Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อ่านสร้างสุข 23 ปักธง Growth Minset

อ่านสร้างสุข 23 ปักธง Growth Minset

Description: อ่านสร้างสุข 23 ปักธง Growth Minset

Search

Read the Text Version

วัฒนธรรมการอา่ น ร่วมสรา้ งให้เปน็ นิสยั จากมมุ คดิ ของ “เปเล”่ ส่ิงทเี่ อ้ือใหง้ านส่งเสริมการอา่ นที่ผา่ นมาประสบความสำ� เรจ็ คือ ความรว่ มมอื ของคนทเี่ ปน็ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (Stakeholder) ทง้ั ในระดบั บคุ คลและระดบั องคก์ ร เช่น ครปู ระจ�ำศนู ย์พัฒนาเด็กเลก็ และครปู ระจำ� โรงเรยี นทง้ั ประถมและมธั ยมศกึ ษา ส�ำนกั งาน เขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาเลย เขต ๒ เนอ่ื งจากสงิ่ เหล่าน้ีทล่ี งมือท�ำ ทกุ คนสามารถไดร้ ับ ประโยชนเ์ ตม็ ๆ จากนนั้ เม่ือมีผลงานเกดิ ขึน้ แล้ว ความรว่ มมอื เพื่อผลกั ให้งานส�ำเรจ็ มากย่งิ ข้นึ ไปอีกกข็ ยับมาถงึ ระดับหัวหนา้ สว่ น ระดบั บริหาร ท่ีจะวางนโยบายสนับสนนุ เป็นกลไกขบั เคลื่อน งานใหร้ าบรื่นยง่ิ ข้นึ ∞99∞

“ทำ� งานมาถงึ จดุ หนงึ่ ผมไดเ้ ชอ่ื มงาน กลับไปอยู่ที่ร้านเกม เน่ืองจากเขายังอยู่ใน กับส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถม ชว่ งวยั ท่ีต้องการกิจกรรมสนุก ๆ ทำ� ศกึ ษาเลย เขต ๒ ก็ได้รับผลตอบรับดีมาก เลยครับ ผอ.สภุ ชยั (ดร.สุภชยั จนั ปุม่ ) ทา่ น ห้องสมุดชุมชนต้นแบบที่บ้าน เข้าใจการท�ำงานของพวกเราดี เห็นคุณค่า พรประเสริฐของเขามีกจิ กรรมทุกเดือน โดย ของกิจกรรมส่งเสริมการอ่านท่ีพวกเราท�ำ มรี นุ่ พจ่ี ติ อาสาชว่ ยกนั ดแู ลจดั กจิ กรรม พรอ้ ม มาก และใหก้ ารสนบั สนนุ อยา่ งดี เช่น เร่ือง กับจุดดึงดดู ความสนใจจากเดก็ ๆ คือเมอ่ื มา วัสดุอุปกรณ์และหนังสือไปตามโรงเรียน แลว้ ไดก้ นิ เมอื่ มาแลว้ ไดส้ นกุ เมอื่ มาแลว้ ก็ได้ เครือข่าย และช่วยการันตีการท�ำงานของ เจอเพอื่ น ๆ พ่ี ๆ เลยี้ งดอู ยา่ งดี หรอื วนั ดคี นื ดี สถาบันฯ ท�ำให้การเคลื่อนงานราบร่ืนขึ้น เปเลจ่ ัดใหม้ คี า่ ยอบรม เด็ก ๆ กส็ นกุ สนานที่ ทำ� ใหม้ ีโรงเรียนอ่ืน ๆ ทยี่ ังไมไ่ ดอ้ ยู่ในเครอื ไดเ้ จอเพอื่ นใหม่ ซงึ่ หลงั จากเดก็ ๆ ไดไ้ ปครง้ั ขา่ ยขบั เคลอื่ นงานกบั เรากย็ งั สนใจ ตดิ ตอ่ ขอ แรกแลว้ พอเกดิ การอบรมครงั้ ท่ี ๒ หลายคน มาร่วมกิจกรรมด้วย” จะขยับตัวมาช่วยหยิบจับอุปกรณ์และเป็น ผนู้ ำ� กจิ กรรมบางสว่ น สง่ิ ทเี่ กดิ ขนึ้ ถอื เปน็ การ ดว้ ยประสบการณท์ ำ� งานสง่ เสรมิ การ เรยี นร้แู ละพัฒนาของเด็ก ๆ อา่ นกบั เดก็ และเยาวชน กบั ครู โรงเรยี น และ ชุมชนมาแล้ว ๖ ปี “เปเล”่ ยนื ยันว่ากิจกรรม มุมมองการขับเคล่ือนงานส่งเสริม ส่งเสริมการอ่านจำ� เป็นตอ้ งท�ำอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง วัฒนธรรมการอ่านให้เกิดข้ึนในชุมชนของ กับเด็ก ๆ เพราะทกุ วันนี้สงิ่ เร้าท่ีคอยกระตุ้น “เปเล”่ และสถาบนั ไทเลยถอื เปน็ งานระยะยาว ให้เด็ก ๆ มีพฤตกิ รรมทางลบมเี ยอะมากขึ้น ไมส่ ามารถท�ำใหจ้ บส้นั ๆ ภายในปหี รอื ๒ ปี เมอื่ หา่ งกบั เดก็ ไปสกั พกั เดก็ สว่ นหนง่ึ จะหัน แต่สถานการณ์ขององค์กรพัฒนาเอกชน ปัจจุบันในเร่ืองการสนับสนุนเงินทุนตอนนี้ ∞10∞0

นอ้ ยมาก ทุกวนั นส้ี ว่ นใหญก่ ็ไดท้ นุ ปตี ่อปี จำ� นวนงบประมาณเลก็ ๆ น้อย ๆ บางองค์กรก็ต้อง จดั กิจกรรมพเิ ศษเป็นงานที่เป็นทุนให้ทำ� งานตอ่ ยอดเช่นเดยี วกับสถาบนั ไทเลยฯ ของเขา ซึ่งยงั ค้นหาชอ่ งทางในการสรา้ งรายไดเ้ พอ่ื เปน็ ทนุ ในการทำ� งานให้ต่อเนื่อง “ท่ีสถาบันฯ ช่วงปี ๒๕๕๖- ๒๕๕๗ มีทีมอาสาสมัครอยู่กับเรา เยอะและยาวสุดตง้ั แต่ ม. ๔-ม. ๖ ทำ� ใหเ้ รารบั งานอบรมเพอื่ พฒั นาได้ หลากหลาย ทั้งส่งเสริมการอ่าน พัฒนาศักยภาพเด็ก ท�ำให้องค์กร มรี ายไดท้ งั้ จากงานพเิ ศษอน่ื ๆ เชน่ การจดั อบรม การจดั กจิ กรรมแสดง งานต่าง ๆ มาสมทบทนุ พอมาช่วง ปี ๕๘ เด็ก ๆ เรียนจบออกนอก พนื้ ท่ีไปเรยี นตอ่ ไปทำ� งาน เราก็เคลอ่ื นขยับงานของเราแบบคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไปกับทมี งานท่ีมอี ย”ู่ แนวทางการทำ� งานสง่ เสรมิ การอา่ นของสถาบนั ไทเลยฯ ในแตล่ ะปตี อ้ งดจู ากยทุ ธศาสตร์ ของแผนงานฯ การอา่ น แลว้ กลบั มาตรวจสอบวา่ พน้ื ทต่ี นมศี กั ยภาพทำ� อะไรไดบ้ า้ ง คน้ หาในสว่ นที่ สามารถประยกุ ตใ์ หส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทพน้ื ท่ี ถา้ ตรงกนั กว็ างแผนลงมอื ทำ� แตถ่ า้ พน้ื ทย่ี งั ไมพ่ รอ้ ม กห็ ยดุ ไวก้ อ่ น เชน่ ปหี นง่ึ ทแี่ ผนงานฯ มเี ปา้ หมายอยากทำ� งานรว่ มกบั อสม. แต่ในพนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ งานของสถาบันฯ ยังไม่พร้อม จึงเว้นวรรคการรับทุนสนับสนุนการท�ำงานไว้ก่อน โดยใน สถานการณ์จริงแม้ว่าจะไม่ได้ทุนในแผนระยะปี แต่เขาก็ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเล็ก ๆ ∞10∞1

นอ้ ย ๆ ท�ำกับเดก็ ๆ ในชมุ ชนอยูเ่ ป็นระยะ แลว้ ค่อย ๆ คดิ หาชอ่ งทางประยุกต์ตวั งานใหเ้ กิดข้ึน แบบนอกกรอบเดมิ ได้ ความตง้ั ใจและมงุ่ มนั่ ของจติ อาสาทต่ี อ้ งการพฒั นาบา้ นเกดิ สรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ น ใหเ้ กดิ ขนึ้ ยงั มอี ยอู่ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ไมว่ า่ จะเปน็ เดก็ ครู ผปู้ กครอง เจา้ หนา้ ทท่ี อ้ งถน่ิ แตง่ บประมาณ ในการขบั เคลอื่ นกจิ กรรมยงั คงเปน็ เรอื่ งท่ีไมแ่ นน่ อน กำ� ลงั แรงมี แตอ่ าจขาดปจั จยั หากไมม่ หี นว่ ยงาน สนับสนนุ เขาจงึ เชื่อในการผลกั ดันให้เกิดนโยบายจากภาครัฐ เพื่อผลดกี บั ชมุ ชนในระยะยาว “สวัสดิการหนังสือ คือ รัฐหรือท้องถ่ินจัดสรรงบประมาณหรือจัดสรรหนังสือให้เป็น หนงั สอื ดี ๆ และฟรีให้เด็ก ๆ เข้าถงึ หนงั สอื ได้ หรืออาจเป็นนโยบายแม่ลกู ออ่ นจะต้องมหี นังสอื อยา่ งน้อย ๕ เล่ม ใครที่คลอดจะตอ้ งมหี นังสอื ให้ หรอื การจดั สวัสดกิ ารในหมู่บา้ น ชุมชนต้อง มมี มุ หนังสอื ที่เดก็ เขา้ ถึงได้โดยการสนับสนุนจาก อบต. (องคก์ ารบรหิ ารส่วนต�ำบล) หรอื ทอ้ ง ถิน่ เป้าหมายถัดไปในการทำ� งานส่งเสริมการอา่ น ผมก็อยากผลกั ดันให้ท้องถนิ่ ซื้อไอเดยี นี้แล้ว ก็จดั สรรงบประมาณตัง้ ไว้เพ่อื ใหเ้ กิดกิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่าน” “เปเล”่ มคี วามเชอ่ื วา่ คนจำ� นวนมากชอบอา่ น เพยี งแคว่ า่ จะอา่ นจากชอ่ งทางไหน กจิ กรรม ทีก่ ลมุ่ ไทเลยท�ำในปัจจบุ นั คือส่งเสรมิ ให้กลุ่มเดก็ ท่กี ำ� ลังเตบิ โตสนใจการอ่าน สามารถอ่านออก เขยี นถกู ต้อง สามารถสืบค้นหาขอ้ มูลตา่ ง ๆ จากแหล่งอน่ื ไดด้ ว้ ย เพราะปจั จบุ ันขอ้ มูลหาไดจ้ าก หลายแหง่ หอ้ งสมดุ เปน็ ระบบDigitalonline วทิ ยานพิ นธอ์ ยบู่ นเวบ็ ไซต์ คนไมต่ อ้ งเดนิ เขา้ หอ้ งสมดุ แล้วก็ได้ เพียงแตต่ อ้ งกระตุ้นให้เดก็ ๆ คิดต่อว่าการเรยี นรู้ การอา่ น สามารถเขา้ ถงึ ข้อมลู ได้ หลายชอ่ งทางจริง ในขณะทคี่ ดิ หาชอ่ งทางเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนไดก้ ้าวเข้าสู่โลกแห่งการเรียนรู้ผ่าน ∞10∞2

การอา่ น ลงมอื ท�ำร่วมกับเพ่อื นพี่น้องในบ้านเกิดอย่างสนกุ สนาน ยงั มีเป้าหมายสุดท้ายของการ ท�ำงานพฒั นาสงั คมประเดน็ สรา้ งเสรมิ วัฒนธรรมการอา่ นในชมุ ชนที่ “เปเล่” คาดหวังไว้ “ผมอยากนอนอ่านหนังสืออยู่บน เปลทบี่ า้ นครบั นน่ั หมายถงึ การขบั เคลอื่ น งานสง่ เสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นเกดิ ขน้ึ จน เราวางมอื ไดแ้ ลว้ ผมเชอ่ื วา่ วฒั นธรรมการ อา่ นสร้างได้ อาจต้องใชเ้ วลา แตม่ ันเป็น ไปไดท้ วี่ นั หนง่ึ ในสงั คมเรา ทกุ คนในชมุ ชน ก็มีวัฒนธรรมการอ่านตามรสนิยมความ ช่ืนชอบของแต่ละคน พื้นท่ีสามารถขับ เคล่ือนส่งเสริมการอ่านกันเองได้ ถึงอาจ ไม่ใช่หมดทุกคนในชุมชนท่ีจะอ่าน เพราะการอ่านมันเป็นความช่ืนชอบของแต่ละบุคคล เป็นจรติ ส่วนบคุ คล คนชอบอา่ นกจ็ ะอา่ นอยา่ งมีความสขุ ” ทุกกจิ กรรมพัฒนาสงั คมทีข่ บั เคลื่อนไปขา้ งหน้าของสถาบนั ไทเลยในวนั นี้ ยังคงมุง่ เนน้ การลงมือท�ำด้วยความสนุกร่วมกันของทุกฝ่าย ไม่ว่าผลลัพธ์ในแต่ละช่วงจะสมบูรณ์ตามที่ต้ัง เป้าหมายไว้หรอื ไม่ สงิ่ ท่ีจะเกดิ ขนึ้ ต่อไป คือ การถอดบทเรียน และลงมอื ทำ� ตอ่ เนอื่ งเรื่อย ๆ จนกวา่ จะสำ� เรจ็ เพ่ือเป้าหมายสุดท้ายของเขา “นอนอ่านหนังสืออยู่บน เปลทบ่ี า้ นตวั เอง” ∞10∞3

= Growth Mindset = - การถกู ปฏิเสธคร้งั แรกไมใ่ ชจ่ ดุ จบ ยงั มชี อ่ งทางเดินอยอู่ ีกเสมอ - เมอ่ื รวู้ า่ มโี อกาสอย่ตู รงไหน ใหเ้ ดนิ ไปหา แล้วเราจะได้รับมัน - ทกุ สิง่ ที่ลงมือท�ำเต็มที่แล้ว มรี ะยะเวลา ของผลส�ำเร็จ จงวางใจและเฝ้ารอ - กจิ กรรมรณรงค์ตอ้ งทำ� ต่อเน่อื ง โดยเฉพาะกบั เดก็ เยาวชน บทสัมภาษณ์พเิ ศษ ดร.สภุ ชยั จันปมุ่ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา เลย เขต ๒ (ผอ.สพป.เลย เขต ๒) ผู้มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (Stakeholder) คนส�ำคัญท่ีมีส่วนสนับสนุนในการขับ เคลือ่ นสร้างเสรมิ วัฒนธรรมการอ่าน สาเหตทุ เี่ ขา้ รว่ มผลกั ดนั งานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ น กบั สถาบันไทเลยฯ “ผมไดย้ นิ ชอ่ื สถาบนั ไทเลยมากอ่ นหนา้ ทผ่ี อู้ ำ� นวยการ สถาบันฯ (เปเล่) จะเขา้ มาคยุ กันดว้ ยซำ้� ไป รวู้ า่ เป็นองคก์ ร ∞10∞4

ท�ำงานเพ่ือพัฒนาเยาวชนในจังหวัดเลย โดยเฉพาะพนื้ ทเ่ี อราวณั ซงึ่ เปน็ ภมู ลิ ำ� เนา ของกิตตพิ งษ์ (เปเล)่ ดงั นัน้ พอเขามา พูดคุยเร่ืองการส่งเสริมการอ่านมันก็ สอดคล้องกับนโยบายของเขตพื้นท่ีการ ศึกษาอยู่แล้วในการที่จะแก้ปัญหา นักเรียนอ่านไม่ออก เขยี นไมไ่ ด้ ซ่ึงเป็น เร่ืองส�ำคัญ เราต้องท�ำให้นักเรียนอ่าน ออก เขยี นได้ คดิ เลขเปน็ ถ้าเดก็ อา่ นไม่ออก เขยี นไมไ่ ด้ ก็ถือวา่ เปน็ ความลม้ เหลวของการจดั การ ศึกษา ฉะนั้น เมื่อเขาขายแนวคิดการร่วมมือกันส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรักการอ่านหนังสือ มนั กเ็ ปน็ การจดุ ประกายความคดิ ทตี่ รงกนั ผมถอื วา่ กติ ตพิ งษเ์ ขา้ มาขายตรงจดุ ตรงความตอ้ งการครบั ผมซ้ือเลย (หวั เราะ) เม่อื ทศิ ทางเปา้ หมายตรงกนั ก�ำหนดการร่วมมือกันจรงิ ๆ ก็เกดิ ข้ึน” สถานการณก์ ารอ่านออกเขยี นได้ของนกั เรียนเป็นอย่างไร “ชว่ ง ๒-๓ ปีก่อนนท้ี ุกฝา่ ยก็ทำ� งานตามปกติ เช่น จัดกจิ กรรมส่งเสริมการรักการอ่านในวัน ภาษาไทย วนั สนุ ทรภู่ ประกวดอา่ นรอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง แสดงละคร ยงั อยใู่ นระดบั ธรรมดา ไมไ่ ดเ้ ขม้ ขน้ เหมอื นทกุ วนั นที้ ม่ี กี ารสนบั สนนุ เรอื่ งวสั ดุ อปุ กรณ์ หนงั สอื สอ่ื อา่ น จากโครงการฯ ของสถาบนั ไทเลย แนน่ อนวา่ เมอ่ื มเี ครอื่ งมอื มากขนึ้ การดำ� เนนิ การกจ็ รงิ จงั ในระดบั เขม้ ขน้ มากยงิ่ ขนึ้ และความรว่ มมอื ทีเ่ กดิ ขึ้นก็ไม่ใชแ่ คใ่ นโรงเรียน แตย่ ังหมายรวมถงึ ท้องถน่ิ ผู้ปกครอง ชุมชน ท่ไี ดเ้ ข้ามามีส่วนร่วมใน การทจ่ี ะดำ� เนินงานเดนิ หนา้ ไปพรอ้ ม ๆ กัน มันกเ็ ลยเกดิ พลัง สถาบนั ไทเลยเขา้ มาทำ� งานตรงนดี้ ว้ ยใจ มนั เกดิ จากแรงบนั ดาลใจทอ่ี ยากเหน็ เดก็ ในชมุ ชนใน ∞10∞5

ทอ้ งถนิ่ ของเขาอา่ นออก เขยี นได้ มกี ารพฒั นา อา่ นเขียน ถา้ ป. ๑ อ่านออกทั้งช้นั เรียนก็มอบ คุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึน เพราะฉะนั้น เม่ือมันเกิด เกียรติบัตรให้กับครู แต่ถ้าอ่านได้ทุกคนใน จากการท�ำงานด้วยหัวใจ มันก็ท�ำได้เต็มที่ โรงเรยี นกจ็ ะมอบโลร่ างวลั ใหโ้ รงเรยี น จดั พธิ มี อบ โรงเรยี นเองก็ใหค้ วามรว่ มมอื เตม็ ที่ ทง้ั ผบู้ รหิ าร มเี งนิ รางวลั ให้โรงเรียนด้วย โรงเรยี นใหก้ ารสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ครกู เ็ ปลยี่ นแปลง พฤตกิ รรมทง้ั เรอื่ งการสอนและใหก้ ารชว่ ยเหลอื ยกตัวอย่าง โรงเรียนบ้านเอราวัณไป เดก็ ทมี่ ปี ญั หาในเรอ่ื งการอา่ น การเขียน และ เย่ียมนักเรียนในโอกาสประชุมประจ�ำเดือน ยังมีหน่วยงานอ่ืนที่เก่ียวข้องให้ความร่วมมือ ผู้บริหาร ผมก็ทดสอบชั้น ป. ๑ เพราะเป็น ขับเคล่ือนไปด้วยกัน เช่น องค์กรท้องถิ่น นโยบายของกระทรวง ผลคือเด็ก ป. ๑ อ่าน เมื่อเป็นการเดินหน้าไปท้ังองคาพยพ มันก็จะ ออกเขียนได้ทกุ คน รวมถึงเดก็ พเิ ศษกส็ ามารถ เกดิ การเปลย่ี นแปลง” อา่ นออก เขยี นได้ แต่งประโยคได้ ผมเอาบัตร ค�ำท่ีเป็นกระดานแม่เหล็กมาสลับที่กัน สะกด ระดับเข้มข้นที่กล่าวมา จ�ำเป็นต่อการ และอ่านได้หมด ซ่ึงโรงเรียนบ้านเอราวัณก็ พัฒนาการอ่านเขียนของเดก็ ๆ ถอื เป็นโรงเรยี นหลักในโครงการฯ ของสถาบัน ไทเลยฯ ดว้ ย” “อยา่ ลมื วา่ เราจดั การศกึ ษามาไมร่ กู้ รี่ อ้ ยปี แลว้ ใชไ่ หมครบั แตก่ ย็ งั เจอปญั หาเดก็ อา่ นไมอ่ อก การร่วมทางเดินสายเดียวกันเพื่อสร้างการ เขียนไม่ได้มาโดยตลอด แต่ถ้าเราท�ำงานกัน อ่านออกเขียนได้ อย่างเข้มข้น เอาจริงเอาจัง เด็กต้องอ่านและ เขยี นได้ ๑๐๐% ซงึ่ เกดิ ผลลพั ธข์ น้ึ จรงิ ทางเขต “สง่ิ ที่ผมท�ำคือ เม่ือสถาบันไทเลยฯ มี มโี ครงการภาษาทา้ ประลอง ใหโ้ รงเรยี นทพี่ รอ้ ม การจดั กจิ กรรม ผมจะไปรว่ มงานทกุ ครง้ั การท่ี ตดิ ต่อมา เขตฯ จะนำ� เครือ่ งมือไปทดสอบการ ผมซง่ึ เปน็ สญั ลกั ษณข์ ององคก์ รไปรว่ มงาน นน่ั แสดงวา่ เขตฯ การศกึ ษารว่ มดว้ ยกบั โครงการน้ี ∞10∞6

นะ ผมทั้งไปปรากฏตัว ร่วมงาน และพูดคุย ส่วนที่ผมไปร่วมงานกิจกรรมส่งเสริม ท�ำทุกอย่างที่ท�ำได้ มันเป็นเชิงสัญลักษณ์ การอ่านด้วยตวั เอง เพราะมันเปน็ งานนโยบาย (หวั เราะ) ถงึ แมว้ า่ เราไมไ่ ดไ้ ปบงั คบั วา่ โรงเรยี น ทเ่ี ราอยากจะเหน็ ผลสำ� เรจ็ เกดิ ขน้ึ ผมเชอื่ วา่ ถา้ คุณต้องท�ำนะ แต่เราก็ไปยินดีกับการน�ำเสนอ งานใดท่ีผู้บริหารหน่วยงานไม่ให้ความส�ำคัญ กิจกรรมต่าง ๆ ของเด็ก เพราะทนี่ า่ สนใจคอื ความส�ำเร็จก็จะน้อยกว่าที่ควรจะได้ มันเป็น ทกุ งานของสถาบนั ไทเลยฯ จะใหเ้ ดก็ มสี ว่ นรว่ ม ธรรมชาตขิ องขา้ ราชการสว่ นหนงึ่ อยนู่ ะ(หวั เราะ) ตลอด ไม่ใช่ว่าเวลาน�ำเสนอให้ครูมาพูดอย่าง เราจะตอ้ งไปใหก้ ำ� ลงั ใจซง่ึ กนั และกนั ใหก้ ำ� ลงั ใจ เดียว แตเ่ ด็ก ๆ จะไดม้ าเป็นตวั เดินเร่อื ง อา่ น สถาบนั ไทเลยฯ ทเี่ ขามาชว่ ยเราทำ� งาน และไป ปฏิญญาที่ตกลงท�ำงานขับเคลื่อนประเด็น ให้ก�ำลังใจผู้อ�ำนวยการและคุณครูที่เขาก�ำลัง ส่งเสริมการอ่านร่วมกัน แล้วก็มอบให้กับ ทำ� งานอย่างจริงจังเขม้ ข้นครับ” หน่วยงานตา่ ง ๆ เปน็ ขอ้ ตกลงร่วมกนั ส�ำหรับ เราเม่ือร่วมข้อตกลงกันแล้วก็ต้องท�ำให้เต็มที่ เม่ือภาครัฐกับองค์กรพัฒนาเอกชนท�ำงาน เด็ก ๆ มายนื่ ให้กับมือ ถ้าผู้ใหญ่อย่างเราไม่ทำ� รว่ มกัน อะไรเลยมันกน็ ่าอายเดก็ “สถาบนั ไทเลยฯ เป็นภาคประชาสังคม ผมเช่ือว่าที่ผู้อ�ำนวยการหรือคุณครู ทม่ี คี วามปรารถนาดี ไมไ่ ดเ้ ปน็ กลมุ่ ทมี่ าตอ่ ตา้ น แตล่ ะโรงเรียนตัดสินใจเขา้ รว่ มโครงการฯ ดว้ ย ทุกเรื่อง แต่เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนท่ีเข้ามา เพราะเห็นความส�ำคัญเร่ืองการอ่านอยู่แล้ว เพื่อช่วยเหลือสังคมและมีเป้าหมายอยู่ท่ีการ เพียงแต่เม่ือก่อนยังไม่มีใครมากระตุ้นหรือ พฒั นาเด็ก ๆ ดงั น้นั ใครกแ็ ลว้ แตท่ ่มี เี ป้าหมาย ส่งช่องทางให้ แต่พอเห็นสถาบันไทเลยฯ กับ เพื่อพัฒนาเด็ก ผมยินดีให้ความร่วมมือเต็มท่ี เขตฯ การศึกษาเข้ามาแอ็กชั่นด้วย ก็เลยดูมี อ้าแขนรบั ซงึ่ ก็ไม่ใช่มีแตส่ ถาบนั ไทเลยฯ ยังมี เสน้ ทางทม่ี ันชัดเจนในการลงมอื ทำ� มากข้ึน อกี หลายมลู นธิ ทิ ค่ี อยมาชว่ ยเหลอื ดแู ลเกย่ี วกบั ∞10∞7

เด็ก ๆ ในพน้ื ที่เขตฯ นอกจากไม่ปิดก้นั แล้ว ผมยงั แสวงหาดว้ ย ไมใ่ ชร่ ออย่างเดยี ว หาวา่ จะมีองคก์ ร ไหนทจ่ี ะมาช่วยเสรมิ ในเร่ืองน้ี เช่น เรื่องสุขภาวะทางเพศ การปอ้ งกนั ท้องไมพ่ ร้อม ถือเป็นการเสริม สร้างทักษะ พฒั นาคณุ ภาพชวี ิตใหก้ ับเด็กและเยาวชนลกู หลานของเรา ผมเติบโตมาจากการเป็นครูผู้สอน เข้าใจหัวอกของคนเป็นครู ผมเชื่อว่าครูส่วนใหญ่ก็อยาก เห็นเด็กของตัวเองอ่านออกเขียนได้อยู่แล้ว ดังนั้น ผมจึงพร้อมเปิดรับทุกแนวคิดหรือทุกองค์กรที่มี จุดมุง่ หมายเดียวกัน พัฒนาครู พฒั นาเดก็ เพราะถา้ ปิดกั้นหรือปฏเิ สธกเ็ หมือนกับแกว้ ท่ีควำ่� ไปแลว้ ไมม่ ีวันจะรับน้ำ� ฝนได้แม้แตเ่ มด็ เดียว โอกาสทจ่ี ะพฒั นาไม่มเี ลย ผมคดิ อยเู่ สมอวา่ เราไม่ใช่ผบู้ รหิ าร ที่ดีที่สุด ไม่ใช่ผู้บริหารที่เก่งที่สุด เราต้องเรียนรู้อยู่เสมอ ท่ีส�ำคัญคือมุมมองของเราก็มุมหนึ่ง คนภายนอกหรอื องคก์ รเอกชนกม็ องอกี มมุ หนงึ่ ซง่ึ เมอื่ เราเปดิ รบั ความเปลยี่ นแปลงยอ่ มเกดิ ขน้ึ เสมอ” = Growth Mindset = - หากไมอ่ ยากหยุดอยกู่ บั ท่ี แมจ้ ะเปน็ ผู้บรหิ าร ก็ต้องเรียนร้อู ยูเ่ สมอ - คว้าโอกาสไวเ้ สมอ เมอื่ มันเดินทางมาอยู่ตรงหนา้ - หาแนวรว่ มในการทำ� งาน ท�ำให้ส�ำเรจ็ แบบประหยดั เวลาและพลังงาน ∞10∞8

อา่ นสรา้ งสขุ ณวพลภ์ บญุ อาษา

ส่งตอ่ โอกาส สอื่ สารความรู้ : “หัวหน้าพงษ”์ กฉุ นิ ารายณ์ วัฒนธรรมจิตอาสา วฒั นธรรมการอา่ น วฒั นธรรมการให้ “ความย่ังยืนต้องฝากไว้กับพ้ืนที่ เราเป็นแค่ คนจดุ ประกาย วันหน่งึ เรากต็ ้องไปท่อี ืน่ ” “ณวพลภ์ บุญอาษา” ประธานศูนย์พัฒนา ศกั ยภาพการเรยี นรูค้ รอบครัวต�ำบลเหล่าใหญ่ อ�ำเภอ กฉุ นิ ารายณ์ จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ กลา่ วยนื ยนั วา่ วางตวั เอง ไวเ้ พยี งทบี่ ทบาทของผจู้ ดุ ไฟฝนั ตน้ ทางของการทำ� งาน พฒั นาชุมชน อำ� เภอกฉุ ินารายณ์ เปน็ อกี หนงึ่ ในพ้ืนท่ตี น้ แบบ ท�ำงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในชุมชน ซ่ึงได้ ผลลพั ธจ์ นเกดิ แหลง่ อา่ น เกดิ วฒั นธรรมการอา่ นเสรมิ สรา้ ง

พัฒนาการเดก็ เลก็ ๐-๖ ปีในพื้นทเี่ ปา้ หมาย ด้วยกำ� ลังแรงกาย แรงใจของจติ อาสาจากภาคการ ศึกษา ภาคสาธารณสุข ภาคองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ และภาคประชาชน “พงษ์-ณวพลภ์” เป็นแรงก�ำลังส�ำคัญของการขับเคล่ือนงานส่งเสริมการอ่าน ผ่านการ รบั ทนุ ทำ� งานโครงการ ภายใตก้ ารดำ� เนนิ งานของศนู ยพ์ ฒั นาศกั ยภาพการเรยี นรคู้ รอบครวั ตำ� บล เหลา่ ใหญ่ องคก์ รสาธารณประโยชนท์ เ่ี ขาตงั้ ขน้ึ เพอ่ื ทำ� งานดา้ นพฒั นาสงั คมในพนื้ ทบ่ี า้ นเกดิ ของ ตนเอง หลังจากออกเดินทางไปสรา้ งกระบวนการเรยี นรู้และพฒั นาใหก้ บั ชุมชนต่าง ๆ มากมาย ทว่ั ประเทศภายใต้การท�ำโครงการเกีย่ วกบั เด็กและครอบครวั เขาคลกุ คลอี ยกู่ บั กระบวนการเรยี นรดู้ า้ นคณุ ภาพชวี ติ และสายสมั พนั ธข์ องครอบครวั อยู่ หลายโครงการนานนบั สบิ ปี โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ กบั กจิ กรรมเวทเี รยี นรขู้ องพอ่ แมท่ ม่ี งุ่ สง่ เสรมิ การ เรยี นรตู้ อ่ การสง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็ ปฐมวยั ชว่ ง ๐-๖ ปี ผา่ นกระบวนการเรยี นรแู้ บบมสี ว่ นรว่ ม ดว้ ยเทคนคิ เลา่ นทิ าน อ่านหนังสือ และเล่นกับลูก สง่ ผลให้องคค์ วามร้เู กยี่ วกับการท�ำงานเพอื่ พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและครอบครัวของเขา มีฐานท่ีแน่นมาเป็นทุนเดิม ก่อนเข้ามาท�ำงาน สรา้ งเสริมวัฒนธรรมการอา่ นกับชุมชนอยา่ งเต็มท่ีในเวลาตอ่ มา “โครงการครอบครัวเข้มแข็ง” ทำ� ใหเ้ ขาคน้ พบวา่ การเลย้ี งลกู ตามชว่ งวัยน้นั ให้ผลลัพธ์ ที่ดกี ับพฒั นาการเด็กมาก รวมทงั้ ได้ความชัดเจนของหลักคิดเกิดขึน้ ในครอบครัว “โครงการของสายใยรัก” ท�ำให้เขาคน้ พบว่า ครูศูนยพ์ ฒั นาเด็กเล็ก (ศพด.) เป็น Key Success นำ� ไปสูก่ ารพฒั นาคุณภาพชีวติ เด็กเลก็ และครอบครวั ตลอดระยะเวลาการทำ� งานประเดน็ เด็ก เขาพบวา่ การสรา้ งเดก็ ใหเ้ ตบิ โตมีคณุ ภาพชวี ติ ทด่ี นี นั้ สามารถทำ� ไดโ้ ดยความรว่ มมอื ของผคู้ นหลากหลายฝา่ ย ไมว่ า่ จะเปน็ ผปู้ กครอง อาสาสมคั ร ∞11∞1

สาธารณสุขประจ�ำหม่บู า้ น (อสม.) รวมท้ังครปู ระจ�ำศนู ย์พัฒนาเดก็ เล็ก (ศพด.) ท่ีเขายึดโยงไว้ เป็นหวั ใจแหง่ การท�ำงานเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของเดก็ และครอบครวั ถึงปัจจุบนั ศูนย์พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ครอบครัวต�ำบลเหล่าใหญ่เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ไดร้ บั เงนิ ทนุ ทำ� งานจากการนำ� เสนอโครงการพเิ ศษเปน็ ครงั้ คราวจากหนว่ ยงานทเี่ ปดิ ใหท้ นุ ทำ� งาน ดา้ นพัฒนาสงั คม เชน่ สสส. และแผนงานต่าง ๆ ภายใต้การกำ� กบั ดูแลของ สสส. หรือหน่วย งานราชการภายใตก้ ารกำ� กบั ดแู ลของกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ย์(พม.) หรือหน่วยงานเอกชนต่าง ๆ ตัง้ แตป่ ี ๒๕๔๗ เร่ือยมากบั หลายโครงการทเี่ กี่ยวกบั การพฒั นาเด็ก และครอบครัว จนมีเครือขา่ ยคณะครู ศพด. ทำ� งานรว่ มกนั อยา่ งเหนยี วแนน่ ในบทบาทวิทยากร กระบวนการเรียนรเู้ กีย่ วกบั การอ่าน เลา่ เล่นกบั ลูก “พงษ์-ณวพลภ์” ยนื ยนั ว่า คณะครู ศพด. จติ อาสากว่า ๑๐ ชวี ิต เปน็ เร่ียวแรงกำ� ลังใน การพัฒนาเด็กและครอบครัวตั้งแต่น้ันมาจนถึงปัจจุบัน และทุกวันนี้สนิทชิดเช้ือเสมือนหนึ่งเป็น ครอบครัวเดียวกัน ท�ำงานดว้ ยความสนกุ สนาน หวงั ผลเพยี งใหเ้ ดก็ ๆ ในชมุ ชนได้มีพฒั นาการ ที่เหมาะสมกบั วยั กระทงั่ ปี ๒๕๕๕ “ณวพลภ”์ หรอื ทคี่ ณะครู ศพด. จติ อาสาเรยี กกนั วา่ “หวั หนา้ พงษ”์ ตดั สนิ ใจ เปดิ หนา้ ตา่ งอกี บานใหอ้ ำ� เภอกฉุ นิ ารายณ์ ดว้ ยการทำ� โครงการสรา้ งเดก็ กาฬสนิ ธฉ์ุ ลาด ดว้ ยการ ส่งเสรมิ การอา่ นปี ๑ จากทนุ สนบั สนนุ ของแผนงานสรา้ งเสริมวฒั นธรรมการอ่าน พร้อม ๆ กบั เรม่ิ ตน้ พลกิ ชวี ติ ของคนทำ� งานรบั คา่ ตอบแทนในรม่ เงาองคก์ รใหญ่ เลอื กกลบั บา้ นลงหลกั ปกั ฐาน หาทุนส�ำหรบั ท�ำงานที่ตนรักในจงั หวัดกาฬสนิ ธุแ์ ผน่ ดินบา้ นเกดิ เครอื ขา่ ยหลาย ๆ คนทเี่ ขาเคยทำ� งานดว้ ยในบา้ นเกดิ ตง้ั แตป่ ี ๒๕๔๗ ยนิ ดสี ง่ มอบความรว่ ม ∞11∞2

มอื ใหเ้ ขาดว้ ยความเตม็ ใจ โดยเฉพาะคณะครู ศพด. ทเี่ ปน็ หวั ใจสำ� คญั แหง่ การทำ� งานพฒั นาเดก็ ๆ วยั ๐-๖ ปี ซงึ่ อาสาเขา้ รว่ มเปน็ คณะทำ� งานสง่ เสรมิ การอา่ น โดยใชเ้ วลาในวนั หยดุ งานรว่ มกนั ลงแรงท�ำกิจกรรมตามแผนโครงการฯ ซึง่ มเี ปา้ หมายทำ� งาน ๒ ปีแรกส�ำหรับสง่ เสรมิ การเรียนรู้ สร้างความเข้าใจเรื่องการสง่ เสริมพัฒนาการเดก็ ปฐมวยั ช่วงแรกเกิด - ๖ ขวบ ในศูนยพ์ ัฒนา เด็กเล็กจ�ำนวน ๑๖ แห่งของอ�ำเภอกุฉินารายณ์ ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของ ผู้ปกครอง ดว้ ยการสง่ เสริมการอ่านหนงั สือและกระบวนการทหี่ ลากหลาย เชน่ การเลา่ นิทาน การเล่นกับลูก การผลิตสื่อส่งเสริมการอ่าน การพัฒนา ศกั ยภาพกลไกความรว่ มมอื ของเครอื ขา่ ยผปู้ กครอง ครปู ฐมวยั ครู ศพด. อสม. เดก็ เยาวชน ผนู้ �ำชุมชน องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถน่ิ และหน่วยงานภาคสี ง่ เสริมสุขภาวะในชมุ ชน ∞11∞3

“หวั หน้าพงษ”์ บอกว่า แมจ้ ะไมม่ ีโครงสรา้ งองคก์ รส�ำหรบั คณะทำ� งานสง่ เสรมิ การอา่ น อย่างเป็นทางการ แต่ทุกคนก็ท�ำงานเต็มท่ีตามศักยภาพท่ีแต่ละคนถนัด ท�ำให้ผลลัพธ์ในการ ขบั เคลื่อนงานเป็นไปตามเปา้ หมายอย่างเป็นรปู ธรรม “คณะท�ำงานทกุ คนมหี วั ใจของความเปน็ จิตอาสาจริง ๆ เพราะไมไ่ ด้มีเงินเดือน ตอ้ งใช้ วนั หยดุ หรอื เวลาหลงั เลกิ งานมาประชมุ มาทำ� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ถงึ จะมคี า่ ตอบแทนบา้ งกเ็ ปน็ เพยี ง คา่ น้ำ� มนั รถ บอกได้เลยว่าทุกคนมาดว้ ยใจจริง ๆ ซง่ึ พอคนลงมือท�ำด้วยความตง้ั ใจจรงิ ผลที่ ออกมามันก็ดตี ามทต่ี ัง้ ใจไว้เลย” หอบความรู้กลบั สู่บา้ นเกดิ “ณวพลภ์” เรียนจบด้านการจัดการบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ เร่ิมเป็นอาสาสมัครงานโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาสังคมต้ังแต่สมัยเรียน เขาเล่าว่ามีก่ีงานชุมชน ทไี่ ปได้ เขาขอไปหมด เพราะเรยี นวนั เสาร์-อาทิตย์ เมอ่ื มเี วลาว่างช่วงจันทร-์ ศุกร์ จงึ กา้ วเท้า เข้าไปอาสารว่ มทกุ กจิ กรรมทชี่ อบ ทัง้ ๆ ทจ่ี รงิ แล้วเขาเลือกเรียนการจัดการ เพราะอยากไปนง่ั ท�ำงานออฟฟิศ แตส่ ง่ิ เกดิ ขน้ึ ในชวี ติ จรงิ หลงั จากเรยี นจบคอื เขาตดั สนิ ใจ เขา้ ทำ� งาน “บัณฑติ อาสา” และวันน้ัน วันแรกท่ีก้าวสู่การเป็น “บัณฑิตอาสา” นา่ จะเปน็ การปดิ ฉากการนงั่ โตะ๊ ทำ� งานออฟฟศิ ของ “หวั หนา้ พงษ”์ อยา่ งเปน็ ทางการ ∞11∞4

“ตอนนน้ั มกี ระแสวา่ คนทเี่ รยี นจบตอ้ ง กระทงั่ ขยบั ตวั เขา้ ไปทำ� งานโครงการเลา่ นทิ านฯ ว่ิงเข้าไปที่กรุงเทพฯ เพราะจะท�ำงานได้ ขององคก์ รรกั ลกู รบั ผดิ ชอบงาน ๑๐ จงั หวดั เงนิ เดือนเยอะ ทศั นคตขิ องเรากส็ วนกระแส ภาคอสี าน อกี เปน็ ระยะเวลารวม ๕ ปี กอ่ นจะ มาคิดว่า อ้าว แล้วใครจะท�ำงานพัฒนาใน ตัดสินใจกลับมาท�ำงานพัฒนาชุมชนท่ีบ้าน ระดับชุมชนล่ะ แล้วถ้าเราจะท�ำต้องไปท�ำ เกดิ กฉุ นิ ารายณ์ กบั ใคร ตงั้ คำ� ถามแลว้ คิดหาทางไป แล้วก็ได้ ท�ำงานชุมชนมาเรื่อย ๆ จนผมพบว่าสดุ ทา้ ย “เปา้ หมายตอนทค่ี ดิ ออกจากงานกลบั มันมีความเป็นชุมชนอยู่ในทุกท่ีน่ันแหละ มาอยกู่ าฬสนิ ธ์ุ วางรากฐานไว้ส่วนหนง่ึ ในใจ เราต้องมองให้เหน็ ” คือ เตรียมเขียนโครงการตามที่เรามี ประสบการณ์ เช่น เขียนโครงการขอทุน จนวันหนึ่งได้พบกับ “ครูแอร์- จงั หวดั ขอทนุ พมจ. (สำ� นกั งานพฒั นาสงั คม สพุ รรณทพิ ย์ ประทมุ ทา” ครศู นู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด) สสส. (ศพด.) บ้านสามขา สังกัดองค์การบริหาร (ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง ส่วนตำ� บล (อบต.) สามขา ซ่ึงทำ� วิทยุชุมชน เสรมิ สขุ ภาพ) กม็ หี ลายองคก์ รทเี่ คยรว่ มงาน อยู่ จึงได้โอกาสท�ำวิทยุชุมชนที่กุฉินารายณ์ ด้วย อีกส่วนหนึ่งคือเป็นลูกคนเดียว ก็เป็น ในบทบาทส่ือมวลชนท้องถ่ิน เม่ือองค์กร ห่วงแม่กับยาย คิดแล้วได้ข้อสรุปว่าถ้ากลับ รักลูกลงพื้นที่ส�ำรวจท�ำโครงการอบรมใช้ มาอยู่บ้าน อย่างน้อยเราก็ช่วยเหลือพายาย เครอ่ื งมอื ทำ� วจิ ยั ชมุ ชน จงึ ไดต้ ดิ ตอ่ พดู คยุ กนั ไปหาหมอได้ แม่ก็อยากให้กลับมาอยู่ด้วย กระทั่งได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าหน้าที่ เม่ือก่อนเขาเห็นเราสะพายกระเป๋าออกจาก ประสานงานระดับพื้นที่ รับผิดชอบงาน บ้านไปท�ำงาน กย็ งั บอกวา่ ถา้ ลำ� บากก็มาอยู่ ๖ ตำ� บล ใน ๔ อำ� เภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ บ้านเราก็ได้นะ (หวั เราะ) แตต่ อนน้ันยงั ร้สู ึก ∞11∞5

วา่ เดนิ ทางเหนอ่ื ยกย็ ังได้ตงั คม์ ากหน่อย แตก่ ็คดิ อยูต่ ลอดว่าถ้ามชี อ่ งทางอื่นท่กี ลับมาอยบู่ ้านได้ กจ็ ะมา” วันหน่ึงในปี ๒๕๕๔ ช่องทางที่เขามองหาก็มาถึง เมื่อรู้ข่าวการเปิดให้ทุนท�ำงานระดับ ชมุ ชนของแผนงานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ น ซง่ึ ตรงกบั ความตอ้ งการทอี่ ยากทำ� งานเกย่ี วกบั การอา่ น จงึ เขยี นโครงการเสนอ และไดร้ บั อนมุ ตั ใิ หท้ ำ� โครงการในปี ๒๕๕๕ ชว่ งนนั้ เขายงั ทำ� งาน เป็นฟรีแลนซ์โครงการเล่านิทานฯ ขององค์กรรักลูก ซึ่งเริ่มมาต้ังแต่ปี ๒๕๕๒ ควบคู่ไปด้วย จนจบลงในปี ๒๕๕๗ นบั เปน็ เวลากวา่ ๒ ปี ทเ่ี ดนิ ทางไปกลบั ระหวา่ งกาฬสนิ ธแ์ุ ละอกี ๑๐ จงั หวดั ภาคอีสานทีร่ ับผดิ ชอบงาน รวมถงึ กรงุ เทพฯ ตน้ ทางของการด�ำเนนิ งานท้งั หมด “ชว่ งเรมิ่ งานการอา่ น ผมไดห้ นงั สอื สว่ นหนึง่ มาจากโครงการเลา่ นทิ าน อ่านเล่นกบั ลูก ของสายใยรกั เป็นกิจกรรมสง่ เสรมิ การเล่านทิ าน ซงึ่ ผมไดไ้ อเดยี จากโครงการนมี้ าตอ่ ยอดทำ� งานกบั แผนฯ การอา่ น ปแี รก ท่ีท�ำงานอ่านไม่ได้ขอค่าตอบแทนตวั เองเลย เพราะยงั ว่งิ รอกทำ� งานกับ ท่ีเก่าอยู่ แตอ่ ยากให้มกี ิจกรรมดี ๆ เก่ยี วกบั การอา่ นเกิดขนึ้ ในบ้านเรา” ∞11∞6

“หวั หนา้ พงษ”์ มองวา่ การทำ� งานโครงการเลา่ นิทานฯ ท�ำให้ไดค้ วามรู้ จากการเปน็ ลกู มอื ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นกระบวนการเรยี นรใู้ นรปู แบบตา่ ง ๆ รวมทงั้ ซมึ ซบั ๔ หลักคดิ ส�ำคญั คอื คุณธรรม สายสัมพันธ์ครอบครัว การเลี้ยงลกู แตล่ ะชว่ งวยั และการมสี ว่ นรว่ มกบั ชมุ ชนในการพฒั นาเดก็ ซง่ึ นำ� มาประยกุ ต์ ใชง้ านพัฒนาครอบครัวและชุมชนได้ และด้วยประสบการณ์ท�ำงานเรื่องเดก็ และครอบครัวมาระยะเวลาหนง่ึ เขาจงึ เชื่อวา่ การ ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้จากการอ่านอย่างต่อเน่ืองให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้รับรู้เท่ากันกับคณะ ทำ� งาน จะสามารถส่งเสรมิ พฒั นาการของเด็ก ๆ ไดต้ ามวยั อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพมากข้นึ “หวั ใจการเคลอื่ นงานอา่ นของผมคอื นำ� ฐานทนุ ความรทู้ ถ่ี นดั มาสง่ มอบใหก้ บั ชมุ ชนบา้ น เรา สื่อสารบอกเล่าวธิ ีการและคณุ ประโยชนไ์ ด้ ไม่ได้เอาขอ้ มูลยกเมฆมา แต่เอาหลกั วิชาการ ท่เี รียนมา และทดลองท�ำจนประสบความสำ� เร็จแล้วมากระจายตอ่ ” การทำ� งานรว่ มกบั คณะครศู นู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ (ศพด.) ทำ� ให้ “ณวพลภ”์ พบทนุ หลายอยา่ ง ทช่ี ว่ ยสนบั สนนุ การเคลอื่ นงานได้ พรอ้ มยนื ยนั วา่ ครู ศพด. จำ� นวนมากลว้ นมศี กั ยภาพขบั เคลอื่ น สังคม เพียงแต่อาจขาดโอกาสแสวงหาแหล่งทุนภายนอก ในขณะที่เขามีโอกาสเจอแหล่งทุน ภายนอกทพี่ รอ้ มสนบั สนนุ หรอื เปดิ โอกาสใหค้ ณะครไู ดไ้ ปศกึ ษาเรยี นรู้ และพฒั นาศกั ยภาพของ ตนเพ่ิมเติม เม่ือเขามองเห็นโยงใยท่ีสามารถเช่ือมกันเพื่อพัฒนาได้ จึงไม่รีรอท่ีจะร่วมท�ำงาน กับคณะครู ศพด. ในพ้นื ท่อี ย่างจรงิ จัง ช่วงแรกของการท�ำงานขับเคลื่อนการอ่านทอ่ี ำ� เภอกฉุ นิ ารายณ์ เป็นการลงแรงลงใจของ เครอื ข่ายคณะครู ศพด. ซ่ึงล้วนเป็นจิตอาสาทเ่ี ต็มใจสวมหมวกทีมงานหลกั เพือ่ ร่วมกันท�ำพ้นื ท่ี ∞11∞7

นำ� รอ่ งในการทำ� กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นทเ่ี หมาะสมกบั วยั ใหเ้ กดิ ขน้ึ จดุ เรม่ิ ตน้ มกี ารรวมตวั นงั่ คดิ พดู คยุ วเิ คราะหก์ นั คอ่ นขา้ งมาก เนอ่ื งจากผปู้ กครองสว่ นใหญม่ คี วามคาดหวงั ไวว้ า่ เมอ่ื สง่ ลกู หลาน มาอยู่ท่ีศูนย์ฯ แล้วเด็กต้องสามารถอ่านออกเขียนได้ ซึ่งจากการค้นคว้าข้อมูลของทีมงาน พบว่าการเร่งรัดให้เด็กเล็กอ่านออกเขียนได้นั้นขัดกับพัฒนาการตามวัยของเด็ก รวมถึงข้อมูล งานวิจัยที่บอกว่า การให้เด็กเล็กเรียนหนักเกินกว่าวัยน้ันมีเปอร์เซ็นต์สูงที่ส่งผลให้โตไปแล้ว เด็กคนนัน้ ไมอ่ ยากเรยี นหนงั สอื ดังนั้น นอกจากร่วมกันออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับวัยแล้ว ยังเน้นการ สื่อสารให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงคุณประโยชน์ของการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับช่วงวัย อธิบายถึง ผลกระทบของการนำ� เดก็ เรยี นรขู้ า้ มขน้ั ทท่ี ำ� ใหค้ วามทรงจำ� หรอื ประสบการณช์ วี ติ ในชว่ งเดก็ เลก็ ขาดหายไป รวมทง้ั ยำ�้ ชดั ประเดน็ การอา่ นหนงั สอื ใหล้ กู ฟงั ทสี่ ามารถสานสมั พนั ธภ์ ายในครอบครวั ความรกั ระหวา่ งพอ่ แมล่ กู ทถ่ี กู ประทบั ลงไปภายในจติ ใจของลกู ในขณะนนั้ ไมว่ า่ ลกู จะโตเปน็ หนมุ่ สาวไปถึงอายุเท่าไร ความห่างเหินจะไม่เกิดขึ้นมากเท่ากับท่ีพ่อแม่ไม่ได้ประทับความสัมพันธ์ ลงไปในชว่ งวยั เดก็ เลก็ ของลูกเลย ทกุ คนพรอ้ มใจสง่ เสยี งยนื ยนั ไวว้ า่ “หนงั สอื เปน็ เครอื่ งมอื สรา้ งความสมั พนั ธข์ องครอบครวั ชนั้ เย่ยี ม” ∞11∞8

จติ อาสาการอ่าน และหน่วยงานท้องถ่ิน คณะท�ำงานส่งเสริมการอ่าน ของศูนย์พัฒนาฯ เหล่าใหญ่ในพื้นที่ อ�ำเภอกุฉินารายณ์ท�ำงานรูปแบบ “จติ อาสา” ทำ� ใหก้ ารขบั เคลอื่ นงานไป ไดร้ วดเรว็ มากขน้ึ สามารถขยายพนื้ ที่ การท�ำงานผ่านภาคีเครือข่ายที่มีท้ัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน และ โรงพยาบาลชุมชน โดยมีตัวแทน หน่วยงานเข้าร่วมเป็นคณะท�ำงาน จติ อาสาสง่ เสรมิ การอ่าน รูปแบบคณะท�ำงานจติ อาสาดังกลา่ ว คือ การเชอื่ มคนท�ำงานทอ่ี ยู่ในระบบเขา้ มาพฒั นา และสรา้ งทมี รว่ มกนั จนเกดิ การพฒั นาทมี ขน้ึ และนำ� ทมี ดงั กลา่ วสามารถไปพฒั นาแนวความคดิ ส่งต่อให้กลุ่มอ่ืน ๆ ได้ด้วย ผ่านการเป็น “วิทยากรกระบวนการ” กลุ่มจิตอาสาคณะท�ำงาน ส่งเสริมการอ่าน ประกอบไปด้วย ครู ศพด. ครูประจ�ำโรงเรียน พยาบาลวิชาชีพประจ�ำ โรงพยาบาล ซง่ึ เขา้ ใจบรบิ ทของกลมุ่ เปา้ หมายอยา่ งลกึ ซงึ้ ยงิ่ เมอ่ื ไดม้ าขบั เคลอ่ื นงานภายใตค้ วาม เหน็ ชอบของหวั หน้างานและผบู้ รหิ ารแลว้ ย่ิงสง่ ให้เกิดการเคล่อื นงานทงั้ ระดับบุคคลและระดับ โครงสรา้ งองคก์ ร ∞11∞9

“หวั หนา้ พงษ”์ บอกเลา่ ถงึ หวั ใจในการ บังคับให้ต้องพัฒนา หลายคนก็เต็มใจที่จะ ท�ำงานร่วมกันคือเน้นส่ือสารแบบครอบครัว เรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ ในสงิ่ ที่ไมเ่ คยทำ� มากอ่ น ทำ� ให้ เหมือนพ่ีเหมือนน้อง แบ่งหน้าท่ีจัดสรรกัน ทุกคนมีโอกาสได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้นหน่ึง ตามความถนัด เช่น ท�ำเอกสารการเงิน ดว้ ย” ทำ� เอกสารสรปุ งาน เปน็ วทิ ยากรนำ� กระบวนการ เปน็ พธิ กี ร โดยคณะทำ� งานจะไดเ้ ขา้ รบั อบรม นอกเหนือจากการท�ำงานในรูปแบบ เรียนรู้เก่ียวกับกระบวนการเรียนรู้ด้านการ การสนับสนุนความรู้ให้กับคณะท�ำงาน ส่งเสรมิ การอา่ น กอ่ นท่ีจะนำ� ไปถา่ ยทอดให้ จิตอาสาส่งเสริมการอ่าน ซ่ึงถือเป็นบุคคล เพ่ือนครูคนอ่ืน ๆ รวมทั้งมีกิจกรรมที่เปิด สำ� คญั (KeyMan) ในพนื้ ทผ่ี า่ นการจดั อบรม โอกาสใหเ้ พอ่ื นครไู ดไ้ ปรว่ มสงั เกตการณด์ ว้ ย ใหค้ วามร้แู ลว้ คณะท�ำงานจติ อาสาฯ ยังจัด ว่ากิจกรรมตา่ ง ๆ ทำ� ให้เกดิ อะไร ได้เรยี นรู้ ให้มีการประชุมเวียนไปตามศูนย์พัฒนา อะไรบา้ ง บนฐานคิดทีว่ ่าเมอ่ื ครูคนนน้ั ไดม้ า เด็กเล็ก (ศพด.) ท่ีเข้าร่วมโครงการ สัมผัสเองจะเกิดความเข้าใจและส่งต่อ ซึ่งนอกจากเป็นการประชุมตามปกติแล้ว ถ่ายทอดให้กบั คนอ่นื ๆ ท่ีไมไ่ ด้มาฟังได้ด้วย ยังได้ผลลัพธ์เป็นการศึกษาดูงาน ท�ำความ เขา้ ใจการทำ� งานของแตล่ ะ ศพด. ไปพรอ้ ม ๆ “การที่พวกเราทกุ คนในทมี ทำ� งานอยู่ กนั ถือเปน็ การแลกเปลีย่ นประสบการณ์บน ดว้ ยกนั ไดด้ อี ยา่ งน้ี ผมเชอ่ื วา่ นา่ จะเปน็ เพราะ ฐานการเรียนรู้จากพ้นื ทจี่ ริง ทัศนคติส่วนตัวของแต่ละคนซึ่งชอบงาน พฒั นาอยแู่ ลว้ พรอ้ มกบั ไดท้ ำ� งานทชี่ อบ ไมม่ ี ท่สี ำ� คัญ “หัวหนา้ พงษ์” บอกวา่ ศูนย์ การบังคับใหท้ �ำอะไรที่ไม่ถนัด มันก็สบายใจ พฒั นาฯ เหลา่ ใหญเ่ นน้ การทำ� งานตามบรบิ ท ท�ำให้เม่ือมาถึงจุดหน่ึงท่ีอาจมีเหตุการณ์ ของพื้นที่ เช่น ช่วงท่ีคุณครูมีก�ำหนดการ ประชมุ จำ� นวนบอ่ ยครง้ั โครงการฯ จะเวน้ วรรค ∞12∞0

ไม่เข้าไปท�ำกิจกรรม หรือแม้แต่เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร โครงการฯ จะไม่ เข้าไปทำ� กจิ กรรมกับชมุ ชนเช่นเดียวกัน “เราทำ� งานแบบเนน้ ความตอ้ งการและความสะดวกของพนื้ ทเ่ี ปน็ หลกั กจิ กรรมในโครงการ จะยดื หยนุ่ ไปตามบริบทของพนื้ ที่ จะไม่ไปฝนื หรอื ขัดกับวัฒนธรรมขององค์กรหรอื ชุมชน ผมคิด ว่าการบริหารจัดการที่สามารถพลิกแพลง ยืดหยุ่น เช่ือมงานท่ีสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนกับ ภาคีองค์กรต่าง ๆ มันตอบโจทยก์ ารท�ำงานของทุกฝา่ ยได้” การดูแลเอาใจใส่คณะท�ำงานจิตอาสาส่งเสริมการอ่านของ “หัวหน้าพงษ์” ไม่ได้มีเพียง แคก่ ารทำ� งานตามโครงการฯ เพยี งอยา่ งเดยี ว เขายงั เนน้ ไปทก่ี ารพยายามหากจิ กรรมทสี่ อดคลอ้ ง กบั งานประจำ� ของแตล่ ะคนอกี ดว้ ย เชน่ โครงการเลา่ นทิ าน ของสำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ปปส.) ซึ่งน�ำทฤษฎี EFs (Executive Functions) หรอื ความสามารถ ของสมองในการบริหารจัดการชีวิต ออกแบบส่ือและกระบวนการเรียนรู้ อันเก่ียวข้องกับการ พฒั นาเดก็ ดา้ นสภาพแวดลอ้ ม การยบั ย้งั ช่งั ใจ ปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งพ่อแมล่ ูก การเปิดโอกาสให้ เด็กมปี ระสบการณร์ ่วมผา่ นหนงั สอื “มันต่อยอดกับงานครูได้เราก็ดีใจ เพราะการไปอบรมแม้ จะไมไ่ ด้ค่าตอบแทน แตค่ รไู ดร้ บั ชุดหนงั สือและคมู่ อื นำ� มาพัฒนา งานต่อได้ หรอื แมแ้ ตก่ ับทมี งานพี่เจ (สุดใจ พรหมเกดิ ผจู้ ดั การ แผนงานสร้างเสริมวฒั นธรรมการอา่ น) มโี ครงการมหศั จรรยส์ ื่อ สรา้ งสรรค์ส�ำหรับเด็กปฐมวัย ผมกเ็ ชื่อมต่อมาเลย ถอื ว่าเปน็ ทุน สนบั สนนุ ใหพ้ ี่ ๆ ครไู ดพ้ ฒั นางานของตวั เองไปดว้ ย บางครงั้ ผมกช็ ว่ ยแนะเรอ่ื งจดั การขอ้ มลู พฒั นา เป็นโครงการให้ด้วย เพราะมีหลายกิจกรรมท่ีครูท�ำกันอยู่แล้วมีประโยชน์ เช่น อ่านหนังสือ ∞12∞1

ให้เด็กฟัง พาเด็กปั้นดินน�้ำมัน กิจกรรมหลายอย่างท�ำให้พัฒนาเป็นโครงการของบประมาณ มาท�ำในศนู ย์พฒั นาเด็กเล็กได้เลย” “คอยมองหาตลอดว่าท�ำอะไรเพ่ิมให้ทีมครูได้บ้าง ผมระลึกเสมอว่าเราไม่ได้ท�ำงาน คนเดียว ไม่ว่าจะมีก่ีโครงการท่ีเข้ามา พ่ี ๆ ครูก็เป็นก�ำลังส�ำคัญในการเคล่ือนงานมาตลอด วนั จนั ทร์-ศุกร์ทกุ คนต้องทำ� งาน พอวนั เสาร์ อาทิตย์กม็ าชว่ ยท�ำงานโครงการ ทง้ั ๆ ท่ีก็ไมไ่ ดร้ บั เงินเดือน มีเพียงค่าวิทยากรจากโครงการจ�ำนวนหน่ึงซึ่งไม่ได้เยอะ แค่พอเป็นค่าน้�ำมันรถได้ พดู ตรง ๆ คอื เขาไม่มาก็ไดค้ รบั เพราะมนั ไม่เปน็ ช่องทางรายได้ แตพ่ ี่ ๆ ครกู เ็ ต็มใจมาร่วมกนั ท�ำงานเพื่อชมุ ชนเรา ฉะน้นั ถา้ มโี อกาสทีด่ ี ๆ ผมกต็ ้องตามหามาสง่ ต่อใหท้ กุ คน” ในขณะท่ีเม่ือมองไปยังด้านการสนับสนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีมีต่อศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กซ่ึงเข้าร่วมเป็นเครือข่ายสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน “หัวหน้าพงษ์” บอกว่า สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ เน่ืองจากมีหลายตัวช้ีวัดที่ท้องถิ่นต้องท�ำให้ผ่านเกณฑ์ ∞12∞2

มาตรฐานอันเก่ียวข้องกบั ผลประโยชนท์ จ่ี ะได้รบั มาบรหิ ารทอ้ งถนิ่ ดว้ ย เช่น ส�ำนักงานรบั รอง มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศกึ ษา (สมศ.) มกี ารประเมนิ ตามหลักเกณฑท์ ่ีว่า ทอ้ งถิน่ ตอ้ งมสี ว่ นรว่ มทำ� งานพฒั นากบั ภาคแี ละแหลง่ เงนิ ทนุ ภายนอก ซงึ่ เปรยี บเสมอื นการการนั ตจี าก หนว่ ยงานภายนอกกับท้องถิน่ “ผมคิดว่าช่วง ๓ ปีให้หลังมานี้ ท้องถิ่นเร่ิมมีกองท�ำงานดา้ นต่าง ๆ ขนึ้ มา เช่น การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม มองกันง่าย ๆ คือปัจจุบันท้องถิ่นไม่ได้แค่ดูแลถนนแล้วนะ ยังมีอีก หลายเรื่องต้องดูแล ในขณะท่ีเราก็เป็นหน่วยหน่ึงที่ท�ำงานเพ่ือท้องถ่ิน ถ้าต่างฝ่ายต่างช่วยกัน โอกาสได้พัฒนาชุมชนหรือหมู่บา้ นตัวเองมนั ก็มแี นวโน้มเป็นไปไดด้ ”ี การท�ำงานส่งเสริมการอ่านในชุมชนผ่านการขับเคลื่อนของครู ศพด. ซ่ึงอยู่ภายใต้การ ดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีนักวิชาการศึกษาเป็นหัวหน้าสายบังคับบัญชา ซึง่ จากประสบการณท์ �ำงานตลอด ๓-๔ ปีท่ีผา่ นมา “หัวหน้าพงษ์” พบวา่ ทอ้ งถน่ิ ท่ีนักวิชาการ ศกึ ษาใหค้ วามสนใจ การขบั เคลอ่ื นงานจะเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ มปี ระสทิ ธภิ าพ เนอื่ งจากมคี วาม เข้าใจและตง้ั เป้าหมายตรงชัดไปยังพัฒนาการของเด็ก ๆ ปฐมวัยทีอ่ ยู่ในศูนย์ฯ ในขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นบางแห่งยังไม่สนับสนุนการท�ำงานของ ศพด. ทั้งด้าน งบประมาณ องคค์ วามรู้ หนงั สอื นทิ าน สอ่ื การเรียนรู้ อาจเปน็ เพราะนกั การศกึ ษาบางคนเพง่ิ จบ มาใหม่ ยังไม่รู้ข้อกฎหมายชัดเจนว่าท�ำสิ่งใดผิดระเบียบหรือไม่ จึงไม่กล้าลงมือท�ำงานท่ี นอกเหนอื จากความคนุ้ เคย รวมทงั้ บางคนมหี ลกั คดิ จากอาชพี เดมิ เชน่ รบั ราชการ ซงึ่ การประสาน งานทกุ อยา่ งตอ้ งผา่ นระบบการสง่ หนงั สอื ราชการ กรอบความคดิ ยงั อยู่ในรปู แบบเดมิ ยงั ไมพ่ รอ้ ม จะเพ่ิมเติมองค์ความรู้ใหม่ วิธีใหม่เข้าไป จึงจ�ำเป็นต้องใช้เวลาส�ำหรับสร้างความเข้าใจเพื่อ นำ� ไปสกู่ ารสนับสนุนใหเ้ กดิ ขึ้นทว่ั ถงึ ในอ�ำเภอกฉุ ินารายณ์ ∞12∞3

“อบต.สามขา เรามีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๗ ศูนย์ ก็ก�ำหนดลงตารางงานล่วงหน้าไว้เลยว่าวันไหนไปศูนย์ฯ ไหน เดือนหนึง่ จะใช้เวลาสปั ดาห์กวา่ ๆ ส�ำหรบั การลงพน้ื ท่ี ถอื วา่ ใชเ้ วลาเยอะ เพราะเราพดู คยุ กบั ครแู ละลงเยยี่ มบา้ นเดก็ ๆ กับผปู้ กครองดว้ ย ทกุ วนั นก้ี ารประชุมครู ศพด. เราใช้วธิ ี เวียนลงประชมุ แตล่ ะศนู ยฯ์ สลบั กนั ไป กท็ ำ� ใหค้ ณุ ครตู า่ งศนู ยฯ์ เขาไดเ้ หน็ บรรยากาศและผลงานของเพอ่ื น ๆ ทไ่ี ดพ้ ฒั นามา ได้ แลกเปลย่ี นหาไอเดียในการพฒั นาศูนย์ฯ ของตนเองและศูนยฯ์ ของเพอื่ นท่ีไปเย่ยี มชม และทกุ ครั้ง ก่อนจบประชุม เราจะให้คุณครูฝึกพูดและน�ำเสนอ เพราเช่ือว่าคุณครูทุกคนเก่ง แต่บางคร้ังอาจจะ ไม่กลา้ พูดหรือน�ำเสนอหน้าเวที ถือเป็นชว่ งเวลาฝกึ ทกั ษะการนำ� เสนอเพ่มิ เติม คณุ ครู ศพด. ของตำ� บลสามขามเี จตคตทิ ด่ี ี ซง่ึ เปน็ พนื้ ฐานทจี่ ะชว่ ยพฒั นาในตวั อน่ื สงิ่ ทข่ี าดอยู่ อาจคือเรื่องของวชิ าการ เนอื่ งจากว่าเขาไม่ได้เรยี นมาทางนโี้ ดยตรง แตเ่ รอ่ื งกจิ กรรมเกง่ มาก ฉะน้ัน เวลาท่ีเราจะส่อื สารเร่อื งวิชาการกับคณุ ครู ถ้าเราสอื่ ให้เห็นเปน็ ตัวกจิ กรรม คุณครจู ะเขา้ ใจและทำ� ได้ ดีมาก หวั หนา้ พงษเ์ พนิ่ กม็ ที ศั นคตใิ นการทำ� งานทด่ี ี เราชอบ หายากนะคะหนว่ ยงานทจ่ี ะมาเหน็ ความ สำ� คญั และลงมอื ทำ� งานตรงนี้ พอหวั หนา้ ฯ ประสานมาใหเ้ รารว่ มทำ� งานตรงนี้ ก็ไฟเขยี วใหค้ ณุ ครทู กุ คน เลย ถือว่าเป็นโอกาสดีให้ได้เรียนรู้แนวทางในการท�ำงาน เก็บเกี่ยวองค์ความรู้ท่ีเขาเอามาให้ โดยเฉพาะเรอื่ งอบรมพฒั นาศกั ยภาพของคณุ ครู ศพด. นเี่ ปน็ โอกาสทดี่ มี าก ๆ ของ ศพด. ในตำ� บลเรา” สายลม เกตุใส นกั วิชาการศกึ ษา อบต.สามขา อ�ำเภอกฉุ ินารายณ์ จงั หวดั กาฬสินธ์ุ ∞12∞4

สรา้ งแหลง่ อ่าน สานต่อเครอื ข่าย สถานการณ์ขับเคล่ือนวัฒนธรรมการอ่านของอ�ำเภอกุฉินารายณ์ล่าสุดในปี ๒๕๕๘ ภายใตช้ อ่ื โครงการสานพลงั เครอื ขา่ ยกฉุ นิ ารายณอ์ า่ นยกกำ� ลงั สขุ ปี ๒ เกดิ การตอ่ ยอดในพนื้ ที่ โรงเรยี นประถมศึกษาเพ่ือการขยายผลแนวคดิ ของโครงการเขา้ สู่โรงเรยี นระดับประถมศึกษา ไดม้ กี ารจดั สภาพแวดลอ้ มในโรงเรยี นและชมุ ชนทเี่ ออื้ ตอ่ การอา่ น พรอ้ มกบั พฒั นาศกั ยภาพของ ครศู นู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ เพม่ิ เตมิ ในดา้ นการทำ� หนงั สอื การต์ นู และนทิ าน รวมทงั้ ความรดู้ า้ นหนงั สอื ท่เี หมาะสมกบั เดก็ เพอ่ื ใหค้ รู ศพด. มีชดุ ความรู้ท่จี ะสามารถส่ือสารกบั หนว่ ยงานตน้ สังกัดเพ่ือ อสิ ระในการเลอื กซ้ือหนงั สือนิทานทีเ่ หมาะสมกบั วยั ของเด็กได้ ทีส่ ำ� คญั คือ เกิดการขยายพืน้ ทท่ี ำ� งานร่วมกบั โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยุพราชกฉุ นิ ารายณ์ โดยไดร้ บั การสนบั สนนุ จากผอู้ ำ� นวยการโรงพยาบาลใหม้ ตี วั แทนพยาบาลวชิ าชพี เขา้ รว่ มเปน็ เครอื ขา่ ย และคณะทำ� งานสง่ เสรมิ การอา่ น ทำ� ใหเ้ กดิ การเชอื่ มโยงทนุ ทรพั ยากร และความรรู้ ว่ มกนั กระทงั่ ขยายการทำ� งานเชือ่ มไปยัง ๕ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล และการนำ� การส่งเสรมิ การ อ่านไปอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เล็กคณุ ภาพไดอ้ ีกดว้ ย กระบวนการใช้ส่ืออ่าน นิทานเข้ามาเป็นเครื่องมือเสริมสร้างพัฒนาการเด็กที่ “หัวหน้า พงษ”์ และคณะทำ� งานจิตอาสาส่งเสรมิ การอ่านขับเคลือ่ นกันอยู่ในปัจจุบนั น้ี สามารถสร้างการ เรยี นรใู้ ห้เดก็ ๆ ไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม เนอื่ งจากหนังสือนิทานเปน็ เครื่องมือหนึง่ ทเี่ หมาะสมกับ วยั ซ่งึ เมอ่ื ถึงจุดหนง่ึ ทเ่ี ด็ก ๆ เข้าใจการใชห้ นังสือนทิ าน เดก็ ๆ ก็จะเขา้ มุมไปกบั หนงั สือทเ่ี ขา เลอื กอยา่ งอตั โนมตั ิ เรม่ิ จากทำ� สปั ดาหล์ ะ ๑ คร้ัง หลงั จากน้ันจะเกดิ การสนใจเรียนรู้พัฒนาข้ึน ตามธรรมชาติ ∞12∞5

“ทกุ วันนสี้ ถานการณ์เรอื่ งการอ่านใน ท�ำงาน และเป็นห้องสมุดชุมชน ให้พา ชุมชนของเราดีข้ึนมาก เพราะตอนเริ่มต้น ลกู หลานเขา้ มาอา่ นหนงั สือได้ ทท่ี ำ� งานไมม่ หี นงั สอื เลยครบั มคี นสนใจอยาก อ่าน แต่มันไม่มีหนังสือ หลาย ๆ ศพด. “ผมมองว่าที่เด็ก ๆ ไม่อ่านหนังสือ เข้าไม่ถึงหนังสือนิทานดี ๆ มานาน พอมา มนั มีปัจจยั ๒ อย่าง คือ ไมม่ ีหนงั สอื ใหอ้ ่าน ๒ ปีหลังน้ี ผมกล็ องหาวิธีการ เร่ิมท�ำผา้ ป่า กับหนังสือราคาแพงจนซื้ออ่านไม่ได้ครับ หนังสือ เพราะเห็นว่าชุมชนก็อยากช่วย แต่โดยรวมเราก็พยายามหาช่องทางให้มี บางคนบอกว่าไม่มีหนังสือให้ ขอเอาเงิน หนังสือกระจายลงไปถึงชุมชนให้มากที่สุด ใส่ซองให้ บอกว่าคุณครูไปซ้ือเอามาให้ ตอนนี้เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ท่ีบ้านตัวเองด้วย ลูกหลานเรานะ ผมวา่ หลายคนเรม่ิ เห็นความ ทำ� แลว้ กร็ สู้ กึ ภมู ใิ จที่ไดเ้ หน็ เดก็ ๆ ทมี่ าตง้ั แต่ สำ� คญั ของการอา่ นมากขนึ้ ” ยงั อา่ นหนงั สอื ไมอ่ อก จนทกุ วนั นอี้ า่ นหนงั สอื คลอ่ งไปแล้ว (หัวเราะ) กด็ ีใจ คือใครอยาก เปา้ หมายของการทำ� งานสง่ เสรมิ การ ระบายสีก็มา อยากอ่านหนังสือก็มา ผม อ ่ า น จ า ก วั น น้ี ไ ป ข อ ง พื้ น ที่ กุ ฉิ น า ร า ย ณ ์ พยายามหาหนังสือมาเตมิ อนาคตกค็ าดหวัง “หวั หนา้ พงษ”์ มองถงึ การสรา้ งแหลง่ อา่ นให้ อยู่ว่าจะท�ำเป็นห้องสมุดประชาชน อยาก เกดิ ขน้ึ ครบทกุ จดุ สำ� คญั ของอำ� เภอ มกี จิ กรรม พัฒนาห้องสมุดให้เติบโตตามยุคสมัยและ ส่งเสริมการอ่านเกิดข้ึนกับเด็กเล็ก ๆ สถานการณแ์ วดล้อมด้วย เชน่ การอ่านการ ในชุมชน พร้อมกับเป้าหมายส่วนตัวท่ีอยาก ค้นคว้าผา่ นอินเทอร์เน็ต ซงึ่ ตอนนผ้ี มก็ไดร้ ับ ทำ� ศนู ยเ์ รยี นรสู้ ง่ เสรมิ การอา่ น เปน็ หอ้ งสมดุ บริจาคคอมพวิ เตอร์มา ๖ เครอ่ื ง วางแผนวา่ สรา้ งแรงบนั ดาลใจ ปจั จบุ นั เรม่ิ ตน้ ทกี่ ารเปดิ จะหางบส่วนหนึ่งมาให้เด็ก ๆ ได้เข้ามาใช้ บ้านตนเองให้เป็นส�ำนักงานจัดประชุมคณะ อนิ เทอร์เน็ตสำ� หรบั ค้นคว้าขอ้ มลู ต่าง ๆ แต่ ∞12∞6

ถา้ มากนั เกนิ ๖ เครอ่ื ง กอ็ า่ นหนงั สอื รอ กนั ไปกอ่ น (หัวเราะ)” “หวั หนา้ พงษ”์ เชอื่ วา่ การทำ� งาน ส่งเสริมการอ่านตอบโจทย์กับทีมงาน หลัก ด้วยการไปหนุนเสริมให้ทุกคน ทำ� งานงา่ ยขนึ้ เชน่ มหี นงั สอื เปน็ เครอ่ื งมอื ในการสร้างความสมั พนั ธ์ ชว่ ยใหค้ รไู ด้ ออมแรงเร่ืองการดูแลเด็ก ๆ มากขึ้น และทุกคนยังได้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือเพิ่มเติมด้วย เช่นเดียวกันกับตัวเขาซ่ึงได้รับ ประโยชน์คือมีงานทำ� ในพน้ื ทบี่ ้านเกิด ซง่ึ เป็นงานท่ีตนรักและชน่ื ชอบท่ีจะลงมอื ทำ� ในทุก ๆ วนั ได้ความสนกุ สนาน ไดเ้ ครือข่ายทำ� งานเพิ่มขึน้ เรื่อย ๆ นอกเหนอื จากการรบั ทนุ สนบั สนนุ การทำ� งานจากแผนงานฯ การอา่ น ศนู ยพ์ ฒั นาศกั ยภาพ การเรยี นรคู้ รอบครวั ตำ� บลเหลา่ ใหญย่ งั รบั ทนุ จากกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของ มนษุ ย์(พม.) ทำ� โครงการการอา่ น การเลา่ การเลน่ ชว่ งจงั หวะของรอยตอ่ การรออนมุ ตั โิ ครงการ ของแผนงานฯ การอา่ น “ผมพยายามหากิจกรรมมาเติมช่องว่างท่ีเป็นรอยต่อระหว่างรอโครงการเพ่ือไม่ให้ ขาดชว่ ง ไม่ว่าจะเป็นโครงการชือ่ อะไร ขอให้มีเนื้อหาทต่ี รงกบั เป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพ ชวี ิตของเด็ก ๆ เราก็ทำ� ทั้งนนั้ ทุกกจิ กรรมมคี ุณค่ากับผมมาก ท้ังไดผ้ ลลัพธต์ ามโครงการ และ ไดเ้ ครือขา่ ยเพม่ิ เตมิ ขนึ้ เสมอ ๆ” ∞12∞7

ดา้ นการขยายผลงานตอ่ เนอ่ื งในพนื้ ที่ “หวั หนา้ พงษ”์ เลา่ วา่ วางเปา้ หมายสรา้ งความเขา้ ใจ เก่ียวกับกระบวนการเรียนรู้สร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านเพิ่มไปยังกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับประเด็น ส่งเสริมการอ่านที่โครงการยงั เขา้ ไม่ถงึ ของอำ� เภอกฉุ ินารายณ์ เชน่ ศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ (ศพด.) ในประเด็นองค์ความรู้เก่ียวกับการเลือกซ้ือและใช้งานหนังสือท่ีเหมาะสมกับพัฒนาการตามวัย ของเดก็ การทำ� สอื่ สง่ เสรมิ การอา่ น และทำ� ความเขา้ ใจกบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ในประเดน็ การสนบั สนนุ ใหง้ บประมาณและองคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั การสง่ เสรมิ การอา่ นสำ� หรบั เดก็ เลก็ ใน ศพด. รวมถึงเช่ือมงานไปยังหน่วยงานสาธารณสุขชุมชนเพ่ือข้อมูลสนับสนุนทางวิชาการท่ีมีประโยชน์ ต่อพฒั นาการของเดก็ พรอ้ มกบั ตอ้ งการสรา้ งกจิ กรรมรจู้ กั หนงั สอื ดี ใหม้ รี ะบบยมื คนื หนงั สอื เกดิ ขน้ึ ขยายผลไป ยังชมุ ชน สร้างความตระหนักถงึ คณุ ค่าของการอ่านใหก้ ับกลุม่ ผปู้ กครอง รวมทงั้ วางแผนเชื่อม ไปยงั โรงเรยี นมธั ยมเพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจตอ่ ผบู้ รหิ ารและครใู นโรงเรยี นเกย่ี วกบั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ น “การทำ� เวทเี รยี นรสู้ อื่ สารไปใหถ้ งึ กลมุ่ ผปู้ กครอง คิดว่าอย่างน้อยผู้ปกครองก็ได้เกิดความเข้าใจเรื่อง คณุ คา่ ของการอา่ นเลา่ นทิ าน เลน่ กบั ลกู หลาน ซมึ ซบั เกบ็ กลบั ไปบา้ ง แตผ่ ปู้ กครองสว่ นใหญท่ เี่ ราเจอตอนน้ีไม่ใช่ พ่อแม่ เปน็ ปู่ ยา่ ตา ยาย เพราะพ่อแมไ่ ปท�ำงานหาเงนิ ตา่ งถน่ิ เพอ่ื สง่ มาเลยี้ งลกู ทำ� ใหเ้ จอขอ้ ทา้ ทายในเรอ่ื งความหา่ งของวยั เหมอื นกนั หลายคนทเี่ ลยี้ ง หลานอยกู่ เ็ กดิ ความลงั เลสงสยั เหมอื นกนั วา่ จะเลยี้ งแบบไหนดี แบบยคุ เกา่ ก็ไมม่ น่ั ใจ หรอื จะเลย้ี ง แบบสมัยใหม่ก็ไม่ร้จู ะทำ� ยังไงดี กถ็ อื วา่ เป็นโจทย์ทา้ ทายทีอ่ ยากทำ� ในพื้นท่ีอน่ื ๆ อีกต่อไป” ∞12∞8

“หวั หนา้ พงษ”์ ยงั คงยืนยันความคิดเดิมที่วา่ พื้นทไี่ หนจดุ ประกายไวแ้ ล้ว ปลอ่ ยมือใหค้ น ในพน้ื ทจ่ี ัดการต่อดว้ ยมือของเขาเอง ความย่ังยนื ของงานพัฒนาอยทู่ ่เี จ้าของพื้นท่ี ส่วนตัวเขา และคณะทำ� งานจิตอาสาฯ ขอเคล่อื นตัวไปจดุ ประกายแหล่งอื่นให้เกิดแรงบนั ดาลใจกลายเปน็ แหล่งอา่ นตามวัฏจกั รของวฒั นธรรมจิตอาสา วัฒนธรรมการอ่าน วฒั นธรรมการให้ ที่งอกเงย เบง่ บานอยใู่ นพื้นที่ “กฉุ ินารายณ์” = Growth Mindset = - พัฒนาเดก็ = พฒั นาคณุ ภาพชวี ิตครอบครวั - พลงั เครือข่ายขบั เคลอื่ นงานพัฒนาสงั คมได้ผลส�ำเรจ็ - จิตอาสาคคู่ วรทีจ่ ะได้รบั การดแู ลเอาใจใส่ด้วยจติ ใจท่ดี ี - มที ุนและโอกาสในการทำ� งานอยูร่ อบ ๆ ตัวเสมอ - ความเปล่ียนแปลงเกิดจากการส่งต่อองค์ความร้ทู ่ีมี - มหี ลายช่องทางใหเ้ ลอื กลงมือทำ� เพ่อื ไปถึงเป้าหมาย ∞12∞9

“เข้าร่วมโครงการฯ มาตง้ั แตป่ ีแรก เราเปลี่ยนวิธีคิด ไปในทางทดี่ ขี นึ้ มาก ลดอตั ตา ไดม้ องเหน็ ความเหมอื นและ ความตา่ งวา่ เป็นสิง่ ท่ีสามารถพัฒนาเป็นโอกาสได้ มองเห็น การเช่ือมโยงการท�ำงานกับบุคคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะมีความ สามารถแบบไหน เราก็สามารถท�ำงานร่วมกันได้ตามมิติท่ี เหมาะของแตล่ ะคน สว่ นเพอื่ น ๆ ครทู เี่ ขา้ รว่ มโครงการกเ็ หน็ วา่ มกี ารปรบั วิธีคิดใหม่ กลายเป็นครูท่ีไม่หวงหนังสือเหมือนเดิมอีกแล้ว และยงั หันมาเปน็ ผนู้ �ำกระบวนการชักชวนใหเ้ ด็กได้หยบิ จับและเลน่ กับหนงั สอื ดว้ ย ซง่ึ ผลทเ่ี กิดขนึ้ คอื เด็ก ๆ ก็ไม่ฉีกหนงั สอื อยา่ งทีค่ ณุ ครเู คยกังวลมาก่อน กลายเปน็ เด็ก ๆ สามารถเขา้ ถงึ มมุ หนงั สือได้ โดยครไู มต่ ้องบอกอกี แลว้ เปา้ หมายตอ่ ไป อยากรณรงคใ์ หผ้ ปู้ กครองอา่ นหนงั สอื ใหเ้ ดก็ ฟงั เพราะเสียงแห่งความไพเราะของแต่ละคนต่างกัน เสียงพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย น่าจะเปน็ เสยี งทเ่ี ดก็ ๆ ฟังแล้วมีความสุข” ครแู อร์-สพุ รรณทิพย์ ประทุมทา ศพด. บา้ นสามขา อบต.สามขา อำ� เภอกฉุ นิ ารายณ์ จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ∞13∞0

“ในฐานะครู ศพด. เรามีหน้าท่ีดูแลเด็กให้มี ความพร้อมและมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย ประสานงานกบั ผปู้ กครองและผนู้ ำ� ทอ้ งถนิ่ ใหเ้ หน็ ความ สำ� คญั ในการสง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็ เปน็ โอกาสทด่ี มี าก ในการเข้ารว่ มโครงการฯ สง่ เสริมการอ่าน ครูทกุ คนท่ี มจี ติ อาสามาดว้ ยกนั ก็ไดพ้ ฒั นาตวั เอง เขา้ ถงึ การเรยี น รู้และลงมือท�ำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ที่ดูแลอยู่อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ เกดิ ผลใหเ้ ดก็ ๆ มพี ฒั นาการทีเ่ หมาะสม กับวัย ซึ่งก็ท�ำให้ท้องถ่ินเห็นผลลัพธ์ท่ีเกิดขึ้นว่าดีกับ ลกู หลานเด็กเล็กในชมุ ชนของเราจรงิ ๆ อยา่ งท่เี ทศบาลฯ กดุ หว้าก็ให้การสนบั สนุน ตั้งกิจกรรม ส่งเสริมการอ่านเข้าสู่แผนงบประมาณประจ�ำปี แล้วยังท�ำให้เราเชื่อมงานร่วมกับ รพ.สต. (โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตำ� บล) ไดด้ ว้ ย พอมาถงึ การจดั มหกรรมพน้ื ทส่ี ง่ เสรมิ การอา่ นสำ� หรบั เดก็ และเยาวชนอำ� เภอกฉุ นิ ารายณ์ ประจ�ำปี กม็ ีเพอ่ื น ๆ ครูท่ีอยู่ศูนยฯ์ อน่ื อยากจะท�ำเหมือนเราบ้าง ทสี่ �ำคัญกม็ นี กั วชิ าการศึกษา ต�ำบลอ่ืน ๆ อยากไดก้ จิ กรรมไปทำ� กับ ศพด. ของเขาดว้ ย ผมคดิ วา่ ถอื เปน็ ชอ่ งทางขยายผล ขับเคล่ือนวัฒนธรรมการอ่านท่ีดีมาก เพราะหลายคนท่ีมาเห็นผลงานของพวกเราแล้วเกิด แรงบนั ดาลใจอยากไปขยบั ต่อในพนื้ ที่ตัวเอง” ไพบลู ย์ ไชยขันธ์ ศพด. บ้านกุดหวา้ เทศบาลตำ� บลกุดหวา้ อ�ำเภอกุฉินารายณ์ จงั หวัดกาฬสินธุ์ ∞13∞1

“เรามีห้องพักครูเป็นห้องสมุด ถือว่าเป็นรูปแบบใหม่ เนอื่ งจากห้องสมุดปกติมีระเบียบในการใช้หลายข้อ แต่ห้องสมุด มีชีวิตในห้องพักครูเปิดให้เด็ก ๆ ได้มาผ่อนคลาย พูดคุยแลก เปลย่ี นกนั เรอ่ื งหนังสอื ทอ่ี ่าน หวั เราะ ส่งเสยี งดงั ได้ มีน�ำ้ ในตเู้ ยน็ ใหด้ ืม่ เอาหมอนมานอน เปน็ พนื้ ท่ที �ำการบ้านได้ เรยี กว่าเข้ามา แล้วผอ่ นคลายสบายใจ มหี นังสือให้อา่ น ภมู ใิ จมากทเี่ หน็ เดก็ ๆ จากทม่ี มี อื ถอื ตดิ มอื ตลอด หนั มาถอื หนงั สอื ตดิ มอื เรอื่ งการยมื คนื หนังสือเราไม่จำ� กดั วันเวลา บางคนอา่ นวันเดยี วจบไป ๓ เล่ม บางคนมีการมายืมหนังสอื ทกุ วัน บางคนอ่านเสร็จจะมาเล่าใหค้ รแู ละเพอ่ื นฟงั ว่าอ่านแลว้ เปน็ อย่างไรบ้าง ถือว่าเป็นการ สร้างแรงบนั ดาลใจร่วมกันต่อการอา่ นหนังสือนอกเวลา หรือหนงั สือทบี่ างคนไม่เคยรจู้ กั หรอื ไมเ่ คยไดอ้ า่ นมากอ่ นเลย ตอนนมี้ ีหนังสือประมาณ ๕๐๐ เลม่ ยังไมเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการ ของเด็ก แต่เรากก็ �ำลงั สร้างการมสี ว่ นร่วมดว้ ยจากการบรจิ าคและแลกเปลยี่ นหนังสือเพิ่มเติม พร้อมกบั ในอนาคตจะทำ� งานเชอ่ื มกับหอ้ งสมดุ ของโรงเรียน” ครอู ี๊ด-ออ่ นศรี ไชยขนั ธ์ โรงเรยี นบัวขาว อำ� เภอกุฉินารายณ์ จงั หวดั กาฬสินธุ์ ∞13∞2

อา่ นสรา้ งสขุ มีนา ดวงราษี, จันทรเ์ พ็ญ สนิ สอน

ด้วยศรัทธาแหง่ การทำ� ดี : มนี า-จนั ทร์เพญ็ อ่านเพอ่ื ชีวิต เพอื่ สขุ ภาพชุมชน คนเมืองสุรนิ ทร์ มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน คืออีก ๑ ใน ๑๑ องค์กรภาคีเครือข่ายขับเคล่ือนงานสร้างเสริม วัฒนธรรมการอ่านให้เกิดข้ึนในชุมชนต่าง ๆ ของ จังหวดั สุรินทร์ ภายใต้การนำ� ทมี ของ “มีนา ดวงราษี” กับ “จนั ทรเ์ พญ็ สินสอน” สองพ่ีนอ้ งผ้มู ีชีวิตดว้ ยแรง ศรัทธาในการส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับผู้คนผ่านการ ท�ำงานพฒั นาสงั คมหลากหลายประเด็น “พอี่ ว๋ น(จนั ทรเ์ พญ็ ) เปน็ ผบู้ รหิ ารจดั การองคก์ ร ส่วนมีนาท�ำหน้าท่ีช่วยป้อนข้อมูล คิดวิเคราะห์งาน

เราทำ� งานคกู่ นั ไป แลว้ กม็ ที มี งานชว่ ย ๆ กนั คอื ครผู ดู้ แู ลเดก็ เนน้ สอ่ื สารคณุ คา่ ของการ อกี รวมทง้ั หมดกม็ กี ันอยู่ ๗ ชีวติ เราทำ� งาน อา่ นหนงั สอื ใหเ้ ดก็ ๆ ฟงั วนั ละ ๑๐-๑๕ นาที หลายเรือ่ ง ท้งั การอ่าน ทัง้ สุขภาพ เราเป็น ทส่ี ามารถสง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็ ไดร้ อบดา้ น ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพด้วย” สรา้ งแกนนำ� สง่ เสรมิ การอา่ น สรา้ งพนื้ ทอี่ า่ น มนี าเกรน่ิ นำ� ถงึ ภาพรวมการทำ� งานขององคก์ ร ของชมุ ชน “จันทร์เพ็ญ” พ่ีสาวสวมหมวก สองพน่ี ้อง “มีนา” และ “จันทร์เพ็ญ” ประธานกรรมการมูลนิธิเพอ่ื สขุ ภาพชุมชน เปน็ กำ� ลงั หลกั ในการทำ� งานสง่ เสรมิ การอา่ น ตลอดระยะเวลา ๕ ปที ผี่ า่ นมาของมลู นธิ เิ พอื่ ส่วน “มีนา” น้องสาวรับหน้าที่เป็น สุขภาพชุมชน กระทั่งเกิดการสร้างสรรค์ ผจู้ ดั การมลู นธิ ิเพอื่ สุขภาพชมุ ชน รปู แบบ วิธีการตา่ ง ๆ จากความร่วมมอื ของ สำ� หรบั ประเดน็ สรา้ งเสรมิ วฒั นธรรม การอ่าน มูลนิธิเพ่ือสุขภาพชุมชนเร่ิมต้น ด�ำเนินงานครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๕๓ กับ โครงการมหัศจรรย์การอ่าน ต�ำบลแกใหญ่ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ดว้ ยงบประมาณ สนบั สนนุ จากแผนงานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรม การอ่าน ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ(สสส.) เรม่ิ ตน้ งานในเขต ชมุ ชนเมอื ง ซงึ่ ยงั เตม็ ไปดว้ ยเดก็ และเยาวชน ทข่ี าดโอกาสในการอา่ นหนงั สอื จงึ สรา้ งสรรค์ กิจกรรมส่งเสริมการอ่านผ่านกลไกส�ำคัญ ∞13∞5

หลากหลายภาคสว่ นให้เกิดข้ึน เชน่ การอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรแกนนำ� สง่ เสรมิ การอา่ น ระดับชุมชน ภาคีขับเคล่ือนเครือข่ายระดับจังหวัด การมีพื้นท่ีอ่านสาธารณะของชุมชน การมี พ้ืนท่สี รา้ งสรรค์อา่ นเล่นแลกเปลย่ี นหนงั สือ รวมท้งั เกดิ เป็นนโยบายสาธารณะวาระการอ่านในชมุ ชน ถงึ ปจั จบุ นั ท่ีขยบั เข้าสู่การท�ำ โครงการชุมชนสวัสดิการ อ่านยกก�ำลังสุข ปี ๒๕๕๘ กับเป้าหมายผลักดันนโยบายการจัด สวัสดิการการอา่ นสำ� หรบั เดก็ ๐-๓ ปี ผา่ นการขยายผลจัดต้ังกองทนุ สวัสดิการชุมชนว่าด้วย เรอ่ื ง “การเลยี้ งลกู ด้วยหนงั สอื การอา่ นกบั การพัฒนาสมองเดก็ พฤติกรรมสุขภาวะ แนวทาง สง่ เสรมิ การอ่านในครอบครัวและชมุ ชน” ∞13∞6

หลักการวางแผนขับเคล่ือนส่งเสริม ๐-๓ ปี และทำ� งานกบั ตลาดสีเขียว ซงึ่ จัดขน้ึ การอา่ นทกุ ๆ ปขี องมลู นธิ เิ พอื่ สขุ ภาพชมุ ชน ทุกวันเสาร์ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้ความส�ำคัญกับการตอบโจทย์กับกรอบ สุรนิ ทร์ (อบจ.สรุ ินทร์) ให้มพี ืน้ ที่สร้างสรรค์ ยุทธศาสตร์แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรม เกดิ การหมนุ เวยี นหนงั สอื และกองทนุ หนงั สอื การอ่าน เนื่องจากเห็นว่างานระดับพ้ืนท่ี ทีต่ อบโจทย์ยุทธศาสตรธ์ นาคารหนงั สือ สามารถช่วยหนุนเสริมการท�ำงานของแผน งานฯ ให้เป็นรปู ธรรมทีส่ ุด “มุมหนังสือท่ีตลาดสีเขียว ทุกวันนี้มี การติดต่อขอบริจาคผ่านเฟซบุ๊ก แล้วมีการ ผลส�ำเร็จจากการด�ำเนินงานของ ถามไถเ่ พอื่ น ๆ ตอ่ ว่า ‘ไปบริจาคมาหรือยัง‘ มูลนิธิเพ่ือสุขภาพชุมชนจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ คนทม่ี าบรจิ าคมที งั้ ขา้ ราชการ คนทว่ั ไป เดก็ ขบั เคลอื่ นงานตามยทุ ธศาสตรข์ องแผนงานฯ ผใู้ หญ่ วยั รนุ่ ตอนนแี้ ทบไมต่ อ้ งหาหนงั สอื ไป การอา่ นได้ เชน่ การทำ� งานเชอื่ มกบั หนว่ ยงาน วางแลว้ เนอื่ งจากเกดิ การหมนุ เวยี นเอง อา่ น สาธารณสขุ และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ จบบริจาค แล้วเอาหนังสือใหมไ่ ปอา่ น แถม ผ่านกิจกรรมโดยอาสาสมัครสาธารณสุข ยังมีบริจาคเงินให้ไปซ้ือหนังสือเพิ่มอีกด้วย” ประจ�ำหมู่บ้าน (อสม.) และจิตอาสาใน จันทร์เพ็ญเล่าถึงความส�ำเร็จของกิจกรรม โรงพยาบาล เพอ่ื ส่งเสริมกจิ กรรมใหค้ วามรู้ แลกเปล่ียนหมนุ เวยี นหนงั สอื ท่ตี ลาดสเี ขยี ว คลนิ กิ ฝากครรภ์ ตอบโจทยย์ ทุ ธศาสตร์การ สร้างสังคมเร่ืองการเล้ียงลกู ด้วยหนังสือ มีนา กล่าวเพ่มิ เตมิ ว่า การมหี นังสอื เข้าไปอยู่ใกล้มือจะทำ� ใหเ้ ดก็ ๆ ได้หยิบอา่ น รวมท้ังได้ท�ำงานร่วมกับกองทุน มากข้ึน ดังน้ัน พื้นท่ีสวัสดิการแหล่งอ่าน สวัสดิการชุมชน ซ่ึงสามารถตอบโจทย์ ธนาคารหนงั สอื เปน็ สิ่งส�ำคัญทส่ี ่งผลใหเ้ กดิ ยุทธศาสตร์สวัสดิการการอ่านส�ำหรับเด็ก ความยงั่ ยนื นนั่ หมายถงึ “สวสั ดกิ ารการอา่ น ∞13∞7

