สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ ท่าที่ 2 ท่าขอนไม้ ท่าที่ 4 ท่าหมุนข้อเท้าซ้ายและขวา สลับข้าง วธิ ีการปฏิบัติมดี งั น้ี 1. ท่าเตรยี มพร้อมใหน้ อนหงายแขน ละ 10 วนิ าที เหยียดชูข้นึ เหนอื ศีรษะ ลําตวั ตรงคลา้ ย ขอนไม้ ทา่ ที่ 5 วง่ิ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 2. เคลื่อนท่โี ดยการพลิกตัวหรอื หมุน หวั ไหล่ ตามดว้ ยสะโพกท่อนขาและเท้า 1.6 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย - นกั เรยี นปฏบิ ตั ิทา่ ครใู ห้นกั เรยี นเล่น “เกมไถนา” ไถนาได้ไกลและ ตอ่ เนื่อง - ให้นกั เรยี นจบั คู่กนั กบั เพอื่ นท่ีอย่ภู ายใน แถวเดียวกนั ทา่ ที่ 3 ท่าโล้ตวั ไปดา้ นหลงั – ทกั ษะ พื้นฐานของการม้วนหลงั วิธกี ารปฏบิ ตั มิ ีดงั นี้ 1. ทา่ เตรียมพรอ้ มนงั่ ยอง ๆ เข่าชิดตัว มอื และแขนโอบกอดเข่าไว้ เกบ็ คอก้มหนา้ ลง - คแู่ รกของแต่ละแถวให้ทาํ ทา่ เตรียมไถ นาโดยใหค้ นใดคนหนึง่ ทีใ่ นคู่ นอนลงไปและ ใชม้ อื ทั้งสองข้างยันพ้ืน และใหเ้ พ่ือนอกี คน หนงึ่ ของคูต่ นเองจับขาไวร้ ะดบั เอว - เม่ือครูใหส้ ญั ญาณ ค่แู รกของแตล่ ะแถว
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ 2. โล้ตัวไปด้านหลงั ใหอ้ วัยวะสัมผัสกับ ตอ้ งเคลอื่ นตวั ไปด้านข้าง โดยใชแ้ ขนกา้ วไป พื้นโดยไล่จากก้น – สะโพก – หลัง – ดา้ นหน้า โดยมคี ขู่ องตนเองจบั ขาไว้ระดบั เอว สะบกั – ตน้ คอ และก้าวตามไปด้วย จนกว่าจะถึงเส้นชยั หาก มอื ท่ีจับขาหลดุ หรือคนท่ีใช้มือกา้ วทรุดลงไป กับพ้ืน ให้หยดุ และเริม่ ก้าวตอ่ ไดท้ ันที คู่ใดถงึ เส้นชัยกอ่ นเปน็ ฝ่ายชนะ 2. ข้ันอธิบายและสาธิต (10นาท)ี 2.1 ครูพานักเรียนเดินเข้าห้องยืดหยนุ่ ทลี ะ 1 แถว และให้นักเรียนเข้าแถวตอน 4 กลุ่ม เหมอื นตอนแรก 2 2.2 ครูอธิบายและช้แี จงกตกิ าในการใช้หอ้ ง 3. โล้ตัวกลบั มายังทา่ เร่ิมต้น โดยยังคง ยดื หย่นุ และขอ้ ปฏิบัติในการเรยี นการสอนวิชา เก็บคอและก้มหนา้ ตลอดเวลา สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาในช่วงที่ 2 2.3 ครูถามคําถามนกั เรยี นว่า “กจิ กรรม -นักเรยี นฟัง ถามและ ยืดหยนุ่ ได้ถกู เผยแพร่เขา้ มาในประเทศใน ตอบคําถาม ตัง้ แต่สมัยใด” แลกเปลยี่ นความ แนวคําตอบ : สมยั รัชกาลที่ 5 คดิ เหน็ กบั ครผู ู้สอนได้ “นกั เรียนรู้หรอื ไมว่ ่าทกั ษะที่จําเป็นในการเลน่ อยา่ งเหมาะสม ยดื หยนุ่ มีทกั ษะที่ชื่อวา่ อะไรบ้าง” แนวคําตอบ : 1.) ท่ากลิง้ ไข่ (Egg Roll) 2.) ทา่ ขอนไม้ (Log Roll) 3.) ทา่ โล้ตัว (Arch) 4.) ทา่ เดินดว้ ยมือ (Push Up) 2.4 ครอู ธิบายประวตั ิของกิจกรรมยดื หยุ่น
สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ ท่าที่ 4 ท่าเดินด้วยมอื ทกั ษะพื้นฐานของ 2.5 ครอู ธบิ ายและสาธิตร่วมกบั นักเรยี นใน การหกกบ หกสูงหก สามเสา้ และลอ้ ทกั ษะทจี่ ําเปน็ ในการเลน่ ยดื หยนุ่ ไดแ้ ก่ ทา่ กล้งิ เกวียน วิธีการปฏบิ ัตมิ ีดงั น้ี ไข่, ท่าขอนไม้, ทา่ โลต้ วั และทา่ เดนิ ด้วยมือ 2.6 ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามข้อสงสยั อีกครง้ั กอ่ นฝกึ ปฏบิ ตั ิ 3.ขัน้ การฝึกหดั ทักษะ (10 นาที) 3.1 ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะแถวประจําเบาะ ยืดหย่นุ ของตนเอง 1 คนตอ่ 1 เบาะ เพือ่ เตรียมการฝกึ ปฏบิ ัติทักษะ 1. ท่าเตรยี มพรอ้ ม ใช้มอื ทั้งสองข้างยัน 3.2 ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ ทา่ ทกั ษะพ้ืนฐาน ท่า - นกั เรียนมีทกั ษะ พืน้ ขาวางบนช้นั ทีส่ ูงจากพน้ื ประมาณ 60 กลง้ิ ไข่ ทา่ ขอนไม้ และท่าโลต้ วั อยูก่ ับท่ี พื้นฐาน ทา่ กล้ิงไข่ ท่า ซม. ใช้ปลายเท้าสมั ผัสกบั ชัน้ ด้านบน และ ตามลําดับ โดยครูจะพูดและให้สญั ญาณ ขอนไม้ และท่าโล้ตัว ฝ่ามอื สัมผสั กบั พนื้ ดา้ นล่างเทา่ น้ัน นกหวีดเพ่ือเร่ิมฝึก นักเรยี นจะตอ้ งปฏบิ ตั ิทา่ 2. เคลอื่ นตวั ไปดา้ นข้าง โดยใชแ้ ขนก้าว ต่างๆไปในทิศทางทีค่ รูกาํ หนดทลี ะ 1 ครัง้ - นักเรยี นมีทกั ษะ พร้อมกบั ขาไปดา้ นข้าง และพยายาม ตามทีค่ รพู ดู และให้สญั ญาณนกหวดี เช่น กลิ้ง รกั ษาลําตัวและขา ใหข้ นานกบั พืน้ มาก ไขไ่ ปทางซา้ ย 1 คร้งั , ขอนไม้ไปทางขวา 1 ทส่ี ดุ ก้นไมส่ ูง คร้ัง หรือ โล้ตัวไปขา้ งหลัง 1 คร้ัง 3.3 ครใู ห้นักเรยี นฝกึ ปฏิบตั ิท่าเดินดว้ ยมอื ทลี ะ 1 ชุด โดยใหค้ นหนา้ สดุ ของแตล่ ะแถว พื้นฐาน ท่าเดินด้วย เป็นชุดแรก และคนถัดมาเป็นชุดทีส่ อง มอื ตามลาํ ดับเรือ่ ยๆโดยครูจะให้สญั ญาณให้ นกั เรยี นแตล่ ะชุดปฏบิ ัตทิ ่าเดนิ ด้วยมอื ไปจน สดุ กําแพง เมอ่ื ปฏิบัติเสร็จแล้วให้เดนิ ไปต่อ ด้านหลงั ของแถวตนเอง และครใู หป้ ฏบิ ัติ ท้งั หมดคนละ 3 รอบ
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 4.ขนั้ นาํ ไปใช้ (20 นาที) 4.1 ครูใหน้ กั เรียนแขง่ ขันท่าขอนไม้และท่า - นกั เรียนสนุกสนาน กลิง้ ไข่ โดยให้นักเรียนขาไปให้ทําท่าขอนไม้ไป ในการเลน่ เกมแข่งขัน ยงั กรวยทคี่ รูกาํ หนดไว้ พอถึงกรวยแลว้ ให้ลุก อย่างนอ้ ย 80% ของ ขึน้ มาน่ังหลงั กรวย ทาํ แบบน้ไี ปเรือ่ ยๆจนถงึ จํานวนนักเรยี น คนสุดทา้ ย ทง้ั หมด 4.2 เม่อื คนสุดทา้ ยทําทา่ ขอนไม้เลยหลัง กรวยแลว้ คนแรกเริม่ ทาํ ทา่ กลิ้งไขก่ ลับไปยงั กรวยเร่มิ ต้นแลว้ รีบน่งั เปน็ แถวให้เรียบรอ้ ย แถวไหนเสรจ็ ก่อนจะเป็นฝา่ ยชนะ แขง่ ขนั ท้ังหมด 2 รอบ (รอบแรกเปน็ รอบสาธิต) : กรวย : นักเรยี น
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ 5. ขนั้ สรุปและสุขปฏบิ ัติ (10 นาที) 5.1 ครใู ห้นกั เรียนกลับมาเขา้ แถวตามกลมุ่ - นักเรยี นได้ฝึก หลังจากน้ันครสู รปุ ผลการแขง่ ขนั ทกั ษะ ประมวลความคดิ พนื้ ฐานของการเลน่ ยดื หยนุ่ และถามคําถาม รวบยอดอีกคร้งั เกี่ยวกบั การเรยี นพลศกึ ษาในคาบนี้ หลงั จากเรียน 5.1.1 “ทกั ษะที่จาํ เปน็ ในการเล่น ยืดหย่นุ ทีเ่ รยี นไปวนั นี้ มีทักษะที่ช่อื ว่า อะไรบา้ ง” แนวคาํ ตอบ : 1.) ท่ากล้ิงไข่ (Egg Roll) 2.) ทา่ ขอนไม้ (Log Roll) 3.) ทา่ โลต้ ัว (Arch) 4.) ทา่ เดนิ ด้วยมอื (Push Up) 5.1.2 “ทา่ โลต้ ัว มขี น้ั ตอนการปฏิบตั ิ อยา่ งไรบ้าง” แนวคําตอบ : 1. ท่าเตรียมพร้อมนัง่ ยอง ๆ เขา่ ชดิ ตวั มอื และแขนโอบกอดเขา่ ไว้ เกบ็ คอ ก้มหนา้ ลง 2. โลต้ ัวไปดา้ นหลงั ให้อวัยวะสมั ผสั กับพนื้ โดยไล่จากก้น – สะโพก – หลงั – สะบัก – ต้นคอ 3. โลต้ วั กลับมายังทา่ เริ่มต้น โดยยังคงเกบ็ คอ และกม้ หน้าตลอดเวลา 5.2 ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรยี นซักถาม ขอ้ สงสยั 5.3 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นักเรยี นได้ฝกึ ความ ของนกั เรียน รบั ผิดชอบในการ 5.4 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแก้ใข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเรอ่ื งการนาํ ของใช้ การเปลยี่ นแปลง) มาโรงเรยี น
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ 7. สือ่ การสอน/แหลง่ การเรยี นรู้ 5.5 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ - สื่อการสอน 5.6 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ดื่ม - นักเรียนร้จู กั การ น้าํ กอ่ นเข้าหอ้ งเรยี น ดแู ลรกั ษาความ สะอาดอวัยวะต่างๆ ของรา่ งกายตนเอง หลังจากเลน่ กฬี า นกหวีด หนังสือเรยี นวชิ าสุขศกึ ษา กรวย แผน่ ยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เลม่ 2 A Book กระดานไวท์บอร์ด ปากกาไวท์บอรด์ แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวทบ์ อร์ด เรือ่ งท่ีสอนในชัว่ โมง Whiteboard eraser poster/Image media เบาะยดื หยุ่น Gymnastics mat
แหล่งการเรยี นรู้ สรุ เชษฐ์ วิศวธีรานนท.์ 2561. กีฬาฟตุ บอลและกิจกรรมยดื หยนุ่ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เลม่ 2. พมิ พค์ รั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอรพ์ รน้ิ ท์กรุป๊ จํากัด. ทักษะพ้นื ฐานกฬี ายิมนาสติก. 2558. [ออนไลน]์ . แหล่งทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=OroZl4oZ0_4 [1 เมษายน 2563] 8. คําศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย การปฐมนิเทศ ลาํ ดับ คําศพั ทภ์ าษาอังกฤษ ประวตั ิกฬี าแชร์บอล 1 Orientation ข้อตกลงในการเรียนวชิ าพลศึกษา 2 History of Tumbling ระเบียบวนิ ยั ในชวั่ โมงพลศกึ ษา 3 P.E. Regulations เคร่ืองแบบพลศึกษา 4 P.E. Discipline อปุ กรณข์ องใชใ้ นการเรียนพลศึกษา 5 P.E. Uniform นกหวดี 6 P.E Supplies หนงั สอื เรียน 7 Whistle กรวย 8 Book แผน่ ยางมารก์ เกอร์ 9 Cone กระดานไวทบ์ อร์ด 10 Marker ปากกาไวทบ์ อรด์ 11 White board แปรงลบกระดานไวทบ์ อร์ด 12 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่อื งทส่ี อนในชัว่ โมง 13 Whiteboard eraser เบาะยมิ นาสตกิ 14 poster/Image media ดันพ้นื / ท่าเดนิ ดว้ ยมอื 15 Gymnastics mat การเลน่ ยืดหยนุ่ หรอื การแสดงกายกรรม 16 Push up ทา่ กลงิ้ ไข่ 17 Tumbling ทา่ ขอนไม้ 18 Egg Roll ทา่ โล้ตวั 19 Log Roll 20 Arch
9. การวดั และประเมินผล ลําดับที่ เรอื่ ง เคร่อื งมือ แบบสงั เกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ว่ นรว่ มตลอดชัน้ เรยี น แบบตรวจสอบ 2 สํารวจเคร่อื งแต่งกายและบกั ทึกคะแนนความรับผิดชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสขุ ปฏบิ ตั ิ 3 สงั เกตการตอบคาํ ถามระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แบบประเมินความสนใจ การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม และผลสาํ เร็จของการฝึกทกั ษะและการนําไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศึกษา.................. หนว่ ยการเรียนรู้...................................... เรือ่ ง...................................................................ระดบั ชนั้ ........................... ระดบั 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง/เพ่มิ เตมิ ) PQ นักเรยี น 80% ข้นึ ไปปฏบิ ัติท่าไถ นกั เรยี น 60%-80% ปฏบิ ตั ิทา่ ไถ นกั เรียนน้อยกวา่ 60% ปฏิบตั ทิ ่า สมรรถภาพ นาได้ไกลและต่อเนอ่ื ง นาไดไ้ กลและต่อเน่ือง ไถนาไดไ้ กลและต่อเนอื่ ง ทางกาย นกั เรยี น 80% ขน้ึ ไปเข้าแถวอย่าง นกั เรียน 60%-80% เขา้ แถวอย่าง นักเรียนนอ้ ยกว่า 60% เข้าแถว MQ คุณธรรม เปน็ ระเบียบ แตง่ กายเรยี บรอ้ ย เป็นระเบียบ แตง่ กายเรียบร้อย อย่างเป็นระเบยี บ แต่งกาย จรยิ ธรรม พูดจาสุภาพ พดู จาสุภาพ เรยี บรอ้ ย พูดจาสภุ าพ AQ เจตคติ นกั เรียน 80% ขน้ึ ไปมีความ นกั เรียน 60%-80% มีความ นกั เรยี นน้อยกว่า 60% มคี วาม สนุกสนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ สนุกสนานจากการเรียนและการ เล่นเกม เลน่ เกม เลน่ เกม IQ ความรู้ นักเรยี น 80% ขน้ึ ไปสามารถ นกั เรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนนอ้ ยกวา่ 60% สามารถ ความเข้าใจ อธิบายประวัตคิ วามเป็นมาของ อธิบายประวัตคิ วามเปน็ มาของ อธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มาของ ยมิ นาสตกิ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ยิมนาสติกอยา่ งถกู ตอ้ ง ยิมนาสติกอย่างถกู ต้อง SQ ทักษะ นกั เรยี น 80% ข้ึนไปสามารถ นกั เรยี น 60%-80% สามารถ นกั เรยี นนอ้ ยกวา่ 60% สามารถ ปฏิบตั ทิ กั ษะพ้ืนฐานในการเล่น ปฏบิ ตั ทิ ักษะพ้นื ฐานในการเลน่ ปฏิบตั ิทักษะพน้ื ฐานในการเลน่ ยืดหยุ่นไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ยดื หยุน่ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ยดื หยุ่นได้อยา่ งถกู ต้อง ระดับคณุ ภาพ ระดบั 3 หมายถงึ จาํ นวนนักเรยี น 80% ขน้ึ ไป ระดบั 2 หมายถงึ จาํ นวนนกั เรยี น 60-80% ระดบั 1 หมายถึง จํานวนนกั เรยี นอ้ ยกว่า 60% ลงชื่อ...........................................................ผู้ประเมิน
โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม บันทึกหลงั สอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2/...... หน่วย กจิ กรรมยดื หยนุ่ (Tumbling) ภาคเรยี น ปลาย เร่อื ง ปฐมนเิ ทศ (Orientation), เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี ประวัติยืดหยนุ่ (History of Tumbling), ทักษะท่จี าํ เป็นในการเลน่ ยืดหยุ่น วนั ที.่ .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอปุ สรรค (ก่อนสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพ่อื ใช้ในการสอนครง้ั ต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผูส้ อน
โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 หน่วย กจิ กรรมยืดหยนุ่ (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เร่อื ง ทกั ษะม้วนหนา้ (Forward Roll), เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ทักษะการม้วนหน้าข้ามส่ิงกีดขวาง (Forward Over Obstacle) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกาํ ลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า พ 3.2: รักการออกกําลังกาย การเลน่ เกม และการเล่นกฬี า ปฏิบตั เิ ปน็ ประจาํ อย่างสมา่ํ เสมอ มวี นิ ัย เคารพสทิ ธิ กฎกตกิ า มีนํ้าใจ มีจติ วิญญาณในการแข่งขนั และชื่นชมในสนุ ทรภี าพของการกีฬา 2. ตวั ชวี้ ัด พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย ขณะอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบ็ดเตลด็ และเข้าร่วมกิจกรรมทางกายทวี่ ธิ ีเล่น อาศยั การเคลือ่ นไหวเบือ้ งตน้ ทั้ง แบบอย่กู บั ท่ี เคล่อื นท่ี และใช้อปุ กรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกําลงั กาย และเล่นเกม ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งสนกุ สนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏิบัตติ ามกฎ กตกิ าและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเปน็ กลุม่ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายการปฏบิ ัติทักษะม้วนหนา้ และทักษะม้วนหนา้ ข้ามส่งิ กีดขวางไดถ้ ูกตอ้ ง (IQ) 3.2 นกั เรียนสามารถปฏิบตั ทิ ักษะมว้ นหนา้ และทกั ษะมว้ นหน้าขา้ มสงิ่ กีดขวางได้ (SQ) 3.3 นกั เรียนมคี วามสนกุ สนานจากการเลน่ เกมการแข่งขนั (AQ) 3.4 นักเรียนมพี ัฒนาการสมรรถภาพทางกายดา้ นความแขง็ แรงและความทนทานของกลา้ มเนือ้ โดยการเล่น “เกมไถนา” (PQ) 3.5 นกั เรียนสามารถเขา้ แถวอยา่ งเป็นระเบียบ แตง่ กายเรียบร้อย พดู จาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสําคญั ทักษะการม้วนหนา้ และการม้วนหนา้ ข้ามสงิ่ กดี ขวาง การยดื หยนุ่ ถอื เปน็ พื้นฐานทส่ี าํ คญั มากในการเลน่ กีฬาชนดิ ต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจาํ วนั ด้วย ดังนนั้ นกั เรียนจงึ จาํ เป็นอย่างย่งิ ทีจ่ ะตอ้ งเรียนรู้และฝกึ ฝน ให้ รา่ งกายมีความยดื หยุ่น การยืดหย่นุ มหี ลายรูปแบบ ซึง่ ในคาบเรยี นน้ี นกั เรยี นจะได้เรยี นรเู้ กีย่ วกับการมว้ นหนา้ ที่ ถกู วธิ ี การมว้ นหน้าและการม้วนหน้าขา้ มสง่ิ กดี ขวาง ถา้ หากม้วนหนา้ ไดถ้ กู วธิ ี เป็นทกั ษะสําคญั ทช่ี ่วยลดการ บาดเจบ็ ทเ่ี กิดจากการเลน่ กฬี าหรือเกิดจากการใช้ชีวิตประจาํ วันได้ 5. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั นกั เรียน 80% สามารถปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามจุดประสงคก์ ารเรียนรูแ้ ละสามารถนําเอาความรู้ไปใช้ได้อยา่ ง คลอ่ งแคล่วในการเรียนการสอนรายวชิ าอ่ืน และชีวิตประจาํ วนั 6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.ข้นั เตรียม/อบอนุ่ รา่ งกาย (10 นาที) - นกั เรียนมคี วามเปน็ 1.1 ครเู ดนิ ไปรบั นกั เรียน แลว้ พานกั เรียน ระเบียบเรียบร้อย ทักษะม้วนหนา้ (Forward Roll) ภายในแถวตามที่ วธิ กี ารปฏิบตั ิ ไปทีโ่ รงยมิ อาคาร 50 ปี กาํ หนด 1. เรม่ิ ต้นจากทา่ ยืน ยืนห่างจากเบาะ 3 1.2 ครใู หน้ ักเรียนเขา้ แถว 4 แถว หลงั กา้ ว รวบรวมสมาธแิ ลว้ เดินมายนื ทห่ี ัว เบาะ กรวยทวี่ างไวใ้ ห้ตรง ตามกลมุ่ เดมิ 1.3 ครูใหน้ ักเรียนวางถงุ พละ ถอดรองเท้า - นกั เรียนเคารพกตกิ า ภายในหอ้ งเรยี นแตง่ ถงุ เทา้ บตั รนักเรียน นาฬิกา และแว่นตา ไว้ กายเรยี บร้อย 2. ทา่ เตรยี มนัง่ ยอง ๆ ด้วยปลายเทา้ สน้ ทางด้านขวามือของตนเองให้เรียบรอ้ ย - นักเรยี นมคี วาม เทา้ เปดิ มือทัง้ สองงอ ข้อศอกวางอยเู่ หนือ 1.4 ครูใหน้ ักเรียนเดินไปเขา้ แถวตอนเปน็ พรอ้ มในการเรยี นทัง้ ไหล่ นวิ้ ชไ้ี ปดา้ นหลังฝา่ มอื . หันขึน้ ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ ด้านบน กลมุ่ ทัง้ หมด 4 กลุม่ เหมอื นเดิมในสนาม และอารมณ์ แบดมินตัน และขยายแถว 2 ช่วงแขน เพ่ือ เตรยี มการอบอุ่นรา่ งกาย
สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ 3. วางมือทั้งสองข้างด้านหน้า งอขอ้ ศอก 1.5 อบอ่นุ รา่ งกาย (Warm – Up) ก้มศีรษะ คางชิดอก ยกสะโพกขน้ึ ครใู ห้นักเรยี นขยายแถวหนงึ่ ชว่ งแขนเพ่ืออบอนุ่ รา่ งกาย 1.5.1 ครูนํานักเรยี นยดื เหยียดกล้ามเน้อื 5 ทา่ - นักเรยี นบรหิ าร ทา่ ที่ 1 ท่าหมนุ คอ โดยใหห้ มุนคอไปด้านซ้าย ร่างกายและอวัยวะ และขวา สลับดา้ นละ 10 ครง้ั ต่างๆ ไดเ้ หมาะสมตาม วัย ทา่ ท่ี 2 ท่ายืดกล้ามเนอ้ื หลังและหวั ไหล่ ยก มือแขนตรงึ เหนอื ศรี ษะ เหยียดหวั ไหล่และ หลงั ไปด้านซา้ ยและขวา สลับด้านละ 10 วนิ าที 4. วางศรี ษะกับเบาะ โดยให้ส่วนของท้าย พบั ขาไปดา้ นหลังเพอื่ ยืดต้นขาด้านหน้า ทอยสมั ผัสก่อน เทา้ ทั้งสองออกแรงดัน สลบั ชา้ งละ 10 วินาที เบาะ โล้ตัวไปด้านหน้าโดยให้อวัยวะ ดังตอ่ ไปน้สี ัมผสั เบาะตามลาํ ดบั ศีรษะ- ส่วนท้ายทอยคอ - หลัง – สะโพก 1
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ ท่าที่ 4 ท่าหมุนข้อเท้าซ้ายและขวา สลับข้าง ละ 10 วนิ าที 2 ทา่ ที่ 5 ว่งิ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 3 1.6 พัฒนาสมรรถภาพร่างกาย ครูให้นกั เรียนเลน่ “เกมไถนา” - นักเรยี นปฏบิ ตั ทิ า่ - ให้นกั เรียนจับคกู่ นั กบั เพ่ือนทอ่ี ยภู่ ายใน แถวเดียวกัน ไถนาไดไ้ กลและ ต่อเน่ือง 4 - ค่แู รกของแต่ละแถวให้ทาํ ทา่ เตรยี มไถ นาโดยใหค้ นใดคนหน่งึ ที่ในคู่ นอนลงไปและ ใชม้ อื ทง้ั สองข้างยันพน้ื และให้เพือ่ นอกี คน หนึ่งของคูต่ นเองจบั ขาไว้ระดบั เอว
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ ทกั ษะการมว้ นหน้าขา้ มส่ิงกีดขวาง - เม่อื ครใู ห้สญั ญาณ คแู่ รกของแต่ละแถว วธิ ีปฏิบตั ิ ต้องเคลือ่ นตวั ไปด้านขา้ ง โดยใชแ้ ขนกา้ วไป 1. ยนื ตรง ดา้ นหน้า โดยมคี ขู่ องตนเองจบั ขาไวร้ ะดบั เอว และกา้ วตามไปดว้ ย จนกวา่ จะถึงเสน้ ชยั หาก มอื ท่ีจบั ขาหลุด หรือคนทใ่ี ชม้ ือกา้ วทรุดลงไป กับพนื้ ใหห้ ยุดและเร่ิมก้าวตอ่ ไดท้ นั ที ค่ใู ดถงึ เส้นชยั กอ่ นเป็นฝ่ายชนะ 2. กม้ ศีรษะ คางชดิ อก โคง้ ตวั ลงไป 2. ขนั้ อธบิ ายและสาธิต (10นาท)ี ดา้ นหนา้ มือทัง้ สองแตะเบาะ โดยใหม้ ือ 2.1 ครูพานักเรยี นเดนิ เข้าห้องยืดหยุ่นทีละ แถว และใหน้ กั เรียนเข้าแถวตอน 4 กลมุ่ และเท้าทั้งสองข้างอยรู่ ะหว่างสงิ่ กีดขวาง ยกสะโพก (กน้ ) ขน้ึ เหมอื นตอนแรก 3. ทา้ ยทอยแตะเบาะ โลต้ วั ไปข้างหน้า 2.2 ครถู ามคาํ ถามนกั เรยี นวา่ “นกั เรียนรู้ -นักเรยี นฟงั ถามและ 4. ใหอ้ วัยวะดงั ต่อไปนส้ี มั ผัสเบาะ หรอื ไมว่ า่ ทักษะทช่ี ่วยลดการบาดเจบ็ จาก ตอบคําถาม ตามลาํ ดบั คือศีรษะ ส่วนทา้ ยทอย คอ แลกเปล่ยี นความ หลัง สะโพก และฝา่ เท้า สมั ผสั เบาะ โดย การเลน่ กีฬามที ักษะใดบ้าง” คดิ เหน็ กับครูผู้สอนได้ ใหส้ ว่ นตา่ งๆของรา่ งกายขา้ มพน้ สง่ิ กดี อยา่ งเหมาะสม ขวาง แนวคําตอบ : ทักษะการมว้ นหนา้ และม้วน หลงั 2.3 ครอู ธบิ ายและสาธติ รว่ มกบั นกั เรยี นใน ทกั ษะการม้วนหนา้ และทกั ษะการม้วนหน้าข้าม สง่ิ กดี ขวาง 2.4 ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามข้อ สงสัยอีกคร้ังก่อนฝึกปฏบิ ตั ิ
สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 1 3.ขั้นการฝกึ หัดทกั ษะ (10 นาที) 3.1 ครูให้นกั เรยี นจดั แถวและอธิบาย ข้ันตอนการฝกึ ทกั ษะมว้ นหนา้ และม้วนหน้า ขา้ มส่งิ กดี ขวาง เพื่อเตรยี มการฝกึ หดั ทักษะ 2 3 3.2 ครใู ห้นักเรยี นฝึกการม้วนหนา้ 1 คร้งั แถวละ 1 คน พรอ้ มใหส้ ญั ญาณนกหวดี ใน - นักเรยี นมที กั ษะ การฝึก ทําแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบทกุ คน 2 การมว้ นหนา้ รอบ 3.3 ครูจดั สถานทีเ่ พอ่ื เตรียมการฝกึ หัดทักษะ การม้วนหน้าขา้ มสิ่งกีดขวาง โดยเพิ่มรัว้ กระโดด เข้ามาเปน็ ส่งิ กีดขวาง 4
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 3.4 ครใู ห้นักเรียนฝกึ การม้วนหนา้ ข้ามส่งิ - นกั เรยี นมีทกั ษะ กีดขวาง 1 คร้งั แถวละ 1 คน พร้อมให้ การม้วนหน้าขา้ มสง่ิ สญั ญาณนกหวดี ในการฝึก ทาํ แบบนี้ไปเรื่อยๆ กดี ขวาง จนครบทุกคน 2 รอบ 5 เทคนิค 1. ทาํ ตวั ใหก้ ลมเหมือนลูกบอล ขณะ ปฏิบัตใิ ห้ลมื ตาตลอด 2. เมือ่ กลิง้ ตวั ไปได้ 1 รอบ พอฝ่าเท้าแตะ เบาะใหล้ ุกข้นึ ยนื ตวั ตรง 3. เหยยี ดแขนท้ังสองข้างไปดา้ นหนา้ โดย คว่ํามอื 4.ขั้นนําไปใช้ (20 นาที) - นักเรยี นสนกุ สนาน 4.1 ครใู หน้ กั เรียนแขง่ ขันการม้วนหนา้ ขา้ ม ในการเลน่ เกมแข่งขัน ส่ิงกดี ขวาง แล้วชูแขนข้นึ รบี แตะมอื เพ่ือนใน อยา่ งนอ้ ย 80% ของ แถวเพ่อื ให้เพ่ือนได้เร่มิ ม้วนหน้าข้ามส่ิงกดี ขวางตอ่ ได้ แล้วกลบั ไปนัง่ ตอ่ ทา้ ยแถว จาํ นวนนักเรียน ทัง้ หมด
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 4.2 เมื่อคนสุดท้ายทาํ ท่ามว้ นหนา้ ขา้ มสิ่ง กีดขวางเสร็จแล้วให้ แล้วไปนั่งตอ่ ทา้ ยแถว แล้ว น่งั ลงเปน็ แถวใหเ้ รยี บร้อย แถวไหนเสร็จ ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ 4.3 แขง่ ขนั กนั 2 รอบ รอบแรกให้เปน็ รอบสาธิต 5. ข้นั สรุปและสขุ ปฏบิ ตั ิ (10 นาที) 5.1 ครใู ห้นักเรยี นกลับมาเขา้ แถวตามกลุ่ม - นักเรียนได้ฝกึ หลังจากนัน้ ครสู รปุ ผลการแขง่ ขนั ทักษะการ ประมวลความคดิ ม้วนหนา้ และทักษะการมว้ นหน้าขา้ มส่ิงกีด รวบยอดอีกครง้ั ขวาง หลงั จากเรียน 5.2 ครูถามคําถามเกย่ี วกบั การเรยี น พลศกึ ษาในคาบนี้ 5.2.1 “ทักษะม้วนหน้ามที ั้งหมดก่ี ระดับ อะไรบา้ ง” แนวคําตอบ : 3 ระดบั ไดแ้ ก่ 1.) ม้วนหนา้ ระดับปกติ 2.) มว้ นหน้าระดับปานกลางหรือยนื มว้ นหน้า 3.) มว้ นหน้าระดบั สงู หรอื พงุ่ มว้ นหน้า 5.2.2 “ส่วนใดบ้างของร่างกายท่ี สัมผสั ศรี ษะบนเบาะขณะมว้ นหนา้ ตามลําดบั แนวคาํ ตอบ : 1.ศีรษะ 2.ส่วนท้ายทอยคอ 3.หลงั และ 4.สะโพก 5.3 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถาม ข้อ - นกั เรียนไดฝ้ ึกความ สงสยั รบั ผิดชอบในการ 5.4 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว ตรวจสอบและแกใ้ ข ของนกั เรียน ในเร่ืองการนําของใช้ มาโรงเรยี น
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ 7. สือ่ การสอน/แหลง่ การเรียนรู้ 5.5 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน - ส่อื การสอน ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี การเปลีย่ นแปลง) 5.6 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ 5.7 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ด่ืม - นกั เรียนรจู้ กั การ นํ้าก่อนเข้าห้องเรียน ดูแลรกั ษาความ สะอาดอวัยวะตา่ งๆ ของรา่ งกายตนเอง หลงั จากเล่นกฬี า นกหวดี หนงั สอื เรยี นวิชาสขุ ศกึ ษา กรวย แผ่นยางมารก์ เกอร์ Whistle และพลศกึ ษา ป..2 เลม่ 2 Cones Markers A Book กระดานไวทบ์ อร์ด ปากกาไวทบ์ อร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวทบ์ อรด์ เร่ืองทีส่ อนในชั่วโมง Whiteboard eraser poster/Image media เบาะยืดหยุ่น เบาะทรงชสี เคก้ รว้ั กระโดด Gymnastics mat Gymnastics Hurdle incline mat
แหล่งการเรยี นรู้ สรุ เชษฐ์ วศิ วธีรานนท.์ 2561. กีฬาฟตุ บอลและกิจกรรมยดื หย่นุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เลม่ 2. พมิ พ์ครั้งท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พรน้ิ ท์กรุป๊ จํากัด. ทักษะมว้ นหนา้ . 2556. [ออนไลน]์ . แหล่งท่ีมา: https://www.youtube.com/watch?v=QxOzXmfW1aI [1 เมษายน 2563] 8. คาํ ศพั ท์ภาษาอังกฤษ ความหมาย เบาะยมิ นาสตกิ ทรงชสี เคก้ ลําดบั คําศพั ท์ภาษาองั กฤษ ร้วั กระโดด 1 Gymnastics incline mat นกหวดี 2 Hurdle หนงั สือเรียน 3 Whistle กรวย 4 Book แผ่นยางมาร์กเกอร์ 5 Cone กระดานไวทบ์ อรด์ 6 Marker ปากกาไวท์บอรด์ 7 White board แปรงลบกระดานไวท์บอร์ด 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเรอ่ื งที่สอนในช่ัวโมง 9 Whiteboard eraser เบาะยมิ นาสติก 10 poster/Image media การมว้ นหนา้ 11 Gymnastics mat การมว้ นหน้าขา้ มส่ิงกดี ขวาง 12 Forward roll 13 Forward Over Obstacle 9. การวัดและประเมินผล ลําดับที่ เร่ือง เคร่อื งมือ แบบสงั เกต 1 สงั เกตความสนใจและการมีส่วนรว่ มตลอดช้นั เรียน แบบตรวจสอบ 2 สํารวจเคร่ืองแต่งกายและบักทกึ คะแนนความรับผิดชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสขุ ปฏบิ ัติ 3 สังเกตการตอบคาํ ถามระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝา่ ยประถม แบบประเมินความสนใจ การมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม และผลสําเรจ็ ของการฝกึ ทักษะและการนาํ ไปใช้ วันที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศึกษา.................. หน่วยการเรียนร.ู้ ..................................... เรื่อง...................................................................ระดับช้ัน........................... ระดบั 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ /เพ่มิ เติม) PQ นกั เรยี น 80% ขึ้นไปปฏบิ ตั ทิ า่ นักเรยี น 60%-80% ปฏิบตั ิท่า นกั เรียนนอ้ ยกว่า 60% ปฏิบตั ิท่า สมรรถภาพ ไถนาไดไ้ กลและต่อเนือ่ ง ไถนาได้ไกลและตอ่ เน่อื ง ไถนาได้ไกลและต่อเน่อื ง ทางกาย นกั เรียน 80% ขึ้นไปเขา้ แถวอย่าง นักเรียน 60%-80% เข้าแถวอยา่ ง นักเรยี นน้อยกว่า 60% เข้าแถว MQ คณุ ธรรม เปน็ ระเบียบ แต่งกายเรียบรอ้ ย เปน็ ระเบยี บ แต่งกายเรยี บร้อย อย่างเปน็ ระเบียบ แตง่ กาย จริยธรรม พูดจาสภุ าพ พดู จาสภุ าพ เรียบรอ้ ย พูดจาสุภาพ AQ เจตคติ นักเรยี น 80% ข้นึ ไปมคี วาม นักเรยี น 60%-80% มคี วาม นกั เรยี นน้อยกว่า 60% มคี วาม สนุกสนานจากการเรยี นและการ สนุกสนานจากการเรยี นและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ เล่นเกม เล่นเกม เล่นเกม IQ ความรู้ นกั เรยี น 80% ขึ้นไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นักเรียนนอ้ ยกว่า 60% สามารถ ความเขา้ ใจ อธิบายการปฏิบตั ทิ กั ษะม้วนหน้า อธบิ ายการปฏิบตั ิทักษะม้วนหนา้ อธิบายการปฏบิ ตั ิทกั ษะม้วนหนา้ และทักษะม้วนหน้าข้ามสง่ิ กีด และทักษะมว้ นหนา้ ข้ามสิ่งกีด และทกั ษะม้วนหนา้ ขา้ มสง่ิ กดี ขวาง ขวางไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ขวางไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง SQ ทกั ษะ นกั เรียน 80% ขึน้ ไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนน้อยกวา่ 60% สามารถ ปฏิบัตทิ กั ษะม้วนหนา้ และทกั ษะ ปฏบิ ตั ทิ ักษะมว้ นหนา้ และทักษะ ปฏบิ ตั ทิ ักษะม้วนหน้าและทกั ษะ มว้ นหนา้ ขา้ มส่ิงกีดขวางไดอ้ ยา่ ง มว้ นหน้าขา้ มสง่ิ กีดขวางไดอ้ ยา่ ง ม้วนหน้าข้ามสงิ่ กดี ขวางไดอ้ ยา่ ง ถูกต้อง ถูกต้อง ถกู ต้อง ระดบั คณุ ภาพ ระดบั 3 หมายถงึ จาํ นวนนักเรียน 80% ขน้ึ ไป ระดับ 2 หมายถงึ จํานวนนกั เรียน 60-80% ระดบั 1 หมายถึง จาํ นวนนกั เรยี นอ้ ยกว่า 60% ลงชื่อ...........................................................ผู้ประเมนิ
โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม บันทึกหลงั สอน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2/...... หน่วย กิจกรรมยดื หย่นุ (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เรอ่ื ง ทกั ษะมว้ นหน้า (Forward Roll), เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) ทักษะการม้วนหน้าข้ามส่ิงกีดขวาง (Forward Over Obstacle) วนั ท่ี..........เดือน.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอปุ สรรค (ก่อนสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพือ่ ใชใ้ นการสอนครงั้ ตอ่ ไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน
โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ย กจิ กรรมยดื หยนุ่ (Tumbling) ภาคเรยี น ปลาย เร่ือง ทกั ษะมว้ นหลัง (Backward Roll) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 การเคล่ือนไหว การออกกําลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา พ 3.2: รักการออกกําลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ตั ิเป็นประจาํ อย่างสมา่ํ เสมอ มวี นิ ัย เคารพสิทธิ กฎกตกิ า มีนาํ้ ใจ มีจติ วญิ ญาณในการแขง่ ขัน และชน่ื ชมในสนุ ทรีภาพของการกีฬา 2. ตวั ชีว้ ดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคมุ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย ขณะอย่กู บั ท่ี เคลื่อนที่ และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เล่มเกมเบ็ดเตลด็ และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายทวี่ ิธเี ล่น อาศัยการเคล่ือนไหวเบือ้ งตน้ ทง้ั แบบอย่กู บั ท่ี เคลื่อนท่ี และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกาํ ลงั กาย และเลน่ เกม ได้ดว้ ยตนเองอยา่ งสนุกสนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏิบตั ิตามกฎ กตกิ าและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเปน็ กลุม่ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการปฏิบตั ทิ ักษะมว้ นหลังไดถ้ กู ต้อง (IQ) 3.2 นักเรียนสามารถปฏิบัตทิ ักษะมว้ นหลังได้ (SQ) 3.3 นกั เรียนมีความสนุกสนานจากการเลน่ เกมการแข่งขนั (AQ) 3.4 นักเรยี นมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายด้านความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเน้อื โดยการ ปฏบิ ตั ทิ ่าทางการเคลื่อนท่ีเลยี นแบบสัตว์ (PQ) 3.5 นกั เรยี นสามารถเข้าแถวอยา่ งเป็นระเบยี บ แต่งกายเรียบร้อย พูดจาสุภาพ (MQ)
4. สาระสาํ คัญ ทกั ษะการมว้ นหลงั กิจกรรมยดื หยนุ่ ถอื เปน็ พ้นื ฐานท่ีสําคัญมากในการเล่นกฬี าชนิดตา่ ง ๆ รวมไปถึงการ ใชช้ วี ติ ประจําวนั ดว้ ย ดงั น้ัน นักเรียนจงึ จําเปน็ อย่างย่ิงทีจ่ ะต้องเรียนรูแ้ ละฝกึ ฝน ให้ร่างกายมคี วามยดื หย่นุ การ ยดื หยนุ่ มีหลายรูปแบบ ซึ่งในคาบเรยี นนี้ นักเรยี นจะได้เรยี นรู้เก่ยี วกบั การมว้ นหลัง ทถ่ี ูกวิธี การม้วนหลัง ถา้ หาก ม้วนหลงั ได้ถกู วธิ ี เปน็ ทักษะสาํ คัญทช่ี ว่ ยลดการบาดเจบ็ ท่เี กิดจากการเลน่ กฬี าหรอื เกดิ จากการใช้ชีวิตประจาํ วันได้ 5. ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง นักเรยี น 80% สามารถปฏิบัตไิ ด้ตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนร้แู ละสามารถนาํ เอาความรู้ไปใชไ้ ดอ้ ยา่ ง คล่องแคลว่ ในการเรียนการสอนรายวิชาอื่น และชวี ติ ประจําวนั 6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ ทักษะมว้ นหลัง (Backward Roll) 1.ข้ันเตรียม/อบอุ่นรา่ งกาย (10 นาที) - นกั เรียนมีความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย วธิ กี ารปฏิบตั ิ 1.1 ครูเดินไปรับนกั เรียน แลว้ พานักเรียน ภายในแถวตามที่ กําหนด 1. เรม่ิ ตน้ จากทา่ ยนื ยืนห่างจากเบาะ สาม ไปทโี่ รงยมิ อาคาร 50 ปี ก้าว รวบรวมสมาธิแล้วเดนิ มายืนท่ีหวั 1.2 ครใู ห้นักเรียนเขา้ แถว 4 แถว หลงั เบาะ แล้วกลบั หลังหัน กรวยที่วางไว้ใหต้ รง ตามกลมุ่ เดิม 1.3 ครใู ห้นกั เรียนวางถงุ พละ ถอดรองเทา้ - นักเรียนเคารพกติกา ภายในห้องเรียนแตง่ ถงุ เทา้ บัตรนกั เรยี น นาฬกิ า และแว่นตา ไว้ ทางด้านขวามือของตนเองให้เรยี บรอ้ ย กายเรียบรอ้ ย 1.4 ครูให้นกั เรียนเดนิ ไปเข้าแถวตอนเป็น - นักเรยี นมคี วาม กลุม่ ทง้ั หมด 4 กลมุ่ เหมือนเดิมในสนาม พรอ้ มในการเรยี นทั้ง ทางด้านร่างกาย จิตใจ แบดมนิ ตนั และขยายแถว 2 ช่วงแขน เพ่อื เตรียมการอบอนุ่ รา่ งกาย และอารมณ์
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 2. ท่าเตรียมนัง่ ยอง ๆ ดว้ ยปลายเท้า สน้ 1.5 อบอุน่ ร่างกาย (Warm – Up) เท้าเปิดมอื ทง้ั สอง งอขอ้ ศอกวางอยูเ่ หนือ ครใู หน้ กั เรยี นขยายแถวหนง่ึ ชว่ งแขนเพื่ออบอ่นุ ไหล่ น้ิวชไี้ ปด้านหลัง ฝา่ มือหนั ขึ้นดา้ นบน ร่างกาย ก้มศรี ษะคางชิดอก 1.5.1 ครนู าํ นักเรยี นยืดเหยียดกลา้ มเน้ือ 5 ทา่ - นกั เรียนบรหิ าร ทา่ ท่ี 1 ท่าหมนุ คอ โดยให้หมนุ คอไปด้านซา้ ย ร่างกายและอวัยวะ และขวา สลับดา้ นละ 10 ครง้ั ตา่ งๆ ไดเ้ หมาะสมตาม วยั 3. ค่อยโล้ตัวไปดา้ นหลัง โดยให้อวัยวะ ท่าที่ 2 ทา่ ยดื กล้ามเนือ้ หลังและหัวไหล่ ยก ดังต่อไปนส้ี มั ผสั เบาะตามลาํ ดับ ก้น – มอื แขนตรึงเหนือศรี ษะ เหยียดหัวไหลแ่ ละ หลงั – คอ – ศรี ษะ สว่ นท้ายทอยรักษา เข่าให้งอชิดตัว และก้มเกบ็ ศรี ษะ หลังไปด้านซ้ายและขวา สลับด้านละ 10 วินาที ตลอดเวลา พบั ขาไปดา้ นหลงั เพ่ือยืดต้นขาดา้ นหน้า 1 สลบั ชา้ งละ 10 วินาที 2
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ ท่าที่ 4 ท่าหมุนข้อเท้าซ้ายและขวา สลับข้าง ละ 10 วินาที 3 ทา่ ที่ 5 ว่ิงรอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 4 1.6 พฒั นาสมรรถภาพร่างกาย ครูให้นกั เรียนเลียนแบบท่าทางการ เคลอ่ื นที่ของสัตว์ คอื ท่าเดนิ ปู - นกั เรียนปฏิบัติท่า การเดนิ ของปูได้ ต่อเนื่อง 5 ทา่ ทางการเดนิ ของปู - เมอ่ื ครใู หส้ ญั ญาณนกหวีด ให้นกั เรียน คนหน้าสดุ ของแต่ละแถวปฏิบัติทา่ ทางการ เคลื่อนทีแ่ บบท่คี รกู าํ หนดไปด้านหนา้ จนกวา่ จะถึงมาร์คเกอรฝ์ ัง่ ตรงข้าม เมือ่ ใครปฏบิ ตั ิ แลว้ ใหเ้ ข้าแถวรอ 4 กลุม่ เหมือนเดมิ ที่ฝง่ั ตรง ข้าม
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 4. วางฝามอื บนเบาะขา้ งศรี ษะ หนั ปลาย - ปฏิบัตทิ ั้งหมดท่าละ 2 รอบ นิ้วไปด้านหน้า ออกแรงดันเบาะพร้อม เหยยี ดขาเพ่อื สง่ แรงชว่ ย 2. ข้นั อธบิ ายและสาธติ (10นาที) 2.1 ครูพานักเรียนเดินเข้าห้องยดื หย่นุ ทีละ แถว และใหน้ ักเรยี นเข้าแถวตอน 4 กลุ่ม เหมอื นตอนแรก 2.2 ครูถามคาํ ถามนกั เรยี นวา่ “ทกั ษะท่ีมี -นักเรียนฟงั ถามและ การปฏิบัติคลา้ ยกับทกั ษะมว้ นหนา้ คือทักษะ ตอบคาํ ถาม อะไร” แลกเปลี่ยนความ แนวคาํ ตอบ : ทกั ษะมว้ นหลัง คดิ เห็นกับครูผู้สอนได้ อยา่ งเหมาะสม 2.3 ครูอธบิ ายและสาธิตรว่ มกบั นกั เรียนใน ทักษะมว้ นหลงั
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ 2.4 ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามขอ้ สงสัยอกี คร้งั ก่อนฝึกปฏิบตั ิ 3.ขัน้ การฝึกหดั ทักษะ (10 นาที) 3.1 ครใู ห้นกั เรยี นจัดแถวและอธิบาย ข้นั ตอนการฝึกทักษะม้วนหลงั เพอื่ เตรยี มการ ฝกึ หดั ทักษะ 3.2 ครูให้นกั เรยี นฝึกการมว้ นหลงั 1 ครั้ง - นกั เรียนมที กั ษะ แถวละ 1 คน พรอ้ มใหส้ ญั ญาณนกหวีดใน การมว้ นหลัง การฝกึ ทาํ แบบนี้ไปเรอ่ื ยๆ จนครบทกุ คน 5
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ รอบ และครคู อยสงั เกต หากนกั เรียนคนใดไม่ สามารถปฏิบตั ไิ ด้ ครคู อยให้ความช่วยเหลอื ในรอบตอ่ ไป 3.3 ครูให้นักเรียนแต่ละคนประจําเบาะ ยดื หยุ่น ของตนเอง 1 คนต่อ 1เบาะ เพ่ือ เตรียมการฝกึ ปฏบิ ตั ิทกั ษะมว้ นหลัง 3.4 ครูให้นักเรียนทุกคนอยู่ในทา่ เตรยี ม ปฏบิ ัติทกั ษะม้วนหลงั 3.5 ครใู หส้ ญั ญาณนกหวีดและให้นักเรียน - นักเรียนมีทกั ษะ แต่ละคนปฏบิ ตั ิทกั ษะม้วนหลัง เม่อื ปฏิบตั ิ การมว้ นหลังได้ดขี น้ึ เสร็จแลว้ ใหอ้ ย่ใู นท่าเตรยี มเพอื่ รอครใู ห้ สัญญาณนกหวดี เพ่ือปฏบิ ตั ทิ กั ษะมว้ นหลัง ต่อ 3.6 ครูคอยเดินใหค้ วามชว่ ยเหลอื และให้ คาํ แนะนํานกั เรียนแตล่ ะคน ใหส้ ามารถมว้ น หลังได้ถูกตอ้ งและมที ิศทางทตี่ รง 4.ขั้นนาํ ไปใช้ (20 นาที) 4.1 ครูใหน้ ักเรียนแข่งขนั การม้วนหลัง ยืน - นักเรยี นสนุกสนาน ชแู ขนขึน้ เสรจ็ แล้วใหร้ บี แตะมอื เพื่อนในแถว ในการเลน่ เกมแขง่ ขนั เพ่อื ให้เพอื่ นได้เรม่ิ ม้วนหลงั ต่อได้ แลว้ กลับไป อยา่ งน้อย 80% ของ นัง่ ต่อท้ายแถว จาํ นวนนกั เรยี น 4.2 เมอ่ื คนสุดท้ายทาํ ทา่ มว้ นหลังเสรจ็ แล้ว ทง้ั หมด ให้แล้วไปนง่ั ตอ่ ทา้ ยแถวแลว้ นง่ั ลงเปน็ แถวให้ เรยี บร้อย แถวไหนเสร็จก่อนจะเปน็ ฝา่ ยชนะ 4.3 แขง่ ขนั กัน 2 รอบ รอบแรกใหเ้ ปน็ รอบสาธติ
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 5. ขั้นสรุปและสุขปฏิบัติ (10 นาที) - นักเรียนไดฝ้ กึ 5.1 ครใู ห้นกั เรียนกลับมาเขา้ แถวตามกลุ่ม ประมวลความคดิ รวบยอดอีกครง้ั หลังจากนน้ั ครูสรปุ ผลการแขง่ ขนั และทกั ษะ หลงั จากเรยี น การมว้ นหลงั 5.2 ครูถามคาํ ถามเกีย่ วกับการเรียน พลศกึ ษาในคาบนี้ 5.2.1 “ทักษะม้วนหนา้ ใน ภาษาองั กฤษ เรยี กว่าอะไร” แนวคําตอบ : Forward Roll
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ 5.2.2 “ทักษะมว้ นหลังในภาษา อังกฤษ เรยี กวา่ อะไร” แนวคําตอบ : Backward Roll 5.2.3 “ทกั ษะม้วนหลงั มีกขี่ น้ั ตอน” แนวคําตอบ : 4 ขน้ั ตอน 5.3 ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถาม ข้อ สงสัย 5.4 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นกั เรียนไดฝ้ กึ ความ ของนกั เรยี น รับผิดชอบในการ 5.5 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแก้ใข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเรอ่ื งการนาํ ของใช้ การเปลี่ยนแปลง) มาโรงเรยี น 5.6 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ 5.7 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ดื่ม - นักเรยี นรจู้ ักการ นํา้ กอ่ นเข้าหอ้ งเรียน ดแู ลรกั ษาความ สะอาดอวยั วะต่างๆ ของร่างกายตนเอง หลงั จากเล่นกีฬา
7. ส่ือการสอน/แหล่งการเรียนรู้ - สอ่ื การสอน นกหวดี หนังสอื เรียนวชิ าสขุ ศกึ ษา กรวย แผน่ ยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศกึ ษา ป..2 เลม่ 2 A Book กระดานไวทบ์ อร์ด ปากกาไวทบ์ อร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เรอ่ื งที่สอนในชว่ั โมง Whiteboard eraser poster/Image media เบาะยดื หยุน่ เบาะทรงชสี เคก้ Gymnastics mat Gymnastics incline mat แหล่งการเรียนรู้ สุรเชษฐ์ วิศวธรี านนท์.2561. กีฬาฟตุ บอลและกจิ กรรมยดื หยนุ่ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 2. พิมพค์ รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พรนิ้ ท์กรุ๊ป จํากดั . What is the Backward Roll. 2559. [ออนไลน]์ . แหลง่ ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=DJwbLFhDbXg [1 เมษายน 2563]
8. คาํ ศัพทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย เบาะยมิ นาสติกทรงชสี เคก้ ลําดับ คาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ร้วั กระโดด 1 Gymnastics incline mat นกหวดี 2 Hurdle หนังสือเรยี น 3 Whistle กรวย 4 Book แผน่ ยางมารก์ เกอร์ 5 Cone กระดานไวทบ์ อร์ด 6 Marker ปากกาไวท์บอร์ด 7 White board แปรงลบกระดานไวทบ์ อร์ด 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเรอ่ื งทสี่ อนในชั่วโมง 9 Whiteboard eraser เบาะยมิ นาสตกิ 10 poster/Image media การม้วนหน้า 11 Gymnastics mat การมว้ นหลัง 12 Forward roll 13 Backward Roll 9. การวัดและประเมนิ ผล ลาํ ดบั ท่ี เรื่อง เครื่องมือ แบบสังเกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ่วนร่วมตลอดช้นั เรยี น แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเคร่ืองแต่งกายและบักทึกคะแนนความรับผิดชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสขุ ปฏิบัติ 3 สงั เกตการตอบคําถามระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม และผลสาํ เรจ็ ของการฝึกทกั ษะและการนําไปใช้ วันที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศึกษา.................. หน่วยการเรยี นรู้...................................... เรอื่ ง...................................................................ระดบั ช้ัน........................... ระดับ 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ /เพ่มิ เติม) PQ นักเรยี น 80% ขน้ึ ไปปฏบิ ตั ทิ ่าทาง นกั เรยี น 60%-80% ปฏบิ ตั ิ นักเรยี นน้อยกว่า 60% ปฏิบตั ิ สมรรถภาพทาง การเคล่ือนทเ่ี ลียนแบบสตั วไ์ ด้ ท่าทางการเคล่ือนท่เี ลยี นแบบสัตว์ ทา่ ทางการเคลือ่ นท่ีเลยี นแบบ กาย อย่างตอ่ เน่ือง ได้อย่างต่อเนือ่ ง สัตวไ์ ด้อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง นกั เรยี น 80% ข้ึนไปเขา้ แถวอย่าง นกั เรียน 60%-80% เขา้ แถวอยา่ ง นกั เรยี นน้อยกว่า 60% เข้าแถว เป็นระเบียบ แต่งกายเรียบร้อย MQ คณุ ธรรม พูดจาสภุ าพ เป็นระเบยี บ แตง่ กายเรยี บรอ้ ย อยา่ งเปน็ ระเบียบ แต่งกาย จริยธรรม พูดจาสุภาพ เรยี บรอ้ ย พูดจาสุภาพ AQ เจตคติ นกั เรียน 80% ขึ้นไปมีความ นกั เรยี น 60%-80% มีความ นักเรียนนอ้ ยกว่า 60% มีความ สนุกสนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ เลน่ เกม เล่นเกม เล่นเกม IQ ความรู้ นกั เรยี น 80% ขึ้นไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นักเรยี นน้อยกวา่ 60% สามารถ ความเข้าใจ อธิบายการปฏิบตั ทิ กั ษะม้วนหลัง อธบิ ายการปฏิบัตทิ กั ษะมว้ นหลงั อธบิ ายการปฏิบตั ิทกั ษะมว้ นหลัง ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง SQ ทักษะ นักเรยี น 80% ข้นึ ไปสามารถ นักเรยี น 60%-80% สามารถ นักเรยี นน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏบิ ัตทิ ักษะม้วนหลงั ไดอ้ ยา่ ง ปฏบิ ตั ทิ ักษะมว้ นหลังไดอ้ ย่าง ปฏิบัตทิ ักษะมว้ นหลังไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ระดับคณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถึง จาํ นวนนกั เรียน 80% ขน้ึ ไป ระดบั 2 หมายถงึ จํานวนนักเรียน 60-80% ระดบั 1 หมายถึง จาํ นวนนกั เรียน้อยกวา่ 60% ลงชือ่ ...........................................................ผปู้ ระเมิน
โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝา่ ยประถม บนั ทกึ หลงั สอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2/...... หนว่ ย กจิ กรรมยดื หยุ่น (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เร่อื ง ทกั ษะมว้ นหลงั (Backward Roll) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี วนั ที.่ .........เดือน.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค (ก่อนสอน-ระหวา่ งสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพือ่ ใช้ในการสอนครั้งตอ่ ไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผสู้ อน
โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝา่ ยประถม แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 หนว่ ย กิจกรรมยดื หยุน่ (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เรอื่ ง ทักษะหกกบ (Frog Stand) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลอื่ นไหว การออกกําลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า พ 3.2: รกั การออกกาํ ลงั กาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั เิ ป็นประจําอยา่ งสมํ่าเสมอ มวี นิ ัย เคารพสทิ ธิ กฎกติกา มนี ้ําใจ มจี ิตวิญญาณในการแขง่ ขัน และชนื่ ชมในสุนทรภี าพของการกีฬา 2. ตัวชีว้ ดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคลือ่ นไหวรา่ งกาย ขณะอยู่กับท่ี เคล่อื นท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เล่มเกมเบ็ดเตลด็ และเข้ารว่ มกจิ กรรมทางกายทว่ี ิธีเลน่ อาศัยการเคล่ือนไหวเบ้ืองตน้ ทัง้ แบบอยูก่ ับที่ เคล่ือนที่ และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกาํ ลงั กาย และเลน่ เกม ไดด้ ้วยตนเองอย่างสนกุ สนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกาและข้อตกลงในการเล่นเกมเปน็ กล่มุ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 นักเรียนสามารถอธิบายการปฏบิ ตั ทิ กั ษะหกกบได้ถูกต้อง (IQ) 3.2 นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ทิ ักษะหกกบได้ (SQ) 3.3 นกั เรียนมคี วามสนกุ สนานจากการเลน่ กจิ กรรมฐานยืดหยุน่ (AQ) 3.4 นักเรียนมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายด้านความแขง็ แรงและความทนทานของกลา้ มเนื้อโดยการ ปฏิบตั ิท่าทางการเคลอื่ นท่ีเลยี นแบบสตั ว์ (PQ) 3.5 นักเรียนสามารถเขา้ แถวอย่างเปน็ ระเบยี บ แตง่ กายเรียบรอ้ ย พดู จาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสําคญั ทกั ษะหกกบ เป็นทกั ษะพน้ื ฐานในการเลน่ ยดื หยุ่น ทกั ษะหกกบต้องใชค้ วามแข็งแรงของกล้ามเนอ้ื มดั ใหญ่ ในการปฏิบตั ิ การฝึกทักษะหกกบจงึ เป็นการเสริมสมรรถภาพใหร้ า่ งกายของนกั เรยี นเกิดความแข็งแรง อีกทงั้ ทกั ษะ หกกบยงั เป็นทกั ษะพน้ื ฐานท่ใี ชต้ อ่ ยอดเพือ่ ปฏิบตั ิทักษะอ่นื ๆ ในการเล่นยดื หยนุ่ อกี ด้วย เช่น ทักษะหกสามเส้า 5. ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวัง นักเรยี น 80% สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ตามจุดประสงคก์ ารเรียนรแู้ ละสามารถนําเอาความรูไ้ ปใช้ไดอ้ ยา่ ง คล่องแคลว่ ในการเรยี นการสอนรายวชิ าอน่ื และชวี ติ ประจําวนั 6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ ทักษะหกกบ (Frog Stand) 1.ขนั้ เตรยี ม/อบอนุ่ ร่างกาย (10 นาที) - นักเรยี นมีความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย วิธีการปฏิบตั ิ 1.1 ครเู ดนิ ไปรับนกั เรียน แลว้ พานกั เรียน ภายในแถวตามท่ี กาํ หนด 1. นัง่ บนปลายเทา้ เข่างอ แยกเข่าออก ไปที่โรงยมิ อาคาร 50 ปี มอื ทง้ั สองข้างอยรู่ ะหวา่ งเขา่ แยกน้ิวออก 1.2 ครูให้นกั เรยี นเข้าแถว 4 แถว หลงั หันปลายนวิ้ ไปด้านหน้าหรือหันเขา้ หากนั กรวยท่ีวางไว้ให้ตรง ตามกลุ่มเดมิ เลก็ น้อย 1.3 ครูใหน้ กั เรียนวางถงุ พละ ถอดรองเท้า - นกั เรยี นเคารพกติกา ถงุ เท้า บตั รนกั เรยี น นาฬกิ า และแวน่ ตา ไว้ ทางดา้ นขวามือของตนเองใหเ้ รียบรอ้ ย ภายในห้องเรยี นแต่ง กายเรยี บร้อย 1.4 ครใู ห้นักเรยี นเดนิ ไปเขา้ แถวตอนเป็น กลุม่ ทง้ั หมด 4 กลมุ่ เหมอื นเดมิ ในสนาม - นักเรียนมีความ แบดมนิ ตนั และขยายแถว 2 ช่วงแขน เพื่อ เตรยี มการอบอุ่นรา่ งกาย พร้อมในการเรียนทัง้ ทางดา้ นร่างกาย จติ ใจ และอารมณ์
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 2. ค่อยๆ โลต้ ัวไปดา้ นหนา้ ชา้ ๆ พรอ้ มยก 1.5 อบอนุ่ รา่ งกาย (Warm – Up) ปลายเทา้ ที่อยู่ที่พ้ืนขึ้น ข้อศอกงอ วางเข่า ครูใหน้ ักเรยี นขยายแถวหน่ึงชว่ งแขนเพื่ออบอ่นุ ลงบนขอ้ ศอกท้ังสองข้าง นา้ํ หนักตัวอยทู่ ่ี รา่ งกาย แขน พยายามทรงตัวให้นิง่ ประมาณ 5 - 1.5.1 ครูนํานักเรียนยดื เหยียดกล้ามเน้อื 5 ทา่ - นกั เรยี นบริหาร 10 วนิ าที ทา่ ที่ 1 ทา่ ยดื กลา้ มเนือ้ หลงั และหวั ไหล่ ยก ร่างกายและอวัยวะ มือแขนตรงึ เหนอื ศรี ษะ เหยยี ดหัวไหล่และ ต่างๆ ได้เหมาะสมตาม หลงั ไปดา้ นซา้ ยและขวา สลับด้านละ 10 วินาที วยั ทา่ ท่ี 2 พบั ขาไปด้านหลังเพือ่ ยืดต้นขา การปฏิบตั ิกจิ กรรมฐาน ดา้ นหน้า สลบั ช้างละ 10 วนิ าที ครจู ัดฐานกิจกรรมออกเปน็ 2 ฐานใหญ่ ครใู หน้ ักเรยี นหญิงปฏิบตั กิ ิจกรรมใน ฐานที่ 1 และใหน้ กั เรยี นชายปฏิบัติ กจิ กรรมในฐานที่ 2 กอ่ น เมือ่ ปฏิบัตคิ รบ ทกุ คนในแต่ละฐานแล้ว ครูจะสง่ สญั ญาณ เพอ่ื ให้นักเรยี นชายและหญงิ สลับฐานกนั เม่ือเริ่มครใู หส้ ญั ญาณนกหวีด หลังจาก ทา่ ที่ 3 ทา่ ยืนยดื กล้ามเนอื้ ขาหนบี ข้างซ้าย และขวา สลับขา้ งละ 10 วนิ าที นนั้ ใหน้ ักเรียนหญงิ คนแรกของแถวเร่ิม ปฏิบตั กิ ิจกรรมจากฐานท่ี 1.1 ไปยังฐานที่ 1.2 1.3 และ 1.4 ตามลําดับ หลงั จาก ปฏิบัตเิ สร็จแล้วให้ไปตอ่ ดา้ นหลังของแถว ให้ออกครงั้ ละ 1 คน ตามสัญญาณ นกหวีด ส่วนนกั เรยี นชายใหค้ นแรกของ แถวออกมาปฏบิ ัติในฐานท่ี 2 ก่อนเชน่ กนั
สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ เมอ่ื ปฏบิ ตั ิเสร็จแลว้ ใหไ้ ปตอ่ ดา้ นหลังของ ทา่ ที่ 4 ท่ายดื กล้ามเน้อื หนา้ ทอ้ ง 10 วินาที แถว หากเพอื่ นคนที่ต่อแถวอย่ดู ้านหน้า ของตนเองปฏบิ ตั ิเสรจ็ แล้ว คนตอ่ ไป สามารถออกมาปฏบิ ัติไดเ้ ลย รายละเอยี ดฐานท่ี 1 มดี ังต่อไปนี้ ทา่ ท่ี 5 ว่ิงรอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 1.6 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย - นกั เรยี นปฏิบัตทิ ่า ครูใหน้ ักเรียนเลียนแบบทา่ ทางการ การเดนิ ของปูได้ เคลื่อนทข่ี องสตั ว์ ได้แก่ ทา่ เดินของเป็ดและปู ตอ่ เนื่อง ฐานท่ี 1.1 ครูใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั ิทักษะทา่ เดนิ ด้วย มอื โดยใหม้ ือนกั เรยี นวางอยู่บริเวณแนว ท่าทางการเดินของปู เส้นท่ใี ช้เทปกาวยน่ ตดิ เปน็ เส้นตรงบน เบาะยมิ นาสติก และใหเ้ ทา้ อยู่บนรอยเทา้ - เมอื่ ครูให้สญั ญาณนกหวีด ใหน้ ักเรยี นคน บนฝาผนงั หน้าสุดของแตล่ ะแถวปฏบิ ัตทิ า่ ทางการ ฐานที่ 1.2 เคลอื่ นทแี่ บบที่ครูกาํ หนดไปดา้ นหนา้ จนกวา่ จะถึงมารค์ เกอรฝ์ ง่ั ตรงขา้ ม เม่ือใครปฏบิ ตั ิ ครใู หน้ ักเรียนปฏิบตั ิทักษะหกสูงโดยให้ แลว้ ให้เขา้ แถวรอ 4 กล่มุ เหมอื นเดมิ ที่ฝง่ั ตรง นักเรยี นยืนหันหลงั ให้ผนัง หลังจากนัน้ ใช้ ขา้ ม
สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ มอื ก้มแตะพนื้ และใชเ้ ทา้ ค่อย ๆ ก้าว - ปฏิบตั ิทัง้ หมดทา่ ละ 2 รอบ ข้ึนมาบนฝาผนัง ขณะท่เี ท้าก้าวขน้ึ บนฝา ผนงั ให้คอ่ ย ๆ ใชม้ ือทัง้ สองข้างเขยบิ ตาม เข้ามาจนอยู่ในตาํ แหน่งของสติ๊กเกอร์รูป วงกลมบนเบาะ หา่ งจากฝาผนังประมาณ 2 ก้าว แขนและขาเหยียดตรง. เมอ่ื นักเรียนอยูใ่ นท่าหกสูงแลว้ ใหห้ ลงั เรยี น เกบ็ ศรี ษะและปฏบิ ัติทักษะมว้ นหน้าลงมา พรอ้ มยนื ขึ้น ฐานท่ี 1.3 ครใู หน้ กั เรียนน่ังบนเบาะทรง สามเหลีย่ ม หยอ่ นขาลงดา้ นลา่ ง หลังจาก นนั้ ม้วนหลงั ลงมาทเี่ บาะ ฐานที่ 1.4 2. ขน้ั อธิบายและสาธติ (10นาท)ี 2.1 ครูพานักเรียนเดนิ เข้าหอ้ งยืดหย่นุ ทลี ะ ครูให้นกั เรยี นวิง่ มาและกระโดดเท้าคู่ แถว และให้นักเรยี นเข้าแถวตอน 4 กล่มุ บนกระดานไมส้ ปริงไม้เพือ่ ไปท่เี บาะทรง เหมือนตอนแรก สามเหลยี่ ม จากหลงั ใหน้ กั เรยี นมว้ นหนา้ ลงมาทันทีทีต่ วั สัมผัสกับเบาทรง สามเหลย่ี ม 2.2 ครูถามคาํ ถามนกั เรียนว่า “การฝึก -นกั เรียนฟัง ถามและ ปฏบิ ัติทกั ษะหกกบ สามารถเป็นทักษะ ตอบคาํ ถาม พนื้ ฐานในการปฏบิ ตั ิทกั ษะอื่น ๆ ได้ไหม เช่น แลกเปลีย่ นความ ทักษะอะไร” คิดเหน็ กบั ครูผู้สอนได้ แนวคาํ ตอบ : ได้ เช่น ทักษะหกสามเสา้ อยา่ งเหมาะสม 2.3 ครูอธิบายและสาธติ ร่วมกับนกั เรยี นใน ทกั ษะหกกบ
สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ รายละเอยี ดฐานที่ 2 มีดังตอ่ ไปนี้ 2.4 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั อกี ครงั้ กอ่ นฝกึ ปฏบิ ตั ิ 3.ข้ันการฝกึ หัดทักษะ (10 นาท)ี 3.1 ครูให้นกั เรียนแต่ละแถวประจาํ เบาะ ยืดหยุ่น ของตนเอง 1 คนตอ่ 1 เบาะ เพือ่ เตรียมการฝึกปฏิบตั ิทักษะหกกบ 1. ให้นกั เรยี นว่ิงออกมาเพอ่ื กระโดดขึ้นไป บนแทมโพลีน 2. กอ่ นที่เท้านักเรยี นสมั ผัสกับแทมโพลีน ให้นกั เรยี นยอ่ ขาเพ่ือเตรียมกระโดดแบบ เทา้ คพู่ รอ้ มกัน จากแทมโพลีนขน้ึ ไปบน เบาะยืดหยุ่นต่อ 3. หลงั จากกระโดดขนึ้ มายังเบาะยืดหยุ่น ไดแ้ ล้ว ให้กระโดดลงไปบนเบาะแบบเท้า คูพ่ รอ้ มกัน หลงั จากนนั้ ใหว้ ่ิงไปตอ่ ทา้ ย แถวเพือ่ รอปฏิบตั ริ อบตอ่ ไป 3.2 ครูใหน้ กั เรยี นทกุ คนอยู่ในท่าเตรยี ม - นักเรียนมที กั ษะ ปฏิบตั ิทกั ษะหกกบ หกกบ 3.3 ครูให้สญั ญาณนกหวีดและให้นกั เรียน แตล่ ะคนปฏบิ ตั ทิ ักษะหกกบเป็นเวลา 3 วนิ าที เมื่อปฏิบตั เิ สรจ็ แล้วให้อยู่ในทา่ เตรียม ปฏิบัตทิ ักษะหกกบ เพ่ือรอครใู ห้สญั ญาณ นกหวีดเพอ่ื ปฏบิ ัติทักษะหกกบอีก 3.4 ขณะนกั เรียนฝึกปฏบิ ตั ทิ ักษะ ครูคอย เดนิ สังเกตนกั เรยี นทยี่ งั ปฏบิ ัตทิ ักษะหกกบ
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ ไม่ได้ และครูคอยใหค้ ําแนะนํา ให้ความ ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น 4.ข้นั นาํ ไปใช้ (20 นาที) - นักเรียนปฏิบตั ิ 4.1 ครูให้นักเรียนเขา้ แถวและเดินไปที่ กจิ กรรมยืดหยุ่นได้ - นักเรียนมคี วาม โรงยิม และปฏิบัติกิจกรรมฐาน เพ่อื เป็นการ แข็งแรงมากขึน้ ใน ทบทวนทักษะทเี่ คยเรียน เสริมสมรรถภาพ การปฏิบตั กิ ิจกรรม และไดล้ องฝึกปฏิบตั ทิ ักษะอ่ืนๆในการเล่น ยดื หยุ่น ยดื หยุ่น - นกั เรยี นสนุกสนาน ในการเล่นอย่างน้อย 80% ของจาํ นวน นักเรียนทัง้ หมด
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 5. ขัน้ สรุปและสุขปฏิบตั ิ (10 นาที) 5.1 ครูใหน้ กั เรยี นกลบั มาเขา้ แถวตามกล่มุ - นกั เรยี นไดฝ้ กึ หลังจากนัน้ ครูสรุปการฝกึ หดั ทักษะและสรปุ ประมวลความคดิ เนื้อหาของทักษะหกกบ รวบยอดอีกครัง้ 5.2 ครูถามคาํ ถามเก่ยี วกบั การเรยี น หลงั จากเรียน พลศึกษาในคาบน้ี 5.2.1 “ทักษะหกกบในภาษาอังกฤษ เรียกว่าอะไร” แนวคาํ ตอบ : Frog Stand 5.2.2 “สงิ่ ใดท่สี ามารถทาํ ให้การ ปฏิบตั ิทกั ษะหกกบ สามารถปฏิบตั ไิ ด้ในเวลา ทน่ี านขึน้ ” แนวคาํ ตอบ : การฝึกปฏิบัติบ่อย ๆ เพื่อให้ เกดิ ความแขง็ แรงของกล้ามเนอ้ื 5.3 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถาม ข้อ สงสยั 5.4 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นักเรยี นได้ฝึกความ ของนักเรียน รบั ผดิ ชอบในการ 5.5 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแกใ้ ข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเรือ่ งการนําของใช้ การเปลี่ยนแปลง) มาโรงเรยี น 5.6 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ 5.7 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ดื่ม - นักเรียนรจู้ ักการ นํ้ากอ่ นเข้าห้องเรยี น ดแู ลรักษาความ สะอาดอวยั วะต่างๆ ของรา่ งกายตนเอง หลงั จากเล่นกีฬา
7. สอื่ การสอน/แหล่งการเรยี นรู้ - ส่อื การสอน นกหวดี หนงั สือเรยี นวชิ าสขุ ศกึ ษา กรวย แผ่นยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศกึ ษา ป..2 เลม่ 2 A Book กระดานไวท์บอร์ด ปากกาไวทบ์ อร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เรือ่ งท่สี อนในช่วั โมง Whiteboard eraser poster/Image media เบาะยืดหย่นุ เบาะทรงชสี เค้ก แทมโพลีน กระดานสปริง Gymnastics mat Trampoline Springboard Gymnastics incline mat แหล่งการเรยี นรู้ สุรเชษฐ์ วศิ วธรี านนท.์ 2561. กีฬาฟุตบอลและกจิ กรรมยืดหย่นุ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 2. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พร้ินท์กร๊ปุ จาํ กดั . How to Frog Stand. 2559. [ออนไลน]์ . แหล่งท่มี า: https://www.youtube.com/watch?v=fAg1ZlngaMo [1 เมษายน 2563]
8. คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ความหมาย เบาะยิมนาสติกทรงชสี เค้ก ลําดบั คําศัพทภ์ าษาองั กฤษ รัว้ กระโดด 1 Gymnastics incline mat นกหวีด 2 Hurdle หนงั สอื เรียน 3 Whistle กรวย 4 Book แผ่นยางมารก์ เกอร์ 5 Cone กระดานไวทบ์ อร์ด 6 Marker ปากกาไวทบ์ อร์ด 7 White board แปรงลบกระดานไวท์บอรด์ 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่อื งที่สอนในชวั่ โมง 9 Whiteboard eraser เบาะยิมนาสตกิ 10 poster/Image media แทมโพลีน 11 Gymnastics mat กระดานสปรงิ 12 Trampoline หกกบ 13 Springboard 14 Frog stand 9. การวัดและประเมินผล ลําดบั ท่ี เรือ่ ง เคร่อื งมอื แบบสงั เกต 1 สังเกตความสนใจและการมสี ว่ นรว่ มตลอดชั้นเรียน แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเครอ่ื งแต่งกายและบักทกึ คะแนนความรับผิดชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสุขปฏบิ ัติ 3 สงั เกตการตอบคําถามระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม แบบประเมินความสนใจ การมีสว่ นร่วมในกจิ กรรม และผลสาํ เรจ็ ของการฝึกทกั ษะและการนําไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศึกษา.................. หน่วยการเรียนร.ู้ ..................................... เรอ่ื ง...................................................................ระดับชั้น........................... ระดับ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง/เพิ่มเติม) PQ นกั เรียน 80% ขึ้นไปปฏบิ ตั ิทา่ ทาง นกั เรียน 60%-80% ปฏบิ ัติ นกั เรยี นนอ้ ยกว่า 60% ปฏบิ ัติ สมรรถภาพ การเคล่อื นท่เี ลียนแบบสัตว์ได้ ทา่ ทางการเคล่อื นทเี่ ลยี นแบบสัตว์ ท่าทางการเคลื่อนทเ่ี ลียนแบบ ทางกาย อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ไดอ้ ย่างต่อเน่อื ง สตั วไ์ ด้อย่างต่อเน่ือง นกั เรยี น 80% ขนึ้ ไปเข้าแถวอยา่ ง นักเรียน 60%-80% เขา้ แถวอย่าง นกั เรยี นนอ้ ยกวา่ 60% เขา้ แถว MQ คณุ ธรรม เปน็ ระเบยี บ แตง่ กายเรียบร้อย เป็นระเบียบ แต่งกายเรียบรอ้ ย อย่างเปน็ ระเบยี บ แต่งกาย จริยธรรม พูดจาสภุ าพ พูดจาสภุ าพ เรยี บร้อย พูดจาสภุ าพ AQ เจตคติ นกั เรียน 80% ขึ้นไปมีความ นักเรียน 60%-80% มีความ นกั เรยี นนอ้ ยกวา่ 60% มีความ สนุกสนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนุกสนานจากการเรียนและการ เล่นกิจกรรมฐานยดื หยุ่น เลน่ กจิ กรรมฐานยืดหยุน่ เล่นกิจกรรมฐานยดื หยุน่ IQ ความรู้ นกั เรียน 80% ข้ึนไปสามารถ นักเรยี น 60%-80% สามารถ นกั เรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ความเขา้ ใจ อธบิ ายการปฏบิ ัตทิ ักษะหกกบได้ อธิบายการปฏบิ ัตทิ ักษะหกกบได้ อธิบายการปฏิบัติทักษะหกกบได้ อยา่ งถูกต้อง อย่างถูกตอ้ ง อยา่ งถูกตอ้ ง SQ ทักษะ นกั เรยี น 80% ขึน้ ไปสามารถ นกั เรยี น 60%-80% สามารถ นักเรียนน้อยกวา่ 60% สามารถ ปฏบิ ตั ทิ กั ษะหกกบไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ปฏบิ ัตทิ ักษะหกกบไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ปฏิบัตทิ ักษะหกกบไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง ระดับคณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถึง จาํ นวนนักเรียน 80% ข้ึนไป ระดบั 2 หมายถึง จาํ นวนนกั เรยี น 60-80% ระดบั 1 หมายถงึ จาํ นวนนกั เรยี น้อยกวา่ 60% ลงชือ่ ...........................................................ผู้ประเมิน
โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม บันทกึ หลงั สอน กล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2/...... หนว่ ย กิจกรรมยดื หยุน่ (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เรื่อง ทักษะหกกบ (Frog Stand) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) วนั ท่.ี .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอปุ สรรค (ก่อนสอน-ระหวา่ งสอน-หลงั สอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพอ่ื ใชใ้ นการสอนครั้งต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผสู้ อน
โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 หนว่ ย กจิ กรรมยดื หยนุ่ (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เรื่อง ทกั ษะหกสามเสา้ ตดิ ฝาผนัง (Head Stand) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 3 การเคล่อื นไหว การออกกาํ ลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า พ 3.2: รกั การออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กฬี า ปฏิบตั เิ ป็นประจาํ อย่างสมา่ํ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎกตกิ า มนี ํา้ ใจ มจี ติ วญิ ญาณในการแขง่ ขนั และชื่นชมในสุนทรภี าพของการกฬี า 2. ตวั ชวี้ ัด พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคล่ือนไหวร่างกาย ขณะอยูก่ บั ที่ เคล่ือนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบ็ดเตล็ดและเข้าร่วมกิจกรรมทางกายท่ีวธิ ีเล่น อาศยั การเคลอ่ื นไหวเบอื้ งต้นทั้ง แบบอย่กู ับท่ี เคล่อื นที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกําลงั กาย และเลน่ เกม ได้ด้วยตนเองอย่างสนุกสนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ าและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเปน็ กลมุ่ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 นกั เรียนสามารถอธิบายการปฏบิ ัติทกั ษะหกสามเสา้ ตดิ ฝาผนังไดถ้ ูกตอ้ ง (IQ) 3.2 นกั เรียนสามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะหกสามเส้าติดฝาผนงั ได้ (SQ) 3.3 นักเรยี นมีความสนุกสนานจากการเล่นเกมการแขง่ ขันและปฏิบัตกิ ิจกรรมฐานยืดหยุ่น (AQ) 3.4 นกั เรยี นมีพฒั นาการสมรรถภาพทางกายด้านความแขง็ แรงของกลา้ มเนือ้ ทีด่ โี ดยการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ฐานยืดหยุ่น (PQ) 3.5 นกั เรียนสามารถเข้าแถวอยา่ งเป็นระเบยี บ แตง่ กายเรียบรอ้ ย พดู จาสภุ าพ (MQ)
4. สาระสาํ คญั ทกั ษะหกกสามเสา้ ตดิ ฝาผนัง การฝกึ ปฏบิ ตั ิทักษะหกสงู ตดิ ฝาผนังเปน็ พ้นื ฐานในการเลน่ กีฬายิมนาสตกิ และยืดหยุ่น สามารถนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเล่นกีฬาอ่นื ๆ การออกกาํ ลงั กาย และใชช้ วี ิตประจําวันเพอ่ื เสริมสรา้ ง สมรรถภาพทางกายได้ 5. ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวัง นกั เรยี น 80% สามารถปฏิบัติไดต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้และสามารถนําเอาความรูไ้ ปใชไ้ ดอ้ ยา่ ง คลอ่ งแคล่วในการเรียนการสอนรายวิชาอ่ืน และชีวิตประจําวนั 6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ ทักษะหกสามเส้าติดฝาผนัง (Hand 1.ข้นั เตรยี ม/อบอนุ่ รา่ งกาย (10 นาท)ี - นักเรยี นมคี วามเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย Stand) 1.1 ครูเดนิ ไปรบั นกั เรียน แลว้ พานกั เรยี น ภายในแถวตามท่ี กาํ หนด วธิ ีการปฏบิ ตั มิ ดี ังนี้ ไปที่โรงยิมอาคาร 50 ปี - นักเรียนเคารพกตกิ า 1. นงั่ ย่อเขา่ บนเบาะ วางมอื ท้งั สองลง 1.2 ครใู ห้นักเรยี นเข้าแถว 4 แถว หลงั ภายในหอ้ งเรียนแตง่ กายเรียบรอ้ ย ด้านหน้า นิ้วแยกออกจากกัน หันเขา้ หา กรวยทว่ี างไว้ใหต้ รง ตามกลุม่ เดิม - นกั เรียนมคี วาม พรอ้ มในการเรียนท้ัง ฝาผนังห่างกันประมาณ 1 ชว่ งไหล่ ทางดา้ นรา่ งกาย จิตใจ และอารมณ์ 2. วางศรี ษะลงบนเบาะ ดา้ นบนมอื ท้ัง สอง คล้ายยอดของรปู สามเหลยี่ มดา้ นเท่า โดยมมี ือทั้งสองขา้ งเป็นฐาน วางศรี ษะให้ ส่วนกลางศีรษะสมั ผสั กับเบาะและหา่ ง 1.3 ครูใหน้ กั เรยี นวางถงุ พละ ถอดรองเท้า ถุงเทา้ บตั รนักเรยี น นาฬิกา และแว่นตา ไว้ จากผนงั 1 ฝ่ามอื 3. ยกขาข้างใดขา้ งหนึ่งขนึ้ ไปใหส้ ูงท่สี ดุ ทางด้านขวามือของตนเองให้เรียบร้อย 1.4 ครใู ห้นกั เรียนเดนิ ไปเขา้ แถวตอนเปน็ ก่อน แล้วให้เตะขาอกี ขา้ งข้ึนตามไป จดั ขาและลาํ ตวั ให้ตรง นาํ้ หนักตัวอยทู่ ี่มือ กลุ่มทง้ั หมด 4 กล่มุ เหมือนเดมิ ในสนาม แบดมนิ ตนั และขยายแถว 2 ชว่ งแขน เพอ่ื พยายามทรงตวั ใหน้ ิ่งประมาณ 5 – 10 วนิ าที 4. ตอนลงให้นําขาลงกอ่ น โดยลงทลี ะขา้ ง เตรียมการอบอ่นุ ร่างกาย
สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 1 1.5 อบอุ่นรา่ งกาย (Warm – Up) ครใู ห้นกั เรยี นขยายแถวหนึ่งชว่ งแขนเพือ่ อบอุ่น ร่างกาย 1.5.1 ครูนาํ นักเรยี นยืดเหยียดกล้ามเนือ้ 5 ท่า - นักเรียนบริหาร ทา่ ที่ 1 ท่ายืดกล้ามเนือ้ หลงั และหวั ไหล่ ยก ร่างกายและอวยั วะ มือแขนตรึงเหนือศีรษะ เหยยี ดหัวไหล่และ ต่างๆ ได้เหมาะสมตาม หลังไปด้านซา้ ยและขวา สลับด้านละ 10 วินาที วัย ท่าที่ 2 พบั ขาไปด้านหลังเพอ่ื ยดื ตน้ ขา ด้านหน้า สลับชา้ งละ 10 วนิ าที 2 ทา่ ท่ี 3 ทา่ ยนื ยดื กล้ามเนอ้ื ขาหนบี ข้างซา้ ย และขวา สลับข้างละ 10 วนิ าที 3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428