Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore unit 2

unit 2

Published by paphawit386, 2017-09-21 06:12:15

Description: unit 2

Search

Read the Text Version

[วนั ท่]ี แผนการสอนทฤษฎี และปฏิบตั ิ เร่ือง พฒั นาการเขียนแบบ วชิ าเขียนแบบเบ้ืองตน้ นายปภาวิชญ์ สิงห์ใหญ่ สาขาวชิ าช่างก่อสร้าง-โยธา วิทยาลยั เทคนิคคเู มือง สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 1 แผนการสอนทฤษฎี และปฏบิ ัติ หน่วยที่ 1 วชิ า เขียนแบบเบ้ืองตน้ สอนคร้ังท่ี 1 ช่ือหน่วย พฒั นาการเขียนแบบ จานวน 4 ช.ม.ชื่อเรื่อง พฒั นาการเขียนแบบ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 2หวั ข้อเร่ือง 1. ความหมายของการเขียนแบบ 2. ววิ ฒั นาการของงานเขียนแบบ 3. การนาการเขียนแบบไปใชง้ านลกั ษณะต่าง ๆ 4. เครื่องมือท่ีใชง้ านในการเขียนแบบสาระสาคญั 1. การเขียนแบบ เป็นพ้นื ฐานท่ีสาคญั สาหรับช่างอุตสาหกรรมทุกสาขา เพราะการเขียนแบบ เป็นภาษาสากลท่ีใชส้ ื่อสารกนั ระหวา่ งวศิ วกรกบั ช่างเทคนิค 2. การเขียนแบบไดม้ ีววิ ฒั นาการท้งั วธิ ีการเขียน และเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใชช้ ่วยในงานเขียน แบบจุดประสงค์การเรียนการสอน จุดประสงค์ทวั่ ไป เพอื่ ใหม้ ีความรู้ความเป็นมา ววิ ฒั นาการความสาคญั ของการเขียนแบบ รู้จกั ชนิด และการใช้งานเครื่องมือเขียนแบบ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. บอกความหมายของการเขียนแบบได้ 2. บอกววิ ฒั นาการของการเขียนแบบได้ 3. บอกการนางานเขียนแบบไปใชง้ านลกั ษณะต่าง ๆ ได้ 4. จาแนกชนิดเคร่ืองมือและอุปกรณ์เขียนแบบได้ 5. บอกวธิ ีการใชเ้ คร่ืองมือ และอุปกรณ์เขียนแบบได้ 6. บอกวธิ ีการบารุงรักษาเคร่ืองมือ และอุปกรณ์เขียนแบบได้7. เขียนเส้นลกั ษณะตา่ ง ๆ ตามแบบท่ีกาหนดได้8. มีมนุษยสมั พนั ธ์ รับฟังความคิดเห็นผอู้ ่ืน ทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้9. มีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ตรงตอ่ เวลา10. มีความรับผดิ ชอบ ปฏิบตั ิงานเสร็จตามกาหนด11. มีความซ่ือสตั ยส์ ุจริต ไมป่ ฏิบตั ิมิชอบดว้ ยประการท้งั ปวง

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 3 12. การพ่งึ ตนเอง สามารถแกป้ ัญหาได้เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของการเขียนแบบ 2. ววิ ฒั นาการของการเขียนแบบ 3. การนาการเขียนแบบไปใชใ้ นงานลกั ษณะตา่ ง ๆ 3.1 เขียนแบบทางสถาปัตยกรรม 3.2 เขียนแบบทางไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ 3.3 เขียนแบบงานท่อ 3.4 เขียนแบบแผน่ คลี่ 3.5 เขียนแบบงานเช่ือม 3.6 เขียนแบบเครื่องกล 3.7 เขียนแบบสิทธิบตั ร 4. เครื่องมือท่ีใชใ้ นงานเขียนแบบ 4.1 กระดานเขียนแบบ และโตะ๊ เขียนแบบ 4.2 ไมท้ ี 4.3 บรรทดั สามเหลี่ยม 4.4 บรรทดั มาตราส่วน 4.5 บรรทดั เขียนส่วนโคง้ 4.6 วงเวยี น 4 .6.1 วงเวยี นเขียนวงกลมเล็ก 4.6.2 วงเวยี นเขียนวงกลมโต 4.6.3 วงเวยี นคาน 4.7 วงเวยี นวดั ระยะ 4.8 ปากกาเขียนแบบ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 4

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 5งานมอบหมาย หรือกจิ กรรม ก่อนเรียน 1. ช้ีแจงขอ้ ตกลงในเรื่องเวลาเรียน การใหค้ ะแนน การตดั เกรด 2. การปฏิบตั ิตวั ในหอ้ งเรียน 3. มอบหมายหนา้ ที่ความรับผดิ ชอบของนกั เรียนแตล่ ะคน 4. วดั ความรู้พ้ืนฐาน (PRE-TEST) เรื่อง เขียนแบบเทคนิค โดยการถาม-ตอบขณะเรียน 1. จดั กลุ่มการเรียนการสอน ข้นั ที่ 1 แบง่ นกั เรียนออกเป็ นกลุ่ม แต่ละกลุ่มประกอบดว้ ย นกั เรียนเก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ ง เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และนกั เรียนอ่อนคละกนั ข้นั ที่ 2 ครูแบ่งเน้ือหาออกเป็นเร่ืองยอ่ ย ๆ ข้นั ท่ี 3 มอบหมายงานใหแ้ ต่ละกลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เร่ือง ความหมายของการเขียนแบบ กลุ่มที่ 2 เรื่อง ววิ ฒั นาการของการเขียนแบบ กลุ่มท่ี 3 เรื่อง การนางานเขียนแบบไปใชง้ านลกั ษณะตา่ ง ๆ กลุ่มท่ี 4 เร่ือง เครื่องมือและอุปกรณ์เขียนแบบ ข้นั ท่ี 4 ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มศึกษาคน้ ควา้ อภิปรายในหวั ขอ้ ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ช่วยกนั ปรับแต่งเน้ือหาใหส้ มบูรณ์ ข้นั ที่ 5 แต่ละกลุ่มนาผลงานเสนอหนา้ ช้นัหลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทุกคนอ่านเน้ือหาทบทวน 2. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบภาคทฤษฎี 3. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 6สื่อการเรียนการสอนสื่อสิ่งพมิ พ์ 1. หนงั สือเรียน วชิ า เขียนแบบเบ้ืองตน้ (2100-1001) สื่อโสตทศั น์ 1. แผน่ ภาพท่ี 1 ภาพวหิ ารฮทั เซปสุต 2. แผน่ ภาพที่ 2 แผน่ หินเขียนภาพแปลนป้อมปราการ 3. แผน่ ภาพที่ 3 ปราสาทหินนครวตั ประเทศกมั พูชา 4. แผน่ ภาพท่ี 4 ภาพสเก็ตของ ลิโอนาโอ ดาวนิ ชี 5. แผน่ ภาพท่ี 5 สภาพหอ้ งเรียนเขียนแบบในปัจจุบนั 6. แผน่ ภาพท่ี 6 การใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยในการเขียนแบบ 7. แผน่ ภาพที่ 7 การเขียนแบบทางสถาปัตยกรรม 8. แผน่ ภาพที่ 8 ลกั ษณะแบบทางไฟฟ้าอิเลก็ ทรอนิกส์ 9. แผน่ ภาพที่ 9 สัญลกั ษณ์แบบงานท่อ 10. แผน่ ภาพที่ 10 ลกั ษณะแบบแผน่ คล่ี 11. แผน่ ภาพท่ี 11 ลกั ษณะแบบงานเช่ือม 12. แผน่ ภาพท่ี 12 ลกั ษณะแบบภาพประกอบ 13. แผน่ ภาพที่ 13 ลกั ษณะแบบแยกชิ้น 14. แผน่ ภาพท่ี 14 แบบสิทธิบตั รท่ี จอห์น เอม็ เบรานิงค์ สื่อของจริง ตวั อยา่ งเคร่ืองมือ และอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ที่ใชใ้ นงานเขียนแบบการประเมนิ ผลการเรียน ก่อนเรียน สงั เกตจากความพร้อมของนกั เรียน ขณะเรียน 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน 2. ความรับผดิ ชอบในหนา้ ท่ีตามที่ไดร้ ับมอบหมาย

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 7หลงั เรียน 1. แบบทดสอบภาคทฤษฎี 2. ผลงานการปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานเกณฑ์การสังเกตการปฏบิ ัตงิ านกล่มุ พฤตกิ รรม มมี นุษย์สัมพนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรับผดิ ชอบ ความซ่ือสัตย์สุจริต การพง่ึ ตนเองกล่มุ ที่ 321 321 321 321 3 21 1 2 3 4 5คาชี้แจง3 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั สูง 2 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ปานกลาง 1 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ต่าการประเมนิ ผลภาคทฤษฎี หมายความวา่ เก่งมาก หมายความวา่ เก่ง 1. แบบทดสอบบรรยาย 5 ข้อ หมายความวา่ ปานกลาง 1.1 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 5 ขอ้ ข้ึนไป หมายความวา่ อ่อน 1.2 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 4 ขอ้ หมายความวา่ อ่อนมาก 1.3 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 3 ขอ้ 1.4 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 2 ขอ้ 1.5 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 1 ขอ้

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 82. แบบทดสอบเลือกข้อถูกต้อง 40 ข้อ หมายความวา่ เก่งมาก 2.1 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 31 ขอ้ ข้ึนไป หมายความวา่ เก่ง 2.2 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 24-30 ขอ้ หมายความวา่ ปานกลาง 2.3 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 17-23 ขอ้ หมายความวา่ อ่อน 2.4 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 10-16 ขอ้ หมายความวา่ อ่อนมาก 2.5 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง นอ้ ยกวา่ 9 ขอ้เกณฑ์การประเมนิ ผลภาคปฏบิ ตั ิ1. กระบวนการเทคนิคการทางาน1.1 การเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ 1 คะแนน1.2 เทคนิคการใชเ้ คร่ืองมือ 1 คะแนน1.3 ความรู้ความสามารถในการปฏิบตั ิงาน 1 คะแนน2. ผลงาน2.1 ความถูกตอ้ งของแบบงาน 2 คะแนน2.2 เส้น (คมชดั เจน, น้าหนกั เส้น) 2 คะแนน3. คุณลกั ษณะพงึ ประสงค์3.1 การแตง่ กายถูกตอ้ งตามระเบียบ 1 คะแนน3.2 ความตรงต่อเวลา 1 คะแนน3.3 ความสะอาด 1 คะแนน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 9แบบทดสอบหน่วยที่ 1ก. แบบทดสอบภาคทฤษฎีตอนท่ี 1 จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ได้ใจความสมบูรณ์1. การเขียนแบบ หมายความว่าอย่างไร............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. จงอธิบายววิ ฒั นาการของงานเขียนแบบมาพอเข้าใจ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. ผู้ทไี่ ด้รับการยกย่องว่าเป็ นผ้ใู ห้กาเนิดการเขยี นแบบคือใคร เพราะเหตุใด............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................4. การเขยี นแบบภาพแยกชิ้น (DETAIL DRAWING) เป็ นการเขียนอย่างไร............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................5. จงอธิบายความสาคัญของการเขียนแบบในงานอตุ สาหกรรม............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 10ตอนที่ 2 จงทาเคร่ืองหมายกากบาท ( X) ลงหนา้ ขอ้ ท่ีถูกตอ้ งท่ีสุด1. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของการเขียนแบบ ก. การเขียนภาพเหมือนธรรมชาติ ข. การถ่ายทอดจินตนาการออกมาเป็นภาพ ค. เป็นการสง่ั งานโดยใชร้ ูปภาพแทนคาพูด ง. การลากเส้นลกั ษณะต่าง ๆ ใหเ้ กิดเป็นภาพ2. จากหลกั ฐานการค้นพบชนชาตแิ รกท่ีรู้จักการเขียนแบบคือข้อใด ก. อิตาลี ข. เมโซโปเตเมีย ค. ฝรั่งเศส ง. อเมริกา3. งานเขยี นแบบทเี่ ก่าแก่ทส่ี ุดทค่ี ้นพบคืออะไร ก. ภาพสเกตของลิโอนาโด ดาวินชี ข. ภาพเขียนบนผนงั ของราฟาเอล ค. ภาพฉายของแกสพาร์ค มอคกิจ ง. ภาพป้อมปราการของซาลเดน กตู วั4. ภาพป้อมปราการทซี่ าลเดน กตู วั เขียนขนึ้ น้ันเป็ นภาพลกั ษณะใด ก. ภาพสามมิติ ข. ภาพตดั ค. ภาพแปลนดา้ นบน ง. ภาพช่วย5. ผู้ทไี่ ด้รับการยกย่องว่าเป็ นผ้ทู ใ่ี ห้กาเนิดการเขยี นแบบคือใคร ก. ลิโอนาโด ดาวนิ ชี ข. ซาลเดน กูตวั ค. ราฟาเอล ง. แกสพาร์ค มอคกิจ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 116. ผ้ทู เ่ี ร่ิมเขียนภาพฉายในงานเขยี นแบบคือใคร ก. ลิโอนาโด ดาวนิ ชี ข. ซาลเดน กูตวั ค. ราฟาเอล ง. แกสพาร์ค มอคกิจ8. การเขยี นแบบโดยใช้สัญลกั ษณ์ในการเขียนคือข้อใด ก. แบบสถาปัตยกรรม ข. แบบแยกชิ้น ค. แบบประกอบ ง. แบบงานท่อ9. ข้อใด ไม่ใช่ ลกั ษณะในการเขียนแบบแผ่นคล่ี ก. การผลิตชิ้นส่วนเคร่ืองจกั รกล ข. การผลิตภาชนะบรรจุของเหลว ค. การทาระบบทอ่ ระบายอาคาร ง. การผลิตตวั ถงั รถยนต์10. การผลติ บัวรดนา้ ต้องเขียนแบบงานลกั ษณะใด ก. แบบภาพประกอบ ข. แบบแผน่ คลี่ ค. แบบงานเชื่อม ง. แบบเครื่องกล11. ข้อใดไม่ใช่ จุดประสงค์ของการเขยี นภาพประกอบ (ASSERBSY) ก. แสดงลกั ษณะรูปร่างของชิ้นส่วน ข. แสดงลกั ษณะการประกอบชิ้นส่วน ค. บอกวธิ ีการเชื่อมประสานชิ้นส่วน ง. แสดงตาแหน่งของชิ้นส่วน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 1212. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะการเขียนแบบสิทธิบตั ร ก. เขียนเป็นภาพฉาย ข. เขียนเป็นภาพสามมิติ ค. แสดงตาแหน่งและการประกอบ ง. เขียนแยกแยะส่วนประกอบท่ีสาคญั13. การเขียนแบบสถาปัตยกรรมกบั การเขียนแบบสิทธิบัตรแตกต่างกนั อย่างไร ก. จุดมุง่ หมายการเขียน ข. วธิ ีการเขียน ค. ความรู้พ้นื ฐานการเขียน ง. ระยะเวลาการเขียน14. การเขยี นแบบมีความสาคญั กบั งานลกั ษณะใดมากทส่ี ุด ก. การเกษตรกรรม ข. พาณิชยกรรม ค. อุตสาหกรรม ง. ศิลปกรรม15. ข้อใด ไม่ใช่ ลกั ษณะของแบบในงานอุตสาหกรรม ก. สะอาดเรียบร้อย ข. ลงสีเพอื่ ความสวยงาม ค. ถูกตอ้ งตามมาตรฐาน ง. แสดงรายละเอียดชดั เจน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 1316. ในโรงงานอตุ สาหกรรมการผลติ วศิ วกรกบั ช่างเทคนิคมีการส่ังงานกันอย่างไร ก. ใชโ้ ทรศพั ทต์ ิดตามตวั ข. ใชว้ ทิ ยมุ ือถือ ค. ใชแ้ บบงาน ง. ฝากบอกขอ้ ความถึงกนั17. ข้อใด ไม่ใช่ เหตุผลในการผลติ ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลให้ได้คุณภาพ ก. ช่างเทคนิคมีประสบการณ์การทางานนาน ข. แบบงานมีรายละเอียดชดั เจนถูกตอ้ ง ค. เคร่ืองจกั รกลท่ีใชใ้ นการผลิตมีคุณภาพสูง ง. เป็นโรงงานท่ีไดม้ าตรฐาน ISO 1400018. ทกี่ ล่าวว่า “การเขยี นแบบเป็ นภาษาสากล” ข้อใดไม่ถูกต้อง ก. เป็นภาษาที่ใชต้ ิดต่อกนั ระหวา่ งประเทศ ข. เป็นการส่ือสารกนั ระหวา่ งผูค้ ิดออกแบบกบั ผผู้ ลิต ค. การสง่ั งานในระบบอุตสาหกรรมโดยใชแ้ บบงานแทนคาพูด ง. เป็นการถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นรูปซ่ึงสามารถเขา้ ใจไดง้ ่าย19. ข้อใดไม่ใช่ผลของการปฏิบัติงานโดยไม่มีแบบงาน ก. ลดตน้ ทุนการผลิตลงไดม้ าก ข. ผอู้ ่ืนไม่สามารถร่วมมือในการผลิตได้ ค. ไมส่ ามารถวางแผนในการดาเนินการผลิตได้ ง. งานที่ผลิตข้ึนแต่ละชิ้นจะมีขนาด รูปร่างแตกตา่ งกนั20. ผ้ทู จี่ ะปฏบิ ตั เิ ขียนแบบได้ดี ควรมีลกั ษณะอย่างไร ก. มีความละเอียดรอบคอบ ข. มีความรู้พ้ืนฐานทางเรขาคณิต ค. รู้จกั การใชแ้ ละการบารุงรักษาเครื่องมือ ง. ถูกทุกขอ้

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 1421. กระดานเขยี นแบบทดี่ คี วรต้องมลี กั ษณะอย่างไร ก. ขอบขา้ งตอ้ งเรียบตลอด ข. ทาจากไมห้ รือวสั ดุเน้ืออ่อน ค. ผวิ หนา้ เรียบ ขนาดพอเหมาะกบั กระดาษ ง. ถูกทุกขอ้22. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะการใช้งานของไม้ทเี ขยี นแบบ ก. ใชส้ าหรับเขียนเส้นในแนวนอน ข. ใชส้ าหรับเขียนเส้นนอนและเส้นด่ิง ค. ใชป้ รับขอบกระดาษใหข้ นานก่อนติดกระดาษ ง. ใชป้ ระกอบกบั บรรทดั สามเหล่ียมเพอ่ื เขียนเส้นเอียง23. การระวงั รักษาไม้ทีไม่ควรทาอย่างไร ก. ไมใ่ ชไ้ มท้ ีทาบตดั ดว้ ยของมีคม ข. ไมใ่ ชไ้ มท้ ีเคาะ หรือตี ค. ใชผ้ า้ ชุบทินเนอร์ทาความสะอาด ง. ไมท่ าไมท้ ีตกหล่น24. การติดกระดาษเขยี นแบบกบั กระดานเขยี นแบบไม่ให้เคลื่อนควรทาอย่างไร ก. ใชเ้ ขม็ หมุด ข. ใชเ้ ทปกาว ค. ติดดว้ ยกาวลาเทก็ ซ์ ง. ใชข้ องหนกั ทบั ขอบกระดาษ25. บรรทดั สามเหลย่ี มทาจากพลาสติกใสมผี ลดอี ย่างไร ก. ราคาถูกกวา่ วสั ดุอื่น ข. มีอายกุ ารใชง้ านยาวนาน ค. รักษาความสะอาดไดง้ ่าย ง. มองเห็นเส้นที่เขียนไดช้ ดั เจน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 1526. ไม้ทกี บั บรรทดั สามเหลยี่ มไม่สามารถเขียนเส้นเอยี งได้ ก. 15๐ ข. 30๐ ค. 60๐ ง. 70๐27. บรรทดั มาตราส่วนเป็ นเคร่ืองมือทม่ี ีความจาเป็ นในงานลกั ษณะใด ก. เขียนแบบเคร่ืองกล ข. เขียนแบบสถาปัตยกรรม ค. เขียนแบบไฟฟ้า ง. เขียนแบบงานเช่ือม28. การเขียนวงกลมขนาดเลก็ ๆ ควรใช้เคร่ืองมือชนิดใด ก. BOW COMPASS ข. LARGE COMPASS ค. BEAM COMPASS ง. DIVIDERS29. ข้อใดไม่ควรทาในการใช้วงเวยี นเขยี นวงกลม หรือส่วนโค้ง ก. ปรับระยะไส้ดินสอใหเ้ สมอกบั หลกั ศูนยก์ ลาง ข. จบั หวั วงเวยี นหมุนไปทางเดียวตลอด ค. จบั ท่ีขาท้งั สองขา้ งของวงเวยี นเพอ่ื ความมน่ั คง ง. ควรปรับไส้ดินสอใหเ้ อียง เพอ่ื สะดวกในการวดั รัศมี30. ไส้ดนิ สอเขยี นแบบทาจากวสั ดุอะไร ก. กามะถนั ข. กราไฟต์ ค. แมงกานีส ง. ซิลิกอน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 1631. ดนิ สอทใี่ ช้เขียนเส้นรูปงานควรใช้ไส้ดินสอเกรดอะไร ก. HB ข. 2H ค. 2B ง. 3H32. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะการใช้ดินสอเกรด H เขียนงาน ก. เขียนเส้นบอกขนาด ข. เขียนช่วยบอกขนาด ค. เขียนเส้นร่างแบบ ง. เขียนเส้นภาพตดั33. การหมุนดินสอขณะลากเส้น ทาให้เกดิ ผลอย่างไร ก. เส้นที่ลากจะตรง ข. เส้นท่ีลากคมสม่าเสมอ ค. ทาใหก้ ารลากเส้นนุ่มนวล ง. ถูกทุกขอ้34. บรรทดั เขียนส่วนโค้ง นาไปใช้งานอย่างไร ก. เขียนส่วนโคง้ ที่ไม่สามารถใชเ้ ครื่องมืออ่ืนได้ ข. จะตอ้ งกาหนดจุดท่ีจะเขียนส่วนโคง้ ค. ส่วนโคง้ ของบรรทดั จะตอ้ งสัมผสั 3 จุด จึงลากเส้น ง. ถูกทุกขอ้35. ปากกาเขยี นแบบ ใช้สาหรับเขยี นแบบอย่างไร ก. กระดาษธรรมดา ข. กระดาษไข ค. พลาสติก ง. ถูกทุกขอ้

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 1736. เม่ือลบเน้นทเี่ ขียนผดิ แล้วเกดิ เป็ นรอยหรือขุยเพราะเหตุใด ก. ยางลบมีเน้ือยางแขง็ ข. ออกแรงกดยางลบมาก ค. กระดาษที่ใชม้ ีเน้ือหยาบ ง. ถูกทุกขอ้37. เคร่ืองมือทใี่ ช้ช่วยในการลบงาน คืออะไร ก. CURVES ข. COMPASS ค. ERASING SHIELD ง. DUSTING BRUSH38. เครื่องมือทน่ี ามาใช้เพ่ือช่วยในการเขียนแบบสะดวกขึน้ คืออะไร ก. ดินสอเขียนแบบ ข. วงเวยี น ค. แผน่ กนั ลบ ง. บรรทดั มาตราส่วน39. การทาความสะอาดแบบงาน ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ใชป้ ากเป่ า ข. ใชเ้ คร่ืองดูดฝ่ นุ ค. ใชม้ ือปัด ง. ใชแ้ ปรงปัด40. เคร่ืองมือเขียนแบบทกุ ชนิด จะต้องระวงั เรื่องใดมากทส่ี ุด ก. การแตกกระแทก ข. ฝ่ นุ ละออง ค. ความร้อน ง. ความช้ืน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 18

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 19

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 20

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 21จงเขียนรูปตามแบบทกี่ าหนดให้

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 22เฉลยแบบทดสอบหน่วยท่ี 1ก. แบบทดสอบภาคทฤษฎี1. การเขยี นแบบ หมายความว่าอย่างไรตอบ การเขียนแบบ หมายถึง การถ่ายทอดจินตนาการความคิดสร้างสรรคข์ องวศิ วกร หรือ นกั ออกแบบให้ออกมาเป็ นรูปร่างบนกระดาษ รูปร่างจากจินตนาการน้นั เกิดจากการลากเส้น หลาย ๆ ลกั ษณะ เช่น เส้นนอน เส้นด่ิง เส้นโคง้ มาประกอบต่อกนั จนเกิดเป็ นรูปร่างข้ึน จึงเรียกวา่ แบบงาน สาหรับนาไปใชส้ ร้างเป็นผลิตภณั ฑ์ตา่ ง ๆ ข้ึน2. จงอธิบายววิ ฒั นาการของงานเขยี นแบบมาพอเข้าใจ ตอบ งานเขียนแบบในยคุ แรก เป็ นการเขียนแบบเพ่ือถ่ายทอดจินตนาการ เป็นภาพสองมิติ โดย การเขียนเป็ นแปลนของงานน้นั ต่อมาลิโอนาโด ดาวินชี ไดเ้ ร่ิมเขียนแบบงานเป็นภาพสามมิติ ซ่ึงทาใหส้ ามารถเขา้ ใจรูปร่างลกั ษณะไดด้ ีข้ึน และแกสพาร์ค มอคกิจ ไดร้ ิเริ่มเขียนรูปร่างดา้ น ต่าง ๆ ของงาน ซ่ึงต่อมาพฒั นาเป็นการเขียนภาพฉาย (ORTHOGRAPIC) ในปัจจุบนั ได้ พฒั นาววิ ฒั นาการเขียนแบบลกั ษณะต่าง ๆ เช่น การเขียนภาพช่วย และภาพตดั ตลอดจนการใช้ สญั ลกั ษณ์ในการเขียนแบบ และไดพ้ ฒั นานาคอมพิวเตอร์มาช่วยในงานเขียนแบบ เพ่ือทาให้ ปฏิบตั ิงานไดส้ ะดวกและรวดเร็วข้ึน 3. ผ้ทู ไี่ ด้รับการยกย่องว่าเป็ นผ้ใู ห้กาเนิดการเขยี นแบบคือใคร เพราะเหตุใด ตอบ ลิโอนาโด ดาวนิ ซี ชาวอิตาลี เป็ นผทู้ รงภูมิปัญญาท่ีถ่ายทอดจินตนาการความคิด สร้างสรรค์ โดยเป็ นการสเก็ตภาพสามมิติ (PICTORIAL) ซ่ึงผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ ของลิโอนาโอ ดาวนิ ชี หลายชิ้นเป็นตน้ แบบนามาพฒั นาสร้างเป็นเครื่องจกั ร เคร่ืองกลใน ปัจจุบนั 4. การสเกต็ ภาพไอโซเมตริกจากภาพสามมติ ิมีวธิ ีการอย่างไรตอบ แบบภาพแยกชิ้น เป็นการเขียนแบบชิ้นส่วนของเครื่องจกั ร เครื่องกล เพอื่ แสดงลกั ษณะรูปร่าง ขนาดและรายละเอียดของชิ้นส่วนแต่ละชิ้นชดั เจน ทาใหง้ ่ายต่อการอ่านแบบ และทาใหก้ ารผลิต ชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อนาประกอบกนั เป็นเครื่องจกั ร อุปกรณ์ต่อไป5. จงอธิบายความสาคญั ของการเขยี นแบบในงานอตุ สาหกรรม ตอบ การเขียนแบบ เป็นการสื่อความหมายระหวา่ งนกั ออกแบบ สถาปนิก และวศิ วกรเพ่อื จะ สง่ั งานใหช้ ่างเทคนิคปฏิบตั ิงานไดต้ ามแบบใหไ้ ดม้ าตรฐานเดียวกนั

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 23ข. จงเลือกคาตอบทถี่ ูกต้อง 1. ก 2. ค 3. ง 4. ค 5. ก 6. 3 7. ง 8. ง 9. ก 10. ข 11. ค 12. ค 13. ก 14. ค 15. ข 16. ค 17. ง 18. ก 19. ก 20. ง 21. ง 22. ข 23. ค 24. ข 25. ง 26. ง 27. ข 28. ก 29. ข 30. ข 31. ก 32. ค 33. ข 34. ง 35. ข 36. ง 37. ค 38. ค 39. ง 40. ก

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 24เฉลยแบบทดสอบข. แบบทดสอบปฏิบตั กิ ารจงเขียนเส้นตามแบที่กาหนดใหใ้ นกรอบขวามือ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 25เฉลยแบบทดสอบ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 26เฉลยแบบทดสอบ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 27 แผนการสอนทฤษฎี และปฏิบตั ิ หน่วยท่ี 2 วชิ า เขียนแบบเบ้ืองตน้ สอนคร้ังที่ 1-2 ชื่อหน่วย เรขาคณิตประยกุ ต์ช่ือเรื่อง การแบ่งคร่ึงเสน้ , มุม และการสร้างรูปเรขาคณิต จานวน 8 ช.ม.หัวข้อเร่ือง 1. ความหมายของรูปเรขาคณิต 2. การแบ่งเส้น และมุม 3. การสร้างรูปเรขาคณิต 4. การสร้างรูปวงรี 5. การสร้างรูปประกอบส่วนโคง้สาระสาคญั อุปกรณ์เคร่ืองใชเ้ พื่ออานวยความสะดวกสบายตา่ ง ๆ ท่ีอยรู่ อบ ๆ ตวั เรา หรือส่ิงก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมที่เราพบเห็นในชีวติ ประจาวนั ลว้ นมีพ้ืนฐานการออกแบบจากรูปเรขาคณิตท้งั สิ้น เช่นวงกลม ส่วนโคง้ สามเหลี่ยม หรือส่ีเหลี่ยม ดงั น้นั ผูเ้ ขียนแบบไดด้ ี จึงตอ้ งมีความรู้พ้ืนฐานในการสร้างรูปเรขาคณิต เพ่ือสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานเขียนแบบได้จุดประสงค์การเรียนการสอนจุดประสงค์ทว่ั ไป เพือ่ ใหม้ ีความรู้ และทกั ษะในการสร้างรูปเรขาคณิต จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของรูปเรขาคณิตได้ 2. บอกวธิ ีการสร้างรูปเรขาคณิตไดโ้ ดยการแบง่ เส้นได้ 3. อธิบายการสร้างรูปเหล่ียมได้ 4. สร้างรูปเรขาคณิตได้ 5. สร้างรูปวงรีได้ 6. อธิบายการเขียนรูปประกอบส่วนโคง้ ได้ 7. สร้างรูปประกอบส่วนโคง้ ได้ 8. มีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ รับฟังความคิดเห็นผอู้ ่ืน ทางานร่วมกบั ผูอ้ ื่นได้ 9. มีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ตรงต่อเวลา 10. มีความรับผดิ ชอบ ปฏิบตั ิงานเสร็จตามกาหนด

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 28 11. มีความซ่ือสตั ยส์ ุจริต ไม่ปฏิบตั ิมิชอบดว้ ยประการท้งั ปวง 12. การพ่งึ ตนเอง สามารถแกป้ ัญหาได้เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของรูปเรขาคณิต 2. การแบง่ คร่ึงเส้น 3. การแบ่งคร่ึงมุม 4. การเขียนเส้นตรงให้ขนานกนั 5. การสร้างรูปสามเหล่ียมดว้ ยวงเวยี น 6. การสร้างรูปสามเหล่ียมดว้ ยบรรทดั สามเหลี่ยม 7. การสร้างรูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัสดว้ ยวงเวยี น 8. การสร้างรูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัสดว้ ยบรรทดั สามเหลี่ยม 45 องศา 9. การสร้างรูปสี่เหลี่ยมจตั ุรัสจากวงกลม 10. การสร้างรูปหา้ เหล่ียมดา้ นเท่า 11. การสร้างรูปหกเหลี่ยมดา้ นเท่าดว้ ยวงเวยี น (วธิ ีที่ 1) 12. การสร้างรูปหกเหล่ียมดา้ นเท่าดว้ ยวงเวยี น (วธิ ีที่ 2) 13. การสร้างรูปหกเหล่ียมดา้ นเท่าดว้ ยบรรทดั สามเหล่ียม 14. การสร้างรูปแปดเหลี่ยมดา้ นเทา่ ดว้ ยวงกลม 15. การสร้างรูปแปดเหลี่ยมดา้ นเทา่ จากรูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัส 16. การสร้างวงรีโดยใชว้ งกลมสองวง 17. การสร้างวงรีโดยใชร้ ูปสี่เหล่ียม 18. การเขียนส่วนโคง้ สัมผสั กบั เส้นตรง 2 เส้นท่ีต้งั ฉากกนั 19. การเขียนส่วนโคง้ สัมผสั กบั เส้นตรงเป็ นมุม 20. การเขียนส่วนโคง้ สมั ผสั กบั ส่วนโคง้ และเส้นตรง 21. การเขียนส่วนโคง้ สมั ผสั ส่วนโคง้ สองส่วนโคง้

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 29กจิ กรรมการเรียนการสอน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 30งานมอบหมาย หรือกจิ กรรม ก่อนเรียน 1. การเตรียมความพร้อมก่อนเรียน 2. ทากิจกรรมสร้างเสริมกิจนิสัย และจริยธรรม 3. การมอบหมายหนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบนกั เรียนแต่ละคน 4. วดั ความรู้พ้ืนฐาน (PRE-TEST) เร่ือง เรขาคณิต ขณะเรียน 1. จดั กลุ่มการเรียนการสอน ข้นั ที่ 1 แบง่ นกั เรียนออกเป็นกลุ่ม แตล่ ะกลุ่มประกอบดว้ ย นกั เรียนเก่ง ปานกลาง ค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และนกั เรียนอ่อนคละกนั ข้นั ท่ี 2 ครูจดั แบ่งเน้ือหาออกเป็นเรื่องยอ่ ย ๆ ข้นั ท่ี 3 มอบหมายงานใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เร่ือง ความหมายของรูปเรขาคณิต กลุ่มท่ี 2 เร่ือง การแบ่งคร่ึงเส้น, มุม กลุ่มท่ี 3 เร่ือง การสร้างรูปเหลี่ยม กลุ่มท่ี 4 เรื่อง การสร้างวงรี กลุ่มที่ 5 เร่ือง การสร้างรูปประกอบส่วนโคง้ ข้นั ท่ี 4 ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาคน้ ควา้ อภิปรายในหวั ขอ้ ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ช่วยกนั ปรับแตง่ เน้ือหาใหส้ มบูรณ์ ข้นั ท่ี 5 แต่ละกลุ่มนาผลงานเสนอหนา้ ช้นั หลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทุกคนอ่านเน้ือหาทบทวน 2. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานสื่อการเรียนการสอน ส่ือสิ่งพมิ พ์ หนงั สือเรียน วชิ าเขียนแบบเบ้ืองตน้ (2100-1301)

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 31สื่อโสตทศั น์ 1. แผน่ ภาพที่ 1 การแบ่งคร่ึงเส้นตรง หรือเส้นโคง้ 2. แผน่ ภาพท่ี 2 การแบ่งคร่ึงมุม 3. แผน่ ภาพที่ 3 การเขียนเส้นตรงใหข้ นานกนั 4. แผน่ ภาพท่ี 4 การสร้างรูปสามเหลี่ยมดว้ ยวงเวยี น 5. แผน่ ภาพท่ี 5 การสร้างรูปสามเหล่ียมโดยใชเ้ ซ็ต 60 องศา 6. แผน่ ภาพท่ี 6 การสร้างรูปสี่เหลี่ยมดว้ ยบรรทดั สามเหลี่ยม 45๐ 7. แผน่ ภาพท่ี 7 การสร้างรูปสี่เหลี่ยมจตั ุรัสจากวงกลม 8. แผน่ ภาพท่ี 8 การสร้างรูปหา้ เหลี่ยมดา้ นเทา่ 9. แผน่ ภาพท่ี 9 การสร้างรูปหกเหล่ียมดา้ นเทา่ ดว้ ยวงเวยี น 10. แผน่ ภาพที่ 10 การสร้างรูปหกเหล่ียมดา้ นเท่าดว้ ยบรรทดั สามเหลี่ยม 11. แผน่ ภาพที่ 11 การสร้างรูปแปดเหลี่ยมดา้ นเท่าดว้ ยวงกลม 12. แผน่ ภาพที่ 12 การสร้างรูปแปดเหลี่ยมดา้ นเท่าจากรูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัสการประเมนิ ผลการเรียนก่อนเรียน สงั เกตความพร้อมของนกั เรียน ขณะเรียน 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน 2. ความรับผดิ ชอบในหนา้ ที่ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3. การปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานหลงั เรียน 1. แบบทดสอบภาคทฤษฎี 2. ผลงานการปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 32เกณฑ์การสังเกตการปฏบิ ัติงานกล่มุ พฤตกิ รรม มมี นุษย์สัมพนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรับผดิ ชอบ ความซื่อสัตย์สุจริต การพงึ่ ตนเองกลุ่มที่ 321 321 321 321 3 21 1 2 3 4 5 6 7 8คาชี้แจง3 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั สูง 2 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ปานกลาง 1 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ต่าการประเมนิ ผลภาคทฤษฎี 5 ขอ้ ข้ึนไป หมายความวา่ เก่งมาก1. แบบทดสอบบรรยาย 5 ข้อ 4 ขอ้ หมายความวา่ เก่ง 1.1 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 1.2 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 3 ขอ้ หมายความวา่ ปานกลาง 1.3 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 1.4 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 2 ขอ้ หมายความวา่ อ่อน 1.5 เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 1 ขอ้ หมายความวา่ อ่อนมาก

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 33เกณฑ์การประเมนิ ผลภาคปฏบิ ตั ิ (ตามสภาพจริง) 1 คะแนน 1 คะแนน 1. กระบวนการเทคนิคการทางาน 1 คะแนน 1.1 การเตรียมเคร่ืองมืออุปกรณ์ 1.2 เทคนิคการใชเ้ ครื่องมือ 2 คะแนน 1.3 ความรู้ความสามารถในการปฏิบตั ิงาน 2 คะแนน2. ผลงาน 1 คะแนน 2.1 ความถูกตอ้ งของแบบงาน 1 คะแนน 2.2 เส้น (คมชดั เจน, น้าหนกั เส้น) 1 คะแนน 3. คุณลกั ษณะพงึ ประสงค์ 3.1 การแต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบ 3.2 ความตรงต่อเวลา 3.3 ความสะอาด

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 34ก. จงตอบคาถามโดยละเอยี ด1. จงอธิบายความหมายของรูปเรขาคณติ มาพอเข้าใจ...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. จากรูปจงอธิบายข้นั ตอนการสร้างข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิ.....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. จากรูปทก่ี าหนดให้จงอธิบายข้ันตอนการสร้างข้นั ตอนการปฏิบัติ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 354. จากรูปทกี่ าหนดให้จงอธิบายข้ันตอนการสร้างข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................5. จากรูปทกี่ าหนดให้จงอธิบายข้นั ตอนการสร้างข้นั ตอนการปฏบิ ัติ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 36ข. แบบฝึ กปฏบิ ัติ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 37

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 38

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 39

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 40

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 41

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 42

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 43เฉลยแบบทดสอบภาคทฤษฎี (หน่วยที่ 2)ก. จงตอบคาถามโดยละเอยี ด 1. จงอธิบายความหมายของรูปเรขาคณติ มาพอเข้าใจ ตอบ รูปเรขาคณิต หมายถึง รูปท่ีสร้างข้ึนโดยใชเ้ ครื่องมือ และอุปกรณ์ที่มีมาตราส่วน (SCALE) โดยรูปท่ีสร้างข้ึนประกอบดว้ ยขนาดความกวา้ ง ความยาว และมุม ซ่ึงสามารถ พสิ ูจนด์ ว้ ยเหตุผล และสามารถคานวณหาพ้ืนที่ได้ 2. จากรูปจงอธิบายข้นั ตอนการสร้าง ตอบ 1. กาหนดใหเ้ ส้น 2 เส้น ต้งั ฉากกนั 2. เขียนส่วนโคง้ รัศมี R ตดั กบั เส้นตรงท้งั 2 เส้นที่จุด T 3. ใหจ้ ุด T เป็นจุดศูนยก์ ลาง รัศมี R เขียนส่วนโคง้ ตดั กนั ที่ C 4. ใชจ้ ุด C เป็นจุดศูนยก์ ลางรัศมี 3. จากรูปทก่ี าหนดให้จงอธิบายข้ันตอนการสร้าง ตอบ 1. เส้นตรง 2 เส้น ตดั กนั เป็นมุมแหลม หรือมุมป้าน 2. ลากเส้นตรงใหข้ นานแขนมุมท้งั 2 ตดั กนั ที่จุด C 3. ท่ีจุด C ลากเส้นต้งั ฉากกบั แขนของมุมท้งั 2 ท่ีจุด T 4. ใหจ้ ุด C เป็นจุดศูนยก์ ลาง รัศมี R เขียนส่วนโคง้ สมั ผสั แขนมุมท้งั 2 จุด ที่จุด T 4. จากรูปทก่ี าหนดให้จงอธิบายข้ันตอนการสร้าง ตอบ 1. กาหนดเส้นตรง AB และส่วนโคง้ ที่มีจุดศูนยก์ ลางที่ O หรือ G 2. ลากเส้นตรง และเขียนส่วนโคง้ ใหข้ นานกบั เส้นตรงและส่วนโคง้ ที่กาหนดให้ 3. ที่ C ลากเส้นตรงไปต้งั ฉากกบั เส้นตรง AB ท่ี T และเส้น OC ตดั ส่วนโคง้ ที่ T 4. ให้ C เป็นจุดศูนยก์ ลาง เขียนส่วนโคง้ รัศมี R โคง้ สมั ผสั ส่วนโคง้ และเส้นตรงที่ T 5. จากรูปทกี่ าหนดให้จงอธิบายข้นั ตอนการสร้าง ตอบ 1. ส่วนโคง้ A และส่วนโคง้ B เป็นส่วนโคง้ ที่กาหนดให้ 2. ที่ส่วนโคง้ A และ B ส่วนโคง้ รัศมีเทา่ กบั R 3. ใหจ้ ุด A และ B เป็นจุดศูนยก์ ลางเขียนส่วนโคง้ ตดั กนั ท่ีจุด C 4. ใหจ้ ุด C เป็นจุดศูนยก์ ลาง เขียนส่วนโคง้ สมั ผสั ท่ีจุด T

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 44เฉลยแบบทดสอบ

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 45

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 46

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 47

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 48

แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook