Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.1 เล่ม 2

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.1 เล่ม 2

Published by pm.punnatat, 2022-08-16 07:17:27

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.1 เล่ม 2

Search

Read the Text Version

เร่ืองที่ 1 ชนิดและหน้าที่ของคา 1 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครนู าเน้อื เพลงชนิดของคา มาแจกใหน้ กั เรยี น แลว้ ครสู อนใหน้ กั เรยี นฝึกรอ้ ง จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นรอ้ งเพลง ชนิดของคา พรอ้ มกนั 1 รอบ และชว่ ยกนั สรุปเน้อื เพลงว่า มคี าในภาษาไทยกช่ี นิด และชนิดใดบา้ ง ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ชนดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยค จากหนงั สอื เรยี น และหอ้ งสมดุ ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั ชนิดของคาในภาษาไทย ทงั้ 7 ชนดิ และร่วมกนั ยกตวั อย่างคาแตล่ ะชนดิ พรอ้ มตรวจสอบความถกู ตอ้ งของตวั อยา่ งคา ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) นกั เรยี นทาใบงานที่ 9.1 เรื่อง ชนิดของคา เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความเรยี บรอ้ ยก่อนนาสง่ ครู ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) ครตู รวจใบงานท่ี 9.1 แลว้ เรยี กนกั เรยี นทท่ี าไดถ้ ูกทกุ ขอ้ ออกมานาเสนอใบงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น จากนนั้ ร่วมกนั สรปุ หน้าทแ่ี ละชนดิ ของคาในประโยค 688 หลกั ภาษาฯ ม.1

เรอื่ งที่ 2 การวิเคราะหป์ ระโยค 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) นกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนความรูเ้ ร่อื ง ชนิดของคา จากนนั้ ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี นทลี ะคนใหย้ กตวั อย่างคาตามชนิด ทค่ี รกู าหนด ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นหา (Explore) ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษาและสบื คน้ ความรจู้ ากหนงั สอื เรยี น และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ในประเดน็ ทก่ี าหนด ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) ครสู มุ่ นกั เรยี น 5 คน ใหย้ กตวั อย่างประโยค คนละ 1 ประโยค เพอ่ื ใหเ้ พอ่ื นในชนั้ เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์ ชนิดและหน้าทข่ี องคาในประโยค ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครใู หน้ กั เรยี นรวมกลุ่ม กล่มุ ละ 3 คน ตามความสมคั รใจ แล้วใหส้ ง่ ตวั แทนออกมารบั หนงั สอื พมิ พร์ ายวนั กลุ่มละ 1 ฉบบั จากนนั้ ใหส้ มาชกิ กลุ่มแตล่ ะคนรวบรวมประโยคจากขา่ ว คนละ 3 ประโยค 2. สมาชกิ แต่ละคนในกลุม่ ยกตวั อย่างประโยคทร่ี วบรวมมา เพอ่ื ใหเ้ พอ่ื นในกลมุ่ ร่วมกนั วเิ คราะหส์ ว่ นประกอบ ของประโยคนนั้ ๆ พรอ้ มตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ทาใบงานท่ี 9.2 เร่ือง ลาดบั คาสร้างประโยค เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ครสู ุม่ เรยี ก ตวั แทนกล่มุ นาเสนอใบงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น จากนนั้ รว่ มกนั เฉลยคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง 2. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปโครงสรา้ งของประโยค  ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนเลือกบทความที่สนใจ 1 บทความ แล้ววิเคราะห์ชนิ ดและ หน้าที่ของคาในประโยค จากนั้นรายงานผลการวิเคราะห์ท่ีหน้าชัน้ เรียน โดยให้ครอบคลุม ประเดน็ ตามทกี่ าหนด นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 9 689 หลกั ภาษาฯ ม.1

9 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) เพลงชนดิ ของคา 3) หนงั สอื พมิ พร์ ายวนั 4) ตารางวเิ คราะหป์ ระโยค 5) ใบงานท่ี 9.1 เร่อื ง ชนดิ ของคา 6) ใบงานท่ี 9.2 เรอ่ื ง ลาดบั คาสรา้ งประโยค 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/ประโยคสามญั - http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=2344 690 หลกั ภาษาฯ ม.1

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรายงานผลการวิเคราะหช์ นิดและหน้าที่ของคาในประโยคจากบทความ รายการประเมิน คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 1. การวิเคราะหช์ นิด วเิ คราะหช์ นดิ ของคา วเิ คราะหช์ นิดของคา วเิ คราะหช์ นดิ ของคา วเิ คราะหช์ นิดของคา ในประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ในประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ในประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง ของคาในประโยค ในประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง 5-6 ประโยค 3-4 ประโยค 1-2 ประโยค วเิ คราะหห์ น้าทข่ี องคา วเิ คราะหห์ น้าทข่ี องคา วเิ คราะหห์ น้าทข่ี องคา 7 ประโยคขน้ึ ไป ในประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ในประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง ในประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง 5-6 ประโยค 3-4 ประโยค 1-2 ประโยค 2. การวิเคราะห์ วเิ คราะหห์ น้าทข่ี องคา ถกู ตอ้ งตามหลกั การ ถูกตอ้ งตามหลกั การ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ รายงานผล ใชภ้ าษา รายงานผล ใชภ้ าษา รายงานผล ใชภ้ าษา หน้าที่ของคา ในประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง ในการส่อื สารถกู ตอ้ ง ในการสอ่ื สารถูกตอ้ ง ในการสอ่ื สารไมค่ ่อย ชดั เจน เป็นสว่ นใหญ่ ชดั เจน เป็นบางส่วน ถกู ตอ้ ง และไม่ชดั เจน ในประโยค 7 ประโยคขน้ึ ไป 3. การรายงานผล ถกู ตอ้ งตามหลกั การ รายงานผล ใชภ้ าษา ในการสอ่ื สารถูกตอ้ ง ชดั เจน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ากว่า 6 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 691 หลกั ภาษาฯ ม.1

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 9 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง 6. คานามขอ้ ใดมหี น้าทต่ี ่างจากขอ้ อ่นื ก. มานชี อบดลู ะครตอนเยน็ ก. คาทป่ี ระสมแลว้ มคี วามหมายเรยี กว่า “พยางค”์ ข. คณุ ป่ชู อบเล่านทิ านพน้ื บา้ น ค. แมใ่ หต้ ุ๊กตาหมแี ก่น้องในวนั เกดิ ข. คาเกดิ จากการนาเสยี งพยญั ชนะและเสยี งสระประสมกนั ง. นายกรฐั มนตรปี ระชมุ ทท่ี าเนียบรฐั บาล ค. คาหน่ึงคามพี ยางคเ์ ดยี วหรอื มหี ลายพยางค์ และอาจ 7. ขอ้ ใดมคี าวเิ ศษณ์บอกความชเ้ี ฉพาะ ก. นักเรยี นคนน้ตี งั้ ใจเรยี นมาก ไม่มคี วามหมายกไ็ ด้ ข. ฉนั ชอบภาพลอ้ เลยี นภาพน้ี ค. คณุ ย่าขา หนูอยากกนิ น้าพรกิ คะ่ ง. กลุ่มคาเกดิ จากการนาคาหลายๆ คามาเรยี งกนั ง. วนั ๆ ไมท่ าอะไรเลยเอาแตเ่ ลน่ เกม แต่ยงั มคี วามหมายไม่บรบิ รู ณ์ 8. คาสนั ธานในขอ้ ใดตา่ งจากขอ้ อน่ื ก. นกเป็นคนกนิ เก่งแต่ไม่อว้ น 2. คาทช่ี ว่ ยขยายคาอน่ื ในประโยค เรยี กคาชนิดใด ข. ฉนั กบั เพ่อื นจะไปเลน่ ฟุตบอล ค. หนูจะซ้อื การต์ นู หรอื แผน่ ซดี ี ก. คากรยิ า ง. แม่ทางานเหน่อื ยทงั้ วนั แตแ่ มก่ ไ็ ม่บ่น ข. คาอุทาน 9. ประโยคในขอ้ ใดใชค้ าอทุ านไดเ้ หมาะสม ก. น่ๆี เสอ้ื ตวั น้สี วยจงั ! ค. คาสนั ธาน ข. อุ๊ย! รบี ทาการบา้ นเขา้ สิ ค. ตายจรงิ ! ฉนั ลมื เอาการบา้ นมา ง. คาวเิ ศษณ์ ง. พุทโธ่! ทางานมาทงั้ วนั เหน่อื ยจงั เลย! 3. คาใดทม่ี สี ว่ นสาคญั ในประโยคมากทส่ี ดุ 10. ประโยคในขอ้ ใดเป็นประโยคความรวม ก. ขนมทฉ่ี นั ชอบกนิ มากคอื ฝอยทอง ก. คานาม ข. วนั หยุดฉนั กบั พจ่ี ะไปขายของทต่ี ลาด ค. เขาชอบดกู ารต์ นู เร่อื งราพนั เซลมาก ข. คากรยิ า ง. แมข่ องฉนั ไปตลาดกบั คณุ ป้าขา้ งบา้ น ค. คาสนั ธาน ง. คาสรรพนาม 4. คาใดเป็นคานาม ก. เปรย้ี ว ข. ทาบุญ ค. สวยงาม ง. ความคดิ 5. คาในขอ้ ใดทใ่ี ชล้ กั ษณนามเหมอื นกนั ทกุ คา ก. ป่ิน เบด็ สาก ข. เกวยี น พาย ดาบ ค. เณร ชี พระพทุ ธรปู ง. อุทยาน น้าตก สะพาน มฐ. ท 4.1 ม.1/3 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ง 2. ง 3. ข 4. ง 5. ข 6. ค 7. ก 8. ข 9. ค 10. ข 692 หลกั ภาษาฯ ม.1

แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว 1. คาสนั ธานในขอ้ ใดตา่ งจากขอ้ อน่ื 6. ประโยคในขอ้ ใดใชค้ าอทุ านไดเ้ หมาะสม ก. แมท่ างานเหน่อื ยทงั้ วนั แตแ่ มก่ ไ็ มบ่ น่ ข. ฉนั กบั เพ่อื นจะไปเล่นฟุตบอล ก. พทุ โธ่! ทางานมาทงั้ วนั เหน่อื ยจงั เลย! ค. หนูจะซอ้ื การต์ ูนหรอื แผ่นซดี ี ง. นกเป็นคนกนิ เกง่ แต่ไม่อว้ น ข. ตายจรงิ ! ฉนั ลมื เอาการบา้ นมา 2. คาในขอ้ ใดทใ่ี ชล้ กั ษณนามเหมอื นกนั ทุกคา ค. อ๊ยุ ! รบี ทาการบา้ นเขา้ สิ ก. อทุ ยาน น้าตก สะพาน ข. เณร ชี พระพทุ ธรปู ง. น่ๆี เสอ้ื ตวั น้สี วยจงั ! ค. เกวยี น พาย ดาบ ง. ป่ิน เบด็ สาก 7. คาใดเป็นคานาม 3. ประโยคในขอ้ ใดเป็นประโยคความรวม ก. สวยงาม ข. เปรย้ี ว ก. วนั หยดุ ฉนั กบั พจ่ี ะไปขายของทต่ี ลาด ข. แมข่ องฉนั ไปตลาดกบั คณุ ป้าขา้ งบา้ น ค. ความคดิ ง. ทาบุญ ค. เขาชอบดกู ารต์ ูนเร่อื งราพนั เซลมาก ง. ขนมทฉ่ี นั ชอบกนิ มากคอื ฝอยทอง 8. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง 4. คานามขอ้ ใดมหี น้าทต่ี ่างจากขอ้ อน่ื ก. คาทป่ี ระสมแลว้ มคี วามหมายเรยี กวา่ “พยางค”์ ก. นายกรฐั มนตรปี ระชุมทท่ี าเนยี บรฐั บาล ข. แมใ่ หต้ ๊กุ ตาหมแี กน่ ้องในวนั เกดิ ข. คาเกดิ จากการนาเสยี งพยญั ชนะและเสยี งสระ ค. คณุ ป่ชู อบเลา่ นิทานพน้ื บา้ น ง. มานชี อบดลู ะครตอนเยน็ ประสมกนั 5. คาใดทม่ี สี ว่ นสาคญั ในประโยคมากทส่ี ุด ค. คาหน่ึงคามพี ยางคเ์ ดยี วหรอื มหี ลายพยางค์ และอาจ ก. คาสรรพนาม ข. คาสนั ธาน ไม่มคี วามหมายกไ็ ด้ ค. คากรยิ า ง. คานาม ง. กลมุ่ คาเกดิ จากการนาคาหลายๆ คามาเรยี งกนั แตย่ งั มคี วามหมายไมบ่ รบิ รู ณ์ 9. คาทช่ี ว่ ยขยายคาอน่ื ในประโยค เรยี กคาชนิดใด ก. คาวเิ ศษณ์ ข. คาสนั ธาน ค. คาอทุ าน ง. คากรยิ า 10.ขอ้ ใดมคี าวเิ ศษณ์บอกความชเ้ี ฉพาะ ก. วนั ๆ ไมท่ าอะไรเลยเอาแตเ่ ล่นเกม ข. คณุ ยา่ ขา หนูอยากกนิ น้าพรกิ คะ่ ค. นกั เรยี นคนน้ตี งั้ ใจเรยี นมาก ง. ฉนั ชอบภาพลอ้ เลยี นภาพน้ี มฐ. ท 4.1 ม.1/3 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ข 2. ค 3. ก 4. ข 5. ค 6. ข 7. ค 8. ง 9. ก 10. ค 693 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนิดและหน้าทขี่ องคาในประโยค 1 ชวั่ โมง เร่ืองที่ 1 ชนดิ และหน้าท่ีของคา แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 ชนิ ดและหน้าท่ีของคา 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาเร่อื งชนิดของคาตอ้ งสามารถจาแนกและวเิ คราะหช์ นดิ ของคาในประโยค 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.1/3 วเิ คราะหช์ นิดและหน้าทข่ี องคาในประโยค 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) จาแนกชนิดของคาได้ 2) วเิ คราะหช์ นดิ ของคาในประโยคได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - ชนิดและหน้าทข่ี องคา 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 694 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนิดและหน้าทีข่ องคาในประโยค เรื่องที่ 1 ชนดิ และหน้าทีข่ องคา 6 กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 9 ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ คาถามกระตุ้นความคิด สอ่ื การเรยี นรู้ : เพลงชนดิ ของคา  นักเรยี นคิดว่า คาในภาษาไทยแต่ละชนิด สามารถใช้ในการส่ือสารแทนกนั ไดห้ รอื ไม่ 1. ครนู าเน้อื เพลงชนิดของคา มาแจกใหน้ ักเรยี น แลว้ ครสู อนให้ จงอธิบาย นักเรยี นฝึกรอ้ ง (ใชแ้ ทนกนั ไม่ได้ เพราะคาแต่ละชนิดในภาษาไทย ทาหน้าทใี่ นประโยคแตกตา่ งกนั ) 2. นกั เรยี นรอ้ งเพลงชนดิ ของคา พรอ้ มกนั 1 รอบ จากนัน้ ให้ นกั เรยี นช่วยกนั สรุปเน้อื เพลงวา่ มคี าในภาษาไทยกช่ี นิด และชนดิ ใดบา้ ง 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : 1. หนังสอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 2. หอ้ งสมดุ ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ชนิดและหน้าทข่ี องคาใน ประโยค จากหนงั สอื เรยี น และหอ้ งสมุด ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —  คาชนิดใดทาหน้าที่คล้ายคลงึ กนั (คาบุพบทและคาสนั ธาน) 1. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั ชนดิ ของคาในภาษาไทย ทงั้ 7 ชนดิ และรว่ มกนั ยกตวั อยา่ งคาแต่ละชนดิ พรอ้ ม ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของตวั อย่างคา 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 695 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนดิ และหน้าท่ขี องคาในประโยค เรื่องที่ 1 ชนิดและหน้าที่ของคา ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 9.1 นักเรยี นทาใบงานท่ี 9.1 เรื่อง ชนิดของคา เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความเรยี บรอ้ ยก่อนนาสง่ ครู ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 9.1 1. ครตู รวจใบงานท่ี 9.1 แลว้ เรยี กนักเรยี นทท่ี าไดถ้ กู ทุกขอ้ ออกมานาเสนอใบงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น 2. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ หน้าทแ่ี ละชนิดของคาในประโยค 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) ตรวจใบงานท่ี 9.1 ใบงานท่ี 9.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) เพลงชนิดของคา 3) ใบงานท่ี 9.1 เร่อื ง ชนิดของคา 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - หอ้ งสมุด 696 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนดิ และหน้าท่ีของคาในประโยค เร่ืองท่ี 1 ชนดิ และหน้าทขี่ องคา เอกสารประกอบการสอน เพลงชนิ ดของคำ ทานองเพลง ลามะลลิ า (สรอ้ ย) คาเอย้ คา ข้นึ ตน้ อะไรกไ็ ด้ แตต่ อ้ งลงทา้ ยดว้ ย สระอา หญิง คานามนนั้ คอื อะไร (ซา้ ) ขอเชญิ ขานไข อย่างไดเ้ กบ็ งา ชาย คานาม เรยี กคนสตั วส์ งิ่ ของ (ซ้า) ขอเชญิ นวลน้อง จงหมนั ่ จดจา หญิง คาสรรพนามนัน้ คอื อะไร (ซา้ ) บอกหน่อยไดไ้ หม อย่าไดใ้ จดา ชาย สรรพนาม ใชแ้ ทนนามทงั้ หลาย (ซ้า) มอี ย่มู ากมาย พไ่ี ม่ไดอ้ า หญิง คากรยิ า นัน้ คอื อะไร (ซ้า) ฉนั ยงั สงสยั โปรดไดช้ น้ี า ชาย กรยิ า ใชแ้ สดงอาการ (ซา้ ) นงั่ นอน กนิ อ่าน ตกั และตา หญิง คาวเิ ศษณ์ละคะคุณพ่ี (ซ้า) ชว่ ยบอกอกี ที น้องจะไดจ้ า ชาย วเิ ศษณ์คอื คาขยาย (ซ้า) เพอ่ื ชว่ ยบรรยายเน้อื หาของคา หญิง นอกจากน้ยี งั มอี ะไรอกี (ซ้า) พอ่ี ย่าหลบหลกี จะใจระกา ชาย ยงั มอี ุทาน สนั ธาน บพุ บท (ซา้ ) พบ่ี อกน้องหมดเจด็ ชนดิ ของคา แตต่ อ้ งลงทา้ ยดว้ ย สระอา (สรอ้ ย) คาเอย้ คา ขน้ึ ตน้ อะไรกไ็ ด้ ที่มา http://www.sahavicha.com 697 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนดิ และหน้าที่ของคาในประโยค เรื่องท่ี 1 ชนิดและหน้าที่ของคา ใบงานที่ 9.1 ชนิดของคา คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจาแนกชนดิ ของคาทก่ี าหนดใหถ้ ูกตอ้ ง ใกล้ กบั วา้ ย ทงุ่ นา โทรทศั น์ อุย๊ ตาย บา้ ง เพราะวา่ แห่ง มากมาย หนังสอื กระผม เตย้ี เน่อื งจาก หรอื ขา้ พเจา้ ทาการบา้ น เปรย้ี ว ตน้ ไม้ คณุ พ่ี เหมน็ ดว้ ย สนามหลวง บน เธอ หวั เราะ กลว้ ยแขก วง่ิ ดฉิ นั แก่ โอย้ จบั ปลา นอนหลบั อยา่ งไรกต็ าม เพราะฉะนนั้ เหลอื เกนิ โทรศพั ทม์ อื ถอื คุณพระชว่ ย คานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์ . คาสนั ธาน คาบุพบท คาอทุ าน 698 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนดิ และหน้าทขี่ องคาในประโยค เร่ืองที่ 1 ชนิดและหน้าทขี่ องคา ใบงานท่ี 9.1 ชนิดของคา คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจาแนกชนดิ ของคาทก่ี าหนดใหถ้ ูกตอ้ ง ใกล้ กบั วา้ ย ทุ่งนา โทรทศั น์ อยุ๊ ตาย บา้ ง เพราะวา่ แห่ง มากมาย หนังสอื กระผม เตย้ี เน่อื งจาก หรอื ขา้ พเจา้ ทาการบา้ น เปรย้ี ว ตน้ ไม้ คณุ พ่ี เหมน็ ดว้ ย สนามหลวง บน เธอ หวั เราะ กลว้ ยแขก วง่ิ ดฉิ นั แก่ โอย้ จบั ปลา นอนหลบั อย่างไรกต็ าม เพราะฉะนนั้ เหลอื เกนิ โทรศพั ทม์ อื ถอื คุณพระช่วย คานาม ทงุ่ นา โทรทศั น์ หนงั สอื ตน้ ไม้ กลว้ ยแขก โทรศพั ทม์ อื ถอื สนามหลวง คาสรรพนาม บา้ ง ขา้ พเจา้ คุณพี่ กระผม เธอ ดฉิ นั คากริยา จบั ปลา นอนหลบั ทาการบา้ น หวั เราะ วงิ่ คาวิเศษณ์ มากมาย เหลอื เกนิ เหมน็ เปรย้ี ว เต้ยี เพราะฉะนนั้ เนอื่ งจาก เพราะวา่ หรอื อยา่ งไรกต็ าม . คาสนั ธาน คาบุพบท ดว้ ย ใกล้ บน แหง่ กบั แก่ คาอทุ าน คณุ พระชว่ ย อยุ๊ ตาย วา้ ย โอย้ 699 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนดิ และหน้าท่ขี องคาในประโยค เรื่องท่ี 1 ชนิดและหน้าทข่ี องคา แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจงา่ ย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 700 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนิดและหน้าทีข่ องคาในประโยค เร่ืองท่ี 1 ชนิดและหน้าทีข่ องคา แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความตงั้ ใจ ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ บั การ ในการ รบั ผิดชอบ เวลา เรยี บร้อย ของงาน 20 ทางาน คะแนน ประเมิน 43214321 432 14321 4321 ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 701 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนิดและหน้าทข่ี องคาในประโยค เร่ืองที่ 1 ชนิดและหน้าทขี่ องคา แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชมุ ชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พอ่ แม่หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 702 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนิดและหน้าทขี่ องคาในประโยค เร่ืองท่ี 1 ชนดิ และหน้าทข่ี องคา คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 703 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนดิ และหน้าท่ีของคาในประโยค แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 1 ชนิดและหน้าท่ขี องคา  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 704 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนิดและหน้าทีข่ องคาในประโยค 2 ชวั่ โมง เรื่องที่ 2 การวิเคราะห์ประโยค แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 การวิเคราะหป์ ระโยค 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาเรอ่ื งชนิดและหน้าทข่ี องคาตอ้ งสามารถวเิ คราะหช์ นิดของคาและหน้าทข่ี องคาในประโยค 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.1/3 วเิ คราะหช์ นดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยค 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - วเิ คราะหช์ นดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยคได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - ชนดิ และหน้าทข่ี องคา 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 705 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนดิ และหน้าท่ีของคาในประโยค เร่ืองที่ 2 การวเิ คราะห์ประโยค (ชั่วโมงที่ 1) 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ชวั่ โมงท่ี 1 ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ คาถามกระตุ้นความคิด ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —  นักเรียนคิดว่า คาทงั้ 7 ชนิดนัน้ เราใช้คาชนิดใด ในชีวิตประจาวนั น้อยที่สุด 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (คำอุทำน) 2. นกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนความรเู้ ร่อื ง ชนดิ ของคา จากนัน้ ครู สุม่ เรยี กนักเรยี นทลี ะคนใหย้ กตวั อย่างคาตามชนิดทค่ี รกู าหนด ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : 1. หนังสอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 2. หอ้ งสมุด 3. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษาและสบื คน้ ความรู้ จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ในประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี 1) ลกั ษณะของพยางค์ คา กล่มุ คา และประโยค 2) สว่ นประกอบของประโยคในการส่อื สาร 3) ชนดิ ของประโยคในภาษาไทย (ประโยคความเดยี ว ประโยคความรวม และประโยคความซอ้ น) ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ คาถามกระตุ้นความคิด สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — 1. การพดู คยุ โดยทวั่ ไปในชีวิตประจาวนั นักเรยี น จะใช้ประโยคชนิ ดใดมากที่สุด 1. ครสู มุ่ นักเรยี น 5 คน ใหย้ กตวั อยา่ งประโยค คนละ 1 ประโยค (ประโยคสำมญั ) เพ่อื ใหเ้ พ่อื นในชนั้ เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหช์ นดิ และหน้าทข่ี อง คาในประโยค โดยเรม่ิ จากประโยคความเดยี ว ประโยคความ 2. คาทกุ ชนิดสามารถทาหน้าท่ีในประโยคได้ รวม และประโยคความซอ้ น ตามลาดบั หรือไม่ จงอธิบาย (สำมำรถทำหน้ำทใี่ นประโยคไดท้ ุกชนดิ ) 2. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหช์ นดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยค จนครบทงั้ 5 ประโยค แลว้ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2 706 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนดิ และหน้าท่ีของคาในประโยค ชวั่ โมงที่ 2 เรื่องที่ 2 การวเิ คราะห์ประโยค (ช่ัวโมงที่ 2) ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ ส่อื การเรยี นรู้ : 1. หนังสอื พมิ พร์ ายวนั 2. ตารางวเิ คราะหป์ ระโยค 1. ครใู หน้ ักเรยี นรวมกลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน ตามความสมคั รใจ แลว้ ใหส้ ่งตวั แทนออกมารบั หนงั สอื พมิ พร์ ายวนั กลุ่มละ 1 ฉบบั จากนนั้ ใหส้ มาชกิ กลมุ่ แต่ละคนรวบรวมประโยคจากขา่ ว คนละ 3 ประโยค 2. สมาชกิ แต่ละคนในกลมุ่ ยกตวั อยา่ งประโยคทร่ี วบรวมมา เพ่อื ใหเ้ พ่อื นในกลมุ่ ร่วมกนั วเิ คราะหส์ ่วนประกอบของประโยค นนั้ ๆ พรอ้ มตรวจสอบความถูกตอ้ ง ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 9.2 1. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ทาใบงานที่ 9.2 เรอื่ ง ลาดบั คา สร้างประโยค เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ ครสู มุ่ เรยี กตวั แทนกล่มุ นาเสนอใบงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น จากนนั้ ร่วมกนั เฉลยคาตอบ ทถ่ี กู ตอ้ ง 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ โครงสรา้ งของประโยค เพอ่ื ให้ นกั เรยี นเขา้ ใจโครงสรา้ งของประโยคซง่ึ สมั พนั ธก์ บั หน้าท่ี ของคาในประโยค • ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนเลอื กบทความที่สนใจ 1 บทความ แลว้ วิเคราะหช์ นิดและหน้าท่ีของคาใน ประโยค จากนัน้ รายงานผลการวิเคราะห์ที่หน้าชนั้ เรยี น โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตำมทกี่ ำหนด ดงั น้ี 1) กำรวเิ ครำะหช์ นิดของคำในประโยค 2) กำรวเิ ครำะหห์ น้ำทขี่ องคำในประโยค 3) กำรรำยงำนผล นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 707 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค เรื่องที่ 2 การวิเคราะห์ประโยค 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 9.2 ใบงานท่ี 9.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และมุง่ มนั ่ ในการทางาน ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจรายงานผลการวเิ คราะหช์ นดิ และหน้าท่ี แบบประเมนิ รายงานผลการวเิ คราะหช์ นิด ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ของคาในประโยคจากบทความ และหน้าทข่ี องคาในประโยคจากบทความ 8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) หนงั สอื พมิ พร์ ายวนั 3) ตารางวเิ คราะหป์ ระโยค 4) ใบงานท่ี 9.2 เรอ่ื ง ลาดบั คาสรา้ งประโยค 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/ประโยคสามญั - http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=2344 708 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนิดและหน้าทข่ี องคาในประโยค เรื่องท่ี 2 การวเิ คราะห์ประโยค ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กบทความทส่ี นใจ 1 บทความ จากนนั้ ใหจ้ าแนกชนดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยค ลงในตาราง พรอ้ มตดิ บทความประกอบดว้ ย (ตดิ บทควำมทสี่ นใจ) ตารางวิเคราะหช์ นิดและหน้าท่ีของคาในประโยค ประโยค ชนิ ดของคำในประโยค หน้ำท่ีของคำในประโยค 709 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนิดและหน้าท่ขี องคาในประโยค เรื่องที่ 2 การวเิ คราะห์ประโยค การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรายงานผลการวิเคราะหช์ นิดและหน้าท่ีของคาในประโยคจากบทความ ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การวเิ คราะหช์ นดิ ของคาในประโยค 2 การวเิ คราะหห์ น้าทข่ี องคาในประโยค 3 การรายงานผล รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 11 - 12 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 9 - 10 ดี ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 6 - 8 พอใช้ ต่ากวา่ 6 ปรบั ปรุง 710 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนิดและหน้าทีข่ องคาในประโยค เร่ืองท่ี 2 การวิเคราะห์ประโยค เอกสารประกอบการสอน ตำรำงวิเครำะหป์ ระโยค ภาคประธาน ภาคแสดง บทประธาน สว่ นขยาย บทกรยิ า บทกรรม ประโยค กรยิ า สว่ นขยาย กรรม ส่วนขยาย กรยิ า กรรม 711 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค เร่ืองท่ี 2 การวิเคราะห์ประโยค ใบงานท่ี 9.2 ลาดบั คาสรา้ งประโยค คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นนาคาทก่ี าหนดใหม้ าเรยี งลาดบั ใหเ้ ป็นประโยคทถ่ี ูกตอ้ ง 1. สแี ดง ใหม่ ซอ้ื เชน เสอ้ื 2. กบั ต่างจงั หวดั ไปเยย่ี ม คณุ ตา ท่ี น้าหวาน คณุ ยาย 3. ของฉนั ชอบดู วทิ ยุ น้องชาย ชอบฟัง ฉนั แต่ โทรทศั น์ 4. ควร อาหาร ท่ี ร่างกาย เดก็ ๆ มปี ระโยชน์ รบั ประทาน ต่อ 5. ช่วงปิดเทอม นกั เรยี น ทาการบา้ น สงั่ ให้ คณุ ครู 6. ตอนเชา้ ดม่ื กาแฟ ขณะ ชอบอ่าน คณุ พอ่ หนงั สอื พมิ พ์ 7. เหมอื นพอ่ ตารวจ อยากเป็น หนิ โตขน้ึ 8. เศรษฐกจิ พอ่ แม่ เราทกุ คน ประหยดั ควรชว่ ย ชว่ งน้ี ไม่ดี 712 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนดิ และหน้าที่ของคาในประโยค เร่ืองท่ี 2 การวเิ คราะห์ประโยค ใบงานที่ 9.2 ลาดบั คาสร้างประโยค คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นนาคาทก่ี าหนดใหม้ าเรยี งลาดบั ใหเ้ ป็นประโยคทถ่ี ูกตอ้ ง 1. สแี ดง ใหม่ ซอ้ื เชน เสอ้ื เชนซ้อื เส้อื ใหม่สแี ดง 2. กบั ต่างจงั หวดั ไปเยย่ี ม คณุ ตา ท่ี น้าหวาน คุณยาย น้ำหวำนไปเยยี่ มคณุ ตำกบั คณุ ยำยทตี่ ำ่ งจงั หวดั 3. ของฉนั ชอบดู วทิ ยุ น้องชาย ชอบฟัง ฉนั แต่ โทรทศั น์ ฉนั ชอบฟังวทิ ยุ แต่น้องชำยของฉนั ชอบดโู ทรทศั น์ 4. ควร อาหาร ท่ี ร่างกาย เดก็ ๆ มปี ระโยชน์ รบั ประทาน ต่อ เดก็ ๆ ควรรบั ประทำนอำหำรทมี่ ปี ระโยชน์ต่อรำ่ งกำย 5. ช่วงปิดเทอม นกั เรยี น ทาการบา้ น สงั่ ให้ คุณครู คณุ ครสู งั ่ ใหน้ กั เรยี นทำกำรบำ้ นช่วงปิดเทอม 6. ตอนเชา้ ดม่ื กาแฟ ขณะ ชอบอ่าน คณุ พอ่ หนงั สอื พมิ พ์ คุณพอ่ ชอบอำ่ นหนงั สอื พมิ พข์ ณะดมื่ กำแฟตอนเชำ้ 7. เหมอื นพอ่ ตารวจ อยากเป็น หนิ โตขน้ึ โตข้นึ หนิ อยำกเป็นตำรวจเหมอื นพ่อ 8. เศรษฐกจิ พอ่ แม่ เราทกุ คน ประหยดั ควรชว่ ย ช่วงน้ี ไมด่ ี ชว่ งน้ีเศรษฐกจิ ไม่ดี เรำทกุ คนควรชว่ ยพอ่ แม่ประหยดั 713 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนิดและหน้าทีข่ องคาในประโยค เรื่องที่ 2 การวิเคราะห์ประโยค แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 714 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนิดและหน้าท่ขี องคาในประโยค เร่ืองที่ 2 การวเิ คราะห์ประโยค แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความตงั้ ใจ ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ บั การ ในการ รบั ผิดชอบ เวลา เรยี บร้อย ของงาน 20 ทางาน คะแนน ประเมิน 4321 4321 432 14321 4321 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 715 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค เร่ืองท่ี 2 การวเิ คราะห์ประโยค แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ชอ่ื กลุ่ม ................................................................................................ ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบ่งหน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื กนั รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 716 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนดิ และหน้าทีข่ องคาในประโยค เร่ืองท่ี 2 การวิเคราะห์ประโยค แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด 717 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 ชนดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยค เรื่องที่ 2 การวเิ คราะห์ประโยค คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสุข 6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสง่ิ ของใหผ้ อู้ ่นื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 718 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนดิ และหน้าท่ีของคาในประโยค แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 2 การวิเคราะห์ประโยค  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหำของนักเรยี นเป็นรำยบคุ คล (ถำ้ ม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 719 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนิดและหน้าทข่ี องคาในประโยค เร่ืองที่ 2 การวิเคราะห์ประโยค แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรยี นรู้ ตอนท่ี 1 นักเรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ตอ่ ไปน้ี ท 4.1 (ม.1/3)  ดา้ นความรู้ (จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหำของนกั เรยี นเป็นรำยบุคคล (ถำ้ ม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้  ระดบั คณุ ภาพดีมาก จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คุณภาพดี จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คุณภาพพอใช้ จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 720 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค เร่ืองที่ 2 การวิเคราะห์ประโยค ตอนท่ี 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนักเรียนเพ่อื เตรียมความพร้อมรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก รอ้ ยละ ระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐาน (ดา้ นคณุ ภาพผเู้ รยี น) มาตรฐานที่ 1 ผ้เู รียนมีสขุ ภาวะทีด่ ีและมสี นุ ทรียภาพ 1.1 มสี ขุ นสิ ยั ในกำรดแู ลสขุ ภำพและออกกำลงั กำยสมำ่ เสมอ 1.2 มนี ้ำหนัก ส่วนสงู และมสี มรรถภำพทำงกำยตำมเกณฑม์ ำตรฐำน 1.3 ป้องกนั ตนเองจำกสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลยี่ งตนเองจำกสภำวะทเี่ สยี่ งต่อควำมรนุ แรง โรค ภยั อบุ ตั เิ หตุ และปัญหำทำงเพศ 1.4 เหน็ คุณคำ่ ในตนเอง มคี วำมมนั่ ใจ กลำ้ แสดงออกอยำ่ งเหมำะสม 1.5 มมี นุษยสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่ 1.6 สรำ้ งผลงำนจำกกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรมดำ้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นำฏศลิ ป์ กฬี ำ/นนั ทนำกำรตำมจนิ ตนำกำร มาตรฐานที่ 2 ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทีพ่ งึ ประสงค์ 2.1 มคี ุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคต์ ำมหลกั สตู ร 2.2 เออ้ื อำทรผอู้ นื่ และกตญั ญกู ตเวทตี อ่ ผมู้ พี ระคณุ 2.3 ยอมรบั ควำมคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกต่ำง 2.4 ตระหนกั รคู้ ุณค่ำ ร่วมอนุรกั ษ์และพฒั นำสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 3 ผเู้ รยี นมีทกั ษะในการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง รกั เรยี นรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง 3.1 มนี สิ ยั รกั กำรอำ่ นและแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเองจำกหอ้ งสมุด แหลง่ เรยี นรู้ และสอื่ ตำ่ งๆ รอบตวั 3.2 มที กั ษะในกำรอำ่ น ฟัง ดู พดู เขยี น และตงั้ คำถำมเพอื่ คน้ ควำ้ หำควำมรเู้ พมิ่ เตมิ 3.3 เรยี นรรู้ ว่ มกนั เป็นกลุ่ม แลกเปลยี่ นควำมคดิ เหน็ เพอื่ กำรเรยี นรรู้ ะหว่ำงกนั 3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นกำรเรยี นรแู้ ละนำเสนอผลงำน มาตรฐานที่ 4 ผ้เู รยี นมีความสามารถในการคิดอยา่ งเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตดั สินใจแก้ปัญหา ได้อย่างมสี ติสมเหตุสมผล 4.1 สรปุ ควำมคดิ จำกเรอื่ งทอี่ ่ำน ฟัง และดู และสอื่ สำรโดยกำรพดู หรอื เขยี นตำมควำมคดิ ของตนเอง 4.2 นำเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี กป้ ัญหำดว้ ยภำษำหรอื วธิ กี ำรของตนเอง 4.3 กำหนดเป้ำหมำย คำดกำรณ์ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหำโดยมเี หตผุ ลประกอบ 4.4 มคี วำมคดิ รเิ รมิ่ และสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนดว้ ยควำมภำคภูมใิ จ มาตรฐานที่ 5 ผ้เู รียนมีความร้แู ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สตู ร 5.1 ผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นเฉลยี่ แตล่ ะกลมุ่ สำระเป็นไปตำมเกณฑ์ 5.2 ผลกำรประเมนิ สมรรถนะสำคญั ตำมหลกั สตู รเป็นไปตำมเกณฑ์ 5.3 ผลกำรประเมนิ กำรอ่ำน คดิ วเิ ครำะห์ และเขยี นเป็นไปตำมเกณฑ์ 5.4 ผลกำรทดสอบระดบั ชำตเิ ป็นไปตำมเกณฑ์ มาตรฐานที่ 6 ผเู้ รียนมีทกั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานร่วมกบั ผ้อู ืน่ ได้ และมีเจตคติทีด่ ี ต่ออาชีพสจุ ริต 6.1 วำงแผนกำรทำงำนและดำเนินกำรจนสำเรจ็ 6.2 ทำงำนอยำ่ งมคี วำมสุข มุ่งมนั่ พฒั นำงำน และภมู ใิ จในผลงำนของตนเอง 6.3 ทำงำนรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ 6.4 มคี วำมรสู้ กึ ทดี่ ตี ่ออำชพี สุจรติ และหำควำมรเู้ กีย่ วกบั อำชพี ทตี่ นเองสนใจ 721 หลกั ภาษาฯ ม.1

10หน่วยการเรียนรู้ท่ี ความแตกต่างของภาษา 4เวลา ชวั่ โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ท 4.1 ม.1/4 วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของภาษาพดู และภาษาเขยี น 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การวเิ คราะหค์ วามแตกต่างระหว่างภาษาพดู และภาษาเขยี น จะชว่ ยใหส้ ามารถใชภ้ าษาในการสอ่ื สารได้ อยา่ งถกู ตอ้ งและมปี ระสทิ ธภิ าพ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) ภาษาพูด 2) ภาษาเขยี น 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) บนั ทกึ ผลการวเิ คราะหภ์ าษาพดู และภาษาเขยี นจากบทความสารคดี 722 หลกั ภาษาฯ ม.1

7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 10 เร่อื ง ความแตกต่างของภาษา 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 10.1 เร่อื ง ลกั ษณะของภาษาพดู (1) 2) ตรวจใบงานท่ี 10.2 เร่อื ง ลกั ษณะของภาษาพดู (2) 3) ตรวจใบงานท่ี 10.3 เร่อื ง ลกั ษณะของภาษาเขยี น 4) ตรวจใบงานท่ี 10.4 เร่อื ง ความแตกต่างระหวา่ งภาษาพดู กบั ภาษาเขยี น 5) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 7) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 8) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 10 เร่อื ง ความแตกตา่ งของภาษา 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจบนั ทกึ ผลการวเิ คราะหภ์ าษาพูดและภาษาเขยี นจากบทความสารคดี 8 กิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 10 723 หลกั ภาษาฯ ม.1

เร่ืองท่ี 1 ภาษาพดู 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมือ : เทคนิ คค่ตู รวจสอบ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน ครสู นทนากบั นกั เรยี นเก่ยี วกบั ลกั ษณะของภาษาทใ่ี ชพ้ ดู สอ่ื สารกนั ในชวี ติ ประจาวนั จากนนั้ ใหน้ กั เรยี น ชว่ ยกนั อธบิ ายลกั ษณะภาษาทใ่ี ชพ้ ดู กบั คนทส่ี นทิ สนมคุน้ เคยและคนทไ่ี ม่สนิทสนมคุน้ เคยว่า มคี วามเหมอื นหรอื มคี วามแตกตา่ งกนั อย่างไร ขนั้ สอน 1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ จากนนั้ ใหร้ ว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ภาษาพูด จากหนงั สอื เรยี น 2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ทาใบงานที่ 10.1 เรอ่ื ง ลกั ษณะของภาษาพดู (1) โดยใหส้ มาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ จบั คกู่ นั เป็น 2 คู่ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคปู่ ฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั น้ี - สมาชกิ คนท่ี 1 อา่ นโจทยค์ าถาม และเขยี นคาตอบ - สมาชกิ คนท่ี 2 เป็นฝ่ายสงั เกต ตรวจสอบคาตอบ ใหส้ มาชกิ แตล่ ะค่เู ปลย่ี นบทบาทกนั ในคาถามขอ้ ต่อไปจนครบทุกขอ้ 3. นกั เรยี นรวมกลุม่ เดมิ (4 คน) ใหแ้ ต่ละค่นู าคาตอบของคตู่ นเองมานาเสนอใหเ้ พอ่ื นอกี คหู่ น่งึ ฟัง เพอ่ื ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง เสรจ็ แลว้ นาใบงานท่ี 10.1 สง่ ครู 4. นกั เรยี นทาใบงานที่ 10.2 เร่อื ง ลกั ษณะของภาษาพดู (2) เป็นรายบคุ คล ขนั้ สรปุ 1. ครยู กตวั อยา่ งภาษาเขยี นใหน้ กั เรยี นบอกเป็นภาษาพดู ทใ่ี ชก้ บั คนคนุ้ เคย และคนไม่คุน้ เคย 2. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ลกั ษณะของภาษาพดู 724 หลกั ภาษาฯ ม.1

เร่ืองท่ี 2 ภาษาเขียน 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมอื : เทคนิ คค่คู ิดสี่สหาย ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน ครใู หน้ กั เรยี นทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั ลกั ษณะของภาษาพดู จากนนั้ ครสู นทนากบั นักเรยี นถงึ ความแตกต่าง ของภาษาพดู และภาษาเขยี น ขนั้ สอน 1. นกั เรยี นกลุ่มเดมิ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ภาษาเขยี น จากหนงั สอื เรยี น 2. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกนั ทาใบงานท่ี 10.3 เรื่อง ลกั ษณะของภาษาเขียน โดยใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกลุ่ม หาคาตอบในใบงานดว้ ยตนเองจนครบทกุ ตอน จากนนั้ จบั คกู่ บั เพอ่ื นในกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบ ของตนเองใหเ้ พอ่ื นฟัง (นกั เรยี นอกี ค่หู นงึ่ กป็ ฏบิ ตั กิ จิ กรรมเช่นเดยี วกนั ) 3. สมาชกิ รวมกลุ่มเดมิ (4 คน) ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบของคตู่ นเองใหเ้ พอ่ื นอกี ค่หู น่งึ ฟัง และสรุปคาตอบทเ่ี ป็น มตขิ องกลุ่ม จากนนั้ บนั ทกึ คาตอบลงในใบงานท่ี 10.3 เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครู ขนั้ สรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ลกั ษณะของภาษาเขยี น 725 หลกั ภาษาฯ ม.1

เร่อื งที่ 3 การเปรยี บเทียบภาษาพดู และภาษาเขียน 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครยู กตวั อยา่ งบทประพนั ธ์จากวรรณคดเี รอ่ื ง ขุนชา้ งขนุ แผน มาอา่ นใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ใหน้ กั เรยี นแสดง ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การใชภ้ าษา ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) นกั เรยี นกลุ่มเดมิ ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ภาษาพดู และภาษาเขยี น จากหอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) นกั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกนั อธบิ ายความแตกต่างระหวา่ งภาษาพูดและภาษาเขยี น เพอ่ื ใหส้ มาชกิ ทกุ คนใน กลมุ่ เกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) : เทคนิคโต๊ะกลม 1. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกนั ทาใบงานที่ 10.4 เร่ือง ความแตกต่างระหวา่ งภาษาพดู กบั ภาษาเขียน โดยใหส้ มาชกิ แตล่ ะกลมุ่ แบ่งหน้าทก่ี นั ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามทค่ี รกู าหนด 2. สมาชกิ แต่ละคนในกล่มุ จะไดม้ โี อกาสเขยี นคาตอบหมุนเวยี นกนั ไปเรอ่ื ยๆ จนเสรจ็ ครบทุกขอ้ จากนนั้ ตรวจสอบคาตอบในใบงานท่ี 10.4 ร่วมกนั ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นกั เรยี นและครูร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 10.4 2. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความแตกต่างระหวา่ งภาษาพดู และภาษาเขยี น พรอ้ มบอกแนวทางการนาไปใชใ้ นการ สอ่ื สารในชวี ติ ประจาวนั อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม  ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละคนเลือกอ่านบทความสารคดี 1 เร่อื ง แลว้ บนั ทึกผลการวิเคราะห์ ความแตกต่างของภาษาพดู และภาษาเขียน โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 10 726 หลกั ภาษาฯ ม.1

9 สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ ภาษาไทย ม.1 3) ตวั อย่างบทประพนั ธจ์ ากวรรณคดเี ร่อื ง ขุนชา้ งขุนแผน 4) ใบงานท่ี 10.1 เร่อื ง ลกั ษณะของภาษาพดู (1) 5) ใบงานท่ี 10.2 เร่อื ง ลกั ษณะของภาษาพดู (2) 6) ใบงานท่ี 10.3 เรอ่ื ง ลกั ษณะของภาษาเขยี น 7) ใบงานท่ี 10.4 เรอ่ื ง ความแตกต่างระหว่างภาษาพดู กบั ภาษาเขยี น 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.st.ac.th/bhatips/tip49/talk_write.html - http://www.yorwor2.ac.th/thaionline/unit6/talk_write.html 727 หลกั ภาษาฯ ม.1

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินบนั ทึกผลการวิเคราะหภ์ าษาพดู และภาษาเขียนจากบทความสารคดี รายการประเมิน ดมี าก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การยกตวั อย่าง ยกตวั อยา่ งภาษาพดู ยกตวั อย่างภาษาพดู ยกตวั อย่างภาษาพดู ยกตวั อย่างภาษาพดู ภาษาพดู ไดถ้ กู ตอ้ งทกุ คา ไดถ้ กู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ไดถ้ กู ตอ้ งเป็นบางคา ไดถ้ กู ตอ้ งบางคา มขี อ้ มขี อ้ ถูกมากกว่าขอ้ ผดิ ผดิ มากกว่าขอ้ ถูก 2. การยกตวั อย่าง ยกตวั อย่างภาษาเขยี น ยกตวั อย่างภาษาเขยี น ยกตวั อย่างภาษาเขยี น ยกตวั อย่างภาษาเขยี น ภาษาเขียน ไดถ้ กู ตอ้ งทุกคา ไดถ้ ูกตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ ไดถ้ ูกตอ้ งเป็นบางคา ไดถ้ กู ตอ้ งบางคา มขี อ้ ถกู มากกวา่ ขอ้ ผดิ มขี อ้ ผดิ มากกว่าขอ้ ถกู 3. การแก้ไขภาษาพดู แกไ้ ขภาษาพดู ใหเ้ ป็น แกไ้ ขภาษาพดู ใหเ้ ป็น แกไ้ ขภาษาพดู ใหเ้ ป็น แกไ้ ขภาษาพดู ใหเ้ ป็น ให้เป็นภาษาเขยี น ภาษาเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง ภาษาเขยี นไดถ้ กู ตอ้ ง ภาษาเขยี นไดถ้ กู ตอ้ ง ภาษาเขยี นไดถ้ กู ตอ้ ง และเหมาะสมทุกคา และเหมาะสม แต่มคี าไมเ่ หมาะสม แต่มคี าไมเ่ หมาะสม เป็นส่วนใหญ่ บา้ ง 1-2 คา มากกวา่ 3 คา 4. การวิเคราะห์ วเิ คราะหค์ วาม วเิ คราะหค์ วาม วเิ คราะหค์ วาม วเิ คราะหค์ วาม ความแตกต่าง แตกต่างของภาษาพดู แตกต่างของภาษาพดู ของภาษาพดู และภาษาเขยี นได้ แตกต่างของภาษาพดู แตกต่างของภาษาพดู และภาษาเขยี นได้ และภาษาเขียน ถูกตอ้ ง ชดั เจน และ ถูกตอ้ งบางส่วน แต่ ยกตวั อยา่ งประกอบ และภาษาเขยี นได้ และภาษาเขยี นได้ ไม่ยกตวั อย่างประกอบ ไดเ้ ขา้ ใจงา่ ย ถกู ตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ ถูกตอ้ งบางสว่ น และ และยกตวั อย่างประกอบ ยกตวั อย่างประกอบ ไดเ้ ขา้ ใจงา่ ย ไดเ้ ขา้ ใจงา่ ย เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ากวา่ 8 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 728 หลกั ภาษาฯ ม.1

แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 10 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะเดน่ ของภาษาพดู 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของภาษาพดู ก. ใชป้ ระโยคความเดยี วในการพดู ข. มคี าลงทา้ ยเรยี กขานหรอื ขานรบั ก. สามารถขดั เกลาใหส้ ละสลวยได้ ค. ใชค้ ายอ่ เพอ่ื ความรวดเรว็ ในการพดู ข. ไมเ่ คร่งครดั ในระเบยี บของภาษา ง. ใชส้ านวนสุภาษติ คาพงั เพยประกอบ ค. มงุ่ เน้นการสอ่ื สารใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั ง. หวงั ใหบ้ รรลุผลตามทผ่ี พู้ ดู ตอ้ งการ 2. การพดู กบั ผทู้ ไ่ี ม่คนุ้ เคยเราควรใชภ้ าษาระดบั ใด 7. ขอ้ ใดใชภ้ าษาระดบั เดยี วกบั ภาษาในการเขยี นโฆษณา ก. ภาษาปาก ก. การเขยี นกฎหมาย ข. การเขยี นนวนยิ าย ข. ภาษาแบบแผน ค. การเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ ง. การเขยี นรอ้ ยกรอง ค. ภาษากง่ึ แบบแผน 8. บคุ คลในขอ้ ใดพดู ไมส่ อดคลอ้ งกบั การพดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นมงคล ง. ภาษาทใ่ี ชใ้ นพธิ กี าร ก. แดง พดู ในสงิ่ ทด่ี มี ปี ระโยชน์ ข. ดา พดู ในเชงิ สรา้ งสรรคด์ ว้ ยถอ้ ยคาทไ่ี พเราะ 3. ขอ้ ใดคอื สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นภาษาเขยี น ค. เขยี ว มสี าเนียงออ่ นหวานทา่ ทอี ่อนน้อมถอ่ มตน ก. อกั ษร ง. ชมพู พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ และแสดงความแขง็ กรา้ ว ข. รปู แบบการเขยี น 9. การใชภ้ าษาพดู กบั ผทู้ ไ่ี ม่คนุ้ เคย แตต่ อ้ งตดิ ตอ่ งานกนั ค. กลวธิ ใี นการนาเสนอ ตามมารยาททางสงั คมใหใ้ ชภ้ าษาระดบั ใด ง. ขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการเขยี น ก. ภาษาระดบั กนั เอง ข. ภาษาระดบั กง่ึ ทางการ 4. ภาษาเขยี นมคี วามสาคญั อยา่ งไร ค. ภาษาระดบั ทางการ ก. เป็นทร่ี วมของความบนั เทงิ ง. ภาษาพธิ กี าร ข. เป็นอาชพี สาคญั ในปัจจบุ นั 10. การเขยี นในขอ้ ใดเป็นการกาหนดแนวทางใหบ้ ุคคลปฏบิ ตั ิ ค. เป็นหลกั ฐานในการบนั ทกึ ขอ้ ความ เพ่อื ใหส้ งั คมสงบสุข ง. เป็นทร่ี วมของระเบยี บขอ้ บงั คบั ตา่ งๆ ก. การเขยี นกฎหมาย ข. การเขยี นบนั ทกึ ความรู้ ความคดิ 5. ขอ้ ใดเป็นการเขยี นอยา่ งไม่เป็นทางการ ค. การเขยี นบนั ทกึ เหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ก. เขยี นยอ่ ความ ง. การเขยี นแสดงภมู ปิ ัญญาตา่ งๆ ในสงั คม ข. แตง่ คาประพนั ธ์ ค. เขยี นเรยี งความ ง. เขยี นบนั ทกึ ประจาวนั มฐ. ท 4.1 ม.1/4 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ข 2. ค 3. ก 4. ค 5. ง 6. ก 7. ข 8. ง 9. ข 10. ก 729 หลกั ภาษาฯ ม.1

แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 10 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดคอื สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นภาษาเขยี น 6. ขอ้ ใดใชภ้ าษาระดบั เดยี วกบั ภาษาในการเขยี นโฆษณา ก. ขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการเขยี น ก. การเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ ข. กลวธิ ใี นการนาเสนอ ข. การเขยี นรอ้ ยกรอง ค. รปู แบบการเขยี น ค. การเขยี นกฎหมาย ง. อกั ษร ง. การเขยี นนวนยิ าย 2. ภาษาเขยี นมคี วามสาคญั อยา่ งไร 7. การเขยี นในขอ้ ใดเป็นการกาหนดแนวทางใหบ้ คุ คลปฏบิ ตั ิ ก. เป็นทร่ี วมของระเบยี บขอ้ บงั คบั ตา่ งๆ เพอ่ื ใหส้ งั คมสงบสขุ ข. เป็นหลกั ฐานในการบนั ทกึ ขอ้ ความ ก. การเขยี นแสดงภมู ปิ ัญญาต่างๆ ในสงั คม ค. เป็นอาชพี สาคญั ในปัจจุบนั ข. การเขยี นบนั ทกึ เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ง. เป็นทร่ี วมของความบนั เทงิ ค. การเขยี นบนั ทกึ ความรู้ ความคดิ ง. การเขยี นกฎหมาย 3. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะเด่นของภาษาพดู ก. ใชส้ านวนสภุ าษติ คาพงั เพยประกอบ 8. ขอ้ ใดเป็นการเขยี นอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ ข. ใชค้ าย่อเพอ่ื ความรวดเรว็ ในการพดู ก. เขยี นบนั ทกึ ประจาวนั ค. มคี าลงทา้ ยเรยี กขานหรอื ขานรบั ข. แตง่ คาประพนั ธ์ ง. ใชป้ ระโยคความเดยี วในการพดู ค. เขยี นเรยี งความ ง. เขยี นย่อความ 4. การพดู กบั ผทู้ ไ่ี ม่คนุ้ เคยเราควรใชภ้ าษาระดบั ใด ก. ภาษาทใ่ี ชใ้ นพธิ กี าร 9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของภาษาพดู ข. ภาษากง่ึ แบบแผน ค. ภาษาแบบแผน ก. สามารถขดั เกลาใหส้ ละสลวยได้ ง. ภาษาปาก ข. ไม่เครง่ ครดั ในระเบยี บของภาษา ค. มุ่งเน้นการสอ่ื สารใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั 5. การใชภ้ าษาพดู กบั ผทู้ ไ่ี ม่คนุ้ เคย แตต่ อ้ งตดิ ต่องานกนั ง. หวงั ใหบ้ รรลผุ ลตามทผ่ี พู้ ดู ตอ้ งการ ตามมารยาททางสงั คมใหใ้ ชภ้ าษาระดบั ใด 10.บุคคลในขอ้ ใดพดู ไมส่ อดคลอ้ งกบั การพดู ในสงิ่ ทเ่ี ป็นมงคล ก. ภาษาระดบั ทางการ ก. ชมพู พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ และแสดงความแขง็ กรา้ ว ข. ภาษาระดบั กนั เอง ข. เขยี ว มสี าเนียงอ่อนหวานทา่ ทอี ่อนน้อมถ่อมตน ค. ภาษาระดบั พธิ กี าร ค. ดา พดู ในเชงิ สรา้ งสรรคด์ ว้ ยถอ้ ยคาทไ่ี พเราะ ง. ภาษาระดบั กง่ึ ทางการ ง. แดง พดู ในสง่ิ ทด่ี มี ปี ระโยชน์ มฐ. ท 4.1 ม.1/4 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ง 2. ข 3. ค 4. ข 5. ง 6. ง 7. ง 8. ก 9. ก 10. ก 730 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา 1 ชวั่ โมง เร่ืองท่ี 1 ภาษาพดู แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 ภาษาพดู 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ภาษาพดู ทใ่ี ชส้ อ่ื สารในชวี ติ ประจาวนั มลี กั ษณะการใชภ้ าษาพดู แตล่ ะระดบั แตกตา่ งกนั 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.1/4 วเิ คราะหค์ วามแตกต่างของภาษาพดู และภาษาเขยี น 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อธบิ ายลกั ษณะของภาษาพดู ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - ภาษาพดู 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 731 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องท่ี 1 ภาษาพูด 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมอื : เทคนิ คค่ตู รวจสอบ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 10 ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน คาถามกระต้นุ ความคิด  นักเรียนคิดว่า ภาษาท่ีใช้พดู ในชีวิตประจาวนั ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร 1. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั ลกั ษณะของภาษาทใ่ี ชพ้ ดู (ภาษาพดู มกี ารเปลยี่ นแปลงตามความนิยม) สอ่ื สารกนั ในชวี ติ ประจาวนั คาถามกระตุ้นความคิด 2. นกั เรยี นชว่ ยกนั อธบิ ายลกั ษณะภาษาทใ่ี ชพ้ ดู กบั คนท่ี  การส่ือสารในชีวิตประจาวนั ของเราใช้ทกั ษะทาง สนทิ สนมคุน้ เคย และกบั คนทไ่ี มส่ นิทสนมคุน้ เคยว่า มคี วามเหมอื นหรอื มคี วามแตกตา่ งกนั อยา่ งไร ภาษาด้านใดมากที่สุด และถ้าอยูใ่ นห้องเรยี น ควรใช้ทกั ษะใดน้อยท่ีสดุ 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (การพดู ) ขนั้ สอน ส่อื การเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 2. ใบงานท่ี 10.1-10.2 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 2. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตาม ความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ ปานกลาง คอ่ นขา้ งอ่อน และออ่ น จากนนั้ ใหร้ ่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ภาษาพดู จากหนังสอื เรยี น 3. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ทาใบงานท่ี 10.1 เร่ือง ลกั ษณะของ ภาษาพดู (1) โดยใหส้ มาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ จบั ค่กู นั เป็น 2 คู่ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคปู่ ฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั น้ี - สมาชกิ คนท่ี 1 อา่ นโจทยค์ าถาม และเขยี นคาตอบ - สมาชกิ คนท่ี 2 เป็นฝ่ายสงั เกต ตรวจสอบคาตอบ ใหส้ มาชกิ แต่ละค่เู ปลย่ี นบทบาทกนั ในคาถามขอ้ ต่อไป จนครบทุกขอ้ 732 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 1 ภาษาพดู 4. นักเรยี นรวมกล่มุ เดมิ (4 คน) ใหแ้ ตล่ ะค่นู าคาตอบของคู่ ตนเองมานาเสนอใหเ้ พอ่ื นอกี คหู่ น่งึ ฟัง เพ่อื ชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง เสรจ็ แลว้ นาใบงานท่ี 10.1 สง่ ครู 5. นกั เรยี นทาใบงานที่ 10.2 เรอื่ ง ลกั ษณะของภาษาพดู (2) เป็นรายบคุ คล เม่อื เสรจ็ แลว้ ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยก่อน นาส่งครู ขนั้ สรปุ คาถามกระต้นุ ความคิด สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : —  นักเรียนมีความเหน็ อย่างไร ในกรณีที่นาย ก พดู กบั นาย ข โดยใช้ภาษาก่ึงแบบแผน 1. ครยู กตวั อยา่ งภาษาเขยี นใหน้ กั เรยี นบอกเป็นภาษาพดู ทใ่ี ช้ (แสดงว่าทงั้ สองคนไมส่ นิทสนมคนุ้ เคย หรอื ฐานะทาง กบั คนคนุ้ เคย และคนไมค่ นุ้ เคย สงั คมของนาย ข สงู กว่านาย ก) 2. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ลกั ษณะของภาษาพดู 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) ตรวจใบงานท่ี 10.1 ใบงานท่ี 10.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 10.2 ใบงานท่ี 10.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) ใบงานท่ี 10.1 เร่อื ง ลกั ษณะของภาษาพดู (1) 3) ใบงานท่ี 10.2 เรอ่ื ง ลกั ษณะของภาษาพดู (2) 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ — 733 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องท่ี 1 ภาษาพดู ใบงานที่ 10.1 ลกั ษณะของภาษาพดู (1) คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามทก่ี าหนดใหถ้ กู ตอ้ ง 1. ภาษาพดู หมายถงึ อะไร 2. ภาษาพูดเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ย่างไร 3. ภาษาพูด ในพจนานุกรมไทยเรยี กวา่ อยา่ งไร 4. ภาษาพูดมลี กั ษณะอย่างไร 5. การเขยี นบนั เทงิ คดหี รอื เร่อื งสนั้ ผแู้ ตง่ นาภาษาพดู ไปใชอ้ ยา่ งไร 734 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องท่ี 1 ภาษาพูด ใบงานที่ 10.1 ลกั ษณะของภาษาพดู (1) คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามทก่ี าหนดใหถ้ ูกตอ้ ง 1. ภาษาพูด หมายถงึ อะไร ภาษาพดู หมายถงึ ภาษาทใี่ ชพ้ ดู ในชวี ติ ประจาวนั ซงึ่ ผพู้ ดู ไมเ่ คร่งครดั ในระเบยี บของภาษา มงุ่ แตก่ ารสอื่ สาร เขา้ ใจไดต้ รงกนั และบรรลุผลตามทตี่ อ้ งการ 2. ภาษาพูดเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ย่างไร ภาษาพดู เป็นภาษาประเภทหนงึ่ ซงึ่ เกดิ จากการพดู ทแี่ สดงความคนุ้ เคย ไมเ่ หมาะทจี่ ะใชเ้ ป็นพธิ รี ตี อง 3. ภาษาพูด ในพจนานุกรมไทยเรยี กว่าอย่างไร พจนานุกรมเรยี กภาษาพดู ว่า ภาษาปาก 4. ภาษาพูดมลี กั ษณะอย่างไร ภาษาพดู ไมใ่ ชภ่ าษาแบบแผน มลี กั ษณะเป็นภาษาทใี่ ชส้ ะดวก งา่ ย กะทดั รดั และเป็นกนั เอง 5. การเขยี นบนั เทงิ คดหี รอื เร่อื งสนั้ ผแู้ ต่งนาภาษาพดู ไปใชอ้ ยา่ งไร ใชเ้ ป็นภาษาพดู ของตวั ละครเพอื่ ความเหมาะสมกบั ฐานะตวั ละคร 735 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองที่ 1 ภาษาพดู ใบงานท่ี 10.2 ลกั ษณะของภาษาพดู (2) คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาภาษาพูดทก่ี าหนด แลว้ เปลย่ี นเป็นภาษาเขยี นใหถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม ภาษาพดู ภาษาเขียน 1. วยั โจ๋ 2. เจ๋ง 3. แหว้ 4. เดย้ี ง 5. กนิ 6. ปอดลอย 7. เรด่ิ 8. แซว 9. จอย 10. เกอื ก 11. ไฟไหม้ 12. ไอตมิ 13. มหาลยั 14. จบิ๊ จอ๊ ย 15. ตงั ค์ 736 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 1 ภาษาพูด ใบงานท่ี 10.2 ลกั ษณะของภาษาพดู (2) คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาภาษาพูดทก่ี าหนด แลว้ เปลย่ี นเป็นภาษาเขยี นใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม ภาษาพดู ภาษาเขียน วยั รุ่น 1. วยั โจ๋ เยยี่ มมาก 2. เจ๋ง ผดิ หวงั 3. แหว้ พลาดและเจบ็ ตวั 4. เดย้ี ง รบั ประทาน 5. กนิ หวาดกลวั 6. ปอดลอย เลศิ 7. เรด่ิ เสยี ดสี 8. แซว สนุก เพลดิ เพลนิ 9. จอย รองเทา้ 10. เกอื ก เพลงิ ไหม้ 11. ไฟไหม้ ไอศกรมี 12. ไอตมิ มหาวทิ ยาลยั 13. มหาลยั เลก็ น้อย 14. จบ๊ิ จอ๊ ย เงนิ 15. ตงั ค์ 737 หลกั ภาษาฯ ม.1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook