243 คูม่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต ข้นั ฝึกทกั ษะจากการอา่ น (45 นาท)ี 3. นักเรียนอ่านเน้ือเร่ืองในย่อหน้าที่ 1 จากน้ันครูนาอภิปรายเพ่ือ ตรวจสอบความรู้ท่ีได้จากการอ่านเนื้อเรื่อง และความรู้เดิมของ นกั เรยี น โดยอาจใชค้ าถาม ดงั น้ี 3.1 นักเรียนเคยเจอเหตุการณ์ไฟฟ้าดับหรือไม่ (นักเรียนตอบ ตามประสบการณ์ของตนเอง) 3.2 หากไฟฟ้าดับเวลากลางคืน ส่ิงต่าง ๆ รอบตัวเราจะเป็น อย่างไร (มดื ไมม่ ีแสงไฟ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ต่าง ๆ ก็ไมท่ างาน) 4. นักเรียนอ่านเน้ือเร่ือง ในย่อหน้าที่ 2 โดยครูใช้วิธีการฝึกทักษะ ด้านการอ่านของนักเรียนอย่างเหมาะสม จากนั้นครูถามคาถาม ดงั นี้ 4.1 จากย่อหน้าที่ 2 น้ี มีคาถามอะไรบ้าง (ไฟฟ้ามีความสาคัญ และจาเปน็ ต่อเราเพียงใด เราใช้ไฟฟ้าทาอะไรบา้ ง และไฟฟ้า ผลติ มาจากไหน) 4.2 นักเรียนตอบคาถามใดได้บ้าง (นักเรียนตอบได้ตามความ เขา้ ใจของตนเอง) ครูช้ีแจงว่าเมื่อนักเรียนได้ทากิจกรรมจบแล้ว นักเรียนควรจะ สามารถตอบคาถามเหลา่ นีไ้ ด้ด้วยตนเอง 5. นักเรียนอ่านเน้ือเรื่อง ในย่อหน้าท่ี 3 โดยครูใช้วิธีการฝึกทักษะ ด้านการอ่านของนักเรียนอย่างเหมาะสม จากน้ันครูใช้คาถาม ดังนี้ 5.1 “ประเทศไทยลงทุนมหาศาลเพ่ือผลิตไฟฟ้าใช้เองใน ประเทศ” หมายความว่าอย่างไร (ประเทศไทยลงทุนจานวน ม า ก ท้ั ง ด้ า น เ งิ น แ ล ะ แ ห ล่ ง พ ลั ง ง า น เ พื่ อ ผ ลิ ต ไ ฟ ฟ้ า ใ ห้ ประชาชนใชใ้ นประเทศ) ครูอาจนาอภิปรายเพ่ิมเติมถึงการลงทุนใช้เงินในการสร้างเขื่อน และลงทุนในดา้ นทรัพยากรโดยตอ้ งสูญเสียปา่ ไมแ้ ละสัตวป์ า่ 5.2 นักเรียนคิดว่า เพราะเหตุใดไฟฟ้าท่ีประเทศไทยผลิตได้จึงไม่ เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน (คาตอบของ นักเรียนอาจมีหลากหลาย เช่น เพราะมีจานวนประชากร เพ่ิมข้ึน มีเทคโนโลยีที่สร้างสิ่งของต่าง ๆ ท่ีต้องใช้ไฟฟ้ามาก ขึน้ เช่น โทรศพั ท์เคล่อื นที่ รถยนต์ไฟฟา้ ) ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต 244 6. นักเรียนอ่านเน้ือเร่ือง ในย่อหน้าท่ี 4 โดยครูใช้วิธีการฝึกทักษะ การเตรียมตัวล่วงหน้าสาหรับครู ด้านการอ่านของนักเรียนอย่างเหมาะสม จากน้ันครูใช้คาถาม เพ่อื จดั การเรียนรู้ในครงั้ ถัดไป ดงั น้ี 6.1 ถ้าวันหน่ึง เราไม่มีไฟฟ้าใช้ ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง ในคาบถัดไป นักเรียนจะได้เรียน (คาตอบของนักเรียนอาจมีหลากหลาย เช่น ขาดความ กิจกรรมที่ 2.1 ไฟฟ้าเป็นพลังงานหรือไม่ สะดวกสบาย ไม่มีโทรทัศน์ให้ดู ต้องอยู่ในความมืดในตอน โดยการสังเกตแล้วนาผลที่ได้มาอภิปราย กลางคืนเพราะไมม่ แี สงจากหลอดไฟฟา้ ) ร่วมกัน ดังนั้นครูควรเตรียมอุปกรณ์ตาม 6.2 เราจะมีวิธีการอย่างไรบ้างที่จะทาให้มีไฟฟ้าใช้ได้นาน ๆ รายการอุปกรณ์ และควรตรวจสอบ (นกั เรียนตอบไดต้ ามความเข้าใจของตนเอง) อุปกรณ์ เช่น ฐานหลอดไฟฟ้า มอเตอร์ ครูช้ีแจงเพ่ิมเติมว่าจากการอ่านเรื่องนี้ มีหลาย ๆ คาถามท่ีเรายัง ไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า และสายไฟฟ้า ว่าใช้ งานได้หรือไม่ ก่อนที่จะให้นักเรียนใช้ ตอบไม่ได้ แต่เมอื่ เรียนบทเรียนน้จี บแลว้ นกั เรยี นควรจะสามารถตอบ สาหรบั การทากจิ กรรม คาถามเหล่านไ้ี ดด้ ้วยตนเอง ขั้นสรปุ จากการอา่ น (10 นาท)ี 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่าไฟฟ้ามี ความสาคัญต่อการดารงชีวิตของเรา ประเทศไทยต้องใช้เงิน จานวนมหาศาลในการผลิตไฟฟา้ 8. ครูอาจให้นักเรียนช่วยกันคิดและอภิปรายว่า เราจะช่วยกัน ประหยดั ไฟฟา้ อย่างไรไดบ้ า้ ง 9. นักเรียนตอบคาถามในรู้หรือยัง ในแบบฝึกหัดหน้า 111 จากนั้น ครูให้นักเรียนกลับไปเปรียบเทียบกับคาตอบในคาถามชวนคิดซึ่ง ครูจดไว้บนกระดานก่อนอ่านเน้อื เรื่อง 10.ครใู หน้ ักเรียนอ่านคาถามสาคัญ เพ่ือชักชวนให้นักเรียนทา กจิ กรรมต่อไป สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
245 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต แนวคาตอบในแบบฝึกหดั เพราะจานวนประชากรเพ่ิมมากขึ้น และประชาชนในประเทศใช้ไฟฟ้ามาก ทาให้ไม่สามารถผลติ ไดท้ ันหรือเพียงพอกับการใช้ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 246 กิจกรรมท่ี 2.1 ไฟฟ้าเปน็ พลงั งานหรอื ไม่ กิจกรรมนี้นักเรยี นจะได้อธบิ ายผลของไฟฟา้ ทที่ าใหเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้าทางานได้ ผ่านการสารวจ เวลา 1 ชว่ั โมง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สารวจและอธบิ ายผลของไฟฟ้าท่ีมีต่อการทางานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า วสั ดุ อปุ กรณ์สาหรับทากจิ กรรม สิง่ ท่ีครูตอ้ งเตรยี ม/กลุ่ม 1 ก้อน 2 เสน้ 1. ถ่านไฟฉาย 1.5 โวลต์ 1 ชุด 2. สายไฟฟ้าแบบคลปิ ปากจระเข้ 1 ชุด 3. หลอดไฟฟ้าพร้อมฐานหลอด 4. มอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมใบพดั สง่ิ ท่นี กั เรยี นตอ้ งเตรยี ม - ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน หน้า 81 – 82 2. แบบฝึกหัด หน้า 112 – 114 ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสังเกต การพยากรณ์หรือการคาดคะเน การตคี วามหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป แนวการจัดการเรยี นรู้ ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น สาคัญ และยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเก่ียวกับผลของไฟฟ้าที่มีต่อ ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนนักเรียน ไป การทางานของเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้า โดยอาจถามคาถาม ดังน้ี หาคาตอบท่ีถูกต้องในกิจกรรมต่าง ๆ 1.1 เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านท่ีนักเรียนรู้จักมีอะไรบ้าง (คาตอบของ ในบทเรียนนี้ นกั เรยี นอาจหลากหลาย เช่น เตารดี โทรทศั น์ วทิ ยุ) 1.2 ผลของไฟฟ้าที่มีต่อการทางานของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง (คาตอบของนักเรียนอาจหลากหลายขึ้นอยู่กับชนิดของ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
247 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชีวติ เคร่ืองใช้ไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้าทาให้เตารีดร้อน โทรทัศน์มีแสง และมีภาพ หรือวิทยมุ ีเสียง) 2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 81 อ่านชื่อกิจกรรม และทาเป็น คิดเป็น จากนั้นตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเก่ียวกับสิ่งที่ จะเรียน โดยอาจใช้คาถาม ดงั น้ี 2.1 กิจกรรมนน้ี ักเรียนจะได้เรยี นเกย่ี วกบั เรอ่ื งอะไร (ผลของไฟฟ้า ทีม่ ีตอ่ การทางานของเครอื่ งใช้ไฟฟ้า) 2.2 นกั เรียนจะไดเ้ รียนเรื่องนด้ี ว้ ยวธิ ใี ด (การสารวจ) 2.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายผลของไฟฟ้าท่ีมี ตอ่ การทางานของเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้า) 3. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยครูอาจใช้วิธีการอ่านที่เหมาะสมกับ นกั เรยี น จากนั้นครตู รวจสอบความเขา้ ใจข้นั ตอนการทากิจกรรม ทีละขัน้ ตอน โดยอาจใชค้ าถาม ดงั น้ี 3.1 เราต้องทาอะไรบา้ งในกจิ กรรมนี้ (สังเกตลกั ษณะของถา่ นไฟฉาย สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟา้ ท่ีมีใบพดั ) 3.2 นักเรียนเคยเห็นอุปกรณ์เหล่านี้หรือไม่ (นักเรียนตอบได้ตาม ประสบการณข์ องตนเอง) 3.3 กิจกรรมนี้ นักเรียนต้องทาอะไรบ้าง (คาดคะเนว่าจะเกิด อะไรขึ้นถ้าต่อสายไฟฟ้าเข้ากับฐานหลอดไฟฟ้า และต่อ สายไฟฟ้าเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีใบพัดโดยไม่ต้องต่อกับ ถ่านไฟฉาย ทากิจกรรมเพ่ือตรวจสอบการคาดคะเน จากน้ัน อภิปราย และเสนอวิธีการที่ทาให้หลอดไฟฟ้าสว่างและ มอเตอร์ไฟฟ้าทมี่ ใี บพัดหมนุ สงั เกตผลและบนั ทึกผล) 4. ครูให้นักเรียนอ่านฝึกทักษะแล้วช้ีแจงวา่ ในกิจกรรมนี้นักเรียนจะ ได้ฝึกทักษะทางวิทยาศาสตรเ์ หลา่ น้ี 5. ครูวาดรูปวิธีการต่อสายไฟฟ้าเข้ากับฐานหลอดไฟฟ้าไว้บน กระดาน จากนั้นครูแนะนาอุปกรณ์ตลอดจนวิธีการใช้อุปกรณ์ แต่ละอย่าง ให้นักเรียนสังเกตหน้าช้ันเรียน เช่น ถ่านไฟฉาย สายไฟฟ้าแบบคลิปปากจระเข้ โดยครูอาจแนะนาวิธีการใช้ โดยสาธิตการนาปลายสายไฟฟ้าไปหนีบเข้ากับข้ัวของฐาน หลอดไฟฟา้ ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชีวติ 248 6. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมข้อ 1 – 3 โดยครูแจกฐานหลอดไฟฟ้า การเตรียมตวั ลว่ งหน้าสาหรบั ครู พร้อมหลอดไฟฟ้าและสายไฟฟ้า 2 เส้นให้นักเรียนตรวจสอบ เพือ่ จัดการเรยี นร้ใู นครง้ั ถัดไป การคาดคะเน (1) ในคาบถัดไป นักเรียนจะได้เรียน 7. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย และเสนอวิธีการท่ีทา ให้ กิจกรรมที่ 2.2 พลังงานไฟฟ้าเปล่ียนเป็น พลังงานอะไรได้บ้าง โดยการสังเกตการ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทางานได้ คอื หลอดไฟฟ้าสว่างและมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มี ทางานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า เช่น วิทยุไฟฟ้า ใบพัดหมุน (ครูควรวาดรูปวิธีการต่อบนกระดานประกอบ) จากน้ัน กระติกน้าร้อนไฟฟ้า และพัดลมไฟฟ้า ครแู จกอปุ กรณ์ใหน้ ักเรียนลองต่อตามวิธีการที่นาเสนอ (1) หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่ืน ๆ ดังน้ัน ครูควร 8. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรียนนาเสนอและร่วมกัน เตรียมเครอื่ งใช้ไฟฟา้ ไว้ลว่ งหนา้ อภิปรายผลการทากิจกรรมเพื่อลงข้อสรุปร่วมกัน (13) โดยครู อาจใชค้ าถาม ดงั น้ี 8.1 เม่ือต่อสายไฟฟ้าเข้ากับหลอดไฟฟ้า และต่อสายไฟฟ้าเข้ากับ มอเตอร์ไฟฟ้าท่ีมีใบพัด สังเกตเห็นอะไรบ้าง (หลอดไฟฟ้าไม่ สวา่ ง มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีใบพดั ไมห่ มนุ ) 8.2 วิธีการใดท่ีทาให้หลอดไฟฟ้าสว่าง และมอเตอร์ไฟฟ้าที่มี ใบพัดหมนุ ได้ (ต่อสายไฟฟ้าเขา้ กับถา่ นไฟฉายและ หลอด ไฟฟา้ หรอื มอเตอรไ์ ฟฟา้ ที่มใี บพัด) 8.3 นักเรียนคิดว่าอะไรทาให้หลอดไฟฟ้าสวา่ ง และมอเตอร์ไฟฟ้า ท่ีมีใบพัดหมุน รู้ได้อย่างไร (หลอดไฟฟ้าสว่างและมอเตอร์ ไฟฟ้าที่มีใบพัดหมุนได้เพราะมีถ่านไฟฉาย รู้ได้จากหลอด ไฟฟ้าจะสว่างและใบพัดจะหมุนเม่ือต่อสายไฟฟ้าเข้ากับ ถ่านไฟฉาย) 8.4 หลอดไฟฟ้าสว่างและมอเตอร์ไฟฟ้าท่ีมีใบพัดหมุนได้ ต้องใช้ พลังงานใด พลังงานน้ันมาจากแหล่งใด (หลอดไฟฟ้าสว่าง และมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีใบพัดหมุนได้ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่ง พลงั งานไฟฟา้ มาจากถา่ นไฟฉาย) 9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทากิจกรรมได้ว่าไฟฟ้าเป็น พลังงานโดยทาให้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าทางานได้ 10.นักเรียนตอบคาถามฉันรู้อะไร และเขียนคาถามที่อยากรู้ลงใน อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัด หน้า 114 จากนั้นครูสุ่มให้นักเรียน 2 – 3 คน นาเสนอคาถามของตนเองหน้าชัน้ เรยี น 11.ครูนาอภิปรายให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในขน้ั ตอนใดบ้าง สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
249 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวติ แนวคาตอบในแบบฝกึ หดั สารวจและอธิบายผลของไฟฟ้าท่มี ตี ่อการทางานของ เครื่องใช้ไฟฟ้า นักเรียนคาดคะเนตาม หลอดไฟฟา้ ไม่สวา่ ง ความคิดของตัวเอง นกั เรยี นคาดคะเนตาม มอเตอร์ไฟฟา้ ท่ีมใี บพัด ความคิดของตวั เอง ไม่หมนุ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ 250 ต่อสายไฟฟา้ เขา้ กับถา่ นไฟฉาย หลอดไฟฟา้ สวา่ ง และหลอดไฟฟ้า ต่อสายไฟฟา้ เข้ากับ มอเตอร์ไฟฟา้ ทีม่ ีใบพัดหมนุ ถา่ นไฟฉายและมอเตอรไ์ ฟฟา้ หลอดไฟฟ้า มอเตอรไ์ ฟฟ้าท่ีมใี บพดั หลอดไฟฟ้าสวา่ ง และมอเตอรไ์ ฟฟ้าท่ีมีใบพัดหมุน ถา่ นไฟฉาย เพราะถ่านไฟฉายเปน็ แหลง่ กาเนิดพลงั งานไฟฟ้า ไฟฟ้าเปน็ พลงั งาน เพราะทาให้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าทางานได้ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
251 คูม่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชีวิต ถ่านไฟฉายให้พลงั งานไฟฟา้ โดยเมือ่ ต่อถา่ นไฟฉายเขา้ กับสายไฟฟ้าและหลอดไฟฟ้าหรอื มอเตอรไ์ ฟฟ้าท่มี ีใบพดั หลอดไฟฟ้าจะสวา่ งและมอเตอรไ์ ฟฟา้ ที่มใี บพัดจะหมุน ไฟฟ้าเปน็ พลงั งานโดยทาใหเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟา้ ทางานได้ ครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนฝกึ ตง้ั คาถามเกยี่ วกับเรือ่ งทสี่ งสัย หรืออยากรู้ เพ่ิมเติม หรือสิ่งท่ยี ังไมเ่ ข้าใจจากการทากิจกรรมในห้องเรียน ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ 252 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนร้ขู องนกั เรียนทาได้ ดงั น้ี 1. ประเมนิ ความรเู้ ดิมจากการอภปิ รายในชั้นเรียน 2. ประเมินการเรียนรู้จากคาตอบของนักเรียนระหวา่ งการจัดการเรยี นร้แู ละแบบฝกึ หัด 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการทากจิ กรรมของนกั เรยี น การประเมนิ จากการทากิจกรรมที่ 2.1 ไฟฟ้าเปน็ พลงั งานหรอื ไม่ ระดับคะแนน 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ ส่ิงท่ปี ระเมิน คะแนน 1. การสังเกต 7. การพยากรณห์ รือการคาดคะเน 13. การตคี วามหมายข้อมูลและการลงขอ้ สรุป รวมคะแนน ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามระดับความสามารถของนักเรียน โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดงั น้ี 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 1. การสังเกต ใช้ประสาทสัมผสั เก็บรายละเอียด ใชป้ ระสาทสัมผสั เก็บ ไม่สามารถใช้ประสาทสัมผัส ของส่ิงท่ีเกิดขึน้ ไดด้ ้วยตนเองโดย รายละเอียดของสิ่งทีเ่ กิดขึ้น ในการเกบ็ ขอ้ มูล หรอื มีการ ไม่เพิ่มความคิดเห็น สิ่งท่ีสังเกต โดยตอ้ งอาศัยการช้ีแนะของครู เพิม่ เติมความคิดเหน็ แมว้ ่า ไดป้ ระกอบด้วย หรอื ผู้อนื่ หรือใชป้ ระสาทสัมผสั ครูหรอื ผอู้ น่ื ช่วยแนะนาหรอื - การเปลี่ยนแปลงของหลอด ไดด้ ้วยตนเอง แตเ่ พ่ิมเติมความ ช้ีแนะ ไฟฟา้ (สว่าง) เม่ือตอ่ ถา่ นไฟฉาย คดิ เห็น เข้ากับสายไฟฟ้าและหลอด ไฟฟา้ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
253 ค่มู ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชีวิต ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ - การเปล่ียนแปลงของ มอเตอร์ไฟฟ้าท่ีมีใบพัด (หมนุ ) เม่ือต่อถ่านไฟฉายเข้ากบั สายไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้า 7. การพยากรณ์ คาดคะเนผลหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้น คาดคะเนผลหรือส่ิงที่จะเกิดขึ้น ไม่สามารถคาดคะเนผลหรอื หรอื การคาดคะเน ลว่ งหนา้ เมอื่ ต่อสายไฟฟ้าเข้ากับ ล่วงหน้าเม่ือตอ่ สายไฟฟ้าเข้ากับ ส่ิงทจ่ี ะเกิดขึ้นล่วงหนา้ เมื่อตอ่ ฐ า น ห ล อ ด ไ ฟ ฟ้ า แ ล ะ ต่ อ ฐานหลอดไฟฟ้าและต่อ สายไฟฟา้ เขา้ กบั ฐานหลอด สายไฟฟา้ เข้ากบั มอเตอร์ไฟฟ้าที่ สายไฟฟ้าเขา้ กับมอเตอร์ไฟฟ้าท่ี ไฟฟ้าและตอ่ สายไฟฟ้าเข้า มีใบพัดได้อย่างมีเหตุผลโดย มใี บพดั ได้โดยอาศัยการชแ้ี นะ กบั มอเตอร์ไฟฟ้าที่มใี บพัดได้ อาศัยความรู้หรือประสบการณ์ ของครหู รือผอู้ นื่ แม้ว่าครูหรือผู้อืน่ ช่วยแนะนา เดมิ มาช่วยไดด้ ว้ ยตนเอง หรือชี้แนะ 13. การ ตีความหมายข้อมูลจากการ ครหู รอื ผูอ้ นื่ ตอ้ งช่วยแนะนา ไม่สามารถตีความหมาย ตีความหมายข้อมลู สังเกต และลงข้อสรุปได้ด้วย หรอื ช้ีแนะจึงจะสามารถ ขอ้ มลู จากการสงั เกต และลง และการลงขอ้ สรปุ ตนเองว่าไฟฟ้าเป็นพลังงานโดย ตีความหมายข้อมลู จากการ ข้อสรุปได้ดว้ ยตนเองว่าไฟฟ้า ทาให้เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ทางานได้ สงั เกต และลงขอ้ สรปุ ไดด้ ้วย เปน็ พลงั งานโดยทาให้ ตนเองว่าไฟฟา้ เป็นพลังงานโดย เครื่องใช้ไฟฟ้าทางานได้ ทาใหเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ทางานได้ แม้วา่ ครูหรือผู้อื่นชว่ ยแนะนา หรือช้ีแนะ ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชีวติ 254 กิจกรรมที่ 2.2 พลังงานไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นพลงั งานอะไรได้บ้าง กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดเ้ รียนรู้วา่ พลังงานไฟฟ้าสามารถเปลีย่ นเป็นพลังงานอื่นได้ ผ่านการสารวจ เวลา 1 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ สารวจและระบกุ ารเปล่ียนพลังงานไฟฟา้ เปน็ พลังงานอื่น ของเครอื่ งใช้ไฟฟ้า วสั ดุ อุปกรณส์ าหรบั ทากจิ กรรม ส่งิ ทคี่ รตู ้องเตรยี ม/หอ้ ง 1 เครอ่ื ง 1 เครอ่ื ง 1. กระตกิ นา้ ร้อนไฟฟา้ 1 เคร่อื ง 2. วทิ ยไุ ฟฟ้า 3. พัดลมไฟฟา้ สง่ิ ท่นี ักเรียนต้องเตรยี ม - สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี น หนา้ 83 – 84 2. แบบฝกึ หดั หนา้ 115 – 117 ทกั ษะกระบวนการ การสงั เกต การลงความเห็นจากข้อมูล การตคี วามหมายข้อมลู และการลงขอ้ สรุป แนวการจัดการเรียนรู้ ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น สาคัญ และยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ 1. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานของนักเรียนโดยอาจถามนักเรียนว่า ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนนักเรียน ไป นักเรียนใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรบ้าง (หลอดไฟฟ้า และมอเตอร์ หาคาตอบที่ถูกต้องในกิจกรรมต่าง ๆ ไฟฟ้าพร้อมใบพัด) จากน้ันตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียน ในบทเรียนนี้ เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร เ ป ลี่ ย น พ ลั ง ง า น ไ ฟ ฟ้ า เ ป็ น พ ลั ง ง า น อื่ น ข อ ง เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยอาจใช้คาถามว่านักเรียนคิดว่าพลังงานไฟฟ้า จะเปล่ียนเป็นพลังงานอะไรไดบ้ ้าง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
255 ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต นักเรียนสามารถตอบด้วยความเข้าใจของตนเอง ให้ครูรับฟัง หรือจดบันทึกคาตอบของนักเรียนไว้ เพ่ือนากลับมาอภิปรายหลัง เสรจ็ สิ้นกจิ กรรม 2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหนา้ 83 อ่านชื่อกิจกรรมและทาเปน็ คดิ เปน็ จากนัน้ ครูให้นักเรยี นสรุปสง่ิ ที่ไดอ้ ่านโดยอาจใชค้ าถาม ดังนี้ 2.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร (การเปลี่ยน พลังงานไฟฟ้าเปน็ พลังงานอน่ื ของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า) 2.2 นกั เรียนจะไดเ้ รยี นเร่อื งนี้ด้วยวิธใี ด (การสารวจ) 2.3 เม่ือเรียนแล้ว นักเรียนจะทาอะไรได้ (ระบุการเปล่ียน พลังงานไฟฟา้ เปน็ พลังงานอื่นของเครื่องใช้ไฟฟ้า) 3. ครูให้นักเรียนอ่านฝึกทักษะ แล้วช้ีแจงว่าในกิจกรรมน้ีนักเรียนจะ ได้ฝึกทักษะทางวทิ ยาศาสตรเ์ หล่านี้ 4. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยครูฝึกการอ่านของนักเรยี นตามความ เหมาะสม จากนั้นสรุปและทบทวนข้ันตอนการทากิจกรรมให้ เขา้ ใจตรงกนั โดยถามนักเรยี น ดงั นี้ 4.1 กิจกรรมนี้ นักเรียนต้องทาอะไรบ้าง (สังเกตการทางานของ วิทยไุ ฟฟ้า กระติกนา้ ร้อนไฟฟ้า และพัดลมไฟฟ้า) 4.2 ส่ิงท่ีนักเรียนต้องสังเกตคืออะไร (การเปล่ียนพลังงานไฟฟ้า เป็นพลงั งานอืน่ ของเครื่องใชไ้ ฟฟ้า) 4.3 หลังจากน้ัน นักเรียนต้องทาอะไรต่อ (สารวจเคร่ืองใช้ไฟฟ้า อ่ืน ๆ ภายในบ้าน และระบุว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าน้ัน ๆ เปล่ียน พลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลังงานใดได้บ้าง) 5. นักเรียนลงมือทากิจกรรม ครูอาจจะให้นักเรียนสารวจ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ อื่น ๆ ภายในหอ้ งเรียนด้วย 6. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและ นาเสนอผลการทากจิ กรรม โดยอาจใชค้ าถามดงั น้ี 6.1 เคร่ืองใช้ไฟฟ้าท่ีนักเรียนสารวจได้มีอะไรบ้าง (1) (นักเรียน ตอบตามข้อเทจ็ จริงท่ีสารวจได้) 6.2 เครือ่ งใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดเปล่ียนพลังงานไฟฟา้ เป็นพลังงาน อะไรบา้ ง (8) (- วทิ ยไุ ฟฟ้า เปลี่ยนพลงั งานไฟฟา้ เป็นพลงั งานเสยี ง ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 256 - กระติกน้าร้อนไฟฟ้า เปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงาน การเตรยี มตวั ลว่ งหนา้ สาหรบั ครู ความรอ้ น โดยนักเรยี นบางคนอาจตอบว่าพลงั งานแสงด้วย เพอ่ื จดั การเรียนรใู้ นครงั้ ถัดไป เพราะกระตกิ นา้ รอ้ นอาจมไี ฟเตือนอยู่ภายนอกกระติก - พัดลมไฟฟ้า เปล่ยี นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลังงานกลท่ีทาให้ ในคาบถัดไ ป นักเรียนจะ ไ ด้ ท า ใบพดั เคลอ่ื นทไี่ ด)้ กิจกรรมท่ี 2.3 ผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร โดย ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่ืน ๆ ให้นักเรียนร่วมกันพิจารณาว่าพลังงาน การสังเกตแล้วนาผลการทากิจกรรมมา ไฟฟา้ เปลีย่ นเป็นพลงั งานใดไดบ้ ้าง อภิปรายร่วมกัน ดังนั้นครูควรเตรียมชุด 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือลงข้อสรุปร่วมกันว่า สาธิตไดนาโมสาหรับการทากิจกรรม โดย พลังงานไฟฟ้าสามารถทาให้เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ทางานได้ โดย ครูควรตรวจสอบก่อนว่าชุดสาธิตไดนาโม เปลี่ยนเป็นพลังงานอ่ืน เช่น พลังงานความร้อน พลังงานแสง พร้อมใชง้ านหรอื ไม่ พลงั งานเสยี ง หรอื พลังงานกล (13) 8. นักเรียนตอบคาถามฉันรู้อะไร และเขียนคาถามที่อยากรู้ลงไปใน อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัด หน้า 117 จากน้ันครูสุ่มให้นักเรียน 2 – 3 คนนาเสนอคาถามหนา้ ชน้ั เรียน 9. ครูนาอภิปรายให้นักเรียนทบทวนว่าไดฝ้ กึ ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในขน้ั ตอนใดบา้ ง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
257 คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต แนวคาตอบในแบบฝึกหดั สารวจและระบกุ ารเปลี่ยนพลงั งานไฟฟ้าเปน็ พลงั งานอ่นื ของเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ✓ ✓ ✓ ✓ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต 258 พลงั งานไฟฟ้าสามารถเปล่ียนเป็นพลงั งานความรอ้ น พลังงานเสียง พลงั งานแสง พลงั งานกล กระติกน้ารอ้ นไฟฟา้ สามารถเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงและ พลังงานความร้อน (เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ อื่น ๆ ตามทส่ี ังเกตได้ว่าสามารถเปล่ียน พลงั งานไฟฟ้าเปน็ พลังงานอื่น) พลงั งานไฟฟ้าสามารถทาให้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าทางานได้ และเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าเปล่ียนพลังงาน ไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน พลงั งานเสียง พลังงานแสง พลงั งานกล พลังงานไฟฟ้าสามารถเปล่ียนเป็นพลังงานอ่นื ได้ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
259 คูม่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต ครกู ระตุ้นให้นกั เรียนฝึกตั้งคาถามเก่ยี วกับเรอื่ งท่สี งสัย หรืออยากรู้ เพ่มิ เตมิ หรือสิ่งที่ยังไมเ่ ข้าใจจากการทากิจกรรมในห้องเรยี น ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวติ 260 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรยี นรขู้ องนักเรยี นทาได้ ดงั น้ี 1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการอภปิ รายในชน้ั เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรู้จากคาตอบของนักเรียนระหวา่ งการจดั การเรยี นรูแ้ ละแบบฝกึ หัด 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรจ์ ากการทากจิ กรรมของนกั เรยี น การประเมนิ จากการทากจิ กรรมท่ี 2.2 พลังงานไฟฟ้าเปลย่ี นเป็นพลงั งานอะไรไดบ้ า้ ง ระดบั คะแนน 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ ส่งิ ทป่ี ระเมิน คะแนน 1. การสังเกต 8. การลงความเหน็ จากข้อมลู 13. การตคี วามหมายข้อมลู และการลงขอ้ สรปุ รวมคะแนน ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ตามระดับความสามารถของนักเรียน โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมิน ดังน้ี 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง ทกั ษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 1. การสังเกต ใช้ประสาทสัมผัสเก็บรายละเอียด ใช้ประสาทสมั ผสั เกบ็ ไม่สามารถใช้ประสาทสัมผัส ของส่ิงที่เกิดข้ึนได้ด้วยตนเองโดย รายละเอียดของส่ิงทเ่ี กิดขน้ึ ในการเก็บข้อมูล หรือมีการ ไม่เพมิ่ ความคดิ เหน็ ส่ิงทส่ี งั เกตได้ โดยต้องอาศยั การชี้แนะของครู เพ่ิมเติมความคิดเห็น แม้ว่า คือ การทางานของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรอื ผู้อื่นหรือเพ่ิมเตมิ ความ ครูหรือผู้อ่ืนช่วยแนะนาหรือ แตล่ ะชนดิ คิดเหน็ ช้แี นะ 8. การลงความเหน็ เพิ่มเติมความคิดเห็นเกี่ยวกับ เพ่ิมเติมความคิดเหน็ เกีย่ วกบั ไมส่ ามารถแสดงความ จากข้อมลู ข้อมูลจากการสังเกตการทางาน ขอ้ มลู ซ่ึงเปล่ยี นพลงั งานไฟฟ้า คิดเหน็ เกย่ี วกับขอ้ มลู ซึง่ ของเครื่องใช้ไฟฟ้าซ่ึงเปล่ียน เปน็ พลงั งานอ่ืนได้อย่างถูกต้อง เปลย่ี นพลงั งานไฟฟ้าเป็น สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
261 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชีวติ ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานอื่น บางส่วน พยายามให้เหตุผลจาก พลังงานอ่ืนได้หรือเพิ่มเติม ได้อย่างถูกต้อง มีเหตุผลจาก ความรูห้ รอื ประสบการณเ์ ดมิ ได้ ความคดิ เหน็ อย่างไม่ ความรู้หรือประสบการณ์เดิมได้ จากการชแี้ นะของครูหรือผู้อ่ืน สมเหตุสมผล แม้ว่าครหู รอื ดว้ ยตนเอง ผู้อื่นช่วยแนะนาหรือชีแ้ นะ 13.การตคี วามหมาย ตีความหมายข้อมูลจากการ ครูหรอื ผู้อ่นื ต้องช่วยแนะนา ไม่สามารถตีความหมาย ข้อมลู และการลง สังเกต และลงข้อสรุปได้ด้วย หรือช้ีแนะจงึ จะสามารถ ข้อมลู จากการสังเกต และลง ขอ้ สรปุ ตนเองว่าพลังงานไฟฟ้าสามารถ ตคี วามหมายข้อมลู จากการ ขอ้ สรุปไดว้ ่าพลังงานไฟฟา้ เปล่ยี นเปน็ พลังงานอืน่ ได้ สงั เกต และลงขอ้ สรุปไดว้ า่ สามารถเปลย่ี นเปน็ พลงั งาน พลังงานไฟฟ้าสามารถ อ่นื ได้ แมว้ า่ ครูหรือผู้อ่นื ช่วย เปลีย่ นเป็นพลงั งานอืน่ ได้ แนะนาหรอื ชแ้ี นะ ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 262 กิจกรรมท่ี 2.3 ผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร กจิ กรรมน้ีนักเรยี นจะไดอ้ ธิบายเกยี่ วกบั การผลติ ไฟฟ้าผา่ นการสารวจ เวลา 1 ช่วั โมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สารวจและอธิบายเก่ยี วกบั การผลติ ไฟฟ้า วสั ดุ อปุ กรณ์สาหรับทากจิ กรรม สิง่ ทค่ี รูต้องเตรยี ม/กลมุ่ 1. ชดุ สาธติ เครื่องกาเนิดไฟฟ้า 1 ชุด 2. ลวดเสียบกระดาษ 1 อัน สิง่ ทน่ี ักเรียนต้องเตรียม - ส่ือการเรยี นรู้ หนา้ 85 – 88 หน้า 118 – 120 1. หนงั สือเรียน 2. แบบฝกึ หัด ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสงั เกต การพยากรณ์หรือการคาดคะเน การลงความเห็นจากข้อมูล การตคี วามหมายข้อมลู และการลงข้อสรุป แนวการจัดการเรียนรู้ ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น สาคัญ และยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ 1. ครูทบทวนความรู้ที่เรียนมาแล้ว และตรวจสอบความรู้เดิมของ ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนนักเรียน ไป นกั เรียน โดยใช้คาถาม ดังน้ี หาคาตอบท่ีถูกต้องในกิจกรรมต่าง ๆ 1.1 หลอดไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทางานได้ต้องอาศัยอะไร ในบทเรียนน้ี (ไฟฟา้ ) 1.2 นักเรียนคิดว่าไฟฟ้าผลิตมาได้อย่างไร (นักเรียนตอบตาม ความเขา้ ใจของตนเอง) สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
263 ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ 2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 85 อ่านชื่อกิจกรรม และ ทาเป็นคิดเป็น จากนั้นตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน เกีย่ วกับส่ิงที่จะเรียน โดยอาจใช้คาถาม ดงั นี้ 2.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับเร่ืองอะไร (การผลิต ไฟฟา้ ) 2.2 นักเรยี นจะได้เรยี นเรอื่ งน้ีด้วยวธิ ใี ด (การสารวจ) 2.3 เมื่อเรียนจบแล้ว นักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายเก่ียวกับการ ผลติ ไฟฟา้ ได้) 3. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นฝกึ ทักษะ แลว้ ชแ้ี จงว่าในกิจกรรมนนี้ กั เรียนจะ ได้ฝึกทกั ษะทางวทิ ยาศาสตรเ์ หลา่ นี้ 4. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยครูอาจใช้วิธีการอ่านที่เหมาะสมกับ นักเรยี น จากน้ันครูตรวจสอบความเขา้ ใจขน้ั ตอนการทากจิ กรรม ทีละข้ันตอน จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทาได้ จึงให้นักเรียนทา กจิ กรรม โดยอาจใชค้ าถามดังน้ี 4.1 เราต้องทาอะไรบ้างในกิจกรรมนี้ (สงั เกตสว่ นประกอบของชุด สาธิตเครื่องกาเนิดไฟฟ้า สังเกตสิ่งที่เกิดข้ึนเมื่อหมุนแขนของ กาเนิดไฟฟ้า อา่ นใบความรู้เรื่องการผลิตไฟฟา้ ) 4.2 นักเรียนรู้จักหรือเคยเห็นเครื่องกาเนิดไฟฟ้าหรือไม่ (นักเรียน ตอบไดต้ ามประสบการณข์ องตนเอง) 5. ครูนาชุดสาธิตเครื่องกาเนิดไฟฟ้ามาให้นักเรียนสังเกตว่ามี ส่วนประกอบอะไรบ้าง แล้วใช้คาถามอภิปรายส่วนประกอบของ เคร่อื งกาเนดิ ไฟฟา้ ดงั นี้ 5.1 เคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ามีลักษณะอย่างไร และมีส่วนประกอบ อะไรบ้าง (เคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ามีแป้นให้หมุนซึ่งต่อกับ ลวดทองแดงที่พันกับแกนตรงกลาง แต่ละข้างของขด ลวดทองแดงมีก้อนส่ีเหล่ียมวางประกบอยู่ ปลายขด ลวดทองแดงมีสายไฟฟ้าตอ่ กับหลอดไฟฟ้า) 5.2 ก้อนสี่เหลี่ยม 2 ก้อน ท่ีวางไว้ข้างขดลวดทองแดงคืออะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง ถ้าตอบไม่ได้ครูช่วย อธบิ าย) 6. ครูนาลวดเสียบกระดาษให้นักเรียนลองนาเข้าใกล้ก้อนสี่เหล่ียม แลว้ สังเกตผลที่เกดิ ข้นึ (1) จากนน้ั ครูใชค้ าถามอภิปราย ดงั นี้ ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ 264 6.1 เมื่อนาลวดเสียบกระดาษเข้าใกลก้ ้อนสี่เหล่ยี มจะเกิดอะไรขึน้ (ลวดเสยี บกระดาษดงึ ดูดกบั ก้อนสเ่ี หลยี่ ม) 6.2 ก้อนสี่เหลี่ยมท่ีวางข้างขดลวดทองแดงคืออะไร รู้ได้อย่างไร (ก้อนสี่เหลี่ยมเป็นแม่เหล็ก รู้ได้จากการท่ีลวดเสียบกระดาษ ซึ่งเป็นเหลก็ สามารถถูกดึงดูดได้) 6.3 เคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง (แป้นหมุนท่ีต่อ กับแกนของขดลวดทองแดงและแมเ่ หลก็ ) 7. นักเรียนลงมือทากิจกรรม หลังจากทากิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรียน นาเสนอและร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรม โดยอาจใช้ คาถาม ดงั นี้ 7.1 เม่ือหมุนแขนเครื่องกาเนิดไฟฟ้าช้า ๆ หลอดไฟฟ้า เปล่ียนแปลงอยา่ งไร (หลอดไฟฟา้ สว่าง แลว้ ดบั ) 7.2 เม่ือหมุนแขนเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้าเร็วข้ึน หลอดไฟฟ้า เปล่ยี นแปลงไปจากเดิมหรือไม่ อยา่ งไร (เปล่ยี นแปลงไปจาก เดิมโดยหลอดไฟฟ้าสวา่ งมากข้ึน) 7.3 เคร่อื งกาเนิดไฟฟ้าใชท้ าอะไร (ใช้ผลติ ไฟฟ้า) 7.4 เคร่ืองกาเนิดไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร (8) (โดยการหมุน ขดลวดทองแดงที่อยู่ระหว่างแมเ่ หลก็ หรอื หมนุ แม่เหล็กที่อยู่ ระหว่างขดลวดทองแดง) 8. นกั เรียนอา่ นใบความรเู้ รื่องการผลิตไฟฟ้า ในหนังสอื เรยี นหนา้ 87 จากน้นั รว่ มกันอภปิ ราย โดยครูอาจใชค้ าถาม ดงั น้ี 8.1 ไฟฟ้าในบ้านมีวิธีการผลิตเหมือนหรือแตกต่างจากการผลิต ไฟฟ้าด้วยเครื่องกาเนิดไฟฟ้าอย่างไร (8) (มีหลักการผลิต เหมือนกัน แต่ไม่สามารถใช้แรงจากคนในการหมุนขดลวด หรือหมุนแท่งแม่เหล็กได้ จึงต้องใช้พลังงานจากแหล่ง พลงั งานอน่ื ในการหมนุ แม่เหล็กที่อยรู่ ะหวา่ งขดลวด) 9. ครูอธิบายภาพในใบความรู้เรื่องการผลิตไฟฟ้าและให้ความรู้ เพ่ิมเติมว่าการใช้เชื้อเพลิงมาหมุนแกนขดลวดของเครื่องกาเนิด ไฟฟ้าได้โดยนาเชื้อเพลิงไปเผาเพ่ือต้มน้าให้เดือด จากน้ันจึงใช้ไอ น้าไปหมนุ แกนของขดลวดทองแดงในเครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟ้าเพ่ือผลิต ไฟฟ้า ทั้งน้ีครูอาจจะใช้สื่อ AR ผ่านแอพพลิเค ช่ั น บ น โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือแท็บเล็ต โดยใช้กล้องส่องไปที่สัญลักษณ์ AR ที่แสดงในรูปที่ 16 ของหนังสือเรียนหน้า 88 เพ่ือให้นักเรียน สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
265 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ เข้าใจเร่ืองการใช้เช้ือเพลิงในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น โดยครูชี้แจง วา่ เชอื้ เพลงิ ทน่ี ามาใช้ผลติ ไฟฟา้ จะมีอะไรบ้าง นกั เรยี นจะไดเ้ รียน ในกิจกรรมถดั ไป 10.ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายกิจกรรมเพ่ือลงข้อสรุปร่วมกัน (13) โดยครูอาจใช้คาถาม ดงั น้ี 10.1ไฟฟ้าผลิตมาได้อย่างไร (ไฟฟ้าผลิตมาจากการหมุนขดลวด ทองแดงทอี่ ยรู่ ะหวา่ งแม่เหล็ก หรอื หมนุ แมเ่ หลก็ ท่ีอยรู่ ะหว่าง ขดลวดทองแดง) 11. นักเรียนตอบคาถามฉันรู้อะไร และเขียนคาถามอยากรู้ลงใน อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัด หน้า 120 จากนั้นครูสุ่มให้นักเรียน 2 – 3 คนนาเสนอคาถามของตนเองหนา้ ช้นั เรยี น 12. ครนู าอภิปรายใหน้ ักเรียนทบทวนว่าไดฝ้ กึ ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรใ์ นข้ันตอนใดบา้ ง ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ 266 แนวคาตอบในแบบฝึกหดั สารวจและอธิบายเกี่ยวกบั การผลิตไฟฟา้ หลอดไฟฟา้ สว่าง หลอดไฟฟ้าสว่างมากข้นึ เม่อื หมุนแทง่ แม่เหล็กทอ่ี ยู่ระหวา่ ง มีหลักการผลติ เหมอื นกันกบั ชดุ สาธติ ขดลวดทองแดง จะทาใหเ้ กดิ เครอ่ื งกาเนดไฟฟ้าแตเ่ ปน็ การหมุนขดลวด กระแสไฟฟ้า ทองแดงทีอ่ ยู่ระหวา่ งแท่งแม่เหล็ก และ การผลติ ไฟฟา้ ที่ใชใ้ นบา้ นเป็นการผลิต ไฟฟา้ จานวนมากจึงไมส่ ามารถใช้แรงจาก คนในการหมนุ ขดลวดได้ ตอ้ งใช้พลังงาน จากแหลง่ พลังงานอน่ื สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
267 คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต ส่วนประกอบของเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้าตอ้ งมแี ท่งแมเ่ หลก็ และขดลวดทองแดง วิธกี าร ผลิตไฟฟ้าทาได้โดยหมุนขดลวดทองแดงท่อี ยู่ระหวา่ งแท่งแมเ่ หลก็ หรือหมนุ แทง่ แม่เหลก็ ทอี่ ยรู่ ะหว่างขดลวดทองแดง จะทาใหเ้ กิดกระแสไฟฟ้า ตา่ งกนั เมือ่ หมุนแขนของเครื่องกาเนดิ ไฟฟา้ เร็วขึน้ หลอดไฟฟา้ สวา่ งมากขน้ึ เพราะขดลวดทองแดงกบั แทง่ แม่เหลก็ หมุนตดั ผ่านกนั ไดเ้ รว็ ข้ึน การผลติ ไฟฟ้าในบ้านมีหลกั การผลิตเหมือนกับการผลติ ไฟฟา้ ดว้ ยชดุ สาธติ เครอ่ื ง กาเนิดไฟฟา้ แต่การผลิตไฟฟ้าในบ้านจะต้องใช้พลงั งานจากแหลง่ พลังงานอ่ืน ช่วยหมนุ ขดลวดทองแดงท่อี ยรู่ ะหวา่ งแทง่ แม่เหลก็ เพราะเป็นการผลติ ไฟฟา้ จานวนมาก การหมนุ แขนของเคร่อื งกาเนดิ ไฟฟ้าจะทาใหห้ ลอดไฟฟ้าสว่าง ย่ิงหมุนเร็วข้ึน หลอดไฟฟ้าจะยงิ่ สว่างมากขน้ึ การผลิตไฟฟา้ เกดิ จากการหมนุ ขดลวดทองแดงท่ี อยรู่ ะหว่างแท่งแม่เหล็ก หรอื การหมุนแทง่ แมเ่ หลก็ ท่อี ยู่ระหว่างขดลวดทองแดง ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 268 ไฟฟ้าผลติ ได้จากการหมนุ ขดลวดทองแดงทอี่ ยรู่ ะหวา่ งแท่งแมเ่ หล็ก หรือหมนุ แท่งแม่เหลก็ ท่ีอยรู่ ะหว่างขดลวดทองแดง ครูกระตุ้นใหน้ ักเรยี นฝึกตั้งคาถามเกี่ยวกับเรื่องท่สี งสัย หรอื อยากรู้ เพ่ิมเตมิ หรือสิ่งที่ยังไม่เขา้ ใจจากการทากิจกรรมในห้องเรยี น สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
269 ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ของนกั เรยี นทาได้ ดังนี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน 2. ประเมนิ การเรียนรจู้ ากคาตอบของนักเรยี นระหวา่ งการจดั การเรยี นรูแ้ ละแบบฝึกหัด 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรจ์ ากการทากิจกรรมของนักเรียน การประเมินจากการทากจิ กรรมท่ี 2.3 ผลติ ไฟฟา้ อยา่ งไร ระดับคะแนน 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ สงิ่ ทปี่ ระเมนิ คะแนน 1. การสงั เกต 7. การพยากรณห์ รือการคาดคะเน 8. การลงความเห็นจากข้อมูล 13. การตคี วามหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป รวมคะแนน ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ตามระดบั ความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดงั นี้ 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 1. การสงั เกต ใช้ประสาทสัมผัสในการเก็บ ใชป้ ระสาทสมั ผัสในการเกบ็ แมว้ ่าครูหรือผู้อ่ืนช่วยแนะนา รายละเอียดของส่ิงท่ีเกิดขึ้นได้ รายละเอยี ดของส่ิงท่เี กิดขึ้น หรือช้แี นะกไ็ ม่สามารถใช้ ด้วยตนเอง โดยไมเ่ พม่ิ เตมิ ความ โดยต้องอาศยั การช้ีแนะของครู ประสาทสัมผสั ในการเกบ็ คิ ด เ ห็ น ส่ิ ง ที่ สั ง เ ก ต ไ ด้ หรือผู้อื่น หรือใชป้ ระสาทสัมผสั ขอ้ มลู หรือมกี ารเพ่ิมเตมิ ประกอบดว้ ย ได้ดว้ ยตนเอง แตเ่ พ่ิมเตมิ ความ ความคดิ เหน็ - ส่วนประกอบของชุดสาธิต คดิ เหน็ เครอ่ื งกาเนิดไฟฟา้ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 270 ทักษะกระบวนการ ดี ระดับความสามารถ ควรปรับปรงุ ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ - ผลที่เกิดข้ึนเมื่อหมุนแขนของ เครอ่ื งกาเนิดไฟฟ้าด้วยความเร็ว ท่ตี ่างกัน 7. การพยากรณ์ คาดคะเนผลหรือสิ่งที่จะเกิดข้ึน คาดคะเนผลหรอื ส่ิงท่จี ะเกิดข้ึน ไมส่ ามารถคาดคะเนผลหรือ หรอื การคาดคะเน ล่วงหน้าเม่ือหมุนแขนเคร่ือง ล่วงหน้าเมือ่ หมนุ แขนเครื่อง สง่ิ ที่จะเกิดขึน้ ลว่ งหนา้ เม่ือ กาเนิดไฟฟ้าเร็วขึ้นได้อย่างมี กาเนิดไฟฟา้ เร็วข้นึ ได้ โดยอาศัย หมุนแขนเครื่องกาเนดิ ไฟฟ้า เหตุผลโดยอาศัยความรู้หรือ การช้แี นะของครูหรือผอู้ ื่น เรว็ ขนึ้ แมว้ า่ ครหู รือผู้อนื่ ชว่ ย ประสบการณ์เดิมมาช่วยได้ด้วย แนะนาหรือช้แี นะ ตนเอง 8. การลงความเห็น เพิ่มเติมความคิดเห็นเก่ียวกับ เพมิ่ เติมความคิดเหน็ เกี่ยวกับ ไมส่ ามารถแสดงความ จากข้อมลู คดิ เหน็ เกีย่ วกับการผลิต การผลิตไฟฟ้าจากเครื่องกาเนิด การผลติ ไฟฟา้ จากเครื่องกาเนิด ไฟฟ้าจากเครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟ้า และการผลติ ไฟฟ้าในบา้ น ไฟฟ้าและการผลิตไฟฟ้าในบ้าน ไฟฟา้ และการผลติ ไฟฟา้ ในบ้าน หรอื เพ่มิ เตมิ ความคิดเห็น อยา่ งถูกต้องบางสว่ น พยายาม อย่างไม่สมเหตุสมผล แมว้ า่ อย่างถูกต้อง มีเหตุผล จาก ใหเ้ หตผุ ลจากความรหู้ รอื ครูหรือผอู้ นื่ ช่วยแนะนาหรอื ชี้แนะ ความรู้หรือประสบการณ์เดิมได้ ประสบการณ์เดมิ ได้จากการ ด้วยตนเอง ชแ้ี นะของครูหรือผู้อ่นื 13. การ ตีความหมายข้อมูลจากการ ครูหรือผู้อ่ืนต้องช่วยแนะนา ไม่สามารถตคี วามหมาย ตีความหมายข้อมูล และการลงข้อสรปุ สังเกตและลงข้อสรุปได้ด้วย ห รื อ ชี้ แ น ะ จึ ง จ ะ ส า ม า ร ถ ขอ้ มูลจากการสังเกต และลง ตนเองว่าไฟฟ้าผลิตได้จากการ ตีความหมายข้อมูลจากการ ข้อสรปุ ได้ด้วยตนเองว่าไฟฟ้า สังเกต และลงข้อสรุปว่าไฟฟ้า ผลิตไดจ้ ากการหมนุ ขดลวด ห มุ น ข ด ล ว ด ท อ ง แ ด ง ที่ อ ยู่ ผ ลิ ต ไ ด้ จ า ก ก า ร ห มุ น ข ด ล ว ด ทองแดงที่อยรู่ ะหว่างแท่ง ระหว่างแท่งแม่เหล็ก หรือหมุน ทองแดงที่อยู่ระหว่า ง แ ท่ ง แม่เหลก็ หรือหมนุ แท่งแม่เหล็กท่ีอยู่ระหว่างขด แม่เหล็ก หรือหมุนแท่งแม่เหล็ก แทง่ แมเ่ หล็กที่อยรู่ ะหว่าง ลวดทองแดง ที่อยรู่ ะหว่างขดลวดทองแดง ขดลวดทองแดง แมว้ า่ ครูหรือ ผูอ้ ่นื ชว่ ยแนะนาหรือชี้แนะ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
271 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ กิจกรรมที่ 2.4 แหลง่ พลังงานทใ่ี ช้ผลิตไฟฟ้ามอี ะไรบ้าง กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้ว่าแหล่งพลังงานท่ีใช้ผลิตไฟฟ้ามีทั้งแหล่งพลังงาน หมุนเวียนซ่ึงมีไม่จากัดและแหล่ง พลังงานสิ้นเปลืองทใ่ี ช้แลว้ หมดไป ผา่ นการสบื ค้นขอ้ มูล เวลา 1 ช่ัวโมง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สืบคน้ ข้อมลู และจาแนกแหลง่ พลังงานท่ีใช้ผลิตไฟฟา้ วสั ดุ อปุ กรณส์ าหรบั ทากจิ กรรม สิ่งทค่ี รตู อ้ งเตรยี ม/กลมุ่ - สง่ิ ที่นักเรยี นตอ้ งเตรยี ม - สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 89 – 92 2. แบบฝึกหัด หนา้ 121 – 125 ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การจาแนกประเภท การลงความเห็นจากข้อมูล การตีความหมายข้อมลู และการลงข้อสรุป แนวการจดั การเรยี นรู้ ในการตรวจสอบความรู้ ครูเพียง รับฟังเหตุผลของนักเรียน และยังไม่ 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเก่ียวกับแหล่งพลังงานที่ใช้ เฉลยคาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่ ผลิตไฟฟ้า โดยอาจใช้คาถาม เช่น แหล่งพลังงานท่ีใช้ผลิตไฟฟ้าที่ ชักชวนนักเรียน ไปหาคาตอบด้วย นักเรียนทราบมีอะไรบ้าง (นักเรียนสามารถตอบตามความเข้าใจ ตัวเองจากการทากิจกรรม ของตนเอง) 2. นกั เรียนเปดิ หนังสือเรียนหนา้ 89 อา่ นชือ่ กจิ กรรม และ ทา เป็นคิดเป็น จากน้ันครูให้นักเรียนสรุปส่ิงท่ีได้อ่าน โดยอาจใช้ คาถามดังต่อไปนี้ 2.1 กิจกรรมน้ีนกั เรยี นจะไดเ้ รยี นเก่ยี วกบั เรื่องอะไร (แหลง่ พลงั งานทใ่ี ชผ้ ลิตไฟฟ้า) ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 272 2.2 นกั เรยี นจะได้เรยี นเรือ่ งนด้ี ว้ ยวธิ ีใด (การสบื ค้นข้อมูล) การเตรยี มตัวล่วงหนา้ สาหรบั ครู 2.3 เมื่อเรียนแล้ว นักเรียนจะทาอะไรได้ (จาแนกแหล่งพลังงาน เพอ่ื จัดการเรยี นรู้ในครง้ั ถดั ไป ท่ใี ช้ผลิตไฟฟ้า) ในคาบถัดไ ป นักเรียนจะ ไ ด้ ท า 3. ครใู หน้ กั เรยี นอ่าน ฝึกทักษะ แลว้ ชแี้ จงวา่ ในกจิ กรรมนีน้ กั เรียนจะ กิจกรรมท่ี 2.5 ใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดและ ปลอดภัยได้อย่างไร โดยครูอาจเตรียมสื่อ ไดฝ้ กึ ทักษะทางวทิ ยาศาสตรเ์ หล่าน้ี ต่าง ๆ เพ่ือสร้างความตระหนักเก่ียวกับ 4. นักเรียนอ่าน ทาอย่างไร ทีละข้อ โดยครูฝึกการอ่านของนักเรียน การใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างประหยัดและ ปลอดภัย โดยอาจเตรียมวีดิทัศน์จาก ตามความเหมาะสม จากนั้นร่วมกันสรุปและทบทวนข้ันตอนการ แหล่งต่าง ๆ มาเปิดให้นักเรียนดูและ ทากิจกรรมให้เข้าใจตรงกัน โดยอาจถามนักเรียนว่าเราต้องทา อภปิ รายร่วมกนั อะไรบา้ งในกจิ กรรมนี้ 5. นักเรียนลงมือทากิจกรรมโดยร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับแหล่ง • กระทรวงพลังงาน พลงั งานทใ่ี ช้ในการผลติ ไฟฟ้า http://energy.go.th 6. นักเรียนอ่านใบความรู้ เร่ืองแหล่งพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้าของ ประเทศไทย ในหนังสือเรียนหน้า 90 จากนั้นจาแนกแหล่ง • การไฟฟา้ ฝ่ายผลิตแห่งประเทศ พลังงานท่ใี ช้ผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยจากการอ่านใบความรู้ (4) ไทย http://www.egat.co.th/ 7. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายและลงข้อสรุป (13) โดยครูอาจใช้คาถาม ดังน้ี 7.1 แหลง่ พลงั งานใดท่ปี ระเทศไทยนามาใช้ในการผลิตไฟฟา้ เปน็ ส่วนใหญ่ (8) (แก๊สธรรมชาต)ิ 7.2 จากใบความรู้ แหล่งพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้ามีอะไรบ้าง (แหล่งพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้า ได้แก่ แก๊สธรรมชาติ ถา่ นหิน น้ามันเตา น้ามันดเี ซล แสงอาทิตย์ นา้ ลม ชีวมวล แกส๊ ชวี ภาพ) 7.3 นักเรียนสรุปเก่ียวกับแหล่งพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้าได้ว่า อย่างไร (ไฟฟ้าผลิตมาจากแหล่งพลังงานหลายแหล่ง บางแหล่งเปน็ แหล่งพลังงานสน้ิ เปลือง บางแหลง่ เป็นแหล่ง พลังงานหมนุ เวียน) 8. นักเรียนตอบคาถามฉันรู้อะไร และเขียนคาถามที่อยากรู้ลงใน อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัด หน้า 122 จากนั้นครูสุ่มให้นักเรียน 2 – 3 คน นาเสนอคาถามของตนเองหนา้ ช้ันเรยี น 9. ครูนาอภิปรายให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตรใ์ นข้ันตอนใดบา้ ง สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
273 คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวติ แนวคาตอบในแบบฝึกหัด สืบคน้ ขอ้ มูลและจาแนกแหล่งพลงั งานที่ใชผ้ ลิตไฟฟ้า น้ามัน แกส๊ ธรรมชาติ นา้ มัน แกส๊ ธรรมชาติ ลม นา้ แสงอาทติ ย์ ถ่านหิน ลม น้า ถา่ นหนิ แสงอาทติ ย์ ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ 274 แก๊สธรรมชาติ ใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและหาแหล่งพลงั งานหมนุ เวียนซ่งึ ใช้แลว้ ไมห่ มดไป มาทดแทน ไฟฟา้ ผลติ มาจากแหล่งพลงั งานหลายแหลง่ ทัง้ แหลง่ พลังงานสน้ิ เปลืองซ่งึ ใชแ้ ลว้ หมดไป เช่น แกส๊ ธรรมชาติ น้ามัน ถา่ นหนิ และแหลง่ พลงั งานหมนุ เวยี น ซึ่งใช้แลว้ ไมห่ มดไป เชน่ แสงอาทิตย์ นา้ ลม ไฟฟา้ ผลติ มาจากแหลง่ พลังงานหลายแหล่ง ทง้ั แหลง่ พลังงานสน้ิ เปลือง และแหล่งพลังงานหมนุ เวยี น ครกู ระตุ้นใหน้ กั เรียนฝกึ ต้งั คาถามเก่ยี วกับเร่ืองทีส่ งสัย หรอื อยากรู้ เพมิ่ เติม หรือส่ิงท่ียังไม่เข้าใจจากการทากิจกรรมในหอ้ งเรยี น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
275 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ของนกั เรียนทาได้ ดังนี้ 1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการอภิปรายในชน้ั เรียน 2. ประเมินการเรียนรู้จากคาตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจดั การเรยี นร้แู ละแบบฝกึ หัด 3. ประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการทากิจกรรมของนกั เรียน การประเมนิ จากการทากิจกรรมที่ 2.4 แหล่งพลังงานท่ีใชผ้ ลิตไฟฟ้ามีอะไรบ้าง ระดบั คะแนน 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ สง่ิ ท่ีประเมิน คะแนน 4. การจาแนกประเภท 8. การลงความเหน็ จากข้อมูล 13. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ รวมคะแนน ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต์ ามระดับความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมนิ ดังน้ี 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 4.การจาแนก จาแนกแหล่งพลังงานส้ินเปลือง สามารถจาแนกแหล่งพลังงาน ไมส่ ามารถจาแนกแหล่ง ประเภท และแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้ สิ้นเปลอื งและแหล่งพลังงาน พลงั งานส้นิ เปลอื งและแหล่ง อยา่ งถกู ตอ้ งด้วยตนเอง หมนุ เวยี นจากการชแ้ี นะของครู พลังงานหมนุ เวียนได้ แมว้ ่า หรือผู้อืน่ ครหู รือผ้อู ่นื ชว่ ยแนะนาหรือ ช้ีแนะ 8.การลงความเหน็ เพ่ิมเติมความคิดเห็นเก่ียวกับ เพ่มิ เติมความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ไม่สามารถแสดงความ จากข้อมลู การจาแนกแหล่งพลังงานท่ีใช้ การจาแนกแหลง่ พลังงานท่ีใช้ คดิ เห็นเกยี่ วกบั การจาแนก ผลติ ไฟฟา้ อย่างถูกต้อง มเี หตผุ ล ผลิตไฟฟ้าอยา่ งถกู ต้องบางสว่ น แหล่งพลังงานที่ใชผ้ ลิตไฟฟา้ ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 276 ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรุง จากความรู้หรือประสบการณ์ พยายามใหเ้ หตผุ ลจากความรู้ หรอื เพ่ิมเตมิ ความคิดเห็น เดิมได้ดว้ ยตนเอง หรือประสบการณเ์ ดิมไดจ้ าก อย่างไมม่ เี หตผุ ล แมว้ า่ ครู การชี้แนะของครหู รือผูอ้ น่ื หรอื ผู้อน่ื ชว่ ยแนะนาหรือ ช้แี นะ 13.การตคี วามหมาย ตีความหมายข้อมูลจากการอ่าน ครูหรอื ผูอ้ ่นื ต้องช่วยแนะนา ไม่สามารถตีความหมาย ข้อมลู และการลง ใบความรู้ และลงข้อสรุปได้ด้วย หรอื ช้แี นะจึงจะสามารถ ข้อมูล และลงข้อสรุปไดด้ ว้ ย ข้อสรุป ตนเองว่าไฟฟ้าผลิตมาจาก ตีความหมายข้อมลู และลง ตนเองว่าไฟฟา้ ผลิตมาจาก ข้อสรปุ ได้ด้วยตนเองวา่ ไฟฟ้า แหลง่ พลังงานหลายแหลง่ แหล่งพลังงานหลายแหล่ง ท้ัง ผลิตมาจากแหลง่ พลงั งานหลาย ทั้งแหล่งพลงั งานส้ินเปลือง แหล่งพลังงานส้ินเปลืองและ แหล่ง ทั้งแหล่งพลงั งาน และแหล่งพลงั งานหมุนเวียน แหล่งพลังงานหมุนเวยี น สน้ิ เปลืองและแหลง่ พลงั งาน แมว้ า่ ครูหรอื ผู้อ่ืนช่วยแนะนา หมนุ เวยี น หรอื ช้แี นะ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
277 ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ กจิ กรรมที่ 2.5 ใช้ไฟฟ้าให้ประหยดั และปลอดภยั ได้อยา่ งไร กจิ กรรมน้ีนักเรียนจะไดเ้ รยี นรเู้ กีย่ วกบั การใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภยั ผ่านการสืบค้นขอ้ มูล เวลา 1 ชัว่ โมง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สืบคน้ ข้อมลู และอธิบายเกย่ี วกับการใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและปลอดภัย วัสดุ อุปกรณ์สาหรบั ทากจิ กรรม สิ่งท่ีครตู ้องเตรยี ม/หอ้ ง - สิ่งท่นี กั เรยี นต้องเตรยี ม - สอ่ื การเรียนรู้ หนา้ 91 – 92 หนา้ 123 – 125 1. หนงั สือเรียน 2. แบบฝึกหดั ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การลงความเหน็ จากข้อมูล การตคี วามหมายข้อมลู และการลงขอ้ สรุป แนวการจดั การเรียนรู้ 1. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 91 อ่านชื่อกิจกรรมและทาเปน็ คดิ เปน็ ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเกย่ี วกับสิ่งที่จะเรียนใน กิจกรรมนี้ โดยใช้คาถามดังตอ่ ไปน้ี 1.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเร่ืองอะไร (การใช้ ไฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภัย) 1.2 นกั เรียนจะได้เรียนเร่ืองน้ีด้วยวธิ ีใด (การสืบคน้ ข้อมูล) 1.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายเก่ียวกับการใช้ ไฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภัย) 2. ครูให้นักเรียนอ่าน ฝึกทักษะ แล้วชี้แจงว่าในกิจกรรมน้ีนักเรียน จะได้ฝกึ ทักษะทางวทิ ยาศาสตร์เหลา่ นี้ ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 278 3. นกั เรยี นอ่าน ทาอยา่ งไร โดยครูฝึกการอ่านของนกั เรียนตามความ เหมาะสม จากนนั้ ถามนักเรยี น ดังนี้ 3.1 กิจกรรมน้ี นักเรียนต้องทาอะไรบ้าง (ดูรูปหน้า 91 แล้ว อภิปรายกับเพ่ือนเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าในการทากิจกรรม ตา่ งๆ ของคนในรูป) 3.2 ส่ิงที่นักเรียนต้องสังเกตคืออะไร (กิจกรรมในรูปมีการใช้ ไฟฟ้าอย่างไร ประหยดั และปลอดภัยหรอื ไม่) 4. นักเรียนทากิจกรรมโดยจับคู่กับเพ่ือนท่ีนั่งข้าง ๆ เพื่ออภิปราย แลกเปลี่ยน และลงความเห็นรว่ มกันเมื่อนักเรียนทากิจกรรมเสร็จ แล้ว ครูสุ่มให้นักเรียน 2 – 3 คู่ นาเสนอส่ิงท่ีค้นพบ โดยครูจด ประเด็นที่นักเรียนนาเสนอไว้ จากนั้นครูให้นักเรียนที่มีความเห็น แตกต่างนาเสนอเพ่ิมเติม แล้วครูและนักเรียนร่วมกันอภิปราย โดยอาจใชค้ าถามดังนี้ 4.1 กิจกรรมใดในภาพที่เป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างไม่ปลอดภัย (เป่า ผมขณะตัวเปียก เสียบปล๊ักทิ้งไว้ เสียบเคร่ืองใช้ไฟฟ้าหลาย ชนิดพรอ้ มกัน เอานิ้วแหย่ไปท่ีปลั๊กไฟ) 4.2 กิจกรรมใดในภาพเป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างไม่ประหยัด (เสียบปลั๊กเตารีดทิ้งไว้ เสียบเคร่ืองใช้ไฟฟ้าหลายชนิด พร้อมกนั เปดิ ไฟหลายดวงท้งิ ไว้โดยไม่จาเปน็ ) 4.3 ผู้หญิงในภาพใช้ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร (ไม่ เหมาะสม เมื่อตัวเปียกเราไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าใด ๆ ท้ังสนิ้ ควรเช็ดตวั ใหแ้ ห้งกอ่ น) 4.4 ถ้ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดและต้องใช้พร้อม ๆ กัน นักเรียนควรทาอยา่ งไร (เราตอ้ งแบง่ เครื่องใช้ไฟฟ้าไปเสียบที่ เต้ารับแต่ละตัว ไม่ควรเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดบน เต้ารับเดียวกัน เพราะจะทาให้เกิดความร้อน อาจเป็น อันตรายได้) 4.5 ถ้ามีน้องหรือเด็กเล็กอยู่ในบ้าน นักเรียนจะช่วยให้น้อง ปลอดภัยจากการถูกไฟฟ้าช๊อตได้อย่างไรบ้าง (หาอุปกรณ์ หรือเทปมาติดท่ีปล๊ักไฟ หรือช่วยดูแลและเตือนไม่ให้น้อง เลน่ ปล๊กั ไฟหรืออน่ื ๆ ตามความเขา้ ใจของนกั เรียน) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายกิจกรรมเพ่ือลงข้อสรุปร่วมกันว่า พลังงานไฟฟ้ามีประโยชน์ แต่ก็มีอันตราย ดังนั้นการใช้ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
279 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือทากิจกรรมต่าง ๆ ใกล้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าหรือ สายไฟฟ้าต้องระมัดระวัง และไฟฟ้าส่วนใหญ่ผลิตจากแหล่ง พลังงานสิ้นเปลืองและใช้งบประมาณมาก เราต้องช่วย ประเทศชาติประหยัดไฟฟ้า (13) 6. นักเรียนตอบคาถามฉันรู้อะไร และเขียนคาถามท่ีอยากรู้ลงใน อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัดหน้า 125 จากนั้นครูสุ่มให้นักเรียน 2 – 3 คนนาเสนอคาถามของตนเองหน้าช้ันเรียน 7. ครูนาอภิปรายให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ในขนั้ ตอนใดบ้าง ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 280 แนวคาตอบในแบบฝกึ หัด สบื คน้ ข้อมูลและอธิบายเก่ียวกบั การใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า อยา่ งประหยดั และปลอดภยั เป่าผมขณะตัวเปียก ต้องเชด็ ตวั ใหแ้ ห้งกอ่ น ตอ้ งไม่เป่าผมขณะท่ตี วั เปียกน้า เสยี บปลั๊กเตารดี ท้ิงไว้ ไม่เสียบเตารดี ทิ้งไว้ เล่นวา่ วใกลส้ ายไฟฟ้า และวางเตารดี บนท่วี าง เสียบเคร่อื งใช้ไฟฟา้ หลายชนิดพร้อมกนั และไมร่ ดี ผ้าครง้ั ละน้อยๆ ไม่เลน่ ว่าวใกล้สายไฟฟา้ ไม่เสียบเครือ่ งใช้ไฟฟ้า หลายชนิดพรอ้ มกนั หากจาเป็นใหเ้ สียบแยกเตา้ รับ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
281 คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ เอานว้ิ แหยไ่ ปท่ีเต้ารับ ตอ้ งยา้ ยเต้ารบั ให้พน้ มอื เด็ก หรือหาเทปกาว เปิดไฟฟ้าหลายดวงท้งิ มาปดิ รเู ตา้ รบั ไวโ้ ดยไมจ่ าเปน็ ปิดไฟฟ้าดวงท่ไี ม่ จาเปน็ ตอ้ งใช้ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 282 ใชไ้ ฟฟา้ เม่ือจาเปน็ ไม่เปดิ ไฟฟ้าทิ้งไว้ ในการรีดผา้ ควรรีดผา้ คร้งั ละมาก ๆ ไมเ่ สยี บปลกั๊ เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าท้ิงไว้ ไมใ่ ช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าเมอ่ื ตัวเปียก ไม่เล่นวา่ วใกลส้ ายไฟฟ้า ไมเ่ อานิ้วแหยใ่ นเต้ารับ ไม่ใชเ้ ตา้ เสยี บหลายตวั กบั เตา้ รับตวั เดยี ว การใชไ้ ฟฟ้าอย่างปลอดภัย เช่น การไม่เป่าผมขณะตวั เปยี ก ไม่เสียบเตารีดท้ิงไว้ ไม่เสยี บเครื่องใช้ไฟฟา้ หลายชนดิ พร้อมกนั การใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยดั เชน่ ไมร่ ดี ผ้าครั้งละน้อย ๆ ปิดไฟดวงท่ีไมจ่ าเป็นตอ้ งใช้ การใช้ไฟฟ้าตอ้ งใชอ้ ย่างถกู วิธเี พอ่ื ความปลอดภัย นอกจากน้ยี ังตอ้ งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยัดด้วย ครกู ระต้นุ ให้นกั เรียนฝึกตง้ั คาถามเก่ียวกับเรือ่ งท่สี งสัย หรอื อยากรู้ เพมิ่ เติม หรือส่ิงทย่ี ังไม่เข้าใจจากการทากิจกรรมในหอ้ งเรียน สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
283 คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรขู้ องนักเรียนทาได้ ดังนี้ 1. ประเมนิ ความรูเ้ ดิมจากการทากจิ กรรมและการอภิปรายในชัน้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรียนรู้จากคาตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจัดการเรียนรแู้ ละแบบฝกึ หัด 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการทากจิ กรรมของนกั เรยี น การประเมนิ จากการทากจิ กรรมที่ 2.5 ใช้ไฟฟา้ ใหป้ ระหยัดและปลอดภัยไดอ้ ย่างไร ระดับคะแนน 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ สงิ่ ทีป่ ระเมนิ คะแนน 8. การลงความเห็นจากขอ้ มูล 13. การตคี วามหมายข้อมลู และการลงข้อสรุป รวมคะแนน ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต์ ามระดับความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใชเ้ กณฑ์การประเมิน ดงั นี้ 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 8. การลงความเห็น เพ่ิมเติมความคิดเห็นเกี่ยวกับ เพิ่มเติมความคิดเห็นเกีย่ วกบั ไมส่ ามารถแสดงความ จากข้อมูล การใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดและ การใช้ไฟฟ้าให้ประหยดั และ คดิ เหน็ เกย่ี วกบั การใช้ไฟฟา้ ปลอดภยั อย่างถกู ตอ้ ง มีเหตุผล ปลอดภัย อยา่ งถูกต้องบางสว่ น ใหป้ ระหยดั และปลอดภัย จากความรู้หรือประสบการณ์ พยายามให้เหตผุ ลจากความรู้ หรอื เพม่ิ เตมิ ความคิดเหน็ เดิมไดด้ ้วยตนเอง หรือประสบการณ์เดมิ ไดจ้ าก อยา่ งไมส่ มเหตุสมผล แมว้ ่า การชีแ้ นะของครูหรือผ้อู ่นื ครหู รือผอู้ ่นื ชว่ ยแนะนาหรือ ชแี้ นะ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต 284 ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 13.การตคี วามหมาย ตีความหมายข้อมูลจากการ ครูหรือผู้อื่นต้องช่วยแนะนา ไมส่ ามารถตคี วามหมาย ขอ้ มูลและการลง สืบค้นข้อมูล และลงข้อสรุปได้ ห รื อ ชี้ แ น ะ จึ ง จ ะ ส า ม า ร ถ ข้อมลู จากการสืบคน้ ข้อมูล ข้อสรปุ ด้วยตนเองว่าพลังงานไฟฟ้ามี ตีความหมายข้อมูลจากการ และลงข้อสรปุ ได้ว่าพลังงาน ประโยชน์ แต่ก็มอี ันตรายถ้าใช้ไม่ สืบค้นข้อมูลและลงข้อสรุปได้ว่า ไฟฟา้ มีประโยชน์ แต่ก็มี ถกู วธิ ี ดังนั้นการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้ามีประโยชน์ แต่ก็มี อนั ตรายถา้ ใชไ้ ม่ถูกวธิ ี ดังนน้ั ต้องใช้อย่างถูกวิธีและในการทา อันตรายถ้าใช้ไม่ถูกวธิ ี ดงั น้นั การ การใช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าต้องใช้ กิจกรรมตา่ ง ๆ ใกลเ้ ครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องใช้อย่างถูก อย่างถูกวธิ ีและในการทา หรื อสายไฟฟ้ าต้ องมี ค ว า ม วิธีและในการทากิจกรรมต่าง ๆ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ใกล้ ระมัดระวัง นอกจากน้ีการใช้ ใกลเ้ คร่ืองใช้ไฟฟ้าหรือสายไฟฟ้า เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าหรือสายไฟฟ้า ไฟฟ้าต้องใช้อยา่ งประหยัด ต้ อ ง มี ค ว า ม ร ะ มั ด ร ะ วั ง ต้องมีความระมดั ระวัง นอกจากนี้การใช้ไฟฟ้าต้องใช้ นอกจากนก้ี ารใช้ไฟฟ้าต้องใช้ อยา่ งประหยัด อยา่ งประหยดั แม้ว่าครูหรือ ผู้อ่ืนชว่ ยแนะนาหรอื ชแี้ นะ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
285 คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต สรุปบทท่ี 1 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟ้า แนวการสรปุ ทา้ ยบท 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าในบทเรียนท่ีผ่านมา นักเรียน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง จากนั้นครูให้นักเรียนอ่านฉันรู้อะไร เกยี่ วกับแรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ ในหนงั สอื เรียน หน้า 94 2. นักเรียนกลับไปทากิจกรรมสารวจความรู้ก่อนเรียน อีกคร้ัง ใน แบบฝกึ หดั หน้า 103 เพื่อเปรียบเทยี บความเข้าใจก่อนและหลัง เรยี นของนักเรยี น 3. นักเรียนทากิจกรรมฝึกฝนตนเอง ในแบบฝึกหัด หน้า 126 และ แบบฝึกหัดท้ายหน่วย ในแบบฝึกหัดหน้า 130 จากน้ันครูนา อภิปรายโดยให้นักเรียนนาเสนอแนวคาตอบของตนเอง หาก นักเรียนยังมีแนวคิดคลาดเคล่ือน ให้ครูแก้ไขแนวคิดน้ันให้ ถูกต้อง ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ 286 แนวคาตอบในฝกึ ฝนตนเอง วตั ถุบางอย่าง เช่น ไมบ้ รรทัดพลาสติก ลูกโป่ง เมอื่ ถูดว้ ยผา้ แห้ง แล้วนามาใกล้ เส้นผม จะเกดิ แรงไฟฟ้ากระทาต่อเสน้ ผม ทาใหเ้ สน้ ผมชเ้ี ข้าหาวตั ถุน้นั ได้ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
287 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต พลงั งานจากแหล่งพลังงานต่าง ๆ แหลง่ พลังงานหมุนเวยี น น้า ลม แสงอาทิตย์ แกส๊ ธรรมชาติ นา้ มนั ถ่านหนิ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวิต 288 ควรหลกี เลย่ี งผ้าที่มสี ่วนผสมของพลาสติก เช่น ผ้าใยสังเคราะห์ การประดษิ ฐ์ไฟฉายจากเครอ่ื งกาเนิดไฟฟา้ ต้องประกอบดว้ ยแมเ่ หล็ก และขดลวดทองแดง ไฟฉายจากเคร่อื งกาเนิดไฟฟ้าจะทางานได้โดย การทาให้ขดลวดทองแดงที่อยรู่ ะหว่างแท่งแมเ่ หล็กหรือแท่งแม่เหล็ก ทอ่ี ย่รู ะหว่างขดลวดทองแดงมกี ารเคล่ือนท่ี จากน้นั ต่อสายไฟฟ้าจาก อุปกรณเ์ ขา้ กับหลอดไฟฟ้าในไฟฉายเพื่อใหไ้ ฟฉายทางานได้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
289 คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวติ เกณฑก์ ารตรวจ พิจารณาจากความคิด สร้างสรรคแ์ ละการมีเหตุผล ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชีวติ 290 แนวคาตอบในแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วย วัตถุ A คือ ไม้บรรทัดพลาสติกท่ถี ดู ว้ ยกระดาษเย่อื จึงมีประจไุ ฟฟ้าชนิดเดียวกนั กับ ไม้บรรทัดพลาสตกิ ท่นี ามาใกล้และเกิดการเบนออกห่างจากกนั พลังงานกล → พลังงานไฟฟ้า → พลังงานแสง สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
291 คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ติ x x x ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงานกับชวี ิต 292 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341