สทิ ธิการอ่านอย่างเทา่ เทยี ม จากประสบการณ์ท�ำงานพัฒนาชุมชนกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่อเน่ืองมาเกือบ ๑๐ ปีของปุ้ย เมอื่ รบั หนา้ ทเ่ี ปน็ พ่ีใหญค่ อยดแู ลการทำ� งานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นในกลมุ่ ชาตพิ นั ธ์ุ กเ็ ปน็ ประเด็นท้าทายส�ำหรับลงมือขับเคล่ือนงานด้วยเป้าหมายสูงสุดของกลุ่มมะขามป้อม คือ อยากเหน็ สังคมท่ีมีปัญญา ทกุ คนไดอ้ า่ นหนงั สือ ประชากรมีคณุ ภาพ สามารถวิเคราะห์แยกแยะ เร่ืองราวตา่ ง ๆ ในการใชช้ ีวิตประจำ� วนั ได้ “เราอยากเหน็ สงั คมเท่าเทยี มกัน กต็ ้องหาวธิ ีการว่าจะท�ำอยา่ งไรให้คนเทา่ กนั ไม่กลาย เป็นท้ังผู้กระท�ำและผู้ถูกกระท�ำ ซ่ึงเราเช่ือว่าการอ่านจะสามารถสร้างความเท่าเทียมในสังคม ได้ เมอื่ ก่อนเราพบว่าสำ� หรบั ชาตพิ ันธุ์แลว้ การอา่ นเป็นเสมือนตวั แทนวฒั นธรรมของชนชัน้ สงู แล้วมันไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของเขา และในพ้ืนที่ก็ไม่มีหนังสือ เขาก็เลยไม่มีการให้ความ สำ� คญั กับการอ่านมาก่อน” ดังน้ัน วิธีการทำ� งานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านให้กับกลุ่มชาติพันธุ์จึงมิใช่เพียงการ หยบิ ยน่ื หนงั สอื ดหี รอื ทเี่ หมาะสมใหเ้ ทา่ นนั้ แตต่ อ้ งเปลย่ี นทศั นคตแิ ละคา่ นยิ มทมี่ ตี อ่ การอา่ นและ หนังสอื ไปพร้อม ๆ กัน ด้วยความเชื่อมัน่ ของทมี งานวา่ “การอา่ น” คือปัจจัยส�ำคัญทีส่ ามารถ พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ของกล่มุ ชาติพันธุ์ กลไกหลกั ของการท�ำงานระดบั พน้ื ที่ในปี ๒๕๕๘ คือ Training of Trainer มีการจัดอบรม เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเพม่ิ ศกั ยภาพใหค้ รู กศน. อำ� เภอเชยี งดาว(ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย อ�ำเภอเชียงดาว) กลับไปขับเคลื่อนประเด็นสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านต่อใน ∞19∞9
พื้นท่ีควบคู่ไปกับการประสานความร่วมมือ ผู้เข้าร่วมอบรม และปัจจัยสุดท้ายคือ องค์ สนับสนุนด้านนโยบายจาก กศน. อ�ำเภอ ความรู้ท่สี กัดออกมา เชียงดาว สืบเน่ืองจากการพูดคุยเชื่อมต่อ ท�ำความเข้าใจแผนงานฯ การอ่าน ระหวา่ ง โครงการอา่ นยกก�ำลังสขุ สร้างเสรมิ ผู้อ�ำนวยการ กศน. อ�ำเภอเชียงดาว กับ วัฒนธรรมการอ่านในกลุ่มชาติพันธุ์ ปี ๒ ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการ แบง่ การทำ� งานออกเปน็ ๒ สว่ นหลกั คอื การ อ่าน ในงานมหกรรมนิทานชนเผ่า : นิทาน ถอดองค์ความรู้และจัดพิมพ์หนังสือคู่มือ จากภูเขา เรื่องเล่าเชอื่ มหัวใจ ในปี ๒๕๕๗ เทคนคิ การจดั กจิ กรรมสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรม ในปีถัดมาจึงเกิดการเชื่อมงานกับ กศน. การอ่าน เพือ่ เผยแพรป่ ระสบการณ์และองค์ อ�ำเภอเชยี งดาว ในระดบั นโยบายและปฏิบตั ิ ความรทู้ ผี่ า่ นมาสสู่ าธารณชนในวงกวา้ ง และ เกดิ การพฒั นาครู กศน. เปน็ ChangeAgent อีกส่วนคือ จัดอบรมแกนน�ำอาสาสมัครรัก ผู้ขับเคลื่อนงานส่งเสริมการอ่านในพ้ืนท่ี การอา่ นชาตพิ นั ธ์ุ รว่ มกบั ศนู ยก์ ารศกึ ษานอก อ�ำเภอเชียงดาว ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อ�ำเภอ เชยี งดาว (กศน. อำ� เภอเชยี งดาว) โดยอบรม ปัจจัยส�ำคัญในการขับเคล่ือนสร้าง ๒ กลุ่ม คอื กล่มุ ครู กศน. และกลมุ่ ตวั แทน เสริมวัฒนธรรมการอ่านให้ส�ำเร็จในพื้นท่ี นักเรียนจากชุมชน มีกระบวนการสื่อสาร เชยี งดาวมี ๓ ข้อ คอื งบประมาณ ซ่ึงท�ำให้ ตดิ ตามงานหรอื กระทงั่ การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ เคลื่อนงานสะดวก เพราะถ้ามีแผนการ Professional Learning Community (PLC) ท�ำงานแต่ไมม่ ีเงนิ ทุน ไมม่ หี นงั สอื นนั้ งานก็ เติมเนื้อหา ข้อมูล ความรู้ เก่ียวกบั การอา่ น ไม่อาจเคลอื่ นได้ ปจั จยั ตอ่ มาคอื การเลอื ก สร้างความเคลื่อนไหวผ่าน Facebook ชื่อ คนทใี่ ชม่ ารว่ มเคลอื่ นงาน ทง้ั ทมี งาน วทิ ยากร “กาลครงั้ หนง่ึ เมอ่ื อา่ นมาแลว้ ” เปน็ พน้ื ทก่ี าร ∞20∞0
ติดตามความเคล่ือนไหว แสดงผลงานกิจกรรม ข้อมูลข่าวสารของกลุ่มท่ีเข้าร่วมโครงการ ในขณะทก่ี ลมุ่ มะขามปอ้ มทำ� หนา้ ทนี่ ำ� เสนอขอ้ มลู ทนี่ า่ สนใจใหม่ ๆ ทงั้ ในเมอื งไทยและตา่ งประเทศ เพือ่ เปน็ แรงบนั ดาลใจและกระตุน้ การส่งเสรมิ การอ่านในพ้นื ทตี่ า่ ง ๆ “มีผู้เข้าร่วมอบรมคนหน่ึงบอกเราว่า เม่ือก่อนเข้าใจมาตลอดว่าหนังสือคือเร่ืองของ คนมีความรู้ แต่วันนี้รู้แล้วว่าทุกคนอ่านหนังสือ ได้ และเธอกอ็ า่ นได้ ฟงั แลว้ เรารสู้ กึ ว่ามันพอดี กับส่ิงที่เราอยากให้เขารับรู้และสัมผัส คือ ทุกคนเท่าเทียมกัน ใคร ๆ ก็อ่านหนังสือได้ มะขามป้อมยังท�ำงานอยู่ในพื้นที่อีกนานก็มอง เห็นการเชื่อมโยงระยะยาว ดังนั้น การท�ำงาน ส่งเสริมการอ่านที่น่ีท�ำให้เราได้เห็นสถานการณ์การอ่านในพ้ืนที่ท่ีไม่มีหนังสืออยู่ได้ชัดมาก ๆ เม่ือสุดท้ายพบว่าบางอย่างเราคอนโทรลไม่ได้จริง ๆ ก็เรียนรู้ที่จะไม่กดดัน ลดจังหวะชีวิต ตัวเองให้ชา้ ลง เราพฒั นาเปน็ คนทร่ี ูจ้ กั รอการเกดิ ขึ้น รอจงั หวะทส่ี ุกงอมเหมาะสม การท�ำงาน มีความละเอยี ดข้นึ ” งานสรา้ งเสริมวฒั นธรรมการอา่ นในกลุม่ ชาตพิ นั ธุ์ อำ� เภอเชยี งดาว ยังคงขบั เคลอ่ื นด้วย กลไกท�ำงานของมะขามป้อม แกนนำ� อาสาสมคั รรกั การอา่ นชาติพนั ธ์ุ คณะครู กศน. ดว้ ยความ เชอื่ ท่ีว่าการเปล่ยี นแปลงนำ� ไปสคู่ ุณภาพชีวติ ทีด่ ีข้ึน คุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้นของกลมุ่ ชาตพิ นั ธท์ุ กุ คนในพ้ืนทีเ่ ขา้ ร่วมโครงการฯ คณุ ภาพชีวติ ทีด่ ขี น้ึ ของแกนน�ำอาสาสมคั รรักการอา่ นชาติพนั ธ์ุ ∞20∞1
คณุ ภาพชวี ติ ท่ดี ขี ้นึ ของคณะครู กศน. อำ� เภอเชียงดาว จังหวดั เชียงใหม่ คณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี น้ึ ของคณะทำ� งานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นฯ มะขามปอ้ ม เชยี งดาว “ทุกวันนี้ ส่งิ ท่มี ีความสขุ มนั เยอะมาก เช่น เห็นเด็ก ๆ ในชมุ ชนเตบิ โต เหน็ คนท�ำงาน มีพ้ืนที่ของตัวเอง เห็นเด็กปางแดงแสดงละคร ความสุขมันเยอะมาก เต็มไปหมดเลย เช่น เมอ่ื วานไดฟ้ งั นอ้ ง ๆ ในทมี ทบทวนตวั เองในวงประชมุ กม็ คี วามสขุ แลว้ ไมไ่ ดร้ อเจอเรอ่ื งใหญ่ ๆ แลว้ คอ่ ยมคี วามสขุ แตเ่ รามคี วามสขุ กบั สง่ิ เลก็ ๆ ทไี่ ดเ้ หน็ ทกุ วนั สง่ิ ทห่ี ลอ่ เลยี้ งคอื ความสขุ เลก็ ๆ การเหน็ แง่งามของสิ่งเล็ก ๆ มันดีมาก เหมือนกบั ทุกงานที่เราค่อย ๆ ทำ� มนั อาจเปน็ จดุ เล็ก ๆ แตม่ ันจะเปลี่ยน เปลย่ี นสงั คม” “เราเช่ือว่าทุกคนเปลี่ยนได้ ความเปล่ียนแปลงเกิดขึ้นได้กับทุกคน” ปุ้ย มะขามป้อม กล่าวยนื ยนั = Growth Mindset = - ทกุ คนเปล่ียนได้ เมอื่ อยู่ในสถานการณ์ทเ่ี หมาะสม - ข้อมูลเป็นหวั ใจของการเคลื่อนไหวภาคประชาชน - การเลอื กเครอ่ื งมือท่ีเหมาะสมชว่ ยเพิม่ ผลลัพธ์ - รจู้ กั และยอมรับตวั เองได้ จึงจะร้จู กั และยอมรบั ผู้อนื่ - ทกุ คนทุกชนชาติ มรี ากเหง้าแห่งวฒั นธรรมของตน - วถิ ชี าวบา้ นคอื วถิ ีของเขา อย่าเอาวิถเี ราไปตดั สิน ∞20∞2
“ส่วนหนึ่งของการขับเคล่ือนงานการอ่านในพ้ืนที่ เชยี งดาว เคยฝนั ไวว้ า่ วนั หนงึ่ เชยี งดาวจะเปน็ เมอื งทพ่ี ฒั นา ด้วยการใช้ศิลปะหลากหลายแขนง คิดว่าการอ่านก็เป็น ศิลปะอย่างหน่ึง จากท่ีเราเป็นคนในพื้นที่และก็เป็นคนท�ำ กิจกรรมทั้งละครและการอ่าน นอกจากกิจกรรมในแผน งานฯ กเ็ ลยเอาความรแู้ ละเครอื่ งมอื ทมี่ อี ยไู่ ปทำ� กบั เพอ่ื น ๆ ด้วย เราต้ังกลุ่มกันเป็นเพ่ือนอ่าน คุยกันอย่างไม่เป็น ทางการ คยุ สนกุ ๆ ใหเ้ พ่ือน ๆ ลองทำ� กบั ลูกแลว้ สงั เกต วา่ เกดิ อะไรขน้ึ จากนนั้ กเ็ อามาแลกเปลย่ี นกนั เรากแ็ นะนำ� การเลอื กหนังสอื แบบไหนทีเ่ หมาะกบั เด็กแตล่ ะวัย ให้เพือ่ น ๆ เลอื กอ่านกันเอง ถือวา่ เปน็ การทดลอง ไปด้วยกัน” ดาว-ประกายดาว คันธะวงศ์ หวั หนา้ โครงการอ่านยกก�ำลงั สุข สรา้ งเสริมวฒั นธรรมการอา่ น ในกล่มุ ชาติพันธุ์ ปี ๒ กลุ่มมะขามปอ้ ม เชียงดาว จังหวัดเชยี งใหม่ ∞20∞3
“แผนปฏบิ ัติการสง่ เสรมิ การอ่านของ กศน. อ�ำเภอ เชยี งดาว มีงบประมาณกิจกรรมท้งั ปเี พยี งแค่ ๒,๐๐๐ บาท ถอื วา่ เปน็ งบประมาณสำ� หรบั พฒั นาครทู น่ี อ้ ยมาก ดงั นน้ั การ มโี อกาสรว่ มงานกบั กลมุ่ มะขามปอ้ มจงึ เปน็ โอกาสทด่ี ตี อ่ การ พัฒนาระบบการศึกษาและศักยภาพของครู กศน. อ�ำเภอ เชยี งดาว ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ เรากับกลุ่มมะขามป้อมได้เขียน โครงการด้วยกนั ดใี จมาก เพราะถอื วา่ ได้คนช่วยทำ� งาน ได้ เห็นกระบวนการเสริมศักยภาพครู กศน. เร่ืองส่งเสริมการอ่านแล้วรู้สึกว่าสามารถพัฒนาต่อยอดได้ ครทู ่ีเขา้ อบรมแลว้ กม็ ีเทคนคิ การสอนทนี่ า่ สนใจมากข้ึน มีการท�ำกิจกรรมนำ� เข้าการสอน เอาความรู้ ที่ได้ไปดัดแปลงท�ำงานในพ้ืนที่ของตัวเอง ครูมีความกระตือรือร้นมากขึ้น มีการเอาผลงานมาแสดง แลกเปล่ียนความรู้กัน เกดิ การเช่อื มโยงระหว่างครูกับนกั เรยี นผ่านกจิ กรรม เราท�ำหนา้ ท่ีสง่ เสริม ใหก้ ารสนับสนนุ การศกึ ษาหาความรู้ ใหอ้ า่ นหนังสอื ออก เพราะเปน็ การ ลดความเหลอื่ มลำ�้ และยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของนกั เรยี นชาตพิ นั ธใ์ุ หม้ คี วามรเู้ พอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ให้ดีขนึ้ ” อาจารย์สทุ ธินี จับใจนาย ผอู้ �ำนวยการ กศน. อ�ำเภอเชียงดาว จงั หวัดเชยี งใหม่ ∞20∞4
“มีการเรยี นร้กู ารปฏสิ ัมพนั ธ์แบบเรียบง่าย จริงใจ เป็นกนั เอง มากขน้ึ ไดค้ ยุ กบั ครแู ละผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมอยา่ งเปดิ เผยและออ่ นโยน เกดิ การตงั้ คำ� ถามและหาคำ� ตอบในเรอ่ื งตา่ ง ๆ รว่ มกนั อยา่ งแขง็ ขนั ทุกคนชว่ ยกันผลกั ดนั หลกั สูตร วิธีการ เทคนคิ วธิ คี ดิ อย่างเตม็ ใจ ทุกขั้นตอนเราหาค�ำตอบแบบเอาใจใส่ ทุกวันนี้เราลงมือท�ำเร็วขึ้น แต่มกี ารไตรต่ รองมากขึน้ ” แอ๊ป-ปยิ ฉตั ร สนิ พิมลบรู ณ์ ทีมงานสรา้ งเสรมิ วัฒนธรรมการอ่าน กลุ่มมะขามปอ้ ม เชียงดาว จังหวดั เชยี งใหม่ “ความเปลยี่ นแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ กบั ตวั เองคอื สามารถวเิ คราะห์ กลุ่มเป้าหมายการท�ำงานได้ละเอียดมากข้ึน และเข้าใจว่าการ ประชุมกันบ่อยท�ำให้เกิดการส่ือสารที่ดีของการท�ำงาน เราเกิด ค�ำถามก่อนทจ่ี ะวเิ คราะห์กลุ่มเปา้ หมาย เชน่ ถ้าจะทำ� งานกบั กลมุ่ เปา้ หมายนี้ ตอ้ งทำ� อยา่ งไรจงึ จะทำ� งานกบั กลมุ่ เปา้ หมายไดใ้ นระยะ ยาว และตรงกับความตอ้ งการของเขาจรงิ ๆ ทสี่ ำ� คญั จากการทดลองใชเ้ ครอื่ งมอื ทำ� งานมาหลายแบบ เมอ่ื กอ่ นเคยสงสยั วา่ หลกั สตู รกม็ อี ยแู่ ลว้ ทำ� ไมตอ้ งประชมุ กนั บอ่ ย ๆ แตพ่ อผา่ นมาวนั นกี้ เ็ ขา้ ใจ เพราะการคยุ วนั นนั้ มนั ทำ� ใหท้ กุ วนั นเ้ี ราทำ� งาน นอ้ ยลง แตต่ รงประเดน็ เขา้ ใจชดั และเลอื กเครอ่ื งมอื ทม่ี มี าใชก้ บั กลมุ่ เปา้ หมายไดอ้ ยา่ งแมน่ ยำ� มากขน้ึ ก๊ิฟ-อัจฉรา กนั ทวี ทมี งานสรา้ งเสรมิ วัฒนธรรมการอ่าน กลมุ่ มะขามป้อม เชียงดาว จังหวดั เชยี งใหม่ ∞20∞5
เปดิ ความคดิ ของ ๒ แกนน�ำส�ำคญั จดุ เรม่ิ ตน้ พฒั นาหลกั สูตรสง่ เสรมิ การอ่าน กลุ่มมะขามป้อม รม่ -ฉัตรวรุณ เล้าแสงชยั วฒั น์ วิทยากรรักการอ่าน มูลนิธิสื่อชาวบา้ น (มะขามป้อม) “ท�ำงานด้านการอ่านคร้ังแรกในปี ๒๕๔๘ ตอนน้ัน กระแสการอา่ นยงั ไมม่ ากเทา่ ไหร่ สง่ิ ทเี่ ราทำ� คอื ผลติ เครอื่ งมอื ที่จะน�ำไปเช่ือมโยงกับหนังสือ เช่น เล่นละคร ละครหุ่น ทีเ่ อานทิ านมาทำ� เวลาทที่ �ำกระบวนการในคา่ ยมันทำ� ให้เดก็ สนกุ และรจู้ กั หนงั สอื มากขน้ึ ตอ่ มาเมอื่ มแี ผนงานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นเกดิ ข้นึ พวกเรากม็ ีโอกาสไดท้ �ำโครงการ เกย่ี วกบั การอา่ นอยา่ งจรงิ จงั เปน็ ชว่ งเวลาทม่ี กี ระแสรณรงค์ ส่งเสริมการอ่านเยอะข้ึน รวมท้ังระดับนโยบายก็ให้ความ สำ� คญั กับการอา่ นเป็นอยา่ งมาก กลุ่มเป้าหมายที่ได้ท�ำด้วยตอนน้ันเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ มีทั้งครู กศน. อสม. ครูบรรณารักษ์ เป็นความหลากหลายซ่ึงท้าทายมาก เพราะท�ำงานกับผู้ใหญ่ แค่สนุกอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีเนอ้ื หา องค์ความรู้ท่ีส�ำคัญกับการเคล่ือนงานด้วย ส่วนตัวไม่ใช่ คนที่ชอบอ่านหนังสือ แต่พอมาท�ำงานน้ีก็ต้องอ่านเยอะขึ้นเพื่อหาข้อมูล น�ำไปคิดค้นกระบวนการ รว่ มกับทมี งานวา่ เราจะพาคนไปถึงวัฒนธรรมรักการอา่ นได้อยา่ งไร ∞20∞6
เกือบ ๗ ปีแล้วท่ีได้ท�ำงานส่งเสริมการอ่าน สิ่งท่ีค้นพบและได้คุณค่ากับตัวเองจริง ๆ คือ จากพืน้ ฐานที่เราไม่ไดร้ ักการอา่ นมากอ่ น แต่วนั น้เี รามาเปน็ คนรักการอา่ นได้ ท�ำให้เขา้ ใจวา่ ทกุ คน ก็รักการอ่านได้เหมือนกัน อยู่ท่ีโอกาสในการเจอหนังสือท่ีหลากหลาย ได้ลองหยิบเปิดอ่าน มคี นแนะนำ� เรอ่ื งราวนา่ สนใจในหนังสือใหไ้ ด้รบั รู้ มีกิจกรรมหน่ึงส�ำหรับส่งเสริมการอ่านท่ีแสนเรียบง่ายแต่ได้ผลลัพธ์ดีมาก คือ กระบวนการ ธรรมชาติ เอาหนังสือมาจัดมุมต่าง ๆ โดยท่ีช่ือมุมจัดตกแต่งแบบไม่ต้องเหมือนระบบห้องสมุด แต่เป็นชอ่ื มุมที่เข้าถึงงา่ ย ๆ เช่น มุมโลกของฉัน มมุ การเดินทาง มุมภาพเลา่ เรอ่ื ง และเราจะแนะน�ำ หนงั สือให้กบั ผ้เู ขา้ ร่วมคลา้ ย ๆ กับโฆษณา หรอื บางทีกเ็ อาบางประโยคมาอ่าน และกเ็ ปดิ ช่วงเวลาให้ ผเู้ ข้ารว่ มอบรมได้หยิบอ่านประมาณ ๑ ช่ัวโมง สิง่ ที่สงั เกตเหน็ คือ บรรยากาศท่ีผอ่ นคลาย นอนอา่ น นง่ั อ่าน มคี นลุกเปล่ยี นเลม่ บางกลมุ่ สุมหวั อา่ นเลม่ เดียวกนั หวั เราะคกิ คกั ร่มคิดว่านี่คือกุญแจดอกส�ำคัญของการเริ่มต้นที่จะรักการอ่าน เร่ิมต้นหยิบจากเล่มท่ีสนใจ ได้เห็นหนังสือท่ีหลากหลายรูปแบบ บรรยากาศท่ีเอ้ืออ�ำนวย ไม่มีการบังคับ ท�ำให้หลายคนได้ เรียนรู้จกั การอ่านในมุมทส่ี นกุ และได้ความรไู้ ปพรอ้ มกนั การส่งเสริมให้คนรักการอ่านต้องมีบริบทท่ีเอื้ออ�ำนวยให้การอ่านน้ันเป็นไปอย่างธรรมชาติ ไม่ใช่การบังคับ คิดว่าการอ่านเหมอื นศลิ ปะ ความสวยไม่สวยเปน็ เร่อื งรสนยิ ม การอ่านกค็ งเหมอื น กัน ใครชอบเล่มไหน ก็คงเป็นเรื่องรสนิยมเหมือนกนั ดงั นั้นเพียงแคเ่ ริ่มสร้างบรรยากาศการอา่ นจาก ในบ้าน โรงเรยี น ให้ผอ่ นคลายสบาย ๆ หนงั สือก็จะกลายเป็นเพือ่ นของเราโดยไมร่ ู้ตวั รม่ เชอ่ื ว่าการ ส่งเสริมการอา่ นใคร ๆ ก็ทำ� ได้ ไมใ่ ช่เร่อื งยาก” ∞20∞7
กุ๊กไก-่ ขนิษฐา ธรรมปญั ญา ผ้จู ัดการโครงการและวทิ ยากรรักการอา่ น มลู นิธิสื่อชาวบา้ น (มะขามป้อม) “ปัจจุบันงานการอ่านของมะขามป้อม เน้น กระบวนการและประสบการณ์ตรงจากหนังสือมากขึ้น เปล่ียนจากระยะเริ่มแรกที่เน้นเคร่ืองมือ ความสนุก เช่น การทำ� ละคร มากกวา่ การอา่ นหนงั สอื เราปรบั เปน็ การเรยี น รจู้ ากประสบการณต์ รง และใหค้ วามหมายใหมต่ อ่ การอา่ น หนังสือ ด้วยการใช้ประโยคว่า การอ่านให้อะไรมากกว่า ความรู้ แมก้ ารอา่ นหนงั สอื จะไดค้ วามรแู้ ละเปน็ ความคดิ ชดุ แรกของคนสว่ นใหญ่ แตเ่ ราพยายามทำ� ให้เหน็ วา่ การอา่ น มีอะไรมากกว่านั้น และเชื่อมโยงกับชีวิตของแต่ละคนได้ จรงิ ๆ มันเช่ือมโยงกับชีวติ จติ ใจ เชื่อมโยงกับโลก ซงึ่ จะท�ำให้เราไดร้ ู้จักคนอื่น ได้เช่อื มโยงกบั ตัวเอง และเม่ือเราเชื่อมโยงแล้ว เราจะมีความรู้สึกบางอย่างต่อการอ่านที่ไม่ได้มีแค่ความรู้อย่างเดียว และ สง่ ผลตอ่ การพฒั นาการอ่านของกลุ่มแกนน�ำในทีส่ ดุ มะขามป้อมมีวิธีการท�ำงานท่ียืดหยุ่น หมายถึงจะมีการปรับเปล่ียนกระบวนการระหว่างการ อบรมเสมอ ตามลักษณะ ความสนใจ และความจ�ำเป็นของผู้เข้าร่วม ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมซ่ึงเป็น แกนนำ� สง่ เสรมิ การอา่ นในกลมุ่ ตา่ ง ๆ ไดน้ ำ� วธิ คี ดิ ไปปรบั ใช้ คอื ใหใ้ สใ่ จกบั กลมุ่ เปา้ หมายมากขน้ึ ไปดว้ ย ∞20∞8
และสามารถส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นได้จริง ๆ ด้วยความรู้สึกถึงคุณค่าของการอ่าน เพราะมี ประสบการณ์ดว้ ยตัวเอง เช่น อาจจะเจอบางเลม่ บางประโยค ท่เี พิ่มความคิดให้เขา ว่าการอ่านไม่ได้ ใหแ้ คค่ วามรอู้ กี ต่อไปแลว้ คนจ�ำนวนมากในสังคมมีประสบการณ์การอ่านมากขึ้น เห็นว่าหนังสือมีความหลากหลาย ไม่ได้มีเพียงหนังสือวิชาการ หนังสือเรียน หรือนิยายและการอ่านไม่ได้จ�ำกัดเฉพาะผู้ที่ต้องการ ความรู้ หรือจ�ำกัดอยู่ในกลุ่มเด็ก ๆ หรือแวดวงการศึกษา ผู้คนจ�ำนวนมากเห็นว่าการอ่านให้อะไร มากกว่าความรู้ และมคี วามสำ� คัญตอ่ ชวี ิตในดา้ นต่าง ๆ เชน่ ความจรรโลงใจ เยียวยา และบม่ เพาะ ความเข้าใจบางอยา่ งในตัวผ้อู ่าน ทกุ วนั น้ี หนา้ ทสี่ ง่ เสรมิ การอา่ นไมไ่ ดจ้ ำ� กดั อยทู่ ก่ี ลมุ่ ครหู รอื ผรู้ เู้ ฉพาะทางอกี ตอ่ ไป คนทกุ สาขา อาชพี หรอื แมก้ ระท่ังเดก็ ๆ กส็ ามารถเป็นผู้ส่งเสริมการอา่ นได้ หากใครรักการอา่ น กส็ ามารถเปน็ คนสง่ เสริมการอ่านได้อยา่ งเป็นธรรมชาติ ดว้ ยวธิ กี ารทตี่ า่ ง ๆ กันไป” ∞20∞9
อา่ นสรา้ งสขุ มะลวิ รรณ มาผาบ
ขอทำ� งานทไ่ี ดช้ ่วยคน : ฝน เชียงใหม่อ่าน สรา้ งพื้นที่อา่ น สอื่ สารต่อเน่อื ง เชอื่ มนโยบาย “เชยี งใหมอ่ า่ น เหมอื นเปน็ นามสกลุ ของเราไปแลว้ ไปทไี่ หนใคร ๆ เรยี กวา่ ฝน เชยี งใหม่ อา่ น” ฝน-มะลิวรรณ มาผาบ เกร่ินน�ำก่อนเล่าต่อถึงสถานการณ์ความเป็นไปของงาน สรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นของพน้ื ทจ่ี งั หวดั เชยี งใหม่ ในโครงการเชยี งใหม่ นครแหง่ การอา่ น หรือท่ีเรียกกนั ส้ัน ๆ ว่า “เชียงใหมอ่ ่าน” เชยี งใหมอ่ า่ น มี “ฝน-มะลิวรรณ” หรอื “ฝน เชียงใหม่อ่าน” รบั หนา้ ทีเ่ ปน็ ผู้ประสานงาน เชียงใหม่อา่ น ขบั เคลอ่ื นงานภายใต้การดูแลของเครือขา่ ยการศึกษาทางเลอื กภาคเหนือ “ฝน เชยี งใหม่อา่ น” เร่ิมท�ำงานกบั เครอื ข่ายการศึกษาทางเลือกภาคเหนือตัง้ แตป่ ี ๒๕๕๔ “เครอื ขา่ ยการศกึ ษาทางเลอื กภาคเหนอื ” คอื องคก์ รภาคประชาสงั คม ทำ� หนา้ ทสี่ นบั สนนุ เช่ือมโยงกลุ่มการศึกษาทางเลือกและรณรงค์ให้สาธารณะและรัฐยอมรับและสนับสนุนการ
ศึกษาทางเลือก ซึ่งเป็น ๑ ใน ๑๑ องค์กรที่ร่วมมือเป็นภาคีเครือข่ายเคลื่อนงานสร้างเสริม วัฒนธรรมการอ่าน ภายใตก้ ารสนับสนนุ ของแผนงานสร้างเสรมิ วัฒนธรรมการอ่าน สำ� นกั งาน กองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) ตัง้ แตป่ ี ๒๕๕๗ “ฝน” บอกว่า ภายในระยะเวลา ๒ ปีกว่า ๆ โครงการเชยี งใหมอ่ า่ นเตบิ โตและขยายพนื้ ทรี่ กั การอา่ น ได้อย่างน่าพึงพอใจ ทั้งในเขตพ้ืนท่ีตัวเมืองและพ้ืนที่ ชนบทบนดอยสงู จุดเริม่ ต้นของ “เชยี งใหม่อา่ น” คือชว่ งปี ๒๕๕๖ เม่ือเครือข่ายการศึกษาทางเลือกภาคเหนือ น�ำโดย “ชัชวาลย์ ทองดีเลศิ ” (อาจารย์ชัช) เลขาธกิ ารสมาคม สภาการศกึ ษาทางเลอื กไทย ออกปากเชญิ กลมุ่ องคก์ ร หน่วยงาน และบุคคลที่มีความสนใจด้านการอ่านใน จังหวัดเชียงใหม่ เข้ารว่ มพูดคุยหาชอ่ งทางปลุกกระแส การอ่านของคนเชียงใหม่ให้มีชีวิตชีวามากข้ึน กระท่ังได้พบกับสถานการณ์ขาดแคลนหนังสือท่ี เหมาะสมกับวัยของเด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลรอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีความต้องการอ่าน แต่กลบั ไม่ได้อ่าน เพราะไมม่ ีหนงั สือที่เพียงพอเหมาะสมใหอ้ ่าน แมแ้ ต่ในห้องสมดุ ของโรงเรียน ก็ตาม จึงเกิดแนวคิดการสร้างเครือข่ายส่งเสริมการอ่านในระดับจังหวัด ร่วมขับเคล่ือนในเชิง นโยบายสรา้ ง “การอา่ น” ใหเ้ ปน็ วาระของจงั หวดั พรอ้ มกบั ขยบั ในระดบั พน้ื ท่ีไปพรอ้ มกนั ไดแ้ ก่ บ้าน วัด โรงเรยี น และชุมชน ∞21∞2
จากการเข้าร่วมหารือในครั้งนั้น โครงการเชยี งใหมอ่ า่ นทำ� งานบนฐาน ต่อยอดออกผลเป็นการท�ำงานขับเคลื่อน คดิ หลกั ทคี่ รอบคลมุ เพอ่ื สรา้ งการเปลยี่ นแปลง สง่ เสริมการอา่ น ปี ๒๕๕๗ รว่ มกนั ของ ๑๖ ทางสังคม คือ สร้างพื้นท่ีรูปธรรมการอ่าน องคก์ ร ทงั้ หนว่ ยงานภาครฐั ภาคเอกชน และ และมีการสื่อสารอย่างต่อเน่ือง สุดท้ายคือ ภาคประชาสังคม เช่น เครือข่ายการศึกษา ต้องสามารถทำ� งานเชื่อมโยงกับนโยบายได้ ทางเลือกภาคเหนือ องค์การบริหารส่วน จังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ ฐานคิดทั้ง ๓ ขอ้ ถอื เป็นยุทธศาสตร์ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม หลกั ในการขบั เคลอื่ นงานซงึ่ เกดิ ผลลพั ธอ์ ยา่ ง อัธยาศัย (กศน.) ส�ำนักงานคณะกรรมการ เปน็ รปู ธรรมหลายดา้ น เชน่ การประสานความ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (สพฐ.) โฮงเฮียน รว่ มมอื ไปยงั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และ สืบสานภูมิปัญญาล้านนา ศูนย์การเรียนรู้ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ โจ๊ะมาโลลือหล่า ห้องสมุดพ้ืนบ้านย่าน ร่วมผลักดันนโยบายสนับสนุนการอ่านของ เวียงเชียงใหม่ สโมสรนักเขียนเชียงใหม่ เด็กเล็ก การพฒั นาศักยภาพแกนน�ำสง่ เสริม ก่อให้เกิดผลการเปล่ียนแปลงระดับบุคคล การอ่าน ประกอบดว้ ย ครู บรรณารกั ษ์ เดก็ และพ้ืนท่ี เช่น มีพ้ืนที่การอ่านมีชีวิตของ เยาวชน และกลุ่มคนท�ำงานในเครือข่าย ชุมชน มีการระดมทุนและหนังสือเพ่ือ เชียงใหม่อ่าน สร้างพื้นที่อ่านได้อย่างเป็น กระจายใหก้ บั เดก็ เยาวชนในพน้ื ทที่ ำ� งานของ รูปธรรมด้วยความร่วมมือของภาคีเครือข่าย โครงการซง่ึ ขาดแคลนหนงั สอื เกดิ ชมรมการ ทงั้ ส้ิน ๒๓ แห่ง อา่ นในโรงเรยี น เกดิ แกนนำ� สง่ เสรมิ การอา่ น ในชุมชน พร้อมกับมีกิจกรรมรณรงค์สื่อสาร สาธารณะหลายช่องทาง เช่น มหกรรม เชยี งใหมอ่ า่ น กจิ กรรมOnebookOnebath ∞21∞3
สัญจรไปยังระดับต�ำบลและอ�ำเภอ การสื่อสารผ่านส่ือสิ่งพิมพ์ ท้องถิ่น สื่อวิทยุ และสื่อออนไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์ โครงการ แนะนำ� หนงั สอื นา่ อา่ น และสรา้ งเปน็ พนื้ ทก่ี าร แลกเปลยี่ น ระดมหนงั สอื ส�ำหรับเด็กและเยาวชน “ฝนชอบกจิ กรรมเดก็ อยากอา่ น ผใู้ หญอ่ ยากให้ เพราะเด็กได้เขียนมาขอหนังสือท่ีตัวเองชอบในหน้า แฟนเพจเชยี งใหม่อ่าน แลว้ กต็ ่ืนเตน้ เมื่อได้รับหนังสอื จริง ๆ ส่วนผู้ใหญ่ที่เป็นคนให้หนังสือกับเด็ก ๆ ก็มีความสุขที่เห็นเด็ก ๆ ไดอ้ า่ นหนงั สือทช่ี อบ” ∞21∞4
คณะทำ� งานหลกั “เชยี งใหม่อ่าน” • อ.ชชั -ชชั วาลย์ ทองดเี ลศิ ผจู้ ดั การโครงการ เลขาธกิ ารสมาคมสภาการศกึ ษาทางเลอื กไทย • ฝน-มะลวิ รรณ มาผาบ ผปู้ ระสานงาน เครือข่ายการศกึ ษาทางเลอื กภาคเหนอื • จา๋ -สิรินุช วงศ์สกุล ฝา่ ยขอ้ มูล เครอื ขา่ ยการศึกษาทางเลือกภาคเหนอื • อุ๊-สุพรรษา จรรยา ฝ่ายการเงิน เครือขา่ ยการศึกษาทางเลอื กภาคเหนอื • ครูนดิ -อรพินท์ กศุ ลรุ่งรตั น์ ผู้อ�ำนวยการศนู ยก์ ารเรยี นรโู้ จะ๊ มาโลลือหล่า โรงเรยี นวถิ ีชวี ติ ชุมชน • ออ๋ ง-หทั ยา อนุสสรราชกิจ สโมสรนักเขียนเชยี งใหม่ • เสย-องอาจ ฤทธปิ์ รีชา (รายา) สโมสรนักเขยี นเชยี งใหม่ อสิ รภาพ : หัวใจของการทำ� งานเปน็ ทีม “อ.ชชั -ชชั วาลย์ ทองดเี ลิศ” ยืนยันวา่ คนส�ำคัญทเ่ี ป็นเรีย่ วแรงขบั เคล่ือนงาน “เชยี งใหม่ อ่าน” ไม่ใชต่ ัวเขาแต่เปน็ “ฝน-มะลิวรรณ” และทีมงานหลัก “ทมี งานคอื จา๋ และ อุ๊ เปน็ คนทเี่ ขา้ มาเตมิ เตม็ เฉพาะทางไดด้ ี เชน่ จา๋ เขยี นสรปุ ไดเ้ กง่ มาก อุด๊ ูแลเรือ่ งการเงินกับรายละเอยี ด ส่วนคนที่เป็นแกนหลกั ทางความคิด คือ ครูนดิ อ๋อง และ เสย จะเปน็ ทีมสนับสนุนด้านความคิดทีแ่ ขง็ แรง สว่ นพช่ี ัชถอยบทบาทออกมาเยอะ ให้น้อง ๆ ทำ� งาน แต่ยงั ชว่ ยในด้านนโยบายอยบู่ า้ ง” ∞21∞5
ส�ำหรับ อ.ชัชวาลย์ การท�ำงานของ ของทกุ คน ทีมงาน “เชยี งใหม่อา่ น” เป็นการเรียนรแู้ นว ราบทเ่ี สมอกนั โดยไม่ใชอ้ ำ� นาจ ไมม่ ีใครเกง่ จากบทเรยี นการทำ� งานเพอื่ สรา้ งการ เกนิ กวา่ ใคร ทกุ คนตา่ งมศี กั ยภาพดว้ ยกนั ทง้ั สน้ิ เปลยี่ นแปลงสงั คม เขาพบวา่ การขบั เคลอื่ นงาน ตอ้ งมีอยา่ งน้อย ๓ องคป์ ระกอบ คือ ตอ้ งมี “เราเชื่อมโยงศักยภาพของแต่ละคน พื้นที่รูปธรรม ต้องมีการสื่อสารกับสังคม ถึงกันและกัน เพราะทุกคนมีศักยภาพและ อย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายตอ้ งเชื่อมโยงกับ การทำ� งานคอื การเรยี นรู้ อยา่ งพช่ี ชั ถนดั เรอื่ ง นโยบาย นโยบาย เช่ือมต่อผู้ใหญ่ ก็จะพาฝนไปพบ ผู้ใหญ่ท่ี อบจ. ท่ีเทศบาล ก็เป็นอีกเร่ือง “ตอนน้ีพ้ืนท่ีรูปธรรมเกิดแล้ว มี ในการเรยี นร้ขู องฝน” นวัตกรรมและข้อสรุป ด้านการส่ือสารท�ำ แล้วอย่างต่อเนอ่ื ง สว่ นเร่อื งนโยบายคงต้อง ปัจจุบันทีมงานเชียงใหม่อ่านไม่ได้ ใชเ้ วลา เพราะใชพ้ ลงั ผลกั ดนั เยอะ แตเ่ ชอ่ื วา่ ทำ� งานตามคำ� สงั่ แตเ่ ปน็ รปู แบบการวางแผน ถา้ เราทำ� กจิ กรรมและสอ่ื สารใหค้ นรบั รู้ และ ร่วมกันและลงมือท�ำ จากนั้นเม่ืองานจบ เข้ามามีสว่ นร่วมในการเรียนรูอ้ ยา่ งตอ่ เนื่อง ทุกคร้ังจะมีการสรุปบทเรียนร่วมกัน หรือ จะเกดิ แรงเหวยี่ งท่ีใหญ่ข้นึ จนเคลือ่ นไปถึง AAR (After Action Review) เพ่ือเติมเต็ม จดุ ทีจ่ ะสามารถขยับนโยบายได”้ ให้กันและกันระหว่างทีมงาน พร้อมกับเพื่อ นำ� บทเรยี นทเี่ กดิ ขนึ้ ไปพฒั นางานในครง้ั ตอ่ ไป ตั้งแต่ได้ท�ำงานขับเคลื่อนประเด็น โดย อ.ชชั รบั บทบาทเตมิ สว่ นท่ียงั ขาดและ เชียงใหม่อ่านเรื่อยมา “อ.ชัช” เริ่มสังเกต จำ� เป็นตอ่ การพัฒนางานของทุกคน ภายใต้ เห็นว่าเมื่อตนลดบทบาทลง จะมีส่ิงที่ดี ๆ ฐานคิดเช่ือมั่นในการเรียนรู้ผ่านการท�ำงาน เกดิ ขนึ้ เช่น การเรยี นรพู้ ัฒนาศักยภาพของ คนทำ� งาน ผลลพั ธก์ ารด�ำเนนิ งานที่นา่ พอใจ ∞21∞6
ผดุ บงั เกดิ เนอื่ งจากเขาเชอื่ วา่ การทำ� งานคอื การเรยี นรทู้ ดี่ ที สี่ ดุ ลงมอื ทำ� แลว้ จะไดร้ บั ประสบการณ์ เจอวิธคี ดิ ตอ่ ยอด ค้นพบผลสรุปทด่ี เี ย่ยี ม หลักในการดูแลทีมงานของ อ.ชัช คือ อิสรเสรีภาพ เปิดโอกาสให้คนท�ำงานลงมือท�ำ เตม็ ท่ที กุ ด้าน โดยเฉพาะด้านการตัดสินใจ เพราะถ้าไมไ่ ด้เปน็ ผู้ตัดสนิ ใจยอ่ มเท่ากบั ทำ� ไม่เต็มท่ี ซ่ึงการเรียนรู้จะไม่สมบูรณ์ การตัดสินใจเป็นการเรียนรู้ที่ส�ำคัญ ไม่ว่าผลจากการตัดสินใจจะ เปน็ อยา่ งไรกต็ าม คนทตี่ ัดสนิ ใจจะไดบ้ ทเรยี นทีส่ �ำคญั ส�ำหรับ อ.ชัชวาลย์ เขาเชอื่ วา่ “การกลา้ ตดั สนิ ใจ ส�ำคัญกว่าผลลัพธ์ของการ ตัดสินใจ” “เม่ือไรก็ตามท่ีคน ทำ� งานไมก่ ลา้ ตดั สนิ ใจ งาน จะไปไม่ไกล การตัดสินใจ ผิดไม่เป็นไร แต่เป็นเร่ือง ที่มาเรียนรู้กันว่าเพราะ อะไร ตัดสนิ ใจถูกก็ได้ ผิดก็ได้ เพราะนั่นคอื การเรียนรทู้ ่ีสำ� คัญมาก ถ้าท�ำงานไปแล้วมันสะดดุ หรือเจอกับสิ่งที่มันไม่ใช่ ให้หยุดทบทวน วิเคราะห์แล้วเปลี่ยนวิธี เรียกว่าเราไม่ยอมจ�ำนน เราลองสู้ไปทางน้ีแล้วมันไปไม่ได้ ก็ต้องดูปัจจัยใหม่ที่มันไปต่อได้ ซ่ึงเป้าหมายเหมือนเดิม แค่ขยับทางเดินบา้ ง อนั ไหนที่ไปไม่ได้ ก็ค่อย ๆ ลดไป อนั ไหนท่ีไปได้กค็ ่อยขยายมัน” ∞21∞7
เหมือนกบั การทำ� งาน “เชียงใหมอ่ า่ น” ที่ตั้งเป้าหมายขยับด้านนโยบายวาระการอา่ นของ จงั หวัด เมือ่ เดินมาถงึ จุดท่ีไม่สามารถเชอ่ื มต่อความร่วมมือกบั องคก์ รเดิมทค่ี าดไว้ได้ อ.ชชั และ ทมี งานกต็ ดั สนิ ใจคน้ หาและเปลย่ี นชอ่ งทางประสานความรว่ มมอื ไปยงั หนว่ ยงานใหม่ คอื องคก์ าร บรหิ ารสว่ นจงั หวดั สำ� หรบั นโยบายระดบั จงั หวดั พรอ้ มกบั ดำ� เนนิ งานกบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ควบคู่ไปดว้ ยสำ� หรับระดับตำ� บล เปา้ หมายเดมิ เพอ่ื ผลกั ดนั เชงิ นโยบายเพอื่ สรา้ งเชยี งใหมใ่ หเ้ ปน็ “มหานครแหง่ การอา่ น” แตเ่ พ่ิมเตมิ ดว้ ยผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี (Stakeholder) รายใหม่ ซึง่ มกี ำ� ลงั สามารถขับเคลื่อนไปยงั เปา้ หมายท่ีต้ังไวไ้ ดเ้ ช่นกนั สวมหมวกนักพัฒนาชุมชน “วันนี้ฝนเดินมาไกลมาก เกินกว่า ท่ีคิดไว้เยอะ ได้ท�ำงานที่ดี มีคุณค่าต่อ ตวั เองและสงั คม ไดช้ ว่ ยเหลอื คนอยา่ งทเี่ รา ตง้ั ใจไวจ้ รงิ ๆ ไดท้ ำ� งานขนึ้ เขาขนึ้ ดอยจรงิ ๆ มันอ่ิมใจมาก” ฝนเร่ิมกล่าวถึงการท�ำงาน ของตน “ฝน-มะลิวรรณ มาผาบ” เป็นสาว เชยี งใหม่ จากอำ� เภอไชยปราการ เรยี นทน่ี นั่ จนจบมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ระหวา่ งเรยี นทำ� กจิ กรรม โรงเรียนสม่�ำเสมอ เช่น ประชาสัมพันธ์โรงเรียน พูดหน้าเสาธง เป็นคณะกรรมการนักเรียน ∞21∞8
เป็นตัวแทนโรงเรียนทำ� กิจกรรมอาสาพฒั นา เขา้ ค่ายจริยธรรมร่วมกับโรงเรียนในเครือขา่ ย “ท�ำกิจกรรมเพราะมันสนุก ไม่อยากเรียนแบบท่องต�ำราอยู่ในห้องอย่างเดียว การท�ำ กจิ กรรมมนั ผอ่ นคลายและไดใ้ ชค้ วามคดิ เราประชมุ แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ กนั มนั สนกุ แบบได้ เรียนรไู้ ปดว้ ย ฝนเรยี นได้เกรด ๓ กว่า ๆ ตอนจะจบกเ็ ดนิ ไปหาครวู ่ามอี ะไรที่เรียนแลว้ ได้ชว่ ยคน บ้าง แล้วก็แบบไดข้ ึ้นดอยขึน้ เขาด้วย กเ็ จอวา่ มีโควต้า ๒ ท่ีของพัฒนาชมุ ชน ราชภัฏเชียงใหม่ ฝนตัดสินใจสมคั รโดยไม่เลือกทอ่ี นื่ เลย” ในท่ีสุดเธอได้เรียนสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ดังที่ตน ตง้ั ใจ แตส่ าขาทเี่ ลอื กเรยี นนนั้ กลบั ไมไ่ ดด้ งั ใจของผปู้ กครอง เนอ่ื งดว้ ยทบี่ า้ นมคี ลนิ กิ ทด่ี แู ลโดยนา้ ซง่ึ เปน็ ผเู้ ลยี้ งดฝู นมาตง้ั แตเ่ ดก็ ๆ รว่ มกบั ยาย นา้ ตอ้ งการใหห้ ลานสาวเปน็ พยาบาล ถงึ ขน้ั ฝากฝงั อาจารยห์ มอผหู้ ลกั ผใู้ หญเ่ กย่ี วกบั การเรยี นพยาบาล แตเ่ ธอเลอื กพดู คยุ บอกเหตผุ ลตรง ๆ ว่าชอบ เดินทาง ช่วยเหลอื พฒั นาชมุ ชน “ฝนเคยดูวิดีโอที่พระเจ้าอยู่หัวข้ึนเขาขึ้นดอย ช่วยเหลือชาวบ้าน ก็คิดอยากจะท�ำเพ่ือ สังคมบา้ ง ไมเ่ คยคดิ อยากเรยี นอย่างอื่นเลย พอคุยกนั แลว้ น้าก็ใหโ้ อกาสไปลองเรียนดู ถ้าไม่ สนุกกก็ ลบั มาเรียนพยาบาลนะ แต่พอฝนไปเรียนแล้วมนั สนุกมาก ท�ำค่ายทุกปเี ลย สดุ ท้ายก็ เรียนมาจนจบ” หลังเรียนจบช่วงปี ๒๕๔๗ ฝนเข้าท�ำงานกับเครือข่ายเด็กและเยาวชนภาคเหนือตอนบน รับหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการลงภาคสนาม หลังจากได้ฝึกงานในองค์กรมาแล้วก่อนหน้านั้นระหว่าง เรยี น สาขาวชิ าการพฒั นาชมุ ชนทเี่ ธอเรยี นกำ� หนดใหน้ กั ศกึ ษาทกุ คนฝกึ งาน ๔ ครง้ั แบง่ สดั สว่ น ระหว่างองค์กรพัฒนาภาครัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน (Non-Governmental Organization ∞21∞9
หรอื NGO) หน่วยงานละ ๑ ครั้ง หลงั จาก “ฝนรู้จักค�ำว่าให้มากขึ้น ตอนเคยท�ำ นั้นอกี ๒ ครัง้ เปดิ ใหน้ ักศึกษาเลือกไดเ้ อง ค่ายก็สนุก ๆ กับเพ่ือน แต่พอมาท�ำงาน ประเดน็ เอดส์ ไดเ้ จอกบั การทำ� งานทเ่ี อาใจใส่ “ปแี รกฝนไปฝึกงานของภาครัฐ ก็ได้ กับชีวิตคนมาก เคยมีเด็กวัยรุ่นท่ีอบรม เสริ ฟ์ กาแฟ ถา่ ยเอกสาร พอปี ๒ ไปฝกึ NGO ตรวจพบวา่ ตดิ เชอื้ เอดส์ อยากฆา่ ตวั ตาย แต่ เครือข่ายด้านเอดส์ ไปวันแรกให้ลงพื้นท่ี พอมาคุยกับเรา ซึ่งคอยให้ก�ำลังใจ แนะน�ำ ได้ขนกระเป๋าไปดอยเลยค่ะ ไปถึงก็ให้น�ำ วิธกี ารไปตรวจตามระยะเวลา ๓ คร้ัง ฝนก็ กระบวนการด้วย ท�ำไม่เป็นก็ถามหัวหน้า ท�ำความเข้าใจว่าศูนย์บริการท่ีเป็นมิตร ฝนท�ำไปถามไปตลอด หัวหน้าคือ พระเต้า ท�ำงานอย่างไร พูดคุยให้เขามีก�ำลังใจเกือบ (กิตติพนั ธ์ กนั จนิ ะ) ตอนนท้ี า่ นไปบวชแล้ว ทุกวัน เพราะเขากลัวว่าเป็นเอดส์แล้วต้อง หวั หนา้ ใจดี ใจเยน็ เกง่ นโยบาย ใหโ้ อกาสเรา ตายเลย ฝนก็ให้ข้อมูลว่ามีทางออกอย่างไร ท�ำงานแบบไม่กลัวงานเสีย จนเราได้เรียนรู้ บา้ ง มียารักษาอยู่ จนเรอ่ื งคลี่คลายเม่ือผล เยอะมาก” ตรวจอีก ๒ คร้ัง ออกมาแลว้ ไมพ่ บเช้อื อีก” การเรียนรู้งานพัฒนาชุมชนที่ได้จาก ความรู้สึกดี ๆ จากการ “ให้” เป็น การฝกึ งานครัง้ นน้ั ทำ� ให้อีก ๒ ครงั้ ทเ่ี หลอื ส่วนหน่ึงของความสุขและความทรงจ�ำท่ีได้ เธอตัดสินใจฝึกงานต่อท่ีเดิม ซึ่งฝนบอกว่า จากการท�ำงานเพ่ือสร้างความตระหนักรู้ให้ เป็นการตัดสินใจที่ดีมากของชีวิต เพราะ กบั เดก็ ๆ และเยาวชนในพน้ื ที่ ๙ จงั หวดั ภาค ท�ำให้มีทกั ษะการท�ำงานดา้ นเพศ เอดส์ ได้ เหนือ กอ่ นทฝ่ี นจะอ�ำลาจากเด็ก ๆ หลังจาก เรียนรู้เร่ืองจิตภายใน การเคารพสิทธิผู้อื่น ท�ำงานในองค์กรมาไดก้ ว่า ๖ ปี ทีต่ ้งั องคก์ ร ภาวะผู้น�ำ การลดอัตตา การใช้ชวี ติ รว่ มกับ เดิมของฝนอยู่ในพ้ืนท่ีโฮงเฮียนสืบสาน ผู้คนทแี่ ตกตา่ งหลากหลาย ∞22∞0
ภูมิปัญญาล้านนา เป็นที่ตั้งเดียวกันกับเครือข่ายการศึกษาทางเลือกภาคเหนือ ซ่ึงดูแลโดย “อ.ชชั -ชัชวาลย์ ทองดเี ลศิ ” ครูการศึกษาทางเลอื ก โอกาสดี ๆ จงึ ตกเปน็ ของเธอ “วนั นั้นเดินคอตกออกมาเจอ อ.ชัช ถามว่าจะไป ไหน เราก็บอกว่าฝนขอลาก่อน จะไปตามทางของฝน ไม่อยแู่ ลว้ ร้องไห้ เขากเ็ รียกคยุ ว่าเปน็ ไงมาไง อ.ชัชก็ เลยว่า งั้นมาท�ำงานกับคนแก่เถอะ ท�ำงานกับเด็กมา เยอะแล้ว ฮื้อลองมาท�ำกับคนแก่ดูซิจะเป็นยังไง เราก็ อยุ้ บ่เอา หนหู นั อ.ชัช ทำ� งานแล้วอิด (เหนอื่ ย) คอื เรา เหน็ อ.ชชั ทำ� งาน ประชมุ กนั อยปู่ ระจำ� ไมร่ เู้ นอ้ื หาหรอก แต่ก็ไมเ่ อา อ.ชชั เลยบอกใหไ้ ปคดิ ๒-๓ วัน” ฝนปฏิเสธงานจาก อ.ชัช และตดั สินใจนอนเล่น อย่บู ้านอีก ๑ เดือน กระทงั่ อ.ชัช ตดิ ตอ่ ใหไ้ ปช่วยบันทกึ การประชุมงานหนง่ึ พร้อมชวนใหม้ า ทำ� โครงการเกยี่ วกบั เดก็ เยาวชนเรอ่ื งภยั พบิ ตั ภิ าคเหนอื จงึ ตดั สนิ ใจตกลงเปน็ อาสาสมคั รโครงการ กบั เงนิ เดอื น ๕,๐๐๐ บาท “ตอนนน้ั ฝนทำ� หนา้ ทช่ี ว่ ยพอี่ อ้ ม (เลขานกุ าร อ.ชชั ) ถา่ ยรปู จดั อาหาร เตรยี มการประชมุ พ่ีอ้อมสอนถอดเทป สอนจับประเด็นหน้าเวที จากน้ันก็เข้ามาอยู่เครือข่ายการศึกษาทางเลือก ภาคเหนือจนถึงวันน้ี เราท�ำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานให้เครือข่ายภาคเหนือมารวมตัวกัน กระจายข่าวและนโยบายดี ๆ ออกไป ทีผ่ ่านมาฝนเรยี นอยู่ในระบบ ไม่เคยเขา้ ใจเร่ืองการศกึ ษา ทางเลือก แต่พอได้เห็นการเรียนรู้ท่ีต่างไปจากในห้องเรียน การท�ำนาปลูกข้าว ท�ำให้เด็ก ชว่ ยเหลือตัวเองเปน็ มีรายได้ และยงั มแี นวคิดทด่ี ีกับชวี ิตของพวกเขาด้วย” ∞22∞1
โอกาสแห่งการอา่ น โอกาสแหง่ ความสขุ “ฝน” เขา้ ท�ำงานกับเครือข่ายการศึกษาทางเลอื กในปี ๒๕๕๔ ทำ� งานกับอาจารย์ชชั วาลย์ ทองดีเลศิ มา ๔ ปี “อ.ชชั ไมเ่ คยบังคับ แต่สอนให้คิดเอง ใหท้ �ำดว้ ยความสุข ออฟฟศิ เราจะอยู่ไหน ทำ� ที่ไหน ยงั ไงก็ได้ ขอให้งานเสรจ็ เปน็ ระบบการท�ำงานท่ี เปลีย่ นกรอบไปจากเดิม ฝน อุ๊ จ๋า ก็ตดิ ตอ่ ผา่ นออนไลน์เป็นหลัก กับ อ.ชัช ก็ใช้ส่ือติดต่อกัน ทุกวันน้ีถ่ายรูปจดหมายเชิญประชุมส่งแบบเรียงกันให้ดู ทางไลน์ให้ อ.ชัช ไม่ต้องเขา้ มาอ่านเอกสารในออฟฟศิ เหมอื นเมือ่ กอ่ นแล้ว เราเปลี่ยนวธิ ีทำ� งาน ∞22∞2
ตามยุคสมยั ใช้งานเครื่องมือตา่ ง ๆ ให้เกดิ ประโยชน”์ เธอบอกวา่ โชคดีท่ีได้ทำ� งานกับอาจารย์ชชั วาลย์ ทองดีเลิศ เพราะได้เห็นภาวะผู้น�ำและ เข้าใจความเปน็ หวั หนา้ ทดี่ ี ใจเยน็ เป็นเหตุเปน็ ผล พรอ้ มใหโ้ อกาสและรับฟังคนอื่น ไมป่ ิดกน้ั ความคดิ ลกู นอ้ งและคนอืน่ ๆ “ทกุ คนในโลกของ อ.ชชั เท่ากนั หมด อ.ชัช ไม่ทะเลาะกบั ใคร ไม่โกธรใคร ถ้าไปเวที ไหนที่เขาทะเลาะกัน อ.ชัช เป็นตัวกลาง เชื่อมให้คนเข้าใจกัน ไม่เคยเห็นหัวหน้าดีขนาดน้ี ฝนวา่ ฝนเจอมาเยอะ ลงพืน้ ท่มี ามาก บางคนเอาแต่ตวั เอง เอาเงินโครงการไปใชก้ ่อนกม็ ี แต่ อ.ชชั ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนนั้ อยา่ งโครงการ สสส. โอนเงนิ มาชา้ อ.ชชั กถ็ ามวา่ เอาเงนิ อ.ชชั ไปกอ่ นไหม หรอื วา่ ไปกินไอตมิ กันไหม เดย๋ี ว อ.ชชั เล้ยี ง (หวั เราะ) ฝนได้ซมึ ซบั ความใจดีของเขามาดว้ ย” ฝนบอกว่า อ.ชัช มอบอิสระในการท�ำงานให้ ไม่น�ำกรอบความคิดหรือวิธีการใด ๆ มาบังคับให้ลงมอื ท�ำ แตเ่ ปดิ ชอ่ งให้เรยี นร้ดู ้วยตวั เอง ไมส่ ่ังการใหท้ ำ� แต่เมือ่ เจอสถานการณ์ท่ี ดูแล้วเกินก�ำลังทีมงาน ก็สง่ มอบข้อมลู ที่เหมาะสมให้เพ่มิ เตมิ คอยดูแลใหค้ ำ� ปรกึ ษาอย่หู า่ ง ๆ ซึ่งฝนเองนำ� อิสระในการท�ำงานรูปแบบดังกล่าวส่งตอ่ ไปยังทีมงานดว้ ยเชน่ กนั “อ. ชชั ผลกั ดนั ให้กลา้ คดิ กลา้ พดู ใหเ้ ปน็ ผ้นู �ำในการแลกเปลยี่ นพดู คยุ ใหอ้ อกไปหน้า เวที ซึง่ ความอิสระทางความคดิ เหล่าน้ี มนั ทำ� ใหส้ ร้างสรรค์ กล้าตดั สนิ ใจ ท�ำใหฝ้ นก็ไมบ่ ังคับ ทีมงานเหมือนกัน เราใช้วิธกี ารคุยกัน ถามความคิดเหน็ แบง่ งาน เช่น การลงพ้นื ท่ีก็ถามไถ่กนั ใครว่าง ไปได้หรือไม่ได้ยงั ไง พดู กนั ตรง ๆ ไดห้ มด เคารพการตดั สินใจกนั ” หรอื แมแ้ ต่ในชว่ งงานเยอะ งานเร่งด่วน ฝนจะเปิดวงหารอื กบั ทีมงานอยา่ ง อุ๊ และ จา๋ เพื่อร่วมกันหาทางออก เช่น จัดหาอาสาสมัครมาเสริมก�ำลังช่ัวคราว รวมทั้งยังจัดหาเวลาไป ∞22∞3
สังสรรค์ พูดคุยกันแบบสบาย ๆ โดยไม่เก่ียวกับงาน เพ่ือเป็นการเช่ือมความสัมพันธ์ในทีม ซ่ึงแม้ว่าบางครั้งทุกคนต้องตกอยู่ในสภาวการณ์อ่อนล้าจากการเผชิญความท้าทายในหน้างาน อยบู่ ้าง แตย่ ังมีความเข้าอกเขา้ ใจกนั และกันของทมี งานเป็นจดุ เชอื่ มประสานการขบั เคลอ่ื นงาน อยู่ดว้ ย “อุ๊ กบั พจี่ า๋ ๒ คนนนั้ บอกทำ� งานอยเู่ พอ่ื ฝน ถา้ ฝนไมห่ ยดุ ทำ� พวกเขาก็ไมห่ ยุด สว่ นฝนท่ีไม่หยุดทำ� เพราะฝนก็ทำ� งานอยู่ เพ่ือ อ.ชัช สว่ น อ.ชัช ก็ท�ำงานอยเู่ พอื่ ทกุ คน (หัวเราะ) อ.ชชั เคยบอกว่า เราท�ำงานเพื่อคนอ่ืน ไม่ได้ท�ำให้ตัวเอง ฝนก็ท�ำ เหมอื น อ.ชชั คอื ทำ� งานใหก้ บั คนอน่ื ๆ อยู่ มนั ยอ้ นกลบั มาตรง ทฝี่ นเคยถามครแู นะแนวตอน ม.ปลายวา่ เรยี นอะไรทมี่ นั ไดช้ ว่ ยคนอน่ื ทกุ วนั น้ี ใชเ่ ลย ฝนไดท้ ำ� งานชว่ ยคนอนื่ แลว้ ” ส่วนการท�ำงานเช่ือมกับเครือข่ายทุกแห่ง เช่น โรงเรยี นชมุ ชนมอวาคี โรงเรยี นโจะ๊ มาโลลือหล่า ฝนเน้น หลักการร่วมงานด้วยความออ่ นน้อมถอ่ มตน จดั หาสงิ่ ดี ๆ มอบใหก้ นั เสมอ ทำ� งานเหมอื นญาตพิ น่ี อ้ ง เชน่ การลงพนื้ ที่ ครั้งหน่ึง ทีมงานจะส�ำรวจจนได้เห็นความต้องการอย่าง หนงั สอื ใหม่ ความรู้ เคร่อื งมือการเรยี นรู้ ทีมงานจะกลับไป หาช่องทางน�ำส่ิงเหล่าน้ันกลับมา ใหใ้ นพน้ื ที่ในเวลาตอ่ มา รวมทง้ั ยงั มกี ารเชอ่ื มความสมั พนั ธอ์ ยา่ งตอ่ เนอื่ งผา่ นกจิ กรรม ประเพณี วฒั นธรรมชมุ ชน “เราไม่ใชม่ าเป็นเจ้าของ แตม่ าเลน่ สนุก ๆ กับเด็ก ไมไ่ ด้ทำ� ตวั เป็นแหล่งทนุ แต่เปน็ พี่ เป็นน้อง” ∞22∞4
“เครือข่ายท่ีอยู่ด้วยกัน คือ องค์กรที่สมัครใจ อยากทำ� จรงิ ๆ” กว่า ๑๐ ปีในการท�ำงานพัฒนาสังคมภาค ประชาชน “ฝน-มะลวิ รรณ” บอกว่า คณุ คา่ ท่ีไดร้ บั น้ัน ยง่ิ ใหญก่ วา่ ทรพั ยส์ นิ นน่ั คอื คณุ คา่ ทางใจของการสรา้ ง ส่ิงทดี่ ี ๆ ใหก้ ับเดก็ ๆ เยาวชน ผูค้ น และชุมชน “มนั เปน็ ความสขุ ที่ไดเ้ หน็ คนอน่ื มคี วามสขุ ฝนไป ลงพนื้ ทกี่ เ็ อาขนม ตกุ๊ ตา หนงั สอื ตดิ ไปฝากเดก็ ๆ ตลอด ไปอ่านหนังสือให้ฟัง เด็ก ๆ ก็มารุมนั่งรอฟังนิทาน เห็นเด็กยิ้ม หัวเราะ ดีใจ แล้วก็มีความสุขที่ได้เห็น ธรรมชาติ ภูเขา ต้นไมจ้ ริง ๆ แล้วก็ได้เห็นวฒั นธรรม ใหม่ การเปน็ อยู่ อาหารการกนิ ซง่ึ มนั ทำ� ใหเ้ ราไดเ้ รยี นรู้ เขา้ ใจวถิ ขี องชมุ ชนท่ีแตกตา่ ง” จากเป้าหมายแรกที่ลงเรียนพัฒนาชุมชนเพ่ือได้ ทำ� งานขนึ้ ดอยขึ้นภูเขาของ “ฝน เชยี งใหมอ่ า่ น” วันนี้ เธอบอกวา่ สงิ่ ทเี่ กดิ ขน้ึ ดเี กนิ ความคาดหวงั เดมิ เยอะมาก เกิดเป็นประสบการณ์ท่ีดี จากความสุขกับการท่ีได้อยู่ กับเด็ก ๆ จากความสุขกับการเป็นผู้ให้ จากความสุข ของการไดเ้ รียนรู้พืน้ ท่หี ลากวัฒนธรรม “เป็นความสุขอีกแบบที่ได้ซึมซับธรรมชาติ ∞22∞5
วัฒนธรรม น้�ำใจของผู้คน ได้เห็นแววตา สร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในชุมชน อิ่มสุขของเด็ก ๆ เป็นสัมพันธภาพที่ดีของ ท่ีค่อย ๆ เติบโตขยายพื้นท่ีรณรงค์ไปแล้ว การเป็นมนุษย์ ฝนดีใจท่ีได้ท�ำงานนี้ มันมี ๘ อำ� เภอในจังหวัดเชียงใหม่ คุณค่ากับชีวิตมากที่ได้เรียนรู้ชีวิตและช่วย เหลือผู้คนไปด้วยแบบนี้ ไดเ้ ดินทางเจอโลก “เชียงใหม่อ่าน” กลายเป็นส่วนหนึ่ง กวา้ งเยอะมาก จนมเี พ่ือน ๆ บางคนถามฝน ของชีวิตฝน ทุกเช้าตื่นมาเปิดเฟซบุ๊ก ว่าทำ� ยงั ไงจะได้มาบนดอยเหมอื นฝน คดิ หัว เชียงใหมอ่ ่าน ตดิ ตามขา่ วสารชาวเชยี งใหม่ เท่าไร (หัวเราะ) เรากย็ อ้ นคิดนะ เออ ใช่ อ่าน พดู คยุ กบั คนที่รจู้ กั อยแู่ ลว้ หรอื คยุ กบั เพ่ือน ๆ บางคนได้แต่ท�ำงานอยู่ในห้อง เพื่อนใหม่ซึ่งมาชวนท�ำกิจกรรมในพื้นท่ี ส่ีเหลีย่ มทกุ วนั ฉะนั้น เราโชคดีมาก ๆ ทไี่ ด้ อยากบรจิ าคหนงั สอื อยากไดห้ นงั สอื บรจิ าค ท�ำงานท่ามกลางธรรมชาติ อากาศบรสิ ทุ ธ์ิ อยากท�ำกิจกรรมกับเชียงใหม่อ่าน และ บนดอยไดบ้ อ่ ยมาก ๆ” เรอ่ื งอน่ื ๆ อกี มากมาย จากนนั้ ตลอด ๒ ปกี ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่กับกิจกรรมเกี่ยวกับการ ดว้ ยพลงั จากธรรมชาตแิ ละการเดนิ ทาง อา่ นทกุ วัน อ่านหนงั สอื ทกุ วนั คดิ และพดู คยุ การทำ� งานชว่ ยเหลอื ของ “ฝน เชยี งใหมอ่ า่ น” เกย่ี วกับการอา่ นทุกวนั จึงขับเคล่ือนไปด้วยความสุขใจ ภายใต้การ เรียนรู้ผ่านการท�ำงานทุกจังหวะของชีวิตกับ เม่ือ “เชียงใหม่อ่าน” เป็นส่วนหน่ึง หวั หนา้ งานที่ใชแ่ ละทมี งานทชี่ อบ กบั บทบาท ของชีวิตฝนไปแล้ว ย่อมไม่ใช่เร่ืองแปลกท่ี การเชื่อมประสานให้เครือข่ายได้รู้จักและ หลาย ๆ คนเรยี กเธอวา่ “ฝน เชยี งใหมอ่ า่ น” พัฒนาพื้นท่ีของตนเองไปด้วยกัน ไม่ว่าจะ คนทกี่ ำ� ลังจับมอื เพื่อน ๆ เครอื ขา่ ยร่วมกัน เป็นงานด้านการศึกษาทางเลือก หรืองาน ผลักดันเชียงใหม่ให้เป็น “มหานครแห่ง การอา่ น” ∞22∞6
= Growth Mindset = - ท�ำงานเพอื่ ชว่ ยเหลอื คน ชมุ ชนก็พฒั นา - คนทุกคนมีศกั ยภาพในตวั เอง - ถอดบทเรียนการทำ� งานสร้างการเปลยี่ นแปลงทีด่ ีขึน้ - สร้างการเปลยี่ นแปลงต้องมีพน้ื ท่ีท�ำงาน สอื่ สารกับสังคม เช่ือมโยงกับนโยบาย - การส่ือสารสรา้ งแรงเหว่ียงในการเปลยี่ นแปลงสงั คมได้ - การกลา้ ตัดสนิ ใจ คือบทเรยี นสคู่ วามสำ� เรจ็ - มีหลายชอ่ งทางใหเ้ ลอื กเดนิ ไปยงั เปา้ หมายเสมอ - มอบความไวว้ างใจใหก้ บั ทมี งาน สร้างผลลัพธท์ ่มี ปี ระสิทธิภาพ - ดูแลรกั ษาเครือข่ายให้เหมอื นญาติพี่นอ้ ง ∞22∞7
สนบั สนนุ กจิ กรรมสร้างเครือขา่ ยร่วมงานการอา่ นระดับพ้นื ท่ี จำ� นวน ๑๑ องคก์ ร ประกอบด้วย - โฮงเฮยี นสบื สานภมู ปิ ญั ญาลา้ นนา - สถาบนั ฝึกอบรมเพือ่ การจัดการตัวเอง TISM - โรงเรยี นชุมชนมอวาคี - ศูนยก์ ารเรียนรโู้ จ๊ะมาโลลือหล่า โรงเรยี นวิถีชวี ติ ชมุ ชนปกาเกอะญอ - เครือขา่ ยเชียงใหม่ เขยี ว สวย หอม - กลมุ่ บ้านใหม่สามคั คี เชยี งดาว - โรงเรียนสาธติ ชุมชนอำ� เภอการเรียนรู้สมเดจ็ ยา่ อำ� เภอแม่แจ่ม - สโมสรนักเขียนเชยี งใหม่ - เครอื ขา่ ยบ้านเรยี นลา้ นนา - หอ้ งสมดุ พ้นื บา้ นยา่ นเวยี งเชียงใหม่ - ร้านเล่า เชียงใหม่ ∞22∞8
สว่ นหนึง่ ของกจิ กรรมรณรงค์ “เชยี งใหม่อ่าน” One book One bath : เป็นกิจกรรมเพือ่ การรณรงคจ์ ดั ขายหนงั สอื ๑ เลม่ ๑ บาท เรมิ่ ต้นกิจกรรมในปี ๒๕๕๗ ภายใน ตวั เมอื งเชียงใหม่ จากนั้นในปี ๒๕๕๘ ขยายพืน้ ที่จดั กิจกรรมไปสู่ พน้ื ทต่ี า่ ง ๆ รวม ๘ อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอเมอื ง สะเมงิ แมแ่ จม่ แมร่ มิ สารภี เชยี งดาว หางดง และแมว่ าง ทำ� ใหเ้ กดิ การกระจายโอกาสเขา้ ถึง หนังสอื สคู่ นกลุ่มต่าง ๆ อยา่ งท่วั ถึงมากยงิ่ ขน้ึ ผา้ ปา่ แบ่งฝนั ปันหนังสือ : เป็นกิจกรรมเสวนาเพือ่ แบง่ ปนั ความรูจ้ ากหนังสอื ในดวงใจของ แตล่ ะคน สอื่ สารเปา้ หมายของเชยี งใหมอ่ า่ น เชอ่ื มเครอื ขา่ ยใหมแ่ ละเครอื ขา่ ยเกา่ ทรี่ กั การอา่ นเขา้ มา รว่ มพดู คยุ จัดกิจกรรมส่งเสรมิ การอ่าน เล่านทิ าน แลกเปล่ียน-ระดมหนังสอื ฉายภาพยนตร์เกยี่ วกับ หนังสือ น�ำหนงั สือที่ได้จากงานสง่ มอบให้เครอื ข่ายทีต่ ้องการ เดก็ อยากอา่ น ผใู้ หญอ่ ยากให้ : เปน็ กิจกรรมสนบั สนนุ การส่งมอบหนงั สือดี ๆ ทีเ่ ดก็ ๆ อยากอา่ น แตข่ าดโอกาสในการซอ้ื เปน็ เจา้ ของ โดยเดก็ เสนอความตอ้ งการหนงั สอื ทอ่ี ยากอา่ นของตน ท้ังในเฟซบุก๊ และกจิ กรรมโครงการฯ ในพนื้ ท่ี จากนัน้ ผใู้ หญ่ใจดีทีส่ นใจอยากมอบหนังสอื ดี ๆ ใหเ้ ดก็ บรจิ าคเงนิ ทนุ หรอื หนงั สอื เลม่ ดงั กลา่ วใหแ้ กเ่ ดก็ ๆ ทอี่ ยากได้ โดยมโี ครงการสนบั สนนุ ดา้ นการจดั การ มหกรรมเชยี งใหมอ่ า่ น : เปน็ กจิ กรรมครงั้ ใหญป่ ระจำ� ปขี องโครงการเชยี งใหมอ่ า่ น มเี ปา้ หมาย ท้ังเพ่ือการรณรงค์สร้างกระแสและผลักดันในเชิงนโยบายร่วมด้วย เช่น การร่วมขับเคลื่อนงานกับ อบจ.เชียงใหม่ พร้อมกับเป้าหมายเพิ่มภาคีเพื่อขับเคล่ือนการปฏิรูปการศึกษา มีการชวนภาคี การศกึ ษากวา่ ๘๐ หน่วยงาน เพือ่ วางเปา้ หมายการขบั เคลือ่ นมหกรรมเชียงใหม่อ่านและพัฒนาเปน็ “เชียงใหมน่ ครแห่งการอ่าน” ร่วมกนั ต่อไป ∞22∞9
“การรว่ มเปน็ เครอื ขา่ ยเชยี งใหมอ่ า่ น แลว้ มาทำ� กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่าน พี่สอนน้องในโรงเรียน ท�ำให้รู้ว่าเด็ก ๆ ควรจะอ่านหนังสือ อะไร แบบไหนถึงจะเหมาะสมกับวยั ท�ำให้เราหนั มาจัดสรรเวลาให้เด็ก อ่านหนังสอื เพ่มิ ข้ึนจากเดิม เราเหน็ วา่ พฤติกรรมของเดก็ ๆ ทีไ่ ดเ้ รยี น รูจ้ ากการอา่ นทงั้ พแี่ ละนอ้ งเปล่ียนไป ได้เหน็ เดก็ ๆ กล้าคดิ กล้าพดู และมจี นิ ตนาการมากข้นึ ” บุญชัย นิรชุ ากุล ครูโรงเรียนมอวาคี อ�ำเภอแมว่ าง จงั หวัดเชียงใหม่ “จดุ เดน่ ของเชยี งใหมอ่ า่ นในมมุ ของผม คอื การเสรมิ พลงั เครอื ขา่ ย การสรา้ งพนื้ ทแี่ ละโอกาสมาเจอกนั สกั ๒-๓ เดอื น ไดม้ าทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั มองผา่ น ๆ เหมอื นจดั กจิ กรรมจบกจ็ บไป แตส่ ง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จรงิ คอื เปน็ สว่ น ทเ่ี ติมพลังให้เครือข่ายได้ดี รู้สึกว่าตัวเองมีพลังมากขึ้นทุกกิจกรรมที่ได้ เจอกัน ยงิ่ เครือข่ายเยอะก็ยิง่ มีกิจกรรมเยอะขึน้ ชอบกิจกรรม One book One bath สนุก คึกคัก อบอุ่น มกี ำ� ลงั ใจ เหน็ สิ่งดี ๆ มคี วามหวัง สมั ผัสได้ถึงพลังของหนังสือและการอา่ น พอเรามีพลังก็เต็มทกี่ ับการคดิ และ เคล่ือนงาน ไดท้ ำ� งานสง่ เสริมการอา่ นก็สนุกกับการอ่านและค้นคว้ามากขึ้นอกี มีแรงบันดาลใจอยาก เขยี นหนังสือดี ๆ ใหค้ นอา่ น” เสย-องอาจ ฤทธป์ิ รีชา สโมสรนักเขียนเชยี งใหม่ ผ้ดู ูแลคอลัมน์ล้านนานครการอ่าน หนังสือไทยนวิ ส์ ∞23∞0
“ไดเ้ รยี นรกู้ บั กลมุ่ เครอื ขา่ ยทส่ี ง่ เสรมิ การอา่ นทห่ี ลากหลาย เห็นเทคนิคต่าง ๆ มกี ารพฒั นากระบวนการของตนเอง ทกั ษะการ ทำ� งานปรบั ใหส้ อดคลอ้ งกบั งานทท่ี ำ� อยู่ อกี ทง้ั เขา้ ใจการทำ� งานของ พนื้ ท่แี ละเหน็ ความสำ� คญั วา่ การอา่ นสร้างคนไดจ้ ริง” ฝน-มะลิวรรณ มาผาบ ผปู้ ระสานงานเชยี งใหม่อ่าน เครอื ข่ายการศกึ ษาทางเลอื กภาคเหนอื ∞23∞1
บทสมั ภาษณพ์ ิเศษ ครูนดิ -อรพนิ ท์ กุศลรุ่งรตั น์ ผูอ้ �ำนวยการศนู ย์การเรยี นรู้โจ๊ะมาโลลอื หลา่ โรงเรยี นวถิ ชี ีวติ ชมุ ชนปกาเกอะญอ บ้านสบลาน อ�ำเภอสะเมงิ จังหวัดเชยี งใหม่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) คนส�ำคัญท่ีมีส่วนสนับสนุนในการขับเคลื่อนสร้างเสริม วัฒนธรรมการอา่ น “ครนู ดิ ” นำ� ประสบการณก์ ารเป็นครปู ระจ�ำชั้น เ ด็ ก พิ เ ศ ษ ค ล ะ ชั้ น ที่ โ ร ง เ รี ย น รุ ่ ง อ รุ ณ เ ป ็ น เ ว ลา นั บ ๑๐ ปี มาพฒั นาการเรยี นการสอนของโรงเรยี นวถิ ชี วี ติ ชมุ ชนปกาเกอะญอ ใหเ้ ดก็ ๆ ไดม้ คี วามรคู้ วามสามารถ ตามวถิ ีชวี ติ และวชิ าแกนตามหลักสตู รของ สพฐ. “เรามาจากตา่ งวฒั นธรรม ส่ิงทีค่ ดิ คือ ทำ� อย่างไร ใหท้ ง้ั ๒ วฒั นธรรม ผสานกนั แลว้ เกดิ ประโยชนก์ บั ทกุ ฝา่ ย ตัวเราต้องเคารพในแนวทางของเขา เห็นความงดงาม ในความตา่ ง เราต่างต้องทบทวนกับตวั เอง ใครค่ รวญกบั ตวั เอง เปดิ หวั ใจ ศกึ ษาไปใหถ้ งึ แกน่ ของมนั วา่ สง่ิ ทเี่ รากำ� ลงั ทำ� คอื อะไร สร้างผลประโยชนต์ ่อใครอย่างไร คดิ ทวนไปวา่ มันจะเกิดโทษอะไร และถ้ามโี ทษจะแก้ไข อยา่ งไร” ∞23∞2
การร่วมเปน็ เครอื ข่ายเชียงใหม่อ่าน ก่อใหเ้ กิดการเปล่ยี นแปลงอย่างไร “ตอนนี้ได้เห็นวาระการอ่านอยู่ในวิถีชีวิตชัดเจน เห็นภาพกระบวนการท่ีใช้วาระการอ่านเพ่ือ พัฒนาคน ท�ำใหก้ ารอ่านเข้าไปอย่ใู นวิถีชีวติ วัฒนธรรมของเดก็ และคนในชุมชนมากขึน้ มชี อ่ งทางใน การแลกเปลีย่ นเรียนรู้และสรา้ งโอกาสแหง่ การแลกเปลีย่ นเรียนรทู้ ั้งในและนอกชุมชนไดม้ ากข้ึน ในชุมชนมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่สนุกและชอบมาก คือ การท�ำกิจกรรมกับน้อง ๆ ในชมุ ชน ผลติ สอ่ื อา่ นหนงั สอื นทิ านใหน้ อ้ งฟงั ทงั้ ทโี่ รงเรยี นและในบา้ น ซง่ึ ทำ� ใหไ้ ดพ้ ฒั นาศกั ยภาพใน การเรยี นรขู้ องทงั้ ตวั พแ่ี ละนอ้ ง พรอ้ มกบั สานความสมั พนั ธข์ องพนี่ อ้ ง ครอบครวั พอ่ แม่ ลกู มนั สะทอ้ น ให้เหน็ สังคมแหง่ การเรยี นรู้ท่ยี ัง่ ยนื ต่อไปในอนาคต เห็นเยาวชนเป็นพลังสงั คมและชมุ ชน” รปู แบบของโรงเรยี นวถิ ชี วี ิตชมุ ชนเปน็ อย่างไร “โรงเรียนชุมชนจะเปน็ รปู แบบไหนก็ได้ เพยี งแตโ่ รงเรยี นต้องสอดคลอ้ งกับวถิ ีชีวิต กบั บริบท วัฒนธรรมของชุมชน ต้องสร้างส่ิงดีให้ชุมชน และแก้ปัญหาของชุมชน และต้องไม่ใช่การศึกษาที่ จบั ไปยดั ใสแ่ ละกลบั มาทำ� ลายชมุ ชน กอ่ นหนา้ นเี้ ราเหน็ ปญั หาการศกึ ษาทเ่ี ขา้ ไปทำ� ลายชมุ ชน เขา้ ไป ท�ำลายภูมิปัญญา ท�ำให้ชุมชนล่มสลาย เราเห็นการศึกษาฆ่าคน แต่วันนี้เราอยากเห็นการศึกษา ชว่ ยคน ซงึ่ ต้องท�ำใหช้ มุ ชนปลดล็อกอันนี้และสามารถยืนข้นึ มาได้ ตามวตั ถปุ ระสงคค์ อื สรา้ งคนตาม วิถีชวี ติ ของเขา และการเรยี นรคู้ วรจะเชอ่ื มโยงไดต้ ามมาตรฐานของกระทรวงศกึ ษา หรอื อาจจะดกี วา่ มาตรฐาน ก็ได้ มาตรฐานกค็ อื คณุ ภาพของเด็ก ซึง่ สง่ ผลถงึ คณุ ภาพชุมชน และคณุ ภาพของชมุ ชนกส็ ง่ ผลไปยงั คณุ ภาพของประเทศดว้ ย” ∞23∞3
ความเชอื่ มโยงของการเรยี นรู้และวถิ ีชุมชนเปน็ อยา่ งไร “วธิ กี ารทำ� งานกบั ชมุ ชนของเรา มงุ่ สรา้ งสงั คมแบบใหม่ ไมม่ กี ารเอาวตั ถไุ ปใหห้ รอื นงั่ ดม่ื เหลา้ กันเพ่ือสร้างความสัมพันธ์ เราท�ำงานบนพื้นฐานการสื่อสารตรงไปตรงมา ไม่ต้องเอาใจชุมชน แต่ลงมอื ท�ำงานให้เหน็ ซง่ึ สังคมแบบนจ้ี ะอยู่ได้ดว้ ยสมรรถภาพทางใจ คือ ใจถึงใจ ต่างฝ่ายตา่ งเหน็ คุณค่าซงึ่ กันและกัน เปน็ การทำ� งานทไ่ี มเ่ รง่ รดั ในผล เปรยี บเหมอื นน้�ำซับ (เป็นการไหลของนำ้� ใตด้ นิ ที่ตดั กับผวิ ดนิ โดยธรรมชาต)ิ คอ่ ย ๆ ซึมเข้ามาแล้วคอ่ ย ๆ ไหลไปเปน็ แม่น�ำ้ ซงึ่ กว่าจะเป็นแมน่ ำ�้ นั้น จะเก็บนำ้� ไว้จนอิ่มแลว้ จึงล้นออกมาเล้ยี งผู้คนอื่น ๆ ตอ่ ไป ครูเป็นสะพานเช่ือมระหว่างชุมชนกับสังคมเมือง ท่ีน�ำองค์ความรู้ใหม่ซ่ึงสามารถผสานกับ ชุดเดิมได้ ภายใต้วัตถุประสงคเ์ พ่อื นำ� ไปสูก่ ารพัฒนาทีย่ ัง่ ยืน เปน็ มิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม ท้ังคนและสัตว์ ตอ้ งหาขอ้ มลู ตลอดอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ลงมอื ทำ� และคน้ ควา้ ไปพรอ้ มกนั เจอปญั หาเมอื่ ไรกเ็ รยี นรแู้ ลว้ จดั การมนั ความจรงิ ของจริง สถานการณจ์ รงิ นำ� เราไปสู่การเรียนรทู้ ุกชอ่ งทาง ตัวหลักสตู รการเรยี นรู้ ของโรงเรยี นวถิ ีชีวิตชุมชนไม่ได้มหี วั ใจอยทู่ ่ีการประกอบอาชีพ ทุกคนประกอบอาชพี อะไรก็ไดต้ ามที่ อยากท�ำ แตห่ ัวใจของหลักสูตร คือ ส่งเสริมใหค้ นคนนน้ั เปน็ คนท่มี คี ณุ คา่ ของครอบครัว ชมุ ชน และ สงั คม” ∞23∞4
อา่ นสร้างสุข ธนชิ า ธนะสาร
หัวใจ ชมุ ชน คนพัฒนา : หล้า เพียงพอดี พัฒนาคน = พฒั นาชุมชน ดอนแกว้ ต�ำบลแห่งการอ่าน “หัวใจของการทำ� งานชมุ ชน คือ ใจ เราตอ้ งใหใ้ จกับชุมชน” “หลา้ -ธนิชา ธนะสาร” กลุ่มเพยี งพอดี กล่าว ประโยคสั้น ๆ น้ีไวใ้ นฐานะของคนที่ทุ่มเทท�ำงานเพ่ือ ชมุ ชนมายาวนาน เร่มิ ตง้ั แต่สวมหมวกนักพัฒนาสงั คม ในองค์กรพัฒนาเอกชน (Non-Governmental Organization หรอื NGO) จนกระทงั่ วนั นภ้ี ายใตห้ มวก คนทำ� งานพฒั นาสงั คมของภาครฐั เพม่ิ ขน้ึ อกี ใบหนงึ่ ใน ฐานะผูใ้ หญ่บา้ น หมู่ที่ ๑๐ บา้ นพระเจา้ นั่งโก๋น ตำ� บล ดอนแกว้ อ�ำเภอแมร่ มิ จงั หวดั เชยี งใหม่
“หลา้ -ธนชิ า” หรอื ที่ใคร ๆ กเ็ รยี กกนั เพราะเป็น NGO ว่า “ป๋าหล้า” ก่อต้ังกลุ่มเพียงพอดีต้ังแต่ปี ๒๕๕๐ รวมกลุ่มคนท่ีมีจิตอาสาร่วมท�ำงาน มีผู้ปกครองเคยกังวลว่า “หล้า” ขับเคลื่อนประเด็นพัฒนาสังคมต่าง ๆ ใน จะชวนลูกหลานไปประท้วง ชุมชนต�ำบลดอนแก้ว อ�ำเภอแม่ริม จังหวัด เชียงใหม่ ท�ำงานกับกลุ่มเยาวชนเร่ิมด้วย ในขณะที่มุ่งท�ำงาน ชวนเด็กและ ประเดน็ สง่ิ แวดลอ้ ม เนน้ เรอ่ื งการจดั การขยะ เยาวชนมาร่วมพัฒนาชุมชนไปด้วยกัน ในชุมชน จากน้ันเร่ิมท�ำงานตามเป้าหมาย มีหลายเสียงไมย่ อมรับเกดิ ขึน้ ดว้ ยการสวม พัฒนาแกนน�ำชมุ ชนตามประเดน็ ทีต่ ัง้ ไว้ คือ หมวก NGO ที่ใครหลายคนในยุคสมัยหน่ึง เยาวชนกับสิ่งแวดลอ้ ม สขุ ภาพผู้หญิง และ ไมเ่ ขา้ ใจ รวมถึง “หลา้ -ธนชิ า” ก็ไม่ใช่คนที่ เกษตรปลอดสารพิษ อาศัยอยู่ที่ต�ำบลดอนแก้วต้ังแต่ก�ำเนิด แต่ เพง่ิ มาฝากเนอื้ ฝากตวั เปน็ คนแมร่ มิ ไดใ้ นชว่ ง กลุม่ เพียงพอดีเป็น ๑ ใน ๑๑ ภาคี ๑๐ กว่าปีนี้เอง การยอมรับให้เปน็ ผนู้ �ำการ เครือข่ายขับเคล่ือนงานส่งเสริมวัฒนธรรม พฒั นาชุมชนในยคุ หนงึ่ จงึ ค่อนข้างไมง่ ่ายนัก การอา่ นในชมุ ชน ทำ� งานสง่ เสริมวัฒนธรรม การอ่านร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข ปี ๒๕๕๑ จึงตัดสินใจลงสมัครรับ ประจ�ำหมู่บ้าน (อสม.) ในพ้ืนท่ีต�ำบล เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล ดอนแก้ว และโรงเรียนระดับประถมศึกษา ดอนแกว้ (ส.อบต.) เพอ่ื เพม่ิ หมวกสำ� หรบั การ และมธั ยมศึกษา ท�ำงานเพ่ือชุมชนให้เป็นที่เช่ือถือและเข้าใจ มากขึ้น แต่สอบตก แพ้ไป ๙ คะแนน มคี นเคยพูดกนั ในชมุ ชนวา่ อย่าใหล้ กู หลานไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มเพียงพอดี แมว้ า่ จะสอบตกในครั้งนน้ั แต่ปา๋ หล้า ยงั คงตงั้ หนา้ ทำ� กจิ กรรมโครงการเพอื่ พฒั นา ชมุ ชนตอ่ เนอ่ื ง ∞23∞7
กระทง่ั ปี ๒๕๕๔ เขาตดั สนิ ใจลงสมคั รเลอื กตง้ั เปน็ ผใู้ หญบ่ า้ น ผลการเลอื กตงั้ ออกมาชนะ ทำ� ใหไ้ ด้สวมหมวก “พอ่ หลวงหลา้ ” ของชมุ ชนต้ังแตน่ ั้น ในปีเดียวกันนัน้ เอง กลมุ่ เพยี งพอดีได้เรมิ่ ตน้ ทำ� งานสง่ เสรมิ วัฒนธรรมการอา่ นในชมุ ชน เร่ิมกลไกขับเคล่ือนรณรงค์โดย อสม. สาขาแม่และเด็ก ซึ่งถือว่าเป็นแม่คนที่ ๒ ของเด็ก ๆ ในชุมชน “ใช้หนงั สือเลม่ แรก เทคนคิ การเล่านทิ าน ทำ� กบั กลมุ่ อสม. เนน้ ไปท่เี ด็ก ๆ แรกเกิดถึง ๓ ปี รว่ มกับศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) ตอนนั้นมีกิจกรรมพฒั นาศักยภาพครู ศพด. และ อสม. มกี จิ กรรมตะกรา้ ปัญญา คือการจัดหนังสือใสต่ ะกรา้ เอาไปไว้ในชุมชน” กระทั่งเข้าสูป่ ี ๒๕๕๕ จึงไดม้ กี ารพัฒนาศกั ยภาพ อสม. เพม่ิ เติมดา้ นการเปน็ วทิ ยากร ส่งเสริมการอ่านในชุมชน มีการผลิตหนังสือท�ำมือ เพิ่มทักษะการอ่านหนังสือ การใช้เสียง การท�ำงานเปน็ ทีม ไดม้ โี อกาสลงปฏิบัตงิ านจรงิ จัดกระบวนการเรียนร้ใู ห้โดยองค์กรเครือข่าย ∞23∞8
ด้านการอา่ น กลุ่มละครมะขามปอ้ ม เชยี งดาว กระทั่งผู้เขา้ รว่ มอบรมมองเหน็ คณุ ค่าในตนเอง เริม่ พฒั นาตนเอง จนเร่มิ สนุกกับการเปน็ อาสาสมคั รดา้ นสง่ เสรมิ การอ่านในชมุ ชน “ถา้ คนไดร้ บั การพฒั นา ชุมชนกพ็ ฒั นาตามไปดว้ ย” วฒั นธรรมการอา่ นต�ำบลดอนแกว้ ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๒ มกี ลมุ่ เยาวชนกับสง่ิ แวดลอ้ มท�ำกจิ กรรมปัน่ จักรยานเก็บขยะในชุมชน เมอ่ื ทำ� งานไประยะหน่งึ ได้คน้ พบวา่ แกนน�ำอาสาสมคั รยงั ขาดความม่นั ใจ ไมก่ ลา้ แสดงออกใน การแลกเปลีย่ นและแนะน�ำขอ้ มูลต่าง ๆ จงึ เกิดกจิ กรรมพฒั นาศกั ยภาพแกนน�ำหลาย ๆ ด้าน เพิ่มเติม เช่น การพูดในทปี่ ระชมุ ข้อมลู ความรู้เรื่องเพศและเอดส์ การทำ� งานเป็นทมี รวมท้ัง การไปร่วมประชุมในเวทตี า่ ง ๆ เพอ่ื เสริมความรู้ ก่อนทีจ่ ะเข้าสูก่ ระบวนการขยบั งานดา้ นการ สง่ เสรมิ การอา่ นในต�ำบลดอนแก้ว กลมุ่ เพยี งพอดที ำ� งานดว้ ยแนวคดิ มงุ่ พฒั นาศกั ยภาพคน เชน่ แกนนำ� ชมุ ชน แกนนำ� เยาวชน ผู้เข้าร่วมโครงการ หรือคนในชุมชน เนื่องจากเมื่อมีการพัฒนาศักยภาพคนในชุมชน แกนน�ำ ชุมชนจะสามารถรว่ มคดิ และขยบั งานพฒั นาในชมุ ชนไดเ้ อง ดังนนั้ กิจกรรมการทำ� งานเกบ็ ขยะของกลมุ่ เพยี งพอดนี ้นั ไม่ใชเ่ พียงแคก่ ารเก็บขยะ แต่ ยงั หมายรวมถงึ การปรบั ทศั นคติ ความรสู้ กึ ความคดิ แลกเปลย่ี นมมุ มองของคนเขา้ รว่ มกจิ กรรม โดยเฉพาะการใช้ “ตวั เองเปน็ สอื่ ” สรา้ งความเขา้ ใจและมสี ว่ นรว่ มในประเดน็ ทข่ี บั เคลอ่ื นรว่ มกนั เชน่ เดยี วกบั ตวั ของ “ปา๋ หลา้ ” ท่ีใชต้ วั เองเปน็ สอื่ ในการสรา้ งความตระหนกั รใู้ นชมุ ชนเชน่ กนั ∞23∞9
การทำ� งานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นในตำ� บลดอนแกว้ มอี งคก์ รชมุ ชนทเ่ี กย่ี วขอ้ ง คอื องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลดอนแกว้ (อบต.ดอนแกว้ ) โรงพยาบาลชมุ ชนดอนแกว้ ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ และโรงเรยี นสงั กดั อบต.ดอนแกว้ และ อบจ.เชยี งใหม่ ซงึ่ เชอ่ื มโยงกนั ดว้ ยกจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นที่หลากหลาย เชน่ ตะกร้าปญั ญาในโรงเรียน มกี ล่มุ เปา้ หมายเปน็ เดก็ ๆ อนุบาล ๓-๖ ปี และเด็กประถมศึกษา ๖-๑๒ ปี โดยเลือกซ้ือหนังสือท่ีเด็กชอบ หนังสือประกอบการสอน หนงั สืออา่ นเพ่มิ เตมิ นอกเวลา แลว้ น�ำมาใส่ในตะกร้า ทำ� เป็นหอ้ งสมดุ เคลือ่ นท่ี “ตะกร้าส�ำหรับเราเป็นเคร่ืองมือน�ำเหย่ือ ไปล่อปลา หมายความว่า เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ สามารถเลือกอ่านหนังสือได้โดยไม่เข้าห้องสมุด แคเ่ ห็นหนงั สอื ในตะกร้า เด็ก ๆ ก็มีความสขุ และ ตื่นเต้นแล้ว และเน้ือหาท่ีสนุกของหนังสือจะ น�ำพาเดก็ ๆ ไปยงั ห้องสมุดในครัง้ ตอ่ ไปเอง” สว่ นกจิ กรรมตอ่ มาคือ อสม. แมค่ นที่ ๒ สอนน้องอ่าน ด้วยการน�ำตะกร้าปัญญาลงสู่ ชุมชน กับกลุม่ เปา้ หมายเดก็ แรกเกิด - ๓ ปี มีการลงเย่ยี มบ้านเด็กแรกเกิด มอบตะกรา้ หนงั สอื เป็นของขวัญ มีการบูรณาการการท�ำงานร่วมกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กท่ีดูแลเด็กกลุ่มน้ีด้วย ถอื เปน็ การปลกู ฝงั การรกั การอา่ นจากแมส่ ลู่ กู ซง่ึ เปน็ พน้ื ทกี่ ารสง่ เสรมิ วฒั นธรรมการอา่ น ตะกรา้ ปญั ญาสำ� หรบั แมแ่ ละเดก็ นน้ั ทำ� ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ครอบครวั มาก เวลาแมเ่ ลย้ี งลกู ทบ่ี า้ น แมจ่ ะ อา่ นหนงั สือกลอ่ มลกู นอน ได้ฝกึ สมาธิ การอา่ นช่วยส่งเสรมิ พฒั นาการท่ดี ีแก่เด็ก “และอีกกจิ กรรมทท่ี ำ� กบั เยาวชนและคนในชมุ ชนดว้ ย คือ ขยะสร้างปัญญา เปน็ การน�ำ ∞24∞0
ขยะมาแลกกับหนังสือ เพราะเป็นช่องทางหนึ่งในการท�ำให้ขยะ หมดไปจากชมุ ชน สรา้ งจติ สำ� นกึ ทด่ี ี เราจะจดั ซอื้ หนงั สอื ทเ่ี ดก็ ชอบเตรียมไวใ้ หเ้ ด็กนำ� ขยะมาแลกกบั หนงั สือ ๑ เลม่ ขยะ ท่นี ำ� มากม็ ีการคัดแยกขยะมาด้วย ซงึ่ เม่ือเด็ก ๆ ไดห้ นงั สอื ไปแล้ว เขาจะมีความภาคภูมิใจและหวงแหนหนังสือมาก เพราะเป็นส่ิงท่ีหาได้มาดว้ ยตัวเอง” เป้าหมายล่าสุดของกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในต�ำบล ดอนแก้ว คือ มีการด�ำเนินกิจกรรมภายใต้ ๓ ภารกิจหลัก คือ ธนาคารหนงั สอื พนื้ ทสี่ ง่ เสรมิ การอา่ น และกองทนุ สวสั ดกิ ารหนงั สอื สำ� หรบั เดก็ ชว่ งวัย ๐-๓ ปี โดยมีกจิ กรรมหนุนเสรมิ ซง่ึ มุง่ น�ำไปสกู่ ารส่งเสริมวฒั นธรรมการอา่ นระดับ อ�ำเภอ เชน่ การสรา้ งพ้นื ท่ีที่เอ้อื ตอ่ การอ่าน โดยตไู้ ปรษณยี ห์ นังสืออา่ นได้ กจิ กรรมมหกรรม หนงั สือเล่มละบาท เปน็ ต้น การทำ� งานโครงการดอนแกว้ อา่ นยกกำ� ลงั สขุ โดยกลมุ่ เพยี งพอดี มผี ลลพั ธจ์ ากการทำ� งาน ที่ชัดเจน คือ การส่งเสริมสนับสนุนจาก อบต.ดอนแก้ว ซ่ึงได้ก�ำหนดให้มีนโยบายส�ำหรับการ ส่งเสริมการอ่านปรากฏอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ ๓ ปีของตำ� บล ดว้ ยพนั ธกิจด้านการส่งเสรมิ การ อ่านในกองการศึกษา มีกิจกรรมที่รองรับการ ส่งเสริมการอ่าน และมีแนวทางการสนับสนุน ของกองการศึกษา เป้าหมายของการขับเคลื่อนงานการอ่าน คือ ต้องการให้มีสถานท่ีอ่านหนังสือในชุมชน ∞24∞1
ฐานการพัฒนาคนในชุมชนตอ้ งขยบั เพมิ่ มากข้นึ มีหลกั สูตรแกนกลางและหลักสูตรชุมชน ถือว่า ตำ� บลดอนแกว้ เปน็ องคก์ รแหง่ การเรยี นรู้ การเรยี นรทู้ สี่ ง่ เสรมิ จากฐานราก มกี ารพฒั นาศกั ยภาพ คนในชุมชน การใหค้ นในชมุ ชนรู้จกั คิดวิเคราะห์ คดิ เชงิ ระบบ กิจกรรมสง่ เสริมการอ่านคอื การ สรา้ งทรัพยากรมนษุ ย์จากตน้ ทางทแี่ ข็งแรง “ตัวหล้าเอง หลังจากเข้าร่วมโครงการฯ ก็กลายเป็นคนใจเย็นและอ่านหนังสือมากข้ึน เมอ่ื กอ่ นขโ้ี มโหมาก ขบั รถเจอสถานการณท์ ่ีไมช่ อบจะขบั รถตามไปดา่ เลย แตพ่ อไดอ้ า่ นหนงั สอื “เปลี่ยนค�ำถามชีวิตเปลี่ยน” ท�ำให้รู้เลยว่าความอ่อนโยนต้องท�ำอย่างไร หลังจากน้ันจึงไม่มี อารมณน์ ั้นอีกเลย ทุกวนั นกี้ ็เลยสนใจอ่านหนงั สือมากขน้ึ ตอนนสี้ ขุ ภาพจิตดีขน้ึ และปลอดภัย จากการขบั ขแ่ี ล้ว” “บ้านหนอู ยใู่ กลก้ บั ศาลากลางบ้าน เพือ่ น ๆ กม็ าอ่านหนังสอื ท่ี ศาลาเยอะมาก พวกเรามานั่งอ่านหนังสือ แล้วก็อธิบายกันด้วยว่า หนังสือเล่มน้ันเป็นยังไง เราสลับกันเล่าให้ฟัง ถ้าเราอ่านหนังสือแล้ว สามารถบอกเพอื่ นได้ กจ็ ะทำ� ใหเ้ ขาเขา้ ใจเหมอื นทอี่ า่ นเอง ตอนนอ้ี า่ น หนงั สอื อยหู่ ลายแนว หนูชอบเขา้ ห้องสมุดทุกวนั ” ด.ญ.ลลติ า ปราพรหม (ป่ิน) อายุ ๙ ปี ชั้น ป. ๔ โรงเรียนบ้านศาลา อ�ำเภอแมร่ ิม จังหวัดเชียงใหม่ ∞24∞2
“ผมชอบอา่ นหนงั สอื แลว้ กเ็ ขา้ หอ้ งสมดุ เปน็ ประจำ� ไปอา่ นหนงั สอื และหาความรู้มาทำ� รายงานสง่ ครู เมอื่ กอ่ นตอนเด็ก ๆ แมอ่ ่านนิทานให้ ฟังทุกคืน ผมชอบอ่านหนังสือการ์ตูนปนความรู้ ท�ำให้เราได้ฝึกเข้าใจ เนอ้ื ความของหนังสอื ทำ� ใหเ้ ราไดค้ ิดสรา้ งสรรค์เร่อื งตา่ ง ๆ อกี ดว้ ย” ด.ช.วชริ พล นวมทอง (อิง) อายุ ๑๑ ปี ชน้ั ป. ๕ โรงเรยี นบ้านศาลา อำ� เภอแม่ริม จงั หวัดเชยี งใหม่ “ตอนนห้ี นชู อบอา่ นหนงั สอื เพราะอา่ นแลว้ ไดฝ้ กึ สายตา จบั ใจความ ส�ำคัญได้ น�ำมาใช้กับชีวิตประจ�ำวัน เพ่ือนร่วมชั้นของหนูก็เยอะ เรามารวมตัวกันอ่านหนังสือประจ�ำ อะไรที่เราไม่รู้ก็ค้นคว้า ทดลอง แล้วเอามาเล่าใหก้ ันฟงั ” ด.ญ.วณชิ ยา จันทรพ์ ระยา (อมิ่ จงั ) ช้ัน ม. ๒ โรงเรียนบ้านศาลา อำ� เภอแม่รมิ จงั หวัดเชียงใหม่ ∞24∞3
ลา่ สดุ ในปี ๒๕๕๙ กลมุ่ เพยี งพอดมี แี นวคดิ นำ� โครงการฯ ไปผนวกรวมกบั ทกุ กจิ กรรมระดบั ต�ำบล เกิดการท�ำงานขยายฐานเครือข่าย เข้าสู่ระบบการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาล และกบั กลมุ่ ผนู้ ำ� ในชมุ ชน แกนนำ� ตา่ ง ๆ ในชมุ ชน มงุ่ เนน้ การรณรงคส์ รา้ งการรบั รู้ น�ำข้อมูลและกิจกรรมส่งเสริมการอ่านไปเชื่อมกับการจัดงานและกิจกรรมอื่น ๆ ท่ีเกิดขึ้นใน ทอ้ งถิ่น เชน่ งานแข่งกฬี าของต�ำบลดอนแก้ว ก็นำ� หนงั สอื ไปจดั กิจกรรมให้คนไดน้ ำ� ขยะมาแลก หนงั สอื ได้ รวมทง้ั ยังเชื่อมโยงไปร่วมกบั งานในระดับจังหวดั เชน่ กิจกรรม One Book One Bath รบั บริจาคหนงั สอื กลุ่มเพียงพอดีขอเข้าร่วมท�ำ กิจกรรมร่วมกับงานอื่น ๆ ในชุมชน อย่างสม�่ำเสมอจนน�ำไปสู่ความคุ้นเคย ของคนในชุมชนและองค์กรในชุมชน ในความคุ้นเคยท�ำให้เกิดความใกล้ชิด บางคนท่เี ป็นแม่บ้าน เขา้ ไปหาหนงั สอื สมนุ ไพร สขุ ภาพ อาหาร ความรรู้ อบตวั เพ่ือน�ำไปเปน็ ความรขู้ องตนเอง ทางกลุ่มเพียงพอดีเลือกท�ำงานท้ังการขับเคล่ือนและรณรงค์ไปในเวลาเดียวกัน ดังน้ัน ส่ิงที่ค้นพบจากความส�ำเร็จของการขับเคลื่อนส่งเสริมการอ่านไปในทุกท่ีทุกงาน คือ ความไว้ วางใจจากองคก์ รในชมุ ชน ความใสใ่ จของแกนนำ� สง่ เสรมิ การอา่ น หรอื อสม. ในการเชอ่ื มงาน เขา้ ไปส่ใู นระบบตา่ ง ๆ การสร้างแรงจงู ใจ การทำ� กจิ กรรมบอ่ ย ๆ เพือ่ สรา้ งความคนุ้ เคย และ การทำ� ซำ�้ ให้เห็นภาพทป่ี รากฏข้นึ ในกิจกรรมบอ่ ยครง้ั ∞24∞4
“เพียงพอดี” เลือกลงมือท�ำซ้�ำ ๆ จนได้เข้าไปเป็นส่วนหน่ึงในการรณรงค์ส่งเสริมการ อ่านทั้งในระดับชมุ ชนและระดับจังหวัด ก่อนมาเป็น “ป๋าหลา้ ” “ป๋าหลา้ ” เรยี นจบ ป. ๗ ทอี่ �ำเภอพรา้ ว แล้วศึกษาตอ่ จนจบ มศ. ๓ ทอ่ี ำ� เภอแม่แจ่ม จากนนั้ จงึ เข้าไปเป็นเดก็ พาณชิ ย์ เรยี น ปวช. เลขานุการ ท่ีเชยี งใหม่ แลว้ เรยี นตอ่ ปริญญาตรี ส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ส่วนปริญญาโท ไดเ้ ลอื กเรยี น รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รามค�ำแหง เพ่ือให้สอดคล้องกบั การท�ำงาน เติบโตมาในครอบครัวที่มีอาชีพท�ำไร่ พ่ีชายท�ำงานสถานพินิจ พ่ออยากให้ท�ำงาน รับราชการ จะได้เป็นเจ้าคนนายคนตามความเชื่อสมัยก่อน จึงอยากให้เรียนต่อ มศ. ๔ ที่ ∞24∞5
สนั กำ� แพง เพือ่ เตรยี มเข้ามหาวิทยาลยั แต่ “ชาวบา้ นทเ่ี ราไปเจอคอื กะเหรย่ี งกบั มง้ “หล้า” ไม่อยากรับราชการ หนีพ่อไปสอบ เป็นกันเอง อบอุ่นดี เม่อื ก่อนมคี นวา่ ชาวเขา โรงเรียนพาณิชยการเชียงใหม่ ผลออกมา เป็นพวกท�ำไร่เล่ือนลอย ท�ำลายป่า แต่เรา สอบตดิ ไดเ้ รยี นเลขานกุ ารสมดงั ใจ แมว้ า่ พอ่ ไมร่ สู้ ึกอยา่ งนนั้ เพราะคิดแบบตรง ๆ ว่าคน เสยี ใจนดิ หนอ่ ย แตเ่ มอ่ื สอบเสรจ็ แลว้ กป็ ลอ่ ย ตอ้ งทำ� มาหากนิ เหมอื นบา้ นเรามนี ามนี ำ้� กท็ ำ� ให้ลูกเรยี นไป นาไป ส่วนท่ีบนดอยไม่มีนาเหมือนบ้านเรา เขากท็ ำ� ไรบ่ นดอยไง ตรง ๆ ตามภูมิประเทศ เหตุผลง่าย ๆ ทเี่ ลอื กเรยี นเลขานุการ ช่วงอย่ทู น่ี น่ั ชอบมาก เรามีทมี ๓ คน องคก์ ร เพราะวา่ ไมเ่ กง่ “บญั ช”ี ไมช่ อบ “การตลาด” ให้อิสระเราคิดงาน ให้กรอบกว้าง ๆ มา ส่งเสริมอาชีพให้คนพื้นท่ีได้ท�ำกิน จะได้ลด หลงั จากเรยี นจบไปทำ� งานบรษิ ัทรา้ นคา้ เลิกการปลูกฝ่นิ เราไม่ได้พูดตรง ๆ แตเ่ สริม ขนาดใหญ่อยู่ ๑๐ กว่าวัน ในหน้าท่ีตรวจ ทางเลือกของอาชพี ให้ ได้เงนิ เดือน ๔,๑๐๐ บัญชี ตรวจสตอ็ กของ บาท ดีใจมากเลย เยอะมาก” หลงั จากนน้ั ไปสมคั รงานเปน็ นกั พฒั นา เป็นช่วงที่ได้ฝึกประสบการณ์เยอะ ลมุ่ นำ้� แมแ่ จ่ม โครงการพฒั นาล่มุ น�้ำแม่แจม่ มากเพราะต้องเช่ือมประสานทุกกระทรวง เพราะชอบพื้นที่ในชนบทหรือบนดอย จะให้ เข้าไปท�ำงาน และก็ได้ความร่วมมือดีจาก ไปท�ำงานอะไรยงั ไม่รู้ คิดแคว่ ่าตอ้ งไดอ้ ยูก่ ับ ทุกแห่ง เน่ืองจากเป็นองค์กรบุกเบิกการ ชาวบา้ นบนดอยแน่ ๆ ท�ำงานพัฒนาที่แม่แจ่มในขณะนั้น “หล้า” ภมู ใิ จกบั การเปน็ นกั พฒั นา แตท่ บ่ี า้ นไมเ่ ขา้ ใจ ซึง่ ผลออกมาเปน็ อยา่ งท่ีคิด คือ สนกุ เลยว่าไปทำ� งานอะไร และมนั มาก “หลา้ ” อยบู่ นดอยไดข้ ม่ี อเตอรไ์ ซค์ วบิ ากไตเ่ ขา ∞24∞6
“บอกพอ่ วา่ เปน็ นกั พฒั นา พอ่ กถ็ ามแลว้ นกั พฒั นามนั ทำ� อะไร เราเลยวา่ ถา้ เราไปกบั หมอ ชาวบ้านจะเรยี กเราหมอ แลว้ ถา้ เราไปกับครู ชาวบ้านกจ็ ะเรียกเราครู ถา้ เราไปทำ� การเกษตร เขาก็จะเรียกเราเกษตร ถงึ พอ่ จะดูไม่คอ่ ยเข้าใจ แต่พอ่ ก็ให้ไปนะ” หลงั จากน้นั “หลา้ ” มาท�ำงานกบั มูลนธิ พิ ัฒนาศักยภาพชมุ ชน (North Net) เรื่องเกษตร ปลอดสารแบบยั่งยืน เป็นประเด็นส่ิงแวดล้อม รักษาป่า ที่บ้านแม่ทา อ�ำเภอแม่ออน จังหวัด เชยี งใหม่ เป็นเครอื ขา่ ยเล็ก ๆ ทำ� ใหช้ มุ ชนพง่ึ ตัวเอง ขยับขยายให้ไดม้ าตรฐานเกษตรอนิ ทรยี ์ ภาคเหนอื มาจนถงึ ปี ๒๕๔๒ “เมอื่ กอ่ นตอนกำ� ลงั ทำ� ไมไ่ ดร้ สู้ กึ วา่ ภมู ใิ จมากขนาดนี้ ตอนนน้ั แคต่ งั้ ใจหาทกุ สง่ิ ทำ� ทกุ อยา่ ง ให้งานส�ำเร็จแค่นั้น แต่พอเวลาผ่านมาแล้วมองย้อนกลับไป ภูมิใจมากที่ชุมชนกลายเป็นแหล่ง เรยี นรู้ ทัง้ ของคนไทยและต่างประเทศ คนพดู ถึง “แม่ทา” เราก็ภูมใิ จ” นกั พัฒนาแห่งแม่ริม ต-ุ๊ ปยิ วรรณ ปี ๒๕๔๒ ลาออกจาก North Net มาตง้ั ถิ่นฐาน อยทู่ อ่ี ำ� เภอแมร่ มิ พรอ้ มกบั คชู่ วี ติ “ต-ุ๊ ปยิ วรรณ เปง็ มล” ก่อตั้งกลุ่มเพียงพอดี เพื่อท�ำงานชุมชน โดยเริ่มต้น ท�ำงานภายใตร้ ่มเงาของมูลนธิ พิ ฒั นาศกั ยภาพชุมชน “สมยั กอ่ น กม็ ีคนเขาพูดกันวา่ อยา่ ให้ลกู ไปกับ มันนะ มันเป็น NGO เดี๋ยวพาไปประท้วง แต่ไม่ได้ ∞24∞7
รุนแรง มันแค่เป็นกระแส เมื่อก่อนหล้าก็มีฉุนบ้าง โกธรบ้าง แต่ก็มาคิดหาทางออกท่ีดีท่ีสุด จนเจอหมวกเปน็ ทางการท่จี ะเคลือ่ นงานเพอ่ื พฒั นาชุมชนได้เหมือนกัน จนปี ๕๑ ก็ไปสมคั รเปน็ ส.อบต. แต่กส็ อบตก แต่เราอยากท�ำงานชมุ ชน เราก็ไมท่ ้อ ทำ� ต่อไปเร่ือย ๆ” เพราะยงั อยากทำ� งานชมุ ชนอยู่ “หลา้ ” เลยชวนชาวบา้ นและเยาวชนทำ� เกษตรปลอดสารพษิ ดแู ลสงิ่ แวดลอ้ ม ชวนมาเกบ็ ขยะ “เรามีความรู้ติดตัวมาเยอะ เรามาอยู่ท่ีนี่แล้วก็อยากให้คนท่ีนี่ ท�ำด้วย อยากเอาความรู้ออกมาใชป้ ระโยชน”์ ระหว่างน้นั เริ่มค้าขาย ไปตดิ ตอ่ โรงแรมเพอื่ ขายส่งไข่ไก่ และ ไปขายตามตลาดนดั ตง้ั แตว่ นั จันทรถ์ งึ วนั ศุกร์ ∞24∞8
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318