แผนการจัดการเรียนรู้พลศึกษา ป.2 ภาคปลาย

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ ทา่ ท่ี 4 ท่ายืดกล้ามเนอื้ หน้าทอ้ ง 10 วนิ าที ท่าที่ 5 วิง่ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) แผนผงั การปฏิบตั กิ จิ กรรมฐาน 1.6 พฒั นาสมรรถภาพร่างกาย ครใู ห้นักเรยี นปฏิบัติกิจกรรมฐานเพื่อใช้ใน - นกั เรยี นปฏิบัติ การอบอุ่นร่างกาย เสรมิ สมรรถภาพ และ กิจกรรมยดื หยุ่นได้ดี ขน้ึ ทบทวนทกั ษะตา่ งๆ - ครจู ัดฐานกจิ กรรมออกเปน็ 2 ฐานใหญ่ - นกั เรยี นมีความ ครใู ห้นักเรยี นหญิงปฏบิ ตั ิกจิ กรรมในฐานที่ แข็งแรงมากข้นึ ใน 1 และใหน้ ักเรยี นชายปฏบิ ัติกจิ กรรมในฐานท่ี การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 2 ก่อน เมอ่ื ปฏิบัติครบทกุ คนในแตล่ ะฐาน ยืดหยุ่น แล้ว ครูจะสง่ สญั ญาณเพอื่ ใหน้ ักเรยี นชายและ - นกั เรยี นสนกุ สนาน ในการเลน่ อย่างนอ้ ย หญงิ สลับฐานกัน - เม่อื เริ่มครูให้สญั ญาณนกหวดี หลงั จาก 80% ของจาํ นวน นนั้ ให้นักเรยี นหญิงคนแรกของแถวเริม่ ปฏบิ ัติ นักเรยี นทัง้ หมด กจิ กรรมจากฐานที่ 1.1 ไปยงั ฐานที่ 1.2 1.3 และ 1.4 ตามลําดับ หลงั จากปฏบิ ตั ิเสร็จแลว้ ให้ไปตอ่ ด้านหลังของแถว ให้ออกครงั้ ละ 1 คน ตามสัญญาณนกหวีด สว่ นนักเรียนชายให้

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ รายละเอียดฐานท่ี 1 มดี ังตอ่ ไปน้ี คนแรกของแถวออกมาปฏบิ ตั ิในฐานท่ี 2 กอ่ นเชน่ กัน เม่ือปฏบิ ตั ิเสร็จแล้วให้ไปต่อ ดา้ นหลังของแถว หากเพ่ือนคนทตี่ ่อแถวอยู่ ดา้ นหน้าของตนเองปฏบิ ัติเสรจ็ แล้ว คนตอ่ ไป สามารถออกมาปฏิบตั ไิ ด้เลย 2. ขัน้ อธิบายและสาธติ (10นาท)ี 2.1 ครูพานกั เรยี นเดินเขา้ ห้องยดื หยนุ่ ทลี ะ แถว และใหน้ ักเรียนเขา้ แถวตอน 4 กลุม่ เหมือนตอนแรก ฐานที่ 1.1 2.2 ครูถามคาํ ถามนกั เรยี นวา่ “การปฏบิ ัติ -นกั เรยี นฟงั ถามและ ครูใหน้ กั เรยี นปฏบิ ัติทกั ษะทา่ เดินด้วย ทกั ษะใด เป็นทักษะพนื้ ฐานของการปฏบิ ัติ ตอบคําถาม มือ โดยให้มอื นกั เรยี นวางอยบู่ ริเวณแนว เส้นท่ีใชเ้ ทปกาวย่นติดเป็นเสน้ ตรงบน ทกั ษะหกสูง” แลกเปลี่ยนความ เบาะยิมนาสติก และใหเ้ ท้าอยู่บนรอยเทา้ แนวคําตอบ : ทกั ษะหกสามเสา้ คดิ เห็นกับครผู ู้สอนได้ บนฝาผนัง “ทกั ษะหกสามเส้า มีลกั ษณะการปฏบิ ัติ อย่างเหมาะสม อยา่ งไร” ฐานที่ 1.2 แนวคาํ ตอบ : ทกั ษะหกสามเส้า คือทักษะท่ใี ช้ ครใู ห้นักเรียนปฏิบตั ิทักษะหกสงู โดยให้ ศรี ษะในการทรงตัวและรับนา้ํ หนักของ นกั เรยี นยืนหันหลังให้ผนงั หลังจากน้ันใช้ รา่ งกายแทนเทา้ และขา มือกม้ แตะพนื้ และใช้เท้าค่อย ๆ ก้าว “เพราะฉะน้นั ทักษะหกสามเสา้ ใน ข้นึ มาบนฝาผนงั ขณะทเี่ ทา้ กา้ วข้ึนบนฝา ภาษาอังกฤษ จึงสามารถเรยี กว่าอะไร มี ผนัง ให้คอ่ ย ๆ ใช้มือทัง้ สองขา้ งเขยบิ ตาม นักเรียนคนใดสามารถตอบไดบ้ า้ ง” เข้ามาจนอยใู่ นตําแหนง่ ของสต๊ิกเกอรร์ ูป แนวคาํ ตอบ : Head Stand วงกลมบนเบาะ ห่างจากฝาผนังประมาณ 2.3 ครูอธบิ ายและสาธติ ร่วมกับนักเรยี นใน 2 ก้าว แขนและขาเหยยี ดตรง. เมื่อ ทักษะหกสามเส้าตดิ ฝาผนัง

สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ นักเรยี นอยใู่ นทา่ หกสงู แลว้ ให้หลงั เรยี น 2.4 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ เก็บศีรษะและปฏบิ ตั ิทักษะมว้ นหนา้ ลงมา สงสยั อีกคร้ังก่อนฝกึ ปฏบิ ตั ิ พรอ้ มยืนขึ้น 3.ข้ันการฝึกหดั ทกั ษะ (10 นาที) ฐานที่ 1.3 3.1 ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะแถวประจาํ เบาะ ครใู หน้ กั เรยี นนง่ั บนเบาะทรง ยืดหย่นุ ของตนเอง 1 คนต่อ 1 เบาะ เพื่อ สามเหลีย่ ม หย่อนขาลงด้านล่าง หลังจาก เตรียมการฝึกทักษะหกสามเส้าติดฝาผนงั ใน นัน้ มว้ นหลังลงมาทเี่ บาะ แบบฝึกท่ี 1 ฝึกการเตะขาและยกลาํ ตวั ฐานท่ี 1.4 ครูใหน้ กั เรียนว่งิ มาและกระโดดเท้าคู่ บนกระดานไม้สปรงิ ไมเ้ พ่ือไปท่ีเบาะทรง สามเหลีย่ ม จากหลังใหน้ กั เรียนมว้ นหนา้ ลงมาทันทที ต่ี ัวสมั ผสั กบั เบาทรง สามเหลยี่ ม รายละเอียดฐานท่ี 2 มีดังตอ่ ไปนี้ 3.2 ครูให้นกั เรียนฝกึ ทักษะเบ้ืองต้นของหก สามเสา้ โดยการใหน้ กั เรยี น ทําท่า เตรียมพร้อมให้ถูกตอ้ ง คอื ตาํ แหน่งการ 1. ใหน้ กั เรียนวิ่งออกมาเพ่อื กระโดดข้นึ ไป วางมอื การวางศีรษะให้ถูกตอ้ ง พร้อมทั้งฝกึ เตะขาไปข้างหนา้ โดยมเี บาะชีสเคก้ เป็นท่ี บนแทมโพลีน 2. ก่อนทีเ่ ทา้ นักเรยี นสัมผัสกับแทมโพลนี รองรับตวั ใหน้ ักเรยี นย่อขาเพื่อเตรียมกระโดดแบบ คําอธิบายแบบฝกึ เทา้ คู่พรอ้ มกัน จากแทมโพลนี ขน้ึ ไปบน - วางมือ หน้าผากแตะจดุ บนของเบาะ - วางมอื เอาขาข้างใดขา้ งหนึง่ ไปวางขา้ ง

สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ เบาะยืดหยุ่นตอ่ หลังแลว้ เตะขาข้นึ บนฟ้า พร้อมทง้ั เอนสะโพก - นกั เรียนมที ักษะ 3. หลังจากกระโดดขน้ึ มายังเบาะยดื หยุ่น และขา ไปข้างหน้า พยายามให้ลําตวั ตง้ั ตรง สามเส้าตดิ ฝาผนงั ไดแ้ ล้ว ให้กระโดดลงไปบนเบาะแบบเทา้ ให้ได้ คพู่ ร้อมกัน หลงั จากนัน้ ให้ว่งิ ไปตอ่ ท้าย แบบฝกึ ท่ี 2 ฝึกหกสามเส้าติดฝาผนงั แถวเพอ่ื รอปฏิบัติรอบตอ่ ไป 3.3 ครูให้นักเรียนแตล่ ะแถวออกมาฝกึ หกสามเส้าติดฝาผนงั 3.4 ยืน 1 คนตอ่ 1 เบาะ หันหนา้ เขา้ ฝา ผนงั 3.5 ครใู ห้สญั ญาณนกหวีด ให้นักเรยี นท่ี ฝึก ทําท่าเตรยี ม เม่อื ครูให้สัญญาณนกหวีด คร้ังท่ี 2 นักเรียนจะต้องเตะขาขนึ้ ไปบนฟา้ และพยายามใหล้ ําตัวต้ังตรง ค่อยๆไปพงิ ผนัง ให้นานท่ีสดุ

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ 4.ขน้ั นาํ ไปใช้ (20 นาที) - นักเรียนสนกุ สนาน 4.1 ครูใหน้ ักเรียนสง่ ตัวแทนแถว 2 คน ในการเลน่ อยา่ งน้อย 80% ของจํานวน ออกมาแข่งขัน ทกั ษะหกสามเส้าติดฝาผนงั นกั เรยี นท้งั หมด 4.2 ครูสงั เกตนักเรียนทท่ี รงตวั ทักษะหก สามเส้าตดิ ฝาผนงั ได้นานทสี่ ุดในแต่ละรอบ จะเปน็ ฝา่ ยชนะไปในแตล่ ะรอบ 4.3 รวมคะแนนเป็นแถว แถวไหนคะแนน มากท่ีสุดจะเป็นฝา่ ยชนะในการแข่งขนั วนั น้ี 5. ขน้ั สรุปและสขุ ปฏิบตั ิ (10 นาที) 5.1 ครใู ห้นักเรยี นกลับมาเขา้ แถวตามกล่มุ - นักเรียนได้ฝึก หลังจากนัน้ ครูสรุปการแขง่ ขัน พรอ้ มชมเชย ประมวลความคิด แถวท่ชี นะ และสรปุ เนอื้ หาของทักษะหกสาม รวบยอดอีกคร้งั เสา้ ตดิ ฝาผนัง หลังจากเรยี น 5.2 ครูถามคาํ ถามเกยี่ วกับการเรียน พลศกึ ษาในคาบนี้ 5.2.1 “ทกั ษะหกสามเสา้ ใน ภาษาองั กฤษเรยี กวา่ อะไร” แนวคาํ ตอบ : Head Stand 5.2.2 “ตําแหน่งของการวางศรี ษะ และมือท้ังสองข้าง มีลกั ษณะเป็นรูปอะไร” แนวคาํ ตอบ : 3 เหลี่ยมดา้ นเท่า 5.3 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถาม ขอ้ สงสัย 5.4 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นักเรยี นได้ฝึกความ ของนกั เรยี น รบั ผิดชอบในการ 5.5 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแก้ใข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเร่อื งการนําของใช้ การเปล่ียนแปลง) มาโรงเรยี น

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 5.6 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ 5.7 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ด่ืม - นกั เรยี นรจู้ ักการ นํ้ากอ่ นเขา้ ห้องเรียน ดูแลรกั ษาความ สะอาดอวยั วะตา่ งๆ ของรา่ งกายตนเอง หลงั จากเลน่ กีฬา

7. สือ่ การสอน/แหล่งการเรียนรู้ - สอ่ื การสอน นกหวดี หนังสอื เรียนวชิ าสขุ ศึกษา กรวย แผ่นยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวทบ์ อรด์ ปากกาไวทบ์ อร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เรื่องที่สอนในชวั่ โมง Whiteboard eraser poster/Image media เบาะยดื หยุ่น เบาะทรงชสี เคก้ แทมโพลนี กระดานสปริง Gymnastics mat Gymnastics Trampoline Springboard incline mat เบาะยืดหยนุ่ ขนาดเลก็ ตดิ สตกิ 3 เกอร์ตําแหนง่ การวางมือและศีรษะ แหลง่ การเรยี นรู้ สุรเชษฐ์ วิศวธรี านนท์. 2561. กฬี าฟตุ บอลและกิจกรรมยดื หยนุ่ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2. พิมพค์ รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอรพ์ ร้ินท์กรุ๊ป จาํ กดั . Headstand (Sirsasana) & Modifications for Headstand. 2556. [ออนไลน]์ . แหล่งที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=0tTjzz7sb_c [1 เมษายน 2563]

8. คาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย เบาะยมิ นาสติกทรงชสี เค้ก ลําดับ คาํ ศัพท์ภาษาอังกฤษ รั้วกระโดด 1 Gymnastics incline mat นกหวดี 2 Hurdle หนังสือเรยี น 3 Whistle กรวย 4 Book แผ่นยางมาร์กเกอร์ 5 Cone กระดานไวท์บอรด์ 6 Marker ปากกาไวท์บอรด์ 7 White board แปรงลบกระดานไวทบ์ อร์ด 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่ืองทส่ี อนในชั่วโมง 9 Whiteboard eraser เบาะยิมนาสติก 10 poster/Image media แทมโพลีน 11 Gymnastics mat กระดานสปริง 12 Trampoline หกสามเส้า 13 Springboard 14 Head stand 9. การวัดและประเมนิ ผล ลําดับที่ เรื่อง เครือ่ งมือ แบบสังเกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ว่ นร่วมตลอดชน้ั เรียน แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเครือ่ งแตง่ กายและบักทกึ คะแนนความรับผดิ ชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสขุ ปฏิบัติ 3 สงั เกตการตอบคาํ ถามระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมีส่วนร่วมในกจิ กรรม และผลสาํ เรจ็ ของการฝกึ ทักษะและการนาํ ไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศกึ ษา.................. หนว่ ยการเรยี นรู้...................................... เรอ่ื ง...................................................................ระดบั ชนั้ ........................... ระดบั 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง/เพิม่ เติม) PQ นกั เรียน 80% ขึ้นไปมีความ นักเรียน 60%-80% มคี วาม นักเรียนนอ้ ยกวา่ 60% มีความ สมรรถภาพ แขง็ แรงในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมฐาน แข็งแรงในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมฐาน แขง็ แรงในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมฐาน ทางกาย ยืดหยุ่น ยืดหย่นุ ยดื หยนุ่ MQ คุณธรรม นกั เรียน 80% ขน้ึ ไปเขา้ แถวอย่าง นกั เรียน 60%-80% เข้าแถวอยา่ ง นักเรยี นน้อยกว่า 60% เข้าแถว จริยธรรม เปน็ ระเบยี บ แตง่ กายเรยี บรอ้ ย เปน็ ระเบียบ แตง่ กายเรยี บร้อย อยา่ งเปน็ ระเบยี บ แตง่ กาย พดู จาสุภาพ พูดจาสุภาพ เรยี บรอ้ ย พดู จาสุภาพ AQ เจตคติ นกั เรียน 80% ขึ้นไปมคี วาม นกั เรยี น 60%-80% มีความ นกั เรียนน้อยกว่า 60% มคี วาม สนุกสนานจากการเรียนและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ เล่นเกมแขง่ ขัน เลน่ เกมแขง่ ขนั เลน่ เกมแขง่ ขัน IQ ความรู้ นักเรียน 80% ขึ้นไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ความเข้าใจ อธบิ ายการปฏิบัติทักษะหกสาม อธบิ ายการปฏิบัตทิ กั ษะหกสาม อธบิ ายการปฏบิ ัติทักษะหกสาม เสา้ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เส้าไดอ้ ย่างถกู ต้อง เสา้ ไดอ้ ย่างถูกต้อง SQ ทักษะ นกั เรยี น 80% ขนึ้ ไปสามารถ นกั เรยี น 60%-80% สามารถ นกั เรยี นน้อยกวา่ 60% สามารถ ปฏบิ ตั ทิ กั ษะหกสามเส้าไดอ้ ยา่ ง ปฏิบัตทิ กั ษะหกสามเส้าไดอ้ ย่าง ปฏิบัตทิ ักษะหกสามเสา้ ไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้อง ถกู ต้อง ถูกตอ้ ง ระดบั คณุ ภาพ ระดบั 3 หมายถึง จํานวนนักเรียน 80% ข้นึ ไป ระดบั 2 หมายถงึ จาํ นวนนักเรยี น 60-80% ระดับ 1 หมายถึง จํานวนนกั เรียน้อยกว่า 60% ลงชื่อ...........................................................ผู้ประเมิน

โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ายประถม บนั ทึกหลังสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2/...... หน่วย กิจกรรมยืดหยุน่ (Tumbling) ภาคเรยี น ปลาย เร่อื ง ทกั ษะหกสามเสา้ ติดฝาผนงั (Head Stand) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี วันที่..........เดือน.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค (กอ่ นสอน-ระหวา่ งสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพอื่ ใช้ในการสอนครั้งต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน

โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝา่ ยประถม แผนการจัดการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ย กจิ กรรมยดื หยนุ่ (Tumbling) ภาคเรยี น ปลาย เรอ่ื ง ทักษะหกสูงตดิ ฝาผนัง (Hand Stand) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคล่อื นไหว การออกกาํ ลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคล่อื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา พ 3.2: รักการออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั เิ ป็นประจําอย่างสมํ่าเสมอ มวี ินัย เคารพสทิ ธิ กฎกติกา มนี า้ํ ใจ มีจติ วญิ ญาณในการแขง่ ขัน และชนื่ ชมในสุนทรภี าพของการกีฬา 2. ตวั ชีว้ ดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคล่ือนไหวร่างกาย ขณะอยกู่ ับท่ี เคลื่อนที่ และใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบ็ดเตล็ดและเข้ารว่ มกจิ กรรมทางกายทวี่ ธิ ีเล่น อาศัยการเคล่อื นไหวเบ้ืองตน้ ทั้ง แบบอยกู่ ับที่ เคลอ่ื นที่ และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกําลังกาย และเล่นเกม ได้ด้วยตนเองอยา่ งสนกุ สนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏิบตั ิตามกฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเปน็ กลุ่ม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นักเรยี นสามารถอธิบายการปฏิบัตทิ ักษะหกสูงตดิ ฝาผนงั ได้ถูกตอ้ ง (IQ) 3.2 นกั เรียนสามารถปฏบิ ัตทิ ักษะหกสูงติดฝาผนงั ได้ (SQ) 3.3 นักเรยี นมีความสนกุ สนานจากการเลน่ เกมการแข่งขนั และปฏบิ ตั กิ จิ กรรมฐานยดื หยนุ่ (AQ) 3.4 นักเรยี นมีพัฒนาการสมรรถภาพทางกายด้านความแขง็ แรงของกลา้ มเนอื้ ท่ดี โี ดยการปฏิบัติกิจกรรม ฐานยืดหยุน่ (PQ) 3.5 นกั เรยี นสามารถเขา้ แถวอยา่ งเปน็ ระเบียบ แตง่ กายเรียบร้อย พดู จาสุภาพ (MQ)

4. สาระสาํ คัญ ทกั ษะหกสงู ติดฝาผนงั การฝึกปฏบิ ตั ทิ ักษะหกสูงตดิ ฝาผนงั อยา่ งถกู วิธี จะเป็นการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพ ทางกาย และการทรงตัว การฝึกปฏบิ ตั ิทักษะหกสูงตดิ ฝาผนงั ยังเป็นพืน้ ฐานในการเล่นกีฬายิมนาสตกิ และยดื หย่นุ สามารถนาํ ไปประยุกตใ์ ช้ในการเล่นกีฬา และใชช้ วี ติ ประจําวนั เพือ่ เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 5. ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวงั นกั เรยี น 80% สามารถปฏบิ ัตไิ ด้ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้และสามารถนาํ เอาความรู้ไปใช้ไดอ้ ย่าง คลอ่ งแคล่วในการเรียนการสอนรายวิชาอน่ื และชีวติ ประจําวนั 6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.ขั้นเตรยี ม/อบอุ่นร่างกาย (10 นาที) - นักเรียนมคี วามเปน็ 1.1 ครเู ดนิ ไปรบั นักเรียน แล้วพานักเรียน ระเบยี บเรยี บร้อย ทกั ษะหกสงู ติดฝาผนัง ภายในแถวตามท่ี วิธกี ารปฏิบตั ิ ไปท่ีโรงยมิ อาคาร 50 ปี กําหนด 1. ยนื บนเบาะหนั หนา้ เข้าหาฝาผนงั ห่าง 1.2 ครูให้นักเรียนเข้าแถว 4 แถว หลัง ประมาณ 2 ก้าว ยนื มีเทา้ นาํ และเทา้ ตาม - นกั เรยี นเคารพกติกา วางมือทัง้ สองลงดา้ นหนา้ นวิ้ แยกออก กรวยท่ีวางไว้ใหต้ รง ตามกลุ่มเดมิ ภายในห้องเรียนแต่ง จากกันหนั เขา้ หาฝาผนงั ห่างกันประมาณ กายเรียบรอ้ ย 1 ชว่ งไหล่ 1.3 ครูใหน้ กั เรยี นวางถงุ พละ ถอดรองเท้า - นกั เรยี นมคี วาม 2. ยกขาที่อยดู่ า้ นหลงั ขึน้ ไปใหส้ ูงทส่ี ุด ถุงเทา้ บัตรนกั เรยี น นาฬิกา และแว่นตา ไว้ พรอ้ มในการเรียนทงั้ กอ่ น แลว้ เตะขาอีกขา้ งขนึ้ ไปตาม จดั ขา ทางดา้ นขวามือของตนเองใหเ้ รียบร้อย ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ และลําตัวใหต้ รง นาํ้ หนักตวั อยทู่ ี่มือและ และอารมณ์ แขนท้ังสองข้าง พยายามทรงตัวใหน้ ิ่ง 1.4 ครใู หน้ กั เรียนเดินไปเข้าแถวตอนเปน็ ประมาณ 5 – 10 วินาที กลุ่มทงั้ หมด 4 กล่มุ เหมอื นเดมิ ในสนาม 3. ตอนลงให้นาํ ขาลงกอ่ นโดยใหล้ งทลี ะ แบดมนิ ตนั และขยายแถว 2 ช่วงแขน เพื่อ ขา้ ง เตรยี มการอบอุน่ รา่ งกาย

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 1 1.5 อบอุ่นรา่ งกาย (Warm – Up) ครใู ห้นกั เรยี นขยายแถวหนึ่งชว่ งแขนเพือ่ อบอุ่น ร่างกาย 1.5.1 ครูนาํ นักเรยี นยืดเหยียดกล้ามเนือ้ 5 ท่า - นักเรียนบริหาร ทา่ ที่ 1 ท่ายืดกล้ามเนือ้ หลงั และหวั ไหล่ ยก ร่างกายและอวยั วะ มือแขนตรึงเหนือศีรษะ เหยยี ดหัวไหล่และ ต่างๆ ได้เหมาะสมตาม หลังไปด้านซา้ ยและขวา สลับด้านละ 10 วินาที วัย ท่าที่ 2 พบั ขาไปด้านหลังเพอ่ื ยดื ตน้ ขา ด้านหน้า สลับชา้ งละ 10 วนิ าที 2 ทา่ ท่ี 3 ทา่ ยนื ยดื กล้ามเนอ้ื ขาหนบี ข้างซา้ ย และขวา สลับข้างละ 10 วนิ าที 3

สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ ทา่ ที่ 4 ท่ายืดกลา้ มเนอ้ื หนา้ ท้อง 10 วินาที ท่าท่ี 5 ว่งิ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 4 แผนผังการปฏิบตั ิกจิ กรรมฐาน 1.5 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย - นกั เรยี นปฏิบตั ิ ครูใหน้ ักเรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมฐานเพอ่ื ใชใ้ น กิจกรรมยืดหยนุ่ ได้ดี ขึน้ การอบอนุ่ ร่างกาย เสริมสมรรถภาพ และ - นักเรยี นมีความ ทบทวนทกั ษะตา่ งๆ แข็งแรงมากขึน้ ใน การปฏบิ ัติกจิ กรรม - ครจู ดั ฐานกจิ กรรมออกเป็น 2 ฐานใหญ่ ยดื หย่นุ ครใู ห้นกั เรียนหญงิ ปฏิบัติกจิ กรรมในฐานที่ - นกั เรียนสนุกสนาน 1 และให้นักเรียนชายปฏิบัติกจิ กรรมในฐานที่ ในการเล่นอยา่ งนอ้ ย 2 กอ่ น เม่ือปฏบิ ัตคิ รบทุกคนในแต่ละฐาน 80% ของจํานวน แลว้ ครจู ะสง่ สญั ญาณเพื่อใหน้ ักเรยี นชายและ นกั เรียนท้ังหมด หญิงสลบั ฐานกัน - เม่ือเริม่ ครูใหส้ ัญญาณนกหวดี หลงั จาก น้ันใหน้ ักเรยี นหญงิ คนแรกของแถวเร่มิ ปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมจากฐานที่ 1.1 ไปยงั ฐานที่ 1.2 1.3 และ 1.4 ตามลําดับ หลงั จากปฏิบตั เิ สร็จแลว้ ให้ไปตอ่ ด้านหลงั ของแถว ให้ออกคร้ังละ 1 คน ตามสัญญาณนกหวีด ส่วนนกั เรียนชายให้ คนแรกของแถวออกมาปฏบิ ัติในฐานที่ 2

สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ รายละเอียดฐานที่ 1 มีดังตอ่ ไปนี้ ก่อนเช่นกนั เม่ือปฏบิ ัติเสร็จแล้วใหไ้ ปต่อ ดา้ นหลงั ของแถว หากเพ่ือนคนที่ต่อแถวอยู่ ดา้ นหนา้ ของตนเองปฏิบตั ิเสร็จแล้ว คนตอ่ ไป สามารถออกมาปฏิบตั ไิ ด้เลย 2. ขั้นอธิบายและสาธติ (10นาที) 2.1 ครูพานักเรยี นเดินเข้าหอ้ งยืดหยุน่ ทีละ แถว และใหน้ กั เรียนเขา้ แถวตอน 4 กลุม่ เหมือนตอนแรก 2.2 ครถู ามคําถามนกั เรียนว่า “นักเรยี นรู้ -นกั เรียนฟงั ถามและ ฐานท่ี 1.1 หรอื ไม่ว่า นอกจากทักษะการม้วนหน้า ม้วน ตอบคาํ ถาม ครใู ห้นักเรยี นปฏบิ ตั ทิ กั ษะท่าเดนิ ดว้ ย หลงั หกสามเสา้ ติดผนงั แล้ว ยงั มีทกั ษะใดอกี แลกเปลี่ยนความ มอื โดยให้มือนักเรียนวางอยู่บริเวณแนว ทเี่ ปน็ พน้ื ฐานในกีฬายมิ นาสตกิ ” คิดเห็นกับครูผู้สอนได้ เส้นทีใ่ ชเ้ ทปกาวยน่ ติดเป็นเส้นตรงบน แนวคาํ ตอบ : ทกั ษะการหกสูงตดิ อยา่ งเหมาะสม เบาะยิมนาสติก และใหเ้ ทา้ อยบู่ นรอยเทา้ “ทักษะการหกสงู คอื ทกั ษะท่ปี ฏิบัติอยา่ งไร” แนวคาํ ตอบ : คือทักษะท่ีใชม้ ือสองข้างในการ บนฝาผนัง ทรงตวั และรบั น้ําหนกั ของรา่ งกาย ฐานที่ 1.2 “เพราะฉะนัน้ ทักษะหกสูงในภาษาองั กฤษ จึง ครูใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิทกั ษะหกสูงโดยให้ สามารถเรยี กวา่ อะไร มีนักเรยี นคนใดรบู้ ้าง” นกั เรยี นยืนหนั หลงั ให้ผนงั หลังจากนน้ั ใช้ แนวคําตอบ : Hand Stand 2.3 ครอู ธบิ ายและสาธิตร่วมกบั นกั เรยี นใน มอื ก้มแตะพ้ืนและใชเ้ ทา้ ค่อย ๆ กา้ ว ข้นึ มาบนฝาผนัง ขณะทเ่ี ทา้ กา้ วขึ้นบนฝา ทกั ษะหกสงู ติดฝาผนัง ผนัง ใหค้ อ่ ย ๆ ใชม้ ือทั้งสองข้างเขยบิ ตาม 2.4 ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนซักถามขอ้ เข้ามาจนอยใู่ นตาํ แหน่งของสต๊กิ เกอร์รูป สงสยั อีกคร้ังก่อนฝึกปฏบิ ัติ วงกลมบนเบาะ หา่ งจากฝาผนังประมาณ

สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 2 ก้าว แขนและขาเหยยี ดตรง. เมอื่ 3.ขัน้ การฝึกหดั ทกั ษะ (10 นาท)ี นักเรยี นอยใู่ นท่าหกสูงแลว้ ให้หลังเรยี น 3.1 ครใู หน้ กั เรียนจดั แถว เพ่ือเตรียมการ เก็บศีรษะและปฏบิ ัติทักษะมว้ นหนา้ ลงมา ฝึกทักษะหกสูงตดิ ฝาผนงั พร้อมยนื ขนึ้ แบบฝกึ ท่ี 1 ฝกึ การเตะขาและยกลําตัว ฐานที่ 1.3 ครูใหน้ ักเรียนน่งั บนเบาะทรง สามเหล่ียม หยอ่ นขาลงดา้ นลา่ ง หลังจาก น้ันม้วนหลงั ลงมาทเี่ บาะ ฐานที่ 1.4 ครใู ห้นกั เรียนวิง่ มาและกระโดดเทา้ คู่ บนกระดานไมส้ ปริงไมเ้ พื่อไปท่เี บาะทรง สามเหลย่ี ม จากหลงั ใหน้ ักเรียนม้วนหน้า ลงมาทนั ทที ต่ี ัวสัมผัสกับเบาทรง สามเหลยี่ ม รายละเอียดฐานที่ 2 มดี งั ตอ่ ไปน้ี 3.2 ครูให้นกั เรียนฝกึ ทกั ษะเบื้องต้นของหก สูงโดยการใหน้ กั เรียน ทาํ ท่าเตรยี มพร้อมให้ ถูกตอ้ ง คอื ตาํ แหน่งการวางมอื ให้ถกู ตอ้ ง พร้อมท้งั ฝึกเตะขาไปข้างหนา้ โดยมเี บาะชีส เคก้ เป็นทร่ี องรบั ตวั 1. ใหน้ กั เรียนว่ิงออกมาเพ่ือกระโดดข้นึ ไป คาํ อธิบายแบบฝึก บนแทมโพลนี - วางมือแตะจุดบนของเบาะ 2. กอ่ นทเ่ี ท้านักเรยี นสมั ผัสกบั แทมโพลนี - วางมอื เอาขาข้างใดข้างหนึ่งไปวางข้าง ใหน้ ักเรียนยอ่ ขาเพอื่ เตรยี มกระโดดแบบ หลงั แลว้ เตะขาขึน้ บนฟา้ พร้อมทัง้ เอนสะโพก

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ เทา้ คู่พร้อมกนั จากแทมโพลนี ข้ึนไปบน และขา ไปข้างหน้า พยายามใหล้ ําตวั ตง้ั ตรง - นักเรยี นมที ักษะ เบาะยดื หยนุ่ ตอ่ ใหไ้ ด้ สามเสา้ ติดฝาผนัง 3. หลังจากกระโดดขนึ้ มายังเบาะยดื หยุ่น ไดแ้ ลว้ ให้กระโดดลงไปบนเบาะแบบเทา้ แบบฝึกท่ี 2 ฝกึ หกสามเส้าตดิ ฝาผนงั คู่พรอ้ มกนั หลังจากนัน้ ให้วิ่งไปตอ่ ทา้ ย 3.3 ครูใหน้ กั เรียนแต่ละแถวออกมาฝึก แถวเพือ่ รอปฏบิ ัติรอบต่อไป หกสูงติดฝาผนงั 3.4 ยืน 1 คนตอ่ 1 เบาะ หันหน้าเข้าฝา ผนัง 3.5 ครใู ห้สญั ญาณนกหวีด ใหน้ กั เรียนท่ี ฝึก ทาํ ทา่ เตรยี ม เมอื่ ครใู ห้สญั ญาณนกหวีด คร้ังท่ี 2 นักเรียนจะตอ้ งเตะขาขึ้นไปบนฟา้ และพยายามใหล้ าํ ตวั ตั้งตรง คอ่ ยๆไปพงิ ผนงั ใหน้ านที่สดุ

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 4.ขัน้ นาํ ไปใช้ (20 นาที) 4.1 ครูให้นกั เรียนสง่ ตวั แทนแถว 2 คน - นกั เรียนสนกุ สนาน ออกมาแขง่ ขัน ทักษะหกสงู ตดิ ฝาผนงั ในการเลน่ อยา่ งนอ้ ย 4.2 ครูสงั เกตนักเรียนท่ที รงตวั ทกั ษะหกสงู 80% ของจํานวน ตดิ ฝาผนงั ได้นานทส่ี ดุ ในแตล่ ะรอบ จะเป็น นกั เรียนทั้งหมด ฝา่ ยชนะไปในแตล่ ะรอบ 4.3 รวมคะแนนเป็นแถว แถวไหนคะแนน มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะในการแขง่ ขนั วนั นี้ 5. ขัน้ สรุปและสุขปฏิบัติ (10 นาท)ี - นักเรยี นได้ฝกึ 5.1 ครใู หน้ ักเรยี นกลับมาเขา้ แถวตามกลุ่ม ประมวลความคิด รวบยอดอกี ครัง้ หลังจากนนั้ ครูสรุปการแข่งขนั พรอ้ มชมเชย หลังจากเรียน แถวท่ีชนะ และสรุปเน้ือหาของทักษะหกสงู ติดฝาผนงั 5.2 ครูถามคําถามเก่ียวกับการเรยี น พลศึกษาในคาบน้ี 5.2.1 “ทักษะหกสูง ในภาษาอังกฤษ เรยี กวา่ อะไร” แนวคําตอบ : Hand Stand 5.2.2 “ทกั ษะหกสูงติดฝาผนงั มีก่ี ข้ันตอน อะไรบ้าง” แนวคําตอบ : 3 ขน้ั ตอน 1.) ยนื บนเบาะหันหนา้ เข้าหาฝาผนงั เท้านาํ และเทา้ ตาม 2.) ยกขาทอ่ี ยู่ด้านหลงั ขนึ้ ไปใหส้ งู ทสี่ ดุ กอ่ น แล้วเตะขาอีกขา้ งข้นึ ไปตาม จัดขาและลําตัว ให้ตรง 3.) ตอนลงให้นาํ ขาลงก่อนโดยใหล้ งทีละข้าง

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ 5.2.3 “ในท่าเตรยี มพร้อมสําหรับ ทกั ษะหกสงู น้นั มลี ักษณะในการยืนอยา่ งไร” แนวคาํ ตอบ : ในทา่ เตรียมพร้อมสาํ หรบั ทกั ษะหกสงู นนั้ การยืนตอ้ งมเี ทา้ นาํ และเท้า ตาม เพือ่ เตรียมถ่ายนํ้าหนักขาทลี ะขา้ ง หา้ ม ยืนเท้าคู่ 5.3 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถาม ขอ้ สงสยั 5.4 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นกั เรยี นได้ฝึกความ ของนกั เรยี น รบั ผิดชอบในการ 5.5 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแกใ้ ข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเรอ่ื งการนําของใช้ การเปลีย่ นแปลง) มาโรงเรยี น 5.6 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ 5.7 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ด่ืม - นักเรยี นรจู้ ักการ น้ํากอ่ นเขา้ หอ้ งเรียน ดแู ลรักษาความ สะอาดอวัยวะตา่ งๆ ของร่างกายตนเอง หลังจากเล่นกฬี า

7. ส่ือการสอน/แหล่งการเรยี นรู้ - สอ่ื การสอน นกหวดี หนงั สอื เรียนวิชาสขุ ศกึ ษา กรวย แผ่นยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เล่ม 2 A Book กระดานไวท์บอร์ด ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เรือ่ งท่สี อนในช่วั โมง Whiteboard eraser poster/Image media เบาะยดื หยุ่น เบาะทรงชสี เคก้ แทมโพลนี กระดานสปรงิ Gymnastics mat Gymnastics Trampoline Springboard incline mat เบาะยืดหยนุ่ ขนาดเลก็ ตดิ สตกิ 3 เกอร์ตําแหนง่ การวางมือและศีรษะ แหลง่ การเรียนรู้ สรุ เชษฐ์ วิศวธีรานนท์. 2561. กีฬาฟตุ บอลและกิจกรรมยดื หยนุ่ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เลม่ 2. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอรพ์ รนิ้ ท์กรุป๊ จํากดั . Handstand Against The Wall Progression. 2561. [ออนไลน]์ . แหล่งทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=xMFRkQpXVo [1 เมษายน 2563]

8. คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ความหมาย เบาะยิมนาสติกทรงชสี เค้ก ลําดบั คําศพั ทภ์ าษาอังกฤษ รัว้ กระโดด 1 Gymnastics incline mat นกหวีด 2 Hurdle หนงั สอื เรียน 3 Whistle กรวย 4 Book แผ่นยางมารก์ เกอร์ 5 Cone กระดานไวทบ์ อร์ด 6 Marker ปากกาไวทบ์ อร์ด 7 White board แปรงลบกระดานไวท์บอรด์ 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่อื งที่สอนในชวั่ โมง 9 Whiteboard eraser เบาะยมิ นาสตกิ 10 poster/Image media แทมโพลีน 11 Gymnastics mat กระดานสปรงิ 12 Trampoline หกสูง 13 Springboard 14 Hand stand 9. การวัดและประเมินผล ลําดบั ท่ี เร่ือง เคร่อื งมอื แบบสงั เกต 1 สังเกตความสนใจและการมสี ว่ นรว่ มตลอดชน้ั เรยี น แบบตรวจสอบ 2 สาํ รวจเครื่องแต่งกายและบกั ทกึ คะแนนความรบั ผดิ ชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสุขปฏิบัติ 3 สงั เกตการตอบคําถามระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝา่ ยประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมีสว่ นร่วมในกิจกรรม และผลสําเรจ็ ของการฝกึ ทกั ษะและการนาํ ไปใช้ วนั ที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศึกษา.................. หน่วยการเรียนร.ู้ ..................................... เรอื่ ง...................................................................ระดับชั้น........................... ระดบั 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ /เพิ่มเติม) PQ นักเรยี น 80% ข้นึ ไปมคี วาม นกั เรียน 60%-80% มีความ นกั เรยี นนอ้ ยกว่า 60% มคี วาม สมรรถภาพทาง แขง็ แรงในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมฐาน แขง็ แรงในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมฐาน แข็งแรงในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม กาย ยืดหยุ่น ยดื หยุ่น ฐานยดื หยนุ่ นกั เรยี น 80% ข้ึนไปเขา้ แถวอยา่ ง นกั เรียน 60%-80% เขา้ แถวอยา่ ง นกั เรยี นน้อยกว่า 60% เขา้ แถว เป็นระเบยี บ แตง่ กายเรียบรอ้ ย MQ คณุ ธรรม พดู จาสภุ าพ เป็นระเบียบ แต่งกายเรียบร้อย อย่างเปน็ ระเบียบ แตง่ กาย จรยิ ธรรม พดู จาสภุ าพ เรียบร้อย พดู จาสุภาพ AQ เจตคติ นักเรียน 80% ข้ึนไปมคี วาม นักเรยี น 60%-80% มีความ นกั เรยี นน้อยกว่า 60% มคี วาม สนกุ สนานจากการเรียนและการ สนุกสนานจากการเรยี นและการ สนกุ สนานจากการเรยี นและการ เล่นเกมแขง่ ขนั เลน่ เกมแข่งขนั เล่นเกมแข่งขัน IQ ความรู้ นักเรียน 80% ขนึ้ ไปสามารถ นักเรยี น 60%-80% สามารถ นกั เรียนนอ้ ยกว่า 60% สามารถ ความเข้าใจ อธบิ ายการปฏบิ ตั ทิ กั ษะหกสูงได้ อธบิ ายการปฏิบตั ิทักษะหกสงู ได้ อธบิ ายการปฏบิ ตั ทิ ักษะหกสงู ได้ อย่างถกู ตอ้ ง อยา่ งถูกต้อง อย่างถกู ตอ้ ง นกั เรียน 80% ขึ้นไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนน้อยกว่า 60% สามารถ SQ ทกั ษะ ปฏบิ ตั ทิ กั ษะหกสงู ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ปฏิบัตทิ กั ษะหกสงู ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ปฏบิ ตั ทิ กั ษะหกสงู ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ระดับคุณภาพ ระดบั 3 หมายถึง จํานวนนักเรียน 80% ขึ้นไป ระดับ 2 หมายถึง จาํ นวนนักเรียน 60-80% ระดบั 1 หมายถงึ จาํ นวนนกั เรียน้อยกว่า 60% ลงช่อื ...........................................................ผปู้ ระเมนิ

โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม บนั ทึกหลงั สอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2/...... หน่วย กิจกรรมยดื หยุ่น (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เร่ือง ทกั ษะหกสงู ตดิ ฝาผนัง (Hand Stand) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) วันท่ี..........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอุปสรรค (ก่อนสอน-ระหวา่ งสอน-หลงั สอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพอื่ ใช้ในการสอนครง้ั ต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน

โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 หน่วย กิจกรรมยืดหย่นุ (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เรอื่ ง ทักษะล้อเกวยี น (Cartwheel) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล พ 3.1: เข้าใจ มที กั ษะในการเคล่อื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2: รกั การออกกําลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบัติเป็นประจาํ อย่างสมาํ่ เสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎกติกา มีนา้ํ ใจ มีจติ วญิ ญาณในการแข่งขนั และชน่ื ชมในสุนทรีภาพของการกฬี า 2. ตัวชีว้ ดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคลอื่ นไหวร่างกาย ขณะอยูก่ บั ที่ เคลอ่ื นที่ และใช้อปุ กรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบด็ เตล็ดและเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางกายทีว่ ธิ ีเลน่ อาศัยการเคลือ่ นไหวเบ้ืองตน้ ทัง้ แบบอยู่กบั ที่ เคล่อื นที่ และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกําลงั กาย และเล่นเกม ได้ดว้ ยตนเองอย่างสนุกสนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเปน็ กลุ่ม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายการปฏิบัติทกั ษะลอ้ เกวียนไดถ้ ูกตอ้ ง (IQ) 3.2 นักเรยี นสามารถปฏิบัตทิ กั ษะล้อเกวียนได้ (SQ) 3.3 นักเรียนมคี วามสนกุ สนานจากการเลน่ เกมการแข่งขันและปฏบิ ตั กิ จิ กรรมฐานยดื หยุ่น (AQ) 3.4 นกั เรยี นมีพัฒนาการสมรรถภาพทางกายดา้ นความแข็งแรงของกลา้ มเนื้อท่ดี โี ดยการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ฐานยืดหยนุ่ (PQ) 3.5 นกั เรียนสามารถเข้าแถวอย่างเป็นระเบยี บ แต่งกายเรียบรอ้ ย พดู จาสภุ าพ (MQ)

4. สาระสําคญั ทกั ษะล้อเกวยี น เป็นความสามารถทางยมิ นาสติกขัน้ พนื้ ฐานทจ่ี ะชว่ ยเสริมสมรรถภาพความแข็งให้กับ ร่างกายส่วนบน และช่วยเปน็ พื้นฐานให้นกั เรยี นสามารถปฏิบัตกิ จิ กรรมยดื หยุ่นทย่ี ากกว่านไ้ี ด้ในอนาคต ในวันน้ี นกั เรียนจะไดเ้ รยี นรเู้ ก่ียวกบั การปฏิบตั ทิ กั ษะล้อเกวียนท่ถี ูกวิธี 5. ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวงั นกั เรยี น 80% สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้และสามารถนําเอาความร้ไู ปใช้ได้อย่าง คล่องแคลว่ ในการเรียนการสอนรายวิชาอนื่ และชีวติ ประจําวนั 6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.ข้นั เตรียม/อบอุ่นร่างกาย (10 นาที) - นักเรยี นมคี วามเป็น 1.1 ครูเดินไปรบั นกั เรยี น แลว้ พานักเรยี น ระเบียบเรียบร้อย ทักษะล้อเกวียน ภายในแถวตามท่ี วธิ ีการปฏบิ ัติ ไปท่โี รงยิมอาคาร 50 ปี กําหนด 1.2 ครูให้นกั เรียนเขา้ แถว 4 แถว หลงั การทาํ ลอ้ เกวยี นสามารถปฏบิ ตั ไิ ดท้ งั้ - นกั เรยี นเคารพกติกา สองขา้ ง ใช้เทา้ ซ้ายนาํ หรอื เทา้ ขวานํา กรวยทว่ี างไว้ใหต้ รง ตามกลมุ่ เดมิ ภายในห้องเรยี นแต่ง ตามความถนดั ของนักเรยี น ในทนี่ ้ีจะ กายเรยี บร้อย ยกตวั อยา่ งและอธิบายถึงการทาํ ล้อ 1.3 ครูให้นกั เรยี นวางถงุ พละ ถอดรองเท้า - นกั เรียนมคี วาม เกวียนโดยด้านใชเ้ ท้าขวานาํ ถงุ เทา้ บตั รนกั เรียน นาฬิกา และแวน่ ตา ไว้ พรอ้ มในการเรียนทัง้ 1. ยืนเอาเทา้ :ซา้ ยอย่ดู ้านหนา้ เทา้ ห่างกนั ทางด้านขวามือของตนเองให้เรียบร้อย ทางด้านรา่ งกาย จติ ใจ 1 ช่วงไหล่ แขนทั้งสองขา้ งชูขึ้นเหนอื และอารมณ์ ศรี ษะ ฝา่ มอื หันขึน้ ด้านบนปลายนิว้ ชี้ ไป 1.4 ครูใหน้ ักเรยี นเดนิ ไปเขา้ แถวตอนเป็น ดา้ นหลัง กลมุ่ ท้ังหมด 4 กลุ่มเหมือนเดิมในสนาม 2. ถ่ายนํา้ หนกั มาทางขาหลงั แล้วถ่าย แบดมินตนั และขยายแถว 2 ชว่ งแขน เพือ่ นาํ้ หนกั กลบั พร้อมเอียงตัวดา้ นขวาลง เตรยี มการอบอุ่นรา่ งกาย 3. วางมือขวาลงพน้ื พรอ้ มเหว่ยี งขาขวา ขึน้ มาด้านบน 4. วางมือซ้ายลงพืน้ ลาํ ตัวจะตงั้ ตรงขา ท้งั สองข้างจะหมุนข้ึนมาอยดู่ ้านบนสดุ จังหวะนีจ้ ะคลา้ ยกบั การทาํ ทักษะหกสงู 5. เอียงดา้ นขาซ้ายลงพืน้ พรอ้ มยกมอื ขวา

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ พน้ จากพืน้ และเมื่อขาขวาลงพื้น มือซา้ ย 1.4 อบอนุ่ ร่างกาย (Warm – Up) จะพ้นจากพน้ื จบทีย่ นื ตัวตรงหนั หน้า ทิศทางเดียวกับตอนเรม่ิ ตน้ ครูใหน้ ักเรียนขยายแถวหนึ่งช่วงแขนเพอ่ื อบอุ่น ร่างกาย 1.5.1 ครนู ํานกั เรยี นยดื เหยียดกล้ามเนอ้ื 5 ท่า - นักเรยี นบริหาร ท่าที่ 1 ท่ายดื กล้ามเน้ือหลงั และหัวไหล่ ยก ร่างกายและอวัยวะ มอื แขนตรงึ เหนอื ศีรษะ เหยยี ดหวั ไหล่และ ต่างๆ ได้เหมาะสมตาม หลงั ไปด้านซา้ ยและขวา สลบั ด้านละ 10 วนิ าที วัย 1 ทา่ ท่ี 2 พบั ขาไปดา้ นหลงั เพอ่ื ยืดต้นขา ด้านหนา้ สลับชา้ งละ 10 วินาที 2 ท่าที่ 3 ทา่ ยืนยืดกลา้ มเนอื้ ขาหนีบ ขา้ งซา้ ย และขวา สลบั ข้างละ 10 วินาที 3

สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ ทา่ ที่ 4 ท่ายืดกลา้ มเนอ้ื หนา้ ท้อง 10 วินาที ท่าท่ี 5 ว่งิ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 4 แผนผังการปฏิบตั ิกจิ กรรมฐาน 1.6 พฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย - นกั เรยี นปฏิบตั ิ ครูใหน้ ักเรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมฐานเพอ่ื ใชใ้ น กิจกรรมยืดหยนุ่ ได้ดี ขึน้ การอบอนุ่ ร่างกาย เสริมสมรรถภาพ และ - นักเรยี นมีความ ทบทวนทกั ษะตา่ งๆ แข็งแรงมากขึน้ ใน การปฏบิ ัติกจิ กรรม - ครจู ดั ฐานกจิ กรรมออกเป็น 2 ฐานใหญ่ ยดื หย่นุ ครใู ห้นกั เรียนหญงิ ปฏิบัติกจิ กรรมในฐานที่ - นกั เรียนสนุกสนาน 1 และให้นักเรียนชายปฏิบัติกจิ กรรมในฐานที่ ในการเล่นอยา่ งนอ้ ย 2 กอ่ น เม่ือปฏบิ ัตคิ รบทุกคนในแต่ละฐาน 80% ของจํานวน แลว้ ครจู ะสง่ สญั ญาณเพื่อใหน้ ักเรยี นชายและ นกั เรียนท้ังหมด หญิงสลบั ฐานกัน - เม่ือเริม่ ครูใหส้ ัญญาณนกหวดี หลงั จาก น้ันใหน้ ักเรยี นหญงิ คนแรกของแถวเร่มิ ปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมจากฐานที่ 1.1 ไปยงั ฐานที่ 1.2 1.3 และ 1.4 ตามลําดับ หลงั จากปฏิบตั เิ สร็จแลว้ ให้ไปตอ่ ด้านหลงั ของแถว ให้ออกคร้ังละ 1 คน ตามสัญญาณนกหวีด ส่วนนกั เรียนชายให้ คนแรกของแถวออกมาปฏบิ ัติในฐานที่ 2

สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ รายละเอียดฐานท่ี 1 มดี ังต่อไปน้ี กอ่ นเชน่ กัน เมอื่ ปฏิบัตเิ สร็จแลว้ ใหไ้ ปตอ่ ดา้ นหลงั ของแถว หากเพ่อื นคนที่ตอ่ แถวอยู่ ด้านหนา้ ของตนเองปฏบิ ัตเิ สรจ็ แล้ว คนตอ่ ไป สามารถออกมาปฏบิ ัติได้เลย 2. ขน้ั อธิบายและสาธติ (10นาท)ี 2.1 ครูพานกั เรยี นเดินเข้าหอ้ งยดื หยนุ่ ทลี ะ แถว และให้นักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 กล่มุ เหมอื นตอนแรก ฐานที่ 1.1 2.2 ครถู ามคาํ ถามนกั เรยี นว่า “นกั เรยี นรู้ -นักเรียนฟงั ถามและ ครใู หน้ ักเรียนปฏิบัติทกั ษะทา่ เดินดว้ ย หรอื ไมว่ า่ นอกจากทักษะการมว้ นหน้า ม้วน ตอบคําถาม หลงั หกสามเสา้ ติดผนงั แล้ว ยงั มีทกั ษะใดอกี แลกเปล่ยี นความ มอื โดยให้มือนกั เรยี นวางอยบู่ รเิ วณแนว เสน้ ท่ีใช้เทปกาวยน่ ติดเปน็ เสน้ ตรงบน ที่เปน็ พืน้ ฐานในกีฬายิมนาสติก” คดิ เหน็ กบั ครูผู้สอนได้ เบาะยิมนาสตกิ และให้เท้าอย่บู นรอยเทา้ แนวคําตอบ : ทักษะการหกสูงติด อย่างเหมาะสม บนฝาผนงั “ทักษะการหกสูง คือทักษะทปี่ ฏบิ ตั อิ ย่างไร” แนวคาํ ตอบ : คอื ทกั ษะทใ่ี ชม้ อื สองข้างในการ ฐานท่ี 1.2 ทรงตัวและรบั นา้ํ หนกั ของรา่ งกาย ครใู ห้นักเรยี นปฏิบตั ทิ ักษะหกสงู โดยให้ “เพราะฉะนัน้ ทกั ษะหกสูงในภาษาองั กฤษ จึง นกั เรยี นยนื หนั หลงั ใหผ้ นงั หลังจากนั้นใช้ สามารถเรยี กว่าอะไร มีนักเรยี นคนใดรู้บ้าง” มือก้มแตะพ้ืนและใชเ้ ทา้ คอ่ ย ๆ ก้าว แนวคําตอบ : Hand Stand ขนึ้ มาบนฝาผนัง ขณะทีเ่ ทา้ กา้ วขนึ้ บนฝา 2.3 ครอู ธิบายและสาธติ รว่ มกบั นกั เรียนใน ผนัง ให้ค่อย ๆ ใช้มอื ท้งั สองขา้ งเขยบิ ตาม ทกั ษะหกสูงตดิ ฝาผนงั เข้ามาจนอยู่ในตาํ แหนง่ ของสตกิ๊ เกอรร์ ปู 2.4 ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อ วงกลมบนเบาะ หา่ งจากฝาผนังประมาณ สงสยั อีกครงั้ กอ่ นฝกึ ปฏิบตั ิ 2 กา้ ว แขนและขาเหยียดตรง. เมือ่

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ นกั เรียนอย่ใู นท่าหกสูงแล้ว ให้หลังเรยี น 3.ข้นั การฝึกหัดทักษะ (10 นาท)ี เก็บศีรษะและปฏบิ ตั ทิ กั ษะม้วนหนา้ ลงมา 3.1 ครูให้นกั เรยี นจัดแถว อธิบาย และ พรอ้ มยนื ข้ึน สาธติ แบบฝกึ ท่ี 1,2,3,4 เพ่ือเตรยี มการฝกึ ทกั ษะหกสูงตดิ ฝาผนัง ฐานที่ 1.3 ครใู ห้นักเรยี นนง่ั บนเบาะทรง แบบฝึกท่ี 1 ฝกึ การวางมอื ยกลาํ ตัวและขา สามเหลี่ยม หยอ่ นขาลงด้านล่าง หลังจาก นั้นมว้ นหลังลงมาทเี่ บาะ ฐานท่ี 1.4 ครใู ห้นกั เรยี นวิง่ มาและกระโดดเทา้ คู่ บนกระดานไมส้ ปรงิ ไมเ้ พ่ือไปทเ่ี บาะทรง สามเหลยี่ ม จากหลงั ใหน้ ักเรียนมว้ นหน้า ลงมาทนั ทที ีต่ ัวสัมผัสกบั เบาทรง สามเหลย่ี ม รายละเอยี ดฐานที่ 2 มดี งั ต่อไปนี้ 3.2 ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ ทกั ษะเบ้ืองต้นของ - นักเรยี นมีทกั ษะ เบอื้ งตน้ ของของลอ้ ล้อเกวียนโดยท่ใี ห้นักเรยี น ฝกึ การวางมอื ยก เกวียน ลําตัวและขาใหถ้ ูกต้องโดยใชแ้ ผน่ ยางทีต่ ิด 1. ใหน้ ักเรยี นว่งิ ออกมาเพอื่ กระโดดข้ึนไป สต๊กิ เกอรต์ ําแหนง่ ในการวางมือเป็นตวั ชว่ ย บนแทมโพลนี 2. ก่อนท่ีเท้านกั เรียนสมั ผสั กับแทมโพลนี ใหน้ ักเรียนย่อขาเพอ่ื เตรยี มกระโดดแบบ เท้าคูพ่ ร้อมกนั จากแทมโพลีนขึน้ ไปบน

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ เบาะยืดหยนุ่ ตอ่ 3. หลังจากกระโดดขึ้นมายังเบาะยืดหยุ่น ได้แลว้ ใหก้ ระโดดลงไปบนเบาะแบบเทา้ ค่พู รอ้ มกนั หลังจากนั้นให้ว่ิงไปต่อท้าย แถวเพ่ือรอปฏบิ ตั ริ อบตอ่ ไป - ตาํ แหน่งการวางมอื ใหถ้ ูกต้อง - พรอ้ มทั้งฝกึ ยกลําตวั และขาไปดา้ นข้าง - เมอื่ ทาํ เสรจ็ แล้วให้นกั เรียนเดนิ กลบั ไปนง่ั ต่อท้ายแถวให้เรียบร้อย แบบฝกึ ท่ี 2 ฝกึ การวางมอื ยกลาํ ตวั และขา ข้ามไปยงั อกี ตําแหนง่ 3.3 ครูใหน้ กั เรียนฝกึ ทกั ษะเบ้อื งต้นของหก - นักเรียนมีทกั ษะ ล้อเกวียนโดยการให้นกั เรยี น ทําท่า เบ้ืองตน้ ของของลอ้ เตรยี มพรอ้ มและตําแหนง่ การวางมือให้ เกวียนทด่ี ีข้ึน ถูกต้อง แต่ครจู ดั แนวแผน่ ยางใหน้ ักเรียน วางมือแบบเฉียงกอ่ นเพื่อเพ่มิ ความง่ายก่อน ปฏบิ ตั ิทักษะหกสูงแนวตรง พรอ้ มท้งั ฝกึ เตะ ขาไปข้างหน้าใหข้ าตกท่ีตําแหนง่ บนแผน่ ยาง ฝง่ั ตรงข้ามใหไ้ ด้

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ เมือ่ ทาํ เสรจ็ แล้วให้นกั เรียนเดินกลบั ไปนง่ั - นกั เรยี นมีทกั ษะ ตอ่ ทา้ ยแถวให้เรียบรอ้ ย ล้อเกวยี น แบบฝึกที่ 4 ฝกึ ทักษะล้อเกวียน 3.4 ครูจัดแนวแผ่นยางเป็นแนวตรงเพอ่ื ให้ นกั เรียนฝกึ ทกั ษะลอ้ เกวยี นไปข้างหน้าอยา่ ง ถกู ตอ้ ง - มือและเท้าท้งั สองข้างจะต้องสัมผสั กบั ตาํ แหน่งบนแผ่นยางอยา่ งถกู ต้อง และยนื ท่า จบใหต้ รงเหมือนตอนเริม่ ให้ได้ - พยายามเตะขาใหส้ ูง ช้ีขนึ้ ไปขา้ งบน ให้ ลาํ ตัวหมุนลกั ษณะคล้ายๆกับกงล้อเกวยี น

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ - แขนทง้ั สองข้างจะต้องรับนํา้ หนกั ของตวั ได้อย่างมน่ั คงไมล่ ม้ ก่อนท่เี ท้าทัง้ สองขา้ งจะ ถงึ พน้ื เบาะ 4.ขั้นนําไปใช้ (20 นาท)ี 4.1 ครูใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวท้งั หมด 4 แถว ตามกลุม่ เดมิ ตอนแรกเพือ่ เตรียมเลน่ “เกม การแข่งขนั ล้อเกวียน”

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ 4.2 ครูอธิบาย “เกมการแขง่ ขนั ลอ้ เกวียน” ใหน้ ักเรยี นฟงั - เมือ่ ไดย้ นิ สญั ญาณ คนแรกของแตล่ ะแถว - นกั เรียนสนกุ สนาน ใหท้ ําการปฏบิ ัติทักษะล้อเกวยี น โดยให้ ในการเลน่ อยา่ งนอ้ ย นักเรียนวางมือตามตําแหนง่ มอื ในแผ่นยาง 80% ของจํานวน จากนัน้ ปฏบิ ตั ิทักษะล้อเกวียนไปตามแนว นักเรยี นทั้งหมด เสน้ ตรงสีขาวบนเบาะยมิ นาสตกิ เหมอื นกบั ข้นั ฝึกปฏบิ ตั ทิ กั ษะ - เม่ือนักเรยี นในชุดนน้ั ๆ ของแตล่ ะกลุ่ม ปฏบิ ัตทิ กั ษะลอ้ เกวยี นเสรจ็ แล้ว ให้ครสู ังเกต คนทปี่ ฏบิ ัตทิ กั ษะลอ้ เกวยี นได้ตามแนว เส้นตรงหรอื ใกลเ้ คียง และปฏบิ ตั ิไดถ้ ูกตอ้ ง ทีส่ ดุ 2 คน กลุ่มของคน 2 ที่ชนะนนั้ จะได้คร้งั ละ 1 คะแนน - เมอ่ื นักเรยี นทาํ ครบทุกคนในแล้ว ครจู ะ ทําการนับคะแนน หากกลมุ่ ใดไดค้ ะแนน สงู สดุ จะเป็นผกู้ ลมุ่ น้นั เปน็ ผชู้ นะ 4.3 ครใู หส้ ัญญานนกั เรยี นเพอื่ เริ่มเลน่ “เกมการแข่งขันล้อเกวียน” 5. ขน้ั สรุปและสุขปฏิบัติ (10 นาที) - นักเรียนได้ฝกึ 5.1 ครูใหน้ ักเรียนกลบั มาเข้าแถวตามกล่มุ ประมวลความคิด รวบยอดอกี คร้งั หลงั จากน้นั ครูสรุปการแข่งขนั พร้อมชมเชย หลงั จากเรยี น แถวทชี่ นะ และสรปุ เนอ้ื หาของทกั ษะ ลอ้ เกวียน 5.2 ครูถามคําถามเกี่ยวกบั การเรียน พลศกึ ษาในคาบน้ีและคาบเรยี นทีผ่ ่านมา 5.2.1 “ทักษะล้อเกวยี นใน ภาษาองั กฤษ เรยี กว่าอะไร”

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ แนวคําตอบ : Cartwheel 5.2.2 “ทักษะหกสงู ในภาษาองั กฤษ เรียกวา่ อะไร” แนวคาํ ตอบ : Hand Stand 5.2.3 “ทกั ษะหกสามเส้าใน ภาษาอังกฤษ เรยี กวา่ อะไร” แนวคําตอบ : Head Stand 5.3 ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั 5.4 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นักเรียนไดฝ้ กึ ความ ของนกั เรยี น รบั ผดิ ชอบในการ 5.5 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแก้ใข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเร่อื งการนําของใช้ การเปลีย่ นแปลง) มาโรงเรยี น 5.6 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ 5.7 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ดื่ม - นักเรียนรูจ้ กั การ นํ้าก่อนเขา้ ห้องเรยี น ดูแลรักษาความ สะอาดอวยั วะต่างๆ ของรา่ งกายตนเอง หลังจากเลน่ กฬี า

7. สอื่ การสอน/แหลง่ การเรียนรู้ - สอ่ื การสอน นกหวีด หนังสอื เรียนวิชาสุขศึกษา กรวย แผ่นยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศึกษา ป..2 เลม่ 2 A Book กระดานไวท์บอร์ด ปากกาไวทบ์ อร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวทบ์ อรด์ เร่อื งท่สี อนในชั่วโมง Whiteboard eraser poster/Image media เบาะยดื หยุน่ เบาะทรงชีสเค้ก แทมโพลนี กระดานสปริง Gymnastics mat Gymnastics Trampoline Springboard incline mat เบาะยืดหยนุ่ ดขนาดเลก็ แผน่ ยางตดิ สตกิ@ เกอร์ ตดิ สตกิ 3 เกอร์ตําแหนง่ สาํ หรับฝึกตําแหนง่ การ การวางมือและศีรษะ วางมือทกั ษะล้อเกวียน

แหล่งการเรยี นรู้ สรุ เชษฐ์ วศิ วธรี านนท.์ 2561. กฬี าฟตุ บอลและกิจกรรมยดื หยุน่ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2. พมิ พค์ รั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอรพ์ ร้ินทก์ ร๊ปุ จาํ กดั . How to do a cartwheel. 2560. [ออนไลน]์ . แหล่งทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=49hYMvT10sg [1 เมษายน 2563] 8. คําศพั ท์ภาษาอังกฤษ ความหมาย เบาะยิมนาสตกิ ทรงชสี เคก้ ลําดับ คาํ ศัพท์ภาษาองั กฤษ รั้วกระโดด 1 Gymnastics incline mat นกหวีด 2 Hurdle หนังสือเรยี น 3 Whistle กรวย 4 Book แผน่ ยางมารก์ เกอร์ 5 Cone กระดานไวท์บอรด์ 6 Marker ปากกาไวทบ์ อรด์ 7 White board แปรงลบกระดานไวทบ์ อร์ด 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเรื่องทส่ี อนในช่ัวโมง 9 Whiteboard eraser เบาะยมิ นาสติก 10 poster/Image media แทมโพลีน 11 Gymnastics mat กระดานสปริง 12 Trampoline ลอ้ เกวยี น 13 Springboard 14 Cartwheel 9. การวดั และประเมินผล ลําดบั ที่ เร่ือง เคร่อื งมอื แบบสังเกต 1 สังเกตความสนใจและการมีสว่ นรว่ มตลอดช้ันเรยี น แบบตรวจสอบ 2 สํารวจเครอ่ื งแตง่ กายและบักทึกคะแนนความรบั ผดิ ชอบและ แบบสังเกต คะแนนสขุ ปฏบิ ัติ 3 สงั เกตการตอบคาํ ถามระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝา่ ยประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรม และผลสาํ เร็จของการฝึกทักษะและการนําไปใช้ วนั ที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศึกษา.................. หนว่ ยการเรยี นร.ู้ ..................................... เรื่อง...................................................................ระดับชั้น........................... ระดบั 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ /เพิ่มเตมิ ) PQ นกั เรยี น 80% ข้นึ ไปมคี วาม นกั เรยี น 60%-80% มีความ นักเรียนนอ้ ยกว่า 60% มคี วาม สมรรถภาพทาง แข็งแรงในการปฏิบตั กิ จิ กรรมฐาน แขง็ แรงในการปฏิบตั ิกจิ กรรมฐาน แข็งแรงในการปฏบิ ัติกิจกรรม กาย ยืดหยุ่น ยืดหยุ่น ฐานยืดหยุน่ นกั เรยี น 80% ขึ้นไปเขา้ แถวอย่าง นกั เรยี น 60%-80% เขา้ แถวอยา่ ง นักเรยี นนอ้ ยกวา่ 60% เข้าแถว เปน็ ระเบยี บ แตง่ กายเรียบรอ้ ย MQ คุณธรรม พูดจาสุภาพ เป็นระเบยี บ แตง่ กายเรยี บรอ้ ย อย่างเป็นระเบียบ แตง่ กาย จรยิ ธรรม พดู จาสุภาพ เรียบร้อย พดู จาสภุ าพ AQ เจตคติ นักเรียน 80% ขึ้นไปมคี วาม นกั เรียน 60%-80% มคี วาม นักเรยี นนอ้ ยกวา่ 60% มีความ สนุกสนานจากการเรียนและการ สนุกสนานจากการเรยี นและการ สนกุ สนานจากการเรียนและการ เล่นเกมแข่งขนั เลน่ เกมแข่งขัน เลน่ เกมแขง่ ขัน นักเรียน 80% ข้ึนไปสามารถ นกั เรียน 60%-80% สามารถ นกั เรียนนอ้ ยกวา่ 60% สามารถ IQ ความรู้ อธิบายการปฏบิ ัติทักษะล้อเกวียน อธบิ ายการปฏบิ ัตทิ กั ษะลอ้ เกวยี น อธิบายการปฏบิ ัตทิ กั ษะล้อเกวยี น ความเข้าใจ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ไดอ้ ย่างถูกต้อง SQ ทกั ษะ นกั เรียน 80% ขึ้นไปสามารถ นกั เรยี น 60%-80% สามารถ นักเรยี นน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏิบตั ทิ กั ษะล้อเกวยี นไดอ้ ยา่ ง ปฏบิ ัตทิ กั ษะลอ้ เกวยี นไดอ้ ยา่ ง ปฏิบตั ทิ กั ษะล้อเกวียนไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ ง ถกู ต้อง ระดับคุณภาพ ระดับ 3 หมายถึง จํานวนนกั เรียน 80% ข้ึนไป ระดับ 2 หมายถึง จํานวนนักเรียน 60-80% ระดบั 1 หมายถงึ จาํ นวนนักเรยี น้อยกว่า 60% ลงช่ือ...........................................................ผปู้ ระเมิน

โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝ่ายประถม บนั ทกึ หลังสอน กล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2/...... หนว่ ย กิจกรรมยดื หยนุ่ (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เรอ่ื ง ทักษะล้อเกวียน (Cartwheel) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี วนั ท่.ี .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค (ก่อนสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพอื่ ใช้ในการสอนคร้งั ต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน

โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝา่ ยประถม แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 หนว่ ย กิจกรรมยดื หยนุ่ (Tumbling) ภาคเรยี น ปลาย เร่ือง ทกั ษะการโหนเชือกข้ามสงิ่ กดี ขวาง (The Rope Swing) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มที ักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า พ 3.2: รกั การออกกําลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกฬี า ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจาํ อย่างสมา่ํ เสมอ มีวนิ ัย เคารพสิทธิ กฎกตกิ า มีนาํ้ ใจ มจี ติ วญิ ญาณในการแขง่ ขนั และชืน่ ชมในสนุ ทรภี าพของการกีฬา 2. ตวั ชี้วดั พ 3.1 ป.2/1: ควบคุมการเคล่อื นไหวร่างกาย ขณะอยู่กบั ที่ เคลือ่ นท่ี และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.2/2: เลม่ เกมเบด็ เตล็ดและเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางกายทว่ี ิธีเล่น อาศยั การเคล่ือนไหวเบ้ืองตน้ ทงั้ แบบอยู่กบั ที่ เคล่อื นท่ี และใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบ พ 3.2 ป.2/1: ออกกาํ ลงั กาย และเล่นเกม ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งสนกุ สนาน พ 3.2 ป.2/2: ปฏิบตั ิตามกฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเปน็ กลุ่ม 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 นักเรยี นสามารถอธิบายการปฏิบัตทิ กั ษะโหนเชือกข้ามสิง่ กดี ขวางได้ถูกตอ้ ง (IQ) 3.2 นกั เรียนสามารถปฏบิ ัตทิ ักษะโหนเชอื กขา้ มสิ่งกีดขวางได้ (SQ) 3.3 นักเรยี นมีความสนกุ สนานจากการเลน่ เกมการแขง่ ขนั (AQ) 3.4 นักเรียนมพี ฒั นาการสมรรถภาพทางกายด้านความอดทนของระบบหวั ใจและระบบไหลเวยี นโลหิตโดย การเลน่ เกม “วง่ิ เป้ียว” (PQ) 3.5 นกั เรยี นสามารถเข้าแถวอย่างเปน็ ระเบียบ แต่งกายเรยี บรอ้ ย พูดจาสุภาพ (MQ)

4. สาระสาํ คญั ทกั ษะการโหนเชอื กข้ามสิง่ กดี ขวาง เป็นทักษะทตี่ ้องใชค้ วามแข็งแรงและความอดทนของกลา้ มเนอ้ื การ ฝกึ ปฏิบัติทักษะการโหนเชอื กขา้ มสิ่งกีดขวาง นักเรยี นจะไดเ้ สรมิ สรา้ งสมรรถภาพความแข็งแรงและความอดทน ของกลา้ มเน้ือ รวมถงึ นักเรยี นได้ฝึกการประสานงานระหวา่ งกลา้ มเนอื้ และระบบประสาทอีกด้วย 5. ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง นกั เรยี น 80% สามารถปฏบิ ัติได้ตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ละสามารถนาํ เอาความรไู้ ปใช้ได้อยา่ ง คล่องแคลว่ ในการเรยี นการสอนรายวชิ าอนื่ และชีวติ ประจาํ วนั 6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.ขัน้ เตรยี ม/อบอนุ่ รา่ งกาย (10 นาที) ทักษะการโหนเชือกขา้ มสงิ่ กีดขวาง (The Rope Swing) 1.1 ครูเดินไปรบั นักเรยี น แลว้ พานักเรยี น วิธปี ฏบิ ัติ ไปทส่ี นามเด็กเล่น 1. มือจับเชือกด้านบนสดุ แขนมือท้งั สอง ข้างควรจบั เชือกใกล้ๆกัน 1.2 ครใู หน้ ักเรยี นวางถุงยา่ มในชนั้ วางของ โดยใหน้ ักเรียนชายไว้แถวล่างของช้นั วาง และ นักเรยี นหญิงวางไวแ้ ถวบนของชน้ั วางของ 1.3 ครูใหน้ กั เรยี นเขา้ แถว 4 แถว หลัง - นกั เรยี นมคี วามเปน็ กรวยทีว่ างไวใ้ หต้ รง ตามกลมุ่ เดมิ ระเบียบเรียบร้อย ภายในแถวตามที่ กําหนด - นกั เรยี นเคารพกติกา ภายในห้องเรยี นแตง่ 1.4 อบอ่นุ ร่างกาย (Warm – Up) กายเรียบร้อย ครูให้นักเรยี นขยายแถวหน่ึงช่วงแขนเพือ่ อบอุ่น - นกั เรยี นมคี วาม ร่างกาย 1.4.1 ครูนํานักเรยี นยดื เหยยี ดกล้ามเนอื้ 5 ท่า พรอ้ มในการเรียนท้ัง ทางดา้ นรา่ งกาย จิตใจ และอารมณ์

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 2. ถอยมาดา้ นหลังเลก็ น้อยเพ่อื เพิ่มแรงส่ง ท่าที่ 1 ท่ายืดกล้ามส่วนบนและกล้ามเนื้อ - นกั เรยี นบรหิ าร 3. ถบี ตวั งอเขา่ เขา้ หาลาํ ตัวตามองไป หน้าทอ้ ง ชูมือข้ึนเหยียดไปดา้ นหลงั 10 วนิ าที รา่ งกายและอวยั วะ ด้านหนา้ และหาตาํ แหน่งในการลงพนื้ ตา่ งๆ ไดเ้ หมาะสมตาม วยั ทา่ ท่ี 2 ทา่ ยืดกล้ามเนอ้ื หลงั และหัวไหล่ ชู แขนตรงึ เหนอื ศรี ษะ เหยียดหัวไหลแ่ ละหลังไป ดา้ นซา้ ยและขวา สลบั ดา้ นละ 10 วินาที 4. เมอ่ื เชือกแกว่งจนสดุ ให้ปล่อยมอื แลว้ ลงส่พู ื้นย่อเขา่ เพอื่ ถ่ายนํ้าหนกั ท่าท่ี 3 ทา่ หมุนคอ โดยให้หมุนคอไปดา้ นซ้าย และขวา สลับด้านละ 10 คร้ัง

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ ท่าที่ 4 ยืดหัวไหล่และกล้ามเนื้อหลังแขน ขา้ งซา้ ยและขวา สลับข้างละ 10 วินาที ทา่ ที่ 5 ว่ิงรอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) 1.5 พฒั นาสมรรถภาพร่างกาย ครใู หน้ กั เรยี นเล่นเกม “วิ่งเปยี้ ว” เพือ่ - นักเรยี นแขง่ ขนั แขง่ ขันกนั (กล่มุ ท่ี 1 แขง่ กบั กลุม่ ที่ 2 และ ว่ิงเปยี้ วไดอ้ ยา่ ง กลมุ่ ท่ี 3 แขง่ กบั กลมุ่ ท่ี 4) ต่อเนอ่ื งโดยไม่ - จัดให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ยนื เรียงแถว เหนอื่ ย ตอนอยู่ด้านหลังกรวยประจํากลุ่มตนเอง เมอ่ื - นักเรยี นสนุกสนาน เรม่ิ การเล่นครจู ะใหส้ ัญญาณนกหวดี นกั เรยี น ในการเลน่ อยา่ งนอ้ ย แตล่ ะกลมุ่ จะตอ้ งวงิ่ จากฝ่งั ตัวเองไปออ้ มเสา 80% ของจํานวน ประจําทีมของฝา่ ยตรงข้าม จากนนั้ ใหว้ งิ่ วน นกั เรียนท้ังหมด กลบั มาสง่ ผ้าให้เพ่อื นคนถดั ไปในทมี ของ ตนเอง โดยนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ จะต้อง พยายามเอาเสื้อเอ๊ียมท่ีถอื อยู่วิ่งไล่ตฝี ่ายตรง ขา้ มให้ทัน เมื่อฝ่ายใดฝา่ ยหน่ึงไล่ตีฝ่ายตรง ข้ามไดท้ ันถอื วา่ การเล่นสน้ิ สดุ ลงและเปน็ ผู้

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ ชนะในเกมวิ่งเปยี้ ว - ปฏบิ ตั ทิ งั้ หมด 4 รอบ 2. ขั้นอธิบายและสาธิต (10นาที) 2.1 ครูใหน้ ักเรียนเขา้ แถวตอน 4 กลุ่ม เหมือนตอนแรก 2.2 ครถู ามคําถามนักเรยี นว่า -นกั เรียนฟงั ถามและ “จากฐานท่ีอยู่ด้านหนา้ เรา นักเรียนร้หู รอื ไม่ ตอบคาํ ถาม ว่าวนั นเ้ี ราจะเรยี นเรือ่ งอะไรกัน ” แลกเปลีย่ นความ แนวคําตอบ : ทกั ษะการโหนเชอื กขา้ มสิง่ กีด คดิ เหน็ กับครผู ู้สอนได้ ขวาง อย่างเหมาะสม “นกั เรยี นคิดว่าการฝึกทกั ษะการโหนเชือก ขา้ มสง่ิ กีดขวาง มีประโยชนก์ บั เราอยา่ งไร บ้าง” แนวคําตอบ : 1.) ทําให้เราเกดิ ทกั ษะ สามารถใช้โหนเชือกข้ามสงิ่ กีดขวางไดย้ าม จาํ เปน็ 2.) ทํารา่ งกายของเราแข็งแรง เพราะการท่จี ะ โหนเชือกขา้ มสิ่งกดี ขวางได้ กลา้ มเนอ้ื ของเรา จะต้องมคี วามแข็งแรง 2.3 ครอู ธิบายและสาธิตร่วมกับนกั เรียนใน ทักษะโหนเชอื กขา้ มส่งิ กีดขวาง

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 2.4 ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามขอ้ สงสยั อีกคร้ังกอ่ นฝกึ ปฏิบัติ 3.ข้นั การฝึกหัดทกั ษะ (10 นาที) 3.1 ครูให้นักเรยี นกล่มุ ชาย A เดินออกมา เข้าแถวเพ่อื รอฝึกปฏบิ ัติทักษะการโหนเชือก ขา้ มสง่ิ กดี ขวาง ทลี ะคน 3.2 เมอื่ นักเรยี นกลุม่ ชาย A ฝึกปฏิบตั ิ - นกั เรียนมที กั ษะ ทักษะครบทุกคนแลว้ ครูใหน้ ักเรยี นกลมุ่ ชาย การโหนเชือกขา้ มส่ิง A เดนิ กลับมาเข้าแถวตามเดมิ เพื่อรอเพ่อื น กดี ขวาง กล่มุ อื่นฝกึ ปฏบิ ตั ทิ ักษะ หลังจากน้ันนักเรียน กลมุ่ ชาย B กลุม่ หญงิ A และกลมุ่ หญิง B ฝกึ ปฏิบตั ทิ กั ษะเช่นเดมิ ตามกลมุ่ ชาย A ทีละ กลมุ่ 3.3 ระหวา่ งทีน่ ักเรียนปฏิบัติ ครูคอย อธิบายสง่ิ ทีน่ กั เรียนปฏบิ ัติไมถ่ ูกต้อง และครู เนน้ ยํ้าเทคนคิ การโหนเชอื กทถ่ี ูกตอ้ งใหแ้ ก่ นกั เรยี น 4.ข้ันนําไปใช้ (20 นาที) 4.1 ครอู ธบิ ายเกมการแขง่ ขนั “วิ่งโหน เชือก” ให้นกั เรยี นฟงั

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ - นกั เรยี นจะต้องปฏิบตั ทิ ีละกลุ่ม - นกั เรยี นจะต้องโหนเชือกข้ามส่ิงกดี ขวาง ทีละคน - เมื่อโหนเชือกขา้ มสิง่ กดี ขวางเสรจ็ แลว้ นกั เรียนจะตอ้ งว่งิ ตามเสน้ ทางที่ครูวางมารค์ เกอรไ์ วใ้ ห้ - ครจู ะจับเวลานักเรียนแต่ละกลุ่ม โดยเริม่ ตั้งแต่คนแรกของกลุ่ม เมือ่ คนสุดทา้ ยของกลุ่ม วิ่งผา่ นจดุ หมายแลว้ ครจู ะหยุดเวลาและ บันทึกเวลาไว้ หากกลุ่มใดทาํ เวลาไดน้ อ้ ยสดุ กลมุ่ น้นั เปน็ ผชู้ นะ - นักเรยี นสนกุ สนาน 4.2 ครใู หน้ กั เรยี นเริ่มเลน่ เกมการแข่งขนั ในการเลน่ อย่างน้อย “ว่งิ โหนเชือก” ที่ละกล่มุ 80% ของจํานวน 5. ข้ันสรุปและสขุ ปฏิบตั ิ (10 นาท)ี นกั เรยี นทั้งหมด 5.1 ครใู ห้นักเรียนกลับมาเขา้ แถวตามกลุ่ม - นักเรยี นได้ฝกึ หลงั จากนั้นครูสรุปการแขง่ ขัน พรอ้ มชมเชย ประมวลความคดิ แถวท่ชี นะ และสรุปเน้ือหาของทกั ษะ การโหนเชือกข้ามสิ่งกีดขวาง รวบยอดอีกครง้ั 5.2 ครูถามคาํ ถามเกีย่ วกับการเรยี น หลงั จากเรยี น พลศึกษาในคาบน้ี

สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 5.2.1 “หากตอ& งการให&โยนเชือกไป ด&านหนา& ในระยะทไี่ กลขน้ึ นกั เรยี นมเี ทคนคิ อยAางไรบ&าง แนวคำตอบ : ถอยมาดา& นหลงั เพือ่ เสริมแรง และถีบตัวใหแ& รงขน้ึ กวาA เดิม 5.2.2 “หากนักเรียนต&องการทจ่ี ะโหน เชอื กใหไ& ด&ในระยะเวลาทีน่ านข้ึน นกั เรียน สามารถปฏบิ ตั ิอยAางไรไดบ& &าง” แนวคำตอบ : ออกกำลงั กายให&กลา& มเนื้อแขน มคี วามแข็งแรงและอดทนมากกวาA เดมิ 5.3 ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามข้อ สงสัย 5.4 ครูสํารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว - นักเรยี นได้ฝกึ ความ ของนักเรยี น รบั ผิดชอบในการ 5.5 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียน ตรวจสอบและแก้ใข ในชั่วโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมี ในเร่อื งการนําของใช้ การเปลี่ยนแปลง) มาโรงเรยี น 5.6 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ 5.7 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ดื่ม - นักเรยี นรู้จกั การ นํ้าก่อนเข้าหอ้ งเรียน ดูแลรกั ษาความ สะอาดอวัยวะต่างๆ ของร่างกายตนเอง หลังจากเลน่ กฬี า

7. สือ่ การสอน/แหล่งการเรยี นรู้ - สือ่ การสอน นกหวีด หนงั สือเรยี นวิชาสุขศึกษา กรวย แผ่นยางมารก์ เกอร์ Whistle Cones Markers และพลศกึ ษา ป..2 เลม่ 2 A Book กระดานไวทบ์ อรด์ ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เรื่องท่ีสอนในชว่ั โมง Whiteboard eraser poster/Image media เชือก เกา้ อ้ี Rope Chair แหล่งการเรยี นรู้ สุรเชษฐ์ วิศวธีรานนท์. 2561. กีฬาฟตุ บอลและกจิ กรรมยดื หยนุ่ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เล่ม 2. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอรพ์ ริ้นท์กรุ๊ป จาํ กัด.

8. คาํ ศัพทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย เบาะยิมนาสตกิ ทรงชีสเคก้ ลําดับ คําศพั ท์ภาษาอังกฤษ รัว้ กระโดด 1 Gymnastics incline mat นกหวดี 2 Hurdle หนังสือเรยี น 3 Whistle กรวย 4 Book แผ่นยางมารก์ เกอร์ 5 Cone กระดานไวทบ์ อรด์ 6 Marker ปากกาไวท์บอร์ด 7 White board แปรงลบกระดานไวท์บอรด์ 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่ืองทส่ี อนในชวั่ โมง 9 Whiteboard eraser การโหนเชอื ก 10 poster/Image media เชอื ก 11 The rope swing เก้าอี้ 12 Rope 13 Chair 9. การวดั และประเมินผล ลําดบั ท่ี เรอ่ื ง เครอ่ื งมือ แบบสงั เกต 1 สงั เกตความสนใจและการมีสว่ นรว่ มตลอดชัน้ เรียน แบบตรวจสอบ 2 สํารวจเคร่ืองแตง่ กายและบักทึกคะแนนความรับผิดชอบและ แบบสังเกต คะแนนสขุ ปฏบิ ตั ิ 3 สงั เกตการตอบคาํ ถามระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม แบบประเมินความสนใจ การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม และผลสาํ เรจ็ ของการฝกึ ทักษะและการนาํ ไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศกึ ษา.................. หนว่ ยการเรยี นรู้...................................... เรอื่ ง...................................................................ระดับชน้ั ........................... ระดับ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ /เพิม่ เติม) PQ นักเรียน 80% ขึ้นไปวงิ่ ไดอ้ ยา่ ง นักเรยี น 60%-80% วิ่งได้อยา่ ง นักเรียนนอ้ ยกวา่ 60% ว่งิ ไดอ้ ยา่ ง สมรรถภาพ ตอ่ เนื่องโดยไมเ่ หนื่อย ตอ่ เนอื่ งโดยไม่เหนอื่ ย ต่อเนือ่ งโดยไมเ่ หนอื่ ย ทางกาย นกั เรยี น 80% ข้นึ ไปเข้าแถวอย่าง นักเรียน 60%-80% เขา้ แถวอยา่ ง นกั เรียนนอ้ ยกวา่ 60% เข้าแถว MQ คุณธรรม เปน็ ระเบยี บ แต่งกายเรยี บรอ้ ย เปน็ ระเบียบ แต่งกายเรียบร้อย อยา่ งเป็นระเบยี บ แต่งกาย จริยธรรม พดู จาสภุ าพ พูดจาสภุ าพ เรยี บร้อย พดู จาสภุ าพ AQ เจตคติ นักเรียน 80% ขึ้นไปมคี วาม นกั เรียน 60%-80% มคี วาม นกั เรยี นนอ้ ยกว่า 60% มคี วาม สนุกสนานจากการเรยี นและการ สนุกสนานจากการเรยี นและการ สนุกสนานจากการเรียนและการ เลน่ เกมแขง่ ขัน เล่นเกมแข่งขนั เล่นเกมแข่งขัน IQ ความรู้ นักเรยี น 80% ขนึ้ ไปสามารถ นักเรียน 60%-80% สามารถ นกั เรยี นนอ้ ยกว่า 60% สามารถ ความเขา้ ใจ อธบิ ายการปฏบิ ัตทิ กั ษะโหนเชอื ก อธิบายการปฏบิ ัติทกั ษะโหนเชอื ก อธิบายการปฏิบตั ิทักษะโหนเชือก ข้ามสิง่ กีดขวางไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ข้ามสิ่งกีดขวางไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ข้ามสิ่งกีดขวางไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง SQ ทักษะ นักเรียน 80% ขนึ้ ไปสามารถ นกั เรียน 60%-80% สามารถ นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ปฏบิ ัตทิ ักษะโหนเชอื กขา้ มสง่ิ กีด ปฏิบตั ทิ กั ษะโหนเชอื กขา้ มสงิ่ กีด ปฏบิ ัตทิ กั ษะโหนเชอื กข้ามส่งิ กีด ขวางไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ขวางไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ขวางไดอ้ ย่างถกู ต้อง ระดบั คณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถงึ จํานวนนักเรยี น 80% ขน้ึ ไป ระดบั 2 หมายถงึ จํานวนนักเรียน 60-80% ระดับ 1 หมายถงึ จํานวนนักเรยี นอ้ ยกว่า 60% ลงชื่อ...........................................................ผปู้ ระเมิน

โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝา่ ยประถม บันทึกหลงั สอน กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2/...... หนว่ ย กิจกรรมยดื หย่นุ (Tumbling) ภาคเรียน ปลาย เรอื่ ง ทักษะการโหนเชือกขา้ มสิ่งกีดขวาง (The Rope Swing) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) วันท.่ี .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค (ก่อนสอน-ระหว่างสอน-หลงั สอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพือ่ ใช้ในการสอนครั้งตอ่ ไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผสู้ อน