Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ลำธารชีวิต

ลำธารชีวิต

Published by Sudantham Nawa, 2021-10-14 03:45:27

Description: PDFลำธารชีวิต030864

Search

Read the Text Version

ไดฟ้ งั เทา่ นนั้ ในโอกาสตอ่ ไปจะมใี หมม่ แี ปลกยง่ิ กวา่ นี้ และทไี่ ดย้ นิ แลว้ ในวนั น้ี กจ็ ะคอ่ ยๆ เขา้ ใจไดเ้ พมิ่ ขน้ึ แมว้ นั นจ้ี ะไมร่ เู้ รอ่ื งเลยกต็ าม ถา้ ผใู้ ดไดพ้ ยายาม ฟงั ดว้ ยดแี ลว้ พจิ ารณาตาม ผลหรอื อานสิ งสก์ จ็ ะเกดิ ไดอ้ ยา่ งทไ่ี ดย้ กเอาพระ พทุ ธดำ� รสั เกย่ี วกบั อานสิ งส์ ๕ จากการฟงั ธรรม มากลา่ วใหฟ้ งั ผา่ นมาแลว้ อาตมาจะขอเปรียบเทียบความเข้าใจของคนให้ฟังสักนิด เหมือน หนนู อ้ ยนกั เรยี นเลก็ ๆ คนหนงึ่ เรยี นรู้ ก.ไก่ ข.ไข่ แกกจ็ ะรู้ ก.ไก่ ข.ไข่ ในรปู ของ ก.ไก่ ข.ไข่ แทๆ้ อยา่ งซอ่ื ๆ ตามแบบฟอรม์ ทเี่ ปน็ ตวั พมิ พแ์ ทม้ าตรฐาน ก.ไก่ กม็ ขี าสองขา มปี ากแหลมๆ ขา้ งหนา้ สว่ น ข.ไข่ กม็ หี วั กลมอยขู่ า้ งหนา้ มเี สน้ หลงั กล็ ากขนานขน้ึ ไป เมอื่ หนนู กั เรยี นเลก็ ๆ คนนไ้ี ดร้ บั คำ� ชแ้ี จงแนะนำ� ใหร้ จู้ กั ก.ไก่ ข.ไข่ จากครู กพ็ ยายามจำ� มน่ั และยดึ ถอื รปู รา่ งลกั ษณะ ก.ไก่ ข.ไข่ เอาไวอ้ ยา่ งดี พอมาถงึ บา้ น หนนู อ้ ยดใี จเขา้ ไปหาคณุ พอ่ เหน็ คณุ พอ่ เขยี นหนงั สอื อยกู่ ด็ ใี จยง่ิ ขน้ึ ใครอ่ ยากแสดงภมู ิ แตเ่ มอ่ื พอไดเ้ หน็ ตวั หนงั สอื ท่คี ณุ พอ่ เขียนอยนู่ ัน้ ต่างก็ไม่เห็นมตี ัวไหนเหมอื น ก.ไก่ ข.ไข่ ที่ตวั เอง เพงิ่ ไดร้ บั รู้ เรยี นรมู้ าเลย กฉ็ งน ถามคณุ พอ่ วา่ คณุ พอ่ ไหนตวั ก.ไก่ ข.ไข่ คณุ พอ่ กช็ ใี้ หด้ ตู วั ก.ไก่ ข.ไข่ ตวั หวดั ๆ ของคณุ พอ่ มนั จะไปเหมอื น ก.ไก่ ข.ไข่ ทหี่ นนู อ้ ยเพงิ่ ไดย้ ดึ ถอื จดจำ� มาใหมๆ่ นนั้ ไมไ่ ดเ้ ปน็ อนั ขาด หนนู อ้ ยคนนก้ี จ็ ะรอ้ งลนั่ ออกมาทนั ทวี า่ ไมใ่ ช่ ก.ไก่ ข.ไข่ และจะ ลงโทษคณุ พอ่ หาวา่ คณุ พอ่ โง่ ไมร่ จู้ กั ก.ไก่ ข.ไข่ กจ็ ะบอก ก.ไก่ ข.ไข่ ทตี่ นรู้ ตนเห็น ตนจ�ำได้ ใหแ้ กค่ ุณพ่อฟังทนั ทีอยา่ งเชื่อมัน่ ขมีขมัน ถ้าหนนู ้อย คนนจ้ี ะเขยี น ก.ไก่ ข.ไข่ เทา่ ทตี่ นสามารถนนั้ ใหค้ ณุ พอ่ ดไู ด้ กจ็ ะรบี ควา้ ดินสอปากกาจากพ่อมาเขียน ให้ดูอย่างอวดรู้ทันที แต่ถ้ายังเขียนไม่ได้ เพราะยงั ไมไ่ ดฝ้ กึ เปน็ แตเ่ พยี งเพงิ่ ไดฟ้ งั อธบิ ายมาเทา่ นนั้ กจ็ ะไดแ้ ตอ่ ธบิ าย และชแี้ จงแถลงไขยนื ยนั อยเู่ สยี งแขง็ วา่ ก.ไก่ ข.ไข่ ตอ้ งอยา่ งนเี้ ทา่ นน้ั คณุ พอ่ ก็จะย้ิมให้แก่หนูน้อยอย่างเอ็นดู แล้วก็จะช้ีแจงให้หนูน้อยคนน้ันฝึกเขียน ก.ไก่ ข.ไข่ นนั้ ตอ่ ไปใหถ้ กู ตอ้ งตามทหี่ นนู อ้ ยคนนน้ั ยดึ มน่ั ลำ� ธารชวี ติ | ๓๐๑

เพราะนน่ั เปน็ แบบมาตรฐานขน้ั ตน้ ซงึ่ ถกู ตอ้ งแลว้ คณุ พอ่ จะไปโกรธ จะดถู กู หนนู อ้ ยกห็ าไม่ จะมแี ตค่ วามเขา้ ใจและสงสารเอน็ ดเู ทา่ นนั้ และถา้ หนนู อ้ ยคนนน้ั ไดฝ้ กึ หดั เขยี น ก.ไก่ ข.ไข่ นน้ั มาดแี ลว้ คณุ พอ่ กจ็ ะพงึ อธบิ าย ให้หนูน้อยน้ันเข้าใจเพิ่มเติมต่อไปว่า ก.ไก่ ข.ไข่ น้ัน แม้ไม่ใช่อย่างนั้น ทเี ดยี วกม็ อี ยู่ หรอื อยา่ งนนั้ ทเี ดยี วกม็ อี ยู่ ไมผ่ ดิ หรอก แตย่ งั ไมค่ วรยดึ ผกู เอาลกั ษณะอยา่ งนนั้ แทๆ้ ใหต้ ายตวั เปน็ ของเทยี่ ง เปน็ ความคงที่ หรอื เปน็ ความปกั ใจ หลงเชอ่ื มนั่ วา่ ในโลกนมี้ คี วามจรงิ เทา่ นี้ ทแ่ี ทแ้ ลว้ ก.ไก่ ข.ไข่ ทส่ี วยกวา่ นน้ั ยงั มี แปลกกวา่ นน้ั กย็ งั มี และทเ่ี ปน็ ก.ไก่ ข.ไข่ ทอี่ า่ นยาก ยงิ่ กวา่ นน้ั กม็ อี กี คณุ พอ่ ยอ่ มรดู้ วี า่ ก.ไก่ ข.ไข่ ตวั ไหนเปน็ ลายมอื ธรรมดา ทผี่ เู้ ขยี นเขยี นโดยปกติ และยอ่ มพอรไู้ ดด้ ว้ ยวา่ ก.ไก่ ข.ไข่ ลายมอื ปกตขิ อง คนไหน สวยกวา่ ของคนไหน ทง้ั ยงั รไู้ ปไดอ้ กี วา่ ก.ไก่ ข.ไข่ ทน่ี กั ประดดิ ประดอยรปู รา่ งลกั ษณะ ก.ไก่ ข.ไข่ ขนึ้ มาใหด้ สู วยงามยง่ิ ขน้ึ ดยี ง่ิ ขนึ้ เหมาะ แกก่ าลและสมยั เพอื่ ประโยชนใ์ นการงานอนั ก.ไก่ ข.ไข่ นนั้ จะพงึ เปน็ ตวั ชกั จงู ประโยชนใ์ หเ้ กดิ ขนึ้ และทงั้ หมดทกี่ ลา่ วน้ี ก.ไก่ ข.ไข่ เหลา่ นน้ั ยอ่ มจะ ไมอ่ ยใู่ นขอบขา่ ยของ ก.ไก่ ข.ไข่ แตเ่ พยี งตามแบบฉบบั ตายตวั ทหี่ นนู อ้ ย คนนนั้ พงึ ไดร้ ไู้ ดเ้ รยี นมาแตต่ น้ เทา่ นน้ั มแี ตจ่ ะกวา้ งขวาง วจิ ติ ร และแปลกใหม่ ออกไป แตก่ ไ็ มผ่ ดิ ไปจากความเปน็ ก.ไก่ ข.ไข่ เลย การเรยี นรอู้ ยา่ งหนเู ลก็ ๆ คนนนั้ จงึ คอื “เงอื่ นตน้ ” คอื ทางเปน็ ไป ตามลำ� ดบั นน่ั กเ็ ปน็ ไปอยา่ งธรรมดา เปน็ ไปอยา่ งถกู ตอ้ งแลว้ หนเู ลก็ ๆ คนนนั้ กไ็ มผ่ ดิ อะไร แมห้ นนู อ้ ยจะเอะอะโวยวายออกมาในตอนตน้ ๆ คณุ พอ่ กย็ อ่ มจะไมถ่ อื สา ตอ่ เมอื่ หนนู อ้ ยคนนนั้ เขยี น ก.ไก่ ข.ไข่ ในแบบเงอื่ นตน้ ขน้ั ตน้ ไดแ้ ลว้ หนนู อ้ ยคนนน้ั กจ็ ะคอ่ ยๆ เขา้ ใจ ก.ไก่ ข.ไข่ ในแบบอน่ื ๆ ไดอ้ กี จาก ก.ไก่ ข.ไข่ อนั ไมม่ ที สี่ น้ิ สดุ ทเ่ี กดิ จาก “คน” ผจู้ ะตอ้ งเขยี น ก.ไก่ ข.ไข่ ทง้ั หลายนัน้ ไปอยู่แล้วๆ เล่าๆ (ตราบฟ้าดินสลายเพราะ “อวชิ ชา” ยงั ครอบงำ� อย)ู่ ๓๐๒ | ลำ� ธารชวี ติ

แต่ถ้าหนูน้อยคนน้ัน จะขอฝึกหัดเขียน ก.ไก่ ข.ไข่ ให้ได้เพียงใน แบบอยา่ งนน้ั แคข่ น้ั นน้ั ชนั้ นนั้ และเมอ่ื ฝกึ หดั ฝกึ ฝนจนไดเ้ พยี งพอแกข่ นั้ แลว้ กถ็ อื วา่ หนนู อ้ ยคนนน้ั รแู้ จง้ ในขอบเขตขน้ั ของตวั ไดแ้ ลว้ เขยี นเปน็ อา่ นออก ใชง้ านเกดิ ผลกบั ตวั เอง เทา่ ทจ่ี ะทำ� ไดแ้ ลว้ หนนู อ้ ยคนนนั้ ไดช้ ว่ ยตวั เองใหพ้ น้ การไมเ่ ปน็ หรอื ไมร่ ู้ ก.ไก่ ข.ไข่ ไดแ้ ลว้ เรยี กวา่ พน้ ความไมร่ ู้ หรอื จบวชิ า ก.ไก่ ข.ไข่ (พน้ อวชิ ชา) ในขอบเขตแวดวงขดี ขน้ั ของตนเองแลว้ จบวชิ านแี้ ลว้ ตามระดบั ขน้ั ของตน จะไมม่ ใี ครวา่ หนคู นนผ้ี ดิ เปน็ อนั ขาด แตน่ นั่ แหละ หนคู นนจี้ ะพงึ รเู้ อง พงึ เขา้ ใจไดเ้ องในขนั้ ตอ่ ไปวา่ ตนควรจะเรยี น ตอ่ หรอื ไม่ หรอื ตนอยากเรยี นตอ่ หรอื ไม่ เพราะการผา่ นขน้ั นน้ั ๆ มา จะเปน็ สว่ นประกอบชบ้ี อกใหแ้ กห่ นนู อ้ ยผนู้ นั้ เอง ถา้ ใครไมผ่ า่ นจรงิ กจ็ ะบอกจรงิ แกต่ นไมไ่ ด้ เหมอื นคนธรรมดาทกุ คน ตา่ งกร็ ดู้ วี า่ “คน” ถา้ ไดเ้ ปน็ ผมู้ ปี รญิ ญา ประดบั ตนละก็ จะเปน็ “อรยิ ปถุ ชุ น” หรอื “อรยิ ะคน” ทเี ดยี ว คอื รวู้ า่ เปน็ “คนสงู ” (ตามศกั ดศ์ิ รขี องโลก) ตา่ งกอ็ ยากมี “ปรญิ ญา” กนั ทกุ คน ถา้ เปน็ ไปได้ กระนนั้ กด็ ี กย็ งั มคี นจำ� นวนมาก ทไ่ี มค่ ดิ ใฝจ่ ะเออ้ื มเอาปรญิ ญามาใหต้ น จะคดิ อา่ นอาจเออ้ื มอยกู่ ม็ ใี นบางคนเทา่ นน้ั ซงึ่ ตา่ งกอ็ ยากเรยี นใหไ้ ดจ้ นควา้ เอาปรญิ ญากนั ทกุ คน แตก่ ไ็ มไ่ ดจ้ บปรญิ ญากนั ทกุ คนหรอก แตบ่ างคนแถมได้ เรยี นเลยปรญิ ญาไปเสยี อกี กย็ งั มี ทง้ั ๆ ทใ่ี นบางคนไมเ่ คยไดค้ าดคดิ ไวด้ ว้ ยซำ้� ดงั นน้ั ขอ้ สำ� คญั นน้ั จงึ ตอ้ งหดั คดั ก.ไก่ ข.ไข่ กนั ใหไ้ ดไ้ ปกอ่ น ถา้ ผใู้ ด จะใฝค่ วา้ เอาปรญิ ญา กค็ อ่ ยหดั คดั ค.ควาย ไปตามลำ� ดบั จงึ จะไดป้ รญิ ญาให้ แกต่ นอยา่ งถกู เรอื่ ง ถกู ทางอยา่ งแทจ้ รงิ ถา้ คนไหนหลงเขา้ ใจผดิ วา่ ตนไปจบั เอาตวั ฮ.นกฮกู มาหดั คดั แลว้ กพ็ าลเขา้ ใจเอาวา่ ตนจบวชิ า ก.ไก่ ข.ไข่ แลว้ แทท้ จ่ี รงิ ยงั คดั ยงั เขยี น ก.ไก่ ข.ไข่ ยงั ไมไ่ ดเ้ ลย หลงไปควา้ เอา ฮ.นกฮกู มาหดั คดั นน่ั ตา่ งหาก แลว้ พลอยหลงผดิ เหน็ เปน็ วา่ ตนเรยี นหรอื ปฏบิ ตั จิ บแลว้ นแ่ี หละ เปน็ แง่ เปน็ ประเดน็ ทน่ี า่ สงสาร จงึ ตอ้ งหดั ทำ� ใจใหเ้ ปน็ กลาง ทำ� ใจใหก้ วา้ งๆ มองอะไรใหเ้ ปน็ ไปตามลำ� ดบั แลว้ จะไดร้ ไู้ ดเ้ ขา้ ใจอะไรไดอ้ ยา่ งไมส่ บั สน ลำ� ธารชวี ติ | ๓๐๓

ทกุ สรรพสง่ิ ในโลก เมอ่ื ยงั เขา้ ใจไดไ้ มถ่ ว้ นทวั่ จะลว้ นแตม่ คี วาม แตกตา่ งกนั อยู่ แบง่ ไดเ้ ปน็ สองแง่ สองฝา่ ย สองสภาวะทง้ั สนิ้ ไมด่ กี ช็ วั่ ไมไ่ ดก้ เ็ สยี ไมไ่ ปกม็ า ไมต่ ำ�่ กส็ งู ไมถ่ กู กผ็ ดิ ไมว่ า่ งเปลา่ อยา่ งแทจ้ รงิ กม็ อี ยู่ อยา่ งแทจ้ รงิ (แมจ้ ะมอี ยอู่ ยา่ งนอ้ ยทสี่ ดุ เพยี งใด กเ็ ปน็ ความแตกตา่ งทตี่ อ้ ง เรยี กวา่ มอี ยอู่ ยา่ งแทจ้ รงิ เหมอื นขาวกบั เทา แมจ้ ะเทาอยา่ งซดี จางปานใด ก็จะต้องเรียกว่า แตกต่างกัน มิใช่ว่าขาวกับด�ำเท่านั้น ถึงจะเรียกว่า แตกตา่ งกนั พยายามคดิ ใหเ้ หน็ ) นั่นคอื ถ้าคนใดยังเข้าใจไมไ่ ด้ กเ็ รียกวา่ ตายงั ไม่ใส หรือปญั ญา ยงั ไมแ่ จง้ หรอื ยงั มี “ความหลง” อยใู่ น “จติ ” (ยงั เขา้ ใจไมไ่ ด้ อนั พระเรยี กวา่ “อวชิ ชา”) คนนน้ั กจ็ ะยงั เหน็ สง่ิ ทเ่ี ขา้ ใจยงั ไมไ่ ดเ้ ปน็ ๒ แง่ หรอื ๒ สภาวะ อยนู่ น่ั เอง น่ันแหละจึงยงั คอื แงห่ น่งึ เรยี กว่า “ม”ี กบั อกี แงห่ นึง่ เรยี กวา่ “ไมม่ ”ี แตแ่ ทจ้ รงิ แลว้ โดยความเปน็ “ปรมตั ถ”์ ขนั้ สดุ ยอด หรอื โดย “อรยิ สจั ” มนั กค็ อื เรอื่ งเดยี วกนั หรอื ของสง่ิ เดยี วกนั ทงั้ สนิ้ มนั ไมม่ สี องอะไรหรอก ทแ่ี บง่ เปน็ สองนน้ั กเ็ พราะเกดิ จาก สมมตุ ิ เกดิ จากการ “เกดิ ” หรอื การกอ่ การกระเพอ่ื ม การหลงผดิ การยงั ไมเ่ หน็ แจง้ แทงทะลสุ รรพสงิ่ การเขา้ ใจ ยงั ไมไ่ ด้ ทท่ี า่ นเรยี กวา่ ยงั มอี วชิ ชา นน่ั เอง ทคี่ นยงั เหน็ อะไรเปน็ สองสภาวะ โดยยงั ไมเ่ ขา้ ใจวา่ ทมี่ นั ยงั เรยี กไดว้ า่ ๒ สภาวะอยใู่ นลกั ษณะอยา่ งไร หรอื ยังเห็นขดั แย้งกนั อยู่ ยังเห็นอะไรกต็ ามแตกต่างกนั อยู่ นน่ั กเ็ พราะผู้ นนั้ ๆ ยงั เหน็ อยกู่ นั คนละตอน คนละเวลา คนละกำ� หนด ยงั เขา้ ใจทะลุ ตดิ ตอ่ กนั จนตลอดถว้ นทวั่ ตง้ั แตเ่ รมิ่ ตน้ จนถงึ ปลายสดุ ไมไ่ ด้ เหมอื นคนสองคน ตา่ งกบ็ รรยายถงึ ผชู้ ายคนหนงึ่ คนแรกอธบิ ายวา่ ผชู้ ายคนนน้ั รปู รา่ งอว้ น ใบหนา้ กลม ผมสนั้ เกรยี น สว่ นอกี คนอธบิ ายวา่ ผู้ชายคนที่เขารู้จักนี้ ผอมผมยาว ใบหน้าซูบ ซ่ึงเมื่ออธิบายกันแค่น้ัน ทง้ั สองกเ็ ขา้ ใจกนั เอาวา่ ไมใ่ ชค่ นๆ เดยี วกนั แตท่ แี่ ทท้ งั้ สองคนนก้ี ำ� ลงั พดู ถงึ นาย ก. คนเดยี วกนั นนั่ เอง ทวา่ คนแรกบรรยายถงึ นาย ก. เมอื่ อายไุ ด้ ๓๐๔ | ลำ� ธารชวี ติ

๕๐ ปี สว่ นคนหลงั บรรยายถงึ นาย ก. เมอ่ื เขารจู้ กั ตงั้ แตน่ าย ก. อายไุ ด้ ๒๐ ปี แลว้ ตา่ งคนกต็ า่ งรแู้ ทไ้ มไ่ ด้ เพราะทง้ั สองคนนน้ั มคี วามรเู้ รอื่ งนาย ก. กนั คนละเพยี งเทา่ นนั้ จงึ ไมส่ ามารถจะรแู้ จง้ แทงทะลไุ ดว้ า่ ทแี่ ทผ้ ทู้ ที่ ง้ั สอง คนนไี้ ดร้ จู้ กั นน้ั มนั คอื นาย ก. คนๆ เดยี วกนั นน่ั เอง ทคี่ นสองคนนเ้ี หน็ วา่ ไมใ่ ชค่ นๆ เดยี วกนั กเ็ พราะ ความไมร่ ู้ หรอื อวชิ ชา คอื ความรอบรเู้ กยี่ วกบั ชวี ติ นาย ก. ยงั ไมม่ ากพอ ยงั ไมถ่ ว้ นทวั่ แมก้ ระทงั่ ระยะทางของกาลเวลา …อะไรทำ� ใหห้……ลง…ยดึ มน่ั ใ…นค…ว…ามเหน็ ตา่ ง? และแทจ้ รงิ แลว้ สง่ิ ใดท่ี “ม”ี มนั กอ็ นั เดยี วกนั ทง้ั สน้ิ ในพภิ พจบสากล จกั รวาลนี้ ทคี่ นยงั เหน็ แตกตา่ งกนั กเ็ พราะเขา้ ใจมนั ยงั ไมไ่ ดถ้ ว้ นทวั่ เหน็ แต่ เพยี งสว่ นขยายของ “สญุ ญตา” อนั แตกตวั ออกมาเปน็ ปรากฏการณท์ ่ี ศพั ทท์ างพทุ ธเรยี กวา่ “สมมตุ บิ ญั ญตั ”ิ ทงั้ สน้ิ ไมม่ อี ะไรเปน็ ของจรงิ ไมม่ อี ะไรคงอยู่ ไมม่ อี ะไรเลยจรงิ ๆ ในมหาพภิ พจบสากลจกั รวาลนี้ นอกจาก ความวา่ งเปลา่ ทถ่ี กู สมมตขิ น้ึ มาใหเ้ ดนิ ทาง ไปกบั กาลเวลา ถ้าใครปั้นความว่างเปล่าข้ึนมาจนเป็นตัว แล้วก็หลงกับส่ิงน้ันว่า เป็นจริง ผู้นั้นก็ติดอยู่กับสิ่งน้ัน ย่ิงต้ังช่ือกันขึ้นมาเรียกก�ำหนดสิ่งนั้นๆ กนั ไว้ กน็ น่ั แหละ คอื ความมี ความเปน็ และแลว้ เจา้ ความมี ความเปน็ นนั้ กจ็ ะคอ่ ยๆ แปรเปลยี่ นความมี ความเปน็ ไปตามพลงั งานของผนู้ น้ั และ พลังงานท่ีแวดล้อม ถ้าผู้ปั้นยังไม่เป็นผู้รู้แจ้งถึงความแท้จริงว่า ทุกอย่าง ทม่ี อี ยู่ เปน็ อยู่ คอื สภาวะ คอื ปรากฏการณ์ คอื สมมตุ เิ ทา่ นนั้ ผนู้ น้ั กจ็ ะ ตง้ั หนา้ ตงั้ ตา หมนุ ความเปน็ ไปใหเ้ ปน็ ไป ทำ� ความเกดิ ใหเ้ กดิ แลว้ เกดิ อกี จะไมค่ ดิ ทำ� ความดบั จะไมห่ าทางทำ� ความเปน็ ความมี หรอื ความตงั้ อยู่ ลำ� ธารชวี ติ | ๓๐๕

ใหด้ บั ลงเปน็ อนั ขาด ความจบจงึ ไมม่ ี ความหยดุ จงึ เกดิ ขนึ้ ไมไ่ ด้ กค็ วามดบั ความหยุด ความไม่มี ความไม่เป็น ความไม่หมุน นั่นแหละคือ “สญุ ญตา” แทจ้ รงิ แมร้ ปู กบั นามกเ็ ปน็ เพยี งชอ่ื หรอื สมมตบิ ญั ญตั ิ ทต่ี งั้ ขนึ้ เรยี กสภาวะ หรอื ปรากฏการณเ์ ทา่ นนั้ เอง ใครทร่ี แู้ จง้ “รปู กบั นาม” ละเอยี ด (เชน่ จากนามกลายมาเปน็ รปู ทต่ี งั้ อยใู่ หโ้ ดนพจิ ารณาอกี ที จนเลก็ ลงๆ ไมค่ งท)่ี จึงจะไม่มีความยึดถือใดๆ เพราะร้แู ลว้ ว่า สง่ิ เหล่านัน้ เปน็ เพยี ง ปรากฏการณ์ชั่วคราว ย่อมเป็นผู้ยินดีอยู่แต่ในแดนแห่งความไม่ยึดอะไร ไมเ่ อาอะไร ไม่เปน็ อะไร เพราะอะไรๆ “มนั ไมม่ ”ี อยูจ่ ริงเลย มนั คือ “สญุ ญตา” โดยแท้ เพราะดังนี้เอง จึงควรจะรู้ตัวเองให้ได้ก่อน อย่าถือดีมีมานะทิฏฐิ ถา้ ถอื ดโี ดยไมย่ อมลดราวาศอก โดยดอื้ รน้ั วา่ ตนสงู สง่ แลว้ มปี ญั ญาสดุ แลว้ กแ็ นน่ อน จะแจง้ แทงทะลรุ ลู้ ะเอยี ดสน้ิ รอบ หรอื หมดเกลยี้ งทกุ ขน้ั ทกุ ระดบั ทกุ ๆ ขนาดไมไ่ ด้ ดงั ทอี่ าตมาไดย้ กตวั อยา่ งวา่ จะเหมอื นคนตาบอดคลำ� ชา้ ง นนั่ เอง ถา้ ปลอ่ ยใหต้ าบอดแตล่ ะคนไปคลำ� ชา้ งมาคนละที ผใู้ ดคลำ� ถกู ขา กต็ อ้ งแนใ่ จวา่ ชา้ งเหมอื นเสา ผใู้ ดไปคลำ� ถกู หาง กต็ อ้ งแนใ่ จวา่ ชา้ งเหมอื น ไมก้ วาด ผไู้ ปคลำ� ถกู สขี า้ ง กต็ อ้ งแนใ่ จวา่ ชา้ งเหมอื นผนงั ตกึ ทกุ คนไมผ่ ดิ ทุกคนก็ถูก แต่ถ้าปล่อยให้มาแถลงมาแจ้งส่ิงที่ตัวไปคล�ำไปจับไปรู้อย่าง แนใ่ จนนั้ สกู่ นั ฟงั ดซู ิ กต็ อ้ งเถยี งกนั เปน็ ตายยงั ไงแตล่ ะคนกไ็ มย่ อม เพราะ คลำ� มากบั มอื กนั ทกุ คน และถกู จรงิ กนั ทกุ คน แตม่ นั กย็ งั เหน็ แตกตา่ งกนั อยู่ นนั่ แหละเปน็ ตวั อยา่ ง เพราะฉะนัน้ ผู้ฉลาด จึงตอ้ งเปิดใจรับ เปดิ ใจฟงั ไว้เสียก่อน แม้เรา ยังไม่รู้ก็ยังไม่เป็นไร เราพากเพียรรู้ที่ตนเองคล�ำอยู่ให้แจ้งก่อนก็แล้วกัน แลว้ คอ่ ยคลำ� สว่ นทตี่ นยงั ไมแ่ จง้ ไมร่ ู้ ถา้ จะใหร้ ถู้ ว้ นทว่ั จรงิ แทใ้ นชา้ ง กแ็ นน่ อน ตอ้ งคลำ� ใหร้ แู้ มแ้ ตข่ ช้ี า้ ง ตบั ไตไสพ้ งุ และหวั ใจชา้ งนน่ั แหละ มนั จงึ จะเรยี กวา่ รรู้ อบ รสู้ น้ิ รเู้ กลย้ี ง รจู้ กั โลกของชา้ งครบถว้ น ๓๐๖ | ลำ� ธารชวี ติ

การศึกษาพุทธศาสนา ความส�ำคัญข้ันสุดยอดจึงอยู่ที่ ต้องลงมือ ปฏิบัติ อย่าเอาแต่รู้ เอาแต่คิดเล่นๆ อยู่เท่าน้ัน และเรื่องอะไรต่างๆ มนั กเ็ รอื่ งเดยี วกนั ทง้ั นนั้ แหละ ขอใหล้ งมอื ปฏบิ ตั ไิ ปตามหวั ขอ้ ธรรมทตี่ นเกดิ ศรทั ธากแ็ ลว้ กนั แลว้ กค็ อ่ ยๆไตไ่ ปตามลำ� ดบั ขนั้ กจ็ ะรแู้ จง้ ไดส้ น้ิ แมว้ ญิ ญาณ อนั เปน็ สง่ิ ทเ่ี ขา้ ใจไดไ้ มง่ า่ ยนกั ตราบใดยงั ไมร่ ชู้ ดั รแู้ จง้ กจ็ ะยงั รจู้ กั วญิ ญาณ เปน็ ๒ เรอื่ ง เปน็ ๒ อยา่ งอยนู่ น่ั เอง จนเมอื่ รชู้ ดั รแู้ จง้ ไดถ้ ว้ นทวั่ นน่ั แหละ จึงจะเข้าใจได้ว่า “วิญญาณ” นั้นมีอยู่โดยแท้จริง และแท้ท่ีสุดอีก “วญิ ญาณ” มนั กไ็ มม่ ี ฟังให้ดี คิดให้ดี จ�ำไว้เสียก่อนก็ได้ ถ้ายังเข้าใจที่พูดถึงนี้ยังไม่ได้ ทา่ นผฟู้ งั จะเขา้ ใจในประโยคทอ่ี าตมาพดู เมอ่ื กน้ี ไ้ี มไ่ ดง้ า่ ยนกั ฟงั อกี ทกี ไ็ ดว้ า่ “วญิ ญาณ” นนั้ มอี ยโู่ ดยแทจ้ รงิ และแทท้ ส่ี ดุ “วญิ ญาณ” มนั กไ็ มม่ ี อยจู่ รงิ ผบู้ รรลผุ ลถงึ ใจ อนั เรยี กวา่ “ปฏเิ วธ” นนั้ เปน็ “สนั ทฏิ ฐโิ ก” คอื เปน็ ผลทผ่ี บู้ รรลนุ นั้ พงึ เหน็ เอง จงึ จะแจง้ ไดต้ ามทก่ี ลา่ วนี้ และนนั่ แหละคอื สญุ ญตา เพราะคำ� วา่ “วญิ ญาณ” มนั กค็ อื คำ� เรยี กทเี่ ราตงั้ ขน้ึ มากำ� หนดเรยี ก นามธรรม ขนาดหน่ึง หรือสิ่งท่ีแสดงความรับรู้หรือแสดงพลังงานได้ใน ระดบั หนงึ่ เมอ่ื พน้ จากระยะหรอื ขอบขา่ ยทเี่ ราจำ� กดั วง จำ� กดั ขอบเขตเอาไว้ นไ้ี ปแลว้ อาการนเี้ รากไ็ มเ่ รยี กวา่ “วญิ ญาณ” เรากไ็ ปเรยี กวา่ “พลงั งาน” ดงั ทอี่ าตมาไดน้ ำ� มาเรยี กอยใู่ นเวลานี้ เปน็ ตน้ และแมพ้ ลงั งานเองกเ็ ชน่ กนั ถา้ พลงั งานทปี่ รงุ แตง่ กนั ออกมา แสดง สภาวะของพลงั งานขนาดหนง่ึ เราเรยี กวา่ พลงั งานแสง ถา้ เหตปุ จั จยั ของ พลังงานแสงหย่อนไป แสงก็จะตายลง คือแสดงสภาวะในชื่อว่า “แสง” ไมไ่ ด้ กจ็ ะลดลงไปเหลอื เพยี งสภาวะทเี่ ราตง้ั ชอื่ เรยี กวา่ “พลงั งานความรอ้ น” และนยั เดยี วกนั พลงั งานความรอ้ น ถา้ เหตปุ จั จยั ลดลงกแ็ สดงความ เปน็ พลงั งานความรอ้ นไมไ่ ดอ้ กี มนั กจ็ ะลดตวั ลงมาเปน็ พลงั งานไฟฟา้ คอื ลำ� ธารชวี ติ | ๓๐๗

มเี พยี งโปรตอนกบั อเิ ลก็ ตรอน ทท่ี ำ� ปฏกิ ริ ยิ ากนั อยอู่ ยา่ งออ่ น และใหผ้ ล ออกมาละเอยี ดและเบาบาง จนประสาทคนรบั สมั ผสั ไมไ่ ด้ แทจ้ รงิ พลงั งาน ความร้อน ก็ยังมีอยู่แต่ต่�ำมาก พลังงานแสงก็ยังมีอยู่แต่ต่�ำมากน่ันเอง เราจงึ ไมเ่ รยี กมนั วา่ “แสง” วา่ “ความรอ้ น” แลว้ เหมอื นกบั ทเี่ ราไมเ่ รยี กวา่ “วญิ ญาณ” เมอื่ มนั ลดคา่ จากขอบเขตท่ี เราจำ� กดั วงในความหมายของ “วญิ ญาณ” ไวน้ นั่ เอง เรากล็ ดภาษาไปเรยี ก วา่ “พลงั งาน”แทนเสยี แทจ้ รงิ มนั กอ็ ยภู่ ายใตช้ อ่ื วา่ “นาม”ในภาษาพระพทุ ธเจา้ ดว้ ยกนั ทงั้ นนั้ เหมอื นอยา่ งในตน้ ไม้ มนั กม็ พี ลงั งานปรงุ แตง่ รา่ งกายของ มนั อยู่ แตค่ นเขา้ ใจเอา ตกี รอบเอาไวว้ า่ ถา้ พลงั งานทล่ี ดคา่ ลงมา “รบั ร”ู้ อะไรไมไ่ ด้ กต็ วี า่ ตำ่� กวา่ สตั ว์ เรากไ็ มเ่ รยี กพลงั งานนน้ั วา่ วญิ ญาณ คนจงึ ไมเ่ รยี กพลงั งานในตน้ ไมว้ า่ “วญิ ญาณ” แตแ่ ทจ้ รงิ ตน้ ไมม้ นั กม็ ี “ความรบั ร”ู้ ท�ำไมมันจะไม่รู้ ดา้ นไหนมีแสงสวา่ ง ด้านไหนมดื มนั กร็ ู้ ความรอ้ นมาก ความรอ้ นนอ้ ยมนั กร็ ู้ ประสาทการรบั รมู้ นั นอ้ ยไปกวา่ สตั วเ์ ทา่ นน้ั เอง ถา้ เพม่ิ ประสาทใหม้ นั มากกวา่ นี้ ละเอยี ดกวา่ นม้ี นั กจ็ ะรไู้ ดม้ ากกวา่ นี้ แตค่ นผยู้ งั เขา้ ใจมนั ไมพ่ อตา่ งหากทไ่ี ปตคี า่ ตน้ ไมว้ า่ ไมม่ วี ญิ ญาณ หรอื ยงั เขา้ ใจพลงั งาน ในตน้ ไมไ้ มเ่ พยี งพอ คนผนู้ นั้ จงึ เหน็ วา่ วญิ ญาณเปน็ สงิ่ หนง่ึ และพลงั งาน เปน็ อกี สง่ิ หนง่ึ จงึ ยงั เหน็ นามธรรมนเ้ี ปน็ ๒ สงิ่ หรอื ๒ สว่ นอยู่ หรอื ยงั เหน็ วา่ ในโลกนย้ี งั มี “ความแตกตา่ งกนั อย”ู่ นน่ั เอง ผรู้ บั วา่ “วญิ ญาณม”ี ดว้ ยความรเู้ พยี งขนั้ ปถุ ชุ นธรรมดา จงึ คอื ผยู้ งั ไมร่ จู้ รงิ ยงั เหน็ วญิ ญาณมอี ยอู่ ยา่ งผดิ ๆ อยู่ และเชน่ เดยี วกนั ผทู้ ปี่ ฏเิ สธวา่ “วิญญาณไม่มี” ด้วยความรู้เพียงขั้นปุถุชนธรรมดา จึงคือ ผู้ยังไม่รู้แท้ ยงั เหน็ วญิ ญาณไมเ่ ปน็ ยงั เหน็ ความแทจ้ รงิ ยงั ไมไ่ ด้ จงึ ยงั คอื ผยู้ งั เหน็ ผดิ อยู่ ลว้ นเปน็ ผทู้ ย่ี งั เปน็ “มจิ ฉาทฏิ ฐ”ิ อยทู่ งั้ ๒ พวก จงึ เรยี กคนทยี่ งั มี “ความร”ู้ อยา่ งนว้ี า่ “ปถุ ชุ น” เมอ่ื ผใู้ ดไดเ้ หน็ ถกู ขนึ้ มาในจติ แทๆ้ ขน้ึ มาเมอ่ื ใด ผนู้ นั้ จงึ จะเรมิ่ ทงิ้ คำ� วา่ “ปถุ ชุ น” ทง้ิ โดยจรงิ ตวั ของผนู้ นั้ ถอดคราบความเปน็ ๓๐๘ | ลำ� ธารชวี ติ

“ปถุ ชุ น” ออกจากตนเองโดยลกั ษณะเปน็ ไปเอง ไมม่ กี ารสวมใสห่ รอื การ แตง่ ตงั้ อยา่ งโลก แตเ่ ปน็ การบรรลอุ ยา่ งธรรม เปน็ การ “เกดิ ” อยา่ งแท้ (การเกดิ อยา่ งนค้ี อื เกดิ ในลกั ษณะ “โอปปาตกิ กำ� เนดิ ” ชนดิ หนง่ึ ) เปน็ การ “เป็นไปแล้ว” อย่างบริบูรณ์ถูกต้องตรงแท้ที่สุด เป็นการพ้น “สมมุติ” โดยนยั อรยิ สจั อยา่ งแทจ้ รงิ ศาสนาพทุ ธมหี ลกั การสอนอยวู่ า่ ตอ้ งทำ� ความไมร่ ู้ ให้ “ร”ู้ และตอ้ ง “ดบั ” ความเปน็ “ผรู้ แู้ ลว้ ” ลงไปใหเ้ ปน็ “ผไู้ มร่ ”ู้ เสยี กอ่ น เพอ่ื จะได้ “ร”ู้ ความไมร่ ู้ ทเี่ รายงั ไมไ่ ดร้ ู้ และเมอื่ ได้ “ร”ู้ เพม่ิ เตมิ อกี กจ็ งดบั ความเปน็ “ผรู้ ”ู้ นนั้ ลงอกี เปน็ ผู้ “ไมร่ ”ู้ เพอื่ เพม่ิ ความรใู้ หมต่ อ่ ไปอกี จงึ มขี อ้ ควรจำ� อยวู่ า่ “จงพยายามฝกั ใฝเ่ ลอื กเฟน้ เอาแบบอยา่ งทถี่ กู ตอ้ ง และครรลองทด่ี จี ากผอู้ น่ื แลว้ เกบ็ กวาดมาบรรจใุ สไ่ วใ้ หต้ น แตจ่ งขดุ คน้ เซาะเอาความบกพรอ่ ง และ ครรลองทชี่ ว่ั จากตวั ของเราออกโยนขวา้ งทง้ิ ออกไปเสมอ” เราจงึ จะเปน็ ผเู้ กง่ ผรู้ เู้ พม่ิ และเพม่ิ ขนึ้ เรอื่ ยๆ และแลว้ เมอ่ื อยากถงึ จดุ สงบ หรอื จดุ สญุ ญตา กจ็ งดบั “ความร”ู้ ทง้ั สนิ้ เสยี เปน็ “ผไู้ มร่ อู้ ะไรเลย” นน่ั เองแหละคอื การดบั “วญิ ญาณ” ทแี่ ทจ้ รงิ หรอื มนั กค็ อื การดบั “ความรบั ร”ู้ หรอื ดบั “ความรสู้ กึ ” ดับความมีชีวิตชีวา ดับความเป็นตัวตน ดับความมีอยู่ให้หมดสิ้น จึงจะ เหลอื แต่ ความไมม่ อี ะไรเลย เมอื่ นนั้ จงึ จะไดช้ อ่ื วา่ “สญุ ญตา” คอื หมด สนิ้ เกลยี้ งอยา่ งแท้ ไมม่ ที ง้ั “ความร”ู้ และไมม่ ที งั้ “ผรู้ ”ู้ …ตา่ งกนั ตรงไห…น…ใน…พระอ…รห…นั ต…/์ พระโพธสิ ตั ว์ ถา้ ใครผใู้ ดยงั ยดึ ถอื เขา้ ใจตนเองวา่ เปน็ “ผรู้ ”ู้ เปน็ ผเู้ กง่ เปน็ ผเู้ ตม็ ไป ดว้ ยปญั ญา ผนู้ น้ั จงึ คอื “พระโพธสิ ตั วเ์ จา้ ” อยตู่ ลอดกาลตามคตขิ องพทุ ธ ลำ� ธารชวี ติ | ๓๐๙

ฝา่ ยมหายาน จงึ ตอ้ งเปน็ ผไู้ มห่ ยดุ เกดิ ไมม่ คี วามจบ จะตอ้ งเกดิ มาแสดงภมู ิ “ความร”ู้ คอื “โพธ”ิ คนผนู้ จี้ งึ คอื พระโพธสิ ตั ว์ คอื ผแู้ สดงตนเปน็ ผรู้ ู้ อยตู่ ลอด นริ นั ดร สว่ นผทู้ เี่ พยี งพอแลว้ ไมป่ รารถนาจะเกดิ ไมต่ อ้ งการมาเวยี นวา่ ย แสดงเปน็ “ผรู้ ”ู้ เปน็ ผเู้ กง่ เปน็ ผเู้ ตม็ ไปดว้ ยปญั ญาอกี ผนู้ นั้ กจ็ บลงดว้ ยการ ตอ้ งทำ� ตนเปน็ “ผไู้ มร่ อู้ ะไรเลย” ทำ� ความสญู เปลา่ ใหต้ นจรงิ ๆ ลา้ งอปุ าทาน เยอื่ ใยสดุ ทา้ ยอยา่ งจรงิ จงึ จะเรยี กทา่ นผนู้ ว้ี า่ “พระอรหนั ต”์ หรอื “พทุ ธะ” สดุ ทา้ ยยอมเปน็ ผไู้ มร่ อู้ ะไรเลย ! ผนู้ น้ั จงึ จะถอื วา่ จบจรงิ หรอื หยดุ จรงิ ! หรอื ยงิ่ กวา่ นนั้ ผทู้ พี่ ากเพยี รเกดิ มารู้ เกดิ มาแสดงตนวา่ เปน็ ผมู้ ปี ญั ญา (มบี ารมี มีความเก่งกวา่ ความธรรมดาของคนธรรมดา) อยู่แลว้ ๆ เลา่ ๆ นนั่ แหละคอื “พระมหาโพธสิ ตั ว”์ เมอ่ื ทา่ นผนู้ ร้ี ตู้ วั วา่ รมู้ ากยง่ิ กวา่ ใครๆอยา่ ง มากมาย และเปน็ การรอู้ ยา่ งแนแ่ ทจ้ รงิ จงั มใิ ชห่ ลงดว้ ย และแลว้ ทา่ นผนู้ ก้ี ็ เบอ่ื การจะรตู้ อ่ ไปอกี แลว้ ทา่ นจงึ ตดั สนิ ใจเลกิ ขาดจากการรอู้ ยา่ งเดด็ ขาดลง ในวนั สดุ ทา้ ย ซง่ึ เปน็ การเลกิ ไดอ้ ยา่ งลกึ อยา่ งไกล คอื ปลอ่ ยวางไดอ้ ยา่ ง มากมายกวา่ ผรู้ อู้ นื่ ๆ อยา่ งเดด็ ขาดแนช่ ดั จงึ เรยี กวา่ เปน็ ผรู้ ทู้ เี่ หนอื ผรู้ อู้ น่ื ๆ นนั่ คอื ผนู้ นั้ แหละทเี่ ราเรยี กขานทา่ นวา่ พระอนตุ ตรสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ศาสนาของพระอนตุ ตรสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทกุ ๆ พระองค์ จงึ ไดส้ งู ลำ้� ประหลาดเหลอื ลกึ ลน้ จนเชอื่ ไดย้ าก เขา้ ใจใหถ้ ว้ นสดุ ไดล้ ำ� บากยง่ิ แตก่ เ็ ปน็ ของแทข้ องจรงิ เหนอื ความแทจ้ รงิ ใดๆ พระพทุ ธองคจ์ งึ ทรงสอนให้ ทำ� ตน เปน็ คนโงก่ อ่ น (อยา่ มมี านะทฏิ ฐ)ิ แลว้ จงึ พยายามทำ� ตนใหเ้ ปน็ คนฉลาด แลว้ กต็ อ้ งกลบั เปน็ คนโงอ่ กี เมอื่ โงแ่ ลว้ กค็ อ่ ยทำ� ตนใหฉ้ ลาดเพมิ่ ขน้ึ มาใหม่ เมอื่ ฉลาดไดแ้ ล้ว ก็ท�ำตนให้โงอ่ กี สลบั กลบั เปลีย่ นไปอยูอ่ ย่างน้ีเรือ่ ยไป ตราบจนดบั ขนั ธ์ นนั่ เอง ดงั นนั้ กอ่ นเสดจ็ เขา้ ปรนิ พิ พาน พระพทุ ธองคจ์ งึ เปน็ ผฉู้ ลาดสดุ ยอด ถา้ พระพทุ ธองคย์ งั ยดึ เอาความฉลาด หรอื ความเปน็ ผรู้ ู้ ผเู้ กง่ ผมู้ ปี ญั ญา นน้ั ไวอ้ ยอู่ กี พระองคก์ จ็ ะตอ้ งเวยี นมาเกดิ เปน็ พระมหาโพธสิ ตั วเ์ จา้ อกี ๓๑๐ | ลำ� ธารชวี ติ

ด้วยเหตุดังน้ี ก่อนจะจากไปคร้ังสุดท้าย พระพุทธองค์จึงทิ้ง “ความรู้” ทงั้ หลาย อนั เราเรยี กวา่ “พระธรรม” บา้ ง “ธรรมกาย” บา้ ง นนั่ เอง ไวใ้ นโลกนี้ พระองคไ์ ปแตค่ วามสญู เปลา่ จรงิ ๆ ความรกู้ ท็ ง้ิ ไวใ้ นโลก ตวั ตนอนั คอื รปู รา่ งกาย กท็ งิ้ ไวใ้ นโลก นนั่ คอื ทงิ้ พระบรมสารรี กิ ธาตไุ วเ้ ปน็ สงิ่ ทคี่ งทน ยนื นาน นา่ เกบ็ นา่ บชู ารกั ษาหวงแหน จึงเท่ากับพระองค์ท�ำตนให้เป็นผู้โง่ที่สุด (อวิชชา) จนไม่รู้อะไรเลย แมแ้ ตน่ ดิ เดยี ว ไมร่ อู้ ยา่ งสนิ้ เกลยี้ งจรงิ ๆ แลว้ กแ็ ยก “ธาต”ุ สองสว่ นออกเปน็ “รปู กาย” อนั คอื พระบรมสารรี กิ ธาตใุ หค้ นกราบไหวบ้ ชู า และแยก “นามกาย” ออกเปน็ พระธรรมใหค้ นกราบไหวอ้ กี จงึ เปน็ การ “ดบั วญิ ญาณ” ครง้ั สดุ ทา้ ย จรงิ ๆ เปน็ การดบั “วญิ ญาณ” หรอื ดบั “ความร”ู้ อนั เปน็ ความเขา้ ใจได้ ถว้ นทวั่ หรอื ดบั ความรอู้ นั รไู้ ดอ้ ยา่ งเกง่ อยา่ งละเอยี ดถถี่ ว้ นมากมาย หรอื คอื การดบั พลงั งานอนั มหาศาลทเ่ี คยผลกั ดนั ใหเ้ คลอื่ น ใหอ้ บุ ตั ิ ใหเ้ กดิ นนั้ ทำ� ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งนน้ั อกี ไมไ่ ด้ จงึ ตอ้ งดบั ไปสญู สน้ิ เกลย้ี งไปอยา่ ง แทจ้ รงิ ตวั รหู้ รอื ตวั วญิ ญาณ หรอื แทๆ้ กค็ อื ตวั ตนของ “ความร”ู้ จงึ สน้ิ ซากลง “โพธ”ิ กไ็ มเ่ หลอื “พทุ ธะ” กไ็ มเ่ หลอื ตดิ ไปกบั พระองค์ แตไ่ ดท้ งิ้ ไวใ้ หก้ บั โลกนแ้ี ลว้ (อยา่ ลมื วา่ ตลอดระยะทยี่ งั มพี ระชนมอ์ ยู่ พระองคท์ รงสรา้ ง ศาสนาโดยใชห้ ลกั “ประโยชนส์ งู และประหยดั สดุ ” จนสำ� เรจ็ อยเู่ สมอ) …จะยดึ ถอื ความ…เ…หน็…ปกั มนั่ …ตา…ยต…วั ไดใ้ นทไี่ หน? พุทธศาสนาจึงคือศาสนาที่ไม่มีท้ังรับ และไม่มีท้ังปฏิเสธ ผู้ใดมี ทฐิ เิ ขา้ ใจวา่ “วญิ ญาณม”ี และมอี ยา่ งเทย่ี งแท้ กค็ อื ผเู้ หน็ วา่ ตายแลว้ เกดิ ตายแล้วไม่มีอะไรหักล้างการเกิด จะยังคงเป็นอย่างน้ันเหมือนอย่างนั้น ลำ� ธารชวี ติ | ๓๑๑

อยคู่ งท่ี ไมม่ อี ะไรสญู หาย พระพทุ ธองคจ์ งึ ทรงเรยี กคนผเู้ ขา้ ใจเชน่ นน้ั วา่ “สสั สตทฏิ ฐ”ิ และผใู้ ดเขา้ ใจวา่ “วญิ ญาณไมม่ ”ี จงึ คอื ผเู้ หน็ วา่ ตายแลว้ สญู ขาดสนิ้ เกลยี้ งหมดปจั จยั ทจ่ี ะพาเกดิ พระพทุ ธองคจ์ งึ เรยี กผเู้ ขา้ ใจอยา่ งนวี้ า่ “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ กเ็ ชน่ เดยี วกนั กบั ผใู้ ดเหน็ วา่ อตั ตามี แลว้ กเ็ ขา้ ใจเอาวา่ วิญญาณเปน็ แทง่ เป็นรปู คงที่ ซ่งึ ก็ยังเห็นผดิ อยู่ ผใู้ ดเห็นวา่ อัตตาไมม่ ี มแี ตอ่ นตั ตา แลว้ กเ็ ขา้ ใจเอาวา่ วญิ ญาณไมม่ ี กค็ อื ผนู้ นั้ ยงั ไมร่ จู้ กั รปู รา่ ง ของวญิ ญาณนนั่ เอง ซงึ่ กย็ งั เหน็ ผดิ อยทู่ ง้ั คู่ จงึ เทา่ กบั ผเู้ หน็ รปู หรอื เหน็ สสาร รปู รา่ ง วตั ถุ แทง่ กอ้ นได้ เหน็ แต่ รปู ภายนอกได้ จงึ เชอ่ื แตส่ งิ่ ประจกั ษต์ าวา่ รปู มตี วั ตนแทๆ้ นามไมม่ ตี วั ตน สว่ นผเู้ หน็ ได้ แมใ้ นเรอ่ื งของนามธรรม หรอื เหน็ พลงั งาน เหน็ อำ� นาจ แหง่ การแสดงคา่ เหน็ ฤทธเิ์ ดช เหน็ แรงหรอื พลงั ทแ่ี สดงผลไดโ้ ดยไมม่ ตี วั ตน จงึ เชอื่ วา่ นามมี หรอื วญิ ญาณมี แตผ่ ยู้ งั เขา้ ใจวา่ วญิ ญาณไมม่ ี กค็ อื ผยู้ งั ไปยดึ ศพั ทค์ ำ� วา่ “วญิ ญาณ” เปน็ คนละตวั กบั คำ� วา่ “นาม” นนั่ เอง เพราะความจรงิ แลว้ ถา้ เชอื่ วา่ “นาม” มี “วญิ ญาณ” กต็ อ้ งมี ความเชอ่ื ความเขา้ ใจจงึ แบง่ ออกเปน็ ๒ พวกดงั น้ี ซงึ่ พวกหนงึ่ กค็ อื “รปู พรหม” อกี พวกหนง่ึ กค็ อื “อรปู พรหม” พวกรปู พรหมกเ็ ชอื่ แตส่ งิ่ ทเี่ หน็ ไดเ้ ปน็ รปู รา่ ง ยอมรบั แตส่ ง่ิ ทเ่ี หน็ ไดม้ ตี วั ตนรปู รา่ งจรงิ ๆ จงึ คอื พรหมชนั้ ตำ�่ พรหมชน้ั ประถม สว่ นพวกอรปู พรหม จงึ เปน็ พรหมชน้ั สงู ขนึ้ ไปอกี กเ็ ชอ่ื ไป จนกระทง่ั แมไ้ มม่ รี ปู แลว้ กย็ งั เชอ่ื วา่ มี ยงั เหน็ วา่ เปน็ “ชวี ติ ” คอื ยงั เหน็ วา่ เปน็ อตั ตาไดอ้ ยดู่ งั น้ี ทง้ั คจู่ งึ ไมพ่ น้ ความเปน็ “พรหม” คอื ยงั ขอ้ งอยใู่ นความ เปน็ สตั วข์ นั้ พรหม ยงั ไมเ่ หน็ แจง้ แทงทะลุ ยงั “หลดุ พน้ ” จากสงั โยชนช์ น้ั สงู ไมไ่ ด้ การจะรอู้ ะไรแจง้ ได้ จงึ ตอ้ งสมมตุ ิ “ความม”ี ขนึ้ มากอ่ น เราจงึ จะมี “ตวั ตน” หรอื แทง่ ทดลองทจ่ี ะนำ� มาศกึ ษาคน้ ควา้ ได้ เมอ่ื คน้ ควา้ ไปจนทกุ สว่ น ๓๑๒ | ลำ� ธารชวี ติ

ทะลสุ นิ้ ในตวั ตนของ “ความม”ี นน้ั เรากจ็ ะรแู้ จง้ วา่ มนั คอื “ความไมม่ อี ะไร” นนั่ เอง ดงั นนั้ เมอื่ รแู้ จง้ กค็ อื “พน้ อวชิ ชา” “อวชิ ชา” จงึ คอื ความไมร่ แู้ จง้ จบวา่ ใน “ความม”ี นน้ั ทแ่ี ทก้ ค็ อื “ความไมม่ อี ะไร” นนั่ เอง ดว้ ยเหตนุ ี้ ผพู้ น้ อวชิ ชาจงึ รวู้ า่ .. ใน “ปฏจิ จสมปุ บาท” นน้ั ทแี่ ทก้ ค็ อื การเคลอ่ื นทห่ี มนุ เปน็ วงของ “สงั ขาร - วญิ ญาณ - นาม - รปู - สฬายตนะ - ผสั สะ - เวทนา - ตณั หา - อปุ าทาน - ภพ - ชาติ - ชรา - มรณะ - โสกะ - ปรเิ ทวะ - ทกุ ขะ - โทมนสั สะ - และอปุ ายาสะ” นนั่ เอง อนั เราเรยี กวา่ “วฏั ฏะ” (ความกลม, ความหมนุ , ความเคลอ่ื นเล่อื นไหล, ความหดเข้า ขยายออก) กไ็ ด้ จะเรยี กวา่ “โลก” (ความกลม, ความหมนุ , ความเคลอื่ น เลอ่ื นไหล, ความหดเขา้ ขยายออก) กไ็ ด้ จะเรยี กวา่ “เอกภพ” (ความกลม, ความหมนุ , ความเคลอื่ นเลอื่ นไหล, ความหดเขา้ ขยายออก) กไ็ ด้ หรอื จะ เรยี กวา่ “คน” (วน, กวน, หมนุ , ดน้ิ ไมห่ ยดุ , เคลอื่ นเลอ่ื นไหล) กเ็ หมอื นกนั และตวั สังขาร - วญิ ญาณ - นาม - รปู - สฬายตนะ ฯลฯ ต่างๆ ทงั้ หมดนนั้ กค็ อื “ตวั ตน” หรอื ตวั “อตั ตา” หรอื ตวั “ความม”ี ทงั้ สน้ิ แตต่ วั “ความม”ี เหลา่ นน้ั มนั มอี ยา่ ง “สมมตุ ”ิ มนั ไมจ่ รงิ จงั มนั ไมค่ งรปู เปน็ อยา่ ง น้นั อยูไ่ ด้ตลอดกาลไปได้สกั ตัว มันจึงเปน็ “อนตั ตา” ทัง้ สน้ิ คอื มนั “ตายแลว้ เกดิ ” ๆๆๆ ตดิ ตอ่ เปน็ สายโซ่ มชี อื่ ใหม่ ไปแลว้ ๆ เลา่ ๆ อยนู่ น่ั เอง แทจ้ รงิ มนั กค็ อื ตวั เกา่ ตวั เดยี วกนั เปน็ แตว่ า่ สรา้ งตวั ใหมแ่ ลว้ ตวั เกา่ กต็ าย เชอ่ื มตอ่ กนั อยอู่ ยา่ งนน้ั ผลจงึ คอื กม็ แี ต่ “ของจรงิ ” ทง้ั นน้ั ทค่ี นไปเรยี กวา่ “สมมตุ ”ิ เพราะฉะนนั้ กม็ แี ต่ “สมมตุ ”ิ ทงั้ นนั้ ทค่ี นไป “หลง” กนั อยวู่ า่ “เปน็ จรงิ ” หรอื เปน็ “ของจรงิ ” คราวหนง่ึ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ไปประทบั อยทู่ นี่ คิ มของชาวกรุ ชุ นบท และครง้ั นน้ั พระอานนทเ์ ขา้ ไปเฝา้ แลว้ กราบทลู วา่ “...นา่ อศั จรรย์ ไมเ่ คยมมี า ข้าแต่พระองคผ์ ูเ้ จริญ ปฏิจจสมุปบาทนล้ี กึ ซ้งึ สดุ ประมาณและปรากฏเป็น ลำ� ธารชวี ติ | ๓๑๓

ของลึก ก็ถึงจะเป็นเช่นนั้นแหละ ก็ยังปรากฏแก่ข้าพระองค์เหมือนเป็น ของตนื้ นกั ” พระพทุ ธองค์จึงตรัสว่า... “อานนท์! เธออย่าได้กล่าวอยา่ งนัน้ เลย ความจรงิ “ปฏจิ จสมปุ บาท” นเ้ี ปน็ สภาพทลี่ กึ เพราะไมร่ จู้ รงิ เพราะไมแ่ ทง ตลอดซงึ่ ธรรมอนั นี้ หมสู่ ตั วน์ จี้ งึ เกดิ เปน็ ผยู้ งุ่ ประดจุ ดา้ ยของชา่ งหกู เกดิ เปน็ ปมประหนงึ่ กระจกุ ดา้ ย เปน็ ผเู้ กดิ มาเหมอื นหญา้ มงุ กระตา่ ยและหญา้ ปลอ้ ง จงึ ไมพ่ น้ อบุ าย ทคุ ติ วนิ บิ าต สงสาร” (มหานทิ านสตู ร ล.๑๐ ข.๕๗) ทา่ นผสู้ นใจ ทำ� ความเขา้ ใจในพระพทุ ธพจนน์ ใ้ี หด้ ๆี เถดิ นนั่ แหละคอื พระพทุ ธเจา้ ทรงปรามพระอานนทว์ า่ “อยา่ เพง่ิ อวดด”ี วา่ ตน “รแู้ จง้ ” แลว้ แทจ้ รงิ นน้ั “ร”ู้ เหมอื นกนั แต่ “ร”ู้ แคต่ น้ื ๆ งา่ ยๆ หาใช่ “แทงทะล”ุ จรงิ แทไ้ ม่ ใครๆ กย็ ่อมทราบดีวา่ พระอานนท์นั้นคือ พหูสตู คอื ปราชญ์ ขนาดไหน? ถงึ อยา่ งนน้ั แมจ้ ะเชอ่ื วา่ ตนเองแทงทะลปุ ฏจิ จสมปุ บาทแลว้ ออกอยา่ งนน้ั พระพทุ ธองคก์ ย็ งั ตรสั ปรามวา่ “อยา่ เพงิ่ ” (หลงตน) แมจ้ ะ “ร”ู้ แลว้ กย็ งั ไมห่ มดสนิ้ หรอก สง่ิ ทจี่ ะ “ร”ู้ นนั้ ยงั มอี กี ดงั นน้ั ใครกต็ าม ท่ี “หลงตน” อวดดี วา่ ตนรแู้ จง้ สน้ิ รอบแลว้ ผนู้ นั้ คอื ผกู้ นั้ กำ� แพงขงั ตวั เอง อยา่ งโงๆ่ นน่ั เอง ดว้ ยวา่ “ความร”ู้ นน้ั มนั ไมม่ ี “จบ” แตค่ นตอ้ งเรยี นรู้ วธิ ี “จบความร”ู้ ในตนใหไ้ ด้ นนั่ ตา่ งหาก เปน็ สำ� คญั กอ่ นอนื่ เพราะฉะนนั้ สรปุ ผลกค็ อื จะรไู้ ดท้ งั้ จดุ ทวี่ า่ วญิ ญาณมี หรอื วญิ ญาณ ไมม่ ี นนั้ ตอ้ งเรยี นเพยี รศกึ ษาไปเรอ่ื ยๆ ตามขน้ั ตามลำ� ดบั ดงั กลา่ วแลว้ คอื ตอ้ งเรยี นรู้ “รปู ” ใหไ้ ด้ แลว้ กค็ อ่ ยเรยี นรเู้ รอ่ื ง “นาม” นน่ั คอื ตอ้ งเรยี น เรื่อง “กาย” กอ่ น แล้วเรียนเร่ือง “ใจ” หรอื เรยี นรเู้ รือ่ ง “อตั ตา” ก่อน แลว้ คอ่ ยเรยี นรเู้ รอื่ ง “อนตั ตา” เรยี นรเู้ รอ่ื งวญิ ญาณมตี วั ตนเสยี กอ่ น แลว้ คอ่ ยเรยี นรเู้ รอื่ งวญิ ญาณทไ่ี มม่ ตี วั ตน นนั่ เอง นน่ั จงึ คอื อยา่ เพงิ่ ไปปฏเิ สธวา่ “วญิ ญาณไมม่ ”ี แลว้ กม็ วั ไปเสยี เวลา ปรกั ปร�ำลงโทษ เสยี ดสวี า่ กล่าวผูท้ ่ีเหน็ วา่ “วญิ ญาณม”ี แต่ก็อยา่ เพงิ่ รบี ๓๑๔ | ลำ� ธารชวี ติ

ไปรบั วา่ “วญิ ญาณม”ี คอื อยา่ เพงิ่ ไปสนใจวญิ ญาณอนื่ ๆ ทนี่ อกตน เชน่ วิญญาณของ มิตร ชัยบัญชา ของเทวดา ของต้นไม้ หรือแม้ของหิน ของเพชร กช็ ง่ั เขา! เราอยา่ ไปเอาเรอ่ื งกบั เขา จงศกึ ษาจนรแู้ จง้ ในวญิ ญาณ ทง้ั ๖ ของตนนใี้ หท้ ะลุ แลว้ พวกวญิ ญาณนอกตนเหลา่ นนั้ จะตามศกึ ษาได้ งา่ ยเขา้ จรงิ ๆ ขอใหล้ องปฏบิ ตั ดิ เู ถดิ แลว้ จงึ จะเขา้ ใจไดท้ งั้ “วญิ ญาณม”ี และ “วญิ ญาณไมม่ ”ี ซงึ่ มนั กถ็ กู ตอ้ งทงั้ ๒ กรณี จงพยายามต้ังใจลงมือปฏิบัติให้เกิดผลจริงกับตนเอง ให้ได้โดยจริง จริงๆ เสียเถิด อย่าเอาแต่ฟัง เอาแต่รู้ และเอาแต่คิดเพียงฉาบฉวยอยู่ เทา่ นนั้ เลย “คนจะรแู้ จง้ ใจวา่ มะนาวหวาน ดว้ ยตาดว้ ยหไู มไ่ ดเ้ ปน็ อนั ขาด ถา้ ไมช่ มิ ดว้ ยลนิ้ อนั เปน็ ทวารแทท้ ร่ี รู้ ส” กข็ อฝากประโยคสดุ ทา้ ยไวส้ กั นดิ ซงึ่ ตอ้ งเอาไปคดิ ใหด้ ี คอื ศาสนาพทุ ธนน้ั สอนใหค้ นเหน็ แกต่ วั จรงิ ๆ คอื ตอ้ งเอาตวั รอดกอ่ น ไม่ว่าในวถิ ีทางใด แตก่ ารปฏบิ ตั ิเพ่ือเอาตัวรอดนน้ั ต้องใช้หลกั การ หรอื ตอ้ งทำ� แบบฝกึ หดั ใหต้ นเองดว้ ยการไมเ่ หน็ แกต่ วั เลย หรอื รวบพดู ส้ันก็ได้ว่า จงท�ำความเห็นแก่ตัวให้มากๆ เพ่ือเราจะได้ส�ำเร็จเป็นคนไม่ เหน็ แกต่ วั หรอื จงหดั เปน็ คนไมเ่ หน็ แกต่ วั ใหไ้ ดเ้ ปน็ ผลสำ� เรจ็ เพอ่ื เราจะไดบ้ รรลุ เป็นคนเหน็ แก่ตวั (คือได้ท�ำความไมม่ ี “ตวั ตน” ให้หมดไปจาก “ตวั ตน” ของเรา เรากเ็ ปน็ อนั หมดสนิ้ ไมม่ ี “เรา” อกี ในโลก ดงั นนั้ แมใ้ นโลก คนอน่ื จะเหน็ วา่ ยงั มี “เรา” อยู่ เรากย็ งั มอี ยู่ แตไ่ มไ่ ดอ้ ยเู่ พอื่ ทำ� ประโยชนอ์ ะไรให้ แก่ “เรา” นอกจากเพอื่ ผอู้ น่ื และโลก) ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๑๓ ลำ� ธารชวี ติ | ๓๑๕

๑๐ วญิ ญาณม?ี วญิ ญาณไมม่ !ี ในระยะนมี้ กี าร “เถยี ง” กนั มากมาย ในเรอ่ื ง “วญิ ญาณ” ผทู้ เ่ี ถยี งกนั นนั้ ๆ ตา่ งกห็ นา้ ดำ� ครำ�่ เครยี ดเหน็ วา่ ตนถกู กนั อยทู่ ง้ั สน้ิ แตแ่ ทท้ จ่ี รงิ แลว้ ทกุ ฝา่ ย “ยงั เขา้ ใจไมไ่ ดถ้ ว้ นทว่ั ” เพราะถา้ ผใู้ ดเขา้ ใจไดแ้ ลว้ ยอ่ มจะไม่ “เถยี ง” กบั ใคร แตจ่ ะอธบิ ายคำ� วา่ “วญิ ญาณ” ในชว่ งนน้ั ๆ ของแตล่ ะคนทย่ี งั หลง ยดึ อยู่ ทงั้ ทวี่ า่ “ม”ี และ “ไมม่ ”ี ใหท้ กุ ฝา่ ยเขา้ ใจได้ (ถา้ ผยู้ งั เถยี งนนั้ นอ้ มใจฟงั และพยายามคิดพิจารณาตามให้ดี ถ้ายังมีมานะทิฏฐิ ก็ไม่มีผลในค�ำว่า “เขา้ ใจ”) ตน้ เหตใุ หญม่ าจาก “วญิ ญาณ” มติ ร ชยั บญั ชา พระเอกหนงั ชอ่ื ดงั ตามทที่ กุ คนกค็ งจะไดส้ ดบั ตรบั ฟงั กนั มาแลว้ จนกระทง่ั ลกุ ลามกนั เปน็ เรอ่ื งพดู เรอ่ื งถกเถยี งใหญโ่ ตในวงการพทุ ธศาสนา ทจี่ รงิ ขา้ พเจา้ เองเคยหา้ มแลว้ วา่ อยา่ เพง่ิ เอามาพดู กนั เพราะมนั เปน็ เรอื่ งลกึ เรอ่ื งยาก มนั ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งพดู ๓๑๖ | ลำ� ธารชวี ติ

แตป่ าก มนั ตอ้ งสมั ผสั ดว้ ยจติ แตเ่ ขากไ็ มฟ่ งั กนั นำ� มา “ถก” กนั จนได้ เมอ่ื เรอ่ื งมนั เกดิ แลว้ ขา้ พเจา้ กเ็ ลยตอ้ งพยายามจะชแี้ จงเรอ่ื ง “วญิ ญาณ” กนั ใหพ้ อไดเ้ ขา้ ใจกนั บา้ ง เพราะเมอื่ มนั มายงุ่ เกย่ี วกบั “พทุ ธศาสนา” มนั กเ็ ปน็ หนา้ ทข่ี องขา้ พเจา้ ทจี่ ะตอ้ งชว่ ยแกไ้ ขใหด้ ี ใหเ้ ปน็ ไปดว้ ยดที สี่ ดุ เทา่ ทจ่ี ะทำ� ได้ ทวา่ การไปบรรยายทว่ี ดั นรนาถฯ เทเวศร์ เมอื่ ๒๓ มกราคม ๒๕๑๔ นนั้ เวลาไมพ่ อ จงึ ยงั ทำ� ความกระจา่ งใหแ้ กผ่ ฟู้ งั ไมไ่ ด้ เพราะขา้ พเจา้ ไดเ้ ตรยี ม คำ� บรรยายไปถงึ ๒๕ หนา้ กระดาษพมิ พ์ ไดบ้ รรยายจรงิ ไปเพยี งครง่ึ เดยี ว กต็ อ้ งถกู บงั คบั ใหห้ ยดุ ใหส้ รปุ ลง เรอ่ื งเลยยงิ่ เปน็ “ปม” ใหค้ นนำ� ไปคดิ และ เปน็ “ปม” ใหผ้ ทู้ เ่ี ขา้ ใจไมไ่ ด้ แตเ่ ขาคดิ วา่ “ตนเขา้ ใจได”้ (และถกู ตอ้ งตาม ความเขา้ ใจของเขา) จงึ ไดน้ ำ� ไปเอย่ อา้ ง นำ� ไปเปน็ ตวั อยา่ งในการสนั นษิ ฐาน เอาวา่ ขา้ พเจา้ บรรยายเรอ่ื ง “วญิ ญาณ” ผดิ ๆ ถกู ๆ แลว้ กช็ กั ชวนใหค้ นอน่ื เชอื่ ถอื เอาตามความเหน็ ของตน อนั ถอื วา่ เปน็ การผดิ ลกั ษณะในการบรรยาย ธรรมะของพระพทุ ธองค์ ทจี่ รงิ พระพทุ ธองคก์ ไ็ มใ่ หเ้ ชอ่ื อะไรอยา่ งปกั ใจหรอื แบง่ พวก แตใ่ ห้ “ทำ� ความเขา้ ใจ” ใหไ้ ดถ้ ว้ นทวั่ หรอื ใหร้ รู้ อบ ใหร้ ขู้ อบเขต เลก็ กใ็ หร้ วู้ า่ เลก็ โตกใ็ หร้ วู้ า่ โต มกี ใ็ หร้ วู้ า่ มดี ว้ ยลกั ษณะอยา่ งนนั้ ไมม่ กี ็ ใหร้ วู้ า่ ไมม่ ดี ว้ ยลกั ษณะอยา่ งนน้ั ไมใ่ ช่ “ปฏเิ สธ” หรอื “รบั ” อยา่ งเทยี่ งแท้ แนน่ อน เนอื่ งจากทกุ อยา่ งทเี่ ปน็ สงั ขตธรรม หรอื มกี ารปรงุ แตง่ นนั้ ยอ่ มไมม่ ี อะไรเทยี่ งคงที่ “ปม” ที่ว่านั้นก็คือ ข้าพเจ้าได้ยกตัวอย่าง ท่ีข้าพเจ้าเคยเชิญทรง “วญิ ญาณเห้งเจีย” มาปรากฏ จนท�ำใหข้ ้าพเจา้ เข้าใจไดว้ า่ “วิญญาณม”ี ก็เป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่ได้มีเวลาอธิบายให้คลี่คลายในตอนท้ายว่า ท่ีว่า “วญิ ญาณเหง้ เจยี ” อนั เปน็ ชอื่ ในนทิ านเรอื่ งหนงึ่ เกดิ “ม”ี ขน้ึ นนั้ คอื อยา่ งไร? และ “ไมม่ ”ี จะคอื อยา่ งไร? ถา้ ใครเชอื่ วา่ “วญิ ญาณม”ี เปน็ ของเทยี่ ง ผนู้ น้ั เปน็ ผหู้ ลงผดิ เรยี กวา่ “สัสตทิฏฐิ” และถ้าใครเช่ือว่า “วิญญาณไม่มี” ตายแล้วขาดสูญ ก็เป็น ลำ� ธารชวี ติ | ๓๑๗

ผหู้ ลงผดิ เชน่ กนั เรยี กวา่ “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ เพราะโดยแทจ้ รงิ นน้ั “วญิ ญาณมไี ด”้ แตต่ อ้ งเขา้ ใจในคำ� วา่ “สมมตุ ”ิ และ “อนตั ตา” ไดอ้ ยา่ งดี จงึ จะเขา้ ใจคำ� วา่ “วญิ ญาณม”ี ไดถ้ กู ตอ้ ง เพราะแทจ้ รงิ ทกุ อยา่ ง “ไมม่ จี รงิ ” ทกุ อยา่ งคอื “สมมตุ ”ิ ดงั นนั้ “วญิ ญาณแทๆ้ เทย่ี งๆ จงึ ไมม่ ”ี ลองฟงั เหตแุ ละผลดบู า้ งซิ จากขอ้ อธบิ ายขยายความเพยี งสนั้ ๆ เทา่ ที่ หนา้ กระดาษ “ดวงประทปี ” จะมพี อใหไ้ ด้ วา่ เหตใุ ด “วญิ ญาณ” ของมติ ร ชยั บญั ชา หรอื แมแ้ ต่ “วญิ ญาณ” ของเห้งเจีย จึงมีปรากฏการณไ์ ด้ จรงิ หรือไม่จรงิ ตามเหตุผลดงั ต่อไปนี้ ใครมคี วามเหน็ เชน่ ไร? กล็ องอา่ นแลว้ ไตรต่ รองดู ๑. ผทู้ เ่ี ขา้ ใจวา่ “วญิ ญาณ” ของเหง้ เจยี จะมขี นึ้ มาไมไ่ ดเ้ ปน็ อนั ขาด นนั้ กเ็ พราะเหน็ วา่ “เหง้ เจยี ” เปน็ ของไมม่ ี เปน็ เพยี งนทิ าน เปน็ “สมมตุ ”ิ อนั เปน็ การเหน็ ทยี่ งั เขา้ ใจวา่ มนั แตกตา่ งกบั คน สตั วแ์ ละสรรพสง่ิ หรอื แมแ้ ต่ “ตวั ของผเู้ ขา้ ใจเอง” เพราะเขายงั เหน็ ผดิ วา่ “ตวั เอง” เปน็ ของ “ม”ี เปน็ ของจรงิ เหน็ และหลงอยวู่ า่ คน สตั ว์ สรรพสงิ่ ไมใ่ ช่ “สมมตุ ”ิ จงึ เขา้ ใจวา่ ยงั แตกตา่ งกนั กเ็ หน็ ไปวา่ “เหง้ เจยี ” เปน็ “สมมตุ แิ ทๆ้ ” สว่ นตวั เองหรอื คน สตั วท์ มี่ ใี นโลก เปน็ ของจรงิ มตี วั ตน นนั่ คอื ยงั เขา้ ใจ “สมมตุ ”ิ ยงั ไมไ่ ด้ เขา้ ใจตวั ตนหรอื อตั ตายงั ไมไ่ ด้ ยงั ยดึ ถอื อยู่ ทง้ั ๆ ทป่ี ากกพ็ ดู วา่ ตวั เองเขา้ ใจคำ� วา่ “อตั ตาตวั ตน” เขา้ ใจ “สมมตุ ”ิ แตก่ ารแสดงออกของ “ใจ” ในลกั ษณะนนี้ แ่ี หละ มนั ฟอ้ งปากท่ี ตะโกนอยปู่ าวๆ วา่ ตนเขา้ ใจตวั ตนไดแ้ ลว้ เขา้ ใจสมมตุ ไิ ดแ้ ลว้ แตแ่ ทจ้ รงิ ยงั ยดึ ยงั เหน็ สมมตุ ไิ มไ่ ด้ เหน็ ไมเ่ ปน็ เพราะ “ใจ” ยงั ไมเ่ ขา้ ใจ ยงั เขา้ ใจได้ เพยี งภาษาพดู ภาษาปากเทา่ นนั้ ตวั เองจงึ ยงั เผลอแสดงการเหน็ “สมมตุ ”ิ ยงั ไมถ่ ว้ นทว่ั ออกมา แทจ้ รงิ ยงั หลงยดึ “ตวั ตน” ของตวั เอง วา่ เปน็ ของจรงิ อยดู่ งั นี้ จงึ คอื ผมู้ ี “โมหะ” อยา่ งแทจ้ รงิ ๓๑๘ | ลำ� ธารชวี ติ

๒. เพราะคนผนู้ นั้ เหน็ วา่ “วญิ ญาณไมม่ ”ี หรอื ยงั เขา้ ใจวา่ วญิ ญาณจะ มอี ยู่ กแ็ ตใ่ นตวั คนหรอื สตั วท์ ่ี “เปน็ ๆ” อยนู่ เี้ ทา่ นนั้ ถา้ คนหรอื สตั วต์ ายแลว้ วญิ ญาณกข็ าดสญู จะไมม่ วี ญิ ญาณตกคา้ งสบื ตอ่ อกี ในโลก จะไปตงั้ “สมมตุ ”ิ วญิ ญาณใหมข่ น้ึ มาในโลกอกี กไ็ มไ่ ด้ จงึ ยดึ วา่ “วญิ ญาณ” มจี รงิ ไดแ้ ตใ่ นคน “เปน็ ๆ” สตั วเ์ ปน็ ๆ เทา่ นน้ั ครน้ั เมอื่ ตายจากคน ตายจากสตั วแ์ ลว้ วญิ ญาณ กแ็ ตกดบั สญู สลายไปทนั ที จะมวี ญิ ญาณนนั้ เหลอื อยอู่ กี ไมไ่ ด้ หรอื วญิ ญาณ อน่ื นอกตวั ตนคนสตั วอ์ อกไปแลว้ จะมไี มไ่ ด้ แมว้ ญิ ญาณเหง้ เจยี วญิ ญาณ ภตู ผิ ี วญิ ญาณเทพ วญิ ญาณครก วญิ ญาณสาก วญิ ญาณมติ ร ชยั บญั ชา วญิ ญาณ “พระเจา้ ” (พระจติ วญิ ญาณ) พระพรหม พระโพธสิ ตั ว์ (เชน่ พระ อวโลกเิ ตศวร เปน็ ตน้ ) กจ็ ะสมมตุ หิ รอื ประกอบหรอื กอ่ ขนึ้ มาไมไ่ ด้ ถา้ ใคร สมมตุ ขิ นึ้ มาได้ กไ็ ปตวู่ า่ สงิ่ นน้ั ไมใ่ ช่ “วญิ ญาณ” ไมย่ อมรบั วา่ มี “วญิ ญาณ” ผยู้ ดึ มนั่ แบบนนั้ จงึ คอื “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ เปน็ ผมู้ คี วามเหน็ วา่ ตายสญู ขาดสน้ิ การสบื สาวราวเรอื่ ง (สนั ตต)ิ ไมม่ กี ารสรา้ ง การกอ่ เกดิ กำ� เนดิ ตอ่ โดยวถิ ใี ดๆ เพราะเหตวุ า่ เขาผนู้ ไ้ี มเ่ ขา้ ใจคำ� วา่ “วญิ ญาณ” ยงั ไมเ่ ขา้ ใจคำ� วา่ “สมมตุ ”ิ และโดยเฉพาะไมเ่ ขา้ ใจขอบขา่ ย หรอื กรอบ หรอื เขตของ “สนั ตต”ิ หรอื “วฏั ฏะ” หรอื “ปจั จยาการ” หรอื แมค้ ำ� วา่ “การกอ่ เกดิ ” ๓. เพราะผนู้ น้ั หลงเขา้ ใจวา่ คนอนื่ ทงั้ หลายทงั้ สน้ิ มคี วามเขา้ ใจผดิ วา่ “วญิ ญาณ” คอื อตั ตา โดยเฉพาะเมอ่ื ฟงั ขา้ พเจา้ บรรยายกค็ ดิ วา่ ขา้ พเจา้ น่ีแหละยังคือผู้เข้าใจวา่ “วญิ ญาณ” เปน็ อัตตา เป็นของ “ม”ี เข้าใจว่า “วญิ ญาณ” เปน็ ชวี ติ ทยี่ งั เปน็ ไปอยา่ งเทย่ี ง ยงั มบี ทบาทเหมอื นเดมิ เขายงั เขา้ ใจ “ใจ” หรอื เขา้ ใจ “ความเขา้ ใจ” ของขา้ พเจา้ ยงั ไมพ่ อ วา่ ขา้ พเจา้ เขา้ ใจ “วญิ ญาณ” แคใ่ ด? เขา้ ใจ “สมมตุ ”ิ ไดเ้ ทา่ ใด? จงึ คดิ วา่ ขา้ พเจา้ เขา้ ใจ “วญิ ญาณ” เหมอื นทตี่ วั เองเขา้ ใจ เพราะตวั เขาเองเขา้ ใจอยวู่ า่ ถา้ เรยี กวา่ “วญิ ญาณ” หรอื ภาษาพดู กลา่ วออกมาวา่ “วญิ ญาณ” แลว้ ไซร้ กค็ อื อตั ตาอนั หนงึ่ คอื ของมี คอื ของจรงิ ลำ� ธารชวี ติ | ๓๑๙

อนั หนงึ่ จงึ คดิ วา่ ขา้ พเจา้ กค็ งเขา้ ใจคำ� วา่ “วญิ ญาณ” อยา่ งทตี่ วั เขาเองเขา้ ใจ ตวั เองจงึ ยงั คอื ผู้ “หลงสมมตุ อิ ย”ู่ วา่ เปน็ ของจรงิ อนั เรยี กวา่ “วญิ ญาณ” นนั้ หมายถงึ สตั วโ์ ลกชนดิ หนง่ึ ซง่ึ มตี วั ตนทมี่ องไมเ่ หน็ ตวั ยงั เขา้ ใจนามสมมตุ ิ ทเี่ รยี กวา่ “วญิ ญาณ” ยงั ไมพ่ อ เปน็ การเขา้ ใจวา่ “วญิ ญาณ” คอื อตั ตา นนั่ แหละแสดงวา่ ผเู้ ขา้ ใจอยา่ งนน้ั เปน็ ผมู้ ี “สสั ตทฏิ ฐ”ิ โดยแท้ “วิญญาณ” กเ็ ป็น “สมมตุ ิ” เป็นของไม่เท่ยี ง แปรเปลยี่ นอยูต่ าม เหตปุ จั จยั เปน็ ของเกดิ แลว้ ดบั ถา้ เกดิ อยใู่ นคน กจ็ ะดบั ในคน (เชน่ ชวิ หา วญิ ญาณ เปน็ ตน้ ) ถา้ เกดิ ออกไปนอกคน กจ็ ะไปดบั ทนี่ อกคน เมอื่ หมดเหตุ หมดปจั จยั ถา้ เกดิ ในจติ ของคน คอื สมมตุ ขิ น้ึ มาจรงิ ดอ้ื ๆ อนั มนษุ ยเ์ รยี ก กนั วา่ “ความคดิ ” นน่ั เอง เชน่ อยๆู่ เรากน็ กึ คดิ ไปเปน็ ภาพแบงคร์ อ้ ยสกั ปกึ ใหญๆ่ ปรากฏขน้ึ ในใจ การเกดิ “ตวั ตน” ของแบงคร์ อ้ ยปกึ นน้ั ทป่ี รากฏในจติ ของเรานน่ั แหละคอื “นามรปู ” ทเี่ กดิ มาจาก “มโนวญิ ญาณ” เปน็ “วญิ ญาณ” แทๆ้ ทมี่ ฤี ทธมิ์ บี ทบาทอยใู่ นคนทกุ คนมากเสยี ดว้ ยซิ ตวั “มโนวญิ ญาณ” นี่ หรอื จะ “คดิ ” วาดสรา้ งนางสาวไทยเชพงามๆ ขน้ึ มา กไ็ ด้ เปน็ ไรมี กค็ อื “วญิ ญาณ” ทนี่ ำ� พาใหเ้ กดิ เปน็ ภาพนางสาวไทยเชพงาม คนนั้นในจิตในใจของเราเช่นกัน และมันก็จะดับลงในจิตของผู้คิดนั่นเอง และหรือถ้าใครมีความสามารถสมมุติข้ึนมาโดยการประกอบรูปใดๆ ให้ เกดิ ขน้ึ ยง่ิ กวา่ เพยี ง “ความคดิ ” ออกมาได้ กจ็ ะเกดิ ในผนู้ น้ั เกดิ อยกู่ บั ผนู้ นั้ เชน่ เชญิ ทรง แปลงกาย เปน็ ตน้ แลว้ มนั กจ็ ะดบั ลงไป ในผนู้ น้ั ตามวาระ ของเหตุและปัจจัยเช่นกัน (เรียกผู้มีความสามารถน้ันว่า ท�ำฤทธ์ิหรือท�ำ ปาฏิหารยิ )์ ไม่มอี ะไรจริง ไม่มีอะไรเที่ยงแท้สกั อย่าง ถ้าใครไปหยิบมัน สมมตุ ขิ นึ้ มาอกี มนั กเ็ กดิ ไดอ้ กี ถา้ ผนู้ น้ั เกง่ หรอื สามารถสรา้ งเหต-ุ ปจั จยั ไดเ้ พยี งพอบา้ ง ของทค่ี นทงั้ หลายในโลกพากนั หลงวา่ “เปน็ ของจรงิ ” มจี รงิ ทงั้ หลาย จงึ เกดิ จากการ “สมมตุ ”ิ และกเ็ ปน็ “ของทสี่ มมตุ ”ิ อยู่ ทง้ั สนิ้ ๓๒๐ | ลำ� ธารชวี ติ

เพยี งแตส่ งิ่ ใดมเี หต-ุ ปจั จยั อดุ หนนุ สง่ เสรมิ อยู่ ตดิ ตอ่ กนั ไมข่ าดสนั ตติ มันกต็ ง้ั อยไู่ ดน้ าน สง่ิ ใดขาดเหต-ุ ปจั จัยอันเพยี งพอลง มนั ก็จบลง เชน่ ตวั อยา่ งเราคดิ ขนึ้ มาในใจ กเ็ ปน็ “วญิ ญาณ” ทนั ที วญิ ญาณทค่ี ดิ นนั่ แหละ คอื “มโนวญิ ญาณ” ซง่ึ เราจะสมมตุ เิ ปน็ อะไรกไ็ ด้ กเ็ ปน็ ไดจ้ รงิ ทงั้ สนิ้ ถา้ เรา รกั จะคดิ จะปน้ั “วญิ ญาณ” นต้ี อ่ เรากพ็ ยายามสรา้ ง หาเรอื่ ง หาเหตุ หาปจั จยั มาผกู เรอื่ งโยงใยความคดิ นนั้ สบื ตอ่ ไป วิญญาณน้ันมันก็จะเกิด-ดับๆ แล้วๆ เล่าๆ ติดต่อเชื่อมโยงเป็น เรอื่ งราว หรอื คอื ตวั ตนของเรอื่ งนนั้ อยู่ เมอ่ื หยดุ หาเหตหุ าเรอื่ งหาปจั จยั มา สรา้ งความคดิ นน้ั เมอื่ ใด ความคดิ นนั้ กห็ ยดุ ลง คอื วญิ ญาณนนั้ กด็ บั กจ็ บ กส็ นิ้ สดุ มโนวญิ ญาณอนั นน้ั ลง กเ็ ปน็ อยอู่ ยา่ งนที้ ง้ั นนั้ ในนามธรรมกเ็ ปน็ เชน่ นี้ แมจ้ ะเปน็ วตั ถธุ รรมใดๆ ท่ี “คน” ทง้ั หลายมกั “หลง” เขา้ ใจ เอา “วตั ถธุ รรม” นว้ี า่ เปน็ ของจรงิ ของแท้ เปน็ ตวั ตนอยู่ กเ็ ชน่ กนั มนั คอื สมมตุ ิ ทงั้ สนิ้ และเปน็ สมมตุ ทิ ม่ี ี “วญิ ญาณ” เปน็ ตวั นำ� พาเกดิ ทง้ั สนิ้ ทกุ ชน้ิ ทกุ อนั ไมใ่ ชข่ องแท้ ไมใ่ ชต่ วั ตนจรงิ ๆ หรอก มนั มอี ายกุ าลทจ่ี ะดบั ทง้ั นน้ั เมอ่ื เหตปุ จั จยั มนั หมดลง พระพทุ ธพจนท์ ที่ รงยนื ยนั ในเรอ่ื งนอ้ี ยา่ งดี ตรสั ไวใ้ นพระสตู รท่ี ๒ แหง่ สงั ยตุ นกิ าย ขนั ธวารวรรค (ปปุ ผสตู ร ล.๑๗ ข.๒๓๙) วา่ ดว้ ยพระพทุ ธองค์ ไมข่ ดั แยง้ กบั โลก วา่ “...เรายอ่ มไมข่ ดั แยง้ กบั โลก แตโ่ ลกยอ่ มขดั แยง้ กบั เรา ผกู้ ลา่ วเปน็ ธรรมยอ่ มไมข่ ดั แยง้ กบั ใครๆ ในโลก สง่ิ ใดทบี่ ณั ฑติ ในโลกสมมติ วา่ ไมม่ ี แมเ้ รากก็ ลา่ วสงิ่ นนั้ วา่ ไมม่ ี สงิ่ ใดทบี่ ณั ฑติ ในโลกสมมตวิ า่ มี แมเ้ รา กก็ ลา่ วสงิ่ นน้ั วา่ ม…ี ” จงพิจารณาให้ดี ค�ำว่า “บัณฑิต” หรือปราชญ์ในพระพุทธพจน์นี้ มไิ ด้หมายถงึ จำ� เพาะตวั ของพระองค์เอง แตห่ มายถงึ “บคุ คลอ่นื ” และท่ี “บณั ฑติ ” ทงั้ หลายเขาจะกลา่ วไวอ้ ยา่ งใด กต็ อ่ เมอื่ เขาได้ “รแู้ จง้ เหน็ แจง้ ” ดว้ ยปญั ญาญาณของเขาเชน่ กนั และจะตอ้ งเปน็ คนทม่ี คี วามเกง่ มคี วาม ลำ� ธารชวี ติ | ๓๒๑

สามารถ หรอื มคี วามรอบรเู้ พยี งพอขน้ั ควรเชอื่ ถอื ได้ จงึ จะเรยี กวา่ “บณั ฑติ ” หรอื “นกั ปราชญ”์ เจา้ ลทั ธิ เจา้ นกิ าย หรอื เรยี กวา่ ผนู้ ำ� -หวั หนา้ อยา่ งเชน่ “อชติ ะ เกสกมั พล” ผมู้ คี วามเหน็ วา่ โลกหนา้ ไมม่ ี โลกนไ้ี มม่ ี ตายแลว้ สญู กนั ผลแหง่ การทำ� บาปทำ� บญุ อะไรไมม่ ี หรอื “ปรู ณะกสั สป” ผเู้ หน็ วา่ ไมม่ อี ะไรเปน็ อะไรในโลก ทกุ สงิ่ เกดิ มาและเปน็ ไปอยเู่ ทา่ นนั้ จะทำ� อะไร อยา่ งไรกไ็ ด้ ไมถ่ อื วา่ มกี ารกระทำ� แมแ้ ตผ่ ลของการกระทำ� กไ็ มม่ เี อาเลย หรอื “ปกธุ ะ กจั จายนะ” ผมู้ คี วามเหน็ ไปฝา่ ยขา้ งในโลกยงั มี “อตั ตา” อยู่ คอื มขี องเทย่ี ง เรยี กวา่ ฝา่ ยมคี วามเหน็ วา่ โลกนม้ี สี มบตั ทิ ม่ี อี ยจู่ รงิ ไดเ้ ทย่ี งๆ หรอื แมแ้ ตป่ ราชญ์ บณั ฑติ ซง่ึ เกดิ ขน้ึ หลงั พทุ ธกาล เชน่ “พระเยซ”ู ผเู้ หน็ วา่ “พระเจา้ ” มนี ริ นั ดร หรอื แมแ้ ตศ่ าสนาพราหมณ์ ศาสนาฮนิ ดู ทม่ี ี “พระเจา้ ” นริ นั ดรเหมอื น ศาสนาครสิ ตก์ เ็ ชน่ กนั หรอื จะลว่ งเลยมาจนกระทง่ั “ปราชญ”์ “บณั ฑติ ” ที่ เกดิ ซอ้ นอยใู่ นศาสนาพทุ ธเอง เชน่ ผสู้ รา้ งพระพทุ ธเจา้ องคต์ า่ งๆ (อนั มพี ระ อมติ าภะ เปน็ ตน้ ) หรอื ผสู้ รา้ งพระโพธสิ ตั วอ์ งคต์ า่ งๆ (อนั มี พระอวโลกเิ ตศวร ฯลฯ เปน็ ตน้ ) ซง่ึ เปน็ สงิ่ ที่ “ม”ี ของพทุ ธนกิ ายมหายาน อนั ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ “สมมตุ ”ิ กนั อยู่ ทง้ั ทสี่ มมตุ มิ าเกา่ กอ่ น และมาสมมตุ กิ นั ขน้ึ ใหมๆ่ กเ็ ปน็ เรอ่ื งของความ “มอี ย”ู่ และ “ไมม่ อี ย”ู่ ทง้ั สน้ิ ซงึ่ พระพทุ ธองคก์ ย็ งั ยอมใหเ้ ปน็ ดงั “บณั ฑติ ” กลา่ วและเหน็ ดงั นน้ั เลย พระองค์เขา้ ใจดี มิได้ขดั แยง้ แตก่ ารเห็นของพระองค์นัน้ เปน็ การเหน็ ท่ี ทวั่ ถว้ น แทงทะลุ และกวา้ งไกล สนิ้ รอบยง่ิ กวา่ พระองคจ์ งึ “ร”ู้ ยง่ิ กวา่ “บณั ฑติ ” ทง้ั หลาย “ร”ู้ และพระองคก์ ไ็ มไ่ ดว้ า่ ความรขู้ องปราชญเ์ หลา่ นน้ั ตำ�่ ตอ้ ย ถา้ พระองคจ์ ะมจี ติ ดถู กู ความรขู้ องเขาเหลา่ นนั้ พระองคก์ จ็ ะไม่ ยกยอ่ งเขาวา่ เปน็ บณั ฑติ และจะไมย่ อมเหน็ ตาม ทงั้ จะไมส่ อนอนโุ ลมตาม เยย่ี งนนั้ ๆ ดว้ ย แตพ่ ระองคจ์ ะไม่ “ตอ่ ส”ู้ กบั เขา ทงั้ ไมโ่ ตเ้ ถยี งกบั เขา เพราะ พระองค์ “ร”ู้ แมก้ ระทง่ั ขน้ั ภมู ขิ องเขาเหลา่ นนั้ ดี และสามารถอธบิ าย ๓๒๒ | ลำ� ธารชวี ติ

สง่ิ เหลา่ นนั้ ไดด้ ว้ ย ดงั นน้ั คนทว่ี า่ กลา่ วเปรยี บเปรย “บณั ฑติ ” เหลา่ นน้ั และยงั “ตอ่ ส”ู้ กบั บณั ฑติ อยู่ ดว้ ยการ “เหน็ แยง้ ” นน้ั คอื คนทเ่ี กง่ จรงิ หรอื ? รจู้ รงิ แลว้ หรอื ? กล็ องคดิ ดู ๔. เพราะแทงทะลุค�ำว่า “อนัตตา” ยังไม่ได้ จึงยังเห็นทุกสิ่ง ทกุ อยา่ งแตกตา่ งกนั ถา้ ผใู้ ดเขา้ ใจแจง้ แทงทะลุ “อนตั ตา” แลว้ จะไมเ่ หน็ อะไรขดั แยง้ กนั หรอื แตกตา่ งกนั เลย (ไมเ่ ปน็ ฝา่ ยท่ี ๒ เพราะสจั จะมหี นง่ึ เดยี ว) จะเหน็ ทกุ อยา่ งเปน็ เรอื่ งเดยี วกนั ทงั้ สนิ้ ทม่ี นั ยงั ตอ้ งตดิ ตอ่ โยงใยยดื ยาวเปน็ ปัจจยาการกันอยู่ เพราะความไม่รู้ (อวิชชา) ความไม่เขา้ ใจได้ส้นิ เกลยี้ ง ความไม่แทงทะลุ จึงยังเถียง จึงยังเป็นนักโต้แย้ง ถ้าแทงทะลุจะไม่แย้ง จะไมเ่ ถยี ง จะเขา้ ใจขอบเขต จะเขา้ ใจระดบั ขดี ขนั้ ชว่ งระยะขอบของสง่ิ นนั้ ทคี่ นนน้ั พดู ถงึ ของสง่ิ นที้ คี่ นนพ้ี ดู ถงึ เขา้ ใจไดท้ กุ สง่ิ เพราะทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง ยอ่ ม “ม”ี ได้ และทมี่ นั “ม”ี กเ็ พราะ “สมมตุ ”ิ มนั ขนึ้ แตแ่ ทท้ จี่ รงิ แลว้ มนั “ไมม่ อี ะไรเลย” เปน็ อยจู่ รงิ ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งมนั คอื การคลค่ี ลายขยายภาพ ขยายความเปน็ ตวั ตนของ “สญุ ญตา” เมอื่ คนได้ “หลง” สรา้ งตณั หา หรอื ยงั มอี ปุ าทานอยใู่ นตนเทา่ นนั้ …สรา้ งกอ่ ส…รร…ค…เ์ กดิ -หล…งเ…พร…ศิ เตลดิ ลำ�้ ผู้ “หลง” จรงิ จงั มากกใ็ ฝก่ อ่ แลว้ กอ่ เลา่ กจ็ ะ “ม”ี สมบตั ขิ น้ึ มาไดม้ าก รปู รา่ งตวั ตนกจ็ ะโตและอยไู่ ดน้ าน ผู้ “หลง” นอ้ ยกก็ อ่ แตน่ อ้ ย จะ “ม”ี ตวั ตน นน้ั เพยี งนอ้ ย นอ้ ยมากขนาดทเ่ี หน็ “ตวั ตน” เปน็ รปู รา่ งดว้ ยตาเปลา่ ไมไ่ ด้ กม็ แี ยะ และมแี ยะยิง่ กวา่ ทีเ่ ป็นตวั ตนอันเหน็ เป็นรูปรา่ งได้เสยี อกี ที่เปน็ “ตวั ตน” ตวั นอ้ ยนกี้ ต็ งั้ อยไู่ มน่ าน ดงั นนั้ เมอ่ื “อยาก” ใหม้ นั “ม”ี กต็ อ้ ง ลำ� ธารชวี ติ | ๓๒๓

สรา้ งมันข้นึ สมมตุ มิ ันขึ้น มนั จึงจะมี ใครมีความสามารถก็สมมุติส�ำเรจ็ เปน็ จรงิ เปน็ จงั สมทต่ี งั้ จดุ หมายตง้ั ใจมงุ่ ไดเ้ ทา่ ใด กต็ ามแรงสมรรถภาพของ ผู้ “สมมตุ ”ิ นนั้ ๆ ทสี่ รา้ งมนั ขน้ึ การสร้างก็ได้ท้ังมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม หากใครไม่มี สมรรถภาพกส็ รา้ งไมไ่ ด้ สมมตุ ขิ น้ึ มาไม่ “เกดิ ” เชน่ พวกนกั คดิ นกั ฟงุ้ ซา่ น ทช่ี อบสมมตุ ใิ น “มโน” กนั นกั หนา นนั่ เอง ครเี อทฟี ใฝโ่ นน่ อยากนี่ คดิ ปน้ั ไปตา่ งๆ นานา บางคนกเ็ พอ้ ฝนั ขนาดหนกั ๆ เอาดว้ ย แตก่ ส็ ามารถสมมตุ ิ ไดแ้ ค่ “มโนกรรม” หรอื บางคนเพอ้ ออกมาเปน็ “วจกี รรม” ตอ่ ยดื ความ เพอ้ ของตนออกมาใหห้ นกั ขน้ึ ไปอกี กม็ ี ทวา่ จะทำ� ให้ “เกดิ ” ขน้ึ ในลกั ษณะ ใดๆ มากกวา่ ทคี่ ดิ หรอื ทพี่ ดู นนั้ กไ็ มอ่ าจทำ� ใหส้ ำ� เรจ็ ได้ จงึ เปน็ ยอดแหง่ “ผหู้ ลงใหลใฝเ่ พอ้ ” อยแู่ ตก่ บั ลมๆ แลง้ ๆ ไปเทา่ นนั้ และการ “เกดิ ” ขนึ้ มาทงั้ หลาย กเ็ กดิ ได้ เปน็ ไดใ้ นลกั ษณะ ๔ อยา่ ง ตามทพี่ ระพทุ ธองคก์ ไ็ ดท้ รงสอนไวแ้ ลว้ สว่ นการ “เกดิ ” ในลกั ษณะทเ่ี รา กำ� ลงั พดู ถงึ กนั อยนู่ ้ี กค็ อื การเกดิ แบบ “โอปปาตกิ กำ� เนดิ ” ทงั้ สนิ้ แตใ่ น วธิ สี รา้ ง หรอื ขบวนการตา่ งๆ นนั้ มเี หตแุ ละปจั จยั ไมเ่ หมอื นกนั เทา่ นน้ั เอง ซงึ่ กล็ ว้ น “มาแตใ่ จ” หรอื เรม่ิ มาจาก “มโนวญิ ญาณ” กอ่ นทงั้ หมดทงั้ สน้ิ (มโนปพุ พงั คมา ธมั มา) การ “เกดิ ” กค็ อื การสมมตุ สิ งิ่ นนั้ ขน้ึ มา ผรู้ ู้ ผแู้ ทงทะลุ เขา้ ใจไดด้ พี อ วา่ ถา้ สรา้ งอะไรหรอื สมมตุ อิ ะไรขน้ึ มา หรอื ทำ� ใหอ้ ะไร “เกดิ ” ขน้ึ มา แมแ้ ต่ เกดิ “ความนกึ คดิ ” มนั ลว้ นเกดิ เปน็ “ทกุ ข”์ ผรู้ จู้ งึ ไมข่ ยนั สรา้ ง ไมข่ ยนั สมมตุ ิ สว่ นผทู้ จ่ี ะ “หลง” ขยนั สรา้ ง ขยนั สมมตุ อิ ยู่ ขยนั ทำ� ความเกดิ ตา่ งๆ ให้ เกดิ อยู่ กม็ แี ตผ่ ทู้ ยี่ งั ไมร่ ู้ ผยู้ งั หลงงมงายไมเ่ ขา้ ใจใน “ทกุ ข”์ ทท่ี า่ นเรยี กวา่ “ทกุ ขอ์ รยิ สจั ” นน่ั เอง ดงั นน้ั ทใ่ี นโลกนม้ี นั มอี ะไรอยู่ หรอื มกี าร “เกดิ ” ขนึ้ มา เตม็ โลก กเ็ พราะการกอ่ เพราะการสรา้ ง เพราะการสมมตุ ิ เพราะการทำ� ให้ เกดิ เทา่ นนั้ นนั่ เองแหละ ๓๒๔ | ลำ� ธารชวี ติ

เพราะฉะนน้ั ผกู้ อ่ ผสู้ รา้ ง ผสู้ มมตุ ิ หรอื ผทู้ ำ� ให้ “เกดิ ” จงึ คอื ผมู้ ี อวชิ ชา ผยู้ งั ไมร่ ู้ ผยู้ งั ไมแ่ จง้ แทงทะลุ เมอ่ื ไมแ่ จง้ ไมร่ วู้ า่ สรา้ ง หรอื กอ่ ใหเ้ กดิ น้ันเป็น “ทกุ ข”์ จึงสรา้ ง จงึ ก่อ จึงปรงุ แต่งข้ึนมา เม่อื มเี หตุมปี ัจจัยพอ ผนู้ นั้ กป็ รงุ แตง่ ขน้ึ มา เปน็ “ตวั ตน” อนั เปน็ วญิ ญาณกอ่ น แลว้ กเ็ ปน็ นาม-รปู จนสำ� เรจ็ คนทกุ คนจงึ เปน็ นกั สรา้ ง นกั ปน้ั นกั กอ่ นกั ทำ� ใหเ้ กดิ ตวั ฉกรรจ์ ทง้ั นนั้ ยงิ่ ผใู้ ดทไี่ ดช้ อ่ื วา่ นกั คดิ นกั ฝนั (ผเู้ ตม็ ไปดว้ ยอทุ ธจั จะ = ฟงุ้ ฟลู อยฟอ่ ง) นแ่ี หละยงิ่ คอื นกั สรา้ ง นกั กอ่ ตวั สำ� คญั เมอ่ื “ฝนั ” หรอื “คดิ วาดขนึ้ ในใจ” ขนึ้ มาเมอ่ื ใด เมอื่ นน้ั กค็ อื ผนู้ น้ั กำ� ลงั สรา้ ง “ตวั ตน” ของ “วญิ ญาณ” หรอื กำ� ลงั “สมมตุ วิ ญิ ญาณ” หรอื “สมมตุ ชิ วี ติ ” ขนึ้ แลว้ ในใจ ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งจะกอ่ จะเกดิ จะมาสำ� เรจ็ เปน็ ตวั ตนขน้ึ จรงิ ๆ ใหเ้ รา เหน็ ดว้ ยตาได้ ตอ้ งเปน็ ตวั ตนทสี่ มมตุ ขิ นึ้ มากอ่ นจากใจ อนั จะเหน็ ดว้ ยตา ยงั ไมไ่ ด้ (ผเู้ กง่ ทาง “เจโตปรยิ ญาณ” จงึ จะเหน็ ตวั ตนนไ้ี ดจ้ รงิ ๆ) ดงั คำ� ตรสั ของพระพุทธองค์ก็คงจะเคยได้ยินกันมามากแล้ว ท่ีว่า “มโนปุพพังคมา ธมั มา...” อะไรนน่ั เอง กค็ อื ทกุ สรรพสงิ่ ยอ่ มกอ่ เกดิ ขน้ึ “มาแตใ่ จ” เปน็ ผสู้ รา้ ง กอ่ นทง้ั สนิ้ ดงั นนั้ ทา่ นผแู้ จง้ ทกุ ข์ ผแู้ จง้ ธรรม ทา่ นจงึ เปน็ ผรู้ อู้ ยโู่ ดยควร เปน็ ผสู้ นั โดษ เปน็ ผไู้ มก่ อ่ เหตุ เปน็ ผไู้ มฝ่ นั เฟอ่ื ง เปน็ ผสู้ งบ เปน็ ผรู้ จู้ กั หยดุ จงึ เปน็ ผพู้ น้ ทกุ ขจ์ รงิ ๆ หากจะ “ยอม” หรือ “ทน” กอ่ ทนท�ำใหส้ ิง่ ใดเกดิ กเ็ ปน็ “ผู้ร้”ู อยา่ งเพยี งพอแลว้ วา่ “ตอ้ งเปน็ ประโยชน”์ แกโ่ ลก แกผ่ อู้ น่ื โดยยง่ิ โดยควร ใครยงั หลงเปน็ นกั กอ่ นกั สรา้ ง เปน็ นกั ทำ� ใหเ้ กดิ “เยอะ” จงึ คอื “คน” (ปถุ ชุ น) คอื ผมู้ อี วชิ ชา คอื ผไู้ มร่ ู้ คอื ผยู้ งั ไมเ่ ขา้ ใจทกุ ข์ จงึ ไดก้ อ่ ไดส้ รา้ ง ไดฝ้ นั ไดเ้ พอ้ หา ไดป้ รารถนา ไดอ้ ยากโนน่ ไดอ้ ยากน่ี อยไู่ มห่ ยดุ หยอ่ น ไมร่ จู้ กั อมิ่ ไมร่ จู้ กั พอ ไมร่ จู้ กั ประโยชนโ์ ลก-ประโยชนต์ นทแ่ี ทจ้ รงิ นนั่ เอง จงึ ไดเ้ บยี ดเบยี นผอู้ น่ื เบยี ดเบยี นตนอยอู่ ยา่ งไมร่ จู้ กั บาป ไมร่ จู้ กั เหนด็ เหนอ่ื ย ลำ� ธารชวี ติ | ๓๒๕

ไมร่ จู้ กั ทกุ ขโ์ ทษพษิ ภยั แทๆ้ อนั เรยี กวา่ “อรยิ สจั ” จงึ เปน็ ผหู้ มกมนุ่ “หลง” เอาเปน็ เอาตายจรงิ จงั อยกู่ บั “สมมตุ ”ิ แทๆ้ ทง้ั หลายอยอู่ ยา่ งไมร่ จู้ กั เพลา จกั พอลงไดเ้ ลย จงึ ทำ� ความ “หยดุ ” แทๆ้ ไมเ่ ปน็ และทำ� ความ “จบ” จรงิ ๆ ใหก้ บั “ชวี ติ ” ของตนจนเรยี กวา่ “สนทิ นง่ิ ” ใหเ้ ปน็ “นพิ พาน” ไมไ่ ดเ้ ลยตลอดกปั ตลอดกลั ป์ ผใู้ ดเหน็ แจง้ ไดว้ า่ การกอ่ การสรา้ ง การปรารถนา มนั เปน็ “ทกุ ข”์ ผนู้ น้ั จงึ จะไมม่ าเหนด็ เหนอื่ ย ดดี ดนิ้ วง่ิ เตน้ เพอ่ื กอ่ เพอื่ สรา้ งอะไร กจ็ ะ “รอู้ ย”ู่ จะ “รบู้ ำ� เพญ็ ” จะทำ� กแ็ ต่ “หนา้ ท”่ี อนั ควรทำ� อนั เปน็ ประโยชนแ์ ก่ ผอู้ นื่ แกโ่ ลกและแกต่ นตามเหมาะควรเทา่ นนั้ …ความลกึ ของค…ำ� …วา่…“สมม…ตุ ”ิ …อ…ยา่ งสมั มาทฏิ ฐิ นค่ี อื ความลึกของค�ำวา่ “วญิ ญาณ” ความลกึ ของค�ำวา่ “สมมุติ” ความลกึ ของคำ� วา่ “สสั ตทฏิ ฐ”ิ กบั “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ ความลกึ ของ “อตั ตา” กบั “อนตั ตา” หรอื แม้ สนั ตติ วฏั ฏะ ปจั จยาการ และการเกดิ สรปุ ไดค้ อื ใครเขา้ ใจวา่ “วญิ ญาณม”ี กย็ งั ไมผ่ ดิ หรอื ใครเขา้ ใจวา่ “วญิ ญาณไมม่ ”ี กย็ งั ไมผ่ ดิ แตต่ อ้ งเขา้ ใจใหถ้ ว้ นทวั่ ใหไ้ ด้ วา่ วญิ ญาณมี กไ็ ดแ้ ละมอี ยอู่ ยา่ งไร? หรอื ไมม่ กี ไ็ ดแ้ ละไมม่ นี นั้ คอื อยา่ งไร? จงึ จะเรยี กวา่ “ไมเ่ หน็ เปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐ”ิ เพราะถา้ ขนื เพยี งเขา้ ใจวา่ “ม”ี เฉยๆ กย็ งั ไมเ่ รยี กวา่ แทงทะลุ หรอื เขา้ ใจเพยี งวา่ “ไมม่ ”ี เฉยๆ กย็ งั ไมแ่ จง้ แทงทะลอุ ยเู่ ชน่ กนั ยงิ่ ไปปกั ใจมน่ั ถอื มนั่ เอาเขา้ ขา้ งใดขา้ งหนงึ่ แลว้ กจ็ ะตอ้ งเปน็ ผมู้ ี “มจิ ฉาทฏิ ฐ”ิ โดยแทด้ งั นๆี้ ๓๒๖ | ลำ� ธารชวี ติ

อันที่จริง โลกในกาลต่อไปน้ีก็จะถูก “มิจฉาทิฏฐิ” น่ีแหละครอบง�ำ ลงไปทกุ วนั ๆ จะแบง่ ความเขา้ ใจ แบง่ ความเหน็ ไปเปน็ ๒ ฝา่ ย คอื ฝา่ ย “สสั ตทฏิ ฐ”ิ กบั “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ ในอนาคตฝา่ ยทหี่ ลงเขา้ ใจและมคี วามเหน็ แบบตดั ขาด เปน็ “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ จะเปน็ ฝา่ ยชนะ จะมพี รรคมพี วกมกี ลมุ่ ใหญ่ ขน้ึ ๆ ตามลำ� ดบั (แมเ้ ดยี๋ วนจ้ี ะยงั มนี อ้ ยกต็ าม) เพราะเหตแุ ละผลแหง่ ความ “ตอ้ งเปน็ ไป” ตามหลกั การสบื สนั ตตขิ องอนตั ตา “พทุ ธศาสนา” ในอนาคตกจ็ ะหมดไป คอื เตม็ ไปดว้ ยผคู้ นทม่ี คี วาม เหน็ แบบขาดสญู เปน็ “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ เมอ่ื เนนิ่ นานไปอกี ๒,๔๐๐ กวา่ ปี คือ ถึงวาระพุทธศาสนามีอายุเหยียบย่างเข้าเขต ๕,๐๐๐ ปีนั่นแหละ พทุ ธศาสนกิ ชนทงั้ หลายกจ็ ะคอื หมชู่ นทเี่ ปน็ ฝา่ ย “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ กนั ทง้ั นนั้ จะไมม่ ใี ครยอมเชอ่ื หรอื จะไมม่ ใี ครเหน็ ไดเ้ ลยวา่ ตายแลว้ ยงั จะมวี ญิ ญาณอยู่ สบื สนั ตตอิ ยา่ งไร? ทกุ คนจะเหน็ วา่ ตายแลว้ วญิ ญาณดบั สญู ไมม่ กี าร เหลอื อยอู่ กี เลย ไมว่ า่ จะอยใู่ นสภาพอยา่ งไร? …ก…อ่ …น…จากขอ…ฝา…กค…ำ� ในระยะก่อนที่ศาสนาจะถึง ๕,๐๐๐ ปี ก็จะมี “คน” (สัปปุรุษ) เกดิ มาเพอื่ คดั งา้ งความเขา้ ใจทเ่ี ปน็ “อจุ เฉททฏิ ฐ”ิ ของพทุ ธศาสนกิ ชนนเ้ี ปน็ ครงั้ คราวประปราย สปั ปรุ ษุ ดงั กลา่ วนจี้ ะเกดิ มาเพยี ง “ทำ� หนา้ ท”่ี เทา่ นน้ั แตเ่ ขาจะไมใ่ ช่ “ผชู้ นะ” หรอื ไมใ่ ชผ่ แู้ กไ้ ขใหพ้ ทุ ธศาสนกิ ชนกลบั มาเขา้ ใจแจง้ เปน็ “สมั มาทฏิ ฐ”ิ ไดเ้ ปน็ อนั ขาด ตราบจนกระทง่ั ถงึ วาระยา่ งเขา้ เขตอายพุ ทุ ธศาสนา ๕,๐๐๐ ปี ใน ตอนนนั้ จะมี “มหาสปั ปรุ ษุ ” อกี ผหู้ นงึ่ มาเกดิ และมหาสปั ปรุ ษุ ผนู้ ี้ จะไมเ่ รยี ก ลำ� ธารชวี ติ | ๓๒๗

ตวั เองวา่ เปน็ “พทุ ธศาสนกิ ชน” แลว้ เขาจะเปน็ ผขู้ ดั แยง้ กบั “พทุ ธศาสนกิ ชน” อยา่ งมากมาย เขาจะเปน็ ผู้ “อธบิ ายธรรม” อยา่ งละเอยี ดลออกวา้ งไกล จน “พทุ ธศาสนกิ ชน” ในยคุ นนั้ จะไมร่ เู้ รอ่ื งเอาเลย จะเหน็ วา่ เขางมงาย หลงๆ เลอะๆ เซอื่ งเซอะไมท่ นั กนิ และบา้ นำ้� ลาย เปน็ ผถู้ ว่ งโลกอยา่ งหนกั แตแ่ ทจ้ รงิ “เนอ้ื ธรรมะ” ทเี่ ขาอธบิ ายขยายความ นนั่ เอง คอื “พทุ ธธรรม” อนั เปน็ “อรยิ สจั ” ทม่ี คี โู่ ลก และเขากจ็ ะพา่ ยแพ้ …แกห่ มู่ “พทุ ธศาสนกิ ชน” …ใน…ย…คุ นนั้ ไปอ…กี อ…ยา่…งไมเ่ ปน็ ทา่ จงึ ขอยำ�้ ยนื ยนั กนั ดว้ ย คำ� พดู ชว่ งสดุ ทา้ ย ฝากไวใ้ น หนงั สอื ส.ค.ส. เลม่ ๓ น้ี ดว้ ยวา่ ... ระวงั อยา่ เขา้ ใจในคำ� วา่ “ไมม่ อี ะไร” ใหเ้ ขา้ ใจผดิ เปน็ อนั ขาด ตอ้ ง เพยี ร เพง่ พนิ จิ คดิ คน้ ใหม้ ากทสี่ ดุ เพราะในความ “ไมม่ อี ะไรเลย” นน่ั แหละ คอื ความ “ม”ี ทจ่ี ะยงั เรยี กไดว้ า่ “โลก” หรอื “สมมตุ ภิ าวะ” ถา้ ไมม่ ี “โลก” กไ็ มอ่ าจจะถงึ “ธรรม” ได้ ถ้าไม่มี “ธรรม” โลกก็บรรลัยจักรเต็มไปด้วยความฉิบหายอุบาทว์ เพราะหลงโลก หลงสมมตุ กิ นั หมด ถา้ ไม่มี “โลก” ผู้ปฏบิ ตั ธิ รรมกไ็ ม่อาจจะเอาอะไรมาเป็นส่ิงวดั ได้วา่ “เราเหนอื โลก” ถา้ ไมม่ ี “ธรรม” เรากจ็ ะไมร่ ไู้ ดว้ า่ มอี ะไรเหนอื อะไรใต้ มคี วามสงู ความตำ่� หรอื มคี วามดคี วามชวั่ (คอื ยอ่ มจะเหน็ ตามๆ กนั ไปหมด หลงใหล ใน ลาภ ยศ สรรเสรญิ โลกยี สขุ ไปดว้ ยกนั หมดทง้ั สนิ้ ) ถา้ ไมม่ ี “โลก” เรากไ็ มอ่ าจจะรไู้ ดว้ า่ “ไมม่ อี ะไรเลย” ในทกุ ๆ สงิ่ และถา้ “ไมม่ อี ะไรเลยในทกุ ๆ สงิ่ ” เรากจ็ ะไม่ “ร”ู้ อะไรไดเ้ ลย แมแ้ ต่ “ความด-ี ความชว่ั ” หรอื ตวั “ความไมม่ อี ะไรเลย” นน้ั เอง ๓๒๘ | ลำ� ธารชวี ติ

ดงั นน้ั ทเ่ี ราเรยี กกนั วา่ “วญิ ญาณ” จงึ ตอ้ งจบั ตวั “วญิ ญาณ” ใหไ้ ด้ ตอ้ งเหน็ วา่ มนั “ม”ี ใหไ้ ดจ้ รงิ ๆ เราจงึ จะเหน็ “วญิ ญาณชว่ั -วญิ ญาณด”ี ทมี่ นั ดดี ดนิ้ อยใู่ นโลก (นอกตน) และอยใู่ นตนไดอ้ ยา่ งถกู ตวั จงึ จะดบั “วญิ ญาณ” ใหห้ มดสนิ้ เกลย้ี ง จนเรยี กไดว้ า่ “ไมม่ อี ะไรเลย” จงึ จะไมม่ ี “การเกดิ ” หรอื ไม่รับรู้สึกกระทบ (action) ที่มาจากนอกตนและไม่มีแม้ความรู้สึกตอบ (reaction) ใน “คน” ผถู้ งึ ธรรมนน้ั “ทกุ ข”์ จงึ จะสน้ิ ซากอยา่ งแทจ้ รงิ ทเี่ ราพดู ถงึ กนั อยนู่ จี้ งึ พดู กนั ดว้ ย “ภาษา” เทา่ นนั้ แตจ่ ะรจู้ กั “วญิ ญาณ” จรงิ ๆ และ ฆา่ มนั จนมนั “ไมม่ ”ี หรอื ตายได้ อนั เรยี กวา่ ถงึ “ธรรม” นนั้ ตอ้ ง “ทำ� ” จงึ จะเรยี ก “รแู้ จง้ แทงทะล”ุ หรอื “สำ� เรจ็ ” จรงิ อยา่ เอาแตพ่ ดู กนั อยหู่ นอ่ ยเลย ยง่ิ เถยี งกย็ ง่ิ ยาว ยงิ่ สาวกย็ งิ่ ทะลกั ยงิ่ ชกั กย็ งิ่ เลอะเทอะ มนี าคม ๒๕๑๔ ลำ� ธารชวี ติ | ๓๒๙

“...จบั นาม-รปู ของวญิ ญาณในตนได้ชดั เจนแลว้ ตาเราจะใสเอง ปัญญาเราจะเฉยี บแหลมขึน้ เมื่อน้นั เราจะเข้าใจไดเ้ องว่า วิญญาณของสัตว์โลกมีขอบเขตแค่ใด วญิ ญาณของสรรพสิง่ มขี อบเขตแค่ใด” ๓๓๐ | ลำ� ธารชวี ติ

ลำ� ธารชวี ติ | ๓๓๑

จากสมุดบนั ทึกของผูเ้ ขียน วันเสาร์ แรม ๘ ค�ำ่ เดือน ๑๒ ปจี อ เวลาใกล้ตีห้า ตรงกับวันเสาร์ท่ี ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓ ส้ินจากการเดินจงกรมในเช้าตรู่วันนี้เอง อีกเวลาไม่ก่ีนาที ก็ตี ๕ ขา้ พเจา้ หยดุ เดนิ จงกรมลง ณ รอบที่ ๑๔๑ เมอื่ แจม่ แจง้ แทงทะลุ ในรอบแหง่ วฏั ฏะของตนแทว้ ่า เราน้นั คือ “อนพุ ุทธ” ยังจะเป็นผู้มาหมุนหนุนพระธรรม ให้ยืดยาวออกไป เป็นสะพานเช่ือมโยงพระธรรมน้ีให้แก่ “องค์พระศรี อาริยเมตไตรย สัมมาสัมพุทธเจ้า” ในกาลเบ้ืองหน้า คุณประโยชน์อันนี้ มิใช่ข้าพเจ้า คุณประโยชน์คือเพื่อธรรม คุณประโยชน์แท้คือ ต้องท�ำเพื่อ “พระสมั มาสมั พุทธเจา้ ” องค์อนาคตน่ันเอง ข้าพเจ้าแทงทะลุสังโยชน์ทั้ง ๘ และ ๙ คือ “มานะสังโยชน์ และ อุทธัจจะสังโยชน์” ยิ่งๆ ได้ เมื่อข้าพเจ้าแจ้งส้ินได้ว่า ตราบใดยัง ดับท�ำ “อุทธัจจะ” ให้เป็น “รูป” ไม่ได้ “ปัจจยาการ” ก็จะสืบต่อไปอยู่ น่ันเอง ดงั นน้ั เมอ่ื “มานะ” ทำ�เสยี ใหเ้ ปน็ “รปู ” แลว้ แมจ้ ะเหลอื “อทุ ธจั จะ” เฟอ่ื งขน้ึ มาเปน็ นาม ตามสามญั ลกั ษณ์ เรากจ็ ะดบั “อทุ ธจั จะ” นนั้ ลงดว้ ย นำ�้ มอื ของเรา เสยี ให้ไดท้ ุกตวั ไป ความส้ินจบก็จะหมดลง และจะหมดโดย จรงิ ! จะเหลอื เพยี งหน้าที่ “อนุพทุ ธ” ผเู้ กิดมาเพอ่ื “พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้า” องคอ์ นาคตเบอื้ งหน้า เทา่ นนั้ ดังน้ัน ข้าพเจ้าจักขอให้ “สัตยาบัน” แด่ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ท้ังส้นิ ว่า “ขา้ พเจ้าจะพงึ ท�ำหน้าทีน่ ้ี ให้บริบรู ณท์ สี่ ุด เพ่ือพทุ ธศาสนาสืบไป กวา่ จะถึงพทุ ธนั ดร” ๓๓๒ | ลำ� ธารชวี ติ

ข้าพเจ้าจะวาง “มานะ” และจะเพียรท�ำ “อุทธัจจะ” ให้ส้ินทุกตัว ดว้ ย “ปญั ญาบารม”ี ของขา้ พเจา้ ใหถ้ ว้ นลงให้ได้ เพอ่ื ใชพ้ ลงั “อทุ ธจั จะ” นนั้ บ�ำเพ็ญ “หน้าทแ่ี ห่งอนุพุทธ” ลงแล้วเรยี บร้อย ถ้วนผล ครบงานเมือ่ ใด ข้าพเจ้าจักบ�ำเพ็ญกิจ ด้วยซ่ือสัตย์ บริสุทธิ์ เพ่ือประโยชน์ตน ประโยชนโ์ ลก และเพอ่ื ประโยชนแ์ ห่งธรรม! ตัวเลขที่เก่ียวข้องในวันน้ี อันมีตั้งแต่ ๑๔๑ ไปจนหมดสิ้น แม้อีก ไมก่ ่ีนาที ตี ๕ แม้...วนั -แรม-เดือน คอื ๗ ฯ/๘ ๑๒ ตราบจนแม้ ๑๒ แห่ง เดอื นพฤศจกิ ายน ขา้ พเจา้ กแ็ จง้ ในตวั เลข เหลา่ นไี้ ดท้ ง้ั สนิ้ อยา่ งจรงิ แท้ คอื “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” อุบัติมาแล้ว ในภัทกัปป์น้ี นั่นคือ ๑-๔ และจะมีอีก ๑ องค์ กจ็ ะครบ ๕ องค์ ในภัททกัปป์น้ี นั่นคอื ๑ ๔ ๑ ท่ี กำ�ลงั เดนิ ไปอยู่ และเกอื บจะถงึ ตี ๕ กจ็ ะครบ ๕ องคอ์ ยแู่ ลว้ ความถว้ นทวั่ บรรจบส้ิน ก็จะมีเราอยู่ ในช่วงน้ี ขณะน้ี จงพยายามช่วยให้องค์ท่ี ๕ เต็มเถิด แม้ ๗ ก็เป็นวันสิ้นสัปดาห์ แม้ ๑๒ ก็เป็นเดือนสุดท้ายแห่งปี และแม้แรม ๘ ค�่ำ ก็คือ วันธรรมสวนะ อันหมายถึง วันแห่งพระธรรม ครองตนอยู่ เป็นเร่ืองของพระธรรม ที่ยังไม่ใช่วันธรรมสวนะที่เต็ม คือ ๑๕ ค่ำ� ขณะน้เี พียงเปน็ ๘ ค�่ำ อันกค็ ือ “พระน้อย-พทุ ธน้อย” นน่ั เอง ดังนั้น มิผิดเลย หน้าที่และความเป็น “อนุพุทธ” ของข้าพเจ้า ผจู้ ะตอ่ จาก ๒ ไปเป็น ๑ น่ันคือ ขณะนจ้ี งดำ�รงความเป็น ๒ ในตำ�แหนง่ “อนุพุทธ” นั้นก่อนเถิด จึงค่อยเขยิบไปเป็น ๑ ในอนาคตต่อหรือถัดไป จงอยู่ในเดือนพฤศจิกายนน้ีก่อนเถิด อย่าพ่ึงจบสิ้นเดือนธันวาคมเลย เดอื นหน้าจึงควรจบสิ้น แหง่ ทุกสง่ิ ทุกอยา่ ง สวา่ งไสวกระจา่ งแจง้ ยงิ่ แล้ว สาธ!ุ ! (จากหนังสอื สัจจะชวี ติ ของสมณะโพธิรกั ษ์ ภาค ๒ หนา้ ๓๕๙-๓๖๐) ลำ� ธารชวี ติ | ๓๓๓

๓๓๔ | ลำ� ธารชวี ติ

ความหมายของคำ� วา่ รกั รกั พงษ์ ผนู้ ำ� เอาสาราณยิ ธรรม มาสรา้ งใหพ้ รหมไดอ้ ยอู่ าศยั (พรหมวหิ าร) ตลอดเวลาแหง่ โพธกิ จิ ๕๐ ปมี านี้ ยอ่ มเปน็ ไปตามความหมายของ คำ� วา่ “รกั รกั พงษ”์ ทงั้ รปู และนาม ทกุ ประการ คำ� วา่ รกั รกั พงษ์ มใิ ช่ เปน็ เพยี งนามเรยี กขานบคุ คลทางโลกผหู้ นงึ่ กอ่ นบวชเทา่ นน้ั แตเ่ จา้ ของชอ่ื น้ี ไดเ้ ปลย่ี นนาม เปลย่ี นรปู ใหม่ เปน็ โพธสิ ตั วท์ บี่ ำ� เพญ็ โพธกิ จิ ไปกบั ความหมาย ของ “รกั อนั ยงิ่ ใหญ”่ อยเู่ สมอ คอื รกั รกั พงษ์ ทเ่ี ปน็ พงษแ์ หง่ มวลมนษุ ยชาติ และพงษ์ท่ีมุ่งปรารถนาไปให้ถึงความส้ินสุดปลายล�ำธารแห่งความโศก (รกั พงษอ์ โศก) ๕๐ ปี มผี ลงานทต่ี กผลกึ อยา่ งเหน็ ประจกั ษแ์ ลว้ โดยการสรา้ งขน้ึ มา ดว้ ยความรกั ทง้ั สนิ้ คอื สรา้ งคนใหม้ าเปน็ คนจนอนั มหศั จรรย์ เปน็ คนจน อยา่ งสขุ สำ� ราญ เบกิ บานใจ ไดส้ ำ� เรจ็ เปน็ สงั คมคนจนทมี่ ี “รกั ” ตามชอื่ ของทา่ น ครบทงั้ ๔ แหง่ พรหมวหิ าร คอื เมตตากายกรรม เมตตาวจกี รรม เมตตามโนกรรม ทเ่ี สยี ภาษใี หส้ งั คม ส่วนกลาง ๑๐๐% และมีความกรุณาสรรสร้างผลผลิต เฉล่ียลาภแบ่งกัน โดยธรรม อกี ทงั้ ลกู ๆ ทถี่ กู สรา้ งขน้ึ จนมผี ล มพี ลงั เขา้ ชว่ ยในการสรา้ งสงั คม แบบนข้ี น้ึ มา จนนา่ แสดงมทุ ติ าจติ ดว้ ย นนั่ คอื ทา่ นสรา้ งสงั คมแบบนใ้ี หด้ ำ� เนนิ ชวี ติ อยอู่ ยา่ งมศี ลี เสมอสมานกนั มที ฐิ คิ วามเหน็ ทสี่ มานกนั ไปกบั อเุ บกขา เมอ่ื ลกู ๆ ทกุ คนทถ่ี กู สรา้ งมารวมตวั กนั ได้ จงึ เทา่ กบั มารวมพลงั กนั ทำ� งาน “สรา้ งสาระประโยชน”์ เสมอื นทา้ วมหาพรหมทส่ี ามารถสรรสรา้ ง คณุ คา่ คณุ ประโยชนไ์ ปไดอ้ ยา่ งไมร่ จู้ บสน้ิ และมหาพรหมเองกต็ อบไมไ่ ด้ ว่า... “ที่ส้ินสุดในการสร้างโลกท่ีให้ประโยชน์แก่ชาวโลกนั้น จะสิ้นสุดลง ณ ทไ่ี หน”? (ทจ่ี บทส่ี นิ้ ของโพธสิ ตั ว์ ทส่ี ง่ั สมความรแู้ ละคณุ ประโยชนน์ น้ั อยทู่ ไี่ หน?) ลำ� ธารชวี ติ | ๓๓๕

จนกวา่ จะมใี ครสกั คน คดิ หวนกลบั ไปหา “พทุ ธะ” เพอื่ ไดร้ บั คำ� ตอบ ในการมที จี่ บ ทส่ี นิ้ วา่ อยา่ ไดถ้ ามหาความจบสนิ้ แหง่ โลก, การจบสนิ้ แหง่ การคน, การละเลง, การปรงุ แตง่ สรา้ งสรรคโ์ ลก วา่ จะสน้ิ สดุ ลงทไี่ หนเลย ควรตั้งข้อสงสัยว่า ‘ทุกอย่างท่ีเธอสรรสร้างคุณค่าข้ึนมาเป็นโลก เป็น ประโยชนแ์ กม่ วลมนษุ ยชาตใิ นโลกนน้ั อนั ประโยชนเ์ หลา่ นนั้ หากเปน็ ธาตุ ดนิ นำ�้ ลม ไฟ แลว้ ดนิ นำ้� ลมไฟเหลา่ นนั้ ตงั้ อยไู่ มไ่ ดใ้ นทไ่ี หน นตี่ า่ งหาก ทคี่ วรถาม ควรศกึ ษา’ ควรศกึ ษาหาจดุ จบ คอื “จบโพธไิ ดเ้ ปน็ พทุ ธะ” หรอื จบทอี่ รหตั ตผล อนั คำ� ตอบนนั้ “มที จ่ี บ มที สี่ นิ้ สดุ ลง” ณ สภาวะทเี่ รยี กวา่ คอื “อเุ บกขา” อนั เปน็ ฐานของนพิ พาน ซงึ่ ตอ้ งไปเรยี นตวั จบใหส้ มั มากบั “สมณะโพธริ กั ษ”์ ผทู้ ม่ี าจาก “รกั รกั พงษ”์ และกำ� ลงั พามนษุ ยชาตสิ รา้ งรกั ใหร้ กั พงษ์ อยเู่ สมอ. จาก... ลกู ทรี่ กั พงษ์ รกั มวลมนษุ ยชาตดิ ว้ ยคนหนงึ่ มถิ นุ ายน ๒๕๖๔ ป.ล.๑ / ป.ล.๒ การปรากฏชอื่ พระสตู รกด็ ี คำ� บาลปี ระกอบกด็ ี หรอื ตวั เลขอา้ งองิ วา่ เลม่ ท/ี่ ขอ้ ที่ กด็ ี อซงึ่นมญุ อี ายตใู่ นจาหกนผา้ เู้ ทขยี่ี ๑น๗แล๓ว้ , ๒เพ๔อื่ ๔ใ,สใ่๒จ๔คว๗า,ม๓ให๑ค้ ๓ร-บ๓บ๑ร๔บิ ,รู ณ๓๒์ ๑ทง้ั ฯนลเ้ี พฯราหะมสามยยั ถเงึรม่ิ ผบรู้ ววชบนรนว้ั มผไเู้ ขดยีข้ นอ มไิ ดม้ พี ระไตรปฎิ กไวอ้ า้ งองิ เพยี งแตเ่ อย่ ถงึ อยา่ งกวา้ งๆ เทา่ นนั้ ๓๓๖ | ลำ� ธารชวี ติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook