สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ 7. สอื่ การสอน/แหลง่ การเรยี นรู้ 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นักเรยี นไดฝ้ กึ ความ - สอื่ การสอน ของนกั เรียน รับผดิ ชอบในการ 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแกใ้ ข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเร่อื งการนาํ ของใช้ การเปลย่ี นแปลง) มาโรงเรยี น 5.5 เลิกแถวและพานักเรยี นเดนิ แถวกลับ นกหวดี หนงั สอื เรียนวชิ าสุขศึกษา กรวย แผ่นยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวทบ์ อรด์ ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เรือ่ งทสี่ อนในชัว่ โมง Whiteboard eraser poster/Image media ลูกฟตุ บอล กรวยจราจร เสื้อเอ๊ยี มกีฬา ประตูฟุตบอล A Football Traffic cones Sports bib Goal
แหลง่ การเรยี นรู้ สรุ เชษฐ์ วศิ วธรี านนท.์ 2561. กฬี าฟุตบอลและกิจกรรมยืดหยุน่ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เลม่ 2. พมิ พค์ รง้ั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอรพ์ ร้นิ ทก์ รุ๊ป จํากดั . เทคนคิ การส่งบอลอย่างแม่นยาํ . 2560. [ออนไลน]์ . แหล่งท่มี า: https://www.youtube.com/watch?v=RDz4IHLOfpA [1 เมษายน 2563] 8. คาํ ศพั ทภ์ าษาอังกฤษ ความหมาย ทดสอบทักษะ ลาํ ดับ คําศพั ทภ์ าษาอังกฤษ กรวย 1 Skill test กรวยจราจร 2 Cone แผ่นยางมาร์กเกอร์ 3 Traffic cones การส่งบอลดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน 4 Marker การส่งบอลดว้ ยหลงั เทา้ 5 Inside Foot Passing การรับบอลข้างเท้าดา้ นใน 6 Instep Foot Receiving การหยดุ บอล 7 Inside Foot Receiving เสอ้ื เอีย๊ มกฬี า 8 Receiving the ball ประตฟู ุตบอล 9 Sports bib ผรู้ ักษาประตู 10 Goal การทมุ่ บอลเข้าเล่นจากขา้ งสนาม 11 Goalkeeper รูปแบบการเล่น 12 Throw in กองหลังตัวกลาง 2 ตวั 13 Formation กองกลาง 14 Centre Back กองกลางรมิ เส้นขวาและซ้าย 2 คน 15 Midfield กองหนา้ 16 Right and Left Half การเลน่ ทีม 17 Forward การแข่งขัน 18 Team play 19 Match
9. การวดั และประเมินผล ลําดับที่ เรอื่ ง เคร่อื งมือ แบบสงั เกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ว่ นรว่ มตลอดชัน้ เรยี น แบบตรวจสอบ 2 สํารวจเคร่อื งแต่งกายและบกั ทึกคะแนนความรับผิดชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสขุ ปฏบิ ตั ิ 3 สงั เกตการตอบคาํ ถามระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรม และผลสําเร็จของการฝึกทักษะและการนําไปใช้ วันที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศกึ ษา.................. หนว่ ยการเรียนรู้...................................... เรอ่ื ง...................................................................ระดับชั้น........................... ระดับ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง/เพ่ิมเติม) PQ นกั เรยี น 80% ข้นึ ไปว่ิงได้ นักเรยี น 60%-80% ว่ิงได้ นกั เรียนนอ้ ยกวา่ 60% ว่งิ ได้ สมรรถภาพทาง คลอ่ งแคลว่ ว่องไว คล่องแคล่ววอ่ งไว คล่องแคล่วว่องไว กาย นกั เรยี น 80% ข้นึ ไปเข้าแถวอย่าง นกั เรยี น 60%-80% เขา้ แถวอย่าง นักเรยี นน้อยกว่า 60% เขา้ แถว MQ คุณธรรม เป็นระเบยี บ แต่งกายเรยี บรอ้ ย เปน็ ระเบยี บ แตง่ กายเรยี บรอ้ ย อยา่ งเปน็ ระเบียบ แต่งกาย จริยธรรม พูดจาสุภาพ พดู จาสุภาพ เรียบรอ้ ย พดู จาสุภาพ AQ เจตคติ นกั เรียน 80% ขึ้นไปมคี วาม นักเรยี น 60%-80% มคี วาม นกั เรียนนอ้ ยกวา่ 60% มคี วาม สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนุกสนานจากการเรยี นและการ เลน่ เกม เล่นเกม เล่นเกม IQ ความรู้ นกั เรยี น 80% ขน้ึ ไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นักเรยี นนอ้ ยกว่า 60% สามารถ ความเขา้ ใจ อธิบายวิธีการรบั สง่ บอลกับคอู่ ย่าง อธิบายวธิ กี ารรบั ส่งบอลกบั ค่อู ย่าง อธบิ ายวธิ กี ารรับสง่ บอลกบั คู่ ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง อยา่ งถกู ตอ้ ง SQ ทักษะ นักเรยี น 80% ข้ึนไปสามารถ นกั เรยี น 60%-80% สามารถ นกั เรยี นน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏบิ ัตทิ กั ษะการรับส่งบอลกบั คู่ ปฏบิ ัตทิ ักษะการรับสง่ บอลกบั คู่ ปฏบิ ัติทักษะการรับส่งบอลกบั คู่ อยา่ งถูกตอ้ ง อยา่ งถกู ตอ้ ง อย่างถูกต้อง ระดบั คณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถงึ จํานวนนักเรยี น 80% ข้ึนไป ระดับ 2 หมายถึง จํานวนนักเรียน 60-80% ระดบั 1 หมายถึง จํานวนนกั เรียน้อยกวา่ 60% ลงช่ือ...........................................................ผู้ประเมิน
โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝา่ ยประถม บันทกึ หลังสอน กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2/...... หนว่ ย กีฬาฟุตบอล (Football) ภาคเรียน ปลาย เรอื่ ง ทดสอบทกั ษะรบั และสง่ บอล 2 คน (Skill test), เล่นทมี (Play) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) วนั ท.่ี .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอุปสรรค (ก่อนสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพ่อื ใช้ในการสอนคร้ังต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผสู้ อน
โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝา่ ยประถม แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 หน่วย กฬี าฟุตบอล (Football) ภาคเรียน ปลาย เรอ่ื ง ทดสอบทักษะเลี้ยงลูกบอล (Skill test), เลน่ ทมี (Play) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลอื่ นไหว การออกกําลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เข้าใจ มที ักษะในการเคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2: รกั การออกกําลงั กาย การเลน่ เกม และการเล่นกฬี า ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจาํ อยา่ งสมํ่าเสมอ มวี ินัย เคารพสทิ ธิ กฎกติกา มีนา้ํ ใจ มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และช่ืนชมในสนุ ทรีภาพของการกฬี า 2. ตัวชว้ี ัด พ 3.1 ป.2/1: ควบคมุ การเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยกู่ บั ที่ เคลอื่ นที่ และใช้อุปกรณป์ ระกอบ พ 3.1 ป.2/2: เล่มเกมเบ็ดเตลด็ และเขา้ รว่ มกิจกรรมทางกายที่วธิ เี ล่น อาศยั การเคลือ่ นไหวเบอื้ งตน้ ทง้ั แบบอยู่กบั ท่ี เคล่อื นท่ี และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกําลงั กาย และเล่นเกม ได้ดว้ ยตนเองอย่างสนุกสนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ าและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเป็นกลุ่ม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวธิ ีการเลยี้ งลกู บอลไดถ้ ูกตอ้ ง (IQ) 3.2 นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัตทิ ักษะการเลย้ี งลูกบอลไดถ้ กู ตอ้ ง (SQ) 3.3 นักเรียนมคี วามสนกุ สนานจากการเรียน การเลน่ เกม และการแขง่ ขนั (AQ) 3.4 นกั เรยี นมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายดา้ นความอดทนของระบบหวั ใจ ระบบไหลเวียนโลหติ ที่ดโี ดย การว่งิ รอบสนาม (PQ) 3.5 นกั เรยี นสามารถเข้าแถวอยา่ งเป็นระเบียบ แตง่ กายเรยี บร้อย พูดจาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสําคัญ การทดสอบทกั ษะการเลย้ี งลูกบอล เปน็ สว่ นหนึ่งของการวดั และประเมินผลทักษะทีไ่ ด้ฝกึ และเรยี นมาใน คาบเรียนตา่ ง ๆ เพ่ือใช้วดั พฒั นาการของนกั เรยี น และใช้เปน็ คะแนนเก็บของนักเรียนในด้านทกั ษะของวิชาพล ศกึ ษาชน้ั ป.2 5. ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวงั นกั เรยี น 80% สามารถปฏิบัตไิ ดต้ ามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้และสามารถนําเอาความรู้ไปใชไ้ ด้อย่าง คลอ่ งแคลว่ ในการเรียนการสอนรายวิชาอ่ืน และชวี ติ ประจําวัน 6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.ขน้ั เตรียม/อบอุน่ รา่ งกาย (10 นาท)ี ทักษะการเล้ยี งลูกบอลด้วยขา้ งเท้าดา้ น 1.1 ครเู ดินไปรับนกั เรียน แล้วพานกั เรยี น - นกั เรียนมีความเข้าใจ ใน (Inside Foot Dribbling) 1. ให้ใช้ข้างเท้าด้านในสมั ผสั ลกู บอลเบา ไปสถานทเี่ รยี น (สนาม 3) และปฏบิ ัตติ ามคาํ ส่งั ๆ และใชส้ ายตาชําเลืองดลู ูกบอล 2. การพาลูกบอลใหเ้ คลือ่ นท่ีไปนน้ั ต้อง 1.2 ครใู ห้นกั เรยี นวางถุงย่ามในช้ันวางของ ครผู สู้ อน สมั ผัสลูกบอลเบา ๆ ลูกบอลตอ้ งหา่ งจาก ตวั ไม่เกิน 1 กา้ ว และควรใชข้ ้างเท้าด้าน โดยใหน้ กั เรยี นชายไวแ้ ถวลา่ งของช้นั วาง และ ในท้งั 2 ข้างสัมผสั สลบั กันไป 3. ในขณะท่ีเลยี้ งลกู ลาํ ตวั และแขนต้อง นักเรยี นหญงิ วางไว้แถวบนของช้ันวางของ ไม่เกร็ง 1 1.3 ครใู หน้ ักเรยี นเข้าแถว 4 แถว หลัง - นกั เรยี นมคี วามเป็น กรวยทวี่ างไว้ใหต้ รง ตามกลมุ่ ระเบยี บเรยี บร้อย ภายในแถวตามท่ี กาํ หนด 1.4 อบอนุ่ รา่ งกาย (Warm – Up) - นักเรยี นมีความ พร้อมในการเรยี นทงั้ ครูให้นักเรยี นขยายแถวหน่งึ ช่วงแขนเพอ่ื อบอุ่น รา่ งกาย ทางดา้ นร่างกาย จติ ใจ และอารมณ์ 1.4.1 ครูนํานกั เรียนยืดเหยียดกลา้ มเน้อื 5 ท่า - นกั เรียนเคารพกตกิ า ภายในห้องเรยี นแต่ง กายเรียบรอ้ ย
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 2 ท่าท่ี 1 พับขาไปดา้ นหลงั เพอื่ ยดื ต้นขา - นักเรยี นบริหาร ด้านหน้า สลบั ชา้ งละ 10 วินาที รา่ งกายและอวัยวะ ตา่ งๆ ไดเ้ หมาะสมตาม วยั ท่าท่ี 2 ดึงเข่าขน้ึ สลับข้างละ 10 วินาที ท่าที่ 3 ท่าเหยียดต้นขาซ้ายและขวา สลับ ข้างละ 10 วินาที การเลี้ยงลูกบอลด้วยหลังเทา้ (Instep Foot Dribbling) 1. ให้ใชห้ ลงั เท้าบรเิ วณทเี่ ราผูกเชือก รองเท้าสมั ผสั ลกู บอล ปลายเท้าชี้ลงพ้ืน 2. โน้มตัวไปด้านหน้าเลก็ นอ้ ย ใชว้ ธิ กี าร ท่าที่ 4 นั่งพับขายืดต้นขาด้านหน้า ขาอีก สะกิดลูกไปดา้ นหน้า ลกู บอลตอ้ งห่างจาก ข้างเหยียดตรึง สลับขา้ งละ 10 วินาที ตัวไม่เกนิ 1 กา้ ว และควรใช้ข้างเทา้ ด้าน ในทัง้ 2 ข้างสลบั กนั ไป 3. ในขณะที่ในขณะที่เลย้ี งลกู ลาํ ตวั และ แขนไมต่ อ้ งเกร็ง
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ ทา่ ท่ี 5 ว่งิ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 1.5 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย ครใู ห้นักเรยี นวง่ิ รอบสนาม 3 รอบโดยครู - นักเรียนว่ิงไดอ้ ย่าง ว่งิ นําหนา้ นักเรียน และให้นักเรยี นวง่ิ ตามครู ต่อเนื่องโดยไมเ่ หนื่อย เปน็ แถวตอน 1 แถว 1 2. ขน้ั อธบิ ายและสาธิต (10นาท)ี 2 2.1 ครูให้นักเรยี นเข้าแถวตอน 4 กล่มุ เหมือนตอนแรก
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ การเล้ยี งลกู บอลซกิ แซก (Zigzag 2.2 ครูถามคาํ ถามเพอ่ื ทบทวนการเลย้ี ง -นักเรยี นฟัง ถามและ Dribbling) บอล ตอบคาํ ถาม คอื การพาลกู บอลเคลอื่ นที่ไปข้างหนา้ “การเลีย้ งบอล สามารถใชส้ ่วนใดของเทา้ เพอื่ แลกเปลีย่ นความ และเปล่ียนทิศทางซ้ายและขวาอยา่ ง เล้ียงบอลไปในทศิ ทางต่าง ๆ ไดบ้ ้าง” คดิ เห็นกบั ครผู ้สู อนได้ รวดเรว็ คล้ายกับการหลบหลกี คู่ต่อสู้ แนวคําตอบ : 2 ส่วน 1.) ข้างเทา้ ดา้ นใน 2.) อยา่ งเหมาะสม วิธปี ฏบิ ัติ หลังเท้า 1. ใหเ้ ลย้ี งบอลไปดา้ นขวาของหลกั เมื่อ “เทคนิคการเล้ยี งบอลท่ีดี ได้แกอ่ ะไรบา้ ง” ผ่านหลกั แรกใหใ้ ชเ้ ท้าขวาสมั ผสั บอล แนวคาํ ตอบ : 1.) ขณะเทา้ สะกดิ ลูกบอลไป เปล่ยี นทศิ ทางไปทางดา้ นซา้ ย และใชเ้ ทา้ ด้านหน้า ลูกบอลตอ้ งห่างจากตวั ไม่เกนิ 1 ซา้ ยควบคุมบอลไว้ ลาํ ตัวเองตามทศิ ทาง กา้ ว 2.) ขณะเลีย้ งบอล ลําตวั และแขนต้อง บอล ไม่เกร็ง 2. เลยี้ งลกู บอลตอ่ ไปด้วยด้านซา้ ยของ 2.3 ครอู ธิบายวธิ แี ละเกณฑ์ให้คะแนนการ หลัก เมือ่ ผา่ นหลักทส่ี อง ให้ใช้ข้างเท้าซา้ ย สอบทักษะการเลี้ยงบอลไปด้านหนา้ และ สัมผสั บอลเปล่ียนทิศทางไปทางด้านขวา ทกั ษะการเล้ยี งบอลซกิ แซก และใช้เทา้ ขวาควบคุมบอลไว้ ลาํ ตัวเอง 2.4 ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามข้อ ตามทศิ ทางบอล สงสยั อกี คร้ังก่อนฝึกปฏิบัติ 3.ข้ันการฝกึ หัดทักษะ (20 นาที) 3.1 ครูให้นักเรียนเข้าแถว 2 แถว ตามลาํ ดบั เลขที แถวที่1 เลขที่ 1-20 แถวท่ี 2 เลขท2ี่ 1-เลขทสี่ ุดทา้ ย 3.4 ครูเปา่ นกหวดี ให้สัญญาณนกั เรียนที่ - นกั เรียนปฏิบัติ สอบทักษะเร่ิมสอบไดท้ ล่ี ะ 2 คน เรียง ทกั ษะการเลี้ยงลูก ตามลาํ ดบั เลขที่ บอลไปด้านหน้าและ การเล้ียงลกู บอลซิก 1 แซกได้ถกู ตอ้ ง
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 2 3 3.5 นักเรยี นท่ีทดสอบทกั ษะเสร็จแล้วให้ กลบั มาตง้ั แถวใหม่ขา้ งๆแถวของตวั เอง เพอ่ื ให้ไม่สับสนลแความเป็นระเบียบ เรียบรอ้ ยกบั นักเรยี นทยี่ ังไม่ไดท้ ดสอบทักษะ 4.ข้นั นาํ ไปใช้ (10 นาท)ี 4.1 ครูแจกเสอื้ ทีมและใหน้ ักเรยี นแข่งขัน - นักเรียนสนุกสนาน การเลน่ ฟตุ บอลแบบเป็นทมี โดยใหท้ ีมชาย A ในการเลน่ เกมแขง่ ขนั แขง่ กบั ทมี ชาย B และทมี หญงิ A แข่งกับทมี อยา่ งน้อย 80% ของ จาํ นวนนกั เรียน หญิง B ใช้เวลาในการแข่งขนั 7 นาที 4.2 ขณะทีน่ กั เรียนแต่ละทีมทาํ การแข่งขนั ทัง้ หมด
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ ครูทาํ หนา้ ทีเ่ ป็นกรรมการ และคอยสอนเรือ่ ง กติกาฟตุ บอลไปด้วยระหว่างนกั เรยี นแข่งขัน เพ่ือให้นกั เรยี นแตล่ ะทีมปฏบิ ัตถิ ูกต้องตาม กติกาการแข่งขันกฬี าฟตุ บอล 5. ขน้ั สรุปและสุขปฏิบตั ิ (10 นาที) - นักเรียนได้ฝึก 5.1 ครใู ห้นกั เรยี นกลับมาเข้าแถวตามกลุม่ ประมวลความคดิ หลังจากนัน้ ครูสรปุ การสอบเลยี้ งลกู บอล ผล รวบยอดอีกครง้ั การแข่งขัน และถามคําถามเพ่อื ทบทวนการ เรยี นการสอนพลศึกษาในคาบเรยี นต่างๆ หลงั จากเรยี น 5.1.1 “หากต้องการสง่ บอลใหแ้ รกและ ไกลตอ้ งใช้ส่วนใดของเทา้ เตะลกู ฟตุ บอล” แนวคาํ ตอบ : หลงั เท้า 5.1.2 “การส่งบอลดว้ ยส่วนใดของเท้า เป็นการส่งบอลทีแ่ มน่ ยาํ ที่สดุ เพราะอะไร” แนวคาํ ตอบ : ขา้ งเทา้ ด้านใน เพราะมีพน้ื ท่ี ของเทา้ ท่สี ัมผัสกับลูกบอลเยอะ 5.1.3 “กติการการทมุ่ บอลเขา้ เลน่ จาก ข้างสนาม ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง” แนวคาํ ตอบ : 1.) เท้าท้งั สองขา้ งตอ้ งสัมผสั กับ พน้ื ขณะทุม่ บอล 2.) บอลตอ้ งทุ่มออกจาก ดา้ นหลังศรี ษะ 3.) ตอ้ งทมุ่ บอลสองมอื 4.) เม่ือฝ่ายตรงขา้ มทาํ ลูกบอลออกข้างสนาม
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ ให้ทมุ่ บอลเขา้ เล่นจากข้างสนามบรเิ วณนัน้ 5.) ต้องอยขู่ า้ งสนาม ห้ามเข้ามาในสนามขณะ ทุ่มบอล 5.2 ครูให้นกั เรียนไปลา้ งหนา้ ล้างมือ ดื่ม - นกั เรยี นร้จู กั การ นํา้ และกลับมาเข้าแถว ดูแลรักษาความ 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว สะอาดอวัยวะต่างๆ ของนักเรียน ของร่างกายตนเอง 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน หลังจากเล่นกฬี า ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี - นักเรยี นได้ฝึกความ การเปลี่ยนแปลง) รับผิดชอบในการ 5.5 เลกิ แถวและพานักเรียนเดนิ แถวกลับ ตรวจสอบและแก้ใข ในเร่อื งการนาํ ของใช้ มาโรงเรียน
7. ส่อื การสอน/แหล่งการเรียนรู้ - สอื่ การสอน นกหวดี หนงั สอื เรียนวชิ าสขุ ศึกษา กรวย แผน่ ยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศกึ ษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวทบ์ อร์ด ปากกาไวท์บอรด์ แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวทบ์ อรด์ เร่อื งที่สอนในชว่ั โมง Whiteboard eraser poster/Image media ลกู ฟุตบอล กรวยจราจร เส้อื เอ๊ยี มกีฬา ประตฟู ุตบอล A Football Traffic cones Sports bib Goal แหล่งการเรียนรู้ สุรเชษฐ์ วศิ วธรี านนท์.2561. กฬี าฟตุ บอลและกจิ กรรมยืดหยุ่น ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 2. พมิ พ์คร้งั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พริ้นท์กร๊ปุ จํากัด. How to do dribbling drills. 2560. [ออนไลน]์ . แหลง่ ท่ีมา: https://www.youtube.com/watch?v=_oGMyUZUH4o [1 เมษายน 2563]
8. คําศัพท์ภาษาองั กฤษ ความหมาย ทดสอบทักษะ ลําดบั คําศพั ทภ์ าษาองั กฤษ กรวย 1 Skill test กรวยจราจร 2 Cone แผ่นยางมาร์กเกอร์ 3 Traffic cones การเล้ยี งบอล 4 Marker ทักษะการเลย้ี งลกู บอลดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน 5 Dribbling การเลย้ี งลูกบอลดว้ ยหลงั เทา้ 6 Inside Foot Dribbling การเล้ียงลกู บอลซกิ แซก 7 Instep Foot Dribbling เสอื้ เอ๊ียมกฬี า 8 Zigzag Dribbling ประตฟู ตุ บอล 9 Sports bib ผรู้ ักษาประตู 10 Goal การทมุ่ บอลเขา้ เล่นจากขา้ งสนาม 11 Goalkeeper รปู แบบการเล่น 12 Throw in กองหลังตัวกลาง 2 ตวั 13 Formation กองกลาง 14 Centre Back กองกลางริมเส้นขวาและซา้ ย 2 คน 15 Midfield กองหน้า 16 Right and Left Half การเล่นทมี 17 Forward การแขง่ ขนั 18 Team play 19 Match 9. การวดั และประเมนิ ผล ลําดบั ท่ี เรอื่ ง เครือ่ งมือ แบบสงั เกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ่วนรว่ มตลอดชั้นเรียน แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเครื่องแตง่ กายและบักทึกคะแนนความรบั ผิดชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสุขปฏิบัติ 3 สังเกตการตอบคําถามระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม แบบประเมินความสนใจ การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม และผลสาํ เรจ็ ของการฝึกทักษะและการนาํ ไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศึกษา.................. หน่วยการเรยี นร้.ู ..................................... เรื่อง...................................................................ระดับชนั้ ........................... ระดับ 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ /เพม่ิ เตมิ ) PQ นักเรียน 80% ขน้ึ ไปว่งิ ไดอ้ ยา่ ง นกั เรียน 60%-80% วิง่ ไดอ้ ยา่ ง นักเรยี นน้อยกวา่ 60% ว่งิ ได้อยา่ ง สมรรถภาพ ต่อเนอ่ื งโดยไม่เหน่ือย ต่อเน่ืองโดยไม่เหน่ือย ตอ่ เนอื่ งโดยไมเ่ หน่อื ย ทางกาย นักเรียน 80% ข้ึนไปเขา้ แถวอย่าง นักเรยี น 60%-80% เข้าแถวอยา่ ง นักเรยี นนอ้ ยกวา่ 60% เข้าแถว MQ คณุ ธรรม เปน็ ระเบยี บ แตง่ กายเรียบร้อย เป็นระเบียบ แตง่ กายเรยี บรอ้ ย อยา่ งเป็นระเบยี บ แต่งกาย จริยธรรม พดู จาสุภาพ พดู จาสุภาพ เรยี บรอ้ ย พดู จาสุภาพ AQ เจตคติ นักเรยี น 80% ขน้ึ ไปมีความ นักเรียน 60%-80% มคี วาม นกั เรียนน้อยกว่า 60% มีความ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ เลน่ เกม เลน่ เกม เลน่ เกม IQ ความรู้ นักเรยี น 80% ขน้ึ ไปสามารถ นกั เรียน 60%-80% สามารถ นักเรียนน้อยกวา่ 60% สามารถ ความเขา้ ใจ อธบิ ายวิธีการเลย้ี งลูกบอลอยา่ ง อธิบายวิธกี ารเลี้ยงลูกบอลอย่าง อธิบายวธิ กี ารเล้ยี งลกู บอลอย่าง ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ถกู ต้อง SQ ทักษะ นักเรยี น 80% ขน้ึ ไปสามารถ นักเรยี น 60%-80% สามารถ นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏบิ ตั ิทกั ษะการเล้ยี งลูกบอลไป ปฏิบตั ทิ กั ษะการเล้ยี งลกู บอลไป ปฏิบัติทกั ษะการเลี้ยงลูกบอลไป ดา้ นหน้าและซกิ แซกอย่างถกู ตอ้ ง ด้านหน้าและซกิ แซกอยา่ งถูกตอ้ ง ดา้ นหน้าและซิกแซกอยา่ งถูกตอ้ ง ระดับคุณภาพ ระดับ 3 หมายถึง จาํ นวนนกั เรยี น 80% ข้ึนไป ระดับ 2 หมายถงึ จาํ นวนนักเรียน 60-80% ระดบั 1 หมายถึง จาํ นวนนกั เรยี น้อยกวา่ 60% ลงชื่อ...........................................................ผ้ปู ระเมนิ
โรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม บันทกึ หลงั สอน กล่มุ สาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2/...... หน่วย กฬี าฟุตบอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรอ่ื ง ทดสอบทักษะเลย้ี งลูกบอล (Skill test), เล่นทีม (Play) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาท)ี วนั ท่ี..........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอปุ สรรค (กอ่ นสอน-ระหวา่ งสอน-หลงั สอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพอ่ื ใชใ้ นการสอนครงั้ ต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผ้สู อน
โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝา่ ยประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 หน่วย กีฬาฟตุ บอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรอื่ ง ทดสอบทักษะยิงประตู (Skill test), เล่นทมี (Play) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 การเคล่ือนไหว การออกกาํ ลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มที ักษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า พ 3.2: รกั การออกกําลังกาย การเลน่ เกม และการเล่นกฬี า ปฏิบตั เิ ปน็ ประจําอยา่ งสมํา่ เสมอ มวี ินยั เคารพสทิ ธิ กฎกตกิ า มนี ํา้ ใจ มีจติ วญิ ญาณในการแข่งขนั และชืน่ ชมในสนุ ทรภี าพของการกฬี า 2. ตัวช้วี ัด พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคล่อื นไหวร่างกาย ขณะอยู่กบั ท่ี เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณป์ ระกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบ็ดเตลด็ และเข้าร่วมกจิ กรรมทางกายทว่ี ธิ ีเลน่ อาศยั การเคล่อื นไหวเบ้อื งตน้ ทัง้ แบบอย่กู ับที่ เคล่ือนที่ และใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกาํ ลังกาย และเลน่ เกม ได้ด้วยตนเองอยา่ งสนกุ สนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ัตติ ามกฎ กตกิ าและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเปน็ กลมุ่ 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายวธิ ีการยงิ ประตูไดถ้ กู ต้อง (IQ) 3.2 นกั เรียนสามารถปฏบิ ัตทิ กั ษะการยิงประตูได้ (SQ) 3.3 นกั เรยี นมีความสนกุ สนานจากการเรียน การเลน่ เกม และการแขง่ ขนั (AQ) 3.4 นกั เรยี นมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายดา้ นความอดทนของระบบหวั ใจ ระบบไหลเวยี นโลหิต ทด่ี โี ดย การวิง่ รอบสนาม (PQ) 3.5 นกั เรยี นสามารถเขา้ แถวอย่างเป็นระเบียบ แตง่ กายเรียบรอ้ ย พูดจาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสําคญั การทดสอบทักษะยิงประตู เป็นสว่ นหน่งึ ของการวดั และประเมินผลทักษะท่ีได้ฝกึ และเรยี นมาในคาบเรียน ต่าง ๆ เพื่อใชป้ ระเมินพัฒนาการของนกั เรยี น และใช้เป็นคะแนนเก็บของนกั เรยี นในดา้ นทกั ษะของวชิ าพลศกึ ษาชน้ั ป.2 5. ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั นักเรยี น 80% สามารถปฏิบตั ไิ ด้ตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ละสามารถนําเอาความรูไ้ ปใชไ้ ด้อย่าง คลอ่ งแคลว่ ในการเรยี นการสอนรายวิชาอนื่ และชวี ติ ประจาํ วัน 6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ ทักษะการยงิ ประตู (Shooting) 1.ข้ันเตรียม/อบอุ่นร่างกาย (10 นาที) มหี ลากหลายลกั ษณะด้วยกัน ขนึ้ กับ 1.1 ครเู ดินไปรับนกั เรียน แลว้ พานกั เรยี น - นักเรียนมคี วามเข้าใจ สถานการณใ์ นขณะน้ัน ตลอดจนความ ไปสถานที่เรียน (สนาม 3) และปฏิบตั ติ ามคาํ ส่งั ชํานาญของทกั ษะทไ่ี ดฝ้ กึ ซ้อมมา โดย 1.2 ครใู ห้นกั เรยี นวางถงุ ย่ามในช้ันวางของ ครูผสู้ อน ปกติแลว้ ถา้ ตอ้ งการยิงลกู ให้แรง หรือยิง โดยให้นกั เรียนชายไวแ้ ถวลา่ งของชั้นวาง และ จากระยะไกล จะใช้วิธกี ารยงิ ดว้ ยหลังเท้า นักเรยี นหญิงวางไวแ้ ถวบนของช้ันวางของ ถา้ ตอ้ งการยิงประตใู หไ้ ด้ทศิ ทางทีแ่ ม่นยาํ 1.3 ครใู ห้นกั เรียนเข้าแถว 4 แถว หลงั - นกั เรียนมคี วามเปน็ จะใชว้ ธิ ีการยงิ ด้วยขา้ งเทา้ ด้านใน และ กรวยทว่ี างไวใ้ ห้ตรง ตามกล่มุ ระเบยี บเรียบร้อย หากบอลลอยอยู่กลางอากาศ และอยูใ่ กล้ ภายในแถวตามที่ ปากประตู อาจจะใชว้ ิธีการยิงโดยใช้การ กําหนด โหม่งได้ 1.4 อบอนุ่ ร่างกาย (Warm – Up) - นักเรียนมีความ พร้อมในการเรียนทงั้ ครใู ห้นักเรยี นขยายแถวหน่ึงช่วงแขนเพ่ืออบอุ่น ร่างกาย ทางดา้ นรา่ งกาย จิตใจ และอารมณ์ 1.4.1 ครูนํานกั เรยี นยืดเหยียดกล้ามเนอื้ 5 ท่า - นกั เรยี นเคารพกตกิ า ภายในห้องเรยี นแตง่ กายเรยี บร้อย
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ การยงิ ด้วยข้างเท้าด้านใน ท่าที่ 1 พบั ขาไปดา้ นหลังเพอ่ื ยดื ต้นขา - นกั เรียนบริหาร เป็นการยิงบอลทแี่ ม่นยาํ มากเพราะ ดา้ นหน้า สลับช้างละ 10 วนิ าที ร่างกายและอวยั วะ ต่างๆ ได้เหมาะสมตาม ส่วนท่สี ัมผสั กับลกู บอลมีพ้นื ท่ีกวา้ ง วยั วิธปี ฏิบัติ 1. วางลกู บอลไวด้ ้านหน้า หา่ งจากตัว ประมาณ 3 กา้ ว ทา่ ท่ี 2 ดงึ เขา่ ขนึ้ สลับขา้ งละ 10 วินาที 2. กา้ วเขา้ หาลูกบอล โดยวางเท้าหลกั ไว้ ท่าที่ 3 ท่าเหยียดต้นขาซ้ายและขวา สลับ ด้านข้างของลกู บอล ให้ปลายเทา้ ชีไ้ ป ขา้ งละ 10 วินาที ด้านหน้า และอยรู่ ะดับเดียวกบั ลกู บอล 3. เหว่ียงเท้าทใี่ ชเ้ ตะไปดา้ นหลงั ใชแ้ รงส่ง ท่าที่ 4 นั่งพับขายืดต้นขาด้านหน้า ขาอีก จากสะโพก เหวยี่ งเท้ากลบั มาใช้ขา้ งเทา้ ข้างเหยียดตรงึ สลบั ขา้ งละ 10 วินาที สมั ผสั บรเิ วณกลางบอล ขณะทีเ่ ทา้ สมั ผัส บอลให้เกรง็ ขอ้ เท้าไวเ้ พอ่ื จะทาํ ใหบ้ อลวิ่ง ไปไดแ้ รงข้นึ แขนท้งั สองยกขน้ึ เพอ่ื รักษา สมดุลของร่างกาย
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ ท่าท่ี 5 วิ่งรอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 1.5 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย ครใู หน้ ักเรยี นวง่ิ รอบสนาม 3 รอบโดยครู - นักเรยี นวง่ิ ไดอ้ ยา่ ง ว่ิงนาํ หน้านกั เรยี น และใหน้ กั เรยี นว่งิ ตามครู ต่อเนอื่ งโดยไม่เหนอ่ื ย 1 เปน็ แถวตอน 1 แถว 2 การยงิ ด้วยหลังเท้า 2. ข้ันอธบิ ายและสาธิต (10นาท)ี 2.1 ครูให้นักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 กล่มุ เปน็ การยิงบอลท่สี ามารถยิงได้แรง เพราะใช้แรงเหวยี่ งของสะโพกคอ่ นขา้ ง เหมอื นตอนแรก กวา้ ง วธิ ีปฏบิ ตั ิ 1. วางลูกบอลไว้ดา้ นหนา้ หา่ งจากตัว ประมาณ 3 กา้ ว
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 2. ก้าวเข้าหาลูกบอล โดยวางเทา้ หลักไว้ 2.2 ครูถามคําถามเพือ่ ทบทวนทักษะการ -นกั เรยี นฟัง ถามและ ตอบคาํ ถาม ดา้ นขา้ งลูกบอล ใหป้ ลายเทา้ ช้ไี ป ยิงประตู แลกเปลี่ยนความ คดิ เหน็ กบั ครผู ู้สอนได้ ดา้ นหน้าและอยู่ระดบั เดียวกนั กบั ลูกบอล “การยิงประตู สามารถใช้ส่วนใดของเท้าใน อยา่ งเหมาะสม หา่ งจากลูกบอลประมาณ 20 – 25 ซม. การยงิ ประตูไดบ้ า้ ง” หรือหน่ึงคบื แนวคาํ ตอบ : 2 สว่ น 1.) ข้างเทา้ ด้านใน 2.) หลังเทา้ “การยงิ ประตดู ้วยสว่ นใดของเท้า เป็นการยิง ประตูทแ่ี มน่ ยําที่สุด” แนวคําตอบ : ข้างเท้าดา้ นใน “การยงิ ประตทู ย่ี ิงได้แรงและไกล ใช้ส่วนใด ของเท้าในการยงิ ประต”ู 3. เหวย่ี งเท้าทใ่ี ชเ้ ตะไปดา้ นหลงั ใช้แรงส่ง แนวคาํ ตอบ : หลังเท้า จากสะโพก โนม้ ตวั ไปดา้ นหนา้ เหวี่ยงเทา้ 2.3 ครูทบทวนทกั ษะการยิงประตูให้ กลับมา ใชห้ ลังสมั ผัสบรเิ วณกลางบอล นักเรียน โดยการอธิบายและสาธติ รว่ มกับ ปลายเท้าง้มุ ชีล้ งพนื้ ขอ้ เท้าเกร็ง แขนทง้ั นักเรยี น ใหน้ ักเรยี นดู สองขา้ งยกข้นึ เพื่อรกั ษาสมดุลของร่างกาย 2.4 ครอู ธิบายวิธแี ละเกณฑใ์ ห้คะแนนการ สอบทกั ษะการยิงประตู 2.5 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามข้อ สงสยั อีกครง้ั ก่อนฝกึ ปฏบิ ัติ 3.ขน้ั การฝึกหดั ทกั ษะ (20 นาที) 3.1 ครใู หน้ ักเรยี นเข้าแถว 4 แถว ตามลําดบั เลขท่ี แถวท่ี1 ยงิ ประตทู ่ี1, แถวท2ี่ ยงิ ประตทู ่ี2, แถวท3ี่ ยงิ ประตูที่3, แถวท4่ี ยงิ ประตูท4่ี
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ 4. หากตอ้ งการให้ลกู บอลสงู ใหว้ างเทา้ หลกั ไว้ดา้ นหลังลกู โนม้ ตวั ไปด้านหลงั และเท้าทใ่ี ชเ้ ตะให้วางเท้าสัมผัสลูกบอล บริเวณสว่ นลา่ งของลกู บอล 3.2 นักเรียนทท่ี ดสอบทกั ษะจะเริม่ จาก - นกั เรยี นปฏิบตั ิ เลขที่ 1 ยืนหนา้ ประตทู ่ี 1 ตามลาํ ดับไปจนถึง ทักษะการยิงประตูได้ ประตูสุดท้ายเลขท่ี 4 สว่ นนักเรียนทเ่ี ป็นผู้ ทดสอบทักษะคนตอ่ ไปในแตล่ ะประตู จะเป็น คนเก็บลูกบอลใหเ้ พื่อนที่กําลงั ทดสอบให้ พรอ้ มนับจํานวนลกู ทเ่ี ขา้ ประตู ในขณะท่ี นกั เรียนที่ทดสอบทักษะจะตอ้ งนบั จํานวนลูก ทเ่ี ขา้ ประตดู ว้ ยเช่นกัน 3.3 ครเู ปา่ นกหวดี ให้สญั ญาณนักเรียนที่ สอบทกั ษะ ใหน้ ักเรียนคนแรกของแถวเป็น คนยงิ ด้วยขา้ งเทา้ ดา้ นในหรือหลงั เทา้ ให้เข้า ประตโู ดยไม่โดนกรวยที่ตั้งอยตู่ รงกลางประตู และครใู หน้ กั เรียนทุกคนยิงประตตู าม สญั ญาณนกหวีด
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 3.4 ครูจดบันทึกคะแนนนักเรยี นท่เี ข้ารับ การทดสอบทกั ษะ 4.ขั้นนาํ ไปใช้ (10 นาท)ี 4.1 ครูแจกเสอ้ื ทีมและใหน้ กั เรียนแขง่ ขัน - นักเรียนสนกุ สนาน การเล่นฟุตบอลแบบเปน็ ทีม โดยให้ทมี ชาย A ในการเล่นเกมแข่งขัน แขง่ กบั ทมี ชาย B และทมี หญงิ A แข่งกบั ทมี อยา่ งนอ้ ย 80% ของ หญิง B ใชเ้ วลาในการแขง่ ขัน 7 นาที จาํ นวนนักเรียน ทง้ั หมด
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ 4.2 ขณะท่ีนกั เรียนแตล่ ะทมี ทาํ การแข่งขัน ครูทาํ หนา้ ทีเ่ ปน็ กรรมการ และคอยสอนเร่ือง กตกิ าฟุตบอลไปดว้ ยระหวา่ งนักเรยี นแข่งขนั เพอื่ ให้นักเรียนแต่ละทีมปฏบิ ัตถิ ูกตอ้ งตาม กตกิ าการแขง่ ขนั กีฬาฟตุ บอล 5. ขนั้ สรปุ และสุขปฏิบัติ (10 นาท)ี - นักเรยี นได้ฝกึ 5.1 ครูให้นักเรียนกลบั มาเขา้ แถวตามกล่มุ ประมวลความคดิ รวบยอดอกี ครง้ั หลงั จากน้ันครสู รุปการยิงประตู ผลการ หลงั จากเรียน แข่งขนั และถามคาํ ถามเพ่ือทบทวนการเรยี น การสอนพลศึกษาในคาบเรยี นต่างๆ - นักเรยี นรจู้ กั การ ดูแลรักษาความ 5.1.1 “หากตอ้ งการยงิ ประตใู ห้โดง่ สะอาดอวัยวะต่างๆ หรือสูง ต้องให้บอลโดนสว่ นใดของเทา้ ” ของร่างกายตนเอง แนวคาํ ตอบ : ใตล้ ูกบอล หลงั จากเลน่ กฬี า 5.1.2 “ทําไมการยงิ ประตดู ว้ ยข้างเท้า ด้านใน จึงเปน็ การยิงประตูทแ่ี ม่นยําทสี่ ดุ ” แนวคาํ ตอบ : เพราะข้างเท้าด้านในมพี นื้ ทีใ่ น การสัมผัสกับลกู บอลขณะเตะมาก จึงทําให้ สามารถควบคุมทิศทางไดง้ ่ายกวา่ การยงิ ประตูดว้ ยสว่ นอืน่ ๆ ของเท้า 5.1.3 “นอกจากการยิงประตดู ้วยส่วน ตา่ ง ๆ ของเทา้ แล้วนกั เรยี นสามารถยงิ ประตู ดว้ ยวธิ ีใดได้อกี บ้าง แนวคาํ ตอบ : ใชศ้ ีรษะโหม่งบอล 5.1.4 “ผูเ้ ลน่ ตาํ แหน่งใดในกฬี า ฟตุ บอล มโี อกาสในการยิงประตมู ากที่สุด” แนวคาํ ตอบ : กองหน้า (Forward) 5.2 ครูใหน้ กั เรยี นไปลา้ งหน้า ล้างมอื ดม่ื นํ้า และกลบั มาเข้าแถว
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ 7. สอื่ การสอน/แหลง่ การเรยี นรู้ 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นักเรยี นไดฝ้ กึ ความ - สอื่ การสอน ของนกั เรียน รับผดิ ชอบในการ 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแกใ้ ข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเร่อื งการนาํ ของใช้ การเปลย่ี นแปลง) มาโรงเรยี น 5.5 เลิกแถวและพานักเรยี นเดนิ แถวกลับ นกหวดี หนงั สอื เรียนวชิ าสุขศึกษา กรวย แผ่นยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวทบ์ อรด์ ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เรือ่ งทสี่ อนในชัว่ โมง Whiteboard eraser poster/Image media ลูกฟตุ บอล กรวยจราจร เสื้อเอ๊ยี มกีฬา ประตูฟุตบอล A Football Traffic cones Sports bib Goal
แหล่งการเรียนรู้ สุรเชษฐ์ วิศวธรี านนท.์ 2561. กฬี าฟุตบอลและกิจกรรมยืดหยนุ่ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 2. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พริ้นท์กร๊ปุ จาํ กัด. การยิงบอลดว+ ยหลงั เท+า. 2556. [ออนไลน]์ . แหล่งทม่ี า: https://www.youtube.com/watch?v=_oGMyUZUH4o [1 เมษายน 2563] 8. คําศพั ทภ์ าษาอังกฤษ ความหมาย ทดสอบทักษะ ลาํ ดับ คําศัพทภ์ าษาองั กฤษ กรวย 1 Skill test กรวยจราจร 2 Cone แผน่ ยางมาร์กเกอร์ 3 Traffic cones การเล้ยี งบอล 4 Marker 5 Dribbling ยงิ ประตู 6 Shoot 7 Head the ball โหมง่ บอล 8 Forward 9 Sports bib กองหน้า 10 Goal 11 Goalkeeper เสื้อเอย๊ี มกีฬา 12 Throw in ประตูฟุตบอล 13 Formation ผ้รู ักษาประตู 14 Centre Back การทมุ่ บอลเข้าเลน่ จากข้างสนาม 15 Midfield รปู แบบการเล่น 16 Right and Left Half กองหลังตวั กลาง 2 ตวั 17 Forward กองกลาง 18 Team play กองกลางรมิ เสน้ ขวาและซา้ ย 2 คน 19 Match กองหน้า การเล่นทีม การแขง่ ขัน
9. การวดั และประเมินผล ลําดับที่ เรอื่ ง เคร่อื งมือ แบบสงั เกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ว่ นรว่ มตลอดชัน้ เรยี น แบบตรวจสอบ 2 สํารวจเคร่อื งแต่งกายและบกั ทึกคะแนนความรับผิดชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสขุ ปฏบิ ตั ิ 3 สงั เกตการตอบคาํ ถามระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝา่ ยประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม และผลสําเรจ็ ของการฝึกทกั ษะและการนาํ ไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศึกษา.................. หน่วยการเรยี นรู้...................................... เรอื่ ง...................................................................ระดับชนั้ ........................... ระดับ 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ /เพิ่มเตมิ ) PQ นกั เรียน 80% ขน้ึ ไปวิ่งไดอ้ ย่าง นกั เรยี น 60%-80% ว่ิงไดอ้ ยา่ ง นักเรยี นน้อยกวา่ 60% ว่งิ ได้ สมรรถภาพทาง ต่อเนือ่ งโดยไม่เหนอื่ ย ต่อเนอื่ งโดยไม่เหน่ือย อยา่ งต่อเนอื่ งโดยไมเ่ หนือ่ ย กาย นักเรยี น 80% ขน้ึ ไปเขา้ แถวอยา่ ง นักเรียน 60%-80% เข้าแถวอยา่ ง นกั เรียนนอ้ ยกวา่ 60% เขา้ แถว MQ คณุ ธรรม เปน็ ระเบียบ แต่งกายเรียบร้อย เป็นระเบียบ แต่งกายเรียบรอ้ ย อยา่ งเปน็ ระเบียบ แต่งกาย จรยิ ธรรม พูดจาสุภาพ พดู จาสภุ าพ เรียบร้อย พดู จาสุภาพ AQ เจตคติ นกั เรยี น 80% ขน้ึ ไปมีความ นกั เรยี น 60%-80% มคี วาม นักเรยี นน้อยกว่า 60% มีความ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ สนุกสนานจากการเรยี นและการ เล่นเกม เลน่ เกม เล่นเกม IQ ความรู้ นกั เรยี น 80% ขนึ้ ไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนนอ้ ยกว่า 60% สามารถ ความเขา้ ใจ อธบิ ายวธิ ีการยิงประตูอยา่ ง อธบิ ายวิธกี ารยงิ ประตูอยา่ ง อธบิ ายวธิ กี ารยงิ ประตูอย่าง ถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง ถูกตอ้ ง SQ ทักษะ นักเรยี น 80% ข้ึนไปสามารถ นกั เรียน 60%-80% สามารถ นักเรยี นน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏิบตั ทิ ักษะการยงิ ประตอู ยา่ ง ปฏบิ ัติทกั ษะการยิงประตอู ยา่ ง ปฏิบัตทิ ักษะการยิงประตูอยา่ ง ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง ระดับคณุ ภาพ ระดบั 3 หมายถงึ จาํ นวนนักเรยี น 80% ขน้ึ ไป ระดบั 2 หมายถงึ จาํ นวนนกั เรียน 60-80% ระดับ 1 หมายถงึ จํานวนนักเรยี น้อยกวา่ 60% ลงชอ่ื ...........................................................ผูป้ ระเมนิ
โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝ่ายประถม บนั ทกึ หลังสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2/...... หน่วย กีฬาฟุตบอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรือ่ ง ทดสอบทักษะยงิ ประตู (Skill test), เลน่ ทมี (Play) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) วนั ท.ี่ .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอปุ สรรค (กอ่ นสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพ่อื ใชใ้ นการสอนครงั้ ตอ่ ไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน
โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝา่ ยประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 หนว่ ย กฬี าฟุตบอล (Football) ภาคเรียน ปลาย เรอ่ื ง ทดสอบทกั ษะแขง่ ขันภายในห้องเรยี น (Skills test) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 การเคล่ือนไหว การออกกําลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลอื่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า พ 3.2: รกั การออกกาํ ลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏบิ ตั เิ ป็นประจาํ อยา่ งสมาํ่ เสมอ มีวินัย เคารพสทิ ธิ กฎกติกา มีนํ้าใจ มจี ติ วิญญาณในการแข่งขนั และช่ืนชมในสนุ ทรภี าพของการกีฬา 2. ตวั ชี้วัด พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคลอ่ื นไหวร่างกาย ขณะอยกู่ บั ที่ เคล่อื นท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบด็ เตลด็ และเข้ารว่ มกจิ กรรมทางกายทว่ี ิธเี ลน่ อาศัยการเคลือ่ นไหวเบอ้ื งต้นทัง้ แบบอยู่กบั ท่ี เคล่ือนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกําลงั กาย และเล่นเกม ได้ด้วยตนเองอยา่ งสนุกสนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ัติตามกฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเป็นกลมุ่ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายกฎ กตกิ าการเลน่ ทีมได้อย่างถูกต้อง (IQ) 3.2 นักเรยี นสามารถปฏิบัติตามกฎ กตกิ าการเล่นทมี ได้อย่างถูกตอ้ ง (SQ) 3.3 นกั เรยี นมคี วามสนุกสนานท้าทายจากการแข่งขนั (AQ) 3.4 นักเรยี นมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายดา้ นความแขง็ แรงและความทนทานโดยการเล่น เกม “วงิ่ กระสอบ” (PQ) 3.5 นกั เรียนสามารถเขา้ แถวอย่างเป็นระเบยี บ แตง่ กายเรียบร้อย พดู จาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสําคัญ การแข่งขันภายในห้องเรยี น เป็นการนาํ ทักษะท่ไี ด้เรียนและฝกึ ปฏบิ ัตใิ นทุกๆคาบเรียน มาประยกุ ต์ใช้ใน การเลน่ กฬี าฟตุ บอล ซง่ึ คาบเรียนนเี้ ปน็ สว่ นหนึ่งในการประเมนิ พฒั นาการของนักเรยี น และใช้เป็นคะแนนเก็บของ นกั เรยี นในดา้ นทักษะของวิชาพลศกึ ษาชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 5. ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั นักเรียน 80% สามารถปฏิบตั ไิ ด้ตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้และสามารถนาํ เอาความรไู้ ปใช้ได้อย่าง คล่องแคลว่ ในการเรียนการสอนรายวชิ าอนื่ และชีวติ ประจาํ วัน 6. กระบวนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ ตาํ แหนง่ การเล่น ฟุตบอล 7 คน (7 A 1.ข้ันเตรียม/อบอนุ่ รา่ งกาย (10 นาท)ี Slide Formation) 1.1 ครูเดินไปรบั นักเรียน แล้วพานักเรยี น - นักเรยี นมีความเขา้ ใจ การแข่งขันฟุตบอลตามกติกาปกติจะมี ไปสถานท่ีเรียน (สนาม 3) และปฏบิ ตั ิตามคําสัง่ ผู้เล่นในสนามฝา่ ยละไมเ่ กิน 11 คนและ 1.2 ครใู ห้นักเรยี นวางถุงยา่ มในชน้ั วางของ ครูผูส้ อน ไม่นอ้ ยกว่า 7 คนผูเ้ ล่นสํารองมไี ดไ้ มเ่ กิน โดยใหน้ กั เรียนชายไวแ้ ถวลา่ งของช้นั วาง และ 7 คนเพ่อื ให้นกั เรียนได้มีโอกาสในการเลน่ นักเรียนหญงิ วางไวแ้ ถวบนของชนั้ วางของ กบั ลกู มากขึน้ มสี ว่ นรว่ มในการแขง่ ขนั 1.3 ครใู ห้นักเรยี นเขา้ แถว 4 แถว หลัง - นกั เรยี นมีความเปน็ สงู ขึน้ จึงไดก้ าํ หนดให้ผู้เล่นในสนามมไี ม่ กรวยที่วางไว้ใหต้ รง ตามกลมุ่ ระเบียบเรยี บรอ้ ย เกนิ 7 คนและไมน่ ้อยกว่า 5 คนผู้เล่น ภายในแถวตามท่ี สํารอง 3 คน กําหนด 1.4 อบอุ่นรา่ งกาย (Warm – Up) - นกั เรียนมคี วาม พรอ้ มในการเรียนท้ัง ครใู ห้นกั เรียนขยายแถวหนง่ึ ช่วงแขนเพ่อื อบอุ่น รา่ งกาย ทางดา้ นรา่ งกาย จิตใจ และอารมณ์ 1.4.1 ครนู ํานกั เรียนยดื เหยียดกลา้ มเนอื้ 5 ท่า - นักเรยี นเคารพกติกา ภายในหอ้ งเรียนแต่ง กายเรียบรอ้ ย
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ หน้าท่ีของผเู้ ลน่ ในแต่ละตําแหน่ง ท่าที่ 1 ท่าหมนุ คอ โดยให้หมุนคอไปด้านซ้าย - นกั เรยี นบริหาร และขวา สลับดา้ นละ 10 คร้งั รา่ งกายและอวัยวะ ต่างๆ ไดเ้ หมาะสมตาม วัย ท่าที่ 2 ท่ายืดกล้ามเนอ้ื หลงั และหวั ไหล่ ยก มือแขนตรงึ เหนอื ศีรษะ เหยยี ดหัวไหล่และ หลงั ไปดา้ นซ้ายและขวา สลบั ดา้ นละ 10 วินาที - GK (Goalkeeper) ผูร้ ักษาประตู ป้องกันไมใ่ ห้ลูกเขา้ ประตูใช้มือปอ้ งกันลูก พับขาไปดา้ นหลงั เพ่ือยดื ต้นขาด้านหน้า ได้เฉพาะในเขตผรู้ ักษาประตู สลับชา้ งละ 10 วนิ าที - CB (Centre Back) กองหลัง ตัวกลาง 2 คน ป้องกนั ศนู ยห์ น้าฝา่ ยตรง ข้ามโซนกลางสนามตามแนวยาวของ สนามไมค่ วรออกไปเล่นรมิ เสน้ ขา้ งและขึ้น เกินกลางสนามเพราะจะทาํ ใหม้ ีพ้ืนทวี่ ่าง ตรงกลางหน้าประตูได้ - MF (Midfield) กองกลาง เป็นคน ท่าที่ 4 ท่าหมุนข้อเท้าซ้ายและขวา สลับข้าง ละ 10 วนิ าที ควบคมุ เกมทง้ั รุกและรับของทมี - RH + LH (Right and Left Half) กองกลางรมิ เส้นขวาและซา้ ย 2 คน รับผิดชอบรมิ เสน้ ทง้ั สองด้านเกมรกุ ข้ึนไป ชว่ ยทาํ ประตแู ละเกมรับลงมาช่วยปอ้ งกนั ประตู
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ - FW (Forward) กองหน้า มีหนา้ ท่ยี งิ ทา่ ที่ 5 วิ่งรอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) ประตสู ่วนใหญจ่ ะเล่นในกรอบเขตโทษแต่ อาจลงมาช่วยทมี ไดถ้ ึงกลางสนาม กติกาการแข่งขนั ฟุตบอล กตกิ าฟตุ บอลพอสรุปได้ดังน้ี 1. สนามฟตุ บอลต้องเปน็ สนามหญา้ รูป 1.5 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย สี่เหลี่ยมผืนผา้ และมีเส้นทงั้ หมดเป็นสขี าว ครใู หน้ ักเรยี นเลน่ เกม “ว่งิ กระสอบ” - นกั เรยี นกระโดดได้ - นักเรยี นจับคู่กัน 2 คน (ให้ทมี ชายA ไกลและตอ่ เน่อื ง 2. ลกู ฟตุ บอลต้องเป็นทรงกลมผลติ จาก แข่งกับทีมชายB และทีมหญงิ Aแขง่ กับทีม หนังและไม่เป็นอนั ตรายต่อผูเ้ ลน่ 3. จาํ นวนผเู้ ลน่ มีสองทมี แต่ละทมี ตอ้ งมี หญงิ B ตามลําดับ) ให้ค่แู รกของแต่ละแถวอยู่ ทงั้ ตัวจริงและตวั สํารองผูเ้ ล่นตัวจรงิ มี 11 ดา้ นหลงั ของมาร์คเกอร์ - เมือ่ ได้ยนิ สัญญาณนกหวดี ใหห้ ยิบ คนและตัวสํารองไม่เกนิ 7 คน 4. สีเสือ้ ผเู้ ลน่ ทั้งสองฝา่ ยจะตอ้ งใส่สเี ส้ือ กระสอบทอ่ี ยดู่ า้ นหนา้ มาสวมใสข่ า แล้ววิ่ง ตดั กันอยา่ ชดั เจนยกเวน้ ผรู้ กั ษาประตู ออ้ มหลักทอ่ี ยดู่ ้านหน้าของแถว ขากลับให้ 5. ผ้ตู ดั สนิ คอยควบคุมการแขง่ ขันโดยมี ช่วยกันถอื กระสอบเหนอื ศีรษะกลบั มายงั จุดเริม่ ตน้ แลว้ สง่ ใหเ้ พือ่ นคตู่ อ่ ไป ทาํ จนครบ ผชู้ ว่ ยผ้ตู ัดสินให้ความช่วยเหลือ 6. ระยะเวลาในการแข่งขนั ฟุตบอลมี 2 ทกุ คู่ หากแถวในทําเสรจ็ ครบทุกคู่กอ่ น จะ คร่ึงครง่ึ เวลาละ 45 นาทีพกั ระหวา่ งครง่ึ เป็นผ้ชู นะ - หากมีค่ใู ดที่หกล้ม ใหล้ ุกยืน หรอื มีขา ไมเ่ กนิ 15 นาที 7. การนับคะแนนยงิ เขา้ 1 ลกู ถอื วา่ ได้ ขา้ งใดข้างหน่งึ หรือทงั้ สองขา้ งหลดุ ออก หนง่ึ แตม้ หรอื 1 ประตูผูช้ นะคือทีมทไ่ี ด้ กระสอบ ให้ใสข่ าในกระสอบให้ ถกู ต้องก่อน ประตมู ากกว่าแต่ถา้ เทา่ กันให้นบั เป็น เคล่ือนที่ตอ่ ไป เสมอ - นกั เรียนทง้ั สองคนจะต้องอ้อมมาร์ค 8. การทําผิดกตกิ ามีโทษอยู่ 3 แบบคือ เกอร์โดยสมบรู ณ์ ห้ามเหยียบมาร์คเกอร์ หรอื ตักเตือนด้วยวาจา, ใบเหลืองและใบแดง เจตนาไมอ่ ้อมมาร์คเกอร์ 9. ลกู ทอ่ี อกจากเส้นข้างให้ฝ่ายท่ีไม่ได้ทาํ ลกู ออกสง่ ลูกเขา้ เลน่ ด้วยการ“ทมุ่ บอล” ทจ่ี ดุ ท่ลี กู ออก
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ 10. ลกู ทอ่ี อกจากเสน้ หลงั ให้ฝา่ ยที่ไม่ได้ ทาํ ลกู ออกสง่ ลกู เขา้ เลน่ ด้วยการ“ ต้งั เตะ” ทกุ ครัง้ - ถา้ ฝา่ ยรบั ทาํ ออกให้ฝ่ายรุก“ต้ังเตะ” จากมุมสนามฝงั่ ทล่ี กู ออก (ลกู เตะมมุ ) - ถา้ ฝ่ายรกุ ทําออกให้ฝา่ ยรับ“ตัง้ เตะ” จากเส้นเขตประตู 2. ข้นั อธบิ ายและสาธิต (10นาที) 2.1 ครใู หน้ ักเรียนเขา้ แถวตอน 4 กลุ่ม เหมอื นตอนแรก 2.2 ครถู ามคาํ ถามเพื่อทบทวนเนอ้ื หาและ -นกั เรยี นฟัง ถามและ ทกั ษะทใี่ ชใ้ นการเลน่ กฬี าฟุตบอลท้งั หมด ตอบคําถาม แลกเปลี่ยนความ “มที ักษะใดบา้ งท่ีนักเรยี นต้องใชใ้ นการเลน่ คดิ เห็นกบั ครผู ู้สอนได้ อย่างเหมาะสม กีฬาฟตุ บอล” แนวคําตอบ : 1.) ทกั ษะการเล้ยี งบอลดว้ ย ขา้ งเทา้ ดา้ นในและหลังเท้า 2.) ทกั ษะการรบั และสง่ บอล 3.) ทักษะการยงิ ประตู 4.) ทักษะ การโหม่งบอล 5.) ทกั ษะการเป็นผู้รกั ษา ประตู “ตาํ แหนง่ ผูเ้ ล่นในกีฬาฟตุ บอล 7 คนมี ตาํ แหน่งใดบา้ ง”
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ แนวคําตอบ : 1.) ผู้รักษาประตู 2.) กองหลัง ตัวกลาง 3.) กองหนา้ 4.) กองกลาง 5.) กองกลางรมิ เสน้ 2.3 ครอู ธิบายให้นกั เรียนฟังวา่ “เราได้ เรยี นรแู้ ละฝึกปฏบิ ตั ทิ ักษะตา่ ง ๆ ท่ีใชใ้ นการ เลน่ กฬี าฟตุ บอลไปแลว้ ในสปั ดาหน์ ค้ี รูจะ ทดสอบและดพู ัฒนาการของนักเรยี นในทกุ ๆ ทักษะ ทีน่ กั เรยี นจะตอ้ งนาํ มาประยุกตใ์ ชใ้ น การเลน่ กฬี าฟุตบอล โดยครจู ะทาํ การทดสอบ โดยการใหน้ กั เรียนทําการแขง่ ขันกฬี าฟตุ บอล ภายในหอ้ งเรียน และครจู ะทําการประเมนิ นกั เรยี นเปน็ รายบุคคล” 2.4 ครูชแ้ี จงเกณฑ์การให้คะแนน 5 คะแนน ดูความสนใจในการเลน่ ทมี กบั เพื่อนๆ ในทมี , การปฏบิ ตั ติ นไม่ทําผดิ กติกา, เทา้ สัมผัสบอลไม่ต่ํากวา่ 5 ครง้ั ครสู งั เกตและให้ คะแนนเปน็ รายบคุ คล นักเรยี นคนไหนทําไม่ ครบตามทีก่ ล่าวมาข้างต้นจะโดนหกั คะแนน 2.5 ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามข้อ สงสัยอีกครง้ั กอ่ นฝึกปฏิบตั ิ 3.ขั้นการฝึกหดั ทักษะ (10 นาท)ี 3.1 ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 ทีม คอื ทมี ชาย A ทมี ชาย B ทมี หญิง A และทีมหญงิ B 3.2 ครูแจกเสอ้ื ทมี และใหน้ ักเรียนทุกคนใน แต่ละทมี สวม 3.3 ครูแจกบัตรเลขท่ีใหน้ ักเรียนทกุ คนเพอ่ื คลอ้ งคอไวข้ ณะทําการแขง่ ขัน
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 3.4 ครูให้นกั เรียนในแตล่ ะทีมรว่ มกนั - นกั เรยี นรว่ มกนั วาง วางแผนและจดั ตําแหน่งผเู้ ลน่ ภายในทมี แผนการยืนแต่ละ ตวั เอง เมอื่ จัดเสร็จแล้วให้นักเรยี นแตล่ ะทมี ตาํ แหน่งในทมี ตนเอง ลงสนามและยืนตามตําแหน่งของตนเอง ได้ถูกต้อง 4.ขั้นนาํ ไปใช้ (20 นาท)ี - นักเรยี นปฏิบัตติ าม 4.1 ครูใหน้ กั เรียนเร่ิมแข่งขันภายใน กฎ กติกาการเล่นทีม ได้อย่างถูกต้อง ห้องเรยี น โดยใหท้ มี ชาย A แข่งกบั ทีมชาย B - นกั เรียนสนุกสนาน และทมี หญงิ A แข่งกบั ทีมหญงิ B ใชเ้ วลาใน ในการเล่นเกมแข่งขนั การแขง่ ขัน 15 นาที อย่างน้อย 80% ของ จาํ นวนนักเรยี น 4.2 ขณะทนี่ กั เรียนแตล่ ะทมี ทําการแขง่ ขัน ทั้งหมด ครทู าํ หน้าที่เป็นกรรมการ และคอยประเมิน ทกั ษะตา่ งๆ และบันทึกคะแนนให้นกั เรียน เปน็ รายบุคคล
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ 5. ขัน้ สรปุ และสุขปฏบิ ัติ (10 นาท)ี 5.1 ครใู หน้ กั เรยี นกลบั มาเข้าแถวตามกล่มุ - นักเรียนได้ฝึก หลงั จากนัน้ ครูสรปุ ผลทดสอบการแขง่ ขัน ประมวลความคดิ ภายในห้องเรียน และถามคาํ ถามเกย่ี วกบั การ รวบยอดอกี ครั้ง เรยี นพลศึกษาในคาบเรยี นต่างๆ หลงั จากเรยี น 5.1.1 “เมื่อลูกฟตุ บอลสมั ผสั กบั ฝ่ายรุก เป็นคนสุดทา้ ยกอ่ นจะออกด้านหลังของประตู ไป ใครจะเปน็ ฝา่ ยได้เรม่ิ เลน่ และเร่มิ เลน่ ที่จุด ไหน อย่างไร” แนวคําตอบ : เกมรบั เปน็ ฝ่ายไดเ้ ร่มิ เล่น โดย เริ่มที่เขตประตูและใชก้ ารต้ังเตะเท่านัน้ 5.1.2 “หากต้องการสง่ บอลให้แรกและ ไกลตอ้ งใชส้ ่วนใดของเท้าเตะลูกฟตุ บอล แนวคําตอบ : หลงั เท้า 5.1.3 “หากตอ้ งการเตะบอลใหโ้ ดง่ ตอ้ งใชเ้ ท้าสัมผัสสว่ นใดของลกู บอลขณะเตะ” แนวคาํ ตอบ : ใตล้ ูกบอล 5.2 ครใู ห้นกั เรียนไปล้างหนา้ ล้างมอื ดมื่ - นักเรยี นรจู้ ักการ น้าํ และกลับมาเข้าแถว ดแู ลรักษาความ 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว สะอาดอวัยวะตา่ งๆ ของนักเรียน ของรา่ งกายตนเอง 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน หลังจากเลน่ กีฬา ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี - นักเรยี นไดฝ้ ึกความ การเปลย่ี นแปลง) รับผดิ ชอบในการ 5.5 เลกิ แถวและพานกั เรยี นเดนิ แถวกลบั ตรวจสอบและแกใ้ ข ในเรือ่ งการนําของใช้ มาโรงเรยี น
7. ส่ือการสอน/แหล่งการเรยี นรู้ - ส่ือการสอน นกหวดี หนังสอื เรยี นวิชาสขุ ศกึ ษา กรวย แผน่ ยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศกึ ษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวทบ์ อร์ด ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวทบ์ อรด์ เร่ืองที่สอนในช่วั โมง Whiteboard eraser poster/Image media ลูกฟตุ บอล กรวยจราจร เส้ือเอยี๊ มกีฬา ประตฟู ตุ บอล A Football Traffic cones Sports bib Goal แหลง่ การเรียนรู้ สรุ เชษฐ์ วศิ วธรี านนท.์ 2561. กฬี าฟตุ บอลและกิจกรรมยืดหยนุ่ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 2. พมิ พค์ รั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พร้นิ ท์กร๊ปุ จาํ กดั . ตําแหน่งฟตุ บอล 7 คน. 2562. [ออนไลน]์ . แหลง่ ท่ีมา: https://www.youtube.com/watch?v=7V4Gz9hKa-8 [1 เมษายน 2563]
8. คําศัพทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย หนังสอื เรียน ลาํ ดับ คาํ ศัพท์ภาษาองั กฤษ แผน่ ยางมารก์ เกอร์ 1 Book เสอ้ื เอี๊ยมกีฬา 2 Marker ประตฟู ุตบอล 3 Sports bib ผู้รกั ษาประตู 4 Goal การท่มุ บอลเขา้ เล่นจากข้างสนาม 5 Goalkeeper รปู แบบการเล่น 6 Throw in กองหลงั ตัวกลาง 2 ตัว 7 Formation กองกลาง 8 Centre Back กองกลางรมิ เสน้ ขวาและซ้าย 2 คน 9 Midfield กองหนา้ 10 Right and Left Half การเลน่ ทีม 11 Forward การแข่งขนั 12 Team play 13 Match 9. การวดั และประเมนิ ผล ลําดบั ท่ี เร่อื ง เครอื่ งมอื แบบสงั เกต 1 สังเกตความสนใจและการมสี ่วนร่วมตลอดชนั้ เรียน แบบตรวจสอบ 2 สํารวจเครื่องแตง่ กายและบักทึกคะแนนความรบั ผดิ ชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสุขปฏบิ ตั ิ 3 สังเกตการตอบคําถามระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมีสว่ นร่วมในกิจกรรม และผลสาํ เร็จของการฝกึ ทักษะและการนาํ ไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศึกษา.................. หนว่ ยการเรยี นร.ู้ ..................................... เรอื่ ง...................................................................ระดบั ชนั้ ........................... ระดับ 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ /เพมิ่ เตมิ ) PQ นักเรยี น 80% ขน้ึ กระโดดไดไ้ กล นกั เรยี น 60%-80% กระโดดได้ นกั เรียนนอ้ ยกวา่ 60% กระโดด สมรรถภาพทาง และต่อเน่อื ง ไกลและตอ่ เน่อื ง ไดไ้ กลและต่อเนื่อง กาย นักเรียน 80% ขนึ้ ไปเข้าแถวอย่าง นกั เรยี น 60%-80% เขา้ แถวอยา่ ง นักเรยี นน้อยกวา่ 60% เข้าแถว MQ คณุ ธรรม เป็นระเบียบ แตง่ กายเรียบร้อย เปน็ ระเบยี บ แต่งกายเรียบรอ้ ย อยา่ งเป็นระเบยี บ แต่งกาย จรยิ ธรรม พูดจาสภุ าพ พูดจาสภุ าพ เรยี บรอ้ ย พดู จาสภุ าพ AQ เจตคติ นกั เรยี น 80% ขึน้ ไปมีความ นักเรียน 60%-80% มคี วาม นกั เรียนน้อยกว่า 60% มีความ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ เล่นเกม เล่นเกม เล่นเกม IQ ความรู้ นกั เรยี น 80% ขน้ึ ไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนนอ้ ยกวา่ 60% สามารถ ความเขา้ ใจ อธิบายกฎ กติกาการเล่นทีมอยา่ ง อธิบายกฎ กตกิ าการเล่นทีมอย่าง อธบิ ายกฎ กตกิ าการเล่นทีมอย่าง ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง SQ ทักษะ นกั เรยี น 80% ขึน้ ไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นักเรยี นน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏิบตั ิตามกฎ กตกิ าการเล่นทีม ปฏิบัตติ ามกฎ กตกิ าการเล่นทมี ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นทีม อย่างถูกต้อง อยา่ งถกู ต้อง อยา่ งถกู ตอ้ ง ระดับคุณภาพ ระดับ 3 หมายถงึ จํานวนนกั เรยี น 80% ขึน้ ไป ระดบั 2 หมายถึง จาํ นวนนักเรียน 60-80% ระดับ 1 หมายถงึ จํานวนนกั เรียน้อยกวา่ 60% ลงชอื่ ...........................................................ผ้ปู ระเมนิ
โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม บนั ทกึ หลังสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2/...... หน่วย กีฬาฟุตบอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรอ่ื ง ทดสอบทักษะแข่งขันภายในห้องเรยี น (Skills test) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) วนั ท.ี่ .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอุปสรรค (กอ่ นสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพือ่ ใช้ในการสอนครงั้ ต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน
โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝา่ ยประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 หน่วย กฬี าฟุตบอล (Football), สขุ ศกึ ษา (Health Education) ภาคเรียน ปลาย เรอ่ื ง สอบข้อเขียนสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (Subjective test) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) ใบงานวชิ าสุขศึกษา (Worksheet) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกําลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา พ 3.2: รักการออกกาํ ลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกฬี า ปฏบิ ตั เิ ป็นประจําอยา่ งสมํ่าเสมอ มวี นิ ัย เคารพสิทธิ กฎกตกิ า มนี ํ้าใจ มจี ิตวิญญาณในการแขง่ ขนั และช่นื ชมในสนุ ทรภี าพของการกีฬา 2. ตัวชี้วดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคล่อื นไหวรา่ งกาย ขณะอยกู่ ับที่ เคล่ือนที่ และใช้อุปกรณป์ ระกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบ็ดเตล็ดและเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายที่วิธเี ลน่ อาศยั การเคลอ่ื นไหวเบอ้ื งตน้ ท้งั แบบอยกู่ ับท่ี เคลื่อนท่ี และใช้อปุ กรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกําลังกาย และเลน่ เกม ได้ด้วยตนเองอย่างสนุกสนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเปน็ กลุม่ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวิธีการพักผอ่ นที่เปน็ ประโยชน์ต่อร่างกายได้ถกู ตอ้ ง (IQ) 3.2 นกั เรียนสามารถอธบิ ายทกั ษะและกติกาต่างๆของกีฬาฟุตบอลได้ถูกตอ้ ง (IQ) 3.3 นักเรยี นรู้คณุ ค่าของการพกั ผ่อนท่ีเพียงพอ (AQ) 3.4 นกั เรยี นมีความซื่อสัตย์ สจุ รติ ในการทําข้อสอบทฤษฎพี ลศึกษาและสขุ ศกึ ษา สามารถรกั ษาระเบียบ วินยั ในการเข้าแถวในชน้ั เรียนได้ (MQ)
4. สาระสาํ คัญ การสอบข้อเขียนวิชาพลศึกษา เรอื่ ง ฟุตบอล, วิชาสุขศึกษา เรื่อง การพักผ่อน และการทําใบงานวชิ า สุขศกึ ษา เรอื่ ง การพกั ผอ่ น เปน็ สว่ นหนึ่งของการวัดและประเมินผลความรทู้ ไี่ ด้เรยี นมาในวิชาพลศกึ ษา เพื่อใช้ ประเมินความรูข้ องนักเรียน และใชเ้ ป็นคะแนนเก็บของนักเรียนในของวชิ าพลศึกษาชนั้ ป.2 5. ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวัง นักเรยี น 80% สามารถทําสอบข้อเขยี นวิชาพบศึกษาและวิชาสุขศึกษาไดผ้ ่านเกณฑแ์ ละมคี วามซอื่ สัตย์ สจุ ริตในการทาํ ขอ้ สอบ 6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.ขัน้ นาํ (10 นาท)ี - 1.1 ครูอธิบายสัดส+วนคะแนนของวชิ า เกณฑก% ารสอบวชิ าพลศึกษา และวชิ าสุขศึกษา พลศกึ ษา ป.2 ให.นักเรียนฟRง - คะแนนต่ำกวา+ รอ. ยละ 50 : ไม+ผ+านการ 1.2 ครูอธิบายให.นกั เรียนฟงR ว+า “วันนเี้ รา ทดสอบ ต.องสอบแก.ตวั จะทำการเก็บคะแนนครงั้ สุดท.ายของการ - คะแนนสูงกวา+ รอ. ยละ 49 : ผ+านการ ทดสอบ เรียนช+วงที่ 1 ภาคปลาย กฬี าฟุตบอล และ เกบ็ คะแนนการเรยี นสขุ ศกึ ษาเรอ่ื ง การ พักผ+อน โดยเราจะต.องทำการสอบทฤษฎีท้ัง สองวชิ า และทำใบงานสขุ ศกึ ษาภายในคาบ เรียนน้ี” 1.3 ครูเริม่ แจกกระดาษคาํ ตอบทลี ะแถว จากหัวแถวไปจนถงึ คนสุดทา้ ยของแถว นักเรยี นคนไหนท่ีได้กระดาษคําตอบแลว้ เขียน ช่อื ช้นั เลขท่ี ของตนเองใหช้ ัดเจน
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ 2.ข้ันทดสอบขอ้ เขียน (40 นาท)ี 2.1 ครชู ีแ้ จงรายละเอียดการสอบพลศกึ ษา สขุ ศึกษา และใบงานสขุ ศกึ ษา - จาํ นวนข้อ - วธิ กี ารทําข้อสอบ - ตรวจสอบการเขียนชือ่ ชนั้ เลขทใี่ ส่ กระดาษคาํ ตอบ - ระยะเวลาในการสอบ วชิ าละ 20 นาที รวม 20 นาที - ระยะเวลาในการทําใบงานสขุ ศกึ ษา 10 นาที 2.2 ครูใหน้ ักเรยี นชักถามหากมีข้อสงสัย 2.3 ครูใหน้ ักเรยี นเรม่ิ ทาํ ขอ้ สอบและใบงาน 2.4 ครูคมุ การสอบ และเรียกเกบ็ ข้อสอบ และการดาษคาํ ตอบตามเลขที่ เพอื่ ไม่ใหเ้ กดิ ความวุ่นวายและเป็นระเบียบเรียบร้อย 3.ขั้นสรปุ (10 นาท)ี 3.1 ครสู รุปการเรียนวิชาพลศึกษาของภาค ปลายในชว่ งแรกที่ผ่านมาให้นักเรยี นฟงั 3.2 ครูอธิบายถงึ การเรียนวชิ าพลศึกษา ในช+วงท่ี 2 ของภาคปลายให.นกั เรียนฟงR โดย ครา+ ว 3.3 ครูนัดหมายการเรยี นการสอนกับ นักเรยี นในคาบเรียนตอ+ ไป
7. ส่ือการสอน/แหล่งการเรียนรู้ - สอ่ื การสอน 1.แบบทดสอบวชิ าสุขศึกษาและพลศกึ ษา เรอื่ งฟตุ บอล หอ. งละ 40 ชดุ 2.ใบงานวชิ าสุขศกึ ษา เร่อื ง การพกั ผ+อน หอ. งละ 40 ชดุ 8. คําศพั ท์ภาษาอังกฤษ ความหมาย ลาํ ดบั คําศัพทภ์ าษาอังกฤษ การพกั ผอ่ น 1 Relaxation กระดานไวทบ์ อรด์ 2 Subjective test 3 Worksheet ใบงาน 4 Football กีฬาฟุตบอล
โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม บันทกึ หลงั สอน กลุม่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2/...... หนว่ ย กีฬาฟตุ บอล (Football), สุขศกึ ษา (Health Education) ภาคเรยี น ปลาย เรื่อง สอบขอ้ เขียนสุขศึกษาและพลศึกษา (Subjective test) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาท)ี ใบงานวิชาสุขศกึ ษา (Worksheet) วันที่..........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค (ก่อนสอน-ระหวา่ งสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพอื่ ใช้ในการสอนครั้งต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน
โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 หน่วย กิจกรรมยืดหยุ่น (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เรอื่ ง ปฐมนิเทศ (Orientation), เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ประวัติยดื หยนุ่ (History of Tumbling), ทักษะท่จี ําเปน็ ในการเล่นยดื หยุน่ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 การเคล่ือนไหว การออกกําลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เข้าใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา พ 3.2: รักการออกกําลังกาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏบิ ตั เิ ป็นประจําอย่างสม่าํ เสมอ มวี ินยั เคารพสทิ ธิ กฎกติกา มีนํา้ ใจ มจี ติ วญิ ญาณในการแขง่ ขัน และชื่นชมในสนุ ทรีภาพของการกฬี า 2. ตวั ช้ีวดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคลอื่ นไหวร่างกาย ขณะอยู่กบั ที่ เคลือ่ นท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบ็ดเตลด็ และเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางกายท่วี ธิ ีเลน่ อาศัยการเคล่อื นไหวเบ้ืองตน้ ท้ัง แบบอยู่กบั ท่ี เคลื่อนที่ และใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกาํ ลงั กาย และเลน่ เกม ได้ดว้ ยตนเองอยา่ งสนกุ สนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏิบัติตามกฎ กตกิ าและข้อตกลงในการเลน่ เกมเปน็ กลุม่ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายประวตั คิ วามเปน็ มาของยมิ นาสตกิ ได้อย่างถูกต้อง (IQ) 3.2 นักเรยี นสามารถปฏิบตั ทิ ักษะพ้ืนฐานในการเลน่ ยืดหยุ่นได้ (SQ) 3.3 นกั เรียนมคี วามสนกุ สนานจากการเล่นเกมการแขง่ ขนั (AQ) 3.4 นกั เรียนมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายดา้ นความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อโดยการเลน่ “เกมไถนา” (PQ) 3.5 นักเรยี นสามารถเขา้ แถวอยา่ งเปน็ ระเบยี บ แตง่ กายเรียบร้อย พดู จาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสาํ คญั ทกั ษะทจ่ี ําเป็นในการเล่นยดื หย่นุ ยดื หยนุ่ มคี วามสําคัญต่อมนุษย์ การยดื หยุน่ ถอื เปน็ พื้นฐานทีส่ ําคัญมาก ในการเลน่ กีฬาชนิดต่างๆ รวมไปถึงการใชช้ ีวิตประจําวนั ดงั นั้น นักเรยี นจงึ จาํ เปน็ อยา่ งยงิ่ ท่ีจะต้องเรียนรแู้ ละ ฝึกฝน ใหร้ า่ งกายมคี วามยืดหยนุ่ ซึง่ ในคาบเรียนน้ี นักเรียนจะไดเ้ รียนรู้เก่ยี วกับทักษะทจ่ี ําเปน็ ในการเลน่ ยดื หยุ่น 5. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง นักเรียน 80% สามารถปฏบิ ตั ิได้ตามจุดประสงค์การเรียนรู้และสามารถนําเอาความร้ไู ปใชไ้ ดอ้ ยา่ ง คลอ่ งแคลว่ ในการเรียนการสอนรายวชิ าอ่นื และชีวติ ประจําวนั 6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ ประวัตคิ วามเปน็ มาของการเลน่ ยดื หยุน่ 1.ข้ันเตรยี ม/อบอนุ่ ร่างกาย (10 นาที) - นกั เรยี นมคี วามเป็น ระเบียบเรยี บรอ้ ย (History of Tumbling) 1.1 ครูเดนิ ไปรับนักเรียน แลว้ พานักเรียน ภายในแถวตามท่ี กําหนด ประวัตคิ วามเป็นมายืดหย่นุ เป็น ไปที่โรงยิมอาคาร 50 ปี - นกั เรียนเคารพกตกิ า กจิ กรรมพืน้ ฐานของยิมนาสตกิ กอ่ นปี 1.2 ครูใหน้ ักเรยี นเขา้ แถว 4 แถว หลงั ภายในห้องเรยี นแต่ง กายเรยี บรอ้ ย ค.ศ. 1600 ชาวจนี ได้มกี ารฝึกฝนท่า กรวยที่วางไว้ใหต้ รง ตามกลุ่มเดิม - นกั เรยี นมคี วาม พร้อมในการเรยี นทง้ั บรหิ ารร่างกาย และได้คดิ ท่าบริหาร ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ และอารมณ์ ร่างกายขึ้น เพ่ือทาํ ให้ร่างกายแข็งแรงและ ปราศจากโรคภัยไข้เจบ็ ต่อมาชาวกรีก นําเอากจิ กรรมยดื หยุ่น เชน่ การไต่เชอื ก และการทรงตวั มาสอนให้แกเ่ ดก็ ๆ จึงเกิด 1.3 ครูให้นกั เรยี นวางถุงพละ ถอดรองเท้า กีฬายิมนาสติกขน้ึ นบั จากนนั้ ชาวเยอรมนั ถุงเทา้ บัตรนักเรียน นาฬกิ า และแว่นตา ไว้ ชาวอเมรกิ ัน และชาวยโุ รปอีกหลายชาติ ทางดา้ นขวามือของตนเองให้เรยี บรอ้ ย ไดช้ ่วยกันพัฒนากีฬายดื หย่นุ ใหเ้ จริญข้ึน และกําหนดไวเ้ ป็นหลักสูตร ใหม้ ีการเรียน 1.4 ครูให้นักเรียนเดนิ ไปเข้าแถวตอนเปน็ การสอนในระดับมหาวทิ ยาลยั และใน กลุ่มท้ังหมด 4 กลุ่มเหมอื นเดิมในสนาม โรงเรยี นกฬี า แบดมนิ ตัน และขยายแถว 2 ช่วงแขน เพ่อื เตรยี มการอบอนุ่ รา่ งกาย ยืดหย่นุ ไดแ้ พร่หลายเข้ามาในประเทศ ไทยในสมยั รัชกาลที่ 5 เพราะข้าราช
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ บริพารทีม่ โี อกาสไปศึกษาในประเทศยโุ รป 1.5 อบอนุ่ ร่างกาย (Warm – Up) เปน็ ผนู้ ําเขา้ มาเผยแพร่ ครูใหน้ กั เรยี นขยายแถวหนึง่ ช่วงแขนเพอ่ื อบอุ่น ทักษะที่จาํ เปน็ ในการเลน่ กฬี ายดื หย่นุ ร่างกาย - นกั เรียนบริหาร ทกั ษะการเคล่อื นไหวพนื้ ฐานทจ่ี าํ เปน็ ที่ 1.5.1 ครูนาํ นักเรยี นยืดเหยียดกลา้ มเน้อื 5 ทา่ ร่างกายและอวยั วะ จะต้องฝึกฝน เพ่ือสร้างความคุน้ เคย และ ท่าที่ 1 ท่าหมุนคอ โดยให้หมุนคอไปดา้ นซ้าย ความแข็งแรง กอ่ นนําไปสูท่ กั ษะของกีฬา และขวา สลบั ดา้ นละ 10 คร้ัง ตา่ งๆ ได้เหมาะสมตาม ยิมนาสติคต่อไป วยั ท่าท่ี 1 ทา่ กล้ิงไข่ – ทกั ษะพืน้ ฐานของ ท่าที่ 2 ทา่ ยืดกลา้ มเน้ือหลังและหัวไหล่ ยก มอื แขนตรึงเหนือศีรษะ เหยียดหัวไหล่และ การมว้ นหนา้ วิธกี ารปฏิบัติมดี งั นี้ หลงั ไปดา้ นซ้ายและขวา สลบั ด้านละ 10 วนิ าที 1. ท่าเตรียมพรอ้ มน่ังยอง ๆ เขา่ ชิดตัวมือ และแขนโอบกอดเข่าไว้ กม้ หน้าลง ทาํ ตัว ให้เหมือนไขม่ ากทส่ี ดุ พับขาไปดา้ นหลังเพ่อื ยืดตน้ ขาด้านหน้า สลบั ช้างละ 10 วินาที 2. เคลอ่ื นท่ีโดยการเอนศรี ษะและไหล่ลง ไปทิศทางท่ีตอ้ งการจะกล้งิ ไป พร้อมกับ ถบี ปลายเท้าให้มว้ นไปทศิ ทางนั้น เชน่ ต้องการจะกลง้ิ ไปทางขวา ใหเ้ อนหวั ไหล่ ขวาไปทางขวา พร้อมถีบปลายเทา้ ไป ทางขวา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428