ข้าพเจ้า ..................................................................................... ...................................................................................... ขอมอบหนงั สือ “ธันยาวาท หิมาลประเทศ” เป็นธรรมบรรณาการแด่ ..................................................................................... ...................................................................................... ขอความเป็นอุดมมงคลอนั สูงสุดท้งั ทางโลกและทางธรรม จงบงั เกดิ มีแก่ข้าพเจา้ และครอบครวั ตลอดไป
ISBN: 978-974-7514-78-0 พิมพ์คร้งั ท่ี 1 กันยายน 2554 จำนวนพมิ พ ์ 5,000 เลม่ บรรณาธกิ าร พระมหาวเิ ชยี ร ชินวโํ ส พิสูจน์อกั ษร พรทิพย์ นวลศิริ ออกแบบ-รปู เลม่ ปอนด-์ หวาน เร่อื ง-ภาพ เอกจาริณี เจา้ ของ กองทนุ จิตภาวนาชินวงส์ วัดวงั หนิ ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พษิ ณุโลก Website www.chinawangso.net Email [email protected] พิมพท์ ่ี โฟกัสมาสเตอร์พรน้ิ ต์ 1/20 ถ.บรมไตรโลกนาถ อ.เมือง จ.พษิ ณุโลก โทร. 055-225-037 หรือ วญิ ญู จิตตเสถยี ร 08-1674-2377 วิธใี ช้ กรุณาอ่านหนังสือเลม่ นี้โดยหมน่ั ‘รสู้ ึกตวั ’ อย่เู นืองๆ หากทา่ นใด คณะใด มีความประสงค์จะพมิ พ์หนังสือเลม่ นี้เพื่อเผยแพรเ่ ปน็ ธรรมบรรณาการ โดยไม่เรียกร้องคา่ ตอบแทน สามารถกระทำได้โดยไมต่ ้องขออนญุ าตผเู้ ขยี น และโปรดตดิ ต่อทโี่ รงพิมพโ์ ดยตรง ขอสงวนสทิ ธิ์ ในการพมิ พ์ซำ้ คัดลอก ดดั แปลงฯ เพอ่ื การจำหนา่ ย ขอบุญบารมี กศุ ลความดีทัง้ ปวง และความเป็นอุดมมงคลสูงสุดท้งั ทางโลกและทางธรรม จงบงั เกดิ มีแกผ่ ู้บริจาคทรพั ย์ และผู้มีส่วนรว่ มในการจดั พิมพ์หนังสือ “ธนั ยาวาท หิมาลประเทศ” รวมท้ังผูท้ ี่กำลังเดนิ ทางไปสูค่ วามพน้ ทุกขท์ กุ ท่าน ขอเชิญศกึ ษาการเจริญสตเิ บอ้ื งตน้ ได้ที่ www.chinawangso.net Dhammaintrend รว่ มเผยแพรแ่ ละแบง่ ปันเป็ นธรรมทาน
ด้วยเจตนาอันตั้งม่ัน ในการสบื สานพระศาสนา ผ่านนำ้ หมกึ และการปฏิบัติภาวนา เพ่ือสักการะบชู าพระรัตนตรยั ขา้ พเจ้าขอบุญกุศลและอานสิ งสน์ ้ี จงผนั เปน็ พรอันประเสริฐ ถวายแดอ่ งคพ์ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวฯ ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ทง้ั ขออทุ ศิ ผลบุญในการจัดทำหนงั สอื เล่มนแี้ ด.่ .. บิดามารดา ครอู าจารย์ ญาติมิตร ผู้มพี ระคุณ รวมทงั้ เพอื่ นร่วมสังสารวฏั ทกุ ผ้ทู ุกนาม และกราบขออภยั ต่อความผิดพลาดหรอื การลว่ งเกนิ ใดใด อันอาจเกิดขน้ึ จากเน้ือหาของหนังสอื เล่มน้ี -เอกจารณิ -ี
คำชน่ื ชม ในบรรดาการรจนาเขียนขีด ชนิดบีบน้ำหมึกให้ซึมซับสู่แผ่นกระดาษ เพื่อนำพาผู้อ่านสู่การลิ้มชิมรสสระพยัญชนะธรรมชาติ ผ่านอักษรที่ปรุงรสโดย การกลน่ั กรองจากสมองและหวั ใจของผรู้ จนานน้ั โลกแหง่ สวนหนงั สอื มหี ลากหลาย ทั้งรูปเล่ม สำนวน และสาระของหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผู้อ่านวางไม่ลง แสดงถึงความเข้าถึง “แบบถึงพริกถึงขิง” ของผู้เขียน จึงมีรสเนียนๆออกมาแบบ ถูกลิ้นชินตาต้องใจ ของนักอา่ นประเภทหนอนหนังสอื “ธันยาวาท...หมิ าลประเทศ” เป็นอีกหน่งึ ของหนงั สอื แรกแยม้ จากหยด น้ำหมึกแห่งเจ้าของนามปากกา ‘เอกจาริณี’ ผู้ซึ่งให้ความสนใจกับเรื่องอินเดีย- เนปาล ชนิดมีกลิ่นไอแขกปนเปื้อนในอารมณ์มานาน ถึงกับแบกเป้ หิ้วถุงตุงนัง นั่งรถไฟ เบียดรถประจำทาง ขึ้นรถม้า ขี่หลังลา ถือไม้เท้าค้ำยัน ปีนป่ายหิมาลัย เปน็ อกี สายพนั ธใ์ุ หมข่ องนกั เดนิ ทาง คอื เทย่ี วไปดว้ ย ไหวพ้ ระสวดมนต์ พกั ตามวดั ตามวา ได้สนทนาธรรม หาเรื่องขีดเขียนผสมผสานให้หนังสือบันทึกการเดินทาง มสี าระแบบโลกไม่ช้ำ ธรรมไมข่ นุ่ “ขอบพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณ ที่ให้การบ้านเป็นการเขียนหนังสือเชิง ธรรมะ ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ดิฉันได้มีโอกาสศึกษาธรรมมากขึ้น” นี้คือ ถ้อยกระทงความนิดหนึ่ง ให้เห็นที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนี้ ว่าเป็นการเดินทาง ทอ่ งเทย่ี วทอ่ งธรรม... (ทอ่ งหนงั สอื )เทย่ี วไปในแดนธรรมะ...ทอ่ งไปในโลกภารตะ... เทย่ี วทอ่ ง...ลองอา่ นดูกจ็ ะรู้เอง... V
ขอให้คำชื่นชมเป็นกำลังใจ ในการศึกษาและปฏิบัติธรรมเพิ่มยิ่งๆขึ้น อย่าถดถอย อ่านต้นฉบับแล้วได้เห็นความพยายามแบบสุดๆ ไหว้พระได้ครบ ปีนปา่ ยหมิ าลยั สมใจ และถูกใจ สะใจ ได้ทำใจ...ขณะเดนิ ทาง คำต่อคำ บรรทัดต่อบรรทัด รักษารสชาติที่จัดจ้าน ตามแบบฉบับแขก ขบให้แตก เคี้ยวให้ละเอียด ก็จะได้สาระ มีจินตนาการไว้ให้ขบคิด มีความเสื่อม ไว้ใหเ้ วน้ มคี วามเจรญิ ไวใ้ ห้เดนิ ตาม ขอความเจรญิ ในธรรมจงมแี ดเ่ ธอผเู้ ขยี นและผอู้ า่ นดว้ ยกนั ทกุ เมอ่ื เทอญฯ พระราชรัตนรงั ษี เจา้ อาวาสวดั ไทยพุทธคยา หัวหนา้ พระธรรมทตู สายประเทศอนิ เดยี -เนปาล กองงานเลขานุการ โทร.(+๙๑) ๙๙๗-๓๖๓-๓๘๓๓, (+๙๑) ๙๐๐-๕๐๐-๗๐๖๔ VI
คำพร ต้องขอแสดงความยนิ ดแี ละชืน่ ชมในวริ ิยะอตุ สาหะผลติ งานเขยี นออกมาเป็น รปู เลม่ ได้ แมจ้ ะใชร้ ะยะเวลาถงึ สองปกี ต็ าม ซง่ึ ถอื วา่ ใชเ้ วลาไมน่ านมากนกั เปน็ การ ยงั ความจรงิ แหง่ พระพทุ ธพจนท์ ว่ี า่ “ความพยายามอยทู่ ไ่ี หน...ความสำเรจ็ อยทู่ น่ี น่ั ” ใหป้ รากฏ นบั เปน็ การปฏบิ ตั ธิ รรมตามคำสอนขององคพ์ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ โดยแท.้ .. ‘ไมม่ ีความล้มเหลวในหมขู่ องผู้ทม่ี ีความพยายาม...’ ในกาลขา้ งหนา้ หนงั สอื เลม่ นจ้ี กั เปน็ แผนทศ่ี รทั ธาแหง่ สาธชุ น เพอ่ื การศกึ ษา รโู้ ลก...(คอื อินเดยี )...เพ่อื รู้ตนโดยแท.้ .. ขอแสดงความชื่นชมและอนุโมทนาในกุศลศรัทธา สำหรับการบรรจงเขียน หนังสือเล่มนี้จนสำเร็จได้อย่างงดงาม และขออำนวยพรให้ความปรารถนาใดๆ ที่ ต้ังใจมน่ั ไวแ้ ล้วน้นั จงสำเรจ็ โดยพลัน ดว้ ยเดชแหง่ บญุ น้ที กุ ประการเทอญฯ พระครปู รยิ ัติโพธิวิเทศ (คมสรณ์ คตุ ฺตธมฺโม) Ph.D. เจา้ อาวาสวดั ไทยเชตวันมหาวิหาร - อนิ เดยี VII
คำยยุ งสง่ เสรมิ เขียนไปเถอะเขยี นความดใี ห้ชวี ิต เรง่ ลขิ ติ เขียนขวญั ไว้ฟนั ฝ่า เขียนชวี ิตแมแ้ สนเศร้าเคลา้ มายา เขียนจนกวา่ ขวัญแกร่งเสริมแรงใจ เขียนก้อนกรวด เปน็ กลีบกหุ ลาบสวย รำ่ ระรวย หวั ใจ ให้เฉดิ ฉาย เขยี นนำ้ ตา เป็นนำ้ หอม พร้อมพรมกาย ใหว้ ิไลเลอค่ากว่าขวัญเดิม เขียนชีวิตด้วยชวี าฝ่าความทกุ ข์ เขยี นเพื่อปลุกขวญั ใจใหฮ้ ึกเหมิ เขยี นเพ่อื เตอื นตนไว้ไม่เหมิ เกรมิ เขียนเพอ่ื เสริมขวัญธรรมให้กำจายฯ พระมหาวเิ ชียร ชินวโํ ส สวนพทุ ธธรรมเวฬุวนั วดั วงั หิน จ.พษิ ณุโลก IX
คำนำจากผเู้ ขยี น ฉันเป็นคนรักการเดินทาง รักที่จะได้ไปอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ ได้พบปะผู้คน ต่างชาติ...ต่างภาษา...ต่างวัฒนธรรม ฉันรักทิวเขา แนวป่า ทุ่งกว้าง ทางน้ำไหล รักที่จะไล่สายตาไปตามเกลียวคลื่น ปุยเมฆ และปล่อยให้สายลมกับแสงแดดไล้ ผ่านไรผมและผิวกาย แตน่ ่ันไมใ่ ช่ส่งิ ทท่ี ำใหฉ้ นั เสพติดการเดนิ ทาง… สง่ิ ทท่ี ำใหฉ้ นั ออกเดนิ ทางมใิ ชก่ ารใฝห่ าความเพลดิ เพลนิ กายสบายใจ แตล่ กึ ๆ แลว้ ...ฉนั ออกเดนิ ทางเพอ่ื ทจ่ี ะแสวงหาบางอยา่ งทห่ี ลน่ หายไประหวา่ งการเดนิ ทาง อันยาวนาน ในภพชาติที่หาจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดแทบมิได้ (หรือจริงๆแล้ว... น่าจะเรียกมันว่า...การเดินทางเพ่ือสลัดคืนสิ่งที่ฉันเผลอสะสมข้ึนมาระหว่างทาง เสยี มากกว่า) ตลอดเวลาที่เติบโตขึ้นมา ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินไปสู่ที่หมายใดที่ หมายหนง่ึ แตก่ ไ็ มร่ วู้ า่ ทแ่ี หง่ นน้ั คอื อะไร จะเดนิ ไปถงึ ไดย้ งั ไง ไมร่ จู้ กั กระทง่ั ชอ่ื ของ จดุ หมายปลายทางของตนเอง รเู้ พยี งแคว่ า่ ฉนั ตอ้ งเดนิ ไปเรอ่ื ยๆ...เสาะหาไปเรอ่ื ยๆ และการเดินทางทอ่ งเทีย่ วกใ็ หส้ ่ิงนน้ั กับฉนั ทีละนดิ ๆ โดยท่ีฉันไม่รู้ตัว... X
ส่ิงทฉี่ นั ได้จากการเดนิ ทางคอื คำ “ขอบคุณ” ต่อทุกๆสิ่งทกุ ๆอยา่ งทผ่ี ่านเข้ามาและผ่านไปจากชวี ติ ฉนั เพราะพวกมนั ล้วนแต่มคี ณุ คา่ ย่งิ สิ่งทฉ่ี ันได้จากการเดินทางคอื ...ความรักและความเมตตา... ทง้ั ตอ่ เพอ่ื นรว่ มโลก ตอ่ ธรรมชาติรอบข้าง และต่อตวั ฉันเอง ส่งิ ทีฉ่ นั ไดจ้ ากการเดินทางคอื ...การถ่อมตน และเหน็ ว่าชวี ติ และตัวตนของตนนน้ั เล็กเพียงใด สิง่ ทฉี่ ันไดจ้ ากการเดนิ ทางคือ...พลัง... ท้ังพลงั เล็กๆของเม็ดทรายทสี่ ามารถค้ำภูผาสงู พลังท่ที ้ังออ่ นโยนและเช่ยี วกรากของสายน้ำ ทีส่ ามารถให้และทำลายชีวติ พลังท่มี ิอาจมองเห็นได้...แต่สามารถกรอ่ นเซาะทำลายหนิ ผาของสายลม และพลงั แหง่ ไฟทีม่ เิ คยดับมอด...หากเพยี งแต่แปรเปล่ยี น จากการสถติ ในดวงตะวัน...สเู่ ตาไฟ...และจติ ใจของผคู้ น สิ่งท่ฉี ันได้จากการเดินทางคอื ... ความรู้ภายนอก...ความเขา้ ใจภายใน...การเป็นคนที่ ‘ปกติ’ ขึน้ ... และอ่ืนๆอกี มากมาย... …สิ่งท่ีคุณได้จากการเดินทางคือ...อะไร... XI
การเดนิ ทางในอินเดยี และเนปาลร่วมสองเดอื นของฉนั ผา่ นมาแลว้ ถงึ สองปี แต่มันเป็นการเดินทางที่ยังไม่จบสิ้น...เพราะทุกการเดินทางยังเช่ือมต่อกันอยู่... ยงั ส่งผลถึงกันอยู่... การเดนิ ทางในอนิ เดยี ตามลำพงั ครง้ั นน้ั ทำใหฉ้ นั ไดพ้ บเรอ่ื งราวทเ่ี ปน็ พลงั บวก มากมาย...มากจนฉนั อยากแบง่ ปนั มนั ออกไปใหผ้ อู้ น่ื ไดร้ ว่ มรบั รดู้ ว้ ย เพราะฉนั รสู้ กึ ว่า...แม้ทุกวันนี้คนเราจะสื่อสารกันได้รวดเร็วขึ้น กว้างขึ้น สื่อสารข้ามโลกกันได้ เพียงช่ัววินาที แตเ่ รากลับส่ือสารเรอ่ื งดีๆกนั นอ้ ยมาก ทง้ั น.้ี ..เรอ่ื งราวทฉ่ี นั เลา่ อาจไมต่ า่ งอะไรกบั นยิ ายนำ้ เนา่ ทเ่ี ปน็ เพยี งความสนกุ ในโลกแห่งจินตนาการ ทุกเรื่องล้วนแต่เกิดขึ้นและดับลงไปแล้ว หากแต่คุณค่า ของมนั จะมอี ยไู่ ด.้ ..กใ็ นปจั จบุ นั ขณะ...ระหวา่ งทจ่ี ติ ของทา่ นผอู้ า่ นโลดแลน่ ไปตาม ตัวหนังสือ... เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้อาจเป็นประสบการณ์ส่วนตัวของฉัน...แต่ เรอ่ื งราวทที่ กุ ท่านกำลงั อา่ น...คอื ประสบการณ์ทางจิตของแตล่ ะท่านเอง... XII
สดุ ท้ายนฉ้ี ันขอกราบขอบคณุ บิดามารดาผ้ใู ห้ชวี ิต ใหค้ วามรกั และให้ทกุ ส่ิง ทุกอย่างกบั ฉนั กราบขอบพระคุณ ครูบาอาจารย์ทั้งทางโลกและทางธรรม โดยเฉพาะ ท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษี (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ) ซึ่งเป็นผู้ชี้ทางให้ฉันได้ทำทาน อนั ประเสรฐิ ดว้ ยการใหธ้ รรม... ขอบพระคณุ พระมหาวเิ ชยี ร ชนิ วโํ ส พระอาจารย์ ผู้กรุณาสั่งสอนและชี้แนะให้ฉัน “เห็น” ในสิ่งที่ควร “เห็น” “ดู” ในสิ่งที่ควร “ดู” สอนให้ฉันรู้จักคำว่า “แค่รู้” ซึ่งทำให้การเดินทางของฉันไม่ได้มีแค่ความ เพลิดเพลินรายทาง แต่ยังมีปัญญาเป็นผลรออยู่ที่ปลายทางด้วย... ขอบพระคุณ พระอาจารย์คมสรณ์ คุตฺตธมฺโม (พระครูปริยัติโพธิวิเทศ) สำหรับความเมตตา และกรณุ ามอบนามปากกา “เอกจารณิ ”ี ใหฉ้ ัน... และขอขอบคุณญาติพี่น้อง กัลยาณมิตร รวมถึงผู้คนที่ฉันพบเจอ ตลอด การเดนิ ทางของชวี ติ ขอบคณุ ผเู้ กย่ี วขอ้ งทง้ั ทางตรงและทางออ้ มทกุ ทา่ น ทท่ี ำให้ หนงั สอื เลม่ นส้ี ำเรจ็ ออกมาเปน็ รปู เลม่ ได้ รวมถงึ ขอบคณุ ทกุ ทา่ นทก่ี ำลงั ถอื หนงั สอื เล่มนี้ไว้ในมือ เพราะหากไม่มีผู้อ่าน...มันก็คงไม่อาจเทียบค่าได้กระทั่งกับถุง กล้วยแขก... बहतु बहुत धनय् वाद บาฮุต บาฮตุ ธันยาวาท...ขอบคณุ มากค่ะ -เอกจาริณี- XIII
สารบญั บทที่ 1 ฉนั จะไปอินเดียคนเดียว........................................................................ 1 บทท่ี 2 สู่แดนประสูติ........................................................................................ 7 บทท่ี 3 เขาขี้โกงหรือเราประมาท.................................................................... 17 บทท่ี 4 เดินเท้าสอู่ นิ เดยี .................................................................................. 25 บทที่ 5 กสุ นิ ารา แดนมหาปรนิ พิ พาน............................................................. 37 บทที่ 6 ยานธรรม............................................................................................ 71 บทที่ 7 จากกอรกั ปูร์...สูพ่ าราณสี................................................................... 83 บทท่ี 8 นิยายรกั นรก สวรรค์ และวนั ปีใหม่................................................... 95 บทท่ี 9 ก้าวตามพระธรรมจกั ร...................................................................... 109 บทที่ 10 กติกา เวลา และสิทธ.ิ ..................................................................... 131 บทท่ี 10.1 ตกค้าง........................................................................................ 147 บทที่ 11 รอยอดตี ......................................................................................... 155 บทที่ 12 แฮป็ ป้ีเจอร์นยี ์................................................................................ 181 XIV
บทท่ี 13 นอ็ ทโซแฮป็ ปเ้ี จอรน์ ีย.์ .................................................................... 197 บทท่ี 14 ในอ้อมกอดของธรรมะและลามะ................................................... 205 บทท่ี 15 ลานะ...เทโชคลิง............................................................................ 225 บทท่ี 16 วหิ ารทองคำ...แห่งอัมริตสาร.์ ........................................................ 233 บทท่ี 17 ระหวา่ งทาง...กลับบา้ น.................................................................. 241 บทส่งท้าย..................................................................................................... 255 **ภาคผนวก** พระพทุ ธวจนะเกย่ี วกับสังเวชนียสถานสี…่ ………………............................…… 258 สมปรารถนาเม่อื สักการะบูชาสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล……....................…… 259 การซอ้ื ตว๋ั รถไฟในอินเดยี ดว้ ยตัวเอง………………….............................………… 263 การกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์……………….............................………………… 266 เสน้ ทางสรา้ งบุญ………………………………………...................................………… 268 เกย่ี วกับผเู้ ขียน………………………………………………...................................…… 271 XV
แผนที่ประเทศอนิ เดีย-เนปาล XVI
การเดินทางของฉันเริ่มต้นที่กรุงกาฐมัณฑุ ประเทศเนปาล ต่อดว้ ยการเดินเทา้ เพอ่ื เยอื น ภูเขาทสี่ ูงทส่ี ุดในโลก...เอฟเวอรเ์ รสต์ จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่เมืิองลุมพินี แดนประสูติ ของพระสัมมาสมั พทุ ธเจา้ ซ่ึงอยู่ทางทิศตะวัน ตกเฉียงใตข้ องเนปาล ก่อนทีจ่ ะขา้ มพรมแดน ไปยงั ประเทศอนิ เดยี โดยหยดุ พกั ทเ่ี มอื งกอรกั ปรู ์ แลว้ เดนิ ทางตอ่ ไปยงั กสุ นิ าราแดนมหาปรนิ พิ พาน ตามด้วยการนั่งรถไฟสู่เมืองมรดกโลก... พาราณสี...ชมความงามของพระแมค่ งคา สักการะธัมเมกขสถูปที่สารนาถ เมืองที่พระธรรมจักรเคลื่อนเป็นครั้งแรกและ พระรัตนตรัยครบองค์สาม ก่อนจะเดินทางต่อไปยังพุทธคยา เพื่อกราบบูชาคุณ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสรู้อริยสัจสี่ โดยแวะเยือนมหานครราชคฤห์ มหาวทิ ยาลยั นาลนั ทา และภเู ขาดงคสริ ิ จากนน้ั จงึ เดนิ ทางขน้ึ เหนอื สเู่ มอื งหลวงของ อินเดยี ...นวิ เดลี แผนการเยย่ี มชมทชั มาฮาลในอคั ราของฉนั ตอ้ งเปลย่ี นแปลงกระทนั หนั ฉนั ตดั สนิ ใจ นง่ั รถโดยสารสเู่ มอื งมะนาลี แตส่ ภาพอากาศอนั เลวรา้ ย ทำใหฉ้ นั ตอ้ งหนหี นาว สเู่ มอื ง แม็คคลาวด์กันจ์ ที่อยู่ติดกับธรรมศาลา หลงั พกั กายพกั ใจอยา่ งเตม็ ท่ี ฉนั กเ็ ดนิ ทางตอ่ ไปยงั อมั รติ สาร์ เมอื งพรมแดนทางตะวนั ตก ของอนิ เดยี การเดนิ ทางจากขอบประเทศ จรดขอบประเทศ ทำให้ฉันร้วู ่า... ‘ถึงเวลากลบั บ้านแลว้ ’ ขอบคุณอนิ เดีย-เนปาล ธนั ยาวาท...หิมาลประเทศ XVII
ขอบคณุ สำหรบั ทกุ รอยย้มิ ...ขอบคุณสำหรับทกุ ความช่วยเหลือ... ขอบคุณสำหรับประสบการณอ์ ันมีค่า XVIII
แทบบาท ลกู ขอกราบแนบ...แทบพระบาท น้อมกายใจ...อัญชล.ี ..วันทา...อภิวาท นบนอบแดพ่ ระโลกนาถ...ผ้ทู รงธรรม
เดิน...หนาว การเดินทางของฉันเร่มิ ตน้ ข้ึนอยา่ งหนาวเหนบ็ เสน้ ทางเดนิ เขาในเขตคมุ บู สเู่ ชงิ เขาเอฟเวอรเ์ รสต์ ถกู ปลู าดไปดว้ ยสขี าวของหมิ ะตลอดทาง การเดินเท้าบนภเู ขาสงู ทีม่ ีอาการเบาบาง...ทำให้ฉนั ‘รูส้ กึ ตวั ’ ทกุ คร้ัง... ทหี่ ายใจเขา้ ...หายใจออก
หลง...โลก ความงดงาม...ยงิ่ ใหญ่ ของโลกที่ปรากฏตรงหนา้ ทำใหฉ้ นั ...เดิน เดนิ ...เดนิ ...แล้วกเ็ ดนิ ... เพ่ือเขาไปให้ใกล้ ‘จดุ หมายปลายทาง’ ทต่ี ง้ั ไว.้ ..ใหไ้ ด้มากท่ีสดุ ทุกย่างก้าวของฉนั เต็มไปดว้ ยความยากลำบากและทรมาน ความงดงามของโลกทอ่ี ยเู่ บอ้ื งหนา้ เปน็ ทง้ั รางวลั ทง้ั เครอ่ื งหลอกลอ่ ใหฉ้ นั มแี รงเดนิ ตอ่ ไป แต่เมือ่ ไปถงึ ‘จดุ หมาย’...ฉันกลบั พบวา่ มแี ต่ “ตวั ฉัน” ยืนอยู่ท่นี ัน่ ‘คนเดยี ว’
เขาสูง เพียรพงุ่ สูง...สยู่ อดเมฆ หญ้าเล็ก เพยี รหย่ังราก...ลงรมิ ผา คนบา้ เพียรแบกทรัพย์...แบกหน้าตา คนกล้า เพียรฝกึ ตน...ให้พ้นเพียร
โชคด.ี ..ทฉ่ี นั พบ ‘รอยเทา้ ’ ระหว่างทาง โชคดี...ที่ ‘อุปสรรค’ นัน้ ยิ่งใหญ่... โชคดี...ท่ีมี ‘เพื่อนรว่ มทาง’ ให้น้ำใจ จนฉนั ไมอ่ าจเดนิ ถอยหลัง... โชคด.ี ..ทฉี่ ันมี ‘หัวใจ’ เปน็ พลงั โชคดี...ที่ฉัน ‘ต้ังมน่ั ’ ในเจตนา
เมอื่ ถงึ จุดหมาย...จึงเหน็ ความหมาย... เมอ่ื ถงึ จดุ หมาย...จงึ รวู้ า่ ตอ้ ง ‘กลับไป’... เมื่อถึงจุดหมาย...จึงรวู้ ่า ‘ใจ’ คอื ‘ผ้เู ดนิ ทาง’...
กา้ วที่ ‘ตอ้ งกา้ ว’...คอื กา้ วที่ ‘ไมต่ ้องกา้ ว’... ออกจากบา้ น...ตอ้ งกลับบ้าน... ออกจากใจ...ตอ้ งกลับใจ เรม่ิ ทบี่ า้ น...ต้องจบท่ีบา้ น... เริม่ ทใี่ จ...ต้องจบท่ีใจ...
สเุ นาลี เมอื งด่านชายแดนของอนิ เดยี ทอ่ี ยูใ่ กลเ้ มอื งลุมพินี ในเนปาลมากท่สี ดุ รถจป๊ี ในภาพ...สามารถบรรทุกผโู้ ดยสารไดม้ ากถงึ 14 คน !! ชวี ิตรอบลมุ พนิ แี ละไบราหว์ ะ (เมืองชายแดนฝั่งเนปาล)
บทท่ี 1 ฉนั จะไปอนิ เดยี คนเดยี ว “หา๋ ...แกจะไปอนิ เดยี เหรอ ไปคนเดยี วด้วย แกจะบา้ รเึ ปลา่ ” “You’re going to India alone? I’m worried about you already.” “อยา่ ไปเลยแก ไว้รอไปด้วยกนั ดกี ว่า” “แกจะไปทำไม๊...อินเดยี เดีย๋ วกไ็ ดผ้ ั...แขกกลบั มาหรอก” นั่นคือเสียงทักท้วงมากมายจากบรรดาคนใกล้ชิดของฉัน เมื่อพวกเขารู้ว่า ฉันจะไปอินเดียตามลำพัง แน่นอนว่าฉันไม่อาจบอกความจริงอย่างครบถ้วน กระบวนความใหค้ รอบครวั ของฉนั รไู้ ด้ เพราะถา้ ฉนั บอกตามตรง ฉนั กค็ งไมไ่ ดไ้ ป เพราะความห่วงใย (สาวใหญ่วัยดึกแต่คึกคะนองอย่างฉัน) ตามแบบของพวกเขา แต่ลงด้วยฉันจะทำอะไรแล้ว ฉันก็ต้องทำให้ได้ ตามประสาคนหัวดื้อชอบลองดี และมชี ีวติ กับการพิสจู น์ตวั เองในแบบของฉัน “ฉันจะไปอนิ เดยี คนเดยี ว” เมอ่ื มองยอ้ นไปในชวี ติ ของฉนั ฉนั เปน็ คนขดี เสน้ ทางชวี ติ ใหต้ วั เองมาโดยตลอด ไมว่ า่ ใครจะพยายามชห้ี รอื ดงึ ฉนั ไปอกี ทาง หรอื จะทดั ทานอยา่ งไร แตเ่ มอ่ื ฉนั ตง้ั ใจ จะทำและคดิ วา่ มนั ถกู ตอ้ งเหมาะสมกบั ตวั ฉนั แลว้ ฉนั กจ็ ะพยายามทำสง่ิ นน้ั และ พิสูจน์ให้ทุกๆคนได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือการใช้ชีวิตก็ตาม อาจเรยี กไดว้ ่ามนั คือทฐิ ิมานะ หรือความดอ้ื แพ่งของฉัน แตก่ ารทเ่ี ราตอ้ งทำในสง่ิ ทท่ี กุ คนมองวา่ เรากำลงั เดนิ ไปผดิ ทาง หรอื ไมม่ น่ั ใจ ในหนทางทเ่ี รากำลงั จะกา้ วไป ทำใหฉ้ นั ตอ้ งขยนั มากขน้ึ ตง้ั ใจมากขน้ึ รบั ผดิ ชอบ มากขน้ึ และแนน่ อนวา่ ตอ้ งเหนอ่ื ยมากขน้ึ และเครยี ดมากขน้ึ แมฉ้ นั จะไดเ้ รยี นใน 1
สาขาทฉ่ี นั ตง้ั ใจไว้ ไดท้ ำงานทฉ่ี นั ตอ้ งการ มคี วามกา้ วหนา้ ในหนา้ ทก่ี ารงานมากขน้ึ เรอ่ื ยๆ แตส่ ง่ิ ทเ่ี พม่ิ ขน้ึ มาดว้ ย คอื อาการเครยี ดสะสม ความเหนอ่ื ยลา้ และรา่ งกาย ทอ่ี อ่ นแอลง ฉนั เรม่ิ หงดุ หงดิ ไดง้ า่ ยๆ เรม่ิ เปน็ คนทฉ่ี นั ไมอ่ ยากเปน็ รสู้ กึ ผดิ กบั ตวั เอง เกลียดตัวเอง เกลียดสังคม และไม่ชอบสภาพที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ ฉันจึงคิดว่า “มันตอ้ งมีบางอยา่ งผิดปกตแิ ลว้ ละ่ ฉนั คงตอ้ งพกั แลว้ ” ฉันลาออกจากงาน ทิ้งเงินเดือนจำนวนมาก หันหลังให้การใช้สมองทำงาน เกนิ เวลา เลกิ ใชป้ ากเจรจาตอ่ รองกบั ลกู คา้ แลว้ เปลย่ี นไปใชส้ องขาเดนิ สโู่ ลกกวา้ ง ใช้ปากถามทาง ใช้รอยยิ้มสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ใช้หัวใจซื้อหัวใจ แทนที่จะช็อป กระจายดว้ ยบตั รเครดติ ฉนั ตดั สนิ ใจไปเทย่ี วเพอ่ื เดนิ ทางออกจากชวี ติ ท่ี ‘ผดิ ปกต’ิ และตามหาชีวิตที่ ‘ปกติ’ คืนมาอีกครั้ง โดยไม่สนใจกับสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ อยูใ่ นขณะนนั้ เพราะท่แี ยก่ ว่าสภาพเศรษฐกิจ...คือตวั ฉันเอง และจุดหมายปลายทางทฉี่ ันเลือกกค็ ือ...ประเทศเนปาลและอินเดยี ทำไมตอ้ งเปน็ เนปาลกบั อนิ เดยี ละ่ ทำไมฉนั ไมไ่ ปยโุ รป ญป่ี นุ่ หรอื ประเทศท่ี (เขาวา่ ) เจรญิ หู เจรญิ ตา เจรญิ ใจ และสะดวกสบายกวา่ นน้ั เหตผุ ลเปน็ เพราะฉนั มที ศั นคตเิ กย่ี วกบั การทอ่ งเทย่ี ววา่ ถา้ สงั ขารยงั รบั ความลำบากได้ ฉนั จะไปประเทศ ที่ต้องใช้สังขารแบบสมบุกสมบันก่อน ประเทศที่สบายๆ ฉันจะเก็บเอาไว้ไปตอน ทสี่ ังขารเรยี กร้องหาความสบายจรงิ ๆ (ถ้ายังจะไดไ้ ป) นอกจากน.้ี ..ฉนั ยงั รกั เทอื กเขาหมิ าลยั เปน็ พเิ ศษ ตง้ั แตค่ รง้ั ทไ่ี ปเยอื นอนั นาปรุ ณะ เบสแค้มป์ (Annapurna Base Camp) กับพูนฮิล (Poon Hill) ซึ่งเป็นสถานที่ ทอ่ งเทย่ี วทางภเู ขาและจดุ ชมววิ อนั เลอ่ื งชอ่ื ทางตะวนั ตกของเนปาลเมอ่ื หลายปกี อ่ น ตอนนน้ั ฉนั เคยพดู กบั ตวั เองและหมิ าลยั เอาไวว้ า่ หากฉนั อาย.ุ ..(เดากนั ไปนะจะ๊ )... แล้วยังไม่มีภาระหรอื พนั ธะใดๆ ฉนั จะกลับไปทีน่ ั่นอกี คร้งั การเดินทางคร้ังน.้ี ..จงึ 2
เป็นเหมอื นการกลบั ไปตามสญั ญาแห่งหัวใจ กลับไปตามเสียงเรียกแหง่ หิมาลัย... แผนการเดินทางที่ฉันตั้งเป้าไว้ในคราวนี้ คือการเดินข้ามเขา 24 วัน1 จาก เมืองจริ ิ (Jiri) แวะท่ีทะเลสาปโกเคียว (Gokyo Ri) ข้ามโชลาพาส (Chola Pass) บนความสงู กวา่ 5,000 เมตรเหนอื ระดบั นำ้ ทะเลปานกลาง เพอ่ื ไปใหถ้ งึ เอฟเวอรเ์ รสต์ เบสแคม้ ป์ (Everest Base Camp) ในฝง่ั เนปาล กอ่ นจะเทย่ี วไลเ่ ลาะเทอื กเขาหมิ าลยั จากเนปาลไปจนถึงหมิ าลยั ในฝง่ั อนิ เดยี ใช.่ ..มนั ดเู ป็นทริปในฝันอันทรหดจริงๆ ฉันเริ่มเที่ยวแนวแบ็คแพ็ก (Backpack) มาราวๆ 8-9 ปีแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ ก็เป็นประเทศในแถบเอเชีย มีกระเด็นไปยุโรปอยู่ครั้งนึงก็เหมือนทัวร์เยี่ยมเพื่อน คอื ไปแทบทกุ เมอื งทม่ี เี พอ่ื นอยู่ แลว้ ไปพกั กบั เพอ่ื นเพอ่ื ประหยดั คา่ ทพ่ี กั แตท่ กุ ครง้ั ที่ฉันไปเที่ยว ฉันก็มักมีเพื่อนร่วมทาง 1-2 คนเสมอ จนเพิ่งเริ่มมาเที่ยวคนเดียว เมื่อไม่กี่ปีหลังๆนี้เอง ซึ่งเหตุผลหลักๆที่ทำให้ฉันต้องออกเที่ยวตามลำพัง ก็เป็น เพราะ...หาคนว่างไปเที่ยวด้วยไม่ได้ หรือไม่ก็เจอเพื่อนทิ้ง...เอ๊ย...กลับลำแบบ ฉุกละหุก คราวนี้...ฉันวางแผนเที่ยวเนปาล-อินเดีย 2 เดือน แล้วแมวที่ไหนจะ ตามฉันไปไดน้ านขนาดนัน้ เลา่ อนิ เดยี เปน็ ประเทศหนง่ึ ทฉ่ี นั อยากไปเสมอ แตด่ ว้ ยเรอ่ื งเลา่ เรอ่ื งขตู่ า่ งๆนานา เกี่ยวกับเมืองแขก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสกปรก กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ กลโกง ความปลอดภยั ทอ่ี อกจะมนี อ้ ยสำหรบั ผหู้ ญงิ หรอื แมก้ ระทง่ั การรอใหเ้ พอ่ื นวา่ งไป ดว้ ย และอน่ื ๆอกี มากมายสาระพนั เหตผุ ล ทำใหฉ้ นั ไมม่ โี อกาสไปเยอื นแดนภารตะ เสยี ที แตด่ ว้ ยคำพดู ทบ่ี รรดานกั เดนิ ทางหลายคนเคยพดู ไวว้ า่ “อนิ เดยี คอื ประเทศ ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต” และ “ถ้าคุณผ่านอินเดียมาได้ คุณก็จะสามารถอยู่ ไดใ้ นทกุ ทบ่ี นโลกน”้ี เมอ่ื บวกกบั ความสนใจในศาสนาและปรชั ญาเปน็ ทนุ เดมิ ของ 1 นคี่ อื หนงึ่ ในเส้นทางเดนิ เขาสายคลาสสกิ ปจั จบุ ันไม่คอ่ ยเปน็ ทน่ี ิยมเพราะใช้เวลามาก 3
ฉนั ... การไปเยอื นอินเดียซ่งึ เปน็ แดนพทุ ธภูมิ เป็นศนู ย์รวมของศาสนา ลัทธิ และ องคค์ วามรดู้ ง้ั เดมิ ของโลก อนั เปรยี บเสมอื นสถานศกึ ษาขนาดใหญ่ ทเ่ี ปดิ ภาคเรยี น ‘ฟรี’ สำหรับคนทั่วไป ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 365 วัน จึงเป็นเหมือนการออกฝึก ปฏบิ ัตภิ าคสนาม...ท่ฉี ันอยากไป...ควรไป...และตอ้ งไปใหไ้ ด้ หากเทอื กเขาหมิ าลยั คอื แมผ่ ใู้ หช้ วี ติ แกโ่ ลกน้ี ดว้ ยสายธารอนั ฉำ่ เยน็ สะอาด ใส จากนำ้ แขง็ ทค่ี อ่ ยๆหยาดหยด และละลายผา่ นซอกหนิ ผา่ นภผู า ลงมาตามทาง แลว้ ไซร.้ .. ประเทศอนิ เดยี กค็ อื ครผู ทู้ รงภมู ิ ซง่ึ พรอ้ มจะมอบปญั ญาและแสงสวา่ ง ใหก้ ับฉนั ในวนั ทีเ่ หนอ่ื ยลา้ ...ของช่วงชีวิตที่ออ่ นแรง คงไมม่ กี ารฟน้ื ฟหู รอื เยยี วยาใดๆ จะดไี ปกวา่ การไดก้ ลบั ไปอยกู่ บั “ธรรมชาต”ิ และ “ธรรมะ” การเดินทางครั้งนี้ จึงเป็นการเดินทางกลับไปหาต้นกำเนิดที่แท้จริงของฉัน เป็นการเดินทางกลับไปหาจิตวิญญาณของตัวเอง เป็นการเดินทางสู่ดินแดนที่ ฉันไม่รู้จัก เพื่อเดินกลับเข้าไปภายในจิตใจของตนเอง ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เนปาลและอนิ เดีย...จงึ เป็นคำตอบสุดท้ายในการเดินทางของฉนั ครัง้ นี้ 4
“ไม่เหน็ ทุกข์ มันก็ไม่รู้จกั ทุกข์ ไมร่ ู้จกั ทกุ ข์ มนั กเ็ อาทุกขอ์ อกไม่ได”้ หลวงปู่ชา สภุ ทโฺ ท
บทท่ี 2 สแู่ ดนประสตู ิ ประมาณ 1 สปั ดาหก์ อ่ นออกเดนิ ทาง หลงั จากเตรยี มตวั ใสป่ กี ใสห่ างออกบนิ แล้ว ริงโทนเพลงเกาหลีจากซีรี่ส์ฮิตก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของฉัน... “เปมา” เพอ่ื นผเู้ รงิ รา่ ของฉนั กส็ ง่ เสยี งแหลมๆลน๊ั ลามาบอกฉนั วา่ “แกๆๆๆ... แกจองตว๋ั ไป เนปาล’ยังอ่ะ ฉันว่างแล้ว ฉันจะไปกะแกด้วย แต่ไปแค่เนปาลนะ อินเดียฉันก็ อยากไป แต.่ ..บลา...บลา...บลา...” สรปุ วา่ ฉนั มเี พอ่ื นรว่ มเดนิ ทางดว้ ยใน 30 วนั แรก! การเดินเขาครั้งนี้เป็นการผจญภัยที่ท้าทายทั้งร่างกายและจิตใจของฉัน ใน สภาพอากาศทเ่ี บาบางบนภเู ขาสงู หมิ ะโปรยปรายลงมาตลอดการเดนิ 2 อาทติ ยแ์ รก บางครง้ั กต็ กหนกั จนแทบมองไมเ่ หน็ ทาง และบางครง้ั กต็ กลงมากระแทกหนา้ จน หนา้ ชาหนา้ ดา้ นกนั เลยทเี ดยี ว เกดิ มาจนปา่ นน้ี ฉนั กเ็ พง่ิ เคยโดนหมิ ะตกใสห่ นกั ๆ กค็ ราวน้ี และระหวา่ งทเ่ี ดนิ ขน้ึ เขาลงหว้ ย (ลงหว้ ยจรงิ ๆนะ ทง้ั ทย่ี งั เปน็ นำ้ อยแู่ ละ ทแ่ี ขง็ เปน็ นำ้ แขง็ ไปแลว้ ) มนั ทำใหฉ้ นั ไดร้ วู้ า่ “สต”ิ คอื เครอ่ื งปอ้ งกนั ตวั ทด่ี ที ส่ี ดุ จรงิ ๆ ทั้งป้องกันไม่ให้เราบาดเจบ็ หรอื แมแ้ ต่ป้องกันไมใ่ ห้เราเสยี สตางค์ หมิ าลยั …สอนใหฉ้ นั รจู้ กั ชน่ื ชมกบั ความสวยงามของโลกใบน้ี แมใ้ นยามทเ่ี รา เหนอ่ื ยจนแทบจะหายใจไมไ่ หว แตโ่ ลกนก้ี ม็ รี างวลั ใหเ้ ราชน่ื ใจและมแี รงกา้ วตอ่ ไป เสมอ หิมาลัย…เตือนไม่ให้ฉันหลงไปกับความงามที่อยู่ตรงหน้า เพราะถ้ามัวแต่ เดนิ ชมววิ สวยๆกอ็ าจเผลอสะดดุ หนิ ตกเขาตาย หรอื ไม.่ ..สถานทๆ่ี เรากำลงั กรด๊ี กรา๊ ด วา่ งดงามอยตู่ อนนน้ั กอ็ าจตกอนั ดบั ไดโ้ ดยไมท่ นั ขา้ มวนั เพราะมกั จะมที ๆ่ี สวยงาม 7
กว่าเข้ามาเรยี กความประทบั ใจจากเราอยเู่ สมอ หิมาลัย...ย้ำกับฉันว่า...บางทีเส้นทางที่ดูเหมือนจะง่ายดายในตอนท่ีเรา เร่ิมออกเดิน อาจกลายเปน็ เส้นทางหฤโหดได้ในเวลาไม่กน่ี าที และบ่อยคร้ังทีเ่ รา ต้องเดินข้นึ เขาสงู ชนั แลว้ เงยหนา้ ไปเห็นยอดเขาทเ่ี หมอื นจะไมม่ ที างใหเ้ ดนิ ต่อ แต่พอเราข้ึนไปยืนอยู่บนปลายยอดเขานั้น...เรากลับเห็นเส้นทางท่ีทอดยาวไปอีก ไกล ฉนั ไดร้ จู้ กั ความออ่ นโยน ความหวงั ความนา่ ตน่ื ตาตน่ื ใจ และความสงา่ งาม ของขนุ เขา แต่ฉนั ก็ได้พบอันตรายทีแ่ ฝงอย่ใู นทุกย่างก้าวด้วยเชน่ กนั การเดนิ กลบั ไปหา “พระแมส่ การม์ าธา่ ” (Sagarmatha)1 จงึ เปน็ ประสบการณ์ ที่สุดแสนจะคุ้มค่า แม้ต้องปาดเหงื่อ ปาดน้ำตา จากลูกไม้อันแพรวพราวของ ลกู หาบ และเอเจนซ่ีจอมมารยามากเล่ห์ ให้ได้ปวดหัวตลอดเวลา ถงึ แมเ้ ราจะตอ้ งเจอกบั ภมู อิ ากาศและภมู ปิ ระเทศอนั โหดรา้ ย แถมตอ้ งคอย แกป้ ญั หาจากคนทค่ี ดิ ไมซ่ อ่ื แตบ่ รรดาเพอ่ื นๆชาวเชอรป์ า2 ทเ่ี ราไดพ้ บระหวา่ งทาง กม็ อบนำ้ ใจและความชว่ ยเหลอื ใหเ้ ราเสมอ ซง่ึ มนั ทำใหฉ้ นั นกึ ขนั อยใู่ นใจวา่ ... คน ทเ่ี ราจา่ ยเงนิ จา้ งใหเ้ ขามาดแู ลเรา กลบั ทำใหเ้ ราตอ้ งคอยระแวง ตอ้ งปวดหวั แถม ยงั ตอ้ งทง้ั ปลอบทง้ั ขสู่ ารพดั เพอ่ื ใหเ้ ขาทำงานใหเ้ รา สว่ นคนแปลกหนา้ ซง่ึ ไมม่ ผี ล 1 สการ์มาธา่ (Sagarmatha) เปน็ ช่อื ทีช่ าวเนปาลใช้เรียกภเู ขาเอฟเวอรเ์ รสต์ 2 ชาวเชอรป์ า (Sherpa) เป็นหน่ึงในคนท้องถ่นิ ของประเทศเนปาล มีเชอื้ สายของชาวทเิ บต แตม่ ี ภาษาพดู ของตนเองท่ีแตกต่างจากภาษาทิเบต ภาษาเขยี นจะเหมือนภาษาทเิ บตแตบ่ างคำอาจออก เสยี งตา่ งกนั รา่ งกายของชาวเชอรป์ าจะถกู ปรบั ใหส้ ามารถใชช้ วี ติ อยใู่ นทส่ี งู ซง่ึ อากาศบางเบาไดต้ าม ธรรมชาติ พวกเขาจึงมักทำอาชีพเป็นไกด์หรือลูกหาบในฤดูท่องเที่ยว ควรขอดูบัตรไกด์เมื่อจะใช้ บรกิ าร 8
ประโยชน์อะไรกับเราเลย กลบั ช่วยเหลอื เราอยา่ งไม่มเี งอ่ื นไข ความงดงามของขุนเขาและจิตใจอันดีงามของผู้คนที่ฉันได้พบตลอด การเดนิ ทางในแดนเถอ่ื น ซง่ึ หาอากาศหายใจไดแ้ สนยากน้ี กลบั ทำใหฉ้ นั หายใจ ไดอ้ ยา่ งชมุ่ ชน่ื เตม็ ปอด เตม็ หวั ใจ ตา่ งกบั การใชช้ วี ติ ในเมอื งศวิ ไิ ลซบ์ นพน้ื ราบ ทีม่ อี ากาศมากมาย แต่ฉันกลับหายใจไมอ่ อกเลย... หลังการผจญภัยบนภูเขาสูง เปมากับฉันก็มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ของเนปาล สู่เมืองเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ อันเป็นแดนประสูติของมหาบุรุษของโลก... “ลุมพินี” เรานั่งแท็กซี่จากย่านทาเมลไปท่ารถซูโม่ (รถตู้) เพื่อเดินทางต่อไปที่เมือง ไบราหว์ ะ (Bhairahawa) หรอื ทค่ี นไทยเรยี กวา่ ไพราวาท1 รถออกจากทา่ 8.00น. แต่ไปจอดรอรับคนที่ชานเมืองอีก 45 นาที แม้สภาพรถจะดี แต่ด้วยเส้นทางที่ เปน็ ภเู ขาคดเคย้ี ว และมกี ารหยดุ พกั รถหลายจดุ (ทง้ั เพอ่ื กนิ ขา้ ว เขา้ หอ้ งนำ้ เขา้ ทงุ่ ฯลฯ) เราจงึ ไปถงึ ไบราหว์ ะราวๆ 16.00น. หรอื ใชเ้ วลาเดนิ ทางประมาณ 8 ชว่ั โมง แตเ่ รากย็ งั ตอ้ งนง่ั รถอกี ตอ่ หนง่ึ จงึ จะถงึ ลมุ พนิ ี (Lumbini) ซง่ึ เราสามารถเลอื กได้ วา่ จะเดินทางโดยใชร้ ถบัสหรือแทก็ ซ2่ี ระหวา่ งทางจากกาฐมณั ฑไุ ปไบราหว์ ะ รถวง่ิ ลดั เลาะภเู ขา ลกู แลว้ ...ลกู เลา่ ... จากอากาศต้นเดือนเมษายนที่ยังเย็นๆในกาฐมัณฑุ พอรถวิ่งออกนอกเมืองมาได้ 1 ไบราหว์ ะหา่ งกาฐมณั ฑุ 280 กม. หา่ งลมุ พนิ ี 22 กม. และหา่ งสเุ นาลี (Sunauli) ชายแดนอนิ เดยี 5 กม. (ดแู ผนทใ่ี นภาคผนวก) ค่ารถแทก็ ซจี่ ากทาเมลไปท่ารถตู้ 170 รูปี แต่คนขับขอ 200 รปู ี คา่ รถตไู้ ปไบราหว์ ะ 550 รปู ี (1 บาทเป็นเงนิ ประมาณ 2 รปู ีเนปาล) 2 คา่ รถบัสไปลมุ พินีคนละ 25 รปู ี เทก็ ซ่ีเหมา 600 รูปีราคานี้ยงั ไมไ่ ดต้ อ่ รอง แตเ่ ราก็ไมค่ ิดจะตอ่ 9
ราว 2 ชว่ั โมง... ไอรอ้ น ลมแลง้ และละอองฝนุ่ เรม่ิ ลอยมาปะทะใบหนา้ ฉนั ขณะ ที่เรานั่งรถมุ่งลงใต้ (ตอนแรกรถก็เปิดแอร์ดี แต่พอขึ้นเขาบางช่วงก็ต้องปิดแอร์) ภเู ขาทแ่ี นน่ ขนดั ไปดว้ ยตน้ ไมส้ เี ขยี วสด เรม่ิ กลายเปน็ ภเู ขาสนี ำ้ ตาลทม่ี แี ตต่ น้ ไมใ้ บ แหง้ เตม็ ตน้ แมน่ ำ้ ลำธารเรม่ิ มสี ขี นุ่ และแหง้ ขอด สนั ดอนเกาะแกง่ โผลข่ น้ึ มาใหเ้ หน็ อย่างชัดเจน เส้นทางสายนี้จึงมีรีสอร์ทและแหล่งล่องแก่งขึ้นชื่อ เรียงรายอยู่ ตลอดทาง ถนนหลวงสายน้ียังเป็นทางหลวงสายหลักและเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยัง เมืองโรแมนติกเลื่องชื่อทางตะวันตกของเนปาลอีกเมืองหนึ่ง นั่นคือ ‘โพคารา’ (Pokara) ฉนั เคยผา่ นถนนสายนม้ี าแล้วคร้งั หนงึ่ เม่ือ 5-6 ปกี อ่ น แต่พอมโี อกาส ผ่านมาเยือนครั้งนี้ ฉันกลับจำวิวข้างทางแทบไม่ได้ เพราะมีการถางที่บนภูเขา เพื่อทำการเพาะปลูกมากขึ้น แม่น้ำที่เคยไหลเชี่ยวเป็นสีเขียวปูนขุ่น กลายเป็น สนี ำ้ ตาลแดงและแหง้ ผาก โลกรอ้ นขน้ึ จรงิ ๆ แตไ่ มใ่ ชแ่ คร่ อ้ นเพราะการถกู แผว้ ถาง หรอื เผาผลาญทรพั ยากรเพยี งอยา่ งเดยี ว มนษุ ยก์ ำลงั เผาโลกใบนด้ี ว้ ยกเิ ลสของตน อตุ สาหกรรมและการบรโิ ภคอยา่ งเกนิ พอดขี องมนษุ ยใ์ นเมอื งใหญๆ่ ทว่ั โลก สง่ ผล กระทบถึงคนเล็กๆ และประเทศเลก็ ๆ ทัว่ โลกดว้ ยเช่นกัน มนษุ ยค์ งเป็นสัตว์โลก ชนิดเดียวทีโ่ งพ่ อ...ท่จี ะเผาบา้ นของตวั เอง พอรถวง่ิ ตอ่ ไปอกี พกั ใหญ่ ฉนั กเ็ รม่ิ คนุ้ ตากบั ภาพทป่ี รากฏอยเู่ บอ้ื งหนา้ สะพาน ทเ่ี คยอยรู่ ะหวา่ งการกอ่ สรา้ ง เมอ่ื ครง้ั ทฉ่ี นั มาเยอื นคราวแรก สรา้ งเสรจ็ แลว้ และ กำลังต้องการการซ่อมแซมใหม่ในไม่ช้า ซึ่งยังมีอีกหลายสะพานที่ตกอยู่ในสภาพ เดียวกัน นี่คืออีกหนึ่งภาพสะท้อนที่เด่นชัดของคำกล่าวที่ว่า “ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง” มีงามก็ย่อมมีเสื่อม...แต่ฉันอยากพูดต่อว่า...มีเสื่อมก็ย่อมมีงาม เพราะ มันเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นได้...เปลี่ยนแปลงได้ เราไม่ควรหยุดสร้างสรรค์สิ่งดีงาม เพยี งเพราะมนั สามารถเสอ่ื มสลายลงไปได้ หรอื เพราะเหน็ วา่ มนั เสอ่ื มสลายไปแลว้ ในเมื่อเราทุกคนยังต้องอยู่บนโลกใบนี้ เราก็ควรที่จะได้อยู่บนโลกที่สวยงาม 10
และควรทจ่ี ะรักษาความงามของโลกใบน้เี อาไว.้ .. แม้ความคิดของฉันจะออกนอกเส้นทางไปไกล แต่รถซูโม่ก็ยังคงพาฉันกับ เปมามุ่งหน้าสู่ไบราหว์ ะตอ่ ไป... เมอ่ื ถงึ ไบราหว์ ะจะมผี คู้ นมากมายพงุ่ ตรงเขา้ มาหาคณุ เพอ่ื ถามคณุ วา่ จะนง่ั แทก็ ซไ่ี ปลมุ พนิ ไี หม หรอื จะขา้ มไปสเุ นาลใี นฝง่ั อนิ เดยี เนอ่ื งจากทน่ี ค่ี อื จดุ ขา้ มแดน ท่ีสำคญั อกี แหง่ หน่ึง ซ่ึงชาวตา่ งชาตจิ ะสามารถเดนิ ทางเขา้ ออกเนปาลกับอินเดยี ได้ แน่นอนว่าสาวสวยรวยเสน่ห์แต่ไร้ทรัพย์อย่างพวกเรา ต้องเชิดใส่เท็กซี่แล้ว บ่ายหน้าไปหารถบัสเพื่อเดินทางต่อไปยังลุมพินี รถใช้เวลาวิ่งราว 1 ชั่วโมง คน แนน่ มากและฉนั กต็ ้องยนื ไปแทบตลอดทาง กว่าจะไดน้ ่ังก็ใกลจ้ ะลงพอดี แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งสำคัญท่ีคุณต้องรู้และเตรียมตัวรับมือกับการนั่งรถบัสไป ลมุ พนิ ี เพราะสง่ิ ทส่ี ำคญั ทส่ี ดุ กค็ อื ‘คณุ ตอ้ งเตรยี มเงนิ คา่ รถใหพ้ อด’ี เพราะคณุ อาจ ต้องเสียอารมณ์กับลูกไม้กลโกงของกระเป๋ารถเมล์บางคน เหมือนตอนที่ฉันจ่าย เงนิ ใหก้ ระเปา๋ รถเมลไ์ ป 100 รปู สี ำหรบั 2 คน แตเ่ ขาทอนมาแค่ 20 รปู แี ลว้ เดนิ ไป ทา้ ยรถ สำหรบั ฉนั คา่ รถคนละ 40 รปู หี รอื ประมาณ 20 บาทไทยกไ็ มไ่ ดแ้ พงอะไร แตเ่ ราหาขอ้ มลู มากอ่ นวา่ คา่ รถจะอยทู่ ป่ี ระมาณ 15-20 รปู ตี อ่ คน ฉนั จงึ สอบถาม นกั เรยี นทย่ี นื อยใู่ กลๆ้ กบั ฉนั วา่ คา่ รถไปลมุ พนิ รี าคาเทา่ ไร เดก็ คนนน้ั บอกวา่ คนละ 20 รปู ี พอกระเปา๋ รถเดนิ กลบั มา ฉนั จงึ ทวงถามเงนิ ทอนเพม่ิ เพราะคดิ วา่ เขาอาจมี เศษเงินไม่พอทอนในตอนแรก แต่เขาบอกค่ารถ 2 คน 80 รูปี ฉันจึงบอกว่า “นักเรียนคนนั้นบอกว่าค่ารถคนละ 20 รูปีนี่” ฉันจึงขอแบงก์ร้อยคืน แล้วหา เศษเงิน 40 รูปใี ห้เขาไปจนได้ เขาทำทา่ ไม่พอใจแล้วหนั ไปตะคอกใส่เด็กนักเรยี น คนนน้ั เปน็ ภาษาถน่ิ ซง่ึ ฉนั เดาไดจ้ ากทา่ ทางวา่ เขานา่ จะพดู กบั เธอวา่ “ยงุ่ ดนี กั ถา้ 11
อยากใหพ้ วกนน้ั จา่ ยคา่ รถถกู ๆ กอ็ อกเงนิ สว่ นตา่ งมาส”ิ เดก็ คนนน้ั จงึ รบี บอกฉนั วา่ เธอไมเ่ คยนง่ั ไปถงึ ลมุ พนิ ี เธอไมร่ รู้ าคาแนน่ อน ฉนั เหน็ วา่ กระเปา๋ รถเมลค์ นนช้ี กั จะ ทำเกนิ ไป จงึ หนั ไปถามนกั ทอ่ งเทย่ี วอเมรกิ นั คนหนง่ึ วา่ เขาจา่ ยคา่ รถไปเทา่ ไร สรปุ ว่าเขาจ่าย 100 ได้ทอน 20 รูปีเหมือนกัน ชายอเมริกันคนนั้นจึงพยายามขอ เงินทอนเพิ่มจากกระเป๋ารถ แต่ก็ได้คืนมาเพียงอีก 20 รูปี โดยใช้มุขเดิมคือไม่มี เงนิ ทอน ตอนลงจากรถ กระเป๋ารถคนเดิมยังพยายามเดินเข้ามาเว้าวอนขอเงินฉัน เพิ่มอีก 10 รูปีโดยบอกว่าค่ารถราคาคนละ 25 รูปีจริงๆ แต่ฉันก็ไม่ได้จ่ายให้ เพราะไม่เชื่อในคำพูดของเขา และถึงยังไงเขาก็ขายตั๋วเกินราคาให้ชาวอเมริกัน คนนั้นไปแล้ว สุดท้ายกระเป๋ารถเมล์จอมลีลาก็ยอมจากไปโดยดี แต่ก็ไม่ใช่ว่า กระเปา๋ รถเมลท์ กุ คน จะหาทางหากนิ เอากบั นกั ทอ่ งเทย่ี วเหมอื นอตี าคนน้ี เพราะ ขากลบั จากลมุ พนิ ี ฉนั กไ็ ดจ้ า่ ยคา่ รถ 25 รปู เี ทา่ กบั ชาวเนปาลคี นอน่ื ๆโดยไมต่ อ้ ง เจอกับเล่ห์กระเทข่ องกระเป๋ารถเหมอื นอย่างขามา รถโดยสารมาจอดป้ายห่างจากปากทางเขา้ ลุมพนิ พี ุทธสถาน ราว 50 เมตร ฝั่งตรงข้ามของลุมพินีพุทธสถาน มีเกสต์เฮาส์เล็กๆอยู่หลายแห่ง แต่ฉันกับเปมา ตดั สนิ ใจกันแล้วว่า คืนนีจ้ ะไปขอคา้ งคนื ท่ีวัดไทยลุมพินี ที่ปากทางเข้าลุมพินีพุทธสถาน จะมีรถสามล้อมาคอยให้บริการผู้โดยสาร หลายตอ่ หลายคัน แตเ่ ราเลือกทีจ่ ะเดนิ เทา้ เขา้ ไปเอง และการเดนิ ข้ามเขาบนพนื้ ทส่ี งู กวา่ ระดบั นำ้ ทะเลหลายพนั เมตร 20 กวา่ วนั กอ่ นหนา้ นน้ั กท็ ำใหก้ ารเดนิ เทา้ 2 กโิ ลเมตร พรอ้ มสมั ภาระหนักบนทางราบ กลายเปน็ เร่ืองทีไ่ ม่เหลือบ่ากว่าแรง นกั ทน่ี า่ แปลกกค็ อื ระหวา่ งทเ่ี ราเดนิ ...จะมลี มพดั อยตู่ ลอดเวลา ซง่ึ ชว่ ยผอ่ นคลาย ความรอ้ นไปไดม้ าก (แม้จะมฝี ุ่นตามมาเปน็ ของแถมกเ็ ถอะ) เปมากบั ฉนั เดนิ หาวดั ไทยลมุ พนิ โี ดยไมร่ ตู้ ำแหนง่ ทต่ี ง้ั ชดั เจนนกั รแู้ ค.่ ..วดั ไทย 12
ของเราอยฝู่ ง่ั เดยี วกบั วดั พมา่ แตล่ มกช็ ว่ ยพดั บอกทางใหเ้ ราทกุ แยก ทเ่ี ราไมแ่ นใ่ จ วา่ จะเลี้ยวซ้ายหรือเลยี้ วขวา และพาเราไปจนถูกทาง เมอ่ื เขา้ มาถงึ บรเิ วณวดั หลวงพท่ี า่ นหนง่ึ กเ็ มตตา...ชวนใหเ้ ราดม่ื นำ้ ดม่ื โอวลั ตนิ ทศ่ี าลา ระหวา่ งทร่ี อใหค้ นไปเตรยี มหอ้ งพกั และหยบิ กญุ แจมาใหเ้ รา ฉนั รสู้ กึ เหมอื น เข้าเชค็ อินในรสี อร์ทหรยู งั ไงอยา่ งน้นั เพราะวดั ไทยลมุ พินีท้ังใหญโ่ ตและสวยงาม สะอาดสะอ้านอย่างที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อบวกกับความรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ ที่ได้เดินสู่แดนประสูติ ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจึงคลายตัวไปอย่างมาก การ ตดั สินใจมาพกั ที่น่ี จงึ เปน็ การตัดสนิ ใจที่ถูกตอ้ งทีส่ ุด แต่สภาพท่มี อมแมมดไู ม่จดื เหมอื นแมวจรจดั ของเรา คงทำใหห้ ลวงพพ่ี ดู วา่ “เดย๋ี วเอาของไปเกบ็ แลว้ ลา้ งหนา้ ล้างตาให้สบายกนั กอ่ นนะ แลว้ คอ่ ยไปไหวส้ ถานที่ประสตู ”ิ เนอ่ื งจากเปมาตอ้ งบนิ กลบั กรงุ เทพฯวนั มะรนื และเราตอ้ งเสยี เวลาในกาฐมณั ฑุ ไปมากกวา่ ท่คี าด ทงั้ จากปญั หาการหยุดเดนิ รถเพราะเหตุสไตรค์และปญั หาอน่ื ๆ อกี หลายอยา่ ง เราจงึ มเี วลาอยทู่ ล่ี มุ พนิ แี คค่ นื เดยี ว และตอ้ งรบี ออกจากลมุ พนิ แี ต่ เช้าเพื่อให้เปมาทันข้ึนรถจากไบราห์วะกลับกาฐมัณฑุ การเข้าชมสถานที่ประสูตินั้น คุณต้องเสียค่าเข้าชม และถ้าต้องการใช้ กล้องถ่ายรูปหรือกล้องวิดีโอ ก็ต้องเสียเงินค่านำกล้องเข้าไปภายในบริเวณด้วย1 แตก่ วา่ ทเ่ี ราจะไปถงึ เคานเ์ ตอรเ์ กบ็ เงนิ กป็ ดิ ไปแลว้ ประตทู างเขา้ กก็ ำลงั จะปดิ แต่ ด้วยน้ำใจของเจ้าหน้าที่ของที่นั่น เมื่อรู้ว่าเราเป็นคนไทย เขาก็อนุญาตให้เราเข้า ไปโดยไมต่ อ้ งเสยี คา่ เขา้ ชม แสดงวา่ คนไทยทเ่ี ดนิ ทางมาทน่ี ่ี คงสรา้ งชอ่ื เสยี งดๆี ไว้ 1 ปัจจุบัน (พ.ศ. 2554) คา่ เข้าชมสำหรบั ชาวไทยคือ 200 รปู ี(เนปาล)ี รวมค่ากล้องถา่ ยภาพนิ่ง แลว้ คา่ ใชก้ ลอ้ งวดิ โี อ จา่ ยเงนิ เพม่ิ ตวั ละ 10 ดอลลา่ รส์ หรฐั / กลอ้ งภาพยนตร์ ตวั ละ 500 ดอลลา่ รส์ หรฐั ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี สามเณร สามเณรี นกั บวชและแมช่ ี ไมเ่ สียค่าบรกิ าร 13
ใหพ้ วกเขาประทบั ใจเปน็ แนแ่ ท้ ฉนั จงึ ไดแ้ ตน่ กึ ขอบคณุ ชาวไทยทกุ ๆคนทเ่ี ดนิ ทาง มาท่ีน่ีก่อนหน้าฉนั อาคารทรงสเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ สขี าวกลางสนามหญา้ เขยี วชอมุ่ ถกู สรา้ งครอบบรเิ วณ ท่ีเช่ือกันว่าเป็นจุดที่พระนางสิริมหามายาทรงมีพระประสูติการเจ้าชายสิทธัตถะ ซง่ึ บรเิ วณโดยรอบของตวั อาคารมีซากปรักหักพงั ของเจดียโ์ บราณและสวนกว้างท่ี ไดร้ บั การดแู ลอยา่ งดี ทง้ั ยงั มสี ระนำ้ ทเ่ี ชอ่ื กนั วา่ พระนางสริ มิ หามายาทรงสรงหลงั มี ประสตู กิ าร สว่ นทางทศิ ตะวนั ตกกม็ เี สาอโศก ทพ่ี ระเจา้ อโศกมหาราชทรงสรา้ งไว้ ซง่ึ อกั ษรพราหมที ถ่ี กู สลกั ไวบ้ นเสาหนิ มขี อ้ ความระบวุ า่ ‘พระเจา้ อโศกมหาราชไดเ้ สดจ็ มาทน่ี ่ี ในทซ่ี ง่ึ เปน็ สถานทป่ี ระสตู ขิ องพระพทุ ธองค’์ และนค่ี อื หลกั ฐานสำคญั ทช่ี ว่ ย ยนื ยนั วา่ พน้ื ทบ่ี รเิ วณน้ี คอื บรเิ วณทพ่ี ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงถอื กำเนดิ ขน้ึ บนโลก เมอ่ื เขา้ ไปภายใน ฉนั กบั เปมาเดนิ ทกั ษณิ าวตั รสวดมนต์ 3 รอบ แลว้ เจา้ หนา้ ท่ี กร็ บี เรยี กเราเขา้ ไปกราบสกั การะบรเิ วณทเ่ี ปน็ จดุ ทพ่ี ระพทุ ธองคท์ รงประสตู ิ ซง่ึ เปน็ จดุ ทม่ี กี ารขดุ คน้ พบกอ้ นหนิ ขนาด 70 x 40 x 10 เซน็ ตเิ มตร ซง่ึ ทำไวเ้ พอ่ื เปน็ การ ระบตุ ำแหนง่ ของจดุ ทท่ี รงประสตู ิ (Marker stone) โดยปจั จบุ นั มกี ระจกกนั กระสนุ ครอบเอาไว้ และเหนือจากก้อนหินขึ้นมาด้านข้าง ก็มีหินทรายสลัก เป็นรูป พระนางสริ มิ หามายากำลงั โหนกง่ิ ตน้ สาละ ขณะมปี ระสตู กิ ารอยดู่ ว้ ย กอ้ นอฐิ บรเิ วณ น้มี ีคนนำแผ่นทองคำมาปดิ ไวม้ ากมาย ดแู ล้วยิ่งเพ่มิ ความขลังและศักด์ิสิทธ์ิให้ตวั สถานที่ยิง่ ขึ้นไปอีก นี่คือสังเวชนียสถานแห่งแรกในชีวิตที่ฉันได้มาเยือน และฉันก็ตระหนักใน ความหมายทว่ี า่ “สถานทอ่ี นั เปน็ ทต่ี ง้ั แหง่ ความสงั เวช” ไดใ้ นทนั ที แตค่ ำวา่ “สงั เวช” ในทน่ี ม้ี ไิ ดห้ มายถงึ ความหดหู่ เศรา้ หมอง ตามความหมายทใ่ี ชก้ นั อยใู่ นปจั จบุ นั (หรอื ตามความเขา้ ใจเดมิ ๆของฉนั ตอนยงั ไมร่ เู้ รอ่ื งรรู้ าวอะไรนน่ั เอง) แต่ “สงั เวชนยี สถาน” หมายถงึ สถานทซ่ี ง่ึ ทำใหผ้ มู้ าเยอื น เกดิ ความรสู้ กึ ระลกึ ถงึ พระพทุ ธเจา้ ยงั ใหเ้ กดิ 14
ความรสู้ กึ แชม่ ชน่ื เบกิ บาน เกดิ แรงบนั ดาลใจทจ่ี ะกระทำความดี เมอ่ื ไดไ้ ปพบเหน็ และฉันก็เกิดความรูส้ ึกนนั้ ขึน้ มาจริงๆ ขณะทน่ี อ้ มกายใจกราบสกั การะพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ฉนั ไดแ้ ตน่ กึ ‘ขอบคณุ ’ และระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ที่ทรงถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก และ เผยแผ่ธรรมะแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย...ขอบคุณพระสงฆ์และพุทธบริษัท ที่ช่วยกัน สบื สานพทุ ธศาสนามาจนถงึ ทกุ วนั น.้ี .. ขอบคณุ พอ่ แม่ ทใ่ี หก้ ำเนดิ และเลย้ี งดฉู นั มา... ขอบคณุ หู ตา แขน ขา ทท่ี ำใหฉ้ นั ไดอ้ า่ นไดฟ้ งั ธรรม และพาฉนั เดนิ ทางดน้ั ดน้ จน มาถงึ ทน่ี .่ี .. ขอบคณุ ครบู าอาจารย.์ .. ขอบคณุ โอกาสและการ ‘มพี อ’ ทท่ี ำใหฉ้ นั ได้ มาอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้... ดูเหมือนว่าฉันจะไม่อาจหยุดยั้ง ให้คำว่า ‘ขอบคุณ’ หลง่ั ไหลออกมาจากใจฉนั ไดเ้ ลย... เพราะคำๆเดยี วทเ่ี ดน่ ชดั อยใู่ นใจฉนั คอื คำวา่ ... ‘ขอบคุณ’ นา่ แปลกอยา่ งยง่ิ ทเ่ี พยี งแคฉ่ นั ไดม้ าหยดุ และนง่ั อยตู่ รงนน้ั เรอ่ื งราวตา่ งๆใน ชีวิตฉันหลายเรื่องกลับแจ่มชัดขึ้นมาทันที ฉันได้คำตอบจากบางเรื่องที่เคยสงสัย ฉนั ไดพ้ อใจกบั สง่ิ ทเ่ี คยไมพ่ อใจ ฉนั ไดพ้ อเพยี งกบั สง่ิ ทเ่ี คยคดิ วา่ อาจยงั ไมเ่ พยี งพอ นค่ี อื อานสิ งสท์ ฉ่ี นั รสู้ กึ วา่ ตวั เอง “ไดร้ บั ...ทนั ท”ี มนั ทำใหฉ้ นั มกี ำลงั ใจ ทจ่ี ะพยายาม ลด ละ เลิก และแก้ไขความบกพรอ่ งในตวั เองใหไ้ ด้ ในวันที่ฉันมาเยือนแดนประสูติครั้งนี้ ฉันไม่ได้ถ่ายรูปกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แหง่ นส้ี กั รปู แตม่ นั จะสำคญั อะไรเลา่ ... ในเมอ่ื ภาพอนั งดงามของทน่ี ่ี ถกู สลกั ไวอ้ ยา่ ง แจม่ ชดั ในความทรงจำของฉนั ฉนั ไดแ้ ตห่ วงั ใหท้ กุ ๆคนทม่ี กี ำลงั กายและกำลงั ทรพั ย์ เพยี งพอ ไดม้ โี อกาสมากราบสกั การะสถานทแ่ี หง่ น้ี เพอ่ื จะไดม้ โี อกาสยอ้ นดจู ติ ใจ ของตนเอง และไดเ้ กดิ ใหมอ่ กี ครง้ั ... ตามรอยธรรมแหง่ องคพ์ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ 15
บทท่ี 3 เขาขโ้ี กงหรอื เราประมาท การไดพ้ ักกายพักใจในวดั ไทยลุมพินีอยา่ งสะดวกสบาย ทำให้เราสดชน่ื และ หายเหนอ่ื ยลา้ จากการเดนิ ทางอนั ทรหดเมอ่ื หลายสปั ดาหก์ อ่ น เชา้ นเ้ี ราไดร้ บั ขา่ วดี จากหลวงพท่ี ม่ี าดแู ลเรอ่ื งทพ่ี กั ใหเ้ ราเมอ่ื วานวา่ ...วนั นไ้ี มม่ กี ารสไตรค์ ดา่ นชายแดน อนิ เดยี -เนปาลเปดิ ใหข้ า้ มแดนได้ ฉนั สามารถเดนิ ทางตอ่ ไปยงั อนิ เดยี และเปมาก็ สามารถนง่ั รถกลบั ไปกาฐมณั ฑไุ ดต้ ามแผนเดมิ ทง้ั ๆทเ่ี มอ่ื วานตอนคำ่ เรายงั กงั วล กนั วา่ จะตอ้ งเปลย่ี นแผนการเดนิ ทาง จากการนง่ั รถโดยสาร ไปเปน็ การนง่ั เครอ่ื งบนิ หรอื ไม่ แตโ่ ชคกย็ ังเขา้ ขา้ งเรา หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ เราก็ออกเดินทางต่อ โดยมีอาหาร กลางวนั ทท่ี างวดั เมตตาจดั ใหเ้ รานำตดิ ตวั ไปดว้ ย การตอ้ งมาอยตู่ า่ งบา้ นตา่ งเมอื งนานๆ แล้วได้กินอาหารแบบไทยๆ สร้างความสุขให้พวกเรามาก แต่ความสุขจากความ เมตตาที่เราได้รับ กำลงั จะทำใหเ้ ราประมาท เพราะ(เผลอ)มองอะไรๆแตใ่ นแงด่ ี เมอ่ื รถบสั จากลมุ พนิ พี าเรามาถงึ ไบราหว์ ะ เรากต็ อ้ งพบกบั ความสบั สนวนุ่ วาย ในการหาจดุ ขน้ึ รถกลบั กาฐมณั ฑขุ องเปมา เพราะเมอ่ื ถามชาวบา้ นแถวนน้ั คนหนง่ึ บอกใหข้ า้ มถนนไปฝง่ั ตรงขา้ ม แตพ่ อขา้ มไปแลว้ อกี คนหนง่ึ บอกใหข้ า้ มถนนกลบั มา คนหนึ่งบอกว่าท่ารถอยู่ไกล อีกคนหนึ่งบอกว่าไม่มีรถแล้ว และฉันก็มีแค่ข้อมูล เล็กน้อยจากหนังสือโลนลี่แพลนเน็ต (Lonely Planet ที่ฉันชอบเรียกเล่นๆว่า ‘โลกเหงา’) อาจเพราะเมืองนี้ไม่ใช่จุดที่นักท่องเที่ยวแนวแบ็คแพ็คจะแวะมากัน ทำให้ข้อมูลมนี อ้ ย แตใ่ นท่ีสุดเราก็ตัดสินใจเดินไปยังสถานรี ถบัส ตามคำบอกของ ชาวบ้านคนหนงึ่ ทที่ ่าทางเชื่อถือได้ 17
ระหว่างน้ันมีรถสามล้อถีบคันแล้วคันเล่า...ป่ันตามมาเสนอตัวเสนอบริการ ใหเ้ รา ในทีส่ ดุ เปมาเริม่ มที ่าทางอ่อนแรงหรอื ออ่ นใจ หรอื อาจจะกงั วลวา่ จะไปขน้ึ รถไมท่ ัน เราจงึ ตกลงต่อรองราคากับสามล้อถีบคนั หนง่ึ ให้ไปส่งเราท่สี ถานรี ถบสั ระหวา่ งทน่ี ง่ั สามลอ้ เปมากค็ ยุ กบั คนปน่ั สามลอ้ ไปพลางๆ จนรชู้ อ่ื ของเขา พอไดย้ นิ ชอ่ื นน้ั ฉนั กเ็ รม่ิ สงั หรณใ์ จนดิ ๆ เนอ่ื งจากเปน็ ชอ่ื เดยี วกบั เจา้ ของเอเจนซใ่ี นกาฐมณั ฑุ ที่เราไปติดต่อจ้างลูกหาบตอนไปเดินเขา และเขาไม่ค่อยซื่อสัตย์กับเราเท่าไร แต่ ฉันกบ็ อกตวั เองวา่ ...‘มองโลกในแงด่ ีเข้าไว’้ ... สกั พกั เขากพ็ าเรามาหยดุ ตรงหนา้ หอ้ งแถวแหง่ หนง่ึ แลว้ บอกใหเ้ ราลงตรงน้ี เพือ่ ซ้ือตวั๋ รถ เนอ่ื งจากจดุ ซอื้ ตว๋ั รถในเนปาลไมจ่ ำเป็นต้องเปน็ ที่ทา่ รถบสั เสมอไป ฉนั จงึ ไมไ่ ดเ้ อะใจแลว้ เดนิ ตามไปโดยละมอ่ ม เมอ่ื สอบถามราคาตว๋ั กป็ รากฏวา่ ราคา เพียง 450 รูปี ซึ่งถูกกว่าขามา และเขาบอกว่าเป็นรถซูโม่ (รถตู้เล็ก) เหมือนกัน เราจงึ ตกลงซอ้ื ตว๋ั ทเ่ี อเจนซน่ี ้ี และทำธรุ กรรมอน่ื ๆกบั ทน่ี ต่ี อ่ โดยไมร่ วู้ า่ กำลงั ตกเปน็ หมนู อ้ ยทว่ี ง่ิ ไปชนปงั ตออนั เบอ้ เรม่ิ ทง้ั ๆทม่ี เี พอ่ื นชาวตา่ งชาติ เขยี นอเี มลเ์ ตอื นมาแลว้ วา่ ใหร้ ะวงั ถกู เอเจนซท่ี อ่ี ยใู่ นบรเิ วณเยอ้ื งๆทา่ รถหลอก แตเ่ นอ่ื งจากประสบการณ์ ของเรากับชาวเนปาลีค่อนข้างดี บวกกับการลืมระวังตัว จึงทำให้เราเชื่อใจหนุ่ม ถีบสามล้อและเจ้าของเอเจนซีข่ ายตัว๋ เสยี สนทิ ในทส่ี ดุ ฉนั กต็ กลงวา่ จะนง่ั รถสามลอ้ ของหนมุ่ คนนไ้ี ปยงั ดา่ นสเุ นาลี และซอ้ื ตว๋ั รถไฟจากกอรกั ปรู ์ (Gorakpur) ไปพาราณสี (Varanasi) ซง่ึ เปน็ จดุ หมายตอ่ ไป ของฉนั จากทน่ี เ่ี ลย โดยตกลงทร่ี าคา 450 รปู อี นิ เดยี ทง้ั ๆทฉ่ี นั เปดิ ‘โลกเหงา’ และ ชใ้ี หเ้ ขาดรู าคาแลว้ ซง่ึ ราคาทอ่ี ยใู่ นนน้ั คอื 114-320 รปู อี นิ เดยี แลว้ แตช่ น้ั ของรถไฟ แตฉ่ นั คดิ วา่ การจา่ ยเงนิ เพม่ิ ใหเ้ อเจนซน่ี ดิ หนอ่ ย เพอ่ื แลกกบั เวลาและความยงุ่ ยาก ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะฉันดันเข้าใจไปเองว่าตั๋วที่เขาจะซื้อให้เป็นตั๋ว รถนอนชั้นสอง เจ้าของเอเจนซีค่ นนั้นจงึ ไดแ้ ตย่ ้ิมรา่ และตอบวา่ “ไม่มปี ญั หาๆ” ตลอดเวลา (เขาตอ้ งยมิ้ แนล่ ะ่ เพราะเพง่ิ ฟนั ฉันหวั แบะโดยทฉ่ี ันยงั ไมร่ ู้สกึ ตัว) 18
ประมาณ 9.15น. รถของเปมาก็มาถงึ แต่มนั เปน็ รถบสั ธรรมดาไมไ่ ดม้ ีแอร์ หรือมีอะไรพเิ ศษแตอ่ ย่างใด ฉันกบั เปมาไดแ้ ต่มองหนา้ กนั แต่กต็ ัดใจวา่ ไม่เป็นไร ยงั ไงกค็ งตอ้ งไปเพราะไมง่ น้ั เดย๋ี วจะกลบั เมอื งไทยไมไ่ ด้ ตอ่ มาภายหลงั ฉนั ไดร้ จู้ าก เปมา (ซง่ึ โดนชาวบา้ นเนปาลหี วั เราะใสท่ ง้ั คนั รถ) วา่ เธอซอ้ื ตว๋ั แพงกวา่ คนอน่ื ๆไป รอ้ ยกวา่ รปู เี นปาลี (ประมาณ 50-60 บาทไทย) แตค่ นทง้ั คนั รถคงจะหวั เราะดงั ขน้ึ หากรู้ว่าฉนั เจอกบั อะไรบา้ ง การเดินทางตามลำพังของฉันเร่ิมต้นข้ึนจริงๆหลังจากท่ีส่งเปมาขึ้นรถกลับ กาฐมัณฑุ เวลาที่เหลือเกือบ 1 วันเต็มๆ ทำให้ฉันคิดอยากย้อนกลับไปที่ลุมพินี อีกครั้ง แต่ก็ห่วงว่าอาจเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดจนทำให้ไม่ได้ข้ามด่านในวันนี้ ฉัน จงึ ใชเ้ วลาระหว่างรอต๋วั รถไฟจากเอเจนซ่ี ไปกบั การเชค็ อีเมล์ หาข้อมลู ท่องเทยี่ ว และเดนิ ชมตลาดของเมอื งน้ี ซ่งึ แมว้ ่าจะเป็นตลาดเลก็ ๆ แต่กเ็ ปย่ี มด้วยสสี นั และ ชวี ติ ชีวา พอถงึ เวลาประมาณบา่ ย 2 โมง ฉนั กก็ ลบั ไปทเ่ี อเจนซแ่ี หง่ นน้ั เพอ่ื รบั ตว๋ั รถไฟ ตามทน่ี ดั กนั ไว้ และคดิ วา่ จะขา้ มชายแดนไปฝง่ั อนิ เดยี เลย แทนทจ่ี ะรอใหถ้ งึ ตอนเยน็ แตก่ ต็ อ้ งรอตอ่ ไปจนถงึ บา่ ย 3 โมง ฉนั จงึ ไดเ้ หน็ ตว๋ั พรอ้ มกบั ไดร้ แู้ จง้ แกใ่ จ ประหนง่ึ มไี ฟฟอลโลวส์ าดใสก่ ลางแสกหนา้ วา่ “เอง็ โดนเขา้ ใหแ้ ลว้ ” เพราะราคาหนา้ ตว๋ั คอื 132 รปู อี นิ เดยี แตฉ่ นั จา่ ยเงนิ ไปถงึ 450 รปู ี ฉนั จะไมบ่ น่ เลย ถา้ พวกเขาคดิ ราคา ฉนั เพม่ิ ไป 100 รปู ี หรอื สกั 1 เทา่ ตวั กย็ งั พอรบั ไหว แตน่ ฉ่ี นั ตอ้ งจา่ ยมากกวา่ ราคา จรงิ กวา่ 3 เท่าตัว!! และตั๋วนนั้ กเ็ ปน็ ตว๋ั นัง่ ในชน้ั Sleeper ซึ่งเป็นทนี่ ่ังธรรมดาๆ คลา้ ยรถไฟช้ัน 3 ของบ้านเรา ฉันขออธิบายเรื่องที่นั่งของรถไฟแบบสลีปเปอร์ (หรือตู้นอน) ให้ฟังสักนิด นะคะ รถไฟแบบสลีปเปอร์(ชน้ั ธรรมดา)จะมีเบาะอยู่ 3 ชั้น ช้นั ล่างเป็นเบาะยาว สำหรบั นง่ั 4 ทน่ี ง่ั (ในตอนกลางวนั ) ซง่ึ จะใชเ้ ปน็ เบาะนอน (ในตอนกลางคนื ) สำหรบั 19
คนทซ่ี อ้ื ตวั นอนเบาะลา่ ง ชน้ั กลางไมส่ ามารถนง่ั ได้ แตจ่ ะกางออกเพอ่ื เปน็ เตยี งนอน ในตอนกลางคืน และชั้นบนสุดเป็นเตียงเปิดอยู่แล้ว แต่ความสูงก็ไม่พอให้นั่งได้ เชน่ กนั คนทซ่ี อ้ื ตว๋ั เตยี งกลางและเตยี งบน จงึ ตอ้ งลงมานง่ั ทเ่ี ตยี งดา้ นลา่ ง จนกวา่ จะ ถึงเวลานอน ซึ่งฉันมารู้ภายหลังว่าตั๋วของฉันเป็นตั๋วนั่ง ที่ยังไม่มีการยืนยันที่นั่ง ด้วยซ้ำ แต่ฉันขอยกคำอธิบายเกี่ยวกับระบบการซื้อตั๋วรถไฟของอินเดียไปไว้ใน ภาคผนวกท้ายเล่มนะคะ ตอนนี้...ขอนำคุณกลับเข้าสู่ฉากบู๊ล้างผลาญของฉันกับ เอเจนซี่นี้...แบบเล่นจริง... เจ็บจริง... เสียเงินจริง... และไม่มีสลิงมาเกี่ยวข้องกัน ก่อนค่ะ พอฉันเห็นราคาท่ีหน้าต๋ัวฉันก็ถามเด็กดูแลร้านว่าเจ้าของเอเจนซ่ีอยู่ไหน เมอ่ื ไรจะเขา้ มา เขากบ็ อกวา่ ใหร้ ออกี 15 นาทเี จา้ นายเขาจะมา พอรอได้ 30 นาที ฉนั กข็ อใหเ้ ขาโทรหาเจา้ นายเขา เขากบ็ อกวา่ ตดิ ตอ่ ไมไ่ ด้ ฉนั จงึ บอกวา่ “ไมเ่ ปน็ ไร งั้นวันนี้ฉันจะยังไม่ข้ามไปอินเดียล่ะ ฉันจะรออยู่ที่นี่ และถ้ายังไม่ได้เจอเจ้านาย ของคุณ พรุ่งนี้ฉันก็จะมาที่นี่อีก ฉันจะดูให้แน่ใจว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหน มาใช้บริการหรือตกเป็นเหยื่อคนขี้โกงอย่างพวกคุณอีก ฉันจะอยู่ไปเรื่อยๆเพื่อ ทำลายธุรกิจขี้โกงของพวกคุณ จนกว่าพวกคุณจะยอมคืนเงินส่วนต่างมาให้ฉัน” พอได้ยินแบบนี้ เจ้าลูกน้องตัวดีเลยรีบกระวีกระวาดโทรหาเจ้านายของเขา แล้ว บอกฉันว่าเจ้านายของเขาจะเข้ามาในเวลา 4 โมงเย็น ระหว่างที่เขาคุยโทรศัพท์ ฉันจะขอคุยกับเจา้ นายของเขา เขากไ็ มย่ อม ระหว่างนั้น มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและชาวเนปาลี นั่งอยู่กับฉัน 3 คน หนึ่งในพวกเขาบอกให้ฉันใจเย็นๆ และบอกว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเสมอกับ นักท่องเที่ยว ซึ่งเขาก็เห็นด้วยว่าฉันโดนหนักไปจริงๆ พอนั่งต่อไปอีกครู่ใหญ่ ก็มี นกั ทอ่ งเทย่ี วชาวยโุ รปเขา้ มาในเอเจนซแ่ี หง่ น้ี เพอ่ื ตดิ ตอ่ ซอ้ื ตว๋ั ไปกาฐมณั ฑใุ นเยน็ วันนี้ ตอนแรกฉันก็แค่ส่งสายตาบอกไปเลาๆว่าอย่าทำธุรกรรมอะไรที่นี่เลย จน หลงั จากเขาสอบถามขอ้ มลู จากทางรา้ นเสรจ็ แลว้ มสี หี นา้ ลงั เล วา่ จะกลบั คนื นห้ี รอื 20
รอถึงพรุ่งนี้ดี เพราะทางเอเจนซี่บอกว่าตั๋วรถเที่ยวค่ำจะแพงกว่าเที่ยวเช้า ฉันจึง รีบส่ายหน้าแล้วบอกเขาว่า “ฉันเพิ่งโดนหลอกให้ซื้อตั๋วราคาแพงเกินจริงจากที่นี่ บางทคี ุณน่าจะค้างคนื ที่นสี่ ักคืน แลว้ คอ่ ยจัดการเรื่องตว๋ั ทีหลัง หรือไปซอ้ื ตว๋ั จาก สถานรี ถบสั เองจะดกี วา่ ” ชาวยโุ รปคนนน้ั จงึ ออกจากเอเจนซน่ี ไ้ี ป พรอ้ มกบั ปลอดภยั จากการถูก ‘ฟันหัวแบะ’ เมอ่ื รอตอ่ ไปไดค้ รง่ึ ชว่ั โมง ฉนั กต็ อ้ื จนไดค้ ยุ โทรศพั ทก์ บั เจา้ ของเอเจนซแ่ี หง่ นน้ั เขารีบโวยวายใสฉ่ ันก่อนทันที (อาจเป็นกลยทุ ธว์ ่า ใครพดู ก่อนคนนนั้ ชนะกระมัง) ว่าทำไมฉันไม่ถามรายละเอียดให้ดีๆ และบอกว่าฉันไม่เข้าใจระบบการซื้อขายตั๋ว ของที่นี่ และท้าให้ฉันไปติดต่อซื้อตั๋วจากเอเจนซี่ไหนก็ได้ รับรองว่าต้องได้ราคา เดยี วกนั หรอื แพงกวา่ โดยฉนั ไดแ้ ตค่ ดิ ในใจวา่ ‘แนล่ ะ่ สฉิ นั จะไปเขา้ ใจการคา้ แบบ หนา้ เลอื ดอยา่ งนไ้ี ดย้ งั ไง และในเมอ่ื พวกแกทำงานกนั เปน็ เครอื ขา่ ยแบบน้ี ฉนั จะ ไปหาตว๋ั ราคาถกู กวา่ นจ้ี ากเอเจนซไ่ี หนได’้ แตส่ ง่ิ ทฉ่ี นั พดู กลบั ไปดว้ ยนำ้ เสยี งเยน็ ชา กค็ ือ “ฉนั ไมส่ นใจระบบการซ้อื ตั๋วทคี่ ุณวา่ แตค่ ณุ จะคืนเงนิ มาให้ฉนั ได้เทา่ ไร คุณ ถึงจะคิดวา่ มันเป็นราคาที่ยตุ ิธรรม” หลงั จากโตเ้ ถยี งกนั อยนู่ าน ในทส่ี ดุ เขากบ็ อกฉนั วา่ ยนิ ดจี ะคนื เงนิ ใหฉ้ นั 150 รปู ี และยังตบท้ายด้วยว่า เมื่อเขาคืนเงินให้ฉันแล้ว เขาก็ไม่เหลือกำไรอะไรเลย และ ถงึ แม้ฉันจะคิดวา่ ควรได้เงนิ คนื มากกวา่ นนั้ แตฉ่ ันกไ็ ม่เหน็ ประโยชน์ทจ่ี ะต้องเสยี เวลาและอารมณ์มากไปกว่านั้น จึงยอมยุติแค่นั้นโดยคิดว่า ‘กำอี้* ดีกว่ากำตด’ พอดกี บั ทอ่ี ีตาคนปั่นสามล้อถีบมาถึงและรู้เร่อื งเข้า จงึ รบี ละลำ่ ละลักถามฉันใหญ่ วา่ ฉนั สงสยั เขาหรอื เปลา่ คดิ วา่ เขาพาฉนั มาเปน็ เหยอ่ื ของทน่ี ห่ี รอื เปลา่ ฉนั รบี ตอบ ไปทนั ทีวา่ “ไม่ ฉนั ไมส่ งสยั เลย” และคิดต่อในใจว่า ‘ฉนั แน่ใจเลยล่ะ วา่ พวกนาย มันแก๊งค์เดียวกัน ไม่อย่างนั้นทำไมต้องคุยกันหน้าเครียดหลังจากฉันได้เงินคืน ประหนึ่งว่าเสียผลประโยชน์ส่วนต่างลงไปล่ะ’ แต่ไม่ว่าฉันจะคิดร้ายกับพวกเขา ไปเองหรือพวกเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันก็ได้แต่ต้องโทษตัวเองว่า…เป็นเพราะ 21
ความประมาท ความไมร่ อบคอบ และเชอ่ื ใจคนงา่ ยเกนิ ไป...ฉนั จงึ ถกู หลอกใหเ้ สยี เงนิ แบบนี้ ระหวา่ งทร่ี อรบั เงนิ คนื อยนู่ น้ั ...นกั ทอ่ งเทย่ี วชาวอนิ เดยี คนหนง่ึ ซง่ึ นง่ั รอเพอ่ื น อยู่ที่เอเจนซี่ ‘ขี้ฉ้อ’ ก็บอกกับฉันว่า...เมืองกอรักปูร์ที่ฉันกำลังจะเดินทางไปนั้น ที่พักต่างๆจะคิดเวลาเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เป็นเวลา 24 ชั่วโมงจากเวลา ที่เข้าพัก เขาจึงแนะนำว่า ถ้าฉันต้องขึ้นรถไฟตอน 4 ทุ่ม ก็น่าจะเข้าพักในเวลา ใกล้ๆกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปแกร่วรอที่สถานีรถไฟ เพราะด่านข้ามแดนเปิด ถึง 1-2 ทุ่ม จากนั้นค่อยนั่งรถโดยสารจากสุเนาลีเข้าไปที่กอรักปูร์ ซึ่งถือว่าเป็น ขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ ประโยชนม์ าก แตฉ่ นั สดุ แสนจะเพลยี จติ และไมอ่ ยากนง่ั หายใจทง้ิ อยู่ ในเอเจนซี่แห่งนี้อีกต่อไปแล้ว ฉันจึงบอกให้เจ้าหนุ่มปั่นสามล้อตัวดี พาไปส่งที่ ชายแดนตามทต่ี กลงวา่ จา้ งกนั เอาไวต้ ง้ั แตเ่ ชา้ แลว้ นง่ั ขม่ ใจไปตลอด 3-4 กโิ ลเมตร 22
สขุ หรือทกุ ขก์ ็ตาม กม็ ีคา่ เท่ากนั คอื มีค่าแคใ่ หผ้ ู้ปฏบิ ัติได้ “รู้” เทา่ นัน้ พระมหาวเิ ชยี ร ชินวโํ ส
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302