¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 269 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ จตุ (๔) ศพั ท เปนพหุวจนะอยา งเดียว ในนปงุ สกลิงค แจกอยา งน้ี พห.ุ ป. จตตฺ าริ ท.ุ จตตฺ าริ ต. จตูหิ จ. จตุนนฺ ํ ป.ฺ จตหู ิ ฉ. จตนู ฺนํ ส. จตสู ุ จตุ (๔) ศพั ท ในนปุงสกลิงค มวี ธิ เี ปลีย่ นวิภัตติ และการันต เหมือน ในปุงลิงค ตางกันเฉพาะหมวดปฐมาวภิ ตั ติ และทตุ ยิ าวิภตั ติ ดงั น้ี จตฺตาริ ศัพทเดิมมาจาก จตุ อุ การันตในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ จตฺตาริ พหุวจนะ เอา จตุ กับ โย เปน จตฺตาริ สำเร็จรูปเปน จตฺตาริ จตฺตาริ (กลุ านิ) แปลวา (อ.ตระกูล ท.) ๔ ศัพทเดิมมาจาก จตุ อุ การันตในนปุงสกลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหุวจนะ เอา จตุ กับ โย เปน จตฺตาริ สำเร็จรูปเปน จตฺตาริ จตฺตาริ (กลุ านิ) แปลวา (ซ่ึงตระกลู ท.) ๔ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 269
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 270 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ปฺจ (๕) ศพั ท เปนพหวุ จนะอยา งเดยี ว ใน ๓ ลิงค แจกอยา งนี้ พห.ุ ป. ปจฺ ทุ. ปฺจ ต. ปฺจหิ จ. ปฺจนนฺ ํ ป.ฺ ปจฺ หิ ฉ. ปฺจนฺนํ ส. ปฺจสุ ปจฺ (๕) ศพั ท ใน ๓ ลิงค มีวิธเี ปลยี่ นวิภัตติ และการนั ต ดังนี้ ปฺจ ศัพทเดิมมาจาก ปฺจ ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ลง โย ลบ โย ปจฺ ท้งิ เสีย สำเร็จรปู เปน ปจฺ ปจฺ (รุกฺขา) แปลวา (อ.ตนไม ท.) ๕ ตน ปจฺ หิ ศัพทเดิมมาจาก ปฺจ ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหุวจนะ ลง โย ลบ โย ปจฺ นฺนํ ทิ้งเสยี สำเรจ็ รูปเปน ปฺจ ปฺจ (รกุ เฺ ข) แปลวา (ซง่ึ ตน ไม ท.) ๕ ตน ศัพทเดิมมาจาก ปฺจ ลง หิ ตติยาวิภัตติ พหุวจนะ ลง หิ คง หิ ไว ปฺจหิ สำเรจ็ รูปเปน ปฺจหิ ปฺจหิ (รกุ ฺเขหิ) แปลวา (ดว ยตนไม ท.) ๕ ตน ปฺจนฺนํ ศัพทเดิมมาจาก ปฺจ ลง นํ จตุตถีวิภัตติ พหุวจนะ ลง นํ ซอน นฺ หนา นํ แลวคง นํ ไว สำเร็จรูปเปน ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ (รุกฺขานํ) แปลวา (แกต นไม ท.) ๕ ตน ศัพทเดิมมาจาก ปฺจ ลง หิ ปญจมวี ิภตั ติ พหุวจนะ ลง หิ คง หิ ไว สำเรจ็ รูปเปน ปฺจหิ ปจฺ หิ (รุกเฺ ขห)ิ แปลวา (แตต น ไม ท.) ๕ ตน ศัพทเ ดมิ มาจาก ปฺจ ลง นํ ฉฏั ฐีวภิ ัตติ พหวุ จนะ ลง นํ ซอน นฺ หนา นํ แลวคง นํ ไว สำเร็จรูปเปน ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ (รุกฺขานํ) แปลวา (แหงตนไม ท.) ๕ ตน เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 270
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 271 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ปจฺ สุ ศัพทเดิมมาจาก ปฺจ ลง สุ สัตตมีวิภัตติ พหุวจนะ ลง สุ คง สุ ไว สำเร็จรปู เปน ปจฺ สุ ปจฺ สุ (รุกเฺ ขสุ) แปลวา (ในตนไม ท.) ๕ ตน หมายเหตุ : ๑. ปฺจ เปนไตรลิงค แตในวิธีเปล่ียนวิภัตติและการันต ไดนำ นามนามเฉพาะที่เปนปุงลงิ คม าแสดงประกอบไวเปน ตวั อยา งเทานั้น ๒. ตงั้ แต ปฺจ ถึง อฏ เมือ่ นำไปใช ไมมีการเปลีย่ นแปลงเปน อนื่ ๓. ตั้งแต ฉ (๖) ถงึ อฏ ารส (๑๘) แจกตามแบบ ปจฺ 271
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 272 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) นว ศัพท นว ศัพทน ี้ ถา เพงตามศัพทกม็ ีนัย ๒ อยาง คอื ๑. เปนสังขยาจำนวนนบั นามนาม ทีแ่ ปลวา ๙ อยา งหนง่ึ ๒. เปน คณุ บทของนามนาม ที่แปลวา ใหม อยา งหนงึ่ จะรูไดวาเปนสังขยาหรือเปนนามนั้น จักรูท่ีการแจกวิภัตติของศัพทน้ัน นว สังขยาแจกตามแบบ ปฺจ สวน นว ที่เปนคุณนามน้ัน เปนเคร่ืองแสดงลักษณะ ของนามนาม มี ลิงค วจนะ วิภัตติ เหมือนนามนาม และจัดเปนเอกวจนะก็ได เปน พหุวจนะกไ็ ด ศัพทนี้ นิยมใชต า งกันดังนี้ - ถา เปนสังขยาไมล ง ก ตอ ทาย เชน นว ภกิ ฺขู - ภกิ ษุ ท. ๙ รูป - ถาเปนคุณนามลง ก ตอทาย เชน นวโกวาท (นวก+โอวาท) - โอวาทเพื่อภกิ ษใุ หม - ถาเปนคณุ ของนามนามที่เปน ปงุ ลงิ ค แจกอยาง ปุริส - ถา เปน คุณของนามนามท่เี ปน นปงุ สกลงิ ค แจกอยา ง กลุ - ถาเปนคุณของนามนามท่ีเปนอิตถีลิงค ลง อา เปนเครื่องหมาย อติ ถลี ิงคแ จกอยา ง กฺ า 272
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 273 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ สงั ขยาจำนวนสบิ สังขยาจำนวนสิบ หรือหลักสิบ คือสังขยาจำนวนเต็มต้ังแต ๑๐ - ๙๐ ใน ภาษาบาลีมอี ยเู ฉพาะ เชน ทส = ๑๐, วสี ติ = ๒๐, ตึสติ = ๓๐ เปนตน ทส ศัพทน้ี เม่ือตอกับสังขยาจำนวนเศษของสิบมีการเปลี่ยนแปลงรูปบาง เชน เอกาทส, ทฺวาทส และ เตรส เปนตน เอกูนวีสต,ิ อูนวสี (๑๙) สงั ขยาจำนวน ๑๙ น้ี ในภาษาบาลีจะใชคำวา นว (๙) ไปรวมกับสังขยา จำนวนเต็ม คือ ทส (๑๐) เปน นวทส ไมได การนับจำนวนท่ีเหลืออีก ๑ จะครบ จำนวนเต็ม คงมีศัพทเฉพาะเพียงจำนวน ๙ เทานั้น สวนในจำนวนท่ีเหลืออีก ๑ จะ ครบจำนวนเต็มที่เหลือ เชน ๑๙, ๒๙, ๓๙ คงใชจำนวนเต็มหยอนไปหนึ่ง พรองไป หน่ึง หายไปหนึ่ง โดยใชศ ัพทวา เอกนู = หยอ นไปหน่งึ เปนองคประกอบดงั ตวั อยาง ดังน้ี ๑๙ = เอกนู + วีสติ เปน เอกนู วีสติ แปลวา ยี่สิบหยอนหนึ่ง ๒๙ = เอกูน + ตสึ ติ เปน เอกนู ตสึ ติ แปลวา สามสบิ หยอนหนง่ึ ๓๙ = เอกูน + จตตฺ าฬส เปน เอกนู จตฺตาฬส แปลวา สส่ี บิ หยอนหน่งึ เอกูนวีส (๑๙) ศพั ท เปนอติ ถีลงิ ค เอกวจนะอยางเดียว แจกอยางน้ี เอก. ป. เอกนู วีสํ ท.ุ เอกนู วีสํ ต. เอกูนวสี าย จ. เอกูนวสี าย ปฺ. เอกนู วีสาย ฉ. เอกนู วีสาย ส. เอกูนวสี าย 273
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 274 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) เอกูนวสี (๑๙) ศพั ท เปนอิตถีลิงค เอกวจนะอยางเดยี ว มีวิธเี ปลย่ี นวิภัตติ และการันต ดังนี้ เอกูนวสี ํ ศัพทเดิมมาจาก เอกูนวีส ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทิ้งเสีย รัสสะ อา เปน อ ลง อํ (นิคคหิต) ที่ทายศัพท สำเร็จรูปเปน เอกนู วีสํ เอกูนวีสํ (อจฉฺ รา) แปลวา (อ.นางอัปสร ท.) ย่ีสิบหยอ นหนง่ึ เอกูนวีสํ ศัพทเดิมมาจาก เอกนู วสี ลง อํ ทตุ ิยาวิภัตติ เอกวจนะ รัสสะ อา เปน อ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรูปเปน เอกูนวีสํ เอกูนวีสํ (อจฺฉรา) แปลวา (ซ่งึ นางอปั สร ท.) ยีส่ บิ หยอนหนง่ึ เอกูนวีสาย ศัพทเดิมมาจาก เอกูนวีส ลง นา ตติยาวิภัตติ เอกวจนะ เอา อา กับ นา เปน อาย สำเร็จรูปเปน เอกูนวสี าย เอกูนวสี าย (อจฉฺ ราห)ิ แปลวา (ดว ยนางอัปสร ท.) ยสี่ ิบหยอนหนงึ่ เอกนู วีสาย ศัพทเดิมมาจาก เอกูนวีส ลง ส จตุตถีวิภัตติ เอกวจนะ เอา อา กับ นา เปน อาย สำเรจ็ รปู เปน เอกูนวีสาย เอกนู วีสาย (อจฉฺ รานํ) แปลวา (แกน างอัปสร ท.) ย่ีสบิ หยอ นหน่งึ เอกนู วีสาย ศัพทเดิมมาจาก เอกูนวีส ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ เอา อา กับ สฺมา เปน อาย สำเร็จรูปเปน เอกูนวีสาย เอกูนวีสาย (อจฺฉราหิ) แปลวา (แตนางอัปสร ท.) ยีส่ ิบหยอนหนง่ึ เอกนู วสี าย ศัพทเดิมมาจาก เอกูนวีส ลง ส ฉัฏฐีวิภัตติ เอกวจนะ เอา อา กับ ส เปน อาย สำเร็จรูปเปน เอกูนวีสาย เอกูนวีสาย (อจฺฉรานํ) แปลวา (แหง นางอัปสร ท.) ยีส่ บิ หยอนหน่ึง เอกูนวสี าย ศัพทเดิมมาจาก เอกูนวีส ลง สฺมึ สัตตมีวิภัตติ เอกวจนะ เอา สฺมึ กับ นา เปน อาย สำเร็จรูปเปน เอกูนวีสาย เอกูนวีสาย (อจฺฉราสุ) แปลวา (ในนางอัปสร ท.) ยสี่ ิบหยอ นหน่งึ หมายเหตุ : ลง อา เปน เคร่อื งหมายอิตถลี ิงค 274
