Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

(เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

Description: (เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

Search

Read the Text Version

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 369 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ วธิ แี จกศัพท อนยิ ม ย ศพั ท (ใด) ใน ปงุ ลงิ ค แจกอยางนี้ เอก. พหุ. ป. โย เย ทุ. ยํ เย ต. เยน เยหิ จ. ยสสฺ เยสํ เยสานํ ปฺ. ยสฺมา ยมหฺ า เยหิ ฉ. ยสฺส เยสํ เยสานํ ส. ยสฺมึ ยมฺหิ เยสุ ย ศพั ท (ใด) ใน ปุงลิงค มีวิธเี ปลย่ี นวภิ ัตติ และ การันต ดงั น้ี โย ศัพทเ ดิมมาจาก ย อ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง สิ ปฐมาวภิ ตั ติ เอกวจนะ เอา อ กบั สิ เปน โอ สำเรจ็ รูปเปน โย โย ( ปุริโส) แปลวา (อ.บรุ ุษ) ใด เย ศัพทเดมิ มาจาก ย อ การนั ต ในปุงลิงค ลง โย ปฐมาวภิ ตั ติ พหุวจนะ เอา อ กับ โย เปน เอ สำเรจ็ รูปเปน เย เย (ปุริสา) แปลวา (อ.บุรษุ ท.) เหลาใด ยํ ศพั ทเ ดมิ มาจาก ย อ การนั ต ในปงุ ลงิ ค ลง อํ ทุติยาวภิ ัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเรจ็ รูปเปน ยํ ยํ (ปุริสํ) แปลวา (ซ่ึงบุรษุ ) ใด เย ศัพทเ ดิมมาจาก ย อ การนั ต ในปงุ ลิงค ลง โย ทตุ ยิ าวิภตั ติ พหวุ จนะ เอา อ กบั โย เปน เอ สำเร็จรปู เปน เย เย (ปุริเส) แปลวา (ซ่ึงบรุ ษุ ท.) เหลาใด เยน ศพั ทเ ดมิ มาจาก ย อ การันต ในปุงลิงค ลง นา ตติยาวิภัตติ เอกวจนะ เอา อ กับ นา เปน เอน สำเร็จรูปเปน เยน เยน (ปุริเสน) แปลวา (ดวยบรุ ษุ ) ใด เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 369

เยหิ ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 370 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ยสฺส เยสํ ศัพทเดมิ มาจาก ย อ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง หิ ตตยิ าวิภตั ติ พหุวจนะ เยสานํ เอา อ เปน เอ ลง หิ คง หิ ไว สำเรจ็ รูปเปน เยหิ เยหิ (ปรุ ิเสห)ิ แปลวา ยสฺมา (ดวยบุรุษ ท.) เหลาใด ยมหฺ า ศพั ทเดิมมาจาก ย อ การันต ในปุงลิงค ลง ส จตุตถีวภิ ตั ติ เอกวจนะ เยหิ แปลง ส เปน สสฺ สำเรจ็ รปู เปน ยสสฺ ยสฺส (ปุรสิ สฺส) แปลวา (แกบ ุรุษ) ใด ยสฺส ศพั ทเ ดมิ มาจาก ย อ การันต ในปงุ ลิงค ลง นํ จตุตถวี ภิ ัตติ พหุวจนะ เยสํ เอา อ เปน เอ แปลง นํ เปน สํ สำเร็จรปู เปน เยสํ เยสํ (ปรุ สิ าน)ํ แปลวา เยสานํ (แกบุรษุ ท.) เหลาใด ศัพทเดิมมาจาก ย อ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง นํ จตุตถีวิภัตติ พหุวจนะ เอา อ เปน เอ แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรูปเปน เยสานํ เยสานํ (ปุรสิ านํ) แปลวา (แกบ รุ ษุ ท.) เหลา ใด ศพั ทเ ดมิ มาจาก ย อ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง สมฺ า ปญ จมวี ภิ ตั ติ เอกวจนะ ลง สฺมา คง สฺมา ไว สำเร็จรูปเปน ยสฺมา ยสฺมา (ปุริสสฺมา) แปลวา (แตบรุ ษุ ) ใด ศัพทเดิมมาจาก ย อ การนั ต ในปงุ ลงิ ค ลง สมฺ า ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง สฺมา เปน มหฺ า สำเรจ็ รปู เปน ยมฺหา ยมฺหา (ปุรสิ มฺหา) แปลวา (แตบุรุษ) ใด ศัพทเดมิ มาจาก ย อ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง หิ ปญจมวี ภิ ัตติ พหวุ จนะ เอา อ เปน เอ ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรูปเปน เยหิ เยหิ (ปรุ ิเสห)ิ แปลวา (แตบรุ ษุ ท.) เหลา ใด ศัพทเดิมมาจาก ย อ การันต ในปุงลิงค ลง ส ฉัฏฐีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง ส เปน สสฺ สำเร็จรูปเปน ยสฺส ยสสฺ (ปุรสิ สฺส) แปลวา (แหงบุรษุ ) ใด ศัพทเดิมมาจาก ย อ การนั ต ในปงุ ลงิ ค ลง นํ ฉัฏฐีวภิ ัตติ พหุวจนะ เอา อ เปน เอ แปลง นํ เปน สํ สำเรจ็ รูปเปน เยสํ เยสํ (ปุริสาน)ํ แปลวา (แหงบุรุษ ท.) เหลา ใด ศัพทเดิมมาจาก ย อ การันต ในปงุ ลิงค ลง นํ ฉฏั ฐวี ิภตั ติ พหุวจนะ เอา อ เปน เอ แปลง นํ เปน สานํ สำเรจ็ รูปเปน เยสานํ เยสานํ (ปรุ ิสาน)ํ แปลวา (แหง บุรษุ ท.) เหลา ใด เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 370

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 371 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ยสมฺ ึ ศพั ทเดิมมาจาก ย อ การันต ในปงุ ลิงค ลง สฺมึ สตั ตมีวภิ ตั ติ เอกวจนะ ลง สฺมึ คง สมฺ ึ ไว สำเรจ็ รปู เปน ยสฺมึ ยสฺมึ (ปรุ ิสสฺม)ึ แปลวา (ในบุรุษ) ใด ยมฺหิ ศพั ทเ ดิมมาจาก ย อ การนั ต ในปงุ ลงิ ค ลง สฺมึ สัตตมวี ภิ ัตติ เอกจนะ แปลง สฺมึ เปน มหฺ ิ สำเรจ็ รปู เปน ยมหฺ ิ ยมหฺ ิ (ปรุ สิ มฺหิ) แปลวา (ในบรุ ุษ) ใด เยสุ ศัพทเดมิ มาจาก ย อ การันต ในปงุ ลิงค ลง สุ สัตตมวี ิภัตติ พหวุ จนะ เอา อ เปน เอ ลง สุ คง สุ ไว สำเร็จรปู เปน เยสุ เยสุ (ปุรเิ สส)ุ แปลวา (ในบุรษุ ท.) เหลา ใด ย ศพั ท (ใด) ใน อติ ถลี งิ ค แจกอยา งน้ี เอก. พหุ. ป. ยา ยา ทุ. ยํ ยา ต. ยาย ยาหิ จ. ยสสฺ า ยาสํ ยาสานํ ป.ฺ ยาย ยาหิ ฉ. ยสฺสา ยาสํ ยาสานํ ส. ยสฺสํ ยาสุ ย ศพั ท (ใด) ใน อิตถีลิงค มวี ิธเี ปลย่ี นวภิ ตั ติ และ การันต ดงั น้ี ยา ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทิ้งเสีย สำเร็จรูปเปน ยา ยา (อิตฺถี) แปลวา (อ.หญงิ ) ใด ยา ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ลง โย ลบ โย ทง้ิ เสีย สำเร็จรปู เปน ยา ยา (อิตถฺ โิ ย) แปลวา (อ.หญงิ ท.) เหลาใด เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 371

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 372 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ยํ ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ ยา เอกวจนะ รสั สะ อา เปน อ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรูปเปน ยํ ยํ (อิตถฺ )ึ ยาย แปลวา (ซึ่งหญิง) ใด ยาหิ ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ ยสฺสา พหวุ จนะ ลง โย ลบ โย ทิง้ เสยี สำเร็จรปู เปน ยา ยา (อติ ฺถโิ ย) แปลวา ยาสํ (ซ่ึงหญิง ท.) เหลาใด ยาสานํ ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง นา ตติยาวิภัตติ ยาย เอกวจนะ เอา อา กับ นา เปน อาย สำเร็จรูปเปน ยาย ยาย (อิตฺถยิ า) ยาหิ แปลวา (ดว ยหญงิ ) ใด ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง หิ ตติยาวิภัตติ พหุวจนะ ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรูปเปน ยาหิ ยาหิ (อิตฺถีหิ) แปลวา (ดวยหญงิ ท.) เหลาใด ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง ส จตุตถีวิภัตติ เอกวจนะ รสั สะ อา เปน อ แปลง ส เปน สฺสา สำเรจ็ รูปเปน ยสฺสา ยสฺสา (อติ ถฺ ยิ า) แปลวา (แกหญงิ ) ใด ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง นํ จตุตถีวิภัตติ พหุวจนะ แปลง นํ เปน สํ สำเร็จรูปเปน ยาสํ ยาสํ (อิตฺถีนํ) แปลวา (แกห ญิง ท.) เหลา ใด ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง นํ จตุตถีวิภัตติ พหุวจนะ แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรูปเปน ยาสานํ ยาสานํ (อิตฺถีนํ) แปลวา (แกห ญงิ ท.) เหลา ใด ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ เอา อา กับ สมฺ า เปน อาย สำเร็จรูปเปน ยาย ยาย (อติ ฺถิยา) แปลวา (แตหญิง) ใด ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง หิ ปญจมีวิภัตติ พหุวจนะ ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรูปเปน ยาหิ ยาหิ (อิตฺถีหิ) แปลวา (แตห ญงิ ท.) เหลาใด เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 372

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 373 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ยสฺสา ศพั ทเดมิ มาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง ส ฉฏั ฐีวภิ ตั ติ เอกวจนะ ยาสํ รัสสะ อา เปน อ แปลง ส เปน สฺสา สำเร็จรูปเปน ยสฺสา ยสฺสา ยาสานํ (อติ ฺถิยา) แปลวา (แหง หญงิ ) ใด ยสฺสํ ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การนั ต ในอิตถีลิงค ลง นํ ฉฏั ฐวี ิภตั ติ พหวุ จนะ ยาสุ แปลง นํ เปน สํ สำเรจ็ รปู เปน ยาสํ ยาสํ (อิตฺถีน)ํ แปลวา (แหงหญิง ท.) เหลาใด ศพั ทเ ดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถลี ิงค ลง นํ ฉฏั ฐีวิภตั ติ พหวุ จนะ แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรูปเปน ยาสานํ ยาสานํ (อิตฺถีนํ) แปลวา (แหง หญงิ ท.) เหลาใด ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สฺมึ สัตตมีวิภัตติ เอกวจนะ รสั สะ อา เปน อ แปลง สฺมึ เปน สสฺ ํ สำเรจ็ รูปเปน ยสฺสํ ยสสฺ ํ (อิตฺถยิ )ํ แปลวา (ในหญิง) ใด ศัพทเดิมมาจาก ยา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สุ สัตตมีวิภัตติ พหุวจนะ ลง สุ คง สุ ไว สำเร็จรูปเปน ยาสุ ยาสุ (อิตฺถีสุ) แปลวา (ในหญงิ ท.) เหลา ใด หมายเหตุ : ย ศัพทในอติ ถลี ิงค ลง อา ปจจัยเครอ่ื งหมายอติ ถลี ิงค มรี ูปเปน ยา เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 373

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 374 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ย ศพั ท (ใด) ใน นปงุ สกลงิ ค แจกอยางนี้ เอก. พหุ. ป. ยํ ยานิ ทุ. ยํ ยานิ ต. เยน เยหิ จ. ยสฺส เยสํ เยสานํ ปฺ. ยสมฺ า ยมฺหา เยหิ ฉ. ยสสฺ เยสํ เยสานํ ส. ยสฺมึ ยมฺหิ เยสุ ย ศพั ท (ใด) ใน นปงุ สกลงิ ค มีวธิ ีเปลีย่ นวภิ ตั ติ และ การันต เหมอื นในปุงลิงค ตา งกันเฉพาะหมวดปฐมาวิภัตติ และทตุ ยิ าวภิ ัตติ ดงั น้ี ยํ ศัพทเดิมมาจาก ย อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ แปลง สิ เปน อํ สำเร็จรูปเปน ยํ ยํ (กลุ )ํ แปลวา (อ.ตระกูล) ใด ยานิ ศัพทเดิมมาจาก ย อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ทฆี ะ อ เปน อา แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รูปเปน ยานิ ยานิ (กลุ าน)ิ แปลวา (อ.ตระกลู ท.) เหลา ใด ยํ ศัพทเดิมมาจาก ย อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรปู เปน ยํ ยํ (กุลํ) แปลวา (ซงึ่ ตระกูล) ใด ยานิ ศัพทเดิมมาจาก ย อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหุวจนะ ทีฆะ อ เปน อา แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รปู เปน ยานิ ยานิ (กลุ านิ) แปลวา (ซึ่งตระกูล ท.) เหลาใด เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 374

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 375 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ วิธใี ช ย ศพั ท ย ศัพท น้ัน พจิ ารณาเห็นวา ไมเปนอนยิ มแททเี ดยี ว เพราะเขา กนั กบั ตมุ หฺ และ อมหฺ ศัพทก ไ็ ด แตเ มอ่ื ประสงคแ ปล ย ศัพทวา ใด แลว ก็ดูเหมือนเปนอนยิ มแท โดยใชอยางวิเสสนะ คือ วาง นามนามไวห ลัง ย ศัพท ไมตอ งออกสำเนยี งอายตนบิ าต เชน เยน ปคุ ฺคเลน ธมโฺ ม สุยฺยเต, เตน สขุ ํ วินฺทิยติ ฯ แปลวา ธรรม อนั บุคคลใด ยอ มฟง , ความสุข อนั เขา ยอมไดรบั ฯ อนิยมวเิ สสนสพั พนามตอไปนี้ คือ อฺ - อ่นื , อฺตร - คนใดคนหน่ึง, อฺตม - คนใดคนหน่ึง, ปร - อื่น, อปร - อ่นื อีก, กตร - คนไหน, กตม - คนไหน, เอก - คนหนึ่ง, พวกหนง่ึ , เอกจฺจ - บางคน, บางพวก, อุภย - ทั้งสอง, สพพฺ - ทัง้ ปวง แจกเหมือน ย ศพั ท เฉพาะ เอก ศัพท และ กึ ศพั ทมวี ิธใี ชและวธิ แี จกแตกตา งออกไปบาง ดงั จะ ไดอธบิ ายตอ ไป เอก ศพั ท เอก ศัพทนี้เปนไดทั้งสังขยา และ อนิยมวิเสสนสัพพนาม ท่ีเปนสังขยา เรียกวา เอกสงั ขยา ท่ีเปน อนิยมวเิ สสนสพั พนาม เรียกวา เอกสพั พนาม มีวธิ ใี ชต าง กนั ดังน้ี เอกสังขยา ใชสำหรับเปนเคร่ืองกำหนดนับนามนาม โดยมุงใหทราบ จำนวนของนามนามวา มเี ทา ไร และใชเปน คณุ นาม เปนเอกวจนะอยา งเดยี ว เชน เทฺว เม โคณา, เตสุ เอโก โคโณ มโต ฯ แปลวา โค ท. ของเรา สองตัว, ในโค ท. สอง เหลาน้ันหนา โค ตัวหน่ึง ตายแลว ฯ เอกสัพพนาม ไมไดมุงหมายท่ีจะนับนามนามเพ่ือใหทราบจำนวน แตใช ประกอบเขา กับนามนาม เพือ่ ความสละสลวยแหง สำนวนโวหารที่กลา วขนึ้ ตนของเรอื่ ง น้ัน ๆ 375

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 376 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เชน เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถยิ ํ วหิ รติ ฯ แปลวา ในสมัยหน่งึ พระผมู พี ระภาคเจา ประทบั อยู ในเมอื งสาวัตถี ฯ เอกสัพพนามนี้ เปนไดท้ัง ๒ วจนะ สวนที่เปนพหุวจนะ แปลวา พวกหนึ่ง เชน เอเก “ทิฏ  มงฺคลนฺติ วทนฺติ ฯ” แปลวา ชนพวกหนึ่ง กลา ววา “รปู ทเี่ ห็นแลว เปนมงคล” ฯ เอก ศัพท แจกเหมือน ย ศัพท ท้ัง ๓ ลิงค มแี ปลกอยูเฉพาะใน อติ ถลี ิงค บางวิภัตติ คอื ในฝา ยเอกวจนะ จ. ฉ. เอกิสสฺ า, ส. เอกิสสฺ ํ เทานัน้ ดังน้ี เอกสพั พนาม ในอิตถลี งิ ค แจกอยา งนี้ เอก. พห.ุ ป. เอกา เอกา ทุ. เอกํ เอกา ต. เอกาย เอกาหิ จ. เอกิสสฺ า เอกาสํ เอกาสานํ ปฺ. เอกาย เอกาหิ ฉ. เอกิสสฺ า เอกาสํ เกาสานํ ส. เอกิสสฺ ํ เอกาสุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 376

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 377 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ กึ ศัพท กึ ศัพท แปลวา ใคร, หรือ, อะไร สำหรับใชเปนคำถาม ในปุงลิงค และ อิตถีลิงค แปลง กึ เปน ก แลวนำไปแจกตามแบบ ย ศัพท สวนในนปุงสกลิงค คงรูปเปน กึ อยูแตในหมวดปฐมา. ทุติยา. เอก. เทาน้ัน นอกน้ันใหแปลง กึ เปน ก เสมอ แจกเหมือน ย ศพั ท แตมีแปลกอยูบางในบางวิภตั ติ กึ ศพั ท ในนปุงสกลงิ คแ จกเปนตัวอยา งได ดังน้ี เอก. พหุ. ป. กึ กานิ ท.ุ กึ กานิ ต. เกน เกหิ จ. กสฺส (กสิ ฺส) เกสํ เกสานํ ปฺ. กสฺมา กมฺหา เกหิ ฉ. กสฺส (กิสฺส) เกสํ เกสานํ ส. กสฺมึ (กิสฺม)ึ กมหฺ ิ (กมิ ฺหิ) เกสุ ขอควรจำของ กึ ศัพท ๑. ใชอ ยางปรุ สิ สัพพนาม ใหเ ปน ประธาน แปลวา “ใคร” ไมโ ยคนาม คือ ใชตามลำพัง เหมือน ต ศัพท ปุริสสัพพนาม วาง กึ ไวโดดเดี่ยว ออกสำเนียงอายต นิบาตตามวภิ ตั ติทง้ั ๗ เหมอื นนามนาม เชน บาลี โก ตสฺมึ เคเห วสติ ฯ แปลวา ใคร ยอมอยู ในเรอื น นนั้ ฯ ๒. ใชอ ยา งคุณนาม วางนามนามไวห ลงั กึ แปลวา “ไร” หรือ “อะไร” ตอง โยคนามนาม เหมอื น ต ศัพทว เิ สสนสัพพนาม เชน บาลี โก รกุ โข แปลวา อ.ตนไมอะไร เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 377

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 378 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ บาลี กา รชชฺ ุ แปลวา อ.เชือก อะไร บาลี เกน ปคุ คฺ เลน ธมฺโม สุณยิ เต ฯ แปลวา ธรรม อันบคุ คล ไร ฟงอยู ฯ ๓. ใชอ ยา งมี จิ ตอ ทาย (ก+ึ จิ) ฝายเอกวจนะ แปลวา นอ ย, บางคน, บางส่งิ เชน โกจิ ปุริโส (ชาย บางคน) หรือ เปนคำใหวาซ้ำกัน โดยใชไมยมก (ๆ) เชน โกจิ ปุริโส (ชาย ไรๆ) ฝา ยพหวุ จนะ แปลวา บางพวก, บางเหลา , เหลา ไหน, เหลา ไร เชน เกจิ กุมารา (กมุ าร ท. บางพวก หรอื กมุ าร ท. เหลา ไหน) ใชเปนไดทั้งสัพพนามและคุณนาม เชน บาลี โกจิ มม เคหํ อาคจฺฉติ ฯ แปลวา ใครๆ ยอ มมา สเู รอื น ของเรา ฯ บาลี อหํ กิ ฺจิ ธนํ ลภามิ ฯ แปลวา เรา ยอ มได ซง่ึ ทรพั ย บางอยา ง ฯ ๔. ใชอยางมี ย นำหนา มี จิ ตอ ทาย ( ย+กึ+จิ ) ฝายเอกวจนะ แปลวา คนใดคนหน่ึง, สง่ิ ใดสิง่ หน่งึ , อยางใดอยา งหน่ึง, แหง ใดแหงหนงึ่ เชน ยา กาจิ เวทนา (เวทนา อยางใดอยา งหนงึ่ ) ฝายพหุวจนะ แปลวา พวกใดพวกหน่ึง, เหลา ใดเหลาหนง่ึ เชน เย เกจิ ชนา (ชน ท. เหลา ใดเหลา หน่ึง) ถา เปน นปุงสกลงิ ค แปลวา อนั ใดอันหนงึ่ ก็ได เชน ยานิ กานิจิ ทารูนิ (ไมฟน ท. อันใดอันหนึ่ง) และโดยมากใชเ ปนคณุ นาม เชน บาลี โย โกจิ เทโว มม เคหสฺส คพเฺ ภ นิสีทติ ฯ แปลวา เทวดา ตนใดตนหนงึ่ นง่ั อยู ในหอ ง แหงเรือน ของเรา ฯ ๕. ใชอยางคำถาม เปนกิริยาวิเสสนะ (นิบาตบอกความถาม) แปลวา หรอื และมักจะมี ปน (ก)็ ตามหลัง กึ เชน บาลี กึ ปน คามํ ปณฑฺ าย จรสิ ฯ แปลวา ก็ ทาน ยอมเท่ยี วไป สูบ า น เพอ่ื กอนขา ว หรอื ฯ ถาเปนคำถามถึงเหตทุ เี่ ปน ไมนิยมวาง ปน ศพั ทไ วตามหลัง แปลวา ทำไม, เหตุอะไร, เพราะอะไร, เพราะเหตอุ ะไร เชน บาลี กึ ปาลติ ปมชฺชสิ ฯ แปลวา แนะ ปาลิต ทำไม ทาน จึงประมาทอยู ฯ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 378

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 379 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ กึ มี ย นำหนา มี จิ ตอ ทาย ในปงุ ลิงค แจกอยา งน้ี เอก. พหุ. ป. โย โกจิ เย เกจิ ท.ุ ยงฺกจฺ ิ เย เกจิ ต. เยน เกนจิ เยหิ เกหจิ ิ จ. ยสฺส กสฺสจิ เยสํ เกสจฺ ิ เยสานํ เกสานจฺ ิ ป.ฺ ยสฺมา กสมฺ าจิ (ยมฺหา กมหฺ าจิ) เยหิ เกหจิ ิ ฉ. ยสฺส กสฺสจิ เยสํ เกสจฺ ิ เยสานํ เกสานจฺ ิ ส. ยสฺมึ กสฺมิ จฺ ิ (ยมฺหิ กมหฺ ิจิ) เยสุ เกสุจิ กึ มี ย นำหนา มี จิ ตอทา ย ในอติ ถีลิงค แจกอยางนี้ เอก. ยา กาจิ พหุ. ยา กาจิ ป. ยา กาจิ ยาหิ กาหจิ ิ ยาสานํ ยาสานฺจิ ท.ุ ยงกฺ ฺจิ ยาสํ กาสฺจิ ยาสานํ ยาสานฺจิ ต. ยาย กายจิ ยาหิ กาหจิ ิ จ. ยสสฺ า กสฺสาจิ ยาสํ กาสจฺ ิ ปฺ. ยาย กายจิ ยาสุ กาสุจิ ฉ. ยสฺสา กสสฺ าจิ ส. ยสฺสํ กสสฺ จฺ ิ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 379

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 380 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ กึ มี ย นำหนา มี จิ ตอ ทา ย ในนปงุ สกลิงค แจกอยา งนี้ เอก. พหุ. ป. ยงฺกิจฺ ิ ยานิ กานจิ ิ ท.ุ ยงฺกิฺจิ ยานิ กานิจิ ต. เยน เกนจิ เยหิ เกหิจิ จ. ยสฺส กสสฺ จิ เยสํ เกสจฺ ิ เยสานํ เกสานจฺ ิ ป.ฺ ยสฺมา กสมฺ าจิ (ยมฺหา กมหฺ าจิ) เยหิ เกหจิ ิ ฉ. ยสสฺ กสฺสจิ เยสํ เกสฺจิ เยสานํ เกสานฺจิ ส. ยสมฺ ึ กสมฺ ิ จฺ ิ (ยมหฺ ิ กมฺหจิ )ิ เยสุ เกสจุ ิ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 380

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 381 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ นิยมวิเสสนสพั พนาม นิยม แปลวา กำหนด, แนน อน คือ กลา วชี้ตวั นามนามใหป รากฏโดยชัดเจน ลงไปวา สง่ิ น้ัน, ส่ิงนี้ มี ๔ ศพั ท คอื ๑. ต ใชแทนนามนาม ท่ีอยูหางออกไปพอประมาณ หรือที่กลาวปรากฏ ชดั ลงไปวา คนน้นั , ส่ิงนั้น ๒. เอต ใชแทนนามนาม ท่ีอยูใกลเขามาหนอยหนึ่ง หรือการกลาวย้ำให ปรากฏชัดเปนครัง้ ทส่ี องวา คนนั่น, สิ่งน่ัน ๓. อิม ใชแทนนามนาม ท่ีอยูใกลท่ีสุด หรือการกลาวแนชัดวา เปนคนน้ี หรอื สิ่งน้ี ๔. อมุ ใชแ ทนนามนาม ทอี่ ยูห างไกลทสี่ ดุ วา คนโนน , สิง่ โนน ต ศพั ท นิยมวเิ สสนสัพพนาม ต ศพั ท นีม้ อี ยทู งั้ ในปรุ ิสสัพพนามและวเิ สสนสพั พนาม ใชตางกันดงั นี้ ๑. ท่ีเปนปุริสสัพพนาม ใชแทนชื่อนามนามโดยตรง ไมตองวางนามนาม ที่ใชแทนไว เรียงไวเฉพาะ ต ศัพทเทาน้ัน แปลวา ทาน, เธอ, เขา, มัน เปนตน แปลออกสำเนียงอายตนบิ าตตามวิภัตติท้ัง ๗ เหมอื นนามนาม เชน อาจริโย สสิ ฺสํ โอวทต,ิ โส หิ ตสฺส วุฑฺฒึ อาสสึ ติ ฯ แปลวา อาจารย สงั่ สอนอยู ซ่งึ ศิษย, เพราะวา ทา น หวงั อยู ซง่ึ ความเจรญิ แกเ ขา ฯ ๒. ที่เปนวิเสสนสัพพนาม มีวธิ ีแจกและเปลยี่ นวิภัตตเิ หมอื นปรุ ิสสัพพนาม ท่ีกลาวแลวขางตน (หนวยที่ ๑๕) ใชเปนคำขยายอยางคุณนาม เอก. แปลวา นั้น พหุ. แปลวา เหลานั้น วางไวหนาคำท่ีตนขยาย ไมตองออกสำเนียงอายตนิบาต เหมือนนามนาม เชน โส อปุ าสโก อาจริยสสฺ ตํ สาสนํ สณุ าติ ฯ แปลวา อบุ าสก นนั้ ฟงอยู ซงึ่ คำสอน นัน้ ของอาจารย ฯ เต กมุ ารา เถรํ วนทฺ ิตวฺ า นิสที ึสฯุ แปลวา กุมาร ท.เหลานัน้ ไหวแลว ซง่ึ พระเถระ น่งั แลว ฯ 381

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 382 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เอต ศัพท นิยมวิเสสนสัพพนาม เอต ศพั ท (นน่ั ) ใน ปุงลงิ ค แจกอยางนี้ เอก. พหุ. ป. เอโส เอเต ทุ. เอตํ เอนํ เอเต ต. เอเตน เอเตหิ จ. เอตสสฺ เอเตสํ เอเตสานํ ป.ฺ เอตสฺมา เอตมหฺ า เอเตหิ ฉ. เอตสสฺ เอเตสํ เอเตสานํ ส. เอตสฺมึ เอตมฺหิ เอเตสุ เอต ศัพท (น่นั ) ใน อิตถีลงิ ค แจกอยา งนี้ เอก. พห.ุ ป. เอสา เอตา ทุ. เอตํ เอนํ เอตา ต. เอตาย เอตาหิ จ. เอตสฺสา เอติสฺสา เอตสสฺ าย เอตาสํ เอตาสานํ ปฺ. เอตาย เอตาหิ ฉ. เอตสฺสา เอตสิ สฺ า เอตสสฺ าย เอตาสํ เอตาสานํ ส. เอตสฺสํ เอติสสฺ ํ เอตาสุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 382

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 383 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เอต ศพั ท (นนั่ ) ใน นปุงสกลิงค แจกอยา งน้ี เอก. พห.ุ ป. เอตํ เอตานิ ท.ุ เอตํ เอนํ เอตานิ ต. เอเตน เอเตหิ จ. เอตสสฺ เอเตสํ เอเตสานํ ปฺ. เอตสมฺ า เอตมหฺ า เอเตหิ ฉ. เอตสสฺ เอเตสํ เอเตสานํ ส. เอตสมฺ ึ เอตมฺหิ เอเตสุ วิธีใช เอต ศพั ท เอต ศัพท มวี ธิ เี ปล่ยี นวิภตั ตแิ ละการนั ตเ หมอื นกันกับ ต ศพั ท (หนว ยที่ ๑๕) ผูศกึ ษาพึงดูเทยี บเคียงเอาเถิด และ เอต ศัพทใชเปนคุณนาม เอก. แปลวา นั่น พหุ. แปลวา เหลานั่น วางไวหนา ศัพทท่ีตนขยาย เชน เอโส ภกิ ฺขุ ธมฺมํ เทเสติ ฯ แปลวา ภกิ ษุ นัน่ แสดงอยู ซง่ึ ธรรม ฯ มยํ เอตาหิ อติ ถฺ หี ิ สทฺธึ คามํ คจฺฉาม ฯ แปลวา เรา ท. ไปอยู สูบา น กบั ดว ยหญิง ท. เหลานัน่ ฯ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 383

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 384 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ อมิ ศัพท นิยมวเิ สสนสพั พนาม อิม ศพั ท (นี้) ใน ปุงลิงค แจกอยางนี้ เอก. พห.ุ ป. อยํ อเิ ม ทุ. อิมํ อิเม ต. อิมินา อเนน อิเมหิ จ. อมิ สสฺ อสฺส อเิ มสํ อเิ มสานํ ป.ฺ อมิ สฺมา อมิ มหฺ า อสฺมา อเิ มหิ ฉ. อิมสสฺ อสฺส อเิ มสํ อิเมสานํ ส. อิมสฺมึ อิมมฺหิ อสฺมึ อเิ มสุ อิม ศัพท (นี)้ ใน ปงุ ลิงค มีวิธีเปล่ียนวิภตั ติ และ การนั ต ดังน้ี อยํ ศพั ทเดมิ มาจาก อมิ อ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง สิ ปฐมาวภิ ตั ติ เอกวจนะ เอา อมิ กับ สิ เปน อยํ สำเรจ็ รูปเปน อยํ อยํ (มนุ ิ) แปลวา (อ.ผรู ู) น้ี อเิ ม ศัพทเ ดมิ มาจาก อมิ อ การนั ต ในปงุ ลิงค ลง โย ปฐมาวภิ ัตติ พหุวจนะ เอา อ กับ โย เปน เอ สำเรจ็ รูปเปน อิเม อิเม (มนุ ี) แปลวา (อ.ผูรู ท.) เหลาน้ี อิมํ ศัพทเดมิ มาจาก อมิ อ การนั ต ในปงุ ลงิ ค ลง อํ ทตุ ยิ าวภิ ัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรูปเปน อิมํ อิมํ (มุน)ึ แปลวา (ซึ่งผูรู) นี้ อเิ ม ศพั ทเ ดมิ มาจาก อิม อ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง โย ทตุ ิยาวิภัตติ พหุวจนะ เอา อ กบั โย เปน เอ สำเร็จรูปเปน อเิ ม อิเม (มนุ )ี แปลวา (ซึง่ ผูร ู ท.) เหลา น้ี อิมินา ศัพทเ ดมิ มาจาก อิม อ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง นา ตตยิ าวิภตั ติ เอกวจนะ เอา อ ที่สุดแหง อมิ เปน อิ ลง นา คง นา ไว สำเรจ็ รปู เปน อิมินา อมิ นิ า (มนุ ินา) แปลวา (ดวยผรู ู) นี้ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 384

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 385 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ อเนน ศัพทเดิมมาจาก อมิ อ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง นา ตติยาวิภัตติ เอกวจนะ อเิ มหิ แปลง อมิ เปน อน เอา อ กบั นา เปน เอน สำเร็จรปู เปน อเนน อเนน อิมสฺส (มุนนิ า) แปลวา (ดว ยผรู ู) น้ี อสสฺ ศพั ทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในปงุ ลิงค ลง หิ ตตยิ าวิภตั ติ พหุวจนะ อิเมสํ เอา อ เปน เอ ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรปู เปน อเิ มหิ อเิ มหิ (มนุ ีห)ิ แปลวา อเิ มสานํ (ดวยผรู ู ท.) เหลา นี้ อิมสมฺ า ศพั ทเดมิ มาจาก อิม อ การันต ในปงุ ลิงค ลง ส จตตุ ถวี ภิ ตั ติ เอกวจนะ อมิ มหฺ า แปลง ส เปน สสฺ สำเรจ็ รปู เปน อิมสฺส อมิ สฺส (มุนสิ ฺส) แปลวา (แกผูร ู) น้ี อสมฺ า ศพั ทเ ดมิ มาจาก อมิ อ การันต ในปุงลงิ ค ลง ส จตตุ ถวี ิภตั ติ เอกวจนะ แปลง อมิ เปน อ แปลง ส เปน สสฺ สำเรจ็ รูปเปน อสฺส อสสฺ (มนุ ิโน) แปลวา (แกผ รู )ู นี้ ศพั ทเ ดมิ มาจาก อิม อ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง นํ จตตุ ถีวภิ ตั ติ พหุวจนะ เอา อ เปน เอ แปลง นํ เปน สํ สำเร็จรูปเปน อิเมสํ อเิ มสํ (มนุ ีนํ) แปลวา (แกผ ูรู ท.) เหลานี้ ศพั ทเ ดิมมาจาก อิม อ การันต ในปงุ ลิงค ลง นํ จตุตถวี ภิ ัตติ พหวุ จนะ เอา อ เปน เอ แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรูปเปน อิเมสานํ อิเมสานํ (มนุ ีนํ) แปลวา (แกผ รู ู ท.) เหลา น้ี ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในปุงลิงค ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ ลง สมฺ า คง สฺมา ไว สำเรจ็ รปู เปน อมิ สฺมา อิมสมฺ า (มุนิสมฺ า) แปลวา (แตผรู ู) น้ี ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในปุงลิงค ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง สฺมา เปน มฺหา สำเรจ็ รปู เปน อิมมหฺ า อิมมฺหา (มนุ ิมฺหา) แปลวา (แตผ รู ู) นี้ ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในปุงลิงค ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง อิม เปน อ ลง สมฺ า คง สฺมา ไว สำเร็จรปู เปน อสมฺ า อสฺมา (มุนสิ ฺมา) แปลวา (แตผ ูร)ู น้ี เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 385

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 386 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ อิเมหิ ศัพทเ ดมิ มาจาก อิม อ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง หิ ปญ จมวี ภิ ัตติ พหุวจนะ เอา อ เปน เอ ลง หิ คง หิ ไว สำเรจ็ รูปเปน อเิ มหิ อิเมหิ (มุนหี ิ) แปลวา อิมสฺส (แตผ ูร ู ท.) เหลานี้ อสฺส ศัพทเดมิ มาจาก อมิ อ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง ส ฉฏั ฐวี ภิ ัตติ เอกวจนะ แปลง ส เปน สสฺ สำเร็จรูปเปน อมิ สฺส อิมสฺส (มนุ สิ ฺส) แปลวา (แหง ผูร )ู น้ี อิเมสํ ศพั ทเ ดมิ มาจาก อิม อ การนั ต ในปงุ ลงิ ค ลง ส ฉฏั ฐีวภิ ัตติ เอกวจนะ แปลง อิม เปน อ แปลง ส เปน สฺส สำเรจ็ รูปเปน อสสฺ อสสฺ (มนุ ิโน) อเิ มสานํ แปลวา (แหง ผรู )ู นี้ ศพั ทเ ดิมมาจาก อมิ อ การันต ในปงุ ลิงค ลง นํ ฉฏั ฐวี ิภัตติ พหุวจนะ อมิ สมฺ ึ เอา อ เปน เอ แปลง นํ เปน สํ สำเร็จรูปเปน อิเมสํ อเิ มสํ (มุนีนํ) แปลวา อมิ มหฺ ิ (แหง ผรู ู ท.) เหลา นี้ อสฺมึ ศัพทเ ดมิ มาจาก อมิ อ การันต ในปุงลิงค ลง นํ ฉฏั ฐวี ิภตั ติ พหวุ จนะ เอา อ เปน เอ แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรปู เปน อิเมสานํ อเิ มสานํ (มุนนี )ํ อิเมสุ แปลวา (แหง ผรู ู ท.) เหลานี้ ศัพทเ ดมิ มาจาก อิม อ การันต ในปงุ ลิงค ลง สมฺ ึ สัตตมีวภิ ัตติ เอกวจนะ ลง สฺมึ คง สมฺ ึ ไว สำเร็จรูปเปน อมิ สมฺ ึ อิมสมฺ ึ (มนุ ิสฺม)ึ แปลวา (ในผูร)ู นี้ ศพั ทเ ดมิ มาจาก อิม อ การนั ต ในปุงลิงค ลง สฺมึ สัตตมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง สมฺ ึ เปน มหฺ ิ สำเรจ็ รปู เปน อมิ มฺหิ อมิ มฺหิ (มุนมิ หฺ ิ) แปลวา (ในผูรู) น้ี ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การนั ต ในปงุ ลิงค ลง สมฺ ึ สัตตมีวภิ ตั ติ เอกวจนะ แปลง อิม เปน อ ลง สมฺ ึ คง สฺมึ ไว สำเร็จรูปเปน อสมฺ ึ อสฺมึ (มุนสิ มฺ ึ) แปลวา (ในผรู ู) นี้ ศพั ทเ ดมิ มาจาก อมิ อ การันต ในปุงลงิ ค ลง สุ สัตตมีวิภัตติ พหุวจนะ เอา อ เปน เอ ลง สุ คง สุ ไว สำเร็จรูปเปน อิเมสุ อเิ มสุ (มนุ ีสุ) แปลวา (ในผูรู ท.) เหลานี้ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 386

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 387 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ อิม ศพั ท (นี้) ใน อิตถีลงิ ค แจกอยางนี้ เอก. พห.ุ ป. อยํ อมิ า ท.ุ อิมํ อิมา ต. อมิ าย อิมาหิ จ. อมิ สิ สฺ า อิมิสฺสาย อสฺสา อิมาสํ อิมาสานํ ปฺ. อมิ าย อมิ าหิ ฉ. อมิ ิสฺสา อมิ ิสสฺ า อสสฺ า อิมาสํ อมิ าสานํ ส. อมิ ิสสฺ ํ อสสฺ ํ อมิ าสุ อมิ ศพั ท (น้ี) ใน อติ ถลี งิ ค มวี ธิ เี ปล่ยี นวภิ ัตติ และ การันต ดงั นี้ อยํ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ เอา อิมา กับ สิ เปน อยํ สำเร็จรูปเปน อยํ อยํ (อจฺฉรา) แปลวา (อ.นางอปั สร) น้ี อมิ า ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ลง โย ลบ โย ท้ิงเสีย สำเร็จรูปเปน อิมา อิมา (อจฺฉราโย) แปลวา (อ.นางอัปสร ท.) เหลาน้ี อมิ ํ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ รสั สะ อา เปน อ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรูปเปน อิมํ อิมํ (อจฉฺ ร)ํ แปลวา (ซึง่ นางอปั สร) น้ี อมิ า ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหุวจนะ ลง โย ลบ โย ทิ้งเสีย สำเร็จรูปเปน อิมา อิมา (อจฺฉราโย) แปลวา (ซึง่ นางอปั สร ท.) เหลาน้ี อมิ าย ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง นา ตติยาวิภัตติ เอกวจนะ แปลง อา กับ นา เปน อาย สำเร็จรูปเปน อิมาย อิมาย (อจฺฉราย) แปลวา (ดว ยนางอปั สร) นี้ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 387

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 388 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ อิมาหิ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง หิ ตติยาวิภัตติ อมิ สิ ฺสา พหวุ จนะ ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรูปเปน อมิ าหิ อิมาหิ (อจฉฺ ราหิ) แปลวา อิมสิ สฺ าย (ดวยนางอปั สร ท.) เหลานี้ อสฺสา ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง ส จตุตถีวิภัตติ อมิ าสํ เอกวจนะ แปลง อา ทส่ี ุดแหง อมิ า เปน อิ แปลง ส เปน สสฺ า สำเร็จรปู อิมาสานํ เปน อิมสิ สฺ า อิมสิ ฺสา (อจฉฺ ราย) แปลวา (แกนางอปั สร) น้ี อมิ าย ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง ส จตุตถีวิภัตติ อิมาหิ เอกวจนะ แปลง อา ท่ีสดุ แหง อมิ า เปน อิ แปลง ส เปน สฺสาย สำเรจ็ รปู อมิ สิ ฺสา เปน อมิ สิ สฺ าย อมิ ิสฺสาย (อจฺฉราย) แปลวา (แกน างอปั สร) นี้ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง ส จตุตถีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง อมิ า เปน อ แปลง ส เปน สฺสา สำเร็จรูปเปน อสสฺ า อสสฺ า (อจฺฉราย) แปลวา (แกน างอัปสร) นี้ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง นํ จตุตถีวิภัตติ พหวุ จนะ แปลง นํ เปน สํ สำเรจ็ รปู เปน อิมาสํ อิมาสํ (อจฺฉราน)ํ แปลวา (แกนางอัปสร ท.) เหลา น้ี ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง นํ จตุตถีวิภัตติ พหวุ จนะ แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรปู เปน อมิ าสานํ อิมาสานํ (อจฉฺ รานํ) แปลวา (แกน างอัปสร ท.) เหลา น้ี ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง อา กับ สฺมา เปน อาย สำเร็จรูปเปน อิมาย อิมาย (อจฺฉราย) แปลวา (แตน างอปั สร) นี้ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง หิ ปญจมีวิภัตติ พหุวจนะ ลง หิ คง หิ ไว สำเรจ็ รปู เปน อมิ าหิ อมิ าหิ (อจฉฺ ราหิ) แปลวา (แตน างอปั สร ท.) เหลา นี้ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง ส ฉัฏฐีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง อา ที่สดุ แหง อิมา เปน อิ แปลง ส เปน สฺสา สำเรจ็ รูป เปน อิมสิ ฺสา อิมิสสฺ า (อจฉฺ ราย) แปลวา (แหงนางอปั สร) นี้ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 388

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 389 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ อมิ ิสสฺ าย ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง ส ฉัฏฐีวิภัตติ อสสฺ า เอกวจนะ แปลง อา ที่สุดแหง อมิ า เปน อิ แปลง ส เปน สฺสาย สำเรจ็ รปู อิมาสํ เปน อมิ ิสสฺ าย อมิ สิ ฺสาย (อจฉฺ ราย) แปลวา (แหง นางอปั สร) น้ี อิมาสานํ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง ส ฉัฏฐีวิภัตติ อมิ ิสสฺ ํ เอกวจนะ แปลง อมิ า เปน อ แปลง ส เปน สสฺ า สำเรจ็ รูปเปน อสสฺ า อสฺสํ อสสฺ า (อจฉฺ ราย) แปลวา (แหง นางอปั สร) นี้ อิมาสุ ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง นํ ฉัฏฐีวิภัตติ พหวุ จนะ แปลง นํ เปน สํ สำเร็จรูปเปน อิมาสํ อมิ าสํ (อจฉฺ ราน)ํ แปลวา (แหงนางอปั สร ท.) เหลา น้ี ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง นํ ฉัฏฐีวิภัตติ พหวุ จนะ แปลง นํ เปน สานํ สำเรจ็ รูปเปน อมิ าสานํ อิมาสานํ (อจฺฉราน)ํ แปลวา (แหง นางอปั สร ท.) เหลาน้ี ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สฺมึ สัตตมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง อา ท่สี ดุ แหง อิมา เปน อิ แปลง สมฺ ึ เปน สสฺ ํ สำเรจ็ รูป เปน อมิ ิสฺสํ อมิ สิ ฺสํ (อจฉฺ ราย) แปลวา (ในนางอปั สร) น้ี ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สฺมึ สัตตมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง อิมา เปน อ แปลง สมฺ ึ เปน สฺสํ สำเร็จรปู เปน อสสฺ ํ อสฺสํ (อจฺฉรายํ) แปลวา (ในนางอัปสร) น้ี ศัพทเดิมมาจาก อิมา อา การันต ในอิตถีลิงค ลง สุ สัตตมีวิภัตติ พหุวจนะ ลง สุ คง สุ ไว สำเรจ็ รูปเปน อมิ าสุ อมิ าสุ (อจฺฉราส)ุ แปลวา (ในนางอัปสร ท.) เหลา น้ี หมายเหตุ : อิม ศพั ทในอติ ถีลงิ ค ลง อา ปจจัยเครอ่ื งหมายอติ ถีลงิ ค มีรูปเปน อิมา เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 389

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 390 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ อิม ศัพท (น้)ี ใน นปุงสกลิงค แจกอยางน้ี เอก. พหุ. ป. อิทํ อิมานิ ทุ. อิทํ อมิ ํ อมิ านิ ต. อมิ นิ า อเนน อเิ มหิ จ. อมิ สสฺ อสฺส อเิ มสํ อิเมสานํ ป.ฺ อมิ สมฺ า อมิ มหฺ า อสฺมา อิเมหิ ฉ. อมิ สฺส อสฺส อิเมสํ อเิ มสานํ ส. อมิ สมฺ ึ อิมมฺหิ อสฺมึ อเิ มสุ อมิ ศพั ท (นี้) ใน นปุงสกลงิ ค มวี ิธีเปลย่ี นวภิ ตั ติ และการันต เหมือนในปงุ ลงิ ค ตา งกันเฉพาะหมวดปฐมาวิภัตติ และทตุ ยิ าวิภัตติ ดังน้ี อิทํ ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ เอา อิม กบั สิ เปน อทิ ํ สำเรจ็ รูปเปน อทิ ํ อทิ ํ (ปณฺณ)ํ แปลวา (อ.หนังสอื ) นี้ อิมานิ ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ทีฆะ อ เปน อา แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รปู เปน อมิ านิ อิมานิ (ปณฺณานิ) แปลวา (อ.หนังสือ ท.) เหลา นี้ อทิ ํ ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ เอา อิม กบั อํ เปน อทิ ํ สำเร็จรูปเปน อทิ ํ อิทํ (ปณฺณ)ํ แปลวา (ซึ่งหนังสือ) น้ี อิมํ ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรูปเปน อิมํ อิมํ (ปณฺณํ) แปลวา (ซึ่งหนังสือ) น้ี อมิ านิ ศัพทเดิมมาจาก อิม อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหวุ จนะ ทีฆะ อ เปน อา แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รูปเปน อิมานิ อมิ านิ (ปณณฺ าน)ิ แปลวา (ซ่งึ หนังสอื ท.) เหลานี้ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 390

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 391 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ วิธใี ช อิม ศพั ท อิม ศพั ทนี้ ใชอ ยางคณุ นาม ฝายเอก. แปลวา นี้ ฝายพห.ุ แปลวา เหลา น้ี วางไวหนาคำทต่ี นขยาย เชน อหํ อมิ สิ สฺ า อิตฺถยิ า ธนํ เทมิ ฯ แปลวา ขาพเจา ยอ มให ซึง่ ทรัพย แกหญงิ น้ี ฯ อเิ ม นรา กมฺมํ กโรนตฺ ิ ฯ แปลวา คน ท. เหลาน้ี ทำอยู ซ่งึ การงาน ฯ 391

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 392 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ อมุ ศัพท นยิ มวเิ สสนสพั พนาม อมุ ศพั ท (โนน ) ใน ปุงลิงค แจกอยางน้ี เอก. พหุ. ป. อมุ อมู ทุ. อมุ อมู ต. อมุนา อมหู ิ จ. อมสุ สฺ อมุโน อมูสํ อมสู านํ ป.ฺ อมุสฺมา อมมุ หฺ า อมูหิ ฉ. อมุสฺส อมโุ น อมูสํ อมูสานํ ส. อมุสฺมึ อมุมฺหิ อมูสุ อมุ ศัพท (โนน) ใน ปุงลิงค มวี ิธเี ปลี่ยนวภิ ัตติ และ การนั ต ดงั นี้ อมุ ศัพทเดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง สิ ปฐมาวภิ ัตติ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทง้ิ เสีย สำเร็จรปู เปน อมุ อมุ (ชโน) แปลวา (อ.ชน) โนน อมู ศพั ทเดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง โย ปฐมาวภิ ตั ติ พหวุ จนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง โย ลบ โย ทิ้งเสีย สำเร็จรูปเปน อมู อมู (ชนา) แปลวา (อ.ชน ท.) เหลา โนน อมุ ศพั ทเ ดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในปงุ ลิงค ลง อํ ทุตยิ าวิภัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเรจ็ รปู เปน อมุ อมุ (ชน)ํ แปลวา (ซ่งึ ชน) โนน อมู ศพั ทเดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง โย ทุตยิ าวิภตั ติ พหวุ จนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง โย ลบ โย ทิ้งเสีย สำเร็จรูปเปน อมู อมู (ชเน) แปลวา (ซ่งึ ชน ท.) เหลาโนน อมนุ า ศพั ทเ ดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในปงุ ลงิ ค ลง นา ตตยิ าวิภตั ติ เอกวจนะ ลง นา คง นา ไว สำเร็จรปู เปน อมุนา อมนุ า (ชเนน) แปลวา (ดว ยชน) โนน อมหู ิ ศพั ทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในปงุ ลงิ ค ลง หิ ตตยิ าวภิ ตั ติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรปู เปน อมหู ิ อมหู ิ (ชเนหิ) แปลวา (ดวยชน ท.) เหลา โนน เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 392

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 393 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ อมุสฺส ศัพทเ ดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในปงุ ลิงค ลง ส จตตุ ถีวภิ ตั ติ เอกวจนะ อมุโน แปลง ส เปน สสฺ สำเรจ็ รปู เปน อมสุ สฺ อมุสสฺ (ชนสฺส) แปลวา (แกชน) โนน อมสู ํ ศัพทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในปุงลิงค ลง ส จตตุ ถวี ภิ ัตติ เอกวจนะ แปลง ส เปน โน สำเรจ็ รูปเปน อมุโน อมุโน (ชนสสฺ ) แปลวา (แกช น) โนน อมสู านํ ศัพทเดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง นํ จตุตถวี ิภตั ติ พหุวจนะ ทฆี ะ อุ เปน อู แปลง นํ เปน สํ สำเรจ็ รูปเปน อมสู ํ อมูสํ (ชนาน)ํ แปลวา อมุสฺมา (แกชน ท.) เหลา โนน ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง นํ จตุตถวี ภิ ตั ติ พหุวจนะ อมุมหฺ า ทฆี ะ อุ เปน อู แปลง นํ เปน สานํ สำเรจ็ รปู เปน อมสู านํ อมสู านํ (ชนานํ) แปลวา (แกช น ท.) เหลาโนน อมูหิ ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในปุงลิงค ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ ลง สมฺ า คง สฺมา ไว สำเรจ็ รูปเปน อมุสมฺ า อมุสมฺ า (ชนสฺมา) อมสุ สฺ แปลวา (แตช น) โนน อมุโน ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในปุงลิงค ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ อมสู ํ เอกวจนะ แปลง สฺมา เปน มฺหา สำเร็จรูปเปน อมมุ หฺ า อมุมฺหา (ชนมหฺ า) แปลวา (แตชน) โนน อมูสานํ ศัพทเดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในปุงลิงค ลง หิ ปญ จมีวิภัตติ พหวุ จนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรปู เปน อมูหิ อมูหิ (ชเนหิ) แปลวา (แตชน ท.) เหลา โนน ศัพทเ ดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในปงุ ลิงค ลง ส ฉฏั ฐีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง ส เปน สสฺ สำเรจ็ รปู เปน อมุสสฺ อมุสฺส (ชนสสฺ ) แปลวา (แหง ชน) โนน ศัพทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง ส ฉัฏฐวี ภิ ัตติ เอกวจนะ แปลง ส เปน โน สำเรจ็ รูปเปน อมโุ น อมุโน (ชนสสฺ ) แปลวา (แหงชน) โนน ศพั ทเดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในปงุ ลิงค ลง นํ ฉัฏฐีวิภัตติ พหวุ จนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง นํ เปน สํ สำเร็จรูปเปน อมสู ํ อมสู ํ (ชนาน)ํ แปลวา (แหง ชน ท.) เหลาโนน ศพั ทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในปุงลิงค ลง นํ ฉฏั ฐวี ิภัตติ พหวุ จนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรูปเปน อมูสานํ อมสู านํ (ชนานํ) แปลวา (แหงชน ท.) เหลาโนน เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 393

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 394 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) อมสุ มฺ ึ ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง สมฺ ึ สตั ตมีวภิ ตั ติ เอกวจนะ ลง สฺมึ คง สฺมึ ไว สำเรจ็ รปู เปน อมสุ ฺมึ อมุสฺมึ (ชนสฺม)ึ แปลวา (ในชน) โนน อมมุ ฺหิ ศพั ทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในปุงลิงค ลง สฺมึ สัตตมวี ภิ ัตติ เอกวจนะ แปลง สฺมึ เปน มฺหิ สำเร็จรูปเปน อมุมฺหิ อมุมฺหิ (ชนมฺหิ) แปลวา (ในชน) โนน อมูสุ ศัพทเดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในปุงลงิ ค ลง สุ สัตตมีวิภตั ติ พหวุ จนะ ทฆี ะ อุ เปน อู ลง สุ คง สุ ไว สำเร็จรูปเปน อมสู ุ อมสู ุ (ชเนส)ุ แปลวา (ในชน ท.) เหลา โนน 394

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 395 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ อมุ ศัพท (โนน) ใน อติ ถีลิงค แจกอยา งน้ี เอก. พห.ุ ป. อมุ อมู ท.ุ อมุ อมู ต. อมุยา อมูหิ จ. อมุสฺสา อมสู ํ อมสู านํ ปฺ. อมุยา อมูหิ ฉ. อมุสสฺ า อมูสํ อมูสานํ ส. อมสุ ฺสํ อมูสุ อมุ ศัพท (โนน) ใน อติ ถีลิงค มีวิธีเปลยี่ นวิภัตติ และ การนั ต ดงั นี้ อมุ ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในอติ ถลี งิ ค ลง สิ ปฐมาวภิ ตั ติ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทิ้งเสีย สำเรจ็ รูปเปน อมุ อมุ (สาลา) แปลวา (อ.ศาลา) โนน อมู ศัพทเดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในอิตถลี ิงค ลง โย ปฐมาวิภตั ติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง โย ลบ โย ทงิ้ เสีย สำเร็จรูปเปน อมู อมู (สาลาโย) แปลวา (อ.ศาลา ท.) เหลาโนน อมุ ศพั ทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในอิตถลี ิงค ลง อํ ทุติยาวภิ ัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรูปเปน อมุ อมุ (สาลํ) แปลวา (ซง่ึ ศาลา) โนน อมู ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในอิตถีลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหวุ จนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง โย ลบ โย ทิ้งเสีย สำเรจ็ รปู เปน อมู อมู (สาลาโย) แปลวา (ซึง่ ศาลา ท.) เหลาโนน อมุยา ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในอิตถีลิงค ลง นา ตติยาวิภัตติ เอกวจนะ แปลง นา เปน ยา สำเร็จรูปเปน อมุยา อมุยา (สาลาย) แปลวา (ดว ยศาลา) โนน เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 395

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 396 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ อมหู ิ ศพั ทเดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในอิตถลี ิงค ลง หิ ตติยาวภิ ตั ติ พหุวจนะ อมสุ สฺ า ทีฆะ อุ เปน อู ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรูปเปน อมูหิ อมูหิ (สาลาหิ) อมูสํ แปลวา (ดวยศาลา ท.) เหลา โนน อมสู านํ ศพั ทเดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในอิตถลี ิงค ลง ส จตุตถีวภิ ัตติ เอกวจนะ อมุยา แปลง ส เปน สฺสา สำเร็จรูปเปน อมุสฺสา อมุสฺสา (สาลาย) แปลวา อมหู ิ (แกศ าลา) โนน อมุสฺสา ศัพทเดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในอิตถลี ิงค ลง นํ จตตุ ถีวภิ ัตติ พหุวจนะ อมูสํ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง นํ เปน สํ สำเร็จรูปเปน อมูสํ อมูสํ (สาลานํ) อมสู านํ แปลวา (แกศ าลา ท.) เหลา โนน ศัพทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในอิตถลี ิงค ลง นํ จตุตถวี ิภตั ติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรูปเปน อมูสานํ อมูสานํ (สาลาน)ํ แปลวา (แกศ าลา ท.) เหลา โนน ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในอิตถีลิงค ลง สฺมา ปญจมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง สฺมา เปน ยา สำเร็จรูปเปน อมุยา อมุยา (สาลาย) แปลวา (แตศาลา) โนน ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในอิตถีลิงค ลง หิ ปญจมีวิภัตติ พหวุ จนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง หิ คง หิ ไว สำเร็จรูปเปน อมูหิ อมหู ิ (สาลาหิ) แปลวา (แตศาลา ท.) เหลา โนน ศัพทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในอิตถลี งิ ค ลง ส ฉัฏฐวี ภิ ตั ติ เอกวจนะ แปลง ส เปน สฺสา สำเร็จรูปเปน อมุสฺสา อมุสฺสา (สาลาย) แปลวา (แหงศาลา) โนน ศัพทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในอิตถลี ิงค ลง นํ ฉัฏฐีวิภตั ติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง นํ เปน สํ สำเร็จรูปเปน อมูสํ อมูสํ (สาลานํ) แปลวา (แหง ศาลา ท.) เหลาโนน ศัพทเ ดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในอิตถีลิงค ลง นํ จตตุ ถีวิภตั ติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง นํ เปน สานํ สำเร็จรูปเปน อมูสานํ อมูสานํ (สาลานํ) แปลวา (แกศาลา ท.) เหลาโนน เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 396

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 397 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ อมสุ ฺสํ ศัพทเดิมมาจาก อมุ อุ การันต ในอิตถีลิงค ลง สฺมึ สัตตมีวิภัตติ เอกวจนะ แปลง สฺมึ เปน สฺสํ สำเร็จรูปเปน อมุสฺสํ อมุสฺสํ (สาลาย) แปลวา (ในศาลา) โนน อมูสุ ศัพทเ ดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในอติ ถลี งิ ค ลง สุ สัตตมวี ภิ ตั ติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง สุ คง สุ ไว สำเร็จรปู เปน อมสู ุ อมูสุ (สาลาส)ุ แปลวา (ในศาลา ท.) เหลา โนน 397

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 398 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ อมุ ศพั ท (โนน) ใน นปุงสกลงิ ค แจกอยา งน้ี เอก. พหุ. ป. อทุํ อมนู ิ ทุ. อทุํ อมูนิ ต. อมนุ า อมหู ิ จ. อมสุ สฺ อมโุ น อมูสํ อมสู านํ ป.ฺ อมุสมฺ า อมุมหฺ า อมูหิ ฉ. อมุสฺส อมโุ น อมูสํ อมูสานํ ส. อมุสฺมึ อมมุ หฺ ิ อมูสุ อมุ ศพั ท (โนน ) ใน นปงุ สกลิงค มีวิธเี ปลีย่ นวภิ ตั ติ และการนั ต เหมอื นในปงุ ลิงค ตางกันเฉพาะหมวดปฐมาวิภตั ติ และทุตยิ าวิภตั ติ ดงั นี้ อทุ  ศพั ทเดมิ มาจาก อมุ อุ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ เอา อมุ กับ สิ เปน อทุ สำเรจ็ รูปเปน อทุ  อทุ  (กุลํ) แปลวา (อ.ตระกูล) โนน อมนู ิ ศพั ทเดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในปุงลงิ ค ลง โย ปฐมาวิภตั ติ พหวุ จนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง โย เปน นิ สำเร็จรูปเปน อมูนิ อมูนิ (กุลานิ) แปลวา (อ.ตระกูล ท.) เหลา โนน อทุ  ศัพทเดมิ มาจาก อมุ อุ การันต ในปงุ ลงิ ค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ เอา อมุ กับ อํ เปน อทุํ สำเร็จรูปเปน อทุ อทุ (ชน)ํ แปลวา (ซึง่ ชน) โนน อมนู ิ ศพั ทเ ดิมมาจาก อมุ อุ การนั ต ในปงุ ลิงค ลง โย ทตุ ิยาวภิ ตั ติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง โย เปน นิ สำเร็จรูปเปน อมูนิ อมูนิ (กุลานิ) แปลวา (ซึง่ ตระกลู ท.) เหลาโนน เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 398

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 399 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ วธิ ีใช อมุ ศพั ท อมุ ศัพทน ้ี แปลงเปน อสุ บาง. ทั้ง อมุ และ อสุ นยิ มลง ก สกตั ถต อ ทาย เปน อมุก อสุก แลวแจกตามแบบ ย ศพั ท ท้งั ๓ ลงิ ค และ อมุก อสกุ นิยมใชม ากกวา อมุ อสุ ฝา ยเอก. แปลวา โนน พห.ุ แปลวา เหลา โนน อมุ ศัพทน ้ใี ชอ ยา งคุณนาม วางไวห นานามนามที่ตนขยาย เชน ตมุ ฺเห มยหฺ ํ อทุ วตฺถํ เทถ ฯ แปลวา ทา น ท. ขอจงให ซง่ึ ผา ผืนโนน แกเ รา ฯ อสุเกน เวชเฺ ชน วิวชฺชโิ ตสิ ฯ แปลวา ทา น เปนผอู นั หมอ โนน เวนขาดแลว ฯ แจก อสกุ ศพั ท (โนน ) ใน ปุงลิงค เปนตัวอยา ง ดงั นี้ เอก. พห.ุ ป. อสุโก อสุเก ทุ. อสุกํ อสุเก ต. อสุเกน อสุเกหิ จ. อสุกสสฺ อสเุ กสํ อสุเกสานํ ป.ฺ อสกุ สมฺ า อสุกมหฺ า อสุเกหิ ฉ. อสกุ สฺส อสเุ กสํ อสเุ กสานํ ส. อสุกสฺมึ อสกุ มฺหิ อสเุ กสุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 399

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 400 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) สพั พนามทั้งปวงเปล่ียนรปู ได ผูศึกษาพึงสังเกตในนาม ใหดี จะเห็นไดวา สัพพนามท้ังหมด ทั้งท่ีเปน อนิยมและนิยม เม่ือลงปจจัยในอัพยยตัทธิตแลวก็กลายรูปไปเปนศัพท อัพยยตัทธิต อีกตอหน่ึง (ในแบบบาลีไวยากรณ นาม ทานรวมเรียกวา อัพยยศัพท เพราะรวม อุปสคั เขาดว ย) จะแจกดว ยวภิ ัตติทั้ง ๗ ไมได ไมมีลงิ ค ไมม ีวจนะ แตจำตอ งใชศพั ท นั้นๆ ในฐานะท่ีเปน ตติยาวิภัตติ และสัตตมีวิภัตติแมจะประกอบเขากับนามนามท่ี เปน ลงิ คใด วจนะใด ก็ตาม สัพพนามท่แี ปรรูปไปเปน อพั ยยตัทธติ แลวนั้น ก็ยังคง ปรากฏเปนรูปเดิมอยู คือใชไดท้ัง ๓ ลิงค ๒ วจนะ สวนคำแปลก็ไมละทิ้งจากรูป สพั พนามไปไดเลย เชน สพพตฺถ าเน กับ สพฺพตฺถ าเนสุ ก็ยังคงใช สพฺพตฺถ เหมือนกัน ดงั จะไดเ ห็นคำอธิบายทจ่ี ะกลา วถงึ อัพยยศพั ท ตอไปขางหนา . อนงึ่ เมอ่ื ทราบดแี ลววา สัพพนาม นั้น สำหรบั ใชแทนนามนาม ประกอบเขา กับนามนาม หรอื โยคตวั นามนามที่กลาวมาแลว โดยทจ่ี ะตองประกอบ สพั พนาม กบั นามนาม ใหมี ลิงค วจนะ วิภัตติ ตรงกัน แตวิธแี จกวิภตั ตินามศพั ทท ั้งสองน้ีไมเหมอื น กัน ฉะน้ันผูศกึ ษาใหมๆ ควรฝกหัดแจกเทียบ สัพพนาม กบั นามนาม ควบไปในทาง เดียวกนั เพื่อปองกนั ความฟน เฝอ และเพ่ือใหเ กิด ความชำนาญในเมื่อถงึ คราวฝกหัด การแปล ในท่ีน้ีจะแจกใน ปุงลิงคยกศัพท ย กับ ภิกฺขุ ขึ้นแจกเปรียบเทียบในวาระ เดยี วกันพอเปนตวั อยาง ดงั ตอ ไปนี้ 400

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 401 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เอก พหุ วิภัตติ สพั พนาม นามนาม สพั พนาม นามนาม ป. โย ภกิ ขฺ ุ เย ภกิ ฺขโว ทุ. ยํ ภกิ ฺขํุ เย ภิกขฺ โว ต. เยน ภกิ ขฺ ุนา เยหิ ภิกขฺ ูหิ จ. ยสฺส ภกิ ฺขุสสฺ เยสํ ภิกขฺ ูนํ ป.ฺ ยสฺมา ภกิ ฺขุสมฺ า เยหิ ภกิ ฺขูหิ ฉ. ยสฺส ภิกขฺ สุ สฺ เยสํ ภิกฺขนู ํ ส. ยสฺมึ ภิกขฺ สุ มฺ ึ เยสุ ภิกขฺ ูสุ ตามรูปแจกเปรียบเทียบขางบนนี้ ผูศึกษาคงเห็นไดแลววาสัพพนาม กับ นามนาม ตองมลี ิงค วจนะ วภิ ัตติ ตรงกันอยางไร นีเ่ ปน แตเพยี งระหวา ง ย สัพพนาม กับ นามนาม ท่ีเปน อุ การันต คือ ภิกขุ ซึ่งอยูในฐานท่ีเปนปุงลิงคดวยกัน สวน สัพพนามอ่ืน และนามท่ีเปนลิงคอ่ืน การันตอื่นน้ัน ก็พึงฝกหัดแจกตามเปรียบเทียบนี้ ตามลงิ ค และการันตน้นั ๆ เถดิ . เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 401

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 402 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แบบประเมนิ ผลตนเองกอ นเรียน หนว ยท่ี ๑๖ วตั ถุประสงค เพือ่ ประเมนิ ผลความรูเดิมของนกั เรยี นเกี่ยวกบั เรื่อง “สัพพนาม : คำชแี้ จง วเิ สสนสพั พนาม” ใหน ักเรยี นอา นคำถาม แลว เขียนวงกลมลอ มรอบขอคำตอบท่ถี ูกตอง ที่สดุ เพยี งขอเดียว ๑. วเิ สสนสัพพนามคอื อะไร ? ก. นามทีใ่ ชแ ทนนามนามโดยตรง ข. นามทใี่ ชแ ทนนามนามโดยออม ค. นามท่ีใชแทนนามนามโดยแนนอน ง. นามที่ใชแ ทนนามนามโดยไมแนนอน ๒. วิเสสนสัพพนามแบง ออกเปนกปี่ ระเภท ? ก. ๒ ประเภท ข. ๔ ประเภท ค. ๗ ประเภท ง. ๙ ประเภท ๓. ศัพทก ลมุ ใดตอไปน้เี ปนนิยมวิเสสนสัพพนามท้งั หมด ? ก. ต เอต อิม อมุ ข. ย อฺ อฺตร ค. กึ อมุ ต ง. ต ตุมห อมห ๔. ศพั ทก ลุมใดตอไปนเ้ี ปนอนิยมวิเสสนสัพพนามทงั้ หมด ? ก. ต เอต อมิ อมุ ข. ย อฺ อฺตร ค. กึ อมุ ต ง. ต ตมุ หฺ อมหฺ ๕. เอก สัพพนาม มคี ำแปลวาอยางไร ? ก. คนหน่งึ พวกหนง่ึ ข. หมหู น่ึง พวกหนึ่ง ค. กลมุ หนึง่ พวกหนึ่ง ง. ถกู ทุกขอ ๖. กึ มี ย นำหนา มี จิ ตอ ทา ยใน ปุงลิงค ปฐมา. เอก. มรี ูปอยางไร ? ก. โย โกจิ ข. เย เกจิ ค. ยา กาจิ ง. ยงฺกิจฺ ิ ๗. ศัพทใดตอไปน้ใี ชป ระกอบกบั นามแลวมคี วามหมายวา “ใกลท สี่ ุด” ก. ต ศัพท ข. เอต ศัพท ค. อิม ศพั ท ง. อมุ ศพั ท เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 402

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 403 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๘. อสกุ ศัพท มีรากศพั ทม าจากศัพทอ ะไร ? ก. ต ศัพท ข. เอต ศพั ท ค. อมิ ศพั ท ง. อมุ ศัพท ๙. ศัพทว ิเสสนสพั พนามเปน ลงิ คใดบา ง ? ก. ปุงลิงคอยา งเดยี ว ข. ปุงลงิ คแ ละอติ ถีลงิ ค ค. ปุงลิงคแ ละนปงุ สกลิงค ง. ไตรลิงค ๑๐. กึ ศพั ทที่เปนนิบาต เปน นบิ าตบอกอะไร ? ก. บอกความรับ ข. บอกความเตอื น ค. บอกปรกิ ปั ง. บอกความถาม เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 403

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 404 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แบบประเมนิ ผลตนเองหลงั เรียน หนวยที่ ๑๖ วตั ถปุ ระสงค เพ่ือประเมนิ ผลความกาวหนาของนักเรยี นเก่ยี วกับเร่ือง“สัพพนาม : วิเสสนสัพพนาม” คำชีแ้ จง ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอท่ีถูกตอง และทำ เคร่อื งหมายผดิ ( ) หนา ขอทผี่ ิด ( ) ๑. วเิ สสนสพั พนาม คือนามท่ใี ชแ ทนนามนามโดยความเปน วิเสสนะ ( ) ๒. วเิ สสนสพั พนาม แบง ออกเปน ๒ คอื นิยม ๑ อนยิ ม ๑ ( ) ๓. ศพั ท ๑๒ ศัพท มี ย เปน ตน มี กึ เปน ทีส่ ุด เปนนยิ มวิเสสนสัพพนาม ( ) ๔. ต ศัพทบอกนามนามทอ่ี ยูใกลที่สดุ ( ) ๕. อมุ ศัพทบอกนามนามท่อี ยูไ กลทส่ี ดุ ( ) ๖. กึ ศพั ทม ี จิ ตอทาย แปลวา ส่ิงใดสิง่ หนึ่ง ( ) ๗. กึ ศพั ท่ีเปนนามนาม แปลวา ไร หรอื อะไร ( ) ๘. อมุ ศพั ทที่มี ก ตอ ทาย (อมุก) แจกตามแบบ ต ศพั ท ( ) ๙. กึ ศพั ทท ใี่ ชเปน นิบาต แปลวา หรือ, ทำไม ( ) ๑๐. กึ ศพั ทเ ปนได ๓ ลิงค ( ) ๑๑. กึ ศพั ท เมื่อจะนำไปแจกดว ยวิภตั ตทิ ั้ง ๗ ตอ งแปลเปน ก กอ น ( ) ๑๒. กึ ศพั ท ในประโยควา “กึ ปาลิต ปมชชฺ สิ” แปลวา “ทำไม” เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 404

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 405 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เฉลยแบบประเมนิ ผลตนเอง หนว ยท่ี ๑๖ ขอ กอนเรยี น หลังเรยี น ๑. ข ๒. ก ๓. ก ๔. ข ๕. ง ๖. ก ๗. ค ๘. ง ๙. ง ๑๐. ง ๑๑. ๑๒. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 405

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 406 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) แผนการสอนวชิ าบาลีไวยากรณ หนวยที่ ๑๗ เร่ือง อพั ยยศพั ท เวลาทำการสอน ๓ คาบ สาระสำคญั ศัพทอีกกลุมหนึ่งท่ีไมสามารถจะนำไปแจกดวยวิภัตติทั้ง ๗ แปลงรูปไดไป ตางๆ เหมือนนามทง้ั ๓ ไมได เรยี กวา อัพยยศัพท แบงเปน ๓ ประเภท คอื อปุ สัค นบิ าต ปจ จยั . จดุ ประสงค ๑. นักเรียนรจู ักความหมายของอพั ยยศัพท และบอกประเภทของมนั ได ๒. นกั เรียนรูและเขา ใจถึงอปุ สัค บอกศัพทอ ุปสัค และนำไปใชไ ดถกู ตอ ง ๓. นกั เรยี นรแู ละเขา ใจถึงนิบาต บอกศัพทนิบาต และนำไปใชไ ดถ กู ตอ ง ๔. นักเรียนรแู ละเขา ใจถึงปจ จัย บอกปจ จัย และนำไปใชไดถูกตอ ง เนื้อหา ๑. อัพยยศพั ท ๒. อปุ สคั ๓. นบิ าต ๔. ปจ จยั กจิ กรรม ๑. ประเมนิ ผลกอนเรียน ๒. ครูนำเขาสบู ทเรยี น ๓. บัตรคำ ๔. สรปุ เนื้อหา 406

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 407 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๕. ประเมนิ ผลหลงั เรียน ๖. ใบงาน สือ่ การสอน ๑. ตำราทใี่ ชป ระกอบการเรยี น-การสอน ๑.๑ หนงั สือพระไตรปฎก ๑.๒ หนงั สือพจนานกุ รม มคธ-ไทย โดย พันตรี ป. หลงสมบญุ สำนักเรียนวัดปากน้ำ จัดพมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๐ ๑.๓ หนังสือพจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ๑.๔ หนังสือพจนานกุ รมพทุ ธศาสน ฉบบั ประมวลศพั ท โดย พระธรรมปฎ ก (ป.อ. ปยตุ โฺ ต) ๑.๕ หนังสอื คูม ือบาลีไวยากรณ นิพนธ โดย สมเดจ็ พระมหาสมณเจาฯ ๑.๖ หนังสอื ปาลิทเทส ของ สำนักเรียนวดั ปากน้ำ ๑.๗ คัมภรี อภธิ านปั ปทีปก า ๑.๘ หนงั สืออุภัยพากยป ริวตั น ๒. อปุ กรณทค่ี วรมปี ระจำหอ งเรียน ๒.๑ กระดานดำ-แปรงลบกระดาน-ชอลก หรือ กระดานไวทบ อรด ๒.๒ เครื่องฉายขา มศีรษะ (Over-head) ๒.๓ คอมพิวเตอรแ ละเครอื่ งฉายโปรเจคเตอร ๓. บตั รคำ ๔. ใบงาน วิธวี ดั ผล-ประเมนิ ผล ๑. สอบถามความเขา ใจ ๒. สงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ว นรวมในกิจกรรม ๓. สงั เกตความกา วหนา ดา นพฤตกิ รรมการเรยี นรูของผูเรยี น ๔. ตรวจใบงาน ๕. ตรวจแบบประเมนิ ผลกอนเรียน-หลังเรยี น 407

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 408 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) อัพยยศัพท ยังมีศัพทอีกจำพวกหนึ่ง ที่ไมสามารถนำไปแจกดวยวิภัตติทั้ง ๗ เปล่ียน รูปไดตางๆ เหมือนกับนามทั้ง ๓ ท่ีกลาวแลวขางตนไมได คงรูปอยูเปนอยางเดียว ศัพทด งั กลาวน้ี นักปราชญทางภาษาบาลีบญั ญัตใิ หเรยี กวา “อัพยยศัพท ” ความหมายของคำวา “อพั ยยศัพท” คำวา “อัพยยศัพท” น้นั ไดม ีนกั วชิ าการหลายแขนงใหคำจำกดั ความหมาย ไวแ ตกตา งกันออกไป ดังตอ ไปนี้ อพฺยย (วิ.) คงที่, อยทู ่ี, ไมสิ้น, ไมเ สื่อม, ไมแ ปลง, ไมเ ปลี่ยน, ไมเปลีย่ นแปลง, ไมแปลผนั , ไมฉบิ หาย, นปพุ ฺโพ, พยฺ ยฺ ขเย, อ. อพยฺ ย (นปุ.) คำคงที่ ฯลฯ อพฺยยสทฺท (ปุ. ) ศัพทคงที่, ฯลฯ, อัพยยศัพท ชื่อศัพทจำพวกหน่ึง จะแจกดวย วิภัตตทิ งั้ ๗ แปลงรปู ไปตางๆ เหมอื นนามทง้ั ๓ ไมไ ด (จากบาลี ไวยากรณ). สวนคัมภีรอื่น เชน รูปฯ แจกดวยวิภัตติทั้ง ๗ ได บางศพั ท แตร ูปไมเ ปลย่ี นแปลง. (พจนานุกรม มคธ-ไทย โดย พันตรี ป. หลงสมบุญ สำนักเรียน วัดปากน้ำ จดั พิมพ พ.ศ. ๒๕๔๐ หนา ๕๗) ในหนังสือคูมือเลมน้ี จะใหคำจำกัดความหมายของคำวา “อัพยยศัพท” น้ันวา “ศัพทที่จะนำแจกดวยวิภัตติท้ัง ๗ เหมือนนามทั้ง ๓ ไมได คงรูปเปน อยา งเดมิ ไมเ ปลยี่ นแปลง” ประเภทของอัพยยศัพท อพั ยยศพั ทแบงออกเปน ๓ ประเภท คือ อุปสคั ๑ นบิ าต ๑ ปจ จยั ๑ 408

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 409 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ อปุ สัค อุปสัค แปลวา “ขัดของ” ใชสำหรับนำหนานามและกิริยาใหวิเศษขึ้น เมื่อนำหนานามมีอาการคลายคุณศัพท เมื่อนำหนากิริยามีอาการคลายกิริยาวิเสสนะ มี ๒๐ ตวั คือ อติ ย่งิ เกิน ลวง อธิ ยิง่ ใหญ ทับ อนุ นอย ภายหลัง ตาม อป ปราศ หลีก อป หรอื ป ใกล บน อภิ ยิง่ ใหญ จำเพาะ ขา งหนา อว หรือ โอ ลง อา ทั่ว ยิง่ กลับความ อุ ขึ้น นอก อปุ เขาไป ใกล มั่น ทุ ช่วั ยาก นิ เขา ลง นิ ไมม ี ออก ป ท่วั ขางหนา กอ น ออก ปฏิ เฉพาะ ตอบ ทวน กลบั ปรา กลับความ ปริ รอบ วิ วิเศษ แจง ตา ง สํ พรอ ม กบั ดี สุ ดี งาม งาย เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 409

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 410 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) อปุ สัคทง้ั ๒๐ ตวั ดงั กลา วแลว ขา งตน มีวธิ ีใชดังน้ี ๑. ใชสำหรบั นำหนา นามและกริ ิยาใหว เิ ศษขึน้ ๒. เมื่อนำหนานาม มีอาการคลายคุณศัพท เชน อติปณฺฑิโต - เปน บัณฑิตยิ่ง, สคุ นฺโธ - กล่นิ ดี เปนตน ๓. เมื่อนำหนากิริยา มีอาการคลายกิริยาวิเสสนะ เชน อติกฺกมติ - ยอม กา วลวง, ปริพภฺ มติ - ยอมหมนุ รอบ เปน ตน ขอควรจำ ๑. คำวา “นาม” น้ัน หมายเอาเฉพาะ “นามนามและคุณนาม” เทานั้น สพั พนามจะใชอปุ สคั นำหนา ไมไ ด ๒. คำวา “กริ ิยา” นนั้ หมายเอาทัง้ “กิริยาอาขยาตและกริ ยิ ากติ ก” อุปสคั เมอื่ นำหนา นามและกริ ยิ าแลว มอี ำนาจดงั น้ี ๑. อุปสัคสังหารธาตุ หรือ เบียดเบียฬธาตุ คือธาตุเดิมจะเปนอยางไร ก็ตาม เม่ือมีอุปสัคบางตัวมานำหนาแลว จะแปลอยางเดิมไมได ตองเปลี่ยนการ แปลใหม เชน วรติ - ยอมปด มี วิ มานำหนา เปน ววิ รติ - ยอมเปด , คจฉติ - ยอ มไป มี อา มานำหนาเปน อาคจฉติ - ยอ มมา เปนตน ๒. อุปสัคอนุวัตรธาตุ หรือ คลอยตามธาตุ คือธาตุเดิมจะเปนอยางไร ก็ตาม เมือ่ มีอุปสคั บางตัวมานำหนาแลว เปน แตท ำเน้อื ความใหช ดั ย่ิงขึ้น เชน ชานาติ - ยอ มรู มี วิ มานำหนา เปน วชิ านาติ - ยอ มรแู จง , ภมติ - ยอ มหมนุ มี ปริ มานำหนา เปน ปรภิ มติ - ยอมหมนุ รอบ เปน ตน ๓. อุปสัคทำใหธาตุแปลกจากเดิม คือจากปกติ คือ ธาตุเดิมจะเปน อยางไรก็ตาม เมือ่ มอี ุปสัคบางตัวมานำหนา ทำใหเ นื้อความแปลกจากเดิม เชน จรติ - ยอ มประพฤติ มี วิ มานำหนาเปน วิจรติ - ยอมเทีย่ วไป เปนตน 410

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 411 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ อทุ าหรณแ สดงการใช “อุปสคั ” ในกรณตี า งๆ ดงั น้ี อติ อตสิ นุ ทฺ โร - ดยี ิ่ง ดเี กนิ , อตกิ ฺกมติ - ยอมกาวลวง อธิ อธสิ กกฺ าโร - สักการะยง่ิ , อธปิ ติ - นายใหญ, อธิเสติ - ยอ มนอนทับ อนุ อนนุ ายโก - นายกนอ ย, อนโุ ช - ผูเ กดิ ในภายหลงั (นอง), อนุคจฺฉติ - ยอมไปตาม อป อปเนติ - ยอมนำปราศ, อปคจฉติ - ยอ มหลีกไป อป หรอื ป อปก จฺโฉ - ใกลรักแร, อปก ณฺโณ - ใกลห ,ู อปธ านํ - เคร่อื งวางขา งบน (ฝาปด ), ปทหติ - ยอมวางขางบน (ปด) อป หรือ ป ศัพทนี้ ไมมีท่ีใชในภาษามคธมากนัก เห็นแตมีคำวา “อปธานํ” และ “ปทหติ” เทานั้น แมศัพทวา อปกจฺโฉ, อปกณฺโณ ก็ไมใชภ าษามคธแท แปลงเอามาแตภาษาสนั สกฤต เพอื่ เปนอทุ าหรณ ท่ีแปลวา “ใกล” เทานั้น ในดิกชันนารีสันสกฤตกลาววา ในสันสกฤต ภายหลังเขาประกอบ อภิ ใชแ ทนในท่ขี อง อป โดยมาก อภิ อภิปปฺ สนโฺ น - เลอื่ มใสยง่ิ , อภิภู - ผูเปนใหญ, อภิชฌฺ า - ความเพง เฉพาะ (โลภ), อภิกกฺ โม - ความกาวไปขางหนา อว หรือ โอ อวํสโิ ร - มหี วั ลง, โอตรติ - ยอ มหยัง่ ลง อา อาปูรติ - ยอมเตม็ ทั่ว, อาภาติ - ยอ มสวา งย่งิ , คจฉฺ ติ - ยอ มไป : อาคจฺฉติ - ยอ มมา, เนติ - ยอ มนำไป : อาเนติ - ยอมนำมา อุ อุคคฺ จฺฉติ - ยอ มข้ึนไป, อปุ ปฺ โถ - นอกทาง อุป อุปจินาติ - ยอมเขาไปสงั่ สม, อปคจฺฉติ - ยอมเขา ไปใกล, อุปาทิยติ - ยอ มถอื มั่น ทุ ทคุ ฺคนฺโธ - กลน่ิ ช่ัว, ทกุ ฺกรํ - ทำยาก นิ นิคจฉฺ ติ - ยอมเขา ถงึ , นกิ ุชฺฌติ - ยอ มงอเขา , นิขนติ - ยอมขดุ ลง, นิทหติ - ยอ มตง้ั ลง (ฝง ) นิ นริ นฺตราโย - ไมม ีอันตราย, นกิ ฺกฑฒฺ ติ - ยอ มฉดุ ออก ป ปชานาติ - ยอมรูท่ัว, ปาเชติ - ยอมไปขางหนา (ขับไป), ปภวติ - ยอมเกิดกอ น, ยอมมีกอ น, ปคฆฺ รติ - ยอ มไหลออก 411

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 412 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ปฏิ ปตฏิ  าติ - ยอมตง้ั จำเพาะ, ปฏิวจนํ - คำตอบ, ปฏโิ สตํ - ทวนกระแส, ปจฺจาคจฉฺ ติ - ยอมกลบั มา ปรา ชโย - ความชนะ : ปราชโย - ความแพ, ภโว - ความเจริญ : ปราภโว - ความฉิบหาย ปริ ปริ ฺา - ความรอบรู, ปรพิ ภฺ มติ - ยอ มหมนุ รอบ วิ วิชานาติ - ยอ มรแู จง ยอมรูวเิ ศษ, ววิ ิโธ - มีอยางตา งๆ สํ สจฺ รติ - ยอมเที่ยวไปกบั - พรอ ม, สฉฺ วี - มผี ิวดี สุ สนุ กฺขตตฺ ํ - ฤกษด ี, สุเนตโฺ ต - คนมีตางาม, สุกรํ - ทำงา ย ในอุปสัคเหลานี้ บางตัวนำหนากิริยาแลว ก็ทำใหกิริยามีเนื้อความตางไป จากความเดิม เหมือนคำวา สํวรติ - ยอมปด แตเม่ือมี วิ มานำหนา เปน วิวรติ มีเน้ือความแปลกไปจากเดิม โดยแปลความเปน ยอมเปด หรือ ขมติ - ยอมอดทน มี นิ นำหนา เปน นกิ ฺขมติ แปลความเปน ยอ มออก เปน ตน นิ มีอยู ๒ ศัพท ๑. นิ แปลวา เขา, ลง เวลาใชนำหนา นามและกริ ยิ า คง นิ ไวเ ฉยๆ ไมม ี อะไรเปล่ียนแปลง เชน นมิ คุ ฺโค - ดำลง, นิคจฺฉติ - ยอ มเขา ถึง ๒. นิ แปลวา ไมมี, ออก ตรงกบั นสิ ฺ ในสันสกฤต เวลาใชมกั ซอ น หรอื ลง ร อาคม ตามอักขรวิธี เชน นิรนฺตราโย - ไมมีอันตราย, นิพฺภโย - ไมมีภัย, นิกฺขนโต - ออกแลว เปนตน ถาอยูหนา ร หรือ ห ตองทีฆะ อิ ท่ี นิ เปน อี เชน นหิ รณํ เปน นหี รณํ - การนำออก, นริ โส เปน นรี โส - ไมมีรส, นโิ รโค เปน นีโรโค - ไมม โี รค เปน ตน ยกเวนคำวา นวิ รณํ - นวี รณํ (ธรรมชาตปิ ดกน้ั ) นิ ยงั คงแปลรว มกับ ธาตวุ า ปด หรือ ก้ัน เทา นั้น 412

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 413 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ นิบาต นิบาตน้ัน ใชสำหรบั ลงในระหวางนามศัพทบาง กิรยิ าบา ง บอกอาลปนะ กาล ที่ ปริจเฉท อุปไมย ปฏิเสธ ความไดยินเลาลือ ความปริกัป ความถาม ความรับ ความเตอื น เปนตน นิบาต แปลวา ตกลง คือ ตกลงในระหวา งนามศัพทบาง กิรยิ าศัพทบ าง เชน อนิจจา วต สงขารา, สรีรํ น อนคุ จฺฉติ เปนตน นบิ าตหาไดต กลงในระหวางนาม ศัพททุกตัวไม บางตัวลงทายศัพทก็มี บางตัวลงตนประโยคก็มี ท่ีลงตนประโยค เชน อถ, ยถา, ตถา เปน ตน ท่ีลงทา ยศพั ท เชน อติ ,ิ ป, ว, เอว, อป เปนตน ฯ ในนบิ าตมีทั้งหมด ๑๕ หมวด รวม ๑๒๙ ตวั ดังน้ี ๑. นิบาตบอกอาลปนะ เรยี กชือ่ สมั พันธว า “อาลปน” มี ๑๐ ตวั คอื ยคฺเฆ เปนคำสำหรับรองเรียก ใหคนที่มีสถานภาพสูงกวาตั้งใจฟงคำท่ีผูพูดจะ กลาว ไมมีคำแปลในภาษาไทยของเราใหตรงกันได และคำเชนนี้ ก็ไมใครมีใชนักใน ภาษาของเรา เห็นมอี ยูแตคำทลู พระมหากษตั รยิ ว า “สรวมชพี ” หรอื “ขอเดชะ” ซึง่ เปนคำพดู เพื่อจะใหพ ระเจาแผนดนิ ตง้ั พระราชหฤทยั ฟงคำทจ่ี ะพดู ตอไป คำวา “ยคเฺ ฆ” มอี ธิบายความดงั กลา วแลว ขางตน แตจ ะวาตรงกันแทก ็ไมได เพราะคำวา “สรวมชีพ” หรือ “ขอเดชะ” ใชทูลกับพระมหากษัตริยเทาน้ัน ไมนิยม ทูลเจานาย หรือกราบเรียนเสนาบดอี ื่นไมไ ด แตคำวา “ยคฺเฆ” บา วใชพูดกับนายกไ็ ด เชน อ.ุ ยคเฺ ฆ เทว ชาเนยฺยาสิ ฯ คำแปล ขอเดชะ ขาแตเทวดา (พระองค) พงึ ทราบ ฯ ภนฺเต ภทนฺเต นิบาตทั้ง ๒ ตัวนี้ เปนคำที่คฤหัสถใชเรียกบรรพชิตดวยความเคารพ หรือ บรรพชติ ผอู อ นพรรษากวา ใชเรียกบรรพชติ ผแู กกวา เชน 413

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 414 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) อุ. กตมํ ปน ภนเฺ ต คนถฺ ธุรํ ฯ คำแปล ภนั เต ก็คนั ถธรุ ะ เปนไฉน ฯ อ.ุ ภทนฺเตติ เต ภิกขู ภควโต (วจน)ํ ปจจฺ สโฺ สสุ ฯ คำแปล ภกิ ษุ ท. เหลา นั้น ฟงตอบแลว (ซ่ึงคำ) แหง พระผมู ีพระภาคเจา วา ภทนั เต ดงั นี้ ฯ ขอ สังเกต ในภาษาไทยของเราทานบญั ญัตใิ หแปลวา “ขาแตท านผูเ จริญ” ภเณ เปนคำสำหรับคนสูงกวา พูดกับคนผูดีที่อยูในบังคับบัญชาของตน เชน พระมหากษัตรยิ  รับส่ังแกข า ราชการ เชน อุ. ทกุ กฺ รํ ภเณ พฺราหฺมเณน กตํ ฯ คำแปล ภเณ กรรมอันบคุ คลทำไดยาก อนั พราหมณ ทำแลว ๆ ขอ สังเกต ในภาษาไทยของเราทา นบัญญัติใหแ ปลวา “พนาย” อมฺโภ เปนคำสำหรับใหเรยี กผชู าย ดวยวาจาอันออนหวาน เชน อุ. อมฺโภ กุมารา เอส สาลิกโปตโก, ตํ คณหฺ ถ ฯ คำแปล แนะ กมุ าร ท. ผเู จรญิ น่นั ลูกนกสาลกิ า (เจา ท.) จงจบั เอา ซึ่งมนั ฯ ขอสงั เกต ในภาษาของเราไทยทานบัญญัติใหแปลวา “แนะผเู จริญ” อาวุโส เปนคำสำหรับบรรพชิตที่มีพรรษามากกวา เรียกบรรพชิตที่มีพรรษานอย กวา และสำหรับบรรพชิตเรียกคฤหสั ถ เชน อ.ุ มา อาวุโส เอวํ อวจ ฯ คำแปล อาวโุ ส (ทา น) ทานอยาไดกลา วแลว อยางน้นั ฯ ขอ สงั เกต ในภาษาไทยของเราทา นบัญญัติใหแปลวา “แนะทานผมู อี าย”ุ เร, อเร นิบาตทั้ง ๒ ตัวนี้ เปนคำสำหรับรองเรียกคนเลวทราม ตรงกับภาษาไทย ของเราวา “เวย , โวย ” เชน 414

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 415 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ อุ. อเร ขชุ เฺ ช, ตฏิ  เร ฯ คำแปล แนะ หญิงคอ ม เวย, (เอง) จงหยดุ โวย ฯ เห เปน คำสำหรบั รองเรยี กคนเลว ตรงกบั ภาษาไทยของเราวา “เฮย” เชน อุ. เห มลฺลกิ า กสฺมา เอวรปู มกาสิ ฯ คำแปล เฮย แนะนางมัลลิกา เหตุไร (เจา) ไดทำแลว ซึ่งกรรม มี อยา งนี้เปน รปู ฯ เช เปน คำสำหรบั นายเรยี กหญิงสาวใช เชน อุ. หนทฺ เช อมิ ํ ภณฺฑํ คณฺหาหิ ฯ คำแปล เอาเถิด แม (เจา) จงถือ ซึ่งภณั ฑะ ส่งิ น้ี ฯ ขอ สังเกต คำวา “แม” นนั้ ไมตรงกับ เช ทีเดียว เปนแตเ พยี งยมื มาใช เพราะคำวา “แม” ใชไ ดท ว่ั ไปมากกวา เชน มารดาบดิ าเรยี กธดิ า บตุ รธดิ าเรยี กมารดา นายเรียกสาวใช เปน คำออ นหวาน เปนตน ๒. นิบาตบอกกาล มชี ือ่ เรยี กทางสมั พันธวา “กาลสตฺตม”ี มี ๙ ตวั คอื อถ คร้ังน้นั หิยโฺ ย วันวาน ปาโต เชา เสวฺ วันพรงุ ทิวา วัน สมฺปติ บดั เดยี๋ วน้ี สายํ เยน็ อายตึ ตอไป สเุ ว ในวนั เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 415

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 416 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๓. นบิ าตบอกท่ี มีช่ือเรียกทางสัมพันธดังน้ี เขากับนาม เรียกวา “ภินฺนาธาร” เขากับกิริยา เรยี กวา “อาธาร” มี ๑๖ ตัว คอื อุทธฺ ํ เบื้องบน อโธ เบื้องตำ่ อุปริ เบือ้ งบน เหฏ า ภายใต อนตฺ รา ระหวา ง โอรํ ฝง ใน อนฺโต ภายใน ปารํ ฝง นอก ติโร ภายนอก หรุ ํ โลกอื่น พหิ ภายนอก สมฺมุขา ตอหนา พหทิ ฺธา ภายนอก ปรมฺมขุ า ลับหลัง พาหริ า ภายนอก รโห ที่ลบั ๔. นบิ าตบอกปริจเฉท มชี ่ือเรียกทางสัมพนั ธวา “ปรเิ ฉทนตฺถ” และ “กริ ยิ าวิเสสน” มี ๑๐ ตัว คือ กีว เพยี งไร ยาวตา มปี ระมาณเพยี งใด ยาว เพียงใด ตาวตา มีประมาณเพยี งน้ัน ตาว เพียงน้นั กิตฺตาวตา มปี ระมาณเทา ใด ยาวเทว เพียงใดนั่นเทียว เอตฺตาวตา มปี ระมาณเทา นน้ั ตาวเทว เพยี งนนั้ น่ันเทียว สมนตฺ า รอบคอบ ๕. นบิ าตบอกอปุ มาอุปไมย มชี อื่ เรียกทางสมั พนั ธวา “อปุ มาโชตก” และ “อุปเมยฺยโชตก” มี ๖ ตวั คือ วิย ราวกะ เสยฺยถา ฉันใด อวิ เพยี งดงั ตถา ฉันนน้ั ยถา ฉันใด เอวํ ฉนั นน้ั เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 416

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 417 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๖. นบิ าตบอกประการ มชี ื่อเรียกทางสมั พันธว า “ปการตฺถ” มี ๓ ตัว คอื เอวํ ดว ยประการนัน้ กถํ ดว ยประการใด ตถา ดวยประการนั้น ๗. นิบาตบอกปฏิเสธ มีชื่อเรียกทางสัมพันธดังน้ี น - โน เรียกวา “ปฏิเสธนตฺถ”, ว - เอว เรียกวา “อวธารณ”, วินา - อลํ เรียกวา “กริ ิยาวเิ สสน”, อลํ เปน ประธาน เรยี กวา “ปฏิเสธนลงิ คฺ ตถฺ ” มี ๗ ตวั คอื น ไม เอว นนั่ เทียว โน ไม วนิ า เวน มา อยา อลํ พอ ว เทยี ว ๘. นบิ าตบอกความไดย นิ เลาลอื มชี ื่อเรียกทางสัมพนั ธวา “อนุสสฺ วนตถฺ ” มี ๓ ตวั คอื กริ ไดย ินวา สทุ ํ ไดยนิ วา ขลุ ไดยินวา ๙. นบิ าตบอกปริกัป มีชือ่ เรยี กทางสัมพันธว า “ปรกิ ปปฺ ตฺถ” มี ๖ ตวั คอื เจ หากวา อถ ถา วา ยทิ ผิวา อปเฺ ปว นาม ชอ่ื แมไฉน สเจ ถาวา ยนนฺ นู กระไรหนอ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 417

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 418 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๑๐. นบิ าตบอกความถาม มีชื่อเรยี กทางสัมพนั ธวา “ปจุ ฺฉนตถฺ ” มี ๘ ตัว คือ กึ หรือ, อะไร นนุ มใิ ชห รอื กถํ อยา งไร อทุ าหุ หรือวา กจฺจิ แลหรือ อาทู หรอื วา นุ หนอ เสยฺยถที ํ อยา งไรนี้ ๑๑. นิบาตบอกความรบั มีชอื่ เรียกทางสมั พนั ธวา “สมปฺ ฏจิ ฉฺ นตถฺ ” มี ๒ ตัว คือ อาม เออ อามนฺตา เออ ๑๒. นิบาตบอกความเตือน มีชอ่ื เรยี กทางสัมพนั ธว า “อุยฺโยชนตฺถ” มี ๓ ตัว คอื อิงฺฆ เชิญเถดิ หนฺท เอาเถิด ตคฺฆ เอาเถดิ ๑๓. นิบาตสำหรับผูกศพั ทและประโยคมีอัตถะเปน อเนก มีชื่อเรียกทางสัมพันธวา “ทฬฺหีกรณโชตก, วิเสสโชตก, ปกฺขนฺตรโชตก” เปน ตน มี ๘ ตัว คือ จ ดว ย,อนึง่ ,ก,็ จรงิ อยู ปน สวนวา , ก็ วา หรอื , บาง อป แม, บาง หิ ก็,จรงิ อย,ู เพราะวา อปจ เออก็ ตุ สว นวา,ก็ อถวา อกี อยา งหนึง่ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 418


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook