หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 1 ภาษาพดู แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 738 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องท่ี 1 ภาษาพูด แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ช่อื ...................................................................................................... ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 739 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 1 ภาษาพดู แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ช่อื กลุม่ ................................................................................................ ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 740 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 1 ภาษาพูด แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด 741 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 1 ภาษาพดู คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสง่ิ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 742 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 1 ภาษาพูด ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 743 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา 1 ชวั่ โมง เร่ืองท่ี 2 ภาษาเขยี น แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 2 ภาษาเขียน 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ภาษาเขยี น เป็นการบนั ทกึ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจตา่ งๆ เป็นการสอ่ื สารในลกั ษณะทเ่ี ป็นลายลกั ษณ์ อกั ษร 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.1/4 วเิ คราะหค์ วามแตกต่างของภาษาพดู และภาษาเขยี น 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อธบิ ายลกั ษณะของภาษาเขยี นได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - ภาษาเขยี น 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 744 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องท่ี 2 ภาษาเขยี น 6 กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมอื : เทคนิ คค่คู ิดสี่สหาย ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น คาถามกระต้นุ ความคิด เหตุใดจงึ ต้องใช้ภาษาเขยี นดว้ ยความระมดั ระวงั ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : — (เพราะภาษาเขยี นเป็นหลกั ฐานผกู มดั ผูเ้ ขยี น) 1. ครใู หน้ กั เรยี นทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั ลกั ษณะของภาษาพดู 2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นถงึ ความแตกตา่ งของภาษาพดู และ คาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า ถา้ เราต้องการใช้ภาษาเขยี นที่ดี ภาษาเขยี น 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ควรจะทาอย่างไร (อา่ นมากๆ และฝึกเขยี นบอ่ ยๆ) ขนั้ สอน ส่อื การเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 2. ใบงานท่ี 10.3 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 2. นกั เรยี นกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ภาษาเขยี น จากหนงั สอื เรยี น 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ทาใบงานที่ 10.3 เรื่อง ลกั ษณะ ของภาษาเขียน โดยใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกล่มุ หาคาตอบ ในใบงานดว้ ยตนเองจนครบทกุ ตอน จากนนั้ จบั ค่กู บั เพอ่ื น ในกลุ่มผลดั กนั อธบิ ายคาตอบของตนเองใหเ้ พ่อื นฟัง (นักเรยี นอกี คหู่ นงึ่ กป็ ฏบิ ตั กิ จิ กรรมเชน่ เดยี วกนั ) 4. สมาชกิ รวมกล่มุ เดมิ (4 คน) ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบของ คตู่ นเองใหเ้ พ่อื นอกี คหู่ น่งึ ฟัง และสรปุ คาตอบทเ่ี ป็นมติ ของกลมุ่ จากนนั้ บนั ทกึ คาตอบลงในใบงานท่ี 10.3 เม่อื ทา เสรจ็ แลว้ ใหน้ าสง่ ครู ขนั้ สรปุ สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ลกั ษณะของภาษาเขยี น เพอ่ื ให้ นักเรยี นเกดิ ความเขา้ ใจไดด้ ยี ง่ิ ขน้ึ 745 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องที่ 2 ภาษาเขยี น 7 การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 10.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 10.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ 8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) ใบงานท่ี 10.3 เร่อื ง ลกั ษณะของภาษาเขยี น 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ — 746 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 2 ภาษาเขยี น ใบงานที่ 10.3 ลกั ษณะของภาษาเขียน ตอนที่ 1 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามทก่ี าหนดใหถ้ กู ตอ้ ง 1. ภาษาเขยี นแบ่งเป็นกร่ี ะดบั 2. ในวรรณกรรมมกี ารใชภ้ าษาเขยี นกแ่ี บบ ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาภาษาเขยี นทก่ี าหนด แลว้ เปลย่ี นเป็นภาษาพดู ใหถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม คาชี้แจง ภาษาเขียน ภาษาพดู 1. ทาไม่จรงิ จงั และปิดบงั 2. สามี ภรรยา 3. ดาราภาพยนตร์ 4. เกนิ ควร เกนิ กาหนด 5. สาเนา ตน้ ฉบบั 6. อนุภรรยา 7. อาการดขี น้ึ อาการทเุ ลาลง 8. เตน้ รา 9. เบอ่ื หน่าย 10. สดุ ทา้ ย 11. ถงึ แกก่ รรม 12. อยา่ งไร 747 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องที่ 2 ภาษาเขียน ใบงานที่ 10.3 ลกั ษณะของภาษาเขียน ตอนที่ 1 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามทก่ี าหนดใหถ้ กู ตอ้ ง 1. ภาษาเขยี นแบ่งเป็นกร่ี ะดบั แบ่งเป็น 2 ระดบั คอื ภาษาเขยี นทมี่ ลี กั ษณะเคร่งครดั ในหลกั ทางภาษา เรยี กวา่ ภาษาแบบแผน ส่วนระดบั ไมเ่ คร่งเครยี ดมากนกั เรยี กวา่ ภาษากงึ่ แบบแผน หรอื ภาษาไมเ่ ป็นทางการ 2. ในวรรณกรรมมกี ารใชภ้ าษาเขยี นกแ่ี บบ ใชภ้ าษาเขยี น 3 แบบ คอื 1. ภาษาเขยี นแบบจนิ ตนาการ เชน่ ภาษาการประพนั ธท์ งั้ รอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง 2. ภาษาเขยี นแบบแสดงขอ้ เทจ็ จรงิ เชน่ การเขยี นบทความ การเขยี นสารคดี 3. ภาษาเขยี นแบบประชาสมั พนั ธ์ เชน่ การเขยี นคาโฆษณา หรอื คาขวญั ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาภาษาเขยี นทก่ี าหนด แลว้ เปลย่ี นเป็นภาษาพดู ใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม คาชี้แจง ภาษาเขียน ภาษาพดู 1. ทาไม่จรงิ จงั และปิดบงั มวั ่ นมิ่ 2. สามี ภรรยา ผวั เมยี 3. ดาราภาพยนตร์ ดาราหนัง 4. เกนิ ควร เกนิ กาหนด เว่อร์ (Over) 5. สาเนา ตน้ ฉบบั กอ๊ บ (Copy) 6. อนุภรรยา เมยี น้อย 7. อาการดขี น้ึ อาการทเุ ลาลง ค่อยยงั ชวั่ 8. เตน้ รา ดน้ิ 9. เบ่อื หน่าย เซง็ 10. สดุ ทา้ ย บว๊ ย (ภาษาจนี ) 11. ถงึ แกก่ รรม ตาย 12. อยา่ งไร ยงั ไง 748 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องที่ 2 ภาษาเขียน แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมีส่วน ที่ ของผรู้ บั การ ความคิดเหน็ ฟังคนอื่น ตามที่ได้รบั 4321 ร่วมในการ รวม มอบหมาย ปรบั ปรงุ 20 ประเมิน 4321 4321 ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 749 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องที่ 2 ภาษาเขยี น แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อย่อู ย่างพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 750 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 2 ภาษาเขยี น คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากว่า 54 ปรบั ปรงุ 751 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 2 ภาษาเขียน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 752 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องที่ 3 การเปรียบเทยี บภาษาพดู และภาษาเขียน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู 2 ชวั่ โมง และภาษาเขียน 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาภาษาพูดและภาษาเขยี น จะตอ้ งวเิ คราะหค์ วามแตกต่างของภาษาพดู และภาษาเขยี น 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.1/4 วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของภาษาพดู และภาษาเขยี น 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของภาษาพดู และภาษาเขยี นได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 1) ภาษาพดู 2) ภาษาเขยี น 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 753 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองที่ 3 การเปรียบเทยี บภาษาพดู และภาษาเขยี น (ชั่วโมงที่ 1) 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ชวั่ โมงท่ี 1 ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื การเรยี นรู้ : ตวั อย่างบทประพนั ธ์ นักเรียนคิดว่า งานเขยี นที่ใช้ภาษาพูดมากกว่า ภาษาเขียน ควรเป็นงานเขียนประเภทใด 1. นกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั ลกั ษณะของภาษาพดู (ควรเป็นการเขยี นบนั เทงิ คดี มุ่งใหค้ วามสนุกสนาน และภาษาเขยี น เพลดิ เพลนิ ไมเ่ น้นวชิ าการ) 2. ครยู กตวั อยา่ งบทประพนั ธจ์ ากวรรณคดเี รอ่ื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน มาอา่ นใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การใชภ้ าษา หมามนั จะเกดิ มาชงิ หมาเกดิ มงึ ไปตายเสยี เถดิ อา้ ยหา้ เบ้ยี หน้าตาเช่นน้จี ะมเี มยี อา้ ยมะม่วงหมาเลยี ไม่เจยี มใจ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา คาถามกระต้นุ ความคิด แหลง่ การเรยี นรู้ : การที่นักเรยี นมีความร้เู รือ่ งความแตกต่างของ ภาษาพดู และภาษาเขยี น นักเรยี นจะนาความรู้ 1. หอ้ งสมุด ไปใช้ประโยชน์อยา่ งไร 2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 1. นักเรยี นกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ภาษาพดู และภาษาเขยี น จากหอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 754 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา คาถามกระต้นุ ความคิด เร่ืองท่ี 3 การเปรียบเทยี บภาษาพูดและภาษาเขยี น (ช่ัวโมงท่ี 2) ในชีวิตประจาวนั ของเราใช้ภาษาพดู หรอื ภาษา ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ เขียนมากกว่ากนั เพราะเหตุใด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น สอ่ื การเรยี นรู้ : แบบวดั ฯ ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 1. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อธบิ ายความแตกตา่ งระหวา่ ง ภาษาพดู และภาษาเขยี น เพ่อื ใหส้ มาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ เกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ 2. นักเรยี นแตล่ ะคนทาแบบวดั ฯ ตอนท่ี 4 (ความแตกต่างของ ภาษา) กจิ กรรมตามตวั ชว้ี ดั : กจิ กรรมท่ี 3.3 เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ชวั่ โมงท่ี 2 ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ : เทคนคิ โต๊ะกลม สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 10.4 1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั ทาใบงานท่ี 10.4 เร่อื ง ความ แตกต่างระหวา่ งภาษาพดู กบั ภาษาเขียน โดยใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกลุ่มแบง่ หน้าทก่ี นั ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี - สมาชกิ คนท่ี 1 เขยี นคาตอบขอ้ ท่ี 1 แลว้ ส่งใบงานไปยงั สมาชกิ คนท่ี 2 - สมาชกิ คนท่ี 2 อา่ นคาตอบของสมาชกิ คนท่ี 1 และ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง แลว้ แกไ้ ขหรอื เขยี นเพมิ่ เตมิ ให้ สมบูรณ์ จากนนั้ เขยี นคาตอบในขอ้ ตอ่ ไป - สมาชกิ คนท่ี 3 อา่ นคาตอบของสมาชกิ คนท่ี 2 และ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง แลว้ แกไ้ ขหรอื เขยี นเพมิ่ เตมิ ให้ สมบูรณ์ จากนนั้ เขยี นคาตอบขอ้ ตอ่ ไป - สมาชกิ คนท่ี 4 อ่านคาตอบของสมาชกิ คนท่ี 3 และ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง แลว้ แกไ้ ขหรอื เขยี นเพม่ิ เตมิ ให้ สมบูรณ์ จากนนั้ เขยี นคาตอบขอ้ ตอ่ ไป 2. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มจะไดม้ โี อกาสเขยี นคาตอบหมนุ เวยี น กนั ไปเรอ่ื ยๆ จนเสรจ็ ครบทุกขอ้ จากนนั้ ตรวจสอบคาตอบใน ใบงานท่ี 10.4 รว่ มกนั 755 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องที่ 3 การเปรียบเทียบภาษาพูดและภาษาเขยี น (ชั่วโมงที่ 2) ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 10.4 1. นักเรยี นและครรู ่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 10.4 2. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาพดู และ ภาษาเขยี น พรอ้ มบอกแนวทางการนาไปใชใ้ นการส่อื สาร ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม • ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละคนเลอื กอ่านบทความสารคดี 1 เรอ่ื ง แล้วบนั ทึกผลการวิเคราะหค์ วามแตกต่าง ของภาษาพดู และภาษาเขยี น โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) การยกตวั อยา่ งภาษาพดู 2) การยกตวั อยา่ งภาษาเขยี น 3) การแกไ้ ขภาษาพดู ใหเ้ ป็นภาษาเขยี น 4) การวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของภาษาพดู และภาษาเขยี น นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 10 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 10.4 ใบงานท่ี 10.4 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจบนั ทกึ ผลการวเิ คราะหภ์ าษาพดู แบบประเมนิ บนั ทกึ ผลการวเิ คราะหภ์ าษา ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และภาษาเขยี นจากบทความสารคดี พดู และภาษาเขยี นจากบทความสารคดี 756 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องที่ 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู และภาษาเขียน 8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ ภาษาไทย ม.1 2) ตวั อย่างบทประพนั ธจ์ ากวรรณคดเี รอ่ื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน 3) ใบงานท่ี 10.4 เรอ่ื ง ความแตกต่างระหว่างภาษาพดู กบั ภาษาเขยี น 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.st.ac.th/bhatips/tip49/talk_write.html - http://www.yorwor2.ac.th/thaionline/unit6/talk_write.html 757 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู และภาษาเขียน การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินบนั ทึกผลการวิเคราะหภ์ าษาพดู และภาษาเขียนจากบทความสารคดี ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4 321 1 การยกตวั อย่างภาษาพดู 2 การยกตวั อยา่ งภาษาเขยี น 3 การแกไ้ ขภาษาพดู ใหเ้ ป็นภาษาเขยี น 4 การวเิ คราะหค์ วามแตกต่างของภาษาพดู และ ภาษาเขยี น รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 14 - 16 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 11 - 13 ดี ปรบั ปรุง = 1 คะแนน 8 - 10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ 758 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องท่ี 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู และภาษาเขียน ใบงานท่ี 10.4 ความแตกต่างระหวา่ งภาษาพดู กบั ภาษาเขียน คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรุปการเปรยี บเทยี บการใชภ้ าษาพดู และภาษาเขยี นลงในตาราง ขอ้ ที่ ภาษาพดู ภาษาเขียน 1 ใชภ้ าษาทป่ี ระณีตมกี ารขดั เกลาใหส้ ละสลวย 2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเขยี นวชิ าการ 3 การพดู ไมส่ ามารถใชเ้ ป็นหลกั ฐานอา้ งองิ ได้ การเขยี นโตต้ อบกนั ไม่ประจนั หน้ากนั แมจ้ ะมี นอกจากบนั ทกึ เสยี งไว้ ความขดั แยง้ กนั กล็ ดระดบั ความขดั แยง้ ได้ ภาษาในการเขยี นบางครงั้ มกี ารสรา้ งคาใหม่ 4 สานวนใหม่ เป็นแบบอย่างทงั้ ทางดแี ละไมด่ ี 5 6 มงุ่ สอ่ื สารอย่างรวดเรว็ ทาใหใ้ ชค้ าไมส่ มบูรณ์ 7 ภาษาพดู เมอ่ื พดู ไปแลว้ ไมส่ ามารถแกไ้ ขได้ เพราะเป็นการสอ่ื สารเฉพาะหน้า ใชเ้ วลา ในการคดิ น้อย 8 ภาษาเขยี นเครง่ ครดั ตามรปู คาเดมิ 759 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู และภาษาเขียน ใบงานที่ 10.4 ความแตกต่างระหวา่ งภาษาพดู กบั ภาษาเขียน คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรุปการเปรยี บเทยี บการใชภ้ าษาพดู และภาษาเขยี นลงในตาราง ขอ้ ที่ ภาษาพดู ภาษาเขียน 1 ใชภ้ าษาในระดบั กนั เอง ไม่ประณีต ใชภ้ าษาทป่ี ระณีตมกี ารขดั เกลาใหส้ ละสลวย 2 ใชค้ าไทยปนกบั คาภาษาต่างประเทศ เลยี นเสยี ง ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเขยี นวชิ าการ ภาษาตา่ งประเทศ 3 การพดู ไมส่ ามารถใชเ้ ป็นหลกั ฐานอา้ งองิ ได้ การเขยี นเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร เป็นหลกั ฐานอา้ งองิ ได้ นอกจากบนั ทกึ เสยี งไว้ 4 การพดู เป็นการสอื่ สารประจนั หน้า อาจมที งั้ ผพู้ อใจ การเขยี นโตต้ อบกนั ไม่ประจนั หน้ากนั แมจ้ ะมี และไมพ่ อใจ ทาใหเ้ กดิ การโตต้ อบกนั ในขนั้ รุนแรงได้ ความขดั แยง้ กนั กล็ ดระดบั ความขดั แยง้ ได้ ทนั ที 5 การพดู ออกเสยี งผดิ เพ้ยี น ทาใหภ้ าษาเปลยี่ นแปลง ภาษาในการเขยี นบางครงั้ มกี ารสรา้ งคาใหม่ ถา้ พดู ผดิ กม็ กั จะเขยี นผดิ สานวนใหม่ เป็นแบบอยา่ งทงั้ ทางดแี ละไมด่ ี 6 มุ่งสอ่ื สารอย่างรวดเรว็ ทาให้ใชค้ าไม่สมบรู ณ์ มงุ่ สอื่ สารใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ รจู้ กั คดิ และตคี วาม ผเู้ ขยี นมเี วลาในการกลนั่ กรองคา 7 ภาษาพูดเม่อื พดู ไปแลว้ ไม่สามารถแกไ้ ขได้ ผเู้ ขยี นมเี วลาคดิ หาคาตอบ หาหลกั ฐาน คดิ ขดั เกลา หากเขยี นผดิ กส็ ามารถแกไ้ ขได้ เพราะเป็นการสอ่ื สารเฉพาะหน้า ใชเ้ วลา ในการคดิ น้อย 8 ภาษาพดู มกั เปลยี่ นแปลงเสยี งสระและเสยี งพยญั ชนะ ภาษาเขยี นเคร่งครดั ตามรปู คาเดมิ และนยิ มตดั คาใหส้ นั้ ลง 760 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองที่ 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู และภาษาเขยี น แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 761 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องท่ี 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู และภาษาเขยี น แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ช่อื ...................................................................................................... ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 762 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องท่ี 3 การเปรียบเทียบภาษาพูดและภาษาเขียน แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ช่อื กลุม่ ................................................................................................ ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม 2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 763 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เรื่องที่ 3 การเปรียบเทยี บภาษาพดู และภาษาเขียน แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 764 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 3 การเปรียบเทยี บภาษาพดู และภาษาเขยี น คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 765 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ความแตกต่างของภาษา แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู และภาษาเขยี น ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 766 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองที่ 3 การเปรียบเทยี บภาษาพดู และภาษาเขยี น แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ 1 นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ต่อไปน้ี ท 4.1 (ม.1/4) ดา้ นความรู้ (จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ) ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คณุ ภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คณุ ภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 767 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 ความแตกต่างของภาษา เร่ืองท่ี 3 การเปรียบเทียบภาษาพดู และภาษาเขียน ตอนที่ 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนักเรยี นเพ่อื เตรียมความพรอ้ มรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก รอ้ ยละ ระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน (ด้านคณุ ภาพผเู้ รียน) มาตรฐานที่ 1 ผ้เู รยี นมสี ุขภาวะทีด่ ีและมสี นุ ทรียภาพ 1.1 มสี ขุ นิสยั ในการดแู ลสขุ ภาพและออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1.2 มนี ้าหนกั ส่วนสงู และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐาน 1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลยี่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งต่อความรุนแรง โรค ภยั อุบตั เิ หตุ และปัญหาทางเพศ 1.4 เหน็ คณุ ค่าในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม 1.5 มมี นุษยสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่ 1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นาฏศลิ ป์ กฬี า/นนั ทนาการตามจนิ ตนาการ มาตรฐานที่ 2 ผ้เู รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทีพ่ ึงประสงค์ 2.1 มคี ุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคต์ ามหลกั สตู ร 2.2 เอ้อื อาทรผอู้ นื่ และกตญั ญกู ตเวทตี อ่ ผมู้ พี ระคุณ 2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกต่าง 2.4 ตระหนัก รคู้ ณุ ค่า รว่ มอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 3 ผเู้ รยี นมีทกั ษะในการแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง รกั เรียนรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง 3.1 มนี ิสยั รกั การอา่ นและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมดุ แหลง่ เรยี นรู้ และสอื่ ต่างๆ รอบตวั 3.2 มที กั ษะในการอ่าน ฟัง ดู พดู เขยี น และตงั้ คาถามเพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ 3.3 เรยี นรรู้ ว่ มกนั เป็นกลุ่ม แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรรู้ ะหวา่ งกนั 3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน มาตรฐานที่ 4 ผ้เู รยี นมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตดั สินใจแก้ปัญหา ได้อยา่ งมีสติสมเหตุสมผล 4.1 สรุปความคดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพดู หรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง 4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี กป้ ัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง 4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาโดยมเี หตุผลประกอบ 4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ มาตรฐานที่ 5 ผเู้ รยี นมีความร้แู ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สูตร 5.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเฉลยี่ แตล่ ะกลุม่ สาระเป็นไปตามเกณฑ์ 5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สตู รเป็นไปตามเกณฑ์ 5.3 ผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์ 5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานที่ 6 ผเู้ รียนมที กั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานร่วมกบั ผ้อู ืน่ ได้ และมีเจตคติทีด่ ี ต่ออาชีพสจุ ริต 6.1 วางแผนการทางานและดาเนนิ การจนสาเรจ็ 6.2 ทางานอยา่ งมคี วามสุข ม่งุ มนั่ พฒั นางาน และภูมใิ จในผลงานของตนเอง 6.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้ 6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี ่ออาชพี สุจรติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ 768 หลกั ภาษาฯ ม.1
11หน่วยการเรียนรู้ที่ สานวน คาพงั เพย และสภุ าษิต 2เวลา ชวั่ โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ท 4.1 ม.1/6 จาแนกและใชส้ านวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสุภาษติ 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาสานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสุภาษติ จะตอ้ งสามารถจาแนกความแตกต่างและบอกหลกั การใช้ ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - สานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสุภาษติ 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสงั เกต 2) ทกั ษะการจาแนกประเภท 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน 4. รกั ความเป็นไทย 769 หลกั ภาษาฯ ม.1
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) หนงั สอื เล่มเลก็ เร่อื ง คาพงั เพยและสุภาษติ 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 11 เร่อื ง สานวน คาพงั เพย และสุภาษติ 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 11.1 เร่อื ง สานวน คาพงั เพย สภุ าษติ 2) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 3) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 4) สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 11 เรอ่ื ง สานวน คาพงั เพย และสุภาษติ 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจหนงั สอื เล่มเลก็ เรอ่ื ง คาพงั เพยและสุภาษติ 8 กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 11 770 หลกั ภาษาฯ ม.1
เรอ่ื งท่ี 1 สานวน คาพงั เพย และสภุ าษิต 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครสู ุม่ เรยี กนกั เรยี นใหบ้ อกสานวน คาพงั เพย หรอื สภุ าษติ จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นเลน่ เกมตอ่ สานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ โดยครยู กตวั อย่างขน้ึ มาแลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ตอ่ ใหจ้ บ ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง สานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ จากหนงั สอื เรยี น และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 2. นกั เรยี นรวบรวมสานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาเขยี นลงในสมดุ ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุปความรเู้ กย่ี วกบั ความแตกต่างของสานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ 2. นกั เรยี นร่วมกนั อธบิ ายหลกั การจาแนกความแตกต่างระหวา่ ง สานวน คาพงั เพย และสุภาษติ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของสานวน คาพงั เพย และสุภาษติ แลว้ สรุปผล 2. นกั เรยี นทาใบงานที่ 11.1 เร่ือง สานวน คาพงั เพย สภุ าษิต เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความเรยี บรอ้ ย กอ่ นนาสง่ ครู ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครใู หน้ กั เรยี นยกตวั อย่างสานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั ความมวี นิ ัย ความสนใจใฝ่เรยี นรู้ ความมุ่งมนั่ ในการทางาน และรกั ความเป็นไทย 2. ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นเรยี งความเกย่ี วกบั คาพงั เพย หรอื สุภาษติ 1 เร่อื ง โดยยกคาพงั เพย สภุ าษติ ทน่ี กั เรยี น สนใจมาประกอบการเขยี น 3. ครตู รวจผลงานการเขยี นเรยี งความ แลว้ คดั เลอื กผลงานดเี ด่น 3 ผลงาน ตดิ ป้ายนิเทศหน้าชนั้ เรยี น ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจดั ทาหนังสือเล่มเลก็ เร่ือง คาพงั เพยและสุภาษิต โดยให้ ครอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 771 หลกั ภาษาฯ ม.1
9 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ ภาษาไทย ม.1 3) เกมต่อสานวน คาพงั เพย และสุภาษติ 4) ใบงานท่ี 11.1 เร่อื ง สานวน คาพงั เพย สภุ าษติ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.salanluck.awardspace.com/alpha3.html - http://www.tungsong.com/Supasit/index.html - http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=1245 772 หลกั ภาษาฯ ม.1
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินหนังสือเลม่ เลก็ เรื่อง คาพงั เพยและสภุ าษิต รายการประเมิน ดมี าก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การจาแนก จาแนกสานวนทเ่ี ป็น จาแนกสานวนทเ่ี ป็น จาแนกสานวนทเ่ี ป็น จาแนกสานวนทเ่ี ป็น สานวนท่ีเป็น คาพงั เพยไดถ้ กู ตอ้ ง คาพงั เพย ผดิ 1 สานวน คาพงั เพย ผดิ 2 สานวน คาพงั เพย ผดิ มากกว่า คาพงั เพย ทุกสานวน 3 สานวน 2. การจาแนก จาแนกสานวนทเ่ี ป็น จาแนกสานวนทเ่ี ป็น จาแนกสานวนทเ่ี ป็น จาแนกสานวนทเ่ี ป็น สานวนท่ีเป็น สุภาษติ ไดถ้ กู ตอ้ ง สภุ าษติ ผดิ 1 สานวน สภุ าษติ ผดิ 2 สานวน สภุ าษติ ผดิ มากกว่า สุภาษิต ทกุ สานวน 3 สานวน 3. การอธิบาย อธบิ ายหลกั การใช้ อธบิ ายหลกั การใช้ อธบิ ายหลกั การใช้ อธบิ ายหลกั การใช้ หลกั การใชส้ านวน สานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพย สานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพย สานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพย สานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพย ท่ีเป็นคาพงั เพย เพ่อื ใชใ้ นการพดู และ เพ่อื ใชใ้ นการพดู และ เพ่อื ใชใ้ นการพดู และ เพอ่ื ใชใ้ นการพดู และ การเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง การเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง การเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง การเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม เขา้ ใจงา่ ย เหมาะสม คอ่ นขา้ ง เหมาะสมเป็นส่วนใหญ่ เพยี งบางส่วน คอ่ นขา้ ง และยกตวั อย่างประกอบ เขา้ ใจงา่ ย และ ค่อนขา้ งเขา้ ใจงา่ ย และ เขา้ ใจงา่ ย และ ยกตวั อย่างประกอบ ยกตวั อย่างประกอบ ยกตวั อยา่ งประกอบ 4. การอธิบาย อธบิ ายหลกั การใช้ อธบิ ายหลกั การใช้ อธบิ ายหลกั การใช้ อธบิ ายหลกั การใช้ หลกั การใช้สานวน สานวนทเ่ี ป็นสภุ าษติ สานวนทเ่ี ป็นสภุ าษติ สานวนทเ่ี ป็นสุภาษติ สานวนทเ่ี ป็นสุภาษติ ท่ีเป็นสภุ าษิต เพ่อื ใชใ้ นการพดู และ เพ่อื ใชใ้ นการพดู และ เพอ่ื ใชใ้ นการพดู และ เพอ่ื ใชใ้ นการพดู และ การเขยี นไดถ้ กู ตอ้ ง การเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง การเขยี นไดถ้ กู ตอ้ ง การเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม เขา้ ใจงา่ ย เหมาะสม คอ่ นขา้ ง เหมาะสม เป็นสว่ นใหญ่ เพยี งบางสว่ น ค่อนขา้ ง และยกตวั อยา่ งประกอบ เขา้ ใจงา่ ย และ ค่อนขา้ งเขา้ ใจงา่ ย และ เขา้ ใจงา่ ย และ ยกตวั อยา่ งประกอบ ยกตวั อยา่ งประกอบ ยกตวั อย่างประกอบ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ากวา่ 8 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 773 หลกั ภาษาฯ ม.1
แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 11 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดคอื ลกั ษณะเด่นของสานวน 6. “น้ามาปลากนิ มด น้าลดมดกนิ ปลา” ขอ้ ความน้มี ลี กั ษณะ ก. ถอ้ ยคาทเ่ี รยี บเรยี ง ตรงกบั ขอ้ ใด ข. ขอ้ ความทก่ี ลา่ วสบื ตอ่ กนั มาชา้ นาน ก. สานวน ข. คาพงั เพย ค. ขอ้ ความทเ่ี รยี บเรยี งใหต้ อ้ งตคี วาม ค. สภุ าษติ ง. คาขวญั คาคม ง. มคี วามหมายไมต่ รงตวั อกั ษรมคี วามหมายแฝง 7. ขอ้ ใดเป็นคาพดู ประชดประชนั หรอื ใชเ้ ปรยี บเปรยกบั หญงิ 2. ขอ้ ใดกล่าวถงึ สุภาษติ ไมถ่ ูกตอ้ ง ทม่ี รี าคี ก. คาทก่ี ลา่ วดี ก. ตนี เท่าฝาหอย ข. ขนหน้าแขง้ ไมร่ ว่ ง ข. คาพดู ทเ่ี ป็นคตชิ วนฟัง ค. ใส่ตะกรา้ ลา้ งน้า ง. อดเปรย้ี วไวก้ นิ หวาน ค. คาทม่ี ลี กั ษณะเป็นปรชั ญา มคี วามหมายลกึ ซง้ึ 8. หากตอ้ งการเตอื นสตเิ พ่อื นใหไ้ ม่ประมาท ควรใหส้ ตอิ ยา่ งไร ง. ถอ้ ยคาทแ่ี สดงหลกั ความจรงิ มงุ่ แนะนาสงั ่ สอน ก. สต่ี นี ยงั รพู้ ลาด นกั ปราชญย์ งั รพู้ ลงั้ 3. ขอ้ ใดเป็นสานวน ข. ตาน้าพรกิ ละลายแมน่ ้า ก. ลูบหน้าปะจมกู ค. กน้ หมอ้ ไม่ทนั ดา ข. น้าขน้ึ ใหร้ บี ตกั ง. ขวา้ งงไู มพ่ น้ คอ ค. ตนเป็นทพ่ี ง่ึ แหง่ ตน 9. “ขช่ี า้ งจบั ตกั ๊ แตน” มกั จะใชเ้ ปรยี บเปรยในลกั ษณะใด ง. ตาน้าพรกิ ละลายแมน่ ้า ก. การใชช้ วี ติ ทเ่ี สย่ี งอนั ตรายมากเกนิ ไป 4. ขอ้ ใดเป็นสุภาษติ ข. ความมนี ้าใจของคนในสงั คมไทย ก. กบเลอื กนาย ค. การเตอื นสตใิ หร้ จู้ กั ประมาณตน ข. สอนหนงั สอื สงั ฆราช ง. การลงทนุ ทไ่ี มค่ มุ้ คา่ ค. ตบหวั ทศ่ี าลา มาขอขมาทบ่ี า้ น 10. ถอ้ ยคาหรอื ขอ้ ความทก่ี ลา่ วสบื ตอ่ กนั มา โดยกล่าว ง. คนเดยี วหวั หาย สองคนเพอ่ื นตาย เป็นกลางๆ เพอ่ื ใหต้ คี วามใหเ้ ขา้ กบั เรอ่ื ง เป็นลกั ษณะ 5. สานวนขอ้ ใดทม่ี คี วามหมายวา่ ทาสง่ิ ทไ่ี ม่ดี ไมม่ รี าคา ของขอ้ ใด ใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจวา่ เป็นของดี ก. สานวน ข. คาพงั เพย ก. ปัน้ หน้า ข. กนิ ตามน้า ค. สภุ าษติ ง. คาขวญั คาคม ค. ยอ้ มแมวขาย ง. เกย่ี วแฝกมามงุ ป่า มฐ. ท 4.1 ม.1/6 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ง 2. ค 3. ก 4. ง 5. ค 6. ข 7. ค 8. ก 9. ง 10. ข 774 หลกั ภาษาฯ ม.1
แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดกล่าวถงึ สุภาษติ ไมถ่ ูกตอ้ ง 6. สานวนขอ้ ใดทม่ี คี วามหมายว่าทาสง่ิ ทไ่ี มด่ ี ไม่มรี าคา ก. ถอ้ ยคาทแ่ี สดงหลกั ความจรงิ มุ่งแนะนาสงั ่ สอน ใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจว่าเป็นของดี ข. คาทม่ี ลี กั ษณะเป็นปรชั ญา มคี วามหมายลกึ ซง้ึ ก. ปัน้ หน้า ข. กนิ ตามน้า ค. คาพดู ทเ่ี ป็นคตชิ วนฟัง ค. ยอ้ มแมวขาย ง. เกย่ี วแฝกมามงุ ป่า ง. คาทก่ี ลา่ วดี 7. ถอ้ ยคาหรอื ขอ้ ความทก่ี ล่าวสบื ตอ่ กนั มา โดยกล่าว 2. ขอ้ ใดคอื ลกั ษณะเดน่ ของสานวน เป็นกลางๆ เพอ่ื ใหต้ คี วามใหเ้ ขา้ กบั เรอ่ื ง เป็นลกั ษณะ ก. มคี วามหมายไมต่ รงตวั อกั ษรมคี วามหมายแฝง ของขอ้ ใด ข. ขอ้ ความทก่ี ลา่ วสบื ตอ่ กนั มาชา้ นาน ก. สุภาษติ ข. สานวน ค. ขอ้ ความทเ่ี รยี บเรยี งใหต้ อ้ งตคี วาม ค. คาพงั เพย ง. คาขวญั คาคม ง. ถอ้ ยคาทเ่ี รยี บเรยี ง 8. “ขช่ี า้ งจบั ตกั ๊ แตน” มกั จะใชเ้ ปรยี บเปรยในลกั ษณะใด 3. ขอ้ ใดเป็นสานวน ก. การใชช้ วี ติ ทเ่ี สย่ี งอนั ตรายมากเกนิ ไป ก. ตาน้าพรกิ ละลายแมน่ ้า ข. ความมนี ้าใจของคนในสงั คมไทย ข. ตนเป็นทพ่ี ง่ึ แหง่ ตน ค. การเตอื นสตใิ หร้ จู้ กั ประมาณตน ค. ลบู หน้าปะจมกู ง. การลงทุนทไ่ี ม่คมุ้ ค่า ง. น้าขน้ึ ใหร้ บี ตกั 9. ขอ้ ใดเป็นคาพดู ประชดประชนั หรอื ใชเ้ ปรยี บเปรยกบั หญงิ 4. ขอ้ ใดเป็นสุภาษติ ทม่ี รี าคี ก. คนเดยี วหวั หาย สองคนเพอ่ื นตาย ก. ตนี เทา่ ฝาหอย ข. ใสต่ ะกรา้ ลา้ งน้า ข. ตบหวั ทศ่ี าลา มาขอขมาทบ่ี า้ น ค. ขนหน้าแขง้ ไมร่ ่วง ง. อดเปรย้ี วไวก้ นิ หวาน ค. สอนหนังสอื สงั ฆราช 10.หากตอ้ งการเตอื นสตเิ พอ่ื นใหไ้ มป่ ระมาท ควรใหส้ ติ ง. กบเลอื กนาย อย่างไร 5. “น้ามาปลากนิ มด น้าลดมดกนิ ปลา” ขอ้ ความน้มี ลี กั ษณะ ก. สต่ี นี ยงั รพู้ ลาด นกั ปราชญย์ งั รพู้ ลงั้ ตรงกบั ขอ้ ใด ข. ตาน้าพรกิ ละลายแม่น้า ก. สานวน ข. สุภาษติ ค. กน้ หมอ้ ไมท่ นั ดา ค. คาพงั เพย ง. คาขวญั คาคม ง. ขวา้ งงไู มพ่ น้ คอ มฐ. ท 4.1 ม.1/6 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ข 2. ก 3. ค 4. ก 5. ค 6. ค 7. ค 8. ง 9. ข 10. ก 775 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 สานวน คาพงั เพย และสุภาษิต 2 ชวั่ โมง เรื่องที่ 1 สำนวน คำพังเพย และสุภำษิต แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 สานวน คาพงั เพย และสภุ าษิต 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาสานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสภุ าษติ จะตอ้ งสามารถจาแนกความแตกต่างและบอกหลกั การใช้ ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.1/6 จาแนกและใชส้ านวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสุภาษติ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - จาแนกและใชส้ านวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสุภาษติ ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - สานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสภุ าษติ 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสงั เกต 2) ทกั ษะการจาแนกประเภท 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 4. รกั ความเป็นไทย 776 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 สานวน คาพงั เพย และสุภาษติ เร่ืองท่ี 1 สำนวน คำพงั เพย และสุภำษิต (ช่ัวโมงท่ี 1) 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 11 ชวั่ โมงที่ 1 ขนั้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ สอ่ื การเรยี นรู้ : เกมตอ่ สานวน คาพงั เพย และสุภาษติ 1. ครสู มุ่ เรยี กนกั เรยี นใหบ้ อกสานวน คาพงั เพย หรอื สภุ าษติ มา 1 อย่าง จากนนั้ ครตู รวจสอบสานวน คาพงั เพย หรอื สภุ าษติ ทน่ี กั เรยี นบอก 2. ครใู หน้ ักเรยี นเล่นเกมตอ่ สานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ โดย ครยู กตวั อยา่ งขน้ึ มาแลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ต่อใหจ้ บ จากนนั้ ใหบ้ อกวา่ เป็นสานวน คาพงั เพย หรอื สภุ าษติ เชน่ - น้ามาปลากนิ มด - มเี งนิ เขานับเป็นน้อง - ชา้ งตายทงั้ ตวั 3. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั ความแตกต่างระหวา่ งสานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา คาถามกระต้นุ ความคิด สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : สานวน คาพงั เพย สภุ าษิตที่มีใช้อยใู่ นภาษาไทย แสดงให้เหน็ ถงึ ลกั ษณะเด่นของคนไทยอยา่ งไร 1. หนงั สอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 (ภูมปิ ัญญาทางภาษาของคนไทย) 2. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 1. นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง สานวน คาพงั เพย และสุภาษติ จากหนังสอื เรยี น และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 2. นกั เรยี นรวบรวมสานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ ทไ่ี ดจ้ าก การศกึ ษาใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุด แลว้ เขยี นลงในสมดุ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 777 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 สานวน คาพังเพย และสุภาษิต คาถามกระต้นุ ความคิด เรื่องท่ี 1 สำนวน คำพังเพย และสุภำษติ (ช่ัวโมงท่ี 2) สานวนไทยต่อไปนี้ น่าจะมที ่ีมาอย่างไร ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ ฝนตกไมท่ วั่ ฟ้า,กาปัน้ ทุบดิน,ตกั บาตรถามพระ, กิ้งก่าได้ทอง, ผีเจาะปาก, ตกกระไดพลอยโจน, ส่อื การเรยี นรู้ : แบบวดั ฯ ตาข้าวสารกรอกหมอ้ ,ไมด่ ตู าม้าตาเรือ, ปากบอน (1. ฝนตกไม่ทวั่ ฟ้า มที มี่ าจากธรรมชาติ 1. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรุปความรเู้ กย่ี วกบั ความแตกต่าง 2. กาปั้นทบุ ดนิ มที มี่ าจากการกระทา ของสานวน คาพงั เพย และสุภาษติ 3. ตกั บาตรถามพระ มที มี่ าจากศาสนา 4. ก้งิ กา่ ไดท้ อง มที มี่ าจากนิทาน ตานาน นยิ าย 2. นกั เรยี นร่วมกนั อธบิ ายหลกั การจาแนกความแตกตา่ งระหว่าง พงศาวดาร สานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ 5. ผเี จาะปาก มที มี่ าจากแบบแผนประเพณีและความ เชอื่ ต่างๆ 3. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำแบบวดั ฯ ตอนท่ี 4 (สำนวน คำพงั เพย 6. ตกกระไดพลอยโจน มที มี่ าจากอุบตั เิ หตุ และสุภำษติ ) กจิ กรรมตำมตวั ชว้ี ดั : กจิ กรรมท่ี 4.2-4.3 7. ตาขา้ วสารกรอกหมอ้ มที มี่ าจากความประพฤติ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ ใหน้ ำส่งครตู รวจ 8. ไม่ดตู ามา้ ตาเรอื เกดิ จากการเลน่ ตา่ งๆ หรอื กฬี า 9. ปากบอน มที มี่ าจากอวยั วะ) 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ชวั่ โมงที่ 2 ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ คาถามกระต้นุ ความคิด สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 11.1 ผลจากการศึกษาเรือ่ ง สานวน คาพงั เพย และ สุภาษิต สามารถนาไปใช้พฒั นาทกั ษะทางภาษา 1. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของสานวน ดา้ นใดได้ดีที่สุด คาพงั เพย และสภุ าษติ แลว้ สรุปผล (การพดู และการเขยี น) 2. นกั เรยี นทาใบงานที่ 11.1 เร่ือง สานวน คาพงั เพย สุภาษิต เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความเรยี บรอ้ ยกอ่ นนาส่งครู 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : — 1. ครใู หน้ กั เรยี นยกตวั อย่างสานวน คาพงั เพย และสภุ าษติ เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั ความมวี นิ ัย ความสนใจใฝ่เรยี นรู้ ความ มุ่งมนั ่ ในการทางาน และรกั ความเป็นไทย 2. ครใู หน้ ักเรยี นเขยี นเรยี งความเกย่ี วกบั คาพงั เพย หรอื สุภาษติ 1 เรอ่ื ง โดยยกคาพงั เพย หรอื สภุ าษติ ทน่ี ักเรยี น สนใจมาประกอบการเขยี น 778 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 สานวน คาพังเพย และสุภาษิต เร่ืองที่ 1 สำนวน คำพังเพย และสุภำษติ (ช่ัวโมงที่ 2) 3. ครตู รวจผลงานการเขยี นเรยี งความประกอบคาพงั เพย หรอื สุภาษติ แลว้ คดั เลอื กผลงานดเี ดน่ 3 ผลงาน ตดิ ป้ายนิเทศ หน้าชนั้ เรยี น • ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละกล่มุ จดั ทาหนังสือเลม่ เลก็ เร่ือง คาพงั เพยและสภุ าษิต โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) การจาแนกสานวนทเี่ ป็นคาพงั เพย 2) การจาแนกสานวนทเี่ ป็นสภุ าษติ 3) การอธบิ ายหลกั การใชส้ านวนทเี่ ป็นคาพงั เพย 4) การอธบิ ายหลกั การใชส้ านวนทเี่ ป็นสุภาษติ นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 11 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) ตรวจใบงานท่ี 11.1 ใบงานท่ี 11.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั ่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจหนงั สอื เล่มเลก็ เร่อื ง คาพงั เพยและสภุ าษติ แบบประเมนิ หนังสอื เล่มเลก็ เรอ่ื ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ คาพงั เพยและสุภาษติ 8 ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ ภาษาไทย ม.1 3) เกมต่อสานวน คาพงั เพย และสุภาษติ 4) ใบงานท่ี 11.1 เร่อื ง สานวน คาพงั เพย สภุ าษติ 779 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 สานวน คาพังเพย และสุภาษติ เร่ืองที่ 1 สำนวน คำพังเพย และสุภำษิต 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.salanluck.awardspace.com/alpha3.html - http://www.tungsong.com/Supasit/index.html - http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=1245 780 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 สานวน คาพังเพย และสุภาษติ เร่ืองที่ 1 สำนวน คำพังเพย และสุภำษิต การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินหนังสือเลม่ เลก็ เรื่อง คาพงั เพยและสภุ าษิต ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 432 1 การจาแนกสานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพย 2 การจาแนกสานวนทเ่ี ป็นสุภาษติ 3 การอธบิ ายหลกั การใชส้ านวนทเ่ี ป็นคาพงั เพย 4 การอธบิ ายหลกั การใชส้ านวนทเ่ี ป็นสุภาษติ รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 14 - 16 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 11 - 13 ดี ปรบั ปรุง = 1 คะแนน 8 - 10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง 781 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 สานวน คาพงั เพย และสุภาษิต เรื่องท่ี 1 สำนวน คำพงั เพย และสุภำษติ ใบงานที่ 11.1 สานวน คาพงั เพย สภุ าษิต คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาขอ้ ความทก่ี าหนด แลว้ นามาจาแนกลงในตารางตามประเดน็ ทก่ี าหนด ปลาหมอตายเพราะปาก ผกั ชโี รยหน้า น้าขน้ึ ใหร้ บี ตกั ใกลเ้ กลอื กนิ ด่าง คลุมถงุ ชน ววั หายลอ้ มคอก กง้ิ กา่ ไดท้ อง แจงสเ่ี บย้ี แกวง่ เทา้ หาเสย้ี น น้าน่งิ ไหลลกึ หนามยอกอก เกลอื เป็นหนอน ลกู ไมห้ ล่นไมไ่ กลตน้ หมาเหา่ ใบตองแหง้ กาปัน้ ทบุ ดนิ ตหี น้าตาย ออ้ ยเขา้ ปากชา้ ง ดชู า้ งใหด้ หู างดนู างใหด้ แู ม่ สานวน คาพงั เพย สุภาษิต 782 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 สานวน คาพังเพย และสุภาษติ เรื่องที่ 1 สำนวน คำพังเพย และสุภำษติ ใบงานที่ 11.1 สานวน คาพงั เพย สภุ าษิต คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาขอ้ ความทก่ี าหนด แลว้ นามาจาแนกลงในตารางตามประเดน็ ทก่ี าหนด ปลาหมอตายเพราะปาก ผกั ชโี รยหน้า น้าขน้ึ ใหร้ บี ตกั ใกลเ้ กลอื กนิ ดา่ ง คลุมถงุ ชน ววั หายลอ้ มคอก กง้ิ ก่าไดท้ อง แจงสเ่ี บย้ี แกว่งเทา้ หาเสย้ี น น้านงิ่ ไหลลกึ หนามยอกอก เกลอื เป็นหนอน ลกู ไมห้ ลน่ ไมไ่ กลตน้ หมาเห่าใบตองแหง้ กาปัน้ ทุบดนิ ตหี น้าตาย ออ้ ยเขา้ ปากชา้ ง ดชู า้ งใหด้ หู างดนู างใหด้ แู ม่ สานวน คาพงั เพย สุภาษิต ผกั ชโี รยหน้า ใกลเ้ กลอื กนิ ดา่ ง ดชู า้ งใหด้ หู างดนู างใหด้ แู ม่ คลุมถงุ ชน ก้งิ ก่าไดท้ อง ปลาหมอตายเพราะปาก แจงสเี่ บย้ี เกลอื เป็นหนอน น้าข้นึ ใหร้ บี ตกั หนามยอกอก แกว่งเทา้ หาเส้ยี น ววั หายลอ้ มคอก หมาเห่าใบตองแหง้ ออ้ ยเขา้ ปากชา้ ง ลกู ไมห้ ลน่ ไมไ่ กลตน้ ตหี น้าตาย กาปั้นทบุ ดนิ น้านงิ่ ไหลลกึ 783 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 สานวน คาพงั เพย และสุภาษิต เร่ืองท่ี 1 สำนวน คำพงั เพย และสุภำษติ แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจงา่ ย 4 ประโยชน์ทไ่ี ด้จากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 784 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 สานวน คาพงั เพย และสุภาษิต เร่ืองที่ 1 สำนวน คำพังเพย และสุภำษติ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความมวี ินัย ความมนี ้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม ท่ี ของผรู้ บั การ เอือ้ เฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20 เสียสละ คะแนน ประเมิน 43214321 432 14321 4321 ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 785 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 สานวน คาพงั เพย และสุภาษิต เร่ืองท่ี 1 สำนวน คำพงั เพย และสุภำษิต แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยูอ่ ย่างพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 786 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 สานวน คาพงั เพย และสุภาษิต เร่ืองท่ี 1 สำนวน คำพังเพย และสุภำษติ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 787 หลกั ภาษาฯ ม.1
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303