ชาวเลเห็นว่า ผู้ประกอบการร้านค้าส่วนหน่ึง เป็นชาวบ้านในพ้ืนท่ีตะกั่วป่า จึง หารือผู้นากลุ่มผู้ประกอบการ แม้ การพูดคุย เจรจา ไม่มีการสรุป ท้ังหมด แต่ผู้ประกอบการก็หยุด ท้ิงขยะ และเข้าจอดรถในพื้นที่ สุสาน พ.ศ. 2558 พื้นที่ด้านหลังสุสานมี การปรับพื้นท่ีเป็นโรงแรม มีข่าว การขอทาถนนตัดผ่านสุสาน และ รอบๆสุสาน โดยมีการนัดแกนนา พูดคุยและย่ืนข้อเสนอให้หยุด เคล่ือนไหว ด้วยเงิน 2 ล้าน แต่ แกนนาไม่ตอบตกลง ต่อมาในปี 2558 ผู้ประกอบการร้าน ค้า ชายหาดก็ถูกคาส่ังรื้อถอนอีกครั้ง แ ต่ พ้ื น ที่ สุ ส า น ก็ ยั ง ไ ม่ ถู ก กั น ท้งั หมด พ.ศ. 2559-2560 คณะกรรมการ แก้ไขปัญหาฯชาวเล ทั้งระดับ นโยบายและระดับจังหวัด มี ประชุมต่อเน่ือง แต่ไม่มีความ คบื หน้าใดๆในการดาเนินการ พ.ศ. 2561 ในการชุมนุมของพมี ูฟ มีการเจรจาแก้ปัญหาร่วมกันกับ ส่วนท่ีเกย่ี วข้อง ช่วงเดนิ มถิ นุ ายน มคี าส่งั จากกระทรวงมหาดไทยถึง ผู้ว่าฯทุกจังหวัด ให้ดาเนินการ แก้ไขปัญหาสุสานชาวเล แต่จาก การท่ีชาวเลได้เข้าร่วมประชุมใน

327 จังหวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ 22 ระดับจังหวัดและอาเภอ กลบั ไม่มี ความคบื หน้าใดๆ และล่าสุด เม่ือวันที่ 15 กันยายน 2 5 6 1 มี ก า ร ป ร ะ ชุ ม ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมท่ี เป็นธรรม (คกก.ขปส.) จังหวัด พังงา โดยมีรองผู้ว่าราชการ จังหวัด ฝ่ายความม่ันคง เป็น ประธานในที่ประชุม ทุกฝ่ายต่าง รับปากจะเร่งแก้ไขปัญหาให้ แต่ ตอนน้ี กระดูกพ่อ แม่ ปู่ย่า ตา ทวด ชาวเลถูกขุด รื้อ ทาลาย ก ล า ย เ ป็ น ถ น น ท า ง เ ข้ า โ ร ง แ ร ม รอบๆสุสานก็มีการปรับดินเพ่ือ เตรียมทาถนนเช่นกัน ส่วนพื้นที่ สุสานด้านหลังท่ีที่เจ้าหน้าที่ที่ดิน เคยกันให้ไม่หมด และบอกว่ายัง เป็นท่ีว่างเปล่า ค่อยกันเพิ่มน้ัน ต อ น นี้ ถู ก ป รั บ ก ล า ย เ ป็ น พื้ น ท่ี เดียวกันกับพ้ืนท่ีปรับทาโรงแรม ไปแลว้ ปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้าใน การดาเนินการ ถนนผ่ากลาง สุสานย่ิงขยายเพม่ิ มากขน้ึ สุสานบางมรวน สุสานบางหมวน หรือ สุสานบาง (สุสาน 2 ไร่ในท่ีสาธารณประโยชน์ เน้ือท่ี “เร๋ ว บ าง หม ว น ” มรวน เป็นพ้ืนท่ีท่ีชาวเลมอแกลน ๒๕ ไร่) ( เ ป ล ว ห รื อ สุ ส า น และคนท้องถ่ินใช้ประโยชน์เป็น 1. ให้ทางองค์การบริหารส่วนตาบลบาง ชาวเลมอแกลน บ้าน ปา่ ชา้ มาอย่างยาวนาน ตั้งแตย่ ุคที่ ม่วงและหน่วยงานที่เก่ียวข้องจัดสรร น้าเค็ม,ทับตะวัน,บน ชุมชนท้องถิ่นด้ังเดิมบริเวณน้ี งบประมาณแล้วรว่ มกบั ชาวเลปกั เสาทาร้ัว ไ ร่ ) ( ที่ ยังคงฌาปนกิจศพด้วยการฝัง รอบสุสานชาวเลบางมรวน สาธารณประโยชน)์ ต่อมาใช้เป็นเชิงตะกอน (ไม่มีวัด) 2. ให้กรมท่ีดิน มีคาส่ังให้อาเภอตะกั่วป่า หม่ทู ี่ 4 บ้านบางม่วง ในช่วง 30 ปีหลังมีการล้างป่าช้า เร่งออกหนังสือสาคัญที่ดินที่สาธารณะ ตาบลบางม่วง อาเภอ และมีการเข้าครอบครองพื้นที่ ประโยชน์แปลงสุสานบางมรวน (สุสาน ตะกั่วปา่ จังหวดั ของผู้มีอิทธิพลจนเกือบหม ด ชาวเล) และให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับ พงั งา เหลือเพียงพ้นื ท่ีสสุ านผู้ประสบภัย กระทรวงวัฒนธรรมประกาศเป็นพ้ืนท่ี สึนามิ และสุสานชาวเล ( อยู่ใน ส่งเสริมและคุ้มครองทางวัฒนธรรม

328 จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ พื้นท่ีสาธารณะประโยชน์พลเมือง (สุสาน)ชาวเลบ้านน้าเค็ม ให้แล้วเสร็จ ใชร้ ่วมกัน ) ภายในเดอื นตลุ าคมนี้ เมื่อ พ.ศ.2557 มีการล้างป่าช้า 3. ให้กรมที่ดินสารวจตรวจสอบการถือ บริเวณนี้อกี ครัง้ โดยมูลนิธหิ นงึ่ ได้ ครองและใช้ประโยชน์รอบแนวเขตสุสาน จัดเคมเปญทาบุญสร้างศาลเจ้า สสุ านบางมรวน เพอ่ื ไม่ให้เกิดความขดั แย้ง โดยล้างป่าช้านาศพไร้ญาติข้ึนมา และอคติของประชาชนในพ้ืนท่ีตอ่ ชาวเล ทาพิธีเผา ทาให้มีการขุดเอาศพ ของบรรพชนมอแกลนขึ้นมาด้วย ชาวเลมอแกลนทักท้วงก็ไม่มีผู้นา คนไหนสนใจ พ . ศ . 2 5 6 0 มี ค า ส่ั ง ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ขบวนการประชาชนเพ่ือสังคมที่ เป็นธรรม (ขปส.)ให้แก้ไขปัญหา สุสาน ทางท้องถิ่นจึงนาเสาไปปัก แสดงแนวเขตสุสานไว้ แต่ไม่มี ก า ร ด า เ นิ น ก า ร อ อ ก น ส ล . ประเภทป่าช้าชาวเล ตามที่คกก. ขปส.ได้มีมติ ตั้งแต่ พ.ศ.2560 ถึงปัจจุบัน ยัง ไม่มีการดาเนินการใดๆให้ปัญหา ลลุ ่วง จังหวัดพังงาได้มีหนังสือ ที่ พง 0002.01.1/6243 ล ง วั น ท่ี 10 สิงหาคม 2563 แจ้งว่า กรณี สุสานบางมรวน หมู่ที่ ๔ ตาบล บางม่วง อาเภอตะกั่วป่า จังหวัด พังงา ได้แจ้งให้อาเภอตะกั่วป่า มอบหมายให้ อบต.บางม่วง ใน ฐ า น ะ ผู้ ดู แ ล รั ก ษ า ต า ม ม า ต ร า ๑ ๒ ๒ แ ห่ ง พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ลั ก ษ ณ ะ ป ก ค ร อ ง ท้ อ ง ที่ พุทธศักราช ๒๔๕๗ และท่ีแก้ไข เพ่ิมเติม และระเบียบกระทรวง มหาดไทยฯ ย่ืนคาขอออกหนังสือ สาคัญสาหรับท่ีหลวงให้ครบตาม เน้ือท่ีแล้ว ซึ่งอันที่จริงชาวเล

329 จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ 23 เสนอให้ออก นสล.ประเภท ปา่ ช้า ชาวเล ในพื้นท่ีท่ีชาวเลฝังอยู่ เน่ืองจากพื้นที่สาธารณะมักถูก เอกชนบกุ รุกอา้ ครอบครองได้ สุสานตล๊งิ ชนั หมทู่ ี่ ๒ ทาง องค์การบริหารตาบลเกาะ - ให้สานักบริหารจัดการทรัพพยากรทาง ตาบลเกาะพระทอง พระทองได้แจ้งกับอนุฯชาวเลฯ ทะเลและชายฝั่งท่ี 6 เร่งกันพื้นที่สุสานให้ อาเภอคุระบรุ ี ขปส. ว่าทาง อบต.เกาะพระทอง ชาวเลโดยเร็ว จงั หวัดพงั งา ได้ทาตามขอบเขตอานาจของ อบต.ทุกอย่างแล้ว รวมถึงการ ล้อมร้ัว ทาศาลาพักศพ แต่ทาง หน่วยงานท้ัง ทช. และ ที่ดิน อาเภอไมข่ ยบั เลย ส่วน สถานีพัฒนาทรัพยากรป่า ชายเลนท่ี ๑๘ ทาเรอ่ื งขอเสนอให้ กันพ้ืนทอี่ อกให้เปน็ ที่ฝังศพ 24 สสุ านเกาะจาก ใน สุสาน มีการประกาศเขตป่าสงวน ให้กรมอุทยานฯมีคาสั่งให้อุทยานฯหมู่ เขตอุทยานฯหมเู่ กาะ และอุทยานฯทบั เกาะสรุ นิ ทร์กนั แนวเขต ทารว้ั ธรรมชาติใน สรุ ินทร์ ตาบลเกาะ ช่วง พ.ศ.2549 เจ้าหน้าท่ีบางคน พื้นท่ีสุสานและประกาศเป็นพ้ืนท่ีคุ้มครอง พระทอง อ.คุระบรุ ี มีการพูดเชิงห้ามชาวเลมอแกน ทางวัฒนธรรมฯชาวเล (ประเภทสุสาน) จ.พังงา เกาะสุรนิ ทร์ฝัง ปัจจุบัน หลงั จาก มี ค า สั่ ง ใ ห้ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ท า ง อุทยานฯก็รับปากว่าจะไม่มีการ รบกวนการฝังของมอแกน แต่ก็ ไ ม่ ใ ห้ มี ก า ร ด า เ นิ น ก า ร ใ ด ๆ นอกจากการฝัง แม้กระทั่งศาลา พกั ศพ

330 7.4.3 ขอ้ มูลประกอบการส่งเสริมและค้มุ ครองพ้ืนที่ทากิน เส้นทางหากินดั้งเดิมในทะเลของชาวเลอันดา มัน 5 จังหวัด โดยจาแนกตาม อุทยานฯและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดูแล พ้ืนท่ีจุดการหากินของ ชาวเลในอันดามันโดยการจับหาด้วยเคร่ืองมือดั้งเดิม 17 ชนิดที่ไม่ทาลายล้าง และจุด “บาฆ๊ัจ” หรอื จุดตงั้ เพงิ พกั จับหาปลาตามฤดกู าลตามวถิ ีชวี ติ การใช้ทะเลหมุนเวยี นของกลุ่มชาตพิ ันธ์ชุ าวเล เตรยี มประกาศขอบเขตทท่ี ากินของชาวเลที่อยใู่ นความรบั ผดิ ชอบของกระทรวงทรัพยากรฯ โดยอนุกรรมการฯชาวเล กะเหรี่ยงชาวเลพิจารณาต้ังคณะศึกษาข้อมูล หาแนวทางดาเนินการ ขึน้ มา 1 คณะ มรี องปลัดกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม เปน็ ประธาน จังหวดั เขตอทุ ยานฯ/เขต หมายเหตุ 1. ระนอง หนว่ ยงาน ทหี่ ากิน 2. พงั งา กระบี่ หมู่เกาะระนอง - รอบเกาะศรีบอยา มีการเตรียมประกาศเขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของป่าชาย 3 ภเู กต็ อทุ ยานฯลาน้ากระ เลน ทาให้ชาวเลกงั วลว่าจะไม่มีทท่ี ากิน 4. กระบ่ี พนื้ ทีท่ ากิน บุรี เกาะกระดาน (อทุ ยานฯ เจ้าไหม) อุทยานฯหาดแหลม เกาะหมา (วนอทุ ยาน) เกาะรอก (อทุ ยานฯ ลันตา) สน เกาะมกุ (อุทยานฯ เจา้ ไหม) เขตหา้ มลา่ ฯเกาะระ- เกาะกลวง (เอกชน) เกาะตะลาเบง (เตรียมอุทยานฯ ลนั ตา) เกาะพระทอง เกาะไหง อุทยานฯหมูเกาะ เกาะบบู ู (เอกชน) เกาะลิบง (อทุ ยานฯ เจ้าไหม) สรุ ินทร์ เกาะอาดัง (อุทยานฯ ตะรเู ตา) อทุ ยานฯหมูเกาะสิมิ เกาะหลเี ป๊ะ (อทุ ยานฯ ตะรเู ตา) บโุ หลน (อทุ ยานฯ เภตรา) ลนั เกาะหา้ (อทุ ยานฯ ลันตา) อทุ ยานฯเขาหลัก-ลา เกาะเกียง (อุทยานฯ เจา้ ไหม) เกาะปอดะ (อุทยานฯ พพี ี) รู่ เกาะไผ่ (อุทยานฯ พีพี) อทุ ยานฯเขาลาปี- เกาะยูง (อทุ ยานฯ พีพี) หาดทา้ ยเหมือง เกาะมดิ ะ (อุทยานฯ พพี ี) อทุ ยานฯอา่ วพงั งา เกาะโหนกลาง (อทุ ยานฯ พีพี) กรมทรัพฯชายฝง่ั เกาะลันตา เกาะพีพี กรมเจา้ ทา่ บาฆั๊จ โละจแู วะ ปาตัยซีเร๊ะ อยใู่ นอุทยานหาดนพรตั นธ์ ารา-หมเู่ กาะพีพี อทุ ยานฯสริ นิ าท ภเู ก็ต กรมทรัพฯชายฝั่ง กรมเจ้าท่า อุทยานฯหมู่เกาะพีพี อทุ ยานฯหมูเกาะลนั ตา อทุ ยานฯหมู่เกาะ เภตรา อุทยานฯเกาะลบิ ง

331 จงั หวัด เขตอุทยานฯ/เขต หมายเหตุ 5. สตูล หน่วยงาน ที่หากนิ อทุ ยานฯหาดเจ้าไหม - เอกชน/โรงแรม/ทอ้ งถน่ิ หา้ มเขา้ หากนิ บรเิ วณหน้าหาด กรมทรัพฯชายฝ่งั - ตามเกาะตามหาดตามเกาะ ท่ีอยู่ในพ้ืนท่ีอุทยานฯท้ังในและนอกจังหวัด เมื่อ กรมเจ้าท่า ชาวบ้านเขา้ ไปหาหอยหาปลา โดนข่มขูไล่ จบั กมุ ฟ้องร้อง ยดึ เรือชาวบ้าน อทุ ยานฯตะรเุ ตา พังงา - ชาวเลชนเผ่ามอแกน มอแกลน อูรักลาโว้ยหากินรอบเกาะและอ่าวของ อุทยานฯหมู่เกาะอา อุทยานฯในจงั หวดั พังงาและระนอง ดังฯ - ชายฝงั่ สาธารณะและอ่าว เกาะนอกเขตอทุ ยานฯตั้งแต่เกาะพระทองถึงภูเก็ต เป็นแหลง่ หากินประมง หาแรด่ ีบกุ เก็บผกั สมนุ ไพร เพงิ พักชาวเล ทีจ่ อดเรือ พื้นท่แี หลง่ หากนิ สว่ นหนง่ึ ๓.๑ อาเภอ คุระบุรี ได้แก่..ระหว่างเกาะพระทองกับเกาะสุรินทร์,เกาะบอน, ทะเลนอก,เลใน,หัวพานห้างสูง,เกาะหอย,ปากทางเข้,เกาะไข่,เกาะค้างคาว ,เกาะปลิง,รอบเกาะพระทอง,เกาะจา,เกาะตาชัยและหมู่เกาะสิมลิ นั ๓.๒ อาเภอตะกวั่ ป่า ได้แก่...เกาะผ้า,หัวกรงั นุ้ย,หัวกรังใหญ่,หน้าอา่ วคลองหัก, อ่าวขาม,ขุมเขียว,ปากคลองน้าเค็ม,ปากคลองทุ่งดาบ,หน้ารีสอร์ทเจิน เจิน , แนวป่าโกงกางตง้ั แต่นา้ เค็มถึงเกาะจา คุระบุรี,ชายฝง่ั จากน้าเค็มถึงเขาหลกั ๓.๓ อาเภอท้ายเหมือง ได้แก่..เกาะตาชัย,เกาะบัว,เกาะบอน,เกาะลุ,ดอนซ้ัง ,ดอนจาปูน,แนวชายฝ่ังจากเขาหน้ายักษ์ถึงสารสิน,ดอน16,เกาะผ้า,กรังยาว ,กรังใหญ่,กรังนุ้ย,อ่าวน้าใส,ดอนหอย,ปากคลองหนิม,แหลมหมา,ท่าเฒ่าเบี้ย ,เรือขุด,ขุมรางแปด-รางเก้า,ท่าเฒ่าจิ,ท่าซอ,หลังสนง.อุทยานฯหาดท้าย เหมืองฯ,เขาหน้ายักษ์,อ่าวน้าจืด,ข้ีนก,แหลมเฒ่าโยน,อ่าวทราย(ชายฝ่ังหน้า บ้านพกั นายพลฯ),เกาะเรือ,คลองเป็นตยุ้ ,โหนหอย,หินนางสดี า ๓.๔ อาเภอตะกั่วทุง่ ได้แก่..สะพานสารสินถึงบางจันทร์,จากชายฝ่ังหินลูกเดียว ถงึ แหลมสา,หน้าทา่ ปากแหว่ง,ทองหลาง,คลองในหยงถงึ บางจนั ทร-์ แหลมตีน ระนอง - ชาวเลมอแกน มอแกลน หากินรอบเกาะและอ่าวของอุทยานฯในจังหวัด ระนอง - พื้นท่ีจอดเรือ แหล่งน้าจืด เพิงพักตามอ่าวต่างๆในเขต ป่าชายเลน เจ้าท่า ทหาร

332 7.4.4 ข้อมูลกรณีปญั หาและแนวทางการแกไ้ ขปญั หาท่ดี ินอาศัย และท่ีดนิ ทากนิ บนฝ่ังของชุมชนชาวเล 5 จังหวดั จานวน 27 พนื้ ที่ จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 1 ภูเก็ต แหลมตุ๊กแก 3. กรณที ี่ดินทอี่ ยู่อาศัย ให้คณะกรรมการฯ ขปส. มีมติให้มีการ 2 แหลมตกุ๊ แก มีเอกชนออกเอกสารสิทธิท์ ับพ้นื ท่ี พิสูจน์สิทธิ์แปลงที่กาลังจะถูกฟ้องเพิ่ม เกาะสิเหร่ ชมุ ชน และมีการฟอ้ งร้องชาวเล 5 และให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ใน ตาบลรัษฎา ราย ศาลช้ันต้นให้ชาวบ้านชนะ แปลงท่ศี าลไดต้ ัดสนิ แล้ว อาเภอเมือง ศาลอุทรณ์ตัดสินให้ชาวเลแพ้คดี ภเู ก็ต จงั หวัด ศาลฎีกาตัดสินยกฟ้อง กาลังฟ้อง ภเู กต็ เพ่มิ สะปา ต.เกาะ - ชุมชนสะปา มีเน้ือที่ 3-0-0 ไร่ ให้กรมเจ้าท่าและจังหวัดภเู กต็ เร่งประกาศ แก้ว อ.เมือง อยู่อาศัย 53 ครัวเรือน 215 คน เ ป็ น พ้ื น ที่ น า ร่ อ ง เ ข ต คุ้ ม ค ร อ ง ท า ง จ.ภเู กต็ เป็นชาวเล อุรักละโว้ย อยู่ใน วฒั นธรรมชาวเล บ้านสะปา ใหค้ รอบคลุม ที่ดินของกรมเจ้าท่า มีปัญหา ท่อี าศัยทที่ ากิน และพ้นื ท่ีทางจิตวญิ ญาณ สภาพความเป็นอยู่แออัด แต่ ชุมชนอยู่มาก่อนการประกาศของ กรมเจ้าท่า จึงมีสิทธิอยู่อาศัยได้ และชมุ ชนตอ้ งการให้กนั พนื้ ท่ีเป็น “ สิทธิร่วมของชุมชน ” ประกาศ เป็นพื้นท่ีนาร่องโฉนดชุมชน เมื่อ พ.ศ.2560 ชมุ ชนถูกกรมเจ้าท่าส่ง ห นั ง สื อ ใ ห้ ย้ า ย อ อ ก จ า ก ชุ ม ช น หรือไม่ชุมชนก็ต้องจ่ายค่าเช่า แต่ ชุมชนไม่ยินยอมจึงออกประท้วงท่ี ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ทาให้ ผู้วา่ ฯภูเก็ตมีคาส่งั ใหแ้ ก้ไขปัญหา พ.ศ.2562 เรื่องเข้าสู่การแก้ไข ปัญหาของคณะกรรมการแก้ไข ปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อ สังคมท่ีเป็นธรรม (ขปส.) ในกรณี ที่เก่ียวกับกระทรวง คมนาคม มี มติ ให้ตรวจสอบพื้นที่และแก้ไข ปัญหา ล่าสุด พ.ศ. 2563 มีแนวทางการ หารือของคณะกรรมการฯระดับ จังหวัด ให้ดาเนินการให้ชุมชน

333 จังหวัด ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ ชาวเลสะปา เป็นพ้ืนที่นาร่อง คุ้มครองทางวัฒนธรรมฯชาวเล - มีเอกชนได้รับสัมปทานจากกรม เจ้าท่า ไปเลี้ยงหอยแครงหน้า หาดชุมชน ทาให้ชาวเลท่ีเคยหา หอยขาย ทามาหากินลาบากขึ้น - ชุ ม ช น ต้ อ ง ก า ร พ้ื น ที่ เ พ่ื อ ป ร ะ ก อ บ พิ ธี ก ร ร ม พิ ธี ล อ ย เ รื อ 3 ราไวย์ ม.2 ต. 1. ที่อยู่อาศัย ชาวเลถูกไล่ที่ 107 ให้เร่งประกาศพื้นท่ีใช้ประโยชน์ชายหาด ราไวย์ อ.เมือง ราย ฟ้องร้องเปน็ คดีกว่า 20 ราย และในทะเลเปน็ พ้ืนที่ส่งเสรมิ และคุ้มครอง จ.ภเู กต็ 2. ที่สาธารณะทางเดิน ท่ีทากิน วถิ ีชวี ติ กลมุ่ ชาตพิ นั ธ์ชุ าวเลราไวย์ ชายฝ่ังและท่ีจอดเรือชายหาดถูก เอกชนครอบครอง 3. เป็นชุมชนแออัด มีสภาพพ ปั ญ ห า ท า ง สั ง ค ม ข า ด สาธารณูปโภคและคุณภาพชีวิต ทกุ ด้าน 4 หิ น ลู ก เ ดี ย ว อยู่อาศัย 56 ครัวเรือน 176 คน ให้จงั หวัดภูเก็ต/องค์การบรหิ ารส่วนตาบล 27. ชุมชนมอ มเี นือ้ ท4่ี -0-0 ไร่ ไม้ขาว จัดสรรงบประมาณในการสารวจ แกลนหินลูก ชาวมอแกลน ชุมชนหินลูกเดียว และจัดทาแนวทาง ประกาศท่ีอยู่อาศัย ท่ี เดียว ม.5 ต. อาศัยในพื้นท่ีป่าชายเลน มีการ ทากิน พื้นท่ีทางจิตวิญญาณเป็นเขต ไม้ขาว อ.เมือง สร้างบ้านใหม่หลังประสบภัยสึนา ส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ จ . ภู เ ก็ ต มิ และมีกติการ่วมกันในการดูแล ชาวเลมอแกลนหนิ ลูกเดยี ว จ า น ว น 5 0 ป่าชายเลน ไม่ถางป่า ไม่บุกรุก ครอบครัว พ้ืนที่ ได้รับการดูแลจาก อบต. ในพื้นท่ีเป็นอย่างดี แต่ไม่มีความ มั่นคงในที่อยู่อาศัยเพราะเมื่อเกิด โครงการพัฒนาภูเก็ต ชาวเลกลุ่ม น้ีจะถูกไล่รื้อได้ เคย เสนอขอกัน แนวที่อยู่อาศัย จานวน ๔ ไร่ อ อ ก จ า ก พ้ื น ท่ี ป่ า ช า ย เ ล น เ ป็ น พื้นที่สิทธิร่วมของชุมชน ได้ ดา เ นิ น ก า ร พั ฒ น า พื้ น ที่ ต า ม โครงการบ้านมั่นคง และได้เสนอ พื้นที่เข้าโครงการโฉนดชุมชน แต่ ยังไมค่ ืบหนา้

334 จังหวดั ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 5 แหลมหลา เดือน สิงหาคม 2563 หน่วยงาน 6 กระบ่ี เกาะพพี ี ป่าชายเลนสารวจแล้ว และให้ ตัวแทนเข้าประชุมที่ อบต.ไม้ขาว แจ้งว่าให้ชาวบ้านทามาหากินได้ แ ต่ กั น เ พ่ื อ ใ ห้ รู้ ว่ า เ ป็ น แ น ว เ ข ต อนรุ กั ษ์ เ ดื อ น กั น ย า ย น 2 5 6 3 คณะกรรมาธิการกระทรวงทรัพฯ มีการสอบถามสภาพความเป็นอยู่ ชาวเลมอแกลน และได้ตกลงกับ เจ้าหน้าที่หน่วยงานป่าชายเลน ให้มีหนงั สือรับรองเร่อื งการทาเสา ไฟฟ้า ท่าจอดเรอื ของชาวบา้ น ยัง ไมท่ ราบความคบื ทอ่ี าศัยอยใู่ นท่รี าชพสั ดุ กนั พน้ื ทอี่ อกจากเขตราชพัสดุ 14. ชุมชนชาวเลบ้านแหลมตง (1) ขอให้ตรวจสอบท่ีดนิ จานวน 4 ไร่ เกาะพีพี จังหวดั กระบี่ ท่พี ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวฯ รชั กาลท่ี ๙ พระราชทานให้กับชาวเล กรณีเก่ียว เน่ืองกันยังมีประเด็นการตรวจสอบข้อมูล กรณีตามข้อร้องเรียน (1) มี ข้อเท็จจริงเก่ียวกับโฉนดที่ดินทุกแปลง แนวทางการแกไ้ ขปญั หา ดังนี้ และจัดทาขอ้ มูลประวตั ิชมุ ชน 1. ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (2) ขอความร่วมมือจาก กรมอุทยานฯ ร่วมกับอาเภอเมืองกระบ่ี และ โดยสานักบริหารพื้นท่ีอนุรักษ์ทร่ี ับผดิ ชอบ จั ง ห วั ด ก ร ะ บ่ี ด า เ นิ น ก า ร พื้นที่ จัดทาโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ตรว จสอบข้อมูลข้อเท็จจริ ง (ซ่อมแซมบ้านเรือน) ซ่ึงเป็นโครงการที่ เกี่ยวกับโฉนดที่ดินทุกแปลงของ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก ชุมชนชาวเลบ้านแหลมตง (เกาะ กระทรวงพฒั นาสังคมและความม่นั คงของ พีพี) หมู่ที่ ๘ ตาบลอ่าวนาง มนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน อาเภอเมืองกระบ่ี จงั หวัดกระบ่ี (องค์การมหาชน) 2. ให้ อส. ส่งข้อมูลผลการ ตรวจสอบเขตที่ดินจานวน ๔ ไร่ ดั ง ก ล่ า ว เ พ่ื อ ใ ช้ เ ป็ น ข้ อ มู ล ประกอบการพิจารณา กรณตี ามขอ้ รอ้ งเรียน (2)

335 จงั หวดั ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ ขอความร่วมมือกับ อส. เกี่ยวกับ การขอจัดทาโครงการพัฒนาท่ีอยู่ อาศัย (ซ่อมแซมบ้านเรือน) และ ใ ห้ ชุ ม ช น ช า ว เ ล บ้ า น แ ห ล ม ต ง ดาเนนิ ตามระเบียบวิธกี ารต่อไป 3 . ใ ห้ ก ร ะ ท ร ว ง ท รั พ ฯ แ ล ะ ก ร ะ ท ร ว ง วั ฒ น ธ ร ร ม เ ร่ ง ด า เ นิ น ก า ร ป ร ะ ก า ศ เ ข ต พื้ น ที่ ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ คุ้ ม ค ร อ ง ท า ง วฒั นธรรมชาวเลอรุ ักลาโว้ย เกาะ พีพี 4. ตรวจสอบพิสูจน์สิทธิการอยู่ อาศัยของชุมชนชาวเลและท่ีดิน ของเอกชนทุกแปลงรวมถึงลาราง และทางเดนิ สาธารณประโยชน์ 7 โต๊ะบาหลิว 8 เกาะจา พื้นทีช่ ุมชนอยู่ในเขตป่าชายเลน ให้กระทรวงทรัพฯ กันพื้นท่ีชุมชนและหา 9 สตูล และทดี่ นิ ราชพัสดุ แนวทางร่วมกับหนว่ ยงานที่เก่ยี วข้อง และ บ้านกลาง พน้ื ที่ชมุ ชนอยู่ในเขตปา่ ชายเลน ชุมชนเพื่อพัฒนาชุมชนชาวเล ให้ดารงวิถี หนว่ ยงานสารวจ จบั พกิ ัดแล้ว ชวี ิต ติงไหร พืน้ ที่ชมุ ชนอยู่ในเขตปา่ ชายเลน หน่วยงานสารวจ จบั พกิ ัดแล้ว มู่ตู พื้นท่ีชมุ ชนอยู่ในเขตปา่ ชายเลน หนว่ ยงานสารวจ จับพิกัดแลว้ หลีเป๊ะชุมชน (1) ตรวจสอบพิสูจน์สิทธิการอยู่อาศัยของ ชาวเลอุรักลา ล่าสุดมีข้อพิพาทเกิดข้ึนอีกคร้ัง ชุมชนชาวเลและท่ีดินของเอกชนแปลงท่ี โว้ยเกาะหลี เม่ือวันท่ี 27 กันยายน 2563 เป็ด 11 รวมถึงพ้ืนท่ีลารางและทางเดิน เ ป๊ ะ ต า บ ล ของนางละอองไปเลน่ น้าที่ท่วมขัง สาธารณประโยชน์ เกาะสาหร่าย ซึ่งตรงทางรถว่ิง และรถเหยียบ (2) ราษฎรถูกเอกชนฟ้องขับไล่ใหอ้ อกจาก อาเภ อเมือ ง เป็ดของนางละอองตายไป 2 ตัว พ้ืนที่ โดยทนายความฝ่ายโจทก์อยูเรื่อยๆ จังหวัดสตลู นางละอองไปถามคนขับรถต่างๆ ขอใหห้ นว่ ยงานราชการจัดสง่ ข้อมูลผลการ ในวันน้ันก็ไม่มีคนไหนยอมรับ อ่านแปลฯ และรูปแปลงแผนที่ ส.ค.1 นางละอองได้ลงเฟสบุ๊คเล่า และนส.3 ทุกแปลงเพ่ือประกอบคาให้การ เร่ืองราวด้วย จนวันที่ 28 ตอน ต่อศาล และขอให้กองทุนยุติธรรม เช้านางละอองให้ลูกเขียนป้าย ดาเนินการช่วยเหลือทางคดี แล้วนาไปวางท่ีบริเวณที่เป็ดตาย

336 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ หรือเรียกว่าจุดเกิดเหตุในเวลา กรณีตามข้อเสนอที่ (1) มีแนวทางการ 06.00 ซึ่งมีข้อความว่า \"มีรถใหญ่ ดาเนนิ การแก้ไขปญั หา ดงั นี้ ชนเป็ดตายไม่รับผิดชอบ\" เพื่อ 1. จัดทาแผนที่การตรวจสอบรูปแปลง เ รี ย ก ร้ อ ง ใ ห้ ค น ท า ผิ ด ม า ทด่ี ินในเกาะหลีเป๊ะตรวจสอบการถอื ครอง รบั ผิดชอบ ตอ่ มา เวลา 07.30 น. ส.ค. ๑ และรังวัดแนวเขตที่ดินของเกาะ มีโกป้อม คนทางานในโรงไฟฟ้า หลีเป๊ะท้ังหมด รวมถึงการตรวจสอบลา ขับรถจักรยานยนต์มาแล้วมาถาม ราง ทางเดินสาธารณประโยชน์ว่า มีการ นางละอองว่าปักป้ายทาไม นาง ออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ (น.ส. ล ะ อ อ ง ก็ ต อ บ ไ ป ว่ า ปั ก เ พ่ื อ ๓) ทับอยู่ก่ีแปลง และออกโดยชอบด้วย เรียกร้องรถท่ีชนเป็ดตายให้เขา กฎหมายหรือไม่ และมีการสารวจประวัติ รบั ผิดชอบ แล้วโกป้อมบอกว่าจะ การถือครองทาประโยชน์ในที่ดินของ ไปแจ้งตารวจ ต่อมาเวลา 08.00 ชาวเลเกาะหลีเป๊ะเพ่ิมเติม โดย อส. น.ตารวจราว 5 นายมาที่จุดเกิด (อุทยานแห่งชาติเกาะรุเตา) จังหวัดสตูล เหตุและมาเจรจาเพ่ือขอให้เอา อาเภอเมอื งสตูล และ GISTDA ป้ า ย อ อ ก น า ง ล ะ อ อ ง จึ ง ใ ห้ 2. หนว่ ยงานท่ีเกี่ยวข้องหารือรว่ มกันให้ บุตรชายคนสุดท้องคือนายสุชา ไดข้ ้อสรุปเรื่องรูปแปลงท่ีดนิ และขอทราบ หาญทะเลช่ือเล่นว่าน้องจงไปเอา ความคืบหน้าจากจังหวัดสตูลในการ ป้ายออก แต่ในขณะที่ที่เอาป้าย สารวจการถือครองทาประโยชน์ในท่ีดิน ออกก็มีนายคมศักดิ์ เอ่ียวเหล็ก การตรวจสอบลาราง ทางเดนิ มาท่ีจุดเกิดเหตุและถ่ายรูปพร้อม กับมีปากเสียงกันกับนางละออง กรณีตาม (2) มีแนวทางการดาเนินการ นายคมศักดิ์เลยพูดว่าจะแจ้ง แก้ไขปัญหา ดังนี้ ความนางละอองพร้อมเดินไปหา 1. ให้ GISTDA และ DSI จัดส่งข้อมูล ตารวจและแจ้งความในทันที ผลการอ่าน แปล ตีความภาพถ่ายทาง ต่อมาเวลา 10.00 น. ผู้กองวิทิน อากาศ และรปู แผนที่ที่เก่ยี วขอ้ งกบั ส.ค. ๑ คงพันทะระ ได้มาเจรจาให้นาง และ นส.๓ ทุกแปลงดังกล่าว ให้ชาวเลใช้ ละอองไปขอโทษนายคมศักดิ์ แต่ ในการต่อสูค้ ดีในชน้ั ศาล นางละอองไม่ไป 2. ให้จังหวัดสตูล ส่งเรื่องให้กองทุน ในวันที่ 29 กันยายน 2563 ผู้กอง ยุติธรรมที่รับผิดชอบพ้ืนที่พิจารณา คนเดมิ โทรหานางฮารีบ๊ะ แดหยา ชว่ ยเหลือทางคดี ลูกสะใภ้ของนางละออง ถามว่า นางละอองไปเคลียร์กับนายคม ศักด์ิหรือยัง นางฮารีบ๊ะตอบว่า ยังไม่ไปเน่ืองจากว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ ว่างท่ีจะไปด้วย เพราะตารวจ บอกวา่ ให้ไปขอโทษนายคมศักด์ิที่ เมาเท่นรสี อร์ท

337 จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ ต่อมาวันที่ 30 ผู้กองคนเดิมวิ่ง ออกกาลังกายและมาพบนาย ชารีฟ(สมรส)บุตรชายละอองที่ บริเวณบ้านแล้วบอกว่าทาไมไม่ รีบไปเคลียร์ปัญหา เด๋ียวจะ เดอื ดร้อนต้องสู้คดี ต่อมาวันที่ 1 ตุลาตม 2563 เวลา 10.30 น. ผู้กองคนเดิมแต่งตวั เต็ม ยศแล้วมาหานางละอองเพื่อให้ไป เจรจากับนายคมศักด์ิ เวลา 11.00 น.นางละอองจึงให้นาย เจียม สืบสันติศาสตร์ สามีคน ปัจจุบัน และนายสุชา พร้อม ด้วยผญ.เดชณรงค์ไปหานายคม ศักด์ิท่ีเมาเท่นรีสอร์ท และคุยกัน โดยที่คุยกันดีๆและนายคมศักด์ิ จะถ อน แจ้ งค ว าม แต่ ให้ นา ง ละอองไปทาบนั ทึกทโี่ รงพัก เวลา 12.30 น.นางละออง นายเจียม นายสุชา ผญ.เดชณรงค์ นาง แสงโสม ไปโรงพกั และผู้กองคน เดิมชวนทกุ คนน่ังในศาลาแล้วร่าง หนังสือโดยมีเน้ือหาว่า นาง ละอองและนายเจียมยอมรับว่า ตนได้บุกรุกในท่ีดินของนายคม ศักดิ์ และทราบว่าข้อเท็จจริง ที่ดินที่จุดเกิดเหตุเป็นของนายคม ศกั ด์ิ เอยี่ วเหล็กซ่ึงมีเอกสารสิทธิ์ นส. 3 เลขท่ี 11 แต่นางละอองไม่ ย อ ม รั บ จึ ง ร่ า ง ใ ห ม่ ท่ี เ ป็ น เน้ือความท่ีต่างฝ่ายต่างไม่เอาผิด ซ่ึงกันและกันและจะไม่ทาให้เกิด เหตุการณ์แบบน้ีอีกต่อไป นาง ละอองและนางแสงโสมเซ็นต์ใน คาให้การดังกล่าว ต่อมาตารวจ บอกว่าจะให้นายคมศักดิ์มาเซ็นต์ ทีหลัง ต่อมาเวลา 17.30 น.ผู้

338 จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ กองคนเดิมก็มาที่บ้านของนาย เจียมและบอกว่านายคมศักด์ิไม่ ยอมถอนแจ้งความ และบอก นายเจียมว่าให้ไปยินยอมกับนาย คมศกั ด์ิ แตน่ ายคมศักดิ์ปฏเิ สธ ต่อมาวันท่ี 2 ตุลาคม 2563 เวลา 12.30 น.ผญ.เดชณรงค์โทรหา นางละอองบอกว่าตารวจนัดไป สอบสวน เวลา 13.30 น. นาง ล ะ อ อ ง แ ล ะ ค ร อ บ ค รั ว ประกอบด้วย นายเจียม สืบสันติ ศาสตร์ นายชารีฟ หาญทะเล นางฮารีบ๊ะ แดหวา นายสุชา หาญทะเล และเพื่อบ้านคือนาง เรณู ทะเลมอญ นางสาวสลวย หาญทะเล นางแสงโสม หาญ ทะเล ไปร่วมสังเกตกุ ารณ์ ผกู้ อง คนเดิมอธิบายว่าทางนายคมศักด์ิ ไม่ยอมเซ็นต์ตามเอกสารเมื่อวาน และบอกว่าจะเซ็นต์ให้ก็ต่อเมื่อ นางละอองยอมรับว่าบุกรุกท่ีดิน ของนายคมศักดิ์ นางละอองจึง ตอบยืนยันว่าไม่ยอมเพราะไม่ได้ บุกรุกท่ีดินนายคมศักด์ิ ผู้กองจึง ดาเนินการสอบสวนนางละออง แต่ในระหว่างน้ันครูแสงโสมจึง โทรปรึกษาแนวทางด้านกฏหมาย กับองค์กรเอกชนทางกฎหมาย เพราะนางละอองและครอบครัว ไม่มีใครรู้กฏหมาย และคุยกับผู้ กากับสภ.เกาะหลเี ป๊ะ แล้วผู้กอง ก็มาบอกคาตอบว่าให้ชาวบ้านนัด ยุติธรรมจังหวัดสตูลมาด้วยได้ น า ง แ ส ง โ ส ม จึ ง ป ร ะ ส า น คุ ณ ฟู เกียรติ นิติกรยุติธรรมจังหวดั สตูล และนัดวนั เบื้องต้นและให้ผญ.เดช ณ ร ง ค์ ท า ห นั ง สื อ ถึ ง ยุ ติ ธ ร ร ม

339 จงั หวัด ชุมชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 10 จังหวัดเพ่ือลงพ้ืนท่ีเกาะหลีเป๊ะ 11 ระนอง แกไ้ ขปญั หาของนางละออง ชุมชนชาวเล พ้ืนท่ีสวนดั้งเดิมของชาวเลใน 1. ให้อุทยานพัฒนาชาวเลที่อยู่อาศัยใน เ ก า ะ อ า ดั ง เกาะอาดัง-ราวี พื้นท่ีป่าอนุรักษ์ให้มากกว่าการมุ่งพัฒนา ต า บ ล เ ก า ะ - ตือโล๊ะนีปะดือมิ ด้านการท่องเท่ียวท่ีสนใจแต่นักท่องเที่ยว ส า ห ร่ า ย - ตอื โละ๊ นีปะบอื ซอ อย่างเดียวโดยไมส่ นใจชาวเลทอี่ ยู่อาศัยมา อาเภ อเมือ ง - ตอื โละ๊ อาเยบอื ซอ กอ่ น จงั หวัดสตูล - ตือโล๊ะอาเยตอื มิ (2) ให้อุทยานคืนพ้ืนท่ีทากินดั้งเดิมของ - ปาตัยสมชาย ชาวเลในรูปแบบสปก.เพ่ือให้ชาวเลได้ทา - ตอื โละ๊ ปรือยัด ก า ร เ พ า ะ ป ลู ก พื ช ส ว น ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ใ น - ปาตัยปาญักสมชาย ครัวเรือนและเพื่อนบ้านเหมือนในอดีต - ตอื บาฆู และให้อุทยานทาการพัฒนาดูแลชาวเลใน - ตอื โละลีและ อดีต มีการตั้ง พ้ืนท่ีดังกล่าวอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยแบบ ชุมชนตามอ่าวเพ่ือใช้สอยพื้นท่ี ช า ว เ ล อ ยู่ ไ ด้ อุ ท ย า น อ ยู่ ไ ด้ ตามฤดูกาลต่างๆ มีการหาผักป่า ทรพั ยากรธรรมชาติไมถ่ กู ทาลาย การทาสวน อุทยานฯประกาศทับ (3)ให้อุทยานดาเนินการประกาศพ้ืนที่ และย้ายชุมชนไปอยู่เกาะหลีเป๊ะ ดังกล่าวให้ชาวเลและเข้าไปพัฒนา แ ล ะ จ า กั ด ไ ม่ ใ ห้ ใ ช้ คุณภาพชีวิตแก่ชาวเล เช่นพัฒนาอาชีพ ปัจจุบันพ้ืนท่ีหลีเป๊ะ-อา ประมงท่ีอนุรักษ์ต่อทรัพยากรธรรมชาติ ดัง มีการพัฒนาการท่องเท่ียว มี เป็นต้น ค่าครองชีพสูง วิถีชีวิตผูกติดกับ การท่องเที่ยว เมื่อเกิดวิกฤติ ต่างๆ เช่น โรคโควิด ทาให้อาชีพ ด้านการท่องเท่ียวแย่ลง และ ชาวเลไม่สามารถประกอบอาชีพ หารายได้ ชาวเลไม่มีพ้ืนท่ีทาทาง เกษตรเพ่ือผลิตอาหารของตนเอง ชาวเลต้องซื้อผัก ซื้ออาหารราคา สงู เกาะเหลา (1) การจัดที่ดินให้ชาวเลอยู่อาศัย กรณีตาม (1) ทช. ได้จัดท่ีดินอยู่อาศัยให้ ตามโครงการของ คทช. ตาม ชาวเล ในพ้ืนท่ีป่าเลน ตามนโยบายของ หลักเกณฑว์ ิธีการที่ คทช. กาหนด คทช. เนื้อที่ 4 ไร่เศษ ซ่ึงออกหนังสือ ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกรม อนญุ าตแล้ว จานวน 2 ไร่ แต่ไมค่ รอบคลมุ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง่ พื้นที่ของชุมชน ตั้งแต่วันท่ี 27 กันยายน (2) การตรวจสอบเอกสารสิทธิใน 2562 จึงให้เร่งมีมติออกหนังสืออนุญาต ท่ดี นิ (ของเอกชน) ทอี่ อกทับพืน้ ที่ ส่วน 2 ไร่เศษท่ีเหลือให้แล้วเสร็จและ ป่าชายเลน ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ ครอบคลมุ พ้ืนท่ที ง้ั หมด

340 จงั หวัด ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 12 เกาะพยาม เ ค ย ป ร ะ ก า ศ ใ ห้ เ ป็ น พื้ น ท่ี อ า ศั ย ของชาวเลมอแกน,พื้นท่ีสุสาน กรณตี าม (2) (หัวหน้าเผ่ามอแกนเสียชีวิต แต่ - ประสานกรมที่ดิน จังหวัดระนอง กรม ไม่สามารถฝังศพได้) และบ่อน้า ทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง ให้ จดื ธรรมชาตบิ อ่ เดียวของชมุ ชน สานักงานที่ดินจังหวัดสานักบริหารจัดการ (3) ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่งั ที่ ๘ (พงั งา) เจ้าของท่ีดินกับกลุ่มชาวเลมอ โดยสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ แกนเกาะเหลา ทาให้ชาวเลถูก ๑๐ (เมืองระนอง) ตรวจสอบข้อเท็จจริง ฟอ้ งรอ้ งดาเนนิ คดี ถูกขม่ ข่คู ุกคาม รวบรวมพยานหลักฐานการอ้างการถือ (4) ขอให้เร่งรัดการออกบัตร ครอ งข อง เอ กช น ใ ห้น าเ รื่อ งเ สน อ ประจาตัวประชาชน คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุก (5) การสาธารณสุข และอุปกรณ์ ท่ีดินของรัฐจังหวัดระนอง (กบร.จังหวัด) การทามาหากิน เพื่อพิจารณาตามกรอบอานาจหน้าท่ี และ เร่งรายงานผลการพิจารณาเสนอต่อคณะ อนุฯชาวเล กะเหรี่ยง ขปส.ให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนตลุ าคม - ให้กระทรวงทรัพฯ กรมที่ดิน ผู้ชานาญ ด้ า น แ ผ น ที่ แ ล ะ ภ า พ ถ่ า ย ท า ง อ า ก า ศ ต ร ว จ ส อ บ แ น ว เ ข ต แ ล ะ สิ ท ธิ ก า ร ครอบครองเอกสารสิทธ์ิของเอกชนที่ทับ ซ้อนและอยู่โดยรอบชุมชนมอแกนเกาะ เหลา เดิมชุมชนอาศัยอยู่บริเวณอ่าว ให้กรมปา่ ไม้สารวจ/ กันพ้ืนท่ีชุมชนชาวเล ตรงข้ามท่ีเรียกว่าอ่าวเขาควาย มอแกนเกาะพยาม และให้ประกาศเป็น แต่มีการรุกไล่ บีบขับด้วยผู้มี พ้ืนที่ส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติ อิทธิพล รื้อขุดแม้กระทั่งสุสาน พันธุ์ชาวเล (ประเภทที่อยู่อาศัย) ตาม มติ เพ่ือทารีสอร์ท หลัง สึนามิ ชุมชน ครม.ชาวเล 2 มิ.ย.53 มอแกนเกาะพยามย้ายมาอาศัย อยู่ในท่ีดินที่ประกาศเป็นเขตป่า สงวนที่คณะศาสนาคริสเตียนซ้ือ ต่อจากผู้ครอบครองจานวนพื้นที่ กว่า 20 ไร่ แต่ยังไม่ได้รับการ สารวจตามนโยบายเหมือนที่อ่ืนๆ บ้านที่อาศัยยังไม่มีเลขท่ีบ้าน ทา ใ ห้ ก า ร ห นุ น เ ส ริ ม ร ะ บ บ สาธารณปู โภคจากรัฐไม่มี

341 จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 13 14 พังงา เกาะชา้ ง ชาวเลมอแกนที่น่ีย้ายมาจาก ให้กรมปา่ ไม้สารวจ/ กันพ้ืนท่ีชุมชนชาวเล 15 ชุมชนมอแกนเกาะเหลาหลัง มอแกนเกาะช้าง และให้ประกาศเป็นพ้ืนที่ ประสบภัย สึนามิ ทด่ี นิ เป็นท่ดี นิ ท่ี ส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ คณะศาสนาครสิ เตียนซ้ือต่อจากผู้ ชาวเล (ประเภทท่ีอยู่อาศัย) ตาม มติ ครม. ครอบครองจานวนพื้นท่ี กว่า 10 ชาวเล 2 มิ.ย.53 ไร่ แต่ยังไม่ได้รับการสารวจตาม นโยบายเหมือนที่อื่นๆ บ้านที่ อาศัยยังไม่มีเลขที่บ้าน ทาให้การ หนุนเสริมระบบสาธารณูปโภค จากรฐั ไมม่ ี ชุมชนมอแกน ที่ อ ยู่ อ า ศั ย ใ น เ ข ต อุ ท ย า น ฯ 1. ให้กันเป็นพื้นท่ีนาร่องส่งเสริมและ เกาะสุรินทร์ ประกาศทับ โดนย้ายจากอ่าว คมุ้ ครองวิถชี ีวติ กลมุ่ ชาตพิ นั ธช์ุ าวเล ม.3 ต.เกาะ ต่างๆมาอยู่รวมกัน /สถานะ/ 2. ส่งเสริมความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ที่ พระทอง อ.คุ แห ล่ ง หา กิ น ยัง ไ ม่ มีส ถ า น ะ ทากิน และพื้นท่ที างจติ วญิ ญาณ ระบุรี จ.พงั งา พลเมืองไทยให้ ถูกกีดกัน,บังคับ, 3. ส่งเสรมิ ระบบสาธารณูปโภค ละเลยต่อหลักสิทธิมนุษยชน ท่ี 4. ร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพ ชมุ ชนชนเผา่ พน้ื เมืองควรมี หลงั มี และการศึกษา มติ ครม.2 มิ.ย.53 ทุกส่วนต้อง 5. สง่ เสรมิ การท่องเท่ยี วโดยชมุ ชนมอแกน เข้าสู่การมีส่วนร่วม ส่วนอทุ ยานฯ สามารถจัดการได้หรอื มอแกนพาเท่ยี ว มีความเข้าใจชาวเลมากข้ึน และ 6. เอ้ืออานวยให้กระบวนการแก้ไขปัญหา ยอมรับการอาศัยอยู่มาก่อนของ เรือ่ งสญั ชาติทกุ มิติ ชาวเลมอแกนเกาะสุรินทร์ แต่ อ้างกฎหมายที่บังคับและไม่เปิด โอกาส จึงไม่สามารถดาเนินการ ใดๆได้ ชุ ม ช น ม อ ท่ี อ า ศั ย ท า กิ น สุ ส า น ข อ ง - ให้กรมป่าไม้สารวจพ้ืนที่ทั้งหมดของชุม แกลนบ้านหิน ประชากร 59 ครอบครัว 209 คน และให้ประกาศเป็นเขตส่งเสริมและ ลาด หมู่ที่ 6 ชาวเลมอแกลน อาศัยบริเวณหิน คุ้มครองฯชาวเล นาร่อง ต า บ ล ท้ า ย ลาดมานาน ก่อนสงครามโลกครั้ง เหมือง อาเภอ ที่ 2 ได้อาศัยอยู่บริเวณหม่านาว ท้ า ย เ ห มื อ ง หา่ งจากบริเวณท่ตี ัง้ ชมุ ชนปัจจุบัน จังหวัดพังงา ไม่ถึง 1 กิโลเมตร ซึ่งชาวเลเรียก บรเิ วณนนั้ ว่า หม่านาว มีต้นสม้ ส้า ติดกับที่ตั้งชุมชนเดิม ก็จะมีสุสาน ที่ฝังกันมาตั้งแต่เริ่มตั้งชุมชนเมื่อ ห ล า ย ร้ อ ย ปี ก่ อ น ห ลั ง

342 จังหวดั ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ขอ้ เสนอ สงคยรามโลกครั้งท่ี 2 ก็ย้ายมาอยู่ ที่ตัง้ ชุมชนในปัจจบุ นั ต่อมามีการประกาศเขตป่าสงวน ป่ า ค ล อ ง ทุ่ ง ม ะ พ ร้ า ว ทั บ พ้ื น ที่ ชาว เลในอาเภ อท้ายเหมือง ชาวเลหินลาดและพ้ืนที่ใกล้เคียง ในตอนน้ัน ยังไม่รู้หนังสือ ยังเข้า ไม่ถึงโอกาสทางสังคม จึงไม่ได้ รับร้แู ละเข้าใจการประกาศเขตป่า จนความเจริญและการพัฒนาเข้า มาถึง มีการออกเอกสารสิทธิ์ มี การทาสัมปทานเหมืองแร่ และมี การเช่าป่าสงวนเพ่ือขุดทราย ชมุ ชนไร้สทิ ธิการ ครอบครองใดๆ จึงเหลือพื้นที่ อ า ศั ย ,ท า กิ น . พิ ธี ก ร ร ม น้ อ ย ล ง หลงั จากมีแผนของจงั หวัดพงั งาให้ เอกชนเช่าพ้ืนท่ี 2 พันไร่ เพื่อทา สนามบิน ทาใหม้ ีความต้องการใน ท่ีดินบริเวณนี้เพิ่มขึ้น ความม่ันคง ในพื้นที่ทางวัฒนธรรมชาวเลก็ไม่ ถกู คานึงจากกระบวนการเรียนรู้ การแก้ปัญหา ชาวมอแกลนหิน ลาดมีการทาข้อมูลพ้ืนท่ี-ขอบเขต ชุมชนซ่ึง ประกอบด้วย พื้นท่ี อาศัย พ้ืนที่ทากิน และพ้ืนท่ีทาง จิตวิญญาณ เพ่ือเสนอเป็นพื้นที่ คมุ้ ครองทางวัฒนธรรม ล่าสุด มีหนว่ ยงานที่แจ้งกับชุมชน ว่าเป็นเจ้าหน้าป่าไม้ เข้ามา สารวจพื้นท่ี แต่ชาวเลมอแกลน หนิ ลาดก็ยังไม่เขา้ ใจมากนัก 16 ชุ ม ช น ม อ เป็นชุมชนที่ต้ังมาตั้งแต่ช่วง พ.ศ. ให้กรมที่ดินลงตรวจสอบที่ดินของชาวเล แกลนลาปี ม. 2230 แต่ด้วยเป็นชาวเลมอแกลน ลาปีท้ังหมด เพ่ือช่วยดาเนินการในการ 8 ต . ท้ า ย ที่สัน โ ดษ ไ ม่คิด คร อบค รอ ง ออกเอกสารสิทธต์ิ ่อไป เหมอื ง จ.พงั งา ปัจจุบันหลายครอบครัวยังไม่มี

343 จังหวัด ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 17 เอกสารสิทธ์ิ ท่ีดนิ ยังเป็นท่ีดินว่าง เปลา่ ชุ ม ช น ม อ ชาวเลมอแกลนที่ทากินดั้งเดิม 17 (1) ตรวจสอบพิสูจน์สิทธ์ิและกันพื้นที่ แกลนบ้านทับ ราย อยู่ในเขตอุทยานฯเขาลาปี- รับรองการทากินในเขตอุทยานฯเขาหลัก- ปลา หมทู่ ่ี 8 หาดท้ายเหมือง ประกาศทับ ลารู่ของชาวเลมอแกลนบา้ นหนิ ลาด ต า บ ล ท้ า ย ประวัติการใช้ท่ีดิน ชาวเลมอ (2) ท่ีอาศัยในเขตป่าสงวนป่าคลองทุ่ง เหมือง อาเภอ แกลนใช้ท่ีดินปลูกข้าว ปลูกไม้ มะพรา้ ว ท้ า ย เ ห มื อ ง ผสมมา 7 ช่ัวคน กอ่ นสงครามโลก 1. ให้กระทรวงทรัพฯ ร่วมกับสานักงาน จังหวดั พังงา ครั้งที่ 1 และคร้ังที่ 2 ต่อมามีการ โฉนดชุมชน สานักนายกฯ เร่งประกาศ สมั ปทานป่าไม้ เม่ือหมดไม้ ชาวเล พ้ืนที่ทากินของชาวเลทับปลาที่อุทยานฯ มอแกลนก็กลับเข้าใช้ทาข้าวไร่ เขาลาปี-หาดท้ายเหมืองมีการสารวจแล้ว และใช้ผลประโยชน์ไม้ผสมมา เป็นพื้นท่ีรับรองการใช้ประโยชน์ตาม ช่วงหนึ่ง จึงปลูกยางพาราซ่ึงมี แนวทางโฉนดชุมชน รวมถึงพื้นที่แปลงที่ อายุมากกว่า 50 ปี และปัจจุบัน เคยถูกคดี เปล่ียนเป็นยางตาเขียวไปแล้ว 2. เรอื่ งท่ีอาศัย ส่วนใหญ่ ชาวเลมอแกลนทับปลา - ให้มีการสารวจ ที่ดินที่อยู่อาศัยท่ีตก มารับรู้และเข้าใจเมื่อไม่ก่ีปีท่ีผ่าน สารวจเขต สปก.ของชาวเลมอแกลนบ้าน มาว่า อยู่อาศัยได้ตาม มติ 30 ทบั ปลา มิ.ย.41 - ช่วยเหลือบ้านท่ียังไมม่ ีเลขที่บ้าน ตอ้ งได้ เลขที่บา้ น เข้าถึงสาธารณูปโภครวมถึงเงิน หลายปีมาน้ี จากการนาเสนอเข้า ช่วยเหลือต่างๆจากรฐั เทียบเทา่ คนอยู่ในท่ี สู่ ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ข อ ง เอกสารสิทธิ์ คณะกรรมการ ขปส. ทาให้ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแนว เขตแล้ว ปรากฏว่ามีประชากร ท่ีมาข้ึนทะเบียนสารวจเพิ่มอีก กว่า 30 ราย ซ่ึงทางเจ้าหน้าที่ก็ ตรวจสอบแนวเขตใหท้ งั้ หมด เวทีขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไข ปัญหาที่อยู่อาศัย ม่ีทากินในเขต อนุรักษ์ ท่ี อุทยานฯเขาหลัก-ลารู่ โดย ผศ.ดร. ธนพร ศรียากุล ที่ ปรึกษาสานักงานบริหารนโยบาย ของนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ตัวแทนชาวเล ตัวแทนประชาชน ผอ.สานักฯ5, อุทยานฯ เขาหลัก-

344 จงั หวดั ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 18 ลารู่, อุทยานฯ เขาลาปีหาดท้าย เห มือ ง ร่ว ม ปร ะชุ ม แ ละ ไ ด้ รายงานว่าการดาเนินการต่อจาก นี้ต้องรอคาสั่งจากฝา่ ยนโยบายว่า จะดา เนินการข้ันตอนต่อไป อย่างไร ชุ ม ช น ม อ ปา่ สงวนประกาศทับพนื้ ที่อาศัย 1. ให้กรมอุทยานฯสารวจแนวเขตพนื้ ท่ีทา แกลนบ้านลา ดงั้ เดิมและอุทยานฯทับทท่ี ากิน กินของชาวเลมอแกลน รวมถึงแปลงท่ีเคย แกน่ ม.2 ต.ลา ของชุมชนชาวเลมอแกลน ทอ่ี ยู่ ปักป้ายดาเนินคดี เพ่ือกันให้เป็นพ้ืนที่ทา แก่น อ.ท้าย อาศัยและทากินมา กวา่ 7 ชวั่ คน กนิ ของราษฎร เหมอื ง จ.พังงา ตอ่ มามกี ารออก สทก.ให้อาศัยทา 2. ส่งเสริมคุณภาพชีวิต ให้มีทะเบียนบ้าน กินตาม มต.ิ ครม. 30 ม.ิ ย.41 ทา เพ่ือเข้าถึงระบบสาธารณูปโภค และการ ให้ชาวเลมอแกลนลาแก่นมคี วาม รบั เงินเยียวยา สวสั ดิการตา่ งๆ ยากจน และไม่มัน่ คงดา้ นที่อาศยั ทท่ี ากินเคยเข้าสู่กระบวนการ เสนอการแก้ไขปญั หาโดยโฉนด ชุมชน แต่ไม่ได้มีการเรียกรอ้ ง ตอ่ เนือ่ ง ปญั หาจึงไมไ่ ด้อย่ใู น ขอ้ เสนอต่อกลไกการแกป้ ัญหามา นาน ปญั หาจึงไม่ไดร้ ับการแก้ไข เม่ือวยั ท่ี 1 สงิ หาคม 2563 ผศ. ดร. ธนพร ศรียากุล ท่ปี รึกษา สานักงานบริหารนโยบายของ นายกรัฐมนตรี พร้อมดว้ ยตวั แทน ชาวเล ตวั แทนประชาชน ผอ. สานกั ฯ5, อุทยานฯ เขาหลกั -ลารู่ , อุทยานฯ เขาลาปหี าดท้าย เหมอื ง รว่ มประชุมและมมี ติให้ สารวจพน้ื ทท่ี ากินในเขตอุทยานฯ เขาหลกั -ลารู่ รวมทัง้ แปลงที่เคย ถูกคดี แต่ยงั ไม่มีการดาเนินการ 19 ชุ ม ช น ม อ ชุมชนมอแกลนทุ่งหว้าเป็นชุมชน ให้กรมท่ีดินเร่งดาเนินการกันพื้นที่และ แกลนทุ่งหว้า มอแกลนด้ังเดิมท่ีตั้งมาตั้งแต่ช่วง ประกาศแนวเขตชุมชนมอแกลนให้ ม.5 ต.คึกคัก พ.ศ.2230 ถูกการพัฒนาการ สามารถอยู่อาศัยและจัดการพ้ืนที่ได้อย่าง อ.ตะกั่วป่า จ. ท่องเที่ยวบีบขับให้ชุมชนต้องอยู่ ยัง่ ยืน พงั งา ในพืน้ ท่ีไกลจากชายฝั่ง

345 จงั หวัด ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 20 ตอ่ มา พ้ืนทชี่ ุมชนถูกประกาศเป็น พ้ืนท่ีพลเมืองใช้ร่วมกัน แต่ชาวเล ม อ แ ก ล น ไ ม่ ไ ด้ รั บ รู้ กั บ ก า ร ประกาศน้ี แต่อย่างไรก็ตาม การ บุ ก รุ ก พ้ื น ท่ี ส า ธ า ร ณ ะ ก็ มี ร อ บ ชมุ ชนมอแกลน หลัง ”สึนามิ” รัฐมีแผนจะให้ ชาวเลมอแกลนย้ายข้ึนไปอยู่บน เขา เพื่อเอาพ้ืนที่ให้เอกชนเช่าทา โรงพยาบาล แต่ชาวเลมอแกลน ได้ร้องทุกข์ถึงรัฐบาล และมี ตัวแทนลงมาแก้ไขปัญหา ผู้ว่าฯ ในยุคน้ันให้ชุมชนขอใช้พื้นท่ีครั้ง ละ 5 ปี ชุมชนทุ่งหว้าเป็นชุมชนแรกๆที่ สานักงานโฉนดชุมชนประกาศ เป็นพ้ืนที่นาร่อง ปัจจุบันผ่านมาก ว่า 10 ปี ยังไม่มีการรับรองให้ ชุมชนอยู่ต่อ โดยเฉพาะการเร่ิม นาคนนอกเข้ามาอยู่โดยอาศัย อานาจของท้องที่ท้องถ่ิน การ พยายามตัดเส้นทางเข้าสู่ท่ีดิน สาธารณะท่ีถูกครอบครองและ กาลังจะทารีสอร์ท มีปัญหาว่าไม่ มีทางเข้า จึงพยายามบีบจะใช้ พนื้ ท่ีชุมชนและพน้ื ที่ตรงจุดสุสาน ทงุ่ หวา้ เปน้ เส้นทางเขา้ ออก ช า ว เ ล ม อ 1. ท่ีดินชุมชนมีข้อพิพาทหลัง สึ 1. ให้กระทรวงยุติธรรมและกรมที่ดินเป็น แกลนบ้านบาง นามิ ต่อมามีการไกล่เกล่ียคดี แต่ เจ้าภาพในการเรียกเอกชนมาดาเนินการ สัก บนไร่-ทับ มีท่ีดินที่ นาง ลาภ หาญทะเล เซน็ เอกสารให้ นาง ลาภ ใหเ้ สร็จสน้ิ ตะวัน ตาบล เป็นชาวเลมอแกลนคนเดียวที่ยัง 2. ให้กรมป่าไม้ตรวจสอบ และกันพ้ืนท่ีทา บ า ง ม่ ว ง รอให้เอกชนที่เป็นโจทก์มาเซ็นให้ กินของชาวเล 17 รายให้เป็นพ้ืนท่ีทากินท่ี อาเภอตะกั่ว แต่หลายปีน้ี แม้ คกก.ขปส.จะ ยัง่ ยืน ป่า พยายามแก้ไขปัญหาโดยการนา 3. ให้กรมป่าไม้ ชดเชย เยียว ชาวเลมอ เอกชนมาเจรจา แต่กลับไม่ได้รับ แกลนบ้านทับตะวัน-บนไร่ท่ีถูกตัดฟันสิน ความร่วมมือ ทาให้ปะเด็นการ และหากไม่สามารถเข้าใช้ท่ีดินเดิมได้ให้ แกป้ ญั หานางลาภไมล่ ลุ ่วง

346 จงั หวัด ชุมชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 2. ชาวเลมอแกลน 18 ราย ที่ดิน จัดสรรที่ดินแปลงใหม่ให้มีจานวนเท่า ติดเขต ม. 5 จานวน 1 ราย อีก แปลงท่ีถกู ตรวจยดึ 17 ราย ติดเขต ม. 6,7,8 ต้ังแต่ อดีตมา ทากินตลอดแนวเชิง เทือกเขาริมฝัง่ อันดามันแถบพังงา มาต้ังแต่ พ.ศ. 2364 (จากอายุ บรรพบุรุษ 8 ชั่วคน) เดิมน้ันใช้ ป ลู ก ข้ า ว ไ ร่ ห มุ น เ วี ย น ห ลั ง สงครามโลกคร้ังที่ 2 ไม่นาน ก็มี การประกาศเขตป่า แต่ชาวเลมอ แกลนไม่ได้รับรู้ ถึงรู้ก็ไม่เข้าใจ เ พ ร า ะ ท่ี ดิ น ก็ ยั ง มี เ ห มื อ น เ ดิ ม เพียงแตม่ ีการสัมปทานป่าไม้ หลัง สัมปทานชาวเลมอแกลนกลับ ปลูกข้าวไร่ไม่นาน รัฐก็มีนโยบาย ปลูกพืชเศรษฐกิจ มีการ ออก สปก. ให้ชาวเลที่เปลี่ยนจากการ ข้าวไร่ สวนผสม ตามนโยบาย ..ปัจจุบัน ชาวเลมอแกลนบ้าน บางสัก ท้ังทับตะวัน-บนไร่ ยังมี ความหวาดกลัวกับการลงโทษ ทางกฎหมายและการปฏิบัติของ เจ้าหน้า เพราะมีผู้โดนตัดฟันไป แล้วจานวน 9 ราย และห้าม ท้ังหมดกลับเข้าทากินในพ้ืนท่ี เคยเข้าสู่กระบวนการเสนอการ แก้ไขปัญหาโดยแนวทางโฉนด ชุ ม ช น แ ล ะ มี ค า ส่ั ง จ า ก คณะกรรมการแก้ไขปัญหา ขปส. ให้กรมป่าไม้ลงตรวจสอบพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่กลับลงตรวจสอบ แ น ว เ ข ต แ ล ะ จั บ พิ กั ด ใ ห้ กั บ ชาวบ้านที่ไม่ใช่รายชื่อท่ี ทาง ขปส.ได้เคยเสนอเป็นส่วนใหญ่ ชาวเลมอแกลนที่เป้นสมาชิกใน กลุ่มหลายรายต้องตกค้าง รวมถึง คนท่ีเคยถูกปักป้ายดาเนินคดี

347 จงั หวัด ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 21 เจ้าหน้าที่ก็ไม่ตรวจสอบและจับ 22 พกิ ดั แนวเขตให้ ชุ ม ช น ม อ ชุมชนมอแกลน ซ.โกผัด ที่ดินที่ 1. ให้กรมท่ีดินตรวจสอบและประกาศให้ แ ก ล น บ้ า น อาศัยอยู่ในที่ดินว่างเปล่า / ท่ีดิน เป็นท่ีสาธารณะสาหรับอยอู่ าศยั ของชมุ ชน น้าเค็ม ม. 2 สาธารณะ / ทดี่ นิ ปา่ ชายเลน ชาวเล และออกเอกสารสิทธ์ิในที่ดินแปลง ต.บางม่วง อ. ที่ยังวา่ งเปล่า ตะ ก่ัว ป่ า จ . 2. ให้ป่าชายเลนสารวจและท่ีดินให้เป็นที่ พังงา อยู่อาสัยของชาวเล ( ชุ ม ช น ม อ แกลน ซ.โก ชุมชนมอแกลน ซ.สุพรรณ อยู่ใน ให้กรมท่ีดินตรวจสอบและประกาศให้เป็น ผัด,ชุมชนมอ ทดี่ ินสาธารณะ ท่ีสาธารณะสาหรับอยู่อาศัยของชุมชน แกลน ซ. ชาวเล สุพรรณ) ชุมชนมอ 1. ชุมชนมอแกลนบ้านทุ่งดาบ ให้กระทรวงทรัพฯเร่งประกาศเป็นเขต แกลนทุ่งดาบ 17 ครัว 78 คนท่ีอยู่ ส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธ์ุ ม.1 ต.เกาะ อาศัยด้ังเดิมท่ีถูกเขตป่าสงวน ชาวเลร่วมชาวเล และทุกส่วนที่เก่ียวข้อง พระทอง อ.คุ ประกาศทับ แตย่ ุคหนึ่งท่อี ยู่อาศัย เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะของเกาะพระทอง ระบุรี จ.พังงา ได้ประกาศเป็นเขต สปก. เมื่อรัฐ ท้ังด้านการใช้ทรัพยากร การพัฒนา ประกาศ เขตห้ามล่า ทาให้ไม่มี คุณภาพชีวติ ความมั่นคงใดในชีวิต เพราะรัฐไม่ มี ข้ อ ต ก ล ง ใ น ก า ร ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ พื้นท่นี อกเขต สปก. 23 ชุ ม ช น ม อ ชมุ ชนชาวเลมอแกลนท่ีนอี่ าศัยมา 1. ให้กระทรวงทรัพฯสารวจและกันพ้ืนที่ แกลนท่าแป๊ะ ตั้งแต่ พ. ศ.2230 ปัจจุบันมี ชาวเลออกจากเขตห้ามล่าฯ โย้ย ม. 2 ต. จานวนครัวเรือน 45 ครัว 152 2. ให้กรมป่าไม้ดาเนินการพิจารณาให้การ เกาะพระทอง คน ปัญหา ที่อาศัย,ที่ทากิน ป่า ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ลงเสาพาดสายจาก อ.คุระบุรี จ. สงวนประกาศทับ พื้นที่อุทยานฯ ชุมชนมอแกลนบ้านทุ่งดาบถึงชุมชนมอ พังงา แ ล ะ เ ข ต รั ก ษ า พั น ธุ์ เ ต รี ย ม แกลนท่าแปะ๊ โย้ย ประกาศทับ ชุมชน ถูกห้ามทากิน 3. ใหก้ ระทรวงทรพั ฯเรง่ ประกาศเป็นพน้ื ท่ี ไม่ให้สายไฟฟ้าพาดผ่านไปถึง นาร่องเขตส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิต ชุมชน ทาให้ไม่มีความม่ันคงใดๆ กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลร่วมชาวเล และทุก ในชีวิต ต้องเปลี่ยนวิถีไปเช่าบ้าน ส่วนท่ีเก่ียวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะ อยบู่ นฝงั่ แต่ฝมี อื ดา้ นแรงงานไม่มี ของเกาะพระทองทั้งด้านการใช้ทรัพยากร ต้องรับจ้างท่ัวไป รายได้ไม่พอกิน การพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต อดอยากและเป็นหนสี้ นิ

348 จงั หวดั ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ 24 ชุ ม ช น ม อ ชุมชนท่นี มี่ ีจานวนเหลอื อยู่ 4 ครวั 1. ให้กระทรวงทรัพฯสารวจและกันพ้ืนท่ี 25 แกลนปากจก 13 คน เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ ชาวเลออกจากเขตห้ามลา่ ฯ ม.2 ต.เกาะ จาก 50 ครอบครัว ตอน 2550 ที่ 2. ให้กรมป่าไม้ดาเนินการพิจารณาให้การ พระทอง อ.คุ ถูกต้อนให้ไปอยู่รวมกันท่ีบ้าน ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ลงเสาพาดสายจาก ระบรุ ี จ.พังงา ถาวรผู้ประสบภัยสึนามิ ไลอ้อน ชุมชนมอแกลนบ้านทุ่งดาบถึงชุมชนมอ อยู่ได้ไม่นาน เน่ืองจากมีปัญหา แกลนปากจก เจ้าหน้าท่ีหวงห้ามพื้นท่ีทามาหา 3. ให้กระทรวงทรัพฯเร่งประกาศเป็นพน้ื ที่ กิน ไฟฟ้าที่จะมาถึงก็มาไม่ถึง ไม่ นาร่องเขตส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิต สามารถดารงวิถีชีวิตท่ีสอดคล้อง กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลร่วมชาวเล และทุก กับความรู้ภูมิปัญญาที่มีได้ จึง ส่วนท่ีเก่ียวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะ ย้ายออกท้ังหมด พื้นท่ีเดิมก็ถูก ของเกาะพระทองท้ังด้านการใช้ทรัพยากร ประกาศเขตห้ามล่าไปแล้ว จึง การพัฒนาคุณภาพชวี ิต ต้องย้ายไปเช่าบ้านบนฝ่ังและขอ อยู่กบั พ่ีนอ้ งหมบู่ า้ นอน่ื ๆ ชุ ม ช น ม อ ทอ่ี าศัย 5 ครอบครวั 1. ให้ตรวจสอบแนวเขตและลงหลักปัก แกลนตะกุลา ท่ที ากิน 14 ครอบครวั เขตพน้ื ที่อาศัย/ที่ทากิน เกาะระ หมู่ท่ี บรรพชนชาวเลมอแกลนมาตั้งถ่ิน 2. ใหก้ ระทรวงทรพั ฯเร่งประกาศเป็นพน้ื ที่ 3 ตาบลเกาะ ฐานท่ีนี่เพราะท่ีน่ีเคยเป็นเมืองมา นาร่องเขตส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิต พ ร ะ ท อ ง ก่ อ น แ ต่ ยุ ค ห ลั ง ก็ ห ล ง ลื ม กลุ่มชาติพันธ์ุชาวเลร่วมชาวเล และทุก อาเภอคุระบุรี ประวัติศาสตร์กันไป และพื้นที่ ส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะ จังหวัดพังงา ตรงน้ียังเป็นพื้นท่ีอุดมสมบูรณ์ ของเกาะพระทองท้ังด้านการใช้ทรัพยากร เพยี งแต่ห่างไกลความเจริญ การพฒั นาคุณภาพชีวติ กรณี นาง กิมติ้น กล้าทะเล และ 3. ให้กรมป่าไม้ดาเนินการพิจารณาให้การ ชาวเลชาวมอแกลน ผู้อาศัยอยู่ ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ลงเสาพาดสายจาก บนเกาะระมายาวนาน ถึง 7 ชั่ว ชุมชนมอแกลนบ้านทุ่งดาบถึงชุมชนมอ คน ด้วยวิถีชีวิตการทาสวนผสม แกลนตะกุลา และประมง ยุคหนึ่งป่าสงวนฯ ประกาศ และต่อมา นางกิมต้ิน โดนจับกุมดาเนินคดีข้อหาบุกรุก แผ้วถางพ้ืนที่ป่าสงวนฯ สุดท้าย ศาลยกฟ้องเพราะเห็นหลกั ฐานว่า น า ง กิ ม ต้ิ น เ ป็ น ช า ว เ ล ด้ั ง เ ดิ ม อาศัยอยู่มาก่อน แต่คาตัดสินก็ ห้ามกลับเข้าอยู่ท่ีดินเดิม ทาให้ นางกิมติ้นต้องไปใช้ชีวิตสองตา- ยายอยู่บนฝั่ง ซ่ีงการแยกชาวเล

349 จงั หวดั ชมุ ชน ปญั หา/สถานการณ์ ข้อเสนอ ออกจากทะเลน้นั สร้างความทุกข์ ให้นางกมิ ต้ินเป็นอยา่ งย่ิง ปัจจุบันกาลงั เตรียมประกาศพ้ืนท่ี เขตห้ามล่าเกาะระ-เกาะพระทอง เครือข่ายชาวเลลงพ้ืนท่ีเก็บข้อมูล ที่จะใช้ในการพิสูจน์สิทธ์ิการอยู่ อาศัยและทากินของชาเวลมอ แกลนที่นี่ พบว่าทางหน่วยงานได้ ลงมาสารวจพื้นที แต่ไม่มีการลง หลักปักเขต แค่นาเครื่องมือ มา ตรวจจับพิกัด ไม่ได้อธิบายใดๆ มากนอกจากบอกชาวเลว่า มา ตรวจสอบและจับพิกัดเรียบร้อย แล้ว ชาวเลจะอยูไ่ ด้อยา่ งสบายใจ 26 ชุ ม ช น ม อ ท่ีอาศัย 13 ครัวเรือนตั้งถ่ินฐาน 1. ให้ตรวจสอบแนวเขตและลงหลักปัก แกลนอ่าวน้า ชมุ ชนมาพรอ้ มกับชาวเลมอแกลน เขตพืน้ ท่ีอาศัย/ท่ีทากนิ จืด เกาะระ ม. ตะกุลา ทาข้าวไร่ ทาประมงและ 2. ใหก้ ระทรวงทรัพฯเร่งประกาศเป็นพน้ื ที่ 3 ต.เกาะพระ สวนผสม อยู่ในเขตป่าสงวน นาร่องเขตส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิต ทอง อ.คุระบุรี เดียวกันและกาลังเป็นเขตห้ามล่า กลุ่มชาติพันธ์ุชาวเลร่วมชาวเล และทุก จ.พงั งา ฯเหมอื นกนั ส่วนที่เก่ียวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะ ของเกาะพระทองทั้งด้านการใช้ทรัพยากร การพฒั นาคุณภาพชวี ิต 27 ชุมชนชาวเล ชาวเลมอแกลน 19 ครอบครัวท่ี ให้กรมทรัพยากรฯชายฝั่ง ตรวจสอบพ้ืนท่ี มอแกลน ทุ่ง อาศัยอยู่ท่ีนี่ส่วนใหญ่เป็นชาวเล อกี ครั้งว่าอยูใ่ นความดูแลของหน่วยงานใด ละออง ม.4 ต. มอแกลนจากบ้านทุ่งดาบ ต.เกาะ แล้ว พร้อมทั้งประกาศกันพ้ืนท่ีชุมชน ท่ี บา ง วั น อ . คุ พระทอง เดิมทีบริเวณน้ีเป็นท่ีพัก อาศัย ที่จอดเรือให้เป็นชุมชนของชาวเลท่ี ระบรุ ี จ.พังงา เวลามอแกลนข้ึนฝ่ัง แต่หลัง สึนา ร่วมกันพ่ึงพา ดูแลธรรมชาติร่วมกับ มิ โรงเรียนบ้านทุ่งดาบไม่มีครู หน่วยงานใหช้ ัดเจน สอน เด็กๆจึงต้องขึ้มาเรียนบนฝ่ัง การอาศัยปักหลังและสร้างบ้าน ถาวรจงึ เริ่มขึน้ ปัจจุบันชาวเลมอแกลนได้แจ้งว่า ทางหน่วยงานป่าชายเลนได้มีการ ตรวจสอบแนวเขตชุมชนแล้ว มี ข้อตกลงห้ามบุกรุกเพิ่ม แต่ตอน หลังการเข้ามาพูดคุยได้เปลี่ยน

350 จงั หวัด ชมุ ชน ปัญหา/สถานการณ์ ข้อเสนอ จากป่าชายเลนเป็นกรมเจ้าท่า บอกว่าตอนน้ีให้อยู่ไปก่อน แต่ นโยบายและกฎหมายว่าอยา่ งไรก็ ตอ้ งยนื ยันตามนัน้ ทาให้ชาวเลมอ แกลนมคี วามกังวลเปน็ อย่างมาก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook