Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ รายการตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๖๑

✍️ รายการตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๖๑

Description: ✍️ รายการตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๖๑

Search

Read the Text Version

National Thai Traditional Medicine Formulary (2018 edition)กรมการแพท ์ยแผนไทยและการแพ

พทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กระทรวงสาธารณ ุสข รายการตาำ รับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข รายการตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาติ ฉบับพทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ National Thai Traditional Medicine Formulary (2018 edition) กระทรวงสาธารณสขุ ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๑๑-๓๗๑๔-๔

รายการตาำ รับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ National Thai Traditional Medicine Formulary (2018 edition) ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๑๑-๓๗๑๔-๔ ท่ีปรึกษา ศาสตราจารยค์ ลินกิ เกยี รติคณุ นายแพทยป์ ยิ ะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มรตุ จริ เศรษฐสิริ อธิบดกี รมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (พ.ศ. ๒๕๖๑-ปัจจุบนั ) นายแพทย์เกียรติภมู ิ วงศร์ จติ อธบิ ดกี รมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๑) นายแพทยป์ ราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก นายแพทย์สรรพงศ์ ฤทธริ กั ษา รองอธบิ ดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ผู้จดั ทำา กองค้มุ ครองและส่งเสรมิ ภูมิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย กองวชิ าการและแผนงาน สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย พิมพค์ ร้ังท่ี ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๑ จำานวน ๑,๐๐๐ เล่ม จดั พมิ พ์โดย กองคมุ้ ครองและสง่ เสริมภูมปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบา้ นไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก พิมพท์ ี่ บรษิ ัทสามเจรญิ พาณชิ ย์ (กรุงเทพ) จำากดั

คณะกรรมการอ�านวยการจดั ท�าตา� รับยาแผนไทยแห่งชาติ ประธานกรรมการ ศาสตราจารย์คลนิ ิกเกียรตคิ ณุ นายแพทยป์ ิยะสกล สกลสัตยาทร รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ รองประธานกรรมการ นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐) นายแพทย์เจษฎา โชคดาำ รงสุข ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๑) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข นายแพทย์สขุ มุ กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสขุ (พ.ศ. ๒๕๖๑-ปัจจุบนั ) กรรมการ ท่านผู้หญงิ ปรียา เกษมสนั ต์ ณ อยธุ ยา ศาสตราจารย์ คณุ หญงิ แมน้ มาส ชวลติ คุณจนั ทนี ธนรกั ษ์ กรมวังผูใ้ หญป่ ระจาำ พระองคแ์ ละผชู้ ว่ ยราชเลขานุการในพระองค ์ ๙๐๔ พลเอก จรลั กุลละวณิชย์ ประธานกรรมการมลู นธิ เิ ฉลมิ พระเกยี รติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ในพระอุปถัมภ ์ สมเดจ็ พระเจา้ พ่ีนางเธอ เจ้าฟา้ กัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร์ นายพรชัย จุฑามาศ ประจาำ สำานักพระราชวังพิเศษ ระดับ ๑๐ โครงการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เน่ืองมาจากพระราชดาำ ริ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ าร ี (อพ.สธ.) ศาสตราจารยช์ ยันต์ พิเชียรสนุ ทร ราชบณั ฑิต ประเภทวิชาวิทยาศาสตร์สขุ ภาพ สาขาวชิ าเภสัชศาสตร ์ ราชบณั ฑิตยสภา นายชาตรี เจตนธรรมจักร ผ้ปู ระกอบวชิ าชพี สาขาการแพทยแ์ ผนไทยประยกุ ต์ แพทย์หญิงมยุรา กสุ ุมภ ์ เลขานกุ ารรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุข นายแพทยพ์ ิเชฐ บัญญัต ิ นายกสภาการแพทย์แผนไทย (พ.ศ. ๒๕๖๐) พลเรอื เอก ชาญชัย เจริญสวุ รรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย (พ.ศ. ๒๕๖๑) นายแพทย์สขุ มุ กาญจนพิมาย อธิบดกี รมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ นายแพทยส์ รุ ยิ ะ วงศค์ งคาเทพ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๕๙) นายแพทยส์ เุ ทพ วชั รปยิ านันทน์ อธบิ ดีกรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐) นายแพทย์เกียรติภมู ิ วงศร์ จิต อธบิ ดกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๑) นายแพทย์ปราโมทย์ เสถยี รรัตน์ รองอธิบดกี รมการแพทยแ์ ผนไทยและ การแพทยท์ างเลือก (พ.ศ. ๒๕๕๙-ปัจจบุ นั ) นางสาวอัญชลี จฑู ะพทุ ธิ ผอู้ าำ นวยการกองวิชาการและแผนงาน นายแพทย์ขวัญชยั วศิ ษิ ฐานนท ์ ผู้อำานวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย นายนันทศกั ด์ิ โชตชิ นะเดชาวงศ์ ผ้อู าำ นวยการสาำ นักคุ้มครองภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย (พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐) นางเสาวณยี ์ กลุ สมบูรณ ์ ผอู้ าำ นวยการกองคมุ้ ครองและส่งเสรมิ ภมู ิปญั ญา การแพทยแ์ ผนไทยและแพทยพ์ ้นื บา้ นไทย (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๑) นายนนั ทศักดิ ์ โชติชนะเดชาวงศ ์ รกั ษาราชการแทน ผอู้ าำ นวยการกองคมุ้ ครองและสง่ เสรมิ ภมู ปิ ญั ญา การแพทยแ์ ผนไทยและแพทยพ์ นื้ บา้ นไทย (พ.ศ. ๒๕๖๑-ปจั จบุ นั )

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สาร กระทรวงสาธารณสุขได้ดำาเนินการฟื้นฟูและส่งเสริมการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร ให้กลับมา มบี ทบาทในการดแู ลสขุ ภาพของคนไทยในระบบสาธารณสขุ มาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง นบั ตงั้ แตแ่ ผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๓๕-๒๕๓๙) ที่ส่งเสริมให้มีการใช้สมุนไพรประมาณ ๖๐ ชนิด ในสาธารณสุขมูลฐาน ซ่ึงนำาไปสู่การวิจัยพัฒนาและบรรจุยาจากสมุนไพรเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๔๒ จนถึงปัจจุบันมียาแผนไทยและยาพัฒนาจากสมุนไพรรวมทั้งส้ิน ๗๔ รายการ ความกา้ วหนา้ ทส่ี าำ คญั คอื การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยผ์ สมผสานไดเ้ ขา้ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของระบบบรกิ าร สขุ ภาพ (Service plan) ของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแตป่ ลายพ.ศ. ๒๕๕๘ เปน็ ตน้ มา ทาำ ใหป้ ัจจุบัน ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการการแพทย์แผนไทยและยาจากสมุนไพรได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ส่งผล ผู้ป่วยนอกท่ีได้รับบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานมีจำานวนสูงกว่าเป้าหมายท่ีร้อยละ ๒๐ ของจาำ นวนผู้ปว่ ยนอกทั้งหมดเป็นครงั้ แรกในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพอื่ สง่ เสรมิ การใชป้ ระโยชนจ์ ากภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยในการดแู ลสขุ ภาพของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายให้มีการพิจารณากลั่นกรองและคัดเลือกตำารับยาที่ดีมีประสิทธิผล และ ความปลอดภัย ให้เป็น “ตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ” ซ่ึงนอกจากจะมีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพและ บำาบัดโรคของประชาชนในระบบบริการสุขภาพและในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยแล้ว ยังมี ประโยชน์ในการเรียนการสอนวิชาชีพแพทย์แผนไทย การส่งเสริมการผลิตยาโดยภาคอุตสาหกรรมและ โดยโรงพยาบาลของรัฐ และการคัดเลอื กเข้าสรู่ ายการยาแผนไทยในบญั ชียาหลักแหง่ ชาตติ อ่ ไปในอนาคต กระบวนการจดั ทาำ ตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาตดิ งั กลา่ วดาำ เนนิ การโดยการแตง่ ตง้ั ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นการแพทย์ แผนไทยและนักวิชาการที่เก่ียวข้องเป็นคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำางานชุดต่าง ๆ เพือ่ ทาำ หน้าทีใ่ นการพิจารณากลนั่ กรอง และคดั เลอื กตาำ รบั ยาที่เหมาะสม จากน้ันจึงนาำ ตำารับยาที่คดั เลือก เข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์ จึงนับได้ว่าตำารับยาแผนไทยแห่งชาติฉบับน้ีผ่านกระบวนการพิจารณา กลั่นกรองคดั เลอื กมาอยา่ งเข้มข้นและไดร้ บั การยอมรับโดยผูม้ สี ว่ นเกี่ยวขอ้ ง หนังสือรายการตาำ รับยาแผนไทยแห่งชาติฉบับน้ีเปน็ ผลการดำาเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นปีแรกของ “โครงการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ” ระยะเวลา ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๒) ของกรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก โดยมเี ปา้ หมายทจ่ี ะคดั เลอื กตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาติ ให้ไดป้ ลี ะ ๑๐๐ ตำารับ รวมทงั้ สนิ้ อย่างนอ้ ย ๓๐๐ ตาำ รบั เม่ือสิน้ สดุ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒

ในโอกาสน้ี ผมขอขอบคุณคณะกรรมการอำานวยการจัดทำาตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ คณะกรรมการคมุ้ ครองและสง่ เสรมิ ภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย คณะอนกุ รรมการจดั ทาำ ตาำ รบั ยาแผนไทย แห่งชาต ิ คณะทาำ งานกลัน่ กรองตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาตทิ ั้ง ๓ ชุด และคณะทำางานอ่ืนๆ รวมทงั้ กองทุน ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยที่ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดทำาข้อมูลและงบประมาณในการจัดทำา หนงั สอื รายการตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาตฉิ บบั น ้ี ใหเ้ ปน็ ผลงานทางวชิ าการทสี่ าำ คญั ของกระทรวงสาธารณสขุ เพือ่ เผยแพรใ่ นโอกาสเฉลมิ ฉลอง ๑๐๐ ป ี แห่งการสาธารณสขุ ไทยในพ.ศ. ๒๕๖๑ น้ี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข (นายปยิ ะสกล สกลสัตยาทร) รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ค�าน�า กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก ขับเคลือ่ นภารกจิ ด้านการคุ้มครองภูมปิ ญั ญา การแพทยแ์ ผนไทย โดยอาศยั มาตรการและเครอื่ งมือทางกฎหมาย (Legal Instruments) ตามพระราช บญั ญตั ริ ว่ มกบั ภาคเี ครอื ขา่ ย นายทะเบยี นจงั หวดั และองคก์ รทง้ั ภาครฐั และเอกชน ในการสาำ รวจ รวบรวม และจัดทำาทะเบียนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเกี่ยวกับตำารับยาแผนไทยและตำาราการแพทย์แผนไทย ท่วั ราชอาณาจกั ร ๑๘๑,๔๔๑ รายการ ตามกฎหมายว่าด้วยการคมุ้ ครองและส่งเสรมิ ภูมปิ ัญญาการแพทย์ แผนไทยได้แบ่งภมู ปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทยออกเปน็ ๓ ประเภท ไดแ้ ก ่ ตำารบั ยาแผนไทยของชาติหรอื ตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติ ตำารับยาแผนไทยท่ัวไปหรือตำาราการแพทย์แผนไทยทั่วไป และตำารับ ยาแผนไทยส่วนบุคคลหรือตำาราการแพทย์แผนไทยส่วนบุคคล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประกาศคุ้มครองรายการตำารับยาแผนไทยในตำาราการแพทย์แผนไทย ตามประกาศกระทรวง สาธารณสุข เร่ือง การประกาศกำาหนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาติ จาำ นวน ๑๘ ฉบบั จาำ นวนตำารา ๓๑๑ รายการ ๒๒,๙๑๖ ตาำ รับ และศิลาจารกึ ๔๖๓ แผน่ กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาและกำาหนดให้มีรายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ โดยมอบหมายให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ดำาเนินการกลั่นกรอง วิเคราะห์ และ คัดเลือกตำารับยาแผนไทยจากแหล่งสาำ คญั ไดแ้ ก ่ ตำารับยาจากตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาต ิ ตำารับยา เกรด็ ทผี่ ปู้ ระกอบวชิ าชพี การแพทยแ์ ผนไทยยงั นยิ มใชป้ รงุ ยาใหแ้ กผ่ ปู้ ว่ ย ตาำ รบั ยาจากบญั ชยี าจากสมนุ ไพร ในบัญชียาหลักแห่งชาติและประกาศยาสามัญประจำาบ้านแผนโบราณ ตำารับยาจากแหล่งท้ังหลายเหล่านี้ ได้ผา่ นการพิจารณา กลัน่ กรอง และคดั เลอื กบนพ้นื ฐานองค์ความรูก้ ารแพทยแ์ ผนไทย โดยอาศยั กลไก คณะทำางานกล่ันกรองตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ ๓ ชุด คณะอนุกรรมการจัดทำาตำารับยาแผนไทย แห่งชาติ คณะกรรมการอำานวยการจัดทำาตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ คณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริม ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และประกาศเป็น “รายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ (National Thai Traditional Medicine Formulary)” ในพ.ศ. ๒๕๖๐ คณะกรรมการคุม้ ครองและสง่ เสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ได้พิจารณา และให้ความเห็นชอบรายการตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาต ิ จำานวน ๑๐๓ ตาำ รบั ๘ กลมุ่ โรค/อาการ ไดแ้ ก ่ กลุ่มยาโรคโลหติ ระดูสตรี กลมุ่ โรคเดก็ กล่มุ โรคลม กลุ่มไข้ ยาบาำ รงุ ระบบทางเดนิ อาหาร กลุ่มกษยั และ กลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจ ท้ังน้ี ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็น เพื่อให้รายการตำารับยาแผนไทย แห่งชาติดังกล่าวเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการให้ใช้ในการประกอบวิชาชีพและการเรียนการสอนแพทย์ และเภสัชกรรมแผนไทยเปน็ รายการยาในระบบบริการสุขภาพของประเทศ และในการผลิตยาแผนไทยใน ระดบั อตุ สาหกรรมและในสถานบรกิ ารสขุ ภาพ หนงั สอื รายการตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาต ิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ เล่มนี้ ไดจ้ ัดพมิ พเ์ ป็นคร้งั แรกของไทย จำานวน ๑๐๐ ตาำ รับ เพอ่ื นาำ ไปเผยแพร่ใชป้ ระโยชน์และ อ้างอิงทางวชิ าการ และใหส้ อดคล้องกับการจดั งาน ๑๐๐ ป ี การสาธารณสขุ ไทย (พ.ศ. ๒๔๖๑-๒๕๖๑) หวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ ตาำ ราเลม่ นจ้ี ะเปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ปู้ ระกอบวชิ าชพี ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย บคุ ลากรดา้ น การแพทย์แผนไทยและสาธารณสุขตอ่ ไป ค นายแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศร์ จติ อธบิ ดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข คา� แนะน�าการใชร้ ายการต�ารบั ยาแผนไทยแห่งชาติ ข้อมลู ทีใ่ ห้ในบท “คำาแนะนำาการใชร้ ายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ” นี ้ มวี ัตถปุ ระสงค์ เพื่ออธิบายท่ีมาของรายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ รวมทั้งความหมายของเนื้อหาในแต่ละบท แตล่ ะหวั ขอ้ และภาคผนวกของรายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาตเิ ลม่ น้ี ตาำ ราเลม่ น้ ี คณะกรรมการอา� นวยการจดั ท�าต�ารับยาแผนไทยแหง่ ชาต ิ รวมทงั้ คณะอนุกรรมการ และคณะทำางานที่เกี่ยวข้อง มุ่งหวังให้เป็น “รายการตำารับยาแห่งชาติ” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “National Formulary” ของตำารับยาแผนไทย จงึ มีชอื่ เรยี กวา่ “รายการตำารบั ยาแผนไทยแห่งชาติ (National Thai Traditional Medicine Formulary)” ซึ่งเป็นเอกสารทางการที่รวบรวมตำารับ ยาแผนไทยจากแหลง่ สาำ คญั ๔ แหลง่ ไดแ้ ก ่ ตา� รบั ยาจากตา� ราการแพทยแ์ ผนไทยตา� รบั ยาเกรด็ ทผ่ี ปู้ ระกอบ วชิ าชพี การแพทย์แผนไทยยังนิยมใชป้ รงุ ยาใหแ้ กผ่ ู้ป่วย ต�ารับยาจากบญั ชียาจากสมุนไพรในบัญชยี าหลัก แหง่ ชาติ และประกาศยาสามญั ประจา� บา้ นแผนโบราณ ตาำ รบั ยาจากแหลง่ เหลา่ นไ้ี ดผ้ า่ นการพจิ ารณา กลน่ั กรอง และคัดเลอื กบนพนื้ ฐานองค์ความรกู้ ารแพทย์แผนไทย โดยคณะท�างานกล่ันกรองตา� รบั ยาแผนไทย แห่งชาติ ๓ ชดุ และคณะอนุกรรมการจัดทา� ตา� รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาติ อนั ประกอบดว้ ยผู้เชีย่ วชาญและ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย คณะกรรมการอ�านวยการจัดท�าต�ารับยาแผนไทยแห่งชาติ และ คณะกรรมการคมุ้ ครองและสง่ เสรมิ ภูมิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย รวมท้ังผา่ นการทำาประชาพจิ ารณเ์ พ่อื ให้ รายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติเป็นท่ียอมรับอย่างเป็นทางการ นำาไปใช้เป็นรายการยาในระบบบริการ สุขภาพของประเทศ การประกอบวิชาชีพและการเรียนการสอนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแผนไทย การผลิตยาแผนไทยในระดบั อตุ สาหกรรม และในสถานบรกิ ารสุขภาพ รายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ เล่ม ๑ ประกอบด้วยตำารับยา ๑๐๐ ตำารับ สำาหรับ ๖ กล่มุ โรค/กลมุ่ อาการ ได้แก ่ กล่มุ โรคโลหิตระดสู ตรี กลุม่ โรคเด็ก กลุ่มโรคลม กล่มุ ไข้ กลุม่ อาการของ ระบบทางเดินหายใจ และกลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ตำารับยาที่กล่ันกรองหรือคัดเลือกมาน้ัน ยังไม่ใชร่ ายการยาท้งั หมดสำาหรับแต่ละกลมุ่ โรคหรืออาการเหลา่ น ี้ คณะทาำ งานฯ คณะอนุกรรมการฯ และ คณะกรรมการฯ ที่เก่ียวข้อง ยงั จะต้องพิจารณาแก้ไข ปรบั ปรุง เพมิ่ เตมิ รายการตำารับยา รวมทง้ั เพม่ิ ตำารบั ยาสำาหรับกลมุ่ โรค/อาการอ่นื ๆ อย่างตอ่ เนือ่ งต่อไปอกี ข้อมูลตำารับยาแผนไทยแต่ละรายการได้นำามาเรียบเรียงไว้ในรูปแบบที่เรียกว่า “มอโนกราฟ” (monograph) ซ่ึงพจนานุกรมศัพท์วรรณกรรม อังกฤษ-ไทย ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้บัญญัติศัพท์คำานี้ว่า “เอกสารเฉพาะเรื่อง” ส่วนศัพท์เภสัชศาสตร์ อังกฤษ-ไทย ไทย-องั กฤษ ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๙ ไดบ้ ัญญัติศพั ท์ drug monograph วา่ “รายละเอียด ของยา” ซ่ึงรายการต�ารับยาแผนไทยแห่งชาติน้ีมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้แก่แพทย์แผนไทยและนักศึกษา แพทย์แผนไทยท่ีสนใจเก่ียวกบั ทม่ี าของต�ารบั ยาแผนไทย สูตรตา� รับ การปรงุ ยา สรรพคณุ และขนาดใช้

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขเปน็ ตน้ เพอ่ื ประโยชน์ในการนา� ไปใชป้ รุงยา ส่ังยา หรือจา่ ยยาใหแ้ ก่ผูป้ ่วยไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ปลอดภัย และ มปี ระสิทธิผล มิใชร่ ายละเอยี ดของยาทีร่ ะบวุ ิธีการตรวจวิเคราะหห์ รือควบคุมคุณภาพของตำารับยาในลกั ษณะ ของตาำ รามาตรฐานยาแผนไทย (Thai Traditional Pharmacopoeia) คาำ อธิบายความหมายของมอโนกราฟของตาำ รับยาแผนไทยแห่งชาติ โครงสร้างของมอโนกราฟของตำารับยาแผนไทยแต่ละตำารับประกอบด้วย ชื่อตำารับยา ช่ืออื่น (ถ้ามี) ทีม่ าของตำารับยา สูตรตำารบั ยา สรรพคุณ รูปแบบยา ขนาดและวิธีการใช ้ รวมทงั้ คาำ เตอื น ขอ้ หา้ มใช ้ ขอ้ ควรระวงั ข้อมูลเพม่ิ เติม (ถา้ ม)ี และเอกสารอ้างองิ แต่ละหวั ข้อมีรายละเอยี ดและความหมาย ดงั นี้ ช่ือตาำ รับยา (Name of medicinal preparation) เป็นชื่อภาษาไทยของตำารับยาท่ีระบุไว้ใน “ตำารายาแผนไทยแห่งชาติ” “บัญชียาจากสมุนไพร ในบญั ชียาหลักแหง่ ชาต”ิ หรอื “ประกาศยาสามญั ประจาำ บา้ นแผนโบราณ” กรณีมกี ารสะกดชือ่ ยาหลายแบบ หรือมีช่ือยาหลายชื่อ จะเลือกช่ือที่นิยมใช้มากท่ีสุด หรือใช้คำาท่ีนิยมเขียนหรือสะกดกันในปัจจุบันเป็นช่ือ ตาำ รบั ยา เช่น ยามหาสดมภ์ สว่ นช่อื ทีส่ ะกดแบบอื่นจะเกบ็ ไวใ้ นหัวขอ้ “ชอ่ื อ่นื ” ในกรณีที่ในคัมภรี ์ไม่ระบชุ อื่ ตำารับยา ได้ใช้วิธีนำาชื่อโรคหรืออาการที่ตำารับยาน้ันใช้แก้มาตั้งเป็นชื่อตำารับยา เช่น ยาแก้ตานซางและ ตานขโมย ยาแก้คอ แกไ้ อ แก้อาเจียน แกส้ ะอึก ชือ่ อ่นื (Other name) ยาบางตาำ รับ นอกเหนือจากชอ่ื ทใ่ี ชเ้ ปน็ ช่อื ตำารับยาแล้ว ยงั มชี ื่อเรียกอนื่ อีกหลายช่ือ หรอื มีวธิ กี าร สะกดชอ่ื ยาหลายแบบ ชอ่ื เหลา่ นั้น จะระบุไวใ้ นชอ่ื อ่ืน ทีม่ าของตาำ รบั ยา (Source of origin) เป็นชื่อคัมภีร์หรือตำาราด้ังเดิมที่เป็นต้นกำาเนิดหรือแหล่งท่ีมาของตำารับยา พร้อมทั้งเลขหน้าหรือ เลขที่แผ่นศิลาจารึกเพ่ือการอ้างอิง และระบุข้อความเดิมเกี่ยวกับสูตรตำารับยาน้ันไว้ด้วยอักษรตัวเอน ในเครื่องหมายอัญประกาศ ในบางกรณียาตำารับหน่ึงอาจมีการระบุไว้ในตำารายามากกว่า ๑ เล่ม เช่น ยาแกต้ านทราง ทีอ่ ยูใ่ นเวชศาสตร์ฉบบั หลวงรัชกาลที่ ๕ กบั ยาแกท้ รางฝ้าย ที่อยใู่ นแพทยศาสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ เปน็ ยาที่มีสตู รตาำ รบั เหมอื นกัน จงึ ระบุท่มี าจากทัง้ ๒ แหลง่ สาำ หรับตำารับยาทม่ี าจาก “บญั ชยี าจากสมุนไพรในบญั ชียาหลกั แห่งชาต”ิ เนอื่ งจากบางตาำ รบั ไดม้ ี การใช้เป็นยาสามัญประจำาบ้านแผนโบราณมาก่อนเป็นเวลานานหลายสิบปีและปรับปรุงสูตรตำารับไปบ้าง ดังน้ัน สูตรตำารับจึงอาจไม่ตรงกับตำารับยาในคัมภีร์หรือตำารายาดั้งเดิม เช่น นำ้าหนักของตัวยาบางตัวอาจ ตา่ งไป ตัวยาบางตวั อาจหายไป หรือมีการเพิ่มตวั ยาบางตัวขน้ึ มา แต่ยงั คงมีเค้าโครงของตำารบั ยาทใี่ กล้เคียง กับตำารับยาท่ีอยู่ในคัมภีร์หรือตำารายาด้ังเดิม ในกรณีเช่นน้ีได้นำาตำารับยาจากคัมภีร์หรือตำารายาดั้งเดิมที่ ใกล้เคียงกันนั้นมาอ้างอิงไว้ในหัวข้อ “ท่ีมา” เพ่ือการศึกษาเปรียบเทียบ สำาหรับข้อมูลอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวกับ ประวัติการคัดเลือกเข้าสู่บัญชียาสามัญประจำาบ้านแผนโบราณและบัญชียาหลักแห่งชาติได้นำาไปกล่าวไว้ใน หัวขอ้ “ขอ้ มลู เพิ่มเติม” จ

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ส่วนตำารับยาท่ีมาจากเภสัชตำารับโรงพยาบาลท่ีอยู่ในบัญชียาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้พยายามสืบค้นถึงที่มาให้ชัดเจนท่ีสุดท่ีจะทำาได้ ว่าโรงพยาบาลใดพัฒนายาตำารับน้ีเป็นแห่งแรกสำาหรับ ใชเ้ ป็นเภสัชตาำ รับโรงพยาบาลจากสมุนไพร หรือผ้ใู ดเปน็ ผพู้ ฒั นาตำารบั ยานนั้ ตาำ รับยาบางตำารับหมอพื้นบ้าน เป็นผู้พัฒนาสูตรตำารับขึ้นใช้รักษาผู้ป่วยในชุมชนอย่างได้ผลดีมาก่อน หากผู้บริหารโรงพยาบาลชุมชนอื่น ยอมรบั ในประสิทธิผลและความปลอดภัย และหมอพื้นบ้านเจ้าของตาำ รบั ยาอนุญาต ก็สามารถนำาตำารับยานั้น มาเป็นรายการยาในเภสัชตำารับโรงพยาบาล เพื่อผลิตและใช้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้เกิดประโยชน์ใน วงกว้างต่อไป คณะทาำ งานกลน่ั กรองตำารับยาแผนไทยแหง่ ชาตจิ งึ เสนอตาำ รับยาเหล่านใ้ี ห้คณะอนกุ รรมการฯ และคณะกรรมการฯ ที่เกย่ี วข้องพิจารณาคัดเลือกเข้าในรายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติตอ่ ไป สตู รตำารบั ยา (Medicinal preparation formula) เปน็ รายละเอยี ดเกีย่ วกับสตู รและส่วนประกอบของตำารบั ยาน้ัน โดยระบุวา่ มตี ัวยา (ไม่วา่ จะเป็นพชื วตั ถ ุ สตั วว์ ัตถุ หรือธาตวุ ัตถ)ุ รวมท้งั หมดก่ีชนิด น้าำ หนักรวมของตัวยาทัง้ หมดก่ีกรัม หรอื ทงั้ หมดกส่ี ่วนใน กรณีทีส่ ูตรตาำ รับระบุตัวยาเปน็ สว่ น จากนัน้ จงึ ระบุรายละเอียดของตวั ยาแตล่ ะชนดิ และนำ้าหนกั ยา โดย - ตวั ยา (medicinal material, materia medica) คอื ชือ่ เครอื่ งยาทนี่ ำามาใช้ปรงุ ยา ไม่ใช่ชื่อ พชื สมนุ ไพรซงึ่ เปน็ ทมี่ าของเครอ่ื งยา สาำ หรบั ขอ้ มลู ตวั ยาหรอื เครอื่ งยาแตล่ ะชนดิ วา่ มที ม่ี าจากพชื สมนุ ไพรหรอื สัตว์ที่มีช่ือวิทยาศาสตร์อย่างไร หรือมีช่ือเครื่องยาเป็นภาษาละตินซึ่งเป็นช่ือสากลอย่างไร รวมทั้งส่วนที่ใช้ ของพชื และสัตว์แต่ละชนิด ไดร้ วบรวมไว้ใน “ภาคผนวก ๑ เภสชั วตั ถ”ุ - นำ้าหนักยา (weight) ส่วนมากแสดงน้ำาหนักเป็นกรัมหรือเป็นส่วน มีบ้างท่ีกำาหนดน้ำาหนัก หรือปริมาณเป็นกำามือ แว่น หัว (เต่านา) เป็นต้น หรือแสดงน้ำาหนักตัวยาเป็นหน่วยนำ้าหนักแบบไทย (ตาำ ลึง บาท สลงึ เฟื้อง ไพ) ซึ่งไดแ้ ปลงหนว่ ยน้ำาหนกั แบบไทยในตำารายาใหเ้ ป็นกรัม โดยเทยี บนาำ้ หนกั ดงั น้ ี ๑ ตาำ ลึง เทา่ กบั ๔ บาท เท่ากับ ๖๐ กรัม ๑ บาท เท่ากับ ๔ สลึง เท่ากบั ๑๕ กรมั ๑ สลงึ เทา่ กบั ๒ เฟ้ือง เทา่ กับ ๓.๗๕ กรัม ๑ เฟ้อื ง เท่ากับ ๔ ไพ เท่ากับ ๑.๘๗๕ กรมั สรรพคณุ (Therapeutic use) คุณสมบัติในการแก้หรือบำาบัดรักษาโรคหรืออาการของตำารับยาน้ันตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย หรอื จากการรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ทางคลนิ กิ ทสี่ นบั สนนุ ขอ้ บง่ ใช ้ เชน่ สรรพคณุ บรรเทาอาการปวดประจาำ เดอื น ของยาประสะไพล หรอื สรรพคณุ ขบั ลม บรรเทาอาการทอ้ งอดื ทอ้ งเฟอ้ ของยาธาตอุ บเชย สาำ หรบั ความหมาย ของสรรพคณุ ที่เป็นศพั ท์การแพทยแ์ ผนไทยนั้น ไดใ้ หค้ ำาอธิบายศพั ท์ไวใ้ น “ภาคผนวก ๔ อภิธานศัพท”์ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ระบุในสรรพคุณของตำารับยาในหัวข้อน้ี ไม่ได้หมายความว่าเป็นสรรพคุณ หรือข้อบ่งใช้ที่ยอมรับในการข้ึนทะเบียนตำารับยาทุกสรรพคุณ การอ้างอิงสรรพคุณเพ่ือการขอข้ึนทะเบียน ตำารับยานัน้ ใหเ้ ปน็ ไปตามพระราชบัญญตั ยิ า กฎกระทรวง และประกาศกระทรวงที่เก่ยี วขอ้ ง ฉ

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขรูปแบบยา (Dosage form) ลักษณะทางกายภาพของผลิตภณั ฑ์ยาตาำ รบั น้ัน ๆ เชน่ เป็นยาต้ม ยาผง ยาลกู กลอน ยาเม็ด ยาเม็ดพิมพ์ ยาแคปซูล ยานำ้ามัน ยาประคบ บางตำารับยามีรูปแบบยาได้มากกว่า ๑ รูปแบบ เช่น ยาผง ยาเม็ด ยาแคปซูล สำาหรับยาเม็ด ยาเม็ดพิมพ์ หรือยาลูกกลอน บางตำารับจะระบุขนาดน้ำาหนัก ต่อเม็ดไว้ดว้ ย ขนาดและวิธใี ช้ (Dosage and administration) ตาำ รบั ยาทคี่ ดั เลอื กจาก “บัญชยี าจากสมนุ ไพรในบญั ชยี าหลกั ชาติ” หรือจาก “ประกาศยาสามัญ ประจาำ บา้ นแผนโบราณ” ไดร้ ะบขุ นาดและวธิ ใี ชไ้ วแ้ ลว้ โดยละเอยี ดทกุ ตาำ รบั โดยระบขุ นาดใชข้ องยาเปน็ ระบบ เมตริก คือ เป็นกรมั หรอื มิลลกิ รมั และยาน้าำ กาำ หนดปรมิ าตรเปน็ มลิ ลลิ ิตร ส่วนตำารบั ยาแผนไทยทม่ี าจากคมั ภีรแ์ ละตำารายาแผนไทยของชาตติ ่าง ๆ มกั ไมไ่ ด้ระบขุ นาดและ วิธีใชไ้ ว ้ การกำาหนดขนาดและวธิ ีใช้เป็นเนอื้ หาส่วนท่ยี ากทสี่ ุดในการจดั ทำารายการตาำ รบั ยาแผนไทยแห่งชาติ ของตาำ รับยากลมุ่ นี้ จึงตอ้ งอาศยั ประสบการณก์ ารเตรยี มยาและการสง่ั ใชย้ าของคณะทำางานฯ คณะอนุกรรม- การฯ ที่เป็นแพทยแ์ ผนไทยผ้เู ชยี่ วชาญ ในการใหข้ ้อคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ เพื่อกาำ หนดขนาดและวธิ ใี ชท้ ี่ เหมาะสม โดยใชว้ ิธีระบขุ นาดของยาเม็ด ยาเมด็ พิมพ์ หรือยาลกู กลอนเปน็ มิลลิกรมั ตอ่ เม็ด แลว้ ระบขุ นาดใช้ เป็นจาำ นวนเมด็ สำาหรับผใู้ หญ่และเด็ก โดยขนาดยาของเดก็ จะลดลงเปน็ สัดสว่ นกับอายขุ องเด็ก ถ้าเปน็ ยาน้าำ จะระบุเป็นจำานวนช้อนชาหรือจำานวนช้อนโต๊ะ โดยวงเล็บปริมาตรเป็นซีซีหรือมิลลิลิตรไว้ให้ด้วยเพ่ือความ สะดวกหากใชถ้ ้วยตวงยา โดยคิดคำานวณวา่ ๑ ชอ้ นชา เทา่ กบั ๕ ซีซ ี (มลิ ลิลติ ร) และ ๑ ช้อนโตะ๊ เทา่ กบั ๑๕ ซีซ ี (มลิ ลิลิตร) อย่างไรก็ตาม ขนาดและวิธใี ช้ท่รี ะบใุ นแตล่ ะต�ารบั ยาน้ัน ไมไ่ ดห้ มายความวา่ เป็นขนาดทยี่ อมรบั ใน การขนึ้ ทะเบยี นตา� รบั ยา การอา้ งองิ ขนาดและวธิ ใี ชเ้ พอ่ื การขอขน้ึ ทะเบยี นตา� รบั ยานน้ั ใหเ้ ปน็ ไปตามพระราช- บัญญัติยา กฎกระทรวง และประกาศกระทรวงที่เกยี่ วข้อง ขอ้ ห้ามใช้ (Contraindication) ข้อมูลท่ีอธิบายว่าตำารับยานี้ห้ามใช้ในคนกลุ่มใด เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เช่น ยาประสะไพล หา้ มใช้ในหญิงตกเลือดหลังคลอด หญิงตัง้ ครรภ ์ และผ้ทู ่มี ไี ข้ คาำ เตอื น (Warning) ข้อความท่ผี ้บู ริโภคและผปู้ ระกอบวิชาชพี การแพทยแ์ ผนไทยควรทราบก่อนการใช้หรือการส่งั ใช้ยา ตาำ รับนั้น เชน่ ควรใชด้ ้วยความระมัดระวงั ในผูป้ ่วยกลุ่มใด เชน่ ยาเขยี วหอม ไม่แนะนำาให้ใชใ้ นผทู้ สี่ งสัยวา่ เปน็ ไขเ้ ลอื ดออก เนอ่ื งจากอาจบดบงั อาการของไขเ้ ลอื ดออก นอกจากน ้ี ยงั อธบิ ายเกยี่ วกบั อาการไมพ่ งึ ประสงค์ (adverse drug reaction) ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ตำารับยาน้ัน (ถ้ามี) รวมท้ังผลเสียต่อร่างกายที่อาจ เกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างตำารับยานั้นกับยาแผนปัจจุบันบางชนิดหากมีการใช้ร่วมกัน (herb-drug interaction) เช่น ยาบางตำารบั ควรระวังการกินรว่ มกบั ยาในกลุม่ สารกันเลือดเป็นลม่ิ (anticoagulant) และ ยาตา้ นการจบั ตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelet) เพราะอาจเพมิ่ ความเส่ยี งของการเกดิ เลอื ดออก (bleeding) ช

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ขอ้ ควรระวัง (Precaution) ขอ้ ความแจง้ เตอื นเกยี่ วกบั สง่ิ ทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ระหวา่ งการใชย้ าตาำ รบั ทผี่ บู้ รโิ ภคหรอื ผปู้ ระกอบวชิ าชพี การแพทย์แผนไทยควรทราบ เชน่ ตำารบั ยาที่มีการบูรเปน็ สว่ นประกอบ มีขอ้ ควรระวังว่า “ควรระวังการใชย้ า อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในผปู้ ว่ ยทมี่ คี วามผดิ ปรกตขิ องตบั ไต เนอื่ งจากอาจเกดิ การสะสมของการบรู และเกิดพษิ ได้” ข้อมูลเพ่มิ เติม (Additional information) ข้อมลู เกีย่ วกับตาำ รบั ยาท่ีควรทราบ เช่น ขอ้ มลู เกย่ี วกับท่มี าของตำารบั ยา หรอื การตัดตวั ยาบางตวั ออกจากสูตรตำารับดั้งเดิมพร้อมทั้งเหตุผล หรือเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับโรคหรืออาการท่ีใช้ตำารับยาน้ัน ในการบำาบดั รกั ษา เอกสารอา้ งองิ (Reference) แบบแผนการเขียนเอกสารอ้างอิงทั้งภาษาไทยและอังกฤษใช้หลักของแวนคูเวอร์ (Vancouver style) แตก่ ารใช้เคร่ืองหมายวรรคตอนของเอกสารอ้างอิงภาษาไทยใชต้ าม “หลกั เกณฑ์การใช้เครอื่ งหมาย วรรคตอนและเครอ่ื งหมายอนื่ ๆ หลกั เกณฑก์ ารเวน้ วรรค หลกั เกณฑก์ ารเขยี นคาำ ยอ่ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พิมพ์ครั้งที่ ๗ (แก้ไขเพม่ิ เตมิ )” ภาคผนวกของรายการตำารับยาแผนไทยแหง่ ชาติ ตอนท้ายของรายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ มีภาคผนวกอยู่ ๖ ภาคผนวก เพื่อให้ข้อมูล เพิ่มเตมิ แกผ่ ้อู ่านเก่ยี วกบั ตัวยาตา่ ง ๆ ที่ใชใ้ นตำารับยาทัง้ ๑๐๐ ตำารับในเลม่ ๑ ได้แก ่ เภสัชวัตถุ การเตรียม ตวั ยาก่อนใชป้ รงุ ยา วธิ ีการปรุงยา อภิธานศพั ท์ด้านการแพทยแ์ ผนไทยที่เกยี่ วข้องกบั โรคและอาการตา่ ง ๆ สมุฏฐานของโรคและอาการ ท่ีกล่าวถึงในตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ เล่ม ๑ และทฤษฎีว่าด้วยกลุ่มโรค ผมู้ สี ่วนเก่ียวข้องมีรายละเอยี ดพอสังเขป ดังตอ่ ไปน้ี ภาคผนวก ๑ เภสชั วัตถุ (Medicinal material, Materia Medica) เป็นภาคผนวกที่รวมตัวยาหรือเภสัชวัตถุ ทั้งพืชวัตถุ สัตว์วัตถุ และธาตุวัตถุท้ังหมดท่ีเป็นส่วนประกอบใน ตาำ รับยาทง้ั ๑๐๐ ตาำ รับ ในรูปของตาราง โดยแต่ละช่องจะใหข้ ้อมลู ดงั น้ี • ชอ่ื ไทย (Thai title) หมายถงึ ชอื่ ตวั ยาทรี่ ะบใุ นสตู รตาำ รบั ยา เปน็ ชอื่ ทเี่ รยี กหรอื รจู้ กั เปน็ สากล ในปัจจุบนั ซ่งึ อาจแตกต่างจากช่ือท่ใี ช้เรียกหรอื เขยี นในเอกสารต้นฉบับเดิม โดยเรยี งชื่อตวั ยา ตามลำาดบั อักษรภาษาไทย ก-ฮ ในแบบพจนานุกรม • สว่ นท่ใี ช้ (part used) หมายถงึ ส่วนของพืชสมุนไพรทน่ี ำามาใชเ้ ปน็ ตวั ยา เชน่ เหงา้ ราก ใบ ดอก เกสร ผล เมล็ด ฯลฯ ทั้งน ี้ สว่ นท่ีใช้จะยดึ ตามหลักทางพฤกษศาสตร์ ไมใ่ ชช่ ่อื ท่ีเรยี ก เครือ่ งยาตามตำารายาไทย เชน่ ดีปลี สว่ นที่ใช ้ คอื ชอ่ ผล ไมใ่ ช่ดอก แมว้ ่าในตาำ ราการแพทย์ แผนไทยมกั เรียกชอ่ ผลทีม่ ีสีแดงวา่ ดอกดีปลี • ชอ่ื ละตนิ (latin title) เปน็ ชอื่ ตวั ยาในภาษาละตนิ ทก่ี าำ หนดใหม้ ไี วเ้ พอ่ื ความเปน็ สากล เนอื่ งจาก ตาำ รายา (Pharmacopoeia) หรอื รายการตำารับยาแหง่ ชาต ิ (National Formulary) ของหลาย ประเทศและขององค์การอนามัยโลกใชช้ ือ่ ละตนิ เปน็ ชอ่ื ทางการของตวั ยาตา่ งๆ ในทนี่ เ้ี พ่อื ความ ซ

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สะดวกในการสืบค้นชื่อ ได้เอาส่วนที่ใช้เป็นยาเป็นคำาลงท้ายชื่อแทนที่จะใช้เป็นคำานำาหน้า เช่นเดียวกับในตำาราอ้างอิงยาสมุนไพรไทยของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ศพั ท์ภาษาละตนิ สาำ หรับส่วนตา่ ง ๆ ของพืชสมนุ ไพร ไดแ้ ก ่ Herba (ทั้งตน้ ) Radix (ราก) Rhizoma (เหง้า) Bulbus (หัว เช่น กระเทียม) Cormus (หัว เช่น กระดาด) Lignum (แกน่ ) Caulis (เถา) Cortex (เปลือกต้นหรือแก่น) Folium (ใบ) Flos (ดอก) Stamen (เกสรเพศผู้) Sigma (ยอดเกสรเพศเมีย) Fructus (ผล ฝกั ) Semen (เมล็ด) Pulpa (เนือ้ ในฝกั เมลด็ ) Pericarpium (เปลือกผล ผวิ ผล เชน่ ผิวมะกรดู ) Exocarpium (เปลือกผล ผิวผล เช่น ผิวส้มโอ) Aetheroleum (นำ้ามันระเหยง่าย) Oleum (นำ้ามัน) Resina (สารคัดหลั่ง ยาง) Extractum (ส่งิ สกัดจากสมนุ ไพร) ทั้งน้ี ชอ่ื ละตินจะใชต้ ามชอ่ื ท่ี ปรากฏในตำารายาของต่างประเทศหากเป็นตัวยาสมุนไพรเดียวกัน หรือใช้ช่ือวิทยาศาสตร์ของ สมุนไพรท่ีเป็นต้นกำาเนิดของตัวยามาแปลงเป็นภาษาละติน ในกรณีที่ตัวยามาจากสมุนไพรได้ หลายชนิด จะใชช้ ่ือวิทยาศาสตร์ของสมนุ ไพรหลกั ทน่ี ิยมใชม้ าแปลงเป็นชือ่ ละตินเพยี ง ๑ ชอื่ เท่านั้น • ชือ่ วิทยาศาสตร์ (scientific name) เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ของสมนุ ไพรทเ่ี ป็นต้นกำาเนิดของ ตัวยา ประกอบด้วย ช่ือสกลุ (genus) เขยี นดว้ ยตัวเอน ข้นึ ต้นด้วยอกั ษรตวั ใหญ ่ ตามด้วยคำา ระบุชนดิ (specific epithet) ซึ่งเขยี นดว้ ยตวั เอนเช่นกัน ข้ึนตน้ ดว้ ยอกั ษรตวั เล็ก และช่อื ผตู้ ง้ั ชอ่ื (author’s name) ทเ่ี ขียนดว้ ยตวั อกั ษรปรกต ิ ข้นึ ตน้ ด้วยอกั ษรตวั ใหญ ่ ทง้ั นี ้ จะใช้ช่ือยอ่ ตามท่กี าำ หนดในหนงั สือ Authors of Plant Names* และหากพชื สมุนไพรชนดิ ใดสามารถระบุ พนั ธ ์ุ (variety) หรือพันธ์ุปลกู (cultivar) ได ้ ก็จะระบไุ วห้ ลงั ชื่อ โดยใชต้ ัวย่อ var. หรอื cv. ตามดว้ ยชื่อพันธ์หุ รอื พนั ธุป์ ลกู ตามลาำ ดบั ภาคผนวก ๒ การเตรียมตัวยากอ่ นใชป้ รุงยา (Pre-preparation of crude drug) เนื่องจากตัวยาบางชนิดมีฤทธิ์แรงเกินไปหรือมีพิษมาก อาจทำาให้เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้ หรือ ตวั ยาบางชนดิ อาจไมส่ ะอาด มเี ชอ้ื โรคปนเปอ้ื น หรอื มคี วามชนื้ มากเกนิ ไป ตวั ยาเหลา่ นจี้ งึ ตอ้ งผา่ นกระบวนการ ประสะ สะตุ หรือ ฆ่าฤทธ์ิ ก่อนท่จี ะนำามาใชป้ รงุ ยาเพือ่ ความปลอดภัยของผู้บรโิ ภค ภาคผนวกน้ีจึงนำาเสนอ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การประสะ สะต ุ หรอื ฆ่าฤทธข์ิ องตวั ยาบางชนดิ กอ่ นนำาไปใช้ ภาคผนวก ๓ วธิ กี ารปรงุ ยา (Compounding of traditional medicinal preparation) รายการตำารับยาแผนไทยแหง่ ชาต ิ เล่ม ๑ มรี ปู แบบของยาเตรยี มที่สาำ คัญ ๒ ประเภท คือ ๑. รูปแบบยาเตรียมประเภทของเหลว (liquid dosage form) ได้แก่ ยาต้ม ซ่ึงเป็น รปู แบบของการเตรยี มยาแผนไทยที่นิยมใช้มากรูปแบบหนงึ่ มวี ธิ กี ารเตรยี มยาต้ม ๓ วิธ ี ไดแ้ ก ่ การต้มเดือด ต้มเคี่ยว และต้มสามเอาหนึ่ง ซึ่งได้อธิบายวิธีการเตรียมไว้โดยละเอียดใน ภาคผนวกน ้ี *ฌ Brummit RK, Powll CE. Authors of plant names. London: Royal Botanic Gardens, Kew. ๑๙๙๒.

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ๒. รปู แบบยาเตรียมประเภทของแข็ง (solid dosage form) ซ่งึ แบ่งเปน็ ๕ รูปแบบ ได้แก ่ ยาผง ยาแคปซลู ยาเม็ดแบบพิมพด์ ว้ ยมอื ยาเมด็ แบบใช้เคร่อื งตอกยาเมด็ หรอื ยาเมด็ ตอกอดั และยาลูกกลอน ภาคผนวกน้ีได้อธิบายกระบวนการผลิตยาแต่ละรูปแบบโดยละเอียด รวมทั้ง เครื่องมือหรืออุปกรณ์ท่ีต้องใช้ในการผลิตยา ข้ันตอนการผลิตตั้งแต่การล้างทำาความสะอาด ตวั ยา ทาำ ให้แห้ง ย่อยขนาด การแรง่ การทาำ แกรนลู (granule) การใชส้ ารช่วยต่างๆ ซงึ่ จาำ เป็น ในการผลิตยา เช่น สารเพิ่มปริมาณ (diluent) สารยึดเกาะ (binder) สารช่วยแตกตัว (disintegrant) รวมท้งั การควบคมุ คณุ ภาพระหว่างการผลิต ภาคผนวก ๔ อภิธานศัพท์ (Glossary) ภาคผนวกน้ีเป็นบัญชีคำาศัพท์ที่เก่ียวข้องกับการแพทย์แผนไทย โรคหรืออาการทางการแพทย์ แผนไทย รวมท้ังศพั ท์ทางเภสชั กรรมไทยที่กลา่ วถึงในรายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาตเิ ล่ม ๑ น ี้ เพื่อชว่ ย ให้ผู้อ่านได้ศึกษาเพ่ิมเติมและทำาความเข้าใจคำาศัพท์ที่เป็นภาษาไทยด้ังเดิมที่ใช้ในคัมภีร์หรือตำาราแพทย์ แผนไทยของชาติด้วยการให้ความหมายเป็นภาษาไทยท่ีใช้ในปัจจุบัน ความหมายของคำาศัพท์เหล่านี้ สว่ นมากนาำ มาจากพจนานกุ รมศพั ทแ์ พทยแ์ ละเภสชั กรรมแผนไทยของกรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก สว่ นคาำ ศัพทท์ ี่ยังไม่มใี นพจนานกุ รมดังกลา่ ว คณะทำางานฯ คณะอนกุ รรมการฯ ทีเ่ ป็นอาจารยแ์ ละ ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นการแพทยแ์ ผนไทยไดร้ ว่ มกนั พจิ ารณา ปรบั แก ้ เพอ่ื จดั ทาำ ความหมายของคาำ ศพั ทเ์ หลา่ นน้ั ขน้ึ ภาคผนวก ๕ สมฏุ ฐานของโรคและอาการ (Etiology of disease and symptom) ภาคผนวกนใี้ ห้รายละเอยี ดเกย่ี วกับสมุฏฐานการเกดิ โรคและอาการ ชนดิ ของโรค อาการของแต่ละ กลุ่มโรคหรือกลุ่มอาการ ประเภทของยาสำาหรับบำาบัดโรคหรืออาการ รวมท้ังหลักการในการต้ังตำารับยา และตัวยาสำาคัญที่ใช้สำาหรับบำาบัดโรคหรืออาการนั้น ท้ังน้ี เพ่ือเป็นพื้นฐานความรู้โดยสังเขปในการปรุงยา และใช้ยาใหเ้ หมาะกบั โรคหรืออาการของผูป้ ่วย ภาคผนวก ๖ คณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการ/คณะทาำ งานทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ภาคผนวกนี้เป็นรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำารายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบับพุทธศักราช ๒๕๖๑ ประกอบด้วย คณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย คณะอนกุ รรมการจดั ทาำ ตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาต ิ คณะทาำ งานกลน่ั กรองตาำ รบั ยาแผนไทยแหง่ ชาต ิ (ชดุ ท ่ี ๑) คณะทาำ งานกลนั่ กรองตาำ รบั ยาแผนไทยแห่งชาต ิ (ชดุ ท ่ี ๒) คณะทาำ งานกลั่นกรองตาำ รับยาแผนไทยแห่งชาต ิ (ชดุ ที ่ ๓) คณะทำางานดา้ นเลขานุการ และคณะทาำ งานจดั ทาำ รูปเล่มบัญชีรายการตำารับยาแผนไทยแห่งชาต ิ ฉบับพทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ ญ

ฏ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข

สารบัญตาำ รบั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขชอ่ื ตำารับยา หนา้ ยากำาลงั ราชสหี ์ สตู ร ๑....................................................................................................................... ๓ ยากาำ ลังราชสหี ์ สูตร ๒...................................................................................................................... ๕ ยากินเมอ่ื คลอดลกู ................................................................................................................................ ๗ ยาแกไ้ ข้ทบั ระดหู รือระดทู ับไข ้ สตู ร ๑....................................................................................... ๘ ยาแก้ไขท้ บั ระดูหรือระดทู ับไข ้ สูตร ๒....................................................................................... ๑๐ ยาแก้ซางเพลิง........................................................................................................................................ ๑๒ ยาแก้ตบั ทรุด............................................................................................................................................ ๑๔ ยาแก้ตาน ................................................................................................................................................. ๑๕ ยาแกต้ านขโมย...................................................................................................................................... ๑๗ ยาแกต้ านซาง......................................................................................................................................... ๑๙ ยาแก้ทอ้ งข้ึน........................................................................................................................................... ๒๑ ยาแกท้ อ้ งเสียในเดก็ อ่อน.................................................................................................................. ๒๓ ยาแกป้ วดทอ้ งผสมคนทีสอ........................................................................................................ ๒๔ ยาแกร้ ะดขู ดั ............................................................................................................................................ ๒๕ ยาแกล้ มปะกัง........................................................................................................................................ ๒๖ ยาแก้ลมปัตฆาต.................................................................................................................................... ๒๗ ยาแก้ลมวาระยกั ขะวาโย................................................................................................................... ๒๙ ยาแกล้ มสนุ ทรวาต................................................................................................................................ ๓๑ ยาแก้ลมหทัยวาตะกาำ เริบ สตู ร ๑................................................................................................ ๓๓ ยาแกล้ มหทยั วาตะกำาเรบิ สูตร ๒................................................................................................ ๓๔ ยาแกล้ มอัควารันตวาโย...................................................................................................................... ๓๕ ยาแก้ลมอทุ ธังคมาวาตา...................................................................................................................... ๓๗ ยาแก้ละอองพระบาท............................................................................................................................ ๓๙ ยาแกว้ าโยกำาเรบิ .................................................................................................................................... ๔๐ ยาแกห้ ญิงไม่มรี ะดู................................................................................................................................. ๔๒ ยาแก้อยูไ่ ฟไม่ได้...................................................................................................................................... ๔๓ ยาแก้ไอผสมตรีผลา................................................................................................................................ ๔๔ ก

สารบัญตำารับยา (ต่อ) ช่ือตาำ รับยา หน้า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขยาเขยี วนอ้ ย .............................................................................................................................................. ๔๕ ยาเขียวหอม .............................................................................................................................................. ๔๗ ยาครรภ์รกั ษา ........................................................................................................................................... ๔๙ ยาคนั ธารส ................................................................................................................................................. ๕๑ ยาจนั ทนล์ ีลา ............................................................................................................................................. ๕๓ ยาชกั ดากให้หดเข้า ................................................................................................................................ ๕๕ ยาชำาระโลหิตนำ้านม ................................................................................................................................ ๕๖ ยาชริ นัคคีจร .............................................................................................................................................. ๕๘ ยาตรหี อม ................................................................................................................................................... ๕๙ ยาถ่ายดีเกลือฝร่ัง .................................................................................................................................... ๖๑ ยาถ่ายพยาธิ .............................................................................................................................................. ๖๓ ยาถ่ายพยาธิพรหมกจิ ........................................................................................................................... ๖๕ ยาทวิวาตาธิคุณ ........................................................................................................................................ ๖๖ ยาทองเน้ืองาม ........................................................................................................................................... ๖๘ ยาทองพนั ชงั่ ............................................................................................................................................... ๗๐ ยาทาทอ้ ง สูตร ๑ .................................................................................................................................... ๗๒ ยาทาทอ้ ง สตู ร ๒ .................................................................................................................................... ๗๔ ยาทาทอ้ ง สูตร ๓ .................................................................................................................................... ๗๖ ยาทาท้อง สูตร ๔ .................................................................................................................................... ๗๘ ยาธาตุบรรจบ .............................................................................................................................................. ๗๙ ยาธาตอุ บเชย .............................................................................................................................................. ๘๒ ยานนทเสน ................................................................................................................................................... ๘๔ ยานำา้ มันแกแ้ ผลเป่ือย ............................................................................................................................... ๘๕ ยาบำารงุ เลอื ด สูตร ๑ ............................................................................................................................... ๘๖ ยาบำารุงเลือด สูตร ๒ ............................................................................................................................... ๘๗ ยาบาำ รงุ โลหิต ............................................................................................................................................... ๘๘ ยาประสะกะเพรา ......................................................................................................................................... ๙๐ ข

สารบัญตาำ รับยา (ตอ่ ) ช่อื ตำารบั ยา หนา้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขยาประสะกะเพราน้อย ................................................................................................................................. ๙๒ ยาประสะกานพลู .......................................................................................................................................... ๙๔ ยาประสะจนั ทน์แดง .................................................................................................................................... ๙๗ ยาประสะเจตพงั คี ........................................................................................................................................ ๙๙ ยาประสะนาำ้ นม ............................................................................................................................................. ๑๐๑ ยาประสะเปราะใหญ่ ................................................................................................................................... ๑๐๒ ยาประสะผวิ มะกรูด ..................................................................................................................................... ๑๐๔ ยาประสะไพล ................................................................................................................................................. ๑๐๕ ยาประสะมะแว้ง ............................................................................................................................................ ๑๐๘ ยาประสะลม .................................................................................................................................................... ๑๑๐ ยาประสะว่านนางคำา ................................................................................................................................... ๑๑๒ ยาปราบชมพทู วปี ........................................................................................................................................ ๑๑๓ ยาปลูกไฟธาต ุ ................................................................................................................................................ ๑๑๕ ยาผายโลหติ ................................................................................................................................................... ๑๑๗ ยาแผ้วฟา้ ........................................................................................................................................................ ๑๑๙ ยาพรหมพักตร ์ .............................................................................................................................................. ๑๒๑ ยาไฟประลยั กัลป์ ......................................................................................................................................... ๑๒๓ ยาไฟห้ากอง ................................................................................................................................................... ๑๒๕ ยามหากะเพรา .............................................................................................................................................. ๑๒๖ ยามหาจกั รใหญ ่ ............................................................................................................................................ ๑๒๘ ยามหานลิ แท่งทอง ...................................................................................................................................... ๑๓๐ ยามหาวาตาธคิ ณุ ........................................................................................................................................ ๑๓๒ ยามหาวาโย .................................................................................................................................................... ๑๓๔ ยามหาสดมภ์ ................................................................................................................................................. ๑๓๖ ยามหาอาำ มฤต ............................................................................................................................................... ๑๓๘ ยามนั ทธาตุ ..................................................................................................................................................... ๑๔๐ ยาริดสีดวงมหากาฬ .................................................................................................................................... ๑๔๒ ค

สารบัญตาำ รับยา (ต่อ) ช่อื ตาำ รับยา หนา้ ยาเลอื ดงาม ................................................................................................................................................ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข๑๔๔ ยาวาตาประสิทธิ ...................................................................................................................................... ๑๔๖ ยาวิสมั พยาใหญ่ ....................................................................................................................................... ๑๔๘ ยาศภุ มิตร ................................................................................................................................................... ๑๕๐ ยาสตรหี ลงั คลอด ..................................................................................................................................... ๑๕๑ ยาสมมทิ กุมารนอ้ ย ................................................................................................................................ ๑๕๓ ยาสุวรรณเกษรา ...................................................................................................................................... ๑๕๖ ยาแสงหมึก ................................................................................................................................................. ๑๕๘ ยาหอมแกล้ มวิงเวยี น ............................................................................................................................ ๑๖๐ ยาหอมทิพโอสถ ...................................................................................................................................... ๑๖๒ ยาหอมเทพจิตร ....................................................................................................................................... ๑๖๕ ยาหอมนวโกฐ ........................................................................................................................................... ๑๖๘ ยาหอมนอ้ ย ................................................................................................................................................ ๑๗๑ ยาหอมอนิ ทจกั ร ์ ...................................................................................................................................... ๑๗๓ ยาห้าราก ...................................................................................................................................................... ๑๗๖ ยาเหลอื งปดิ สมทุ ร ................................................................................................................................... ๑๗๘ ยาอภยั สาลี ................................................................................................................................................. ๑๘๐ ยาอำามฤควาที ........................................................................................................................................... ๑๘๒ ยาอินทรป์ ระสิทธิ์ ..................................................................................................................................... ๑๘๔ ภาคผนวก ภาคผนวก ๑ เภสชั วตั ถ.ุ ...................................................................................................................... ๑๘๗ ภาคผนวก ๒ การเตรียมตัวยากอ่ นใช้ปรุงยา............................................................................ ๒๐๕ ภาคผนวก ๓ วิธีการปรงุ ยา................................................................................................................ ๒๑๑ ภาคผนวก ๔ อภธิ านศัพท.์ ................................................................................................................. ๒๒๓ ภาคผนวก ๕ สมุฏฐานของโรคและอาการ................................................................................... ๒๓๗ ภาคผนวก ๖ รายชือ่ คณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการ และคณะทาำ งานทเ่ี กยี่ วข้อง................................................................................... ๒๕๕ ง

1 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข

2 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข

ยากา� ลังราชสหี ์ สตู ร ๑ ทีม่ าของตาำ รบั ยา ศลิ าจารึกตำารายาวดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม (วดั โพธ)ิ์ (๑, ๒) “ยาช่อื ก�าลงั ราชสหี ์ เอาผลจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู เลอื ดแรด ส่งิ ละสว่ น โกฐสอ โกฐเขมา โกฐเชยี ง โกฐจฬุ าลัมพา โกฐหวั บัว เทียนด�า เทียนแดง เทยี นขาว เทยี นขา้ วเปลือก เทยี นตา ตกั๊ แตน สง่ิ ละ ๒ สว่ นเจตมลู เพลงิ สะคา้ น ดปี ลี ขงิ แหง้ รากช้าพลู ดอกพกิ ลุ ดอกบุนนาค ดอกสารภี เกสรบัวหลวง ดอกมะลิ ดอกจ�าปา ดอกกระดังงา ดอกค�า กฤษณา กระล�าพัก ชะลูด ขอนดอก อบเชยเทศ ชะเอมเทศ จันทนแ์ ดง จนั ทนข์ าว สิ่งละ ๔ สว่ น ฝางเสน ๙ สว่ น ต้มตามวิธีให้กิน บ�ารงุ โลหิต ให้งามบรบิ รู ณว์ เิ ศษนกั ฯ” สตู รตาำ รบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๓๗ ชนดิ รวมน้าำ หนัก ๑๑๗ ส่วน ดงั น้ี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ตัวยา นำา้ หนกั ยา ฝางเสน ๙ สว่ น กระดงั งา ๔ สว่ น ๔ สว่ น กระลาำ พัก ๔ ส่วน กฤษณา ๔ สว่ น ขอนดอก ๔ สว่ น ๔ สว่ น ขงิ แห้ง ๔ สว่ น คำาไทย ๔ ส่วน จันทนข์ าว ๔ สว่ น จนั ทนแ์ ดง ๔ สว่ น จาำ ปา ๔ ส่วน เจตมูลเพลงิ ๔ ส่วน ชะพลู (ราก) ๔ ส่วน ชะลดู ๔ ส่วน ชะเอมเทศ ๔ ส่วน ดีปลี ๔ ส่วน บวั หลวง ๔ สว่ น บุนนาค ๔ ส่วน พิกุล ๔ ส่วน มะลิ สะคา้ น 3

ตวั ยากรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขน้ำาหนักยา ๔ สว่ น สารภี ๔ ส่วน อบเชยเทศ ๒ สว่ น โกฐเขมา ๒ ส่วน โกฐจุฬาลมั พา ๒ สว่ น โกฐเชียง ๒ สว่ น โกฐสอ ๒ ส่วน โกฐหวั บัว ๒ สว่ น เทยี นขาว ๒ ส่วน เทยี นข้าวเปลือก ๒ ส่วน เทียนดาำ ๒ สว่ น เทยี นแดง ๒ ส่วน เทยี นตาตกั๊ แตน ๑ สว่ น กระวาน ๑ ส่วน กานพลู ๑ ส่วน ดอกจนั ทน์ ๑ สว่ น ลูกจนั ทน์ สรรพคณุ บำารงุ โลหิต รูปแบบยา ยาต้ม (ดภู าคผนวก ๓.๑.๑) ขนาดและวธิ ีการใช้ ด่มื คร้ังละ ๑๐๐-๒๐๐ มิลลิลิตร วันละ ๒ ครั้ง ก่อนอาหาร เชา้ และเยน็ ด่มื ขณะยายังอนุ่ อยู่ ข้อควรระวงั ควรระวงั การใช้กับผูป้ ่วยทมี่ ีประวตั แิ พเ้ กสรดอกไม้ ขอ้ หา้ มใช้ ห้ามใชใ้ นหญิงตัง้ ครรภแ์ ละผ้มู ไี ข้ ข้อมูลเพิ่มเติม - ยา ๑ หม้อ ใชต้ ดิ ตอ่ กนั ๕-๗ วนั โดยใหอ้ นุ่ นำ้าสมนุ ไพรทกุ ครง้ั ก่อนใชย้ า - ในสูตรตาำ รบั น้ีเดิมมตี วั ยา “เลอื ดแรด” ซง่ึ เป็นสัตวว์ ตั ถ ุ แตไ่ ดต้ ัดออกจากสูตรตำารบั เน่ืองจากแรดเป็นสัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์ และเป็นสัตว์ที่อยู่ใน “อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซ่งึ ชนดิ พันธ์ุสัตว์ปา่ ทใี่ กล้สญู พันธ ุ์ (CITES)” เอกสารอา้ งองิ ๑. สาำ นกั คมุ้ ครองภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. หนงั สอื ชดุ ตาำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ์ ตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยในศลิ าจารกึ วัดพระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม (วัดโพธ)์ิ เลม่ ๓. พมิ พ์ครง้ั ที่ ๑. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์องคก์ ารสงเคราะห์ ทหารผา่ นศึกในพระบรมราชปู ภมั ภ,์ ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาต ิ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๓๑๗ ง. 4

ยากา� ลังราชสหี ์ สตู ร ๒ ทีม่ าของตาำ รับยา แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๒ พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๖ (๑, ๒) “ยาชื่อก�าลังราชสีห์ ท่านใหเ้ อา กฤษณา ๑ กะลา� ภัก ๑ ขอนดอก ๑ โกฐสอเทศ ๑ โกฐเชยี ง ๑ โกฐพงุ ปลา ๑ โกฐบัว ๑ โกฐก้านพร้าว ๑ เทียนด�า ๑ เทียนแดง ๑ เทียนขาว ๑ เทียนเข้าเปลือก ๑ เทียนเยาวภานี ๑ ดอกกะดงั งา ๑ ดอกจา� ปา ๑ เกสรบัวขาว ๑ เกสรบุนนาก ๑ เกสรบัวหลวง ๑ เกสร บวั แดง ๑ เกสรบัวขม ๑ เกสรบัวเผ่ือน ๑ เกสรสัตบงกช ๑ อบเชย ๑ สมลุ แว้ง ๑ เถาวัลเปรียงแดง ๑ กา� ลงั ววั เถลิง ๑ เถามวกท้ัง ๒ รากหญา้ นาง ๑ ตรีกฏุก ๑ ฝางเสน ๑ เลือดแรด ๑ เอาส่งิ ละ ๑ บาท ผลจนั ทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กานพลู ๑ การะบรู ๑ สิง่ ละ ๒ สลงึ ดอกค�าไทย ๕ ต�าลึง ท�าเปนจุณนา�้ ดอก ไม้เปนกระสายบดท�าแทง่ ไว้ ถ้าจะให้ชูกา� ลงั น้�าตาลกรวดพมิ เสนรา� หัดใหก้ ิน ถา้ จะแก้โลหิต แก้ลมแก้เส้น ละลายน้�าผึง้ พมิ เสนร�าหัดให้กนิ หายวเิ ศษนักแล” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สูตรตำารับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๓๙ ชนดิ รวมน้าำ หนกั ๘๒๕ กรมั ดังนี้ ตวั ยา นาำ้ หนกั ยา คำาไทย ๓๐๐ กรัม กฤษณา ๑๕ กรมั กระลำาพัก ๑๕ กรัม กระดังงา ๑๕ กรัม กำาลังวัวเถลิง ๑๕ กรัม โกฐก้านพรา้ ว ๑๕ กรมั โกฐเชยี ง ๑๕ กรัม โกฐบัว ๑๕ กรัม โกฐพงุ ปลา ๑๕ กรัม โกฐสอเทศ ๑๕ กรมั ขอนดอก ๑๕ กรมั ๑๕ กรมั ขิง ๑๕ กรัม จาำ ปา ๑๕ กรมั ดปี ลี ๑๕ กรมั เถาวลั ย์เปรยี ง ๑๕ กรมั เทียนขาว ๑๕ กรัม เทียนขา้ วเปลอื ก ๑๕ กรัม เทียนดำา ๑๕ กรมั เทียนแดง ๑๕ กรัม เทยี นเยาวพาณี ๑๕ กรัม บวั ขม 5

ตัวยากรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขนา้ำ หนกั ยา ๑๕ กรัม บวั ขาว ๑๕ กรมั บวั แดง ๑๕ กรมั บวั เผ่ือน ๑๕ กรมั บัวหลวง ๑๕ กรมั บุนนาค ๑๕ กรมั ฝางเสน ๑๕ กรัม พริกไทย ๑๕ กรมั มวกขาว ๑๕ กรัม มวกแดง ๑๕ กรัม ยา่ นาง ๑๕ กรมั สมุลแว้ง ๑๕ กรัม สัตบงกช ๑๕ กรัม อบเชย ๗.๕ กรมั กานพลู ๗.๕ กรมั การบูร ๗.๕ กรมั ดอกจนั ทน์ ๗.๕ กรัม ลกู จันทน์ สรรพคุณ บำารุงโลหิต บำารุงรา่ งกาย รปู แบบยา ยาผง (ดภู าคผนวก ๓.๒) ขนาดและวิธีการใช้ กินคร้ังละ ๑.๕-๒ กรัม วนั ละ ๒ ครัง้ ก่อนอาหาร เช้าและเย็น กระสายยาทใ่ี ช้ - ถา้ จะใหช้ กู ำาลัง นำา้ ตาลกรวด พมิ เสน รำาหัดให้กนิ - ถ้าจะแกโ้ ลหติ แก้ลม แกเ้ สน้ ละลายนา้ำ ผ้งึ พิมเสน รำาหดั ให้กนิ ขอ้ หา้ มใช้ หา้ มใชใ้ นหญิงตงั้ ครรภ์ และผทู้ ่ีมีไข้ ขอ้ มลู เพ่ิมเติม - ผงยาต้องมีขนาดทสี่ ามารถผ่านแร่งเบอร ์ ๘๐ ได้ - ในสตู รตาำ รับนีเ้ ดิมมตี วั ยา “เลือดแรด” ซึง่ เปน็ สตั ว์วัตถ ุ แต่ไดต้ ัดออกจากสตู รตำารบั เนือ่ งจาก แรดเป็นสตั วส์ งวนใกลส้ ญู พันธ ์ุ และเปน็ สตั ว์ทอ่ี ยูใ่ น “อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการค้าระหว่างประเทศซึ่ง ชนดิ พันธส์ุ ตั วป์ ่าท่ีใกลส้ ูญพนั ธ ุ์ (CITES)” เอกสารอา้ งอิง ๑. พศิ ณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์เล่ม ๒. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ศภุ การจำารูญ ถนนอษั ฏางค์; ร.ศ. ๑๒๖. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 6

ยากินเมื่อคลอดลกู ท่มี าของตาำ รบั ยา ตาำ รายาเกร็ด (๑, ๒) “ยากนิ เมือ่ คลอดลกู ๏ ยากินคลอดลูกกินไปกวา่ จะออกไฟ ท่านให้เอา ใบทองหลางใบมน ๑ ใบโคนดินสอ ๑ ใบจ�าปา ๑ ใบไผป่ า่ เอาสง่ิ ละ ๑ สลงึ พริกไทย ๑ บาท ขงิ ๑ บาท ดีปลี ๑ บาท ต�าผงละลายนา้� ผึ้ง นา�้ รอ้ นสกุ กไ็ ด”้ สตู รตาำ รับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๗ ชนิด รวมนำ้าหนัก ๖๐ กรัม ดังน้ี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ตวั ยา นำ้าหนักยา ขิง ๑๕ กรัม ๑๕ กรมั ดีปลี ๑๕ กรมั พรกิ ไทย ๓.๗๕ กรมั คนทีสอ (ใบ) ๓.๗๕ กรมั จำาปา ๓.๗๕ กรัม ทองหลางใบมน ๓.๗๕ กรมั ไผป่ า่ สรรพคุณ ขบั น้ำาคาวปลา ชว่ ยใหม้ ดลูกเข้าอู่ รูปแบบยา ยาผง (ดภู าคผนวก ๓.๒) ขนาดและวธิ ีการใช้ กนิ ครั้งละ ๑ ช้อนชา ละลายน้าำ ผงึ้ หรือนำ้าตม้ สุก วันละ ๓ ครั้ง ก่อนอาหาร เชา้ กลางวนั และเย็น กินตดิ ต่อกนั ไมเ่ กนิ ๑ เดือน หลงั คลอด ข้อหา้ มใช้ หา้ มใชใ้ นหญิงตกเลือดหลงั คลอด หญงิ ตั้งครรภ ์ และผ้ทู ีม่ ีไข้ เอกสารอา้ งอิง ๑. “ตาำ รายาเกร็ด”. หอสมุดแหง่ ชาติ. หนงั สือสมดุ ไทยดาำ . อักษรไทย. ภาษาไทย. เลขท่ี ๒๗๓. หมวดตำาราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๒๕ พฤษภาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๔๑ ง, หน้า ๑. 7

ยาแก้ไข้ทับระดหู รอื ระดทู ับไข้ สตู ร ๑ ท่ีมาของตำารบั ยา ศลิ าจารึกตาำ รายาวัดพระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม (วดั โพธ)์ิ (๑) “๏ ปนุ ะจะปะรัง ลา� ดับนี้จะกลา่ วด้วยนยั หนึง่ ใหม่ ว่าด้วยลกั ษณะปรกติโลหิตโทษ อันบังเกดิ แต่ปิตตสมุฏฐาน กล่าวคือดีน้ันเป็นค�ารบ ๒ เม่ือจะบังเกิดน้ันกระท�าให้คล่ัง มักขึ้งโกรธ ให้สวิงสวาย หาแรงมิได้กระทา� ใหต้ ัวรอ้ นเปน็ เปลวหาสมประดมี ิได้ ตอ่ มีระดมู าแล้วจงึ คลาย ฯ ถา้ จะแก้เอา เทยี นด�า, เทยี นเยาวภาณี, จนั ทนท์ ง้ั ๒, อบเชยทงั้ ๒, สงิ่ ละ ๒ ส่วน โกฐทง้ั ๙, บวั น้า� ท้งั ๕ สิ่งละ ๔ ส่วน รากกระพังโหม, เปลอื กสันพรา้ นางแอ, ผลมะตมู ออ่ น สิง่ ละ ๑๖ ส่วน เอาน้�า มะพรา้ วอ่อน ๒ สว่ น นา�้ ทา่ สว่ น ๑ เป็นกระสาย ต้มตามวิธใี ห้กิน แกโ้ ลหิตปรกติโทษ อนั บงั เกิดแตข่ ัว้ ดี กระทา� ใหส้ วงิ สวายน้ันหายวเิ ศษนกั ฯ” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สูตรตาำ รับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๒๓ ชนดิ รวมนา้ำ หนกั ๑๑๖ ส่วน ดงั น้ี ตัวยา นำ้าหนักยา กระพังโหม ๑๖ ส่วน มะตมู (ผลอ่อน) ๑๖ สว่ น สนั พร้านางแอ ๑๖ สว่ น โกฐกระดูก ๔ สว่ น โกฐกา้ นพรา้ ว ๔ ส่วน โกฐเขมา ๔ ส่วน โกฐจฬุ าลัมพา ๔ ส่วน โกฐชฎามงั สี ๔ ส่วน โกฐเชยี ง ๔ ส่วน โกฐพงุ ปลา ๔ สว่ น โกฐสอ ๔ สว่ น โกฐหัวบวั ๔ สว่ น บัวจงกลนี ๔ ส่วน บวั นิลบุ ล ๔ ส่วน บวั ลนิ จง ๔ สว่ น ๔ ส่วน บวั สตั ตบรรณ ๔ ส่วน ๒ ส่วน บัวสัตตบษุ ย ์ ๒ ส่วน จนั ทนข์ าว จนั ทน์แดง 8

ตัวยา น้ำาหนกั ยา เทยี นดาำ ๒ ส่วน เทยี นเยาวพาณี ๒ สว่ น อบเชยเทศ ๒ สว่ น อบเชยไทย ๒ สว่ น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สรรพคุณ แก้ไขท้ บั ระดู ระดูทับไข้ รปู แบบยา ยาต้ม (ดูภาคผนวก ๓.๑.๑) ขนาดและวิธกี ารใช้ กนิ คร้ังละ ๑๐๐-๑๕๐ มิลลลิ ติ ร วนั ละ ๓ ครั้ง ก่อนอาหาร เชา้ กลางวนั และเยน็ ด่ืมขณะยายงั อนุ่ อยู่ ข้อควรระวัง งดของแสลง หา้ มกนิ ของเยน็ ของเผ็ดร้อน ของเปรี้ยว เพราะจะทำาให้ไขก้ ำาเรบิ ข้อมูลเพิม่ เติม ยา ๑ หม้อ ใชต้ ิดต่อกนั ๕-๗ วนั โดยใหอ้ ุ่นนำา้ สมนุ ไพรทกุ คร้งั กอ่ นใชย้ า เอกสารอ้างอิง ๑. ตำารายาศลิ าจารกึ ในวัดพระเชตุพนวิมลมงั คลาราม (วดั โพธ์)ิ พระนคร, พระบาทสมเด็จ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยูห่ ัวทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าให้จารกึ ไว้เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบบั สมบรู ณ์, ๒๕๐๕. 9

ยาแกไ้ ข้ทบั ระดหู รือระดูทบั ไข้ สูตร ๒ ทม่ี าของตาำ รบั ยา ศิลาจารกึ ตำารายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วดั โพธิ)์ (๑) “๏ ปุนะจะปะรัง ล�าดบั นี้จะกลา่ วด้วยนยั หน่ึงใหม่ วา่ ด้วยลักษณะปรกตโิ ลหิตโทษ อนั บังเกดิ แต่ปติ ตสมุฏฐาน กล่าวคอื ดีนนั้ เป็นค�ารบ ๒ เมอื่ จะบังเกิดนนั้ กระทา� ให้คลั่ง มักขงึ้ โกรธ ให้สวิงสวายหาแรง มิได้กระทา� ให้ตัวร้อนเปน็ เปลวหาสมประดีมิได้ ตอ่ มรี ะดมู าแลว้ จึงคลาย ฯ ขนาน ๑ เอา โกฐทัง้ ๙, เทียนทง้ั ๗, จันทนท์ ง้ั ๓, แฝกหอม, ผลกระดอม, บอระเพ็ด, แห้วหม,ู มะตมู อ่อน, ตรผี ลา, จกุ โรหนิ ,ี ผลสรรพพิษ, ลูกจันทน,์ ดอกจันทน,์ กระวาน, กานพลู, อบเชย ทั้ง ๒, ผลมะแวง้ ท้ัง ๒ สิ่งละ ๒ สว่ น ดอกสะเดา ๔ ส่วน ท�าเป็นจณุ บดท�าแทง่ ไวล้ ะลายน้�าดอกไม้ แทรกพิมเสนให้กิน แกพ้ ษิ โลหติ ปรกตโิ ทษอนั บงั เกิดแตข่ ้วั ดีนน้ั หายวเิ ศษนักฯ” สูตรตำารบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๓๘ ชนดิ รวมนา้ำ หนกั ๗๘ ส่วน ดงั นี้ ตัวยา น้ำาหนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สะเดา (ดอก) ๔ สว่ น กระดอม ๒ สว่ น ๒ สว่ น กระวาน ๒ สว่ น ๒ สว่ น กานพลู ๒ ส่วน โกฐกระดูก ๒ ส่วน โกฐกา้ นพรา้ ว ๒ ส่วน โกฐเขมา ๒ ส่วน โกฐจุฬาลัมพา ๒ สว่ น โกฐชฎามังสี ๒ สว่ น โกฐเชยี ง ๒ ส่วน โกฐพงุ ปลา ๒ ส่วน โกฐสอ ๒ ส่วน โกฐหวั บวั ๒ ส่วน จันทนข์ าว ๒ ส่วน จนั ทน์แดง ๒ ส่วน จันทน์เทศ ๒ สว่ น จกุ โรหนิ ี ๒ ส่วน ดอกจันทน์ เทยี นขาว 10

ตัวยา นา้ำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขเทยี นข้าวเปลอื ก๒ สว่ น เทียนดำา ๒ ส่วน เทียนแดง ๒ ส่วน เทียนตาตั๊กแตน ๒ สว่ น เทยี นเยาวพาณี ๒ ส่วน เทียนสตั ตบษุ ย์ ๒ ส่วน บอระเพ็ด ๒ ส่วน แฝกหอม ๒ ส่วน มะขามป้อม ๒ สว่ น มะตมู (ผลอ่อน) ๒ สว่ น มะแว้งเครอื (ผล) ๒ สว่ น มะแว้งต้น (ผล) ๒ สว่ น ลกู จนั ทน์ ๒ สว่ น สมอไทย ๒ ส่วน สมอพเิ ภก ๒ สว่ น ๒ ส่วน สรรพพษิ ๒ ส่วน ๒ ส่วน แหว้ หมู ๒ ส่วน อบเชยเทศ อบเชยไทย สรรพคุณ แก้ไขท้ ับระดู ระดูทบั ไข้ รูปแบบยา ยาเมด็ พิมพ์ ขนาด ๓๐๐ มลิ ลกิ รัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ กินครง้ั ละ ๓-๕ เมด็ วนั ละ ๓ ครัง้ กอ่ นอาหาร เชา้ กลางวนั และเยน็ ข้อควรระวัง งดของแสลง หา้ มกินของเยน็ ของเผด็ รอ้ น ของเปรี้ยว เพราะทาำ ใหไ้ ข้กาำ เรบิ เอกสารอา้ งอิง ๑. ตาำ รายาศลิ าจารึกในวัดพระเชตพุ นวิมลมงั คลาราม (วัดโพธ)์ิ พระนคร, พระบาทสมเดจ็ พระนัง่ เกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ให้จารกึ ไวเ้ มื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบบั สมบรู ณ์, ๒๕๐๕. 11

ยาแกซ้ างเพลิง ชอื่ อื่น ยาแกท้ รางเพลงิ (๓, ๔) ที่มาของตำารบั ยา ๑. ศิลาจารกึ ต�ารายาวัดพระเชตพุ นวิมลมงั คลาราม (วัดโพธิ)์ (๑, ๒) “๏ สิทธิการิยะ จกลา่ วลกั ษณก�าเหนิดทราง ๗ วนั อันบงั เกดิ แก่กมุ ารกมุ ารที ังหลายไวใ้ ห้บทุ คลทังปวงพงึ รู้ดังนี้ ฯ อันว่ากุมารกุมารี ผู้ใดคลอดจากครรภมานดาวันอาทิตย์ ก�าเหนิดทรางเพลิงเปนเจ้าเรือน ทรางกรายเปนทรางจร หละชือ่ อุไทยกาล ลอองชือ่ เปลวไฟฟา้ ลมช่ือประวาตคุณจรประจ�าทรางเพลิงวนั อาทติ ยในอาการ ทรางเพลงิ นน้ั กระทา� ใหป้ ากกมุ ารเปนสา่ เขมา่ ขน้ึ ดว้ ยโทษเสมหะ โลหติ ระคนกนั ใหบ้ งั เกดิ จงึ ใหก้ นิ เข้า กินนา้� กินนมมไิ ด้ เพราะเสมหะโลหิตกล้าเปนกา� ลัง มักใหเ้ สมหะเนา่ ตกเปนมูกเปนเลือดออก มา แลเปนพยาธติ ่างตา่ ง ฯ ถ้าจะแกเ้ อา ว่านกีบแรด ว่านรอ่ นทอง เนียระภษู ี เทียรด�า เทียรแดง ชเอม ทงั สอง ใบมกล่�าเครือ ยาทังนีเ้ อาเสมอภาคย์ ต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้พศิ ใหต้ ัวรอ้ น แลทรางเพลงิ ก็ดี ท�าเมด ก็ไดล้ ลายสรุ ากิน แกต้ กมกู ตกเลอื ด แกท้ รางเพลงิ แลทรางทังปวงหาย ยานด้ี ีนกั แล ฯ” ๒. แพทยศาสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาแก้ทรางเพลงิ ขนานนีท้ ่านให้เอา หว้านกีบแรด ๑ หว้านร่อนทอง ๑ เนระภสู ี ๑ เทียนด�า ๑ เทยี นแดง ๑ ชะเอมท้งั ๒ ใบมะกล�่าเครอื ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กนิ แก้ตัวรอ้ น แก้ตานทรางทง้ั ปวง ถ้าจะบดท�าแท่งไว้ก็ได้ ละลายสุรากินแก้ตกมูกเลือดหายดีนกั ” สูตรตำารบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๘ ชนดิ รวมนา้ำ หนกั ๘ สว่ น ดังน้ี ตัวยา น้าำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ชะเอมเทศ ๑ สว่ น ชะเอมไทย ๑ ส่วน เทยี นดาำ ๑ ส่วน เทยี นแดง ๑ สว่ น เนระพูสี ๑ ส่วน มะกล่ำาเครอื ๑ ส่วน ว่านกบี แรด ๑ สว่ น ๑ สว่ น ว่านร่อนทอง 12

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขสรรพคุณ แก้ตัวร้อน (เนอ่ื งจากซางเพลงิ ) แกต้ านซาง แกถ้ า่ ยเปน็ มกู เลือด รูปแบบยา ยาตม้ (ดภู าคผนวก ๓.๑.๓), ยาเมด็ พมิ พ ์ ขนาด ๑๐๐ มิลลกิ รัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ยาต้ม เดก็ แรกเกดิ -๑ เดือน ดมื่ คร้ังละ ๑ มลิ ลลิ ติ ร อายุ ๑ เดือน-๖ เดือน ด่ืมคร้ังละ ๒ มิลลลิ ิตร อายุ ๖ เดอื น-๑ ขวบ ด่ืมครง้ั ละ ๓ มิลลลิ ติ ร อายุ ๑-๓ ขวบ ดม่ื ครั้งละ ๕ มลิ ลิลติ ร อายุ ๓-๖ ขวบ ดมื่ ครัง้ ละ ๑๕ มิลลิลิตร วันละ ๔ คร้งั กอ่ นอาหาร เช้า กลางวนั เยน็ และกอ่ นนอน ดม่ื ขณะ ยายงั อุ่นอยู่ ยาเมด็ พมิ พ์ เด็ก แรกเกิด-๖ เดือน ละลายนา้ำ ต้มสกุ กินครง้ั ละ ๑ เมด็ อายุ ๖ เดอื น-๑ ขวบ ละลายนำา้ ตม้ สุก กนิ ครงั้ ละ ๒ เม็ด อายุ ๑-๓ ขวบ ละลายนา้ำ ต้มสกุ กนิ ครง้ั ละ ๓ เมด็ อายุ ๓-๖ ขวบ ละลายนำา้ ตม้ สกุ กินครั้งละ ๔ เม็ด วันละ ๒ ครัง้ ก่อนอาหาร เช้าและเยน็ ขอ้ ควรระวงั - ไมค่ วรใช้ในเดก็ ท่ีสงสยั วา่ เปน็ ไข้เลอื ดออก เนอ่ื งจากอาจบดบังอาการของไข้เลือดออก - หากใช้ยาเปน็ เวลาเกนิ ๓ วนั แลว้ อาการไมด่ ขี น้ึ ควรปรึกษาแพทย์ ขอ้ มูลเพิ่มเติม ยา ๑ หม้อ ใช้ติดตอ่ กนั ๕-๗ วนั โดยใหอ้ ุ่นนา้ำ สมนุ ไพรทกุ ครงั้ กอ่ นใชย้ า เอกสารอ้างองิ ๑. สาำ นกั คมุ้ ครองภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. หนงั สอื ชดุ ตาำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ์ ตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยในศลิ าจารกึ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม (วัดโพธิ)์ เลม่ ๒. พิมพ์ครง้ั ท ี่ ๑. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์องคก์ ารสงเคราะห์ ทหารผา่ นศกึ ในพระบรมราชปู ภมั ภ,์ ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๓๑๗ ง. ๓. พิศณุประสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์ศุภการ จาำ รญู ถนนอัษฎางค์; ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาติ (ฉบับท่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 13

ยาแกต้ บั ทรดุ ทมี่ าของตำารับยา ศิลาจารกึ ตาำ รายาวดั พระเชตพุ นวิมลมังคลาราม (วัดโพธ)์ิ (๑, ๒) “หวั เต่า ๓ หัว หัวเตา่ เกียด ลิน้ เสือทง้ั ตน้ ท้ังราก ตาไมไ้ ผ่ปา่ เกสรสารภี เกสรบุนนาค ปูนขาว ๓ หยบิ ตม้ ใหก้ ิน แก้ตบั ยอ้ ยลงมาใหจ้ ับแลชกั ตับใหข้ ึน้ ” สูตรตำารบั ยา ประกอบด้วยตวั ยา ๗ ชนดิ รวมนำ้าหนกั ตวั ยา ๑๖๕ กรมั * ดงั นี้ ตัวยา นำา้ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข เต่าเกยี ด ๓๐ กรัม บนุ นาค ๓๐ กรัม ไผ่ปา่ ๓๐ กรัม ลนิ้ เสอื ๓๐ กรมั สารภี ๓๐ กรมั ปนู ขาว ๑๕ กรัม เตา่ นา ๓ หวั *ไม่รวมนา้� หนัก หวั เตา่ นา ๓ หัว สรรพคุณ แก้ตับทรุด ตบั ยอ้ ย ตับโต รปู แบบยา ยาต้ม (ดภู าคผนวก ๓.๑.๑) ขนาดและวิธีการใช้ เดก็ อาย ุ ๓-๕ เดอื น ด่ืมครั้งละ ๑ ชอ้ นชา (๕ มลิ ลิลิตร) อายุ ๖-๑๒ เดอื น ดมื่ ครั้งละ ๑-๒ ชอ้ นชา (๕-๑๐ มิลลิลิตร) อายุ ๑-๕ ขวบ ด่มื ครั้งละ ๑-๒ ชอ้ นโตะ๊ (๑๕-๓๐ มลิ ลิลติ ร) อายุ ๖-๑๒ ขวบ ดื่มครง้ั ละ ๓-๔ ชอ้ นโต๊ะ (๔๕-๖๐ มิลลลิ ิตร) วนั ละ ๒ ครงั้ ก่อนอาหาร เชา้ และเยน็ ดื่มขณะยายงั อุ่นอยู่ ขอ้ มูลเพ่มิ เตมิ ยา ๑ หมอ้ ใชต้ ิดตอ่ กนั ๕-๗ วนั โดยให้อนุ่ น้าำ สมุนไพรทกุ ครัง้ ก่อนใชย้ า เอกสารอ้างอิง ๑. สำานักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. หนงั สอื ชดุ ตาำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ์ ตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยในศลิ าจารกึ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธ)ิ์ เลม่ ๒. พมิ พ์ครัง้ ท ี่ ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพอ์ งคก์ ารสงเคราะห์ ทหารผา่ นศกึ ในพระบรมราชปู ภมั ภ์, ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๑๗ ง. 14

ยาแก้ตาน ช่ืออื่น ยาตม้ แกต้ านทรางแลตานขโมยผอมเหลืองแลผอมแหง้ (๑-๔) ทีม่ าของตำารบั ยา ๑. เวชศาสตรฉ์ บบั หลวงรชั กาลที่ ๕ เล่ม ๑ (๑, ๒) “ยาตม้ แก้ตานทรางแลตานขโมยผอมเหลืองแลผอมแห้ง ขนานน้ที า่ นให้เอาตานทงั้ หา้ ๑ สมอท้ัง สาม ๑ ขม้ินออ้ ย ๑ ไพล ๑ แหว้ หมู ๑ เปลือกส�าโรง ๑ ผักเสี้ยนผี ๑ หอมแดง ๑ ยาทัง้ น้ีเอาสง่ิ ละ ๑ ตา� ลงึ มกรูด ๓ ลกู มาผา่ ๗ ซกี ผลขีก้ าขาว ๓ ใบ ผลขก้ี าแดง ๓ ใบ สานสม้ ๒ สลงึ ยาด�า ๑ บาท ฝกั ราชพฤกษเปนกระสายตม้ ๓ เอา ๑ กนิ ถ้าจะให้ลงแทรดดีเกลอื กนิ ตามธาตุหนักเบา ดีนกั ไดเ้ ชือ่ แล้ว ๚” ๒. แพทยศาสตรส์ งเคราะห์ เล่ม ๑ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาต้มแก้ตานทรางแลตานขะโมย ผอมเหลืองแลผอมแหง้ ขนานนท้ี ่านใหเ้ อาตาลท้ัง ๕ สมอ ทั้ง ๓ ขม้ินอ้อย ๑ ไพล ๑ แหว้ หมู ๑ เปลอื กสา� โรง ๑ ผกั เส้ียนผี ๑ หอมแดง ๑ ยาท้งั น้ีเอาสิ่งละ ๔ บาท มะกรดู ๓ ผล มาผ่า ๗ ซีก ผลขีก้ าขาว ๓ ใบ ผลขก้ี าแดง ๓ ใบ สานส้ม ๒ สลงึ ยาด�า ๑ บาท ฝักราชพฤกษ์เป็นกระสายต้ม ๓ เอา ๑ ถ้าจะให้ลงแทรกดีเกลือกินตามธาตุหนักเบาดีนักได้เช่ือแล้ว” สูตรตาำ รบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๑๙ ชนิด รวมน้ำาหนกั ๘๗๗.๕ กรัม* ดังน้ี ตัวยา นา้ำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ขม้นิ อ้อย ๖๐ กรมั ตานขโมย ๖๐ กรัม ตานดำา ๖๐ กรมั ตาลโตนด ๖๐ กรัม ตานเสย้ี น ๖๐ กรมั ตานหมอ่ น ๖๐ กรัม ผกั เส้ยี นผี ๖๐ กรัม ไพล ๖๐ กรมั สมอเทศ ๖๐ กรัม สมอไทย ๖๐ กรัม สมอพเิ ภก ๖๐ กรัม สำาโรง ๖๐ กรมั หอมแดง ๖๐ กรมั แห้วหมู ๖๐ กรัม ยาดาำ ๑๕ กรมั 15

ตวั ยา นำา้ หนกั ยา ราชพฤกษ์ ๑๕ กรัม สารส้ม ๗.๕ กรมั ขีก้ าขาว (ผล) ขก้ี าแดง (ผล) ๓ ผล มะกรดู ๓ ผล ๓ ผล (ผา่ เป็น ๗ ซกี ) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข *ไมร่ วมนา�้ หนกั ขี้กาขาว (ผล) ขีก้ าแดง (ผล) และมะกรดู สรรพคณุ แกต้ านซาง ตานขโมย รปู แบบยา ยาตม้ (ดูภาคผนวก ๓.๑.๓) ขนาดและวิธีการใช้ กินคร้งั ละ ๑ ช้อนโตะ๊ (๑๕ มิลลลิ ติ ร) วันละ ๒ ครั้ง ก่อนอาหาร เช้าและเยน็ เน่ืองจากยาน้ีเป็นยาระบาย ถ้ายังไม่ถ่ายให้ผสมดีเกลือกินตามธาตุหนักเบา และกินขณะยายงั อุ่นอยู่ คาำ เตือน ห้ามใช้ในเด็กทีม่ ีอายุตำ่ากวา่ ๖ ขวบ ขอ้ มลู เพิม่ เติม - ยา ๑ หม้อ ใช้ตดิ ตอ่ กนั ๕-๗ วัน โดยใหอ้ ุน่ นำา้ สมนุ ไพรทกุ ครั้งก่อนใชย้ า - การเตรยี มตัวยายาดำากอ่ นนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๒) - การเตรียมตวั ยาสารสม้ ก่อนนาำ ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๒๐) เอกสารอ้างอิง ๑. หอสมดุ แหง่ ชาติ กรมศลิ ปากร. ตำาราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รชั กาลท ่ี ๕ เลม่ ๑. กรงุ เทพฯ: บรษิ ัท อมรินทร ์ พร้ินติง้ แอนดพ์ ับลชิ ช่ิง จาำ กดั (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับที ่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. ๓. พศิ ณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ศภุ การจำา รญู ถนนอัษฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 16

ยาแก้ตานขโมย ชอ่ื อนื่ ยาต้มแก้ตานขโมย (๑-๔) ท่มี าของตาำ รบั ยา ๑. เวชศาสตร์ฉบับหลวงรชั กาลที่ ๕ เลม่ ๑ (๑, ๒) “ยาตม้ แกต้ านขโมย ทา่ นให้เอา รากตาลตโนด ๕ ตา� ลงึ รากตาลมอน ๕ ตา� ลึง เปลือกสน่นุ ๕ ต�าลงึ ขมิ้นออ้ ย ๕ ต�าลงึ สะใคร้ ๕ ต�าลึง ตม้ ๓ เอา ๑ กนิ แก้ทรางแกไ้ ฟธาตแุ กล้ ม แลชูก�าลงั รา� หดั พมิ เสนกิน แลบา� รุงธาตุให้เสมอกันเปนปรกตดิ ีนกั ๚” ๒. แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาตม้ แก้ตานขโมย ท่านให้เอารากตาลโตนด ๕ ตา� ลึง รากตานหมอ่ น ๕ ต�าลงึ เปลอื กสนุ่น ๕ ต�าลงึ ขม้นิ ออ้ ย ๑ ตะไคร้ ๕ ต�าลึง ต้ม ๓ เอา ๑ กนิ แกท้ รางแกไ้ ฟธาตแุ ก้ลมแลชูกา� ลังรา� หดั พิมเสน กนิ แลบ�ารุงธาตุใหเ้ สมอกันเปนปรกติดนี กั ” สตู รตำารับยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๕ ชนิด รวมนำา้ หนัก ๑,๕๐๐ กรัม ดังนี้ ตวั ยา น้ำาหนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ขมนิ้ อ้อย ๓๐๐ กรัม ตะไคร้ ๓๐๐ กรัม ตาลโตนด ๓๐๐ กรมั ตาลหมอ่ น ๓๐๐ กรมั ๓๐๐ กรัม สนนุ่ สรรพคุณ แกต้ านขโมย บำารุงธาต ุ เจรญิ อาหาร รปู แบบยา ยาต้ม ๓ เอา ๑ (ดูภาคผนวก ๓.๑.๓) ขนาดและวธิ กี ารใช้ เด็ก อาย ุ ๑-๖ ขวบ ครงั้ ละ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ (๑๕-๓๐ มิลลิลติ ร) อายุ ๖-๑๒ ขวบ ครง้ั ละ ๓-๔ ชอ้ นโต๊ะ (๔๕-๖๐ มลิ ลิลติ ร) แทรกพมิ เสนเล็กนอ้ ย ด่ืมวนั ละ ๒ ครงั้ เช้าและเย็น กอ่ นอาหาร ดมื่ ขณะยายังอุ่นอยู่ ขอ้ มูลเพิม่ เตมิ ยา ๑ หม้อ ใช้ตดิ ต่อกัน ๕-๗ วัน โดยใหอ้ นุ่ นำา้ สมนุ ไพรทกุ คร้ังก่อนใช้ยา 17

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขเอกสารอ้างองิ ๑. หอสมดุ แห่งชาติ กรมศิลปากร. ตาำ ราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รชั กาลท ี่ ๕ เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: บริษัท อมรินทร ์ พร้นิ ติ้งแอนดพ์ ับลิชชิง่ จำากดั (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ จรบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ี่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. ๓. พศิ ณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พศ์ ุภการ จาำ รญู ถนนอัษฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 18

ยาแก้ตานซาง ช่ืออ่นื ยาแกต้ านทราง (๑, ๒), ยาแกท้ รางฝา้ ย (๓, ๔) ท่มี าของตาำ รบั ยา ๑. ตำาราเวชศาสตรฉ์ บับหลวง รชั กาลท ี่ ๕ เลม่ ๑ (๑, ๒) “ยาแกต้ านทราง ขนานน้ีท่านให้เอาใบนา�้ เตา้ ๑ ขอบชะนางท้ังสอง ๑ ใบตานหม่อน ๑ ใบ ชมุ เหด ๑ ใบระงับ ๑ ใบมลู กาแดง ๑ กทือ ๑ ไพล ๑ หอมแดง ๑ กเทยี ม ๑ พริก ๑ ขิง ๑ ขม้ินออ้ ย ๑ รวมยา ๑๔ สิง่ นี้เอาเสมอภาคท�าเปนจณุ บดทา� แทง่ ไว้กนิ แกต้ านทราง ตกมกู เลือด ถา้ แลเหมนเหนา้ แทรกยาด�าลงกินดีนัก ฯ” ๒. แพทยศาสตรส์ งเคราะห์ เล่ม ๑ พระยาพศิ ณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาแกท้ รางฝา้ ย ขนานน้ีท่านให้เอา ใบน�้าเต้า ๑ ขอบชะนางท้งั สอง ๑ ใบตานหมอ่ น ๑ ใบ ชุมเห็ด ๑ ใบระงับ ๑ ใบข้ีกาแดง ๑ กระทือ ๑ ไพล ๑ หอมแดง ๑ พรกิ ไทย ๑ กระเทยี ม ๑ ขงิ แหง้ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๑๔ ส่ิงนีเ้ อาเสมอภาค ท�าเปนจุณบดปัน้ แทง่ ไว้ กนิ แกท้ รางฝา้ ยแลตาน ทรางท้ังปวง แลแก้ตกมกู ตกเลอื ด ถา้ ให้เหม็นโขงเน่าโขง แซกยาดา� ลงกินหายดนี กั ” สูตรตำารับยา ประกอบด้วยตัวยา ๑๔ ชนดิ รวมน้ำาหนกั ๑๔ สว่ น ดังนี้ ตัวยา นา้ำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กระเทยี ม ๑ สว่ น กะทอื ๑ สว่ น ขมิน้ อ้อย ๑ ส่วน ขอบชะนางขาว ๑ ส่วน ๑ ส่วน ขอบชะนางแดง ๑ ส่วน ๑ สว่ น ขิงแหง้ ๑ สว่ น ขี้กาแดง (ใบ) ๑ สว่ น ชุมเห็ด ๑ สว่ น ตานหมอ่ น ๑ ส่วน น้ำาเต้า ๑ สว่ น พรกิ ไทย ๑ ส่วน ไพล ๑ ส่วน ระงบั หอมแดง 19

สรรพคณุ แก้ซางฝ้าย ตานซาง แกถ้ า่ ยเป็นมูกเลือด รูปแบบยา ยาผง (ดูภาคผนวก ๓.๒) ยาเม็ดพมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลิกรมั (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวิธีการใช้ เด็ก แรกเกดิ -๖ เดือน กินครง้ั ละ ๑ เมด็ อายุ ๖ เดอื น-๑ ขวบ กินคร้งั ละ ๒ เม็ด กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข อายุ ๑-๓ ขวบ กินคร้งั ละ ๓ เมด็ อายุ ๓-๖ ขวบ กินครั้งละ ๔ เมด็ วนั ละ ๒ ครงั้ ก่อนอาหาร เช้าและเยน็ กระสายยาท่ีใช้ แกถ้ ่ายเป็นมูกเลือด มกี ลนิ่ เหม็นเน่า แทรกยาดำา ข้อควรระวงั - ไม่ควรใช้ในเด็กที่สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก เน่ืองจากอาจบดบังอาการของ ไขเ้ ลอื ดออก - หากใช้ยาเปน็ เวลาเกิน ๓ วนั แล้วอาการไม่ดีขึน้ ควรปรึกษาแพทย์ เอกสารอ้างองิ ๑. หอสมุดแห่งชาติ กรมศลิ ปากร. ตำาราเวชศาสตรฉ์ บับหลวง รัชกาลท ่ี ๕ เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: บรษิ ัท อมรินทร ์ พร้ินติ้งแอนด์พบั ลิชชง่ิ จาำ กัด (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกาำ หนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. ๓. พศิ ณุประสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์ เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์ศภุ การ จาำ รญู ถนนอษั ฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 20

ยาแกท้ อ้ งขนึ้ ชือ่ อ่นื ยาประสะการบรู (๑, ๒) ทีม่ าของตำารับยา ตำารายาเกรด็ (๑, ๒) “๏ ประสะการบรู เอา มหาหงิ คุ์ กระเทยี ม ผิวมะกรดู รากเจตพงั คี ตรีกฏุก วา่ นนา้� ไพล ขมิน้ อ้อย เอาเสมอภาค สรุ าเป็นกระสาย บดท�าแทง่ ละลายสุรา ละลายน้�าร้อนก็ได้ น�า้ ส้มซา่ กไ็ ด้ แกต้ กมกู ตก เลอื ดตานซาง ตาลโจร ลมจุกลมเสยี ด ท้องข้นึ ท้องพองหายแล ๚” สตู รตาำ รบั ยา ประกอบด้วยตวั ยา ๑๐ ชนิด รวมนาำ้ หนัก ๑๐ สว่ น ดงั นี้ ตวั ยา นา้ำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กระเทยี ม ๑ สว่ น ขมนิ้ ออ้ ย ๑ สว่ น ขงิ ๑ สว่ น ๑ สว่ น เจตพังคี ๑ ส่วน ดีปลี ๑ ส่วน พรกิ ไทย ๑ ส่วน ไพล ๑ ส่วน มหาหิงค์ุ ๑ ส่วน มะกรดู ๑ ส่วน ว่านน้ำา สรรพคณุ แก้ตกมูกตกเลือด ตานซาง ตานโจร ลมจกุ ลมเสียด ทอ้ งข้ึน ทอ้ งพอง รปู แบบยา ยาเมด็ พิมพ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลิกรมั (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวิธีการใช้ ยากิน เดก็ อายุ ๑-๖ เดือน กินครั้งละ ๑-๒ เมด็ อายุ ๖ เดอื น-๑ ขวบ กนิ ครัง้ ละ ๓-๔ เม็ด อายุ ๑-๓ ขวบ กนิ ครั้งละ ๕-๖ เมด็ อายุ ๓-๖ ขวบ กินครัง้ ละ ๗-๑๐ เม็ด อายุ ๖-๑๒ ขวบ กนิ ครงั้ ละ ๑๐-๑๕ เม็ด ละลายน้ำาร้อนหรือน้ำาส้มซ่า กินวันละ ๓ คร้ัง ก่อนอาหาร เช้า กลางวนั และเยน็ ด่มื ขณะยายงั อนุ่ อยู่ ยาทา ละลายสุราแลว้ ทาบาง ๆ รอบสะดอื เดก็ 21

ขอ้ หา้ มใช้ ห้ามใช้ในเด็กท่มี ีไขส้ งู และทอ้ งเสยี อย่างรุนแรง ข้อควรระวัง - หา้ มทาบรเิ วณสะดือ บริเวณผิวหนังทมี่ บี าดแผล หรือแผลเปิด - กินไม่เกิน ๓-๕ วนั ถ้าไม่ดีข้ึนควรพบแพทย์ ข้อมูลเพม่ิ เติม - ยานใี้ ช้สุราเป็นกระสาย ควรใช้วิธีพอกท้องหรือน่งึ ประคบทอ้ งเดก็ - การเตรยี มตวั ยามหาหงิ คก์ุ ่อนนาำ ไปใช ้ (ดูภาคผนวก ๒.๙) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขเอกสารอ้างองิ ๑. “ตาำ รายาเกร็ด”. หอสมดุ แหง่ ชาติ. หนังสอื สมดุ ไทยดาำ . อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขที่ ๒๓๘. หมวดตาำ ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติและตำารบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับที ่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙, (๒๕๖๐, ๒๔ พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๓๙ ง, หนา้ ๒. 22

ยาแกท้ อ้ งเสยี ในเด็กออ่ น ช่อื อ่ืน ยาแกก้ มุ ารอ่อนลงทอ้ งหนัก, ยาแก้กุมารออ่ นลงทอ้ งนัก ท่มี าของตาำ รบั ยา ๑. เวชศาสตรฉ์ บบั หลวงรชั กาลท่ี ๕ เลม่ ๑ (๑, ๒) “ยาแก้กุมารอ่อนลงท้องหนกั ขนานน้ี ทา่ นให้เอาผลมตมู ออ่ น ผลทับทมิ ดีปลี รากหนาด ขงิ สด รวมยา ๕ ส่ิงน้ีเอาเสมอภาคบดละลายน�้าผ้งึ กินหายดนี ัก ๚” ๒. แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพศิ ณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาแก้กุมารออ่ นลงท้องนักขนานน้ี ท่านใหเ้ อาลกู มะตูมออ่ น ๑ ลูกทับทมิ ๑ ดีปลี ๑ รากหนาด ๑ ขงิ สด ๑ รวมยา ๕ ส่ิงน้เี อาส่วนเท่ากนั บดละลายนา้� ผึ้งกนิ หายดีนัก” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สูตรตาำ รบั ยา ประกอบด้วยตวั ยา ๕ ชนิด รวมน้าำ หนกั ๕ ส่วน ดงั น้ี ตวั ยา นาำ้ หนกั ยา ขงิ ๑ สว่ น ๑ สว่ น ดีปลี ๑ สว่ น ทับทิม (ผล) ๑ สว่ น มะตมู (ผลอ่อน) ๑ ส่วน หนาด (ราก) สรรพคณุ แก้ทอ้ งเสีย สำาหรับเดก็ ออ่ น รปู แบบยา ยาเม็ดพมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลิกรมั (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ เด็ก อายุ ๑-๓ เดอื น กนิ คร้งั ละ ๑-๒ เม็ด อายุ ๓-๖ เดือน กินครั้งละ ๒-๓ เมด็ อายุ ๖-๑๒ เดอื น กินครั้งละ ๓-๔ เม็ด ละลายน้ำาผง้ึ กนิ วนั ละ ๒ ครั้ง กอ่ นอาหาร เชา้ และเย็น ขอ้ ห้ามใช้ หา้ มใชใ้ นผทู้ ี่มไี ข้ เอกสารอา้ งองิ ๑. หอสมุดแหง่ ชาติ กรมศิลปากร. ตำาราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รชั กาลท ี่ ๕ เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั อมรินทร ์ พร้ินติ้งแอนดพ์ ับลชิ ชง่ิ จำากัด (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกาำ หนดตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับที ่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. ๓. พิศณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์ เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์ศภุ การ จาำ รูญถนนอัษฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 23

ยาแก้ปวดท้องผสมคนทีสอ ช่ืออน่ื ยาแกป้ วดท้อง แลใหอ้ ุจจาระเสียเร้ือรังมา แลปัสสาวะหยดยอ้ ย ที่มาของตำารับยา แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพิศณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๑, ๒) “ยาแก้ปวดท้อง แลให้อุจจาระเสียเร้ือรังมา แลปัสสาวะหยดย้อย ท่านให้เอา ใบคนทีสอ ๔ บาท ใบกระเพรา ๑ บาท ใบตานหมอ่ น ๑ บาท ขมน้ิ ออ้ ย ๑ สลึง ใบสะเดา ๑ เฟอ้ื ง กระเทยี ม ๒ สลึง กระชาย ๒ สลึง พริกไทย ๒ สลึง หอมแดง ๒ สลึง ผลจันทน์ ๑ เฟื้อง ดีปลี ๑ เฟือ้ ง ยาทง้ั นี้ ท�าเปนจุณ บดดว้ ยหยดั สุรากนิ ตามกา� ลังดีนัก” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สตู รตำารับยา ประกอบด้วยตัวยา ๑๑ ชนิด รวมนำา้ หนกั ๑๒๙.๓๗๕ กรมั ดังน้ี ตวั ยา นา้ำ หนกั ยา คนทสี อ (ใบ) ๖๐ กรมั กะเพรา ๑๕ กรัม ตานหม่อน ๑๕ กรัม กระชาย ๗.๕ กรัม กระเทยี ม ๗.๕ กรมั พริกไทย ๗.๕ กรมั หอมแดง ๗.๕ กรมั ขมน้ิ ออ้ ย ๓.๗.๕ กรัม ดีปลี ๑.๘๗๕ กรัม ลกู จนั ทน์ ๑.๘๗๕ กรมั สะเดา (ใบ) ๑.๘๗๕ กรมั สรรพคุณ แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสียเรอ้ื รัง รปู แบบยา ยาเม็ดพิมพ์ ขนาด ๑๐๐ มิลลกิ รัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวิธกี ารใช้ เดก็ อายุ ๑-๓ เดอื น คร้ังละ ๑-๒ เมด็ อายุ ๓-๖ เดอื น ครัง้ ละ ๒-๓ เมด็ อายุ ๖-๑๒ เดือน ครง้ั ละ ๓-๔ เมด็ อายุ ๑-๖ ขวบ คร้งั ละ ๕-๑๐ เมด็ อายุ ๖-๑๒ ขวบ ครงั้ ละ ๑๐-๑๕ เมด็ หยดนาำ้ สุรา ๑-๒ หยด เพิ่มลดไดต้ ามสว่ น กินวันละ ๑ ครงั้ ก่อนอาหารเยน็ ข้อห้ามใช้ หา้ มใช้ในผู้ทมี่ ไี ข้ ตวั ร้อน ทอ้ งผูก เอกสารอ้างอิง ๑. พศิ ณุประสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พศ์ ภุ การ จาำ รูญถนนอษั ฏางค์; ร.ศ. ๑๒๘. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 24

ยาแกร้ ะดขู ัด ทมี่ าของตำารับยา ตำารายาเกรด็ (๑, ๒) “ยาแกร้ ะดขู ัด ท่านใหเ้ อาฝกั สม้ ป่อย ๒ สลงึ ลูกผกั กาด ๒ สลึง เทียนดา� ๒ สลงึ รากสม้ กงุ้ ๒ สลึง หางไหลแดง ๒ สลึง ยาด�า ๑ บาท ใบสมอทะเลเท่ายาท้ังหลาย ต้มกนิ ถ้าจะใหล้ ง แทรกดีเกลอื แล้วกินไปอยา่ ใสด่ เี กลอื เลย โลหติ งามดนี กั แลฯ” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สูตรตาำ รับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๗ ชนิด รวมนา้ำ หนกั ๑๐๕ กรัม ดงั น้ี ตวั ยา นาำ้ หนักยา สมอทะเล (ใบ) ๕๒.๕ กรัม ยาดาำ ๑๕ กรัม เทียนดำา ๗.๕ กรัม เมล็ดพรรณผกั กาด ๗.๕ กรมั สม้ กงุ้ ๗.๕ กรัม สม้ ปอ่ ย (ฝกั ) ๗.๕ กรัม หางไหลแดง ๗.๕ กรัม สรรพคุณ แก้ระดูขัด รูปแบบยา ยาต้ม (ดภู าคผนวก ๓.๑.๓) ขนาดและวิธีการใช้ กนิ ครง้ั ละ ๑๐๐ มลิ ลลิ ติ ร วันละ ๒ คร้ัง ก่อนอาหาร เช้าและเย็น ด่ืมขณะ ยายงั อุน่ อยู่ ใหด้ มื่ จนกวา่ ประจำาเดือนจะมา แตไ่ ม่ควรดืม่ ติดต่อกนั เกิน ๑ เดือน ขอ้ หา้ มใช้ - หา้ มใช้ในหญงิ ตกเลือดหลงั คลอด หญิงตั้งครรภ ์ และผมู้ ไี ข้ - หา้ มใช้ในหญงิ ทีก่ ำาลังมีระด ู เพราะจะทำาใหม้ ีการขับระดอู อกมามากขน้ึ ข้อมลู เพ่ิมเตมิ - ยา ๑ หม้อ ใช้ติดต่อกัน ๕-๗ วัน โดยใหอ้ นุ่ นา้ำ สมนุ ไพรทุกครงั้ - การเตรียมตัวยา ยาดาำ กอ่ นนำาไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๒) - การเตรียมตวั ยาสมอทะเล (ใบ) ก่อนนาำ ไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๕) - ตำารับยาน้ีควรใช้ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์แผนไทย เนื่องจาก ต้องมีการติดตามผลการใช้และการรักษาอย่างต่อเน่ืองเพราะตำารับยามีฤทธิ์เป็นยาถ่าย ดังนั้น เมื่อกินยา ในวนั แรกถา้ มอี าการถ่ายมาก ให้ลดปรมิ าณยาท่ีกนิ ตอ่ มอ้ื ไมต่ ้องแทรกดีเกลอื แตห่ ากกินแล้วยังไม่มกี าร ขับถ่ายออกมา จึงค่อยแทรกดเี กลือในยาหมอ้ ต่อ ๆ ไป เอกสารอา้ งอิง ๑. “ตำารายาเกรด็ ”. หอสมุดแห่งชาติ. หนงั สือสมดุ ไทยดำา. อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขท่ี ๒๑๘. หมวดตาำ ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙, (๒๕๖๐, ๒๔ พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๓๙ ง, หนา้ ๑. 25

ยาแก้ลมปะกัง ท่ีมาของตำารบั ยา เวชศาสตรฉ์ บับหลวงรชั กาลท่ ี ๕ เลม่ ๓ หนา้ ๓๗ (๑, ๒) “…ยาแก้ลมปะกัง เอาพริกไทย ๒ สลงึ ฃงิ สด ๑ บาท ผวิ มะกรูดสด ๑ บาท ๒ สลึง หญา้ แพรก ๓ บาท สารสม้ ๒ ตา� ลงึ ต�าพอกแก้ลมปะกัง แก้ลมเขา้ ข้อหายแล๚ะ๛ …” สตู รตาำ รับ ประกอบด้วย ตัวยา ๕ ชนิด รวมนำ้าหนกั ๑๙๕ กรมั ดังน ี้ ตัวยา น้ำาหนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สารสม้ ๑๒๐ กรัม หญา้ แพรก ๔๕ กรัม มะกรูด ๒๒.๕ กรัม ขิง ๑๕ กรัม ๗.๕ กรมั พริกไทย รปู แบบยา ยาพอก (ดภู าคผนวก ๓.๗) วธิ ปี รงุ ยา โขลกให้ละเอียด สรรพคุณ แกล้ มปะกงั แกล้ มเขา้ ขอ้ ขนาดและวิธีการใช้ พอกศรี ษะหรือข้อต่อทมี่ อี าการปวด ครั้งละ ๑๐-๑๕ นาท ี เมือ่ มีอาการ คำาเตือน เปน็ ยาใชภ้ ายนอกหา้ มกิน ข้อควรระวัง ระวงั อยา่ ใหเ้ ข้าตา ขอ้ หา้ มใช้ ห้ามพอกบริเวณที่มบี าดแผล ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ การเตรยี มตัวยาสารส้มก่อนนาำ ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๒๐) เอกสารอา้ งองิ ๑. หอสมุดแห่งชาติ กรมศลิ ปากร. ตำาราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รชั กาลที ่ ๕ เลม่ ๓. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท อมรนิ ทร ์ พริน้ ต้ิงแอนด์พับลิชช่งิ จำากัด (มหาชน), ๒๕๕๕. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทย์แผนไทยของชาตแิ ละตาำ รับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ที ่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. 26

ยาแก้ลมปตั ฆาต ทม่ี าของตาำ รบั ยา คัมภรี ์ธาตพุ ระนารายน์ “ขนานหนงึ่ ใหเ้ อาสหสั คณุ เทศ สหสั คณุ ไทย รากเปลา้ นอ้ ย รากเปลา้ ใหญ่ รากเจตมลู เพลงิ สลดั ได ฝานตากแห้ง ตรีกฏุก เทียนด�า ส่ิงละส่วน เอารากตองแตกใบแฉก ๓ ส่วนท�าเปนจุณละลายน้�าผ้ึง น้า� สม้ ส้า น้�ามะนาว ก็ได้กนิ แกล้ มปัตฆาฏลมราทยักษ์ ลมชอ่ื มหาสดมภ์ ครอบลมท้ังปวงหายสน้ิ แลเอาแต่ สหัสคณุ เปลา้ ทัง้ ๒ รากตองแตกน้นั ประสะเสยี กอ่ นจึงจะไม่คล่นื เหยี น” สตู รตำารับ ประกอบดว้ ยตวั ยา ๑๑ ชนดิ รวมนา้ำ หนกั ๑๓ สว่ น ดงั น้ี ตวั ยา นา้ำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ตองแตก ๓ สว่ น ๑ สว่ น ขิง ๑ ส่วน ๑ สว่ น เจตมูลเพลิงแดง ๑ ส่วน ดีปลี ๑ ส่วน เทยี นดำา ๑ สว่ น เปลา้ นอ้ ย ๑ ส่วน เปล้าใหญ่ ๑ ส่วน พรกิ ไทย ๑ ส่วน สลัดได (ตน้ ) หสั คุณเทศ สรรพคณุ แก้ลมปัตฆาฏ ลมราทยกั ษ์ ลมมหาสดมภ์ รปู แบบยา ยาผง (ดูภาคผนวก ๓.๒) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ละลายนำ้าผึ้ง หรือนำ้าส้มซ่า หรือน้ำามะนาว กินคร้ังละ ๒๕๐-๕๐๐ มิลลิกรัม วนั ละ ๒ ครัง้ กอ่ นอาหาร เชา้ และเยน็ ขอ้ หา้ มใช้ ห้ามใช้ยานใี้ นหญิงตงั้ ครรภ์ และผ้ทู ่มี ีไข้ ข้อควรระวงั - ไมค่ วรกินตดิ ต่อกันเกิน ๕ วนั - ในกรณีทผ่ี ูป้ ่วยมีความดนั โลหิตสงู ควรระมัดระวังใช้ยานร้ี ว่ มกบั ยาลดความดันโลหติ ข้อมลู เพ่ิมเตมิ - การเตรียมตวั ยาสลัดได (ตน้ ) กอ่ นนำาไปใช ้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๗.๓) - การเตรียมตัวยาตองแตกก่อนนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๓) - การเตรยี มตวั ยาเปลา้ นอ้ ยก่อนนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๖) - การเตรียมตัวยาเปลา้ ใหญก่ ่อนนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๗) 27

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข - การเตรยี มตวั ยาหสั คุณเทศกอ่ นนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๒๒) - การเตรียมตวั ยาหสั คุณไทยก่อนนาำ ไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๒๓) เอกสารอ้างอิง ๑. “กำาภีธาตุพรณะราย”. หอสมุดแห่งชาติ. คัมภีร์ใบลาน ๑ ผูก. อักษรไทย. ภาษาไทย. เส้นจาร. ฉบบั ลานดบิ . เลขที่ ๑๑๔๓. หมวดเวชศาสตร.์ ๒. ประกาศกาำ หนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. 28

ยาแก้ลมวาระยกั ขะวาโย ที่มาของตาำ รบั ยา ศิลาจารึกวัดพระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม (วัดโพธ)ิ์ (๑, ๒) “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวลักษณะก�าเนิดแห่งลมอันช่ือว่า วาระยักขวาโย เป็นค�ารบ ๓ น้ัน เกดิ แต่กอง อชณิ วาต มกั กระท�าให้อยากคาวหวานแลเนือ้ ปลา ปู หอย ครนั้ บรโิ ภคเข้าไปท�าใหเ้ สยี ดชาย โครงทั้งสองข้างแลให้จุกอก แล้วแล่นลงมาจับเอาองคชาตกระท�าให้ตีนมือตายแลหิวโหยหาแรงมิได้ ลมจ�าพวกนีถ้ า้ บงั เกิดข้นึ แก่บคุ คลผู้ใดถึงปีหน่งึ จะใหม้ อื ท้งั สองนัน้ เสีย ดังกล่าวมานี้ ฯ ขนานหนงึ่ เอาโกฐทัง้ ห้า เทียนท้งั หา้ ลูกจนั ทน์ ดอกจนั ทน์ กานพลู ผักแพวแดง สิง่ ละส่วน ดองดงึ น�้าประสานทอง กัญชา การบูร รากจงิ จ้อ มหาหิงค์ุ สง่ิ ละ ๒ ส่วน พรกิ ไทย ขิงแห้ง ดีปลี รากส้มกุ้งทั้งสอง สงิ่ ละ ๑๐ ส่วน กระเทยี ม ผวิ มะกรูด เทพทาโร เปล้านอ้ ย ส่ิงละ ๑๒ ส่วน สมอพิเภก ๑๖ สว่ น มะขามปอ้ ม ๓๒สว่ น สมอไทย ๔๘ ส่วน ท�าเปน็ จณุ บดละลายน้�ากระสายอนั ควรแก่โรคกนิ หนัก ๑ สลึง แกล้ มวาระยกั ขวาโย อันบังเกิดแตก่ องอชริ ณะนน้ั หายวิเศษนกั ฯ” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สูตรตำารับยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๓๒ ชนดิ รวมนำา้ หนกั ๒๒๐ ส่วน ดงั น ี้ ตัวยา นำ้าหนักยา สมอไทย ๔๘ สว่ น 29 มะขามป้อม ๓๒ ส่วน สมอพิเภก ๑๖ สว่ น กระเทยี ม ๑๒ ส่วน เทพทาโร ๑๒ ส่วน เปลา้ น้อย ๑๒ ส่วน มะกรูด ๑๒ สว่ น ขิงแหง้ ๑๐ ส่วน ดีปลี ๑๐ ส่วน พรกิ ไทย ๑๐ ส่วน สม้ กุ้งน้อย ๑๐ สว่ น ส้มกุง้ ใหญ่ ๑๐ สว่ น กัญชา ๒ ส่วน การบูร ๒ สว่ น จงิ จอ้ ๒ สว่ น ดองดึง ๒ สว่ น น้าำ ประสานทอง ๒ สว่ น มหาหงิ ค์ุ ๒ ส่วน กานพลู ๑ ส่วน โกฐเขมา ๑ ส่วน โกฐจฬุ าลมั พา ๑ ส่วน

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขตัวยานา้ำ หนกั ยา โกฐเชยี ง ๑ สว่ น โกฐสอ ๑ ส่วน โกฐหัวบวั ๑ สว่ น ดอกจันทน์ ๑ สว่ น เทยี นขาว ๑ ส่วน เทียนข้าวเปลือก ๑ ส่วน เทียนดำา ๑ ส่วน เทียนแดง ๑ ส่วน เทยี นตาตกั๊ แตน ๑ ส่วน ผักแพวแดง ๑ สว่ น ลกู จนั ทน์ ๑ สว่ น สรรพคุณ แก้ลมอันทำาให้เกิดอาการจุกเสียดชายโครงและจุกอก เนื่องจากกินอาหาร แสลงโรคหรือแสลงธาตุลม รูปแบบยา ยาผง (ดูภาคผนวก ๓.๒) ขนาดและวิธกี ารใช้ ละลายนาำ้ ร้อน กินครงั้ ละ ๑ ช้อนชา วนั ละ ๓ ครัง้ กอ่ นอาหาร เชา้ กลางวนั และเย็น หรือเมื่อมอี าการ ข้อมลู เพ่ิมเติม - ตำารับยานี้มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ การใช้ยาตำารับน้ีต้องอยู่ ภายใตก้ ารควบคุมและการกบั ดูแลจากผู้ประกอบวชิ าชพี แพทย์แผนไทยเทา่ นน้ั - การเตรียมตวั ยามหาหิงคก์ุ อ่ นนำาไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๙) เอกสารอา้ งองิ ๑. สาำ นกั คมุ้ ครองภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. หนงั สอื ชดุ ตาำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ์ ตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยในศลิ าจารกึ วัดพระเชตุพนวิมลมงั คลาราม (วัดโพธ์)ิ เลม่ ๓. พิมพ์ครง้ั ที่ ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผา่ นศึกในพระบรมราชูปภมั ภ,์ ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๓๑๗ ง. 30