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 275 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ เอกูนวสี ติ (๑๙) เปน อติ ถีลงิ ค เอกวจนะอยางเดียว แจกตามแบบ อิ การนั ตใ นอติ ถลี งิ ค (รตฺต)ิ อยา งนี้ เอก. ป. เอกูนวสี ติ ทุ. เอกนู วสี ตึ ต. เอกนู วสี ตยิ า จ. เอกนู วีสติยา ปฺ. เอกูนวีสตยิ า เอกูนวสี ตฺยา ฉ. เอกูนวีสตยิ า ส. เอกนู วสี ตยิ า เอกนู วสี ตยิ ํ เอกนู วสี ตยฺ ํ เอกนู สฏ (๕๙) เปนอติ ถลี ิงค เอกวจนะอยางเดียว แจกตามแบบ อี การนั ตใ นอติ ถลี ิงค (นารี) อยา งน้ี เอก. ป. เอกูนสฏ ท.ุ เอกูนสฏ เอกูนสฏ ยํ ต. เอกูนสฏยา จ. เอกูนสฏย า ป.ฺ เอกนู สฏยา ฉ. เอกูนสฏ ยา ส. เอกูนสฏยา เอกนู สฏ ยํ 275
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 276 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) สงั ขยาจำนวนรอย จำนวนพัน ตวั เลขจำนวน ๑๐๐ จำนวน ๑,๐๐๐ เกิดจากการนำจำนวนเตม็ คือ ๑๐ คณู ดวยจำนวนเตม็ คอื ๑๐ (๑๐ x ๑๐) = ๑๐๐, จำนวน ๑,๐๐๐ จำนวน ๑๐,๐๐๐ กม็ ีนัย เชนเดยี วกนั แตจ ำนวน ๑๐๐ จำนวน ๑,๐๐๐ มศี พั ทส งั ขยาเฉพาะของตน คอื ๑๐๐ = สต, ๑,๐๐๐ = สหสฺส สวนจำนวน ๑๐,๐๐๐ เปนตนไปน้ัน เปนการคูณตามท่ีกลาว ดังน้ี ๑๐,๐๐๐ = ทสสหสฺส (ทส x สหสฺส = ๑๐ x ๑,๐๐๐) ๑๐๐,๐๐๐ = สตสหสฺส (สต x สหสฺส = ๑๐๐ x ๑,๐๐๐) ๑,๐๐๐,๐๐๐ = ทสสตสหสฺส (ทส x สตสหสฺส = ๑๐ x ๑๐๐,๐๐๐) คำวา ๑๐๐ และ ๑,๐๐๐ เปนตน ประหน่ึงมีเอกศัพทในสังขยาบอกจำนวน อยดู ว ย แตใ นความเปนจริง ไมตอ งใชเอกศัพทเ ขา ไปประกอบ คงมสี ังขยาจำนวนเต็ม ลวน ๆ เชน สตํ, สหสฺสํ เปนตน แตถาเปนจำนวนเต็มต้ังแต ๒ ขึ้นไป ตองมีสังขยาคุณกำกับและเปน พหวุ จนะเสมอ เชน ๒๐๐ = ทวฺ ิ + สต = ทวฺ สิ ตานิ ๓๐๐ = ติ + สหสฺส = ติสหสฺสานิ ๔๐,๐๐๐ = จตุ + ทสสหสฺส = จตุทสสหสฺสานิ ๕๐๐,๐๐๐ = ปจฺ + สตสหสฺส = ปฺจสตสหสฺสานิ เปน ตน 276
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 277 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ สต (๑๐๐) ที่ใชเ ปน นามนาม แจกตามแบบ อ การันต ในนปุงสกลงิ ค (กลุ ) อยา งนี้ เอก. พหุ. ป. สตํ สตานิ ทุ. สตํ สตานิ ต. สเตน สเตหิ สเตภิ จ. สตสฺส สตาย สตตถฺ ํ สตานํ ป.ฺ สตสฺมา สตมฺหา สตา สเตหิ สเตภิ ฉ. สตสฺส สตานํ ส. สตสมฺ ึ สตมฺหิ สเต สเตสุ โกฏิ เปน อติ ถลี ิงค แจกตามแบบ อิ การันต ในอติ ถีลิงค (รตตฺ )ิ อยางนี้ เอก. พห.ุ ป. โกฏิ โกฏยา โกฏิโย โกฏี ทุ. โกฏึ โกฏยิ ํ โกฏย ํ โกฏโิ ย โกฏี ต. โกฏิยา โกฏีหิ โกฏีภิ จ. โกฏยิ า โกฏนี ํ ปฺ. โกฏิยา โกฏหี ิ โกฏีภิ ฉ. โกฏยิ า โกฏีนํ ส. โกฏยิ า โกฏสี ุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 277
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 278 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ วิธใี ชปกตสิ งั ขยา ในการใชปกติสงั ขยานับจำนวนนามนัน้ มกี ฎเกณฑดังตอไปน้ี ๑. สงั ขยาคุณนับนาม ต้ังแต เอก ถงึ อฏ นวตุ ิ (๑-๙๘) ใชเ ปน สังขยาคุณนาม มวี ธิ ีใชด ังนี้ (ก) ต้งั แต เอก (๑) ถึง อฏารส (๑๘) ใหเรียงสงั ขยาเหลา น้ีไวห นา นาม ท่ีจะนับ แลวประกอบลิงค วจนะ วิภตั ติ ใหเ หมอื นกบั นามบทน้ัน เชน ไทย บาลี อ. พระราชา ๑ องค เอโก ราชา ซ่ึงธุดงค ท. ๑๓ เตรส ธุตงฺคานิ (ข) ตัง้ แต เอกนู วีส (๑๙) ถึง อฏนวุติ (๙๘) ใหเรียงสังขยาเหลานไี้ วหนา นามที่จะนับ แลวประกอบวิภัตติหมวดเดียวกันกับนามบทนั้น สวนลิงค และวจนะ ตอ งเปนอิตถลี ิงค เอกวจนะ อยางเดียว เชน ไทย บาลี ดวยสาวก ท. ๘๐ องค อสีตยิ า สาวเกหิ แกชา ง ท. ๗๗ เชอื ก สตฺตสตตฺ ติยา หตถฺ นี ํ ๒. สงั ขยานามนับนาม ตงั้ แต เอกนู สตํ (๙๙) ขน้ึ ไป เปนสังขยานาม มีวิธีใชดงั นี้ (ก) เมื่อใชนับนามนามบทใด ใหเรียงไวหลังนามนามบทนั้น และ ประกอบนามนามดว ยฉฏั ฐวี ภิ ัตติ พหุวจนะ เชน ไทย บาลี อ.รอย แหงบรุ ษุ ท. ปรุ ิสานํ สตํ อ.พนั แหงทรพั ย ท. ธนานํ สหสสฺ ํ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 278
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 279 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ (ข) เมือ่ มสี งั ขยาคณุ อยูดว ย ใหเรยี งตามลำดบั ดังนี้ ๑. สงั ขยาคณุ (ประกอบ ลงิ ค วจนะ วิภตั ติ เหมอื นสังขยานาม) ๒. นามนาม (ลง นํ ฉัฏฐวี ิภตั ต)ิ ๓. สังขยานาม เชน ไทย บาลี อ.รอย แหง โจร ท. ๕ ปฺจ โจรานํ สตานิ จากพัน ท. แหงโค ท.๖ ฉหิ คุนนฺ ํ สหสฺเสหิ ๓. สังขยานามใชเปนคุณนามนับนาม ต้งั แต เอกนู สตํ (๙๙) ข้ึนไป ซงึ่ เดิมเปน สงั ขยานามนนั้ หากใชเ ปน คุณนาม (อันสำเร็จมาแตวิธีแหงพหุพพิหิสมาส แปลวา มี...เปนประมาณ) ตองประกอบใหมี ลิงค วจนะ วภิ ัตติ เหมือนกันกับนามนาม มวี ิธใี ชด งั ตอไปน้ี (ก) ใหเ รยี งไวห นา นามนาม เชน ไทย บาลี แหง จักรวาล ท. มหี ม่นื เปน ประมาณ ทสสหสสฺ านํ จกกฺ วาฬานํ (ข) ถามีสังขยาคุณ ใหเขียนติดกับสังขยานามหนาสังขยานาม และเรียง ไวห นานามนาม เชน ไทย บาลี ในนยั นตา ท. มี ๓๐ แสนเปน ประมาณ ตสึ สตสหสฺเสสุ อกฺขสี ุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 279
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 280 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แบบประเมนิ ผลตนเองกอนเรียน หนวยท่ี ๑๒ วตั ถุประสงค เพื่อประเมนิ ความรูเดมิ ของนกั เรยี นเกย่ี วกับเรื่อง คำช้แี จง “สงั ขยา : ปกตสิ ังขยา” ใหน ักเรียนอานคำถาม แลวเขียนวงกลมลอ มรอบขอ คำตอบท่ี ถูกตองท่สี ุดเพียงขอ เดียว ๑. คำวา “สงั ขยา” ในทางภาษาบาลหี มายถึงอะไร ? ก. ชือ่ ขนมชนิดหนงึ่ ข. เคร่อื งกำหนดนับนามนาม ค. เครื่องกำหนดนบั สัพพนาม ง. เครอ่ื งกำหนดนับคณุ นาม ๒. สงั ขยามกี ่ปี ระเภท ? ก. ๒ ข. ๔ ค. ๖ ง. ๘ ๓. การนับนาม เชน ๑, ๒, ๓ เปน ตน เรียกวา อะไร ? ก. ปกตสิ งั ขยา ข. ปรู ณสงั ขยา ค. วจนสงั ขยา ง. ปกิณณกสังขยา ๔. การนบั นาม เชน ท่ี ๑, ที่ ๒, ท่ี ๓ เรยี กวา อะไร ? ก. ปกตสิ ังขยา ข. ปูรณสงั ขยา ค. วจนสังขยา ง. อพั ยยสงั ขยา ๕. สังขยาจำนวนใด เปน สัพพนาม ? ก. เอก - จตุ ข. ปฺจ - อฏ ารส ค. เอกนู วีสติ - อฏนวตุ ิ ง. เอกนู สต - โกฏิ ๖. สงั ขยาจำนวนใด เปน คุณนาม ? ก. เอก - จตุ ข. ปจฺ - อฏารส ค. ปจฺ - อฏ นวุติ ง. สต - โกฏิ ๗. สังขยาจำนวนใด เปนสงั ขยาฝน ลงิ ค - ฝนวจนะ ? ก. เอก ข. ทวฺ ิ - อฏ ารส ค. เอกนู วีส - อฏ นวตุ ิ ง. สต - ทสสตสหสฺส เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 280
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 281 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๘. สงั ขยาจำนวนใด เปน พหุวจนะอยา งเดียว ? ก. เอก - จตุ ข. ทวฺ ิ - อฏารส ค. ทวฺ ิ - อฏนวุติ ง. สต - โกฏิ ๙. วีสติ ตึสติ อสตี ิ นวุติ แจกตามแบบใด ? ก. นารี ข. รตฺติ ค. มนุ ิ ง. อกขฺ ิ ๑๐. สฏี แจกตามแบบใด ? ก. เสฏ ี ข. รตฺติ ค. อกขฺ ิ ง. นารี ๑๑. สต - ทสสตสหสฺส แจกตามแบบใด ก. ปรุ ิส ข. ราช ค. กลุ ง. ภวนฺต ๑๒. โกฏิ แจกตามแบบใด ? ก. วสี ติ ข. มุนิ ค. อกขฺ ิ ง. รตตฺ ิ ๑๓. สังขยาจำนวนใด แจกเหมือน ปฺจ ? ก. สหสสฺ ข. วีส ค. ปฺ าส ง. ฉ - อฏ ารส ๑๔. คำวา “อ.มา ท. ๖๕” ขอ ใดถูกตอง ? ก. ปจฺ สฏ ย า ตุรคา ข. ปฺจสฏ โย ตรุ คา ค. ปฺจสฏ ี ตรุ คา ง. ปฺจ สฏ ี ตุรคา ๑๕. ขอ ใดใชป กติสงั ขยาไดถ ูกตองทีส่ ุด ? ก. เอกา ราชา ข. อสีตหี ิ อรหนฺเตหิ ค. จกกฺ วาฬสฺส สตสหสสฺ ํ ง. จตฺตาริ ปาณานํ สหสสฺ านิ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 281
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 282 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แบบประเมนิ ผลตนเองหลงั เรียน หนวยที่ ๑๒ วตั ถปุ ระสงค เพ่อื ประเมนิ ผลความกา วหนา ของนกั เรียนเก่ยี วกับเรอ่ื ง คำช้ีแจง “สังขยา : ปกติสงั ขยา” ใหนักเรยี นอานคำถาม แลวเขยี นวงกลมลอ มรอบขอ คำตอบท่ี ถกู ตองท่ีสดุ เพยี งขอเดียว ๑. คำวา “สังขยา” ในทางภาษาบาลหี มายถงึ อะไร ? ก. เคร่ืองกำหนดนบั คุณนาม ข. ชือ่ ขนมชนิดหนึง่ ค. เครือ่ งกำหนดนับสพั พนาม ง. เคร่อื งกำหนดนบั นามนาม ๒. สงั ขยามกี ป่ี ระเภท ? ก. ๘ ข. ๖ ค. ๔ ง. ๒ ๓. การนบั นาม เชน ๑, ๒, ๓ เปนตน เรียกวาอะไร ? ก. วจนสงั ขยา ข. ปกิณณกสังขยา ค. ปกตสิ งั ขยา ง. ปรู ณสังขยา ๔. การนับนาม เชน ที่ ๑, ท่ี ๒, ที่ ๓ เปนตน เรยี กวา อะไร ? ก. ปกติสังขยา ข. วจนสงั ขยา ค. ปูรณสังขยา ง. อัพยยสังขยา ๕. สงั ขยาจำนวนใด เปนสพั พนาม ? ก. ปฺจ - อฏ ารส ข. เอก - จตุ ค. เอกูนวีสติ - อฏ นวตุ ิ ง. เอกนู สต - โกฏิ ๖. สงั ขยาจำนวนใดเปนคณุ นาม ? ก. สต - โกฏิ ข. ปฺจ - อฏนวุติ ค. ปฺจ - อฏ ารส ง. เอก -จตุ ๗. สังขยาจำนวนใด เปน สงั ขยาฝน ลิงค-ฝนวจนะ ? ก. ทวฺ ิ - อฏารส ข. เอกูนวสี - อฏ นวตุ ิ ค. เอก - ทส ง. สต - ทสสตสหสฺส เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 282
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 283 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๘. สังขยาจำนวนใด เปน พหวุ จนะอยา งเดยี ว ? ก. สต - โกฏิ ข. ทวฺ ิ - อฏนวตุ ิ ค. เอก - จตุ ง. ทฺวิ - อฏารส ๙. วสี ติ ตึสติ อสตี ิ นวุติ แจกตามแบบใด ? ก. อกฺขิ ข. มนุ ิ ค. นารี ง. รตฺติ ๑๐. สฏ ี แจกตามแบบใด ? ก. นารี ข. อกขิ ค. รตตฺ ิ ง. เสฏ ี ๑๑. สต - ทสสตสหสฺส แจกตามแบบใด ? ก. ปรุ ิส ข. กุล ค. ราช ง. ภวนฺต ๑๒. สงั ขยาจำนวนใด แจกตามแบบ รตฺติ ไดท ง้ั เอก. และ พห.ุ ? ก. วสี ติ ข. สตตฺ ติ ค. อสตี ิ ง. โกฏิ ๑๓. ฉ ถึง อฏารส แจกตามแบบใด ? ก. เอก ข. ปจฺ ค. เอกูนวสี ง. กุล ๑๔. คำวา “อ.มา ท. ๖๕” ขอใดถกู ตอ ง ? ก. ปจฺ สฏ ย า ตรุ คา ข. ปฺจสฏโ ย ตรุ คา ค. ปฺจ สฏี ตรุ คา ง. ปฺจสฏ ี ตรุ คา ๑๕. ขอใดใชปกตสิ งั ขยาไดถกู ตอ งทส่ี ุด ? ก. เอกา ราชา ข. อสตี หี ิ อรหนฺเตหิ ค. จตตฺ าริ ปาณานํ สหสสฺ านิ ง. จกกฺ วาฬสสฺ สตสหสสฺ ํ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 283
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 284 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เฉลยแบบประเมินผลตนเอง หนว ยที่ ๑๒ ขอ กอนเรียน หลงั เรยี น ๑. ข ง ๒. ก ง ๓. ก ค ๔. ข ค ๕. ก ข ๖. ค ข ๗. ค ข ๘. ข ง ๙. ข ง ๑๐. ง ก ๑๑. ค ข ๑๒. ง ง ๑๓. ง ข ๑๔. ค ง ๑๕. ง ค เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 284
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 285 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ กจิ กรรมเสนอแนะ ใหนักเรียนตอบปญ หาตอ ไปน้มี าใหถูกตอ ง ๑. สังขยาคืออะไร มีเทา ไร อะไรบา ง จงอธบิ าย พรอมทงั้ ยกตวั อยา ง ? ๒. เอกสังขยา กับ เอกสัพพนาม เหมือนกนั หรือตางกนั อยา งไร ? ๓. จงจัดปกตสิ ังขยาลงใน นามศัพท ลงิ ค วจนะ และวิภตั ตมิ าดู ? ๔. สงั ขยาจำนวนใด เปน สังขยาฝนลงิ ค ฝนวจนะ และฝนอยางไร ? ๕. เอกนู ใชอยา งไร ? ๖. จงเขยี นปกติสงั ขยา จำนวนตั้งแต ๕๑ ถึง ๗๐ มาดู ? ๗. จงแจกสงั ขยาจำนวนตอไปนี้มาใหถูกตองดวยวิภัตติท้ัง ๗ ? ก. ทส ข. ตสึ ติ ค. ปฺ าส ง. สหสสฺ 285
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 286 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ กจิ กรรมเสนอแนะ ไดต อบปญ หานน้ั ดังตอ ไปน้ี ๑. สังขยา คอื ศพั ทเ ปน เครอ่ื งกำหนดนับนามนาม สังขยาในภาษาบาลี ทานแบงออกเปน ๒ หมวดใหญๆ คอื ปกตสิ ังขยา ๑ ปรู ณสังขยา ๑ ปกติสังขยา หมายถึง การนับนามนามโดยปกติ เชน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ เปนตน ท้ังนี้เพ่ือใหรูวานามนามนั้นมีจำนวนเทาไร เหมือนคำพูดใน ภาษาไทยของเราวา พระรูปหน่ึง พาเพ่ือน ๒ รูป สามเณร ๓ องค อบุ าสก ๔ คน อบุ าสิกา ๕ คน เดนิ ไปโบสถ เปนตน ปรู ณสังขยา หมายถึง การนับนามนามในจำนวนเตม็ ในทีน่ ัน้ ๆ กลาวคอื การนบั เปน ช้นั ๆ ใชเ ปน เอกวจนะอยา งเดยี ว เชน ท่ี ๑ ท่ี ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ เปนตน เหมือนคำพูดในภาษาไทยของเราวา พระนวกะรูปท่ี ๑ ของวัด ไปเรียนหนังสือในสำนักครูที่ ๒ ในปที่ ๓ ก็สอบไลไดประโยค ท่ี ๔ เปน รปู ท่ี ๕ ของตำบล เปนตน ๒. เอกศัพท ใชเ ปน ๒ อยา ง คอื เปนสังขยาอยาง ๑ เปน สพั พนามอยา ง ๑ ๑. เอกที่เปนปกติสังขยา เปนเอกวจนะอยางเดียว เปนไตรลิงค แจกตาม แบบของตน ๒. เอกที่เปนสัพพนามเปนไดทั้ง ๒ วจนะ เปนไตรลิงค แจกตามแบบ ย ศัพท แปลกจาก ย ศัพทเฉพาะในอิตถีลิงค เอกวจนะ จ.ฉ. เปน เอกิสสา ส. เปน เอกิสสํ เทานั้น ท่ีเปนพหุวจนะ ใหแปลวา บางเหลา บางพวก เชน เอเก อาจรยิ า แปลวา อ. อาจารย ท. บางพวก ๓. การจดั ปกตสิ งั ขยาลงในนามศพั ท ต้งั แต เอก ถงึ จตุ (๑-๔) เปนสัพพนาม ตัง้ แต ปฺจ ถงึ อฏ นวตุ ิ (๕-๙๘) เปน คณุ นาม ตั้งแต เอกูนสตํ (๙๙) ขึน้ ไป เปน นามนาม เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 286
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 287 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ การจดั ปกติสงั ขยาลงในลิงค ตงั้ แต เอก ถงึ อฏ ารส (๑-๑๘) เปนได ๓ ลิงค ตงั้ แต เอกนู วีสติ ถงึ อฏนวตุ ิ (๑๙-๙๘) เปนอิตถลี ิงคอยา งเดียว ตั้งแต เอกูนสตํ (๙๙) ข้นึ ไป เปนนปงุ สกลงิ คอยา งเดยี ว เฉพาะ โกฏิ (โกฏิ) เปนอิตถีลงิ ค การจดั ปกติสงั ขยาลงในวจนะ เอก เปนเอกวจนะอยางเดยี ว ต้งั แต ทวฺ ิ ถงึ อฏ ารส (๒-๑๘) เปน พหวุ จนะอยางเดยี ว ต้งั แต เอกูนวีสติ ถงึ อฏ นวตุ ิ (๑๙-๙๘) เปนเอกวจนะอยางเดียว ตัง้ แต เอกนู สตํ (๙๙) ขน้ึ ไป เปนไดท้ังสองวจนะ การจัดปกติสังขยาลงในวิภตั ติ ต้ังแต เอก ถงึ จตุ (๑-๔) แจกตามแบบของตน ต้ังแต ปฺจ ถึง อฏ ารส (๕-๑๘) แจกอยาง ปฺจ ต้งั แต เอกนู วสี ถงึ ปฺ าส (๑๙-๕๐) แจกอยา ง เอกนู วสี ตงั้ แต เอกนู วสี ติ ถึง อฏ ตฺตสึ ติ (๑๙-๓๘) แจกตามแบบ อิ การันต ในอติ ถลี งิ ค (รตตฺ )ิ ต้งั แต เอกนู สฏ ถงึ อฏสฏ (๕๙-๖๘) แจกตามแบบ อี การันต ในอติ ถลี ิงค (นารี) ตั้งแต เอกูนสตตฺ ติ ถึง อฏ นวุติ (๖๙-๙๘) แจกตามแบบ อิ การันต ในอติ ถลี ิงค (รตฺติ) ต้งั แต เอกนู สตํ (๙๙) ขน้ึ ไป เวน โกฏิ (โกฏ)ิ แจกตามแบบ อ การนั ต ในนปงุ สกลิงค (กุล) เฉพาะ โกฏิ แจกอยาง รตฺติ ๔. สงั ขยา เอกนู วีส ถงึ อฏ นวตุ ิ เปน สังขยาฝนลงิ ค ฝน วจนะ คือ เปน อิตถีลงิ ค เอกวจนะอยางเดียว แมจะเขากับนามนามที่เปนพหุวจนะ ลิงคอ่ืน ก็คงเปน อติ ถลี งิ ค เอกวจนะอยอู ยางนนั้ ไมเปล่ยี นไปตาม จะเหมอื นก็เฉพาะวิภัตติเทานั้น ฯ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 287
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 288 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๕. เอกูน ใชอยางนี้ การนับจำนวนท่ีเหลืออีก ๑ จะครบสิบ เชน ๑๙, ๒๙, ๓๙ เปนตน ในภาษาบาลีไมใ ช นว แตใช เอกูน หรอื อนู แทน ซ่ึงแปลวา พรอ ง, หยอ นหน่ึง เชน เอกูน+วีสติ = เอกนู วสี ติ แปลวา ย่ีสิบหยอ นหนึง่ (๑๙) อนู +ตสึ ติ = อูนตฺตึสติ แปลวา สามสบิ หยอนหนึง่ (๒๙) เปน ตน ฯ ๖. ปกติสงั ขยาจำนวนตงั้ แต ๕๑ ถงึ ๗๐ ดงั นี้ เอกปฺ าส ๕๑ เอกสฏ ี ๖๑ ๖๒ เทฺวปฺ าส ๕๒ ทวฺ าสฏี ๖๓ ๖๔ เตปฺ าส ๕๓ เตสฏ ี ๖๕ ๖๖ จตุปฺาส ๕๔ จตุสฏ ี ๖๗ ๖๘ ปจฺ ปฺาส ๕๕ ปจฺ สฏี ๖๙ ๗๐ ฉปฺาส ๕๖ ฉสฏี สตตปฺาส ๕๗ สตตฺ สฏี อฏปฺ าส ๕๘ อฏ สฏี เอกนู สฏ,ี อูนสฏี ๕๙ เอกูนสตฺตติ, อูนสตฺตติ สฏ ี ๖๐ สตตฺ ติ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 288
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 289 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๗. จงแจกสงั ขยาจำนวนตอไปน้มี าใหถ กู ตองดว ยวภิ ัตติทง้ั ๗ ก. ทส พหุ. ป. ทส ทุ. ทส ต. ทสหิ จ. ทสนนฺ ํ ป.ฺ ทสหิ ฉ. ทสนนฺ ํ ส. ทสสุ ข. ตึสติ เอก. ป. ตสึ ติ ทุ. ตึสตึ ต. ตึสตยิ า จ. ตสึ ติยา ป.ฺ ตึสตยิ า ตึสตยฺ า ฉ. ตสึ ตยิ า ส. ตึสติยา ตึสตยิ ํ ตึสตฺยํ 289
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 290 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ค. ปฺ าส เอก. ป. ปฺ าสํ ท.ุ ปฺาสํ ต. ปฺ าสาย จ. ปฺาสาย ป.ฺ ปฺ าสาย ฉ. ปฺาสาย ส. ปฺาสาย ง. สหสสฺ เอก. พหุ. ป. สหสสฺ ํ สหสฺสานิ ท.ุ สหสสฺ ํ สหสฺสานิ ต. สหสฺเสน สหสฺเสหิ สหสเฺ สภิ จ. สหสสฺ สฺส สหสฺสาย สหสฺสตถฺ ํ สหสฺสานํ ปฺ. สหสฺสสฺมา สหสสฺ มหฺ า สหสฺสา สหสเฺ สหิ สหสฺเสภิ ฉ. สหสฺสสฺส สหสสฺ านํ ส. สหสฺสสมฺ ึ สหสฺสมหฺ ิ สหสเฺ ส สหสเฺ สสุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 290
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 291 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ แผนการสอนวิชาบาลีไวยากรณ หนว ยท่ี ๑๓ เรื่อง วิธีตอ ปกติสงั ขยา เวลาทำการสอน ๓ คาบ สาระสำคัญ การตอปกติสังขยาน้ัน มีท้ังการตอสังขยากับสังขยา และตอสังขยากับ นามนาม ถาเปนการนำเอาสังขยาในหลักสิบไปตอกับหลักรอยหรือพันเปนตนไป ใช อตุ ฺตร ในการเช่อื ม สว นการเอาสงั ขยาหลักรอ ยไปตอกับหลกั พันเปน ตน ใช อธกิ . การตอปกติสงั ขยา โดยใช อตุ ฺตร และอธิก เชื่อมเขา กบั นาม นอกจากการตอปกติสังขยาโดยใช อุตตร และ อธิก ดังกลาวมาแลวขางตน น้ัน ยังมกี ารตอสังขยา โดยวธิ ีเบด็ เตล็ดอืน่ ๆ อกี เชน การใช จ ศพั ท และ อปุ ริ ศัพท จดุ ประสงค ๑. นักเรียนรูแ ละเขาใจในการตอปกตสิ ังขยาโดยใช อุตฺตร และ อธกิ ๒. นักเรยี นรแู ละเขาใจการตอ ปกตสิ งั ขยา เชอ่ื มกับนาม โดยใช อตุ ตฺ ร และ อธกิ ๓. นกั เรยี นรูและเขาใจการตอปกติสงั ขยาดวย จ ศัพท ๔. นักเรียนรแู ละเขา ใจการตอ ปกตสิ ังขยาดวย อปุ ริ ศพั ท ๕. นักเรียนสามารถตอ ปกตสิ งั ขยาไดถ กู ตอง เนื้อหา ๑. การตอสังขยาแบบ อุตฺตร และแบบ อธกิ ๒. การตอปกติสังขยาเชอ่ื มกบั นาม โดยใช อตุ ตฺ ร และ อธกิ ๓. การตอปกตสิ ังขยาเชอื่ มกบั นาม โดยใช จ ศพั ท ๔. การตอ ปกติสงั ขยาเชือ่ มกบั นาม โดยใช อปุ ริ ศพั ท 291
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 292 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) กจิ กรรม ๑. ประเมินผลกอนเรยี น ๒. ครนู ำเขาสูบทเรยี น ๓. ครอู ธิบายเนอ้ื หาการตอ สงั ขยาแตล ะแบบอยางละเอยี ด ๔. ครกู ำหนดจำนวนสังขยาบนกระดานแลวใหนกั เรยี นตอบนกระดาน โดยใชวิธสี มุ ตวั อยาง ๕. ครสู รปุ เนื้อหาที่สอน ๖. ประเมินผลหลังเรยี น ๗. กิจกรรมเสนอแนะ - ใหน กั เรียนแตงสงั ขยาบนกระดาน หรอื ใสกระดาษแลว แลกกนั ตรวจ - ใหน ักเรียนสมุ ตวั เลขแลว ผลดั กันตอ สงั ขยา - สัง่ การบานใหน ักเรยี นไปตอ สงั ขยา ส่อื การสอน ๑. ตำราทใี่ ชประกอบการเรียน-การสอน ๑.๑ หนังสอื พระไตรปฎก ๑.๒ หนงั สอื พจนานกุ รม มคธ-ไทย โดยพันตรี ป. หลงสมบญุ สำนักเรยี น วดั ปากนำ้ จัดพมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๐ ๑.๓ หนังสอื พจนานกุ รม ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ๑.๔ หนังสอื พจนานุกรมพทุ ธศาสน ฉบบั ประมวลศัพท โดย พระธรรมปฎก (ป.อ. ปยตุ โฺ ต) ๑.๕ หนังสอื คมู ือบาลีไวยากรณ นิพนธ โดยสมเด็จพระมหาสมณเจา ฯ ๑.๖ หนังสอื ปาลิทเทส ของสำนกั เรยี นวดั ปากนำ้ ๑.๗ คัมภรี อภินปั ปทีปก า ๑.๘ หนงั สืออุภยั พากยป ริวตั น ๒. อุปกรณท ค่ี วรมีประจำหองเรยี น ๒.๑ กระดานดำ-แปรงลบกระดาน-ชอลก หรอื กระดานไวทบ อรด 292
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 293 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๒.๒ เคร่ืองฉายขา มศรี ษะ (Over-head) ๒.๓ คอมพิวเตอรและเครือ่ งฉายโปรเจคเตอร ๓. บัตรคำ ๔. ใบงาน วิธวี ัดผล-ประเมนิ ผล ๑. สอบถามความเขาใจ ๒. สังเกตพฤติกรรมการมีสว นรว มในกิจกรรม ๓. สังเกตความกา วหนาดา นพฤติกรรมการเรยี นรขู องผเู รียน ๔. ตรวจใบงาน ๕. ตรวจแบบประเมนิ ผลกอนเรียน-หลังเรยี น 293
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 294 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) การตอปกติสังขยา นักเรียนไดศ ึกษาเร่อื งปกติสังขยาพรอมทัง้ วธิ ใี ชใ นหนวยที่ ๑๒ มาแลว ตอไป ในหนว ยที่ ๑๓ นี้ จะไดศึกษาการตอ ปกติสังขยาสำหรับนบั นามนามทีม่ ีจำนวนมาก ๆ เพราะศัพทสังขยาท่ีมีในบาลีไวยากรณน้ัน บอกจำนวนมาก ๆ ไดไมครบ เปนศัพท เฉพาะของแตละจำนวน ดังน้ัน เม่ือจะบอกจำนวนมาก ๆ ตองใชการตอเขามาชวย โดยนำศัพทปกติสังขยาในบาลีไวยากรณนั่นเองมาตอกัน เชน ๑๐๐ = สต ถาเพ่ิม จำนวนเปน ๑๐๑ จะนำ สต = ๑๐๐ มาตอกับ เอก = ๑ เปน เอกสตํ ไมไ ด เพราะ สตํ หรอื เอกสตํ มีความหมายเทา กัน อีกทัง้ เอกสตํ ไมน ิยมใช ดังน้ัน จำนวน ๑๐๑ จงึ ตอ งใชว ธิ ตี อ ปกตสิ งั ขยา โดยนำคำวา “อตุ ตฺ ร” แปลวา “เกนิ ” เขา มาตอ กนั ระหวา ง “เอก” กับ “สต” เปน “เอกุตตฺ รสต”ํ แปลวา “๑๐๐ เกนิ ดว ย ๑” ก็หมายถงึ จำนวน ๑๐๑ น่ันเอง อนึ่ง การตอ ปกติสังขยาดังกลาวขา งตน นน้ั เพราะศัพทส ังขยาเปนคณุ นามก็ มี เปนนามนามก็มี การตอ จงึ เปนการนำศพั ทสังขยาคณุ มาตอ กบั ศัพทส งั ขยานามบาง นำศัพทสังขยานามมาตอกับศัพทสังขยานามบาง นำปกติสังขยาไปตอกับนามนาม บาง ซึง่ มีวิธดี ังน้ี ๑. วธิ ีตอปกตสิ ังขยาเขา กับปกติสังขยา ดว ย อุตตฺ ร ศพั ท และ อธิก ศัพท ๑.๑ วิธีตอ ปกติสังขยา ดวย อุตตฺ ร ศพั ท ๑.๒ วธิ ตี อ ปกติสงั ขยา ดว ย อธกิ ศัพท ๑.๓ วธิ ีตอ ปกติสังขยา ดว ย อุตฺตร และ อธกิ ศพั ท รวมกนั ๒. วิธีตอ ปกติสงั ขยาเขา กับนาม ดว ย อุตตฺ ร และ อธิก ศัพท รวมกัน ๒.๑ วธิ ีตอ แบบใสนามหลงั สังขยาคณุ ทุกศัพท ๒.๒ วิธีตอ แบบท่ัวไป ๒.๓ วิธีตอ แบบแยกวิภตั ติ ๒.๔ วิธตี อแบบบอกศกั ราชเทศน ๓. วธิ ตี อ ปกตสิ งั ขยา ดวย จ ศัพท ๔. วิธีตอปกตสิ งั ขยา ดว ย อุปริ ศัพท 294
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 295 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๑. วิธีตอปกติสังขยาเขา กับปกติสงั ขยา ดว ย อตุ ตฺ ร ศพั ท และ อธกิ ศพั ท ๑.๑ วธิ ตี อปกติสงั ขยา ดว ย อุตฺตร ศพั ท อุตฺตร แปลวา “เกิน” มีวิธีใชดังน้ี เม่ือสังขยาตั้งแต เอก (๑) ถึง อฏ นวตุ ิ (๙๘) จะไปตอกบั สตํ (รอ ย), สหสสฺ ํ (พนั ), ทสสหสฺสํ (หมืน่ ), สตสหสฺสํ (แสน), ทสสตสหสฺสํ (ลาน) หรอื โกฏิ (โกฏ)ิ ใหใช อุตตฺ ร ค่ันในระหวาง โดยสรุปคือ เม่ือหลักหนวย หรือหลักสิบ จะไปตอกับหลักรอย, หลักพัน, หลักหมื่น, หลักแสน, หลักลาน หรือหลักโกฏิ ใหใช อุตฺตร ค่ันในระหวาง โดยเรียง สงั ขยาจำนวนนอ ยไวหนา เรยี งสังขยาจำนวนมากไวห ลัง ขอสงั เกต (ก) ถาศัพทที่อยูหนา อุตฺตร ลงทายดวยสระตอไปน้ี คือ อ, อา, อุ, อู การนั ต ใหล บท้งิ เสยี เชน อ การันต เอก + อตุ ฺตร = เอกตุ ฺตร อา การันต กฺ า + อุตตฺ ร = กฺุตตฺ ร อุ การันต ครุ + อตุ ฺตร = ครตุ ตฺ ร อู การนั ต วิฺ ู + อุตตฺ ร = วิ ฺตุ ฺตร (ข) ถา อิ หรือ อี การนั ต อยหู นา อุตตฺ ร ใหแ ปลง อิ หรอื อี น้นั เปน ย เชน อิ การันต ติ + อตุ ฺตร = ตยฺ ุตฺตร อี การนั ต นารี + อตุ ตฺ ร = นารยฺ ุตตฺ ร ตัวอยา ง ๑๒๐ (๒๐+๑๐๐) = วสี ติ + อตุ ฺตร + สตํ เปน วสี ตฺยตุ ฺตรสตํ แปล อ.รอยเกินดว ยยี่สบิ (จำนวนสงั ขยาหลักเปน เอก.) ๒,๐๕๐ (๕๐+๒,๐๐๐) = ปฺาส + อตุ ฺตร + ทวฺ ิสหสสฺ านิ เปน ปฺาสตุ ตฺ รทวฺ สิ หสสฺ านิ แปล อ.พนั สองเกินดวยหาสิบ ท. (จำนวนสงั ขยา หลกั เปน พห.ุ ) 295
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 296 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ๖๐,๐๐๐,๐๐๔ (๔+๖๐,๐๐๐,๐๐๐) = จตุ +อุตตฺ ร +ฉโกฏิโย เปน จตุตฺตรฉโกฏิโย แปล อ.โกฏิหกเกินดวยส่ี ท. (จำนวนสงั ขยาหลกั เปน พหุ.) หมายเหตุ : สังขยาจำนวนหลกั คือสังขยานามจำนวนท่ีมากทีส่ ุดซ่งึ อยูตวั สุดทาย - ถาสังขยาจำนวนหลักเปนจำนวน ๑ เชน ๑ รอย, ๑ พัน เปนตน ใหประกอบเปน ฝายเอกวจนะ คือ สตํ, สหสฺสํ เปนตน โดย ไมตองใสศ พั ทวา เอก เขา มา - ถาสังขยาจำนวนหลักเปนจำนวนตั้งแต ๒ ขึ้นไป ใหระบุเปน ฝา ยพหุวจนะ คอื ทวฺ ิสตานิ, ตสิ หสฺสานิ เปน ตน 296
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 297 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๑.๒ วธิ ีตอปกติสงั ขยา ดว ย อธกิ ศพั ท อธกิ แปลวา “ยง่ิ ” มวี ธิ ใี ชด งั นี้ เมอื่ สงั ขยาจำนวนรอ ย, จำนวนพนั , จำนวนหมน่ื , จำนวนแสน, จำนวนลา น หรอื จำนวนโกฏิ จะตอกันเอง ใหใช อธกิ ค่ันในระหวา ง โดยสรุปคือ เม่ือหลักรอยจะไปตอกับหลักพันก็ดี เม่ือหลักพันจะไปตอกับ หลักหม่นื กด็ ี เมือ่ หลักหมนื่ จะไปตอกบั หลกั แสนก็ดี เมอ่ื หลักแสนจะไปตอ กับหลักลาน กด็ ี หรอื เม่อื หลกั ลานจะไปตอ กับหลักโกฏิก็ดี ใหใ ช อธิก คนั่ ในระหวา ง ขอ สงั เกต เมื่อจะนำ อธกิ ไปตอ กบั สงั ขยาตา งๆ ใหทฆี ะ อ ท่ี อธิก เปน อา (อาธกิ ) เชน สต + อธกิ = สตาธิก สหสสฺ + อธิก = สหสสฺ าธิก ตัวอยา ง ๑,๒๐๐ (๒๐๐+๑,๐๐๐) = ทวฺ ิสต + อธิก + สหสฺสํ เปน ทฺวิสตาธิกสหสสฺ ํ แปล อ.พันย่ิงดวยรอยสอง (จำนวนสงั ขยาหลักเปน เอก.) ๒๓,๐๐๐ (๓,๐๐๐+๒๐,๐๐๐) = ตสิ หสฺส + อธิก + ทวฺ ิทสสหสสฺ านิ เปน ติสหสฺสาธิกทฺวิทสสหสฺสานิ แปล อ.หมื่นสองยิ่งดวยพันสาม ท. (จำนวน สงั ขยาหลกั เปน พหุ.) ๒๐,๐๐๑,๔๐๐ (๔๐๐+๑,๐๐๐+๒๐,๐๐๐,๐๐๐) = จตสุ ต+อธกิ +สหสสฺ +อธกิ +ทฺวิโกฏิโย เปน จตสุ ตาธกิ สหสฺสาธกิ ทวฺ โิ กฏิโย แปล อ.โกฏสิ องยิง่ ดว ยพนั ยิง่ ดวยรอยส่ี ท. (จำนวนสังขยาหลักเปน พหุ.) 297
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 298 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ๑.๓ วิธีตอปกตสิ งั ขยา ดวย อตุ ตฺ ร และ อธิก ศพั ท รวมกนั มตี วั อยางดงั นี้ ๑,๒๓๔ (๓๔+๒๐๐+๑,๐๐๐) = จตุตฺตสึ +อุตตฺ ร+ทฺวิสต+อธกิ +สหสฺสํ เปน จตตุ ตฺ ึสตุ ฺตรทวฺ สิ ตาธิกสหสฺสํ แปล อ.พันยงิ่ ดวยรอยสองเกินดวยสามสบิ ส่ี (จำนวนสงั ขยาหลกั เปน เอก.) ๒๕๖,๗๘๙ (๘๙+๗๐๐+๖,๐๐๐+๕๐,๐๐๐+๒๐๐,๐๐๐) = เอกูนนวุติ + อุตฺตร + สตฺตสต +อธิก+ฉสหสฺส+อธิก+ปฺจทสสหสฺส+ อธกิ +ทฺวิสตสหสฺสานิ เปน เอกูนนวตุ ยฺ ตุ ตฺ รสตฺตสตาธิกฉสหสฺสาธกิ ปจฺ ทสสหสสฺ าธิกทวฺ ิสตสหสฺสานิ แปล อ.แสนสองย่ิงดวยหมื่นหาย่ิงดวยพันหกยิ่งดวยรอยเจ็ดเกินดวยเกาสิบ หยอ นหน่ึง ท. (จำนวนสังขยาหลักเปน พหุ.) ๗๐๑,๐๐๔,๐๐๔ (๔+๔,๐๐๐+๑,๐๐๐,๐๐๐+๗๐๐,๐๐๐,๐๐๐) = จตุ+อตุ ตฺ ร+จตุสหสสฺ +อธกิ +ทสสตสหสฺส+อธิก+สตตฺ ตโิ กฏโิ ย เปน จตุตฺตรจตุสหสฺสาธกิ ทสสตสหสสฺ าธิกสตตฺ ติโกฏิโย แปล อ.โกฏิเจ็ดสบิ ยิ่งดวยลา นยง่ิ ดว ยพันสเ่ี กนิ ดวยสี่ ท. (จำนวนสังขยาหลักเปน พห.ุ ) 298
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 299 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๒. วิธตี อปกติสังขยาเขา กับนาม ดวย อตุ ฺตร และ อธิก ศพั ท รวมกนั ๒.๑ วิธีตอ แบบใสน ามหลงั สังขยาคุณทกุ ศพั ท ใหเติมศัพทที่จะนับลงหลังสังขยาคุณหนา อุตฺตร และใสลงหลังสังขยาคุณ หนาสังขยานามทกุ ตัว ตัวอยา ง นำ้ ๑,๗๘๙ (๘๙+๗๐๐+๑,๐๐๐) = เอกูนนวุติ+อทุ ก+อุตตฺ ร+สตฺต+อทุ ก +สต+อธิก+อุทก+สหสฺสํ เปน เอกูนนวุตฺยุทกุตฺตรสตฺตุทกสตาธิกุทก- สหสฺสํ (จำนวนสังขยาหลักเปน เอก.) อักษร ๓๓,๓๐๐,๓๓๓ = (๓๓+๓๐๐+๓๐๐,๐๐๐+๓,๐๐๐,๐๐๐+ ๓๐,๐๐๐,๐๐๐) เตตฺตึส+อกฺขร+อุตฺตร+ติ+อกฺขร+สต+อธิก+ติ+อกฺขร+ ทสสหสสฺ +อธิก+ติ+อกฺขร+โกฏโิ ย เปน เตตฺตึสอกขฺ รตุ ฺตรติอกขฺ รสตาธกิ - ติอกฺขรทสสหสฺสาธิกตฺยกฺขรทสสตสหสฺสาธิกตฺยกฺขรทสสตสหสฺสาธิก- ตฺยกฺขรโกฏโิ ย (จำนวนสังขยาหลกั เปน พห)ุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 299
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 300 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ๒.๒ วิธีตอแบบท่วั ไป ตอแบบทั่วไปใหเติมนามนามที่จะนับมา ๒ ศัพท คือ ศัพทที่หน่ึง เติมลง ระหวางสังขยาคุณกับอุตฺตร และศัพทที่สอง เติมลงระหวางสังขยาคุณ กับสังขยานาม ท่ีเปนจำนวนหลกั ตัวอยาง สามเณร ๑๑,๐๑๑ รปู (๑๑ + ๑,๐๐๐ + ๑๐,๐๐๐) = เอกาทส + สามเณร + อตุ ตฺ ร + สหสสฺ + อธิก + สามเณร + ทสสหสฺสํ เปน เอกาทสสามเณรุตตฺ รสหสสฺ าธิกสามเณรทสสหสสฺ ํ แปล อ.หมนื่ แหง สามเณรยิง่ ดว ยพันเกนิ ดวยสามเณรสิบเอ็ด รปู (จำนวนสังขยาหลกั เปน เอก.) ตระกูล ๒๐,๐๐๐,๒๐๒ (๒ + ๒๐๐ + ๒๐,๐๐๐,๐๐๐) = ทฺวิ + กุล + อตุ ตฺ ร + ทฺวิสต + อธกิ + ทวฺ ิ + กุล + โกฏโิ ย เปน ทวฺ กิ ุลุตตฺ รทฺวิสตาธิกทฺวิกุลโกฏโิ ย แปล อ.โกฏิแหง ตระกูลสองย่งิ ดว ยรอ ยสองเกนิ ดวยตระกลู สอง ท. (จำนวนสงั ขยาหลกั เปน พห.ุ ) 300
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 301 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๒.๓ วธิ ีตอแบบแยกวภิ ัตติ การตอแบบมีนามแทรกแยกวิภัตติ มีวิธีตอเหมือนการตอสังขยาดวย อุตฺตร และ อธิก ที่ตางกันคือ มีศัพทนามเพิ่มเขา และทุกศัพทตองประกอบวิภัตติ ดงั นี้ ๑. อุตฺตร และ อธิก ทุกตัว ประกอบใหมีลิงค วจนะ วิภัตติ เหมือนกับ จำนวนสังขยาหลัก ๒. หนา อุตตฺ ร ประกอบเปน ตติยา. ทงั้ สงั ขยาและนามนาม ๓. หนา อธกิ สังขยานามประกอบเปน ตติยา. นามนามประกอบเปน ฉฏั ฐ.ี พห.ุ สังขยาคุณประกอบเปน ตติยา. ตามสงั ขยานาม ๔. สังขยาจำนวนหลกั (สงั ขยาจำนวนสุดทา ย) ประกอบเปน ปฐมา. นาม นามหนาสังขยาจำนวนหลักประกอบเปน ฉัฏฐี. พหุ. สังขยาคุณประกอบเปน ปฐมา. เหมือนสังขยาจำนวนหลกั ตวั อยาง บุรษุ ๑,๑๒๓ คน (๒๓+๑๐๐+๑,๐๐๐) = เตวีส + ปุรสิ + อุตฺตร + ปรุ สิ + สต + อธิก + ปรุ สิ + สหสฺสํ เปน เตวสี าย ปรุ ิเสหิ อุตตฺ รํ ปรุ ิสานํ สเตน อธกิ ํ ปุรสิ านํ สหสสฺ ํ แปล อ.พนั แหง บุรษุ ท. ย่ิง ดวยรอ ย แหงบรุ ุษ ท. เกินดวยบุรษุ ท. ย่ีสิบสามคน (จำนวนสงั ขยาหลกั เปน เอก.) นัยนต า ๑๐,๒๐๐,๓๐๑ ดวง (๑+๓๐๐+๒๐๐,๐๐๐+๑๐,๐๐๐,๐๐๐) = เอก + อกฺขิ + อตุ ตฺ ร + ติ + อกขฺ ิ + สต + อธกิ + ทฺวิ + สตสหสฺส + อธกิ + อกขฺ ิ + โกฏิ เปน เอเกน อกฺขินา อุตฺตรา ตีหิ อกฺขีนํ สเตหิ อธิกา ทฺวีหิ อกฺขีนํ สตสหสฺเสหิ อธกิ า อกฺขีนํ โกฏิ แปล อ.โกฏิ แหงนัยนตา ท. ย่ิง ดวยแสน ท. แหงนัยนตา ท. สอง ย่ิงดวยรอย ท. แหงนัยนตา ท. สาม เกิน ดวยนัยนต า หนึง่ ดวง (จำนวนสงั ขยาหลกั เปน เอก. อิตฺ.) 301
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 302 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ชา ง ๔๓,๒๘๐ เชอื ก (๘๐+๒๐๐+๓,๐๐๐+๔๐,๐๐๐) = อสตี ิ + หตถฺ ี + อตุ ฺตร + ทฺวิ +หตฺถี + สต + อธิก + ติ + หตถฺ ี + สหสสฺ + อธกิ + จตุ + หตถฺ ี + ทสสหสฺสานิ เปน อสีติยา หตฺถีหิ อุตฺตรานิ ทฺวีหิ หตฺถีนํ สเตหิ อธิกานิ ตีหิ หตฺถีนํ สหสสฺ เหิ อธกิ านิ จตฺตาริ หตฺถีนํ ทสสหสสฺ านิ แปล อ.หม่ืน ท. แหงชาง ท. ส่ี ยิ่ง ดวยพัน ท. แหงชาง ท. สาม ย่ิงดวยรอย ท. แหง ชาง ท. สอง เกนิ ดวยชาง ท. แปดสิบ เชอื ก (จำนวนสงั ขยาหลกั เปน พหุ. นปุ.) สนุ ขั ๙๑,๐๐๗,๖๐๑ ตวั (๑+๖๐๐+๗,๐๐๐+๑,๐๐๐,๐๐๐+๙๐,๐๐๐,๐๐๐) = เอก + สุนข + อุตฺตร + ฉ + สุนข + สต + อธิก + สตฺต + สุนข + สหสฺส + อธกิ + สนุ ข + ทสสตสหสฺส + อธกิ + นว + สุนข + โกฏโิ ย เปน เอเกน สุนเขน อุตฺตราโย ฉหิ สุนขานํ สเตหิ อธิกาโย สตฺตหิ สุนขานํ สหสฺเสหิ อธิกาโย สุนขานํ ทสสตสหสเฺ สน อธิกาโย นว สนุ ขานํ โกฏโิ ย แปล อ. โกฏิ ท. แหงสุนัข ท. เกา ยิ่ง ดวยลาน แหงสุนัข ท. ยิ่ง ดวยพัน ท. แหง สนุ ัข ท. เจด็ ย่งิ ดว ยรอ ย ท. แหงสุนัข ท. หก เกนิ ดวยสนุ ัข หนง่ึ ตัว (สังขยาจำนวนหลักเปน พหุ. อิต.) 302
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 303 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๒.๔ วธิ ตี อ แบบบอกศกั ราชเทศน วิธีตอแบบศักราชเทศน โดยหลักการมีวิธีตอคลายกับแบบท่ัวไป มีขอ แตกตา งกันดงั นี้ ๑. แยกสังขยาจำนวนหลัก ออกจาก อธิก หรอื อุตตฺ ร ตวั สุดทา ย ๒. ประกอบวิภตั ตทิ ่ี อธิก หรือ อตุ ตฺ ร นน้ั ตามสังขยาหลัก ๓. แยกสังขยาคุณออกจากสังขยาหลักแลวประกอบวิภัตติตามสังขยา จำนวนหลัก ตวั อยาง เรอื น ๑๒,๒๒๐ หลัง (๒๐ + ๒๐๐ + ๒,๐๐๐ + ๑๐,๐๐๐) = วสี + อคาร + อตุ ตฺ ร + ทวฺ สิ ต + อธกิ + ทวฺ สิ หสสฺ + อธกิ + อคาร + ทสสหสสฺ ํ เปน วีสอคารุตตฺ รทฺวสิ ตาธิกทวฺ สิ หสสฺ าธกิ ํ อคารทสสหสฺสํ แปล อ.หมนื่ แหงเรือน ย่ิงดว ยพันสองยงิ่ ดว ยรอยสองเกนิ ดวยเรอื นยสี่ ิบ หลงั (จำนวนสังขยาหลักเปน เอก.) พระเถรี ๓๐,๐๐๐,๐๖๐ รูป (๖๐ + ๓๐,๐๐๐,๐๐๐) = สฏี + เถรี + อุตตฺ ร + ติสฺโส + เถรี + โกฏิโย เปน สฏ ีเถรฺยตุ ฺตราโย ตสิ โฺ ส เถรีโกฏโิ ย แปล อ.โกฏแิ หงพระเถรี ท. สาม เกินดว ยพระเถรหี กสบิ รปู (จำนวนสังขยาหลักเปน พห.ุ ) น้ำตา ๔,๐๐๐,๔๔๔ หยด (๔๔ + ๔๐๐ + ๔,๐๐๐,๐๐๐) = จตุจตฺตาฬส + อสฺสุ + อุตฺตร + จตุสต + อธิกานิ + จตฺตาริ + อสฺสุ + ทสสตสหสฺสานิ เปน จตุจตฺตาฬสอสสฺ ตุ ตฺ รจตุสตาธิกานิ จตตฺ าริ อสสฺ ทุ สสตสหสสฺ านิ. แปล อ.ลา นแหง น้ำตา ท. ส่ี ยง่ิ ดวยรอ ยสีเ่ กนิ ดวยน้ำตาสสี่ บิ ส่ี หยด (จำนวนสงั ขยาหลักเปน พห.ุ ) 303
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 304 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) บัดนลี้ วงแลว ๒๕๕๑ ป อิทานิ เอกปฺาสสํวจฺฉรุตฺตรปฺจสตาธิกานิ เทฺว สํวจฺฉรสหสฺสานิ อติกกฺ นฺตานิ แปล ในกาลน้ี อ.พนั แหง ป ท. สอง ยิ่งดว ยรอ ยหาเกินดว ยปหา สิบเอด็ ลวงไปแลว บดั นี้ลว งแลว ๑,๙๑๘ เดือน อิทานิ อฏ ารสมาสุตฺตรนวสตาธกิ ํ มาสสหสสฺ ํ อตกิ กฺ นตฺ ํ แปล ในกาลน้ี อ.พันแหงเดือน ย่งิ ดว ยรอยเกา เกนิ ดวยเดือนสบิ แปด ลว งไปแลว บดั นล้ี วงแลว ๙๙,๙๙๙,๙๙๘ วนั อิทานิ อฏนวุติทิวสุตฺตรนวสตาธิกนวสหสฺสาธิกนวทสสหสฺสาธิกนวสต- สหสฺสาธกิ นวทสสตสหสฺสาธิกาโย นว ทวิ สโกฏิโย อตกิ ฺกนฺตาโย แปล ในกาลนี้ อ.โกฏิแหงวัน ท. เกา ยิ่งดวยลานเกาย่ิงดวยแสนเกายิ่งดวย หมืน่ เกายงิ่ ดวยพันเกายง่ิ ดวยรอยเกาเกนิ ดวยวนั เกาสิบแปด ลวงไปแลว 304
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 305 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๓. วิธตี อ ปกตสิ งั ขยา ดว ย จ ศัพท นอกจากการตอปกติสังขยาโดยใช อุตตร และ อธิก ดังกลาวมาแลวขางตน น้ัน ยงั มวี ธิ ีการตอสังขยาโดยวธิ เี บ็ดเตล็ดอืน่ ๆ อีก เชน การใช จ ศพั ท อปุ ริ ศัพท จ ศัพทนแ้ี ปลวา ดวย ใชตอ สงั ขยาท่ีมีตัวนามประกอบอยูด วย โดยนยิ มเรยี ง จำนวนมากไวดานหนา เรียงจำนวนนอยไวดานหลัง และมีนามนามกำกับอยูทุก จำนวน ดงั นี้ ๑. สังขยานามจำนวนเต็มทุกตัว ใหประกอบสังขยานามดวยปฐมาวิภัตติ โดยเขียนนามนามกำกับไวท่ีหนาสังขยานามน้ันดวย หากมีสังขยาคุณใหประกอบ วิภตั ติเหมือนกับสังขยานาม เรียงไวห นาสังขยานามนั้น ๒. สังขยาคุณตัวสุดทาย (เศษของจำนวนเต็ม ๑ - ๙๘) ประกอบสังขยา ไวห นานามนามดวยปฐมาวภิ ัตติ ๓. การวาง จ ศัพท ใหวางไวหลังสังขยานามทุกตัว เฉพาะศัพทสุดทายให วางไวหลังสงั ขยาคุณหนานามนาม ตวั อยาง ผา ๑๒๓,๔๕๖ ผนื (๑๐๐,๐๐๐ + ๒๐,๐๐๐ + ๓,๐๐๐ + ๔๐๐ + ๕๖) = วตฺถ + สตสหสสฺ + จ + ทฺวิ + วตฺถ + ทสสหสสฺ + จ + ติ + วตถฺ + สหสสฺ + จ + จตุ + วตฺถ + สต + จ + ฉปฺ าส + จ + วตฺถ เปน วตฺถสตสหสฺสํ จ เทฺว วตฺถทสสหสฺสานิ จ ตีณิ วตฺถสหสฺสานิ จ จตฺตาริ วตถฺ สตานิ จ ฉปฺ าส จ วตถฺ านิ แปล อ.แสนแหงผา ดวย อ.หม่ืนแหงผา ท. สอง ดวย อ.พันแหงผา ท. สาม ดวย อ.รอยแหงผา ท. ส่ี ดวย อ.ผา ท. หาสบิ หก ผนื ดว ย พระราชา ๗,๗๐๗ พระองค (๗,๐๐๐ + ๗๐๐ + ๗) = สตฺต + ราช + สหสฺส + จ + สตตฺ + ราช + สต + จ + สตตฺ + จ + ราช เปน สตฺต ราชสหสฺสานิ จ สตตฺ ราชสตานิ จ สตฺต จ ราชาโน แปล อ.พันแหงพระราชา ท. เจ็ด ดวย อ.รอยแหงพระราชา ท. เจ็ด ดวย อ. พระราชา ท. เจด็ พระองค ดวย 305
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 306 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ๔. วิธตี อปกติสังขยา ดว ย อปุ ริ ศพั ท วิธีตอพุทธศักราช มีใชในวิชาแปลไทยเปนมคธ แสดงไวในท่ีนี้ พอเปน แนวทางแหง การศึกษาในโอกาสตอ ไป อปุ ริ ศพั ทน แี้ ปลวา เบื้องบน นยิ มใชต อ เฉพาะ วันที่ เดือน พ.ศ. คอื ๑. พ.ศ. ใชค ำวา พุทธฺ สสฺ ภควโต ปรินิพพฺ านโต ๒. ใชจ ำนวนรอ ย (๑๐๐) + อธกิ + จำนวนพนั (๑,๐๐๐) + อุปริ + จำนวน สิบ (หนว ย) + สก + อจฺจย + เดอื น + วันที่ ๓. อธกิ ประกอบเปนฉัฏฐี. พหุ. ๔. อุปริ ตอไวหลังศัพทจำนวนพัน, สหสฺส ประกอบเปนฉัฎฐี. พหุ. แลว แปลงนิคหิตท่ี นํ วภิ ัตติ เปน ม (ม + อุปริ = มุปริ) ๕. สังขยาจำนวนหนว ย หรอื สบิ ประกอบดว ย ฉัฎฐ.ี เปน วเิ สสนะของ สก ศัพท สวน สก ศัพท ประกอบดวย ฉัฏฐี. พหุ. แลวแปลงนิคหิตที่ นํ เปน ม (ม + อจจฺ ย = มจฺจย) ๖. เดือน (มาส) ประกอบเปน ฉัฏฐ.ี เอก. ๗. วันท่ี (ทิน) ศัพทสังขยาใชเปนปูรณสังขยา เรียงไวขางหนา ประกอบ ลงิ ค วจนะ วภิ ัตติ ตาม ทนิ ศัพท ถาไมม ีศพั ทอ ื่นตอดานหลังใหป ระกอบเปน ปฐมา. เอก. ถามศี ัพทอ ื่นประกอบเปนสตั ตม.ี เอก. ตวั อยาง วนั ท่ี ๑๕ เดอื น กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๗ = พุทธฺ สฺส ภควโต ปรินิพพฺ านโต + ปฺจสต + อธกิ + ทวฺ ิ + สหสสฺ + อุปริ + สตฺตปฺาส + สก + อจฺจย + มาฆมาส + ปณณฺ รสม + ทนิ เปน พุทฺธสฺส ภควโต ปรินิพฺพานโต ปฺจสตาธิกานํ ทฺวินฺนํ สหสฺสานมุปริ- สตตฺ ปฺ าสาย สกานมจฺจเยน มาฆมาสสฺส ปณฺณรสมํ ทนิ ํ แปล อ.วัน ที่สิบหา แหงเดือนกุมภาพันธ โดยอันลวงไป แหงป ท. หาสิบเจ็ด เบ้ืองบน แหงพัน ท. สอง ยิ่งดวยรอยหา แตกาลเปนท่ีปรินิพพาน แหงพระผูมีพระภาค พุทธเจา 306
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 307 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ถาไมตอบอกพทุ ธศักราช คอื ตอ กบั นามนามท่ัวไป ก็ใช อุปรศิ พั ทเ รียงเหมอื น อุตฺตร และ อธิก โดยใส อุปริ แทนท่ี อตุ ตฺ ร และ อธกิ เสีย ตัวอยาง เชน เนยใส ๒๐,๖๐๐,๒๒๐ วีสสปยฺ ปุ ริทฺวสิ ตปุ ริฉสตสหสสฺ ปุ รทิ วฺ สิ ปฺปโกฏิโย 307
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 308 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แบบประเมินผลตนเองกอนเรยี น หนว ยที่ ๑๓ วัตถปุ ระสงค เพ่ือประเมินผลความรูเดิมของนักเรียนเก่ียวกับเรื่อง “วิธีตอปกติ คำชีแ้ จง สงั ขยา” ใหนักเรียนทำเครื่องหมายถูก ( ) หนาขอที่ถูกตอง และทำ เครื่องหมายผดิ ( ) หนาขอ ท่ผี ดิ ( ) ๑. การตอสังขยาจำนวน สิบ กับจำนวน รอย หรือ พนั เปนการตอแบบ อุตฺตร ( ) ๒. การตอสังขยาจำนวน รอ ย กับจำนวน พนั เปน ตน เปนการตอแบบอธกิ ( ) ๓. ถาศพั ทท ีอ่ ยหู นา ของ อุตตฺ ร ลงทายดวยสระคอื อ อา อุ อู นิยมคงสระ เหลา น้ีไวเสมอ ( ) ๔. ถาศพั ทห นา อตุ ตฺ ร สระทีส่ ดุ เปน อิ หรอื อี ใหแปลง อิ - อี เปน ย ( ) ๕. ๑๕๐ ตอสงั ขยาเปน ปฺ าส+อตุ ฺตร+สตํ = ปฺ าสตุ ฺตรสตํ ( ) ๖. ๒,๑๐๐ ตอสังขยาเปน สต+อตุ ฺตร+ทฺวิสหสาฺ นิ = สตตุ ตฺ รทวฺ ิสหสาฺ นิ ( ) ๗. ๓๐,๐๐๔,๐๕๕ ตอสังขยาเปน ปฺจปฺาส+อุตฺตร+จตุสหสฺส+อธิก+ ตโิ กฏโิ ย = ปจฺ ปฺ าสุตตฺ รจตุสหสฺสาธิกตโิ กฏโิ ย ( ) ๘. ๑๐,๗๐๐ ตอ สงั ขยาเปน สตตฺ สต+อตุ ตฺ ร+ทสสหสสฺ ํ = สตฺตสตตุ ฺตรทสสหสฺสํ ( ) ๙. ๒๐,๓๐๐,๑๐๑ ตอสังขยาเปน เอก+อุตฺตร+สต+อธิก+ติทสสหสฺส+อธิก+ ทฺวโิ กฏิ = เอกตุ ฺตรสตาธกิ ตทิ สสหสฺสาธกิ ทฺวโิ กฏโิ ย ( ) ๑๐. เทวดา ๑๐๐,๔๐๓ ตอ สงั ขยาวา ติอมรุตฺตรจตอุ มรสตาธกิ อมรสตสหสฺสํ ( ) ๑๑. นางอัปสร ๑๒,๐๐๐,๐๗๑ ตอสังขยาวา เอกสตฺตติอจฺฉรุตฺตรทฺวิอจฺฉรา- ทสสตสหสฺสาธกิ อจฺฉราโกฏิ ( ) ๑๒. กรรม ๔๐๓,๐๐๐ ตอสงั ขยาวา ติกมฺมสหสสฺ ุตตฺ รจตกุ มมฺ สตสหสสฺ านิ ( ) ๑๓. พระจนั ทร ๙๐,๐๐๐,๐๐๑ ตอสงั ขยาวา เอกจนฺทาธิกนวจนฺทโกฏโิ ย ( ) ๑๔. ดาว ๑๐๐,๒๐๔ ตอ สงั ขยาวา จตูหิ ตาราหิ อตุ ฺตรานิ ทฺวีหิ ตารานํ สเตหิ อธิกานิ ตารานํ สตสหสสฺ านิ ( ) ๑๕. ยาน ๑๒๓ ตอ สงั ขยาวา เตวสี ตยิ า ยาเนหิ อุตตฺ รํ ยานานํ สตํ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 308
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 309 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ( ) ๑๖. ภูเขา ๖,๐๐๑,๐๐๐ ตอสงั ขยาวา ปพฺพตานํ สเตน อุตฺตรานิ ฉ ปพพฺ ตานํ ทสสตสหสฺสานิ ( ) ๑๗. รัศมี ๔๐,๔๐๓,๐๒๐ ตอสังขยาวา วสี าย อาภาหิ อตุ ตฺ ราโย ตีหิ อาภานํ สหสเฺ สหิ อธิกาโย จตูหิ อาภานํ สตสหสฺเสหิ อธกิ าโย จตสฺ โส อาภานํ โกฏิโย ( ) ๑๘. บดั นลี้ วงไปแลว ๒,๕๔๖ ป ตอ สังขยาวา อิทานิ ฉจตตฺ าฬสสวํ จฉฺ รตุ ฺตร- ปฺจสตาธิกานิ เทวฺ สวํ จฉฺ รสหสฺสานิ อตกิ ฺกนตฺ านิ ( ) ๑๙. บัดน้ีลวงแลว ๑๒,๓๔๕,๖๗๘ วัน ตอสังขยาวา อิทานิ อฏสตฺตติ- ทิวสุตฺตรฉสตาธิกปฺจสหสฺสาธิกจตุทสสหสฺสาธิกติสตสหสฺสาธิกทฺวิทส- สตสหสสฺ าธกิ า ทิวสโกฏิ อตกิ กฺ นตฺ า ( ) ๒๐. จติ ๑๒,๓๔๕ ใช จ ศพั ท ตอเปน ปจฺ จตฺตาฬส จิตตฺ านิ จ ตณี ิ จติ ฺตานํ สตานิ จ เทฺว จิตฺตานํ สหสฺสานิ จ จติ ฺตานํ ทสสหสฺสานิ จ ( ) ๒๑. อักษร ๔๐,๓๐๐,๑๕๑ ใช จ ศัพท ตอเปน เอกปฺาสํ อกฺขรานิ จ อกฺขรานํ สตํ จ ตีณิ อกฺขรานํ สตสหสสฺ านิ จ จตสโฺ ส อกฺขรานํ โกฏโิ ย จ ( ) ๒๒. ราชินี ๑๐๐,๒๒๒ ใช อุปริ ศัพท ตอเปน พาวีสติราชินฺยุปริทฺวิสตุปริ- ราชนิ สี ตสหสสฺ ํ ( ) ๒๓. โจร ๕,๐๐๑,๐๐๒ ใช อุปริ ศัพท ตอเปน ทฺวิโจรุปริสหสฺสุปริ- ปจฺ โจรทสสตสหสสฺ ํ 309
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 310 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ แบบประเมินผลตนเองหลังเรียน หนว ยที่ ๑๓ วตั ถปุ ระสงค เพื่อประเมินผลความกาวหนาของนักเรียนเก่ียวกับเร่ือง วิธีตอ คำชแ้ี จง ปกตสิ งั ขยา” ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอท่ีถูกตอง และทำ เคร่ืองหมายผดิ ( ) หนาขอที่ผดิ ( ) ๑. การตอสงั ขยาจำนวน สบิ กบั จำนวน รอ ย หรือ พนั เปน การตอ แบบ อธิก ( ) ๒. การตอสงั ขยาจำนวน รอย กับจำนวน พนั เปนตน เปนการตอแบบ อตุ ตฺ ร ( ) ๓. ถาศัพทที่อยูหนาของ อุตฺตร ลงทายดวยสระคือ อ อา อุ อู ใหลบสระ เหลา นี้ทงิ้ เสยี ( ) ๔. ถาศัพทหนา อุตฺตร สระท่ีสดุ เปน อิ หรือ อี นิยมคงสระ อิ-อี ไวตามเดิม ( ) ๕. ๑๕๐ ตอสังขยาเปน ปฺ าส+อธกิ +สตํ = ปฺ าสาธิกสตํ ( ) ๖. ๒,๑๐๐ ตอ สังขยาเปน สต+อธกิ +ทฺวสิ หสสฺ านิ = สตาธกิ ทวฺ สิ หสฺสานิ ( ) ๗. ๓๐,๐๐๔,๐๕๕ ตอสังขยาเปน ปฺจปฺาส+อธิก+จตุสหสฺส+อธิก+ ตโิ กฏิโย = ปจฺ ปฺาสาธิกจตสุ หสฺสาธกิ ติโกฏโิ ย ( ) ๘. ๑๐,๗๐๐ ตอ สงั ขยาเปน สตฺตสต+อธกิ +ทสสหสสฺ ํ = สตตฺ สตาธกิ ทสสหสสฺ ํ ( ) ๙. ๒๐,๓๐๐,๑๐๑ ตอสังขยาเปน เอก+อุตฺตร+สต+อธิก+ติสตสหสฺส+อธิก+ ทฺวโิ กฏิโย = เอกุตตฺ รสตาธิกตสิ ตสหสสฺ าธกิ ทวฺ ิโกฏิโย ( ) ๑๐. เทวดา ๑๐๐,๔๐๓ ตอสังขยาวา ติอมราธิกจตุอมรสตาธิกอมรสตสหสสฺ ํ ( ) ๑๑. นางอปั สร ๑๒,๐๐๐,๐๗๑ ตอ สงั ขยาวา เอกสตฺตตอิ จฺฉรุตตฺ รทฺวิอจฺฉรา ทสสตสหสสฺ าธกิ อจฺฉราโกฏิ ( ) ๑๒. กรรม ๔๐๓,๐๐๐ ตอ สงั ขยาวา ตกิ มมฺ สหสสฺ ุตตฺ รจตกุ มมฺ สตสหสสฺ านิ ( ) ๑๓. พระจันทร ๙๐,๐๐๐,๐๐๑ ตอสังขยาวา เอกจนทฺ ตุ ตฺ รนวจนทฺ โกฏโิ ย ( ) ๑๔. ดาว ๑๐๐,๒๐๔ ตอ สังขยาวา จตหู ิ ตาราหิ อตุ ฺตรํ ทฺวีหิ ตารานํ สเตหิ อธกิ ํ ตารานํ สตสหสสฺ ํ ( ) ๑๕. ยาน ๑๒๓ ตอ สงั ขยาวา เตวสี ตยิ า ยาเนหิ อตุ ตฺ รานิ ยานานํ สตํ ( ) ๑๖. ภูเขา ๖,๐๐๑,๐๐๐ ตอสังขยาวา ปพพฺ ตานํ สเตน อธกิ านิ ฉ ปพฺพตานํ ทสสตสหสฺสานิ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 310
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 311 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ( ) ๑๗. รัศมี ๔๐,๔๐๓,๐๒๐ ตอ สงั ขยาวา วีสาย อาภาหิ อตุ ตฺ ราโย ตหี ิ อาภาหิ สหสฺเสหิ อธกิ าโย จตหู ิ อาภาหิ สตสหสเฺ สหิ อธิกาโย จตสโฺ ส อาภาหิ โกฏโิ ย ( ) ๑๘. บัดน้ีลว งไปแลว ๒,๕๔๖ ป ตอ สงั ขยาวา อิทานิ ฉจตตฺ าฬส สวํ จฺฉรุตตฺ ร- ปฺจสตาธิกํ เทฺว สวํ จฉรสหสฺสํ อตกิ กฺ นตฺ ํ ( ) ๑๙. บัดนี้ลวงแลว ๑๒,๓๔๕,๖๗๘ วัน ตอสังขยาวา อิทานิ อฏสตฺตติ ทิวสุตฺตรฉสตาธิกปฺจสหสฺสาธิกจตุทสสหสฺสาธิกติสตสหสฺสาธิกทฺวิทส สตสหสสฺ าธิกาโย ทิวสโกฏิโย อติกฺกนตฺ าโย ( ) ๒๐. จิต ๑๒,๓๔๕ ใช จ ศพั ท ตอเปน ปฺจจตฺตาฬส ํ จติ ฺตานิ จ ตณี ิ จิตตฺ านํ สตานิ จ เทฺว จิตตฺ านํ สหสฺสานิ จ จติ ฺตานํ ทส.สหสสฺ ํ จ ( ) ๒๑. อักษร ๔๐,๓๐๐,๑๕๑ ใช จ ศัพท ตอ เปน เอกปฺ าสํ อกฺขรํ จ อกขฺ รานํ สตํ จ ตีณิ อกขฺ รานํ สตสหสสฺ านิ จ จตสฺโส อกฺขรานํ โกฏิโย ( ) ๒๒. ราชินี ๑๐๐,๒๒๒ ใช อุปริ ศัพท ตอเปน พาวีสติราชินยุปริทฺวิ- สตปุ ริราชนิ ีสตสหสสฺ านิ ( ) ๒๓. โจร ๕,๐๐๑,๐๐๒ ใช อุปริ ศัพท ตอเปน ทฺวิโจรุปริสหสฺสุปริ- ปฺจโจรทสสตสหสสฺ านิ 311
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 312 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ เฉลยแบบประเมินผลตนเอง หนวยที่ ๑๓ ขอ กอ นเรยี น หลงั เรียน ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. ๑๖. ๑๗. ๑๘. ๑๙. ๒๐. ๒๑. ๒๒. ๒๓. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 312
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 313 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ แผนการสอนวิชาบาลีไวยากรณ หนว ยที่ ๑๔ เรอ่ื ง สงั ขยา : ปรู ณสังขยา เวลาทำการสอน ๓ คาบ สาระสำคัญ ปรู ณสงั ขยานั้นเปน การนำเอาปจ จยั ในตทั ธิตมาตอ ทา ยปกตสิ ังขยานัน่ เอง การตอ อฑฒฺ ศพั ทเ ขา กับปูรณสังขยา และปกติสงั ขยา จดุ ประสงค ๑. นกั เรยี นรูแ ละเขา ใจความหมายของปูรณสงั ขยา ๒. นกั เรียนรแู ละเขาใจการจดั ปรู ณสงั ขยาเขาในลิงค ๓. นักเรยี นรแู ละเขาใจปจจยั ทใ่ี ชใ นปูรณสงั ขยา ๔. นักเรยี นรูแ ละเขาใจปูรณสังขยานับใน ๓ ลงิ ค ๕. นกั เรียนรแู ละเขา ใจวิธีใชป ูรณสงั ขยา ๖. นักเรยี นรแู ละเขา ใจวธิ ใี ช อฑฒฺ ศพั ท ในการตอ สังขยา เนื้อหา ๑. ความหมายของปรู ณสังขยา ๒. การจดั ปรู ณสังขยาเขาในลงิ ค ๓. ปจ จัยท่ใี ชใ นปูรณสงั ขยา ๔. ปรู ณสงั ขยานับใน ๓ ลงิ ค ๕. วธิ ใี ชปรู ณสังขยา ๖. วธิ ีใช อฑฒฺ ศัพท ในการตอสงั ขยา 313
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 314 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) กจิ กรรม ๑. ประเมนิ ผลกอนเรยี น ๒. ครนู ำเขาสบู ทเรยี น ๓. ครอู ธิบายเนอ้ื หาการตอสังขยาแตละแบบอยางละเอยี ด ๔. ครูกำหนดจำนวนสังขยาบนกระดานแลวใหนักเรียนตอ บนกระดาน โดย วธิ สี มุ ตวั อยาง ๕. ครสู รปุ เน้ือหาที่สอน ๖. ประเมนิ ผลหลงั เรยี น ๗. กิจกรรมเสนอแนะ - ใหน กั เรยี นแตงสงั ขยาบนกระดาน หรือใสก ระดาษแลว แลกกันตรวจ - ใหนักเรยี นสมุ ตวั เลขแลว ผลดั กนั ตอสังขยา - ส่ังการบานใหนกั เรยี นไปตอสงั ขยา สอ่ื การสอน ๑. ตำราทใ่ี ชประกอบการเรยี น-การสอน ๑.๑ หนงั สือพระไตรปฎ ก ๑.๒ หนงั สือพจนานกุ รมมคธ-ไทย โดย พันตรี ป. หลงสมบุญ สำนกั เรยี นวัดปากนำ้ จัดพิมพ พ.ศ. ๒๕๔๐ ๑.๓ หนงั สือพจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ๑.๔ หนังสือพจนานุกรมพทุ ธศาสน ฉบับประมวลศพั ท โดย พระธรรมปฎ ก (ป.อ. ปยตุ ฺโต) ๑.๕ หนงั สอื คูมอื บาลไี วยากรณ นพิ นธ โดย สมเดจ็ พระมหาสมณเจาฯ ๑.๖ หนงั สือปาลทิ เทส ของสำนกั เรียนวดั ปากน้ำ ๑.๗ คัมภีรอภิธานัปปทีปกา ๑.๘ หนงั สืออภุ ัยพากยป รวิ ตั น ๒. อุปกรณท ่คี วรมปี ระจำหอ งเรียน ๒.๑ กระดานดำ-แปรงลบกระดาน-ชอลก หรอื กระดานไวทบ อรด 314
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 315 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๒.๒ เคร่ืองฉายขา มศรี ษะ (Over-head) ๒.๓ คอมพิวเตอรและเครือ่ งฉายโปรเจคเตอร ๓. บตั รคำ ๔. ใบงาน วิธวี ัดผล-ประเมินผล ๑. สอบถามความเขาใจ ๒. สังเกตพฤติกรรมการมีสว นรว มในกิจกรรม ๓. สังเกตความกา วหนาดา นพฤติกรรมการเรยี นรขู องผเู รียน ๔. ตรวจใบงาน ๕. ตรวจแบบประเมนิ ผลกอนเรียน-หลังเรยี น 315
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 316 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ปรู ณสังขยา ความหมายของปูรณสงั ขยา ปูรณสังขยา หมายถึง การนับนามนามท่ีเต็มในที่นั้นๆ เชน ที่ ๑ (ปโม), ที่ ๒ (ทตุ ิโย), ที่ ๓ (ตตโิ ย), ที่ ๔ (จตุตฺโถ), ที่ ๕ (ปจฺ โม) เปนตน ขอ สังเกตภาษาไทย มีคำแปลวา “ท”่ี อยูหนา ตวั เลข ขอสังเกตภาษาบาลี มปี จ จยั ๕ ตัว คอื ตยิ , ถ, , ม, อี อยูท า ยศพั ท ปจจัยทใี่ ชในปรู ณสงั ขยา ในปรู ณสังขยามปี จ จัยประกอบ ๕ ตัว ซ่งึ มีปรากฏในตทั ธิต คอื ติย, ถ, , ม, อี มีวธิ ใี ชด งั นี้ ตยิ ปจจยั ใชประกอบไดเฉพาะ ทฺวิ และ ติ เทา น้ัน เมอื่ ประกอบกับ ทฺวิ แปลง ทวฺ ิ เปน ทุ มรี ปู เปน ทุตยิ เมอื่ ประกอบกบั ติ แปลง ติ เปน ต มรี ปู เปน ตติย ถ ปจจยั ใชประกอบกับ จตุ อยางเดียว เมอ่ื ลงแลวไมม ีการเปล่ยี นแปลง อะไร เพยี งแตซอ น ตฺ เขามาอกี ตัวหนึ่ง มีรปู เปน จตตุ ฺถ ปจจยั ใชประกอบกับ ฉ อยา งเดียว เมอ่ื ลงแลวไมม ีการเปล่ยี นแปลง อะไร เพยี งแตซ อ น ฏ เขา มา มรี ูปเปน ฉฏ ม ปจ จยั ใชประกอบไดหลายจำนวน คอื เอก, ปฺจ, สตตฺ , อฏ , นว, ม ปจ จัย ทส ขน้ึ ไปจนถงึ อสงเฺ ขยฺย เม่อื ประกอบกบั เอก ใช ป ศพั ทแทน เอก มีรปู เปน ปม อี ปจ จยั ใชป ระกอบต้งั แต เอกาทส จนถึง อฏ ารส เฉพาะอติ ถลี ิงค เทา นน้ั มีรูปเปน เอกาทสี, ทฺวาทสี เปนตน ความพิสดารของปจจยั ทั้ง ๕ ตวั น้ี มปี รากฏในปรู ณตทั ธติ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 316
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 317 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ การจดั ปรู ณสงั ขยาเขาในลงิ ค ปูรณสังขยาน้ีใชเปนคุณนามเทาน้ัน เปนไดทั้ง ๓ ลิงค และเปนเอกวจนะ อยางเดียว ปงุ ลิงค แจกตามแบบ อ การันต (ปุริส) อติ ถีลงิ ค แจกตามแบบ อา การนั ต (กฺา), อี การนั ต (นาร)ี นปงุ สกลงิ ค แจกตามแบบ อ การนั ต (กุล) ปูรณสงั ขยานับใน ๓ ลิงค ปุงลิงค อิตถีลงิ ค นปงุ สกลงิ ค คำแปล ปโม ปมา ปมํ ท่ี ๑ ทุติโย ทตุ ิยา ทุตยิ ํ ที่ ๒ ตตโิ ย ตติยา ตติยํ ที่ ๓ จตุตฺโถ จตตุ ฺถี, จตตุ ถฺ า จตตุ ถฺ ํ ท่ี ๔ ปจฺ โม ปจฺ ม,ี ปฺจมา ปจฺ มํ ท่ี ๕ ฉฏโ ฉฏ ี, ฉฏ า ฉฏํ ที่ ๖ สตตฺ โม สตตฺ มี, สตฺตมา สตตฺ มํ ที่ ๗ อฏโม อฏ มี, อฏ มา อฏมํ ที่ ๘ นวโม นวม,ี นวมา นวมํ ที่ ๙ ทสโม ทสมี, ทสมา ทสมํ ท่ี ๑๐ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 317
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 318 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ปุงลงิ ค อติ ถลี ิงค นปงุ สกลงิ ค คำแปล เอกาทสโม เอกาทส,ี เอกาทสึ เอกาทสมํ ท่ี ๑๑ ทวฺ าทสมํ, พารสมํ ท่ี ๑๒ ทวฺ าทสโม, พารสโม ทฺวาทส,ี พารสี เตรสมํ ที่ ๑๓ จตทุ ทฺ สมํ ที่ ๑๔ เตรสโม เตรสี ปณณฺ รสมํ ท่ี ๑๕ โสฬสมํ ท่ี ๑๖ จตทุ ทฺ สโม จตุททฺ สี, จตทุ ทฺ สึ สตฺตรสมํ ท่ี ๑๗ อฏ ารสมํ ท่ี ๑๘ ปณณฺ รสโม ปณณฺ รส,ี ปณณฺ รสึ เอกนู วสี ตมิ ํ ท่ี ๑๙ วสี ตมิ ํ ท่ี ๒๐ โสฬสโม โสฬสี สตตฺ รสโม สตฺตรสี อฏารสโม อฏารสี เอกูนวีสติโม เอกูนวสี ติมา วสี ติโม วสี ติมา วธิ ีใชป ูรณสงั ขยา ปรู ณสงั ขยาเปนคุณนาม เมือ่ ใชบอกจำนวนของนามนามบทใด ใหเรียงไวหนา นามนามบทน้นั โดยประกอบใหม ีลงิ ค วจนะ วภิ ัตตเิ หมอื นกับนามนามบทนน้ั เชน - สตฺตโม ทิวโส แปลวา อ.วนั ท่ี ๗ - ปโม ภาโค แปลวา อ.ภาค ท่ี ๑ - ปกขฺ สสฺ ปจฺ มิยํ ตถิ ยิ ํ แปลวา ในดิถี ท่ี ๕ แหง ปก ษ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 318
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322