Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ม.3 เล่ม 1

แผนจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ม.3 เล่ม 1

Published by pm.punnatat, 2022-08-16 09:58:56

Description: แผนจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ม.3 เล่ม 1

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพื่อการส่ือสาร 2 เรื่องท่ี 1 การเขยี นอธบิ าย ชี้แจง โต้แย้ง แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล ตอนท่ี 2 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นอ่านขา่ วทก่ี าหนด แลว้ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ มหาภยั เฟซบกุ๊ รวบบา้ กาม ลวงขยี้ นกั เรยี นสาวไปขนื ใจถ่ายคลิป ชี้ตวั จิ้งจอกสงั คม หนุ่มจง้ิ จอกสงั คมเล่นเฟซบุก๊ ลวงเดก็ นกั เรยี นหญิงไปขยก้ี ามแลว้ ถา่ ยคลปิ วดี โิ อไวแ้ บลก็ เมล อกี หลายครงั้ จน เหยอ่ื สาวซมึ เศรา้ ไมก่ ลา้ ไปโรงเรยี น ผูป้ กครองและครทู ราบแจง้ ตารวจช่วยสบื ก่อนลากคอไดห้ น้าโรงแรมกลางเมอื ง โคราช สารภาพไม่มอี าชพี เป็นหลกั แหล่ง อาศยั ลกั เล็กขโมยนอ้ ยไปเร่อื ยๆ พบประวตั เิ คยตดิ คุกคดลี กั ทรพั ย์ กอ่ นหนั มา ใชส้ อ่ื ออนไลน์ยอดฮติ ลวงเดก็ สาว ม.1 และ ม.2 ไปเสพสขุ ลา่ สุดมผี ูเ้ สยี หาย 3 คน รอ้ งทกุ ขด์ โู ฉมหน้าคนรา้ ย ตารวจคาด ยงั มอี กี หลายรายทยี่ งั ไมก่ ลา้ แจง้ ความ ภยั รา้ ยจากการเลน่ เฟซบ๊กุ นกั เรยี นหญงิ ถกู หนุ่มภยั สงั คมล่อลวงไปข่มขนื ก่อนถา่ ยรปู ไวแ้ บลก็ เมลรายน้เี ปิดเผย เม่อื เวลา 10.00 น. วนั ที่ 15 ธ.ค. 54 ทหี่ อ้ งประชมุ สานักตารวจภธู รภาค 3 (บช.ภ.3) อ.เมอื งนครราชสมี า พล.ต.ท.ภาณุ เกดิ ลาภผล ผบช.ภ.3 นายชวน ศริ นิ นั ทพ์ ร ผวู้ ่าราชการจงั หวดั นครราชสมี า พล.ต.ต.กรกต สารยิ า พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชมุ รองผบช.ภ.3 พ.ต.อ.ผดงุ เกยี รติ ศริ พิ รววิ ฒั น์ ผกก.สภ.เมอื งนครราชสมี า พ.ต.ท.ภมู ทิ องโพธิ์ สว.สส.สภ.เมอื ง ร่วมกนั แถลงจบั กมุ นายวมิ ล ศรดี า อายุ 37 ปี อยู่บา้ นเลขท่ี 257/32 ถนนระนอง ต.ตลาดเหนอื อ.เมอื ง จ.ภเู กต็ ผูต้ ้องหาตามหมายจบั ศาลจงั หวดั นครราชสมี าท่ี จ.358/2554 ลงวนั ที่ 14 ธ.ค.54 ในขอ้ หากระทาชาเราเดก็ อายุ ไมเ่ กนิ 15 ปี ซง่ึ ไมใ่ ชภ่ รรยา โดยเดก็ นนั้ ยนิ ยอมหรอื ไมก่ ต็ าม พาบุคคลอายุยงั ไมเกนิ 15 ปี เพ่อื อนาจารและโดย ปราศจากเหตุอนั ควร พรากเดก็ ยงั ไมเ่ กนิ อายุ 15 ปี ไปเสยี จากบดิ ามารดา ผูป้ กครองหรอื ผูด้ แู ล โดยสามารถติดตาม จบั กมุ ผูต้ ้องหาไดท้ ห่ี น้าโรงแรมศรรี ตั น์ ถนนสุรนารี เขตเทศบาลนครราชสมี า พรอ้ มยดึ ของกลางคอมพวิ เตอรโ์ น้ตบ๊กุ 1 เคร่อื ง และโทรศพั ท์มอื ถอื 1 เคร่อื ง สบื เน่อื งจากพนกั งานสอบสวน สภ.เมอื งนครราชสมี า ไดร้ บั การรอ้ งเรยี นจากครอู าจารยแ์ ละผูป้ กครองเดก็ นักเรยี น หญงิ อายรุ ะหว่าง 12-15 ปี หลายรายวา่ บุตรสาวไดเ้ ลน่ เฟซบ๊กุ ทางอนิ เตอรเ์ นต็ และถูกผูช้ ายล่อลวงไปขม่ ขนื กอ่ นถา่ ย วดิ โี อไวแ้ บลก็ เมลข่บู งั คบั ใหไ้ ปหลบั นอนดว้ ยอกี หลายครงั้ ทาใหเ้ หยอ่ื นกั เรยี นสาวไมอ่ ยากไปโรงเรยี นจนมอี าการซมึ เศรา้ หลงั รบั เร่อื งเจา้ หนา้ ทต่ี ารวจไดต้ รวจสอบพบวา่ คนรา้ ยไดใ้ ชช้ อ่ื ในเฟซบกุ๊ ว่า “แคน สดี า” และ “นักรบแดนใต”้ กอ่ นทราบ ช่อื วา่ นายวมิ ล ศรดี า ซง่ึ เคยมปี ระวตั จิ าคุกในคดเี กยี่ วกบั ทรพั ยท์ ศี่ าลจงั หวดั พจิ ติ ร และมหี มายจบั ของศาลจงั หวดั มนี บรุ ี ในขอ้ หาลกั ทรพั ย์ พนกั งานสอบสวนจงึ รวบรวมพยานหลกั ฐานขออนุมตั หิ มายจบั และรวบตวั ไดด้ งั กล่าว สอบสวนนายวมิ ลใหก้ ารรบั สารภาพว่า ไม่มอี าชพี อะไรเป็นหลกั แหล่ง ลกั เลก็ ขโมยน้อยไปเรอ่ื ย ก่อนอาศยั ช่องทาง เฟซบุ๊กตดิ ตอ่ สอ่ื สารกบั เดก็ สาววยั รุ่น แลว้ โทรศพั ท์นัดพบตามสถานทตี่ า่ งๆ พรอ้ มกบั กระทาการลว่ งละเมดิ ทางเพศ แลว้ ถา่ ยคลปิ วดิ โี อไวแ้ บลก็ เมล หากเด็กไมย่ อมมาพบกจ็ ะข่เู อาคลปิ ดงั กล่าวไปเผยแพรป่ ระจานโดยทามาแลว้ หลายราย อย่างไรกต็ ามในชนั้ สอบสวนของตารวจมเี ดก็ นักเรยี นหญงิ ผูเ้ สยี หายมาชต้ี วั ผูต้ อ้ งหาแลว้ 3 ราย ทงั้ หมดเรยี นอยู่ชนั้ ม.1 และ ม.2 และหน่ึงในผูเ้ สยี หายถูกนายวมิ ลถา่ ยคลปิ ไวข้ ม่ ข่ดู ว้ ย ดา้ นนายชวน ศริ นิ ันทพ์ ร ผูว้ ่าราชการจงั หวดั นครราชสมี า กล่าวว่า คดนี ้ถี อื ว่าเป็นเร่อื งสาคญั ทเ่ี กดิ จากอนั ตราย การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ตดิ ต่อส่อื สาร โดยเฉพาะเฟซบุ๊กทก่ี าลงั เป็นทนี่ ิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ แต่กลบั มคี นนามาใช้ ลอ่ ลวงเดก็ หญงิ ไปทามดิ มี ริ า้ ย บางรายถกู เรยี กเอาทรพั ยส์ นิ ดว้ ย เทา่ ทที่ ราบเบ้อื งตน้ มผี ูเ้ สยี หายมาแจง้ ไว้ 3 ราย แตต่ ารวจเชอ่ื ว่ายงั มเี ดก็ ตกเป็นเหยอ่ื อกี หลายรายทย่ี งั ไมก่ ลา้ มาแจง้ ความ ขณะน้อี ยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลตอ่ ไป ทีม่ า : หนังสอื พมิ พไ์ ทยรฐั ฉบบั วนั ที่11 ธนั วาคม 2554. 321 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพือ่ การสื่อสาร 2 เร่ืองท่ี 1 การเขยี นอธบิ าย ชี้แจง โต้แย้ง แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล 322 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นเพอื่ การส่ือสาร 2 เร่ืองที่ 1 การเขยี นอธิบาย ชี้แจง โต้แย้ง แสดงความคิดเห็นอย่างมเี หตผุ ล ใบงานท่ี 6.1 การเขียนชี้แจง และเขียนแสดงความคิดเหน็ ตอนที่ 1 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นอ่านเรอ่ื งทก่ี าหนด แลว้ เขยี นชแ้ี จงใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การเขยี น อนาคตอาชีพใดมแี ววสดใสหรอื ดบั วบู สงิ่ ทผ่ี ูป้ กครองสมยั น้มี กั วติ กกงั วลเกยี่ วกบั อนาคตของลูกๆ ไดแ้ ก่ เมอ่ื พวกเขาโตไปแลว้ จะสามารถหางานทาได้ไหม เพราะอยา่ งทร่ี ูๆ้ เดยี๋ วน้ปี รมิ าณงานเรม่ิ หายากขน้ึ เรอ่ื ยๆ ขณะทจี่ านวนประชากรมแี ต่เพมิ่ ขน้ึ ทกุ วนั สงั เกตดเู ถอะทไ่ี หนเปิดรบั สมคั รงานเมอ่ื ไหร่ ถา้ เป็นหน่วยงานทมี่ ชี อ่ื เสยี งละ่ ก็ ไมว่ ่าจะเป็นภาครฐั หรอื ภาคเอกชน อหู้ ู... จะมคี นแห่ไปสมคั รงานกนั เป็นพนั เป็นหมน่ื แตม่ ตี าแหน่งงานทเี่ ปิดรบั เพยี ง 1-2 คน เทา่ นนั้ หรอื ต่อให้ เป็นหน่วยงานทไี่ มม่ ชี ่อื เสยี งโดง่ ดงั บางทยี งั มคี นแห่ไปสมคั รเพยี บเชน่ กนั เหตนุ ้กี ารสมคั รงานจงึ ต้องใชว้ ธิ ดี าวกระจาย คอื สมคั รไปหลายๆ แหง่ เผ่อื เอาไว้ ถา้ หน่วยงานน้ไี มไ่ ด้ อาจมหี น่วยงานอน่ื ทเี่ ลง็ เหน็ ในความอตุ สาหะและคุณสมบตั ทิ ่ี โดดเดน่ เกดิ รบั ขน้ึ มากแ็ จว๋ ไปเลย คาถามกค็ อื แลว้ บุตรหลานของเรามคี วามสามารถอะไรเจ๋งเป้งนอกเหนอื ไปจากคนอน่ื ไหม ซง่ึ ถ้ามอี ย่างเชน่ มแี วว ทจี่ ะเรยี นรูส้ งิ่ ตา่ งๆ ไดเ้ รว็ หรอื ทเ่ี รยี กสนั้ ๆ ว่า หวั ไว สามารถเขา้ ใจอะไรไดง้ ่าย (แตค่ วรหวั ไวในสง่ิ ทถ่ี กู ทคี่ วรดว้ ยนะ) กม็ กั จะไดเ้ ปรยี บผูส้ มคั รคนอ่นื ๆ แต่อยากชใ้ี หเ้ หน็ ลกึ ลงไปว่า ในบางอาชพี ทตี่ อ้ งการความเชย่ี วชาญพเิ ศษหรอื วชิ าชพี บางอย่างนนั้ ตอ้ งการผทู้ จ่ี บ การศกึ ษาทางดา้ นนนั้ ๆ มาโดยตรง ไม่ใช่แคต่ ้องการคนหวั ไวอย่างเดยี วเท่านนั้ เชน่ งานทางดา้ นสถติ ิ ทนายความ แพทย์ หรอื พยาบาล ฯลฯ ใครจะทางานเหล่าน้ีได้ กต็ ้องเรยี นใหจ้ บจากคณะทสี่ อนในสายงานนนั้ จรงิ ๆ ดงั นนั้ จงึ มผี ูว้ เิ คราะห์ ใหฟ้ ังว่า คนเราจะประหยดั อะไรกป็ ระหยดั มธั ยสั ถ์ไปเถอะ แตส่ าหรบั การวางรากฐานอนาคตของลกู ดา้ นการศกึ ษานี่ หา้ มประหยดั เดด็ ขาด ทวา่ กข็ น้ึ อยู่กบั มนั สมองของเดก็ ดว้ ยนะ เพราะมเี หมอื นกนั ทพี่ ่อแมท่ ุ่มเทใหล้ ูกดา้ นการศกึ ษา มากมาย แต่ลูกดนั ไปเลอื กเรยี นอะไรกไ็ ม่รู้ทมี่ แี วววา่ จบมาแลว้ จะหางานยาก หรอื ตลาดแรงงานไมไ่ ดต้ ้องการผจู้ บ ทางดา้ นน้เี ท่าไร อย่างน้ลี งทุนไปกเ็ ท่านัน้ ฉะนนั้ ผูป้ กครองควรทาหน้าทเ่ี ป็นโคช้ คอยแนะแนวทางอนาคตใหล้ ูกๆ ดว้ ย จะเลศิ มาก ถามวา่ อาชพี อะไรล่ะ ทมี่ อี นาคตสดใส แน่ๆ กอ็ าชพี ในดา้ นของการรกั ษาพยาบาลไงละ่ ตอ่ ใหส้ ารวจกค่ี รงั้ กหี่ น กย็ งั เป็นอาชพี ทไี่ ม่ตกเทรนด์ เพราะคนเรายงั ไงกต็ ้องมวี นั เจบ็ ป่ วย ดงั นนั้ หมอหรอื พยาบาลนี่ ถ้าเรยี นจบกร็ บั รองไดว้ า่ มงี านใหท้ าแน่ๆ แต่เป็นอาชพี ทตี่ ้องการความรบั ผดิ ชอบสงู เอาการ อาชพี ผูจ้ ดั การดา้ นโซเชยี ลมเี ดยี ขององคก์ รตา่ งๆ น่กี าลงั รุง่ เน่อื งจากหลายหน่วยงานใชโ้ ซเชยี ลมเี ดยี เป็นเครอ่ื งมอื ทาการตลาด ตดิ ตอ่ สอ่ื สารกบั ลกู คา้ มากขน้ึ ไมว่ ่าจะผา่ นทางเฟซบุก๊ หรอื ทวติ เตอร์ งานในสายของเทคโนโลยชี วี ภาพ เป็นวทิ ยาการทางดา้ นวทิ ยาศาสตรท์ น่ี าสงิ่ มชี วี ติ หรอื ผลผลติ ของสง่ิ มชี วี ติ ไปแปรรูปเป็นอาหารหรอื ยา แตถ่ ้าอยากเรยี นรูเ้ รอ่ื งนาโนเทคโนโลยกี แ็ จว๋ 323 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นเพอ่ื การสื่อสาร 2 เร่ืองท่ี 1 การเขยี นอธบิ าย ช้ีแจง โต้แย้ง แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล ดา้ นนิตยสารฟอรบ์ สท์ ช่ี อบรายงานอนั ดบั ของเศรษฐนี นั้ ไดท้ านายวา่ อาชพี ทจี่ ะยงั คงมอี ยูไ่ ปเรอ่ื ยๆ นบั จากน้ไี ปอกี หลายปี ไดแ้ ก่ นักการเมอื ง สปั เหรอ่ งานจดั เกบ็ ภาษี ช่างทาผม ศลิ ปิน ผูใ้ หค้ วามบนั เทงิ ทหาร สว่ นอาชพี ทว่ี า่ กนั วา่ จะ หมดไปในอนาคต เช่น พนกั งานเกบ็ เงนิ หรอื แคชเชยี ร์ คนงานเหมอื ง คนงานกอ่ สรา้ ง เพราะจะมเี ทคโนโลยใี หม่ๆ และ หนุ่ ยนตม์ าทาแทนไงล่ะ ทีม่ า : หนงั สอื พมิ พไ์ ทยรฐั ฉบบั วนั ที่11 ธนั วาคม 2554. (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 324 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพื่อการส่ือสาร 2 เรื่องท่ี 1 การเขยี นอธบิ าย ชี้แจง โต้แย้ง แสดงความคดิ เห็นอย่างมเี หตุผล ตอนท่ี 2 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นอ่านขา่ วทก่ี าหนด แลว้ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ มหาภยั เฟซบกุ๊ รวบบ้ากาม ลวงขยี้ นกั เรยี นสาวไปขืนใจถา่ ยคลิป ชี้ตวั จิ้งจอกสงั คม หนุ่มจง้ิ จอกสงั คมเล่นเฟซบกุ๊ ลวงเดก็ นกั เรยี นหญงิ ไปขยก้ี ามแลว้ ถ่ายคลปิ วดี โิ อไวแ้ บลก็ เมล อกี หลายครงั้ จน เหยอ่ื สาวซมึ เศรา้ ไมก่ ลา้ ไปโรงเรยี น ผูป้ กครองและครทู ราบแจง้ ตารวจช่วยสบื ก่อนลากคอไดห้ น้าโรงแรมกลางเมอื ง โคราช สารภาพไม่มอี าชพี เป็นหลกั แหล่ง อาศยั ลกั เล็กขโมยน้อยไปเรอ่ื ยๆ พบประวตั เิ คยตดิ คุกคดลี กั ทรพั ย์ กอ่ นหนั มา ใชส้ อ่ื ออนไลน์ยอดฮติ ลวงเดก็ สาว ม.1 และ ม.2 ไปเสพสขุ ล่าสดุ มผี ูเ้ สยี หาย 3 คน รอ้ งทกุ ขด์ ูโฉมหน้าคนรา้ ย ตารวจคาด ยงั มอี กี หลายรายทยี่ งั ไมก่ ลา้ แจง้ ความ ภยั รา้ ยจากการเลน่ เฟซบ๊กุ นักเรยี นหญงิ ถกู หนุ่มภยั สงั คมลอ่ ลวงไปขม่ ขนื กอ่ นถา่ ยรปู ไวแ้ บลก็ เมลรายน้เี ปิดเผย เม่อื เวลา 10.00 น. วนั ที่ 15 ธ.ค. 54 ทหี่ อ้ งประชมุ สานกั ตารวจภธู รภาค 3 (บช.ภ.3) อ.เมอื งนครราชสมี า พล.ต.ท.ภาณุ เกดิ ลาภผล ผบช.ภ.3 นายชวน ศริ นิ นั ทพ์ ร ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั นครราชสมี า พล.ต.ต.กรกต สารยิ า พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม รองผบช.ภ.3 พ.ต.อ.ผดุงเกยี รติ ศริ พิ รววิ ฒั น์ ผกก.สภ.เมอื งนครราชสมี า พ.ต.ท.ภมู ทิ องโพธิ์ สว.สส.สภ.เมอื ง ร่วมกนั แถลงจบั กมุ นายวมิ ล ศรดี า อายุ 37 ปี อยู่บา้ นเลขที่ 257/32 ถนนระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมอื ง จ.ภเู กต็ ผูต้ ้องหาตามหมายจบั ศาลจงั หวดั นครราชสมี าท่ี จ.358/2554 ลงวนั ที่ 14 ธ.ค.54 ในขอ้ หากระทาชาเราเดก็ อายุ ไม่เกนิ 15 ปี ซ่งึ ไมใ่ ชภ่ รรยา โดยเดก็ นนั้ ยนิ ยอมหรอื ไมก่ ต็ าม พาบคุ คลอายุยงั ไมเกนิ 15 ปี เพ่อื อนาจารและโดย ปราศจากเหตอุ นั ควร พรากเดก็ ยงั ไมเ่ กนิ อายุ 15 ปี ไปเสยี จากบดิ ามารดา ผูป้ กครองหรอื ผูด้ แู ล โดยสามารถตดิ ตาม จบั กมุ ผูต้ ้องหาไดท้ หี่ น้าโรงแรมศรรี ตั น์ ถนนสรุ นารี เขตเทศบาลนครราชสมี า พรอ้ มยดึ ของกลางคอมพวิ เตอรโ์ น้ตบุ๊ก 1 เคร่อื ง และโทรศพั ท์มอื ถอื 1 เคร่อื ง สบื เน่อื งจากพนกั งานสอบสวน สภ.เมอื งนครราชสมี า ไดร้ บั การรอ้ งเรยี นจากครอู าจารยแ์ ละผูป้ กครองเดก็ นักเรยี น หญงิ อายรุ ะหวา่ ง 12-15 ปี หลายรายว่า บตุ รสาวไดเ้ ลน่ เฟซบกุ๊ ทางอนิ เตอรเ์ น็ต และถกู ผูช้ ายลอ่ ลวงไปข่มขนื ก่อนถ่าย วดิ โี อไวแ้ บลก็ เมลข่บู งั คบั ใหไ้ ปหลบั นอนดว้ ยอกี หลายครงั้ ทาใหเ้ หยอ่ื นกั เรยี นสาวไมอ่ ยากไปโรงเรยี นจนมอี าการซมึ เศรา้ หลงั รบั เร่อื งเจา้ หนา้ ทต่ี ารวจไดต้ รวจสอบพบว่า คนรา้ ยไดใ้ ชช้ อ่ื ในเฟซบุ๊กว่า “แคน สดี า” และ “นักรบแดนใต้” กอ่ นทราบ ช่อื วา่ นายวมิ ล ศรดี า ซง่ึ เคยมปี ระวตั จิ าคกุ ในคดเี กย่ี วกบั ทรพั ยท์ ศ่ี าลจงั หวัดพจิ ติ ร และมหี มายจบั ของศาลจงั หวดั มนี บุรี ในขอ้ หาลกั ทรพั ย์ พนกั งานสอบสวนจงึ รวบรวมพยานหลกั ฐานขออนุมตั หิ มายจบั และรวบตวั ไดด้ งั กลา่ ว สอบสวนนายวมิ ลใหก้ ารรบั สารภาพวา่ ไม่มอี าชพี อะไรเป็นหลกั แหล่ง ลกั เลก็ ขโมยนอ้ ยไปเรอ่ื ย กอ่ นอาศยั ช่องทาง เฟซบุ๊กตดิ ตอ่ ส่อื สารกบั เดก็ สาววยั รนุ่ แลว้ โทรศพั ทน์ ัดพบตามสถานทต่ี ่างๆ พรอ้ มกบั กระทาการลว่ งละเมดิ ทางเพศ แลว้ ถ่ายคลปิ วดิ โี อไวแ้ บลก็ เมล หากเดก็ ไมย่ อมมาพบกจ็ ะขเู่ อาคลปิ ดงั กล่าวไปเผยแพร่ประจานโดยทามาแลว้ หลายราย อยา่ งไรกต็ ามในชนั้ สอบสวนของตารวจมเี ดก็ นกั เรยี นหญงิ ผูเ้ สยี หายมาชต้ี วั ผูต้ อ้ งหาแลว้ 3 ราย ทงั้ หมดเรยี นอยูช่ นั้ ม.1 และ ม.2 และหน่ึงในผูเ้ สยี หายถกู นายวมิ ลถ่ายคลปิ ไวข้ ่มขดู่ ว้ ย ดา้ นนายชวน ศริ นิ ันทพ์ ร ผูว้ า่ ราชการจงั หวดั นครราชสมี า กลา่ ววา่ คดนี ้ถี อื ว่าเป็นเรอ่ื งสาคญั ทเี่ กดิ จากอนั ตราย การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ตดิ ต่อส่อื สาร โดยเฉพาะเฟซบกุ๊ ทกี่ าลงั เป็นทน่ี ิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ แต่กลบั มคี นนามาใช้ ลอ่ ลวงเดก็ หญงิ ไปทามดิ มี ริ า้ ย บางรายถูกเรยี กเอาทรพั ยส์ นิ ดว้ ย เทา่ ทท่ี ราบเบอ้ื งต้นมผี ูเ้ สยี หายมาแจง้ ไว้ 3 ราย แตต่ ารวจเชอ่ื วา่ ยงั มเี ดก็ ตกเป็นเหย่อื อกี หลายรายทยี่ งั ไม่กลา้ มาแจง้ ความ ขณะน้อี ยรู่ ะหว่างสอบสวนขยายผลตอ่ ไป ทีม่ า : หนงั สอื พมิ พไ์ ทยรฐั ฉบบั วนั ที่11 ธนั วาคม 2554. 325 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพอื่ การส่ือสาร 2 เร่ืองที่ 1 การเขียนอธิบาย ชี้แจง โต้แย้ง แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 326 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพ่อื การส่ือสาร 2 แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 1 การเขียนอธบิ าย ชี้แจง โต้แย้ง แสดงความคิดเห็นอย่างมเี หตผุ ล  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 327 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพอ่ื การส่ือสาร 2 เรื่องที่ 2 การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งสื่อ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเหน็ 1 ชวั่ โมง หรือโต้แยง้ สื่อ (1) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาบทโฆษณา ตอ้ งสามารถเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ย้ง บทโฆษณาได้ 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/7 เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โต้แยง้ ในเร่อื งตา่ งๆ 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ยง้ ในเร่อื งต่างๆ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง  การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ยง้ จากสอ่ื ตา่ งๆ เชน่ - บทโฆษณา 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความคดิ เหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4. มุง่ มนั่ ในการทางาน 328 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นเพือ่ การส่ือสาร 2 เรื่องที่ 2 การเขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรือโต้แย้งสื่อ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครนู าตวั อยา่ งโฆษณาสนิ คา้ ตา่ งๆ จากหนงั สอื พมิ พ์ มาใหน้ ักเรยี นดู 2. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั การเขยี นตวั อย่างโฆษณา จากนนั้ ครซู กั ถามนักเรยี นเพอ่ื ทบทวน ความรูเ้ รอ่ื ง การเขยี นโฆษณา ทน่ี กั เรยี นเคยเรยี นไปแลว้ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรียนคิดว่า โฆษณาที่ครนู ามาให้ดใู ช้ภาษาโน้มน้าวใจผอู้ ่านอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 4. นักเรยี นรวมกลุม่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ยง้ จากหนงั สอื เรยี น 5. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • ผทู้ ี่จะเขยี นโต้แยง้ ได้ดี ควรมคี ณุ สมบตั ิอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 6. ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมาอธบิ ายหลกั การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และโตแ้ ยง้ 7 การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ วิธีการ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ และมุ่งมนั่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ตวั อย่างโฆษณาสนิ คา้ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — 329 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพอ่ื การส่ือสาร 2 เร่ืองท่ี 2 การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ ความคดิ เห็น หรือโต้แย้งสื่อ เอกสารประกอบการสอน ตวั อยา่ งโฆษณาสินคา้ 330 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่ือการสื่อสาร 2 แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองที่ 2 การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคดิ เห็น หรือโต้แย้งส่ือ  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 331 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพอ่ื การส่ือสาร 2 เรื่องที่ 2 การเขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งสื่อ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเหน็ 1 ชวั่ โมง หรือโต้แยง้ สื่อ (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาบทโฆษณา ตอ้ งสามารถเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ย้ง บทโฆษณาได้ 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/7 เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โต้แยง้ ในเร่อื งตา่ งๆ 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ยง้ ในเร่อื งต่างๆ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง  การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ยง้ จากสอ่ื ตา่ งๆ เชน่ - บทโฆษณา 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความคดิ เหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4. มุง่ มนั่ ในการทางาน 332 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขยี นเพอ่ื การสื่อสาร 2 เร่ืองที่ 2 การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งสื่อ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายความรเู้ รอ่ื ง หลกั การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ยง้ ส่อื ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ ในชวั่ โมงทแ่ี ลว้ 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การเขียนโฆษณาไม่ให้ผ้อู ื่นโต้แย้งได้ ควรเขียนอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 3. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ทาใบงานที่ 6.2 เรือ่ ง การเขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แยง้ บทโฆษณา เม่อื ทาใบงานเสรจ็ แลว้ ใหน้ าสง่ ครู 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรียนคิดวา่ บทโฆษณาสินค้าท่ีถกู โต้แย้งจะเป็นผลดีหรือผลเสียต่อสินค้าอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 5. ครูตรวจใบงานท่ี 6.2 พรอ้ มทงั้ ใหข้ อ้ เสนอแนะกบั นักเรยี นเป็นรายกลุ่ม 7 การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์ ใบงานท่ี 6.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 6.2 แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน 8 ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ - ใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื ง การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และโตแ้ ยง้ บทโฆษณา 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — 333 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่ือการสื่อสาร 2 เร่ืองที่ 2 การเขยี นวิเคราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งสื่อ ใบงานท่ี 6.2 การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แยง้ บทโฆษณา คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอา่ นบทโฆษณาตอ่ ไปน้ี แลว้ เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และโตแ้ ยง้ ใหถ้ ูกตอ้ งตาม หลกั การเขยี น 334 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพอื่ การส่ือสาร 2 เร่ืองท่ี 2 การเขยี นวิเคราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเหน็ หรือโต้แย้งสื่อ ใบงานท่ี 6.2 การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แย้งบทโฆษณา คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอา่ นบทโฆษณาต่อไปน้ี แลว้ เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และโตแ้ ยง้ ใหถ้ ูกตอ้ งตาม หลกั การเขยี น (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 335 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่ือการสื่อสาร 2 แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองที่ 2 การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคดิ เห็น หรือโต้แย้งส่ือ  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 336 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร 2 1 ชวั่ โมง เรื่องท่ี 3 การเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 การเขียนรายงาน การศึกษาค้นคว้า (1) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ตอ้ งมคี วามรเู้ ร่อื ง หลกั การเขยี น และองคป์ ระกอบของรายงาน การศกึ ษาคน้ ควา้ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/9 เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และโครงงาน 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง  การเขยี นรายงาน ไดแ้ ก่ - การเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้ 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน 337 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขยี นเพ่อื การส่ือสาร 2 เรื่องท่ี 3 การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรยี นรวมกล่มุ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) แลว้ ให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกนั พจิ ารณาเร่อื งท่ี กลมุ่ มคี วามสนใจอยากรอู้ ยากเรยี น และตอ้ งการคน้ หาคาตอบ 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • เพราะเหตใุ ด กล่มุ ของนักเรียนจึงเลือกและสนใจเรื่องดงั กล่าว (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรูเ้ ร่อื ง การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ จากหนงั สอื เรยี น แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาลงในแบบบนั ทกึ การอา่ น 4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายและสรปุ ความรู้ แลว้ ทาใบงานที่ 6.3 เร่ือง หลกั การเขยี นรายงาน การศึกษาคน้ คว้า เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ นาสง่ ครูตรวจ 5. สมาชกิ ในแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั วางแผนดาเนินการศกึ ษาคน้ ควา้ เรอ่ื งทส่ี มาชกิ กลมุ่ มคี วามสนใจอยากรู้ อยากเรยี น และตอ้ งการคน้ หาคาตอบร่วมกนั 6. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การท่ีนักเรียนจะเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าได้ถกู ต้อง นกั เรยี นต้องมคี วามรเู้ รื่องใดบ้าง (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 7 การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 6.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 6.3 แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ใบงานท่ี 6.3 เร่อื ง หลกั การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ — 338 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพอ่ื การสื่อสาร 2 เรื่องที่ 3 การเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า ใบงานที่ 6.3 หลกั การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามทก่ี าหนดใหถ้ ูกตอ้ ง 1. การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ มลี กั ษณะอยา่ งไร 2. การเลอื กเรอ่ื งในการเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ มหี ลกั ในการเลอื กอยา่ งไร 3. การวางโครงเรอ่ื งรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ มแี นวทางในการเขยี นอย่างไร 4. การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ มสี ่วนประกอบใดบา้ ง จงอธบิ าย 339 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพอ่ื การสื่อสาร 2 เรื่องท่ี 3 การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า ใบงานท่ี 6.3 หลกั การเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามทก่ี าหนดใหถ้ กู ตอ้ ง 1. การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ มลี กั ษณะอยา่ งไร 2. การเลอื กเรอ่ื งในการเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ มหี ลกั ในการเลอื กอยา่ งไร 3. การวางโครงเร่อื งรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ มแี นวทางในการเขยี นอย่างไร 4. การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ มสี ่วนประกอบใดบา้ ง จงอธบิ าย (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 340 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นเพ่ือการสื่อสาร 2 แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 3 การเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 341 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร 2 1 ชวั่ โมง เรื่องท่ี 3 การเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 การเขียนรายงาน การศึกษาค้นคว้า (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ตอ้ งมคี วามรเู้ ร่อื ง หลกั การเขยี น และองคป์ ระกอบของรายงาน การศกึ ษาคน้ ควา้ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/9 เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และโครงงาน 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง  การเขยี นรายงาน ไดแ้ ก่ - การเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้ 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน 342 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพือ่ การส่ือสาร 2 เรื่องท่ี 3 การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เมอ่ื สมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วางแผนดาเนินการศกึ ษาคน้ ควา้ เรอ่ื งทส่ี มาชกิ กลมุ่ มคี วามสนใจอยากรู้ อยากเรยี น และตอ้ งการคน้ หาคาตอบร่วมกนั เสรจ็ แลว้ ใหด้ าเนนิ การศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยวธิ กี ารท่ี หลากหลาย 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรยี นคิดวา่ ความร้ทู ่ีเหมาะสมกบั เร่อื งที่นักเรยี นจะทารายงานการศึกษาค้นควา้ ควรมลี กั ษณะอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 3. นกั เรยี นแต่ละคนนาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ มาแลกเปลย่ี นความรกู้ นั ภายในกลมุ่ อภปิ รายผล และสงั เคราะหค์ วามรู้ 4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรปุ ผลงานของกล่มุ ตนเอง แลว้ ประเมนิ ผลงานว่า ขอ้ มูลทไ่ี ดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ มคี วาม เหมาะสมเพยี งใด โดยการตรวจสอบแนวคดิ ภายในกลมุ่ ของตนเองอย่างอสิ ระ 5. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ องคค์ วามรใู้ นภาพรวมของปัญหา 6. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรยี นคิดว่า การตรวจสอบแนวคิดของกลุม่ ตนเองอย่างอิสระเป็นผลดีหรือผลเสียอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 7. นกั เรยี นนาขอ้ มูลทไ่ี ดม้ าจดั ระบบองคค์ วามรแู้ ละนาเสนอในรูปแบบของการเขยี นรายงานการศกึ ษา คน้ ควา้ 8. นกั เรยี นทุกคนและผเู้ กย่ี วขอ้ งกบั ปัญหาร่วมกนั ประเมนิ ผลงานและประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั 7 การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ วิธีการ แบบประเมนิ การเขยี นรายงานการศกึ ษา ตรวจการเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ คน้ ควา้ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และมุ่งมนั่ ในการทางาน 343 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่อื การส่ือสาร 2 เร่ืองท่ี 3 การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า 8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ — 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.tice.ac.th/Online/Online2-2549/bussiness/nantapon/n5.htm - http://www.ki.ac.th/2552/stproject/report_format.pdf 344 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพอื่ การส่ือสาร 2 เรื่องท่ี 3 การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า แบบประเมิน การเขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ของนกั เรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ถกู ต้องตาม มีองคป์ ระกอบ การใช้ภาษา ความถกู ต้อง รวม ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน รปู แบบ ของข้อมลู 16 ครบถว้ น ในการเขียน คะแนน 4321432143214321 ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ กู ต้อง ปฏบิ ตั มิ ีขอ้ บกพรอ่ งเลก็ น้อย ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั มิ ขี อ้ บกพร่องปานกลาง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั มิ ขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 2 คะแนน 14 - 16 ดมี าก ให้ 1 คะแนน 11 - 13 ดี 345 8 - 10 พอใช้ หลกั ภาษาฯ ม.3 ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นเพ่ือการสื่อสาร 2 แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 3 การเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 346 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพือ่ การสื่อสาร 2 เรื่องท่ี 4 การเขียนรายงานโครงงาน แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 6 การเขียนรายงานโครงงาน (1) 1 ชวั่ โมง 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นรายงานโครงงาน ตอ้ งมคี วามรเู้ ร่อื ง หลกั การเขยี น และองคป์ ระกอบของรายงานโครงงาน 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/9 เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และโครงงาน 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - เขยี นรายงานโครงงานได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง  การเขยี นรายงาน ไดแ้ ก่ - การเขยี นรายงานโครงงาน 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน 347 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขยี นเพอื่ การสื่อสาร 2 เร่ืองท่ี 4 การเขียนรายงานโครงงาน 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) แลว้ ให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ยกตวั อยา่ งเรอ่ื งทเ่ี ป็น ปัญหาในสงั คมซงึ่ กลมุ่ สนใจ 2. ครกู ระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นหาวธิ กี ารแกป้ ัญหา 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรียนคิดว่า ปัญหาท่ีเกิดขน้ึ ในสงั คมควรให้ใครเป็นผแู้ กไ้ ข (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 4. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การเขยี นโครงงาน จากหนังสอื เรยี น 5. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ กาหนดจุดมงุ่ หมายใหช้ ดั เจนว่าจะศกึ ษาเรอ่ื งทน่ี กั เรยี นสนใจนนั้ เพอ่ื อะไร จะทาโครงงานเพอ่ื แกป้ ัญหาอะไร 6. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • รายงานโครงงานมีความเหมือนและความแตกต่างจากรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 7. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ วางแผนแกป้ ัญหา แลว้ นาเสนอแผนการดาเนินงาน 8. ครูพจิ ารณาและใหค้ าแนะนาการวางแผนดาเนนิ งานโครงงานของนกั เรยี น 9. นักเรยี นเขยี นโครงงานตามองคป์ ระกอบของโครงงานและตามแผนการดาเนนิ งาน 10. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การวางแผนปฏิบตั ิงานเป็นผลดีต่อผ้ปู ฏิบตั ิอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 11. นักเรยี นลงมอื ปฏบิ ตั หิ รอื แก้ปัญหาตามแผนการทก่ี าหนดไว้ 12. ครูใหค้ าแนะนาใหน้ กั เรยี นรจู้ กั สงั เกต เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู บนั ทกึ ผลดาเนนิ การดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ 13. นักเรยี นประชมุ อภปิ ราย ปรกึ ษาหารอื กนั เป็นระยะๆ วางแผนและตดั สนิ ใจทาดว้ ยตนเอง 14. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรียนคิดวา่ ขอ้ มลู ที่ได้จากแหล่งใดมคี วามถกู ต้องมากที่สุด เพราะเหตุใด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 7 การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ และม่งุ มนั่ ในการทางาน 348 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นเพ่อื การส่ือสาร 2 เร่ืองที่ 4 การเขียนรายงานโครงงาน 8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ - หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง 2) หอ้ งสมดุ 3) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - http://library.uru.ac.th/article/htmlfile/technic_project.pdf - http://www.bpcd.net/new_subject/library/research/document/sopida/research/ku/develop/ 07.pdf 349 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพอื่ การสื่อสาร 2 แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 4 การเขยี นรายงานโครงงาน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 350 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพือ่ การสื่อสาร 2 เรื่องท่ี 4 การเขียนรายงานโครงงาน แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 7 การเขียนรายงานโครงงาน (2) 1 ชวั่ โมง 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นรายงานโครงงาน ตอ้ งมคี วามรเู้ ร่อื ง หลกั การเขยี น และองคป์ ระกอบของรายงานโครงงาน 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/9 เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และโครงงาน 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - เขยี นรายงานโครงงานได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง  การเขยี นรายงาน ไดแ้ ก่ - การเขยี นรายงานโครงงาน 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน 351 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่อื การส่ือสาร 2 เร่ืองที่ 4 การเขียนรายงานโครงงาน 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั การปฏบิ ตั ติ ามแผนการโครงงานทว่ี างไว้ แลว้ ใหน้ ักเรยี นประเมนิ ผล ก่อนดาเนนิ การ ระหวา่ งดาเนนิ การ และหลงั ดาเนินการ 2. นกั เรยี นพจิ ารณาขอ้ บกพรอ่ งเพอ่ื ปรบั ปรุงแกไ้ ข 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การประเมินผลกอ่ นดาเนินการ ระหว่างดาเนินการ และหลงั ดาเนินการ เป็นผลดีอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 4. นักเรยี นวเิ คราะหข์ อ้ มูล สรปุ และเขยี นรายงานเพ่อื นาเสนอผลงาน 5. ครูตรวจประเมนิ ผลการเขยี นรายงานโครงงานของนกั เรยี น 6. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6  ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ จดั นิทรรศการ แสดงผลงานการเขียนเพอ่ื การสื่อสาร ซ่ึงประกอบด้วยการ เขียนอธิบาย ชี้แจง แสดงความคิดเหน็ และโต้แยง้ อย่างมีเหตุผล การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเหน็ หรอื โต้แยง้ ส่ือโฆษณา การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและรายงานโครงงาน โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) การเขยี นอธบิ าย ชแ้ี จง แสดงความคดิ เหน็ และโตแ้ ย้งอย่างมเี หตุผล 2) การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โต้แยง้ ในเรอื่ งตา่ งๆ 3) การเขยี นรายงานการศกึ ษาค้นควา้ 4) การเขยี นรายงานโครงงาน 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจการเขยี นรายงานโครงงาน แบบประเมนิ การเขยี นรายงานโครงงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และม่งุ มนั่ ในการทางาน ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 6 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 6 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจนิทรรศการ แสดงผลงานการเขยี น แบบประเมนิ นิทรรศการ แสดงผลงานการ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ เพ่อื การสอ่ื สาร เขยี นเพอ่ื การส่อื สาร 352 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพอื่ การสื่อสาร 2 เรื่องท่ี 4 การเขียนรายงานโครงงาน 8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ — 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ — 353 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขยี นเพอื่ การสื่อสาร 2 เรื่องท่ี 4 การเขียนรายงานโครงงาน การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินนิทรรศการ แสดงผลงานการเขยี นเพือ่ การส่ือสาร ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 432 1 การเขยี นอธบิ าย ชแ้ี จง แสดงความคดิ เหน็ และโตแ้ ยง้ อยา่ งมเี หตผุ ล 2 การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ย้งในเรอ่ื งตา่ งๆ 3 การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ 4 การเขยี นรายงานโครงงาน รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 14 - 16 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 11 - 13 ดี ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 8 - 10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ 354 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร 2 เร่ืองที่ 4 การเขียนรายงานโครงงาน แบบประเมิน การเขยี นรายงานโครงงาน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการเขยี นรายงานโครงงานของนักเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ ถกู ต้องตาม มอี งคป์ ระกอบ การใช้ภาษา ความถกู ต้อง รวม ที่ ของผ้รู บั การประเมิน รปู แบบ ของข้อมลู 16 ครบถ้วน ในการเขยี น คะแนน 4321432143214321 ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ กู ต้อง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั มิ ีขอ้ บกพรอ่ งเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั มิ ีขอ้ บกพร่องปานกลาง ให้ 2 คะแนน 14 - 16 ดมี าก ปฏบิ ตั มิ ีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 11 - 13 ดี 355 8 - 10 พอใช้ หลกั ภาษาฯ ม.3 ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพอื่ การสื่อสาร 2 แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 4 การเขยี นรายงานโครงงาน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 356 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนเพือ่ การส่ือสาร 2 เรื่องที่ 4 การเขยี นรายงานโครงงาน ชอ่ื หนังสอื ราคา ช่อื ผูแ้ ตง่ แบบบนั ทึกการอ่าน สานกั พมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์ จานวนหน้า บาท อ่านวนั ท่ี เดอื น นามปากกา ปีทพี่ มิ พ์ พ.ศ. เวลา 1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง 2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื งทอ่ี า่ น 3. สง่ิ ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 4. ขอ้ เสนอแนะของครู ลงช่อื นกั เรยี น ลงช่อื ผปู้ กครอง ( )( ) ลงชอ่ื ครผู สู้ อน () เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานมขี ้อบกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีความสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพร่องเพยี งเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 357 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร 2 เร่ืองที่ 4 การเขยี นรายงานโครงงาน แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ 358 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นเพอ่ื การสื่อสาร 2 เร่ืองที่ 4 การเขยี นรายงานโครงงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความมีวินัย ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน เอื้อเฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20 เสียสละ คะแนน 43214321432143214321 ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ 359 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพอื่ การสื่อสาร 2 เรื่องที่ 4 การเขียนรายงานโครงงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ช่อื กลมุ่ ชนั้ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบ่งหนา้ ทก่ี นั อย่างเหมาะสม 2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 360 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นเพอื่ การสื่อสาร 2 เร่ืองท่ี 4 การเขียนรายงานโครงงาน แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย ของเพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องพลเมอื งดี 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและ 3. มวี ินยั ชมุ ชน รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี 4. ใฝ่เรยี นรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ช่นื ชมความ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง เป็นชาตไิ ทย 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา อย่างสมา่ เสมอ เป็นแบบอย่างทดี่ ขี องศาสนกิ ชน 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณียกิจ พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถี่ กู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผูป้ กครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง ทด่ี ดี า้ นความซอ่ื สตั ย์ 2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผูอ้ ่นื ดว้ ยความซ่อื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ต้อง และเป็นแบบอย่างทด่ี แี ก่เพ่อื นดา้ นความซ่อื สตั ย์ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผูอ้ น่ื ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดูแล อย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 361 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพอื่ การสื่อสาร 2 เร่ืองที่ 4 การเขยี นรายงานโครงงาน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เม่อื ผอู้ น่ื 6. มุ่งมนั่ ในการ กระทาผดิ พลาด ทางาน 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน 7. รกั ความเป็นไทย ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รูเ้ ทา่ ทนั การเปลยี่ นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รูจ้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ช่วยทา และแบ่งปันสง่ิ ของ และช่วยแกป้ ัญหา ใหผ้ ูอ้ น่ื 8.3 ดูแล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชุมชน ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากว่า 54 ปรบั ปรงุ 362 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพื่อการส่ือสาร 2 เร่ืองที่ 4 การเขยี นรายงานโครงงาน แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนรู้ ตอนท่ี 1 นกั เรยี นมคี วามรูค้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ตอ่ ไปน้ี ท 2.1 (ม.3/6, ม.3/7, ม.3/9)  ดา้ นความรู้ (จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้  ระดบั คณุ ภาพดมี าก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คุณภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คณุ ภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คณุ ภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 363 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร 2 เรื่องที่ 4 การเขยี นรายงานโครงงาน ตอนที่ 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนกั เรียนเพอ่ื เตรียมความพรอ้ มรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก รอ้ ยละ ระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน (ด้านคณุ ภาพผ้เู รยี น) มาตรฐานที่ 1 ผ้เู รียนมสี ุขภาวะทดี่ แี ละมสี ุนทรียภาพ 1.1 มสี ขุ นิสยั ในการดแู ลสขุ ภาพและออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1.2 มนี ้าหนัก ส่วนสูง และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐาน 1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลยี่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งต่อความรุนแรง โรค ภยั อุบตั เิ หตุ และปัญหาทางเพศ 1.4 เหน็ คณุ คา่ ในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม 1.5 มมี นุษยสมั พนั ธ์ทดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่ 1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นาฏศลิ ป์ กฬี า/นันทนาการตามจนิ ตนาการ มาตรฐานที่ 2 ผ้เู รียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทีพ่ งึ ประสงค์ 2.1 มคี ุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ตามหลกั สูตร 2.2 เอ้อื อาทรผอู้ นื่ และกตญั ญกู ตเวทตี ่อผมู้ พี ระคณุ 2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกตา่ ง 2.4 ตระหนัก รคู้ ุณค่า ร่วมอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 3 ผเู้ รยี นมีทกั ษะในการแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง รกั เรยี นรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง 3.1 มนี สิ ยั รกั การอา่ นและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมดุ แหล่งเรยี นรู้ และสอื่ ต่างๆ รอบตวั 3.2 มที กั ษะในการอ่าน ฟัง ดู พดู เขยี น และตงั้ คาถามเพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ 3.3 เรยี นรรู้ ว่ มกนั เป็นกลุม่ แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรู้ระหวา่ งกนั 3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน มาตรฐานที่ 4 ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสรา้ งสรรค์ ตดั สินใจแกป้ ัญหา ไดอ้ ย่างมสี ติสมเหตสุ มผล 4.1 สรปุ ความคดิ จากเรอื่ งทอี่ า่ น ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพูดหรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง 4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี ก้ปัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง 4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาโดยมเี หตุผลประกอบ 4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภมู ใิ จ มาตรฐานที่ 5 ผเู้ รยี นมีความรแู้ ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สตู ร 5.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเฉลยี่ แต่ละกลมุ่ สาระเป็นไปตามเกณฑ์ 5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สูตรเป็นไปตามเกณฑ์ 5.3 ผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์ 5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานที่ 6 ผ้เู รียนมที กั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานรว่ มกบั ผ้อู นื่ ได้ และมเี จตคติทีด่ ี ต่ออาชีพสจุ ริต 6.1 วางแผนการทางานและดาเนินการจนสาเรจ็ 6.2 ทางานอยา่ งมคี วามสุข มุง่ มนั่ พฒั นางาน และภมู ใิ จในผลงานของตนเอง 6.3 ทางานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ 6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี ่ออาชพี สุจรติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ 364 หลกั ภาษาฯ ม.3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook