กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาษาไทย หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๔
คาแนะนาในการใช้ PowerPoint - กดป่ ุม Slide Show ทแ่ี ถบด้านบนหรือด้านล่าง - กดป่ มุ Esc ยกเลกิ คาส่ังหรือออกจาก Slide Show - กดป่ มุ ลูกศรหรือคลกิ ส่วนใดในหน้า Slide เพ่ือเล่ือนไปหน้าถดั ไป
คาแนะนาในการใช้ PowerPoint กดป่ ุมนี้ กลบั ไปหน้าสารบัญ (Contents) PowerPoint นี้ เหมาะสาหรับคอมพวิ เตอร์ทใ่ี ช้โปรแกรม Microsoft Office 2010 การใช้เวอร์ชั่นอื่นๆ หรือ เวอร์ช่ันทตี่ ่ากว่า คุณสมบตั บิ างอย่างอาจทางานไม่สมบูรณ์
สารบญั ตอนท่ี ๑ การอ่าน ๑หน่วยการเรียนรู้ท่ี การอ่ านออกเสียงบทร้ อยแก้วและบทร้ อยกรอง ๒หน่วยการเรียนรู้ท่ี การอ่านส่ือสิ่งพมิ พ์และสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ ๓หน่วยการเรียนรู้ท่ี การอ่านแปลความ ตีความ และขยายความ ๔หน่วยการเรียนรู้ท่ี การอ่านเพอ่ื แสดงความคดิ เห็น
สารบญั ตอนที่ ๒ การเขยี น ๑หน่วยการเรียนรู้ท่ี การเขยี นบนั ทกึ ความรู้ ๒หน่วยการเรียนรู้ที่ การเขยี นเรียงความ ย่อความ จดหมาย ๓หน่วยการเรียนรู้ท่ี การเขยี นอธิบาย ๔หน่วยการเรียนรู้ที่ การกรอกแบบรายการ
สารบญั ตอนท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด ๑หน่วยการเรียนรู้ท่ี หลกั การฟังและการดูส่ือ ๒หน่วยการเรียนรู้ที่ การสรุปความจากการฟัง การดู ๓หน่วยการเรียนรู้ที่ การพูดต่อที่ประชุมชน
สารบญั ตอนที่ ๔ หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ๑หน่วยการเรียนรู้ที่ ธรรมชาติและพลงั ของภาษา ๒หน่วยการเรียนรู้ที่ ลกั ษณะของภาษาไทย ๓หน่วยการเรียนรู้ที่ คาราชาศัพท์ ๔หน่วยการเรียนรู้ที่ การแต่งคาประพนั ธ์ประเภทกาพย์และโคลง
ตอนท่ี ๑ การอ่าน การอ่าน เป็นเคร่ืองมือท่ีสาคญั อยา่ งหน่ึงในการแสวงหาความรู้เพื่อพฒั นาตนเอง ใหเ้ ป็นคนรอบรู้ ทนั เหตุการณ์และสามารถอ่านสารต่างๆ ไดอ้ ยา่ งแตกฉาน ถูกตอ้ ง ตามอกั ขรวธิ ี ซ่ึงปัจจุบนั มีส่ือต่างๆ ใหเ้ ลือกอยา่ งหลากหลายท้งั ประเภทร้อยแกว้ และร้อยกรอง o หากผูอ้ ่านเขา้ ใจหลกั การอ่านและมีวิจารณญาณในการเลือกอ่านสารท่ีมีคุณค่า ยอ่ มส่งผลใหก้ ารอ่านเกิดประโยชนแ์ ละผอู้ ่านไดร้ ับอรรถรสจากการอ่าน o การอ่านเป็ นทกั ษะท่ีสาคญั ในการรับสาร และมีความจาเป็ นในชีวิตประจาวนั ไม่วา่ จะเป็นการอ่านออกเสียงหรืออ่านในใจโดยเฉพาะการอ่านออกเสียงจาเป็น อย่างย่ิงที่จะต้องศึกษาและทาความเข้าใจเกี่ยวกับรู ปแบบ จังหวะ และ ท่วงทานองในการอ่านให้เขา้ ใจและฝึ กการอ่านใหถ้ ูกตอ้ งและชดั เจน จึงจะทา ใหก้ ารอ่านสมั ฤทธิผลและเกิดประโยชน์สูงสุด
๑หน่วยการเรียนรู้ที่ การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอ่าน เป็นทกั ษะท่ีสาคญั ในการรับสาร และมีความจาเป็นในชีวติ ประจาวนั ไม่วา่ จะ เป็ นการอ่านออกเสียงหรื ออ่านในใจ โดยเฉพาะการอ่าน ออกเสียงจาเป็นอยา่ งยง่ิ ที่ จะตอ้ งศึกษาและทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั รูปแบบ จงั หวะ และท่วงทานองในการอ่าน ใหเ้ ขา้ ใจและฝึกการอ่านใหถ้ ูกตอ้ งและชดั เจน จึงจะทาใหก้ ารอ่านสมั ฤทธิผลและ เกิดประโยชน์สูงสุด
๑ การอ่านบทร้อยแก้ว ร้อยแก้ว หมายถึง บทประพนั ธท์ ี่เรียบเรียงตามภาษาที่ใชเ้ ขียนหรือพูดกนั ทวั่ ไป ภาษาท่ีใชส้ าหรับร้อยแกว้ ไม่มีการบงั คบั สมั ผสั หรือกาหนดจานวนคาแต่อยา่ งใด เป็นภาษาที่ใชส้ ื่อสารเพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจเป็นสาคญั บันเทงิ คดี เป็นลกั ษณะงานประพนั ธ์ท่ีมีเน้ือหามุ่งจะเสนอเร่ืองท่ีแต่งข้ึน จากจินตนาการเพื่อความเพลิดเพลินเป็นหลกั งานประพนั ธ์ประเภทบนั เทิงคดี ไดแ้ ก่ นิทาน เรื่องส้นั นวนิยาย นิยายอิงพงศาวดาร และนิทานชาดก สารคดี เป็นลกั ษณะงานประพนั ธท์ ่ีมีเน้ือหามุ่งเสนอขอ้ เทจ็ จริงที่เป็น ความรู้ ขอ้ คิดเป็นหลกั งานประพนั ธ์ประเภทสารคดี ไดแ้ ก่ ความเรียง บทความ สารคดี รายงาน ตารา พงศาวดาร กฎหมาย จดหมายเหตุ พระราชหตั ถเลขา จารึก และคมั ภีร์ศาสนา
๑ การอ่านบทร้อยแก้ว (ต่อ) ๑.๑ หลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว ๑. ก่อนอ่านควรศึกษาเร่ืองท่ีอ่านใหเ้ ขา้ ใจโดยตลอด โดยเขา้ ใจท้งั สาระสาคญั ของเร่ืองและขอ้ ความทุกขอ้ ความ เพือ่ แบ่งวรรคตอนในการอ่านไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ๒. อ่านใหถ้ ูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ีในภาษา ท้งั ภาษาไทยและภาษาท่ียมื มาจาก ภาษาอ่ืนๆ เช่น บาลี สนั สกฤต เขมร เป็นตน้ รวมท้งั คาที่ถูกตอ้ งตามความนิยม โดยอาศยั หลกั การอ่านจากพจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถานเป็นสาคญั
๑ การอ่านบทร้อยแก้ว (ต่อ) ๑.๑ หลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว ๓. ผอู้ ่านตอ้ งมีสมาธิและความมน่ั ใจในการอ่าน ไม่อ่านผดิ อ่านตก หรือ อ่านเติม เวลาอ่านตอ้ งควบคุมสายตาใหไ้ ล่ไปตามตวั อกั ษรทุกตวั ในแต่ละ บรรทดั จากซา้ ยไปขวา ดว้ ยความรวดเร็ววอ่ งไว และรอบคอบ แลว้ ยอ้ นสายตา กลบั ลงไปยงั บรรทดั ถดั ไปอยา่ งแม่นยา ๔. อ่านออกเสียงใหเ้ ป็นเสียงพดู อยา่ งธรรมชาติ โดยเนน้ เสียงหนกั เบา สูง ต่า ตามลกั ษณะการพดู โดยทวั่ ไป
๑ การอ่านบทร้อยแก้ว (ต่อ) ๑.๑ หลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว ๕. อ่านออกเสียงใหด้ งั พอสมควร ใหเ้ หมาะกบั สถานที่และจานวนผฟู้ ัง ไม่ดงั หรือค่อยจนเกินไป จะทาใหผ้ ฟู้ ังเกิดความราคาญและไม่สนใจ ๖. กาหนดความเร็วใหเ้ หมาะสมกบั ผฟู้ ังและเร่ืองที่อ่าน ไม่อ่านเร็วหรือชา้ เกินไป การอ่านเร็วเกินไปทาใหผ้ ฟู้ ังจบั ใจความไม่ทนั แต่การอ่านชา้ เกินไป ทาใหผ้ ฟู้ ังเกิดความราคาญได้ ผอู้ ่านจึงตอ้ งพิจารณาพ้นื ความรู้ของผฟู้ ังและ พิจารณาประเภทของเรื่องท่ีอ่านดว้ ย
๑ การอ่านบทร้อยแก้ว (ต่อ) ๑.๑ หลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว ๗. อ่านใหถ้ ูกจงั หวะวรรคตอน ตอ้ งอ่านใหจ้ บคาและไดใ้ จความ ถา้ เป็น คายาวหรือคาหลายพยางค์ ไม่ควรหยดุ กลางคาหรือตดั ประโยคจนเสียความ ๘. มีการเนน้ คาท่ีสาคญั และคาท่ีตอ้ งการ เพ่ือใหเ้ กิดจินตภาพท่ีตอ้ งการ ควรเนน้ เฉพาะคา ไม่ใช่ท้งั วรรคหรือท้งั ประโยค “พิมนิ่งงนั คาพดู ของแม่บาดลกึ เขา้ ไปในความรู้สึก”
๑ การอ่านบทร้อยแก้ว (ต่อ) ๑.๑ หลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว ๙. เม่ืออ่านขอ้ ความท่ีมีเคร่ืองหมายวรรคตอนกากบั ควรอ่านใหถ้ ูกตอ้ ง ตามหลกั ภาษา ส่วนคาท่ีใชอ้ กั ษรยอ่ ตอ้ งอ่านใหเ้ ตม็ คา เช่น ทูลเกลา้ ฯ อ่านวา่ ทูน - เกลา้ - ทูน - กระ - หม่อม พ.ศ. อ่านวา่ พดุ - ทะ - สกั - กะ - หราด ๑๐. เมื่ออ่านจบยอ่ หนา้ หน่ึงควรผอ่ นลมหายใจและเม่ือข้ึนยอ่ หนา้ ใหม่ ควรเนน้ เสียงและทอดเสียงใหช้ า้ ลงกวา่ ปกติเลก็ นอ้ ย เพอื่ ดึงความสนใจ จากผฟู้ ัง จากน้นั จึงใชเ้ สียงในระดบั ปกติ
๑ การอ่านบทร้อยแก้ว (ต่อ) ๑.๒ การอ่านในใจ เป็นการทาความเขา้ ใจสญั ลกั ษณ์ที่มีผบู้ นั ทึก ไวเ้ ป็นลายลกั ษณ์อกั ษร รูปภาพ และเครื่องหมายต่างๆ แลว้ ผอู้ ่านจะตอ้ งทาความเขา้ ใจโดยแปลสญั ลกั ษณ์ ที่บนั ทึกไวน้ ้นั ใหต้ รงตามความตอ้ งการของผบู้ นั ทึก การอ่านในใจจึงใชเ้ พยี งสายตากวาดไปตาม ตวั อกั ษรหรือสญั ลกั ษณ์ต่างๆ แลว้ ใชค้ วามคิดแปลความ ตีความ รับสารต่างๆ ท่ีอ่านน้นั ทาใหผ้ อู้ ่านไดร้ ับความรู้ ความคิด และความบนั เทิง อนั เป็นจุดมุ่งหมาย ของการอ่านโดยทวั่ ไป
๒ การอ่านบทร้อยกรอง ภาษาไทยเป็นภาษาดนตรีมีเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั คือ มีเสียงวรรณยกุ ต์ ๕ ระดบั เสียง เม่ือนาถอ้ ยคามาเรียงร้อยเขา้ ดว้ ยกนั แลว้ จะก่อใหเ้ กิดบทร้อยกรองหลาย ลกั ษณะ เช่น กาพย์ กลอน โคลง ร่าย และฉนั ท์ นอกจากน้นั ยงั มีการนาบทร้อยกรองบางรูปแบบมาประสมประสานกนั แลว้ เรียกวา่ กาพยห์ ่อโคลงบา้ ง กาพยเ์ ห่บา้ ง ลิลิตบา้ ง บทร้อยกรองท่ีคนไทย ไดส้ ร้างสรรคม์ าแต่โบราณน้ีลว้ นงดงามดว้ ยวรรณศิลป์ ท้งั สิ้น การอ่านบทร้อยกรองใหม้ ีความไพเราะ เกิดความซาบซ้ึงและมีอารมณ์ร่วม ผอู้ ่านตอ้ งอ่านบทร้อยกรองท้งั อ่านออกเสียงเป็นทานองต่างๆ ตามลกั ษณะฉนั ทลกั ษณ์ อนั เป็นส่ิงกาหนดทานองใหแ้ ตกต่างกนั ออกไป
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) ๒.๑ ลกั ษณะของบทร้อยกรองประเภทต่างๆ โคลง • เป็นคาประพนั ธ์ด้งั เดิมของไทย แพร่หลายอยา่ งนอ้ ยราวตน้ กรุงศรีอยธุ ยา • เป็นโคลงท่ีไดร้ ับอิทธิพลจากโคลงที่แพร่หลายในลา้ นนา • เป็นพ้นื ฐานสาหรับการแต่งและอ่านคาประพนั ธป์ ระเภทโคลงในปัจจุบนั ฉันท์ • เป็นคาประพนั ธป์ ระเภทหน่ึง มีการบงั คบั เสียงหนกั เสียงเบา (ครุ ลหุ) • ฉนั ทร์ ุ่นเก่า เช่น สมุทรโฆษ อนิรุทธ์ • ฉนั ทป์ ัจจุบนั เริ่มต้งั แต่สมยั รัชกาลที่ ๓ มีการนาคาบาลี สนั สกฤต มาใช้
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) ๒.๑ ลกั ษณะของบทร้อยกรองประเภทต่างๆ กาพย์ • นิยมแต่งมี ๓ ประเภท คือ กาพยย์ านี ๑๑ กาพยฉ์ บงั ๑๖ และกาพย์ สุรางคนางค์ ๒๘ • ในสมยั โบราณนิยมแต่งกาพยท์ ้งั ๓ ประเภทน้ีสลบั กนั กลอน • เป็นคาประพนั ธท์ ่ีเกิดหลงั สุด แต่งง่ายท่ีสุด และแพร่หลายมากท่ีสุด • มีจงั หวะและทานองเฉพาะตวั คือ กลอน ๑ บท มี ๔ วรรค ไดแ้ ก่ วรรคสดบั วรรครับ วรรครอง และวรรคส่ง • การอ่านคากลอนจะเนน้ ใหเ้ ห็นสมั ผสั นอกที่ถูกตอ้ งชดั เจน และถา้ มี สมั ผสั ในเพ่ิมดว้ ยจะช่วยใหค้ ากลอนมีความไพเราะมากยงิ่ ข้ึน
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) ๒.๑ ลกั ษณะของบทร้อยกรองประเภทต่างๆ ร่าย • เป็นคาประพนั ธ์ที่เก่าแก่ท่ีสุดของไทย • ขอ้ บงั คบั ต่างๆ มีเพียงคาสุดทา้ ยส่งสมั ผสั ไปยงั วรรคถดั ไป จะมีกี่วรรคกไ็ ด้ • ประเภทร่าย ประกอบดว้ ย ร่ายสุภาพ ร่ายโบราณ ร่ายด้นั และร่ายยาว • ร่ายสุภาพจะมีวรรคละ ๕ คา จบดว้ ยโคลงสองสุภาพหรือโคลงสามสุภาพ • ร่ายยาวเป็นร่ายท่ีไม่กาหนดจานวนคาในวรรคหน่ึงๆ แต่ละวรรคอาจมีคา นอ้ ยมากแตกต่างกนั ไป • ร่ายด้นั จะจบดว้ ยโคลงสองด้นั หรือโคลงสามด้นั • การกาหนดจงั หวะในการอ่านร่ายชนิดต่างๆ ไม่แน่นอน เพราะมีจานวนคา ไม่แน่นอน
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) ๒.๒ การอ่านบทร้อยกรอง อ่านออกเสียงธรรมดา • อ่านออกเสียงพดู ธรรมดาเหมือนอ่านออกเสียงร้อยแกว้ • เวน้ จงั หวะวรรคตอนใหถ้ ูกตอ้ งตามลกั ษณะบงั คบั ของคาประพนั ธ์แต่ละชนิด • มีการเนน้ คารับสมั ผสั เพอ่ื เพมิ่ ความไพเราะ • สามารถใส่อารมณ์ใหเ้ หมาะสมสอดคลอ้ งกบั เน้ือหาท่ีอ่านได้ อ่านทานองเสนาะ • เป็นการอ่านท่ีมีสาเนียงสูง ต่า หนกั เบา ยาว ส้นั ทอดเสียง เอ้ือนเสียง เนน้ จงั หวะ เนน้ สมั ผสั ในชดั เจนไพเราะ และทาใหเ้ กิดอารมณ์คลอ้ ยตาม • ตอ้ งมีสาเนียง น้าเสียงเหมาะสมกบั ลกั ษณะเน้ือความที่อ่าน เช่น บทเลา้ โลม เก้ียวพาราสี ตดั พอ้ โกรธเกร้ียว คร่าครวญโศกเศร้า ซ่ึงตอ้ งฝึกฝนโดยเฉพาะ
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) คุณสมบัตผิ ู้อ่าน • มีความรู้เรื่องฉนั ทลกั ษณ์ของบทร้อยกรองที่จะอ่าน • มีความช่างสงั เกต รอบคอบ ปฏิภาณไหวพริบดี • มีทกั ษะและสมาธิในการอ่าน ไม่อ่านผดิ อ่านตกหล่น หรือต่อเติม • มีความเพียรพยายาม มีความอดทนในการฝึกฝนการอ่านอยา่ งสม่าเสมอ • มีความรักและสนใจการอ่านอยา่ งแทจ้ ริง • มีความเชื่อมน่ั ในตนเอง กลา้ แสดงออก • มีสุขภาพดี • มีน้าเสียงแจ่มใส อวยั วะในการออกเสียงไม่ผดิ ปกติ
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) หลกั เกณฑ์ในการอ่าน • ศึกษาคาประพนั ธใ์ หเ้ ขา้ ใจถ่องแท้ จดจารูปแบบ และขอ้ บงั คบั ใหแ้ ม่นยา • อ่านร้อยแกว้ ธรรมดา ออกเสียงดงั ชดั เจนใหไ้ ดจ้ งั หวะหรือช่วยเสียงตาม รูปแบบร้อยกรองชนิดน้นั ๆ ออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ งชดั เจน • ฝึกอ่านทอดเสียงโดยอ่านผอ่ นเสียงและผอ่ นจงั หวะใหช้ า้ ลง • อ่านใส่ทานองเสนาะ แบ่งช่วงเสียงของคาในวรรค ในบาท ในบท ไดถ้ ูกตอ้ ง สอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะวรรณศิลป์ ท่ีมีอยใู่ นบทร้อยกรองน้นั ๆ • ฝึกอ่านบทร้อยกรองชนิดต่างๆ เพื่อใหร้ ู้จงั หวะ วรรคตอน ท่วงทานอง ลีลา จนเกิดความแม่นยาในทานอง • เพ่มิ ศิลปะโดยวธิ ีการทอดเสียง เอ้ือนเสียง คร่ันเสียง ครวญเสียง หลบเสียง กระแทกเสียง และฝึกการใส่อารมณ์ใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือความท่ีอ่าน
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านกลอนสุภาพ • วรรคหน่ึงอาจมีจานวนคา ๖-๙ คา มิไดม้ ี ๘ คาเสมอไป • “ตอนตน้ สาม ตอนสอง ตอ้ งแสดง ตอนสามแจง้ สามคา ครบจานวน” คงไม่ได้ • “กาหนดบท ระยะ กะสมั ผสั ” และ “วางจงั หวะ กะทานอง ตอ้ งกระบวน” “จึงจะชวน ฟังเสนาะเพราะจบั ใจ”
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านกลอนสุภาพ ข้อควรคานึง • อ่านคาใหเ้ อ้ือสมั ผสั ในเพ่อื เพิ่มความไพเราะ • ตอ้ งคานึงถึงความถูกตอ้ งตามความหมาย ซ่ึงอาจส่ือความหมายผดิ พลาดได้
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านกาพย์ กาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบงั ๑๖
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านกาพย์ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านโคลงส่ีสุภาพ ข้อเสนอแนะ • อ่านใหถ้ ูกตอ้ งตามขอ้ บงั คบั ของคาเอกและคาโท • อ่านใหถ้ ูกตอ้ งตามลกั ษณะของการใชค้ ายตั ิภงั ค์
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านโคลงสี่สุภาพ
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านฉันท์ อนิ ทรวเิ ชียรฉันท์ ๑๑
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านฉันท์ วสันตดลิ กฉันท์ ๑๔
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านฉันท์ ข้อควรคานึง • หากคาใดมีเคร่ืองหมาย ยติภงั คค์ น่ั ตอ้ งอ่านคาเตม็ ก่อนแลว้ จึงอา่ นตามคณะฉนั ท์ • ถา้ เป็นสมั ผสั นอก ตอ้ งทอดเสียงใหม้ ีจงั หวะยาวกวา่ ปกติ
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านร่าย ร่ายยาว
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) การอ่านร่าย ร่ายสุภาพ
๒ การอ่านบทร้อยกรอง (ต่อ) ๒.๓ การอ่านและพจิ ารณาบทร้อยกรอง เนื้อหาสาระ • แสดงถึงความรู้สึกนึกคิดท่ีใหป้ ระโยชน์แก่การดารงชีวติ • ไดร้ ับอะไรจากการอ่านบท ร้อยกรองน้นั บา้ ง รูปแบบ • บทร้อยกรองท่ีอ่านเป็นคาประพนั ธช์ นิดใด ประพนั ธ์ตามกฎเกณฑห์ รือไม่ เลือกใชฉ้ นั ทลกั ษณ์ไดเ้ หมาะสมกบั เน้ือหาหรือไม่ • พจิ ารณาศิลปะการประพนั ธ์ในดา้ นต่างๆ การสรรคา การใชภ้ าพพจน์ ความไพเราะ ความลึกซ้ึงกินใจ
๒หน่วยการเรียนรู้ท่ี การอ่านสื่อส่ิงพมิ พ์และสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ ปัจจุบัน เทคโนโลยกี ารพมิ พม์ ีความเจริญ กา้ วหนา้ อยา่ งรวดเร็วดว้ ยวทิ ยาการท่ีทนั สมยั และ สามารถเผยแพร่ส่ือสิ่งพิมพต์ ่างๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว และมีความหลากหลายในการนาเสนอขอ้ มูล ข่าวสาร สาระและความบนั เทิง ในรูปแบบของ ส่ือสิ่งพมิ พป์ ระเภทหนงั สือท้งั สารคดีและบนั เทิง คดี ตลอดจนสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ ผอู้ ่านตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจในส่ือที่อ่านและ เลือกอ่านใหเ้ หมาะสม จึงจะทาใหก้ ารอ่าน สมั ฤทธิผลได้
๑ การอ่านสื่อส่ิงพมิ พ์ ส่ือ ทาการติดต่อใหถ้ ึงกนั ชกั นาใหร้ ู้จกั กนั ผหู้ รือสิ่งท่ีทาการติดต่อใหถ้ ึงกนั หรือชกั นาใหร้ ู้จกั กนั พมิ พ์ ถ่ายแบบ, ใชเ้ คร่ืองจกั รกดตวั หนงั สือหรือภาพใหต้ ิดบนวตั ถุ เช่น แผน่ กระดาษ ผา้ ทาใหเ้ ป็นตวั หนงั สือหรือรูปรอย โดยการกดหรือการใชพ้ ิมพห์ ิน เคร่ืองกล วธิ ีเคมี หรือวธิ ีอ่ืนใด อนั อาจใหเ้ กิดเป็นสิ่งพิมพข์ ้ึนหลายสาเนา สิ่งพมิ พ์ สมุด แผน่ กระดาษ หรือวตั ถุใดๆ ที่พิมพข์ ้ึน รวมตลอดท้งั บทเพลง แผนท่ี แผนผงั แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผน่ เสียง หรือส่ิงอื่นใดอนั มีลกั ษณะ เช่นเดียวกนั
๑ การอ่านส่ือส่ิงพมิ พ์ (ต่อ) “ส่ือสิ่งพมิ พ์” สิ่งท่ีพิมพข์ ้ึน ไม่วา่ จะเป็นแผน่ กระดาษหรือวตั ถุใดๆ ดว้ ยวธิ ีการต่างๆ อนั เกิดเป็นชิ้นงานที่มีลกั ษณะเหมือนตน้ ฉบบั ข้ึนหลายสาเนา ปริมาณมาก เพอื่ เป็นส่ิงท่ีทาการติดต่อ หรือชกั นาใหบ้ ุคคลอ่ืนไดเ้ ห็นหรือทราบ ขอ้ ความต่างๆ ๑. สื่อสิ่งพมิ พป์ ระเภทหนงั สือ ๒. ส่ือสิ่งพิมพเ์ พือ่ เผยแพร่ข่าวสาร ๓. ส่ิงพิมพเ์ พอื่ การบรรจุภณั ฑ์
๑ การอ่านส่ือสิ่งพมิ พ์ (ต่อ) ๑. ส่ือส่ิงพมิ พ์ประเภทหนังสือ หนังสือสารคดี ตารา แบบเรียน • เน้ือหาวชิ าการในศาสตร์ความรู้ต่างๆ • เป็นส่ือส่ิงพมิ พท์ ี่เนน้ ความรู้อยา่ งถูกตอ้ ง หนังสือบันเทงิ คดี • ใชเ้ รื่องราวสมมติ เพือ่ ใหผ้ อู้ ่านไดร้ ับความเพลิดเพลินสนุกสนาน • มกั มีขนาดเลก็ เรียกวา่ หนงั สือฉบบั กระเป๋ า
๑ การอ่านส่ือสิ่งพมิ พ์ (ต่อ) ๒. ส่ือส่ิงพมิ พ์เพ่ือเผยแพร่ข่าวสาร หนังสือพมิ พ์ • นาเสนอเร่ืองราว ข่าวสาร ภาพและความคิดเห็น • รายวนั รายสปั ดาห์ และรายเดือน วารสาร นิตยสาร • การนาเสนอท่ีโดดเด่น สะดุดตา และสร้างความสนใจ • รายปักษ์ (๑๕ วนั ) และรายเดือน
๑ การอ่านสื่อสิ่งพมิ พ์ (ต่อ) ๒. ส่ือสิ่งพมิ พ์เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร จุลสาร • ไม่มุ่งหวงั ผลกาไร เป็นแบบใหเ้ ปล่า • เผยแพร่เป็นคร้ังๆ หรือลาดบั ต่างๆ ในวาระพิเศษ ส่ิงพมิ พ์โฆษณา • โบร์ชวั ร์ (Brochure) • ใบปลิว (Leaflet, Handbill) • แผน่ พบั (Folder) • ใบปิ ด (Poster)
๑ การอ่านสื่อสิ่งพมิ พ์ (ต่อ) ๓. ส่ิงพมิ พ์เพื่อการบรรจุภณั ฑ์ ส่ิงพมิ พ์โฆษณา • ใชใ้ นการห่อหุม้ ผลิตภณั ฑก์ ารคา้ ต่างๆ • สิ่งพิมพห์ ลกั ไดแ้ ก่ สิ่งพิมพท์ ่ีใชป้ ิ ดรอบขวด หรือกระป๋ องผลิตภณั ฑ์ การคา้ • ส่ิงพิมพร์ อง ไดแ้ ก่ ส่ิงพิมพท์ ี่เป็นกล่องบรรจุ หรือลงั
๒ การอ่านสื่อส่ิงพมิ พ์ประเภทเรื่องส้ัน เรื่องส้ัน • งานเขียนที่คลา้ ยนวนิยาย แต่มีขนาดส้นั และไม่ซบั ซอ้ น • ไม่ใช่แนวนิยายขนาดส้นั หรือการยอ่ นวนิยาย • เปล้ือง ณ นคร (๒๕๑๔ : ๗๑) ใหค้ วามหมายวา่ “เร่ืองส้นั หมายถึง เร่ืองซ่ึง บรรจุคาประมาณ ๑,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ คา เป็นเร่ืองท่ีอ่านรวดเดียวจบในระยะเวลา ไม่เกินส่ีสิบนาที และเร่ืองส้นั ตอ้ งมีเคา้ เร่ืองท่ีกระชบั และมีพฤติการณ์สาคญั อยา่ งเดียวโดยเฉพาะ” • กล่าวโดยสรุป เร่ืองส้นั จะตอ้ งมีขนาดส้นั โครงเรื่องง่าย ใชต้ วั ละครนอ้ ย การกระทาและพฤติกรรมของตวั ละครตอ้ งมุ่งไปสู่จุดสุดยอด (climax)
๒ การอ่านส่ือสิ่งพมิ พ์ประเภทเรื่องส้ัน (ต่อ) ๑. องค์ประกอบของเรื่องส้ัน แนวคดิ หรือแก่นของเร่ือง • สาระสาคญั ท่ีเขียนข้ึน มีแนวคิดสาคญั เพียงจุดเดียว เป็นแก่นของเร่ือง • แนวคิดอาจบอกตรงๆ หรืออาจจะตอ้ งตีความเอง • เรื่องส้นั ที่ดีตอ้ งเขียนใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจแก่นเร่ือง โครงเร่ือง • กระชบั ชดั เจน ไม่ซบั ซอ้ นเพือ่ เสนอแนวคิดท่ีผเู้ ขียนกาหนดไว้
๒ การอ่านสื่อส่ิงพมิ พ์ประเภทเร่ืองส้ัน (ต่อ) ๑. องค์ประกอบของเรื่องส้ัน เนื้อเร่ือง • เรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ • อาจเป็นเพียงส่วนหน่ึงของชีวติ • เป็นเร่ืองราวบางแง่มุมไม่ใช่เร่ืองราวละเอียดท้งั ชีวติ ของตวั ละคร ตัวละคร บทสนทนา • ตวั ละครหลกั มีเพียง ๑-๒ ตวั • ตวั ละครอ่ืนมีเท่าที่จาเป็นเท่าน้นั • ตวั ละครและบทสนทนาจะเล่าเร่ือง แสดงพฤติกรรมในเหตุการณ์ที่ สมเหตุสมผล • บทสนทนาจะใชเ้ ท่าท่ีจาเป็นเพ่ือทาใหเ้ น้ือเร่ืองและตวั ละครมีชีวติ ชีวา
๒ การอ่านส่ือสิ่งพมิ พ์ประเภทเรื่องส้ัน (ต่อ) ๑. องค์ประกอบของเร่ืองส้ัน ฉาก • ผเู้ ขียนจะ ใชก้ ารบรรยาย หรือบอกผา่ นบทสนทนา • อาจเป็นฉากในชีวติ จริงหรือเหนือจริง แต่ไม่ชดั เจนเหมือนนวนิยาย • มีความสมั พนั ธ์กบั พฤติกรรมของตวั ละคร สอดคลอ้ งกบั โครงเร่ือง • หากผเู้ ขียนนาเสนอฉากท่ีผอู้ ่านไม่รู้จกั เช่น ฉากในต่างประเทศจะ บรรยายละเอียดข้ึนเพื่อใหผ้ อู้ ่านสร้างจินตนาการได้
๒ การอ่านสื่อสิ่งพมิ พ์ประเภทเรื่องส้ัน (ต่อ) ๒. ชนิดของเรื่องส้ัน ชนิดผูกเรื่อง • มีการกาหนดเคา้ เรื่องไวอ้ ยา่ งซบั ซอ้ น • มีการผกู ปมเรื่องใหเ้ กิดความฉงนสนเท่ห์ • บางคร้ังเน้ือเรื่องกท็ าใหผ้ อู้ ่านเขวไปทางหน่ึง แต่พอถึงตอนจบกลบั หกั มุม เป็นการจบท่ีผอู้ ่านคาดไม่ถึง ชนิดเพ่งแสดงลกั ษณะของตวั ละคร • มุ่งแสดงใหเ้ ห็นบุคลิกภาพของตวั ละครเป็นหลกั • ช้ีใหเ้ ห็นลกั ษณะนิสยั ของตวั ละคร ซ่ึงจะมีความโดดเด่นเป็นพเิ ศษ เช่น เกร้ียวกราด เมตตากรุณา ฉลาดเกินคน • สื่อสารเรื่องราวไดอ้ ยา่ งสมจริงและสอดคลอ้ งกบั ความรู้สึกท่ีตอ้ งการ
๒ การอ่านสื่อส่ิงพมิ พ์ประเภทเรื่องส้ัน (ต่อ) ๒. ชนิดของเร่ืองส้ัน ชนิดถือฉากเป็ นส่วนสาคญั • ผเู้ ขียนเนน้ การพรรณนาฉาก โดยมีตวั ละครเป็นส่วนประกอบท่ีเกี่ยวโยง อยใู่ นฉากน้นั • ผเู้ ขียนจะบรรยายฉากอยา่ งละเอียดจนผอู้ ่านสามารถเห็นภาพจากการอ่าน ไดช้ ดั เจน ชนิดแสดงแนวความคดิ เห็น • เป็นเร่ืองส้นั ในแนวอุดมคติที่ตอ้ งการช้ีใหเ้ ห็นประเดน็ ความคิดใด ความคิดหน่ึงท่ีผเู้ ขียนตอ้ งการจะบอกหรือช้ีใหเ้ ห็นถึงความเชื่อในส่ิงหน่ึง สิ่งใด รวมไปถึงการวพิ ากษส์ งั คมโดยผา่ นตวั ละคร
๒ การอ่านส่ือสิ่งพมิ พ์ประเภทเร่ืองส้ัน (ต่อ) ๓. แนวทางในการอ่านเรื่องส้ัน • พจิ ารณาชื่อเร่ือง และเน้ือเรื่องวา่ สอดคลอ้ งกนั หรือไม่ เพียงใด • พิจารณารูปแบบการเขียนวา่ ใชแ้ นวการเขียนแบบใด เช่น การเขียนโดย ใชเ้ หตุการณ์เป็นหลกั หรือใชค้ วามรู้สึกท่ีมีต่อสถานการณ์ที่เกิดข้ึน หรือใชส้ ญั ลกั ษณ์ • วเิ คราะห์วจิ ารณ์ลกั ษณะเด่นของเร่ืองส้นั เช่น โครงเร่ือง ตวั ละคร ฉาก บทสนทนาหรือสานวนภาษา วธิ ีดาเนินเรื่อง • พิจารณาแก่นเรื่องวา่ คืออะไร ผเู้ ขียนสามารถสื่อใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจไดอ้ ยา่ ง ชดั เจนหรือคลุมเครือ • สรุปความคิดเห็นของผเู้ ขียนจากการอ่านเร่ืองท่ีเป็นผลงานของเขา หลายๆ เรื่อง เช่น ตอ้ งการพฒั นาสงั คมใหด้ ีข้ึน ตอ้ งการช้ีใหเ้ ห็น ความสาคญั ของการศึกษา
๒ การอ่านสื่อสิ่งพมิ พ์ประเภทเร่ืองส้ัน (ต่อ) ตวั อย่างเรื่องส้ัน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286