4. สาระสาํ คญั ทักษะการโหมง่ บอล (Heading the ball) ในการเล่นกฬี าฟตุ บอล ลูกฟุตบอลสามารถวิ่งเขา้ มาหาเรา ทง้ั แบบเรียดมากบั พื้นสนามหรอื ลอยเขา้ มาหาเรากไ็ ด้ ทกั ษะการโหมง่ บอลเป็นอีกทกั ษะที่จําเปน็ ต้องฝึกเพ่ือ นาํ ไปใช้ในการเล่นกีฬาฟตุ บอลสาํ หรบั สถานการณ์ท่ลี กู ฟตุ บอลลอยเขา้ มาหาเรา 5. ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวัง นักเรยี น 80% สามารถปฏิบตั ิไดต้ ามจดุ ประสงคก์ ารเรียนร้แู ละสามารถนําเอาความรไู้ ปใช้ไดอ้ ยา่ ง คล่องแคลว่ ในการเรยี นการสอนรายวิชาอ่นื และชีวิตประจาํ วนั 6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ ทกั ษะการโหมง่ บอล (Heading the 1.ข้ันเตรียม/อบอุ่นร่างกาย (10 นาท)ี ball) 1.1 ครูเดินไปรบั นักเรียน แลว้ พานกั เรยี น - นกั เรียนมคี วามเข้าใจ เปน็ ทักษะทใี่ ชใ้ นการควบคมุ บอล หยดุ ไปสถานท่เี รยี น (สนาม 3) และปฎิบัตติ ามคําสัง่ บอล สง่ บอล สกัดบอล และใช้ทําประตูใน 1.2 ครใู ห้นักเรยี นวางถงุ ยา่ มในชน้ั วางของ ครูผูส้ อน กฬี าฟตุ บอลเมอื่ ลกู บอลลอยอยู่กลาง โดยใหน้ ักเรียนชายไว้แถวลา่ งของชน้ั วาง และ อากาศ นักเรยี นหญิงวางไวแ้ ถวบนของชน้ั วางของ วิธกี ารปฏิบตั ิ 1.3 ครูให้นกั เรยี นเขา้ แถว 4 แถว หลัง - นักเรยี นมคี วามเป็น 1. ตามองลูกทล่ี อยมา ยนื มีเทา้ นาํ และ กรวยท่ีวางไว้ให้ตรง ตามกลมุ่ เทา้ ตาม ย่อขาลง เอนตวั ไปดา้ นหลงั ระเบียบเรียบรอ้ ย เลก็ นอ้ ย แขนทัง้ สองข้างยกขึ้นมาเพื่อ ภายในแถวตามท่ี รักษาสมดุลของร่างกาย กาํ หนด 1.4 อบอนุ่ รา่ งกาย (Warm – Up) - นักเรียนมีความ ครูใหน้ ักเรยี นขยายแถวหนึ่งช่วงแขนเพ่อื อบอุน่ พร้อมในการเรยี นทั้ง ร่างกาย ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ 1.4.1 ครนู ํานกั เรียนยดื เหยยี ดกล้ามเนอ้ื 4 ท่า และอารมณ์ - นักเรียนเคารพกติกา ภายในหอ้ งเรยี นแตง่ กายเรยี บรอ้ ย
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 2. เมอ่ื ลกู บอลลอยเข้ามาใกลใ้ หเ้ กรง็ คอ ท่าท่ี 1 หมุนเอว ซ้ายและขวา ข้างละ 10 ครั้ง - นักเรยี นบริหาร และใชส้ ่วนบนของหนา้ ผากสมั ผสั กบั ลูก ร่างกายและอวัยวะ บอล ตา่ งๆ ได้เหมาะสมตาม วัย ท่าที่ 2 ไขว้ขามาด้านหน้าขา ก้มแตะปลาย เทา้ สลบั ข้างละ 10 วินาที 3. ถา้ ตอ้ งการกระโดดโหม่ง ให้รอลกู บอล ท่าที่ 3 ท่าเหยียดต้นขาซ้ายและขวา สลับ ขา้ งละ 10 วนิ าที ลอยตกลงมาแล้วหาจงั หวะกระโดดข้นึ ไป โดยใหล้ กู บอลอยู่ด้านหน้า ท่าท่ี 4 วง่ิ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 1.5 พัฒนาสมรรถภาพร่างกาย ครูให้นักเรยี นเล่นเกม “วงิ่ ไล่จับ” - ให้นกั เรยี นกระจายตัวทัว่ สนาม
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ - ครูสมุ่ นักเรยี น 5 คน มาเป็นคนว่งิ ไลค่ น อ่ืน ๆ โดยคนว่ิงไลจ่ ะถอื เสื้อเอี๊ยมขณะว่งิ ไล่ - หากใครถกู คนวง่ิ ไล่ใช้เส้ือเอยี๊ มสัมผสั ตวั จะต้องสลับหนา้ ท่กี ันทนั ที คนทถ่ี ูกคนวงิ่ ไลใ่ ช้ เสือ้ เอย๊ี มสัมผสั จะต้องรบั เอ๊ียมและกลายเป็น คนวง่ิ ไลค่ นอน่ื แทน - คนทใ่ี ช้เสอ้ื เอีย๊ มวิ่งไลแ่ ละสัมผสั คนอ่นื ไดส้ าํ เร็จ จะได้กลายเป็นคนทีไ่ ด้วิ่งหนคี นอนื่ ๆ แทน 2. ขั้นอธบิ ายและสาธติ (10นาท)ี 2.1 ครใู ห้นกั เรยี นเข้าแถวตอน 4 กลุ่ม เหมอื นตอนแรก 2.2 ครถู ามคําถามนักเรียนวา่ “การควบคมุ -นักเรียนฟงั ถามและ บอล หยุดบอล หรือยิงปดระตู เมื่อลกู บอล ตอบคําถาม ลอยอยู่กลางอากาศ สามารถทําไดด้ ว้ ยวธิ ีใด” แลกเปล่ยี นความ แนวคาํ ตอบ : การโหมง่ บอล คดิ เหน็ กบั ครผู ู้สอนได้ 2.3 ครูอธิบายและสาธติ วธิ ีการปฏิบตั ิ อยา่ งเหมาะสม ทักษะการโหม>งบอล 2.5 ครใู หBนักเรียน 1 – 2 คน สาธติ รว> มกับ ครถู งึ วธิ ีการโหมง> บอล 2.6 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั อกี คร้งั กอ่ นฝกึ ปฏิบัติ 2.7 ครใู ห้นักเรยี น ขยายแถว 2 ชว่ งแขน
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 2.8 ครบู อกใหห้ ัวแถวแตล่ ะแถวมารับลกู บอลทีค่ รูเตรยี มมาให้เพอ่ื ไปแจกเพอื่ นในแถว 3.ขน้ั การฝึกหดั ทักษะ (20 นาที) 3.1 ครใู หน้ ักเรียนฝกึ ทักษะการโหมง่ โดย - นักเรยี นมที ักษะ ใหแ้ ตล่ ะคู่หนั หน้าเข้าหากัน เป็นแถวหน้า การโหมง่ บอล กระดาน 2 แถว ความห่างประมาณ 3 เมตร และนักเรียนโยนลูกบอลให้บริเวณศีรษะของคู่ ตนเองทีอ่ ยู่ฝ่ังตรงขา้ ม และเมือ่ เพอ่ื นโยนลูก บอลมาใหบ้ ริเวณศีรษะแลว้ ใหน้ ักเรียนใช้ ทักษะการโหม่งลูกบอล โหม่งลกู บอลกลับไป ใหเ้ พอ่ื นท่ีโยนมาให้ ผลดั กนั โหมง่ ลูกบอลคน ละ 5 คร้งั ทําแบบนไ้ี ปเรอ่ื ย ๆ
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ 3.2 ครูใหน้ ักเรยี นทกุ คนเดินหน้าคนละ 1 - นกั เรยี นปฏิบตั ิ ก้าว และฝกึ ทกั ษะการโหมง่ บอล โดยให้ ทักษะการโหมง่ บอล นักเรยี นน่ังคุกเขา่ กน้ ไมต่ ิดสน้ เท้า ยกกน้ ได้ดขี ้ึน ขึน้ มาให้อยู่แนวเดยี วกบั ลําตวั หลงั จากนนั้ ให้ โยนลูกบอลใหบ้ ริเวณศีรษะของคตู่ นเองที่อยู่ ฝั่งตรงข้าม และเม่อื เพอื่ นโยนลูกบอลมาให้ บรเิ วณศรี ษะแลว้ ใหน้ กั เรียนใชท้ กั ษะการ โหมง่ ลกู บอล โหมง่ ลกู บอลกลับไปให้เพอ่ื นท่ี โยนมาให้ด้วยท่านง่ั คุกเขา่ พยายามโหม่งกบั ไปให้ตรงเพ่อื นและให้เพือ่ นใชม้ ือรับได้ง่าย ท่ีสดุ ผลดั กันโหมง่ ลกู บอลคนละ 5 คร้งั ทาํ แบบนไ้ี ปเร่อื ย ๆ
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 4.ข้ันนาํ ไปใช้ (10 นาท)ี 4.1 ครูให้นกั เรยี นเข้าแถวตอน 1 ชว่ งแขน 4 แถวตามกลมุ่ เหมือนเดมิ 4.2 ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละแถวส่งอาสาสมคั ร - นักเรียนสนุกสนาน 1 คน เพอ่ื มาถอื ตะกร้า ในการเลน่ เกมแขง่ ขนั อยา่ งน้อย 80% ของ 4.3 ครูใหน้ กั เรยี นในแถวมีลูกบอลคนละ 1 จาํ นวนนักเรยี น ลกู ทงั้ หมด 4.4 ครใู หน้ กั เรียนแขง่ ขนั กนั แตล่ ะแถว พยายามโหมง่ ลูกบอลใหล้ งตะกร้า คนละ 1 คร้งั โดยใหโ้ ยนลกู บอลโหมง่ ด้วยตนเอง 4.5 นกั เรียนทโี่ หม่งลูกบอลแลว้ ใหเ้ ก็บลกู บอลให้เพื่อนในแถวทีย่ งั ไม่ไดโ้ หม่งลกู บอล และไปต่อทา้ ยแถว นับจํานวนลกู บอลที่ลง ตะกร้า แถวไหนจาํ นวนลูกบอลลงตะกรา้ มาก ทส่ี ดุ เปน็ ฝา่ ยชนะ
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 5. ข้นั สรปุ และสุขปฏบิ ัติ (10 นาที) 5.1 ครใู ห้นักเรยี นกลบั มาเขา้ แถวตามกลุ่ม - นักเรียนไดฝ้ ึก หลังจากน้ันครูสรปุ เนื้อหาและถามคาํ ถาม ประมวลความคิด เก่ียวกับการเรียนพลศกึ ษาในคาบนี้ รวบยอดอีกครั้ง 5.1.1 “การโหม่งบอลใหแ้ มน่ ยาํ ตอ้ งใช้ หลังจากเรยี น ส่วนใดของศีรษะสมั ผสั ลกู บอล” แนวคําตอบ : บริเวณหน้าผาก 5.1.2 “หากต้องการเพมิ่ แรงในการ โหมง่ บอล สามารถปฏิบตั ไิ ด้ด้วยวธิ ใี ด” แนวคําตอบ : เอนตัวไปด้านหลงั 5.2 ครใู ห้นกั เรียนไปลา้ งหนา้ ล้างมือ ดื่ม - นกั เรยี นร้จู กั การ นํ้า และกลับมาเข้าแถว ดแู ลรกั ษาความ 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว สะอาดอวัยวะต่างๆ ของนกั เรียน ของร่างกายตนเอง 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน หลังจากเลน่ กีฬา ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี - นักเรยี นได้ฝึกความ การเปล่ียนแปลง) รบั ผดิ ชอบในการ 5.5 เลิกแถวและพานกั เรียนเดนิ แถวกลบั ตรวจสอบและแก้ใข ในเรอ่ื งการนาํ ของใช้ มาโรงเรียน
7. ส่ือการสอน/แหล่งการเรยี นรู้ - ส่ือการสอน นกหวีด หนงั สอื เรยี นวิชาสขุ ศกึ ษา กรวย แผน่ ยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศกึ ษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวท์บอรด์ ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอร์ด เรอ่ื งทีส่ อนในชั่วโมง Whiteboard eraser poster/Image media ลูกฟุตบอล กรวยจราจร เสื้อเอ๊ียมกฬี า A Football Traffic cones Sports bib แหล่งการเรียนรู้ สุรเชษฐ์ วศิ วธรี านนท์.2561. กฬี าฟตุ บอลและกิจกรรมยดื หยุ่น ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 2. พมิ พ์คร้งั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอรพ์ ริ้นท์กร๊ปุ จาํ กัด. ศัพทภ์ าษาอังกฤษเกี่ยวกบั ฟุตบอล. 2556. [ออนไลน]์ . แหลง่ ทม่ี า: https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/61567/-laneng-lan- [1 เมษายน 2563]
8. คาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย หนงั สือเรียน ลาํ ดับ คําศัพทภ์ าษาอังกฤษ กรวย 1 Book กรวยจราจร 2 Cone แผ่นยางมารก์ เกอร์ 3 Traffic cones กระดานไวท์บอรด์ 4 Marker ปากกาไวทบ์ อรด์ 5 White board แปรงลบกระดานไวทบ์ อรด์ 6 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่อื งทสี่ อนในชว่ั โมง 7 Whiteboard eraser เส้ือเอี๊ยมกฬี า 8 poster/Image media โหม่งลกู บอล 9 Sports bib 10 Head the ball 9. การวดั และประเมนิ ผล ลําดบั ที่ เร่อื ง เคร่ืองมือ แบบสงั เกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ่วนรว่ มตลอดชัน้ เรยี น แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเครื่องแตง่ กายและบักทกึ คะแนนความรบั ผดิ ชอบและ แบบสังเกต คะแนนสขุ ปฏบิ ตั ิ 3 สงั เกตการตอบคําถามระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
โรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมีส่วนร่วมในกิจกรรม และผลสําเรจ็ ของการฝกึ ทักษะและการนาํ ไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศึกษา.................. หนว่ ยการเรยี นร.ู้ ..................................... เรอ่ื ง...................................................................ระดบั ชัน้ ........................... ระดบั 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง/เพิม่ เตมิ ) PQ นกั เรยี น 80% ข้นึ ไปวงิ่ อย่าง นกั เรยี น 60%-80% ว่ิงอยา่ ง นักเรียนนอ้ ยกวา่ 60% ว่ิงอยา่ ง สมรรถภาพ คลอ่ งแคล่ววอ่ งไวและวง่ิ ไดอ้ ย่าง คลอ่ งแคลว่ วอ่ งไวและวง่ิ ไดอ้ ยา่ ง คล่องแคลว่ วอ่ งไวและวิ่งไดอ้ ย่าง ทางกาย ต่อเนอื่ งโดยไมเ่ หนอื่ ย ตอ่ เนือ่ งโดยไมเ่ หนอ่ื ย ตอ่ เนอื่ งโดยไม่เหนอ่ื ย นกั เรยี น 80% ขนึ้ ไปเขา้ แถวอยา่ ง นักเรียน 60%-80% เขา้ แถวอยา่ ง นักเรียนน้อยกว่า 60% เข้าแถว MQ คุณธรรม เปน็ ระเบียบ แต่งกายเรยี บรอ้ ย เป็นระเบียบ แต่งกายเรียบรอ้ ย อยา่ งเป็นระเบียบ แตง่ กาย จรยิ ธรรม พดู จาสภุ าพ พูดจาสุภาพ เรยี บรอ้ ย พูดจาสภุ าพ AQ เจตคติ นกั เรยี น 80% ข้นึ ไปมีความ นกั เรียน 60%-80% มคี วาม นักเรียนนอ้ ยกวา่ 60% มคี วาม สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนุกสนานจากการเรียนและการ สนุกสนานจากการเรยี นและการ เลน่ เกม เลน่ เกม เล่นเกม IQ ความรู้ นักเรยี น 80% ขน้ึ ไปสามารถ นกั เรยี น 60%-80% สามารถ นกั เรยี นนอ้ ยกว่า 60% สามารถ ความเข้าใจ อธิบายทักษะการโหม่งลกู บอล อธิบายทกั ษะการโหม่งลกู บอล อธบิ ายทักษะการโหม่งลูกบอล อยา่ งถกู ตอ้ ง อยา่ งถกู ต้อง อยา่ งถกู ตอ้ ง SQ ทกั ษะ นักเรยี น 80% ขนึ้ ไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏบิ ตั ทิ ักษะการโหม่งลูกบอล ปฏบิ ัตทิ กั ษะการโหมง่ ลกู บอล ปฏบิ ัตทิ กั ษะการโหม่งลกู บอล อย่างถกู ตอ้ ง อยา่ งถกู ต้อง อยา่ งถูกตอ้ ง ระดับคณุ ภาพ ระดบั 3 หมายถึง จํานวนนกั เรยี น 80% ขึ้นไป ระดบั 2 หมายถงึ จํานวนนกั เรยี น 60-80% ระดับ 1 หมายถึง จํานวนนักเรยี นอ้ ยกวา่ 60% ลงชอื่ ...........................................................ผปู้ ระเมิน
โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝา่ ยประถม บันทึกหลังสอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2/...... หน่วย กฬี าฟตุ บอล (Football) ภาคเรียน ปลาย เรอื่ ง ทกั ษะการโหม่งบอล (Heading the ball) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี วนั ท.ี่ .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค (กอ่ นสอน-ระหวา่ งสอน-หลงั สอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพื่อใช้ในการสอนครงั้ ตอ่ ไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผสู้ อน
โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม แผนการจัดการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 หน่วย กฬี าฟุตบอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรือ่ ง ทกั ษะการยงิ ประตู (Shooting) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลือ่ นไหว การออกกาํ ลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2: รกั การออกกําลังกาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏิบตั เิ ป็นประจําอย่างสมา่ํ เสมอ มวี นิ ัย เคารพสทิ ธิ กฎกตกิ า มีนาํ้ ใจ มีจติ วิญญาณในการแข่งขนั และชืน่ ชมในสนุ ทรีภาพของการกฬี า 2. ตัวชีว้ ัด พ 3.1 ป.2/1: ควบคมุ การเคล่อื นไหวร่างกาย ขณะอยูก่ ับที่ เคลือ่ นที่ และใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบด็ เตลด็ และเข้ารว่ มกจิ กรรมทางกายทีว่ ธิ ีเล่น อาศยั การเคลอ่ื นไหวเบอ้ื งต้นทง้ั แบบอยู่กบั ที่ เคลือ่ นท่ี และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกาํ ลงั กาย และเล่นเกม ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งสนกุ สนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ัติตามกฎ กติกาและข้อตกลงในการเลน่ เกมเปน็ กลุ่ม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นักเรยี นสามารถอธิบายทักษะการยงิ ประตูได้ถกู ต้อง (IQ) 3.2 นักเรียนสามารถปฏิบัตทิ กั ษะการยงิ ประตูได้อย่างถูกตอ้ ง (SQ) 3.3 นักเรียนมคี วามสนุกสนานจากการเรยี น การเลน่ เกม และการแข่งขนั (AQ) 3.4 นักเรยี นมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายด้านความอดทนของระบบหวั ใจ ระบบไหลเวียนโลหติ และ ด้านความคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไวที่ดีโดยการเล่นเกมวง่ิ ไล่จับ (PQ) 3.5 นกั เรียนสามารถเขา้ แถวอย่างเป็นระเบียบ แต่งกายเรยี บร้อย พดู จาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสาํ คญั ทกั ษะการยงิ ประตู (Shooting) เป็นหัวใจสาํ คัญของการเลน่ กฬี าฟตุ บอล หากทีมใดยงิ ประตูได้แม่นยาํ กว่า ทําประตูไดเ้ ยอะกว่า ทีมน้นั ก็จะเป็นผูช้ นะในการแขง่ ขนั ในคร้งั นนั้ 5. ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวัง นักเรยี น 80% สามารถปฏิบตั ิไดต้ ามจุดประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ละสามารถนาํ เอาความรูไ้ ปใชไ้ ดอ้ ย่าง คลอ่ งแคล่วในการเรยี นการสอนรายวชิ าอื่น และชวี ิตประจาํ วัน 6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ ทกั ษะการยงิ ประตู (Shooting) 1.ขั้นเตรยี ม/อบอนุ่ รา่ งกาย (10 นาท)ี มีหลากหลายลกั ษณะด้วยกัน ข้ึนกับ 1.1 ครูเดนิ ไปรบั นักเรียน แล้วพานกั เรยี น - นกั เรียนมีความเข้าใจ สถานการณ์ในขณะนัน้ ตลอดจนความ ไปสถานทเี่ รียน (สนาม 3) และปฎบิ ตั ติ ามคําสั่ง ชาํ นาญของทักษะที่ไดฝ้ กึ ซ้อมมา โดย 1.2 ครใู หน้ กั เรยี นวางถงุ ย่ามในชน้ั วางของ ครูผู้สอน ปกตแิ ลว้ ถา้ ต้องการยงิ ลกู ใหแ้ รง หรือยงิ โดยให้นักเรียนชายไวแ้ ถวล่างของชนั้ วาง และ จากระยะไกล จะใช้วธิ ีการยงิ ดว้ ยหลังเทา้ นักเรยี นหญิงวางไว้แถวบนของชั้นวางของ ถ้าต้องการยิงประตูให้ไดท้ ศิ ทางทแ่ี ม่นยาํ 1.3 ครใู ห้นกั เรียนเข้าแถว 4 แถว หลัง - นกั เรยี นมีความเป็น จะใช้วธิ กี ารยงิ ด้วยขา้ งเทา้ ดา้ นใน และ กรวยทวี่ างไวใ้ ห้ตรง ตามกลุ่ม ระเบียบเรยี บร้อย หากบอลลอยอยกู่ ลางอากาศ และอยู่ใกล้ ภายในแถวตามที่ ปากประตู อาจจะใชว้ ิธกี ารยิงโดยใช้การ กาํ หนด โหมง่ ได้ 1.4 อบอุ่นรา่ งกาย (Warm – Up) - นกั เรียนมคี วาม ครใู หน้ ักเรยี นขยายแถวหนึ่งชว่ งแขนเพ่อื อบอนุ่ พรอ้ มในการเรียนทั้ง รา่ งกาย ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ 1.4.1 ครนู ํานกั เรียนยดื เหยียดกลา้ มเน้ือ 5 ท่า และอารมณ์ - นักเรียนเคารพกตกิ า ภายในหอ้ งเรยี นแตง่ กายเรยี บรอ้ ย
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ การยงิ ด้วยข้างเท้าดา้ นใน ทา่ ที่ 1 พบั ขาไปด้านหลงั เพ่ือยดื ตน้ ขา - นกั เรยี นบริหาร เป็นการยิงบอลทแ่ี มน่ ยาํ มากเพราะ ดา้ นหน้า สลับช้างละ 10 วินาที ร่างกายและอวัยวะ ต่างๆ ได้เหมาะสมตาม ส่วนทส่ี มั ผัสกบั ลกู บอลมีพนื้ ท่กี ว้าง วัย วิธีปฏิบตั ิ 1. วางลกู บอลไวด้ ้านหนา้ หา่ งจากตัว ประมาณ 3 กา้ ว ท่าที่ 2 ไขว้ขามาด้านหน้าขา ก้มแตะปลาย เท้า สลับข้างละ 10 วินาที 2. ก้าวเขา้ หาลูกบอล โดยวางเท้าหลักไว้ ท่าที่ 3 นั่งแยกขาทั้งสองข้างออก ใช้มือ ด้านขา้ งของลกู บอล ให้ปลายเท้าช้ไี ป สมั ผสั พน้ื ขาตรึง ด้านหน้า และอยรู่ ะดบั เดียวกบั ลูกบอล 3. เหวี่ยงเท้าท่ีใช้เตะไปดา้ นหลงั ใช้แรงสง่ ท่าที่ 4 นั่งพับขายืดต้นขาด้านหน้า ขาอีก จากสะโพก เหว่ยี งเท้ากลับมาใชข้ ้างเทา้ ขา้ งเหยียดตรึง สลับข้างละ 10 วินาที สัมผัสบรเิ วณกลางบอล ขณะทีเ่ ทา้ สมั ผสั บอลใหเ้ กรง็ ขอ้ เทา้ ไวเ้ พอื่ จะทาํ ใหบ้ อลว่งิ ไปไดแ้ รงข้ึน แขนทัง้ สองยกขึ้นเพอ่ื รักษา สมดุลของรา่ งกาย
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ ทา่ ท่ี 5 ว่งิ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 1 1.5 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย ครใู หน้ กั เรียนเล่นเกม “วงิ่ ไลจ่ ับ” 2 - ใหน้ กั เรียนกระจายตวั ทั่วสนาม - ครูสุม่ นกั เรียน 5 คน มาเป็นคนว่งิ ไล่คน การยิงดว้ ยหลงั เท้า เป็นการยิงบอลทสี่ ามารถยงิ ได้แรง อนื่ ๆ โดยคนวิง่ ไล่จะถือเส้ือเอย๊ี มขณะวง่ิ ไล่ - หากใครถูกคนวงิ่ ไล่ใชเ้ สอื้ เอย๊ี มสมั ผัสตัว เพราะใช้แรงเหวย่ี งของสะโพกค่อนข้าง กว้าง จะตอ้ งสลบั หนา้ ทีก่ ันทนั ที คนทีถ่ ูกคนวิ่งไลใ่ ช้ วธิ ปี ฏิบตั ิ เสอ้ื เอี๊ยมสัมผสั จะตอ้ งรับเอ๊ยี มและกลายเป็น 1. วางลกู บอลไวด้ า้ นหนา้ ห่างจากตวั คนวงิ่ ไล่คนอนื่ แทน ประมาณ 3 ก้าว - คนท่ใี ชเ้ สือ้ เอ๊ียมวง่ิ ไล่และสัมผสั คนอ่ืน ได้สําเร็จ จะได้กลายเปน็ คนทีไ่ ด้ว่งิ หนีคนอ่นื ๆ แทน 2. ข้ันอธิบายและสาธติ (10นาที) 2.1 ครใู ห้นกั เรียนเขา้ แถวตอน 4 กลุม่ เหมอื นตอนแรก 2.2 ครถู ามคาํ ถามนกั เรียนวา่ “ทักษะใดท่ี -นักเรียนฟัง ถามและ ตอบคาํ ถาม ใช้ในการทําแตม้ ในกีฬาฟุตบอล” แนวคาํ ตอบ : ทกั ษะการยิงประตู แลกเปล่ียนความ คิดเห็นกับครูผู้สอนได้ อย่างเหมาะสม
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ 2. กา้ วเข้าหาลูกบอล โดยวางเท้าหลักไว้ “การยิงประตสู ามารถใชส้ ่วนใดยงิ ด้วยวิธใี ด ดา้ นขา้ งลูกบอล ใหป้ ลายเท้าชี้ไป ไดบ้ ้าง” ด้านหน้าและอยู่ระดับเดียวกนั กบั ลกู บอล แนวคําตอบ : 3 สว่ น 1.) ข้างเทา้ ดา้ นใน ห่างจากลูกบอลประมาณ 20 – 25 ซม. 2.) หลงั เท้า 3.) การโหม่ง หรอื หนึง่ คบื 2.3 ครอู ธิบายและสาธติ รว่ มกบั นักเรยี นใน ทกั ษะการยิงประตแู บบตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การยิง ประตูด้วยข้างเท้าด้านใน และการยงิ ประตู ด้วยหลงั เท้า 2.4 ครถู ามคาํ ถามนักเรยี นว่า การยิงบอล ดว้ ยส่วนใด สามารถยิงได้แม่นยํากวา่ กนั เพราะอะไร 3. เหวย่ี งเทา) ที่ใช)เตะไปด)านหลัง ใช)แรงส9ง แนวคาํ ตอบ : การยิงดว้ ยข้างเทา้ ดา้ นใน จากสะโพก โน)มตัวไปด)านหน)า เหว่ยี งเทา) เพราะว่า สว่ นที่สมั ผัสกบั ลกู บอลมพี ืน้ ท่ีกวา้ ง กลบั มา ใชห) ลังสัมผสั บรเิ วณกลางบอล 2.5 ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามข้อ ปลายเทา) ง)มุ ชล้ี งพ้นื ขอ) เทา) เกรง็ แขนทงั้ สงสัยอกี คร้ังกอ่ นฝกึ ปฏบิ ตั ิ สองข)างยกขึน้ เพอ่ื รักษาสมดุลของรา9 งกาย 2.6 ครใู หน้ ักเรยี น ขยายแถว 2 ชว่ งแขน 2.7 ครบู อกให้หัวแถวแตล่ ะแถวมารับลกู บอลทีค่ รเู ตรียมมาใหเ้ พ่ือไปแจกเพ่อื นในแถว 3.ขน้ั การฝึกหดั ทกั ษะ (20 นาที) 3.1 ครใู ห้นกั เรยี นเข้าแถวตามกลุม่ 4 กลมุ่ เพ่อื เตรียมฝึกปฏิบัตทิ กั ษะการยิงประตู
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ 4. หากตอ) งการใหล) กู บอลสงู ให)วางเท)า หลักไวด) )านหลงั ลกู โน)มตวั ไปด)านหลัง และเทา) ทีใ่ ชเ) ตะใหว) างเท)าสัมผสั ลูกบอล บริเวณส9วนล9างของลกู บอล 3.2 ครูใหน้ กั เรียนฝกึ ทกั ษะการยงิ ประตู - นกั เรียนมที กั ษะ ด้วยข้างเทา้ ดา้ นใน โดยใหน้ กั เรียนคนแรก การยงิ ประตู ของแถวเป็นคนยงิ บอลดว้ ยข้างเท้าด้านในให้ เข้าประตูโดยไม่โดนกรวยที่ตง้ั อยูต่ รงกลาง ประตู โดยครอู ธิบายวา่ “หากนักเรียนยงิ โดน กรวยท่ีต้งั อยู่ตรงกลางประตเู ปรียบเสมือน นักเรยี นยงิ ตดิ ผู้รกั ษาประตู” และครใู ห้ นักเรียนทุกคนยิงประตตู ามสญั ญาณนกหวีด หากยิงแลว้ โดนกรวย ใหค้ นที่ยงิ วงิ่ ไปต้งั กรวย และถือลกู บอลกลับมาตอ่ ดา้ นหลังของแถว ตวั เอง หากยงิ ไมโ่ ดนกรวย ก็ให้คนท่ียงิ ว่ิงไป ถอื ลูกบอลกลบั มาต่อดา้ นหลงั ของแถวตวั เอง เช่นเดยี วกนั 3.3 ครใู ห้นกั เรียนฝกึ ทกั ษะการยิงประตู ดว้ ยหลงั เท้า โดยใหน้ ักเรยี นคนแรกของแถว เปน็ คนยงิ บอลด้วยหลงั เทา้ ใหเ้ ขา้ ประตูโดยไม่
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ โดนกรวยที่ต้งั อยู่ตรงกลางประตู และครูให้ นักเรียนทกุ คนยิงประตูตามสญั ญาณนกหวดี หากยิงแล้วโดนกรวย ให้คนทย่ี งิ วิง่ ไปตั้งกรวย และถอื ลูกบอลกลบั มาต่อดา้ นหลังของแถว ตัวเอง หากยงิ ไม่โดนกรวย กใ็ หค้ นทย่ี งิ วงิ่ ไป ถือลกู บอลกลับมาต่อด้านหลังของแถวตัวเอง เช่นเดยี วกัน 3.4 ครเู ปล่ียนแบบฝกึ โดยใหน้ กั เรยี นวาง - นกั เรยี นปฏิบตั ิ บอลทจ่ี ดุ มาร์คที่ 2 เพ่อื ใหเ้ ลย้ี งบอลซกิ แซก ทกั ษะการยิงประตู ไปยิงทจ่ี ุดมารค์ ท่ี 1 ตามระยะ และนักเรยี น และทักษะการเลย้ี ง สามารถเลือกยิงประตูด้วยข้างเทาด้านในหรอื ลกู บอลไดด้ ีขึ้น หลังเท้ากไ็ ด้
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ 3.3 ครูใหส้ ัญญาณนกหวดี เพอื่ เรม่ิ ฝึก ปฏิบัตทิ ักษะ 4.ขั้นนาํ ไปใช้ (10 นาท)ี 4.1 ครูใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวตอน 1 ชว่ งแขน 4 แถวตามกลมุ่ เหมือนเดมิ 4.2 ครใู หน้ ักเรยี นแขง่ ขันกันแตล่ ะแถวโดย - นักเรียนสนุกสนาน การเลน่ “เกมยิงประตู” ในการเล่นเกมแขง่ ขัน อยา่ งน้อย 80% ของ 4.3 ให้นกั เรยี นปฏิบตั เิ หมอื นขน้ั ฝกึ ปฏบิ ัติ จํานวนนกั เรยี น ทักษะในขอ้ 3.2 แต่เพ่มิ กตกิ าคือ หากแถวใด ทั้งหมด ยงิ เข้าประตูโดยไม่โดนกรวยไดถ้ ึง 10 ครงั้ กอ่ น แถวนน้ั เปน็ ฝา่ ยชนะ
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ 5. ข้นั สรุปและสขุ ปฏบิ ัติ (10 นาท)ี 5.1 ครใู หน้ ักเรียนกลับมาเขา้ แถวตามกลมุ่ หลงั จากนน้ั ครูสรปุ เน้อื หาและถามคําถาม เกยี่ วกับการเรยี นพลศกึ ษาในคาบน้ี 5.1.1 “การยิงบอลวธิ ีใดยิงไดแ้ รงท่สี ดุ ” - นักเรยี นได้ฝกึ แนวคําตอบ : การยิงบอลดว้ ยหลังเท้า ประมวลความคดิ 5.1.2 “การยงิ บอลวิธใี ดยิงได้แม่นยาํ รวบยอดอกี คร้งั ที่สุด” หลังจากเรียน แนวคําตอบ : การยิงบอลด้วยขา้ งเทา้ ดา้ นใน 5.2 ครใู ห้นักเรยี นไปล้างหนา้ ลา้ งมือ ดื่ม - นกั เรยี นร้จู ักการ นํา้ และกลับมาเขา้ แถว ดแู ลรกั ษาความ 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว สะอาดอวยั วะตา่ งๆ ของนักเรียน ของรา่ งกายตนเอง 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน หลงั จากเลน่ กีฬา ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี - นกั เรยี นไดฝ้ กึ ความ การเปล่ยี นแปลง) รบั ผดิ ชอบในการ 5.5 เลกิ แถวและพานกั เรียนเดนิ แถวกลับ ตรวจสอบและแก้ใข ในเรือ่ งการนาํ ของใช้ มาโรงเรียน
7. ส่ือการสอน/แหล่งการเรียนรู้ - ส่ือการสอน นกหวดี หนังสือเรียนวิชาสุขศึกษา กรวย แผน่ ยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เลม่ 2 A Book กระดานไวท์บอรด์ ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวทบ์ อร์ด เร่อื งท่ีสอนในชวั่ โมง Whiteboard eraser poster/Image media ลกู ฟตุ บอล กรวยจราจร เส้ือเอ๊ยี มกีฬา ประตฟู ุตบอล A Football Traffic cones Sports bib Goal แหลง่ การเรียนรู้ สุรเชษฐ์ วศิ วธีรานนท.์ 2561. กฬี าฟตุ บอลและกจิ กรรมยืดหยุน่ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 2. พิมพค์ ร้งั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พริน้ ทก์ รุป๊ จาํ กดั . การยิงบอลดว) ยหลงั เท)า. 2556. [ออนไลน]์ . แหลง่ ทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=_oGMyUZUH4o [1 เมษายน 2563]
8. คาํ ศพั ท์ภาษาอังกฤษ ความหมาย หนังสอื เรยี น ลําดบั คาํ ศัพทภ์ าษาอังกฤษ กรวย 1 Book กรวยจราจร 2 Cone แผ่นยางมาร์กเกอร์ 3 Traffic cones กระดานไวท์บอร์ด 4 Marker ปากกาไวท์บอรด์ 5 White board แปรงลบกระดานไวท์บอร์ด 6 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่ืองทส่ี อนในชวั่ โมง 7 Whiteboard eraser เสือ้ เอ๊ียมกฬี า 8 poster/Image media ประตูฟตุ บอล 9 Sports bib ยงิ ประตู 10 Goal โหม่งบอล 11 Shoot กองหนา้ 12 Head the ball 13 Forward 9. การวัดและประเมินผล ลําดบั ที่ เรอ่ื ง เครอ่ื งมือ แบบสงั เกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ่วนรว่ มตลอดชนั้ เรยี น แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเครื่องแต่งกายและบกั ทกึ คะแนนความรบั ผดิ ชอบและ แบบสังเกต คะแนนสุขปฏิบัติ 3 สงั เกตการตอบคาํ ถามระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม และผลสาํ เรจ็ ของการฝกึ ทักษะและการนําไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศึกษา.................. หนว่ ยการเรยี นร.ู้ ..................................... เรื่อง...................................................................ระดบั ชน้ั ........................... ระดับ 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง/เพิ่มเติม) PQ นกั เรยี น 80% ข้ึนไปวิง่ อย่าง นักเรียน 60%-80% ว่ิงอย่าง นักเรียนน้อยกวา่ 60% วิ่งอยา่ ง สมรรถภาพ คลอ่ งแคลว่ ว่องไวและวงิ่ ไดอ้ ย่าง คลอ่ งแคลว่ ว่องไวและวิ่งได้อยา่ ง คล่องแคล่วว่องไวและวง่ิ ไดอ้ ย่าง ทางกาย ตอ่ เน่อื งโดยไม่เหน่อื ย ตอ่ เน่อื งโดยไม่เหนือ่ ย ต่อเนอื่ งโดยไมเ่ หนือ่ ย นักเรียน 80% ขึน้ ไปเข้าแถวอยา่ ง นกั เรยี น 60%-80% เข้าแถวอย่าง นักเรียนนอ้ ยกว่า 60% เขา้ แถว MQ คณุ ธรรม เปน็ ระเบยี บ แต่งกายเรียบรอ้ ย เปน็ ระเบยี บ แต่งกายเรียบรอ้ ย อยา่ งเปน็ ระเบยี บ แตง่ กาย จริยธรรม พูดจาสภุ าพ พูดจาสภุ าพ เรียบรอ้ ย พดู จาสุภาพ AQ เจตคติ นกั เรยี น 80% ขนึ้ ไปมีความ นักเรียน 60%-80% มคี วาม นักเรยี นน้อยกว่า 60% มีความ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ เล่นเกม เลน่ เกม เล่นเกม IQ ความรู้ นักเรยี น 80% ขน้ึ ไปสามารถ นกั เรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนนอ้ ยกว่า 60% สามารถ ความเข้าใจ อธิบายทักษะการยงิ ประตูอยา่ ง อธิบายทักษะการยิงประตูอย่าง อธบิ ายทักษะการยิงประตูอย่าง ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ ง ถกู ต้อง SQ ทักษะ นกั เรียน 80% ขน้ึ ไปสามารถ นกั เรียน 60%-80% สามารถ นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏิบตั ิทกั ษะการยงิ ประตอู ย่าง ปฏิบัติทักษะการยิงประตอู ยา่ ง ปฏบิ ตั ิทกั ษะการยิงประตูอย่าง ถูกต้อง ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง ระดบั คณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถงึ จํานวนนักเรยี น 80% ขึ้นไป ระดับ 2 หมายถึง จาํ นวนนกั เรียน 60-80% ระดับ 1 หมายถงึ จํานวนนักเรียน้อยกว่า 60% ลงช่ือ...........................................................ผู้ประเมนิ
โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม บนั ทกึ หลังสอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2/...... หน่วย กฬี าฟุตบอล (Football) ภาคเรียน ปลาย เร่อื ง ทักษะการยงิ ประตู (Shooting) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี วนั ที่..........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอปุ สรรค (กอ่ นสอน-ระหวา่ งสอน-หลงั สอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพอ่ื ใช้ในการสอนคร้ังต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน
โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 หน่วย กีฬาฟุตบอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรอ่ื ง ทกั ษะการเป็นผรู้ กั ษาประตู (Goalkeeping) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาท)ี ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 การเคล่ือนไหว การออกกาํ ลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เข้าใจ มีทักษะในการเคลอื่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า พ 3.2: รักการออกกาํ ลงั กาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเปน็ ประจําอยา่ งสม่ําเสมอ มวี ินัย เคารพสิทธิ กฎกตกิ า มนี ้ําใจ มีจติ วญิ ญาณในการแขง่ ขนั และชนื่ ชมในสนุ ทรีภาพของการกีฬา 2. ตวั ชีว้ ดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคมุ การเคล่อื นไหวรา่ งกาย ขณะอยกู่ ับท่ี เคล่อื นท่ี และใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เล่มเกมเบ็ดเตลด็ และเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางกายทว่ี ธิ เี ลน่ อาศยั การเคล่ือนไหวเบ้อื งต้นทง้ั แบบอยกู่ บั ที่ เคล่ือนที่ และใช้อปุ กรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกาํ ลังกาย และเลน่ เกม ไดด้ ้วยตนเองอยา่ งสนุกสนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเป็นกลุ่ม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นักเรยี นสามารถอธิบายทกั ษะการเปน็ ผรู้ ักษาประตไู ดถ้ ูกตอ้ ง (IQ) 3.2 นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ทิ ักษะการเป็นผูร้ ักษาประตไู ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (SQ) 3.3 นักเรยี นมคี วามสนกุ สนานจากการเรยี น การเลน่ เกม และการแขง่ ขนั (AQ) 3.4 นักเรียนมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายด้านความแขง็ แรงและความอดทนของกลา้ มเนือ้ ทีด่ ีโดยการ เลยี นแบบการเคล่ือนที่แบบปู (PQ) 3.5 นักเรียนสามารถเข้าแถวอยา่ งเป็นระเบยี บ แต่งกายเรยี บร้อย พูดจาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสําคญั ทักษะการเปน็ ผรู้ ักษาประตู (Goal keeping) ผ้รู กั ษาประตเู ป็นตําแหน่งที่มีสว่ นร่วมในการรับผิดชอบถึง ผลแพช้ นะในทีมฟุตบอลเปน็ อย่างมาก หากทมี ใดมผี รู้ กั ษาประตูที่เก่ง ป้องกนั ไมใ่ หบ้ อลเขา้ ประตูได้ ทมี น้นั ย่อมจะ เสียประตยู าก 5. ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั นกั เรยี น 80% สามารถปฏบิ ตั ิได้ตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้และสามารถนําเอาความรูไ้ ปใชไ้ ดอ้ ย่าง คล่องแคลว่ ในการเรียนการสอนรายวิชาอน่ื และชีวติ ประจาํ วัน 6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ ทกั ษะการยิงประตู (Shooting) 1.ข้ันเตรียม/อบอุน่ รา่ งกาย (10 นาท)ี มีหลากหลายลกั ษณะดว้ ยกัน ขึ้นกับ 1.1 ครูเดนิ ไปรับนกั เรียน แล้วพานักเรียน - นกั เรยี นมีความเข้าใจ สถานการณใ์ นขณะนั้น ตลอดจนความ ไปสถานทเ่ี รยี น (สนาม 3) และปฏบิ ตั ิตามคาํ ส่งั ชํานาญของทกั ษะท่ีไดฝ้ กึ ซอ้ มมา โดย 1.2 ครูให้นักเรียนวางถุงย่ามในช้นั วางของ ครผู ูส้ อน ปกตแิ ลว้ ถ้าต้องการยิงลกู ให้แรง หรือยิง โดยใหน้ กั เรียนชายไวแ้ ถวล่างของชนั้ วาง และ จากระยะไกล จะใชว้ ิธกี ารยิงดว้ ยหลงั เทา้ นกั เรียนหญิงวางไวแ้ ถวบนของชั้นวางของ ถ้าต้องการยงิ ประตูให้ได้ทศิ ทางท่แี มน่ ยาํ 1.3 ครใู หน้ ักเรียนเข้าแถว 4 แถว หลงั - นักเรยี นมคี วามเป็น จะใชว้ ธิ ีการยงิ ดว้ ยข้างเท้าด้านใน และ กรวยท่วี างไวใ้ หต้ รง ตามกล่มุ ระเบยี บเรียบรอ้ ย หากบอลลอยอย่กู ลางอากาศ และอยใู่ กล้ ภายในแถวตามท่ี ปากประตู อาจจะใชว้ ิธีการยงิ โดยใชก้ าร กําหนด โหมง่ ได้ 1.4 อบอุ่นรา่ งกาย (Warm – Up) - นักเรียนมคี วาม พร้อมในการเรยี นทง้ั ครูให้นกั เรียนขยายแถวหนง่ึ ชว่ งแขนเพ่ืออบอ่นุ ร่างกาย ทางด้านรา่ งกาย จิตใจ และอารมณ์ 1.4.1 ครูนาํ นักเรยี นยืดเหยยี ดกล้ามเนือ้ 5 ทา่ - นักเรียนเคารพกตกิ า ภายในหอ้ งเรยี นแต่ง กายเรยี บร้อย
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ ทักษะการเป็นผูร้ ักษาประตู ท่าท่ี 1 พับขาไปดา้ นหลงั เพอ่ื ยดื ต้นขา - นกั เรยี นบริหาร ร่างกายและอวัยวะ (Goalkeeping) ด้านหนา้ สลับช้างละ 10 วินาที ต่างๆ ไดเ้ หมาะสมตาม วยั ตําแหนง่ ผรู้ ักษาประตเู ปน็ ตําแหนง่ ท่ี สําคัญอกี ตําแหน่งหน่ึงในทมี มีหนา้ ทีใ่ น การป้องกันลกู บอลไม่ให้เข้าประตู เปรยี บ เหมือนกองหลงั คนสดุ ทา้ ย วิธกี ารปฏบิ ตั ิ ท่าที่ 2 ไขว้ขามาด้านหน้าขา ก้มแตะปลาย เทา้ สลับข้างละ 10 วินาที 1. ท่ายืนเตรียมพรอ้ มรบั ลกู (Ready Position) จะใช้ตอ่ เมอ่ื ค่ตู ่อสู้อย่ใู นระยะ หรอื อยใู่ นทา่ ทางท่พี รอ้ มจะยงิ ประตู ท่าที่ 3 นั่งแยกขาทั้งสองข้างออก ใช้มือ สมั ผัสพน้ื ขาตรึง - ศรี ษะ ตัง้ ตรง ตามองท่ลี กู บอล - มอื หนั ฝ่ามอื ไปดา้ นหน้า น้ิวมือแยก จากกันเลก็ น้อย ยกมอื ระดบั อก ท่าที่ 4 นั่งพับขายืดต้นขาด้านหน้า ขาอีก - เทา้ หา่ งกัน 1 ช่วงไหล่ ปลายเทา้ หนั ข้างเหยยี ดตรงึ สลับขา้ งละ 10 วนิ าที ไปยงั ทศิ ทางของลกู บอล - ลําตัวชว่ งบน โน้มไปดา้ นหน้า เล็กนอ้ ย หันไปยังทิศทางของลูกบอล - แขน แขนชิดกบั ลําตวั แขนทอ่ นลา่ ง
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ ขนานกับพน้ื ขอ้ ศอกงอ ท่าที่ 5 ว่ิงรอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) - ขา ยืนให้สบายไม่เกร็ง 2. การรบั ลูกบอลระดบั ตา่ํ กว่าหวั เข่า (Rolling Ball) ลูกเรียด 1.5 พฒั นาสมรรถภาพร่างกาย - นกั เรียนปฏิบัติ ครูใหน้ กั เรยี นเลยี นแบบทา่ ทางการ ทา่ ทางการเคล่ือนท่ี เคลือ่ นทข่ี องปู เลียนแบบปไู ด้อยา่ ง ตอ่ เนอ่ื ง - ลําตัวชว่ งบน อยบู่ นทิศทางทล่ี ูก บอลกลิง้ เขา้ มา หันสะโพกไปในทิศทาง - เม่อื ครูให้สัญญาณนกหวดี ให้นักเรียน ของลกู บอล โน้มไปด้านหนา้ เลก็ นอ้ ย คนหน้าสุดของแต่ละแถวปฏิบัติท่าทางการ เคลือ่ นทีแ่ บบปูไปดา้ นหน้าจนกว่าจะถึงมารค์ - แขน แขนตา่ํ และย่ืนไปหาลูกบอล - เท้าหลกั เขา่ งอ หนั ออกจากทิศทาง เกอรฝ์ ั่งตรงขา้ ม เมือ่ ใครปฏบิ ัตแิ ล้วใหเ้ ขา้ แถว ของลกู บอล บอลมาทางซา้ ย เท้าซา้ ยเปน็ รอ 4 กลมุ่ เหมอื นเดิมทฝี่ งั่ ตรงขา้ ม ขาหลัก - ปฏิบัติทงั้ หมด 4 รอบ - เท้าที่ปิดระหว่างขา ยอ่ เขา่ ลง แต่ไม่ สมั ผสั พนื้ หวั เขา่ อยใู่ กล้ข้อเท้าของเท้า หลกั - นวิ้ มือ นิ้วแยกออกเลก็ น้อยลกั ษณะ เปน็ รูปตวั M นิว้ สัมผัสกับพื้น
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ 3. การรบั ลกู บอลระดับเอวหรอื ตํ่ากว่า 2. ขนั้ อธบิ ายและสาธติ (10นาที) เอว (Medium Height Balls) 2.1 ครูให้นักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 กลุ่ม เหมือนตอนแรก 2.2 ครูถามคาํ ถามนกั เรียนวา่ “ผรู้ กั ษา -นกั เรียนฟัง ถามและ ประตู มคี วามสําคัญกับทมี ฟุตบอลอย่างไร” ตอบคําถาม แนวคําตอบ : ชว่ ยปอ้ งกันการทาํ ประตูจาก แลกเปลยี่ นความ ฝ่ายตรงข้าม คดิ เหน็ กับครูผู้สอนได้ “ลกู ฟุตบอลสามารถพุง่ เข้ามาหาผู้รกั ษาประตู อยา่ งเหมาะสม ไดใ้ นระดับใดบ้าง” แนวคําตอบ : 3 ระดบั 1.) ระดับตาํ่ กว่าหวั เข่า ลกู เรียด 2.) ระดับเอวหรอื ตาํ่ กวา่ เอว - ศรีษะ ต้ังตรง ตามองท่ีลกู บอล 3.) ระดบั สงู กว่าศรี ษะ - น้ิวมือ นว้ิ แยกออกเลก็ น้อยลักษณะเปน็ 2.3 ครอู ธิบายและสาธิตรว่ มกับนกั เรียนใน รูปตวั M ทกั ษะการยิงประตแู บบต่างๆ ไดแ้ ก่ การรบั ลูก - มือ ฝ่ามอื หนั ขึ้นดา้ นบน บอลระดบั ต่ํากว่าหัวเข่าลูกเรยี ด วธิ ีการรับลูก - แขน ยน่ื ไปหาลูกบอล บอลระดับเอวหรอื ตาํ่ กวา่ เอว และวธิ ีการรับ - ขา แยกจากกันเลก็ นอ้ ย นํา้ หนักตัวอยู่ ลกู สูงกว่าศรษี ะ บนขาทง้ั สองข้าง 2.4 ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซักถามข้อ - ลําตวั ช่วงบน อยู่หลงั ทิศทางที่ลกู บอล สงสัยอีกคร้งั ก่อนฝกึ ปฏบิ ัติ กล้งิ เขา้ มา โน้มไปด้านหนา้ เล็กนอ้ ย 2.5 ครบู อกให้หวั แถวแต่ละแถวมารบั ลูก บอลที่ครเู ตรยี มมาใหเ้ พ่ือไปแจกเพอ่ื นในแถว
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ 4. การรบั ลูกสงู กว่าศรษี ะ (High Ball) 3.ข้ันการฝกึ หัดทกั ษะ (20 นาท)ี 3.1 ครแู บ่งนกั เรยี นออกเปน็ 12 แถวเพื่อ เตรยี มฝึกทกั ษะการรับลกู บอลแบบตา่ ง ๆ - ศรีษะ ต้งั ตรง ตามองทล่ี ูกบอล - แขน ยกขน้ึ ขอ้ ศอกสงู กวา่ หัวไหล่ ข้อศอกงอเล็กนอ้ ย - ลาํ ตัวช่วงบน โน้มไปด้านหน้า เลก็ นอ้ ย หนั ไปยังทิศทางของลูกบอล - ขา ยืนใหส้ บายไม่เกร็ง - มอื หันฝา่ มือไปด้านหนา้ นว้ิ มือแยก จากกนั เลก็ นอ้ ย - เท้า ห่างกนั 1 ชว่ งไหล่
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 3.2 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกทกั ษะการรับลกู บอล - นกั เรยี นมที ักษะ ระดบั ต่าํ กว่าหัวเข่า ลกู เรียด โดยให้นกั เรียน การรบั ลูกบอลแบบ คนแรกของแถวเป็นคนกลงิ้ บอลดว้ ยมือไปให้ ต่างๆ คนทยี่ นื อยู่ตรงข้ามแถวของตวั เองตาม สัญญาณนกหวีด และใหค้ นท่ียนื อยตู่ รงข้าม แถว รบั บอลดว้ ยทกั ษะการรับลูกบอลระดบั ตาํ่ กว่าหวั เขา่ ลูกเรียด เมือ่ รบั บอลเสร็จแลว้ ใหส้ ่งลกู บอลกลับมาใหเ้ พอื่ นในแถว และให้ คนตอ่ ไปเป็นคนไหลบอลให้ เมื่อเพอ่ื นในแถว ไหลบอลให้ครบทกุ คนแลว้ ใหเ้ ปลยี่ นคนใน แถวไปยืนฝง่ั ตรงข้ามแทนคนเดมิ ทําแบบนไ้ี ป เรือ่ ยๆ 3.3 ครูใหน้ ักเรียนฝกึ ทกั ษะการรับลูกบอล ระดับเอวหรอื ต่าํ กวา่ เอว โดยให้นักเรยี นคน แรกของแถวเป็นคนโยนบอลดว้ ยมอื ไปใหค้ น ท่ียนื อยู่ตรงขา้ มแถวของตวั เองระดบั เอวตาม สัญญาณนกหวีด และให้คนท่ียืนอย่ตู รงข้าม แถว รบั บอลดว้ ยทักษะการรับลกู บอลระดบั เอวหรือตา่ํ กวา่ เอว เมอ่ื รบั บอลเสรจ็ แลว้ ใหส้ ง่ ลกู บอลกลับมาให้เพื่อนในแถว และให้คน ต่อไปเปน็ คนโยนบอลให้ เม่อื เพื่อนในแถวโยน บอลให้ครบทุกคนแลว้ ให้เปล่ียนคนในแถวไป ยนื ฝ่ังตรงขา้ มแทนคนเดิม ทาํ แบบน้ีไปเรอ่ื ยๆ 3.4 ครูให้นกั เรียนฝึกทักษะการรบั ลูกสงู กว่าศรีษะโดยให้นกั เรยี นคนแรกของแถวเป็น คนโยนบอลด้วยมือไปใหค้ นที่ยืนอยู่ตรงขา้ ม แถวของตวั เองระดบั เหนือศีรษะตามสญั ญาณ นกหวีด และใหค้ นท่ยี ืนอยตู่ รงข้ามแถว รบั บอลด้วยทกั ษะการรับลูกสูงกวา่ ศรษี ะ เมอื่ รับ
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ บอลเสรจ็ แล้วให้สง่ ลูกบอลกลับมาใหเ้ พื่อนใน แถว และใหค้ นตอ่ ไปเป็นคนโยนบอลให้ เมื่อ เพอ่ื นในแถวโยนบอลใหค้ รบทุกคนแล้ว ให้ เปลี่ยนคนในแถวไปยนื ฝ่งั ตรงขา้ มแทนคนเดิม ทาํ แบบนไี้ ปเรอ่ื ยๆ 4.ขน้ั นาํ ไปใช้ (10 นาท)ี 4.1 ครูให้นกั เรยี นเข้าแถวตอน 1 ชว่ งแขน 4 แถวตามกล่มุ เหมือนเดมิ 4.2 ครอู ธบิ ายวิธีการเลน่ เกม “ลิงชงิ บอล - นกั เรียนสนกุ สนาน โดยใช้มือ” ในการเลน่ เกมแข่งขนั อยา่ งน้อย 80% ของ - คนหนึง่ มีบทบาทเป็นลิงต้องยืนอยู่ จํานวนนกั เรียน ท้ังหมด ตรงกลางวง มหี น้าที่คอยแย่งชิงลูกบอล สว่ น คนท่เี หลอื เป็นผ้รู บั สง่ ลกู บอล ไมใ่ ห้ผู้ทเี่ ป็นลงิ สัมผัสถกู ลูกบอลได้ ถา้ ผเู้ ล่นที่อย่กู ลางวงใช้ มือสัมผัสลูกบอลได้จากใคร คนนนั้ จะตอ้ งมา เป็นลงิ แทน 4.3 ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มเล่นเกม “ลงิ ชงิ บอลโดยใช้มือ”
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ 5. ขั้นสรปุ และสขุ ปฏบิ ตั ิ (10 นาท)ี 5.1 ครูให้นกั เรียนกลบั มาเขา้ แถวตามกลุ่ม - นกั เรียนไดฝ้ กึ หลงั จากนัน้ ครูสรปุ เนอื้ หาและถามคาํ ถาม ประมวลความคิด เกีย่ วกบั การเรยี นพลศึกษาในคาบน้ี รวบยอดอกี ครั้ง 5.1.1 “ผู้รักษาประตูตอ้ งมีทักษะการรับ หลงั จากเรียน บอลกร่ี ะดับ อะไรบา้ ง” แนวคําตอบ : 3 ระดับ 1.) ระดับตํา่ กวา่ หัว เข่า ลกู เรยี ด 2.) ระดบั เอวหรือตา่ํ กวา่ เอว 3.) ระดบั สูงกว่าศีรษะ 5.2 ครูใหน้ ักเรยี นไปลา้ งหน้า ล้างมือ ดืม่ - นกั เรียนรจู้ ักการ นํ้า และกลับมาเขา้ แถว ดูแลรักษาความ 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว สะอาดอวยั วะต่างๆ ของนักเรียน ของรา่ งกายตนเอง 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน หลงั จากเลน่ กฬี า ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี - นกั เรียนไดฝ้ ึกความ การเปลย่ี นแปลง) รบั ผิดชอบในการ 5.5 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ ตรวจสอบและแก้ใข ในเรือ่ งการนําของใช้ มาโรงเรียน
7. สอื่ การสอน/แหลง่ การเรยี นรู้ - ส่ือการสอน นกหวีด หนงั สอื เรียนวชิ าสุขศึกษา กรวย แผน่ ยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวท์บอรด์ ปากกาไวทบ์ อรด์ แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอร์ด เรอ่ื งทสี่ อนในชว่ั โมง Whiteboard eraser poster/Image media ลูกฟุตบอล กรวยจราจร เสอื้ เอี๊ยมกฬี า ประตูฟุตบอล A Football Traffic cones Sports bib Goal แหลง่ การเรียนรู้ สรุ เชษฐ์ วศิ วธีรานนท.์ 2561. กีฬาฟตุ บอลและกิจกรรมยืดหยุน่ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 2. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอรพ์ ริ้นท์กรุป๊ จํากดั . ศัพทภ์ าษาองั กฤษเกยี่ วกับฟุตบอล. 2560. [ออนไลน]์ . แหลง่ ทีม่ า: https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/61567/-laneng-lan- [1 เมษายน 2563]
8. คาํ ศพั ท์ภาษาองั กฤษ ความหมาย หนังสือเรียน ลาํ ดบั คาํ ศพั ท์ภาษาองั กฤษ กรวย 1 Book กรวยจราจร 2 Cone แผน่ ยางมาร์กเกอร์ 3 Traffic cones กระดานไวทบ์ อรด์ 4 Marker ปากกาไวท์บอร์ด 5 White board แปรงลบกระดานไวทบ์ อร์ด 6 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเรอ่ื งทีส่ อนในช่วั โมง 7 Whiteboard eraser เส้ือเอย๊ี มกฬี า 8 poster/Image media ประตฟู ุตบอล 9 Sports bib ผ้รู กั ษาประตู 10 Goal ทา่ ยนื เตรยี มพรอ้ มรบั ลูก 11 Goalkeeper ลกู เรยี ด 12 Ready Position 13 Rolling Ball 9. การวดั และประเมนิ ผล ลาํ ดบั ที่ เร่อื ง เครื่องมือ แบบสังเกต 1 สังเกตความสนใจและการมีสว่ นร่วมตลอดชัน้ เรียน แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเครือ่ งแตง่ กายและบกั ทกึ คะแนนความรบั ผิดชอบและ แบบสังเกต คะแนนสุขปฏบิ ตั ิ 3 สงั เกตการตอบคาํ ถามระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝา่ ยประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรม และผลสาํ เรจ็ ของการฝกึ ทกั ษะและการนาํ ไปใช้ วนั ที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศกึ ษา.................. หน่วยการเรยี นรู้...................................... เรือ่ ง...................................................................ระดบั ช้นั ........................... ระดบั 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง/เพิม่ เติม) PQ นักเรยี น 80% ขึ้นไปปฏิบตั ิทา่ ทาง นกั เรียน 60%-80% ปฏบิ ัติ นักเรยี นนอ้ ยกว่า 60% ปฏิบัติ สมรรถภาพ การเคล่อื นทีเ่ ลยี นแบบปไู ด้อยา่ ง ทา่ ทางการเคลอื่ นที่เลยี นแบบปไู ด้ ทา่ ทางการเคลือ่ นทเ่ี ลยี นแบบปู ทางกาย ต่อเนอ่ื ง อย่างต่อเน่อื ง ได้อย่างต่อเน่ือง นกั เรยี น 80% ขึ้นไปเขา้ แถวอยา่ ง นกั เรยี น 60%-80% เขา้ แถวอยา่ ง นักเรียนนอ้ ยกว่า 60% เขา้ แถว MQ คณุ ธรรม เป็นระเบียบ แต่งกายเรียบร้อย เปน็ ระเบยี บ แต่งกายเรียบรอ้ ย อยา่ งเป็นระเบียบ แตง่ กาย จริยธรรม พดู จาสุภาพ พดู จาสุภาพ เรียบรอ้ ย พูดจาสุภาพ AQ เจตคติ นักเรยี น 80% ขึน้ ไปมคี วาม นักเรยี น 60%-80% มคี วาม นกั เรยี นนอ้ ยกวา่ 60% มีความ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ สนุกสนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ เล่นเกม เลน่ เกม เลน่ เกม IQ ความรู้ นักเรียน 80% ขน้ึ ไปสามารถ นกั เรยี น 60%-80% สามารถ นักเรยี นนอ้ ยกว่า 60% สามารถ ความเขา้ ใจ อธิบายทกั ษะการรับลูกบอลแบบ อธบิ ายทักษะการรับลูกบอลแบบ อธบิ ายทกั ษะการรับลกู บอลแบบ ต่างๆอยา่ งถกู ตอ้ ง ต่างๆอย่างถูกต้อง ตา่ งๆอย่างถูกตอ้ ง SQ ทกั ษะ นกั เรียน 80% ข้ึนไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นักเรยี นนอ้ ยกวา่ 60% สามารถ ปฏบิ ัติทกั ษะการรบั ลูกบอลแบบ ปฏบิ ตั ทิ กั ษะการรับลูกบอลแบบ ปฏิบัตทิ ักษะการรบั ลูกบอลแบบ ต่างๆอย่างถูกตอ้ ง ตา่ งๆอยา่ งถกู ต้อง ต่างๆอย่างถูกตอ้ ง ระดบั คณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถึง จํานวนนักเรยี น 80% ข้นึ ไป ระดบั 2 หมายถงึ จํานวนนักเรยี น 60-80% ระดับ 1 หมายถงึ จํานวนนกั เรียน้อยกว่า 60% ลงชอื่ ...........................................................ผู้ประเมิน
โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม บันทกึ หลังสอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2/...... หนว่ ย กีฬาฟุตบอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรือ่ ง ทักษะการเปน็ ผู้รักษาประตู (Goalkeeping) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี วนั ท.่ี .........เดือน.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค (กอ่ นสอน-ระหวา่ งสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพ่อื ใชใ้ นการสอนครง้ั ต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน
โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 หน่วย กีฬาฟุตบอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรื่อง การทุ่มลูกเข้าเลน่ จากข้างสนาม (Throw in) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา พ 3.2: รกั การออกกําลังกาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั ิเปน็ ประจําอย่างสม่ําเสมอ มวี ินยั เคารพสิทธิ กฎกตกิ า มีนํ้าใจ มจี ิตวิญญาณในการแขง่ ขัน และชืน่ ชมในสุนทรภี าพของการกฬี า 2. ตวั ช้วี ดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคลอื่ นไหวรา่ งกาย ขณะอยกู่ ับท่ี เคล่ือนท่ี และใช้อุปกรณป์ ระกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบ็ดเตลด็ และเข้าร่วมกิจกรรมทางกายทวี่ ธิ เี ลน่ อาศยั การเคลอ่ื นไหวเบอ้ื งตน้ ท้ัง แบบอยกู่ ับท่ี เคล่อื นท่ี และใช้อุปกรณป์ ระกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกาํ ลังกาย และเลน่ เกม ได้ด้วยตนเองอย่างสนุกสนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเป็นกลุม่ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายกตกิ าการทมุ่ บอลเข้าเลน่ จากข้างสนามไดถ้ ูกต้อง (IQ) 3.2 นักเรยี นสามารถปฏบิ ัตทิ กั ษะการท่มุ บอลเขา้ เล่นจากขา้ งสนามไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (SQ) 3.3 นักเรียนมคี วามสนุกสนานจากการเรียน การเลน่ เกม และการแข่งขัน (AQ) 3.4 นกั เรยี นมีพัฒนาการสมรรถภาพทางกายด้านความอดทนของระบบหัวใจและระบบไหลเวยี นโลหติ โดย การเล่นเกม “วง่ิ เป้ยี ว” (PQ) 3.5 นักเรียนสามารถเขา้ แถวอย่างเป็นระเบยี บ แตง่ กายเรยี บรอ้ ย พดู จาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสาํ คญั การทุม่ บอลเข้าเล่นจากขา้ งสนาม (Throw In) มีความสาํ คญั เป็นอยา่ งมาก เนอ่ื งจากในการแขง่ ขนั ฟตุ บอล 1 ครั้ง มีการทุม่ บอลเข้าเล่นจากข้างสนามเปน็ จาํ นวนบ่อยครั้งมาก หากนกั เรียนไมส่ ามารถทุ่มบอลได้ ถกู ตอ้ งตามกติกา ก็จะเป็นขอ้ เสยี เปรียบ 5. ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวงั นกั เรียน 80% สามารถปฏบิ ตั ิได้ตามจุดประสงค์การเรยี นรแู้ ละสามารถนําเอาความรู้ไปใชไ้ ด้อย่าง คล่องแคลว่ ในการเรยี นการสอนรายวิชาอืน่ และชีวติ ประจาํ วนั 6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.ข้ันเตรยี ม/อบอุ่นรา่ งกาย (10 นาท)ี การทุม่ บอลเข้าเลน่ จากขา้ งสนาม 1.1 ครูเดนิ ไปรบั นักเรียน แล้วพานกั เรียน - นกั เรียนมคี วามเขา้ ใจ (Throw-in) กตกิ า ไปสถานที่เรยี น (สนาม 3) และปฏบิ ตั ติ ามคําส่งั 1. การทมุ่ บอลเข้าเล่นจะต้องทุ่มด้วยสอง แขน 1.2 ครใู หน้ กั เรียนวางถงุ ยา่ มในชน้ั วางของ ครผู สู้ อน 2. การท่มุ บอลเขา้ เลน่ จะต้องเรม่ิ ตน้ จาก ดา้ นหลงั ของศรี ษะ โดยให้นักเรียนชายไว้แถวล่างของช้นั วาง และ 3. ผ้เู ลน่ ทที่ ่มุ บอล เทา้ ทงั้ สองจะตอ้ งอยูท่ ่ี พืน้ สนาม นกั เรยี นหญงิ วางไว้แถวบนของชัน้ วางของ 4. ผเู้ ลน่ ทที่ ุ่มบอล จะสามารถสัมผัสบอล ได้ ตอ่ เมื่อบอลสัมผสั ผ้เู ล่นคนอน่ื 1.3 ครใู หน้ กั เรียนเขา้ แถว 4 แถว หลงั - นักเรยี นมีความเปน็ 5. ไม่สามารถทุม่ บอลเขา้ ประตูได้ กรวยทีว่ างไวใ้ หต้ รง ตามกลุ่ม ระเบียบเรยี บร้อย ภายในแถวตามที่ กําหนด 1.4 อบอุ่นร่างกาย (Warm – Up) - นกั เรยี นมคี วาม ครใู ห้นักเรยี นขยายแถวหนง่ึ ชว่ งแขนเพอ่ื อบอนุ่ พร้อมในการเรียนทั้ง ร่างกาย ทางด้านร่างกาย จิตใจ 1.4.1 ครูนํานักเรียนยดื เหยยี ดกล้ามเนื้อ 5 ทา่ และอารมณ์ - นักเรียนเคารพกติกา ภายในหอ้ งเรยี นแตง่ กายเรียบร้อย
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ วิธปี ฏบิ ัติ ท่าที่ 1 พับขาไปด้านหลงั เพ่ือยดื ต้นขา - นกั เรยี นบรหิ าร 1. ใหย้ นื โดยขาแยกจากกนั ประมาณ 1 ดา้ นหนา้ สลบั ชา้ งละ 10 วินาที ร่างกายและอวยั วะ ช่วงไหล่หลงั เส้นขา้ งสนาม ตา่ งๆ ไดเ้ หมาะสมตาม วยั ท่าที่ 2 ไขว้ขามาด้านหน้าขา ก้มแตะปลาย เท้า สลบั ขา้ งละ 10 วนิ าที 2. จบั บอลใหฝ้ ่ามอื ทั้งสองอยดู่ า้ นหลงั ของ บอล ข้อศอกช้ีไปด้านหนา้ ไมแ่ คบหรอื ท่าที่ 3 นั่งแยกขาทั้งสองข้างออก ใช้มือ กวา้ งจนเกนิ ไปลกู บอลอยหู่ ลังศรี ษะ สมั ผัสพ้ืน ขาตรงึ ท่าที่ 4 นั่งพับขายืดต้นขาด้านหน้า ขาอีก ข้างเหยียดตรึง สลบั ข้างละ 10 วนิ าที
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ 3. ตามองไปยงั เพื่อนร่วมทมี หรือ ทา่ ท่ี 5 ว่งิ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) เป้าหมายทจี่ ะท่มุ ไป 4. ทุ่มบอลจากดา้ นหลงั ของศีรษะตาม 1.5 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย กติกาสง่ แขนตามไป ปลายน้วิ ชี้ไปยงั ครใู หน้ ักเรียนเลน่ เกม “วงิ่ เปีย้ ว” เพอ่ื - นักเรยี นวิ่งในเกมได้ เพื่อนรว่ มทมี หรือเป้าหมาย แข่งขนั กนั (กลุ่มที่ 1 แขง่ กบั กลุ่มท่ี 2 และ อย่างต่อเน่ือง กลมุ่ ที่ 3 แข่งกบั กลุ่มที่ 4) - จัดให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ยืนเรยี งแถว ตอนอยดู่ า้ นหลังกรวยประจาํ กลุม่ ตนเอง เมือ่ เรม่ิ การเล่นครจู ะใหส้ ัญญาณนกหวดี นกั เรยี น แตล่ ะกลุ่มจะตอ้ งวง่ิ จากฝ่ังตวั เองไปออ้ มเสา ประจําทีมของฝ่ายตรงข้าม จากน้นั ให้ว่งิ วน กลบั มาสง่ ผ้าให้เพื่อนคนถัดไปในทมี ของ ตนเอง โดยนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มจะต้อง พยายามเอาเส้ือเอ๊ยี มทีถ่ ืออยูว่ ิ่งไลต่ ฝี ่ายตรง ข้ามให้ทัน เมือ่ ฝา่ ยใดฝา่ ยหน่ึงไล่ตฝี า่ ยตรง ข้ามได้ทนั ถือวา่ การเลน่ ส้นิ สดุ ลงและเปน็ ผู้ ชนะในเกมวง่ิ เป้ียว - ปฏิบตั ิทั้งหมด 4 รอบ
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 2. ข้นั อธบิ ายและสาธติ (10นาที) 2.1 ครใู ห้นักเรียนเข้าแถวตอน 4 กล่มุ เหมอื นตอนแรก 2.2 ครถู ามคําถามนักเรยี นว่า “ถ้าฝา่ ยตรง -นกั เรยี นฟัง ถามและ ข้ามทาํ ลูกบอลออกไปข้างสนามขณะแขง่ ขัน ตอบคําถาม ฟตุ บอล เราตอ้ งทาํ อยา่ งไร” แนวคาํ ตอบ : ทุ่มบอล แลกเปลี่ยนความ “ในกติกา ขณะท่มุ บอล เทา้ จะต้องขนานกัน คิดเห็นกบั ครผู ู้สอนได้ อย่างเหมาะสม
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ หรอื จะต้องเปน็ เท้านาํ เท้าตาม” แนวคาํ ตอบ : แบบไหนกไ็ ด้ แตห่ ้ามยกเท้า ออกจากพท้นท้งั สองข้างหากยังไมป่ ล่อยบอล จากมอื 2.3 ครอู ธบิ ายและสาธิตร่วมกับนกั เรยี นใน ทกั ษะการทุม่ บอลเขา้ เลน่ จากขา้ มสนาม และ กตกิ าของการทมุ่ บอลเข้าเล่นจากข้ามสนามใน กฬี าฟุตบอล 2.4 ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามข้อ สงสยั อีกครงั้ กอ่ นฝกึ ปฏิบัติ 3.ขน้ั การฝึกหดั ทักษะ (20 นาที) 3.1ครใู ห้นักเรยี นเขา้ แถวตามกลุม่ 4 กลุ่ม และแจกบอลใหแ้ ถวท่ี 1 และแถวที่ 3 คนละ 1 ลกู เพือ่ เตรยี มฝกึ ปฏิบัติทักษะการทุ่มบอล เข้าเลน่ จากข้างสนาม 3.2 ครูใหน้ ักเรยี นฝึกทกั ษะการท่มุ บอลเขา้ - นักเรียนมที ักษะ เลน่ จากขา้ งสนาม โดยให้นกั เรียนแถวท่ี 1 การทมุ่ ลูกเข้าเล่น และแถวท่ี 3 ทุ่มบอลด้วยทกั ษะการทมุ่ บอล จากข้างสนาม เข้าเล่นจากขา้ งสนามให้เพื่อนแถวท่ี 2 และ 4 ตามสัญญาณนกหวีดครู โดยเพอื่ นที่รอรบั บอลใหใ้ ชม้ ือรับบอล จากนัน้ เม่ือครูเป่า นกหวดี อกี ให้นกั เรียนแถวท่ี 2 และแถวที่ 4 ทุ่มบอลดว้ ยทักษะการท่มุ บอลเข้าเลน่ จาก ขา้ งสนามกลบั ไปใหเ้ พื่อนแถวที่ 1 และ 3 โดย เพ่อื นทีร่ อรับบอลใหใ้ ชม้ ือรบั บอลเช่นเดยี วกัน ใหท้ ําไปเรื่อยๆตามสญั ญาณนกหวีด
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ 3.3 เมือ่ นักเรียนเริ่มปฏบิ ตั ทิ กั ษะการท่มุ ลกู เข้าเล่นจากขา้ งสนามได้แล้ว ครูกําหนดให้ นกั เรียนทมุ่ ไปใหเ้ พ่ือนอยา่ งแมน่ ยํา โดย พยายามให้เพ่อื นใช้เทา้ รับลูกบอลใหไ้ ด้งา่ ย ท่ีสุด 4.ข้นั นําไปใช้ (10 นาท)ี 4.1 ครใู หน้ ักเรียนเขา้ แถวตอน 1 ช่วงแขน 4 แถวตามกลุ่มเหมอื นเดมิ 4.2 ครอู ธบิ ายวิธกี ารเลน่ เกม “ลงิ ชงิ บอล โดยใช้มอื ” - คนหน่ึงมีบทบาทเป็นลิงต้องยนื อยู่ ตรงกลางวง มหี นา้ ทคี่ อยแยง่ ชงิ ลกู บอล ส่วน
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ คนที่เหลือเปน็ ผรู้ ับสง่ ลูกบอล ไมใ่ หผ้ ้ทู ่เี ป็นลงิ สัมผสั ถูกลกู บอลได้ ถ้าผเู้ ล่นทอ่ี ยกู่ ลางวงใช้ มอื สัมผัสลกู บอลไดจ้ ากใคร คนน้ันจะต้องมา เปน็ ลงิ แทน 4.3 ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เล่นเกม “ลิง - นกั เรียนสนกุ สนาน ชงิ บอลโดยใชม้ อื ” ในการเลน่ เกมแขง่ ขนั อยา่ งนอ้ ย 80% ของ จํานวนนกั เรียน ทั้งหมด 5. ขนั้ สรุปและสุขปฏบิ ตั ิ (10 นาท)ี 5.1 ครูให้นักเรยี นกลับมาเข้าแถวตามกล่มุ - นักเรยี นไดฝ้ กึ หลงั จากนัน้ ครสู รุปเนื้อหาและถามคําถาม ประมวลความคดิ เกยี่ วกบั การเรยี นพลศึกษาในคาบน้ี รวบยอดอีกครั้ง 5.1.1 “การทุ่มบอล มีกตกิ าขอ้ บังคบั หลงั จากเรียน ทา่ ทางในการทมุ่ หรอื ไม่ ถ้ามี มอี ย่างไรบา้ ง” แนวคําตอบ : 1.) การทุม่ บอลเข้าเล่นจะตอ้ ง ทุ่มด้วยสองแขน 2.) การทมุ่ บอลเขา้ เลน่ จะต้องเรมิ่ ตน้ จากด้านหลังของศีรษะ และ 3.) ผูเ้ ลน่ ทท่ี ุ่มบอล เท้าท้ังสองจะต้องอย่ทู พ่ี นื้
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ 5.2 ครใู หน้ ักเรียนไปลา้ งหนา้ ลา้ งมือ ดมื่ - นักเรยี นร้จู กั การ นาํ้ และกลบั มาเขา้ แถว ดูแลรกั ษาความ 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว สะอาดอวยั วะตา่ งๆ ของนกั เรียน ของรา่ งกายตนเอง 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน หลงั จากเลน่ กฬี า ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี - นกั เรียนได้ฝกึ ความ การเปลี่ยนแปลง) รบั ผดิ ชอบในการ 5.5 เลกิ แถวและพานักเรียนเดนิ แถวกลบั ตรวจสอบและแกใ้ ข ในเร่ืองการนําของใช้ มาโรงเรียน
7. สอื่ การสอน/แหลง่ การเรยี นรู้ - ส่ือการสอน นกหวีด หนงั สอื เรียนวชิ าสุขศึกษา กรวย แผน่ ยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวท์บอรด์ ปากกาไวทบ์ อรด์ แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอร์ด เรอ่ื งทสี่ อนในชว่ั โมง Whiteboard eraser poster/Image media ลูกฟุตบอล กรวยจราจร เสอื้ เอี๊ยมกฬี า ประตูฟุตบอล A Football Traffic cones Sports bib Goal แหลง่ การเรียนรู้ สรุ เชษฐ์ วศิ วธีรานนท.์ 2561. กีฬาฟตุ บอลและกิจกรรมยืดหยุน่ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 2. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอรพ์ ริ้นท์กรุป๊ จํากดั . ศัพทภ์ าษาองั กฤษเกยี่ วกับฟุตบอล. 2560. [ออนไลน]์ . แหลง่ ทีม่ า: https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/61567/-laneng-lan- [1 เมษายน 2563]
8. คาํ ศัพทภ์ าษาอังกฤษ ความหมาย หนงั สอื เรียน ลาํ ดบั คาํ ศพั ท์ภาษาองั กฤษ กรวย 1 Book กรวยจราจร 2 Cone แผน่ ยางมารก์ เกอร์ 3 Traffic cones กระดานไวท์บอร์ด 4 Marker ปากกาไวทบ์ อรด์ 5 White board แปรงลบกระดานไวท์บอร์ด 6 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่ืองที่สอนในช่ัวโมง 7 Whiteboard eraser เสื้อเอยี๊ มกีฬา 8 poster/Image media ประตฟู ุตบอล 9 Sports bib ผ้รู กั ษาประตู 10 Goal การทมุ่ บอลเขา้ เลน่ จากขา้ งสนาม 11 Goalkeeper 12 Throw in 9. การวัดและประเมินผล ลาํ ดับที่ เรอ่ื ง เคร่ืองมอื แบบสังเกต 1 สังเกตความสนใจและการมสี ว่ นรว่ มตลอดช้นั เรยี น แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเคร่ืองแตง่ กายและบกั ทึกคะแนนความรับผดิ ชอบและ แบบสังเกต คะแนนสขุ ปฏิบัติ 3 สังเกตการตอบคาํ ถามระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แบบประเมินความสนใจ การมีสว่ นร่วมในกจิ กรรม และผลสําเร็จของการฝกึ ทักษะและการนาํ ไปใช้ วันท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศกึ ษา.................. หน่วยการเรยี นร.ู้ ..................................... เรือ่ ง...................................................................ระดับช้ัน........................... ระดบั 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ /เพ่ิมเติม) PQ นกั เรยี น 80% ข้นึ ไปวง่ิ ไดอ้ ย่าง นกั เรียน 60%-80% ว่งิ ได้อยา่ ง นักเรียนน้อยกว่า 60% ว่ิงไดอ้ ย่าง สมรรถภาพ ต่อเน่ืองโดยไม่เหน่ือย ต่อเนอื่ งโดยไม่เหน่ือย ต่อเนือ่ งโดยไมเ่ หนื่อย ทางกาย นักเรยี น 80% ขึ้นไปเขา้ แถวอยา่ ง นกั เรียน 60%-80% เข้าแถวอยา่ ง นักเรยี นน้อยกว่า 60% เขา้ แถว MQ คุณธรรม เปน็ ระเบยี บ แต่งกายเรียบร้อย เป็นระเบยี บ แต่งกายเรียบรอ้ ย อยา่ งเป็นระเบยี บ แต่งกาย จรยิ ธรรม พูดจาสภุ าพ พูดจาสภุ าพ เรยี บรอ้ ย พดู จาสุภาพ AQ เจตคติ นักเรยี น 80% ขึ้นไปมีความ นักเรยี น 60%-80% มีความ นักเรียนน้อยกว่า 60% มคี วาม สนุกสนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ เล่นเกม เล่นเกม เลน่ เกม IQ ความรู้ นกั เรยี น 80% ขนึ้ ไปสามารถ นักเรยี น 60%-80% สามารถ นักเรยี นน้อยกว่า 60% สามารถ ความเข้าใจ อธบิ ายกตกิ าการทุ่มบอลเข้าเลน่ อธิบายกติกาการทมุ่ บอลเข้าเล่น อธิบายกตกิ าการทุ่มบอลเขา้ เลน่ จากขา้ งสนามอยา่ งถูกตอ้ ง จากข้างสนามอย่างถูกตอ้ ง จากข้างสนามอยา่ งถกู ต้อง SQ ทกั ษะ นกั เรียน 80% ข้นึ ไปสามารถ นักเรยี น 60%-80% สามารถ นกั เรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏบิ ตั ทิ กั ษะการทุ่มบอลเข้าเลน่ ปฏิบตั ิทกั ษะการทุ่มบอลเข้าเลน่ ปฏบิ ตั ทิ ักษะการท่มุ บอลเขา้ เลน่ จากขา้ งสนามอยา่ งถกู ตอ้ ง จากขา้ งสนามอยา่ งถูกต้อง จากข้างสนามอยา่ งถูกตอ้ ง ระดบั คณุ ภาพ ระดบั 3 หมายถงึ จาํ นวนนกั เรยี น 80% ขน้ึ ไป ระดับ 2 หมายถงึ จํานวนนกั เรยี น 60-80% ระดบั 1 หมายถึง จํานวนนกั เรยี นอ้ ยกวา่ 60% ลงชื่อ...........................................................ผูป้ ระเมนิ
โรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม บันทกึ หลังสอน กล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2/...... หนว่ ย กฬี าฟุตบอล (Football) ภาคเรยี น ปลาย เรอ่ื ง การทุ่มลกู เข้าเล่นจากขา้ งสนาม (Throw in) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาท)ี วนั ที.่ .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค (กอ่ นสอน-ระหวา่ งสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพอื่ ใชใ้ นการสอนครัง้ ต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428