93 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ 4.3 ผลการสังเกตตัวหนังสือผ่านน้าจากแหล่งน้าต่างท้ัง 3 แหล่ง เป็นอย่างไร (นักเรียนตอบได้ตามส่ิงที่สังเกตได้จริง เช่น แหล่งน้าท้ัง 3 แหล่ง สามารถมองเห็นตัวหนังสือได้แตกต่าง กันโดยแหล่งน้าท่ี 1 สังเกตตัวหนังสือได้ชัดเท่ากับขีดที่ 3 ส่วนแหล่งน้าที่ 2 สังเกตตัวหนังสือได้ชัดเท่ากับขีดท่ี 8 และ แหล่งนา้ ท่ี 3 สงั เกตตัวหนงั สือไดช้ ัดเทา่ กบั ขดี ท่ี 7) 4.4 นักเรียนคิดว่าการที่สามารถสังเกตตัวหนังสือผ่านน้าของ แหล่งน้าตา่ ง ๆ ได้นั้นเก่ียวขอ้ งกบั ความโปร่งใสอย่างไร (หาก สามารถมองเห็นตัวหนังสือผ่านน้าได้ท่ีระดับความสูงมาก ๆ แสดงวา่ นา้ มคี วามโปร่งใสมาก 4.5 น้าจากแหล่งต่าง ๆ มีความโปร่งใสเป็นอย่างไร (นักเรียน ตอบได้ตามส่ิงท่ีสังเกตได้จริง เช่น แหล่งน้าทั้ง 3 แหล่ง มี ความโปร่งใสไม่เท่ากันโดยแหล่งน้าท่ี 2 มีความโปร่งใสมาก ที่สุด เพราะสงั เกตตัวหนังสือไดช้ ดั เท่ากบั ขดี ท่ี 8 จากนน้ั เป็น แหล่งน้า 3 เพราะสังเกตตัวหนังสือได้ชัดเท่ากับขีดท่ี 7 และ แหล่งน้าท่ี 1 เป็นแหล่งน้าท่ีมีความโปร่งใสน้อยที่สุด 3 เพราะสงั เกตตัวหนังสอื ไดช้ ัดได้เพยี งขีดท่ี 3) 4.6 ลักษณะของน้าในแหล่งน้าเหมือนหรือแตกต่างกัน และ ทราบได้อยา่ งไร (แตกต่างกัน โดยเปรียบเทียบขอ้ มลู ท่ีได้จาก การสงั เกตสี กล่นิ และความโปร่งใส ซงึ่ ไม่เหมอื นกัน) 4.7 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าหากใช้เกณฑ์จากการ สังเกต สี กล่ิน และความโปร่งใส เพ่ือเป็นส่วนหน่ึงในการ บอกคุณภาพของน้าในแหล่งน้า แหล่งน้าแหล่งใดน่าจะมี คุณภาพดีกว่ากัน เพราะเหตุใด (น้าจากแหล่งน้าท่ี 2 เน่อื งจากมีลกั ษณะคลา้ ยกับนา้ ทเี่ ป็นน้าดม่ื น้าใช้) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปจากการท้ากิจกรรม เร่ืองน้าจากแหล่งน้าในท้องถ่ินว่า น้าจากแหล่งน้าในท้องถ่ินมีสี กลิ่น และความโปร่งใสแตกต่างกัน สามารถใช้เป็นส่วนหน่ึงของ การบอกคณุ ภาพน้าเบ้ืองต้นได้ 6. ครูน้าอภิปรายเพิ่มเติมว่าถึงแม้น้าในแหล่งน้าจะมีลักษณะคล้าย น้าดื่มน้าใช้ แต่ห้ามน้ามาดื่มหรือใช้เด็ดขาด เพราะน้าที่สามารถ น้ามาดื่มหรือใช้นั้นต้องผ่านกระบวนอ่ืน ๆ อีกมาก และวิธีการ บอกคุณภาพของแหล่งน้านั้นไม่สามารถใช้เพียงผลการสงั เกตจาก ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวิต 94 สี กล่ิน และความโปร่งใส ในการบอกคุณภาพน้าได้ แต่ต้องอาศัย การเตรยี มตัวลว่ งหนา้ ส้าหรับครู วิธีการอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย และแนะน้าให้นักเรียนอ่านความรู้ เพอ่ื จัดการเรยี นรู้ในครงั้ ถดั ไป เพิม่ เตมิ เรื่อง การตรวจสอบคุณภาพน้าเบ้อื งต้น ใน นานา นา่ รู้ 7. นักเรียนตอบค้าถาม ฉันรู้อะไร และ อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัด ในคาบถัดไป นักเรียนจะได้ท้า หน้า 49-50 กิจกรรมท่ี 1.3 เร่ือง ใช้น้าอย่างไรให้ 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ ประหยัด ครูควรเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ ทางวทิ ยาศาสตร์อะไรบา้ งและในข้นั ตอนใดบา้ ง สามารถเป็นแนวทางในการวัดปริมาณน้า ที่ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เข้ากับบริบทของ นักเรยี นและโรงเรยี น เชน่ 1. ขวดนา้ ดมื่ ขนาด 1.5 ลิตร 2. ขวดน้าดื่ม ขนาด 600 มิลลิตร 3. ขวดน้าอดั ลม ขนาด 1.25 ลิตร 4. แกว้ น้าดมื่ ของนักเรียน 5. ขันตกั น้า 6. กะละมงั ที่ใช้บรรจนุ ้า สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
95 คู่มอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 นา้ อากาศ กับชีวิต แนวค้าตอบในแบบฝกึ หดั สงั เกตและเปรียบเทียบลักษณะของน้าจากแหล่งนา้ ในท้องถิน่ ขึ้นอยู่กับผลการทา้ กิจกรรมของนักเรียน มสี เี ขียวอ่อน มีกลน่ิ ใส ไมม่ สี ี ไม่มีกลิน่ ใส ไมม่ ีสี มีกล่นิ ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต 96 √ √√ √ √√ √√ √√√ √ √ √ √√ √ √ ขึ้นอยู่กบั ผลการทา้ กิจกรรมของนักเรียน เช่น ผลการสงั เกตสี กลิน่ และความโปร่งใส ของร้าแต่ละแหล่งแตกต่างกัน โดยแหล่งน้าแหล่งท่ี 1 มีสีเขียวอ่อน มีกลิ่น และมี ความโปร่งใส เท่ากับขีดท่ี 3 แหล่งน้าท่ี 2 ใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และมีความโปร่งใส เทา่ กบั ขดี ที่ 8 และแหล่งนา้ ที่ 3 ใส ไมม่ สี ี มีกลนิ่ และมีความโปรง่ ใส เท่ากับขีดที่ 7 ขนึ้ อยกู่ ับผลการท้ากจิ กรรมของนกั เรียน ตัวอยา่ งคา้ ตอบ เช่น แหล่งน้าท่ี 1 มีสเี ขยี วอ่อน ๆ แหลง่ น้าท่ี 2 ใส ไมม่ ีสี ส่วนแหล่งน้าที่ 3 ใส ไม่มสี ี ข้นึ อยู่กับผลการท้ากจิ กรรมของนักเรียน ตัวอยา่ งค้าตอบ เช่น แหล่งน้าท่ี 1 มี กลน่ิ แหลง่ น้าที่ 2 ไมม่ ีกลน่ิ ส่วนแหลง่ นา้ ที่ 3 มีกลน่ิ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
97 คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ ข้ึนอยู่กับผลการท้ากิจกรรมของนักเรียน ตัวอย่างค้าตอบ เช่น แหล่งน้าทั้ง 3 แหล่ง มีความโปร่งใสไม่ เท่ากันโดยสังเกตความโปร่งใสของน้าจากขีดของระดับน้าที่สามารถมองเห็นตัวอักษรได้ แหล่งน้าท่ี 1 สังเกตความโปร่งใสได้เท่ากับขีดที่ 3 ดังนั้นจึงมีความโปร่งใสนอ้ ยทสี่ ุด แหล่งน้าท่ี 2 สังเกตความโปร่งใส ได้เทา่ กับขดี ที่ 8 สว่ นแหลง่ นา้ ท่ี 3 สังเกตความโปร่งใส เท่ากบั ขีดท่ี 7 ดงั น้นั จงึ มีความโปรง่ ใสมากทีส่ ดุ ลักษณะของน้าในแหล่งน้าไม่เหมือนกัน โดยแหล่งน้าแหล่งท่ี 1 มีสีเขียวอ่อน มีกลิ่น และมี ความโปร่งใส ท่ีขีดที่ 3 แหล่งน้าที่ 2 ใส ไม่มีสี ไม่มีกล่ิน และมีความโปร่งใส ที่ขีดที่ 8 และ แหล่งน้าท่ี 3 ใส ไม่มีสี มีกล่ิน และมีความโปร่งใส ท่ีขีดท่ี 7 ซึ่ง สี กล่ิน และความโปร่งใส แตกต่างกัน สามารถใชเ้ ปน็ สว่ นหนึ่งของการบอกคณุ ภาพน้าเบ้ืองตน้ ได้ น้าจากแหล่งน้ามีสี กล่ิน และความโปร่งใสแตกต่างกัน สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่ง ของการบอกคุณภาพน้าเบือ้ งต้นได้ ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกต้ังค้าถาม โดยค้าถามเหล่าน้ันเป็นเร่ืองที่ สงสัยอยากรู้เพิ่มเติม หรือส่ิงท่ียังไม่เข้าใจจากการท้ากิจกรรมใน หอ้ งเรยี น ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 98 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรยี นร้ขู องนกั เรียนท้าได้ ดังนี้ 1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชั้นเรียน 2. ประเมินการเรียนรจู้ ากคา้ ตอบของนกั เรยี นระหว่างการจัดการเรยี นรูแ้ ละแบบฝกึ หัด 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการท้ากิจกรรมของนักเรียน การประเมนิ จากการทา้ กจิ กรรมที่ 1.2 น้าจากแหล่งน้าในทอ้ งถ่ินเปน็ อยา่ งไร ระดบั คะแนน 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ สง่ิ ที่ประเมนิ คะแนน 1. การสังเกต 2. การวัด 8. การลงความเห็นจากข้อมูล 13. การตคี วามหมายข้อมลู และการลงขอ้ สรปุ รวมคะแนน ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมนิ ดงั นี้ 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ ทักษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 1. การสงั เกต สามารถใช้ประสาทสัมผัสเก็บ สามารถใช้ประสาทสัมผัสเก็บ ไม่สามารถสามารถใช้ รายละเอียดจากสิ่งที่เกิดข้ึนได้ รายละเอียดจากสิง่ ทเี่ กดิ ขน้ึ ประสาทสัมผสั เก็บ ด้วยตนเองโดยไม่เพิ่มเติมความ เก่ยี วกบั ลกั ษณะของน้าในแต่ละ รายละเอียดจากสง่ิ ท่เี กิดข้ึน คิ ด เ ห็ น ส่ิ ง ที่ สั ง เ ก ต ไ ด้ แหลง่ โดยต้องอาศัยการชีแ้ นะ ได้ หรอื มีการเพ่ิมเติมความ ประกอบด้วย ของครูหรือผู้อื่น คดิ เห็น แม้วา่ ครหู รือผูอ้ ืน่ - ลกั ษณะสี กลิน่ และความ ช่วยแนะน้าหรอื ชแี้ นะ โปร่งใสของน้าในแหลง่ นา้ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
