Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

(เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

Description: (เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

Search

Read the Text Version

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 419 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๑๔. นิบาตสกั วา เปน เคร่อื งทำบทใหเ ต็ม มีชื่อเรียกทางสัมพันธดังนี้ อยูนอกคาถา เรียกวา “วจนาลงฺการ” อยูใน คาถา เรียกวา “ปทปูรณ” หรอื “วจนสิลิฏก” มี ๗ ตัว คอื นุ หนอ โข แล สุ สิ วต หนอ เว เวย หเว เวย โว โวย ๑๕. นบิ าตมเี น้อื ความตา งๆ โดยมากมชี อื่ เรียกทางสมั พันธว า “กิรยิ าวิเสสน” มี ๓๑ ตัว คือ อฺทตฺถุ โดยแท อาวี แจง อโถ อน่งึ อุจจฺ ํ สงู อทธฺ า แนแท อิติ เพราะเหตุน้นั , วาดงั น้ี อวสสฺ ํ แนแท ดวยประการนี้, ชื่อ อโห โอ กิ ฺจาป แมน อยหนึ่ง อารา ไกล กวฺ จิ บาง นจี ํ ตำ่ มิจฉฺ า ผดิ นูน แน มธุ า กลา ว นานา ตา งๆ มสุ า เท็จ ปจฺฉา ภายหลัง สกึ คราวเดยี ว ปฏ าย ตงั้ กอ น สตกฺขตตฺ ุ รอ ยคราว ปภูติ จำเดมิ สทฺธึ พรอม, กบั ปุน อกี สณกิ ํ คอ ยๆ ปนุ ปปฺ นุ ํ บอ ยๆ สยํ เอง ภิยโฺ ย ยงิ่ สห กับ ภิยโฺ ยโส โดยย่ิง สามํ เอง เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 419

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 420 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ปจจยั ปจจัยน้ี สำหรับลงทายนามศัพท เปนเคร่ืองหมายของวิภัตติบาง ลงทายธาตุเปนเครอ่ื งหมายกริ ิยา ที่วา สำหรับลงทายนามศัพทนนั้ นามศัพทใ นท่นี ้ี ประสงคเ อาเฉพาะแตนามนาม และสัพพนามเทา นน้ั สว นคุณนามจะใชปจ จยั ในอพั ยย ศัพทน้ีลงทา ยไมไ ดเลย ฉะนนั้ ตองกำหนดใหแ มน ยำ ปจ จยั ในอัพยยศพั ทมที ัง้ หมด ๒๒ ตวั แบง ออกเปน ๔ พวก คอื ๑. โต ๒. ตรฺ ตฺถ ห ธ ธิ หึ หํ หิจฺ นํ ว ๓. ทา ทานิ รหิ ธุนา ทาจนํ ชชฺ ชฺชุ ๔. เตฺว ตุํ ตูน ตฺวา ตวฺ าน ๑. โต ปจ จัย โต ปจ จัยนี้ สำหรบั ตอ ทายนามทัง้ ๒ คือ นามนาม ๑ สัพพนาม ๑ เม่อื ตอ ทายนามนามท้ังแลว ใชเปนเครื่องหมายของวิภัตติได ๒ หมวด คือ ตติยาวิภัตติ ๑ ปญจมีวิภัตติ ๑ โดยตติยาวิภัตติ ใหแปลออกสำเนียงอายตนิบาตวา “ขาง” และ ปญ จมวี ภิ ัตติ ใหแปลออกสำเนยี งอายตนิบาตวา “แต” มีอุทาหรณ ดงั นี้ ศพั ทเดมิ ปจจยั รปู สำเรจ็ คำแปล สพฺพ โต สพพฺ โต แต-ทั้งปวง อฺ โต อฺ โต แต-อืน่ อฺ ตร โต อฺตรโต แต- อื่นใดอนั หน่งึ อิตร โต อิตรโต แต- นอกน้ี เอก โต เอกโต ขา งเดยี ว อุภ โต อภุ โต ขา งท้งั สอง ปร โต ปรโต ขา งอ่นื เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 420

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 421 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ศัพทเ ดมิ ปจ จัย รูปสำเร็จ คำแปล ต โต ตโต แต-นั้น เอต โต เอโต แต- นัน่ เอต โต อโต แต- นัน่ อิม โต อโิ ต แต-น้ี อปร โต อปรโต ขา งอน่ื อกี ปุร โต ปุรโต ขางหนา ปจฉฺ โต ปจฉฺ โต ขางหลัง ทกฺขณิ โต ทกฺขณิ โต ขางขวา วาม โต วามโต ขา งซาย ย โต ยโต แต-ใด อมุ โต อมุโต แต- โนน กตร โต กตรโต แต-อะไร กึ โต กโุ ต* แต-ไหน *กุโต แปลง กึ เปน กุ เพราะ โต ปจจยั ๒. ปจ จยั ๙ ตวั คอื ตรฺ ตฺถ ห ธ ธิ หึ หํ หิ จฺ นํ ว ใชสำหรับตอทายสัพพนามเทาน้ัน เม่ือตอแลว ใชเปนเคร่ืองหมาย “สตั ตมีวภิ ตั ต”ิ แปลออกสำเนยี งอายตนบิ าตวา “ใน” อยา งเดียว มอี ทุ าหรณด ังน้ี ศัพทเ ดิม ปจจัย รูปสำเรจ็ คำแปล สพพฺ ตรฺ สพพฺ ตฺร ใน-ท้งั ปวง สพฺพ ตถฺ สพพฺ ตฺถ ใน-ท้ังปวง อิม ห อหิ ใน-น้ี อิม ธ อิธ ใน-นี้ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 421

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 422 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ศัพทเดิม ปจ จยั รปู สำเร็จ คำแปล สพฺพ ธิ สพพฺ ธิ ใน-ทั้งปวง ย หึ ยหึ ใน-ใด ย หํ ยหํ ใน-ใด กึ หิ ฺจนํ กุหิ จฺ นํ ใน-ไหน กึ ว กฺว ใน-ไหน อฺ ตรฺ อฺตร ใน-อื่น อฺ ตฺถ อฺ ตฺถ ใน-อื่น ย ตฺถ ยตถฺ ใน-ใด ต ตรฺ ตตรฺ ใน-นน้ั ต ตฺถ ตตฺถ ใน-นน้ั ต หึ ตหึ ใน-นน้ั ต หํ ตหํ ใน-นนั้ เอต ตฺร อตฺร ใน-น่ัน เอต ตถฺ อตฺถ ใน-นั่น เอก ตรฺ เอกตฺร ใน-เดียว เอก ตถฺ เอกตถฺ ใน-เดยี ว อภุ ย ตฺร อุภยตฺร ใน-สอง อภุ ย ตฺถ อุภยตถฺ ใน-สอง ย ตฺร ยตฺร ใน-ใด เอต ตถฺ เอตฺถ ใน-นนั่ กึ ตรฺ กตุ รฺ * ใน-ไหน กึ ตถฺ กตถฺ ใน-ไหน กึ หึ กหุ ึ* ใน-ไหน กึ หํ กหุ *ํ ใน-ไหน *กหุ ิฺจนํ,กตุ รฺ ,กหุ ึ,กหุ ํ แปลง กึ เปน กุ เพราะ ตรฺ หึ หํ หิ ฺจนํ ปจจัย เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 422

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 423 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๓. ปจ จัย ๗ ตัว คอื ทา ทานิ รหิ ธุนา ทาจนํ ชฺช ชฺชุ ใชสำหรับตอทายสัพพนามเทานั้น เมื่อตอแลวใชเปนเคร่ืองหมาย “สัตตมีวิภัตติ” ทานกำหนดลงในกาลคือใช “บอกกาลเวลา” อยางเดียว และใหออก สำเนียงอายตนิบาตวา “ใน” มชี อ่ื เรยี กทางสัมพนั ธวา “กาลสตตฺ มี” มีอทุ าหรณ ดังนี้ ศพั ทเ ดมิ ปจ จยั รูปสำเร็จ คำแปล สพพฺ ทา สพพฺ ทา ในกาลทงั้ ปวง สพฺพ ทา สทา ในกาลทง้ั ปวง, ทกุ เม่ือ เอก ทา เอกทา ในกาลหนึ่ง, บางที ย ทา ยทา ในกาลใด, เม่อื ใด ต ทา ตทา ในกาลใด, เม่ือน้ัน กึ ทา กทา ในกาลไร, เมื่อไร กึ ทา กทาจิ ในกาลไหนๆ, บางคราว อิม ทานิ อทิ านิ ในกาลนี้ อมิ รหิ เอตรห*ิ ในกาลน้,ี เดี๋ยวน้ี กึ รหิ กรหจิ ในกาลไหนๆ, บางคราว อิม ธุนา อธุนา ในกาลน้ี, เมอื่ ก้ี กึ ทาจนํ กุทาจนํ ในกาลไหน อิม ชฺช อชชฺ ในวันน้ี สมาน ชชฺ ุ สชฺชุ ในวนั มีอยู, วนั นี้ ปร ชชฺ ุ ปรชชฺ ุ ในวนั อืน่ อปร ชฺชุ อปรชชฺ ุ ในวนั อื่นอกี *เอตรหิ แปลง อมิ เปน เอต เพราะ รหิ ปจจัย เฉพาะทีล่ งทา ย กึ ศัพท ใช จิ ตอ ทา ยไดบ าง เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 423

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 424 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๔. ปจจยั ๕ ตวั คือ เตฺว ตุ ตนู ตวฺ า ตฺวาน ใชสำหรับลงทายธาตุอยางเดียว เมื่อลงแลวเปนเครื่องหมายกิริยา และ ปจจัยจำพวก “อัพยย” คือ ใชแจกวิภัตติไมได และปจจัยทั้ง ๕ ตัวน้ี มีพิเศษอยูตัว หน่งึ คอื “ตุ ปจ จยั ” ใชลงในอรรถแหง “ปฐมาวภิ ตั ต”ิ ก็ได แปลวา “อนั วา อัน... ” ใชลงในอรรถแหง “จตุตถีวิภัตติ” ก็ได แปลวา “เพื่ออัน... ” และถาใชลงในอรรถ- ปฐมาวิภัตติ มีชื่อเรียกทางสัมพันธวา “ตุมตฺถกตฺตา” และลงในอรรถจตุตถีวิภัตติ มชี อื่ เรียกทางสัมพนั ธวา “ตมุ ตถฺ สมปฺ ทาน” มีอทุ าหรณ ดังนี้ ศัพทเดมิ ปจ จยั รปู สำเรจ็ คำแปล กร เตฺว กาเตฺว เพอื่ อันทำ กร ตุ กาตุ เพ่ืออนั ทำ, อ.อนั ทำ กร ตนู กาตูน ทำแลว กร ตฺวา กตฺวา ทำแลว กร ตวฺ าน กตวฺ าน ทำแลว เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 424

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 425 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ แบบประเมนิ ผลตนเองกอ นเรียน หนว ยที่ ๑๗ วัตถปุ ระสงค เพือ่ ประเมนิ ผลความรูเ ดมิ ของนักเรยี นเกีย่ วกบั เรื่อง “อัพยยศัพท” คำชีแ้ จง ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอท่ีถูกตอง และทำ เคร่อื งหมายผิด ( ) หนา ขอที่ผิด ( ) ๑. อัพยยศพั ทค อื ศัพททจี่ ะแจกดว ยวิภตั ติทัง้ ๗ ไมไ ด ( ) ๒. อพั ยยศพั ทแ บงออกเปน ๒ คือ อุปสัค ๑ นบิ าต ๑ ( ) ๓. โต ปจจัย เปน เครื่องหมายได ๒ วภิ ัตติ คือ ปฐมา. และ ทุตยิ า ( ) ๔. ตฺร ตฺถ ห ธ ธิ หึ หํ หิฺจนํ ว ปจจัย ๙ ตัวน้ี ลงแลวเปนเคร่ืองหมาย สตั ตมวี ิภตั ติ ( ) ๕. ทา ทานิ รหิ ธุนา ทาจนํ ชฺช ชชฺ ุ ปจ จยั ๗ ตัวน้ี ลงแลว เปน เคร่อื งหมายกิริยา ( ) ๖. เตวฺ ตุ ตนู ตฺวา ตวฺ าน ปจจยั ๕ ตวั นี้ ใชลงทา ยนามศพั ท เปนเครอื่ งหมาย วิภัตติ ( ) ๗. ศัพทเหลา น้ี คอื กริ ขลุ สทุ ํ เปน นบิ าตบอกปฏิเสธ ( ) ๘. ภนฺเต เปนอาลปนนิบาต ท่พี ระผนู อ ยใชพูดกบั พระผูใหญ ( ) ๙. อธสิ กกฺ าโร เปนอปุ สัคสงั หารธาตุ ( ) ๑๐. นกิ ขฺ มติ เปน อปุ สคั เบยี ดเบยี นธาตุ ( ) ๑๑. อาคจฉฺ ติ เปนอปุ สัคคลอ ยตามธาตุ ( ) ๑๒. นิบาตนน้ั ใชสำหรับลงในระหวางนามศพั ทก ับอัพยยศพั ท ( ) ๑๓. เจ ยทิ สเจ เปนนิบาตบอกปริกัป ( ) ๑๔. โต ปจ จัยใชต อทายนามศัพทแ ละกิรยิ าศพั ท ( ) ๑๕. นบิ าตบอกความถามมี ๒ คอื อาม อามนฺตา เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 425

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 426 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ วัตถปุ ระสงค แบบประเมนิ ผลตนเองหลงั เรยี น หนว ยที่ ๑๗ คำชแี้ จง เพอื่ ประเมินผลความกาวหนา ของนักเรียนเกยี่ วกบั เรอ่ื ง “อัพยยศัพท” ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอที่ถูกตอง และทำ เครื่องหมายผิด ( ) หนา ขอ ท่ีผิด ( ) ๑. อัพยยศัพทคือคำท่สี ามารถแจกดว ยวิภัตติทง้ั ๗ ได ( ) ๒. อัพยยศัพทแบงออกเปน ๓ คอื อปุ สคั ๑ นิบาต ๑ ปจจยั ๑ ( ) ๓. โต ปจ จยั เปนเครอื่ งหมายได ๒ วิภัตติ คอื ตตยิ า. และ ปญ จมี. ( ) ๔. ตฺร ตฺถ ห ธ ธิ หึ หํ หิฺจนํ ว ปจจัย ๙ ตัวน้ี ลงแลวเปนเครื่องหมาย ปฐมาวิภัตติ ( ) ๕. ทา ทานิ รหิ ธนุ า ทาจนํ ชชฺ ชฺชุ ปจ จัย ๗ ตวั น้ี ลงแลวเปนเครอ่ื งสัตตมี- วิภัตติ ลงในกาล ( ) ๖. เตฺว ตุ ตูน ตฺวา ตฺวาน ปจจยั ๕ ตัวนี้ ใชล งทายธาตุ เปนเคร่ืองหมายกริ ยิ า ( ) ๗. ศัพทเหลา นี้ คอื กิร ขลุ สุทํ เปนนบิ าตบอกความไดย ินเลาลือ ( ) ๘. อาวโุ ส เปนอาลปนนิบาต ทีพ่ ระผูนอยใชพ ดู กับพระผใู หญ ( ) ๙. อธิสกกฺ าโร เปน อปุ สคั คลอ ยตามธาตุ ( ) ๑๐. นกิ ฺขมติ เปนอปุ สคั สังหารธาตุ ( ) ๑๑. อาคจฺฉติ เปน อุปเบยี ดเบียนธาตุ ( ) ๑๒. นิบาตนั้น ใชสำหรบั ลงในระหวางนามศัพทก ับกริ ิยาศพั ท ( ) ๑๓. เจ ยทิ สเจ เปน นิบาตบอกความเตือน ( ) ๑๔. โต ปจจยั ใชต อ ทายนามศพั ท ( ) ๑๕. นิบาตบอกความรับมี ๒ คือ อาม อามนฺตา เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 426

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 427 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เฉลยแบบประเมินผลตนเอง หนวยที่ ๑๗ ขอ กอนเรียน หลงั เรยี น ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 427

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 428 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แบบฝก หดั ประเมินผลนกั เรียน นามตอนปลาย และอพั ยยศัพท รวมหนว ยท่ี ๘ - ๑๗ วตั ถุประสงค เพื่อประเมินผลความรูความเขาใจของนักเรียนเก่ียวกับเร่ืองนาม คำชี้แจง ตอนปลายและอัพยยศัพท รวมหนว ยที่ ๘ - ๑๗ แบบฝกหดั ทง้ั หมดมี ๓ ตอน ใหเวลาในการทำแบบฝก หัดรวม ๓ ชัว่ โมง ตอนที่ ๑ ใหนักเรียนตอบคำถามตอไปน้ีใหถูกตอง (ขอละ ๑๐ คะแนน) ตอนที่ ๒ ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบ ขอ คำตอบทถี่ กู ท่สี ดุ เพยี งขอ เดยี ว (ขอละ ๑ คะแนน) ตอนที่ ๓ ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอที่ถูกตอง และทำเคร่ืองหมายผิด ( ) หนาขอท่ีผิด (ขอละ ๑ คะแนน) ตอนท่ี ๑ ใหนักเรียนตอบคำถามตอไปนี้ใหถูกตอง (ปญหามี ๕ ขอๆ ละ ๑๐ คะแนน) ๑. คำวา “กติปยศัพท” หมายถึงอะไร มีเทาไร อะไรบาง ? จงแจก ภควนฺตุ ศพั ทด วยวภิ ัตตทิ งั้ ๗ มาดู ? ๒. อะไรเรียกวา มโนคณศัพทๆ นั้นมีเทาไร อะไรบาง ? ศัพทพวกน้ีมีวิธีแจก ตางจาก อ การันตในปุงลิงคและนปุงสกลิงคอยางไร ? และเมื่อเขาสมาสกับ ศพั ทอื่นตองทำอยางไร ? ๓. คำวา “สังขยา” หมายถงึ อะไร ? มเี ทาไร ? อะไรบาง ? จงตอสังขยาจำนวนตอ ไปนม้ี าใหถ ูกตอ ง ก. ผูร ู ๒๐,๑๓๐,๐๕๐ (ใช อตุ ตฺ ร และ อธิก) ข. พระ ๑,๒๕๐ (ใช อฑฒฺ ศพั ท) ค. พระราชา ๕,๑๐๐,๔๐๒ (ใช จ ศัพท) เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 428

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 429 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๔. คำวา “สัพพนาม” คืออะไร มเี ทาไร อะไรบา ง ? เฉพาะปุรสิ สพั พนาม แบงออกเปนเทา ไร อะไรบาง แตล ะอยางใชอ ยา งไร ? จงแจก กึ ศัพท มี ย นำหนา มี จิ ตอทาย (ย กึ จิ ) ดวยวิภัตตทิ ัง้ ๗ ในอติ ถลี งิ คม าดู ? ๕. ๑. อพั ยยศพั ทค ืออะไร มเี ทาไร อะไรบา ง ? ๒. จงบอกศัพทท่ีประกอบปจจัยในอัพยยศัพท ซ่ึงตรงกับความหมายตอไป น้มี าดู ก. ขา งหลัง ข. ใน-น้ัน ค. วันน้ี ง. ความทำ,เพ่อื อนั ทำ จ. กระทำแลว ฯ ตอนท่ี ๒ ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบท่ีถูกท่ีสุด เพียงขอเดยี ว (ปญ หามี ๑๕ ขอๆ ละ ๑ คะแนน) ๑. คำวา “อ. ตระกูล ท. ของชา งไม ท.” ตรงกับขอใด ? ก. ถปตีนํ กลํ ข. ถปตสี ุ กุลานิ ค. ถปตโิ น กลุ านิ ง. ถปตีนํ กุลานิ ๒. คำวา “อ. เศรษฐี ผมู ีโภคะ” ตรงกบั ขอ ใด ? ก. โภคิ เสฏ ิ ข. โภคินี เสฏ ินี ค. โภโค เสฏี ง. โภคี เสฏี ๓. ศพั ทวา “อตตฺ ” มศี พั ทใ ชแ ทนคืออะไร ? ก. สยํ หรอื สก ข. สห หรอื สทธฺ ึ ค. สปปฺ  หรอื อจฺจิ ง. สา หรือ สาน ๔. คำใดตอไปนใี้ ชไ ดเ ฉพาะทวิวจนะอยางเดียว ? ก. ภควา ข. ภควนตฺ า ค. ภควนฺโต ง. ภควติ ๕. คำวา “สตถฺ ุ” เม่อื ใชเปนพระนามของพระพทุ ธเจา มีรปู เปน อยา งไร ? ก. สตถฺ า ข. สตถฺ าโร ค. สตฺถาเรหิ ง. สตถฺ ารานํ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 429

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 430 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๖. คำวา “สตถฺ ุ” มวี เิ คราะหวา อยา งไร ? ก. สาสติ สีเลนาติ สตฺถา ข. สาสติ ุ สีลมสฺสาติ สตฺถา ค. สาสตตี ิ สตฺถา ง. สาสยิ เตติ สตฺถา ๗. คำวา “ปต ”ุ ทีเ่ ปนอาลปนะ ใชค ำใดแทน ? ก. ภาตุ ข. ชามาตุ ค. ตาต ง. อมมฺ ๘. ศพั ทวา “โค” เมือ่ ตอ งการเปน อิตถีลงิ ค ตองทำอยา งไร ? ก. แปลงเปน โคณา ข. แปลงเปน คาวินี ค. แปลงเปน คาวี ง. แปลงเปน คาวา ๙. ศพั ทใดตอไปนจี้ ัดอยใู นกลุม ของมโนคณศพั ท ? ก. อาจรยิ กุมาร ข. องคฺ อิณ ค. อย อรุ ง. ทวิ ส สํวจฉฺ ร ๑๐. สงั ขยาใดตอไปน้เี ปน จำนวนสพั พนาม ? ก. เอก-จตุ ข. ปฺจ-อฏารส ค. ปฺจ-อฏนวุติ ง. สต-โกฏิ ๑๑. สังขยาในจำนวนใดตอ ไปนีเ้ ปนพหุวจนะไดอยา งเดยี ว ? ก. เอก-จตุ ข. ทวฺ -ิ อฏ ารส ค. เอกูนวุต-ิ อฏนวุติ ง. เอกูนสต-โกฏิ ๑๒. การตอ สังขยาโดยใช “อตุ ตฺ ร” ใชต อสังขยาจำนวนใดตอ ไปนี้ ? ก. ทส กบั สต ข. สต กับ สหสฺส ค. สหสฺส กับ ทสสหสฺส ง. ทสสตสหสฺส กับ โกฏิ ๑๓. ถาสระเหลา นีค้ อื “อ อา อุ อู” อยหู นา อุตตฺ ร สระเหลา น้ตี องทำอยา งไร ? ก. คงรูปเดิมไว ข. แปลงเปน ย ค. แปลงเปน ว ง. ลบท้ิง ๑๔. คำวา “พระจันทร ๙๐,๐๐๐,๐๐๑” ตอ สงั ขยาวาอยางไร ? ก. เอกจนทฺ าธิกนวจนฺทโกฏิ ข. เอกจนฺทุตฺตรนวจนฺทโกฏิ ค. เอกจนทฺ าธิกนวจนฺทโกฏโิ ย ง. เอกจนฺทตุ ตฺ รนวจนทฺ โกฏโิ ย เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 430

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 431 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๑๕. คำวา “บดั นี้ลว งแลว ๒,๕๔๖ ป” ตอ สงั ขยาวา อยางไร ? ก. อิทานิ ฉจตฺตาฬสตุ ตฺ รปฺจสตาธิกทวฺ ิสํวจฺฉรสหสฺสานิ อติกกนตานิ ข. อิทานิ ฉจตตฺ าฬสสํวจฉรตุ ฺตรปฺจสตาธิกทฺวสิ ํวจฺฉรสหสสฺ านิ อตกิ กฺ นฺตานิ ค. อทิ านิ ฉจตตฺ าฬสสํวจฉฺ รุตตฺ รปจฺ สตาธิกานิ เทฺว สวํ จฺฉรสหสสฺ านิ อติกฺกนฺตานิ ง. อทิ านิ ฉจตฺตาฬสสวํ จฉราธิกปจฺ สตาธกิ านิ เทฺว สํวจฉฺ รสหสฺสานิ อติกกฺ นฺตานิ ๑๖. คำวา “อบุ าสก ๒๕,๐๐๐,๐๐๐” ตอ สงั ขยาโดยใช อฑฒ ศพั ทวาอยางไร ? ก. ทิยฑฺฒอุปาสกโกฏิ ข. อฑฒฺ เตยยฺ อุปาสกโกฏิ ค. อฑฒฺ ุฑฺฒอุปาสกโกฏิ ง. อฑฒฺ ปฺจวสี ติอุปาสกโกฏิ ๑๗. ในปรู ณสังขยาใชป จ จยั ในปูรณตทั ธิต ๕ ตวั ตอทายปกตสิ ังขยา เฉพาะ อี ปจ จัย มวี ิธีใชอยางไร ? ก. ตอทาย ทวฺ ิ และ ติ เฉพาะอติ ถีลงิ ค ข. ตอทา ย จตุ และ ฉ เฉพาะอิตถีลงิ ค ค. ตอทา ยสงั ขยาไดท กุ ตวั เฉพาะอติ ถลี งิ ค ง. ตอ ทาย เอกาทส ถึง อฏ ารส เฉพาะอิตถลี งิ ค ๑๘. การแบงปุริสสพั พนาม เปน การแบงตามอะไร ? ก. บรุ ุษของอาขยาต ข. วจนะของอาขยาต ค. วิภัตตขิ องอาขยาต ง. ปจจยั ของอาขยาต ๑๙. มธั ยมบรุ ุษเทยี บกับคำในภาษาไทยของเราวาอะไร ? ก. เขา มนั ข. ฉนั ขา กู ค. ทา น เธอ คุณ ง. นนั้ น้ี โนน ๒๐. ศัพทก ลมุ ใดตอไปน้ีเปนอนิยมวิเสสนสัพพนามทง้ั หมด ? ก. ต เอต อิม อมุ ข. ต ตุมฺห อมฺห ค. กึ อมุ ต ง. ย อฺ อฺตร ๒๑. ศพั ทใ ดตอไปนีใ้ ชประกอบกบั นามแลวมีความหมายวา “ใกลที่สดุ ” ? ก. ต ศพั ท ข. เอต ศพั ท ค. อมิ ศพั ท ง. อมุ ศัพท เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 431

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 432 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๒๒. ศพั ทว เิ สสนสัพพนามเปน ลงิ คใ ด ? ก. ปุงลงิ คอ ยางเดียว ข. ปงุ ลงิ คแ ละอิตถีลงิ ค ค. ปงุ ลงิ คและนปุงสกลงิ ค ง. ไตรลงิ ค ๒๓. ศัพทว า “สาย”ํ เปน นิบาตบอกอะไร ? ก. อาลปนะ ข. กาล ค. ที่ ง. ปรเิ ฉท ๒๔. ศพั ทนบิ าตใดตอ ไปนเ้ี ปนนบิ าตบอกอปุ มาอปุ ไมย ? ก. เจ ยทิ สเจ ข. หนทฺ ตคฺฆ องิ ฺฆ ค. อิว วยิ ยถา ง. โข วต หเว ๒๕. โต ปจ จัยใชต อทายนามศัพทเ ปนเครือ่ งหมายบอกวิภัตตใิ ด ? ก. ปฐมา. และ ทุติยา. ข. ตตยิ า. และ ปญ จม.ี ค. จตุตถ.ี และ ฉฏั ฐ.ี ง. สตั ตมี เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 432

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 433 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ตอนที่ ๓ ใหนักเรียนทำเครื่องหมายถูก ( ) หนาขอท่ีถูกตอง และทำ เครื่องหมายผิด ( ) หนาขอที่ผิด (ปญหามี ๒๕ ขอ ๆ ละ ๑ คะแนน) ( ) ๑. คำวา “อ.ตระกลู อันมศี ทั ธา” ตรงกบั ภาษามคธวา “สทธฺ ํ กุล”ํ ( ) ๒. คำวา “โลกานํ สตถฺ า” ตรงกับภาษาไทยวา “อ.ครู ในโลก ท.” ( ) ๓. อตตฺ ศพั ทแ จกวภิ ัตติไดทง้ั เอกวจนะ และพหวุ จนะ ( ) ๔. ศัพทท่ีจะแจกอยาง ภควนฺตุ ศัพทไดตองประกอบดวยปจจัย คือ วนฺตุ มนฺตุ และอมิ นตฺ ุ ( ) ๕. คำวา “อรหา” ใชส ำหรับพระพุทธเจา เทา นั้น ( ) ๖. คำวา “อมมฺ ” ใชแ ทน มาตุ ในอาลปนะ ( ) ๗. ในศพั ทพวกมโนคณะ เอา อํ วภิ ตั ติ เปน โอ ไดบ าง ( ) ๘. สา เปนคำสามัญไมนยิ มวา ผหู รือเมยี ในปงุ ลิงคใ ช สนุ ข แทน ( ) ๙. ปกตสิ ังขยาต้งั แต เอกูนวีส ถึง อฏนวุติ เปน สังขยาฝน ลิงค ฝนวจนะ ( ) ๑๐. ปกตสิ ังขยาตั้งแต เอกนู สตํ ข้นึ ไปเปน คณุ นาม ( ) ๑๑. ตยิ ปจจยั ใชต อ กับ ทฺวิ และ ติ ปกติสังขยา ทำใหเ ปนปรู ณสังขยา ( ) ๑๒. ถาจะตอปกติสงั ขยาจำนวนรอย (สต) กับพนั (สหสสฺ ) ตองใช อุตฺตร ในการตอ ( ) ๑๓. ถา ศัพทหนา อตุ ตฺ ร สระท่สี ดุ เปน อิ หรอื อี ใหแ ปลง อ-ิ อี นน้ั เปน ย ( ) ๑๔. คำวา “อ.มา ท. ๖๕” ตอ สังขยาเปน “ปฺจสฏ โย ตุรคา” ( ) ๑๕. เทวดา ๑๐๐,๔๐๓ ตอ สังขยาวา ตอิ มรุตตฺ รจตุอมรสตาธกิ อมรสตสหสฺสํ ( ) ๑๖. บัดนี้ลวงแลว ๑๒,๓๔๕,๖๗๘ วัน ตอสังขยาวา อิทานิ อฏสตฺตติ- ทิวสุตฺตรฉสตาธิกปฺจสหสฺสาธิกจตุทสหสฺสาธิกติสตสหสฺสาธิก- ทฺวิทสสตสหสสฺ าธกิ า ทิวสโกฏิ อตกิ กฺ นตฺ า ( ) ๑๗. จติ ๑๒,๓๔๕ ใช จ ศพั ทตอ เปน ปจฺ จตตาฬส จติ ตฺ านิ จ ตโย จติ ตานํ สตานิ จ เทฺว จิตฺตานํ สหสสฺ านิ จ จิตตฺ านํ ทสสหสสานิ จ ( ) ๑๘. อ. ภิกษุท่ี ๑๐๐ ตอเปน สตมา ภกิ ขู ( ) ๑๙. เต เม โว โน ทม่ี าจาก ตมุ ฺห และ อมฺห ศพั ท นิยมเรยี งไวเ ปนตวั แรกของ ประโยค เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 433

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 434 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ( ) ๒๐. เอต ศัพท เปน ประถมบรุ ุษ ปุริสสพั พนาม ( ) ๒๑. อมุ ศพั ทบ อกนามนามทอ่ี ยูใกลท สี่ ดุ ( ) ๒๒. กึ ศพั ทเมือ่ จะนำไปแจกดว ยวิภัตตทิ ้ัง ๗ ตอ งแปลงเปน ก กอ น ( ) ๒๓. ศัพทเหลานีค้ อื เจ ยทิ สเจ เปน นิบาตบอกปริกปั ( ) ๒๔. ปจ จัยคือ ตฺร ตถฺ ห ธ ธิ หึ หํ หิ ฺจนํ ว ท้งั ๙ ตวั นี้ลงแลว เปน เครือ่ งหมาย สตั ตมีวิภัตติ ( ) ๒๕. ปจจัยคือ เตฺว ตํุ ตูน ตฺวา ตฺวาน ท้ัง ๕ ตัวนี้ใชลงทายนามศัพทเปน เคร่ืองหมายวภิ ัตติ 434

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 435 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ เฉลยแบบฝก หดั ประเมนิ ผลนักเรยี น นามตอนปลาย และอัพยยศัพท รวมหนว ยท่ี ๘ - ๑๗ ตอนที่ ๑ ใหนกั เรียนตอบคำถามตอ ไปนใ้ี หถูกตอ ง (ปญหามี ๕ ขอ ๆ ละ ๑๐ คะแนน) ๑. กตปิ ยศัพท หมายถึง ศพั ทเล็กนอยประเภทหน่ึงซ่งึ มีวธิ แี จกวิภัตติเปนของ เฉพาะตนไมท่ัวไปแกศัพทอ่ืน มี ๑๒ ศัพท คือ อตฺต พฺรหฺม ราช ภควนฺตุ อรหนฺต ภวนตฺ สตถฺ ุ ปตุ มาตุ มน กมมฺ โค ฯ ภควนฺตุ ศพั ท แจกอยางนี้ เอก. พหุ. ป. ภควา ภควนฺตา ภควนฺโต ท.ุ ภควนฺต ภควนฺเต ภควนโฺ ต ต. ภควตา ภควนเฺ ตหิ ภควนฺเตภิ จ. ภควโต ภควต ภควนตฺ าน ป.ฺ ภควตา ภควนฺเตหิ ภควนเฺ ตภิ ฉ. ภควโต ภควต ภควนฺตาน ส. ภควติ ภควนฺเต ภควนเฺ ตสุ อา. ภคว ภควา ภควนฺตา ภควนฺโต ๒. หมูแหงศัพท มี มน ศัพทเปนตน เรียกวา มโนคณะ มี ๑๒ ศัพท คือ มน-ใจ อย-เหล็ก อุร-อก เจต-ใจ ตป-ความรอน ตม-มืด เตช-เดช ปย-น้ำนม ยส-ยศ วจ-วาจา วย-วยั สิร-หัว ฯ ศัพทพวกนี้มีวิธีแจกไมตางจาก อ การันตในปุงลิงคและนปุงสกลิงค มีแปลกอยู ๕ วิภตั ติ คือ นา กบั สฺมา เปน อา, ส ทงั้ สองเปน โอ, สฺมึ เปน อิ, แลว ลง ส อาคม เปน สา, เปน โส, เปน สา, เปน โส, เปน สิ ฯ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 435

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 436 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) และเมื่อตอสมาสกับศัพทอื่นนิยมเอาสระท่ีสุดของตนเปน โอ เชน มโนคโณ, อโยมยํ, สิโรรุโห เปนตน เฉพาะ วจ นิยมเอาสระท่ีสุดของตนเปน อี เชน วจีกมฺมํ เปนตน ฯ ๓. สงั ขยา หมายถงึ ศัพทเปนเคร่อื งกำหนดนับนามนาม แบง ออกเปน ๒ อยา ง คือ ปกติสังขยา ๑ ปูรณสังขยา ๑ ฯ ไดตอสังขยานัน้ ดงั ตอไปน้ี ก. ผูร ู ๒๐,๑๓๐,๐๕๐ (ใช อตุ ตฺ ร และ อธิก) ตอเปน “ปฺาสมุนยฺ ุตตฺ รติมนุ ิสหสสฺ าธิกมุนิสตสหสฺสาธิกทฺวิมนุ ิโกฏโิ ย” ข. พระ ๑,๒๕๐ (ใช อฑฺฒ ศัพท) ตอเปน “อฑฒฺ เตรสภกิ ฺขสุ ตานิ” ค. พระราชา ๕,๑๐๐,๔๐๒ (ใช จ ศพั ท) ตอเปน “เทฺว ราชาโน จ จตตฺ าริ ราชูนํ สตานิ จ ราชูนํ สตสหสสฺ ํ จ ปฺจ ราชนู ํ ทสสตสหสฺสานิ จ” ๔. สัพพนาม คือ นามท่ีสำหรับใชแทนนามนามที่ออกชื่อมาแลวเพ่ือมิให เปนการซ้ำๆ ซากๆ ซึ่งฟงแลวไมเพราะหู แบงออกเปน ๒ คือ ปริสสัพพนาม ๑ วเิ สสนสัพพนาม ๑ ฯ เฉพาะปุริสสัพพนามมี ๓ คอื ประถมบุรุษ ๑ มธั ยมบรุ ุษ ๑ อุตตมบรุ ุษ ๑ ประถมบุรุษ ใชสำหรับใชแทนชื่อท่ีผูพูดเอยถึงซึ่งมิไดอยูในที่น้ัน ทานหมายรู ดว ย ต ศพั ท ตรงกบั คำในภาษาไทยวา ทา น เธอ เขา มัน เปน ตน มัธยมบรุ ุษ ใชส ำหรบั แทนชอื่ ผูทพ่ี ดู ๆ ดว ย ทานหมายรดู วย ตมุ ห ศพั ท ตรงกับ คำในภาษาไทยวา ทา น เจา สู เอ็ง มงึ เปน ตน อตุ ตมบุรุษ ใชส ำหรับแทนชื่อของผูพูดเอง ทานหมายรูดว ย อมฺห ศพั ท ตรงกับ คำในภาษาไทยวา ฉนั ขา กู เปนตน ฯ 436

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 437 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ กึ ศัพท มี ย นำหนา มี จิ ตอ ทา ย ในอติ ถลี ิงค แจกอยางนี้ เอก. พห.ุ ป. ยา กาจิ ยา กาจิ ทุ. ยงกฺ จฺ ิ ยา กาจิ ต. ยาย กายจิ ยาหิ กาหจิ ิ จ. ยสฺสา กสสฺ าจิ ยาสํ กาสฺจิ ยาสานํ ยาสานฺจิ ป.ฺ ยาย กายจิ ยาหิ กาหจิ ิ ฉ. ยสสฺ า กสสฺ าจิ ยาสํ กาสฺจิ ยาสานํ ยาสานจฺ ิ ส. ยสฺสํ กสฺสจฺ ิ ยาสุ กาสจุ ิ ๕. ๑. อัพยยศัพท คือ ศัพทพวกหน่ึงจะแจกดวยวิภัตติท้ัง ๗ แปลงรูปไป ตา งๆ เหมอื นนามทัง้ ๓ ไมได คงรูปอยูเปนอยา งเดยี ว มี ๓ คือ อุปสัค ๑ นบิ าต ๑ ปจจยั ๑ ฯ ๒. ไดบอกศัพทท่ีประกอบปจจัยในอัพยยศัพท ซึ่งมีความหมายตรงกัน ดังตอไปนี้ ก. ขา งหลงั - ปจฺฉโต ข. ใน-นั้น - ตตฺร, ตตฺถ ค. วนั น้ี - อชชฺ ง. ความทำ,เพื่ออนั ทำ - กาตุ จ. กระทำแลว - กาตนู กตวฺ า กตฺวาน ฯ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 437

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 438 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เฉลยแบบประเมนิ ผลตนเอง ขอ ตอนท่ี ๒ ตอนที่ ๓ ๑. ง ๒. ง ๓. ก ๔. ข ๕. ก ๖. ค ๗. ค ๘. ค ๙. ค ๑๐. ก ๑๑. ข ๑๒. ก ๑๓. ง ๑๔. ง ๑๕. ค ๑๖. ข ๑๗. ง ๑๘. ก ๑๙. ค ๒๐. ง ๒๑. ค ๒๒. ง ๒๓. ข ๒๔. ค ๒๕. ข เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 438

เนอ้ื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ºÃóҹ¡Ø ÃÁ ºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ¹ÒÁÈѾ·- ÍѾÂÂÈѾ· ÊÁà´ç¨¾ÃÐÁËÒÊÁ³à¨ŒÒ ¡ÃÁ¾ÃÐÂÒǪÔÃÞÒ³ÇâÃÃÊ. “ºÒÅÕ äÇÂҡó ǨÇÕ ÀÔ Ò¤ ÀÒ¤·Õè ò ¹ÒÁ áÅÐ Í¾Ñ ÂÂÈ¾Ñ ·” ¡Ã§Ø à·¾Ï : âç¾ÁÔ ¾ ÁËÒÁ¡Ø¯ÃÒªÇÔ·ÂÒÅÂÑ , òõóø. ÊÒí ¹¡Ñ àÃÂÕ ¹Ç´Ñ »Ò¡¹Òéí ÀÒÉàÕ ¨ÃÞÔ . “»ÒÅ·Ô à·Ê” ¡Ã§Ø à·¾Ï : âç¾ÁÔ ¾ ÍҷáÒþÔÁ¾, òõôô. ¡ÃÃÁ¡ÒáͧμÒí ÃÒ ÁËÒÁ¡¯Ø ÃÒªÇ·Ô ÂÒÅÂÑ . “͸ºÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó ¹ÒÁ áÅÐ Í¾Ñ ÂÂÈ¾Ñ ·” ¡Ã§Ø à·¾Ï : âç¾ÁÔ ¾Á ËÒÁ¡¯Ø ÃÒªÇ·Ô ÂÒÅÂÑ , òõôñ. ÊÁà´ç¨¾ÃÐÁËÒÊÁ³à¨ŒÒ ¡ÃÁ¾ÃÐÂÒǪÃÔ ÞÒ³ÇâÃÃÊ. “ÍØÀÂÑ ¾Ò¡Â »ÃÔÇμÑ ¹” ¡ÃØ§à·¾Ï : âç¾ÔÁ¾Á ËÒÁ¡Ø¯ÃÒªÇ·Ô ÂÒÅÂÑ , òõôð. ¾¹Ñ μÃÕ ». ËŧÊÁºÞØ . “¾¨¹Ò¹¡Ø ÃÁÁ¤¸-ä·Â” ¡Ã§Ø à·¾Ï : âç¾ÁÔ ¾ ÍҷáÒþÁÔ ¾, òõôð. ¾ÃÐÃÒªÃÑμ¹ÇÔÊØ·¸Ôì “á¹Ðá¹Ç¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ºÒÅÕäÇÂҡó” ¹¤Ã»°Á : ÊíÒ¹¡Ñ ¾ÔÁ¾ÃЦ§Ñ ·Í§, òõõð. ÁËÒÁ¡¯Ø ÃÒªÇ·Ô ÂÒÅÂÑ . “Á§¤Å·»Õ ¹Õ ÀÒ¤ ñ” ¡Ã§Ø à·¾Ï : âç¾ÁÔ ¾ ÁËÒÁ¡¯Ø ÃÒªÇ·Ô ÂÒÅÑÂ, òõóø. ¾ÃÐÁËÒÈ¡Ñ Ã¹Ô ·Ã ÈȾ¹Ô ·ÃØ ¡Ñ É. “͸ºÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó” ¡Ã§Ø à·¾Ï : âç¾ÔÁ¾Ã§‹Ø àÃÍ× §¡ÒþÔÁ¾, òõóõ. 439

ÃÒªºÑ³±ÔμÂʶҹ. “¾¨¹Ò¹Ø¡ÃÁ©ºÑºÃÒªºÑ³±ÔμÂʶҹ” เนอื้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡Ãا෾ÁËÒ¹¤Ã : ÊÒí ¹Ñ¡¾ÁÔ ¾Í ¡Ñ ÉÃà¨ÃÞÔ ·ÈÑ ¹, òõòõ. ¾ÃиÃÃÁ»®¡ (».Í. »ÂμØ âÚ μ). “¾¨¹Ò¹Ø¡ÃÁ©ººÑ »ÃÐÁÇÅÈѾ·” ¡Ãا෾ÁËÒ¹¤Ã : ºÃÔÉÑ· ÈÃÕ¸¹Òà¾ÍÏ࿤· ¨íÒ¡Ñ´, ¾ÔÁ¾¤Ãéѧ·Õè ññ, òõôø. 440


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook