แผนจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ม.3 เล่ม 1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การอ่านวนิ จิ สาร เรื่องท่ี 5 การแสดงความคดิ เห็นโต้แย้ง แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความตงั้ ใจ ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ที่ ของผ้รู บั การประเมิน ในการทางาน รบั ผิดชอบ เวลา เรียบรอ้ ย ของงาน 20 คะแนน 43214321432143214321 ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 205 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การอ่านวินิจสาร เร่ืองที่ 5 การแสดงความคิดเหน็ โต้แย้ง แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตงั้ ใจ การแกไ้ ข รวม ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน รว่ มมือกนั ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปัญหา/หรอื 20 ทากิจกรรม ปรบั ปรงุ คะแนน ผลงานกลุ่ม 4321 432 1 43 2 14321 432 1 ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ 206 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การอ่านวินจิ สาร เรื่องที่ 5 การแสดงความคิดเหน็ โต้แย้ง แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย ของเพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องพลเมอื งดี 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและ 3. มวี ินยั ชมุ ชน รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทสี่ ร้างความสามคั คี 4. ใฝ่เรยี นรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ช่นื ชมความ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง เป็นชาตไิ ทย 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา อย่างสมา่ เสมอ เป็นแบบอย่างทด่ี ขี องศาสนิกชน 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทีโ่ รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณยี กิจ พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ต้อง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะกระทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทตี่ นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผูป้ กครอง และครู เป็นแบบอย่าง ทดี่ ดี า้ นความซอ่ื สตั ย์ 2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผูอ้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางทไี่ ม่ถูกต้อง และเป็นแบบอยา่ งทด่ี แี กเ่ พอ่ื นดา้ นความซ่อื สตั ย์ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผูอ้ ่นื ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ล อย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 207 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การอ่านวินิจสาร เรื่องท่ี 5 การแสดงความคิดเห็นโต้แย้ง คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ ูอ้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เม่อื ผอู้ ่ืน 6. มุง่ มนั่ ในการ กระทาผดิ พลาด ทางาน 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน 7. รกั ความเป็นไทย ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รูเ้ ทา่ ทนั การเปลยี่ นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั อยรู่ ่วมกบั ผูอ้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รูจ้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสง่ิ ของ และชว่ ยแกป้ ัญหา ใหผ้ ูอ้ ่นื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชุมชน ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 208 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การอ่านวินจิ สาร เร่ืองที่ 5 การแสดงความคดิ เห็นโต้แย้ง แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรยี นรู้ ตอนท่ี 1 นกั เรยี นมคี วามรูค้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ต่อไปน้ี ท 1.1 (ม.3/2-ม.3/8)  ดา้ นความรู้ (จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้  ระดบั คุณภาพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คณุ ภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คุณภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 209 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การอ่านวนิ จิ สาร เรื่องที่ 5 การแสดงความคดิ เห็นโต้แย้ง ตอนที่ 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนกั เรยี นเพอื่ เตรยี มความพรอ้ มรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก รอ้ ยละ ระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน (ดา้ นคณุ ภาพผ้เู รียน) มาตรฐานที่ 1 ผ้เู รียนมีสขุ ภาวะทดี่ แี ละมสี ุนทรยี ภาพ 1.1 มสี ขุ นสิ ยั ในการดแู ลสขุ ภาพและออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1.2 มนี ้าหนกั ส่วนสงู และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐาน 1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลีย่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งต่อความรุนแรง โรค ภยั อุบตั เิ หตุ และปัญหาทางเพศ 1.4 เหน็ คณุ คา่ ในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอย่างเหมาะสม 1.5 มมี นุษยสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่ 1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นาฏศลิ ป์ กฬี า/นันทนาการตามจนิ ตนาการ มาตรฐานที่ 2 ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ ึงประสงค์ 2.1 มคี ุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ตามหลกั สตู ร 2.2 เออ้ื อาทรผอู้ นื่ และกตญั ญกู ตเวทตี อ่ ผมู้ พี ระคณุ 2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกตา่ ง 2.4 ตระหนกั รคู้ ุณคา่ ร่วมอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาสิง่ แวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 3 ผเู้ รียนมที กั ษะในการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง รกั เรยี นรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง 3.1 มนี ิสยั รกั การอ่านและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมุด แหล่งเรยี นรู้ และสอื่ ต่างๆ รอบตวั 3.2 มที กั ษะในการอา่ น ฟัง ดู พดู เขยี น และตงั้ คาถามเพือ่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ 3.3 เรยี นรรู้ ่วมกนั เป็นกลุม่ แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรูร้ ะหวา่ งกนั 3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน มาตรฐานที่ 4 ผ้เู รยี นมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตดั สินใจแกป้ ัญหา ไดอ้ ย่างมีสติสมเหตุสมผล 4.1 สรุปความคดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพดู หรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง 4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี กป้ ัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง 4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาโดยมเี หตุผลประกอบ 4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภมู ใิ จ มาตรฐานที่ 5 ผเู้ รยี นมคี วามร้แู ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สูตร 5.1 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นเฉลยี่ แต่ละกล่มุ สาระเป็นไปตามเกณฑ์ 5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สูตรเป็นไปตามเกณฑ์ 5.3 ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์ 5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานที่ 6 ผ้เู รียนมีทกั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานรว่ มกบั ผ้อู นื่ ได้ และมเี จตคติทีด่ ี ต่ออาชีพสุจริต 6.1 วางแผนการทางานและดาเนินการจนสาเรจ็ 6.2 ทางานอยา่ งมคี วามสุข มุง่ มนั่ พฒั นางาน และภูมิใจในผลงานของตนเอง 6.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้ 6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี ่ออาชพี สุจรติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ 210 หลกั ภาษาฯ ม.3

4หน่วยการเรียนรู้ท่ี การคดั ลายมือ 2เวลา ชวั่ โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ท 2.1 ม.3/1 คดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การคดั ลายมอื ทถ่ี ูกตอ้ ง จะตอ้ งคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - การคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสงั เกต 2) ทกั ษะการประเมนิ 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั บทอาขยาน 211 หลกั ภาษาฯ ม.3

7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง การคดั ลายมอื 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง ความรเู้ กยี่ วกบั การคดั ลายมอื 2) ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน 3) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 4) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 5) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 6) สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การคดั ลายมอื 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจผลงานการคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั บทอาขยาน 8 กิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 212 หลกั ภาษาฯ ม.3

เรือ่ งท่ี 1 การคดั ลายมือ 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั ประโยชน์ของการคดั ลายมอื จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั เสนอชอ่ื เพ่อื นใน ชนั้ เรยี นทม่ี ลี ายมอื สวยงาม เพ่อื ออกมาเล่าถงึ วธิ กี ารฝึกคดั ลายมอื ใหเ้ พอ่ื นฟัง ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นหา (Explore) นักเรยี นศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง การคดั ลายมอื จากหนงั สอื เรยี น ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการคดั ลายมอื และรูปแบบตวั อกั ษรในการคดั ลายมอื ทเ่ี หมาะสม 2. นักเรยี นทาใบงานท่ี 4.1 เรื่อง ความร้เู ก่ียวกบั การคดั ลายมอื เสรจ็ แลว้ นาส่งครูตรวจ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) ครูแจกตวั อยา่ งขอ้ ความใหน้ กั เรยี นฝึกคดั ลายมอื ตามแนวทางปฏบิ ัตกิ ารคดั ลายมอื ตามทน่ี กั เรยี นไดศ้ กึ ษา ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) ครูประเมนิ ผลการคดั ลายมอื ของนักเรยี น จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั คดั เลอื กผลงานการคดั ลายมอื ทส่ี วยงาม สะอาด เรยี บรอ้ ย เพอ่ื นามาจดั ป้ายนเิ ทศ 5 ผลงาน  ครมู อบหมายให้นกั เรียนแต่ละคนคดั ลายมือตวั บรรจงคร่งึ บรรทดั บทอาขยานในบทเรียน ที่นักเรียนชอบ 1 บท ตามรปู แบบการเขียนตวั อกั ษรไทย โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 213 หลกั ภาษาฯ ม.3

9 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ตวั อย่างขอ้ ความ 3) ใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง ความรเู้ กย่ี วกบั การคดั ลายมอื 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ – 214 หลกั ภาษาฯ ม.3

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินผลงานการคดั ลายมือตวั บรรจงครึ่งบรรทดั บทอาขยาน รายการประเมิน คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน 1. รปู แบบตวั อกั ษร ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) เขยี นถกู ต้องเป็น มขี อ้ บกพร่องในการ มขี อ้ บกพรอ่ งในการ มขี อ้ บกพร่องในการ รูปแบบตวั อกั ษร เขยี นไมเ่ ป็นรปู แบบ เขยี นไม่เป็นรปู แบบ เขยี นไม่เป็นรปู แบบ เดยี วกนั ทุกตวั เดยี วกนั 1-2 ตวั อกั ษร เดยี วกนั 3-4 ตวั อกั ษร เดยี วกนั 5 ตวั อกั ษร ขน้ึ ไป 2. ขนาดตวั อกั ษร ขนาดตวั อกั ษรแตล่ ะ ขนาดตวั อกั ษรแต่ละ ขนาดตวั อกั ษรแต่ละ ตวั เป็นมาตรฐาน ตวั เป็นมาตรฐาน ตวั เป็นมาตรฐาน ขนาดตวั อกั ษรแต่ละ 3. ความถกู ต้อง เดยี วกนั มรี ะยะหา่ ง เดยี วกนั มรี ะยะหา่ ง เดยี วกนั มรี ะยะหา่ ง ตวั เป็นมาตรฐาน ของขอ้ ความ เท่ากนั เท่ากนั เป็นสว่ นใหญ่ เท่ากนั เป็นบางส่วน เดยี วกนั แต่มี ท่ีคดั ระยะห่างไม่เท่ากนั เขยี นสะกดคาได้ เขยี นสะกดคาไม่ เขยี นสะกดคาไม่ เขยี นสะกดคาไม่ ถกู ตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ถกู ตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ถกู ตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ถกู ต้องตามอกั ขรวธิ ี และครบถ้วนไมต่ ก 1-2 ท่ี และเขยี น 3-4 ท่ี และเขยี น มากกวา่ 5 ที่ และ หล่น ครบถ้วน ไมต่ กหลน่ ครบถ้วน ไมต่ กหลน่ เขยี นครบถว้ น ไม่ตกหลน่ 4. ความสะอาดและ สะอาดและมคี วาม สะอาดและมคี วาม ไม่ค่อยสะอาด มคี วาม ไม่คอ่ ยสะอาด มคี วาม เป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย เป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย เป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย ความเป็นระเบยี บ เป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย แตม่ รี อยขดี ฆา่ ขดู ลบ เป็นบางส่วน และมี เป็นบางสว่ น และมี 1-2 ที่ รอยขดี ฆา่ ขดู ลบ รอยขดี ฆา่ ขดู ลบ เรยี บรอ้ ย ไม่มรี อยขดี ฆ่า ขดู ลบ 3-4 ท่ี มากกวา่ 5 ทข่ี น้ึ ไป เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ากว่า 8 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 215 หลกั ภาษาฯ ม.3

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว 1. นายเกง่ เขยี นหนงั สอื ไม่มหี วั ไม่มหี าง ผดิ รปู แบบ 7. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะของตวั อกั ษรบรรจง อกั ษรไทย การเขยี นหนังสอื ของนายเกง่ จะเกดิ ผลเสยี ตอ่ ตนเองอยา่ งไร ก. หวั อกั ษรไม่บอด ก. เขยี นไมส่ วยงาม ข. มขี นาดเป็นมาตรฐานเดยี วกนั ข. สอ่ื สารกบั ผูอ้ น่ื ไม่ได้ ค. ตวั อกั ษรสมั ผสั เสน้ บรรทดั บนและล่าง ค. ไม่เป็นทยี่ อมรบั ของผูอ้ ่นื ง. ตวั อกั ษรเอยี งไปทศิ ทางเดยี วกนั ง. ประเมนิ ค่างานเขยี นของตนเองไม่ได้ 8. ชอ่ งไฟ หมายความว่าอย่างไร ก. ระยะห่างของตวั อกั ษร 2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของการคดั ลายมอื ข. ความกวา้ งของตวั อกั ษร ค. ความสม่าเสมอของตวั อกั ษร ก. ทางานเป็นระเบยี บ ง. การเวน้ วรรคตวั อกั ษรแต่ละตวั ข. เขยี นหนังสอื สวยงาม 9. ตวั อกั ษรประเภทใดทผี่ า่ นการวจิ ยั มาแลว้ ว่า คดั ง่าย ค. ปลกู ฝังความมรี ะเบยี บวนิ ยั ใหต้ นเอง เหมาะสาหรบั เป็นแบบคดั ลายมอื เดก็ ง. ใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ในการประกอบอาชพี ก. แบบอาลกั ษณ์ 3. ลายมอื มคี วามสาคญั อย่างไร ข. แบบรตั นโกสนิ ทร์ ก. แสดงความเป็นชาติ ค. แบบกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. เป็นเกยี รตยิ ศศกั ดศิ์ รขี องลกู ผูช้ าย ง. แบบภาควชิ าประถมศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์ ค. เป็นเคร่อื งมอื ในการถ่ายทอดความรูค้ วามคดิ ง. เป็นเคร่อื งมอื ในการสรา้ งเอกลกั ษณ์ของชาติ มหาวทิ ยาลยั 4. การเขยี นตวั อกั ษรจะต้องเรม่ิ ทสี่ ว่ นใดกอ่ น 10. หากนักเรยี นตอ้ งการใหง้ านเขยี นของตนเองเป็นทสี่ นใจ ก. สว่ นหวั ตวั อกั ษร ข. ส่วนหางตวั อกั ษร ค. ส่วนทเ่ี ป็นเสน้ ตรง ง. เขยี นตามความพอใจ ของบุคคลอน่ื นักเรยี นจะตอ้ งทาอย่างไร 5. อวยั วะในขอ้ ใดไมส่ มั พนั ธ์กบั ลายมอื ก. เขยี นดว้ ยลายมอื ของคนร่นุ ใหม่ ข. เขยี นดว้ ยลายมอื ของตนเองอยา่ งสวยงาม ก. มอื ข. ตา ค. เขยี นใหถ้ ูกตอ้ งตามรปู แบบของตวั อกั ษรไทย ค. น้วิ ง. แขน ง. สารวจความคดิ เหน็ ของผูอ้ า่ นก่อนลงมอื เขยี น 6. ตวั อกั ษรอาลกั ษณ์ มลี กั ษณะอย่างไร ก. หวั กลม – ตวั มน ข. หวั กลม – ตวั เหลย่ี ม ค. หวั บวั – ตวั มน ง. หวั บวั – ตวั เหลย่ี ม มฐ. ท 2.1 ม.3/1 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ข 2. ง 3. ค 4. ก 5. ข 6. ง 7. ง 8. ก 9. ง 10. ข 216 หลกั ภาษาฯ ม.3

แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของตวั อกั ษรบรรจง 6. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชน์ของการคดั ลายมอื ก. ตวั อกั ษรสมั ผสั เสน้ บรรทดั บนและล่าง ก. ใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ในการประกอบอาชพี ข. ตวั อกั ษรเอยี งไปทศิ ทางเดยี วกนั ข. ปลูกฝังความมรี ะเบยี บวนิ ัยใหต้ นเอง ค. มขี นาดเป็นมาตรฐานเดยี วกนั ค. เขยี นหนงั สอื สวยงาม ง. หวั อกั ษรไมบ่ อด ง. ทางานเป็นระเบยี บ 2. ชอ่ งไฟ หมายความวา่ อยา่ งไร 7. ลายมอื มคี วามสาคญั อย่างไร ก. การเวน้ วรรคตวั อกั ษรแต่ละตวั ก. เป็นเคร่อื งมอื ในการสรา้ งเอกลกั ษณข์ องชาติ ข. ความสมา่ เสมอของตวั อกั ษร ข. เป็นเคร่อื งมอื ในการถ่ายทอดความรูค้ วามคดิ ค. ความกวา้ งของตวั อกั ษร ค. เป็นเกยี รตยิ ศศกั ดศิ์ รขี องลูกผูช้ าย ง. ระยะห่างของตวั อกั ษร ง. แสดงความเป็นชาติ 3. ตวั อกั ษรประเภทใดทผี่ า่ นการวจิ ยั มาแลว้ ว่า คดั งา่ ย 8. การเขยี นตวั อกั ษรจะตอ้ งเรมิ่ ทส่ี ่วนใดก่อน เหมาะสาหรบั เป็นแบบคดั ลายมอื เดก็ ก. เขยี นตามความพอใจ ก. แบบภาควชิ าประถมศกึ ษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ข. ส่วนทเี่ ป็นเสน้ ตรง มหาวทิ ยาลยั ค. ส่วนหางตวั อกั ษร ข. แบบกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. ส่วนหวั ตวั อกั ษร ค. แบบรตั นโกสนิ ทร์ ง. แบบอาลกั ษณ์ 9. อวยั วะในขอ้ ใดไม่สมั พนั ธ์กบั ลายมอื ก. แขน 4. หากนักเรยี นตอ้ งการใหง้ านเขยี นของตนเองเป็นทส่ี นใจ ข. น้วิ ของบุคคลอน่ื นักเรยี นจะต้องทาอยา่ งไร ค. ตา ก. สารวจความคดิ เหน็ ของผูอ้ ่านก่อนลงมอื เขยี น ง. มอื ข. เขยี นใหถ้ กู ตอ้ งตามรูปแบบของตวั อกั ษรไทย ค. เขยี นดว้ ยลายมอื ของตนเองอย่างสวยงาม 10. ตวั อกั ษรอาลกั ษณ์ มลี กั ษณะอย่างไร ง. เขยี นดว้ ยลายมอื ของคนร่นุ ใหม่ ก. หวั บวั – ตวั มน ข. หวั กลม – ตวั มน 5. นายเกง่ เขยี นหนังสอื ไมม่ หี วั ไม่มหี าง ผดิ รูปแบบ ค. หวั บวั – ตวั เหลย่ี ม อกั ษรไทย การเขยี นหนังสอื ของนายเกง่ จะเกดิ ผลเสยี ง. หวั กลม – ตวั เหลยี่ ม ตอ่ ตนเองอยา่ งไร ก. เขยี นไมส่ วยงาม มฐ. ท 2.1 ม.3/1 ข. ส่อื สารกบั ผูอ้ ่นื ไมไ่ ด้ ได้คะแนน คะแนนเต็ม ค. ไมเ่ ป็นทยี่ อมรบั ของผูอ้ ่นื ง. ประเมนิ ค่างานเขยี นของตนเองไม่ได้ 10 เฉลย 6. ก 7. ข 8. ง 9. ค 10. ค 1. ข 2. ง 3. ก 4. ค 5. ข 217 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมอื 1 ชวั่ โมง เร่ืองที่ 1 การคัดลายมือ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 การคดั ลายมอื (1) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การคดั ลายมอื ทถ่ี กู ตอ้ ง จะตอ้ งคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรปู แบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/1 คดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - คดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรปู แบบการเขยี นตวั อกั ษรไทยได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 2) ทกั ษะการประเมนิ 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสงั เกต 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 218 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคดั ลายมอื เรื่องท่ี 1 การคัดลายมอื 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 2. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั ประโยชน์ของการคดั ลายมอื จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั เสนอชอ่ื เพอ่ื นใน ชนั้ เรยี นทม่ี ลี ายมอื สวยงาม เพอ่ื ออกมาเลา่ ถงึ วธิ กี ารฝึกคดั ลายมอื ใหเ้ พอ่ื นฟัง 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ • นักเรยี นคิดว่า การเขียนลายมอื ท่ีอ่านยาก จะเป็นผลเสียต่อนักเรยี นอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 4. นกั เรยี นศกึ ษาความรูเ้ ร่อื ง การคดั ลายมอื จากหนังสอื เรยี น ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี 1) ความรเู้ บ้อื งตน้ เกยี่ วกบั การคดั ลายมอื 2) รูปแบบตวั อกั ษร แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดล้ งในแบบบนั ทกึ การอ่าน 5. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรยี นคิดว่า ตนเองสามารถพฒั นาการคดั ลายมือได้อย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 6. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการคดั ลายมอื และรปู แบบตวั อกั ษรในการคดั ลายมอื ทเ่ี หมาะสม 7. นกั เรยี นทุกคนทาใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง ความรเู้ กี่ยวกบั การคดั ลายมือ เสรจ็ แลว้ นาส่งครตู รวจ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) ตรวจใบงานท่ี 4.1 ใบงานท่ี 4.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย 8 สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง ความรเู้ กยี่ วกบั การคดั ลายมอื 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ — 219 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมือ เรื่องที่ 1 การคดั ลายมอื ใบงานที่ 4.1 ความรเู้ ก่ียวกบั การคดั ลายมอื คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามใหถ้ กู ตอ้ ง 1. ลายมอื มคี วามสาคญั อย่างไร 2. การคดั ลายมอื ผคู้ ดั ลายมอื จะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร 3. อกั ษรหวั บอด มลี กั ษณะอย่างไร 4. เพราะเหตใุ ด ลายมอื ของเดก็ ไทยในปัจจุบนั จงึ อา่ นยาก 5. การคดั ลายมอื โดยใชร้ ูปแบบตวั อกั ษรอาลกั ษณ์ เหมาะสาหรบั การใชใ้ นเอกสารใด 220 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การคดั ลายมือ เร่ืองท่ี 1 การคดั ลายมือ ใบงานที่ 4.1 ความรเู้ กี่ยวกบั การคดั ลายมอื คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง 1. ลายมอื มคี วามสาคญั อย่างไร ลายมอื เป็นเครอื่ งถ่ายทอดความรู้ ความคดิ 2. การคดั ลายมอื ผคู้ ดั ลายมอื จะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร จะตอ้ งนงั่ หนั หน้าเขา้ หาโต๊ะ วางกระดาษใหต้ รง แลว้ จบั ดนิ สอใหถ้ กู วธิ ี เรมิ่ คดั จากหวั ตวั อกั ษรและเวน้ ระยะชอ่ งไฟ ใหถ้ ูกต้อง และสวยงาม 3. อกั ษรหวั บอด มลี กั ษณะอยา่ งไร เป็นลกั ษณะการเขยี นตวั อกั ษรทไี่ ม่มหี วั 4. เพราะเหตุใด ลายมอื ของเดก็ ไทยในปัจจบุ นั จงึ อ่านยาก เพราะเขยี นผดิ รูปแบบตวั อกั ษรไทย ไมม่ หี วั ไมม่ หี าง และไมม่ คี วามแตกต่างกนั 5. การคดั ลายมอื โดยใชร้ ปู แบบตวั อกั ษรอาลกั ษณ์ เหมาะสาหรบั การใชใ้ นเอกสารใด เหมาะสาหรบั การใชใ้ นเอกสารพเิ ศษ เช่น ปรญิ ญาบตั ร ประกาศนียบตั ร 221 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมอื แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองที่ 1 การคดั ลายมอื  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 222 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมอื 1 ชวั่ โมง เร่ืองที่ 1 การคัดลายมือ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 การคดั ลายมอื (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การคดั ลายมอื ทถ่ี กู ตอ้ ง จะตอ้ งคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรปู แบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/1 คดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - คดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรปู แบบการเขยี นตวั อกั ษรไทยได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 2) ทกั ษะการประเมนิ 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสงั เกต 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 223 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคดั ลายมือ เรื่องที่ 1 การคัดลายมือ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นทุกคนชว่ ยกนั บอกแนวทางปฏบิ ตั ิในการคดั ลายมอื และรูปแบบตวั อกั ษรในการคดั ลายมอื ทเ่ี หมาะสม 2. ครูแจกตวั อยา่ งขอ้ ความใหน้ กั เรยี นฝึกคดั ลายมอื ตามแนวทางปฏบิ ตั กิ ารคดั ลายมอื ตามทน่ี กั เรยี น ไดศ้ กึ ษา 3. ครสู ่มุ เรยี กนกั เรยี นออกมาอธบิ ายแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการคดั ลายมอื ตามขอ้ ความทค่ี รูแจก 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรียนคิดว่า ผ้ทู ี่มลี ายมือที่สวยงาม อ่านง่าย จะมีผลดีต่อตวั ผเู้ ขียนอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 5. ครปู ระเมนิ ผลการคดั ลายมอื ของนกั เรยี น จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั คดั เลอื กผลงานการคดั ลายมอื ทส่ี วยงาม สะอาด เรยี บรอ้ ย เพ่อื นามาจดั ป้ายนเิ ทศ 5 ผลงาน 6. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4  ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนคดั ลายมอื ตวั บรรจงคร่งึ บรรทดั บทอาขยานในบทเรียนที่นกั เรียนชอบ 1 บท ตามรปู แบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) รปู แบบตวั อกั ษร 2) ขนาดตวั อกั ษร 3) ความถูกต้องของขอ้ ความ 4) ความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจผลงานการคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั แบบประเมนิ ผลงานการคดั ลายมอื ตวั ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ บทอาขยาน บรรจงครง่ึ บรรทดั บทอาขยาน 224 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การคัดลายมอื เร่ืองท่ี 1 การคัดลายมือ 8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ - ตวั อย่างขอ้ ความ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — 225 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมอื เรื่องที่ 1 การคัดลายมือ การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินผลงานการคดั ลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั บทอาขยาน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 รูปแบบตวั อกั ษร 2 ขนาดตวั อกั ษร 3 ความถูกตอ้ งของขอ้ ความ 4 ความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 14 - 16 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 11 - 13 ดี ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 8 - 10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ 226 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคดั ลายมือ เรื่องท่ี 1 การคัดลายมือ เอกสารประกอบการสอน ตวั อยา่ งข้อความคดั ลายมอื อาเศยี รสมภพเบ้อื ง บทยุคล เจด็ รอบยงั่ ยนื ชนม์ ชเยศพอ้ ง ราษฎรห์ กสบิ ลา้ นกมล น้อมประณต ถวายพระพรแซ่ซ้อง เทดิ ไทส้ ดุดี คมุ้ องค์ พระเทอญ เชญิ ตรรี ตั น์ฉตั รหลา้ ผ่องแผว้ พระสุขภาพยงิ่ ยง สมั ฤทธิ์ ลว้ นแล สงิ่ ศกั ดสิ์ ทิ ธดิ์ าลประสงค์ พระเกยี รตกิ อ้ งนิรนั ดรก์ าล เกษมสุขพระฉัตรแกว้ (ทมี่ า : นติ ยสารสกลุ ไทย รายสปั ดาห์ ฉบบั ที่2981) 227 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมอื แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองที่ 1 การคดั ลายมือ  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 228 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมอื เรื่องที่ 1 การคดั ลายมือ ชอ่ื หนงั สอื ราคา ชอ่ื ผูแ้ ต่ง แบบบนั ทึกการอ่าน สานกั พมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์ จานวนหน้า บาท อ่านวนั ท่ี เดอื น นามปากกา ปีทพี่ มิ พ์ พ.ศ. เวลา 1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง 2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื งทอ่ี ่าน 3. สงิ่ ทส่ี ามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 4. ขอ้ เสนอแนะของครู ลงช่อื นกั เรยี น ลงช่อื ผปู้ กครอง ( )( ) ลงชอ่ื ครผู สู้ อน () เกณฑก์ ารให้คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมคี วามสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีขอ้ บกพร่องเพยี งเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 229 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การคัดลายมอื เรื่องท่ี 1 การคัดลายมือ แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 230 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การคัดลายมือ เรื่องที่ 1 การคดั ลายมือ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล ช่อื ชนั้ คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 3 การทางานตามหนา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ 231 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมือ เรื่องท่ี 1 การคดั ลายมือ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ ชอ่ื กลุม่ ชนั้ คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อยา่ งเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 232 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การคดั ลายมือ เร่ืองที่ 1 การคัดลายมือ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย ของเพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องพลเมอื งดี 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามร่วมมอื ร่วมใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและ 3. มีวินยั ชมุ ชน รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทสี่ ร้างความสามคั คี 4. ใฝ่เรยี นรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ช่นื ชมความ 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง เป็นชาตไิ ทย 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา อย่างสมา่ เสมอ เป็นแบบอย่างทดี่ ขี องศาสนิกชน 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่โี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณยี กจิ พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถี่ กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถี่ กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผูป้ กครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง ทด่ี ดี ้านความซ่อื สตั ย์ 2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผูอ้ น่ื ดว้ ยความซ่อื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไี่ ม่ถกู ต้อง และเป็นแบบอย่างทดี่ แี ก่เพ่อื นดา้ นความซอ่ื สตั ย์ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผูอ้ ่นื ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรูอ้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ล อยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 233 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมอื เรื่องที่ 1 การคดั ลายมือ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื 6. ม่งุ มนั่ ในการ กระทาผดิ พลาด ทางาน 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน 7. รกั ความเป็นไทย ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รูเ้ ท่าทนั การเปลยี่ นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั อยรู่ ่วมกบั ผูอ้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รูจ้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบง่ ปันสง่ิ ของ และชว่ ยแกป้ ัญหา ใหผ้ ูอ้ ่นื 8.3 ดูแล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชุมชน ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 234 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การคดั ลายมือ เร่ืองท่ี 1 การคัดลายมือ แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ 1 นกั เรยี นมคี วามรูค้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ต่อไปน้ี ท 2.1 (ม.3/1)  ดา้ นความรู้ (จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้  ระดบั คณุ ภาพดมี าก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คณุ ภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คณุ ภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คณุ ภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 235 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การคัดลายมอื เรื่องที่ 1 การคัดลายมือ ตอนท่ี 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนักเรยี นเพ่ือเตรียมความพร้อมรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก รอ้ ยละ ระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน (ด้านคณุ ภาพผ้เู รียน) มาตรฐานที่ 1 ผ้เู รียนมสี ขุ ภาวะทดี่ แี ละมีสุนทรยี ภาพ 1.1 มสี ขุ นิสยั ในการดูแลสขุ ภาพและออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1.2 มนี ้าหนกั ส่วนสูง และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐาน 1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลยี่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งตอ่ ความรุนแรง โรค ภยั อุบตั เิ หตุ และปัญหาทางเพศ 1.4 เหน็ คณุ คา่ ในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม 1.5 มมี นุษยสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่ 1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ ร่วมกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นาฏศลิ ป์ กฬี า/นนั ทนาการตามจนิ ตนาการ มาตรฐานที่ 2 ผ้เู รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ ึงประสงค์ 2.1 มคี ุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคต์ ามหลกั สตู ร 2.2 เอ้อื อาทรผอู้ นื่ และกตญั ญูกตเวทตี อ่ ผมู้ พี ระคณุ 2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกตา่ ง 2.4 ตระหนกั รคู้ ณุ ค่า รว่ มอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 3 ผเู้ รยี นมีทกั ษะในการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง รกั เรียนรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง 3.1 มนี ิสยั รกั การอา่ นและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมุด แหล่งเรยี นรู้ และสอื่ ต่างๆ รอบตวั 3.2 มที กั ษะในการอ่าน ฟัง ดู พูด เขยี น และตงั้ คาถามเพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ 3.3 เรยี นรรู้ ว่ มกนั เป็นกลุ่ม แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรูร้ ะหวา่ งกนั 3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน มาตรฐานที่ 4 ผ้เู รียนมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตดั สินใจแกป้ ัญหา ได้อย่างมสี ติสมเหตสุ มผล 4.1 สรปุ ความคดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพูดหรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง 4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี กป้ ัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง 4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาโดยมเี หตผุ ลประกอบ 4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภมู ใิ จ มาตรฐานที่ 5 ผเู้ รียนมคี วามร้แู ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สูตร 5.1 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นเฉลยี่ แต่ละกลมุ่ สาระเป็นไปตามเกณฑ์ 5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สูตรเป็นไปตามเกณฑ์ 5.3 ผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์ 5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานที่ 6 ผเู้ รยี นมที กั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานรว่ มกบั ผ้อู นื่ ได้ และมเี จตคติทีด่ ี ต่ออาชีพสุจริต 6.1 วางแผนการทางานและดาเนนิ การจนสาเรจ็ 6.2 ทางานอยา่ งมคี วามสุข มงุ่ มนั่ พฒั นางาน และภมู ใิ จในผลงานของตนเอง 6.3 ทางานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ 6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี อ่ อาชพี สุจรติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ 236 หลกั ภาษาฯ ม.3

5หน่วยการเรียนรู้ท่ี การเขียนเพ่อื การสื่อสาร 1 8เวลา ชวั่ โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ท 2.1 ม.3/2 เขยี นขอ้ ความโดยใชถ้ อ้ ยคาไดถ้ ูกต้องตามระดบั ภาษา ม.3/3 เขยี นชวี ประวตั หิ รอื อตั ชวี ประวตั โิ ดยเลา่ เหตกุ ารณ์ ขอ้ คดิ เหน็ และทศั นคตใิ นเรอ่ื งตา่ งๆ ม.3/4 เขยี นยอ่ ความ ม.3/5 เขยี นจดหมายกจิ ธุระ ม.3/8 กรอกแบบสมคั รงาน พรอ้ มเขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ความรู้และทกั ษะของตนเองทเ่ี หมาะสมกบั งาน ม.3/10 มมี ารยาทในการเขยี น 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นเพอ่ื การสอ่ื สาร ผเู้ รยี นตอ้ งเขยี นขอ้ ความโดยใช้ถอ้ ยคาไดถ้ ูกตอ้ งตามระดบั ภาษา เขยี นชวี ประวตั ิ หรอื อตั ชวี ประวตั ิ เขยี นย่อความ เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ กรอกแบบสมคั รงาน พรอ้ มเขยี นบรรยายเกยี่ วกบั ความรู้ และทกั ษะของตนเองทเ่ี หมาะสมกบั งาน และมมี ารยาทในการเขยี น 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) การเขยี นขอ้ ความตามสถานการณแ์ ละโอกาสตา่ งๆ เช่น - คาอวยพรในโอกาสต่างๆ - คาขวญั - คาคม - โฆษณา - สนุ ทรพจน์ 2) การเขยี นอตั ชวี ประวตั หิ รอื ชวี ประวตั ิ 3) การเขยี นยอ่ ความจากส่อื ต่างๆ เชน่ นิทาน ประวตั ิ ตานาน สารคดที างวชิ าการ พระราชดารสั พระบรมราโชวาท จดหมายราชการ 4) การเขยี นจดหมายกจิ ธุระ - จดหมายเชญิ วทิ ยากร - จดหมายขอความอนุเคราะห์ - จดหมายแสดงความขอบคุณ 5) การกรอกแบบสมคั รงาน 6) มารยาทในการเขยี น 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 237 หลกั ภาษาฯ ม.3

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 2) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 4) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 6) ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 8) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสงั เกต 3) ทกั ษะการตคี วาม 5) ทกั ษะการสรุปยอ่ 7) ทกั ษะการประเมนิ 9) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การจดั ป้ายนเิ ทศ แสดงผลงานการเขยี นเพอ่ื การสอ่ื สาร 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การเขยี นเพอ่ื การส่อื สาร 1 7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 5.1 เรอ่ื ง การเขยี นขอ้ ความตามสถานการณ์และโอกาส 2) ตรวจใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง หลกั การเขยี นยอ่ ความ 3) ตรวจใบงานท่ี 5.3 เรอ่ื ง การเขยี นยอ่ ความส่อื ประเภทต่างๆ 4) ตรวจใบงานท่ี 5.4 เร่อื ง การกรอกแบบสมคั รงาน 5) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 7) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 8) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การเขยี นเพอ่ื การส่อื สาร 1 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจป้ายนเิ ทศ แสดงผลงานการเขยี นเพอ่ื การสอ่ื สาร 8 กิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 238 หลกั ภาษาฯ ม.3

เรื่องที่ 1 การเขียนในโอกาสต่างๆ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนิ คการต่อเร่อื งราว (Jigsaw) ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถงึ ประโยชน์ของการเขยี นในโอกาสต่างๆ ขนั้ สอน 1. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน คละกนั ตามความสามารถ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มกาหนดหมายเลข ประจาตวั ใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนในกลุม่ เป็นหมายเลข 1-5 เรยี กว่า กลุม่ บา้ น 2. ครใู หส้ มาชกิ ทม่ี หี มายเลขเดยี วกนั มารวมกนั เป็นกลุ่มใหม่ เรยี กวา่ กลุ่มผเู้ ชย่ี วชาญ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษา ความรเู้ ร่อื ง การเขยี นในโอกาสต่างๆ จากหนังสอื เรยี น และหอ้ งสมุด ดงั น้ี - กลุ่มหมายเลข 1 ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นอวยพร - กลมุ่ หมายเลข 2 ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นคาขวญั - กลุ่มหมายเลข 3 ศกึ ษาเร่อื ง การเขยี นคาคม - กลุ่มหมายเลข 4 ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นโฆษณา - กล่มุ หมายเลข 5 ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นสนุ ทรพจน์ 3. เม่อื นักเรยี นกลุ่มผู้เชย่ี วชาญศกึ ษาความรู้ จนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจชดั เจน ผลดั เปลย่ี นกนั ซกั ถามและ อธบิ ายจนมคี วามเขา้ ใจ กใ็ ห้แยกยา้ ยกนั กลบั ไปยงั กลมุ่ บา้ น แลว้ ผลดั กนั อธบิ ายความรตู้ ามทต่ี นไดศ้ กึ ษา มาใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ บา้ นฟังตามลาดบั หมายเลข 1-5 จนครบ 4. นักเรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 5.1 เรื่อง การเขียนข้อความตามสถานการณ์และโอกาส เมอ่ื เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ นาสง่ ครูตรวจ ขนั้ สรปุ นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การเขยี นในโอกาสตา่ งๆ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ และ นาไปปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 239 หลกั ภาษาฯ ม.3

เรือ่ งที่ 2 การเขียนชีวประวตั ิและอตั ชีวประวตั ิ 2 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ ขนั้ ที่ 1 สงั เกต รบั รู้ นกั เรยี นศกึ ษาความรูเ้ ร่อื ง การเขยี นอตั ชวี ประวตั หิ รอื ชวี ประวตั ิ จากหนงั สอื เรยี น แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั วธิ กี ารเขยี นชวี ประวตั หิ รอื อตั ชวี ประวตั ิ ขนั้ ท่ี 2 ทาตามแบบ นกั เรยี นฝึกเขยี นอตั ชวี ประวตั ติ ามตวั อยา่ ง จากหนงั สอื เรยี น โดยเขยี นทลี ะขนั้ ตอน ขนั้ ที่ 3 ทาเองโดยไมม่ ีแบบ นักเรยี นสนทนากบั เพอ่ื นสนิทในหอ้ งเรยี นเพอ่ื หาขอ้ มลู ทน่ี ามาใชใ้ นการเขยี นชวี ประวตั เิ อง โดยไม่ตอ้ งดู ตวั อยา่ ง ขนั้ ที่ 4 ฝึกทาให้ชานาญ นกั เรยี นเขยี นชวี ประวตั ขิ องญาตผิ ใู้ หญ่ทเ่ี คารพนบั ถอื โดยใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเองจนเกดิ ความ ชานาญ 240 หลกั ภาษาฯ ม.3

เรื่องท่ี 3 การเขียนยอ่ ความ 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) ครสู นทนากบั นกั เรยี นเรอ่ื ง การเขยี นย่อความ แลว้ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั บทความ ราชบณั ฑติ ยสถานห่วงใยเดก็ ไทย ย่อความไม่เป็น ขนั้ ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore) นกั เรยี นศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง การเขยี นยอ่ ความ จากหนังสอื เรยี น ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายความรเู้ รอ่ื ง การเขยี นยอ่ ความ ทไ่ี ดจ้ ากการคน้ ควา้ แลว้ ใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 5.2 เรือ่ ง หลกั การเขียนยอ่ ความ เมอ่ื ทาใบงานเสรจ็ แลว้ ใหน้ าส่งครตู รวจ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) นกั เรยี นทาใบงานที่ 5.3 เร่อื ง การเขียนย่อความสื่อประเภทต่างๆ เมอ่ื ทาใบงานเสรจ็ แลว้ ใหน้ าสง่ ครู ตรวจ ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) ครตู รวจใบงานท่ี 5.3 ของนกั เรยี น พรอ้ มทงั้ ใหข้ อ้ เสนอแนะกบั นกั เรยี นเป็นรายบุคคล 241 หลกั ภาษาฯ ม.3

เร่ืองที่ 4 การเขียนจดหมาย 1 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ แบง่ กลมุ่ ทางาน ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั ความสาคญั ของการเขยี นจดหมาย แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความ คดิ เหน็ เกย่ี วกบั การเขยี นจดหมายในสมยั ปัจจบุ นั ขนั้ สอน 1. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากเรอ่ื งท่ี 1) จากนนั้ ครูกาหนดหวั ขอ้ เร่อื งเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษา ความรูเ้ รอ่ื ง การเขยี นจดหมายและมารยาทในการเขยี น จากหนังสอื เรยี น หอ้ งสมุด และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ตามทจ่ี บั สลากได้ ดงั น้ี - สลากหมายเลข 1 ศกึ ษาเร่อื ง การเขยี นจดหมายเชญิ วทิ ยากร - สลากหมายเลข 2 ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นจดหมายขอความอนุเคราะห์ - สลากหมายเลข 3 ศกึ ษาเร่อื ง การเขยี นจดหมายขอบคณุ 2. ครูและนักเรยี นร่วมกนั กาหนดความมุ่งหมายของการทางาน และวธิ กี ารทางานในแตล่ ะกลุม่ จากนนั้ ครู เสนอแนะชอ่ื หนงั สอื และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศทจ่ี ะใชค้ น้ ควา้ หาความรู้ 3. นักเรยี นร่วมกนั วางแผนและปฏบิ ตั งิ านตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกไปนาเสนอผลงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น และบอกขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ าน ความคดิ เหน็ ทม่ี ตี อ่ ผลงาน ขนั้ สรปุ ครูประเมนิ ผลการทางานของนักเรยี นและใหค้ าแนะนาในการพฒั นาปรบั ปรงุ การทางาน 242 หลกั ภาษาฯ ม.3

เรอื่ งที่ 5 การกรอกแบบสมคั รงาน 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ นิ รนัย ขนั้ ที่ 1 อธิบายปัญหา 1. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั ความสาคญั ของแบบสมคั รงานและการเขยี นบรรยายเกยี่ วกบั ความรแู้ ละ ทกั ษะของตนเองทเ่ี หมาะสม 2. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การกรอกแบบสมคั รงานทม่ี ขี อ้ บกพรอ่ ง ขนั้ ท่ี 2 อธิบายกฎหรือหลกั การเพื่อแก้ปัญหา 1. นักเรยี นศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง การกรอกแบบสมคั รงาน และการเขยี นบรรยายความรแู้ ละทกั ษะของตนเอง จากหนังสอื เรยี น และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 2. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ หลกั การกรอกแบบสมคั รงาน และการเขยี นบรรยายความรแู้ ละทกั ษะของ ตนเอง ขนั้ ที่ 3 ตดั สินใจ นกั เรยี นเลอื กวธิ กี ารกรอกแบบสมคั รงาน และการเขยี นบรรยายความรแู้ ละทกั ษะของตนเอง ขนั้ ที่ 4 พิสจู น์ ตรวจสอบ นักเรยี นทาใบงานท่ี 5.4 เรอ่ื ง การกรอกแบบสมคั รงาน เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ ใหน้ าใบงานสง่ ครูตรวจ ประเมนิ ผลงาน  ครมู อบหมายให้นกั เรยี นจดั ป้ายนิเทศ แสดงผลงานการเขียนเพอื่ การสอื่ สาร โดยใหค้ รอบคลุม ประเดน็ ตามทกี่ าหนด นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 243 หลกั ภาษาฯ ม.3

9 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) บทความ 3) สลาก 4) ใบงานท่ี 5.1 เร่อื ง การเขยี นขอ้ ความตามสถานการณ์และโอกาส 5) ใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง หลกั การเขยี นยอ่ ความ 6) ใบงานท่ี 5.3 เรอ่ื ง การเขยี นยอ่ ความสอ่ื ประเภทตา่ งๆ 7) ใบงานท่ี 5.4 เรอ่ื ง การกรอกแบบสมคั รงาน 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) เพ่อื นสนทิ ในชนั้ เรยี น 2) ญาตผิ ใู้ หญท่ เ่ี คารพนับถอื 3) หอ้ งสมดุ 4) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.enfe.go.th/enfe_2548/thai/thai02/thai21030.html - http://kokai.awardspace.com/use/mail.php - http://www.ahs.chula.ac.th/main/Files/book1/Chapter6.pdf - http://www.mof.go.th/home/job/application.doc - http://www.sinthoranee.com/pdf/FM-HA-01-03.pdf - http://www.tlcthai.com/education/job/12209.html - http://www.bkkresume.com/ 244 หลกั ภาษาฯ ม.3

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินป้ายนิเทศ แสดงผลงานการเขียนเพื่อการสื่อสาร รายการประเมิน ดมี าก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การเขียนขอ้ ความ เขยี นขอ้ ความได้ เขยี นขอ้ ความได้ เขยี นขอ้ ความได้ เขยี นขอ้ ความได้ โดยใช้ถ้อยคา ถกู ตอ้ งตามรปู แบบ ถูกต้องตามรปู แบบ ถกู ต้องตามรูปแบบ ถูกตอ้ งตามรปู แบบ ไดถ้ กู ต้องตาม การเขยี นและใชถ้ ้อยคา การเขยี นและใชถ้ อ้ ยคา การเขยี นและใชถ้ ้อยคา การเขยี น แตใ่ ชถ้ ้อยคา ระดบั ภาษา ถูกตอ้ งตามระดบั ภาษา ถกู ต้องตามระดบั ภาษา ถูกตอ้ งตามระดบั ภาษา ไมถ่ ูกตอ้ งตามระดบั มมี ารยาทในการเขยี น เป็นสว่ นใหญ่ เป็นส่วนน้อย ภาษา มมี ารยาท มมี ารยาทในการเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น ในการเขยี น 2. การเขียน เขยี นชวี ประวตั ิ หรอื เขยี นชวี ประวตั ิ หรอื เขยี นชวี ประวตั ิ หรอื เขยี นชวี ประวตั ิ หรอื ชีวประวตั ิ อตั ชวี ประวตั โิ ดยเลา่ อตั ชวี ประวตั โิ ดยเล่า อตั ชวี ประวตั โิ ดยเลา่ อตั ชวี ประวตั โิ ดยเลา่ หรอื อตั ชีวประวตั ิ เหตกุ ารณ์ ขอ้ คดิ เหน็ เหตุการณ์ ขอ้ คดิ เหน็ เหตกุ ารณ์ ขอ้ คดิ เหน็ เหตุการณ์ ขอ้ คดิ เหน็ โดยเลา่ เหตุการณ์ และทศั นคตใิ นเร่อื ง และทศั นคตใิ นเรอ่ื ง และทศั นคตใิ นเร่อื ง และทศั นคตใิ นเรอ่ื ง ขอ้ คิดเหน็ และ ต่างๆ ไดถ้ ูกต้องตาม ตา่ งๆ ไดถ้ ูกตอ้ งตาม ต่างๆ ไดถ้ กู ตอ้ งตาม ตา่ งๆ ไมถ่ ูกต้องตาม ทศั นคติในเร่อื ง รูปแบบและวธิ กี ารเขยี น รูปแบบและวธิ กี ารเขยี น รปู แบบและวธิ กี ารเขยี น รปู แบบและวธิ กี ารเขยี น ต่างๆ มมี ารยาทในการเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น ไม่มมี ารยาทในการ เป็นสว่ นใหญ่ เป็นสว่ นนอ้ ย เขยี น 3. การเขียนย่อความ เขยี นยอ่ ความจากสอ่ื เขยี นยอ่ ความจากสอ่ื เขยี นยอ่ ความจากสอ่ื เขยี นยอ่ ความจากส่อื ประเภทตา่ งๆ ได้ ประเภทตา่ งๆ ไม่ ประเภทต่างๆ ไม่ ประเภทต่างๆ ไม่ ถูกต้องตามรปู แบบและ ถกู ตอ้ งตามรูปแบบและ ถูกต้องตามรปู แบบและ ถูกตอ้ งตามรูปแบบและ วธิ กี ารยอ่ ทกุ ประเภท วธิ กี ารยอ่ 1 ประเภท วธิ กี ารย่อ 2 ประเภท วธิ กี ารย่อ 3 ประเภท มมี ารยาทในการเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น 4. การเขยี นจดหมาย เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะได้ เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะได้ เขยี นจดหมายกจิ ธุระได้ เขยี นจดหมายกจิ ธุระไม่ กิจธรุ ะ ถูกต้องตามรูปแบบและ ถูกต้องตามรูปแบบและ ถกู ต้องตามรูปแบบและ ถูกต้องตามรูปแบบและ วธิ กี ารเขยี น มมี ารยาท วธิ กี ารเขยี น มมี ารยาท วธิ กี ารเขยี น มมี ารยาท วธิ กี ารเขยี น ไมม่ ี ในการเขยี น ในการเขยี นเป็น ในการเขยี นเป็น มารยาทในการเขยี น ส่วนใหญ่ ส่วนน้อย 5. การกรอกแบบ กรอกแบบสมคั รงาน กรอกแบบสมคั รงาน กรอกแบบสมคั รงาน กรอกแบบสมคั รงาน สมคั รงาน พรอ้ มเขยี นบรรยาย พรอ้ มเขยี นบรรยาย พรอ้ มเขยี นบรรยาย พรอ้ มเขยี นบรรยาย ความรูแ้ ละทกั ษะของ ความรูแ้ ละทกั ษะของ ความรูแ้ ละทกั ษะของ ความรูแ้ ละทกั ษะของ ตนเองทเี่ หมาะสมกบั ตนเองทเี่ หมาะสมกบั ตนเองทเี่ หมาะสมกบั ตนเองทเี่ หมาะสมกบั งานไดถ้ ูกตอ้ งตาม งานไดถ้ ูกตอ้ งตาม งานไดถ้ กู ตอ้ งตาม งานไมถ่ กู ต้องตาม รูปแบบและวธิ กี ารเขยี น รูปแบบและวธิ กี ารเขยี น รูปแบบและวธิ กี ารเขยี น รูปแบบและวธิ กี ารเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น มมี ารยาทในการเขยี น ไม่มมี ารยาทในการเขยี น เป็นสว่ นใหญ่ เป็นส่วนน้อย 245 หลกั ภาษาฯ ม.3

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 18 - 20 14 - 17 10 - 13 ต่ากวา่ 10 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 246 หลกั ภาษาฯ ม.3

แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดยี ว 1. “ วคี เอนด์น้จี ะไปทวั รเ์ ชยี งใหม่” ควรใชเ้ ป็นภาษาเขยี นวา่ 6. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะของคาขวญั ทดี่ ี อยา่ งไร ก. ผูร้ บั สารสนใจ ก. อาทติ ยน์ ้จี ะไปแอ่วเชยี งใหม่ ข. กระทบใจผรู้ บั สาร ข. วนั หยุดสปั ดาหน์ ้จี ะไปทศั นศกึ ษาเชยี งใหม่ ค. ผูร้ บั สารมคี วามนิยม ค. สุดสปั ดาหน์ ้จี ะไปท่องเทย่ี วจงั หวดั เชยี งใหม่ ง. ผูร้ บั สารสนใจและจาไดท้ นั ที ง. วนั หยุดประจาสปั ดาหน์ ้จี ะไปท่องเทยี่ วจงั หวดั 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของคาคม เชยี งใหม่ ก. ถอ้ ยคาทไ่ี พเราะ 2. การทจี่ ะใชภ้ าษาในการเขยี นไดด้ จี ะต้องมคี ุณสมบตั อิ ย่างไร ข. ถอ้ ยคาทแ่ี หลมคม ก. รูม้ าก ค. ถ้อยคาทชี่ วนใหค้ ดิ ข. ฟังมาก ง. ถ้อยคาทเ่ี ป็นหลกั ความจรงิ ค. อ่านมาก 8. ขอ้ ความทยี่ กตวั อย่าง เป็นคาคมประเภทใด ง. รูจ้ กั สะสมคามาใช้ นรชาตวิ างวาย มลายสน้ิ ทงั้ อนิ ทรยี ์ 3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของผูม้ คี วามสามารถในการใชภ้ าษา สถติ ทวั่ แต่ชวั่ ดี ประดบั ไวใ้ นโลกา เขยี น ก. คาคมทเี่ ป็นคาพูดไพเราะ ก. เลอื กใชค้ าทส่ี ุภาพ ข. คาคมที่แตง่ ดว้ ยคาประพนั ธ์ ข. เลอื กใชค้ าทหี่ ลากหลาย ค. คาคมทเี่ ป็นคาสมั ผสั คลอ้ งจอง ค. เลอื กใชค้ าทเี่ ป็นภาษาเขยี น ง. คาคมทีใ่ ชค้ าเปรยี บเทยี บใหค้ วามหมาย ง. เลอื กใชค้ าทตี่ รงความหมาย 9. “เทรนดใ์ หมข่ องธรุ กจิ ยคุ นวตั กรรมไมร่ ูจ้ บ” ขอ้ ความน้ี 4. ขอ้ ใดใชค้ าในการเขยี นอวยพรเหมาะสมกบั บคุ คล เป็นงานเขยี นประเภทใด ก. ขอใหค้ ณุ ครูมสี ขุ ภาพ พลานามยั สมบูรณ์ ก. คาคม ข. คาขวญั ข. ขออวยพรใหค้ ณุ ป่จู งเจรญิ ดว้ ยลาภ ยศ สรรเสรญิ ค. โฆษณา ง. คาแนะนา ค. ขอใหค้ ณุ ยา่ อายยุ นื หมน่ื ปีใหร้ าศงี ามผอ่ งใสใหค้ นรกั 10. สนุ ทรพจน์ หมายความวา่ อยา่ งไร ทวั่ ๆ ไป ก. คากล่าวทด่ี งี าม ไพเราะ มแี นวคดิ คมคาย ลกึ ซง้ึ ง. ขออาราธนาคณุ พระรตั นตรยั และสงิ่ ศกั ดสิ์ ทิ ธทิ์ งั้ หลาย ทาใหผ้ ูฟ้ ังประทบั ใจ ดลบนั ดาลใหค้ ุณตาคณุ ยายมคี วามสขุ ข. คากล่าวทสี่ มั ผสั คลอ้ งจอง ไพเราะ มแี นวคดิ ทท่ี นั สมยั 5. คาขวญั มลี กั ษณะอยา่ งไร ลกึ ซ้งึ ทาใหผ้ ูฟ้ ังประทบั ใจ ก. ขอ้ ความสนั้ ๆ ไพเราะ ค. คากล่าวทถ่ี กู ตอ้ งตามหลกั ความจรงิ มแี นวคดิ ใหม่ ข. ขอ้ ความทสี่ ง่ เสรมิ ใหท้ าความดี คมคาย ลกึ ซ้งึ ทาใหผ้ ูฟ้ ังประทบั ใจ ค. ขอ้ ความสนั้ ๆ ทม่ี พี ลงั ในการโน้มน้าวใจผฟู้ ัง ง. คากล่าวทก่ี ลา่ วในทปี่ ระชมุ ชน ถูกตอ้ งตามหลกั ความ ง. ขอ้ ความทเี่ ป็นคาแนะนาใหผ้ ูฟ้ ังประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ าม จรงิ มแี นวคดิ ทนั สมยั ทาใหผ้ ูฟ้ ังประทบั ใจ 247 หลกั ภาษาฯ ม.3

11. การเขยี นชวี ประวตั ทิ เี่ อย่ แต่เพยี งดา้ นดเี พยี งดา้ นเดยี ว 14. ใบสมคั รงานเป็นแบบกรอกรายการประเภทใด เป็นการเขยี นชวี ประวตั ปิ ระเภทใด ก. แบบกรอกรายการทวั่ ไป ก. ชวี ประวตั แิ บบสดุดี ข. แบบกรอกรายการทใ่ี ชเ้ ป็นหลกั ฐาน ข. ชวี ประวตั แิ บบรอบวง ค. แบบกรอกรายการทเ่ี ป็นแบบประเมนิ ผล ค. ชวี ประวตั แิ บบประเมนิ ค่า ง. แบบกรอกรายการทเ่ี ป็นขอ้ มลู สว่ นบคุ คล ง. ชวี ประวตั แิ บบจาลองลกั ษณ์ 15. ถา้ นักเรยี นต้องการกรอกแบบสมคั รงานขนั้ ตน้ นกั เรยี น 12. ขอ้ ใดคอื หลกั สาคญั ทชี่ ่วยในการเขยี นย่อความ จะตอ้ งทาอย่างไร ก. รปู แบบการย่อ ก. ทาความเขา้ ใจเกยี่ วกบั รายละเอยี ดขอ้ มลู ทตี่ อ้ งกรอก ข. การจบั ใจความสาคญั ข. เขยี นขอ้ ความดว้ ยลายมอื ของตนเอง ใหอ้ า่ นง่าย ค. การรจู้ กั การสงั เกตคา ค. รกั ษาความสะอาดไมม่ รี อยขดี ฆ่า ขดู ลบ ง. การถอดคาประพนั ธ์ ง. ตรวจทานอยา่ งรอบคอบ 13. ถา้ นักเรยี นตอ้ งการเขยี นจดหมายไปเชญิ วทิ ยากร ภาษาทใี่ ชใ้ นการเขยี นควรมลี กั ษณะอย่างไร ก. ขอ้ ความสนั้ กะทดั รดั ไม่เยนิ่ เย้อ ข. ภาษาแบบแผนใชศ้ พั ท์วชิ าการ ค. ขอ้ ความสนั้ กะทดั รดั อ่านเขา้ ใจงา่ ย ง. ภาษากงึ่ แบบแผนส่อื สารตรงไปตรงมา มฐ. ท 2.1 ม.3/2-5, 8,10 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 15 เฉลย 1. ค 2. ง 3. ข 4. ง 5. ค 6. ค 7. ก 8. ข 9. ค 10. ก 11. ก 12. ข 13. ค 14. ข 15. ก 248 หลกั ภาษาฯ ม.3

แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. การทจี่ ะใชภ้ าษาในการเขยี นไดด้ จี ะต้องมคี ุณสมบตั อิ ยา่ งไร 6. ถ้านักเรยี นต้องการกรอกแบบสมคั รงานขนั้ ต้นนกั เรยี น ก. รูจ้ กั สะสมคามาใช้ จะตอ้ งทาอย่างไร ข. อา่ นมาก ก. ตรวจทานอยา่ งรอบคอบ ค. ฟังมาก ข. รกั ษาความสะอาดไม่มรี อยขดี ฆา่ ขดู ลบ ง. รูม้ าก ค. เขยี นขอ้ ความดว้ ยลายมอื ของตนเอง ใหอ้ า่ นงา่ ย 2. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะของผูม้ คี วามสามารถในการใชภ้ าษา ง. ทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั รายละเอยี ดขอ้ มูลทตี่ ้องกรอก เขยี น 7. การเขยี นชวี ประวตั ทิ เ่ี อ่ยแต่เพยี งดา้ นดเี พยี งดา้ นเดยี ว ก. เลอื กใชค้ าทตี่ รงความหมาย เป็นการเขยี นชวี ประวตั ปิ ระเภทใด ข. เลอื กใชค้ าทเี่ ป็นภาษาเขยี น ก. ชวี ประวตั แิ บบจาลองลกั ษณ์ ค. เลอื กใชค้ าทหี่ ลากหลาย ข. ชวี ประวตั แิ บบประเมนิ คา่ ง. เลอื กใชค้ าทสี่ ภุ าพ ค. ชวี ประวตั แิ บบรอบวง 3. ขอ้ ใดใชค้ าในการเขยี นอวยพรเหมาะสมกบั บคุ คล ง. ชวี ประวตั แิ บบสดดุ ี ก. ขออาราธนาคุณพระรตั นตรยั และสง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธทิ์ งั้ หลาย 8. ขอ้ ใดคอื หลกั สาคญั ทช่ี ่วยในการเขยี นย่อความ ดลบนั ดาลใหค้ ุณตาคุณยายมคี วามสขุ ก. รูปแบบการยอ่ ข. ขอใหค้ ุณย่าอายยุ นื หม่นื ปีใหร้ าศงี ามผ่องใสใหค้ นรกั ข. การถอดคาประพนั ธ์ ทวั่ ๆ ไป ค. การรจู้ กั การสงั เกตคา ค. ขออวยพรใหค้ ณุ ป่จู งเจรญิ ดว้ ยลาภ ยศ สรรเสรญิ ง. การจบั ใจความสาคญั ง. ขอใหค้ ณุ ครูมสี ขุ ภาพ พลานามยั สมบูรณ์ 9. ถา้ นกั เรยี นต้องการเขยี นจดหมายไปเชญิ วทิ ยากร 4. “ วคี เอนดน์ ้จี ะไปทวั รเ์ ชยี งใหม่” ควรใชเ้ ป็นภาษาเขยี นวา่ ภาษาทใี่ ชใ้ นการเขยี นควรมลี กั ษณะอย่างไร อยา่ งไร ก. ภาษากงึ่ แบบแผนส่อื สารตรงไปตรงมา ก. วนั หยดุ ประจาสปั ดาหน์ ้จี ะไปท่องเทยี่ วจงั หวดั ข. ขอ้ ความสนั้ กะทดั รดั อา่ นเขา้ ใจงา่ ย เชยี งใหม่ ค. ภาษาแบบแผนใชศ้ พั ทว์ ชิ าการ ข. สุดสปั ดาหน์ ้จี ะไปทอ่ งเทย่ี วจงั หวดั เชยี งใหม่ ง. ขอ้ ความสนั้ กะทดั รดั ไม่เยนิ่ เยอ้ ค. วนั หยดุ สปั ดาหน์ ้จี ะไปทศั นศกึ ษาเชยี งใหม่ 10. คาขวญั มลี กั ษณะอย่างไร ง. อาทติ ยน์ ้จี ะไปแอว่ เชยี งใหม่ ก. ขอ้ ความสนั้ ๆ ไพเราะ 5. ใบสมคั รงานเป็นแบบกรอกรายการประเภทใด ข. ขอ้ ความทส่ี ง่ เสรมิ ใหท้ าความดี ก. แบบกรอกรายการทวั่ ไป ค. ขอ้ ความสนั้ ๆ ทมี่ พี ลงั ในการโน้มน้าวใจผูฟ้ ัง ข. จานวนคาในแตล่ ข. แบบกรอกรายการทใี่ ชเ้ ป็นหลกั ฐาน ง. ขอ้ ความทเ่ี ป็นคาแนะนาใหผ้ ูฟ้ ังประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ าม ค. แบบกรอกรายการทเ่ี ป็นแบบประเมนิ ผล 11. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของคาขวญั ทดี่ ี ง. แบบกรอกรายการทเี่ ป็นขอ้ มลู ส่วนบคุ คล ก. ผูร้ บั สารสนใจและจาไดท้ นั ที ข. ผูร้ บั สารมคี วามนยิ ม ค. กระทบใจผรู้ บั สาร ง. ผูร้ บั สารสนใจ 249 หลกั ภาษาฯ ม.3

12. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของคาคม 15. สนุ ทรพจน์ หมายความว่าอย่างไร ก. คากล่าวทกี่ ล่าวในทป่ี ระชุมชน ถกู ตอ้ งตามหลกั ความ ก. ถ้อยคาทเ่ี ป็นหลกั ความจรงิ จรงิ มแี นวคดิ ทนั สมยั ทาใหผ้ ูฟ้ ังประทบั ใจ ข. คากล่าวทถี่ ูกต้องตามหลกั ความจรงิ มแี นวคดิ ใหม่ ข. ถอ้ ยคาทชี่ วนใหค้ ดิ คมคาย ลกึ ซง้ึ ทาใหผ้ ูฟ้ ังประทบั ใจ ค. คากล่าวทสี่ มั ผสั คลอ้ งจอง ไพเราะ มแี นวคดิ ทท่ี นั สมยั ค. ถอ้ ยคาทแี่ หลมคม ลกึ ซ้งึ ทาใหผ้ ูฟ้ ังประทบั ใจ ง. คากล่าวทด่ี งี าม ไพเราะ มแี นวคดิ คมคาย ลกึ ซ้งึ ง. ถอ้ ยคาทไ่ี พเราะ ทาใหผ้ ูฟ้ ังประทบั ใจ 13. ขอ้ ความทย่ี กตวั อย่าง เป็นคาคมประเภทใด นรชาตวิ างวาย มลายสน้ิ ทงั้ อนิ ทรยี ์ สถติ ทวั่ แต่ชวั่ ดี ประดบั ไวใ้ นโลกา ก. คาคมที่ใชค้ าเปรยี บเทยี บใหค้ วามหมาย ข. คาคมทเ่ี ป็นคาสมั ผสั คลอ้ งจอง ค. คาคมทีแ่ ต่งดว้ ยคาประพนั ธ์ ง. คาคมทเ่ี ป็นคาพูดไพเราะ 14. “เทรนด์ใหม่ของธรุ กจิ ยคุ นวตั กรรมไม่รูจ้ บ” ขอ้ ความน้ี เป็นงานเขยี นประเภทใด ก. คาแนะนา ข. คาขวญั ค. โฆษณา ง. คาคม มฐ. ท 2.1 ม.3/2-5, 8,10 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 15 เฉลย 1. ก 2. ค 3. ก 4. ข 5. ข 6. ง 7. ง 8. ง 9. ข 10. ค 11. ข 12. ง 13. ค 14. ค 15. ง 250 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขียนเพอื่ การส่ือสาร 1 เร่ืองที่ 1 การเขยี นในโอกาสต่างๆ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 การเขียนในโอกาสต่างๆ 1 ชวั่ โมง 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นขอ้ ความตามสถานการณ์และโอกาสตา่ งๆ ตอ้ งใชถ้ อ้ ยคาใหถ้ กู ตอ้ งตามระดบั ภาษา และมมี ารยาท ในการเขยี น 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.3/2 เขยี นขอ้ ความโดยใชถ้ ้อยคาไดถ้ ูกต้องตามระดบั ภาษา ม.3/10 มมี ารยาทในการเขยี น 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) เขยี นขอ้ ความโดยใชถ้ อ้ ยคาไดถ้ กู ตอ้ งตามระดบั ภาษา 2) มมี ารยาทในการเขยี น 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) การเขยี นขอ้ ความตามสถานการณแ์ ละโอกาสตา่ งๆ เชน่ - คาอวยพรในโอกาสตา่ งๆ - คาขวญั - คาคม - โฆษณา - สนุ ทรพจน์ 2) มารยาทในการเขยี น 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 2) ทกั ษะการประเมนิ 4.2 ความสามารถในการคิด 4) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1) ทกั ษะการสงั เกต 3) ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 5) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 251 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนเพื่อการสื่อสาร 1 2. ใฝ่เรยี นรู้ เร่ืองที่ 1 การเขียนในโอกาสต่างๆ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 3. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 2. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั การเขยี นในโอกาสต่างๆ โดยใหน้ ักเรยี นเล่าประสบการณใ์ นการเขยี น เพ่อื เป็นการทบทวนความรเู้ ดมิ 3. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถงึ ประโยชน์ของการเขยี นในโอกาสต่างๆ 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การเขียนประเภทใด ท่ีใช้ในการเข้าสงั คมกบั ผอู้ ื่น (เขยี นคำอวยพรในโอกำสตำ่ งๆ) 5. ครแู บ่งนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ กาหนดหมายเลขประจาตวั ใหส้ มาชกิ แตล่ ะคน ในกลมุ่ เป็นหมายเลข 1-5 เรยี กวา่ กล่มุ บา้ น 6. ครูใหส้ มาชกิ ทม่ี หี มายเลขเดยี วกนั มารวมกนั เป็นกลุ่มใหม่ เรยี กวา่ กลุ่มผเู้ ชย่ี วชาญ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง การเขยี นในโอกาสต่างๆ จากหนงั สอื เรยี น และหอ้ งสมุด ดงั น้ี - กลุม่ หมายเลข 1 ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นอวยพร - กลุ่มหมายเลข 2 ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นคาขวญั - กลุ่มหมายเลข 3 ศกึ ษาเร่อื ง การเขยี นคาคม - กล่มุ หมายเลข 4 ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นโฆษณา - กลมุ่ หมายเลข 5 ศกึ ษาเร่อื ง การเขยี นสนุ ทรพจน์ 7. เม่อื นักเรยี นกลุ่มผูเ้ ชย่ี วชาญศกึ ษาความรู้ จนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจชดั เจน ผลดั เปลย่ี นกนั ซกั ถามและ อธบิ ายจนมคี วามเขา้ ใจ จากนัน้ แยกย้ายกนั กลบั ไปยงั กลมุ่ บา้ น 8. สมาชกิ แต่ละคนผลดั กนั อธบิ ายความรตู้ ามทต่ี นไดศ้ กึ ษามาใหส้ มาชกิ ในกล่มุ บา้ นฟังตามลาดบั หมายเลข 1-5 จนครบ 9. นกั เรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 5.1 เร่ือง การเขียนขอ้ ความตามสถานการณ์และโอกาส เม่อื เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ นาสง่ ครูตรวจ 10. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • ถ้านกั เรยี นไดร้ บั มอบหมายให้เป็นผเู้ ขียนอวยพรครทู ี่ปรึกษาในโอกาสท่ีท่านไดเ้ ลือ่ น ตาแหน่งเป็นครชู านาญการพิเศษ นกั เรยี นจะมวี ิธีการใช้ถอ้ ยคาภาษาอยา่ งไร (พจิ ำรณำตำมคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 252 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขียนเพื่อการสื่อสาร 1 เรื่องที่ 1 การเขียนในโอกาสต่างๆ 11. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรเู้ กยี่ วกบั หลกั การเขยี นในโอกาสตา่ งๆ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ และ นาไปปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 (ประเมนิ ตำมสภำพจรงิ ) ตรวจใบงานท่ี 5.1 ใบงานท่ี 5.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และมุ่งมนั่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ใบงานท่ี 5.1 เรอ่ื ง การเขยี นขอ้ ความตามสถานการณแ์ ละโอกาส 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ - หอ้ งสมดุ 253 หลกั ภาษาฯ ม.3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นเพอื่ การส่ือสาร 1 เร่ืองที่ 1 การเขียนในโอกาสต่างๆ ใบงานที่ 5.1 การเขียนข้อความตามสถานการณ์และโอกาส คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามทก่ี าหนด 1. นักเรยี นคดิ วา่ คาอวยพรตอ่ ไปน้ีเขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั การเขยี นหรอื ไม่ เพราะเหตุใด ถา้ ไม่ถกู ตอ้ ง ใหน้ กั เรยี นแกไ้ ข ในวโรกาสวนั ขน้ึ ปีใหมข่ อใหค้ ณุ ครูมคี วามสุขความเจรญิ พรงั่ พรอ้ มเกยี รตยิ ศทรพั ยส์ นิ และเงนิ ตรา เป็นทพ่ี ง่ึ พาของลกู ศษิ ยต์ ลอดไป 2. ใหน้ ักเรยี นเขยี นคาขวญั รณรงคใ์ หเ้ ดก็ ไทยอ่านไทย เขยี นไทยใหถ้ กู วธิ ี 3. ใหน้ กั เรยี นเขยี นคาคมเกย่ี วกบั การใชช้ วี ติ ในสงั คมไทยปัจจบุ นั 254 หลกั ภาษาฯ ม.3