Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ป.3 สสวท

ป.3 สสวท

Published by patteenee21, 2020-05-11 01:25:14

Description: ป.3 สสวท

Search

Read the Text Version

143 ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวิต ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ ความรหู้ รอื ประสบการณ์เดมิ ได้ อยา่ งไมม่ ีเหตุผล แม้ครูหรอื จากการช้แี นะของครูหรือผู้อ่ืน ผอู้ นื่ ชว่ ยแนะนา้ หรอื ชแ้ี นะ 13. การ ตีความหมายข้อมูลจากการ ครูหรอื ผูอ้ ่นื ตอ้ งช่วยแนะน้า ไม่สามารถตคี วามหมายจาก ตีความหมายข้อมลู สังเกต และลงข้อสรุปได้ด้วย หรือชแ้ี นะจึงจะสามารถ การสังเกตและลงข้อสรปุ ได้ และการลงขอ้ สรปุ ตนเองว่าน้ามีน้าหนัก (ตอนท่ี ตคี วามหมายจากการสังเกตและ ดว้ ยตวั เอง แม้ครูหรือผู้อน่ื 1) การครอบครองพ้ืนท่ีของน้า ลงขอ้ สรปุ ได้ด้วยตวั เองว่าน้ามี ช่วยแนะน้าหรอื ชีแ้ นะว่านา้ มี ใ น ภ า ช น ะ รู ป ร่ า ง ข อ ง น้ า น้าหนัก (ตอนที่ 1) การ น้าหนัก (ตอนที่ 1) การ เหมือนกับภาชนะที่บรรจุ (ตอน ครอบครองพน้ื ที่ของนา้ ใน ครอบครองพนื้ ที่ของนา้ ใน ที่ 2) ระดับผิวหน้าของน้าอยู่ใน ภาชนะ รปู รา่ งของน้าเหมอื นกบั ภาชนะ รปู รา่ งของน้า แนวราบเสมอและผิวหน้าเรียบ ภาชนะทบ่ี รรจุ (ตอนท่ี 2) เหมือนกับภาชนะท่บี รรจุ ( ต อ น ท่ี 3 ) น้ า ล ะ ล า ย ส า ร ระดับผิวหน้าของนา้ อยู่ใน (ตอนที่ 2) ระดบั ผิวหน้าของ บางอยา่ งได้ (ตอนที่ 4) แนวราบเสมอและผิวหนา้ เรยี บ น้าอยู่ในแนวราบเสมอและ (ตอนท่ี 3) น้าละลายสาร ผวิ หนา้ เรียบ (ตอนท่ี 3) น้า บางอยา่ งได้ (ตอนท่ี 4) ละลายสารบางอย่างได้ (ตอน ท่ี 4) ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต 144 สรุปบทท่ี 1 น้าและสมบตั ิของน้า แนวการสรุปทา้ ยบท 1. นักเรียนร่วมกันอ่าน ฉันเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับน้าและสมบัติของน้า ในหนังสือเรียนหน้า 46-47 โดยครูอาจจะให้นักเรียนอ่านพร้อม กัน หรืออ่านทีละคนครูน้าอภิปรายเพ่ือสรุปบทเรียน และเปิด โอกาสให้นักเรียนได้ถามค้าถามเพม่ิ เติมที่นักเรยี นยงั สงสัยอยู่ 2. ครูให้นักเรียนตรวจผลการท้ากิจกรรมส้ารวจความรู้ก่อนเรียนใน แบบฝึกหัดหน้า 34 หากนักเรียนต้องการแก้ไขค้าตอบท่ีเคยตอบ ไว้ ให้นกั เรียนแกไ้ ขโดยใชส้ แี ดง 3. นักเรียนท้ากิจกรรมฝึกฝนตนเองจากนั้นครูน้าอภิปรายโดยให้ นักเรียนน้าเสนอแนวค้าตอบของตนเอง หากนักเรียนยังมีแนวคิด คลาดเคล่อื นใหค้ รูแกไ้ ขแนวคดิ น้นั ให้ถูกต้อง สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

145 คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต แนวคา้ ตอบในฝกึ ฝนตนเอง นา้ แขง็ น้า และไอน้า เหมอื นกนั คอื มีนา้ หนักและต้องการทอี่ ยูแ่ ตน่ า้ แข็ง น้า และไอน้าก็แตกตา่ ง กนั นา้ แข็งเปน็ กอ้ น เยน็ หยบิ หรือจบั ได้ ส่วนนา้ ไม่เป็นกอ้ น หยิบหรอื จับไมไ่ ด้ ไอน้ามองไมเ่ หน็ หยบิ หรือจับไมไ่ ด้ ฟงุ้ กระจายได้ น้ามีน้าหนกั เปลี่ยนรูปร่างตามภาชนะท่บี รรจุ ละลายสารบางอยา่ งได้ และ ผวิ หน้าของนา้ จะอยู่ในแนวราบเสมอ ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กบั ชีวติ 146 สมบตั ิของน้าในเรือ่ งที่เก่ียวกับการดดู ธาตอุ าหารจากดินไปใช้ประโยชน์ คอื สมบัติเก่ยี วกับการละลาย น้าสามารถละลายแร่ธาตตุ ่างๆ ท่ีอยู่ในดิน ท้าให้พชื สามารถดดู แร่ธาตเุ หล่าน้นั ไปใช้ประโยชนไ์ ด้ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

147 คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต ค้าตอบขึ้นอยู่กบั นกั เรยี น ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต 148 บทที่ 2 อากาศและสมบัตขิ องอากาศ แนวคิดส้าคญั อากาศเป็นแก๊ส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีน้าหนัก ต้องการที่อยู่ อากาศ ประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจน แก๊สออกซิเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และแก๊สอื่น ๆ นอกจากนี้ในอากาศยังมีไอน้าและฝุ่นละออง อากาศ เป็นปัจจัยส้าคัญในการด้ารงชีวิตของสิ่งมีชีวิต อุณหภูมิของอากาศที่ แตกต่างกนั ท้าให้เกิดลม ซงึ่ มที ้ังประโยชน์และโทษตอ่ มนุษย์ บทนม้ี อี ะไร เรือ่ งท่ี 1 อากาศ อา่ นเป็น มลพิษทางอากาศ กจิ กรรมท่ี 1.1 อากาศมสี ่วนประกอบและสมบัตอิ ะไรบา้ ง กจิ กรรมท่ี 1.2 อณุ หภมู ิของอากาศในหนงึ่ วนั เป็นอย่างไร กิจกรรมที่ 1.3 ลมเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ย่างไร ส่อื การเรียนรู้ หนา้ 50-68 หน้า 70-97 1. หนังสือเรยี น 2. แบบฝกึ หัด สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

149 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กิจกรรมท่ี แนวคดิ คลาดเคลอ่ื น ครูควรฟังการสนทนาอภิปรายของนักเรียน ท่ี ทักษะ 1.1 2.1 2.2 อยา่ งตอ่ เนอื่ ง พรอ้ มบนั ทึกแนวคิดของนักเรียน ไว้ เพื่อที่จะจัดการเรียนรู้ให้สามารถแก้ไข 1. การสงั เกต  แ น ว คิ ด ค ล า ด เ ค ล่ื อ น แ ล ะ ต่ อ ย อ ด แ น ว คิ ด ท่ี 2. การวดั  ถกู ตอ้ ง แนวคดิ คลาดเคลื่อน แนวคดิ ท่ถี ูกตอ้ ง 3. การใชต้ ัวเลข อากาศไม่มนี ้าหนกั อากาศมีนา้ หนัก 4. การจา้ แนกประเภท 5. การหาความสัมพนั ธ์ระหว่าง - สเปซกบั สเปซ - สเปซกับเวลา 6. การจัดกระท้าและสือ่ ความหมาย  ขอ้ มลู 7. การพยากรณ์  8. การลงความเห็นจากข้อมูล  9. การต้งั สมมติฐาน 10. การกา้ หนดนยิ ามเชงิ กิจกรรม 11. การกา้ หนดและควบคุมตัวแปร 12. การทดลอง 13. การตีความหมายข้อมูล   และการลงข้อสรปุ 14. การสร้างแบบจ้าลอง ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวิต 150 บทนี้เร่ิมตน้ อย่างไร (1 ชวั่ โมง) 1. ครนู ้าเขา้ สู่บทเรียนโดยครูอาจใช้รูปภาพ หรอื สอ่ื ตา่ ง ๆ จากนน้ั ใช้ ค้าถามเพื่อตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับอากาศ ตวั อยา่ งค้าถาม “หากนักเรียนต้องไปท่องอวกาศ นักเรียนจะน้าอะไรไปบ้าง และ สง่ิ ทน่ี ักเรยี นนา้ ไปดว้ ยนั้นมีความสา้ คัญอยา่ งไร” นักเรียนสามารถตอบได้ตามความคิดของตนเอง โดยครูยังไม่ต้อง เฉลยค้าตอบที่ถกู ตอ้ ง 2. นักเรียนเปิดหนังสือหน้า 50 อ่าน ช่ือบท และแนวคิดส้าคัญ จากน้ันครูใช้ค้าถามเพื่อตรวจสอบทักษะการอ่านจับใจความของ นักเรยี น โดยครูอาจใช้คา้ ถามดงั น้ี 2.1 อากาศมีสมบัติอย่างไร (อากาศเป็นแก๊ส ไม่มีสี ไม่มีกล่ิน มี นา้ หนัก และต้องการที่อย)ู่ 2.2 อากาศมีส่วนประกอบอะไรบ้าง (อากาศประกอบด้วยแก๊ส ไนโตรเจน แก๊สออกซิเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แกส๊ อน่ื ๆ ฝุ่นละออง และไอน้า) 2.3 อากาศมีความส้าคัญอย่างไรต่อพืชและสตั ว์ (ใช้ในการหายใจ) 3. นักเรียนท้ากิจกรรมส้ารวจความรู้ก่อนเรียนในแบบฝึกหัด หน้า 70-72 โดยอ่าน ท้าเป็นคิดเป็น แล้วครูตรวจสอบความ เข้าใจโดยใช้ค้าถามดงั ต่อไปน้ี 3.1 ในกิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเร่ืองอะไร (ส่วนประกอบ และสมบตั ิของอากาศ) 3.2 ทา้ กิจกรรมนี้โดยวธิ ีใด (สังเกต) 3.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะท้าอะไรได้ (อธิบายส่วนประกอบ และสมบตั ิของอากาศได)้ 4. ครูให้นักเรียนอ่านท้าอย่างไรทีละข้อ จากน้ันครูอาจใช้ตัวอย่าง ค้าถามตอ่ ไปนี้เพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น 4.1 ในข้อท่ี 1 นักเรียนต้องท้าอะไร (ตอบค้าถามเก่ียวกับ ส่วนประกอบของอากาศตามความเข้าใจของตนเอง) 4.2 ในข้อท่ี 2 นักเรียนต้องท้าอะไร (ตอบค้าถามเกี่ยวกับสมบัติ ของอากาศตามความเข้าใจของตนเอง) สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

151 คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ 4.3 ในข้อท่ี 3 เมื่อนักเรียนเป่าลูกโป่งในขวดท้ัง 2 ใบแล้ว นักเรียนต้องท้าอะไร (วาดรูปลูกโป่งในขวดแต่ละใบและ อภปิ รายสาเหตทุ ี่เกิดข้ึนกบั ลกู โปง่ ) ครูอธิบายเพิ่มเติมในกิจกรรมข้อที่ 3 ว่านักเรียนต้องน้า ลูกโป่งท่ีได้รับใสใ่ นขวดแต่ละใบแล้วพับปากลูกโป่งให้หุ้มปากขวด ดังรูปในแบบฝึกหัดหน้า 70 หลังจากน้ันให้นักเรียนเป่าลูกโป่งท่ี อยู่ในขวดทั้ง 2 ใบ สังเกตส่ิงที่เกิดข้ึน พร้อมระบุเหตุผลที่เป็น เช่นนั้น ระหว่างการท้ากิจกรรมครูย้าให้นักเรียน 1 คน เป็นผู้เป่า แต่หากต้องการให้ทุกคนได้เป่า ต้องเปล่ียนลูกโป่งในขวดท้ัง 2 ใบ ทุกคร้ัง และขณะเป่าปากต้องไม่แตะปากขวด เพ่ือป้องกันปัญหา สขุ ภาพของนกั เรยี น เม่ือตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่านักเรียนเข้าใจ จึงให้นักเรียน เร่ิมท้า กจิ กรรรมสา้ รวจความรูก้ ่อนเรยี น 5. นักเรียนตอบค้าถาม ฉันรู้อะไร ในแบบฝึกหัดหน้า 72 โดยครูยัง ไม่เฉลยค้าตอบทีถ่ ูกต้อง ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 152 แนวคา้ ตอบในแบบฝึกหดั ค้าตอบของนักเรียนในการส้ารวจความร้กู ่อนเรียนครงั้ แรก ขึน้ อยู่กับความรู้เดิมของนักเรียน ซง่ึ อาจเหมือนหรือแตกต่างจากแนวค้าตอบน้ไี ด้ และเมื่อกลบั มาส้ารวจความรกู้ ่อนเรยี นอกี คร้ัง ควรได้ค้าตอบที่ถูกตอ้ ง ✓ ✓ แกส๊ ไนโตรเจน ✓ ✓ ไนโตรเจน ✓ ✓ ✓ นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจของตนเอง ค้าตอบที่ครู นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจของตนเอง ค้าตอบท่ีครู ควรรู้คือ เม่ือเป่าลูกโป่งในขวดที่เจาะรูแล้วลูกโป่งพอง ควรรู้คือ เม่ือเป่าลูกโป่งแล้วลูกโป่งแฟบเหมือนเดิม ออกได้ เพราะอากาศท่ีเคยครอบครองพ้ืนท่ีภายในขวด เพราะภายในขวดมีอากาศครอบครองเต็มพ้ืนที่ ลูกโป่ง สามารถออกจากขวดทางรูที่เจาะได้ ท้าให้ลูกโป่ง จึงไมส่ ามารถขยายตวั ไปแทนทไ่ี ด้ ขยายตัวไปแทนท่ไี ด้ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

153 คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต นักเรยี นตอบได้ตามความเขา้ ใจของตนเอง นักเรียนตอบไดต้ ามความเขา้ ใจของตนเอง แกส๊ ไนโตรเจน แกส๊ ออกซเิ จน แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ และแกส๊ อ่ืน ๆ เช่น อารก์ อน อากาศเปน็ แกส๊ ไม่มีสี ไม่มกี ล่นิ มนี า้ หนัก ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 154 เร่ืองที่ 1 อากาศ ในเร่ืองนี้ นกั เรียนจะได้เรียนรู้เกย่ี วกบั อากาศและสมบัตขิ องอากาศ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สังเกต และอธิบายเก่ียวกบั สมบตั ิบางประการของอากาศ 2. วดั และเปรียบเทยี บอุณหภมู ขิ องอากาศในเวลาและสถานท่ีต่าง ๆ 3. สร้างแบบจา้ ลองและอธบิ ายการเกดิ ลม 4. สืบค้นประโยชน์และโทษของลม เวลา 7 ชว่ั โมง วัสดุ อปุ กรณส์ า้ หรบั ท้ากจิ กรรม ภาชนะใส ส้าลี ฝาขวดน้า เทปใส แก้วพลาสติกใส กระดาษเยื่อ เทอร์มอ มิเตอร์ กระดาษ เชือก ไม้ขีดไฟ ธูป กระป๋องทราย กรรไกร เทียนไข ขวดน้าพลาสติกใบใหญ่ท่ีตัดก้นขวดออก ขวดน้าพลาสติกใบเล็กที่ตัด ก้นขวดออก สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน หนา้ 51 - 68 2. แบบฝึกหดั หนา้ 73 - 97 แนวการจดั การเรยี นรู้ (เวลา 1 ช่ัวโมง) ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น ส้าคัญ และยังไม่เฉลยค้าตอบใด ๆ ขั้นตรวจสอบความรู้ ( 5 นาที) ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนนักเรียน ไป หาค้าตอบท่ีถูกต้องในกิจกรรมต่าง ๆ 1. ครูเร่ิมบทเรียนโดยสร้างความสนใจให้นักเรียนโดยใช้ภาพ ในบทเรียนนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน เช่น เหตุการณ์ฟ้าหลัวในภาคเหนือ ท้าให้ ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่้าจนท้าให้เคร่ืองบินไม่สามารถข้ึนและ ลงจอดได้ 1.1 จากสถานการณ์น้ีนักเรียนคิดว่าเกิดจากสาเหตุใด (มีควันไฟ จากการเผาปา่ ) 1.2 ถ้าอากาศเป็นแบบนี้เรื่อย ๆ จะส่งผลอย่างไร (ท้าให้เกิด ปญั หาตอ่ ระบบหายใจของสง่ิ มีชวี ติ อาจท้าใหเ้ สยี ชีวติ ได)้ นักเรียนสามารถตอบได้ตามความคิดของตนเอง โดยครูยังไม่เฉลย ค้าตอบท่ีถูกตอ้ ง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

155 คูม่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ ขน้ั ฝึกทกั ษะการอ่าน (45 นาที) 2. จากน้ันให้นักเรียนอ่านช่ือเร่ือง และค้าถาม ชวนคิด และให้ นักเรียนตอบค้าถาม โดยครูจดค้าตอบของนักเรียนไว้เพ่ือใช้ เปรียบเทยี บกับค้าตอบของนกั เรียนหลงั จากอ่านเนื้อเร่ือง 3. ครูแนะน้าค้าศัพท์ในหัวข้อ อ่านเป็น โดยครูเขียนค้าศัพท์บน กระดาน แลว้ ให้นักเรียนสะกดคา้ พร้อมกนั 4. ครูให้นกั เรียนอา่ นเน้อื เรอ่ื ง ส่วนประกอบและสมบตั ขิ องอากาศ ใน หนังสือเรียนหน้า 51-52 โดยครูใช้วิธีการสอนอ่านตามความ เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากน้ันครูตรวจสอบ ความเขา้ ใจโดยใชค้ า้ ถามต่อไปน้ี 4.1 จากเนื้อเรื่องท่ีอ่าน อากาศมีลักษณะเป็นอย่างไร (อากาศ เป็นแก๊ส ไมม่ สี ี ไม่มกี ลนิ่ ) 4.2 แก๊สท่ีเก่ียวข้องกับการหายใจของสิ่งมีชีวิตมีอะไรบ้าง (แก๊ส ออกซเิ จนและแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์) 4.3 เพราะเหตุใด ปริมาณของแก๊สท้ังสองชนิดน้ีจึงมีปรมิ าณคงท่ี หรือไมเ่ ปล่ยี นแปลงไปมาก (เพราะในธรรมชาติมปี ริมาณการ สร้างแก๊สออกซเิ จนใกล้เคยี งกับปริมาณแก๊สออกซเิ จนท่ีใช้ไป เช่นเดียวกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ท่ีถูกใช้ไปใกล้เคียงกับ ปรมิ าณทถี่ กู ปล่อยออกมา ท้าใหป้ รมิ าณของแก๊สทัง้ สองชนิด ค่อนข้างคงท่)ี 4.4 หากไม่มีต้นไม้จะเกิดอะไรขึ้น (ปริมาณของแก๊สออกซิเจน และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์อาจไม่เพียงพอต่อส่ิงมีชีวิต เน่ืองจากไม่มีการน้าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ และไม่ สามารถสรา้ งแก๊สออกซเิ จนได้) 4.5 ถ้าส่วนประกอบของอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมี แก๊สบางชนิดหรือฝุ่นละอองในปริมาณมากจะเกิดอะไรขึ้น (มลพษิ ทางอากาศ) 4.6 มลพิษทางอากาศมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง (กิจกรรมของ มนุษย์ เช่น การเผาไหม้เช้ือเพลิง การเผาป่าหรือพืชไร่ และ การเกดิ ไฟป่า) 4.7 มลพิษทางอากาศมีผลเสียอย่างไร (มลพิษทางอากาศมีผลต่อ ระบบหายใจ และฝุ่นควันที่เกิดจากการเผาไหม้ยังเป็น ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต 156 อุปสรรคต่อการมองเหน็ เช่น เครื่องบนิ ไม่สามารถข้ึนลงจอด การเตรยี มตัวล่วงหนา้ ส้าหรบั ครู ไดต้ ามปกตแิ ละอาจท้าใหเ้ กดิ อบุ ัตเิ หตตุ า่ ง ๆ) เพ่อื จดั การเรียนรใู้ นครงั้ ถัดไป 4.8 อุณหภูมิของอากาศในแต่ละบริเวณเท่ากันหรือไม่ อย่างไร (ไม่เท่ากนั เน่ืองจากมกี ารเปลย่ี นแปลงได)้ ในคาบถัดไป นักเรียนจะได้ท้ากิจกรรม 4.9 หากอุณหภูมิของอากาศในแต่ละบริเวณแตกต่างกันจะเกิด ที่ 1.1 เร่ือง อากาศมีส่วนประกอบและ อะไรขึ้น (เกิดการเคล่ือนท่ีของอากาศ ซึ่งค้าตอบน้ีไม่ได้มา สมบัตอิ ะไรบ้าง ตอนที่ 2 โดยครคู วรเตรยี ม จากการอ่านแต่มาจากจากประสบการณ์เดิม หากนักเรียนยัง วัสดุอุปกรณ์ไว้เพ่ือเป็นอุปกรณ์ตัวอย่าง ตอบไม่ได้ก็ให้ครูชวนนักเรียนมาหาค้าตอบในกิจกรรมท่ีจะ ซ่งึ มขี นั้ ตอการท้าดงั ตอ่ ไปนี้ เรยี นตอ่ ไป) ตอนท่ี 2 ข้ันตอนการเตรียมกระดาษเยอื่ 1. ตดั กระดาษเย่ือ ขน้ั สรุปจากการอ่าน (10 นาที) 2. น้ากระดาษเยื่อมาติดเทปท่ีปลาย 5. นักเรียนตอบค้าถาม รู้หรือยัง ในแบบฝึกหัดหน้า 73 จากนั้นครู ข้างนงึ ให้นักเรียนเปรียบเทียบค้าตอบในรู้หรือยัง กับการตอบค้าถาม ชวนคิดที่ครูจดไว้บนกระดานเพื่อตรวจสอบความรู้ก่อนอ่านและ 3. น้ากระดาษเยื่อท่ีติดเทปแล้วไปติด หลังอ่านของตนเอง บนแก้วพลาสตกิ ใสทเี่ จาะรู 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปจากการอ่านว่า อากาศเป็นแก๊ส ไม่มีสี ไม่มีกล่ิน อากาศมีความส้าคัญต่อส่ิงมีชีวิต โดยปริมาณของแก๊สออกซิเจนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จะมี ปริมาณคงที่หรือไม่เปลี่ยนแปลง แต่บางคร้ังกิจกรรมต่าง ๆ ของ มนุษย์ เช่น การเผาป่า การเผาไหม้เช้ือเพลิงที่มากเกินไป ท้าให้ ปริมาณของแก๊สและฝุ่นละอองเพ่ิมขึ้นจนกลายเป็น มลพิษทาง อากาศ ซึง่ ส่งผลเสยี ต่อส่ิงมชี ีวติ 7. ครูให้นักเรียนอ่าน ค้าถามส้าคัญ เพื่อชักชวนให้นักเรียนท้า กจิ กรรม สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

157 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 นา้ อากาศ กับชีวิต แนวค้าตอบคา้ ถามในแบบฝกึ หัด ใช้ในการหายใจของสงิ่ มชี ีวิต ไม่มี เนื่องจากแก๊สออกซิเจนที่สิ่งมีชีวิตใช้หายใจน้ันได้มาจากกระบวน สร้างอาหารของพืชได้ ปริมาณแก๊สออกซิเจนจึงคงที่หรือไม่ เปลย่ี นแปลงไปมาก เม่อื มีการเปลี่ยนแปลงของส่วนประกอบของอากาศที่ไม่เหมาะสม ซ่งึ เกิด จากการทา้ กจิ กรรมต่างๆ ของมนุษย์ เช่น การเผาป่า เพ่ือทา้ การเกษตร ทา้ ให้ในอากาศมแี ก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และฝ่นุ ละอองในปรมิ าณมาก ทา้ ใหเ้ กิดปญั หาต่อระบบหายใจของสิ่งมีชีวิตอาจทา้ ใหเ้ สียชีวิต และสง่ ผล ต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นท้าให้มองเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจน อาจท้าให้ เกดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด้ ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 158 กิจกรรมที่ 1.1 อากาศมสี ว่ นประกอบและสมบัติอะไรบ้าง กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้สืบค้นข้อมูล สังเกตและอธิบายได้ว่า อากาศที่อยู่รอบตัวเราประกอบด้วยแก๊สหลายชนิด ใน ปรมิ าณทแ่ี ตกต่างกนั อากาศมสี ไมม่ ีสี ไม่มีกล่ิน มีนา้ หนกั และต้องการทอ่ี ยู่ เวลา 2 ชัว่ โมง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สืบค้นขอ้ มูล และระบสุ ่วนประกอบของอากาศ 2. สงั เกต และอธบิ ายเกย่ี วกบั สมบตั ิบางประการของอากาศ วสั ดุ อุปกรณ์ส้าหรบั ท้ากจิ กรรม สงิ่ ทีค่ รูต้องเตรยี ม/กล่มุ 1 กล่อง 1 ฝา 1. ภาชนะใส 2 ใบ 2. ฝาขวดน้า 1 กอ้ น 3. แก้วพลาสตกิ ใส 1 ม้วน 4. ส้าลี 1 แผน่ 5. เทปใส 6. กระดาษเย่ือ 7. น้า สิ่งท่ีนกั เรียนต้องเตรยี ม/กลุ่ม - สอ่ื การเรยี นรู้ หน้า 53-57 หน้า 74-78 1. หนงั สอื เรยี น 2. แบบฝกึ หดั ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสงั เกต การพยากรณ์ การลงความเหน็ จากข้อมูล การตีความหมายข้อมลู และการลงขอ้ สรปุ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

159 คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต แนวการจดั การเรยี นรู้ ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น ส้าคัญ และยังไม่เฉลยค้าตอบใด ๆ 1. ครูน้าเข้าส่บู ทเรียนโดยตรวจสอบความรู้เดมิ ของนกั เรยี นโดยครูใช้ ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนนักเรียน ไป ถุงพลาสตกิ ใสมีหูหิ้วแกว่งให้อากาศเขา้ ไปจนถงุ พอง จากนนั้ ครูใช้ หาค้าตอบท่ีถูกต้องในกิจกรรมต่าง ๆ ค้าถาม เช่น ในบทเรยี นน้ี 1.1 เกิดอะไรขึ้นกับถุงพลาสติก (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง) 1.2 ถุงพลาสติกพองได้อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง) 1.3 อากาศมีส่วนประกอบอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามความ เข้าใจของตนเอง) 1.4 อากาศมีสมบัติอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ ตนเอง) 2. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 53 อ่านช่ือกิจกรรม และ หัวข้อ ท้าเป็นคิดเป็น ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน เก่ียวกับสงิ่ ท่จี ะเรียน โดยอาจใช้ค้าถามตอ่ ไปนี้ 2.1 ในกจิ กรรมนนี้ ักเรยี นจะได้เรียนเรื่องอะไร (สว่ นประกอบและ สมบัติบางประการของอากาศ) 2.2 นักเรียนจะไดเ้ รยี นเรื่องน้ดี ว้ ยวิธีใด (สบื คน้ ข้อมลู และสงั เกต) 2.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะท้าอะไรได้ (ระบุส่วนประกอบและ อธิบายสมบตั บิ างประการของอากาศ) 3. นักเรียนอ่าน ท้าอย่างไร ในหนังสือเรียนหน้า 53-55 โดยครูใช้ วิธีการสอนอ่านตามความเหมาะสมกับความสามารถของนักเรยี น จากน้ันครูถามนักเรียนว่ามีค้าศัพท์ใดบ้างท่ีไม่เข้าใจเพื่อครูจะได้ ชว่ ยอธบิ าย ในกจิ กรรมนี้แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ตอน เพื่อให้นกั เรียน เข้าใจได้ง่ายและถูกต้อง แนะน้าให้ท้ากิจกรรมทีละตอนโดยเร่ิม จากท้าอย่างไร ตอนท่ี 1 โดยครูใช้ค้าถามตรวจสอบความเข้าใจ ขั้นตอนการท้ากจิ กรรม ตัวอย่างคา้ ถาม เชน่ 3.1 ขนั้ ตอนแรกนกั เรยี นต้องทา้ อะไร (สืบค้นขอ้ มลู ) 3.2 นักเรียนต้องสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับอะไร (อากาศและ ส่วนประกอบของอากาศ) ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวติ 160 3.3 ใบความรูเ้ รอื่ งสว่ นประกอบของอากาศอยทู่ ่ีใด (หนงั สือเรียน หนา้ 57) 3.4 หลังจากอ่านใบความรู้แล้วนักเรียนต้องท้าอะไรต่อไป (อภปิ รายและออกแบบวิธีน้าเสนอ) 3.5 ข้อท่ี 3 นักเรียนต้องน้าเสนอเรื่องอะไร (ส่วนประกอบของ อากาศ) ท้าอย่างไร ตอนที่ 2 ตัวอย่างค้าถามตรวจสอบความเข้าใจข้ันตอน การทา้ กจิ กรรม เช่น 3.6 ในทา้ อย่างไร ตอนท่ี 2 นกั เรยี นตอ้ งทา้ อะไรเปน็ ข้ันตอนแรก (คาดคะเนและบอกเหตุผลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฝาขวดน้า และสา้ ลีที่อย่ใู นฝาขวดน้า) (7) 3.7 หลังจากนักเรียนบันทึกการคาดคะเนแล้วนักเรียนต้องท้า อะไรต่อไป (ท้ากจิ กรรมเพือ่ ตรวจสอบการคาดคะเน) 3.8 ข้อท่ี 3 นักเรียนต้องท้าอะไร (เจาะรูที่ก้นแก้วพลาสติก จากนั้นนา้ กระดาษเย่ือมาปดิ เหนือร)ู วิธีการติดกระดาษเยื่อ ให้น้ากระดาษเยื่อมาตัดเป็นแผ่น บาง ๆ กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาวประมาณความกว้างของ แก้วพลาสติกจากนั้นน้ากระดาษเยื่อมาวางพาดผ่านรู (ด้านนอก ของแก้ว) และติดเทปใสท่ีปลายข้างหนึ่งของกระดาษเย่ือ) 3.9 นักเรียนต้องคาดคะเนอะไรบ้าง (จะเกิดอะไรขึ้นกับฝาขวด น้า กระดาษเยอ่ื และสา้ ลีทอ่ี ยู่ในฝาขวดนา้ ) 3.10 หลังจากนักเรียนบันทึกการคาดคะเนแล้วนักเรียนต้องท้า อะไรต่อไป (ทา้ กิจกรรมเพอื่ ตรวจสอบการคาดคะเน) ท้าอย่างไร ตอนที่ 3 ตัวอย่างค้าถามตรวจสอบความเข้าใจขั้นตอน การท้ากิจกรรม เช่น 3.11ในท้าอยา่ งไร ตอนท่ี 3 นักเรียนตอ้ งทา้ อะไรเป็นขั้นตอนแรก (สังเกตตารางบันทึกผลการท้ากิจกรรมช่งั น้าหนักลกู โป่งของ นกั เรยี น) 3.12 เม่ือสังเกตแล้วนักเรียนต้องเปรียบเทียบและอภิปรายสิ่งใด (นา้ หนักของลูกโปง่ กอ่ นและหลงั เปา่ ลม) เมอื่ แนใ่ จว่านกั เรียนสามารถท้ากจิ กรรมไดแ้ ล้วจงึ ให้นักเรียน เริ่มท้ากิจกรรม และเพื่อให้นักเรียนสรุปกิจกรรมได้ง่ายและ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

161 ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ ถูกต้อง แนะน้าให้ครูอภิปรายกิจกรรมทีละตอนหลังจากท้า กิจกรรมเสร็จ โดยเร่ิมจากทา้ อยา่ งไร ตอนท่ี 1 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายท้าอย่างไร ตอนที่ 1 เร่ืองอากาศ และส่วนประกอบของอากาศ โดยครอู าจใชค้ ้าถามดงั ตอ่ ไปนี้ 4.1 อากาศมลี ักษณะเป็นอยา่ งไร (อากาศเป็นแก๊ส ไมม่ ีสี ไม่มีกลิน่ ) 4.2 อากาศมีส่วนประกอบอะไรบ้าง (แก๊สต่าง ๆ ในปริมาณที่ แตกตา่ งกัน) 4.3 แก๊สชนิดใดเป็นส่วนประกอบหลักของอากาศแห้งและทราบ ได้อย่างไร (แก๊สไนโตรเจน ทราบจากตวั เลขในตารางปริมาณ ของแกส๊ ในอากาศซงึ่ มปี ริมาณมากทส่ี ดุ ) 4.4 เรียงล้าดับปริมาณแก๊สท่ีเป็นส่วนประกอบของอากาศแห้ง จากปริมาณน้อยที่สุดไปมากท่ีสุดได้อย่างไร (แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ แกส๊ อ่นื ๆ เชน่ อารก์ อน แกส๊ ออกซิเจน และแกส๊ ไนโตรเจน) 4.5 นอกจากแก๊สต่าง ๆ แล้วอากาศยังมีส่วนประกอบอะไรอีก บ้าง (ไอนา้ และฝนุ่ ละออง) 4.6 นักเรียนเข้าใจความแตกต่างระหว่างอากาศแห้งและอากาศ ช้ืนหรือไม่ อย่างไร (อากาศท้ังสองชนิดแตกต่างกันท่ี ส่วนประกอบของอากาศ หากเป็นอากาศที่ไม่มีไอน้าเป็น ส่วนประกอบจะเรยี กว่าอากาศแหง้ ) 4.7 เพราะเหตุใดไอน้าจึงมีความส้าคัญ (ท้าให้เกิดปรากฏการณ์ ลมฟ้าอากาศตา่ ง ๆ) 4.8 อากาศโดยทั่วไปเป็นอากาศชื้น มีไอน้าเป็นองค์ประกอบ 0-4 สว่ นจากอากาศทงั้ หมด 100 ส่วน หมายความวา่ อย่างไร (หมายความว่าปริมาณไอน้าในอากาศมีปริมาณไม่คงที่ อาจ เปลี่ยนแปลงได้ต้ังแต่ 0 - 4 ส่วนจากอากาศทั้งหมด 100 ส่วน ) 4.9 วิธีการนา้ เสนอขอ้ มลู ปริมาณสว่ นประกอบของอากาศใน ใบ ความรใู้ ชว้ ธิ ีใด (วิธีน้าเสนอโดยใชต้ าราง) 4.10นอกจากวิธีใช้ตารางในการน้าเสนอแล้ว นักเรียนรู้จักวิธีใด อีกบา้ ง (แผนภูมริ ปู ภาพ) ครูสามารถเพิ่มเติมความรู้ทาง คณิตศาสตร์เรื่องชนดิ ของแผนภูมไิ ด้ ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กับชีวิต 162 เม่ือนักเรียนเข้าใจแล้วจึงให้นักเรียนเริ่มออกแบบวิธีการ นา้ เสนอของกลมุ่ ของตนเอง 5. นักเรียนน้าเสนอข้อมูลโดยใช้วิธีที่กลุ่มตนเองเลือก จากนั้นครูใช้ คา้ ถามเพือ่ น้าอภิปราย ตัวอย่างคา้ ถาม เช่น 5.1 นักเรียนเลือกวิธีการน้าเสนอโดยใช้วิธีใด เพราะเหตุใด (ข้ึนอยู่กับค้าตอบของนักเรียน เช่น แผนภูมิรูปภาพ เพราะ สามารถเหน็ ปรมิ าณสว่ นประกอบของแก๊สในอากาศไดช้ ัดเจน) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายส่วนประกอบและปริมาณของ แก๊สที่เป็นส่วนประกอบของอากาศแห้ง จากข้อมูลท่ีนักเรียนน้าเสนอ ตัวอยา่ งเชน่ นักเรยี นน้าเสนอโดยใช้แผนภูมิวงกลม 5.2 ในอากาศมีแก๊สชนิดใดมากท่สี ุด ร้ไู ด้อยา่ งไร (แกส๊ ไนโตรเจน เพราะจากแผนภูมิรูปวงกลม พบว่าในอากาศมีปริมาณแก๊ส ไนโตรเจนถงึ 78 สว่ น หรือมีพ้ืนทีใ่ นแผนภาพมากทส่ี ุด) 5.3 ในอากาศมีแก๊สชนิดใดน้อยที่สุด รู้ได้อย่างไร (แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ เพราะจากแผนภูมิรูปวงกลม พบว่าใน อากาศมีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 0.04 ส่วน หรือมี พนื้ ท่ีในแผนภาพนอ้ ยที่สุด) 5.4 วิธีการน้าเสนอโดยใช้ตารางกับแผนภูมิวงกลม วิธีใดแสดง ข้อมูลได้เข้าใจง่ายกว่ากัน (แผนภูมิวงกลม เนื่องจากแสดง ชนิดและปริมาณได้ชดั เจน สามารถตอบคา้ ถามไดท้ นั ที) 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า อากาศ ประกอบด้วยแก๊สต่าง ๆ ในปริมาณที่แตกต่างกัน ซ่ึงแก๊สท่ีมี ปริมาณมากท่ีสุดคือแก๊สไนโตรเจน ต่อไปเป็นแก๊สออกซิแจน แก๊ส อื่น ๆ เช่น อาร์กอน และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ตามล้าดับ นอกจากแกส๊ แลว้ ในอากาศยังประกอบไปดว้ ยไอน้า และฝ่นุ ละออง 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลของการท้ากิจกรรม ตอนที่ 2 โดยครอู าจใชค้ ้าถามดังตอ่ ไปน้ี 7.1 การคาดคะเนของนักเรียนกับผลการท้ากิจกรรม ในข้อท่ี 1 และ 2 เหมือนกันหรือไม่ (ข้ึนอย่กู ับค้าตอบของนกั เรียน) 7.2 เกิดอะไรข้ึนกับฝาขวดน้าและส้าลี เมื่อครอบแก้วพลาสติกที่ ไม่เจาะรูลงในน้า (ฝาขวดน้าและส้าลีไม่มีการเปลี่ยนแปลง ฝาขวดค่อย ๆ จมลงสู่ก้นภาชนะ ส้าลีไม่เปียก และไม่มีน้า เขา้ มาภายในแกว้ ) สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

163 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ 7.3 เกิดอะไรข้ึนกับฝาขวดน้า ส้าลีและกระดาษเยื่อ เม่ือครอบ แก้วพลาสติกที่เจาะรูลงในน้า (กระดาษเยื่อยกตัวข้ึนขณะกด แก้วพลาสติกลงในน้า ฝาขวดไม่มีการเคลื่อนที่ข้ึน-ลง ส้าลีไม่ เปยี ก และมีนา้ เข้ามาภายในแก้วเท่ากบั ระดบั น้าในภาชนะใส) 7.4 นักเรียนคิดว่าแก้วท้ังสองใบเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร (แตกตา่ งกนั คอื แก้วใบหน่งึ ไม่เจาะรู และอีกใบหน่งึ เจาะรูที่ ก้นแก้ว) 7.5 ขณะท่ีนักเรียนกดแก้วพลาสติกลงในน้า นักเรียนออกแรง เท่ากันหรือไม่ อย่างไร (ไม่เท่ากัน โดยขณะท่ีกดแก้ว พลาสติกท่ีไม่ได้เจาะรูลงในน้าจะใช้แรงมากกว่าขณะที่กด แก้วพลาสติกที่เจาะรู) 7.6 การท่ีนักเรียนรู้สึกว่าออกแรงกดแก้วพลาสติกท่ีไม่เจาะรูและ แก้วพลาสตกิ ทเ่ี จาะรลู งในน้าไม่เทา่ กนั น่าจะเป็นเพราะเหตุใด (เพราะในแก้วพลาสติกท่ีไม่เจาะรูมีอากาศบรรจุอยู่เต็ม น้า จึงไมส่ ามารถแทรกเข้ามาในแกว้ ได้ ขณะกดลงไปจึงต้องออก แรงมาก ส่วนในแก้วพลาสติกท่ีเจาะรูน้ัน เม่ือกดลงไปในน้า น้าจะเข้าไปในแก้วได้โดยเข้าไปแทนท่ีอากาศที่เคลื่อนที่ ออกไปทางรทู ่ีเจาะไว้ การออกแรงกดแกว้ จึงไมม่ าก) 7.7 นักเรียนไม่สามารถมองเห็นอากาศได้แล้วทราบได้อย่างไรว่า อากาศเคลื่อนที่ออกไปจากแก้วผ่านทางรูท่ีเจาะไว้ (ทราบ จากการยกตวั ขน้ึ ของกระดาษเยอ่ื ) 7.8 การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับสมบัติใดของอากาศ (อากาศ ตอ้ งการที่อยู่) 8. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายจนไดข้ อ้ สรปุ วา่ อากาศต้องการทีอ่ ยู่ 9. ครูและนักเรียนรว่ มกันอภิปรายผลการท้ากิจกรรม ตอนที่ 3 โดย ครูอาจใชค้ า้ ถามดังต่อไปน้ี 9.1 น้าหนักลูกโป่งก่อนเป่าและหลังเป่าลม เท่ากันหรือไม่ ทราบ ได้อย่างไร (ไมเ่ ท่ากัน ทราบจากการอ่านค่าน้าหนกั เฉล่ียของ ลกู โปง่ ) 9.2 เพราะเหตุใดน้าหนักของลูกโป่งก่อนเป่าลมและหลังเป่าลม จึงไม่เท่ากัน (เน่ืองจากลูกโป่งใบท่ีพองออกบรรจุอากาศที่ ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 164 เป่าเข้าไป จึงมีน้าหนักมากกว่า ส่วนลูกโป่งใบที่แฟบไม่มี การเตรยี มตัวลว่ งหนา้ ส้าหรบั ครู เพอื่ จัดการเรยี นรู้ในครง้ั ถัดไป อากาศที่เป่าเข้าไป จึงมีน้าหนกั นอ้ ยกวา่ ) ในคาบถัดไป นักเรียนจะได้ท้า 9.3 การเปลี่ยนแปลงของลูกโป่งน้ีเกี่ยวข้องกับสมบัติใดของ กิจกรรมท่ี 1.2 เร่ือง อุณหภูมิอากาศใน หนึ่งวันเปน็ อยา่ งไร ครคู วรเตรยี มวสั ดุ อากาศ (อากาศมนี ้าหนกั ) อปุ กรณ์ 1. ตารางบันทึกผลของทุกกลุ่มไว้บน 10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปเก่ียวกับสมบัติของ อากาศจากทั้ง 3 ตอนว่า อากาศประกอบด้วยแก๊สต่าง ๆ ใน กระดานหรือกระดาษปรู๊ฟ เพื่อให้แต่ ปริมาณแตกต่างกัน อากาศมีลักษณะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ต้องการที่ ละกลุ่มมาบันทึกและใช้ข้อมูลเพ่ือ อยแู่ ละมนี ้าหนัก โดยเราสามารถชงั่ น้าหนกั ของอากาศได้ อภปิ รายในข้ันสรุป 2. ครูอาจให้นักเรียนช่วยเตรียมวัสดุมา 11. นักเรียนตอบค้าถาม ฉันรู้อะไร และ อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัด จากบ้าน เชน่ เทปใส เชือกหรือด้าย หนา้ 76-78 12. ครูให้นักเรียนอภิปรายทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตรอ์ ะไรบา้ งในขั้นตอนใด สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

165 คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต แนวคา้ ตอบในแบบฝึกหัด สบื ค้นขอ้ มูลและระบุส่วนประกอบของอากาศ แก๊สไนโตรเจน แกส๊ ออกซิเจน แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ และแก๊สอ่นื ๆ เชน่ อาร์กอน ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ 166 สังเกตและอธิบายเก่ียวกบั สมบัติบางประการของอากาศ นักเรียนตอบได้ตามความคิด ค่อย ๆ ลดระดับ ของตนเอง ลงพรอ้ มกบั แก้วพลาสติกที่ถูก กดจนถึงกน้ ภาชนะ ไมเ่ ปียกน้า นักเรียนตอบได้ตาม ไมเ่ คลอ่ื นทข่ี ้นึ ความคิดของตนเอง หรือลง ไม่เปยี กนา้ ยกตัวขนึ้ มอี ากาศเคล่อื นที่ ออกมาจากแกว้ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

167 คูม่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต สงั เกตและอธิบายเกย่ี วกบั สมบัติบางประการของอากาศ นา้ หนกั ลูกโป่งหลังเป่ามากกว่าน้าหนักลกู โป่งก่อนเป่า เม่อื เปา่ ลูกโปง่ จะมีอากาศเขา้ ไปขา้ งในท้าใหล้ กู โป่งมีน้าหนักมากกว่าก่อน เป่า แกส๊ ไนโตรเจน แกส๊ ออกซเิ จน แกส๊ อ่นื ๆ เช่น อาร์กอน และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ไอน้า และฝนุ่ ละออง ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 168 อากาศเป็นแก๊ส ไม่มสี ี ไม่มีกล่นิ และมสี ่วนประกอบเปน็ แกส๊ ไนโตรเจน แก๊สออกซิเจน แก๊ซอ่ืน ๆ เช่น อาร์กอน และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ในปริมาณแตกต่างกัน น้าไม่เข้ามาในแกว้ น้าและสา้ ลไี ม่เปียกนา้ เพราะในแก้วมีอากาศอยู่เต็มพ้นื ที่ น้าจงึ ไม่สามารถแทรกเข้าไปข้างในแก้วได้ สา้ ลีจงึ ไมเ่ ปียก แตกต่างไปจากเดิม เนื่องจากนา้ สามารถเขา้ ไปในแกว้ พลาสติกที่เจาะรไู ด้ โดยไล่ อากาศทางรูทีเ่ จาะไว้ สังเกตไดจ้ ากการยกตัวของกระดาษเยอ่ื ระดบั นา้ ในแก้วจึง ค่อย ๆ สูงขนึ้ จนถงึ ระดับน้าในภาชนะ อากาศต้องการที่อยู่ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

169 ค่มู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต แตกต่างกนั โดยลกู โป่งหลังเป่าลมอ่านคา่ น้าหนักได้มากกวา่ ลกู โปง่ ก่อนเป่า เน่ืองจาก เม่ือเป่าลูกโป่งจะมีอากาศจากการเป่าเข้าไป ท้าให้อ่านค่าได้ มากกวา่ ลูกโป่งทีไ่ ม่ไดเ้ ป่า อากาศมีน้าหนัก โดยน้าหนักของลูกโป่งก่อนเป่าอ่านค่าได้ 1.61 กรัม ซ่ึงไม่ เท่ากับลูกโป่งหลังเป่าที่อ่านค่าได้ 1.78 กรัม และสามารถหาน้าหนักของ อากาศในลูกโป่งไดเ้ ท่ากับ 0.17 กรมั แสดงว่าสามารถชั่งน้าหนักของอากาศ ได้ อากาศประกอบดว้ ยแก๊สตา่ ง ๆ ในปรมิ าณทแ่ี ตกต่างกัน อากาศไมม่ ีสี ไม่มี กลิ่น ต้องการที่อยแู่ ละมนี ้าหนกั ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งค้าถาม โดยค้าถามเหล่าน้ันเป็นเร่ืองท่ี สงสัยอยากรู้เพ่ิมเติม หรือส่ิงที่ยังไม่เข้าใจจากการท้ากิจกรรมใน หอ้ งเรยี น ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต 170 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรูข้ องนกั เรยี นท้าได้ ดงั น้ี 1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการอภิปรายในช้ันเรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากคา้ ตอบของนักเรยี นระหวา่ งการจดั การเรียนรู้และแบบฝกึ หัด 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการท้ากิจกรรมของนักเรยี น การประเมนิ จากการทา้ กจิ กรรมที่ 1.1 อากาศมสี ่วนประกอบและสมบตั ิอะไรบ้าง ระดบั คะแนน 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ สงิ่ ทีป่ ระเมิน คะแนน 1. การสังเกต 7. การพยากรณ์หรอื การคาดคะเน 8. การลงความเหน็ จากขอ้ มูล 13. การตคี วามหมายข้อมลู และการลงข้อสรปุ รวมคะแนน ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดงั น้ี 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ ทกั ษะกระบวนการ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 1. การสังเกต ใ ช้ ป ร ะ ส า ท สั ม ผั ส เ ก็ บ ใชป้ ระสาทสัมผัสเกบ็ ไม่สามารถใช้ประสาทสัมผสั รายละเอียดของสิ่งท่ีเกิดขึ้นได้ รายละเอียดของส่ิงทเ่ี กิดขึ้น เกบ็ รายละเอียดของสงิ่ ท่ี ด้วยตัวเองโดยไม่เพ่ิมความ โดยต้องอาศยั การชี้แนะของครู เกดิ ข้นึ หรอื มกี ารเพม่ิ เติม คิ ด เ ห็ น ส่ิ ง ท่ี สั ง เ ก ต ไ ด้ หรอื ผู้อน่ื หรือใชป้ ระสาทสัมผัส ความคดิ เหน็ แม้วา่ ครูหรือ ประกอบดว้ ย ได้ด้วยตัวเอง แต่เพิ่มเติมความ ผู้อ่นื ช่วยแนะน้าหรือช้ีแนะ - การเปลีย่ นแปลงที่เกิดข้นึ กับ คิดเห็น สา้ สีและฝาขวดน้า เม่ือกด สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

171 คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 นา้ อากาศ กับชีวิต ทกั ษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรุง แกว้ พลาสติกทเี่ จาะรูและไม่ เจาะรลู งในนา้ 7. การพยากรณ์ คาดการณผ์ ลหรือส่ิงท่จี ะเกิดข้ึน คาดการณ์ผลหรอื สิง่ ท่ีจะเกดิ ขึ้น ไม่สามารถคาดการณ์ผล หรอื การคาดคะเน ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ ล่วงหนา้ ได้ ให้เหตผุ ลโดยอาศยั หรือสงิ่ ที่จะเกดิ ขึ้นลว่ งหน้า ส้าสีและฝาขวดน้า เม่ือกดแก้ว การช้แี นะของครูหรือผอู้ น่ื โดยไมใ่ หเ้ หตุผลใดๆ คิดเหน็ พลาสติกท่ีเจาะรูและไม่เจาะรู แม้วา่ ครหู รือผู้อนื่ ชว่ ยแนะนา้ ลงในน้าได้อย่างมีเหตุผลโดย หรอื ชแ้ี นะ อาศัยความรู้หรือประสบการณ์ เดิมมาช่วยอย่างสม้่าเสมอได้ ดว้ ยตวั เอง 8. การลงความเหน็ เพิ่มเติมความคิดเห็นเกี่ยวกับ เพิ่มเติมความคิดเหน็ เก่ียวกับ ไม่สามารถเพิ่มเตมิ ความ จากข้อมลู สมบัติของอากาศว่า อากาศมี สมบตั ิของอากาศวา่ อากาศมี คิดเห็นเก่ียวกบั สมบัตขิ อง น้าหนักเนื่องจาก สามารถหา นา้ หนกั โดยตอ้ งอาศยั การ อากาศวา่ อากาศมนี ้าหนกั น้าหนกั ของอากาศได้จากการใช้ ชีแ้ นะของครหู รือผู้อน่ื แมค้ รหู รือผู้อืน่ ต้องช่วย การสังเกตและประสบการณ์ แนะนา้ หรือชแี้ นะ เดิม ได้อย่างถูกต้อง มีเหตุผลได้ ด้วยตัวเอง 13. การตีความหมาย ตีความหมายข้อมูลจากการ ครหู รอื ผู้อื่นต้องช่วยแนะน้า ไม่สามารถตคี วามหมาย ข้อมูลและการลง สังเกต รวมถึงข้อมูลที่ได้จาก หรือช้ีแนะจงึ จะสามารถ ข้อมลู จากการสงั เกต รวมถึง ข้อสรปุ ก า ร อ่ า น ใ บ ค ว า ม รู้ แ ล ะ ล ง ตีความหมายข้อมูลจากการ ข้อมลู ที่ได้จากการอ่านใบ ข้อสรุปได้ว่า อากาศเป็นแก๊ส ไม่ สงั เกต รวมถึงข้อมูลท่ีไดจ้ าก ความรลู้ งขอ้ สรปุ ได้ แมว้ ่าครู มีสี ไม่มีกล่ิน ประดอบด้วยแก๊ส การอา่ นใบความร้ลู งขอ้ สรุปได้ หรือผู้อ่ืนชว่ ยแนะน้าหรือ หลายชนิดในปริมาณแตกต่าง ด้วยตัวเอง ช้ีแนะ กัน อากาศมีสมบัติต้องการที่อยู่ และมีน้าหนักได้ดว้ ยตวั เอง ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต 172 กิจกรรมที่ 1.2 อุณหภูมิของอากาศในหนึง่ วนั เปน็ อย่างไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้สามารถวัด และเปรียบเทียบว่าในวันหนึ่ง ๆ อุณหภูมิของอากาศเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลาและ สถานที่ เวลา 2 ช่วั โมง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เพ่อื วัด และเปรยี บเทยี บอณุ หภูมิของอากาศในเวลาและสถานท่ี ต่าง ๆ วัสดุ อุปกรณส์ า้ หรบั ทา้ กจิ กรรม สง่ิ ทค่ี รูต้องเตรียม/กลุ่ม 2 อนั 1 ม้วน 1. เทอร์มอมิเตอร์ 1 แผ่น 2. เชือกหรอื ดา้ ย 1 ม้วน 3. กระดาษ 4. เทปใส สิง่ ที่นักเรยี นตอ้ งเตรยี ม/กลุ่ม - ส่อื การเรียนรู้ หนา้ 58-59 หน้า 79-85 1. หนงั สอื เรยี น 2. แบบฝกึ หดั ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสังเกต การวดั การจัดกระทา้ และสอื่ ความหมายขอ้ มลู การลงความเหน็ จากข้อมลู การตคี วามหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

173 คู่มอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ แนวการจัดการเรียนรู้ ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น ส้าคัญ และยังไม่เฉลยค้าตอบใด ๆ 1. ครูน้าเข้าสู่บทเรียน โดยใช้ค้าถามตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับ ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนนักเรียนไป อุณหภูมิของอากาศในวนั หนึง่ ๆ หาค้าตอบที่ถูกต้องในกิจกรรมต่าง ๆ 1.1 ถ้าให้นักเรียนออกไปเล่นข้างนอกสัก 15 นาที นักเรียนจะ ในบทเรยี นนี้ เลือกเวลาใด (ถ้านักเรียนยังตอบไม่ได้ ครูอาจถามเพิ่มเติม ว่า จะเลือกออกไปเล่นตอนเช้า สาย กลางวัน บ่าย หรือ เย็น นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจของตนเอง ไม่มี คา้ ตอบทถี่ ูกหรือผิด) 1.2 เพราะเหตใุ ดนักเรยี นจงึ เลือกเวลาน้นั (นักเรยี นตอบได้ตาม ความคิดของตนเอง ตัวอย่างค้าตอบ ตอนกลางวัน เพราะ โรงเรียนพักตอนกลางวนั ) 1.3 นักเรียนคิดว่าในหน่ึงวัน อุณหภูมิของอากาศเปลี่ยนแปลง หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจของ ตนเอง ตัวอย่างค้าตอบ เปลี่ยนแปลงได้ ตอนเช้าอากาศมี อุณหภูมิต้่าแล้วจะค่อยๆ เพ่ิมสูงข้ึน และจะค่อย ๆ ลดลง อีกครัง้ ในตอนเยน็ ) นักเรียนสามารถตอบได้ตามความคิดของตนเอง โดยครูยังไม่ เฉลยค้าตอบทีถ่ กู ต้อง 2. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 58 อ่านช่ือกิจกรรม และ หัวข้อ ท้าเป็นคิดเป็น ตรวจสอบความเข้าใจในการท้ากิจกรรม ของนกั เรียนโดยใช้คา้ ถามดงั ต่อไปนี้ 2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (อุณหภูมิของ อากาศในหนง่ึ วนั เป็นอยา่ งไร) 2.2 นักเรียนจะได้เรียนเร่ืองน้ีด้วยวิธีใด (โดยการวัดอุณหภูมิ ของอากาศ) 2.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะท้าอะไรได้ (เปรียบเทียบอุณหภูมิ ของอากาศในเวลาและสถานที่ตา่ ง ๆ) 3. จากน้ันนักเรียนอ่าน ท้าอย่างไร ในหนังสือเรียนหน้า 58 โดยครู ใช้วิธีการสอนอ่านตามความเหมาะสมกับความสามารถนักเรยี น จากน้ันครูตรวจสอบความเข้าใจขั้นตอนการท้ากิจกรรมทีละ ข้นั ตอนโดยใช้ค้าถาม ดังนี้ ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 174 3.1 นักเรียนต้องท้าอะไรเป็นอันดับแรก (เลือกบริเวณท่ีจะท้า การสา้ รวจ) 3.2 นักเรียนต้องเลือกสถานท่ีส้ารวจอุณหภูมิของอากาศ อยา่ งน้อยก่ีสถานที่ (อยา่ งนอ้ ย 2 สถานที่) ครูเขียนชื่อสถานที่ท่ีแต่ละกลุ่มจะศึกษาบนกระดาน เพ่ือให้ได้ สถานท่ีวัดอุณหภูมิไม่ซ้ากัน และสถานที่นั้นต้องมีท้ังสถานที่โล่งแจ้ง เช่น สนามเด็กเล่น สนามหน้าโรงเรียน และสถานท่ีในร่ม เช่น ใน อาคาร ใต้ต้นไม้ 3.3 จากการวางแผนการส้ารวจในข้อที่ 2 นักเรียนต้องระบุ อะไรได้บ้าง (จ้านวนครั้งและเวลาที่วัด รวมทั้งการ ออกแบบตารางบันทกึ ผลในแบบฝึกหดั หน้า 79-80) 3.4 เม่ือวางแผนการส้ารวจเรียบร้อยแล้วนักเรียนต้องท้าอะไร (น้าเสนอแผนการส้ารวจตามที่วางไว้ และรับฟังข้อคิดเห็น จากเพ่อื นกลุม่ อน่ื และครู บันทึกการปรบั แผนในแบบฝกึ หัด หน้า 81-82 โดยครูเพิ่มข้อตกลงเกี่ยวกับการก้าหนดเวลา ในการส้ารวจอย่างน้อย 3 ครั้ง ซ่ึงควรเหมือนกันทุกกลุ่ม เพ่ือให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลได้ โดยเวลาท่ีแนะน้าให้ ส้ารวจอณุ หภมู ิของอากาศคือเวลา 7.30 น. 11.30 น. และ 14.30 น. และหากยังมีเวลาเพียงพอให้นักเรียนน้าเสนอ แผนการสา้ รวจที่ได้ปรับแก้ไขอกี ครงั้ หน่งึ 3.5 หลังจากแก้ไขแผน นักเรียนต้องท้าอะไรต่อไป (เริ่มท้า กิจกรรมตามแผนโดยน้าเทอร์มอมิเตอร์ไปวัดอุณหภูมิตาม สถานที่และเวลาท่ีไดว้ างแผนไว้) (1) (2) โดยก่อนลงมือท้ากจิ กรรม ครคู วรชวนอภปิ รายวธิ ีการเตรียมเทอร์ มอมิเตอร์อย่างไร (ร้อยเชือกเข้ากับรูของเทอร์มอมิเตอร์เพ่ือใช้แขวน และน้ากระดาษมาท้ากรวยหุ้มกระเปาะเทอร์มอมเิ ตอร)์ 3.6 ต้าแหน่งของเทอร์มอมิเตอร์ในกรวยกระดาษควรอยู่ต้าแหน่งใด (อยู่กึง่ กลางของกรวยกระดาษ) 3.7 นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใดต้องน้ากระดาษมาครอบ เทอร์มอมิเตอร์ (เพ่ือป้องกันไม่ให้กระเปาะเทอร์มอมิเตอร์ ไดร้ บั แสงจากดวงอาทติ ย์โดยตรง) สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

175 คู่มอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 3.8 เหตุใดกระเปาะเทอร์มอมิเตอร์จึงไม่ควรรับแสงจากดวง การเตรยี มตัวลว่ งหนา้ สา้ หรับครู เพ่ือจัดการเรยี นรใู้ นครงั้ ถดั ไป อาทิตย์โดยตรง (เพราะต้องการวัดอุณหภูมิของอากาศ ไม่ได้ ในคาบถัดไป นักเรียนจะได้ท้า วดั อณุ หภูมขิ องแสงจากดวงอาทติ ย์) กิจกรรมท่ี 1.3 เร่ือง ลมเกิดข้ึนได้อย่างไร ครูสามารถเตรียมแบบจ้าลองการเกิดลม 3.9 ในการแขวนเทอร์มอมิเตอร์ที่บริเวณส้ารวจอุณหภูมิควร โดยใชข้ น้ั ตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. ขวดน้าพลาสติกโดยครูอาจประกอบ แขวนอย่างไร (แขวนให้สูงจากพ้ืนไม่น้อยกว่า 1 เมตร ) โดยครู ขวดพลาสติกเป็นแบบจ้าลองการเกิด อาจสาธิตการเตรียมเทอร์มอมิเตอร์ ระดับการแขวน และการ ลมไว้ลว่ งหนา้ 2. เร่ิมจากการตดั กน้ ขวดพลาสติกทั้งสอง อ่านค่าอณุ หภูมิในระดับสายตาโดยอธิบายวา่ ในการวัดอุณหภูมิ ออก กระเปาะของเทอรม์ อมิเตอร์ต้องอยู่บรเิ วณสิ่งท่ีต้องการวัด และ 3. จากน้ันน้าขวดใบเล็กมาเทียบความสูง กั บ ข ว ด ใ บ ใ ห ญ่ เ พ่ื อ ห า ต้ า แ ห น่ ง ที่ วิธีการอ่านค่าอุณหภูมิจากเทอร์มอมิเตอร์ ต้องอ่านระดับ เหมาะสมในการประกอบ สายตาตรงกับระดับของเหลวใน เทอร์มอมเิ ตอร์) 3.10 เม่ือนักเรียนบันทึกผลการท้ากิจกรรมเรียบร้อยแล้ว นักเรียนต้องท้าอะไรต่อไป (น้าเสนอส่ิงที่พบและร่วมกัน อภปิ รายผล) เม่ือแน่ใจแล้วว่านักเรียนเข้าใจจึงให้นักเรียนเร่ิมออกแบบวิธีการ ตามแผนทว่ี างไว้ (1) (2) (6) (8) (13) 4. เมื่อนักเรียนบันทึกผลของนักเรียนเสร็จให้น้าผลที่ได้มาบันทึก ลงในตารางบนกระดานหรือกระดาษปรู๊ฟของห้องที่ครเู ตรียมไว้ ตวั อยา่ งตารางที่ครูเขยี นบนกระดานหรอื กระดาษปรู๊ฟ ตาราง อุณหภมู ิของอากาศท่ีสถานทีต่ ่าง ๆ ในเวลาต่างๆ กลมุ่ ช่ือสถานท่ี อณุ หภมู ิของอากาศทีเ่ วลาต่างๆ (oC) 7.30 น. 11.30 น. 14.30 น. .... .... 1 ในห้อง .......... ........... .......... 5. นกั เรยี นนา้ เสนอผลการส้ารวจอณุ หภูมขิ องอากาศ จากนั้นครูและ นักเรียนร่วมกันอภิปรายผลของกิจกรรม โดยครูอาจใช้ค้าถาม ดงั นี้ 5.1 อุณหภูมิของอากาศในที่เดียวกันแต่เวลาต่างกันเป็นอย่างไร เหตใุ ดจงึ เป็นเช่นนั้น (อณุ หภมู ขิ องอากาศในสถานที่เดียวกัน เช่นในห้องเรียนในเวลาต่าง ๆ จะแตกต่างกัน คือตอนเช้า อุณหภูมิของอากาศต่้ากว่าตอนกลางวัน และอุณหภูมิของ ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวติ 176 อากาศตอนเย็นจะต้่ากว่าตอนบ่าย เพราะการได้รับแสงจาก การเตรียมตวั ลว่ งหน้าสา้ หรับครู ดวงอาทติ ย์ท่ที า้ มมุ กบั พนื้ โลกตา่ งกันจงึ ได้รับแสงไม่เทา่ กนั ) เพือ่ จดั การเรยี นรใู้ นครงั้ ถัดไป (ตอ่ ) 5.2 อุณหภูมิของอากาศในเวลาเดียวกันแต่สถานที่ต่างกันเป็น อย่างไร เหตุใดจึงเปน็ เชน่ นนั้ (อุณหภูมิของอากาศในสถานท่ี 4. กรีกรปู กากบาทท่ีข้างขวดใบใหญ่ ต่างกันในเวลาเดียวกันจะแตกต่างกัน ถ้าอยู่ในท่ีร่มอุณหภูมิ ของอากาศจะต้่ากว่าบริเวณกลางแจ้งเพราะบริเวณที่ร่มจะ 5. ประกอบขวดเขา้ ดว้ ยกนั แต่หากอยาก ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์น้อยกว่าเน่ืองจากมีต้นไม้ หรือ ให้นักเรียนประกอบเอง ครูควรระวัง หลงั คามาชว่ ย) เร่อื งการใช้คตั เตอร์ อาจใชไ้ มถ่ นัดหรือ 5.3 อุณหภูมิของอากาศในวันหน่ึง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร อาจเกิดอุบัตเิ หตุได้ โดยครอู าจเริม่ โดย (อุณหภูมิของอากาศช่วงเวลาเช้าประมาณ 8.30 จะต่้าและจะ ใช้คัตเตอร์เจาะขวดให้เป็นแนวแก่ ค่อย ๆ เพ่ิมข้ึนและสูงที่สุดในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. นักเรียนก่อน แล้วจึงให้นักเรียนใช้ หลังจากน้ันอุณหภูมิจะลดลง และในเวลาเดียวกัน อุณหภูมิ กรรไกรตัดต่อไป ของอากาศแต่ละบริเวณจะแตกต่างกัน) 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า อุณหภูมิของ 6. ส้าหรับขวดพลาสติกที่แนะน้า ควร อากาศในวันหน่ึง ๆ สามารถเปลยี่ นแปลงตามเวลาและสถานท่ี ใน เ ป็ น ข ว ด พ ล า ส ติ ก ท่ี มี ค ว า ม แ ข็ง สถานท่ีเดียวกันแต่คนละเวลา อุณหภูมิของอากาศไม่เท่ากัน สามารถทนความร้อนได้ในระยะเวลา เช่นเดียวกันกับในสถานท่ีต่างกันแต่เวลาเดียวกัน อุณหภูมิของ หน่ึง ชนิดของขวดท่ีแนะน้า เช่น ขวด อากาศก็ไมเ่ ทา่ กัน น้าอัดลมขนาด 1 ลิตร ขวดน้าดื่มยี่ห้อ 7. นักเรียนตอบค้าถาม ฉันรู้อะไร และ อยากรู้อีกว่า ในแบบฝึกหัด ออร่า ขวดน้าด่มื ย่หี ้อเพอรร์ ่า หนา้ 84-85 8. ครูน้าอภิปรายให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในขั้นตอนใดบ้าง สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

177 คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต แนวค้าตอบในแบบฝึกหดั วดั และเปรยี บเทยี บอณุ หภูมขิ องอากาศในเวลาและสถานทีต่ ่าง ๆ ห้องเรยี น โรงอาหาร 2 2 นักเรียนสามารถตอบไดต้ ามการวางแผนของกลุ่ม เวลาตทัวี่จอะยว่าัดงอคุณา้ ตหอภบูมิ คือ 8.00 และ 16.30 น. เวลาทจี่ ะวดั อุณหภูมิ คือ 8.00 และ 16.30 น. ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 178 นกั เรยี นสามารถออกแบบตารางบันทกึ ผลการทา้ กิจกรรม ได้ตามความคดิ ของตนเอง ตัวอยา่ งแนวการออกแบบ ตาราง ผลการสา้ รวจอุณหภูมขิ องอากาศในสถานท่ีและเวลาตา่ ง ๆ ช่ือสถานที่ อณุ หภูมขิ องอากาศที่เวลาต่างๆ (oC) 1. ในห้องเรยี น 7.30 น. 16.30 น. 2. โรงอาหาร สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

179 คูม่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 น้า อากาศ กับชีวิต หอ้ งเรยี น สนามฟตุ บอล 14.30 และ 16.30 น. 5 14.30 และ 16.30 น. 5 นกั เรียนสามารถตอบได้ตามการวางแผนของกล่มุ เวลาทจ่ี ะวดั อุณหภูมิ คอื 7.30 9.30 11.30 เวลาท่จี ะวดั อุณหภูมิ คือ 7.30 9.30 11.30 ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 180 นักเรยี นสามารถออกแบบตารางบนั ทกึ ผลการทา้ กิจกรรม ไดต้ ามความคิดของตนเอง ตัวอยา่ งแนวการออกแบบ ตาราง ผลการสา้ รวจอุณหภมู ิของอากาศในสถานท่ีและเวลาตา่ ง ๆ ชือ่ สถานท่ี อุณหภมู ขิ องอากาศท่ีเวลาต่างๆ (oC) 7.30 น. 9.30 น. 11.30 น. 14.30 น. 16.30 น. 1. ในห้องเรยี น 2. สนามฟุตบอล สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

181 คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ นกั เรยี นสามารถออกแบบตารางบนั ทึกผลการทา้ กจิ กรรม ได้ตามความคิดของตนเอง ตัวอยา่ งแนวการออกแบบ ตาราง ผลการสา้ รวจอุณหภูมขิ องอากาศในสถานท่แี ละเวลาตา่ ง ๆ ชื่อสถานที่ อุณหภมู ิของอากาศทเ่ี วลาต่างๆ (oC) 7.30 น. 9.30 น. 11.30 น. 14.30 น. 16.30 น. 1. ในหอ้ งเรียน 31 31 32 32 31 2. สนามฟตุ บอล 32 34 38 39 38 ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวิต 182 เพราะคา่ ท่ีอ่านไดจ้ ะเปน็ คา่ อณุ หภูมิของแสงจากดวงอาทิตย์ ไมใ่ ช่ค่าอุณหภูมิ ของอากาศ อุณหภมู ขิ องอากาศในสถานที่เดียวกัน เวลาต่างกันนน้ั ไม่เทา่ กัน โดยอณุ หภมู ิ ของอากาศในตอนเชา้ จะต่้าแลว้ สูงขนึ้ และลดลงอีกคร้งั เมื่อวดั ในเวลาเย็น อณุ หภูมขิ องอากาศในเวลาเดียวกันแตส่ ถานท่ีต่างกนั นนั้ ไมเ่ ทา่ กัน โดย อุณหภมู ิของอากาศในบรเิ วณทรี่ ่มจะต้่ากว่าบรเิ วณกลางแจง้ อุณหภูมขิ องอากาศในหอ้ งเรยี นเวลา 7.30 อ่านค่าได้ 31 oC และคอ่ ย ๆ เพิ่มขึน้ จนสูงท่สี ุดท่ีเวลา 14.30 โดยอ่านคา่ ได้ 32 oC และอณุ หภมู จิ ะคอ่ ย ๆ ลดลงโดยทเ่ี วลา 16.30 อ่านค่าได้ 31 oC ซึ่งอณุ หภูมิอากาศในสนามฟุตบอลก็มแี นวโนม้ เช่นเดยี วกนั และหากเปรยี บเทียบเวลาเดยี วกันแต่สถานที่ตา่ งกัน เช่น เวลา 11.30 ท่ีสนามฟุตบอล อ่านคา่ ได้ 38 oC แต่ในหอ้ งเรยี นอ่านคา่ ได้ 32 oC แสดงวา่ แตอ่ ณุ หภูมขิ องอากาศสามารถเปลย่ี นแปลงได้ อุณหภูมิของอากาศสามารถเปล่ียนแปลงไดต้ ามเวลาและสถานที่ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

183 คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกต้ังค้าถาม โดยค้าถามเหล่าน้ันเป็นเรื่องท่ี สงสัยอยากรู้เพิ่มเติม หรือสิ่งที่ยังไม่เข้าใจจากการท้ากิจกรรมใน หอ้ งเรียน ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวติ 184 ตวั อย่างตารางทค่ี รเู ขียนบนกระดานหรอื กระดาษปร๊ฟู ตาราง อุณหภมู ขิ องอากาศท่ีสถานทใ่ี นเวลาต่างๆ ช่ือกลมุ่ ชอื่ สถานท่ี 7.30 น. อุณหภูมขิ องอากาศท่เี วลาต่าง ๆ (oC) 16.30 น. 1 9.30 น. 11.30 น. 14.30 น. 2 ในห้องเรยี น 3 ........... ............ .......... ........... ........... สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

185 คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กบั ชีวติ แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรียนร้ขู องนักเรยี นท้าได้ ดงั นี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในช้ันเรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรู้จากคา้ ตอบของนกั เรียนระหว่างการจัดการเรียนรแู้ ละแบบฝกึ หัด 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์จากการท้ากิจกรรมของนักเรยี น การประเมินจากการทา้ กจิ กรรมท่ี 1.2 อณุ หภมู ิของอากาศในหนง่ึ วนั เปน็ อยา่ งไร ระดบั คะแนน 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 2 คะแนน หมายถงึ ดี 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ ส่งิ ที่ประเมนิ คะแนน 1. การสงั เกต 2. การวดั 6. การจดั กระทา้ และส่ือความหมายข้อมลู 8. การลงความเหน็ จากข้อมูล 13. การตีความหมายข้อมลู และการลงขอ้ สรปุ รวมคะแนน ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ตามระดบั ความสามารถของนักเรียน โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดังนี้ 2 คะแนน หมายถึง ดี 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 1. การสงั เกต ใชป้ ระสาทสัมผัสเก็บรายละเอียด ใชป้ ระสาทสัมผัสเก็บ ไมส่ ามารถใช้ประสาทสัมผัส ของส่ิงท่ีเกิดข้ึนได้ด้วยตัวเองโดย รายละเอียดของส่ิงทเ่ี กิดขึ้น โดย ในการเกบ็ ขอ้ มลู หรือมีการ ไม่เพ่ิมความคิดเห็น ส่ิงท่ีสังเกต ต้องอาศยั การชีแ้ นะของครหู รอื เพิ่มเติมความคิดเหน็ แมว้ ่าครู ได้ประกอบด้วย ผอู้ ื่น หรือใช้ประสาทสมั ผสั ได้ หรอื ผอู้ ่ืนต้องชว่ ยแนะนา้ หรือ - การเปลย่ี นแปลงของอุณหภมู ิ ด้วยตัวเอง แต่เพ่ิมเติมความ ชแี้ นะ ในเวลา และสถานท่ีต่างกัน คดิ เห็น ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ 186 ทกั ษะกระบวนการ ดี ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรงุ ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ 2. การวดั ใช้เทอร์มอมิเตอ ร์ไ ด้ อ ย่ า ง ใช้เทอรม์ อมเิ ตอรไ์ ดถ้ ูกต้องแต่มี ไมส่ ามารถใชเ้ ทอรม์ อมิเตอร์ ถูกต้องเหมาะสม และระบุ ข้อผิดพลาดเลก็ น้อยและระบุ และไมส่ ามารถระบุหนว่ ย หน่วยของอุณหภูมิได้อย่าง หนว่ ยของอุณหภมู ิได้อย่าง ของอุณหภมู ิได้ แมว้ ่าครูหรือ ถกู ต้องโดยต้องอาศยั การช้ีแนะ ผอู้ ืน่ ตอ้ งชว่ ยแนะน้าหรอื ถกู ตอ้ งได้ด้วยตนเอง ของครหู รือผู้อ่ืน ชแ้ี นะ 6. การจดั กระท้า แสดงความคิดเห็น ตอบค้าถาม แสดงความคดิ เหน็ ตอบค้าถาม ไม่สามารถแสดงความ และสอื่ ความหมาย ข้อมลู ออกแบบตารางส้ารวจอุณหภูมิ ออกแบบตารางสา้ รวจอณุ หภูมิ คดิ เหน็ ตอบคา้ ถาม 8. การลงความเหน็ และน้าเสนอข้อมูลที่ได้จากการ และนา้ เสนอข้อมูลทไ่ี ด้จากการ ออกแบบตารางสา้ รวจ จากข้อมูล วดั อุณหภูมใิ ห้ผู้อนื่ เขา้ ใจไดง้ า่ ย อณุ หภูมิและนา้ เสนอขอ้ มลู ที่ วัดอุณหภูมิให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย และชดั เจน โดยเลือกใชว้ ธิ กี ารที่ ไดจ้ ากการวดั อุณหภมู ใิ ห้ผู้อื่น และชัดเจน โดยเลอื กใช้วธิ กี ารที่ เหมาะสมโดยต้องอาศยั การ เขา้ ใจ แมว้ า่ ครหู รือผ้อู ่ืนช่วย เหมาะสมไดด้ ว้ ยตนเอง ช้ีแนะของครูหรือผู้อน่ื แนะนา้ หรอื ชี้แนะ สามารถเพ่ิมเติมความคิดเห็น สามารภเพิม่ เติมความคิดเห็น ไม่สามารถเพิ่มเตมิ ความ เก่ียวกับอุณหภูมิของอากาศได้ เกย่ี วกับอุณหภูมขิ องอากาศว่า คดิ เห็นเก่ียวกับอุณหภมู ิของ อากาศวา่ ในแตล่ ะวัน ว่า ในแต่ละวันอุณหภูมิของ ในแตล่ ะวนั อุณหภมู ิของอากาศ อุณหภูมขิ องอากาศ เปล่ียนแปลงได้ จากการช้ีแนะ เปลี่ยนแปลงได้ แม้ครหู รือ อากาศเปลี่ยนแปลงได้ โดยใช้ ของครูหรือผอู้ ื่น ผู้อนื่ ตอ้ งชว่ ยแนะนา้ หรือ การสังเกตและประสบการณ์ ชแ้ี นะ เดิม ได้อย่างถูกต้อง มีเหตุผลได้ ด้วยตวั เอง 13. การ สามารถตีความหมายข้อมูลจาก ครูหรอื ผู้อน่ื ต้องช่วยแนะน้า ไมส่ ามารถตีความหมาย ตคี วามหมายข้อมูล ขอ้ มลู จากการสงั เกตและการ และการลงขอ้ สรุป การสังเกตการวัด และลงข้อสรุป หรือชี้แนะจึงจะสามารถ วัด และลงข้อสรุปได้ดว้ ย ตัวเอง แมว้ า่ ครูหรือผู้อ่ืนช่วย ได้ด้วยตัวเองว่าในแต่ละวัน ตคี วามหมายข้อมลู จากการ แนะน้าหรอื ชีแ้ นะ สังเกตการวดั และลงข้อสรุปได้ อุณหภูมิของอากาศเปล่ียนแปลง ด้วยตวั เอง ได้ และในเวลาเดียวกัน อากาศใน บริเวณต่างๆ มีอุณหภูมิแตกต่าง กนั สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

187 คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กับชีวติ กิจกรรมท่ี 1.3 ลมเกดิ ขึ้นไดอ้ ย่างไร กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดส้ ังเกตและอธิบายว่า ลมคือการเคลอื่ นทข่ี องอากาศ เม่ือมีความแตกต่างของอุณหภมู อิ ากาศใน บรเิ วณที่อยู่ใกล้กัน และประโยชนข์ องลม เวลา 2 ช่วั โมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สรา้ งแบบจ้าลองและอธิบายการเกดิ ลม 2. สบื ค้นขอ้ มูลและระบปุ ระโยชน์ของลม วสั ดุ อุปกรณ์ส้าหรบั ท้ากจิ กรรม สิง่ ทคี่ รูตอ้ งเตรียม/กลมุ่ 1. ขวดน้าพลาสตกิ ใบใหญ่ท่ตี ัดกน้ ขวดออก 1 ใบ 2. ขวดน้าพลาสติกใบเล็กท่ตี ัดก้นขวดออก 1 ใบ 3. เทียนไข 1 เลม่ 4. ธูป 1 ดอก 5. ไม้ขีดไฟ 1 กลกั 6. ทรายส้าหรบั ดบั ไฟ 1 กระป๋อง 7. เทอรม์ อมิเตอร์ 2 อัน 8. กรรไกร 1 อัน สิ่งทน่ี ักเรยี นตอ้ งเตรียม/กลุ่ม - สอ่ื การเรยี นรู้ หนา้ 60-64 หนา้ 86-89 1. หนงั สือเรยี น 2. แบบฝึกหัด ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสังเกต การพยากรณ์หรือการคาดคะเน การลงความเหน็ จากข้อมูล การตคี วามหมายข้อมูลและการลงขอ้ สรปุ การสร้างแบบจา้ ลอง ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กับชีวิต 188 แนวการจดั การเรยี นรู้ ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น ส้าคัญ และยังไม่เฉลยค้าตอบใด ๆ 1. ครตู รวจสอบความรู้เดมิ ของนักเรยี นโดยใชป้ ระเด็นค้าถาม ดงั นี้ ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนนักเรียน ไป 1.1 อุณหภูมิของอากาศในวันหน่ึง ๆ เป็นอย่างไร (อุณหภูมิของ หาค้าตอบที่ถูกต้องในกิจกรรมต่าง ๆ อากาศในวันหน่ึงๆ เปลี่ยนแปลงได้ โดยอุณหภูมิของอากาศ ในบทเรียนนี้ จะเร่มิ สงู ข้ึนเร่ือย ๆ จนถงึ เวลาประมาณ 14.00 น. จากนั้นจะ คอ่ ย ๆ ลดลง หมุนเวียนเช่นนอ้ี ยา่ งต่อเน่ืองทุกวนั ) 1.2 ความแตกต่างของอุณหภูมิอากาศในบริเวณต่าง ๆ ท่ีอยู่ใกล้ กัน ท้าให้อากาศบริเวณดังกล่าวเปลี่ยนแปลงอย่างไร (นกั เรยี นสามารถตอบได้ตามความคดิ ของตนเอง โดยครยู ัง ไมเ่ ฉลยคา้ ตอบทีถ่ กู ตอ้ ง) 2. ใหน้ ักเรยี นเปิดหนังสือเรียนหน้า 60 อ่านช่ือกิจกรรม และหัวข้อ ท้าเปน็ คดิ เปน็ แล้วตรวจสอบความเข้าใจในการท้ากิจกรรมของ นักเรยี นโดยใชค้ ้าถามดังตอ่ ไปนี้ 2.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (การเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม) 2.2 นักเรียนจะได้เรียนเรื่องน้ีด้วยวิธีใด (สร้างการแบบจ้าลอง และการสืบคน้ ข้อมลู ) 2.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะท้าอะไรได้ (อธิบายการเกิดลม ระบุประโยชน์ของลม) 3. จากน้นั นกั เรียนอ่าน ท้าอยา่ งไร ในหนังสือเรียนหนา้ 60 โดยครู ใช้วิธีการสอนอ่านตามความเหมาะสมกับความสามารถนักเรยี น จากน้ันครูตรวจสอบความเข้าใจข้ันตอนการท้ากิจกรรมทีละ ขนั้ ตอนโดยใชค้ า้ ถาม ดังนี้ 3.1 นักเรียนสร้างแบบจ้าลองอย่างไร (กรีดด้านข้างของขวด ใบใหญ่เป็นรูปกากบาทให้มีขนาดพอดีที่จะสอดปากขวด ใบเล็กใหแ้ นบสนทิ ) 3.2 หลังจากน้าขวดแนวต้ังครอบเทียนไขท่ีสูงเท่ากับปากขวด แนวนอนก่อนจุดเทียนไขแล้วต้องท้าอะไรต่อไป (วัด อุณหภูมปิ ากขวดแนวต้ังและแนวนอน บนั ทกึ ผล) 3.3 เม่ือนักเรียนวัดอุณหภูมิที่ปลายขวดทั้ง 2 ด้าน นักเรียน ต้องท้าอะไรต่อไป (คาดคะเนและบันทึกว่าควันธูปจะ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

189 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กับชีวิต เคลื่อนที่อย่างไร เมื่อน้าธูปติดไฟไปจ่อที่ปลายขวด พร้อม ระบเุ หตุผล) 3.4 หลังจากนักเรียนคาดคะเนเสร็จนักเรียนต้องท้าอะไรต่อไป (ลงมอื ท้ากิจกรรมเพ่ือตรวจสอบการคาดคะเน) 3.5 การท้ากิจกรรมเพ่ือตรวจสอบการคาดคะเนนักเรียนต้อง สังเกตอะไร (สงั เกตการเคลื่อนทข่ี องควนั ธูป) 3.6 ในข้อที่ 5 นักเรยี นตอ้ งทา้ อะไร (จุดเทยี นไขแล้วน้าขวดแนวต้ัง ครอบเทียนไขไว้ดังเดิมแลว้ วัดอุณหภมู ิทป่ี ลายขวดทัง้ 2 ดา้ น) 3.7 เมื่อวัดอุณหภูมิที่ปลายขวดท้ัง 2 ด้านแล้ว สิ่งต่อไปท่ี นักเรียนต้องท้าคืออะไร (คาดคะเนว่าควันธูปจะเคล่ือนที่ อย่างไร เม่ือน้าธูปติดไฟไปจ่อที่ปลายขวดแนวนอน บันทึก พรอ้ มระบุเหตผุ ล) 3.8 หลังจากนักเรียนคาดคะเนแล้ว นักเรียนต้องท้าอะไรถัดไป (ลงมอื ท้ากจิ กรรมเพือ่ ตรวจสอบการคาดคะเน) 3.9 ในข้อที่ 8 นักเรียนต้องท้าอะไร (อภิปรายและน้าเสนอผล การท้ากจิ กรรม) 3.10 หลังจากอ่านใบความรู้เร่ืองลมและประโยชน์ของลมแล้ว นกั เรียนต้องทา้ อะไรต่อไป (เปรยี บเทียบข้อมูลท่ีไดจ้ ากการ อา่ นใบความรูก้ บั ข้อมูลที่ได้จากการทา้ กจิ กรรม) เมื่อแน่ใจว่านักเรียนสามารถท้ากิจกรรมได้แล้วจึงให้นักเรียนลง มอื ท้ากจิ กรรมและบันทึกผลลงในแบบฝึกหัด (6) (13) (14) 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการท้ากิจกรรม โดยครูอาจ ใช้คา้ ถามดังนี้ 4.1 การคาดคะเนกับผลการท้ากิจกรรมของนักเรียนก่อนจุด เทียนไขเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (ค้าตอบข้ึนอยู่กับผล การท้ากิจกรรมของนักเรียน เช่น ไม่เหมือนกัน เน่ืองจาก คาดคะเนว่าควันธูปจะเคลื่อนที่เข้าไปในขวด แต่จากผล การท้ากิจกรรมพบว่า ควันธูปจะเคล่ือนที่ข้ึนด้านบนตรง ปลายขวดแนวนอน ไม่เคลอ่ื นท่ีเขา้ ไปในขวด) ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต 190 4.2 การคาดคะเนกับผลการท้ากิจกรรมของนักเรียนหลังจุด นักเรียนอาจไม่สามารถตอบค้าถาม เทียนไขเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (ค้าตอบขึ้นอยู่กับผล หรืออภิปรายได้ตามแนวค้าตอบ คุณครู การท้ากิจกรรมของนักเรียน เช่น เหมือนกัน เน่ืองจาก ควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม รอ คาดคะเนว่าควันธูปจะเคลื่อนท่ีเข้าไปในขวด ซ่ึงตรงกับผล คอยอย่างอดทน และรับฟังแนวความคิด การทา้ กจิ กรรมที่พบวา่ ควนั ธปู เคลอื่ นทีเ่ ข้าไปในขวด) ของนกั เรียน 4.3 ก่อนจุดเทียนไข นักเรียนสังเกตเห็นการเคลื่อนที่ของควัน ธูปเป็นอย่างไร (ก่อนจุดเทียนไขพบว่า ควันธูปจะเคล่ือนท่ี ข้ึนดา้ นบน ไมเ่ คล่ือนทเ่ี ขา้ ไปในขวดแนวนอน) 4.4 หลังจุดเทียนไข นักเรียนสังเกตเห็นการเคลื่อนที่ของควัน ธูปเป็นอย่างไร (หลังจุดเทียนไขพบว่า ควันธูปจะเคล่ือนที่ เข้าไปในขวดทางแนวนอนและเคลื่อนท่ีออกไปทางปาก ขวดแนวตงั้ ) 4.5 นกั เรยี นคดิ ว่าควนั ธูปแทนอะไร (แทนอากาศ) 4.6 อุณหภูมิท่ีวัดได้ของปลายขวดทั้ง 2 ด้าน ก่อนจุดเทียนไข และหลังจุดเทียนไข เหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (ไม่ เหมือนกัน ก่อนจุดเทียนไข โดยปลายขวดทั้ง 2 ด้าน มี อุณหภูมิเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน แต่หลังจุดเทียนไข พบว่า อุ ณ ห ภู มิ ท่ี วั ด ไ ด้ ท่ี ป ล า ย ข ว ด แ น ว ตั้ ง สู ง ก ว่ า ป ล า ย ข ว ด แนวนอน) 4.7 หลังจุดเทียนไขควันธูปเคล่ือนท่ีได้เพราะเหตุใด (มีความ แตกตา่ งของอณุ หภมู ขิ องอากาศเกดิ ข้ึน) 4.8 การเคล่ือนที่ของอากาศเก่ียวข้องกับอุณหภูมิของอากาศ อย่างไร (อากาศจะเคลื่อนท่ีได้เมื่อมีความแตกต่างของ อุณหภูมิเกิดข้ึน โดยอากาศจะเคล่ือนที่จากบริเวณท่ีมี อุณหภูมิต่้าไปยังบริเวณอากาศท่ีมีอุณหภูมิสูง เหมือนใน แบบจ้าลองที่อุณหภูมิของปลายขวดแนวนอนต้่ากว่าปาก ขวดแนวตั้ง จึงสังเกตเห็นการเคลื่อนท่ีของควันธูปจาก ปลายขวดแนวนอนเคลอ่ื นทไ่ี ปยงั ปลายขวดแนวตงั้ ) 5. ครูและนกั เรียนร่วมกันอภปิ ราย ใบความรูเ้ รอ่ื งลมและประโยชน์ ของลม โดยครูอาจใช้ค้าถามตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ดงั ต่อไปนี้ 5.1 ลมเกิดได้อย่างไร (ลมเกิดข้ึนเมื่อมีการเคลื่อนที่ของอากาศ เนื่องจากความแตกต่างของอุณหภมู ิที่อยู่บริเวณใกลเ้ คียงกัน) สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

191 คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 น้า อากาศ กบั ชีวิต 5.2 ในอดีตนักเรียนสามารถน้าพลังงานจากลมมาใช้ท้า อะไรบ้าง (ท้าให้วัตถุเคล่ือนท่ี เช่น การเดินเรือติดต่อ คา้ ขาย การสร้างความเพลดิ เพลนิ เช่นการเลน่ ว่าว) 5.3 ปัจจุบันสามารถน้าพลงั งานจากลมมาใช้ท้าอะไรบ้าง (ผลิต กระแสไฟฟ้าในพื้นทหี่ ่างไกล เชน่ แอนตาร์กตกิ า) 5.4 ในอนาคตสามารถน้าพลังงานจากลมมาใช้ประโยชน์ อย่างไร (อาจน้ามาใชข้ บั เคลอื่ นรถยนตแ์ ทนน้ามนั ) 5.5 นอกจากประโยชน์ที่นักเรียนได้อ่านแล้วนักเรียนคิดว่า พลังงานจากลมสามารถน้ามาใช้ประโยชน์อะไรได้อีก (นักเรียนตอบได้ตามความคิดเห็นของตนเอง เช่น น้ามาใช้ หมนุ ใบพัดของกงั หนั ลม) 5.6 พายุ คืออะไร (ลมที่เคลอ่ื นทด่ี ้วยความเร็วสูง) 5.7 จากผลการท้ากิจกรรมและจากการอ่านใบความรู้มีส่วนใด ท่ีเหมือนกัน (ส่วนท่ีเหมือนคือ พบว่าอากาศสามารถ เคล่ือนที่ได้เมื่อมีความแตกต่างของอุณหภูมิของอากาศ เกิดข้นึ โดยอากาศท่ีอุณหภมู ิสูงจะลอยสงู ข้ึน แล้วอากาศที่ อุณหภูมติ ่้าจะเคลอ่ื นท่ีไปแทน) 5.8 จากผลการท้ากิจกรรมและจากการอ่านใบความรู้มีส่วนใด ท่ีแตกต่างกัน (ส่วนที่แตกต่างกันคือ พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเคลื่อนที่ของอากาศเรียกว่า ลม และจะเกิดเม่ือความ แ ต ก ต่ า ง ข อ ง อุ ณ ห ภู มิ น้ี อ ยู่ บ ริ เ ว ณ ใ ก ล้ เ คี ย ง กั น ด้ ว ย นอกจากนยี้ ังทราบการใช้ประโยชนจ์ ากพลงั งานลม) 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่าลม คือการ เคลื่อนท่ีของอากาศเมื่อมีความแตกต่างของอุณหภูมิของอากาศ ในบริเวณท่ีอยู่ใกล้กัน โดยอากาศบริเวณท่ีมีอุณหภูมิสูงกว่าจะ ลอยสูงข้ึนและอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิต้่ากว่าจะเคลื่อนไป แทนที่ ซึ่งสามารถน้าพลังงานจากลมไปใช้ประโยชน์มากมาย (5) (13) (14) 7. นกั เรยี นตอบคา้ ถาม ฉนั รู้อะไร และ อยากรอู้ กี ว่า ในแบบฝึกหดั หน้า 88-89 8. ครูอภิปรายให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในขนั้ ตอนใดบา้ ง ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 นา้ อากาศ กบั ชีวิต 192 แนวค้าตอบในแบบฝกึ หัด 1. สร้างแบบจา้ ลองและอธบิ ายการเกิดลม 2. สบื ค้นประโยชนข์ องลม 28 28 นักเรยี นตอบไดต้ ามความคดิ ของนักเรยี น แนวคา้ ตอบ คอื ควนั ธูปลอยข้นึ ไป ไมเ่ ข้าไปในขวด อากาศจากปลายท่อแนวนอนและอากาศปลายขวดแนวต้ังมีอุณหภูมิ เทา่ กนั ควนั ธูปจงึ ไม่มีการเคล่ือนทีเ่ ขา้ ไปในขวด 89 60 นักเรยี นตอบได้ตามความคิดของตนเอง แนวค้าตอบ คือ ควันธูปลอยเข้าไปในขวดตามแนวราบและข้ึนไปตามขวดใน แนวตัง้ อากาศจากปลายท่อแนวนอนซ่ึงมีอุณหภูมิต้่ากว่าจะเคล่ือนท่ีไปยังบริเวณอากาศ ท่ีมีอุณหภูมิสูงกว่าที่ปากขวดที่อยู่แนวต้ัง เพราะเม่ือจุดเทียนไข ท้าให้อากาศในท่อท่ีอยู่ แนวต้ังร้อน อากาศที่ร้อนจึงลอยตัวสูงขึ้น ท้าให้อากาศที่เย็นกว่าที่ปลายท่อในแนวนอน เคลอื่ นไปแทนที่ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook