หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 4 การอ่านตคี วามและประเมินคุณค่าหนงั สือนอกเวลา แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 การอ่านตีความและ 1 ชวั่ โมง ประเมินคณุ ค่าหนังสือ นอกเวลา (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นหนงั สอื นอกเวลาเพ่อื ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รยี นใหส้ ามารถตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากงาน เขยี นอยา่ งหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/9 ตคี วามและประเมนิ คณุ ค่า แนวคดิ ท่ไี ดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - ตคี วามและประเมนิ คุณคา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากการอ่านหนังสอื นอกเวลาเพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง - การอา่ นตามความสนใจ เช่น หนงั สอื อ่านนอกเวลา 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความคดิ เหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 102 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 4 การอ่านตีความและประเมนิ คุณค่าหนงั สือนอกเวลา 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นเขยี นบทความแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั คณุ คา่ ของหนังสอื อา่ นนอกเวลา ออกแบบชน้ิ งาน และระบายสใี หส้ วยงาม 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • บทความมลี กั ษณะอยา่ งไร การเขยี นแสดงความคิดเหน็ เหมาะสมกบั ลกั ษณะของบทความ หรือไม่ อยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)ด...ค 3. นักเรยี นแลกเปลย่ี นกนั อ่านผลงานการเขยี นพรอ้ มทงั้ แสดงความคดิ เหน็ 4. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั แต่งตงั้ คณะกรรมการเพอ่ื คดั เลอื กผลงานของนักเรยี นไปตดิ ป้ายนเิ ทศ จากนนั้ ครูประเมนิ ผลงานนักเรยี น 7 การวดั และประเมินผล เครอื่ งมอื เกณฑ์ วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย 8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ — 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ — 103 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 4 การอ่านตคี วามและประเมินคุณค่าหนังสือนอกเวลา ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 104 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองที่ 5 การอ่านตีความและประเมินคณุ ค่าหนงั สือตามความสนใจ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 8 การอ่านตีความและ 1 ชวั่ โมง ประเมินคณุ ค่าหนังสือ ตามความสนใจ (1) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจและตามวยั ของนกั เรยี น ใหต้ คี วามและประเมนิ คุณค่า แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากงาน เขยี นอย่างหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/9 ตคี วามและประเมนิ คณุ ค่า แนวคดิ ท่ีไดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากการอ่านหนังสอื ตามความสนใจ เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง - การอ่านตามความสนใจ เชน่ หนงั สอื อา่ นตามความสนใจและตามวยั ของนกั เรยี น 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ม่งุ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 105 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 5 การอ่านตีความและประเมินคณุ ค่าหนงั สือตามความสนใจ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั หนงั สอื ทน่ี กั เรยี นสนใจ แลว้ ใหบ้ อกว่าเป็นหนังสอื ประเภทใด มลี ักษณะ การเขยี นอยา่ งไร เหตุใดจงึ สนใจหนังสอื ประเภทนนั้ จากนนั้ ซกั ถามนกั เรยี นถงึ หนังสอื ทน่ี กั เรยี นสนใจ ในระดบั รองลงมา ถา้ ไม่มหี นงั สอื ทน่ี กั เรยี นสนใจ นักเรยี นจะอา่ นหนงั สอื ประเภทอ่นื หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด การอา่ นหนงั สอื มปี ระโยชน์อย่างไร 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรียนคิดวา่ คณุ ลกั ษณะด้านใดที่ทาให้นกั เรยี นสนใจหนังสือประเภทเดียวกบั เพ่ือน และผทู้ ่ีสนใจหนงั สอื ประเภทเดียวกนั มีนิสยั เหมือนกนั หรอื ไม่ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)ด...ค 3. นกั เรยี นทส่ี นใจหนงั สอื ประเภทเดยี วกนั มารวมกลุ่มกนั ถา้ มนี ักเรยี นสนใจหนงั สอื ประเภทเดยี วกนั หลายคนใหแ้ บ่งเป็นกลมุ่ ยอ่ ย แต่ละกลมุ่ ใหม้ สี มาชกิ กลมุ่ ละ 4-5 คน จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาทบทวน หลกั การอา่ นตคี วามและประเมนิ ค่าหนงั สอื 4. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั สรุปหลกั การอ่านตคี วามและประเมนิ คา่ หนังสอื จดั ทาเป็นแผนทค่ี วามคดิ 5. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรยี นบอกเหตผุ ลในการเลือกหนังสือท่ีสนใจอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 6. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลอื กอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ กลุ่มละ 1 เรอ่ื ง 7. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 2.5 เรอ่ื ง การอ่านตีความและประเมินคา่ หนงั สอื ตามความสนใจ (1) 8. นกั เรยี นแต่ละคนนาใบงานท่ี 2.5 มาสนทนาแลกเปลย่ี นเรยี นรภู้ ายในกลมุ่ แลว้ ช่วยกนั สรปุ เป็นผลงาน ของกลมุ่ จากนนั้ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น 9. ครูนาสนทนา อภปิ รายเกยี่ วกบั การนาเสนอผลงานของแต่ละกล่มุ แลว้ ช่วยจดั ระเบยี บขอ้ มลู 10. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรียนคิดว่า กลมุ่ ใดนาเสนอผลงานไดน้ ่าสนใจมากที่สุด เพราะเหตุใด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 106 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เรื่องท่ี 5 การอ่านตีความและประเมินคุณค่าหนังสือตามความสนใจ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.5 ใบงานที่ 2.5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) หนงั สอื ทน่ี กั เรยี นสนใจ 3) ใบงานท่ี 2.5 เร่อื ง การอา่ นตคี วามและประเมนิ ค่าหนงั สอื ตามความสนใจ (1) 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — 107 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองที่ 5 การอ่านตคี วามและประเมินคุณค่าหนงั สือตามความสนใจ ใบงานท่ี การอ่านตีความและประเมินค่า 2.5 หนังสือตามความสนใจ (1) คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ เลอื กอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ กล่มุ ละ 1 เร่อื ง แลว้ นาเรอ่ื งทอ่ี า่ นมาตคี วาม และประเมนิ คา่ เป็นรายบคุ คล 108 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 5 การอ่านตคี วามและประเมินคุณค่าหนงั สือตามความสนใจ ใบงานที่ การอ่านตีความและประเมินค่า 2.5 หนังสือตามความสนใจ (1) คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เลอื กอา่ นหนังสอื ตามความสนใจ กล่มุ ละ 1 เร่อื ง แลว้ นาเรอ่ื งทอ่ี า่ นมาตคี วาม และประเมนิ ค่า เป็นรายบคุ คล (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 109 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 5 การอ่านตีความและประเมนิ คุณค่าหนังสือตามความสนใจ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 110 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองที่ 5 การอ่านตีความและประเมินคณุ ค่าหนงั สือตามความสนใจ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 9 การอ่านตีความและ 1 ชวั่ โมง ประเมินคณุ ค่าหนังสือ ตามความสนใจ (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจและตามวยั ของนกั เรยี น ใหต้ คี วามและประเมนิ คุณค่า แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากงาน เขยี นอย่างหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/9 ตคี วามและประเมนิ คณุ ค่า แนวคดิ ท่ีไดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากการอ่านหนังสอื ตามความสนใจ เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง - การอ่านตามความสนใจ เชน่ หนงั สอื อา่ นตามความสนใจและตามวยั ของนกั เรยี น 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ม่งุ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 111 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องท่ี 5 การอ่านตีความและประเมนิ คณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เขยี นสรปุ ขอ้ มูลส่งครเู พอ่ื คดั เลอื กผลงานดเี ด่น จากนนั้ นาผลงานทค่ี ดั เลอื กมาตดิ ป้ายนิเทศเพ่อื ใหท้ ุกคนดเู ป็นตวั อยา่ ง 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • ผลงานดีเดน่ มลี กั ษณะอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)ด...ค 3. นักเรยี นเลอื กอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ แลว้ ทาใบงานที่ 2.6 เร่อื ง การอา่ นตีความและประเมินค่า หนงั สือตามความสนใจ (2) 4. นักเรยี นเลอื กอา่ นหนังสอื อ่นื ๆ ตามความสนใจ แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการอา่ นลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน จากนนั้ นาส่งครผู ดู้ แู ลโครงการรกั การอ่านของโรงเรยี น 7 การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 2.6 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.6 ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มนั่ ในการทางาน และรกั ความเป็นไทย แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ - ใบงานท่ี 2.6 เรอ่ื ง การอ่านตคี วามและประเมนิ ค่าหนังสอื ตามความสนใจ (2) 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ — 112 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องที่ 5 การอ่านตีความและประเมนิ คณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ ใบงานที่ การอ่านตีความและประเมินคา่ 2.6 หนังสือตามความสนใจ (2) คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ 1 เร่อื ง แลว้ นาเร่อื งทอ่ี า่ นมาตคี วามและประเมนิ คา่ 113 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 5 การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าหนงั สือตามความสนใจ ใบงานท่ี การอ่านตีความและประเมินคา่ 2.6 หนังสือตามความสนใจ (2) คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ 1 เร่อื ง แลว้ นาเร่อื งทอ่ี า่ นมาตคี วามและประเมนิ คา่ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 114 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 5 การอ่านตีความและประเมนิ คุณค่าหนังสือตามความสนใจ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 115 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องท่ี 6 การอ่านตีความและประเมินค่าหนังสือทีค่ รูและนักเรียนร่วมกนั กาหนด แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 10 การอ่านตีความและ 1 ชวั่ โมง ประเมินค่าหนังสือท่ีครแู ละ นักเรยี นร่วมกนั กาหนด (1) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านหนังสอื ทค่ี รแู ละนักเรยี นรว่ มกนั กาหนด ใหต้ คี วามและประเมนิ คุณคา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากงานเขยี น อยา่ งหลากหลายเพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/9 ตคี วามและประเมนิ คุณค่า แนวคดิ ทีไ่ ดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การอา่ นตามความสนใจ เช่น หนงั สอื อ่านทค่ี รแู ละนักเรยี นรว่ มกนั กาหนด 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 116 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามและประเมินค่าหนงั สือทค่ี รูและนกั เรียนร่วมกันกาหนด 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2 1) การท่ีเราจะเลือกหนงั สือให้ผ้อู นื่ อ่าน นกั เรยี นคิดวา่ ควรเลือกหนังสอื ประเภทใด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 2) นักเรยี นคิดว่า หนังสอื ดีควรมลี กั ษณะอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)ด...ค 2. ครูและนักเรยี นร่วมกนั กาหนดเร่อื งให้นกั เรยี นอา่ น เป็นการชว่ ยกนั อ่านหรอื อ่านตามลาพงั เพ่อื จบั ใจความสาคญั และรายละเอยี ดของเร่อื งโดยการเดา สรุป หรอื ลาดบั ความ จากนนั้ ครตู งั้ คาถาม เกยี่ วกบั เร่อื งทอ่ี า่ น เช่น - เม่อื อา่ นเร่อื งน้แี ลว้ นกั เรยี นคดิ ว่าน่าจะเป็นเรอ่ื งเกยี่ วกบั อะไร - ใครเป็นผเู้ ขยี นเรอ่ื งน้ี - ผเู้ ขยี นเขยี นใหใ้ ครอา่ น - เรอ่ื งน้เี ป็นความคดิ ของใคร มเี หตุผลสนบั สนุนอยา่ งไร - ผเู้ ขยี นบอกอะไร สอ่ื อะไรใหผ้ อู้ า่ น - ผอู้ ่านมคี วามรเู้ ดมิ เกยี่ วกบั เร่อื งน้อี ยา่ งไรบา้ ง - อา่ นเร่อื งทก่ี าหนดใหแ้ ลว้ ผอู้ า่ นมคี วามรคู้ วามคดิ อย่างไรบา้ ง - รูปแบบการเขยี นเร่อื งน้เี ป็นอยา่ งไร - การเขยี นเร่อื งน้ใี ชอ้ รรถลกั ษณะแบบใด 3. นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง อรรถลกั ษณะทใ่ี ชส้ อ่ื สาร จากใบความรู้ จากนนั้ ทาแผนทค่ี วามคดิ สรุป ลกั ษณะ คณุ ค่า หรอื ความสาคญั ของเร่อื งทอ่ี า่ น และบนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดล้ งในแบบบนั ทกึ การอา่ น 4. นักเรยี นวเิ คราะหก์ ารลาดบั ความของเร่อื งทอ่ี า่ นว่าเรยี งตามลาดบั เน้อื หา เหตกุ ารณ์ เวลา หรอื ความสาคญั ของเร่อื งถกู ตอ้ งหรอื ไม่ อยา่ งไร 5. นกั เรยี นวเิ คราะหอ์ รรถลกั ษณะในการเขยี นของเรอ่ื งทอ่ี า่ นวา่ เป็นแบบใด และใหน้ กั เรยี นกาหนด อรรถลกั ษณะในการเขยี นของตนเอง 6. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายร่วมกนั เกยี่ วกบั คาศพั ท์ และสานวนทน่ี กั เรยี นยงั ไม่เขา้ ใจ คาบางคา ครไู ม่บอกโดยตรง แต่ใหน้ กั เรยี นเดาหรอื สรปุ ความหมายจากบรบิ ทหรอื คาชแ้ี นะตา่ งๆ 7. นกั เรยี นวางแผนการเขยี นของตนตามตวั อย่างทอ่ี า่ น โดยกาหนดโครงเรอ่ื งวา่ มปี ระเดน็ หลกั อะไรบา้ ง แต่ละประเดน็ มขี อ้ มลู หลกั ฐานสนับสนุนอยา่ งไร แยกประเดน็ ละ 1 ย่อหน้า 8. นักเรยี นบนั ทกึ สาระของเรอ่ื งตามเป้าหมาย หรอื ตามแผนการเขยี นทน่ี กั เรยี นกาหนด อาจทางานเป็น กลมุ่ หรอื ตามลาพงั นกั เรยี นแตล่ ะคนจะบนั ทกึ ขอ้ มลู จากการอ่านของตนแลว้ นามาอภปิ รายร่วมกนั แลว้ จดั ลาดบั ขอ้ มูลเพอ่ื เขยี นเรอ่ื งของตนตามลาพงั 117 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 6 การอ่านตีความและประเมนิ ค่าหนังสือทคี่ รูและนกั เรียนร่วมกนั กาหนด 9. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • ถ้านกั เรยี นวางแผนการเขียนแลว้ ผลงานไมต่ รงตามแผนท่ีวางไว้ นกั เรยี นมีวิธีปรบั ปรงุ แกไ้ ขอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)ด. 10. นักเรยี นกาหนดจดุ ประสงคว์ ่าตอ้ งการเขยี นเรอ่ื งเพ่อื อะไร เขยี นใหใ้ ครอา่ น 11. นักเรยี นลงมอื เขยี นตามตน้ รา่ งทท่ี าไวโ้ ดยขยายความ หรอื ขอ้ มลู ใหช้ ดั เจน 12. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรียนคิดว่า การกาหนดจุดประสงคใ์ นการเขียนเป็นผลดีหรอื ผลเสียต่อผ้เู ขียนอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)ด. 7 การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์ วิธีการ แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) ใบความรู้ เรอ่ื ง อรรถลกั ษณะของภาษา 2) หนังสอื ทค่ี รแู ละนกั เรยี นร่วมกนั กาหนด 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — ค 118 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองท่ี 6 การอ่านตคี วามและประเมินค่าหนงั สือทคี่ รูและนักเรียนร่วมกนั กาหนด ใบความรู้ เร่ือง อรรถลกั ษณะของภาษา ความหมายของอรรถลกั ษณะ อรรถลกั ษณะ หมายถงึ แบบหรอื ชนิดของเน้อื ความตา่ งๆ ในแต่ละบรบิ ทของสถานการณ์และวฒั นธรรม ซง่ึ มจี ุดมงุ่ หมายทแี่ น่นอนตายตวั ในการใหผ้ ูใ้ ชภ้ าษาประสบความสาเรจ็ ในการใชภ้ าษา ชนิดของอรรถลกั ษณะ 1. เร่อื งเล่าจากประสบการณ์ (Recount) 2. การรายงาน (Report) 3. การอธบิ าย (Explanation) 4. เรอ่ื งเกย่ี วกบั ความคดิ เหน็ (Exposition) 5. วธิ กี าร (Procedure) 6. เร่อื งเล่าหรอื บรรยายเชงิ จนิ ตนาการ (Narative) 7. อภปิ ราย (Discussion) 8. การสงั เกต (Observation) รายละเอียดของอรรถลกั ษณะ 1. เรอ่ื งเล่าจากประสบการณ์ เป็นเรอ่ื งทเ่ี ขยี นเล่าถงึ เหตุการณ์ทผ่ี า่ นมาและจากประสบการณข์ องผูเ้ ขยี น ลกั ษณะโครงสร้างในการดาเนินเรือ่ งของเนื้อความ ลกั ษณะของภาษา 1) มคี าวเิ ศษณ์บ่งบอกเวลาและลาดบั ของเหตุการณ์ 2) อา้ งถงึ บุคคลอยา่ งเฉพาะเจาะจง 3) เป็นเรอ่ื งเลา่ ซ่งึ เป็นเรอ่ื งในอดตี 4) มคี าเชอ่ื ม เพอ่ื บอกลาดบั การเกดิ ของเหตุการณ์กอ่ นหลงั และใหใ้ จความสมั พนั ธต์ อ่ เน่อื งกนั 5) ตอนทา้ ยของเร่อื งจะบอกค่านยิ มหรอื ความเหน็ ส่วนตวั 2. รายงาน เป็นการเขยี นเพ่อื ใหค้ วามรูแ้ ก่ผูอ้ ่าน ลกั ษณะโครงสร้างในการดาเนินเรื่องของเนื้อความ 1) จะมบี ทนาโดยกลา่ วถงึ เรอ่ื งทวั่ ๆ ไป ซ่งึ อาจจะใหค้ าจากดั ความหรอื นยิ ามทวั่ ไปของเรอ่ื ง 2) บอกรายละเอยี ดของเร่อื งนนั้ ๆ ลกั ษณะของภาษา 1) ใชค้ าหรอื ภาษาเป็นกลางไม่เฉพาะเจาะจง 2) มคี ากรยิ าแสดงอาการ การกระทา การแสดงความเป็นเจา้ ของ 3) อาจมหี วั ขอ้ กล่าวนาเป็นเร่อื งๆ 4) มกั เป็นประโยคบอกเลา่ 119 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองท่ี 6 การอ่านตคี วามและประเมินค่าหนงั สือท่ีครูและนกั เรียนร่วมกนั กาหนด 3. การอธิบาย เป็นการเขยี นเกยี่ วกบั สาเหตแุ ละกระบวนการของการเกดิ ปรากฏการณ์ต่างๆ โดยใหร้ ายละเอยี ด เกย่ี วกบั เหตกุ ารณ์และผลวา่ เกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร และ เหตใุ ดจงึ เกดิ ขน้ึ ลกั ษณะโครงสรา้ งในการดาเนินเรือ่ งของเนื้อความ 1) บอกหลกั การ สาเหตแุ ละผล บอกลกั ษณะของเหตุการณน์ นั้ ๆ 2) มบี ทสรุปจากหลกั การ ลกั ษณะของภาษา 1) เป็นประโยคบอกเลา่ 2) ใชภ้ าษาเป็นกลางไม่เฉพาะเจาะจง 3) มคี าสนั ธานเช่อื มประโยค เพ่อื บง่ บอกความเป็นเหตเุ ป็นผลต่อกนั ใชค้ าวเิ ศษณ์ เพ่อื ขยายความ ของการกระทาใหช้ ดั เจนยง่ิ ขน้ึ 4. เรื่องเก่ียวกบั ความคิดเหน็ เป็นการเขยี นแสดงความคดิ เหน็ ส่วนตวั หรอื ความคดิ ของตนเอง หรอื ผูอ้ น่ื ทม่ี ี ตอ่ เรอ่ื งใดเร่อื งหนงึ่ ซง่ึ อาจเป็นการถกเถยี งหรอื โตแ้ ยง้ ลกั ษณะโครงสร้างในการดาเนินเนื้อความ 1) แสดงเหตผุ ลเกยี่ วกบั การเร่อื งทเ่ี ขยี นหรอื แสดงความคดิ เหน็ 2) มขี อ้ ความหรอื ประโยคสนับสนุนและผลทเี่ สนอในแตล่ ะความคดิ 3) มบี ทสรปุ ย้าการแสดงความคดิ เหน็ ของตนเพอ่ื เน้นความสาคญั ของเร่อื งใหน้ ่าสนใจและน่าเชอ่ื ถอื ลกั ษณะของภาษา 1) มขี อ้ ความหรอื เน้อื ความเกยี่ วกบั ความคดิ เหน็ ของตนเอง 2) มปี ระโยคสนับสนุนและผลทเี่ สนอในแต่ละความคดิ 3) ใชส้ รรพนามบุรษุ ที่ 1 และบุรุษที่ 2 ในการกล่าวถงึ 4) มคี าแสดงเจตคติ 5. วิธีการ เป็นการเขยี นแนะนาการปฏบิ ตั ิ ซง่ึ จะกลา่ วถงึ วธิ กี าร กระบวนการหรอื ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิทช่ี ดั เจน ลกั ษณะโครงสร้างในการดาเนินเร่อื ง 1) ตอ้ งมจี ุดม่งุ หมายในการเขยี นทแ่ี น่นอน 2) ใหร้ ายละเอยี ดของวสั ดุ อุปกรณท์ ต่ี อ้ งใช้ 3) เรยี งลาดบั ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั ิ ลกั ษณะของภาษา 1) เป็นประโยคคาสงั่ 2) ใชค้ ากรยิ าทบ่ี ง่ บอกอาการปฏบิ ตั ิ 3) ใชภ้ าษาเป็นกลางไมเ่ ฉพาะเจาะจง ไม่อา้ งองิ ตวั บคุ คล 4) ใชค้ านาม 6. เรื่องเลา่ หรือบรรยายเชิงจินตนาการ เป็นการเขยี นเร่อื งเล่าจากจนิ ตนาการ ส่วนมากจะเป็นเรอ่ื งนทิ าน หรอื นยิ าย ลกั ษณะโครงสร้างในการดาเนินเรอ่ื งของเนื้อความ 1) มกี ารนาเร่อื ง กล่าวความเป็นไปของเร่อื ง บง่ บอกตวั บุคคล สถานทหี่ รอื เวลา 2) มลี าดบั เหตุการณใ์ นเร่อื ง 120 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เรื่องท่ี 6 การอ่านตีความและประเมินค่าหนังสือท่ีครูและนกั เรียนร่วมกันกาหนด 3) แสดงปมปัญหาของเร่อื ง 4) แสดงการคลค่ี ลายของเร่อื งหรอื การแกป้ มปัญหา 5) อาจใหค้ ตพิ จน์หรอื ขอ้ เตอื นใจทา้ ยเรอ่ื ง ลกั ษณะของภาษา 1) เป็นเร่อื งเล่าในอดตี 2) ใชบ้ พุ บทบอกเวลา สถานที่ 3) ใชส้ รรพนามบุรษุ ที่ 3 ในการกลา่ วถงึ หรอื อา้ งองิ บุคคลหรอื สง่ิ ของอน่ื ๆ 4) อาจมกี ารซา้ ยา้ เร่อื ง 5) ใชส้ นั ธานเชอ่ื มโยงความสมั พนั ธข์ องเรอ่ื ง บ่งบอกความเป็นเหตุเป็นผลความคลอ้ ยตามและความขดั แยง้ 7. อภิปราย เป็นการเขยี นเพ่อื แสดงถงึ เหตุผลและความจาเป็น ชใ้ี หเ้ หน็ ขอ้ ดขี อ้ เสยี เป็นการจูงใจ ใหผ้ ูอ้ า่ นคลอ้ ยตาม ลกั ษณะโครงสร้างในการดาเนินเรื่องของเนื้อความ 1) เรมิ่ บทนาดว้ ยการใหห้ ลกั การหรอื ความสาคญั ของเรอ่ื งใหช้ ดั เจน 2) กลา่ วถงึ ขอ้ ขดั แยง้ หรอื สนับสนุนโดยมกี ารอา้ งองิ แสดงเหตผุ ล 3) ตอนทา้ ยกลา่ วเสนอแนะเชงิ สรปุ วา่ ควรทาหรอื สนบั สนุนอยา่ งไร โดยย้าหลกั การหรอื ความสาคญั ของเร่อื ง เชน่ เดยี วกบั บทนา ลกั ษณะของภาษา 1) มขี อ้ ความแสดงความคดิ เหน็ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ตนเองและผูอ้ ่นื 2) ใชป้ ระโยคบอกเลา่ 3) มขี อ้ ความสนับสนุน หรอื อา้ งองิ หรอื ใหเ้ หตุผล 4) คาเชอ่ื ม เชน่ คาสนั ธาน คาบพุ บท คาวเิ ศษณ์ เพ่อื แสดงความขดั แยง้ คลอ้ ยตามหรอื เป็นเหตผุ ลแกก่ นั 8. การสงั เกต เป็นการเขยี นเพอ่ื ใหค้ วามเหน็ และใหร้ ายละเอยี ดของการสงั เกต สงิ่ ใดสงิ่ หน่ึง ลกั ษณะโครงสรา้ งในการดาเนินเรือ่ งของเนื้อความ 1) มบี ทนาเกย่ี วกบั สง่ิ ทส่ี งั เกต บอกเวลาหรอื สถานท่ี 2) มลี าดบั ของการบอกรายละเอยี ด 3) มคี วามคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การสงั เกต ลกั ษณะของภาษา 1) มคี าวเิ ศษณบ์ อกเวลาหรอื สถานท่ี 2) ใชค้ าคณุ ศพั ท์บอกลกั ษณะของคานามตา่ งๆ 3) ใชภ้ าษาเป็นกลางๆ ไมเ่ ฉพาะเจาะจงในการอา้ งองิ 121 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองที่ 6 การอ่านตีความและประเมินค่าหนงั สือท่ีครูและนกั เรียนร่วมกนั กาหนด ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 122 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องท่ี 6 การอ่านตีความและประเมินค่าหนังสือทีค่ รูและนักเรียนร่วมกนั กาหนด แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 11 การอ่านตีความและ 1 ชวั่ โมง ประเมินค่าหนังสือท่ีครแู ละ นักเรยี นร่วมกนั กาหนด (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านหนังสอื ทค่ี รแู ละนักเรยี นรว่ มกนั กาหนด ใหต้ คี วามและประเมนิ คุณคา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากงานเขยี น อยา่ งหลากหลายเพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/9 ตคี วามและประเมนิ คุณค่า แนวคดิ ทีไ่ ดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การอา่ นตามความสนใจ เช่น หนงั สอื อ่านทค่ี รแู ละนักเรยี นรว่ มกนั กาหนด 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 123 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องท่ี 6 การอ่านตคี วามและประเมนิ ค่าหนังสือทค่ี รูและนกั เรียนร่วมกนั กาหนด 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • นกั เรียนมีวิธีการพิจารณาอยา่ งไรวา่ ข้อความใดเหมาะสมหรอื ไมเ่ หมาะสมกบั เร่ืองที่เขียน (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 2. เม่อื นกั เรยี นแต่ละคนเขยี นงานเสรจ็ แลว้ ใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มอา่ น แลว้ อภปิ รายถงึ ความชดั เจนของขอ้ ความ อรรถลกั ษณะทใ่ี ชส้ ่อื สาร แกไ้ ขขอ้ ความทไ่ี มเ่ หมาะสม 3. นักเรยี นแกไ้ ขปรบั ปรุงและเรยี บเรยี งเรอ่ื งทเ่ี ขยี นใหม่ ตามทไ่ี ดร้ บั คาเสนอแนะจากกล่มุ หรอื จากครู พจิ ารณาความเหมาะสมของถอ้ ยคา สานวนภาษา โครงสรา้ งของเร่อื งว่าตรงตามจดุ ประสงคท์ ว่ี างไว้ หรอื ไม่ เมอ่ื พอใจแลว้ ใหค้ ดั ลอกเรอ่ื งใหม่ มภี าพประกอบ 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2 1) ภาพประกอบหนังสือเป็นผลดีต่อหนงั สอื อย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 2) ภาพประกอบหนังสอื ที่ดีควรมลี กั ษณะอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)ด...ค 5. เมอ่ื นกั เรยี นทาเสรจ็ แลว้ ใหแ้ ลกเปลย่ี นกนั อ่าน เพอ่ื ทาใหร้ สู้ กึ เกดิ ความภูมใิ จและมกี าลงั ใจทจ่ี ะเขยี น เรอ่ื งตอ่ ไป และนาส่งครเู พอ่ื ประเมนิ ผลงาน 6. นกั เรยี นทากจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะทค่ี วรฝึกเพม่ิ เตมิ เชน่ ทาแผนทค่ี วามคดิ แขง่ ขนั ตอบปัญหาจากเรอ่ื ง ทอ่ี ่าน (กรณีทย่ี งั มเี วลาเหลอื ) 7 การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์ วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน และรกั ความเป็นไทย แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ - อปุ กรณ์ในการจดั ทาหนังสอื และภาพประกอบหนงั สอื 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — 124 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองที่ 6 การอ่านตีความและประเมินค่าหนงั สือท่ีครูและนกั เรียนร่วมกนั กาหนด ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 125 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ 1 ชวั่ โมง เรื่องที่ 7 การเขยี นกรอบแนวคิด แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 12 การเขียนกรอบแนวคิด 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ต่างๆ ผเู้ รยี นตอ้ งเขยี นกรอบแนวคดิ ผงั ความคดิ บนั ทกึ ยอ่ ความ และรายงาน 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/4 อา่ นเรอ่ื งต่างๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคดิ ผงั ความคดิ บนั ทกึ ย่อความ และรายงาน 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - อา่ นเร่อื งต่างๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคดิ ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง • การอ่านจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ งๆ เช่น - สารคดี - สารคดชี วี ประวตั ิ - ตานาน 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการสรุปลงความคดิ เหน็ 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุง่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 126 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เร่ืองท่ี 7 การเขยี นกรอบแนวคิด 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครนู าตวั อยา่ งกรอบความคดิ ซงึ่ เป็นผลงานเกา่ ของนกั เรยี นทม่ี คี วามแตกต่างกนั อยา่ งหลากหลาย มาใหน้ กั เรยี นดู และใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ 2. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั การเขยี นกรอบความคดิ และประโยชน์ของการเขยี นกรอบความคดิ 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การเขยี นกรอบความคิด นักเรียนจะนาความรใู้ นวิชาใดมาใช้ไดบ้ ้าง และใช้อยา่ งไร (วชิ าศลิ ปศกึ ษา ใชใ้ นการตกแต่งใหส้ วยงาม) 4. นกั เรยี นรวมกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) จากนนั้ ครูชแ้ี จงใหน้ ักเรยี นทราบวา่ ความสาเรจ็ ของกลมุ่ จะตอ้ งอาศยั ผลจากความรว่ มมอื กนั ช่วยเหลอื กนั ผทู้ เ่ี ก่งกว่าจะตอ้ งชว่ ยผทู้ อ่ี อ่ นกว่า หรอื เรยี น ชา้ กวา่ 5. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การเขยี นกรอบความคดิ จากหนังสอื เรยี น จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกนั ทาใบงานที่ 2.7 เรื่อง สรปุ ความรเู้ รื่องการเขียนกรอบความคิด เสรจ็ แลว้ นาส่งครตู รวจ 6. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เลอื กอ่านสารคดเี กย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1 เรอ่ื ง แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดล้ งในแบบ บนั ทกึ การอา่ น จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 2.8 เร่ือง การเขียนกรอบความคิด 7. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การอ่านจบั ใจความ มีประโยชน์อยา่ งไร (ช่วยใหผ้ อู้ ่านจาแนกขอ้ เทจ็ จรงิ ของเรอื่ งทอี่ า่ นออกจากสว่ นประกอบอนื่ ๆ ของเรอื่ งได้) 8. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ตรวจคาตอบจากใบงานท่ี 2.8 แลว้ นาคะแนนของสมาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ มารวมกนั เป็น คะแนนกลมุ่ ครูประกาศชมเชยกลุ่มทม่ี คี ะแนนเฉลย่ี สงู สดุ และรองลงมาเรยี งตามลาดบั โดยตดิ ประกาศ คะแนนไวท้ ป่ี ้ายนเิ ทศของหอ้ งเรยี น 9. ครสู มั ภาษณก์ ารทากจิ กรรมร่วมกนั ของกลุ่มผปู้ ระสบความสาเรจ็ เพ่อื เป็นตวั อย่างการทางานครงั้ ตอ่ ไป ของนกั เรยี น 10. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ครมู อบหมายให้นักเรยี นเลอื กอา่ นงานเขยี นต่อไปนี้ คือ สารคดี สารคดีชีวประวตั ิ และตานาน มาคนละ 1 เร่ือง แลว้ เขยี นกรอบความคิดให้ถกู ต้อง โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) การระบใุ จความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มูลทสี่ นบั สนุนจากเรอื่ งทอี่ า่ น 2) การตคี วามและประเมนิ คุณคา่ แนวคดิ ทไี่ ดจ้ ากงานเขยี น 3) การเสนอแนะแนวทางในการนาแนวคดิ จากเรอื่ งไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ 4) ความถูกตอ้ งของการเขยี นกรอบแนวคดิ 5) การใชภ้ าษา 127 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เรื่องท่ี 7 การเขียนกรอบแนวคดิ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.7 ใบงานท่ี 2.7 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.8 ใบงานที่ 2.8 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจการเขยี นกรอบความคดิ จากการอ่านหนังสอื แบบประเมนิ การเขยี นกรอบความคดิ จาก ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ นอกเวลา การอ่านหนังสอื นอกเวลา 8 สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ตวั อย่างกรอบความคดิ 3) ใบงานท่ี 2.7 เร่อื ง สรุปความรเู้ รอ่ื งการเขยี นกรอบความคดิ 4) ใบงานท่ี 2.8 เรอ่ื ง การเขยี นกรอบความคดิ 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ — 128 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 7 การเขียนกรอบแนวคิด การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการเขียนกรอบความคิดจากการอ่านหนังสือนอกเวลา ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การระบใุ จความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มลู ทส่ี นบั สนุนจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น 2 การตคี วามและประเมนิ คณุ ค่า แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ าก งานเขยี น 3 การเสนอแนะแนวทางในการนาแนวคดิ จากเรอ่ื งไป ใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ 4 ความถกู ตอ้ งของการเขยี นกรอบแนวคดิ 5 การใชภ้ าษา รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ 129 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เรื่องที่ 7 การเขียนกรอบแนวคดิ ใบงานท่ี 2.7 สรปุ ความร้เู รื่องการเขียนกรอบความคิด คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. กรอบแนวคดิ มลี กั ษณะอยา่ งไร 2. ถา้ ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นอา่ นวรรณกรรมทน่ี กั เรยี นสนใจ แลว้ นาความรมู้ าเขยี นกรอบแนวคดิ นกั เรยี น มแี นวทางในการเขยี นอย่างไร 3. การนาเสนอรปู กรอบความคดิ ทาไดอ้ ยา่ งไร 130 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เรื่องที่ 7 การเขยี นกรอบแนวคดิ ใบงานท่ี 2.7 สรปุ ความร้เู รื่องการเขียนกรอบความคิด คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. กรอบแนวคดิ มลี กั ษณะอยา่ งไร กรอบแนวคดิ คอื การเรยี บเรยี งขอ้ มูล ความคดิ องคค์ วามรูต้ ่างๆ แลว้ ถา่ ยทอดความคดิ ด้วยภาพสญั ลกั ษณ์ เสน้ โยงความคดิ ความสมั พนั ธ์ระหว่างประเดน็ หลกั ประเดน็ รอง และประเดน็ ย่อยอนื่ ๆ ดว้ ยการวางประเดน็ หลกั ไว้ กลางหนา้ กระดาษแลว้ ลากเสน้ เชอื่ มประเดน็ หลกั ไปสู่ประเดน็ รองและประเดน็ ย่อยอกี ทหี นงึ่ 2. ถา้ ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นอ่านวรรณกรรมทน่ี กั เรยี นสนใจ แลว้ นาความรมู้ าเขยี นกรอบแนวคดิ นักเรยี น มแี นวทางในการเขยี นอย่างไร แนวทางในการเขยี นกรอบความคดิ 1) ศกึ ษาเรอื่ งทตี่ อ้ งการนาเสนอ 2) ศกึ ษาเอกสารขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง 3) ศกึ ษาวเิ คราะหเ์ น้อื หา 4) เรยี บเรยี งและจดั หมวดหมู่ความคดิ 5) นาเสนอในรปู กรอบความคดิ 3. การนาเสนอรูปกรอบความคดิ ทาไดอ้ ยา่ งไร การนาเสนอในรูปกรอบความคดิ ทาได้ดงั น้ี 1) วางประเดน็ หลกั หรอื ประเดน็ สาคญั ไวก้ ลางหนา้ กระดาษ 2) เขยี นประเดน็ รองไวร้ อบประเดน็ หลกั แลว้ ลากเสน้ โยงความคดิ 3) เขยี นประเดน็ ยอ่ ยของประเดน็ รองแตล่ ะประเดน็ ไวต้ ามหวั ขอ้ 4) พจิ ารณานาเสนอประเดน็ ตา่ งๆ ดว้ ยภาพหรอื สญั ลกั ษณท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั ประเดน็ ทนี่ าเสนอ 131 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องที่ 7 การเขยี นกรอบแนวคิด ใบงานท่ี 2.8 การเขียนกรอบความคิด คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ เลอื กอา่ นสารคดเี กย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งมา 1 เรอ่ื ง ศกึ ษาวเิ คราะหเ์ น้อื หา แลว้ นามาเขยี นกรอบความคดิ เป็นรายบคุ คล 132 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เรื่องท่ี 7 การเขียนกรอบแนวคดิ ใบงานท่ี 2.8 การเขียนกรอบความคิด คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มเลอื กอา่ นสารคดเี กย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งมา 1 เร่อื ง ศกึ ษาวเิ คราะหเ์ น้อื หา แลว้ นามาเขยี นกรอบความคดิ เป็นรายบคุ คล (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 133 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 7 การเขยี นกรอบแนวคดิ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 134 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ เรื่องที่ 7 การเขียนกรอบแนวคดิ ชอ่ื หนังสอื ราคา ชอ่ื ผูแ้ ตง่ แบบบนั ทึกการอ่าน สานักพมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์ จานวนหนา้ บาท อา่ นวนั ที่ เดอื น นามปากกา ปีทพ่ี มิ พ์ พ.ศ. เวลา 1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง 2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื งทอ่ี า่ น 3. สง่ิ ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 4. ขอ้ เสนอแนะของครู ลงช่อื นักเรยี น ลงช่อื ผปู้ กครอง ( )( ) ลงชอ่ื ครผู สู้ อน () เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีความสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีขอ้ บกพร่องเพยี งเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 135 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เร่ืองท่ี 7 การเขียนกรอบแนวคดิ แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 136 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องที่ 7 การเขียนกรอบแนวคดิ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ชอ่ื ชนั้ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 3 การทางานตามหนา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 137 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองท่ี 7 การเขียนกรอบแนวคดิ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตงั้ ใจ การแกไ้ ข รวม ที่ ของผ้รู บั การประเมิน ร่วมมอื กนั ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปัญหา/หรอื 20 ทากิจกรรม ปรบั ปรงุ คะแนน ผลงานกลุ่ม 4321 432 1 43 2 14321 432 1 ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ 138 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ เรื่องท่ี 7 การเขยี นกรอบแนวคิด แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย ของเพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื งดี 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและ 3. มวี ินัย ชมุ ชน รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทสี่ ร้างความสามคั คี 4. ใฝ่เรยี นรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ช่นื ชมความ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง เป็นชาตไิ ทย 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา อยา่ งสม่าเสมอ เป็นแบบอย่างทดี่ ขี องศาสนิกชน 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณยี กิจ พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถี่ ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะกระทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทตี่ นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผูป้ กครอง และครู เป็นแบบอย่าง ทดี่ ดี ้านความซ่อื สตั ย์ 2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผูอ้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางทไี่ ม่ถกู ต้อง และเป็นแบบอย่างทด่ี แี กเ่ พอ่ื นดา้ นความซอ่ื สตั ย์ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผูอ้ ่นื ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเก็บรกั ษาดแู ล อย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 139 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เรื่องท่ี 7 การเขียนกรอบแนวคิด คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื 6. มงุ่ มนั่ ในการ กระทาผดิ พลาด ทางาน 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน 7. รกั ความเป็นไทย ของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร 8. มีจิตสาธารณะ 5.6 รูเ้ ทา่ ทนั การเปลยี่ นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสุข 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รูจ้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสง่ิ ของ และช่วยแกป้ ัญหา ใหผ้ ูอ้ ่นื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชมุ ชน ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 140 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองที่ 7 การเขียนกรอบแนวคิด แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรยี นรู้ ตอนท่ี 1 นกั เรยี นมคี วามรูค้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ต่อไปน้ี ท 1.1 (ม.3/3, ม.3/4, ม.3/9) ดา้ นความรู้ (จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ) ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คุณภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คณุ ภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 141 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เร่ืองที่ 7 การเขียนกรอบแนวคิด ตอนที่ 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนักเรยี นเพอื่ เตรยี มความพรอ้ มรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก รอ้ ยละ ระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐาน (ด้านคณุ ภาพผ้เู รยี น) มาตรฐานที่ 1 ผเู้ รยี นมีสขุ ภาวะทดี่ ีและมีสนุ ทรียภาพ 1.1 มสี ุขนิสยั ในการดูแลสขุ ภาพและออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1.2 มนี ้าหนกั สว่ นสงู และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐาน 1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลยี่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งต่อความรุนแรง โรค ภยั อุบตั เิ หตุ และปัญหาทางเพศ 1.4 เหน็ คณุ ค่าในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม 1.5 มมี นุษยสมั พนั ธ์ทดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่ 1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตรี/นาฏศลิ ป์ กฬี า/นนั ทนาการตามจนิ ตนาการ มาตรฐานที่ 2 ผ้เู รยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ ึงประสงค์ 2.1 มคี ณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ตามหลกั สตู ร 2.2 เออ้ื อาทรผอู้ นื่ และกตญั ญกู ตเวทตี อ่ ผมู้ พี ระคณุ 2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกต่าง 2.4 ตระหนัก รคู้ ณุ ค่า ร่วมอนุรกั ษ์และพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 3 ผ้เู รยี นมที กั ษะในการแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง รกั เรียนรู้ และพฒั นาตนเองอย่างต่อเนือ่ ง 3.1 มนี สิ ยั รกั การอ่านและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมดุ แหล่งเรยี นรู้ และสอื่ ต่างๆ รอบตวั 3.2 มที กั ษะในการอา่ น ฟัง ดู พูด เขยี น และตงั้ คาถามเพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ 3.3 เรยี นรรู้ ่วมกนั เป็นกลมุ่ แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรู้ระหวา่ งกนั 3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน มาตรฐานที่ 4 ผเู้ รียนมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตดั สินใจแกป้ ัญหา ไดอ้ ย่างมีสติสมเหตสุ มผล 4.1 สรุปความคดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพูดหรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง 4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี กป้ ัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง 4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาโดยมเี หตุผลประกอบ 4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ มาตรฐานที่ 5 ผเู้ รียนมคี วามรแู้ ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สตู ร 5.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเฉลยี่ แตล่ ะกลมุ่ สาระเป็นไปตามเกณฑ์ 5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สตู รเป็นไปตามเกณฑ์ 5.3 ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์ 5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานที่ 6 ผ้เู รยี นมที กั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ และมีเจตคติทีด่ ี ต่ออาชีพสุจริต 6.1 วางแผนการทางานและดาเนนิ การจนสาเรจ็ 6.2 ทางานอย่างมคี วามสุข ม่งุ มนั่ พฒั นางาน และภมู ใิ จในผลงานของตนเอง 6.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้ 6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี อ่ อาชพี สุจรติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ 142 หลกั ภาษาฯ ม.3
3หน่วยการเรียนรู้ท่ี การเขียนสื่อสารด้วยถอ้ ยคา 3เวลา ชวั่ โมง 1 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั ท 2.1 ม.1/1 คดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั เขยี นสอ่ื สารโดยใชถ้ ้อยคาถกู ต้อง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย ม.1/2 มมี ารยาทในการเขยี น ม.1/9 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นส่อื สารดว้ ยการคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรปู แบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย จะตอ้ งเลอื กใช้ ถอ้ ยคาทถ่ี กู ตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม และมคี วามสละสลวย โดยคานงึ ถงึ มารยาทในการเขยี น 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1) การคดั ลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย 2) การเขยี นส่อื สาร เช่น - การเขยี นแนะนาสถานทส่ี าคญั ๆ 3) มารยาทในการเขยี น 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ 2) ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 3) ทกั ษะการประเมนิ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. รกั ความเป็นไทย 205 หลกั ภาษาฯ ม.1
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การเขยี นแนะนาสถานทส่ี าคญั ของไทย 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง การเขยี นส่อื สารดว้ ยถอ้ ยคา 7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง หลกั การคดั ลายมอื 2) ตรวจใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง การคดั ลายมอื แบบอาลกั ษณ์ 3) ตรวจใบงานท่ี 3.3 เร่อื ง การใชถ้ อ้ ยคาในการเขยี นสอ่ื สาร 4) ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น 5) ประเมนิ การคดั ลายมอื 6) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 7) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 8) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 9) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง การเขยี นสอ่ื สารดว้ ยถอ้ ยคา 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจการเขยี นแนะนาสถานทส่ี าคญั ของไทย 8 กิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 206 หลกั ภาษาฯ ม.1
เรือ่ งที่ 1 หลกั การคดั ลายมือ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ บรรยาย ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั การสอ่ื สารดว้ ยการเขยี นวา่ ลายมอื เขยี น มคี วามสาคญั อย่างไร จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นยกตวั อย่างลกั ษณะลายมอื เขยี นทส่ี ามารถสอ่ื สารไดด้ ี และชดั เจน ขนั้ สอน 1. นักเรยี นศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง การคดั ลายมอื จากหนงั สอื เรยี น และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 2. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายถงึ ความสาคญั ของการคดั ลายมอื และบอกแนวทางในการคดั ลายมอื เพ่อื พฒั นา ไปส่ทู กั ษะการเขยี น จากนนั้ ทาใบงานท่ี 3.1 เรื่อง หลกั การคดั ลายมอื เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ ตรวจความ เรยี บรอ้ ยกอ่ นนาส่งครู ขนั้ สรปุ นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปหลกั การคดั ลายมอื 207 หลกั ภาษาฯ ม.1
เรอื่ งท่ี 2 การคดั ลายมือ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต รบั รู้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นคดั ขอ้ ความสนั้ ๆ ลงในกระดาษจากนนั้ นาสง่ ครู แลว้ ใหเ้ พอ่ื นช่วยกนั คดั แยกลายมอื ออกเป็น 3 กลุม่ คอื กลุ่มทม่ี ลี ายมอื สวยงาม กลมุ่ ทม่ี ลี ายมอื พอใช้ และกลมุ่ ทม่ี ลี ายมอื ตอ้ งปรบั ปรุง 2. นกั เรยี นกลุม่ ทม่ี ลี ายมอื สวยงามร่วมกนั อภปิ รายวา่ นักเรยี นมวี ธิ กี ารปฏบิ ตั อิ ย่างไรลายมอื จงึ สวยงาม ขนั้ ที่ 2 ทาตามแบบ นกั เรยี นดรู ูปแบบอกั ษรไทย : แบบอาลกั ษณ์ จากหนงั สอื เรยี น จากนนั้ ฝึกคดั พยญั ชนะ สระ และวรรณยุกต์ ตามแบบอาลกั ษณ์ดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ขนั้ ที่ 3 ทาเองโดยไม่มแี บบ นักเรยี นพฒั นารปู แบบการคดั ลายมอื จากตวั บรรจงเตม็ บรรทดั มาเป็นตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ขนั้ ท่ี 4 ฝึกทาให้ชานาญ 1. นักเรยี นอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สภุ าษติ สอนหญงิ พรอ้ มกนั จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นคดั ลายมอื ตวั บรรจง ครง่ึ บรรทดั เสรจ็ แลว้ นาผลงานสง่ ครู 2. ครคู ดั เลอื กผลงานทม่ี กี ารพฒั นาขน้ึ มาแสดงเป็นตวั อย่างใหเ้ พอ่ื นๆ ในชนั้ เรยี นดู เพอ่ื เปรยี บเทยี บกบั ผลงานทค่ี ดั ลายมอื ในครงั้ แรก 3. นักเรยี นเจา้ ของผลงานเลา่ ถงึ วธิ กี ารพฒั นาลายมอื ของตนเองใหเ้ พ่อื นฟัง 4. นกั เรยี นทาใบงานที่ 3.2 เรือ่ ง การคดั ลายมอื แบบอาลกั ษณ์ เสรจ็ แลว้ ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยกอ่ น นาสง่ ครู 208 หลกั ภาษาฯ ม.1
เรือ่ งท่ี 3 การใช้ภาษาประกอบการเขียน 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมอื : เทคนิ คค่คู ิดสี่สหาย ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน ครนู าตวั อยา่ งการเขยี นส่อื สารโดยใชถ้ อ้ ยคาถกู ตอ้ ง ชดั เจน และสละสลวย มาใหน้ ักเรยี นอา่ น จากนนั้ ให้ นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การใชถ้ อ้ ยคาในงานเขยี นทค่ี รนู ามาเป็นตวั อย่าง ขนั้ สอน 1. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ศกึ ษา ความรเู้ ร่อื ง การใชภ้ าษาประกอบการเขยี น และมารยาทในการเขยี น จากหนังสอื เรยี น 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ทาใบงานท่ี 3.3 เร่อื ง การใช้ถ้อยคาในการเขยี นสอื่ สาร โดยใหส้ มาชกิ แตล่ ะ คนคดิ หาคาตอบดว้ ยตนเองจนครบทกุ ขอ้ จากนนั้ จบั คกู่ บั เพ่อื นในกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบของตนเอง (สมาชกิ อกี ค่ทู อี่ ยู่ในกลุ่มกป็ ฏบิ ตั เิ ชน่ เดยี วกนั ) 3. นกั เรยี นรวมกลุม่ เดมิ (4 คน) ผลดั กนั อภปิ รายคาตอบของคตู่ นเองใหเ้ พอ่ื นฟัง เพอ่ื หาคาตอบทเ่ี ป็นขอ้ สรปุ ของกลมุ่ แลว้ เขยี นบนั ทกึ ลงในใบงานท่ี 3.3 ขนั้ สรปุ 1. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น เสรจ็ แลว้ นาใบงานท่ี 3.3 สง่ ครูตรวจ 2. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ การใชถ้ อ้ ยคาในการเขยี นสอ่ื สารและมารยาทในการเขยี น ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนเขียนสื่อสารเพื่อแนะนาสถานท่ีสาคญั ของไทย ในหัวข้อ รกั เมืองไทย โดยคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทดั ด้วยตัวอกั ษรไทยแบบอาลกั ษณ์ โดยให้ ครอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 209 หลกั ภาษาฯ ม.1
9 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) บทรอ้ ยกรองสภุ าษติ สอนหญงิ 3) ตวั อย่างการเขยี นส่อื สารทด่ี ี 4) ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง หลกั การคดั ลายมอื 5) ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง การคดั ลายมอื แบบอาลกั ษณ์ 6) ใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง การใชถ้ อ้ ยคาในการเขยี นสอ่ื สาร 9.2 แหล่งการเรียนรู้ แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.st.ac.th/bhatips/webthai/sarathai_p14.pdf 210 หลกั ภาษาฯ ม.1
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการเขียนแนะนาสถานท่ีสาคญั ของไทย รายการประเมิน ดมี าก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การใช้ภาษาเขยี น ใชถ้ ้อยคาในการเขยี น ใชถ้ ้อยคาในการเขยี น ใชถ้ ้อยคาในการเขยี น ใชถ้ ้อยคาในการเขยี น ในการสอ่ื สาร สอ่ื สารถกู ตอ้ ง ตาม สอ่ื สารถกู ตอ้ ง ตาม สอ่ื สารถกู ตอ้ ง ตาม ส่อื สารถูกต้อง ตาม ความหมายและระเบยี บ ความหมายและระเบยี บ ความหมายและระเบยี บ ความหมายและระเบยี บ การใชภ้ าษา มคี วาม การใชภ้ าษา มคี วาม การใชภ้ าษา มคี วาม การใชภ้ าษา ไม่ค่อยมี ชดั เจน เหมาะสม และ ชดั เจน เหมาะสม และ ชดั เจน เหมาะสม และ ความชดั เจน และไม่ สละสลวย สละสลวยเป็นสว่ นใหญ่ สละสลวยเป็นบางสว่ น สละสลวย 2. การคดั ลายมือตวั คดั ลายมอื ถูกตอ้ งตาม คดั ลายมอื ถูกต้องตาม คดั ลายมอื ถูกต้องตาม คดั ลายมอื ไมถ่ กู ต้อง บรรจงครึ่งบรรทดั รูปแบบ ทางานสะอาด รปู แบบ ทางานสะอาด รูปแบบ แต่ทางานไม่ ตามรูปแบบ และทางาน ไมม่ รี อยขดู ลบ แต่มรี อยขดู ลบ 1 จดุ สะอาด มรี อยขดู ลบ ไมส่ ะอาด มรี อยขดู ลบ 2 จดุ 3 จุด 3. มารยาทในการ เขยี นถูกต้องตาม เขยี นถกู ตอ้ งตาม เขยี นถูกต้องตาม เขยี นถกู ต้องตาม เขยี น อกั ขรวธิ แี ละวรรคตอน อกั ขรวธิ แี ละวรรคตอน อกั ขรวธิ แี ละวรรคตอน อกั ขรวธิ แี ละวรรคตอน ของภาษาไทย ไมม่ อี คติ ของภาษาไทย ไม่มอี คติ ของภาษาไทย ไมม่ อี คติ ของภาษาไทย มอี คตใิ น ในการเขยี น ศกึ ษา ในการเขยี น ศกึ ษา ในการเขยี น ศกึ ษา การเขยี นเป็นบางสว่ น คน้ ควา้ ขอ้ มลู มา คน้ ควา้ ขอ้ มลู มา คน้ ควา้ ขอ้ มลู มา และไมศ่ ึกษาค้นควา้ ประกอบการเขยี นไดด้ ี ประกอบการเขยี นเป็น ประกอบการเขยี นเป็น ขอ้ มูลมาประกอบการ สว่ นใหญ่ บางสว่ น เขยี น เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ากว่า 6 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 211 หลกั ภาษาฯ ม.1
แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดยี ว 1. การคดั ลายมอื มจี ุดประสงคต์ รงกบั ขอ้ ใด อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคาถาม ขอ้ 6-7 ก. เพอ่ื ประกวดการคดั ลายมอื ข. เพอ่ื ฝึกสมาธใิ นการเขยี นตวั อกั ษรไทย “ คอื เธอผเู้ ป็นสุดทรี่ กั ยงิ่ ชวี ติ ค. เพ่อื ฝึกการใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ คอื เธอผูซ้ ่งึ เป็นทุกสงิ่ ในชวี ติ ฉนั เป็นผูท้ น่ี าทาง ง. เพอ่ื ใหม้ คี วามคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการประดษิ ฐ์อกั ษรไทย ผูท้ ช่ี ท้ี าง ผูซ้ ่งึ ลขิ ติ ชวี ติ และโชคชะตา 2. ขอ้ ใดเป็นขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการคดั ลายมอื ทถ่ี กู ต้อง คอื เธอผูเ้ ป็นดงั่ สรอ้ ยถนิมพมิ พาภรณ์ เป็นดงั่ ก. วางกระดาษใหห้ า่ งจากสายตาประมาณ 12 น้วิ เครอ่ื งประดบั กายและใจใหล้ ้าเลศิ วไิ ลตลอดมา ข. ใชไ้ มบ้ รรทดั วดั ระยะช่องไฟใหม้ คี วามสม่าเสมอ คอื เธอผูเ้ ป็นสงิ่ ทคี่ าดหวงั ของฉัน อยา่ ท้งิ ฉนั ไป ค. จบั ดนิ สอใหแ้ น่นเพ่อื การลงน้าหนกั ตวั อกั ษรทชี่ ดั เจน วนั ใดทไี่ รเ้ ธอ ฉนั คงต้องถงึ แกก่ ารตาย” ง. นงั่ โนม้ ตวั ไปดา้ นหน้าเพอ่ื ถ่ายน้าหนกั ลงทด่ี นิ สอ 6. ขอ้ ความน้มี จี ดุ ดอ้ ยอยา่ งไร หรอื ปากกา ก. ใชค้ าฟ่มุ เฟือย 3. ขอ้ ใดไม่มีความจาเป็นในการฝึกคดั ลายมอื ข. ใชค้ าเช่อื มไม่ถกู ต้อง ก. วางสระและวรรณยกุ ต์ใหถ้ กู ที่ ค. ใชส้ านวนภาษาต่างประเทศ ข. เรม่ิ คดั ตวั อกั ษรจากหวั ไปหาง โดยไม่ยกดนิ สอ ง. ใชค้ าไมถ่ ูกตอ้ งตามชนิดและหน้าทข่ี องคา ค. เวน้ ระยะชอ่ งไฟระหว่างตวั อกั ษรใหห้ า่ งเสมอกนั ง. คดั ตวั อกั ษรใหเ้ สมอแนวเดยี วกนั และใหโ้ ยไ้ ปขา้ งหน้า 7. ขอ้ ความใดใชอ้ าการนามไมถ่ กู ต้อง ก. คอื เธอผเู้ ป็นสุดทร่ี กั ยงิ่ ชวี ติ เลก็ นอ้ ย 4. ขอ้ ใดกล่าวถงึ จดุ ประสงคข์ องการคดั ลายมอื ไดถ้ กู ตอ้ งทสี่ ดุ ข. ผูท้ ชี่ ท้ี าง ผูซ้ ่งึ ลขิ ติ ชวี ติ และโชคชะตา ค. เป็นดงั่ เครอ่ื งประดบั กายและใจใหล้ า้ เลศิ วไิ ล ก. ช่วยใหผ้ ูค้ ดั ลายมอื มสี มาธใิ นการทางาน ง. อยา่ ทง้ิ ฉันไป วนั ใดทไ่ี รเ้ ธอฉนั คงต้องถงึ แก่การตาย ข. เป็นเครอ่ื งมอื ในการถา่ ยทอดความรูค้ วามคดิ ค. ช่วยใหร้ กั การเขยี นภาษาไทยซ่งึ เป็นภาษาประจาชาติ 8. การกระทาทเี่ อาใจจดจอ่ อยูก่ บั สง่ิ ใดสง่ิ หนง่ึ ควรใชค้ าใด จงึ จะถกู ต้องตามความหมายทแี่ ทจ้ รงิ ง. ช่วยใหเ้ ขยี นตวั อกั ษรไทยไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั วธิ กี าร ตา่ งๆ ก. มวั่ สมุ ข. หมกมุ่น 5. ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั กิ ่อนการคดั ลายมอื ขอ้ ใดสาคญั ทส่ี ุด ค. ขะมกั เขมน้ ก. เตรยี มอุปกรณใ์ นการคดั ลายมอื ง. อดตาหลบั ขบั ตานอน ข. นงั่ ใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การนงั่ คดั ลายมอื ค. อา่ นทาความเขา้ ใจขอ้ ความทจี่ ะคดั ลายมอื ใหจ้ บ กอ่ นลงมอื คดั ง. เลอื กรปู แบบการคดั ลายมอื ตามความพอใจ แลว้ เลอื ก ขอ้ ความทจี่ ะคดั 212 หลกั ภาษาฯ ม.1
9. ขอ้ ใดใชค้ าถกู ต้องตามฐานะของบุคคล 10. ขอ้ ใดใชล้ กั ษณนามไม่ถกู ตอ้ ง ก. ประธานนักเรยี นเขา้ หาผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ก. เธอสวมแหวน 2 วง ข. ประธานนักเรยี นเขา้ พบผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ข. หน้าฝนน้เี ราตอ้ งเตรยี มรม่ ไวห้ ลายคนั ค. ประธานนกั เรยี นเขา้ เยย่ี มผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ค. ช่างไมท้ กี่ าลงั ซ่อมบา้ นของเราไปซ้อื เลอ่ื ยมาหลายคนั ง. ประธานนกั เรยี นเขา้ คารวะผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ง. ชาวประมงกาลงั หาซอ้ื เรอื ลาใหม่มาใชแ้ ทนลาเก่าทเ่ี อา ขน้ึ คาน มฐ. ท 2.1 ม.1/1-2, 9 ไดค้ ะแนน คะแนนเต็ม 10 เฉลย 1. ก 2. ก 3. ง 4. ง 5. ค 6. ก 7. ง 8. ข 9. ข 10. ค 213 หลกั ภาษาฯ ม.1
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394