๘๒ ๒ มดี อก มะลิ มะมว่ ง ไมม่ ดี อก เฟิน มอส
๘๓ รำก ลำต้น ใบ ดอกและผล นกั เรียนตอบตำมผลกำรทำกิจกรรม จำแนกได้ ๒ กล่มุ คือ พืชดอกและพืชไม่มดี อก เรำสำมำรถจำแนกพืชตำมเกณฑท์ ่กี ำหนดได้ ถ้ำใช้กำรมีดอกเปน็ เกณฑจ์ ะจำแนก ไดเ้ ป็น ๒ กลมุ่ คอื พืชดอกและพืชไม่มีดอก
๘๔ จำแนกได้ ๒ กลมุ่ คอื พืชกลมุ่ ท่ี ๑ คือ พชื ไมม่ ดี อก และ กลุ่มท่ี ๒ คือ พชื ดอก เพรำะใช้กำรมดี อกเป็นเกณฑ์ อยใู่ นกลุ่มพืชดอก เพรำะมีดอก
๘๕ หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพืช
๘๖ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้และตัวชวี้ ดั ของหน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ สว่ นต่ำง ๆ ของพืช (จำนวน ๑๒ ชั่วโมง) มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชี้วดั มำตรำฐำน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ีของระบบตา่ ง ๆ ของสัตวแ์ ละมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กนั ความสัมพันธ์ ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ีของอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ทที่ างานสมั พันธก์ ันรวมทงั้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ตัวชีว้ ดั ป.๔/๑ บรรยายหน้าทขี่ องราก ลาต้น ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใชข้ ้อมูลทร่ี วบรวมได้
๘๗ ลำดบั กำรนำเสนอแนวคิดหลกั ของหน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๒ ส่วนตำ่ ง ๆ ของพชื ส่วนต่าง ๆ ของพืชดอกทาหน้าที่แตกต่างกัน รากทาหน้าที่ดูดนา้ และธาตุอาหารขน้ึ ไปยงั ลาต้น ลาตน้ ทาหน้าทลี่ าเลยี งนา้ และธาตอุ าหารต่อไปยังส่วนตา่ ง ๆ ของพชื ใบทาหนา้ ทีส่ ร้างอาหาร อาหารทีพ่ ชื สร้างขึ้นคอื น้าตาล ซึ่งจะเปลีย่ นเปน็ แปง้ ดอกทาหนา้ ท่ีสบื พันธุ์ ประกอบด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ได้แก่ กลบี เลี้ยง กลบี ดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี ซึ่งสว่ นประกอบแตล่ ะสว่ นของดอกทาหน้าท่แี ตกต่างกัน
๘๘ โครงสรำ้ งแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ของหนว่ ยกำรเรียนรูท้ ่ี ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพชื แผนท่ี ๑.๑ แผนที่ ๑.๒ แผนท่ี ๑.๓ หน้าท่ขี องรากและ หนา้ ท่ีของใบ หน้าทขี่ องดอก (๔ ช่ัวโมง) ลาต้น (๔ ช่ัวโมง) (๔ ชัว่ โมง) หน่วยย่อยท่ี ๑ หนา้ ที่ของราก ลาต้น ใบ และดอกของพชื หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๒ สว่ นตำ่ ง ๆ ของพชื (๑๒ ชัว่ โมง)
๘๙ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ทข่ี องรำก ลำตน้ ใบ และดอกของพืช หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ ๒ ชื่อหน่วย สว่ นตำ่ ง ๆ ของพืช จำนวนเวลำเรยี น ๑๒ ช่ัวโมง จำนวนแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ๓ แผน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สำระสำคัญของหนว่ ย สว่ นตา่ ง ๆ ของพืชดอกทาหน้าทแี่ ตกตา่ งกนั รากทาหน้าท่ีดดู น้าและธาตอุ าหารขึน้ ไปยงั ลาตน้ ลาต้นทาหน้าท่ีลาเลียงน้าและธาตุอาหารต่อไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช ใบทาหน้าท่ีสร้างอาหาร อาหารที่พืช สร้างขึ้นคือน้าตาล ซึ่งจะเปล่ียนเป็นแป้ง ดอกทาหน้าที่สืบพันธุ์ ประกอบด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ได้แก่ กลีบเล้ยี ง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ซ่งึ สว่ นประกอบแตล่ ะส่วนของดอกทาหนา้ ที่แตกต่างกัน มำตรฐำนและตัวชีว้ ัด ว ๑.๒ ป.๔/๑ บรรยายหนา้ ที่ของราก ลาต้น ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใช้ขอ้ มลู ทรี่ วบรวมได้
๙๐ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ ลำดับกำรนำเสนอแนวคดิ หลกั ของหน่วยย่อยท่ี ๑ หน้ำท่ีของรำก ลำตน้ ใบ และดอกของพืช สว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ดอกทาหน้าทแ่ี ตกต่างกนั รากทาหน้าที่ดดู น้าและธาตุอาหารขึ้นไปยงั ลาต้น ลาตน้ ทาหน้าท่ีลาเลียงน้าและธาตุอาหารต่อไปยังสว่ นต่าง ๆ ของพชื ใบทาหนา้ ทสี่ รา้ งอาหาร อาหารทีพ่ ืชสร้างขึ้นคอื นา้ ตาลซึง่ จะเปล่ยี นเปน็ แป้ง ดอกทาหน้าที่สบื พนั ธุ์ ประกอบดว้ ยสว่ นประกอบต่าง ๆ ได้แก่ กลีบเล้ียง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี ซ่ึงสว่ นประกอบแต่ละสว่ นของดอกทาหน้าทแ่ี ตกต่างกนั โครงสร้ำงของหนว่ ยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ทข่ี องรำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช . หนว่ ยกำรเรยี นรู้ ชือ่ หน่วยย่อย จำนวนแผน ชื่อแผนกำรจัดกำร จำนวนชวั่ โมง เรยี นรู้ ๔ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ ๓ ๑.๑ หนา้ ทขี่ องรากและ ๔ ๒ สว่ นตา่ ง ๆ ของ หน้าที่ของราก ลาต้น ลาตน้ ๔ พชื ใบ และดอกของพชื ๑.๒ หนา้ ทข่ี องใบ ๑.๓ หน้าทีข่ องดอก
๙๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ คำชีแ้ จงประกอบแผนจัดกำรเรยี นรู้ หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ๒ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๑.๑ หน้ำทขี่ องรำกและลำต้น เวลำ ๔ ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. สำระสำคญั ของแผน รากและลาตน้ เป็นส่วนสาคัญของพชื ท่ีทาหนา้ ที่แตกต่างกันเพ่ือการดารงชีวิตของพชื ๒. ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติมในกำรนำไปใช้ (ใหร้ ะบุส่ิงทตี่ ้องกำรเน้นหรือขอ้ สังเกต ข้อเสนอแนะ คำแนะนำ) ในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี คอื ๒.๑ ขอบข่ำยเนอื้ หำ รากเปน็ สว่ นหนึง่ ของพชื ทที่ าหน้าท่ีดูดนา้ และธาตอุ าหาร แลว้ ลาเลียงไปยังลาตน้ ลาตน้ ทาหน้าท่ี ลาเลียงน้าและธาตอุ าหารไปยังส่วนตา่ ง ๆ ของพชื นอกจากน้รี ากและลาต้นของพชื บางชนิดยังทาหนา้ ที่ สะสมอาหาร ๒.๒ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ (ควำมรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรมจริยธรรม คำ่ นิยม) (ถำ้ ม)ี จดุ ประสงคด์ ำ้ นควำมรู้ ๑. อภิปรายและอธบิ ายหนา้ ท่ีของรากและลาต้น ๒. อภปิ รายและระบชุ นิดของอาหารที่สะสมไว้ท่รี ากและลาต้น จุดประสงค์ด้ำนทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ ๑. การสังเกต ๒. การจัดกระทาและสอื่ ความหมายข้อมลู ๓. การลงความเห็นจากข้อมูล ๔. การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป จุดประสงคด์ ำ้ นคุณธรรม ๑. มจี ติ สาธารณะต่อสง่ิ แวดล้อม ๒. มีความสามัคคี ชว่ ยเหลอื ในการทางานกลุ่ม ๓. มีวนิ ยั ๔. มคี วามมุ่งมั่นในการทางาน
๙๒ ๒.๓ กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ๑) กำรเตรยี มตัวของครู นักเรยี น (กำรจดั กลมุ่ ) (ถำ้ มี) ๑.๑ การจดั กล่มุ โดยแบง่ นักเรียนออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ ๕ คน ๒) กำรเตรียมสื่อ วัสดุอปุ กรณ์ ของครู นักเรียน (ถำ้ ม)ี ส่งิ ที่ครูต้องเตรียม คอื ๒.๑ เตรียมนา้ สีแดง ถ้าใช้สผี สมอาหารแบบน้าให้ผสมนา้ สกี บั น้าในอัตราสว่ น ๑๐ หยด ตอ่ น้า ๑๐ ลกู บาศก์เซนติเมตร และถ้าเปน็ สผี สมอาหารแบบผง ผสมในอัตราส่วน ๑/๒ ชอ้ นชา ต่อนา้ ๑,๐๐๐ ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ๒.๒ ต้นเทียนทมี่ ีราก ๑ ตน้ /กล่มุ (หรอื พชื ทล่ี าตน้ ค่อนข้างใส) เชน่ ฤาษผี สม กระสงั ครคู วรตรวจสอบก่อนท่จี ะให้นกั เรียนทากิจกรรมเพอ่ื ให้แน่ใจวา่ นักเรียนจะสงั เกตลกั ษณะของราก และลาต้นไดช้ ัดเจน โดยไม่รดนา้ ใหพ้ ืชประมาณ ๑ วนั ๒.๓ มีดโกน ๑ ดา้ ม/กล่มุ ๒.๔ แว่นขยาย ๑ อนั /กลมุ่ ๒.๕ ต้นมะเขอื หรือพืชชนิดอ่ืนทม่ี ีราก ลาตน้ ใบ และดอก ครบ ๒.๖ นา้ แป้งมัน ๕๐ มลิ ลลิ ติ ร/กล่มุ ๒.๗ นา้ แป้งข้าวโพด ๕๐ มลิ ลลิ ติ ร/กลมุ่ ๒.๘ สารละลายไอโอดีน ๑ % ๑ ขวดเลก็ /กลุ่ม ๒.๙ ทว่ี างหลอดทดลอง ๑ อนั /กล่มุ ๒.๑๐ จานหลุมพลาสติก ๑ จาน/กลุ่ม ๒.๑๑ กระบอกตวงขนาด ๑๐ ลกู บากศก์เซนติเมตร ๑ อัน/กล่มุ ๒.๑๒ หลอดหยด ๖ อัน/กลุ่ม ๒.๑๓ หลอดทดลอง ๖ หลอด/กลุ่ม สิ่งท่ีนกั เรียนต้องเตรยี ม คอื ๒.๑๒ สีไม้ ๑ กล่อง/กลมุ่ ๒.๑๓ แครอท ขิง ข่า กระชาย เผือก มนั เทศ และมันฝร่งั ชนิดละ ๑ หวั /ห้อง
๙๓ ๓) เตรยี มใบงำน ใบควำมรู้ ใบกิจกรรม (ถ้ำมี) ๓.๑ ใบงาน ๐๑ หน้าที่ของรากและลาต้น ๓.๒ หนา้ ทอี่ นื่ ของรากและลาต้น ๓.๓ ใบงาน ๐๓ แบบฝึกหดั เรือ่ งหนา้ ท่ีของรากและลาต้น ๒.๔ วดั ผลประเมินผล (ถำ้ มี) ๑) วิธีกำรวดั ผลประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ ๑.๑ การตอบคาถามในใบงาน ๑.๒ สังเกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการทากิจกรรม ๑.๓ สงั เกตดา้ นคุณธรรมขณะทากิจกรรม ๒) วิธกี ำร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ๒.๑ เครือ่ งมอื และเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ดำ้ นควำมรู้ ตรวจใหค้ ะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แล้วใชเ้ กณฑใ์ นการให้คะแนน ดังนี้ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๒ เคร่อื งมอื และเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ สงั เกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยใชแ้ บบประเมินทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ (ดงั แนบ) แลว้ นาคะแนนมารวมกัน แล้วใชเ้ กณฑ์ ในการให้คะแนนดังน้ี - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๓ เครื่องมือและเกณฑ์ในกำรประเมนิ ด้ำนคุณธรรม สังเกตคณุ ลักษณะด้านคณุ ธรรมโดยใช้แบบประเมินด้านคุณธรรม (ดังแนบ) แลว้ นา คะแนนมารวมกัน แลว้ ใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนนดงั นี้ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๙๔ ๓) กำรทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน แบบฝึกหดั ก่อนเรยี น หลังเรยี น ทาแบบฝกึ หัดในใบงานหลงั เรียน ๓. อนื่ ๆ ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................... ....................................................................................................... ...............
แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ข หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๒ ส่วนตำ่ ง ๆ ของพืช เร่ือง หนำ้ ท กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ รำยวิชำ แนวกำรจดั กจิ ก ขั้นนำ ทบทวนความรทู้ ี่ไดเ้ รยี นมาแลว้ ของนกั เร ขนั้ สอน ร่วมกนั อา่ นและอภปิ รายวธิ ีการทา กิจกร ทาใบงาน ๐๑ หนา้ ท่ขี องรากและลาต้น ทากิจกรรมท่ี ๒ รากและลาต้นมีหนา้ ทอ่ี ื่น ทาใบงาน ๐๒ หนา้ ท่ีอ่นื ของรากและลาต นาเสนอและอภปิ รายหนา้ ที่ของรากและล ขั้นสรปุ ร่วมกันสรุปเกย่ี วกับหน้าที่ของรากและลา ทาใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หดั เรอ่ื งหนา้ ที่ขอ กำรวดั และประเมินผล ประเมนิ จากการตอบคาถาม ประเมนิ จากการทากิจกรรมในช้ันเรียน ประเมนิ จากการทาแบบฝึกหัด
ของแผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ี่ ๑.๑ ๙๕ ท่ขี องรำกและลำต้น ำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ชวั่ โมง กรรมกำรเรียนรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ รียนเก่ียวกับหนา้ ทขี่ องสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื รรมที่ ๑ รากและลาต้นมีหน้าที่อะไร นอกี หรือไม่ ต้น ลาตน้ าตน้ องรากและลาต้น
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๒ สว่ นตำ่ ง ๆ ของพชื แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ที่ขอ รำยวิช ขอบเขตเนอื้ หำ กิจกรรมกำรเรียนรู้ (๔ ช่ัวโมง) รากเป็นส่วนหน่ึงของพืชท่ีทาหน้าที่ ชั่วโมงที่ ๑-๒ ข้ันนำ (๕ นำท)ี ดูดน้าและธาตุอาหาร แล้วลาเลียงไปยัง ๑. ครตู รวจสอบความรู้เดมิ ของนกั เรยี นทไ่ี ดเ้ ร ลาต้น ลาต้นทาหนา้ ท่ลี าเลยี งน้าและ ธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช ของพืชโดยครูนาต้นมะเขือมาใหน้ กั เรยี น นอกจากน้ีรากและลาต้นของพืชบางชนิด ๑.๑ ต้นมะเขอื มีส่วนใดบา้ ง (ต้นมะ ทาหน้าที่สะสมอาหาร อาหารท่ีสะสมคือ ๑.๒ แตล่ ะส่วนของตน้ มะเขอื มีหน้า แปง้ ขนั้ สอน (๑๐๐ นำท)ี จุดประสงค์ดำ้ นควำมรู้ ๒. ครูให้แบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ ๓-๔ ๑. อภิปรายและอธบิ ายหนา้ ท่ีของราก ๓. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ อ่านช่ือกิจกรรมแ และลาต้น หนา้ ท่อี ะไร หน้า ๓๙ และนาอภปิ รายโดย ๒. อภปิ รายและระบุชนิดของอาหารที่ ๓.๑ กจิ กรรมนีน้ กั เรยี นจะไดเ้ รยี นเร ๓.๒ นักเรยี นจะเรยี นเร่ืองน้ดี ้วยวิธใี สะสมไว้ทีร่ ากและลาต้น ๓.๓ เม่อื เรียนแล้วนกั เรียนจะทาอะ ๓.๔ นักเรียนคิดว่าจะเกิดอะไรข้ึน เวลา ๓๐ นาที พร้อมบอ นักเรียน เช่น บริเวณรากแ คาดคะเนของนักเรียนไว้บนก
ที่ ๑.๑ หน้ำทข่ี องรำกและลำต้น ๙๖ องรำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช ชำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๔ รียนมาแล้วเกี่ยวกบั หนา้ ทข่ี องส่วนตา่ ง ๆ สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้ นสังเกตแลว้ รว่ มกนั อภิปราย โดยใชค้ าถาม ดังนี้ ะเขือมรี าก ลาตน้ ใบ ดอก ผล และเมล็ด) ๑. นา้ าที่อะไร (นักเรียนตอบความเข้าใจของตนเอง) ๒. น้าแป้งมัน คน ๓. นา้ แป้งขา้ วโพด และจุดประสงค์ในใบกจิ กรรมที่ ๑ รากและลาต้นมี ๔. สารละลายไอโอดนี เข้มขน้ ๑ % ยใช้คาถาม ดงั น้ี ๕. หลอดทดลอง ร่ืองอะไร (หนา้ ทข่ี องรากและลาตน้ ) ๖. หลอดหยด ใด (วิธีการสังเกต) ๗. ทีว่ างหลอดทดลอง ะไรได้ (อธบิ ายหนา้ ท่ขี องรากและลาตน้ ได)้ ๘. จานหลุมพลาสตกิ น ถ้านักเรียนแช่รากของต้นเทียนในน้าสีแดงเป็น ๙. กระบอกตวงขนาด ๑๐ ลูกบาศก์ อกเหตุผล (นักเรียนตอบตามการคาดคะเนของ และภายในลาต้นจะมีสีแดง โดยครูเขียนผลการ เซนติเมตร กระดานดา) ๑๐. แครอท ขิง ขา่ กระชาย เผอื ก มนั เทศ มันฝรง่ั ขนาด ๑×๑ เซนติเมตร ๑๑. มดี โกน ๑๒. แว่นขยาย
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๒ สว่ นต่ำง ๆ ของพืช แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ทีข่ อง รำยวิชำ จุดประสงค์ด้ำนทกั ษะกระบวนกำรทำง ๔. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ลงมอื ทากจิ กรรมต วทิ ยำศำสตร์ งาน ๐๑ หน้าทขี่ องรากและลาตน้ หนา้ ๔ ๑. การสังเกต ๒. การจัดกระทาและสื่อความหมาย ๕. ขณะท่ีนักเรยี นลงมอื ทากจิ กรรม ครคู อยเด ปลอดภัยในการใชม้ ีด ข้อมูล ๓. การลงความเห็นจากข้อมูล ๖. เมอ่ื นกั เรยี นทากิจกรรมเสร็จแลว้ ครสู ุ่มตวั ๔. การตคี วามหมายข้อมลู และ ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายโดยใชค้ าถ ๖.๑ หลังจากแช่รากต้นเทียนในน้า ลงขอ้ สรปุ นักเรียนคาดคะเนหรือไม่ (น ตามท่ีนักเรียนสังเกตได้ ค จุดประสงค์ดำ้ นคุณธรรม ๓๐ นาที จะพบว่าบริเวณภ ๑. มีจติ สาธารณะตอ่ สง่ิ แวดล้อม ชัดเจน) ๒. มคี วามสามัคคี ชว่ ยเหลือในการ ๖.๒ นา้ สแี ดงเคล่อื นท่ีเขา้ สู่รากและล โดยรากดดู นา้ สแี ดงแล้วลาเลีย ทางานกล่มุ ๖.๓ เม่ือใช้แวน่ ขยายส่องดูลาต้นท่ตี ๓. มีวนิ ัย อะไร (ลาตน้ ที่ถกู ตัดตามขวาง ๔. มีความมงุ่ ม่ันในการทางาน ส่วนลาต้นท่ีตัดตามยาวจะเห็น ๖.๔ นา้ สีแดงท่ีนกั เรยี นเห็น อยทู่ ี่ส่ว ภายในลาต้น)
๙๗ ๑.๑ หน้ำทข่ี องรำกและลำต้น เวลำ ๔ ช่ัวโมง งรำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช ช้ันประถมศึกษำปที ่ี ๔ ำวิทยำศำสตร์ ตามวิธีทาในกิจกรรมที่ ๑ และบนั ทกึ ผลลงในใบ ภำระงำน / ชิน้ งำน ๔๐ - ๔๒ ดนิ ดูและใหค้ าแนะนารวมท้งั คอยดแู ลความ ๑. การบนั ทกึ ผลการทากิจกรรม วแทนกล่มุ มานาเสนอผลการทากจิ กรรม จากนั้น ในใบกิจกรรม ถามดังนี้ าสีแดง ๓๐ นาที สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเป็นไปตามท่ี ๒. การทาแบบฝึกหัด นักเรียนตอบตามการคาดคะเนของนักเรียนและ คือ หลังจากแช่ต้นเทียนในน้าสีแดงเป็นเวลา ภายในรากและภายในลาต้นจะมีสีแดงซ่ึงเห็นได้ ลาตน้ ได้อยา่ งไร (นา้ สแี ดงเคล่ือนที่เข้าสู่ลาตน้ ยงส่งตอ่ ไปยงั ลาตน้ ) ตัดตามขวางและตัดตามยาว นักเรียนสงั เกตเหน็ งจะมีสีแดงอยู่เป็นจุด ๆ เรียงกันเป็นรอบลาตน้ นสีแดงเปน็ เส้นตามความสงู ของลาต้น) วนไหนของลาตน้ (นา้ สีแดงอยู่ในทอ่ เล็ก ๆ ท่อี ยู่
หน่วยกำรเรียนรูท้ ่ี ๒ สว่ นต่ำง ๆ ของพืช แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี ๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ที่ของร รำยวิชำว ๖.๕ นักเรียนคิดว่าน้าสีแดงท่ีอยู่ในล ส่วนใดของตน้ เทียนและลาเลียง (น้าสีแดงถูกลาเลียงไปยัง ก่ิง ภายในลาตน้ รู้ไดจ้ ากการมองเห ๖.๖ ทอ่ เล็ก ๆ ทอ่ี ย่ภู ายในลาต้นเร ๖.๗ ภายในรากมีทอ่ เลก็ ๆ หรอื ไม่ ท่อเล็ก ๆ เชื่อมตอ่ กัน และเช สีแดงเคล่ือนที่จากรากขนึ้ ไปท ๖.๘ นักเรียนคิดว่าถ้าแช่ต้นเทียนใ อย่างไร (ถ้าแช่ต้นเทียนในน ดดู น้าแลว้ ลาเลียงไปตามทอ่ ซ ๖.๙ ทาไมต้องใช้นา้ สแี ดง (เพราะน เหน็ เส้นทางการเคลือ่ นท่ีของน
๙๘ ๑.๑ หนำ้ ทขี่ องรำกและลำตน้ เวลำ ๔ ชัว่ โมง รำก ลำตน้ ใบ และดอกของพืช ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๔ วิทยำศำสตร์ ลาต้นของต้นเทียนจะถูกลาเลียงต่อไปยังบริเวณ วิธีกำรประเมิน งไปไดอ้ ย่างไร รู้ไดอ้ ย่างไร ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัด ก้านและใบ โดยลาเลียงผ่านท่อเล็ก ๆ ท่ีอยู่ ๒. สงั เกตทกั ษะกระบวนการทาง หน็ สแี ดงเปน็ เสน้ ภายในกงิ่ กา้ นและใบ) รียกวา่ อะไร (ท่อลาเลียงนา้ ) วิทยาศาสตร์ในการทากิจกรรม และเชื่อมต่อกบั ลาต้นอยา่ งไร (ภายในรากมี ๓. สงั เกตด้านคณุ ธรรมขณะทากจิ กรรม ชอื่ มต่อกับท่อเลก็ ๆ ในลาตน้ สงั เกตได้จากที่นา้ ท่ีลาต้น) เกณฑ์กำรประเมนิ ในน้าท่ีไม่ผสมสีแดง จะได้ผลเหมือนเดิมหรือไม่ ๑. การตอบคาถามในแบบฝกึ หัดได้ น้าท่ีไม่ผสมสีแดงจะได้ผลเหมือนเดิม เพราะราก ซึ่งเชอื่ มต่อกนั จากรากไปยังลาตน้ ) ถูกต้องด้วยตนเอง น้าสีแดงเปรยี บเหมือนน้าและธาตุอาหาร ช่วยให้ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน นา้ ภายในลาตน้ ไดช้ ดั เจน) - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพชื แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี ๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ หน้ำที่ของ รำยวิชำ ขั้นสรปุ (๑๕ นำที) ๗. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายจนได้ข้อสร แลว้ ลาเลียงไปยังลาต้น ลาตน้ ของพชื ทาหน ของพืช ๘. นักเรียนตอบคาถามหลงั จากทากจิ กรรม หน ชวั่ โมงท่ี ๓-๔ ขน้ั นำ (๕ นำที) ๙. ครูทบทวนนักเรยี นเก่ยี วกับหนา้ ทขี่ องรากแ ก้าน ใบ ของพชื แล้วรว่ มกันอภิปรายโดยใช ๙.๑ พชื มกี ารลาเลียงน้าไปในทิศทางใ ๙.๒ พืชมกี ารลาเลียงธาตุอาหารไปใน ตนเอง) ๙.๓ พชื ใชอ้ ะไรในการลาเลยี งน้าและ เข้าใจของตนเอง)
๑.๑ หน้ำท่ีของรำกและลำต้น ๙๙ งรำก ลำต้น ใบ และดอกของพชื ำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ช่วั โมง ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ รปุ วา่ รากของพืชทาหนา้ ทด่ี ูดน้าและธาตุอาหาร ๒. มีทกั ษะกระบวนการทาง น้าที่ลาเลยี งน้าและธาตอุ าหารไปยงั ส่วนตา่ ง ๆ วทิ ยาศาสตร์ขณะทากจิ กรรม น้า ๔๓ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน และลาต้นโดยครูใหน้ ักเรียนดูรูป ราก ลาตน้ ก่งิ - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ช้คาถาม ดงั นี้ ๓. มคี ุณลักษณะด้านคณุ ธรรม ใด (ทศิ ทางจากรากขึ้นสู่ลาตน้ ) - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน นทิศทางใด (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของ - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ะธาตุอาหารไปยงั ลาต้น (นักเรยี นตอบตามความ
หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๒ ส่วนตำ่ ง ๆ ของพชื แผนกำรจดั กำรเรยี น กลุ่มสำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๑ หน้ำทขี่ รำยว ข้ันสอน (๑๐๐ นำท)ี ๑๐. ครใู หแ้ บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๓- ๑๑. ครูให้นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรม จุดปร ทาหน้าที่อ่ืนอีกหรือไม่ หน้า ๔๔ จากนั้นต กิจกรรม ๑๒. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรมท ผลในใบงาน ๐๒ หน้าที่อ่ืนของรากและล อภปิ รายโดยอาจใช้คาถามดังนี้ ๑๒.๑ เม่ือหยดสารละลายไอโอดีนลง เปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร (เม ไอโอดีนจะไม่มีการเปล่ียนแปลง แ แป้งข้าวโพด สีของสารละลายไอโอ ๑๒.๒ จากกิจกรรมน้ี ชิ้นส่วนของพืชชน ของลาต้น (ส่วนของราก ไดแ้ ก่ แค มันผรงั่ ขิง ข่า)
นรทู้ ี่ ๑.๑ หนำ้ ทีข่ องรำกและลำต้น ๑๐๐ ของรำก ลำตน้ ใบ และดอกของพืช วิชำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ ๔ -๔ คน และเตรยี มอุปกรณ์การทดลอง ระสงค์และวิธีทาในใบกิจกรรมท่ี ๒ รากและลาต้น ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนให้แน่ใจก่อนทา ที่ ๒ รากและลาต้นมีหน้าท่ีอ่ืนอีกหรือไม่ และบันทึก ลาต้น หน้า ๔๖-๔๗ จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกัน งในน้า น้าแป้งมัน และน้าแป้งข้าวโพด เกิดการ มื่อหยดสารละลายไอโอดีนในน้า สีของสารละลาย แต่เมื่อหยดสารละลายไอโอดีนลงในน้าแป้งมันและ อดนี จะมกี ารเปลี่ยนสจี ากสนี า้ ตาลเปน็ สีนา้ เงินเขม้ ) นิดใดเป็นสว่ นของราก ชิ้นส่วนของพืชชนิดเป็นสว่ น ครอท มันเทศ กระชาย ส่วนของลาตน้ ไดแ้ ก่ เผอื ก
หน่วยกำรเรียนรูท้ ่ี ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพชื แผนกำรจดั กำรเรยี น กลุ่มสำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ หน้ำที่ของร รำยวิชำ ๑๒.๓ เม่ือหยดสารละลายไอโอดีนลงในช การเปล่ียนแปลง และมีการเปลี่ยน มันเทศ มันฝรั่ง ขิง ข่า มีการเปล น้าเงินเขม้ ) ๑๒.๔ เพราะเหตุใด เม่ือหยดสารละลาย แล้ว สีของสาระละลายไอโอดีนม ชนิดน้ันมีแป้งสะสมอยู่ สีของสารล เปน็ สนี า้ เงินเข้มได)้ ๑๒.๕ อาหารที่สะสมไว้ที่รากหรือลาต้นข ทราบได้จากการทดสอบการเปลย่ี น ๑๓. นักเรยี นตอบคาถามหลังจากทากจิ กรรม ขั้นสรปุ (๑๕ นำที) ๑๔. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า รากเป็นส แล้วลาเลียงไปยังลาต้น ลาต้นทาหน้ ของพืช นอกจากนี้รากและลาต้นของพ สะสมคือแป้ง ๑๕. ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หดั
นรู้ท่ี ๑.๑ หน้ำท่ขี องรำกและลำต้น ๑๐๑ รำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช ำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ชว่ั โมง ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ ช้ินส่วนของรากและลาต้นของพืชชนิดใดบ้างท่ีมี นแปลงอย่างไร (แครอท มันเทศ กระชาย เผือก ล่ียนสีของสารละลายไอโอดีนจากสีน้าตาลเป็นสี ยไอโอดีนลงบนช้ินส่วนของรากและลาต้นของพืช มีการเปลี่ยนแปลง (เพราะรากและลาต้นของพืช ละลายไอโอดีนจึงมีการเปล่ียนแปลงจากสีน้าตาล ของพืชบางชนิดคืออะไร ทราบได้อย่างไร (แป้ง นสีของสารละลายไอโอดนี ) ม หนา้ ๔๘ ส่วนหน่ึงของพืชที่ทาหน้าที่ดูดน้าและธาตุอาหาร าท่ีลาเลียงน้าและธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ พืชบางชนิด ยังทาหน้าที่สะสมอาหาร อาหารท่ี ด เร่อื งหน้าทีข่ องรากและลาตน้ หนา้ ๕๐-๕๑
๑๐๒ แบบประเมินดำ้ นคณุ ธรรม แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ่ี ๑.๑ หน้ำทขี่ องรำกและลำต้น ชื่อผปู้ ระเมนิ /กลุ่มประเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………….. ชือ่ กลุ่มรับกำรประเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………………. ประเมินผลคร้งั ท…ี่ ……………….... วัน ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........... เร่อื ง………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ที่ ลักษณะ/พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดบั พฤติกรรม คะแนนท่ีได้ เกิด = ๑ ไม่เกดิ = 0 ๑. มจี ติ สาธารณะต่อสิง่ แวดลอ้ ม ๒. มีความสามัคคี ช่วยเหลอื ในการทางานกลมุ่ ๓. มีวนิ ยั ๔. มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน รวมคะแนนทไ่ี ด้ท้งั หมด = …………… คะแนน คณุ ลักษณะตามจดุ ประสงค์ด้านคณุ ธรรม - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๑๐๓ แบบประเมนิ ดำ้ นทักษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตรใ์ นกำรทำกิจกรรม แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๑.๑ หน้ำทข่ี องรำกและลำต้น เกณฑ์กำรประเมินมดี ังนี้ ๒ หมายถึง พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ๓ หมายถึง ดี สิง่ ทปี่ ระเมนิ คะแนน การสงั เกต การจัดกระทาและส่ือความหมายขอ้ มลู การลงความเหน็ จากข้อมูล การตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป รวมคะแนน กำรประเมิน ทกั ษะกระบวนกำร ระดบั ควำมสำมำรถ ทำงวิทยำศำสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรับปรุง (๑) การสังเกต ใช้ประสาทสัมผัสในการ ใ ช้ ป ร ะ ส า ท สั ม ผั ส ใ น ก า ร ไม่สำมำรถใช้ประสาทสัมผัส รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับการ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการ ในการรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับ เปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นที่ราก เปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้นที่รากและ การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นที่ และลาต้นของต้นเทียนเมื่อ ลาต้นของต้นเทียนเมื่อแช่ในน้า รากและลาต้นของต้นเทียน แ ช่ ใ น น้ า สี แ ด ง แ ล ะ ก า ร สี แ ด ง แ ล ะ ก า ร ท ด ส อ บ เมื่อแช่ในน้าสีแดงและการ ทดสอบสารละลายไอโอดีน สารละลายไอโอดีนในรากและ ทดสอบสารละลายไอโอดีนใน ในรากและลาต้นของพืชบาง ลาต้นของพืชบางชนิดได้ โดย รากและลาต้นของพืชบาง ชนิดด้วยตนเอง โดยไม่เพิ่ม กำรช้แี นะของครูหรือผอู้ นื่ ชนิด ถึงแม้จะได้รับคาแนะนา ความคิดเหน็ จากครูหรอื ผู้อน่ื การจัดกระทาและสอ่ื น า เ ส น อ ข้ อ มู ล ก า ร นาเสนอข้อมูลการเปล่ียนแปลง ไม่สำมำรถนาเสนอข้อมูลการ ความหมายข้อมลู เปล่ียนแปลงลักษณะของ ลักษณะของรากและลาต้นของ เปลี่ยนแปลงลักษณะของราก รากและลาต้ น ข อ ง ต้ น ต้นเทียนเมื่อแช่ในน้าสีแดง ให้ และลาตน้ ของต้นเทียนเม่ือแช่ เทียนเมื่อแช่ในน้าสีแดงให้ ผู้อ่ืนเข้าใจได้ง่ายและชัดเจน ในน้าสีแดง ให้ผู้อ่ืนเข้าใจ ผู้อ่ืนเข้าใจได้ ง่า ย แ ล ะ โดยกำรช้แี นะของครหู รือผ้อู ่นื ไ ด้ ง่ า ย ถึ ง แ ม้ จ ะ ไ ด้ รั บ ชดั เจนดว้ ยตนเอง คาแนะนาจากครูหรอื ผอู้ ื่น
๑๐๔ ทักษะกระบวนกำร ระดบั ควำมสำมำรถ ทำงวิทยำศำสตร์ การลงความเห็นจาก ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรับปรงุ (๑) ข้อมูล เ พิ่ ม เ ติ ม ค ว า ม คิ ด เ ห็ น เพ่ิมเติมความคิดเห็นเก่ียวกับ ไม่สำมำรถเพ่ิมเติมความ การตีความหมาย ข้อมลู และ เก่ียวกับการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงของรากและ คิ ด เ ห็ น เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร ลงขอ้ สรปุ ของรากและลาต้นของ ต้น ลาต้นของต้นเทียนจากการแช่ เปล่ียนแปลงของรากและ เทียนจากการแช่ต้นเทียน ต้นเทียนและอาหารที่สะสมใน ลาต้นของต้นเทียนจากการแช่ และอาหารทีส่ ะสมในรากพืช ร า ก พื ช บ า ง ช นิ ด จ า ก ก า ร ตน้ เทยี นและอาหารทีส่ ะสมใน บางชนิดจากการทดสอบ ทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีน รากพืช บางช นิดจากก า ร ด้วยสารละลายไอโอดีนได้ ได้อย่างมีเหตุผล จากความรู้ ท ด ส อ บ ด้ ว ย ส า ร ล ะ ล า ย อย่างมีเหตุผล จากความรู้ หรือประสบการณ์เดิม โดย ไอโอดีนได้อย่างมีเหตุผล หรือประสบการณ์เดิมได้ อำศัยคำแนะนำของครูหรือ ถึงแม้จะได้รับคาแนะนาจาก ด้วยตวั เอง ผอู้ น่ื ครูหรือผอู้ ่นื ตีความหมายข้อมูลและลง ตีความหมายข้อมูลและลง ไ ม่สำมำรถ ตีความหมาย ข้อสรุปจากการทากิจกรรม ข้อสรุปจากการทากิจกรรมได้ ข้อมูลและลงข้อสรุปจากการ ได้ว่ารากทาหน้าที่ดูดน้าและ ว่ารากทาหน้าท่ีดูดน้าและ ทากิจกรรมได้ว่ารากทาหน้าที่ ธาตุอาหาร แล้วลาเลียงส่ง ธาตุอาหาร แล้วลาเลียงส่ง ดูดน้าและธาตุอาหาร แล้ว ต่อไปยังลาต้น และลาต้น ต่อไปยังลาต้น และลาต้นทา ลาเลยี งส่งต่อไปยังลาต้น และ ทาหน้าที่ลาเลียงน้าและ ห น้ า ที่ ล า เ ลี ย ง น้ า แ ล ะ ลาต้นทาหน้าที่ลาเลยี งน้าและ ธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ ธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ ธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช นอกจากนี้รากและ ของพืชนอกจากน้ีรากและ ของพืช นอกจากน้ีรากและ ลาต้นของพืชบางชนิดยังทา ลาต้นของพืชบางชนิดยังทา ลาต้นของพืชบางชนิดยังทา หน้าท่ีสะสมแป้งอีกด้วย หน้าท่ีสะสมแป้งอีกด้วยโดยใช้ หน้าท่ีสะสมแป้งอีกด้วย โดย โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ ข้อมูลท่ีรวบรวมได้จากการ ใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้จากการ จากการสงั เกต ด้วยตนเอง สังเกต โดยกำรช้ีแนะของครู สั ง เ ก ต ถึ ง แ ม้ จ ะ ไ ด้ รั บ หรอื ผู้อนื่ คาแนะนาจากครูหรอื ผอู้ นื่
๑๐๕ เฉลยใบงาน วำดภำพตำมท่นี ักเรียนสังเกตได้
๑๐๖ วำดภำพและบนั ทกึ ลักษณะตำมท่นี กั เรยี นสงั เกตได้
๑๐๗ วำดภำพและบนั ทกึ ลักษณะตำมท่นี กั เรยี นสงั เกตได้
๑๐๘ บรเิ วณรำกของตน้ เทียนจะมีสแี ดงและภำยในลำตน้ ของต้นเทียน จะมแี ถบสีแดงอย่ำงชดั เจน ลักษณะของรำกและลำตน้ ที่ตดั ตำมขวำงและตัดตำมยำวจะมลี กั ษณะทแ่ี ตกต่ำงกัน คอื รำกและลำตน้ ทต่ี ดั ตำมขวำงจะมีสแี ดงอยู่เปน็ จุด ๆ เรียงกนั เป็นวงรอบรำก และลำต้น สว่ นรำกและลำต้นทต่ี ัดตำมยำวจะเหน็ เสน้ สีแดงเปน็ แนวตำมควำมสูง ของรำกและลำต้น รำกทำหน้ำที่ดดู นำ้ และธำตุอำหำรแล้วลำเลยี งส่งต่อไปยังลำตน้ และลำตน้ ทำหนำ้ ทล่ี ำเลยี งน้ำและธำตุอำหำรไปยังส่วนต่ำง ๆ ของพืช ไดแ้ ก่ ก่ิง กำ้ น และใบ โดยผำ่ นท่อเล็ก ๆ ทอ่ี ยู่ภำยในลำต้น รำกทำหนำ้ ทดี่ ูดนำ้ และธำตุอำหำร แลว้ ลำเลยี งส่งต่อไปยงั ลำต้น ส่วนลำตน้ ทำหนำ้ ท่ีลำเลียงนำ้ และธำตุอำหำรไปยังส่วนต่ำง ๆ ของพืช
๑๐๙ สใี ส สนี ้ำตำลจำง ๆ สขี ำวขนุ่ สีนำ้ เงนิ เข้ม สขี ำวข่นุ สนี ำ้ เงินเขม้
๑๑๐ สสี ม้ สีนำ้ เงนิ เขม้ สเี หลอื งเขม้ สนี ำ้ เงินเขม้ สนี ำ้ เงนิ เขม้ สีขำว สีน้ำเงนิ เข้ม สีเหลอื ง สีน้ำเงนิ เขม้ สขี ำวมีลำยสีม่วง ๆ สนี ำ้ เงินเข้ม สขี ำว/สีเหลือง สีน้ำเงนิ เขม้ สขี ำว
๑๑๑ เม่ือหยดสำรละลำยไอโอดีนลงในน้ำไม่มีกำรเปลยี่ นแปลง เพรำะน้ำใน หลอดทดลองมีสนี ้ำตำลเหมือนสีของสำรละลำยไอโอดนี แตม่ สี จี ำงลง เม่ือหยดสำรละลำยไอโอดีนลงในน้ำแปง้ มนั และน้ำแป้งข้ำวโพด มกี ำรเปล่ียนแปลง สงั เกตได้จำกสขี องนำ้ แปง้ ที่มสี ีขำวขุ่นเปลีย่ นเปน็ สีน้ำเงินเขม้ หรอื สีม่วงคลำ้ ช้ินสว่ นของพชื ทีม่ ีกำรเปลี่ยนแปลงเมื่อหยดสำรละลำยไอโอดนี ไดแ้ ก่ แครอท ขงิ ขำ่ กระชำย เผือก มนั เทศ และมนั ฝร่งั รำกและลำต้นของพืชบำงชนดิ มแี ป้งสะสมอยู่ เพรำะเม่ือทำกำรทดสอบโดยใช้ สำรละลำยไอโอดีน ไดผ้ ลกำรทดสอบเหมอื นกับกำรทดสอบน้ำแป้งมันและนำ้ แป้ง ข้ำวโพด โดยสขี องสำรละลำยไอโอดนี จะเปลี่ยนจำกสนี ำ้ ตำลเป็นสนี ้ำเงินเข้มหรอื สีมว่ งคล้ำ
๑๑๒ รำกและลำตน้ ของพืชบำงชนิดทำหน้ำท่สี ะสมอำหำรพวกแป้ง
๑๑๓ ต้นพชื จะขำดนำ้ และธำตอุ ำหำร เพรำะไมม่ ีรำกซึ่งทำหนำ้ ท่ี ดูดน้ำและ ธำตุอำหำรจำกดนิ แล้วลำเลยี งส่งตอ่ ไปยงั ลำต้น
๑๑๔ รำกและลำตน้ ของพืชทกุ ชนดิ จะทำหน้ำทส่ี ัมพนั ธ์กันคือ รำกทำหน้ำท่ีดดู นำ้ และธำตุอำหำร แล้วลำเลียงตอ่ ไปยังลำต้น และลำต้นทำหนำ้ ทลี่ ำเลยี งน้ำและ ธำตุอำหำรไปยังส่วนตำ่ ง ๆ ของพืช สำรที่ใชต้ รวจสอบแป้ง คือ สำรละลำยไอโอดนี สังเกตกำรเปล่ยี นแปลงได้ เมื่อหยดสำรละลำยไอโอดีนลงในนำ้ แปง้ มนั และนำ้ แป้งข้ำวโพดจะเปลี่ยนสี ของสำรละลำยไอโอดนี จะเปล่ียนจำกสีน้ำตำลเป็นสีน้ำเงนิ เขม้ หรอื มว่ งคล้ำ รำกและลำตน้ ของพืชบำงชนดิ สะสมอำหำรพวกแป้ง
๑๑๕ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ คำชแี้ จงประกอบแผนจดั กำรเรียนรู้ หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๒ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๑.๒ หน้ำทข่ี องใบ เวลำ ๔ ช่ัวโมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. สำระสำคญั ของแผน ใบเปน็ สว่ นสาคญั ของพืช มหี นา้ ทสี่ รา้ งอาหารให้พชื โดยอาศัยปัจจยั ต่าง ๆ ๒. ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมในกำรนำไปใช้ (ให้ระบสุ ิ่งทต่ี ้องกำรเน้นหรือข้อสังเกต ขอ้ เสนอแนะ คำแนะนำ) ในเร่อื งต่อไปน้ี คอื ๒.๑ ขอบข่ำยเน้อื หำ ใบทาหน้าทส่ี ร้างอาหาร อาหารทีพ่ ืชสรา้ งข้นึ คือ นา้ ตาลแล้วเปลีย่ นเป็นแปง้ การสรา้ งอาหารของพชื ตอ้ งใช้นา้ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แสง และคลอโรฟิลล์ซ่ึงเป็นสารสเี ขยี วในใบพืช กระบวนการนี้ เรียกว่าการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึง่ ผลท่ไี ด้นอกจากน้าตาลแล้ว ยงั ไดน้ า้ และแกส๊ ออกซเิ จนอกี ด้วย ๒.๒ จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ (ควำมรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม) (ถำ้ มี) จดุ ประสงคด์ ำ้ นควำมรู้ ๑. บอกหนา้ ทข่ี องใบ ๒. อภปิ รายและระบปุ ระเภทของอาหารทพ่ี ืชสร้างขน้ึ จากใบ ๓. อธบิ ายปจั จัยในการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื จุดประสงค์ด้ำนทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ ๑. การสังเกต ๒. การจัดกระทาและส่ือความหมายข้อมลู ๓. การลงความเหน็ จากข้อมูล จุดประสงคด์ ำ้ นคุณธรรม ๑. มีความมุ่งมน่ั ในการทางาน ๒. ซ่ือสัตย์ต่อตนเอง ๓. ใฝเ่ รยี นรู้ ๔. มวี ินัย
๑๑๖ ๒.๓ กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ ๑) กำรเตรียมตัวของครู นักเรียน (กำรจัดกลุ่ม) (ถำ้ มี) การจัดกลุ่ม โดยแบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ ๔ คน ๒ กำรเตรียมสื่อ วสั ดุอุปกรณ์ ของครู นกั เรียน (ถำ้ มี) สงิ่ ท่คี รูตอ้ งเตรยี ม คือ ๒.๑ ใบพืชท่ีมีลกั ษณะบาง ๆ ใบไมใ่ หญ่ เช่น ใบชบา ใบผกั บ้งุ เล็ก ๆ จานวน ๒ ชนิด/กล่มุ ๒.๒ สีเทียนหรือสีไม้ ๑ กล่อง/กลุ่ม ๒.๓ บีกเกอร์ขนาด ๒๕๐ ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ๑ ใบ/กล่มุ ๒.๔ หลอดทดลองทนไฟขนาดใหญ่ ๑ อัน/กลุ่ม ๒.๕ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ ๑ อัน/กลมุ่ ๒.๖ ทีก่ น้ั ลมพร้อมตะแกรงลวด ๑ อัน/กลุ่ม ๒.๗ เอทิลแอลกอฮอล์ ๙๕% ๑๐๐ มลิ ลลิ ิตร/กลมุ่ ๒.๘ จานแก้ว ๑ ใบ/กลุ่ม ๒.๙ ปากคบี ๑ อัน/กลมุ่ ๒.๑๐ ไมห้ นบี ๑ อนั /กลมุ่ ๒.๑๑ หลอดหยด ๑ อนั /กลุม่ ๒.๑๒ สารละลายไอโอดนี เข้มข้น ๑% ๑ ขวด/กลุ่ม ๒.๑๓ น้า ๒๕๐ มิลลลิ ิตร/กลมุ่ ๒.๑๔ ไมข้ ดี ไฟ ๑ กล่อง/กลุ่ม ๓) เตรยี มใบงำน ใบควำมรู้ ใบกิจกรรม (ถำ้ มี) ๓.๑ ใบงาน ๐๑ หนา้ ทข่ี องใบ ๓.๒ ใบงาน ๐๒ การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ๓.๓ ใบความรูเ้ รื่องการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช ๓.๔ ใบงาน ๐๓ แบบฝึกหดั เรือ่ งการสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื
๑๑๗ ๒.๔ วดั ผลประเมินผล (ถำ้ มี) ๑) วธิ ีกำรวัดผลประเมินผลกำรเรยี นรู้ ๑.๑ การตอบคาถามในใบงาน ๑.๒ สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทากิจกรรม ๑.๓ สังเกตดา้ นคุณธรรมขณะทากจิ กรรม ๒) วิธีกำร เครือ่ งมือ เกณฑ์ ๒.๑ เคร่ืองมือและเกณฑ์ในกำรประเมนิ ดำ้ นควำมรู้ ตรวจใหค้ ะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แล้วใช้เกณฑ์ในการให้คะแนน ดังน้ี - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๒ เคร่อื งมือและเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ สังเกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ (ดงั แนบ) แลว้ นาคะแนนมารวมกนั แล้วใชเ้ กณฑใ์ นการให้คะแนน ดังนี้ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๓ เครื่องมอื และเกณฑ์ในกำรประเมนิ ด้ำนคณุ ธรรม สังเกตคุณลักษณะดา้ นคณุ ธรรมโดยใชแ้ บบประเมนิ ด้านคุณธรรม (ดังแนบ) นาคะแนนมารวมกัน แล้วใช้เกณฑ์ในการให้คะแนน ดงั นี้ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๓) กำรทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน แบบฝึกหดั ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ทาแบบฝึกหดั ในใบงานหลังเรียน ๓. อนื่ ๆ .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .....................................
หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ ๒ ส่วนต่ำงๆของพชื แนวทำงกำรจดั กิจกรรมของแ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ เรื่อง หนำ้ ทขี่ อ รำยวชิ ำ วิทยำ ข้นั นำ แนวกำรจดั กิจก ข้ันสอน ครูทบทวนความร้เู ดิมของนักเรียนเกีย่ ว ขนั้ สรปุ กำรวดั และประเมนิ ผล ร่วมกันเช่อื มโยงเพ่ือนาสู่การทากจิ กรร ทาใบงาน ๐๑ หน้าทีข่ องใบ อภปิ รายและนาเสนอ ทากิจกรรมที่ ๒ พืชสรา้ งอาหารได้อย่า ทาใบงาน ๐๒ การสังเคราะห์ดว้ ยแสงข นาเสนอและร่วมกันอภิปรายผลการทด สรุปเก่ียวกับหน้าทขี่ องใบและปจั จัยใน ทาใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หัด เร่ืองการสัง ประเมินจากการตอบคาถาม ประเมินจากการทากิจกรรมในช้ันเรยี น ประเมินจากการทาแบบฝกึ หัด
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑.๒ ๑๑๘ องใบ ำศำสตร์ เวลำ ๔ ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษำปที ่ี ๔ กรรมกำรเรยี นรู้ วกบั ลกั ษณะของพชื และการสร้างอาหารของพชื รมท่ี ๑ ใบทาหนา้ ที่อะไร างไร ของพืช ดลอง นการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื รวมทัง้ ผลทไี่ ด้จากการสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื งเคราะห์ดว้ ยแสง น
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพชื แผนกำรจดั กำรเรยี น กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ทข่ี องรำ รำยวิชำว ขอบเขตเนอื้ หำ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ (๔ ช่ัวโมง) ชว่ั โมงท่ี ๑-๒ ใบทาหน้าที่สร้ างอาหาร ขั้นนำ (๑๐ นำท)ี อาหารที่พืชสร้างข้ึนคือ น้าตาล ๑. ครูทบทวนความรู้เดมิ ของนกั เรียนเกย่ี วกบั พชื โดยใช แล้วเปลี่ยนเป็นแป้ง การสร้าง อาหารของพืชตอ้ งใช้นา้ ๑.๑ พชื มีการกนิ อาหารหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (นกั แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แสง อาหาร เพราะพชื เป็นสิง่ มชี ีวติ ที่ตอ้ งการอาหา และคลอโรฟิลล์ซงึ่ เป็นสาร สีเขียวในใบพืช กระบวนการน้ี ๑.๒ อาหารของพืชคอื อะไร ไดม้ าจากไหน (นกั เรยี น เรียกว่าการสังเคราะห์ด้วยแสง พชื คอื นา้ ตาล ไดม้ าจากพืชสร้างอาหารด้วยต ซึ่งผลท่ีได้นอกจากน้าตาลแล้ว ยังได้น้าและแก๊สออกซิเจนอีก ๑.๓ นกั เรยี นคิดว่าพืชตอ้ งการอะไรในการสรา้ งอา ด้วย เชน่ พชื ตอ้ งการนา้ แสง คลอโรฟลิ ลแ์ ละแก ขนั้ สอน (๙๕ นำท)ี ๒. ครนู าใบชบา และใบพืชชนิดอ่นื ๑ ชนดิ เชน่ ผกั บุ้ง ๒ ใบ นี้เหมอื นหรือแตกต่างกันอย่างไร (ใบพืชท้ังสอ ผกั บุ้งเป็นใบเรียว)
๑๑๙ นรู้ท่ี ๑.๒ หนำ้ ที่ของใบ เวลำ ๔ ช่ัวโมง ำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช ช้นั ประถมศึกษำปที ่ี ๔ วิทยำศำสตร์ ช้คาถาม ดงั นี้ ส่ือ / แหลง่ เรียนรู้ กเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เช่น พืชกิน ๑. ใบพืช เชน่ ใบชบา ใบผักบ้งุ ารเพื่อใชใ้ นการเจรญิ เตบิ โต) ๒. สเี ทียนหรอื สีไม้ นตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น อาหารของ ๓. บกี เกอรข์ นาด ๒๕๐ ตนเอง) าหาร (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง ลูกบาศก์เซนติเมตร ก๊สคารบ์ อนไดออกไซด)์ ๔. หลอดทดลองทนไฟขนาด มาใหน้ กั เรียนสงั เกตแล้วถามคาถามดังนี้ ใบพชื ใหญ่ องมีสีเขียวเหมือนกัน ใบชบามีใบแผ่กวา้ ง แตใ่ บ ๕. ตะเกยี งแอลกอฮอล์ ๖. ทีก่ ั้นลมพร้อมตะแกรงลวด ๗. เอทลิ แอลกอฮอล์ ๙๕% ๘. จานแกว้ ๙. ปากคบี ๑๐. ไม้หนบี ๑๑. หลอดหยด ๑๒. สารละลายไอโอดนี เข้มขน้ ๑% ๑๓. น้า ๑๔. ไม้ขดี ไฟ
หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ่ี ๒ ส่วนต่ำงๆของพืช แผนกำรจดั กำรเรยี น กลุ่มสำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ที่ของรำ รำยวิชำว จดุ ประสงคด์ ำ้ นควำมรู้ ๓. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ ๓ - ๔ คน ชักชวน ๑. บอกหน้าท่ีของใบ ๕๓ โดยครูให้นักเรยี นอ่านชือ่ กิจกรรมและจดุ ประสงค ๒. อภิปรายและระบุประเภท ๓.๑ กิจกรรมนน้ี กั เรียนจะได้เรยี นเรอ่ื งอะไร (ห ของอาหารท่ีพืชสร้างข้ึน และปัจจัยในการสังเคราะด้วยแสง) จากใบ ๓.๒ นักเรยี นจะเรียนเรอ่ื งนี้ด้วยวิธีใด (วธิ ีการสัง ๓. อธบิ ายปัจจัยในการ ๓.๓ เมือ่ เรียนแลว้ นกั เรยี นจะทาอะไรได้ (บอกห สังเคราะห์ด้วยแสงของพืช จากใบ) จดุ ประสงค์ด้ำนทกั ษะ ๔. ครูใหน้ ักเรยี นอ่านวิธที ากจิ กรรมท่ี ๑ แลว้ ตรวจสอบค กระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ ข้ันตอนการทากจิ กรรม โดยครูบอกข้อควรระวงั ในกา ๑. การสังเกต เอทิลแอลกอฮอล์มาสมั ผสั กบั ไฟโดยตรงในขณะทตี่ ม้ ใ ๒. การจดั ทาและสื่อ เมือ่ เดอื ดแล้วเกิดเปน็ ไอทาให้เกิดการลกุ ไหม้ได้ ความหมายขอ้ มลู ๕. ครทู บทวนความรู้ของนักเรยี นที่ไดเ้ รยี นมาแลว้ เกี่ยวก ๓. การลงความเห็นจากข้อมูล หยดสารละลายไอโอดนี ลงในน้าแป้งมันและน้าแป้งขา้ นา้ แปง้ ขา้ วโพดมีการเปล่ียนแปลงคือ น้าแป้งท่ีมสี ีขา ๖. ครูใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมที่ ๑ ใบทาหน้าท่ีอะไร โดยค ทถ่ี ูกต้องและใหน้ ักเรยี นบนั ทึกผลลงในใบงาน ๐๑ หน
๑๒๐ นรู้ที่ ๑.๒ หน้ำทีข่ องใบ เวลำ ๔ ชวั่ โมง ำก ลำตน้ ใบ และดอกของพืช ช้ันประถมศึกษำปีท่ี ๔ วิทยำศำสตร์ นนกั เรียนทากิจกรรมที่ ๑ ใบทาหนา้ ทอ่ี ะไร หนา้ ภำระงำน / ชน้ิ งำน ค์ แล้วครถู ามคาถามก่อนการทากจิ กรรมดังน้ี ๑. การบนั ทึกผลการทากิจกรรม หน้าท่ขี องใบ ประเภทอาหารท่พี ชื สร้างขึ้นจากใบ ในใบกิจกรรม งกต) ๒. การทาแบบฝึกหดั หน้าท่ีของใบ ระบปุ ระเภทของอาหารท่ีพืชสรา้ งข้นึ ความเขา้ ใจจากการอา่ นจนแน่ใจว่านกั เรยี นเข้าใจ ารทากจิ กรรม เช่น ไมน่ าหลอดทดลองที่มี ใบชบาด่าง เพราะเอทลิ แอลกอฮอลม์ ีจุดเดอื ดต่า กบั การทดสอบแปง้ โดยใช้คาถามวา่ เม่ือนักเรยี น าวโพดมีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร (นา้ แปง้ มันและ าวขุ่นจะเปลีย่ นเปน็ สนี ้าเงินเข้มหรือม่วงคล้า) ครูคอยตรวจดคู วามปลอดภยั และการทากจิ กรรม น้าทข่ี องใบ หน้า ๕๕
หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี ๒ ส่วนต่ำงๆของพชื แผนกำรจัดกำรเรียน กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ท่ีของรำก รำยวิชำว จดุ ประสงค์ด้ำนคณุ ธรรม ๗. เม่ือนักเรียนทากิจกรรมเสร็จแล้ว ครูให้ตัวแทนแต่ละ ๑. มคี วามมงุ่ มน่ั ในการ ทากิจกรรมของแตล่ ะกลุ่มโดยใชค้ าถามดังนี้ ทางาน ๗.๑ เพราะเหตุใดเราจึงนาใบพืชมาต้มในน้า ๒. ซ่อื สัตยต์ ่อตนเอง เอทิลแอลกอฮอล์ ๙๕% (เพอ่ื ให้ใบพชื หยดุ ทา ๓. ใฝเ่ รียนรู้ ๗.๒ ใบพชื ก่อนตม้ และหลังตม้ ในเอทลิ แอลกอฮอล์ ๙ ๔. มีวนิ ัย สเี ขียว ใบพชื หลังต้มจะมีสซี ีดขาว เหลือสีเขียวเ ๗.๓ เอทิลแอลกอฮอล์ ๙๕% มีประโยชน์อย่างไร (ใช ๗.๔ เมื่อหยดสารละลายไอโอดนี ลงบนใบพชื มีการเ สีเขียว สีของสารละลายไอโอดนี จะเปล่ียนจากส ๗.๗ บริเวณท่ีมีสีเขียวน่าจะมีสารประเภทใด ทราบ แป้ง เพราะเมื่อมีการทดสอบด้วยสารละลาย สีน้าเงนิ เข้มหรอื สมี ่วงอ่อนคล้า) ๗.๘ นักเรียนสรุปการทากิจกรรมได้ว่าอย่างไร (ใบ เขียว) ๘. นกั เรยี นตอบคาถามหลังจากทากิจกรรมหนา้ ๕๖
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 469
Pages: