หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องที่ 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 คคู่ ิด...ค 2. ครูอ่านสารคดสี นั้ ๆ เร่อื งทพ่ี จิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ น่าสนใจใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นสรา้ ง คาถามจากเรอ่ื งทฟ่ี ังเป็นการนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 3. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเรอ่ื งงานเขยี นประเภทสารคดี พรอ้ มยกตวั อย่างชอ่ื นกั เขยี นสารคดที ม่ี ชี อ่ื เสยี ง ของไทย เชน่ อรสม สุทธสิ าคร ธรี ภาพ โลหติ กลุ ฯลฯ และยกตวั อยา่ งหนังสอื สารคดที ด่ี ี 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรยี นเคยอ่านหนงั สือประเภทสารคดีเรอ่ื งอะไรบา้ ง และสารคดีเรอ่ื งดงั กล่าวให้ความรู้ กบั นักเรียนอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 5. นกั เรยี นศกึ ษาความรู้เร่อื ง การอา่ นจบั ใจความ จากหนังสอื เรยี น และใบความรู้ เรอ่ื ง สารคดี 6. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การอา่ นจบั ใจความ มีประโยชน์อยา่ งไร (ชว่ ยใหผ้ อู้ า่ นจาแนกขอ้ เทจ็ จรงิ ของเรอื่ งทอี่ า่ นออกจากสว่ นประกอบอนื่ ๆ ของเรอื่ งได้) 7. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุปหลกั การอา่ นจบั ใจความ 8. นักเรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง หลกั การอา่ นจบั ใจความ เสรจ็ แลว้ นาส่งครูตรวจ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย 8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ใบความรู้ เร่อื ง สารคดี 3) ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง หลกั การอา่ นจบั ใจความ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — 52 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เร่ืองที่ 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี ใบความรู้ เรือ่ ง สารคดี ความหมายและจุดมุง่ หมายของการเขียนสารคดี สารคดี หมายถงึ งานเขยี นทเี่ ป็นเร่อื งเกยี่ วกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ เสนอเร่อื งราวเกย่ี วกบั บุคคลทม่ี ตี วั ตนจรงิ เหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ มเี จตนาเบอ้ื งต้นในการใหส้ าระ ความรู้ ความคดิ ทงั้ น้ี ตอ้ งมกี ลวธิ กี ารเขยี นใหเ้ กดิ ความ เพลดิ เพลนิ ดว้ ย สารคดโี ดยทวั่ ไปมจี ดุ มงุ่ หมาย ดงั น้ี 1. เพ่อื ให้ความรู้ อาจจะเป็นความรูเ้ ฉพาะสาขาวชิ า เชน่ วทิ ยาศาสตร์ สงั คมศาสตร์ หรอื ภาษาศาสตร์ ตวั อย่างเชน่ ความรูเ้ กย่ี วกบั การเจยี ระไนพลอย ความรูเ้ กยี่ วกบั ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เป็นตน้ 2. เพ่ือให้ข้อเทจ็ จริง ซง่ึ อาจไดม้ าจากประสบการณท์ ผ่ี ูเ้ ขยี นคน้ ควา้ รวบรวมมา ประสบดว้ ยตนเอง หรอื ไดร้ บั การบอกเลา่ โดยมหี ลกั ฐานทน่ี ่าเชอ่ื ถอื ซง่ึ ผเู้ ขยี นจะนามาเรยี บเรยี ง หรอื เลา่ ในรูปสารคดี เชน่ สารคดที ่องเทยี่ ว สารคดเี กยี่ วกบั สตั วป์ ่า สารคดเี กี่ยวกบั เหตุการณท์ เ่ี กิดขน้ึ เป็นตน้ 3. เพ่ือแสดงความเหน็ หรอื แนวคิด เป็นการใหแ้ นวคดิ ทเ่ี ป็นประโยชน์ เพอ่ื ส่งเสรมิ ใหผ้ ูอ้ ่านมคี วามคดิ ที่ กวา้ งขวางยง่ิ ขน้ึ เชน่ สารคดเี กยี่ วกบั การพฒั นาชมุ ชน สารคดเี กยี่ วกบั การแกป้ ัญหาของสงั คม สารคดี เกยี่ วกบั การจดั การศึกษาของชาติ เป็นต้น 4. เพ่อื ให้ความเพลิดเพลิน เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ถงึ กลุม่ เป้าหมายไดม้ ากทส่ี ุด สารคดบี างเร่อื งจงึ เขยี นใหเ้ ป็น สารคดที ไ่ี มม่ สี าระวชิ าการมากเกนิ ไป ทงั้ น้เี พ่อื มุง่ สนองความตอ้ งการของผูอ้ า่ น ใหผ้ ูอ้ ่านเกดิ ความ เพลดิ เพลนิ สนุกสนานไปกบั เร่อื ง ขณะเดยี วกนั กไ็ ดส้ าระความรู้ ขอ้ เทจ็ จรงิ และความคดิ เหน็ ดว้ ย เช่น สารคดเี กย่ี วกบั การท่องเทยี่ ว ผูเ้ ขยี นจะนาชมสถานทแ่ี ปลกๆ ใหม่ๆ สวยๆ งามๆ โดยมกี ารพรรณนา ความงามของธรรมชาตดิ ว้ ยถ้อยคาทส่ี ละสลวย ลกั ษณะของสารคดี 1. เน้อื เร่อื งมสี ารประโยชน์ เป็นงานเขยี นทมี่ งุ่ ใหผ้ ูอ้ ่านเกดิ ความรู้ ความคดิ 2. เน้อื เร่อื งไม่จากดั ว่าจะเป็นเรอ่ื งใด ถา้ เหน็ วา่ เน้อื หานนั้ มสี าระบนั เทงิ กส็ ามารถนามาเขยี นได้ 3. การใชส้ านวนภาษาสรา้ งความเพลดิ เพลนิ แก่ผูอ้ ่าน และผอ่ นคลายความตงึ เครยี ดในชวี ติ ประจาวนั 4. สารคดเี ป็นเรอ่ื งราวทไี่ มค่ อ่ ยลา้ สมยั ไม่มกี ารจากดั กาลเวลาเหมอื นข่าว ประเภทของสารคดี สารคดแี บ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญๆ่ ไดแ้ ก่ 1. สารคดีวิชาการ เป็นเร่อื งทใี่ หค้ วามรูว้ ชิ าการแขนงต่างๆ เช่น วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาษาศาสตร์ สงั คมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ศาสนศาสตร์ เป็นตน้ 2. สารคดีทวั่ ไป เป็นเรอ่ื งทใี่ หค้ วามรูแ้ ละความรอบรูท้ วั่ ๆ ไป เชน่ การท่องเทยี่ ว การเลน่ กฬี า งานอดเิ รก สงคราม อุบตั เิ หตุ ประเพณวี ฒั นธรรมต่างๆ การทาขนม ตดั เยบ็ เสอ้ื ผา้ การออกกาลงั กาย เป็นตน้ 3. สารคดชี ีวประวตั ิ เป็นการเขยี นเกย่ี วกบั บุคคลทม่ี ชี ่อื เสยี งหรอื บุคคลทม่ี คี วามสามารถเป็นพเิ ศษ ผูเ้ ขยี นจะตอ้ งมขี อ้ มลู อย่างถกู ตอ้ ง ใหค้ วามเป็นธรรม ปราศจากอคตลิ าเอยี ง เขยี นโดยการไปสมั ภาษณ์ เจา้ ของประวตั หิ รอื ผูท้ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผูน้ นั้ แลว้ นาเอาสงิ่ ทเี่ ป็นสาระมาเขยี นไว้ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความบนั เทงิ แกผ่ ูอ้ า่ น 53 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องท่ี 1 การอ่านจับใจความสารคดี ใบงานที่ 2.1 หลกั การอ่านจบั ใจความ ตอนที่ 1 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. การอา่ นจบั ใจความโดยรวมหมายความว่าอยา่ งไร มวี ธิ กี ารอยา่ งไร 2. การอา่ นจบั ใจความสาคญั มแี นวทางในการอา่ นอยา่ งไร 54 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เรื่องท่ี 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี ตอนท่ี 2 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจบั ใจความสาคญั ขอ้ ความทก่ี าหนดให้ ขอ้ ความท่ี 1 “ในสงั คมไทยปัจจบุ นั เตม็ ไปดว้ ยความเช่อื มากกวา่ ความคดิ พฤตกิ รรมของผูค้ นในสงั คมแสดงใหเ้ หน็ ชดั เจนว่า ชวี ติ อยู่ดว้ ยความเช่อื มากกว่าอยู่ดว้ ยความคดิ ดงั นนั้ ถอ้ ยคาทก่ี ระจกหลงั ของรถทปี่ รากฏตามทอ้ งถนน จงึ มแี ตค่ า ว่า รถคนั น้สี .ี ..ตรงขา้ มกบั รถทเ่ี ป็นสจี รงิ เชน่ รถสแี ดงกเ็ ขยี นวา่ รถคนั น้สี เี ขยี ว หรอื ในจอโทรทศั น์กม็ แี ต่ความเช่อื มากกว่าความคดิ แมห้ ลายรายการจะขน้ึ ตวั อกั ษรวา่ โปรดใชว้ จิ ารณญาณในการชมดว้ ยกต็ าม จะมสี กั กค่ี นจะอา่ น หรอื ฟังถอ้ ยคาเหล่านนั้ หรอื แมแ้ ต่ในชวี ติ ทวั่ ไปในทนั ทที เ่ี กดิ เร่อื งประหลาดขน้ึ ไมว่ า่ จะเป็นธรรมชาตทิ ผี่ ดิ เพย้ี น หรอื อย่างใดกต็ าม สงิ่ แรกทค่ี นในสงั คมจะทาคอื บูชากราบไหวแ้ ละขอหวย สง่ิ ทเี่ กดิ ขน้ึ เหล่าน้เี ป็นเร่อื งธรรมดาไป เสยี แลว้ และเป็นทเ่ี ฮฮาสาหรบั บางกลมุ่ คนในสายการเมอื งและสายบนั เทงิ ทเ่ี ป็นสายคมุ ความคดิ และความรู้สกึ ของ คนทงั้ ประเทศกใ็ ชค้ วามเชอ่ื นาเช่นกนั จนดิฉันคดิ วา่ เราอาจเปลยี่ นแปลงสงั คมแหง่ ความเช่อื น้กี ลบั มาเป็นสงั คม แหง่ การคดิ ไดย้ ากยงิ่ แลว้ จงึ อยากใหเ้ ราช่วยกนั ทาสงั คมแห่งความเชอ่ื น้เี ป็นสงั คมแหง่ ความเช่อื ทเ่ี ป็นบวก แต่ พอดแี ละพอควร ขอ้ ความท่ี 2 “ผมผา่ นการใชช้ วี ติ มามากแลว้ ทงั้ ชวี ติ เพอ่ื การงาน ชวี ติ เพอ่ื สงั คม ชวี ิตเพ่อื ครอบครวั ญาตมิ ติ ร และชวี ติ เพอ่ื ตนเอง รูส้ กึ วา่ ไดผ้ า่ นการใชช้ วี ติ มามากพอแลว้ ทยี่ งั มชี วี ติ และทากจิ กรรมต่างๆ ไดอ้ ยบู่ า้ ง ถอื เป็นโชคดแี ละเป็นของ แถม จงึ ใชช้ วี ติ และทากจิ กรรมเท่าท่ที าไดไ้ ปเร่อื ยๆ อย่างสบายใจ แมจ้ ะมภี าวะเจบ็ ป่วยอยูแ่ ต่กไ็ มร่ นุ แรงมากยงั คง ช่วยตวั เองได้ ไปไหนมาไหนได้ แมใ้ นอตั ราทค่ี ่อนขา้ งชา้ และเจบ็ ปวดเพราะมแี รงน้อย” 55 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องท่ี 1 การอ่านจับใจความสารคดี ใบงานที่ 2.1 หลกั การอ่านจบั ใจความ ตอนที่ 1 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. การอ่านจบั ใจความโดยรวมหมายความวา่ อย่างไร มวี ธิ กี ารอยา่ งไร การจบั ใจความโดยรวม หมายถงึ การสงั เกตสว่ นประกอบต่างๆ ของหนงั สอื หรอื บทความอย่างรวดเรว็ เพอื่ สามารถกาหนด และทาความเขา้ ใจโครงเรอื่ งหรอื เน้อื หาทงั้ หมดของหนงั สอื ได้ มวี ธิ กี าร ดงั น้ี 1) สงั เกตสว่ นประกอบของเรอื่ ง เช่น ชอื่ เรอื่ ง คานา สารบญั วตั ถปุ ระสงคข์ องผูเ้ ขยี น เพอื่ ใหเ้ หน็ แนวทางและ จดุ ประสงคข์ องผูเ้ ขยี น 2) สงั เกตหวั ขอ้ ใหญ่และหวั ขอ้ รองทเี่ ป็นใจความสาคญั ทผี่ ูเ้ ขยี นตอ้ งการสอื่ มายงั ผอู้ ่าน สงั เกตขอ้ ความทเี่ ป็น ตวั หนา ตวั เอน ขอ้ ความทขี่ ดี เสน้ ใต้หรอื ทอี่ ยใู่ นเครอื่ งหมายอญั ประกาศ รวมทงั้ ตารางและแผนภูมิ จากนนั้ จงึ เรยี งลาดบั ความคดิ รวมถงึ พจิ ารณาเรอื่ งราวทผี่ ูเ้ ขยี นตอ้ งการนาเสนอ 2. การอ่านจบั ใจความสาคญั มแี นวทางในการอ่านอย่างไร แนวทางในการอ่านจบั ใจความสาคญั มดี งั น้ี 1) พจิ ารณาจากชอื่ เรอื่ งแลว้ อา่ นตงั้ แต่ยอ่ หน้าแรกถงึ ย่อหน้าสดุ ท้าย จะชว่ ยใหท้ ราบวา่ เรอื่ งทอี่ า่ นนนั้ นาเสนอเรอื่ ง อะไรอยา่ งกวา้ งๆ 2) พจิ ารณาหาใจความสาคญั ไปทลี ะยอ่ หนา้ ส่วนใหญ่ใจความสาคญั จะปรากฏอย่ใู นตาแหน่งต้น ตาแหน่งกลาง หรอื ตาแหน่งทา้ ยของย่อหนา้ 3) พจิ ารณาตดั รายละเอยี ดปลกี ยอ่ ย เชน่ คาอธบิ าย ตวั อยา่ ง การใหเ้ หตุผล เพราะสงิ่ เหลา่ น้เี ป็นเครอื่ งสนับสนุน แนวคดิ หลกั ของเรอื่ ง 4) เมอื่ อ่านจบควรตอบคาถามใหไ้ ดว้ ่าเป็นเรอื่ งของใคร ทาอะไร ทไี่ หน เมอื่ ไร อยา่ งไร ดว้ ยวธิ ใี ด จากนนั้ จงึ บนั ทกึ ความสาคญั เอาไว้ 56 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องท่ี 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี ตอนที่ 2 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นจบั ใจความสาคญั ขอ้ ความทก่ี าหนดให้ ขอ้ ความท่ี 1 “ในสงั คมไทยปัจจุบนั เตม็ ไปดว้ ยความเช่อื มากกว่าความคดิ พฤตกิ รรมของผูค้ นในสงั คมแสดงใหเ้ หน็ ชดั เจนวา่ ชวี ติ อยดู่ ว้ ยความเชอ่ื มากกว่าอยดู่ ้วยความคดิ ดงั นนั้ ถ้อยคาทกี่ ระจกหลงั ของรถทป่ี รากฏตามทอ้ งถนน จงึ มแี ต่คา ว่า รถคนั น้สี .ี ..ตรงขา้ มกบั รถทเ่ี ป็นสจี รงิ เช่น รถสแี ดงกเ็ ขยี นวา่ รถคนั น้สี เี ขยี ว หรอื ในจอโทรทศั น์กม็ แี ต่ความเช่อื มากกว่าความคดิ แมห้ ลายรายการจะขน้ึ ตวั อกั ษรวา่ โปรดใชว้ จิ ารณญาณในการชมดว้ ยก็ตาม จะมสี กั กคี่ นจะอ่าน หรอื ฟังถอ้ ยคาเหล่านนั้ หรอื แมแ้ ต่ในชวี ติ ทวั่ ไปในทนั ทที เี่ กดิ เรอ่ื งประหลาดขน้ึ ไม่วา่ จะเป็นธรรมชาตทิ ผ่ี ดิ เพย้ี น หรอื อยา่ งใดกต็ าม สงิ่ แรกทคี่ นในสงั คมจะทาคอื บูชากราบไหวแ้ ละขอหวย สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เหล่าน้เี ป็นเรอ่ื งธรรมดาไป เสยี แลว้ และเป็นทเี่ ฮฮาสาหรบั บางกลมุ่ คนในสายการเมอื งและสายบนั เทงิ ทเี่ ป็นสายคมุ ความคดิ และความรูส้ กึ ของ คนทงั้ ประเทศกใ็ ชค้ วามเช่อื นาเช่นกนั จนดิฉนั คดิ วา่ เราอาจเปลยี่ นแปลงสงั คมแหง่ ความเช่อื น้กี ลบั มาเป็นสงั คม แห่งการคดิ ไดย้ ากยงิ่ แลว้ จงึ อยากใหเ้ ราชว่ ยกนั ทาสงั คมแหง่ ความเช่อื น้เี ป็นสงั คมแหง่ ความเชอ่ื ทเ่ี ป็นบวก แต่ พอดแี ละพอควร ใจความสาคญั ของขอ้ ความ มดี งั น้ี ในสงั คมไทยปัจจุบนั เตม็ ไปดว้ ยความเชอื่ มากกวา่ ความคดิ ขอ้ ความที่ 2 “ผมผา่ นการใชช้ วี ติ มามากแลว้ ทงั้ ชวี ติ เพอ่ื การงาน ชวี ติ เพอ่ื สงั คม ชวี ติ เพ่อื ครอบครวั ญาตมิ ติ ร และชวี ติ เพอ่ื ตนเอง รูส้ กึ วา่ ไดผ้ า่ นการใชช้ วี ติ มามากพอแลว้ ทย่ี งั มชี วี ติ และทากจิ กรรมตา่ งๆ ไดอ้ ยบู่ า้ ง ถอื เป็นโชคดแี ละเป็นของ แถม จงึ ใชช้ วี ติ และทากจิ กรรมเทา่ ที่ทาไดไ้ ปเรอ่ื ยๆ อยา่ งสบายใจ แมจ้ ะมภี าวะเจบ็ ป่วยอยู่แต่กไ็ มร่ นุ แรงมากยงั คง ช่วยตวั เองได้ ไปไหนมาไหนได้ แมใ้ นอตั ราทค่ี อ่ นขา้ งชา้ และเจบ็ ปวดเพราะมแี รงนอ้ ย” ใจความสาคญั ของขอ้ ความ มดี งั น้ี รูส้ กึ วา่ ไดผ้ า่ นการใชช้ วี ติ มามากพอแลว้ ทยี่ งั มชี วี ติ และทากจิ กรรมตา่ งๆ ไดอ้ ยู่บา้ ง ถอื เป็นโชคดแี ละเป็นของแถม 57 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 58 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ 1 ชวั่ โมง เร่ืองท่ี 1 การอ่านจับใจความสารคดี แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 การอ่านจบั ใจความ สารคดี (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาสารคดซี งึ่ เป็นงานเขยี นทเ่ี ป็นเร่อื งเกย่ี วกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ ใหส้ าระ ความรู้ ความคดิ และความ เพลดิ เพลนิ ผอู้ า่ นตอ้ งระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มูลทส่ี นบั สนุนจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/3 ระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มูลทสี่ นบั สนุนจากเรอ่ื งทอี่ ่าน 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - อ่านจบั ใจความสาคญั จากสารคดเี รอ่ื งทอ่ี า่ นได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การอ่านจบั ใจความจากสอ่ื ต่างๆ เช่น สารคดี 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความคดิ เหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 59 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนความรเู้ กยี่ วกบั หลกั การอา่ นจบั ใจความ คคู่ ิด...ค 2. นักเรยี นแต่ละคนเลอื กอ่านสารคดที ค่ี รูนามาเป็นตวั อยา่ ง 1 เรอ่ื ง จากนนั้ นาความรจู้ ากการอา่ นสารคดี ทเ่ี ลอื กมาทาใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง การอา่ นจบั ใจความสารคดี เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ใหน้ าส่งครูตรวจ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • เพราะเหตุใด นักเรียนจงึ เลือกสารคดีเร่อื งดงั กล่าวมาจบั ใจความ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 4. ครตู รวจสอบการทาใบงานท่ี 2.2 เพอ่ื พจิ ารณาความถูกตอ้ งของการจบั ใจความสารคดี 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานที่ 2.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8 ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) ตวั อย่างสารคดี 2) ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง การอา่ นจบั ใจความสารคดี 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — 60 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองท่ี 1 การอ่านจับใจความสารคดี เอกสารประกอบการสอน เรอื่ งท่ี 1 สารคดที วั่ ไปเกี่ยวกบั การท่องเท่ียว ไปไหวพ้ ระบรมธาตไุ ชยา เมอื งสุราษฎร์ เม่อื ไดย้ นิ ใครๆ พดู วา่ จะไปเทยี่ วสรุ าษฎร์ หรอื จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านที บ่ี อกวา่ เป็นเมอื ง “รอ้ ยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไขแ่ ดง แหล่งธรรมะ” กม็ กั ลว้ นแลว้ จะไปเทย่ี วเกาะ กนิ เงาะ กนิ หอยนางรม (ซ่งึ ทจี่ รงิ คอื หอยตะโกรม) ตวั ใหญ่ๆ แลว้ กซ็ อ้ื ไข่เคม็ เมอื งไชยามาฝากกนั มนี อ้ ยคนเหลอื เกนิ ทจ่ี ะแวะสวนโมกขพลารามที่ทา่ นพุทธทาสเคยอยู่ เคยประกาศ ธรรม หรอื แมแ้ ต่จะเลย้ี วเขา้ ไปเทย่ี วชม ไหวพ้ ระบรมสารรี กิ ธาตุ ทวี่ ดั พระบรมธาตไุ ชยาราชวรวหิ าร อนั เป็นทม่ี าของคาวา่ “แหล่งธรรมะ” ถา้ ไปเทยี่ วไหนต่อไหนเสรจ็ แลว้ มเี วลาสกั ครง่ึ ค่อนวนั กน็ ่าจะมาลองเทยี่ วชมทวี่ ดั พระบรมธาตไุ ชยาน้บี า้ ง วดั น้เี ป็นวดั สาคญั เกา่ แก่มาตงั้ แต่ครงั้ อาณาจกั รศรวี ชิ ยั เจรญิ รงุ่ เรอื งประมาณพทุ ธศตวรรษที่ 11-12 เดมิ เมอื งไชยานนั้ เป็นเมอื งใหญ่ มขี อบเขตตงั้ แต่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา ลงมาถงึ อ.เมอื งสุราษฎรธ์ านี อ.กาญจนดษิ ฐ์ อ.พุนพนิ อ.ครี รี ฐั นิคม อ.เวยี งสระ อ.พระแสง เรยี กว่าเกอื บทงั้ จงั หวดั เลยทเี ดยี ว มกี ารตดิ ต่อกบั ตา่ งประเทศเรอ่ื ยมาและรับเอาอทิ ธพิ ลทางศาสนา พุทธลทั ธมิ หายานเขา้ มาดว้ ย นักโบราณคดกี ล่าวถงึ ประวตั กิ ารสรา้ งวดั วา่ เกดิ ขน้ึ ในสมยั พระเจา้ ธรรมเสตขุ น้ึ ครองเมอื งไชยาแลว้ กท็ รงสรา้ ง พระนครกาแพงเมอื ง โดยมคี ูลอ้ มทงั้ สท่ี ศิ และสรา้ งวดั ขน้ึ หลายแห่งรวมถงึ วดั พระบรมธาตไุ ชยาน้ดี ้วย ดว้ ยอทิ ธพิ ลของศาสนาพุทธลทั ธมิ หายาน ตวั เจดยี จ์ งึ มลี กั ษณะศลิ ปกรรมแบบศรวี ชิ ยั หรอื แบบทเ่ี รยี กกนั วา่ อนิ โดชวานีส โดยองคพ์ ระธาตมุ ฐี านเป็นรูปสเ่ี หลยี่ มจตั ุรมุข สว่ นยอดแบ่งเป็นสามชนั้ ลดหลนั่ กนั ขน้ึ ไป แตล่ ะชนั้ ประดบั ดว้ ยรูปสถูปขนาดเลก็ องคร์ ะฆงั ของสถปู นัน้ มลี กั ษณะเป็นรปู แปดเหลยี่ ม ตงั้ อยูบ่ นรปู ดอกบวั ใหญ่ เหนือองคร์ ะฆงั เป็น บลั ลงั กบ์ วั กลุม่ และปลยี อดเฉพาะปลยี อดเดมิ หมุ้ ดว้ ยเงนิ เหนอื ปลยี อดประดบั ดว้ ยฉัตรทองปรสุ ามชนั้ ซ่งึ กว่าจะเป็น รูปลกั ษณ์ในปัจจบุ นั กผ็ า่ นการซอ่ มแซมมาหลายครงั้ ครงั้ สาคญั คอื ในสมยั รชั กาลท่ี 5 โดยพระชยาภวิ ฒั น์สภุ ทั ร สงั ฆปาโมกข์ ระหวา่ งปี พ.ศ. 2439 - 2453 มกี ารตกแต่งองคพ์ ระบรมธาตุเจดยี ข์ น้ึ ใหม่ ฉาบปนู บางๆ ทวั่ ทงั้ องค์ พรอ้ มทงั้ เสรมิ ยอดทห่ี กั พงั ลงมา สรา้ งวหิ ารหลวงขน้ึ มาใหมใ่ นทเ่ี ดมิ สรา้ งวหิ ารคดโดยรอบลอ้ มองคพ์ ระเจดยี แ์ ละพระวหิ าร สรา้ ง พระอโุ บสถเพม่ิ เตมิ และซอ่ มแซมอกี ครงั้ เมอ่ื คราวฉลองกรงุ เทพฯ ครบรอบ 200 ปี สง่ิ น่าสนใจทอ่ี งคเ์ จดยี ์ คอื ลวดลายปูนปัน้ ทป่ี ระดบั อยูใ่ นซมุ้ ดา้ นหน้าเป็นองคพ์ ระพทุ ธรปู ในตราแผน่ ดนิ ดา้ นหลงั เป็นรปู เทพนม ส่วนดา้ นขา้ งเป็นรูปพระอนิ ทรท์ รงชา้ งเอราวณั และรูปนกยูง ทงั้ ยงั มรี ปู ลายอ่ืนๆ อกี มาก เช่น รูปสงิ ห์ รูปเหรา รูปผเี สอ้ื เป็นต้น ลวดลายปูนปัน้ เหลา่ น้เี ป็นลวดลายทที่ าขน้ึ มาใหมใ่ นสมยั รชั กาลที่ 5 นอกจากน้ภี ายในวดั ยงั มี “พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ ไชยา” ตงั้ อยู่ดว้ ย เปิดใหช้ มมาหลายปีแลว้ โดยแบ่ง เป็นสองอาคาร อาคารแรก “ศาลานีลวฒั นานนท์” ดา้ นหน้าจดั แสดงประตมิ ากรรมศิลาและสารดิ ทค่ี ้นพบในเมอื งไชยาเก่า อยา่ งเทวรูปพระนารายณ์ เทวรปู พระโพธสิ ตั วอ์ วโลกเิ ตศวรซ่งึ เป็นองคจ์ าลอง องคจ์ รงิ แสดงอยูท่ พ่ี พิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในกรุงเทพฯ นี่เอง อยา่ งไรกด็ ภี ายในยงั มศี ลิ ปวตั ถุจดั แสดงอยเู่ ป็นจานวนมาก สว่ นอาคารที่ 2 เป็นทจ่ี ดั แสดงหลกั ฐานสมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตรต์ งั้ แตส่ มยั ทวารวดี ศรวี ชิ ยั ลพบรุ ี สโุ ขทยั อยุธยา ทงั้ ยงั มโี บราณวตั ถุทมี่ คี วามประณีต งดงาม เช่น หนา้ บนั ไมแ้ กะสลกั เกา่ แก่ ลวดลายงดงามออ่ นชอ้ ย เคร่อื งถ้วยชาม 61 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องที่ 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี เบญจรงค์ ลายเทพนม นรสงิ ห์ เครอ่ื งถว้ ยศลิ ปะอนั นมั เคร่อื งลายครามของจนี รวมไปถงึ พระพทุ ธรปู ทองคา เคร่อื งเงนิ เคร่อื งทอง และอน่ื ๆ อกี เป็นจานวนมาก เหมาะแก่การเรยี นรูเ้ พอ่ื ทาความเขา้ ใจศลิ ปะทอ้ งถน่ิ หลงั จากเทยี่ วชมศลิ ปวตั ถุของเก่าทด่ี เู หมอื นจะตายไปแลว้ ในวดั ในพพิ ธิ ภณั ฑก์ ไ็ มน่ ่าจะละเลยทจี่ ะไปเทยี่ ว ชมตลาดและหมบู่ า้ น ซ่งึ อาจกล่าวไดว้ า่ พอเป็นวถิ ชี วี ติ ทส่ี มั ผสั ได้ หมู่บา้ นทนี่ ่าสนใจ คอื หม่บู า้ นพุมเรยี ง ซง่ึ ไม่ไดเ้ ป็นเพยี ง ชุมชนทอี่ ยชู่ ายทะเลทาการประมงชายฝัง่ เลย้ี งชวี ติ เท่านนั้ แตพ่ น่ี อ้ งมสุ ลมิ ทน่ี ีย่ งั มฝี ีมอื ทางดา้ นทอผา้ สมยั ก่อนเขาจะทอไว้ ใชเ้ องใชใ้ นเวลาแต่งงาน หรอื นุ่งไปทาพธิ ที ม่ี สั ยดิ ลายเกา่ แก่ทนี่ ยิ มทอกนั คอื “ลายยกเบด็ ” แต่ปัจจบุ นั นนั้ หาดไู ดย้ ากแลว้ วา่ กนั วา่ คนทจ่ี ะนุ่งผา้ ทอพุมเรยี งน้มี กั จะเป็นเศรษฐมี สี ตางค์ และเป็นทน่ี ิยมกวา่ ผา้ ทอเมอื งนคร หรอื ผา้ ทอเกาะยอ สงขลา เสยี อกี ผา้ ทอพุมเรยี งมาดงั มากอกี ครงั้ กส็ มยั พล.อ. เปรม ตณิ สูลานนท์ เป็นนายกรฐั มนตรที ใ่ี ครๆ กห็ าผา้ ไหมมาตดั เสอ้ื ทรงพระราชทาน ผา้ ทอทนี่ ี่กไ็ ดร้ บั ความนิยมมาก เรยี กวา่ ตอ้ งเปลย่ี นจากการทอพน้ื บา้ นเป็นอตุ สาหกรรมการทอเลย ทเี ดยี ว เดยี๋ วน้กี ย็ งั มอี ยมู่ ากแมจ้ ะไมด่ งั เทา่ เมอ่ื กอ่ นกต็ ามและกม็ ที งั้ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย จะลองถามหาซ้อื ตามบา้ นหรอื ไปหาซ้อื ทรี่ า้ น วรรณม๊ะไหมไทย รา้ นใหญ่เก่าแก่กไ็ ด้ ถ้ามาแต่เชา้ ป่านน้กี ค็ งบ่ายโข ยงิ่ มาเม่อื ตอนบ่ายตอนน้กี ย็ งิ่ เยน็ ยา่ ตรงปลายถนนแถบคลองพุมเรยี งใกลๆ้ กบั แหลมโพธิ์ มรี า้ นอาหารฝีมอื ชาวบา้ น ขายอาหารทะเลสดๆ อยู่หลายรา้ น เช่น รา้ นพลบั พลาซฟี ู้ด หรอื จะเลอื กเป็นซุ้ม ดอกเหด็ ก็ได้ สงั่ อาหารงา่ ยๆ ประเภทปนู ่ึง ปลาทอด หมกึ ผดั พรกิ กรรเชยี งปูผดั ผงกะหร่ี รวมถงึ หอยตลบั ทเ่ี รยี กกนั วา่ หอยขาวพุมเรยี งจะผดั พรกิ เผา หรอื อบจ้มิ น้าจ้มิ กอ็ รอ่ ย รบั รองตอ้ งตกั ขา้ วสองสามรอบ ถ้าไม่อมิ่ จนอดึ อดั ไปเสยี กอ่ น ที่มา : จากนายรอบรูช้ วนเทย่ี ว นติ ยสารสารคดี ปีท่ี 17 ฉบบั ท่ี 197 กรกฎาคม 2544 62 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 1 การอ่านจับใจความสารคดี เรือ่ งท่ี 2 สารคดที วั่ ไปเก่ียวกบั การอธิบายวิธีทา น้าพริกถ้วยเกา่ มเี พลงของสรุ พล สมบตั เิ จรญิ เพลงหนงึ่ ชอ่ื เพลงเมยี จา๋ หรอื เพลงอะไรไมแ่ น่ใจ มรี อ้ งทอ่ นแยกของเพลงวา่ “รอ้ ยชหู้ รอื จะสเู้ มยี ตน หญงิ อ่นื หมน่ื คนหรอื จะสเู้ มยี พ่ี น้าพรกิ ถ้วยเก่าปลารา้ ปลาเจา่ ผกั ดองของดี ผวั ไมเ่ คยเมนิ หนี ยงั รกั เมยี พท่ี ว่ มทน้ ดวงใจ” น้าพรกิ ถ้วยเก่าเป็นศพั ท์เรยี กเมยี ทบี่ า้ น สมยั หน่ึงเมอ่ื ผูช้ ายเขาพูดกนั ว่ากลบั ไปกนิ น้าพรกิ (หรอื พะโล)้ ทบ่ี า้ นนนั้ มนี ยั เชงิ สานวนว่ากลบั ไปหลบั นอน กบั เมยี ทบี่ า้ น เมอ่ื หาคนหลบั นอนดว้ ยนอกบา้ นไม่ได้ เดยี๋ วน้ยี งั ใชก้ นั อยบู่ า้ งหรอื เปล่าไม่คอ่ ยแน่ใจ แตใ่ นแวดวงทผ่ี มเทยี่ ว เตรเ่ ฮฮาอย่ไู ม่มใี ครใช้ ผมเองกไ็ มเ่ คยใช้ ไม่ค่อยแน่ใจทจี่ ะใช้ ออกนอกบา้ นแลว้ ผมกลบั ดกึ นะครบั จะปลุกน้าพรกิ ขน้ึ มากนิ กใ็ ชท่ ่ี พะโลเ้ ป็นสานวนในความหมายเดยี วกนั คอื หมายถงึ เมยี ทบี่ า้ น หลงั ๆ นี่มคี นใชก้ นั มากในความหมายของผูห้ ญงิ ไม่ ดูแลรกั ษารปู ร่างตวั เองปลอ่ ยใหต้ วั เองอว้ น ผมไดย้ นิ เพ่อื นใชพ้ ะโลใ้ นความหมายน้สี องสามครงั้ ซ่งึ เป็นทเี่ ขา้ ใจกนั นะครบั แต่ผมสงสยั ถามว่าทาไมจงึ ใชค้ าว่าพะโล้ ในเมอ่ื พะโลไ้ มไ่ ดม้ นี ัยอะไรเกยี่ วกบั ความอว้ น เพอ่ื นกง็ งๆ อยหู่ าคาอธบิ ายไม่ ถูก…หรอื มใี ครหาคาอธบิ ายความของคาพะโลใ้ นสานวนน้ไี ดก้ ว็ า่ มานะครบั พะโลเ้ ป็นของเกบ็ กนิ นานทานองเดยี วกบั น้าพรกิ ตดิ บา้ นไวย้ งั ไงกม็ กี บั ขา้ วกนิ แน่ๆ เขาถงึ เปรยี บกบั เมยี … ทรี่ อใหก้ นิ อยู่ทบ่ี า้ น ผมเป็นคนชอบกนิ น้าพรกิ มตี ดิ บา้ นอยูเ่ สมอ ไมน่ ้าพรกิ อะไรกต็ ้องน้าพรกิ อะไรสกั อย่างหน่งึ เพอ่ื นผู้ คนุ้ เคยกนั ทตี่ าน้าพรกิ อรอ่ ยกม็ กั จะตาน้าพรกิ มาฝาก เพ่อื นคนหนง่ึ ตาน้าพรกิ ไตปลาอรอ่ ยมาก ผมถนัดแต่กม้ หน้ากนิ ไม่เคยเงยหน้าถามว่าทายงั ไง วนั หลงั จะขอสูตรเขามาบอกใหพ้ รรคพวกอกี คน ตาน้าพรกิ ปลากระป๋ องอร่อย เกดิ มา ผมกเ็ พง่ิ จะรูน้ ่แี หละวา่ ปลากระป๋ องนนั้ ตาน้าพรกิ ได้ อนั น้ถี ามสตู รเขามาแลว้ เดยี๋ วจะบอกให้ กอ่ นหน้าท่จี ะเขยี นต้นฉบบั น้ี ผมพยายามหาหนงั สอื ทช่ี ่อื น้าพรกิ ของหมอ่ มราชวงศ์คกึ ฤทธิ์ปราโมช ซ่งึ มอี ยู่ แตห่ าไม่เจอ ใหใ้ ครไปหรอื โดนใครจกิ๊ กไ็ ม่แน่ใจ หมอ่ มราชวงศ์คกึ ฤทธนิ์ นั้ ท่านเป็นเลศิ ในหลายสาขาวชิ าความรู้ เรยี กวา่ ถา้ เป็นเร่อื งทท่ี า่ นสนใจทา่ นกเ็ ป็นเลศิ ในเร่อื งนนั้ เรอ่ื งการทาอาหารกเ็ ป็นเรอ่ื งหน่งึ ผมตามอา่ นเรอ่ื งน้าพรกิ ของท่านตงั้ แต่ สมยั ทพ่ี มิ พใ์ น สยามรฐั เม่อื รวมเล่มกซ็ อ้ื เกบ็ ไว้ เจอหนงั สอื ตารากบั ขา้ วเกย่ี วกบั น้าพรกิ ไม่วา่ เล่มใดใครเขยี นผมซอ้ื หมด ชอบอ่านมาก ชอบอ่านกบั ชอบกนิ แต่แทบจะไมเ่ คยตาน้าพรกิ กนิ เองเลย ทจ่ี ะตากนิ เองเป็นพน้ื กค็ อื น้าพรกิ กะปิ แต่น้าพรกิ ปลากระป๋ องทผ่ี มลองทากนิ เองแลว้ นะครบั ไดเ้ ลย ใชไ้ ด้ ผมรสู้ ตู รแลว้ กไ็ มไ่ ดค้ ดิ จะลองทาหรอกครบั แต่อยมู่ าวนั หนึง่ มผี ูห้ วงั ดสี ่งปลากระป๋ องมาใหผ้ มสองลงั ผมงงๆ ว่าจะทาอะไรกบั มนั ดกี เ็ ลยคดิ ว่าตาน้าพรกิ เลน่ ดกี ว่า เรมิ่ ตน้ กต็ อ้ งมปี ลากระป๋ อง ใชป้ ลากระป๋ องปลาทนู ่านะครบั ปลากระป๋ องอ่นื ๆ อย่างปลาซารด์ นี เกลด็ เขยี ว เกลด็ ขาวอะไรนนั้ ผมไม่รูว้ า่ ทาไดห้ รอื เปล่าใครอยากลองกต็ ามสะดวก ปลากระป๋ องทนู ่าทเ่ี มอื งไทยเราทาเองขายเอง ส่งออก แทบจะเป็นปลากระป๋ องทนู ่าทดี่ ที สี่ ดุ ในโลกอย่แู ลว้ ควรจะนยิ มกนิ ผมเคยอ่านข่าววา่ มนั มปี ระโยชน์ถงึ ขนาดช่วย ป้องกนั โรคมะเรง็ ไดน้ นั่ แน่ะ จะบอกแถมใหว้ า่ รกั ษาไดด้ ว้ ยกเ็ กรงใจ แต่บอกกไ็ ดน้ ะครบั ใครจะไปรูม้ นั รกั ษาไดจ้ รงิ หรอื เปลา่ อาจจะกไ็ ด้ ปลากระป๋ องทนู ่ามาเป็นชน้ิ ไม่น่ากลวั เหมอื นปลากระป๋ องซารด์ นี สมยั เรยี นอยมู่ หาวทิ ยาลยั ผมกบั พรรคพวก มกี จิ กรรมเมากญั ชากนั เป็นครงั้ คราว เพอ่ื นคนหนึ่งนนั้ เมากญั ชาแลว้ กลวั ปลากระป๋ อง ปลาซารด์ นี นะครบั สมยั นนั้ ไม่มี ปลากระป๋ องทูน่า เวลาเพอ่ื นเมากญั ชาใครยน่ื ปลากระป๋ องใหเ้ ป็นวง่ิ หนีหวั ซกุ หวั ซุน ถามวา่ ทาไมตอ้ งกลวั เพอ่ื นกบ็ อกวา่ กลวั ซี มนั เขา้ ไปตายรวมกนั ในกระป๋ องไดย้ งั ไง เขา้ ไปทางไหน แถม ตายแบบตงั้ ใจคอื ตายเรยี งกนั อกี ต่างหาก มงึ ไมก่ ลวั เหรอ จะใชป้ ลากระป๋ องทูน่าในน้ามนั หรอื ปลากระป๋ องทูน่าในน้าเกลอื กต็ ามสะดวก ของผมใชใ้ นน้าเกลอื เรมิ่ ต้นกใ็ ช้ 63 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองท่ี 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี หอมแดงกบั พรกิ ขห้ี นูควั่ ในกระทะตงั้ ไฟ ถา้ ไมเ่ อากระทะตงั้ ไฟจะควั่ ไปหาแหว้ อะไร หอมแดงกป็ อกเสยี ก่อน พรกิ กเ็ ดด็ กา้ นเสยี จะใชจ้ านวนเท่าไหร่น่ีไม่ทราบกะๆ เอาเองใหม้ นั เหมาะกบั จานวนปลากระป๋ องทจี่ ะต้องใชอ้ าหารทบี่ อกเคร่อื งปรงุ ประเภทหนง่ึ ถว้ ยตวง สองชอ้ นโตะ๊ ครง่ึ ชอ้ นชา อะไรพวกน้ผี มไม่ทา ขเ้ี กยี จจาขเ้ี กยี จจด และขเ้ี กยี จหาชอ้ นชา ชอ้ นโตะ๊ และถ้วยตวง ขอรูแ้ คว่ า่ ใชอ้ ะไรใสอ่ ะไรบา้ งเท่านนั้ แหละ แลว้ ผมไปผจญภยั ของผมเอง พรกิ ขห้ี นูกบั หอมนนั้ ควั่ พอหอม แลว้ กใ็ ส่ครกตา ตาพอแหลก แลว้ กใ็ ส่ปลากระป๋ องลงไปตาดว้ ยใหเ้ ขา้ กนั ดี ตาละเอยี ดตาหยาบกแ็ ลว้ แตช่ อบ จากนนั้ กน็ า ไปรวนในกระทะใชไ้ ฟออ่ น ถ้ารสู้ กึ วา่ ขน้ เกนิ ไปกเ็ ตมิ น้า ปรุงรสดว้ ยน้าปลา น้ามะนาว น้าตาลทราย คนบอกสูตรเขาใชพ้ รกิ ขห้ี นูนอ้ ย เพราะกลวั เผด็ มากกใ็ สพ่ รกิ ป่นดว้ ย ซง่ึ กเ็ ก๋ไปอกี แบบ รสสรปุ ของน้าพรกิ ปลากระป๋ องนี่ใหม้ เี ปรย้ี วนา เคม็ ตาม อมหวานบา้ งนดิ หน่อย และไมค่ วรใหเ้ ผด็ มาก บอกไวต้ ามทส่ี ตู รเขาบอก แต่เร่อื งน้ลี ้นิ ใครล้นิ มนั รสใครรสมนั ของผมนนั้ เป็นพวกอ่อนหวาน คอื ไมช่ อบกนิ อาหารรสออกหวาน น้าตาลทรายนัน้ ผมใส่ไปกระจงึ๋ หน่ึง แค่พอใหม้ ตี ามสูตรเขาบอก ปกตผิ มชอบกนิ น้าพรกิ กบั ปลาทอดหรอื ปลายา่ งแต่น้าพรกิ น้มี นั เป็นปลาอยู่แลว้ กไ็ มต่ ้องกนิ กบั ปลา หรอื จะกนิ กบั ปลากไ็ ม่แปลก ผกั จม้ิ นัน้ ตามแต่ชอบ แตผ่ มชอบกนิ กบั ผกั กวางตุ้งลวก ลวกไวท้ ลี ะแยะๆ กนิ เหลอื เกบ็ ใส่ตูเ้ ยน็ ไวก้ นิ ต่อ เรอ่ื งน้เี ป็นวชิ าหรอื เปล่ากไ็ ม่ทราบ แต่ถา้ เป็นวชิ ากเ็ ป็นวชิ าทผ่ี มไดม้ าจากรา้ นบะหมก่ี วางตงุ้ ปากซอยทบี่ า้ น เขาลวกผกั เกบ็ ไวท้ ลี ะมากๆ ไม่ต้องมาลวกทลี ะชาม ผกั กวางตุ้งลวกน้กี นิ น้าพรกิ อะไรกอ็ รอ่ ย ทส่ี าคญั อยา่ ลวกใหเ้ ละเอาแคพ่ อหาย เหมน็ เขยี ว กนิ มากๆ เถอะครบั ยอ่ ยงา่ ยถา่ ยสะดวก น้าพรกิ ปลากระป๋ องนี่ตอนผมทานนั้ กนิ เหลอื ผมกใ็ ส่ตู้เยน็ ไวก้ นิ ตอ่ กนิ หลายวนั เขา้ กเ็ บอ่ื เหน็ มนั ยงั เหลอื อยู่ วนั หนงึ่ หวิ ขน้ึ มาหาอะไรกนิ ไม่ทนั ใจ กเ็ อาน้าพรกิ ปลากระป๋ องนีไ่ ปผดั ขา้ วใสไ่ ข่ อะ๊ …ไดเ้ รอ่ื งอร่อยไปอกี แบบ วธิ ผี ดั กต็ ี กระเทยี มในกระทะ ใสน่ ้าพรกิ นี่ลงไปผดั ใส่ไข่ แหวกเน้อื พรกิ ออก ตอ่ ยไข่ใสเ่ ขา้ ไปตรงกลาง ใหไ้ ข่จบั ตวั สกุ บา้ งกอ่ นจะได้ เป็นชน้ิ ๆ จากนนั้ กใ็ ส่ขา้ วผดั ผกั กวางตุ้งทลี่ วกไวน้ นั่ แหละใส่สาทบั เขา้ ไป ปรงุ รสดว้ ยเกลอื หรอื น้าปลาซอี ว๊ิ กต็ ามถนัด ทากินนะครบั เป็นอาหารสขุ ภาพ คดิ ว่าเป็นอาหารป้องกนั มะเรง็ อาจจะช่วยใหก้ นิ ลงไดด้ ขี น้ึ 64 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 1 การอ่านจับใจความสารคดี เรอื่ งที่ 3 สารคดที วั่ ไปเก่ียวกบั สตั ว์ เร่อื งของหมา หมานนั้ มขี นบธรรมเนียมประเพณีในการตดิ ตอ่ กนั และการปฏบิ ตั ติ นต่อกนั มากมายหลายอยา่ ง มนุษยเ์ รา มกี ฎเกณฑใ์ นการปฏบิ ตั ติ ่อกนั ในสงั คมฉนั ใดหมากม็ ฉี ันนนั้ แตเ่ ป็นธรรมดากฎเกณฑข์ องหมาจะตอ้ งไมต่ รงกบั ของ มนุษย์ เพราะกฎเกณฑข์ องหมานนั้ งา่ ยกวา่ ตรงไปตรงมากวา่ ของมนุษย์ และขณะเดยี วกนั หมากม็ องโลก รูจ้ กั โลกดว้ ย วธิ กี ารอนั แตกต่างกว่ามนุษย์ ถงึ จะใหผ้ มใชถ้ อ้ ยคาหรๆู แบบนักประพนั ธใ์ นการขน้ึ ต้นเรอ่ื งน้ี ผมกต็ อ้ งพูดวา่ โลกทศั น์ของหมานนั้ อยทู่ จ่ี มกู และหมาเขยี นประวตั ขิ องตนดว้ ยปัสสาวะ พดู ดงั น้แี ลว้ ฟังดหู รูหราลกึ ซง้ึ ดี แตข่ อ้ ความทกี่ ล่าวมาน้ี นอกจากฟังดหู รหู รา ลกึ ซง้ึ แลว้ ยงั เป็นความจรงิ อกี ดว้ ยในกระบวนวญิ ญาณต่างๆ อนั เกดิ จากอายตนผสั สะนนั้ ฆานวญิ ญาณหรอื ความรูท้ ไี่ ดร้ บั จากจมูกเป็นสาคญั ทสี่ ุดสาหรบั หมา เพราะหมานนั้ สว่ นมากสายตาไมด่ ี เหน็ อะไรไม่ชดั จะแลเหน็ สตี ่างๆ หรอื ไมก่ ็ไมม่ ใี คร ยนื ยนั ฉะนัน้ หมาจงึ อาศยั จมูกดมกลน่ิ ตา่ งๆ เป็นเกณฑ์ หมาจะไปไหนกม็ ไิ ดใ้ ชต้ าสงั เกตทาง แต่ใชจ้ มูกดมกลนิ่ ไป การทศั นาจรจงึ ไมม่ สี าหรบั หมา จะมแี ต่เพยี งฆานจรเท่านนั้ ในการตดิ ตอ่ ทางสงั คมกบั หมาตวั อน่ื นนั้ หมากใ็ ชจ้ มูกอกี คนเรานนั้ ใชต้ าดูและหฟู ังเสยี ง รูไ้ ดว้ ่าใครเป็นใครในสงั คม หรอื รูว้ า่ ใครเป็นเดก็ ใครเป็นผูใ้ หญ่ ใครเป็นผูห้ ญงิ ใครเป็นผูช้ าย ตลอดจนใครโง่หรอื ใครฉลาด ใครขข้ี ลาดหรอื ใครกลา้ แต่หมา ใชจ้ มกู อยา่ งเดยี วในการแสวงหาความรูเ้ หล่าน้ี หมาจะไม่คดิ ถงึ เร่อื งรูปร่างหนา้ ตาของหมาอกี ตวั หน่งึ เลย แตจ่ ะคดิ ถงึ กลน่ิ ของหมาตวั นนั้ เพยี งอยา่ งเดยี ว กเิ ลสตณั หาและอารมณข์ องหมากเ็ กดิ จากกลนิ่ เป็นสว่ นมาก กลิ่นหมาใหญ่ทาใหล้ ูกหมากลวั กลน่ิ หมาตวั เมยี ทถ่ี งึ คราวผสมพนั ธุ์ทาใหห้ มาตวั ผูม้ รี าคะอนั กลา้ และกลนิ่ ทผ่ี ดิ ไปจากความเคยชนิ นนั้ ทาใหห้ มาระแวงระวงั เป็นพเิ ศษ ตลอดจนกลนิ่ ท่ีไม่ถกู ใจนนั้ ทาใหห้ มาโกรธไดม้ าก การเลอื กตงั้ เมอ่ื วนั ที่ 26 กมุ ภาพนั ธ์นนั้ ถ้าหากจะใหห้ มาหาคณุ ศพั ทม์ าประกอบ หมาจะไม่บอกว่าไมเ่ รยี บรอ้ ยเลย แตห่ มาจะบอกว่า “เหมน็ เน่ามาก” กเ็ ม่อื หมาอาศยั การดมกลน่ิ เป็นสาคญั ทาใหเ้ กดิ ความรูด้ งั น้ี สง่ิ ทห่ี มาจะแสดงออกให้ ปรากฏกด็ หี รอื กาหนดจดจาสง่ิ ใดกด็ จี งึ ต้องเป็นสง่ิ ทมี่ กี ลน่ิ อยา่ งแรง มใิ ชส่ งิ่ ทห่ี นกั ไปทางรูปรสหรอื เสยี ง ปัสสาวะของหมา กเ็ ป็นสง่ิ ทม่ี กี ลน่ิ น้ี คนเรานนั้ อาศยั ตาเป็นส่วนมากในการแสวงหาความรู้ ฉะนนั้ เมอ่ื จะกาหนดจดจาสง่ิ ใดกอ็ าศยั รปู เป็นต้น วา่ ในการเดนิ ทางกส็ งั เกตทศิ ไดด้ ว้ ยการสงั เกตพระอาทติ ยข์ น้ึ พระอาทติ ยต์ ก ตลอดจนสงั เกตภูเขา ต้นไม้ แม่น้าหรอื ภูมิ ประเทศอน่ื ๆ เป็นเกณฑจ์ ดจา ในยามค่าคนื กส็ งั เกตดวงดาว ส่วนเมอ่ื มเี รอ่ื งอะไรจะตอ้ งจดจา กท็ าเครอ่ื งหมายทตี่ าเหน็ ได้ ไวเ้ พอ่ื แสดงกรรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ นิ เป็นต้นว่าลงนามไวใ้ นหนังสอื ปักรวั้ กาหนดเขตบา้ น หรอื ปักหนิ สมี ากาหนดเขตโบสถ์ แตห่ มาใชป้ ัสสาวะอยา่ งเดยี วในกจิ การเหลา่ น้ี เวลาหมาออกจากบา้ นและเดนิ ทางห่างทอี่ ยู่ออกไป หมากจ็ ะปัสสาวะไวแ้ ทบทุกโคนตน้ ไมห้ รอื เสาไฟฟ้า เพอ่ื จะได้ ดมกล่ินปัสสาวะของตนแลว้ กลบั บา้ นไดถ้ กู เมอ่ื หมาอยูใ่ นทใ่ี ดอนั เป็นบรเิ วณของตน หมากจ็ ะปัสสาวะกาหนดเขตแสดง กรรมสทิ ธไิ์ ด้ดว้ ยกลนิ่ โดยรอบทบ่ี า้ นผมนนั้ เกดิ เหตุบ่อย ๆ ดว้ ยหมาหลายตวั ชอบมาแสดงกรรมสทิ ธใิ์ นตวั ผม เวลาผมขน้ึ นอนบนเรอื นต้องระมดั ระวงั ปิดหน้าต่างปิดประตใู หม้ ดิ ชดิ ระวงั ไมใ่ หห้ มาตดิ ตามขน้ึ ไปได้ แตว่ นั ไหนเกดิ ความเผอเรอ ปลอ่ ยใหห้ มาเลด็ ลอดขน้ึ ไปแลว้ เป็นเกดิ เหตทุ ุกทหี มาแปดตวั จะมายนื อยรู่ อบมงุ้ กระดกิ หางแสดงความยนิ ดวี า่ สายตะวนั โด่งแลว้ ยงั ไม่ตน่ื อกี หรอื หากผมไมร่ บี ลุกขน้ึ เอะอะใหท้ นั การ กจ็ ะมหี มาตวั หน่งึ มาดมทม่ี งุ้ โดยรอบดมไปดมมาแลว้ ออก อุทานแสดงกรรมสทิ ธวิ์ ่า “อ๊ะ นายกู” แลว้ ปัสสาวะรดมงุ้ ไวห้ น่ึงทเ่ี ป็นหลกั ฐาน จากนนั้ กจ็ ะมอี กี ตวั หนึง่ เขา้ มาดม ดมไปดม มากไ็ ดก้ ลน่ิ ทตี่ วั ก่อนแสดงกรรมสทิ ธไิ์ วแ้ ลว้ กเ็ กดิ ความคดิ วา่ มอี ะไรที่ไมเ่ ป็นธรรมเกดิ ขน้ึ แลว้ พลางออกอุทานว่า 65 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองที่ 1 การอ่านจับใจความสารคดี “นายกูเหมอื นกนั น่หี ว่า” แลว้ ปัสสาวะรดไวอ้ กี หนง่ึ เพอ่ื พสิ จู น์ความจรงิ ขอ้ น้ี ตอนน้จี ะเป็นโอกาสของหมาอกี ตวั หน่ึงทจี่ ะ เขา้ มาดมทม่ี งุ้ แลว้ ออกอุทานว่า “นายกตู ่างหาก” แลว้ กป็ ัสสาวะรดอกี ทหี นึ่ง ตอ่ ไปกถ็ งึ เวรอกี ตวั หนึง่ เขา้ มาสารวจแลว้ รอ้ งวา่ “นายกเู หมอื นกนั โวย้ ” แลว้ กอ็ กี ทหี นึ่ง เวยี นกนั ไปจนครบแปดตวั แปดทผี ลทเี่ กดิ ขน้ึ กค็ อื การซกั มงุ้ ซง่ึ มใิ ชข่ อง งา่ ยและยงิ่ หน้าฝน ฝนตกชกุ อย่างน้ที ลุ กั ทุเลเป็นอย่างยงิ่ ความจรงิ หมาบา้ นอ่นื เขาจะพดู คุณผมกนั หรอื เปลา่ ผมไม่ทราบ แตห่ มาบา้ นผมมนั แสดงท่าทวี ่าพูดมงึ กูกนั ผมกเ็ ลยบนั ทกึ ไวอ้ ย่างน้ี กอ่ นทผี่ มจะพูดอะไรต่อไปผมตอ้ งขอพดู ไวเ้ สยี กอ่ นวา่ หมานนั้ มจี ดุ ประสงคส์ องประการในการปัสสาวะ ประการแรก คอื ถา่ ยเพอ่ื เปลอ้ื งทุกขต์ ามธรรมชาติ หรอื ทาใหเ้ กดิ สรรี สุขหรอื อย่างนอ้ ยกท็ าใหเ้ กดิ ทอ้ งเบาๆ ไปและอกี ประการหนึง่ นนั้ ถ่ายเพ่อื สงั คม คอื เพอ่ื กาหนดจดจา เพ่อื แสดงกรรมสทิ ธิ์ เพอ่ื แสดงใหป้ รากฏ เพอ่ื แสดงความเป็นมติ ร หรอื เพ่อื ทา้ ทายกนั กไ็ ด้ การทจี่ ะถ่ายอย่างไรนนั้ สงั เกตทป่ี รมิ าณเป็นรู้ หากถ่ายโดยธรรมชาตบิ งั คบั กจ็ ะมปี รมิ าณมาก แตถ่ ้าถ่ายเพ่อื สงั คมกจ็ ะมปี รมิ าณน้อยเพยี งหยดสองหยดกพ็ อ นอกจากนนั้ ยงั สงั เกตไดจ้ ากท่าทาง แตท่ า่ ทางนนั้ สงั เกต จากหมาตวั ผูไ้ ดย้ าก ตอ้ งอาศยั ความชานาญจรงิ ๆ สงั เกตทท่ี ่าทางของหมาตวั เมยี ไดง้ า่ ยกวา่ เพราะหมาตวั เมยี นนั้ ถ้า ถา่ ยโดยธรรมชาตจิ ะนงั่ ลงถา่ ยเรยี บรอ้ ย เทา้ ทงั้ สว่ี างอย่บู นพน้ื ดนิ แตถ่ ้าถ่ายเพอ่ื สงั คมกจ็ ะนงั่ แตเ่ พยี งสามขา อกี ขาหน่งึ เหยยี ดตรงไปขา้ งหน้า หมาตวั เมยี ทแี่ ก่นๆ บางตวั ทต่ี ามศพั ทส์ งั คมปัจจบุ นั เรยี กว่า “ทอมบอย” นนั้ ยกขาตะแคงขา้ งถา่ ย อย่างตวั ผูก้ ม็ ี แต่จะทาอย่างน้เี มอ่ื อยใู่ นวยั เรยี กวา่ “ทนี เอจ” เท่านนั้ การดมปัสสาวะของหมาตวั อน่ื นนั้ หมาไดค้ วามรูว้ า่ หมาตวั ทถ่ี ่ายปัสสาวะนนั้ เป็นหมาใหญห่ รอื ลกู หมาเป็นตวั ผูห้ รอื ตวั เมยี หากเป็นตวั เมยี กร็ ูด้ ว้ ยวา่ อยู่ในระยะทพ่ี รอ้ มจะผสมพนั ธ์หุ รอื เปล่าและอาจรูด้ ว้ ยวา่ หมาตวั นนั้ อยู่ในสภาพที่ แขง็ แรงหรอื ไม่ ตลอดจนอาจรูอ้ ะไรทค่ี นไมร่ ูห้ รอื เดาไมอ่ อกอกี หลายอย่าง เป็นตน้ ว่าหมาตวั ทถ่ี า่ ยปัสสาวะนนั้ เป็นหมา ดหุ รอื หมาใจดี หรอื หมาขข้ี ลาด สว่ นการถา่ ยปัสสาวะเพ่อื สงั คมของหมานนั้ นอกจากจะเป็นการกาหนดเขตหรอื กรรมสทิ ธใิ์ นสถานทหี่ รอื สง่ิ ของแลว้ กอ็ าจเป็นการแสดงความรูส้ กึ แสดงความในใจอกี หลายอย่างทเ่ี หน็ ไดช้ ดั กเ็ ป็นการทา้ ทาย เมอ่ื หมาตวั ผูข้ นาดเดยี วกนั สองตวั มาพบกนั เขา้ และเกดิ สายตาไม่ตอ้ งกนั ขน้ึ มาต่างฝ่ายกจ็ ะพองขนหูหางตงั้ เดนิ ตวั แขง็ ๆ เขา้ ใสก่ นั ขณะน้กี ส็ ง่ เสยี ง ข่กู นั บา้ งตามธรรมเนยี มเมอ่ื ถงึ ตวั กนั เขา้ แลว้ กจ็ ะหนั ขา้ งใหแ้ กก่ นั ตา่ งฝ่ายต่างกจ็ ะเรมิ่ ดมกลนิ่ กนั เพ่อื จะรูน้ สิ ยั ใจคอกนั ทท่ี จ่ี ะดมกล่ินกนั นนั้ ไม่ใช่ทหี่ วั หรอื ตามเน้อื ตามตวั แต่เป็นทท่ี น่ี ่าจะมกี ลน่ิ มากทส่ี ดุ คอื กน้ หากต่างฝ่ายตา่ งยงั คงถอื วา่ ตนดไี มเ่ กรงกลวั อกี ฝ่ายหน่ึงกย็ งั คงยกหางเปิดกน้ ใหอ้ กี ฝ่ายหนึ่งดม พูดอยา่ งภาษาคนกต็ ้องเรยี กตอนน้วี า่ พดู กนั อยา่ ง “เปิดอก” เม่อื ดมกนั ในตอนน้ีแลว้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ บงั เกดิ ความกลวั ขน้ึ มา เหน็ ท่าว่าจะสอู้ กี ตวั หนง่ึ ไมไ่ ด้กจ็ ะลดหางลง มาปิดกน้ ปลายหางนนั้ ซุกเขา้ ไประหวา่ งขาหลงั เป็นสญั ญาณใหร้ ูว้ ่ากลวั แลว้ และจะเดนิ หนหี รอื วงิ่ หนีไป คนไทยแตก่ อ่ นเป็นคนช่างสงั เกต คงไดศ้ กึ ษาเร่อื งราวเกยี่ วกบั หมาเป็นอนั มากจนบญั ญตั ศิ พั ทถ์ งึ ความขลาด หรอื ความกลวั เกรง หรอื ความพ่ายแพอ้ ย่างสน้ิ เชงิ วา่ “หางจกุ ตูด” เม่อื พา่ ยแพก้ นั ไปเสยี ตวั หนึ่งแลว้ อกี ตวั หนง่ึ กจ็ ะหาท่ีอนั สมควรทจี่ ะประกาศกรรมสทิ ธิ์ บอกอาณาเขตของตนหรอื จารกึ ชยั ชนะของตนไว้ ทน่ี นั้ จะตอ้ งเป็นอะไรสงู ๆ เช่น ต้นไม้ เสาไฟหรอื เสารวั้ หากของเหลา่ น้ไี ม่มี กอ็ าจเป็นกอ้ นอฐิ กอ้ นหนิ หรอื กอหญา้ เม่อื เลอื กทไี่ ดถ้ กู ใจแลว้ ตวั ทช่ี นะกจ็ ะถ่าย ปัสสาวะไว้ เหตทุ เี่ กดิ ขน้ึ หากฝ่ายหนึ่งไมย่ อมแพน้ นั้ กค็ อื การดมกน้ กนั ตอ่ ไปอกี พกั หนึ่ง เมอ่ื ไดด้ มกนั จนสน้ิ สงสยั รูฝ้ ีมอื กนั วา่ พอสกู้ นั ไดแ้ ลว้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยงั คดิ จะสกู้ จ็ ะตามไปดมปัสสาวะนนั้ และปัสสาวะทบั ลงไปเป็นทานองรบั คาทา้ ตา่ งฝ่ายต่างปัสสาวะรดกนั อยูอ่ ยา่ งน้หี ลายครงั้ เหมอื นกบั คนด่าวา่ ทา้ -ทายกนั และเมอ่ื ทา้ ทายกนั มากจนอดใจไม่ อย่กู จ็ ะกดั กนั ในทสี่ ุด การกดั นนั้ ยอ่ มมแี พม้ ชี นะ ตวั ทแ่ี พอ้ าจ “วง่ิ หางจุกตูด” หนีไป หรอื มฉิ ะนนั้ อาจนอนหงายไม่สู้ ปัสสาวะราด เมอ่ื ฝ่ายแพน้ อนหงายเสยี ไมส่ ู้ ฝ่ายชนะกจ็ ะไม่ทารา้ ยตอ่ แต่จะยนื ครอ่ ม ดทู ี จนเหน็ ว่าแพแ้ น่แลว้ กจ็ ะขยบั ขยายไปดมปัสสาวะแหง่ ความพ่ายแพข้ องตวั ทแี่ พ้ เมอ่ื เหน็ วา่ แพอ้ ยา่ งแน่นอน ดว้ ยหลกั ฐานน้แี ลว้ ตวั ทช่ี นะ 66 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องที่ 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี กจ็ ะเดนิ ออกไปหา่ งเพ่อื หาทปี่ ัสสาวะประกาศชยั ชนะของตนตอ่ ไป เป็นโอกาสใหต้ วั ทแี่ พล้ กุ ขน้ึ หลกี เลยี่ งไปไดโ้ ดย ตวั ทช่ี นะนนั้ ไมต่ ดิ ตาม ธรรมะทพ่ี งึ สงั เกตเป็นอย่างยงิ่ ในทน่ี ้คี อื หมานัน้ จะไมท่ าอนั ตรายตวั ทยี่ อมแพห้ รอื ตวั ทตี่ ่อ สกู้ นั จนแพแ้ ลว้ เป็นอนั ขาด การปัสสาวะเพ่อื สงั คมในทน่ี ้จี ะเหน็ ไดว้ ่ามจี ุดประสงคห์ ลายอยา่ งตงั้ แต่การทา้ ทาย การยอม แพก้ ารประกาศชยั ชนะ ตลอดจนการจารกึ ชยั ชนะนนั้ ไวเ้ ป็นอนุสาวรยี ต์ อ่ ไป ด้วยเหตุเหล่านี้ ผมจึงไดก้ ลา่ วไวแ้ ต่ตน้ วา่ หมานนั้ มองโลกดว้ ยจมกู และจารึกประวตั ิศาสตรข์ องตนดว้ ย น้าปัสสาวะ การถ่ายปัสสาวะนนั้ อาจทาเพ่อื แสดงความรูส้ กึ อย่างอ่นื อกี ทกี ็ได้ ครงั้ หนงึ่ ผมพาหมาดคั ซฮุนด์ตวั หนงึ่ ช่อื “ไอ้แมค็ ” ไปเทยี่ วในป่าสูง ไอแ้ มค็ นนั้ ถงึ จะตวั เลก็ กเ็ ป็นหมาล่าสตั วโ์ ดยสมบูรณ์ เวลาไปอยูใ่ นป่าดว้ ยกนั ไอแ้ มค็ กจ็ ะออกสารวจป่า ทพ่ี กั บางทกี ลบั มากม็ กี ลนิ่ อเี หน็ ตดิ ตวั มาดว้ ย หรอื มขี นเมน่ ตดิ จมูกมาเสน้ หนงึ่ เป็นเคร่อื งหมายแหง่ ความนยิ มไพร แต่ป่าทไ่ี ปเทยี่ วกนั วนั นนั้ เป็นป่าทสี่ ูงมากและไกลทพี่ กั สงั เกตดไู อแ้ มค็ กร็ ูส้ กึ ถงึ ความกวา้ งใหญข่ องป่าและความไม่แน่นอนของป่าอยูเ่ หมอื นกนั เพราะไมอ่ อกวงิ่ หายไป เหมอื นป่าใกลท้ พี่ กั แต่เดินอยู่ขา้ งๆ ตวั ผมตลอด เดนิ ไปเดนิ มาผมกถ็ ูกธรรมชาตเิ รยี กรอ้ งตอ้ งแอบไปปลดปล่อยทุกข์ ขนาดเบาไวข้ า้ งตน้ ไม้ ไอแ้ มค็ กย็ นื ดอู ยู่ พอเสรจ็ แลว้ ไอแ้ มค็ กท็ าอะไรทผ่ี มคาดไมถ่ งึ คอื เขา้ ไปดมทุกขข์ นาดเบาทผ่ี มถ่าย เอาไวแ้ ลว้ ปัสสาวะลงทต่ี รงนนั้ เสรจ็ แลว้ กห็ นั มามองหน้าผมแลว้ กก็ ระดกิ หาง ในใจจรงิ นนั้ ไอแ้ มค็ จะคดิ อยา่ งไรผมไมท่ ราบ แตไ่ มใ่ ช่ทา้ ทายผมแน่และผมเขา้ ใจว่า ไอแ้ มค็ ตงั้ ใจจะบอกผมวา่ “บดั น้เี ราเดนิ ทางมาไกลทอี่ ยู่ ป่าน้กี ก็ วา้ งใหญไ่ พศาล และเป็นป่าสงู อาจมอี นั ตรายรอบดา้ น เมอื่ เรามากนั สองคนเท่าน้ี เรากต็ ้องไม่ท้งิ กนั แต่เราจะบุกป่าฝ่ารกไปดว้ ยกนั มาเถดิ ภยั อนั ตรายทงั้ หลายเราสองคนจะสู้” ปัสสาวะของไอแ้ มค็ ทลี่ งไปปนอยูก่ บั ของผมนนั้ เป็นน้าสาบานของผูท้ ต่ี กอยู่ ในทอี่ นั น่าสงสยั ปราศจากความแน่นอน การปัสสาวะของไอแ้ มค็ ในกรณีน้จี งึ เป็นการใหส้ ตั ย์ เพอ่ื ทาความมนั่ ใจใหเ้ กดิ แก่ ทงั้ สองฝ่ายวา่ จะไม่ทง้ิ กนั ผมคดิ ไดด้ งั นนั้ กต็ ้นื ตนั ใจ จะตอบสนองน้าใจโดยวธิ อี ย่างไร ใหร้ ดั กมุ เทา่ ไอแ้ มค็ มนั ทากไ็ ม่มี ปัญญา ได้แตเ่ อ่ยวาจาอยา่ งงา่ ยๆ ตน้ื ๆ ไรค้ วามหมายเท่าทม่ี นุษยจ์ ะทาไดว้ า่ “ขอบใจแมค็ ” เรอ่ื งตวั อย่างเทา่ ทผี่ มเลา่ น้เี ป็นเร่อื งจรงิ แสดงจรยิ าของหมาเท่าทผี่ มไดป้ ระสบพบเหน็ ในระยะเวลาหลายสบิ ปี ทผ่ี มอยูก่ บั หมามาตลอดไม่เคยขาด ถ้าหากใหส้ รุปกฎเกณฑค์ วามประพฤตแิ ละจติ ใจของหมา ผมกต็ อ้ งขอสรุปไวว้ ่าหมา ตวั ผูน้ นั้ มคี วามสภุ าพออ่ นโยนจรงิ ใจตอ่ เพศตรงขา้ ม คอื หมาตวั เมยี ไมม่ วี นั ทจ่ี ะทารา้ ย และหมาตวั ผูต้ วั ใดทถี่ กู หมาตวั เมยี กดั ทารา้ ยเอาจรงิ ๆ จะไม่ตอ่ สเู้ ลย แตจ่ ะหลกี ไปดว้ ยความอปั ยศอดสเู ป็นอย่างยง่ิ เสยี เชงิ ชายชาตรไี ปทเี ดยี ว หมา ใหญท่ ุกตวั จะมเี มตตาต่อลูกหมาหรอื หมาทมี่ อี ายเุ ยาวก์ ว่าจะไมท่ ารา้ ยและพยายามอดทนตอ่ ความประพฤตขิ องลกู หมา ราคาญหนกั เขา้ กจ็ ะเดนิ หนีไปเสยี หรอื ออกเสยี งขใู่ หล้ ูกหมาเกรงกลวั แมต้ ้องสงั่ สอนกนั มากกว่านัน้ กเ็ พยี งแตท่ าทา่ ว่าจะกดั แต่ไม่กดั จรงิ ๆ ถงึ บาดเจบ็ เลย นอกจากนัน้ หมายงั รูแ้ พร้ ูช้ นะ รูอ้ ภยั เม่อื ชนะแลว้ จะไมท่ ารา้ ยผูแ้ พแ้ ละหมาจะไมท่ ้งิ มติ รเพ่อื เอาตวั รอดในยาม คบั ขนั ทงั้ หมดน้ไี มไ่ ดแ้ ปลวา่ หมาดกี ว่าคน แตแ่ ปลว่าหมาทาชวั่ อยา่ งคนไม่ได้ เพราะไม่มปี ัญญาเท่าคน ที่มา : จากเร่อื งคนรกั หมา ของหม่อมราชวงศ์คกึ ฤทธิ์ ปราโมช 67 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เรื่องท่ี 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี ใบงานท่ี 2.2 การอ่านจบั ใจความสารคดี คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กอ่านสารคดี จากเอกสารประกอบการสอน 1 เรอ่ื ง แลว้ สรุปจบั ใจความสาคญั สารคดี เรอ่ื ง 68 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี ใบงานท่ี 2.2 การอ่านจบั ใจความสารคดี คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเลอื กอา่ นสารคดี จากเอกสารประกอบการสอน 1 เรอ่ื ง แลว้ สรปุ จบั ใจความสาคญั สารคดี เรอ่ื ง (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 69 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 1 การอ่านจบั ใจความสารคดี ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 70 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ 1 ชวั่ โมง เร่ืองที่ 2 การอ่านจับใจความจากสารคดีชีวประวัติ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 การอ่านจบั ใจความ จากสารคดีชีวประวตั ิ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาสารคดชี วี ประวตั ซิ งึ่ เป็นงานเขยี นเกย่ี วกบั บคุ คลทม่ี ตี วั ตนจรงิ เหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ ผเู้ รยี นตอ้ ง ระบใุ จความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มลู ทส่ี นบั สนุนจากเร่อื งทอ่ี า่ น 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/3 ระบใุ จความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มูลทสี่ นับสนุนจากเร่อื งทอี่ า่ น 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อ่านจบั ใจความสาคญั จากสารคดชี วี ประวตั เิ รอ่ื งทอ่ี ่านได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง - การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ งๆ เชน่ สารคดชี วี ประวตั ิ 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความคดิ เหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 71 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 2 การอ่านจบั ใจความจากสารคดีชีวประวัติ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครนู าสารคดชี วี ประวตั เิ รอ่ื งผบู้ ุกเบกิ ของธรี ภาพ โลหติ กุล มาอา่ นใหน้ ักเรยี นฟัง แลว้ ใหน้ ักเรยี นสงั เกต ลกั ษณะสารคดชี วี ประวตั ิ ค่คู ิด...ค 2. นักเรยี นเลอื กสารคดชี วี ประวตั บิ คุ คลทน่ี กั เรยี นสนใจจากหอ้ งสมดุ มาคนละ 1 เร่อื ง 3. ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมานาเสนอสารคดชี วี ประวตั ทิ เ่ี ตรยี มมา พรอ้ มกบั บอกเหตุผลทเ่ี ลอื กเรอ่ื งนนั้ 4. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • ประวตั ิผ้แู ต่งหนงั สือในหนังสือเรยี นภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม เป็นสารคดี ชีวประวตั ิหรอื ไม่ มีความเหมอื นหรอื ความแตกต่างกบั เรื่องผบู้ กุ เบิกอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 5. Survey (S) อ่านสารคดที เ่ี ตรยี มมาอย่างคร่าวๆ เพอ่ื หาจดุ สาคญั ของเร่อื ง 6. Question (Q) ตงั้ คาถามเกยี่ วกบั เรอ่ื งทอ่ี า่ นในเวลาเดยี วกนั กค็ วรจะตอ้ งถามตวั เองดูว่าใจความสาคญั ทผ่ี เู้ ขยี นกาลงั พดู ถงึ นนั้ คอื อะไร ทาไมจงึ สาคญั สาคญั อยา่ งไร และเกยี่ วขอ้ งกบั อะไรหรอื ใครบา้ ง ตอนไหนและเม่อื ไร 7. Read (R) อ่านขอ้ ความในสารคดเี รอ่ื งนนั้ ซา้ อยา่ งละเอยี ด และในขณะเดยี วกนั กค็ น้ หาคาตอบสาหรบั คาถามทไ่ี ดต้ งั้ ไว้ 8. Record (R) จดบนั ทกึ ขอ้ มูลต่างๆ ทไ่ี ดอ้ า่ นจากสารคดใี นขนั้ ตอนท่ี 3 โดยม่งุ จดบนั ทกึ ในส่วนทส่ี าคญั และสง่ิ ทจ่ี าเป็น โดยใชข้ อ้ ความอยา่ งรดั กมุ หรอื ยอ่ ๆ ตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น 9. Recite (R) เขยี นสรปุ ใจความสาคญั โดยพยายามใชภ้ าษาของตนเอง ถา้ ยงั ไม่แน่ใจในบทใดหรอื ตอนใดใหก้ ลบั ไปอา่ นซ้าใหม่ 10. Reflect (R) วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ บทอา่ นทน่ี กั เรยี นไดอ้ า่ น แลว้ แสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ทส่ี อดคลอ้ ง หรอื ไมส่ อดคลอ้ ง 11. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • เพราะเหตุใด นักเรียนจึงเลือกสารคดีชีวประวตั ิเรอ่ื งนัน้ มาพิจารณา ประวตั ิของบุคคลนนั้ มจี ดุ เด่นอย่างไร นามาเป็นแบบอยา่ งได้ในเร่อื งใด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 12. นักเรยี นเขยี นสรุปใจความสาคญั ของสารคดที น่ี กั เรยี นอา่ น แลว้ นาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น 13. ครูประเมนิ การนาเสนอผลงานของนักเรยี น และใหข้ อ้ เสนอแนะในการพฒั นาปรบั ปรุงงานในกรณี ทย่ี งั มปี ัญหา 72 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เครอื่ งมอื เกณฑ์ เร่ืองท่ี 2 การอ่านจับใจความจากสารคดชี ีวประวตั ิ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 7 การวดั และประเมินผล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ วิธีการ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน และรกั ความเป็นไทย 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) ตวั อยา่ งสารคดชี วี ประวตั เิ ร่อื งผบู้ กุ เบกิ 2) สารคดชี วี ประวตั บิ ุคคลทน่ี กั เรยี นสนใจ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ - หอ้ งสมุด 73 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เรื่องท่ี 2 การอ่านจบั ใจความจากสารคดชี ีวประวตั ิ เอกสารประกอบการสอน สารคดีชีวประวตั ิเรอื่ งผบู้ ุกเบิก “อาเภอแก่งคอยสมยั ก่อนน่ะ ไมใ่ ชช่ ่อื น้หี รอก ชาวบา้ นเขาเรยี กแรง้ คอย น่ะ” “ทาไมล่ะพอ่ ” “กม็ นั เป็นชุมชนแรก ทดี่ กั อยตู่ รงปากชอ่ ง พวกคนเดนิ ทางหรอื นายฮอ้ ยคา้ ววั ควายมาจากอสี านผา่ นดงพญาไฟทเ่ี ดยี๋ วน้เี ป็นเขาใหญเ่ กอื บทุกคน ตอ้ งตดิ เชอ้ื ไขม้ าลาเรยี แลว้ กม็ าตายทน่ี ่ี พวกแรง้ กพ็ ากนั มาคอยกนิ ศพ พูดง่ายๆ วา่ แรง้ มาคอยทนี่ ี่แลว้ ไม่ผดิ หวงั ตอนหลงั ถงึ มาเพย้ี นไปเป็นแก่งคอยทุกวนั น้ี ”เสยี งคาวบอยเฒ่าเลา่ ตานานแต่หนหลงั ใหล้ ูกชายฟังเสยี งกอ้ งบงึ น้าในหุบเขา แหง่ อาเภอปากช่อง จงั หวดั นครราชสมี า ซ่งึ บดั น้ดี วงตะวนั กาลงั ลบั ขอบฟ้าเป็นนาฬกิ าธรรมชาตบิ อกโคนมนบั พนั ตวั ท่ี กาลงั เอรด็ อรอ่ ยกบั ดนิ เนอรร์ อบๆ บงึ น้าว่าถงึ เวลาแลว้ ทง่ี านเล้ยี งจาเป็นต้องเลกิ รา คาวบอยเฒ่าในวยั ใกลห้ กสบิ แมร้ ว้ิ รอยบนใบหน้ากบั อาการหอบเลก็ นอ้ ยจะเป็นสญั ญาณของวยั ทร่ี ่วงโรย แต่แผน่ หลงั ยงั คงยดื ตรงเกอื บทุกนาทที นี่ งั่ บนหลงั มา้ ลาขาทซ่ี อ่ นตวั อยใู่ นกางเกงหนังและรองเทา้ บู๊ต พรอ้ มจะกระแทกสเปอรเ์ บาๆ เขา้ สขี า้ งมา้ แทนคาสงั่ มุ่งไป ขา้ งหน้าหรอื เลย้ี วซ้ายขวาตามแตใ่ จปรารถนา แววตาเป่ียมความมุ่งมนั่ คู่นนั้ กย็ งั เพ่งมองไปขา้ งหนา้ คลา้ ยวนั เวลาในวยั หนุ่มทตี่ ดั สนิ ใจเขา้ มาบุกเบกิ ผนื แผ่นดนิ น้ี ตา่ งกนั ตรงวนั น้มี แี ต่ความภาคภูมใิ จในทุกครงั้ ทท่ี อดสายตาไปยงั อาณาจกั รท่ี สถาปนาขน้ึ มาจากสองมอื สองขาของตนเองจนกลายเป็นหน่ึงในตานานทยี่ งั มลี มหายใจของปากช่องปัจจบุ นั “ไมว่ ่าคุณ จะมที สี่ กั หนึ่งไร่ หรอื แสนไร่ คุณกเ็ ป็นคงิ ในอาณาจกั รของคณุ เอง” โชคชยั บลู กุล หากมองอยา่ งผวิ เผนิ แลว้ เร่อื งราวของเขากแ็ ทบจะเป็นก๊อบป้ีเดยี วกบั ชวี ติ กุมารจนี ลูกคหบดี จากโพน้ ทะเลทวั่ ๆ ไปทจ่ี บจากนอกแลว้ กลบั มาเมอื งไทย อยากทาอะไรกข็ อตงั คเ์ ต่ยี ไปลงทนุ สรา้ งเน้อื สรา้ งตวั ตามแนวคดิ ทถ่ี ูกอบรมบ่มเพาะจากสงั คมตะวนั ตก แต่ลกึ ลงไปในความแตกต่างมนั อย่ตู รงทวี่ า่ หากธุรกจิ พลาดพลงั้ ไป วถิ ที างอย่าง โชคชยั ไม่ใชแ่ ต่เอาเงนิ 40-50 ลา้ น (1 เสน้ ขนหน้าแขง้ เต่ยี ) ไปท้งิ เลน่ เยน็ ๆ ใจ แลว้ กลบั มานงั่ โตะ๊ รองประธานในบรษิ ทั เต่ยี กนิ บุญเก่าของเตย่ี ไมล่ ะเหย่ี ใจ แตธ่ รุ กจิ ของโชคชยั ณ จุดเรม่ิ ตน้ หากพลาดพลงั้ ไปกอ็ าจเป็นศพไม่มญี าติ หรอื ผเี ฝ้า ดงพญาไฟดๆี น่เี อง โชคชยั ไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากภาพยนตรค์ าวบอยตะวนั ตกตงั้ แต่ยงั เป็นเดก็ ภาพอนั งามสง่าบนหลงั มา้ ของสุภาพบุรุษ เชน่ บลิ ล่ี เดอะคดิ มาเวอรคิ และจอหน์ เวยน์ ฯลฯ ทาใหเ้ ขาใฝ่ฝันทจ่ี ะเป็นคาวบอยเมอื งไทย เขาเลอื กเรยี นวชิ าสตั วบาล จบจากสหรฐั อเมรกิ า เป็นหนุ่มนกั เรยี นนอกโกห้ รู กลบั มาในช่วงทถี่ นนมติ รภาพไทยอเมรกิ า จากสระบรุ ถี งึ ปากช่อง นครราชสมี าเพงิ่ สรา้ งเสรจ็ เมอ่ื ราวสามสบิ กว่าปีทผี่ า่ นมา ถนนสายน้นี อกจากจะรบั ใชฐ้ านทพั สหรฐั ทโี่ คราชและหลายแหง่ ในอสี านในการทาสงครามอนิ โดจนี ในยุคนนั้ แลว้ ตอ้ ง ยอมรบั วา่ เป็นจดุ เปลยี่ นแปลงสาคญั ในการพฒั นาภาคอสี านของไทย และยงั ซอ่ นความหมายเลก็ ๆ ไว้ สาหรบั ลูกคนรวย ยุคซกิ ซต์ ส้ี เ์ อาไวซ้ ง่ิ รถรุ่นใหม่ๆ ทเ่ี พง่ิ อมิ ปอรต์ จากตา่ งประเทศ ประเภทพอรช์ หรอื เบนซส์ ปอรต์ เปิดประทนุ เพราะในยาม นนั้ กย็ งั คงไม่มถี นนสายไหนไดม้ าตรฐานเท่าถนนมติ รภาพอกี แลว้ แตก่ ารขบั รถประลองความเรว็ ของโชคชยั ในฐานะหนุ่มนักเรยี นนอก ทาใหเ้ ขาคน้ พบทซี่ ง่ึ จะแปรความฝันของเขา ใหเ้ ป็นจรงิ เขาตดั สนิ ใจขอเงนิ จากคณุ พอ่ คุณแม่ คอื นายมาและนางบุญครอง บลู กลุ ลงทนุ ซอ้ื ทผ่ี นื แรกรมิ ถนนสาย มติ รภาพ เขตอาเภอปากช่อง เพอ่ื บกุ เบกิ เป็นฟารม์ โคนมเน้ืออยา่ งทว่ี าดหวงั ทงั้ ๆ ทหี่ นทางสบายๆ ดว้ ยการชว่ ยดูแล กจิ การโรงสขี องครอบครวั กม็ ี แต่เขาไม่เลอื ก “มนั จะบา้ ไปแลว้ มงั้ ” หลายคนทท่ี ราบการตดั สนิ ใจของเขาในครงั้ นนั้ ลง ความเหน็ แบบฟันธงทนั ที เพราะสองฝัง่ ถนนมติ รภาพแถวปากช่องเม่อื สามสบิ ปีก่อน ยงั ไม่มภี าพของฟาร์มโคนมและไร่ผลไม้ 74 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เร่ืองที่ 2 การอ่านจับใจความจากสารคดีชีวประวตั ิ กบั รสี อรท์ หรู หรอื รา้ นสเตก๊ เน้อื นุ่มเหมอื นวนั น้ี หากคอื บา้ นป่าเมอื งเถอ่ื น ดงมาลาเรยี และชมุ โจรดๆี นีเ่ อง “ โกทเู ดอะเวสต์ ม่งุ ไปขา้ งหนา้ มงุ่ ไปบุกเบกิ สรา้ งสรรคส์ งิ่ ใหม่ๆ มุง่ ไปเพอ่ื มชี วี ติ ใหมเ่ อาดาบหน้า ม่งุ ไป ฝ่าฟัน อุปสรรคขวากหนาม เพอ่ื อนาคตของตวั เราและลกู หลาน นีค่ อื ปรชั ญา หรอื วธิ คี ดิ ของคาวบอยตะวนั ตก ทผ่ี มประทบั ใจ” นอกจากการรกุ รานย่ายอี นิ เดยี แดงชนพน้ื เมอื งเดมิ ของอเมรกิ าแลว้ ขา้ พเจา้ เหน็ ดว้ ยกบั โชคชยั ถงึ นยั อนั เป็นแกน่ แท้ ของคาวบอยตะวนั ตก ซง่ึ ไม่ใช่เพยี งการนุ่งกางเกงบลยู นี สวมเสอ้ื ลายสก๊อต และหมวกปีกกวา้ ง ขม่ี า้ โกห้ รู ฟังเพลงบลแู ละ คนั ทร่ี เป็นแฟชนั่ เหมอื นอยา่ งทห่ี ลายคนรบั มาเพยี งกระพห้ี รอื เปลอื กนอกอนั เบาบางเทา่ นนั้ ตน้ ทศวรรษ 2500 จอบแรก ฟันลงดนิ เพ่อื พลกิ ฟ้ืนใหเ้ ป็นฟารม์ พรอ้ มๆ กบั กระทอ่ มหลงั เลก็ เป็นทซี่ ุกหวั นอนแตเ่ พยี งลาพงั ทา่ มกลางวงลอ้ มแห่งขุนเขา ดงพญาไฟ ซ่งึ เพงิ่ ถูกเปลยี่ นช่อื แกเ้ คลด็ เป็นดงพญาเยน็ ไดไ้ ม่นาน เสยี งรา่ ลอื ว่าทน่ี เี่ ป็นดงเสอื จรงิ ๆ และเสอื ทเ่ี ป็นคนนอก กฎหมายหนีการจบั กมุ หลงั กอ่ คดใี หญ่มาพกั ฟ้ืนอยู่ในดง ไม่ใชเ่ ร่อื งทโี่ ชคชยั จะแคฟ่ ังหไู วห้ ู ทกุ เยน็ หลงั เลกิ งาน ชาวบา้ น ละแวกนนั้ จงึ ไดย้ นิ เสยี งปืนดงั กอ้ งหุบเขา เพราะหนุ่มนกั เรยี นนอกผูบ้ า้ บนิ่ จะฝึกชกั ปืนออกมายงิ อยู่เป็นประจา “… ไม่คดิ ว่าจะตอ้ งไปยงิ กบั ใครจรงิ ๆ หรอก แต่บรรยากาศเวลานัน้ เราต้องรูจ้ กั ป้องกนั ตนเอง อย่างน้อยกเ็ ป็นการ ประกาศใหใ้ ครรบั รูว้ ่าขา้ มปี ืนนะ อยา่ คดิ มาขม่ เหงกนั ง่ายๆ ”กระทงั่ วนั หนงึ่ เมอ่ื น้วิ ชเ้ี กดิ การเคล่อื นไหวในอตั ราทเ่ี รว็ กวา่ ขอ้ มอื โชคชยั กต็ ้องหอบหว้ิ ตวั เองทลุ กั ทเุ ลไปใหห้ มอทโ่ี รงพยาบาลปากชอ่ งผ่าเอาลูกกระสนุ จากปากกระบอกของตนเอง ซ่งึ ฝังเขา้ ทตี่ น้ ขาอยา่ งจงั ระยะทางจากฟารม์ ไปตลาดปากช่องสมยั นนั้ ไมไ่ ดง้ ่ายดายแค่ครง่ึ ชวั่ โมงเหมอื นปัจจบุ นั เพราะถนนมติ รภาพ กใ็ ชว่ ่า จะเสรจ็ เรยี บรอ้ ยดี แลว้ อาหารการกนิ ในภาวะไกลตลาดของหนุ่มนกั เรยี นนอก จงึ เป็นปลาทเู คม็ ทซ่ี อ้ื มาสกั สองสามเข่งกก็ นิ ไปไดต้ ลอดสปั ดาห์ เพราะพอตกเยน็ คนงานทมี่ าช่วยกก็ ลบั บา้ นของเขา กระท่อมปีกไมห้ ลงั น้อยจงึ ตอ้ งซ่อนความหมาย ของการป้องกนั ตวั เองตามสญั ชาตญาณไวร้ อบดา้ น บนั ไดมอี ย่ขู นั้ หน่ึงต้องตอกตะปูไวห้ ลวมๆ เผ่อื มใี ครผลผี ลามขน้ึ มาจะไดย้ นิ เสยี งเอย๊ี ดแอด๊ ใหร้ ูล้ ว่ งหน้า ปีกไมท้ ที่ า ฝาบา้ นมใิ ช่เพ่อื ความหรูหราหรอื เท่อยา่ งคาวบอยตะวนั ตก แตเ่ พราะปีกไมจ้ ะมโี คง้ มเี วา้ ทท่ี าใหน้ ามาตอ่ กนั ไม่สนทิ ทจุ รติ ชนคนใดตนี เบาผา่ นด่านบนั ไดกลมาไดอ้ ย่างนอ้ ยกต็ อ้ งเดนิ ตดั แสงทลี่ อดมาตามรอยต่อของปีกไมใ้ หร้ บั รูแ้ ละระวงั ตวั ทนั คนื วนั ในกระทอ่ มกลางหบุ เขาผ่านไปอยา่ งมคี วามหมาย สบิ ปีใหห้ ลงั ฟารม์ โชคชยั คอื ฟารม์ โคเน้อื ทใี่ หญ่ทส่ี ดุ ใน ประเทศ เขามุง่ ไปขา้ งหนา้ อกี กา้ วใหญ่ การลงทนุ สรา้ งตกึ โชคชยั ทส่ี งู ทส่ี ุดในเวลานัน้ ณ รมิ ถนนสขุ มุ วทิ แลว้ เปิดสเต๊กเฮ้าส์ ซง่ึ เป็นผลผลติ ท่ีไดม้ าจากฟารม์ ทป่ี ากช่องอยา่ งครบวงจรเป็นครงั้ แรก แตเ่ ม่อื เกดิ ภาวะพลกิ ผนั ทางการตลาดโคเน้อื ในเวลาต่อมา เขากต็ ดั สนิ ใจ หนั มาเลย้ี งโคนมพรอ้ มๆ กบั ปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของคนไทยทห่ี นั มาดม่ื นมเพอ่ื สุขภาพกนั ครงั้ ใหญ่ ในชว่ งเกอื บสองทศวรรษทผี่ ่านมา จากวนั นนั้ วนั ทตี่ ดั สนิ ใจใชช้ วี ติ เยย่ี งผูบ้ กุ เบกิ ในชมุ โจร และดงมาลาเรยี (ขนาดแรง้ คอย) แต่เพยี งลาพงั จนทาให้ ชวี ติ ลกู มหาเศรษฐมี คี ่าไมต่ า่ งจากลกู ชาวนาสามญั ชนธรรมดาๆ จนถงึ วนั น้ี เขาคอื ตานานทยี่ งั มลี มหายใจของคาวบอย เมอื งไทย เจา้ ของฟารม์ บนพน้ื ทกี่ ว่า 5,000 ไร่ สาหรบั โคนมหลายพนั แม่และมา้ พนั ธ์ุดที ม่ี อี อเดอรส์ งั่ จองดว้ ยตวั เลขเงนิ 6 หลกั หลายสบิ ตวั จนนับเป็นฟารม์ โคนมของเอกชนทใ่ี หญท่ ส่ี ดุ ของประเทศและในภมู ภิ าคเอเชยี โดยมโี ชคลกู ชายคนโต มาสบื ทอดงานบรหิ ารฟารม์ และชยั ลกู ชายคนสดุ ทอ้ งดูแลงานการตลาดนมโชคชยั ทมี่ สี ว่ นแบง่ การตลาดนมอยูใ่ นเวลาน้ี อยูไ่ ม่นอ้ ย สองฟากถนนสายมติ รภาพชว่ งจากมวกเหลก็ ถงึ ปากชอ่ ง วนั น้คี อื ทาเลทองทงั้ การเกษตรแบบปศสุ ตั วแ์ ละพชื ไร่ ไมผ้ ล เป็นจดุ แวะพกั ของนักทอ่ งเทย่ี วกอ่ นผ่านไปสู่ดนิ แดนอสี านเพราะการกล่าวขานจากปากต่อปากวา่ น่ีคอื ดนิ แดน แห่ง…เน้อื นุ่ม นมดี กะหร่ี (ปับ๊ ) ดงั เพยี บพรอ้ มดว้ ยผลไมเ้ ลศิ รสหลายชนิด และคอื ตน้ ตานานแหง่ โคบาลเมอื งไทย ผูบ้ กุ เบกิ แห่งยุคสมยั ทย่ี งั ไม่มใี ครคลอ้ งเหรยี ญตราเกยี รตยิ ศแหง่ ความกลา้ หาญชาญชยั ให้ 75 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 2 การอ่านจับใจความจากสารคดชี ีวประวตั ิ วนั หน่ึงเม่ือขา้ พเจา้ ตดั สินใจลาออกจากงานประจามาเลอื กใช้ชีวิตอิสระไร้สงั กดั อยา่ งที่ใจปรารถนา แมต้ ระหนักดวี ่า มไิ ดม้ คี วามหมายยง่ิ ใหญ่อะไรตอ่ สงั คม แต่วนั นนั้ ขา้ พเจา้ ระลกึ ถงึ เขา โชคชยั บลู กลุ ผูบ้ กุ เบกิ และ ปรชั ญาโกทูเดอะเวสต์ … ของเหลา่ คาวบอยตะวนั ตกแลว้ บงั เกดิ ความปีตใิ นใจอย่างประหลาด ท่ีมา : ผบู้ กุ เบกิ โดย ธรี ภาพ โลหติ กุล 76 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 2 การอ่านจบั ใจความจากสารคดีชีวประวตั ิ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 77 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ 1 ชวั่ โมง เรื่องที่ 3 การอ่านจับใจความจากตานาน แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 4 การอ่านจบั ใจความ จากตานาน (1) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาสารคดซี งึ่ เป็นงานเขยี นทเ่ี ป็นเร่อื งเกยี่ วกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ ใหส้ าระ ความรู้ ความคดิ และความ เพลดิ เพลนิ ผอู้ ่านตอ้ งระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มูลทส่ี นับสนุนจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/3 ระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มลู ทส่ี นับสนุนจากเรอ่ื งทอี่ า่ น 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - อ่านจบั ใจความสาคญั จากตานานเร่อื งทอ่ี า่ นได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การอ่านจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ งๆ เช่น ตานาน 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความคดิ เหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 78 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 3 การอ่านจบั ใจความจากตานาน 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกล่มุ กล่มุ ละ 4-5 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และออ่ น ค่คู ิด...ค 2. ครูชแ้ี จงจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน กจิ กรรมการเรยี นรู้ และอธบิ ายการบนั ทกึ ลงใน ตาราง KWL – Plus Chart โดยสรา้ งขอ้ ตกลงเบ้อื งตน้ เกย่ี วกบั การทางานกลุ่ม บทบาทของสมาชกิ ให้ ความรพู้ น้ื ฐานเกย่ี วกบั การคดิ วเิ คราะห์ และการเขยี นสรปุ ความ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรยี นคิดวา่ การบนั ทึกข้อความลงในตาราง KWL – Plus Chart มีประโยชน์ต่อผ้เู รยี น อย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 4. ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพพระแกว้ มรกต แลว้ ตงั้ คาถามเพอ่ื เชอ่ื มโยงเขา้ ส่บู ทเรยี น 5. ครูเสนอชอ่ื เร่อื งพระแกว้ มรกต และคาสาคญั เชน่ วดั พระศรรี ตั นศาสดาราม พระบรมมหาราชวงั ลาปาง เชยี งใหม่ หลวงพระบาง เวยี งจนั ทน์ แลว้ กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นบอกถงึ ความรเู้ กยี่ วกบั ช่อื เรอ่ื ง และคา สาคญั ดงั กล่าว โดยนกั เรยี นบนั ทกึ ลงในตารางช่อง K 6. นกั เรยี นตงั้ คาถามทต่ี อ้ งการรอู้ ะไร จากเร่อื ง ตานานพระแกว้ มรกตท่จี ะอา่ น โดยบนั ทกึ ลงในตารางชอ่ ง W โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรยี นตงั้ คาถามเชงิ วเิ คราะห์ แลว้ อ่านเรอ่ื งอยา่ งละเอยี ดและตรวจสอบสง่ิ ทไ่ี ดก้ บั การอ่านกบั คาถามทไ่ี ดบ้ นั ทกึ ไว้ 7. นักเรยี นบนั ทกึ สงิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้จากการอ่านลงในตารางชอ่ ง L และตรวจสอบว่า มคี าถามใดทย่ี งั ไม่ได้ คาตอบ และตอบใหค้ รบ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน และรกั ความเป็นไทย 79 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองท่ี 3 การอ่านจบั ใจความจากตานาน 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) ตาราง KWL – Plus Chart 2) รปู ภาพพระแกว้ มรกต 3) ตานานพระแกว้ มรกต 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ — 80 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 3 การอ่านจับใจความจากตานาน เอกสารประกอบการสอน นักเรยี นรูอ้ ะไรบา้ งแลว้ นักเรยี นตอ้ งการรอู้ ะไร นกั เรยี นเกดิ การเรยี นรูอ้ ย่างไร K – What we know W – What we want to know L – What we have learned ประเภทของขอ้ มูลทน่ี ักเรยี นคาดวา่ จะตอ้ งใช้ (Categories of information we expect to use) 1. 2. 3. 4. 5. 81 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 3 การอ่านจับใจความจากตานาน เรอื่ ง ตานานพระแกว้ มรกต ถา้ จะกล่าวถงึ พระบชู าทสี่ รา้ งจากหนิ สแี ลว้ เกอื บทกุ คนคงนึกถงึ พระแกว้ มรกต หรอื พระพุทธมหามณีรตั น- ปฏมิ ากร ทเ่ี ป็นพระบูชาประจาชาติ อาจจะมหี ลายคนเขา้ ใจผดิ หรอื เคยเขา้ ใจผดิ วา่ พระแกว้ มรกตแกะสลกั จากพลอย มรกตจรงิ ๆ แต่ตามความจรงิ แลว้ พระแกว้ มรกตเป็นพระบูชาทแี่ กะสลกั จากหยกสเี ขยี ว แต่ทเี่ รยี กว่า พระแกว้ มรกตนนั้ เพราะหยกทนี่ ามาแกะสลกั องคพ์ ระแกว้ มรกตมสี เี ขยี วสดประดจุ ดงั มรกตนนั่ เอง พระแกว้ มรกต เป็นพระพุทธรูปทจี่ ดั อยู่ในศลิ ปะเชยี งแสน หรอื ก่อนเชยี งแสน ตามตานานพระแกว้ มรกตนัน้ คอ่ นขา้ งซบั ซอ้ น และแฝงเรน้ อทิ ธฤิ ทธปิ์ าฏหิ ารยิ อ์ ยู่พอสมควร หลกั ฐานการสรา้ งพระแกว้ มรกต ปรากฏอยใู่ นหลายตานาน เชน่ รตั นพมิ พว์ งศ์ รตั นปฏมิ าในหนังสอื ชนิ กาลมาลปี กรณ์ พงศาวดารเหนอื พงศาวดารโยนก ราชพงศาวดารกรุงกมั พชู า ตานานพระแกว้ มรกตฉบบั หลวงพระบาง ฯลฯ ซ่งึ พอจะเรยี บเรยี งประวตั พิ ระแกว้ มรกต ไดเ้ ป็นตานานกงึ่ ๆ ความเช่อื ได้ ดงั น้ี พระแกว้ มรกตสรา้ งขน้ึ ในปี พุทธศกั ราช 500 โดยพระนาคเสนเถระ วดั อโศการาม กรุงปาฏลบี ุตร ในแผ่นดนิ พระเจา้ มลิ นิ ท์ (เมนันเดอร)์ สมเดจ็ พระอมรนิ ทราธริ าช พรอ้ มกบั พระวสิ สุกรรมเทพบุตร ไดน้ าแกว้ โลกาทพิ ยรตั ตนายก อนั มรี ตั นายกดลิ กเฉลมิ 1,000 ดวง สเี ขยี วทบึ (หยกออ่ น) นามาจาหลกั เป็นพระพุทธรปู ถวายใหพ้ ระนาคเสน ถวายพระ นามว่า พระพุทธรตั นพรรณมณีมรกต พระนาคเสนจงึ ไดบ้ รรจุพระบรมสารรี กิ ธาตุ ลงไปในพระพทุ ธรตั นพรรณมณีมรกต 7 พระองค์ คอื พระโมลี พระนลาฏ พระนาภี พระหตั ถ์ซา้ ย-ขวา และพระเพลาซ้าย-ขวา แต่เม่อื บรรจุพระบรมสารรี กิ ธาตแุ ลว้ อญั เชญิ ขน้ึ ประดษิ ฐานแลว้ นนั้ เกดิ เหตุการณแ์ ผน่ ดนิ ไหวขน้ึ พระนาคเสนไดพ้ ยากรณว์ ่า พระแกว้ องคน์ ้ี จะเสดจ็ ไปโปรด สรรพสตั วใ์ นเบญจประเทศ คอื ลงั กาทวปี กมั โพชะศรอี โยธยา โยนะวสิ ยั ปะมะหละวสิ ยั และสวุ รรณภมู ิ พทุ ธศกั ราช 800 โดยประมาณในแผน่ ดนิ พระเจา้ ศริ กิ ติ ตกิ ุมาร พระเชษฐราชโอรสในพระเจา้ ตกั ละราช ขน้ึ ครองราช สมบตั เิ มอื งปาฏลบี ตุ ร เป็นชว่ งทเ่ี มอื งปาฏลบี ุตรเกดิ มหากลยี คุ ทงั้ มกี ารจลาจลภายในและขา้ ศกึ ภายนอก ผู้คนในปาฏลี บุตรทเ่ี คารพนบั ถอื พระพทุ ธรตั นพรรณมณมี รกต ลงสสู่ าเภาแลว้ เดนิ ทางล้ภี ยั ไปยงั ลงั กาทวปี เมอ่ื ถงึ ลงั กาทวปี พระเจา้ แผ่นดนิ ลงั กาทวปี ในสมยั นนั้ (ไม่ไดร้ ะบพุ ระนาม) ทรงรบั รกั ษาพระพุทธรตั นพรรณมณีมรกตเป็นอย่างดยี งิ่ และทรง อุปถมั ภ์คา้ ชูชาวปาฏลบี ุตรเป็นอยา่ งดสี มควรตามความดคี วามชอบ พุทธศกั ราช 1000 โดยประมาณในแผ่นดนิ ศรเี กษตรพกุ ามประเทศพระมหากษตั รยิ ผ์ ูค้ รองนครขณะนนั้ คอื พระเจา้ อนุรทุ ธราชาธริ าช (ภาษาบาล)ี หรอื มงั มหาอโนรธาช่อ (ภาษามอญ) พระองคเ์ ป็นกษตั รยิ ท์ ม่ี พี ระอานุภาพมาก บรบิ รู ณ์ ดว้ ยพลชา้ งพลมา้ และทหารมากมาย แต่พระองคก์ เ็ ป็นกษตั รยิ ท์ ต่ี งั้ มนั่ อยใู่ นสมั มาทฐิ ิ ทานุบารุงพระพทุ ธศาสนาอยา่ งดยี ง่ิ ทรงมพี ระราชโองการใหส้ ่งพระราชสาสน์ และเครอ่ื งมงคลบรรณาการ ไปยงั ลงั กาทวปี เพอ่ื ขอคดั ลอกพระไตรปิฎกและขอ พระแกว้ มรกตกลบั มาดว้ ย แต่เรอื ทบ่ี รรทกุ พระแกว้ มรกตถูกพายุพดั พลดั เขา้ ไปทางอ่าวกมั พชู าแทน พระเจา้ นารายณร์ าช สรุ ยิ วงศ์ เจา้ กรงุ อนิ ทปัตถ์มหานคร แควน้ กมั พูชา สงั่ ใหอ้ ามาตยค์ มุ สาเภากลบั ไปถวายคนื แก่พระเจา้ อนุรทุ ธ แต่ส่งกลบั ไป เพยี งพระไตรปิฎกเทา่ นนั้ มไิ ดส้ ่งพระพุทธรตั นพรรณมณีมรกตไปดว้ ย หลงั จากทพ่ี ระแกว้ มรกตไดป้ ระดษิ ฐานอยกู่ รงุ อนิ ทปัตถน์ านพอสมควร (ไม่ไดร้ ะบปุ ี) ในแผน่ ดนิ พระเจา้ เสน่หร์ าช เกดิ พายุฝนขนาดใหญ่ตกเป็นนิจกาลยาวนานหลายเดอื น (ไม่ไดร้ ะบุ) พระเจา้ เสน่หร์ าชกส็ วรรคตดว้ ยอุทกภยั นนั้ พระมหา เถระ (ไม่ปรากฏพระนาม) ไดอ้ ญั เชญิ พระแกว้ มรกตขน้ึ สาเภาหนไี ปยงั ทดี่ อน พระเจา้ อตติ ะ-ราช (อาทติ ยราช) เจา้ ครอง นครอโยธยา (หมายถงึ อโยธยาโบราณ) ทราบเรอ่ื งจงึ เสดจ็ กระบวนพยุหยาตรา ไปอญั เชญิ พระแกว้ มรกตมาไวใ้ นท่ี ปลอดภยั โดยทรงอญั เชญิ พระแกว้ มรกตประดษิ ฐานในพระมหาเวชยนั ตปราสาท และไดป้ ระดษิ ฐานในนครอโยธยาอกี หลายรชั สมยั ต่อมาเจา้ เมอื งกาแพงเพชร ซง่ึ เป็นพระบรมญาตกิ บั กษตั รยิ อ์ โยธยาสมยั นนั้ จงึ ทูลขอนาพระแกว้ มรกตขน้ึ ไป ประดษิ ฐานทเี่ มอื งกาแพงเพชรอกี หลายรชั สมยั ซ่งึ ปัจจุบนั กค็ อื วดั พระแกว้ กาแพงเพชร ในอุทยานประวตั ศิ าสตร์ 82 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองท่ี 3 การอ่านจับใจความจากตานาน กาแพงเพชร ตอ่ มา พระเจา้ พรหมทศั น์เจา้ นครหริ ญั นครเงนิ ยางเชยี งแสนไดท้ ูลขอพระแกว้ มรกตตอ่ พระเจา้ กาแพงเพชร พระเจา้ กาแพงเพชรจงึ ไดถ้ วายใหน้ ครเชยี งแสน ตอ่ มานครเชยี งแสนเกดิ มศี ึกกบั นพบรุ ศี รนี ครพงิ คเ์ ชยี งใหม่ เจา้ ผูค้ รอง นครเชยี งแสนในเวลานนั้ ไดท้ าการพอกปูนจนทบึ และลงรกั ปิดทองเสมอื นพระพทุ ธรปู สามญั ทวั่ ไป แลว้ บรรจุเกบ็ ไวใ้ นเจดยี ์ วดั ป่าญะในเมอื งเชยี งแสน จากนนั้ กษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศอ์ พยพผูค้ นลงมาทางใต้ ส่วนเมอื งเชยี งแสนกถ็ กู ตแี ตกและถกู รวมเป็นสว่ นหน่งึ ของ อาณาจกั รลา้ นนาในทสี่ ุด ต่อมาพระแกว้ มรกตไดถ้ กู อญั เชญิ ไปประดษิ ฐานอยทู่ ่ี วดั พระแกว้ เชยี งรายเป็นเวลา 45 ปี จากนนั้ กอ็ ญั เชญิ ลงมาประดษิ ฐานทล่ี าปางอกี 32 ปี จากลาปางอญั เชญิ ขน้ึ เหนือไปประดษิ ฐานทว่ี ดั เจดยี ห์ ลวง จ. เชยี งใหม่ เป็นเวลา 85 ปี จากเชยี งใหม่ไปประดษิ ฐานทเ่ี มอื งเวยี งจนั ทน์ 225 ปี แต่เก่าก่อนตอนปลายสมยั อยุธยา เมอื งเวยี งจนั ทน์ตกเป็นเมอื งขน้ึ พระแกว้ มรกตไดถ้ กู อญั เชญิ จากกรุงเวยี งจนั ทน์ มาประดษิ ฐานทก่ี รุงธนบุรใี นพ.ศ. 2322 โดยสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช โดยประดษิ ฐานทวี่ หิ ารนอ้ ยวดั อรณุ ราชวรารามเป็นเวลา 5 ปี ต่อมาเม่อื รชั กาลท่ี 1 ไดป้ ราบดาภเิ ษกขน้ึ เป็น ปฐมกษตั รยิ ์ แหง่ กรงุ รตั นโกสนิ ทรแ์ ลว้ เม่อื สรา้ งวดั พระศรรี ตั นศาสดารามเสรจ็ สน้ิ จงึ ไดอ้ ญั เชญิ พระแกว้ มรกต ไปประดษิ ฐานทว่ี ดั พระ ศรรี ตั นศาสดารามมาจวบจนทกุ วนั น้ี ยงั มเี กรด็ ประวตั เิ กยี่ วกบั พระแกว้ มรกตอกี เลก็ น้อย คอื เรอ่ื งพระแกว้ มรกต และพระบางตามตานานเช่อื กนั วา่ พระแกว้ มรกต และ พระบาง นนั้ มเี ทวดาอารกั ษท์ ไี่ ม่ต้องกนั เพราะทุกครงั้ ทพี่ ระคูน่ ้อี ย่คู ่กู นั บนแผ่นดนิ ใดก็ตามแผ่นดนิ นนั้ จะเกดิ เภทภยั นานาประการ จนนาความล่มสลายมาสแู่ ผ่นดนิ นัน้ เสมอ ตามตานานหลายครงั้ ทป่ี รากฏ เหตทุ พี่ ระแกว้ มรกต และพระบางมาร่วมแผน่ ดนิ กนั เช่น เหตศุ กึ ลา้ นนา (เชยี งใหม่)-ล้านชา้ ง (เวยี งจนั ทน์) ตลอดจน ครงั้ สุดทา้ ยทพ่ี ระแกว้ มรกต และพระบางมาอยู่รว่ มแผ่นดนิ กนั คอื ในแผ่นดนิ ธนบรุ ี สมยั พระเจา้ ตากสนิ ฯ (ในครงั้ ทอี่ ญั เชญิ พระแกว้ มรกตมานนั้ ได้ อญั เชญิ พระบางลงมาดว้ ย) กรุงธนบุรกี ไ็ ดเ้ กดิ การจลาจลจนเกดิ เหตุการณผ์ ลดั แผน่ ดนิ ตอ่ มา รชั กาลที่ 1 ทรงโปรดพระราชทานใหอ้ ญั เชญิ พระบางกลบั ไปประดษิ ฐานยงั กรุงเวยี งจนั ทน์ จนถงึ รชั สมยั ของ รชั กาลท่ี 4 ท่านทรงเป็นนกั วทิ ยาศาสตรท์ รงไม่เช่อื เร่อื งดงั กล่าว ไดอ้ ญั เชญิ พระบางมาประดษิ ฐานอยู่รว่ มกนั ในแผ่นดนิ ของพระองค์ พระแกว้ มรกต และพระบางประดษิ ฐานอย่รู ว่ มกนั ในแผน่ ดนิ รชั กาลที่ 4 ไดไ้ มน่ านกเ็ กดิ วกิ ฤตทางการเมอื งในเรอ่ื ง สนธสิ ญั ญาเบาวร์ งิ เป็นการคกุ คามทางการเมอื งของชาตติ ะวนั ตกครงั้ แรกในสยามประเทศ ทาใหพ้ ระองคท์ า่ นมพี ระราช โองการฯ โปรดใหอ้ ญั เชญิ พระบางกลบั ไปประดษิ ฐานท่ี หลวงพระบางตามเดมิ ท่ีมา : http://gems.chanthaburi.buu.ac.th/news/documents/km/PhraKaeoMorakot.pdf 83 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 3 การอ่านจับใจความจากตานาน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 84 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ 1 ชวั่ โมง เรื่องที่ 3 การอ่านจับใจความจากตานาน แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 5 การอ่านจบั ใจความ จากตานาน (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาสารคดซี งึ่ เป็นงานเขยี นทเ่ี ป็นเร่อื งเกยี่ วกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ ใหส้ าระ ความรู้ ความคดิ และความ เพลดิ เพลนิ ผอู้ ่านตอ้ งระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มูลทส่ี นับสนุนจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/3 ระบใุ จความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มลู ทส่ี นับสนุนจากเรอ่ื งทอี่ า่ น 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - อ่านจบั ใจความสาคญั จากตานานเร่อื งทอ่ี า่ นได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การอ่านจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ งๆ เช่น ตานาน 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความคดิ เหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 85 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 3 การอ่านจบั ใจความจากตานาน 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นนาหวั ขอ้ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากชวั่ โมงทแ่ี ลว้ เขยี นเป็นแผนภาพความคดิ ใหส้ มั พนั ธก์ นั ค่คู ิด...ค 2. นกั เรยี นเขยี นเป็นความเรยี งสรุปเรอ่ื งตามประเดน็ สาคญั 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • กอ่ นศึกษาเรือ่ งนี้นักเรียนมีความรเู้ รือ่ ง พระแก้วมรกตอย่างไรบ้าง เม่อื อา่ นเร่อื งนี้แล้ว นักเรียนคิดว่านักเรียนได้รบั ความรเู้ กี่ยวกบั พระแก้วมรกตอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 4. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 2.3 เรื่อง การเขียนสรปุ เรอ่ื งจากตานาน 5. ครูตรวจผลงานและใหข้ อ้ มูลยอ้ นกลบั แกน่ กั เรยี น แลว้ รว่ มกนั ประเมนิ ผล 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.3 ใบงานที่ 2.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ - ใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง การเขยี นสรปุ เร่อื งจากตานาน 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ — 86 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองท่ี 3 การอ่านจบั ใจความจากตานาน ใบงานที่ 2.3 การเขียนสรปุ เร่อื งจากตานาน คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นอ่านตานานเจา้ พอ่ เสอื แลว้ จบั ใจความสาคญั ของเรอ่ื งและนามาเขยี นสรปุ ความ ตานานเจา้ พอ่ เสอื ในอดตี กาลประมาณ 150 ปี ต้นสมยั แผน่ ดนิ พระนงั่ เกลา้ ฯ รชั กาลที่ 3 กลา่ วถงึ การสรา้ งวดั มหรรณพารามเสยี ก่อน เพราะเกย่ี วโยงกบั ประวตั เิ จา้ พอ่ เสอื วดั มหรรณพส์ รา้ งเม่อื สมยั รชั กาลท่ี 3 พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ ฯ ผูส้ รา้ งคอื กรมหม่นื อดุ มรตั นราษี (พระองคเ์ จา้ อรรณพพระราชโอรสในสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ ) สถานทสี่ รา้ งวดั ยงั เป็นป่า บรเิ วณหลงั วดั มหรรณพ์ ยงั มสี ตั วอ์ าศยั อยู่คอื เสอื ปลา เสอื บอง อเี หน็ กระต่าย งูเหลอื ม งูหลาม เป็นตน้ มหี มู่บา้ นเลก็ ๆ อยู่แห่งหนึง่ โดยมากมฐี านะยากจน ยายผอ่ งกบั นายสอนลกู ชายอยู่ดว้ ยกนั เพยี งสองคนแม่ลกู เทา่ นนั้ นายสอนเป็นลูกทม่ี คี วามกตญั ญูตอ่ แมบ่ งั เกดิ เกลา้ ยงิ่ นัก สองชวี ติ ตอ้ งทนอย่กู บั ความยากลาบาก ต้องผจญชวี ติ กบั อาชพี ทไ่ี ม่เป็นแกน่ สารแบบหาเชา้ กนิ ค่า นายสอนลกู ชายยายผอ่ งเป็นไขม้ า 6-7 วนั เม่อื อาการคอ่ นขา้ งทเุ ลาบา้ งแลว้ กเ็ ตรยี มตวั จะเขา้ ป่า เพ่อื หาหน่อไม้ เกบ็ ผกั หกั ฟืนตามเคย ถงึ ตวั จะลาบากยากเขญ็ อยา่ งไรกไ็ ม่ทอ้ ถอย ตนกเ็ อาหาบขน้ึ บา่ พรอ้ มทงั้ มดี กบั เสยี มออกจากเรอื นเขา้ ป่าทนั ที ชะตารา้ ยกาลงั เดนิ ตามหลงั นายสอนมาทกุ ย่างกา้ ว สถานทท่ี เ่ี คยมผี กั มหี น่อไมม้ ฟี ืนกไ็ มม่ เี ลย คดิ วา่ พรุ่งน้จี ะต้อง ตดั ไมเ้ ผาถ่าน เมอ่ื เดนิ กลบั เหน็ กวางตายอยตู่ วั หน่ึง เพง่ิ ตายใหม่ๆ ยงั ไม่เน่า แกคดิ ดว้ ยเชาวไ์ ววา่ กาลงั ตกอย่ใู นระหวา่ ง อนั ตรายแลว้ เพราะกวางน้ถี ูกเสอื กดั ตายกนิ เน้อื ยงั ไมห่ มด มนั ต้องพกั อยใู่ นบรเิ วณใกล้ ๆ เจา้ กวางตวั น้แี น่ แตอ่ ยากจะ ไดเ้ น้อื เอาไปฝากแมส่ กั กอ้ นหนึ่ง เม่อื คดิ ดงั นัน้ แลว้ กต็ ดั ความกลวั ออกไป ตรงเขา้ ไปเอามดี เฉือนเน้ือโคนขาไปสองกอ้ น เอาใบบอนห่อแลว้ เอาผา้ ขาวมา้ หอ่ อกี ชนั้ แลว้ เอาคาดสะเอว รบี ฉวยหาบขน้ึ บา่ เดนิ เลาะไปตามรมิ หนองเพอ่ื เกบ็ สายบวั ทนั ใดนัน้ นายสอนต้องสะดงุ้ สุดตวั เพราะเจอเขา้ กบั เสอื ใหญอ่ ย่างจงั เม่อื มนั เหน็ นายสอนยนื อยู่ใกลห้ นองน้า นายสอนเหน็ ดงั นนั้ กช็ กั มดี เหนบ็ ปลายแหลมออกเตรยี มป้องกนั ตวั จะหนกี ไ็ ม่พน้ จาใจตอ้ งสู้ แมจ้ ะตายกไ็ ม่เสยี ดายชวี ติ เป็นหว่ งแต่ แมค่ นเดยี วเทา่ นนั้ เจา้ เสอื เหน็ ไดจ้ งั หวะกเ็ ผน่ เขา้ กดั ทนั ที นายสอนกเ็ อ้ยี วตวั เอามดี แทงถกู ทต่ี น้ คอ เจา้ เสอื ยงิ่ โกรธจดั เพราะถกู แทงจนเลอื ดสาด มนั เผ่นเขา้ ใสอ่ ย่างบา้ เลอื ด นายสอนหลบไม่ทนั จงึ จว้ งแทงไปตรงหนา้ เสอื ถกู ทแ่ี สกหนา้ อยา่ งจงั เจา้ เสอื ถกู แทงถงึ สองแผลแลว้ มนั กแ็ ผดเสยี งลนั่ ดว้ ยโทสะของมนั แลว้ กเ็ ผ่นเขา้ ใสน่ ายสอนอยา่ งรวดเรว็ ไหน จะทานกาลงั ของมนั ได้ จงึ เสยี ทถี ูกมนั ฟัดอย่างเตม็ ท่ี จนแขนขาดตดิ อยู่ท่ีปากของมนั นายสอนเหน็ เช่นนนั้ กล็ ุกวง่ิ โดดลง ไปในหนอง แลว้ ดาน้าหนีไปอยู่กลางหนอง เจา้ เสอื กอ็ อกวงิ่ ตามไป เมอ่ื มนั เหน็ วา่ จะทาอะไรนายสอนไมไ่ ด้ มนั กก็ ลบั เอา แขนของนายสอนกนิ จนเกลย้ี ง แลว้ กบ็ ่ายหนา้ เดนิ ตรงไปทซี่ ากกวางของมนั อกี ครงั้ เมอ่ื นายสอนเหน็ เสอื ไปนานแลว้ แน่ใจว่ามนั คงไม่กลบั มาอกี จงึ ขน้ึ จากหนองน้าหาทางลดั รบี กลบั บา้ นประมาณ สองยามกถ็ งึ บา้ น แตอ่ าการหนักมาก นายสอนนอนสลบอย่แู ถวๆ รวั้ บา้ นของตนเอง ยายแผว้ เป็นน้องของยายผ่องเป็น หว่ งพส่ี าวของตน เพราะยายผอ่ งรอ้ งไหไ้ มห่ ยุดเป็นลมหลายครงั้ เพราะเป็นหว่ งลูก วนั รงุ่ ขน้ึ เชา้ มดื ยายแผว้ เตรยี มต้มขา้ วตม้ เสรจ็ แลว้ กอ็ อกจากบา้ นเอาไปใหพ้ ส่ี าวของตนกนิ เม่อื จวนจะถงึ ประตรู วั้ เหน็ คนนอนตะแคง มเี ลอื ดเกรอะกรงั ไปทงั้ ตวั กม้ ลงมองดูหนา้ จาไดว้ า่ เป็นนายสอนหลานของแก จงึ รบี เขา้ รวั้ ขน้ึ เรอื น 87 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 3 การอ่านจบั ใจความจากตานาน ตะโกนบอกยายผอ่ งว่า สอนกลบั มาแลว้ แต่นอนสลบอยนู่ อกรวั้ ยายผอ่ งไดย้ นิ ว่า ลกู กลบั มาแลว้ แกกล็ กุ จากทนี่ อนรบี เดนิ ไปหาลูกทนั ที ยายแผว้ กเ็ รยี กชาวบา้ นใหช้ ว่ ยกนั หามนายสอนขน้ึ บนเรอื น แลว้ ใหห้ ลานชายไปตามหมอคลา้ ยมา บาบดั ปัดรงั ควานโดยเรว็ ประมาณครง่ึ ชวั่ โมงนายสอนกฟ็ ้ืน เบอ้ื งต้นนายสอนกแ็ กผ้ า้ ขาวมา้ ออกจากสะเอวแลว้ สง่ ใหย้ าย ผอ่ ง บอกใหแ้ มเ่ อาเน้อื กวางไป แม่เฒ่าถามวา่ ไดเ้ น้อื มาจากไหน นายสอนกเ็ ลา่ เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ กบั ตนจน ละเอยี ด อกี สองชวั่ โมงตอ่ มานายสอนกถ็ งึ แก่ความตายยายผ่องเป็นหญงิ ชราอนาถาไรท้ พี่ ง่ึ แกกต็ อ้ งดน้ิ รนหาทางชว่ ยชวี ติ ตามแบบและสตปิ ัญญาของแก ยายผ่องไดไ้ ปทว่ี ่าการอาเภอ ขอรอ้ งใหน้ ายอาเภอจบั เสอื มาลงโทษใหไ้ ด้ นายอาเภอแสงผูพ้ ทิ กั ษม์ วลชนได้ยนิ ยายผ่องขอใหจ้ บั เสอื มาทาโทษแทนลกู ของแกกน็ ึกแปลกใจ ตงั้ แต่เป็นนายอาเภอมาหลายปี ยงั ไมเ่ จอกบั คดเี ช่นน้ี เม่อื นายอาเภอเหน็ ว่า แกพูดถกู และสงสารแกมาก จงึ รบั ปากวา่ จะจบั เสอื มาทาโทษใหต้ ามความประสงค์ แลว้ ใหค้ นไป ตามปลดั โต ซง่ึ มคี วามรูค้ วามสามารถและปฏบิ ตั หิ นา้ ทด่ี ที ส่ี ุดมาหาทนั ที เม่อื ปลดั โตไปหานายอาเภอกแ็ จง้ เร่อื งใหท้ ราบ ปลดั โตกร็ บั ปากทนั ที สามวนั ผ่านไป ขบวนลา่ เสอื ของนายปลดั โตออกตะลุยป่าหลายทศิ หลายทางถงึ จะมคี นมากกต็ าม เมอ่ื ปลดั โต ประกาศวา่ จะลา่ เสอื กข็ นั อาสาเขา้ ร่วมขบวนตะลุยพยคั ฆร์ า้ ยกนั มาก เรมิ่ วนั ทสี่ ก่ี ย็ งั ไม่ไดว้ แ่ี ววหรอื ร่องรอยเลย เป็นอนั วา่ ปลดั โตต้องประชมุ พรรคพวกกนั อกี ครงั้ ตกลงทปี่ ระชมุ ใหย้ กขบวนกลบั เสยี ก่อน เมอ่ื พรรคพวกพากนั กลบั แลว้ ปลดั โต เท่านนั้ ทยี่ งั ไมย่ อมกลบั บา้ น ไดแ้ วะไปนมสั การหลวงพอ่ บุญฤทธใิ์ นพระอโุ บสถ และนมสั การหลวงพ่อพระรว่ งในพระวหิ าร วดั มหรรณพาราม ออ้ นวอนหลวงพอ่ ทงั้ สองพระองค์ ขอใหท้ รงชว่ ยดลบนั ดาลจบั เสอื รา้ ยใหไ้ ด้ การจบั กข็ อรบั รองวา่ จะไม่ ฆา่ เสอื เป็นอนั ขาด ถงึ แมเ้ สอื จะทารา้ ยกต็ าม ขอใหห้ ลวงพอ่ พระรว่ ง ทรงช่วยกล่อมใจเสอื รา้ ย ใหก้ ลายเป็นเสอื เลย้ี งใหไ้ ด้ ถา้ จบั เสอื ไม่ไดค้ ราวน้ลี ูกตอ้ งลาออกจากตาแหน่งราชการทนั ที เม่อื นายปลดั โตได้กล่าวคาพรรณนาใหห้ ลวงพอ่ ฟังจนหมด สน้ิ แลว้ กก็ ราบนมสั การลาหลวงพ่อออกจากพระวหิ าร แทนทจ่ี ะกลบั ไปอาเภอเพ่อื รายงานเสยี ก่อน แต่กลบั เดนิ ออ้ มไป ทางหลงั วดั เม่อื ถงึ ตน้ ไมใ้ หญ่ตน้ หนง่ึ กน็ งั่ พกั นงั่ คดิ อยูส่ กั พกั หนึ่งกห็ ลบั ไป ครนั้ ลมื ตาตน่ื ขน้ึ ตอ้ งสะดงุ้ ตกใจแทบขาดใจ เหน็ เสอื นอนหมอบอย่ตู รงหน้า คดิ จะหนกี ห็ นีไมพ่ น้ คดิ จะสกู้ ส็ ไู้ มไ่ หว เพราะเอาปืนพงิ ไวก้ บั ตน้ ไม้ มดี กว็ างไวห้ ่างตวั จะลกุ ขน้ึ เอาปืนยงิ กก็ ลวั ไมท่ นั เสอื ไดแ้ ต่นงั่ นกึ ภาวนาถงึ หลวงพอ่ พระรว่ งขอใหช้ ว่ ยชวี ติ และขอใหท้ รงชว่ ยเปลย่ี นใจเสอื ใหก้ ลบั เป็นใจคน ใหร้ ูส้ กึ ผดิ ชอบชวั่ ดใี หจ้ บั เสอื ไดง้ า่ ยๆ เหมอื นจบั ลูกแมว เสรจ็ อธษิ ฐานแลว้ เหน็ อาการของเสอื ไมม่ ี ร่องรอยแห่งความดุรา้ ยเหลอื อยเู่ ลย มนั ทาตารบิ หรค่ี ลา้ ยกลบั ยอมใหจ้ บั โดยดี ปลดั แกลง้ ข่สู าทบั ว่าเจา้ เสอื รา้ ยเจา้ ฆา่ นาย สอนใช่หรอื ไม่? เสอื พยกั หน้ารบั ว่าจรงิ ปลดั โตกว็ ่า เจา้ เป็นตวั จรงิ แน่หรอื ? เสอื กก็ ม้ หวั ใหด้ ูแผลทถ่ี ูกนายสอนแทงท่ี หน้าผาก แผลยงั ไมห่ าย มรี อยเลอื ดเกรอะกรงั ตดิ อยู่ทหี่ น้าทตี่ น้ คอ ปลดั กแ็ น่ใจวา่ เป็นตวั จรงิ เพราะรวู้ า่ นายสอนแทงเสอื ถูกทห่ี น้าผากกบั ตน้ คอ ปลดั กเ็ อาเชอื กผูกคอเสอื แลว้ จงู เสอื ไปทวี่ ่าการอาเภอ เมอ่ื ถงึ อาเภอกผ็ กู เสอื ไวก้ บั เสา แลว้ เขา้ ไปบอกนายอาเภอ นายอาเภอแสงตกใจรอ้ งบอกใหช้ ่วยกนั ปิดประตูอย่า ใหม้ นั เขา้ มาได้ ปลดั บอกวา่ มนั ไม่ดุ ไมก่ ดั ใคร ๆ ทงั้ นนั้ เมอ่ื นายอาเภอแน่ใจแลว้ ปลดั กจ็ ูงเขา้ ไปทว่ี ่าการ แลว้ สงั่ ใหไ้ ปตาม ยายผ่องทนั ที นายอาเภอกเ็ รม่ิ พจิ ารณาคดี พูดเสยี งดงั ถามเสอื ว่าเจา้ ฆา่ นายสอนตาย แลว้ เอาแขนไปกนิ ขา้ งหนึง่ จรงิ หรอื ไม่ เสอื กพ็ ยกั หน้ารบั วา่ จรงิ เจา้ รูไ้ หมว่าอาญาแผ่นดนิ ตราเป็นกฎมายไวส้ าหรบั ลงโทษผูก้ ระทาผดิ เสอื กก็ ม้ หวั รบั รู้ นายอาเภอบอกวา่ เจา้ จงฟังคาตดั สนิ เดยี๋ วน้ี เม่อื ตดั สนิ ตอ้ งยอมรบั โทษทนั ที เสอื กม้ หวั ยอมรบั นายอาเภอกแ็ จง้ โทษให้ ฟัง แลว้ ตดั สนิ ประหารชวี ติ ทนั ที เสอื กก็ ม้ หวั ยอมรบั โทษตามคาตดั สนิ ลงนอนหมอบราบกบั พน้ื หลบั ตาเฉย แต่มนี ้าตา ไหลซมึ นายอาเภอ ปลดั โต และใคร ๆ ทยี่ นื มงุ ดอู ยู่แน่นอาเภอ เม่อื เหน็ อาการของเสอื เชน่ นนั้ ต่างกส็ งสารบางคนน้าตา ไหล ไมม่ ใี ครสกั คนทจี่ ะโกรธแคน้ เสอื มแี ต่สงสารไมอ่ ยากใหน้ ายอาเภอฆา่ เพราะมนั แสดงอาการแสนท่ีจะสงสาร ฝ่ายยายผ่องเมอ่ื ฟังคาพพิ ากษาตดั สนิ ประหารชวี ติ เสอื ไดเ้ หน็ อาการของมนั ทกุ อยา่ ง และเหน็ มนั หมอบลงรบั 88 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เรื่องท่ี 3 การอ่านจับใจความจากตานาน คาตดั สนิ พรอ้ มกบั เหน็ น้าตาไหลซมึ อาการทเี่ คยโกรธเสอื มากอ่ น กพ็ ลนั หายไปจนหมดสน้ิ ยายผอ่ งรอ้ งไหแ้ ลว้ พูดกบั นายอาเภอว่า ขอชวี ติ เสอื ไวเ้ ถดิ อย่าได้ฆ่ามนั เลย ฉันไมข่ อเอาเรอ่ื งโกรธแคน้ กบั มนั อกี ตอ่ ไปแลว้ และขอใหน้ ายอาเภอยก เสอื ตวั น้ใี หเ้ ป็นลกู ของฉนั แทนลูกทต่ี ายไปแลว้ นายอาเภอแสงกบั ปลดั โต ซง่ึ มคี วามสงสารมนั เหมอื นกบั คนอ่นื ๆ เมอ่ื ได้ ฟังคาขอรอ้ งของยายผ่องเช่นนนั้ กร็ บี ฉวยโอกาสตดั สนิ ใหมท่ นั ที บอกกบั เสอื ว่า จงฟังตดั สนิ ใหม่ เสอื กผ็ งกหวั ยอมรบั ฟัง นายอาเภอตดั สนิ วา่ เมอ่ื เจา้ ยอมรบั ผดิ โดนดแี ลว้ กย็ กโทษประหารให้ แตเ่ จา้ ตอ้ งเป็นลูกของยายผ่อง และต้องรบั เลย้ี งดู แกแทนลูกชายทตี่ ายไป เสอื กล็ ุกขน้ึ ยนื พรอ้ มกบั พยกั หนา้ อยหู่ ลายครงั้ เมอ่ื เสรจ็ สน้ิ การชาระคดแี ปลกประหลาดแลว้ นายอาเภอกส็ งั่ ปิดศาลทนั ที ตงั้ แต่ยายผ่องไดเ้ สอื มาเป็นลูกแทนนายสอนแลว้ กม็ คี วามสุขยง่ิ กว่าเดิมหลายเท่า เพราะเสอื มไิ ดอ้ ย่เู ฉยๆ เขา้ ป่า หาอาหาร กดั เอาหมบู า้ ง เอาเกง้ บา้ ง กวางบา้ ง และจบั สตั วอ์ ่นื ๆ บา้ ง เอามาใหแ้ มท่ รี่ กั ของมนั อยู่เป็นนิจ แกกแ็ ลเ่ น้อื กนิ บา้ ง เอาเน้อื สดเน้อื แหง้ ขายชาวบา้ นรา้ นคา้ บา้ งมไิ ดข้ าด ยายผอ่ งตงั้ ชอ่ื เสอื วา่ สอน แทนลูกทตี่ ายในละแวกบา้ นยา่ นนนั้ ไมม่ ขี โมยเลย แตก่ ่อนหนา้ เสอื มาอยู่ ขา้ วของเป็ดไก่ ไรผ่ กั มกั จะหายกนั บ่อยๆ ถา้ วนั ไหนคนื ไหนเสอื ไมเ่ ขา้ ป่า มนั จะสง่ เสยี งรอ้ งคารามดงั ไปไกล ทาใหเ้ กดิ ความหวาดกลวั แกเ่ จา้ พวกหวั ขโมยไมก่ ลา้ ย่างกรายเขา้ ไป ชาวบา้ นรา้ นตลาดพลอย อยเู่ ยน็ เป็นสขุ ไปดว้ ย วนั หนงึ่ เสอื เขา้ ป่าแลว้ หายไปถงึ สามวนั ยงั ไมก่ ลบั ทาใหย้ ายรอ้ งไหค้ ดิ ถงึ ไม่เป็นอนั กนิ อนั นอน ความทราบไปถงึ นายอาเภอกบั ปลดั ทงั้ สองคนรบี มาเยย่ี มทนั ที นายอาเภอขอใหป้ ลดั ชว่ ยตามเสอื อกี ครงั้ เพ่อื ชว่ ยชวี ติ ยายปลดั โตกอ็ อก เดนิ ทางไปเพยี งคนเดยี ว เพราะถอื ว่าไม่มอี นั ตรายใด ๆ จากสตั ว์ แลว้ ไปพบคนกลุม่ หน่ึงกาลงั ล่าสตั วอ์ ยใู่ นป่า ปลดั โตเหน็ คนกลุม่ นนั้ กจ็ าไดว้ ่าเป็นพวกเดยี วกนั ทงั้ นนั้ ต่างกส็ นทนากนั อยู่สกั พกั หนง่ึ ชายกลุ่มนนั้ ถามปลดั โตวา่ มาทาไมในป่าคน เดยี ว ปลดั ตอบว่ามาตามเสอื ชายกล่มุ นนั้ บอกว่าพวกเขากาลงั ไล่ลอ้ มยงิ เสอื อยูเ่ หมอื นกนั ปลดั ถามว่าเสอื มลี กั ษณะ อย่างไร เม่อื ไดร้ บั คาตอบแลว้ ปลดั บอกวา่ เป็นเสอื ตวั เดยี วกนั กบั ทตี่ นกาลงั ตามหาและขอรอ้ งมใิ หย้ งิ ชายกลุ่มนนั้ บอกว่า ตามล่ามนั มาสามวนั แลว้ เพราะเสอื ตวั น้ดี ุรา้ ยมาก เป็นอนั วา่ ชายกล่มุ นนั้ รบั คาวา่ ไม่ล่าเสอื ตวั น้อี กี อกี สกั คร่หู น่ึงเขาเหล่านนั้ เหน็ เสอื วงิ่ ลดั พมุ่ ไมอ้ ยู่ขา้ งหน้า ปลดั กอ็ อกตามตะโกนเรยี กชอ่ื มนั อย่างดงั บอกกบั เสอื ว่า ใหร้ บี กลบั บา้ นโดยเรว็ เพราะยายผ่องเสยี ใจมากกาลงั รออย่ทู บี่ า้ นไม่ตอ้ งกลวั ใครยงิ อกี แลว้ สกั ครใู่ หญเ่ สอื กม็ าถงึ ตรงไป หายายเหน็ แกเป็นลม มนั กห็ มอบเอาคางเชยทเี่ ทา้ ยายผอ่ งไดส้ ตฟิ ้ืนขน้ึ มองเหน็ เสอื กด็ ใี จเอามอื ลูบหวั แลว้ ถามมนั ปลดั กเ็ ลา่ เรอ่ื งทโี่ ดนนกั ล่าสตั วค์ อยดกั ยงิ มนั ต้องหนีเตลดิ เขา้ ป่าลกึ เพ่อื เอาตวั รอด มเิ ช่นนนั้ กถ็ กู ยงิ ตายแน่ เสอื อยู่กบั ยายผอ่ ง ประมาณเจด็ ปี ยายกถ็ งึ แก่กรรม เมอ่ื มนั เหน็ ยายแมข่ องมนั เป็นลมตายเสยี แลว้ มนั กส็ ่งเสยี งรอ้ งไมห่ ยดุ เมอ่ื ครบสามวนั แลว้ จงึ ช่วยกนั เผา จดั ทาเชงิ ตะกอนเตย้ี ๆ ขนเอาฟืนมามาก เผาศพเป็นกองไฟใหญ่ เผากนั จรงิ ๆ ใครมฟี ืนเทา่ ไรกเ็ ผาจน หมดในระหวา่ งไฟกาลงั โหมลุกเตม็ ทอ่ี ยนู่ นั้ เสอื ซง่ึ มอี าการหงอยเหงาเศรา้ ซมึ มาหลายวนั แลว้ น้าตาไหลเป็นทางมนั จะนึก อย่างไรไมท่ ราบ กอ็ อกวง่ิ วนไปรอบๆ กองไฟ ไมร่ ูว้ า่ กรี่ อบ สง่ เสยี งรอ้ งอยเู่ รอ่ื ย วง่ิ ไปรอ้ งไป และขณะรอ้ งคร่าครวญอยู่ นนั้ ไดก้ ระโจนเขา้ กองไฟทกี่ าลงั ลกุ โชตชิ ่วง ถูกไฟเผาด้นิ ทุรนทรุ ายอย่คู ร่หู นง่ึ กต็ ายตามแม่ทร่ี กั ไป ยอมพลชี พี บชู าแม่ ดว้ ยชวี ติ ซง่ึ อาจมมี นุษยจ์ านวนน้อยนิดเท่านนั้ จะกลา้ เสยี สละอย่างน้ไี ด้ ทาใหค้ นตกใจสง่ เสยี งรอ้ งดว้ ยความหวาดเสยี ว และสงสาร 7 วนั ผ่านไป การเผาศพระหวา่ งแม่ผูเ้ ป็นมนุษยก์ บั ลูกผูเ้ ป็นสตั ว์ ชาวบา้ นรวมทงั้ นายอาเภอแสงกบั ปลดั โตปรกึ ษา กนั วา่ จะสรา้ งศาลใหเ้ สอื ผูม้ คี วามจงรกั ภกั ดตี ่อแมเ่ ฒา่ ผอ่ ง ถอื ว่าเป็นสตั วพ์ เิ ศษกวา่ สตั วท์ งั้ หลาย เพราะร่างกายกบั ชวี ติ เทา่ นนั้ ทีเ่ ป็นเสอื แต่ดวงจติ สงู สง่ เป็นอจั ฉรยิ จติ สถติ ดว้ ยแสงธรรมการสรา้ งศาลประดษิ ฐานรูปเสอื ผูค้ นสละทรพั ย์ สละ แรงงาน ร่วมแรงรว่ มใจกนั เป็นจานวนมาก สรา้ งใกลๆ้ บรเิ วณหน้าวดั มหรรณพาราม เอากระดกู เสอื บรรจใุ นแท่นปัน้ รปู ประดษิ ฐานบนแทน่ อย่างสง่าน่าเกรงขาม อญั เชญิ ดวงวญิ ญาณเสอื ขอใหเ้ ป็นเทพเจา้ สงิ สถติ ณ ศาลวมิ านทองแห่งน้ี 89 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เรื่องที่ 3 การอ่านจบั ใจความจากตานาน ตลอดกลั ป์ เป็นนริ นั ดร ขอใหป้ กปักรกั ษาประชาราษฎรใ์ หอ้ ยรู่ ม่ เยน็ เป็นสขุ ทามาหากนิ ซอ้ื ง่ายขายคล่อง เจรญิ สขุ ทุก ทวิ าราตรี เมอ่ื ฉลองเสรจ็ แลว้ ตดิ แผน่ ป้ายไวท้ ห่ี น้าศาลจารกึ ชอ่ื วา่ ศาลเจา้ พอ่ เสอื ท่ีมา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=plaengnam&month=14-02-008&group=4&gblog=6 ใจความสาคญั คอื 90 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองท่ี 3 การอ่านจบั ใจความจากตานาน ใบงานที่ 2.3 การเขียนสรปุ เร่อื งจากตานาน คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นอ่านตานานเจา้ พ่อเสอื แลว้ จบั ใจความสาคญั ของเร่อื งและนามาเขยี นสรุปความ ตานานเจ้าพอ่ เสือ ในอดตี กาลประมาณ 150 ปี ตน้ สมยั แผ่นดนิ พระนงั่ เกลา้ ฯ รชั กาลที่ 3 กล่าวถงึ การสรา้ งวดั มหรรณพารามเสยี กอ่ น เพราะเกยี่ วโยงกบั ประวตั เิ จา้ พอ่ เสอื วดั มหรรณพส์ รา้ งเม่อื สมยั รชั กาลที่ 3 พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ ฯ ผูส้ รา้ งคอื กรมหมน่ื อดุ มรตั นราษี (พระองคเ์ จา้ อรรณพพระราชโอรสในสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ ) สถานทสี่ รา้ งวดั ยงั เป็นป่า บรเิ วณหลงั วดั มหรรณพ์ ยงั มสี ตั วอ์ าศยั อยู่คอื เสอื ปลา เสอื บอง อเี หน็ กระตา่ ย งเู หลอื ม งหู ลาม เป็นตน้ มหี มู่บา้ นเลก็ ๆ อยู่แห่งหนึ่ง โดยมากมฐี านะยากจน ยายผอ่ งกบั นายสอนลูกชายอยูด่ ว้ ยกนั เพยี งสองคนแม่ลูก เทา่ นนั้ นายสอนเป็นลูกทม่ี คี วามกตญั ญตู อ่ แมบ่ งั เกดิ เกลา้ ยงิ่ นกั สองชวี ติ ตอ้ งทนอย่กู บั ความยากลาบาก ต้องผจญชวี ติ กบั อาชพี ทไ่ี ม่เป็นแก่นสารแบบหาเชา้ กนิ ค่า นายสอนลูกชายยายผ่องเป็นไขม้ า 6-7 วนั เมอ่ื อาการคอ่ นขา้ งทุเลาบา้ งแลว้ กเ็ ตรยี มตวั จะเขา้ ป่า เพ่อื หาหน่อไม้ เกบ็ ผกั หกั ฟืนตามเคย ถงึ ตวั จะลาบากยากเขญ็ อย่างไรกไ็ ม่ทอ้ ถอย ตนกเ็ อาหาบขน้ึ บา่ พรอ้ มทงั้ มดี กบั เสยี มออกจากเรอื นเขา้ ป่าทนั ที ชะตารา้ ยกาลงั เดนิ ตามหลงั นายสอนมาทุกย่างกา้ ว สถานทท่ี เ่ี คยมผี กั มหี น่อไมม้ ฟี ืนกไ็ มม่ เี ลย คดิ ว่า พรุ่งน้จี ะต้อง ตดั ไมเ้ ผาถ่าน เม่อื เดนิ กลบั เหน็ กวางตายอยตู่ วั หน่ึง เพง่ิ ตายใหมๆ่ ยงั ไมเ่ น่า แกคดิ ดว้ ยเชาวไ์ ววา่ กาลงั ตกอยู่ในระหวา่ ง อนั ตรายแลว้ เพราะกวางน้ถี ูกเสอื กดั ตายกนิ เน้อื ยงั ไม่หมด มนั ต้องพกั อย่ใู นบรเิ วณใกล้ ๆ เจา้ กวางตวั น้แี น่ แต่อยากจะ ไดเ้ น้ือเอาไปฝากแมส่ กั กอ้ นหนึ่ง เม่อื คดิ ดงั นัน้ แลว้ กต็ ดั ความกลวั ออกไป ตรงเขา้ ไปเอามดี เฉือนเน้อื โคนขาไปสองกอ้ น เอาใบบอนห่อแลว้ เอาผา้ ขาวมา้ หอ่ อกี ชนั้ แลว้ เอาคาดสะเอว รบี ฉวยหาบขน้ึ บ่าเดนิ เลาะไปตามรมิ หนองเพอ่ื เกบ็ สายบวั ทนั ใดนัน้ นายสอนตอ้ งสะดงุ้ สุดตวั เพราะเจอเขา้ กบั เสอื ใหญ่อย่างจงั เม่อื มนั เหน็ นายสอนยนื อยใู่ กลห้ นองน้า นายสอนเหน็ ดงั นนั้ กช็ กั มดี เหน็บปลายแหลมออกเตรยี มป้องกนั ตวั จะหนีกไ็ มพ่ น้ จาใจตอ้ งสู้ แมจ้ ะตายกไ็ ม่เสยี ดายชวี ติ เป็นห่วงแต่ แมค่ นเดยี วเทา่ นนั้ เจา้ เสอื เหน็ ไดจ้ งั หวะกเ็ ผน่ เขา้ กดั ทนั ที นายสอนกเ็ อ้ียวตวั เอามดี แทงถูกทต่ี ้นคอ เจา้ เสอื ยงิ่ โกรธจดั เพราะถกู แทงจนเลอื ดสาด มนั เผ่นเขา้ ใส่อยา่ งบา้ เลอื ด นายสอนหลบไม่ทนั จงึ จว้ งแทงไปตรงหนา้ เสอื ถกู ทแี่ สกหนา้ อยา่ งจงั เจา้ เสอื ถกู แทงถงึ สองแผลแลว้ มนั กแ็ ผดเสยี งลนั่ ดว้ ยโทสะของมนั แลว้ กเ็ ผ่นเขา้ ใสน่ ายสอนอย่างรวดเรว็ ไหน จะทานกาลงั ของมนั ได้ จงึ เสยี ทถี ูกมนั ฟัดอย่างเตม็ ท่ี จนแขนขาดตดิ อยูท่ ป่ี ากของมนั นายสอนเหน็ เชน่ นนั้ กล็ ุกวงิ่ โดดลง ไปในหนอง แลว้ ดาน้าหนีไปอยู่กลางหนอง เจา้ เสอื กอ็ อกวง่ิ ตามไป เมอ่ื มนั เหน็ ว่าจะทาอะไรนายสอนไมไ่ ด้ มนั กก็ ลบั เอา แขนของนายสอนกนิ จนเกล้ยี ง แลว้ กบ็ า่ ยหนา้ เดนิ ตรงไปทซี่ ากกวางของมนั อกี ครงั้ เมอ่ื นายสอนเหน็ เสอื ไปนานแลว้ แน่ใจวา่ มนั คงไม่กลบั มาอกี จงึ ขน้ึ จากหนองน้าหาทางลดั รบี กลบั บา้ นประมาณ สองยามกถ็ งึ บา้ น แตอ่ าการหนักมาก นายสอนนอนสลบอยแู่ ถวๆ รวั้ บา้ นของตนเอง ยายแผว้ เป็นน้องของยายผอ่ งเป็น หว่ งพส่ี าวของตน เพราะยายผอ่ งรอ้ งไหไ้ มห่ ยุดเป็นลมหลายครงั้ เพราะเป็นห่วงลกู วนั รงุ่ ขน้ึ เชา้ มดื ยายแผว้ เตรยี มต้มขา้ วตม้ เสรจ็ แลว้ กอ็ อกจากบา้ นเอาไปใหพ้ ส่ี าวของตนกนิ เม่อื จวนจะถงึ ประตรู วั้ เหน็ คนนอนตะแคง มเี ลอื ดเกรอะกรงั ไปทงั้ ตวั กม้ ลงมองดหู นา้ จาไดว้ ่าเป็นนายสอนหลานของแก จงึ รบี เขา้ รวั้ ขน้ึ เรอื น 91 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องท่ี 3 การอ่านจบั ใจความจากตานาน ตะโกนบอกยายผ่องว่า สอนกลบั มาแลว้ แต่นอนสลบอยู่นอกรวั้ ยายผอ่ งไดย้ นิ ว่า ลกู กลบั มาแลว้ แกกล็ ุกจากทนี่ อนรบี เดนิ ไปหาลูกทนั ที ยายแผว้ กเ็ รยี กชาวบา้ นใหช้ ่วยกนั หามนายสอนขน้ึ บนเรอื น แลว้ ใหห้ ลานชายไปตามหมอคลา้ ยมา บาบดั ปัดรงั ควานโดยเรว็ ประมาณครง่ึ ชวั่ โมงนายสอนกฟ็ ้ืน เบ้อื งตน้ นายสอนกแ็ กผ้ า้ ขาวมา้ ออกจากสะเอวแลว้ ส่งใหย้ าย ผอ่ ง บอกใหแ้ ม่เอาเน้อื กวางไป แมเ่ ฒ่าถามวา่ ไดเ้ น้อื มาจากไหน นายสอนกเ็ ล่าเหตุการณ์ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ กบั ตนจน ละเอยี ด อกี สองชวั่ โมงตอ่ มานายสอนกถ็ งึ แกค่ วามตายยายผอ่ งเป็นหญงิ ชราอนาถาไรท้ พ่ี ง่ึ แกกต็ ้องด้นิ รนหาทางช่วยชวี ติ ตามแบบและสตปิ ัญญาของแก ยายผอ่ งไดไ้ ปทวี่ ่าการอาเภอ ขอรอ้ งใหน้ ายอาเภอจบั เสอื มาลงโทษใหไ้ ด้ นายอาเภอแสงผูพ้ ทิ กั ษ์มวลชนได้ยนิ ยายผอ่ งขอใหจ้ บั เสอื มาทาโทษแทนลูกของแกกน็ ึกแปลกใจ ตงั้ แต่เป็นนายอาเภอมาหลายปี ยงั ไม่เจอกบั คดเี ชน่ น้ี เม่อื นายอาเภอเหน็ วา่ แกพดู ถกู และสงสารแกมาก จงึ รบั ปากว่าจะจบั เสอื มาทาโทษใหต้ ามความประสงค์ แลว้ ใหค้ นไป ตามปลดั โต ซง่ึ มคี วามรูค้ วามสามารถและปฏบิ ตั หิ นา้ ทด่ี ที สี่ ุดมาหาทนั ที เมอ่ื ปลดั โตไปหานายอาเภอก็แจง้ เร่อื งใหท้ ราบ ปลดั โตกร็ บั ปากทนั ที สามวนั ผ่านไป ขบวนลา่ เสอื ของนายปลดั โตออกตะลยุ ป่าหลายทศิ หลายทางถงึ จะมคี นมากกต็ าม เมอ่ื ปลดั โต ประกาศวา่ จะล่าเสอื กข็ นั อาสาเขา้ รว่ มขบวนตะลยุ พยคั ฆร์ า้ ยกนั มาก เรม่ิ วนั ทสี่ ก่ี ย็ งั ไม่ไดว้ แ่ี ววหรอื ร่องรอยเลย เป็นอนั วา่ ปลดั โตตอ้ งประชุมพรรคพวกกนั อกี ครงั้ ตกลงทปี่ ระชมุ ใหย้ กขบวนกลบั เสยี ก่อน เม่อื พรรคพวกพากนั กลบั แลว้ ปลดั โต เท่านนั้ ทย่ี งั ไม่ยอมกลบั บา้ น ได้แวะไปนมสั การหลวงพอ่ บญุ ฤทธใิ์ นพระอโุ บสถ และนมสั การหลวงพ่อพระรว่ งในพระวหิ าร วดั มหรรณพาราม ออ้ นวอนหลวงพอ่ ทงั้ สองพระองค์ ขอให้ทรงช่วยดลบนั ดาลจบั เสอื รา้ ยใหไ้ ด้ การจบั กข็ อรบั รองวา่ จะไม่ ฆ่าเสอื เป็นอนั ขาด ถงึ แมเ้ สอื จะทารา้ ยกต็ าม ขอใหห้ ลวงพ่อพระรว่ ง ทรงชว่ ยกล่อมใจเสอื รา้ ย ใหก้ ลายเป็นเสอื เลย้ี งใหไ้ ด้ ถา้ จบั เสอื ไม่ไดค้ ราวน้ลี ูกตอ้ งลาออกจากตาแหน่งราชการทนั ที เมอ่ื นายปลดั โตไดก้ ล่าวคาพรรณนาใหห้ ลวงพ่อฟังจนหมด สน้ิ แลว้ กก็ ราบนมสั การลาหลวงพ่อออกจากพระวหิ าร แทนทจี่ ะกลบั ไปอาเภอเพ่อื รายงานเสยี ก่อน แต่กลบั เดนิ ออ้ มไป ทางหลงั วดั เม่อื ถงึ ต้นไมใ้ หญ่ตน้ หนงึ่ กน็ งั่ พกั นงั่ คดิ อยสู่ กั พกั หน่ึงกห็ ลบั ไป ครนั้ ลมื ตาตน่ื ขน้ึ ตอ้ งสะดงุ้ ตกใจแทบขาดใจ เหน็ เสอื นอนหมอบอย่ตู รงหนา้ คดิ จะหนีกห็ นีไม่พน้ คดิ จะสกู้ ส็ ไู้ ม่ไหว เพราะเอาปืนพงิ ไวก้ บั ตน้ ไม้ มดี กว็ างไวห้ า่ งตวั จะลกุ ขน้ึ เอาปืนยงิ กก็ ลวั ไมท่ นั เสอื ไดแ้ ตน่ งั่ นึกภาวนาถงึ หลวงพอ่ พระร่วงขอใหช้ ่วยชวี ติ และขอใหท้ รงชว่ ยเปลยี่ นใจเสอื ใหก้ ลบั เป็นใจคน ใหร้ ูส้ กึ ผดิ ชอบชวั่ ดใี หจ้ บั เสอื ไดง้ า่ ยๆ เหมอื นจบั ลกู แมว เสรจ็ อธษิ ฐานแลว้ เหน็ อาการของเสอื ไมม่ ี ร่องรอยแหง่ ความดรุ า้ ยเหลอื อยเู่ ลย มนั ทาตารบิ หรค่ี ลา้ ยกลบั ยอมใหจ้ บั โดยดี ปลดั แกลง้ ขสู่ าทบั ว่าเจา้ เสอื รา้ ยเจา้ ฆ่านาย สอนใชห่ รอื ไม่? เสอื พยกั หนา้ รบั ว่าจรงิ ปลดั โตกว็ ่า เจา้ เป็นตวั จรงิ แน่หรอื ? เสอื กก็ ม้ หวั ใหด้ ูแผลทถ่ี ูกนายสอนแทงท่ี หนา้ ผาก แผลยงั ไม่หาย มรี อยเลอื ดเกรอะกรงั ตดิ อย่ทู ห่ี น้าทต่ี ้นคอ ปลดั กแ็ น่ใจวา่ เป็นตวั จรงิ เพราะรวู้ ่านายสอนแทงเสอื ถกู ทห่ี นา้ ผากกบั ต้นคอ ปลดั กเ็ อาเชอื กผกู คอเสอื แลว้ จงู เสอื ไปทว่ี า่ การอาเภอ เม่อื ถงึ อาเภอกผ็ ูกเสอื ไวก้ บั เสา แลว้ เขา้ ไปบอกนายอาเภอ นายอาเภอแสงตกใจรอ้ งบอกใหช้ ่วยกนั ปิดประตูอย่า ใหม้ นั เขา้ มาได้ ปลดั บอกว่ามนั ไม่ดุ ไม่กดั ใคร ๆ ทงั้ นนั้ เมอ่ื นายอาเภอแน่ใจแลว้ ปลดั กจ็ งู เขา้ ไปทว่ี ่าการ แลว้ สงั่ ใหไ้ ปตาม ยายผอ่ งทนั ที นายอาเภอกเ็ รมิ่ พจิ ารณาคดี พูดเสยี งดงั ถามเสอื ว่าเจา้ ฆ่านายสอนตาย แลว้ เอาแขนไปกนิ ขา้ งหนึ่งจรงิ หรอื ไม่ เสอื กพ็ ยกั หนา้ รบั วา่ จรงิ เจา้ รูไ้ หมวา่ อาญาแผ่นดนิ ตราเป็นกฎมายไวส้ าหรบั ลงโทษผูก้ ระทาผดิ เสอื กก็ ม้ หวั รบั รู้ นายอาเภอบอกวา่ เจา้ จงฟังคาตดั สนิ เดยี๋ วน้ี เมอ่ื ตดั สนิ ต้องยอมรบั โทษทนั ที เสอื กม้ หวั ยอมรบั นายอาเภอกแ็ จง้ โทษให้ ฟัง แลว้ ตดั สนิ ประหารชวี ติ ทนั ที เสอื กก็ ม้ หวั ยอมรบั โทษตามคาตดั สนิ ลงนอนหมอบราบกบั พน้ื หลบั ตาเฉย แต่มนี ้าตา ไหลซมึ นายอาเภอ ปลดั โต และใคร ๆ ทย่ี นื มงุ ดอู ย่แู น่นอาเภอ เมอ่ื เหน็ อาการของเสอื เชน่ นนั้ ต่างกส็ งสารบางคนน้าตา ไหล ไมม่ ใี ครสกั คนทจี่ ะโกรธแคน้ เสอื มแี ต่สงสารไมอ่ ยากใหน้ ายอาเภอฆ่า เพราะมนั แสดงอาการแสนทีจ่ ะสงสาร ฝ่ายยายผ่องเมอ่ื ฟังคาพพิ ากษาตดั สนิ ประหารชวี ติ เสอื ไดเ้ หน็ อาการของมนั ทุกอย่าง และเหน็ มนั หมอบลงรบั 92 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เรื่องท่ี 3 การอ่านจับใจความจากตานาน คาตดั สนิ พรอ้ มกบั เหน็ น้าตาไหลซมึ อาการทเ่ี คยโกรธเสอื มาก่อน กพ็ ลนั หายไปจนหมดสน้ิ ยายผ่องรอ้ งไหแ้ ลว้ พดู กบั นายอาเภอว่า ขอชวี ติ เสอื ไวเ้ ถดิ อย่าไดฆ้ ่ามนั เลย ฉันไมข่ อเอาเรอ่ื งโกรธแคน้ กบั มนั อกี ตอ่ ไปแลว้ และขอใหน้ ายอาเภอยก เสอื ตวั น้ใี หเ้ ป็นลกู ของฉัน แทนลูกทต่ี ายไปแลว้ นายอาเภอแสงกบั ปลดั โต ซ่งึ มคี วามสงสารมนั เหมอื นกบั คนอ่นื ๆ เมอ่ื ได้ ฟังคาขอรอ้ งของยายผอ่ งเช่นนนั้ กร็ บี ฉวยโอกาสตดั สนิ ใหม่ทนั ที บอกกบั เสอื วา่ จงฟังตดั สนิ ใหม่ เสอื กผ็ งกหวั ยอมรบั ฟัง นายอาเภอตดั สนิ วา่ เมอ่ื เจา้ ยอมรบั ผดิ โดนดแี ลว้ กย็ กโทษประหารให้ แต่เจา้ ตอ้ งเป็นลกู ของยายผ่อง และต้องรบั เล้ยี งดู แกแทนลูกชายทต่ี ายไป เสอื กล็ ุกขน้ึ ยนื พรอ้ มกบั พยกั หน้าอยหู่ ลายครงั้ เมอ่ื เสรจ็ สน้ิ การชาระคดแี ปลกประหลาดแลว้ นายอาเภอกส็ งั่ ปิดศาลทนั ที ตงั้ แต่ยายผ่องไดเ้ สอื มาเป็นลูกแทนนายสอนแลว้ กม็ คี วามสขุ ยง่ิ กวา่ เดิมหลายเทา่ เพราะเสอื มไิ ดอ้ ยูเ่ ฉยๆ เขา้ ป่า หาอาหาร กดั เอาหมบู า้ ง เอาเกง้ บา้ ง กวางบา้ ง และจบั สตั วอ์ ่นื ๆ บา้ ง เอามาใหแ้ ม่ทร่ี กั ของมนั อยเู่ ป็นนิจ แกกแ็ ลเ่ น้อื กนิ บา้ ง เอาเน้อื สดเน้อื แหง้ ขายชาวบา้ นรา้ นคา้ บา้ งมไิ ดข้ าด ยายผอ่ งตงั้ ชอ่ื เสอื วา่ สอน แทนลูกทตี่ ายในละแวกบา้ นยา่ นนนั้ ไมม่ ขี โมยเลย แตก่ อ่ นหนา้ เสอื มาอยู่ ขา้ วของเป็ดไก่ ไรผ่ กั มกั จะหายกนั บอ่ ยๆ ถา้ วนั ไหนคนื ไหนเสอื ไมเ่ ขา้ ป่า มนั จะสง่ เสยี งรอ้ งคารามดงั ไปไกล ทาใหเ้ กดิ ความหวาดกลวั แก่เจา้ พวกหวั ขโมยไมก่ ลา้ ย่างกรายเขา้ ไป ชาวบา้ นรา้ นตลาดพลอย อยเู่ ยน็ เป็นสขุ ไปดว้ ย วนั หนงึ่ เสอื เขา้ ป่าแลว้ หายไปถงึ สามวนั ยงั ไมก่ ลบั ทาใหย้ ายรอ้ งไหค้ ดิ ถงึ ไมเ่ ป็นอนั กนิ อนั นอน ความทราบไปถงึ นายอาเภอกบั ปลดั ทงั้ สองคนรบี มาเยย่ี มทนั ที นายอาเภอขอใหป้ ลดั ชว่ ยตามเสอื อกี ครงั้ เพ่อื ช่วยชวี ติ ยายปลดั โตกอ็ อก เดนิ ทางไปเพยี งคนเดยี ว เพราะถอื วา่ ไม่มอี นั ตรายใด ๆ จากสตั ว์ แลว้ ไปพบคนกลุม่ หน่งึ กาลงั ล่าสตั วอ์ ยใู่ นป่า ปลดั โตเหน็ คนกลุม่ นนั้ กจ็ าไดว้ า่ เป็นพวกเดยี วกนั ทงั้ นนั้ ต่างกส็ นทนากนั อยสู่ กั พกั หน่ึง ชายกลมุ่ นนั้ ถามปลดั โตวา่ มาทาไมในป่าคน เดยี ว ปลดั ตอบว่ามาตามเสอื ชายกล่มุ นนั้ บอกว่าพวกเขากาลงั ไล่ลอ้ มยงิ เสอื อยู่เหมอื นกนั ปลดั ถามวา่ เสอื มลี กั ษณะ อย่างไร เม่อื ไดร้ บั คาตอบแลว้ ปลดั บอกวา่ เป็นเสอื ตวั เดยี วกนั กบั ทตี่ นกาลงั ตามหาและขอรอ้ งมใิ หย้ งิ ชายกลมุ่ นนั้ บอกว่า ตามล่ามนั มาสามวนั แลว้ เพราะเสอื ตวั น้ดี รุ า้ ยมาก เป็นอนั วา่ ชายกล่มุ นนั้ รบั คาว่าไมล่ ่าเสอื ตวั น้อี กี อกี สกั ครู่หน่งึ เขาเหล่านนั้ เหน็ เสอื วงิ่ ลดั พมุ่ ไมอ้ ยู่ขา้ งหน้า ปลดั กอ็ อกตามตะโกนเรยี กชอ่ื มนั อย่างดงั บอกกบั เสอื วา่ ใหร้ บี กลบั บา้ นโดยเรว็ เพราะยายผอ่ งเสยี ใจมากกาลงั รออยทู่ บี่ า้ นไมต่ ้องกลวั ใครยงิ อกี แลว้ สกั ครใู่ หญ่เสอื กม็ าถงึ ตรงไป หายายเหน็ แกเป็นลม มนั กห็ มอบเอาคางเชยทเ่ี ทา้ ยายผอ่ งไดส้ ตฟิ ้ืนขน้ึ มองเหน็ เสอื กด็ ใี จเอามอื ลูบหวั แลว้ ถามมนั ปลดั กเ็ ลา่ เรอ่ื งทโี่ ดนนักล่าสตั วค์ อยดกั ยงิ มนั ต้องหนีเตลดิ เขา้ ป่าลกึ เพอ่ื เอาตวั รอด มเิ ช่นนนั้ กถ็ กู ยงิ ตายแน่ เสอื อยู่กบั ยายผ่อง ประมาณเจด็ ปี ยายกถ็ งึ แก่กรรม เมอ่ื มนั เหน็ ยายแมข่ องมนั เป็นลมตายเสยี แลว้ มนั กส็ ง่ เสยี งรอ้ งไมห่ ยดุ เม่อื ครบสามวนั แลว้ จงึ ช่วยกนั เผา จดั ทาเชงิ ตะกอนเตย้ี ๆ ขนเอาฟืนมามาก เผาศพเป็นกองไฟใหญ่ เผากนั จรงิ ๆ ใครมฟี ืนเท่าไรกเ็ ผาจน หมดในระหวา่ งไฟกาลงั โหมลุกเตม็ ทอ่ี ยู่นนั้ เสอื ซง่ึ มอี าการหงอยเหงาเศรา้ ซมึ มาหลายวนั แลว้ น้าตาไหลเป็นทางมนั จะนึก อย่างไรไมท่ ราบ กอ็ อกวง่ิ วนไปรอบๆ กองไฟ ไมร่ ูว้ า่ กี่รอบ สง่ เสยี งรอ้ งอยเู่ รอ่ื ย วง่ิ ไปรอ้ งไป และขณะรอ้ งคร่าครวญอยู่ นนั้ ไดก้ ระโจนเขา้ กองไฟทกี่ าลงั ลกุ โชตชิ ่วง ถูกไฟเผาด้นิ ทุรนทรุ ายอย่คู รู่หนึ่งกต็ ายตามแม่ทร่ี กั ไป ยอมพลชี พี บูชาแม่ ดว้ ยชวี ติ ซง่ึ อาจมมี นุษยจ์ านวนน้อยนิดเทา่ นนั้ จะกลา้ เสยี สละอยา่ งน้ไี ด้ ทาใหค้ นตกใจสง่ เสยี งรอ้ งดว้ ยความหวาดเสยี ว และสงสาร 7 วนั ผ่านไป การเผาศพระหวา่ งแมผ่ ูเ้ ป็นมนุษยก์ บั ลกู ผูเ้ ป็นสตั ว์ ชาวบา้ นรวมทงั้ นายอาเภอแสงกบั ปลดั โตปรกึ ษา กนั วา่ จะสรา้ งศาลใหเ้ สอื ผูม้ คี วามจงรกั ภกั ดตี ่อแมเ่ ฒา่ ผอ่ ง ถอื ว่าเป็นสตั วพ์ เิ ศษกว่าสตั วท์ งั้ หลาย เพราะร่างกายกบั ชวี ติ เทา่ นนั้ ทีเ่ ป็นเสอื แต่ดวงจติ สงู สง่ เป็นอจั ฉรยิ จติ สถติ ดว้ ยแสงธรรมการสรา้ งศาลประดษิ ฐานรูปเสอื ผูค้ นสละทรพั ย์ สละ แรงงาน ร่วมแรงรว่ มใจกนั เป็นจานวนมาก สรา้ งใกลๆ้ บรเิ วณหน้าวดั มหรรณพาราม เอากระดกู เสอื บรรจใุ นแท่นปัน้ รูป ประดษิ ฐานบนแทน่ อยา่ งสง่าน่าเกรงขาม อญั เชญิ ดวงวญิ ญาณเสอื ขอใหเ้ ป็นเทพเจา้ สงิ สถติ ณ ศาลวมิ านทองแหง่ น้ี 93 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เรื่องท่ี 3 การอ่านจับใจความจากตานาน ตลอดกลั ป์ เป็นนิรนั ดร ขอใหป้ กปักรกั ษาประชาราษฎรใ์ หอ้ ยรู่ ม่ เยน็ เป็นสขุ ทามาหากนิ ซอ้ื ง่ายขายคลอ่ ง เจรญิ สุขทกุ ทวิ าราตรี เม่อื ฉลองเสรจ็ แลว้ ตดิ แผน่ ป้ายไวท้ หี่ น้าศาลจารกึ ชอ่ื ว่า ศาลเจา้ พอ่ เสอื ท่ีมา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=plaengnam&month=14-02-008&group=4&gblog=6 (ตวั อย่าง) ใจความสาคญั คอื เสอื ตวั หนงึ่ กดั ชายหนุ่มซงึ่ มภี าระต้องเลย้ี งดูมารดาตาย ภายหลงั เสอื ตวั นนั้ ถกู เจา้ หน้าทบี่ า้ นเมอื ง จบั ไดน้ าไปข้นึ ศาลพจิ ารณาคดี เมอื่ ถูกไตส่ วนเสอื สานกึ ในความผดิ ของตวั จงึ ชดใชค้ วามผดิ ดว้ ยการอยดู่ ูแลหาเลย้ี งหญงิ ชราผูเ้ ป็นมารดาของชายคนนนั้ ไปจนกระทงั่ นางสน้ิ อายขุ ยั ในขณะทเี่ ผาศพหญงิ ชราเสอื ไดก้ ระโจนเขา้ กองไฟตายตามนาง ไปดว้ ย ผูค้ นเหน็ ความกตญั ญูทเี่ สอื มตี อ่ หญงิ ชราจงึ ไดส้ รา้ งศาลเจา้ พ่อเสอื ไวเ้ ป็นทรี่ ะลกึ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 94 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 3 การอ่านจับใจความจากตานาน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 95 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เรื่องท่ี 4 การอ่านตคี วามและประเมนิ คณุ ค่าหนงั สือนอกเวลา แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 การอ่านตีความและ 1 ชวั่ โมง ประเมินคณุ ค่าหนังสือ นอกเวลา (1) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านหนงั สอื นอกเวลาเพ่อื ประโยชน์ต่อผเู้ รยี นใหส้ ามารถตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากงาน เขยี นอยา่ งหลากหลาย เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/9 ตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ทีไ่ ดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - ตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากการอ่านหนังสอื นอกเวลาเพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การอา่ นตามความสนใจ เชน่ หนงั สอื อ่านนอกเวลา 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความคดิ เหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุง่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 96 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 4 การอ่านตีความและประเมนิ คุณค่าหนงั สือนอกเวลา 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ แลว้ คดิ ทบทวนถงึ หนังสอื นอกเวลาทเ่ี คยอา่ น • นกั เรียนคิดว่า หนังสอื นอกเวลาท่ีเคยอา่ นเร่ืองใดให้ความรแู้ ละขอ้ คิดท่ีนกั เรยี นสามารถ นาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้มากที่สุด เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)ด...ค 2. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความสาคญั และประโยชน์ของการอา่ นหนังสอื นอกเวลา เขยี นลงบนกระดาน หนา้ ชนั้ เรยี น 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรียนคิดวา่ การให้อ่านหนังสอื นอกเวลาภาคเรียนละ 2 เรอ่ื ง เหมาะสมกบั นักเรียน ในระดบั นี้หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 4. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1) จากนนั้ ครูชแ้ี จงใหน้ กั เรยี นทราบวา่ ความสาเรจ็ ของกลมุ่ นนั้ จะตอ้ งอาศยั ผลจากความร่วมมอื กนั และช่วยเหลอื กนั ผทู้ เ่ี ก่งกวา่ จะตอ้ งช่วยผทู้ อ่ี อ่ นกวา่ หรอื เรยี นชา้ กว่า 5. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การอ่านตคี วาม จากหนงั สอื เรยี น และสบื คน้ ความรู้ เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั หลกั การอา่ นตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ จากแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายถงึ หลกั การอา่ นตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ หนังสอื 6. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การท่ีนักเรยี นจะประเมินคณุ ค่าหนงั สอื ท่ีอ่าน นักเรยี นต้องมีความสามารถในดา้ นใด มากท่ีสุด (การอา่ น คดิ วเิ คราะห)์ 7. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เลอื กอา่ นหนังสอื นอกเวลา กล่มุ ละ 1 เรอ่ื ง ไม่ใหซ้ า้ เร่อื งทเ่ี คยอ่านมาแลว้ ในชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1-2 แลว้ ร่วมกนั อภปิ รายถงึ เน้อื หาสาระของหนังสอื อา่ นนอกเวลาทก่ี ลมุ่ เลอื ก ตาม หลกั การตคี วามและประเมนิ คา่ เรอ่ื งทอ่ี า่ น แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดล้ งในแบบบนั ทกึ การอา่ น 8. นกั เรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 2.4 เรือ่ ง การอ่านตีความและประเมินคา่ หนังสือนอกเวลา 9. ครตู รวจคาตอบในใบงานท่ี 2.4 แลว้ นาคะแนนของสมาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ มารวมกนั เป็นคะแนนกลุม่ จากนนั้ ประกาศชมเชยกลมุ่ ทม่ี คี ะแนนเฉลย่ี สงู สุด และรองลงมาเรยี งตามลาดบั 10. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรยี นคิดวา่ หนังสอื ที่มีคณุ คา่ สาหรบั นกั เรียนควรมีลกั ษณะอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 97 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เคร่อื งมือ เกณฑ์ เร่ืองท่ี 4 การอ่านตีความและประเมนิ คุณค่าหนงั สือนอกเวลา ใบงานที่ 2.4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7 การวดั และประเมินผล แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ วิธีการ ตรวจใบงานท่ี 2.4 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย 8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ใบงานท่ี 2.4 เรอ่ื ง การอา่ นตคี วามและประเมนิ คา่ หนงั สอื นอกเวลา 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ • แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter6-5.html - http://www.aksorn.com/lib/detail_print.php?topicid=827 98 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองท่ี 4 การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าหนงั สือนอกเวลา ใบงานที่ 2.4 การอ่านตีความและประเมินคา่ หนังสือนอกเวลา คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กอ่านหนังสอื นอกเวลา กลุม่ ละ 1 เร่อื ง ไม่ซา้ เรอ่ื งทเ่ี คยอา่ นมาแลว้ เพอ่ื พจิ ารณา เร่อื งทอ่ี ่านตามหลกั การตคี วามและประเมนิ คา่ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู ตามประเดน็ ทก่ี าหนดให้ ชอ่ื หนงั สอื ชอ่ื ผแู้ ตง่ เร่อื งย่อ ลกั ษณะการใชถ้ อ้ ยคา สานวนภาษาในเร่อื ง น้าเสยี งของผเู้ ขยี น สาระของเรอ่ื ง จดุ เดน่ จดุ ดอ้ ยของเรอ่ื ง คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ และสงั คม ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งทน่ี าไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ 99 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เรื่องที่ 4 การอ่านตคี วามและประเมินคณุ ค่าหนงั สือนอกเวลา ใบงานท่ี 2.4 การอ่านตีความและประเมินค่าหนังสือนอกเวลา คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กอ่านหนงั สอื นอกเวลา กล่มุ ละ 1 เร่อื ง ไม่ซา้ เรอ่ื งทเ่ี คยอา่ นมาแลว้ เพ่อื พจิ ารณา เร่อื งทอ่ี า่ นตามหลกั การตคี วามและประเมนิ คา่ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มูลตามประเดน็ ทก่ี าหนดให้ ชอ่ื หนงั สอื ชอ่ื ผแู้ ต่ง เรอ่ื งยอ่ ลกั ษณะการใชถ้ อ้ ยคา สานวนภาษาในเรอ่ื ง น้าเสยี งของผเู้ ขยี น สาระของเรอ่ื ง จดุ เด่น จุดดอ้ ยของเร่อื ง คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ และสงั คม ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งทน่ี าไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 100 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 4 การอ่านตคี วามและประเมินคุณค่าหนังสือนอกเวลา ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 101 หลกั ภาษาฯ ม.3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394