99 คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กับชีวิต ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 2. การวดั ใชไ้ ม้บรรทัดก้าหนดความยาว ใชไ้ มบ้ รรทดั กา้ หนดความยาว ไม่สามารถใช้ไม้บรรทดั ของแตล่ ะส่วนได้อย่างถูกต้อง ของแต่ละส่วนได้อยา่ งถกู ต้อง กา้ หนดความยาวของแต่ละ เหมาะสม และระบหุ น่วยได้ เหมาะสม และระบุหนว่ ยได้ ส่วนได้อยา่ งถูกต้อง อยา่ งถูกต้องได้ด้วยตนเอง อย่างถูกต้องโดยตอ้ งอาศัยการ เหมาะสม และไม่สามารถ ชแ้ี นะของครูหรือผู้อืน่ ระบุหนว่ ยได้อย่างถูกต้อง แมว้ ่าครูหรือผู้อนื่ ต้องช่วย แนะนา้ หรอื ชแี้ นะ 8. การลงความเหน็ สามารถเพ่ิมเติมความคิดเห็น สามารถเพ่ิมเติมความคดิ เหน็ ไมส่ ามารถแสดงความ จากข้อมลู ข้อมูลเกยี่ วกับสี กลน่ิ และความ ขอ้ มลู เก่ียวกับสี กลิ่น และความ คิดเห็นเกย่ี วกับขอ้ มูลทมี่ ีอยู่ โปร่งใสของน้าได้ อย่างถูกต้อง โปรง่ ใสของนา้ ได้ อย่างถูกตอ้ ง หรอื เพ่มิ เติมความคดิ เหน็ มี เ ห ตุ ผ ล จ า ก ค ว า ม รู้ ห รื อ บางสว่ น หรือพยายามให้เหตุผล อย่างไมม่ เี หตผุ ลแมว้ า่ ครูหรือ ประสบการณเ์ ดิมได้ดว้ ยตนเอง จากความร้หู รือประสบการณ์ ผูอ้ ื่นช่วยแนะน้าหรอื ช้แี นะ เดิมโดยอาศยั การชีแ้ นะของครู หรือผู้อืน่ 13. การ ตีความหมายข้อมูลจากการ ครหู รอื ผอู้ ่ืนตอ้ งช่วยแนะนา้ ไมส่ ามารถตีความหมาย ตีความหมายข้อมลู สังเกตและลงข้อสรุปได้ด้วย หรือช้แี นะจึงจะสามารถ ขอ้ มูลจากการสังเกตและลง และการลงขอ้ สรปุ ตนเองว่า น้าจากแหล่งน้าใน ตีความหมายข้อมูลจากการ ขอ้ สรุปไดว้ ่าน้าจากแหล่งนา้ ท้องถ่ินอาจมีสี กล่ิน และความ สงั เกต และลงขอ้ สรปุ ได้ว่านา้ ในท้องถิ่นอาจมีสี กลน่ิ และ โปร่งใสแตกต่างกัน และสามารถ จากแหล่งน้าในทอ้ งถิ่นอาจมีสี ความโปรง่ ใสแตกต่างกนั ใช้สมบัติเหล่าน้ีเปน็ ส่วนหนึ่งของ กลน่ิ และความโปร่งใสแตกต่าง และสามารถใช้สมบตั ิเหล่านี้ การบอกคุณภาพน้าเบ้ืองตน้ ได้ กนั และสามารถใช้สมบัตเิ หล่านี้ เปน็ สว่ นหน่งึ ของการบอก เป็นส่วนหนึง่ ของการบอก คณุ ภาพนา้ เบื้องต้นได้ แม้วา่ คุณภาพน้าเบื้องตน้ ได้ ครูหรือผู้อื่นช่วยแนะน้าหรือ ช้ีแนะ ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ 100 กจิ กรรมท่ี 1.3 ใช้น้าอย่างไรใหป้ ระหยัด ในกิจกรรมนเี้ พอ่ื ใหน้ ักเรยี นส้ารวจ สบื ค้นข้อมูล และอธบิ ายวธิ กี ารใชน้ ้าอยา่ งประหยดั เวลา 2 ชว่ั โมง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สา้ รวจการใชน้ ้าในกิจกรรมในชวี ิตประจ้าวนั 2. สืบค้นข้อมูลและอธิบายวิธีการใช้น้าอยา่ งประหยัด วัสดุ อุปกรณ์สา้ หรับท้ากิจกรรม สิง่ ทคี่ รูตอ้ งเตรยี ม/กลมุ่ - สง่ิ ทน่ี กั เรียนตอ้ งเตรยี ม/กล่มุ - ส่ือการเรยี นรู้ หนา้ 35-36 หนา้ 51-53 1. หนงั สือเรยี น 2. แบบฝกึ หัด ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การจดั กระท้าและส่ือความหมายขอ้ มูล การตีความหมายข้อมลู และการลงข้อสรุป แนวการจดั การเรยี นรู้ ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น ส้าคัญ และยังไม่เฉลยค้าตอบใด ๆ 1. ครูน้าเข้าสู่บทเรียนโดยตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียน ซ่ึงอาจ ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนนักเรียน ไป ใช้ตวั อยา่ งค้าถามดังตอ่ ไปนี้ หาค้าตอบท่ีถูกต้องในกิจกรรมต่าง ๆ 1.1 ชมุ ชนของนกั เรียนนา้ แหล่งน้าท่มี ีอยู่ไปใชป้ ระโยชนอ์ ะไรบา้ ง ในบทเรียนนี้ 1.2 ถ้าแหลง่ น้านีไ้ มม่ ีน้า นกั เรียนคดิ วา่ ชวี ิตเราจะเป็นอยา่ งไร 1.3 นักเรียนมีวิธีการอนุรักษ์แหล่งน้าอย่างไรบ้างเพ่ือให้สามารถ ใชน้ ้าได้อยา่ งยาวนาน นักเรียนสามารถตอบได้ตามความคิดของตนเอง โดยครยู ังไม่ เฉลยค้าตอบ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
101 คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 35 อ่านช่ือกิจกรรม และหัวข้อ นักเรียนอาจไม่สามารถตอบค้าถาม ท้าเป็นคิดเป็น จากน้ันครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน หรืออภิปรายได้ตามแนวค้าตอบ คุณครู เก่ยี วกบั สิ่งทจ่ี ะเรยี น โดยอาจใชค้ า้ ถามต่อไปนี้ ควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม 2.1 ในกิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (การใช้น้าให้ ร อ ค อ ย อ ย่ า ง อ ด ท น แ ล ะ รั บ ฟั ง ประหยัด) แนวความคิดของนกั เรยี น 2.2 นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นเรอ่ื งนด้ี ว้ ยวิธใี ด (สา้ รวจและสบื คน้ ข้อมูล) 2.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะท้าอะไรได้ (อธิบายวิธีการใช้น้า อยา่ งประหยดั ) 3. จากน้ันนักเรยี นอา่ น ทา้ อยา่ งไร ในหนงั สอื เรยี นหน้า 35 โดยครใู ช้ วิธีการสอนอ่านตามความเหมาะสมกับความสามารถนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจขั้นตอนการท้ากิจกรรมทีละ ข้ันตอนโดยใชค้ า้ ถาม ดงั นี้ 3.1 ขน้ั ตอนแรกในการท้ากจิ กรรมนกั เรียนต้องท้าอะไร (วางแผน วิธีการวัดพร้อมระบุหน่วยวัดปริมาณน้าในการอาบน้าและ แปรงฟัน) 3.2 นักเรียนต้องส้ารวจปริมาณน้าในกิจกรรมต่าง ๆ กิจกรรม ละกคี่ รัง้ (3 คร้งั ) 3.3 เมื่อนักเรียนทราบปริมาณการใช้น้าในกิจกรรมอาบน้าและ แปรงฟันของตนเองแล้วจะต้องท้าอะไรต่อไป (เปรียบเทียบ ปรมิ าณการใช้นา้ ของตนเองกบั เพ่อื น) 3.4 หลังจากนักเรียนเปรียบเทียบปริมาณการใช้น้าในกิจกรรม อาบน้าและแปรงฟันของตนเองกับเพื่อนแลว้ นักเรยี นต้องทา้ อะไรต่อไป (เปรียบเทียบปริมาณการใช้น้าของตนเองกับ ตารางการใชน้ ้าเฉลีย่ ) 3.5 ในข้อที่ 5 นักเรียนต้องอภิปรายเก่ียวกับเรื่องอะไร (วิธีการ อาบน้าและแปรงฟนั อยา่ งประหยัด) 3.6 นักเรียนต้องสืบค้นข้อมูลเรื่องอะไร (วิธีการใช้น้าอย่าง ประหยดั ในกจิ กรรมอน่ื ๆ ในชวี ิตประจา้ วนั ) 4. ครูชักชวนนักเรียนอภิปรายเก่ียวกับวิธีการที่นักเรียนจะใช้ในการ ส้ารวจปรมิ าณน้า โดยอาจใชค้ า้ ถามตอ่ ไปน้ี 4.1 นักเรียนจะวัดปริมาณน้าที่แปรงฟันอย่างไร (ใช้แก้วรองน้า แลว้ นบั ปริมาณการใช้น้าจากจ้านวนแก้วทใี่ ช้) 4.2 นักเรียนจะส้ารวจปริมาณน้าท่ีอาบน้าอย่างไร (ยืนอาบน้าใน ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 102 กะละมังจากน้ันใช้ขวดน้าตักน้าในกะละมังแล้วจึงนับ ปริมาณการใชน้ า้ จากจ้านวนขวดน้าท่ีใช้ หรอื อาบน้าจากโอ่ง น้าแล้วนบั ปรมิ าณการใชน้ ้าจากจา้ นวนขนั ท่ใี ช้ตกั น้า) หากนักเรียนตอบไม่ได้ครูสามารถแนะน้าวิธีการส้ารวจ ปรมิ าณการใช้น้า 4.3 นักเรียนในห้องควรใช้หน่วยเดียวกันในการวัดปริมาณน้าใน กิจกรรมเดียวกันหรือไม่ (ควร เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบ ปริมาณน้าที่ใชข้ องแต่ละคนได้) 5. ครูแนะน้าการอ่าน ตารางค่าเฉลี่ยปริมาณการใช้น้าในการอาบน้า และแปรงฟันด้วยวิธกี ารต่าง ๆ แลว้ อาจใชค้ า้ ถามเพือ่ ตรวจสอบความ เข้าใจ เช่น หากนักเรียนอาบน้าโดยใชข้ ันตัก นักเรียนจะเปรียบเทยี บ กับปริมาณการใช้น้าเฉลี่ยค่าใดในตาราง (20 ลิตร ต่อครั้ง) และใน การวัดปริมาณนา้ ครสู ามารถแนะน้าให้นกั เรียนส้ารวจปริมาณน้า ด้วยขวดน้าซึ่งมีหนว่ ยเป็นลติ ร เพอ่ื สามารถเปรียบเทียบกบั ตาราง คา่ เฉล่ียได้ง่ายและสะดวกมากขน้ึ เมื่อแน่ใจว่านักเรียนสามารถท้ากิจกรรมได้แล้วจึงให้นักเรียน เร่ิมท้ากิจกรรมท่บี า้ น และบันทึกผลในแบบฝึกหัด หน้า 32 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มน้าเสนอผลการส้ารวจการใช้น้า จากน้ันครูใช้ ค้าถามเพ่ือนา้ ไปส่กู ารอภิปราย ดงั น้ี 6.1 ปริมาณการใช้น้าในการแปรงฟันของนักเรียนแต่ละคนมี ปริมาณเท่าไร (คา้ ตอบขึ้นกับผลการท้ากิจกรรมของนักเรียน เช่น 2 แก้ว หรอื ประมาณ 0.5 ลติ ร) 6.2 ปริมาณการใช้น้าในการอาบน้าของนักเรียนแต่ละคนมี ปรมิ าณเทา่ ไร (ค้าตอบขึน้ กับผลการท้ากิจกรรมของนักเรียน เชน่ 40 ขวด หรือประมาณ 35 ลิตร) 6.3 นักเรียนเปรียบเทียบการใช้น้าของตนเองกับเพ่ือนในกลุ่ม ได้ผลเป็นอย่างไร (ค้าตอบข้ึนกับผลการท้ากิจกรรมของ นกั เรยี น เช่น นกั เรยี นใช้น้ามากกว่าเพ่ือนในกิจกรรมอาบน้า แต่ใช้น้าน้อยกว่าในกิจกรรมแปรงฟัน ตามผลการ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
103 คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ เปรียบเทียบจริงของนกั เรียน) นักเรียนอาจไม่สามารถตอบค้าถาม 6.4 เม่ือเปรียบเทียบปริมาณการใช้น้าของนักเรียนกับตาราง หรืออภิปรายได้ตามแนวค้าตอบ คุณครู ควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม การใช้น้าเฉล่ีย นักเรียนพบอะไรบ้าง (ค้าตอบขึ้นกับผลการ ร อ ค อ ย อ ย่ า ง อ ด ท น แ ล ะ รั บ ฟั ง ท้ากิจกรรมของนักเรียน เช่น พบว่านักเรียนมีการใช้น้า แนวความคดิ ของนกั เรียน มากกว่าปรมิ าณเฉลี่ย) 6.5 การใช้น้าของนักเรียนเป็นการใช้น้าอย่างประหยัดหรือไม่ ทราบได้อย่างไร (ค้าตอบข้ึนกับผลการท้ากิจกรรมของ นักเรียน เช่น ยังไม่ประหยัดเน่ืองจากปริมาณการใช้น้ายังสูง กวา่ คา่ เฉล่ีย) 6.6 นักเรียนมีวิธีประหยัดน้าในการอาบน้าและแปรงฟันอย่างไร (ตัวอยา่ งคา้ ตอบ เช่น วิธีประหยดั น้าในการอาบนา้ คือ ปดิ น้า ขณะถสู บู่ และวิธปี ระหยดั น้าในการแปรงฟันคือ ไม่ปล่อยน้า ท้งิ ขณะแปรงฟนั ) 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มน้าเสนอวิธีการใช้น้าอย่างประหยัด จากน้ัน ร่วมกนั อภปิ รายโดยครูอาจใช้คา้ ถาม ดงั น้ี 7.1 กิจกรรมอื่น ๆ ที่มีการใช้น้ามีอะไรบ้าง และแต่ละกิจกรรมมี วิธีการใช้น้าอย่างประหยัดอย่างไร (ตัวอย่างค้าตอบ เช่น กจิ กรรมการล้างจานน้าน้าที่ไดจ้ ากการล้างจาน ซกั ผ้า ไปรดน้า ต้นไม้ กิจกรรมการล้างรถ ล้างรถโดยใช้ถังน้ารองน้าไว้แทน การใช้สายยาง กิจกรรมการแปรงฟัน ไม่เปิดน้าท้ิงไว้ขณะล้าง หน้า แปรงฟนั และใชแ้ กว้ นา้ รองนา้ ส้าหรบั แปรงฟัน) 7.2 นกั เรียนควรนา้ วธิ ีการประหยัดน้าไปใชห้ รือไม่ (ควรน้าไปใชท้ ันที) 7.3 นกั เรียนคดิ ว่าการใช้น้าอยา่ งประหยดั มีผลดกี บั ตวั เราอย่างไร (เพ่อื ให้มนี า้ กินน้าใช้เพียงพอตลอดไป และยังชว่ ยลดรายจา่ ย ค่าน้าได)้ 7.4 วิธีการประหยัดน้าววิธีใดท่ีนักเรียนจะน้าไปใช้ทันที (นักเรียน ตอบได้ตามความสามารถของตนเองท่จี ะน้าวิธปี ฏบิ ัติไปใช้จริง ตัวอย่างค้าตอบ เช่น ไม่เปิดน้าทิ้งไว้ขณะล้างหน้า แปรงฟัน และใชแ้ ก้วนา้ รองนา้ สา้ หรบั แปรงฟนั ) ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวติ 104 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปจากการท้ากิจกรรม เร่อื งการใชน้ ้าอย่างประหยัดว่า ปรมิ าณการใช้น้าในกิจกรรมต่าง ๆ ของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ทุกคนสามารถใช้น้าอย่างประหยัดได้ เพือ่ ใหม้ นี ้าไว้ใชต้ ลอดไป (13) 9. นักเรียนตอบค้าถาม ฉันรู้อะไร และ อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัด หน้า 44 10.ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์อะไรบ้างและในขน้ั ตอนใดบ้าง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
105 ค่มู ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 นา้ อากาศ กับชีวิต แนวค้าตอบในแบบฝึกหัด ส้ารวจ สบื ค้นขอ้ มลู และอธิบายการใชน้ ้าอย่างประหยดั และค้มุ ค่า ลิตร ขนึ้ อยู่กับผลการทา้ กิจกรรมของนักเรียน เชน่ วิธกี ารส้ารวจปริมาณนา้ ในการอาบน้าโดยใช้ฝกั บัว ส้ารวจโดยนา้ ภาชนะขนาด ใหญ่ทส่ี ามารถยืนในภาชนะน้ันได้มารองนา้ ระหว่างอาบน้า จากนน้ั วัดปริมาณน้า ในภาชนะโดยใชข้ วดปรมิ าตร 1 ลติ ร และบนั ทึกจ้านวนขวดทไ่ี ด้ วธิ กี ารสา้ รวจปริมาณนา้ ในการแปรงฟัน สา้ รวจโดยนา้ ภาชนะมารองนา้ ระหวา่ ง แปรงฟัน จากนั้นวดั ปริมาณน้าในภาชนะโดยใชข้ วดปริมาตร 1 ลติ ร และบนั ทึก จ้านวนขวดที่ได้ ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 106 ขึน้ อยกู่ ับผลการทา้ กจิ กรรมของนักเรียน อาบน้าโดยใช้ฝักบัว 40 38 37 38.3 แปรงฟันโดยเปดิ นา้ ท้ิงไว้ตลอดเวลา 16 19 16 17 ทแ่ี ปรงฟนั ขนึ้ อย่กู ับผลการทา้ กจิ กรรมของนักเรียน ตัวอยา่ งค้าตอบ เชน่ ปริมาณน้าท่ใี ชใ้ นการ อาบนา้ โดยใชฝ้ กั บัวของตนเองสูงกว่าปริมาณการใชน้ า้ เฉลย่ี แตป่ รมิ าณนา้ ท่ใี ช้ในการ แปรงโดยเปดิ นา้ ทิง้ ไวต้ ลอดเวลาของตนเองต้า่ กวา่ ปรมิ าณการใช้น้าเฉลยี่ ข้นึ อยู่กับผลการท้ากิจกรรมของนักเรยี น ตัวอย่างค้าตอบ ล้างรถ ใชถ้ งั นา้ รองน้า กับฟองนา้ ล้างรถ แทนการใช้น้าสายยาง โดยตรง รดนา้ ตน้ ไม้ ใชน้ า้ สุดท้ายท่ไี ดจ้ ากการลา้ งจานไปรดน้าต้นไม้ ซักผ้า รวมผ้าใหไ้ ด้ครงั้ ละมาก ๆ ตอ่ การซักหนึ่งครง้ั สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
107 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต ข้นึ อยู่กับผลการท้ากิจกรรมของนกั เรยี น ตัวอย่างคา้ ตอบ เช่น ยงั ไม่ประหยัด เนื่องจากปรมิ าณการใช้นา้ ยังสงู กวา่ ค่าเฉลยี่ ข้ึนอยู่กับผลการท้ากิจกรรมของนักเรียน ตัวอย่างค้าตอบ เช่น ปริมาณน้าที่ใช้ในการอาบน้าโดยใช้ฝักบัวของ ตนเองสูงกว่าปริมาณการใชน้ ้าเฉลี่ยในตาราง แต่ต้่ากว่าปริมาณการใช้น้าเมื่อเทียบกับเพ่ือน ส่วนปริมาณนา้ ที่ ใช้ในการแปรงโดยเปิดน้าทง้ิ ไว้ตลอดเวลาของตนเองต่้ากวา่ ปรมิ าณการใชน้ ้าเฉล่ยี ในตาราง แต่สงู กว่าเมอื่ เทียบ กับเพอ่ื น หากน้าวิธีการประหยัดนา้ ไปใช้ในการอาบนา้ และแปรงฟัน จะทา้ ให้ปริมาณการใช้น้าตา้่ ลง ปริมาณการใช้น้าในกิจกรรมต่าง ๆ ของแตล่ ะคนไม่เทา่ กนั แตท่ กุ คนสามารถใชน้ ้า อย่างประหยัดไดเ้ พ่ือให้เรามนี ้าไวใ้ ชต้ ลอดไป ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกต้ังค้าถาม โดยค้าถามเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ สงสัยอยากรู้เพ่ิมเติม หรือส่ิงท่ียังไม่เข้าใจจากการท้ากิจกรรมใน ห้องเรยี น ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กบั ชีวติ 108 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรขู้ องนักเรยี นท้าได้ ดังน้ี 1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการอภิปรายในชน้ั เรียน 2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากค้าตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจดั การเรยี นรู้และแบบฝึกหัด 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการทา้ กิจกรรมของนักเรยี น การประเมินจากการทา้ กจิ กรรมที่ 1.3 ใช้นา้ อยา่ งไรใหป้ ระหยดั ระดบั คะแนน 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ สิง่ ทปี่ ระเมิน คะแนน 2. การวัด 3. การใชต้ ัวเลขข 6. การจัดกระทา้ และสื่อความหมายข้อมูล 13. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป รวมคะแนน ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต์ ามระดับความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมนิ ดังนี้ 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง ทกั ษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. การวดั ใช้เคร่อื งมือวัดปริมาณนา้ ได้ ใช้เคร่อื งมือวัดปริมาณน้าได้ ไม่สามารถใชเ้ ครื่องมือวดั อย่างถูกต้อง เหมาะสม และ อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม และ ปริมาณน้าได้อย่างถกู ต้อง ระบหุ น่วยไดอ้ ย่างถูกตอ้ งได้ด้วย ระบุหน่วยไดอ้ ย่างถูกตอ้ งโดย เหมาะสม และระบุหน่วยได้ ตนเอง ต้องอาศยั การชแ้ี นะของครูหรอื อยา่ งถูกต้อง แมว้ า่ ครหู รือ ผ้อู ื่น ผู้อ่ืนตอ้ งชว่ ยแนะนา้ หรือ ช้ีแนะ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
109 คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 3. การใชต้ วั เลข สามารถค้านวณปริมาณนา้ ที่ใช้ สามารถคา้ นวณปริมาณน้าทใ่ี ช้ ไม่สามารถคา้ นวณปริมาณ ในการอาบนา้ แปรงฟันและ ในการอาบน้า แปรงฟันและ น้าที่ใช้ในการอาบน้า แปรง เปรยี บเทียบปรมิ าณนา้ ทใ่ี ช้ เปรยี บเทียบปรมิ าณน้าทใี่ ช้ ฟันและเปรียบเทียบปรมิ าณ ทง้ั หมดได้ถกู ต้องด้วยตนเอง ทั้งหมดได้ถกู ตอ้ งโดยอาศยั การ น้าทใ่ี ช้ทง้ั หมดได้ถูกต้อง ชีแ้ นะหรือแนะน้าของครหู รือ แมว้ า่ ครหู รือผู้อืน่ ช่วยแนะน้า ผูอ้ ่ืน หรอื ช้แี นะ 6. การจัดกระทา้ แสดงความคิดเห็น ตอบค้าถาม แสดงความคดิ เห็น ตอบคา้ ถาม ไม่สามารถแสดงความ และสอื่ ความหมาย หรือน้าเสนอข้อมูล ผลการ หรือนา้ เสนอข้อมลู ผลการ คดิ เหน็ ตอบค้าถาม หรอื ขอ้ มูล ส้ารวจการใช้น้าและข้อมูลท่ีได้ สา้ รวจการใชน้ า้ และข้อมูลท่ีได้ น้าเสนอข้อมลู ผลการสา้ รวจ จากการสืบค้นข้อมูลวิธีการ จากการสบื ค้นข้อมูลวิธกี าร การใชน้ า้ และข้อมูลท่ีไดจ้ าก ประหยัดน้าให้ผู้อ่ืนเข้าใจได้ง่าย ประหยัดน้าให้ผอู้ ื่นเข้าใจไดง้ า่ ย การสบื ค้นข้อมลู วิธกี าร และชัดเจน โดยเลอื กใช้วิธีการที่ และชดั เจน โดยเลือกใชว้ ธิ ีการท่ี ประหยดั นา้ ให้ผู้อ่ืนเข้าใจได้ เหมาะสมไดด้ ้วยตนเอง เหมาะสมอาศยั การช้แี นะของ ง่าย แมว้ ่าครูหรอื ผู้อน่ื ช่วย ครูหรือผู้อนื่ แนะนา้ หรอื ชแี้ นะ 13. การตีความหมาย ตีความหมายข้อมูลจากการ ครหู รือผ้อู น่ื ตอ้ งช่วยแนะนา้ ไมส่ ามารถตคี วามหมาย ข้อมลู และการลง สังเกตและลงข้อสรุปได้ด้วย หรอื ช้ีแนะจงึ จะสามารถ ขอ้ มลู จากการสงั เกต และลง ข้อสรปุ ตนเองว่า ปริมาณการใช้น้าใน ตคี วามหมายข้อมลู จากการ ขอ้ สรปุ ไดว้ า่ ปรมิ าณการใช้ กิจกรรมต่าง ๆ ของแต่ละคนไม่ สงั เกต และลงขอ้ สรุป ได้ด้วย น้าในกิจกรรมต่าง ๆ ของแต่ เท่ากัน แต่ทุกคนสามารถใช้น้า ตนเอง วา่ ปริมาณการใชน้ ้าใน ละคนไมเ่ ท่ากัน แต่ทุกคน อย่างประหยัดได้เพ่ือให้เรามีน้า กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของแต่ละคนไม่ สามารถใช้น้าอย่างประหยดั ไวใ้ ชต้ ลอดไป เทา่ กนั แต่ทุกคนสามารถใช้ ไดเ้ พื่อให้เรามีน้าไวใ้ ช้ นา้ อยา่ งประหยัดได้เพื่อให้เรามี ตลอดไป แมว้ า่ ครูหรือผู้อื่น น้าไว้ใช้ตลอดไป ชว่ ยแนะนา้ หรือช้แี นะ ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กบั ชีวติ 110 เรื่องที่ 2 สมบัติของน้า ในเร่ืองนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับลักษณะและสมบัติของน้า จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สงั เกต อธบิ ายและเปรยี บเทยี บลักษณะของนา้ แข็ง น้า และไอน้า 2. สังเกต และอธบิ ายสมบัตขิ องน้า เวลา 1 ช่ัวโมง วสั ดุ อุปกรณ์ส้าหรับท้ากจิ กรรม แก้วพลาสติกใส น้า น้าแข็ง น้าสี ช้อนโต๊ะ แบบจ้าลองศึกษาสมบัติ ของของเหลว กระดาษสีขาวหรือถาดรองสขี าว บีกเกอร์หรือถ้วยตวง สาร ก (เกลือ) สาร ข (น้าตาลทราย) สาร ค (แป้งมัน) และสาร ง (พริกไทยปน่ ) สื่อการเรยี นรู้ หนา้ 37-45 หน้า 54-66 1. หนังสือเรียน 2. แบบฝกึ หัด แหลง่ เรยี นรู้ 1. พจนานกุ รมฉบบั นกั เรยี นหรอื พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
111 ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต แนวการจัดการเรยี นรู้ (เวลา 1 ชั่วโมง) ปญั หาท่ีอาจพบจากการอา่ น ข้นั ตรวจสอบความรู้ (5 นาที) สิง่ ทสี่ ังเกตได้ นักเรียนบางคนยงั อ่านไม่ คล่อง บางคนไม่สามารถจับใจความเรื่องท่ี 1. ครตู รวจสอบความรขู้ องนักเรยี นเกี่ยวกบั น้า โดยอาจใช้ค้าถามดงั นี้ อ่านได้ หรือไม่เข้าใจค้าบางค้าท่ีเปน็ ค้าใหม่ 1.1 เพราะเหตุใดสิ่งมีชวี ติ จงึ อาศัยอยู่บนโลกได้ (เพราะโลกมีลมฟา้ แนวทางการชว่ ยเหลือ อากาศทเี่ หมาะสม นอกจากน้ยี ังมีน้าอกี ดว้ ย) 1. ครคู วรเลือกนักเรียนท่ีอ่านไม่คลอ่ ง 1.2 น้ามีสมบัติอะไรบ้าง (นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจของ ตนเอง) ให้อา่ นออกเสียงคนละหนึ่งย่อหน้า ครูเช่ือมโยงเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งให้นักเรียนทราบว่านักเรียน 2. เมื่อนกั เรียนอา่ นแต่ละย่อหนา้ แล้ว จะไดเ้ รยี นสมบตั ขิ องนา้ ในเร่ืองท่จี ะเรยี นต่อไปน้ี ครูควรถามนักเรียนว่ามคี ้าใดบา้ งที่ ขัน้ ฝึกทกั ษะจากการอ่าน (45นาที) นกั เรยี นยังไม่ร้คู วามหมาย หรอื ไม่ เคยเห็นมาก่อน ครูควรเขยี นค้าน้ัน 2. นกั เรยี นเปดิ หนังสือเรยี นหนา้ 37 อา่ นชอื่ เร่อื งและค้าถาม ชวนคิด บนกระดานแล้วให้นกั เรียนหา จากนั้นนักเรียนลองตอบค้าถามชวนคิดตามความเข้าใจของตนเอง ความหมายจากพจนานุกรมฉบบั ครูบันทึกค้าตอบของนักเรียนบนกระดานเพือ่ ใชเ้ ปรียบเทียบค้าตอบ นักเรยี น หรือพจนานุกรมฉบับราช หลังการอ่าน (แนวค้าตอบที่ครูควรรู้ เช่น น้าแข็ง น้า และไอน้าต่าง บณั ฑติ หรอื ครอู ธิบายเพ่มิ เติม กเ็ ปน็ นา้ เหมอื นกัน แตแ่ ตกต่างกันท่ีสถานะ โดยน้าแขง็ มสี ถานะเป็น 3. ครสู ุ่มนกั เรียนให้สรุปความแต่ละย่อ ของแขง็ น้ามีสถานะเปน็ ของเหลว และไอน้ามสี ถานะเป็นแก๊ส) หนา้ หรือ ตัง้ คา้ ถามเพ่ือตรวจสอบ ความเขา้ ใจจากการอ่านของนักเรยี น 3. ครูให้นักเรียนอ่านเนื้อเร่ืองแต่ละย่อหน้าโดยใช้วิธีการอ่านที่ เหมาะสมจากนั้นถามค้าถามเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน นักเรียนอาจไม่สามารถตอบค้าถาม โดยอาจใช้คา้ ถาม ดงั นี้ หรืออภิปรายได้ตามแนวค้าตอบ คุณครู ควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม ยอ่ หน้าท่ี 1 ร อ ค อ ย อ ย่ า ง อ ด ท น แ ล ะ รั บ ฟั ง 3.1 น้าบนโลกอยู่ในลกั ษณะใดบา้ ง (นา้ บนโลกอยู่ในลักษณะที่เป็น แนวความคิดของนกั เรียน น้าแข็ง นา้ หรือไอน้า) 3.2 น้าแข็ง น้า และไอน้าเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร (น้าแข็ง น้า และไอน้าต่างก็เป็นน้าเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่สถานะ โดยน้าแข็งมีสถานะเป็นของแข็ง น้ามีสถานะเป็นของเหลว และไอน้ามสี ถานะเปน็ แกส๊ ) ย่อหนา้ ท่ี 2 3.3 น้าในแหล่งน้าต่าง ๆ บนโลกปรากฏได้ก่ีสถานะ อะไรบ้าง (น้าใน แหล่งน้าต่าง ๆ บนโลกปรากฏได้ 3 สถานะ ได้แก่ ของแข็งได้แก่ นา้ แข็ง ของเหลวได้แกน่ ้า และแกส๊ ไดแ้ กไ่ อนา้ ) 3.4 ท่ีใดบา้ งพบ น้าแขง็ (ขั้วโลกเหนอื และขัว้ โลกใต)้ ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวติ 112 3.5 ทใี่ ดบ้างพบน้า (ทะเล มหาสมุทร คลอง บงึ ) การเตรียมตวั ล่วงหน้าส้าหรบั ครู 3.6 ทใ่ี ดบ้าง พบไอน้า (อากาศ) เพื่อจัดการเรียนรู้ในครงั้ ถัดไป ข้นั สรุปจากการอ่าน (10 นาท)ี ในคาบถัดไป นักเรียนจะได้ท้า กิจกรรมท่ี 2.1เร่ือง น้าแข็ง น้า ไอน้ามี 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปความรู้ที่ได้จากการอ่านว่า ลักษณะอย่างไร ครูควรเตรียมวัสดุ โลกของเรามีนา้ ตามแหลง่ ตา่ ง ๆ ซ่งึ อาจเปน็ น้าแข็ง นา้ หรือไอนา้ อุปกรณ์ ดงั นี้ 1. แกว้ พลาสติกใสขนาดเท่ากัน 4 ใบ 5. ครูใหน้ ักเรียนตอบคา้ ถามในรู้หรือยัง ในแบบฝึกหดั หน้า 54 จากนน้ั 2. กอ้ นน้าแข็ง 1 ถงั ครูชักชวนนักเรียนเปรียบเทียบค้าตอบในชวนคิดท่ีครูบันทึกไว้เพื่อ 3. นา้ 1 ถงั ตรวจสอบความรู้ก่อนอ่านและหลังอ่านของนักเรียน รวมท้ังแก้ไข ความเขา้ ใจผิดของนักเรียน 6. ครูให้นักเรียนอ่านค้าถามส้าคัญเพ่ือชักชวนให้นักเรียนท้ากิจกรรม 2.1 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
113 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต แนวค้าตอบในแบบฝกึ หัด นา้ แขง็ น้า และไอน้า เหมือนกนั คือต่างกเ็ ป็นน้าเหมือนกัน แตกต่างกนั คือ มสี ถานะตา่ งกัน นา้ แข็งเปน็ ของแข็ง นา้ เปน็ ของเหลว ไอน้าเปน็ แกส๊ ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 114 กิจกรรมที่ 2.1 น้าแข็ง น้า ไอนา้ มีลกั ษณะอยา่ งไร กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้อธิบายว่าน้าแข็ง น้าและไอน้ามีสถานะแตกต่างกัน และเปรียบเทียบลักษณะของน้าแข็ง น้า และไอน้าวา่ มีลักษณะบางประการเหมือนและบางประการแตกต่างกนั ผา่ นการสงั เกต เวลา 1 ชัว่ โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ สงั เกต อธิบายและเปรยี บเทยี บลักษณะของน้าแข็ง นา้ และไอน้า วัสดุ อปุ กรณ์สา้ หรับท้ากจิ กรรม สงิ่ ท่คี รตู อ้ งเตรยี ม/กล่มุ 1. แกว้ พลาสติกใสขนาดเท่ากัน 4 ใบ 2. น้าแขง็ ก้อน (น้าแขง็ หลอด ขนาดเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง ประมาณ 4 เซนติมเตร) ประมาณครง่ึ แกว้ 3. นา้ ประมาณครงึ่ แก้ว ส่ิงทนี่ ักเรียนต้องเตรยี ม - หน้า 38-39 หนา้ 55-57 สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน 2. แบบฝกึ หัด ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสังเกต การหาความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสเปซกับสเปซ การลงความเห็นจากข้อมูล การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
115 คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต แนวการจัดการเรยี นรู้ นักเรียนอาจไม่สามารถตอบค้าถาม หรืออภิปรายได้ตามแนวค้าตอบ คุณครู 1. ครูตรวจสอบความรเู้ ดิมของนกั เรียน โดยอาจใช้ค้าถามดงั นี้ ควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม ร อ ค อ ย อ ย่ า ง อ ด ท น แ ล ะ รั บ ฟั ง 1.1 น้ามีก่ีสถานะ อะไรบ้าง (น้ามี 3 สถานะ คือ ของแข็งได้แก่ แนวความคิดของนกั เรียน นา้ แขง็ ของเหลวไดแ้ กน่ ้า และแกส๊ ได้แก่ไอนา้ ) 1.2 ลักษณะของน้าแข็ง น้า และไอน้ามีอะไรบ้าง (นักเรียนตอบ ตามความเขา้ ใจของตนเอง) 2. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 38 อ่านชื่อกิจกรรมและท้า เป็นคิดเปน็ จากนัน้ ครถู ามคา้ ถามเพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจ ดงั น้ี 2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (ลักษณะของน้าแข็ง นา้ และไอนา้ ) 2.2 นักเรยี นจะไดเ้ รียนเรอ่ื งนีด้ ว้ ยวิธีใด (การสังเกต) 2.3 เมอ่ื เรียนแล้วนักเรียนจะทา้ อะไรได้ (อธิบายและ เปรยี บเทยี บ ลกั ษณะของน้าแขง็ น้า และไอนา้ ) 3. นักเรียนอ่าน สิ่งที่ต้องใช้ และ ท้าอย่างไร ในหนังสือเรียน หน้า 38 โดยใช้วิธีการอ่านที่เหมาะสม ครูตรวจสอบความเข้าใจ จากการ อ่าน โดยอาจใช้ค้าถามและวาดภาพประกอบหรือเขียนล้าดับ ขั้นตอนจากค้าตอบของนักเรียน ดังน้ี 3.1 นักเรยี นต้องเตรียมแก้วพลาสตกิ ใสก่ีใบ (4 ใบ) 3.2 จากขอ้ ท่ี 1 นักเรียนใสอ่ ะไรในแก้วใบท่ี 1 (ใส่นา้ แขง็ ) 3.3 ใสป่ ระมาณเท่าใด (สงู ประมาณคร่ึงแก้ว) 3.4 นกั เรียนใส่อะไรในแก้วใบที่ 2 (ใสน่ า้ ) 3.5 ใส่ประมาณเท่าใด (สูงเท่ากับน้าแข็งในแก้วใบที่ 1 ประมาณ ครง่ึ แก้ว) 3.6 นักเรียนจะใส่น้าลงในแก้วใบท่ี 2 ด้วยวธิ ใี ด (ริน) 3.7 การรินท้าอย่างไร (ค่อย ๆ เทน้าจากภาชนะหน่ึงลงในอีก ภาชนะหน่ึง) 3.8 หลังจากใสน่ า้ แข็ง กบั นา้ ลงในแก้วแตล่ ะใบแลว้ นกั เรียนตอ้ งทา้ อะไร อกี (สงั เกตลักษณะของน้าแข็งและน้าในแก้ว บนั ทกึ ผล) 3.9 ข้อที่ 2 นักเรียนต้องท้าอย่างไร (เทน้าแข็งจากแก้วใบที่ 1 ลง ในแกว้ ใบที่ 3 สังเกตนา้ แขง็ ขณะเท บนั ทึกผล) ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 นา้ อากาศ กับชีวติ 116 3.10 ข้อท่ี 3 นักเรียนต้องท้าอะไร (รินน้าจากแก้วใบที่ 2 ลงใน นักเรียนอาจไม่สามารถตอบค้าถาม แก้วใบที่ 4 สังเกตน้าขณะท่กี ้าลังรนิ บนั ทึกผล) หรืออภิปรายได้ตามแนวค้าตอบ คุณครู ควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม 3.11 ข้อที่ 4 นักเรียนต้องท้าอะไร (อ่านใบความรู้เรื่องน้า แล้ว ร อ ค อ ย อ ย่ า ง อ ด ท น แ ล ะ รั บ ฟั ง อภิปรายในกล่มุ เก่ยี วกบั ขอ้ มลู ทไ่ี ด้จากการอา่ น) แนวความคดิ ของนักเรยี น ครูแนะน้าว่าหลังจากอ่านใบความรู้ให้นักเรียนอภิปรายและ บันทึกวา่ ขอ้ มูลที่ได้จากการอ่านใบความรู้มีอะไรท่ีเหมือนกับข้อมูล ทไ่ี ด้จากการสงั เกต และอะไรท่ีแตกตา่ งจากข้อมลู จากการสงั เกต 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายวิธีการบันทึกผลในแบบฝึกหัดหน้า 55 และ 56 และร่วมกันตรวจสอบอุปกรณ์ และให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มรับอุปกรณแ์ ละลงมอื ท้ากจิ กรรม 5. ครูให้นักเรียนน้าเสนอผลการท้ากิจกรรมโดยอาจสุ่มนักเรียนออกมา น้าเสนอ 2-3 กลมุ่ และบันทกึ ผลการทา้ กจิ กรรมบนกระดาน 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลของกิจกรรม โดยครูอาจใช้ คา้ ถามดงั นี้ 6.1 น้าแข็งขณะอยู่ในแก้วมีลักษณะเป็นอย่างไร (น้าแข็ง เป็นก้อน ใส เรียงซอ้ นกนั มชี อ่ งว่างระหว่างกอ้ น สัมผัสแลว้ รูส้ ึกเยน็ ) 6.2 น้าขณะอยู่ในแก้วมีลักษณะอย่างไร (น้าใสไม่มีสี ไม่เป็นก้อน และไมม่ ีชอ่ งว่าง หยิบไม่ได)้ 6.3 น้าแข็งขณะเทใส่แก้วมีลักษณะอย่างไร (น้าแข็งเป็นก้อน มี ชอ่ งว่างระหวา่ งกอ้ น ไหลไม่ได้ ขณะเทใสแ่ ก้ว นา้ แข็งจะหล่น ลงไปในแก้วทลี ะกอ้ น) 6.4 น้าขณะเทใส่แก้วมีลักษณะอย่างไร (น้าไม่เป็นก้อน ไหลได้ จะ ไหลไปในแก้วไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ งไม่ขาดสาย) 7. ครตู รวจสอบความเข้าใจการอ่านใบความรู้แตล่ ะย่อหนา้ โดยอาจใช้ คา้ ถามต่อไปน้ี 7.1 จากการอ่านใบความรู้ ข้อมูลเก่ียวกับน้าแข็งอะไรบ้างที่ เหมือนกับข้อมูลที่ได้จากการสังเกต (ส่ิงที่เหมือนกันจากการ อ่านใบความรู้และจากการสังเกตคือ น้าแข็งเป็นก้อน ใส หยิบหรือจบั ได้ สัมผัสจะรู้สกึ เย็น) 7.2 ข้อมูลเก่ียวกับน้าแข็งอะไรบ้างท่ีแตกต่างจากข้อมูลท่ีได้จาก การสังเกต (น้าแข็งจะเปล่ียนเป็นน้าได้ เม่ือวางไว้ เนื่องจาก ความรอ้ นรอบ ๆ นา้ แขง็ ) สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
117 ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 7.3 ข้อมูลเก่ียวกับน้าอะไรบ้างท่ีเหมือนกับข้อมูลท่ีได้จากการ สงั เกต (น้าไม่เปน็ กอ้ น ไหลไดห้ รือเคล่ือนท่ีไดอ้ ย่างต่อเน่อื ง) 7.4 ข้อมูลเกี่ยวกับน้าอะไรบ้างที่แตกต่างจากกับข้อมูลที่ได้จากการ สังเกต (น้าไหลจากที่สูงไปสู่ที่ต้่า และเคล่ือนที่ไปอยู่ในทุก ๆ บริเวณท่ีเปน็ ทว่ี า่ งซึ่งอยู่ในระดบั เดียวกนั หรอื ต่า้ กวา่ ) ครูอาจใช้ตารางบันทึกผลเพ่ือสรุปผลจากการสังเกตและจากการ อา่ นใบความรู้ ดงั น้ี สาร ลกั ษณะจากการสังเกตและจากการ การเตรยี มตัวล่วงหน้าส้าหรับครู อา่ นใบความรู้ เพื่อจัดการเรียนร้ใู นครง้ั ถดั ไป น้าแข็ง น้า จากการสงั เกต จากการอ่านใบความรู้ ในคาบถัดไป นักเรียนจะได้ท้า ไอนา้ กิจกรรมที่ 2.2 เร่ือง น้ามีสมบัติอย่างไร ครคู วรเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ดงั นี้ 8. ข้อมูลอะไรบ้างเก่ียวกับไอน้าท่ีได้จากการอ่านใบความรู้ (ไอน้ามี สถานะแก๊ส ไม่มีสี ไม่สามารถหยิบหรือจับได้ ไอน้าเปล่ียนเป็น 1. แกว้ พลาสติกใสรปู ร่างและขนาด ละอองนา้ ได้เมอื่ ไอน้าสัมผัสกบั อากาศทีเ่ ยน็ กวา่ แล้วเปล่ียนกลับมา เทา่ กัน เป็นน้าท้าให้มองเห็นได้) 2. ชอ้ น 9. จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้าง (น้าแข็งเป็นของแข็ง ลักษณะเป็น 3. น้าสี ก้อน หยิบหรือจับได้ ใส เม่ือเทลงภาชนะใบอ่ืน ๆ ก็จะยังเป็นก้อน 4. น้าตาล และเปล่ียนเป็นน้าเม่ือต้ังไว้ น้าเป็นของเหลว ลักษณะไม่เป็นก้อน 5. แป้งมนั ไหลได้จากทส่ี ูงไปสู่ท่ีต่้า เคลอื่ นท่อี ยู่ทุก ๆ บรเิ วณทเ่ี ป็นท่วี า่ งซ่ึงอยู่ 6. พรกิ ไทยป่น ระดับเดียวกัน หรือต่้ากว่า หยิบหรือจับไม่ได้ ไอน้าเป็นแก๊ส มอง 7. นา้ ไม่เห็น หยิบหรือจับไม่ได้ เป็นละอองน้าได้เม่ือสัมผัสกับอากาศท่ี 8. ปากกาเคมี เยน็ กว่า) 9. แบบจา้ ลองศึกษาสมบตั ิของ 10.ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือลงข้อสรุปร่วมกันว่า น้าแข็ง ของเหลว น้า และไอนา้ มสี ถานะแตกตา่ งกัน จึงมีลักษณะแตกตา่ งกนั (13) 10. บกี เกอรห์ รือถว้ ยตวง 11.นักเรียนตอบค้าถามใน ฉันรู้อะไรและ อยากรู้อีกว่า ลงใน แบบฝกึ หัดหนา้ 57 12. ครูน้าอภิปรายให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ในข้นั ตอนใดบา้ ง ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต 118 แนวคา้ ตอบในแบบฝกึ หดั สงั เกต อธิบายและเปรยี บเทียบลกั ษณะของน้าแขง็ น้า และไอนา้ เป็นก้อน ใส เรยี งซ้อนกนั มี เปน็ ก้อน มีช่องวา่ งระหวา่ ง ชอ่ งวา่ งระหวา่ งก้อน ตงั้ ไวจ้ ะ กอ้ น ไหลไมไ่ ด้ หล่นลงใน เปลย่ี นเป็นนา้ แก้วไดท้ ลี ะก้อน ใสไมม่ ีสี ไม่เปน็ ก้อนและไม่มี ไหลไดอ้ ย่างต่อเนือ่ งจากท่ี ชอ่ งวา่ ง หยิบไมไ่ ด้ สงู มาท่ตี ้า่ เป็นสายไม่แยก จากกัน ไม่มชี ่องวา่ ง สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
119 คูม่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กบั ชีวติ สิง่ ทเ่ี หมอื นกนั จากการอา่ นใบความรูแ้ ละจากการสงั เกตคอื นา้ แขง็ เป็นกอ้ น ใส จบั ได้ สัมผัสจะรู้สึกเย็น น้าไม่เปน็ กอ้ น ไหลได้ - สิ่งทีแ่ ตกต่างกนั จากการอา่ นใบความรู้และจากการสังเกตคอื นา้ แขง็ เปน็ ของแข็งหยบิ จับได้ เม่ือวางไว้ความร้อนจากสิ่งต่าง ๆ ท่ีอย่รู อบ ๆหรือส่ิงแวดลอ้ ม ท้าใหน้ า้ แข็งเปลี่ยนเปน็ นา้ ได้ - น้าเปน็ ของเหลว ไหลได้จากทีส่ งู ไปสู่ทต่ี ่า้ และเคลือ่ นทีไ่ ปอยู่ในทกุ ๆ บรเิ วณท่ีเปน็ ท่ีวา่ งซึ่ง อยู่ในระดบั เดียวกนั หรือต่้ากวา่ - จากการอา่ นใบความรู้กล่าวถงึ ไอน้า แต่จากการสงั เกตไมไ่ ด้กล่าวถึงเพราะสงั เกตไมเ่ ห็นแต่ใน ใบความรู้ใหข้ ้อมูลเกีย่ วกบั ไอนา้ วา่ ไอนา้ มสี ถานะแก๊ส ไมม่ ีสี ไมส่ ามารถหยิบหรอื จับได้ ไอนา้ เปลี่ยนเป็นละอองน้าได้เม่ือไอน้าสัมผัสอากาศทีเ่ ยน็ กว่าแลว้ เปล่ียนกลับมาเป็นน้า ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 120 เมื่อเทนา้ แขง็ และน้าลงในแก้วอกี ใบหน่ึง พบว่าน้าแขง็ ไหลไมไ่ ด้ และจะตกลงมาเป็นกอ้ น ส่วนน้าไหลได้อยา่ งตอ่ เนือ่ งจากทส่ี งู ลงสู่ที่ ต่้า นา้ แขง็ นา้ และไอน้ามีลกั ษณะ เหมือนกนั คอื ใส ไม่มสี ี มลี ักษณะที่แตกตา่ งกัน คอื มสี ถานะแตกตา่ งกนั เราหยบิ หรอื จบั นา้ แขง็ ได้ แต่หยิบนา้ และไอนา้ ไมไ่ ด้ เรามองเหน็ นา้ แข็งและน้า แตม่ องไม่เหน็ ไอน้า นา้ แข็งเปน็ ของแข็ง ลกั ษณะเปน็ กอ้ น ใส หยบิ หรือจับได้ เม่อื เทลงภาชนะใบอ่นื ๆ กจ็ ะยงั เป็นก้อน และเปลี่ยนเปน็ น้าเมอ่ื วางไว้ น้าเปน็ ของเหลว ลักษณะไมเ่ ปน็ กอ้ น ไหลจากที่สงู ไปสู่ทต่ี ่้า เคลอื่ นที่ ไปอยู่ในทกุ ๆ บรเิ วณที่เปน็ ท่ีวา่ งซง่ึ อยรู่ ะดับเดียวกันหรอื ต้่ากวา่ หยบิ หรือจับไม่ได้ ไอน้าเปน็ แก๊ส มองไม่เหน็ หยิบหรือจับไมไ่ ด้ เป็นละอองน้าท่ีมองเห็นไดเ้ มอื่ สัมผสั กับอากาศทีเ่ ย็นกวา่ นา้ แข็ง นา้ และไอน้ามีสถานะแตกต่างกนั จงึ มีลกั ษณะแตกตา่ งกัน ครกู ระต้นุ ใหน้ ักเรยี นฝึกต้ังคา้ ถามเกี่ยวกับเรื่องท่สี งสัยหรืออยากรู้เพ่ิมเติม หรอื สงิ่ ท่ียังไมเ่ ขา้ ใจจากการทา้ กิจกรรมในห้องเรียน สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
121 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรียนรขู้ องนกั เรียนท้าได้ ดงั น้ี 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชัน้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรียนรูจ้ ากคา้ ตอบของนกั เรียนระหว่างการจดั การเรียนร้แู ละแบบฝกึ หัด 3. ประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการท้ากิจกรรมของนักเรียน การประเมนิ จากการทา้ กจิ กรรมท่ี 2.1 น้าแขง็ น้า ไอน้า มลี กั ษณะอย่างไร ระดับคะแนน 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ สิง่ ทปี่ ระเมิน คะแนน 1. การสงั เกต 5. การหาความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสเปซกับสเปซ 8. การลงความเห็นจากข้อมูล 13. การตีความหมายข้อมลู และการลงข้อสรุป รวมคะแนน ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามระดบั ความสามารถของนักเรียน โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดังนี้ 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง ทกั ษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 1. การสังเกต ใช้ประสาทสัมผัสเก็บบรายละเอียด ใช้ประสาทสมั ผสั เกบ็ ไม่สามารถใชป้ ระสาทสัมผสั ของสิ่งท่ีเกิดขึ้นได้ด้วยตนเองโดย รายละเอยี ดของส่ิงทเ่ี กิดข้นึ รวมถึงเคร่ืองมืออยา่ งงา่ ยใน ไม่เพ่ิมความคิดเห็น สิ่งที่สังเกตได้ โดยต้องอาศยั การชแี้ นะของครู การเกบ็ ข้อมูล หรือมีการ ประกอบดว้ ย หรอื ผู้อื่น หรอื ใช้ประสาทสัมผสั เพิม่ เติมความคิดเห็น แมค้ รู - ลักษณะของน้าแข็งและน้า ไดด้ ้วยตัวเอง แตเ่ พมิ่ เตมิ ความ หรอื ผู้อ่นื ชว่ ยแนะน้าหรือ เมื่ออยู่ในแก้ว เช่น เมื่อใช้มือ คิดเหน็ ช้ีแนะ จับ บอกได้ว่า หยิบได้ หยิบ ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ 122 ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ ไมไ่ ด้ เห็นเปน็ ก้อนหรอื ไม่เป็น กอ้ น ใสหรือขุ่น - ลกั ษณะการเคล่ือนท่ีของน้าแข็ง และน้าเมื่อเทจากแกว้ ใบหน่ึงไป อีกใบหน่ึง เช่น การเคลื่อนที่ของ น้ าแข็งตกลงเป็ นก้อน ส่วนน้ า เคล่ือนที่ อย่างต่อเน่ื องหรื อไหล ไดจ้ ากท่ีสูงลงสู่ที่ต่า 5. การหา ระบุความสัมพนั ธร์ ะหว่างการ ระบุความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการ ไม่สามารถระบุความสมั พันธ์ ความสัมพันธ์ เคลือ่ นที่ของน้าแข็งและน้าจาก เคลื่อนที่ของน้าแข็งและน้าจาก ระหวา่ งการเคลื่อนท่ีของ ระหวา่ งสเปซ แกว้ ใบหน่ึงไปยังแกว้ อกี ใบหนงึ่ แกว้ ใบหนึ่งไปยังแกว้ อีกใบหนึ่ง นา้ แข็งและนา้ จากแก้วใบ กับสเปซ ได้ อยา่ งถูกต้องได้ด้วยตนเอง ได้อยา่ งถกู ต้องจากการช้ีแนะ หนึง่ ไปยงั แก้วอีกใบหนง่ึ ได้ ของครู อย่างถูกต้อง แม้ครูหรอื ผอู้ น่ื ช่วยแนะน้าหรอื ชีแ้ นะ 8. การลงความเหน็ เพิ่มเติมความคิดเห็นเก่ียวกับ เพมิ่ เติมความคิดเห็นเกย่ี วกับ ไมส่ ามารถแสดงความ จากข้อมลู ข้อมูลทีม่ อี ยอู่ ย่างถูกต้อง มีเหตุผล ขอ้ มลู ท่ีมีอยู่อยา่ งถูกต้อง คดิ เหน็ เกีย่ วกบั ขอ้ มลู ที่มีอยู่ จากความรู้หรือประสบการณ์เดิม บางสว่ น พยายามใหเ้ หตุผลจาก หรือเพมิ่ เติมความคดิ เหน็ ได้ ด้ วยตนเอง เช่ น น้ าแข็ ง ความรหู้ รอื ประสบการณ์เดิมได้ อยา่ งไม่มีเหตุผล แม้ครูหรอื เปลี่ยนเป็นน้าได้ เพราะความร้อน จากการชีแ้ นะของครหู รือผู้อื่น ผอู้ น่ื ช่วยแนะนา้ หรือชแี้ นะ จากสิง่ แวดล้อมรอบน้าแข็ง 13. การตีความหมาย ตีความหมายข้อมูลจากการ ครูหรอื ผูอ้ ืน่ ต้องช่วยแนะน้า ไม่สามารถตีความหมายการ ข้อมูลและการลง สังเกตน้าแข็งและน้า รวมถึง หรอื ชแ้ี นะจึงจะสามารถ จากการสงั เกตน้าแข็งและน้า ข้อสรปุ ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ จ า ก ก า ร อ่ า น ใ บ ตีความหมายจากการสังเกต รวมถงึ ข้อมลู ที่ไดจ้ ากการอ่าน ความรู้ และลงข้อสรุปได้ด้วย น้าแข็งและน้า รวมถึงขอ้ มลู ท่ีได้ ใบความรู้ และลงขอ้ สรุปได้ ตนเองว่านา้ แข็ง นา้ และไอนา้ มี จากการอ่านใบความรู้ และลง ด้วยตนเองว่านา้ แข็ง น้า และ สถานะแตกต่างกันจึงมีลักษณะ ขอ้ สรุปได้ด้วยตนเองว่าน้าแข็ง ไอน้ามีสถานะแตกต่างกันจึง แตกตา่ งกนั น้า และไอน้ามสี ถานะแตกต่าง มีลกั ษณะแตกตา่ งกัน แม้ครู กันจึงมีลักษณะแตกต่างกนั หรอื ผู้อ่ืนชว่ ยแนะน้าหรือ ชแ้ี นะ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
123 คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต กิจกรรมที่ 2.2 นา้ มีสมบัตอิ ยา่ งไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้อธิบายว่าน้ามีน้าหนักเปลี่ยนแปลงรูปร่างตามภาชนะที่บรรจุ ละลายสารบางอย่างได้และ ผวิ หนา้ ของนา้ รักษาระดบั ผ่านการสงั เกต เวลา 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ สงั เกต เปรยี บเทียบ และอธบิ ายสมบตั ิบางประการของน้า วัสดุ อปุ กรณส์ ้าหรับท้ากจิ กรรม สง่ิ ท่ีครูต้องเตรียม/กลุ่ม 1. แกว้ พลาสติก 4 ใบ 2. ขวดน้าใส 1 ใบ 3. ชอ้ น 4 คนั 4. น้าสี 1 ถัง 5. นา้ ตาล (สาร ก) 1 ชอ้ นชา 6. แป้งมัน (สาร ข) 1 ชอ้ นชา 7. เกลือ (สาร ค) 1 ชอ้ นชา ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 8. พริกไทยปน่ (สาร ง) 1 ช้อนชา การสงั เกต การวัด 9. นา้ 1 แกว้ การหาความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสเปซกบั สเปซ การพยากรณห์ รือการคาดคะเน 10. ปากกาเคมี 1 ดา้ ม การลงความเห็นจากข้อมลู การตคี วามหมายข้อมลู และการลงข้อสรุป 11. กระดาษสีขาว หรอื ถาดรองสขี าว 1 แผน่ /ถาด 12. แบบจ้าลองศึกษาสมบตั ขิ องของเหลว 1 อัน 13. บีกเกอรห์ รอื ถว้ ยตวง 1 อนั สื่อการเรียนรู้ หนา้ 41-45 หน้า 58-66 1. หนงั สือเรียน 2. แบบฝกึ หัด ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กบั ชีวติ 124 แนวการจดั การเรยี นรู้ 1. ครูทบทวนความรู้ในกิจกรรมที่ 2.1 โดยอาจใช้ค้าถามหรือส่ือว่า น้าแข็ง น้า และไอน้า เป็นน้าท่ีอยู่ในสถานะต่างกันจึงมีลักษณะ แตกต่างกัน 2. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 41 อ่านช่ือกิจกรรม ครูถาม นักเรียนว่า กิจกรรมนี้จะได้เรียนเก่ียวกับอะไร (เรียนเก่ียวกับ สมบัติของน้า) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า เราได้เรียนลักษณะบางอย่าง ของน้าแลว้ เช่น นา้ ไหลได้จากทสี่ ูงลงสู่ที่ต้่า เปน็ ของเหลว ใสไม่มี สี นอกจากน้ี น้ายังมีลักษณะบางอย่างท่ีเฉพาะตัว ซึ่งเรียกว่า ลักษณะเฉพาะตัวว่าสมบัติ กิจกรรมนี้เราจะได้เรียนสมบัติบาง ประการของนา้ 3. ครูให้นักเรียนอ่าน ท้าเป็นคิดเป็น จากนั้นครูถามค้าถามเพื่อ ตรวจสอบความเขา้ ใจ ดังนี้ 3.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (เร่ืองสมบัติบาง ประการของน้า) 3.2 นักเรียนจะไดเ้ รยี นด้วยวธิ ีใด (การสังเกต) 3.3 หลังจากเรียนแล้วนักเรียนจะท้าอะไรได้ (สามารถอธิบาย สมบัตบิ างประการของนา้ ) 4. นักเรียนอ่าน ท้าอย่างไร ตอนที่ 1 โดยใช้วิธีการอ่านตามความ เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากน้ันครูตรวจสอบ ความเข้าใจในการอ่านจับใจความของนักเรียนโดยอาจใช้ค้าถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ 4.1 จากวิธีการท้ากิจกรรม นักเรียนต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง (แก้วพลาสตกิ 2 ใบ และนา้ ส)ี 4.2 จากข้อที่ 1 นักเรียนต้องท้าอย่างไร (วางแก้วพลาสตกิ บนมอื ข้างละ 1 ใบเปรียบเทียบความรู้สึกของมือสองข้าง บันทึก ผล) ครแู นะน้าใหน้ ักเรียนบนั ทึกผลการสังเกตในแบบฝกึ หัด 4.3 ข้อที่ 2 นักเรียนต้องท้าอย่างไร (เติมน้าสีลงในแก้วใบหนึ่ง ประมาณคร่ึงแก้วเปรียบเทียบความรู้สึกระหว่างมือ 2 ข้าง บนั ทกึ ผล) 4.4 ข้อที่ 3 นักเรียนต้องท้าอย่างไร (เติมน้าสีลงในแก้วใบเดิมจน เกือบเต็ม เปรียบเทียบความรู้สึกระหว่างมือท้ัง 2 ข้างอีกครั้ง บนั ทกึ ผล) สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
125 ค่มู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 4.5 จากวิธีท้ากิจกรรม นักเรียนคิดว่า จุดประสงค์ของกิจกรรม ตอนที่ 1 คืออะไร (เพอื่ สังเกตและอธิบายน้าหนักของน้า) 4.6 นักเรียนคิดว่า เพราะเหตุใดจึงต้องใช้น้าสีแทนน้า (การใช้น้า สเี พราะ จะสงั เกตผลได้ง่ายกวา่ การใชน้ ้าธรรมดาซึง่ ไมม่ สี )ี 5. ครูตรวจสอบจนแน่ใจว่า นักเรียนเข้าใจวิธีการท้ากิจกรรมและ วิธีการบันทึกผลในแบบฝึกหัด ตอนท่ี 1 ให้นักเรียนรับวัสดุ อปุ กรณ์และลงมือทา้ กิจกรรม (1) (2) (7) 6. ครูให้นักเรียนอ่าน ท้าอย่างไร ตอนที่ 2 โดยใช้วิธีการอ่านท่ี เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบ ความเขา้ ใจด้านการอ่านจบั ใจความของนักเรียนโดยอาจใช้ค้าถาม ดงั ต่อไปน้ี 6.1 ข้อที่ 1 นักเรียนต้องท้าอย่างไรบ้าง (วางแบบจ้าลองศึกษา สมบัตขิ องของเหลวบนกระดาษสีขาว) 6.2 วัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในตอนที่ 2 มีอะไรบ้าง (แบบจ้าลองศึกษา สมบัตขิ องของเหลว ชอ้ น กระดาษสขี าว น้าส)ี ครูแจกแบบจ้าลองศึกษาสมบัติของของเหลว ให้นักเรียน สังเกตแบบจ้าลองและบอกลักษณะของแบบจ้าลองเพื่อจะ เช่ือมโยงระหว่างแบบจ้าลองกับภาชนะท่ีเป็นส่วนประกอบ และพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับแบบจ้าลองว่าแบบจ้าลองมี ภาชนะ 3 ใบรูปร่างตา่ งกนั ทมี่ ที อ่ เชือ่ มต่อถึงกนั ทงั้ 3 ใบ 6.3 ข้อท่ี 2 นักเรียนต้องท้าอย่างไร (ตักน้าสีใส่ในภาชนะทีละ ช้อน สังเกตการครอบครองพื้นที่ของน้าเม่ือน้าสีเต็มก้น ภาชนะ) ครูแนะนา้ ให้นักเรียนบันทึกผลในแบบฝกึ หดั 6.4 ข้อท่ี 2 นักเรียนต้องท้าอย่างไรอีก (รินน้าสีลงในภาชนะอีก จนเกือบเต็มภาชนะท้ัง 3 สังเกตการครอบครองพื้นที่ของน้า สีอีกครง้ั หน่งึ บนั ทึกผล) ครูชกั ชวนนกั เรยี นอภปิ รายเก่ียวกับ ค้าว่า ครอบครองพ้ืนท่ี ครูอาจจะอธิบายเพ่ิมเติมว่า การ ครอบครองพื้นที่ หมายถึง บริเวณที่สิ่งน้ันๆ อยู่ เช่น เมื่อริน น้าสีลงไปในภาชนะ น้าจะไหลไปอยู่บริเวณต่างๆ อย่างไร บรเิ วณทนี่ า้ ไหลไปอยู่ก็คือบรเิ วณทนี่ า้ ครองครองอยู่ 6.5 ข้อที่ 3 นักเรียนต้องทา้ อย่างไร (รินนา้ สีลงในภาชนะเร่อื ย ๆ จน เต็มภาชนะทัง้ สามแตไ่ มล่ ้น สังเกตรปู ร่างของน้าสี บนั ทกึ ผล) ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 126 6.6 จากวิธีท้ากิจกรรม นักเรียนคิดว่า จุดประสงค์ของตอนท่ี 2 คืออะไร (สังเกตและอธิบายการครอบครองพ้ืนท่ีและรูปร่าง ของนา้ ) 7. ครูทบทวนวธิ ีท้ากจิ กรรมอีกคร้ังโดยสุ่มเลือกนักเรียนให้เล่าวิธีการ ทา้ กิจกรรม โดยใชค้ า้ พดู ของตนเอง ครอู าจเลอื กนกั เรียน 1-2 คน ต่อหนึ่งข้อ เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจการท้า กิจกรรมและการบันทึกผลในแบบฝึกหัดแล้วให้นักเรียนท้า กจิ กรรม ตอนที่ 2 (1) (5) 8. ครใู หน้ ักเรยี นนา้ เสนอผลการท้ากิจกรรม ตอนท่ี 1 และ ตอนที่ 2 9. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลของการท้ากิจกรรม โดยครู อาจใชค้ ้าถาม ดงั น้ี ตอนท่ี 1 9.1 เม่ือวางแก้วพลาสติกบนมือข้างละ 1 ใบ ความรู้สึกระหว่าง มือท้ัง 2 ข้างเป็นอย่างไร (1) (ความรู้สึกของมือทั้ง 2 ข้างที่ ถือแกว้ พลาสติก รูส้ ึกหนักเท่า ๆ กัน) 9.2 เม่ือเติมน้าสีลงในแก้วใบหน่ึงประมาณคร่ึงแก้ว ความรู้สึก เป็นอย่างไร (มือที่ถือแก้วที่บรรจุนา้ สีไว้จะรู้สกึ หนักกวา่ มือท่ี ถือแก้วเปล่า) 9.3 เม่อื เตมิ นา้ สลี งในแก้วใบเดมิ จนเกอื บเต็มแก้ว ความรสู้ กึ เป็น อยา่ งไร (มอื ทีถ่ อื แก้วทบี่ รรจุน้าสไี ว้ จะรสู้ ึกหนกั มากขึ้น) 9.4 เพราะเหตุใด แก้วท่ีมีน้าสีบรรจุอยู่จึงหนักกว่าแก้วเปล่า (เพราะน้าสมี ีนา้ หนัก) 9.5 กิจกรรมตอนที่ 1 นี้ ค้นพบอะไรเก่ียวกับสมบัติของน้า (8) (น้าสมี นี ้าหนกั ) ตอนท่ี 2 9.6 เมื่อตักน้าสีลงในภาชนะทีละช้อน สังเกตเห็นอะไร (เม่ือตัก น้าสีลงในภาชนะทีละชอ้ น น้าสีจะไหลจากท่ีสูงลงสู่ท่ีต้่าและ กระจายจนเต็มก้นภาชนะก่อน จากน้ันระดับน้าสีจะค่อย ๆ สงู ขนึ้ ) 9.7 เมื่อรินน้าสีไปเร่ือย ๆ จนเกือบเต็มภาชนะ การครอบครอง พื้นท่ขี องน้าสเี ป็นอยา่ งไร (น้าสคี รอบครองพ้นื ทีใ่ นภาชนะท้ัง 3 ใบสูงขึน้ เร่ือย ๆ พร้อมกัน) สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
127 ค่มู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 9.8 เมื่อเติมน้าสีลงในภาชนะจนเต็ม รูปร่างของน้าสีแต่ละ ภาชนะเป็นอย่างไร (รูปร่างของน้าสีแต่ละภาชนะจะเหมือน รูปร่างของภาชนะ) 9.9 กิจกรรมตอนท่ี 2 ค้นพบอะไรบ้าง (น้าสีจะเติมเต็มก้น ภาชนะแล้วระดับน้าสีค่อยเพ่ิมข้ึนและครอบครองพ้ืนท่ีใน ภาชนะทั้งหมด และรูปร่างของน้าสีจะเหมือนกับรูปร่างของ ภาชนะแตล่ ะใบ) 10.ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสมบัติบาง ประการของน้าในตอนที่ 1 และ ตอนท่ี 2 ซงึ่ สังเกตสมบตั ิของน้า สีว่าน้ามีน้าหนัก น้าจะครอบครองพื้นที่จากก้นภาชนะก่อนและ เพิ่มข้ึนเรื่อย ๆ จนเต็มภาชนะ รูปร่างของน้าจะเหมือนกับรูปรา่ ง ของภาชนะแต่ละใบ 11.ครใู หน้ ักเรียนตอบค้าถาม ฉันรู้อะไร ตอนท่ี 1 และ ตอนที่ 2 12.ครูทบทวนความรู้จากกิจกรรมตอนท่ี 1 และตอนที่ 2 ว่า น้ามี น้าหนัก มีรูปร่างเหมือนภาชนะที่บรรจุและชักชวนให้นักเรียนท้า กิจกรรม ตอนท่ี 3 และตอนท่ี 4 เกย่ี วกับสมบัติบางประการของน้า 13.นักเรียนอ่าน ท้าอย่างไร ตอนที่ 3 ในหนังสือเรียนหน้า 43 โดย ใช้วิธีการอ่านที่เหมาะสม จากน้ันครูตรวจสอบความสามารถใน การอ่านจบั ใจความของนักเรยี นโดยอาจใช้ค้าถามดังตอ่ ไปนี้ 13.1 กิจกรรมตอนท่ี 3 นักเรียนต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง (น้าสี แบบจา้ ลองศกึ ษาสมบัติของน้า) 13.2 เราต้องรินน้าสีลงในภาชนะประมาณเท่าไร (ต้องรินน้าสี ใส่ในภาชนะของแบบจ้าลองจนมีความสูงประมาณ ครึ่งหนึง่ ของภาชนะ) 13.3 เมื่อรินน้าสีลงในภาชนะแล้วท้าอย่างไร (สังเกตระดับ ผิวหน้าของน้าสีโดยเทียบกับขอบโต๊ะท่ีต้ังอยู่ในแนวราบ บันทึกผล) ครูชักชวนนักเรียนอภิปรายว่า ค้าว่าเทียบกับ ขอบโต๊ะหมายความว่า น้าแบบจ้าลองไปเทียบกับขอบ โต๊ะโดยให้ระดับผิวหน้าของน้าสีในแต่ละภาชนะอยู่ใน แนวเดยี วกันกบั ขอบโต๊ะ 13.4 หลังจากสังเกตระดับผิวหน้าของน้าสีโดยเทียบกับขอบ โต๊ะแล้ว ท้าอย่างไร (คาดคะเนว่าถ้าเอียงภาชนะด้านใด ดา้ นหน่งึ ระดับผิวหน้าของน้าสีจะเป็นอย่างไร บนั ทึกการ ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กับชีวิต 128 คาดคะเนและท้ากิจกรรมเพื่อตรวจสอบการคาดคะเน บนั ทกึ ผล) 13.5 จากวิธีท้ากิจกรรม นักเรียนคิดว่า จุดประสงค์ของ กิจกรรมตอนที่ 3 คืออะไร (สังเกตและอธิบายระดับ ผิวหน้าของนา้ ) 14. ครูตรวจสอบจนแน่ใจว่า นักเรียนเข้าใจวิธีการท้ากิจกรรมและ วิธีการ บันทึกผลในแบบฝึกหัด ตอนที่ 3 แล้วให้นักเรยี นรบั วสั ดุ อปุ กรณแ์ ละลงมอื ทา้ กิจกรรม (1) (5) 15. ครูให้นักเรียนอ่าน ท้าอย่างไร ตอนที่ 4 ข้อที่ 1 โดยใช้วิธีการ อ่านท่ีเหมาะสม จากนั้นครตู รวจสอบความสามารถดา้ นการอ่าน จบั ใจความของนักเรียนโดยอาจใช้คา้ ถามดงั ตอ่ ไปนี้ 15.1 ท้าอย่างไร ตอนท่ี 4 ข้อท่ี 1 นักเรียนต้องท้าอย่างไร (สังเกตลักษณะของสาร ก ข ค และ ง บันทึกผล แล้ว คาดคะเนว่าเมื่อเติมน้าลงไปในสารแตล่ ะชนดิ จะเกิดอะไร ขนึ้ บนั ทึกผล) 16. ครูแจกสาร ก ข ค และ ง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มโดยไม่ต้องบอก ว่าสารแต่ละชนิดคืออะไร ครูควรเน้นย้า ไม่ให้สัมผัส สูดดมหรือ ชิมสารท่ีใช้ในห้องทดลองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากครูเพราะอาจ เกดิ อนั ตรายได้ จากนั้นให้นกั เรยี นสังเกต คาดคะเน และบนั ทึก การคาดคะเนในแบบฝึกหัด หน้า 61 17. เม่ือนักเรียนบันทึกผลในตารางเสร็จ ครูให้นักเรียนอ่าน ท้า อย่างไร ข้อท่ี 2 ถึง ข้อท่ี 4 โดยใช้วิธีการอ่านที่เหมาะสม จากนั้นครูตรวจสอบความสามารถด้านการอ่านจับใจความของ นักเรียนโดยอาจใชค้ ้าถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ 17.1 นกั เรียนต้องใชส้ ารทั้ง 4 ชนิดอย่างละกช่ี ้อน (1 ช้อน) 17.2 นักเรียนจะมีวิธีตักสารอย่างไร (ตักสารให้เต็มช้อนแล้ว ปาดสารในชอ้ นใหม้ รี ะดบั เสมอกบั ปากช้อน) 17.3 นักเรียนจะต้องเติมน้าลงในแก้วแต่ละใบปริมาณเท่าใด (เติมน้าปรมิ าณเทา่ กันโดยมคี วามสงู ประมาณครง่ึ แกว้ ) 17.4 เมื่อเติมสารและน้าลงไปในแก้วท้าอย่างไรต่อไป (ใช้ช้อน คนสารด้วยวิธเี ดียวกัน แล้วสงั เกตและบนั ทึกผล) สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
129 คูม่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวิต 17.5 เวลาที่ใช้และลักษณะในการคนสารในแก้วแต่ละใบเป็น อย่างไร (เวลาที่ใช้ในการคนสารเท่ากันและลักษณะการ คนสารเหมือนกัน) 17.6 จากวิธีท้ากิจกรรมตอนที่ 4 ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไร เพิ่มเติมอีกบ้าง (น้า ช้อนคนสาร แกว้ พลาสตกิ 4 ใบ) 17.7 จากวิธีท้ากิจกรรม นักเรียนคิดว่าวัตถุประสงค์ของ กิจกรรมตอนท่ี 4 คืออะไร (สังเกตและอธิบายการ เปลี่ยนแปลงของสารแต่ละชนดิ เมอ่ื เติมนา้ ) 18. ครูตรวจสอบจนแน่ใจว่า นักเรียนเข้าใจวิธีการท้ากิจกรรมและ วิธีการบันทึกผลในแบบฝกึ หัด ตอนท่ี 4 แล้ว ให้นักเรียนรบั วัสดุ อุปกรณท์ ี่เหลอื และลงมอื ท้ากจิ กรรม (1) (5) (7) 19. ครูใหน้ ักเรยี น น้าเสนอผลการท้ากจิ กรรม ตอนที่ 3 และ ตอนท่ี 4 และบันทกึ ผลบนกระดาน 20. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการท้ากิจกรรมโดยใช้ค้าถาม ดงั น้ี ตอนท่ี 3 20.1 เมื่อตั้งภาชนะในแนวราบ ระดับผิวหน้าของน้าสีใน ภาชนะเป็นอย่างไร (ระดับผิวหน้าของน้าสีในภาชนะจะ อยู่ในแนวราบ) 20.2 นักเรียนคาดคะเนระดับผิวหน้าของน้าสีเมื่อเอียงภาชนะ ว่าอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ระดับผวิ หนา้ ของน้าสจี ะเอยี งตามภาชนะไม่อยูแ่ นวราบ) 20.3 ผลการสังเกตระดับผิวหนา้ ของน้าสี เม่ือเอียงภาชนะเป็น อย่างไร รไู้ ด้อยา่ งไร (ระดบั ผิวหนา้ ของนา้ สีจะเรยี บอยู่ใน แนวราบ เพราะเมื่อเทียบกับขอบโต๊ะ ระดับผิวหน้าของ น้าสีจะอยู่ในแนวเดียวกับขอบโต๊ะหรืออยู่ในแนวราบ ขนานกับพนื้ ) 20.4 จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้าง (น้ารักษาระดับให้อยู่ใน แนวราบเสมอ) 20.5 สิ่งท่ีค้นพบเหมือนหรือแตกต่างจากท่ีคาดคะเน อย่างไร (ค้าตอบข้ึนอยู่กับการคาดคะเนของนักเรียน ซ่ึงอาจ เหมือนหรือต่างกันกับส่ิงที่ค้นพบ เช่น แตกต่างจากที่ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต 130 คาดคะเน เพราะระดับผวิ หน้าของน้าจะรักษาระดบั อยู่ใน แนวราบเสมอ) ตอนท่ี 4 20.6 ลกั ษณะของสารแต่ละชนดิ เป็นอยา่ งไร (สาร ก เปน็ เมด็ สี ขาว ใส สาร ข เป็นผงสีขาว สาร ค เปน็ เม็ดสขี าว สาร ง เปน็ ผงสนี า้ ตาลปนดา้ ) (1) 20.7 ถา้ เติมนา้ ลงไปในสารแต่ละชนดิ แล้วคน ผลการคาดคะเน เป็นอยา่ งไร (ผลการคาดคะเนขน้ึ อยู่กบั นกั เรยี น) 20.8 ผลการสังเกต ปริมาณสารแต่ละชนิดเม่ือเติมน้าเป็น อยา่ งไร (เมอ่ื เติมน้าลงไป สาร ก และ ค มจี า้ นวนน้อยลง เรื่อย ๆ จนมองไม่เห็น ส่วนสาร ข และ ง ยังปรากฏ เหลอื อยู่) (1) 20.9 การที่ สาร ก และ ค เม่ืออยู่ในน้ามีปริมาณน้อยลงเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็น เรียกการเปล่ียนแปลงนี้ว่าอะไร (เรยี กว่า ละลายในน้า) (8) ถา้ นักเรียนไมส่ ามารถบอกได้ ครูให้ความรวู้ ่า สาร ก และ ค เมื่อ อยู่ในน้ามีจ้านวนน้อยลงเร่ือย ๆ จนมองไม่เห็นเรียกว่า สาร ก และ ค ละลายในนา้ การที่สาร ข และ ง ยังคงเหลืออยู่ เรียกว่าอะไร (เรียกส่วนท่ี เหลืออยู่ว่า ไม่ละลายในน้า) ถ้านักเรียนไม่สามารถบอก ได้ ครูให้ความรู้ว่า สาร ข และ ง เมื่ออยู่ในน้า ยังคง เหลอื อยู่ เรยี กวา่ สาร ข และ ง ไมล่ ะลายในน้า 20.10 กิจกรรมน้ีค้นพบอะไรบ้าง (น้าละลายสาร ก และ ค ได้ แตไ่ ม่ละลายสาร ข และ ง) 21. จากกจิ กรรมตอนที่ 3 และ 4 น้ามีสมบตั ิอะไรบ้าง (13) (ผิวหน้า ของน้ารักษาระดับในแนวราบเสมอและน้าละลายสารบางอย่าง ได)้ (13) 22. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสมบัติบาง ประการของน้า ว่าน้ามีน้าหนัก รูปร่างของน้าจะเหมือนกับ รูปรา่ งของภาชนะ นา้ รักษาระดับและน้าละลายสารบางอย่างได้ (13) 23. ครใู ห้นักเรยี นตอบค้าถาม ฉนั รู้อะไร ตอนท่ี 3 และตอนท่ี 4 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
131 คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 24. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า จากการท้ากิจกรรม มีอะไร อีกบ้างที่อยากจะรู้เก่ียวกับสมบัติของน้า จากนั้นครูให้นักเรียน เขียนสิ่งท่ีอยากรู้ลงไปในอยากรู้อีกว่า ท่ีอยู่ในแบบฝึกหัด และ น้าเสนอคนละ 1 ค้าถาม ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 นา้ อากาศ กับชีวิต 132 แนวคา้ ตอบในแบบฝึกหัด สังเกตและอธบิ ายเกี่ยวกบั น้าหนกั ของนา้ มอื ทง้ั 2 ข้างซงึ่ ถือแกว้ เปล่ารูส้ ึกหนกั เท่ากัน มือทถ่ี ือแก้วทบ่ี รรจนุ า้ สีจะร้สู ึกหนักกว่ามอื ท่ีถือแกว้ เปล่า มือทีถ่ ือแก้วท่ีเตมิ น้าสจี ะรูส้ กึ หนกั มากขน้ึ ยง่ิ เติมนา้ สีมากขึ้นก็ยง่ิ รสู้ ึก หนักมากขึ้น สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
133 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ สังเกตและอธบิ ายการครอบครองพ้ืนทแี่ ละรปู รา่ งของน้า น้าสีจะค่อยๆ แผ่กระจายไปในแนวราบจนเตม็ ก้นภาชนะแล้วคอ่ ยเพ่ิม ระดบั สงู ข้นึ ระดบั น้าสีในภาชนะท้ัง 3 ใบจะค่อย ๆ สงู ขึ้นเทา่ กัน ผวิ หน้าจะเรียบใน แนวราบ รูปรา่ งของน้าสีเหมือนกบั รปู ร่างของภาชนะ รปู รา่ งของนา้ สีเหมอื นกับ รปู รา่ งของภาชนะท่บี รรจุ สังเกตและอธิบายระดับผวิ หนา้ ของนา้ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 134 ระดับนา้ สใี นภาชนะแต่ละใบ อยู่ในระดบั เดยี วกันกบั ใน แนวราบ ค้าตอบขน้ึ อยู่กับการคาดคะเน ของนักเรียน เชน่ ระดบั ผวิ หนา้ ของน้าจะเอียงตาม ภาชนะ คา้ ตอบการระบรุ ะดับน้าสขี ึ้นอยกู่ ับการคาดคะเนของนักเรียน ระดับผวิ หนา้ ของน้าสใี น ภาชนะแตล่ ะใบอยู่ในแนวราบ ระดับเดยี วกันทกุ ภาชนะ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
135 คูม่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ สงั เกตและอธิบายการละลายสารของนา้ เม็ดสีขาว ใส คา้ ตอบขนึ้ อยู่กับการ สาร ก มขี นาดเล็กลง ผงสขี าว คาดคะเนของนักเรยี น และมีปริมาณนอ้ ยลง จนหายไปในนา้ คา้ ตอบขนึ้ อยู่กับการ สาร ข กระจายตัวอยู่ คาดคะเนของนักเรยี น ในนา้ เมด็ สีขาว ค้าตอบข้นึ อยู่กับการ สาร ค มีขนาดเล็กลง และ คาดคะเนของนกั เรยี น มีปรมิ าณนอ้ ยลงเร่ือย ๆ จนในทีส่ ดุ หายไป ผงสนี ้าตาลปนดา้ คา้ ตอบขึน้ อยู่กบั การ สาร ง บางส่วนลอยอยู่ คาดคะเนของนกั เรยี น ผวิ น้า บางส่วนจมในนา้ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กบั ชีวติ 136 เพื่อชว่ ยในการสังเกต เพราะปกติน้าจะใส ไมม่ สี ี เม่ืออยู่ในภาชนะจะ มองเห็นยาก การเตมิ สที า้ ใหเ้ ราสังเกตเหน็ ไดช้ ัดเจนขึน้ มือที่ถือแกว้ ทเี่ ตมิ น้าสีจะรู้สึกหนักกว่าแก้วทไ่ี มม่ นี า้ สี รู้สึกหนักมากขึน้ เพราะในแกว้ มีปริมาณน้าสีมากขึ้น เมอื่ เทนา้ สีใส่แกว้ แลว้ น้าแก้ววางบนมือจะร้สู ึกหนกั และจะรสู้ ึกหนัก มากขึน้ เรอ่ื ย ๆ เมื่อปริมาณน้าสีเพิ่มขึ้น สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
137 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต เม่อื ตกั น้าสีลงในภาชนะทลี ะชอ้ น น้าสจี ะไหลจากที่สงู ลงส่ทู ตี่ ้่าและแผ่ กระจายไปจนเต็มก้นภาชนะกอ่ น จากนน้ั ระดบั นา้ ในแตล่ ะภาชนะจะค่อย ๆ สงู ขน้ึ เม่อื เติมน้าสีลงในภาชนะอกี น้าสจี ะครอบครองพ้ืนท่ีในบรเิ วณทวี่ ่างทุก แหง่ ในภาชนะ เมอื่ เตมิ น้าสีเต็มภาชนะแตล่ ะใบ น้าสใี นแต่ละภาชนะมีรปู ร่างไม่เหมอื นกนั โดยน้าสจี ะมรี ปู ร่างตามภาชนะทบ่ี รรจุ เม่อื ตกั น้าสีทลี ะชอ้ นใส่ในภาชนะของแบบจา้ ลอง น้าสีจะไหลไปยงั บรเิ วณทวี่ า่ งจนเต็มก้นภาชนะ ระดับน้าสใี นแตล่ ะภาชนะจะสงู ขึน้ เร่อื ย ๆ เม่อื เติมน้าสีลงไปเรอื่ ย ๆ สงั เกตเห็นนา้ สีเติมเตม็ ทกุ ภาชนะ และนา้ สีจะมี รูปรา่ งเหมอื นภาชนะทีบ่ รรจุแต่ละใบ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต 138 ระดับน้าสใี นแตล่ ะภาชนะทม่ี ีท่อต่อเช่ือมถึงกัน จะสูงเทา่ กัน โดยผวิ หน้าจะอยใู่ นแนวราบ เม่อื น้าไปเทียบกับขอบโตะ๊ ซ่ึงอยูใ่ นแนวราบเช่นกัน ระดับน้าสจี ะอย่ใู นแนวเดียวกนั เดียวกับขอบโตะ๊ เมอื่ เอียงแบบจ้าลองดา้ นหน่ึงให้สูงกวา่ อกี ด้านหนึ่ง ระดับผวิ หน้าของน้าสีในแต่ละภาชนะ จะอยู่ในแนวราบและสูงเทา่ กัน ซึ่ง (เหมือนหรอื ไมเ่ หมือน) กบั ที่คาดคะเนไว้ เมอ่ื น้าสีอยใู่ นภาชนะทีม่ ีทอ่ ตอ่ เชอ่ื มถงึ กัน ผิวหนา้ ของน้าสจี ะอยใู่ น แนวราบเสมอ เมือ่ บรรจุน้าสใี นภาชนะของแบบจ้าลองท่ีวางอยู่ในแนวราบ ระดับน้าสีในแต่ ละภาชนะจะเทา่ กนั แต่เมื่อเอียงภาชนะระดับนา้ สีในแต่ละภาชนะกจ็ ะอยู่ แนวราบและมผี ิวหนา้ เรียบ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
139 คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ ปรมิ าณของสาร ก ข ค และ ง จ้านวนคร้งั และความเรว็ ในการ คน ปรมิ าณของน้าในแกว้ แตล่ ะใบ สาร ก และ ค ค่อย ๆ หายไปในน้ารวมเปน็ เนอ้ื เดยี วกบั น้า แตย่ ัง มองเห็น สาร ข และ ง ในน้า ส่ิงท่ีเกดิ ขนึ้ (เหมือนหรือไมเ่ หมอื น) กับทคี่ าดคะเนข้นึ อยกู่ บั ผลการท้ากิจกรรม ของแตล่ ะกลมุ่ เชน่ เหมือนกันโดย สาร ก และ ค หายไปในนา้ แต่สาร ข และ ง ยงั มองเห็นอยู่ในนา้ สาร ก และ ค ละลายในนา้ ได้ สว่ นสาร ข และ ง ไม่ละลายในน้า ร้ไู ดจ้ าก สาร ก และ ค ค่อย ๆ หายไปในนา้ สว่ นสาร ข และ ง ยงั มองเห็นอยใู่ นนา้ น้าละลายสาร ก และ ค แตไ่ ม่ละลาย สาร ข และ ง ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวติ 140 นา้ มนี ้าหนัก น้ารักษาระดับใหอ้ ยใู่ นแนวราบและมีผิวหนา้ เรียบ นา้ มรี ูปรา่ งไมค่ งท่ีจะเปลี่ยนแปลงตามรูปร่างของภาชนะท่บี รรจุ และ ละลายสารบางชนิดได้ ครูกระต้นุ ให้นักเรียนฝึกต้งั คา้ ถามเก่ียวกับเร่ืองที่สงสัยหรืออยากรเู้ พิม่ เตมิ หรือส่ิงทีย่ ังไม่เข้าใจจากการทา้ กิจกรรมในห้องเรียน สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
141 คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรขู้ องนกั เรยี นท้าได้ ดังน้ี 1. ประเมนิ ความร้เู ดิมจากการอภิปรายในชน้ั เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นร้จู ากคา้ ตอบของนักเรยี นระหวา่ งการจดั การเรียนร้แู ละแบบฝึกหัด 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์จากการทา้ กิจกรรมของนักเรียน การประเมนิ จากการทา้ กิจกรรมท่ี 2.2 น้ามสี มบตั ิอยา่ งไร ระดับคะแนน 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ สงิ่ ทป่ี ระเมิน คะแนน 1. การสงั เกต 2. การวัด 5. การหาความสัมพันธร์ ะหว่างสเปซกับสเปซ 7. การพยากรณ์หรือการคาดคะเน 8. การลงความเห็นจากขอ้ มูล 13. การตคี วามหมายข้อมลู และการลงขอ้ สรุป รวมคะแนน ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามระดับความสามารถของนักเรียน โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดังน้ี 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ ทักษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 1. การสังเกต ใช้ประสาทสัมผัสเก็บรายละเอียด ใชป้ ระสาทสมั ผัสเก็บ ไม่สามารถใช้ประสาทสัมผัส ของสง่ิ ท่ีเกิดขน้ึ ได้ด้วยตนเองโดย รายละเอียดของสิ่งทเี่ กิดขึ้น รวมถึงเคร่ืองมืออย่างง่ายใน ไม่เพิ่มความคิดเห็นประกอบดว้ ย โดยตอ้ งอาศยั การชีแ้ นะของครู การเก็บขอ้ มูล หรือมีการ นา้ หนักและรูปร่างของน้า การ หรือผู้อ่ืน หรอื ใช้ประสาทสัมผัส เพิ่มเติมความคิดเหน็ แม้ครู ไหลและการครอบครองพ้ืนที่ของ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 นา้ อากาศ กับชีวิต 142 ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ น้าในภาชนะ ลักษณะผิวหน้าของ ได้ดว้ ยตวั เอง แต่เพม่ิ เตมิ ความ หรอื ผูอ้ น่ื ช่วยแนะน้าหรือ น้าและระดับความสงู ของน้าใน คดิ เห็น ชี้แนะ ภาชนะทมี่ ีต่อเชื่อมถึงกันใน แบบจ้าลองศึกษาสมบตั ิของ ของเหลว 2. การวัด ตวงน้าสีใส่ในแกว้ พลาสติก ตวงนา้ สใี ส่ในแก้วพลาสติก ไม่สามารถตวงน้าสใี ส่ในแกว้ ปรมิ าณคร่ึงแก้วไดอ้ ย่างถกู ต้อง ปรมิ าณคร่งึ แก้วได้อยา่ งถูกต้อง พลาสติกปรมิ าณครง่ึ แก้วได้ และใช้ช้อนตวงสารจา้ นวน 1 และใช้ชอ้ นตวงสารจา้ นวน 1 อยา่ งถูกต้องและใชช้ ้อนตวง ช้อนได้ปรมิ าณที่เทา่ กนั ในแต่ละ ชอ้ นได้ปริมาณท่ีเท่ากันในแต่ละ สารจ้านวน 1 ชอ้ นไดป้ ริมาณ ครง้ั ได้ดว้ ยตนเอง ครัง้ จากการชแี้ นะของครหู รือ ทเ่ี ท่ากันในแต่ละคร้งั แม้ครู ผ้อู นื่ หรอื ผู้อ่ืนช่วยแนะน้าหรือ ช้ีแนะ 5. การหา อธิบายการเคลื่อนท่ีของน้าสี อธิบายการเคล่ือนท่ีของน้าสีเมอ่ื ไ ม่ ส า ม า ร ถ อ ธิ บ า ย ก า ร ความสมั พนั ธ์ เมื่อรินน้าสีลงในภาชนะที่มีท่อ รินนา้ สีลงในภาชนะทม่ี ีท่อ เคลื่อนท่ีของน้าสีเมื่อรินน้าสี ระหวา่ งสเปซ ต่อเช่ือมถึงกันในแบบจ้าลอง ตอ่ เช่ือมถึงกันในแบบจา้ ลอง ลงในภาชนะท่ีมีท่อต่อเช่ือม กับสเปซ ศกึ ษาสมบัตขิ องของเหลว (ตอน ศกึ ษาสมบัติของของเหลว ได้ ถึงกันในแบบจ้าลองศึกษา ท่ี 2 และตอนที่ 3) ได้ด้วย จากการชแ้ี นะของครู สมบัติของของเหลวได้แม้ครู ตนเอง หรือผู้อื่นช่วยแนะน้าหรือ ชีแ้ นะ 7. การพยากรณ์ คาดคะเนผล หรอื สง่ิ ท่จี ะเกิดข้ึน คาดการณ์ผล หรือสง่ิ ที่จะ ไม่สามารถคาดการณ์ผล ล่วงหน้าได้อย่างมีเหตุผลโดย เกดิ ขน้ึ ล่วงหนา้ ได้ อย่างมี หรือสง่ิ ท่จี ะเกดิ ขึ้นล่วงหนา้ อาศัยความรู้หรือประสบการณ์ เหตผุ ลโดยอาศยั การชี้แนะของ แม้ครูหรือผู้อนื่ ช่วยแนะน้า เดิมมาช่วยได้ด้วยตัวเองอย่าง ครหู รือผอู้ ื่น หรือช้ีแนะ สมา้่ เสมอเชน่ คาดคะเนได้ว่าจะ เกิดอะไรข้ึนเมื่อเอียแบบจ้าลอง ศึกษาสมบัติของน้าหรือเม่ือใส่ นา้ ลงในสารชนิดต่างๆ 8. การลงความเห็น เพิ่มเติมความคิดเห็นเกี่ยวกับ เพิม่ เติมความคิดเห็นเกีย่ วกับ ไม่สามารถแสดงความ จากข้อมลู ข้อมูลที่มีอยู่อย่างถูกต้อง มี ข้อมูลที่มีอยู่อย่างถกู ต้อง คดิ เหน็ เกย่ี วกับขอ้ มูลทม่ี ีอยู่ เ ห ตุ ผ ล จ า ก ค ว า ม รู้ ห รื อ บางส่วน พยายามใหเ้ หตุผลจาก หรือเพ่มิ เตมิ ความคดิ เห็น ประสบการณเ์ ดมิ ได้ดว้ ยตนเอง สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341