Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม ๑ นานาความรู้ คู่มือการเรียนภาษาไทย ม.๕

เล่ม ๑ นานาความรู้ คู่มือการเรียนภาษาไทย ม.๕

Published by Anawin090641, 2021-08-11 14:59:22

Description: เล่ม ๑ นานาความรู้ คู่มือการเรียนภาษาไทย ม.๕

Search

Read the Text Version

๓ กลวธิ ีการเขยี นเรียงความ (ต่อ) การพฒั นาการเขียนเรียงความ ข้อสังเกต จากตวั อยา่ งเรียงความ เร่ือง “คนดีท่ีบอกเล่า : พระครูวทิ ิต- พฒั นโสภณ เจา้ อาวาสวดั พระศรีอารย์ จงั หวดั ราชบุรี” • ความมเี อกภาพ สัมพนั ธภาพและสารัตถภาพ o มีเอกภาพ เป็นเร่ืองราวของบุคคลที่เป็นคนดีของสงั คมที่ควรยกยอ่ ง o มีสมั พนั ธภาพ ทุกยอ่ หนา้ มีความสมั พนั ธ์กนั กล่าวถึงคุณงาม ความดีของพระครูวทิ ิตพฒั นโสภณวา่ ท่านทาอะไรบา้ งที่เป็น ประโยชนแ์ ก่สงั คม o มีสารัตถภาพ เขียนจากขอ้ มูลท่ีปรากฏจริง สามารถตรวจสอบได้ มีสาระที่ใหป้ ระโยชนก์ บั ผอู้ ่าน สามารถนาแบบอยา่ งไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ของตนเองได้

การเขียนเชงิ วิชาการ ควำมหมำยของกำรเขยี นเชิงวชิ ำกำร หน้ำ ๑๐๔ กำรเขยี นรำยงำนเชิงวชิ ำกำร หน้ำ ๑๐๕ ตวั อย่ำงกำรเขยี นรำยงำนเชิงวชิ ำกำร หน้ำ ๑๒๓ มำรยำทกำรเขียนรำยงำนเชิงวชิ ำกำร หน้ำ ๑๓๒

๒ การเขียนเชิงวชิ าการ การเขยี นเชิงวชิ าการ เป็นการเขียนเพ่อื เสนอความรู้และขอ้ เทจ็ จริง โดยนา ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการบนั ทึกและคน้ ควา้ จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ มาเรียบเรียงอยา่ งเป็ น ระบบ และมีแหล่งอา้ งอิงที่ชดั เจน ผเู้ ขียนจะตอ้ งมีมารยาทในการเขียน ภาษาท่ีใชก้ ต็ อ้ งเป็นภาษาทางการ ดงั น้นั จึงเป็น เร่ืองสาคญั อยา่ งยงิ่ ท่ีผเู้ รียนควรเรียนรู้และฝึกฝนใหเ้ ขา้ ใจหลกั การเขียนเชิงวชิ าการ เพ่อื ใหส้ ามารถสร้างสรรคง์ านเขียนเชิงวชิ าการไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

๑ ความหมายของการเขียนเชิงวชิ าการ การเขยี นเชิงวชิ าการ • เป็นการเขียนความเรียงที่มุ่งเสนอความรู้ใหแ้ ก่ผอู้ ่าน มีลกั ษณะการเขียนที่เป็น ระบบ แบบแผน ใชภ้ าษาระดบั ทางการ ตรงไปตรงมา และกระชบั • ไม่มีคาที่แสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผอู้ ่านกบั ผเู้ ขียน o การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ o การเขียนตาราเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ o รายงานการศึกษาคน้ ควา้ รายงานการวจิ ยั o รายงานการทดลอง รายงานการทาโครงงาน o การเขียนสารคดีเชิงวชิ าการ

๒ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนหน้า • ส่วนที่อยตู่ น้ เล่มของรายงาน ก่อนถึงเน้ือเร่ือง o ปกนอก ควรมี ชื่อเร่ืองของรายงาน ชื่อผเู้ ขียนรายงาน ชื่ออาจารย์ ผสู้ อน ชื่อวชิ า ชื่อสถาบนั ภาคการศึกษาและปี การศึกษา o ใบรองปก กระดาษเปล่า ๑ แผน่ คนั่ อยรู่ ะหวา่ งปกนอกและปกใน o ปกใน มีขอ้ ความเหมือนปกนอกทุกประการ o คานา เป็นการบอกใหผ้ อู้ ่านไดท้ ราบวา่ ผรู้ ายงานมีจุดประสงค์ อยา่ งไร เหตุใดจึงเลือกคน้ ควา้ หวั ขอ้ น้ี ไดร้ ับความรู้และความ อนุเคราะห์จากใคร และตอ้ งการขอบคุณใครบา้ ง o สารบญั เป็นการจดั ลาดบั เน้ือหาวา่ เรื่องอะไร อยหู่ นา้ ไหน

๒ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนเนือ้ หา • ส่วนท่ีอยตู่ ่อจากส่วนหนา้ เป็นส่วนท่ีสาคญั ท่ีสุดของรายงาน เพราะจะครอบคลุมเน้ือหาท้งั หมดของรายงาน o บทนา อธิบายเน้ือหาอยา่ งกวา้ งๆ เป็นการนาผอู้ ่านเขา้ สู่เน้ือเรื่อง หรือเน้ือหาของรายงานเพ่ือใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจในเบ้ืองตน้ o เนือ้ เร่ือง ส่วนท่ีเสนอเร่ืองราวสาระท้งั หมดของรายงานตามลาดบั ของหวั ขอ้ ที่ระบุไวใ้ นสารบญั การเสนอเน้ือเร่ืองอาจแบ่งออกเป็น บทหรือตอนต่างๆ เพือ่ ช่วยใหผ้ อู้ ่านเห็นประเดน็ สาคญั ของ เน้ือความตามลาดบั และต่อเน่ืองกนั

๒ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนเนือ้ หา • เน้ือเร่ืองยงั มีส่วนประกอบที่จะช่วยทาใหเ้ น้ือหาของรายงานมีความ น่าเชื่อถือมากข้ึน o อญั ประกาศ ยกคาพดู หรือการคดั ลอกขอ้ ความมาจากตน้ ฉบบั ของ เอกสารหรือขอ้ เขียนของผอู้ ่ืนมาอา้ งอิงโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขอ้ ความ

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนเนือ้ หา o เชิงอรรถ ขอ้ ความส่วนหน่ึงในเน้ือเร่ือง บอกท่ีมาของขอ้ ความท่ี ยกมาอา้ งอิงหรืออธิบายคา ขอ้ ความ หรือเรื่องราวท่ีอยใู่ นหนา้ เดียวกนั โดยเขียนแยกจากตวั เน้ือเรื่อง

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนเนือ้ หา o บทสรุป ส่วนที่เขียนย้าหรือนาเสนอประเดน็ สาคญั ของเน้ือหา เป็น ส่วนท่ีอยใู่ นยอ่ หนา้ สุดทา้ ยของเน้ือเรื่อง

๒ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่ วนท้าย • ส่วนที่อยตู่ อนทา้ ยเล่มของรายงาน ประกอบดว้ ย บรรณานุกรม ภาคผนวก อภิธานศพั ท์ และดชั นี o บรรณานุกรม รายชื่อหนงั สือ เอกสาร แหล่งอา้ งอิงขอ้ มูลอ่ืนๆ หนังสือเล่ม

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่ วนท้าย นิตยสารหรือวารสาร หนังสือพมิ พ์

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่ วนท้าย กรณไี ม่ปรากฏช่ือผู้แต่ง การอ้างองิ จากเวบ็ ไซต์

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนท้าย การอ้างองิ จาก CD

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนท้าย

๒ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการ ส่วนท้าย o ภาคผนวก เป็นส่วนท่ีมีเพิ่มเติมเพอื่ เสริมใหร้ ายงานสมบูรณ์ยง่ิ ข้ึน แต่มิใช่เน้ือหาโดยตรง จะอยถู่ ดั จากบรรณานุกรม o อภธิ านศัพท์ (ถ้าม)ี บญั ชีคาศพั ทเ์ ฉพาะที่ไม่ค่อยแพร่หลายและ นามาใชใ้ นรายงาน ใหจ้ ดั เรียงคาศพั ทเ์ หล่าน้ีตามลาดบั อกั ษรพร้อม คาอธิบายความหมาย o ดชั นี (ถ้าม)ี สารบญั สืบคน้ เร่ืองอยา่ งละเอียดในรายงาน ใหเ้ รียงคา หรือหวั ขอ้ เรื่องตามลาดบั อกั ษรแลว้ บอกเลขหนา้ ท่ีจะคน้ ไว้

๒ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ข้นั ตอนการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การเลอื กเรื่องและต้งั ช่ือเรื่อง • เร่ืองที่ผเู้ ขียนเลือกมาเขียนรายงาน อาจมาจากคาแนะนาของครูผสู้ อนหรือ อาจมาจากความสนใจของผเู้ ขียน • เร่ืองท่ีเลือกมาศึกษาควรเป็นเร่ืองที่เสริมความรู้ในการเรียนวชิ าใดวชิ า หน่ึงใหล้ ึกซ้ึงยง่ิ ข้ึน • สาหรับการต้งั ช่ือเร่ืองควรต้งั ใหต้ รงกบั เน้ือเรื่องมากที่สุด การกาหนดจุดมุ่งหมายและขอบเขตของเร่ือง • มีจุดมุ่งหมายเฉพาะ เรื่องราวเก่ียวกบั อะไร เพอ่ื อะไร มีขอบเขตเพียงใด • กาหนดขอบเขตของเรื่องใหเ้ หมาะสมกบั เวลาท่ีมีในการทารายงานและ ความสามารถของผเู้ ขียน

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ข้นั ตอนการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล การบนั ทกึ ข้อมูล • ช่องทางในการรับรู้ขอ้ มลู o บนั ทึกจากการอ่านตาราวชิ าการ การอ่านนิตยสาร บนั เทิงคดี สารคดี เม่ือพบความรู้ที่ตอ้ งการ มีสารที่น่าสนใจ o บนั ทึกจากการฟัง เช่น ฟังข่าวทางวทิ ยุ โทรทศั น์ ฟังการบรรยาย o บนั ทึกจากการสงั เกต เช่น สงั เกตเหตุการณ์ทว่ั ไป การศึกษาดูงาน o การรับสารจากการฟัง เราควรใชว้ ธิ ีการจดบนั ทึก จะช่วยใหเ้ รา สามารถรวบรวมขอ้ มูลได้ เราเรียกวา่ การจดบนั ทึกยอ่ หรือบางที เรียกวา่ การจดชวเลข

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ข้นั ตอนการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล วธิ ีจดบนั ทกึ ความรู้ • บอกหวั ขอ้ เรื่อง แหล่งท่ีมา วนั เดือน ปี ที่บนั ทึก • บนั ทึกขอ้ มูลตามที่เป็นจริง หากผบู้ นั ทึกมีความคิดเสริมควรบนั ทึกไว้ ตอนทา้ ยของขอ้ มูลที่เป็นจริง • ตอ้ งจดอยา่ งเป็นระเบียบ ใชร้ ะบบเดียวกนั อาจเกบ็ ขอ้ มูลในสมุด หรือ เกบ็ ใส่กระดาษที่มีขนาดเดียวกนั และเจาะรูไว้ เพื่อแยกเกบ็ ตามประเภท ในภายหลงั • จบั ใจความสาคญั จากการอ่าน และจดบนั ทึกตามความเขา้ ใจของผบู้ นั ทึก ใหส้ าระตรงกบั ขอ้ ความเดิม

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ข้นั ตอนการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล รูปแบบการบนั ทกึ ข้อมูล

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ข้นั ตอนการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล รูปแบบการบนั ทกึ ข้อมูล

๒ การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ข้นั ตอนการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล การวางโครงเร่ือง • กรอบของเรื่องที่ผเู้ ขียนจะใชเ้ ป็นแนวทางในการเขียนรายงาน • เป็นการกาหนดรายการหรือลาดบั เน้ือหาวา่ ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ใด • โครงเร่ืองประกอบดว้ ยบทนาหรือความนาและหวั ขอ้ ต่างๆ ซ่ึงมีหวั ขอ้ ใหญ่และหวั ขอ้ ยอ่ ยเรียงตามลาดบั • ช่ือหวั ขอ้ ไม่ควรยาวเกินไป ต้งั ใหก้ ะทดั รัด ใจความครอบคลุมเน้ือหา • ไม่ควรแบ่งเน้ือเร่ืองออกเป็นหวั ขอ้ ยอ่ ยๆ เกินไป • แต่ละหวั ขอ้ ในโครงเร่ืองตอ้ งมีความสมั พนั ธ์ต่อเนื่องกนั โดยลาดบั o การร่างโครงเร่ือง o การกาหนดโครงเร่ือง

๒ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) ข้นั ตอนการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล การเรียบเรียงข้อมูลเพอ่ื เสนอเป็ นรายงาน • การเรียบเรียงขอ้ มูลท่ีมีอยจู่ ะตอ้ งสมั พนั ธส์ อดคลอ้ งกนั โดยลาดบั อยา่ เขียนลกั ษณะการนาขอ้ มูลต่างๆ ปะติดปะต่อกนั • ตอ้ งเป็นภาษากระชบั ชดั เจน สุภาพ และเป็นภาษาเขียนไม่ใช่ภาษาพดู • เสนอขอ้ มลู ใหต้ รงประเดน็ มีหลกั ฐาน เหตุผลประกอบอยา่ งเพียงพอ • ไม่ใชภ้ าษาต่างประเทศถา้ มีคาไทยใชอ้ ยแู่ ลว้ • อยา่ สร้างคาศพั ทข์ ้ึนใชเ้ อง เพราะผอู้ ่านอาจไม่เขา้ ใจ • ระมดั ระวงั เรื่องการเวน้ วรรคตอน ตวั สะกด การันต์ ใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย

๓ ตวั อย่างการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ การเลอื กเรื่องและต้ังช่ือเรื่อง • การเลือกเร่ือง เลือกจากเรื่องที่สนใจ เรื่องท่ีหาขอ้ มูลไดง้ ่าย • เร่ืองท่ีเหมาะสมกบั เหตุการณ์ในปัจจุบนั • เรื่องที่มองเห็นวา่ เป็นปัญหาและผเู้ รียนสนใจจะช่วยแกไ้ ข o เลือกเร่ือง ขยะมูลฝอย • การใชภ้ าษาในการต้งั ช่ือเรื่อง โดยกาหนดเป็นคาหรือกลุ่มคาให้ สอดคลอ้ งกบั เน้ือเร่ืองและใชภ้ าษาทางการ o ต้งั ชื่อเรื่องวา่ ขยะมลู ฝอย

๓ ตวั อย่างการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) การกาหนดจุดมุ่งหมายและขอบเขตของเร่ือง • ต้งั สมมติฐาน เช่น ปัญหาขยะมูลฝอยสามารถลดลงได้ ถา้ ทุกคนมีวนิ ยั ช่วยกนั ป้ องกนั และแกป้ ัญหา • กาหนดหวั ขอ้ เรื่องวา่ จะศึกษาเกี่ยวกบั เร่ืองขยะมลู ฝอยในดา้ นใดบา้ ง o ความหมายและความสาคญั ของขยะมลู ฝอย o ประเภทของขยะมลู ฝอย o แหล่งกาเนิดขยะมลู ฝอย o ผลกระทบของขยะมูลฝอยต่อสภาพแวดลอ้ ม o กรรมวธิ ีกาจดั ขยะมลู ฝอย การแปรสภาพและการใชป้ ระโยชน์ จากขยะมลู ฝอย • ออกแบบการศึกษาคน้ ควา้ ก่อนการไปศึกษาคน้ ควา้ ในแต่ละหวั ขอ้ มี ขอบเขตเพยี งใด และใชเ้ วลาในการศึกษาเท่าใด

๓ ตวั อย่างการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล • คน้ ควา้ จากเอกสาร หนงั สือ ตาราต่างๆ ท่ีเก่ียวกบั เร่ืองขยะมลู ฝอย o สารานุกรมไทยสาหรับเยาวชน ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ ม การอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม • สืบคน้ จากอินเทอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่างๆ ที่เก่ียวกบั เร่ืองขยะมลู ฝอย • สมั ภาษณ์ สอบถามผรู้ ู้ o ครู ผเู้ ชี่ยวชาญ หน่วยงานท่ีทาหนา้ ท่ีเกี่ยวกบั เรื่องขยะมลู ฝอย • ศึกษาจากประสบการณ์โดยตรง o ศึกษาเก่ียวกบั ขยะมลู ฝอยในชุมชน ขยะมลู ฝอยจากการไป ทศั นศึกษา

๓ ตวั อย่างการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) การวางโครงเรื่อง

๓ ตวั อย่างการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ) การเรียบเรียงเพอื่ นาเสนอเป็ นรายงาน • เมื่อเขียนตามรูปแบบและลาดบั ความคิดเรียบร้อยแลว้ จึงนามาอ่าน ทบทวนเร่ืองท่ีเขียน เพื่อปรับปรุง เพมิ่ เติม และแกไ้ ขสานวนภาษา • นาไปใหผ้ อู้ ื่นอ่านแสดงความคิดเห็น ติชม หรือนาขอ้ เสนอแนวทาง ปรับปรุงงานเขียนอีกคร้ัง • หลงั จากปรับปรุงงานเขียนเรียบร้อยแลว้ จึงนามาอ่านทบทวนตรวจทาน คาผดิ แกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาด การเวน้ วรรคตอน แลว้ นาไปจดั พิมพเ์ พอื่ นาเสนอเป็นรายงานฉบบั สมบรู ณ์

๓ ตวั อย่างการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ)

๓ ตวั อย่างการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ)

๓ ตวั อย่างการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ)

๓ ตวั อย่างการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ (ต่อ)

๔ มารยาทในการเขยี นเชิงวชิ าการ • การเขียนเชิงวชิ าการ เป็นการเขียนเพอ่ื นาเสนอความรู้แก่ผอู้ ่าน • ความรู้น้นั อาจมาจากประสบการณ์ของตนเอง หรือจากการศึกษาคน้ ควา้ จาก เอกสาร การสมั ภาษณ์ การฟังและดูส่ือต่างๆ • ผเู้ ขียนที่มีมารยาทจึงควรบอกแหล่งท่ีมาของขอ้ มูลใหค้ รบถว้ น • หากอา้ งอิงขอ้ ความหรือคาพดู มา ตอ้ งเขียนเชิงอรรถบรรทดั สุดทา้ ยของหนา้ ที่มี ขอ้ ความน้นั ปรากฏหรือเขียนอา้ งอิงแบบบรรณานุกรม • ไม่ลอกเลียนแบบเรื่องของผอู้ ื่นมาเป็นผลงานของตนเอง • หากจาเป็นตอ้ งอา้ งอิงหรือคดั ลอกมาเพ่ือเป็นตวั อยา่ ง ควรใชข้ อ้ มลู ปฐมภูมิ คือ อา้ งอิงจากตน้ ฉบบั จริง ไม่ใช่อา้ งต่อจากที่ผอู้ ื่นอา้ งไวแ้ ลว้ • การคดั ลอกขอ้ ความจากหนงั สืออ่ืนมาเป็นตวั อยา่ งเพื่อการศึกษา ส่วนใหญ่ เจา้ ของเรื่องจะยนิ ดีอนุญาตใหน้ าไปใชไ้ ด้ หากขออนุญาตเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ไดก้ จ็ ะเป็นการใหเ้ กียรติแก่เจา้ ของผลงาน

การเขียนสารคดี ควำมหมำยและประเภทของสำรคดี หน้ำ ๑๓๕ หลกั กำรเขียนสำรคดี หน้ำ ๑๔๐ กำรเขยี นสำรคดที ่องเทย่ี ว หน้ำ ๑๔๕ กำรเขยี นสำรคดเี กย่ี วกบั สัตว์ หน้ำ ๑๔๙

๓ การเขียนสารคดี สารคดี เป็นงานเขียนท่ีไดท้ ้งั ความรู้ ความคิด และความบนั เทิง ช่วยเปิ ดโลกทศั น์ ของผอู้ ่านใหก้ วา้ งไกล การฝึ กเขียนสารคดีจึงเป็นการฝึ กทกั ษะกระบวนการคิดใหเ้ ป็น ระบบ ฝึกการคน้ ควา้ หาขอ้ มูลในการเขียนและการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิดสู่ผอู้ ่าน ซ่ึง เป็ นประโยชน์ต่อการศึกษาเล่าเรียนและเป็ นพ้ืนฐานของการใช้ภาษาเพื่อประกอบ อาชีพต่อไปในอนาคต

๑ ความหมายและประเภทของสารคดี สารคดี • เรียบเรียงข้ึนมีจุดมุ่งหมายเพอ่ื ใหค้ วามรู้ ใหข้ อ้ คิด คติเตือนใจและบอก เล่าขอ้ เทจ็ จริงบางสิ่งบางอยา่ งหรืออาจจะบอกหลายอยา่ งพร้อมกนั กไ็ ด้ • เน้ือหาสาระอาจเก่ียวขอ้ งกบั ความรู้ในโลก ความรู้เก่ียวกบั ศาสนา ประวตั ิศาสตร์ สงั คมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ความรู้เก่ียวกบั บุคคล สถานที่ หรื อเหตุการณ์ท่ีเป็ นความจริ ง • อาจแทรกเสริมความคิดเห็นของผเู้ ขียน หรือวพิ ากษว์ จิ ารณ์แทรกลงไป ในเน้ือหาสาระกไ็ ด้ • เน้ือหาความรู้ในสารคดีจะตอ้ งมีความถูกตอ้ ง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษามีความตรงไปตรงมา กะทดั รัด เพื่อใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจไดง้ ่าย และรับรู้ เรื่ องราวตามความเป็ นจริ ง

๑ ความหมายและประเภทของสารคดี (ต่อ) ประเภทของสารคดี สารคดีท่องเทย่ี ว • มีลกั ษณะเป็นขอ้ เขียนบนั ทึกเร่ืองราวและประสบการณ์จากการเดินทาง ท่องเท่ียวของผเู้ ขียน • ในความหมายกวา้ งๆ ยงั ครอบคลุมถึงเรื่องเล่าประสบการณ์ชีวติ ในต่าง แดน แมจ้ ะมิใช่เป็นการเดินทางไปเท่ียวโดยตรงกต็ าม สารคดเี กย่ี วกบั สัตว์ • เป็นการเล่าถึงสภาพธรรมชาติ ลกั ษณะ กิจกรรมหรือเหตุการณ์ท่ีสตั วเ์ ขา้ ไปเก่ียวขอ้ ง หรือประวตั ิความเป็นมาของสตั วก์ ไ็ ด้

๒ ความหมายและประเภทของสารคดี (ต่อ) องค์ประกอบของสารคดี บทนาเรื่อง • เป็นการเร่ิมตน้ เร่ือง ความยาวไม่มากนกั ประมาณยอ่ หนา้ เดียว • มีจุดมุ่งหมายเพ่อื สร้างความสนใจแก่ผอู้ ่านโดยการเกริ่นใหผ้ อู้ ่านทราบวา่ เร่ืองน้นั เกี่ยวกบั อะไร มีสาระสาคญั อยา่ งไร มีประโยชน์ต่อผอู้ ่านอยา่ งไร • กล่าวในภาพรวมและแสดงทรรศนะอยา่ งกวา้ งๆ ไม่ไดอ้ ธิบายรายละเอียด

๒ ความหมายและประเภทของสารคดี (ต่อ) องค์ประกอบของสารคดี เนือ้ เร่ือง • เป็นการดาเนินเรื่องโดยการขยายรายละเอียดเน้ือความท่ีนาเสนอในบทนา เพอื่ ใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจ ไดท้ ราบขอ้ มลู รายละเอียดตามจุดมุ่งหมายท่ีวางไว้ • อาจแทรกสถิติ รูปภาพตวั อยา่ งประกอบ เพอ่ื ความน่าเช่ือถือ • เน้ือเรื่องจะส้นั หรือยาวข้ึนอยกู่ บั จุดมุ่งหมายของผเู้ ขียน • อ่านจบแลว้ ผอู้ ่านควรไดร้ ับประโยชนค์ รบถว้ นตามจุดมุ่งหมายท่ีผเู้ ขียน กาหนดไว้

๒ ความหมายและประเภทของสารคดี (ต่อ) องค์ประกอบของสารคดี สรุป • เป็นการเขียนขอ้ ความในยอ่ หนา้ สุดทา้ ยของเรื่อง • เป็นการสรุปปิ ดทา้ ยเรื่องเม่ือผเู้ ขียนเห็นวา่ ไดก้ ล่าวเน้ือหาสาระครบถว้ น • ผเู้ ขียนตอ้ งใชศ้ ิลปะในการเขียนเพ่อื สร้างความประทบั ใจแก่ผอู้ ่าน o มีการสรุปทิ้งทา้ ยดว้ ยคาถามที่น่าสนใจ o สรุปโดยใชส้ านวน คาพงั เพย สุภาษิต คาคม

๓ หลกั การเขยี นสารคดี หลกั การเขยี นสารคดี การต้ังจุดมุ่งหมายในการเขียน • เป็นสิ่งสาคญั เบ้ืองตน้ ของการเขียนสารคดี เพราะการเขียนสารคดีแต่ละ เร่ือง ผเู้ ขียนยอ่ มมีจุดมุ่งหมายในการเขียนแตกต่างกนั ออกไป • ควรต้งั จุดมุ่งหมายใหช้ ดั เจนวา่ เขียนสาหรับใคร เพอ่ื กลน่ั กรองเน้ือหา ภาษาและประเดน็ ในการนาเสนอในรูปแบบท่ีเหมาะสมกบั วยั ของผอู้ ่าน การเลอื กเรื่อง • ควรเลือกเรื่องที่มีความถนดั มีความสนใจเป็นพิเศษ มีประสบการณ์ • เลือกเร่ืองที่คนส่วนใหญส่ นใจ ทนั สมยั และมีประโยชน์ต่อสงั คม

๓ หลกั การเขียนสารคดี (ต่อ) หลกั การเขียนสารคดี การรวบรวมข้อมูล • แหล่งความรู้ท่ีใชป้ ระกอบการเขียนสารคดี o หนงั สือ สารานุกรม นิตยสาร วารสาร o วทิ ยุ โทรทศั น์ อินเทอร์เน็ต o การสมั ภาษณ์ การสนทนาและการเกบ็ ขอ้ มลู ภาคสนาม การวางโครงเร่ือง • เป็นการต้งั กรอบความคิดในการเขียนสารคดีวา่ สารคดีท่ีจะเขียนน้นั จะ บรรจุเน้ือหาอะไรใหผ้ อู้ ่านไดอ้ ่านบา้ ง • เน้ือหาบางอยา่ งมีแง่มุมหลากหลาย ซ่ึงแง่มุมบางอยา่ งกไ็ ม่จาเป็นตอ้ งเขียน เพราะหากเขียนถึงแลว้ อาจทาใหเ้ ร่ืองราวน้นั ไม่น่าอ่านกไ็ ด้

๓ หลกั การเขยี นสารคดี (ต่อ) หลกั การเขยี นสารคดี การเขียนบทนาเร่ือง • บอกตรงๆ วา่ ใจความหรือแนวคิดสาคญั ของเรื่องจะกล่าวถึงเรื่องอะไร • นาเสนอปัญหาใหค้ ิด เพอื่ นาไปสู่การอภิปรายหรือแกป้ ัญหา ซ่ึงเป็น เน้ือหาโดยละเอียด • นาดว้ ยเรื่องท่ีเป็นข่าวครึกโครม ซ่ึงผเู้ ขียนติดตามสถานการณ์ มีขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จริงในการเขียนอยา่ งละเอียดมากพอ • นาดว้ ยเรื่องราวหรือเหตุการณ์ในอดีต • นาดว้ ยขอ้ ความที่ยวั่ ยใุ หผ้ อู้ ่านคิดหาคาตอบ • นาดว้ ยการต้งั ขอ้ สงั เกตหรือการเสนอสภาพการณ์อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง • นาดว้ ยสุภาษิต สานวนโวหาร คาพงั เพย คาประพนั ธ์หรือขอ้ ความจาก วรรณกรรม

๓ หลกั การเขยี นสารคดี (ต่อ) หลกั การเขยี นสารคดี การเขียนเนือ้ เรื่อง • ตอ้ งจดั ลาดบั ความคิดที่จะนาเสนอตามลาดบั โดยการวางโครงเร่ือง คร่าวๆ และเขียนตามโครงร่างน้นั • ตอ้ งเป็นไปตามลาดบั และเน้ือหาตอ้ งตรงตามจุดประสงคท์ ่ีวางไว้ • อาจแทรกความเพลิดเพลินบา้ ง แต่ถา้ แทรกความบนั เทิงมากไป จะทาให้ คุณค่าของสารคดีนอ้ ยลง • ตอ้ งมีขอ้ มูลหรือหลกั ฐานประกอบ มีแหล่งขอ้ มลู ท่ีเชื่อถือได้ • ตอ้ งแสดงความคิดสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อสงั คม • มีความเป็นกลาง ไม่ยวั่ ยใุ หเ้ กิดความเคียดแคน้ ชิงชงั แตกความสามคั คี • มีมารยาทในการเขียน มีคุณธรรมและรับผดิ ชอบในงานเขียนของตนเอง

๓ หลกั การเขยี นสารคดี (ต่อ) หลกั การเขยี นสารคดี การเขยี นสรุป • สรุปใหเ้ ห็นความสาคญั ของเน้ือเร่ืองที่นาเสนอ • สรุปความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กบั ชีวติ และสงั คม • สรุปเน้ือหาเพ่ือโนม้ นา้ วใหเ้ กิดความร่วมมือในดา้ นต่างๆ • สรุปเพื่อใหเ้ กิดความตระหนกั ผู้เขียนต้องอ่านทบทวนการใช้ภาษา • ใชค้ าสุภาพเหมาะสมกบั เน้ือเร่ือง • ใชภ้ าษาที่มีศกั ด์ิของคาในระดบั เดียวกนั ไม่นาภาษาสแลงมาใช้ • ไม่มีการตดั หรือลดทอนรูปประโยค • ภาษาตอ้ งไม่แสดงออกถึงความรุนแรง • หลีกเลี่ยงการใชภ้ าษาท่ีฟ่ มุ เฟื อย

๔ การเขยี นสารคดที ่องเทย่ี ว (ต่อ) หลกั ในการเขียนสารคดที ่องเท่ยี ว • เขียนดว้ ยขอ้ มูลท่ีถกู ตอ้ งแทจ้ ริง น่าสนใจ • ผเู้ ขียนสารคดีท่องเที่ยวตอ้ งเดินทางท่องเที่ยวไปยงั สถานท่ีน้นั ดว้ ย ตนเอง ไม่ใช่นึกฝันเอาหรือถ่ายทอดมาจากคาบอกเล่าของผอู้ ื่น • พยายามเขียนใหผ้ อู้ ่านไดค้ วามรู้มากที่สุด ในเวลานอ้ ยที่สุด • ใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั สถานท่ีน้นั อยา่ งสมบูรณ์เท่าท่ีจะทาได้ o สภาพภมู ิประเทศ o ความเป็นอยขู่ องผคู้ น ขนบธรรมเนียมประเพณี ค่านิยมและ วฒั นธรรม o รายละเอียดปลีกยอ่ ยที่จะเป็นคู่มือสาหรับนกั เดินทาง เช่น ค่าใชจ้ ่ายในการเดินทาง สถานที่สาคญั ค่าที่พกั ค่าอาหาร

๔ การเขียนสารคดที ่องเทย่ี ว (ต่อ) หลกั ในการเขยี นสารคดที ่องเที่ยว • ใชศ้ ิลปะในการเล่าใหผ้ อู้ ่านเพลิดเพลิน ไม่หนกั สมองจนเกินไป • ควรมีภาพประกอบ ซ่ึงเป็นส่วนสาคญั ยง่ิ ของสารคดีท่องเท่ียว ยงิ่ มีภาพ มากและมีสีสวยงามจะเป็นการจูงใจผอู้ ่าน ช่วยทาใหเ้ กิดความเขา้ ใจ และทาใหห้ นงั สือมีคุณค่ามากข้ึน • ควรแทรกเกร็ด ตานาน นิทาน เรื่องขาขนั เกี่ยวกบั สถานที่ต่างๆ • ใหค้ วามรู้และความบนั เทิงไปพร้อมกนั ดว้ ยเกร็ดต่างๆ • ควรใหข้ อ้ สงั เกตและแสดงทรรศนะส่วนตนต่อสิ่งท่ีพบเห็น ตลอดจน ทศั นคติเชิงเปรียบเทียบกบั ส่ิงที่พบเห็น • ทศั นคติของผเู้ ขียนเป็นสิ่งท่ีผอู้ ่านตอ้ งระวงั อยา่ ด่วนสรุปง่ายๆ ขอ้ มลู ควรไดม้ าจากการเห็นประจกั ษด์ ว้ ยตนเอง ไม่ควรเกบ็ มาจากคาบอกเล่า ของนกั ท่องเท่ียวคนอื่นแลว้ นามาขยาย

๔ การเขยี นสารคดที ่องเทยี่ ว (ต่อ) หลกั ในการเขยี นสารคดที ่องเท่ยี ว

๔ การเขยี นสารคดที ่องเทยี่ ว (ต่อ) หลกั ในการเขยี นสารคดที ่องเท่ยี ว

๕ การเขยี นสารคดเี กยี่ วกบั สัตว์ การเขียนสารคดเี กยี่ วกบั สัตว์ • การเขียนสารคดีเกี่ยวกบั สตั วเ์ ป็นการบรรยายสภาพธรรมชาติ ลกั ษณะ กิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่สตั วเ์ ขา้ ไปเก่ียวขอ้ งหรือประวตั ิความเป็นมาของ สตั วก์ ไ็ ด้ • การบรรยายจะมีความยาวหรือส้นั ข้ึนอยกู่ บั โอกาสและเน้ือหา ขอ้ สาคญั คือตอ้ งทาใหผ้ อู้ ่านติดตามเรื่องราวโดยไม่สบั สน สามารถมองเห็นภาพ มองเห็นความเคลื่อนไหวในเรื่องท่ีเขียนไดช้ ดั เจน

๕ การเขียนสารคดเี กย่ี วกบั สัตว์ (ต่อ) หลกั ในการเขียนสารคดเี กยี่ วกบั สัตว์ • เป็นการเขียนบรรยายใหเ้ ห็นภาพที่เคล่ือนไหวหรือกิริยาอาการท่ี ต่อเน่ืองกนั ไป โดยผอู้ ่านสามารถเห็นภาพเหล่าน้นั ไม่ขาดตอน • เขียนใหเ้ ห็นภาพหรือลีลาเคล่ือนไหวของกิริยาอาการของสิ่งท่ีจะบรรยาย • เขียนตามภาพที่นึกเห็นโดยคร่าวๆ ก่อน • ปรับปรุงแกไ้ ขขอ้ ความท่ีเขียนไวค้ ร่าวๆ น้นั ใหไ้ ดค้ วามสมบรู ณ์ตาม ตอ้ งการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook