ของบท�ำโครงการป้องกนั ยาเสพตดิ ในชุมชนตอนปี ๒๕๔๕ ได้เงนิ ท�ำงาน ๑๒๐,๐๐๐ บาท ดีใจ จนตัวส่ันเลยวันท่ีรู้ว่าโครงการได้อนุมัติ จากน้ันก็จ้างครูมาเพ่ิมเพื่อช่วยเลี้ยงเด็กที่ศูนย์ฯ แลว้ อ๋วนก็ใชเ้ วลาท่เี ด็กนอนออกไปประสานงานทำ� โครงการฯ กบั ผนู้ �ำชุมชน” ณ วันนน้ั อว๋ น-จันทรเ์ พญ็ คอื แมบ่ ้านและครูเล้ียงเดก็ เล็ก ยังแทบไมร่ จู้ ักใครในชุมชน ทม่ี คี วามเกี่ยวขอ้ งกบั งานพัฒนา “ต�ำรวจ นักจิตวทิ ยา โรงพยาบาล ทหาร ไมร่ จู้ ักใครเลย แตอ่ ๋วนไปทุกที่ และวางแผนไว้ วา่ ตอ้ งประสานใคร ไปหาทง้ั ๆ ท่ีไมร่ จู้ กั มากอ่ นนน่ั แหละคะ่ ไปเลา่ เนอ้ื งานใหฟ้ งั วา่ อยากใหเ้ ขา้ มา ช่วยตรงไหน ขนาดผ้วู า่ ฯ ไมเ่ คยรู้จกั ก็ไปหาทีบ่ ้านเลยค่ะ วันนนั้ ไม่ไดค้ ยุ งานกบั ท่าน แต่ก็ได้ คำ� แนะนำ� เธออย่ามาอยา่ งนี้อีก (หวั เราะ) แล้วก็บอกวา่ ให้เราไปส่งเร่ืองตรงไหนแทน ทุกวันน้ี จะประสานเคลอ่ื นนโยบายกเ็ ตรยี มเขา้ หาผอู้ ำ� นวยการกอ่ นเลย จากนน้ั ทา่ นวา่ ไง เรากค็ อ่ ยวา่ กนั ” ถงึ วนั นเ้ี ธอบอกวา่ หลงรกั งานการประสานงานมาก ทงั้ ๆ ทไ่ี มไ่ ดม้ เี ทคนคิ การประสานงาน มาแตต่ น้ แตท่ ดลองทำ� เรยี นรู้ ปรบั ปรงุ พฒั นา จนถงึ วนั นสี้ รปุ ไดว้ า่ เธอใชภ้ าษากายและภาษา ใจทักทายผคู้ นไปพรอ้ ม ๆ กันดว้ ยความรู้สึกแจ่มใสจากขา้ งในเป็นการปทู างบทสนทนาทกุ คร้ัง ∞14∞9
พร้อมกันน้ันเธอยังได้รับค�ำแนะน�ำจาก “มีนา” อยู่เสมอ ๆ เกี่ยวกับเทคนิคการเข้าหา พูดคุยในประเด็น ทกุ คนไมว่ ่าจะยศหรอื ต�ำแหนง่ ใดคอื คนเช่นเดยี วกัน ไมจ่ �ำเปน็ ตอ้ งหวาดกลัว หรือประหม่า เม่ือคิดตามที่น้องสาวว่าไว้ ทุกคร้ังของการประสานงานไม่ว่าจะกับใครก็ตาม จันทรเ์ พ็ญสามารถย้มิ ใหค้ นคนน้ันง่ายและพดู คุยกันสบายมากข้นึ “มีนาเขาโค้ชคนได้ดี เขาตั้งค�ำถามเก่ง จัดกระบวนการเรียนรู้ได้ดี อ๋วนจะให้เขาเป็น วทิ ยากร ทุกค�ำถามที่เขาตง้ั มาทำ� ใหเ้ กิดการคดิ ทบทวนและแลกเปลย่ี นจนได้ผลลัพธ์ทีด่ เี สมอ” “จันทร์เพญ็ ” ยกให้ “มีนา” ผ้เู ป็นน้องสาวท�ำหนา้ ท่นี ำ� ทางการท�ำงานพฒั นาให้ เพราะมี ประสบการณ์มากกว่าตวั เธอ โดยเฉพาะเรอื่ งการจดั กระบวนการเรียนรู้ ซ่งึ ทกุ วนั นเี้ ธอสามารถ เป็นวิทยากรกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างคล่องแคลว่ ไม่วา่ จะเป็นประเดน็ ใด จ�ำนวนเท่าไร ผูร้ บั การอบรมเป็นใคร เธอยืนยันวา่ สบายมาก ปี ๒๕๔๘ สองพนี่ อ้ งตดั สนิ ใจจดทะเบยี นตง้ั มลู นิธเิ พอ่ื สขุ ภาพชมุ ชน บริหารจดั การงานให้ เข้าระบบ ขยายฐานคนท�ำงานและขอบเขตการท�ำงานให้กว้างข้ึน รวมถึงเพื่อสะดวกต่อการ ตรวจสอบในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชน (Non-Governmental Organization หรือ NGO) หลังจากท�ำงานประเด็นป้องกันยาเสพติด เพ่ิมขอบข่ายทำ� งานมาท่ีประเด็นเหล้า ความรุนแรง เพศ เอดส์ และผหู้ ญงิ เชอ่ื มการท�ำงานตอ่ ไปยงั กลมุ่ ทหารและผ้ตู อ้ งขงั ในเรือนจำ� และในปี ๒๕๕๕ มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชนได้รับเลือกให้จัดตั้งเป็นศูนย์ประสานงานหลัก ประกันสุขภาพประชาชน จังหวัดสุรินทร์ ของส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ด�ำเนินงานด้านสร้างเสริมสุขภาพเช่ือมโยงระหว่างภาคประชาชน ให้ค�ำปรึกษาและช่วยเหลือ ประชาชน ใหค้ วามรใู้ นการดแู ลสขุ ภาพประชาชนในพน้ื ที่ อกี ทง้ั ยงั เผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสาร ความรู้ ∞15∞0
ความเข้าใจ สทิ ธติ ่าง ๆ ทป่ี ระชาชนพงึ ไดร้ บั ในระบบหลกั ประกันสขุ ภาพ “ต้งั แตเ่ รม่ิ ตงั้ มูลนธิ ิฯ ก็ไดร้ ับร้องเรียนเรอื่ งความรนุ แรงกับผู้หญงิ และครอบครวั จำ� นวน มาก พอรู้วา่ สปสช. เปดิ รับศนู ยป์ ระสานงาน รบี ทำ� เร่ืองยนื่ ขอท�ำหน้าที่เลยคะ่ พอได้เปน็ ศนู ย์ ประสานงานฯ สปสช. กถ็ อื ว่าเป็นโอกาสดีท่พี วกเราจะชว่ ยคนที่เดอื ดรอ้ นได้อกี เยอะมาก” แมล่ ูก... นกั เล่าเรื่อง สว่ นเสน้ ทางชวี ติ วยั เดก็ ของผเู้ ปน็ นอ้ งสาว “มนี า ดวงราษ”ี เตบิ โตมาดว้ ยการดแู ลใกลช้ ดิ อย่างมากของแม่ เน่ืองจากวัยเด็กเธอมีพัฒนาการทางสมองช้ากว่าปกติ เพราะแม่เคยยุติการ ต้งั ครรภ์ แต่ไม่ส�ำเร็จ เธอจงึ มโี อกาสลมื ตาดูโลก พรอ้ มกบั ความต้งั ใจของแม่ที่จะเล้ยี งดลู กู สาว คนน้อี ยา่ งดที ี่สุด “แมเ่ ลา่ เรือ่ งตา่ ง ๆ ให้ฟงั เยอะ ครอบครวั เราจะพดู ความจรงิ กนั แสดง ความรู้สึกตรงไปตรงมา รักก็บอกรัก กอดก็คือกอด ไม่มีประชดประชันกัน ไม่ซับซ้อน ทำ� ให้มีนาเข้าใจส่ิงท่ีแม่คิด และทำ� ทกุ อยา่ ง ทส่ี ำ� คญั คอื แมไ่ มเ่ คยตี ลูกเลย ซึ่งเราก็สืบทอดมาคือมีนา ไม่เคยตีลูกเหมือนกัน แล้วลูกเราก็ ไม่เห็นเสยี คน” ∞15∞1
“เรามนั่ คงเรอื่ งวนิ ยั มาก ตา่ งจากเดก็ เปน็ หวั ใจทำ� ใหเ้ ราซอื่ สตั ยต์ อ่ กนั เราไมโ่ กหก ทถี่ กู ปลอ่ ย แม่ใหเ้ ขา้ นอนกอ่ น ๒ ทมุ่ กนิ ขา้ ว แม่ เพราะแม่ไม่โกหกเรา เช่อื วา่ การเลี้ยงดู ให้ตรงเวลาสม่�ำเสมอ มีนางงมากว่า แม่รู้ ของแม่เป็นส่วนหนึ่งท่ีท�ำให้มีนารู้สึกม่ันคง ไดย้ งั ไงวา่ การนอนชว่ งหวั คำ่� ทำ� ใหเ้ ซลลส์ มอง และไว้วางใจคนอนื่ แม่เรียนจบช้นั ป. ๔ แต่ ทำ� งานเตบิ โตเร็วสุดยอด ทกุ วันนีเ้ จอเดก็ ๆ มแี นวคดิ การเลยี้ งดลู กู ทีเ่ ก่งมาก” สมาธิสั้นเพราะ ๔-๕ ทุ่มไม่ยอมนอน เด็กเล็กควรนอนแต่หัวค�่ำเพราะเซลล์สมอง “แม่เป็นนักสร้างสรรค์จินตนาการ ก�ำลงั เตบิ โตเร็วมาก” เยอะแยะ” มีนาคดิ เช่นนั้น เพราะสมัยเดก็ ๆ แม่เล่านิทานสนุก ๆ ให้ฟังหลายเร่ืองมาก “มีนา” พบข้อมูลงานวิจัยชุดหนึ่ง “มเี รอ่ื งยกั ษ์ เร่ืองลิง มันตลกมาก เป็นการ เกี่ยวกับการสอนลูกในรูปแบบวินัยเชิงบวก เล่านิทานนะไม่ใช่การอ่านหนังสือ มันเป็น ซ่ึงมีวิธีการเหมือนท่ีแม่ใช้เล้ียงดูเธอ คือ ภาพการนอนทุกคืนที่มีความสุข อบอุ่นมาก ไม่จ�ำเป็นต้องลงโทษด้วยการตี แต่เลือกใช้ ความสขุ ตรงนม้ี นั เปน็ ภมู คิ มุ้ กนั ภายในจติ ใจ” การช่นื ชมเมอื่ ลกู ทำ� ส่ิงทเี่ หมาะสม บอกและ แสดงความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยลูกอย่าง “แมเ่ ปน็ นกั วเิ คราะหโ์ ดยไมร่ ตู้ วั ” มนี า ซื่อตรง ชัดเจน ตรงไปตรงมา เป็นเร่ือง คดิ แบบนั้น เพราะแมช่ วนวิเคราะห์เรอ่ื งเงนิ ส�ำคัญของความสมั พันธใ์ นครอบครวั แม้แต่ ตง้ั แตเ่ ธอยงั เดก็ “แมจ่ ะยกตวั อยา่ งชวี ติ เพอ่ื น เรื่องเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ เชน่ แม่เอย่ ปากว่าจะพา บ้านท่ีจัดการเร่ืองเงินไม่ถูกวิธี แล้วชวนกัน ไปไหน จะใหก้ นิ ขนมอะไร แมเ่ ธอทำ� ทกุ อยา่ ง คิด ถ้ามีเงินควรซ้ืออะไรท่ีส�ำคัญมากที่สุด ใหจ้ รงิ ๆ ตามทพี่ ดู เสมอ แม่จะบอกว่าต้องซ้ืออาหารหลักก่อน คือ ข้าวสาร เพราะมีข้าวกินกับน้�ำปลาก็อิ่มได้ “การไม่โกหกลกู เปน็ สิง่ สำ� คญั ตรงน้ี แกจะสอนว่าถ้าเอ็งมีเงิน ๓๐๐ ให้ซื้อข้าว ∞15∞2
๒๐๐ เลย ที่เหลอื เก็บไว้ซอื้ กบั ข้าว” “แม่เปน็ นักเล่าเรอ่ื ง” มีนาฟังเรอ่ื งราวจากแมม่ ากมาย เรอื่ งหน่งึ คือ เหตกุ ารณเ์ มอ่ื จะมี ญาตมิ าเยยี่ ม ตามธรรมเนยี มตอ้ งมขี า้ วปลาอาหารตอ้ นรบั แตแ่ มไ่ มม่ เี งนิ จงึ เดนิ เทา้ ๒ กโิ ลเมตร เพือ่ ไปยืมเงิน ได้มา ๑๐ บาท น�ำไปซื้อบวบ ๒ บาท ซ้อื ขา้ วสารคร่ึงกิโลกรมั เป็นเงนิ ๕ บาท เงนิ ทีเ่ หลือน�ำไปซ้อื ไขไ่ ก่ เม่ือญาติ ๆ นง่ั สามลอ้ มาลงหนา้ บ้าน ก�ำลังหิวข้าวมาเลย แม่จุดไฟ ตั้งกระทะ ลา้ งบวบ ตีไข่ ลงกระทะผัด เด็ดใบแมงลกั ใส่ เตมิ น�ำ้ ปลา ตกั ให้กนิ กบั ขา้ วหงุ รอ้ น ๆ ญาตกิ ินกนั คนละ ๒-๓ จาน จากจุดเร่ิมที่ไม่มีเงินสักบาท แม่ประสบความส�ำเร็จในการ ต้อนรบั ญาติ ๆ ด้วยเงนิ ที่ยืมมา ๑๐ บาท มีนาบอกวา่ เหตุการณน์ ้ี เกดิ ขนึ้ สมยั เธอยงั เปน็ เดก็ เลก็ มาก แตท่ จี่ ำ� ไดจ้ นถงึ ทกุ วนั นเี้ พราะแม่ เลา่ ใหฟ้ งั ตัง้ แต่เดก็ ๆ และเลา่ บ่อยคร้งั จนแนวทางการใชเ้ งินซึมซับ เข้าสนู่ สิ ัยของเธออย่างไม่ร้ตู วั “แมเ่ ปน็ นกั เลา่ เรอ่ื ง” มนี าคดิ เชน่ นน้ั ทกุ วนั นหี้ ลายคนรอบตวั “มนี า” ก็คดิ ว่าเธอเป็นนักเล่าเร่ืองเชน่ กนั พฒั นาสังคม เร่มิ ท่ีครอบครัว “อยากเป็นพัฒนากร ดูไม่ต้องแต่งตัวมาก ได้ไปบ้านนอก มีนาไม่ชอบสังคมเมือง” เธอตอบค�ำถามของการเลอื กเรยี นสาขาวชิ าการพัฒนาชุมชน มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม กอ่ นที่ ∞15∞3
จะย้อนเพิม่ เติมไปอีกวา่ เข้าใจผิดว่ามที ุนเรยี นฟรีจึงสอบจนตดิ แต่ที่บ้านไม่มีเงินสง่ เรยี น แม่จงึ ตดั สินใจไปกู้เงนิ จากเพอื่ นรักสง่ ให้ลูกเรียนตอ่ ตามฝัน แตเ่ รยี นจบจาก ม.มหาสารคาม ไมไ่ ด้เปน็ พัฒนากรในทันที แต่ไปท�ำงานทีร่ ้านสะดวกซือ้ ๑ เดอื น พบค�ำตอบชดั ๆ วา่ ชวี ติ ของเธอไม่ต้องการทำ� งานในระบบดงั กลา่ ว จงึ ลาออกมาเขยี น จดหมายขอเปน็ อาสาสมัครทม่ี ูลนิธิเยาวชนชนบท สาขาเกษตรวสิ ยั จังหวัดร้อยเอด็ ได้รบั ต�ำแหน่งเป็นเจา้ หนา้ ท่ีในอตั ราเงินเดอื น ๕,๐๐๐ บาท กบั การทดลองงาน ๓ เดอื น ท�ำงานอยู่ ๓ เดอื นไมผ่ ่านการทดลองงาน เธอคดิ ว่าเพราะนำ� เสนองานไม่ได้ พูดช้า เสยี งเบา ขาดความม่ันใจ ถงึ ไมถ่ กู รบั เขา้ ท�ำงาน แตม่ นี าบอกว่าได้วธิ ีการท�ำงานกบั ชมุ ชนเยอะมาก จากนั้นไปขอเป็นอาสาสมัคร ชุมชนต้านภัยเอดส์ ในยุคสมัยที่ สถานการณร์ งั เกยี จผตู้ ดิ เชอื้ เอดสก์ ำ� ลงั แพร่ขยายในสังคม เธอยืน่ ข้อเสนอไป ว่าไม่ขอรับเงินสักบาทเพราะอยาก ท�ำงานชุมชนมาก ในท่ีสุดจึงได้รับ มอบหมายงานแรกให้จัดค่ายเยาวชน ท�ำทุกหน้าที่ วางแผน ประสานงาน ติดตามวิทยากร สรุปงาน ทุกอย่าง เสรจ็ สน้ิ ภายใน ๑ เดอื น ไดค้ า่ ตอบแทน ๑,๕๐๐ บาท ∞15∞4
“มนี าไมค่ ดิ ถงึ เงิน แค่คดิ วา่ ฉนั ได้ท�ำอะไรไปบา้ ง” คา่ ยเยาวชนครง้ั นน้ั เปดิ โลกการจดั กระบวนการเรยี นรใู้ หต้ วั เอง วางแผนกจิ กรรม ประสานงาน สรปุ ผลการดำ� เนนิ งาน “กท็ ำ� ตอ่ มาเรอ่ื ย ๆ จนแตง่ งาน จนตงั้ ทอ้ ง วนั ทจ่ี ะคลอดยงั ไปเปน็ วทิ ยากร คยุ เรอ่ื งถงุ ยางอนามยั อยเู่ ลย เพราะคดิ วา่ คนทอ้ งไม่ใชค่ นปว่ ย สามารถทำ� งานได้ แลว้ กส็ นกุ ดว้ ย ทำ� งานแลว้ กเ็ ล่นกับลกู ในท้องไปด้วย” จากนั้นไม่นานเกิดความไม่เข้าใจกันในองค์กร มีนาจึงเลือกลาออกมาเขียนโครงการ ขอทุนทำ� งานเองอยู่ท่ีบา้ นสามี อำ� เภอเกษตรวสิ ัย จังหวดั รอ้ ยเอด็ ทำ� งานประเดน็ เอดส์ ได้รับ งบประมาณจากสถาบันควบคมุ โรคท่ี ๗ (อุบลราชธาน)ี “ช่วงน้นั ไดง้ บ ๔-๕ แสน เพราะประเด็นมนั กำ� ลังแรง เดีย๋ วนี้ไมไ่ ด้แลว้ เพราะคนเข้าใจ โรคมากขึ้น ไมไ่ ดก้ ลัวเหมือนยคุ นน้ั ชว่ งปี ๒๕๔๓-๒๕๔๗ ก็เร่ิมขยายวงประเด็นไปท�ำงานดา้ น ผูห้ ญิงและเด็ก ได้รบั งบเป็นหลักล้านบาท แล้วตอนน้นั ก็มเี พอ่ื น ๑ คนดูแลบญั ชีให้ ส่วนอาสา สมัครเปิดรับจากในพื้นท”่ี ตอ่ มาในปี ๒๕๔๘ หลังจากความสมั พนั ธช์ วี ติ ค่สู น่ั คลอน มีนาตัดสนิ ใจเลิกกับสามี และ ยา้ ยกลบั มาอยบู่ า้ นเกดิ ทส่ี รุ นิ ทรพ์ รอ้ มกบั ลกู “ชว่ งทม่ี นี าตดั สนิ ใจเลกิ กบั สามกี ท็ ำ� เวทปี ระชาคมดว้ ย นะ เรอื่ งเลกิ กนั (หวั เราะ) เวลามนี าเลา่ เรอื่ งน้ี ทกุ คนจะหวั เราะ มนี าชอบความชดั เจน ครอบครวั สามแี ละชาวบ้านกร็ กั เรามาก เพราะมีนาท�ำกิจกรรมในหมูบ่ า้ นดว้ ย ชาวบ้านรับไม่ได้เพราะมนี า เปน็ เมียจดทะเบยี นถูกต้องตามกฎหมาย จะเปน็ คนออกไปทำ� ไม แลว้ จะพาลูกไปไหน” แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายเดินออกมาพร้อมลูกบนพื้นฐานความเชื่อว่าครอบครัวท่ี สมบรู ณไ์ ม่จ�ำเป็นตอ้ งอยู่ด้วยกันเสมอไป ครอบครัวลักษณะไหนกแ็ ขง็ แรงไดเ้ พียงแคต่ อ้ งมกี าร ∞15∞5
สื่อสารให้เข้าใจ และมีนาเช่ือว่าตัวเองแข็งแรงพอท่ีจะส่ือสารกับทุกคนในครอบครัวเข้าใจ สถานการณอ์ ยา่ งตรงไปตรงมาได้ “เราคยุ กนั หลายรอบ สามกี เ็ สยี ใจกบั สงิ่ ทเ่ี กดิ ขนึ้ เขาเปน็ คนดี แตอ่ อ่ นไหวและไมม่ ที กั ษะ ชีวิตเรื่องของการจัดการความสัมพันธ์ท่ีเข้ามา ผู้หญิงที่เขาไปมีความสัมพันธ์ด้วยต้ังท้อง มีนา ทำ� งานเรอื่ งผหู้ ญงิ และเดก็ ฉะนน้ั เราตอ้ งคมุ้ ครองเดก็ กต็ ดั สนิ ใจกลบั มาสรุ นิ ทร์ ซงึ่ ทกุ เหตกุ ารณ์ มนี ากอ็ ธิบายใหล้ กู เขา้ ใจตลอด ลูกกำ� ลังนา่ รัก ๔-๕ ขวบ ได้ เราไม่โกหกลูก บอกตรง ๆ ว่าพ่อ ต้องดูแลอีกครอบครัวหนึ่ง พูดถึงด้านดีของพ่อ ปิดเทอมก็หัดให้ลูกนั่งรถบัสไปหาพ่อหาย่า ให้ร้วู ่ามอี กี ครอบครัวหนงึ่ อยู่ท่นี น่ั ” “มีนาเล้ียงลูกแบบเปิดมาก สอนเรื่องเพศแบบเปิดเผย แก้ผ้าอาบน�้ำด้วยกันจนลูกเรียน ป. ๔ จนมาบอกวา่ แมพ่ อแลว้ อยากอาบนำ�้ คนเดยี วแลว้ เรากว็ า่ เออ้ ไมเ่ รยี นรแู้ ลว้ บน่ ี่(หวั เราะ)” ผ่านมา ๑๐ ปี ผลลัพธ์จากความเชื่อและการลงมือท�ำของมีนาออกดอกผลได้งดงาม ทกุ คนสามารถพดู คยุ กนั ไดเ้ ขา้ ใจ ลกู ของเธอรกั และเขา้ กนั ไดด้ กี บั พอ่ และครอบครวั ใหมข่ องพอ่ “คนท�ำงานพฒั นาสังคมต้องทำ� งานกับครอบครวั ตนเองใหไ้ ด้ก่อน นีค่ ือสังคมขนาดเล็ก ท่ีสุดแล้ว” ศรทั ธาสร้างคณุ ค่า “มีนาให้ความส�ำคัญต่อความรู้สึก” ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อสุขภาพ ชมุ ชนเอย่ ขน้ึ เมอ่ื พดู คยุ ถงึ ประเดน็ การบรหิ ารจดั การทมี งาน พรอ้ มยนื ยนั ∞15∞6
หลักการสื่อสารในองค์กรท่ีเน้นไปท่ีการ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ทกุ อยา่ ง คนทำ� งานรสู้ กึ ดี มคี วามสขุ ส่ือสารอย่างตรงไปตรงมาทุกเร่ือง ท้ังเรื่อง ผลงานย่อมออกมามีประสทิ ธิภาพ งานและเรื่องส่วนตัว เอาใจใส่ความรู้สึก กันและกัน ต้ังค�ำถามถึงความกังวลใจ สำ� หรบั ประเดน็ องคก์ รพฒั นาสงั คมใน ด้วยความหว่ งใย ประเทศไทยหาทุนสนับสนุนให้ท�ำงานยาก หรอื จำ� นวนเงนิ ที่ไดร้ บั ไมม่ ากและไมแ่ นน่ อน เนื่องจากเธอมองเหน็ ว่า ชีวติ สว่ นตัว จนต้องเป็นนักพัฒนาไส้แห้ง มีนาบอกว่า มีส่วนเก่ียวโยงมายงั การท�ำงานเสมอ ใครมี ปัญหาน้ีไม่ไดเ้ กดิ ขึน้ กับคนทนี่ ี่ เน่ืองจากเชอ่ื ปัญหาส่วนตัว ครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ ว่าการมีทักษะท�ำอาชีพส่วนตัวควบคู่ไปกับ สามารถสร้างผลกระทบกับการท�ำงานได้ ท�ำงานพัฒนาสังคมด้วยเป็นส่ิงส�ำคัญ เช่น มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชนจึงตั้งระบบสหกรณ์ เธอท�ำกิจการบ้านให้เช่าเป็นรายได้หลักใน มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งใชเ้ งนิ มากยู้ มื ได้ ลดชอ่ งวา่ ง การดูแลตนเอง พร้อมกับซื้อขายที่ดินเป็น ความกงั วลใจเร่อื งสภาพเศรษฐกจิ รายได้ส่วนเสริมเพ่มิ เติม ส่วน “จนั ทร์เพญ็ ” นอกจากมีกิจการศูนย์ดแู ลเด็กเลก็ ยงั ท�ำนา “มนี า” เชอื่ วา่ ความสำ� คญั ของการเปน็ อกี จำ� นวนมาก ผนู้ �ำองค์กร คือ นอกจากผลของงานท่ีได้รับ ยงั ตอ้ งสงั เกตอากปั กริ ยิ าของเพอ่ื นรว่ มงานดว้ ย ทำ� ใหจ้ าก ๗ คน ในมูลนิธิฯ มีเพยี ง เช่น ท�ำไมสีหน้าบูดบ้ึงมากกว่าปกติ ท�ำไม ๒ คน เทา่ น้นั ที่รับเงินเดอื นจากองคก์ ร เสียงดังกับผู้ใช้บริการสหกรณ์ ใช้วิธีสังเกต สว่ นอกี ๕ คน ที่เหลอื นั้นรับตอบแทน แล้วจึงสืบหา ผ่านช่องทางคนใกล้ชิด หรือ เฉพาะงานแต่ละชิน้ พูดคุยระหว่างกินข้าวร่วมกัน เน่ืองจาก ความรู้สึกของคนท�ำงานเป็นฐานของผลงาน “เราไมไ่ ดใ้ ชเ้ งนิ มากนกั เครอื่ งสำ� อาง ไม่ต้องซ้ือ เสื้อผ้าราคาไม่แพง หลักสิบ ∞15∞7
หลักร้อย อาหารการกินกป็ กติ นาน ๆ ถงึ ไปกนิ นอกบา้ น ใช้เงนิ ไม่เยอะชวี ติ ก็สบาย ไดท้ ำ� งาน อย่างทีอ่ ยากท�ำ คือเรอ่ื งเปล่ยี นแนวคิดเปลีย่ นชวี ติ ” ถา้ ยึดเรอ่ื งเงินเป็นหลกั “มนี า” บอกวา่ ไม่ต้องท�ำงานพฒั นาเหมือนทกุ วันน้กี ็ได้ เพราะ อาชพี อน่ื ๆ ของเธอมีรายได้ดีพอควร แตท่ ยี่ ังท�ำงานพัฒนาอยู่ เพราะชอบงานท่ีท้าทายความ คดิ ความสามารถ สรา้ งความเปลย่ี นแปลง สรา้ งคณุ ค่าใหก้ บั ผคู้ นในสงั คมได้ จึงพร้อมทจี่ ะ ทำ� งานเพือ่ พัฒนาคณุ ภาพชีวิตผูค้ นเช่นนีต้ ่อไปเรือ่ ย ๆ “มีคณุ หมอผใู้ หญ่ทา่ นหน่ึงเห็นการทำ� งานของมนี าแล้วบอกวา่ ทที่ �ำไดม้ ากมาย ไม่เหน็ด ไมเ่ หนือ่ ย เพราะแรงผลกั ท่มี นั ลกึ ลับ เป็นความศรัทธาจากภายใน เราก็ อยุ้ ! ทำ� ไมหมอรจู้ ักเรา ดแี ท้ หมอบอกวา่ ดจู ากเฟซบ๊กุ มีนาไง (หัวเราะ) ก็จะเห็นมนี าไปโบสถ์ ไปทำ� งานอาสาสมคั รตา่ ง ๆ ช่วยเหลือเคสผู้หญิงและเด็กที่ประสบปัญหาชีวิตครอบครัว ส�ำหรับมีนาถือว่าเป็นโอกาสท่ี พระเจา้ ให้เราไดท้ �ำงานรับใช้ผอู้ ่ืน” “พระเจา้ เปล่ียนมนี า จากเมื่อกอ่ นเป็นคนใชก้ ารไมไ่ ด้เลย จนค้นพบศกั ยภาพตวั เองเจอ แลว้ ไดท้ �ำโครงการดี ๆ มาตลอด การไดร้ บั ใช้คนอ่นื เป็นจุดประสงค์ของการใช้ชวี ิตในโลกน”้ี มีนาตอบค�ำถามถึงแรงผลักดันในการท�ำงานจนส�ำเร็จในแต่ละคร้ังอย่างสอดคล้องกับค�ำตอบ ของจันทร์เพ็ญท่ีว่า เธอเลือกท�ำทุกอย่างให้ดีที่สุดทุกวันด้วยความเชื่อและศรัทธากับส่ิงดี ๆ ที่จะเกิดข้ึนกับผู้คน “ไม่ว่าเราจะรับงานใดมาท�ำ ขอให้ท�ำเหมือนเป็นของขวัญให้กับพระเจ้า ฉะน้นั ทกุ อยา่ งเราสแู้ ละทำ� ให้ดที ส่ี ุดเสมอ ฐานคิดของเราพ่นี ้องเปน็ แบบน”้ี จนั ทรเ์ พญ็ กล่าว สรปุ ถึงความคดิ ชีวิตการงานและความศรัทธา ∞15∞8
= Growth Mindset = - การพัฒนาเดก็ เล็ก เท่ากับการพัฒนาสงั คมในระดับชาติ - สัมพนั ธภาพท่ดี ี เกดิ จากการสือ่ สารอย่างซื่อตรงและปรารถนาดี - การอ่านพัฒนาคุณชีวติ ใหเ้ ทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงได้ - พฒั นาสงั คม เร่มิ ต้นทีพ่ ัฒนาครอบครัวของตวั เอง - สอนเด็ก ๆ ด้วยการลงมือท�ำเป็นตัวอย่าง - หนงึ่ ความส�ำเรจ็ สรา้ งแรงบนั ดาลใจให้คนอน่ื ๆ ได้ - ตัง้ คำ� ถามทส่ี รา้ งสรรค์ ได้ค�ำตอบทเ่ี หมาะสมเสมอ - ดแู ลเอาใจใส่ทมี งานเหมอื นคนในครอบครัว - พฒั นาคน เทา่ กบั พัฒนาชมุ ชน - มั่นคงกับเปา้ หมาย วธิ กี ารจะปรากฏเสมอ - ทกุ ความท้าทายมที างออกเสมอ - เมื่อเจองานใหม่ แคล่ งมือทำ� เรียนรู้ และพฒั นา - สรา้ งสรรค์สง่ิ ดี ๆ เพ่ือคนอนื่ คอื วตั ถปุ ระสงคข์ องการมีชวี ิต ∞15∞9
อา่ นสร้างสุข อไุ ร โสรเนตร
รักการอา่ น เริม่ จากฐานครอบครวั : อ–ุ๊ สุรนิ ทร์ พัฒนาชมุ ชน สรา้ งเครอื ข่าย ใหเ้ กียรตคิ นทำ� งาน จิตอาสาส่วนใหญ่ของพื้นที่เครือข่ายของโครงการอ่านยกก�ำลังสุขสนุกที่สุรินทร์ เรยี กเธอว่า “นอ้ งอุ”๊ บางคนบอกวา่ “นอ้ งอุ”๊ ยิม้ เก่ง ยิม้ งา่ ย บางคนบอกว่า “น้องอ๊”ุ พูดหวาน ใหก้ �ำลังใจเก่ง บางคนบอกวา่ “น้องอุ๊” ใจดี มีของดี ๆ ความร้ดู ี ๆ มาฝากเสมอ บางคนบอกว่า “นอ้ งอุ”๊ ก็เหมอื นลูกเหมือนหลาน แต่ที่น่าสนใจมากคอื จติ อาสาทกุ คนบอกเปน็ เสยี งเดยี วกันวา่ “นอ้ งอุ๊” ตัง้ ใจทำ� งานเพือ่ ชมุ ชนจรงิ ๆ “นอ้ งอุ๊” หรอื “อไุ ร โสรเนตร” เปน็ ผปู้ ระสานงาน สถาบนั ครอบครัวเขม้ แข็ง จังหวดั สุรินทร์ ซ่งึ เป็นอกี องค์กรขับเคล่ือนงานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอ่านในชุมชน มุ่งเน้นท�ำงาน
ร่วมกับแกนน�ำจิตอาสา บา้ น วดั โรงเรียน ชมุ ชน ในพืน้ ท่ี ๘ ตำ� บลของจังหวัดสรุ นิ ทร์ “หัวใจหลักของการท�ำงานชุมชน คือ การสร้างเครือข่ายการท�ำงาน เปิดโอกาสให้ เครือข่ายท�ำงานตามความต้องการ เราเป็นเพียงพ่ีเลี้ยงผู้ติดตาม จากนั้นผลลัพธ์การ เปล่ยี นแปลงจะเกดิ ขนึ้ เองในชมุ ชน” “อุ๊-อไุ ร” ยืนยนั หลักคดิ การท�ำงานชมุ ชนไวช้ ดั เจน คือ ปล่อยใหค้ นในชุมชนไดท้ �ำตามท่ี ต้องการจริง ๆ ไมม่ กี ารยดั เยียดความคิดหรือวธิ ตี า่ ง ๆ ใหท้ ำ� ซง่ึ เมอื่ เกดิ ผลงานเปน็ รูปธรรม น่นั คอื ผลิตผลของคณะทำ� งานในชมุ ชนจริง ๆ เธอท�ำงานขับเคลื่อนวัฒนธรรมการอ่านด้วย ความร่วมมอื หลกั ๆ ของคนท�ำงานทีอ่ ยใู่ นชุมชนล้วน ๆ เช่น ผู้อ�ำนวยการและครูโรงเรียนประจ�ำต�ำบล ครปู ระจำ� ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ (ศพด.) นกั วชิ าการศกึ ษา ประจำ� องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ (อปท.) สมาชกิ สภา อปท. ผใู้ หญบ่ า้ น กำ� นนั แกนนำ� ชมุ ชน แกนนำ� เยาวชน รวมท้งั พระภิกษุทเี่ คารพนับถอื ในทอ้ งถน่ิ ช่วงเริ่มท�ำงานกับ ๑๐ ชุมชนแรกในปี ๒๕๔๗ ยึดหลกั เชอื่ มประสานกบั ผู้นำ� ชุมชน ผู้ใหญบ่ า้ น ตอ่ มา เม่ือมีโครงการเครือข่ายสุขภาวะครอบครัวในโรงเรียน เขา้ มา จึงเรมิ่ เช่ือมตอ่ เข้าโรงเรยี น มีแกนนำ� ครเู ป็นเครอื ข่ายภายใต้ขอบเขตงานครอบครัว และ คอ่ ย ๆ ขยายเครือข่ายเพิ่มเตมิ มากข้นึ ตามประเด็นงานพัฒนาชมุ ชนท่ีสถาบนั ครอบครัวเขม้ แข็ง ∞16∞2
จังหวัดสุรินทร์ รบั ผดิ ชอบ ไปเอาเปรียบใคร แต่เราท�ำงาน ท�ำจริง ถา้ งานไหนผลงานไม่ใช่ของเรา เช่น เขาท�ำ “พน้ื ทท่ี ำ� งานเราหลากหลาย เราไมไ่ ด้ กิจกรรมนี้ไปแล้ว ๒ เดือน เราก็ให้เกียรติ ลงไปทำ� งานเองในชมุ ชน แตเ่ ราเชอื่ มเขา้ ไป ผลงานของเขา ไม่เอามาพูดให้คนเข้าใจผิด สนับสนุนให้ตัวแทนชุมชนท�ำงานได้มี ว่าเป็นผลงานของเรา แต่ส่วนไหนที่เรามา ประสิทธิภาพมากที่สุด ท้ังเรื่ององค์ความรู้ เช่ือมโยงหรือสนับสนุนเพิ่มเติม เราก็พูด โอกาส และงบประมาณ” อธิบายไปตามขอ้ เท็จจรงิ ” การท�ำงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการ จุดแข็งของ “อ”ุ๊ คอื เชย่ี วชาญเร่อื ง อ่านในชุมชนท่ีเธอรับมอบหมายมาน้ัน การเข้าหาครอบครัว เข้าหาผู้น�ำชุมชน ขับเคลื่อนไปได้อย่างรุดหน้าและมีแนวโน้ม ประสานงานเช่ือมโยงเครือข่าย คอยหนุน ของความย่ังยืนชัดเจนจากการเห็นคณะ เสริมให้เกิดการจัดกิจกรรม และขับเคล่ือน ท�ำงานในชุมชนลงมือท�ำงานด้วยความรู้สึก งานในพื้นท่ีร่วมกัน รวมท้ังยังหนุนเสริมให้ เปน็ เจา้ ของอยา่ งแทจ้ รงิ ซง่ึ “อ”ุ๊ มองวา่ ความ เกดิ ภาคเี ครอื ขา่ ยเข้มแขง็ ดว้ ยการประสาน ส�ำเร็จตรงน้ีเป็นผลต่อเน่ืองจากการท�ำงาน ให้คนท�ำงานของแต่ละชุมชนมีโอกาสได้มา ประเด็นครอบครัวเข้มแข็งท่ีมีมาต้ังแต่ พบปะและแลกเปล่ียนประสบการณ์ความรู้ ปี ๒๕๔๗ ดงั นนั้ ผลงานเดมิ นน้ั เปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ ของแต่ละพ้ืนท่ี เพื่อน�ำไปประยุกต์ใช้กับ ว่าเธอกับทีมงานท�ำจริง เธอเน้นประเด็น ชมุ ชนของตนเอง ตลอดเกอื บ ๑๐ ปที ่ผี ่าน “ทำ� จรงิ ” เพราะเชอ่ื วา่ เมอื่ ทำ� จรงิ กเ็ ปลย่ี นแปลง มา เธอสามารถผลักดันให้ชุมชนเกิดการ จริง ผลลพั ธ์ทด่ี เี กิดจรงิ ท�ำให้เชือ่ มงานกบั ตระหนักรู้และลงมือพัฒนาตนเองได้จ�ำนวน พน้ื ท่ชี มุ ชนต่าง ๆ ได้สะดวกงา่ ยดายมากขึน้ เยอะมาก ไม่ว่าจะประเด็นลด ละ เลิก “อุ๊เช่ือว่า ทุกคนเห็นว่าพวกเราไม่ได้ ∞16∞3
อบายมขุ ประเดน็ ความรกั และผกู พนั พอ่ แมล่ กู ประเดน็ สอ่ื สรา้ งสรรคส์ ำ� หรบั เยาวชน และประเดน็ สง่ เสรมิ การอา่ นในชุมชน แตจ่ ากมุมมองของ “อุ๊” คอื เธอไม่ใชค่ นลงมือท�ำ แตช่ มุ ชนต่างหากท่ีลงมือทำ� สว่ นเธอ เป็นเพยี งผรู้ ่วมผลักดนั ใหเ้ กิดขึ้นเทา่ น้ัน เม่ือให้ลองนยิ ามอาชพี ของตน เธอบอกวา่ คอื นักพฒั นาสงั คมด้านครอบครวั เน่อื งดว้ ย ฐานเดมิ มาจากงานครอบครวั เขม้ แขง็ ตลอดเสน้ ทางการทำ� งานพฒั นาจงึ วนเวยี นอยกู่ บั เรอ่ื งราว ของครอบครัวเป็นหลัก ถึงวันน้ี “อุ๊-อุไร โสรเนตร” เลือกเดินเส้นทางนักพัฒนามาแล้วเกือบ ๑๐ ปี ทง้ั ๆ ที่ไมเ่ คยคดิ มากอ่ นวา่ จะไดม้ ชี วี ติ อยกู่ บั ชมุ ชนเชน่ นี้ เพราะตนเองไมไ่ ดเ้ ตบิ โตมาจาก เยาวชนเขม้ แขง็ สายคา่ ยอาสาพฒั นาชนบท ไมไ่ ดม้ พี นื้ ฐานของความสนใจงานชมุ ชนมากอ่ นหนา้ วยั เด็ก “อ๊”ุ อยากเปน็ นกั วิทยาศาสตร์ตา่ งหาก เธอเล่าไว้อย่างน้ัน เปน็ คนขอ้ี าย ไม่ชอบ คยุ กบั คน อยากทำ� งานอยู่ในห้องทดลอง เธอเล่าไวอ้ ยา่ งนนั้ ∞16∞4
แต่ชีวิตทุกวันนข้ี อง “อุ๊” พลิกจากทีเ่ คยคิดไวส้ ุดขัว้ เธอได้ พดู คุยกับผู้คนทกุ วัน ทั้งคนคนุ้ เคย คนไมเ่ คยคนุ้ มาก่อน และแทบ ไม่ได้นั่งท�ำงานอยู่ในส�ำนักงานด้วยซ้�ำ เพราะต้องเดินทางเรียนรู้ แลกเปล่ยี น ติดตามงานอกี จำ� นวนนับคร้ังไม่ถ้วนในรอบปี “แปลกเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้กลายเป็นคนชอบคุยไปแล้ว มีความสุข และอบอนุ่ ดีทไ่ี ดท้ ำ� งานชมุ ชน” นักทดลอง “ลงมือทำ� ” ดว้ ยความฝนั ของเดก็ ขอี้ าย อยากเปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์ ฝงั ตวั อยู่ในหอ้ งทดลอง เพราะเปน็ อาชีพที่ไม่ต้องไปพบปะหรือพูดคุยกับผู้คนมากนัก “อุ๊-อุไร โสรเนตร” จึงตัดสินใจเรียนสาขา วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั บรุ ีรัมย์ หลังเรียนจบก็ไดง้ านต�ำแหน่งอาสาสมคั รหอ้ งทดลอง วิทยาศาสตรด์ ้านชวี วิทยาทีพ่ พิ ิธภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์ คลอง ๕ ปทุมธานี “อุ๊” เลา่ ยอ้ นไปวา่ ชื่อต�ำแหน่งถูกใจใช่เลย แต่เมอื่ ได้ทำ� งานจริง ๆ กลับไม่เปน็ อยา่ งทคี่ ิด เพราะงานหลกั ไมไ่ ด้อยู่ในห้องทดลอง แต่ตอ้ งไปทำ� หนา้ ท่พี ูดให้ความรูก้ ับเดก็ ๆ ที่มาเรียนรู้ใน พพิ ิธภัณฑ์ “เริ่มปรบั เปลย่ี นตัวเองช่วงน้แี หละค่ะ พดู คุยมากข้นึ แลว้ เด็ก ๆ กรุงเทพฯ น่ีไม่ใชถ่ าม ประโยคเดียวแล้วจบ แต่ถามเป็นชุดต่อ ๆ กันเลย เราต้องพร้อมตอบตลอด แล้วก็เริ่มได้คิด ท�ำการทดลองไปด้วย สนกุ ดี ถึงตอ้ งเจอคนเยอะหนอ่ ยกถ็ ือเป็นเรอื่ งตอ้ งปรบั ตัว ย่งิ ท�ำก็ยงิ่ รสู้ กึ ∞16∞5
ชอบ แต่แม่เริ่มไมค่ ่อยชอบเพราะไปอยู่ไกล ชมุ ชนเครอื ขา่ ย และมเี นอื้ งานอยู่ในขอบเขต บ้าน ความฝันแมค่ อื อยากให้เป็นครู ตามเรา ก�ำลังการท�ำงาน เชน่ โครงการรณรงคห์ ยดุ กลับบา้ นอยูเ่ รอ่ื ย จนสุดท้ายกต็ ้องกลับมาส การพนัน สามารถรณรงค์ให้เริ่มต้นได้จาก อบครู แตไ่ มต่ ดิ คะ่ กอ็ า่ นหนงั สอื บา้ ง ไมอ่ า่ น ครอบครัว บา้ งเพราะใจจริงเราไม่ไดอ้ ยากเปน็ คร”ู วนั นนั้ “อ”ุ๊ รบั ตำ� แหนง่ เจา้ หนา้ ทก่ี ารเงนิ เมื่อไม่ได้เป็นครูตามฝันของแม่ “อุ๊” ซ่งึ แม้ไม่ใช่งานในฝัน เริ่มเรียนรู้วิธีการทอผ้าไหมจากแม่และยาย คิดเป็นลวดลายต่าง ๆ เป็นที่ต้องการของ แต่เธอก็ตดั สนิ ใจท�ำ เพราะความคิด ตลาดมาก เธอเล่าว่าช่วงนั้นคือ ปี ๒๕๔๗ เดียวคอื “อยากลองด”ู น่ังทอผ้าไหมกันท้ังวันท้ังคืน ซ่ึงเธอหันมา ทดลองวทิ ยาศาสตรด์ ว้ ยการหาพชื หาเปลอื ก “เพอ่ื นกบ็ อกวา่ งานสนกุ วนั ๆ เจอคน ไม้ หาวัตถดุ บิ จากธรรมชาตมิ าทดลองสร้าง เยอะ บอกว่ามันมาก มาท�ำแล้วจะชอบ เปน็ สสี นั ตา่ ง ๆ นำ� ไปยอ้ มผา้ เรยี กวา่ เปน็ ชว่ ง ก็โอเค อยากลอง แต่พอเข้ามาจริง ๆ ได้ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ผ้าทอขายที่สนุกสนาน ทำ� การเงนิ ซงึ่ มนั ไมไ่ ดเ้ จอใคร นง่ั ทำ� บญั ชอี ยู่ มากของเธอ สำ� นักงาน (หวั เราะ) ท�ำเสรจ็ วา่ ง ๆ กอ็ า่ น หนังสือ ในส�ำนักงานก็มีหนังสือโครงการฯ กระทั่งปี ๒๕๔๙ จึงตัดสินใจร่วม เยอะ มวี นั หนงึ่ ไดอ้ า่ นหนงั สอื ทเี่ กบ็ ขอ้ มลู จาก ท�ำงานกบั สถาบันครอบครวั เข้มแข็ง จงั หวัด แรงบันดาลใจคนท�ำงานอาสาพัฒนา ว่าเขา สรุ นิ ทร์ เพราะเพื่อนชวนมาชว่ ยกัน องค์กร ทำ� งานเพราะอะไร แล้วเป็นยังไง อา่ น ๆ ๆ รบั ทนุ ท�ำโครงการจาก สสส. เป็นหลกั ยึด ไปก็ได้แรงบันดาลใจไปขอเพ่ือนลงพ้ืนที่ หลักเลือกงานท่ีสามารถบูรณาการเข้ากับ ดว้ ยคนนะ เด๋ียวฉันจะรีบเคลียร์งานให้เสรจ็ (หัวเราะ) อยากลองลงพน้ื ทีม่ าก” ∞16∞6
สถาบันครอบครัวเขม้ แขง็ จังหวัดสรุ ินทร์ เป็นองค์กรเอกชนทเี่ กิดจากการรวมตวั กันของผู้ทม่ี ี จิตอาสาหลากหลายอาชีพในพ้ืนท่ีของจังหวัดสุรินทร์ เพ่ือทำ� งานเก่ียวกับการสร้างเสริมสุขภาพของ ครอบครวั ในชุมชนมาตั้งแตป่ ี พ.ศ. ๒๕๔๗ ถงึ ปจั จุบนั ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ เชน่ การจัดกระบวนการ สรา้ งการเรยี นรู้ อบรมพฒั นาศักยภาพ การประชุมเครือข่าย กจิ กรรมแสดงผลงานดา้ นพฒั นาชุมชน ฯลฯ เพอื่ สง่ เสรมิ ใหค้ รอบครวั มคี วามเขม้ แขง็ เนน้ กระบวนการเรยี นรแู้ บบมสี ว่ นรว่ ม(Participatory Learning : PL) ซงึ่ สามารถสรา้ งเสรมิ สุขภาพของครอบครวั ทัง้ ทางดา้ นร่างกายและจติ ใจ เร่มิ ต้นทำ� งานกับประเดน็ รณรงค์สรา้ งครอบครัวต้นแบบปลอดเหลา้ ชุมชนครอบครัวเข้มแขง็ เครือข่ายสุขภาวะในโรงเรียน มีการจัดการร้ือฟื้นและค้นหาภูมิปัญญาพ้ืนบ้านเพื่อร่วมกันสืบสาน ภูมปิ ญั ญา ส่งเสรมิ ให้ชุมชนปลกู ผักปลอดสารพษิ รักส่งิ แวดล้อมและจดั สง่ิ แวดล้อมในชมุ ชน จนได้ เข้ามาเป็นภาคีเครือข่ายระดับพ้ืนที่ของแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ท�ำให้เกิดแกนน�ำ ส่งเสริมการอ่านในชุมชน มุมการอ่านในครอบครัว ชุมชน โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เกิดเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน มีกิจกรรมพัฒนาแกนน�ำเยาวชนอาสาอ่านหนังสือให้กับน้องในศูนย์ พฒั นาเดก็ เลก็ ฟงั และมกี ารเรยี นรภู้ มู ปิ ญั ญาพน้ื บา้ นในรปู แบบของหนงั สอื ทำ� มอื พรอ้ มจดั การประกวด ผลงานระดับตำ� บล รวมทั้งยังได้เกิดการผลักดันให้เกิดแผนพัฒนา ๓ ปีขององค์การบริหารส่วนต�ำบล (อบต.) เกยี่ วกับงานส่งเสริมการอ่านจำ� นวน ๒ ตำ� บลอีกดว้ ย ท�ำให้เหน็ ภาพชดั เจนในการขับเคลื่อนอย่างมี ทศิ ทางเดยี วกันทั้งชุมชนตามบริบทของแต่ละแห่ง เชน่ มกี ิจกรรมสง่ เสริมการเรยี นรขู้ องเด็กในเรอื่ ง การพฒั นาทักษะการอ่านของเดก็ ปฐมวัย การปรับตวั ให้เข้ากบั บุคคลอน่ื ใน สงั คม การส่งเสริมการอา่ นในครอบครัวของเดก็ ปฐมวยั รวมไปถึงโรงเรยี น ∞16∞7
และชมุ ชน กระทง่ั เกดิ ผลลพั ธก์ ารเปลย่ี นแปลงในระดบั บคุ คลของเดก็ ๆ ทเ่ี ขา้ รว่ ม โครงการ เช่น ผลการเรยี นดีขึ้น ได้รบั คดั เลอื กเปน็ ประธานนักเรยี น ในขณะทผ่ี ใู้ หญซ่ ง่ึ เปน็ จติ อาสาทำ� งานก็ไดร้ บั ผลสำ� เรจ็ ดา้ นตา่ ง ๆ อกี ดว้ ย เช่น โรงเรียนผ่านการประเมินของ สมศ. หรือส�ำนักงานรับรองมาตรฐานและ ประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ได้อย่างง่าย ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนได้เล่ือนวิทยฐานะ จากการทำ� ผลงานสง่ เสรมิ การอา่ นแบบมสี ว่ นรว่ มระหวา่ งโรงเรยี นและชมุ ชน สว่ นครอบครวั เกดิ ความ สัมพนั ธ์อบอ่นุ ในครอบครัวจากการยืมหนังสอื ไปอ่านด้วยกนั “อุ๊” เร่มิ ท�ำงานกับสถาบันครอบครัวฯ สรุ นิ ทร์ ในปี ๒๕๔๙ พอยา่ งเข้าปี ๒๕๕๐ กเ็ รม่ิ ลง พ้ืนทชี่ ุมชน ไปคร้ังแรก ๆ นัง่ สังเกตการณ์ จากน้ันคอ่ ย ๆ พดู คยุ กบั ผู้คนมากข้นึ จนเพอ่ื นเร่ิม เปิดโอกาสให้ประสานงาน และส่งงานให้รับผิดชอบ เช่น เขียนสรุปกิจกรรม จนถึงปี ๒๕๕๓ เพอื่ นที่ชวนอมุ๊ าทำ� งานขอขยับตัวไปท�ำงานส่วนกลางในกรุงเทพฯ สว่ นเธอยงั ทำ� งานในพน้ื ทตี่ อ่ จนกระทงั่ ปดิ โครงการครอบครวั เขม้ แขง็ ในปี ๒๕๕๔ สถาบนั รกั ลกู ซึ่งเปน็ องค์กรท่ีดูแลโครงการครอบครวั เข้มแข็ง เชื่อมต่อให้ “อ”ุ๊ ได้พบกับ “พีเ่ จ-สุดใจ พรหมเกิด” ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ซึ่งพร้อมสนับสนุนการท�ำงาน สร้างเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นใหเ้ กิดข้นึ ในชุมชน “พอรวู้ า่ แผนฯ การอา่ นเปดิ รบั โครงการ อกุ๊ ค็ ดิ วา่ วดั ดวงเลย เขยี นโครงการเปน็ ครงั้ แรก จากฐานคิดเร่ืองครอบครัวรักการอ่าน เพราะคิดว่าสถาบันครอบครัวเป็นจุดเร่ิมต้นของการ พัฒนาทุกสง่ิ ได้ สดุ ท้ายเขา้ ตากรรมการ ก็ไดท้ ำ� โครงการปแี รก เรม่ิ ทำ� จาก ๑๐ ชุมชนทที่ �ำงาน ∞16∞8
รว่ มกนั มาตงั้ แตค่ รอบครวั เขม้ แขง็ แลว้ กค็ อ่ ย ๆ เพมิ่ เตมิ มาจนวนั นกี้ ็ ๑๕ พน้ื ทใ่ี น ๘ ตำ� บลแลว้ ” ปจั จบุ นั สถาบนั ครอบครวั เขม้ แขง็ จงั หวดั สรุ นิ ทรข์ บั เคลอ่ื นใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ๒ แห่ง คือ ต�ำบลบัวโคก และต�ำบลเมืองแก บรรจุกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเข้าไปอยู่ใน แผนพัฒนา ๓ ปีของท้องถิ่น รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนให้ครอบครัวในชุมชน ศูนย์พัฒนา เด็กเล็ก และโรงเรียนมีนิสัยรักการอ่าน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ใน ๑๕ พ้ืนที่ ครอบคลมุ ๘ ต�ำบล ๕ อำ� เภอ และขยายส่พู ้นื ท่ีใกล้เคยี งในจงั หวัดสุรินทร์ และจากการประชุม ขับเคลื่อนงานระดับต�ำบลท�ำให้ผู้อ�ำนวยการโรงเรียน ๒ แห่งอนุมัติงบประมาณในการจัดซ้ือ หนังสอื สำ� หรับมมุ การอา่ น โรงเรยี นละ ๒๕,๐๐๐ บาท “ผมเปน็ คนทขี่ าดโอกาสทางการศกึ ษา เมอ่ื ไดม้ าอยู่ ในตำ� แหนง่ นกี้ ม็ องวา่ ทกุ คนเปน็ สมาชกิ ในครอบครวั เดยี วกนั อยากมอบโอกาสใหก้ บั ลกู ๆ หลาน ๆ ในชมุ ชนทุกคนได้ เข้าถึงหนังสือและการอ่าน เพราะเห็นแล้วว่าการอ่านเป็น ประโยชน์จรงิ จงึ อยากจะพัฒนาและส่งเสรมิ ดา้ นการศึกษา ใหด้ ีทส่ี ุด ด้วยการผลกั ดนั ส่งเสริมการศึกษาในชุมชนจนจัด ตง้ั เปน็ นโยบายหลกั ลงไปยงั โรงเรยี นทงั้ ๗ แหง่ ในตำ� บลบวั โคก โดยมชี มุ ชนเป็นจุดส�ำคญั ในการสง่ เสริมการอา่ น” สมสิทธิ์ จนั ทร์แดง นายกองคก์ ารบริหารสว่ นต�ำบลบัวโคก อ�ำเภอท่าตูม จงั หวัดสุรินทร์ ∞16∞9
“ผมมีแนวคิดว่าอยากจะท�ำทุกวิถีทางท่ีจะท�ำให้คน ต�ำบลเมืองแกมีความสุขมากที่สุด ทั้งทางด้านร่างกายและ จิตใจ จึงพัฒนาควบคู่กันไปท้ังทางด้านสุขภาพ คือชุมชน ปลอดเหล้า อาหารปลอดภัย และทางด้านจิตใจ คือการ ส่งเสรมิ การอา่ นแบบมีความสุข” จักรกฤษณ์ พาณชิ ยก์ ิจเจรญิ นายกเทศมนตรตี ำ� บลเมอื งแก อำ� เภอทา่ ตมู จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ทุกวันน้ี ๑๐ พ้ืนท่ีท�ำงานครอบครัวเข้มแข็งยังคงอยู่เป็นเครือข่ายของ “อุ๊” อย่าง เหนียวแนน่ อุ๊บอกว่าหัวใจในการเช่ือมโยงพ้ืนที่ให้อยู่ยืนยาวของเธอคือ ให้ความส�ำคัญกับเครือข่าย อยา่ งเสมอตน้ เสมอปลาย ไมไ่ ดต้ ดิ ตอ่ กนั แคเ่ มอื่ ตอ้ งการใหเ้ ครอื ขา่ ยมาทำ� งานของโครงการตา่ ง ๆ เท่านั้น แต่ยังติดต่อถึงกันเสมอในงานส่วนตัวหรืองานส่วนรวมของชุมชน เช่น แต่งงาน ข้นึ บา้ นใหม่ บวชพระ เทศกาลงานบญุ ประเพณี “ถือวา่ เป็นพ่ีน้องกัน เปน็ มิตร คุยกนั แล้วก็สบายใจดี ในใจเราปรารถนาดกี บั เขา แลว้ เรา กอ็ ยกู่ บั เขาเสมอ ไม่ใชเ่ อาโครงการไปใหท้ ำ� แลว้ ตวั กห็ นหี าย แตพ่ วกเรารว่ มหวั จมทา้ ยกนั ตลอด เหมอื นเปน็ เครอื ญาติกันไปแลว้ ” ∞17∞0
สถาบันครอบครวั เข้มแขง็ จงั หวัดสุรินทร์ ทำ� งานการอ่านมาแล้ว ๕ ปี พ้ืนฐานเครอื ข่าย ครอบครวั เขม้ แขง็ ชว่ ยใหส้ อ่ื สารประเดน็ สรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นในชมุ ชนไดม้ าก เนอื่ งจาก ผู้น�ำชุมชนท่ีเป็นภาคีในพ้ืนท่ีช่วยประสานงานได้เยอะมาก ต้ังแต่ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) องค์การบริหารส่วนต�ำบล อบต. ซ่ึงเมื่อมีผู้บริหารท้องถ่ิน คนใหม่ ผู้นำ� ชุมชนเป็นบคุ คลส�ำคัญทสี่ ามารถเช่อื มต่อใหส้ อ่ื สารกนั ไดส้ ะดวกยง่ิ ขนึ้ “ผ้นู ำ� ชุมชน เป็นแกนนำ� ส�ำคัญในการขบั เคลือ่ นประเดน็ พัฒนาสงั คมได้ทกุ เรื่อง” ผู้น�ำชุมชนที่ “อุ๊” ท�ำงาน ด้วยส่วนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ผูช้ ่วยผูใ้ หญบ่ ้าน จติ อาสา รวมไป ถึงต�ำแหน่งอ่ืน ๆ ในชุมชนที่ท�ำ กจิ กรรมในชมุ ชนสมำ�่ เสมอ พรอ้ ม กับคนท่ีเป็นผู้น�ำตามธรรมชาติ สามารถเป็นแกนส�ำคัญในการ ชวนคนเข้าร่วมท�ำกิจกรรมได้ คนในชมุ ชนให้ความเชอื่ ถือ หลกั การทำ� งานชุมชน “เรากค็ น้ หาคนที่ใช่ไปเรื่อย ๆ” เธอบอกวา่ ฟังดแู ลว้ เหมือนง่าย แตต่ อ้ งมนั่ คงทจี่ ะคน้ หาตอ่ ไปเรอ่ื ย ๆ ไมว่ า่ จะเจอที่ใชแ่ ลว้ หรอื ไมก่ ต็ าม กย็ งั คงตอ้ งคน้ หาไปเรอ่ื ย ๆ การติดต่อเชื่อมงานเข้าไปพูดคุยกับหน่วยงานของพ้ืนท่ีใหม่นั้น “อุ๊” เลือกพาคนที่เป็น ∞17∞1
แกนนำ� และมีบทบาทสำ� คญั ในพ้ืนทีน่ นั้ ๆ ไปด้วย โดยเน้นการพดู คุยแบบสบาย ๆ ไมต่ อ้ งเปิด คอมพิวเตอร์ ไม่ตอ้ งมสี คริปต์ลว่ งหน้า แต่เปน็ การไปขอค�ำปรกึ ษา แล้วพดู คยุ กัน “อไุ๊ มเ่ คยไปเปดิ เอกสารโครงการ เพราะเนน้ คยุ ไม่ใหเ้ ขากงั วลใจหรอื กดดนั ไม่ใชเ่ ปน็ การ โกหกนะ เป็นการคยุ ความจรงิ แบบผ่อนคลาย สบาย ๆ อะไรทำ� ไดท้ ำ� ไม่ได้ ก็สบาย ๆ คอ่ ย ๆ ว่ากนั ไป เราเหน็ วา่ พื้นทมี่ ศี กั ยภาพ ก็ยนื ยนั ไปว่าพืน้ ท่ที �ำได้นะ ลองทำ� ดูก่อนมย้ั ” ในทีส่ ดุ คำ� วา่ “ลองท�ำด”ู ก็ถูกแพร่ขยายไปยังหนว่ ยงานเครือขา่ ยตา่ ง ๆ ของ “อ”ุ๊ จากน้ันเธอใช้วิธีค่อย ๆ เล่าถึงพ้ืนท่ีซึ่งท�ำส�ำเร็จแล้วว่ามีจุดน่าสนใจอย่างไร ใช้กลยุทธ์ ยงั ไงบา้ ง “บางครั้งไปเปิดพ้ืนท่ีใหม่นี่ขนกันไปทั้งคณะท�ำงานเครือข่ายเลย แต่คนพูดเจรจางานก็ คนเดยี วนะ จนมหี น่วยงานหนง่ึ หลังจากเขายินดเี ปน็ เครือข่ายแล้ว บอกอวุ๊ า่ ถา้ คณุ มาคนเดยี ว ผมไม่เอานะ แตน่ ่พี วกคณุ มาเปน็ ๑๐ มันตอ้ งเปน็ ศักดศิ์ รีของผมไง คณุ มาเยอะถา้ ผมไม่เอา เดย๋ี วคณุ เอาไปพูดต่อ (หัวเราะ) ซง่ึ กเ็ ปน็ ผลดีกบั งานมาก” “จดุ เดน่ ของอุ๊ คือ เข้าหาคนงา่ ย เป็นกนั เอง ไปไหนมาไหน มขี องฝากตดิ ไมต้ ดิ มอื ถงึ ชาวบา้ น ใจเยน็ พดู จากน็ มุ่ นวล ออ่ นหวาน นำ้� เสยี งไมก่ ระโชกโฮกฮาก หลกั การทำ� งานชมุ ชนของเรา คอื มองหา คนท่มี ีใจ พรอ้ มเรยี นรู้ท่ีจะพัฒนาตนเอง ซึ่งคนมใี จกส็ งั เกตง่าย ๆ จากการใหค้ วามร่วมมือและเข้ารว่ มกจิ กรรมชุมชนสมำ่� เสมอ” สมทุ ร สนิทพันธ์ คณะทำ� งาน สถาบนั ครอบครัวเข้มแข็ง จงั หวัดสุรนิ ทร์ ∞17∞2
“ไปพื้นที่ไหน เช่ือมกับใคร จะได้หรือไม่ได้ยังไม่รู้ ขอให้เราได้คุยก่อน ไปด้วยความ เชอื่ มนั่ ในศกั ยภาพของพน้ื ทเี่ ขา สว่ นรปู แบบกจิ กรรมกต็ ามสไตลท์ ถ่ี นดั เลย เพยี งแค่ใหต้ อบโจทย์ เดียวกัน เราคิดว่าจากสุรนิ ทรไ์ ปกรงุ เทพฯ มันไปได้หลายวิธี เครอื่ งบนิ รถไฟ รถทวั ร์ รถยนต์ รถตู้ เยอะมาก หรือแม้แต่เดิน ก็เลือกเอาสิ่งที่ถนัดเลย สุดท้ายก็ไปถึงกรุงเทพฯ เหมือนกัน ฉะนนั้ การสง่ เสรมิ การอา่ นในชมุ ชนมนั กท็ ำ� ไดห้ ลายวธิ เี หมอื นกนั เราเปดิ กวา้ งใหท้ ำ� ตามทถี่ นดั ” หลกั สำ� คัญของการหาคนที่ใชแ่ ละเปน็ กลไกสนบั สนุน คือ การถามหาจากคนท�ำงานหรือ แกนนำ� ชมุ ชน จากนนั้ ทมี งานจะร่วมกนั วเิ คราะหห์ าบคุ คลส�ำคญั ในแต่ละพ้นื ที่เพอ่ื ลงมอื “การสอื่ สารรายละเอยี ดโครงการฯ ทย่ี ากสดุ คอื พนื้ ทซ่ี งึ่ มกี าร เปล่ียนแปลงผู้น�ำท้องถิ่น เนื่องด้วยหลายปัจจัย เช่น คนใหม่ ไม่ต้องการสานงานของคนเก่าเพราะเป็นคู่แข่งกัน ดังน้ัน แกนน�ำ ชุมชนจึงเป็นกลไกส�ำคัญท่ีน�ำผลงานส่ือสารแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ ที่เกิดผลดีกับชุมชนได้จริงอย่างต่อเนอ่ื งด้วย ท�ำไปจนกว่าจะเกิด ความเขา้ ใจและใหค้ วามรว่ มมอื หาวธิ ีการไปเรอ่ื ย ๆ บางพื้นที่ คนส�ำคญั ที่สดุ (Key Person) กเ็ ป็นภรรยาของผ้อู �ำนวยการโรงเรยี น ภรรยาของ นายก อบต. ซงึ่ พอเชอ่ื มไดก้ ช็ ว่ ยขยบั งานไดเ้ ยอะมาก ตอนสมยั เรยี นเคยไดย้ นิ อาจารยเ์ ขาพดู กนั เองวา่ ถ้าเข้าหานายกไมไ่ ด้ ก็ไปคุยกับเมยี นายกสิ พอผมมาเจอสถานการณจ์ ริง ๆ กเ็ ออเฮย้ ลองดดู ีกวา่ ก็ได้เร่อื งเลย สำ� เร็จจรงิ ๆ พอภรรยาบอกวา่ กิจกรรมนีด้ นี ะ นา่ สนใจกับบา้ นเรา ทา่ นนายกกก็ ลบั มา สงั่ ลยุ ต่อเลยครับ” ลูกศร-วัชรนิ ทร์ ดียิ่ง คณะท�ำงาน สถาบันครอบครัวเขม้ แข็ง จังหวัดสุรินทร์ ∞17∞3
สร้างเครือขา่ ยด้วยใจถงึ ใจ เสน้ ทางการทำ� งานพฒั นาสงั คมของ องคก์ รพฒั นาเอกชน(Non-Governmental Organization หรอื NGO) ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ไม่ได้เอื้ออ�ำนวยด้านค่าตอบแทน จนหลายคนทแ่ี มม้ ีใจอยากทำ� งานเพอื่ สงั คม แต่ไม่อาจทนสถานภาพค่าตอบแทนน้อย กว่าที่จ�ำเป็นได้ ตอ้ งหมนุ ตัวกลับไปทำ� งาน อ่ืน ๆ ท่ีไดค้ ่าตอบแทนพอเพยี งกบั การดูแลชีวิตตนและครอบครวั แต่ “อุ๊” ยังคงเลอื กสวมหมวก NGO กับบทบาทนกั พฒั นาสังคมภาคประชาชน “ช่วงแรก ๆ แม่บอกเหมอื นกันวา่ มสี อบราชการที่ไหนให้ไปสอบนะลกู งานนม้ี ันเดนิ ทาง บอ่ ย อันตราย แม่เปน็ ห่วง เงนิ เดอื นก็นอ้ ย แล้วก็ไม่คอ่ ยได้อยู่บา้ น กค็ ยุ กันว่าเราชอบงานน้แี ล้ว ขอไมเ่ ปลี่ยนนะแม่ แต่อหุ๊ นั มาจัดสรรเวลาให้กบั ครอบครวั มากขนึ้ หลัง ๆ แมก่ เ็ รม่ิ เข้าใจว่าเรา ชอบ เรอื่ งเงินทองที่อาจจะนอ้ ยหนอ่ ยก็ไมเ่ ป็นปัญหา เพราะครอบครัวเรากด็ แู ลตัวเองไดด้ ี” แม้ว่าค่าตอบแทนไม่มากนัก แต่เวลาลงท�ำงานพื้นที่แล้วได้เห็นรอยย้ิมของผู้คนแล้ว มคี วามสขุ ไดฟ้ งั เรอื่ งราวดี ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในชมุ ชน ระหวา่ งทข่ี บั เคลอื่ นโครงการฯ เธอกเ็ กดิ กำ� ลงั ใจ มพี ลงั ท�ำงานตอ่ ไป “เรอื่ งรายไดก้ ก็ นิ อยแู่ บบพอเพยี ง สบาย ๆ จะไปใหม้ เี งนิ เดอื น ๒-๓ หมน่ื กค็ งไม่ใช่ เพราะ ∞17∞4
มนั คอื งานอาสาเพอื่ พฒั นา งบประมาณไมไ่ ด้ มาเป็นทุนของทีมงาน ยังเข้าใจและยอมรับ มีเยอะ ซึ่งมันก็ท�ำให้มีบ้างที่อาจต้องน�ำเงิน เร่ืองค่าตอบแทนงานพัฒนาสังคมท่ีไม่มาก สว่ นตัวเราออกมาใชท้ �ำงานดว้ ยซ�้ำ บางคร้งั เทา่ กับการท�ำงานบริษัทเอกชนทว่ั ไปอีกด้วย ไปอบรมให้ทอ้ งถ่ินกนั ๔-๕ คน เขาใสซ่ อง คา่ วิทยากรมา ๑ พนั บาท อุ๊ก็จดั แบ่งให้นอ้ ง “พี่สมุทรเขามีรถตู้ให้เช่า แล้วช่วงท่ี ๆ อาสาไป เพราะเรามเี งนิ เดอื นอยแู่ ลว้ ถงึ ไม่ วา่ งจากการขบั รถตกู้ ็ไปเปน็ อาสากภู้ ยั ใชร้ ถ มากแตก่ ม็ ีเงนิ เดอื น หรอื บางงานท่ีไมไ่ ด้เงิน ตัวเองนั่นส่งคนที่ประสบเหตุหรือเสียชีวิต แตย่ งั ไงเรากต็ อ้ งไดก้ นิ ขา้ วดว้ ยกนั ๑ มอ้ื แน่ ๆ ส่งฟรีไม่คิดตังค์ กลายเป็นว่าท�ำเร่ือยมาจน แค่นก้ี ็เปน็ ความสุขของเราแลว้ ” ชาวบา้ นรจู้ กั ไวว้ างใจ ทำ� ใหท้ กุ วนั นม้ี พี นื้ ที่ใน อำ� เภอศรขี รภมู มิ าเปน็ เครอื ขา่ ยเพมิ่ จากทเ่ี ขา ประเด็นส�ำคัญท่ีเป็นพลังในการ เช่อื มมาให้” ท�ำงานอกี เรอื่ ง คอื โชคดีของเธอทม่ี ีทีมงาน ท่ีดี มีพ้ืนฐานของหัวใจอาสาสมัครมาแต่ต้น “อุ”๊ บอกวา่ เป็นโชคดีมากทที่ กุ คนใน เชน่ “ลกู ศร” คนรนุ่ ใหมซ่ ง่ึ ไดท้ ำ� กจิ กรรมเพอื่ ทมี เดนิ ทางมาเจอกัน พฒั นามาตง้ั แตส่ มยั ยังเป็นนักศกึ ษา มคี วาม รักในงานพัฒนาสังคมเป็นทุนเดิม และ “เราต่างคนต่างมาช่วยกันเติมเต็ม “สมุทร สนิทพันธ์” ซึ่งเป็นอาสาสมัครกู้ชีพ ทำ� ใหง้ านเคลอื่ นไปไดง้ า่ ยตามบคุ ลกิ ทชี่ ดั เจน ของอ�ำเภอศรีขรภูมิมา ๑๑ ปี มีเครือข่าย ของแต่ละคน” ท�ำงานระดับชุมชนท่ีเช่ือมต่อกันได้ด้วย จำ� นวนมาก จากบุคลิกเดิมสมัยเด็ก ๆ ซึ่งขี้อาย และไม่ชอบคุยกบั ผู้คน วันนี้ “อ”ุ๊ กลายเป็น นอกเหนือจากฝีมือและเครือข่ายที่มี คนทมี่ เี ครอื ขา่ ยใน ๑๕ พนื้ ทอี่ ยา่ งเหนยี วแนน่ พบเจอ พดู คยุ แลกเปลย่ี นกบั ผคู้ นเกอื บทกุ วนั ∞17∞5
ซง่ึ ย่ิงทำ� แลว้ ย่ิงค้นพบว่าเธอชอบทำ� งานชุมชน “เราลงทำ� งานในชุมชนมคี วามสขุ มาก เมือ่ กอ่ นตอนมาทำ� ใหม่ ๆ ระหวา่ งสงั เกตการณก์ ็ เร่มิ อยากจะพดู คยุ วา่ เขาเปน็ ยงั ไงบา้ ง ถามไปคยุ ไปแลว้ ก็ค่อย ๆ เพ่ิมปรมิ าณข้นึ มาเร่อื ย ๆ มา ถงึ วันนีเ้ จอกนั ก็ทักทายกนั ถามไถก่ ันเปน็ เรอ่ื งปกตไิ ปแล้ว ทกุ พ้ืนทีเ่ ลย เพราะเราคิดว่าทุกคน คือครอบครวั ” เธอย้อนความหลังไปช่วงเรยี นหนังสือวา่ ไมเ่ คยท�ำกิจกรรมนอกเวลาเรยี นสกั ครัง้ เพราะ จ�ำได้ว่ามีอาจารย์คนหน่ึงเคยบอกว่าพ่อแม่ส่งให้มาเรียน ไม่ใช่มาท�ำกิจกรรม ซ่ึงเธอเลือกเชื่อ ส่ิงท่ีอาจารย์คนนั้นพูด ตั้งหน้าต้ังตาเรียนจรงิ จงั ทุกวนั นเ้ี มือ่ ไดม้ าอยู่ในกจิ กรรมชมุ ชนท่เี คยรู้วา่ เพอื่ น ๆ สมยั เรียนทำ� กัน เธอยิง่ รสู้ กึ ตืน่ เตน้ และสนกุ ทุกคร้งั “เคยเหน็ เพอื่ น ๆ ทำ� คา่ ยอาสาพวกเยาวชน กค็ ดิ วา่ เขามจี ติ อาสาดี เรยี นกต็ อ้ งเรยี นเหมอื น ∞17∞6
เราแต่ยังไปพาเพ่ือน ๆ ท�ำกิจกรรมอีก มองแลว้ คิดว่าเขาคงสนกุ เหมอื นใจลกึ ๆ เราก็อยากทำ� นะ แตไ่ ม่เคยคดิ ว่าตัวเองจะไดท้ �ำ เพราะเราเปน็ คนไม่กลา้ แสดงออก สดุ ทา้ ยได้มาทำ� ทุกอย่าง ตอนโตแทน” “อ”ุ๊ เชอื่ วา่ เสน้ ทางชวี ติ ทพี่ ลกิ เขา้ มาสกู่ ารทำ� งานในบทบาทนกั พฒั นาสงั คม เกดิ จากการ อา่ นหนงั สอื ในวนั นนั้ วันทีเ่ ธอทำ� งานการเงนิ เสรจ็ หมดแลว้ นง่ั ว่าง ๆ อยใู่ นสำ� นักงานครอบครัว เข้มแข็ง จึงหยิบหาหนังสือมาอ่าน จังหวะดีท่ีหนังสือดี ๆ สร้างแรงบันดาลใจวางอยู่ท่ีนั่น เป็นหนังสือของโครงการรักลูกทไ่ี ปสัมภาษณแ์ กนนำ� จิตอาสาในพ้ืนทต่ี ่าง ๆ มาลงหนงั สอื “มันมีช่วงหน่ึงท่ีจับใจมาก คือ เป็นเรื่องของแม่เล้ียงเดี่ยวที่เป็นผู้น�ำชุมชน ท�ำกิจกรรม เพ่ือสังคมหลายอย่าง เป็นแกนหลักให้เยาวชน ท�ำกลุ่มออมทรัพย์ชุมชน ท�ำหลายอย่างแล้วก็ ทำ� ไดด้ ดี ว้ ย กค็ ิดเลยว่า เฮย้ ทำ� ไมเราจะทำ� บ้างไมไ่ ดล้ ะ่ อยากลองท�ำดบู า้ ง” ความคดิ ทวี่ า่ “อยากลองทำ� ด”ู ของเธอในวนั นน้ั สรา้ งการเปลย่ี นแปลงใหก้ บั ตนเองและ ผู้คนอีกมากมายในหลาย ๆ ชุมชน เธอเล่าว่าช่วงต้ังต้นเขียนโครงการและดูแลโครงการให้ สำ� เรจ็ ดว้ ยตัวเองเป็นเร่ืองยากไมใ่ ช่นอ้ ย แตเ่ ธอผา่ นมาไดด้ ว้ ยความคดิ ที่ว่า “ลองดกู ่อน” ท�ำให้ เต็มทก่ี ่อน สำ� เรจ็ หรอื ไม่วา่ กนั อกี ที ถือเป็นการให้โอกาสตัวเองในการเรียนรู้ แม้วา่ วนั นีเ้ ธอไมไ่ ด้เป็น “นักทดลองทางวทิ ยาศาสตร์” แตว่ ถิ ชี วี ิตทุกชว่ งของเธอกลบั เตม็ ไปดว้ ย “การทดลอง” และยังเป็นการทดลองที่ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นความส�ำเร็จด้านพัฒนา ครอบครัวและชุมชนท้ัง ๑๕ พน้ื ท่อี กี ด้วย ความชื่นชอบทดลองท�ำดูของเธอน�ำไปสู่การพัฒนาตนเองหลายด้าน “อุ๊” ใช้ชีวิตทุกวัน ∞17∞7
ด้วยการค้นหาและเรียนส่ิงที่ยังไม่รู้เพ่ือพัฒนาตนกับงาน จากการอ่านหนังสือ จากการอบรม สัมมนา ท่ีส�ำคัญคือเธอพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้จากสังคมรอบตัว จากการประสานงาน การท�ำกิจกรรม การรับฟังเครือข่ายที่มีท้ังเจ้าหน้าท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) ผนู้ �ำชมุ ชน คณุ ครู เดก็ ผู้ปกครอง หลายตอ่ หลายคนหอบเร่ืองราว ท้งั งานและส่วนตวั มาหารือพดู คยุ ดว้ ย “นอกจากเราฟงั แลว้ ได้เรียนรู้ เรายังได้เป็นคนใหก้ ำ� ลงั ใจกับคนทีม่ าคุยดว้ ยอกี บางเรอื่ ง ถา้ มปี ระสบการณต์ รงกอ็ าจใหข้ อ้ เสนอแนะทเ่ี หมาะสมกนั ไปบา้ ง แคเ่ ขามาคยุ กบั เราแลว้ สบายใจขน้ึ มีความสขุ มากขึน้ เราเองก็สบายใจไปด้วยแลว้ ” ความสบายใจในการทำ� งานของเครอื ข่าย คือ หัวใจสำ� คัญในการท�ำงานพฒั นาชมุ ชนของ สถาบันครอบครัวเข้มแข็ง จังหวัดสุรินทร์ “อุ๊” เล่าว่าไม่มีการบังคับให้ผลลัพธ์ต้องออกมา แบบไหน เพยี งแคไ่ ดล้ งมอื ทำ� เตม็ ทเ่ี ทา่ นนั้ ผลทอี่ อกมาสำ� เรจ็ หรอื ไมเ่ ปน็ เรอื่ งของการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาตอ่ ดงั นน้ั ทกุ พน้ื ทเี่ ครอื ขา่ ยกส็ ามารถทำ� งานแบบเปน็ สขุ ใจ เพราะไดร้ บั โอกาสใหอ้ อกแบบ ∞17∞8
และพัฒนารูปแบบการทำ� งานในชุมชนเองตามบรบิ ทของพืน้ ที่ “พอคนท�ำงานมคี วามสขุ เขาก็อยากจะพฒั นาไปเรอ่ื ย ๆ จนแต่ละพน้ื ทม่ี ีผลงานเกินกวา่ ทตี่ งั้ ไวเ้ ยอะมาก ซง่ึ พอพเี่ จ (ผจู้ ดั การแผนงานสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ น) ลงมาดงู านในพน้ื ที่ ก็จะถามตลอดว่า ไมเ่ หน่ือยหรอื ลกู งบใหม้ า ๑๐ หนทู �ำ ๑๐๐ อย่างนี้ บางกิจกรรมชมุ ชนก็คดิ เสริมข้ึนมาท�ำเองนอกเหนือจากท่ีอยู่ในแผนโครงการฯ มันเป็นการท�ำด้วยใจท่ีอยากจะท�ำจริง ๆ” เม่ือคนในชมุ ชนท�ำงานอยา่ งสขุ ใจ อบุ๊ อกว่าทมี งานก็ไดร้ ับความสขุ ใจด้วยเช่นกนั “แคไ่ ดร้ บั ความชน่ื ชมยนิ ดกี ถ็ อื วา่ เปน็ ของขวญั จากสงั คมแลว้ ถา้ มองไปเรอ่ื งวตั ถกุ ็ไดน้ ะ แค่เราเขา้ ชุมชนก็ได้รับของฝากจากชาวบ้าน ขนกลบั แทบไมห่ วาดไม่ไหว หนา้ ไหนปลกู อะไร เกบ็ มาฝากกันหมด ขา้ ว ผกั ผลไม้ ทกุ คนอยากเอามาให้เราดว้ ยใจ สว่ นเมอ่ื มองไปเรื่องจติ ใจ คอื เรารสู้ กึ ผกู พนั ทกุ พนื้ ทเ่ี หมอื นกบั เปน็ ญาตพิ นี่ อ้ งกนั มากอ่ น ถอื วา่ เปน็ คนครอบครวั เดยี วกนั มกี ิจกรรมหรอื งานบญุ กุศลอะไร เขาโทรชวนเราตลอด” ∞17∞9
= Growth Mindset = - ใหเ้ กยี รตชิ มุ ชนได้ทำ� งานตามบรบิ ทและความตอ้ งการของเขาเสมอ - ครอบครวั เปน็ รากฐานของการพฒั นาสังคม - สง่ิ ใดทย่ี งั ไมเ่ คยทำ� ก็สามารถทดลองทำ� ไดเ้ สมอ - ไมว่ ่าผลลัพธ์จากการท�ำงานจะเป็นอย่างไร เปน็ บทเรยี นสกู่ ารพฒั นาได้ท้งั สน้ิ - ไมข่ โมยผลงานคนอ่นื มาเปน็ ของตัวเอง - แกนน�ำชมุ ชน คอื หัวใจสำ� คญั ของการสง่ เสริมพัฒนาชุมชน - Key Person อาจอยขู่ ้าง ๆ คนทม่ี ีอ�ำนาจสงั่ การก็เปน็ ได้ - งานพัฒนาชมุ ชน ตอ้ งใหช้ ุมชนเป็นคนลงมอื ท�ำ ∞18∞0
“ผมเป็นผู้น�ำที่เป็นผู้ตามด้วย ทุกวันนี้ท่ีได้ความร่วมมือจาก ทุกคน คิดว่าเพราะการให้โอกาสและมอบความเชื่อใจให้ชาวบ้านได้ ทำ� งานกนั อยา่ งเตม็ ท่ี ผมเป็นแคค่ นท่ขี นความรู้และโอกาสมาส่งตอ่ ให้ ชาวบา้ น จากนน้ั เปน็ หนา้ ทข่ี องทกุ คนทจี่ ะหยบิ จบั และนำ� ไปใชไ้ ดเ้ ทา่ ไร ทกุ วนั นที้ ผี่ มยงั ทำ� งานชมุ ชนอยู่ เพราะทำ� แลว้ จติ ใจผมนมี่ คี วาม สขุ มาก มนั รสู้ กึ ดใี จ ภมู ใิ จทผี่ มเองมสี ว่ นในการผลกั ดนั ใหเ้ ดก็ หรอื เยาวชน หรอื คนทอ่ี ยใู่ นชมุ ชน มโี อกาสไดเ้ รยี นรใู้ นสง่ิ ทไ่ี มร่ นู้ ะครบั โดยเฉพาะการอา่ นออก เขยี นไดต้ ามวยั ทเี่ หมาะสมของพวกเขา” สนุ ทร ธรรมนาม ผใู้ หญ่บ้านหนองคูนอ้ ย ต�ำบลเมอื งแก จังหวัดสุรินทร์ “ตอนนี้ผมเป็นผู้น�ำการสืบค้นองค์ความรู้ด้วยการอ่าน สามารถ เสนอความรู้ที่ถูกต้อง ได้เป็นผู้ฟังที่ดี ฟังมากขึ้น ปรารถนาดีกับผู้อื่น ท่ีส�ำคัญกระบวนการอบรมของโครงการฯ ส่งเสริมให้เกิดจิตอาสาอย่าง เปน็ รูปธรรมมากข้นึ คอื ผูใ้ หญห่ ลาย ๆ คนไดเ้ จอกบั ชอ่ งทางท่จี ะสร้าง คุณคา่ ใหก้ บั ตวั เองและชมุ ชน กิจกรรมเราเปน็ สว่ นหนง่ึ ท่ีผลักดนั ใหเ้ ขา ไดท้ ำ� ความดี ผมชอบกิจกรรมมุมหนังสือประจ�ำบ้าน เพราะท�ำให้ครอบครัวมีโอกาสเข้าถึงความ รู้มากข้ึน พ่อแม่ลูกไดอ้ ่านหนังสอื ทส่ี นใจร่วมกนั และอีกกิจกรรมคือ หนังสือเล่มโปรด กท็ ำ� ใหเ้ กิด การแบง่ ปนั หนงั สือท่ีตัวเองชอบเผ่ือแผไ่ ปยังคนอืน่ ๆ ได้ด้วย อนาคตอยากใหส้ ่วนราชการประกาศ การอ่านเป็นวาระจงั หวัดสุรินทร์ นครแห่งการอา่ น มกี ารรณรงค์ประชาสมั พนั ธ์อย่างตอ่ เนอ่ื ง” อาจารย์ชัยวฒั น์ ไชยทอง โรงเรยี นสนมวิทยาคาร อ�ำเภอสนม จังหวัดสรุ นิ ทร์ ∞18∞1
บทที่ ๔ พืน้ ทภ่ี าคเหนอื
อา่ นสรา้ งสขุ สุรารักษ์ ใจวุฒิ
เราเช่อื ว่าทกุ คนเปลย่ี นได้ : ปุ้ย มะขามป้อม-เชยี งดาว อ่านสรา้ งคุณภาพชวี ิต อา่ นเพอื่ สิทธอิ ันเท่าเทยี ม เชียงดาวเป็นอ�ำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ มภี มู ิประเทศส่วนใหญเ่ ปน็ ภเู ขาสงู “ดอยหลวงเชียงดาว” คือแหล่งท่องเท่ียว ธรรมชาตทิ เี่ ปน็ ภูเขาสงู อันดบั ๓ ของประเทศไทย หลายคนจากตา่ งถน่ิ มองวา่ ทน่ี เี่ ปน็ เมอื งโรแมนตกิ อากาศดี เหมาะแกก่ ารพกั ตากอากาศในยามหยอ่ นใจ ไมแ่ ตกตา่ งนกั จาก “ปยุ้ -สรุ ารกั ษ์ ใจวฒุ ”ิ ทเ่ี มอื่ ๑๐ ปีก่อนตั้งใจเก็บกระเป๋าเสื้อผ้ามาลงพ้ืนท่ีท�ำงาน วจิ ยั ชมุ ชนในอำ� เภอเชยี งดาวสกั ๓ เดอื น ดว้ ยความคดิ ท่ีวา่ น่าสนกุ ดูเปน็ เมอื งทอ่ี ยู่สบาย ๆ
วันนั้น “ปุ้ย-สุรารักษ์” มาท�ำงานให้ ชัดเจน คือ การทำ� งานขบั เคลื่อนสร้างเสรมิ กับ “มลู นิธสิ ื่อชาวบ้าน” หรอื กลุ่มมะขาม วัฒนธรรมการอ่านในกลุ่มชาตพิ นั ธุ์ มุ่งเนน้ ปอ้ ม องคก์ รทำ� งานดา้ นการศกึ ษา งานอบรม ให้การอ่านเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนา และการแสดง ซ่ึงมีส�ำนักงานใหญ่อยู่ที่ คุณภาพชีวติ ของผู้คนและชมุ ชน มเี ปา้ หมาย กรุงเทพฯ และมีส�ำนักงานย่อยท�ำงานด้าน ใหญ่ คือ ต้องการให้เกิดสังคมท่ีมีปัญญา ชุมชนอยูท่ ่ีอ�ำเภอเชยี งดาว ทุกคนได้อ่านหนังสือ เกิดประชากรท่ีมี คณุ ภาพ สามารถวเิ คราะหแ์ ยกแยะเรอื่ งราว จากจดุ เรมิ่ ตน้ ที่ ๓ เดอื น ทค่ี ดิ ไวค้ ราว ตา่ ง ๆ ในการใชช้ วี ติ ได้ บนพน้ื ฐานของสงั คม นั้น ปัจจบุ ัน “ปุ้ย-สุรารักษ์” กลายเปน็ “ปุย้ ที่เท่าเทียมกัน ไม่มีฝ่ายใดเป็นผู้กระท�ำและ มะขามปอ้ ม” ทำ� งานเพลนิ ๆ อยทู่ เี่ ชียงดาว ไม่มีฝา่ ยใดเปน็ ผถู้ ูกกระท�ำ ยาวมาแลว้ ๑๐ ปี กับความสขุ ท่อี ยู่ล้อมรอบ รายทางวถิ ีนักละครเพือ่ การพัฒนาสงั คม “มะขามป้อม” เป็นองค์กรพัฒนา เอกชนทท่ี ำ� งานพฒั นาสงั คมโดยใชล้ ะครเปน็ ปจั จบุ นั “ปยุ้ ” เปน็ ตวั แทนของมะขาม เครือ่ งมือหลกั เชน่ เดยี วกบั การท�ำงานสรา้ ง ป้อมรับหน้าที่ดูแล “โครงการอ่านยกก�ำลัง เสริมวัฒนธรรมการอ่าน มูลนิธิสื่อชาวบ้าน สุข สร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในกลุ่ม ใช้ละครเป็นเคร่ืองมือหน่ึงในกระบวนการ ชาตพิ นั ธ์ุ ปี ๒” รว่ มกบั คณะทำ� งานผรู้ กั การ ส่งเสรมิ การอา่ นมาร่วม ๑๐ ปี จนเปน็ ที่ร้จู ัก อ่านแห่งมะขามปอ้ มเชียงดาว และได้การยอมรับในระดับประเทศ ภายใต้ การน�ำของทีมงานมะขามป้อม ส�ำนักงาน มูลนิธสิ ือ่ ชาวบ้าน หรอื มะขามป้อม กรุงเทพฯ สำ� นกั งานเชยี งดาว เปน็ อกี ๑ ใน ๑๑ องคก์ ร ที่จับมือเป็นภาคีเครือข่ายเคล่ือนงานสร้าง เสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นในชมุ ชน ตง้ั เปา้ หมาย ∞18∞5
“ปุ้ย” เคยเป็นส่วนหน่ึงในทีมเวิร์กช็อปดังกล่าว เม่ือวันหนึ่งเธอได้รับโจทย์ให้ขับเคลื่อน ประเด็นการอ่านในอ�ำเภอเชียงดาว เธอลงมือท�ำตามแนวคิดฐานเดิมขององค์กรได้ระยะหนึ่ง ระหว่างทางท�ำงานเกิดการขบคิด วิเคราะห์ แลกเปล่ียนกันของทีมงานที่เชียงดาวอีกหลายต่อ หลายครง้ั เมอื่ ทำ� กจิ กรรมแตล่ ะครง้ั จบ เพอื่ เปน็ ตวั กำ� หนดการตดั สนิ ใจและหารปู แบบการทำ� งาน ที่เหมาะสม เช่น การประเมินเคร่ืองมือการท�ำงานของตัวเองอันน�ำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยคณะท�ำงานพูดคุย ถกเถยี ง แลกเปลยี่ นความคิดเหน็ อยา่ งเขม้ ข้น กระทง่ั ในปี ๒๕๕๖ เกดิ การตกผลึกทางความคดิ ร่วมกันในทมี วา่ “ละคร” คอื เครือ่ งมอื ท่ีมีลักษณะของความเป็น “Outside-In” ในขณะท่ีการอ่านอย่างย่ังยืนท่ีเกิดข้ึนกับแต่ละคน นนั้ ควรเรม่ิ จากลกั ษณะทเี่ ป็น “Inside-Out” คือ เรมิ่ ตน้ จากภายในของตัวบุคคลเอง ∞18∞6
ดงั นน้ั ทมี งานจึงพยายามคดิ และทดลองหลักสตู ร (Modules) และเครือ่ งมือ (Tools) รปู แบบใหม่ ในรปู แบบของการอบรมพฒั นาศกั ยภาพแกนนำ� ทป่ี ระสบความสำ� เรจ็ เปน็ อยา่ งมาก เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในของแกนน�ำผู้เข้าร่วมอบรมท้ังในกลุ่มครู กศน. กลุ่มแกนน�ำ เด็ก และแกนน�ำชมุ ชน “เมอ่ื กอ่ นเราคดิ เยอะ ใชเ้ ครอ่ื งมอื ซบั ซอ้ น แสดง รอ้ ง เตน้ แตท่ กุ วนั นเ้ี ราทำ� กระบวนการ ท่ีพาหนงั สือกับคนมาเจอกัน ชวนใหอ้ า่ น ชวนคุย ชวนคิด วเิ คราะห์กัน แลว้ ก็เสริมเทคนคิ ที่ สนุก ๆ เข้าไป มันง่ายข้ึน แล้วก็ได้ผลลัพธ์ท่ีเวิร์กขึ้น” ปุ้ยเล่าว่าหัวใจหลักของการจัดการ ทมี งานภายใน คอื การเลอื กคนท่ีใช่ ทำ� งานดว้ ยใจ จนตกผลกึ ทางความคดิ เหน็ ไปในทางเดยี วกนั “ปีน้ี (๒๕๕๘) เปน็ ปที ่ีเราคยุ กนั จาก Inner ล้วน ๆ คือการใช้ใจนำ� เร่ืองอยากอ่านมัน มาจากข้างใน มันเปน็ เรอ่ื งของ Inside-Out ซึ่งมนั เกย่ี วเนอ่ื งกบั ทมี งานดว้ ย พวกเราก็ใช้ใจนำ� เหมือนกัน ทุกวันน้ที ีมงานเราจะมเี ฉพาะคนท่อี ่านหนังสอื จริง ๆ” การอ่าน-ชาติพนั ธ์ุ-จุดเปล่ียน เส้นทางชีวิตของ “ปุ้ย มะขามป้อม” ดูเหมือนขับเคลื่อนด้วยความสนุกมาแต่ก่อนกาล นับแต่วันท่ีเลือกเรียน “ประวัติศาสตร์” มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ท้ังท่ีสอบติดหลายแห่ง ด้วยเหตุผลท่วี ่า การรับนอ้ งรถไฟนา่ สนกุ ดี รวมท้งั ชอบอาจารยใ์ นรอบสอบสมั ภาษณ์ทถ่ี ามเธอ กลับถึงนยิ ายทีช่ อบอ่าน หลังจากเธอถามอาจารยไ์ ปก่อนว่าต้องเรยี นแลว้ ต้องท่องหนงั สอื เยอะ หรือเปล่า เพราะเธอทอ่ งจำ� ไมเ่ กง่ ∞18∞7
“ความลับบนแหลมไซไน ของ หนงั สือ โสภาค สุวรรณ” คือค�ำตอบวันนนั้ ท่อี าจารย์ ฟงั แล้วการันตีวา่ เธอเรยี นได้ “เพิ่งมารู้ตอน โตนี่แหละว่าการอ่าน ปยุ้ เกดิ ทเี่ ชยี งใหมแ่ ตย่ า้ ยถนิ่ ฐานตาม หนังสอื ตั้งแตเ่ ลก็ ๆ ทำ� ให้เราฉลาด จับใจ ครอบครวั ไปเรอื่ ยจนหยดุ ทจี่ งั หวดั เพชรบรู ณ์ ความได้ อา่ นหนงั สอื เรว็ ทำ� ขอ้ สอบได้ เขา้ ใจ เรือ่ งต่าง ๆ ไดง้ า่ ย” ช่วงวัยอนุบาลเธออาศัยอยู่กรุงเทพฯ พ่อแม่ชอบอ่านหนังสือกระทั่งมีห้องสมุดใน เธอนิยามตัวเองในวัยเรียนมัธยมว่า บา้ น เปน็ คนแปลกแยกจากสงั คมกลมุ่ ใหญ่ เพราะ เธอเท่ียวกลางคนื สปั ดาหล์ ะ ๗ วนั แตง่ หนา้ “พ่อแม่เป็นชนช้ันกลางยุคคนตุลา กรีดขอบตา และแต่งตัวแบบพง้ั ก์ ทบี่ า้ นมหี นงั สอื เยอะมาก เขาจะซอ้ื การต์ นู ชดุ มาไว้ให้อ่าน เราอยู่บ้านไม่รู้ว่าจะท�ำอะไร “ไม่เคยรู้จักค�ำว่าชุมชน เป็นคนติด กค็ วา้ หนงั สอื มาอา่ น อา่ นแลว้ อา่ นอกี ไมร่ วู้ า่ เท่ียว แต่งตัวแบบพ้ังก์ ทาขอบตาด�ำ เหมาะกับวัยหรือเปล่าก็อ่านไป แม่ชอบซ้ือ แตง่ หนา้ จดั ดมื่ เหลา้ สบู บหุ รม่ี าตง้ั แตว่ ยั รนุ่ ” นติ ยสารเลม่ ใหญท่ รี่ ปู สวย ๆ พวกกะรตั บา้ น และสวน เราก็พลอยได้อ่านวรรณกรรม แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เริ่มเป็น เยาวชนในนนั้ ไปดว้ ย เราอา่ นหนงั สอื กระโดด อาสาสมคั รตง้ั แตเ่ รยี นมธั ยม ดว้ ยเหตผุ ลทว่ี า่ ขา้ มข้นั มาแตเ่ ด็ก” “นา่ สนุกกว่าเรียนหนงั สือ” ในวัยเดก็ “ปยุ้ ” ไมช่ อบเรยี นหนังสือ “อาสาสมัครคืออะไรยังไม่รู้หรอก ไมช่ อบทำ� กิจกรรมในโรงเรียน แตช่ อบอา่ น ก็ไปกับชมรมเพ่ือนเตือนเพื่อน ได้เดินแจก ถงุ ยางทำ� ความเขา้ ใจเรอ่ื งนกี้ บั ชาวบา้ น สนกุ ดี ∞18∞8
เพราะมีเพ่อื นเยอะ ไม่ได้ไปทำ� เพราะอยากกโู้ ลกอะไรแบบนัน้ ” เมื่อได้เรียนมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ เรมิ่ ทำ� งานออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท เรียนรูว้ ถิ ีชีวติ บนภเู ขาและยอดดอยของกลมุ่ ชาตพิ นั ธ์ุ จงึ คอ่ ย ๆ หดั พดู ภาษาเหนอื จนไปถงึ ภาษาของชาตพิ นั ธ์ุ ปกาเกอะญอ “ช่วงปี ๒๕๔๐ ท่ีเราเรยี น มช. เป็นยคุ วฒั นธรรมชมุ ชนเฟอ่ื งฟู โดยเฉพาะประเด็นป่า ชุมชน เราลงพืน้ ทจ่ี นเข้าใจวถิ ีวฒั นธรรมชมุ ชน พูดภาษาปกาเกอะญอได้ ได้เข้ารว่ มชมุ นมุ กบั ชาวบา้ นในประเดน็ ปา่ ชมุ ชน พดู กนั เรอื่ งสทิ ธขิ องคนทอี่ ยู่ในปา่ สทิ ธกิ ารมปี า่ ชมุ ชน ชว่ ยชาวบา้ น หงุ หาอาหาร ทำ� สันทนาการ ช่วงนคี้ ือจุดเปลย่ี นให้เราหนั มาท�ำงานเพ่อื ชุมชน” จากเดก็ พง้ั กต์ ดิ เที่ยว ใช้เงินกอบเก็บความสนกุ จากวงสงั สรรคย์ ามค่�ำคนื เธอเปล่ียน... “เราเปล่ียนเพราะเราเห็นและได้อยู่กับชาวบ้านวันน้ัน ซ่ึงมันท�ำให้เราเชื่อถึงทุกวันน้ีว่า คนทุกคนเปล่ียนได้ เพราะเราเปลี่ยนมาแล้ว จากเด็กพ้ังก์เป็นสายดาร์ก (Dark) ลูกคนรวย ไมแ่ ครส์ ังคม ไดม้ าเจอปัญหาของชาวบา้ นในชุมชนชาติพันธ์ุ มันเหมือนเราจนู กันได้ติด” ปุ้ยเชื่อว่าเป็นเพราะฐานคิดและบุคลิกภาพของเธอเองก็มีจุดแตกต่างจากสังคมกระแส หลักเชน่ กนั จงึ เปน็ สว่ นส�ำคญั ทที่ �ำใหไ้ มม่ ีทศั นคติเชงิ ลบเปน็ ตวั ก้ันระหว่างพวกเขาและพวกเรา เธอไมม่ มี มุ คดิ ในทำ� นองวา่ ชาวเขาเปน็ ผตู้ ดั ไมท้ ำ� ลายปา่ ตามรปู แบบของสงั คมสว่ นใหญ่ในยคุ นน้ั “ช่วงที่ลงชุมชนก็อยู่ได้สบาย ๆ เพราะชาวบ้านอยู่ได้ ทั้งที่เขาล�ำบากกว่าเราอีก ไฟก็ไม่มี ห้องน้�ำก็ไมม่ ี น�้ำกห็ ายาก แตเ่ รากย็ งั รสู้ ึกวา่ ทกุ คนนา่ รกั เราไดค้ ุยกันแบบมนุษยก์ ับ มนุษย์ เปน็ เพื่อนกนั เราอ่านหนงั สอื แปลเยอะ มวี ธิ คี ดิ มนุษยนิยมอย่ใู นตัวเยอะ” ปยุ้ ทำ� กจิ กรรมกบั ชมุ ชนจนเรยี นจบปรญิ ญาตรี และเรยี นตอ่ ปรญิ ญาโทดา้ นพฒั นาสงั คม ∞18∞9
เรียนจบเพยี งข้นั ทฤษฎี กห็ ยดุ เรยี นหันมาทำ� งาน ด้วยความตง้ั ใจอยากปฏิวตั คิ วามคดิ คน และ สนใจงานด้านทำ� สอ่ื จงึ ขอไปฝึกงานองค์กรทีท่ ำ� สอื่ เกย่ี วกับชนกลมุ่ นอ้ ยอยพู่ ักหนึง่ กอ่ นออกมา เป็นฟรีแลนซ์ (ท�ำงานอิสระ) ด้านวิจัยประเด็นส่ิงแวดล้อม ได้อยู่ในเครือข่ายภาคประชาชน เคลือ่ นไหวเรื่องพลงั งาน เคยรวมกลมุ่ ท�ำเรื่องเหมอื งถ่านหนิ เวยี งแหง จังหวดั เชยี งใหม่ “ยคุ หน่ึง เราพาชาวบ้านประทว้ ง แต่ก็ไม่มีความสุขกับการพาชาวบ้าน ประท้วงเยอะ ๆ เพราะเห็นชาวบ้าน เหนอื่ ยกนั เราเลยหนั มาทำ� เรอ่ื งขอ้ มลู ให้ เยอะข้ึน เพราะส่วนตัวเช่ือมาก ๆ ว่า ข้อมูลเป็นสิ่งส�ำคัญในการเคล่ือนไหว ภาคประชาชน เร่ิมเอาข้อมูลมาย่อย ตดั ตอ่ เปน็ วดิ โี อสอ่ื สารใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย ทำ� สอ่ื ประทว้ งจนเปน็ specialist (ผเู้ ชยี่ วชาญ) เรอื่ งเหมอื งถ่านหิน ตอนน้ันคดิ วา่ อย่ามาประท้วงกันท่ีความรสู้ ึก อยากใหห้ นั มาใช้ข้อมูลกนั ” กระทั่งในพ้ืนที่มีแกนน�ำคัดค้านเหมืองขับเคลื่อนงานต่อและสถานการณ์ดูเข้าท่ีเข้าทาง “ปุ้ย” จึงเคล่ือนตัวเองจากภาคเหนือลงไปสู่ภาคใต้หลังเหตุการณ์สึนามิ รับงานเก็บข้อมูล ประวัติศาสตร์ชุมชนเพ่ือน�ำไปประกอบแผนท่ีทางดาวเทียม ซึ่งเป็นเร่ืองที่ค่อนข้างท�ำได้ยากใน ยคุ นัน้ “ชว่ งนน้ั เกดิ เหตกุ ารณก์ ลา่ วอา้ งเอาทด่ี นิ ชาวบา้ นของนายทนุ เลยมหี ลายองคก์ รลงขนั กนั จ้างเราไปเกบ็ ขอ้ มลู เปน็ งานท่ีซเี รียส มีการข่มขู่ท�ำรา้ ยกนั ตอนนั้นชาวบ้านถอื ปืนคุม้ กนั เลยนะ ∞19∞0
ทเ่ี ราไมก่ ลวั เพราะคดิ วา่ ชาวบา้ นเจออนั ตรายกวา่ เราไปทำ� งานเดย๋ี วกก็ ลบั ทส่ี ำ� คญั กม็ หี นว่ ยงาน ทเี่ ขาจา้ งเราทำ� งานดแู ลเราอยู่ ไมไ่ ด้นา่ กลวั มาก” ละคร-ชวี ิต-จุดเปลยี่ น หลงั จากจบงานเกบ็ ขอ้ มลู ทภี่ าคใต้ ชวี ติ ของ “ปยุ้ -สรุ ารกั ษ”์ ถงึ จดุ เปลยี่ นอกี ครงั้ เมอ่ื ตกปาก รับคำ� “ปองจิต สรรพคุณ” หรอื “เจจ๊ ๋อน” ของพีน่ อ้ งกลมุ่ มะขามป้อม ที่โทรศพั ท์มาชวนไป ทำ� งานทีอ่ ำ� เภอเชียงดาวเป็นเวลา ๓ เดือน ชว่ งเวลานน้ั “มะขามปอ้ ม” เพง่ิ ขยายพนื้ ทท่ี ำ� งาน จากสำ� นกั งานกรงุ เทพฯ มาตง้ั สำ� นกั งาน เพม่ิ ทเี่ ชยี งดาว “ปยุ้ ” มารบั หนา้ ทที่ ำ� วจิ ยั ขอ้ มลู ชมุ ชนในพน้ื ทเ่ี ชยี งดาวเปน็ ฐานสำ� หรบั การทำ� งาน พฒั นาขององคก์ ร “คนท่ีน่ีเจ๋งดี” เป็นเหตุผลท่ีปุ้ยให้ตัวเองเมื่อตัดสินใจท�ำงานต่อหลังจากจบ ๓ เดือน ตามท่ีตกลงไว้ก่อนหนา้ ในทส่ี ุดจาก ๓ เดือนของ “ปยุ้ -สุรารักษ”์ จงึ ขยับขยายเพิม่ เตมิ ในวันนน้ั เมอ่ื ตกลงใจเขา้ มาอยู่ในองคก์ รทที่ ำ� งานพฒั นาสงั คมดว้ ยเครอื่ งมอื ละคร ในชว่ งแรก “ปยุ้ ” พบวา่ เธอไมช่ อบและไมเ่ ขา้ ใจรปู แบบการทำ� งานดว้ ยละครมากนกั ดว้ ยพน้ื ฐานกอ่ นหนา้ เธอบอกวา่ ตวั เองเปน็ นกั พฒั นาสาย Hardcore พอมาเจอกบั ความบนั เทงิ แบบละครจงึ เกดิ ชอ่ งวา่ งระหวา่ งกนั เธอเริ่มมีความไม่แน่ใจกับหน้างานท่ีเลือกท�ำอยู่ แต่ด้วยค�ำเสนอแนะของ “เฮียก๋วย-พฤหัส พหลกลุ บตุ ร” ผอู้ ำ� นวยการฝา่ ยการศกึ ษา มูลนิธสิ อ่ื ชาวบ้าน (มะขามป้อม) ทีบ่ อกใหเ้ ธอลอง ∞19∞1
เรียนรู้และลงมือท�ำให้เต็มท่ีก่อน ถ้าพบว่า ท�ำความเข้าใจมนุษย์ เข้าใจคาแร็กเตอร์ ไม่ใช่จริง ๆ ค่อยตดั สนิ ใจจากไป ที่ส�ำคัญคือเราต้องเข้าใจตัวเองและยอมรับ “กล็ องอยตู่ อ่ แลว้ สงิ่ ทเ่ี ราไดม้ นั เวริ ก์ ตัวเอง ไม่เชน่ นั้นเราจะไมส่ ามารถเข้าใจคน มาก เช่น มะขามป้อมมกี ระบวนการเรียนรู้ อ่ืนและยอมรบั คนอนื่ ได้ มนั เปน็ เรอ่ื งสันติวิธี ทใ่ี ชพ้ ฒั นาสงั คมดมี าก มเี ครอื่ งมอื ทน่ี า่ สนใจ ที่พอเราเข้าใจตัวเอง เราจะเข้าใจคนอ่ืน เยอะ เชน่ Mapping เปน็ เคร่ืองมือทีถ่ า้ เรา ไมไ่ ปตำ� หนคิ นอืน่ และไมเ่ ลือกปฏบิ ตั ิ” รู้จักตั้งแต่สมัยไปเก็บข้อมูลสึนามิ ชาวบ้าน จะไม่ต้องเสียน้�ำตาขนาดน้ัน เขาจะไม่ต้อง จากคนทเ่ี คยชอบอยคู่ นเดยี ว หลกี การ ไปชจ้ี ดุ ทต่ี น้ มะพรา้ วหายไปทกุ ตน้ ไมต่ อ้ งมา อยเู่ ปน็ กลมุ่ เลยี่ งความขดั แยง้ ละครสอนให้ ตอบค�ำถามซ�้ำ ๆ แล้วร้องไห้กันเยอะมาก “ปยุ้ ” เรยี นรจู้ กั การอยรู่ ว่ มกนั รจู้ กั การเผชญิ นกั มานษุ ยวทิ ยาสมยั นนั้ ไมค่ อ่ ยใชเ้ ครอ่ื งมอื อนื่ หน้า และอยู่ร่วมกับความขัดแย้งด้วยความ นอกจากการสัมภาษณ์กับเทคนิคเฉพาะตัว เข้าใจ ท่ามกลางคาแร็กเตอร์ของผู้คนท่ี แตท่ ม่ี ะขามปอ้ มมกี ระบวนการและเครอ่ื งมอื แตกต่างซ่ึงมาจากภูมิหลงั ทีต่ า่ งกัน ทำ� งานชมุ ชนทเ่ี วริ ก์ มาก ๆ หลายอยา่ ง กเ็ ลย อยู่ตอ่ ลองคน้ หาไป” “คนละครตอ้ งอย่กู ันเปน็ กล่มุ ทุกคน ตอ้ งส�ำรวจตวั เอง ถ้าใคร Ego (ตัวตน) เยอะ ต้องลดลง ส่วนใครมีน้อยก็ต้องเพ่ิม ให้ อยตู่ อ่ มาเธอพบวา่ องคก์ รไมไ่ ดใ้ หง้ าน บาลานซใ์ นกลมุ่ แรก ๆ ก็ไมค่ ้นุ เพราะไม่ใช่ ทำ� อยา่ งเดยี ว แตอ่ งคก์ รยงั สอนใหเ้ รยี นรชู้ วี ติ สไตล์ แต่หลัง ๆ สบาย เพราะในการอย่เู ป็น ของตัวเองจากภายในผ่านการท�ำงานของ กลุ่ม ทุกคนก็มีพ้ืนท่ีของตัวเอง และที่น่ีเรา กระบวนการละคร ยอมรับความแตกต่าง เพศอะไร นิสัยยังไง “ศาสตร์ละครมันลึกซ้ึง มันคือการ รปู ร่างหนา้ ตายังไง ก็อยทู่ นี่ ี่ได้ ขอแค่เคารพ กฎกติกาส่วนรวม” ∞19∞2
การเป็นพื้นท่ียอมรับความแตกต่างขององค์กร ส�ำคัญมากกับการท�ำงานพัฒนาสังคม ในความคิดของ “ปุ้ย” เนื่องจากการยอมรับตนเองและการยอมรับกันเองในองค์กรท�ำให้ กา้ วผา่ นสกู่ ารยอมรบั ชาวบา้ นและชมุ ชนไดอ้ ยา่ งไร้เง่ือนไข อกี สง่ิ สำ� คญั ทย่ี ดึ โยงการทำ� งานของ “ปยุ้ ” ไวอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง คอื กรณที ำ� งานเพอื่ ชว่ ยเหลอื ชาวบา้ นชมุ ชน “บา้ นปางแดง” พนื้ ทท่ี มี่ คี ดคี วามเกยี่ วกบั การบกุ รกุ พน้ื ทปี่ า่ สงวนของกลมุ่ ชาตพิ นั ธ์ุ ดาระองั้ ซึ่งถกู ล้อมจับในพื้นที่ ๓ คร้ัง มลู นธิ สิ อื่ ชาวบา้ น (มะขามปอ้ ม) เปน็ หน่งึ องคก์ รในพน้ื ท่ี ร่วมท�ำงานกับภาคีเครือข่ายจ�ำนวนมาก และ “ปุ้ย” คือตัวแทนองค์กรเข้าร่วมท�ำงานน้ี ในขณะท่ีตัวเธอเองไมม่ คี วามรเู้ รอ่ื งกฎหมายสญั ชาติ “วันที่ชาวบ้านต้องไปศาลครั้งสุดท้าย เจ๊จ๋อน (ปองจิต สรรพคุณ) บอกว่ามีคนช่วย ชาวบา้ นเยอะมาก แตย่ งั ไมม่ คี นไปเปน็ เพอ่ื นชาวบา้ นเลย มนั เปน็ เรอื่ งทฟี่ งั แลว้ คลิก เออใช่ งั้นเราไปเป็นเพ่ือนสิ ขับรถให้แล้วกอ็ ยเู่ ป็นเพื่อนกัน เราเห็นภาพเลยว่าศาลเชียงใหม่ใหญ่มากและชาวบ้านก็ตัวเล็ก มาก เขาติดคดี พูดไทยก็ไมไ่ ด้ และไม่วา่ จะผดิ อะไรมา เขาก็ ตดิ คกุ เกนิ ความผดิ ไปแลว้ วนั นน้ั เราเลยไปนง่ั ดว้ ย จบั มอื เขา หาข้าวให้กิน เรียกว่าเป็นเพื่อนอย่างเดียว ไม่ท�ำอะไรเลย เพราะเราท�ำอยา่ งอน่ื ไม่เปน็ หลังจากน้ันกค็ อ่ ย ๆ ได้เข้าไป ทำ� งานกบั ชาวบา้ นในพนื้ ท”่ี สดุ ทา้ ยศาลจำ� หนา่ ยคดีไวช้ วั่ คราวโดยไมอ่ า่ นคำ� พพิ ากษา และเสนอใหต้ ง้ั คณะทำ� งานเพอ่ื หาวธิ กี ารจดั การปญั หาความเดอื ดรอ้ น ของชาวบา้ นรว่ มกนั อยา่ งบูรณาการจากทุกหน่วยงาน ท้ังภาครฐั ภาค ∞19∞3
เอกชน และภาคประชาสังคม จนเกิดการจัดสร้าง “บ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง” ขึ้น ด้วยการสนับสนนุ งบประมาณและทรัพยากรต่าง ๆ จากหลายหน่วยงานในการจดั สรรทีด่ ินและ สร้างที่อยู่อาศัย พร้อมกับเงินจ�ำนวนหนึ่งเพื่อซื้อท่ีดินให้ชุมชนจากการท�ำกิจกรรมระดมทุนกับ ภาคประชาชน เช่น ผ่านการแสดงละครหุ่นเงาเรื่อง “นางดอยเงิน” ของเด็ก ๆ ดาระอั้งซ่ึง เดินทางไปแสดงถงึ กรงุ เทพฯ วันน้ัน “ปุ้ย-สุรารักษ์ ใจวุฒิ” รับต�ำแหน่งกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการโครงการบ้าน ม่ันคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง ท�ำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่มีใจเต็มร้อยในการช่วย เหลอื พนี่ อ้ งปางแดง จนถงึ วนั น้ี “ปยุ้ ” กย็ งั ทำ� งานพฒั นากบั ชาวบา้ นปางแดงอยู่ ผา่ นกระบวนการ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ เชน่ การอ่าน ละคร และกายกรรม “หลังจากย้ายหมู่บ้านมาแล้ว เราเข้าไป เย่ียมหา ก็เห็นร่างกายชาวบ้านท่ีหลังค้อม หน้าก้ม ในแบบละคร เราเรียกว่าแกนร่างกาย หกั หมด ตัง้ แต่แขน หลัง คอ มองไปแล้วก็เห็นถงึ ขา้ งในใจเขา สงิ่ ทเี่ ราคดิ ตอ่ คอื ตอ้ งทำ� ใหช้ าวบา้ น ยืดอกขึ้น ที่ผ่านมาเรามีวงประชุมกับชาวบ้าน ฟงั เสยี งของกนั และกนั แตม่ นั ยงั ไมพ่ อทจ่ี ะทำ� ให้ เขายดื อกได”้ “การยดื อก” ในความหมายของ “ปยุ้ ” คอื การรสู้ กึ ถงึ คณุ คา่ ของตนอยา่ งเตม็ ภาคภมู จิ าก ภายใน ∞19∞4
“ป้ยุ ” จึงท�ำโครงการห้องเรยี นชุมชนกับชาวบา้ น และพบวา่ แม้โครงสร้างชุมชนจะหาย ไป แตว่ ฒั นธรรมยงั คงอยกู่ บั ผคู้ น จงึ รว่ มกนั คน้ หาสง่ิ ทช่ี าวบา้ นตอ้ งการรอ้ื ฟน้ื แลว้ ใหผ้ เู้ ฒา่ สอน วิชาให้เดก็ ๆ เช่น ทำ� กับข้าว ทอผา้ คำ� สอนของศาสนาทงั้ พุทธและครสิ ต์ สว่ นเด็ก ๆ ทำ� หนา้ ที่ เป็นฝ่ายสอนภาษาไทยให้ผใู้ หญ่ “อีกเรือ่ งทีเ่ ย่ียมมาก คอื มีวิชารำ� ดาบ ซ่ึงตามประเพณีผชู้ ายตอ้ งเข้าไปอยใู่ นปา่ ๗ วนั ๗ คืน ก่อนจะมาแสดงในชุมชน มันเป็นการรื้อฟื้นรากของเขาเอากลับคืนมา เพราะวันท่ี พวกเขาออกมาแสดง เราเห็นอกของทุกคนยืดขึ้นเลย ผู้หญิงก็สนุกสนาน เหมือนจะเป็น เรื่องเลก็ แต่จรงิ ๆ มันใหญ่มากกับชีวิตของพวกเขา” กระบวนการทำ� งานกับบ้านปางแดงสอน “ปุ้ย” หลายด้าน เธอบอกว่ารู้สึกเหมือนเป็น ผใู้ หญบ่ ้าน ตง้ั แตข่ บั รถพาไปคลอดลกู ดแู ลทุก มิติของการใช้ชีวิต การเรียนหนังสือ สุขภาพ การจดั การความขดั แยง้ รอื้ ฟน้ื วฒั นธรรมชมุ ชน สร้างกลุ่มละครเพ่ือพัฒนาจากเด็ก ๆ จัดให้ ทนายความมาอบรมกฎหมาย ให้เด็ก ๆ น�ำ กฎหมายมาย่อยข้อมูลเป็นบทละครแล้วน�ำไป แสดงให้ผใู้ หญ่ในชมุ ชนดู นอกเหนือจากคุยปัญหาในโต๊ะประชุม แลว้ “ละครเปน็ ส่ือท่นี �ำเอาปญั หามาพดู ได้ด”ี ∞19∞5
วถิ ชี มุ ชน คำ� ถาม การเรยี นรู้ ตอนเร่ิมเข้าท�ำงานพัฒนาในชุมชนชาติพันธุ์ ดาระอง้ั ทบ่ี ้านปางแดง เชียงดาว “ปุย้ ” เกิดค�ำถามกบั ตัวเองอีกคร้ังส�ำหรับ “ความพอดีของชีวิต” เข้าไป คลุกคลีอยู่ในชุมชนบ่อยคร้ังข้ึนก็เริ่มไม่แน่ใจว่าตนอยู่ ในฐานะคนนอกหรือคนใน มีสิ่งใดที่คือตัวตนของเธอ แสดงออกมา แลว้ ไปทำ� ลายวฒั นธรรมของชมุ ชนหรอื ไม่ “เราเขา้ มาใหม่ แปลกหนา้ ในชุมชน จะย้อมผม ได้ม้ัย พูดจาแบบไหนถึงจะดี สูบบุหร่ีได้มั้ย สมัยนั้น พนื้ ทม่ี นั บรสิ ทุ ธมิ์ าก สดุ ทา้ ยก็ไดค้ ำ� ตอบจากผนู้ ำ� ชาวบา้ นวา่ ชาวบา้ นเขาไมเ่ ลยี นแบบเราหรอก เป็นตัวเองเถอะ คือเราไม่ต้องเป็นคนอ่ืน ถึงเวลาชาวบ้านเขาเห็นและจะยอมรับในส่ิงที่เป็น ตวั เราเอง” สดุ ทา้ ยความเปน็ ตัวเองทพี่ อดี ก็ดพี อส�ำหรับการอย่รู ว่ มกนั ระหวา่ ง NGO สาวคนเมอื ง กับชาวบา้ นชาตพิ ันธุ์ดาระอ้ัง ตอ่ มา เมอ่ื ความเปน็ อยขู่ องชาวบา้ นเรม่ิ มเี ทคโนโลยี มสี ง่ิ อำ� นวยความสะดวกสบายทยอย เขา้ สพู่ ้นื ท่ี คำ� ถามก็เกิดขึ้นในหัวของ “ปุ้ย” อกี คร้งั ถงึ การผลัดเปล่ยี นวถิ ชี วี ิตเข้าสูย่ ุคสมัยใหม่ กบั สงิ่ อ�ำนวยความสะดวกของชมุ ชนชาตพิ นั ธ์ทุ เ่ี ธอทำ� งานด้วย “พอยคุ สมยั เปลยี่ น ชาวบา้ นกค็ วรเปลยี่ นดว้ ยหรอื เปลา่ ถา้ เขาอยากมที วี ี มนั ผดิ หรอื เปลา่ ∞19∞6
คนกม็ ที ีวีกนั ทั้งโลก ท�ำไมตอ้ งไม่ใหเ้ ขามที ีวี ชมุ ชนบา้ นปางแดง ซงึ่ ปยุ้ ไดร้ บั มอบหมายให้ มีน�้ำประปา มีไฟ แบบนี้มันใช่หรือเปล่า ไปติดต่อขอความช่วยเหลือจากทหารในการ เรากต็ ง้ั คำ� ถามกบั ตวั เองวา่ จะกนั้ สงิ่ ขา้ งนอก ขุดดนิ ทำ� ถนนและท�ำน�้ำใหช้ ุมชน ไว้มย้ั ซง่ึ เราเจอคำ� ถามจากตวั เองตอบกลบั มาวา่ แลว้ เราเปน็ ใคร มสี ทิ ธอิ ะไรไปเลอื กให้ “ร้องไห้เลยนะ ไม่อยากไป ติดต่อ เขา แม้จะไปช่วยเขาย้ายชุมชนก็ตามเถอะ ราชการมันเป็นยาขม เหมือนแม่น�้ำกับ สดุ ทา้ ยไดค้ ำ� ตอบ เราตอ้ งเคารพเขา ใหส้ ทิ ธิ ทะเล แต่พ่ีจ๋อนบอกว่าให้ไปแบบนักละคร เต็มร้อยในการตัดสินใจกับเขา ตัวเราท�ำ จะคาแร็กเตอรไ์ หนก็ได้ เอาให้สบายใจ แต่ หนา้ ที่ใหข้ อ้ มลู ทเ่ี ปน็ จรงิ เทา่ นน้ั ไม่ใชอ่ ารมณ์ ต้องไปเอาถนนกับน้�ำมาให้ได้ (หัวเราะ) ความรู้สกึ ” สดุ ทา้ ยเราก็ไปคยุ แบบ เออทหารกค็ น คยุ กบั เขาดว้ ยความเปน็ มนษุ ย์ ซงึ่ ผบ.คา่ ย กด็ มี าก หลายสถานการณท์ เ่ี รยี นรรู้ ะหวา่ งทาง มาช่วยเต็มท่ีจนชุมชนก็ได้น้�ำ ได้ถนนไว้ ส่งผลให้วิธีการท�ำงานของ “ปุ้ย” ในช่วง ใชง้ าน” ๑๐ ปนี ีเ้ กิดการเปล่ียนแปลงไปมาก จากคน ท�ำงานพัฒนาสายแข็ง พาชาวบ้านประท้วง เหตุการณ์น้ันส่งผลให้ละท้ิงอคติเดิม และขาดทักษะในการส่ือสารโดยเฉพาะกับ ในกรอบความคิดเหมาว่าข้าราชการล้วน หนว่ ยงานราชการ กลายเปน็ คนทำ� งานพฒั นา คอรร์ ปั ชนั ทำ� งานในรปู แบบเชา้ ชามเยน็ ชาม สายสบายใจกบั การสอื่ สารไปเรยี บรอ้ ย ไมว่ า่ กลับเป็นมองโลกในอีกมุมหนึ่งได้ว่าทุก จะเปน็ หนว่ ยงานภาครฐั ภาคเอกชน เนอื่ งดว้ ย หน่วยงานมีท้ังคนดีและคนไม่ดี รวมทั้งการ การก้าวข้ามปมว่าการประสานหน่วยงานรัฐ ทำ� งานกรณปี างแดงยงั ทำ� ใหเ้ หน็ ความรว่ มมอื ช่างยากเย็น ในการท�ำงานช่วงพัฒนาพ้ืนที่ ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนโดยมี เป้าหมายเปน็ ท่ตี งั้ ไม่มีใครเป็นเจ้าของพนื้ ที่ ∞19∞7
ไมม่ คี อร์รัปชัน มแี ตก่ ารชว่ ยกนั ของทกุ ฝา่ ย จากวนั นั้น “ปยุ้ ” เปลยี่ นความคิด พลิกจากการสอ่ื สารที่เคยเป็นยาขม กลบั มาขับเคล่อื น ดว้ ยความจริงใจบนพ้ืนฐานความเป็นมนุษย์เท่าเทยี มกนั ส่งผลใหส้ ามารถสร้างผลลัพธไ์ ด้อยา่ ง มปี ระสิทธภิ าพ “เราคอื นักละคร เปน็ ชา่ งเชื่อม ส่ือสารอยา่ งไมม่ พี ิษภยั และวัฒนธรรมองคก์ รสอนใหเ้ ราถ่อมตวั ” “คนท�ำงานพัฒนายุคน้ีต้องยืดหยุ่นกับความรู้ ชดุ ใหม่ ยอมรบั ความเปลย่ี นแปลงพรอ้ มรบั สถานการณ์ ใหม่ ๆ ทีเ่ กิดข้ึน ไมเ่ อาตัวเองเปน็ ศูนย์กลาง วิถีของ ชาวบา้ นคอื วถิ ขี องเขา เราตอ้ งไมแ่ ขง็ ตวั เปลย่ี นไดเ้ สมอ โลกมันหมุนเร็ว ชาวบ้านก็เปล่ียนเร็ว ปัจจัยภายนอก ภายในเปล่ียนเร็ว เราต้องพร้อมรับ มีสติ คิด วิเคราะห์ เปลยี่ นการตดั สนิ ใจเราไดเ้ สมอ ๆ จากขอ้ มลู ทมี่ แี ละตอ้ งเตมิ ขอ้ มลู เร่อื ย ๆ ด้วย จะไดม้ ีฐานสำ� หรับปรับตวั ” ∞19∞8
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318