ในชมุ ชน” คือ เปา้ หมายใหญ่ในการท�ำงานสร้างเสรมิ วัฒนธรรมการอ่าน โดยมีเป้าหมายสำ� คญั ท่ีซอ้ นอยู่อีก คือ ตอ้ งการใหค้ นอา่ นและเขียนหนงั สอื ได้ ซ่งึ น�ำไปสกู่ ารอ่านเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพ ชวี ติ ใหเ้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง หมายถงึ การมีคุณภาพชีวติ ทด่ี ขี องประชาชน กว่า ๕ ปีของการท�ำงานสร้าง เสริมวัฒนธรรมการอ่าน “จันทร์เพ็ญ” กับ “มนี า” สองพน่ี ้องลงมอื ทำ� งานเพื่อ พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน และ ชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการอ่าน หนงั สอื นทิ านเปน็ หนงึ่ ในเครอ่ื งมอื สำ� คญั เกิดกิจกรรมและผลลัพธ์แห่งการ เปล่ียนแปลงจากโครงการฯ ขึ้นอย่าง ต่อเน่ือง มีเด็กที่ได้รับประโยชน์ มพี ฒั นาการและสขุ ภาพดที ง้ั ไอควิ IntelligenceQuotient(ความฉลาดทางเชาวนป์ ญั ญา) และ อคี วิ Emotional Quotient (ความฉลาดทางอารมณ์) จำ� นวนไมน่ ้อยกวา่ ๓,๕๐๐ ครอบครัว “มีนา ดวงราษี” บอกว่า นโยบายท้องถ่ินเป็นปัจจัยเอื้อให้การท�ำงานของโครงการฯ เดินทางเร็วข้ึน แต่หัวใจส�ำคัญของการอ่านเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต คือ คนในชุมชนเองต้อง ตระหนักถึงคุณประโยชน์ท่ีลูกหลานและพวกเขาจะได้รับจากการอ่านหนังสือด้วย เร่ิมต้นเพียง ๓-๕ ครอบครัวต่อชุมชน ท่ีสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ลูกได้ ก็จะสามารถ สง่ ต่อใหค้ รอบครวั อ่ืนได้จากความส�ำเร็จที่เกิดขึน้ แลว้ เป็นแรงบนั ดาลใจ ∞13∞8

เราท�ำงานตามยทุ ธศาสตร์ มีนา ดวงราษี บอกว่าหัวใจส�ำคัญของการท�ำงานขับเคล่ือนสร้างเสริมวัฒนธรรมการ อ่านตลอด ๕ ปขี องมลู นิธเิ พอ่ื สุขภาพชุมชน คอื การเลือกใช้เคร่ืองมอื ท่เี หมาะสมและสร้าง คณุ ค่า ข้อมลู ทางวิชาการ คอื เครอ่ื งมอื สำ� คัญ แกนนำ� คือ เครอื่ งมอื สำ� คัญ และหนังสือ คอื อกี เครอ่ื งมือส�ำคญั เช่นเดยี วกนั ทุกกิจกรรมกระบวนการเรยี นร้ทู ่เี กิดขึ้น ข้อมูลวิชาการคือสง่ิ ท่ีขาดไม่ได้ เพราะหมายถึง การยืนยันว่าส่ิงท่ีน�ำเสนอให้กับชุมชนได้ผ่านการศึกษาวิจัยจนเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแล้ว ทัง้ จากในประเทศและต่างประเทศ แกนน�ำ คือ บุคคลต้นแบบ ซ่ึงมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนทุกช่องทางเพ่ือ พัฒนาศักยภาพตามประเด็นท่ีต้องการขับเคลื่อน ผ่านการอบรมสัมมนา การร่วมเวทีเสนอ ผลงาน เดก็ ๆ แกนนำ� หลายคนเลา่ เรอ่ื งจากนทิ านไดท้ ง้ั เลม่ สง่ ผลใหผ้ ใู้ หญท่ ่ีไดเ้ หน็ รสู้ กึ ถงึ ความ มหัศจรรย์ของเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เล่าหนังสือภาพได้ กระท่ังเกิดแรงกระเพื่อมให้ผู้ใหญ่หลายคน ต่ืนเต้นอยากรู้เทคนิคไปทำ� กับลูกหลานตวั เองบา้ ง สว่ นหนงั สอื ภาพสำ� หรบั เดก็ ๆ เปน็ อกี เครอ่ื งมอื สำ� คญั อยา่ งยงิ่ ในการสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรม การอ่านใหเ้ กดิ ขึ้นในชุมชน โดยเฉพาะกบั กลมุ่ เดก็ ๆ ที่ไม่เคยเห็นหนังสือภาพหรอื หนงั สือนิทาน มากอ่ น จากการลงพนื้ ทที่ ำ� งานพบวา่ เดก็ ๆ ในหลายพนื้ ทขี่ องจงั หวดั สรุ นิ ทรเ์ คยรจู้ กั เพยี งหนงั สอื ∞13∞9

เรยี น ก.ไก่ ตามหลักสูตร ไม่เคยรวู้ า่ มีหนงั สอื ประเภทอื่นใดอีกในโลกใบนี้ โดยเฉพาะหนังสอื ภาพซึ่งหายากมากในชนบท “มนี า” จงึ เนน้ การลงทนุ ซอื้ และจดั หาหนงั สอื ใหเ้ ดก็ หนงั สอื ภาพ ๒ เลม่ ราคารอ้ ยกวา่ บาท ไมไ่ ดแ้ พงเกนิ ไป เพราะสามารถอา่ นไดเ้ ปน็ ปี ๆ ๑ เลม่ สามารถเรยี นรไู้ ดห้ ลายเรอ่ื ง อา่ นเบอ่ื แลว้ กส็ ง่ ตอ่ ไปให้บ้านอืน่ ๆ เธอเช่อื วา่ น่คี อื การลงทนุ ที่ไดผ้ ลคุม้ ค่า นอกเหนือจากเคร่ืองมือส�ำคัญท้ัง ๓ ส่ิงข้างต้น “คนท�ำงาน” ก็เป็นกุญแจ ส�ำคัญในการผลักดันให้เกิดผลส�ำเร็จของ งานด้วยเช่นกัน เพราะครอบครัวของคน ท�ำงานท้ังหมดต้องลงมือท�ำทุกกิจกรรมที่ วางแผนส่งมอบให้ชุมชนท�ำ เช่น อ่าน หนังสือให้ลูกหลานฟัง จัดห้องสมุดในบ้าน ใช้นิทานเปลยี่ นเด็ก “ค้นหาคนท�ำงานท่ีใช่ให้เจอ ต้อง อ่านคนให้เป็น และมองเชงิ บวกใหเ้ ปน็ นสิ ัย เมอื่ เขา้ มาท�ำงานด้วยกันแล้วก็ต้องอยเู่ คยี งข้างกัน เดนิ ทางไปพรอ้ มกนั ทส่ี ำ� คญั เราตอ้ งทำ� งานใหห้ ลากหลาย ไมใ่ ชห่ ยดุ อยมู่ มุ เดยี ว เพราะจะทำ� ให้ พบกบั คนท่ีหลากหลายเช่นกัน ถือเป็นมิตใิ นการทำ� งาน บางคนเปน็ แมท่ ่ีอยากพฒั นาลกู ตัวเอง บางคนเกี่ยวข้องกับการศึกษา บางคนเป็น อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�ำหมู่บ้าน) ตา่ งคนก็ตา่ งมีประสบการณ”์ ∞14∞0

หลักการท�ำงานพัฒนาสังคมของ หนังสือ เธอยังต้องนอนคิดหลายคืนกว่าจะ “มีนา” ให้ความส�ำคัญกับ “ยุทธศาสตร์” พบชอ่ งทางใหเ้ คล่อื นไปขา้ งหนา้ ทง้ั ของโครงการฯ และของแผนงานฯ การอา่ น ทง้ั ๒ ยทุ ธศาสตรจ์ ะมจี ดุ เชอื่ มทเ่ี ปน็ ฟนั เฟอื ง “เราท�ำงานตามยุทธศาสตร์ ยึดจุด น�ำไปสู่ความส�ำเร็จท่ีตั้งเป้าไว้เสมอ ไม่ว่า มงุ่ หมายไวใ้ หม้ นั่ เดยี๋ ววธิ กี ารจะตามมาเอง” ยุทธศาสตรข์ องแผนงานฯ การอา่ นคืออะไร “มนี า” ยนื ยนั วา่ เมอื่ กลบั มาคน้ หาชอ่ งทาง แมว้ า่ จากประสบการณ์ที่ได้ไตร่ตรองคิด หายากแต่ยังไงก็พบแนน่ อน เน่อื งด้วยกลไก วิเคราะห์และลงมือท�ำงาน พบว่าหัวใจของ ของชุมชนมีความหลากหลายและยืดหยุ่นไป การเปล่ยี นเพอ่ื พัฒนาคือ “คน” ไม่ใช่บริบท ตามธรรมชาติ ของพ้ืนที่ เช่น เม่ือต้องท�ำกิจกรรมหญิง ตั้งครรภ์ แต่หาจังหวะท่ีจะได้เจอในชุมชน “กอ่ นหนา้ นเี้ ราก็ไมไ่ ดร้ วมกบั ทกุ กลไก ยากมาก นัดหมายพร้อมกันไม่ได้ จึงถอย มาก่อน เช่น กบั สาธารณสขุ ก็เปดิ ใจไป แลว้ ออกมามองในภาพรวม จนเห็นภาพคลินิก ลงมอื ทำ� งานใหเ้ ขาเหน็ แลว้ คอ่ ย ๆ เชอ่ื มไป ฝากครรภใ์ นโรงพยาบาล แมพ้ บวา่ มขี อ้ จำ� กดั เรอื่ ย ท�ำไปใหเ้ ขาค่อย ๆ ซมึ ซบั จนวันหน่ึง เร่ืองเวลาที่ทุกคนต่างรีบกลับบ้านหลังจาก เมอื่ ถงึ จงั หวะท่ีใช่ ความรว่ มมอื กเ็ กดิ ขนึ้ เอง” ตรวจเสรจ็ แต่เธอไม่ได้ปล่อยโอกาสหลุดไป หันมาตั้งค�ำถามและค้นหาจนเจอช่องทาง “มีนา” เลือกมองการท�ำงานเพ่ือ ในการใช้เวลา ๑ ช่ัวโมงก่อนหมอมาตรวจ สนบั สนนุ ยทุ ธศาสตรข์ องแผนงานฯ การอา่ น จงึ สามารถจดั กจิ กรรมสรา้ งการเรยี นรเู้ กยี่ วกบั ในมมุ ความทา้ ทายทส่ี ามารถสง่ ผลประโยชน์ หนังสือกับพัฒนาการเด็กให้ความรู้กับแม่ และสรา้ งคุณค่าตอ่ กลมุ่ เปา้ หมาย แม้ว่าเปน็ มือใหมไ่ ดเ้ ยอะมาก จนสามารถยืดหยนุ่ และ เร่ืองท่ียังไม่เคยท�ำหรือไม่มีช่องทางมาก่อน ปรบั ตัวตามบริบทของพ้ืนที่ เชน่ เรอ่ื งกองทนุ สวสั ดิการหนังสอื ธนาคาร ∞14∞1

“การท�ำงานเราจะคดิ ใหส้ นุก ไมไ่ ปตัง้ แง่ว่ามนั ทำ� ไมไ่ ด้ เชน่ เรอื่ งกองทนุ บางคนบอกวา่ ไมไ่ ดห้ รอก ถึงพวกเราเข้าไปก็ท�ำไม่ได้เพราะคนเขาไม่รู้เรื่อง แตม่ นี าเชอ่ื วา่ ยงั ไงตอ้ งมที าง ถา้ ตง้ั ใจคน้ หา มนั ตอ้ ง มรี ปู แบบใหม่ ๆ การทำ� แบบนกี้ ต็ อ้ งอาศยั จนิ ตนาการ ของคนท�ำงาน ต้ังค�ำถามท่ีมันโดน ๆ แล้วจะคิด ชอ่ งทางดี ๆ ได”้ เธอไม่เคยปล่อยเวลาไปกับความคิดไม่สร้างสรรค์ ประเภทที่ว่า “จะทำ� ไดเ้ หรอ ทำ� ไม่ไดห้ รอก มนั ยากเกินไป” แตม่ กั ต้งั คำ� ถามว่า “แลว้ เราจะทำ� อย่างไร ถึงจะได้ผลอย่างน้ัน” ซึ่งในท่ีสุดคำ� ตอบของโจทย์ท่ีตั้งไว้ก็ปรากฏให้เธอได้น�ำไปใช้ ท�ำงานต่อเสมอ “มนี า” บอกวา่ ทใี่ หค้ วามสำ� คญั กบั การทำ� งานทางความคดิ เพอื่ วางกลยทุ ธ์ เพราะตนเชอื่ ว่าการสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดข้ึนในระดับชาติต้องด�ำเนินงานไปตามยุทธศาสตร์ ที่ปักธงร่วมกันทุกฝั่งฝ่าย ทั้งแผนงานฯ การอ่านและภาคีเครือข่ายต้องขยับไปเป็นองค์รวม มเิ ชน่ นน้ั จะเกดิ เพียงแค่วฒั นธรรมการอา่ นในชมุ ชนของภาคเี ครอื ขา่ ยทท่ี ำ� งานเทา่ นน้ั สปสช. กับกองทุนสวสั ดิการชมุ ชน ตัวอย่างหนึ่งของการคิดต้ังค�ำถามที่ว่า แล้วจะท�ำอย่างไรเพื่อให้ได้มาซ่ึงเป้าหมาย ทต่ี อ้ งการของ “มนี า” คอื ความสำ� เรจ็ ในการเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยสรา้ งกองทนุ สวสั ดกิ ารการอา่ น ∞14∞2

ในรูปแบบต่าง ๆ ตามบริบทของชุมชนได้ ของ สปสช. ตามความต้องการของชุมชนเอง โดยมี สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ หรอื ระดับต�ำบลคือกองทุนหลักประกัน สปสช. เป็นกุญแจสำ� คัญท่ีน�ำไปสผู่ ลลพั ธ์ท่ี สุขภาพระดับพ้ืนที่ ส่วนระดับเขตมี ต้องการ อนกุ รรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพ รวมถงึ คณะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ค ว บ คุ ม คุ ณ ภ า พ บ ริ ก า ร สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ สาธารณสุขเช่นเดียวกับระดับชาติ ซึ่ง (สปสช.) เป็นหน่วยงานที่เกิดข้ึนจาก ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมเป็น พ.ร.บ.หลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี พ.ศ. คณะกรรมการบริหารจัดการและออกแบบ ๒๕๔๕ ท่ีมีเจตนารมณ์ให้ประชาชนเข้ามามี นโยบายแผนงานท่ีเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ สว่ นรว่ มในการจดั การสขุ ภาพ ซงึ่ แตเ่ ดมิ เรอ่ื ง สุขภาพของพ้ืนที่ได้ ซึ่ง สปสช. จัดให้มี สขุ ภาพเปน็ เรอื่ งของสาธารณสขุ หรอื ทางการ กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ครบ แพทย์เท่านน้ั ซ่ึง “มีนา” คิดวา่ หลักประกนั ทุกต�ำบล และมีระเบียบการใช้จ่ายท่ีให้ สขุ ภาพถอื วา่ เปน็ รฐั สวสั ดกิ ารตามรฐั ธรรมนญู ประชาชนมีส่วนร่วมอยู่แล้ว ซ่ึงประชาชน ไม่ใชแ่ ค่การสงเคราะห์ แต่หมายถงึ “สิทธ”ิ กลุ่มเป้าหมายของ สปสช. นั้นมีกลุ่มเด็ก ทป่ี ระชาชนควรได้รับ ปฐมวยั รวมอยู่ด้วย การจัดการสุขภาพของประชาชน “มนี า” มองวา่ กองทนุ นคี้ อื ความยง่ั ยนื ตั้งแต่เกิดจนตายถือได้ว่าเป็นสิทธิของ ทปี่ ระชาชนในตำ� บลสามารถใชป้ ระโยชนแ์ ละ ประชาชนโดยแท้จริง “มีนา” จึงมองเห็น ด�ำเนินงานส่งเสริมการอ่านเพื่อส่งเสริม โครงสรา้ งการทำ� งานแบบมสี ว่ นรว่ มของภาค พัฒนาการเด็กปฐมวัยได้ และหากคนใน ประชาชน ตงั้ แตร่ ะดบั ตำ� บลจนถงึ ระดบั ชาติ ชุมชนให้ความส�ำคัญเร่ืองการอ่านเพื่อการ ∞14∞3

สง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็ ปฐมวยั พนื้ ทน่ี น้ั ๆ กส็ ามารถดำ� เนนิ งานไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง จงึ เกดิ การเชอื่ ม ต่อเครือข่ายพัฒนางานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในชุมชนร่วมกับ สปสช. น�ำร่องพื้นท่ีเขต บรกิ ารสุขภาพท่ี ๙ นครราชสีมา ในพนื้ ที่ ๔ จังหวัด ไดแ้ ก่ นครราชสีมา ชยั ภูมิ บรุ รี ัมย์ และ สุรินทร์ จดั ทำ� โครงการส่งเสรมิ สุขภาวะเดก็ เลก็ ๐-๖ ปี เปน็ โครงการระดบั ตำ� บล ระดบั จงั หวดั และระดับเขต ซึง่ ไดข้ อการสนบั สนุนจาก สปสช. เขต ๙ ต่อมาในปี ๒๕๕๘ ไดข้ ยายแนวคิดดังกล่าวไปยังเขตบริการสุขภาพท่ี ๑๐ อุบลราชธานี ครอบคลุม ๕ จังหวัด ไดแ้ ก่ อำ� นาจเจรญิ ศรีสะเกษ มุกดาหาร อบุ ลราชธานี และยโสธร และ ต่อด้วยเขตบริการสุขภาพที่ ๗ ขอนแก่น ครอบคลุม ๔ จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ โดยกลไกภาคประชาชนเป็นตัวกลางประสานทุกภาคีให้เกิดความ รว่ มมอื และพฒั นาความยง่ั ยนื จากการระดมทรพั ยากรของกองทนุ หลกั ประกนั สขุ ภาพระดบั พน้ื ท่ี ในองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (อปท.) และใหส้ �ำนกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาตริ ะดบั เขต เปน็ กลไกสำ� คัญในการสนับสนนุ ของโครงการระดับพน้ื ที่ ปัจจบุ นั เกิดเปน็ เครือข่ายกลไกขบั เคลื่อนงานอย่างมีส่วนร่วม จากฝ่ายการศึกษา (ศูนย์ พฒั นาเด็กเลก็ ) ฝา่ ยปกครอง (คณะกรรมการผู้น�ำชมุ ชน) ฝ่ายทอ้ งถนิ่ (องคก์ ารบรหิ ารสว่ น ตำ� บล/เทศบาล) ฝ่ายสาธารณสุข (รพ.สต. รพ.ชุมชน) และฝ่ายประชาชน (ศูนยป์ ระสานงาน หลกั ประกนั สขุ ภาพประชาชนอ�ำเภอ/จงั หวัด) ซึง่ ไดน้ ำ� การอา่ น เช่ือมโยงกับเรื่องสุขภาพเด็กปฐมวัย มหัศจรรย์ของการพัฒนา สมอง ทสี่ อดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั เรอ่ื งการเตบิ โตของสมองมากทสี่ ดุ ช่วงวัยแรกเกิด – ๖ ปี รวมทงั้ มแี กนนำ� ทม่ี ศี กั ยภาพ สามารถพฒั นาแผนงานการ ∞14∞4

พัฒนาเด็กทย่ี ่ังยืนในพน้ื ที่ โดยใช้กองทนุ หลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ใน อบต. และเทศบาล เป็นทุนสังคมที่ประชาชนมี ส่วนร่วม โดยมีประเด็นการอ่านเป็น เน้ืองานหลักในการพัฒนาเด็ก “โครงการที่ส่งเสริมสุขภาพเด็ก ปฐมวัยด้วยการอ่าน เป็นการท�ำงาน เชงิ ฐานรากทส่ี ำ� คญั ของการพฒั นา เพราะ การลงทุนครั้งนี้ช่วยให้คนท�ำงานเห็นคุณค่าของการพัฒนาชีวิต และเห็นผลถึงการลงทุน ทคี่ มุ้ ค่ามากที่สดุ เราเรม่ิ ตน้ กันท่เี ดก็ ปฐมวยั ” ในอนาคต “มีนา” คาดหวังให้เกิดการขยายผลครบทั้ง ๑๒ เขตในประเทศไทยโดยมี เดก็ ปฐมวยั เปน็ หนงึ่ ในกลมุ่ เปา้ หมายของกระทรวงสาธารณสขุ ซง่ึ ตอ้ งผา่ นเกณฑช์ ว้ี ดั เรอ่ื งสขุ ภาพดี ทกุ ดา้ น โดยใช้หนงั สอื และการอ่านเป็นเครอื่ งมือส�ำคญั ในการเสริมสร้างพัฒนาการทเ่ี หมาะสม กับวัย รักเดก็ -เลี้ยงเด็ก พัฒนาเดก็ -พฒั นาสงั คม นอกเหนอื จากรับตำ� แหนง่ ประธานกรรมการมูลนิธเิ พ่อื สุขภาพชุมชน “อ๋วน-จนั ทร์เพญ็ สินสอน” ยังเป็นเจ้าของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเอกชน “บ้านเรียนพระคุณ” ซ่ึงก่อต้ังมาด้วย ความฝนั ทอ่ี ยากเล้ียงดูเด็กเล็กมาตง้ั แตส่ มยั ยงั ไม่เข้าวยั รุ่นดว้ ยซ�ำ้ ∞14∞5

ตงั้ แต่เรยี น ป. ๕ เคยเป็นแกนน�ำคอยดแู ลเดก็ ๆ ในหมบู่ า้ น จับอาบน�ำ้ ทาแป้ง แต่งตวั พาทำ� กบั ขา้ ว เล่นสนุก และท�ำการแสดง ร้อง เตน้ ในงานประจำ� ปขี องชุมชน ชว่ งน้ันเธอไม่รู้ เหตผุ ลของการชอบเลย้ี งเดก็ เมอ่ื โตมาไดอ้ า่ นหนงั สอื เกยี่ วกบั จติ วทิ ยา หนั มองตวั เองแลว้ พบวา่ การเป็นลูกคนแรก เป็นหลานคนแรก ส่งผลให้รู้สึกว่าตนได้รับความรักมากมายมหาศาล มคี นมากอดหยอกลอ้ เล่นด้วย ทำ� ให้มคี วามสขุ อิม่ เต็มจากภายในสม�่ำเสมอ “เกิดมาในครอบครัวที่หอมกัน กอดกัน หยอกเล่น แล้วก็ชมลูก ตลอดเวลา แมไ่ มเ่ คยตี ทกุ วันนี้ไปพดู ที่เวทีไหนบอกเสมอเลยว่า อ๋วนไม่เคย รู้สึกเลยว่าตัวเองเตี้ย ผมหยิก ตัวด�ำ เพราะแม่บอกอ๋วนมาต้งั แต่เด็กวา่ อว๋ น สวยท่สี ุด ลกู แมน่ า่ รักทีส่ ดุ เป็นค�ำชมที่ แม่พูดให้ฟังตลอด มันไม่ได้ท�ำให้ เย่อหยิ่งนะ แต่มันท�ำให้เราภูมิใจใน ตวั เอง คือ ภูมิใจว่าตวั เราดีเย่ยี มในแบบที่เราเปน็ ทกุ วนั นี้พอเหน็ เด็ก ๆ กช็ มทกุ คนวา่ หนนู า่ รกั มาก ไม่ว่าจะมอมแมม น�้ำมูกเลอะยังไงก็ยังน่ารัก เพราะเด็ก ๆ มีความน่ารักอยู่ในตัวเอง ทกุ คน” จนั ทร์เพ็ญเปน็ อีกหนึง่ คนทเี่ ตบิ โตมากับการอา่ นหนังสอื คาดว่าไดร้ บั อิทธิพลจากคณุ ตา ซึ่งอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐทุกวัน ตั้งแต่ยุคฉบับละ ๓ บาทเรื่อยมา และอิทธิพลจากการ์ตูน เลม่ ละบาททถ่ี กู นำ� มาใหจ้ บั ฉลากในรา้ นคา้ ของแม่ อา่ นตอ่ เนอ่ื งไปทกุ ชว่ งวยั ตงั้ แตน่ ทิ านชดุ สตั วเ์ ลก็ ในปา่ ใหญ่ ๑๒ เลม่ นยิ ายแปลสบื สวนสอบสวน วรรณกรรมไทย เชน่ ลกู อสี าน พอเขา้ วยั รนุ่ หนั มา ∞14∞6

อ่านนิตยสารบางกอกเกยี่ วกับเร่อื งความรกั หนงั สือเยอะ เสน้ ทางของการเล้ยี งลกู คนอื่น ก็เปิดตัวเป็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตอนน้ัน เธอบอกว่าไม่ต้องซื้อเองสักเล่ม ยังไม่ได้คิดเร่ืองพัฒนาการทางร่างกายหรือ เพราะไปอ่านที่ห้องสมุดประชาชน ซ่ึงมี สติปัญญาของเด็ก เพียงแค่อยากเป็น หนงั สือเข้าใหมส่ ม�่ำเสมอ คนเลยี้ งเดก็ เพราะไดย้ นิ เสยี งเพลงแลว้ อยาก พาเด็กเต้น อยากให้เด็กสนุกและมคี วามสขุ จากนนั้ เมอ่ื เรม่ิ เขา้ ถงึ บทบาทการเปน็ ซงึ่ เพง่ิ มารชู้ ว่ งหลงั วา่ กจิ กรรมเตน้ เลน่ สนกุ ๆ แม่ จนั ทรเ์ พญ็ จงึ หนั มาอา่ นเรอื่ งจติ วทิ ยาและ สามารถเสรมิ สรา้ งพฒั นาการเดก็ ได้ การเล้ียงดูลูกน้อย เตรียมรอลูกคนแรก ได้แรงบันดาลใจเร่ืองวิธีเล้ียงลูกจากหนังสือ “สมัยเด็ก ๆ มีความสุขมากเวลาพา “รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว” หลังจาก เดก็ ๆ เตน้ ในงานหมบู่ า้ น แลว้ มคี นชมวา่ คอื มีลูกคนแรกได้ ๒ ปี อ๋วนไปเรียน กศน. มันเกง่ แท้วะ เด็กตั้ง ๓๐ คนเตน้ พรอ้ มกนั ได้ จนจบ แล้วไปเรียนด้านพัฒนาการเด็กและ ฟังแล้วชื่นใจ เทคนิคสมัยก่อนคือให้เด็กฟัง ครอบครวั ตอ่ ทมี่ หาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช เสียงนกหวีด ปี๊ดปุ๊บเปล่ียนท่า ไม่ต้องรอ ซึ่งเป็นอีกช่วงชีวิตที่อ่านหนังสือเป็นจ�ำนวน เสยี งนับ ไม่ตอ้ งรอเพอ่ื น เราเห็นคนชอบคน มาก ชมก็อยากท�ำอีก ออกแบบท่าเต้นเพลงน้ัน เพลงนี้ไม่หยุดเลย เดก็ ๆ ก็เดนิ ตามเราเป็น “มีความสุขกับการอ่านหนังสือ อ่าน แถววา่ เมอื่ ไหรจ่ ะพาเตน้ อกี จนไดม้ าเปดิ ศนู ย์ แล้วไปสอบ สอบแลว้ ก็กลับมาอ่านเพ่ิมอีก” เลยี้ งเองทุกวนั นแี้ หละค่ะ” ศูนยเ์ ลี้ยงเดก็ คือความฝนั จนั ทรเ์ พ็ญ ศูนย์เด็กเล็กบ้านเรียนพระคุณเปิด บอกว่าจินตนาการจนเห็นภาพตัวเองในศูนย์ ทำ� การในปี ๒๕๓๗ เรมิ่ ตน้ มเี ดก็ ใหด้ แู ลเพยี ง เล้ียงเด็กตั้งแต่อายุยังไม่เข้าวัยรุ่น ยิ่งอ่าน ∞14∞7

๒ คน จันทร์เพญ็ จดั ตารางกิจกรรมเรียนรู้สนกุ สนานใหเ้ ดก็ ท้งั สองแน่นตาราง แตร่ ายได้ไมแ่ น่น ตาม คิดแล้วเกรงจะอยู่ไม่รอด ลงมือท�ำใบปลิวเดินแจกในหมู่บ้าน เชิญชวนให้เอาเด็กมาฝาก เลย้ี ง ผลปรากฏวา่ ไมม่ ีเดก็ มาเพิ่ม “แต่เราไม่ถอย เราเป็นคริสเตียนก็อธิษฐานให้พระเจ้าเมตตา ขอให้ส่งเด็กมาเพิ่ม จากน้ันไม่นาน ๒ พ่อแม่เด็กที่มาตอนแรกก็ไปบอกต่อว่า ยัยอ๋วนเนี่ยเล้ียงเด็กดี อ่านหนังสือ เล่านิทานให้เด็กฟัง เด็กกลับมาบ้านก็นิสัยดีข้ึน กลายเป็นว่าคนพาเด็กมาเยอะมาก จากท่ีเคย ยมื สถานท่ีโบสถเ์ ล้ยี งเด็ก กแ็ น่นมากจนต้องยา้ ยท่ีใหม่ เกบ็ เงินสรา้ งตรงท่ีอยู่ปจั จบุ นั น่ีแหละ” ศูนย์เลีย้ งเด็กใหมท่ ว่ี ่ากต็ ้ังอยู่ในอาณาเขตรว้ั บ้านเดิมของครอบครวั “เทคนิคการดแู ลลูก ๆ คอื พูดกบั ลกู ดี ๆ แสดงออกดี ๆ กับลูก เพราะการลงมือทำ� ให้ เห็นดีกว่าการพูดสอนมาก เช่น เด็กที่ยังไหว้ไม่เป็น เราจะเร่ิมด้วยการไหว้เขาก่อนแล้วบอก สวัสดีครบั สวสั ดคี ะ่ อยา่ งน้อย ๑-๒ คร้งั หลังจากนนั้ เด็ก ๆ กเ็ ร่ิมไหว้และพดู สวัสดีทกั ทายกบั เราไดเ้ อง มันยนื ยันกับฐานคดิ ในการเลยี้ งลกู หรือเดก็ ๆ ที่อยากให้ลูกหลานมีพฤติกรรมแบบ ไหน ขอใหพ้ ่อแมผ่ ปู้ กครองลงมือทำ� สง่ิ น้ันใหเ้ ด็ก ๆ เห็นก่อน” ตั้งแต่วันนั้นจันทร์เพ็ญก็ยังท�ำงานอย่างสนุกและมีความสุขเร่ือยมากับเด็กเล็ก ๆ ในรั้ว ของศนู ยฯ์ พร้อมกบั เล้ยี งลูกทงั้ ๒ คนไปด้วย กระท่งั น้องสาวคนเลก็ ยา้ ยกลับมาอยสู่ ุรินทร์บ้าน เกดิ ไดเ้ หน็ พสี่ าวทำ� งานกลมุ่ ออมทรพั ยแ์ ละตอ่ เตมิ บา้ นเปน็ ศนู ยเ์ ลย้ี งเดก็ แนวคดิ การทำ� งานเพอื่ ชุมชนก็เกิด “กอ่ นย้ายกลบั มาอยู่บา้ น มีนาเขาทำ� งานพฒั นาชุมชนอยแู่ ลว้ พอไดข้ า่ ว สสส. เปิดใหท้ นุ ท�ำงานเพ่ือพฒั นาในชมุ ชน บวกกับเหน็ หลานกบั เด็ก ๆ ในชมุ ชนเริ่มตดิ ยาบา้ เลยช่วยกนั เขยี น ∞14∞8